องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17  (อ่าน 192954 ครั้ง)

ออฟไลน์ HypnosisDreams

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อาก้องฟ้าน่ารักมาก

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
ขอบคุณสำหรับนิยายดีนะครับ อ่านเพลินมากกกก
ว่าแต่ช่องทางสมัครอยู่ไหนครับ อยากเข้าร่วมด้วย 555

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มาอีกนะๆๆ พลีสสสสส  :hao5: :impress2:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
เป็นเรื่องที่พล็อตแหวกแนวมาก  :hao6:

1. อยากอ่านเรื่องของเม(มอมแมม)ต่อ เอาให้ไปเคลียร์ไปเลยว่าจะเบื่อสรีระผู้ชายไหม ฮาเรมเหลือเกินคนนี้

2. คู่เอสเอ็ม นักบัญชีกับซีอีโอวัย 40 จะลงเอยกันม๊ายยยย? คาใจมากกว่าเรื่องเมอีก 555

3. หมอพฤกษ์กับธนัท ชั่วคราวหรือจริงจัง?

4. น้อง(ฝัง)มุก น้อง(เจาะ)มิลค์ สุดท้ายเป็นยังไง? จำได้ว่าน้องเขายังไม่ค่อยสำนึกเลย แถมดูมีปัญหาทางจิตใจด้วยทั้งคู่

5. น้องจอม คนนี้จุดยืนชัดเจน แต่แทบไม่มีฉากกับตัวจริงของน้องเลย

6. คู่พิชกับหนุ่มช่าง น่ารักดีค่ะ ขอเป็นของหวานปิดท้ายรายการน้าาาา

ป.ล. อาก้องฟ้าหาทางออกได้ฉลาดมากกกก

:pig4:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
บอสเลยเสริมขึ้นว่า “น้องๆ ก็หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ นอนให้เพียงพอ รักษาความสะอาด แล้วจะดูดีแบบพี่เขาเอง อ้อ แล้วก็ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลยนะ เหล้าได้บ้างพอเข้าสังคม แต่บุหรี่ถ้าไม่สูบเลยได้ก็ดี ซิ่งรถก็อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่งท่อดังก็เพลาๆ ลงบ้าง”

เจอคำผิดจ้า อ่านแล้วสะดุ้งเลย 555

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วใจสั่น คือแบบแรงกดดันแลความหื่นมากเกินใจรับไหวค่ะ ยอมใจจริงๆค่ะเรื่องนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสนุกมาก ฟิน ชอบโป๊ปกับบอสที่สุดแอบหวังเหมือนกันว่า nc ของทั้งคู่จะร้อนแรงบรรยายชัดเจนเหมือนฉากหื่นหลายๆฉาก อย่างว่าแหละโป๊ปเค้าหวง แต่ถ้าคนเขียนจะแง้มฉากnc ของทั้งสองชัดในตอนพิเศษก็จะดีมากค่าาา  :hao6: (แหม ฉัน...หื่นยังไม่พอ?)

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกและนาาติดตามมาก

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
พล็อตคือดีมากเลยแหวกแนวดีมีคติเยอะ  ขอบคุณสําหรับผลงาน ^^

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เป็นเรื่องที่พล็อตแหวกแนวมาก  :hao6:

1. อยากอ่านเรื่องของเม(มอมแมม)ต่อ เอาให้ไปเคลียร์ไปเลยว่าจะเบื่อสรีระผู้ชายไหม ฮาเรมเหลือเกินคนนี้

2. คู่เอสเอ็ม นักบัญชีกับซีอีโอวัย 40 จะลงเอยกันม๊ายยยย? คาใจมากกว่าเรื่องเมอีก 555

3. หมอพฤกษ์กับธนัท ชั่วคราวหรือจริงจัง?

4. น้อง(ฝัง)มุก น้อง(เจาะ)มิลค์ สุดท้ายเป็นยังไง? จำได้ว่าน้องเขายังไม่ค่อยสำนึกเลย แถมดูมีปัญหาทางจิตใจด้วยทั้งคู่

5. น้องจอม คนนี้จุดยืนชัดเจน แต่แทบไม่มีฉากกับตัวจริงของน้องเลย

6. คู่พิชกับหนุ่มช่าง น่ารักดีค่ะ ขอเป็นของหวานปิดท้ายรายการน้าาาา

ป.ล. อาก้องฟ้าหาทางออกได้ฉลาดมากกกก

:pig4:



ใช่เลยคิดเหมือนกัน  :hao6: มีหลายคู่เลยที่ค้างคาใจอยากได้บทสรุปหรือบทบรรยายเพิ่ม
มีคนคิดเหมือนกันแล้วรู้สึกว่า เอ้อ ไม่ใช่เราคนเดียวนะที่ไม่ได้อยากติดตามเรื่องของเมมาก เพราะรายนั้น
เค้ามาสายฮาเรม เลยพอเดาๆ ได้

***แต่น้องนักโทษคนอื่นคือส่วนใหญ่ (ถ้าจำไม่ผิดก็เกือบทั้งหมด) เป็นชายแท้
อยากให้ขยายความบทลงโทษหรือขมวดปมตอนใช้โทษเสร็จสิ้นแล้วก็ยังดี
มีหลายคู่มากที่อยากฟินอีก เช่น น้องไวน์บอย คู่นี้น่ารักมากกก คู่มุกกับมิลค์ก็โผล่มาหน่อยเดียว
แทบทุกคู่ที่เป็นนักโทษอยากได้รายละเอียดอีกมาก เพราะอย่างคู่บอสโอเครู้ตอนจบเดาได้
น้องเมบั้นปลายชีวิตเป็นยังไงเดาได้ แต่กับพวกนักโทษมันคาใจมั๊กๆ อ๊าาาา  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขอบคุณสำหรับการติดตาม ถึงเรื่องนี้จะจบลงไปแล้ว มีเรื่องแจ้ง/แก้ตัวนิดหน่อยตามนี้ครับ

- ตอนพิเศษก็ทะยอยๆ แต่งอยู่ครับ เนื่องจากมันมีประเด็นที่จะเอามาต่อได้เยอะ เฉพาะนักโทษรายต่างๆ ก็หลายคนแล้ว ไม่รู้จะเริ่มจากใครก่อนดี แล้วเขียนยังไงก็เหมือนมันจะไม่จบ เป็นกรรมที่เปิดประเด็นไว้เยอะ ตอนนี้เหมือนเขียนของหลายคนไปพร้อมกัน อันไหนตันก็ย้ายไปเขียนของอีกคน เลยไม่เสร็จซักอัน 555 เอาเป็นว่าจะพยายามเคลียร์ไปทีละคนนะครับ

- บทมีอะไรกัน จริงๆ ก็สงสัยตัวเองอยู่ว่า เรื่องนี้ยังต้องมีบทอย่างว่าอีกเหรอ ในเมื่อเนื้อเรื่องมันก็เต็มไปด้วยฉากหื่นอยู่แล้ว 55 แต่ก็อย่างที่เห็นครับ พอลองแต่งมาแล้วมันดูขาดๆ เกินๆ แปลกๆ สรุปว่าคนแต่ง แต่งไม่ค่อยเป็นครับ ยิ่งของบอสกับโป๊ปนี่ยิ่งแต่งไม่ออกกันเลยทีเดียว มีความรู้สึกเหมือนเอาลูกเอาหลานมาปู้ยี่ปู้ยำ ไม่แน่ใจว่าจะมีบทแบบนี้ออกมาในตอนพิเศษอีกเปล่า แต่อย่าคาดหวังอะไรมากนะครับ แต่งไม่ค่อยเป็นจริงๆ คนแต่งค่อนข้างใสซื่อ

- เรื่องน้องเมฮาเร็ม อันนี้พยายามเขียนอยู่ จริงๆ อยากให้มาเป็นตอนพิเศษตอนแรกด้วยซ้ำ แต่แต่งไม่ได้ดังใจซะที เขียนๆ ลบๆ อยู่หลายรอบแล้ว คงไม่เร็วนะครับ ขอโทษจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

องค์กรลวงจิต Explicit Content
ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [1]

เด็กหนุ่มก้าวเข้ามาในคณะแพทยศาสตร์ด้วยความรู้สึกประหม่า บรรยากาศของวันปฐมนิเทศดูคึกคัก เขาสังเกตเห็นว่านักศึกษาปีหนึ่งคนอื่นๆ ส่วนใหญ่จะใส่ชุดนักศึกษาทรงพอดีตัวแบบทันสมัยทำให้ชุดที่แม่เขาซื้อให้ดูรุ่มร่ามไปถนัดใจ รูปร่างหน้าตาบุคลิคเด็กบ้านนอกอย่างเขาก็สู้เด็กในเมืองไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกผิดที่ผิดทางเข้าไปอีก

เด็กหนุ่มไม่มีเพื่อนที่โรงเรียนติดคณะเดียวกันเลย ก็โรงเรียนในจังหวัดเล็กๆ อย่างน่านที่เขาจบมา อย่าว่าแต่คณะแพทย์ของมหาลัยชื่อดังใจกลางกรุงอย่างนี้เลย แค่ของมหาลัยในพื้นที่ภาคเหนือยังติดกันแค่คนสองคน เขานึกเสียดายที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมแรกพบที่จัดขึ้นก่อนเปิดเทอม ถ้าได้ไปร่วมตอนนี้อาจรู้จักเพื่อนซักคนสองคน แต่ติดที่คุณยายไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล พอมอบตัวเสร็จเขากับแม่ต้องรีบกลับไปช่วยเฝ้าไข้ทันที

เด็กหนุ่มพยายามมองหาคนที่ดูเป็นมิตรพอที่จะเข้าไปทำความรู้จักได้ เขารู้ตัวดีว่าไม่ได้มีจุดเด่นอะไรแถมมนุษยสัมพันธ์ก็แย่  ขนาดที่โรงเรียนต่างจังหวัดเขาก็เป็นแค่เด็กแว่นเนิร์ดน่าเบื่อคนหนึ่งที่มีเพื่อนคบบ้างเพราะเรียนเก่งที่สุดในชั้น แต่ในคณะแพทย์ที่มีแต่คนเก่งๆ เรื่องนี้คงไม่ช่วยอะไร เขาอยากมีเพื่อนอยากได้รับความสนใจบ้าง เด็กหนุ่มสอดส่ายสายตามองเพื่อนร่วมชั้นปีแล้วก็รู้สึกว่ามีแต่คนที่ดูดีจนไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จัก

แต่ท่ามกลางคนหน้าตาดีมากมาย เด็กหนุ่มกลับไม่สามารถละสายตาไปจากคนๆ หนึ่งได้ คนๆ นั้นมีทุกอย่างที่ทำให้เป็นจุดสนใจ ใบหน้าขาวหล่อเหลามีร่องรอยของหนวดเคราที่โกนไว้เรียบร้อย  รูปร่างสูงโปร่งเฉียดร้อยแปดสิบที่มีกล้ามเนื้อพอเหมาะ ชุดนักศึกษาเข้ารูปพอดีตัวรวมทั้งเครื่องประดับเท่ๆ ที่ดูมีรสนิยม แต่ที่เขาติดใจมากเพราะคนๆ นั้นกำลังถูกรุมล้อมโดยบรรดารุ่นพี่ ไม่ใช่ปีสอง แต่พี่ปีสูงๆ ที่ใส่ทั้งกาวน์สั้นกาวน์ยาวต่างทะยอยกันมาทักทายแล้วรีบกลับไปเหมือนแอบแวบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

เด็กปีหนึ่งคนอื่นๆ เริ่มสังเกตเห็นแล้วมองมาอย่างสงสัย พอใกล้เวลาพิธีรุ่นพี่ที่รุมล้อมอยู่ก็ค่อยๆ แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน เด็กหนุ่มพยายามข่มความประหม่าแล้วเดินตรงไปยังคนที่เขาเฝ้ามองอยู่ นี่คือไอดอลของเขา เขาอยากเป็นอย่างนี้ อยากได้รับความสนใจ เป็นคนดังของรุ่น เป็นที่รู้จักไปจนถึงพี่ปีสูงๆ ถ้าเขาสามารถตีสนิทคนๆ นี้ได้เขาอาจจะรู้เคล็ดลับดีๆ ที่ทำให้เขาเข้าใกล้สิ่งที่หวังบ้างก็เป็นได้

เด็กหนุ่มเร่งฝีเท้าจนเป็นปีหนึ่งคนแรกที่เข้าถึงตัว เขาข่มความประหม่าแล้วกล่าวทักทายอย่างตะกุกตะกัก

“น่ะนาย เราติดที่นี่คนเดียว ไม่มีเพื่อนเลย เราขอไปกับนายด้วยได้เปล่าตอนเข้าปฐมนิเทศ”

เด็กหนุ่มระงับความอาย เขาไม่รู้ว่าจะเข้าหายังไงให้ดูดี มีแต่ต้องพูดไปตรงๆ

อีกฝั่งมองหน้าเขา แววตาไม่บ่งบอกว่ารู้สึกประทับอะไรเลย ก็แหงล่ะ เขามันเป็นแค่เด็กบ้านนอกเชยๆ หน้าตาจืดๆ คนหนึ่ง เขากลั้นใจรอคำปฏิเสธจากคนตรงหน้า

“อือ”

เป็นคำตอบที่ผิดคาด ถึงอีกฝ่ายจะหน้าตาไม่ยินดียินร้ายอะไร แต่เขาก็อดลิงโลดในใจไม่ได้ ถือเป็นโอกาสอันดี ถ้าเขาทำตัวได้น่าสนใจ คนตรงหน้าก็อาจจะอยากเป็นเพื่อนกับเขาจริงๆ ปัญหาคือนอกจากจะหน้าตาธรรมดาแล้ว เขาเป็นคนคุยไม่สนุกเอาซะเลยเขารู้ตัวดี

“เอ่อ นายชื่ออะไร เราชื่อเต้าหู้ มาจากน่าน”

“มิลค์”

ถึงจะห้วนๆ แต่เต้าหู้ก็ดีใจมาก

“นายชื่อมิลค์เหรอ”

อีกฝั่งไม่ตอบอะไรกลับมา เขาเลยไม่รู้จะต่อบทสนทนาอย่างไร เขาลอบมองเสี้ยวหน้าที่ดูดีของคนที่เดินอยู่ข้างๆ แล้วก็สังเกตเห็นว่าหูของมิลค์มีหมุดสีดำใส่อยู่ตรงติ่งหู แล้วตามแนวใบหูก็มีห่วงกับหมุดโลหะใส่ไว้หลายอัน เขาไม่คุ้นกับของแบบนี้ คลับคล้ายคลับคลาว่าพวกดาราวัยรุ่นจะใส่กัน แต่ที่โรงเรียนเขาไม่มีใครใส่

“นายใส่ตุ้มหูด้วยเหรอ เหมือนผู้หญิงเลย แปลกดี”

อีกฝั่งมองกลับมาด้วยสายตาดุปนรำคาญจนเขาใจเสีย นี่เขาคงพูดอะไรผิดไปจนมิลค์ไม่อยากคุยด้วย ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือเปล่าที่ตอนนี้คงปลีกตัวแยกกันไม่ได้แล้ว พวกเขาได้ที่นั่งด้วยกันในห้องประชุม มิลค์นั่งติดกับช่องทางเดินตรงกลางโดยมีเขาขนาบอีกข้าง เด็กปีหนึ่งคนอื่นก็ทะยอยมานั่งที่ที่เหลือจนเต็ม

พี่ปีสูงคนหนึ่งเดินปรี่มาทักทาย

“ว๊าย อาจารย์มิลค์มาเป็นรุ่นน้องพี่จริงๆ ด้วย พี่เรียนหนักจนตกข่าว นี่เพิ่งรู้จากเพื่อนเลยแวะมาต้อนรับ  มาเป็นนักเรียนแพทย์ซะเองนี่จะมายังช่วยอาจารย์สอนอีกเปล่าคะ พี่ละคิดถึง พี่ตั้งเรียนจนได้ท็อปก็เพราะอยากเข้าคลาสพิเศษของอาจารย์มิลค์เลยนะคะนี่ ถ้าเลิกไปพี่จะเอากำลังใจมาจากไหน”

“คงยังช่วยอยู่ละครับ ปีหนึ่งยังไม่หนักมาก เห็นอาจารย์ว่าจะให้ไปช่วยแลบออสกี้เป็นหลัก”

มิลค์ตอบด้วยท่าทางสุภาพผิดกับบุคลิค

“กรี๊ด ตรงกับของปีพี่พอดีเลย อาจารย์มิคล์จะมาเล่นเป็นคนไข้สมมุติให้ใช่ไหมคะ อย่างนี้เหมือนใบ้ข้อสอบเลยน้าว่าจะเป็นโรคแนวไหน”

“อย่าชะล่าใจไปครับ ผมเตือนได้แค่นี้”

“อย่าขู่กันสิคะอาจารย์มิลค์ ไม่รู้แหละ คราวนี้อาจารย์ต้องมาช่วยติวพวกพี่ด้วย เทอมที่แล้วเอาแต่ไปติวให้แก๊งค์หนุ่มๆ”

“ฮ่าฮ่า ก็พวกพี่กลุ่มโน้นเขาเลี้ยงของอร่อยนี่ครับ”

“จ้า อย่าให้รู้นะว่าไปเพราะทางนั้นหล่อ”

เต้าหู้แอบฟังทุกคำถึงแม้จะไม่เข้าใจนัก ดูแล้วมันก็มีเบื้องหลังจริงๆ ที่ทำให้มิลค์เป็นที่รู้จักของรุ่นพี่ได้ขนาดนี้ ถึงไม่นับเรื่องนั้น ด้วยบุคลิคของมิลค์เองที่โดดเด่นและมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ อีกไม่นานคงเป็นที่โด่งดังในหมู่เพื่อนๆ เต้าหู้รู้สึกว่ามิลค์มีออร่าที่เหมือนพวกดาราคือเป็นคนที่ชินกับการเป็นจุดสนใจของคนอื่นจนเป็นเรื่องปกติ ถ้าเขาได้เป็นเพื่อนกับคนๆ นี้ คนอื่นอาจจะรู้จักเขาไปด้วยก็ได้

ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่เต้าหู้รู้สึกว่าความเป็นไปได้มันลางเลือนจริงๆ ตลอดเวลาการปฐมนิเทศ มิลค์ไม่ได้มีท่าทีสนใจจะคุยกับเขาเลย พอเขาพยายามชวนคุย มิลค์ก็จะตอบบ้างไม่ตอบบ้างแล้วก็หันไปเล่นโทรศัพท์ จนกระทั่งจบพิธีการช่วงเช้า เต้าหู้รู้ว่าโอกาสของเขากำลังจะหมดลง เด็กปีหนึ่งกลุ่มอื่นๆ ก็แสดงความสนใจที่จะทำความรู้จักกับมิลค์เหมือนกัน พวกที่นั่งแถวหน้ากับแถวหลังก็ดูจะพยายามตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าต้องชะโงกคุยกันในห้องประชุม

อยู่ๆ ความบ้าดีเดือดก็มาจากไหนไม่รู้ เต้าหู้คว้ากระเป๋าสะพายข้างของมิลค์มาถือไว้แล้วพูดแบบมัดมือชกออกไป

“เดี๋ยวไปกินข้าวกลางวันด้วยกันนะ เราถือกระเป๋าให้”

พูดเสร็จเขาก็รีบเดินหนีออกไปจากฝูงชนที่เริ่มรุมล้อมพูดคุยกันด้วยความหวังว่ามิลค์จะตามมา เด็กหนุ่มใจเต้นตุบๆ เขาไม่น่าทำอะไรที่บ้าบิ่นแบบนี้เลย ถ้าจะโดนชกคงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ มิลค์รีบเดินตามมาด้วยท่าทางน่ากลัว

“นายมันน่ารำคาญจริงๆ เอากระเป๋าชั้นคืนมา”

มิลค์พูดเมื่อเดินตามมาทัน

“เราแค่อยากจะเป็นเพื่อนกับนาย นายไม่สนใจเราเลย”

“ทำไมนายไม่ไปทำความรู้จักกับคนอื่นล่ะ ชั้นไม่สนใจจะสนิทกับใครหรอกนะ”

“อย่างน้อยก็ขอให้ได้คุยกันสักนิดก่อนสิ ถ้านายไม่ชอบหน้าเราจริงๆ เราจะไม่มากวนใจนายอีก ยังไงนายก็ต้องกินข้าวไม่ใช่เหรอ เราเลี้ยงข้าวนายก็ได้จะได้คุยกัน”

มิลค์ถอนใจ มันดูไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เขาจะคุยกับไอแว่นหน้าจืดคนนี้ แต่ก็เอาเถอะ ถือว่ามีคนเลี้ยงข้าวก็แล้วกัน

“แล้วจะไปกินที่ไหน นี่ไม่ใช่ทางไปโรงอาหารหรอกนะ”

“เราไม่รู้เหมือนกัน เราไม่ได้มาตอนวันแรกพบอ่ะ”

“งั้นไปนี่แล้วกัน ตอนนี้ที่โรงอาหารคนคงเยอะมาก”

มิลค์พาเดินลัดเลาะไปซอกตึก เพียงแป๊บเดียวก็มาทะลุออกที่ใต้อาคารใหญ่อีกแห่งหนึ่งซึ่งมีศูนย์อาหารติดแอร์เล็กๆ อยู่ด้านใน

“นี้เป็นโรงอาหารของพวกที่เรียนโทบริหารธุรกิจ กลางวันไม่ค่อยมีคน จะไปแน่นช่วงเย็นกับวันเสาร์อาทิตย์ จะกินอะไรก็สั่ง นายเลี้ยงนี่”

มิลค์อธิบาย เต้าหู้รู้สึกดีที่ได้ยินมิลค์พูดยาวๆ กับเขาบ้าง พอสั่งกับข้าวไปสองสามอย่าง เขาก็ลองพยายามอีกครั้งกับโอกาสที่ได้รับ

“ทำไมนายไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราล่ะ เพราะเรามาจากต่างจังหวัดเหรอ หรือเพราะหน้าตาเป็นแบบนี้”

“แล้วนายล่ะ ทำไมถึงอยากเป็นเพื่อนชั้น เราไม่เคยเจอกันมาก่อน นายจะรู้ได้ยังไงว่าชั้นนิสัยเป็นยังไง นายก็คงเข้าหาชั้นเพราะรูปร่างหน้าตาภายนอกใช่ไหม”

“เปล่านะ เอ่อ จริงๆ ก็มีส่วน เราเห็นนายดูดีน่าจะเป็นคนที่เพื่อนให้ความสนใจ ยิ่งเห็นพวกรุ่นพี่เข้ามารุมล้อมเต็มไปหมด เราไม่อยากเป็นคนที่ถูกเพื่อนๆ ลืมไปจนเรียนจบ”

“พูดง่ายๆ ก็คืออยากดังสินะ ก็ยังดีที่นายพูดออกมาตรงๆ แต่เสียใจด้วย ชั้นช่วยนายเรื่องนี้ไม่ได้ มันไม่เห็นจะน่าสนุกเลย”

“ขอร้องล่ะ ถ้าเราได้เป็นเพื่อนกับคนดังอย่างนาย ไม่ต้องสนิทก็ได้ คนอื่นๆ ก็อาจจะรู้จักเราบ้าง”

“งี่เง่า แค่นั้นมันจะทำให้นายมีตัวตนในสายตาเพื่อนได้ยังไง ก็ดูนายทำตัวเองสิ แว่นหนาเตอะ ผมเด๋อด๋าปรกหน้าปรกตา”

มิลค์เอื้อมมือมาถอดแว่นตาของคู่สนทนาออก เต้าหู้ผงะนิดนึงด้วยความตกใจแต่ก็ยอมแต่โดยดี

“ยิ่งถอดแว่นยิ่งหน้าจืดเข้าไปใหญ่แฮะ แถมยังดูง่วงๆ อีก เอาเถอะ หน้าจืดมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่ขนาดเพื่อนไม่คบ ดีที่เป็นคนขาวนะ นายเป็นคนเหนือใช่เปล่า แต่สิวพวกนี้ทำให้ดูเป็นคนเก็บกดยังไงไม่รู้”

เต้าหู้หน้าแดง เขาไม่ได้คาดหวังปาฏิหาริย์ว่าแค่ถอดแว่นเสยผมแล้วรูปลักษณ์ตัวเองจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นหนุ่มหล่อขึ้นมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกวิจารณ์ตรงๆ อย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้

“ชั้นไม่รู้สึกสนุกหรอกนะที่ต้องมาช่วยนายทำอะไรแบบนี้ เห็นแก่ที่นายเป็นคนแรกที่กล้ามาคุยตรงๆ กับชั้นแบบนี้ จะทิ้งคำแนะนำไว้ให้ก็แล้วกัน ถ้านายทำตัวให้โดดเด่นไม่ได้ก็อย่าทำตัวแตกแยกจากเพื่อน เสื้อผ้าทรงคุณลุงแบบนี้เขาไม่ใส่กันแล้ว”

มิลค์พูดพร้อมกับเอามือมาตบๆ ตามเสื้อตัวหลวมของเต้าหู้ แต่ต้องกลายเป็นฝ่ายที่ร้องออกมาอย่างแปลกใจแทน

“เอ๊ะ ทำไมถึงแข็งแบบนี้ ไหนนายถอดเสื้อออกสิ”

“ตรงนี้เลยเหรอ”

เต้าหู้ถามกลับด้วยความลังเล ถึงคนมาทานอาหารจะมีไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นที่สาธารณะ

“เออน่า ไม่มีอะไรหรอก ถ้าอยากเป็นเพื่อนกันนายควรจะฟังที่ชั้นพูดนะ”

เพียงแค่เท่านั้นทำให้เต้าหู้ถอดเสื้อนักศึกษาออกทันที มิลค์ถึงกับตกตะลึงในผิวเนียนขาวและรูปร่างที่ดูล่ำสันแข็งแรงของคนตรงหน้า

“นายเล่นเวทเหรอ หรือเล่นกีฬาอะไร  ทำไมถึงได้หุ่นดีกล้ามแน่นไปทั้งตัวอย่างนี้”

คนในร้านอาหารซุบซิบกันที่เห็นเต้าหู้ถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำจนเจ้าตัวประหม่า แต่เมื่อเห็นมิลค์ยังรอคำตอบอยู่อย่างไม่สนใจอะไร จึงบอกเหตุผลออกไป

“เปล่า เราช่วยงานที่บ้านตั้งแต่เด็ก บ้านเราทำไร่ยาสูบแล้วก็มีโรงงานบ่มใบยาสูบด้วย  เรายกมัดใบยาสูบหนักๆ ประจำ บางช่วงก็ออกไปช่วยพี่ๆ คนงานในไร่ งานหนักเหมือนกัน”

“แล้วทำไมผิวขาวจัง ถึงจะเป็นคนเหนือก็ไม่น่าจะขาวอมชมพูได้ขนาดนี้”

“คงเพราะพ่อเราขาวมั๊ง คุณปู่เราเป็นคนรัสเซีย”

“อืม ถึงว่า ชั้นอาจจะเปลี่ยนใจนะ ถ้านายทำให้ชั้นรู้สึกสนุกได้ ชั้นอาจจะคบนายเป็นเพื่อนได้”

เต้าหู้คอตกทันที

“งั้นคงไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้วล่ะ เราเป็นคนน่าเบื่อเรารู้ นายคุยด้วยคงไม่สนุก”

“ชั้นไม่ได้หมายถึงสนุกแบบนั้น นายกินอิ่มยัง ชั้นขอพิสูจน์อะไรอีกอย่างนึง ถ้าเป็นอย่างที่คิด เราก็เป็นเพื่อนกันได้”

“จริงๆ นะ เราอิ่มแล้ว งั้นเราเรียกเก็บเงินเลยนะ”

เมื่อพนักงานมาเก็บเงิน มิลค์ก็เจอเรื่องประหลาดใจเล็กๆ อีกครั้ง เมื่อว่าที่เพื่อนใหม่หุ่นล่ำหยิบกระเป๋าเงินแบรนด์เนม ภายในบรรจุด้วยธนบัตรสีเทาอัดแน่นเป็นฟ่อนออกมาชำระค่าอาหาร น่าสนใจแฮะ ดูท่าไร่ยาสูบและโรงบ่มที่ว่าคงจะไม่ใช่ธุรกิจเล็กๆ นี่มันน่าสนุกกว่าที่คิดไว้อีก มิลค์คิดอย่างนั้นแล้วก็ออกปากบอกเต้าหู้ทันที

“ก่อนกลับขอแวะเข้าห้องน้ำก่อนนะ นายก็ไปเป็นเพื่อนชั้นด้วยสิ”

เต้าหู้ตอบตกลง นึกว่ามีแต่พวกผู้หญิงที่ชอบชวนไปเข้าห้องน้ำด้วยกันซะอีก

“ชั้นอยากดูหุ่นนายเต็มๆ ถอดกางเกงออกซิ”

มิลค์พูดขึ้นทันทีที่เข้ามาในห้องน้ำชายกันสองคน เต้าหู้ถึงกับช๊อค

“เฮ้ย ทำไมต้องให้เราทำอย่างนั้นด้วย”

“นานอยากเป็นเพื่อนกับชั้นไม่ใช่เหรอ ชั้นแค่ดูว่านายมีความจริงใจให้ชั้นแค่ไหน”

“เอางั้นเหรอ คนกรุงเทพนี่คิดอะไรแปลกๆ แต่ก็ได้ ผู้ชายเหมือนกัน ไม่เห็นเป็นไร”

เต้าหู้บ่นแต่ก็ยอมถอดเสื้อผ้าออกแต่โดยดี มิลค์นึกขำในใจ บางทีหมอนี่ก็คิดน้อยไปนะ ถึงจะงับประตูห้องน้ำไว้แต่ก็ไม่มีกลอน จะมีคนโผล่เข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ในที่สุดเต้าหู้ก็ถอดกางเกงออกจนเหลือแต่บ๊อกเซอร์เผยให้เห็นเรือนร่างขาวโพลนเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ทั้งตัวอย่างที่มิลค์คิดไว้

“ลองทำท่าเบ่งกล้ามซิเพื่อน”

มิลค์จงใจเน้นเสียงตรงคำว่าเพื่อน  ซึ่งก็ได้ผล เต้าหู้ดีใจที่อีกฝ่ายยอมรับตัวเองเป็นเพื่อนจึงทำตามอย่างไม่อิดออด เขาโพสต์ท่าแล้วเบ่งแบบนักกล้ามตามที่เคยเห็นมา มิลค์นึกทึ่งกับกล้ามโตๆ ที่มีไลน์กล้ามเนื้อชัดเจนเห็นเป็นลูกๆ หัวนมสีแดงตัดกับผิวขาวๆ นั่นก็ดึงดูดสายตาได้ดีจริงๆ

ความรู้สึกบางอย่างในตัวมิลค์พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที เขาอยากทำบางอย่างกับร่างกายนี้  เซ็กส์เหรอ ไม่ใช่ เขาไม่เชิงว่าอยากมีเซ็กส์กับหมอนี่ เขาอยากทำอะไรที่มันดูมีอำนาจมากกว่านั้น เอาแส้มาเฆี่ยนจนผิวขาวๆ เป็นรอยแดง หรือเอาคัตเตอร์มากรีดให้เป็นแผลซิบๆ อา.. นี่ถึงจะดูตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย มันคงทำให้เขารู้สึกมีอำนาจเหนืออีกฝ่ายได้จริงๆ เหมือนที่เขาเคยทำกับน้องบุญธรรมที่ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ถ้าทำอย่างนั้นองค์กรคงมาจัดการเขาอีกรอบแน่ๆ แล้วอีกอย่างนึงเขาก็ไม่ได้อยากทำร้ายใครอย่างแต่ก่อนเท่าไหร่ หลายเดือนที่ผ่านมาเขาต้องใช้ร่างกายไปช่วยเจ้านายสอนนักศึกษาแพทย์มาไม่รู้กี่คลาสต่อกี่คลาส เรื่องอับอายก็เรื่องนึง เขาไม่เคยชินได้ซักที แต่ที่เขาซึมซับมาคือความตั้งใจของพี่ๆ นักเรียนแพทย์ที่พยายามศึกษาเรียนรู้เพื่อที่จะจบออกไปเป็นคุณหมอรักษาคน เขาเห็นความทุ่มเทของอาจารย์หมอเจ้านายเขาและเพื่อนร่วมงานในโรงพยาบาลที่จะรักษาคนป่วยให้หายดี มันทำให้เขารู้สึกว่าร่างกายคนเรามันมีค่าเกินกว่าที่จะมาทำลายกันเพื่อความสนุก สิ่งนี้แย้งกับรสนิยมทางเพศที่เขาได้รับการถ่ายถอดจากพ่อ ความสับสนที่เกิดขึ้นทำให้เขาตัดสินใจซิ่วจากวิศวะมาคณะแพทย์ ถ้าเขาเป็นหมอขึ้นมาจริงๆ เขาคงมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะกรีดมีดลงบนเนื้อคนไข้ ไม่ใช่เพื่อทำลายแต่เพื่อรักษา

แต่ก็อีกหลายปีกว่าเขาจะเป็นหมอเต็มตัว แล้วระหว่างนี้ล่ะเขาจะจัดการความรู้สึกที่พลุ่งพล่านนี้ได้ยังไง มิลค์มองไปที่ร่างแกร่งกำยำของเพื่อนใหม่ตรงหน้า มันจะรู้สึกดีซักแค่ไหนนะถ้าคนๆ นี้ตกอยู่ใต้อำนาจของเขา มิลค์นึกภาพเต้าหู้ถูกปิดตามัดมือมัดเท้าเหมือนในหนังซาดิสม์ ไม่เลว แค่วางยานอนหลับแล้วก็จับมัด แต่จินตนาการที่เขาคิดไว้ก็พังลงเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เขาได้รับรู้มาเร็วๆ นี้แทรกเข้ามา เขาคงหมดอารมณ์กับแนวเอสเอ็มแน่ๆ ถ้าภาพติดตานั้นยังอยู่

เต้าหู้ยังเบ่งกล้ามโพสต์ท่าไปเรื่อยอย่างเชื่อฟัง หมอนี่เชื่องดีแฮะ บอกอะไรก็ทำ ความคิดใหม่แวบเข้ามาในหัวมิลค์ ถ้าเขาค่อยๆ เปลี่ยนความคิดของเต้าหู้ให้ทำตามที่เขาบอกทุกอย่างได้ อย่างนี้เท่ากับเขามีอำนาจเหนือเพื่อนใหม่ที่ล่ำเหมือนคิงคองเผือกคนนี้สิ อำนาจที่เหนือกว่าทางร่างกายคืออำนาจควบคุมจิตใจ ใช่ ทำไมเขาคิดไม่ถึงมาก่อนหน้านี้นะ องค์กรก็เป็นตัวอย่างเห็นๆ อำนาจสะกดที่สั่งได้ทุกอย่าง มิลค์ตื่นเต้นมากเมื่อจินตนาการว่าตัวเองสามารถควบคุมความคิดและการกระทำของเต้าหู้ได้ ท่อนเอ็นของเขาขยายคับแน่นกางเกงสแล็คพอดีตัวที่สวมอยู่จนอึดอัด บ้าจริง ตอนบ่ายนี้เขาต้องไปเป็นแบบสาธิตกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ให้ปีสองที่จะมาติวคลาสอานาโตมี่ก่อนจะเริ่มเรียนจริง ถ้าไม่เอาน้ำออกก่อนคงได้แข็งตัวจนขายหน้าแน่

ขณะที่มิลค์กำลังเสียวซ่านกับความคิดแปลกใหม่อยู่ก็มีคนเปิดประตูห้องน้ำเข้ามา ดูจากการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นนักศึกษาปริญญาโทเอ็มบีเอของที่นี่ คนมาใหม่มองดูเต้าหู้ในชุดบอกเซอร์ตัวเดียวที่กำลังเบ่งกล้ามโชว์อย่างงงๆ พอเห็นว่าอะไรเป็นอะไรทั้งคนดูคนโชว์ก็หน้าขึ้นสีด้วยความอายทั้งคู่ ยิ่งเต้าหู้แล้วยิ่งอายจนผิวขาวๆ แดงไปทั้งตัว

คนมาใหม่พูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก

“ขอโทษทีครับ จะมาล้างมือนิดหน่อย ไม่รู้ว่าพวกน้องกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอยู่”

มิลค์มองอาการเขินอายจนเกินผู้ชายปกติของหนุ่มร่างโปร่งแล้วก็นึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้

“ไม่เป็นไรครับ พี่มาก็ดีเลย พอดีผมคุยกับเพื่อนอยู่ว่ามันไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่  กลัวจะเข้ากับเพื่อนใหม่ไม่ได้ ผมพยายามบอกมันว่ามันก็มีอะไรดีๆ ในตัวหลายอย่าง รูปร่างก็ดี พี่ยืนยันให้หน่อยว่าหุ่นมันดีจริงๆ เต้าหู้ นายอย่าปิดสิ โชว์กล้ามให้พี่เขาเห็นหน่อยเขาจะได้ช่วยวิจารณ์ถูก”

“จะดีเหรอ เราเพิ่งเจอพี่เขาเองนะ”

“ถ้าแค่นี้ยังอาย นายจะเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ยังไง คนที่นี่เขาต้องเปิดเผยกัน ไม่ใช่มาปิดๆ แอบๆ เพื่อนจะหาว่าเรามีลับลมคมใน พี่ว่าจริงไหม”

“จะ จริงครับน้อง มา พี่ช่วยดูให้ ยังไงก็รุ่นน้องมหาลัยเดียวกัน ไม่ต้องอายหรอกครับ”

เต้าหู้ลดอาการต่อต้านลงทันที มิลค์สังเกตได้ว่าการได้รับการยอมรับว่าเป็นพวกเดียวกันคือสิ่งที่เพื่อนใหม่ปรารถนา  หนุ่มปอโทรีบคว้าโอกาสดีๆ ที่ได้มาอย่างไม่คาดฝัน เด็กปีหนึ่งคนนี้ทั้งขาวทั้งล่ำ กล้ามเป็นมัดๆ จนเขาละสายตาไปไม่ได้ ทั้งๆ ที่หน้าตาก็จืดๆ ธรรมดา เทียบกันแล้วเพื่อนอีกคนหล่อกว่าเยอะ แต่ความขาวเนียนล่ำนี่มันมีเสน่ห์ดึงดูดจนเขามึนไปหมด ยิ่งพอทำท่าเบ่งกล้ามตามคำยุของเพื่อน พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าผิวเนียนใสอย่างไม่มีที่ติ กลิ่นสบู่อ่อนๆ ผสมกลิ่นหนุ่มทำให้ต้องกลืนน้ำลายลงคอ ไรขนอ่อนสะอาดตาวิ่งไล่จากสะดือหายลับไปในบ๊อกเซอร์ก็น่ามองพอๆ กับซิกส์แพคและสะดือรีได้รูป รอยนูนอวบใหญ่ของห่อหมกบ่งบอกถึงความเป็นพ่อพันธ์ชั้นดีโดยไม่ต้องเห็นของจริง

มิลค์สังเกตปฏิกิริยาของรุ่นพี่อย่างสมใจ เขาอยากรู้ว่าจะสั่งเต้าหู้ได้ถึงระดับไหนกัน

“ดีมากเต้าหู้ เบ่งกล้ามอย่างนั้น นายมีดีเกินกว่าที่จะมาหลบซ่อนไว้ ลองให้พี่เขาจับดูสิว่ากล้ามนายแน่นแค่ไหน”

รุ่นพี่ปอโทจับกล้ามแขนที่ขึ้นเป็นลูกของเต้าหู้ตามคำเชิญชวน ความแกร่งแน่นของมันทำให้เกย์แอบๆ อย่างเขาระทวย เขาลูบไล้ไปมาอย่างหลงไหล ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะบ้ากล้ามได้มากขนาดนี้ เทรนด์สมัยนี้ก็ไม่ได้เน้นกล้ามใหญ่ๆ แต่ความสมบูรณ์แบบที่สัมผัสได้ทำให้อาจต้องเปลี่ยนใจมาเป็นสาวกกล้าม ไหนจะแววตาใสซื่อของหนุ่มน้อยที่ชื่อเต้าหู้นี่อีก เขาย้ายมาชื่นชมแผงอกที่ทั้งแน่นและได้รูป เห็นเม็ดหัวนมแดงๆ นั่นแล้วอยากจะดูดเลียเม้มให้สมใจ แต่เขาทำได้แค่ลูบไล้มือผ่านๆ เหมือนไม่ตั้งใจ แต่แค่นั้นก็ทำให้หัวนมในความสนใจชูชันขึ้นทันที

“นายอยากลองเปิดใจกับพี่เขาดูไหม แสดงให้เขาดูสิว่านายมีดีอะไรอีก ใต้บ๊อกเซอร์นั่นไงมันซ่อนอะไรไว้  พี่เขาก็ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน ก็พี่ๆ น้องๆ ในรั้วมหาลัยเดียวกัน”

เต้าหู้รั้งขอบบ๊อกเซอร์ลงต่ำจนไรขนแพลมออกมาแต่ก็เปลี่ยนใจดึงกลับไปที่เดิม

“เราว่ามันแปลกไปแล้ว พอเถอะ”

“ตามใจนายแล้วกัน”

มิลค์ไม่คิดจะรุกต่อ นี่อาจจะยังเร็วเกินไป แต่เขายังมีโอกาสที่จะเล่นกับเต้าหู้อีกเยอะ ไม่เหมือนพี่ปอโทที่ดูท่าทางจะเสียดายซะเหลือเกิน เขาให้เต้าหู้แต่งตัวและรีบชวนออกมา มิลค์เหลือบดูนาฬิกาแล้วก็ตกใจเมื่อพบว่าใกล้เวลาที่เขาต้องปลีกตัวออกไปเข้าคลาสอานาโตมี่ของพวกปีสองแล้ว ถ้าไปสายไม่รู้จะถูกเจ้านายลงโทษอะไรบ้าง แค่ไปแก้ผ้าเพื่อเป็นหุ่นสาธิตด้านกายวิภาคให้นักศึกษาดูทั้งห้องก็น่าอับอายขายหน้าพออยู่แล้ว เขาไม่อยากจะถูกสั่งให้ไปกระโดดตบ วิดพื้น หรือทำท่าสะพานโค้งทั้งเปลือยๆ เป็นการทำโทษที่มาสายให้น่าอายขึ้นไปอีก แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะไปทำความสะอาดน้องชายที่เปียกแฉะจากน้ำเงี่ยนที่ซึมออกมาก่อนเข้าห้องเรียนแล้ว

เต้าหู้มองเพื่อนใหม่ที่ขอตัวจากไปอย่างเร่งรีบด้วยความแปลกใจ อีกฝ่ายบอกแค่ว่าจะต้องไปทำภารกิจที่ห้องเลคเชอร์อานาโตมี่ของปีสอง เต้าหู้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีธุระอะไรนะถึงไม่เข้ากิจกรรมรอบบ่าย แต่มิลค์ก็ดูเชี่ยวและรู้จักคนเยอะมากจนไม่จำเป็นต้องไปฟังการแนะนำคณะเพิ่มเติม  เขากังวลแค่ว่าตัวเองจะต้องหาเพื่อนใหม่รอบบ่ายไม่งั้นคงต้องแกร่วอยู่คนเดียว เด็กหนุ่มนึกถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำแล้วสงสัยว่าการที่เขาหุ่นดีอย่างที่มิลค์บอกมันจะทำให้มีเพื่อนสนใจขึ้นมาบ้างจริงๆ นะหรือ เต้าหู้ปลดกระดุมเสื้อออกสองเม็ดแล้วแหวกออกเพื่อโชว์แผงอก แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจติดกลับเข้าไปก่อนที่จะเดินไปรวมกับกลุ่มน้องใหม่ปีหนึ่ง

..........................

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
มิลค์วิ่งเข้าตึกคณะแพทย์อย่างเร่งรีบ ปรากฎว่าเขาเข้าสายไปหนึ่งนาทีซึ่งก็โดนเจ้านายคาดโทษไว้จัดการทีหลัง เจ้านายของเขาหรืออาจารย์หมอของนักศึกษาแพทย์ในห้องก็สั่งให้เขาถอดเสื้อผ้าออกให้หมดต่อหน้าเด็กทั้งห้อง ทั้งที่ควรจะชินแต่วันนี้เขากลับอายมากเป็นพิเศษ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเป็นแบบสาธิตให้กับนักศึกษากลุ่มนี้ เด็กปีสองซึ่งเป็นรุ่นพี่คณะของเขาในตอนนี้ จริงๆ ก็คือเพื่อนร่วมมหาลัยรุ่นเดียวกันกับเขาในปีที่แล้ว ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่หลายคน สาวๆ บางคนเป็นแฟนกับเพื่อนเขาที่วิศวะด้วยซ้ำไป

เขาถอดเสื้อผ้าออกหมดอย่างอัตโนมัติตามคำสั่งเจ้านาย และอย่างที่เขาคิด  พวกนี้มันไม่ได้สุภาพให้เกียรติเขามากเหมือนรุ่นพี่ปีสูงๆ เสียงเป่าปาก เสียงแซว เสียงฮือฮาดังขึ้นไปทั่วห้องเมื่อเห็นอวัยวะพึงสงวนของเขาปรากฎต่อสายตา อาจจะเห็นว่าเป็นเพื่อนๆ กันมาก่อน

“โอ๊ย หล่อล่ำใหญ่อย่างนี้ อยากให้มาช่วยสอนทุกวันเลย จะไม่โดดเลยฮะ”

“ฮ่าๆ ไอมิลค์มันแก้จริงๆ ว่ะ”

“ว๊าย พัตเตอร์เจาะนมด้วย เซ็กซี่มากเลยค่า”

“เฮ้ยของใหญ่ว่ะ แม่ง หล่อแล้วพ่อยังรักมากอีก อิจฉาว่ะ”

“แกๆ นี่ไงพัตเตอร์ เพื่อนแฟนชั้น ที่รุ่นพี่เรียกว่าอาจารย์มิลค์ ไม่น่าเชื่อนะว่าตะยอมทำแบบนี้”

พัตเตอร์คือชื่อเล่นจริงๆ สุดเท่ของเขา แต่ตั้งแต่ตกเป็นนักโทษขององค์กร ไอพี่บอสก็ตั้งให้ใหม่ว่ามิลค์ มาจากที่เขาเจาะหัวนมใส่หมุดแค่นี้ บ้าบอชะมัด อาจารย์หมอที่มาประมูลเขาไปก็เรียกตาม แถมแนะนำคนอื่นก็เรียกชื่อนี้ สุดท้ายในคณะแพทย์ก็เรียกกันแต่มิลค์ จนเหลือคนที่รู้ชื่อเล่นจริงๆ ก็พวกเพื่อนวิศวะหรือคนที่รู้จักเขามาก่อนหน้านี้เท่านั้น

เจ้านายเขาทุบโต๊ะเสียงดัง

“หมอ เงียบๆ หน่อย ถ้าหมอจบออกไปแล้วไปหัวเราะวิพากษ์วิจารณ์คนไข้แบบนี้ เขาจะเชื่อถือหมอกันไหม จรรยาแพทย์หายไปไหนหมด ถึงหมอจะเพิ่งอยู่ปีสอง แต่ก็ต้องฝึกไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้ว อีกอย่าง มิลค์เขามาเป็นอาสาสมัครช่วยสอน ก็ต้องถือว่าเป็นอาจารย์ของพวกเราด้วย ไหนเรียกอาจารย์มิลค์สิ”

“อาจารย์มิลค์”

ทั้งห้องส่งเสียงเรียกยานคาง แต่ก็แอบหัวเราะกันเองนิดหน่อย เจ้านายเขาพยักหน้าแล้วเริ่มบทเรียน

“วันนี้ผมจะยังไม่สอนอะไรมาก อย่างที่รู้ว่าอานาโตมี่เป็นวิชาที่ว่าด้วยกายวิภาคของมนุษย์ เราจะมีเล็คเช่อร์กันแค่ไม่กี่ครั้งเพื่อให้หมอไปท่องชื่อเรียกระบบกล้ามเนื้อเส้นประสาทกระดูกและอวัยวะต่างๆ  แต่ที่เราเน้นจริงๆ คือภาคปฏิบัติในแลบที่ทุกคนคงพอทราบกิตติศัพท์กันดี

วันนี้อาจารย์หมอมีผู้ช่วยอีกคนเป็นนักศึกษาปีสี่จากคณะศิลปกรรม เทอมที่แล้วมิลค์เคยร่วมงานกันมาหลายครั้งแล้ว เขาจะทำหน้าที่เขียนลายมัดกล้ามเนื้อลงไปจริงๆ บนตัวมิลค์ด้วยสีที่ใช้สำหรับเพ้นท์ผิวหนัง อาจารย์หมออธิบายกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ไปเรื่อยขณะที่เขาวาดตามไปอย่างรวดเร็วจนน่าทึ่ง

การเรียนไล่ไปตามกล้ามเนื้อสำคัญกลุ่มต่างๆ ไล่มาจากช่วงคอ แขน หน้าอก มาจนถึงหน้าท้อง เมื่ออาจารย์หมอพูดถึงกล้ามเนื้อมัดไหน รุ่นพี่ศิลปกรรมก็จะวาดกล้ามเนื้อมัดนั้นลงไปตำแหน่งจริงๆ บนตัวมิลค์ กว่าจะอธิบายหน้าที่การทำงานเสร็จ ลายเส้นและรูปร่างที่ชัดเจนก็ปรากฎบนตัวมิลค์เรียบร้อยแล้ว มิลค์สังเกตว่าวิธีนี้ทำให้จำและเข้าใจได้ดีกว่าอ่านจากหนังสืออย่างเดียว ยิ่งพอเขาขยับกล้ามเนื้อเพื่อแสดงให้เห็นการทำงาน รอยเพ้นท์บนตัวเขาก็จะยืดหดไปด้วยทำให้เห็นภาพมากขึ้น

“กล้ามเนื้อกลุ่ม Vastus เป็นกล้ามเนื้อบริเวณต้นขา ประกอบไปด้วย.....”

เสียงอาจารย์หมออธิบายไป นักศึกษาคณะศิลปกรรมก็นั่งลงเพื่อเขียนลายกล้ามเนื้อบริเวณต้นขามิลค์ เขาทำจมูกฟืดฟีดแล้วถามเบาๆ

“มึงไปทำอะไรมาวะ กลิ่นหึ่งเชียว”

“โทษทีพี่ รีบมากเลยไม่ได้ล้าง”

มิลค์กระซิบตอบ

“เงี่ยนมากเหรอมึง พอเข้ามาดูใกล้ๆ น้ำเงี่ยนเยิ้มเชียว”

มิลค์หน้าเสีย ตอนถูกสั่งให้แก้ผ้า เขาก็แอบเอากางเกงในซับเร็วก่อนถอดแล้ว แต่อารมณ์มันคงติดพันอยู่ หวังว่าคนในห้องคงไม่สังเกตเห็นนะ

รุ่นพี่ที่กำลังเพ้นท์รูปอยู่ชวนคุยต่อต่อตามประสาคนทะลึ่ง

“หมอปีสองนี่มีสวยๆ หลายคนนะ ใครว่าเด็กเรียนจะเปรี้ยวไม่เป็น มึงเห็นกิ๊บแดงแถวสองตรงกลางเปล่า เสื้อแม่งรัดขนาดนั้น กูว่าไม่ธรรมดา มึงมาทำแบบนี้บ่อยๆ คงมีคนเข้าหาเยอะสินะ เหมือนมาแกะกล่องสินค้าให้ดูกันก่อนจะๆ ตาว่ายังไงก็ไม่ผิดหวัง ทั้งหล่อทั้งใหญ่หุ่นดี คงได้กินเรื่อยๆ สินะ”

มิลค์นึกถึงคนหลากหน้าหลายตาทั้งผู้หญิงผู้ชายที่มาเสนอตัวให้เขาแล้วถอนใจ ถ้าเขาไม่โดนสั่งห้ามจากผู้เป็นนายอย่างเด็ดขาดคงเสร็จเขาไปหลายคนแล้ว หนุ่มหน้าใสตัวเล็กที่นั่งข้างกิ๊บแดงที่รุ่นพี่ชี้ให้ดูก็เหมือนกัน ยั่วเขามาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ตอนปีหนึ่ง เห็นปากแดงๆ แล้วใจสั่น รู้สึกตัวอีกทีมิลค์น้อยก็ขยายตัวนิดๆ ปลายเยิ้มกว่าเดิมแล้ว

“เฮ้ย ชวนคุยหน่อยเดียวมึงของขึ้นเลยเหรอ อย่านะโว้ย เดี๋ยวคนนึกว่ากูแอบทำอะไรปลุกอารมณ์มึง”

หนุ่มรุ่นพี่โวยวายขึ้นมา เขารีบลงรายระเอียดของมัดกล้ามสุดท้ายแล้วปลีกตัวออกไปด้านข้างเพื่อโชว์ผลงานให้นักศึกษาในห้องชม

เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมีคนเริ่มสังเกตสัดส่วนที่ขยายตัวขึ้นของมิลค์ มิลค์พยายามสะกดอารมณ์ตัวเองแล้วคิดถึงเรื่องต้นไม้ใบหญ้าจนเริ่มรู้สึกควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง เขานึกด่ารุ่นพี่ศิลปกรรมในใจที่มาชวนคุยแบบนี้ในระหว่างที่เขาปฏิบัติภารกิจอยู่

“อาจารย์ครับ อวัยวะเพศชายนี่มีกล้ามเนื้อหรือเปล่าครับ แล้วการแข็งตัวอ่อนตัวของมันนี่ กลไกเหมือนกับการเบ่งกล้ามใบ่ไหมครับ”

นักศึกษาแพทย์ที่นั่งแถวหน้ายกมือถามคำถามขึ้น มิลค์สบตาคนถามแล้วก็นึกรู้อยู่ในใจว่ามันจงใจกวนตีน เขาไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่เหมือนเคยมองเขม่นกันอยู่ตอนสมัยรับน้องมหาลัยปีที่แล้ว รู้สึกว่ามันจะได้เป็นเดือนแพทย์ของปีสองด้วย

“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง กล้ามเนื้อที่อวัยวะเพศชายน่าจะเรียกว่าวเนื้อเยื่อมากกว่า มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ส่วนแกนจะมีอยู่ด้วยกันสามชิ้น สำหรับกลไกการแข็งตัว อาจารย์มิลค์เชิญทางนี้หน่อย”

มิลค์รู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่เขาก็ขัดคำสั่งคนที่เป็นเจ้านายไม่ได้ อาจารย์หมอให้เขายืนแอ่นเอวไปข้างหน้าแล้วก็เอามือที่เพิ่งสวมถุงมือยางประคองอวัยวะสำคัญของเขาขึ้นมาให้นักศึกษาในห้องเห็นกันชัดๆ

“การแข็งตัวอาจจะจะเกิดขึ้นจากอารมณ์ทางเพศหรือการปลุกเร้าจากภายนอกก็ได้ ส่งผลให้เลือดสูบฉีดเข้าไปในเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำเป็นลำยาวตลอดองคชาต”

อาจารย์ใช้ปลายนิ้วคลึงไปที่ส่วนหัวและเส้นสองสลึงได้อย่างชำนาญสมกับเป็นอาจารย์ภาควิชายูโร ท่อนลำที่เพิ่งสงบลงกลับค่อยๆ ขยายตัวใหม่ มิลค์อายจนอยากจะหลับตาหรือเบือนหน้าหนีแต่เคยโดนสั่งไว้ว่าอย่าแสดงอาการใดๆ ที่ดูเป็นการต่อต้านระหว่างทำภารกิจเด็ดขาด อีกอย่างเขาไม่อยากแสดงอาการอะไรที่บ่งบอกว่าเขาต้องฝืนใจทำเรื่องพวกนี้ มันทำให้ดูน่าสมเพชโดยเฉพาะกับไอเดือนแพทย์ที่เป็นเจ้าของคำถามพาซวยอันนี้ มิลค์ปั้นหน้าเรียบเฉยราวกับว่าการมายืนโชว์ท่อนเอ็นแข็งโป๊กหน้าห้องเรียนเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สุด

“ถ้าเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงไม่ได้มีปัญหาทางเพศเนื้อเยื่อฟองน้ำที่ขยายจากการดูดซับเลือดไว้จะไปกดทับหลอดเลือดดำไว้ไม่ให้เลือดไหลออกมา องคชาตจึงสามารถแข็งตัวอยู่ได้นานพอที่จะสืบพันธ์สำเร็จ ในกรณีของอาจารย์มิลค์ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างของเพศชายที่มีองคชาตที่แข็งแรงสมบูรณ์และขนาดที่ใหญ่กว่าเกณฑ์ปกติ จะเห็นว่าเมื่อองคชาติของอาจารย์มิลค์ขยายเต็มที่หนังหุ้มปลายก็จะค่อย ๆ ร่นลงโดยอัตโนมัติเพื่อทำการเปิดหัวองคชาตให้พร้อมใช้งานต่อไป แต่ว่าบางคนอาจจะต้องร่นหนังหุ้มปลายลงด้วยมือ”

อาจารย์หมออธิบายไปพร้อมสาธิตไปด้วย นักศึกษาให้ความสนใจกันมากไม่เว้นแม้นักศึกษาชายทั้งที่เรื่องนี้คงเป็นเรื่องปกติที่ทำกันแทบทุกวัน นักศึกษาหญิงตาโตกับขนาดที่ใหญ่โตและชี้ทำมุมขึ้นอย่างน่าเกรงขาม นักศึกษาขออนุญาตมามุงดูใกล้ๆ เบียดจนแทบจะขี่คอกัน

“ขออนุญาตช่วยอาจารย์สาธิตครับ”

เดือนแพทย์ปีสองโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความแปลกใจของเพื่อนๆ  อาจารย์มองหน้าคนขอด้วยความแปลกใจแต่ก็ยักไหล่

“ก็เอาสิ”

เดือนแพทย์ปราดเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้ร่วมสาธิต มิลค์กัดฟันด้วยความคับแค้นใจที่ตกเป็นเบี้ยล่าง

“จริงๆ หมอต้องสวมถุงมือยางก่อนนะ แต่ก็เอาเถอะ อาจารย์มิลค์ได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำว่าไม่ได้เป็นโรคติดต่อทั้งหลาย เมื่อกี๊ผมพูดถึงไหนแล้ว ต่อจากนั้นเลยแล้วกัน หลังจากการหลั่งน้ำอสุจิหรือหลังจากการยุติของสิ่งเร้า  ปกติองคชาตจะอ่อนตัวลง แต่เวลาที่ใช้อาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความยาวและความหนาขององคชาต กรณีของอาจารย์มิลค์คงต้องใช้เวลาซักพัก แต่ผมว่าเราคงไม่ต้องสาธิตถึงขั้นนั้นหรอก จะเสียเวลามากเกินไป”

อาจารย์หมอพูด แต่ไม่ทันแล้ว  เดือนแพทย์ที่รับหน้าที่สาธิตแทนอาจารย์หมอสาวท่อนลำของมิลค์ไปตามแนวยาวอย่างช่ำชอง อีกมือนึงก็เล่นกับหัวนมที่เจาะใส่หมุดไว้จนมิลค์ครางออกมาเบาๆ อย่างลืมตัว ความอัดอั้นที่สะสมมาตั้งแต่ในห้องน้ำจนถึงตอนนี้ทำให้มิลค์สุดจะอดกลั้นจริงๆ เขาลืมไปหมดว่ากำลังอยู่ต่อหน้าคนหลายสิบคน ลืมว่าเจ้าของมืออุ่นๆ ที่กำลังปรนเปรอความสุขให้คือคนที่ไม่ชอบหน้า มิลค์กระฉูดน้ำว่าวขาวข้นออกมาอย่างแรงล้นอุ้งมือใหญ่ของเดือนแพทย์หกลงมาเลอะพื้นไปหมด มิลค์สูดหายใจแรงๆ สติเริ่มกลับคืนมา นี่เขาทำอะไรลงไป เขาโดนจับชักว่าวต่อหน้ารุ่นพี่ปีสองจนแตกอย่างหมดท่า ถึงเขาจะโดนเจ้านายสั่งให้ทำเรื่องแบบนี้บ่อยซักแค่ไหน เขาก็ไม่เคยชินซักที

“เอาล่ะวุ่นวายกันมามากแล้ว ผมมีเคสด่วนต่อคงต้องขอเลิกคลาสก่อนเวลา  จริงๆ ในคลาสแรกนี้ผมตั้งใจเอาอาจารย์มิลค์มาสาธิตเพื่อให้เห็นว่าอนาโตมี่เป็นวิชาที่น่าสนใจและกล้ามเนื้อต่างๆ ของมนุษย์มันก็มีความงามในตัวมันเอง จะว่าไปมันก็คือศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้น บางคนคงยังไม่รู้ว่าคณะศิลปกรรมก็มีเรียนอนาโตมี่ด้วยเพื่อที่จะวาดภาพคนให้เหมือนจริง ผู้ช่วยสอนที่มาเพ้นท์รูปกล้ามเนื้อบนตัวอาจารย์มิลค์วันนี้ก็เป็นรุ่นพี่จากคณะศิลปกรรมที่ชำนาญในเรื่องนี้ อาจารย์มิลค์เองก็ช่วยสอนช่วยสาธิตเรื่องพวกนี้มาจนเชี่ยวชาญเหมือนกัน ผมจะให้พวกคุณใช้เวลาที่เหลือ จำชื่อกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ที่ถูกวาดขึ้นในคลาสนี้ จับกลุ่มคุยกันก็ได้ เดียวอาจารย์มิลค์จะเดินไปให้แต่ละกลุ่มดูอย่างใกล้ชิด ใครไม่แน่ใจชื่อหรือหน้าที่ของกล้ามเนื้อแต่ละชุดก็ถามกับเขาได้เลย อ้อ ผมลืมแจ้งไป พอเราเรียนเลคเชอร์จนครบหมดแล้วจะมีสอบภาคทฤษฎีก่อนที่จะขึ้นแลบ ใครได้คะแนนสูงสุด จะได้รับสิทธ์ให้ยืมอาจารย์มิลค์ไปใช้เป็นหุ่นสาธิตได้หนึ่งวัน เอาล่ะ แบ่งกลุ่มกันได้ ผมขอตัวก่อน”

นักศึกษาในห้องย้ายที่กันวุ่นเพื่อจับเป็นกลุ่ม หลายคนมีท่าทางมุ่งมั่นที่จะคว้าคะแนนสูงสุดมาให้ได้ หนึ่งในนั้นคือเดือนคณะที่เข้าไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนโดยไม่คิดที่จะไปล้างมือ แถมเมื่อมิลค์มองไปยังเอามือข้างนั้นมานั่งดมแล้วส่งสายตาที่อ่านไม่ออกกลับมาอีก มิลค์เลิกสนใจแล้วเดินไปโชว์ร่างเปลือยเปล่าที่กลุ่มแรกตามคำสั่งที่ได้รับ มันไม่ควรเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่หลังจากที่เขาน้ำแตกอย่างไร้ยางอายต่อหน้าคนพวกนี้  คราบเลอะที่หว่างขายังส่งกลิ่นคาวประจานตัวเองอยู่ตลอดเวลา จากความอายเริ่มกลายเป็นความโกรธ ถ้าไอเต้าหู้มันไม่ซื่อจนทำให้เขาเกิดอารมณ์มาตั้งแต่ในห้องน้ำ เขาคงสามารถควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้ ไอเดือนแพทย์ปีสองอีก เขาต้องแก้แค้นพวกมันให้ได้ การแก้แค้นที่ต้องแนบเนียนพอที่จะไม่ให้เจ้านายหรือองค์กรผิดสังเกต

ท่ามกลางความชุลมุนและความสนใจที่พุ่งไปที่ตัวมิลค์ นักศึกษาปีหนึ่งที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์โดยไม่ตั้งใจ ค่อยๆ แอบออกไปทางหลังห้องโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ปีหนึ่งคนนั้นคือเต้าหู้หนุ่มหน้าจืดนี่เอง เขาตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ การแนะนำคณะเมื่อช่วงบ่ายจบลงไปก่อนหน้านี้ซักพักแล้ว เต้าหู้ที่ยังหาเพื่อนใหม่นอกจากมิลค์ไม่ได้ ไม่รู้จะไปไหนกับใครจึงได้เดินถามๆ รุ่นพี่เพื่อมาดักรอมิลค์ที่ห้องเลคเชอร์วิชาอานาโตมี่ เขาเห็นประตูเปิดแง้มอยู่จึงส่องเข้าไปว่าเพื่อนใหม่ยังอยู่ในห้องหรือเปล่า สิ่งที่เขาเห็นมันน่าตกใจจนต้องแอบแฝงตัวเข้าไปดูใกล้ๆ จนตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อสายตาในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คลิปวิดีโอที่เขาแอบบันทึกภาพไว้เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปก็เป็นหลักฐานอย่างดี ภาพหนุ่มหล่อหุ่นดีบนร่างกายเปล่าเปลือยมีรอยเพ้นท์เป็นรูปกล้ามเนื้อต่างๆ จนเหมือนกับหลุดออกมาจากหนังไซไฟ ถูกหนุ่มหน้าตาดีอีกคนชักท่อนลำขนาดเขื่องอย่างเมามันจนน้ำแตกท่ามกลางผู้ชมหลายสิบคนในชุดนักศึกษาถูกระเบียบ มันประหลาดจนเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ดี แต่ในวูบหนึ่งเขารู้สึกอิจฉาที่มิลค์ได้รับความสนใจจากอาจารย์และคนทั้งห้อง

[TBC]

ย้ายมาในห้องนิยายจบแล้ว ไม่รู้ว่าจะยังมีคนอ่านหรือเปล่า

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ว้าววววว ตอนพิเศษมาแล้วววว มิลค์ค์ค์ค์~~~~ 555 ชอบชื่อตอนค่ะ เต้านมสด  :ling1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทีแรกเห็นชื่อตอนก็คิดว่าตอนนี้น่าจะใส ๆ ฮา
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มีจ้า ขอบคุณที่มาต่อน้า  :hao6: :hao7: :katai2-1:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
กรี๊ด เรนอ่านค๊าาาา ชอบอ่านแบบรวดเดียวจบ เลยสิงอยู่แถวนี้แหละ 555

ชอบคนเจาะหัวนม อ่านแล้วมันช่างเร้าใจ  :m25:

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แฮะแฮะ ยังไม่ได้เริ่มอ่านแต่ว่ามีคนแนะนำมาให้อ่าน พอดีอ่านบทนำแล้วรู้สึกว่า

พล็อตเรื่องแปลกใหม่ดีมากค่ะ ชอบพล็อตแหวกแนววว สรุปเกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนทำตัวแปลกๆกัน  :ruready

ยังไงก้รอติดตามเรื่องใหม่ๆนะคะ ส่วนเรื่องนี้ ขอตัวชะแว้บไปอ่านก่อนน :pig4:

ออฟไลน์ HypnosisDreams

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เต้าหู้นมสด นึกว่าจะแบ๊วๆ พออ่านแล้ว......

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อ่านชื่อตอน นมสด นี่นึกถึง มิลค์ เลย ลืมชื่อเล่นจริงๆไปแล้ว
อย่าบอกนะว่าเต้าหูจะทำแบบมิลค์ ดีจังเลยมิลค์จะได้มีเพื่อน ^_^

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เต้าหู้จะทำอะไรต่อไปนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
สนุกมากกกกกกกกกกกกก ชอบบอสมากกกก  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:

โครตสนุก โครตชอบ ไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อน  :mew3:

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content
ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [2]

แม้อาจารย์จะออกจากห้องไปแล้วแต่ภารกิจในวันนี้ของมิลค์ยังไม่หมด เขาต้องไปสาธิตมัดกล้ามที่ลงสีไว้ให้นักศึกษาดูทีละกลุ่มทั้งๆ ที่ท่อนล่างยังเฉอะแฉะ สายตาเป็นสิบๆ คู่ที่จ้องมายังร่างกายเปลือยเปล่าในระยะประชิดทำให้เขาอับอายอย่างบอกไม่ถูก ยังดีที่พอเขาอธิบายชื่อและการทำงานของมัดกล้ามเนื้อต่างๆ อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้อาจารย์เองทำให้นักศึกษาหันไปสนใจเรื่องวิชาการมากกว่าเรื่องเนื้อตัวของเขา จนกระทั่งกลุ่มสุดท้ายที่มีเดือนแพทย์คู่กรณีเป็นหัวโจกของกลุ่ม เขาถูกขอให้เบ่งกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ โชว์ มิลค์จะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายอ้างว่าเพื่อให้เห็นกล้ามเนื้อชัดขึ้น มิลค์ต้องโพส์ต์ท่าต่างๆ ราวกับประกวดชายงามจนนักศึกษากลุ่มอื่นๆ เข้ามามุงดู เดือนแพทย์วิพากษ์วิจารณ์เรือนร่างของมิลค์อย่างสนุกสนานโดยเฉพาะประเด็นที่เขาเจาะหัวนม

มิลค์นึกแค้นอยู่ในใจที่ถูกทำให้กลายเป็นตัวตลกอย่างนี้ แต่ภายใต้คำสั่งของอาจารย์ที่เป็นเจ้านาย เขาก็ทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากจะปฏิบัติหน้าที่ให้จบๆ ไป แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่หยุดแค่นั้น เดือนแพทย์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพน่าอับอายของมิลค์หลายภาพติดๆ กัน

“เฮ้ย อาจารย์ห้ามถ่ายรูป น้องเขาอุตส่าห์มาเป็นแบบให้เรา นายไม่ควรถ่ายภาพเก็บไว้นะ”

เพื่อนในกลุ่มร้องเตือนแต่เดือนแพทย์ยังไม่หยุด เขาถอยห่างออกเล็กน้อยเพื่อให้ได้มุมที่เห็นหน้าและท่อนลำช่วงล่างของมิลค์ไปพร้อมๆ กัน

“ใช่ๆ ถ้าหลุดไปจะทำยังไง อาจารย์มิลค์เดือดร้อนแย่เลย”

เพื่อนอีกคนปราม

“ไม่เห็นจะเป็นไร ผมแค่ถ่ายเก็บไว้เทียบกับในเทคบุ๊คที่เราเรียน จะได้เข้าใจมากขึ้นไง”

เดือนแพทย์ตอบอย่างไม่สนใจขณะที่ถ่ายจ่อไปที่อวัยวะเพศที่แห้งกรังไปด้วยคราบขาวของคนตรงหน้า มิลค์ทำอะไรไม่ถูก ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดปัญหานี้เพราะนักศึกษาทุกคนต่างให้เกียรติเขาเป็นอย่างดี ไม่นับว่าทุกครั้งอาจารย์ก็อยู่ในห้องเรียนด้วยจนจบ เขาอยากจะต่อต้านแต่ก็ฝืนคำสั่งอาจารย์ไม่ได้ ครั้งต่อไปเขาต้องขออนุญาตไว้ล่วงหน้าเผื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก

มิลค์อดทนจนเป็นอิสระเมื่อหมดเวลาการเรียนการสอน นักศึกษารีบออกจากห้องไปเพราะมีเรียนต่อ รุ่นพี่ศิลปกรรมหนีกลับไปก่อนโดยลืมทิ้งอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ให้ จะให้แต่งตัวไปก่อนแล้วไปล้างในห้องน้ำมิลค์ก็กลัวเสื้อผ้าจะเลอะสีเพ้นท์ตัว เขาจำใจต้องใช้กางเกงในเช็ดสีออกไปก่อนเท่าที่ทำได้แล้วแต่งตัวเรียบร้อยโดยไม่ได้ใส่กางเกงใน เขาเดินออกมานอกห้องอย่างโล่งใจที่ภารกิจอันน่าอับอายจบลงไปอีกวัน วันนี้มิลค์ไม่กลับหอแต่จะไปหาพ่อตามที่นัดกันไว้ เห็นว่าจะมาทำธุระแล้วผ่านแถวนี้พอดี เด็กหนุ่มเร่งฝีเท้าเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาที่นัดกันไว้แล้ว

“มิลค์ เราขอคุยด้วยหน่อยสิ”

มิลค์ที่กำลังรีบตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนใหม่หน้าจืดลุกขึ้นพรวดจากม้านั่งตรงหน้าห้องเลคเชอร์เหมือนรอเขาอยู่

“ทำไมมานั่งตรงนี้ นายมีอะไร เราไม่สะดวก จะรีบไปหาพ่อ”

“งั้นเราเดินไปคุยไปกับนายก็ได้ เราเห็นเรื่องที่นายทำในห้องเลคเชอร์แล้ว มันแปลกจริงๆ นายไม่อายบ้างเหรอ”

โคตรอายเลยล่ะ แต่จะให้กูทำยังไง มิลค์คิดในใจ เขานึกรำคาญเต้าหู้ที่ดูจะวุ่นวายเรื่องของเขาไม่รู้จบ แต่ต่อให้ไม่ใช่เพราะความจุ้นของไอจืดนี่ สักพักเด็กปีหนึ่งก็คงรู้เรื่องอยู่ดี เขาไม่ได้คิดจะปกปิดอะไรเพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์

“ก็แค่ช่วยอาจารย์ ไม่เห็นจะมีอะไร ถ้านายไม่มีเรื่องอื่นก็แยกกันตรงนี้เถอะ พ่อเราจะมารับแล้ว”

มิลค์ตัดบทอย่างไม่แคร์แล้วหันไปโทรศัพท์เช็คว่าพ่อถึงไหนแล้ว แต่เต้าหู้ก็ยังเดินตามมาแล้วถามต่อทันทีที่มิลค์วางโทรศัพท์ลง

“เราแค่อยากรู้ว่าที่นายเป็นที่รู้จักของรุ่นพี่เยอะๆ เพราะไปช่วยสอนอย่างนี้ใช่ไหม นายทำมาก่อนหน้านี้แล้วสิ”

ทั้งคู่เดินมาถึงบริเวณหน้าคณะ มิลค์ชะเง้อมองว่าพ่อมาถึงแล้วหรือยังโดยไม่สนใจจะตอบคำถามของเต้าหู้ รถแวนเอนกประสงค์สัญชาติญี่ปุ่นคันใหญ่วิ่งเข้ามาเทียบ มิลค์เดินไปที่รถคันดังกล่าวอย่างเร่งรีบพร้อมๆ กับที่กระจกฝั่งผู้โดยสารเบาะหน้าก็ลดลงเผยให้เห็นใบหน้าของหนุ่มใหญ่ที่ละม้ายคล้ายคลึงกับมิลค์อย่างเห็นได้ชัด

เต้าหู้มองตามอย่างสนใจ ถ้ามิลค์ไม่บอกว่าพ่อจะมารับเขาคงคิดว่าเป็นพี่ชายที่อายุห่างกัน เขาสืบเท้าเข้าไปหาเพื่อจะทำความเคารพพ่อของเพื่อนตามที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี

“คุณพ่อครับ ผมชื่อเต้าหู้ครับเป็นเพื่อนของมิลค์”

คนบนรถชะงักไปนิดนึงแล้วทักทายกลับด้วยน้ำเสียงแปลกใจเล็กๆ

“เพื่อนของพัตเตอร์เหรอนี่ เพิ่งเข้าปีหนึ่งใช่ไหม ดีๆ เจ้านี่น่ะไม่เคยเอาเพื่อนมาแนะนำกับพ่อตัวเองหรอก อาจะได้ฝากฝังให้ช่วย...”

“พ่อ ไปกันได้แล้ว อาอาร์ตจะได้ไม่รอนาน นายก็ไปได้แล้วเต้าหู้”

มิลค์รีบตัดบทเมื่อเห็นความผิดปกติบางอย่าง เขารีบขึ้นไปนั่งแล้วเร่งให้คนขับออกรถทันที

เต้าหู้ยกมือไหว้อำลาคุณพ่อยังหนุ่มของเพื่อนแทบไม่ทัน เขามองตามรถไปพลางนึกในใจว่าคนกรุงเทพนี่ดูแลตัวเองดีจริงๆ ขนาดมีลูกโตจนเรียนมหาลัยแล้วแต่ยังหล่อหุ่นดีไม่มีไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะกล้ามหน้าอกที่ฟิตแน่นเห็นได้ชัดเพราะพ่อของมิลค์ไม่ได้ใส่เสื้อ นึกมาถึงตรงนี้เต้าหู้ก็เพิ่งรู้สึกผิดสังเกต เขาลืมไปว่าที่นี่ไม่ใช่แถวบ้านเขาที่ผู้ชายถอดเสื้อทำงานกันเป็นปกติ ไม่คิดว่าคนในกรุงเทพจะถอดเสื้อนั่งรถไปไหนมาไหนอย่างนี้ด้วย

.............

“พ่อ หวัดดีครับ อาอาร์ต หวัดดีครับ”

มิลค์กล่าวคำทักทายคนที่นั่งคู่กันตรงเบาะหน้าหลัง เขาไม่ได้มองไปที่คนที่เขากล่าวสวัสดีเลยแม้แต่น้อย มิลค์ต้องการเวลาทำใจอีกซักพักก่อนจะรับรู้ว่าวันนี้พ่อของตัวเองมาด้วยสภาพแบบไหน

“รอไม่นานใช่ไหม งั้นกลับกันเลยแล้วกัน”

เสียงพ่อของเขาถามขึ้นจากด้านหน้ารถ มิลค์เห็นด้วยที่สุดที่จะรีบกลับโดยเร็ว

“ไม่ถามไถ่อะไรลูกเลยเหรอพี่เอ็กซ์ เราหิวหรือเปล่า อยากแวะทานอะไรก่อนกลับบ้านไหม พัตเตอร์”

เสียงอาร์ตถามอย่างมีน้ำใจ มิลค์รีบปฏิเสธทันที ต่อให้หิวจนแสบกระเพาะ เขาก็ไม่ขอแวะที่ไหนเด็ดขาด จนนักบัญชีหนุ่มขับรถพ้นจากบริเวณมหาลัย เขาถึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งอก

มิลค์เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นพยายามไม่สนใจอะไร ขณะที่นั่งเพลินๆ อาร์ตซึ่งเป็นคนขับก็เอ่ยถามอะไรบางอย่างที่เขาได้ยินไม่ถนัด เขาเผลอยื่นหน้าไปฟังใกล้ๆ ตามความเคยชินแล้วก็เหลือบไปมองพ่อตัวเองโดยไม่ตั้งใจ เด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นชายวัยสี่สิบต้นๆ ผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้านั่งเปลือยกายล้อนจ้อนอยู่ข้างคนขับ แม้จะเตรียมใจไว้บ้างแต่ก็ไม่นึกว่าเดี๋ยวนี้อาร์ตจะเล่นแรงขนาดนี้ เขาหวังว่าเมื่อสักครู่เต้าหู้จอมจุ้นจ้านจะยังไม่ได้มองเข้ามาถึงในตัวรถ

 ในฐานะทาส พ่อเขามีหน้าที่ทำทุกอย่างเพื่อให้อาร์ตที่เป็นเจ้านายพอใจอยู่แล้ว คนที่เป็นทาสเหมือนกันอย่างเขาเข้าใจดีที่สุด มิลค์ได้แต่ทำท่าเหมือนว่า การมาแก้ผ้านั่งรถไปไหนต่อไหนยามบ่ายแก่ๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่สุด ซึ่งก็อาจจะจริงเพราะก่อนนี้เขาก็เพิ่งโดนชักว่าวน้ำแตกต่อหน้าคนทั้งชั้นมาเหมือนกัน มิลค์ประชดในใจต่อชะตากรรมที่เขาสองพ่อลูกต้องตกเป็นทาสทั้งคู่

รถแวนของอาร์ตติดฟิล์มเข้มพอที่มิลค์จะเบาใจว่าคนข้างนอกคงมองเข้ามาเห็นอะไรไม่ชัดเท่าไหร่ ปัญหาคือกระจกบานหน้าที่ค่อนข้างใสเพื่อทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดี แต่รถแวนคันนี้ค่อนข้างสูงจนต่อให้เป็นคนที่นั่งท้ายรถกระบะคันหน้า ก็น่าจะมองเห็นแค่ระดับอกของพ่อเขาเท่านั้น มิลค์ไม่ได้กระอักกระอ่วนใจที่จะเห็นร่างเปลือยของพ่อตัวเอง ความที่เป็นครอบครัวพ่อเลี้ยงเดี่ยวมาทำให้เขากับพ่อสนิทกันมากและอาบน้ำด้วยกันบ่อยๆ  แต่เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นพ่อถูกกระทำซาดิสท์ต่างๆ จากผู้เป็นนาย อาร์ตไม่ได้จงใจโชว์แต่ก็ไม่ปิดบังซะทีเดียว มิลค์รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนทุกครั้งเวลาเดาเรื่องว่าพ่อถูกทำอะไรมาบ้าง นั่นทำให้เขาขยาดกับการกระทำทางเพศแบบเอสเอ็มทั้งที่เคยชื่นชอบ

มิลค์นั่งนึกเรื่องเหล่านี้วนเวียนในหัวจนกระทั่งรถมาจอดติดไฟแดงหลังรถบรรทุกหกล้อที่ขนคนงานมาเต็มคันรถ สายตาของคนงานหลายคนมองมาที่พ่อเขาอย่างไม่เชื่อสายตา อาร์ตยิ้มอย่างพอใจแล้วหยิบของบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อมาถือไว้ในมือ ท่ามกลางความเงียบในห้องโดยสาร มิลค์ได้ยินเสียงหึ่งเบาๆ เหมือนมอเตอร์กำลังทำงาน พ่อของเขาส่งเสียงอ๊ะออกมาเบาๆ และบิดตัวอย่างทรมาน ท่อนลำของพ่อเริ่มขยายตัวขึ้นทีละน้อย อาร์ตกดปุ่มอุปกรณ์ในมืออีกครั้ง เสียงหึ่งของมอเตอร์ก็ดังด้วยความถี่สูงขึ้นพร้อมๆ กับเสียงครางและอวัยวะเพศของพ่อที่ขยายใหญ่โชว์ความโอฬารเด่นชัดจนคนงานบนรถคันหน้าทั้งคันรถชี้ชวนกันดูอย่างประหลาดใจ มิลค์เดาว่าในประตูหลังของพ่อเขาคงมีอุปกรณ์อย่างพวกไข่สั่นยัดอยู่และถูกควบคุมแบบไร้สายผ่านทางรีโมทในมือของอาร์ต

มิลค์ละสายตาออกมาไม่ได้ เขายังไม่เคยเห็นของพ่อเวลาแข็งตัวชัดๆ อย่างนี้มาก่อน ขนาดรูปร่างสีสรรแทบไม่ต่างอะไรกับท่อนลำที่แสนจะคุ้นเคยของตัวเอง ดูท่าว่าหัวเงี่ยงที่บานใหญ่แบบนี้คงเป็นยีนเด่นของตระกูล วูบหนึ่งมิลค์รู้สึกภูมิใจที่ได้สืบทอดเชื้อพันธ์ชั้นดีอย่างนี้ เขามองดูพวงไข่ขนาดใหญ่ที่คงอัดแน่นไปด้วยน้ำเชื้อชั้นยอดที่ว่าแล้วนึกทึ่งในกลไกของธรรมชาติ เมื่อยี่สิบปีก่อนเขาเป็นแค่อสุจิตัวนึงที่ว่ายแข่งกับเพื่อนๆ จากลูกบอลแฝดยานๆ คู่นั้นไปตามลำกล้องใหญ่ยาวจนประสบความสำเร็จในการผสมกับไข่ อาร์ตกดปุ่มเร่งการสั่นขึ้นอีกราวกับจะจำลองเหตุการณ์ในอดีตให้เขาเห็น เมื่อถึงที่สุด พ่อก็ครางเสียงดังลั่นแล้วกระฉูดเชื้อพันธ์ชั้นดีจำนวนมากออกมาไม่ต่างอะไรกับตัวเขาในคลาสอานาโตมี่เมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา พอช่วงเวลาแห่งความเสียวผ่านพ้นไป พ่อก็เหลือบมาเห็นว่าเขาเป็นผู้ชมอย่างใกล้ชิด พ่อมองหน้าเขาด้วยสายตาอับอายแล้วก็เบือนหน้าหนีไป มิลค์เองก็กระอักกระอ่วนใจไม่น้อยกับโชว์สดๆ ของพ่อตัวเอง เขาไม่น่าปล่อยให้ความอยากรู้อยากเห็นมาครอบงำจนทำให้อึดอัดใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายแบบนี้

“อย่าจ้องของๆ อาขนาดนั้นสิพัตเตอร์” 

อาร์ตแซวลูกชายของเอ๊กซ์อย่างอารมณ์ดี เขาเอ็นดูเด็กคนนี้มากเพราะรูปร่างหน้าตาที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเอ็กซ์ สมัยหนุ่มๆ ทาสของเขาก็คงหล่อใสประมาณนี้  แถมเด็กคนนี้ยังเก่งเหมือนเอ็กซ์อีกด้วย เรียนวิศวะมหาลัยดังก็ว่าเยี่ยมแล้ว พอเปลี่ยนใจจะไปเรียนหมอก็ยังสอบติดด้วยคะแนนลำดับต้นๆ เขารู้สึกภูมิใจแทนเหมือนกับเป็นลูกชายตัวเอง วันนี้เขาไปเอานาฬิกาเรือนหรูราคาหลายหมื่นที่แอบสั่งไว้เป็นของขวัญให้กับพัตเตอร์ อาร์ตรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่เขากับพัตเตอร์ไม่ได้สนิทกันเท่าที่ไหร่ แต่ก็เข้าใจได้ว่า สิ่งที่เขาทำกับคนเป็นพ่อ คงทำให้เด็กคนนี้ระแวงเขาอยู่พอสมควร

อาร์ตไม่ได้ตั้งใจจะทำให้สองพ่อลูกต้องมาอับอายกันเอง เขาแค่อยากให้พัตเตอร์ได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับเอ็กซ์อย่างที่เป็นอยู่จริงๆ    จะช้าหรือเร็ว เขาก็อยากจะให้คนที่เป็นลูกชายเข้าใจและยอมรับให้ได้ เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ตลอดไป  อาร์ตมองไปที่คนข้างๆ อย่างมีความสุข เอ็กซ์ช่างหล่อภูมิฐานและดูดีเสมอแม้ในยามที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำกามจนเต็มหน้าท้องแกร่งแบบนี้ สายตาที่แสดงความอึ้งทึ่งเสียวของคนงานบนรถเมื่อสักครู่เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดี เขาอยากโชว์คนทั้งโลกว่าคนๆ นี้มีดียังไง ท่อนลำอวบใหญ่เฉียดๆ แปดนิ้วยังไม่อ่อนตัวลงเท่าไหร่แม้จะปลดปล่อยออกไปแล้วบ่งบอกถึงความฟิตที่เหนือว่าคนวัยเดียวกัน กล้ามเนื้อที่แกร่งยิ่งกว่าหนุ่มๆ เป็นเครื่องยืนยันอย่างดี ไม่เสียแรงที่เขาอุตส่าห์จัดโปรแกรมฝึกต่างๆ นาๆ ให้

มิลค์นั่งรถอย่างสงบพยายามไม่สนใจกับพ่อหรืออาร์ตอีกแม้ว่าฝ่ายหลังจะแซวอะไรมา เขาอยากให้บรรยากาศอึดอัดในรถจบลงเร็วๆ ซะที โชคดีที่เมื่อผ่านแยกรถติดหนักนั้นมาได้ ถนนก็โล่งจนขับมาดึงโฮมออฟฟิศของอาร์ตในเวลาไม่นาน เขาไม่ได้กลับมาที่นี่เกือบเดือนแล้ว เพราะปกติจะอยู่หอที่อาจารย์หมอจัดให้ บ้านจริงๆ ของเขากับพ่อได้โอนให้อดีตแม่เลี้ยงเป็นค่าชดเชยที่ถูกป้ายความผิดให้จนต้องติดคุกอยู่หลายเดือน ส่วนเงินค่าประมูลทาสก้อนใหญ่ของเขากับพ่อ องค์กรคงเอาไปให้อดีตน้องบุญธรรมที่ถูกเขากับพ่อผลัดกันปู้ยี่ปู้ยำจนยับเยิน

โฮมออฟฟิศของอาร์ตอยู่ไม่ไกลจากย่านธุรกิจใจกลางเมืองเท่าไหร่ บริษัทบัญชีที่เขาตั้งขึ้นประสบความสำเร็จอย่างดีจนต้องรับพนักงานเพิ่มเข้ามาเกือบยี่สิบคน ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณความสามารถด้านการเงินของทาสหล่อล่ำอดีตซีเอฟโอคนนี้ที่ทำให้บริการด้านบัญชีของเขาแตกต่างด้วยการเสริมการให้คำปรึกษาทางการเงินไปด้วย ลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดกลางและเล็กล้วนติดใจคำแนะนำที่มากประสบการณ์ของอดีตซีเอฟโอบริษัทในตลาดหลักทรัพย์อย่างเอ็กซ์ ถึงจะเป็นทาสแต่นักบัญชีหนุ่มก็ให้เงินเดือนและส่วนแบ่งผลประโยชน์กับเอ็กซ์อย่างเต็มที่ภายใต้ข้อแม้ที่เอ็กซ์จะไม่ได้ออกหน้าหรือได้เครดิตว่าเป็นคนให้คำปรึกษาพวกนั้น

รถแวนวิ่งเข้ามาจอดในลานจอดรถซึ่งใช้รวมกับพนักงานและลูกค้า มิลค์เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ห้าโมงกว่าแล้วแต่ที่ออฟฟิศก็ยังมีพนักงานเหลืออยู่ มีสองสามคนออกมาสูบบุหรี่ตรงบริเวณสวนด้านข้าง ถึงจะมาค้างที่นี่ไม่บ่อยแต่มิลค์ก็คุ้นเคยพอที่จะรู้ว่างานสอบบัญชีต้องอยู่ทำโอทีกันเป็นประจำ เด็กหนุ่มมองดูพ่อตัวเองในชุดวันเกิดแล้วก็สงสัยว่าทำไมถึงไม่แต่งตัวเสียทีทั้งที่อาร์ตก็เก็บของเสร็จเตรียมเปิดประตูลงไปแล้ว

“เฮ้ย”

มิลค์เห็นเอ็กซ์ทำท่าจะเปิดประตูออกจากรถทั้งอย่างนั้นก็ร้องเสียงดังจนเอ็กซ์และอาร์ตหันมามอง

“พ่อไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนล่ะครับ คนยังอยู่เต็มออฟฟิศเลย”

เอ็กซ์ไม่กล้าตอบอะไรลูกชายไปได้แต่หันไปสบตากับอาร์ตอย่างขอความเห็น

“อาก็ไม่ได้จะแกล้งอะไรพ่อเราหรอกนะ แต่พี่เอ็กซ์เขาไม่ได้ใส่อะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว จะเอาเสื้อผ้าที่ไหนมาใส่ล่ะ ก็เดินอย่างนี้ไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ขึ้นตึกแล้ว”

อาร์ตตาเป็นประกายวิบวับด้วยความขบขัน ลูกของพี่เอ็กซ์ดูร้อนรนมากกับสภาพของพ่อตัวเองในตอนนี้ แต่นี่ไม่ได้สร้างความบันเทิงได้เท่ากับแววตาอับอายอดสูของทาสหนุ่มใหญ่ยามที่สบตาลูกชาย เขาทรมานร่างกายเอ็กซ์จนคนทำก็หมดมุกคนโดนก็เริ่มชินชาแล้ว พอมิลค์มาก็เหมือนมีช่องทางในการทรมานจิตใจแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

มิลค์ทนไม่ไหวที่เห็นพ่อจะต้องเดินลงจากรถไปในสภาพนั้นให้คนที่ออฟฟิศเห็น คนพวกนั้นคงเป็นลูกน้องหรือไม่ก็เพื่อนร่วมงานของพ่อ ถ้าต้องเดินโทงๆ ร่างกายเปรอะไปด้วยน้ำว่าวออกไปแบบนี้พ่อจะไปสู้หน้าทีหลังได้ยังไง

“พ่อฮะ เอาชุดผมไปใส่แล้วกัน”

 มิลค์คิดเอาว่ายังไงตัวเขาก็แก้ผ้าให้คนดูจนโชกโชนแล้ว ออฟฟิศนี้เขาก็ไม่ได้มาบ่อย เขาขอเป็นฝ่ายแบกรับความอายนี้แทนพ่อ มิลค์ถอดเสื้อและกางเกงที่สวมอยู่ส่งให้พ่ออย่างรวดเร็วก่อนที่จะมีใครได้ทันคัดค้าน ตอนนี้เขาเปลือยไปทั้งร่าง กางเกงในที่ใส่มาถูกเอาไปใช้เช็ดน้ำกามและคราบสีเพ้นท์ตัวตอนหลังเลิกคลาส มันเลอะจนขี้เกียจเอากลับไปซัก ถ้ารู้ว่าจะต้องมาเจอสถานการณ์อย่างนี้เขาคงไม่ทิ้งไปหรอก

อาร์ตคิดจะห้ามอยู่เหมือนกัน เขาไม่ได้อยากจะแกล้งเด็กหนุ่มที่เขารู้สึกเอ็นดูขนาดนี้ แต่เขาก็นับถือความใจเด็ดของมิลค์เกินกว่าจะขัดขวาง ที่สำคัญสีหน้าตกตะลึงและกระอักกระอ่วนใจของเอ็กซ์มันช่างน่าคลั่งไคล้ อาร์ตพยักหน้าเบาๆ กับเอ็กซ์เป็นสัญญาณให้ทำตามนั้น พ่อรับเสื้อผ้าจากลูกชายมาสวมแต่โดยดี เสื้อนักศึกษาพอดีตัวของมิลค์กลับรัดแน่นบนเรือนร่างของคนเป็นพ่อ มิลค์ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ แต่ก่อนเขากับพ่อตัวพอๆ กัน แต่ตอนนี้ร่างกายพ่อล่ำสันกว่าเขาเยอะ จริงๆ กล้ามเนื้อของพ่อก็ดูชัดเป็นมัดๆ ขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ไม่คิดว่าจะหนากว่ากันขนาดนี้ เอาเป็นว่าพอใส่เสื้อสีขาวผ้าบางๆ ของเขาแล้ว เห็นกล้ามหน้าอกและหัวนมเป็นเม็ดได้อย่างชัดเจน กางเกงทรงสลิมฟิตยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ พ่อยัดโคนขาที่มีกล้ามเนื้อใหญ่ๆ ลงไปด้วยความทุลักทุเล แถมกว่าจะเอาท่อนเนื้ออวบที่ยังไม่สงบดีให้เข้าที่เข้าทางได้ก็ต้องจับพาดเฉียงๆ พอรูดซิปขึ้นก็เห็นเป็นรอยนูนใหญ่ถนัดตา มิลค์เอามือดึงๆ แนวผ้าจุดที่แน่นๆ บริเวณเป้าของพ่อเพื่อไม่ให้ดูอุจาดตาเกินไป

หนุ่มนักบัญชีมองสองพ่อลูกช่วยกันแต่งตัวด้วยความเอ็นดู เขาอดสงสารมิลค์ไม่ได้จนต้องถอดเสื้อคลุมคาร์ดิแกนบางๆ ที่สวมอยู่ส่งให้ เด็กหนุ่มรับมาใส่อย่างดีใจ พวกเขาลงจากรถหลังจากใช้เวลาเปลี่ยนชุดกันไปพักใหญ่ เป็นคณะที่คงดูประหลาดไม่น้อย ตัวเขาอยู่ในชุดกึ่งลำลองแบบสุภาพ พี่เอ็กซ์อยู่ในชุดนักศึกษาฟิตเปี๊ยะแสนจะเร้าใจแต่ใส่รองเท้าแตะ ลูกชายพี่เอ็กซ์ใส่เสื้อคลุมบางๆ แต่ท่อนล่างเปลือยเปล่ามีเพียงถุงเท้ารองเท้าหนังกับกระเป๋าสะพายข้างสีดำที่พอช่วยปกปิดส่วนพึงสงวนได้บ้าง ทั้งสามคนเดินเข้าที่ตัวออฟฟิศเพื่อเข้าทางเชื่อมส่วนที่เป็นที่พักอาศัย พนักงานที่ออกมาผ่อนคลายยืดเส้นยืดสายบริเวณหน้าตัวตึกมองมาทางมิลค์เป็นตาเดียวกัน

พนักงานหนุ่มคนนึงวิ่งเข้ามาหาอย่างรีบเร่ง

“พี่เอ็กซ์ครับพี่เอ็กซ์ กลับมาพอดีเลย ผมมีเรื่องจะปรึกษา คุณอาร์ตอยู่ด้วยก็ดีเลย ผมจะ...”

สายตาเขาหันมาหามิลค์แล้วก็ชะงักไปไม่กล้าพูดต่อ

“ไม่เป็นไร นี่ลูกชายผมเอง มีอะไรก็พูดมาได้เลย”

พนักงานหนุ่มพยายามเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่ก็ติดๆ ขัดๆ เพราะสายตาคอยแต่จะหันไปมองมิลค์ให้ชัดๆ เขาไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มคนไหนมีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างนี้มาก่อน ทีแรกเขานึกว่านุ่งกางเกงรัดรูปสีเนื้อแต่จริงๆ เป็นเนื้อตัวแท้ๆ ของเด็กหนุ่ม ถ้าหน้าตาไม่ได้สำเนาพิมพ์เดียวกับเอ็กซ์อย่างนี้ เขาต้องนึกว่าเป็นนายแบบแอบทำไซด์ไลน์ขายบริการที่หัวหน้าสองคนซื้อมาเล่นสนุกกันแน่

พนักงานในออฟฟิศคนอื่นก็ดูจะสนใจเช่นกัน ทำทีเป็นมาร่วมฟังเรื่องงานจนมีคนมามุงเป็นการประชุมย่อมๆ กันตรงโถงหน้าออฟฟิศ ยิ่งได้รู้ว่าเป็นลูกชายของเอ็กซ์ก็ยิ่งสนใจ ไม่มีใครสงสัยว่าทำไมมิลค์ถึงได้แก้ผ้าเพราะชินกับพฤติกรรมชอบโชว์แปลกๆ ของคนเป็นพ่ออยู่แล้ว ทุกคนแค่คิดเหมือนกันว่าเกลียดกระเป๋าสะพายใบนั้นเหลือเกินที่มาปิดบังทัศนวิสัยดีๆ ได้

การพูดคุยเป็นไปด้วยความเชื่องช้าและติดๆ ขัดๆ เพราะทั้งคนเล่าคนฟังไม่ได้มีสมาธิกับงานเท่าไหร่ มิลค์ยืนเปลือยอยู่ท่ามกลางคนไม่คุ้นหน้าด้วยความกระอักกระอ่วน เขาจับกระเป๋าใบนั้นแนบกับลำตัวช่วงล่างอย่างสุดชีวิตไม่คิดว่าจะมีอะไรในโลกนี้ที่ทำให้เขาแยกจากมันได้ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ครางหึ่งเบาๆ พร้อมกับกับเสียงพูดที่ชะงักไปของพ่อของเขา  ในขณะที่คนอื่นเริ่มมองไปมาอย่างสงสัย มิลค์รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นและโฟกัสสายตาไปเฝ้าระวังยังจุดที่น่าเป็นห่วงทันที เป็นอย่างที่คาด รอยนูนใหญ่ในกางเกงฟิตเปรี๊ยะของพ่อกำลังขยายเพิ่มขึ้นและอีกไม่นานความเปียกชื้นตรงส่วนปลายคงซึมผ่านผ้าเนื้อบางออกมาแน่ มิลค์ตัดสินใจที่จะทิ้งความอายทุกอย่างเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของพ่อไว้ เขาบิดกระเป๋าให้ไปสะพายอีกด้านเพื่อโชว์จุดสงวนให้คนดูเห็นถนัดตาขึ้น แผนของมิลค์ได้ผลเพราะตอนนี้สายตาทุกคู่พุ่งมาที่ช่วงล่างของเขาแทน  หวังว่าคนพวกนี้จะไม่คิดว่าเขาเป็นโรคจิตนะ

ความโล่งใจของมิลค์อยู่ได้แค่ไม่นาน เสียงมอเตอร์เจ้ากรรมดังแรงขึ้นกว่าเดิมแถมคราวนี้มาด้วยการตอดเป็นจังหวะ มิลค์รู้สึกเคืองอาร์ตอยู่ในใจที่เล่นไม่เลิกซะที ท่าทางพ่อเขาจะเสียวสุดกลั้นจนเสียงที่พูดเรื่องงานอยู่ขาดๆ หายๆ   มิลค์คิดว่าเขาต้องดึงความสนใจของคนให้มากขึ้นอีก มาถึงขนาดนี้แล้วจะทำเพิ่มไปอีกขั้นคงไม่อายกว่ากันเท่าไหร่ เขาจะต้องรักษาหน้าพ่อไว้ให้ได้ มิลค์ปล่อยมือที่กุมความเป็นความออกพร้อมโชว์อย่างเต็มที่ เขาเอามือดึงเขี่ยหมุดหัวนมเล่นเพื่อปลุกอารมณ์ตัวเองจนมังกรยักษ์เริ่มผงาดขึ้นเรียกสายตาจากคนดู หัวนมเป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุดสำหรับเขา เล่นทีไรได้เรื่องทุกทีต่อให้อายซักแค่ไหน  พนักงานที่มุงดูอยู่ซุบซิบกันเอง

เอ็กซ์ถูกกระตุ้นด้วยไข่สั่นที่ถูกสอดใส่อยู่ในช่องทางด้านหลังจนแตกออกมาเต็มกางเกงของลูกชาย สมาธิที่หลุดจากเรื่องงานไปครู่ใหญ่เริ่มกลับมา เขาพบว่าไม่มีใครสังเกตเห็นเรื่องน่าอับอายที่เขาเพิ่งทำลงไปเลยเพราะสถานการณ์ที่พัตเตอร์สร้างขึ้น ทุกสายตากำลังมองไปที่เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อจัดรูปร่างดีเขามองลูกด้วยความสงสารผสมกับความภูมิใจ ความที่เลี้ยงมาเองตั้งแต่เกิด เขารู้ดีว่าลูกชายเขาคิดอะไรอยู่ และตั้งใจจะทำอะไรเพื่อเขา ถึงแม้การกระทำของพัตเตอร์มันจะไม่ช่วยอะไรเลย ลูกน้องของเขาทุกคนเห็นเขาในสภาพที่ยิ่งกว่านี้มาแล้ว แต่เขาคงไม่บอกเรื่องพวกนั้นให้ลูกไม่สบายใจ เขาจะจำเพียงเรือนร่างที่เติบใหญ่สมบูรณ์เต็มเปี่ยมด้วยความเป็นชายของเด็กน้อยในอดีตและความกล้าที่ลูกทำเพื่อเขาในวันนี้

เอ็กซ์ถือโอกาสที่ตัวเองได้รับการปลดปล่อยออกมาจนตัวเบาเร่งสรุปงานกับลูกน้องต่อ ถึงไข่สั่นในตัวจะยังสั่นกระตุ้นตัวเขาเองเป็นระยะๆ จากฝีมือของเจ้านายขี้แกล้ง แต่เขายังควบคุมตัวเองไว้ได้น่าจะอีกระยะหนึ่งก่อนจะแข็งตัวอีกครั้ง บางทีเอ็กซ์ก็เบื่อกับพละกำลังทางเพศของตัวเองที่ยังมีมากล้นไม่ต่างอะไรกับเด็กหนุ่มๆ มันทำให้เจ้านายเขาสนุกทุกครั้งที่ได้ทำอะไรๆ กับตัวเขา

มิลค์ค่อยๆ ลามือจากกิจกรรมโชว์เรียกแขกเมื่อเห็นว่าพ่อของตนกลับมาพูดคุยเรื่องต่อได้อย่างเป็นปกติ พนักงานหันไปให้ความสนใจกับงานที่หารือค้างอยู่ถึงแม้จะมีบางคนแอบมองมาทางเขาเป็นระยะๆ มิลค์ไม่รู้จะทำยังไงกับน้องชายที่ยังแข็งขืนไม่ยอมลง จะเอามือมากุมปิดไว้มันก็เติบใหญ่จนปิดไม่อยู่ มิลค์เลยใช้วิธีหันหลังให้กับกลุ่มคนโดยไม่ได้เอะใจว่านั่นเป็นเผยบั้นท้ายขาวเนียนเกร่งกระชับได้รูปที่เรียกความสนใจคนที่มีรสนิยมเป็นฝ่ายรุกได้เป็นอย่างดี เอ็กซ์อ่านแววตาคนเหล่านั้นออกจึงรีบสรุปงานจนจบและไล่พนักงานให้กลับไปทำงานต่อ

เหตุการณ์ทั้งหมดถูกอาร์ตลอบสังเกตไว้อย่างละเอียด เขาตื่นเต้นกับการวิเคราะห์ความคิดของสองพ่อลูกนี้มาก ความห่วงใยที่พ่อลูกมีให้แก่กันทำให้เขาพลอยปลื้มใจไปด้วย อาร์ตมองร่างเปลือยเปล่าของมิลค์ด้วยความชื่นชมแต่ไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่านั้นซักเท่าไหร่ เขาไม่เถียงว่ามิลค์เป็นเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดีราวกับนายแบบ เขาอาจจะสนใจที่ได้เห็นร่างเปลือยของเด็กหนุ่มคนนี้ แต่นั่นเพราะมิลค์เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเอ็กซ์ ความหนุ่มแน่นเยาว์วัยของคนลูกไม่ทำให้เขาใจเต้นได้เท่ากับความแกร่งกร้านของคนเป็นพ่อ พอๆ กับที่ความเท่ของคนลูกไม่ดึงดูดใจเขาเท่ากับความภูมิฐานของคนพ่อ ที่สำคัญที่สุด ความอับอายอึดอัดใจของมิลค์ทำให้เขาเอ็นดูสงสาร แต่พอสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเอ็กซ์เขากลับรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ทั้งสามคนเดินเข้าไปในโซนที่พักซึ่งแยกออกมาจากออฟฟิศอย่างเป็นส่วนตัว อาร์ตออกจะเห็นใจสิ่งที่มิลค์ต้องเจอมาจึงออกปากให้สองพ่อลูกไปพักผ่อนและใช้เวลาด้วยกันจนถึงเวลาอาหารค่ำ มิลค์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขากับพ่อได้เข้ามาอยู่ในห้องส่วนตัวกันตามลำพัง เขารีบเอาเสื้อผ้าที่ทิ้งไว้มาสวมทันที ส่วนเอ็กซ์ก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะเหนียวตัวไปด้วยคราบน้ำของตัวเอง เขาถอดเสื้อผ้าออกคืนให้กับลูกชายแล้วเดินแก้ผ้าโทงๆ เข้าห้องน้ำในตัวห้องไปอย่างเคยชิน มิลค์รับกางเกงที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำต่างๆ ของคนเป็นพ่อจนชุ่มบริเวณเป้าแล้วตัดสินใจว่าคงจะต้องทิ้งกางเกงตัวโปรดนี้ไป เขาไม่ได้รังเกียจแต่คิดว่ามันคงตะขิดตะขวงใจชอบกลถ้าจะเอาไปใส่ต่อถึงจะซักจนสะอาดแล้วเถอะ

เอ็กซ์หายไปในห้องน้ำนานจนมิลค์สงสัย ถึงจะยังดูหนุ่มแน่นแต่พ่อเขาก็อายุสี่สิบกว่าแล้ว มิลค์กังวลว่าบิดาอาจจะมีปัญหาสุขภาพที่พยายามปกปิดเขาอยู่ก็เป็นได้ มิลค์ถือวิสาสะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดูก็พบเอ๊กซ์นอนแหกขาอยู่ในอ่างอาบน้ำมือข้างหนึ่งโกยท่อนลำและพวงไข่ขึ้นมาเพื่อเปิดทางให้มืออีกข้างเอานิ้วล้วงควานไปมาในช่องทางด้านหลังของตัวเอง มิลค์ตกใจกับภาพตรงหน้าจนต้องตะโกนออกมา

“พ่อทำอะไรนี่ ทำไมถึงได้ช่วยตัวเองวิธีนี้”

เอ็กซ์หันมาเห็นลูกชายยืนตกตะลึงกับสภาพของตัวเองก็อายจนแดงไปทั้งตัว

“มะ ไม่ใช่นะพัตเตอร์ พ่อไม่ได้ทำอย่างที่ลูกเข้าใจ พ่อแค่จะ เอ่อ เอาไข่สั่นที่อยู่ข้างในออกมา แต่เชือกที่ใช้ดึงมันหลุดออก พ่อเลยต้องควานเอามันออกมา”

เอ็กซ์ละล่ำละลักอธิบายความจริงให้ลูกฟัง เขาไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิดว่าตัวเองชื่นชอบกับการกระทำด้านหลังอย่างนี้

“ใจเย็นๆ นะครับ ผมเรียนหมอ ถึงจะเพิ่งเข้าปีหนึ่งวันนี้ก็เถอะ ผมศึกษากลไกการทำงานของร่างกายมาบ้าง ตรงต่อมลูกหมากเป็นจุดเสียวของผู้ชายทุกคน ถ้าถูกกระตุ้นตรงนั้นแรงๆ มันก็เกิดอาการแข็งตัวหรือแม้กระทั่งหลังออกมาได้ เป็นเรื่องปกติไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะเป็นตุ๊ดเป็นเกย์อะไร ยังไงพ่อก็เป็นลูกผู้ชายตัวจริงสำหรับผมเสมอ มาครับ เดี๋ยวผมช่วยเอาออกให้ นี่ว่าที่คุณหมอเลยนะ”

ที่จริงมิลค์ออกจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ อาจารย์หมอที่เป็นเจ้านายไม่ได้ใช้เขาเป็นแบบในการเรียนการสอนให้นักศึกษาแพทย์อย่างเดียว แต่ยังให้แสดงเป็นคนไข้สมมุติสำหรับสอบออสกี้ของพวกปีสูงๆ เขาถึงถูกเคี่ยวอย่างหนักทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากระดับรองศาสตราจารย์โดยตรง ไม่นับงานภาคสนามที่เขาโดนใช้ให้ไปเก็บข้อมูลภาคสนามจากโรงพยาบาลต่างๆอีก นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาตัดสินใจซิ่วมาคณะนี้

มิลค์ก้มลงไปดูก้นของพ่อเพื่อประเมินสถานการณ์ พ่อของเขาขนดกกว่าเขาเยอะ ง่ามก้นตลอดจนรอบๆ ก้นเต็มไปด้วยพงขนสีดำตัดกับผิวขาวๆ ของพ่อ เขาแอบโล่งใจเมื่อแหวกขนดูชัดๆ แล้วพบว่ารอบๆ รอยจีบสีชมพูยังไม่มีร่องรอยการเสียดสีจนคล้ำถาวร อย่างน้อยพ่อก็ยังไม่ถูกเจ้านายเล่นจนบาน เขาเริ่มสอดนิ้วชี้ไปในก้นเพื่อตรวจสภาพ อันที่จริงเขาควรจะใส่ถุงมือยางแต่ในเมื่อไม่มีก็ช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้รังเกียจพ่อตัวเองซักหน่อย ยังไงพอท่านแก่เฒ่าเขาก็ต้องคอยดูแลอยู่ดี แต่พอเอ็กซ์ส่งเสียงครางด้วยความเสียวออกมาเมื่อนิ้วของลูกชายดันไขสั่นไปโดนจุดกระสันด้านใน มิลค์ก็เริ่มใจคอไม่ดี สภาพนี้มันเหมือนเขากำลังเล่นเสียวกับพ่อตัวเองไม่มีผิด โชคดีที่ไม่มีใครได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

มิลค์ตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงทำหน้าที่ต่อ เขาพยายามคิดว่าพ่อคือคนไข้คนหนึ่งที่เขาต้องทำการรักษาให้ดีที่สุด เขาควานนิ้วไปทั่วบริเวณแล้วลงความเห็นไข่สั่นมีขนาดใหญ่เกินกล้ามเนื้อหูรูดที่ยังรัดแน่นของพ่อ ไม่อยากคิดเลยว่าตอนโดนยัดเข้าไปพ่อจะเจ็บปวดขนาดไหน

“พ่อมีพวกเจลหล่อลื่นหรือเปล่าครับ ผมคงต้องนวดขยาย เอ่อ ช่องทางของพ่อก่อนแล้วค่อยๆ ดึงออกมา อาจจะเจ็บหน่อยแต่ผมจะระวังที่สุด”

“ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อมันพวกทนความเจ็บปวดได้ ในตู้สีดำข้างประตูห้องน้ำมีเจลอยู่หลายอัน ลองไปเลือกดูนะ”

มิลค์ออกมาเปิดประตู้สีดำที่ว่าแล้วก็ต้องตะลึง ข้างในนั้นไม่ได้มีแค่เจลหลากชนิด แต่ยังมีอุปกรณ์เซ็กส์ทอยแบบต่างๆมากมายอย่างชนิดนึกไม่ถึง ไข่สั่น อวัยวะเพศชายปลอม ปลอกหนามต่อความยาว ห่วงรัดโคนอวัยวะ ที่ล๊อคกันอวัยวะแข็งตัว กุญแจมือ แส้ ที่ช๊อตไฟฟ้า ตัวหนีบ ที่สวนก้น และอีกมากมายที่เขารู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง แต่ละประเภทไม่ได้มีแค่อันเดียว แต่มีหลากแบบหลายขนาดให้ได้เลือกสรร แค่คิดว่าพ่อเขาโดนอันไหนมาบ้างแล้วมิลค์ก็รู้สึกผะอืดผะอมราวกับจะอาเจียน เขารีบหยิบขวดเจลอันที่ดูจะเหมาะที่สุดแล้วปิดประตูตู้ทันที

มิลค์กลับไปในห้องน้ำอีกครั้งพร้อมกับตัวช่วยในการหล่อลื่น เขาเริ่มงานกู้ไข่สั่นอีกครั้งโดยค่อยๆ สอดนิ้วนวดขยายช่องทางทีละน้อย เขาถามอาการพ่ออย่างใส่ใจและเพิ่มจำนวนนิ้วมือขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มชิน เจลทำหน้าที่ลดแรงต้านของนิ้วแปลกปลอมที่ยัดเข้าไปได้เป็นอย่างดีแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ไข่สั่นลื่นจนจับยากขึ้น สองพ่อลูกพยายามช่วยกันอย่างทุลักทุเล เอ็กซ์แหกขาจนเมื่อยแล้วเมื่อยแต่ก็ไม่บ่นออกมา ปัญหาหนักกว่านั้นคือตอนนี้เขาเริ่มเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้งจากการถูกกระตุ้นซ้ำที่จุดเดิม มิลค์มองท่อนลำของเอ็กซ์ที่ขยายตัวใหญ่ขึ้นอีกครั้งแล้วก็ต้องหลับตาหนีเพราะไม่อยากเห็นสภาพนี้ของบิดาในระยะประชิด

มิลค์ควานนิ้วไปทั่วช่องทางด้านหลังของเอ็กซ์เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมขึ้นจนบังเอิญไปเจอต่อมลูกหมากของเอ็กซ์ ความที่ฝึกฝนเรื่องนี้กับอาจารย์หมอมานาน มิลค์อดไม่ได้ที่จะเอาปลายนิ้วคลำดูว่ามีอาการต่อมลูกหมากโตหรือไม่ เขากดซ้ำๆ เพื่อดูความยืดหยุ่นเพื่อดูโอกาสในการเกิดเป็นมะเร็งแล้วก็โล่งใจที่พ่อของเขามีอาการเป็นปกติทุกอย่าง  เขาตรวจซ้ำอีกทีเพื่อความมั่นใจโดยลืมไปว่าจุดๆ นั้นคืดจุดเสียวของผู้ชาย เอ็กซ์ครางดังถี่ขึ้นๆ และเกร็งตัว มิลค์รู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นจากกล้ามเนื้อหูรูดของพ่อที่ตอดรัดนิ้วมือเขาถี่ยิบ เขาตกใจจนทำอะไรไม่ทันได้แต่ลืมตาขึ้นมามอง ตาเบิกโพลงของมิลค์รับภาพพ่อตัวเองที่กำลังกระฉูดน้ำเชื้อขาวออกมาชุดย่อมๆ ที่จริงมันก็เหมือนๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรถแต่ต่างกันที่คราวนี้มิลค์กำลังเอาหน้าจ่อจังๆ ตรงปลายกระบอกปืน ทั้งภาพทั้งกลิ่นทั้งเสียงประดังเข้ามาพร้อมๆ กันตามด้วยสัมผัสเหนียวเหนอะที่ย้อยจากจมูกลงมาที่ริมฝีปากบน มิลค์ผงะหนีอย่างตกใจพร้อมกับดึงไข่สั่นหลุดออกมาดังป๊อกอย่างไม่รู้ตัว

เอ็กซ์ทึ่งไม่น้อยที่ร่างกายตัวเองยังสามารถผลิตน้ำเชื้อออกมาได้ขนาดนี้เป็นครั้งที่สามในเวลาไม่ห่างกันนัก ความโล่งตูดที่เกิดขึ้นกระทันหันทำให้เขาผงกหัวขึ้นมามอง เอ็กซ์ตกใจไม่น้อยที่เห็นหน้าของลูกชายเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำข้นๆของตัวเอง ความอายมีอยู่บ้างต่ความขำในสีหน้าเหยเกของเจ้าตัวดีมีมากกว่า

“อุบ ฮ่าๆ แม่นชะมัด เต็มหน้าเลยนั่น”

“ยังจะหัวเราะอีก พ่อปล่อยมาได้ไงนี่เยอะขนาดนี้ อายุก็เยอะแล้ว นึกว่าจะหมดน้ำยาตั้งแต่น้ำสอง”

มิลค์หัวเสียไม่น้อย ถึงจะไม่ควรรังเกียจของๆ พ่อตัวเองแต่เล่นราดหน้ากันแบบนี้มันก็เกินไป ทั้งๆ ที่เขาพยายามช่วยพ่อแท้ๆ ยังจะมาหัวเราะขำอีก

“โทษทีๆ เห็นหน้าเราแล้วมันอดขำไม่ได้ เอาหน่า ตอนเล็กๆ เราก็ฉี่รดหน้าพ่อบ่อยไปเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อม”

เอ็กซ์นึกถึงช่วงเวลาที่เขาเป็นคุณพ่อวัยรุ่นที่แทบจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเพียงคนเดียว ลูกชายที่เกิดมาจากความไม่ตั้งใจแต่เขาก็รักมากและเลยไปถึงการรับผิดชอบตัวแม่ด้วย แม่เด็กซะอีกที่พอคลอดแล้วกลับไม่ค่อยใยดีเลี้ยงดูคอยแต่จะออกเที่ยว ครอบครัวเล็กๆ ที่เขาพยายามจะยื้อไว้ได้เป็นปีต้องล่มสลายเมื่อเขากลับบ้านมาพบแม่ของลูกกับชายชู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ในห้องนอนปล่อยให้ลูกชายเขาตกเตียงถูกมดกัดนอนร้องไห้อยู่กลางบ้าน เอ็กซ์กระทืบร่างเปลือยเปล่าของทั้งเมียทั้งชายชู้ซะยับเยินด้วยความสะใจ เขาไม่รู้ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เขามีรสนิยมอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่า แต่ก็ไม่เสียใจที่มันทำให้คนที่ไร้วิญญาณความเป็นแม่ไม่กลับมายุ่งเกี่ยวอะไรกับลูกชายของเขาอีก

มิลค์ได้ฟังที่เอ๊กซ์พูดแล้วก็ได้คิด พ่ออุตส่าห์เลี้ยงดูเขามาทั้งชีวิต เช็ดอึเช็ดฉี่มานับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่น่าจะมาคิดถือสาอะไรกับเรื่องแค่นี้  มิลค์กลับไปตรวจสอบสภาพช่องทางด้านหลังของเอ็กซ์อย่างละเอียดแล้วก็โล่งอกที่ไม่มีร่องรอยการฉีกขาด เขาปล่อยให้พ่อแช่น้ำต่อส่วนตัวเองก็มาอาบน้ำชำระคราบที่เปื้อนหน้าที่ฝักบัวที่แยกออกมาใกล้ๆ เมื่อต่างคนอาบน้ำเสร็จก็มายืนเปลือยเช็ดตัวข้างๆ กันตรงหน้ากระจกอ่างล้างหน้า

“แล้วเจ้านายของเราล่ะ เป็นไงบ้าง เห็นก่อนหน้านี้บอกว่าเขาไม่ได้ซื้อตัวเราไปใช้ปรนเปรอทางเพศ คงไม่มาดีแตกทีหลังหรอกนะ”

เอ็กซ์ถามลูกชายอย่างเป็นห่วง

“ก็เหมือนเดิมครับ อาจารย์เขาไม่ได้ใช้งานผมอย่างทาสหรอก ไม่ได้โดนล่วงเกินอะไรเลย แค่ให้ไปช่วยงานสอนกับพวกงานในโรงพยาบาล แล้วก็มีทำวิจัยอีกนิดหน่อย เขาบอกว่าผมเป็นนักศึกษามหาลัยนี้ก็เหมือนเป็นลูกศิษย์เขา ทำอะไรไม่ลงหรอก แถมตอนนี้ผมยังได้เป็นลูกศิษย์คณะเขาจริงๆ ด้วย”

มิลค์บอกความจริงแค่บางส่วน เขาไม่ได้ลงรายละเอียดว่างานที่ช่วยอาจารย์ทำมันน่าอับอายขายหน้าขนาดไหน ถึงพ่อของเขารู้ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ มีแต่จะไม่สบายใจเปล่าๆ ตัวพ่อเองยังเอาตัวไม่รอดเลย

“โชคดีของลูกนะ ไม่ต้องมาเจออะไรหนักๆ อย่างที่พ่อโดน”

“อาอาร์ตเขาโหดกับพ่อมากหรอ”

มิลค์ถามขณะที่จ้องมองร่องรอยการถูกทรมานจางๆ ตามตัวของเอ็กซ์ ที่สะดุดตาเขาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในรถแล้วคือขนบริเวณอวัยวะเพศที่ดกดำแต่ตอนนี้มีบางจุดแหว่งหรอมแหรมเหมือนถูกถอน

เอ็กซ์อึกอักที่จะตอบคำถามของลูกชาย

“ก็ไม่หนักมาก ประมาณที่เราเคยเล่นกับน้องนั่นแหละ”

เอ็กซ์หมายถึงบุตรชายบุญธรรมลูกติดภรรยาที่เขาสองพ่อลูกเคยใช้เป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศแบบซาดิสม์ของแต่ละคน มิลค์หน้าถอดสีเมื่อนึกสิ่งต่างๆ ที่เขาเคยทำกับน้องชายต่างสายเลือด

“เวลาที่เจ้านายเขาเกิดอารมณ์มากๆ เขาจะเล่นพ่อหนักหน่อย นอกนั้นก็ไม่เท่าไหร่”

เอ็กซ์อธิบายต่อ มิลค์เข้าใจได้ทันที แต่ก่อนยิ่งเขาเงี่ยนเท่าไหร่ ก็จะยิ่งอยากระบายความรุนแรงใส่ใครซักคนซึ่งก็ไม่พ้นน้องชายบุญธรรม พอทำจนปลดปล่อยอารมณ์เสร็จถึงได้รู้สึกตัวว่าทำรุนแรงไป นั่นทำให้น้องชายสับสนไม่น้อยที่ตัวเขาเปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่างพี่ชายดีๆ คนหนึ่งกับไอโรคจิตหื่นโหดราวกับเป็นคนสองบุคลิค

“ค่อยคุยกันต่อนะ พ่อต้องไปเคลียร์งานช่วงเย็นก่อนทานข้าว อีกซักชั่วโมงครึ่งค่อยเจอกันที่โต๊ะอาหาร”

เอ็กซ์บอกลูกชายแล้วเดินนุ่งเสื้อคลุมอาบน้ำออกจากห้องไป

.....................

เมื่อได้เวลาอาหารค่ำที่นัดกันไว้ มิลค์ก็ลงจากห้องไปที่โต๊ะอาหาร เขาเห็นอาร์ตกำลังจัดเรียงอาหารอย่างขะมักเขม้นโดยมีพ่อเขาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำคอยช่วยอยู่ด้วยท่าทางที่ติดๆ ขัดๆ เด็กหนุ่มสังเกตท่อนลำของเอ็กซ์ที่แข็งตัวดันผ้าออกมาเป็นแนวแล้วประหลาดใจ อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วแถมยังเพิ่งน้ำแตกไปสามรอบในเวลาไม่กี่ชั่วโมงไม่น่าจะมาคึกคักได้อะไรแบบนี้ ช่องแหวกของสาบเสื้อที่ผูกไว้หลวมๆ ทำให้มิลค์เห็นอะไรแปลกที่อยู่ด้านใน

“พ่อถอดเสื้อคลุมออกเดี๋ยวนี้ ผมขอดูหน่อยว่าอาอาร์ตทำอะไรกับพ่อบ้าง”

“เอ่อ พัตเตอร์ อาว่ามันจะไม่เหมาะ...”

นักบัญชีหนุ่มปรามทั้งๆ ที่ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิด

“กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิอาอาร์ต พ่อเองก็ไม่ต้องพูดเลย ผมรู้ว่าอาอาร์ตเป็นเจ้านายแต่มันก็ต้องมีลิมิตกันบ้าง ถอดเสื้อคลุมออกสิครับ”

เมื่อเห็นอาร์ตพยักหน้าให้ เอ็กซ์ก็ถอดเสื้อคลุมออกตามคำขอของลูกชายเผยให้เห็นเรือนร่างที่เปล่าเปลือย มิลค์อยากจะเบือนหน้าหนีกับสภาพของผู้เป็นพ่อ หัวนมทั้งสองข้างของเอ็กซ์มีไม้หนีบผ้าพลาสติกหนีบอยู่พร้อมรอยกัดรอบๆ บริเวณหน้าท้องมีหยดน้ำตาเทียนเกาะอยู่เป็นแผ่นใหญ่ อวัยวะเพศแข็งตัวแดงก่ำมีห่วงโลหะรัดแน่นอยู่ตรงโคนส่วนช่วงตรงปลายหัวเงี่ยงมีเชือกพันไว้แน่นหนา ปลายเชือกอีกด้านโยงไปผูกกับปลอกคอหนังที่หนุ่มใหญ่สวมอยู่บังคับให้ลำอวบใหญ่ตั้งขึ้นแนบกับหน้าท้องเผยให้เห็นถุงอัณฑะสองข้างที่ถูกเชือกผูกรัดไว้จนบวมเบ่งมีหยดน้ำตาเทียนเกาะอยู่เกือบเต็มพื้นที่ มิลค์จับเอ็กซ์หันไปด้านหลังก็พบว่าก้นของพ่อตัวเองแดงเหมือนตูดลิงแถมมีส่วนฐานของเซ็กส์ทอยบางอย่างคาพ้นออกมาจากรูก้น มิลค์ส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้กับรสนิยมวิปริตของอาร์ต เป็นฝ่ายกระทำมันก็สนุกดีหรอก แต่พอเห็นคนที่ตัวเองรักเป็นคนโดนมิลค์รู้สึกว่ามันไม่สมควรจริงๆ

“เอ่อ มันเป็นรสนิยมของอากับพี่เอ็กซ์เองแหละ เราอาจจะตกใจบ้าง แต่มันก็เพื่อความสุขทางเพศ พี่เอ็กซ์เองก็เต็มใจ อาอยากให้พัตเตอร์เข้าใจนะ”

อาร์ตแก้ตัว ถึงเขาจะอยากให้ลูกของเอ็กซ์รับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่มีแต่ก็ไม่อยากถูกเกลียดเช่นกัน

“ก็พ่อเป็นทาสของอา ยังไงพ่อก็ต้องทำตามที่อาสั่งอย่างเต็มใจอยู่แล้ว ไม่งั้นอาจะทุ่มเงินมากมายประมูลซื้อพ่อมาจากองค์กรแบบนี้เหรอ”

มิลค์โพล่งออกมาอย่างเหลืออด เขาอยากจะคุยเรื่องนี้กับอาร์ตอย่างเปิดเผยซะที ไม่งั้นอาร์ตก็จะทำเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพ่อเขาต้องการเองอยู่ตลอด

อาร์ตตกใจกับคำตอบที่ได้ เขาหันไปถามเอ็กซ์ด้วยความไม่เข้าใจ

“ทำไมพัตเตอร์ถึงรู้เรื่องนี้ได้ พี่เป็นคนเล่าเหรอ มันไม่น่าเป็นไปได้ เราโดนองค์กรควบคุมจิตไว้ไม่ให้บอกเรื่องนี้กับคนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ใช่เหรอ”

“พัตเตอร์เขาเป็นกรณีพิเศษครับเจ้านาย เอาเป็นว่าเขารู้เรื่ององค์กรพอๆ กับพวกเราเหมือนกัน”

เอ็กซ์ไม่อยากขยายความว่าลูกชายตัวเองก็ตกเป็นทาสเช่นเดียวกันจึงตัดบทไปแต่อาร์ตก็ยังสงสัยไม่เลิก

“ผมรู้ก็แล้วกันอาอาร์ต ทีนี้ก็ไม่ต้องมาทำเป็นว่าพ่อผมชอบแบบนี้ ทุกอย่างอาอาร์ตเป็นคนสั่งทั้งนั้น ผมไม่ได้จะคัดค้านอะไรในประเด็นนั้น อาอาร์ตเป็นนายก็มีสิทธ์อยู่แล้ว แต่อย่าทำอะไรที่มันเกินไปได้ไหม อาก็รู้ว่าการใช้งานทาสมันก็มีข้อจำกัดอยู่”

“ไม่เป็นไรหรอกลูก พ่อเป็นทาสระดับสองนะ อย่างนี้พ่อทนได้ ดีกว่าจะให้ไปแก้ผ้าให้คนทั่วไปดู”

เอ็กซ์พยายามไกล่เกลี่ย

“ไม่รู้ล่ะ จะทาสระดับไหนแต่ก็เจ้านายก็ไม่มีสิทธิ์ทำรุนแรงจนทาสพิการได้”

“อาไม่ได้ทำขนาดนั้นซะหน่อย เราไปเอาที่ไหนมาพูด”

อาร์ตประท้วงกับข้อกล่าวหาของมิลค์

“งั้นในฐานะที่ผมเป็นลูกและในฐานะว่าที่หมอ ผมถามอาอาร์ตหน่อยว่าการรัดไข่พ่อจนแน่นขนาดนี้ มันอาจจะผิดพลาดจนเป็นหมันได้หรือเปล่า”

อาร์ตหน้าจ๋อยเมื่อโดนลูกชายของทาสไล่เบี้ยเอา

“อาไม่ได้มัดแรงขนาดนั้นซะหน่อย”

“อาไม่ใช่หมอจะรู้ได้ยังไง แล้วยังหยดน้ำตาเทียนใส่อีก อาไม่รู้เหรอว่าเซลล์เนื้อเยื่อตรงนั้นมันอ่อนไหวกับอุณหภูมิขนาดไหน ถ้าพ่อผมเป็นหมันถาวรขึ้นมาผมคงอดมีน้องไปตลอดชีวิตแน่”

เอ็กซ์ทำคอย่น นี่ลูกชายเขายังจะหวังมีน้องอีกเหรอนี่

“แล้วเอาห่วงเหล็กมารัดที่โคนนี่คืออะไร จะให้เลือดคลั่งขาดออกซิเจนเน่าจนต้องตัดทิ้งเหรอ”

อาร์ตใจหายวาบเมื่อคิดว่าต้องเสียของที่เขาชื่นชอบในตัวพี่เอ็กซ์ที่สุดไป เขาละล่ำละลักตอบ

“อาก็แค่รัดให้มันแข็งตัวนานๆ ใครๆ เขาก็ทำกัน แล้วนี่ก็เป็นเงินแท้นะ ไม่ใช่เหล็ก ไม่ต้องกลัวเป็นสนิม”

“อาหลงประเด็นแล้ว ปัญหาคือห่วงโลหะมันอาจทำให้เลือดคลั่งจนอวัยวะเพศบวม แล้วพอเป็นอย่างนั้นมันจะถอดไม่ออก คนฉลาดๆ เขาใช้เป็นห่วงซิลิโคนกันทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครใช้ห่วงโลหะแบบอาหรอก รักจะเล่นแนวนี้มันต้องมีความรู้ด้วย ถ้าพ่อผมเป็นอะไรไปองค์กรก็ไม่ปล่อยอาไว้เหมือนกัน ทีนี้จากเจ้านายอาจได้กลายเป็นทาสกับเขาบ้าง”

มิลค์สำทับด้วยท่าทางเด็ดขาดน่าเกรงขามอย่างที่เลียนแบบอาจารย์หมอเวลาดุพวกรุ่นพี่มาได้แบบเป๊ะๆ อาร์ตหน้าเหลือสองนิ้วขณะพึมพำแก้ตัวเสียงเบาจนจับประเด็นไม่ได้

“แล้วนี่เอาอะไรยัดก้นพ่อผม ถามจริง เป็นอะไรมากไหมกับรูก้นนี่ ชอบเอาอะไรยัดเหลือเกินนะ”

มิลค์บ่นขณะล้วงไปที่ก้นของเอ็กซ์เพื่อดึงสิ่งแปลกปลอมออกมา เพิ่งเอาไข่สั่นออกไปนี่ยัดอะไรเข้ามาอีกแล้ว เจลหล่อลื่นที่ค้างอยู่ทำให้เอาออกไม่ยากเท่าไหร่ เพียงครู่เดียวมิลค์ก็ได้เซ็กส์ทอยหน้าตาเหมือนลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้แต่เรียงเม็ดจากขนาดเล็กไปใหญ่มาถือไว้ในมือ

“ทำไมต้องใช้ของแบบนี้ด้วย ของอาเองไม่แข็งเหรอถึงต้องใช้ของปลอม ไปให้อาจารย์ผมรักษาไหม เก่งมากเลยนะ เอ่องั้นผมถามต่อเลยแล้วกัน อามีเพศสัมพันธ์กับพ่อผมบ่อยเปล่า หมายถึงแบบสอดใส่น่ะ”

อาร์ตก้มหน้างุด ใบหน้าขาวขึ้นสีเล็กน้อยขณะตอบ

“ก็ไม่บ่อยหรอก อาทิตย์นึงก็แค่สามสี่ครั้ง”

“โห วัยนี้ก็ถือว่าบ่อยนะ  แล้วอาไปมั่วกับคนอื่นด้วยเปล่า ยังไงต้องสวมถุงยางด้วยนะเดี๋ยวเอาโรคมาติดพ่อผม พ่อผมเป็นทาส ไปมีอะไรกับคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว อาใส่ไซส์ไหนเดี๋ยวคราวหน้าผมเอามาฝาก อาจารย์ผมได้ของตัวอย่างจากบริษัทมาเยอะแยะ เกรดดีๆ บางเฉียบทั้งนั้น”

“ไม่เป็นไร อาไม่ได้มั่วกับคนอื่น แล้วอาก็ไม่ได้ใช้ด้วย”

“ถึงไม่ได้มั่วก็ควรจะใส่นะ เดี๋ยวผมหาแบบบางๆ เหมือนไม่มีอะไรคั่นให้เลย มีอะไรกันด้านหลังใส่ไว้สะอาดกว่า ไม่ต้องให้พ่อผมมาเสียเวลาล้างออกด้วย”

“ใส่นะ ปกติก็ใส่อยู่แล้ว แต่อาไม่ได้เป็นคนใส่ ถามพ่อเราเองแล้วกันว่าเขาจะเอาไซส์ไหน”

มิลค์มองหน้าแดงก่ำของอาร์ตอย่างคาดไม่ถึงแล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ฮ่าๆ อุบ อ้าวเหรอ โทษทีที่เข้าใจผิด ผมนึกว่าคนเป็นเจ้านายจะไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายเจ็บตัวซะอีก งั้นก็แล้วไป อาระวังตัวเองเอาแล้วกัน พ่อผมใหญ่  เดี๋ยวจะฉีก”

มิลค์พูดอย่างภูมิใจที่พ่อยังคงศักดิ์ศรีแห่งลูกผู้ชายไว้ได้ ในขณะที่อาร์ตเริ่มรู้สึกว่ามิลค์ไม่ได้น่าเอ็นดูอย่างที่เคยคิด แต่ถึงยังไงเขาก็คงเกลียดลูกชายของพี่เอ็กซ์ไม่ลง ก็หน้าตาเหมือนกันแถมยังเป็นเด็กที่รักพ่อซะขนาดนี้ เอาไว้ถ้ามีโอกาสเขาขอล้างแค้นเล็กๆ ที่โดนสอบสวนซะจนต้องคายความลับว่าเขาเป็นเจ้านายที่เป็นฝ่ายรับออกมาซะงั้น ความจริงคือ ได้ออกคำสั่งให้อับอายหรือทรมานเล่นมันก็ตื่นเต้นเร้าอารมณ์ดี แต่พอเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มเขาอยากเป็นฝ่ายโดนมากกว่า พี่เอ็กซ์หล่อล่ำแรงดีแถมลีลาก็อย่างเทพ เขาจะต้องไปเหนื่อยเองทำไม นอกจากวันไหนนึกคึกอยากออกกำลังก็ค่อยลุกขึ้นไปขย่มตอเอาเอง หนุ่มนักบัญชีคิดแล้วน้ำลายไหลแต่ต้องอดใจ นานๆ มิลค์จะมาสักทีวันนี้ปล่อยให้พ่อลูกอยู่ด้วยกันไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยจัดเต็ม

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
แหม มิลน่ารักจังแอบดุนะเรา แต่ก็ดีแล้วเพราะอาร์ตเล่นอันตรายเกินไปจริงๆ อย่างที่บอกริจะเล่นทางนี้ควรศึกษามาให้ดี
ขอบคุณที่มาต่อจ้า  o13 o13

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1

ออฟไลน์ HypnosisDreams

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มิลค์น่ารักขึ้นทุกวัน

ออฟไลน์ รานังคูลัส

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :pighaun: :pighaun:
ชอบนิยายเรื่องนี้มากค่ะ สนุกมาก อ่านแล้วคิดตามตลอด เป็นการบรรยายแบบที่เพิ่งเคยเจอ ชอบตรงที่ตอนนึงยาวมากๆอ่านแบบจุใจ ขอบคุณที่มาเพิ่มพิเศษให้อ่านนะคะ
หวังว่าจะมีผลงานใหม่ๆมาให้ตามอีก
จะรอติดตามค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
กรี๊ดดดด คู่อาร์ตเอ็กซ์มีบท ปลื้มปริ่ม  :pighaun:

จริงของน้องมิลค์นะอาอาร์ต รักจะเล่น SM ก็ต้องมีความรู้หน่อย เกิดมีปัญหาทางเทคนิค พี่เอ็กซ์ต้องเจื๋อน...ทิ้งกลายเป็นขันที อาร์ตก็อด(ขย่ม) คนอ่านก็อด(เผือกข้างเตียงชาวบ้าน) น้าาาา  :serius2:

คุณพ่อเอ็กซ์กับคุณลูกพัตเตอร์(aka มิลค์)สนิทกันดีเนอะ ถ้าเมื่อก่อนระงับอารมณ์อยู่ ไม่ได้ไประบายกับลูก/น้องชายบุญธรรม คงเป็นครอบครัวที่เฮฮา

ส่วนเดือนแพทย์ แอบเล็งมิลค์ไว้ล่ะสิ รุกxรุกรึเปล่านะงานนี้  :hao6:

รออย่างตั้งใจ มาต่อเร็วๆน้า  :pig4:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เดือนแพทย์นี่เล็งมิลค์อยู่ล่ะสิ  :hao6:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
รอครับ
ขอมาต่อมิลค์เร็วๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด