“ห้องนี้เป็นห้องผมจำให้ดีนะเลข64”ผมหันไปบอกยูทาร์ก่อนจะรูดการ์ดแล้วเปิดประตูเข้าห้องไปโดยมียูทาร์เดินตามเข้ามา...
ห้องขนาดกลางที่มีเพียงห้องน้ำกับห้องนอนเท่านั้น...พอเปิดเข้ามาก็จะเจอห้องกว้างที่มีเตียงขนาดใหญที่กว้างเกือบ10ฟุตวางอยู่กลางห้องโดยที่ด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้าและชั้นหนังสือวางข้างๆกัน ถัดออกมาอีกหน่อยเป็นโซฟาตัวยาวสีน้ำตาลที่มีโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่ด้านหน้าเวลามีอาหารอะไรผมก็จะวางหรือกินที่โต๊ะนี่แหละ
เซโครวางกระเช้าขนาดใหญ่ไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นก่อนจะถอดเสื้อนอกที่เปื้อนทั้งดินและโคลนไปพาดไว้บนโซฟาสีน้ำตาลด้านข้าง ดวงตาสีเขียวอมฟ้าหันไปมองยูทาร์ที่เดินตามเข้ามาพร้อมมองไปรอบห้องราวกับจะสำรวจสิ่งที่อยู่รอบกาย
“วางกล่องไว้ตรงนี้เลย”ผมบอกพร้อมวิ่งไปปิดประตูก่อนจะเดินกลับเข้ามาภายใน
“อาบน้ำก่อนเถอะยูทาร์...ห้องน้ำอยู่ทางนั้นเดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้าไปให้”พอพูดจบก็ดันหลังยูทาร์ให้เข้าไปในห้องน้ำในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากห้องผมเลยเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหาชุดนอนให้ยูทาร์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้คนที่อยู่ด้านในเปิดประตูออกมาโดยไม่มีการพันผ้าขนหนูอะไรเลยสักชิ้น...เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกผมเลยไม่ตกใจเท่าไหร่แต่ผิวสีแทนที่มีหยดน้ำเกาะแพรวพราวทำให้หัวใจผมมันเต้นแรงขึ้น
“นี่เสื้อผ้า”ผมบอกแล้วยื่นชุดไปให้ ยูทาร์รับไปแล้วกลับไปในห้องน้ำอีกครั้งนึง
ไม่นานนักยูทาร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ผมยังเปียกอยู่อีกแล้ว...ผมล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ยูทาร์ไม่ทำตามที่ผมบอก
“ไม่เช็ดผมอีกแล้วเหรอ?”
“...อยากให้เซโครเช็ดให้”อีกฝ่ายตอบกลับเสียงอ่อยจนผมต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ...ไม่ว่าถามกี่ครั้งคำตอบที่ได้กลับมาก็เหมือนเดิมตลอด ตอนแรกอาจรู้สึกดีและใจเต้นแรงแต่พอนานไปผมคิดว่ายูทาร์แค่ขี้เกียจเช็ดเองเท่านั้นแหละ
“รอผมอาบเสร็จจะมาเช็ดให้นะ...ถ้าหิวก็...พวกผลไม้ในกระเช้ากินได้เลยนะ”ผมพูดแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะจัดการทำความสะอาดร่างกายให้สะอาด เส้นผมสีบลอนด์ที่เหมือนกับพ่อยาวปะบ่าเพราะไม่มีเวลาไปตัดตอนแรกผมก็ตัดซอยสั้นตามวัยรุ่นทั่วไปแต่พอมาทำงานที่นี่ก็หาร้านตัดผมไม่ได้เลยต้องทนไว้ไปก่อน
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จผมก็เดินเช็ดผมตัวเองออกไปหายูทาร์ที่นั่งยูที่โซฟายาวตัวสีน้ำตาลโดยที่ในมือของคนที่นั่งอยู่ถือลูกแอปเปิ้ลเขียวไว้แล้วหมุนมันเบาๆราวกับไม่แน่ใจว่าของตรงหน้ากินได้ไหม
ผมก็ดันลืมว่ายูทาร์เคยกินแต่พวกเนื้อจะกินผลไม้เป็นได้ยังไงกันแต่ตอนนี้คงไม่มีร้านข้าวเปิดแล้วที่เหลืออยู่ก็มีแค่มาม่าเหลืออยู่3ถ้วยซึ่งผมไม่อยากให้ยูทาร์กินของแบบนั้น
“ถ้าจะกินลองลูกสีแดงก่อนดีกว่านะ”ผมเสนอแล้วนั่งลงข้างๆยูทาร์
“ทำไมล่ะ?”ยูทาร์หันมาถาม เส้นผมสีเทาเข้มแซมส้มที่ยังคงเปียกลู่ลงอยู่ทำให้ผมใช้ผ้าเช็ดหัวตัวเองไปเช็ดผมของยูทาร์ต่อ...ผ้าขนหนูผืนใหญ่เช็ดได้สบายๆโดยไม่ต้องเปลี่ยน
“สีแดงจะหวานกว่า...ถ้าสีเขียวจะเปรี้ยวยูทาร์คงไม่ชอบ”พออธิบายจบยูทาร์ก็เอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลลูกสีแดงขึ้นมาแล้วเอาทั้งสองลูกมาเทียบกัน
“แล้วเซโครชอบสีไหน?”
“ผมกินได้หมดแต่ชอบสีเขียวมากกว่า...เปรี้ยวนิดๆอร่อยดี”ขณะที่ตอบมือทั้งสองข้างก็ยังคงทำหน้าที่เช็ดผมได้อย่างดีแต่เพราะอยู่ห่างเลยไม่ถนัดนักก็เลยขยับเข้าไปใกล้ยูทาร์มากขึ้นอีกนิด
“งั้นผมจะกินสีเขียวเหมือนที่เซโครชอบ”ยูทาร์บอกแล้วกัดแอปเปิ้ลลูกสีเขียวเข้าปากก่อนจะพ่นออกมาอย่างรวดเร็วจนผมหลุดหัวเราะออกมาลั่นห้อง
“ฮะฮะฮะ...ผมบอกแล้วไม่เชื่อ...ฮะฮะ...”ผมพูดพร้อมกับหัวเราะต่ออย่างอารมณ์ดี
“...เปรี้ยวมาก...อร่อยตรงไหนเนี่ยเซโคร”ยูทาร์หันมาถามแล้วพยายามเช็ดปากตัวเองจนแดงไปหมด
“อย่าเช็ดแบบนั้นเดี๋ยวแดงหมด”ผมบอกพร้อมกับจับมือทั้งสองข้างที่กำลังถูปากตัวเองให้หยุดแล้วใช้ผ้าขนหนูที่เช็ดผมเช็ดปากให้อีกฝ่ายเบาๆ
“...เซโคร”
“หื้อ?”
“...ตาของเซโครสวยมาก”ยูทาร์บอกผมเสียงเบา ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมาที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมนิ่งก่อนจะขยับเข้ามาใกล้จนผมเห็นเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในดวงตานั่น
“ตาของยูทาร์ก็สวยเหมือนกัน...สีเหลืองอำพันเหมือนอัญมณีเลย”ผมบอกต่อพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างสัมผัสที่แก้มของยูทาร์ ด้วยน้ำหนักที่ต่างกันและยูทาร์ขยับเข้ามาใกล้ทำให้ร่างกายผมเซไปข้างหลังก่อนที่หัวจะสัมผัสกับขอบโซฟาในที่สุด
ยูทาร์เองก็ตามลงมาคร่อมผมไว้โดยที่ดวงตาของเรายังจ้องกันอยู่ตลอดเวลา...ไม่รู้ว่าความหมายของดวงตาที่สั่นระริกตรงหน้าคืออะไรแต่ผมรู้เพียงแค่ผมก็คงรู้สึกไม่ต่างกับอีกฝ่ายนักหรอก
ความรู้สึกอะไรสักอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น...ตอนนี้มันเหมือนเริ่มมีตะกอนอะไรสักอย่างลอยขึ้นมาอย่างช้าๆและคงอีกนานกว่าผมจะเข้าใจความรู้สึกนี้
“ยูทาร์...”
“เซโคร...ผม...”ยูทาร์ทิ้งตัวลงมาทับผมอย่างอ่อนแรงแล้วกระชิบเบาๆที่ข้างหู
“อะไร?...ปวดท้อง?”
“...ผมหิว”เสียงทุ้มตอบกลับมาแล้วซุกหน้าลงที่คอผม เส้นผมสีเทาเข้มแซมส้มที่สยายจนปิดหน้าปิดตาทำให้ผมต้องใช้มือรวบผมของยูทาร์ไว้แล้วควานหาหนังยางที่จำได้ว่าตกอยู่แถวๆนี้ขึ้นมามัดผมของยูทาร์ให้เรียบร้อย
“ถ้าหิวก็ลุกขึ้นก่อน”
“...ลุกไม่ไหว”ยูทาร์ตอบเสียงอู้อี้
ก่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อไปก็นึกขึ้นมาได้ว่ายูทาร์โดนไททันโอโบอากัดเข้าที่คอนี่นา...พอนึกออกผมก็หันไปมองที่คอผิวสีแทนที่มีรอยเลือดซึมอยู่เล็กน้อยแต่ไม่มาก...
ค่อยยังชั่วที่ไม่เป็นอะไรมาก
“อย่าดื้อน่า...เดี๋ยวผมต้องไปหยิบยามาทาให้ยูทาร์อีก...โชคดีนะที่ไททันโอโบอาไม่มีพิษน่ะ”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วพยายามดันไหล่ของยูทาร์ให้ลุกออกไปแต่ยูทาร์ก็ยังไม่ยอมขยับสักที
ทำไมเดี๋ยวนี้ดื้อขึ้นได้นะ...หรืออาจไม่ใช่ดื้อแต่กำลังอ้อนผมอยู่?
“แผลแค่เลียก็หายแล้ว...เซโครเลียให้หน่อย”
“ในน้ำลายมีเชื้อแบคทีเรียถ้าเข้าแผลเดี๋ยวก็เป็นหนองหรอก...ลุกได้แล้วยูทาร์”ผมพูดซ้ำอีกรอบนึงแล้วพยายามดันตัวเพื่อจะลุกขึ้น
“ยูทาร์”พอผมเริ่มขึ้นเสียงยูทาร์ก็ค่อยๆลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าแล้วทำหน้างอๆใส่ผม
“งอนเหรอ?...คนถูกทับมันหนักนะให้ผมเป็นฝ่ายทับแทนไหมล่ะจะนอนทับทั้งวันเลย”ผมพูดติดตลกแล้วเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า
“...เอาสิ”
“ห๊ะ?...เอาอะไร?”ผมหันไปถามก่อนจะเดินกลับไปที่โซฟาพร้อมกล่องพยาบาล
“ให้เซโครนอนทับแทนก็ได้”
“ผมพูดเล่น!”ผมรีบตะโกนกลับในทันทีไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจริงจังกับคำพูดลอยๆแบบนั้น
“...”ยูทาร์นิ่งเงียบทันทีเมื่อได้ยินที่พูด
“...ยูทาร์...มาทำแผลก่อน”ผมบอกแล้วจัดการทำแผลให้ยูทาร์เพราะแผลไม่ได้ลึกมากผมเลยแค่ใส่ยาให้เท่านั้น
“...อยากอยู่กับเซโคร”ยูทาร์พูดเสียงอ่อย
“แล้วตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันตรงไหน”ตลอดสองอาทิตย์กว่าที่ผ่านมาผมอยู่กับยูทาร์เรียกได้ว่าเกือบ24ชั่วโมงเวลาที่แยกกันมีแค่ตอนเข้าห้องน้ำกับนอนเท่านั้น
“อยากอยู่ตลอด...จะได้อยู่ตลอดใช่ไหม?”ยูทาร์หันมาถามผมเสียงอ่อย
“แน่นอน...ทำไมคิดแบบนั้นกัน”
“งูยักษ์ตัวนั้นบอกว่าไม่มีทางที่มนุษย์จะอยู่ร่วมกับพวกเราได้”คำอธิบายของอีกฝ่ายทำให้ผมเข้าใจในทันทีว่าทำไมยูทาร์ถึงมีท่าทางซึมๆไป
“อย่าไปฟังคำพูดคนอื่น...ถ้ายูทาร์อยากอยู่กับผมต่อให้เกิดอะไรผมก็จะไม่มีวันแยกกับยูทาร์”ผมบอกอย่างหนักแน่น
“สัญญาได้ไหม?”
“แน่นอน”ผมตอบกลับไปอย่างไม่ต้องคิด
“ผมเชื่อเซโคร”อีกฝ่ายมองมาที่ผมแล้วคลียิ้มออกมาบางๆจนผมยิ้มตอบกลับไป
หลังจากนั้นผมก็หาอะไรง่ายๆให้ยูทาร์กิน...ในห้องผมไม่มีตู้เย็นของที่กินได้เลยมีแค่ของที่อยู่ในกระเช้าอันใหญ่ส่วนอีกล่องนึงก็มีตุ๊กตาไดโนเสาร์พันธุ์ไทรันโนซอรัสตัวใหญ่ใส่ไว้ กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง
“ไปนอนกันดีกว่า”ผมพูดแล้วลุกขึ้นจากโซฟาแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง
“ไม่ปิดไฟเหรอ?”ยูทาร์เดินตามมาแล้วถามขึ้น
“ผมกลัวความมืดเคยบอกยูทาร์แล้วนี่...เวลานอนผมจะเปิดไฟไว้แบบนี้แหละ”ผมอธิบายให้ยูทาร์ฟัง
“ปิดไฟเถอะ...”ยูทาร์พูดต่อทันทีจนผมต้องขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น...ก็บอกอยู่ว่ากลัวแล้วทำไมต้องให้ปิดไฟอีกหรือว่ายูทาร์จะแกล้งผม?
“จะได้จับมือเซโคร”ประโยคที่ตามมาทำให้ผมเผลอยิ้มกว้างออกเพราะความเด็กของคนตรงหน้า...เขาจำได้ว่าถ้ามืดผมต้องจับมือใครสักคนไว้ให้หายกลัว
“จำได้ด้วยเหรอ...นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก”
“ผมไม่เคยลืม”
“งั้นก็ตามใจสิ...ปิดไฟแล้วมานอนตรงนี้เลย”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วกลิ้งไปด้านข้างก่อนจะตบเตียงด้านข้างตัวเอง
ในไม่ช้าทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดมิด ความกลัวที่ไม่อยากนึกถึงค่อยๆกลับเข้ามาอีกครั้ง สัมผัสได้เลยว่าร่างกายตัวเองเริ่มสั่นถ้านอนคนเดียวผมไม่มีทางปิดไฟแน่นอนแต่เพราะยูทาร์ผมเลยอยากลองดู...ผมมั่นใจว่าสามารถหลับได้ถ้ามียูทาร์อยู่ข้างๆ
“เซโคร”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับเตียงที่ยุบลง ยูทาร์ขึ้นมาบนเตียงแล้วคว้ามือผมมาจับไว้แน่นราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไรผมไม่ได้อยู่คนเดียว
“...ยูทาร์”ผมเรียกแล้วกุมมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นพร้อมกับหลับตาลง
“ผมกอดเซโครได้ไหม?”เสียงทุ้มยังขึ้นอีกรั้งแล้วขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
กอดเหรอ?
ครั้งสุดท้ายที่กอดกับยูทาร์ก็ตอนฝึกเดินที่หน้าบ้านพักซึ่งก็นานอยู่พอสมควร...อยากตอบตกลงแต่บางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัวว่ามันไม่ควรที่จะกอดกันแบบนั้นแถมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันอีก...
แต่พอลองมองกลับกันว่ายูทาร์เป็นผู้หญิงผมก็ยิ่งไม่สมควรจะกอดมากเข้าไปใหญ่...สมองของเซโครคิดไปคิดมาอย่างหนักจนสุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่า...
“อืม...ได้สิ”พออนุญาติยูทาร์ก็ดึงมือผมที่กุมไว้เข้าหาตัวแรงๆจนร่างผมขยับไปปะทะกับร่างของยูทาร์โดยที่มีมือข้างนึงสอดอยู่ใต้ศีรษะลูบเรือนผมสีบลอนด์ทองของผมอย่างเบามือจนเผลอเคลิ้มไป
มือข้างที่ไม่ได้กุมกันไว้ของผมก็ขยับขึ้นไปกุมเสื้อของอีกฝ่ายไว้...ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดที่ศีรษะแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากอีกฝ่ายทำให้ผมซุกตัวเข้าไปใกล้มากขึ้นแล้วหลับตาลงช้าๆ
น่าแปลก...
ทั้งที่อยู่ในความมืดที่แสนกลัวแต่ผมกลับหลับได้อย่างสนิทโดยที่ไม่สั่นกลัวเหมือนอย่างเคย...ไม่ใช่แค่มีคนกุมมือเพราะผมเคยให้เพื่อนจับมือไว้เวลาไฟดับถึงจะทำให้กลัวน้อยลงแต่ก็ไม่เคยหลับสนิทได้สักครั้ง...
เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมหลับสนิทอาจเป็นเหตุผลง่ายๆเพียงเพราะ...
คนที่กุมมือและกอดผมอยู่คือยูทาร์
..............................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์

ไซนอร์นิโตซอรัส(Sinornithosaurus)ไดโนเสาร์รูปร่างคล้ายนกที่มีชีวิตอยู่ประมาณ125ล้านปีก่อนโดยมีฟันบนคล้ายเขี้ยวของงูพิษ เบื้อต้นเชื่อว่าฟันบนดังกล่าวไม่ได้ทำหน้าที่ฉีดพิษเข้าโดยตรงบริเวณบาดแผลเหยื่อแต่พิษจะไหลออกมาตามร่องฟันและซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของเหยื่อที่ถูกกัด สำหรับอาหารส่วนมากจะล่านกหรือสัตว์ตัวเล็กๆกินโดยหลังจากโดนพิษไปแล้วเหยื่อจะเซื่องซึม เคลื่อนไหวช้าลงมีอาการคล้ายๆเป็นอัมพาสชั่วขณะ
แหล่งที่มา:http://writer.dek-d.com/pasitwantha/story/viewlongc.php?id=352943&chapter=84
..................................................................
ประกาศจากผู้แต่งคะ
เนื่องจากอาทิตย์หน้าเราก็จะเปิดเทมอและต้องเตรียมตัวรับน้อง(เราอยู่ปี2)ดังนั้นเลยทำให้ต้องเตรียมตัวหลายๆอย่างจนคิดว่าคงไม่มีเวลามาแต่งหรืออัพนิยายสักพักใหญ่ๆ...อาจประมาณ3-4อาทิตย์แล้วแต่ว่าการรับน้องจะเสร็จเมื่อไหร่
แต่เราคงไม่รอถึงรับน้องเสร็จหรอกคะอาจถึงแค่ปรับตัวจากโหมดปิดเทมอเป็นโหมดเรียนเท่านั้นก็จะสามารถแต่งต่อได้แล้วแต่จะสามารถแต่งได้ช้ากว่าปกติอยู่พอสมควรเพราะมีเรียนเกือบทุกวันคะ
อาจมาอัพทีละครึ่งตอนและใช้เวลาแต่งนานกว่าปกติ...ยังไงก็จะพยายามมาต่อให้บ่อยเท่าที่จะทำได้นะคะ
ตอนนี้เราเลยแต่งให้จบอย่างไม่ค้างคาเพื่อคนอ่านจะได้ไม่ค้างมากเหมือนอย่างตอนอื่นๆ
ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆพัฒนาคงจะทำให้หลายๆคนฟินได้นะคะ
เรื่องนี้แนวอบอุ่น+บู๊เล็กน้อยถึงปานกลาง
มีอะไรสามารถเข้ามาพูดคุยหรือซักถามได้ที่เพจเรานะคะ...มีตอนพิเศษเล็กๆมาลงให้อ่านเรื่อยๆคะ>>
nicedogขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ
จะเจอกันอีกทีคงประมาณปลายเดือนสิงหาคม
รอกันหน่อยนะคะ

แอบแวะมาแก้คำผิดเล็กน้อยขอบคุณ คุณrayaijiมากนะคะ
ส่วนคำแนะนำของคุณBlueCherriesจะเอาไปทำตามคะ...ตอนแรกที่ไม่เอามาลงเพราะตอนพิเศษนั้นสั้นสุดๆแต่งตอนนึงแค่หน้ากว่าถึงสองหน้าเท่านั้นเองแต่เดี๋ยวจะถยอยเอามาลงนะคะ(ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคะ)
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪