:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 886930 ครั้ง)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1710 เมื่อ01-02-2017 22:22:59 »



Yours and Mine EP.2 :: Bad news. (ข่าวร้าย) [50%]


“แคทเป็นเพื่อนที่น่ารัก เป็นคนเรียนเก่งแบบที่ผมอิจฉาสมองมันมาก เพราะมันอ่านแปบเดียวก็เข้าใจได้ แต่ในขณะเดียวกันแคทก็ค่อนข้างแรดมาก…” แขกในงานหัวเราะอารมณ์ดีกับคำกล่าวของผมที่กล่าวถึงเจ้าสาวที่ยืนหัวเราะชอบใจในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง เจ้าบ่าวตัวสูงในชุดสูทสีดำทักสิโด้ยืนขำอย่างไม่ถือสากับคำที่ผมพูด

 

 

“…มีคำถามอยากถามพี่เคนครับว่า อะไรดลใจให้เลือกแคทเป็นเจ้าสาว”

 

 

“เดี๋ยวๆ แก คือเพื่อนเป็นคนดีไง เขาเลือกฉันด้วยใจเว่ยแก ไม่ได้มีอะไรดลใจเนาะ” ผมเอาไมค์ออกห่างจากปากแล้วหัวเราะอ้าปากกว้างเสียงดังกับการเถียงของแคท เสียงหัวเราะในงานดังครื้นเครงเป็นกันเอง

 

 

“ว่าไงครับเจ้าบ่าว อะไรดลใจ เอ้ย รักเจ้าสาวเพราะอะไรเหรอครับ” พิธีกรหนุ่มที่เป็นญาติแคท พูดจาคล่องแคล่วน้ำเสียงน่าฟังเหมาะกับการเป็นดีเจอยู่ที่คลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง

 

 

“ก็… อยู่กับเขาแล้วอารมณ์ดีครับ เครียดบ้าง แต่เขาจะมองโลกสนุกสนานมากกว่า ทำให้บางทีเราเครียดๆ อยู่ก็เบาลงเพราะเขา”

 

 

“หู้ยยยย!!” ผมนำทัพเพื่อนๆ โห่ใส่แคทที่ยืนบิดเขินอาย ยกมือตีไหล่พี่เคนสองสามทีเป็นการแก้เขิน

 

 

“สวยมากกก นางเอกเกาหลีมากกก!!” เหมียวตะโกนขึ้นมาจากด้านล่างหน้าเวที แคทหันไปทำปากยื่นใส่เหมียวเลยทำให้คนในงานหลายร้อยคนหัวเราะกันเสียงดัง

 

 

“แต่ก็ดีใจกับเพื่อนครับ เพราะว่าเพื่อนก็เรียนจบแล้ว มีงานดีๆ ทำ ชีวิตนางก็พร้อมแล้วที่จะมีใครอีกคนเดินไปข้างๆ กัน ไม่ขอให้รักกันนานๆ ครับ เพราะเชื่อว่าเขาจะรักกันดีแน่นอน” เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากผมพูดจบ แคทยิ้มปลื้มใจและยกนิ้วโป้งให้ผมเป็นการชมและคงขอบคุณในเวลาเดียวกัน ผมยื่นไมค์คืนให้กับพิธีกรและเดินลงจากเวที

 

 

“แล้วตอนนี้นะฮะก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญของเหล่าเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ต้องการสละโสดเป็นคิวถัดไป ใครอยากโดนขอแต่งงานไวๆ เร่เข้ามาหน้าเวทีเลยฮะ” ไม่ต้องมีการเรียกซ้ำ เหล่าชะนีมากหน้าหลายตาก็กรูกันเข้ามายืนหน้าเวทีราวกับฝูงอะไรสักอย่างที่รอขย้ำเหยื่อ แน่นอนว่าแม้ผมจะไม่ใช่นีแต่ผมก็ไปยืนเบียดเสียดกับพวกเพื่อนๆ แถวกลางเวทีด้วย ที่จริงไม่ได้อยากได้ช่อดอกไม้หรอก แต่เหมือนมันเป็นกระแสอะเลยต้องตามนิดนึง

 

 

“พร้อมนะ!!!” แคทเอี้ยวหน้ามาถามจากบนเวที ในมือถือช่อดอกไม้สีขาวช่อโตไว้ เตรียมพร้อมโยนกลับหลัง

 

 

“พร้อมเว่อ!!!” เหมียว เก้า แบมตะโกนตอบรับเสียงดังกว่าใคร ผมหัวเราะสนุกสนานรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย ทั้งที่จริงมันไม่ต้องตื่นเต้นมากก็ได้

 

 

“สาม สอง หนึ่ง โยนละนา!!!” ว่าจบแคทก็ออกแรงเหวี่ยงดอกไม้กลับหลังมาทางฝูงฮายีน่าที่จ้องช่อดอกไม้ตาเป็นมัน ผมกำลังจะยื่นมือไปแย่งรับบ้าง แต่พอเห็นหน้าอีเหมียวที่โคตรจริงจังอย่างกับกำลังแย่งทองคำก็เลยยืนขำมันแรงๆ หน้ามันเอาจริงเอาจังแบบว่า ใครแย่งกูมึงตายมาก

 

 

“มานี่! ของกูค่ะ มานี่ ว้ายยยย!!!” ในขณะที่เหมียวกำลังใช้กำลังภายในแย่งชิงช่อดอกไม้ที่เริ่มเละจากการกระเด้งกระดอนไปหลายมือ มันก็เกิดอาการหน้าจะคว่ำ ดีที่มีเก้ากับแบมรีบคว้าร่างมันไว้ และช่อดอกไม้ก็ปลิวมาทางผมที่ยืนหัวเราะด้วยความตลกอยู่ แต่พอดอกไม้หล่นตุ้บที่กลางอก สัญชาตญาณร่างกายก็ยกแขนโอบกอดเอาไว้ หน้าขำขันเมื่อกี้หายวับแล้วกลายเป็นยืนงงในดงกล้วยแทน

 

 

“อ้าว! ชายหนึ่งเดียวได้ไปแบบสวยๆ งงๆ” เสียงพิธีกรประกาศบนเวทีพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ เสียงปรบมือดังเปาะแปะๆ

 

 

“แอร๊ยยย!! อีแมท!! ทุกวันนี้มึงก็เหมือนแต่งงานแล้ว มึงจะมาแย่งดวงมีผัวกูทำม๊ายยย!!!” แล้วผมก็กลับมาหัวเราะกับการคร่ำครวญของเหมียวต่อ ฮ่าๆๆ อีเว่อ สวยๆ อย่างแกเดี๋ยวก็หาได้เองนั่นแหละ

 

 

หลังจากความชุลมุนตรงหน้าเวทีจบลง เหล่าฝูงฮายีน่าก็สลายตัวกลับรังใครรังมัน ผมเดินกลับไปโต๊ะพร้อมกับเหมียว แบมและเก้า อีเหมียวทำท่าจะแย่งช่อดอกไม้อันเละเทะไปจากมือผม แต่ผมแกล้งดึงหนี มันเลยเบ้ปากใส่ผมอย่างแรง

 

 

“หลังวาเลนไทน์… เฮ้ เก็บอะไรมากินน่ะ” วิคเตอร์ที่กำลังนั่งคุยกับพวกอันเดรหันมาหาผมพร้อมกับวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ เขาอ้าแขนรับให้ผมลงไปนั่งบนตัก กลิ่นเหล้าหึ่งออกมาจากตัว แก้มนี่แดงแจ๋เชียว

 

 

“ได้ช่อดอกไม้ จะแต่งงานแล้วนะ” ผมบอกแล้วหัวเราะคิกคัก ชูช่อดอกไม้ให้วิคเตอร์ดู เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มเมาๆ

 

 

“ฉันขอแต่งไปเป็นปีแล้วนะ” ผมย่นจมูก วิคเตอร์ยิ้มกว้างแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ หันกลับไปคุยกับพวกอันเดรตามเดิม ผมวางช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะ หันกลับมาดูสภาพวิคเตอร์ หูกระต่ายหลุดลุ่ย เสื้อเชิ้ตข้างในปลดกระดุมออกสองเม็ดจนเห็นแผงอกล่ำแพลมๆ ผมยาวที่ผมมัดจุกเป็นซาลาเปามาให้ยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่มันดันกลับทำให้วิคเตอร์ดูยั่วยวนชวนมองเหลือเกิน วัดได้จากสายตาจากผู้หญิงโต๊ะใกล้ๆ นี่ไง แอบมองกันไม่หยุดเลย

 

 

“What the fuck? I’m not. (เหี้ยไรนะ กูเปล่าโว้ย)” แล้วเขาก็หัวเราะกับพวกอันเดรเสียงดัง ไม่รู้ว่าคุยไรกันอยู่ เพราะผมหันไปมองวงดนตรีบนเวทีเพลินๆ วิคเตอร์ใช้แขนซ้ายกอดเอวผมไว้ แขนขวาก็คอยยื่นแก้วไปชนกับเพื่อนๆ ผมหันไปมองเพื่อนตัวเอง พวกมันกำลังนั่งคุยกัน ผมเลยกระเถิบก้นจะลงจากตักวิคเตอร์ เขากระชับแขนแน่นขึ้นทันที

 

 

“Going? (ไปไหน)” ผมชี้ไปทางพวกแชมป์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันนี่เอง พอเขาเห็นว่าจะไปหาเพื่อนเขาเลยยอมปล่อยให้ผมไป ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ว่างใกล้กับไอ้แชมป์

 

 

“มึงจะอยู่ที่สุราษฎร์ฯ กันกี่วันอะ” ผมถามไอ้แชมป์กับคนอื่นๆ พลางตักข้าวผัดปูใส่จาน

 

 

“สามวัน กลับหลังวาเลนไทน์ ผัวมึงเขาอยากอยู่ เขาบอกว่าอยู่บ้านเดี๋ยวโดนพ่อมึงแกล้งไม่ให้อยู่ด้วยกันอีก” ผมทำปากว่าอ้อ ตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

 

 

ปีก่อนตอนวาเลนไทน์ วิคเตอร์โดนไล่ให้กลับนิวยอร์ก พอเขาบอกจะไม่กลับ พ่อเลยขู่ว่างั้นไม่ต้องมาเจอผมอีก เขาเลยยอมกลับ แต่ก็กลับไปแบบเคียดแค้นๆ หน่อยนะ ดีที่ไม่ต่อยพ่อผม ปีนี้ก่อนมาเขาก็ระแวงว่าพ่อจะแกล้งอะไรอีก แต่ดีที่ว่างานเลี้ยงหลังแต่งงานของแคทใกล้วาเลนไทน์พอดี เขาเลยกะอยู่ยาว

 

 

“ปีนี้กะว่าจะได้อะไรจากผัวคะ” เก้าถามในขณะที่ตักอาหารเข้าปาก ผมเคี้ยวข้าวในปาก ทำหน้านึกไปด้วย

 

 

“ไม่รู้อะ ไม่ต้องเอาก็ได้” นึกไม่ออกว่าอยากได้อะไร แต่ก็แอบลุ้นนะว่าวิคเตอร์จะมีอะไรให้มั้ย แต่ถ้าไม่มีให้ผมก็ไม่ได้เครียด

 

 

“แล้วแกอยากได้อะไรจากวิคเตอร์” ผมสั่นหัวตามความรู้สึกจริง ไม่รู้จะอยากได้อะไรจริงๆ นะ สิ่งของเขาก็ให้บ่อยๆ อยู่แล้ว

 

 

“ผัวปรนเปรอขนาดนั้น มันจะไปอยากได้อะไรอีกวะ” ผมแยกเขี้ยวใส่ไอ้แชมป์ มันหัวเราะไม่สะทกสะท้าน

 

 

แต่จริงๆ สิ่งที่อยากได้จากวิคเตอร์ตอนนี้เหรอ คงเป็นความเข้าใจละมั้ง เข้าใจในเรื่องการทำงานของผมสักหน่อย เพราะเขาดุผมอยู่เรื่อย

 

 

บรรยากาศงานเป็นไปด้วยความรื่นเริงบันเทิงใจอย่างที่งานแต่งงานควรจะเป็น เจ้าบ่าวเจ้าสาวสีหน้าแฮปปี้ตลอดงาน พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายยิ้มแย้มเข้ากันได้ดี พอตกดึกแขกหลายคนก็เริ่มขอตัวกลับ ในขณะที่พวกผมเริ่มคึกมากขึ้นเพราะวงดนตรีที่เจ้าภาพจ้างมาเล่นได้จังหวะถึงใจเหลือเกิน ปกติผมไม่ชอบดนตรีสด แต่วงนี้เป็นอีกวงในชีวิตที่ถือว่าเล่นได้ชวนเต้นดี วิคเตอร์เมาได้ที่แต่ยังมีสติอย่างสตรองอยู่เพราะเขากินแต่เหล้า ไม่ได้ผสมแอลกอฮอล์ชนิดอื่นเข้าไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็คึกมากกว่าเดิมแหละ

 

 

“โว้ววว แฟนใครวะ น่ารักจัง ฮึ ฮึ!” เขาจับผมที่กำลังเต้นอยู่กับเพื่อนเข้าไปกอดและก้มลงฟัดแก้มผมอย่างหนักหน่วง

 

 

“แอ๊!!” ผมร้องประท้วงแต่ก็หัวเราะฮิฮะชอบใจ วิคเตอร์ยิ้มกว้างยกมือขยี้หัวผมไปที

 

 

“ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย” เขาก้มลงบอกข้างหู ผมพยักหน้าหงึกๆ และปล่อยให้เขาเดินจูงมือออกไปทางประตูของห้องจัดเลี้ยง ตอนเดินผ่านโต๊ะสาวๆ ที่คอยแอบมองเขาตลอดเวลา สีหน้าพวกเธอแสดงออกถึงความเสียดาย ผมอมยิ้มขำ ส่วนวิคเตอร์เดินหน้ามึนไม่สนใจใคร ผมว่าคนจำเขาได้น้อยนะ เพราะสภาพเขาเซอร์เกินวิคเตอร์คนเดิม ซึ่งนี่แหละที่เขาชอบ ไม่มีคนมาวุ่นวายกับเขา

 

 

ในห้องน้ำไม่มีคนอยู่ ตอนแรกนึกว่าวิคเตอร์จะเดินไปฉี่ที่โถเลย แต่เขากลับพาผมเข้าไปในห้องน้ำริมสุด ปิดฝาชักโครกแล้วนั่งลง ดึงผมให้เดินไปนั่งคร่อมตักและยื่นหน้ามาจูบผมอย่างนัวเนีย ลิ้นของเราสองคนหยอกกันอย่างคุ้นเคย เสียงดูดลิ้นดังเจ๊าะแจ๊ะสักพักก่อนที่วิคเตอร์จะเปลี่ยนไปไซร้ซอกคอผมอย่างหนักหน่วง

 

 

“อือ… เตอร์ จะทำที่นี่เหรอ” ผมครางตาปรือ และพยายามดึงหน้าวิคเตอร์ออก เขายอมหยุด ดึงหน้าออกจากซอกคอผมและมามองหน้ากัน ผมยกมือขึ้นลูบหัวเขาเบาๆ

 

 

“ไม่ได้มีอะไรกันมาเกือบเดือนแล้วนะ” ผมยิ้มน้อยๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากเขาหนึ่งที

 

 

“กลับบ้านก่อนได้มั้ย ในนี้มันแคบ” ไอ้ยักษ์ยิ้มกว้าง พยักหน้ารับกระตือรือร้นราวกับเด็กน้อย ผมหัวเราะชอบใจ ลุกขึ้นยืนให้วิคเตอร์ลุกขึ้นตาม เอื้อมมือไปจับเป้าของเขาที่ตุงเต็มกางเกง วิคเตอร์ก้มลงหอมกลางกระหม่อมผมเบาๆ

 

 

“กลับบ้านตอนนี้กันเลยมั้ย” ผมหัวเราะฮิๆ และปล่อยมือออกจากเป้ากางเกง หันไปเปิดประตูห้องน้ำจูงเขาเดินออกมานอกห้อง

 

 

“จะฉี่มั้ย” วิคเตอร์สั่นหัว

 

 

“ไม่ กะมาทำอย่างอื่น” ผมยิ้มเบ้ปาก วิคเตอร์ยิ้มทะเล้น แลบลิ้นออกมาจากปากและรัวปลายลิ้นเร็วๆ ผมหัวเราะแล้ววิคเตอร์ก็หัวเราะตาม ก่อนจะพากันเดินออกไปจากนอกห้องน้ำ ผมดึงหูกระต่ายออกจากคอเขามาเก็บไว้ในกางเกงสแล็คสีดำของตัวเอง วิคเตอร์ถอดสูทตัวนอกออกและยื่นมาให้ผมถือ ผมรับมาคล้องแขนขวาไว้ หัวใจเต้นหนุบหนับกับความฮ็อตของสามีตัวเองที่เหลือแต่กางเกงสแลคดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ารูปที่เขาเพิ่งแหวกกระดุมเม็ดที่สามออกโชว์แผงอกล่ำ กล้ามแขนแน่นจนเสื้อตึง ใส่ชุดแบบนี้ทีไรใจผมแตกทุกที เขาเซ็กซี่ยิงกว่าตอนถอดเสื้อผ้าซะอีก

 

 

“อยากล่ะสิ” วิคเตอร์ยักคิ้วสองทีเป็นเชิงล้อเลียน ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ วิคเตอร์ยิ้มกว้างกวนๆ ก้มลงมากระซิบข้างหู

 

 

“ฉันรู้ นายมีอารมณ์กับฉันในชุดแบบนี้” แน่ะ! มารู้ดี

 

 

ผมแกล้งทำตาดุเพื่อกลบอาการที่เขาว่า วิคเตอร์ยิ้มแซว ผมเลยรีบจูงมือเขาเดินกลับเข้าไปในงาน มีผู้ชายสองคนเดินเปิดประตูห้องจัดงานออกมาพอดี เราเลยจะแทรกตัวเข้าไปด้านในแต่สองคนนั้นเอ่ยทักไว้ก่อน

 

 

“Are you Victor? (วิคเตอร์รึเปล่าครับ)” เราสองคนหยุดชะงักและหันมองหน้ากันงงๆ ก่อนที่วิคเตอร์จะหันกลับไปพยักหน้าให้กับผู้ชายตัวสูง ผิวขาว หุ่นล่ำสันพอประมาณ หน้าตาดูดีแต่ก็ไม่ได้ว่าหล่อสะกดใจ

 

 

“จำเราได้มั้ย เน?” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นงงๆ ผมเองก็ทำหน้างง ผู้ชายผิวขาวแต่ตัวเตี้ยกว่าคนถามทำหน้าไม่เข้าใจเช่นกัน แต่สายตามองวิคเตอร์วิบวับเชียว ผมไม่ใช่คนมีเรด้าร์หรอกนะ แต่บางคนก็แสดงออกให้เห็นเองอะ

 

 

“เน้?” วิคเตอร์ขมวดคิ้ว ทำหน้านึกอยู่สักพักแต่สุดท้ายก็ส่ายหน้า

 

 

“เราเคยเป็นเพื่อนกันตอนที่นายมาอยู่ไทย ที่เชียงรายอะ ย่านายกับย่าเราเป็นเพื่อนกันไง” วิคเตอร์ทำหน้าคิดอีกสักแปบก่อนที่จะทำหน้าอ๋อ

 

 

“อ้อออ ไม่เจอกันนานมาก” พอจำได้ว่าเป็นใคร วิคเตอร์ก็ยื่นมือซ้ายไปเช็คแฮนด์ เขาไม่ยอมปล่อยมือตัวเองออกจากมือผมเลยใช้อีกข้างยื่นไปแทน อีกฝ่ายเลยยื่นมือซ้ายมาจับแบบงงๆ แต่นี่แหละสามีผม ผู้ชายอินดี้ ทำตามใจตัวเอง

 

 

“มางานนี้ด้วยเหรอ ฉันหมายถึง นายรู้จักใครน่ะ” ผมยืนเงียบๆ ให้เพื่อนเก่าเขาได้คุยกัน จำได้ว่าวิคเตอร์เคยพูดถึงเพื่อนคนหนึ่งตอนมาอยู่ไทยกับย่า ซึ่งคงจะเป็นคนนี้แหละ

 

 

“เจ้าบ่าว เคนน่ะ เขาเป็นญาติเรา” วิคเตอร์ทำตาโต เช่นเดียวกับผมที่รู้สึกประหลาดใจมากเลยทีเดียว

 

 

“จริงเหรอ โอ้ โลกกลมดีนะ ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ย” พี่เนยิ้มละมุน ดวงตาอบอุ่น ผมยิ้มไปด้วย แต่ดูเขาจะไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่

 

 

“ดีใจนะที่ได้เจอนายอีก เจอกันอีกทีนายก็ดังซะแล้ว” วิคเตอร์หัวเราะเบาๆ (หัวเราะง่ายเพราะเมา) ไม่ได้ขยายความตรงข้อนี้ เขาหันมามองผมและหันกลับไปมองเพื่อนเก่าตัวเอง

 

 

“นี่แมท แฟนฉันเอง อย่าประหลาดใจว่าทำไมแฟนฉันขี้เหร่แบบนี้ พอโตขึ้นฉันนิยมของแปลกน่ะ” พูดเองแล้วก็หัวเราะเอง เพื่อนพี่เนยิ้มขำไปด้วย ผมถลึงตาใส่ไอ้ยักษ์ไปทีก่อนจะหันกลับไปหาพี่เน

 

 

 “สวัสดีครับ” ผมได้แต่ก้มหัวเพราะยกมือขึ้นมาไหว้เขาไม่ได้ พี่เนมองผมนิ่งสักพักก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ และก้มหัวให้ผม

 

 

“พอจะเดาออกแหละ เห็นตัวติดกันตลอดเลย” ผมยิ้มแหะ พี่เนยิ้มให้ผมน้อยๆ แล้วหันไปหาวิคเตอร์ต่อ

 

 

“แล้วนี่นายไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่บ้านเจ้าบ่าวมั้ย”

 

 

“แน่นอนสิ” พี่เนยิ้มกว้าง ท่าทางดีใจ

 

 

“โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอกันอีก” พี่เนยื่นมือซ้ายมาเช็คแฮนด์กับวิคเตอร์อีกรอบ

 

 

“เจอกัน” วิคเตอร์ปล่อยมือและยกขึ้นหนึ่งทีเป็นเชิงโบกมือลา พี่เนกับเพื่อนยิ้มให้ผมหนึ่งทีแล้วก็พากันเดินไปทางบันไดที่ลงไปข้างล่าง ผมสั่นหัวน้อยๆ กับความรู้สึกนึกคิดแปลกๆ มันคงแปลกตรงที่นี่เป็นการเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานนับสิบปีที่ธรรมดาปกติสุขมาก ราวกับไม่ได้เจอกันมาแค่สามสี่วัน

 

 

“คุณจำเขาได้จริงๆ รึเปล่า” วิคเตอร์สั่นหัวพร้อมตอบ

 

 

“หึ แต่พอหมอนั่นพูดถึงย่าก็เลยนึกออก แต่ฉันจำหน้าเขาไม่ได้หรอก สิบกว่าปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน ตอนรู้จักกันก็แค่สั้นๆ เอง” ผมพยักหน้าเออออห่อหมกไปเรื่อย และก็ไม่ค่อยแปลกใจกับการที่วิคเตอร์จะเพื่อนเก่าที่โคตรเก่าขนาดนั้นไม่ได้ ขนาดกิ๊กเก่าของเขาบางคนเขายังจำไม่ได้เลย (เยอะจัด)

 

 

เรากลับมาที่โต๊ะ วิคเตอร์นั่งลงข้างอันเดรตามเดิม ส่วนผมขอเขาไปเต้นกับเพื่อนที่ยืนโยกกันอย่างเมามันส์ ตอนนี้นักร้องบนเวทีร้องเพลงแนวเร็กเก้ เหล่าผู้ชายในงานก็โยกกันอย่างถูกอกถูกใจ เหล่าน้องนีก็ดิ้นไปดิ้นมาราวกับโดนน้ำร้อนลวกก้น ส่วนพวกฝรั่งทั้งสี่ที่ฟังเพลงภาษาไทยไม่ออกก็ได้แต่นั่งโยกหัวอยู่ที่โต๊ะ

 

 

เพียงเจอไอ้หนุ่มผมยาววว น้องสาวก็ลืมพี่หมดสิ้นนนน~

           

 

อีแคทเต้นได้ไม่แคร์ชุดกระโปรงลายลูกไม้ฟูฟ่องของมันเลยสักนิด สะบัดลายใหญ่ไม่สนใจร้านเช่าชุดว่าเขาจะคิดยังไงหากมันเต้นจนชุดแหก แต่นั่นแหละที่ทำให้เราสนุกกันได้เต็มที่ไม่มีกั๊ก พวกเราเต้นไปหัวเราะไป ดื่มก่ำกับบรรยากาศงานฉลองรักของเพื่อนสาวคนนี้

 
V
v
v
           

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1711 เมื่อ01-02-2017 22:23:46 »



V
v
v


กว่าจะเลิกงานก็ปาเข้าไปตีหนึ่ง ถ้าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายไม่เข้ามาบอกว่าวันมะรืนต้องบินไปใต้อีก ควรพักผ่อนเก็บแรงเอาไว้พวกเราอาจสนุกกันถึงยันเช้า เราเอ่ยลากัน แต่ก็ไม่ได้ว่าเป็นล่ำลาอาลัย เพราะเดี๋ยวก็เจอกันอีก แค่ยกมือบ๊ายบายตามปกติและแยกย้ายกลับไปขึ้นรถใครรถมัน รถผมอัดฝรั่งตัวใหญ่ไว้สี่คน ผู้ชายไทยร่างสูงอย่างบาสหนึ่งคนและเก้งเตี้ยตันอย่างผมหนึ่งคน แถมไอ้ฝรั่งเตอร์ยังเมาแอ๋ แต่ก็ไม่ได้ขาอ่อนแรงจนเดินไม่ได้ แค่เดินไม่ตรง ต้องคอยประคองเอาไว้ให้ดี แต่ที่ต้องประคองกว่าการเดินก็คือการลวนลามผมนี่แหละ พอเมากรึ่มได้ที่แบบนี้ทีไร ฮอร์โมนพุ่งพล่านหนักเหลือเกิน

           

 

“แมททท…” วิคเตอร์พูดเสียงยานคางและดึงผมให้นอนซุกอก ก้มลงหอมหัวผมดังฟอด มือขวาบีบก้นผมเน้นๆ ต้องคอยจับไม่ให้ลุ่มล่ามไปมากกว่านี้ 

           

 

“เฮ้ย ไอ้วิคเตอร์ ใจเย็นเว้ย” อันเดรแซวขำๆ ทั้งที่ตัวเองก็ตาเยิ้มหน้าแดงก่ำไม่แพ้กัน ผมเม้มปากกลั้นยิ้มขำผสมเขิน วิคเตอร์หัวเราะอ้อแอ้

           

 

“ไอ้อันเดร เมื่อไหร่แกจะมีแฟน แกไม่เงี่ยน เอ้ย เหงาเหรอเวลาอยู่คนเดียว” ในรถหัวเราะกันครื้นเครงกับคำถามของไอ้ยักษ์เตอร์ขี้เมา ไอ้คนถามมีการหัวเราะคิๆ อารมณ์ดีปิดท้ายด้วยนะ

           

 

“ฉันหาที่ระบายได้น่า” ผมทำตาโต สีหน้าสนใจ (เสือก) ขึ้นมาทันใด เพราะคุณอันเดรปิดเงียบเรื่องความรักของตัวเองมาก ไม่รู้ว่าปิดหรือไม่มี หรือยังไงก็ไม่แน่ใจ

           

 

“แน่ะ แกมีแฟนแล้วเหรอวะ ไม่เห็นพามาให้พวกฉันรู้จักเลย” อันเดรยิ้มเยิ้มๆ และสั่นหัวให้คุณเบน

           

 

“ไม่ใช่แฟน แค่เซ็กส์เฟรนด์”

           

 

“ฮู้ววว อุ๊บ!” ด้วยความขี้เผือกแบบเผลอตัว ผมเผลออุทานด้วยความตกใจก่อนจะรู้ตัวแล้วยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง คนอื่นๆ บนรถหัวเราะชอบอกชอบใจกันใหญ่

           

 

“เอเลี่ยนหน่ารั๊กจาง” วิคเตอร์ครางอ้อแอ้และยื่นหน้ามาหอมแก้มผมหนึ่งฟอด บาสหัวเราะลั่นกับภาษาไทยของวิคเตอร์ ผมได้แต่เม้มปากกลั้นเขิน

           

 

หลังจากนั้นคุณอันเดรก็ไม่พูดเรื่องตัวเองต่อ และเนียนพาเปลี่ยนไปเรื่องอื่น ผมรู้สึกพลาดมากที่เผือกไม่แนบเนียน ไม่งั้นได้รู้ไปแล้วว่าสาวคนไหนคือผู้พิชิตใจอันเดรได้ ไม่สิ ไม่เรียกพิชิตใจ เรียกว่าเผด็จศึกอันเดรบนเตียงได้ดีกว่า เอ๊ะ หรืออันเดรไปเผด็จเขานะ แล้วผมเป็นอะไร เรื่องคนอื่นทีไรสนใจมากกว่าเรื่องตัวเองทุกที

           

 

ออสตินใช้เวลาในการขับรถกลับมาที่อพาร์ทเม้นต์ของวิคเตอร์เกือบชั่วโมงจนไอ้ยักษ์หลับไปแล้ว พอจอดรถด้านหน้าได้ผมก็เปิดประตูลงไปยืนรอข้างล่างก่อนและก้มตัวลงสอดเข้าไปในรถปลุกวิคเตอร์ให้ตื่น เขาครางตอบรับ ปรือตาขึ้นแบบมึนๆ

           

 

“ถึงบ้านแล้ว ลงรถเร็ว”

           

 

“อื่อ… ขี้เกียจเดิน…” เขาพึมพำและทำท่าจะหลับต่อ ผมเลยยื่นไปเขย่าไหล่เขา ไอ้ยักษ์ทำงอแงจะไม่ยอมลุก ผมหันไปมองคนอื่นๆ ที่รออยู่ด้านหน้าทางเข้า ออสตินนั่งรอที่คนขับตามเดิมเพื่อจะขับรถไปจอดในช่องจอดรถของวิคเตอร์ ผมนิ่งคิดสักแปบแล้วก็ยื่นมือไปลูบเป้ากางเกงแสนตึงของวิคเตอร์พร้อมกับก้มกระซิบข้างหู

           

 

“Don’t you want to fuck me, baby? (ไม่อยากเอาผมเหรอที่รัก)”

           

 

“ฮึ?” วิคเตอร์ตอบรับ แต่เปลือกตายังปิดอยู่ ผมกัดปากล่างอย่างนึกสนุก ยื่นมือไปรูดซิบกางเกงของเขา ปลดกระดุมออก และใช้มือขวาบีบยักษ์น้อยแรงๆ วิคเตอร์ตัวกระตุก เปลือกตาลืมขึ้น สีหน้าเขางงๆ สักแปบก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจ

           

 

“โว้ว! เหี้ยไร…” สีหน้าเขาพร้อมจะด่า มือขวายกขึ้นเป็นกำปั้นพร้อมจะต่อย ทำเอาผมชะงักไปนิดนึงเหมือนกัน แต่พอเขาเห็นว่าเป็นผม เขาเลยถอนหายใจคล้ายโล่งอก ก่อนจะเปลี่ยนเลิกคิ้วขึ้นสูง

           

 

“ขึ้นห้องได้ยัง” ผมถามอีกที วิคเตอร์ยิ้มตาเยิ้ม ผมยิ้มตอบ ถอยหลังไปหนึ่งก้าวให้เขาก้าวมายืนบนพื้น ผมปิดประตูรถ ออสตินขับไปทางที่จอดรถ วิคเตอร์ยืนเซ ผมรีบไปยืนข้างๆ ประคองเขาไว้และช่วยจับกางเกงไม่ให้ร่วงลงไปกองที่ข้อเท้า 

           

 

“Are you okay, Matt? (แมท แบกมันไหวรึเปล่า)” อันเดรหันมาถามเมื่อเห็นว่าผมกอดเอววิคเตอร์ไว้แน่น แขนซ้ายวิคเตอร์คล้องคอผม และมีอาการยืนโยกเยกนิดหน่อย

           

 

“It’s fine. (สบายมากครับ)” สมัยที่เป็นแค่เด็กฝึกงาน วิคเตอร์ก็ใช่ว่าไม่เคยเมา ผมก็ต้องคอยแบกคอยหามเขาแบบนี้บ่อยๆ อาจจะทุลักทุเลซวนเซไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ไปรอด

           

 

“ใส่กางเกงก่อนมั้ย” ผมแหงนหน้าขึ้นไปถามวิคเตอร์ในขณะที่ก้าวเดินไปด้วยกัน

           

 

“ใส่ทำไม เดี๋ยวก็ถอดดด” ผมปรือตา ไอ้ยักษ์ยิ้มหวาน ก้มลงหอมหัวผมหนึ่งฟอดและใช้มือขวาดึงกางเกงตัวเองไว้ไม่ให้หลุด พวกอันเดรคอยหันมามองเป็นระยะว่าผมยังอยู่ดีหรือเปล่า แต่แม้ว่าวิคเตอร์จะเมาหนัก แต่เขาก็ไม่ใช่คนคอพับขาอ่อนเดินไม่ไหวแค่ต้องคอยประคองชิดใกล้เท่านั้นเอง

           

 

“ค่อยๆ ก้าว อีกนิดเดียวจะถึงห้องแล้ว” ผมบอกอย่างใจเย็นและลุ้นกับการก้าวขึ้นบันไดของวิคเตอร์ แต่ก็ต้องยอมความเจ้าพ่อขี้เมาของเขา แม้จะเมาแต่ยังรู้ตัวหมด เดินเป๋ไปบ้างแต่สุดท้ายก็เดินมาถึงหน้าห้อง ผมยื่นกุญแจให้คุณเบนไปไขเปิดประตูห้อง ออสตินเดินตามขึ้นมาทันพอดี และเป็นคนปิดประตูตามหลัง

           

 

พวกเราแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมัน ผมพาวิคเตอร์เดินกลับเข้าห้องนอนใหญ่ พอปิดประตูได้ วิคเตอร์ก็ถอดกางเกงสแล็คพร้อมกับกางเกงชั้นในสีขาว โยนทักสิโด้ลงพื้น เดินเข้ามาหาผม และถอดกางเกงผมออก ผมปลดกระดุมเสื้อให้วิคเตอร์ แหวกออกจนเห็นรอยสักบนอก วิคเตอร์เดินไปนั่งปลายเตียง ผมปีนขึ้นไปนั่งคร่อมเขา สองแขนคล้องคอหนา จังหวะที่กำลังจะก้มลงจูบเสียงมือถือผมก็ดังขึ้น

           

 

“Fuck it. I want to fuck you now. (ปล่อยแม่ง ฉันเงี่ยxจะตายแล้ว)” ผมมองใบหน้าเหี้ยมของวิคเตอร์อย่างลังเล เวลาแบบนี้คนที่โทรมาต้องโทรมาจากนิวยอร์กแน่ๆ

           

 

“Just two minute. Please. (แค่สองนาที นะ)” วิคเตอร์ขบกรามแน่น ไม่ต่อว่าอะไรแต่แววตากระด้างขึ้น ผมเม้มปาก ท่าทางยังลังเลนิดหน่อย แต่ก็ก้าวขาลงจากตักเขา เดินไปหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา และเดินกลับไปนั่งคร่อมตักเขาตามเดิม วิคเตอร์ใช้สองมือบีบก้นผมเบาๆ

           

 

“Hello?”

           

 

“Matt. It’s me. (แมท ฉันเอง)”

           

 

“Oh. Yes. Hi, Pete. (โอ้ ครับ ว่าไงพีท)” ผมตอบรับกับโปรดิวเซอร์ของหนังที่ผมกำลังทำงานอยู่ด้วย (ที่วิคเตอร์ฝากเดวิดให้อีกทีนั่นแหละ) ส่วนวิคเตอร์ซุกไซ้คอผมอย่างเมามันส์ ผมตาปรือ รู้สึกหวิวช่วงท้องน้อยแต่ก็ต้องกลั้นไม่ให้เปล่งเสียงประหลาดออกไป มือขวาจิกเส้นผมวิคเตอร์ไว้แน่น

           

 

“สคริปต์ไปถึงไหนแล้ว เรียบร้อยดีมั้ย ฉันอยากเอามาเช็ก” ผมรับรู้ได้ว่าน้ำเสียงของพีทก็ไม่ค่อยพอใจหรอก แต่ก็พยายามเก็บอาการเพราะมันเคยมีเหตุการณ์ที่เขาหงุดหงิดใส่ผมและโดนผู้กำกับตำหนิ ยังดีที่หัวเรือใหญ่ของกองไม่ได้ตั้งอคติอะไรกับผม แต่ก็พูดตรงๆ ว่าถ้าในเมื่อเป็นเด็กฝากมาแล้วก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้มาก

           

 

“เอ่อ เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงผมส่งให้ได้มั้ยครับ อะ… คือ อืมมม…” ผมหลับตาแน่นตอนที่วิคเตอร์ก้มลงดูดหัวนมด้านซ้ายอย่างแรงจนเสียววูบ แต่ก็ต้องรีบดึงสติให้กลับมา

           

 

“…เดี๋ยวผมส่งให้นะครับ” ผมได้ยินพีทพ่นลมหายใจ ถ้าอยู่ต่อหน้ากันตอนนี้คงเห็นว่าเขาทำหน้าหงุดหงิดชัดเจนแน่ๆ ผมแอบหน้าเสียไปนิด แต่ก็ไม่เท่ากับหน้าเสียว เพราะวิคเตอร์ซุกไซ้คอผมไม่หยุด และเริ่มยกตัวผมขึ้น ปลายหัวของยักษ์น้อยเกลี่ยอยู่ตรงทางเข้าด้านหลังของผม

           

 

“ฉันจะรอแล้วกัน” ว่าเสร็จเขาก็กดวางสายไปทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่ส่วนปลายของยักษ์น้อยมุดเข้าไปด้านใน

           

 

“เตอร์จ๋าาา” ผมกระดกก้นขึ้นหนีหัวของยักษ์น้อย ยักษ์ใหญ่ดึงหน้าออกจากซอกคอผมแล้วมองตาวาวหน้าเหี้ยม ผมยิ้มแหย ยกสองมือประกบเคราครึ้มอย่างออดอ้อน

           

 

“ขอทำงานแปบเดียวนะ น้า”

           

 

“ไม่เอา ไม่ทำ นี่มันกี่โมงแล้ว อย่าให้ฉันโทรไปด่าที่กองนะ” ผมทำปากเบะ ยื่นหน้าไปหอมแก้มทั้งสองข้างแรงๆ เพื่อเป็นการร้องขอเพิ่มเติม แต่วิคเตอร์ก็ยังเสียงแข็ง

           

 

“ไม่ให้ทำ”

           

 

 

“ขอครึ่งชั่วโมง แค่เช็กบทไม่กี่บท นะๆๆๆ” ผมขย่มตักเขาเบาๆ จุ๊บหน้าผาก จุ๊บแก้มวนไปหลายที ไอ้ยักษ์ที่แม้จะเมาเยิ้มแต่ก็ยังคงความดุดันข่มขวัญได้เหมือนเคย

           

 

“อย่างนี้ทุกที สุดท้ายก็ปล่อยให้ฉันรอจนหลับ” เขาว่าเสียงหงุดหงิด ผมทำหน้ารู้สึกผิด จิตใจกระวนกระวาย ใจนึกห่วงงานเพราะทางนั้นก็คงอยากได้งานไปตรวจเร็วๆ ที่จริงช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมงาน เป็นช่วงที่ผมไม่ควรไปไหนมาไหน ควรอยู่กับทีมงานมากกว่า

           

 

“ขอทำงานก่อนนะวิคเตอร์ คุณก็น่าจะรู้ว่าการเตรียมพรีโปรดัคชั่นมันวุ่นวายแค่ไหน” วิคเตอร์มองหน้าผม มองแบบเมาๆ เปลือกตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่นั่นแหละ และสุดท้ายก็ทำหน้าเซ็ง ยกมือขวาเกาต้นคอและพยักหน้าขึ้นหนึ่งที ผมยิ้มแห้ง จุ๊บหน้าผากเขาไปที ลงจากตักเขา เดินไปถลกผ้านวมรอ วิคเตอร์เดินเปลือยท่อนล่าง ลูกชายแกว่งไกวไปมายามพ่อมันเดิน ท่อนบนใส่เสื้อเชิ้ตขาวแหวกอก เขาล้มตัวลงนอนหน้าตาบ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดี ผมห่มผ้านวมให้เขา และเดินไปเปิดแอร์ ยืนมองเขาหลับตาหน้านิ่งสักพักแล้วก็เดินไปที่โต๊ะทำงานและหยิบงานขึ้นมาทำ

           

 

ผมนั่งอ่านบท แก้บท ตรวจบท เปิดอ่านสมุดโน้ตที่ผมจดคำสั่งของโปรดิวเซอร์กับผู้กำกับว่าสิ่งที่เขาต้องการอะไร และใส่ไปให้เขาเท่าที่จะทำได้ ผมนั่งทำงานไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็หกโมงเช้า ผมอ้าปากหาววอด พิมพ์แก้งานในคอมหน้าสุดท้าย กดเซฟด้วยรอยยิ้มเหนื่อยๆ จากนั้นเข้าอีเมล กดส่งงานไปให้พีท และทิ้งท้ายไว้ว่ามีอะไรโทรหาผมได้อีกทีตอนเช้าของนิวยอร์กก็แล้วกัน

           

 

ผมปิดโคมไฟตรงโต๊ะทำงาน ยืนบิดขี้เกียจสักแปบ อาศัยความสว่างยามเช้าเดินไปขึ้นเตียง วิคเตอร์นอนหลับปุ๋ย ริมฝีปากเผยอน้อยๆ ใบหน้าแดงก่ำมันนิดหน่อย ผมยาวยุ่งรุงรัง บวกกับหนวดเคราดำครึ้ม ถ้าไม่ใช่แฟนกันคงคิดว่าโจรแอบปีนขึ้นมานอนบนเตียง ผมยิ้มขำกับตัวเอง ถลกผ้านวมขึ้นและสอดตัวเข้าไปในนั้น กระเถิบเข้าไปนอนหนุนอกแน่นๆ ของสามี วิคเตอร์ครางแผ่วเบา

           

 

แม้จะทำท่างอนผมเหมือนทุกที แต่เขาก็วาดวงแขนโอบตัวผมไว้ และกดจมูกลงบนกลางกระหม่อมผมหนึ่งที ก่อนที่จะคาไว้แบบนั้น และเราก็หลับไปพร้อมๆ กัน

 

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



หม่าบู๊ไฮ่!

มาแล้วววว ตอนแรกบอกไว้ในเพจว่าจะอัพเมื่อคืนนี้ แต่งานเลิกดึกมากค่ะ พอเสร็จงานก็เมื่อยร่างมากแล้วจริงๆ เลยขอสลบไปก่อน ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ แต่ในส่วนของตอมมันพักเบรกอยู่เลยรีบแว้บมาอัพนิยายไว้ก่อน

ก็เป็นอีกหนึ่งวันของทั้งสองคน หวานกัน งอนกัน แต่ก็นอนกอดกันใสๆ อุอิๆ แต่เอเลี่ยน หนูจะปล่อยให้ไอ้ยักษ์มันอดอยากปากแห้งอย่างนี้ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวผัวอาละวาด -.,-

ได้ดอกไม้งานแต่ง ถึงไม่แต่งทุกวันนี้ก็เหมือนแต่งไปแล้ว ขาดก็แต่มดลูกเนาะแมทเนาะ ท้องได้นี่ลูกหัวปีท้ายปีเลยแหละ 

เขียนฉากแต่งงาน ตอมแอบใจหายนะ มันแบบ ตัวละครเขาโตขึ้นในระดับที่ต้องใช้ชีวิตจริงจังมากแล้ว เหมือนอยู่กับเขามาตั้งแต่สมัยสาวๆ หนุ่มๆ จนวันนี้ชีวิตพัฒนาไปอีกขั้นผ่าตัวละครแคทที่เรียนจบ มีงานทำและแต่งงานแล้ว นั่นหมายถึงวัยของพวกเขาก็โตขึ้น

แต่ถึงแม้จะโตขึ้น โดยส่วนตัวก็รู้สึกว่า พวกนี้ยังคงเหมือนเดิม รู้สึกวัยรุ่นเหมือนเดิม แค่ไม่ได้เรียนหนังสือแล้วเท่านั้นเอง ชีวิตของน้องแมทยังคงสนุสกนานสำเริงสำราญ

เจอกันอีกครึ่งที่เหลือนะคะ สำหรับเรื่อบนี้อย่างที่เคยแจ้งไปคือ จะไม่ได้อัพถี่ๆ แต่ไม่ดองแน่นอนค่ะ เพราะตอมมีงาน เขียนนิยายเรื่องอื่นด้วย ต้องแบ่งๆ เวลากันไปเนอะ



สำหรับใครที่สนใจหนังสือพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน พาร์ทสอง หรือ Only You ตอนนี้ตอมเปิดรีปริ้นรอบแรกแล้วค่ะ เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ > พรีออเดอร์รีปริ้น Only You

เนื้อหาจะเชื่อมต่อจากตอนพิเศษในหนังสือพาร์ท Only You เบาๆ ค่ะ ใครไม่ได้ซื้อ ไม่ต้องห่วงนะคะ ไม่งงแน่นอน ยังไงตอมก็เล่าเนื้อหาตามปกติ ไม่หาย ไม่หล่น แต่บางอย่างที่อยู่ในตอนพิเศษก็ขอเก็บไว้เป็นสิ่งพิเศษสำหรับคนซื้อหนังสือจริงๆ แต่เส้นเรื่องหลักยังไงตอมก็เล่าอยู่แล้ว



ขอบคุณทุกเม้นต์ ทุกโหวตที่มีให้นิยายเรื่องนี้ ขอบคุณทุกการติดตามทั้งแบบแสดงตัวตนและไม่แสดงตัวตน ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่รักนิยายเรื่องนี้ในแบบที่มันเป็นค่ะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1712 เมื่อ01-02-2017 22:42:07 »

พี่เตอร์ต้องเข้าใจเอเลี่ยนน้อยหน่อยนะ เค้าต้องทำงาน

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1713 เมื่อ02-02-2017 00:51:54 »

แมทเข้าข่ายพวกบ้างานเหมือนกันนะ
แอบสงสารยักษ์หน่อยๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1714 เมื่อ02-02-2017 01:38:14 »

ทำไมชื่อตอนดูไม่เป็นมงคลเลยอะ  :katai1: :katai1: :katai1:
ไม่เอาดราม่านะ ภาคนี้ขอซอฟๆเนาะๆๆๆๆๆ :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1715 เมื่อ02-02-2017 02:56:22 »

วิคเตอร์ใจดีขึ้นเยอะเลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1716 เมื่อ02-02-2017 06:46:11 »

เหมือนจะได้กลิ่นมาม่า เรื่องงานก็ทำให้ทะเลาะกันได้นะ ^^

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1717 เมื่อ02-02-2017 07:24:40 »

 :mew1:

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1718 เมื่อ03-02-2017 23:46:20 »

ตามอ่านจนถึง พาท3 และ สนุกมากเลย ตามต่อๆๆๆ จะตามทุกเรื่องเลย

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1719 เมื่อ05-02-2017 20:30:17 »

 :impress3: หนูแมทงานนอกก้ออย่าให้บกพร่อง งานในก้ออย่าให้ตกหล่นน่ะจ้ะ ระวังจะโดนคนเสียบได้น่ะ เพื่อนเก่าวิคเตอร์ดูไม่น่าไว้ใจยังไงชอบกลน่ะ  :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
« ตอบ #1719 เมื่อ: 05-02-2017 20:30:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1720 เมื่อ06-02-2017 20:37:34 »

ในที่สุดก็อ่านทันแล้ว เป็นนิยายที่ทำหัวใจกระเด้งกระดอนตลอดเวลา
หัวเราะแป้บๆ จิตตกกันอีกแระ อ่านไปๆบางทีก็แบบเลิกอ่านดีมั้ย แต่มันเลิกอ่านไม่ได้ไง เหมือนแบบเผือกเรื่องดารามาขนาดนี้แล้ว ก็ต้องเผือกให้ถึงที่สุด

ว่าแต่ว่าชื่อตอนล่าสุดนี่ทำหวาดระแวงจริงๆ ข่าวร้ายของใคร เค้ารึเรา :a5:

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1721 เมื่อ12-02-2017 00:51:40 »

หวานกันเยอะๆน้า อย่าดราม่าเลย ใจบ่ดี 55555

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 50% :01.02.60:
«ตอบ #1722 เมื่อ13-02-2017 19:17:21 »

มดเกาะจอคอมแล้ว!!! :ruready

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1723 เมื่อ17-02-2017 00:59:55 »



Yours and Mine EP.2 [100%]



ผมตื่นนอนอีกทีก็ตอนหกโมงเย็น สิ่งแรกที่ทำคือหยิบมือถือขึ้นมาเช็กอีเมล ข้อความว้อทสแอพว่าพีทส่งคอมเม้นต์อะไรมาบ้างหรือเปล่า แต่ก็นอทติ้ง ไม่มีสายเรียกเข้าจากฝั่งนั่น ไม่มีคอมเม้นต์อะไรกลับมา ผมวางมือถือไว้บนหมอน ยกมือเกาหัว หน้าตามึนงง วิคเตอร์ไม่อยู่บนเตียง แต่ทิ้งเศษซากเสื้อผ้าไว้ตามพื้น ผมเลยลงจากเตียงและเดินตามเก็บไปใส่ตะกร้าให้แล้วก็พาตัวเองเข้าไปอาบน้ำเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับตัวเอง 
   

พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็เดินออกไปข้างนอก ห้องโถง ห้องครัว ชั้นลอยด้านบน ไม่มีใครอยู่เลยสักคน ผมยืนหันซ้ายหันขวางงๆ สักแปบว่าทำไมห้องมันว่างเปล่าแบบนี้ก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาวิคเตอร์ แต่โทรศัพท์ของเขาส่งเสียงดังอยู่ตรงหน้าทีวี ผมเลยกดวางสาย เดินเข้าไปในครัวเพื่อหาอะไรกิน
   

ผมต้มมาม่า ใส่หมูชิ้น ใส่ไข่ ใส่ผัก ขี้เกียจทำอาหารที่มันยุ่งยาก อีกอย่างไม่ได้กินมาม่านานมากแล้วด้วย ห่างหายมาม่าซองละห้าบาทหกบาทที่ไทยไปนาน เพราะที่นิวยอร์กไม่ใช่ราคานี้ ที่สำคัญคือหายากมากกก
   

แกร๊ก
   

เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังนั่งสูดเส้นมาม่า ผมชะโงกตัวไปดูก็เห็นพ่อยักษ์ผมยาวมัดเป็นจุกพาร่างโชกเหงื่อในชุดเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงขาสั้นสีแดงสำหรับออกกำลังกายเข้ามาในห้อง ด้านหลังของเขาคืออันเดรในสภาพไม่ต่างกัน แต่อันเดรสวมหูฟังแบบคาดหัวอยู่ด้วย
   

“Morninggg!” ผมเปล่งเสียงใสพร้อมยิ้มแฉ่ง แต่ที่ได้กลับมาคือความเงียบ อันเดรน่ะไม่ได้ยินเพราะใส่หูฟัง ส่วนไอ้ยักษ์น่ะได้ยินแต่ทำเมินมองผ่านผมไป รอยยิ้มผมเลยค่อยๆ แห้ง
   

“วิคเตอร์” ผมลองเรียกชื่อเขา ไอ้ยักษ์หันมามองหน้านิ่ง ผมฉีกยิ้มกว้าง แต่สักพักเขาก็หันกลับไป เดินไปหยิบมือถือจากหน้าทีวีขึ้นมาและพาร่างยักษ์ของตัวเองเข้าไปในห้องนอน
   

อ้าว ผัวตูเป็นไรวะ
   

“อ้าว แมท” อันเดรที่เพิ่งถอดหูฟังและเพิ่งจะสังเกตเห็นผมเอ่ยทักตอนที่เดินมาโซนห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ผมยิ้มแห้ง มือก็ยังไม่หยุดตักหมูกับน้ำมาม่าเข้าปาก
   

“ไปฟิตเนสกันมาเหรอครับ”
   

“ใช่ๆ มีออสตินไปด้วยอีกคน แต่รายนั้นยังฟิต ขอต่ออีกสักชั่วโมง ไอ้เบนกันแฟนมันไม่อยู่ ไปบ้านบาสเก็ตบอลน่ะ” อันเดรยกน้ำขึ้นดื่ม ผมพยักหน้ากับคำบอกเล่าของเขา ตอนนี้ในหัวมีแต่ภาพสีหน้าสามีเฉยเมยกับตัวเอง
   

“มีอะไรกินมั่งมั้ย”
   

“ไม่มีเลยครับ ขอโทษที ผมไม่ได้ทำอะไรไว้เลย” อันเดรยกมือขวาขึ้นโบก สีหน้าท่าทีสบายๆ
   

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
   

“คุณอยากกินอะไรครับ เดี๋ยวผมทำให้ ว่าจะทำให้วิคเตอร์กินอยู่แล้ว กลับมาจากฟิตเนสน่าจะหิว…” ผมตักไข่ต้มชิ้นสุดท้ายเข้าปากและวางช้อนลง ยิ้มแหะให้อันเดร


“…แต่เดี๋ยวผมขอไปหาวิคเตอร์ก่อนได้มั้ย แล้วเดี๋ยวออกมาทำให้” อันเดรหัวเราะเบาๆ
   

“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ไปหาแฟนนายเถอะ หน้าบูดจนเกย์ๆ กับสาวๆ ในฟิตเนสไม่กล้ามองเลย” แสดงว่าผมไม่ได้คิดไปคนเดียว ผมยิ้มแห้งให้อันเดร ยกถ้วยไปเก็บไว้ในอ่างล้างจาน ล้างมือ เช็ดมือให้แห้ง เปิดตู้เย็น หยิบน้ำดื่มออกมาดื่มล้างปากแล้วก็รีบเดินกลับไปในห้องนอน
   

ตอนที่เดินเข้าไปในห้องนอน วิคเตอร์ก็เดินเปลือยท่อนบน ท่อนล่างมีผ้าขนหนูพันไว้หลวมๆ ออกมาจากห้องน้ำพอดี เขาเหลือบมองผมแว้บเดียวแล้วก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ผมรีบก้าวเท้าเข้าไปหาพ่อยักษ์ผมยาว
   

“เตอร์จ๋า” ผมเรียกเขาเป็นภาษาไทย เจ้ายักษ์ใหญ่ทำเมินเฉย ผมย่นคิ้วและทำปากยื่น มองไอ้ยักษ์ก้มหยิบกางเกงชั้นในสีขาวขึ้นมาถือไว้ในมือ ผมเดินเข้าไปใกล้เขา สองมือเกาะต้นแขนล่ำที่มักจะเป็นหมอนหนุนให้ผมเสมอ
   

“ยักษ์จ๋า ยักษ์” ผมอ้อนเป็นภาษาไทยต่อ วิคเตอร์หันมามอง ผมฉีกยิ้ม แต่วิคเตอร์กลับเดินหนี ผมหน้ามุ่ย ยื่นมือไปจับผ้าขนหนูสีขาวและดึงออก เลยกลายเป็นว่าตอนนี้วิคเตอร์เปลือยทั้งตัว แต่เขาก็แค่หันมามอง เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามประมาณว่า แล้วไงต่อ? ผมเดินเข้าไปกอดตัวล่ำหนาของเขาไว้
   

“How dare you ignore me, huh??!! (กล้าเมินผมงั้นเหรอ ห๊า??!!)” ผมแหงนหน้าถามเขาหน้าตายับย่น ยื่นหน้าไปกัดเนื้อตรงหน้าอกด้านขวาด้วยความมันเขี้ยว หยดน้ำตามตัวเขาทำให้รู้สึกเย็นเบาๆ วิคเตอร์ก้มมองผมนิ่ง
   

“Why don’t you say something?! (ทำไมไม่พูดอะไรบ้างล่ะ)”
   


“Out. (ออกไป)” ผมกัดปากล่างแน่น กระเถิบตัวออกห่างจากตัวเขาเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือขวาไปคว้าหมับไข่ใบโตของเขาเต็มมือแล้วบีบเต็มแรง
   

“Outch! (โอ๊ย!)” วิคเตอร์ตัวกระตุกไปด้านหลังพร้อมสีหน้าเหยเก ผมบีบสองลูกกลมกลึงและดึงให้มันตึง วิคเตอร์ปล่อยกางเกงในลงพื้นและยกสองมือขึ้นเป็นการยอมแพ้ สีหน้าตื่นตระหนกนิดหนึ่ง
   

“Calm down, baby. We can make a deal, eh? (ใจเย็นที่รัก เราคุยกันได้นี่ ใช่มั้ย?)” ผมย่นจมูก บีบมือเต็มแรง วิคเตอร์ส่งเสียงร้องครวญคราง หน้าท้องเกร็งจนกล้ามท้องชัดเป๊ะ
   

“ปล่อยมือก่อนน่า” วิคเตอร์เกลี้ยกล่อม ผมมองหน้าเขาอย่างเข่นเขี้ยวอีกแปบแล้วก็ยอมปล่อยมือ แต่พอมือหลุดออกจากตรงนั้นปุ๊บ วิคเตอร์ก็พุ่งเข้ามากอดรัดผมเต็มแรง
   

“แอ๊! แอ๊ะ!” ผมดิ้นอยู่ในอ้อมแขนวิคเตอร์ พยายามดันตัวเองให้หลุดแต่ก็ไม่เป็นผล วิคเตอร์ใช้แขนซ้ายรัดตัวผมแน่น มือขวาดึงกางเกงขาสั้นกับกางชั้นในผมออก ก่อนจะลากผมไปที่เตียง เขานั่งลงตรงขอบเตียงด้านข้าง พยายามจะจับผมนอนคว่ำหน้าบนตักเขา ผมดิ้นไปหัวเราะไป พยายามหนีจากตัวเขาแต่ก็ไม่สำเร็จ วิคเตอร์จับผมนอนคว่ำหน้าลงบนเตียง แขนขวากดล็อคตัวผมไว้
   

“ไอ้เอเลี่ยนขี้ดื้อ” เพี๊ยะ!
   

“อ๊า!”
   

วิคเตอร์ฟาดมือซ้ายลงบนก้นขวาเต็มแรง ผมตีเท้าในอากาศเหมือนกำลังว่ายน้ำ สองมือพยายามแหวกว่ายมาตบตีกับวิคเตอร์แต่ก็ไปไม่ถึง ทำได้แค่ตีแปะๆ ตรงด้านข้างเขา
   

เพี๊ยะ! “แอ้!”
   

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
   

“แงงง!”
   

วิคเตอร์สลับตีก้นผมอย่างละข้าง ผมร้องงอแง พยายามพลิกตัวหนีแต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหวเช่นเคย มือเขายังคงหนักคงเส้นคงวา ตีจนรู้สึกสะเทือนถึงมดลูก (มีเหรอ?) แสบและเจ็บแปล๊บไปทั้งก้น มือใหญ่พอๆ กับหน้าผม ฟาดมาทีเนื้อแทบแตก
   

“ดื้ออีกมั้ย” เพี๊ยะ!
   

“โน่ววว!” ผมร้องบอก
   

“No, what?”
   

“No, baby!” วิคเตอร์หยุดตีก้นผมพร้อมหัวเราะเสียงทุ้มหล่อ เขาเปลี่ยนเป็นใช้มือลูบก้นผมที่ตอนนี้คงแดงเถือกแทนการตี มือหนาลูบก้นกลมกลึงสองลูกแผ่วเบาจนทำเอาผมเคลิ้มนิดๆ
   

“Alien’s booty, the place where little giant love to live, you know that? (ก้นของเอเลี่ยน ที่ๆ ยักษ์น้อยมันชอบอยู่ รู้มั้ย?)” ผมกัดปากล่างแล้วยิ้ม วิคเตอร์ก้มลงจุ๊บก้นผมทั้งสองข้าง
   

“But it will be a month in three day that he can’t enter his hole, oh—I mean home. (แต่จะครบเดือนอีกสามวันแล้วนะที่ยักษ์น้อยไม่ได้กลับเข้ารู โอ้ ฉันหมายถึงบ้านน่ะ)” ผมหัวเราะคิกคักชอบใจ ค่อยๆ พลิกตัวนอนหงายและดันตัวขึ้นนั่งโดยมีวิคเตอร์ช่วย ผมลุกขึ้นยืนแบบย่อแล้วก็นั่งลงคร่อมตักวิคเตอร์ สองมือของเขาเลื่อนมาโอบอุ้มกอบกุมก้นผมทั้งสองข้างและบีบเบาๆ ใบหน้าของเราห่างกันเพียงปลายจมูกกั้น สายตาของวิคเตอร์ร้อนเร่า มองผมอย่างต้องการ ผมเองก็มองเขาอย่างพยายามห้ามใจ สองมือลูบแผ่นหลังของเขาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
   

“Can you wait for Valentine’s? (รอให้ถึงวาเลนไทน์ก่อนได้มั้ย)” วิคเตอร์กลืนน้ำลายคอ ยื่นหน้ามาจูบผมแผ่วเบา
   

“Why? (ทำไม)” เขาถามเสียงแหบพร่า ผมยิ้ม จูบแก้มเขาหนึ่งที
   

“I don’t have anything for you and I believe you don’t have too. So, we will give what we don’t give to each other for a month. Is that okay? (ผมไม่มีอะไรจะให้คุณเลย และผมเชื่อว่าคุณเองก็ไม่มีเหมือนกัน งั้นเราจะให้สิ่งที่เราไม่ได้ให้กันมาเดือนนึง โอเคมั้ย)” ผมเอื้อมมือซ้ายไปจับยักษ์น้อยที่ตอนนี้กลายร่างเป็นยักษ์ใหญ่ ตั้งผงาดพร้อมทลายถ้ำผมเต็มที่ วิคเตอร์หรี่ตาอ้าปากน้อยๆ ผ่อนลมออกทางปากแผ่วเบา
   

“Oh, baby…” เขาครางหน้าเสียว ยื่นหน้ามาไซ้คอผมเบาๆ ผมปล่อยมือออกจากยักษ์น้อย จับหน้าเขาออกจากซอกคอผม
   

“Deal? (ตกลงมั้ย)” วิคเตอร์พยักหน้าลงรัวๆ สีหน้าและแววตามึนเมามึนมัว
   

“I will fuck you all day all night. I will fuck you till you can’t walk. (ฉันจะเย็x นายทั้งวันทั้งคืน เอาให้นายเดินไม่ได้เลย)” วิคเตอร์คำรามหน้าเหี้ยม ขบกรามแน่นจนกรามขึ้นชัด สองมือบีบก้นผมแรงและสลับกับฟาดอย่างรุนแรงจนผมสะดุ้ง
   

“อัก…” ผมเจ็บจนร้องเสียงขาดหาย สองมือจิกลงบนไหล่วิคเตอร์ วิคเตอร์ฟาดมือลงบนก้นผมทั้งสองข้างพร้อมกันเสียงดังลั่นห้อง
   

“อ้า!” ผมร้องเสียงดัง คิ้วขมวดเข้าหากันเพราะความเจ็บแสบ แต่พอมองหน้าและแววตาแสนหงุดหงิดของวิคเตอร์ที่จ้องมองผมอย่างกะว่าจะเอา (ผม) เป็นเอา (ผม) ตาย มันกลับทำให้ผมรู้สึก… ร้อน
   

“Why do a big giant is so mean? (ทำไมยักษ์ใหญ่ใจร้ายจังเลย)” ผมว่าเสียงแหบ ยื่นหน้าไปกัดริมฝีปากล่างของวิคเตอร์แล้วใช้ฟันครูดเบาๆ วิคเตอร์ผ่อนลมออกทางปากเบาหวิว
   

“Because little alien were mean to me first. (เพราะเอเลี่ยนน้อยใจร้ายกับยักษ์ก่อน)”
   

ป้าบ!!
   

“อ๊ะ!” ผมย่นคิ้ว กัดปากล่างแน่นเมื่อวิคเตอร์สะบัดมือขวาเข้าที่แก้มก้นจุดเดิม ความรู้สึกแสบแผ่ไปทั่วบริเวณ หัวใจผมเต้นตึกตักๆ กับสายตาพร้อมขย้ำของวิคเตอร์ มือขวาเขาบีบเนื้อตรงก้นผมอย่างรุนแรง
   

ผมมองสายตาแผดเผาเร่าร้อนของเขาแล้วก็อดใจไม่ไหวที่จะยื่นลิ้นไปหาเขา วิคเตอร์ดูดลิ้นผมดังจ๊วบ และยื่นลิ้นให้ผมดูดบ้าง ผมดูดลิ้นเขาอย่างอ่อนโยน และเราก็ใช้ปลายลิ้นเกลี่ยกันไปมา สลับกับดูดดึงราวกับดูดอมยิ้มอันโปรด กลางลำตัวของเราสองคนแข็งปัก ผมเองก็ไม่ได้ปลดปล่อยมานานเท่ากับวิคเตอร์นั่นแหละ
   

“อืม!” วิคเตอร์ถอนจูบ นั่งมองหน้าผมด้วยสายตาอยากจะเอาเต็มที่และเต็มแรง ผมใช้มือลูบหัวเขาเบาๆ และมองตาเขาอย่างต้องการเช่นกัน มือซ้ายผมกำยักษ์น้อยไว้แน่น มือขวาวิคเตอร์กำเอเลี่ยนขนาดย่อของผมไว้เต็มมือเช่นกัน เราบีบกันและกันเบาๆ สายตามองกันไม่ละไปไหน ยื่นหน้าไปจุ๊บริมฝีปากกันเป็นระยะ
   

“ฉันอยากเอาแล้ว ไม่ต้องรอวาเลนไทน์หรอก” ผมยิ้มกริ่ม ปล่อยมือออกจากยักษ์น้อย สองมือจับกรอบหน้าหล่อของสามีตัวเอง
   

“หมั่ยด้าย อดทนนะเตอร์”
   

“เตอร์เงี่ยน” ผมหัวเราะชอบใจกับภาษาไทยอันชัดแจ๋ว เรื่องแบบนี้เขาจะพูดชัดมากเพราะได้ครูดีแบบอีแชมป์อีวอร์มบวกกับตัวเขาถนัดเรื่องศาสตร์นี้เป็นพิเศษ ผมยื่นหน้าไปกระซิบข้างหู
   

“แมทก็เงี่ยx” ผมกัดติ่งหูเขาเบาๆ ยักษ์ใหญ่หายใจแรงขึ้น
   

“เย็xกันๆ” ผมหัวเราะคิกคัก หอมแก้มวิคเตอร์ด้วยความมันเขี้ยว ไอ้ยักษ์ทำหน้ามึน สายตามัวเมา ท่าทางอยากเอาจริงๆ เห็นแล้วก็เลยฝังจมูกลงบนแก้มเขาแรงๆ ขยี้แก้มซ้ายเขาด้วยความคันเขี้ยว ผมกัดแก้มเขาไปหนึ่งที วิคเตอร์สอดนิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างซ้ายเข้าไปในรูก้นผมและกระทุ้งเบาๆ
   

“อ๊ะ เตอร์ หมั่ยด้ายน้า” ผมดึงมือเขาออกพร้อมหัวเราะ ไอ้ยักษ์คำรามฮึ่มฮั่ม ท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่าน สองมือบีบเนื้อผมผมไปทั่วตัวราวกับระบายความอัดอั้น
   

“ไอ่แมทเหี้ย” สะดุ้งเลยกู
   

“อุ๊ย! ไอ้แชมป์สอนมาใช่มั้ย”
   

“ชั่ย! บ่อกว้าด่าเหว่หล่าเมียดื้อ!” ผมหัวเราะด้วยความเอ็นดู หน้าตาวิคเตอร์น่ามันเขี้ยวมากกก หน้าตาเหมือนเด็กโดนขัดใจไม่ได้ของเล่นตามที่ต้องการและพร้อมจะงอแง แต่เดี๋ยวต้องไปเคลียร์กะไอ้แชมป์ยกใหญ่ละ อีห่านี่สอนผัวตูแต่ละอย่างนะ
   

“ห้าม ด่า เมีย อย่าง นั้น อีก หยาบคาย รู้มั้ยเตอร์ ไม่ เอา อีก นะ” ผมค่อยๆ พูดเป็นภาษาไทย ไอ้ยักษ์เตอร์หน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ใช่เพราะไม่เข้าใจ วิคเตอร์ก็พอจะจับคำบางคำได้ ที่หน้าเป็นงี้เพราะมันหงุดหงิดใจกับบางคำที่จับความหมายได้นั่นแหละ แต่ไม่รู้ความหมายเขากับความหมายผมตรงกันเปล่านะ
   

“ถ่ำมัย”
   

“เมียหม่ายช้อบ ผัวพูดไม่เพราะเล้ย พูดไม่เพราะ ไม่ให้เอานะ โนฟัคนะ”
   

“โน้! เงี่ยนตายแล้วววว”
   

“ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ยักษ์เอาจมูกมาถูๆ ไซ้ๆ ซอกคอผมเป็นการอ้อน ผมลูบหัวเขาเบาๆ ก้มลงหอมบนเรือนผมนุ่มด้วยความมันเขี้ยว ขยี้จมูกบนหัวเขาแรงๆ ไปที
   

ก๊อกๆ
   

ในขณะที่เรากำลังนั่งกอด นั่งหอมแก้มกันไปมาแก้เงี่ย… เอ้ย แก้อยาก เสียงเคาะประตูก็ทำให้เราหยุดนัวเนียกัน วิคเตอร์ที่ยังคงแข็งพุ่งตรง เดินไปหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพันเอว แต่ไอ้ยักษ์น้อยก็ยังชี้โด่ แต่เขาก็ไม่สนใจ เดินไปเปิดประตูตามปกติ ผมใช้ผ้านวมคลุมท่อนล่างตัวเองไว้ มองออสตินในชุดออกกำลังกายที่ยืนอยู่หน้าประตูเนียนๆ นิ่งๆ
   

“คอนเฟิร์มครับ” ออสตินพูดนิ่ง แต่ใบหน้าเคร่งขรึมจนผมงง ไอ้ยักษ์ยืนนิ่ง หันมามองผมด้วยสายตาอ่านไม่ออก วิคเตอร์หันกลับไปหาออสตินและพยักให้เข้ามาในห้อง ส่วนตัวเขาเดินกลับมาหาผม ถลกผ้านวมขึ้นและสอดตัวเข้ามานอนข้างๆ ผมมองสลับทั้งสองคนแบบไม่เข้าใจ วิคเตอร์กอดผมไว้และพูดเสียงราบเรียบ
   

“ไอ้ฌอณออกจากคุกแล้วนะ” วินาทีที่ได้ยินแบบนั้นตัวผมก็กระตุกอย่างห้ามไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าสีหน้าผมเป็นแบบไหนแต่วิคเตอร์รีบกระชับอ้อมกอดทันที
   

‘อย่าให้กูได้เจอมึงอีก’
   

เสียงประกาศเยือกเย็นแต่แข็งกร้าวของมันในวันที่ผมไปชี้ตัวและยืนยันกับตำรวจว่ามันเป็นคนทำร้ายร่างกายผมยังคงชัดเจน ความหวาดกลัวทำให้ผมตัวสั่น วิคเตอร์ก้มลงจูบขมับผมหนักๆ หนึ่งที
   

“อะ… ออกแล้วแล้วเหรอ” ผมถามแบบสติไม่อยู่กับร่องกับรอย คือก็รู้แหละว่าวันนึงมันต้องออกมา ผมยังไม่ตาย แค่โดนทำร้ายร่างกายอย่างหนัก แต่ผมแค่ตกใจที่มันจะออกมาใช้ชีวิตนอกกรงขังแล้ว
   

และผมก็คิดว่าถ้าจะหวังว่า ช่วงที่มันอยู่ในคุก มันคงปรับปรุงพฤติกรรม ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ไม่รู้ผมจะหวังมากไปหรือเปล่า เพราะก่อนมันจะเข้า มันก็สู้เต็มที่ แต่วิคเตอร์ก็ไม่ยอม จ้างทนายมือดีมาถีบมันเข้าคุกไปจนได้ มันถึงได้พูดแบบนั้นไง แววตาน้ำเสียงของมันในวันนั้น ผมไม่เคยลืม
   

“ถึงมันจะออกมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังจับตาดูมันอยู่ โจชัว เพื่อนผมจะเป็นคนติดตามพฤติกรรมของมัน” ผมพยักหน้าเพราะจำเพื่อนออสตินคนนั้นได้ ตำรวจหนุ่มผิวสี คนที่ดูแลคดีให้กับผม คนที่ช่วยตามจับไอ้ชอนไส้หมามาจนได้ และเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญที่ทำให้ไอ้ฌอณเข้าไปนอนในคุกเป็นปี
   

มันอยู่ในคุกนานจนผมลืมนึกถึงมันไปแล้วจริงๆ แต่ตอนนี้มันได้ออกมาข้างนอกแล้ว ออกมาให้ผมไม่ลืมมัน 
   

“อย่าดื้อกับฉัน อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว เข้าใจมั้ย” ผมพยักหน้าแบบงงๆ รับคำวิคเตอร์ไปเรื่อย ภาพในวันที่มันทำร้ายร่างกายผมจนเลือดตกยางออกยังคงชัดเจนในหัว ความรู้สึกหวาดกลัวย้อนกลับเข้ามาจนทำให้ตัวสั่นเบาๆ ดีที่มีวิคเตอร์คอยกอดปลอบอยู่แบบนี้
   

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปสักพัก วิคเตอร์ก็พาผมไปพบนักจิตวิทยา เพื่อเช็กอาการทางจิตของผมว่ายังปกติ หรือเตลิดไปแล้วหรือไม่ ผลสรุปคือปกติดี ผมไม่ได้มีอาการหวาดผวาติดตัว ไม่ได้มีอาหารหวาดกลัวจนเป็นวิกลจริต แต่ก็มีบ้างที่จะรู้สึกกลัว หรือตกใจ เฉกเช่นตอนนี้
   

“I’m here, baby. I’m here. (ฉันอยู่นี่ที่รัก ฉันอยู่นี่)” วิคเตอร์ก้มลงจูบหน้าผากเมื่อเห็นว่าผมยังตัวสั่น ในความรู้สึกผมตอนนี้ มันไม่ใช่ว่ากลัว เป็นอาการกังวลใจแปลกๆ มากกว่า ไอ้ฌอณหายไปจากสารระบบชีวิตผมนานมาก พอได้ยินว่ามันจะกลับมาวนเวียนใกล้ๆ มันก็มีอาการใจสั่นบ้าง
   

“ผมว่าถ้าย้ายกลับอังกฤษให้เร็วขึ้นก็จะดี รึไม่ก็ย้ายไปบ้านที่แอลเอก่อน” ออสตินเสนอ
   

“ผมขอจบงานหนังเรื่องนี้ก่อนได้มั้ย” สองหนุ่มมองหน้ากันด้วยความลำบากใจ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ หลับตาลง ตั้งสติและสลัดอาการหวาดกลัว อาการหวาดวิตกทั้งหลายออกไปจากใจและหัว
   

มันก็แค่ชั่ววูบเท่านั้นแหละ ผมไม่ได้กลัวมันขนาดนั้น มันจะต้องไม่ส่งผลอะไรกับชีวิตผมเด็ดขาด
   

“ผมจะไม่ดื้อ ผมจะอยู่กับคุณ ถ้าคุณไม่อยู่ ผมจะอยู่กับออสติน จะไม่ทิ้งตัวเองไว้คนเดียวให้เสี่ยงอันตราย” ผมมองหน้าวิคเตอร์ที่มองกลับมาอย่างเรียบเฉย แต่มือซ้ายลูบหัวผมไม่หยุด
   

“ผมไม่อยากให้มันส่งผลอะไรกับชีวิตเรา ผมไม่อยากให้มันต้องมาทำให้เราใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข เพราะนั่นคือสิ่งที่มันต้องการ และผมไม่ต้องการให้มันได้อย่างที่มันต้องการ” ผมพูดเสียงแน่วแน่ แววตาไม่ยอมแพ้ ผมรู้สึกว่าจะต้องไม่อ่อนแอเพื่อให้มันเข้มแข็งแล้วมาทำร้ายผมอีก
   

“มันเป็นข่าวร้ายที่ได้ยินว่าฌอณออกจากสถานที่ที่เหมาะสมกับเขา แต่มันก็จะเป็นแค่เรื่องๆ นึงที่ได้ยินในวันนี้ เรารู้ เราได้ยิน และเราก็ปล่อยมันไป” ผมบอกอย่างเรียบง่าย บอกด้วยความรู้สึกเฉยๆ เพราะมันจะเป็นแค่เรื่องๆ นึงเท่านั้นเอง
   

“และถ้ามันยังคงฝังใจกับความแค้นไร้สาระ ก็ช่างมัน” เรื่องของมึงเถอะอีฌอณ อีผีบ้า แค้นบ้าแค้นบอ
   

วิคเตอร์ยักคิ้วขึ้นหนึ่งทีแล้วหันไปมองออสตินที่สีหน้าดีขึ้น เขายักไหล่ให้บอดี้การ์ดคู่ใจตัวเอง “This is a new Matt. (นี่คือแมทคนใหม่)”
   

ออสตินยิ้มขำน้อยๆ ผมกระตุกยิ้ม วิคเตอร์หันกลับมามองหน้าผมและยิ้มมุมปากให้ ผมพ่นลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกหวาดกลัวในตอนแรกหายไปจนหมดสิ้น    
   

เอาสิไอ้ชอนไชไส้หมาเน่า อยากกลับเข้าคุกอีกรอบก็มา
   

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
   

“บอกโจชัวว่าช่วยสอนเทควันโด้ให้ผมด้วยแล้วกัน”
   

“ไม่ต้องออสติน เดี๋ยวมาหักแขนหักขาฉันทำไง” ออสตินกระตุกยิ้มมุมปากและเดินออกไปจากห้องนอนของเราสองคน ผมหัวเราะคิก หันตัวเข้าหาอกอุ่นของวิคเตอร์ ก้มลงหอมอกซ้ายเขาตรงรอยสัก วิคเตอร์ก้มลงหอมกลางกระหม่อมผมหนึ่งที
   

“ฉันจะไม่ให้ใครทำร้ายนาย”
   

“แต่เมื่อกี้คุณเพิ่งตีก้นผมจนแดงเลยนะ”
   

“ยกเว้นฉันไง” ผมหัวเราะหึๆ วิคเตอร์ยิ้มแป้น ก้มลงหอมแก้มผมหนึ่งฟอด
   

ถึงเขาจะตีก้นผมจนแดง แต่วิคเตอร์ก็ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย อบอุ่นใจเวลาอยู่ใกล้ แต่เวลาขึ้นสังเวียนเรื่องบนเตียง ไอ้ยักษ์ก็เป็นตัวอันตรายเช่นกัน แต่ก็เป็นอันตรายที่ผมพร้อมเสี่ยงด้วยนะ คริๆ




 :katai4:

ว้ากกก ได้อัพต่อสักที หลังจากเว้นมานานหลายวันมาก ติดงานถี่เลยค่ะ  ช่วงนี้นอนดึกมาก และตื่นเช้ามืดติดกันจนเพลีย เดี๋ยวอัพเสร็จต้องรีบนอนและรีบตื่นอีกแล้วค่ะ คือง่วงนะ แต่ก็อยากอัพนิยาย 55555 เลยแบบ ถ่างตาอีกนิดแล้วอัพดีกว่า เพราะเดี๋ยวกลัวลากยาว แล้วจะไม่ได้อัพง่ายๆ บอกเลยว่าหลายวันที่ผ่านมา คันอยากอัพมากกกก แต่งานก็ทำร่างกายเหนื่อยจริง เพราะตอนนี้เขียนสดอัพสดเลยข่าาาา

ข่าวร้าย แต่น้องแมทคนใหม่ก็สตรองมากพอที่จะไม่หนี งานนี้นางไฟต์ อีชอนมันเหมือนผู้คุมวิญญารในแฮร์รี่ พอตเตอร์เหมือนกันนะ คือ ถ้าเรายิ่งทุกข์มันยิ่งได้ใจ มันยิ่งแข็งแกร่งอะไรแบบนั้น

เรื่องการติดคุก ใครทราบข้อเท็จจริงทางกฏหมายแจ้งตอมได้เลยนะคะ ตอมก็คาดเดาบวกกับพาวเว่อร์ของสามีน้องแมทมาช่วยเลยให้มันติดคุกสักปีใสๆ แต่ถ้าใครมีข้อมูลที่แน่นกว่า บอกได้เลยค่าาา

รอวาเลนไทน์นะพี่เตอร์นะ น้องขอออ น้องเองก็อยาก แต่ต้องอดทน คริๆ

เดี๋ยวเจอกันตอนหน้าค่า เม้าท์สั้นๆ รีบไปนอนนน   



สำหรับใครที่สนใจหนังสือพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน พาร์ทสอง หรือ Only You ตอนนี้ตอมเปิดรีปริ้นรอบแรกแล้วค่ะ เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ > พรีออเดอร์รีปริ้น Only You

เนื้อหาจะเชื่อมต่อจากตอนพิเศษในหนังสือพาร์ท Only You เบาๆ ค่ะ ใครไม่ได้ซื้อ ไม่ต้องห่วงนะคะ ไม่งงแน่นอน ยังไงตอมก็เล่าเนื้อหาตามปกติ ไม่หาย ไม่หล่น แต่บางอย่างที่อยู่ในตอนพิเศษก็ขอเก็บไว้เป็นสิ่งพิเศษสำหรับคนซื้อหนังสือจริงๆ แต่เส้นเรื่องหลักยังไงตอมก็เล่าอยู่แล้ว

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1724 เมื่อ17-02-2017 01:39:13 »

กลัวนังฌอน นังจิตมันกลับมาแล้ว  :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1725 เมื่อ17-02-2017 02:44:15 »

เมียทั้งคน ต้องปกป้องกันได้สิ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1726 เมื่อ17-02-2017 06:26:10 »

 :mew5:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1727 เมื่อ17-02-2017 15:19:37 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1728 เมื่อ17-02-2017 18:34:26 »

 :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1729 เมื่อ18-02-2017 00:09:31 »

ฌอนออกมาแล้ว แมทระวังตัวให้มากๆนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
« ตอบ #1729 เมื่อ: 18-02-2017 00:09:31 »





ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.2 100% :17.02.60:
«ตอบ #1730 เมื่อ18-02-2017 01:01:54 »

สมที่ยักษ์งอนแหละ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 35% :04.03.60:
«ตอบ #1731 เมื่อ04-03-2017 13:11:16 »



Yours and Mine EP.3 :: Baby don't rush. You can look but don't touch. (อย่ารีบร้อนสิที่รัก ดูแต่ตามืออย่าต้อง) [35%]




Baby don’t rush.
You can look but don’t touch...




Victor Raymond
   

ผมกำลังแกว่งยามดมใต้จมูกของเอเลี่ยนน้อย ไอ้ตัวจ้อยนอนหลับตาพิงเบาะหน้าตาซีดเซียวอยู่บนรถตู้ที่เพื่อนแมทส่งมารับพวกเราที่ท่าเรือ เมื่อเช้าก่อนขึ้นเครื่องเขาไม่ได้กินอะไรมาเลย แล้วก็ไปกินเครื่องดื่มบำรุงสายตาชนิดหนึ่งเลยยิ่งทำให้พะอืดพะอม อาการแย่ตั้งแต่เครื่องออกจากสนามบินได้ครึ่งชั่วโมง ให้กินอะไรบนเครื่องก็อ้วกออกมาหมดจนนึกว่าตั้งท้อง ยิ่งพอต้องลงเรือข้ามเกาะ โดนแรงกระแทกของคลื่นเข้าไป ไอ้เอเลี่ยนอ้วกจนหมดพลัง ขึ้นรถตู้มาได้ก็หลับตาเอาแรง
   

“อีแมท ตายไม่ได้นะ ฟูลมูนรอเราอยู่นะนังผี” เพื่อนผู้หญิงของแมทคนหนึ่งชะโงกหน้ามาจากเบาะข้างคนขับด้านหน้า ผมฟังออกแค่ฟูลมูน
   

“ไม๊ตายหลอก… อ่อก…” แมทหลับตาตอบเสียงแผ่ว เพื่อนแมทหัวเราะเบาๆ และหันกลับไปมองถนน ขนาดผมใส่แว่นดำยังรู้เลยว่าหน้าตาแฟนตัวเองซีดขนาดไหน
   

ผมจะจับเขานอนตัก แต่แมทส่ายหัว ทำท่าบอกว่าจะอ้วก ผมเลยยื่นถุงพลาสติกให้ เขาดึงไปถือไว้เตรียมพร้อม แต่ก็ไม่มีอะไรออกมาแค่ตัวกระตุก คอโก่งเหมือนจะอ้วกเท่านั้น แมทวางถุงลงบนตัก เอนหัวกับเบาะตามเดิม ดึงยามดมไปดมเอง
   

“Water? (น้ำมั้ย)” แมทพยักหน้าเบาๆ ผมเปิดฝาขวดน้ำและยื่นให้เขา แมทหยิบไปกระดกไปเกือบครึ่งและส่งคืนให้ผม
   

“Thank you teacher.” ผมกระตุกยิ้มขำ สภาพย้ำแย่แต่ยังมีอารมณ์เล่นมุกแสดงว่ายังไม่ถึงกับต้องส่งโรงพยาบาล
   

“ก็ไกลจากท่าเรือเหมือนกันนะ” ไอ้ล่ามแชมป์บ่นอะไรสักอย่าง ผมนั่งมองทางข้างหน้าไปเรื่อย ไม่รู้ว่ารถวิ่งมานานเท่าไหร่แล้วและอีกเมื่อไหร่จะถึง
   

“Victor, chocolate please. (วิคเตอร์ ขอช็อคโกแล็ตหน่อยสิ)” ผมหยิบช็อคโกแล็ตที่แวะซื้อจากร้านสะดวกซื้อก่อนขึ้นรถตู้ออกมาจากถุง แกะห่อกระดาษฟรอยสีเงิน หักเป็นคำแล้วส่งให้ แมทรับไปกิน คำแรกที่เคี้ยวเข้าไปเหมือนจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ไอ้ตัวจ้อยพ่นลมหายใจยาวๆ และอมยิ้มน้อยๆ
   

“One more or two more please. (ขอเพิ่มอีกหนึ่งหรือสองเลยครับ)” ผมหักแบ่งออกเป็นคำๆ อีกสามชิ้น วางไว้บนมือและยื่นส่งให้เขา แมทหยิบเข้าปากชิ้นที่สอง และตามด้วยสาม ก่อนตามด้วยสี่ เขาเขี้ยวหงับๆ แก้มอูมน้อยๆ พอเคี้ยวหมดคำก็กระดกน้ำเปล่าเข้าปาก ทุกอิริยาบถเขาไม่ยอมลืมตามขึ้นมาเลย
   

“ทำไมไม่ลืมตาเลย” ผมถามอย่างข้องใจ มันเป็นเทคนิคอะไรรึเปล่า
   

“ไม่เอาอะ พอเห็นภาพข้างทางผ่านแบบเร็วๆ แล้วคลื่นไส้” ผมทำหน้าว่าอ้อ มองไอ้ตัวแสบของผมหลับตาพริ้มแล้วยิ้มน้อยๆ ปกติแมทไม่ใช่คนเมารถ เมาเครื่องบิน หรือเมาเรือง่ายๆ อาจเพราะเมื่อเช้าระหว่างทางไปสนามบินเขารีบอัดข้าวเข้าท้องแน่นเกินไป กระเพาะคงจะย่อยไม่ทันเลยทำให้พืดพะอม และอ้วกออกมาจนท้องแห้ง
   

รถขับมาได้อีกหลายนาทีก็มาจอดหน้ารีสอร์ทขนาดใหญ่โตกว้างขวางแห่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งของพื้นที่ที่เหลือก็กำลังก่อสร้างเพิ่มเติม ผมลงรถไปก่อน แมทค่อยๆ หลับตาคลำทางตามลงมา ผมจับมือเขา พยุงเขาไว้เมื่อยืนบนพื้น เอเลี่ยนน้อยลืมตาขึ้นมองผมแบบเบลอๆ หน้าตาเขายังคงดูเหมือนพร้อมอ้วกตลอดเวลา สีบนหน้าไม่มีเลยเหลือแต่ความซีดเซียว
   

“Champ, Would you mind to take our bag? (แชมป์ ช่วยถือกระเป๋าไปให้เราหน่อยได้มั้ย)” ไอ้ล่ามทำหน้างง ผมเลยขยายความ
   

“I’m gonna carry him to the room. (ฉันจะอุ้มเขาไปที่ห้อง)” ไอ้ล่ามทำหน้าเก็ททันที แมทมองหน้าผมงงๆ มึนๆ
   

“ได้ๆ ไม่มีปัญหา ไปเถอะครับพ่อคนรักเมีย เดี๋ยวเบ๊คนนี้จัดการให้” ผมฟังออกว่าไม่มีปัญหากับรักเมียแล้วก็ยิ้ม พวกเพื่อนแมททำหน้าตาหมั่นไส้ ส่งเสียงว่าอะไรกันหลายอย่าง ถ้าให้เดาคงจิกกัดแมทกันอยู่ แต่ผมรู้ว่าพวกนั้นไม่ได้จริงจัง ผมย่อตัวลงแล้วใช้แขนซ้ายช้อนก้นเขาไว้ อุ้มเหมือนอุ้มเด็ก แมทเอาแขนขวาคล้องคอ ตามด้วยแขนซ้าย ซุกหน้าเข้ากับซอกคอผม ไม่มีท่าอิดออด สงสัยจะหมดแรงจริงๆ เลยตอบรับการอุ้มสบายๆ
   

“เดี๋ยวออสตินก็ถึง นายให้เขาช่วยก็ได้” ออสตินกับพวกไอ้เบนขึ้นอีกคันตามหลังกันมา แต่พวกนั้นแวะร้านสะดวกซื้อกันนานมาก คันผมเลยออกมาก่อน
   

เพื่อนแมทพยักหน้ารับ เอเลี่ยนเหมือนจะหลับไปแล้ว ผมกระชับตัวเขาขึ้นอีกนิด ใช้แขนขวาช่วยแขนซ้ายอุ้มตัวเขา ความรู้สึกเหมือนมีลูกลิงมาเกาะ ผมเดินไปตามทางที่ลูกศรชี้ เพื่อนแมทบอกชื่อห้องพักของเราสองคนไว้แล้ว
   

“อ้าว คุณเรย์มอนด์” อดีตบอดี้การ์ดของผม ปัจจุบันเป็นสามีของเพื่อนแมทเอ่ยทักตอนที่เราเดินสวนกัน
   

“คุณแมทเป็นอะไรเหรอครับ”
   

“เมาพาหะนะทุกอย่างที่นั่งมาวันนี้” ผมตอบ เคนยิ้มขำน้อยๆ
   

“งั้นไปพักผ่อนเลยครับ ห้องคุณอยู่ตรงผาริมทะเลตามที่ขอ มีอาหารว่างให้นะครับ ส่วนอาหารหลักเดี๋ยวมาทานด้วยกัน”
   

“ขอบใจมาก” ผมยิ้มขอบคุณเขาอีกทีและเดินลงเนินถนนที่เป็นเนินลงเล็กๆ ข้างทางฝั่งซ้ายมือมีบ้านตั้งเรียงรายเห็นวิวทะเล พวกไอ้เบนพักแถบนี้ใกล้กันกับผมนี่แหละ ฝั่งขวาเป็นผาชันเล็กๆ ที่มีบ้านพักตั้งลดหลั่นไต่ระดับลงไปจนติดหาดทราย เดินขึ้นเนินสูงที่ไม่ใช่สูงชันจนปวดน่องก็เจอบ้านไม้สีน้ำตาลแก่ทรงตัวแอลหันหน้าเข้าหาทะเล เป็นบ้านเดี่ยวที่แยกตัวออกมาจากหลังอื่น แต่ก็ไม่ได้ห่างจากหลังอื่นถึงขั้นว่าโดดเดี่ยว แค่มันอยู่ในจุดที่วิวสวยที่สุด เรียกได้ว่าเป็นหลังพิเศษของที่รีสอร์ทแห่งนี้เลยก็ว่าได้
   

ประตูบ้านบานใหญ่ด้านนอกเปิดรออยู่แล้ว ผมเดินเข้าไปตามทางที่เทปูน มันเป็นอาณาจักรเล็กๆ ของบ้านหลังนี้ ซ้ายมือมีบาร์ทรงกลมสองชั้นมุงหลังคาจากตั้งอยู่ตรงมุมบ้านพอดี ใกล้กันเป็นที่อาบน้ำก่อนและลงสระว่ายน้ำ ถัดไปอีกจนติดสระว่ายน้ำและเกือบติดริมผาเป็นอ่างอาบน้ำสีขาวทรงสี่เหลี่ยมกลางแจ้งตั้งอยู่ในศาลาโปร่งเล็กๆ ด้านขวามือคือบ้านพักติดกระจกโปร่งใสทั่วด้านหน้าตัวบ้านเพื่อให้เห็นวิวท้องทะเลสีฟ้าได้ชัดเจน อันที่จริงพื้นที่ตรงนี้ทำเป็นบ้านพักที่สามารถพักได้หลายคน แต่เจ้าของเขาทำพิเศษเพื่อผมตามที่รีเควส


ผมถอดรองเท้าแตะของแมทออก โยนเบาๆ ไว้บนพื้น ตามด้วยถอดรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สสีขาวของตัวเองออก เลื่อนเปิดประตูกระจก เดินเข้าไปด้านในก็เจอโซนนั่งเล่นของบ้าน มีโซฟา มีทีวีพร้อม ขวามือเป็นครัวแบบฟูลออพชั่น เดินผ่านห้องนั่งเล่นไปก็เป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัว เลี้ยวซ้ายไปก็เจอห้องนอนติดกับสระว่ายน้ำ มีระเบียงไม้กั้นให้นั่งเล่นริมน้ำ ด้านข้างติดกับห้องนอนเป็นระเบียงเทปูนทอดตัวยาวไปสุดหน้าผา มีเตียงนอนอาบแดดวางอยู่สองอัน ผ้าม่านสีขาวปลิวไหวไปตามลมเย็นๆ ที่พัดเข้ามา
   

“อือ…” ผมค่อยๆ วางแมทลงบนพื้น เขายืนหน้าตาสลึมสลือ มองไปทั่วห้องอย่างงงๆ ผมถลกผ้านวมสีขาวออก เตรียมเตียงให้เขานอน
   

“จะนอนหรือจะกินอะไรก่อนมั้ย” ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้ว
   

“ไม่เอา นอนก่อน มานอนด้วยกันสิ ไม่อยากนอนคนเดียวอ้ะ” ผมยิ้มกับอาการอ้อนของเอเลี่ยนน้อย ก้มลงจุ๊บเหม่งเขาหนึ่งที ยืดตัวขึ้นถอดแว่นออกจากหน้าแล้ววางไว้บนหัวเตียง
   

“ไปปิดประตูบ้านก่อน” แมทพยักหน้าหงึกๆ ผมดึงยางมัดผมออก ปล่อยผมสยาย ถอดเสื้อยืดสีขาวออกและถือไว้ในมือ เดินไปเลื่อนปิดประตูบ้าน บิดล็อคกลอน แต่ไม่ได้ปิดผ้าม่าน พอเดินกลับเข้าไปในห้องนอน แมทก็ล้มตัวลงนอนรออยู่ก่อนแล้ว
   

“เปิดแอร์มั้ย หรือจะเอาแอร์ธรรมชาติ” แมทหลับตาเหมือนกำลังวัดความเย็นจากลมด้านนอก
   

“เอาลมทะเลก็ได้” ผมพยักหน้า ถอดกางเกงขาสั้น โยนไว้บนพื้นกับเสื้อ เหลือแต่กางเกงในสีขาว ผมคุกเข่าลงบนเตียงดึงแมทให้ลุกขึ้นนั่ง
   

“ถอดเสื้อผ้า จะได้สบายตัว” แมทชูแขนขึ้นให้ผมดึงเสื้อยืดสีขาวแบรนเดียวกับผมออกจากตัว เขาปลดกระดุมกางเกงขาสั้นสีเดียวกับของผม ผมช่วยดึงกางเกงออก โยนลงไปกองที่เดียวกับเสื้อผ้าผม หันกลับมาล้มตัวลงนอนพร้อมกัน แมทเขยิบเข้ามาใกล้ ผมเอาสองมือประสานไว้ใต้ท้ายทอย แมทนอนซบอก มือขวาผลุบเข้าไปในกางเกงในของผมและจับยักษ์น้อยไว้
   

“จะนอนจับมันเหรอ”ผมถามขำๆ แมทแหงนหน้าขึ้นมองผมและพยักหน้าเบาๆ
   

“อือ อยากจับ” ผมยิ้มกว้าง เลื่อนมือซ้ายไปถอดกางเกงในจนหลุดออกจากขา โยนลงไปบนพื้นอย่างไม่สนใจ ผมยกมือขวาออกจากท้ายทอย โอบหลังเอเลี่ยนน้อยไว้ มือซ้ายวางไว้ข้างตัว หลับตาพริ้มกับความเสียววูบน้อยๆ ที่ลูกชายโดนมือเขาจับ แมทลูบตามตัวยักษ์น้อยเบาๆ ในขณะที่เขาค่อยๆ หายใจสม่ำเสมอเป็นการบอกว่าเข้าสู่ห้วงแห่งการนอนไปแล้ว ผมลืมตาขึ้นมองวิวอีกสักแปบก่อนที่จะหอมกลางกระหม่อมแมทหนึ่งทีและหลับตามเขาไป
   

มะรืนนี้ก็วาเลนไทน์ละ หึๆ


   


ติ๊งหน่อง!
   

เสียงกริ่งใสดังขึ้นลั่นบ้าน ผมงัวเงียลืมตาตื่น แอบตกใจนิดหน่อยเมื่อท้องฟ้าที่ตอนมากระจ่างใสตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดงในบรรยากาศยามเย็น ในห้องมืดสนิทเพราะไม่ได้เปิดไฟไว้ ผมหันไปมองแมทก็เห็นเขานอนแผ่หลาอยู่ข้างตัว ผมลุกออกจากเตียง เดินไปเข้าห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูสีขาวออกมาพันรอบเอว เดินตรงไปทางประตูบ้าน ระหว่างทางก็กดเปิดไฟให้ความสว่างในบ้านไปด้วย ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยเมื่อเห็นร่างของคนที่กดกริ่งเมื่อครู่
   

“ไฮ วิคเตอร์” ผมเลิกคิ้วขึ้นตอนที่เปิดประตูและผู้ชายคนนั้นทัก ผมมองเขางงๆ ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายที่ผมไม่คุ้นหน้ามายืนตรงนี้ได้
   

“ผมเอง เนเพื่อนคุณสมัยเด็ก เราเจอกันที่งานแต่งเคนในกรุงเทพฯ ไง” ผมยังคงขมวดคิ้วแต่ก็น้อยกว่าเดิม มองหน้าผู้ชายคนนั้นและพยายามเค้นความทรงจำของตัวเอง จำได้ลางๆ แต่ก็ไม่แม่นนัก
   

“เฮ้… ว่าไง มาได้ไงเนี่ย” ทักไว้ก่อนแล้วกัน จำได้นิดหน่อย แต่จำไม่แม่นหรอก
   

“หมายถึงมาไหน…” ผู้ชายคนนั้นยิ้มขำน้อยๆ ผมยิ้มแบบมึนๆ งงๆ
   

“…ถ้ามางานนี้คือเราเป็นญาติของเจ้าบ่าวไง แต่ถ้ามาที่ห้องนี้ญาติเราให้มาตามไปกินข้าวเย็นด้วยกัน” ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงปนประหลาดใจ เพิ่งตื่นนอนและยังจำหน้าคนนี้ไม่แม่นด้วยเลยเบลอไปหมด
   

“โอเค เดี๋ยวฉันปลุกแฟนแล้วตามไป”
   

“ได้ ที่บาร์ริมทะเลนะ” ผมพยักหน้าไปเรื่อย คิดว่าค่อยเดินตามลูกศรไปเดี๋ยวก็เจอ คนชื่อเนยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกไปทางประตูรั้วใหญ่ของบ้าน ผมหมุนตัวจะกลับไปทางห้องนอน กะจะไปปลุกเอเลี่ยนขี้เซา แต่ก็สะดุ้งตกใจเมื่อเจอเขายืนดื่มน้ำตรงตู้เย็นในสภาพเปลือยเปล่า หน้าตายุ่งเหยิงเพราะเพิ่งตื่นนอน เดินออกมาตอนไหนวะ แล้วไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเห็นรึเปล่าน่ะ 
   

“เพื่อนเก่าคุณคนนั้นเหรอ” แมทกระดกน้ำผลไม้เข้าปากอึกๆ ก้มลงไปหยิบผลไม้ในตู้เย็นออกมาวางไว้บนโต๊ะไม้กลางห้องครัว หยิบมะม่วงขึ้นมากินเต็มปากเต็มคำ 
   

“ฉันยังจำไม่ได้เลยว่าเพื่อนเก่าคนไหน ทำไมนายจำได้” ผมก้าวเท้าเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังเขา แมทหยิบแอปเปิ้ลป้อนผมหนึ่งชิ้น ผมรับเข้าปากแล้วเคี้ยว
   

“ผมจำได้เพราะเขาแปลกๆ อะ” แมทย่นคิ้ว หยิบแอปเปิ้ลเข้าปากตัวเองอีกชิ้นและหยิบให้ผมอีกชิ้นเช่นกัน แล้วเขาก็เปลี่ยนไปหยิบมะม่วงจิ้มพริกในถ้วยเล็กๆ ยัดเข้าปากเคี้ยวดังกรุบๆ
   

“แปลกยังไง” ผมถามหลังจากเคี้ยวแอปเปิ้ลจนหมดปาก แมทหันหน้านิ่วคิ้วย่นมามองผม ทำหน้าครุ่นคิดคิดมากแต่ปากไม่ยอมหยุดขยับ เคี้ยวจนแก้มป่องน่าหยิกแก้ม
   

“ก็แปลกๆ ไม่ค่อยน่าไว้ใจ” ผมเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกแปลกไปกับเขาด้วย ไม่รู้แปลกเพราะเพื่อนเก่าคนนั้นหรือแปลกเพราะแมทบอกว่ามันแปลก
   

“คิดมากอีกแล้วรึเปล่า” แมทย่นจมูก หยิบมะม่วงจิ้มพริกเข้าปากอีกชิ้น เคี้ยวตุ้ยๆ ท่าทางแบบนี้คงหายดีแล้ว ตื่นมาก็กินก่อนเป็นอย่างแรกตามนิสัย
   

“อาจจะมั้ง แรกๆ อาจแปลก แต่เดี๋ยวคงชิน…” แมทหันตัวมาหาผม ผมเลยยกตัวเขาขึ้นไปนั่งบนโต๊ะไม้ แขนขวาเขาคล้องคอผม ส่วนแขนซ้ายเอื้อมไปหยิบผลไม้มากินต่อ
   

“…คุณจะเป็นเพื่อนกับเขาต่อหรือเปล่า” ผมย่นคิ้ว ไม่ค่อยเก็ทกับคำถามเท่าไหร่ พยายามตีความให้ตัวเองเข้าใจง่ายที่สุด คงหมายถึงว่าจะเป็นเพื่อนกันเหมือนพวกไอ้เบนหรือเปล่าละมั้ง
   

“ก็คุยได้ แต่เดี๋ยวเราก็กลับนิวยอร์ก ไม่สนิทกันหรอก” ผมตอบสบายๆ ยกมือเขี่ยน้ำตาลตรงมุมปากออกให้เขา เอเลี่ยนตัวจ้อยมองหน้าผมอย่างขบคิดจนผมทำหน้างง
   

“ทำไม ไม่ชอบหมอนั่นเหรอ” แมทเอียงหน้าไปด้านขวาเล็กน้อย กลอกตาขึ้นบนแว้บหนึ่งและค่อยเลื่อนกลับมามองหน้าผมตามเดิม
   

“ยังไม่ถึงขั้นนั้น…” เขากระเถิบก้นลงจากโต๊ะ แหงนหน้ามองผม สองมือจับกรอบหน้าผมไว้ ดึงให้ลงไปประทับจูบแนบปากเขาพักหนึ่งแล้วปล่อยออก
   

“…อยากเล่นน้ำ” อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง ผมประหลาดใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่คิดจะพูดเรื่องคนอื่นให้เป็นสาระสำคัญหลักระหว่างเราสองคนอยู่แล้ว จำยังจำไม่แม่นเลย ผมเลิกคิ้วขึ้น หันไปมองสระว่ายน้ำด้านนอกที่ยังไม่ได้เปิดไฟในสระและหันกลับมายิ้มให้เขา เจ้าตัวจ้อยยิ้มแฉ่ง
   

“หายแพ้ท้องแล้วใช่มั้ย” แมทยิ้มย่นจมูก หัวเราะในลำคอเสียงเบา
   

“หายแล้ว ได้นอนจับยักษ์น้อยก็หายเลย คึๆ” แมทยิ้มน่ารัก ทำเหล่ลงมองตรงเป้าผม ผมหัวเราะเบาๆ ก้มลงหอมหน้าผากเขาหนึ่งที
   

“ไม่หิวข้าวรึไง”
   

“เดี๋ยวค่อยไปกินก็ได้ อยากเล่นน้ำ จะได้สดชื่น” เขาทำหน้าอ้อน เลื่อนมือลงไปปลดผ้าขนหนูผมออกและปล่อยลงกองกับพื้น ผมยิ้มตาวาว แมทยิ้มกรุ้มกริ่ม
   

“งั้นก็ไป” ผมย่อตัวลงอุ้มก้นเขาขึ้น แมทตวัดสองขาเกี่ยวเอวผมแน่น สองแขนคล้องคอผมหลวมๆ เขามองหน้าผมและยิ้มจิ้มลิ้มแก้มอิ่ม ผมอุ้มเขาไปทางประตูบ้าน แวะเปิดไฟด้านนอกบ้านกับสระว่ายน้ำเพื่อให้ความสว่าง แสงไฟสีส้มนวลตาสว่างไปรอบตัวบ้าน แสงไฟสีเหลืองใต้น้ำส่องสว่างตัดกับน้ำสีฟ้าในสระ เสียงคลื่นทะเลดังแว่วมาจากด้านล่างหน้าผา
   

“อาบน้ำก่อน” ผมพาเขาเดินเข้าไปห้องอาบน้ำฝักบัวก่อนและหลังลงสระว่ายน้ำ ไม่ถึงกับเป็นห้องมีประตูจริงจัง แค่ก่ออิฐขึ้นเป็นสี่เหลี่ยมทรงสูงที่มีทางเข้าเล็กๆ ด้านในมีฝักบัวอันเบ้อเริ่มอยู่บนหัว มีโต๊ะหินทรงสี่เหลี่ยมตั้งใกล้กับผนังด้านข้าง ผมจะวางแมทลงบนพื้น แต่เขาไม่เกี่ยวเอวผมแน่นไม่ยอมลงและยิ้มทะเล้น ผมยิ้มกว้าง บีบก้นเขาเต็มมือ พาเขาไปยืนใต้ฝักบัว เอื้อมมือขวาไปเปิดน้ำ
   

“ฮู้ววว ฮิๆ” แมทส่งเสียงเสียงเล็กเสียงน้อยตอนที่น้ำเย็นๆ รดโดนตัวเราสองคน เขาหลับตาแหงนรับน้ำจากฝักบัว ผมยื่นหน้าไปไซ้คอเขาอย่างหื่นกระหาย ดูดดึงเนื้อตรงคอเต็มปากเต็มคำ
   

“อ่ะ…” แมทครางเสียงแผ่ว ขยับคอคล้ายจะหนี แต่ก็หนีไม่พ้น
   

“เตอร์…” เขาครางเสียงสั่น ผมคำรามในลำคอ อารมณ์พุ่งพล่าน ดันหลังเขาติดกับผนังปูนเรียบด้านสีเทา ไซ้คอเขาหนักหน่วง สูดดมเนื้อที่คุ้นเคย ดูดลำคออย่างกระหาย สองมือแมทจิกผมด้านหลังผมแน่น
   

“…เตอร์จ๋า เล่นน้ำ” เขาครางเป็นภาษาไทย ผมกดจูบลงบนซอกคอฝั่งซ้ายของเขาและผละออก มองตาเขาด้วยอาการอยากฟัด แมทกัดปากล่างแล้วยิ้มยั่ว ยื่นหน้ามาจุ๊บปากผมไปที
   

“อีกสองวันนะเตอร์ คิๆ” ผมยิ้มเหี้ยม ร้ายนักนะไอ้เตี้ย เดี๋ยวถึงวันนั้นก่อนเถอะ ฮึ่ม!
   

“จะจับมัดมือมัดเท้าไม่ให้ลุกไปไหนเลยคอยดู” ผมว่าอย่างหงุดหงิด อยากจับเอเลี่ยนตีก้นให้เนื้อแตก ทั้งหมั่นไส้ ทั้งมันเขี้ยว อยากกัดเนื้อแน่นๆ ของเขาไปทั้งตัวเลย
   

แมทหัวเราะคิกคัก ผมคำรามเบาๆ บอกใจให้อดทนทั้งที่ลูกชายพุ่งตระหง่านพร้อมแทง เราอาบน้ำกันอีกสักพัก ผมก็อุ้มแมทออกมาตรงริมสระน้ำ ผมวางเขาลงบนพื้น
   

“เดี๋ยวนี้ยักษ์ใหญ่ใจดีกับเอเลี่ยนน้อยจังเลย น่ารักกก” แมทหัวเราะชอบอกชอบใจ แหงนหน้ามองผมแว้บหนึ่งก่อนจะยื่นหน้าไปจูบตรงรอยสัก มือขวาซุกซนด้วยการบีบยักษ์น้อยเต็มมือ
   

“ฉันก็ใจดีกับนายตลอด” แมทเอียงคอมองหน้าผมเหมือนเห็นของประหลาด มือขวารูดอาวุธกลางกายของผมเข้าออกเบาๆ
   

“กล้าพูด” ผมหัวเราะ แมทเดินนำผมไปตามขอบสระ มือขวาจับจูงลูกชายผมที่พุ่งตรงแข็งปัก ผมเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เขาพาผมหมาหยุดอยู่ตรงริมผาของบ้านพักเรา
   

“วิวสวยเนอะ” วิวสวยน่ะเห็นด้วย แต่ยืนเฉยๆ ก็ได้ ยืนไปชักของผมไปแบบนี้เกิดเขื่อนแตกขึ้นมาพุ่งแหลมริมผาเลยนะ
   

“จะเล่นมั้ยน้ำน่ะ” แมทยิ้มตาหยี ปล่อยมือออกจากลูกผมและออกแรงผลักผมแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัวลงสระเสียงดังตู้ม น้ำกระจายเป็นวงกว้าง ผมมองไม่เห็นอะไรอยู่พักหนึ่งนอกจากน้ำลางๆ ก่อนจะดีดตัวโผล่ขึ้นจากน้ำแล้วลืมตาขึ้น สะบัดน้ำออกจากหน้ากับหัว มองไอ้เอเลี่ยนขี้ดื้อหัวเราะกิ๊กกั๊กอยู่บนฝั่ง ผมชี้หน้าเขา หน้าตาพร้อมลงโทษ แมทกระโดดตู้มตามลงมา ว่ายน้ำเหมือนท่าหมามาหาผม และใช้สองแขนเกาะคอผมไว้
   

“ฮึๆ” เขาหัวเราะสนุกสนาน ตีขาในน้ำแตกกระจาย ผมยืนเป็นเสาให้เขาเกาะ เดินวนในสระไปเรื่อยๆ
   

“ว่ายเหมือนหมายังไงก็ยังเหมือนหมาอย่างนั้น” แมททำปากยื่น ดีดขาในน้ำสนุกสนาน เขาเป็นคนว่ายน้ำไม่แข็ง คือว่ายได้ แต่ก็ว่ายแบบท่าหมาเมื่อกี้ ถ้าเกิดมีคนจมน้ำพร้อมเขา แมทจะสามารถเอาตัวรอดคนเดียวได้ แต่ไม่สามารถช่วยอีกคนนึงได้
   

“พูดถึงหมา ไมเคิลกับฟอกซ์เป็นไงมั่ง” เขาค่อยๆ ลดแรงดีดขา ผมกระเถิบถอยหลังไปยืนชิดขอบสระฝั่งติดหน้าผา ท้องฟ้าไม่เหลือแสงสีแดงสีส้มปนแล้ว กลายเป็นสีน้ำเงินเข้มที่มีดาววิบวับประดับอยู่บนนั้น
   

“สเตดูแลอย่างดี” แมทเม้มปาก หลบตาผมไปมองทางอื่นวูบหนึ่งแล้วก็กลับมามองต่อ ก่อนจะแค่นยิ้มน้อยๆ ผมย่นคิ้วหรี่ตามองอาการนั้น กำลังคิดอะไรไกลๆ อยู่แน่ๆ
   

“คิดถึงพวกมันเนอะ” ผมกระตุกยิ้ม ดึงเขาเข้ามาชิดติดกับตัว แมทยกสองมือขยุ้มเส้นผมยาวของผมเบาๆ
   

“เดี๋ยวก็ได้กลับไปหาพวกนั้นแล้ว” แมทยิ้มอ่อน ทำหน้านึกอะไรสักแปบก่อนเอ่ยถาม
   

“คุณได้ยินเสียงโทรศัพท์ผมบ้างมั้ย มันเงียบตั้งแต่ขึ้นเครื่องยันตอนนี้เลยอะ” ผมตีหน้านิ่ง สองมือใต้น้ำลูบก้นเขาเบาๆ
   

“เปิดเครื่องให้แล้ว แต่ก็ไม่มีใครโทรมาหรือส่งอะไรมานะ” ผมก้มลงจูบรอยแดงตรงคอเขาที่ผมทำให้ไว้ก่อนลงสระน้ำ แมทย่นคิ้วหน้าตาสงสัย
   

“เหรอ แปลกจัง พีทไม่โทรมาจิก” ไม่แปลกหรอก ก็แค่ปิดเครื่องเขาตั้งแต่ขึ้นเครื่องยันตอนนี้ พ่อกับแม่รู้ว่าอยู่กับผมก็ไม่โทรมากวนแล้ว ไอ้ที่โทรมากวนคือไอ้พวกกองถ่ายของแมทนั่นแหละ ถ้าเกิดเปิดโทรศัพท์ก็เท่ากับแมทต้องเปิดคอมด้วย และเขาก็จะนั่งจับเจ่าอยู่ตรงนั้นแทบไม่ลุกไปไหน
   

“งานก็คงผ่านแล้วนั่นแหละ” เขายังทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
   

“เดี๋ยวก่อนกินข้าวขอมือถือหน่อยนะ” ผมทำหน้าเซ็ง แมททำหน้าอ้อน
   

“ไม่นานหรอก จริงๆ” บอกไม่นานแบบนี้ตลอด แต่ก็นานตลอดทุกที
   

ผมทำหน้าระอา แมททำปากจู๋ ยื่นจมูกมาขยี้แก้มซ้ายผมเบาๆ เรามองหน้ากัน แมทยิ้มแฉ่ง ผมยังคงทำหน้าไร้อารมณ์ สักพักแมทก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วก็ดำลงไปในน้ำ ผมคิดว่าเขาจะดำน้ำเล่น แต่แล้วท้องผมก็หดเกร็งเพราะเอเลี่ยนน้อยกำลังใช้ปากให้กับผมอยู่ใต้น้ำ ผมก้มลงมองหัวสีดำที่เห็นลางๆ ใต้น้ำผงกเข้าผงกออก เป็นความรู้สึกแปลกใหม่และแปลกใจที่แมททำแบบนี้ ผมหลับตาพริ้ม สองแขนวางบนขอบสระด้วยท่วงท่าที่สบาย
   

บุ๋ง~
   

“ฮิๆ เอาอีกมั้ย” แมทผุดขึ้นมาจากน้ำ ส่งยิ้มขำขันมาให้ สองมือลูบน้ำออกจากหน้า ผมยิ้มเมา พยักหน้าน้อยๆ
   

“เอาอีก เอาเยอะๆ เลย แตกเลยก็ได้” แมทลอยหน้าลอยตาและส่ายหัว
   

“ยังแตกไม่ได้” ว่าจบเขาก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ และดำลงไปในน้ำอีกรอบ ผมซี๊ดปากเบาๆ กับความเสียววูบใต้น้ำ แหงนหน้าหลับตาพริ้ม กลืนน้ำลายลงคอเป็นระยะ
   

“ไอ้วิคเตอร์!” ผมเปิดเปลือกตาพรึบ มองไปทางต้นเสียงก็เห็นไอ้อันเดร ไอ้เบนและแฟนไอ้เบนเดินดาหน้าเข้ามาพร้อมกันสามทหารเสือ ผมหน้าเหวออ้าปากค้างน้อยๆ ก้มลงมองหัวทุยๆ ของเอเลี่ยนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำ
   

“อะ… เออ ว่าไง” ไม่รู้แมทดำน้ำได้นานแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็ใช้ปากให้ผมเสียวได้ที่เลย หน้าท้องเกร็งไปหมดแล้ว
   

“ไปกินข้าวกัน” ผมย่นคิ้วเพราะเสียววาบกับความรู้สึกคับแน่นของปากแมท 
   

“เออ เดี๋ยวฉันตามไป พวกแกไปก่อนเลย” โอย เสียวหัวมาก ผมพยายามเก๊กหน้านิ่งไม่ให้มีพิรุธ แต่คนใต้น้ำก็ดูจะสนุกกับการอมของผมเหลือเกิน
   

“แล้วแมทไปไหน” คราวนี้ไอ้เบนถามบ้าง มันมองหาแมทไปรอบที่พัก ผมภาวนาว่าให้แฟนผมอดทนอีกนิดอย่าเพิ่งโผล่ขึ้นมา แต่คำภาวนาไม่เป็นผล เพราะคนที่ไอ้เบนกำลังมองหาอยู่ก็โผล่พรวดขึ้นมาจากน้ำและหัวเราะสดใสอยู่คนเดียว
   

“เสียวมั้ย แปลกดีอะ แต่สนุกมาก อมจุ๊ดจู๋ในน้ำ” ผมอ้าปากพะงาบๆ อยากจะบอกให้ที่รักผมหยุดพูด แต่ก็ไม่ทันแล้ว ไอ้สามคนบนบกอ้าปากหวอกะพริบตาปริบๆ แมทเห็นผมทำหน้าค้างเลยหันไปมองข้างหลังอย่างชาญฉลาด แปบเดียวก็หันกลับมามองผมตาโต หน้าช็อคไปแล้ว
   

“ตายแล้ว” แมทอุทานเบาๆ และหลับตาปี๋ ไม่รู้จะทำหน้าทำตาแบบไหน ท่าทางเลิ่กลั่กสักแปบ และคงเพราะไม่รู้จะทำยังไงเขาเลยเข้ามากอดผม เอาหน้าซุกคอผมไว้ไม่ยอมหันไปมองสามคนนั้น ตอนแรกผมก็อึ้ง แต่ตอนนี้ผมขำไอ้ตัวจ้อยมาก นิ่งตัวแข็งทื่อไปเลย กอดคอผมแน่น หน้าซุกซอกคอผมนิ่ง
   

“แหม่ แมทกินมื้อเย็นก่อนใครเลยนี่หว่า” แฟนไอ้เบนพูดเป็นภาษาไทย ซึ่งน่าจะเป็นการแซวเพราะบาสอมยิ้มน้อยอมยิ้มใหญ่ ไอ้เบนอมยิ้มน้อยๆ ยกมือขึ้นเกาจมูกเบาๆ ส่วนไอ้อันเดรอ้าปากหน้าค้างเติ่ง
   

“Ha! Now I see why you look horny oftentimes with him. He has many tricks for you. (โห มิน่า แกถึงหงี่กับแมทบ่อยๆ ลูกเล่นเยอะแบบนี้นี่เอง)” เบนกับบาสยิ้มขำ ผมกระตุกยิ้มน้อยๆ ยักคิ้วให้ไอ้อันเดรไปที แมทยืนกองผมตัวแข็งทื่อ ผมลูบหลังเขาเบาๆ
   

“How was it? Did you cum? (เป็นไงวะ เสร็จยัง)” ไอ้อันเดรถามต่อ ไอ้นี่ถามอย่างสอดรู้สอดเห็นด้วยนะ ไม่ได้แกล้งถาม
   

“เออน่า พวกแกไปกินข้าวก่อนไป เดี๋ยวตามไป จองที่ให้ด้วย”
   

“เออ…” เบนเนดิคท์รับคำ ก่อนเลื่อนสายตามองแมทยิ้มๆ “…อมจนท่วมปากแล้ว ก็ตามไปนะแมท!”
   

“ฮื้อออ” แมทครางเสียงดังจนไอ้พวกนั้นขำ เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ดันตัวเองชิดติดกับผมกว่าเดิม ผมหัวเราะไปกับพวกไอ้อันเดรด้วย
   

“ตามมาแล้วกัน เดี๋ยวเก็บอาหารไว้ให้” อันเดรบอกและนำทัพทุกคนเดินออกไปจากบ้านพร้อมเสียงหัวเราะเฮฮาและคำแซวเอเลี่ยนของผมมากมาย คนโดนแซวยังซุกคอผมนิ่ง ไม่รู้วิญญาณหลุดออกจากร่างรึยัง นิ่งเหลือเกิน ผมหัวเราะในลำคอและหอมแก้มเขาไปทีด้วยความมันเขี้ยว ทิ้งไว้สักแปบให้หายช็อคก่อนแล้วกัน 
   
   
   
   
 :hao7:


มาแล้ววววว มาแล้วจ้ะ หนูกลับมาแล้วววว

หายไปเพราะติดงานค่ะ จริงๆ งานเสร็จไปสักพักนึงละ แต่ว่าพอเสร็จงาน ตอมก็เริ่มตรวจต้นฉบับเรื่องแม่เรียวจันทร์ต่อเลย ประเด็นคือพรูพคนเดียว เลยช้ามาก รอบนี้ไม่มีคนช่วย เพื่อนที่เคยช่วยพรูพไม่ว่างเลยยย ตอมก็เลย เอาวะ ทำเอง 55555 เลยอาจจะหายไปนาน แต่จริงๆ ถ้าเป็นเรื่องพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน มันบวกกับที่ตอมเขียนสดอัพสดด้วย คือเขียนอีกวัน อัพอีกวัน ไม่มีต้นฉบับในสต็อก เขียนเสร็จก็อัพ อย่างที่เคยแจ้งไปตั้งแต่ต้น เรื่องนี้อาจจะไมไ่ด้อัพถี่ๆ รัวๆ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ ไม่หายแน่นอน เขียนต่อแล้ว ตอมต้องเขียนให้จบอยู่แล้ววว

ช่วงนี้ถ้าเป็นสุดสัปดาห์ ตอมจะติดละครมากกก ติดเพลงพระนางอย่างแรง เลยอาจทำให้สมรรถภาพในการเขียนนิยายช้าลง เพราะมัวแต่ด่าอีทิพย์! 555555

ตอนนี้นะคะ ถ้าเปิดเพลง Zoom ของแม่ทาทายังไปด้วยจะช่วยเพิ่มอรรถรสการอ่าน 55555 แต่หาฟังยากมากกก อันนี้ตอมนึกเนื้อเพลงได้เลยเอามาตั้งเป็นชื่อตอน เหมาะกับแมทและวิคเตอร์ตอนนี้เลย มองได้แต่ตาอย่าต้อง แต่สำหรับแสองผัวเมียก็จะเป็น ต้องได้แต่ห้ามแตก ว้ายยยย คริๆ

เจอกันส่วนต่อไปค่าาา ขอบคุณคนอ่านทุกคนเลยนะคะที่ยังรออ่านนิยายเรื่องนี้เสมอ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ แต่สัญญาว่าจะไม่ดองแน่นอน ไม่ทิ้งคนอ่านแน่ๆ ค่ะ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่พาร์ทแรกจนพาร์ทสุดท้ายละเนอะ ^__^





ขอบคุณทุกเม้นต์ ทุกโหวตที่มีให้นิยายเรื่องนี้ ขอบคุณทุกการติดตามทั้งแบบแสดงตัวตนและไม่แสดงตัวตน ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่รักนิยายเรื่องนี้ในแบบที่มันเป็นค่ะ



แท็ก #LoveNoBoundaries

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 35% :04.03.60:
«ตอบ #1732 เมื่อ04-03-2017 16:19:03 »

 :z1: :z1: o18

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 35% :04.03.60:
«ตอบ #1733 เมื่อ04-03-2017 16:29:50 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 35% :04.03.60:
«ตอบ #1734 เมื่อ04-03-2017 20:48:41 »

แมท หายเมาทุกอย่าง ก็เมาน้องวิคเตอร์ ต่อ
ขำที่ดำน้ำ แล้วอมน้อง...อยู่เพื่อนๆก็มา
แมทโผล่มา แล้วพูดซะเพื่อนรู้หมด
“เสียวมั้ย แปลกดีอะ แต่สนุกมาก อมจุ๊ดจู๋ในน้ำ”  :ling1: :ling1: :ling1:
อังเดรยังย้ำอีก จนแมทตัวแข็ง
"โห มิน่า แกถึงหงี่กับแมทบ่อยๆ ลูกเล่นเยอะแบบนี้นี่เอง" อะจ๊ากกกก
เพื่อนยังรู้ว่าวิคเตอร์หื่น   o22 :z3:
แมท น่ารัก  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 35% :04.03.60:
«ตอบ #1735 เมื่อ06-03-2017 01:34:57 »

ชอบตอนวิคเตอร์พูดไทย น่าร้ากกก

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 35% :04.03.60:
«ตอบ #1736 เมื่อ11-03-2017 01:06:50 »

หายจากเล้าไปร่วมเดือน เพราะวุ่นวายกับการขุดสุสานกับดูซีรีส์ พอกลับมาก้อยังไปไม่ไกลเท่าไหร่  :mew2: แต่เรารอได้จ้าคุณตอม ไม่รีบจ้ะ สบาย ๆ เนอะ อ่านเรื่องของคู่นี้ทีไรต้องมีอาการเสียวประจำ กลัวเจอดราม่า  :mew6: ชีวิตต้องมีทั้งทุกข์ทั้งสุขเนอะ ไม่งั้นคงไร้รสชาติน่าดู แต่เพื่อนเก่าวิคเตอร์นี่ดูแปลก ๆ จริง ๆ น่ะ แต่ยังไม่รู้แปลกยังไง รอตามต่อ ในที่สุดไอ้ฌอนก้อออกจากคุกแหละ แต่ก้อไม่แปลกที่จะติดแค่นี้ เพราะเป็นแค่คดีทำร้ายร่างกาย แค่ได้ติดคุกก้อนับว่าเส้นใหญ่แล้ว มันคงแค้นมาก คุกต่างประเทศก้อน่ากลัวอยู่น่ะ อาจจะออกมาแบบแค้นฝังหุ่นเลยก้อได้ ยังไงหนูแมทก้ออย่าดื้อน่ะจ้ะ ไม่กลัวได้แต่ต้องรอบคอบน้า  :mew1:

ออฟไลน์ rotedump

  • รถดั้มพ์ถังซัมจั๋ง
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 35% :04.03.60:
«ตอบ #1737 เมื่อ15-03-2017 12:06:51 »

หลังจากหลงเขี้ยวกุ้ด มาลงเจ้ายักษ์ต่อ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 70% :19.03.60:
«ตอบ #1738 เมื่อ19-03-2017 21:14:37 »



Yours and Mine EP.3 [70%]




ใช้เวลาสักพักจนลูกชายผมสงบลง แมทก็เหมือนจะสงบตาม เขาหันไปมองรอบบ้านพักเพื่อความแน่ใจ พอเห็นว่าไม่มีใครแล้วจริงๆ ก็พ่นลมหายใจ หน้าตาโล่งอก เขาชวนผมเล่นน้ำต่อ ว่ายเป็นลูกหมาขาสั้นไปทั่วสระ ผมก็ว่ายไล่จับลูกหมามาฟัดแก้ม เสียงหัวเราะแมทดังคลอไปกับเสียงน้ำในสระแตกกระจาย ตอนที่เขาบ่นว่าหิวนั่นแหละถึงพากันขึ้นจากสระไปอาบน้ำล้างตัว ผมให้เขาขี่คอเข้าบ้าน ตรงไปห้องอาบน้ำด้านในบ้านที่แบ่งเป็นโซนปิดกับโซนเปิด โซนเปิดมีทั้งฝักบัวยืนอาบและมีอ่างอาบน้ำตั้งติดริมหน้าผา เปิดกว้างเห็นวิว ถ้ากลัวจะมีสายตาลอบมองก็เลื่อนบานไม้ปิดไว้ก็ได้

           

 

เราช่วยกันอาบน้ำให้กัน ไอ้เอเลี่ยนมันซนไม่หยุดจริงๆ ก่อกวนจนยักษ์น้อยตื่นขึ้นอีกรอบ ผมก็ได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่าน คำรามใส่ไอ้ตัวดีที่หัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจที่ผมทำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้ากด ไม่กล้าจับไอ้เอเลี่ยนเอาก่อนวาเลนไทน์นะ แต่ผมกะจัดหนักจัดเต็มเอาให้เดินขาเปลี้ยขาเป๋อย่างที่บอกเลยต่างหาก หึๆ

           

 

ลูกล่อลูกเล่นท้าชนท้าทายเยอะดีนัก เดี๋ยวจะเอาให้ล้ม

           

 

ผมพาเอเลี่ยนน้อยที่ใส่หมวกสติชท์ที่ผมซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อช่วงปีแรกที่คบกันมากินข้าวริมหาด มันเป็นร้านอาหารของทางรีสอร์ท มีบาร์เครื่องดื่ม มีดีเจเปิดเพลง แต่เคนกับแคทกันที่ไว้ให้เฉพาะแขกของตัวเอง พอแขกที่บ่าวสาวเชิญมารวมตัวกันก็มีจำนวนไม่น้อย ผมทักทายอดีตบอดี้การ์ดของตัวเองอีกสองคน คือพิทกับทอง ผมกับแมทยืนคุยกับสองคนสักพัก ไอ้ตัวจ้อยก็ซอกแซกชีวิตเขาตามประสาคนขี้สอด (อยากด่าว่าเสือกแต่อาจแรงไป) สอดจนได้รู้ว่าทั้งสองคนก็ยังคงทำงานในบริษัทบอดี้การ์ดเช่นเคย

           

 

“ไหนว่าหิว เดี๋ยวกุ้งก็หมดก่อนหรอก” ผมบอกเขา แมทเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าจะรีบมากินกุ้ง เขาหันไปบ๊ายบายให้อดีตบอดี้การ์ดและเดินลุยทรายนำหน้าผมไปตรงเรือไม้ยาวๆ ที่เอามาทำเป็นที่ใส่อาหารทะเล

           

 

“เอาอันนี้ อันนี้ อันนี้ วิคเตอร์กินไรอะ” เขาหันมาถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย

           

 

“เอาแบบนาย” แมทยิ้มกว้าง ยักคิ้วสองทีและหันไปบอกพ่อครัวในชุดสีขาวว่าขออย่างที่เขาสั่งไปสองชุด ผมอมยิ้มกับท่าทางมีความสุขในการกินของเขา

           

 

แมทเป็นคนกินเก่ง แล้วก็อ้วนด้วย ไม่ใช่คนที่กินเท่าไหร่แล้วก็ไม่อ้วน จริงๆ จะว่าอ้วนก็ไม่ถูกซะทีเดียว เขาเป็นประเภทอวบมากกว่า เขารู้ตัวนะ พอรู้ตัวก็จะออกกำลังกาย ตอนนี้มีไอ้เทรนเนอร์แซ็คคอยช่วยดูแลการออกกำลังกาย เขายิ่งได้ใจ บอกว่ากินไปเดี๋ยวแซ็คมันก็ช่วยเอาออกให้ ยังดีที่เขากินเก่งแล้วยังรู้จักรับผิดชอบออกกำลังกาย แต่เขาก็ไม่ใช่คนหุ่นดีมีกล้ามท้องหรอก เป็นประเภทเนื้อแน่นไปทั้งตัว ผมถึงได้อยากกัดเขาบ่อยๆ ไง โดยเฉพาะก้นกับนม ไอ้แซ็คมันทำหน้าที่ได้ดีที่รู้ว่าต้องเน้นช่วงไหนเพื่อผม

           

 

“โอ๊ย น่ารักมากค่า” แมทบึนปากใส่เพื่อนตัวเองที่ผมไม่รู้ว่าพูดอะไรใส่เจ้าตัว เขานั่งลงข้างไอ้ล่าม ผมนั่งลงข้างเขาฝั่งขวามืออีกที โต๊ะของเราอยู่ติดริมทะเล ได้ยินเสียงคลื่นซัดคลอกับเสียงเพลงจากดีเจ

           

 

“พวกแก…” แมทกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง แต่พอเขาหันไปเห็นพวกไอ้อันเดรนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่เยื้องกันเขาเลยรีบหันมาซบอกผม เอาหน้ามุดจนนึกว่าจะขุดหลุม ผมหัวเราะ ไอพวกนั้นเลยหัวเราะตาม คนอื่นที่ไม่เข้าใจก็ทำหน้างง หันมามองแมทที่ตะกุยตะกายมานั่งบนตักผมและซุกหน้าเข้ากับคอผม หันหลังให้พวกอันเดร หมวกสติชท์หลุดออกจากหัวเขา ผมเลยดึงออกมาถือไว้

           

 

“It’s fine, Matt. We knew it but we just saw it with our two eyes. (เอาน่าแมท ใช่ว่าไม่รู้ แค่วันนี้ได้เห็นเต็มสองตา)” ไอ้เบนแซวแล้วผิวปากตาม แฟนมันและไอ้อันเดรผิวตามสมทบ ผมยิ้มขำ แมทหลับตาปี๋ ทำหน้าเหมือนกินของเปรี้ยวเข้าไปเต็มปากเต็มคำ

           

 

“What are you talking about? Can you share? (มีไรกันเหรอ อยากรู้อะ)” เจ้าสาวทำหน้าทำตาอยากรู้อยากเห็น พวกผมหัวเราะกับคำขอว่าให้แบ่งปันเรื่องราวกันบ้าง พอเห็นพวกผมไม่พูดอะไรก็เลยหันมาคาดคั้นเพื่อนตัวเองแทน

           

 

“อีแมท เท๊ลมี!”

           

 

“ไม่! ไม่เสือกสิ!” ผมเข้าใจคำว่าเสือกนะ เพราะพ่อตาด่าผมบ่อย ทั้งโต๊ะหัวเราะกับหน้าตาเหมือนเด็กดื้อของแมทที่หัวแข็งไม่ยอมบอกเพื่อน

           

 

“สามหาวอีผี! เดี๋ยวก็ไล่ออกจากรีสอร์ทซะหรอก”

           

 

“อย่าผยองอีแคท แค่เสียเงินมาเช่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของสักหน่อย”

           

 

“เอ๊า! ผัวแกไม่ได้บอกเหรอคะว่าฉันกับพี่เคนเป็นเจ้าของที่นี่” ประโยคมันยาวเกิน ผมจับใจความไม่ได้ แต่แมทหันมามองผมตาโตอย่างงๆ สลับกลับไปมองเคนและเคทที่ยิ้มกริ่ม

           

 

“จริงอ้ะ?!” แมทหันไปหาสองคนนั้น

           

 

“จริงครับ คุณวิคเตอร์ให้ผมยืมเงินมาลงทุนครึ่งนึง อีกครึ่งเป็นเงินผมเอง ห้องที่คุณแมทพักกับคุณวิคเตอร์ ก็เป็นคำขอบคุณจากผมและแคท เอาไว้วันไหนอยากมาพักผ่อนที่ใต้จะได้ไม่ต้องลำบากหาที่พัก” เคนร่ายยาวพร้อมรอยยิ้ม แมทที่ทำหน้าตะลึงอยู่แล้ว ยิ่งตะลึงมากกว่าเดิม เขาเลื่อนสายตาไปมองเพื่อนตัวเองที่ยืดอกทำหน้าตาภาคภูมิใจ ก่อนจะหันกลับมามองผม

           

 

“Is that true? You gave money to him for making this resort. (จริงเหรอ คุณให้เงินพี่เคนสร้างรีสอร์ทนี้เหรอ)” อ้อ พูดเรื่องนี้กันนี่เอง ผมยักคิ้วขึ้นหนึ่งทีก่อนตอบ

           

 

“A half of it. (แค่ครึ่งเดียว)”

           

 

“โห…” เขาอุทานหน้าตาตื่นและมองไปรอบๆ รีสอร์ทอีกที แล้วก็หันกลับไปหาเจ้าของรีสอร์ททั้งสองคน

           

 

“แบบนี้แกก็ไล่ฉันออกไม่ได้ ถือว่าสามีฉันเป็นหุ้นส่วนครึ่งนึง” แมทว่าด้วยสีหน้าเหนือกว่านิดๆ พวกเพื่อนแมทขำผสมกับร้องโอดโอยเหมือนหมั่นไส้

           

 

สมัยที่เคนเป็นบอดี้การ์ด เขาเคยคุยกับผมเรื่องนี้ ว่าอยากจะกลับมาทำอะไรสักอย่างที่บ้านเกิดตัวเอง ผมไม่รู้จักบ้านเกิดเขาหรอก แต่เขาเล่าให้ฟังว่าบ้านเขาอยู่บนเกาะ ผมเลยแนะนำว่าลองทำรีสอร์ทมั้ย เคนบอกก็อยากทำอยู่แล้ว แต่เงินที่มีอยู่คงไม่พอ กำลังคิดเรื่องกู้ธนาคาร ผมเลยลองถามว่ามันต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เขาก็บอกตัวเลขมา ผมเห็นว่าตัวเองมีเงินที่จะช่วยเขาได้ ก็เลยอยากช่วย ตอนแรกเคนก็ปฏิเสธ แต่ผมบอกว่าไม่ได้ให้ฟรี ให้ยืม ทำเรื่องกู้เงินเป็นกิจจะลักษณะ ผมไม่คิดดอกเบี้ย แต่ต้องใช้เงินคืนให้หมดภายในห้าปี ผมแค่อยากช่วยคนที่เขาดีกับผมเท่านั้นเอง

           

 

“อะชนค่ะ แด่ความรักของอีแคทกับพี่เคน และแด่ความมีน้ำใจของผัวอีแมท” เพื่อนผู้หญิงของแมทที่จำได้ว่าชื่อเหมียวยกแก้วขึ้นและพูดอะไรสักอย่าง ไอ้ล่ามรีบแปลให้พวกฝรั่งอย่างผมเข้าใจ เราชนแก้วกันพร้อมส่งเสียงเฮฮา เชื่อว่าเราเป็นโต๊ะที่ครึกครื้นสุดแล้ว

 

V
v
v
 

           

           



       

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.3 70% :19.03.60:
«ตอบ #1739 เมื่อ19-03-2017 21:15:15 »



V
v
v



ประมาณสามทุ่มครึ่ง แคทกับเคนก็เดินออกไปทักทายแขกโต๊ะอื่น พวกเรานั่งคุยกันสนุกสนานที่โต๊ะ ผมยกแก้วดื่มและมีแมทคอยป้อนอาหารให้จนพวกไอ้อันเดรด่าว่าง่อยแต่ผมก็ไม่สนใจ ลอยหน้าลอยตารับอาหารจากแมทอย่างอร่อย เอเลี่ยนน้อยดูจะเฉยชากับความอายพวกไอ้อันเดรไปแล้ว เพราะเขานั่งเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ และคุยกับเพื่อนอย่างออกรส แก้มป่องของเขาอูมเพราะอาหารแทบจะตลอดเวลา

           

 

“ฉันจะไปห้องน้ำว่ะ มีใครไปมั้ย” เบนเนดิคท์บอก ผมพยักหน้าและวางแก้วเหล้าไว้บนโต๊ะ หันไปกระซิบบอกแมทที่กำลังตักข้าวผัดปูเข้าปากตุ้ยๆ

           

 

“ไปห้องน้ำก่อนนะ” แมทพยักหน้าหงึกๆ ผมลุกขึ้นเดินไปพร้อมไอ้เบน เดินลุยทรายไปทางร้านอาหารของรีสอร์ทที่เป็นพื้นที่เทปูนเดินเหินสะดวกกว่าพื้นทราย มีคนเดินเข้าเดินออกในห้องน้ำพอสมควร โถฉี่เต็มหมด ผมเลยเข้าไปฉี่ในห้องน้ำแทน พอจัดการตัวเองเสร็จก็เดินออกมาล้างมือตรงอ่างล้างมือ ไอ้เบนยังไม่ออกมา ผมเลยออกไปรอมันด้านหน้าห้องน้ำ

           

 

“เฮ้ วิคเตอร์” ผมหันไปมองคนเรียกก็เจอกับคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนเก่าสมัยเด็ก ผมยักคิ้วขึ้นนิดหนึ่งและยิ้มให้เขาน้อยๆ

           

 

“เฮ้”

           

 

“เป็นไงมั่ง สนุกมั้ย” ผมย่นคิ้วนิดหนึ่งที่ถูกถามแบบนั้น คือผมว่ามันเป็นคำถามเห่ยๆ อย่างบอกไม่ถูก เหมือนไม่มีอะไรจะคุยแล้วเลยเลือกคำถามนี้ขึ้นมาใช้ แต่ก็เอาน่ะ มันเห่ยแต่มันก็ไม่ได้แย่ที่จะตอบหรอก

           

 

“สนุกดี ไม่หลับกลางงานก็ถือว่าใช้ได้” ผมยักไหล่สองข้าง ยักคิ้วหน้าตายแบบขอไปที เพื่อนเก่าคนนั้นยิ้มกริ่ม

           

 

“นายลองเครื่องดื่มสูตรพิเศษของบาร์รึยัง แจ่มมากเลยนะ” เขาทำหน้าตาบอกว่ามันเจ๋งจริงอย่างที่พูด ผมทำหน้ามึนๆ งงๆ สักพักไอ้เบนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

           

 

“โทษที ถ่ายหนักนิดหน่อย” ผมพยักหน้าขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ไอ้เบนหันไปมองเพื่อนเก่าของผมคนนั้นและยิ้มให้นิดหน่อย

           

 

“ผมชื่อเนครับ คุณคงเป็นเพื่อนวิคเตอร์ ผมเองก็เคยเป็นเพื่อนกับวิคเตอร์สมัยเด็กๆ” เบนเนดิคท์เลิกคิ้วขึ้นและหันมามองผมเป็นเชิงถาม

           

 

“ก็ไม่เด็กมาก ช่วงมอปลายเห็นจะได้ แต่รู้จักกันแค่อาทิตย์หรือสองอาทิตย์เอง” ไอ้เบนทำหน้าว่าอ้อ

           

 

“ลองไปชิมเหล้าสูตรพิเศษของบาร์มั้ย ไปด้วยกันมั้ยครับคุณ…”

           

 

“…เบนเนดิคท์ครับ”

           

 

“อ่า เบนเนดิคท์ ไปด้วยกันมั้ย ผมนำเสนอเลย พอดีผมช่วยเคนเขาคิดสูตรด้วยน่ะเลยอยากให้ลอง” ผมกับไอ้เบนมองหน้ากันนิดหนึ่งและตกลงกันทางสายตาว่าไปก็ไป เพราะยังไงก็ต้องเดินผ่านบาร์ที่ว่านั่นอยู่แล้ว

           

 

ผมกับไอ้เบนเดินตามเพื่อนเก่าที่ผมต้องถามชื่อเขาอีกรอบเพื่อความชัวร์ว่าชื่อเนอะไรนั่นถูกมั้ย เขาดูไม่ถือสาที่ผมจำชื่อเขาไม่แม่น ไม่ใช่ว่าผมลืมเขานะ แต่มันสิบกว่าปีเกือบยี่สิบปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ผมจำช่วงเวลานั้นไม่แม่นด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคนพูดเก่งแบบนี้หรือเปล่า เพราะตอนนี้เขาพูดไปเรื่อย ตอนแรกนึกว่าจะน่ารำคาญ แต่เขาเป็นคนพูดจาไม่ชวนหงุดหงิดดีนะ     

 

 

“ผมลองสูตรกับบาร์เทนเดอร์ของรีสอร์ท แล้วก็ให้หลายๆ คนช่วยกันชิม พอดีผมเคยทำงานบาร์มาบ้าง เคนเลยเรียกมาช่วย” เขาพูดจาคล่องแคล่วในขณะที่หันไปพูดกับบาร์เทนเดอร์ว่าต้องการอะไรแบบไหนยังไงบ้าง ผมกับไอ้เบนก็มีหน้าที่นั่งฟังและนั่งรอเครื่องดื่มสูตรพิเศษจากเขา

           

 

“พรุ่งนี้ตื่นนอนแล้วฉันว่าจะไปเล่น Slip N Fly สไลด์เดอร์น้ำอะ แกไปด้วยกันป่ะ” ไอ้เบนถามแทรกเสียงเพลงมันส์ๆ ของดีเจที่เปิดสร้างบรรยากาศคึกคักให้กับงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้เวดดิ้งของบ่าวสาว

           

 

“ไม่รู้ว่ะ ถ้าเอเลี่ยนไม่งอแงก็ไป นี่ฉันก็พยายามไม่ให้จับมือถืออยู่ เดี๋ยวแม่งกองถ่ายโทรหาก็เอาแต่คุยงานอีก” ผมว่าหน้าเซ็งๆ ไอ้เบนยิ้มขำหน่อยๆ

           

 

“เอาน่า ความฝันของแมท แกเคยบอกว่าจะซัพพอร์ตเขาไม่ใช่เหรอ” ผมพ่นลมหายใจเบาๆ

           

 

“มันก็ใช่ แต่ฉันรู้สึกว่าความทะเยอะทะยานของแมทมันมากไป” ผมว่าหน้าเครียดนิดหน่อย คิดมาสักพักแต่ก็ยังไม่ได้คิดให้มันเป็นประเด็นใหญ่โตมาก เพราะผมคิดว่ายังคอนโทรลได้ ไม่ใช่ปัญหา แต่อย่าคลาดสายตาเท่านั้นเอง

           

 

“แมทไม่ต้องมีอาชีพก็ได้ ฉันรู้ว่าแกเลี้ยงเขาได้ แต่เขาคงไม่คิดแบบฉัน แมทมีความฝัน ซึ่งฝันเขามันคือการทำมาหากิน”

           

 

“ผมชื่นชมคนมีฝันนะ แล้วจะยิ่งน่าชื่นชมถ้าเขาคนนั้นทำฝันให้เป็นจริงอย่างที่ตั้งใจ” ผมกำลังจะพูดกับไอ้เบนต่อแต่ก็หยุดพูดไปเพราะเนพูดขึ้นมาพร้อมกับยื่นแก้วค็อกเทลที่มีน้ำสีฟ้าไล่สีเข้มอ่อนจากล่างไปบนมาให้ผมกับไอ้อันเดร

           

 

“ขอโทษที พอดีได้ยินน่ะ เหมือนกำลังพูดถึงแฟนนายใช่มั้ย” ผมพยักหน้านิดหนึ่งและยกแก้วขึ้นดื่ม อืม… อร่อยดี เอเลี่ยนน้อยน่าจะชอบรสชาติแบบนี้

           

 

“ขออีกแก้วได้มั้ย จะเอาไปให้แฟน…” เพื่อนเก่าผมพยักหน้าด้วยความยินดีและหันไปสั่งบาร์เทนเดอร์อย่างรวดเร็วก่อนหันกลับมาหาผม

           

 

“…ไม่ได้เจอกันนาน แล้วนายมีแฟนรึเปล่า” เอาจริง ผมถามไปงั้นอะ มันคงเห่ยพอๆ กับที่เขาถามว่าสนุกมั้ยแหละมั้ง ก็เห็นว่าคุยเรื่องแฟนพอดีเลยถามให้มันเชื่อมกัน เนยิ้มอ่อน ไหวไหล่สองข้างหนึ่งทีแล้วส่ายหัว

           

 

“ไม่มีหรอก โสดมานานแล้ว” ผมยกหน้าขึ้นหนึ่งทีเป็นการบอกว่ารู้เรื่องกับสิ่งที่เขาบอก ยกแก้วขึ้นดื่มอีกสองอึก หันไปมองไอ้เบน มันก็ทำหน้าว่าชอบเครื่องดื่มอันนี้เหมือนกัน

           

 

“คิดสูตรเก่งนะครับ เมื่อกี้บอกว่าเคยทำงานบาร์ใช่มั้ย” ไอ้เบนถามพลางมองน้ำสีฟ้าเข้มสลับอ่อนในแก้ว

           

 

“ใช่ครับ เคยทำอยู่เกือบสามปี แรกๆ แค่อยากลอง แต่พอทำๆ ไปดันสนุก” ไอ้เบนยิ้มให้เนที่ยิ้มแย้มตลอดเวลาการพูด ผมกระตุกยิ้มเพียงนิด หันไปมองทางโต๊ะตัวเอง เห็นแมทมองมาทางนี้พอดี แต่พอเห็นผมมองตอบเขาก็หันหน้ากลับ ผมเลยหันกลับมามองว่าบาร์เทนเดอร์ทำของแมทเสร็จหรือยัง

           

 

“โห ขอไปแก้วเดียวไม่ใช่เหรอ ทำไมทำเยอะจัง” ผมมองแก้วค็อกเทลแบบเดียวกับที่ผมถือและน้ำสีเดียวกันบนถาดสีน้ำตาลด้วยความตกใจเล็กๆ

           

 

“อ๋อ เอาไปเผื่อคนอื่นบนโต๊ะด้วยไง” ผมพยักหน้ากับเน ยื่นมือไปคว้ามาหนึ่งแก้ว

           

 

“ไอ้เบน ฉันจะเอาไปให้แมทก่อน”

           

 

“เออ ไปด้วย”

           

 

“เน ฝากหน่อยแล้วกันนะ” ผมว่าแค่นั้น เนพยักหน้าพร้อมยิ้มให้ ผมเดินออกจากบาร์ เดินกลับไปที่โต๊ะ ไอ้เบนเดินไปนั่งข้างแฟนมัน ผมเดินไปนั่งข้างแฟนผม สะกิดให้เขาขึ้นมานั่งบนตัก แมทเขยิบจากเก้าอี้ตัวเองมานั่งบนตักผม

           

 

“ไปทำอะไรมา” สติชท์น้อยถาม ผมยิ้มและยื่นแก้วน้ำสีฟ้าให้

           

 

“เพื่อนเก่าฉันคนนั้นเขาแนะนำเครื่องดื่มน่ะ อร่อยดีนะ ลองสิ” แมทยื่นมือมารับ ยกเข้าปากไปสองสามอึก เขาทำหน้าคิดแปบนึงก่อนจะพยักหน้าว่าชอบ

           

 

“อร่อยๆ” ผมยิ้มให้เด็กช่างกิน เขายกแก้วเข้าปากต่ออีกหลายอึกจนกระทั่งหมด ตอนนั้นเองที่เนเดินมาพร้อมผู้หญิงรูปร่างหน้าตาดีคนหนึ่ง ทั้งสองคนถือถาดที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มสีฟ้าอันนั้น

           

 

“The blue wave, the special drink from resort. (เดอะบลูเวฟ เครื่องดื่มสูตรพิเศษจากรีสอร์ทครับ)” พวกเพื่อนๆ แมทส่งเสียงเฮฮาตอบรับ ไอ้ล่ามเป็นคนลุกขึ้นหยิบน้ำส่งให้ทุกคนบนโต๊ะ พอแจกจ่ายน้ำจนหมดเคนก็เลยแนะนำเนให้ทุกคนรู้จัก

           

 

“ทุกคน อันนี้เน ญาติฝั่งพ่อผมเองครับ” พวกคนไทยสวัสดีเนพร้อมเพรียงกัน แล้วเคนก็แนะนำเพื่อนผู้หญิงของเคนให้ได้รู้จักซึ่งผมมัวแต่วุ่นวายกับการป้อนอาหารให้สติชท์น้อยเลยไม่ได้สนใจ

           

 

“เอ่อ วิคเตอร์…” ผมที่กำลังเคี้ยวเนื้อกุ้งที่แมทแกะแล้วส่งให้เข้าปากชะโงกหน้าไปมองทางต้นเสียงก็เลยเห็นว่าเป็นไอ้ล่ามเรียก ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถามว่ามีอะไร

           

 

“…สาวๆ เพื่อนพี่เนเขาอยากถ่ายรูปกับคุณอะ ได้มั้ย” ผมแหงนหน้าไปมองหน้าแมทเป็นการขออนุญาตทันที แมทหันไปมองด้านหลังพักหนึ่งและหันกลับมาพยักหน้าให้ผม

           

 

“ถ่ายเถอะ” ผมยักคิ้วหนึ่งที แมทลุกขึ้นย้ายก้นกลับไปนั่งที่เดิม ผมลุกขึ้นยืน พอหันไปมองก็เห็นผู้หญิงสองคนกับผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินมาสมทบกับเนและเพื่อนผู้หญิงของเขา

           

 

“เทคอะโฟโต้หน่อยนะค้า” ผมยิ้มน้อยๆ ให้กับผู้หญิงที่ช่วยเนถือถาดมาเสิรฟ์น้ำที่โต๊ะ เธอเดินเข้ามาถ่ายกับผมคนแรก เธอใช้กล้องหน้าถ่าย ผมก้มหน้าลงให้เข้าไปในเฟรม ยิ้มมุมปากนิดหน่อย เธอกดแชะไปหลายช็อต สักพักเธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้เนกดถ่ายกล้องหลังให้ ผมเอามือไพ่หลังไว้ เธอยืนชิดกับผมและยิ้มกว้าง ส่วนผมยิ้มเท่าเดิม

           

 

“โอเค คิวต่อไป” เนหันไปบอกกลุ่มคนที่รอถ่ายซึ่งผมคิดว่าคงเป็นเพื่อนเขา คนถัดมาเป็นผู้หญิง ผมก็ยืนท่าเดิม ยิ้มเท่าเดิม แต่ไม่มีเซลฟ์ฟี่แล้ว และพอคนต่อๆ ไปผมก็ยืนเหมือนเดิมหน้าเดิมจนถ่ายเสร็จนั่นแหละ

           

 

“Don’t you want to take a photo with me? (นายไม่อยากถ่ายกับฉันเหรอ)” ผมพูดแซวเนยิ้มๆ ในขณะที่เท้าก็ก้าวเดินกลับไปจะนั่งที่เดิม

           

 

“Yes. Yes. Let me take a photo with my old friend. (ถ่ายๆ ขอถ่ายกับเพื่อนเก่าหน่อย)” ผมหยุดยืนรออยู่ตรงข้างหลังแมท เนเดินเข้ามายืนข้างๆ ผมยกมือซ้ายโอบไหล่เขาและยิ้มมุมปากน้อยๆ เพื่อนเนกดถ่ายไปหลายช็อตจนพอใจก็ตะโกนบอกว่าโอเค

           

 

“Thank you, Victor. (ขอบใจมากนะวิคเตอร์)” เนยิ้มให้พร้อมกับตบไหล่ขวาผมเบาๆ ผมยิ้มกลับไป ยกนิ้วโป้งให้เขาและเดินก้าวอีกสามก้าวกลับมานั่งที่เดิม แมทหันไปมองด้านหลังที่เนยืนคุยกับเคนอยู่ เขาหันมามองผมและยิ้มให้นิดหน่อย ผมขมวดคิ้ว รู้สึกแคลงใจกับยิ้มของเขา

           

 

“เฮ้ เป็นอะไร” ผมยื่นหน้าไปถามเขาใกล้ๆ แมททำตาโตนิดหนึ่งแล้วส่ายหัว

           

 

“เปล่า จะให้เป็นอะไรเล่า” ผมหรี่ตามองหน้าเอเลี่ยน ไอ้ตัวจ้อยพยักหน้ายืนยันว่าไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่ปากว่า ผมดึงให้เขาขึ้นมานั่งบนตัก แมทหยิบจานอาหารมาถือไว้ด้วย เขาจิ้มเนื้อปลาหมึกราดพริกให้ผมหนึ่งชิ้น ผมรับเข้าปากแล้วเคี้ยว

           

 

“ง่วงนอนรึยัง”

           

 

“ยังหรอก ก็อยู่คุยกับคนอื่นก่อนก็ได้ สนุกดี” ผมยิ้ม ดึงหมวกสติชท์ของเขามาใส่ แมทหัวเราะเบาๆ ช่วยผมจัดหมวกให้เข้าที่เข้าทาง

           

 

 



     เวลาล่วงเลยไปจนดึกกว่าเดิม พวกผู้ชายก็เริ่มกรึ่ม เริ่มเมากันมากขึ้น ผมด้วยก็เช่นกัน แต่ผมดื่มแค่เบียร์ ไม่ได้กินอย่างอื่นผสมเลยอยู่ได้สบายๆ แค่ร้อนหน้าร้อนคอและหน้าแดง มีอาการมึนๆ บ้างแต่ยังจูบเอเลี่ยนได้ตรงปาก แมทไม่ได้ดื่มเยอะ เขาดื่มแต่ไอ้น้ำสูตรพิเศษของเน แล้วก็สเมอร์นอฟรสเลม่อนของโปรด ไม่เมาแต่ก็คึกกว่าเดิม ยิ่งดีเจเปิดเพลงสนุก ก็ยิ่งเข้าทางเขาเลย ออกไปเต้นกับเพื่อนๆ อย่างเมามันส์ตรงลานว่างใกล้กับโต๊ะ เรื่องเต้นขอให้บอกเมียผมเถอะ

 

 

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงตีสอง เอเลี่ยนน้อยก็เริ่มงัวเงียและงอแงไม่ยอมให้ผมหอมแก้มแล้วนั่นแหละ ผมเลยพาเขากลับห้อง พอมีคนเริ่มกลับ คนอื่นก็เลยขอกลับบ้าง สรุปปาร์ตี้จบตอนตีสองกว่า แล้วก็แยกย้ายใครแยกย้ายมัน ผมกับแมทกลับมาถึงห้องก็พากันไปแปรงฟันก่อนนอน ผมกลัวน้ำเย็นกับร่างกายร้อนๆ จะตีกันเลยไม่อาบน้ำและไม่ให้แมทอาบด้วย เราถอดเสื้อผ้าจนร่างกายเปลือยเปล่า สอดตัวเข้าไปในผ้านวม และแมทก็ใช้มือซ้ายจับลูกชายผมไว้ตามปกติก่อนนอนของเราสองคน ก่อนจะพากันหลับในเวลาไล่เลี่ยกัน

 

 

 

 







“ว้ากกก!!!!” ตู้ม!!!

 

 

“ฮ่าๆๆๆ” แมทพุ่งตัวขึ้นมาจากน้ำแล้วว่ายน้ำท่าหมาเข้าหาฝั่งท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ผมยื่นมือไปดึงมือเอเลี่ยนน้อยขึ้นมายืนบนฝั่ง เขาหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อยชอบอกชอบใจ

 

 

“พอรึยัง” ผมถามพลางใช้ผ้าขนหนูคลุมร่างเปลือยท่อนบนของเขา เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ใส่เสื้อลงน้ำ เอเลี่ยนเลยต้องเปลือยโชว์หุ่นอวบเนื้อแน่นของเขา ผมก็รู้แหละว่ามันไม่มีใครมองจ้องจะกินเขาหรอก แต่ผมรู้ว่าแมทไม่ค่อยชอบถอดเสื้อต่อหน้าสาธารณชนเท่าไหร่ต่างหาก ถามว่าหวงมั้ย ก็หวงเหมือนเดิม แต่ก็อยู่ที่สภาพแวดล้อม ถ้าไปอยู่ในฝูงชนที่มีพวกชายรักชายด้วยกัน อันนั้นผมไม่ชอบ แต่ตอนนี้ดูแล้วมีแต่ผู้ชายทั่วไปตามปกติ

 

 

“พักก่อนแล้วขออีกรอบนะ” เขาบอกเสียงร่าเริง ผมยิ้มและผงกหัวขึ้น พาเขาเดินกลับไปนั่งที่นั่งของพวกเราตรงริมสระน้ำที่มีออสตินกับเบนเนดิคท์นั่งอยู่ ส่วนคนอื่นไปต่อคิวขึ้นสไลด์เดอร์รอบใหม่แล้ว

 

 

“คุณไม่เล่นบ้างเหรอ” เขาถามตอนที่นั่งลงบนเบาะสีน้ำเงิน ผมเสยผมเปียกที่ปรกหน้าผากอยู่ขึ้น

 

 

“ก็เล่นไปแล้วไง”

 

 

“เห็นเล่นไปสองรอบเอง ไม่หนุกเหรอ”

 

 

“ฉันรอสนุกเที่ยงคืนวันนี้ดีกว่า” ผมยักคิ้วและยิ้มมุมปาก แมทกลั้นยิ้มเขิน ยกมือขึ้นตีเป้าผมเบาๆ

 

 

“แหม จำแม่นเลยนะ” ผมไหวไหล่ นั่งลงข้างเขา มองคนส่งเสียงดังเวลาตัวลื่นไหลลงมาตามความยาวของสไลด์เดอร์สีน้ำเงินตัดสีขาวอันใหญ่ยักษ์ หลายคนก็มีท่าทางวงสวิงสวยงามตอนที่กำลังจะลงน้ำเพื่อใช้กล้องโปรโคเก็บแอคชั่นนั้นของตัวเอง เสียงน้ำแตกตู้มกระจายหลายรอบต่อๆ กัน เพราะคนไหลต่อเนื่องกันลงมาไม่ขาดสาย

 

 

“เดี๋ยวเสร็จจากที่นี่ ออสตินชวนเล่นบอลชายหาดที่รีสอร์ท แกสนใจป้ะ” ผมหันไปมองไอ้เบนที่ในมือมีขวดเบียร์ของแบรนไทยอยู่หนึ่งขวด

 

 

“เอาดิ ฉันเห็นหาดที่อยู่ข้างล่างที่พักฉันกว้างดี”

 

 

“เออ ตรงนั้นแหละที่จะไปเล่น” ผมพยักหน้าสองสามที หันไปมองแมทที่กำลังนั่งหัวเราะไอ้ล่ามที่กำลังลอยคว้างอยู่กลางอากาศในท่าแอ่นอกก่อนที่จะพุ่งตัวลงไปในน้ำอย่างสวยงาม

 

 

“พร้อมขึ้นไปรึยัง” แมทหันมาพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น เขาถอดผ้าขนหนูออกและวิ่งขึ้นไปตามขั้นบันไดที่พาไปสู่ทางขึ้นสไลด์เดอร์อย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกหนีสายตาผู้คนจะมองหุ่นเขา แมทจะอายพุงตัวเอง แต่ผมว่าเขาไม่ได้มีพุงย้อยแล้วนะ มันเป็นกล้ามเนื้อท้องมากกว่า แค่อาจจะไม่เฟิร์มเท่านั้นเอง แต่แบบนั้นแหละผมถึงอยากกัดเนื้อเขาทั้งตัว เวลาวิ่งดุ๊กๆ ตูดแน่นๆ นี่เด้งดีจริงเชียว

 

 

ผมนั่งรอดูแมทไถลตัวลงมาจากด้านบน สักพักก็เห็นคนชื่อเนเดินผ่านมาทางนี้กับเพื่อน เขาเอ่ยทัก ผมกระตุกมุมปากซ้ายพร้อมยักคิ้วให้เขาหนึ่งทีสั้นๆ

 

 

“ไม่เล่นเหรอ”

 

 

“เล่นไปแล้ว รู้ละว่ามันเป็นไง” เขายิ้มหัวเราะ เพื่อนผู้หญิงของเขาที่ถ่ายรูปกับผมไปเมื่อคืนโบกมือพร้อมยิ้มทักทายให้ ผมยิ้มตอบกลับไปน้อยๆ และพยายามมองลอดผ่านพวกเขาไปมองตรงสระ เห็นแว้บๆ ว่าแมทพุ่งตัวลงไปในสระพอดี เขาพุ่งตัวขึ้นมาจากน้ำพร้อมหัวเราะเริงร่า ก่อนจะว่ายท่าหมาเข้ามาทางฝั่งที่ผมนั่งอยู่ ผมเลยลุกขึ้นไปดึงเขาขึ้นมาจากน้ำ หูได้ยินพวกเนคุยอะไรกันสักอย่างเป็นภาษาไทยที่ผมจับใจความไม่แม่น แมทลูบน้ำออกจากหน้า สายตาเขามองทางกลุ่มเนนิ่งๆ และเลื่อนกลับมามองผม ผมทำหน้างง แต่ก็ดึงเขาไปนั่งที่เดิม ยกผ้าขนหนูเช็ดหัวให้เขา

 

 

“เดี๋ยวเจอกันนะวิคเตอร์” ผมหันไปยักคิ้วให้เนและหันกลับมาสนใจแมทต่อ พวกนั้นเดินไปทางขึ้นสไลด์เดอร์พร้อมส่งเสียงหัวเราะเฮฮา แมทย่นคิ้วตามหลังพวกนั้น หน้าตาไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่

 

 

“เป็นอะไรน่ะ” เขาทำหน้าคิดสักแปบ ก่อนจะปรับสีหน้าใหม่ แต่ก็ยังมีเค้าความไม่แน่ใจให้เห็นบนใบหน้า

 

 

“เปล่า หิวน้ำ” ผมมองเขาอย่างไม่เชื่อ แมทเลิกคิ้ว ตาโตมองผมเป็นเชิงถามว่ามีอะไรเหรอ ผมหรี่ตามองเขา แต่ก็ยื่นมือไปหยิบกระป๋องน้ำอัดลมสีน้ำเงินมาเปิดแล้วยื่นให้ แมทรับไปกระดกเข้าปากอึกๆ

 

 

“อยากกลับรึยัง”

 

 

“ผมยังไงก็ได้ ถามคนอื่นสิ” ผมหันไปถามไอ้เบนกับออสติน สองคนนั้นพร้อมกลับแล้ว เบนเนดิคท์เลยหันไปตะโกนถามพวกบาสที่ยืนอยู่ตรงสะพานปูนที่กั้นสระลึกเวลาไถลลงจากสไลด์เดอร์กับสระตื้นไว้ว่ายน้ำกับเล่นวอลเล่ย์บอลแข่งกับเสียงเพลงในสถานที่ตั้งสไลด์เดอร์

 

 

“Hey, you guys want to go back?! We have a plan to play football! (เฮ้ พวกนายอยากลับรึยัง เรามีแพลนจะเล่นฟุตบอลน่ะ!)” มีคนหันมามองบ้าง ถ้าเป็นพวกฝรั่งด้วยกันก็แค่มองและหันกลับไป ไม่ได้สนใจหรือมายุ่งเกี่ยวต่อกัน

 

 

“Okay!!” บาสเป็นคนตะโกนตอบแทนทุกคน พวกเราที่นั่งอยู่ตรงเบาะเลยลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินออกไป มีผู้หญิงต่างชาติสองคนเดินเข้ามาถามว่าใช่ผมมั้ย ผมตอบใช่ พวกเธอเลยขอถ่ายรูป ผมยื่นหน้าเข้าเฟรมกล้องพวกเธอเร็วๆ คนละทีและรีบพาแมทเดินออกไปจากบริเวณนั้น ไม่สนใจว่าภาพพวกเธอจะชัดหรือไม่

 

 

สงสัยต้องไว้ผม ไว้หนวดเคราให้รุงรังกว่านี้ จะได้ไม่มีใครจำได้แม่นๆ


 



           

           

           

           

เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :mew1:



มาแว้วววว มาต่อล้าวววว ขออภัยที่หายไปนาน แต่ตามสัญญาค่ะว่า ไม่ดองแน่น้อนนน / เสียงสูงทำไม

ตามสไตล์นิยายขุ่นเจ้เนาะ เรื่อยๆ ชิลๆ ไม่ได้มีเหตุตื่นเต้นมาเร้าระทึกใจมากนัก อ่านกันได้สบายๆ เป็นนิยายผ่อนคลายสวยๆ

แต่ก็มีความเชื่ออยู่อย่างนะ ว่าคนที่ตามอ่านกันมาจนถึงพาร์ทนี้แล้ว คงชินกับสไตล์การเขียนตอมแล้วแหละ คงชอบในแบบที่ตอมเขียนแล้วเนอะ 55555 เขียนแบบเอื่อยๆ เรื่อยๆ แต่รับรองว่าจะไม่พาวนค่ะ ก็เดินหน้ากันไปยาวๆ ไปตามเส้นเรื่องที่วางไว้เลย

พาร์ทนี้ไม่มีสต็อกนะคะ ตอมเขียนสดอัพสด ตอนนี้กำลังพรูพต้นฉบับแม่เรียวจันทร์อยู่ และเร่งเขียนตอนหลักให้จบพร้อมตอนพิเศษ เลยต้องแบ่งตารางดีๆ เดี๋ยวพอจบแม่เรียวแล้ว ตอมก็จะเปิดเรื่องใหม่ ใครชอบแอนด์ชิพเซฮุนกับลู่หานแบบตอม เตรียมตัวเจอกันค่า ฮี่ๆ พฤษภาน่าจะได้เจอกันนน กิ๊ๆ

ปีนี้อาจหาญชาญชัยมาก ตั้งเป้าว่าจะเขียนนิยายให้จบสามเรื่อง ไม่รวมแม่เรียวนะคะ หมายถึงเรื่องใหม่ในล็อตปีนี้ของตนเอง ก็มีเรื่องนี้ เรื่องของเซฮุนลู่หานที่ไม่ใช่ฟิคอะ เป็นนิยายปกติ แค่ใช้ชื่อ ฮุนกับลู่เท่านั้นเอง และใครที่รอพี่แซ็ค พี่พระเอกหนังสยิวอยู่ ปีนี้ตอมหมายมั่นว่าจะต้องปั้นพี่แซ็คให้แข็ง เอ้ย เขียนพี่แกออกมาให้ได้! ไม่ลัดคิว ไม่แซงคิวพี่แกละ



ตอนนี้นะคะ ถ้าเปิดเพลง Zoom ของแม่ทาทายังไปด้วยจะช่วยเพิ่มอรรถรสการอ่าน 55555 แต่หาฟังยากมากกก อันนี้ตอมนึกเนื้อเพลงได้เลยเอามาตั้งเป็นชื่อตอน เหมาะกับแมทและวิคเตอร์ตอนนี้เลย มองได้แต่ตาอย่าต้อง แต่สำหรับแสองผัวเมียก็จะเป็น ต้องได้แต่ห้ามแตก ว้ายยยย คริๆ

เจอกันส่วนต่อไปค่าาา ขอบคุณคนอ่านทุกคนเลยนะคะที่ยังรออ่านนิยายเรื่องนี้เสมอ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ แต่สัญญาว่าจะไม่ดองแน่นอน ไม่ทิ้งคนอ่านแน่ๆ ค่ะ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่พาร์ทแรกจนพาร์ทสุดท้ายละเนอะ ^__^





ขอบคุณทุกเม้นต์ ทุกโหวตที่มีให้นิยายเรื่องนี้ ขอบคุณทุกการติดตามทั้งแบบแสดงตัวตนและไม่แสดงตัวตน ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่รักนิยายเรื่องนี้ในแบบที่มันเป็นค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด