:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 809005 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ถ้าวิคเตอร์รู้ตายแน่ๆ แมท

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
แมทหนีเที่ยวแบบนี้จะเป็นเรื่องไรไหมเนี่ย รออ่านตอนหน้า ด่วนๆ :call:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3:เอเลี่ยน เธอใจแตกแหละ อย่างว่าอยู่กับสามีตลอดไม่มีโอกาสได้ยลหนุ่มหล่อบึ๊กสักเท่าไหร่ แต่อย่างแมทถึงจะหวั่นไหวขนาดนั้นแต่ก้อไม่มีทางทำเรื่องอะไรที่นอกใจวิคหรอก ออกจะเป็นหนุ่มรักเดียวใจเดียวขนาดนี้ แต่วิคจะเข้าใจไหมเนี่ย แอบจิ้นเรื่องของออสตินไปแล้วน่ะ  :mew4: นึกว่าเอม่อนจะมีบทบาทในพาร์ทสามด้วยซะอีก 555  :katai3:

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ตายแล้วแมทททท ไม่อยากจะคิดถึงตอนวิคเตอร์รู้
เลือดหัวพุ่งกระฉูดดดดด 5555555555

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตายแน่แมทตายแน่ 55555555555555555

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



ตอนพิเศษครบรอบ 2 ปี [75%]




หน้าไอ้ยักษ์ลอยไปลอยมา และผมก็นึกภาพว่าระหว่างสภาพผมกับศพที่ตายครบเจ็ดวัน อันไหนจะเละกว่ากันหากไอ้ยักษ์รู้ว่าผมออกมาแรดอย่างที่เขาด่า

           

 

“โว้วว! มะ… ไม่เป็นไร ผมอยู่ข้างล่างก็ได้” ผมพยายามใช้สติอันพร่าเบลอฝืนตัวเองไว้ไม่ให้หนุ่มนักเต้นลากผมขึ้นไปบนเวทีได้ มีเสียงกรี๊ดและเสียงอังกอร์สนับสนุนให้ผมขึ้นไปบนเวทีเต็มที่

           

 

“มาเถอะน่าหนุ่มน้อย ผมอยากสนุกกับคุณนะ” รอยยิ้มนั้นช่างดูมีเล่ห์กลให้ดลใจ แล้วก็พูดปกติก็ได้พ่อแพททริก ไม่ต้องเบียดเป้าเข้าหาเรามาก แค่หุ่นของนายก็ทำเอาเรากลืนน้ำลายแล้ว

           

 

ไม๊! หุ่นไอ้ยักษ์แซ่บกว่า แม้จะไม่หนาน่าดูดดมเท่าพ่อคนนี้ก็เถอะ

           

 

หูย แต่หัวนมใหญ่น่าดูดกว่าของไอ้ยักษ์อีกอะ

           

 

“It’s fine. I can stand here—whoah! (ไม่เป็นไรครับ ผมยืนตรงนี้ก็ได้ เฮ้ย!)” เขาคงเห็นว่าผมพูดมากเกินไป เลยก้มตัวลงอุ้มตัวผมไว้ในอ้อมแขน ด้วยความกลัวตกผมเลยรีบยกแขนขวาคล้องคอเขาไว้ พอได้เสียดสีเนื้อของเขา ร่างกายผมก็วูบวาบ รู้สึกร้อนรุมๆ แถวหูกับลำคอ ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองซ้ายมองขวาอย่างตื่นตระหนกท่ามกลางเสียงโห่แซว ผมพยายามหันไปมองเอม่อน เขาเอามือป้องปากและส่งเสียงร้องวู้วๆ แข่งกับคนอื่น ท่าทางสนับสนุนผมเต็มที่ ผมหันกลับมามองหน้าพ่อหนุ่มนักเต้นที่ยิ้มกว้าง

           

 

“เอ่อ…” ผมอ้าปากหวอ กะพริบตาปริ๊บๆ

           

 

“You look like a puppy and I love puppy! (คุณเหมือนลูกหมาเลย และผมก็รักลูกหมาซะด้วย!)” เขาก้มลงพูดให้ผมได้ยินจนปากเขาแทบจะแตะปากหวอๆ ตัวเอง ผมยิ้มแห้งแล้วก็หน้าเหวอเมื่อเขาก้าวเท้าฉับๆ กลับไปทางเวที หูผมอื้ออึงไปด้วยเสียงเพลงและเสียงกรี๊ด

           

 

แพทริกปล่อยผมลงบนเก้าอี้สีเงินตัวหนึ่ง ชวนให้นึกถึงเก้าอี้สีเงินโยกของไอ้ยักษ์ในห้องมหาสนุก ผมพยายามคุมสติและบอกตัวเองว่า แค่ขึ้นมาสนุกเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านี้ พอคิดได้แบบนี้ผมก็เริ่มผ่อนคลายจากอาการเกร็งมากขึ้น หันไปมองแพทริกที่เดินกลับมาพร้อมกับแก้วไวน์ที่ใส่ไวน์แดงไว้ครึ่งแก้ว ผมกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ใช่เพราะอยากไวน์นะ แต่เพราะเป้าเขาต่างหาก เป็นผู้ชายที่ตัวสูงกว่าผมสักสิบเซ็นต์เองมั้ง แต่ตัวล่ำหนา และท่าทางแซ่บปรี๊ดจริงๆ

           

 

“Sip it before we are going to have fun together, puppy-boy.(ดื่มย้อมใจก่อนสิเจ้าหมาน้อย)” ผมทำท่าจะปฏิเสธ แต่เขาส่งสายตาอ้อน ไม่ใช่แค่แพทริกนะ ทีมนักเต้นเปลือยอีกเก้าคนยืนรุมผมไว้ และพยายามคะยั้นคะยอให้ผมดื่ม และยังมีเสียงเชียร์จากด้านล่างอีก

           

 

โอ๊ย รู้สึกเหมือนเป็นเจ๊ที่ชอบเปย์หนุ่มๆ เลย

           

 

แพทริกเอาแก้วไวน์มาจ่อที่ปาก ผมแหงนหน้าขึ้นนิดเพื่อรับไวน์เข้าปาก ตอนแรกกะจิบตามที่เขาบอกจริงๆ แต่เขากลับไม่ยอมปล่อยให้ผมหนี จัดการเทไวน์ในแก้วใส่ปากให้ผมจนเกลี้ยง พอเขาดึงแก้วออกจากปาก ทุกคนก็ส่งเสียงเฮ แล้วดนตรีก็เพิ่มความสนุกและเร้าใจมากขึ้น และแพทริกก็เร้าใจเช่นกัน

           

 

เหลือนักเต้นเปลือยกายอยู่บนเวทีกับผมสามคน ซึ่งรวมแพทริกด้วย ที่เหลือไปเอ็นเตอร์เทนลูกค้ากันต่อ ผมนั่งมึนๆ บนเก้าอี้สักแปบ แพทริกก็จับใต้รักแร้ผมทั้งสองข้าง ยกผมขึ้นจนตัวลอยหวือ

           

 

“โอ๊ะ โว้ว” ผมอุทานหน้าตาตื่น สองมือจับไหล่หนาของเขาไว้แน่น

           

 

“เกี่ยวขาไว้ที่เอวผมสิ” ผมทำตาโตงงๆ แต่ยังไม่ทันได้อธิบายเพิ่ม เขาก็จับผมนอนหงายกลางอากาศ ผมรีบตวัดขาเข้ากับเอวหนาของเขา

           

 

“ว้ากกก!” เสียงกรี๊ดพร้อมเสียงผิวปากดังไปทั่ว ตอนนี้ผมอยู่ในท่านอนหงายกลางอากาศ สองขาเกี่ยวเอวพ่อหนุ่มเนื้อแน่น มีสองมือของเขาจับเอวผมไว้แน่นเพื่อกันผมตก และก่อนที่ผมจะหายเบลอกับการเหวี่ยงเมื่อกี้ เขาก็จับผมหมุนไปรอบ

           

 

“โอ้วววว” ผมร้องเสียงหลงหน้าเหวอ รู้สึกเสียวหลังหัว ตรงต้นคอวูบๆ เพราะกลัวหัวตัวเองหล่นกระแทก สองมือผมจับข้อมือแพทริกเอาไว้เพื่อเซฟตัวเอง สองขาเกี่ยวเอวหนาแน่นไม่ยอมปล่อย

           

 

โชคดีว่าเกาะเอวสามีตัวเองด้วยสองขาบ่อยๆ เลยพอจะชินกับท่านี้บ้าง

           

 

“สุดยอดมากเจ้าหมาน้อย!” แพทริกเอ่ยชมหลังจากผมเกาะเอวเขาไว้ไม่หล่นหายไปไหน ผมหอบแฮกเบาๆ แล้วสักพักก็เสียวท้องวาบ เมื่อเขาทิ้งก้นลงบนเก้าอี้อย่างแรงและใช้เท้าหมุนเก้าอี้ให้ผมหันไปด้านหน้าเวที ส่วนเขาหันหลังให้คนดูที่กำลังส่งเสียงโห่ร้องชอบใจ

           

 

“ยืนขึ้นนิดนึงสิ” เขาตะโกนบอก ผมทำตามงงๆ กำลังจะยืนเต็มตัวและก้าวถอยหลังออกไป แต่แพทริกจับเอวผมไว้แน่น และพอจังหวะเพลงเปลี่ยนเป็นตนตรีหนัก ดังตึ้บๆ ผมก็ต้องอ้าปากค้าง เอาสองมือยกขึ้นปกป้องและร้องเสียงเพี้ยน เมื่อพ่อหนุ่มหุ่นแน่นกระแทกเป้าเข้าหาผม

           

 

ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!

           

 

“ว้าวววว! วิ้ววว! วู้ฮู้ววว!” ข้างล่างก็เชียร์กันมันส์เลยจ้ะ ส่วนอีข้างบนน่ะเหรอ

           

 

 

“อื้อ! โอ้ว! อู้ว! เอ้อ! มายก็อดดด!!” เก้าอี้เริ่มไถลไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายแพทริกก็หล่นลงจากเก้าอี้ แต่พ่อหนุ่มก็สตรองเหลือเกิน เขาหล่นลงไปบนเวที แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยผมไปไหน จับเอวผมแน่นให้นั่งลงตรงเป้าเขา เด้งสะโพกกระแทกใส่ไม่หยุดดังปักๆๆ จนตัวผมสั่นตามแรงกระแทก

           

 

“อ้า! อ้า! อ้า! อ้า!” อันนี้ผมไม่ได้ร้องนะ คนดูข้างล่างมีน้ำใจทำเอ็ฟเฟ็กต์ให้ ส่วนผมนี่หลับตาปี๋สองมือปิดปากแน่น หัวโยกคลอนไปตามแรงกระแทก สักพักแพทริกก็หยุดใช้เป้ากระแทกก้นผม กำลังจะโล่งใจก็โดนเขาพลิกตัวให้นอนหงาย จับขาผมเกี่ยวเอวเขา ผมตาโตทันที อีกนิดคือจะเยกันบนนี้แล้วนะ

           

 

“ไม่! พอแล้ว! ไม่เอาแล้ว พอๆ!” ผมใช้สองมือดันอกแน่นหนาของเขา สั่นหัวว่าไม่เอา เพราะท่าทางมันเริ่มจะส่อเข้าไปมากทุกที แต่ด้วยความที่แพทริกคงเป็นนักเต้น นักสนุก เขาเลยทำเพียงยิ้มกว้าง และเลื้อยไปเลื้อยมาบนตัวผม ใช้เป้าถูกับตัวผมไปเรื่อยๆ คราวนี้ผมสัมผัสความตุงแน่นของเขาได้เต็มที่ และพอรับรู้ว่าของเขาแข็งผมเลยรีบผลักเขาออกไปข้างๆ พลิกตัวหนีและคลานลงจากเวทีอย่างรวดเร็วด้วยอาการใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ

           

 

“Hey! I like you, puppy-boy! (นี่! ฉันชอบนายนะ เจ้าหมาน้อย!)” ผมหันกลับไปมองแพทริกที่ยืนยิ้มกว้าง และมีน้ำใจเด้งเป้าตุงๆ สีแดงของตัวเองให้ผมด้วย ผมยิ้มหน้าตื่น รีบเดินกลับไปหาเอม่อนที่ยืนหัวเราะชอบอกชอบใจ

           

 

“เป็นไง สุดเหวี่ยงมั้ย?!” โดนเหวี่ยงจนสุดน่ะสิ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนมึน ผมกลืนน้ำลายลงคอ มึนๆ กับไวน์นิดหน่อย แต่ไม่ได้มากมาย นึกอยากกลับบ้านแล้ว ผมยกแขนขึ้นดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือกับแสงไฟแว้บๆ ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าๆ แล้ว

           

 

“ฉันถ่ายวีดีโอไว้ด้วย เดี๋ยวส่งให้นะ!” เอม่อนยังคงยิ้มเริงร่าอารมณ์ดี ผมยิ้มแบบขอไปที รู้สึกเป็นกังวลว่าวิคเตอร์จะรู้สึกยังไงหากเห็นผมใจแตกแบบนี้ ผมหยิบมือถือขึ้นมากดดูว่ามีสายจากเขา หรือข้อความใดๆ จากเขาหรือเปล่า แต่ทุกอย่างนิ่งเงียบจนผมนึกแปลกใจและขมวดคิ้วงง

           

 

“เดี๋ยวฉันมานะ ออกไปโทรศัพท์ก่อน” ผมตะโกนบอกเอเม่อน เขาพยักหน้าและหันกลับไปดูโชว์ต่อ ผมหันไปมองทางเวทีแว้บหนึ่ง แพทริกหายไปจากตรงนั้นแล้ว แต่เพื่อนๆ นักเต้นของเขายังอยู่

           

 

ผมเดินออกมาด้านหน้าคลับ ระหว่างนั้นวีดีโอที่แพทริกส่งมาก็อัพโหลดเสร็จในโปรแกรมวอทสแอพพอดี ผมกดเข้าไปดูเพื่อให้มันหายขึ้นแจ้งเตือน กดเข้าไปดูโปรแกรมแชทวอทสแอพของวิคเตอร์ ขึ้นออนไลน์ครั้งล่าสุดคือตอนเกือบหนึ่งทุ่ม ผมย่นคิ้ว กดโทรหาวิคเตอร์ผ่านโปรแกรมวอทสแอพ

           

 

สัญญาณตัดไปหนึ่งครั้งเขาก็ยังไม่รับ ผมเลยลองกดโทรอีกรอบแต่เขาก็ยังไม่รับ เลยกดโทรหาเบอร์เขาที่ต่างประเทศที่เขาจะใช้ชั่วคราวเวลาไปถ่ายหนังในแต่ละที่แทน รอสัญญาณอยู่หนึ่งครั้งก็ยังไม่รับ จนผมเริ่มใจคอไม่ดี ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือโกรธอะไรผมหรือเปล่า เพราะเอาจริงๆ นี่เขาก็หายไปนานนะ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าไทม์โซนของเราตอนนี้ต่างกัน ผมเลยเข้าไปดูเวลาประเทศที่เขาอยู่ ตอนนี้ที่นั่นน่าจะหกโมงหรือเจ็ดโมงเช้าแล้ว หรือเขาจะยังไม่ตื่น

           

 

ผมกดโทรหาเขาอีกรอบ คราวนี้รอสัญญาณได้ประมาณเสียงตู๊ดที่หก ก็มีคนรับสาย แต่ไม่ใช่วิคเตอร์

           

 

“สวัสดีค่ะ” ผมยืนนิ่งค้างสักแปบ นึกสงสัยว่าตัวเองโทรผิดหรือเปล่า แต่พอเช็กเบอร์ที่หน้าจอและทวนตัวเลขที่เขาเคยให้ มันก็ถูกต้องแล้ว

           

 

“คุณแมท ได้ยินมั้ยคะ” ผมกะพริบตาปริบๆ เธอเรียกชื่อผมแสดงว่าน่าจะเป็นทีมงานหรือคนใกล้ชิด ผมพยายามเค้นความจำว่าเสียงนี้คือเสียงใคร

           

 

“เอ่อ ได้ยินครับ ไม่ทราบว่านี้ใครกำลังพูดสายอยู่” ผมถามโดยที่ไม่ได้คิดมากไปในทางอื่น

           

 

“สเตฟานี่เองค่ะ” ผมอ้าปากหวอเล็กน้อย ใจกระตุกไปนิดหนึ่งเมื่อรู้ว่าคนที่กำลังพูดสายกับผมคือทีมพีอาร์คนนั้นที่เธอชอบวิคเตอร์

           

 

ไหนไอ้ยักษ์บอกว่าเธอไม่ได้ไปด้วยไง

           

 

“แล้ววิคเตอร์อยู่ไหน” ผมถามเสียงเรียบ พยายามไม่โกรธ ไม่ขุ่นเคืองใดๆ

           

 

“เขายังไม่ตื่นเลยค่ะ เมื่อคืนมีปาร์ตี้เปิดกอง เขาดื่มหนักไปหน่อย พวกเราเลยพาเขากลับห้อง แต่พอกลับมาห้องเขาก็ชวนพวกเราดื่มต่อ คราวนี้เมาหนักเลย” เธอหัวเราะน้อยๆ แต่ผมไม่หัวเราะด้วย ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้คำว่าเรานั่นมีกี่คน เพราะที่ผมสนตอนนี้คือไอ้ยักษ์มันโกหกว่าเธอคนนี้ไม่ได้ไปด้วย

           

 

“อ๋อ ครับ ถ้างั้นบอกเขานะครับว่าผมโทรมา และให้เช็กข้อความในวอทสแอพด้วย” ผมกัดฟันกรอดๆ

           

 

“ได้ค่ะ ถ้าเขาตื่นแล้ว ฉันจะบอกเขานะคะ” ผมกล่าวขอบคุณ กดวางสายด้วยความหงุดหงิด แทบจะกระแทกหน้าจอโทรศัพท์บุบ ใจร้อนรุมๆ ด้วยความร้อนใจ

           

 

หน็อย! ไอ้ยักษ์ ปิดบังกันแบบนี้ หมายความว่ายังไง?!

           

 

“ได้!!” ผมสบถคนเดียว บอกตัวเองให้นิ่งและกดเข้าไปในวอทสแอพของเอม่อน กดดาวน์โหลดวีดีโอที่เขาส่งมาให้ก่อนหน้านี้ พอโหลดเสร็จผมก็กดไปในหน้าห้องแชทของวิคเตอร์ กดส่งวีดีโอนั้นไปให้เขา พร้อมกับข้อความว่า

           

 

‘It’s really fun to be here! I love it!’

           

 

พอส่งไปแล้วผมก็ยิ้มเหี้ยมคนเดียว หึๆ ไอ้ยักษ์ อกแตกตายไปเลย! กินเหล้าด้วยกันจนดึกดื่นงั้นเหรอ แหม๊!! ได้ใช้เวลาด้วยกันสินะ กะว่าห้าวันที่ไป คงจะสำเริงสำราญเลยละสิ

           

 

“เฮ้!” ในขณะที่ผมกำลังยืนทำปากขมุบขมิบราวกับท่องมนตร์ก็มีเสียงใครสักคนดังขึ้นด้านหลัง ผมหมุนตัวไปมองก็เจอกับแพทริก พ่อยอดล่ำสันที่ตอนนี้อยู่ในเสื้อกันหนาวมีฮู้ทสีเทาและกางเกงยีนสีดำ

           

 

“ฮะ… ฮาย” ผมตอบและยิ้มแกนๆ ก่อนจะรีบก้มหน้าพิมพ์วอทสแอพไปหาออสติน บอกให้เขามารับ

           

 

“นายเป็นคนเอเชียใช่มั้ย หน้าตาดูจะใช่นะ” ผมยัดโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋ากางเกงและปั้นยิ้มให้ดีกว่าเก่า

           

 

“ใช่ครับ ผมมาจากประเทศไทย” เขาย่นคิ้ว ทำหน้าตาไม่เข้าใจ

           

 

“ใต้หวันเหรอ?” มาอีกหนึ่งคนที่คิดว่าประเทศไทยคือใต้หวัน มักจะเป็นแบบนี้บ่อยๆ สำหรับคนต่างชาติที่ไม่เคยได้ยินเรื่องของประเทศไทยมาก่อน

           

 

“ไม่ใช่ครับ แต่ก็ใกล้ๆ กัน” ผมเพิ่งสังเกตว่าเขามีรอยสักตรงต้นคอด้านขวาด้วย แพทริกตัดผมสั้นคล้ายทรงทหาร ตัวเขาสูงเลยผมไปไม่มากจริงๆ ด้วย เตี้ยกว่าวิคเตอร์กับออสตินอีก แต่อย่างที่บอกคือ หุ่นเขาแซ่บเน้นๆ แน่นๆ กว่าสองคนนั้นเยอะ (ผมยังไม่เคยเห็นออสตินถอดเสื้อนะ)

           

 

“อืม ไว้ฉันจะกูเกิ้ลหาประเทศนั้นแล้วกัน…” เขายิ้มแพรวพราว ไม่แน่ใจว่าติดจากการเป็นนักเต้นเอ็นเตอร์เทนแบบนี้หรือเปล่า

           

 

“…ที่ฉันบอกบนเวที ฉันพูดจริงนะ” ผมทำหน้างงแปบหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า เขาตะโกนบอกชอบผมพร้อมกับเด้งเป้าให้ ผมยิ้มแหะ แล้วค่อยๆ ชูมือซ้ายที่มีแหวนแต่งงานอยู่บนนิ้วนาง แพทริกเลื่อนสายตามามองแล้วก็เบิกตากว้างขึ้นนิดหนึ่ง

           

 

“แต่งงานแล้วเหรอ??!!” เขาถามเสียงตกใจนิดหน่อย

           

 

“ยังหรอกครับ หมั้นกันไว้เฉยๆ” รีบแสดงตัวก่อนดีกว่าว่ามีเจ้าของแล้ว บนเวทีเขาทำแบบนั้นเพราะมันคืองาน คือช่วงเวลาโชว์ของเขา แต่นอกงานผมก็ไม่ได้คิดอยากให้เขามาทำแบบนั้นกับผมนะ

           

 

แพทริกมองผมด้วยความเสียดายที่ฉายชัดในดวงตาและสีหน้ามาก วินาทีนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองมีมงกุฎมิกิโมโต้ มงกุฎมิสยูนิเวิร์สที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในบรรดาเวทีนางงามทุกเวที

           

 

“แต่ฉันยังคุยกับนายได้…” เขาหรี่ตามองผมพร้อมยิ้มน้อยๆ “…ใช่มั้ย?”

           

 

ผมยิ้มตอบและพยักหน้าหงึกๆ แพทริกยิ้มมีเสน่ห์มาก ไม่แปลกใจถ้าเขาจะฮ็อตที่สุดในบรรดาทีมเต้นอย่างที่เอม่อนว่า ไม่รู้ว่าเขามีรสนิยมทางเพศที่ชอบแบบผมอย่างเดียว หรือสามารถเอ็นจอยกับเพศหญิงได้ด้วย เพราะนักเต้นพวกนี้ส่วนมากก็เป็นชายแท้ๆ กันนี่แหละจากที่ผมเคยดูในหนังเรื่องนึงที่เกี่ยวกับนักเต้นชายเปลืองผ้า

           

 

“นายดูตื่นๆ เวที เพิ่งเคยมาดูโชว์แบบนี้หรือเปล่า”

           

 

“ใช่ครับ เคยดูในหนัง แต่ของจริงตื่นตาตื่นใจกว่าเยอะเลย” ผมหัวเราะแหะๆ

           

 

แพทริกยิ้มกว้าง เดินเข้ามาใกล้ผมอีกนิดด้วยท่าทีเป็นมิตร เขาแค่ขยับเข้ามาใกล้ผมเท่านั้น ไม่ได้ทำเกินเลยไปมากกว่านี้ เหมือนเขาเขยิบมามองหน้าผมให้ชัดขึ้นอะไรแบบนั้น

           

 

“นายน่ารักดี” ผมอมยิ้มเขินๆ รู้สึกหัวใจพองโตนิดหน่อยที่มีคนชม ไม่บ่อยหรอกนะที่จะมีคนชมผม นึกถึงคำพูดไอ้แชมป์เลย

           

 

ผัวมันคงปล่อยน้ำแตกใส่หน้าบ่อย มันเลยเปล่งปลั่งจนตัวผู้มองมันมากขึ้นแหละกูว่า!

         

 

ไอ้เวร

           

 

“ขอบคุณครับ” ด้วยความเคยชินตามนิสัยคนไทย ผมยกมือไหว้ขอบคุณเขา แพทริกทำหน้างงๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้ม

           

 

“ทำอะไรเหรอ”

           

 

“เป็นธรรมเนียมของบ้านผมน่ะ” เขาพยักหน้า แต่คิดว่าคงไม่เข้าใจหรอก

           

 

“ถ่ายรูปกันมั้ย ปกติฉันไม่ได้ให้ถ่ายรูปง่ายๆ นะ” ผมเลิกคิ้วขึ้น มองเขาแล้วยิ้มขำ แหม่ะ อยากถ่ายรูปกับเราก็บอกกันดีๆ ก็ได้

           

 

“ถ่ายก็ได้” ผมรับมุกเขา หยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อก แพทริกหยิบไปจากมือผม กดเข้ากล้องเองเสร็จสรรพ เดินเข้ามาแนบชิดกับผมกดถ่าย รูปแรกเขาเอาแขนขวาโอบไหล่ผม รูปสองเขาเอียงหัวซบกับหัวผม รูปสามไปยืนซ้อนหลังและเอาแก้มแนบผมไว้

           

 

ผมรู้สึกว่ามากเกินไปเลยดึงหน้าตัวเองออกห่าง เริ่มรู้สึกอึดอัดที่เขาแนบชิดมากไปนิด พอกดรูปสุดท้ายเสร็จ ผมก็ถอยห่างออกจากเขาทันที แพทริกมองหน้าผมแล้วยิ้มบาง

           

 

“ไม่หวั่นไว้สักนิดเลยสินะ” ผมกะพริบตาปริบๆ เสมองไปทางอื่นแว้บหนึ่งแล้วก็กลับไปมองเขา ผมยื่นมือไปขอโทรศัพท์คืน กะว่าถึงบ้านแล้วจะลบรูปเขาทิ้ง เพราะเก็บไว้ก็ไม่ได้ทำอะไร

           

 

“ส่งรูปให้ฉันหน่อยสิ” ผมทำหน้างง

           

 

“ส่งยังไงครับ” เขายิ้ม ก้มลงกดมือถือผมสักแปบแล้วมือถืออีกเครื่องก็ดังขึ้น เขาหยิบของตัวเองขึ้นมากดจิ้มจึ้กๆ สักพัก

           

 

“ฉันมีวอทสแอพนายแล้ว นายไม่ต้องเมมฉันไว้ก็ได้ แค่ส่งรูปให้ก็พอ” เขายื่นมือถือคืนให้ ผมรับมาแบบเอ๋อๆ นิดหน่อยกับความรวดเร็วในการจัดการต่างๆ ของเขา ทำให้ผมนึกไปว่า เรื่องอย่างว่าเขาน่าจะเป็นพวกไวไฟ ได้เร็วและเลิกเร็วด้วยหรือเปล่า

           

 

มีข้อความวอทสแอพเด้ง แต่ไม่ใช่ของวิคเตอร์หรอก ของแพทริกนั่นแหละ เขาพิมพ์มาว่า ‘เจ้าหมาน้อย’ ผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลามีหนวดเคราจางๆ กำลังคลี่ยิ้ม

           

 

“เดี๋ยวผมส่งให้เลยแล้วกันครับ” ผมกดส่งรูปให้เขาในวอทสแอพ ระหว่างนั้นหูก็ได้ยินเสียงรถกระทิงดุอันคุ้นเคย ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นรถของวิคเตอร์เข้ามาจอดเทียบท่าตรงริมฟุตบาทหน้าร้าน แพทริกหันไปมองรถคันหรูและหันกลับมามองผม ก่อนที่จะชี้ไปที่รถและสลับกับชี้มาที่ผมเป็นเชิงว่าเขามารับผมหรือเปล่า ผมเลยพยักหน้าแทนคำตอบ

           

 

“ผมส่งรูปให้หมดแล้วนะครับ” ผมตอบและก้มลงไปพิมพ์บอกเอม่อนในวอทสแอพว่ากำลังจะกลับแล้ว และถามว่าเขาจะเอายังไงต่อ

           

 

“นายชื่ออะไรเหรอลูกหมา”

           

 

“แมทครับ”

           

 

“หืม แมทเหรอ คล้องจองกับแพทริกดีนะ” หูย รุกแรงรุกดียิ่งกว่าเอิร์ท ในชีวิตผมมีคนมาแอ๊ว มาจีบโต้งๆ แบบนี้แค่สองคนเท่านั้นแหละ นับว่าเป็นบุญดีๆ บุญหนึ่งในชีวิต

           

 

เหงาหงอยมายี่สิบสี่ปี พอมีสามี ผู้ชายก็แวะเวียนมาหาตั้งสองคนแน่ะ เอาละ อีแมทพูดได้ละว่าชีวิตนี้ตัวเองก็ไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไป

           

 

‘นายกลับก่อนเลย ฉันจะอยู่ดูโชว์เด็ดรอบดึก’

         

 

เอม่อนพิมพ์ตอบกลับ ผมพิมพ์กลับไปแค่ว่าโอเค เป็นอันรู้เรื่อง ผมหันไปเอ่ยลาแพทริก เดินอ้อมไปขึ้นรถที่ออสตินยังคงจอดนิ่งไว้โดยไม่ได้ออกมาโวยวายอะไร

           

 

“ใครเหรอครับ” ออสตินถามตอนที่รถออกตัวจากหน้าคลับ ผมเลื่อนสายตามองกระจกหลังเห็นแพทริกยืนล้วงกระเป่าเสื้อกันหนาวมองตามรถนิ่ง

           

 

“นักเต้นในคลับน่ะ” ออสตินเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง

           

 

“นี่คุณแมทมาดู ระบำเปลืองผ้างั้นเหรอ ถ้าเจ้านายรู้…” ผมเบ้ปากและชิงตอบทันที

           

 

“…เดี๋ยวเขาได้รู้แน่ เพราะผมส่งคลิปเด็ดไปให้เขาดูแล้ว!” ออสตินกะพริบตางงๆ ผมย่นจมูกใส่เขาและหันหน้าหนีไปอีกทาง

           

 

หึ! ทำให้ผมจิตตก พะว้าพะวงว่าจะหึงหรือไม่หึงดีนัก งั้นก็รู้สึกไปด้วยกันนี่แหละ

 





 :katai5:

ยังไม่จบบบ ตอมยังติดงานอยู่เลยค่ะ แว้บมาเขียนให้ มีเวลาว่างจากงานก็ดึกมากกก สมองทำงานมาทั้งวันก็จะเบลอๆ เหนื่อยๆ อยากจะเพิ่มความจุในสมองให้ตัวเองมากจริงๆ T__T

จริงๆ พี่ยักษ์อาจจะไม่รู้ แต่น้องแมทจัดการเองด้วยความหึงงึดๆ

อย่างที่บอกค่ะว่ามันคือตอนพิเศษ ถ้าเป็นตอนตามปกติ ออสตินไม่ปล่อยให้แมทอยู่นานขนาดนี้แน่นอน มาตามกลับตั้งแต่ยังไม่ทันซื้อตั๋วแล้วมั้ง -.,-

พี่แพทริกชอบน้องจริงเหรอออ *O* อ่อยน้องนะเนี่ยยย คริๆ

หากมีคนถามว่า แพทริกจะไปโผล่ในพาร์ทสามมั้ย อันนี้ต้องติดตามอย่าได้พลาดค่ะ หุๆ จะมีหรือไม่น้านนน มาลุ้นกันอีกที



เนื้อเรื่องของตอนพิเศษตอนนี้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องหลักของพาร์ทสามนะคะ มีที่เกี่ยวข้องบ้าง แต่จะไม่ทั้งหมดทั้งมวล มีแค่บางจุดสองจุดอะไรแบบนี้มากกว่า แต่โดยรวมแล้วคือจะไม่ไปข้องแวะกับเรื่องหลักเลย เอ๊ะ พูดเองงงเอง 55555 เอาเป็นว่า มีที่จะเจอในเรื่องหลักด้วยค่า แต่มิใช่ทั้งโหมดดด

เอม่อนไม่ใช่แฟนออสตินนะคะ 55555 อย่าโยงงง อย่าจับคู่ให้พ่อบอดี้การ์ดของเรา เขายังโสดอยู่ดีมีสุข ถ้ามีจังหวะ เอม่อนอาจจะได้เข้าไปอยู่ในเรื่องหลักด้วย แต่จากเส้นเรื่องที่มีตอนนี้ น้องหนูเอม่อนมาแทรกไม่ได้เลย 55555





ขอบคุณหลายๆ คนที่ยังคงคิดถึงสองผัวเมียคู่นี้เสมอๆ วันนี้พาเขาทั้งสองคนมาเจอแก้คิดถึงก่อนค่ะ เพราะเนื้อหาพาร์ท Yours and Mine อีกนานกว่าจะมา ขอทุ่มให้แม่เรียวจันทร์ก่อนนะค้าาา


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
แมทน้อยหาเรื่องแล้วอ่า งานนี้ได้มีบ้านแตก  :ling1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
แซ่บบบบ ไม่เปลี่ยน 555

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
แซ่บบบบลืมมมมม

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
หาเรื่องน่ะหมาน้อย ยับเยินแน่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ถ้ายักษ์เห็นคลิป สงสัยรีบกลับบ้านทันทีแน่ๆ แมทผิดก็จริงนะ แต่วิคเตอร์ไม่น่าปล่อยให้ผู้หญิงมารับโทรศัพท์ส่วนตัวนะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
อีตาคนนี้รุกหนักมาก มาแบบตู้มๆๆ เลย ใจคอไม่ดีเลยค่ะ 555
วิคให้ใครมาอยู่ใกล้ๆ อีกละ อย่าเชียวนะอย่าาาา

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



ตอนพิเศษ ครบรอบ 2 ปีนิยาย [100%]



Victor Raymond

 

 

“เอเลี่ยน!!!”

           

 

ผมตะโกนเรียกไอ้ตัวดีทันทีหลังจากเท้าก้าวถึงในตัวบ้าน มีพวกทีมพีอาร์เดินตามเข้ามาด้านหลังพร้อมกับออสตินที่ออกไปรับผมที่สนามบิน

           

 

“แมท!!! ออกมานี่!” ผมว่าอย่างหงุดหงิด หัวใจบิดเบี้ยว คันไม้คันมืออยากฟาดไอ้ตัวดีหลายๆ ที ยิ่งคิดถึงคลิปที่ถูกส่งมา ก็ยิ่งนึกอยากจะเหวี่ยงแฟนตัวเองแรงๆ ผมต้องข่มใจมากถึงมากที่สุดที่จะไม่บินกลับมาสะสางซะตั้งแต่วันแรกที่เห็นคลิป โทรมาก็ไม่รับสาย หนีหน้าหายตาเหมือนกับจงใจแกล้งให้ผมสติไม่อยู่กับร่องกับรอย

           

 

หึ ดี! เดี๋ยวแม่งจะเอาแส้หวดม้าฟาดให้ก้นแตก

           

 

ผ่านไปไม่นาน ไอ้ตัวจ้อยก็เดินหน้านิ่งลงมาจากบันไดแล้วเดินเข้ามาในโซนครัว เขาเหลือบมองไปทางสเตฟานี่ที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังด้วยสายตาเรียบเฉย ผมถอนหายใจ หน้าตาหงุดหงิด รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ที่สเตฟานี่กับทีมพีอาร์อีกสองคนอยู่ที่นี่เพราะผมบอกให้มา

           

 

“คุณแมทคะ พอดีเซล่าเธอเปลี่ยนแพลนกะทันหันเลยส่งฉันไปช่วยงานเขาน่ะค่ะ ตอนแรกฉันและคนอื่นๆ ไม่ได้ไปด้วย เพราะทีมงานแจ้งว่าจะมีคนคอยดูแลเขาอีกที แต่เกิดเหตุขัดข้องเรื่องคิวของทีมงาน เราเลยต้องไปด้วยค่ะ” เธอบอกอย่างใจเย็น ไม่ได้มีอาการร้อนรนหรือร้อนตัว

           

 

“ผมเข้าใจครับว่าคุณต้องทำหน้าที่ของคุณ” แมทตอบน้ำเสียงราบเรียบ ยิ้มมุมปากนิดหน่อยให้สเตฟานี่ก่อนที่จะตวัดสายตามามองผมอย่างขุ่นเคือง แต่ผมไม่งงหรอก พอจะเดาออกอยู่ว่าเคืองด้วยประเด็นไหน ผมเลยขึงตามองเขากลับ

           

 

“ขอบใจทุกคนมาก กลับไปพักผ่อนเถอะ” ผมหันไปมองพวกทีมพีอาร์ ทั้งสามคนเอ่ยลาผมและเดินออกจากประตูบ้านไป ผมให้มาแค่นี้แหละ ให้มาบอกไอ้เอเลี่ยนขี้ฟุ้ง ผมพูดคนเดียวก็หาว่าแก้ตัวอีก แต่ไม่รู้หรอกนะว่าจะได้ผลมั้ย เพราะดีไม่ดีไอ้เอเลี่ยนจะคิดว่าผมนัดแนะกับพวกนี้ไว้แล้ว ไอ้นี่ยิ่งคิดเองเก่งอยู่ด้วย

 

 

 ผมหันไปมองแมทที่เดินหนีเข้าไปในห้องโถงแล้วรีบเดินตามเขาไปทันที พอถึงตัวเขาได้ก็จับแขนลากให้เขาเดินกลับขึ้นบันไดไปห้องนอนด้วยกัน โดยที่แมทไม่ได้ขัดขืน เขาเดินตามผมมาอย่างว่าง่าย แต่หน้าตาก็ไม่เอาบุญเอาบาปอะไรทั้งนั้น พอเข้ามาในห้องผมก็พาเขาเดินไปนั่งโซฟาปลายเตียง จับเขานั่งตักและกอดตัวเขาไว้แน่น

 

 

“ไปไหนมา?!” ผมถามเสียงเข้มเกือบจะเป็นตะคอก แมทที่นั่งนิ่งอยู่บนตักผมตวัดสายตาโกรธเคืองมามอง

 

 

“ไปดูระบำเปลื้องผ้า ผู้ชายแซ่บมาก ดีมาก เป้าใหญ่ ไข่อูมทุกคน มีคน…” แมทว่าเสียงกระแทกแทบจะทุกคำราวกับจะย้ำให้ผมรู้ว่าเขาหนีไปเที่ยวมา ใจผมที่มันเตรียมปะทุก็ระเบิดพุ่งปลดปล่อยความเก็บกดนั้นออกมาด้วยการจับต้นคอเขาไว้แน่น แล้วขยี้จูบลงบนริมฝีปากเขาอย่างรุนแรง แมทพยายามลุกหนีเพราะหายใจไม่ทัน แต่ผมกดคอและรัดตัวเขาไว้แน่น ก่อนที่จะกัดริมฝีปากล่างเขาไปหนึ่งที ทิ้งรอยฟันไว้บนปาก

 

 

“อื้อ! ไอ้ยักษ์!” ตุบ!

 

 

เขาใช้กำปั้นทุบหลังผมจนผมเกือบหลังแอ่น มองผมอย่างหงุดหงิด พอๆ กับที่ผมมองเขาด้วยความหงุดหงิดเช่นกัน ผมกัดฟันแน่น อุ้มเขาขึ้นและเดินไปทุ่มเขาลงบนเตียง

 

 

“อย่าหนี อย่าลองดี!!” ผมชี้หน้าไอ้ตัวดีเมื่อเขาทำท่าจะคลานหนี แมทนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับที่ ผมเปิดลิ้นชัก หยิบเจลหล่อลื่นออกมา ดึงข้อเท้าเขาเข้ามาใกล้ กระชากกางเกงวอร์มที่เขาสวมอยู่ออก และตามด้วยกางเกงชั้นใน โดยที่เขาไม่ตอบโต้ หรือขัดขืน

 

 

ผมข่มใจไม่ให้โกรธไปมากกว่านี้ เทเจลลงบนปลายนิ้วมือซ้าย จับเขาแหวกขาอ้าออก แล้วก็ยัดนิ้วชี้กับนิ้วกลางที่ชุ่มไปด้วยเจลเข้าไปในก้นเขา แมทย่นคิ้ว กัดริมฝีปากล่างแน่น สองมือค้ำร่างตัวเองเอาไว้ ผมดันนิ้วเข้าออกสักพักแล้วก็โน้มตัวลงหาเขา ใช้แขนขวาดันตัว แมทเผยอริมฝีปากขึ้น มองผมด้วยสายตาปรือเล็กน้อย ท่าทางพยายามกำลังกลั้นไม่ให้ร้องเสียงดัง แต่พอผมเริ่มใช้นิ้วกระตุ้นผนังอ่อนนุ่มของเขาแมทก็ร้องเสียงแผ่ว

 

 


“อ้า… อ้า… อ๊ะ…” พอเห็นว่าเขาตัวอ่อน ท่าทีอ่อนลง ผมก็ดึงนิ้วออก โน้มหน้าไปจูบเขา และพาเขาล้มลงนอนบนเตียง แมทยื่นมือขวามาลูบเป้าผมเบาๆ จนทำให้ลูกชายผมค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นทีละนิด จังหวะที่แขนของแมทจะคล้องคอผมเต็มวงแขนของเขา ผมก็ดึงเขาขึ้น จัดการจับเขานั่งคร่อมตักทั้งที่เขายังเปลือยท่อนล่าง
 
 

“ให้มันเด้าซะแรงเลยนะ” ผมว่าหน้าดุ มือขวาเลื่อนลงไปบีบก้นเขาเต็มมือด้วยความหงุดหงิดและความมันเขี้ยว แมทที่หลุดจากอารมณ์วาบหวิว มองผมตาแป๋ว สีหน้าไม่ต่อต้านแบบตอนแรกที่เจอ
 
 

“ผมไม่ได้คล้อยตามเขาเลยนะ ซูมหน้าผมในคลิปสิ” แมทขยุ้มเส้นผมตรงท้ายทอยผมเบาๆ ผมขบกรามนิดหน่อย
           
 

“ที่ฉันไม่ได้บอกว่าสเตฟานี่ไปด้วย เพราะฉันตั้งใจจะบอกอีกวัน แต่นายดันเร็วกว่าฉัน…” ผมยิ้มหึ จ้องมองใบหน้าใสที่ท่าทางสลดลงนิด
           
 

“นายแค่เจอเธอรับสาย แต่ฉันเห็นคลิปนั้น แบบไหนแย่กว่ากัน” แมทเม้มปาก ทำหน้าหงอย ยื่นหน้ามากัดริมฝีปากล่างผมเบาๆ ผมเลื่อนนิ้วซ้ายที่ยังมีเจลหลงเหลืออยู่ไปทางง่ามก้นเขา แล้วค่อยๆ ยัดนิ้วเข้าไปในรูคับแคบ แมทส่งเสียงหอบน้อยๆ ริมฝีปากสีชมพูซีดเผยอขึ้น เปลือกตาทำท่าจะปิดไม่ปิดแหล่
           
 

“รู้มั้ยว่าฉันต้องคุมสติตัวเองมากแค่ไหนที่จะไม่บินกลับบ้านก่อนกำหนด” ผมถามเสียงเย็น ค่อยๆ ดึงนิ้วออกจากตรงนั้น แมทผ่อนลมหายใจผะแผ่ว แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากผมหนึ่งที กลางลำตัวของเขาแข็งดุนดันหน้าท้องผม


           

 

“แล้วไม่กลับมาล่ะ หรือเพราะปาร์ตี้กับเธอข้ามวันข้ามคืน” ผมตีมือขวาลงบนบั้นท้ายแมทไปหนึ่งที เจ้าตัวดีย่นคิ้ว

           

 

“ฉันทำงานหาเงินมาเลี้ยงนายไง จำไม่ได้เหรอ” แมทที่หลุดจากอารมณ์วาบหวิวอีกครั้ง ทำปากยื่นหน้าตางอนๆ

           

 

“ขอโทษครับที่ไม่คุมสติให้ดี” แมทก้มลงไซ้คอด้านซ้ายของผมเบาๆ ผมหลับตาลง ผ่อนลมหายใจยาวๆ กับสัมผัสนั้น มันช่วยให้ผมไม่ใจร้อนจนเกินไป

 

 

ผมร้อนไปแล้วหลายหนตอนอยู่กองถ่าย ผมตื่นขึ้นตอนสายๆ ของอีกวันหลังจากปาร์ตี้การถ่ายทำที่โลเคชั่นใหม่ เป็นเหมือนการสร้างกำลังใจให้ทีมงานในการทำงานมากกว่า เราเลยดื่มกันหลังจากเสร็จงานในวันแรก ผมโทรเช็กกับออสตินเหมือนเดิมว่าแมทอยู่ไหนทำอะไรอยู่ แต่พอเริ่มงานก็ทิ้งโทรศัพท์ไว้ ลากยาวไปจนถึงช่วงสังสรรค์ เลยไม่ได้ติดต่อเขาไป แต่พอตื่นมา สเตฟานี่บอกว่าแมทโทรหาและบอกให้เช็กวอทสแอพ เท่านั้นแหละ เจอของเด็ด

           

 

ผมนี่ปรี๊ด คลิปแค่สามสิบกว่าวิ แต่ทำเอาผมนั่งหน้าหงุดหงิดอยู่คนเดียวจนทีมงานไม่กล้าเข้ามาใกล้อยู่ครึ่งวัน อยากจะบินกลับแม่งตอนนั้น พอโทรกลับมาไอ้เอเลี่ยนก็กวนตีนไม่รับสาย เงียบหายไปสามสี่วัน ผมเลยโทรกำชับกับออสตินว่าห้ามเขาออกไปไหนเด็ดขาด พาไมเคิลก็ห้ามไป และสั่งออสตินว่าห้ามให้ไอ้เพื่อนคนนั้นของแมทเข้าใกล้เขา

           

 

“รู้มั้ยฉันแทบทำงานไม่ได้” แมทผละออกจากซอกคอผม มองหน้าผมด้วยใบหน้าง้ำนิดหน่อย

           

 

“ไม่รู้ เพราะขนาดคุณไปปาร์ตี้กับแม่พีอาร์ ผมยังไม่รู้เลย” ประชดประชันเก่งตามเคยนะ

           

 

“ฉันไม่ได้ปาร์ตี้กับเธอสองคนสักหน่อย มีคนอื่นอีกเยอะแยะ…” ผมจ้องตาเขาดุ แมททำปากยื่นปากยาว สองมือเลื่อนลงมาลูบบ่าผมเบาๆ

 

 

“…ปาร์ตี้ฉันไม่เด็ดเท่าของขายหรอก” แมทเริ่มทำหน้าอ้อน ยกสองมือมาพนมตรงอก แล้วก้มหน้าผากลงจรดกับสองมือนั้น

 

 

“ขอโทษ ผมไม่ดีเอง” เขากราบลงบนไหล่ซ้ายของผมอีกทีตามวัฒนธรรมของบ้านเขา ผมพ่นลมหายใจหนึ่งพรืด

           

 

“ฉันไม่ได้มีอะไรกับสเตฟานี่ แค่ฉันบอกว่าเธอไม่ได้ไปด้วย แต่สุดท้ายเธอไปเพราะงาน นายเลยต้องทำอย่างนี้ใช่มั้ย” แมทยกหัวขึ้นจากบ่ามามองหน้าผม เขาก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิดและพูดเสียงอ้อมแอ้ม

           

 

“ก็เธอชอบคุณ ตอนแรกคุณบอกว่าเธอไม่ได้ไป แต่สักพักเธอมารับโทรศัพท์คุณซะงั้น คุณจะให้ผมคิดน้อยได้ไง คนอื่นก็มีทำไมไม่มารับสายคุณล่ะ แล้วโทรศัพท์คุณไปอยู่กับเธอได้ไง” ผมทำหน้าระอากับความคิดมากของแฟนตัวเอง เออ มันคิดเก่งจริงๆ

           

 

“นายจะไม่ให้มีเรื่องบังเอิญแบบว่าที่เธอเดินไปเจอมือถือฉันสั่นอยู่ด้านนอกห้องนอนอะไรแบบนี้เลยเหรอ…” แมทขมวดคิ้วหน้างอ

           

 

“…ฉันจะตั้งใจพาเธอไปด้วยทำไม ฉันไม่ได้อยากอยู่ใกล้เธอเหมือนที่เป็นกับนายนะ” ผมอดว่าเสียงดุไม่ได้ ยอมรับว่าผมรำคาญความคิดมากของเขา แต่ก็ไม่ใช้ชนวนชวนโมโหอะไรขนาดนั้น

           

 

แมทเม้มปาก มองผมอย่างชั่งใจ สายตาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าเด็กกว่าอายุจริงจะคลายลงเหมือนกับปลดปล่อยความคิดมากออกไป

           

 

“ผมขอโทษจริงๆ…” เขาว่าเสียงอ่อย โอบแขนกอดผมไว้ ใบหน้าซุกอยู่ที่ซอกคอผม เขาจูบลงบนต้นคอผมหนึ่งที ผมหลับตาลงข่มใจ พยายามปัดความขุ่นมัวทั้งหลายออก ถอนหายใจเบาๆ ยกมือซ้ายขึ้นลูบหัวเขาเบาๆ

           

 

“…ผมแค่กังวล เธอชอบคุณ และเธอใกล้ชิดกับคุณ วันนึงมันอาจจะถลำลึก” เขาระบายความในใจเสียงแผ่ว ผมดันตัวเขาออกให้มามองหน้ากัน

           

 

“งั้นฉันจะให้เธอออกจากงาน โอเคมั้ย นายจะได้สบายใจ” แมทตาโตตกใจ ส่ายหัวปฏิเสธรัวๆ

           

 

“อย่าๆ อย่าทำแบบนั้น อย่าให้ความคิดมาก งี่เง่าของผมทำร้ายอาชีพเธอ” ผมเบ้ปากนิดหน่อย ยักคิ้วหนึ่งที แล้วก็ยิ้มอ่อนกับความใจดีของเขา ถึงจะไม่ชอบหรือเกลียดอะไร แต่แมทจะมีข้ออ้างมาเพื่อลบล้างความไม่ชอบนั้นออกไปได้เสมอ แล้วก็จะพยายามไม่มองใครในแง่ไม่ดีอีก ยกเว้นผมเนี่ยแหละ

           

 

“ฉันไม่ว่าถ้านายจะคิดมาก แต่ช่วยไว้ใจฉันมากหน่อย นึกว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ” แมททำปากจู๋น้อยๆ

           

 

“มันเป็นๆ หายๆ อะ” เขาว่าเสียงอ้อน หน้าตารู้สึกผิด ไอ้เรื่องความคิดมาก ขี้ระแวง และชอบสอดรู้สอดเห็นจนตัวเองรู้สึกแย่ไปเอง เป็นข้อเสียของเขาที่ตอนนี้ยังแก้ไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้เร่งให้เขาหาย คิดแค่ว่าอยู่กับนิสัยนี้ของแมทให้ได้ โดยที่เราต้องคุยกันให้เข้าใจว่าเราต้องการอะไรจากกัน ถ้าเขาคิดมากอะไรอยู่ ต้องหาสาเหตุนั้นให้เจอ และถามว่าเขาต้องการอะไรแบบไหน

           

 

“เลยประชดฉันด้วยการไปดูไอ้ผู้ชายเปลืองผ้านั่นใช่มั้ย” ผมกลับมาถามเสียงเรียบดุอีกครั้ง เขายิ้มเจื่อน

           

 

“เปล่า ตอนแรกไม่ได้จะประชดเลย แค่ไปดูเฉยๆ แบบว่า เปิดหูเปิดตาอะ…” เขาหัวเราะเสียงแห้งนำผมยิ้มเต็มที่ กะว่าผมจะยิ้มตามไปด้วย แต่เปล่า เขาเลยหุบยิ้มฉับ

           

 

“…เขามาชวนขึ้นไปเต้น ก็เลยไป แต่ไม่รู้ว่าจะเต้นแรงขนาดนั้น พอดีเอม่อนถ่ายคลิปไว้…”

           

 

“…ไอ้เพื่อนคนนี้อีกแล้วเหรอ?” ผมไม่ค่อยชอบใจเพื่อนแมทคนนี้ เขาจะคบใครเป็นเพื่อนผมไม่ได้คิดห้าม หรือกันเขาออกจากสังคมโดยสิ้นเชิง แต่บางทีถ้าเห็นแล้วมันแลไม่เข้าท่า ไม่น่าไว้ใจ ผมก็ไม่อยากให้เขาไปยุ่ง แล้วเป็นไงล่ะกับไอ้คนนี้ ยุ่งจนพาไปไอ้ตัวดีไปเจอของดีนี่ไง แล้วคิดเหรอว่าไอ้เอเลี่ยนมันจะไม่ชอบน่ะ!

           

 

“เขาก็เป็นคนนิสัยดีคนหนึ่งนะ” แมทว่าหน้าซื่อ ไอ้นิสัยดีไม่ดีผมไม่รู้หรอก เพราะไม่เคยเจอ เคยแต่ได้ยินชื่อ ครั้งก่อนพาแมทหายไปไหนบ้างไม่รู้จนมืดค่ำ จากครั้งนั้นผมก็ไม่ชอบเพื่อนคนนี้ ไม่ได้ถึงขั้นให้ออสตินไปสืบหาประวัติ แต่การที่พาแฟนผมหายไปดึกดื่น นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมพอใจ

           

 

“สำหรับฉันมันนิสัยไม่ดี เกิดคราวหน้าพานายไปถวายตัวให้ผู้ชายคนอื่นล่ะ”

           

 

“หูยยย ไม่หรอก ก็ผมถวายตัวเองให้คุณแล้วไง คิๆ” ทำมาเป็นหัวเราะกลบเกลื่อน ผมกำลังจะหัวเราะด้วยแต่นึกถึงไอ้คลิปสยิวนั่นก็เลยหน้าขรึมตามเดิม

           

 

“ชอบมั้ย ไอ้นักเต้นนั่นน่ะ” ยังดีที่ในคลิปแมทดันมันออกและคลานหนีมัน ถ้านอนให้มันกระทำชำเราเฉยๆ ล่ะก็ ผมไม่สงบข่มใจได้ง่ายแบบนี้หรอก จะจับทรมานให้ระทวยคามือเลย

           

 

“ไม่ชอบสักหน่อย เขาต่างหากมาชอบผม” คิ้วผมกระตุกตึบๆ

           

 

“แสดงว่าผมเองก็หน้าตาน่ารักอยู่นะเนี่ย เอเลี่ยนของยักษ์น่ารักเนอะ” แมทยิ้มคล้ายว่าจะเอาใจ แต่ผมไม่ใจด้วย

           

 

“เดี๋ยวฉันจะกรีดหน้านาย” แมทอ้าปากหวอ หน้าตาตกใจ ยกมือขวาป้องปาก

           

 

“หูย! ทำไมใจยักษ์เหมือนหน้าอย่างนี้ล่ะ” เขาว่าเสียงแว้ดๆ ทำหน้าตาโกรธเคือง แต่ไม่ได้โกรธจริงหรอก แกล้งแอคติ้งไปงั้น

           

 

“หลงตัวเอง นายน่ะขี้เหร่ หน้าตาไม่ดี ชีวิตนี้มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นแหละที่เอานาย” แมทเบ้ปากแรงและขมุบขมิบปากเหมือนกำลังแช่งผมอยู่

           

 

“เอาโทรศัพท์นายมาดู” เช็กก่อน ว่ามีอะไรซ่อนเร้นรึเปล่า แมทชี้ไปที่หัวเตียง ผมหันไปมองก็เจอโทรศัพท์เขาวางอยู่บนหมอน เลยเอี้ยวตัวไปหยิบมา ก่อนที่ผมจะหยิบของตัวเองให้เขาบ้าง ผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว มีแต่รูปเขาจนจะล้นเมมโมรี่นั่นแหละ

           

 

“อุ๊ย” แมททำหน้าตกใจเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ เขาทำท่าจะเอื้อมมือมาคว้ามือถือตัวเองกลับคืน แต่ผมชักมือหนีและหรี่ตามอง ไอ้เอเลี่ยนหน้าซีดทันที

           

 

“แม้แต่จะคลาน นายก็จะทำไม่ไหวเลยคอยดู” ผมขู่ ขึงตามองแมทอย่างดุดัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าในมือถือมีอะไร แต่ใจผมระอุรอแล้ว มันเดือดปุดๆ เส้นเลือดตรงขมับเต้นตุบๆ

           

 

ผมปลดล็อคมือถือแมทด้วยรหัสปีเกิดของเราสองคนผสมกัน เงยหน้ามองไอ้เอเลี่ยนตัวดีที่สีหน้าค่อยๆ ถอดสีทีละนิด ผมเข้าไปดูไฟล์รูปภาพเป็นอย่างแรก และก็ได้เจอของดีตั้งแต่นาทีแรกที่เลื่อนดูรูป ผมมองรูปพวกนั้นนิ่ง เงยหน้าขึ้นมองแมทที่ตาแดงเหมือนจะร้องไห้

           

 

“ลืมลบ…” แมทว่าเสียงสั่น

           

 

“มีถ่ายรูปนอกรอบด้วยงั้นเหรอ” ผมถามเสียงเย็น แมทกัดปากแน่น น้ำตาคลอ

           

 

“ผมบอกเขาแล้วนะวิคเตอร์ว่าผมหมั้นแล้ว ผมโชว์แหวน ฮึก ให้ดูด้วย” แมทสะอื้นน้ำตาไหลทันทีที่ผมบีบแขนเขาแน่นจนกระดูกเขาแทบจะแหลกคามือ ก่อนที่มือถือแมทจะลอยหวือไปกระแทกกับผนังห้องและแตกกระจาย

 

           
 :hao3:
 
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้

ยังไงปล่อยให้ผัวเมียเขาไปเคลียร์กันเองเนาะ -.,- ร่วมส่งกำลังใจให้น้องแมทยังคงมีแรงก้าวเดินต่อไปในชีวิต 55555

ก็เป็นตอนพิเศษครบรอบสองปีของนิยายเรื่องนี้ค่ะ ตอนพิเศษ เรื่องราวไม่เกี่ยวกับเรื่องหลักนะคะ เขียนให้อ่านแบบพิเศษในวันครบรอบสองปีของนิยายเรื่องนี้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ขอขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามอ่านนิยายเรื่องนี้กันมาอย่างยาวนานนะคะ ขอบคุณคนอ่านที่เริ่มต้นตามกันมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่สมัยที่ตอมยังไม่มีเพจเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ หรือคนอ่านที่เพิ่งมาตามกลางเรื่อง ตามท้ายเรื่อง ตามตอนมีหนังสือแล้ว ตามช่วงใดๆ ก็ตาม ขอบคุณมากๆ ค่ะ

 ช่วงแรกๆ ตอมอัพเสร็จคืออัพเลย ไม่มีเพจแจ้ง เพราะไม่ได้ทำ แต่คนที่ตามอ่านกันมาก็คือตามกันแน่นหนึบจริงๆ คือเช็กการอัพเดตของหน้านิยายด้วยตนเองเลย

บอกตรงๆ ว่าคิดถึงบรรยากาศแบบนั้น คิดถึงที่คนอ่านมาบอกว่าอัพเถอะๆ หรือมีคนอ่านมาบอกว่า เนี่ย รีเฟรชบ่อยมาก เห็นแจ้งเตือนแล้วดีใจมาก คนเขียนก็ปลื้มใจ และพอคนอ่านอ่านแล้วก็คอมเม้นให้กันทุกตอน ทุกครั้งที่อัพ คิดถึงบรรยากาศนั้นจริงๆ ค่ะ มันอบอุ่นมากๆ เลย

แต่พอเรื่องนี้มีหนังสือ หลายคนก็เลือกที่จะรออ่านในเล่มมากกว่า และห่างหายไปจากหน้าเว็บ ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะคะ ดีใจค่ะที่มีคนสนับสนุนหนังสือด้วย แต่แค่คิดถึงบรรยากาศการอ่านนิยายในเว็บแบบช่วงแรกๆ ที่ตอมก็อัพไปเรื่อยๆ และคนอ่านก็รออ่านกันตลอดๆ พออัพทีก็กรีดร้องดีใจ ตอมก็ยิ้มหน้าบานนน ส่วนใครที่รอหนังสือออกทีเดียวอันนั้นตอมไม่ได้ตำหนิอะไรนะคะ แค่อยากจะเชิญชวนว่าพาร์ทหน้า พาร์ทสุดท้ายของเรื่อง มาอ่านในเว็บพร้อมกันก่อนมั้ย 55555 เพราะหนังสือก็คืออีกนานมาก คงลงในเว็บจนจบแหละค่ะ ถึงจะทำหนังสือ

อยากได้บรรยากาศแบบช่วงแรกๆ กลับมาในหน้านิยายเรื่องนี้ มันเป็นเสน่ห์หนึ่งของการอัพนิยายลงเว็บเลยนะ ที่คนเขียนก็เขียนแบบสดๆ อัพสดๆ และคนอ่านก็อ่านของสดใหม่นั่นแหละ ตอมกะจะทำแบบนั้นแหละค่ะ 55555

อีกอย่าง การอัพนิยายในเว็บ สิ่งที่ทำให้คนเขียนมีกำลังใจต่อไปกับการเขียนและการอัพ ก็คือคอมเม้นจากคนอ่านนี่แหละค่ะ เห็นเม้นแล้วก็ยิ้ม และมีกำลังใจเขียนต่อว่า เออ มีคนรออ่านเรื่องเราอยู่นะ ตื่นเต้นตลอดเวลาเห็นว่ามีคอมเม้นใหม่ๆ จากคนอ่าน เห้นยอดเม้นขึ้นไรงี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นที่เป็นกำลังใจให้กันเสมอมา หลายคนแม้จะรอหนังสือออก แต่ก็มาคอยอ่านในเว็บและเม้นให้ตลอด ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้น คนอ่านทุกคน ทั้งที่อ่านในเว็บเวลาอัพทุกตอบ และคนที่ซื้อหนังสือไปอ่านด้วย เรื่องราวของวิคเตอร์กับแมทยังเหลืออีกพาร์ท ซึ่งจะเป็นบทสรุปของเรื่องราวของทั้งสองคน ยังไงเดี๋ยวพบกันนะคะ แต่ช่วงนี้ขอไปทุ่มเทให้แม่เรียวจันทร์กับพี่คมเขี้ยวก่อน พักน้องแมทกับพี่ยักษ์แปบนึงค่ะ เพราะตอมเป็นคนเขียนที่โฟกัสนิยายได้ทีละเรื่องจริงๆ ไม่งั้นสมองรวนนน





ขอบคุณทุกคนที่ยังคงคิดถึงสองผัวเมียคู่นี้เสมอๆ



ไปพบกับแม่เรียวจันทร์และพี่เขี้ยวก่อนได้ในระหว่างรอยักษ์กับเอเลี่ยนกลับมานะคะ แต่ใครที่จะไปอ่านเรื่องนี้ เลเวลทางใจต้องสตรอง เพราะนายเอกเรื่องนี้สาวมาก แซ่บมาก เชื่อว่าฉีกกฏนายเอกนิยายวายไปหลายหลา เพราะนางคือคุณแม่ นางคือตัวแม่ ที่ความสวย ความเปรี้ยวเยี่ยวราดไม่มีกั๊ก นางจัดหนัก จัดเต็ม สาวคือสาว ไม่มีแอ๊บแมน มีพี่ปาน ธนพรเป็นไอดอล ตบได้ตบ ไม่เสียเวลาเจรจา และตอนนี้ความพยายามของนางในการจับพี่คมเขี้ยว พระเอกของเรื่องก็เริ่มใกล้เข้ามา ไปร่วมลุ้นกับนางได้ที่ > Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนางมาร

อัพเรื่อยๆ เลยค่ะ ช่วงแรกๆ ตอมเขียนสองเรื่องพร้อมกัน เลยทำให้อัพช้า อัพขาดช่วงมาก แต่ตอนนี้โฟกัสคุณแม่เรื่องเดียว เลยเขียนได้เรื่อยๆ ไหลไปเรื่อย และอัพเรื่อยๆ ไม่ขาดหาย ไม่ดองแล้ว

ขอบคุณคนอ่านหลายๆ คนที่ตามไปอ่านจากเรื่องนี้นะคะ คุณสตรองมาก 55555 แต่เชื่อเถอะค่ะว่า อยู่ทีมแม่เรียวแล้ว แม่เรียวจะไม่ทำให้น้อง ต้องไปกราบใคร

ออฟไลน์ wannawanpa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาแว้วววววว
หนูกำลังจะเข้าเฟซไปเม้าเลย
แต่ยังไม่เห็นลง
เราจะมาเม้าในนี้แทน
ติดตามสัมเมอออออ
เมื่อกี้กด F5 มาเจอพอดี แทบกรีดร้องงงงงง

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ก็ขี้หึงทั้งคู่ล่ะนะ ยังไงก็ค่อยๆคุยกันละกัน

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น้องแมทขา เกือบจะดีอยู่แล้วเชียวววว ดันนนลืมลบรูปคู่อีก

พี่ยักษ์ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย มีเหตุผลเยอะขึ้น ชอบค่ะ คุยกันด้วยเหตุผล  o13

รอภาค3เน้อออออออ ระหว่างนี้ก้..ไปหาแม่เรียวจันทร์ก่อนน้า  :bye2:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
อุ่ย เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอีกแล้ว ใจเย็นนะคะทั้งคู่

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Spenguin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ wonwon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขี้หึงทั้งคู่ แต่ยักษ์ช่วยลดความซาดิสนิดนึง แมทน้อยน่วมไปหมดแล้วอ่ะ

ขอบคุณที่ไร้ท์มาเขียนตอนพิเศษให้คนอ่านกระชุ่มกระช่วยนะคะ ^^

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
น่าสงสารแมทเค้านะครับ 5555555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ใจร้อนทั้งคู่ แมทก็ขี้ประชด วิคเตอร์ก็นะควบคุมความโกรธไม่ค่อยได้ แมทน้อยช้ำพอดี

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ถ้สบอกว่าแมทสมควรโดนจะผิดไหม  แหม๋...อิยักษ์มันก็หวงอ่ะเน๊อะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แมท หาเรื่องตลอดเลย
คิดมาก คิดเอง เออเอง แล้วหาเรื่องประชดทันที
คราวนี้ตั้งใจหนีเที่ยวกับเอม่อน ได้เรื่องเลย
ทั้งๆที่รู้ว่า ยักษ์ ทั้งหึง ทั้งหื่นขนาดไหน
เอ....หรือว่าจริงๆ แมท ชอบการถูกลงโทษ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| Prologue 50% :24.12.59:
«ตอบ #1649 เมื่อ24-12-2016 00:41:07 »



Love, no boundaries : Yours and Mine


PROLOGUE


The day of US. (วันที่มีเรา) [50%]







 หนึ่งปีที่แล้ว…

 

 

เสียงจ้อกแจ้กจอแจของผู้คนดังไปทั่วบริเวณใต้อาคารเรียน บ้างก็เดินขวักไขว่ไปมาให้วุ่นวาย บรรยากาศหนาแน่นไปด้วยช่อดอกไม้ มงกุฎดอกไม้ ตุ๊กตาหมี กล่องของขวัญ หรือสิ่งของอื่นๆ ที่ผู้คนจะหามาร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตในวันสำคัญเช่นนี้ แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวขนาดไหน แต่ใบหน้าของเหล่าผู้จบการศึกษา พ่อแม่ เพื่อนฝูง บรรดาญาติพี่น้องทั้งหลายต่างก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มมากกว่าจะนั่งบูดบึ้ง เพราะวันนี้วันดี วันที่ไม่ใช่แค่บัณฑิตเท่านั้นที่รอคอย แต่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอีกขั้นของชีวิตก็รอคอยด้วยเช่นกัน

           

 

เหล่าบัณฑิตชายหญิงในชุดครุยสีดำสนิท ตัดกับฮู้ดสีขาวและแถบสีประจำคณะมนุษยศาสตร์กับสีประจำมหาวิทยาลัยจนหลายคนมีความคิดว่าเหมือนอยู่ในโรงเรียนพ่อมดแม่มด ฮอกวอตส์เวทมนตร์ศาสตร์ แต่ละคนกำลังมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งถ่ายรูป พูดคุย กิน แต่งหน้าเพิ่ม ซับหน้ามัน หรือนอนหลับ ซึ่งร่วมถึงร่างเล็กที่ตอนนี้เริ่มกลับมาอวบนิดหน่อยแต่ก็เป็นอวบแบบมีกล้ามเนื้อ กำลังนอนหลับปุ๋ยพิงอกแกร่งของฝรั่งร่างใหญ่อยู่บนโต๊ะนิ่งสนิท สองแขนกำยำในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนโอบกอดเจ้าตัวจ้อยของเขาไว้หลวมๆ กันหล่นลงจากโต๊ะ

           

 

“เตอร์ พัดให้แมทมันหน่อย พัด คูลๆ แมทมันฮ็อต” คนเป็นพ่อของบัณฑิตที่นั่งอยู่อีกฝั่งยื่นพัดสานจากงานฝีมือให้ลูกเขยตัวป่วน ทำท่าประกอบกับการพูดไปด้วยเพราะกลัวบักฝรั่งมันจะไม่เข้าใจ แต่จากการที่อยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง (และมักจะทะเลาะกันมากกว่าคุยปกติ) ก็ทำให้วิคเตอร์เก็ทได้บ้างว่าพ่อตาต้องการอะไร มือใหญ่ยื่นไปรับพัดแล้วเอามาโบกเบาๆ ให้แมทที่นอนหลับสนิทเนื่องจากอาการเพลีย

           

 

วิคเตอร์บินกลับมาไทยหลังจากกลับนิวยอร์กไปได้สามเดือน เพื่อมาร่วมหนึ่งงานสำคัญในชีวิตของแมท พ่อตาเขาไม่ยอมให้แมทบินกลับไปนิวยอร์กด้วยหลังจากเคลียร์เรื่องความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคน วิคเตอร์จะไม่กลับก็ไม่ได้อีกเพราะมีงานต้องรับผิดชอบ ที่ทำได้คืออาศัยช่องทางโซเชียลในการติดต่อกัน ก็ไม่ถึงกับทรมาน แต่เขาก็คิดถึงเอเลี่ยนน้อย ตกดึกก็ต้องนอนคนเดียว ถึงจะมีไมเคิลกับฟอกซ์มานอนด้วยแต่ความรู้สึกมันก็ต่างกัน ได้แค่เจอหน้ากันผ่านจอ นึกโกรธพ่อตาใจมารอยู่บ่อยๆ ที่กีดกันความรักคนอื่นเขาไปทั่ว แต่ถามว่ากล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้มั้ย ก็ไม่

           

 

“How long do we have to wait? (เราต้องรออีกนานเท่าไหร่เหรอ)” ใบหน้าหล่อที่ยิ่งหล่อเมื่อมีออพชั่นเสริมบนหน้าด้วยแว่นดำของแบรนดังอย่างเรย์แบนด์หันไปถามพวกเพื่อนสนิทของแมทที่กำลังนั่งคุยกันอยู่สองสามคน นอกนั้นหลับ

           

 

“I think in ten minute, we gonna move. (คิดว่าอีกสิบนาทีก็น่าจะไปแล้วแหละ)” วิคเตอร์พยักหน้ากับคำตอบของแชมป์ มือซ้ายโบกพัดเรียกลมให้แมทเบาๆ

           

 

พิธีรับปริญญาบัตรเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อช่วงเช้าสายๆ แต่ตอนนี้พวกแมทกำลังรอถ่ายรูปรวมคณะและก็รอถ่ายรูปหมู่ของกลุ่มพวกเขาเอง พ่อยักษ์ใหญ่มองไปรอบๆ มีหลายคนมองมาทางเขาบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีใครบุกเข้ามาหาถึงตัวชัดเจน โต๊ะที่เขานั่งตั้งอยู่ตรงมุมตึก ถือว่าห่างไกลจากผู้คน และอยู่ในมุมอับพอสมควร แต่ก็ยังมีคนพยายามเดินมามองหน้าเขาด้วยการแกล้งมามองหาเพื่อนบ้าง เดินผ่านเฉยๆ บ้าง เดินมาคุยโทรศัพท์บ้าง ยักษ์ใหญ่ได้แต่ทำหน้านิ่งเฉย ไม่หือไม่อืออะไรกับใคร ขนาดกับญาติๆ แมทเขายังไม่ค่อยสร้างปฏิสัมพันธ์ด้วย พวกนั้นส่วนมากไม่รู้จักเขาหรอก ซึ่งเขามองว่ามันเป็นเรื่องดี ที่แสดงออกเลยเป็นอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นฝรั่งตัวใหญ่หน้าตาหล่อมาร่วมงานด้วยซะมากกว่าเห็นดารานักแสดง

           

 

“When do you get back to NYC, Victor? (จะกลับนิวยอร์กเมื่อไหร่เหรอวิคเตอร์)” เพื่อนผู้หญิงของแมทคนหนึ่งซึ่งเขาก็ยังจำไม่แม่นอยู่ดีว่าใครเป็นใคร ชื่ออะไรบ้างถามขึ้นพลางส่องกระจกและใช้ทิชชูซับหน้าเบาๆ

           

 

“I will stay here, in Thailand, around two weeks. (น่าจะอยู่ไทยสักสองอาทิตย์แหละ)” แบมพยักหน้า แล้วชี้ไปทางแมทที่นอนเผยอริมปากบนน้อยๆ

           

 

“And you will take him back with you? (แล้วจะเอามันกลับไปด้วยเลยมั้ยคะ)” วิคเตอร์กระตุกยิ้มมุมปากหล่อๆ นิดหนึ่งแล้วหันไปมองพ่อตาตัวเองที่กำลังนั่งถือขวดน้ำให้แม่ยายเขาใช้ดูดหลอดอยู่

           

 

“I’m gonna deal with him again. (เดี๋ยวเจรจากับพ่อตาอีกทีนะ)” แบม แชมป์ วอร์มหัวเราะกันนิดหน่อย เพราะรู้ดีว่าพ่อเพื่อนไม่ยอมให้แมทไปกับวิคเตอร์ง่ายๆ ถึงจะเข้าใจตรงกันแล้วว่าสถานะของทั้งสองคนคืออะไร

           

 

“We have plan to have a trip at the south of Thailand, Phuket, Krabi, Pangnga. If you don’t mine I want you to let Matt go with us. (เรามีแพลนว่าจะมีทริปไปเที่ยวใต้กันค่ะ ที่ภูเก็ต กระบี่ พังงาอะไรแบบนี้ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร อยากให้แมทไปด้วยค่ะ)”

           

 

“If I can go with him, then he can go. (ถ้าผมไปด้วยได้ แมทก็ได้ไป)” แบททำหน้าว่าหูว ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

           

 

“We meant to ask you to go with us, but I have told them that you surely go if Matt don’t deny. (เราตั้งใจจะชวนคุณอยู่แล้วแหละ แต่ผมก็บอกพวกมันนะว่าคุณไปแน่ถ้าแมทมันไป)” วิคเตอร์ยักคิ้วพร้อมกับยักไหล่ขวากับคำพูดของไอ้ล่ามจำเป็นของเขาในช่วงหนึ่งที่ต้องผจญภัยกับพ่อตา

           

 

นั่งรอกันไม่เกินสิบนาทีตามที่แชมป์บอกก็มีเสียงประกาศเรียกดังไปทั่วตึกว่าให้บัณฑิตทุกเอกไปเตรียมพร้อมกันที่หน้าอาคารที่ใกล้กับหอประชุม ซึ่งต้องเดินย้อนกลับไปแต่ก็ไม่ได้ไกลมาก วิคเตอร์ปลุกแมทตามที่เพื่อนๆ บอก เจ้าตัวจ้อยตื่นขึ้นมาหน้างัวเงีย แม่ส่งผ้าเย็นให้เช็ดหน้าเช็ดตา วิคเตอร์รับมาจัดการแกะซองให้แล้วเช็ดหน้าให้แมทเบาๆ คนตัวจ้อยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง

           

 

“หิวมั้ย” วิคเตอร์ถามพลางช่วยจัดทรงผมด้านหลังที่เรียบแบนเพราะโดนกดทับนาน

           

 

 

“เดี๋ยวค่อยกินทีเดียว” วิคเตอร์พยักหน้า วางผ้าเย็นไว้บนโต๊ะ แมทลุกขึ้นยืนพร้อมเพื่อนคนอื่นๆ หันไปบอกวิคเตอร์ว่าให้นั่งรออยู่ตรงนี้กับพ่อและแม่ เพราะตรงนั้นคนเยอะ ถ่ายไม่นานก็กลับมา อันที่จริงถ่ายน่ะไม่นานหรอก แต่รอคิวถ่ายน่ะนาน

           

 

“ถ้าเหงาก็นั่งคุยกับพ่อกับแม่ไปก่อน”

           

 

“นั่งเงียบๆ น่าจะดีกว่าหรือเปล่า” แมทแกล้งมองค้อนก่อนจะขำกับคำเปรียบเปรยของวิคเตอร์ แล้วค่อยเดินออกจากโต๊ะไปพร้อมเพื่อนๆ ทิ้งให้สามพ่อแม่ลูก (เขย) นั่งอยู่ด้วยกัน พี่ตากล้องประจำกลุ่มสองคนที่จ้างมารีบลุกขึ้นเดินตามมาพร้อมผู้ช่วยอีกสองคน

           

 

พอมาถึงบริเวณลานถ่ายรูปรวมคณะ แมทกับเพื่อนๆ ก็ต้องมายืนรอต่อคิวต่อจากคณะอื่นๆ ก่อน ในระหว่างที่รอก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดแถวตามเอก เพื่อที่พอถึงเวลาเดินขึ้นอัฒจันทร์ถ่ายรูปจะได้รวดเร็ว โดยจะมีเจ้าหนี้ที่คอยบอกอีกทีว่าเอกไหนอยู่ชั้นไหน

           

 

จริงๆ แมทจะไม่เอารูปถ่ายรวมคณะอยู่แล้ว เอาแค่รูปรับปริญญาอย่างเดียว แต่เพื่อนๆ บอกว่ามันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตก็ต้องเอาให้ครบ แมทเลยไหลตามกระแสเอาด้วย ระหว่างยืนรอถ่ายรูปรวม พี่ตากล้องทั้งสองคนที่ช่วยกันออกเงินจ้างมาก็กดถ่ายชัตเตอร์พวกเขาแทบทุกช็อต

           

 

 

พอถึงคิวคณะมนุษย์ฯ ทุกคนก็รีบเดินขึ้นไปบนอัฒจันทร์ ยืนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่คอยพูดไมค์บอกให้ขยับซ้าย ขยับขวาไปเรื่อย จนกระทั่งคงได้มุมที่เหมาะเจาะแล้วก็สั่งให้ยืนนิ่งและทำหน้าให้ดีที่สุดแม้รูปที่ออกมาจะเห็นเราเหมือนมดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งก็ตาม

           

 

สำหรับวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจในชีวิตของแมท และเชื่อว่าพ่อกับแม่เขาก็ภูมิใจ เป็นเรื่องหนึ่งที่เขาตั้งใจทำให้ทั้งสองคนเห็นว่าแม้เขาจะเป็นเช่นไร แต่เขาก็เรียนจบได้ แม้จะไม่ได้เกียรตินิยม แต่กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า เขาไม่เคยดรอป ไม่เคยเอฟวิชาไหนเลยสักวิชา และเกรดก็ออกมาในระดับที่น่าพึงพอใจ แม้กว่าจะเรียนจบจะปวดหัวและเบื่อหน่ายกับบางวิชา แต่สุดท้ายก็ทำได้อย่างที่ตั้งใจ และแม้ว่าตามแพลนชีวิตที่คิดไว้จะพลิกผันด้วยการมีผัวแทรกเข้ามาก่อนจะสำเร็จการศึกษาและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ก็ถือว่าแพลนไม่ได้ผิดเพี้ยนมากมายอะไร แถมยังเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น มีผัวก่อนเรียนจบ และผัวดันช่วยซัพพอร์ตหน้าที่การงานได้

           

 

พอถ่ายรูปรวมคณะเสร็จ ทั้งหมดก็เดินกลับไปที่ตึกคณะ เพื่อไปเดินล่ามุมสวยๆ มุมดีๆ ในมอถ่ายภาพกลุ่ม จริงๆ ภาพกลุ่มก็ถ่ายกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่วันนี้เป็นการถ่ายภาพกลุ่มในวันพิเศษมากกว่า ก็เหมือนเราไปเที่ยวด้วยกันสักทริปนึง แล้วก็ถ่ายภาพความประทับใจทริปนั้นไว้ เก็บไว้เป็นไทม์ไลน์ในชีวิต

           

 

“พ่อกับแม่จะกลับก่อนเปล่า เดี๋ยวแมทจะไปถ่ายรูปกับเพื่อน อาจจะเดินรอบมอเลยอะ” เขาและเพื่อนทุกคนถ่ายรูปกับพ่อแม่และญาติพี่น้องของตัวเองกันไปตั้งแต่หลังออกจากหอประชุมแล้ว เพราะจะได้ไม่ชนกับการไล่ถ่ายภาพกับเพื่อนๆ

           

 

“งั้นเดี๋ยวพ่อกับแม่กลับโรงแรมก่อนละกัน” แมทพยักหน้า แล้วมองของขวัญกองพะเนินบนโต๊ะ

           

 

“ขนของไหวมั้ยอะ”

           

 

“ไหว มีตั้งหลายคน” พ่อบอกด้วยท่าทีสบายๆ แมทพยักหน้า แต่ก็แอบเห็นใจพ่อกับแม่ ของที่กองๆ อยู่นี่มาจากเหล่าน้องแฟนคลับที่ชื่นชอบเขากับวิคเตอร์ แม้จะดูออกว่าจะชอบวิคเตอร์มากกว่า แต่น้องก็มีน้ำใจเอาของมาให้ หรือจริงๆ น้องอยากมาเจอวิคเตอร์เลยมากันก็เป็นได้ ตอนนี้พวกน้องๆ ไปหาอะไรกิน จะกลับมาอีกทีก็ช่วงห้าโมงเย็น ตามเวลาที่เขานัดไว้เพื่อมาถ่ายรูปด้วยกัน

           

 

พ่อกับแม่และญาติๆ เขาเดินเข้ามาช่วยกันขนของ แม่เขาเตรียมพร้อมด้วยการพกถุงปุ๋ยลายน่ารักๆ ขนาดใหญ่มาสิบใบ จับของชิ้นเล็กๆ จนถึงขนาดกลางใส่ลงไป ส่วนพวกตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ๆ ค่อยให้คนแบกไปอีกที ทุกคนต้องขนของจากในมอและเดินกลับโรงแรมที่อยู่นอกมอ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา

           

 

“ของพ่อกับแม่จะเก็บไว้หรือจะฝากกลับด้วย” แมทล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแลคสีดำ หยิบถุงกำมะหยี่สีแดงที่ในนั้นบรรจุสร้อยคอทองคำหนักหลายบาทออกมา

           

 

“เอากลับไปด้วย เดี๋ยวแมททำหาย” ถือว่าเป็นของขวัญวันรับปริญญาชิ้นใหญ่ที่สุด ส่วนของวิคเตอร์เป็นเงินสดก้อนหนึ่ง เพราะเจ้าตัวไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรให้แมทดี เลยให้เงินไปเลือกซื้อเอง ซึ่งแมทก็ยังไม่รู้เช่นกันว่าจะซื้ออะไรดี

           

 

พอส่งพ่อกับแม่และญาติๆ กลับโรงแรมไปแล้ว แมทกับเพื่อนๆ ก็เริ่มตระเวนหาที่ถ่ายรูป โดยมีวิคเตอร์คอยเดินตามด้วยท่าทีนิ่งๆ

           

 

“แคท พี่เคนจะมายังอะ” แมทถามถึงอดีตบอดี้การ์ดคนไทยของวิคเตอร์ที่ตอนนี้กำลังสานสัมพันธ์กับแคท เพื่อนสนิทของเขา เห็นว่าเริ่มคุยกันตั้งแต่หลังเจอกันตอนงานเลี้ยงวันเกิดของวิคเตอร์ปีล่าสุด พี่เคนสะดุดความสดใสเฮฮาปาจิงโกะของแคท แต่ก็ไม่ได้ว่าอย่างแรง เหมือนสนใจผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่วันนั้นแล้วก็ขอสานสัมพันธ์มาเรื่อยๆ

           

 

“กำลังมาแหละ ฉันโทรไปเร่งละว่าให้รีบมาอยู่กับอดีตเจ้านาย” แมทพยักหน้าแล้วหันไปตะโกนบอกวิคเตอร์ว่าพี่เคนกำลังมาที่นี่

           

 

วิคเตอร์เลิกจ้างพี่ๆ บอดี้การ์ดคนไทยตามความคิดเห็นของแมท เขามองว่าไม่จำเป็นต้องจ้างพวกพี่เขาต่อ เพราะตอนอยู่ไทย แมทก็อยู่กับพ่อกับแม่ ออสตินก็ต้องอยู่กับวิคเตอร์เป็นส่วนใหญ่ พี่คนไทยก็จะว่างงานเกินไป ก็ถ้าให้พูดตรงๆ คือมันเปลืองเงิน จ้างเขาแต่เขาได้ทำงานน้อยมาก วิคเตอร์เลยตัดสินใจเลิกจ้าง ทุกคนเข้าใจ ไม่มีใครว่าอะไร เพราะทั้งสามคนก็ได้จากวิคเตอร์ไปเยอะจนสามารถตั้งตัวใหม่ได้แล้ว และอันที่จริงพวกพี่ๆ เขาก็มีงานอื่นรอให้ทำอีกมากมาย และแม้จะเลิกจ้างไปแล้ว แมทก็ยังได้พบกับพวกพี่เขาอยู่บ้าง โดยเฉพาะพี่เคนที่กำลังตามจีบแคทอยู่

           

 

จากจุดหนึ่งก็ไปอีกจุดหนึ่ง กว่าจะถ่ายรูปในแต่ละจุดเสร็จก็เล่นไปหลายท่าหลายทาง ดูเหมือนการถ่ายรูปนั้นจะเป็นอะไรที่สบายๆ ไม่ได้ใช้พลังงานอะไรมาก แต่จริงๆ แล้วดูดพลังไปมากอย่างที่ว่าถ้าไม่สังเกตก็จะไม่รู้ตัวเลยว่ามันทำให้เพลียเหลือเกิน

           

 

“เอิร์ท!!” แมทร้องด้วยความตกใจและดีใจผสมกันแบบเข้มข้นเมื่อตอนที่กำลังเดินไปสวนสาธารณะของมอแล้วเจอกับเอิร์ทและกลุ่มเพื่อนๆ ของเขา

           

 

“โอ้ว เจ้าแม่!” เพื่อนเอิร์ทคนหนึ่งเอ่ยทักเสียงดัง แมทหัวเราะคิกและทักทายกับเพื่อนเอิร์ทไปรอบวงอย่างครื้นเครง

           

 

“เป็นไงมั่ง ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันนานมากจริงๆ” แมทไม่ได้เจอเอิร์ทหรือแม้กระทั่งพูดคุยกันในโลกโซเชียลมาเกือบครึ่งปี พอหลังจากเลิกคุยกันในแบบคนรัก ก็ได้พบกันหลังจากนั้นแค่สองสามครั้ง ล่าสุดคือตอนงานบวช ก่อนที่จะไม่ได้เจอกันยาวจนกระทั่งมาเจอกันตอนนี้แทน

           

 

เอิร์ทยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบ “ก็ดี เดี๋ยวจะไปอิตาลี ไปลองงานที่นู่น”

           

 

แมทอ้าปากพร้อมกับทำตาเหมือนนกฮูก “โอ๊ะ! อิตาลี”

           

 

“ใช่ มีรุ่นพี่ที่เขาทำด้านออกแบบแนะนำมาเลยว่าจะไปลองสักสามเดือน ชอบไม่ชอบค่อยว่ากันอีกที”

           

 

“หูย ดีๆ แล้วคนอื่นไปทำงานที่ไหนยังไงมั่ง” แมทหันไปถามเพื่อนเอิร์ทคนอื่นๆ แต่ละคนก็บอกว่าทำที่นั่น ทำที่นี่ บางคนก็ยังว่างงานแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร และก็มีคนที่มีแพลนอยากจะเปิดบริษัทเองด้วย แต่เห็นว่าก็ต้องศึกษาให้ดีก่อนเพราะบริษัทรับออกแบบก็ไม่ได้ว่ามีน้อยซะเมื่อไหร่

           

 

“ถ่ายรูปกันๆ” แมทเรียกให้พวกเอิร์ทเข้ามายืนใกล้กัน กวักมือเรียกพี่ช่างภาพให้มาถ่าย หันไปมองวิคเตอร์ที่ยืนอยู่กับพี่เคนแล้วทำหน้าอ้อนๆ ไอ้ยักษ์ทำตาดุใส่ แต่ก็ปล่อยไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเพิ่งมีโอกาสได้เจอกันและก็เป็นวันดี

           

 

พอถ่ายรูปหมู่เสร็จ แมทก็ขอถ่ายคู่กับเอิร์ท อีกฝ่ายขอให้ส่งรูปให้ด้วย เพราะตัวเขาไม่ได้จ้างช่างภาพ กดถ่ายกันเองไปเรื่อยเปื่อย เอิร์ทยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับแมทไปสี่รูป

           

 

“ยังอยู่ที่มออีกป่ะ หรือกลับบ้านเลย” แมทถามหลังจากถ่ายรูปคู่เสร็จ เอิร์ทยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงก่อนตอบ

           

 

“อยู่อีกสองวันแล้วเดี๋ยวกลับ”

           

 

“เออๆ ไว้นัดเจอกัน ไปกินข้าวกันอะไรแบบนี้นะ” เอิร์ทเลิกคิ้วขึ้น เลื่อนสายตาไปมองไอ้ฝรั่งที่แม้ปากจะพูดแต่ก็เหลือบมองมาทางนี้ไม่ขาดสาย

           

 

“ที่พูดนี่คือแน่ใจแล้วเหรอ” แมททำหน้ายู่

           

 

“แหม เดี๋ยวนี้วิคเตอร์ใจดีขึ้นเยอะ” เอิร์ทหัวเราะเบาๆ

           

 

“ก็ได้ นัดมาแล้วกัน เบอร์เดิม” แมทยิ้มแป้นและพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะเอ่ยลาเพื่อนๆ เอิร์ทและบอกว่าเดี๋ยวจะขอนัดเจอหลังจากนี้ ทุกคนตอบรับ ไม่รู้ว่าเออออห่อหมกไปก่อนหรือตอบรับจริงจัง

           

 

“กอดที” เอิร์ทบอกและอ้าแขนรอ แมทเดินเข้าไปกอดกับเอิร์ทด้วยความรู้สึกแบบเพื่อนกันจริงๆ

           

 

“เดี๋ยวเจอกันๆ” แมทตบหลังเอิร์ทเบาๆ ก่อนจะผละออก เอิร์ทยิ้มให้แล้วก้าวเดินไปหาเพื่อนๆ ที่รออยู่ แมทหันไปเรียกเพื่อนตัวเองให้เคลื่อนขบวนกันต่อ ส่วนตัวเองเดินย้อนกลับไปกอดเอววิคเตอร์ที่กำลังคุยกับพี่เคน พ่อยักษ์ยกแขนขวาโอบกอดตอบ

           

 

“เดี๋ยวบอกสองคนนั้น… อะไร” วิคเตอร์ก้มลงมองหน้าเอเลี่ยนตัวจ้อยด้วยสายตาดุหน่อยๆ แมทคลี่ยิ้มบาง เอียงคอน้อยๆ แล้วกะพริบตาปิ๊งๆ วิคเตอร์ถอนหายใจหน้าเซ็ง

           

 

“ฉันเกลียดหน้านี้จริงๆ”

           

 

“จริงเหรอ” แมทยิ้มล้อ วิคเตอร์มองด้วยความหมั่นไส้ เลื่อนมือขวาลงไปตีก้นคนตัวเล็กแรงๆ หนึ่งที

           

 

“ตอนนี้อนุโลมให้ กลับถึงบ้านก่อน เดี๋ยวว่ากัน” แมทย่นจมูก วิคเตอร์พยักพเยิดให้แมทเดินไปหาเพื่อนที่รออยู่ในจุดถ่ายรูปจุดใหม่ เอเลี่ยนน้อยมองหน้ายักษ์ใหญ่แบบกำลังพิจารณาว่าอีกฝ่ายไม่พอใจอยู่หรือเปล่า แต่จากเซ้นส์ที่สัมผัสได้ วิคเตอร์ไม่ได้ออกอาการฉุนเฉียวน่ากลัว เลยยอมผละออกจากเอวสอบและเดินเข้าไปหาเพื่อนๆ







เม้าท์เมาท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:


หม่าบู๊ฮายยย หนีห่าววว เฮนโหลววว อิทส์มี


กลับมาแล้ววว สำหรับพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยนในพาร์ทสุดท้าย พาร์ท Yous and Mine ซึ่งจะเป็นบทสรุปชีวิตรักของสองผัวเมียที่ชอบตีกันบ่อยๆ 55555 วันนี้พาบทนำของพาร์ทสามมาออเดิฟก่อนครึ่งนึง อุๆ


หลังจากหายไปนาน ตอนนี้เรื่องนี้จะเริ่มกลับมาอัพแล้วค่ะ แต่ต้องบอกก่อนว่า ไม่ได้อัพถี่รัวๆ เพราะจะเป็นการเขียนสดอัพสดแบบในช่วงแรกที่ตอมเขียนนิยายเรื่องนี้ อยากอ่านคอมเม้นนน เพราะบางทีอ่านเม้นแล้วไอเดียบรรเจิดมากเลยก็มี อยากได้ฟีลลิ่งเก่าๆ ในการเขียนและอัพนิยายกลับมาาา


อีกอย่างปี 60 ตอมได้ทำการอาจหาญที่จะเขียนนิยายพร้อมกันถึงสามเรื่องเป็นอย่างต่ำ มากสุดคือสี่ โอ้ววว หล่อนไปเอาความมั่นนี้มาจากไหน เขียนทีละเรื่องยังจะตายแล้ววว ซึ่งถ้าใครตามอ่านงานตอมมานาน จะรู้เลยว่าตอมบอกเสมอว่าโฟกัสนิยายได้ทีละเรื่องจริงๆ


แต่คือแบบนี้ค่ะ แอบมีการแบ่งคิว 5555 (อยู่ในช่วงทดลองงาน) อย่างเรื่องน้องแมทกับพี่เตอร์เนี่ย จะเขียนสดวันนั้น อัพอีกวันอะไรแบบนี้ ส่วนแม่เรียวเนี่ย ตอนนี้สต็อกไปได้เยอะแล้ว และเรื่องใหม่ที่จะเปิดอย่างที่เคยแจ้งไปในเพจคือเรื่องพี่พระเอกคนที่สามของเซ็ท ซีรีส์พี่พระเอก อันนั้นก็จะค่อยๆ เขียนและอัพไปพร้อมน้องแมทเช่นกัน และถ้าแม่เรียวปิดต้นฉบับไปแล้ว ตอมก็จะเขียนฟิคเซฮุนกับลู่หาน กรี๊ดดด อยากเขียน รอบก่อนคือไม่ถนัดฟิคเลยยย มันไม่อินจีๆ แต่ตอนนี้เรามีวิธีอินของเราแล้วคือ ใช้แค่ฮุนกับลู่สองคน ตัวละครอื่นมโนเองทั้งหมดดด แบบนี้แหละเขียนไหลแน่ๆ คือแบบว่า ตัวพระนายชื่อฮุนกับชื่อลู่เลยค่ะ แต่ตัวละครรอบๆ ตัวก็จะชื่อแดง ชื่อดำ ชื่อเขียว เพราะถ้าชื่อคนในวงมาเขียน ตอมจะได้ฟีลไม่สุดดด


ก็จะประมาณนี้ค่ะ แต่ยังไม่รู้จะเป็นไปประมาณนี้มั้ย 5555 คือก็ลองดูอยู่ว่าตัวเองจะไหวหรือไม่ ถ้าไม่ไหวก็ไม่ฝืนตัวเองแน่นอน เพราะกลัวเขียนออกมาไม่ดี ถ้าเขียนได้เยอะแล้วเนื้อรเื่องมันตุปัดตุเป๋ ก็ขอกลับมาโฟกัสเรื่องเดียวแล้วทุ่มให้สุดๆ ไปเลยดีกว่า ส่วนใครที่รอรูปเล่มพาร์ทสามของพี่วิคเตอร์กับแมทคืออีกโคตรนานนน มาอ่านในเว็บก่อนเถอะจริงๆ 5555


ส่วนรีปริ้นนิยายเรื่องนี้ ทั้งภาค 1 และภาค 2 คือช่วงกลางเดือนมกราคมค่ะ ซึ่งตอมได้แจ้งในเพจไปแล้ว แต่บางคนอาจจะไม่เห็นหรือเปล่า เลยมาแจ้งในนี้อีกที จะเปิดพรีออเดอร์วันแรกคือ 13 มกราคม และปิดพรีออเดอร์ 25 กุมภาพันธ์ ผู้ได๋อยากดั้ยหนังสือ ก็เตรียมไตไว้เด้อจ้า ไม่มีการลงชื่อใดๆ ทั้งสิ้น ใครพร้อมโอนแล้วแจ้งโอนผ่านอีเมล รายละเอียดจะมาแจ้งอีกทีนะค้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด