Only You EP.17 [100%]เรากลับมาถึงโรงแรมเกือบเที่ยงคืน มีแววว่าจะไม่ได้เล่นน้ำ แต่ปรากฏว่าพอวิคเตอร์โทรไปถามพวกคุณเบน พวกเขาเพิ่งลงเล่นน้ำไปได้สิบนาที ไม่ได้มีเหตุผลใดๆ มาสนับสนุนกับการเลือกช่วงเวลานี้เล่นน้ำ นอกจากอยากเล่นช่วงเวลานี้เท่านั้นเอง
“ไม่ต้องถอดเสื้อนะ ใส่เสื้อลงไปเล่นน้ำด้วย” วิคเตอร์บอกในขณะที่เขาถอดชุดทักซิโด้ออกหมด เหลือแต่กางเกงชั้นในไว้ เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้ผมเลือกเสื้อยืดมาใส่สักตัว ผมเห็นด้วยกับการใส่เสื้อเล่นน้ำนะ เพราะผมอายพุง ถึงจะมีนิดนึงแต่ก็อาย ต้องฟิตหุ่นแล้วละ
“หยิบกางเกงสำหรับลงสระให้ฉันหน่อยสิ” วิคเตอร์ที่เดินเช็ดหัวเปียกๆ ออกมาบอกไปพลางเช็ดหัวไป เมื่อกี้คงไปล้างเอาเจลจัดผมออก ผมเลือกกางเกงผ้าร่มขาสั้นของผู้ชายแบรนด์ Adidas สีดำไปให้เขา วิคเตอร์รับไปใส่ทับกางเกงชั้นใน
“เอาผ้าขนหนูไปด้วยนะ ถ้าจะดำน้ำ เอาแว่นไปด้วย เดี๋ยวตาแดง” ผมหยิบผ้าขนหนูคล้องคอ หยิบแว่นกันน้ำของเขาติดมือไปด้วย
เราลงลิฟต์มาที่ชั้นแปดของโรงแรมที่เป็นชั้นของสระว่ายน้ำและฟิตเนส เสียงว่ายน้ำ เสียงหัวเราะดังกระจายพอๆ กัน ทางโรงแรมเปิดไฟให้แสงสว่างรอบริมสระน้ำ จึงทำให้น้ำไม่มืดทะมึนเกินไป พวกคุณเบนกำลังว่ายน้ำพร้อมกับโหวกเหวกโวยวายไปด้วย ตอนแรกผมสงสัยว่าบาสไม่ไปเรียนหนังสือบ้างเหรอ ก็ได้คำตอบว่าเทอมนี้เขาเรียนแค่สองตัวเท่านั้น ซึ่งช่วงนี้ยังขาดได้อยู่ เลยมาช่วยผมดูแลพวกวิคเตอร์ แต่ผมแอบคิดว่าจริงๆ แล้วบาสก็คงอยากใช้เวลาอยู่กับคุณเบนด้วยนั่นแหละ ว่าไปก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าคู่นี้เขาจีบกันยังไง ไปสปาร์คกันตอนไหน
“เฮ้ย มาเล่น เอ่อ อะไรชิงบอลนะบาส” อันเดรหันหน้านิ่วคิ้วขมวดไปถามบาส
“ลิงชิงบอลครับ” อันเดรตอบรับเออออยกใหญ่ กวักมือเรียกผมสองคนรัวๆ วิคเตอร์พาผมเอาผ้าขนหนูไปวางไว้บนเก้าอี้อาบแดด ก่อนลงสระมีการมาเบ่งกล้ามโชว์ผมด้วยสีหน้าทะเล้นด้วย ผมยิ้มบิดปาก ย่นคิ้วปรือตามองเขาแต่ก็นึกขันว่าจู่ๆ จะมาเบ่งกล้ามทำไม รู้แล้วว่ากล้ามแน่น
ตู้ม!!
วิคเตอร์กระโจนลงน้ำเสียงดัง วินาทีนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่าเสียงเราจะไปรบกวนคนชั้นบนๆ รึเปล่า ผมแหงนหน้าไปดู ตอนนี้ยังไม่มีใครโผล่มาเขวี้ยงขวดใส่พวกเรา
“แมท ยืนมองอะไรอยู่ ลงมาได้แล้ว” เสียงบาสทำให้ผมก้มหน้ากลับมาตามเดิม ทุกคนกำลังยืนรอผมอยู่ ผมเลยค่อยเดินไปหย่อนตัวลงไปในสระ รู้สึกเป็นคนสวยมากยังไงไม่รู้ มีผู้ชายถอดเสื้อรายล้อมตั้งสี่คน แต่เดี๋ยวก่อน…
น้ำมันลึกไปหรือผมเตี้ยเอง ทำไมผมอยู่ในระดับคางเลยอ่ะ คนอื่นๆ แค่อกเองนะ
“ประเดิมลิงตัวแรก แมทเป็นละกัน” บาสพูดเองตกลงเอง แล้วก็หันไปแปลให้สามฝรั่งฟัง พ่อสามคนนั้นพอรู้ว่าผมจะเป็นลิงเพื่อชิงบอลก็เฮกันยกใหญ่ อีคนถูกแต่งตั้งให้เป็นลิงยังงงอยู่เลย
คือตูคงเป็นลิงจนตาย พวกมรึงสี่คนสูงทั้งนั้น ยืดสุดแขนครั้งเดียว อีลิงตัวนี้ก็เอื้อมไม่ถึงแล้ว
“แย่งดิแมท ทำหน้าที่หน่อย!” เสียงบาสเชียร์อัพ พ่อสามหน่อฝรั่งก็ส่งเสียงหัวเราะร่าชอบใจ ผมพยายามเดินเร็วๆ ไปแย่งบอลมาจากมือบาส แต่ยังไม่ทันไปถึงบอลเป่าลมสีใสก็ถูกปาไปให้วิคเตอร์ พ่อตัวดีทำหน้าหลอกล่อราวกับล่อเด็กน้อยให้เข้าไปหา ผมรีบกระโจนใส่เขา แต่ไอ้ยักษ์ก็ปาบอลไปให้เบนเนดิคท์แล้ว พอผมจะรีบเดินไปแย่ง ก็โดนเขาดึงเสื้อไว้ไม่ให้ไปไหน
“แอ๊! ปล่อยเซ่!” ผมหันไปดันน้ำใส่หน้าไอ้หนวดที่เบี่ยงหน้าหลบแต่หัวเราะเริงร่า ผมดึงมือเขาออกแล้วรีบพุ่งตัวไปหาคุณเบน แต่พี่แกก็โยนให้อันเดรไปแล้ว พอจะไปแย่งอันเดร เขาก็โยนให้บาส
สรุปผมแม่งก็เป็นลิงทั้งคืนแหละ เล่นจนเหนื่อยผมก็แย่งบอลมาจากพวกเขาไม่สำเร็จ ทำไมไม่สงสารคนเตี้ยบ้าง ยืดแขนเอาๆ ใครมันจะไปเอื้อมถึง พอเล่นจนหอบผมก็ยกมือยอมแพ้ ไม่ขอสู้ต่อ โยนให้พวกเขาไปหาลิงกันต่อเอง
“โหย นายเป็นลิงสนุกสุดแล้ว ถ้าไม่ใช่นาย งั้นเลิกเล่น” วิคเตอร์ ผมไปเหยียบตาปลาคุณตอนไหน คุณถึงได้แค้นผมขนาดนี้
สุดท้ายทุกคนก็เลิกเล่นลิงชิงบอลในสระว่ายน้ำ เพียงเพราะผมไม่ยอมเป็นลิงต่อ แหม ไอ้พวกพ่อตัวสูง รังแกคนเตี้ยกว่าสนุกนักนะ ความเมตตาอยู่ไหนกัน บ่อเห็นกั๋นก้าว่าฮายืนจะจ๋มน้ำอยู่ละ หมู่คิงก็จะยังฮื้อฮาวิ่งไปวิ่งมา ถ้าฮาจมน้ำต๋ายไป๋ จะยะจะได
ผมแบะปากใส่ไอ้ตัวตั้งตัวตีและตัวดีของความคิดที่จะให้ผมเป็นลิงไปตลอดอย่างวิคเตอร์ เขาหัวเราะเริงร่า ว่ายน้ำไปรวมกลุ่มกับพวกคุณเบน ส่วนผมผู้ซึ่งต่ำเตี้ยนั้น ด้วยความกลัวว่าตัวเองจะจมหายตายจากทุกคนไปในน้ำ ก็ขอไปเล่นสระตื้นคนเดียวแบบใสๆ แล้วกัน
ผมสวมแว่นตากันน้ำ ดำผุดดำว่ายอยู่ฝั่งเด็กน้อยของตัวเอง แต่พวกหนุ่มตัวสูงชะลูดทั้งหลายก็ว่ายแข่งขันกันสนุกสนานในฝั่งผู้ใหญ่ ผมมีฟุตบอลช่วยให้ตัวลอยก็จริง แต่ก็ไม่กล้าข้ามไปเล่นอยู่ดี ขนาดพวกวิคเตอร์สูงเกือบร้อยเก้าสิบยังครึ่งคอเลย แน่นอนว่าผมคงจมมิด ฉะนั้นขอเล่นอย่างปลอดภัยอยู่ในโซนตื้นเขินของตัวเองจะดีกว่า
แว้กกก!
จู่ๆ ก็มีมือมากระตุกขาผมที่ใต้น้ำ ด้วยความตกใจ ผมเลยออกแรงถีบเต็มที่ ถีบไปเรื่อยไม่รู้ว่าเป็นใคร และถีบโดนตรงไหนบ้าง ต้องเป็นหนึ่งในสี่คนนั้นแหละแต่ใครไม่รู้ แต่ตอนนี้ตูตกใจ ถีบไว้ก่อน
“เฮ้ๆ ถีบมาเต็มแก้มเลยนะแมท” เสียงโวยดังขึ้นพร้อมกับร่างของอันเดรที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาหน้ายับยู่ยี่ ไม่รู้ว่ายับเพราะโดนผมกระหน่ำเท้าใส่รึเปล่า ผมยิ้มแห้งให้เขา อันเดรทำหน้างอนๆ ส่วนพวกวิคเตอร์ที่ท่าจะเป็นคนส่งตัวอันเดรมาแกล้งผม ยืนหัวเราะเสียงดังชอบใจกันใหญ่
“ผมขอโทษครับ ผมตกใจ”
“นี่ดีนะ ไม่เหยียบดั้งฉันหัก” อันเดรยกมือมาจับแก้มที่โดนผมถีบเต็มแรง เขาซี๊ดปากเล็กน้อย ผมตกใจเบาๆ เพราะคิดว่าถีบจนปากเขาแตกหรือเปล่า เลยเดินอุ้มบอลเข้าไปดูหน้าเขาใกล้ๆ
“เฮ้ๆ ยืนชิดมากไปแล้ว” เสียงดังมาพร้อมเจ้าตัวเดินแหวกน้ำตรงมาทางที่ผมกับอันเดรยืนอยู่ วิคเตอร์หน้านิ่วคิ้วขมวดมาแต่ไกล พอมาถึงจุดที่ผมกับอันเดรยืนอยู่ ก็ดึงผมให้ห่างออกจากเพื่อนตัวเอง
“ตีนหนักขนาดนี้ ฉันไม่อยากอยู่ใกล้นักหรอก ตัวแค่นี้ทำไมถีบแรงจัง” อันเดรทำหน้างอน หมุนตัวเดินกลับไปหาคุณเบนกับบาสที่ยืนหัวเราะเฮฮากันสองคน ผมมองตามหลังอันเดรด้วยความรู้สึกผิด
“ผมไม่ได้ตั้งใจนะ” ผมหันไปบอกวิคเตอร์ รู้สึกไม่สบายใจที่ไปถีบหน้าเขาแรงขนาดนั้น ไอ้ยักษ์ยิ้มน้อยๆ ยกมือขึ้นมาโยกหัวผมไปมา
“มันไม่โกรธหรอก ก็ทำท่าว่างอนไปอย่างนั้นแหละ” ผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี อยากรู้ว่าปากเขาแตกหรือเปล่า แต่พอจะขอไปดู ก็โดนคนตัวโตข้างๆ ตีหน้าดุใส่ และห้ามไม่ให้ไป ไอ้นี่ก็ผีบ้าผีบออีกละ คนจะไปดูคู่กรณีที่โดนทำร้ายนะเว้ย ไม่ได้จะไปจีบกัน หึงเพี้ยนตลอด
เราเล่นน้ำกันอีกสักพัก อันเดรไม่เขยิบเข้ามาใกล้ผมเลย พอผมจะเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อขอโทษ เขาก็ทำท่าตกใจแล้วว่ายน้ำหนี โธ่ พ่อคุณ นี่คนนะ ไม่ใช่ผีพราย ไม่ต้องรีบว่ายหนีขนาดนั้นก็ได้ พวกวิคเตอร์เห็นอันเดรว่ายน้ำหนีผมก็หัวเราะกันยกใหญ่ นี่ขำอะไรกันนักหนา ขายหน้าตานะ ไม่ได้ขายตลก เอ๊ะ หรือว่าหน้าผมตลก
“เช็ดหัวให้แห้งก่อน” วิคเตอร์เอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวผมให้ เราขึ้นมายืนเช็ดหัวเช็ดตัวตรงหน้าห้องฟิตเนส หลังจากอาบน้ำฝักบัวแล้ว คนอื่นๆ ก็กำลังยืนเช็ดตัวอยู่เช่นกัน พอหัวแห้งหมาดๆ พวกเราก็เดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อกลับขึ้นไปบนห้อง ตอนนี้ตีสามกว่าแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังหลับ แต่ก็ยังมีพวกผีกระสืออย่างพวกผมเดินตัวเปียกและเปลือยท่อนบน (ยกเว้นผม) ไปมาตามทางเดินโรงแรม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครออกมาเห็นหรอก เพราะชั้นนี้มีแต่พวกเรา
“คุณอันเดร ผมขอโทษนะ” ผมเอ่ยขอโทษอีกทีก่อนที่จะเข้าห้อง อันเดรเชิดปากขึ้น ทำงอนใส่แล้วเดินเข้าห้องไป เบนเนดิคท์หัวเราะเสียงหล่อ ปิดประตูตามหลัง ผมทำหน้าบู้เล็กน้อย เดินตามหลังวิคเตอร์เข้าไปในห้อง
“มันไม่โกรธจริงๆ หรอก คิดมากอยู่ได้” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ ถีบเต็มตีนเลยนะ ถ้าพรุ่งนี้หน้าเขาช้ำ อย่าได้ถามว่าเพราะอะไร
วิคเตอร์หลอกล่อโอ๋เอ๋ไปตามเรื่องตามราวให้ผมเลิกคิดมากเรื่องอันเดร เขาจับผมถอดเสื้อผ้า แล้วก็ถอดเสื้อผ้าเขาเอง แล้วพาผมเข้าไปอาบน้ำ รอบนี้ไม่มีแต๊ะไม่มีเต๊าะ เพราะเขาเองก็ง่วงแล้ว เราอาบน้ำเสร็จก็มาทาครีม วิคเตอร์ทาขวดเดียวจบ เดินออกไปรอผมนอกห้อง ปล่อยให้ผมทาครีมสามขั้นของตัวเองไปก่อน ขณะที่กำลังทาครีมอยู่ดีๆ เสียงห้าวหาญแสนทรงพลังของแฟนร่างยักษ์ก็ดังขึ้น
“แมท!!!” ผมสะดุ้งตอนที่กำลังใช้มือโบกลมเข้าหน้าเพื่อให้ครีมตัวที่สามแห้ง พอตั้งตัวได้ก็เดินออกไปนอกห้อง วิคเตอร์นั่งพิงหัวเตียงตัวเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ใบหน้าเขาเข้มขึ้นด้วยความโกรธ ขบกรามแน่นจนสันนูนชัด แววตาจับจ้องที่โทรศัพท์ผมอย่างมาดร้าย ใจผมหล่นวูบทั้งที่ยังไม่รู้สาเหตุ
“นี่อะไร?! ไอ้อดัมมันจีบนายเหรอ?!!” เขาตะคอกจนผมสะดุ้งอีกรอบ ผมหลับตาปี๋แวบหนึ่งแล้วลืมตาขึ้น สองมือกระชับผ้าคลุมอาบน้ำ
“เปล่า ไม่ได้จีบ คุณคิดอย่างนั้นได้ยังไงเนี่ย…”
“…ก็คิดจากข้อความที่นายคุยกับมันไง คุยกับมันมานานแค่ไหนแล้ว!!??” เขาขยับตัวนั่งตั้งตรง แววตากับใบหน้าแข็งกร้าวไปหมด ผมยังรู้สึกสับสนและปนงงอยู่ แล้วยังมีอาการตกใจจากเสียงตะคอกเขาด้วย น้ำเสียงเขาห้วนหยาบมาก ฟังแล้วไม่เข้าหูเลย
“ก็… คุยนานแล้ว แต่ผมกับเขาคุยกันแบบเพื่อน แบบคนรู้จักทั่วๆ ไป…”
“…เพื่อน?! คนรู้จัก?! บอกคิดถึงกันเนี่ยนะ นายไปบอกคิดถึงมันได้ไง!!” โอ๊ย! ให้กูพูดจบก่อนบ้างได้มั้ยเนี่ย ทำไมต้องแทรกเสียงดังๆ ตลอดเลย ได้ยินแล้วใจสั่นเว้ยยย!
“เอ้า! ผมพูดแบบไม่ได้คิดอะไร ก็ตอนนั้นผมกลับมาไทยแล้วก็แค่บอกคิดถึง” วิคเตอร์เบิกตากว้างขึ้น อารมณ์โกรธเขาดูพุ่งสูงกว่าเดิม
“ลบมันออกจากเฟซบุ๊ค ไม่งั้นนายก็ไม่ต้องเล่นอีก” ฮะ?!
“ผมไม่ลบเขาเพียงเพราะคุณบอกหรอกนะ!” ผมเริ่มเสียงดังกลับบ้าง สีหน้าวิคเตอร์มีแววเหี้ยมปรากฏขึ้น ตอนนั้นเองที่ใจผมหล่นวูบอีกครั้งกับสีหน้าที่แสดงออกของเขา แววตาเขาเหมือนปิดกั้นการรับรู้ทุกอย่าง
“มานั่งนี่!!” เขาสั่งเสียงดัง อ้าขาให้มีพื้นที่วางตรงกลาง ผมอยากจะฝืนและดื้อใส่ แต่พอเห็นว่าเขาทำท่าเอาจริง ผมก็เลยเดินไปหาเขา ก่อนนั่งลงวิคเตอร์กระชากชุดคลุมอาบน้ำออกอย่างแรงจนผมร้องโอ๊ยออกมา แต่ว่าเขาไม่สนใจเลยสักนิด พอถอดชุดออกได้เขาก็ขว้างลงพื้นอย่าง ยื่นแขนขวามากระชากตัวผมลงไปกลางหว่างขาของเขา พอจัดให้ผมนั่งซ้อนหน้าตัวเองได้ เขายกขามาล็อคสองขาผมไว้แน่นจนผมนิ่วหน้าเจ็บ สองแขนก็รัดร่างผมไว้แน่นเช่นกัน ผมเริ่มกลัว เริ่มไม่อยากอยู่ใกล้เขา
“ลบออก!” เขาสั่งเสียงเฉียบขาด ยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้า น้ำตาผมเริ่มคลอที่ขอบตา ผมไม่ชอบเขาเวลาที่เป็นแบบนี้เลย
“วิคเตอร์…”
“…เร็วๆ!” เขาตะคอกใกล้หูผม คราวนี้ผมน้ำตาไหลออกมา แค่ตะคอกไกลๆ ผมยังกลัว แล้วนี่มาตะคอกใกล้หน้าแบบนี้ ผมก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่หรอก
“ผมกับอดัมเป็นแค่เพื่อนกัน มันไม่มี…”
หมับ!
“โอ๊ย! ผมเจ็บนะ!” เขาบีบแขนผมแน่น ผมนิ่วหน้า ยกมือซ้ายไปตีมือขวาเขารัวๆ แต่เขาไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด แถมยังแทบจะเอาโทรศัพท์กระแทกหน้าผมอยู่แล้ว
“อย่าดื้อ!”
“คุณก็อย่าบ้าให้มันมากนักสิ!” ผมกัดปากแน่น พยายามแงะมือเขาออกทั้งน้ำตา
“ฉันบ้านายมากกว่านี้อีก!” เขาว่าเสียงเย็น แต่แววหยาบกระด้าง เขาจ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ ราวกับบอกว่าถ้าอยากจะลองก็เอา ผมยกมือปาดน้ำตาออกจากแก้มเร็วๆ ดึงมือถือมาจากมือเขา กดเข้าไปในเฟซบุ๊คอดัมแล้วลบเขาออกด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ผมไม่ได้เจ็บปวดที่ต้องลบผู้ชายคนนึงออกไปจากความเป็นเพื่อนในโซเชียล แต่ผมเจ็บปวดกับสิ่งที่วิคเตอร์ทำ
“มีไอ้จูบแรกเป็นเพื่อนด้วยรึเปล่า” เขาถามเสียงห้วน มือที่แบบต้นแขนผมไว้ปล่อยออกเมื่อได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ผมหันขมวดคิ้วใส่เขา
“อะไรอีกล่ะ?!” ผมถามเสียงสะบัด รู้สึกไม่พอใจที่เขาบุกรุกเรื่องส่วนตัวของผม
“มีใช่มั้ย?!!” เขาถามหน้าตาดุดัน น้ำเสียงห้วนห้าว ผมหันไปผลักอกเขา แต่วิคเตอร์รวบสองมือผมไว้แน่น
“ลบมันออกไปด้วย!”
“ตั้งสติหน่อยวิคเตอร์!” ผมตะคอกกลับไม่ยอม จ้องหน้าเขาด้วยสายตาเจ็บใจ วิคเตอร์หรี่ตามองกลับมา สายตาเขาวาวโรจน์
“ฉันชักสงสัยละ ว่านายกับมันแค่ไม่ได้ใช้ปากให้กัน ทำไม?! อยากเก็บมันไว้ เอาไว้นัดกันออกมาเจอกันอีกใช่มั้ย?!” โอ๊ย! ไอ้ฝรั่งเสียสติ นี่มึงหึงจนสติหายไปแล้วเหรอ
“อย่าเพ้อเจ้อได้มั้ย ผมกับเขายังไม่ทันคบกันด้วยซ้ำ!”
“เออ! ไม่ได้คบ แต่อมคxx ให้กันแล้วเนี่ยนะ!” ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใจ สองมือกำแน่น พยายามกระทุ้งศอกเข้าท้องเขา แต่ก็โดนเขาจับแขนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ผมก็อมของคุณเหมือนกันนั่นแหละ ก็เท่าเทียมกันดีนี่!” ผมอดประชดไม่ได้ เพราะรู้สึกหมั่นไส้กับการที่เขามองเห็นแต่สิ่งที่ผมทำ ทีสิ่งที่ตัวเองทำกลับไม่ยอมมอง
“ทีกับอันเดรียนา…”
“…แมท อย่าจุดอารมณ์ฉันไปมากกว่านี้ เพราะนายไม่รู้หรอกว่าจะเจออะไรบ้าง” เขาพูดเหมือนเป็นการเตือนอย่างใจเย็น แต่หัวใจที่เต้นหนักหน่วงเขานั้นบอกได้ว่าเขาไม่ได้เย็นอย่างที่กำลังกำลังข่มอารมณ์ตัวเองอยู่ ผมมองเขาด้วยความไม่พอใจ แต่เสียงในใจก็ร้องเตือนว่าอย่าลองดีกับเขาในช่วงอารมณ์แบบนี้เลยจะดีกว่า ผมถอนหายใจแรง ยกมือถือขึ้นมากดหาชื่อเอิร์ทในเฟซบุ๊คแล้วลบออก พอหันไปมองวิคเตอร์ เขาก็ยังคงหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่แววตาเริ่มอ่อนลง สีหน้าเริ่มผ่อนคลายทีละนิด
“ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อย” ผมว่าเสียงเรียบ หันหน้าหนีเขา ไม่อยากมองหน้า ไม่อยากสบตาด้วย วิคเตอร์ดึงมือถือออกจากมือผม เอาไปวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงเคียงโทรศัพท์เขา สองแขนโอบกอดร่างผมไว้แน่น แต่ไม่เจ็บแบบตอนแรก สองขาเขาคลายออก
“ไม่ปล่อย” เขาเอาคางมาเกยไหล่ขวาผมไว้ ก้มลงจูบตรงต้นแขนที่เขาบีบแน่นจนตอนนี้มันแดงไปหมด เขาจูบย้ำๆ สลับกับหอมสูดดมแผ่วเบา
“สองสิ่งที่นายควรกลับไปจดลงสมุดโน้ตที่นิวยอร์กนั้นคือฉันขี้หึง ขี้หวง…” เขาไล่จูบขึ้นจากต้นแขนขึ้นมาที่หัวไหล่ ไปยังลำคอ ผมกำลังพยายามบอกให้ตัวเองเข้าใจเขา เข้าใจว่าสภาวะอารมณ์ของวิคเตอร์อาจไม่ได้อยู่ในระดับปกติเหมือนคนอื่นนัก ไม่ใช่ผมไม่รู้ ตอนที่ฝึกงานด้วยกัน ผมก็พอสัมผัสมาบ้าง แต่ไม่คิดว่าพอเขยิบมาเป็นแฟนกัน มันจะแรงขึ้นขนาดนี้ ไม่รู้ว่านี่แรงสุดรึยัง นึกสงสัยว่าสิ่งที่เขาพูดว่าผมไม่มีทางรู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง หากเขาคุมอารมณ์ไม่อยู่
“…ฉันเป็นแบบนี้มานานแล้ว แต่เป็นกับนายหนักที่สุด” ผมถอนหายใจออกมา มันก็คงรู้สึกดีอยู่แหละมั้งที่ได้ยินเขาพูดประโยคนี้ ผมที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่เคยคบใคร ไม่เคยได้ยินคำหวานหู คำแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้ ก็รู้สึกชุ่มชื้นหัวใจไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น กับการที่ผมเจออารมณ์เขาก่อนหน้านี้ ก็คงรู้สึกดีได้ไม่มาก
“คุณต้องใจเย็นมากกว่านี้ รู้จักควบคุมอารมณ์หึงหวงบ้าง และที่สำคัญคือไว้ใจผม” เขานิ่งเงียบไม่ตอบรับอะไร ผมรู้ว่าเขากำลังดื้ออยู่ภายใน กำลังต่อต้านคำพูดผมเงียบๆ
“นอนเถอะ” แล้วเขาก็ตัดบท ผมก็ไม่อยากจุดประเด็นชวนทะเลาะกันแล้ว เพิ่งรู้ว่าคนคบกัน บางทีนึกจะมีเหตุการณ์มาให้ทะเลาะกันก็มีมาง่ายๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังหัวเราะกันอยู่เลย ความสัมพันธ์แบบแฟนนี่ก็เพี้ยนดีเนอะ
“วิคเตอร์นอนดีๆ สิ” ผมร้องบอกเมื่อเขานอนเอาหน้าหนุนอกผมไว้ สองแขนกอดผมแน่น ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเราสองคน คือไม่ได้ว่าถ้าจะนอนท่านี้ แต่เอาไว้นอนตอนที่ไม่ใช่เวลาหลับมั้ย แบบนี้ผมกับเขาจะหายใจสะดวกได้ยังไง นอนเอาปอดทับกันไว้แบบนี้เนี่ย
“วิคเตอร์…”
“…ไม่” เขาบอกเสียงสั้นกระชับ เอาแก้มสากเพราะหนวดถูอกผมเป็นเชิงอ้อนว่าจะขอนอนแบบนี้ อย่าเรียกว่าอ้อนเลย กับผู้ชายคนนี้เรียกว่าดื้อดีกว่า แล้วก็ชอบหาว่าผมดื้อ (ก็ดื้อพอกัน)
“ลูบหัวหน่อย…” เสียงนุ่มๆ ดังลอยมา ผมยกมือซ้ายขึ้นลูบหัวเขาไว้ วิคเตอร์ครางอืออาพอใจ ผมยิ้มมุมปากเล็กน้อยให้เด็กชายตัวโข่งขี้อ้อน
หึ หลังจากได้อาละวาดและได้ในสิ่งที่ต้องการไป ก็พลิกมาอ้อนต่อเชียวนะ ผมผ่อนลมหายใจเบาๆ เอื้อมแขนขวาไปปิดโคมไฟที่หัวเตียง ลืมตาในความมืดสักพัก ปล่อยให้ความคิดไหลวนเชื่องช้าพอๆ กับมือที่ลูบหัววิคเตอร์อยู่
ผมกำลังบอกตัวเองว่าให้เห็นใจเขา เฉกเช่นเมื่อครั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ในตอนนั้นผมรับรู้เรื่องเขา แม้จะแค่บางเรื่องบางจุด ผมยังนึกเห็นใจและสงสารเขาเลย ในตอนนี้ผมมาอยู่เคียงข้างเขาแล้ว ก็ต้องพยายามเข้าใจเขาให้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้ แต่อย่าเยอะไปนะวิคเตอร์ บางทีผมก็อยากให้คุณเข้าใจผมบ้างเหมือนกัน
“Good night.” ผมพูดเสียงแผ่ว ก้มลงจูบเรือนผมของเขา คงต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไปอีกยาวเลย
TBC.
เพิ่งดูเดอะเฟซจบก็มาอัพเลยค่ะ โอ๊ย แซ่บมาก อย่างกับกินพริกสิบเม็ดสดๆ ฉะกันสะพรึง 55555 นิยายตอมเรื่องหน้าที่กำลังจะอัพปลายเดือนนี้ (คนในเพจจะทราบไปแล้ว) ก็มีเรื่องเกี่ยวกับนายแบบ นางแบบนะ คริๆ แต่จะแซ่บเหมือนเดอะเฟซมั้ย ต้องรออ่านค่า ฮี่ๆ
วกกลับมาอีพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน ตอนอารมณ์ดี ก็ดี๊ดี แต่อย่าได้มีใครมายุ่งกับเอเลี่ยนน้อยของพี่แกนะ ระเบิดพร้อมลง ลงแรงยิ่งกว่าระเบิดที่ฮิโรจิมาซะอีก อารมณ์ของพี่แกนี่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา จับสัญญาณไม่ถูกันเลยทีเดียว 555555 พอโมโหเสร็จ สั่งให้เขาทำตามในสิ่งที่ต้องการได้ ก็อ้อนเมียต่อ บ๊ะ ใช้ความอ้อนสยบนี่หว่า -..- รู้ว่าแมทใจดี ก็เอาใหญ่นะพี่นะ
ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ ค่ะ เจอกันตอนหน้านะคะ