:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 808291 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #660 เมื่อ04-12-2015 03:11:46 »

 :pig4: :3123: :L2:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #661 เมื่อ04-12-2015 10:50:37 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #662 เมื่อ04-12-2015 10:51:27 »

แมทน่าจะตั้งกฎกับวิคเตอร์บ้าง เบนบาสอยากรู้จังง

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #663 เมื่อ04-12-2015 11:14:32 »

ห่างกันแบบนี้ วิคเตอร์จะทำตัวให้น่าไว้ใจได้แค่ไหนกันะ ยิ่งต้องมีข่าวแบบคู่จิ้นโปรโมตหนังอีกด้วย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #664 เมื่อ04-12-2015 11:33:25 »

ไม่ไว้ใจวิคอ่ะไหนจะต้องห่างกันแล้วยังต้องสร้างโมเม้นต์กับนางเอกที่เล่นหนังด้วย
ถ้าวิคออกนอกลู่นอกทางเจ้าชู้เป็นปลาไหลใส่สเก็ตเราจะยุให้แมทหาผัวใหม่

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #665 เมื่อ04-12-2015 11:50:08 »

ยักษ์ไม่คิดมากนะ!
ห้ามนอกใจนอกกายแมทด้วย!!

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #666 เมื่อ04-12-2015 12:15:36 »

อ่านมาถึงประโยคสุดท้ายพี่ยักษ์   กินน้ำอยู่แทบสำลักเลย 555+ พี่แกเล่นปล่อยดาเมจทำลายล้างอีกแล้ว

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #667 เมื่อ04-12-2015 12:32:51 »

ชอบนะ ดูเรื่อยๆดี จะได้อ่านนานๆ 5555

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #668 เมื่อ04-12-2015 16:45:52 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #669 เมื่อ04-12-2015 21:27:13 »

ไปแล้ว ฝรั่งขี้หึงไปแล้ว น้องแมทร้องไห้เลย ใจหายเนอัชะ แต่ก็สวยค่ะ มีการ์ดตามเป็นพรวน 555 เคะนางพญามากลูก
วิคนี่ขี้หึงมากจริง เพื่อนยิ่งอยากจะแกล้งเนอะ ตัวเองเหอะทำตัวดีๆ เอ มีพูดถึงเอิร์ธ เดี๋ยวเขาจะกลับมาใช่ไหม

ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
« ตอบ #669 เมื่อ: 04-12-2015 21:27:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #670 เมื่อ07-12-2015 12:02:44 »

อ่านถึง part only you ฟินมากๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #671 เมื่อ07-12-2015 17:55:51 »



Only You EP.20 :: Under his control. [50%]



“แมท สรุปมึงจะไปกินข้าวกับพวกกูป้ะเนี่ย” ไอ้วอร์มถามหลังจากที่เราเดินออกจากลิฟต์ชั้นหนึ่งของตึกคณะ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงยามเย็นที่เด็กคาบบ่ายอย่างพวกผมเพิ่งเลิกเรียนและมีนัดกันว่าจะไปหาอะไรกินด้วยกันก่อนแยกย้ายกันกลับ


“หืม มึงถามไม่ได้ดูซิตูเอชั่น (situation) เลยนะคะ ตอนนี้ชีวิตมันอย่างกับเจ้าหญิงแคว้นอิสระ” แบมว่าพลางบุ้ยปากไปทางออสตินที่มายืนรอรับผมกลับบ้านที่หน้าตึกคณะ โดยมีสายตาแทะโลมจากสาวๆ เก้งๆ หลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจใคร เอาแต่มองตรงมาที่ผมตามนิสัยเช่นเดิม แล้วอย่าคิดว่าเขามองด้วยความรักใดๆ มองได้เฉยชามากต่างหาก


“โอย กูละเบื่อพ่อบอดี้ผักกาดแท้” ผมบ่นสีหน้าเซ็ง แต่พอหันไปสบตากับออสตินก็ต้องแสร้งยิ้มพิมพ์ใจ ราวกับว่าไม่ได้รู้สึกขุ่นข้องหมองใจกับการที่เขามารอรับตรงเวลาอย่างนี้


“เหย! แกเบื่อเขาได้ไง เช็กหน้าด้วย หล่อปะล่ำปะเหลือ หล่อเหลือเฟือแต่บ่อเผื่อแผ่ไผ~” แบมส่งสายตาปิ๊งๆ ไปให้ออสติน แต่อีกฝ่ายทำเพียงยิ้มมุมปากเล็กน้อยเท่าหอยจุ๊บ แต่แค่นั้นก็ทำเอาแม่ชะนีแบมแทบจะละลายหายไปกับพื้นผิวของตึกคณะ


“ไปไม่ได้แล้วมั้ง ผัวมึงส่งลูกน้องมาคุมขนาดนี้ กะไม่ให้มึงมีอากาศหายใจบ้างเลยเหรอวะ” ผมถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินไอ้แชมป์พูดแบบนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมคิด แต่พูดออกมาได้ไม่หมด


สองอาทิตย์แล้วที่วิคเตอร์กลับไปนิวยอร์ก ทุกอย่างปกติดี เราคุยกันทุกวันแม้วันเวลาจะต่างกันเกือบครึ่งวันราวกับพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ไม่มีวันเจอกันได้ แต่เขาทำได้ เพราะเราเจอกันผ่านหน้าจอทุกวันของผมและทุกคืนของเขา หรือทุกคืนของผมและทุกวันของเขา ผมดีใจที่แม้กายจะห่างกัน แต่เราสองคนกลับทำให้รู้สึกกันเองว่า เรายังคงอยู่ใกล้กันนะอะไรแบบนี้ แต่ที่ผมไม่ดีใจและบางครั้งถึงขั้นไม่พอใจก็คือการที่เขาส่งออสตินมาคุมผมอย่างกับพ่อมาดูแลลูกที่กำลังอยู่ในช่วงเตรียมอนุบาล ก่อนหน้านี้มีบอดี้การ์ดพวกพี่ๆ คนไทยด้วย โอ้โห เดินเข้ามาหาผมที่ตึกคณะแต่ละที ผมนี่อยากจะมุดดินหนี พวกพี่แกแต่งตัวยูนิฟอร์มชุดสูทเต็มยศมากันสี่คน (รวมออสติน) นั่นทำให้พวกเขาก็กลายเป็นจุดเด่นของหลายสายตา ผมนึกออกเลยว่าการที่อยากเอาปี๊บมาคลุมหัวตามสุภาษิตไทยนั้นเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้พวกพี่การ์ดคนไทยไม่ได้มาแล้ว เนื่องด้วยผมขอร้องวิคเตอร์ว่าส่งแค่ออสตินมาคนเดียวก็เกินพอแล้ว เถียงกันอยู่นาน พอผมแบะปากจะร้องไห้นั่นแหละเขาถึงยอมถอนกองกำลังสามการ์ดไทยออกไปให้


“แต่กูอยากไป เดี๋ยวลองบอกให้เขากลับไปก่อน” พวกเพื่อนผมถึงกับทำหน้าขยาดไปนิด


“หึๆ มึงคิดว่าเขาจะกลับเหรอถ้าผัวมึงไม่ถอนคำสั่ง ครั้งที่แล้วก็อาละวาดใส่มึงจนหน้าจอไอโฟนแทบแตก” แชมป์แสร้งทำหน้าคล้ายคนท้องจะอ้วก ผมจิ๊ปากใส่มันที่บังอาจมารื้อฟื้นเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวเมื่อสองสามวันก่อน


“นี่เมียหรือนักโทษหนีคดีวะ” มันยังไม่หยุดว่า แถมยังย่นคิ้วหรี่ตามองผมราวกับผมมีความผิดติดตัว ทั้งที่จริงก็แค่ผัว เอ้ย สามีสั่งคุมเข้มมากไปเท่านั้นเอง


“เออ ไอ้แชมป์ เขาก็รักอีแมทของเขาเนาะ คนเขาห่วงเขาหวงคนของเขาก็ไม่แปลก แค่อาจแสดงออกมากไปหน่อยเท่านั้นเอง” เก้าตบไหล่ไอ้แชมป์แปะๆ ทำสีหน้าว่าเอาน่าๆ


“แต่กูว่าเกินไปนิดป้ะวะ ตั้งแต่ไอ้พระเอกนั่นมา มึงเจอหน้าไอ้แมทนอกเวลาเรียนกี่ครั้ง” ไอ้วอร์มเสริมต่อด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับกำลังคำนวณวันเวลาที่มันได้เจอหน้าผมนอกห้องเรียน


 ทุกคนทำหน้าเข้าใจในสิ่งที่มันพูด ผมทำหน้ายู่แล้วถอนใจ ที่วอร์มพูดนั้นก็เป็นอีกอย่างที่จริง ผมมาเรียนตามเวลา ซึ่งออสตินจะกะเวลาว่าพอผมถึงมหาวิทยาลัยปุ๊บ นั่นคือผมต้องขึ้นห้องเลย ไม่มีแวะที่ไหนก่อน ถึงคิดจะแวะก็หมดสิทธิ์เพราะเขาจะตามไปส่งถึงหน้าห้อง แม้นผมจะทำหน้าว่าไม่พอใจ แต่ออสตินผู้มึนตึงและเคยผ่านสงครามอิรักมา (เรื่องจริง) ก็หาได้สนใจท่าทีกระฟัดกระเฟียดเหมือนเขียดดิ้นตายของผมไม่ แถมพอเลิกเรียนเขาก็จะมารอรับผมกลับบ้านทันทีไม่มีให้ไปไหน ตรงเวลายิ่งกว่านักการเมืองไทยเข้าประชุมสภาซะอีก (จะโดนสอยมั้ย) ออสตินน่ะรับคำสั่งมาอีกที แต่ไอ้ยักษ์นั่นต่างหากที่เป็นจอมบงการเรื่องนี้ทั้งหมด


“เดี๋ยวกูลองบอกเขาก่อน อย่าเพิ่งไปนะ” ผมบอกเสียงฮึด ทำท่าทีเรียกความกล้าเข้าหาตัวเอง เพิ่งรู้ว่าการจะขอบอดี้การ์ดไปกินข้าวกับเพื่อนเป็นเรื่องที่ต้องรวบรวมความกล้าในการพูดมาก ทุกคนพยักหน้ารับ ผมเดินเข้าไปหาออสตินที่ยืนเตรียมพร้อมลากผมกลับบ้านแล้ว


“เอ่อ คือ ผมจะขอไปทานอาหารเย็นกับเพื่อนก่อนน่ะครับ” ออสตินยื่นนิ่งตามนิสัยของเขา แววตาและสีหน้านั้นเรียบเฉยจนผมใจไม่ดี


“ผมว่ากลับไปทานอาหารที่บ้านคุณแมทเองดีมั้ยครับ เจ้านายคงอยากให้คุณกลับไปทานอาหารกับพ่อและแม่มากกว่า เพราะเดี๋ยวอีกไม่นานคุณแมทก็ต้องเดินทางไปนิวยอร์กแล้ว ใช้ช่วงเวลานี้อยู่กับพ่อและแม่นานๆ ดีกว่านะครับ” ออสตินไม่ใช่คนพูดยาวอะไรมาก แต่ถ้าเป็นคำสั่งหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้านายเขา (วิคเตอร์นั่นแหละ) เขาจะร่ายยาวได้ทันที


“ผมเดินทางปีหน้านะครับ ซึ่งก็อีกตั้งหลายเดือน ผมยังมีเวลาอยู่กับพ่อและแม่อีกนาน แต่ตอนนี้คือผมแทบจะไม่มีเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ตัวเองเลยนะ” ผมยิ้มแฉ่งออดอ้อน ซึ่งทำไปก็ไร้ค่ามาก เพราะนี่คือออสตินไม่ใช่วิคเตอร์ และถึงเป็นวิคเตอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ถ้าเขาไม่คิดจะให้ไป ยิ้มจนเหงือกแห้ง ยิ้มจนฟันหลุด ก็ไม่มีทางไปไหนได้ทั้งนั้น


“คุณเรย์มอนด์…”


“…จะไม่พอใจเอาได้นะครับ” ผมต่อประโยคที่แทบจะเป็นแพทเทิร์นส่วนตัวของออสตินไปแล้ว


“คุณแมทเองก็รู้ แล้วทำไมถึงยังคิดจะต่อต้านคำสั่งของเจ้านาย” ผมกลอกตาเบ้ปาก ออสตินเลิกคิ้วขึ้นเพียงนิด ส่งสายตามีความหมายเหมือนกำลังถามผมว่า ที่ทำหน้าแบบนี้ ทำใส่เขาหรือทำใส่เจ้านายเขากันแน่


“แต่ผมอยากไป ผมโทรไปขอพ่อกับแม่แล้วด้วย” กลายเป็นเด็กขี้โกหกไปทันที ผมยังไม่ได้โทรหาพ่อกับแม่เลยสักสาย คือถ้าเป็นเวลาปกติตอนผมโสด ไม่มีใคร ไม่มีแฟน ผมอยากไปไหนก็ไป พระอาทิตย์ตกดินถ้ายังไม่ถึงบ้าน แม่ก็แค่โทรมาถาม พอรู้ว่าอยู่กับเพื่อนเขาก็จะไม่ว่าอะไร แค่บอกว่าหากจะกลับก็ให้โทรบอกให้พ่อไปรับเท่านั้นเอง


“ผมว่าคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณ ไม่น่าจะใช่คนตัดสินใจเรื่องนี้ได้เด็ดขาดนะครับ” ผมถอนหายใจเซ็งแรง (ย้ำแรง!) หยิบมือถือชูขึ้นมาด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว


“ถ้าผมขอวิคเตอร์ได้ คุณจะให้ผมไปมั้ย” เขาเลิกคิ้วขึ้น ผายมือมาทางโทรศัพท์ผมแวบหนึ่ง


“ถ้าเขาอนุญาต ผมจะไปมีปัญหาอะไรล่ะครับ แต่ตอนนี้ผมว่าเขายังไม่น่าจะตื่นนะครับ แน่ใจแล้วรึเปล่าที่จะโทรปลุกเขาด้วยเรื่องนี้” อยากจะรู้นักว่าในสงครามอิรักนี่สอนพูดข่มศัตรูด้วยรึไง ถึงชอบพูดอะไรให้ผมพาลคิดกลัวไปไกลอยู่เรื่อย หรือจริงๆ แล้วผมกลัวไอ้ยักษ์มันอยู่แล้วก็ไม่รู้


“แน่ใจ ผมจะโทรบอกเขา” แม้ว่าตอนนี้ที่นิวยอร์กจะตีห้ากว่าๆ เท่านั้น แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร วิคเตอร์ชอบตื่นขึ้นมาออกกำลังกายยามเช้าอยู่แล้ว ก็ถือว่าปลุกเขามาวอร์มก็แล้วกัน


“As you wish, sir.” ผมเหลือบมองจิกตาใส่ออสตินที่ยิ้มไม่สะทกสะท้านกลับมา ผมกดเข้าโปรแกรมสไกป์ สายตาเหลือบไปเห็นสายตาของคนอื่นที่อยู่บริเวณใกล้ๆ หรือกำลังเดินผ่านไปมามองมาที่ผม พวกเขาอาจไม่ได้จับจ้องหรือมองแช่ แต่ก็มองกันเยอะจัดจนผมเริ่มประหม่า เลยเขยิบไปยืนหลบมุมอยู่มุมหนึ่งของตึกคณะโดยมีออสตินเดินเขยิบตามมาด้วย พอพ้นสายตาของใครหลายคนผมก็หาชื่อวิคเตอร์แล้วกดวีดีโอคอลหาเขาในตอนนั้น เขามักจะเปิดออนไลน์ไว้เสมอถ้าอยู่ที่บ้าน แต่ถ้านอกบ้านเขาก็จะพยายามออนไลน์ไว้เท่าที่สัญญาณอินเตอร์เน็ตจะเอื้ออำนวย เพราะเผื่อว่าผมจะโทรหาเขาเนี่ยแหละ


 ตื่อดื้อดืด~


เสียงสัญญาณวีดีโอคอลดังอยู่ประมาณสองนาทีก่อนที่สัญญาณจะหายไป แทนที่ด้วยภาพบนหน้าจอมืดสนิท ได้ยินเสียงกุกกักดังออกมา ผมยิ้มแห้ง รู้สึกปากแห้งคอแห้งไปหมด พอถึงเวลาจะพูดจริงๆ ดันรู้สึกปอดมีรูทีละเล็กทีละน้อย ผมมองหน้าตัวงัวเงียของวิคเตอร์ เขาหรี่ตาจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนที่แสงไฟสีส้มอ่อนๆ ในห้องนอนเขาจะสว่างวาบขึ้น เขาหรี่ตาหนักกว่าเก่า คิ้วเข้มขมวดแน่น


“What? (มีอะไรเหรอ)” เสียงง่วงนอนถามออกมาพร้อมสีหน้าที่ยังคงเหมือนคนนอนหลับอยู่ ผมกระแอมลำคอเล็กน้อย ปั้นยิ้มพิมพ์ใจให้กำลังใจตัวเองเข้าไว้


“Good morning big-giant. (อรุณสวัสดิ์ยามเช้ายักษ์ใหญ่)” ผมทำเสียงอ้อนแผ่วเบา มองใบหน้าหล่อเหลาที่ยุ่งเหยิงเพราะความง่วง


“Morning.” เสียงยานคางตอบกลับมาพร้อมกับใบหน้าง่วงหงาวหาวนอน เหมือนเขาจะหลับตาทั้งที่มือยังถือโทรศัพท์เพื่อคุยกับผมอยู่ ผมเลื่อนสายตาไปมองออสตินด้วยความประหม่า เขาทำสีหน้าสบายๆ กลับมา ส่งรอยยิ้มกระจุ๊บกระจิ๊บมาให้


“ผมจะขอ… ไปกินข้าวกับเพื่อนที่…”


“…ไม่ให้ไป เลิกเรียนแล้วใช่มั้ย กลับบ้านซะ” เขาว่าทั้งที่ตายังปิดสนิท เสียงที่ตอบกลับมานั้นแหบแห้งตามประสาคนเพิ่งตื่นแต่ก็แอบมีลงน้ำหนักให้รู้ว่าเขาหมายความตามนั้นจริงๆ


“วิคเตอร์ ขอผมไป…”


“…ไม่” เขาปรือตาขึ้นมามองผม พยายามที่จะส่งสายดุดันมาให้ แต่เพราะคงง่วงจัดเลยดูสลึมสลือไปหมด


“…อย่าดื้อนะ เท่านี้ก่อน ฉันขอกลับไปนอนอีกสักสองชั่วโมง แล้วจะโทรหา” เขากดปิดวีดีโอคอลไปเมื่อได้พูดตามความต้องการ พนันได้เลยว่าถ้าเขาไม่ง่วงจนตาปิดแบบนี้ เขาจะต้องให้ผมถือโทรศัพท์คุยกันผ่านจอมือถือแบบนี้ไปจนกว่าผมจะขึ้นรถและกลับถึงบ้านแล้ว


ผมถอนหายใจ กดออกจากโปรแกรมสไกป์ เงยหน้าสบตากับออสตินก็เห็นว่าเขายืนยิ้มมุมปากน้อยๆ รออยู่แล้ว คงเพราะเขาคงรู้คำตอบจากสีหน้าผมนั่นแหละ


“Can we go home, now? (ทีนี้เราจะกลับบ้านกันได้รึยังครับ)” พ่อบอดี้การ์ดหัวเกรียนหน้าขาวคมนมตั้งยกยิ้มมุมปากทั้งสองข้างอย่างน่าหมั่นไส้ ผมกัดริมฝีปากล่างแน่น นึกอยากจะยกเท้ากระทืบไข่เขาให้แตก


“But I wanna go with my friends. (แต่ผมอยากไปกับเพื่อน)” ผมยังคงว่าต่ออย่างดื้อดึงและดื้อด้านบวกกับหน้าด้านเข้าไปอีกด้วย


“I believe you got what he meant. (ผมเชื่อว่าคุณได้ยินที่เขาบอกชัดเจนนะครับ)” ผมกัดฟันแน่น อยากจะฝังเขี้ยวใส่ตัวเขาสักที่เอาให้หายคับแค้นใจกับความเป็นระเบียบของเขา


“เพื่อนคุณแมทรอนานแล้วนะครับ ผมคิดว่าเราควรจะเกรงใจพวกเขาได้แล้ว”  บอดี้ศพ (?) ว่าสีหน้ายียวนกวนประสาทผีสิงที่สิงอยู่ในหัวผม


โอ๊ย! อยากเอาอะไรสักอย่างฟาดหน้าทั้งเจ้านายและลูกน้องคู่นี้ซะจริง ทำอย่างกับผมกำลังโดนปองร้ายหรือเป็นที่หมายปองของชายอื่น ประหนึ่งว่าผู้ชายครึ่งโลกกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเอาผมตัวสั่น


“You should not go to the war in Iraq. I hate the war. (คุณไม่ควรไปสงครามอิรักเลยจริงๆ ผมเกลียดสงครามจัง)” ไม่รู้ว่าผมจะทำหน้าเอือมไปได้มากกว่านี้อีกมั้ย ทำจนออสตินคงรู้สึกเฉยเมยไปแล้วละ


“Nobody likes the war. All we need for the world is love, sir. (ไม่มีใครชอบสงครามหรอกครับ สิ่งที่พวกเราต้องการต่อโลกนี้คือความรัก)” อยากจะพุ่งอ้วกใส่หน้าหล่อขาวคมจมูกโด่งนั้น แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มประชดประชันกลับไป ก่อนที่ผมจะหมุนตัวเดินตรงไปหาเพื่อนฝูงที่ยืนรอกันนานแล้วด้วยใบหน้าที่พวกมันเห็นก็รู้คำตอบแล้ว


“มึงกลับบ้านเหอะ อย่าพยายามเลย” ไอ้แชมป์ว่ายิ้มๆ มีการตบบ่าผมสองสามทีราวกับจะให้กำลังใจ


“อือ เจอกันพรุ่งนี้นะ กินเผื่อกูด้วยล่ะ”


“คิดซะว่าผัวรักผัวหลงละกันนะอีแมท ดีกว่าผัวทิ้งขว้างเหมือนขยะมีพิษ” แคทส่งยิ้มปริ่มใจมาให้ แต่คำพูดมันเมื่อกี้แปลกๆ อยู่เหมือนกันนะ


“ไปละ จะกลับไปกินข้าวกับพ่อกับแม่” ผมแกล้งว่าเสียงประชดและทำหน้าตาเบี้ยวๆ บูดๆ พวกเพื่อนๆ ขำยกใหญ่ เราโบกไม้โบกมือให้กัน พวกนั้นเดินออกไปทางหลังคณะ ส่วนผมออกทางหน้าตึกคณะเพราะออสตินมักจะเอารถมาจอดรอรับไว้แถวนั้น


“คุณแมทอยากกินอะไรเป็นพิเศษก่อนเข้าบ้านรึเปล่าครับ” ออสตินถามตอนที่เรากำลังเดินกลับไปรถพร้อมกัน ผมหันหน้าเซ็งซึนไปมองเขา


“โอ้ว นั่นเป็นอะไรที่วิเศษมากที่ผมจะได้ไปหาอะไรกินคนเดียว” ผมฉีกยิ้มประชดเต็มที่ แต่มีหรือที่พ่อบอดี้ศพเขาจะรู้สึก


“ผมให้โอกาสคุณแล้ว แต่ถ้าคุณไม่เอา งั้นเรากลับบ้านก็ได้ครับ” เขายิ้มสงบ หยิบรีโมตขึ้นมากดปลดล็อครถบีเอ็มดับเบิลยูสีดำซีรีส์เจ็ดที่ราคาเทียบเท่ากับหัวอธิการบิดีมหาวิทยาลัยผมรวมกันสี่หัวเห็นจะได้ วิคเตอร์ถามผมว่าชอบรถรุ่นไหน ผมก็ตอบตามความชอบตัวเอง คิดว่าเขาคงถามไปเรื่อย แต่คือวิคเตอร์ไปแอบซื้อทิ้งไว้ทีหลัง เพื่อเอาไว้ใช้เวลาที่เขามาพักอยู่ที่ไทย


ผมติงเขาไปแล้วเรื่องการใช้เงิน แต่เขาก็สวนกลับมาว่าสิ่งที่เขาซื้อแต่ละอย่างนั้นมันเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นสิ่งที่สามารถใช้งานได้จริงๆ ไม่ได้ซื้อมาทิ้งไว้เพื่อประดับบารมีให้ดูร่ำรวยแต่อย่างใด ที่เขาว่ามานั้นมันก็จริง เพียงแต่ผมแค่รู้สึกตกใจเวลาได้ยินว่าเขาจ่ายค่านั่นค่านี่ด้วยจำนวนเงินมหาศาล คือมันเป็นอารมณ์ของคนที่ไม่เคยจ่ายเงินเยอะแยะขนาดนั้นอะ หรือเข้าใจอีกนัยหนึ่งอย่างง่ายดายก็คือ ผมเพิ่งจะมีสามีรวยนั่นเอง


 “เดี๋ยวก่อน…” ผมท้วงเขาไว้ มองหน้ายิ้มน้อยๆ นั่นด้วยความอารมณ์บ่อจอย


“…ผมอยากกินเคเอฟซี แต่ขอกินที่ร้านนะ…” เขาทำหน้าครุ่นคิด ผมถอนหายใจแล้วรีบพูดต่อ


“…คุณจะนั่งเฝ้าก็ได้ เดี๋ยวถ้าวิคเตอร์คอลมา ผมจะหันหน้าจอให้เขาดูว่าอยู่กับคุณสองคน”


“แบบนั้นไม่ค่อยเข้าท่านะครับ ผมยังไม่อยากตกงาน” ผมรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร เขาหมายถึงเรื่องความขี้หึงของไอ้ยักษ์ ที่แม้กระทั่งกับออสตินบุคคลที่เขาส่งมาให้ดูแล (ควบคุม) แทนตัวเขาเอง เขายังไม่ค่อยชอบใจถ้าผมกับออสตินจะใกล้ชิดกันเกินไป


บางทีถ้าจะเป็นแบบนี้ ผมก็อยากให้วิคเตอร์จ้างบอดี้การ์ดผู้หญิงมาเลยเถอะ แต่เขาก็ไม่เอา เพราะเขาไว้ใจออสตินคนเดียว แค่อย่าอยู่ใกล้ผมมากไป อารมณ์ว่าไว้ใจคนนี้เรื่องคุ้มกันดูแลแต่ไม่ไว้ใจเวลาที่ผมกับบอดี้การ์ดอยู่ใกล้กัน ป๊าดติถ่อ! ไอ้แมทนี่หน้าตาดีปะล้ำปะเหลือเนาะ


 “นั่งอยู่ห่างๆ ก็ได้” ผมบอกอย่างเหลืออด ออสตินเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง


“ก็น่าจะปลอดภัยขึ้นมาบ้าง” ว่าแล้วเขาก็เปิดประตูให้ผมเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง ผมไม่ได้อยากมานั่งด้านหลังแบบนี้เลยนะ ผมแอบเกรงใจออสติน กลัวเขาจะดูเหมือนคนขับรถไปด้วย แต่เจ้าตัวยืนยันว่าเขาไม่ได้คิดมาก แค่อยากให้ผมนั่งด้านหลังตามสมควรในฐานะเจ้านายของเขาอีกคน


“คุณไม่เบื่อเหรอที่ต้องมาคอยรับส่งผมแบบนี้แทบทุกวัน” วันไหนผมไม่มีเรียน ผมก็อยู่บ้านซึ่งนั่นจะเป็นช่วงเวลาที่ผมไม่ได้เจอเขา แต่ถ้าผมจะออกไปไหนที่ไม่ใช่ไปกับพ่อและแม่ เขาจะมารับและตามไปเฝ้าห่างๆ ทันที ผมเคยแอบหนีไปเที่ยวห้างคนเดียว กำลังเดินเพลินๆ วิคเตอร์ก็โทรมาหาด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง ไม่รู้ว่ารู้ได้ไงว่าผมอยู่ไหน (ไม่รู้ตัวว่าผัวติด GPS บนมือถือ) พอเขารู้ว่าผมหนีออกไปเที่ยวคนเดียวก็แทบจะกินหัวผมผ่านโทรศัพท์ อาละวาดไปหนึ่งยกแล้วเขาก็โทรตามออสตินให้มาดู ตัวผมน่ะไม่เท่าไหร่แต่ออสตินคงโดนเละน่าดู เพราะสีหน้าเขาตอนเจอกันวันนั้น ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่ เขาขอร้องจนผมรู้สึกผิดไม่กล้าหนีไปไหนมาไหนคนเดียวอีก


‘จะไปไหนมาไหนคนเดียว บอกผมเถอะครับ ผมจะไปรับและมาส่ง ผมจะพยายามไม่วุ่นวายกับคุณมาก จะพยายามเดินให้ห่าง แต่ถ้าจะให้คลาดสายตาไปเลยผมคงทำไม่ได้ อย่าทำให้เจ้านายเขาเป็นกังวลนักเลยครับ เขาเป็นห่วงคุณมากนะ’


“เบื่อครับ…” เขาพูดออกมาอย่างสงบ ผมอ้าปากหวอ กระพริบตาปริบๆ มองเสี้ยวหน้าพ่อบอดี้ศพ


“…แต่ผมได้เงิน แล้วคุณเรย์มอนด์แฟนคุณก็ให้เงินดีมากด้วย เบื่อแค่ไหนผมก็ทำ” โอ้โห ตรงๆ ง่ายๆ กันอย่างนี้เลยใช่มั้ย สรุปว่าเขาเองก็ใช่ว่าอยากจะมาดูแลผมแบบนี้


“สุดท้ายก็เพราะเงิน อะโด่” ผมเบ้ปากบิดปากเบี้ยวอยู่คนเดียวโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เหลียวหลังมามองเลยสักนิด


“หรือจะให้บอกว่าสุดท้ายก็เพราะคุณงั้นเหรอครับ แบบว่า ผมทำเพื่อคุณด้วยความเต็มใจครับ แบบเนี้ยอะเหรอ” จ้ะ อีพ่อขาวหล่อ รู้แล้วละว่าพ่อรับงานนี้เพราะอะไร


“คุณก็ไม่ได้อยากทำงานนี้ แล้วจะมาทำทำไมล่ะ”


“ก็บอกแล้วไงครับว่าเงินดี แค่ดูแลเด็กสติไม่ดีคนนึงให้อยู่กับร่องกับรอย ผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร” หะ… ฮะ?! ไอ้บอดี้ศพมันด่าใช่มั้ย ผมอ้าปากค้าง หน้าตามึนตึ้บกับการโดนแซะ


“นั่นหมายความว่าผมบ้ารึเปล่า” ผมหรี่ตาปรือมองเสี้ยวหน้านิ่งของพ่อหัวเกรียน


“เปล่าครับ สติคุณแมทดี แค่อาจจะขาดๆ เกินๆ ไปบ้างเท่านั้นเอง” แล้วมันทำให้รู้สึกดีขึ้นตรงไหน ยังไงก็ความหมายคล้ายกันอยู่ดี สมัยนี้ลูกน้องเขาคุยกับเจ้านายกันแบบนี้แล้วเหรอ ฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย


“พูดจาแบบนี้พ่อแม่เคยด่าว่าเป็นคนหยาบคายบ้างมั้ย” ผมถามด้วยความหมั่นไส้ นึกอยากเอื้อมมือไปตบหัวเกรียนเหม่งๆ นั่นสักที


“ไม่นะครับ ผมพูดกับท่านทั้งสองอย่างสุภาพ” เขาตอบกลับมาสงบ แต่บอกได้เลยว่าท่าทีแบบนี้แม่โคตรจะกวนอารมณ์ ผมถอนหายใจ ปล่อยเขาผ่านไป เวลาผมเถียงกับเขาทีไร เขาชอบเถียงแบบเนี้ย เถียงแบบกวนประสาท เถียงด้วยท่าทีที่เหมือนไม่สู้ แต่เนียนหลอกด่าตลอด ไม่รู้ว่านี่เป็นผลกรรมของผมที่ชอบหลอกด่าวิคเตอร์รึเปล่า


“ถึงแล้วครับ คุณแมทควรถึงบ้านไม่เกินหนึ่งทุ่ม สั่งแล้วก็รีบกิน อย่ามัวแต่นั่งแทะกระดูกเหมือนคนอดอยากปากแห้งนักนะครับ” เขาพูดยิ้มๆ ผมกัดริมฝีปากล่างแน่น ถลึงตามองเขาด้วยความขุ่นข้องหมองใจ แต่ผมไม่อยากต่อประเด็นถกเถียงกับเขา


ปัง!


ผมกระแทกประตูรถปิดเสียงดัง แต่กลับสะดุ้งเสียเอง พอได้สติผมก็รีบเข้าไปดูรถว่าเป็นอะไรหรือเปล่า รถเพิ่งซื้อมาใหม่ ป้ายทะเบียนยังสีแดงฉาน ผมอาจจะทำบุบสลายก็เป็นได้ นึกถึงเสียงกับแรงสั่นกระแทกเมื่อกี้แล้วใจไม่ดีเลย ขอบประตูมันจะเบี้ยวมั้ย


“ถ้าคิดจะทำลายข้าวของต้องใจกล้าให้เท่าคุณเรย์มอนด์นะครับ” ผมมองค้อนควักใส่ออสตินที่ยิ้มยียวนกลับมา เลื่อนสายตามองประตูรถอีกที พอรู้สึกว่ามันคงปลอดภัยไม่มีอะไรแล้วเลยเดินตรงไปยังประตูทางเข้าห้างในลานจอดรถโดยมีออสตินเดินตามหลังมา นึกในใจว่าบางทีก็อยากให้เขาโดนวิคเตอร์ด่ามาราทอนสักชั่วโมง โทษฐานทำตัวกวนพระบาทา


TBC.

ผัวรักผัวหลงขนาดดดด มันก็ดี แต่แบบนี้ เยอะไปไอ้ยักกกย์ แถมออสตินยังปากจัดอีกต่างหาก 55555

เดี๋ยวค่อยๆ ทำความเข้าใจกับความเยอะ ความเวอร์ไอ้ยักษ์กันไปเนาะ ไม่ได้เขียนมาเพื่อบอกว่า โห รักเวอร์ น่าอิจฉาเวอร์ อะไรแบบนั้นอย่างเดียวนะ มันคือส่วนหนึ่งของเส้นเรื่องและความสัมพันธ์ของเขาสองคนในพาร์ทนี้ คริๆ

พรีออเดอร์รีปริ้นพาร์ทแรก เหลือเวลาอีกเจ็ดวันแน้คะ รายละเอียดดูได้ที่โพสปักหมุดในเพจเลยจ้าาา

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดทุดคนเลยค่ะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-12-2015 21:40:07 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #672 เมื่อ07-12-2015 18:14:37 »

ชอบออสติน ฮืมมีแฟนยังคะ พามารุ้จักหน่อย ถ้ายังไม่มี หาคู่ให้ฮิมทีเถอะค่า พลีส~ :pigha2:

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #673 เมื่อ07-12-2015 18:28:22 »

เดี๋ยวนะ พระเอกชื่อวิคเตอร์ หรือฮิตเลอร์นะ
สับสน 555555555555

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #674 เมื่อ07-12-2015 18:30:21 »

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #675 เมื่อ07-12-2015 18:31:07 »

 :laugh: แมทน่าอิจฉา ผัวรักผัวหลง   

ออสตินก็กวนนะ แมทไม่เหงาเลยหล่ะงานนี้

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #676 เมื่อ07-12-2015 18:55:14 »

โห วิคเตอร์โคตรเผด็จการอ่ะ เป็นเรานี่บ้านแตกเลยจ้า :serius2:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #677 เมื่อ07-12-2015 19:02:25 »

วิคเตอร์นี่สุดยอดสุดติ่งจริงๆ ทำอะไรที่เราไม่ได้คาดคิดได้เสมอ มองอีกอย่างก็คือเป็นห่วง หวง แต่คนที่ได้รับน่าจะอึดอัดนะ
คือคนเรามันก็ต้องมีเพื่อนมีสังคมบ้าง แล้วดูส่งออสตินมาเฝ้า โคตรแสบอ่ะ ปากจัดมาก แต่ที่จริงพี่ก็ว่าสูสีอยู่นะกับปากแมท 555
ขนาดหนัก ผัวหลงขนาดหนัก สู้ๆ นะน้องแมท วิคเตอร์ก็เพลาๆ บ้าง ไม่ใช่เจ้าชีวิตเขา เอ๊ะ หรือใช่

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #678 เมื่อ07-12-2015 19:42:43 »

จ้า แม่คนผัวรักผัวหลง เสน่ห์นางดีเหลือหลาย

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #679 เมื่อ07-12-2015 20:36:03 »

โอ้วววววววววว ออสตินจัดมากค่ะ ปากหรืออะไรค่ะนั่น  นี่วิคเตอร์รู้เปล่าเนี่ยว่า บอดี้การ์ดปากจัดขนาดนี้ 555555555555555555555
พี่ยักษ์ คุมไว้แบบนี้ก็ดีนะ  แล้วตัวพี่ยักษ์ล่ะ มีใครคุมเข้มแบบนี้มั้งเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
« ตอบ #679 เมื่อ: 07-12-2015 20:36:03 »





ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #680 เมื่อ07-12-2015 22:09:16 »

แมทชักน่าสงสารไปล่ะ โดยใส่กรอบขนาดนี้
ยักษ์เอ๋ย ไม่รู้จักความพอดีมั่งเลย

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #681 เมื่อ07-12-2015 23:17:18 »

สามีขี้หวงก็แบบนี้แหล่ะแมท ถ้าไปเมกาคาดว่าเพื่อนๆ คงลืมแกเลยล่ะแมท

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #682 เมื่อ07-12-2015 23:49:39 »

ฮาเพื่อนแมทอ่ะ เพื่อนๆน่ารักอ่ะ
อีพี่วิคนิไม่สงสารนางบ้าง ให้นางอยู่กับเพื่อนๆบ้างเถอะพ่อคุณ :laugh:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #683 เมื่อ08-12-2015 00:05:28 »

วิคเตอร์เยอะไปนะ เยอะไปมากๆ

ออฟไลน์ __imagine__

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #684 เมื่อ08-12-2015 01:56:43 »

คิดเสียว่า "ผัวรักผัวหลง"

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #685 เมื่อ08-12-2015 09:09:08 »

ขำออสติน  :laugh: อย่างน้อยแมทก็มีคนให้คุยเพลินๆ(?)ได้นะ 555
แมทถือซะว่าผัวรักผัวหลง ดีจะตายนาาา

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #686 เมื่อ08-12-2015 10:02:09 »

นางเยอะจริงๆ  เป็นเพราะอะไรนะะ

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #687 เมื่อ08-12-2015 11:02:17 »

รักเว่อแบบไอ้ยักษ์ไม่ได้น่าอิจฉาเล้ยยย
เหมือนเป็นนักโทษมากกว่า  :เฮ้อ:
วิคเตอร์คงมีปมเรื่องนี้สินะ  :katai1:
ปล.ออสตินนนน  :-[

ออฟไลน์ marisa9397

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 50%} 07.12.58::
«ตอบ #688 เมื่อ10-12-2015 19:11:23 »

โอ๊ย เพิ่งตามอ่านทันค่ะ ฉันไปอยู่ไหนมาสนุกมากกกกก รอติดตามพ่อยักษ์กับหนูเอเลี่ยนนะคะ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.20 100%} 11.12.58::
«ตอบ #689 เมื่อ11-12-2015 17:05:05 »



Only You EP.20 [100%]



หลังจากกินไก่เคเอฟซีจนอิ่มแปล้ตามที่ต้องการ ออสตินก็ขับรถมาส่งผมที่บ้าน วันแรกที่ออสตินมาส่งผม พ่อกับแม่ตกใจพอสมควรที่จู่ๆ ก็มีรถหรูเวิร์ดคลาสคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้าน ผมก็บอกพวกเขาไปตามปกติว่าเป็นคนขับรถของวิคเตอร์ (ที่อยู่ในสถานะเจ้านายผม) ส่งมาดูแลเรื่องการเดินทางเพื่อความสะดวกในการทำงานที่วิคเตอร์ฝากไว้ให้ทำที่เมืองไทยก่อนที่ผมจะต้องบินไปอเมริกาหลังจากเรียนจบ มันอาจไม่ใช่การโม้ใหญ่โต แต่ก็ไม่ใช่การบอกความจริงทุกสิ่งอย่างว่าอะไรเป็นอะไร วิคเตอร์มีงานอะไรให้ผมทำล่ะ นอกจากเรียนให้จบแล้วบินไปหาเขาทันที


“เจ้านายเรานี่เขาใจดีไปรึเปล่า ส่งคนขับรถมาให้ขนาดนี้” พ่อเอ่ยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด สายตามองรถบีเอ็มดับเบิลยูขับออกไปจากหน้าบ้าน


“มีเจ้านายดีก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ” ผมยิ้มเฝื่อน หากจะมีใครนึกสงสัยเรื่องผมกับวิคเตอร์ที่สุดในตอนนี้ก็คงเป็นพ่อนี่แหละ ตั้งแต่วันที่วิคเตอร์มาหารอบนั้นเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไร แต่เวลาแม่เอยถึงเรื่องงานผมที่นิวยอร์ก (ที่ไม่มีจริง) พ่อก็จะมีประเด็นมาถามย้อนแย้งแนวๆ นี้อยู่บ่อยๆ


และที่สำคัญ ตอนนี้พ่อกับแม่รู้แล้วว่าวิคเตอร์เป็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งในวงการบันเทิงตะวันตก มันอาจไม่ใช่เรื่องน่าตกใจหรือน่าตื่นเต้นอะไร แต่ผมรู้สึกว่านั่นเป็นการทำให้พ่อผมยิ่งสงสัยในตัววิคเตอร์มากขึ้น


“ก็ดี แต่ดีไปรึเปล่า ใส่ใจลูกน้องเกินไปพ่อว่า” ผมไม่รู้ว่าพ่อจะเห็นข่าวระหว่างผมกับวิคเตอร์บ้างหรือยัง พ่อไม่ใช่คนชอบเรื่องวงการบันเทิงก็จริง แต่พ่อก็ไม่ได้อยู่หลังเขาถึงขนาดที่จะไม่รู้หรือจะไม่ได้รับข่าวสารใดๆ เลย


“ใส่ใจมากไปก็ไม่ดีเหรอ” ผมยิ้มเจื่อน พ่อหรี่ตามองผมแวบหนึ่ง


“สงสัยแมทจะได้เจ้านายดีเกินไปแล้วมั้ง” ที่พ่อพูดนั้นไม่ใช่ประโยคกำกวมแต่อย่างใด สีหน้าจับผิดของพ่อที่แสดงออกมานั่นต่างหากที่ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองเหมือนวัวสันหลังหวะยังไงชอบกล


“ก็เป็นเรื่องน่ายินดีออก” ผมพยายามเก็บอาการกระต่ายตื่นตูมไว้ให้มิดชิด เวลาคุยกับพ่อในเรื่องที่ออกแนวโกหก ไม่ใช่ความจริง ต้องสงบนิ่งให้ได้มากที่สุด แม้ในใจจะกลัวว่าพ่อจับได้ที่สุดก็ตาม หากถามว่าระหว่างพ่อกับวิคเตอร์ ผมกลัวใครมากกว่ากัน บอกอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า ผมกลัวทั้งสองคนนั่นแหละ เพราะสองคนนี้มีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน แม้นหน้าตาจะไม่เหมือนกันก็เถอะ


“เจ้านายแมทนี่หน้าตาดีเหมือนกันนะ” แน่ะ ยังไม่หยุดนะพ่อ นี่คือรู้แล้วใช่มั้ย หรือว่ายังไม่รู้ แบบนี้โคตรอึดอัดเลย จะพูดอะไรมากไม่ได้อีก เดี๋ยวจะกลายเป็นเผยไต๋ซะเอง


“ถ้าหน้าตาไม่ดีเขาจะได้เป็นดารารึไงล่ะ”


“เขามีแฟนรึยัง”


“ยัง แต่ก็คงมีคนคุยๆ ด้วยแหละ เรื่องนั้นแมทไม่ได้เข้าไปยุ่งเท่าไหร่” สายตาที่พ่อมองมานั้น แม้นจะนิ่งสงบ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันคืออาการของคนน้ำนิ่งไหลลึก ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องราวดีๆ เท่าไหร่ เพราะผมจะไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วพ่อกำลังรู้สึกนึกคิดยังไง


“อืม ก็ไม่น่าแปลก หล่อขนาดนั้นแฟนเขาคงสวยนะ” ผมชะงักกึก รับรู้อะไรบางอย่างในน้ำเสียงของพ่อ แต่ก็แสดงออกอะไรมากมายไม่ได้ ที่ทำได้คือยิ้มบางเบาและพยักหน้าไปเรื่อย ในใจเต้นกระตุกแปลกๆ นิดหนึ่ง


“ก็คงสวยแหละ ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน” ผมแสร้งพูดสมทบตีเนียน พ่อผงกหัวขึ้นนิดหนึ่ง


“แล้วเรื่องบวชว่ายังไง จะบวชก่อนไปอเม’กาอย่างที่แม่เขาขอรึเปล่า”


“ยังไงแมทก็บวช ไม่ว่าแมทจะเป็นยังไง เป็นอะไร แมทก็จะบวชให้แน่นอน…” ผมเอาบ้าง ส่งสัญญาณกลับไปในน้ำเสียงของตัวเอง พ่อรู้ว่าผมหมายถึงอะไรเพราะเขาแอบหลบสายตาผมไปนิด


“…แต่แมทขอไปเก็บประสบการณ์การทำงานสักพักได้มั้ย ขอเก็บเงินด้วย ไม่เกินปี แมทกลับมาบวชแน่นอน” ณ ตอนนี้ การไปอเมริกาของผมคือการไปอยู่กับวิคเตอร์ ไม่ได้ไปทำงานอย่างที่บอกพ่อกับแม่ แต่ผมตั้งใจว่าเมื่อไปถึงยังไงผมก็ต้องหางานทำ จะให้อยู่เฉยคงไม่ได้


“พ่อไม่ได้มีปัญหา แต่เคลียร์กับแม่เขาให้เข้าใจแล้วกัน” ผมพยักหน้ารับคำ


“แล้วนี่แม่ไปไหน”


“ไปเล่นกับน้องพรีม” ผมพยักหน้าอีกรอบ หมุนตัวเดินเข้าไปด้านในบ้าน ปล่อยให้พ่อนั่งหน้าร้านต่อไป อีกนัยหนึ่งคือผมไม่อยากอยู่ต่อประเด็นให้ตัวเองเป็นที่สงสัยของพ่อมากไปกว่านี้


ผมเดินขึ้นไปบนห้องนอน เปิดไฟให้ความสว่าง กดเปิดแอร์เพื่อให้ความเย็น ผมมองนาฬิกาดิจิตอลข้างหัวเตียงก็ต้องขมวดคิ้วไปนิด เพราะเวลานี้วิคเตอร์น่าจะคอลสไกป์มาแล้วตามที่เขาบอก อันที่จริงเขาควรคอลมาตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนที่เขาบอกไว้ ผมหยิบมือถือขึ้นมาดู เท่านั้นแหละผมก็รู้สึกถึงอาการหน้าซีดทันที


แบตหมด!


ผมยกมือเกาหัวแรงๆ เดินไปเปิดแม็คบุ๊ค หยิบสายชาร์ตโทรศัพท์ออกมาชาร์ตโทรศัพท์แล้ววางไว้บนโต๊ะทำงาน ผมเลื่อนเม้าท์ไปคลิกโปรแกรมสไกป์ในแม็คฯ พอกดออนไลน์ได้ยังไม่ถึงสิบนาที เสียงคอลวีดีโอก็ดังขึ้น ยังไม่ทันได้กดรับ ผมก็รับรู้ถึงกระแสความไม่พอใจของไอ้ยักษ์หน้าหนวดมาจากนิวยอร์ก


“H—hi.” ผมทักเขาเสียงสั่นตอนที่กดรับ ใบหน้าเขาเรียบนิ่ง ไม่รู้ว่าโกรธจัดหรือว่าไม่ได้โกรธกันแน่ ซึ่งอันหลังนี่ผมกำลังคิดว่าตัวเองน่าจะฝันอยู่นะ


“ปิดเครื่องเหรอ” เขาถามเสียงสงบ ใบหน้าหนวดเครานั่นก็ดูสงบตามเสียง


“แบตผมหมด อย่าโกรธนะ” รีบอ้อนไว้ก่อน ถ้าเขาจะโกรธ จะได้ไม่ทรงพลังมากจนเกินไป


“ตอนแรกโกรธ แต่พอดีออสตินรายงานว่าส่งนายถึงบ้านแล้ว” อันนี้คือผมต้องขอบคุณพ่อบอดี้ศพนั่นรึเปล่าที่ช่วยพยุงชีวิตของผมไว้


“ไปอยู่ไหนมา” เขาถามต่อ ผมยกแม็คบุ๊คขึ้นจากโต๊ะ เดินไปนั่งบนเตียง เอาหมอนเป็นที่รองแม็คฯ ไว้ ขยับปรับหน้าจอให้เข้าที่เข้าทางเล็กน้อย นั่งพิงหัวเตียงคุยกับเขา


“คุยกับพ่ออยู่ครับ” ถ้าเป็นเรื่องคนในครอบครัว วิคเตอร์จะไม่ว่า ไม่โมโหใส่ หรืองี่เง่าใดๆ ใส่ผม แต่ถ้าลองผมบอกว่า คุยกับเพื่อน อยู่กับคนอื่น ติดธุระอยู่กับใครสักคนที่นอกเหนือจากพ่อและแม่ ผมจะไม่ได้เห็นเขาพยักหน้ารับรู้แบบสุภาพอย่างนี้หรอก


“ออกไปถ่ายงานกี่โมงครับ”


“เก้าโมง” ผมพยักหน้านิดหน่อย แอบสำรวจอารมณ์เขาแวบหนึ่งว่าตอนนี้เขาไม่ได้โกรธอย่างที่ปากพูดแล้วแน่หรือเปล่า


“คุณกับเซล่า (Cayla) เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” ผมถามถึงเรื่องระหว่างเขากับโฆษกส่วนตัวที่ทำเขาโมโหก่อนกลับไปนิวยอร์ก กับประเด็นเรื่องราวของผมกับเขาที่เธอไม่ต้องการให้เป็นข่าวใหญ่โตไปมากกว่านี้ หลังจากวันนั้นวิคเตอร์ก็ยังไม่ได้เล่าอะไรให้ผมฟังเพิ่มเติมมาก บอกแค่ว่าเดี๋ยวเขาเคลียร์เอง ไม่รู้ว่าเคลียร์ไปถึงไหนแล้ว


“พูดกับเธอ ฝึกไมเคิลให้ฉี่ลงโถส้วมยังง่ายกว่า” ผมอมยิ้มขำ หน้าตาวิคเตอร์บ่งบอกว่าเซ็งและเบื่อโฆษกคนนี้มาก ผมไม่รู้ว่าเธอดูน่าเบื่ออย่างที่วิคเตอร์บอกรึเปล่า เพราะเอาเข้าจริงวิคเตอร์ก็เบื่อคนไปทั่วนั่นแหละ ยิ่งถ้าคนไหนขัดใจเขามากๆ คนนั้นจะกลายเป็นบุคคลน่าเบื่อ นิสัยน่ารำคาญไปทันทีในสายตาเขา


“แล้วคุณกับคุณชารอนล่ะ เป็นยังไงกันบ้าง” วิคเตอร์ขมวดคิ้วแน่น หน้าตาเขามีความงงงวยกลับมา


“แล้วจะให้ฉันกับเธอเป็นยังไงล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่”


“ก็แหม กระแสข่าวระหว่างคุณกับเธอก็แรงพอๆ กับกระแสหนังนั่นแหละ” เป็นความจริงที่ว่าเหล่าบรรดาแฟนคลับนั้นมโนคู่นี้แรงพอๆ กับคู่จิ้นที่ผมเคยติดตามในภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มีอินสตาแกรมคู่ของสองคนนี้ผุดขึ้นเพียบนับตั้งแต่ค่ายหนังปล่อยภาพเบื้องหลังการถ่ายทำของพระนางออกมา ซึ่งภาพนั้นเป็นภาพโมเม้นต์ชวนฟินของเหล่าแฟนๆ ได้ดีเหลือเกิน


“กำลังจะคิดมากอีกแล้วใช่มั้ย” เขาหรี่ตามอง แววตาเหมือนจับผิดอาการของผมอยู่


“ผมไม่ได้คิดมากสักหน่อย” ผมบอกเสียงอู้อี้แล้วทำแก้มป่องน้อยๆ แอบเลื่อนสายตาหลบดวงตาคู่คมของเขา วิคเตอร์ทำสีหน้าว่าไม่เชื่อ


“แน่ใจ?”


“แน่สิ ผมรู้น่าว่าอะไรเป็นอะไร”


“ไม่ใช่แค่รู้ แต่นายต้องเชื่อใจฉัน เข้าใจมั้ย” คิ้วเขาย่นหน้าตึง สีหน้าเขาซีเรียสกับสิ่งที่ถาม ผมยกยิ้มมุมปาก พยักหน้าแทนคำตอบ วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นสูง ผมถอนหายใจแผ่วเบา


“เข้าใจครับ”


“ทำให้ได้อย่างที่พูดและที่พยักหน้าไปด้วย”


“คุณก็อย่าวอกแวกแล้วกัน ชารอนเธอก็ใช่ว่าหน้าตาขี้เหร่สักหน่อย” เธอสวยมาก แถมยังมีความน่ารักผสมด้วย ถึงวิคเตอร์จะเคยบอกว่าเธอมีแฟนแล้ว แต่ใครจะไปรู้ล่ะ วิคเตอร์กับเธอใกล้ชิดกันเกือบทุกวัน บางทีมันอาจจะเป็นตัวแปรของทั้งคู่ก็เป็นได้


“ใช่ เธอไม่ได้หน้าตาขี้เหร่อย่างนาย ฉันไม่ชอบหรอก” เขายิ้มกว้างอย่างขบขัน ผมเบ้ปากใส่เขาแรงๆ จนเขาหัวเราะเสียงทุ้ม


“แล้วกระแสข่าวที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” ผมสามารถติดตามข่าวได้จากโลกโซเชียลก็จริง แต่ผมไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วกระแสเรื่องเขากับผมนั้นเป็นอย่างไร วิคเตอร์ไม่ได้ประกาศชัดเจนก็จริงว่าผมกับเขาคบกัน แต่จากภาพในอินสตาแกรมเขานั้นมันสามารถเป็นประเด็นได้ไม่หยุด อันที่จริงรูปนั้นมันไม่เท่าไหร่หรอก รูปในแฟนเพจเฟซบุ๊คของผมกับเขาต่างหากที่สื่อต่างๆ เอาไปเปิดประเด็นเพิ่มเติม แต่พวกนั้นก็ไม่ได้เขียนข่าวโจ่งแจ้งอะไรมาก เพราะเอาเข้าจริงแล้วก็ยังไม่มีอะไรหลุดออกจากปากวิคเตอร์เลยสักนิด


“ไม่ต้องไปสนใจข่าวนักหรอก แค่ใช้ชีวิตของเราปกติต่อไปนั่นแหละ…” เขาขยับตัวลงจากเตียง หยิบเสื้อยืดมาพาดบ่า หน้าจอสั่นเคลื่อนไหวไปมายามที่เขาก้าวเท้าเดิน


“…ว่าแต่นายโอเคนะที่เรื่องของเราจะอยู่ไปเงียบๆ แบบนี้” ผมพยักหน้ารับรัวๆ


“โอเคมากๆ ครับ ไม่ต้องบอก ไม่ต้องพูด อยู่เงียบๆ แบบนี้แหละ” วิคเตอร์ยิ้มเนือยดูเหนื่อยหน่ายใจ


“ไม่อยากเปิดตัวบ้างเหรอ” ผมทำปากยู่ ย่นคิ้วใส่จอ เอานิ้วชี้เกาหัวคิ้วขวาเบาๆ


“จำเป็นต้องเปิดด้วยเหรอ ผมไม่ได้พูดให้ตัวเองดูดีนะ แต่ผมคิดว่า อยู่แบบนี้ผมก็มีความสุขดีแล้ว จะเปิดหรือปิด เราก็ยังรักกันไม่ใช่เหรอ” ผมพูดตาแป๋ว กระพริบตามองหน้าวิคเตอร์ปริบๆ ไอ้ยักษ์ยิ้มกว้างจนร่องแก้มขึ้น แววตาวิบวับจับจ้องมองหน้าผม


“ฉันแข็งแล้ว” ผมเบิกตากว้าง ใบหน้าร้อนฉ่า วิคเตอร์ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากล่างอย่างเชื่องช้า


“ขะ… แข็งได้ไง ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” ผมทำแก้มอูม รู้สึกทึ่งหน่อยๆ กับปฏิกิริยาแห่งต่อมความรู้สึกทางเพศของเขา


“นายพูดจาเข้าท่าดี” โอ๊ะ แค่เนี้ยน่ะเรอะ เพิ่งรู้ว่าคำพูดสร้างอารมณ์ได้ด้วย


“ช่วยตัวเองไปสิ”


“แล้วอาทิตย์ก่อนฉันทำอะไรล่ะ” เขายิ้มร้ายกาจ ผมหน้าแดงแปร๊ดไปทั่วหน้า


อาทิตย์ก่อน เรากำลังคุยกันผ่านหน้าจอแบบนี้ละ สักพักเขาก็บอกว่ามีอารมณ์ ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เขาเลยบอกให้ผมถอดเสื้อผ้า นอนเปลือยนิ่งๆ บนเตียง นอกนั้นเขาจะจัดการเอง เขามองผมด้วยสายตามัวเมา ใช้มือรูดรั้งลูกชายเขาไปเรื่อย ตอนแรกผมก็นอนนิ่ง แต่พอเห็นแฟนตัวเองชักขึ้นลง แมทน้อยมันก็ตื่นตัว วิคเตอร์ยิ้มยั่วและบอกให้ผมทำตามเขา เราเลยนั่งช่วยตัวเองผ่านหน้าจอจนเสร็จ เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมมาก


“อันที่จริงฉันอยากฟัดนายตัวเป็นๆ มากกว่า เฮ้อ… อีกนานเลยกว่าฉันจะได้ไปหานาย” เขาบ่นสีหน้าเซ็ง ถอนหายใจยาวๆ


“ตั้งใจทำงานก่อนเถอะครับ ว่างแล้วค่อยมาก็ได้”


“ห้ามนอกใจฉันนะแมท” เขามองผมด้วยสายตาดุๆ ผมกลอกตาหน้าเอือม ว่าแต่ผม เขาเองก็ชอบทำท่าว่าไม่ไว้ใจผมเหมือนกันนั่นแหละ


“คุณส่งออสตินประกบผมขนาดนี้ ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปนอกใจคุณเนี่ย” แววตาเขาหยาบกระด้างขึ้นไปนิดเมื่อผมพูดจบ ผมงุนงงกับท่าทีของเขา


“หมายความว่าถ้าไม่มีออสตินนายจะมีคนอื่นใช่มั้ย?!” หะ…หา?! ทำไมคิดไปอย่างได้ล่ะ ไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลยนะ


“เปล่า! ผมไม่ได้จะทำแบบนั้น”


“ก็ลองทำสิ นายโดนล่ามโซ่แน่!” เขาเปล่งเสียงแข็ง ใบหน้าขึงตึงขึงขัง ผมขมวดคิ้วงง กำลังงงว่าเขาพาผมมาจุดที่เขาเสียงดังใส่ผมได้ยังไง


“ผมรู้แล้วละครับว่าคุณมีโซ่” ห้อยอยู่ในห้องเซ็กส์ทอยนั่นไง


“รู้แล้วก็ดี และฉันทำจริงนะถ้านายนอกใจฉัน” บ๊ะ! สวยเว้ยยย! ผัวรักผัวหลง แต่กลัวมันจะรักจะหลงแค่ช่วงโปรโมชั่นนี่ละวะ


“คุณเห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย” ผมขมวดคิ้วใส่พ่อยักษ์หน้ายุ่ง ไม่รู้จะหึง จะหวงอะไรนักหนา เออ ถ้าว่า ผมหน้าตาเป๊ะปังกะละมังถังแตกจะไม่ว่าเลย นี่มีอะไรดึงดูดตัวผู้บ้าง ถ้ามันจะมี ผมไม่โสดร้างค้างแรมมานานเป็นยี่สิบกว่าปีหรอก


“ฉันรักนายนะ” โอเค แค่ประโยคเดียว เล่นเอาอ่อนระทวยเลย ไม่ว่าเขาจะเห็นผมเป็นคนยังไง แต่ที่สำคัญคือเขารักผมนี่ละนะ ฮี่ๆ เขินจัง โดนบอกรัก


“ผมก็รักคุณ คุณเองก็ห้ามนอกใจผมล่ะ คุณอะมันเจ้าชู้ มักมากในกาม”


“มักมากในกามไม่ปฏิเสธ แต่ฉันก็มักมากกับนายคนเดียว ส่วนเรื่องเจ้าชู้ การที่ฉันมีอะไรกับใครมาเยอะ ไม่ได้หมายความว่าฉันหลายใจสักหน่อย ถ้างั้นฉันก็มีแฟนเป็นร้อยคนแล้วสิ” อันนี้ก็จริงอยู่ วิคเตอร์มีแฟนมาแค่สองหรือสามคนเอง แล้วแต่ละคนเขาก็ใช่ว่าคบแปบๆ แล้วเลิก คบกันนานพอสมควร อย่างคนแรกที่ว่าเป็นรักแรกของเขานั้นก็สามสี่ปีอยู่นะ


“โอเค เอาเป็นว่าเราต้องเชื่อใจกัน”


“นายห้ามคิดมากเรื่องฉันกับชารอน โอเค๊?” ผมกำลังจะพยักหน้า แต่สักพักก็ทำปากยื่น หน้าตาหงอยเหงา


“แต่คุณกับเธอก็เหมาะอย่างที่พวกแฟนคลับเขาว่าจริงๆ นะ ชารอน (Sharon) กับวิคเตอร์ (Victor) รวมกันเป็นชาเตอร์ (Shator)” อันนี้เป็นชื่อกลุ่มแฟนคลับของสองคนนี้ ที่เมืองนอกมักจะมีแบบนี้แหละ พระนางคนไหนที่เคมีเข้ากันมากๆ เขาจะเอาชื่อมาบวกกัน ทำเหมือนว่าเป็นคนๆ เดียวกันอะไรประมาณนั้น ที่ไทยก็มีมั้ง แต่ผมไม่ค่อยติดตามคู่จิ้นเมืองไทยเท่าไหร่


“สู้มอนด์แมท (Mondmatt) ไม่ได้หรอก” กำลังทำหน้านอยด์ๆ อยู่ถึงกับขำเสียงดังที่เขาเอานามสกุลตัวเองกับชื่อเล่นผมมาบวกกัน พอเห็นว่าผมหัวเราะได้ เขาเลยยิ้มกว้างแบบที่ผมชอบมอง


“That’s nice. (เก๋จัง)” เขายักคิ้วหลิ่วตาอย่างน่ามองมาให้ ผมยิ้มเขินอยู่คนเดียว กรี๊ด~ >< คือเขาเท่ง่ะ


“จะเริ่มไปฟิตเนสเมื่อไหร่”


“อาทิตย์หน้าแล้วครับ” กว่าจะขอไปได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเขาไม่ชอบที่ผมต้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีผู้ชายเยอะขนาดนั้น ผมก็เถียงกลับไปว่าไม่มีใครมาสนใจกันหรอก ทุกคนไปออกกำลังกายไม่ได้ไปหาคู่ เขางอแงจะไม่ให้ผมไป ต้องอธิบายเหตุผลว่าที่ผมไปก็เพราะอยากมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพื่อที่จะได้รบกับเขาบนเตียงได้ ท่าทีเขาตอนที่ได้ยินประโยคนี้นั้นสงบลง สีหน้าแบ่งรับแบ่งสู้ ผมเลยต้องออกอาการอ้อนผสมกับความดื้อด้านของตัวเองลงไปอีกนิด เขาเลยจำยอมให้ผมไปฟิตเนส แต่มีกฎว่าห้ามจ้างเทรนเนอร์ ให้ออสตินไปเฝ้า ต้องรายงานว่าแต่ละวันเล่นอะไรไปบ้าง เพื่อที่จะดูว่าผมไปออกกำลังกายจริงหรือไม่ ดู๊ดู เรื่องผีบ้าผีบอ ผีเข้าผีออก คำสั่งเพี้ยนๆ นี่ขอให้บอกพ่อยักษ์เขาเถอะ


“ห้ามเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน แล้วอย่าให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ ไม่งั้นฉันสั่งออสตินยิงมันทิ้งจริงๆ ด้วย” โอย หึงกะด้อกะเดี๊ยน้อ มันบ่อมีไผมาซอบข่อยดอกกก


“อย่าบ้าน่าวิคเตอร์”


“ฉันบ้าได้มากกว่าที่นายคิดอีก…” เออ ผมเชื่อสนิทใจเลยแหละ


“…เฮ้ ทักทายไมเคิลหน่อยซิ ไมเคิลทักทายแม่แกหน่อยเร็ว” จากที่กำลังอึนๆ อัดอั้นในอก พอได้เห็นหน้าตาน่ารักของเจ้าไมเคิลตัวอ้วน ผมก็ฉีกยิ้มกว้าง มันส่ายหางตอบรับวิคเตอร์ ดวงตามองมาทางจอมือถือด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ


“มันงงแน่เลยว่าคืออะไร” ผมว่าด้วยรอยยิ้มตลกขบขันกับสีหน้าเอ๋อๆ ของมัน เจ้าหมาตัวโตแลบลิ้นห้อย คิ้วย่นยึกยักไปมา คงกำลังสงสัยว่าสิ่งที่วิคเตอร์ถืออยู่นั้นกินได้หรือเปล่า


“แมทไง แม่แกน่ะ จำได้มั้ย” มันมองวิคเตอร์ด้วยสายตาว่าอะไรเหรอ ผมหัวเราะกับท่าทีของเจ้าหมา ไมเคิลมันคงไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพ่อมันเอาจอกระจกสี่เหลี่ยมชิดจมูกมันทำไมนักหนา


“มันกลับมาตอนไหนครับ”


“เมื่อวานตอนเย็น คนเลี้ยงเอามันมาส่งหน้าบ้านเลย” ช่วงที่เขามาไทย เขาเอาไมเคิลกับฟอกซ์ไปฝากไว้กับคนรับเลี้ยงคนเดิม คนที่ผมเคยไปรับไมเคิลกลับมาบ้านเมื่อตอนช่วงฝึกงานอยู่กับเขา ตอนเขากลับไปช่วงแรกๆ งานเขาค่อนข้างยุ่ง เขาเลยยังไม่กล้าไปรับไมเคิลมาอยู่ด้วย เพราะกลัวจะดูแลมันไม่ดีแต่ตอนนี้เขาเอามันกับเจ้าฟอกซ์กลับมาอยู่ด้วยแล้ว เนื่องด้วยเขาไม่อยากให้บ้านเงียบเหงาจนเกินไป


“แล้วฟอกซ์ไปไหน” วิคเตอร์นั่งยีหัวไมเคิลเล่น สายตาสอดส่องมองหาเจ้าแมวตัวอ้วนสีเทารอบบ้าน


“สงสัยแอบขึ้นไปบนดาดฟ้าอีกแล้วมั้ง” เขาก้มลงไปมองเจ้าไมเคิลตามเดิม สั่งให้มันเห่า แต่มันกลับทำหน้าโง่แบบน่ารักกลับมา ผมนั่งหัวเราะกับปฏิกิริยาที่มันแสดงออกมา ช่างน่ารักน่าชังน่ากอดชะมัด


“ทำไมไม่เห่าเลย ไม่คิดถึงแม่แกเหรอ” มันยังคงย่นคิ้วใส่พ่อมัน สายตามองสลับที่หน้าจอกับหน้าวิคเตอร์


“ไมเคิล…” ผมลองเรียกชื่อมัน แล้วก็เหมือนจะได้ผลเมื่อเจ้าตูบหันรีหันขวางมองไปรอบบ้าน


“…ไมเคิล เห่าซิ” ผมสั่งมันผ่านจอ มันลุกขึ้นยืนแล้วเดินวนรอบตัววิคเตอร์ เขามองตามมันแล้วหัวเราะยกใหญ่กับท่าทีตื่นเต้นของมัน ไมเคิลดมดอมไปทั่วตัวเจ้านายมัน วิคเตอร์ยื่นหน้าจอเข้าไปใกล้มันอีกนิด


“ไมเคิล เห่าหน่อยเร็ว โฮ่ง!!!” มันหยุดนิ่งเหมือนกำลังฟังว่าต้นกำเนิดเสียงมาจากไหน มันจ้องมองที่จอมือถืออีกรอบ ผมยกมือทักทายมัน


“โฮ่ง!!” ผมลองส่งเสียงนำไปอีกครั้ง ไมเคิลโบกหางเป็นพวงของมันแรงขึ้น กำลังจะอ้าปากส่งเสียงเห่าเป็นต้นเสียงให้มันอีกครั้ง เสียงเห่าอันทรงพลังก็ดังลั่นบ้าน


“โฮ่ง!!!” ทั้งผมทั้งวิคเตอร์หัวเราะเสียงดังลั่น เขาเอาแขนกอดคอเจ้าหมาตัวอ้วนไว้ สีหน้าเขามีทั้งความรัก ความมันเขี้ยวไมเคิลเต็มเปี่ยม


“ทีฉันสั่งแกไม่เคยเห่าเลยนะ” เขาว่าพลางยีหัวไมเคิลแรงๆ เจ้าหมาใหญ่นั่งมองหน้าจอลิ้นห้อย มีการยกเท้าขวาขึ้นมาแตะหน้าจอทำท่าจะสวัสดีผมด้วย


“เรารู้กันเนอะไมเคิล” ผมยิ้มกริ่ม ส่งเสียงหยอกล้อกับเจ้าโกลเด้นท์ด้วยความคิดถึง


“เดี๋ยวฉันจะเอาไมเคิลไปทิ้ง” วิคเตอร์ยกจอไปที่หน้าตัวเอง เขายักคิ้วกวนๆ กลับมาให้ ผมแสร้งมองเขม่นกลับไป


“กับหมาก็ยังหึงเนาะ”


“แต่ท่าหมาเป็นหนึ่งในท่าที่ฉันชอบเวลาอึ๊บนายนะ” ผมยิ้มจมูกบาน วิคเตอร์หัวเราะเสียงใส จะว่าไปช่วงนี้หน้าตาเขาดูผ่องใสมากเลย


“ผมชอบท่านั่งตักคุณนะ” ผมแลบลิ้นด้วยความเขิน พูดเองก็เขินเอง ผมย่นคอห่อไหล่เพราะเริ่มรู้สึกกระดากปากกับสิ่งที่ตัวเองพูดไปมาก ยิ่งพอเห็นรอยยิ้มหล่อๆ ของพ่อยักษ์หนวด ก็ยิ่งเขินอายจนต้องหัวเราะคิกคัก


“ชอบท่าเดียวเองเหรอ” เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางตู้เย็น ผมทำหน้ายู่


“ชอบทุกท่าที่คุณทำนั่นแหละ…” เขายิ้มกริ่ม


“…แต่ไม่เอาตอนคุณโกรธนะ” เพราะจะไม่มีอะไรน่าอภิรมย์เลยสักนิด


“ถ้านายไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่ขัดคำสั่งฉัน ฉันจะโกรธทำไมล่ะ” พูดอย่างกับตูเป็นเด็กอายุน้อยๆ แบบว่าเพิ่งเข้าอนุบาลหนึ่งหมาดๆ อะไรแบบนั้น


“Aye! (ครับผม!)” ผมทำเสียงจริงจังหน้าตาขึงขัง ยกมือขวาขึ้นมาตะเบ๊ะเหมือนทหาร นี่ถ้ายืนตรงทันจะยืนขึ้นแล้วละ


พ่อยักษ์รูปหล่อยกยิ้มเท่ ยกกล่องนมกระดกเข้าปากไปสองสามอึก “อยู่กับออสตินมากไปจนติดนิสัยทหารเขามารึไง” เขาว่าพลางเก็บกล่องนมกล่องใหญ่เข้าไปในตู้เย็นตามเดิม


“ไม่เอาหรอก นิสัยอย่างเขาไม่น่าลอกเลียนแบบเลยสักนิด” วิคเตอร์ยิ้มมุมปากเพียงนิด หมุนตัวไปเท้าแขนกับโต๊ะหินอ่อนในครัว


“อยู่ใกล้กันมาก ห้ามชอบออสตินนะ”


“คุณย้ำบ่อยแล้วเนี่ย” มีผู้ชายคนเดียวที่วิคเตอร์จะไม่ย้ำเรื่องการเข้าใกล้ผมนั่นคือพ่อของผมเอง เขายักคิ้วหนึ่งที ทำสีหน้าว่าไม่สนใจกับสีหน้าระอาของผม


“คิดถึงฉันมั้ย” เขาถามตาใส ผมชอบมองหน้าเขาเวลาแบบนี้นะ เหมือนเด็กน้อยที่ถามด้วยความบริสุทธิ์ใจ ถามออกมาจากใจ ไม่มีเลศนัยอะไร


“ที่สุดเลย” ผมยิ้มละมุน ถ้าอยู่ด้วยกันตอนนี้ ผมจะเข้าไปกอดเขาไว้แน่นๆ


“I wanna fuck you. (อยากเอานายจัง)” ผมย่นคิ้วเล็กน้อย ริมฝีปากบิดเป็นรอยยิ้มหน่ายหน่อยๆ


“Could you try to change to ‘I wanna hug you’ instead. Do you? (กรุณาลองเปลี่ยนเป็น ‘ฉันอยากกอดนาย’ แทนได้มั้ย)” เขายิ้มหล่อ ยืดตัวขึ้นเต็มความสูง หน้าอกเปลือยเปล่านั้นยังคงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ


“Okay. I wanna hug you…” ผมยิ้มแฉ่ง


“…And fuck you, too.” ผมหุบยิ้มฉับทันควันจนวิคเตอร์หัวเราะลั่นกับหน้าตาผมที่เปลี่ยนว่องไวไปมา สุดท้ายอีพ่อยักษ์มันก็วกเข้าหาเรื่องตรงเป้ากางเกงได้เสมอ


ผมนั่งพิงหัวเตียงคุยกับเขาต่อไปเรื่อย จะขอวางเขาก็ไม่ยอมวางหรอก ต้องรอให้เขาเอ่ยปากเอง ถ้าวางก่อนเดี๋ยวงอนอีก นอกจากว่าผมจะมีธุระเร่งด่วนจริงๆ เขาถึงจะยอมให้ไป ผมคุยไปหาวไป แอร์เย็นฉ่ำ กับอาการเพลียๆ นิดหน่อยตลอดวันเลยทำให้หนังตาเริ่มปิดลง เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงโวยวายของวิคเตอร์


“เอเลี่ยน! ฉันยังไม่หายคิดถึงเลยนะ อย่าเพิ่งหลับ…” ไว้คิดถึงวันอื่นบ้างก็ได้



 :hao7:

แม้ตัวจะห่างกัน แต่ไอ้ยักษ์ก็ไม่ยอมให้เมียเด็กห่างไกล คริๆ คุมเข้มยิ่งกว่ากองกำลังทหารรักษาองค์หญิงแคว้นอิสระ ให้พี่แกหน่อย แห้งแล้งไปนาน มีคนมาเติมความชุ่นชื้นให้เลยใจกระชุ่มกระชวย กริ๊บกริ้ววว

ฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยน้าาา  :hao6: ลิงก์ค่าา > Woks The Magic!

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ ค่ะ เจอคำผิดบอกด้ายยยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2015 22:43:09 โดย ขุ่นเจ้ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด