:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 808321 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #630 เมื่อ27-11-2015 02:17:45 »

หวังว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนะ หวานกันแล้วก็ต้องหวานกันให้ตลอด อย่าได้มีเรื่องอะไรมากระชากอารมณ์กันเลย

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #631 เมื่อ27-11-2015 03:26:19 »

เฮ้ออออออ ห่างกันจะเป็นยังไงเนี่ยยยย

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #632 เมื่อ27-11-2015 06:09:42 »

ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าน้องแมทรู้.... :mew2:

ออฟไลน์ G-love

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #633 เมื่อ27-11-2015 07:23:30 »

ผู้หญิงคนนั้นแชทมาใช่ไหมมมม หวังว่าคงไม่มีปัญหากันน่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #634 เมื่อ27-11-2015 07:26:27 »

วิคน่าจะสารภาพบาปไปนะ เผื่อนังผญมาก่อกวนแมท(มั้ง)


ว่าแต่ในแชทเถียงกะใครล่ะนั่น?

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #635 เมื่อ27-11-2015 09:25:49 »

ยังไม่ทันบิน ปัญหาเริ่มมาแล้ว เอาแล้วไงๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #636 เมื่อ27-11-2015 12:25:39 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #637 เมื่อ27-11-2015 14:17:11 »

แมทนี่ของนางแรงจริงขนาดว่านางสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างระหว่าผัวนางกะชะนีนางนั้น 555 ระวังไว้นะวิคเตอร์  อย่าลืมว่าพลาดเมื่อไหร่แม่ๆช่วยกันเหยีบซ้ำ เพราะฉนั้นทำตัวดีๆอย่ามีปัญหา

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #638 เมื่อ27-11-2015 17:38:00 »

จะมีเรื่องอะไรมั้ยน้ออ :katai1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #639 เมื่อ27-11-2015 20:25:00 »

มีแววดราม่ามาเลย สงสารแมทท เราจะเอาอดัมมาปกป้องแมทเองถ้าอีพี่ยักษ์คิดเลว!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
« ตอบ #639 เมื่อ: 27-11-2015 20:25:00 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #640 เมื่อ27-11-2015 22:02:00 »

ดราม่าอะไร ดูจะหนัก ปกติวิคเตอร์ค่อนข้างดอนท์แคร์กับทุกสิ่ง กังวลแทนน้องแมทเลยเนี่ย
จัดหนักจนน้องแทบเดินไม่ได้ ชอบตอนวิคเสียความมั่นใจว่าแมทชอบที่ตัวเองทำรึเปล่า
ตอนแมทตบปากเบาๆ นั่นด้วย น่ารัก เอเลี่ยนน้อยน่ารักมาก สู้ๆ นะน้องแมท #ทีมน้องแมท

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #641 เมื่อ27-11-2015 22:08:13 »

น่ารัก :-[

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #642 เมื่อ27-11-2015 23:13:26 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #643 เมื่อ28-11-2015 11:07:24 »

จะดราม่ามั้ย ฮรือออออ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #644 เมื่อ30-11-2015 11:53:16 »

กลิ่นมาม่าลอยมาตุๆ

ออฟไลน์ snook24062

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 30%} 27.11.58::
«ตอบ #645 เมื่อ30-11-2015 21:19:08 »

สนุกมากค่ะ. มารอทุกชั่วโมงเลย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #646 เมื่อ01-12-2015 00:31:43 »


Only You :: EP.19 [70%]



วิคเตอร์ผ่อนคลายท่าทีตึงเครียดนั้นลงไปเยอะ พอเห็นเขายิ้มได้ ผมก็รู้สึกสบายใจตามไปด้วย แม้จะยังไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุจริงๆ ของใบหน้าคร่ำเครียดนั่น แต่ตอนนี้เขากลับมาปกติแล้ว ผมก็เลยไม่อยากไปคนน้ำให้ขุ่นอีก


“เดินไหวรึเปล่า” เขาหันมาถามเพราะเห็นว่าผมเดินขาถ่างแปลกๆ คือมันยังรู้สึกเสียดนิดหน่อย แต่ไม่ได้หนักหนาถึงขั้นอยากจะรู้สึกคลานเหมือนตอนที่เดินออกจากห้องพักที่โรงแรมแล้ว


“ไหวครับ แค่ยังเดินขาชิดกันมากไม่ได้”


“นายเดินเหมือนเป็ดเลย” เขาว่าเสียงกลั้วหัวเราะ ผมแกล้งมองเขม่น อีกฝ่ายหัวเราะชอบอกชอบใจ มีการเอามือเท้าเอวแล้วทำท่าตีปีกผับๆ ล้อเลียนผมด้วย ผมยื่นหน้าไปกัดเนื้อที่แขนเขาด้วยความคันเขี้ยว ไม่ได้กัดแรงอะไร แค่กัดเพราะหมั่นไส้เล็กๆ น้อยๆ


“วิคเตอร์ รีบไปเช็กอินเร็ว” เบนเนดิคท์หันมากวักมือเรียก เราสองคนเลยรีบก้าวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มตัวเอง รอบตัวผมมีหลายคนที่มองมาทางวิคเตอร์อย่างสนใจ แต่หลายๆ สายตาก็มองเหมือนจะไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่เพราะหมวกที่ปิดยังใบหน้าเขาอยู่ แล้วก็มีคนที่มองผ่านเลยไปแบบไม่ใส่ใจ ได้แต่หวังว่าคนที่จ้องๆ มองๆ เขานั้นคงไม่มีใครยกพวกกรูเข้ามาหาเขาหรอกนะ ขอให้พวกเขายังคงไม่มั่นใจกันต่อไปจนกระทั่งวิคเตอร์ขึ้นเครื่องนั่นแหละ


พวกออสตินยืนอยู่กับกระเป๋าเดินทางของพวกวิคเตอร์ ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขามากที่ไม่ได้ใส่ชุดสูทสีดำตามแบบฉบับของบอดี้การ์ดมาที่สนามบินวันนี้ พวกเขาใส่ชุดลำลองสบายๆ เหมือนเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป วิคเตอร์เดินไปเช็กอินกับพวกเบนเนดิคท์ที่เค้าน์เตอร์ของสายการบิน ผมยืนรออยู่กับบาสและพวกการ์ด กำลังยืนคุยเรื่องหาที่นั่ง


“พี่แมทคะ…” เสียงเรียกดังมาจากด้านข้าง ผมหันไปมองก็แอบตาโตนิดหน่อยที่เห็นกลุ่มน้องผู้หญิงกลุ่มใหญ่สิบกว่าคนยืนส่งรอยยิ้มเป็นมิตรมาให้ ผมทำหน้าเหลอหลาใส่พวกเธอเล็กน้อย


“คะ… ครับ” ผมกำลังงงว่าน้องพวกนี้เป็นใคร พวกเธอเหมือนจะรู้ว่าผมกำลังงงอยู่เลยมีคนหนึ่งเปิดปากอธิบายขึ้นมา


“พวกหนูเจอกับพี่ที่วัดอะค่ะ แล้วที่บอกว่าจะขอตามมาส่งพี่วิคเตอร์กลับอเมริกาด้วย” ผมนึกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะทำหน้าเก็ท ส่งยิ้มให้พวกน้องๆ และบอกว่าวิคเตอร์กำลังไปเช็กอินอยู่ อีกสักพักคงมา แอบขอร้องกับน้องๆ ว่าอย่าทำอะไรตื่นตูมมากนัก เพราะวิคเตอร์ไม่อยากวุ่นวาย ซึ่งทุกคนก็น่ารักมาก รับปากกันอย่างดี


“เดี๋ยวนี้มีแฟนคลับแล้วด้วย” บาสแซวยิ้มๆ ผมยิ้มเคอะเขิน


“ของวิคเตอร์ทั้งนั้นอะ”


“ก็ของแมทด้วยอะแหละ พวกน้องเขาคงชอบที่แมทคบกับวิคเตอร์ไง” ผมยิ้มเผล่ ไม่รู้จะพูดจะตอบอะไรดี พวกน้องๆ ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปในจังหวะที่ผมไม่ได้มอง ผมไม่เคยมีคนมาตามถ่ายรูปแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง ต้องหันไปยิ้มตลอดมั้ยหรือทำตัวปกตินะ


“เฮ้ย เกร็งหมดแล้ว ทำตัวตามปกตินั่นแหละ” ไม่รู้ว่าบาสได้ยินสิ่งที่ผมคิดหรือว่ายังไงเขาเลยพูดออกมาเหมือนให้คำตอบกับคำถามที่ผมนึกขึ้นในหัว ผมพยักหน้าหงึกหงัก พยายามทำตัวตามปกติ ไม่ได้หันไปมองกล้อง แต่ก็แอบคิดว่าพวกน้องเขาจะคิดว่าผมเมินหรือเปล่า คือไม่ได้เมินนะ แต่ปั้นหน้าไม่ถูกจริงๆ


“บาส ได้คุยกับเอิร์ทมั่งมั้ย” บาสกำลังจะอ้าปากตอบ แต่พอผมเห็นวิคเตอร์เดินมาเลยเบรกเขาเอาไว้ก่อน บอกเขาว่าค่อยคุยกันทีหลัง เสียงรัวชัตเตอร์ดังเร็วๆ กว่าเดิมเมื่อวิคเตอร์ก้าวเท้าตรงมาทางผม  เขาเหลือบสายตาไปมองกลุ่มน้องผู้หญิงแวบหนึ่ง มีแววบึ้งตึงปรากฏบนใบหน้าเขา แต่ก็ถูกสลัดทิ้งออกไป


“อีกสี่สิบนาที” เขาพูดถึงเวลาที่เหลือในการรอขึ้นเครื่อง ผมพยักหน้ารับ รู้สึกใจแกว่งวูบไหวไปมาเบาๆ แต่ก็ยังไม่ได้มากมายอะไร


“ตรงนู้นมีที่นั่ง ไปนั่งกันเถอะ” เขาชี้ไปที่เก้าอี้โซนหนึ่งที่ว่างพอสำหรับพวกเราทุกคน เขากำลังจะเดินไป แต่ผมดึงชายเสื้อเขาเอาไว้ก่อน


“ถ่ายรูปกับพวกเขาหน่อยนะ พวกเขาอุตส่าห์มาส่ง”


“ฉันไม่ได้ขอ” ผมถลึงตาใส่เขาแทบไม่ทัน ดีนะเขาไม่ได้พูดดังมาก ผมทำสีหน้าขอร้อง วิคเตอร์ถอนหายใจแรงมาก แต่ก็ยอมให้ถ่ายรูป ผมยิ้มแป้นหันไปหาพวกน้องๆ แล้วบอกว่าให้มาถ่ายรูปกับเขาได้ แต่ขออย่ารุม ทุกคนให้ความร่วมมือดีมากด้วยการเข้าไปถ่ายทีละคนหรือสองคนบ้าง


“พี่แมทเข้าไปด้วยสิคะ” ผมเลิกคิ้วขึ้น ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง พวกน้องๆ ส่งเสียงอือออกันยกใหญ่ ผมเดินเข้าไปยืนข้างน้องผู้หญิงคนหนึ่ง แต่น้องเขาก็จับให้ผมไปยืนข้างวิคเตอร์ แล้วเขากับเพื่อนก็ยืนประกบกันคนละฝั่ง ผมแทบจะยิ้มไม่เป็น เพราะไม่รู้ว่าต้องยิ้มแบบไหน ส่วนวิคเตอร์นั้นแค่ยกมุมปากนิดเดียวเท่านั้นเอง


“ครบทุกคนยังครับ” ผมถามหลังจากยิ้มจนเริ่มปวดแก้มตุ่ยๆ


“ครบแล้วค่ะ เดี๋ยวพี่แมทไปนั่งก่อนก็ได้ พวกหนูยืนอยู่ใกล้ๆ แถวนี้แหละ” ผมกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มให้พวกน้องๆ หันไปบอกวิคเตอร์ว่าให้เดินตามไปนั่งกับพวกคุณเบน ออสตินที่ยืนรอพวกเราถ่ายรูปเดินตามหลังมา


“ฉันพลาดมากจริงๆ ที่อนุญาตให้พวกนั้นมาได้” เขานั่งลงข้างอันเดรพร้อมบ่น ผมนั่งลงข้างๆ เขา แอบหันไปมองออสตินที่นั่งอยู่ฝั่งติดกัน ข้างเขานั้นมีพี่การ์ดคนไทยคนหนึ่งนั่งอยู่ ส่วนอีกสองคนพี่แกไปนั่งตรงข้ามกับผมและวิคเตอร์


“เขาก็แค่อยากมาส่งคุณเท่านั้นเอง” ผมว่าเสียงอ่อย เอาจริงตอนนั้นที่พวกน้องเขาขอ ถ้าปฏิเสธไป น้องเขาก็คงรู้สึกแย่อยู่ไม่น้อย


“ฉันอยากใช้เวลากับนายสองคนเยอะๆ น่ะเข้าใจมั้ย” ผมย่นคิ้วกลับไปให้เขา


“สองคนตรงไหน คนเดินเต็มสนามบินขนาดนี้” วิคเตอร์มองผมตาปรือ  ริมฝีปากบิดคล้ายว่าเซ็งมาก


“ฉันเพี้ยนเอง”อะไรของเขา ผมพูดผิดตรงไหนเนี่ย ก็สนามบินคนเดินยั้วเยี้ยอย่างกับหนอนในโหลปูนาดองขนาดนี้ จะมาว่าใช้เวลาสองคนได้ไง เอาแค่ในกลุ่มเรากับบอดี้การ์ดนี่ก็เกินสองคนแล้วนะ เขามองหน้าผมแล้วยกมือมาผลักหัวเบาๆ เหมือนกับกำลังหมั่นไส้หรือมันเขี้ยวไม่รู้ แต่น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า จังหวะนี้แหละต้องรีบสอด


“นี่ แล้วคุณมีปัญหาอะไรรึเปล่า” วิคเตอร์ถอนหายใจทิ้งอีกที เขาบิดตัวมาหาผม หันหลังให้อันเดรที่กำลังนั่งคุยกับคุณเบนอยู่ ส่วนบาสไปนั่งเล่นมือถือข้างๆ พี่การ์ดคนไทยอีกสองคนที่ฝั่งตรงข้าม


“ฉันเพิ่งมีโฆษกประจำตัว…” เขายักคิ้วเบื่อๆ หนึ่งที


“…เธอไม่ค่อยพอใจข่าวระหว่างเราสองคน และต้องการให้ฉันกลับไปคุยให้รู้เรื่อง” สายตาที่มองมานั้นมีแววจริงจังและความกังวลผสมปนกันไป


“กลับไปคุณก็ไปคุยกับเธอสิครับ” ใบหน้าเขาเครียดขึ้นชัดเจน เห็นแบบนั้นผมเองก็เริ่มใจเต้นหนึบๆ ขึ้นมา เพราะไม่ใช่ผมจะเดาไม่ออกว่ามันจะมีประเด็นอะไรเกิดขึ้นบ้าง อย่างที่ผมบอกเขาวันที่เขามาหาผมที่มหาวิทยาลัยนั่นแหละ ยังไงซะสิ่งที่เขาทำย่อมส่งผลกระทบกับเรื่องงานเขาอยู่แล้ว


“ฉันกลับไปคุยแน่ เพราะฉันจะไม่ยอมทำตามที่เธอบอกหรือใครบอก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม” น้ำเสียงเขามีความฉุนเฉียว พอๆ กับสีหน้าและแววตาเขาที่บอกว่าฉุนกับเรื่องนี้มากพอสมควร


“เขาให้คุณทำอะไรเหรอ” วิคเตอร์ขบกรามแน่น


“เป็นเรื่องปัญญาอ่อนอีกหนึ่งเรื่องที่ฉันเคยเจอในชีวิต…” แววตาเขาขุ่นเคืองอย่างชัดเจน มือซ้ายเขากำหมัดแน่น ผมรีบดึงมือเขามาแกะหมัดออกแล้วจับเอาไว้ ผมไม่อยากให้เขาทำท่าทางพร้อมกระทืบใครสักคนอย่างนี้เลย


“…พวกนั้นอยากเพิ่มกระแสคู่พระนางของฉันกับชารอน” ใจผมกระตุกไปนิด พอจะเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะสื่อ เขาคงไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่กำลังพูดให้ผมเข้าใจได้โดยที่ไม่ตกใจหรือรู้สึกแย่มากนัก


“เพื่อกลบข่าวผมสินะครับ” เขาสบตาผมนิ่ง เหยียดริมฝีปากดูถูกพอๆ กับแววตาที่แสดงออกว่าไม่ชอบใจกับแนวคิดนี้สักเท่าไหร่


“ฉันไม่ได้ไม่ชอบชารอนหรอกนะ เพราะเธอก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี แต่ฉันรำคาญวิธีคิดของยัยโฆษก” ท่าทางเจ๊โฆษกคนนี้ต้องดีกรีไม่ธรรมดา ชักอยากจะเจอหน้าสักครั้ง


“แต่คุณชารอนเธอมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ”


“ตรงนั้นมันไม่สำคัญหรอก ทางค่ายขอแค่ให้ฉันกับเธอมีโมเม้นต์ต่อกันมากๆ หน่อยตามที่แฟนคลับเขาชื่นชอบ” เขาทำหน้าคล้ายว่าเบื่อ


“ผมว่ามันก็ไม่แปลกนะ…” วิคเตอร์ย่นคิ้วแน่นมองผม


“…คือผมว่าไอ้เรื่องเคมีระหว่างพระนาง มันก็จำเป็นต่อหนังเหมือนกัน เพราะมันจะช่วยทำให้หนังน่าดูมากยิ่งขึ้น” ไม่ว่าประเทศไหนก็มีคู่จิ้นทั้งนั้น เพราะกระแสคู่จิ้น คู่เคมีเข้ากันมันจะเป็นอีกอย่างที่ช่วยทำให้ละคร ซีรีส์หรือภาพยนตร์มีจุดโดดเด่นน่าชม ผมก็มีภาพยนตร์ชุดอย่างที่วิคเตอร์กำลังเล่นชื่นชอบอยู่หนึ่งเรื่อง ผมก็ชอบโมเม้นต์ของพระนางคู่นั้นนะ เพราะรู้สึกว่าเขาเข้ากันทั้งในจอและนอกจอ ยิ่งทั่งคู่โสด แฟนคลับก็ยิ่งจิ้นกันยกใหญ่ ถึงขั้นเอาชื่อของสองคนนั้นมารวมกันเป็นแอคเค้าน์อินสตาแกรม (ส่วนมากจะอยู่ในไอจี)


“ฉันก็ทำให้ได้นะ แต่ฉันไม่อยากทำ ให้ไปเสแสร้งแสดงความรักต่อกันเนี่ยนะ” เขาขมวดคิ้วแน่น หน้าตาเหลือเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองพูด แม้เขาจะเป็นนักแสดง แต่วิคเตอร์เป็นคนแบบนี้ ที่ไม่ชอบเสแสร้งแกล้งทำ คิดอะไร รู้สึกอะไร เขาก็แสดงออกตรงๆ ตามนิสัยฝรั่ง และตามนิสัยส่วนตัวของเขาเอง


“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ คุณก็แค่เล่นไปตามบท ถ้านอกบทอาจมีมุมให้แฟนคลับได้มีพื้นที่จินตนาการต่อนอกเหนือจากบทหนังบ้าง” ผมบอกตามที่ตัวเองเคยอยู่ในฐานะของแฟนคลับคู่จิ้นภาพยนตร์ต่างประเทศมาก่อน (หนังที่ผมชอบจบไตรภาคแล้ว) คู่ที่ผมชอบเขาก็มีโมเม้นต์นอกจอเล็กๆ น้อยๆ ให้แฟนคลับได้ชื่นใจ แต่พวกเขาก็วางตัวดีมาก ไม่ได้ทำอะไรประเจิดประเจ้อ พอแฟรนชายส์ของหนังจบไป ทุกอย่างก็นิ่งสงบ ผมว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นกระแสหนักๆ ก็ตอนที่หนังยังฉายและช่วงที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จนั่นแหละ แต่ขอบอกเลยว่า แฟนคลับมโนจิ้นพวกนี้ ค่อนข้างหัวรุนแรงพอสมควร 


“นายไม่หึงรึไง” เขายังคงขมวดคิ้วไม่คลายออก ผมเลยต้องยกนิ้วโป้งซ้ายไปกดนวดตรงระหว่างคิ้วเขา


“ก็คงหึงถ้ามันมากไป แต่ถ้าอะไรที่มันอยู่ในกรอบ เป็นเรื่องงาน ผมก็เข้าใจได้ มันอยู่ที่คุณว่าจะทำให้ผมไว้ใจคุณได้มากน้อยแค่ไหน” ผมดึงมือออกเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มคลายปมคิ้วออกจากใบหน้า


“แต่ฉันไม่อยากทำแบบนี้ มันช่วยอะไรไม่ได้มากนักหรอก ยังไงสักวันคนก็ต้องรู้เรื่องนายกับฉัน”


“แต่มันคงไม่ใช่ทุกคนในตอนนี้ ทางค่ายหนังเขาคงเห็นว่าตรงนี้มันยังช่วยพยุงภาพลักษณ์คุณได้ เขาคงอยากช่วย และเอาจริงๆ เขาก็คงอยากช่วยภาพลักษณ์หนังเขาด้วย” พระเอกเรื่องนี้เป็นผู้ช้าย ผู้ชาย คือเตะ ต่อย โหด ห่าม แต่ไม่เถื่อน ถ้าเกิดชีวิตจริงคนสวมบทดันมีแฟนเป็นผู้ชาย บางทีมันก็อาจไปทำลายภาพลักษณ์ตรงนั้นก็เป็นได้ แม้ในฮอลลีวูดจะยอมรับกับนักแสดงที่เป็นเกย์* ว่าสามารถสวมบทบาทได้หมด แต่กรณีวิคเตอร์มันเกิดแบบปุบปับมากไป ถึงจะมีข่าวชวนระแคะระคายก่อนหน้านั้น แต่มันก็ไม่ชัดเจน ยิ่งก่อนที่เขาจะมาหาผมที่ไทย เขาก็มีข่าวกับอันเดรียนา แล้วไหนจะมีการกระพือข่าวว่าเขากับชารอนอาจจะเดตกันจริงๆ นั่นยิ่งทำให้ภาพลักษณ์เขายังไม่ชัดเจนว่าชอบเพศไหนกันแน่ คิดว่าเจ๊โฆษกคนนั้นคงอยากต่อยอดกระแสและทำให้ภาพลักษณ์เขานิ่งให้ได้ละมั้ง

(*เกย์ในที่นี้รวมถึงนักแสดงหญิงที่เป็นเลสเบี้ยนหรือทอมหรือดี้ด้วยนะคะ)


“ฉันอยากยกเลิกสัญญานะ แต่ติดตรงที่ฉันก็อยากเล่นเรื่องนี้ให้นายดู” ผมอดจะยิ้มเขินผสมกับยิ้มดีใจไม่ได้ที่เขาอยากเล่นเรื่องนี้เพราะผม คือผมชอบนิยายเซ็ทนี้มากจริงๆ เคยวาดฝันว่าถ้ามันเป็นหนังใหญ่ต้องสนุกมากแน่ๆ แล้วตอนนี้คิดดูสิว่าแฟนตัวเองเล่นเป็นพระเอก เวลาไปดูในโรงภาพยนตร์คงยิ้มหน้าบานพอๆ กับจานดาวเทียมขององค์การนาซ่า


“อย่ายกเลิกเลยครับ แล้วก็อย่าคิดว่าเล่นให้ผมดูอย่างเดียว มันคือโอกาสที่ดีของคุณ” เขายิ้มอบอุ่นกลับมา ดึงมือผมที่จับขึ้นไปจุ๊บตรงหลังมือ


“เดี๋ยวฉันกลับไปคุยเอง”


“อย่าวู่วามนะครับ จะพูดอะไรก็คิดดีๆ เรื่องคุณกับคุณชารอน ถ้ามันอยู่ในขอบเขตของงาน ผมเข้าใจ แต่ถ้ามันเกินกว่านั้นล่ะก็…” ผมรี่ตามอง ยกอีกมือขึ้นมาทำรูปปืน แล้วเล็งใส่เป้าเขา ทำท่ายิงหนึ่งที วิคเตอร์แกล้งทำสีหน้าเจ็บปวด เอามืออีกข้างกุมเป้าเอาไว้ ก่อนจะหัวเราะติดตลก


“จะทำร้ายยักษ์น้อยได้ลงคอเหรอ” เขาหัวเราะเสียงทุ้มและก้มลงหอมกลางกระหม่อมดังฟอด พอถอนจมูกออกไปก็ส่งยิ้มกว้างมาให้ ผมยิ้มแฉ่งตอบกลับไป
   

ผมบอกกับตัวเองว่า ต้องเชื่อมั่น เชื่อใจในตัวเขา แม้เขาอาจจะมีพฤติกรรมที่ทำให้เชื่อใจยากสักหน่อย แต่อย่างน้อยเหตุการณ์เมื่อตอนที่ผมเคยขอเขาว่าอย่ามีใครก่อนผมกลับนั้น เขาก็ไม่มีจริงๆ ไม่ได้ออกไปแอ้มใครที่ไหน ไม่ได้หนีบใครมาบ้าน หรือไปนอนกับใครตามที่สัญญากับผมไว้ และแม้ว่าสองอาทิตย์ที่ไทยอาจจะสั้น ผมก็ไม่เคยเห็นเขามองผู้หญิงที่ไหนเลย ไม่ได้มองในที่นี้ไม่ใช่ว่าเมิน ไม่สนใจ ประมาณว่า แฟนกูเป็นผู้ชายแล้ว กูไม่สนใจผู้หญิงหรอก มันไม่ใช่แบบนั้น คือวิคเตอร์ก็ยังเป็นผู้ชาย เห็นผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆ เขาก็มองไปเรื่อย แต่เขาไม่ได้มองด้วยสายตาหยาดเยิ้ม หรือในเชิงชู้สาว ซึ่งอันที่จริงช่วงเวลาที่ผมฝึกงาน ผมก็ยังไม่เคยเห็นว่าเขาหยอดใครทางสายตานะ แต่รู้ตัวอีกทีคือเขาได้กินแล้ว (อ้าว)


ผมไม่ว่าเลยนะเรื่องที่เขามอง เพราะผมเองเวลาเจอ เอ่อ ผู้ชายที่น่ามอง ผมก็มองเหมือนกัน หรือถ้ามีผู้หญิงยิ้มให้เขา วิคเตอร์ก็ยิ้มตอบกลับแวบเดียว ไม่ได้ยิ้มสานต่อหรือยิ้มสื่อความหมายใดๆ แค่ยิ้มตามปกติเวลามีคนมองเท่านั้นเอง สายตาผู้หญิงบางคนก็สื่อหาเขาชัดเจน แต่เขาก็ไม่ตอบรับกับสัญญาณนั้น แบบนั้นมันก็พอจะยืนยันได้ว่าเขาไม่ได้เจ้าชู้เรี่ยราด แม้จะยังเจ้าชู้อยู่ดี (เอ๊ะ ยังไง)
   

“ไหน ท่องกฎให้ฉันฟังซิ” อยากจะทำหน้าเบ้ กลอกตาไปรอบกระบอกตาจริงๆ เมื่อเขาวกมาถึงประเด็นนี้ที่เราพูดคุยกันในวันหนึ่งที่นอนเล่นอยู่บนเตียงด้วยกัน
   

“คุณจริงจังจริงๆ เหรอเนี่ย” สีหน้าผมอยากจะแสดงออกเต็มที่ว่าเหนื่อยใจกับระบบความคิดของเขาเหลือเกิน แต่เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก
   

“จริงจังมาก และนายก็ต้องทำตามด้วย” เขาทำสีหน้าว่าเอาจริง ตามประโยคที่บอกว่าจริงจัง ผมถอนหายใจเซ็ง แอบกลอกตาแวบหนึ่งเลยโดนเขาเอามือตีหน้าปากไปหนึ่งที ผมจิ๊ปากใส่เขาแล้วเริ่มท่องกฎผีบ้าผีบอ
   

“ห้ามคุยกับผู้ชายแปลกหน้าที่คุณไม่เคยเห็นหน้า หรือที่ผมไม่รู้จักเกินสิบห้านาที…”
   

“…จริงๆ ฉันให้แค่สิบ แต่นายต่อรองเพิ่มอีกห้า” ถ้าผมกลอกตาจนลูกตาหลุดออกจากเบ้าตาได้ผมจะทำแรงๆ เลยทีเดียว ผมถอนหายใจพรืด ยกมือขึ้นมาเกาคิ้วซ้ายเบาๆ
   

“ห้ามยิ้ม ห้ามหัวเราะกับผู้ชายที่คุณบอกว่าไม่ชอบ…” ซึ่งผมเชื่อเลยว่าเขาจะบอกว่าไม่ชอบผู้ชายทุกคนที่อยู่ใกล้ผม ที่เขายกเว้นไว้ให้ก็มีออสติน พี่การ์ดคนไทยสามคน บาส และเพื่อนเขา แต่ถึงอย่างนั้นผู้ชายพวกนี้ก็ยังมีลิมิตอยู่ ถ้าเขาไม่พอใจ ไม่ถูกใจขึ้นมาก็คือห้าม คงจะมีแต่พ่อผมคนเดียวเท่านั้นแหละที่เขาไม่ว่าอะไรจริงๆ
   

“…ถ้าจะทำความรู้จักกับผู้ชายคนไหนต้องให้คุณรู้จักด้วย ถ้าคุณบอกไม่ชอบอีกฝ่าย ก็ห้ามสานต่อ” เขายิ้มชื่นบาน สีหน้าถูกอกถูกใจมากที่ผมพูดได้ถูกต้องตามที่เขาบอก แต่ผมนี่สิหน้ายู่ ย่นจมูกเหมือนเหม็นขี้ใส่เขาแล้ว
   

“…ไม่ต้องท่องแล้วได้มั้ย ผมจำได้แล้วละ” ผมยิ้มยิงฟันทำหน้าอ้อนเขา เพราะถ้าให้มานั่งท่องราวกับท่องอาขยานเหมือนตอนประถมที่ผมต้องไปนั่งท่องกาพย์เห่เรือให้คุณครูฟังแบบนั้น ผมคงยิ่งรู้สึกเครียดกับความขี้หวงของผู้ชายคนนี้
   

“จำได้แล้วต้องทำตามด้วยนะ” เขาหรี่ตามองกลับมา พอเห็นว่าผมยังทำหน้ามู่ทู่อยู่เขาก็เลิกคิ้วขึ้นสูง ผมเลยต้องรีบยิ้มแฉ่ง ยกมือซ้ายแล้วชูนิ้วกลางนางชี้ขึ้นมาคล้ายทำท่าสาบาน ผมเอาสามนิ้วมาแตะปากและกำลังจะยื่นไปให้เขา แต่วิคเตอร์ที่แววตาวาวโรจน์กับกระชากมือผมออกจนผมอ้าปากหวอด้วยความตกใจ
   

“อย่ามาทำท่าที่เคยทำให้ไอ้อดัมกับฉัน” โอ๊วมาย เขาจำได้ด้วยว่าผมเคยทำแบบนี้กับอดัม
   

หน้าตาเขาบูดบึ้ง น้ำเสียงที่ใช้เมื่อกี้ก็กระชากแรง ถ้าตะโกนใส่หน้าผมได้เขาทำไปแล้ว แรงบีบที่ข้อมือ ทำเอาผมนิ่วหน้า พอได้สติเต็มที่ผมก็เขยิบเข้าไปใกล้เขาอีกนิด และรีบพูดด้วยเสียงลนลาน เหมือนแม่กำลังปลอบลูกที่กำลังงอแง
   

“ไม่ทำแล้ว ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ อย่าทำหน้าเครียดสิ นะครับ นะ ยักษ์รูปหล่อ” ผมเอาหน้าซุกอกเขา เอาหัวถูอกแกร่ง วิคเตอร์ไม่ได้พูดอะไร แต่เขาปล่อยมือที่บีบข้อมือผมซะแดงออก และใช้สองแขนดึงผมขึ้นไปนั่งบนตัก ผมเอาแขนขวาคล้องคอเขาไว้ มองใบหน้าหนวดเคราที่กำลังมองผมเช่นกัน
   

“นายเป็นของฉันคนเดียวนะรู้มั้ย” เขาจ้องตาผมไม่ขยับเปลือกตาเลยสักนิด ผมยิ้มบางเบา พยักหน้ารับหงึกหงัก แต่เขาก็ยังไม่คงยิ้ม ผมเลยต้องก้มไปหอมแก้มเขาหนึ่งที แม้จะยังไม่ยิ้มแต่เขาก็ดูพึงใจกับการกระทำของผม
   

“เดี๋ยวผมคิดท่าให้ใหม่แล้วกันเนอะ” ต้องเอาใจไว้ก่อน เกิดอารมณ์เสีย อาละวาดกลางสนามบินขึ้นมา ได้เป็นเรื่องใหญ่แน่ ไม่ว่าจะแน่มาจากไหน แต่อย่าท้าเด็กชายวิคเตอร์ เรย์มอนด์เด็ดขาด เพราะเขาจะฟาดงวงฟาดงายิ่งกว่าช้างป่าดงดิบหรือยิ่งกว่าเด็กสามขวบที่ไม่ได้ของเล่นตามที่ตัวเองต้องการ
   

“ไม่เอา ฉันไม่อยากมีแบบไอ้อดัม แล้วนายก็เลิกทำแบบนี้กับมันได้แล้วนะ” เขาว่าเสียงห้วน หน้าตาบึ้งตึง โอ้ย พ่อคุณ งอนแม้กระทั่งเรื่องนี้
   

“ครับๆ ไม่เอาก็ไม่เอา แล้วผมจะไปทำกับเขาได้ยังไง ไม่ได้เจอกันแล้วแหละ” ผมเอามือขวานวดคอเขาเบาๆ เผื่อจะทำให้เขาใจเย็นลงได้บ้าง (ทฤษฎีไหน?)
   

“อย่าให้รู้นะว่าแอดเฟซบุ๊คหากันอีกรอบ ไอ้จูบแรกนั่นด้วย แล้วก็ผู้ชายคนอื่นด้วย” โอ๊ย จ้า! อีแมทนี่สวยมาก หน้าตาแบบว่าเน็ตไอดอลสิบคนรวมกันยังสู้ไม่ได้ ผู้ชายหวงขนาดนี้นี่ คือเราหน้าตาดีใช่ป้ะวะแก๊?!
   

“ครับผม” ที่แสดงออกมาได้คือตอบรับและยิ้มให้คุณหนูยักษ์ผู้เอาแต่ใจ จะแสดงออกเป็นอย่างอื่นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นยักษ์จะอาละวาดจนกรุงลงการะเบิดเละตุ้มเป๊ะ แล้วถ้าจะเปรียบว่าเมืองสมมุติที่อยู่ในเรื่องทศกันฑ์นั่นเป็นอะไรน่ะเหรอ ผมว่าก็คงเปรียบได้กับบรรยากาศทั่วๆ ไปละมั้ง แต่ผมคงเป็นเมืองหลวงของกรุงลงกาอะ



TBC.


เรื่องคู่จิ้นอะไรแบบนี้มีจริงๆ นะคะ ยกตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคือ เอ็ดเวิร์ดกับเบลล่า หรือโรเบิร์ต แพททินสันกับคริสเต็น สเตวาร์ดจากทไวไลท์นั่นเอง เริ่มจากคู่จิ้น เป็นแฟนกันจริงจัง แล้วก็มีปัญหาตอนภาค 4.2 เลิกกันไปแล้วนะคะ แต่ทางค่ายหนังขอให้ทั้งคู่คบกันไว้ก่อนจนกว่าหนังจะฉายเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ต้องมาปั้นหน้ายิ้มว่ารักกันเพื่อให้กระแสหนังมันยังไปต่อได้จนจบ

ของวิคเตอร์นี่ดันมีข่าวเรื่องแมทพอดีด้วย ทางทีมงานก็กลัวว่าจะมีผลกระทบต่องาน ต่อภาพลักษณ์ แต่ไอ้ยักษืมันแคร์ที่ไหน เล่นหนังเรื่องนี้ก็เพื่อเมีย มีจริงๆ นะคะ ที่นักแสดงชายบางคนเปิดตัวว่าเป็นเกย์แล้ว แต่ทีมงานส่วนตัวจะพยายามปกปิดข่าวไว้ก่อน พอโด่งดังอยู่ตัวค่อยเปิดตัวเต็มๆ อีกที ยกตัวอย่างลุคส์ อีแวนส์ จาก The hobbit และ Fast and Furious เคยเปิดตัวไปเมื่อปี 2001 หรือ 2002 นี่แหละค่ะ แต่หลังจากนั้นประเด็นเรื่องเกย์เขาเงียบมาก เพราะกำลังไต่เต้าในฮอลลีวูด ทีมงานพยายามบ่ายเบี่ยง พยายามปกปิก เพราะต้องทำให้นักแสดงมีภาพลักษณ์ที่ดีไว้ก่อน ซึ่งวิคเตอร์ก็กำลังเจออะไรประมาณนี้แหละค่ะ

เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรอีกบ้าง  :katai1:

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะ   :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2015 12:36:59 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ snook24062

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #647 เมื่อ01-12-2015 00:38:39 »

คนแรกๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #648 เมื่อ01-12-2015 00:50:31 »

สู้ค่ะวิคเตอร์ทนหน่อย จะได้มีเงินมาเลี้ยงเมียเยอะๆ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #649 เมื่อ01-12-2015 01:02:40 »

นางกลับประเทศเเล้วอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
« ตอบ #649 เมื่อ: 01-12-2015 01:02:40 »





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #650 เมื่อ01-12-2015 01:22:52 »

นิยายเรื่องนี้มันเป็นนิยายรักหวานๆใช่ไหม ใช่ซิเนอะ ฉะนั้นปัญหาอะไรก็ตามที่เข้ามามันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆใช่ไหม  :hao3: เขาจะได้ไม่ต้องเคลียดรอ

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #651 เมื่อ01-12-2015 01:56:53 »

ไม่ดราม่าอีกน้าาาา

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #652 เมื่อ01-12-2015 06:21:40 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #653 เมื่อ01-12-2015 06:55:33 »

เอาใจช่วยทั้งคู่ รักทางไกลแบบนี้ต้องหนักแน่นมากๆๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #654 เมื่อ01-12-2015 10:39:45 »

บางทีอ่านๆไปในใจก็นึก อิยักษ์มันวัยทองปะวะ สงสารแมทมากผัวนางอารมณ์แปรปวนมาก 555

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 70%} 01.12.58::
«ตอบ #655 เมื่อ01-12-2015 22:13:27 »

ปลื้มมากอ่ะเรื่องเล่นหนังเพื่อเมีย คนมันรูปหล่อพ่อรวย ไม่ต้องทำงานยังได้เลย แต่เมียชอบไง เกร๋ๆ
ขำแมท แมทสวยมาก เน็ตไอดอลสิบคนยังสู้ไม่ได้ 55555 ขำกฎด้วย โอ้ย พ่อเอ๊ย ยังกับเด็กๆ
ทำท่าเหมือนทำกับอดัมก็ไม่ได้คือหึงยิบหึงย่อยมากค่ะคุณยักษ์ แต่น่ารักมากกกกก น่ารักมากจริงๆ
คนที่โหยหาความรัก พอได้มาย่อมหวงแหน รักษาไว้ดีๆ ละกันนะวิค คนอ่านก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อใจ
เวลาอยู่ด้วยกันนี้โลกนี้มีแค่สองเรา เดี๋ยวแมทร้องไห้แน่ตอนแยกกัน

สนุกมากค่ะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #656 เมื่อ04-12-2015 00:01:15 »




Only You :: EP.19 [100%]



เวลาที่เหลือ เราสองคนก็หันไปร่วมวงสนทนากับพวกเบนเนดิคท์ คุยย้อนไปถึงวันที่พวกเราไปเที่ยวด้วยกันในช่วงเวลาที่พวกวิคเตอร์อยู่ไทย บางเรื่องพูดแล้วก็ขำ บางเรื่องพูดแล้วก็อับอาย แต่ทุกเรื่องล้วนแต่ทำให้ผมมีความสุขทั้งนั้นนั่นแหละ เพราะว่าในเรื่องราวเหล่านั้นมีผู้ชายที่กำลังกอดผมอยู่บนตักตัวเองแน่นไม่ยอมปล่อย นึกแล้วก็ใจหายที่เขาจะบินกลับแล้ว พอเขากลับไป เราก็จะอยู่ไกลกัน อยู่กันคนละช่วงเวลา ผมแอบคิดไปว่าเรื่องเวลาและระยะทางนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อเรามากน้อยแค่ไหน มันจะเป็นอย่างที่เขาพูดๆ กันมามั้ยนะว่ารักแท้แพ้ระยะทาง
   

“ฉันว่าเราน่าจะไปกันได้แล้วนะ” คุณเบนพูดไปพลางดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือไปด้วย พอถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องกลับ ผมก็ใจหายวูบวาบไปหมด ผมลุกขึ้นยืนเพื่อให้วิคเตอร์ลุกขึ้น พวกออสตินยกกระเป๋าเพื่อไปจัดการเรื่องการขนส่ง วิคเตอร์เดินจูงมือผมเดินตรงไปยังบันไดเลื่อนที่จะขึ้นไปเกทตรวจคนเข้าออกนอกเมือง น้องๆ แฟนคลับเดินตามหลังพวกเรามาเป็นขบวนใหญ่จนคนที่นั่งอยู่แถวๆ หน้าเค้าน์เตอร์สายการบินต่างๆ มองตามกันด้วยความสนใจ
   

“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น” วิคเตอร์ก้มหน้าลงมาถามเมื่อเห็นว่าผมมีสีหน้าหงอยๆ ผมแบะปากเล็กน้อย เงยหน้ามองหน้าเขาแล้วก็รู้สึกวูบโหวงในอก
   

“คุณจะคิดถึงผมมั้ย” วิคเตอร์ยิ้มงงๆ แต่ก็มีอาการขำขันปนมาด้วย
   

“นั่นเป็นสิ่งที่ฉันอาจจะรู้สึกตลอดเวลาเลยก็ได้” ผมยกยิ้มบางๆ วิคเตอร์ดึงมือซ้ายที่จับมือผมอยู่ออก ยกขึ้นมาวางบนหัวผมแล้วจับโยกไปมา ก่อนจะเอามือลงไปวางไว้ที่ไหล่ซ้ายของผม
   

“ดูแลตัวเองดีๆ นะวิคเตอร์ อย่านอนดึกมากนะ บุหรี่ก็อย่าสูบเยอะ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องสูบเลย ถ้าอยากสูบให้จดไว้เลยก็ได้ว่าผมต้องจูบคุณกี่ครั้งแทนการสูบบุหรี่ เดี๋ยวเจอกันคราวหน้าผมจะจูบคุณตามจำนวนนั้นเอง” ผมเป็นห่วงเขาเรื่องสูบบุหรี่ที่สุด เขาไม่ได้ติดจนขาดไม่ได้ก็จริง แต่ทางที่ดีผมว่าไม่ยุ่งกับมันเลยน่าจะดีกว่า
   

“งั้นฉันจะอยากสูบบ่อยๆ ก็แล้วกัน” เขายิ้มละมุน ผมยิ้มตอบกลับไป ยกมือซ้ายขึ้นมาจับมือซ้ายที่กุมไหล่ผมไว้
   

“ผมเป็นห่วงคุณนะ”
   

“ฉันก็เป็นห่วงนาย ออกกำลังกายบ้างนะ จะได้มีแรงเมคเลิฟกับฉันบ่อยๆ” ท้ายประโยคเขาก้มลงมากระซิบให้ได้ยินกันสองคน ผมทำปากยื่นใส่ นี่เป็นห่วงผมแล้วสินะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นเพื่อตัวเองแต่อย่างใด ช่างน่าปลาบปลื้มใจเหลือเกิน
   

“เอาละ ได้เวลาบอกลาชั่วคราวกันแล้ว” เราเดินมาถึงตีนบันไดเลื่อน ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาที่กำลังจ้องมองผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์พอๆ กัน เขายิ้มมุมปากแล้วก้มลงมาหอมกลางกระหม่อมผมแบบที่เขามักชอบทำ ตอนที่ริมฝีปากเขาผละออกไป กระบอกตาผมก็ร้อนผ่าวขึ้นมา มันไม่ใช่การจากลาถาวรก็จริง แต่ผมก็คิดถึงเขา เราเพิ่งอยู่ด้วยกันแค่สองอาทิตย์เท่านั้นเอง
   

“เด็กน้อยงอแงซะแล้ว” เขาว่ายิ้มๆ แล้วน้ำตาผมก็ร่วงตอนนั้นทั้งรอยยิ้มนั่นแหละ มันไม่ใช่เศร้าจะขาดใจ แต่มันเป็นความเศร้าใจหาย ผมยกมือปาดน้ำตาทิ้ง ยกสองแขนโอบกอดเขาไว้ เอาหน้าซุกอกที่แสนอุ่น เขากอดตอบกลับมา ก้มลงมาหอมกลุ่มเรือนผมของผมซ้ำๆ
   

“เดี๋ยวฉันก็กลับมาอีก” เขาว่าเสียงกระซิบ ยกมือลูบหัวปลอบโยนผมยกใหญ่ น้ำตาผมไหลเงียบๆ และพูดเสียงอู้อี้ที่อกเขา
   

“อย่าหายไปแบบไม่ติดต่อกันอีกนะ”
   

“คิดว่าฉันจะปล่อยโอกาสให้นายไปมีใครอีกเหรอ ฮึ” เสียงเขาทุ้มน่าฟัง ผมหัวเราะเสียงเบา ส่ายหน้าเช็ดน้ำตากับเสื้อเชิ้ตสียีนน้ำเงินที่เขาใส่ พอผละออกจากอกก็เห็นเขายิ้มหล่ออยู่ ได้ยินเสียงชัตเตอร์แว่วๆ และเสียงฮือจากกลุ่มน้องๆ ที่มาส่งวิคเตอร์ด้วย
   

“ไม่ต้องห่วงนะแมท ถ้ามันคิดจะมีชู้ละก็ เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง” คุณเบนเดินเข้ามาสมทบกับเราสองคน ผมยิ้มทั้งที่น้ำตายังอาบแก้มอยู่ คุณเบนยื่นมือจะมาเช็ดน้ำตาให้ก็โดนมือวิคเตอร์ปัดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับทำหน้าดุใส่เพื่อนตัวเอง คุณเบนซึ่งเป็นผู้ที่ไม่คิดอะไรมากก็ได้แต่ยักไหล่และยิ้มกวนๆ แถมยังมีการส่งมือมาจับแก้มผมเร็วๆ อีก วิคเตอร์มองตาขวาง สบถว่า Fuck ใส่หน้าเพื่อนตัวเองแผ่วเบา บาสกับอันเดรหัวเราะกันใหญ่ พวกน้องๆ ที่ยืนมองก็หัวเราะตามไปด้วย
   

“ผู้ชายคนอื่นยกเว้นพ่อนายมาแตะเนื้อต้องตัวนายก็อยู่ในข้อห้ามนะ” กำลังซึ้ง เอากฎผีเข้าผีออกมาแทรกทำไมเนี่ย ผมย่นจมูกและกลอกตาใส่เขาหนึ่งที วิคเตอร์ถลึงตามองกลับมา ผมเลยต้องเปลี่ยนเป็นทำหน้ายิ้มแทน
   

“พี่แมทคะ พวกหนูซื้อขนมมาให้พี่วิคเตอร์ด้วย เขาจะเอาขึ้นเครื่องไปด้วยได้มั้ย” ผมกำลังจะตอบว่าได้ แต่พอเห็นจำนวนขนมที่น้องๆ ซื้อมาแล้วก็เปลี่ยนใจ ยิ้มแหยขึ้นมาทันที
   

“พวกเขาซื้อขนมมาให้คุณ แต่ผมว่าคุณเอาขึ้นเครื่องไม่ได้แน่เลย” วิคเตอร์มองไปยังจำนวนขนมในมือน้องๆ แต่ละคน ส่วนมากดูเหมือนจะเป็นขนมไทยนะ
   

“นายเก็บไว้แล้วกัน นายกินก็เหมือนฉันกินนั่นแหละ” ผมขมวดคิ้ว เงยหน้ามองเขาที่ทำสีหน้าสบายๆ อยู่
   

“เหมือนได้ไง ผมกินก็เข้ากระเพาะผมสิ” เขาคลี่ยิ้ม คลายอ้อมแขนออกจากตัวผม ยกสองมือมาบีบแก้มผมไว้จนปากผมยู่
   

“นายกับฉันก็เหมือนคนเดียวกันนั่นแหละ อย่าลืมสิว่านายยกชีวิตให้ฉันดูแลแล้วนะ” หูย ปากหวาน ไม่คิดว่าเขาจะเสี่ยวได้อย่างนี้ ใครว่าฝรั่งพูดเสี่ยวไม่เป็น ไม่จริงนะ แค่รูปประโยคที่เขาพูดอาจไม่เสี่ยวเท่าเวลาแปลเป็นไทยเท่านั้นเอง
   

“แหวะ~” ผมแกล้งทำท่าจะอ้วกกลบเกลื่อน วิคเตอร์ยิ้มด้วยความมันเขี้ยวและออกแรงจับหน้าผมบิดไปมาพักหนึ่งแล้วปล่อยมือออก ผมหันไปบอกน้องๆ ว่าขอเก็บขนมไว้ที่ผมแล้วกัน แต่ไม่ได้บอกประโยคหวานเลี่ยนนั้นให้พวกน้องเขาฟังด้วย บอกแค่ว่าวิคเตอร์ฝากขอบคุณ (ซึ่งอันที่จริงไม่มีเลย น้องๆ คงงงว่ามันพูดขอบคุณตอนไหน) แต่เขาเอากลับไปด้วยไม่ได้
   

“อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเก็บไว้ที่พี่แมทก็ได้ พี่แมทกินได้เลยนะคะ เดี๋ยวคราวหน้าพี่วิคเตอร์มาพวกหนูจะเอามาให้ตอนช่วงที่เขาอยู่ไทย” ผมยิ้มรับ เดินเข้าไปรับขนมจากพวกน้องๆ ผู้ใจดี อันที่จริงผมอยากจะบอกว่าเก็บเงินไว้ซื้อของให้ตัวเองทานจะดีกว่า แต่ก็กลัวจะเสียน้ำใจ เพราะน้องเขาคงตั้งใจเอามาให้ แต่ผมแค่รู้สึกว่ามันเยอะมากเลย
   

“พี่การ์ดครับ ผมฝากถือได้มั้ย” พี่บอดี้การ์ดคนไทยพยักหน้าแล้วเรียงหน้าเข้ามารับของไปจากมือผมที่มันเยอะจนล้น พอรับของจนหมดผมก็กล่าวขอบคุณน้องๆ อีกที และถามว่าอยากถ่ายรูปกับวิคเตอร์อีกหรือเปล่า แต่ทุกคนมีมารยาทมาก เนื่องด้วยวิคเตอร์กำลังจะไปแล้ว น้องๆ เลยไม่อยากถ่วงเวลาถ่ายไว้
   

“แค่ที่อยู่ในกล้องก็เยอะแล้วค่ะ” ผมยิ้มให้หนึ่งในนั้น ก่อนขอตัวหันกลับไปหาวิคเตอร์ที่กำลังยืนคุยกับออสตินอยู่
   

“Take care of him very well. Don’t forget what I said, and do what I said seriously. (ดูแลเขาให้ดี อย่าลืมที่ฉันบอก และทำตามที่ฉันบอกอย่างจริงจังนะ)”
   

“Copy that. (รับทราบครับ)” ออสตินรับคำสั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาปรายตามามองผมเล็กน้อย แล้วค่อยเดินเลี่ยงออกไป
   

“เขาเหมือนทหารเลย”
   

“ออสตินเคยอยู่กองทัพสหรัฐฯ มาก่อน” ผมอ้าปากค้าง เริ่มรู้สึกว่าชีวิตตัวเองนั้นเวอร์เข้าไปทุกที มีบอดี้การ์ดก็ว่าเกินไปแล้ว นี่บอดี้การ์ดยังเคยอยู่ในกองทัพทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกด้วย โอ้ย ใครมันจะมาปองร้ายตูน้อออ แต่ขัดพระสวามีไม่ได้ไง เดี๋ยวพี่แกเอากระบองทุบหัวแบะ
   

“ไปเถอะ ได้เวลาแล้ว” คุณเบนหันมาบอก วิคเตอร์พยักหน้ารับ ผมกอดเขาแน่นๆ อีกที วิคเตอร์กอดตอบกลับมา น้ำตาที่แห้งไปแล้วเอ่อขึ้นมาที่ขอบตาอีกรอบ
   

“ฉันยังไม่รู้ว่าจะเคลียร์งานได้ตอนไหน แต่ฉันจะมาหาแน่นอน” ผมพยักหน้าหงึกหงัก น้ำตาหยดออกมาเงียบๆ
   

“ไปแล้วนะแมท” เสียงของอันเดรดังอยู่ใกล้ๆ ผมผละออกจากอกวิคเตอร์ หันไปยกมือบ๊ายบายให้เขา อันเดรอ้าแขนทำท่าจะขอกอด ผมก็ตั้งท่าจะเดินไป แต่ก็โดนไอ้ยักษ์ดึงแขนไว้แน่น
   

“Come on, dude! (ไม่เอาน่าไอ้วิคเตอร์)” อันเดรทำสีหน้าอ่อนใจ ผมหันไปทำสีหน้าอ้อน แต่วิคเตอร์กลับทำหน้านิ่งและส่ายหัว ผมถอนหายใจ อันเดร รวมไปถึงเบนเนดิคท์และบาสยังถอนหายใจตามๆ กัน
   

“ห้ามเกินหนึ่งนาที” ผมยิ้มกว้างเมื่อเขาอนุญาตด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาคลายมือที่จับแขนผมไว้ ผมเดินเข้าไปกอดคุณอันเดร เขากอดตอบกลับมาแน่น แถมยังแกล้งวิคเตอร์ด้วยการหอมแก้มผมไปหนึ่งที
   

“Son of a bitch! (ไอ้ห่านี่!)” เสียงกรรโชกแทบจะเป็นเสียงตะคอกดังขึ้นมาจากผู้ชายหน้ายักษ์ที่ตอนนี้เดินมาดึงผมออกไปจากอันเดรอย่างแรง คนหอมแก้มผมยักไหล่สีหน้ากวนอารมณ์ วิคเตอร์ขบกรามแน่น มองอันเดรด้วยสายตาคาดโทษ
   

“วิคเตอร์ นั่นเพื่อนคุณ” ผมเขย่ามือเตือนเขา วิคเตอร์มองเขม่นอันเดรที่ส่ายหัวด้วยสีหน้าเอือมระอากลับมา
   

“วิคเตอร์…” ผมเรียกชื่อเขาอีกที ไอ้ยักษ์ถอนหายใจ ก้มลงมามองผม เลื่อนมือขวาไปบีบก้นผมอย่างแรง คิ้วผมกระตุกเพราะความปวดวูบหนึ่ง
   

“อย่าทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหนลับหลังฉัน เข้าใจมั้ย” เขาว่าเสียงกระซิบให้ได้ยินกันสองคน แต่น้ำเสียงเขานั้นเข้มตามสีหน้าตอนนี้
   

“วิคเตอร์ ทำไมเราไม่ลากันด้วยรอยยิ้มล่ะ” ผมว่าเสียงอ่อน วิคเตอร์จ้องหน้าผมครู่หนึ่งก่อนจะคลายมือที่บีบก้นผมออก ยกมือขึ้นมากดท้ายทอยผมให้เข้าไปรับจูบเขา ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่ก็เผลอบตอบรับลิ้นเขาไปนิดหนึ่ง พอลิ้นเขาได้สัมผัสลิ้นผมเขาก็ผละออก สีหน้าดูอารมณ์ดีขึ้น
   

“ฉันไปแล้วนะ” ผมหน้าร้อนวูบวาบ มันคงแดงปลั่งไปหมด น้องๆ ที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ไม่รู้ว่าได้ถ่ายช็อตจูบไปรึเปล่า
   

“ปะ… ไปขอโทษอันเดรด้วยนะ” เขาพ่นลมหายใจหน่ายๆ ผมเลยพ่นลมหายใจแข่งกับเขาบ้างเช่นกัน เขายกสองมือขึ้นยอมแพ้และพยักหน้ารับไปเรื่อย ไม่รู้จะไปขอโทษจริงรึเปล่า เดี๋ยวต้องไปถามอันเดรหลังไมค์
   

“See you next time. (เจอกันครั้งหน้านะ)” เบนเนดิคท์พูดพลางโบกมือให้ผมกับบาส สองเท้าก็ก้าวขึ้นบันไดเลื่อนไป มีอันเดรยืนส่งยิ้มมาให้ตามหลัง ผมส่งยิ้มให้สองคนแรกและโบกมือลาพวกเขาอยู่ข้างบาส วิคเตอร์อยู่หลังสุด ผมยิ้มอ่อนโยน เขากระตุกยิ้มมุมปากกลับมา มือซ้ายจับสายกระเป๋าเป้ของผมที่ใส่ของของเขาไว้แน่น ผมยืนโบกมือให้ทั้งสามคนจนพวกเขาขึ้นไปด้านบน
   

“ไปยืนรอส่งตรงห้องกระจกตรงด่านตรวจอีกเปล่า” บาสหันมาถาม ผมพยักหน้าแล้วพากันเดินไปตรงที่บาสว่าพร้อมพวกออสตินและพวกน้องแฟนคลับ เรามายืนชุมนุมกันอยู่ตรงหน้ากระจกห้องตรวจเอกสารก่อนขึ้นเครื่อง
   

“เออ บาสได้คุยกับเอิร์ทบ้างมั้ย” ระหว่างรอพวกวิคเตอร์ลงบันไดเลื่อนจากชั้นบนมาด้านล่าง ผมก็ถามถึงประเด็นที่ค้างไว้
   

“ตั้งแต่กลับจากอเม’กา ก็คุยกันไปสองสามครั้งเองมั้ง มีอะไรรึเปล่า”
   

“ไม่ได้มีอะไรใหญ่โตหรอก คือก่อนหน้านี้แมทลองคุยกับเอิร์ทดู หมายถึงว่าลองศึกษากันอะ” บาสมีสีหน้าประหลาดใจนิดหน่อย
   

“จริงดิ อันนี้บาสเพิ่งรู้ มันยังไม่ได้บอกบาสเลย”
   

“คุยกันแปบเดียวเอง แล้วเอิร์ทก็กลับไปหาขวัญ” บาสเบิกตากว้างตกตะลึง ผมยิ้มแห้ง พยักหน้าเป็นเชิงยืนยันอีกทีว่าที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง
   

“โหดสัส มันทิ้งแมทไปเลยอะเหรอ”
   

“ก็ไม่เชิงอะ คือวันนั้นขวัญเขาเมา ทักไลน์เอิร์ทมา ดราม่าใหญ่โตมาก สักพักก็โทรมาหาเอิร์ท บอกให้เอิร์ทไปหา แมทเลยให้เอิร์ทไปดูเขาหน่อย แต่เอิร์ทดันไปนอนกับขวัญ”
   

“เฮ้ย!” คราวนี้บาสดูตกใจจริงจังมากขึ้น สีหน้าเขาดูเหลือเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินจากปากผม
   

“แมทไม่ได้โกรธเอิร์ทนะ แค่งง”
   

“เออ บาสก็งง คือมันแม่งไม่น่าทำงี้กับแมท หมายถึงว่า มันทำท่าจะเลือกแมท ไปต่อกับแมทไง ไหงมันยังกลับไปหาเมียเก่าอีกวะ” ผมห่อไหล่ ส่ายหน้าว่าไม่รู้ บาสยกมือเกาหัว เขาจับขาแว่นขยับเล็กน้อย คิ้วเข้มขมวดด้วยความไม่เข้าใจ ผมกำลังจะอ้าปากพูดต่อ แต่หางตาหันไปเห็นพวกวิคเตอร์ลงบันไดเลื่อนมาพอดี เลยหยุดการสนทนาไว้แค่นั้น
   

น้องแฟนคลับทั้งหลายยกมือบ๊ายบายกันเป็นขบวนและส่งเสียงกู๊ดบายให้ด้วย สามหนุ่มนั้นส่งยิ้มมาให้และยกมือโบกกลับมา พวกน้องๆ เลยส่งเสียงดีใจกันใหญ่ ผมยิ้มให้วิคเตอร์ที่ยิ้มกลับมาและส่งสายตามามองผมคนเดียว ก่อนที่เขาจะหันตัวเดินไปทางเกทที่จะออกไปขึ้นเครื่อง ผมมองแผ่นหลังของทั้งสามคนด้วยความใจหาย
   

“เดี๋ยวพวกนั้นก็กลับมาอีก” ผมหันไปยิ้มให้บาส พยักหน้ารับคำเขา
   

“กลัวเรื่องระยะทางป้ะวะแมท” บาสถามต่อในขณะที่สายตาจับจ้องพวกวิคเตอร์ที่กำลังรับการสแกนร่างกายและตรวจเอกสารจากเจ้าหน้าที่อยู่
   

“บาสล่ะ กลัวมั้ย” เขาหันกลับมาสบตากับผมแล้วส่ายหัวนิดหน่อย
   

“ตอบไม่ถูกอะ เพิ่งเคยคบกับใครสักคนที่ต้องอยู่ไกลกันขนาดนี้” ผมอมยิ้ม บาสเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดพูดสถานะความสัมพันธ์ของเขากับเบนเนดิคท์ออกมา สีหน้าเขาเลยดูเก้อๆ เขินๆ
   

“ก็กลัวนะ แต่ก็ต้องเชื่อใจเขา” บาสพยักหน้ารับน้อยๆ
   

“ก็จริง ความเชื่อใจแม่งเป็นภูมิคุ้มกันเรื่องระยะทางที่ดีสุดแล้วมั้ง” เรายิ้มอ่อนๆ ให้กัน ผมหันกลับไปมองวิคเตอร์ เขาเหลียวหลังมามองพอดี เรายิ้มให้กันแวบหนึ่งก่อนที่เขาจะหันหน้าเดินตรงต่อไป
   

“กลับกันเลยมั้ย” บาสถามเมื่อทั้งสามคนเดินหายเข้าไปด้านในแล้ว ผมมองอย่างอ้อยอิ่งอีกเล็กน้อยพลางพยักหน้ารับคำบาสนิดหน่อย รู้สึกเหมือนใจหายแวบๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นโศกาอะไร อาจเพราะได้กอดเขาไว้และร้องไห้ไปพร้อมแล้วมั้ง ผมผ่อนลมหายใจเพียงนิดแล้วหันไปหาบาส
   

“เดี๋ยวให้ออสตินขับไปส่งบาสแล้วกันนะ”
   

“ส่งหอแล้วกัน หอบาสอยู่ใกล้ๆ สนามบิน” ผมพยักหน้าให้เขา หันไปพยักหน้าให้ออสตินเป็นเชิงชวนกลับ เขาพยักหน้าตอบรับกลับมาแล้วเดินนำพวกผมไปที่รถ
   

“กลับบ้านกันดีๆ นะครับ ขอบคุณมากเลยที่มา อาจจะเทคแคร์ได้ไม่ดีต้องขอโทษด้วยนะ”
   

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่ให้พวกเรามาส่งนี่ก็ดีใจมากแล้ว” ผมยิ้มให้พวกน้องๆ พร้อมกับก้าวเท้าเดินไปพร้อมกับบาส พวกพี่การ์ดคนไทยถือขนมกันเต็มสองมือ ไม่รู้ว่าจะกินหมดรึเปล่า แต่ยังไงก็จะกินแล้วกัน แต่ละอย่างน่าอร่อยทั้งนั้น
   

“อยากให้บาสคุยกับไอ้เอิร์ทให้รึเปล่า” บาสถามตอนที่เราเดินมาถึงรถตู้ที่เปิดประตูรอเราอยู่แล้ว ผมหันไปกล่าวลากับพวกน้องแฟนคลับที่อุตส่าห์มาส่ง ไม่รู้ว่าบ้านแต่ละคนอยู่ไหนกันบ้าง
   

“ถ้าพี่วิคเตอร์จะมา พี่แมทช่วยบอกพวกเราหน่อยได้มั้ยคะ” ผมยิ้มไม่เต็มปากนัก เพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะพอใจรึเปล่า แต่ผมก็ไม่กล้าปฏิเสธหรือบอกปัดเพราะเข้าใจวิถีของแฟนคลับอยู่พอสมควร
   

“ถ้าพี่ไม่ลืมจะบอกนะครับ” ผมยิ้มแหะๆ
   

“ขอบคุณค่ะ แจ้งไปที่เพจของพี่กับพี่วิคเตอร์ก็ได้” ผมยังไม่ได้กดไลค์เพจนั้นเลย ไม่รู้ด้วยว่าชื่อเพจนั้นชื่อว่าอะไรแต่ก็ยิ้มรับและตอบรับไปก่อน
   

“ไปแล้วนะครับ ขอบคุณมากที่มา” ผมโบกมือลาให้ทุกคนแล้วหมุนตัวขึ้นไปในรถ โดยมีบาสกับพี่บอดี้การ์ดไทยอีกสองคนตามขึ้นมา แอบเห็นหลายคนมองบาสแล้วอมยิ้มกันเป็นแถว ประตูรถค่อยๆ เลื่อนปิดโดยที่ทุกคนยังโบกมือให้ผมเรื่อยๆ จนกระทั่งประตูปิดแล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไป
   

“วกกลับมาเรื่องเอิร์ท…” ผมพูดไปก็ก้มลงมองขนมไทยหลากหลายในถุงพลาสติกไปด้วย


“…ไม่ต้องคุยหรอกบาส แมทไม่ได้เคืองใจหรือว่าติดใจอะไร” ผมหยิบขนมเม็ดขนุนขึ้นมาแกะกิน ยื่นส่งให้บาส เขาหยิบไปกินหนึ่งเม็ดพร้อมกับพยักหน้ารับ แต่ใบหน้าก็ยังมีแววครุ่นคิดให้เห็นอยู่
   

“ปากกับการกระทำแม่งสวนทางกัน งงมันว่ะ” ผมเคี้ยวขนมหวานเม็ดขนุนที่นุ่มลิ้นเพลินๆ พลางพยักหน้าล่องลอย ไม่รู้พยักหน้าเพราะคุยกับบาสหรือเพราะรสชาติขนมมันดี
   

“เขาอาจจะรักขวัญอยู่ก็ได้” ผมพูดทั้งที่ในปากยังเคี้ยวขนมไม่หยุด บาสพยักหน้ารับอีกรอบ ดูท่าบาสเองก็ไม่เข้าใจเอิร์ทเช่นกัน นี่ขนาดเพื่อนสนิทยังไม่รู้เรื่องและก็ยังนั่งหน้างงเลย
   

“แล้วบาสกับคุณเบนไปถึงไหนแล้ว” บาสหันมามองหน้าผมพลางเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง เขายิ้มแกนๆ ยกนิ้วชี้เกาจมูกเบาๆ
   

“ยังไม่ถึงขั้นเมคเลิฟหนักๆ แบบแมทกับวิคเตอร์หรอก” ผมทำตาโต ใบหน้าแดงก่ำ บาสหัวเราะเสียงดังลั่นรถ ผมทำตาปรือ ทำปากเป็ดใส่อีกฝ่าย หยิบขนมเข้าปากไปอีกชิ้น บาสหยุดหัวเราะ ดันแว่นขึ้นเล็กน้อย
   

“ไม่หนัก แค่ทำกันเบาๆ” ตอนแรกผมพยักหน้ารับอืมๆ แต่พอสติทวนคำพูดเขาได้ก็เบิกตากว้างแล้วสะบัดหน้าไปมองเขาอย่างเร็วจนบาสขำ
   

“นี่ถ้ามีซาวด์ประกอบจะเป็นอะไรที่ฮามาก” รู้สึกถึงความเป็นประกายที่ดวงตาตัวเอง อาการสอดเสือกแล่นพล่านไปตามเส้นเลือด รู้สึกอยากกินเผือกเรื่องคุณเบนกับบาสมาก
   

“อยากรู้อะดิ” บาสแซวยิ้มๆ เมื่อเห็นผมทำสีหน้าคันคะเยออยากรู้ ผมพยักหน้ากระตือรือร้นอย่างไม่ปิดบังในความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง บาสยิ้มมุมปากซ้าย เดาะลิ้นหนึ่งทีก่อนตอบ
   

“ไม่บอกหรอก”
   

“อ้าว” ความรู้สึกเสือกดับวูบเลย อารมณ์คล้ายกับคันจมูกอยากจาม พอกำลังจะได้จามแต่มันดันหายไปดื้อๆ โคตรจะหงุดหงิดเลยละแบบนั้น
   

“มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”
   

“แต่แมทสนใจนะ” ผมตอบทนควันพร้อมกับดวงตาเป็นประกายอย่างแรงกล้า ต่อให้เรื่องมันจะเรื่อยๆ เอื่อยๆ ยังไง แต่อย่างน้อยขอให้ได้เผือกหน่อยเถอะ
   

“สนใจเรื่องตัวเองเถอะ มีแฟนโคตรขี้หึงแบบนั้น ชีวิตลำบากแน่”
   

“อันนี้คือบาสไม่ได้หลอกด่าแมทใช่มั้ย” บาสไม่ตอบอะไร แต่ส่งเสียงหัวเราะมาแทน คือเขาก็ไม่ได้ตอบรับนะ แต่เสียงหัวเราะเขาทำไมเหมือนยอมรับกลายๆ ว่ามึงไม่ต้องยุ่งเรื่องกูหรอกอะไรแบบนี้เลย
   

ครืด~
   

มือถือผมสั่นรุนแรงอยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นเป็นข้อความว้อทสแอพจากวิคเตอร์ เขาส่งรูปมาพร้อมข้อความ พอกดเปิดดูใบหน้าผมก็ร้อนฉ่า ก็ไอบ้านั่นมันส่งรูปผมตอนกำลังยืนแก้ผ้าในห้องน้ำมาน่ะสิ นี่ไปแอบถ่ายตอนไหนเนี่ย แว้กกก!
   

Miss your tight ass, baby ♥
   
คิดถึงก้นแน่นๆ ของนายจังที่รัก ♥



TBC.

ห่างกันแล้ว T^T หลังจากสวีตวี้ดวิ้วด้วยกันมาสองอาทิตย์ จัดหนักจัดเต็มเรื่องบนเตียงกันไปหลายยก ลุ้นกับพฤติกรรมไอ้ยักษ์ไปหนึ่งซีน ตอนนี้ต้องห่างกันแล้ว อันนี้แหละลุ้นกว่าที่โรงแรมอีก 555555

อันนี้ก็เขยิบเกินครึ่งเรื่องมาอีกนิดแล้วค่ะ ช่วงเวลาที่ผ่านมา คือช่วงกลับมาหวานของเขาสองคน เป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ ตอมไม่อยากเขียนรวบรัดตัดตอน แบบว่า โอเค ผ่านไปแล้วสิบสี่วัน ฉันกับเขา เรารักกันดี ซึ่งเรื่องนี้เคยอธิบายไปแล้วในเพจ ไปหาอ่านได้ที่ Note ของเพจนะคะ

อยากให้ทุกคนซึมซับไปกับความรักของพวกเขาสองคน ใครที่เข้าใจตีมของนิยายเรื่องนี้ต้องขอบคุณมากเลยค่ะ ส่วนใครที่คิดว่ามันอืด เชื่องช้า ไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีอะไรตื่นเต้น อันนี้ต้องขออภัยจีๆ ค่า ตอมเคยอ่านนิยายวายมาเช่นกัน หลายๆ เรื่องเขาจะมีเหตุการณ์แบบว่า โหย ลุ้น จะเป็นยังไงต่อ แซ่บมาก ตัวร้าย ตัวโกง โฉ่งฉ่าง ตัดภาพมาที่นิยายอีเจ้ ชิลลล 55555

สำหรับใครที่อยากได้หนังสือพาร์ท You and I รอบรีปริ้น ตอนนี้เหลือเวลาอีก 11 วันนะคะ หมดเขต 15 ธันวานี้ รายละเอียดตามไปดูได้ที่เพจจ้า

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดทุกคนเลยค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #657 เมื่อ04-12-2015 00:16:45 »

น่ารักอ่ะ ชอบ :impress2:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #658 เมื่อ04-12-2015 01:00:45 »

ใช่เลย บาส เจอแฟนขี้หึงดุเดือดแบบนี้ เหนื่อยแน่แมท

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.19 100%} 04.12.58::
«ตอบ #659 เมื่อ04-12-2015 01:34:12 »

 ตายักษ์กลับบ้านตัวเองแล้ว ที่นี้ก็ถึงเวลาจับตาเฝ้าระวังพฤติกรรมต่อ ถ้าส่อแววว่ามีอาการนะ :angry2:  :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด