บทที่ 14 วันสบายๆ
[/b]
Yonah Say
มันเป็นสุดสัปดาห์ที่วุ่นวายดีแต่ก็สีสันดีสำหรับชีวิตที่เคยน่าเบื่อของผม แต่เรื่องเมื่อคืนมันขำไม่ออก ไอ้ข้าวหอม มันเกือบตายแล้วถ้าพวก
รอทมาช้ากว่านี้ มันทำให้ผมคิดอยากจะเก่งกว่านี้ผมควรจะระวังให้มากกว่านี้ถึงผมจะพอเอาตัวรอดได้ แต่คนรอบข้างบางคนก็แค่มนุษย์ธรรมดาและอ่อนแอ ต่างจากตัวผมที่ร่างกายฟื้นฟูไวถึงไม่ไวเท่าพวกรอทแต่อาการเจ็บเนื้อเจ็บตัวเมื่อคืนก็แทบไม่รู้สึกแล้ว
รอทสอนผมหลายอย่างเรื่องการเอาตัวรอด ประสาทรับรู้ผมดีขึ้นมากจากเมื่อก่อนถึงขนาดที่สามารถแยกออกว่าเป็นพวกอมนุษย์เผ่าพันธ์ไหน ส่วนเรื่องกลิ่นไอของตัวผมพยายามจะฝึกอำพรางมันอยู่แต่ไม่เข้าใจหลักการเลย ผมไม่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรมาตั้งแต่เกิดคงต้องใช้เวลา รอทเลยบอกว่าจะหาเครื่องรางอันใหม่มาให้ผมใส่อำพรางกลิ่นไอไปก่อนเพราะความเป็นจริงแล้วมันคงอยู่กับผมตลอดเวลาไม่ได้หรอก คนเรามีหน้าที่ต้องทำ
รอทมันเอาผมมาทิ้งไว้สนามยิงปืนตั้งแต่เช้าโดยมีคนรู้จักมันคอยสอนให้ ส่วนคุณผัวเวรหายหัวไปไหนไม่รู้ ซ้อมยิงปืนจนเที่ยงนั่งเซ็งๆ เลยโทรหาไอ้เพื่อนรักดีกว่าไม่รู้เป็นไงบ้าง โดนหมาคาบไปแดกแล้วหรือยังก็ไม่รู้
ตู๊ดด...ตู๊ดด...แม่งไม่รับอย่าบอกนะเมื่อคืนไอ้หมอมันจัดหนักเพื่อนผมอะ ป่านยังไม่ฟื้น เพื่อนกูเจ็บอยู่นะเว้ย...ผมสังเกตสองคนนี้มาซักพักละ ไอ้หมอนั่นมันมองเพื่อนผมตลอดเห็นว่ารู้จักกันมานานแต่ไม่รู้ว่าสนิทขนาดไหน ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกแยกอะไรเพราะขนาดผมเองยังไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้ผัว-*-...โทรหาไอ้หมอก็ได้วะ
ตู๊ดด...ตู๊ด...
/หวัดดีครับ/ แหมรับซะเสียงหล่อเลยนะ
/ดีหมอ...เอาเพื่อนผมไปไว้ไหน/ เข้าประเด็นเลยครับ
/ที่บ้านผมไง...ตัวเล็กมันขาเจ็บเย็บไปตั้ง 21 เข้ม/ ตัวเล็ก!!!...แม่งเรียกซะน่ารัก /ผมอยู่โรงพยาบาล เข้าเวรเช้าวันนี้เดี๋ยวบ่ายสามโน่น ถึงเข้าไป/
/บ้านหมออยู่ไหนอะ...เดี๋ยวผมเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนมัน/
/แถวโรงพยาบาลนั่นแหละ เดี๋ยวส่ง google map ให้/
/ขอบคุณครับ/
ผมวางโทรศัพท์จากว่าที่เพื่อนเขยก่อนโบกรถให้ไปส่งตามแผนที่ กลางวันแสกๆแบบนี้คงไม่มีอมนุษย์ตัวไหนมาไล่ขย้ำผมหรอก ไปถึงหน้าบ้านกรดกริ่งเรียกรอซักพักไอ้เพื่อนตัวดีก็เดินกระโผลกกระเผลกมาเปิดให้ สภาพหัวยุ่งรู้เลยว่าเพิ่งตื่น
“มาไงวะ..” ข้าวหอมถามเมื่อเห็นหน้าผม
“วาปมามั้งสัส...โทรถามหมอ” ผมตอบพลางเดินตามมันเข้าไป “โทรมาไม่รับวะ”
“เพิ่งฟื้น...เชี่ยปวดขามากอะ” มันทำหน้าสำออยก่อนทิ้งตัวลงโซฟา สังเกตแผลมันแดงเพราะเริ่มอักเสบ แต่ไม่ได้พันผ้าไว้คงกะให้แผลแห้งครับ
“เออ..กูก็นึกว่าโดนพี่หมอมันจับปล้ำไปแล้วซะอีก” มันสะดุ้งครับหน้านี่แดงเลย “เฮ้ย...หรือว่าโดนไปแล้ว”
“สัส...ยังๆ ข้างหลังกุยังบริสุทธ์” มันส่ายหัวยิกเลยทีนี้ “แค่เกือบ...มึงดูสภาพเพื่อนด้วย”
“จริงหรอ...เกือบยังไงเล่ามาดิ” ว่าเสร็จก็คว้าคอมันมาใกล้ๆเลยครับ กูอยากรู้หึๆ บังคับขู่เข็นมันซักพักสุดท้ายมันก็ยอมเล่า จริงๆพวกผมไม่ค่อยมีความลับต่อกันเท่าไหร่ครับ เล่ามันทุกเรื่องอย่างแต่ก่อนไปได้สาวคนไหนยังมาเล่าเลยครับนี่แหละสันดานผู้ชาย ระวังไว้นะสาวๆ
“พี่หมอมึงคนดีวะ...ถ้าเป็นไอ้รอทนะ กูร้องจะเป็นจะตายมันก็ไม่สนหรอก” คิดแล้วแค้น อิจฉาเพื่อน ผัวผมแม่งไม่ค่อยถนอมผมเลยให้ตายสิ หื่นจัดห้ามก็ไม่ฟัง ไอ้วันฝึกการต่อสู้ระยะประชิดแม่งลวนลามผมตลอด...สาระแทบไม่มี
“เป็นแฟนกันยัง” มันส่ายหัว
“หิววะ...แต่ขี้เกียจทำกับข้าว...ขี้เกียจเดินด้วย” ไอ้ข้าวมันงอแง “เข้ามาก็ไม่ซื้ออะไรมาแดก ไหนละ ของเยี่ยมคนป่วย เพราะมึงเลยเนี่ยกูเป็นแบบเนี่ย” บ่นๆ...แม่ง...เพราะผมเองแหละรู้สึกผิดเลย
“งั้นโทรสั่งพิซซ่า...กูเลี้ยงไถ่โทษ...จะเอาอะไร”
“เอาพิซซ่าหน้าซีฟูดค๊อกเทลขอบไส้กรอกชีส ไก่ทอด ซีซ่าสลัด สปาเกตตี้ผัดขี้เมา ผักโขมอบชีส โอเนี่ยนริง เอาแป๊ปซี่ด้วย...เอ้อ ไอติมด้วย” มันร่ายยาวเลยครับ ความเกรงใจนะมีมั้ย
“สัส!...” ด่าได้แค่นั้นแล้วก็โทสั่งตามมันบอก...ไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้า...เห็นว่าเหลือมึงคนเดียวหรอกเลยเอาใจ “ไปอาบน้ำไป”
“ขี้เกียจเดินขึ้นข้างบนอะ”
“ห้องน้ำข้างล่างก็มี”
“แต่ผ้าขนหนู เสื้อผ้า แปรงสีฟันอยู่ข้างบนนะ” ผมมองหน้ามันก่อนถอนหายใจหนักๆ “แบกกูขึ้นไปหน่อยสิ”
“kวย...เจ็บขาหรือเป็นง่อย” ปากก็ด่ามันไปงั้น แต่ก็แบกมันขึ้นไปอยู่ดี รอมันอาบน้ำซักพักก็ลำบากพามันลงมาอีกพอดีกับพิซซ่ามาส่ง นั่งกินตรงโซฟาพลางดูหนังไป คุยเรื่องสัพเพเหระกันไป มันใช้สิทธ์คนป่วยจิกหัวใช้ผมไปล้างจานหยิบโน่นหยิบนี่ให้มัน ยอมๆ มันไปซักวัน ปกติมันต้องโดนผมใช้ อากาศยามบ่ายชวนขี้เกียจสุดๆเปิดแอร์เย็นๆไม่ใช่ไฟบ้านผม นอนดูทีวีต่อเริ่มเบื่ออยากเล่นเกมแต่ก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนมัน นั่งซักพักเริ่มไหล ไหลซักพักเริ่มง่วง...หลับแม่ง...ส่วนไอ้ข้าวหลับก่อนผมอีก
.............................................................
กว่าหมอจะกลับเกือบหกโมงเย็น เห็นไอ้หมาป่านั่นดูแลเพื่อนผมก็วางใจครับ มันเก่งอย่างน้อยไอ้เตี้ยมันก็ปลอดภัย(มั้ง) จากนั้นไม่นานไอ้
รอทก็มารับผม แม่ผมโทรมาด้วย เห็นว่าจะกลับพุธนี้ดีใจจัง ได้เวลาทำตัวเป็นลูกแหง่ติดแม่แล้ว
“ไปไหนมาทั้งวัน” ผมถามขณะคาดเข็มขัดให้ตัวเอง
“ทำไม...คิดถึงหรอ” มันตอบยิ้มๆเดี๋ยวเหอะเอาผมไปทิ้งไว้สนามยิงปืนยังไม่เคลียเลย
“หลงตัวเองวะ” แล้วกูจะเขินทำไม
“ไปทำไอ้นี่มา” รอทว่าพลางเอาจี้สร้อยลายดาวห้าแฉกให้ดู “มันเป็นเครื่องรางแบบที่แตกไปของนาย...มาใส่ให้” มองรอยยิ้มมันรู้เลยมันจะทำอะไรหึๆ จะหลอกลวนลามอีกแล้วละสิ
“เอามาจะใส่เอง” บอกมันนิ่งๆ
“น่า...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวใส่ให้”
“เอามา! ไม่งั้นลงรถ...เดี๋ยวกลับเอง” เอาสิ...อย่าไปตามใจมันครับ ไอ้คุณรอททำหน้าเซ็งก่อนจะยอมยื่นจี้สร้อยให้ผมแต่โดยดี
“เอามา!…” ผมบอกพลางมองหน้าหล่อๆขึ้นเสียงนิดๆ
“ก็ให้ไปแล้วนี่”
“หน้ามึง อะเอามา” ผมบอกเสียงดุเลยทีนี้ แกล้งมันครับ
“ครับ ครับ!” มันยื่นหน้ามาให้ผมแบบงงๆ
“ขอบใจนะ...จุ๊บ” ผมจูบปากมันเบาๆ เขินชิบหายรู้สึกหน้าร้อนไปหมด เหอๆ...นี่ทำอะไรไปวะ...ช่างมันแค่รู้สึกอยากให้อะไรมันซักหน่อยอุส่าไปทำเครื่องรางมาให้ คนโดนจูบยิ้มหน้าบานเลยครับ แถมยังจ้องผมไม่เลิก
“จะกลับไปมั้ยห้องอะ...หรือจะนอนบนรถ” ผมด่ามันแก้เขิน
ผมกลับถึงห้องก็นั่งเพนท์งานที่ต้องส่งวันจันทร์ส่วนรอทไปทำอะไรให้ผมกิน จูบปากมันไปทีถึงกับเชื่องเลยหึๆ...ชอบสั่งผมดีนักเดี๋ยวผมจะเอาคืนให้หนัก...การจะเพ้นท์อะไรขึ้นมาซักอย่างมันไม่อยากหรอก มันยากตรงตอนคิด คุณอาจใช้เวลาคิดคอนเซปมากกว่า3-4 ชั่วโมงแต่ลงมือทำแค่ชั่วโมงเดียว งาน composition หัวข้ออะไรก็ได้ มันยากตรงอะไรก็ได้นี่แหละคิดไม่ค่อยออก บางทีไปเลือกเรียนสายคำนวณอาจสบายกว่านี้เฮ้อ!
“รอท...วันพุธกลับไปอยู่บ้านนะ” ผมบอกหลังจากเรากินข้าวเย็นเสร็จ
“ทำไมหรอ??”
“แม่ผมกลับไทย จะไปอยู่เป็นเพื่อนแม่” ผมบอก
“นานมั้ยอะ!?” รอทถามพลางล้างจานไปด้วย
“จนกว่าจะบินไปทำงานอีกรอบนั่นแหละ...ช่วงนี้คงไปล่าบีสกับนายไม่ได้หรอก” ไอ้คนล้างจานอยู่หันมามองผมหน้าหงิกเลยทีนี้ มันถอนหายใจหนักๆใส่ก่อน จะหันไปล้างจานต่อจนเสร็จแล้วเดินมาทางผมที่โซฟา...สายตาแม่งแปลกๆ
“เพ้นท์งานเสร็จยัง” เหอๆ เสียงนิ่งมากครับเดาอารมณ์ไม่ถูก
“เสร็จแล้ว”
“ดี!...ป่ะไปอาบน้ำกัน” มันว่าพลางออกแรงลากผมลุกจากโซฟา “ไหนๆ จะไม่อยู่มาทำหน้าที่ล่วงหน้าไว้ก่อนเลย”...เฮือก!...ผมรับรู้ถึงรังสีความหื่นจากตัวมัน...ซวยละโยนาห์
“เชี่ย...รอท...ไม่ อุ๊บ!” ยังไม่ทันจะร้องห้ามเสียงผมก็หายไปกับจูบมัน เล่นจู่โจมมาไม่ทันได้ตั้งตัว ลิ้นชื้นสอดเข้ามาอย่างดุดัน ไม่ว่ากี่รอบผมก็แพ้ลีลามันตลอด มันจูบเก่งมาก เข้าขั้นเชี่ยวเลยก็ว่าได้ คงฝึกมาดีอยู่มาตั้ง 50 กว่าปี ไม่รู้ไปเป็นผัวใครมามั่ง ก่อนมาได้ผมเนี่ย หึ...คิดแล้วโมโหเลยผลักมันออก
“คืนนี้ไม่ต้องนอนนะ” มันกระซิบเสียงพร่า ก่อนฉกลงมาใหม่ด้วยจูบที่อ่อนหวาน หลอกล่อให้ผมคล้อยตามรสจูบนั่นจนเผลอตอบโต้มันแบบไม่รู้ตัว รู้สึกมึนๆเบลอๆ จนเผลอหลับตารับรสจูบนั่นอย่างเคลิบเคลิ้ม รู้สึกเหมือนโดนอุ้มลอยจากพื้น รอทอุ้มผมขึ้นขณะที่ปากยังคงบดจูบอยู่แบบนั้นพลางเดินพาผมเข้าห้องน้ำไป
สุดท้ายผมก็ไม่รอดจาดเงื้อมมือมาร มันเอาซะคุ้มเลยครับตั้งแต่ห้องน้ำยันเตียงนอน ตอกย้ำความเป็นผัวผมยันเช้า ถึงมันจะไม่ใช่มนุษย์แต่มันอึดถึกทนไปเปล่าวะ ด้วยร่างกายผมที่เปลี่ยนไปทำให้ผมมีแรงเล่นกับมันหลายยก ยิ่งทำให้มันได้ใจเลยทีนี้....กี่รอบไม่อยากนับ...ปวดหัว เหนื่อยมากด้วย นึกว่าจะตายคาเตียง...ใครก็ได้ช่วยผมจากไอ้แวมไพร์หื่นกามนี่ที...ได้โปรด Q_Q
ขี้เกียจเขียน nc เอาเพลงนี้ไปฟังละกันแนวๆนี้ละมั้ง ได้อารมณ์คล้ายกันหึๆ
Talk Talk
[/b]
-Deepy Sorry เลยงวดนี้ที่มาช้าไปนิดเเถมอัพสั้นด้วย เนื่องจากวุ่นวายกับการย้ายสัมโนครัวอยู่
-ยังคงความสบายๆ ของเนื้อหาไปก่อน ชื่อบทงงๆ กันไปฮ่าๆ...หลังๆ หนักมาก...หนักซะจนเขียนเองยังสยองเลย....ว่าไปนั่น
-ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ส่วนท่านใหม่ๆ ที่หลงเข้ามาก็ขอให้อยู่กับเรานานๆ luv u all