Night knight อัศวินรัติกาลตอนพิเศษ รอทxโยนาห์ แจ้งข่าวตีพิมพ์ค่ะP13 13/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

อยากให้มีการรวมเล่มหรือไม่ สำหรับเรื่อง Night Knight

อยากให้รวมเพื่อจะได้สะสม
ไม่อยากให้รวม

ผู้เขียน หัวข้อ: Night knight อัศวินรัติกาลตอนพิเศษ รอทxโยนาห์ แจ้งข่าวตีพิมพ์ค่ะP13 13/09/59  (อ่าน 137712 ครั้ง)

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่15 รู้ใจ
[/b]


      Kawhom Say

      ผมใช้เวลาสุดสัปดาห์อยู่ที่บ้านพี่หมอครับ ผมไม่ได้โง่ผมพอจะรู้ว่าพี่เขาคิดอะไร จากสิ่งที่พี่เค้าทำ ดูแลเป็นห่วงผมสารพัดรวมทั้งเรื่องคืนนั้นที่ผมเกือบเสร็จเขาไปแล้วแต่นั่นอาจเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ผมแค่ไม่เข้าใจและไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก ผมรู้จักพี่ริคมานานถึงเขาจะใจดีแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะชอบผม ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป บางทีเขาอาจทำไปเพราะไม่อยากให้ผมกลัวที่เขาเป็นแวร์วูฟ อยากให้ผมรู้สึกสนิทใจกับเขาเหมือนเดิม คิดได้แบบนั้นแล้วลมหายใจมันสะดุด


      ผมเลือกที่จะกลับมาอยู่ที่หอถึงแม้พี่ริคจะคะยั้นคะยอให้ผมอยู่ต่อจนหายก็ตาม มันอยู่ไม่ได้ ทุกอย่างที่เขาทำให้ผมมันทำให้ผมหวั่นไหว จนเริ่มกลัวใจตัวเอง กลัวจะคิดไปเองคนเดียว อีกอย่างพี่เขาก็เป็นผู้ชาย ถึงโยกับพี่รอทจะเข้ากันได้ก็ใช่ว่าเรื่องของผมมันจะเป็นแบบนั้น ผมคิดฟุ้งซ่านมา 3-4 วันแล้วยิ่งพี่เขาคอยโทรมาถามทุกวันยิ่งตอกย้ำให้ผมนึกถึงแต่เขาเฮ้อ!



      “เหม่อเชี่ยไร” หัวผมแทบทิ่มเพราะโดนไอ้โยตบก่อนมันจะนั่งลงข้างๆ ผม มันคงเรียกหลายรอบแล้วล่ะ

      “มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”...ผมว่าพลางจุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างที่ผมชอบทำเวลาเครียดๆ

      “เรื่อง?...”

      “เรื่องที่บ้านนะ...อาม่าแกสุขภาพค่อยไม่ดี” ผมตอแหลไปงั้น ไม่อยากตอบคำถามเรื่องพี่เขาตอนนี้

      “ก็แกแก่แล้ว เตรียมใจไว้บ้างก็ดี” ไอ้โยว่าพลางตบไหล่ผมเบาๆ “ขอมวนดิ!?” ผมหยิบบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อให้มัน ก่อนมันจะนั่งสูบเป็นเพื่อนผมเงียบๆ แค่นี้ก็สบายใจแล้ว

      “ผัวไม่มาเฝ้าหรอวันนี้” เดี๋ยวนี้พักเที่ยงหรือคาบว่างๆ พี่รอทมาหาเพื่อนผมตลอด นั่งเฝ้ามันจนคนในคณะเริ่มสงสัย เห็นว่าโยมันกลับไปอยู่บ้านแม่เลยเจอกันแค่ที่มหาลัย ไม่รู้เพื่อนผมไปทำเสน่ห์อะไรให้ติดซะขนาดนี้

      “ไม่รู้แม่ง” คนข้างๆ ยักไหล่หน้าเซ็ง “เห็นช่วงนี้บอกเริ่มคดีใหม่มั้ง”



      นั่งเพลินๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น พี่ฟ่างโทรมา เหอๆ ปกติเจ๊แกสนใจผมที่ไหนละ ธรรมดาพี่สาวกับน้องชายแหละครับกัดกันบ้างไม่ถูกกันเป็นธรรมดาแต่เราไม่เคยทิ้งกันในยามคับขันหรอกนะ

      /ว่าไงป้า/

      /ป้าหน้าแกสิไอ้ข้าวเน่า/ พี่ข้าวฟ่างด่าสวนทันที

      /พี่ก็ข้าวนะ ข้าวฟ่างเน่า...หึๆ/ ผมหัวเราะกวนตีน

      /เดี๋ยวจะโดน/
      /มีไรป้า ว่ามาอย่าลีลา...คิดถึงสุดหล่อคนนี้ก็บอก/ ผมยังไม่เลิกครับ สนุกเวลาเห็นเจ๊แกดิ้น

      /วันนี้อาม่ามีนัดทำกายภาพบำบัด พาไปด้วย/

      /อ่าว...แล้วป้าไม่ว่างหรอ/ ผมถามแบบงงๆ ปกติเจ๊แกเป็นคนพาไปครับ

      /ไม่ว่างย่ะ...ต้องปิดยอดช่วงนี้...พาไปด้วยละกัน 6 โมงเย็น...ถ้าแกไม่เลิกเรียกฉันว่าป้าละก็...ขอให้ไม่มีผู้หญิงเอา/ ทำไมผมไม่เจ็บกับคำแช่งเจ๊แกเลยวะ...หึๆ...ผมจะโดนผู้ชายเอาแทนแล้วเนี่ย



      ผมดูนาฬิกาในโทรศัพท์สี่โมงเย็นแล้วรีบไปดีกว่า ต้องไปเอารถยนต์กว่าอาม่าแกจะอาบน้ำแต่งตัว บอกลาไอ้โยเพื่อนรักก่อนจะแว้นกลับบ้าน...ไปโรงพยาบาลก็ต้องไปเจอคนที่ทำให้ผมประสาทกินนะสิ...พี่หมอมันเป็นหมอเจ้าของไข้อาม่าผมแถมอาทิตย์นี้มันเข้าเวรกลางคืนด้วย



      ผมมาที่โรงพยาบาลพาอาม่ามานั่งรอซักพักก็ถูกเรียก เข้ามาในห้องตรวจพี่หมอยิ้มให้เราทั้งคู่ ผมไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ยว่าพี่เขามองตาผมแปลกๆ ทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ย  พี่หมอนั่งคุยนั่งตรวจ สอบถามเรื่องอาการต่างๆ จากอาม่าผมด้วยหน้าตายิ้มแย้มใจดีตามไสตล์ที่คนเป็นหมอพึงมี    ก่อนจะมีพยาบาลมาพาอาม่าไปทำกายภาพบำบัด   


      “ไม่ต้องตามไปหรอกนั่งรอในห้องนี้ก็ได้” พี่ริคบอกพร้อมดึงแขนผมไว้เมื่อผมทำท่าจะตามไป ทีนี้เหลือกันอยู่ในห้องสองต่อสองเลยครับ

      “แล้วพี่ไม่ตรวจคิวต่อไปหรอ” ผมถามแบบงงๆ

      “ยังไม่ถึงเวลาเข้าเวร อาม่าเรานัดไว้ พี่เลยเข้ามาก่อนเวลา” ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “ทำไมใส่ขายาวละ มันไม่ขูดแผลหรอ”

      “ไม่อยากให้คนที่บ้านเห็น ขี้เกียจตอบคำถาม”

      “งั้นขอพี่ดูหน่อย” พี่หมอดึงผมไปนั่งบนเตียงคนไข้ก่อนจะดันขาข้างที่เจ็บขึ้นชันเข่าส่วนอีกข้างห้อยลงมา แล้วเลิกขากางเกงขึ้นเบาๆ

      “โอ๊ะ!” ผมถึงกับสะดุ้งเมื่อพี่เค้าเอามือแตะเบาๆ เจ็บแผลก็ส่วนหนึ่งแต่ความรู้สึกอื่นนี่มันอะไร

      “ล้างแผลทุกวันหรือเปล่า” พี่เขาถามผมหน้าเครียด “แล้วยาที่ให้ไปกินหรือเปล่า”

      “ก็ล้างทุกวันนะ แต่ยาบางทีก็ลืมแหละ” ผมยิ้มแห้งๆ ให้เมื่อเขามองผมแบบดุๆ

      “ถึงว่าแผลยังอักแสบอยู่ ดีนะปิดสนิทแล้ว ไหมก็ละลายจะหมดแล้ว” พี่ริคว่าพลางดึงขากางเกงลง แต่สิ่งที่ต่อไปนี่สิ ทำเอาผมใจเต้นโครมครามเลยครับ เมื่อร่างใหญ่เท้าแขนลงขอบเตียงก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วทำจมูกฟุดฟิดอยู่แถวคอผม รู้สึกร้อนไปทั้งหน้าเลยทีนี้ “ยังสูบบุหรี่อยู่หรอ”

      “อืม” ผมตอบพลางหลบสายตาคมๆ นั่นถึงบอกไงว่าผมทนอยู่บ้านพี่ริคไม่ได้หรอก

      “มันไม่ดี” พี่หมอว่าก่อนจะเงยหน้ามาอยู่ในระดับเดียวกันจนจมูกเราแทบจะชนกัน “เดี๋ยวปากสวยๆ นั่นมันจะคล้ำเอานะ” ผมเหมือนถูกตรึงอยู่ตรงนั้นเมื่อในตาสีน้ำตาลจ้องมาที่ริมฝีปากผมอย่างมีอะไร หน้าหนวดๆ นั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนปากแทบชนกัน ผมเผลอหลับตากลั้นหายใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

      “คุณหมอค่ะ!” พี่หมอผละออกทันทีเมื่อพยาบาลสาวนางหนึ่งเปิดประตูเข้ามา...ทำไมไม่เคาะวะ “นี่เป็นรายละเอียดผลเมมโมแกรมคนไข้เมื่อวานค่ะ”

      หมอหยิบแฟ้มเอกสารนั่นมาเปิดดูโดยมีพี่สาวคนสวยนั่นตามมายืนข้างๆพร้อมชี้ถามรายละเอียดในส่วนต่างๆ บนแฟ้มจนดูเหมือนจะซบไหล่พี่เค้าเต็มที...หึ...ทำไมผมถึงรู้สึกไม่พอใจว่า เมื่อเห็นว่าพยาบาลคนนั้นแอบยิ้มอย่างเขินๆ ยิ่งทำให้รู้สึกเดือดในใจ เดาว่าเธอคงชอบคุณหมอของเธออยู่เป็นแน่ เห็นพี่เขายิ้มอบอุ่นพร้อมกล่าวขอบคุณเธอ...รอยยิ้มนั่น!เหมือนที่ให้ผม...พี่หมอมีให้กับทุกคน...ผมก็แค่คิดไปเองสินะว่าผมพิเศษ มันรู้สึกเจ็บขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก



      หากไม่นับเรื่องที่เป็นแวร์วูฟแล้วมองชายตรงหน้าแบบคนธรรมดา หมอริคคงเป็นคนที่เพียบพร้อม หน้าหนวดๆผมยาวๆนั่นไม่อาจปกปิดรูปหนาที่แสนจะดูดีนั่นได้กลับดูเท่ไปอีกแบบ เมื่อบวกกับบุคลิกที่ดูอบอุ่นเป็นกันเองนั่น พร้อมทั้งหน้าที่การงานคงมีสาวมากมายที่สนใจในตัวคนๆ นี้ แล้วผมล่ะ...ผมจะเอาอะไรไปสู้ เรื่องใหญ่อีกอย่างคือผมเป็นผู้ชาย ที่พี่หมอคงคิดว่าเหมือนน้องชายที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก...ผมได้แต่ก้มหน้ารับความจริงตรงจุดนี้และเชื่อว่ามันจะดีขึ้นในไม่ช้า

......................................

      แต่เปล่าเลย...ผมไปส่งอาม่าที่บ้านก่อนจะกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่หอแล้วกดโทรศัพท์หาไอ้โยเพื่อนรัก มันฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ หาแอลกอฮอลกระแทกปากคงทำให้จิดใจสงบขึ้น

      /โย กูอยากแดกเหล้า/  ผมบอกมันอย่างเหนื่อยๆ...เหนื่อยใจตัวเอง

      /เชี่ยเตี้ย...กูอยู่กับแม่/ มันด่า /ไม่ไปเรียนหรือไงพรุ่งนี้/

      /ไป แต่กูอยากแดก เซ็งๆ/

      /กูไม่ไป/

      /งั้นกูไปคนเดียวก็ได้/ ผมบอกแต่ยังไม่ทันได้วาง

      /เดี๋ยว...ถือสายรอแปป/ เหมือนได้ยินปลายสายคุยอะไรกับแม่มัน /รออยู่นั่นเดี๋ยวกูไปรับ...อีกครึ่งชัวโมง/



      ผมลงมารอหน้าหออีกครึ่งชั่วโมงตามที่มันบอก ไอ้โยก็มาพร้อม cbr1000 คู่ใจมัน เหอะ...เพื่อนผมแม่งหน้าตาดีชิบหาย แค่เสื้อเชิทสีเทากับกางเกงยีนแม่งก็หล่อสะบัดแล้ว มันพาผมมาผับใกล้ๆมหาลัย คนไม่แน่นมากเพราะยังเป็นคืนวันพฤหัสอยู่ มันเปิดโต๊ะที่มุมชั้นสอง รู้ใจจังว่าผมอยากได้มุมส่วนตัวนั่งสงบสติอารมณ์ ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาโดยมีไอ้โยนั่งตรงข้ามกัน ไม่นานถังน้ำน้ำแข็ง เหล้าและมิกเซอร์ก็มาเสิร์ฟตรงหน้าพร้อมกับแกล้มอีก 2-3 อย่าง ผมลงมือชงเหล้าให้ทั้งตัวเองและมันอย่างไม่รีรอ

      “ไม่สบายใจเรื่องอะไร...” มันถาม ตาสีเทาจ้องผมนิ่งๆ ผมไม่เคยเดาอารมณ์มันถูกเลยครับไอ้นี่ แต่เหมือนมันจะมองผมออกตลอดไม่ว่าเรื่องอะไร “จะเล่าให้กูฟังมั้ย”

      ผมพยักหน้ารับปิดมันไปก็ไม่ได้อะไร มันฟังผมได้ทุกเรื่องไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ บางทีมันก็มีคำแนะนำดีๆ บางทีมันก็แค่ฟังเงียบๆ ดีซะอีกได้ระบาย
      “กูคิดว่า...กูชอบพี่หมอวะ” ผมบอกพลางถอนหายใจหนักๆ ก่อนกระดกหมดแก้ว

      “ทำไมกูไม่แปลกใจวะ...”

      “ก็นะ...” ผมก้มมองของเหลวสีอำพันในมือเพราะถูกชงจนเข้ม “แต่กูแปลกใจตัวเองมากกว่าวะ...กูรู้จักพี่เขามานานไม่เคยคิดเลยว่าจะหลงชอบมัน...แค่รู้สึกว่ามันก็เป็นพี่ชายผู้แสนดีคนหนึ่ง...จนเรื่องพวกเชี่ยนั่นเกิดขึ้น...ตอนแรกกูกลัวมันมาก มันก็พยายามดีกับกูสารพัด ดูแลเอาใจใส่กูซะจนกูเริ่มหวั่นไหวกับมัน จากที่คุยกันเฮฮา กลับอยู่ใกล้มันแล้วทำอะไรไม่ถูก...เดาว่ากูคงชอบมันไปแล้ว” ผมเล่าไปพลางจิบเหล้าไปจนหมดแล้วเติมอีกแก้ว รู้สึกเหมือนเป็นสาวน้อยที่กำลังจนหนทางในรัก ฮ่าๆ

      “มึงก็บอกมันไปสิ...” ไอ้โยที่เหมือนจะมองอะไรซักอย่างที่ชั้นล่างบอกผมแต่สายตามันก็ยังมองอยู่แบบนั้น...สงสัยเจอสาวเด็ดๆ

      “จะบอกยังไงวะ กูเป็นผู้ชาย” ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้ตัวเอง

      “กูกับรอทก็เป็นผู้ชาย!” มันว่าพลางจ้องหน้าผมจริงจัง “พี่หมอมันก็ดูจะชอบมึงนิ...กลัวอะไร”

      “มันไม่ได้ชอบกู...” ผมส่ายหัวช้าๆ “มันดีกับกูมากแต่มันก็ดีแบบนั้นกับทุกคนนั่นแหละ” คิดแล้วก็เฮิท

      “แล้วมึงจะเอายังไง”

      “ก็...” ผมพิงพนักแบบเหนื่อยพลางเหม่อมองฝ้าเพดาน “ปล่อยไว้คงจะดีขึ้นเอง”
      “ตามใจมึง” รู้สึกได้ถึงมืออุ่นที่ลูบหัวผมเบาๆ ผมหลับตาซึมซับมัน รู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะที่ได้เล่าออกไป ขอบคุณที่มันยอมฟังแม่เทศนาเพื่ออกมาเป็นเพื่อนผม

      ผมดื่มจัดมากแต่ไอ้โยมันก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพียงแค่นั่งชงเหล้าให้ผมเงียบๆ จนเวลาล่วงเลยถึงตีสองร้านจะปิดเลยต้องลากสังขารกลับ ตอนแรกมันจะไปส่งแต่มันต้องกลับบ้านซึ่งอยู่ไกลไม่อยากให้มันเสียเวลา ผมเลยเรียกแท็กซี่กลับเองครับ ...เมามาก รู้ตัวเลย หวังว่าพรุ่งนี้คงตื่นไปเรียนไหวนะ

.............................................

      ผมต้องเป็นบ้าแน่ๆ เพราะตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าโรงพยาบาลแล้ว เหอะๆ ผมบอกลุงแท็กซี่มาส่งเองแหละ...เท้าทั้งสองก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มันคง ผมกำลังตรงไปห้องพี่หมอโดยไม่สนสายตาทุกคู่ที่มองตามผมอย่างสงสัย...ไม่เคยเห็นคนเมาหรือไง!...ผมมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงานมันก่อนจะเอื้อมมือไปเลื่อนประตูตรงหน้า...รู้สึกว่ามันหนักกว่าปกติ

      “ข้าว!...” พี่หมอละมือจากเอกสารตรงหน้ามองผมอย่างแปลกใจ “มาไงเนี่ย...แล้วทำไมสภาพเป็นแบบนี้” ว่าแล้วพี่แกกูลุกขึ้นมายืนตรงหน้า พลางสำรวจผมด้วยสายตาเป็นห่วง...หึ!

      “ขอร้องล่ะอย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น”

      “พูดอะไรน่ะ เราเมาใช่มั้ย” พี่หมอทำท่าจะยกมือมาจับแก้มผมแต่โดนปัดออก

      “อย่า...ทำเหมือนเป็นห่วงผมสิ...อย่าดีกับผม...ถ้าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับผม...มันทำให้ผม...ผม...” ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าจากม่านน้ำตา

      “ข้าว?...ข้าวเป็นอะไร” ร่างสูงทำท่าจะเดินเข้ามาแต่ผมถอยห่าง

      “มันทำให้ผม...ชอบพี่” บ้าเอ้ย พูดออกไปจนได้ ผมเห็นอีกฝ่ายมองผมแบบอึ้งๆ แต่ไม่มีคำพูดใดๆ ..พี่เขาคงไม่ได้ชอบผมจริงๆ นั่นแหละ แต่พูดไปแล้วคงย้อนกลับไม่ได้แล้วสินะ ต่อจากนี้คงมองหน้ากันไม่ติดแล้วล่ะ ท่ามกลางสถานการณ์ชวนอึดอัด ผมพยายามอย่างมากที่จะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล

      “หมอ...หมอ...” บุรุษพยาบาลคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าร้อนรน “มีเคสฉุกเฉิน...มีคนรถคว่ำโดนเหล็กแหลมแทงสาหัสเลยครับ”

      พี่หมอหันมามองผมสลับกับบุรุษพยาบาลคนนั้นก่อนจะหยุดสายตามาที่ผมอย่างครุ่นคิด

      “รออยู่นี่นะ เสร็จธุระเดี๋ยวพี่กลับมาเคลีย” พี่ริคบอกผมเสียงเข้มเหมือนสั่ง ก่อนจะรีบร้อนออกไป น้ำตาผมร่วงทันทีที่ประตูปิดลง ทำไมการชอบใครซักคนมันทรมานขนาดนี้วะ...รออะไรละ...ผมอยากออกไปจากที่นี่ ออกจากความรู้สึกอึดอัดนี้เต็มทน

Talk Talk
[/b]

-เป็นพาสที่เด็กน้อยงอแงมโนหนักมาก อยากจะเคลียคู่รองให้มันจบๆ ถ้าเป็นเราไม่นั่งเดาหรอกค่ะ หาได้แบบพี่หมอลูกสองลูกสามไปนานแล้ว :z1:
-เรามองว่าความรักความรู้สึกบางทีมันอาจไม่ราบรื่น แต่นั่นมันคือรสชาติ :o12:
-ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตาม และให้กำลังเด้อ :L2:




      


      

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2015 09:04:40 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เป็นเด็กขี้เหล้าจ้าวมโน จริงๆ

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
น้องข้าวหอม ทำไมคิดไปเองแบบนี้ล่ะ นี่ถ้าไม่เมา จะไม่มาพูดแบบนี้ใช่มั้ย อย่าพึ่งหนีพี่หมอหมาไปไหนนะ เดี๋ยวพี่หมอมันมาเคลีย โอเค๊!!!

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :ling1:  โถๆน้องข้าวของเจ้ สับสนน่ะได้แต่ว่าเชื่อพี่หมอเถอะ อย่าดื้อ
รออยู่ตรงนั้นแหละ ทะเล่อทะล่าออกไปข้างนอกจะแย่เอา
ตื่นมาแล้วค่อยเคลียร์เนอะ   :hao6:
ไม่อยากให้น้องสูบบุหรี่ก็อย่าทำให้น้องเครียดนะพี่ริค

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ความรักก็อย่างนี้แหละ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โอ๋ๆ ใจเย็นๆค่ะน้องข้าวววว ฟังพี่หมอก่อนอย่าพึ่งหนีลูก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โธ่ๆๆ น้องข้าวอย่าพึ่งมโน ฟังพี่หมอหมาก่อนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 16 เข้าใจ
[/b]



   
   Ricardo say

   ผมพยายามเพ่งสมาธิกับมีดผ่าตัดตรงหน้า แต่ภาพข้าวหอมกลับกวนใจผมอยู่ตลอด เอาไงดีวะ ฝืนผ่าตัดไปก็กลัวพลาด แล้วพระเจ้าก็ส่งคนมาช่วยชีวิตผมเมื่อเพื่อนหมอที่เข้าเวรอีกสองคนเดินเข้าห้องผ่าตัดมาพอดี ผมเลยให้จัดการต่อ ส่วนตัวผมรีบกลับมาที่ห้องทำงาน สองขาก้าวยาวๆจนแทบวิ่ง แต่เปิดประตูเข้าไปกลับไม่เจอคนที่ผมบอกให้รอ แต่น้องจะไปไหนได้เมาจนเดินไม่ตรงขนาดนั้น ผมวิ่งออกมานอกโรงพยาบาล มองซ้ายมองขวากลับไม่มีวี่แวว เลยเดินไปถามลุงยามหน้าประตู

   “ลุงครับ เห็นผู้ชายตัวผอมๆ ขาวๆ มั้ยครับ อ่า...สูงประมาน 170 อายุประมาณ 18-19 ครับ” ผมถามอย่างร้อนใจ

   “ไอ้เด็กที่ดูเมาๆ อะหรอ” ลุงถามกลับ ผมพยักหน้ารับ “เห็นยืนรอรถอยู่พักนึง แต่ไม่มีเลยเดินออกไปแล้ว”

   “ทางไหนครับ...”

   “เห็นออกประตูเลี้ยวซ้ายเดินไปทางโน้น” ลุงว่าพร้อมชี้บอก ผมกล่าวขอบคุณลุงก่อนวิ่งกลับมาที่รถแล้วสตาร์ทออกไปอย่างรวดเร็ว ในสภาพมนุษย์มันยากที่จะตามกลิ่นจากที่ไกลๆ ขับตามออกไปก่อนไม่เจอค่อยเปลี่ยนร่างหาอีกที




   ขับมาไม่ไกลก็เจอคนที่ผมตามหาเดินไปตามถนนมืดๆ ผมบีบแตรใส่แต่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะหันมอง จึงตัดสินใจขับรถปาดหน้าจนล้อเกยไปบนฟุตบาท ปกติผมห่วงรถผมนะแต่ตอนนี้มีสิ่งที่ห่วงกว่า ผมเปิดประตูลงรถก่อนคว้าเอาคนตัวเล็กไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งหนี คนในอ้อมแขนดิ้นพล่านแต่ไม่มีแม้แต่เสียงโวยวายเพราะเจ้าตัวเล่นกัดริมฝีปากแน่นจนแดงช้ำอย่างขัดใจ

   “ปล่อย!” ข้าวหอมสั่งเสียงดังเลยทีนี้...ดื้อจริงเด็กคนนี้

   “เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ผมบอกก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถแล้วบังคับให้น้องมันเข้าไป “ไปคุยกันที่บ้าน” รีบปิดประตูแล้วไปประจำที่คนขับก่อนออกรถไปอย่างรวดเร็วก่อนที่คนข้างๆ จะเปิดประตูลง ระหว่างทางไม่มีคำพูดใดๆ จากข้าวเลยเพราะเจ้าตัวเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยขอบตาแดงๆ นั่น




   พอถึงบ้านผมลากเด็กงอแงเข้าบ้านก่อนจะกดไหล่เล็กๆ ให้นั่งลงโซฟาแต่โดยดี ดวงตาสีดำมองผมนิ่งๆ จมูกแดงตาแดงไม่รู้ว่าเพราะร้องไห้หรือเมา ส่วนผมนั่งลงข้างๆ คนตัวเล็กทำท่าจะกระเถิบหนีแต่ผมคว้าเอวไว้ก่อนจะรั้งให้ขึ้นมานั่งบนตัก ดิ้นอยู่ซักพักก็เลิกเพราะรู้ตัวว่าไร้ผล

   “ที่บอกพี่ในห้อง พูดอีกรอบซิ” ผมจ้องหน้าอีกฝ่ายหลบตา

   “ผมบอกให้พี่อย่ายุ่งกับผม” ข้าวตอบ พยายามเกะมือผมออก

   “ไม่ใช่...ก่อนที่พี่จะออกจากห้องนะ” ผมจำได้ครับว่าน้องมันพูดอะไรแค่อยากฟังอีกรอบเท่านั้น ตอนที่มันบอกว่าชอบผมดีใจมากครับ ดีใจจนพูดไม่ออกเลย ทั้งๆ ที่ผมตั้งใจว่าจะค่อยๆจีบ ให้แน่ใจแล้วค่อยบอกน้องมัน และมาสารภาพกันแบบนี้ก็ช็อคสิแต่จากสภาพอาการแล้วต้องเข้าใจอะไรผมผิดอยู่แน่ๆ

   “พี่จะอยากรู้ทำไม...พี่ไม่ได้ชอบผมนิ ไม่ได้คิดอะไรก็ปล่อยๆ ผมไปซักที...ฮึก” ร้องไห้ซะงั้น ผมรู้แล้วว่าเรื่องอะไร...ที่คนตัวเล็กงอแงแบบนี้คงคิดไปเองว่าผมไม่ได้คิดอะไร คิดว่าตัวเองชอบผมฝ่ายเดียว...เฮ้อ!

   “พี่เคยบอกหรอ ว่าไม่ชอบเรา” ข้าวส่ายหน้าแบบมึนๆ “แล้วเคยบอกหรอ ว่าไม่ได้คิดอะไร” ก็ยังส่ายหน้าต่อไป ผมก้มจูบหน้าผากน้องมันไปทีอย่างอ่อนใจ

   “ถ้าพี่ไม่ชอบเรา พี่จะทำแบบนี้มั้ย”

   “ก็พี่หมอดีกับทุกคนนิ ยิ้มให้คนนั้นคนนี้ไปทั่ว” แก้มเนียนแดงระเรื่อก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้างุด สรุปคือหวงผม!? ถึงมันจะดูไร้สาระแต่ทำไมผมถึงยิ้มวะ

   “แต่พี่จูบเราคนเดียว” ผมยืนยันด้วยการจูบปากเล็กๆ นั้นไปที...ไม่น่าพอ มือนิ่มๆ ผลักหน้าผมไว้ก่อนที่จะทันได้จูบอีกที

   “พูดก่อนสิ”...พูดไรวะ “พูดว่าชอบผมก่อนสิ” ....ยังจะทวง ฮ่าๆ “ขอผมเป็นแฟนด้วย”...แหนะ มีสั่ง

   “พี่ชอบน้องข้าว...” เด็กขี้แยยิ้มหน้าบานเลยครับ “พี่รักน้องข้าว พี่คิดถึงแต่น้องข้าว อยากกอดน้องข้าว อยากจูบน้องข้าว เป็นแฟนกับพี่นะ” ข้าวพยักหน้า ผมสบตาสีดำนั้นอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะโน้มเข้าหาคนที่เขินหน้าแดงนั่นเรื่อยๆ...น่ารัก
   
   “อืม...” เสียงหวานครางในลำคออย่างพอใจเมื่อผมบดจูบริมฝีปากเล็กๆ นั่นดูดดื่ม แถมลิ้นเล็กยังตวัดตอบผมอีกอาจเพราะยังเมา ผมรับรู้ได้ถึงกลิ่นเหล้าและบุหรี่ที่ยุงกรุ่นในปาก พลันรสจูบเริ่มดุดันร้อนแรงพร้อมๆ กับอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น...อา...ผมไม่ไหวแล้ว

   “พี่หิวมากเลย” ผมเผลอแลบเลียริมฝีปากตัวเองพลางมองปากเล็กที่เผยอหอบอย่างหิวกระหาย “ขอกินข้าวได้มั้ย” คนตัวเล็กยิ้มเขินก่อนพยักหน้ารับ...จะรออะไรล่ะ...กินสิครับ...จะกินให้หมดทั้งตัวและหัวใจเลย
   



   บทจูบร้อนแรงเริ่มขึ้นแบบไม่มีใครยอมใคร...น้องมันจูบเก่งจัง...เสียงชื้นๆของลิ้นทั้งสองที่ตอบโต้กันจนน้ำลายแทบหกยิ่งทำให้ผมอยากจะกลืนกินอีกฝ่ายซะเดี๋ยวนั้น ผมจัดการลอกคราบเด็กน้อยตรงหน้า ก่อนจะผลักให้นอนราบลงบนโซฟา ทอดมองร่างเล็กที่มองมองตอบผมด้วยดวงตาเป็นประกาย หน้าแดงตัวแดงไหนจะริมฝีปากแดงช้ำนั่นอีก ไม่รอช้าผมจัดการก้มลงไปซุกใช้ดูดดุนทิ้งรอยไว้ทั่วร่าง

   “อ๊ะ...อย่ากัด” ร่างบางสะดุ้ง เมื่อผมกัดแผ่นอกแบนราบนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจัดการขบเม้มยอดอกที่เริ่มแข็งเป็นไตสลับกันสองข้างเรียกเสียงครางของคนข้างล่างหนักขึ้น เล่นจนหนำใจจึงวกกลับมาจูบปากหวานๆ นั่นอีกรอบ มือเล็กปัดป่ายไปทั่วตัวก่อนจะพยายามแกะกระดุมเสื้อผมออกอย่างเงอะงะไม่ทันใจผมจึงจัดการถอดมันออกเอง ก่อนจะปลดตะขอรูดซิบลงแล้วจับเอาหมาป่าตัวร้ายไปทักทายกับข้าวหอมน้อย ผมรวบทั้งสองเข้าด้วยกันก่อนขยับรูดปลุกอารมเราทั้งคู่จนเริ่มแข็งขืน

   “ไม่ต้องปิดหรอก” ผมตึงมือออกเมื่อข้าวพยายามปิดปากกลั้นเสียงไว้ “พี่อยากได้ยินเสียงเรา” ผมชอบเสียงน้องครางจัง...แบบนี้ต้องให้ครางดังๆ คิดได้ดังนั้นผมจับขาเรียวนั้นชันขึ้นก่อนเลื่อนตัวลงจู่โจมข้าวหอมน้อยด้วยปาก ไล้เลียส่วนหัวก่อนจะรับเข้าไปเต็มปากเต็มคำ

   “อ๊ะ...โอ๊ย...ซี๊ด...มันเสียว...” คนโดนกระทำบิดเร่าผมเหลือบมองใบหน้าเนียนที่จ้องมาที่ผมด้วยความเสียว กระตุ้นให้ผมขยับปากรูดสลับกับดูดดุนท่อนเนื้อนั่นอย่างนึกสนุก พลางค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางด้านหลัง การเล้าโลมด้านหน้าทำให้ผมสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ จนครบสามโดยที่น้องไม่ได้โวยวายมีแต่ครางอย่างเดียว ผมรับรู้ว่ามันฝืดทั้งที่คิดว่าต้องเตรียมพร้อมแต่นี่ไม่มีอะไรเลย...คงต้องเอาอะไรลื่นๆ เหมือนกันมาใช้แทนก่อนหึๆ

   “พี่หมอ...อ๊ะ..จะออก...ไม่ไหวแล้ว” ข้าวหอมแอ่นสะโพกด้วยความเสียวพลางจิกหัวผมแน่นจนแทบกระชาก บ่งบอกว่าใกล้เสร็จเต็มที ผมจึงเร่งทั้งปากทั้งมือหนักขึ้น จนน้ำอุ่นร้อนพุ่งเข้ามาเต็มปากผมที่รอรับอยู่ไม่ได้คิดจะหลบ รับรู้ถึงรสชาติปะแล่มๆในปาก เผลอกลืนไปนิด แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แถมบางส่วนยังล้นออกมาตรงมุมปากอีก

   “พี่...คายเลยมันสกปรก” คนตัวเล็กลนลานกับผลงานตัวเอง ผมก็คายใส่มือตัวเองก่อนจะเอาน้ำขาวๆ นั่นไปชโลมทั่วลูกชายที่ตอนนี้ขยายจนแทบระเบิด คนตัวเล็กมองลูกชายในมือผมแบบหนักใจ...คงอึ้งกับขนาด อิอิ

   “ใช้นี่ไปก่อนเนอะ” ผมว่าก่อนจุ๊บหน้าผากน้องไปทีแล้วจับขาเรียวนั้นแยกกว้าง ก่อนจะนำแก่นกายที่กำลังปวดหนึบไปจ่อ

   “มันจะเจ็บมากมั้ย” ข้าวถามเสียงสั่น

   “เจ็บ...แค่ตอนแรกเดี๋ยวรู้สึกดีเอง” ยิ้มให้กำลังใจน้อง “แล้วข้าวจะชอบ” ผมค่อยดันแก่นกายเข้าไปมันแน่นจนเสียวไปทั้งร่างพลางเหลือบมองหน้าน้องไปด้วย ดูแล้วคงเจ็บมากจนน้ำตาซึมแต่เจ้าตัวกลับกัดริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้ร้องออกมา

   “ให้พี่หยุดไหม” ผมถามอย่างเห็นใจ แต่คนเล็กกลับส่ายหัวก่อนที่จะโน้มคอลงไปจูบ ผมจูบตอบอย่างอ่อนโยนปลอบปะโลม

   “ใส่มาเลยทีเดียว...อ๊ะ” น้องข้าวกระซิบเสียงขาดๆ ผมจึงกดเข้าไปรวดเดียวจนมิดลำทำเอาคนตัวเล็กผวาคว้าคอผมลงไปจูบกลั้นเสียงร้องไว้แต่น้ำตากลับไหลพราก ...โอ๊ยทรมานเด็ก

   “ไหวมั้ย” คนถูกถามพยักหน้ารับพลางหลับตานิ่งอยู่แบบนั้นคล้ายเตรียมใจ ซึ่งผมก็ไม่รีบร้อนขยับให้น้องมันได้ปรับตัว เอื้อมมือไปปาดเช็ดน้ำตานั่นพร้อมกดจูบหน้าผากมนที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ช่องทางที่รัดแน่นเริ่มคลายแต่ก็ยังแน่นจนเสียวอยู่

   “ข้าวพร้อมนะ” ดวงตาสีดำจ้องผมอย่างออดอ้อนบ่องบอกว่าเจ้าตัวพร้อมแล้ว จึงจับขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแล้วอีกข้างเกี่ยวเอว

   “อาห์...ซี๊ด” ร่างเล็ดซีดปากอย่างเสียวซ่านเมื่อผมเริ่มขยับช้า...ปลุกข้าวหอมน้อยให้ลุกขึ้นมาชี้หน้าอย่างท้าทาย “อ๊ะ...อาห์...พี่หมอ” รู้สึกถึงช่องทางที่ตอดรัดผมถี่ๆ พาให้อารมณ์มันขึ้นจนจังหวะช้าๆ ไม่อาจเพียงพอจึงเริ่มเร่งจังหวะ

   “อ๊ะ...อ๊ะ...พี่หมอ...โอ๊ย...เบา” ข้าวร้องลั่นเมื่อผมกระแทกหนักๆ ตามแรงอารมณ์  “ซี๊ด...พี่หมอ...อ๊ะ...อ๊าห์” มือเล็กๆ พยายามดันอกผมออกแต่อ่อนแรงจนดูเหมือนกำลังลูบไล้เสียมากกว่า

   ในห้องนั่งเล่นบนโซฟากับไฟสว่างจ้าที่ยังเปิดอยู่ทำให้มองภาพเย้ายวนตรงหน้าอย่างชัดเจน ใบหน้าเนียนแดงก่ำ คิ้วขมวดมุ่นบ่งบอกว่าทั้งเจ็บทั้งเสียว ริมฝีปากเผยอครางกระเส่าไม่หยุดทำเอาบรรยากาศในห้องแทบลุกเป็นไฟตามอารมณ์เราทั้งคู่ ผมจับขาเรียวนั้นแยกกว้างก่อนจะโถมแรงเข้าไป กระแทกเน้นๆ แรงๆ ลึกๆ  จนเสียงเนื้อกระทบกันฟังดูหยาบโลน

   “อาห์...ข้าว...แน่นดีจัง” ผมหลุดครางด้วยความเสียว เคยเอากับผู้หญิงมายังไม่รูสึกเสียวขนาดนี้...รู้สึกดี...จนแทบคลั่ง

   “อ๊ะ....อาห์...ฮึก...พี่...ซี๊ด....อ๊าห์...ผม...อือ...โอ๊ย” เสียงหวานทั้งครางทั้งสะอื้นดังฟังเหมือนจะขาดใจ...แต่ผมกลับชอบ...ดวงตาปริ่มน้ำมองผมอย่างเร่าร้อน เชื่อแล้วละว่าเหล้าทำให้อารมณ์ทางเพศมันสูงขึ้น ดูการตอบรับของน้องข้าวสิ ทำเอาผมแทบสิ้นสติมีแต่ความต้องการอยู่ในหัว...อยากได้...อยากครอบครอง...อยากทำให้น้องร้องครางเพราะผมคนเดียว

   “อ๊า...แรง...ไป...อ๊ะ...” มือเล็กจิกข่วนแผ่นหลังอย่างระบายอารมณ์เมื่อผมกระหน่ำเอวสวน จนร่างเล็กโยกคลอนไปตามแรง...ผมหน้ามืดเกินกว่าจะอ่อนโยนแล้วในเวลานี้

    ผมพลิกคนตัวเล็กขึ้นมานั่งคร่อมบนตักโดยที่ส่วนนั้นยังเชื่อมต่อกัน จับเอวบางไว้มั่นแล้วกระแทกสวนเน้นๆ ข้าวผวากอดคอผมอย่างตระหนก สีหน้าเหยเกด้วยความเสียว เมื่อหมาป่าตัวร้ายดันกระแทกเข้าจุดกระสัน...อ่า ท่านี้เข้าโคตรลึก..เมื่อผมหาเจอจุดนั้นจึงจัดการกระแทกซ้ำแบบไม่ปราณี เล่นเอาคนถูกทำครางไม่เป็นภาษา...รุนแรงไปมั้ยสำหรับครั้งแรก!?...วินาทีนี้ผมไม่สน

   “อืม...” มือเรียวกระชากผมยาวให้เชิดหน้าขึ้นจูบ ลิ้นเล็กๆ สอดแทรกอย่างเรียกร้องจนผมต้องตอบสนองอย่างเสียไม่ได้ เราจูบกันแบบไม่มีใครยอมใครจนน้ำลายเยิ้มออกมา...คงเป็นข้าวหอมร้อนๆที่ราดด้วยน้ำพริก ถึงได้แซบขนาดนี้

   “อือ...พี่มะ...หมอ...จะไปแล้ว....อ๊าห์...ไม่ไหวแล้ว” คนตัวเล็กพูดกระท่อนกระแท่นพลางหอบหนัก เดาว่าอารมณ์คงใกล้ถึงที่สุดผมก็เช่นกัน ผมก้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวนั่นพร้อมเร่งจังหวะถี่กระแทกกระทั้นพาเราไปให้ถึงที่สุด  ข้าวหอมเงยหน้าพร้อมบิดตัวเกระตุกเกร็งจนช่างทางด้านหลังพาลรัดแน่นตามแล้วปลดปล่อยน้ำสีขุ่นจนเลอะไปทั่วหน้าท้องของเราทั้งคู่ ช่องทางตอดรัดถี่ๆ บังคับให้ผมกระแทกได้2-3 ทีก็ต้องปลดปล่อยทุกความต้องการเข้าไปในตัวของน้องจนรู้สึกมันอุ่นเต็มจนล้นออกมาข้างนอก
   
   ข้าวหอมฟุบหน้าซบไหล่ผมพลางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ผมจูบขมับที่ชื้นเหงื่อคนน่ารักไปที ผมรับรู้ถึงลมหายใจของคนข้างบนที่เริ่มนิ่งคงเหนื่อยจนหลับไปแล้ว เลยจัดการถอนไอ้ลูกชายออกมาให้เบาที่สุดทำเอาของเหลวภายในทะลักออกมามีทั้งสีขาวขุ่นและสีแดง...เห็นแล้วโมโหตัวเองเลยครับ เผลอหนักมือไปจนได้

   ผมพาน้องไปอาบน้ำล้างตัวรวมถึงผมด้วยก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กมาวางลงบนที่นอนอย่างแผ่วเบา แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าลอดผ้าม่านมากระทบใบหน้าที่หลับใหลนั่น...น่ารักจนอดที่ที่จะก้มลงไปหอมแก้มนิ่มๆไม่ได้ ผมล้มตัวลงนอน ก่อนดึงร่างบางเข้ามากอด...สังหรว่าตื่นมาคงมีเด็กป่วย มีเวลาทั้งวันผมเข้าเวรอีกทีก็หนึ่งทุ่มโน่นละครับ




   ผมลุกขึ้นมาตอน 10 โมงเพราะรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดเริ่มตัวรุมๆจึงจัดการเช็ดเนื้อเข็ดตัวให้ การมีเซ็กซ์อาจทำให้เป็นไข้ได้ส่วนหนึ่งมาจากอุณหภูมิของร่างกายที่เพิ่มสูงจากการไหลเวียนของเลือดที่มากกว่าปกติเนื่องจากความตื่นเต้นและการใช้งานร่างกายที่หนักจนเกินไปจนเหนื่อยล้าและอ่อนแอ ผมจัดการป้อนยาลดไข้ให้น้องก่อนจะกดโทรศัพท์หาเพื่อนหมอคนอื่นๆ จ้างให้ไปเข้าเวรแทน



   ร่างกายมนุษย์ช่างอ่อนแอเสียจริงเจ็บป่วยก็ง่ายบาดเจ็บก็แสนง่าย ส่วนเรื่องตาย...ผมนิ่งไปเมื่อนึกถึงมัน...เพราะแบบนี้ผมควรต้องดูแลปกป้องคนที่ผมรักดีๆ จะเปลี่ยนน้องมันหรือไม่นั่นเป็นเรื่องของอนาคตแล้วแต่เจ้าตัวสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตยืนยาวแบบอมนุษย์หรือแสนสั้นแบบมนุษย์ผมสาบานกับตัวเองเลยว่าจะอยู่กับข้าวหอมคนนี้ไปจนวันที่น้องตาย...ผมก้มลงจูบหน้าผากคนบนเตียงราวกับประทับคำสาบานของตนไว้แด่คนที่ผมรัก

   


   
Talk Talk
[/b]

-มาต่อแล้วจ้า เราเคลียร์ไวไปมั้ย ไม่ได้ลุ้นเลยเนอะ...เเต่เป็นเราก็อึดอัดใจแทนหมออยู่นะเลยรีบเคลีย สงสารหมาตาสีน้ำตาล :mew2:
-จะเริ่มจริงจังแล้วนะในบทหน้าสาระจะมา...แต่จะแทรกอารมณ์หวานขมในรักปนไปบ้าง :katai1:
-nc เห็นมีคนท้วงว่าอย่าขี้เกียจเขียน จัดให้ยาวๆ จ้า :haun4:
-ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และเม้นให้กำลังใจข้าวหอมตัวน้อยของหนู :L1:

   

   
   

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2017 12:04:10 โดย l3loodl2o5e »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ข้าวหอมโดนกินซะแล้ววววววว

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
แหม่ ครั้งแรกขุ่นพี่ริคก็ใส่ไม่ยั้งเลย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:  ข้าวหอมทั้งหวานทั้งอร่อยก็เลยกินไม่เหลือเลยจ้า
นี่ทั้งหมดทั้งมวลต้องขอบคุณเพื่อนหมอที่รับช่วงต่อให้นะคะ เข้าเวรแทนอีก
แบบนี้ดีแล้วค่ะสงสารหมาตัวโด 5555
เรื่องรักหวานปนขมนั้นแปลว่าอะไรอ่า จะเกิดอะไรขึ้นกับโยรอทกันนะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ในที่สุด หมาก็ได้กินข้าวซะที
หึๆๆ ท่าทางกินจนอิ่มเลยนิ :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ข้าวคงอร่อยละซิ กว่าจะหยุดปากได้

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 :m25: :z1: :pighaun: :haun4: :jul1:   ในที่สุดก็ได้กินข้าวแล้ว พาน้องข้าวเป็นแบบพี่หมอสิจะได้อึดทนทั้งคืน ๕๕๕ ร่างกายมนุษย์รับไม่ไหวหรอก

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
พี่หมอรุนแรง แต่ก็อ่อนโยน แถมคำเนี้ย ได้ใจสุดๆ "แด่คนที่ผมรัก" แอร้ยยยย เขิลมากบอกเลย
ขอบคุณสำหรับ nc ค่ะ  o13

ออฟไลน์ pui_noizๆ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เอ่อ...คือเราไม่ได้อ่านเรื่องนะ (อาจเพราะไม่ได้ชอบแนวนี้)
แต่ที่เราจะบอกคือ ชื่อเรื่องอะ เราแปลแล้วงงๆ อะ เราว่ามันน่าจะเป็น Night Knight หรือเปล่า เหมือนชื่ิอ Blood Rose - กุหลาบสีเลือดงัย (ใช่ตามที่คุณผู้แต่งต้องการตั้งชื่อมั้ยหว่า? ) แต่ถ้าเป็น Rose Blood จะกลายเป็น เลือดสีกุหลาบ ซึ่งปัญหาคือกุหลาบมีหลายสี จะสีไหนดี และจริงๆ ผู้แต่งคงต้องการเป็นกุหลาบ มากกว่าจะเป็นเลือดใช่มั้ยอ่อ...
เราเหมือนเสียมารยาท ต้องขอโทษด้วย อย่าโกรธกันเลยน้าา นะ นะ นะ นะ :mew3:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
เอ่อ...คือเราไม่ได้อ่านเรื่องนะ (อาจเพราะไม่ได้ชอบแนวนี้)
แต่ที่เราจะบอกคือ ชื่อเรื่องอะ เราแปลแล้วงงๆ อะ เราว่ามันน่าจะเป็น Night Knight หรือเปล่า เหมือนชื่ิอ Blood Rose - กุหลาบสีเลือดงัย (ใช่ตามที่คุณผู้แต่งต้องการตั้งชื่อมั้ยหว่า? ) แต่ถ้าเป็น Rose Blood จะกลายเป็น เลือดสีกุหลาบ ซึ่งปัญหาคือกุหลาบมีหลายสี จะสีไหนดี และจริงๆ ผู้แต่งคงต้องการเป็นกุหลาบ มากกว่าจะเป็นเลือดใช่มั้ยอ่อ...
เราเหมือนเสียมารยาท ต้องขอโทษด้วย อย่าโกรธกันเลยน้าา นะ นะ นะ นะ :mew3:

อธิบายแบบที่เราเข้าใจจากการอ่านหนังสื้อดูหนังเล่นเกมหรือคุยกับเพื่อนๆ นานาชาติ
การแปลของ Night Knigth =กลางคืน(รัติกาล)+อัศวิน...= อัศวินรัติกาล....คล้ายกับคำว่า
white knight= อัศวินขี่ม้าขาว (ไม่มีคำว่าม้าแต่เป็นนัยยะที่คนเข้าใจ)...ว่า
Dark Knight= อัศวินแห่งความมืด หรือ
temple knight = อัศวินทั่วๆ ไป แต่ในอดีตมักมีนัยยะถึงอัศวินพวกที่รับใช้โบสถ์หรือวัด(temple)หรือปราสาทประมาณนั้น
.....หากอยากให้มันเรียกเอาสะดวกตา อาจมาในรูปแบบ  Knight of...(อัศวินแห่ง+.....)

ส่วน BloodRose กุหลาบ(สี)เลือดจะหลายๆ คำว่า WhiteRose= กุหลาบขาว RedRose =กุหลาบแดง
-งงหรือเปล่า เราพยายามอธิบายในแบบที่เราเข้าใจจ้าแต่ไม่มีอะไรผิดหรือถูกแล้วแต่มุมมองคนไม่ซีเรียสหรอจ้า :o8:
-เราไม่เก่งมากหรอกเรื่องภาษาอาศัยผ่านตา
-ถามได้จ้า อยากรู้อะไร หลายๆ อย่างแปลงจากข้อมูลจริงพอจะมีข้อมูลมาอธิบายให้ได้ ไม่อาจไม่เป็นไร สนใจก็ดีแล้ว :mew1:
-เราพิมผิดเองค่าา

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สนุกมาก อย่าโกรธน่ะถ้าเราจะพูดว่าเราไม่สนเรื่องชื่อแต่เราสนเนื้อเรื่องคืออ่านเนื้อเรื่องไม่ใช่ชื่อ
คนเขียนยังไงก็ได้ โทษนะไม่ได้มีเจตนาว่าใครจริงๆครับ ถ้าทำให้โกรธขอโทษครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาให้กำลังใจจ้าเื่องสนุกมากๆ

ติดตามเสมอ

ยังอ่านไม่ทัน

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
กำลังไล่อ่านงับ

ออฟไลน์ nightfall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • nightfall_llafthgin
เพิ่งม่ไล่อ่านรวดเดียวจบ แหะๆ
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ แต่มีคำผิดหลายที่
ตอนหลังๆนี่จำไม่ค่อยได้ แต่ไม่เยอะมาก
ที่จำได้คือ ตอนที่หนึ่ง ต่างฝรั่งเศษส จริงๆแล้วต้องเป็น ฝรั่งเศส ค่ะ
คิดว่าคงเป็นการรวมกันของ ต่างประเทศ กับ ฝรั่งเศส ใช่ไหมคะ 555555555
คำว่า พิสูตร จริงๆต้องเป็น พิสูจน์ ค่ะ น่าจะตอนที่สอง
แล้วก็อยากให้เปลี่ยน เดะ เป็นเดี๋ยว จะดีกว่าค่ะ ^^

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากเลย :)

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 17 คดีใหม่(ใหญ่)
[/b]

Yonah Say

      วันนี้มีเรียนจิตวิทยาตอนเช้า ไม่เห็นหัวไอ้ข้าวเลยสงสัยจะเมาค้าง ส่วนรอทก็หายหัวเช่นกัน เมื่อคืนมันโทรหาผมตั้งหลายรอบแต่ผมไม่รับ...ไม่มีอารมณ์รับ...ทำไมนะหรอ? ก็ตอนพาไอ้เพื่อนรักไปกินเหล้าเยียวยาใจ เห็นมันนั่งอยู่กับผู้หญิงอยู่ชั้นล่าง มันเห็นผมแต่ไม่คิดจะเดินมาหา...หึ...สุดท้ายก็มีกูไว้แค่เอาสินะ ช่างมัน...ไม่มีอะไรสึกหลอ คนอย่างโยนาห์นั่งเฉยๆ ก็มีคนเข้าหาอยู่แล้ว...โอ๊ยหงุดหงิดโว้ย ว่าแล้วก็เผลอหนักมือบิดcbr1000ลูกรักจนเข็มไมล์แม่งเกือบ 200 ผมกำลังจะกลับบ้านไม่มีเรียนบ่ายไอ้ข้าวก็ไม่อยู่หนีไปซบอกแม่ษาดีกว่า




      “แม่รูปนี้ ตอนผมกี่ขวบหรอ” ผมถามขึ้นเมื่อไปเจอรูปตัวเองที่หล่นอยู่ ใต้ตู้ เรากำลังลังความสะอาดบ้านครั้งใหญ่กันเพราะไม่มีใครอยู่ร่วมเดือน

      “น่าจะสี่ขวบนะ...มีแต่คนล้อว่าแม่ได้ลูกสาว ฮ่าๆ” แม่เดินมาดูก่อนตอบ  ในภาพเป็นเด็กชายตัวเล็กที่กำลังเล่นทรายอยู่ริมหาด ผมสีดำหน้าขาวแลดูเศร้ากับดวงตาสีเทาเหมือนของผมแม้กระทั่งตราที่อกซ้ายนั่นก็เช่นกัน

      “มีรูปที่เด็กกว่านี้มั้ยครับ” รอยสักนั่น...มันอยู่กับผมมาแต่เกิดเลยหรือเปล่า?

      “ไม่มีหรอกจ้ะ” แม่ตอบพลางยิ้มให้แต่รอยยิ้มนั่นมันดูมีอะไรแฮะ “แม่พาเราย้ายกลับมาไทยตอนนั้นเลยเอาของกลับมาได้ไม่มาก”

      “แล้วทำไมถึงย้ายมาละครับ แล้วพ่อล่ะ” ผมถามต่อ

      “พ่อเสียก่อนที่เราจะย้ายมาไม่นานจ้ะ...ที่รัสเซียค่าครองชีพมันแพง อยู่ต่อไม่ไหวแม่เลยกลับมาอยู่ไทย...อย่างน้อยแม่ก็ยังมีบ้านหลังนี้ที่ยายทิ้งไว้ให้...แล้วก็เพื่อนๆ สมัยเรียน” แม่ตอบก่อนที่จะหันไปเก็บของต่อ เพิ่งรู้นะว่าพ่อผมเป็นคนรัสเซีย

      “แล้วพ่อเสียเพราะอะไรหรอครับ” ผมถามด้วยอารมณ์อยากรู้ไม่ได้เสียใจแต่อย่างใด

      “โดนรถชนจ้ะ”แม่ตอบหลังจากนิ่งไปนาน ผมรู้ว่าเธอโกหก แวมไพร์ไม่มีทางโดนรถชนตายหรอก แต่ผมก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรคงต้องสืบหาเอาเองแล้วล่ะ ผมไม่คิดจะบอกเธอเรื่องที่ผมรู้ว่าตัวเองเป็นครึ่งแวมไพร์เพราะการที่เธอปิดบังน่าจะเพื่อความปลอดภัยของผมจึงอยากให้เธอเชื่อและวางใจอยู่อย่างนั้น โตพอจะจัดการมันได้ผมคิดแบบนั้น

      กว่าเราจะจัดการทั้งหมดเสร็จก็ค่ำ แม่เองก็ดูเหนื่อยๆ เลยพากันอาบน้ำแต่งตัวไปหาอะไรกินข้างนอก ผมโยนไอโฟนที่กำลังสั่นทิ้งไว้บนเตียง...ขี้เกียจรับ ขี้เกียจพก รู้อยู่แก่ใจว่าใครที่โทรมา



      สองแม่ลูกมาฝากท้องที่ชาบูในวันนี้เพราะแม่เบื่ออาหารฝรั่งเต็มทน แม่กินมาเยอะแล้วตอนไปทำงาน กินไปแม่ก็เล่าเรื่องตอนที่อยู่ปารีสไปอย่างสนุกสนาน ดวงตาสีดำเป็นประกาย  ริมฝีปากอิ่มเหมือนของผมแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่ดูสดใส มันทำให้เธอดูสวยยิ่งกว่าใครๆ ผมจึงควรเก็บเรื่องทั้งหมดเพื่อรักษาร้อยยิ้มนั่นไว้



      กว่าเราจะกลับก็เกือบสี่ทุ่มจึงต่างคนต่างเข้าห้องของตัวเอง ทันทีที่ปิดประตูห้องแล้วหันกลับก็ทำเอาผมสะดุ้งเมื่อดวงตาสีฟ้าเรืองแสงจ้องผมนิ่งๆ ในความมืด...เข้ามาไงวะ...หรือผมลืมล็อคระเบียง อีกอย่างสัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นไอเลยแม้แต่น้อย...ผมเอื้อมมือไปเปิดไฟในห้องก่อนจะกอดอกมองคนที่นั่งอยู่ปลายเตียง โดยไม่คิดจะเดินเข้าไปหา


      “ทำไมไม่รับโทรศัพท์” รอทถามน้ำเสียงดูหงุดหงิดเต็มทน

      “ขี้เกียจ...” มันถอนหายใจหนักอย่างเหนื่อยหน่าย “มีธุระหรอ”

      “เรื่องผู้หญิงที่ผับ...ผมอยากอธิบาย” เสียงทุ้มดูอ่อนลงเมื่อผมยังคงนิ่งใส่...หงุดหงิดมากๆ ในตอนนี้

      “เธอชื่อ ยูจีน เป็นเพื่อนร่วมงาน...” รอทบอก “มาช่วยทำคดีที่ผมพึ่งรับมา เป็นคดีของกลุ่มอมนุษย์ที่บูชาซาตาน” ผมพยักหน้ารับรู้ แล้วยังไง...ปกติก็เห็นมันช่วยกันกับไอ้พี่หมอก็พอนิ...ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นด้วยวะ

      “ทำเองไม่ได้หรือไง” ผมถามเสียงห้วน

      “เธอตามคดีนี้มานาน จากประเทศอื่น แล้วบังเอิญแกนนำของพวกลัทธินั่นหนีเข้ามากบดานในไทย ยูจีนเลยต้องทำงานร่วมกับผมเพราะถือเป็นความรับผิดชอบของเธออยู่” ไม่เล่าเปล่า รอทยื่นโทรศัพท์ที่มีข้อมูลคดีกับประวัติของยูจีนให้ผมดูเพื่อความสบายใจ

      แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีนั่นล่ะ...ผมไม่ได้โง่หรอกนะ...วันนั้นสาวสวยคนนั้นออเซอะอ้อล้อมันเต็มที่...ไหนจะการที่มันเห็นผมแล้วไม่ทักผมอีก...คดีก็ส่วนคดีไม่เกี่ยวกับสิ่งที่มันแสดงออก ห่างกันไปไม่ถึงอาทิตย์มันก็ออกลายแล้วเหอะ!

      “สนิทกันมากหรอ” ผมถามพลางจ้องอีกฝ่ายอย่างคาดคั้น

      “เริ่มเป็นนักล่าพร้อมกัน เคยเป็นคู่หูกันมาก่อน ตอนผมอยู่อเมริกา”

      “คู่หู หรือคู่นอน” ผมถามเสียงขุ่นเลยทีนี้ มันคงไม่ง่ายหรอกที่จะทำงานกับผู้หญิงที่สวยขนาดนั้นแถมยังเป็นซัคคิวบัส(ผมอ่านเจอในประวัติเมื่อกี้)ที่มีพลังด้านตัณหาราคะอีกด้วย

      “โย!...ไว้ใจกันหน่อย เราเป็น...”

      “เป็นอะไร!?...” นั่นสิ เราเป็นอะไรนอกจากนอนด้วยกัน ไอ้รอทมันก็ไม่เคยบอกนี่ว่าผมเป็นอะไร โทรหากันทุกวันแต่ไม่มีคำว่าคิดถึง ไม่เคยแม้แต่จะบอกรัก...นี่ผมประสาทอะไรอีกเนี่ย “เราเป็นอะไรกัน!?”

      “แฟนกัน” รอทตอบหลังจากนิ่งไปนานก่อที่มันจะลุกมาหาผม “หรือเป็น...ผัวกับเมีย...นายอยากเรียกแบบไหนล่ะ” มันว่าพลางเท้าแขนทั้งสองลงบานประตูคร่อมผมไว้ เขินวะ...ก็ไม่มีอะไรจะเถียงมัน...เอากับมันไปแล้วด้วย

      “อย่า...แม้แต่จะคิด” ผมผลักหน้าหล่อนั้นไว้ก่อนจะจูบผม...รู้สึกถึงหัวใจที่เริ่มเต้นแรง...ผมต้องโกรธมันอยู่สิโว้ย

      “โถ่...ที่รัก อย่าใจร้ายนักสิ ไม่ได้นอนกอดมาตั้งหลายวัน” ไอ้แวมไพร์หื่นกามงอแง “ขอแค่จูบเอง” มันต่อรอง

      “แค่จูบ...ห้ามมากกว่านี้ เดี๋ยวแม่ได้ยิน” ผมบอกมันเสียงดุคุณคงไม่อยากตื่นมากลางดึกแล้วได้ยินเสียงลูกชายครางหรอกครับ

      “ครับผม” รอทยิ้มรับก่อนจะก้มลงจูบผมหนักๆ อย่างหิวกระหาย ผมก็จูบตอบรุนแรงไม่แพ้กัน ลิ้นชื้นตอบโต้กันอย่างดุเดือด ผมเผลอกัดริมฝีปากมันเมื่อมันทำท่าจะถอนออกก่อนที่จะเป็นฝ่ายลุกล้ำเข้าไปโดยมีมันตอบสนองอย่างรู้ใจ พึงรู้ว่าตัวเองโหยหามันขนาดนี้ เกือบอาทิตย์ที่เราทำได้เพียงนั่งข้างๆคุยกันเมื่อเจอในมหาลัย ไม่ถูกมันกอด ไม่ถูกมันจูบ ไม่ถูกมันหอมแก้มหรือหลับไปในอ้อมแขนมัน...คิดถึงมันอย่างบอกไม่ถูก

      “อืม...พอแล้ว...พอ...” ผมห้ามพลางหอบ ดันหน้ามันออกก่อนที่อารมณ์จะเตลิดเกินควบคุม ตาคมดูขัดใจนิดหน่อย

      “ขอนอนด้วยได้มั้ย” มันอ้อน...”ผมจะรีบออกไปตอนเช้า...รับรองแม่นายไม่รู้หรอก” ยัง...ยังไม่เลิกต่อรอง

      “ตามใจ...แต่ถ้าทำอะไร...โดนถีบตกเตียงแน่” ผมชี้หน้าคาดโทษมัน ก่อนจะเข้าไปแปรงฟันเตรียมตัวนอน โดยไม่ลืมหาแปรงสีฟันในตู้เผื่อมันด้วยอีกอัน

      ผมล้มตัวลงนอนแต่หันหลังให้มัน...เหมือนยังมีอะไรคาใจผมอยู่แต่ขี้เกียจถามในตอนนี้...รับรู้ถึงแรงยวบของที่นอนก่อนที่แขนแกร่งจะดึงผมเข้าไปกอดจากด้านหลัง

      “คิดอะไรอยู่...หืม?”  มันกระซิบถามข้างหู ทำเอาผมขนลุกเลย “มีอะไรก็ถามมาตรงๆ สิจะได้ไม่ต้องมาโกรธผมอีก”

      “วันนั้น...เห็นแล้วทำไมถึงไม่ทัก” ผมถามก่อนพลิกกลับไปมองหน้ามัน

      “ไม่ค่อยอยากให้ยูจีนเจอนายน่ะ” หึ! ไหนว่าไม่มีอะไรทำไมไม่อยากให้เจอว่ะ “นายน่ากินแค่นั้นรู้ตัวมั้ย...ทุกอย่างในตัวนายมันดึงดูด” ดวงตาสีฟ้าจ้องมาคล้ายต้องมนต์

      “กลัวผู้หญิงคนนั้นจะลากผมไปกินหรอ?”

      “ก็มีส่วน” รอทเลิกคิ้ว

      “แล้วสรุปอะไร” ผมถามเสียงดังขึ้นตามอารมณ์

      “ชู่ว!!! อย่าพึ่งดุสิ” รอทว่าพลางจูบปากผมไปที “หึงหรือไง...” มันยิ้มกวนตีน...ถีบลงเตียงเลยดีมั้ย

      “จะตอบไม่ตอบ ฮะ...” ผมบอกเสียงดุเลยทีนี้ แถมเอาตีนถีบมันแต่ไม่เห็นขยับเลยคนหรือก้อนหินเนี่ย (แวมไพร์จ้ะ)

      “นอกจากไอ้ริค ผมไม่ค่อยอยากให้คนในสภากลางรู้เรื่องของนาย โยคิดดูสิ นายเป็นเลือดผสม ซึ่งมันไม่เคยมีมาก่อน มันอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีแน่ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้เข้า ไม่งั้นคงไม่มีคนพยายามปกปิดตัวตนด้านที่เป็นแวมไพร์ของนายไว้หรอก ทั้งสร้อยที่นายใส่ ทั้งรอยสักนั่น ผมคิดว่า คนที่ทำเขาไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้” มันร่ายยาวเลยครับทีนี้ สีหน้าดูจริงจังบอกให้รู้ว่ามันห่วงผมจริงๆ


      ก็ไม่รู้จะแย้งอะไรเพราะมันคือความจริง หลังจากที่สร้อยผมแตกไปเรื่องวุ่นวายต่างๆ ก็เกิดขึ้นอันตรายรุมเร้าเข้ามาสารพัดและนั่นคือเหตุผลที่ผมเชื่อมัน ตลอดเวลาเกือบอาทิตย์ให้หลังชีวิตเราก็เป็นแบบนี้ ตอนกลางวันหลังเลิกเรียนผมก็อยู่กับแม่ บางวันรอทก็แค่โทรมาหา บางวันมันก็เข้ามานอนด้วย...ไอ้ผัวหื่นมันบ่นทุกวันว่าเมื่อไหร่ผมจะกลับคอนโดมันจะลงแดงตายอยู่แล้ว...ถามจริงชีวิตมึงนี่คิดแต่เรื่องเซ็กซ์หรือไง...ก่อนมาเจอผมมันไปลงที่ใครมั่งวะคิดแล้วขึ้นเลยกู




      ผมได้อ่านเอกสารของคดีที่รอททำอยู่ รู้สึกว่ามันจะยากกว่าเรื่องของไอ้กรกฏเสียอีก มันเป็นคดีข้ามชาติไอ้พวกอมนุษย์ที่บูชาซาตานทำงานเป็นองค์กรชื่อ Satanismus Creed หรือเรียกกันว่า ซาโตนี สรุปง่ายๆ เหมือนพวกผู้ก่อการร้ายของมนุษย์นั่นแหละ ทัศนะคติของพวกนี้มองว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตไร้ค่า เป็นแค่อาหารและแรงงานทาส เชื่อเรื่องการอัญเชิญซาตานมาสู่โลกมนุษย์ เพราะนั่นคือพระเจ้าของพวกมัน ด้วยการทดลองพิธีกรรมแปลกๆ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่สังเวยชีวิตมนุษย์ไปไม่น้อย

      ยกตัวอย่างคดีใหญ่ที่ต้องสังเวยมนุษย์มหาศาลกับพิธีของมันคงจะเป็น ค่ายเอาท์สวิท ในโปแลนท์ ประวัติศาสตร์ของเราเขียนแค่ว่าคือที่ทรมานชาวยิวของนาซี แต่สำหรับพวกอมนุษย์ นาซีนั้นถูกหลอกด้วยข้อเสนอของอำนาจ ให้สังเวยมนุษย์เป็นล้านเพื่อพวกซาโตนี แต่ไม่ว่าทางใดก็ดูไม่เป็นผลไม่มีการอัญเชิญใดๆสำเร็จเลยแม้ซักวิธี องค์กรนี้จึงถอนตัวออกไปปล่อยให้กลุ่มนาซีพ่ายแพ้สงคราม

      ปัจจุบันมีพวกอมนุษย์ที่เป็นซาโตนี่อยู่ประปรายทั่วโลก ส่วนใหญ่มักเป็นพวกที่สืบสายเลือดอมนุษย์มาโดยตรง มีการก่อเหตุเป็นครั้งคราวสำหรับพวกระดับล่างๆ แต่พวกระดับสูงนั้นกลับคอยแทรกแซงสังคมมนุษย์ หยิบยื่นหายนะต่างๆ หลอกใช้คนด้วยอำนาจและเงินเพื่อทำลายมนุษย์อย่างช้าๆ จากภายใน ทั้งเรื่องยา ค้าอาวุธ อาชญากรรม หรือเบื้องหลังองค์กรก่อการร้ายดังๆก็ด้วย แม้แต่สงครามนิวเคลียที่กำลังถูกผลักดันในตอนนี้ซาโตนี่ยังเข้าไปมีส่วน เป็นคู่กัดที่สมน้ำสมเนื้อกับสภากลางเลยทีเดียว จนผมนึกไม่ออกเลยว่าจะช่วยรอททำคดีนี้ได้ยังไง

.........................................................................

      “โยจ้ะ...” ผมเงยหน้าจากจานอาหารเช้าของตัวเอง “เดี๋ยวแม่ต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว...วันพุธนี้” แม่บอกเศร้าๆ ผมชินแล้วครับกับการมาๆ ไปๆ ของแม่ผม

      “รอบนี้ ต้องไปไหนหรอครับ”

      “เวียนนาจ้ะ...มันเป็นเมืองที่สถาปัตยกรรมสวยสุดๆ ” แม่ยิ้มดูตื่นเต้น ทำให้ผมพลอยยิ้มตาม “ไว้ปิดเทอมใหญ่เราไปเที่ยวกันนะ”

      “ครับแม่” อย่างที่เคยบอกว่าอายุทำอะไรผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ เพราะเธอมักดูสดใสอยู่ตลอดเวลา แต่ภายใต้ท่าทีแบบนั้นผมกลับรู้สึกว่าใจเธอแข็งแกร่งยิงกว่าใคร เธอปิดเรื่องของพ่อมาทั้งชีวิตแถมยังเลี้ยงดูผมตามลำพังโดยที่ผมไม่เคยมีชิวิตที่ยากลำบาก

      “ไม่ต้องเอารถไปนะวันนี้ แม่ไปส่ง” เธอบอก “เดี๋ยวตอนเย็นไปรับ จะไปดูด้วยว่าเราอยู่หอยังไง”

      ชิบหายแล้ว! หอผมเป็นยังไงวะไม่ได้ไปนอนนาน เหอะๆ...อยู่แต่ห้องผัว ถ้าจะบอกว่าไปอยู่ห้องรุ่นพี่เดี๋ยวโดนถามอีกว่ารู้จักยังไง สนิทแค่ไหนไม่เกรงใจหรอ สารพัดขี้เกียจตอบเดี๋ยวมีพิรุธ เอาเป็นว่าเลิกเรียนแวบไปเก็บกวาดซักนิดดีกว่าเพื่อความเนียน ...อิอิ

      
Talk Talk
[/b]

-อ่านแล้วปวดหัวมั้ยกับสาระในบทนี้ ไม่เข้าใจก็ถามนะเราเพ้อๆ มา :ling2:
-คดีใหม่รอทน่าปวดหัวแน่นอนรับประกัน
-เล่นพ่อแง่แม่งอนกันซักนิดให้รสชาติชีวิตเนอะ o18 คนเรารักกันก็ต้องมีทะเลาะกันเป็นรรมดา
-ขอบคุณสำหรับกำลังใจและขอประทานอภัยที่เราพิมพ์ผิด บางทีก็พิมพ์มันไปมือมันไม่ไวเท่าสมอง อยู่ด้วยกันยาวๆ เด้อ :-[
      

            
      
      



      

      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2015 16:47:31 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1: 
เอาใจช่วยคู่หลักต่อไป
คำว่า พิรุธ เขียนแบบนี้จ้า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จ๊ะหนูโยคนหนีแม่มาแอบผัว

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
รีบไปทำความสะอาดหอนะจ๊ะ เดี๋ยวโดนคุณแม่ซักฟอก
รอตอนต่อไปเนาะ

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
แนะนำกับแม่ไปเลยสิว่า นี่พี่รอท ผัวหนู อิอิ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พาสามีไปเปิดตัวเลย โย  :hao7: :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด