Night knight อัศวินรัติกาลตอนพิเศษ รอทxโยนาห์ แจ้งข่าวตีพิมพ์ค่ะP13 13/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

อยากให้มีการรวมเล่มหรือไม่ สำหรับเรื่อง Night Knight

อยากให้รวมเพื่อจะได้สะสม
ไม่อยากให้รวม

ผู้เขียน หัวข้อ: Night knight อัศวินรัติกาลตอนพิเศษ รอทxโยนาห์ แจ้งข่าวตีพิมพ์ค่ะP13 13/09/59  (อ่าน 137791 ครั้ง)

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ยังยืนยันคำเดิม รอทหื่นอะะ :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
บอกให้โยมันรู้หน่อยสิรอท กลัวจริงจริ๊งว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี เฮ้อออ
 :katai1:
มาอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณนะคะ  o13

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โหยยยยยย ฟาอ่านตอนแรกนึกว่าใสซื่อที่แท้ก็โชกโชน :katai4:

โยอย่าสนใจคนแบบนี้เลย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
มาลงชื่อขออ่านด้วยค้าาาาาาา

เราชอบแนวแฟนซีนะ น่าสนุกนะคะ

คุณคนแต่งวาดภาพสวยมากก ชอบมากเลยค่ะ o13

รอมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
คนร้ายเผยโฉมแล้ว



แผนการคือจะใช้เหยื่อล่อออกมาใช่ไหมเนี่ย



รออ่านต่อคร้าบบบ

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 9 เพื่อน
[/b]



   Yonah Say

      “เดี๋ยว...โย” รอทรั้งผมไว้ก่อนที่จะทันได้ลงรถ แล้วล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อ

      “นายยังเก็บไว้อีกหรอ” ผมถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นสร้อยกางเขนหักๆ ในมือรอท

      “แค่คิดว่ามันอาจสำคัญกับนายน่ะ”

      “มันเป็นของสิ่งเดียวที่พ่อทิ้งไว้ให้น่ะ”   ผมว่าพลางเอื้อมมือไปหยิบแต่รอทกลับดึงมันกลับ

      “เดี๋ยวผมใส่ให้...มาใกล้ๆ สิ” มันว่าพร้อมยิ้มแบบมีเลศนัย...อะไรกับผมอีกเนี่ย!

      “ตลกละ...เอามา! ใส่เองได้” ผมยื้อยุดกับไอ้แวมไพร์บ้านั้นสุดท้ายก็ต้องยอมแรงมัน “ก็ได้วะแม่ง”

      ผมเอี้ยวตัวเข้าไปใกล้ให้มันใส่สร้อยให้ รอทอ้อมมือไปติดตะขอด้านหลังจนดูเหมือนเรากำลังกอดกันอยู่ แล้วมันก็ขโมยหอมแก้มผมไปทีหนึ่ง ทำเอาร้อนไปทั้งหน้าเลยครับ...แม่งเล่นกูแต่เช้าเลย

      “เชี่ย!...” ผมสบถออกมาแบบไม่รู้จะพูดอะไรก่อนจะคว้ากระเป๋าพร้อมเฟลมผ้าใบขนาดกลางลงจากรถแล้วปิดประตูแรงๆ เอาแม่งให้พังคามือไปเลยครับหมั่นไส้เจ้าของมัน แต่ประเด็นคือทันทีที่หันไปก็เจอไอ้ข้าวหอมมันยืนยิ้มแป้นให้ผมอยู่ แม่งเห็นอะไรไปบ้างเนี่ย?

      “ละทำเป็นปฏิเสธ มึงมีอะไรจะแถกับกูอีกมั้ย” มันว่าพลางลากคอผมขึ้นไปบนตึก “เล่ามาให้หมดเลย ไม่งั้นกูประกาศทั้งภาค” เชี่ย...ดูมันขู่ผมดิ




      วันนี้เป็นวิชา composition ต้องพรีเซนท์งานเพ้นท์หน้าห้อง ผมโคตรลุ้นเลยว่าอาจารย์จะว่าอะไรเยอะมั้ย ถ้าว่าผมจะโทษไอ้แวมไพร์หื่นกามนั่นที่มากวนผมตอนทำงาน ตอนส่งงานก็ตื่นเต้นดีอยู่หรอกแต่พอตอนนั่งฟังเพื่อนพรีเซนท์บ้าง บอกเลยว่าโครตง่วงกว่าจะครบทุกคน ไอ้ข้าวมันก็พยายามรบเร้าให้ผมเล่าเรื่องรอทอยู่นั่นละผมเลยบอกเลิกเรียนค่อยเล่า เดี๋ยวคนอื่นมาได้ยินล้อผมกระจุยเลยทีนี้ ยิ่งขี้เสือกกันอยู่



      หลังเลิกเรียนผมกับไอ้ข้าวมากินข้าวเย็นที่ร้านข้างมอ วันนี้ไม่เห็นไอ้ธีรเลยครับไม่รู้มันหายหัวไปไหน ผมตั้งใจว่าจะคุยกับมันเรื่องฟาซักหน่อยเพราะยังไงมันก็เป็นเพื่อนผมมานาน ระหว่างที่รอผมก็เล่าคร่าวๆ เรื่องรอทแถไปว่าเป็นพี่ที่เจอในเกมส์พอรู้ว่าอยู่มหาลัยเดียวกันเลยนัดเจอกัน บางทีไปเล่นเกมส์ด้วยกันเอาไปเอามาผมเลยไปสิงอยู่ห้องมันประจะ ฮ่าๆ...ผมตอแหลโคตรเก่งเลย แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่มันเป็นแวมไพร์หรือเรื่องข้อตกลงในการล่าบีสของเราครับ เรื่องแบบนั้นใครมันจะไปเชื่อ

      “แล้วสรุปมึงกับพี่เขาก็เป็นแฟนกัน เพราะมึงอกหักต้องการคนดามหัวใจ” ไอ้ข้าวหอมสรุปเสร็จสรรพ เท่าที่เล่ามาไม่มีส่วนไหนที่บอกนะว่ามันเป็นแบบนั้น มันมั่วครับ

      “ไม่ได้เป็น”  ผมกับรอทไม่ได้เป็นแฟนกันนะ มันไม่เคยบอกนิว่าผมเป็น ถึงเราจะทำอะไรแบบนั้นกันแล้วก็เหอะ แค่นึกก็หน้าแดงแล้ว เหอๆ

      “ไม่ได้เป็น แล้วอีรอยแดงๆ ที่คอมึงจะบอกว่ามดกัดงั้นสิ” มันยิ้มกวนตีนให้ผมครับ โอ๊ยยอย่าย้ำอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว “กูรับได้เว้ย ถ้าเพื่อนกูจะเป็นเกย์”

      “เออ! เชี่ย”

      “เออ!? สรุปคือมึงเสร็จพี่เขาไปแล้วหรอวะ” มันถามตาโตเลยทีนี้ “เมื่อไหร่ตอนไหน”

      “ตอนกูเมา” ผมตอบเสียงแผ่ว เอาเถอะยังไงก็ปิดมันไม่ได้อยู่แล้ว

      “ใครเริ่มก่อนวะ มึงเสียบหรือพี่เขาเสียบ” เหอๆ ผมไม่ห้ามแม่งถามใหญ่เลยทีนี้

      “โอ้ยไอ้เตี้ย! มึงไม่ถามเลยละว่าพวกกูเอากันท่าไหน” ผมด่ามันในที่สุด ตอนนี้รู้สึกร้อนไปทั้งหน้าเลยครับ ต้องมานั่งยอมรับว่าเสียตัวให้ผู้ชายมันใช่เรื่องหรอ

      “ถ้ามึงเล่ากูก็ยินดีฟังวะ ฮ่าๆ” มันหัวเราะสะใจมากก ผมละอยากจะลุกขึ้นไปถีบหน้าตี๋ๆ นั่น

      อาหารมาเสริฟแล้วครับผมกับมันสั่งมิโสะราเมงกันคนละชาม ระหว่างที่กินไปคุยไปอยู่นั้นโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น...ใครวะ หยิบมาดูเป็นเบอร์ไอ้ธีรครับ

      “ฮัลโล...”

      “โย...นี่ฟานะ” ผมไม่แปลกใจเลยที่เสียงคนพูดเป็นฟา ก็เค้าเป็นแฟนกันนิ คิดแล้วมันก็เจ็บ

      “มีอะไรหรือเปล่า...?” ผมพยายามคุมเสียงให้นิ่งที่สุด

      “ธีรรถล้ม  ฟาไม่รู้จะทำยังไงดี” ฟาบอกผมเสียงสั่นเลยครับ

      “แล้วเป็นอะไรมั้ย” ผมถามตอนนี้เริ่มใจไม่ดีเลยครับ

      “ฟาไม่เป็นเป็นอะไร แต่ธีร...ฮือๆ ธีรนอนนิ่งไปเลย ฟาเรียกยังไงก็ไม่ตอบ” เสียงปลายสายเริ่มร้องไห้พยายามเล่าเหตุการณ์ให้ฟังแต่เอาจริงๆ มันไม่รู้เรื่องเลยครับ

      “มีอะไรวะ” ไอ้ข้าวถามขึ้นเมื่อเห็นผมทำหน้าเครียด

      “ไอ้ธีรรถล้มวะ...” ผมหันไปตอบมัน “เอางี้ ฟาอยู่ไหน...เดะโยไปหา”

      “อยู่ตรงเส้นบางเลนอะโย...ตอนแรกว่าจะเข้ากรุงเทพกัน” ผมเรียกเด็กมาคิดตังก่อนจะรีบโดดขึ้นมอเตอร์ไซของไอ้ข้าวโดยผมเป็นคนขับมันเป็นคนซ้อน คุณคิดว่า Ducati monster สามารถวิ่งด้วยความเร็วเท่าไหร่ บอกเลยว่าผมบิดสุดเข็มไมล์ ไอ้ข้าวมันด่าผมด้วยครับว่าจะไปหาไอ้ธีรหรือจะได้เป็นศพกันอยู่บนถนน  ไม่รู้หละผมร้อนใจกลัวว่าเพื่อผมจะเป็นอะไรส่วนเรื่องฟาเอาจริงๆ มันไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย



      พอมาถึงก็เห็นไอ้ธีรนอนนิ่งอยู่ริมถนนมีฟาดูอยู่ไม่ห่าง ใกล้กันมีรถมอเตอร์ไซต์ของมันล้มอยู่ ผมว่ามันอาจไม่เป็นอะไรมากเพราะใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบแต่อาจลงพื้นแรงไปเลยสลบ แต่แขนมันนี่สิ รอยถลอกรอยข่วนเต็มไปหมดเพราะใส่เสื้อแขนสั้น ส่วนฟาก็มีแผลถลอกตามตัวนิดหน่อยเพราะใส่กางเกงขายาวและเสื้อแขนยาว ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเปลี่ยวรถผ่านน้อย พวกผมชอบมาเทสรถกันเพราะสภาพถนนค่อนข้างดี คนส่วนใหญ่มักใช้เลี่ยงทางหลักเฉพาะเทศกาล

      “โทรเรียกรถพยาบาลหรือยัง” ฟาส่ายหัว ผมกับไอ้ข้าวสำรวจอาการโดยรวมของเพื่อนผม...พลางถอดหมวกกันน๊อคออกจากหัวมัน โชคดีที่มันยังหายใจอยู่ทำเอาผมเบาใจไปเยอะ

      “ข้าวมึงโทเรียกกู้ภัยดิ”

      “สัสกูไม่ได้เอาโทรศัพท์มา” ผมโยนไอโฟนผมให้มัน “กูไม่รู้เบอร์ว่ะ” เวรละผมก็ไม่รู้

      “งั้นมึงอยู่นี่ละโย เดี๋ยวกูไปตามคนแถวนี้มาช่วย” มันว่าพร้อมคว้ากุญแจจากผมขับรถออกไป พระอาทิตย์เริ่มตกแล้วแถมไฟถนนแถวนี้ก็ติดบ้างไม่ติดบ้าง ผมสังหรณ์ใจแปลกๆ วะ

      “โย...” ฟาเรียกพร้อมจับมือผมไว้ “ฟาขอโทษ”

      ปึก!!!ผมรู้สู้สึกเจ็บแปลบที่ท้ายทอยเหมือนโดนของแข็งฟาดก่อนจะหมดสติไป   




      ข้าวกลับมาพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยแต่กลับไม่เห็นตัวคนทั้งสามมีเพียงรถของธีรที่ล้มอยู่ข้างทางกับโทรศัพท์ของโยที่ตกอยู่บนพื้น ไปไหนของเขาวะ...ดวงตาสีดำมองไปรอบๆ อย่างกังวลรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนทั้งสองจับใจ โทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพิ้นดังขึ้น ข้าวจึงหยิบมันขึ้นมาดู ปรากฏสายไม่ได้รับเกือบ 20 สาย จากรอท เขาแล้วกดรับมันอย่างร้อนรน

      “ดีครับพี่”

      “โยไปไหน!?” เสียงปลายสายถามขึ้นอย่างร้อนใจ ข้าวเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พี่รอทฟัง  ไม่นานก็ตามมาที่เกิดเหตุพร้อมกลุ่มคนท่าทางน่ากลัว 4-5 คน สำรวจรอบๆ ซักพัก ก่อนที่ข้าวจะถูกเรียกขึ้นรถไปด้วยกัน ส่วนมอเตอร์ไซต์สองคันมีคนที่พี่รอทพามาขับกลับให้ เขาเองก็ไม่เข้าใจเหตุการณ์เท่าไหร่แต่พอจะเดาได้ว่าต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับโยและธีรแน่ พี่รอทถึงมีสีหน้ากังวลแบบนั้น

......................



      ผมค่อยลืมตาขึ้นแบบมึนๆ ปรับสายตาซักพักจึงเข้ากับแสงสลัวจากหลอดไฟเก่าๆ ภายในห้องที่มีประตูเหล็กเก่าๆ อยู่ด้านหนึ่ง กับหน้าต่างพังๆ ข้างกันเป็นเป็นไอ้ธีรที่นั่งหลับพิงกำแพงอยู่ มือของมันโดนจับไขว้หลังพร้อมใส่กุญแจมือ ผมก็เช่นกัน ผมรับรู้ได้ถึงกลิ่นไอของพวกอมนุษย์อยู่ไม่ไกลและมันก็มีหลายตัวเสียด้วย

      “ธีร...เชี่ยธรี” ผมเรียกพร้อมเอาตีนเขี่ยมัน มันขยับตัวก่อนจะลืมตาขึ้นแบบงงๆ สารรูปมันดูแย่ครับ

      “กูมาอยู่ที่นีได้ไงวะ” มันถาม “แล้วมึง....ไอ้โย” มันดูแปลกใจที่เห็นผม

      “ฟาโทรมาบอกกูว่ามึงรถล้ม กูกับไอ้ข้าวเลยไปหา ระหว่างรอไอ้ข้าวไปเรียกคนมาช่วย ใครไม่รู้ฟาดหัวกู รู้ตัวอีกทีก็ถูกมัดอยู่ที่นี่แหละ” ผมอธิบายเท่าที่ผมจำได้ ไอ้ธีรยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่

      “รถล้มเชี่ยไรล่ะ เมื่อคืนกูจำได้ว่ากูออกไปกินเหล้ากับฟา...หรือว่า...อีห่านั่นแม่งหลอกพวกเรามา” ผมฟังสรรพนามที่มันเรียกฟาแล้วตกใจเลยครับ คนเราเรียกแฟนตัวเองแบบนั้นด้วยหรอ

      “มึงไม่ได้เป็นแฟนกับฟาหรอวะ” ผมถามอย่างแปลกใจ

      “ไม่อะ กูแค่เล่นๆ” ฟังมันพูดละขึ้นครับ แย่งแฟนเพื่อนเล่นๆ เนี่ยนะ หมั่นไส้ เอาตีนถีบมันไปทีหนึ่ง

      “สัส! ฟังให้จบก่อนดิวะ” มันว่าพร้อมถีบผมคืน ถ้าไม่ติดกุญแจมือผมว่าคงมีต่อยกันละ “คือกูรู้จักฟามาก่อนที่มันจะมาเจอมึง อีนี่แม่งร่าน ตอนแรกที่มึงพามันมาให้กูรู้จัก กูก็ตกใจหน่อยๆ นั่นละ”

      “ไม่เห็นมึงจะเคยบอกกูเลย” ผมว่ามัน

      “ก็กูอยากให้โอกาสคน เผื่อมันจะจริงใจกับมึง” มันอธิบาย “แต่เปล่าเลย ลับหลังมือกูก็ยังเจอมันที่ผับบ่อยๆ ไปกับคนโน้นคนนี้ ก็เลยคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้ เลยลองๆ จีบมันดู ตั้งใจจะดึงมันออกจากชีวิตมึง จีบติดค่อยทิ้ง” ฟังดูเป็นแผนการที่ชั่วดีครับ

      “แล้วทำไมมึงไม่บอกกูตรงๆ วะ”

      “มึงรักแฟนมึงซะขนาดนั้น มึงคิดว่ากูพูดอะไรไปมึงจะฟังกูมั้ย” มันก็จริงขนาดผมเองตอนนี้ยังไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่มันพูดเลย แต่ไอ้ธีรไม่เคยโกหก อย่างมากมันแค่ไม่พูดถ้ามันอยากปิดบัง “ถึงมึงจะถนอมมัน ไม่แตะต้องมัน แม่งก็ไปนอนกับคนอื่นอยู่ดี” ธีรว่าอย่างเจ็บแค้น
      “แล้วมันคุ้มหรอวะ ที่มึงต้องมาผิดใจกับกูเรื่องนี้อะ” ผมว่าแผนมันโคตรควาย ทำเอาผมเมาจะเป็นจะตาย แถมต้องต่อยกันกับมันเละเทะ “ไอ้ข้าวรู้เรื่องนี้เปล่าวะ”

      “กูมั่นใจว่าเคลียกับมึงได้ ไอ้ข้าวบอกจะช่วยพูดอีกแรง” มันว่าพร้อมจ้องหน้าผมจริงจัง “เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช้หรอวะ อยากมากมึงก็ไม่ฆ่ากูทิ้งหรอก” ผมถอนหายใจกับแผนการโง่ของพวกมันสองคน เอาจริงๆ คือโกรธแม่งไม่ลงเพราะทั้งหมดคือมันทำเพื่อผม

      “แล้วจะทำยังไงกันต่อวะ” เรื่องอื่นค่อยเคลียร์ ตอนนี้ผมว่าหาทางหนีจะดีกว่า

      “ใจเย็นดิวะ” ไอ้ธีรว่าพลางทำอะไรกร๊อกๆ แกร๊กๆ กับกุญแจมือของตัวเอง หน้ามันดูตั้งใจมากกริ๊ก! กุญแจมือข้างหนึ่งเด้งออก ก่อนที่แขนทั้งสองมันจะเป็นอิสระเผยให้เห็นลวดเส้นเล็กๆ ในมือมัน มันจัดการไขอีกข้างออกพร้อมโยนทิ้งไป

      “ไปฝึกมาจากไหนวะ” ผมถามอย่างแปลกใจ

      “เคยฝึกสมัยเป็นแดกแว้นซ์” ปัจจุบันมันก็แว้นซ์ครับ แต่เป็นบิ๊กไบท์ ธีรหันมาไขกุญแจให้ผมออกให้ผม ผมเดินสำรวจรอบห้องอย่างหาทางหนี ประตูล๊อคจากด้านนอกคงมีแค่หน้าต่างเท่านั้นแหละ ผมชะโงกหน้าออกไปดูข้างนอก แสงจันทร์ที่ให้จะเต็มดวงทำให้พอมองเห็นข้างล่างมันไม่สูงเท่าไหร่ พวกผมน่าจะอยู่ที่ชั้นสองของตึก

      “ต้องโดดวะ” ผมหันไปบอกเพื่อน ก่อนจะปีนขอบหน้าต่างแล้วกระโดดลงไปพร้อมไอ้ธีรที่โดดตามมาติดๆ ไม่จำเป็นต้องย่องหรืออะไรเลยเพราะพวกอมนุษย์พวกนั้นมันประสาทสัมผัสดี ผมดึงแขนไอ้ธีรวิ่งออกไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายคิดแต่ว่า ไปให้พ้นๆ พวกมันก็พอ เสียงตระโกนตามหลังมาไม่ไกลเดาว่าพวกมันกำลังตามมา




      ปัง ปัง ปัง!! เสียงปืนดังไล่หลังเราทั้งคู่ ก่อนจะมีพวกมันคนหนึ่งห้ามว่าอย่ายิงต้องจับตัวเป็นๆ ไม่รู้ว่าวิ่งมาไกลแค่ไหนแต่ผมสัมผัสกลิ่นไอของพวกมันไม่ได้แล้ว รู้สึกได้ถึงแรงรั้งจากแขนไอ้ธีรก่อนที่ตัวมันจะล้มลงแล้วดึงผมล้มไปด้วย หันไปมองมันแล้วก็ตกใจหน้ามันซีดมากๆ ผมพยายามพยุงมันขึ้นแต่ตัวมันหนักมาก รู้สึกชื้นๆ ที่เสื้อมัน

      เลือด...ผมมองของเหลวสีแดงที่เลอะเต็มมือผม เลือดมันออกเยอะมากเหมือนะโดนไปหลายนัด นั่นยิ่งทำให้ผมร้อนใจ

      “มึงหนีไปเหอะ...กูไม่ไหววะ” ไอ้ธีรมองหน้าผม มันดูเหนื่อยมากๆ ผมเริ่มใจไม่ดี

      “หนีเชี่ยอะไร กูไม่ทิ้งมึงไว้หรอก” เสียงผมเริ่มสั่น “ลุกเลย กูจะพามึงไปหาหมอ” ผมพยายามรั้งมันขึ้น แต่ไม่เป็นผล

      “มึงเกลียดกูหรือเปล่า” มันถามขึ้น

      “กูไม่เคยเกลียดมึง ไม่มีวัน” มันยิ้มให้ผม

      “ก็ดีแล้ว...โยกูง่วงวะ” มันพูดเสียงแผ่ว รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบหัวใจ ดวงตาผมพร่าไปด้วยน้ำตาที่เริ่มเอ่อ

      “ง่วงเชี่ยอะไรตอนนี้...ฮึก” ผมร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เลือดมันไหลเต็มพื้นเลย มันกำลังจะตาย...ไอ้ธีรกำลังจะตาย...ผมต้องทำยังไง

      “กูว่ากูไม่รอดหวะ...ฮ่าๆ” มันหัวเราะขาดๆ หายๆ มันใช่เวลามั้ย

      “ไอ้ธีร...มึงอย่ามาล้อกูเล่นนะ” ผมตะโกนใส่มันทั้งน้ำตา

      “โย...” มันพยายามเอื้อมมือที่อ่อนแรงนั้นมาเช็ดน้ำตาให้ผมแล้วก็ร่วงหล่นไปพร้อมลมหายใจของมัน

      ผมปล่อยโฮออกมาพร้อมกอดมันแน่น เขย่าตัวมันเรียกมันแต่มันก็ไม่ตอบผม...ผมกอดมันอย่างสิ้นหวัง นี่ผมเสียมันไปแล้วจริงๆ มันเป็นเพื่อนที่ผมรัก มันยอมเป็นคนชั่วเพื่อเอาฟาไปจากชีวิตผม ยอมให้ผมโกรธ ยอมให้ผมด่า..ต่อยมัน...ตวาดมัน...ตะคอกใส่มัน แต่ทุกอย่างเพื่อตัวผม ผมยังไม่ได้ขอโทษมันซักคำทั้งที่เราก็พึ่งเข้าใจกัน...ธีร กูขอโทษ ขอร้องละกลับมา กลับมา มึงจะต่อยกูก็ได้...ผมพร่ำเพ้อยู่ในใจกอดร่างไร้วิญญาณของมันร้องไห้อยู่อย่างนั้น ไม่สนแม้แต่พวกอมนุษย์ที่ตามผมมาทัน

      “ไอ้พวกเชี่ย ปล่อยกู” ผมตระโกนลั่นพร้อมดิ้นพล่านเมื่อพวกมันพยายามดึงผมออกจากร่างของธีร “กูจะฆ่าพวกมึง พวกมึงทุกคน”

      ร่างของผมถูกพวกมันลากออกมาในที่สุด ผมมองดูศพของเพื่อนที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น ไกลออกไป...ไกลออกไป ในใจเคียดแค้น ชิงชัง และสาปส่ง  ผมจะฆ่ามันทุกคนให้สมกับที่มันทำกับเพื่อนผม

...............................................

      Tee Say

      ตอนม.4 เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอกับโย มันย้ายเข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ในห้องผม บอกตามตรงโคตรหมั่นไส้มัน หน้าตาลูกครึ่งสาวติดตรึม เรียนก็ดี กีฬาก็เก่ง รู้สึกต่อมที่ตีนมันกระตุกอยากเตะคน แต่ความคิดทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ตอนที่ผมถูกเด็กช่างไล่กระทืบเพราะไอ้ข้าวหอมดันไปอ้อนตีนเขา เพื่อนในกลุ่มแม่งวิ่งหนีให้หมด ปล่อยพวกผมโดนรุมตีน ไอ้โยมันผ่านมาพอดีเลยเข้ามาช่วยพวกผมทั้งที่รู้ว่าเสียเปรียบ ถึงพวกผมจะพอสู้ได้แต่ 3-10 มันก็เกินกำลัง พวกผมนั่งพิงกำแพงเรียงกันสามคนในสภาพสะบักสะบอมแต่ไอ้พวกเด็กช่างดูจะเจ็บหนักกว่า...ยอมรับเลยว่ามันต่อยคนเก่ง น่าจะโดนตีนมาโชกโชนพอตัว

      “ทำไมมึงช่วยพวกกูวะ” ผมถาม

      “มึงเป็นเพื่อนกูนิ” มันตอบพร้อมยิ้มให้ผม

      “มึงมันบ้า”



      จากนั้นเราสามคนเลยสนิทกัน กลายเป็นเพื่อนรัก ถึงไลฟ์สไตล์จะต่างกันบ้าง ผมชอบเที่ยวกลางคืน ไอ้ข้าวก็พอกัน ส่วนไอ้โยมันไปบ้างไม่ไปบ้างเพราะมันติดเกมส์ แล้ววันหนึ่งโยก็พาแฟนมันมาให้รู้จักชื่อฟา หน้าตาน่ารักดูเป็นลูกคุณหนูดี แต่ผมจำผู้หญิงคนนี้ได้ถึงผมจะไม่ค่อยใส่ใจกับผู้หญิงที่ผมนอนด้วยก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะคิดว่าคิดเราล้วนมีอดีตและฟาคงจะจริงจังกับเพื่อนผม แต่เปล่าเลยลับหลังไอ้โย แฟนมันก็มั่วไปเรื่อยถึงขนาด อ่อยทั้งผมทั้งไอ้ข้าว ผมกับไอ้ข้าวเลยวางแผนชั่วนี้ขึ้น เพื่อเอาฟาไปจากชีวิตไอ้โย




      ตอนนี้ ผมมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของโย ผมโดนยิงหลายนัดแต่ก็พยายามฝืนวิ่งมากับมัน สุดท้ายก็ทนได้แค่นี้ ผมดีใจที่คนโดนยิงไม่ใช่มัน ผมรักมันมาก ห่วงมันมาก ไม่รู้ทำไม แต่สำหรับเพื่อนคนนี้ผมตายแทนมันได้

      เหนื่อย...เรียวแรงมันเหมือนจะหมดไปพร้อมๆ กับเลือดที่ไหลออกมา

      “มึงเกลียดกูหรือเปล่า” ผมถามมัน

      “กูไม่เคยเกลียดมึง ไม่มีวัน” คำตอบมันทำให้ผมยิ้ม ผมมีความสุขที่มันไม่เกลียดผม ที่มันร้องไห้เพื่อผม

      ผมอยากจะอยู่ดูแลมันไปนานๆกว่านี้ แต่คงไม่ได้แล้ว แค่หายใจยังลำบาก ผมรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้มัน ได้แต่ภาวนาว่ามันจะรอดไปได้และปลอดภัย เวลาของผมใกล้หมดเต็มที หูผมไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว มีเพียงใบหน้าที่พร่าเลือนของมันที่ผมพยายามจะรับรู้และจดจำ ถ้าเทวดาฟ้าดินมีจริง ได้โปรดปกป้องมันเพราะผมคงทำได้เพียงเท่านี้...ลาก่อน โยนาห์




Talk Talk
[/b]
      

-เป็นบทที่ทำสภาพจิดใจเราย่ำแย่มากในตอนที่พิมพ์ เราว่าเราอินเกินไป พาลให้อะไรๆ มันก็หดหู่ไปหมด  :hao5:

-เนื้อหาหนักไปหน่อยนะบทนี้ ต้องขอประทานอภัย เขียนเองยังสงสารเลย แต่ไม่ต้องตกใจ ถึงเนื้อเรื่องจะเข้มข้นเพียงใด บอกเลยว่า ยังไม่ถึงครึ่งเรื่องแน่นอน จะอยู่กดดันทุกท่านไปนานๆ :katai1:

-ภาพประกอบอาจจะมีตามมาเพราะเรารู้สึกว่าอยากวาดภาพให้บทนี้มากๆ ตั้งใจจะวาดจริงๆ จังด้วยๆ

-ขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน เข้ามาอ่านไปก็ยิ้มไป รู้สึกชื่นใจและ มีกำลังใจมากๆ ในการเขียน ขอบคุณจริง
 :-[
   

      




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2015 23:03:21 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
ธีร์ ตัวประกอบที่เด่นนะ ตายซะแล้ว ตอนแรกนึกว่าธีร์เป็นพรายชื่อกรกฏซะอีก
รอลุ้นต่อค่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai1:    :o12:  ธีร์. ไม่ตายได้ไหมอ่า
พี่รอทรีบๆมาช่วยโยเร็ว. จัดอีผีพรายฝูงนั้นให้เหี้ยนเลยนะ
นังฟาแกแสบมาก จะรอดูจุดจบของนางอีกคน
ขอบคุณค่ะ มาต่อสม่ำเสมอเลย. เรื่องรูปจะมีไม่มีก็ได้ค่ะไม่กดดัน มีฟิลจะวาดก็วาดจ้า.  :L2: 

ออฟไลน์ PaTtO

  • อาซามิซามะ.. ทาคาบะ4ever
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ตกลง ธีร์ไม่ใช่กรกฏ พรายอะไรนั่นหรอ  o22
นี่มันเรื่องอารายกานนน
จะตายจริงๆหรอธีร์
รอท ช่วยน้องด้วย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พี่รอทมาช่วยโยเร็วๆน้าาาาาา :serius2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮือออ ธีร์ แกอย่าเพิ่งตายยย เผื่อจะมีใครช่วยเปลี่ยนเป็นแวมไพร์เป็นแวร์วูฟ อย่าตาย ขอร้องงงง สงสารโยอ่าาา พี่รอทช้าว่ะ มาเร็วๆดี๊

ออฟไลน์ Eangoey

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ทำไมธีร์ต้องตายอ่ะ ไม่น่ะ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ถ้าไม่เกิดเรื่องโยนาห์ก็คงไม่รู้ความจริงเรื่องแฟนตัวเองสินะ รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ริค มากัดคอธีร์ด่วนๆๆๆ เอาใหธีร์ฟื้นเลยนะ ฮือออออ

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 10 พิธีกรรม
[/b]


      Yonah Say   

      เจ็บปวด...ความรู้สึกนี้มันแล่นมาตามประสาทรับรู้ในทีแรกที่ผมตื่น มือทั้งสองของผมถูกตอกตรึงด้วยลิ่มเหล็กลงกับพื้น เจ็บมากๆ ผมได้กลิ่นเลือดของตัวเองมันยังคงไหลนองพื้นที่ผมนอน เบื้องบนแสงของจันทร์เพ็ญสาดส่องลงมากผ่านโดมกระจกแตกๆ นั่น ในสมองนึกย้อนเหตุการณ์ก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่นี่...ธีร...ตายแล้ว แค่คิดมันก็เหมือนจะร้องไห้ขึ้นมาอีก

      ผมพยายามหันมองรอบๆ เท่าที่ระยะสายตาจะทำได้ก็พบกับ ฟา!...ร่างบางนอนนิ่งตาเบิกโพลงอยู่ไม่ห่าง ในสภาพที่คอหมุนไปผิดทิศผิดทาง เดาว่าคงตายไปแล้ว ทำไมผมถึงไม่รู้สึกเสียใจเลยล่ะ

      “ของที่หมดประโยชน์ ก็ต้องโดนกำจัด”  เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆ ผม ทำให้เห็นใบหน้าขาวซีดนั่นชัดเจน นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องผมอย่างถูกใจ มือขาวๆ นั่นค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาผมแล้วแหวกออก

      “เอามือ สกปรกของมึงออกไป” ผมว่าเสียงเย็น ผมมองมันอย่างเคียดแค้น เรื่องทั้งหมดคงเป็นฝีมือเจ้านี่สินะ

      “ปากดีจัง แต่เอาเถอะเดี๋ยวก็ได้ตายแล้ว” มันว่าพลางหัวเราะชั่วร้ายใส่ผมก่อนจะลุกขึ้นวาดวงแหวนลงบนพื้นสองวงรอบๆ ตัวผม แล้วลงด้วยอักขระบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ

      “คิดจะทำอะไร...” ผมถามอย่างร้อนรนเดาว่าใช่เรื่องดีกับตัวผมแน่ “แน่จริงมึงก็ปล่อยกูเซ่!!!” ผมเริ่มโวยวาย จะผีจะพรายจะแวมไพร์หรือหมาป่า ถ้าผมหลุดไปได้นะ ผมจะอัดให้กลิ้งเลยคอยดู

      “อย่าพูดมากน่า!” มันตะคอกใส่พร้อมลุกขึ้นมาเตะเข้าที่สีข้างผมไปทีเพราะไปกวนสมาธิมัน จุกจนร้องไม่ออกเลยครับ ได้แต่มองมันอย่างแค้นเคือง

      อึก!...ผมพยายามดิ้นแต่ยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ เลือดยิ่งออกเยอะขึ้นจนผมเริ่มเบลอ

      “ได้เวลาแล้ว” มันว่าพลางแสยะยิ้มให้ ผมมองมีดสีเงินในมือมันอย่างหวาดระแวงหวังวะมันคงไม่ใช่แบบที่ผมคิดนะ มัจจุราจย่างกรายเข้ามาก่อนที่มันจะนั่งคร่อมลงบนตัวแล้วจรดปลายมีดสีเงินลงบนอกของผม ก่อนจะเริ่มสวดเป็นภาษาที่ผมไม่เข้าใจ ทำเอาผมเย็นวาบไปทั้งตัวเมื่อความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามา

      “อย่า!!... อ๊ากกก!!!” ผมร้องลั่นอย่างเจ็บปวดเมื่อคมมีดค่อยๆ ปักลึกลงบนผิวเรื่อยๆ เหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มันมากเกินไปเกินกว่าจะระบายด้วยน้ำตา รับรู้ได้ถึงเลือดมหาศาลของตัวเองที่กำลังไหลทะลักออกมา...ตอนธีรตายรู้สึกแบบนี้หรือเปล่านะ...อึก...ร่างกายของผมกระตุกเกรงเมื่อคมมีดปักมาจนสุด จากเจ็บปวดก็เริ่มชา ในสายตายตอนนี้ผมเห็นแต่แสงจันทร์บนฟ้าที่กำลังพร่าเลือน เหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่เริ่มแผ่ว พร้อมลมหายใจที่ขาดๆ หายๆ ผมกำลังจะตาย วินาทีที่ทุกสัมผัสของผมกำลังจากไป เหมอนได้ยินเสียงหนึ่งเรียกชื่อผมจากที่แสนไกล เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยและจดจำได้ดี

      รอท!?

......................................................

      Rote Say

      โครม!!!! ประตูไม้บานใหญ่ลมตึงจากแรงถีบก่อนที่ผมจะเข้าไปในห้องโถงนั่นพร้อมกับข้าวที่วิ่งตามมา ส่วนไอ้ริคกับคนของสภาจัดการพวกลูกกระจ๊อกอยู่ด้านนอก ทำให้ได้ยินเสียงกรีดร้อง เสียงคำราม และเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ผมได้เล่าทุกอย่างคร่าวๆ ให้เพื่อนโยฟังแล้วระหว่างขับรถมาที่นี่ ผมสังหรณ์ใจไว้แล้วว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นเลยติดเครื่องติดตามไว้ที่สร้อยของโย

      “โย...”

      แสงสีแดงเรืองรองจากวงเวทย์บนพื้นสาดส่องไปทั่วห้อง ใจกลางของมันคือร่างของโยที่นอนจมกองเลือดดูแน่นิ่ง ถึงจะยังไม่ตายแต่กลิ่นไอที่สัมผัสได้ก็เบาบางเต็มที...ผมมาช้า ภาพที่เห็นชวนให้รู้สึกใจหายอย่างห้ามไม่อยู่ เหนือร่างนั้นนั้น กรกฏยืนจังก้าอ้าแขนรับไอพลังสีดำทะมึนซึ่งไหลจากทะลักจากร่างโยเข้าหาตัว

      ผมกระโจนใส่ไอ้สารเลวนั่นอย่างโกรธจัดจนเราทั้งคู่กลิ้งไปกับพื้นทำเอาพิธกรรมได้หยุดลง ส่วนข้าววิ่งเข้าไปดูอาการเพื่อนอย่างร้อนรน มันอาศัยจังหวะที่ผมหันไปสนใจโยถีบผมกระเด็นติดเสาจนปูนแตกกระจาย...หึได้แค่นี้เองหรอ ผมยันตัวขึ้นก่อนมองมันด้วยสายตาเย็นเยียบ ในใจตอนนี้คิดเพียงแต่จะฆ่า อยากจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ

      “คิดว่าสายเลือดซานซิโอจะทำให้มึงเก่งงั้นหรอ” ไอ้กรกฏว่าพร้อมพุ่งเข้ามาพร้อมมีดเงินในมือ แต่ผมคว้าคอมันไว้ก่อนจะถึงตัว

      “สวะ ก็คือสวะอยู่วันยันค่ำ” ผมบอกมันพร้อมออกแรงบีบกะให้มันแหลกคามือ “หึ ผ่านพิธีมาตั้งสองรอบทำได้แค่เนี่ย” มันพยายามจะเอามีดแทงผมแต่ผมจับไว้ก่อนจะหักแขนมันทิ้ง จนมีดหล่นลงกับพื้น

      “อ๊ากกกก” มันร้องอย่างเจ็บปวด ผมเหวี่ยงร่างมันลงกับพื้นจนร้าว มันพยายามจะคลานหนีเลยจัดการกระทืบขาข้างหนึ่งของมันจนหักเป็นสองท่อนเรียกเสียงกรีดร้องดังลั่นโถง ดวงตาสีดำคู่นั้นมองผมอย่างหวาดกลัวจับใจ ปกติผมไม่ค่อยเอาจริงเท่าไหร่นักแต่สำหรับมันผมจะทำให้มันเจ็บปวดทรมานแบบที่มันทำกับโย

      “ขอร้องละ...อย่า” ผมมองไอ้กรกฏที่พยายามกระเสือกกระสนหนีผมอย่างสมเพช “อย่า อ๊ากกก” ผมกระทืบขาอีกข้างที่เหลืออยู่ของมัน ตอนนี้ผมโมโหจนแทบคลั่ง...มันต้องเจ็บมากกว่านี้ อยากเห็นมันทรมานมากกว่านี้ ผมขว้าเอามีดของมันที่หล่นอยู่บนพื้น ก่อนเดินไปหามัน

      “ทัวร์นรกให้สนุกนะ ไอ้สารเลว” ว่าแล้วก็จับหัวมันกดลงพื้นแล้วเอามีดเล่มที่มันใช้แทงโยหั่นคอมันจนขาดสะบั้น แต่ผมว่ายังไม่เพียงพอกับมันด้วยซ้ำ

      “พี่รอท!...มาดูไอ้โยก่อนเหอะ” ข้าวตระโกนเรียกดึงสติผมกลับมาก่อนจะเบือนหน้าหนีภาพสยดสยองที่ผมทำ

      พรวด! ผมดึงลิ่มเหล็กออกจากมือโยทั้งสองข้างออก ก่อนประคองร่างนั้นขึ้นมาในอ้อมกอด รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจกับสภาพที่เห็น แผลที่กลางอกดูสาหัส เลือดที่ยังคงไหลออกมาคงไม่ต่างกับนาฬิกาทรายที่นับถอยหลังช่วงเวลาแห่งความตาย ผมรับรู้ได้ถึงลมหายใจแผ่วๆ นั่น ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้ายที่โยยังมีชีวิตอยู่ จนแอบรู้สึกทึ่งในความอึดที่โดนไปขนาดนี้กลับยังไม่ตาย

      “มันจะตายมั้ยพี่” ข้าวหอมถามเสียงสั่น แล้วเริ่มร้องไห้พลางจับมือเพื่อนไว้

      “ไม่!...ผมไม่ยอมให้โยตายหรอก...ไอ้ริค!”  ผมส่วยหน้าปฏิเสธพร้อมหันไปเรียกไอ้เพื่อนรักที่เดินเข้ามาพอดี สงสัยจะเคลียพวกข้างนอกหมดแล้ว สภาพมันมีแค่กางเกงตัวเดียวเพราะพึ่งกลายร่างขย้ำพวกข้างนอกมา

      “ผมจะเปลี่ยนโย...ช่วยเตรียมพิธีให้หน่อย”

      ริคพยักหน้ารับก่อนจะจัดการลบวงแหวนบนพื้นทิ้งแล้วหยิบเอาชอคที่หล่นอยู่แถวนั้นวาดวงเวทย์ขึ้นมาใหม่เป็นดาวห้าแฉกพร้อมเขียนอักขระลงไป เพื่อทำพิธีถ่ายพลัง ใช่แล้วผมจะเปลี่ยนโยให้เป็นแวมไพร์แบบผม ผมบอกให้ข้าวออกไปห่างๆ ก่อนเหลือแค่ผมกับโยที่อยู่ใจกลางวงเวทย์นี้ แล้วไอ้ริคก็เริ่มสวดคาถาที่ผมกับมันร่ำเรียนมา ผมฝังเขี้ยวลงบนคอขาวๆ รับรู้ถึงรสเลือดที่แสนคุ้นเคยสัมผัสลิ้นก่อนถอนออก แล้วกัดข้อมือตัวเองเพื่อดูดเลือดของตัวเองไว้ในปากก่อนจะป้อนมันด้วยจูบให้กับคนในอ้อมกอดผม

      เงียบ!...ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากวงเวทย์รอบกาย หรือว่ามันไม่ได้ผลหรือว่ามันช้าไป ผมมองใบหน้าเนียนนั่นอย่างใจสลาย หรือโยจะตายไปแล้วจริงๆ นี่คือความเสียใจใช่ไหม ผมกอดร่างบางไว้แน่นราวกลับกลัวว่ามันจะหายไป ตอนนี้ผมเข้าใจในความรู้สึกของตัวเองแล้ว ความรู้สึกที่ผมมีต่อโย...ผมควรทำยังไง...โยได้โปรดเถอะ...อย่าพึ่งไป

      นั่นอะไร!...ในขณะที่ผมกำลังสิ้นหวัง จู่ๆ รอยสักที่อกข้างซ้ายของโยกลับเรื่องแสงขึ้นพร้อมกลับร่างในออมกอดที่เริ่มขยับแม้เพียงเล็กน้อยแต่ผมรู้สึกได้

      “เกิดอะไรขึ้น” ข้าวหันไปถามริคอย่างตกใจ คนถูกถามก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาก็ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

      ผมได้แต่มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างงุนงง รอยสักนั่นเรืองแสงอยู่ซักพักก่อนจะจางหายไป พร้อมกับบาดแผลบนร่างของโยที่หายไปเช่นกัน โยยังไม่ตาย...ผมหลุดยิ้มอย่างยินดี เมื่อคนในอ้อมกอดกลับมาหายใจปกติราวกับกำลังหลับอยู่เท่านั้น แต่เหมือนกลิ่นไอที่ผมรับรู้จากโยมันเปลี่ยนไป...ช่างเถอะ  ถึงผมจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตามแต่ผมยินดีที่โยยังไม่ตายซึ่งนั่นมันก็เพียงพอกับผมแล้วในตอนนี้

.................................................
      Yonah Say

      ผมฝัน...ว่าผมกำลังวิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้าหลังบ้าน ถึงผมจะไม่รู้จักบ้านสีขาวหลังใหญ่นี้แต่มันกลับรู้สึกคุ้นเคยเอามากๆ ใครซักคนเรียกผมให้หันไปมอง เขาอุ้มผมขึ้นด้วยรอยยิ้มทั้งที่ใกล้ขนาดนี้แต่กลับมองหน้าเขาไม่ชัดมีแต่เพียงดวงตาสีเท่าคู่นั้นที่มองมาอย่างอบอุ่นในทีแรกก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาจับใจ...ใครน่ะ

      “ไอ้โย...” เสียงไอ้ข้าวร้องเรียกทันปลุกผมขึ้นจากฝัน ผมมองหน้ามันตามันแดงมากเหมือนคนพึ่งร้องไห้มา

      “กูมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ” ผมมองสำรวจรอบๆ นี่มันคอนโดรอทนี่

      “พวกพี่รอทไปช่วยมึงออกมา แต่ตอนนี้เห็นบอกจะไปที่สภาอะไรซักอย่าง”  ไอ้ข้าวบอก
      “งั้นมึงก็รู้แล้วสิเรื่อง...”

      “เออเชี่ย...กูรู้หมดแล้ว” มันว่าก่อนที่ผมจะพูดจบ “ทำไมมึงไม่บอกกูว่ะ กูเป็นเพื่อนมึงนะ” บอกไปมันจะเชื่อผมเหรอ เหอๆ ดูไอ้ตี๋มันทำท่างอลสิครับสิครับ ผมเอื้อมมือไปโบกกระบาลมันที แต่เอ๊ะ...ทำไมผมถึงไม่รู้สึกเจ็บเลยล่ะ      

      “เฮ้ย!...เกิดอะไรขึ้นวะ! ทำไมแผลกูหายไปหมดเลย” ผมมองมือทั้งสองของตัวเองที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ที่หน้าอกก็ด้วย รู้สึกได้ว่าร่างกายปกติดีทุกอย่างไม่มีอาการเจ็บปวดหรือช้ำในเลยแม้แต่น้อย ไอ้ข้าวเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมฟัง ฟังจบก็ได้แต่นั่งอึ้ง รอยสักงั้นหรอ?....ผมลุกพรวดจากเตียงไปส่องกระจกที่ตู้...รอยสักที่อกซ้ายหายไปจริงๆ ด้วย มันอยู่กับผมมาตั้งแต่จำความได้แล้วก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำมัน ถามแม่ก็ไม่เคยตอบจนผมเลิกถามไปเอง

      “แล้วเรื่องไอ้ธีร...พวกพี่รอทจัดการให้แล้วนะ ตำรวจบอกแม่มันว่ามันรถคว่ำตายพร้อมกับฟา เอาศพไปสวดที่วัดแถวบ้าน เดี๋ยวกูพามึงไปงานศพมันพรุ่งนี้” ไอ้ข้าวว่าสีหน้ามันดูสลด นี่ละมั้งคงเป็นเหตุให้มันร้องไห้ตาบวม ผมรู้ว่ามันคงเสียใจไม่แพ้กัน

      “อืม...กูขอโทษนะที่ช่วยมันไม่ได้” ผมว่าเสียงแผ่วพร้อมนั่งลงบนเตียงข้างๆ มัน

      “กูไม่เสียมึงไปอีกคนก็ดีแค่ไหนแล้ว...ฮือ” คราวนี้มันร้องไห้ออกมาเลยครับแถมโผเข้ากอดผมแน่นเลยด้วย ผมลูบหลังมันเบาอย่างปลอบโยน “มึงอย่าทิ้งกูไปอีคนนะ...ฮึก” มันสะอื้นใหญ่เลยทีนี้...โถ ไอ้ขี้แย

      “เออ...ไอ้เตี้ย กูไม่อยู่ใครจะกวนตีนมึง” ผมบอก..พลางกอดมันตอบ ต่อจากนี้ผมต้องเข้มแข้ง ผมยังมีมันแล้วก็มีแม่ที่ต้องปกป้อง...ผมต้องแข็งแกร่งขึ้น...ผมจะฆ่าพวกอมนุษย์เลวๆ ทุกตัวเพื่อชดเชยให้ชีวิตเพื่อนผมที่เสียไป


Talk Talk
[/b]

-ต้องขอประทานโทษด้วยเรื่องธีร...ใจจริงก็อยากให้อยู่ต่ออีกซักนิด รู้สึกสองบทที่ผ่านมาเนื้อหาช่างหนักมาก คิดว่าควรหาอะไรชิวๆ มาเบรกอารมณ์บ้างเนอะ แอบสงสารโยรับบทหนักเกิน :hao5:

-ขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน เราจะพยายามอย่างยิ่งที่จะมาอัพอย่างสม่ำเสมอไม่ให้ขาดช่วงจนเกินไป :fire:


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao5: โล่งอกน้อ.... ธีร์ไปแล้ว เสียใจกับโยและข้าวด้วย

ยินดีต้อนรับแวมไพร์หมาดๆที่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่เรายังสงสัยเรื่องรอยสักของโยนะ มันเหมือนตราผนึกมากกว่ารอยสักนะ เช่นเดียวกับสร้อยที่น่าจะได้รับทั้งคู่มาจากใครสักคน อาจจะพ่อหรือว่าคนในความฝันของโย
ยังไม่ชัวร์เลยว่าตกลงโยเป็นแวมไพร์หรืออะไรที่มากกว่านั้น  รอพี่รอทกลับมาปลอบนะ อิอิ

และสุดท้ายขอให้ทัวร์นรกให้สนุกนะพวกพรายและยัยฟา
สนุกมากค่ะเป็นกำลังใจให้คนเขียน

 :pig4:   :L2: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2015 10:43:29 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :z2:ขอแบบชิวๆส่งข้าวเข้าปากหมาด่วน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PaTtO

  • อาซามิซามะ.. ทาคาบะ4ever
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
โยดูมีอะไร
รอยสักหายไปไหน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โยเป็นทายาทของอะไร

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
สรุป ยังคงไม่รู้ว่าน้องโยเป็นตัวอะไร

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
โยนาห์ต้องมีอะไรกับรอยสักแน่ๆ รออ่านตอนใหม่คับ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
นายเป็นตัวอะไรอะ โยนาห์ :katai3: :hao7:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:เข้ามาติดตามด้วยคนจ้า :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
โยต้องมีอะไรพิเศษ  :hao3:

ติดตามต่อไแ

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อ๋อยยยยย ไอ้เราก็จิ้นพี่ริคกับธีร ไม่เป็นไร เราจิ้นพี่ริคกับน้องข้าวต่อก็ได้
น้องโยจะองค์ลงแล้วใช่มั้ย จะกลายเป็นคู่หูคู่รักล่าอมนุษย์กับรอทแล้วใช่ป่ะ อิอิ
ติดตามนะคะ พึ่งอ่านนิยายแนวนี้ครั้งแรก สนุกดีค่ะ ชอบ

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 11 ความรู้สึกที่ชัดเจน
[/b]

   
      Yanah Say

      ผมกับไอ้ข้าวนั่งเล่นกันอยู่ในห้องจนเย็นพวกรอทก็กลับมา ไอ้ริคบ่นหิวใหญ่เลยครับลำบากเชฟข้าวหอมโชว์ฝีมือเลยเย็นนี้ ในขณะที่รอไอ้เพื่อนรักทำอาหารอยู่นั่น เราก็มานั่งคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

      “สรุป ตอนนี้ผมกลายเป็นแวมไพร์ไปแล้วใช่มั้ย?” ผมถามรอทหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ

      “มันก็ไม่เชิง...เพราะพิธีถ่ายพลังมันไม่สำเร็จ ผมไม่ได้เปลี่ยนนายให้เป็นแบบผม” รอทอธิบาย “แต่นายเป็นแวมไพร์อยู่แล้ว”

      “แล้วทำไมถึงไม่เคยรู้สึกอยากงาบคอใครเลยละ” ผมถามอย่างงุนงง ไม่มีส่วนไหนของผมที่ดูเหมือนแวมไพร์เลยซักนิด

      “แค่ครึ่งเดียวน่ะ” ริคอธิบายบ้างพร้อมยื่นเอกสารการตรวจมาให้ผม “เมื่อคืนผมลองเอาตัวอย่างเลือดของนายไปตรวจ...DNA ของนายมีสองแบบ ทั้งแบบของแวมไพร์และมนุษย์ผสมกันอยู่ ซึ่งมันแปลกมากๆ” ผมเพิ่งจะเห็นความเป็นหมอจากริคก็วันนี้ละ

      “แปลกยังไง!?”

      “ก็ในกรณีที่พ่อกับแม่คนละเผ่าพันธุ์ลูกจะไม่ใช่เลือดผสมแต่จะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งไม่เหมือนพ่อก็เหมือนแม่ไปเลย แบบนายผมก็เพิ่งเคยเจอนี่ละ เดาว่านั่นเป็นเหตุว่าทำไมกลิ่นอายจากนายจึงดึงดูดพวกอมนุษย์ตนอื่นๆ” ริคร่ายยาว

      “แล้วเรื่องรอยสักของผมล่ะ” รอยสักที่อยู่กับผมมาตั้งแต่จำความได้

      “เดาว่ามันใช้สะกดส่วนที่เป็นแวมไพร์ของนายไว้ ทำให้นายเหมือนมนุษย์ปกติ ซึ่งเรื่องนั้นต้องขอเวลาไปค้นดูซักพักละเกี่ยวกับตราสัญลักษณ์นั่น” ผมพยักหน้ารับ ผมเป็นเลือดผสม แม่ผมเป็นมนุษย์แสดงว่าพ่อผมก็เป็นแวมไพร์นะสิ...ถึงว่าแม่ไม่เคยเล่าเรื่องพ่อให้ฟังเลย

      “ถ้ารู้เกี่ยวกับรอยสักของผม เป็นไปได้มั้ยว่าผมจะรู้ว่าพ่อผมเป็นใคร” ผมถามขึ้นหลังจากนึกอยู่นาน

      “อาจจะ...เพราะแต่ละเผ่าพันธุ์แต่ละตระกูล จะมีภูมิเวทย์เฉพาะของตัวเอง” รอทอธิบายบ้าง “บางทีก็ใช้ตราสัญลักษณ์ของตระกูลในการประกอบพิธี นายพอจะจำรอยสักตัวเองได้มั้ยล่ะ” ผมลุกขึ้นไปหยิบกระดาษกับดินสอมาวาดตรานั้นลงไป ผมจำมันได้แม่นเลยล่ะส่องกระจกเห็นมามาสิบเก้าปีเต็ม

      “ไปช่วยไอ้ตัวเล็กทำกับเข้าดีกว่า” ริคว่าพลางลุกไปช่วยไอ้ข้าวที่โซนครัว...อ้อผมลืมบอก ว่าสองคนนี้รู้จักกันมาก่อนครับ ริคเป็นหมอที่โรงพยาบาลแถวนี้ซึ่งไอ้ข้าวมันพาอ่าม่าไปบ่อยๆตั้งแต่มัธยมแล้วก็เลยดูคุ้ยเคยกับไอ้แวร์วูฟนั่นดี เห็นเรียกว่า พี่หมอๆ โลกมันกลมเนอะว่ามั้ย

      เรานั่งกินข้าวกันซักพัก วันนี้ไอ้ข้าวมันทำ ต้มยำ หมูทอด ผัดผัก และ ยำหมูยอ...ดูจากเมนูอาหารแล้วคงจะอึ้งไปกับวัตุดิบในตู้เย็นห้องรอทไปเลยสิ อาหารเต็มโต๊ะแบบนี้ก็มีแต่ผมกับไอ้ข้าวละครับที่กินมันทุกอย่าง ริคก็เขี่ยกินแต่เนื้อ(สุนัขเป็นสัตว์กินเนื้อละมั้ง) ส่วนรอทชิมดูทุกอย่างนั้นแหละแต่ท้ายที่สุดก็เดินไปหยิบถุงเลือดในดู้เย็นมาเทใส่แก้วกิน ก่อนะจะแบ่งใส่อีกแก้วแล้ววางตรงหน้าผม

      “ไม่กินอะ” ผมบอกพลางมองของเหลวสีแดงๆ ในแก้วนั้นแล้วพาลคอแห้ง

      “กินๆ ไปเถอะมันจะช่วยให้พื้นตัวไว” รอทว่าพลางดันแก้วเข้ามาใกล้ ผมยกมันขึ้นดื่ม...เอิ่ม รสชาติไม่เลวเท่าไหร่แต่กินข้าวอร่อยกว่านะผมว่า ไอ้ข้าวหอมมองผมแบบแหยงๆ ...มองไมวะเดะงาบคอแม่ง..(ดุจัง 555) หลังจากกินเสร็จรอทโดนผมไล่ไปล้างจาน ส่วนไอ้ข้าวขอตัวกลับเพราะดึกแล้วโดยมีริคอาสาไปส่ง ผมว่าสองคนนี้มันแปลกๆ วะ



      ผมเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเก็บเอาของทุกอย่างยัดลงกระเป๋า ทั้งสมุดเสก็ท สี และเสื้อผ้า และกำลังจะเก็บโน๊ตบุค

      “นายจะไปไหน” รอทยืนพิงประตูห้องมองผมนิ่งๆ

      “กลับไปอยู่หอ” ผมตอบ “คดีมันจบไปแล้ว นายก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผมแล้วล่ะ เพราะนายไม่ได้คิดจะใช้ผมล่อพวกบีสแต่ทีแรกอยู่แล้วนิ ผมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป” ทั้งที่พูดไปแบบนั้นแต่ทำไมผมถึงรู้สึกไม่ดีวะ เคว้งคว้างสุดๆ

      “จำเป็นสิ...” รอทว่าพลางดึงกระเป๋าออกจากมือผมแล้วโยนกลับเข้าไปในตู้ “นายจะทำยังไงกับพวกอมนุษย์ที่เข้ามาทำร้ายนาย” มันถามเสียงเข้มเลยครับ

      “ผมไม่ใช่มนุษย์แล้วนิ ก็น่าจะดูแลตัวเองได้ล่ะ” ตอบแบบไม่มั่นใจเลยครับ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง

      “โย...ถ้าเหตุการณ์แบบเมื่อคืนมันเกิดขึ้นอีกละ” ร่างสูงว่าพลางเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงผมเข้าหาตัว “ถ้าไม่มีปาฏิหารใดๆ เกิดขึ้นอีก แล้วนายตายไปจริงๆ ละ” ดวงตาสีฟ้านั่นมองผมอย่างเจ็บปวด สีหน้าหมอนั่นดูกังวลและเป็นห่วงทำเอาหัวใจผมวูบไหวไปกับมัน

      “ขอร้องล่ะอย่ามองแบบนั้น” ผมรับรู้ความรู้สึกลึกซึ้งจากแววตานั่นจนอดไม่ได้ที่สัมผัสใบหน้าคมคายของคนเบื้องหน้า

      “อยู่กับผมนะโย...ผมจะปกป้องนายเอง” สายตาอ้อนวอนนั้นมันทำให้ผมใจอ่อน

      ผมโน้มคอร่างสูงลงมาจูบ ซึ่งหมอนั่นมีท่าทีแปลกใจเล็กน้อยที่ผมเริ่มก่อนแต่ก็จูบตอบแต่โดยดี...นี่คือคำตอบของผม...ผมอยากอยู่กับคนๆ นี้ ผมดันรอทลงนอนราบกับเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วยังคงจูบอ้อยอิ่งอยู่แบบนั้น เผลอกัดริมฝีปากบางๆ นั่นอย่างหมั่นเขี้ยว รับรู้รสเลือดจางๆ อา...มันช่างหอมหวานจนเผลอสอดลิ้นเข้าไปในโพรงบางชื้นนั้นซึ่งเจ้าตัวก็ตอบสนองมันเป็นอย่างดีจนร่างกายมันเริ่มร้อนขึ้นมา

      “อื้อ....” ผมถอนริมฝีปากออกเมื่อคนข้างล่างมือเริ่มไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้แผ่นหลังและสะโพกผมไม่หยุด

      “ยั่ว...หรอ” รอทมองผมยิ้มๆ ก่อนจะพยุงตัวขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงโดยมีผมนั่งคร่อมอยู่บนตักรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังตื่นตัวของคนข้างล่างที่ดันบั้นท้ายผมผ่านกางเกงหนาๆ นั่น ทำเอาใจผมเต้นรัวเลยทีนี้

      “อืม..อยู่นิ่งๆ ไปเหอะน่า เดี๋ยวทำเอง” นี่ผมพูดอะไรไปเนี่ย!...

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเตือนให้รู้ว่าชีวิตนั้นช่างแสนสั้นผมควรจะซี่อสัตย์ความรู้สึกตัวเอง ผมจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวออกด้วยมือที่สั่นเทา...ก็มันตื่นเต้นนิ...โดยมีรอทช่วยอีกแรง ก่อนโยนมันไปข้างเตียง แล้วถอดเสื้อของรอทออกเช่นกัน ผมลูบไล้แผ่นอกกว้างๆ นั้นอย่างถูกใจ...เริ่มรู้สึกตัวเองโรคจิต...  ในระหว่างที่ผมกำลังปลดตะขอกางเกงยีนของคนข้างล่างออกช้าๆ มือหนานั่นก็ลูบไล้ไปทั่วร่างพาลให้อารมณ์มันขึ้น ผมรั้งกางเกงในสีขาวนั่นลงก่อนจะจับเอาท่อนเนื้อที่กำลังแข็งขืนนั่นออกมาแล้วใช้มือรวบของเราทั้งคู่พร้อมขยับ

      “อา...รอท” ผมหลุดครางอย่างเสียวซ่านเมื่อน้องชายต่างขนาดของเราเสียดสีกัน ฟังจากเสียงหายใจหนักๆ นั่นเดาว่ารอทคงเสียวไม่แพ้กัน มือของผมยังคงคลึงส่วนกลางของเราทั้งคู่อยู่อย่างนั้นส่วนมือของรอททั้งสองกำลังเค้นยอดอกผมอย่างมันมือพลางไซร้คอไปด้วย ผมมีอารมณ์มากๆ ตอนนี้ มากจนรู้สึกเบลอ...ต้องการคนๆ นี้มากขึ้นเรื่อยๆ...ผมมองลึกลงไปในดวงตาสีฟ้านั่นอย่างหลงไหนก่อนจะก้มลงจูบเจ้าของมันอย่างดูดดื่ม

      “โย...ผมไม่ไหวแล้ว” มือหนาคลึงหนักที่บั้นท้ายผมบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวต้องการอะไร รอทเอื้อมมือไปหยิบขวดเจลที่หัวเตียงมาเทลงบนมือและแก่นกายของตัวเองซึ่งถูกผมรวบไว้กับของผม

      “อ๊ะ...” นิ้วเรียวที่ชื้นไปด้วยเจลค่อยๆ สอดเข้ามาในช่องทางด้ายหลังมันเจ็บไม่มากแต่เสียวจนสะท้าน ก่อนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนครบสาม แรกที่เริ่มขยับมันรู้สึกอึกอัดแปลกๆ แต่พอเริ่มชินกลับรู้สึกดี ผมรับรู้ว่ารอทน้อยในมือนั้นแข็งขืนเต็มทน สีหน้ารอทดูอดกลั้นเอามากๆ คงไม่อยากให้ผมเจ็บแบบครั้งที่ผ่านมาจึงพยายามอดทนแต่ผมก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

      ผมดันมือรอทออกก่อนจะยกสะโพกขึ้นพร้อมจับท่อนเนื้อลำใหญ่นั่นมาจ่อที่ช่องทางด้านหลังแล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงไป

      “อือ...เจ็บ” ผมหลุดครางออกมาอย่างทรมาน มันเจ็บมากเลยครับถึงจะน้อยกว่าครั้งก่อนๆ เอาเถอะเจ็บกว่านี้ผมก็เจอมาแล้วชั่งมัน

      “ไม่ต้องฝืน...อ๊ะ...ตัวเองก็ได้นะ” รอทบอกเสียงพร่า

      “หุบปากน่า...อ๊าห์” ผมตัดสินใจกดบั้นท้ายลงไปในทีเดียวทำเอาน้ำตาร่วงเลยครับ ทั้งเจ็บทั้งจุก อึดอัดไปหมดแต่ก็เสียวมากๆ ด้วย “สุดแล้ว” เหมือนบอกตัวเอง

      “อืม...เก่งมาก” เสืองทุ้มครางต่ำก่อนจูบหน้าผากผมไปทีอย่างให้กำลังใจ “วันนี้นายน่ารักจัง” คำชมทำเอาผมน่าแดงหนักเลยครับ ผมดึงมือหยาบๆ นั่นขึ้นมาทาบอกอยากให้หมอนี่รู้จังว่าตอนนี้หัวใจผมมันเต้นแรงแค่ไหน “พร้อมหรือยัง” เสียงทุ้มกระซิบถาม ผมพยักหน้ารับ

      “อ๊ะ...อาห์” ผมค่อยๆ ออกแรงขย่มลงบนแก่นกายนั่น รอทจับสะโพกประคองช่วยผมอีกแรง พร้อมเด้งสวนในทุกครั้งผมที่ผมทิ้งน้ำหนักลง ท่านี้เข้าลึกมากจนผมผวาเกาะไหล่แกร่งนั้นไว้เมื่อมันกระแทกโดนจุดสำคัญทำเอาเสียวสะท้านไปทั้งร่าง เราเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ แต่ขาผมมันหมดแรงที่จะพาตัวเองไปให้สุด “รอท...มะ...ไม่ไหวแล้ว”

      ร่างแกร่งจับผมพลิกลงนอนราบกับเตียงก่อนจะจับขาทั้งสองข้างพาดบ่าแล้วโถมแรงเข้ามาหนักๆ มันเจ็บและเสียวมากๆ รู้สึกเหมือนใจจะขาดหายใจแทบไม่ทัน ในหัวสมองมันว่างเปล่าไปหมด

      “ซี๊ดด...ระ....รอท...อ๊ะ...อ๊า...” เสียงผมครางดังจนแทบจะกรี๊ดร้องปนไปกับเสียงเนื้อกระทบกันและเสียงครางต่ำของรอท ผมขย้ำผ้าปูที่นอนแน่นจนแทบขาดคามือเพื่อระบายอารมณ์ แล้วความอดทนก็สิ้นสุดลงตรงนี้ ผมกระตุกเกร็งไปทั้งร่างรู้สึกชาวาบก่อนจะปล่อยน้ำรักสีขุ่นจะพุ่งออกมาจนเลอะหน้าท้องทั้งของผมและรอท...รู้สึกดีจัง

      “อือ...มันแน่น” มันกดกระแทกแก่นกายเข้ามาเน้นๆ ก่อนจะเกร็งแล้วปลดปล่อยของเหลวนั้นเข้ามาในตัวผมเต็มๆ

      รอทฟุบลงบนไหล่แล้วนิ่งอยู่แบบนั้นก่อนจะจูบผมอย่างดูดดื่ม ผมรับรู้ถึงแก่นกายที่ยังคาอยู่เริ่มกลับมาผงาดอีกครั้ง

      “รอท...!” ผมร้องอย่างตกใจ เมื่อมันจับขาผมเกี่ยวเอวไว้ตั้งท่าจะลุยอีกรอบ

      “ผมขออีกรอบนะ” รอทว่าพลางสบตาผมอย่างอ้อนวอน

      “เหนื่อย!...ไม่ไหวแล้ว” ผมปฏิเสธเสียงแข็งเลยครับ

      “นะครับ...ที่รัก”...อ๊าก!!!!! มันเรียกผมที่รัก เขินสิ เขินมากมาย เขินจนไม่กล้าสบตาสีฟ้าคู่นั้น เลยได้แต่พยักหน้ารับมันไป กิจกรรมเข้าจังหวะดำเนินขึ้นอีกครั้งหากแต่ไม่ได้เร่าร้อนรุนแรงเท่าครั้งแรก ทุกอย่างเป็นไปอย่างเชื่องช้าและอ่อนโอน อาจเพราะรอทรับปากแล้วว่าแค่รอบเดียวจึงอยากจะยื้อช่วงเวลาแสนหวานนี้ให้ยาวนาน
      


Talk Talk
[/b]

-Yonah on top ฮ่าๆ :jul1: อย่างที่บอกว่าอยากจะพักบ้างเครียดมาหลายบท จัดไปพอหอมปากหอมคอ

-ใจจริงเราก็แอบกลัวนะว่าเนื้อเรื่องเรามัน ซับซ้อนมากไปมั้ยกลัวคนอ่านจะสับสน จนพลอยไม่สนุกไปด้วอยะ :hao4:

-ก็ยังขอบใจมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลายที่เข้ามาให้กำลังใจ อ่านทีไรก็ชื่นใจ มีแรงทำต่อไปเรื่อยๆ รักทุกคนที่สุดเลย :mew1:

      

      

      
      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2017 10:28:53 โดย l3loodl2o5e »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด