ตอนที่ 6ผมมาถึงจังหวัดเชียงรายในเช้าตรู่ของวันถัดมา พี่พ่ายพาผมมาที่ออฟฟิศของไซต์งานที่แม่สายก่อนเพื่อให้คนนำทางพวกผมไปที่บ้านพัก พนักงานฝ่ายบุคคลของไซต์งานที่นี่ได้หาบ้านเช่าเตรียมไว้ให้แล้ว แถมข้าวของที่ผมส่งมาก่อนก็อยู่ที่นั่นแล้วด้วย ผมพักอยู่กับลูกน้องของพี่พ่ายอีกสองคน แต่ที่น่าดีใจยิ่งกว่านั้นคือ พี่พ่ายก็อยู่บ้านหลังเดียวกันด้วย คงเพราะบ้านเช่าที่ใกล้ๆ ด่านแม่สายหายากมาก ที่บ้านพักของพวกผมก็ไกลจากด่านพอสมควรแล้ว บ้านเช่าก็เลยหาได้แค่สามหลัง เป็นบ้านเดี่ยว สามห้องนอนสองห้องน้ำ หนึ่งห้องครัวและหนึ่งห้องเก็บของ มีพื้นที่รับแขกเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ ประตูบ้านและโรงจอดรถขนาดจอดรถได้หนึ่งคันอยู่ข้างๆ ตัวบ้านด้วย บ้านอีกสองหลังก็เป็นบ้านของลูกน้องพี่พ่ายที่มาถึงก่อนพวกผม
มาถึงที่บ้านก็เจอกับลูกน้องของพี่พ่ายสองคน คนหนึ่งตัวสูง ผิวคล้ำ หน้าตาคมเข้มเหมือนคนใต้ แต่ความจริงเป็นคนจังหวัดสุโขทัย อายุ 31 ปี ชื่อว่าพี่เอ เรียกว่าเป็นมือขวาของพี่พ่ายก็ว่าได้ พี่เอบอกว่าเป็นเพื่อนกับพี่พ่ายมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี จบมาก็มาทำงานบริษัทของพ่อพี่พ่าย ส่วนอีกคนรูปร่างท้วม ตัวขาว ตาตี่อย่างไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีเชื้อจีนแหงๆ เขาชื่อพี่เกม เป็นเพื่อนสมัยมัธยมกับพี่เอ พี่เกมทำงานในตำแหน่งอินทีเรียดีไซเนอร์ ล่วงหน้ามาทำโปรเจ็คที่นี่ได้หลายเดือนแล้ว
ผมยกมือสวัสดีพี่ทั้งสองคนที่ยิ้มแย้มทักทายอย่างเป็นกันเอง
“น้องเพี้ยนนอนห้องถัดจากพวกพี่นะครับ ส่วนห้องนอนใหญ่ยกให้ป๋าไป” พี่เอบอก พร้อมกับมาช่วยผมยกกระเป๋าเสื้อผ้า
“ป๋า? ใครเหรอครับ” ผมพอจะรู้ว่าเป็นพี่พ่าย เพราะเคยได้ยินลูกน้องของเขาเรียกอย่างนี้เหมือนกัน แต่ก็ทำทีถามไปอย่างนั้น
“ก็ไอ้หน้านิ่งที่ยืนข้างๆ น้องนั่นไง พวกพี่เรียกมันว่าป๋าก็เพราะว่า...”
“พูดมากไอ้เอ” พี่พ่ายตัดบทแล้วเดินหนีเข้าห้องนอนใหญ่ พี่เอยักไหล่แล้วหันมายิ้มกว้างให้ผม
“มันก็อย่างงี้ เข้าสังคมไม่เก่ง แต่ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ ไปครับ พี่พาไปดูห้อง”
พี่เอเดินนำผมมาที่ห้องนอนขนาดเล็กของตัวบ้านพลางชี้ไปที่ประตูติดๆ กันแล้วบอกว่าเป็นห้องนอนของเขากับพี่เกม
“พี่กับไอ้เกมช่วยกันย้ายของของน้องเพี้ยนมาไว้ในห้องทั้งหมดแล้วนะ จัดของตามสบายเลยนะครับ ถ้าเสร็จแล้วก็ออกมากินข้าวกันนะ ไอ้เกมกำลังจะทำกับข้าว อีกเดี๋ยวคงเสร็จ”
“ขอบคุณมากครับพี่”
พี่เอกับพี่เกมจำเป็นต้องนอนห้องเดียวกัน คงเพราะคิดว่าผมกับพี่พ่ายไม่น่าจะอยู่ห้องเดียวกันได้ แต่จะว่าไป อย่างพี่พ่าย...อยู่กับใครไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ เขาคงมีโลกส่วนตัวของเขาเอง
ผมจัดของเสร็จก็ออกมานั่งที่โซฟารับแขกข้างๆ พี่พ่ายที่กำลังอ่านเอกสารอยู่
“เพิ่งมาถึงก็จะทำงานเลยเหรอครับ”
“...”
“พี่พ่ายจัดของเสร็จแล้วเหรอ ถ้ายังไม่เสร็จผมไปทำให้นะ”
“...”
“คุยกับผมหน่อย”
“ไม่เห็นเหรอว่าผมกำลังทำอะไร” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ แถมความห่างเหินระดับเจ้านายกับลูกน้องแบบนี้ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
“ก็เห็น แต่อยากคุยด้วย ผมดีใจนะที่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกับพี่”
“...”
“พี่พ่าย...” ผมกำลังจะยื่นมือไปสัมผัสกับใบหน้าของเขา แต่เสียงพี่เอก็ดังขึ้นมาจากในครัวซะก่อน
“ป๋า มากินข้าว อ้าว น้องเพี้ยน มาครับๆ กับข้าวเสร็จพอดีเลยนะ มาจัดงานต้อนรับเล็กๆ กันดีกว่า” พี่เอส่งยิ้มมาให้ แม้เขาจะท่าทางเหมือนโจร แต่ก็เป็นคนดีมากครับ ตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ
พี่พ่ายวางเอกสารแล้วเดินนำเข้าห้องครัวไปก่อน ผมมองตามเขาแล้วลุกเดินตามไปบ้าง
ในห้องครัวมีโต๊ะกินข้าวขนาดกลาง พร้อมเก้าอี้อีกหกตัว บนโต๊ะมีอาหารที่พี่เกมทำวางเรียงกันอยู่สามสี่จาน ผมเข้าไปช่วยพี่เกมยกจานข้าวมาวางไว้บนโต๊ะสำหรับทุกคนด้วย ส่วนพี่เอก็กำลังเอาเบียร์ออกมาจากตู้เย็น มีพี่พ่ายคนเดียวที่นั่งเป็นคุณชายอยู่ตรงหัวโต๊ะ
“พี่ทำแต่ของที่ไม่เผ็ดนะ ไม่งั้นป๋ามันกินไม่ได้ เพี้ยนกินได้ใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว”
ทั้งพี่เอและพี่เกมเป็นคนดี แถมยังเข้าสังคมเก่ง พวกเขาพูดเก่งกันมาก เล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังแถมยังตลกสุดๆ ด้วย ทำให้ผมไม่อึดอัดเลย แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมได้มาใช้ชีวิตอยู่กับคนอื่นที่เพิ่งรู้จักกันก็ตาม กับข้าวที่พี่เกมทำก็อร่อยมากด้วย ขนาดพี่พ่ายที่เป็นคนเรื่องมาก ยังไม่มีพูดติสักคำ เอาจริงๆ ผมดีใจที่ได้มาเห็นตอนเขาอยู่กับเพื่อนๆ ก็ดูปกติดีนะครับ ทั้งๆ ที่ไม่เคยนึกด้วยซ้ำว่าคนอย่างพี่พ่ายจะมีเพื่อน เขาไม่ใช่คนพูดมากก็จริง แต่ก็โต้ตอบกับเพื่อนของเขาได้อย่างถึงพริกถึงขิง เวลาหัวเราะ...ก็...ดูดีมากเลย
“พี่เกม ทำไมถึงเรียกพี่พ่ายว่าป๋าล่ะครับ” พี่เกมที่กำลังยกเบียร์ขึ้นจิบ มองหน้าผมด้วยความแปลกใจ ไม่รู้ว่าแปลกใจอะไร แต่ก็ยอมตอบคำถาม
“เพราะอะไรวะไอ้เอ กูเหมือนจะลืมเหตุผลไปนานละ เอ...เพราะไอ้พ่ายมันชอบเลี้ยงเด็กรึเปล่านะ”
“ไอ้เกม หุบปากได้ละ” พี่พ่ายบอกเสียงนิ่ง แล้วยกเบียร์ขึ้นดื่มไปอึกใหญ่
“หมายถึงอะไรเหรอครับ ที่ว่าเลี้ยงเด็ก...ผู้หญิง...เหรอครับ”
“ก็ทำนองนั้น ไอ้นี่เห็นนิ่งๆ แต่หญิงเพียบนะครับน้อง อย่าได้ประมาทมัน เพราะมันหื่นไม่เปิดเผย แต่หลังๆ มานี้มึงเลี้ยงไว้กี่คนวะ สองคนป่ะป๋า” พี่เอคงเริ่มเมาแล้ว ถึงได้เล่าอะไรออกมาแบบไม่มีเบรก พี่พ่ายนี่แผ่ออร่าทะมึนออกมาให้เห็นเลย
“หญิงสองชายสาม ส่วนผู้ชายน่ะแค่สองขวบครึ่งเอง” พี่เกมเสริม ส่วนผมนี่หูผึงทันที มีผู้ชายด้วยเหรอ ก็ไหนว่าเกลียดเกย์...เอ...หรือพี่พ่ายจะเคยบอกแค่ว่าเกลียดเกย์โรคจิตอย่างผมกันนะ
“ผู้ชายนั่นลูกกูไอ้ห่า” สุดท้ายพี่พ่ายก็หลุดมาดจนได้
แต่เดี๋ยว...ลูกเหรอ!
ผม...ควรใจเย็นๆ ไว้ อาจจะเป็นเด็กที่เขารับมาเลี้ยงก็ได้ ก็เขายังไม่มีประวัติแต่งงานเลยนี่ครับ พี่กิ๊ฟก็ไม่เห็นเล่าเลยว่าพี่พ่ายเคยคบใครเป็นจริงเป็นจังแล้ว
“อ่า...ใช่ๆ ลูกชายฝาแฝดของมึง ที่ก็ไม่รู้ว่าแม่เป็นใคร ตกลงมึงจำหน้าแม่เด็กได้ยังวะ” พี่เอถาม
“ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
“แม่ของลูกไม่สำคัญแล้วอะไรที่สำคัญกับมึงห้ะป๋า งานเหรอ หรือเงิน” พี่เกมที่ซัดเบียร์ไปหลายกระป๋องเริ่มเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแม่ของลูกพี่พ่าย
ถ้าอย่างงั้น...เขาก็ไม่ได้รับมาเลี้ยง แต่เป็นลูกของเขาจริงๆ น่ะเหรอ
“แล้วตอนนี้ลูกของพี่อยู่ที่ไหนเหรอครับ” ผมถามแล้วมองสบตากับพี่พ่าย แต่เขาไม่ตอบ พี่เอก็เลยตอบให้แทนว่าอยู่กับพ่อของพี่พ่ายที่กรุงเทพ
“แล้วแม่เด็ก...”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” พี่พ่ายบอกแค่นั้นก็ลุกออกไป พี่เอกับพี่เกมหันมาปลอบผมว่าพี่พ่ายก็เป็นอย่างนั้นเอง อย่าไปใส่ใจ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเดินตามเขาออกจากห้องครัว พี่พ่ายไม่ได้อยู่ที่โถงรับแขก เพราะอย่างนั้นผมถึงได้ตามไปที่ห้องนอนของเขา
ห้องนอนของพี่พ่ายเป็นห้องที่กว้างที่สุดในบ้าน เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ทุกอย่างก็เป็นระเบียบ ผ้าปูที่นอนสีทึบเป็นสีเดียวกับผนังห้อง ผมเดินไปหาพี่พ่ายที่กำลังยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า
“กำลังจะอาบน้ำเหรอครับ”
“...”
“คุยกับผมก่อนนะ”
“มีอะไรก็ว่ามา”
“พี่มีลูกแล้วจริงๆ เหรอ” ผมถามพลางสอดมือเข้ากอดเขาจากทางด้านหลัง
“อืม”
“อีกคำถามได้ไหม” ผมจูบเบาๆ ลงบนหลังคอของเขา แต่เขาก็นิ่ง ไม่ได้ผลักออก กลิ่นเบียร์และกลิ่นน้ำหอมที่ลอยออกจากตัวเขาทำให้ผมกอดรัดเขาแน่นขึ้น
“ตอนนี้...ไม่มีใครอยู่ข้างๆ พี่ใช่รึเปล่าครับ” ถึงมี...ผมก็ไม่สนหรอก แค่ถามให้ดูเป็นคนดีเท่านั้นเอง
“อืม ไม่มี”
“ดีใจจัง ผมยังมีโอกาสอยู่สินะครับ”
พี่พ่ายไม่ตอบ ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องเงียบ ผมยิ้มให้กับตัวเองแล้วขยับไปยืนเผชิญหน้ากับผู้ชายที่กำลังมีทีท่านิ่งเฉยอยู่ในตอนนี้
“ออกไป”
“กลัวเพื่อนรู้เหรอครับว่าเราสนิทกัน”
“กูไม่เคยสนิทกับมึง”
“อย่าปากแข็งสิครับพี่”
“ออกไปก่อนที่กูจะโมโห”
“ผมอยากอาบน้ำให้”
เขาบีบคางผมแรงๆ แต่ผมก็พยายามยิ้มให้ ผมเชื่อว่ารอยยิ้มมักจะทำให้คนที่กำลังโมโหจนแทบบ้าพ่ายแพ้ได้เสมอ...
“ให้ผมอาบให้นะครับ ผมอยากปรนนิบัติพี่”
“พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อ”
เขาบอกเสียงห้วน ยอมปล่อยมือออกจากคางผม ผมยิ้มกว้างแล้วเข้าไปจูบคางเขาเบาๆ เลยโดนทึ้งหัวกลับมา
“รุนแรงจัง แต่ผมชอบนะ”
พี่พ่ายแยกเขี้ยวใส่ แต่ผมก็แค่หัวเราะแล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา ในขณะที่เขายืนนิ่งๆ ให้ผมได้ปลดกระดุมออกทีละเม็ด
อ่า...ร่างกายเขานี่มัน...น่าหลงใหลจริงๆ
พอไร้เสื้อเชิ้ต ทั้งไหล่กว้าง แผงอกกำยำ หน้าท้องเป็นลอนสวยและเอวที่ไร้ไขมันก็เผยออกมาสู่สายตาผม ผมไล้มือไปจนทั่ว ในขณะที่พี่พ่ายจ้องผมด้วยสายตาดุดันหลังแว่นตากรอบดำของเขา
“ขอผมสัมผัสได้ไหม... แล้วหลังจากนั้น พี่จะตบตีผมยังไง...ก็ได้ทั้งนั้น”
พี่พ่ายพยักหน้า ทำให้ผมเริ่มใช้ลิ้นของตัวเองสำรวจผิวเนื้อของเขา ทุกที่ที่สัมผัสก็เป็นกลิ่นกายที่ผมชอบ ยิ่งยอดอกของเขา ผมยิ่งชอบเล่นกับมันมาก เพราะมันทำให้ผมได้ยินเสียงครางต่ำๆ ของพี่พ่าย แม้แต่ตัวผมเองก็ยังหอบหายใจด้วยความต้องการที่กำลังพุ่งขึ้นสูง ผมเริ่มปลดเข็มขัดของเขา ส่งมือเข้าไปลูบไล้สิ่งที่กำลังตื่นตัวภายในนั้น เขาดันผมไปจนชิดผนังด้านหลัง มีมือของเขาค้ำยันทั้งสองข้าง ผมรัวลิ้นที่ยอดอกเขามากยิ่งขึ้น ส่วนมือข้างหนึ่งก็รูดท่อนกลางลำตัวที่แข็งขืนของเขาขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ใช้ปลายนิ้วของมืออีกข้างบี้ส่วนปลายที่กำลังมีน้ำเหนียวๆ ปริ่มออกมา
“หันหลัง” เขาสั่งเสียงพร่า ชักกางเกงของผมลงไปจนถึงเข่า ผมกางขาออกเล็กน้อยแล้วหันไปส่งยิ้มให้เขา
“เข้ามาสิครับพี่”
แม้จะไม่เคยให้ใครได้เข้าไปมาก่อน แต่สำหรับพี่พ่ายแล้ว...ผมให้ได้ทั้งนั้น
เขาส่งส่วนปลายมาถูไถบริเวณปากทางเข้า น้ำเหนียวๆ นั้นเปรอะไปทั่วจนผมรู้สึกได้ ผมยื่นมือไปสัมผัสของตัวเอง ลูบไล้มันในระหว่างที่พี่พ่ายกำลังพยายามเข้ามา แต่สุดท้ายเขาก็หยุดชะงักกลางครัน
“ถุงยาง”
“ผมไม่มี”
แค่เพียงเท่านั้น เขาก็เหมือนจะผละออกไป
“พี่พ่าย...ได้โปรด”
“ไปหาถุงยางมา”
“โธ่ นี่มันไม่ใช่เวลา...”
“กูไม่ใช่คนมักง่าย”
“แล้วพี่ทำผู้หญิงท้องได้ไงเล่า ถ้าพี่ไม่ใช่คนมักง่าย!”
ผมหงุดหงิดนะ เวลาค้างนี่มันหงุดหงิดจริงๆ
“ตอนนั้นกูตั้งใจ แต่กับมึง...ไม่ใช่”
ไม่รู้ทำไม ผมถึงรู้สึกเจ็บแปลบที่อกขึ้นมา สีหน้าและแววตาที่ว่างเปล่าของเขาทำให้ผมสั่นไปทั้งตัว
“ใจร้าย”
“...”
“ไม่ต้องเข้ามาก็ได้...ใช้ขาผม ผมอยากให้พี่มีความสุขบนร่างกายของผม...นะครับพี่”
ด้วยเพราะข้อเสนอนี้...เขาถึงได้ยอมเข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง
ของล้ำค่าชิ้นนี้...ผมกลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้เสียแค่แขนและขาเพื่อที่จะได้มันมา...แต่กลัว...
จะเสียหัวใจของตัวเองไปด้วย“พี่เอกับพี่เกมคงเมาหลับไปแล้วสินะครับ ผมไม่ได้ยินเสียงพวกเขาเลย”
“อืม” พี่พ่ายขานรับในลำคอ เขากำลังนอนในอ่างอาบน้ำ ในขณะที่ผมกำลังขัดเนื้อขัดตัวให้เขา
“พี่”
“หืม”
“คืนนี้ผมนอนด้วยนะ ผมจะนวดให้ ตอบแทนที่พี่ขับรถให้ผมนั่งมาสบายๆ”
“อืม”
“ขอบคุณนะครับ แล้วผมก็อยากจะบอกว่าดีใจมากเลย ที่พี่พ่ายไม่หนีผมแล้ว”
“กูขี้เกียจทำเรื่องไร้ประโยชน์ เพราะคนอย่างมึงมันหน้าด้าน แต่ถึงกูไม่ว่าก็อย่าล้ำเส้นให้มาก”
“รับทราบครับ ผมจะไม่ทำให้รำคาญใจหรอก”
“ดี”
ผมใช้ใยขัดตัวขัดผิวของเขาตั้งแต่ไหล่ไปจนถึงนิ้วเท้า การที่ได้มีโอกาสสัมผัสร่างกายของเขาทุกส่วนอย่างนี้ทำให้ผมอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา ก็เพราะชอบทุกส่วนล่ะมั้ง ถึงได้มีความสุขอย่างนี้ จากตอนแรกหลงแค่เพราะแววตา แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่า ผมต้องการทุกส่วนของร่างกายเขาทั้งหมด
อาบน้ำเสร็จ ผมก็ใส่กางเกงของเขาแล้วขึ้นมารอบนเตียง ความจริงก็อยากมีโมเม้นใส่เสื้อเชิ้ตแค่ตัวเดียวเหมือนกัน แต่ติดที่ว่ารูปร่างของผมไม่ได้เล็กถึงขนาดที่เสื้อเชิ้ตของพี่พ่ายจะสามารถปกปิดร่างกายมาจนถึงขาอ่อนได้
“ทำไมไม่กลับไปใส่เสื้อผ้าที่ห้อง”
“ไม่เอา เสียเวลา”
“นอนไม่ใส่เสื้อแล้วอย่ามาบ่นหนาว”
“ถ้าหนาวผมก็กอดพี่ไว้ ขืนใส่เดี๋ยวก็อดกันพอดี”
“อดอะไร”
“ก็...ตอนนี้ผมกำลังอ่อยพี่อยู่ไงครับ อยากทำอะไรขึ้นมาบ้างรึเปล่า”
“มึงว่ากูควรตื่นเต้นไปกับหน้าอกแบนราบและพุงของมึงเหรอ”
พี่พ่ายเดินมาที่เตียงแล้วก็ใช้หมอนฟาดหัวผม แถมยังใช้เท้าเขี่ยผมอีก ผมเลยขยับที่ให้เขาได้ขึ้นมานอน
“พุงอะไรอ่ะ หยาบคาย ไม่มีสักหน่อย”
“เถียง” แล้วก็ใช้หมอนกดหน้าผม ทำเอาหายใจไม่ออกอยู่หลายวินาที แต่สุดท้ายเขาก็ยอมปล่อย
“พี่พ่ายเล่นแรงนะครับ จะฆ่าผมเหรอ”
“ถือว่าฉลาดที่รู้ว่ากูจะทำอะไร”
“โธ่”
“รีบๆ มานวดให้กู ถ้ากูยังไม่หลับ ห้ามหยุด”
“ก็ได้ครับ”
ไม่หวั่นไหวกับผมที่ไม่ใส่เสื้อจริงๆ เหรอ ทั้งพี่กิ๊ฟ มิน ไอ้ยิว พอเห็นทีไรก็เข้ามานัวเนียกับผมกันทั้งนั้น พี่พ่ายคงด้านชาเกินไป ถึงได้ไม่เห็นความเซ็กซี่ในตัวผม
“เวลามึงนวดให้ใครต้องคร่อมอย่างนี้ทุกคนเลยรึไง ลงไปนอนดีๆ”
“ไม่เอา กำลังฝึกออนท็อปอยู่”
พี่พ่ายทำหน้าเอือมระอาใส่ พร้อมกับตีที่ขาของผมแรงๆ
“ไปฝึกกับหมอนข้าง หรือไม่ก็เสาไฟฟ้า ไม่ใช่กับตัวกู”
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์กับหมอนข้างหรือเสาไฟฟ้านี่นา...ที่ผมเหมือนคนบ้าเซ็กส์อย่างนี้มันก็เพราะร่างกายของพี่ทั้งนั้น...
“พี่พ่ายไม่ชอบเหรอครับ ทั้งๆ ที่แข็งขนาดนี้แล้วอ่า ผมแค่ใช้ก้นของตัวเองถูไปถูมาแค่นั้นนะ ไม่ได้ทำอะไรมากเลย”
“ไอ้เพี้ยน...ลงไป”
“ไม่เอา ผมไม่แกล้งแล้ว หลับตานะครับ ผมจะนวดให้สุดฝีมือเลย”
พี่พ่ายคงเหนื่อยที่จะด่าผมแล้วก็เลยยอมหลับตาลง แม้ว่าผมจะยังจงใจให้สะโพกของตัวเองเสียดสีกับกลางลำตัวของเขาไม่หยุด แต่เขาก็แค่ใช้มือบีบขาของผมแรงๆ เท่านั้น บางทีก็ขยำที่เอวจนรู้สึกเจ็บ
ผมนวดขมับแล้วไล่ลงมาตามลำคอ ไหล่ วนอยู่บริเวณพวกนี้ซ้ำๆ พี่พ่ายดูผ่อนคลายขึ้นมาก แต่ไอ้สิ่งที่กำลังดุนดันกางเกงของผมอยู่นี้ไม่ได้ผ่อนคลายลงด้วยเลย ผมจัดการถอดกางเกงของตัวเองออก ในขณะที่มือก็งัดเอาสิ่งที่อยู่ในกางเกงของพี่พ่ายออกมา เขายังคงหลับตา ไม่ได้โวยวาย แค่บอกว่า
“ถ้าเอาของกูใส่เข้าไปในตัวมึง ทุกอย่างจบ เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ”
“ดี”
พี่พ่ายลืมตามองผมที่กำลังช่วยตัวเองและพยายามให้เขามีความสุขไปด้วยกัน เขามองมาด้วยแววตาเย็นชา ดูราวกับว่ากำลังตั้งตารอในสิ่งที่ผมทำให้ ผมพลิกตัวกลับด้าน หันสะโพกไปทางใบหน้าของเขา จงใจให้ส่วนปลายของท่อนเนื้อกลางลำตัวของตัวเองเสียดสีกับยอดอกของเขา ในขณะที่ปากก็ครอบครองสิ่งแข็งขืนตรงหน้าเข้าไปจนหมด
ผมส่ายสะโพกไปมา พร้อมกับขยับศีรษะของตัวเองไปด้วย รัวลิ้นลงบนส่วนปลายและลากมันไปตามท่อนลำ พลางดูดสลับตามจังหวะที่เขายกเอวสวนขึ้นมา ในขณะที่มือของเขาก็ตีสะโพกของผมทุกครั้งที่ผมดูดของเขาแรงๆ มันเจ็บก็จริง...แต่รู้สึกดีมาก
“อาาา พี่พ่ายครับ อ้ะ...อ้ะ...”
แม้จะเป็นแค่ออรัลเซ็กส์ แต่แค่ผมได้ปลดปล่อยน้ำรักของตัวเองบนตัวของเขา ก็ทำให้ผมมีความสุขมากแล้ว ยิ่งกลิ่นคาวในโพรงปากของตัวเองก็ทำเอาลืมความเจ็บแปลบเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนไปจนหมดจริงๆ
“ทำความสะอาดด้วย” พี่พ่ายสั่งเสียงเข้ม พลางชี้ลงบนหน้าท้องที่เป็นลอนสวยของเขา ผมยิ้มแล้วก้มลงเลียน้ำรักของตัวเองจนหมด
“ผมอยากจูบพี่...”
“ไม่ได้”
“แต่...”
“กูบอกว่าไม่ได้”
“ทำไมล่ะครับ”
“เพราะมึง...สกปรก”
“พูดจาใจร้ายอีกแล้ว แต่ก็รักนะครับ อิอิ”
พี่พ่ายไม่ได้ว่าอะไร เขาแค่หลับตาลงแล้วปล่อยให้ผมใช้แขนของเขาหนุนต่างหมอน
“ผมจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังพี่ เพราะฉะนั้น นานๆ ครั้งก็ให้รางวัลผมบ้างนะครับ”
“อืม ทำให้ได้แล้วกูจะคิดดู”
“ใจดีจัง”
ผมจูบที่คางเขา อยากสัมผัสที่ริมฝีปากอยู่หรอก แต่ก็ไม่กล้า ไม่อยากทำให้โมโห เพราะตอนนี้กำลังไปด้วยดี
“รีบนอน แล้วต้องกลับห้องก่อนที่เพื่อนกูจะตื่น”
“ครับพี่”
“แล้วอย่าลืม เวลาทำงาน ไม่จำเป็นไม่ต้องมาคุยกับกู”
“แต่...”
“ถ้ามึงทำไม่ได้ จะไม่มีครั้งต่อไป”
“งั้นถ้าผมทำได้ ผมมานอนกับพี่ทุกวันได้ไหม”
พี่พ่ายเงียบไปเพียงครู่ แล้วพยักหน้า ก่อนจะกำชับว่า “แต่อย่าให้ใครรู้ กูไม่อยากให้เป็นเรื่องขึ้นมา”
“ได้ครับ ยังไงผมก็ทำตามที่พี่ต้องการอยู่แล้ว ไม่ว่าพี่ต้องการอะไร...ผมทำให้ได้ทั้งนั้น”
“ดี”
“ผมรักพี่นะครับ”
แม้ว่าผมจะไม่ได้รู้สึกอย่างที่บอกกับพี่ก็ตาม...แต่ถ้าพี่เป็นของของผมแล้ว ผมจะเอ็นดูพี่ให้มากกว่าของอย่างอื่นที่ผมครอบครองอยู่เป็นพิเศษ แต่กว่าจะถึงวันนั้น...ผมคงต้องอดทนกับความใจร้ายของพี่ไปอีกนานเหมือนกัน
...........................................................TBC............................................................................
แหม ใครย้ายทีมอ่ะ ย้ายทำไม มาทีมไร้พ่ายกับเราต่อดีกว่านะคะ ปล่อยเพี้ยนไปตามทางของนาง

ขอบคุณมากๆ ค่า แล้วเจอกันใหม่นะคะ