Chapter : 43 : ยั่วแบบไร้สติ
[พี่หมอ...♡]
♡
♡
ผมหัวเราะหึ ๆ ป่านนี้คงนั่งเดือดปุด ๆ ไปแล้วล่ะมั้งที่ถูกผมรวนแบบนั้น นายไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอกน้ำฝน
“น้ำฝนอีกแล้วล่ะสิ”
เพื่อนผมมันแซว วันนี้ผมมาช่วยมันที่คลีนิค ลูกค้าที่นัดไว้หมดแล้ว ที่เหลือคือรอเวลาให้ร้านปิดเท่านั้น ผมเข้ามานั่งเล่นกับมันในห้องตรวจ
“ยังไม่หยุดอีกรึไง”
ผมยักไหล่
“ช่วงนี้เด็กมอปลายสอบกันอยู่นี่ แล้วฝนล่ะ เป็นไงบ้าง”
“สอบเสร็จแล้ว วันนี้มีเลี้ยงฉลองที่บ้านมันนั่นแหละ ว่าจะไปอยู่นี่”
“ไปหาฟ้าหรือหาฝน”
มันถาม
“ฟ้าสิ”
เพื่อนผมยกยิ้ม
“ฉันว่าไม่น่าจะใช่”
ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่
“จะไปเลี้ยงฉลองใช่ไหม”
ผมพยักหน้า
“ฉันไปด้วย อยากไปทำความรู้จักว่าคุณฟ้ามีดียังไงถึงทำให้เพื่อนตามจีบได้ บอกตามตรงนะ หน้าตาอย่างแก คิดจะจีบใครจีบไม่ยากหรอก แต่ผู้หญิงคนนี้ใจแข็งน่าดู หรือไม่..”
มันหยุดคำไป ผมมองหน้ามัน
“ทำไม’
“แกไม่ได้ตั้งใจจีบเขาไง เพราะมัวแต่เอาเวลาไปจีบคนอื่นแบบไม่รู้ตัวอยู่”
ถีบเพื่อนสนิทนี่จะผิดจรรยาบรรณแพทย์ไหม
มันหัวเราะหึ ๆ
“ฉันไปด้วยละกัน อยากลองสนุกแบบเด็ก ๆ ดูบ้าง”
ผมถอนหายใจแรง แต่ก็ไม่คิดจะห้าม
“บอกไว้ก่อน งานนี้ไม่มีใครชวน ฉันหน้าด้านไปเอง”
“ฮ่า ๆ ฉันก็ว่าละ แต่ไม่ต้องห่วง ฉันเองก็ด้านไม่แพ้กัน”
มีคนไข้เพิ่มมาอีกสองราย ผมรีบกลับไปประจำตำแหน่งทันที พอสองทุ่มก็ปิดคลินิก ขับรถเวลานี้ไม่ดึกมาก แต่กว่าจะไปถึงก็เกือบ ๆ สามทุ่ม ไม่รู้พวกนั้นจะเลิกไปยัง ผมจอดรถไว้นอกบ้าน แม่บ้านรีบวิ่งออกมาต้อนรับ
“เขาเลิกกันรึยังครับ”
ผมถามนำร่องก่อน เธอยิ้ม
“ยังค่ะคุณหมอ”
จริง ๆ ไม่ต้องถามก็รู้ เพราะได้ยินเสียงหินวิ่งตามคีย์อยู่ แต่ก็น่าจะเมากันมากแล้ว
“เชิญค่ะ”
เธอเชิญ ผมเดินนำเข้าไปก่อน ตามติดด้วยเพื่อน หิ้วเหล้ามียี่ห้อมาด้วยขวดหนึ่ง
ฟ้าออกมารับ ยกมือสวัสดีทั้งผมและเพื่อน ฟ้าน่าจะจำได้เพราะเคยเจอกันแล้วที่คลีนิคตอนพาฝนไปรักษาตัว
“คิดว่ามาไม่ทันซะแล้ว”
“คุณหมอรู้ได้ยังไงคะ”
ฟ้าถาม
“ฝนเขาชวนผมมาน่ะ”
ฟ้าเลิกคิ้วแปลกใจ แต่ไม่ถามอะไร พาเดินเข้าไป เพื่อนมันบางคนกำลังลุกขึ้นสะบัดหัวตามจังหวะเพลงมัน ตอนนี้หินวางไมค์แล้ว เปิดเพลงฟังแทน ดีแล้วครับ ดีต่อสุขภาพหูผมดี
ผมกวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อดูสภาพ มันดื่มกันมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ยังตั้งตัวได้ ตันหันมาเห็นผมก่อน รีบลุกเซ ๆ มาหา
“โอ้ พี่ใหญ่กูมา มาเลยพี่สุดหล่อ โหย พระเจ้า มีของฝากด้วย ลาภปากโว้ยยยยย”
มันยกขวดเหล้าเหนือหัว พวกนั้นส่งเสียงเย้ ๆ ผมหัวเราะ แต่ละคนยังใส่ชุดนักเรียนกันอยู่เลย ผมพุ่งเป้าไปที่ฝน ไม่ต่างกับนนท์ที่มองภาพเดียวกับผมอยู่ ตาน้ำฝนหวานเชื่อมแล้วล่ะครับ ปรือตามองผม มันนั่งอยู่ข้าง ๆ ไผ่ ชี้มือมาทางผม ไผ่มันมองผมตาขวางตบมือเพื่อนมันลง
“วิ้วว แฟนขี้หวงด้วย”
นนท์มันเอียงหน้ามาพูดให้ได้ยินกันสองคน พอผมมา ไผ่มันก็รวบเพื่อนมันไปใกล้ขึ้น รายนั้นจะผลักออก แต่เมาแล้วครับ เลยไม่มีแรงมากเท่าไหร่หรอก
“จะดื่มด้วยไหมคะ”
“นิดหน่อยก็ได้ครับ เพราะพรุ่งนี้ผมมีเวรเช้า”
ฟ้าพยักหน้าเข้าใจ
“มาพี่หมอมา ๆ เพื่อนพี่หมอมา”
“เรียกพี่นนท์ละกัน”
นนท์มันแนะนำตัว
ฝนมันชี้นิ้วมาทางผม
“ปีศาจ”
ผมกระตุกยิ้ม ไผ่มันก้มมองคนในอ้อมแขนมัน ขมวดคิ้วยุ่ง
“เอ้า ไผ่มันจะฟิสเจอริ่งกับฝนแล้ว เอ้าชูแก้วเชียร์หน่อย”
พวกเพื่อน ๆ มันชูแก้ว ไผ่ชี้หน้าทุกคน ฝนหัวเราะเอิ้ก ๆ
“น่ารักตรงไหนวะ”
นนท์มันเอียงคอมาถาม
“ก็ไม่น่ารักไง”
มันหันมามองงง ๆ รับแก้วเครื่องดื่มที่ตันชงให้คนละแก้ว วันนี้ดื่มดิบครับ ทุกคนนั่งพื้นไม่ได้นั่งโซฟาแบบที่บ้านผม
ทุกคนนั่งล้อมวง มีส้มตำด้วยมื้อนี้ ฟ้ายกอาหารเซตใหม่มาให้ เกรงใจฟ้าอยู่เหมือนกัน แต่ก็อยากให้เพื่อนได้ลอง พอมันกินออกปากชมใหญ่ว่าอร่อย ฟ้าก็เขินหน้าแดงไป
“คุณฟ้าไม่ดื่มเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
แล้วเธอก็ละไปทำอย่างอื่น ไผ่มันกอดเอวฝนไว้หลวม ๆ ประคองร่างที่กำลังอ่อนเปลี้ยไว้ในอ้อมแขนตัวเอง ฝนยังไม่เลิกชี้หน้าผมปากบ่นเรียกปีศาจ ๆ ไม่หยุด
ไผ่มันจ้องหน้าผมเขม็ง จ้องแบบจ้องจริง ๆ จัง ๆ สายตาแวววาว มือกำแก้วเหล้าแน่น นนท์มันเอียงคอมามอง
“น้องแกแทบจะยิงเลเซอร์ใส่แกแล้ว”
ผมหัวเราะหึ ๆ นนท์มันเคยเห็นน้องผมแล้ว แต่คงจะไม่เคยเห็นเวอร์ชั่นปล่อยแสงเลเซอร์ร้อนแรงแบบนี้มาก่อน
“เอาไหม ฉันยกให้ ดุนะ เฝ้าบ้านได้สบาย”
“คนนะไม่ใช่หมา”
ผมหัวเราะร่า ไผ่มันยังจ้องผมอยู่ แต่ผมไม่สนใจ ฝนหลับไปแล้ว ไผ่มันก้มมองนิดหนึ่ง ก่อนค่อย ๆ ประคองฝนหนุนตัก
“ให้พี่พาฝนขึ้นห้องก่อนไหม”
ฟ้าถามไผ่
“ไม่ต้องหรอก พี่ขึ้นนอนก่อนเถอะ ดึกแล้ว เดี๋ยวทางนี้ดูแลแทน”
ฟ้าคงง่วงแล้ว ถึงได้รับปากง่าย ๆ บอกลาผมและนนท์ จริง ๆ ฟ้าเป็นคนนอนเร็ว ผมบอกราตรีสวัสดิ์นิดหน่อย
“มาได้ไง”
ไผ่มันถามผม
“ฝนชวนมา”
“ไม่มีทาง”
“ไม่เชื่อก็ลองปลุกฝนมาถามดูสิ”
มันก้มมองคนบนตักมัน หรี่ตามองผม จะพูดอะไรสักอย่าง แต่มองทางนนท์แล้วเงียบเสียงไป ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“พวกมึงกินกันไปนะ กูพอละ จะพาฝนขึ้นห้อง”
“เฮ้ย ได้งายยยย”
หินมันโหยหวน แต่ไผ่มันไม่ฟัง พยุงฝนลุกยืน แต่แรงคนเมาหนักครับ ยืนยังแทบจะไม่รอด มันเซจะล้ม ผมรีบลุกไปรับร่างของฝนแล้วปล่อยให้ร่างของมันร่วงพื้นทันที พวกที่เหลือพากันหัวเราะไม่รู้สติ
“เอาฝนคืนมา”
มันพยุงตัวลุกจะรั้งน้ำฝนคืน แต่ผมใช้มือดันอกมันไว้
“แค่ยืนยังจะไม่ไหว ไม่เป็นไร ฉันจะใจดีเอาไปส่งถึงห้องเอง ฉันรู้ว่าห้องฝนอยู่ไหน”
“เสือก”
มันด่าทันที ผมหัวเราะหึ ๆ คนในอ้อมแขนผมสะลึมสะลือลืมตามอง
“พี่หมอ”
“ครับ”
ผมก้มกระซิบตอบรับข้างหูคนเมา มันครางอื้ม คล้องสองมือมาโอบรอบลำคอผมไว้ มันคงทำไปด้วยความเคยชินมากกว่าที่จะรู้สึกตัว แต่ก็ทำให้รู้ว่าเวลามันเมา มันจะเชื่องและเรียกร้องผมมากขึ้น มันซุกหน้ากับอกผม ปิดดวงตาลง ไผ่มองตาขวาง
“เอามา!!”
ผมเบี่ยงน้ำฝนหลบ พวกเพื่อน ๆ มันเฮลั่น
“วู้ ไผ่สู้ ๆ”
“มึง!!”
มันจะเหวี่ยงหมัดใส่ผม แต่ผมเบี่ยงหลบอีกรอบจนมันถลาแถด ๆ ไปทางไอ้หมอนนท์ รายนั้นนั่งดูอยู่เพลิน ๆ ร้องเฮ้ยผวารับแทบไม่ทัน
ไผ่รีบผลักไอ้นนท์ออก จะลุกมาเอาตัวฝนอีก แต่ผมไม่สน ช้อนอุ้มฝนไว้ในอ้อมแขน
“มึง!!”
ไผ่มันร้องตามหลัง ผมหันไปมองนิดหนึ่ง เห็นนนท์มันคว้าสองข้อมือไผ่ไว้ ล็อคไว้ด้านหลัง ไผ่มันเลยลุกมาไม่ได้
“ปล่อย!!”
ได้ยินเสียงไผ่ดังมาแค่นั้น ผมไม่สนใจ ได้ยินเสียงพวกนั้นเฮลั่นตามหลัง ผมก้มมองคนในอ้อมแขน ยิ้มนิด ๆ ใส่ เปิดประตูเดินเข้าห้องไป ผมไม่คิดจะทำอะไรมันหรอก เพราะฟ้าอยู่ เพื่อนมันก็เยอะ ที่สำคัญเพื่อนผมมาด้วย ผมวางมันลงบนเตียง ลากผ้าห่มมาคลุมดี ๆ กำลังจะลุก แต่ถูกดึงชายเสื้อไว้ ผมหันไปมอง ฝนมองผมตาเชื่อม
“มีอะไร”
ผมถาม มันกระซิบพูดอะไรสักอย่าง ผมก้มลงไปฟังใกล้ ๆ
“ปีศาจ”
ผมมองหน้ามัน มันไม่พูดอะไรอีก วาดมือคล้องคอผมไว้ ดึงเอาผมลงไปจูบ ผมเบิกตานิด ๆ เพราะไม่คิดว่ามันจะกล้าเริ่มเองแบบนี้
ผมรู้ว่าเวลามันเมา มันจะขัดขืนน้อย หนำซ้ำยังออดอ้อน แต่ให้เริ่มก่อนนี่ผมคาดไม่ถึงจริง ๆ มันจูบผมแบบสะเปะสะปะจนผมต้องเป็นฝ่ายนำเกม รสจูบนั้นถึงดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น จากที่ว่าจะจูบนิดเดียวแล้วผละปล่อย รสจูบของเราสองคนยิ่งร้อนแรงขึ้น
“ฝน”
ผมถอนปากหวังหยุดมัน แต่มันมองผมตาเชื่อม
“พี่หมอ…”
มานาทีนี้สติผมก็ดับไปทันที ผมมองเห็นตัวเองกลายร่างเป็นปีศาจอย่างที่เจ้าตัวประณามผมไว้ ตัวดีพยายามทึ้งร่างผมออก แต่ตัวร้ายกลับผลักไสผมให้เข้าหาเจ้าของเรือนร่างและดวงตาแสนยั่วนั้น
[..50%]
ปากมันครางหวานใส่ผม เนื้อตัวมันเบียดชิด สองแขนมันโอบประคอง เรียกร้องอย่างโหยหา ตัวดีหลุดปลิวหายไป ผมคร่อมร่างมันไว้ บดจูบรุนแรงกว่าเดิม เลื่อนต่ำลงไปที่ซอกคอ ชายเสื้อนักเรียนมันหลุดลุ่ยออกจากเอวนานแล้ว ผมรีบล้วงมือแทรกเข้าไปลูบไล้หน้าท้องสะกิดยอดเม็ดเล็ก ๆ นั้น มันครางสะท้านบีบขยำหัวผมแรง
เวลามันเมามันจะยั่วมาก ๆ ทำอะไรไม่อายด้วย ผมรีบคลี่ปลดเข็มขัดมันออก รูดซิปดึงเอาทั้งกางเกงและชั้นในมันออกในเวลาเดียวกันโยนทิ้งไปไกล มันลูบไล้หน้าท้องผมเบา ๆ ให้รู้สึกสยิวหนักเข้าไปใหญ่ ผมรีบปลดเข็มขัด ปลดกระดุม รูดซิป รั้งเอาน้องที่คับแน่นออกมาสูดอากาศภายนอก แต่มันดูจะอยากเข้าถ้ำไร้อากาศอีกรอบ แต่ไม่ใช่ภายในกางเกงนะ แต่เป็นถ้ำของคนด้านล่างต่างหาก มือซุกซนลูบไล้เรียกร้อง มันจับ ๆ ป้าย ๆ มาบนน้องผม ผมครางทุ้มตอนมือน้อยสัมผัสกับแท่งเนื้อแสนร้อนของผม
ผมรีบปลดกระดุมเสื้อนักเรียนมันออก พยายามจะคลี่ปลดออกจากหัวไหล่ ดูมันจะไม่ทันใจเท่าไหร่ ผมเลยกระชากไปคล้องไว้ที่แขนมันแทน
ผมจับมันเหวี่ยงขึ้นไปด้านบน ควานหากระเป๋าเงินเพื่อหยิบถุงยาง มันเบียดชิดช่องน้อยกับน้องผมเหมือนกำลังเรียกร้องให้ผมกินมันเร็ว ๆ ผมได้ถุงยางมาแล้ว แต่ความเสียวซ่านที่บังเกิดทำเอามือไม้ผมสั่นไปหมด ผมเหวี่ยงถุงยางทิ้งไปไกล จับมันกลืนกินน้องน้อย ผมครางเสียงพร่า มันแหงนหน้าครางผสานได้อย่างน่ารัก มันคงอึดอัด ปากครางเรียกแต่ชื่อผม
“พี่หมอ”
ผมจับสะโพกมันเคลื่อนไหว แต่พักเดียวเด็กยั่วด้านบนก็เริ่มเคลื่อนไหวสะโพกเอง มันไม่ได้ทำเก่งอะไรหรอก จับจังหวะแทบไม่ถูกด้วยซ้ำ
แต่พระเจ้าช่วยลูกด้วยเถอะ! ท่าทางเงอะงะของมันแทบฆ่าผมทั้งเป็นเลยทีเดียวเชียว
“ฝน”
ผมแหงนหน้าครางเบา ๆ ฝนควบบรรเลงเอง ผมจับต้นขามันไว้ทั้งสองข้าง ท่าที่ฝนทำได้ดีที่สุด น่าจะเป็นท่าโยกบดสะโพก มันทำเนิบ ๆ แต่ยั่วยวน เสียงมันดังก้องไปทั่วทั้งห้อง
ประตูห้องนอนเปิดออกดังผัวะ ผมหอบแฮก เสียวแปล็บเมื่อส่วนนั้นของฝนบีบรัดน้องผมแน่นเป็นจังหวะ ผมเผลอครางออกมาในลำคอ รวบรวมสติหันไปมองคนที่เปิดประตูเข้ามา ตอนนี้ผมหยุดน้ำฝนไม่ได้แล้ว ฝนกำลังล่องลอยไปกับโลกแห่งความเร่าร้อน
ภาพที่ผมเห็นมันเลือนรางเต็มที แต่เท่าที่สติผมจะเดาได้ คนที่เข้ามาน่าจะเป็นไผ่
“มึง! อื้อ!”
ไผ่มันพูดได้แค่นั้น ก่อนจะถูกเพื่อนผมปิดปากลากแถก ๆ ออกไป นนท์มันยังใจดีกดล็อกและปิดประตูให้ด้วย ผมหันกลับมามองคนที่ยังขี่ผมตรงหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว มันเคลื่อนไหวเร็วขึ้นบีบรัดน้องผมแรงขึ้นจนผมแทบทนไม่ไหว
“อย่าเร่งฝน”
ผมรีบครางห้าม มันไม่ได้ทำตามเลยสักนิด ผมรีบพลิกมันลงไปด้านล่าง ขืนให้มันคุมเกมเอง สงสัยผมต้องพุ่งแน่ ๆ
“เร็ว พี่หมอ”
มันร้องขออย่างน่ารัก สองขารัดเอวผมไว้ อยากให้ตอนไม่เมามันอ้อนผมแบบนี้บ้างจัง
“เร็ว”
มันไม่เร่งเปล่า ขยับร่างเข้าหาผมอีก ผมเลิกถอดเสื้อตัวเองออก กระชากดึงเสื้อออกจากตัวมันด้วย
“ไม่ได้นอนทั้งคืนอย่าว่ากันนะฝน”
ผมกดหนักลงไป ฝนผวาเฮือก ครางเสียงดัง ฟ้าอยู่ห้องข้าง ๆ ผมรีบเอามืออุดปากมันไว้ เคลื่อนไหวร่างให้สอดประสาน
แม้ปากจะถูกปิดสนิท แต่ดวงตาไม่ได้ถูกปิดไปด้วย ฝนมองผมด้วยดวงตาเชื่อมหวาน สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเร่าร้อน วิงวอน ร้องขอ ผมจำต้องทำตามความต้องการมัน เร่งจังหวะ นำพามันไปสู่ปลายทาง
ผมตื่นนอนแต่เช้า หันไปมองคนที่นอนข้าง ๆ ฝนหลับไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิม ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเดิม เมื่อคืนปล่อยข้างในหมดเลย ผมหยิบทิชชู่เปียกมาเช็ดทำความสะอาดรอบ ๆ ตัวมัน หยิบเสื้อผ้าในตู้มาสวมให้อีกชุด ยิ้มให้มันนิดหนึ่งลูบแก้มมันแผ่วเบาอย่างที่เคยทำ ลุกขึ้นเดินไปหมุนเปิดประตู
พลั่ก!!
หน้าผมหันไปตามแรงหมัดจากใครสักคนทันทีที่ประตูถูกเปิดออกกว้าง ยังไม่ทันได้ดูว่าใครเป็นคนทำ มันก็ก้าวเข้ามาภายใน ปิดประตูเสียงดัง จับคอเสื้อผม ง้างหมัดต่อยผมอีกรอบ แต่คนละด้าน มันไม่เปิดโอกาสให้ผมได้หายใจหายคอ ง้างหมัดที่สามต่อยมาอีกจนผมรู้สึกมึน มันกำลังจะต่อยหมัดที่สี่ แต่ผมตั้งสติได้ก่อนรั้งจับหมัดมันไว้ ต่อยกลับบ้างสุดแรงที่มี หน้ามันหันไปตามแรงหมัด ตัวเซนิด ๆ มันรีบประคองตัว ถลาเข้าหาผมอีกรอบ
“เฮ้ย! ใจเย็น ๆ”
หมอนนท์รีบเปิดประตูเข้ามา รวบจับหมัดไผ่ไว้ อีกข้างก็จับแขน ล็อคในท่ายิวยิสซู ต่อให้แข็งแรงขนาดไหน เจอท่านี้เข้าไปก็หมดฤทธิ์ หมอนนท์มันเก่งเรื่องนี้
“ปล่อยกู มึงมันก็เหี้ยเหมือนกันหมด มึงทำแบบนี้กับฝนทำไม!!”
มันดิ้นรนให้หลุดรอด ผมจ้องหน้ามันสักพัก ก่อนยกยิ้ม
“เมื่อคืนคนที่เรียกร้องคือฝนนะ”
ผมพูดตามจริง
“มึง!”
มันจะเข้ามาต่อยผมอีก แต่นนท์มันก็ดีแสนดีล็อคไว้แน่น
“ใจเย็น คุยกันดี ๆ”
“ปล่อยเลยมึง กูจะแจ้งความจับพวกมึงเข้าคุก”
“ถ้าเหยื่อยินยอม ข้อหาก็โมฆะใช่ไหม”
“มึงคือไอ้ปีศาจใช่ไหม คนที่คอยข่มเหงฝน คนที่รับโทรศัพท์กูตอนนั้น”
ผมเลิกคิ้วสูง
“ฉลาดขึ้นบ้างแล้วนี่”
“มึง!!”
มันจะถลามาหาผมอีกรอบ แต่ถูกเพื่อนผมยึดจับไว้
“มึง ปล่อยกู!!” มันหันไปตะคอกใส่หน้าไปไอ้หมอนนท์ แล้วหันกลับมาทางผมต่อ สีหน้าท่าทางเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม “มึงเลวมาก ทำเพื่อนกูได้ลงคอ จะคิดจะแค้นอะไรมาทำกับกูไม่ใช่ไปทำกับฝนแบบนั้น ไอ้สารเลว!!”
มันสะบัดตัวแรง แรงมันเยอะน่าดู หมอนนท์แทบจะเอาไม่อยู่
“โอ๊ย!!”
มันร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อเพื่อนผมบิดแขนมันแรงขึ้นเป็นการตัดกำลัง นนท์มันเตะข้อพับจนไผ่ต้องย่อตัวลงไปนั่งคุกเข่าที่พื้น สีหน้าเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม แต่สายตาไม่ละไปจากดวงตาผม นัยน์ตามันขวางระยับ ผมยกยิ้มพอใจอีกรอบ
“จะแจ้งความก็ได้นะ แต่รับรองได้ว่าฝนคงไม่เอาความ ไม่เชื่อลองดู”
“มึงขู่อะไรฝนไว้ ไม่มีทางที่ฝนจะยินยอมด้วยตัวเอง”
“ขู่อะไร เมื่อคืนนี้ก็เห็นกับตาแล้วไม่ใช่เหรอ”
มันอึ้งไปนิดหนึ่ง
“ฝนเรียกหาฉัน เข้ามากอดฉัน ออดอ้อนฉัน แล้วเมื่อคืนนี้ก็บรรเลงเองเลยนะ ฉันแทบไม่ได้ทำอะไรเลย”
ที่พูดไปเมื่อกี้ มีความเท็จแฝงอยู่ครับ ฝนเป็นคนออดอ้อนก็จริง แต่คนที่สานต่อคือผมเอง
“กูไม่เชื่อ!!”
“งั้นก็ลองดู ฉันพร้อมเสมอ”
ผมผายมือออกให้รู้ว่าผมไม่กลัว
“แต่เตือนไว้ก่อนนะว่าฉันเตรียมรับผลมันไว้แล้ว อย่างมากก็แค่ติดคุก ไม่กี่ปีก็ได้ออก หรือไม่ก็ใช้อำนาจเงินซื้ออิสระให้ตัวเอง หนีไปอยู่ต่างประเทศ มันก็ไม่มีอะไรกับชีวิตแล้ว ฉันวางแผนหาทางรอดให้ตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว จะทางไหนฉันก็มีอิสระ แต่…”
ผมพูดเนิบ ๆ
“ฝนคือผู้เสียหาย ฉันทนสายตาดูถูกคนอื่นได้ แต่ฝนทนได้ไหม ฉันไม่มีญาติพี่น้องให้แคร์ ฝนมีไหม หรือจะให้ฝนหนีไปอยู่ต่างประเทศแบบฉันเพื่อหนีสายตาผู้คน จมอยู่กับความทุกข์ เลือกเอาละกัน ยังไงก่อนจะแจ้งความถามฝนก่อนดีกว่า ถ้าฝนเอาความก็มาจับฉันได้ตลอดเวลา ฉันไม่หนีหรอก แต่ถ้าไม่… นายก็เลิกยุ่งกับฝนได้แล้ว…เพราะฝนเป็นของฉัน”
“แก แกแน่ใจเหรอว่าฝนจะไม่แจ้งจับแก”
เพื่อนผมถามหลังออกมาจากบ้านฝนได้ ผมปล่อยให้ฝนนอนอยู่บนเตียงกับไผ่มัน ส่วนมันจะรอถามความเห็นของฝนอีกทีว่าจะแจ้งความจับผมหรือเปล่า
“แน่ใจ”
“อะไรทำให้แกแน่ใจขนาดนั้น”
มันทำสีหน้าเป็นห่วง ต้องขอบใจมันแหละ ถ้าไม่ได้มันช่วยผมคงงอมมากกว่านี้ ดีกว่าพ่อกับแม่ไม่อยู่ ไม่งั้นคงเห็นความเยินของผม
ผมโดนต่อยหน้าทั้งสองข้าง ลงไปพวกฟ้าพากันตกใจใหญ่ เพื่อนมันบางคนด้วย แต่ผมไม่พูดไม่ตอบอะไร ไม่สนด้วยว่าไผ่จะพูดจะตอบอะไร
ผมเพิ่งแน่ใจเมื่อคืนนี้เองว่าผมควรจะเลือกอะไร เมื่อเลือกแล้วก็ต้องหาหนทางคว้ามันมาไว้กับตัวให้ได้
“แกว่าฉันชอบฝนมากกว่าฟ้าใช่ไหม”
ผมถามความเห็นเพื่อน มันพยักหน้ารับ
“แล้วเคยคิดไหมว่าฝนคิดยังไงกับฉัน”
มันมองผมอึ้ง ๆ
“ฉันไม่แน่ใจว่ะ ถ้าดูจากประวัติที่ผ่าน ๆ มา ฉันว่าเขาคงชอบแกยาก แต่จากท่าทางที่เห็น เอ่อ..เมื่อคืน ก็อาจจะ ไม่รู้โว้ย! เรื่องของแก แค่อยากรู้อยากเห็นนิดเดียวเป็นเรื่องเลยฉัน เมื่อคืนกว่าจะเอาเด็กนั่นอยู่ ฉันนี่แทบไม่ได้นอน มันก็เก่งนะ เฝ้าแกไม่หลับไม่นอนอยู่หน้าห้อง ในระหว่างที่แกเริงร่ากับน้ำฝนข้างใน เด็กนั่นยืนเฝ้าเป็นหุ่นไล่กาเลย ฉันพยายามเกลี้ยกล่อมให้ไปหลับไปนอนก็ไม่ทำ เสนอให้ลองเคาะประตูเรียกแกออกมาคุยกันดี ๆ ก็ไม่ทำอีก มันไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง นอกจากยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเฉย ๆ ท่าทางมันแค้นแกน่าดู ฉันเป็นห่วงว่ามันจะฆ่าแกเลยต้องนั่งเฝ้ามันไปด้วย ไม่ได้หลับไม่ได้นอนพอกัน”
ผมหัวเราะ
“ขอบใจนะเพื่อน โทษทีที่พามาลำบาก”
“ไม่เป็นไร แต่เป็นห่วงแกจริง ๆ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก อย่างที่บอกนั่นแหละ ฉันวางแผนไว้แล้วว่ายังไงฝนก็ไม่มีทางแจ้งความแน่ ถ้าจะทำ ทำไปตั้งแต่ฉันทำรุนแรงกับฝนไปแรก ๆ แล้ว ช่วงนี้ฉันอ่อนโยนกับเด็กนั่นตั้งเยอะ”
“มั่นใจจริงนะ”
ผมหัวเราะหึ ๆ ซี้ดปากเพราะความเจ็บ
“ทำแผลก่อนไปทำงานละกัน”
ผมพยักหน้า กลับบ้านไปเปลี่ยนชุดแล้วขับรถตรงไปโรงพยาบาลต่อ
ทุกคนตกใจใหญ่ที่เห็นหน้าผมช้ำมาแบบนี้ มุมปากสองข้างเลย ดีว่ากรามไม่หัก ผมกรอกยาใส่ปาก ทั้งยาแก้อักเสบยาแก้ปวด
“หน้าคุณหมอไปโดนอะไรมาครับ”
คนไข้ถาม ผมยิ้ม
“ต่อยมวย แต่พลาดท่าเสียทีให้คู่ต่อสู้”
“โห คุณหมอต่อยมวยด้วย เก่งจัง”
ผมหัวเราะ
ใช่ คู่ต่อสู้หัวแข็งซะด้วย
To Be Con..
ผิดพลาดตรงไหน แปะโป้งไว้ก่อนนะคะ สถานที่ เวลา และอินเตอร์เน็ตไม่เอื้อจริง ๆ
.................................................................
อ่านต่อตอนต่อไป :: ทาสแค้น {พี่หมอน้ำฝน} 44 เปิดเผยความจริง [น้ำฝน]:
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47105.msg3250621#msg3250621