>>ต่อค่ะ :
เนื้อหาก่อนหน้า : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47105.msg3205142#msg3205142 <<
นางพยาบาลเข้ามาดูอาการอีกรอบตอนตีห้า ผมตัดสินใจไม่นอนต่อ ไผ่มันยังไม่ฟื้น ผมเดินไปอาบน้ำแต่งชุดนักเรียน นั่งเล่นเป็นเพื่อนมันไปเรื่อย ๆ จนเจ็ดโมงถึงได้นั่งแท็กซี่ไปโรงเรียน ผมแจ้งให้ทางอาจารย์ประจำชั้นทราบรวมถึงเพื่อน ๆ ในห้องด้วย เพราะงั้นพอเลิกเรียน เพื่อนผมเกือบสิบชีวิตเลยพากันยกโขยงกันมาเยี่ยมมันที่โรงพยาบาล ไผ่มันฟื้นแล้ว พ่อแม่มาถึงแล้วด้วย
ผมเดินนำเข้าไปก่อนตามติดด้วยเพื่อน ๆ ทุกคนพากันยกมือไหว้พ่อกับแม่อย่างรู้มารยาท ห้องพิเศษขนาดใหญ่แคบไปถนัดตา ผมเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง
“เป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม” มันพยักหน้ารับ ปากดูมีสีสันขึ้นมาหน่อย “กูลาโรงเรียนให้แล้วนะ ไม่ต้องห่วง”
พวกเพื่อน ๆ ผมพากันถามไถ่อาการรวมถึงสาเหตุที่ทำให้มันมานอนกินน้ำเกลือต่างข้าวแบบนี้ ผมว่าอาการมันจะจะทรุดเพราะโดนเพื่อน ๆ รุมนี่แหละ พ่อกับแม่พากันขอตัวออกไปหาอะไรกิน เพื่อให้พวกเราอยู่คุยกันเอง ไม่นานพวกท่านก็กลับมา หอบหิ้วของกินมาให้ด้วย แล้วพวกมันก็สละแล้วซึ่งความห่วงในตัวเพื่อน ไปห่วงใยปากท้องตัวเองแทนทันที
เสียงดังมาก ไอ้พวกนี้ก็พยายามเชิญชวนให้ไผ่มันกินด้วย แต่มันไม่กิน พวกมันอยู่ก่อกวนให้ไผ่อาการทรุดหนักกันอยู่ประมาณชั่วโมงหนึ่งก็พากันกลับ เสียงดังด้วยครับ กลัวรบกวนห้องอื่น พี่นางพยาบาลเข้ามาเตือนรอบหนึ่งแล้ว
“แม่ไม่ต้องอยู่เฝ้าไผ่นะ ให้ฝนเฝ้าคนเดียวก็พอ”
“ไปรบกวนฝนเขาทำไมลูก”
“ฝนมันเพื่อนสนิทผม เอาน่า ให้ฝนอยู่นั่นแหละดีแล้ว แม่มาเหนื่อย ๆ พาพ่อกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ ฝนดูแลผมได้” มันบอกพ่อกับแม่โดยไม่ถามผมสักนิดว่าเต็มใจจะอยู่เฝ้ามันรึเปล่า แม่กับพ่อพยักหน้าเข้าใจ จะมาดูมันอีกทีพรุ่งนี้ ผมเดินไปส่งพวกท่านทั้งสองที่หน้าประตู
“มีอะไรฉุกเฉินโทรหาแม่เลยนะลูก” แม่มันลูบหัวผมเบา ๆ ผมรับปาก ปิดประตูลงเดินกลับไปหาคนที่นอนอยู่บนเตียง
“ไม่ถามกูสักคำว่ากูอยากอยู่เฝ้ามึงไหม”
“ก็กูอยากให้มึงอยู่ด้วย เวลาแบบนี้มีมึงอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจกว่า กูเคยอยู่เป็นเพื่อนมึงตอนมึงป่วยจำได้รึเปล่า กูวิ่งร่อนหาซื้อยามาให้มึง เช็ดตัวให้ นอนกอดมึง กูกำลังทวงบุญคุณมึงอยู่นะ” ตรงมากเพื่อนกู ผมยิ้ม พยักหน้ายอม ๆ มัน
“มึง มีใครช่วยลูกหมาที่ตัดหน้ากูไว้ไหม” มันถามด้วยน้ำเสียงเหมือนนึกขึ้นได้
“อืม มันปลอดภัยดี ดามขาเหมือนมึงนี่แหละ กูไปดูให้แล้ว”
มันพยักหน้า
“ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ กูขับรถอยู่ดี ๆ มันวิ่งมาจากไหนไม่รู้ตัดหน้า จำได้ว่าก่อนหมดสติลากมันมากอด หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว”
“ห่า จะตายเพราะหมาตัวเดียวเนี่ยแหละ แทนที่จะรีบช่วยตัวเองก่อน” ผมเบิ้ดหัวมันไปที(ไม่สำนึกว่าตัวเองก็เคยทำ) ผมยิ้มให้มันนิดหนึ่ง “ไม่ต้องห่วงหรอก ระหว่างมึงรักษาตัวอยู่กูดูแลให้เอง” ผมอาสา มันพยักหน้าซีด ๆ รับ
มันเล่าให้ฟังว่าฟื้นตั้งแต่เที่ยงแล้ว พี่ฟ้ามาตอนบ่าย อยู่กับมันไม่ถึงชั่วโมงมันก็หลับไม่รู้เรื่อง ตื่นมาอีกทีพี่ฟ้าก็ไม่อยู่แล้ว แล้วมันก็บ่น ๆ ว่าอาหารโรงพยาบาลไม่ได้เรื่อง อยากกินอาหารฝีมือพี่ฟ้า บ่นเจ็บบ่นปวดบ่นเมื่อยก้นไปตามประสา
“แม่ม นอนท่าเดียว ทรมานฉิบ”
“เอาน่า ทนหน่อย ไม่นานก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
“กูอยากอาบน้ำ”
“เขาห้ามอาบ เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้”
“นางพยาบาลเช็ดแล้ว แต่รู้สึกไม่สะอาดเลย”
“งั้นเดี๋ยวกูเช็ดให้อีกรอบ รับรองสะอาดเอี่ยม จะให้แวะไปซื้อแชมพูยี่ห้อเดียวกับวันเวย์มาเช็ดให้ด้วยไหม”
“เวร” มันด่า ผมหัวเราะ เดินไปเตรียมของ สักพักก็กลับมา
“กูว่ามึงกับกูนี่ดู ๆ ไปก็เหมือนคู่รักกันนะ”
ผมมองตามัน ไม่พูดอะไร เอาผ้าสะอาดไปลูบหน้าลูบตามันก่อน ผมเคยป่วยมาก่อน รู้ดีครับว่าอยากให้เช็ดตรงจุดไหนถึงจะรู้สึกสะอาดล้ำลึก
“มึงเช็ดดีฉิบหาย แม่ม กูแย่งมึงจากไอ้หมอนั่นมาเป็นเมียกูดีกว่า”
ผมเอาผ้าที่กำลังเช็ดหน้าอกโป๊ะหน้ามัน
“ถ้ามึงจะเอากูเป็นเมีย เอาพี่สาวกูดีกว่า มีลูกได้ด้วย ออกหน้าออกตาได้ สวย น่ารัก มีเสน่ห์ ทำกับข้าวก็เก่ง”
“นั่นพี่สาวกูเหอะ”
“พี่สาวกู นี่ ถ้ามึงจะเอาผู้ชายเป็นเมีย เอาพี่สาวเพื่อนเป็นเมียไม่ดีกว่ารึไง มึงพูดดีไป กูรู้ว่าใจมึงคิดกับพี่กูเกินพี่สาวไปแล้ว พี่กูด้วย”
มันมองหน้าผมอึ้ง ๆ
“ไม่มั้ง”
“นั่นพี่สาวกู กูรู้ มึงเพื่อนกู กูรู้”
“แต่นั่น…”
“มึงอย่ามาอ้าง” ผมชี้หน้าเบรก มันหุบปากลงฉับคล้ายจะยอมจำนน
เอ้อ เงียบไปเลย
ผมคลี่ปลดเสื้อมันเพื่อเช็ดรักแร้มันดี ๆ ผมไม่ได้รังเกียจหรอก เพราะมันก็เคยทำให้ผม มันพลิกตัวหน่อย ๆ ให้ผมเช็ดดี ๆ สงสัยมันอยากสะอาดจัด ๆ เลยให้ผมถอดเสื้อให้ ผมก็ทำตาม จนตอนนี้มันนอนโป๊ท่อนบน ผมก็จับมันพลิกตะแคงเพื่อเช็ดหลังมัน ก่อนซักผ้าอีกรอบ เช็ดก้นมัน กำลังจะเช็ดไข่ มันรีบหยุดมือไว้
“มึง ไม่ต้องก็ได้มั้ง น้องกู กูเช็ดเองก็ได้” มันบอกอาย ๆ
“ตามใจ” แล้วมันก็ดึงผ้าไปเช็ด ๆ น้องมัน ก่อนยื่นมาให้ผมซัก ผมก็ซักแล้วเอาไปเช็ดขามันต่อ แบบละเอียดเลย
พอเสร็จ ผมก็เอากะละมังและผ้าไปซัก เดินเช็ดมือออกมาใส่เสื้อผ้าให้มัน ไผ่มองหน้าผม แกล้งทำตาเชื่อม
“มึง กูอยากได้มึงเป็นเมียว่ะ มะ มาเป็นเมียกูดีกว่านะ” ไม่พูดเปล่า ยังดึงผมขึ้นไปบนตัวมัน ผมพยายามจะขัดขืน แต่ทำได้ไม่มาก เพราะกลัวไปถูกขามันเข้า
ตอนนี้ผมมานอนอยู่บนตัวมันแล้วครับ เบี่ยงไปทางซ้ายนิดหนึ่ง ไม่ให้ชนขาขวาที่หัก
นี่ขนาดป่วยหนักนะ แรงควายจริง ๆ มันมองหน้าผมเคลิ้ม ๆ แกล้งทำหน้าหื่น ๆ กะลิ้มกะเหลี่ยใส่ ผมยิ้ม ตบหน้าผากมันไปที
“เมาน้ำเกลือไงมึง”
“คงงั้น” มันพูดเคล้าเสียงหัวเราะ ผมขยับหวังจะลงจากเตียง แต่ผิดจังหวะไปหน่อยจนเกือบตก มันรีบคว้าผมกลับไปนอนที่เดิม
“ใจเพื่อน” ผมจะลุกดี ๆ อีกรอบ แต่มันกอดผมไว้แน่น “ปล่อย กูจะลง เลิกเล่นได้แล้ว เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะพาลเข้าใจผิดกันเปล่า ๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า อยู่ให้กอดก่อน ให้นอนคนเดียวบนเตียงโรงพยาบาล มันเหงา” มันกระชับกอดผมแน่นขึ้น ผมเลยยอมนอนอยู่เฉย ๆ ให้ มองหน้าโทรม ๆ ของมัน
“นอนกอดมึงแบบนี้ เหมือน ๆ ร่างกายกูจะหายเร็วขึ้นด้วย” พูดแล้วก็ซบหัวกับไหล่ผมเบา ๆ ผมหัวเราะ ผลักหน้าผากมันออกมามอง มันทำหน้างอนหน่อย ๆ บ่นเหงาบ่นอยากหายเร็ว ๆ บ่นอยากกลับบ้าน ผมมองหน้ามันยิ้ม ๆ ยอมรับว่ามันหล่อดีครับ ก่อนหน้าของใครบางคนจะฉายเข้ามาแทนที่ ผมจ้องหน้ามันนิ่ง ๆ มันก็ยอมให้ผมมองดี ๆ เหมือนกัน
“จะว่าไปแล้ว หน้ามึงนี่ก็คล้ายพี่หมอนะ” ผมพูดไปตามใจคิด มันทำหน้าเอือมทันที คลายมือที่กอดผมไว้
“พูดถึงมันทำไมให้เสียอารมณ์”
“แค่คล้าย แต่มึงหล่อกว่าเยอะเลย”
มันยิ้มทันทีที่ผมพูดจบ
“จริงป่ะ หล่อกว่ามากมะ” มันถามอารมณ์ดี ผมยิ้มรับ พยักหน้า เหมือน ๆ จะเห็นหางมันกระดิกยิก ๆ เลย มันกอดผมไว้อีกรอบ
“นี่ กูจริงจังนะ กูฝากมึงดูแลพี่กูได้ไหม” มันมองตาผม ผมหลุบเปลือกตาลงต่ำ “กูไม่อยากให้พี่หมอจีบพี่ฟ้าติด ให้เราพยายามกีดกัน อาจทำได้ไม่ดีเท่ากับมึงได้คบกับพี่ฟ้าจริง ๆ ถึงเวลานั้น กูคงดีใจหลายอย่าง มึงก็เพื่อนรักกู เป็นเหี้ยก็จริง แต่ก็เป็นเหี้ยที่ดี” มันรัดผมแรงจนผมร้องอ๊อกเพราะจุก ผมตบหน้าผากมันอีกรอบ
“ปาก”
ผมหัวเราะ
“กูอยากให้มึงเป็นแฟนกับพี่ฟ้าจริง ๆ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง มันมองตาผมนิ่ง ๆ
“กูรักพี่ฟ้า แล้วกูก็รักมึงด้…” ยังพูดไม่ทันจบประโยคดี ประตูบานใหญ่นั้นก็เปิดออกโดยไร้เสียงเคาะ ผมกับไผ่หันไปมอง
“พี่หมอ” ผมครางเรียก พี่หมอยืนมองพวกเราอึ้ง ๆ อยู่กับที่ ผมรีบยกตัวด้วยความตกใจจนไปชนขาไผ่เข้า มันร้องโอ๊ย ผมรีบหยุดตัวเองลงทันที
“โทษที ๆ ไม่เป็นไรนะ” ผมถามขณะอยู่บนตัวมัน มันเบ้หน้า พยักหน้านิด ๆ รับ คงเจ็บจริง คราวนี้ผมค่อย ๆ ก้าวลงจากเตียง มองพี่หมอที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แอบเห็นแววไม่พอใจผ่านดวงตาคู่นั้นด้วย
พี่หมอเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง หยิบแฟ้มประวัติอาการไปอ่าน ผมได้แต่ยืนมอง รายนั้นไม่พูดอะไร ก้าวเดินจากไป
อดนึกไปถึงสิ่งที่พี่หมอทำเมื่อคืนไม่ได้
“หึ มาทำหน้าที่ลูกตอแหลที่ดี” ไผ่มันว่ากระแนะกระแหน
“มึงก็เหมือนกันเถอะ” ผมด่า “ดึกแล้ว นอนได้แล้ว กูจะได้นอนด้วย”
“มึง มานอนกับกูมะ” มันตบข้างตัวปุ๊ ๆ ผมมองหน้ามัน แกล้งดีดขามันไปนิดจนมันร้องโอ๊ยอีกรอบ
“เจ็บขนาดนี้ เกิดกูนอนดิ้นไปถูกเข้าจะทำไง”
มันทำตาละห้อย “ที่นอนออกกว้างน่า อีกอย่างมึงนอนไม่ดิ้นด้วย นะนะ กูเหงา”
ผมไม่สนใจ เดินไปทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา มันแง๊ว ๆ อีกนิดหน่อย ก่อนอยู่นิ่ง ๆ ยอม
ได้ยินเสียงเมสเสจดังเบา ๆ ผมล้วงหยิบมาดู เป็นข้อความที่ทำให้ผมต้องกัดปากแน่น
‘ร่าน’
ผมกดลบทันที ก่อนข้อความใหม่จะถูกส่งเข้ามาอีก ผมกดอ่าน
‘ออกมา ฉันรออยู่ข้างนอก’
ผมมองไปทางไผ่ มันยังขยับดิ้นด๊อกแด๊กอยู่ ผมกดตอบไป
‘ไม่’
ไม่มีอะไรกลับมาอีก ผมวางมือถือไว้ที่เดิม หลับใหลไป ก่อนสะดุ้งตื่นเพราะมีใครบางคนมาอุดปากไว้
พี่หมอ!
“หึ คนป่วยก็ยังไม่เว้น ไม่คิดว่าจะอยากมากขนาดนั้น บอกฉันก็ได้ เดี๋ยวตอบสนองให้” พี่หมอขยับมือขยุกขยิกกับด้านล่างของผมจนกางเกงผมหลุดจากตัว
“อย่า พี่หมอ” ผมพยายามดิ้นรน แต่เสียงดังมากไม่ได้เพราะกลัวไผ่ตื่นขึ้นมาเห็น พี่หมอกระตุกยิ้ม ละมือที่ปิดปากมารวบจับสองมือผมตรึงไว้เหนือหัว อีกข้างยกขาผมพาดบ่า เชื่อมบางส่วนเข้ามา ผมหยุดดิ้น เพราะกลัวเกิดเสียงแล้วคนเข้ามาเห็น ผมขยับปากกระซิบห้าม น้ำตาคลอเบ้า มองไปทางไผ่ที่ยังคงนอนนิ่ง หันกลับมามองคนที่ยกยิ้มมองผมอยู่
“ตื่นเต้นดีใช่ไหม”
“ไม่ อย่าทำพี่หมอ” ผมกระซิบห้ามอีกรอบ เขาขยับท่อนล่างเบา ๆ ผมแทบกลั้นใจตาย
“พี่หมอ อย่าทำ” ผมร้องขออีกรอบ น้ำตาที่ประคองไว้ตรงหางตาพากันร่วงหล่น ตอนนี้มันรู้สึกอึดอัดไปหมด กลัวทั้งไผ่และนางพยาบาลจะเข้ามาเห็น
ผมเลิกร้องขอ แต่มาภาวนาขอให้พี่หมอหยุดเร็ว ๆ ผมกัดกรามแน่น มองคนด้านบนตาขวาง
“สารเลว”
พี่หมอยิ้ม
“เหมาะกับคนร่าน ๆ ดี ตื่นเต้นดีไหม เห็นทำกับไผ่ คิดว่าน่าจะชอบแบบนี้” อยากปฏิเสธเหลือเกิน แต่สิ่งที่ทำได้ มีแค่กัดฟัน บีบรัดส่วนนั้นแน่นหวังให้คนตรงหน้าหยุดเกมนี้ลงเร็ว ๆ
“หึ ถูกใจล่ะสิ รัดซะแน่นเชียว”
“ไม่ใช่ อ๊ะ!”
ผมคลายปล่อยเพื่อเป็นการปฏิเสธตามข้อกล่าวหา แต่พี่หมออาศัยจังหวะนั้นกดลึกเข้ามามากขึ้น ผมผวาเฮือก เผลอแอ่นอกตอบรับครางออกมาเสียงดัง ได้ยินเสียงหัวเราะหึ ๆ อย่างถูกใจจากคนด้านบน
พี่หมอคลายปล่อยมือผมให้เป็นอิสระ ผมรีบชักกลับหวังผลักพี่หมอออก แต่เรี่ยวแรงหดหาย ทำได้แค่กอบกุมอกเสื้อเขาไว้เท่านั้น ผมขยับมุดหน้ากับอกกว้าง เลื่อนสองมือขึ้นไปโอบกอดแผ่นหลังแกร่งไว้ระบายความซาบซ่านที่มีมากตอนนี้ออก
“พี่หมอ…”
TBC...
ขอบคุณคอมเม้นท์ A4 จากคุณ yoghurtz นะคะ ปลื้ม
คำเตือน ตอนหน้าพี่หมอหึงหนักมากและ ...มุ้งมิ้งหนักมากเช่นกัน = =
ตัวอย่างตอนถัดไป
“พี่หมอ” เสียงเร้าอารมณ์ผสมทรมานของมันดังก้องไปทั่วทั้งโสตประสาทหูผม ผมปลดปล่อยสัตว์ร้ายออกมากัดกินมันอีกครั้ง ให้สาสมกับความทรมานที่ผมได้รับในวันนี้
ผมหอบแฮก กัดหูมันไปแรง ๆ ที ก้มฝากรอยไว้บนแผงอกมันด้วยหลายจุด
“ห้ามนอนกับไผ่อีก ถ้านอนครั้งหน้าจะยิ่งกว่านี้” ผมกระซิบข้างหู ตัวมันสั่นสะท้านเพราะแรงอารมณ์ผสมหวาดกลัว จวบจนทุกอย่างจบสิ้นสิ้นลง
ผมลุกยืน แต่งตัวให้เรียบร้อย หันมองไปทางเตียงนอนที่ไผ่ยังหลับไม่ได้สติ
ถึงนายจะรักฝนแค่ไหน แต่ฝนเป็นของฉัน