{ _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}  (อ่าน 445403 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
นิราศโชซอน ตอนที่ 13









   ผมทันเห็นพ่อของผมวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากในบ้านเพื่อต้อนรับเสด็จพระราชา และพอพ่อเห็นพระราชาพ่อก็โบกมือไล่ผมที่จู่ๆ ก็โผล่มาเซอร์ไพรส์แบบไม่ใยดีอะไรเลย
   หันมามองซ้ายมองขวาผมก็ไม่เห็นคังยูกับองครักษ์ของเขาอีกต่อไป ผมจึงเดินตามหาไปทั่วบริเวณบ้านของผมที่ความรู้สึกโคตรไม่เหมือนบ้านของผม โอ๊ะ นั่นไง ผมเห็นเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าคนที่กำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเขาสองคน ชักดาบออกมาพร้อมที่จะฟันคอคนที่อยู่ตรงหน้าทุกเมื่อ
   น่ากลัวชิบหาย!

   “โปรดประหารชีวิตกระหม่อมด้วยเถิดพะย่ะค่ะ กระหม่อมสมควรตาย กระหม่อมบกพร่องต่อหน้าที่”

   แทนที่ไอ้คนที่คุกเข่าอยู่มันจะร้องขอชีวิต แต่มันกลับขอให้คังยูปลิดชีวิตตัวมันเองซะงั้น และดูเหมือนคังยูก็อยากที่จะตอบสนองต่อคำร้องขอนี้มาก ผมเห็นมันจะฟันเข้าไปที่คอคนๆ นั้นจริงๆ แล้ว
   มึงจะบ้าเหรอ!

   “ย้า!!!” ผมรีบร้องห้าม โผล่ออกมาจากที่ซ่อนแล้วไปคว้ามือของคังยูที่ถือดาบเอาไว้เพื่อห้าม
   “ปล่อยมือข้า”
   “เจ้าจะทำอะไร เจ้าจะฆ่าเขาอย่างนั้นหรือ”
   “เจ้าพวกนี้สมควรตาย พวกมันบกพร่องต่อหน้าที่”
   
   ผมกระพริบตาปริบๆ มองดูใบหน้าของคังยูที่จริงจังมากกว่าทุกครั้ง ผมกลืนน้ำลายหันไปหาซองชิลเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ฝันไปเหอะว่ามันจะช่วย มันเป็นลูกกระจ๊อกของไอ้คังยูนี่
   ผมรู้ว่าสมัยก่อนการตายของคนๆ หนึ่งมันง่ายมาก อาจเป็นเพราะสงครามหรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ จะอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาตายอยู่ในบริเวณบ้านผม
   และที่สำคัญ...ผมไม่อยากเห็นคังยูฆ่าคน

   “ส่งพวกเขาไปรับอาญาเถอะ” ผมอ้อนวอน “เจ้าจะฆ่าคนจริงๆ หรือ เจ้าดูไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
   
   คังยูเหลือบมามองผม ดูเขาชั่งใจยังไงก็ไม่รู้ เหมือนใจหนึ่งก็อยากจะฟันๆ ให้มันจบไปเสีย แต่อีกใจหนึ่งก็ดูหวาดๆ ไปเมื่อมองหน้าผม
   ผมไม่ได้กลัวจนตัวสั่น แต่ผมมองเขาด้วยสายตาที่อ้อนวอนเป็นอย่างยิ่ง ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่รู้ว่าสะกิดในหัวใจมันบ้างหรือเปล่า

   “ก็ได้” มันยอมลดดาบลงในที่สุด “ซองชิล ส่งพวกนี้ไปรอลงอาญา”
   “ขอรับนายน้อย”
   
   ซองชิลเดินนำตัวองครักษ์ของพระราชาที่ยอมเดินตามเขาแต่โดยดี

   “หวังว่ายามอารักขาที่บ้านเจ้าจะหนาแน่นมากพอสำหรับพระราชานะ” คังยูเอ่ยเสียงจริงจังเป็นที่สุด “แต่ก็นะ รั้วสูงขนาดนี้ จะปีนเข้ามาก็คงยาก”   

   ผมมองรอบๆ อย่างไม่ค่อยคุ้น แต่ก็ต้องทำเป็นคุ้น

   “เจ้าไปหาน้ำหาท่าดื่มเถอะ” ผมมองคังยู
   “เจ้าเป็นเจ้าของบ้าน ทำไมไม่หามาให้ผู้มาเยือนล่ะ”
   เออว่ะ... “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าไปนั่งรอที่...” ผมชี้นิ้วขึ้น แต่ไม่รู้จะชี้ไปทางไหน ตรงไหนดีวะ นิ้วผมวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นจนคังยูมันทำหน้างง ๆ  ใส่ “ตรงโน้นก็แล้วกัน อากาศน่าจะดีมากกว่าแถวนี้ ข้าจะจัดเตรียมน้ำชาไปให้”
   “เจ้าเอาใจข้าเพราะข้าไม่ฆ่าคนต่อหน้าเจ้าอย่างนั้นหรือ”
   “ข้าแค่ทำหน้าที่เจ้าของบ้าน”
   
   คังยูส่งเสียงหึนิดหน่อย ก่อนที่จะเดินไปตามที่ ๆ ผมว่า ผมกลืนน้ำลายลงคอ เดินกลับเข้าไปในบ้านตัวเองที่มีบ่าวรับใช้พอหยุมหยิม ผมแอบเห็นคุณลุงพ่อบ้านด้วย ผมส่งยิ้มทักทายเขา
   ลุงบอกให้ผมไปเปลี่ยนชุดและลุงบอกจะจัดน้ำชาไปให้คังยูเอง ผมจึงทำตาม เพราะเสื้อผ้าของผมมันสกปรกไม่มีชิ้นดี








   นี่สินะคือห้องของลียองวอน

   ผมหาได้มีความคุ้นตาในห้องนี้ไม่...ไม่มีเลยแม้แต่น้อย มันเป็นห้องเกาหลีโบราณธรรมดา ๆ ไม่ค่อยหรูสมฐานะเสนาบดีขวา ถึงอย่างนั้นก็ตามกลิ่นความอบอุ่นใจสไตล์บ้าน ๆ ก็เข้าจมูกผม ผมอยู่ที่นี่รู้สึกสบายกว่าอยู่ที่ห้องพักโรงเรียนอีก(แหงสิ ก็มันใหญ่กว่า) ผมทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย และก็เดินสำรวจข้าวของในห้องไปด้วย อยากจะรู้ว่าชาติที่แล้วตัวเองแอบมีหนังสือโป๊ซ่อนไว้เหมือนที่ผมซ่อนซีดีโป๊ไว้ใต้เตียงสมัยวัยรุ่นรึเปล่า
   ผิดคาดที่สุด ไม่มีแม้แต่สิ่งของเพื่อความรื่นเริงบันเทิงใจ มีแต่หนังสือ หนังสือ และก็หนังสือ ผมกลอกตาบนอย่างเบื่อ ๆ จนกระทั่งตอนที่ผมเก็บหนังสือกลับเข้าที่นั่นแหละ ของที่น่ารื่นเริงบันเทิงใจที่สุดก็หล่นตุบลงไปที่พื้น

   มันเป็นป้ายหยกหรูหราที่มีพู่สีสวยห้อยอยู่ ผมมองมันอย่างพินิจพิจารณาพร้อมกับทำหน้างงใส่ตัวอักษรภาษาจีนที่ถูกสลักติดอยู่บนป้าย

   “เจ้าควรส่งข่าวมาก่อนว่าจะมา เหตุไฉนถึงทำให้คนในบ้านวุ่นวายแบบนี้” เสียงเอ็ดตะโรดังมาก่อนตัวมาถึงซะอีก พ่อของผมเอง
   “ท่านพ่อ” ผมรำพึง
   “เอาเถอะ อย่างน้อยมาก็ดีแล้ว” พ่อในยุคโบราณเดินเข้ามาสำรวจรอบ ๆ ตัวผม “เจ้าไม่ได้บาดเจ็บอะไรตรงไหนใช่หรือไม่”
   “ข้าไม่ได้บาดเจ็บ” ผมรีบตอบ “เรื่องที่บ้านมีปัญหา ทำไมไม่มีใครส่งข่าวบอกข้า”
   “อย่างเจ้าจะช่วยแก้ปัญหาอะไรได้” อ้าวพ่อ...ซะงั้นอ่ะ “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย พระราชาลงทุนเสด็จมาหาข้าถึงนี่ เจ้าคิดว่าที่บ้านจะแก้ปัญหาไม่ได้เชียวหรือ”
   “พระองค์เสด็จมาเพราะอะไร ท่านพ่ออย่าบอกข้านะ ว่าที่พระองค์มีอันตรายก็เพราะเพื่อที่จะมาหาท่านพ่อ”
   “พระองค์ทรงมีเมตตา” พ่อทำหน้าสำนึกผิด “ว่าแต่เจ้าเถอะ เหตุไฉนถึงพาสหายผู้สูงศักดิ์มาเผชิญเรื่องวุ่นวายเช่นนี้”
   “ข้าเป็นห่วงที่บ้าน”
   “ข้าบอกแล้วไง เจ้าทำอะไรไม่ได้” พ่อยังคงสบประมาทผมเช่นเดิม ก่อนที่จะหันมามองของในมือผม “เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ ของในมือเจ้า”
   “เห็นแล้วขอรับ”
   “...คงจะถูกใจเจ้า”

   ถูกใจไรฟะ...ผมมองมันอย่างงง ๆ และก็มองไปหาพ่อด้วยสายตาที่งงยิ่งกว่า

   “ข้าต้องถูกใจมันด้วยเหรอขอรับ”

   พ่อสมัยโบราณของผมแทบจะแพ่นกบาลผมเลยทีเดียว

   “ก็เจ้าเป็นคนบอกให้ข้าช่วยหามาให้เจ้า!” พ่อร้องเสียงลั่น “รู้อย่างนี้ข้ามิลำบากลำบนให้เพื่อนข้านำมันมาจากต้าหมิงเพื่อเจ้าหรอก”
   
   ผม ไม่สิ ยองวอนต้องเป็นสั่งพ่อให้เอามาให้มันแน่ ๆ ว่าแต่ของสวย ๆ แต่ดูแต๋วแดกนี่มันจะเอามาทำไมกัน หรือว่ามันมีรสนิยมแบบนี้ ปกติผมเห็นแต่ผู้หญิงเขามีกัน ถึงแม้ว่าของสิ่งนี้มันจะมีสีน้ำเงินและก็สีแดงเป็นสีหลักก็ตาม
   ไม่หรอก ผมสัมผัสได้ว่ายองวอนมันมีความแมนอยู่ในตัวสูง...(ผมเชื่อ)...เพียงแต่ว่ามันชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้นเอง
   เอ่อ ยิ่งแก้ตัวให้มันก็ยิ่งแย่ เอาเป็นว่าผมงงมากที่ยองวอนมันบอกให้พ่อหาของสิ่งนี้มาให้

   “เจ้าเข้าใจเลือกนะ เส้นไหมที่ใช้ถักทอพู่ห้อยเป็นผ้าไหมหายากและที่สำคัญคำที่สลักบนป้ายนั่นก็ดูดีมีความหมาย”
   
   ผมกระพริบตาปริบ ๆ มองหน้าพ่อ

   “ภาษาจีน แปลว่า ‘นิรันดร์’”

   ผมมองไปที่ป้ายอีกครั้งอย่างทึ่ง ๆ ทีี่แท้ภาษาจีนคำนี้ก็แปลว่านิรันดร์นั่นเอง

   “เจ้าบอกว่าจะเอาไปให้คนที่เจ้าหมายตาเอาไว้ หวังว่าจะนำตัวนางมาให้ข้าได้รู้จักในเร็ววัน”

   พูดจบพ่อก็เดินออกจากห้องของผมไป อยากจะบอกเหลือเกินว่าคนที่ยองวอนมันหมายตาคือคนที่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ริมสระน้ำสีเขียวสะอาดหน้าบ้าน ไม่ใช่หญิงคนใดคนหนึ่งในโชซอนเลยครับคุณพ่อ
   ผมถอนหายใจดังพรืด มองดูของในมือด้วยความหนักอกหนักใจ ยองวอนมันอย่างให้ของสิ่งนี้ และชาติที่แล้วในเวลานี้ มันได้ให้หรือเปล่านะ...

   …คงจะไม่ ในเมื่อมันป๊อดเสียยิ่งกว่าทุกคนที่ป๊อดบนโลกนี้อีก...









   แปลกที่ผมรู้สึกขัดเขินมากกว่าครั้งไหน ๆ ที่เจอหน้ามัน
   ผมยังจำเรื่องที่กระซิบกระซาบกับมันเบื้องหลังพระราชาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว บอกตามตรงอะไรทำให้ผมเคลิ้มไปได้ถึงขนาดนั้น มีอะไรในใจก็บอกมันออกไปหมดเลย จะว่าไปแล้วก็รู้สึกอายอยู่นิด ๆ นะครับ

   “อะแฮ่ม” ผมกระแอม คังยูในท่าที่อยู่อย่างสุขสำราญตวัดสายตาหันมามอง ผมใจเต้นตึก ๆ ทันที
   “เจ้าหายไปตัั้งนานสองนาน” เขาถอนหายใจเสียงเบา “พระราชาเสด็จกลับแล้วหรือ”
   “อาจจะเสด็จกลับไปแล้ว” ผมเดาล้วน ตกลงผมกับมันควรไปส่งพระองค์เสด็จกลับไม่ใช่หรือครับ แต่ทำไมมานั่งจิบชายามเย็นแบบนี้ได้

   ดูเหมือนคังยูจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเล็กน้อย คงจะดีใจล่ะมั้งที่พระราชาของประเทศนี้ปลอดภัย

   “บ้านของเจ้าสะอาดร่มรื่นดี” คังยูเอ่ยช้าๆ “น้ำก็ใสสะอาด ปลาในน้ำก็ว่ายไปมาอย่างมีความสุข เหมาะกับการอ่านหนังสือ วาดภาพยิ่ง”
   มันมีอารมณ์สุนทรีย์แบบนี้กับชาวบ้านเขาด้วยเหรอ... “บ้านข้าก็เป็นเช่นนี้แหละ ร่มรื่นชื่นใจ น่าอยู่น่าอาศัย”
   คังยูคงจะคิดในใจสินะว่าผมนี่หลงแม้กระทั่งบ้านตัวเอง “อะไรอยู่ในมือของเจ้าน่ะ”

   ป้ายหยกที่พ่อสั่งทำมาให้ ผมไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง ก็เลยเอาซ่อนไว้ข้างหลังก่อน “ไม่มีอะไรหรอก”

   “ดูมีลับลมคมในพิลึก”
   “ข้าบอกว่าไม่มีอะไรยังไงล่ะ” ผมว่าลียองวอนมันป๊อด จะว่าไปผมเองก็ป๊อดไม่ต่างจากมัน เห็นหน้าคังยูแล้วเริ่มมีความรู้สึกกระดากอายไม่เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งมันทำหน้าอยากรู้อยากเห็น ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แบบนี้แล้ว...
   “ข้าจะไม่ถามถึงมันอีก” คังยูหยิบน้ำชาขึ้นมาจิบ มองไปที่ธารน้ำเบื้องล่าง ก่อนที่จะหันมามองหน้าผมอีกครั้ง    
   แปลกที่ผมรู้สึกเคอะเขินมากกว่าแต่เก่าก่อน ผมเกาหัว พยายามเพ่งสมาธิไปที่ขนมอะไรไม่รู้ที่อยู่บนโต๊ะ มันทั้งหอมทั้งน่ากิน แต่เชื่อมั้ยครับว่ามันไม่สามารถทำลายอาการเคอะเขินของผมที่มีอยู่ในตอนนี้ได้ (ขนาดผมเป็นคนชอบกินนะเนี่ย)
   “เจ้า...รู้สึกประหลาดไหม” คังยูเอ่ยถามผม หลังจากผมกับมันเงียบไปอยู่นาน
   “ประหลาดเหรอ”
   “เรื่องที่ข้า...” เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนที่ขี้เก๊ก มีความมั่นใจสูงส่งอย่างคังยูจะพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “...ข้าพูดกับเจ้า เมื่อไม่กี่เพลาที่แล้ว”

   ผมรู้ว่าเรื่องอะไร เรื่องที่เราสองคนกระซิบกระซาบลับหลังพระราชา
   เรื่องที่เขาบอกว่า เขายินดีที่อยู่กับผมมากกว่าแต่งงานกับคนที่กำหนดมาให้เขาแล้ว...

   มึงจะขุดขึ้นมาให้กูเขินมากขึ้นกว่าเดิมทำไมฟะ
   
   “เจ้าคิดว่าเหตุไฉนทำไมข้าถึงพูดเช่นนั้น”
   ถามกันตรงๆ แบบนี้จะให้กูตอบว่าอะไรล่ะวะ... “เจ้า...”
   “ข้าทำไม..”
   “เจ้าอาจจะ...”

   ชอบลียองวอน...

   ไม่สิ...ผมจะพูดแบบนั้นทำไม ถ้าไม่ใ่ช่ขึ้นมาล่ะก็...อับอายตายห่าเลยนะครับ

    ผมพยายามหาคำพูดอื่นมาเสริมเติมแต่งให้มันดูมีเหตุมีผลที่สุด “เจ้าอาจจะ...ประสาทกลับ” ดูมีเหตุผลมากเลยใช่มั้ยล่ะครับ
   “ว่าอย่างไรนะ” คังยูทำน้ำเสียงตกอกตกใจ
   “การที่เจ้าไม่อยากแต่งงาน ทำให้สมองของเจ้าอาจจะมึนๆ เบลอๆ และอาจจะพูดออกมาเฉยๆ ไม่ได้ไตร่ตรองให้ละเอียด เจ้าดูรำคาญข้าจะตาย คงไม่มีสาเหตุอันใดที่อยากมาอยู่กับคนเยี่ยงข้า”

   ตึง!

   คังยูวางถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแรงจนสะเทือน ผมแอบเห็นปลาตกใจหนีไปว่ายที่ไกลๆ จากศาลาริมน้ำแห่งนี้เลยครับ
   คังยูเริ่มปั้นสีหน้าเย็นชาและน่ากลัวตามแบบฉบับที่เพิ่มดีกรีความน่ากลัวขึ้นไปอีกหลายเลเวล ผมกลืนน้ำลาย...ผมรู้ว่าพูดแบบนั้นมันทำให้อีกฝ่ายนั้นเสียใจอยู่ลึกๆ

   “ข้าคงประสาทกลับอย่างที่เจ้าพูดจริงๆ”
   
   คราวนี้เป็นผมที่ทำสีหน้าปั้นยาก...

   บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด ผมรู้สึกตัวเล็กจิ๋วในขณะที่ีอีกฝ่ายนั้นดูยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ตัวมันก็ใหญ่มากอยู่แล้ว

   “เหอะ” คังยูแค่นเสียง... “...ถ้าอย่างนั้น...ที่เจ้าพูดว่าราชาทรงโปรดปราณคนแบบไหนนี่ก็คง...ให้ความหวังข้า”

   คังยูพูดรัวเร็วซะจนผมฟังไม่ทันและเขาก็เหมือนไม่อยากให้ผมได้ยินด้วย เขายกชาขึ้นมาดื่มอีกหลายรอบจนผมเติมให้ไม่ทัน ท่าทางของเขาเหมือนคนที่กำลังกินเหล้าอยู่ยังไงยังงั้น
   ผมไม่รู้จะพูดยังไง ป้ายหยกที่อยู่ในแขนเสื้อของผมก็เหมือนจะสั่นระริกและก็อยากไปอยู่กับคังยูมากเต็มที แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมทำให้บรรยากาศดูแย่ไปหมด ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะผมเองนี่แหละ ที่ทั้งอาย ทั้งป๊อด

   จะว่าไปผมก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากไอ้ลียองวอนเลยนี่หว่า...

   “ยองวอน!!!”

   เสียงที่ผมคุ้นทำเอาผมหันไปอัตโนมัติ มีคนมาร้องเรียกผมอยู่ไม่ไกลจากศาลาเท่าไหร่นัก และเมื่อผมเห็นมัน ผมเพิ่งจะรู้สึกมีความสุขที่สุดเมื่อได้มาอยู่ในยุคโชซอน

   “เชี่ยกล้วย!!!!”

   ภาษาไทยได้ออกมาจากปากผมโดยอัตโนมัติ มันคือไอ้กล้วยใส่วิกผมยาวเหมือนผมเด๊ะๆ และที่เด็ดไปกว่านั้นคือมันแต่งตัวเหมือนเป็นข้าราชการผู้ตรวจการแผ่นดินของที่นี่
   ชาติที่แล้วของไอ้กล้วยถือว่าเด็ดไม่เบา

   “ยองวอน...ข้าไม่นึกว่าเจ้าจะอยู่บ้านในเพลานี้”

   ผมอึ้งแดกไปเล็กน้อย ไอ้กล้วยที่มาจากอีสานแท้ๆ กลับกลายเป็นหนุ่มเกาหลีโบราณขาวจั๊วะแถมยังดูเหมือนจะไม่รู้จักภาษาไทยเลยสักนิด
   ว่าแต่ในยุคนี้มันชื่อว่าอะไรล่ะเนี่ย...

   “เจ้า เอ่อ...สวัสดี” ผมทักอย่างมึนๆ แม้จะดีใจที่ได้เจอเพื่อนแต่เมื่อรู้ว่าเพื่อนเป็นคนในยุคนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากตอนที่เจอพ่อเท่าไหร่

   กูอยากจะร้องไห้...

   “คนผู้นี้คือ...” กล้วยหันไปหาคังยู มันทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผมและก็โค้งให้คังยูอย่างนอบน้อม
   “เขาชื่อคัง... เอ่อ ซองโจน่ะ เพื่อนที่ซองกยุนกวานของข้า”

   “สวัสดีขอรับ” กล้วยกล่าวอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จับตัวผมที่นั่งอยู่พลิกไปพลิกมา “เจ้าดูตัวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ที่ซองกยุนกวานไม่มีข้าวเลี้ยงเจ้าหรืออย่างไร”
   “ข้าก็กินเยอะตามประสาข้า แต่ร่างกายข้ามันไม่ตอบสนองต่ออาหาร”
   “งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกให้พ่อบ้านช่วยจัดสำรับอร่อย ๆ ให้เจ้าตลอดเวลาที่เจ้าอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน” กล้วยยิ้มแฉ่ง มันดูหล่อกว่าตอนเป็นนักศึกษารัฐศาสตร์มากถึงมากที่สุด ถ้าเอาไปเล่าให้มันฟังมันก็คงยิ้มแฉ่งไม่แตกต่างอะไรจากตอนนี้
   “ลียองวอน...”
   “เจ้าเป็นผู้ตรวจการงั้นหรือ” ผมถามเพื่อน
   “ใช่ ข้าเป็นผู้ตรวจการ ถามอย่างกับเจ้าไม่รู้จักข้า” กล้วยหยิบขนมขึ้นมาทาน
   “เอ่อ ข้าคงเรียนมากไปจนนึกอะไรไม่ออก” ผมพูดไปเรื่อย
   “ลียองวอน...”
   “แล้วตอนนี้...” ผมตั้งท่าจะถามต่อ
   “ลียองวอน!” เสียงของคังยูดังสนั่นจนปลาว่ายหนีหายไปอีก ขนมที่อยู่ในมือของกล้วยหล่นออกมาจากมือของเขา ผมรู้สึกตกใจจนผงะไปเกือบติดเสาของศาลา เมื่อตะกี้คังยูเสียงดังมากจริงๆ เหมือนเขาจะยิ่งหงุดหงิดหนักมากขึ้นไปอีกหลังจากที่พบเจอสหายของผม
   “ว่า...ว่าอย่างไร” ผมปากสั่นไปหมด
   “เจ้าจะพักอยู่ที่ตลอดสุดสัปดาห์ใช่หรือไม่”
   “ชะ ใช่” ผมพยักหน้า
   “ข้าจะกลับไปพักที่โรงเรียน” คังยูลุกขึ้นยืน ตัวของเขาสูงซะจนผมต้องมองจนสุดคอเพราะผมนั่งอยู่
   “แต่ข้าบอกให้พ่อบ้านจัดเตรียมที่นอนให้เจ้าแล้ว” ผมพูดความจริงออกไป

   คังยูตวัดสายตาไปที่กล้วยที่ทำท่าสบายๆ ไม่ได้สนใจว่าเขาจะอยู่หรือจะไป...

   “เจ้าชื่ออะไร” เขาไม่ตอบคำถามผม แต่ถามชื่อของกล้วยแทน
   “คิมโฮมินขอรับ” กล้วยละล่ำละล่ำตอบ เพราะมันเคี้ยวอยู่
   
   คังยูหรี่สายตาลงเล็กน้อย หันมามองหน้าผม ทำหน้าเฉยไร้อารมณ์ใส่ผมและหลังจากนั้นก็สะบัดชายเสื้อเดินลงจากศาลาไป โดยมีซองชิลรอรับอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ (มันกลับจากส่งองครักษ์พวกนั้นไปทำโทษได้ไวดีจริงๆ)

   “เพื่อนของเจ้าวางอำนาจยิ่งนัก แต่ข้าก็คิดว่าไม่ผิดหรอก ท่าทางเขาออกจะดูมีอำนาจมากมายขนาดนั้น”
   “…”
   “ยองวอน ฟังข้าอยู่หรือเปล่า”

   ผมมัวแต่มองตามหลังคังยูที่เดินออกจากบ้านของผมไปเลยทำให้ผมไม่ได้ยินที่กล้วยมันพูด (แม้จะรู้ชื่อมันแล้ว แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็ยังต้องชื่อกล้วยสำหรับผมอยู่ดี)

   “ถ้าเป็นห่วงนักก็ตามไปสิ”
   “ข้าไม่ได้ห่วง” ผมรีบพูด
   “ข้าดูสายตาเจ้าออกนะ”
   “อย่ามาทำเป็นรู้ดี”
   “เจ้ากลายเป็นคนต่อล้อต่อเถียงเก่งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

   ผมไม่สนใจไอ้เชี่ยกล้วยอีกต่อไป...หลุบสายตาลงต่ำมองไปที่ป้ายหยก ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังอยู่กับผม ไม่ได้ไปอยู่กับเจ้าของที่สมควรจะได้อยู่กับมัน







   


   [มีต่อนะคะ]

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
       
[ ต่อ ]




        เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลอดเวลาที่ผมอยู่บ้านผมเพียรพยายามถามถึงปัญหาทางการเงินที่บ้านของผมประสบอยู่ ปรากฎว่าพ่อไม่ยอมบอกอะไรผม บอกเพียงแค่ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่สามารถจัดการสะสางได้โดยไม่ยุ่งยากและผมก็ไม่ควรมายุ่ง เวลาทั้งวันจึงผ่านไปโดยที่ผมไม่ได้ช่วยปัญหาอะไรเลยและเอาแต่เซ้าซี้พ่ออยู่อย่างนั้น
   ผมเพิ่งรู้ความจริงเกี่ยวกับไอ้กล้วยว่าในชาตินี้มันเป็นลูกบุญธรรมของพ่อยองวอนและอยู่กับยองวอนมาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนพี่ชายคนหนึ่งยังไงยังงั้น เนื่องจากไม่ชอบอยู่กับตำหรับตำราเรียนจึงไม่อยากที่จะเป็นขุนนาง และอยากที่จะอยู่ในสายบู๊มากกว่าจึงสมัครไปเป็นผู้ตรวจการ ไม่รู้ว่าใช้เส้นพ่อหรือเปล่าเพราะว่าใช้เวลาสอบติดและก็ฝึกอย่างรวดเร็วจนอยู่ในระดับหัวหน้าหน่วย นานๆ ทีได้กลับมาที่บ้าน และก็มาเจอผมอยู่ที่บ้านพอดีอย่างไม่ได้ตั้งใจ
   ผมกลับโรงเรียนในตอนเย็นของวันอาทิตย์โดยมีไอ้กล้วยเดินไปส่งด้วย ตลอดระยะทางที่ก้าวเดินชาวบ้านชาวช่องทักทายไอ้กล้วยกันใหญ่ราวกับว่าทุกคนคุ้นเคยกับมันมาก บางคนถึงขนาดห่อเอามันเผามาให้มันกินด้วย ไอ้กล้วยก็รีบรับอย่างไม่มีปฎิเสธ พูดคุยกับชาวบ้านหัวร่อต่อกระซิกจนผมอดนึกไปถึงไอ้กล้วยในชาติที่มันเป็นคนไทยไม่ได้ ถ้ามันมีมนุษยสัมพันธ์อย่างนี้มันคงกลายเป็นทูตสัมพันธไมตรีที่ดีเลยทีเดียว

   “ยองวอน...”
   “ว่าอย่างไร”
   “ข้า...ข้าคิดว่าเมื่อวานข้าได้ทำผิดอย่างมหันต์” กล้วยทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อะไรของมัน เมื่อตะกี้ยังทำหน้าดีๆ อยู่เลย    
   “มีเหตุอันใด”
   “เรื่องของ...คุณชาย...คุณชายซองโจ”
   “…”
   “ข้าไม่ควรเสียมารยาทกับเขาแบบนั้น” กล้วยเกือบจะร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว มิหน้ำซ้ำยังเอามือตีหน้าผากของตัวเองใหญ่
   “เป็นอะไรไป” ผมรีบจับมือมันก่อนที่มันจะทำตัวเองเลือดออก
   “ข้าไม่ควรเสียมารยาทเลย ข้าสมควรตาย ข้านี่มันสมควรตายจริงๆ”

   “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะได้ตายจริงๆ อย่างที่เจ้าต้องการ”

   ชิ้ง... สิ้นเสียงของใครก็ไม่รู้ ดาบจากที่ไหนก็ไม่รู้ชี้มาที่อกของไอ้กล้วย ผมทำหน้าตื่นมองดูคนที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างอึ้งๆ ทันทีที่รู้ว่าเจ้าของดาบเป็นใคร ผมก็ได้โวยวายอย่างใหญ่หลวง

   “เจ้ายักษ์ เจ้าเป็นบ้าอะไรอย่างนั้นหรือ!”
   “ซองชิล เอาดาบลง” คนพูดทั้งหมดก็คือคังยู “ข้าไม่ทำอะไรอย่างที่เจ้าคิดหรอก”
   
   มันจะเล่นบ้าอะไรกันฟะ...ผมหายใจเสียงดังใส่หน้าคังยู ในขณะที่ไอ้กล้วยนั้นโค้งใส่คังยูเก้าสิบองศา แตกต่างจากตอนที่เจอเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด

   “เมื่อวานข้าน้อยสมควรตาย โปรดประหารข้าน้อยด้วยขอรับ!”

   “เจ้าไม่ได้ทำผิดอะไรขนาดนั้น พอเถอะ” ผมรีบฉุดมันให้เลิกเป็นบ้าสักที ในขณะที่คังยูที่มองอยู่ทำหน้าไม่สบอารมณ์

   “ข้าน้อยสมควรตาย สมควรตาย สมควรตาย!”

   “เจ้าจะมากับข้าหรือไม่ ยองวอน” คังยูไม่สนใจไอ้กล้วย
   “เจ้าจะฆ่าเขาหรือเปล่า” ผมถามคังยู
   “ข้าไม่ฆ่ามันหรอก”

   ผมถอนหายใจโล่งอก มองดูไอ้กล้วยใจหายใจคว่ำอยู่ข้างๆ หลังจากนั้นก็พยักเพยิดบอกมันว่าผมจะกลับไปที่โรงเรียน ไอ้กล้วยพยักหน้า โค้งบอกลาคังยูอีกครั้งและก็เดินจากไป

   คังยูเดินนำหน้าผมไป โดยมีผมเดินตาม ปิดท้ายด้วยซองชิล บรรยากาศไม่ได้แตกต่างจากเมื่อวานหลังจากที่แยกกันเลย ไม่ได้แตกต่างเลย...
   
   “เจ้าดูเป็นห่วงมันมาก”
   “ข้าโตมากับเขา” จริงๆ แล้วเพราะผมกับมันเป็นเพื่อนกันมานานต่างหาก และไม่ใช่แค่ตอนอยู่ในยุคโชซอนด้วย แต่เป็นตอนที่มาจากประเทศไทยเพื่อมาเรียนที่เกาหลีใต้เหมือนกัน
   
   คังยูพ่นลมออกมานิดหน่อย ไม่นานนักเขาก็ชะงักฝีเท้าเพราะตกใจจากการที่เห็นชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูป้ายประกาศอย่างสนอกสนใจ

   “เกิดอะไรขึ้น” คังยูรำพึง “ซองชิล เจ้าเข้าไปดูหน่อย”

   ไอ้ยักษ์โค้งให้ผู้เป็นนายอย่างรับคำสั่งก่อนที่จะเดินเข้าไปดูว่าทางการมีประกาศอะไรออกมา

   มือของผมจับไปที่ป้ายหยกในแขนเสื้อ...มองไปที่คังยูที่อยู่ใกล้ๆ...ถ้าผมไม่รีบให้ตอนนี้ล่ะก็ ผมอาจจะไม่มีความกล้าที่จะให้อีก

   ผมต้องทำตามเจตนารมณ์ของไอ้ลียองวอนให้ได้

   บางทีผมก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเจตนารมณ์เดียวกันกับผม...

   คำว่า...นิรันดร์...สำหรับผมมันเหมาะกับคังยูที่สุดแล้ว

   “คังยู”

   ผมรวบรวมความกล้า เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง อีกฝ่ายหันมาทำหน้าฉงนใส่...

   “ว่าอย่างไร”

   “คือข้า...” ให้ตายสิ ไม่ว่าจะยังไงก็มีความกล้าในการสบตามันน้อยลง “...ข้ามีอะไรจะให้...”

   คังยูหันมาทั้งตัวด้วยความสนใจ “อะไรหรือ”

   ป้ายหยกกำลังจะถูกดึงออกมาจากแขนเสื้อจนสุดแต่แล้วก็ถูกขัดจังหวะด้วยคำพูดของซองชิลซะก่อน...



   “ประกาศพิธีอภิเษกสมรสขององค์ชายซองโจกับคุณหนูยุนนาราขอรับ”
   

   

   องค์ชาย ?

   
   คังยูอ้าปากค้าง...มองมาที่ผม...ก่อนที่จะเอามือปิดปากของซองชิลเอาไว้

   
   ตอนนี้ผมความคิดของผมกำลังตีกันไปหมด มันมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ผมประสบพบเจอและเกี่ยวกับคังยู ตั้งแต่ตอนแรกที่เจอ เหตุการณ์ที่มันออกไปที่วังยามดึกเพื่อเยี่ยมเยียนพระพันปี ตอนที่มันพาผมไปตำหนักองค์ชายรอง ปรึกษาเรื่องที่ว่าองค์ชายรองจะแต่งงาน

   มันก็กำลังจะแต่งงาน มันก็มีคู่หมั้นเหมือนกัน

        ในตอนแรกที่มีข่าวลือว่าผมกับองค์ชายรองเป็นคู่หมั้นกัน แล้วจู่ๆ คังยูก็เริ่มเอ่ยเรื่องที่ผมเป็นคู่หมั้นของเขา

   ทำไมผมไม่เอะใจ...



   “ยองวอน...คือข้า...”



   ผมไม่ได้มีความโกรธอะไรเลยสักนิด

   

   ผมตกใจ ผมตกใจมาก และผมก็...ตกใจชิบหายยยยยยยยยยยยยย

   
   ไอ้เห้...นี่กูทำร้ายองค์ชายรองแห่งโชซอนไปตั้งเยอะ!!!!!!


   
   “ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยล่วงเกินพระองค์มามากมายเหลือเกิน!!!” ผมทิ้งตัวลงไปคุกเข่า (หนักกว่าไอ้กล้วยอีก) วิงวอนขอร้องไม่ให้คังยูทำโทษผม “โปรดลงโทษกระหม่อมด้วยเถิด!!!”


   “ยองวอน” คังยูเดินเข้ามาประคองตัวผมให้ลุกขึ้น แต่ผมยังคุกเข่าอยู่อย่างนั้น


   ตัวกูสั่นแล้ว...ตายแน่ ๆ ... ต้องตายแน่ ๆ... ชีวิตไอ้จูเนียร์จบสิ้นด้วยการทุกแขวนคอแน่นอน

   
   “ลุกขึ้น...”


   “กระหม่อมไม่มีหน้ามองพระพักตร์องค์ชายแล้วพะย่ะค่ะ”

   
   “ข้าสั่ง...ให้เจ้าลุกขึ้นมา”


   สิ้นเสียงของคังยู ผมรีบลุกขึ้นยืนโดยมีคังยูช่วยผมด้วย...ผมหลับตาปี๋แม้จะเงยหน้า เพราะผมไม่กล้ามองหน้าเขาจริงๆ ครับ


   “สำหรับเจ้าข้าไม่ใช่องค์ชาย”

   “พระองค์เป็นองค์ชาย อย่าหนีความจริงหน่อยเลย”

   “นี่เจ้าไม่โกรธที่ข้าหลอกเจ้าหรือไง”

   “กระหม่อมจะสามารถโกรธอะไรพระองค์ได้”

   “เจ้าโกรธข้าได้ ตบตีข้าด้วยความเจ็บแค้นก็ได้” คำพูดนั้นของคังยูมีการกระแอมของซองชิลเข้ามาขัด “ข้าขอแค่อย่างเดียว...เจ้าอย่าคิดว่าข้าเป็นองค์ชายได้ไหม ทำกับข้าเหมือนที่เจ้าเคยทำ ทำเหมือนข้าเป็นสหายของเจ้าคนหนึ่ง”

   “กระหม่อมจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรเล่า...”

   “ถ้าอย่างนั้น...ซองชิล เจ้ามานี่” คังยูแย่งดาบมาจากมือของซองชิลและก็เอาด้ามดาบตีเข้าไปที่ท้องของไอ้ยักษ์เป็นการใหญ่ “ทำไมเจ้าต้องเรียกว่าข้าเป็นองค์ชาย ข้าไม่ใช่องค์ชาย เจ้าทำกระต่ายน้อยตื่นตูมหมดแล้วนะ เจ้าต้องรับผิดชอบ”

   นี่มันอะไรกัน...

   ผมรีบแย่งดาบมาจากมือคังยู...

   “พระองค์อย่าทรงทำร้ายคนอื่นแบบนี้”

   “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ต้องปฏิบัติกับข้าเหมือนที่เจ้าเคยทำก่อน”

   ผมถอนหายใจ ส่งดาบคืนไปให้ซองชิลที่ลูบท้องตัวเอง...ผมเงยหน้าขึ้นมา สบสายตาที่เหมือนจะอ่อนลงไปมากของคังยู
   
   “กระหม่อมปฏิบัติเหมือนเดิมกับพระองค์ได้อย่างนั้นหรือ”

   “ได้สิ”

   “พระองค์จะไม่ทรงลงโทษกระหม่อมนะ”

   “ข้าไม่มีวันทำร้ายร่างกายเจ้าหรอก”

   “ถ้าอย่างนั้น...” ผมแย่งดาบของซองชิลมา หลังจากนั้นผมก็จัดการใช้ด้ามดาบตีเบาๆ ที่ร่างกายของคังยู “...ทำไมเจ้าต้องหลอกข้า ทำไมไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้!”

   “โอ๊ย โอ๊ย!!” คังยูร้องอย่างเจ็บปวด รีบปัดมือบอกไม่ให้ซองชิลเข้ามาขัดขวางการทำร้ายร่างกายคังยูของผม

   “จะให้ข้าโดนพระราชาสั่งประหารชีวิตก่อนหรือไง ข้าทำร้ายเจ้าตั้งมากตั้งมาย ทำไมเจ้าไม่รีบบอกข้า!”

   “โอ๊ยย พอแล้ว พอได้แล้ว”

   “ฮือออ... ข้าต้องตายแน่ ๆ ข้าต้องตายแน่ ๆ เลย”

   ผมทำดาบหล่น...ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ซองชิลรีบแย่งดาบของตัวเองไปเก็บ คังยูรีบเข้ามาปลอบผมโดยแตะที่ไหล่

   “เจ้าไม่ตายหรอก ข้าจะปกป้องคุ้มครองเจ้าเอง”

   “เจ้าไปห่าง ๆ ข้าเลย!”

   “ข้าเป็นองค์ชายนะ!”

   “ข้าไม่สนแล้ว!”

   “ยองวอน ข้าขอโทษ”

   “…”

   “จู๋เหี่ย”

   ผมที่กำลังจะโศก...หันไปมองดูคนพูดภาษาไทยไม่ชัด...ให้ตายสิ ไอ้คำๆ นี้มันยังไม่ตายไปจากโลกใบนี้อีกเหรอ...

   “ไม่สิ จูเนียร์ จูเนียร์ใช่ไหม...”

   “…”

   “เจ้าจำได้มั้ยว่ามันแปลว่าอะไร”

   ผมพอจะจำได้อยู่ว่าคังยูคิดว่าคำนี้มันแปลว่าอะไร

   ที่รัก...

   “สงบลงแล้วใช่ไหม” คังยูมองผมอย่างหวาดๆ ผมตัวเล็กลงกว่าเดิมพร้อมพยักหน้าส่งๆ ตอบเขาไป

   ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็คงต้องเกรงใจองค์ชายรองแห่งโชซอน...

   แล้วจะแกล้งมันยังไง มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยยยยยยยยยยย

   เรื่องนี้ผมคงช็อคไปอีกนาน   

   “แต่ว่า...” ผมเพิ่งนึกอะไรออก...ทำให้ผมนึกย้อนอยากไปตีปากตัวเองเพราะเมื่อกี้ผมเพิ่งให้ความสำคัญผิดเรื่อง คังยูถอนหายใจ มองดูประกาศใบนั้นอย่างหนักอกหนักใจ


   “เจ้ากำลังจะแต่งงาน”

   
   ผมพูดเองก็เหมือนทำร้ายตัวเอง...คังยูไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ กับเรื่องนี้ เขาเอาแต่นิ่งเงียบ ทำหน้าเหมือนกระดาษใบนั้นทำร้ายจิตใจเขานักหนา แต่เขาไม่สามารถปล่อยวางเรื่องนี้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นลงไปได้


   ผมเองก็เช่นกัน...



   คำว่านิรันดร์ของผม...อาจจะรู้ว่าต้องอยู่กับใคร...แต่ถ้ามีโอกาสให้คำนี้...ก็ควรจะให้



   ...แต่มันให้ไม่ได้เนี่ยสิ







TBC*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-01-2016 21:54:45 โดย chiffon_cake »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1:   กรีดร้องแล้วกอดน้องเค้ก. กล้วยมาความจริงมา แต่เป็นการบีบคั้นจริงๆ
ยองวอนเอ๋ยคงเตรียมจะสารภาพรักสักครั้งก่อนเขาจะแต่งงานใช่ไหม
จู๋เหี่ย อืมจำแม่นเชียวนะ พูดแบบนี้จะไม่ยิ่งเจ็บเร้อออออ  :ling1: 

จูเนีย์เอาไงดีลูก สู้หรือถอย ว่าแต่ไดอารี่เล่มเก่าไม่ได้เขียนเอาไว้ใช่ไหมเรื่องป้ายหยกเนี่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2015 20:20:47 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ในที่สุดน้องจูเนียร์ของเราก็รู้สักทีนะเอิลลล ว่าเจ้าชายเป็นซองโจที่รักนี่เองงง
แต่แบบพาร์ทนี้คือชอบกล้วยเหลือเกินเพคะ โดนใจหล๊ายหลาย
เป็นผู้ตรวจการซะด้วย เท่ไม่หยอกจริงๆ กล้วยอปป้า

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
จิ้มเลยยยยยยยย ต้องโดนทำโทษษษษษษ งื้ออออออ
เด๋วพุ่งนี้มาแน่ๆ กรี๊ดดดดดดด :z13:

ออฟไลน์ chibi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงยองวอนมากค่ะฮืออออ หนีไปด้วยกันเลยค่าาา

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ไม่น่าเข้ามาขัดเลยTT

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
โอยยย จะได้ให้มั้ย คังยูจะแต่งงานแล้วว ลียองวอนจูเนียร์จะทำยังไง

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ลับมาแล้วดีใจจัง
แต่พออ่านจบตอน แง้ววว
เศร้ากับจูเนียร์แผล่บ ประกาศแต่งงานออกมาขนาดนี้ จะต้องทำยังไง
มันเกียวกับปัญหาบ้านยองวอนหรือเปล่า โอ๊ยย เครียดดดด
น้องจูจะเกรียนออกอีกมั้ยเนี่ย
รู้ว่าเป็นองค์ชายแถมยังจะแต่งงานอีก

"นิรันดร์"จะยังไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Þrestigë

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กรีดร้องดีใจ \(.  .)/

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
ในที่สุดจูเนียร์ก็รู้ความจริงแล้วเรื่ององค์ชาย
คังยูก็หึงสินะทำปั้นปึงใส่
แต่จูเนียร์จะทำยังไงจะให้หรือไม่ให้ล่ะ :katai1:

 :pig4: :L2:

ออฟไลน์ zamziz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปรับอารมณ์ตามน้องจูไม่ถูกเลยย
ตลกก็ตลก กลัวก็กลัว เศร้าก็เศร้า 555

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
จู๋เหี่ย...  คำเดียวเท่านั้น อารมณ์เปลี่ยน  :laugh:

ออฟไลน์ painture

  • work hard play hard <3
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮือออ คังยู ไม่นะะะะ
 :hao5:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ฮืออออ อีกนิดเดียว

ออฟไลน์ LikeU

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
จู๋เหี่ย

คำเดียวจอด 55

นึกว่าจูเนียร์จะโกรธซะอีกตอนที่รู้ความจริง แต่ไม่โกรธแบบนี้ น่ารักมากลูกก
แล้วคังยูจะทำยังไงดีล่ะ แอบเปลี่ยนตัวเจ้าสาวได้มั้ย?

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อิจูรู้ความจริงแล้ววว
กำลังจะให้ของแท้ๆ แต่ดันมีเรื่องซะก่อน วู้ววว! ขัดใจ!
มาต่อไวๆ น้า

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อยู่ดีๆ พระราชาก็เร่งรัดวันอภิเษกสมรสระหว่างซองโจกับยุนนาราให้เร็วขึ้นแบบนี้ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันนะคะว่าพระองค์มีแผนการอะไรซ่อนอยู่ในนั้นหรือเปล่า อย่างเช่น ต้องการจับกุมตัวกบฏของแผ่นดิน (เสนาบดีซ้าย) โดยการล่อหลอกให้ตายใจด้วย 'อำนาจ' ที่อีกฝ่ายจะมีมากขึ้นหลังจากที่ตระกูลของตนเองได้เกี่ยวดองกับราชวงศ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นต้น

เพราะการที่พระราชาเสี่ยงมาหาเสนาบดีขวาถึงที่บ้านด้วยพระองค์เองนั้นก็คงจะมีธุระหรือเรื่องด่วนอะไรที่สำคัญและมีลับลมคมในมากพอสมควร ถึงขนาดที่ว่าเสนาบดีขวายังเลี่ยงที่จะตอบคำถามของยองวอน (จูเนียร์) ทุกครั้งที่ถามกันเลยทีเดียว.. :o9:

ส่วนน้องจู..ป่านนี้คงจะใจเสียน่าดูเลยนะคะนั่น เพราะของที่ตั้งใจจะให้ซองโจก็ยังไม่ได้ให้ ก็ดันมีเรื่องใหม่ที่สะเทือนใจยิ่งกว่าเข้ามาให้ได้ขบคิดแทนเสียอย่างนั้น :monkeysad: แล้วทีนี้ซองโจจะทำเช่นไรต่อไปหนอ~

รอตอนหน้านะคะ ^^

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :hao5:  ทำไมทำแบบนี้ โอ้ยยยย มาไวๆนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
กว่าจะมาคิดถึง จู๋เหี่ย แทบแย่ 555555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
อยากอ่านต่อขออีกเยอะๆได้ไหม

คังยู ~~~~~

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เสียใจ!!!

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
อืม ความจริงเปิดเผยแล้ว
คังยูโดนตีซะน่วมเลย 5555+

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น่าเสียดาย  :katai1:

ออฟไลน์ Chocobear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ผมนี่ถึงกับลั่นตรง จู๋เหี่ย
555555555555555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
กี้สสสสส :katai1:
ลุ้นไปด้วย

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชะงักอารมณ์ตรง "จู๋เหี่ย" นี่แหละ


ออฟไลน์ Rhythm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทุกการกระทำหยุดได้ด้วยคำว่า  “จู๋เหี่ย”  :m20:
ในที่สุด...เพื่อนกล้วยก็โผล่มา  :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด