ตอนที่11
“กันต์ชอบจี”
ผมพูดออกไปเสียวแผ่วเบา
พูดออกไป
ผมพูดอกกไปหรอ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
กะ..ก็แค่คิดเฉยๆแล้วไหงพูดออกไปซะล่ะ ทำไงดีทำไงดีๆ
ผมหันไปมองหน้าจีที่ตอนนี้นิ่งสนิท
“เอ่อ คือ....”ผมควรทำไงดี
ผมไม่รู้จะทำไงเลยวิ่งหนีออกมาเลย
“เดี๋ยวกันต์ กันต์!”ผมได้ยินเสียงจีเรียกตามมาด้านหลังแต่ตอนนี้ผมไม่สามารถหันไปมองได้แล้ว สองขาของผมเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมวิ่ง วิ่งเร็วที่สุดในชีวิต โบกแท็กซี่แล้วตรงกลับบ้าน ผมไม่รู้ว่าผมควรทำยังไง ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนด้วยซ้ำ
“อ้าวคุณหนู กลับมาเร็วจังค่ะ”ผมไม่ได้สนใจคำทักทายของป้าแม่บ้านผมวิ่งตรงขึ้นห้องนอนและล็อคห้องทันที พอเข้ามาในเขตของตัวเองขาผมก็หมดแรง ผมทรุดตัวลงนั่งหน้าประตูอย่างอ่อนแรง เหนื่อย นั้นคือความรู้สึกที่ผมควารจะมี แต่ตอนนี้ผมกับโล่งอกแบบแปลกๆแน่นอนความกลัวมันก็มีอยู่ด้วย แต่อย่างน้อยๆมันก็รู้สึกดีกว่าเมื่อก่อนขึ้นมานิดหนึ่ง
จีTalk
“สวัสดีค่ะคุณหนูจี มาหาคุณหนูหรอค่ะ”
“ครับ”ผมมาตามหากันต์ที่บ้านด้วยอารมณ์ดีสุดๆ ยิ่งพอนึกถึงหน้าเล็กกับริมฝีปากอิ่มที่บอกว่าชอบผม มันทำเอาผมหยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ
“เห็นรีบร้อนวิ่งขึ้นไปข้างบนจนตอนนี้ยังไม่เห็นลงมาเลยค่ะ ให้ป้าไปเรียกให้ไหม”ป้าแม่บ้านเดินมาบอกเล่าอาการของกระต่ายตื่นตูม
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมจัดการเอง”ผมว่ายิ้มๆและขอตัวเดินขึ้นมาจับกระต่ายขี้กลัว
“ล็อคด้วย”ถ้าจะกลัวจริงๆ ผมเลยรองเคาะประตูดู
“กันต์ไม่หิวครับป้า”เสียงกระต่ายตัวน้อยตะโกนออกมาจากอีกฝากของประตู ทำให้ผมอดขำไม่ได้จริงๆ แต่ก็ยังลงมือเคาะต่อไปเรื่อย ผมเคาะประตูอยู่แบบนันเป็นนาที
“ป้ากันต์ไม่....”ในที่สุดก็ติดกับ กันต์เปิดประตูออกมาก่อนจะปิดทันทีที่เห็นว่าคนที่เคาะประตูอยู่นั้นไม่ใช่ป้าแม่บ้านแต่เป็นผม แต่ผมไวกว่าดันประตูไว้ก่อนจะรีบแทรกตัวเข้าไปในห้องนอนที่คุยเคย
“ทำอะไร”พอผมเข้ามาได้เจ้าตัวก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที โชคดีที่ผมตัวยาวกว่าเลยคว้าเอวเล็กไว้ได้ทัน กันต์ดิ้นไปมาไม่ยอมหยุด
“ปล่อยนะ ปล่อยๆๆๆๆ ปล่อยดิ”ตัวก็แค่นี้ ดิ้นยังไงผมก็ไม่สะเทือนหรอกครับ พอปล่อยให้ดิ้นอยู่สักพักเพื่อนตัวเล็กของผมก็หมดแรง
“เหนื่อยแล้วหรอ”ผมถามยิ้มๆ ยิ่งทำให้กันต์ไม่พอใจใหญ่ถึงจะเหนื่อยแต่มือก็ยังไม่เลิกดันผมออกอยู่ดี
“อย่ามายุ่ง”ทำหน้าไม่พอใจกลบเกลื่อน
“ไม่ยุ่งได้ไงก็เมื่อกี้กันต์เพิ่งบอกชะ...”ผมเข้าประเด็กแต่ก็ถูกมือเล็กเข้ามาปิดปากไว้ก่อนพูดจบ
“ห้ามพูดๆๆๆ!!!”ทำไมกระต่ายเชื่องๆอยู่ๆก็ลุกขึ้นมาดื้อแพ่งขนาดนี้ ผมใช้อีกมือที่ว่างอยู่รวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างที่ปิดปากผม
ไว้ออกก่อนจะจับไว้ไม่ให้กระดุกกระดิกได้อีก
“ทำไมถึงพูดไม่ได้ก็มันเป็นเรื่องจริง”ผมเข้าไปกระซิบข้างหู มองดูคนตัวเล็กว่าจะทำยังไง แก้มใสๆเริ่มขึ้นสีแดงปลั่งลามมาจนถึงใบหูน่ารักจนผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจูบปากเล็กๆที่เม้มเข้าหากันอย่างคิดหนัก
“ทะ ทำอะไร”หน้าที่แดงอยู่ก่อนแล้วยิงแดงหนักขึ้นกว่าเดิม
“จูบ”ผมตอบหน้าตายค่อยมองคนในอ้อมกอดว่าจทำยังไงต่อ
“....”
“ชอบมานานหรือยัง”ผมปล่อยเอวเล็กออกเมื่อเริ่มคิดอะไรสนุกๆได้
“ไม่..”จ้องหน้าผมอย่างตกตะลึง
“ไม่อะไร”ผมกอดอกตีสีหน้านิ่งใส่ เจ้าตัวยิ่งเม้มปากเข้าหากันใหญ่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาเพราะแรมใจเสีย
“....”
“เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้วรู้หรือเปล่า”ผมถาม กันต์เงยหน้าขึ้นมามองผมดวงตากลมโตเริ่มคลอไปด้วยหน่วงน้ำตากัดปากแน่นเริ่มจนมันแดง
“....”
“ทำไมถึงทำแบบนี้”ผมตีหน้านิ่งพูดต่อไป
“...” กันต์ก้มหน้าลงก่อนที่ผมจะเห็นหยุดน้ำตาล่วงลงพื้นไม้ หรือผมเล่นแรงไป
“ทำไมถึงเพิ่งมาบอกเอาป่านนี้หืมห์”ผมคว้าเอวเล็กเอามากอดก่อนจะกระซิบข้างหูพร้อมกับจูบซับลงไปอย่างเอ็ดดู
กันต์เงยหน้ามามองผม ก่อนที่มือเล็กๆจะตีเข้าที่อกผมไม่ยั้งถึงแรงจะไม่ได้มากแต่ผมโดนเยอะขนาดนี้ ก็เริ่มรู้สึกเจ็บเหมือนกัน
“5555”ผมหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ยิ่งเห็นใบหน้ากลมๆงอจนหน้าแทบพับเข้าหากันมันยิ่งทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมากขึ้นกว่าเดิม
“หัวเราะหรอ นี่แนะๆ สนุกหรือไง”ยิ่งผมหัวเราะกันต์ก็ยิ่งตีกว่าพวกเราจะหยุดกันได้ก็ทำเอาแขนผมระบมไปหมด
“ไม่ได้สนุก แต่มีความสุข”ผมว่าก่อนจะดึงกันต์เข้ามากอดทั้งตัวโดยที่กันต์ก็กอดผมตอบ
ผมอยู่กินข้าวเย็นกับกันต์จนทุ่มกว่าๆ เราแทบไม่ได้คุยกันเพราะกันต์เอาแต่เขินผมอยู่ตลอดเวลาเมื่อก่อนผมก็ว่าเยอะแล้วแต่ตอนนี้กับมากกว่าเดิมซะอีก
“กลับแล้วนะ”กันต์เดินมาส่งผมที่รถ
“อืม กลับดีๆนะ”กันย์บอกผมแต่ยังยืนเฉยอยู่ที่เดิม ไม่รู้หน้าทีหรือไง
“จะกลับแล้ว”ผมเริ่มไม่สบอารมณ์เมื่อกันต์ยังยืนมองผมตาแป๋ว ไม่รู้ไม่ชี้
“อืม ก็ กลับดีๆนะ”กันต์ทำหน้างงๆที่ผมเริ่มทำน้ำเสียงไม่พอใจ
“มานี่”ผมกวักมือเรียกกันต์ให้เดินเข้ามาใกล้ แล้วจับจูบ
“ทำอะไร”กันต์เอาหลังมือเช็ดปากอย่างอายๆ
“จูบลาไง ที่หลังหัดรู้หน้าที่บ้างนะ”ผมว่าจบก็ก้มลงหอมแก้มใสอีกครั้งก่อน จะขับรถกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี
“น้องจี กลับซะค่ำเลย”เข้ามาก็เจอแม่ที่เพิ่งล้างจานเสร็จ
“ก็กินข้าวเป็นเพื่อนกันต์ที่บ้านครับ” ผมเข้าไปกอดเอวแม่ ผมไม่เคยสงสัยว่าทำไมแม่ผมต้องเป็นผู้ชายเพราะเรื่องนั้นมันไม่จำเป็น เพราะแม่ก็คือแม่คือคนที่ผมรักที่สุดและท่านก็รักผมเช่นกันแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
“อะ แฮม” ผมได้ยินเสียงไอขัดจังหวะของผมที่เดินลงมาก่อนจะจ้องมองมาที่ผมนิ่งๆเป็นอันรู้จันว่าผมควรต้องปล่อยเดี๋ยวนี้ พ่อขี้หวงผมรู้ เพราะผมก็เป็น
“ดูอารมณ์ดี”พ่อที่ตีเนียนเดินเข้ามากอดเอวแม่ด้านหลังมองผมอย่างรู้ทัน
“นิดหน่อยครับ”ผมตอบยิ้มๆก่อนจะขอตัวเดินขึ้นมาอาบน้ำ
หลังอาบน้ำเสร็จผมก็โทรไปหากันต์เหมือนทุกวัน ก็แค่คำถามทั่วๆไป พรุ่งนี้เรียนกี่โมง เลิกเรียนจะไปไหน ตามปกติที่เรามักคุยกัน แต่กันต์ยังดูเขินผมอยู่พูดน้อยกว่าเดิม
หลังจากคุยกับกันต์เสร็จผมก็โทรไปบอกเล่าเรื่องวันนี้ไอ้พวกไอ้ตุลย์ฟังถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยฟังท่าไหร่เพราะได้ยินเสียงครางจากเพื่อนอีกคนดังมาแว่วๆ
ผมไม่ตกใจกับเรื่องของพวกมันเพราะผมรู้มาตั้งนานแล้ว แต่ที่ผมตกใจคือเรื่องที่กันต์บอกชอบผมตั้งหาก แน่นอนผมรู้ว่ากันต์เริ่มเปลี่ยนไปมาสักระยะ แต่มันน้อยมากจนเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยน การที่กันต์ยอมพูดบอกชอบผมออกมาก่อนมันทำให้ผมตกใจ และนี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตที่ผมรู้สึกว่าใจผมเต้นแรงขนาดนี้
หึหึหึ อย่างน้อยแผลของไอ้ตุลย์ก็ไม่เลวทีเดียว
ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่บอกชอบกันต์ก่อนนั้นก็เพราะว่า ผมไม่แน่ใจและกลัว กลัวว่ากันต์จะยิ้มใสๆใส่เหมือนเมื่อ4ปีที่แล้วตอนงานวันวาเลนไทน์ ผมเคยบอกว่าชอบกันต์ แต่ตอนนั้นกันต์กลับยิ้มแล้วบอกผมว่าชอบเหมือนผมกัน แต่เพราะ กันต์บอกว่าเราผมเป็นเพื่อนที่กันต์ชอบที่สุด
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองผมคิดว่าความรู้สึกผมกับกันต์คงเหมือนกัน ชอบกันแบบเพื่อน นั้นแหละคือสิ่งที่ผมควรรู้สึก ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้รู้สึกเหมือนที่ตัวเองคิดเลยก็ตาม
บ้างครั้งความใกล้ชิดก็ทำให้เรามักคิดไปเองนั้นทำให้ผมเริ่มตัดใจและมองกันต์แค่สถานะที่ผมควรจะเป็น
แต่ตอนนี้ ผมคงไม่ได้เข้าข้างตัวเองและคิดไปเองคนเดียวอีกแล้วใช่ไหมครับ
ผมจบกิจกรรมในคืนนี้ด้วยการเปลี่ยน รีเรชั่นชิพ ในเฟสบุ๊คว่า
‘มีแฟนแล้ว’
TBC.