ตอนที่6
วันนี้อจ.ปล่อยช้าเป็นพิเศษผมจึงรีบวิ่งมาที่คณะวิศวะเพราะเลยเวลาที่ผมมักจะมาหาจีแล้ว ตลอดทางเดินนักศึกษาต่างจ้องมองผมด้วยความสนใจอาจจะเพราะข้าวของที่ผมหอบพะรุงพะรังจนดูไม่เหมือนนักศึกษา ผมก็ทำได้แค่พยายามวิ่งเพื่อให้ไปถึงที่ที่นักจีไว้
แต่อีกแค่ไม่กี่ก้าวข้างหน้า ขาผมกับต้องหยุดนิ่ง เพราะภาพรถยนต์คันหรูสีคุ้นตาได้ขับออกไป โดยมีผู้โดยสารคนใหม่ที่นั่งอยู่เคียงข้างเจ้าของรถ
ผมรู้สึกคอแห้งขึ้นมาพร้อมอาการแสบจมูกและรอบดวงตาที่เริ่มร้อนพราวบงบอกถึงอาการที่แสดงถึงความเสียใจที่จะมาในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ผมทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งอย่างเหนื่อยอ่อน หยิบมือถือขึ้นมาเพราะมีการแจ้งเตือนจากแอพพิแคชั่นสุดฮิต
Numyen:น้องที อยู่ไหน กลับพร้อมพี่ไหม
ผมจึงตอบคำถามออกไปแบบที่สวนทางกับเมื่อกลางวัน ไม่กี่นาทีต่อมารถหรูก็มาจอดอยู่หน้าคณะพร้อมพี่น้ำเย็นที่รีบลงมาช่วยผมหอบหิ้วข้าวของขึ้นรถ ชวนให้นึกถึงอีกคนที่มักจะทำแบบนี้ให้ตลอดทุกเย็นแตกต่างก็แค่มันเป็นอดีต
“ตาแดงๆเป็นไรป่าว”พอขึ้นรถมาปุ๊บพี่น้ำก็ถามอาการตามภาษาว่าที่คุณหมอทันที
“นั่งอยู่หน้าแอร์พอดีครับ ลมเลยเขาตา แดงมากเลยหรอ”ผมพยายามตอบให้ปกติที่สุดถึงแม้ตอนนี้ในใจจะเต็มไปด้วยคำถามและความเสียใจอยู่เต็มอก
ผมรู้ครับว่าตัวเองเป็นแค่เพื่อน จีจะเลือกแฟนตัวเองมาก่อนผมบ้างมันก็เรื่องธรรมดา แต่สำหรับผมคนที่เคยเป็นที่หนึ่งเสมอพอมาเจอแบบนี้ไม่ให้ผมรู้สึกได้ยังไง
ตลอดทางผมเอาแต่คิดทบทวนเรื่องของผมและจี ที่ผมอดทดและพยายามอยู่แบบนี้มันจะดีหรอ เพราะดูเหมือนยิ่งผมพยายามมากเท่าไหร่เหมือนมันจะยิ่งแย่กว่าเดิม
หรือบ้างทีผมควรจะหยุด
“น้องกันต์ถึงแล้วครับ”มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่น้ำลงมาเปิดประตูให้
“อ่อ ครับ ขอบคุณครับ”ผมรีบเดินลงมาพร้อมหันไปหยิบกระเป๋า แต่มาดูอีกทีของทั้งหมดของผมก็อยู่บนตัวพี่น้ำหมดแล้วผมจึงกล่าวขอบคุณ
“อ้าวน้ำมาพร้อมน้องหรอ”คุณพ่อที่เพิ่งเดินออกมาจากในครัวเห็นผมกับพี่น้ำเดินเข้ามาพร้อมกันต์จึงร้องทักอย่างแปลกใจ
“สวัสดีครับคุณอา ครับพอดีเลิกเรียนพร้อมกันเลยรับน้องมาด้วยเลย”พี่น้ำว่ายิ้มๆก่อนจะเดินเอาข้าวของของผมไปว่างไว้ที่โซฟาตัวยาว
“แล้วโทรบอกน้องจีหรือยังว่าหนูกลับมากับพี่น้ำ”คุณพ่อเดิมเข้ามาจูบหน้าผากผมอย่างทุกครั้งพร้อมถามถึงคนที่ควรมาส่งทุกวันอย่างสงสัย
“เขาไม่สนใจหนูหรอก”ผมตอบกับอย่างโกรธ จากอารมณ์เสียใจมันเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นโกรธ ถึงผมจะเป็นแค่เพื่อน แต่เพื่อนก็มีหัวใจไม่ใช่หรอครับ
“มีอะไรกันหรือเปล่า”คุณพ่อลูบหัวผมไปมาเหมือนจะให้อารมณ์เย็นลง แต่สำหรับเรื่องนี้มันไม่ได้ผล
“เปล่าครับ”ผมตอบปัดๆแล้วขอตัวไปอาบน้ำเพื่อรอลงมาทานข้าวกับครอบครัวพี่น้ำ
ในเมื่อการที่ผมสนใจ ใส่ใจ ขนาดนี้เขายังไม่เห็นความสำคัญ ผมก็จะเลิกทำมันแล้ว!
จีTalk
วันนี้คณะผมเลิกเร็วผมจึงมารอจีอยู่ที่ใต้คณะตัวเอง ถึงแม้จะไม่พอใจเรื่องไอ้พี่รหัสหน้าม่อนั้น แต่ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรกันต์หรอก นั่งรอยู่สักพักจนเลยเวลาที่ปกติกันต์เลิกเรียนผมเลยตั้งใจจะขับรถไปรอที่หน้าคณะแพทย์
“พี่จีๆ”ผมที่กำลังจะเข้าไปนั่งในรถต้องออกมายืนข้างนอกทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกคุ้นหู
“ครับว่าไง”น้องเอสวิ่งมาหาผมหน้าตาตื่นจนอดไม่ได้ที่จะถามถึงสาเหตุ
“คือ เอสต้องรีบกลับบ้านครับ แอลงจี้ หมา หมาเอสโดนรถชน พี่จีไปส่งหน่อยได้ไหมครับ พอดีคนขับรถไปส่งคุณแม่ที่สนามบินไม่มีใครอยู่บ้านเลย นะครับ นะครับเอสขอร้อง”น้ำตาใสๆไหลลงมาจากใบหน้าเล็กจนผมอดสงสารไม่ได้ จากที่นี่ไป บ้านน้องเอสใช้เวลาราวๆครึ่งชั่วโมง กลับมารับกันต์คงทัน
“ได้ครับ”ผมตอบตกลงและพาน้องไปส่งที่บ้าน แต่พอกลับมาถึงบ้าน แม่บ้านดันบอกว่าคนที่ขับรถชนพาไปโรงพยาบาลแล้วผมจึงต้องวนรถกลับอีกทางเพื่อไปส่งน้องเอสที่โรงพยาบาล พอไปถึงน้องเอสก็เอาแต่ร้องไห้จนผมไปไหนไม่ได้ กว่าจะปีกตัวกลับมามหาลัยได้เวลาก็เลยมาจน6โมงเย็น รอบรั้วมหาลัยนักศึกษาเริ่มบางตาหลายคนเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นชุดกีฬาเพื่อทำกิจกรรมผ่อนคลาย
ผมพยายามโทรหากันต์ตลอดทางแต่กันต์ไม่ยอมรับสาย จนสุดท้ายผมจึงตัดสินใจโทรเขาบ้าน ถึงรู้ว่ากันต์ถึงบ้านแล้วแต่ที่ทำให้ผมเดือดดานยิ่งกว่าคือเสียงร้องเรียกของเพื่อนตัวเล็กที่กำลังร้องเรียกชื่อไอ้พี่รหัสหน้าม่อ
แล้วมันไปทำไรที่บ้านของกันต์?
รู้ตัวอีกทีผมก็มุ่งหน้าไปที่บ้านของกันต์ทันที พอมาถึงผมก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปในตัวบ้านทันที เดินตามเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานมาที่ห้องทานข้าว
“อ้าวน้องจี ทานอะไรมาหรือยัง มาทานข้าวด้วยกันซิ เดี๋ยวพี่ไปจัดที่เพิ่ม”พี่เกรวที่นั่งอยู่ในตำแหน่งหน้าประตูร้องทักก่อนที่ทุกคนบนโต๊ะจะหันมามองอย่างแปลกใจ ยกเว้นก็แต่คนตัวเล็กที่นั่งนิ่งแทบจะเป็นหุ่นขี้ผึ้ง
“คือ”ผมกำลังจะตอบออกไปว่าไม่เป็นไรเพราะต้องกลับไปทานข้าวที่บ้าน แต่จู่ๆเสียงคุ้นหูก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างผิดปกติ
“ไม่ต้องหรอกครับ เขาคงกินมาแล้ว พี่เกรวนั่งทานต่อเถอะครับ”ผมค้างทันทีเมื่อน้ำเสียงเล็กพูดโดยไม่หันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ
ทุกคนบนโต๊ะอาหารจึงทำได้แค่มองผมกับกันต์สลับกันไปมาอย่างสงสัย สุดท้ายก็ไม่มีใครถามอะไรออกมา
”งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ แค่จะมาดูมากันต์กลับถึงบ้านแล้วหรือยัง”จนผมต้องยอมถอยก่อนเพราะน้ำเสียงและอาการของเพื่อนตัวเล็กนั้นบงบอกว่ากำลังโกรธอย่างเห็นได้ชัดและตอนนี้ก็มีแขกมาที่บ้านมันคงจะไม่เหมาะถ้าผมจะลากเขามาเคลียร์ตอนนี้
“อ่อ ครับ ขับรถดีๆนะ”พี่เกรวลุกขึ้นเดิมมาหาเพื่อจะมาส่งผมใบหน้าอ่อนเยาว์ยิ้มอย่างพยายามขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้ลาอีกครั้งแล้วขับรถกลับบ้าน
“เป็นอะไรหืมห์ลูกชาย หน้าบูดมาเชียว”พอกลับมาถึงบ้านก็เห็นครอบครัวตัวเองกำลังนั่งรอทานข้าวเย็นกันที่โต๊ะอาหาร
“เปล่าครับ”ผมทรุดตัวลงนั่งเกาอี้ประจำตัวอย่างเซ็งๆ ไม่บ่อยนักหรอกที่กันต์จะโกรธผม แต่ถ้าได้โกรธก็คงยากที่จะง้อ
“น้องทีว่า เรื่องพี่กันต์แหงทำหน้าแบบนี้”น้องชายตัวน้อยชูมือขึ้นอย่างอยากออกความคิดเห็นจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้เลยดึงแก้ม
ป่องๆทั้งสองข้างอย่างกลั่นแกล้ง
“รู้ดี”อดแขวะไม่ได้กับน้องชายตัวแสบ
“อึ๋ย น้องทีเจ็บ พ่อครับ พี่จีแกล้งน้องที”พอหลุดจากผมได้ก็เอนตัวไปซบตักพ่อที่นั่งมองพวกผมสองคนนิ่งๆ
“น้องทีไม่เล่นลูก กินข้าวก่อน”แม่ปรามก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะโผล่หน้าขึ้นมาย่นจมูกใส่ผมอย่างงอนๆ
“ว่าแต่ไปทำยังไงให้น้องกันต์โกรธหืมห์”แม่ตักผัดผักกับกุ้งใส่จานให้ผมก่อนจะเอ่ยถาม
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ปล่อยให้กันต์กลับบ้านเอง”
“หา!พี่จีปล่อยให้พี่กันต์กลับบ้านเองหรอ นี่อย่าบอกนะว่าเพราะคนในเฟสนั้นอ่ะ”น้องทีร้องขึ้นมาเสียงดังอย่างตกใจ
“น้องที กลืนข้าวก่อน”จนพ่อผมอดไม่ได้ที่จะหันมาดุลูกชายคนเล็ก
“ในเฟสทำไม”ผมอดสงสัยไม่ได้จริงๆ
“นี่ไงๆนี่ไง ขอบคุณนะครับที่เห็นเรื่องเล็กของผมสำคัญ”น้องทีหยิบมือถือตัวเองมาอ่านข้อความให้ฟังจนผมอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดูบ้าง
มันเป็นภาพด้านข้างของผมที่กำลังขับรถด้วยใบหน้ากังวล ที่น้องเอสแท็คมาให้ ภาพนั้นมีคนกดไลท์นับพันในเวลาแค่2ชั่วโมง
ไม่รู้ว่ากันต์จะเห็นภาพนี้หรือเปล่า แต่มันไม่สำคัญหรอกในเมื่อเขาโกรธผมไปแล้วนี่ ที่สำคัญกว่าคือ ทำยังไงผมถึงจะง้อกันต์ได้
“ไหนแม่ดูซิ”แม่ผมเอื้อมมือไปหยิบมือถือของน้องทีมาดู
“พี่จีนิสัยไม่ดีอ่ะ”น้องชายตัวเล็กต่อว่าเสียงดังอย่างโกรธเคืองแทนพี่ชายสุดที่รักของตัวเอง
“น้องที”จนคุณพ่อต้องหันมาดุ
“แล้วเด็กคนนี้เป็นใครล่ะ”คุณแม่ถามขึ้นอย่างสนใจ
“ก็แค่คนที่คุยๆกัน”ผมตอบปัดๆก่อนจะเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงตามเดิมแล้วกินข้าวต่อ
“คุย? คุยในฐานะไหน”แม่ยังคงถามต่อแต่ผมเลือกที่จะเงียบเพราะไม่มีคำตอบให้
“จะทำอะไรก็ให้มันชัดเจน เดี๋ยวจะมาเสียใจที่หลัง”พ่อผมพูดบอกนิ่งๆก่อนที่ทุกคนจะหันกลับไปกินข้าวกันต่อ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงพูดอะไรกำกวมเรื่องพวกนี้กันจัง ผมรู้เหมือนเหมือนผมกำลังถูกตำนิจากเรื่องนี้ทั้งๆที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เรื่องของกันต์กับเอสมันเป็นคนละเรื่องกันแต่ทำไมทุกคนถึงชอบพยายามทำให้มันเป็นเรื่องเดียวกันจริงๆ
ก่อนนอนผมพยายามโทรหากันต์อีกครั้ง แต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือการตัดสายทิ้งจนผมแทบจะทนไม่ไหว
“งี่เง่า”จนอดไม่ได้ที่จะขึ้นสเตตัสระบายอารมณ์ใส่หน้าไทม์ไลท์ของกันต์ และได้ผล เพราะไม่กี่นาทีต่อมาเจ้าของเฟสก็มาตอบโต้กลับ
“แล้วไง “ รู้สึกคิ้วกระตุกกับคำพูดกวนโมโหของคนตัวเล็กกว่า แต่อย่างน้อยๆก็ดีใจที่เขายอมพูดด้วยถึงแม้จะเป็นข้อความสั้นๆ
“รักมาก”ผมกดตอบข้อความกลับไป แค่คิดถึงใบหน้าใสที่อ่านข้อความอย่างเขินอายก็พาเอาอดยิ้มขำไม่ได้ ก่อนจะโพสอีกขอความพร้อมถ่ายตุ๊กตาหมีหน้าเศร้าในห้องตัวโปรดของกันต์ลงไป
“ขอโทษนะ”
TBC.
น้องกันต์จะไม่ทน
หายไปนานกราบขอภัยยุ่งจริงอะไรจริง เฮ้อ ชีวิต
ตอนหน้าจะพยายามาลงตามปกตินะเอ่อ
ส่วนน้องจียังคงโง่ต่อไป หลังจากนี้เดี๋ยวจะเริ่มกินโอเมก้า3แล้วล่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยก็ฉลาดแล้ว
ปล. อย่าเพิ่งลืมคู่พ่อทอสกับแม่เอฟนะ ยังเปิดจองอยู่ เหลือเวลาอีกแค่1เดือนเท่านั้น