-รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14  (อ่าน 170368 ครั้ง)

ออฟไลน์ basanti

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ทุกคนรู้เรื่องกันหมดยกเว้นเพลง

ถ้าเพลงรู้เรื่องเมื่อไหร่จะเอาคืนหรือดื้อกับสิงห์แค่ไหนกันนะ

รอคุณทรายมาเฉลย  :hao3:

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โถ่.. ทุกคนรู้เรื่องหมดเลยยกเว้นเจ้าตัว

// สงสารพี่คราม

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
สงสารเพลง ทุกคนรู้เรื่องหมด แม้แต่แม๊กกี้  รู้ว่าสิงห์รักเพลง  แต่หลังๆ มานี่สิงห์งอนเพลงมากไปป่ะ

แถมสิงห์วางแผนมากมาย หลอกเพลงก็เยอะ รู้ทั้งรู้ว่าเพลงรักสิง  เลิกเพราะมีเหตุผล 

แรกๆสงสารสิง ตอนนี้สงสารเพลง  ง้อสิงเกินอ่ะ  ขอให้เพลงรู้ความจิงแล้วงอนโกรธนานๆเลยได้มั้ย

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ตัวตลกเพลงช่างน่าสงสาร

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ :katai5:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เมิ่อไหร่ รัก จะพัดมาอีก คิดถึงค่า

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
รักพัดหวน
- สายลมแห่งรัก -





รักเคยพัดผ่านมา แล้วลับลาดั่งลม ทิ้งเพียงความขื่นขมอยู่ในใจ
เฝ้ารอใครสักคน เมื่อสายลมพัดมาใกล้ อาจเจอใครสักคนที่ไม่ผ่านเลย

 เพียงสายลมแผ่วๆ ทำให้ใจสั่นๆ เธอคนนั้นเหมือนคนในฝันของใจ
เพียงสายตาตรงกัน ทำให้ใจไหวๆ อยากจะรักอีกครั้งได้ไหม



เสียงเพลงเก่าแว่วมาจากวิทยุ  มือใหญ่ซึ่งกำลังเปิดหน้ากระดาษพลันชะงัก  ใบหน้าเข้มคร้ามเงยขึ้นจากตัวหนังสือแล้วยืนนิ่งครู่หนึ่ง  พลันก้าวเท้าไร้เสียงเข้าใกล้คนบนแหย่งที่ยังคงหลับใหล  นึกถึงวันแรกที่ได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้ง...   ภายใต้ท่าทีเฉยชาใครจะรู้ว่าบ้างว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขนาดไหน    ทั้งความเจ็บปวด  ความคิดถึง  ความโหยหาปั่นป่วนในอกของเขาจนเจ็บแปลบ   ท่าทางห่างเหินกับใบหน้าหล่อเหลาเชิดขึ้นอย่างดื้อรั้นของคนคนนี้ทำเอาเขาคันในหัวใจจนอยากจับฝ่ายนั้นมาเขย่าๆให้หัวสั่นหัวคลอนจนมึนงง  ...แล้วสวมกอดให้หายคิดถึง...
  ความอวดดี ความดื้อดึงที่แสนคิดถึง.... เขาไม่คิดว่าจะกลับมาเผชิญสิ่งนี้เร็วกว่าที่คิด   เขาอาจแกล้งหนักมือไปนิด  ปากร้ายไปหน่อยแต่นั่นน่ะ  ...เกิดจากความคิดถึงล้วนๆเลยนะ   แต่วันนี้เขาประมาทความดื้อด้านของคีตกาลต่ำไปอีกฝ่ายจึงได้เดินตากแดดไปทำงานติดต่อกันสอง-สามวันแล้วก็มาล้มป่วยแบบนี้   ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงค่อนว่ากระหม่อมบาง  โดนแดดนิดหน่อยก็ล้มป่วย  หากแต่นี่คือคีตกาล...คนที่ไม่ว่าจะย่างเท้าไปทางไหนเขาก็ห่วงสุดใจไปเสียทุกทาง   
มือแกร่งเกลี่ยปรอยผมซึ่งโดนลมพัดในระหน้าผากเกลี้ยงเกลา  ชายหนุ่มผละมือออกห่างใบหน้าขาวเมื่อสายใจเดินเข้ามา  เขาแสร้งทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อออกห่างร่างโปร่งซึ่งหลับตาพริ้มบนแหย่งไม้สัก   เด็กสาวเลิกคิ้วมองท่าทางนั้นของคนเป็นนายแล้วค่อยเดินเข้าไปวางแก้วน้ำหวานใส่น้ำแข็งเต็มแก้ว
“อ้าว คุณคีย์หลับแล้วหรือ?”
“...เอาไว้นั่นแหละ  แล้วสายใจก็ไปเตรียมน้ำหวานไว้อีกเหยือก  รอคุณคีย์แล้วค่อยยกออกมาใหม่”
“ค่ะ?”                                                   
แม้จะมีข้อสงสัยมากมากยหากสาใจก้ไม่รู้ว่าจะถามอะไร
ทำไมคุณสิงห์ต้องทิ้งงานในฟาร์มมาเฝ้าคุณคีย์?  ให้สายใจเฝ้าไม่ได้หรือ?  อีกอย่างคุณคีย์แค่เป็นลมแดดไม่ได้ป่วยหนักอะไรเสียหน่อย


แก้ม จมูก คิ้ว คาง  ผ่านไปกี่ปีคนตรงหน้าก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน  ใบหน้าหล่อเหลาและดึงดูดคนรอบข้าง.. 
สีหราชนึกหงุดหงิดยามเมื่อนึกถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งเข้ามาป้วนเปี้ยนไม่ยอมห่าง   แล้วก็ให้อยากบิดปากแดงๆตรงหน้านี้เหลือเกิน  จะเสน่ห์แรงไปถึงไหน!
ให้ตายเถอะ!
แล้วไอ้สถานีนี้มันไม่มีเพลงอื่นแล้วหรืออย่างไรถึงวนชั่วโมงมาเปิดเพลงเดิมอีกแล้ว!
ชายหนุ่มคันยิบในหัวใจ  เขายังคงจ้องมองริมฝีปากสีเข้มตรงหน้า  คิ้วเข้มพาดเฉียง  ไฝเล็กๆที่ข้างแก้ม  จมูกโด่งรั้น
 ....  ถึงจะตั้งความหวังแค่ไม่คิดว่าจะได้อย่างที่หวัง...  การได้เห็นอีกฝ่ายมาอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาคาดไว้แต่ไม่กล้าคาดหวังจะเกิดขึ้นจริง  ดังนั้นพอได้ยินเพลงที่สถานีวิทยุเปิดใจเขาจึงเต้นแรงขึ้นมา...
หากความรักของเขาพัดหวนมาอีกครั้ง...




เขาก็อยากเอื้อนเอ่ยดังเช่นเพลงนี้ออกไป  เฝ้าอ้อนวอนให้สายลมพัดพาหัวใจของเขากลับมา...
ริมฝีปากหยักโน้มลงใกล้...
แตะแต้มแผ่วเบาคล้ายสัมผัสจากปีกผีเสื้ออันบอบบาง...
ความอุ่นซ่านทิ้งร่องรอยเจือจาง...











.
.
.
.
“........”  คนบนแหย่งไม้สักกระพริบตา  ฝ้าเพดานไม่คุ้นตาทำให้เขากระพริบมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยเรียบเรียงความคิดก่อนหน้า   เขาโมโหเจ้าของบ้านจนเดินตากแดดไปทำงานทุกเมื่อเชื่อวัน  สุดท้ายก็เป็นลมแดดให้ขายหน้าตัวเอง
...โชคดีที่ตอนนี้หมอนั่นไม่อยู่บ้าน..
กริ๊ก!  เสียงน้ำแข็งในแก้วกระทบจนเกิดเสียงเมื่อละลาย  น้ำหวานสีแดงหลอกล่อให้เขาหยิบขึ้นมาดื่มอย่างกระหาย
สงสัยสายใจเตรียมไว้ให้




ว่าแต่...ไอ้ความรู้สึกเหมือนโดนก่อกวนตอนหลับนี่ยังไงกันนะ?
มือขาวยกขึ้นแตะริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว...







fin.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2016 16:13:59 โดย sine »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
งืออชอบสิงห์ รักมั่นคงมากอ่ะ

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ถ้าวันนึง น้องเพลง รู้ความจริง ทั้งหมด คาดว่า พี่สิงห์ ท่าจะเละ :z6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :a5: ค้าง สั้น ไม่จุใจเลยง่ะ :ling1:
รอ :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0

ออฟไลน์ anantawee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แวบแรกที่อ่านแอบคิด ว่าที่เพลงเลิกกับสิงห์ สาเหตุจริงๆอาจจะไม่ใช่เพราะพ่อของเพลงป่วย อาจจะมีสาเหตุอื่นอยูก็ได้.....นี่คิดมากไปช่ายมร๊ายยยยยยยยย ฮาาาาาาาาาา :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ตามมาจากอสงไข....แล้วจะตืดตามอ่านะคับบ
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
- รักพัดหวน-
ลมพัดครั้งที่14







กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อลอยอวล  แม้ผู้คนในบริเวณห้องฉุกเฉินจะบางตาหากคีตกาลก็ต้องกวาดสายตาโดยรอบเพื่อหาร่างสูงใหญ่ของคนที่เป็นห่วง  ครั้นเห็นอีกฝ่ายนั่งอยู่บนเตียงโดยมีบุรุษพยาบาลกำลังใช้บางอย่างรองแขนตั้งแต่ใต้ข้อศอกจนถึงข้อมือเขาก็ขมวดคิ้ว  ร่างสูงหันมามองเขาครู่เดียวแล้วหันหนี

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?”  บุรุษพยาบาลเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มให้

“เป็นญาติคนไข้หรือเปล่าครับ?”

“ใช่ครับ”  คิ้วเข้มขมวดฉับเมื่อได้ยินคำตอบของคีตกาล

“กระดูกร้าวแต่ไม่ถึงหักครับจึงใส่แค่เฝือกอ่อน”  คีตกาลถอนหายใจโล่งอก  “อีกอาทิตย์ให้มาตรวจซ้ำนะครับ   ช่วงนี้คงมีอาการปวดมากอยู่  เดี๋ยวให้ญาติไปรับยาที่ห้องยาด้วยนะครับ”  คีตกาลพยักหน้าแล้วให้นายเขียวเป็นคนไปรับยา  ส่วนตัวเองพยายามจะช่วยพยุงร่างสูงลงจากเตียงหากสีหราชกลับดึงแขนหนี

หลังนายเขียวรับยาและจัดการเรื่องค่ารักษาเรียบร้อยแล้วจึงพากันออกจากโรงพยาบาล  คีตกาลถือวิสาสะกระโดดขึ้นไปนั่งข้างสีหราชแม้อีกฝ่ายจะทำท่าทีเฉยชาไม่สนใจเขาก็ตาม

“ปวดมากหรือเปล่า  กินยาแก้ปวดหน่อยไหม?”

“.....”

“เอ  นี่แล้วจะอาบน้ำยังไง  หรือจะแค่เช็ดตัวดี?”

“.......”  ไม่ว่าคีตกาลจะพูดอะไรร่างสูงก็ทำเพียงเหลือบตามองแล้วทำทีไม่สนใจ   พอเห็นร่างสูงไม่ตอบคีตกาลจึงสั่งให้สายใจเตรียมน้ำและผ้าเช็ดตัวตามเข้าไปในห้องของสีหราช   ร่างสูงแกะกระดุมเสื้อ  แม้จะไม่ถนัดหากก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เพียงขัดตาคนมองเท่านั้น   คีตกาลเดินไปหยุดตรงหน้า  มือขาวยกขึ้นปลดกระดุมให้อีกฝ่าย   สีหราชปัดมือออก  แม้จะไม่แรงนักหากก็ทำเอาเจ็บพอควร

“!”  คีตกาลเบิกตาจ้องมองอย่างตกใจ   ดวงตาคมดุคู่นั้นฉายแววเย็นชาจนคนมองใจหาย

“เล่นสนุกพอหรือยัง?”

“อะไร?”

“ถ้าสนุกพอแล้วต่อไปนี้ก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก”  ถ้อยคำตัดเยื่อใยนั้นเยียบเย็นจนคนฟังใจสะท้าน

“สิงห์?”

“ถ้าไม่ได้คิดอะไรก็อย่ามาทำแบบนี้”

“?”

“....ที่ผ่านมายังเล่นกับความรู้สึกฉันไม่พอ?  ฉันยังเจ็บน้อยเกินไปหรือ?”

“.......”  ประโยคที่ราวกับเอาแส้ฟาดลงกลางใจ  คีตกาลนิ่งขึ้งปล่อยให้ร่างสูงชนไหล่แล้วเดินออกไปนอกห้อง

ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวไร้สีเลือด  ความเจ็บแล่นขึ้นกลางอกให้ต้องทรุดตัวลงนั่ง  มือขาวยกขึ้นกุมอกซ้าย  ...เจ็บจนเหมือนจะหายใจไม่ออก  ขอบตาร้อนผ่าว   

สีหราชกำลังเจ็บปวดอย่างนั้นหรือ?

สีหราชคิดว่าเขาหยอกล้อกับหัวใจ  ล้อเล่นกับความรู้สึกอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ?

....สีหราชยังรักเขา?

หยาดน้ำตาไหลผ่าน... นึกถึงสาเหตุที่สีหราชโกรธเคืองแล้วให้เจ็บขึ้นกลางใจอีกหน   เพราะเขาหึงหวงจนลืมทุกอย่างจึงแกล้งจูบสีหราชต่อหน้าแพรวพรรณ  ยามนั้นหัวใจของอีกฝ่ายจะพองโตแค่ไหนกับสิ่งที่เขาทำ  หากแล้วเขาเองกลับทำให้หัวใจดวงนั้นร่วงหล่นเพียงเพราะเขาแค่ต้องการแกล้งแพรวพรรณ!

ตอนนี้สีหราชจะปัดมือเขาทิ้ง  ผลักไสเขาออกห่าง  นั่นก็เป็นเพราะเขาทำตัวเอง   ร่างโปร่งลุกขึ้นเต็มความสูงเตรียมจะเดินออกไปตามหาอีกฝ่าย  หากอิ่มเอมที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่ขวางเอาไว้

“ยังไม่ใช่ตอนนี้”

“ทำไม?  ฉันต้องไปหาสิงห์”

“แล้วยังไง?  มึงไปหาสิงห์แล้วจะพูดอะไร?”

“ฉัน...”

“ถ้ามึงยังจัดการความรู้สึกตัวเองไม่ได้ก็ไม่ควรเข้าใกล้มันตอนนี้”

“.......” 

“พวกมึงห่างกันสักพักเหอะ  ไปจัดการความรู้สึกของตัวเองให้แน่ชัดแล้วค่อยเดินกลับมา”

“ฉันระ..!”  อิ่มเอมยกมือห้าม

“กูไม่ใช่คนที่มึงจะพูดให้ฟัง     และ..ไอ้สิงห์ก็อยู่กับความเจ็บปวดมานาน  หากมันต้องเจ็บอีกครั้ง...มึงคิดว่ามันจะเป็นยังไง?”

“..........”

“ถ้าแน่ใจเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมา”


.
.
.






คุณยุวดีเหลือบสายตามองสามีเมื่อบุตรชายตรงหน้าถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย  เมื่อวานคีตกาลขับรถกลับมาบ้านตั้งแต่เช้าตรู่พร้อมสีหน้าหมองเศร้าทำเอาเธอกับคุณพีรพลแปลกใจกับท่าทางนั้น  วันนี้ทั้งคู่จึงพร้อมใจกันไม่ไปทำงานเพื่อพูดคุยกับลูกชาย  หากดูเหมือนอีกฝ่ายจะเอาแต่คิดอะไรอยู่ในใจคนเดียวจนไม่สนพวกเขาเลย

“ลูกถอนหายใจหมดปอดหรือยัง?”

“?”

“ไหนดูซิ”  มือขาวของคุณยุวดีเชยคางลูกชายแล้วบิดซ้ายบิดขวา  “อืม  ดูแก่ขึ้นจม”

“แม่!”

“อ้าว ก็ได้ยินเขาว่าถอนหายใจหนึ่งครั้งแก่ขึ้นหนึ่งปี  ดูซิ  ลูกหายใจมาตั้งแต่เช้าตอนนี้รอยตีนกาขึ้นแล้ว”  คุณยุวดีเย้าบุตรด้วยสีหน้าจริงจังจนคุณพีรพลหัวเราะพรืด  ส่วนคนโดนแซวนั่นทำหน้างอเป็นม้าหมากรุก

“มีเรื่องกลุ้มใจอะไรหนักหนาตาเพลง?”  คุณพีพลยกชาขึ้นจิบเอ่ยถามบ้าง

“ก็...”

“เรื่องงาน?” มารดาเอ่ย

“เปล่า”

“เรื่องเงิน?” บิดากล่าว

“ไม่ใช่”

“งั้น...เรื่องหัวใจ?”

“.....”

“เงียบแบบนี้แปลว่าแม่เขาทายถูก?”  คุณพีรพลเลิกคิ้ว

“ทะเลาะกับสิงห์มาหรือไง?”  คุณยุวดีถอนหายใจบ้าง  เธอเหลือบตามองสามีขณะเอ่ยถามบุตรชาย

“เพลง...  อันที่จริงหลังกลับจากเมืองนอก...เพลงไม่เคยคิดว่าจะกลับมาเจอเขาอีกครั้ง”

“เพลงต้องเจอนะ  ก็แม่ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นนี่”

“แม่....ว่าอะไรนะ?”  คีตกาลเงยหน้าขึ้นมองมารดาคล้ายไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“ก็...แม่อยากให้เพลงเจอสิงห์เขาอีกครั้ง”  คุณยุวดียักไหล่อย่างที่วัยรุ่นชอบทำ

“แม่วางแผนไว้?”  ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่แล่นริ้วขึ้นกลางอกตอนนี้ของคีตกาลคืออะไร  หากหัวใจที่เต้นแรงเร็วขึ้นทำให้ชายหนุ่มละแผ่นหลังออกจากโซฟา

“ก็ไม่เชิงนะ”

“แม่!   ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะแม่วางแผนงั้นหรือ?”

“เพลง.....”  คุณพีรพลปรามบุตรชายเมื่อเห็นสีหน้าเขาเริ่มเปลี่ยน  น้ำเสียงแข็งกระด้างนั้นบ่งบอกถึงความโกรธ   

“พ่อเองก็รู้  หมอนั่นด้วยใช่ไหม?”  น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้น  ในหูอื้ออึง   เขาโกรธ!  ทุกคนตรงหน้าเขารวมหัวกัน!  เห็นเขาเป็นตัวตลกหรืออย่างไร  อยากจับให้หัวหมุนไปทางก็จับ  ไม่สนว่าใจเขาจะรู้สึกอย่างไร!

“เพลง...”  คุณพีรพลขมวดคิ้ว  ร้องเรียกรั้งสติบุตรชายอีกครั้ง  ต่างกับคุณยุวดีที่หยิบแก้วชาขึ้นจิบคล้ายไม่สนใจท่าทางนั้นของคีตกาล

“ทุกคนรวมหัวกันแกล้งผม!”  สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำเอาคุณยุวดีขมวดคิ้วขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไม่ได้แกล้งเสียหน่อย”  มารดากล่าวเสียงเรียบ

“สมรู้ร่วมคิด!”

“เปล่านะ”

“แม่ยังจะโกหกอีกเหรอ?  แม่จับผมโยนไปที่นั่น  ให้เจอกับหมอนั่น  แล้วก็จงใจเล่นกับความรู้สึกของผม!”

“..........”  คุณยุวดีวางแก้วชาลงแล้วไม่ตอบโต้

“เห็นผมเป็นไอ้งั่งใช่ไหม!”  เธอรอจนบุตรชายโวยวายอยู่ครู่ใหญ่จนเมื่อฝ่ายนั้นหมดแรงจึงค่อยยืดตัวนั่งตรง  จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าพลางถอนหายใจ

“โมโหพอหรือยัง?”

“!”  ประโยคคำถามนั้นทำให้คีตกาลอยากจะโกรธขึ้นมาอีกรอบ  เขาหอบหายใจแรง

“ที่โกรธอยู่ตอนนี้เพราะอะไร?”

“เพราะทุกคนล้อเล่นกับความรู้สึกเพลงไง!”

“อ้าว  ไม่ใช่เพราะว่าลูกรักตาสิงห์หรอกหรือ?”

“?”

“ลูกโกรธเพราะเข้าใจว่าพ่อแม่หลอกเพลงให้ไปที่นั่น  แต่ลูกเสียใจเพราะคิดว่าตาสิงห์เองก็ร่วมมือกับพ่อและแม่ด้วย”

“.....”

“ฟังนะ   ตั้งแต่ตอนที่ลูกอยู่ที่นู่น  ตอนที่ลูกตัดสินใจทิ้งคนทางนี้ไป...เขาก็ตามลูกไปตั้งนานแล้ว”

“?”

“ลูกคิดอะไร  ทำอะไรเขารู้หมด”

“แต่ก็ยังแกล้งโง่  ปล่อยให้เพลงเต้นไปบนฝ่ามือ!”

“เงียบ!  แล้วสูดหายใจลึกๆ”

“?”

“เอ้า  บอกว่าให้สูดหายใจเข้าลึกๆไง!”  คุณยุวดีสั่งอีกครั้งพลางทำท่าให้ดู  คีตกาลเผลอทำตามอย่างงงๆ

“ใจเย็นขึ้นหรือยัง?”

“ครับ....”  คนเป็นลูกตอบรับเสียงอ่อย

“เขารู้  พ่อแม่ก็รู้พร้อมกันกับเขานั่นแหละ  แต่ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ร่วมมืออะไรกับเขามากมายหรอกนะ”

“.....”  เมื่อเห็นว่ามือที่กำแน่นของคีตกาลคลายลงเธอจึงเล่าต่อ

“เขารู้ว่าลูกตัดสินใจอย่างนั้นเพราะอะไร  เลิกกันทั้งๆที่ยังรักเนี่ย  เล่นเอาพ่อกับแม่เจ็บปวดตามลูกนะ  รู้บ้างไหม?”

“แม่...”

“การที่แม่ตัดสินใจทำรีสอร์ทร่วมกันกับตาสิงห์มันเป็นเรื่องของความประจวบเหมาะจริงๆ  ร่วมลงทุนด้วยเพราะเอ็นดูผูกพันส่วนหนึ่งแต่ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกตัดสินใจไปอยู่ที่นั่นจริงๆ”

“.....”

“ตั้งแต่แรกแม่เคยบังคับให้เพลงไปทำงานที่รีสอร์ทหรือเปล่า?  อ้อ  มีเล่นบทโศกนิดหน่อยอ่ะนะ”  คุณยุวดียิ้มเมื่อเห็นสายตาไม่เชื่อถือของบุตรชาย   “แต่เพลงก็รู้ว่าแม่ไม่เคยบังคับลูก  ถ้าเพลงไม่ไปแม่ก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว”

ใช่  ถึงมารดาเขาจะทำท่าอยากให้เขาไปทำงานที่นั่น  หากเขายืนยันว่าจะไม่ไปแม่ก็คงไม่บังคับ

“แต่ตอนนั้นแม่ไม่บอกว่าร่วมหุ้นกับหมอนั่น!  เท่ากับแม่วางแผนนั่นแหละ!”

“....แล้วหลังจากรู้ล่ะ?  หลังจากเพลงรู้ว่าตาสิงห์คือหุ้นส่วนของแม่ทำไมเพลงถึงไม่ยืนกรานถอนตัวจากงานนี้?”

“........”

“นั่นเพราะใจลูกเองต่างหากที่อยากยืนอยู่ตรงนั้น”

“........”

“พ่อกับแม่ติดต่อกับสิงห์ตลอดมาถ้าลูกอยากรู้   แต่...เรื่องของหัวใจของลูกทั้งสองคนพ่อกับแม่ทำเพียงเฝ้าดูเท่านั้นหากเพลงเห็น....”

“.........”

“พ่อกับแม่เพียงเปิดโอกาสให้ลูกก็แค่นั้น   ส่วนว่าจะสานต่อไปหรือเปล่ามันก็เป็นเรื่องของคนสองคน  คนที่มองอยู่ข้างๆอย่างพ่อกับแม่ไม่สามารถตัดสินใจแทนได้”

“........”

“พ่อกับแม่มีบทเรียนมาแล้วนะเพลง   การที่ต้องเห็นลูกเจ็บปวดมันไม่ใช่เรื่องดีเลย”

“พ่อ...แม่....”

“พ่อกับแม่ไม่ได้ชักใย  ไม่ได้เล่นกับความรู้สึกของลูก  ถึงจะรู้ว่าทั้งเพลงทั้งสิงห์รู้สึกต่อกันอย่างไรพ่อกับแม่ก็ทำเพียง ...ให้ลูกทั้งสองได้เจอหน้ากันอีกครั้ง”

“ถ้าตอนนี้ลูกจะเดินออกมาพ่อกับแม่ยอมรับการตัดสินใจนี้”

“..........”

“พรุ่งนี้แม่จะส่งคนใหม่เข้าไปดูแลที่รีสอร์ท”

“.......”

นั่นซินะ  แม่ก็แค่เปรยด้วยท่าทางเศร้าสร้อยให้เขาตกปากรับคำไปทำงานที่รีสอร์ท  หากเขายืนยันไม่ไปทำหลังจากรู้ว่าใครคือหุ้นส่วนเขาก็ทำได้แต่ไม่ทำ    คนที่ไม่น่าให้อภัยคือหมอนั่นต่างหาก!

หมอนั่นวางแผนมาตลอด!   ทำให้เขาไปอยู่ที่นั่น  ให้เขาทำตัวโง่ๆ  โง่ที่แสดงท่าทีห่วงใย  โง่แสดงความรู้สึกหึงหวงยามมีใครเข้าใกล้หมอนั่น  โง่ที่คิดอยากให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม  เหมือนตัวตลกให้เขาหัวเราะ

ดี!  เขาจะไม่กลับไปอีกแล้ว!





**********


โธ่โว้ย! เคยคิดว่าตัวเองผิดบ้างไหม!

ห้าวันแล้วนะ!  ห้าวันเข้าไปแล้วหมอนั่นเงียบหายเข้ากลีบเมฆไปเลย!

คีตกาลเดินกลับไปกลับมาในห้องด้วยความรู้สึกหงุดหงิด  ตอนนี้ถือว่าแต้มเสมอกันนะ  และเขาจะไม่เป็นคนง้อก่อนแน่ๆ!

Rrrrr

ไร่สีหกาล

แค่เห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอมือถือชายหนุ่มก็รีบกดรับอย่างรวดเร็วอย่างลืมตัว  ครั้นพอนึกได้จึงกระแอมแก้เก้อเสียทีหนึ่ง  หากเสียงร้องไห้จากปลายสายทำเอาคิ้วเรียวขมวดมุ่น

“สายใจ?”

“ฮึก  คุณคีย์ขา”

“สายใจเป็นอะไร  ร้องไห้ทำไมหรือ?”  คีตกาลถาม  “หรือมีใครเป็นอะไร?”  ใจกระหวัดคิดถึง
สีหราชขึ้นมา  พลันอกซ้ายเจ็บแปลบเพราะความเป็นห่วง  หรือแขนจะแย่ลง?

“คุณคีย์จะไม่กลับมาที่ไร่แล้วหรือคะ?”

“ห้ะ?”

“ก็คนที่มาทำงานแทนคุณคีย์บอกว่าคุณคีย์จะไม่มาที่ไร่อีกแล้ว  ฮือ~”

“คือ...อันที่จริง...”

“คุณคีย์ขากลับมาเถอะนะ  คุณคีย์ไม่อยู่ที่นี่ยังกับพายุถล่มแน่ะค่ะ”

“หืม?”

“ไม่มีใครเข้าหน้าคุณสิงห์ติดสักคน  วันๆเอาแต่ทำงานแล้วก็หงุดหงิดตลอดเวลา  ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน”

“ก็เจ้านายของสายใจนั่นแหละที่ไล่ฉันมา”

“ไม่จริงหรอกค่ะ!  คุณสิงห์น่ะ...”

“ทำไม  หมอนั่นทำไม?”

“คุณสิงห์....ฮึก  คุณคีย์จะไม่กลับมาแล้วจริงๆหรือคะ?”  แล้วเด็กสายใจก็เปลี่ยนเรื่องพลางร้องไห้เสียงดังจนคีตกาลปวดหัว

“นี่  สายใจฉันไม่กลับ...”

“คุณเอม  คุณเอมจะพาคุณสิงห์ไปโรงพยาบาลหรือคะ?”  เด็กสาวตะโกนเสียงดัง  เจ้าหล่อนไม่ได้คุยกับคีตกาลหากเอ่ยถามกับใครอีกคนที่อยู่ฝั่งนั้น    สีหราชไปโรงพยาบาล?  หรือว่าอาการจะแย่ลงจริงๆ?

“นี่  สายใจ!  สายใจ! เจ้านายของสายใจเป็นอะไรทำไมต้องไปโรงพยาบาลอีก?”

“.......”  มีแต่เสียงตะโกนถามของเด็กสาวกับอิ่มเอมลอดสายเข้ามาให้ได้ยิน

“สายใจ!”

“คุณคีย์แค่นี้ก่อนนะคะ  คุณสิงห์แย่แล้ว!”   กริ๊ก!

“...........”   คีตกาลขมวดคิ้ว  เหลือบมองจอโทรศัพท์ซึ่งมืดลงด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ   ก่อนจะกดโทร.ออกไปหาอิ่มเอมด้วยร้อนใจหากฝ่ายนั้นกลับไม่รับสาย    ร่างโปร่งหันคว้าเสื้อคลุม  กระเป๋าสตางค์และกุญแจรถออกจากห้องรวดเร็ว

“อ้าว  เพลง  นั่นลูกจะไปไหน?”  คุณยุวดีถามบุตรชายที่กำลังวิ่งลงจากบันไดอย่างเร่งรีบ

“ไร่สีหกาล!”

“...........”  คุณยุวดีจ้องแผ่นหลังของบุตรหายลับไปจากสายตาพลางส่ายหน้า

ใจโลดแล่นไปทางโน่นก่อนหน้าตั้งหลายวันแล้วตัวเพิ่งจะตามไปหรืออย่างไร?

.
.
.





“เอม!  อยู่ที่ไหน?”

“กำลังจะกลับไร่  มีอะไรหรือเปล่า?”  ปลายสายถามเหมือนไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรง หากคีตกาลตระหนกไปแล้วเพราะไม่รู้เรื่องราวเอ่ยถามรัวเร็ว

“ใครเป็นอะไร  ทำไมไปโรงพยาบาล?”

“นายรู้ได้ไงมาว่าฉันมาโรงพยาบาล?”

“เอาน่า  ตอบมาก่อนว่าใครเป็นอะไร!”  เขาร้อนใจจะแย่ยังจะมามัวถามไป-มาอยู่นั่น!

“ไอ้สิงห์น่ะ”

“สิงห์เป็นอะไร?”

“...ก็”

“ก็อะไรเล่า  พูดมาเร็วๆซิ!”

“เฮ้ย  ไอ้เพลง!  มึงก็เงียบแล้วฟังกูซิวะ  ไอ้นี่!”

“.......”

“ไอ้สิงห์มันกระดูกร้าวเพิ่ม  ตอนนี้ต้องมาใส่เฝือกอ่ะ  มือมันบวมมา x-ray ถึงเห็นว่ากระดูกมันแตก”

“กระดูกแตก!”

“เออ  แม่งมันแค่ร้าวแล้วเสือกไม่พักผ่อน  ทำงานหามรุ่งหามค่ำ  ระเบิดลงใส่คนงานทุกวัน  รับม้า-ส่งม้าไม่ว่างสักวัน  งานอะไรแม่งก็แย่งเขามาทำหมด  แล้วไอ้ที่ร้าวๆมันจะหายไหม?  แตกเพิ่มนี่ก็สมควร  สมน้ำหน้ามัน!”

“เอม!”

“เออ!  แตะไม่ได้!  ถ้าไม่อยากให้แตะมึงก็กลับมาดูแลมันซิ   ไอ้นี่ก็ยังกับช้างตกมัน!”

“ก็นายนั่นแหละที่บอกให้ฉันห่างออกมา  แถมหมอนั่นยังไล่ฉันอีก!”

“แล้วจะมาไม่มา?”

“อะไรเล่า?”

“ก็แม่งรำคาญมันแล้ว! เอะอะก็วิ่งพล่านไปทั่วไร่  แม่ง! กูหนีไปอยู่กับชาญดีกว่า!”

“นี่!  เดี๋ยว!  เอม?  เฮ้!”   ปลายสายตัดไปแล้ว  คีตกาลหงุดหงิดเป็นเท่าตัวก่อนจะเร่งความเร็วตรงไปยังไร่สีหกาล


กว่าคีตกาลจะมาถึงก็ค่ำแล้ว  เขาไม่เห็นรถของอิ่มเอมจอดอยู่ก็ให้นึกโมโหขึ้นมาครามครัน  หมอนั่นทิ้งเพื่อนไปจริงๆหรือเนี่ย?   เขาเหลือบมองชายเรือนที่เงียบเชียบ   ครู่ใหญ่สายใจก็ชะโงกหน้ามามองก่อนจะยิ้มแฉ่งวิ่งลงมาหา

“คุณคีย์!”

“ชู่ว!”

“คุณคีย์มาแล้ว  หนูดีใจจัง!”  สายใจกระซิบด้วยความตื่นเต้นตามท่าทางของคีตกาลแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเบาเสียงก็ตาม

“เจ้านายของสายใจล่ะ?”

“อยู่ในห้องแน่ะค่ะ”  เด็กสาวทำสายตาวิบวับเมื่อคีตกาลถามหาสีหราช

“แล้ว....แขนเป็นไงบ้าง?”

“เข้าเฝือกแล้วค่ะ”  สายใจทำหน้าแหยแล้วฟ้องต่อ “เพราะไม่ยอมพักผ่อนดีๆถึงได้เป็นแบบนี้ไงคะ  คุณคีย์กลับมาก็ดีแล้วค่ะ  จัดการคุณสิงห์เลย!”

“ฮื่อ?”

“คุณสิงห์น่ะดื้อ”

“ใช่  เจ้านายของสายใจน่ะดื้อมาก”

“แต่คุณคีย์ดื้อกว่า  แฮ่~”

“ไฮ้  อะไรกันเนี่ยสายใจ?”  คีตกาลชักจะไม่พอใจกับคำพูดของเด็กสาว  ตอนแรกเข้าข้างกันอยู่ดีๆไหงมาว่าเขาไปด้วยอีกคนล่ะนี่

“ก็คุณคีย์ดื้อกว่าคุณสิงห์เพราะฉะนั้นคุณสิงห์แพ้คุณคีย์แน่ๆ  คุณคีย์จัดการสั่งสอนเลยค่ะว่าใครดื้อกว่ากัน!”

“นี่มันคำชมหรือเปล่า?”  คีตกาลชักสงสัยเพราะสายใจทำท่ากำหมัดแน่นพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ

“ชมซิคะ!  คุณสิงห์ดื้อทำงานจนเจ็บเพิ่ม คุณคีย์ก็ดื้อใส่บ้าง  ดื้อบังคับให้คุณสิงห์ดูแลตัวเองดีๆ”

“........”

“ถ้าคุณคีย์ดื้อจะดูแลคุณสิงห์สายใจก็ไม่ว่านะคะ”

“นี่  สายใจ  คือว่า...ฉัน...กับเจ้านายของสายใจ...”

“คุณคีย์ไม่กลับไร่มาหลายวันเพราะทะเลาะกับคุณสิงห์กันหรือ?”

“ก็...ไม่เชิงหรอก”

“แล้วใครผิดหรือคะ?”

“เอ๊ะ?”

“ที่คุณคีย์กับคุณสิงห์ทะเลาะกันคราวนี้ใครผิดหรือคะ?”

“....อาจจะผิดด้วยกันทั้งสองคน”

“ถ้าแบบนั้นใครจะง้อก่อน?”

“....ไม่รู้ซิ?”

“แต่หนูคิดว่าใครจะง้อก่อนก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ”

“ทำไม?”

“ถ้าเรารักใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดให้เสียเวลาหรอกค่ะว่าใครจะง้อก่อนง้อหลัง  สู้รีบปรับความเข้าใจกันเร็วๆไม่ดีกว่าหรือคะ?  อีกอย่างตอนที่คุณคีย์ไม่อยู่  ...ไม่คิดถึงที่นี่หรือคะ?”  สายใจเกือบจะพูดว่า  ไม่คิดถึงคนที่นี่หรอกหรือ  หากเปลี่ยนคำได้ทันเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้ากระดากอาย

“ก็คิดถึง...”

“ถ้างั้นก็ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ  คุณคีย์เดินหน้าง้อเลย!  ดื้อให้ถึงที่สุด  ดูซิว่าคุณสิงห์จะทนโกรธคุณคีย์ได้นานแค่ไหนกันเชียว!”

คีตกาลหัวเราะกับท่าทางของเด็กสาวที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนฝ่ายมาถือหางเขาเสียแล้ว  แบบนี้ไม่รู้ว่าเจ้านายตัวจริงรู้เข้าจะโดนตัดเงินเดือนไหม





บานหน้าต่างห้องนอนยังคงเปิดรับลมอย่างเช่นทุกคืนผ่านมา  เขาเหลือบมองแสงไฟที่ลอดออกมาแสดงว่าเจ้าของห้องยังคงไม่นอน   ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกกระชับกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลในอ้อมแขน  ก้มลงมองลูกน้องที่กำลังกระดิกหางอยู่ข้างเขาด้วยความดีใจไม่ห่าง

ติ๊ง!ปลายนิ้วขาวกรีดสายเป็นท่วงทำนอง  แผ่วเบาคลอเคล้า  ดวงตาคู่สวยยังคงจับจ้องบานหน้าต่างซึ่งยังคงไม่มีแม้เงาของใครบางคนโผล่ออกมาให้เห็น


อย่าบอกฉันว่าให้ไป  อย่าผลักไสได้หรือเปล่า

บรู๊วววววว

ความรักระหว่างเรานั้น  ยังไม่ถึงคราวต้องเดินจากกัน

โบร๋วววววววววว   


“เฮ้ย  lion ! หยุดเห่านะเอ็ง”  คีตกาลชะงักมือร้องเพลงต่อไม่ออกเมื่อเจ้าลูกน้องตัวดีมาช่วยส่งเสียงอีกแรง  พอเริ่มร้องใหม่มันก็ช่วยร้องอีก  ทำเอาเขาปวดหัวทั้งยังรู้สึกขายหน้าคนบนห้องอย่างไรก็ไม่รู้

ให้ตัวฉันได้พิสูจน์  ให้เข้าใจว่าฉันนั้นรักเธอเท่าไหร่

อย่าใจร้ายเกินไปนะเธอ   ยังไม่พร้อมทำใจ อย่าใจร้ายเกินไปนะเธอ

หงิงงงงงงงงง





“.............”  วุ้ย!  อยากเอากีต้าร์ทุ่มใส่หัวเจ้าหมาบื่อนี่จริงๆ!






ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3

ร่างสูงยกมือขึ้นปิดปากแทบไม่ทันเพราะกลั้นขำไม่ไหว  ตอนได้ยินเสียงกีต้าร์เขายังแปลกใจอยู่คิดว่าอิ่มเอมอารมณ์ดีถึงขนาดคว้ามาเล่นแล้วร้องเพลง  หากเขาซึ่งอยู่ในอารมณ์ไม่สุนทรีย์อยากจะโผล่ไปด่าให้เลิก  พลันเสียงของคนที่คิดถึงก็ดังขึ้นมา

เสียงของคีตกาล  ถึงอยากจะแกล้งโกรธ  แกล้งไม่ใส่ใจคนคนนั้นยังไง  เขาก็ไม่อาจตัดใจทำได้หนักแน่นนัก  แค่ไม่เห็นหน้าไม่กี่วันเขาก็แทบบ้าอยู่แล้ว  เจ็บปวดที่อีกฝ่ายยอมผละห่างออกไปง่ายๆ  น้อยใจที่ฝ่ายนั้นแลตามายังหัวใจเขาน้อยไป   เขาหรือทั้งคิดถึง  ทั้งโมโห  ทั้งกังวล  คีตกาลจะรู้บ้างหรือเปล่า?   ต่อให้เขาวางแผนอย่างไรมันก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคีตกาลจะกลับมาหาเขาจริงๆ  เขากลัว  เขาหวาดหวั่น...หากไม่ได้รักนี้กลับคืนมาเขาจะอยู่อย่างไร

...จะอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีคีตกาล...

แต่วันนี้  ตอนนี้คีตกาลอยู่ที่นี่...กำลังร้องเพลงให้เขาฟังพร้อมเจ้าลูกน้องสีน้ำตาลพันธ์ทางแสนรู้ตัวนั้น

“เฮ้  ฉันรู้นะว่านายยังไม่นอน!”

“?”  เขาเลิกคิ้ว  ก่อนตัดสินใจไปยืนอยู่ข้างหน้าต่างเพื่อมองอีกฝ่ายและให้ฝ่ายนั้นเห็นเขา

“นี่!  นายจะยอมเป็นแฟนกับฉันอีกครั้งไหม?”

“........”

“ถ้ายอมตอนนี้แถมฟรีเจ้า Lion แสนรู้หนึ่งตัว”

“..............”

“เอ่อ  ตามด้วย...จูบราตรีสวัสดิ์ก่อนนอนทุกคืน!”

“..................”  ช่างเป็นคำง้อที่เย้ายวนเสียนี่กระไร

“และ  และ...เอ่อ...”  ชายหนุ่มหันหลังไม่รอให้คีตกาลเอ่ยจนจบ  ไม่บอกก็รู้ว่าตอนนี้ฝ่ายนั้นจะหน้าเสียแค่ไหน  คงคิดว่าเขาไม่รับข้อเสนอ  ไม่ให้อภัย  หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่จะเพ้อจินตนาการไป....

ติ๊ง~   สีหราชชะงักเท้า  เสียงกีต้าร์ดังขึ้นอีกครั้ง  เขายืนนิ่งรอฟังว่าคีตกาลจะร้องเพลงอะไรต่อไปเพื่อง้อเขา

“สิงห์!”

“?”

“ฉันขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา  ขอโทษที่คิดและตัดสินใจไปเองคนเดียวโดยไม่ถามนายก่อนสักคำ”

“....” 

“ทิ้งนายไว้เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด   แต่เปล่าเลย  มันไม่ใช่สักนิด!  เพราะฉันเองก็เจ็บปวดแทบตาย  ฉัน...รักนายนะ”

“.........”

“เพลงรักสิงห์นะ!”

“...............”

“ได้ยินป่าวเนี่ย?”


ติ๊ง~

ตายจากกันไม่รู้วันใด รักกันเมื่อยังหายใจ

จะโกรธไปทำไมกัน หากเธอลองคิดให้ดี ชีวิต ไม่แน่นอน
อาจไม่มีพรุ่งนี้เช้า ให้เรามาง้อมางอน อีกแล้ว

นานเท่าไหร่กว่าเราจะรัก ยิ่งเราห่างยิ่งเราทะเลาะ
ยิ่งทำลายเวลาที่เหลือที่เราจะรักกัน

ถ้าหากคำว่ารักยังอยู่ ที่กลางใจ สองเรา
โปรดช่วยเอามาใช้ซ่อมความเศร้า เวลาที่เราเสียใจ

อย่าให้เพียงชั่ววูบอารมณ์ ทำให้รักกลับกลาย
ตายจากกันไม่รู้วันใด รักกันเมื่อยังหายใจ ก่อนที่จะสายเกิน


“....รักกันเมื่อยังหายใจ  ก่อนที่จะสายเกิน...!”  ติ๊ง!  มือขาวหลุดจากสายกีต้าร์เมื่อแรงปะทะจากทางด้านหลังเข้ามากระทบ  แขนแกร่งข้างหนึ่งตวัดโอบรอบกอดคีตกาลเอาไว้ในวงแขน   ปลายจมูกโด่งแตะข้างแก้ม  ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดหอบกระชั้นเพราะเจ้าของคงเร่งฝีเท้ามา  กลางหลังสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่เต้นรัวแรงฝากมาภายใต้อ้อมกอด

ความร้อนแล่นขึ้นหัวตา  แสบร้อนโพรงจมูกเพราะความตื้นตัน  แขนอ้อมนี้ที่คีตกาลเคยเฝ้าคิดถึง  ความรู้สึกจากคนด้านหลังส่งผ่านมาเป็นสิ่งที่เขาโหยหา...

“....ไม่โกรธกันแล้วใช่ไหม?”

“นี่เห็นแก่หมาฟรีหรอก”

“อื้อหือ  ถูกมากอ่ะ!  ง้อได้ด้วยหมาฟรีตัวเดียว”

“ฮื่อ  แพงอยู่นะ”  สีหราชตอบกลับ  แขนแกร่งยังคงไม่คลายออกจากร่างโปร่ง

“อืม  จะว่าไปก็คงไม่ถูกหรอก  เพราะเจ้าLion นี่มีตัวเดียวในโลก  ร้องเพลงได้ด้วย”  ร่างสูงหัวเราะ  นึกถึงตอนที่คีตกาลร้องเพลงแล้วเจ้าตัวดีมันคลอตามเมื่อครู่    เขาแทบกลั้นขำไม่ไหวแน่ะ!

“เจ้าลูกหมานี่แค่ของแถม   ที่แพงเพราะลูกพี่มันหรอก”

“?”

“ทั้งตัวทั้งหัวใจของลูกพี่เจ้า Lion น่ะแพงนะรู้ไหม  ต้องแลกทั้งชีวิตของฉันเลย”

“...สิงห์...”

“....ฉันได้ยินแล้ว”

“.......”

“ได้ยินคำบอกรักนั่น  ได้ยินเสียงหัวใจของทั้งฉันและนาย”  สีหราชรั้งให้คนในอ้อมแขนหันมา   ชายหนุ่มแนบหน้าผากลงกับคนตรงหน้า  ปลายจมูกโด่งคลอเคลียแผ่วเบา  ดวงตาคมดุจ้องมองสบเข้าไปในดวงตาไหวระริกของคีตกาล  แน่วแน่  มั่นคง

“คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก”

“อืม”  คีตกาลพยักหน้ารับ

“มีปัญหาต้องคุยกัน  อย่าหนีหายไปเงียบๆ”

“ได้”

“นายเอาหัวใจฉันไป  ตั้งแต่วันแรกจนเลิกกัน  ฉันไม่เคยได้มันคืนเลยรู้หรือเปล่า?”

“ก็....เพิ่งรู้”

“งั้นก็จำไว้ซะ  ฉันไม่เคยเอาความรักคืนมาจากนายเลยสักนิด”

“..........”

“แล้วรู้ไหมว่าตั้งแต่นายกลับมาฉันรอคำนี้มาตลอด”

“?”

“รอคำว่ารัก...”

“.......”

“รอให้รักของเราพัดหวนคืนมา”

“สิงห์....”

“ถ้ายังรู้สึกเหมือนเดิม...ถ้าพูดออกมาสักคำตั้งแต่แรกฉันก็พร้อมเสมอที่เดินไปข้างๆกัน...”

“ขอโทษนะ...”

“อืม  ขอโทษเหมือนกัน  ที่ต้องแกล้งทำทุกวิธีทางเพื่อให้นายอยู่ใกล้ๆฉัน”  คีตกาลพยักหน้ารับคำขอโทษนั้น  ใบหน้าหล่อเหลาก้มจนคางชิดอก  หากไม่พยายามกลั้นสะอื้นสักนิด  นั่นเพราะเขากำลังร้องไห้เพราะความสุขใจ

“ฮึก~”

“รักนะครับ  รักเพลงนะ   ...สิงห์รักเพลง...”

“รักสิงห์เหมือนกัน”

“อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ?”

“อืม”


.
.
.
.
.









หัวใจระรัวแรง  หวามไหวยามเมื่อริมฝีปากบดเบียดควานหาความหวานจากอีกฝ่าย  ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดพลางแลกลมหายใจที่เจือไปด้วยความคิดถึงแทรกทุกอณู  ไม่แตะแผ่วอย่างที่เคยแกล้งหากลึกซึ้งตามแต่หัวใจที่ถวิลหา  ผละห่างเพื่อกอบโกยอากาศหายใจแล้วเคล้าคลึงย้ำหนัก  จูบซ้ำๆหลายครั้งหลายคราจนริมฝีปากเจ่อช้ำทั้งคู่  ดวงตาคมดุจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคีตกาลวิบหวาม  ปลายจมูกโด่งแต้มสูดกลิ่นแก้มขาว   ระเรื่อยหน้าผากเนียน  ปลายจมูกสวย  แตะเบาๆบนริมฝีปากสีเข้ม

มือแกร่งเลื่อนขึ้นประคองแก้มคนตรงหน้าด้วยมือข้างเดียว  อีกข้างดึงรั้งออกจากสายคล้องแม้จะไม่ถนัดนักหากก็ยังยื่นมาจับมืออีกฝ่ายเอาไว้   คีตกาลแนบแก้มลงกับฝ่ามือนั้นพลางช้อนสายตาขึ้นมอง  พร้อมรอยยิ้ม

“...คราวนี้จะยอมเป็นของฉันไหม?”

“แน่นอนซิ”  สีหราชเลิกคิ้วก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มเช่นเดียวกัน 

“งั้น...”  ไม่รอให้คีตกาลพูดจบร่างสูงก็จูบลงบนริมฝีปากคู่นั้นอีกครั้ง  กวาดต้อน  บดคลึงให้ตอบสนอง   ลมหายใจเริ่มระอุตามอารมณ์ที่ทะยานสูง  ปลายลิ้นแปลบชาจากจูบเนิ่นนาน   กว่าคีตกาลจะรู้ตัวร่างโปร่งก็นอนหงายราบลงไปโดยมีร่างหนาของสีหราชทาบทับอยู่ด้านบนเรียบร้อย  มือแกร่งแตะเอวสอบ  สอดไล้ใต้เนื้อผ้าแตะสัมผัสให้สะดุ้งกาย

“นี่  ไหนว่า...อืม~ จะให้...อ๊ะ!”  เสียงใสแหบพร่าขาดห่วงยามปลายนิ้วแกร่งบดลงยอดอกจนสะท้านไหว

“ก็นี่ไง  สิงห์ยอมเป็นของเพลงแล้ว”

“มะ  ไม่ใช่แบบนี้  อื้อ~”  ชายเสื้อถูกถลกขึ้นมากองบนคอ  ฟันคมของคนด้านบนขบลงบนยอดอีกข้างที่ว่างให้สะดุ้งแอ่นผวา  ลมหายใจหอบระรัวเมื่อปลายลิ้นแต้มลง  อีกข้างก็ลงแรงบนปลายนิ้วอย่างไม่ยอมแพ้

“แบบนี้แหละ  ถูกต้องแล้ว”  เสียงทุ้มแหบพร่าแทบจับใจความไม่ได้ยามความต้องการพุ่งสูงแทบทะลุเพดาน   สีหราชเลื่อนตัวขึ้นแตะปลายจมูกกับซอกคอหอมกรุ่น  คางได้รูป  ผิวแก้มแดงเรื่อและริมฝีปากบวมช้ำคู่นั้น

“เพลง”

“อืม~”

“เพลงครับ”

“หืม?”

“คิดถึงนะ”

“...คิดถึงเหมือนกัน”  มือขาวคู่นั้นประคองใบหน้าเข้มคร้ามแล้วจูบตอบ  เปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกรานเอาคืนบ้าง  สีหราชเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นตอบโต้  พออีกคนถอยห่างเขาก็ตามประกบไม่ให้ห่างหาย  กวาดต้อนจนแทบขาดใจ

“รักนะ”

“อืม~”

“รักเพลง~”  ปลายนิ้วสากสอดประสานเกี่ยวแน่น  ร่างสูงเลื่อนจูบระเรื่อยลงลาดไหล่  ยอดอกสีแดงเข้ม  ก่อนจะแนบริมฝีปากตรงอกซ้ายแล้วเม้มจูบสร้างรอย  “เสียง...หัวใจเต้นแรงจัง”

“เพราะใครกันล่ะ!”

“เพราะสิงห์  หัวใจเพลงเต้นแรงแบบนี้ก็เพราะสิงห์...  เหมือนกันเลย”  มือใหญ่รั้งฝ่ามืออีกฝ่ายให้แนบอกซ้ายตัวเอง  คีตกาลยกยิ้ม  ดวงตาคู่สวยทอประกายฉ่ำหวานรักใคร่อย่างไม่ปิดบัง

ปลายจมูกโด่ง  ริมฝีปากร้อนนาบผ่านหน้าท้องแบนราบ  ขบเม้มสร้างรอยให้เจ้าของสะดุ้งทุกครั้งยามฟันคมครูดไล้  ลมหายใจกระชั้นถี่  ยิ่งเมื่อความร้อนจากริมฝีปากคู่นั้นเข้าครอบครองเบื้องล่าง

“!”  คีตกาลสะดุ้ง  เข่าทั้งสองข้างพยายามหุบเข้าหากันหากแต่ติดร่างหนาของสีหราชที่แทรกอยู่ตรงกลาง  ร่างโปร่งยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อกั้นเสียงครางไม่ให้เล็ดลอด  ยิ่งปลายลิ้นร้อนลากไล้  โพรงปากอุ่นร้อนขยับโอบอุ้มความแข็งขึงเบื้องล่างเขายิ่งเหมือนจะขาดใจ  อยากผลักไสให้ถอยห่างหากบางครั้งก็อยากให้สีหราชเร่งความเร็วขึ้นอีก  สับสนจนแทบกลั้นไม่ไหว  ความเสียวซ่านแล่นผ่านจากปลายนิ้วเท้าขึ้นไปจนถึงความนึกคิด

“อื้อ!”  ทั้งริมฝีปากทั้งมือ  เร่งเร้าจนคีตกาลทะยานสู่สุดปลายความปรารถนา  ปลดปล่อยความสุขสมจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว  เขาหอบหายใจ  สติพร่ามัวเพราะความสุขสมรุนแรงหากกระนั้นก็ยังเผยอริมฝีปากรับจูบของสีหราช  กลิ่นคาวปร่าเอาเขาคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน  หัวใจยังเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมานอกอก   สีหราชปล่อยให้เขาได้หายใจเพียงครู่แล้วจูบใหม่อีกครั้ง  ร่างโปร่งที่ยังคงดื่มด่ำกับความรัญจวนนั้นพลันสะดุ้งผวาเพราะปลายนิ้วแกร่งที่เมื่อครู่ยังมอบความสุขให้เขา  บัดนี้เลื่อนปลายนิ้วอันชุ่มไปด้วยความสุขของคีตกาลที่เพิ่งปลดปล่อย..จ่อปลายนิ้วไปยังช่องทางด้านหลัง

“เพลง~”  สะโพกแกร่งบดแทรกให้คีตกาลต้องขยับเรียวขาให้กว้างออกโดยไม่รู้ตัว  ปลายนิ้วสากกดแทรกแผ่วเบา

“อืม!”  คีตกาลขบริมฝีปากแน่นเผลอกลั้นหายใจ

“อ้าปาก”  เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยบอก

“?”

“หายใจทางปาก”  คีตกาลทำตามที่อีกฝ่ายบอก   ปลายจมูกโด่งของสีหราชกดลงข้างแก้ม  ตามแนบริมฝีปากกับติ่งหู  กดจูบขบเม้มจนต้องย่นคอหนี  แล้วเลื่อนไปขบเม้มยอดอกทั้งสองข้างให้ต้องผวาแอ่นกายเพราะความเสียวซ่าน

 “เจ็บ!”  ไม่รู้ว่าสีหราชเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปตอนไหน  คีตกาลสะดุ้งเฮือกเจ็บร้าวเพราะการล่วงล้ำนั้นจนเผลอผลักอกอีกฝ่ายให้ออกห่าง  ความกระสันรัญจวนเมื่อครู่หายวับไปทันที

“ต้องขยายอีกหน่อย  ไม่งั้นเพลงจะเจ็บ”

“!”  เพราะคำพูดนั้นทำให้คีตกาลดันตัวขึ้น  สายตาเหลือบมองความตื่นตัวของสีหราชแล้วให้ตกใจ “ไม่! ไม่ได้หรอก!”

“เพลง~”

“ใหญ่ขนาดนั้นเข้าไม่ได้หรอก!”

“โธ่  เพลง  สิงห์จะตายอยู่แล้วนะ”  เสียงทุ้มแปร่งปร่าด้วยความต้องการอัดแน่นจนแทบล้น

“เอ่อ  ถะ  ถุง  ถุงยางล่ะ?”

“...ไม่มี”

“ไม่มี?”

“ใช่  ไม่มี”  สีหราชนิ่งหากคำตอบนั้นหนักแน่น

“ไม่มีได้ไง?”  คีตกาลยันศอกขึ้น  จ้องมองใบหน้าเข้มคร้ามนั้นคล้ายไม่เชื่อที่อีกฝ่ายพูด

“ถ้าสิงห์มีถุงยางซิแปลก”

“?”

“ถ้าสิงห์มีถุงยางติดตัวก็หมายถึงพร้อมจะมี sex ทุกเมื่อ  แต่ที่สิงห์ไม่มีถุงยางติดตัวเพราะคนที่สิงห์จะมี sex ด้วยมีแค่เพลง”

“......”

“ถ้าไม่ใช่เพลงสิงห์ก็ไม่ต้องการใครทั้งนั้น”

“ก็เลยไม่พกถุง?”

“ใช่”

“เพลงควรดีใจใช่ไหม?”

“แหงซิ”  สีหราชยกยิ้ม  ใบหน้าหล่อเหลา  ดวงตาคมดุจ้องมองเพียงคีตกาลเท่านั้น

“งั้น...วันนี้ก็ผ่านก่อนนะ”

“ห้ะ?”

“ก็ไม่มีถุงยางนี่”

“เพลง!”

“รอมีถุงยางเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน”

“เพลง  สิงห์จะตายแล้วนะ!”  คีตกาลเบิกตากว้าง  จ้องมองความต้องการที่ตื่นตัวจนแข็งกร้าวของร่างสูงแล้วยกยิ้ม



นี่น่ะแค่การเอาคืนที่เล่นกับความรู้สึกของเขามาตั้งนานยังไงล่ะ!



























สีหราชขบกรามจนขึ้นสันนูน  ความรู้สึกเสียวซ่านพลุ่งพล่านจนแทบล้นทะลัก  ยามที่มือนุ่มคู่นั้นกระชับขยับรูดรั้งหยอกล้อเขาก็แทบควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่  สุดท้ายก็ต้องกระชากร่างโปร่งตรงหน้ามาบดจูบเกี่ยวเรียวลิ้นเล็กให้ตอบสนองโรมรันไม่ยอมให้ผละห่าง  ยิ่งความกระสันซ่านกระหน่ำเขายิ่งบดสะโพกเข้าหามือของคีตกาล  เร่งเร้าให้ขยับเร็วกว่านี้  แรงกว่านี้

“อืม~”  เสียงทุ้มเครือครางในลำคอ  คีตกาลผละใบหน้าออกเพื่อกอบโกยอากาศหายใจ  ยังไม่ทันชุ่มปอดมือแกร่งก็จับท้ายทอยเขาพลางล็อกเอาไว้แล้วกดริมฝีปากลงอีกครั้ง   จูบที่แสนเรียกร้อง  และแสนจะเร่าร้อนของสีหราชทำเอาคีตกาลแทบขาดใจจนต้องเร่งขยับมือที่กอบกุมความแข็งแกร่งนั้นให้เร็วขึ้นอีก   หากสีหราชยังไม่ถึงฝั่งเขาก็คงจะขาดใจตายเสียก่อน!

“อื้อ!”  ความต้องการร้อนระอุสาดกระเซ็น  ลมหายใจร้อนผ่าวหอบกระชั้นของคนตรงหน้าทำเอาคีตกาลถอนหายใจ  เขาเหลือบตามองใบหน้าเข้มคร้ามที่หลับตาของสีหราช  หยาดเหงื่อไหลลงข้างแก้ม  ริมฝีปากหยักเผยอหอบหายใจดูเย้ายวนจนใจเต้น  คนตรงหน้าสุขสมเพราะเขา  ปลดปล่อยความต้องการเพราะเขา   

คีตกาลกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น  พลางเลื่อนสายตาไล่ลงลำคอแกร่ง  ลาดไหล่หนา  แผงอกกำยำ  เอวสอบ  สะโพกเพรียวแล้วส่วนนั้นที่ยังคงแข็งแกร่งตั้งตระหง่าน

“!”  อะไรกันเนี่ย!

“มองแบบนั้นหมายความว่าไง?  อยากได้เหรอ?”  เสียงทุ้มเอ่ยกระเซ้าพร้อมเสียงหัวเราะ   ดวงตาวิบวับคู่นั้นพาให้ใจเต้นแรงอีกครั้ง

“ไม่  ไม่ใช่วันนี้แน่นอน!”  คีตกาลยืนยันเสียงแข็ง  ก็เขาอยากเอาคืนสีหราชนี่นา!

“งั้นต้องรับผิดชอบจนกว่ามันจะสงบ”

“ห้ะ!”

“ไม่งั้น..ต่อให้ไม่มีถุงยางสิงห์ก็จะกอดเพลง”

“!”

ไม่นะ!

กว่าเจ้ามังกรยักษ์นี่จะสงบข้อมือเขาไม่หักก่อนหรอกหรือ!


























แถม

“นี่  แน่ใจเหรอว่าเพลงจะกลับไปที่ไร่อ่ะ?”  ชายชาญเตะขาคนที่นั่งสบายอกสบายใจทิ้งเพื่อนแขนเดี้ยงเอาไว้ที่ไร่คนเดียว

“แน่ใจซิ  อีกอย่างเด็กสายใจฉลาดจะตาย  ฉันแค่สอนนิดๆหน่อยๆ  เขียนโพยให้อีกนิด  รับรองพอไอ้เพลงรับโทรศัพท์แล้วจะวิ่งแจ้นกลับไร่แทบไม่ทัน”

“นี่สิงห์รู้ด้วยไหมที่นายทำ?”

“ไม่รู้หรอก  นี่เป็นการขอโทษในแบบของฉันที่ทำให้ไอ้เพลงมันเตลิดกลับบ้านไปหลายวัน”

“รู้ด้วยเหรอว่าตัวเองมีส่วนผิด”

“รู้ซิ  ถึงได้แก้ตัวอยู่นี่ไง”  อิ่มเอมเลิกคิ้วมองท่าทางไม่พอใจของคนตัวเล็กก่อนจะตวัดเอวของอีกฝ่ายให้ล้มตัวลงมานั่งบนตักเขา

“ปล่อย!”

“ชู่ว  ไอ้เพลงโทร.มา”

“เอม!  อยู่ที่ไหน?”

“กำลังจะกลับไร่  มีอะไรหรือเปล่า?”  ชายชาญขมวดคิ้วฉับเมื่อฟังคำพูดของเขา    เขาไม่ได้โกหกนะ  เขาพาสีหราชไปโรงพยาบาลจริงแต่...ตั้งแต่เมื่อวานแล้วต่างหาก

“ใครเป็นอะไร  ทำไมไปโรงพยาบาล?”

“มึงรู้ได้ไงมาว่ากูมาโรงพยาบาล?”

“เอาน่า  ตอบมาก่อนว่าใครเป็นอะไร!” 

“ไอ้สิงห์น่ะ”  แขนแกร่งกอดเอวชายชาญแน่นขึ้นเมื่อคนตัวเล็กทำท่าจะดิ้นหนี 

“สิงห์เป็นอะไร?”

“...ก็”

“ก็อะไรเล่า  พูดมาเร็วๆซิ!”

“เฮ้ย  ไอ้เพลง!  มึงก็เงียบแล้วฟังกูซิวะ  ไอ้นี่!”  คำพูดของอิ่มเอมทำเอาชายชาญขมวดคิ้ว  มาดุเพื่อนเขาได้ยังไง!  คนตัวเล็กดิ้นแรงขึ้น  พออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยเขาก็เลยจิกเล็บลงบนท่อนแขนแกร่ง   อิ่มเอมนิ่วหน้าหากยังคงขยับปากพูดคุยกับปลายสายต่อไป

“ไอ้สิงห์มันกระดูกร้าวเพิ่ม  ตอนนี้ต้องมาใส่เฝือกอ่ะ  มือมันบวมมา x-ray ถึงเห็นว่ากระดูกมันแตก”

“กระดูกแตก!”

“เออ  แม่งมันแค่ร้าวแล้วเสือกไม่พักผ่อน  ทำงานหามรุ่งหามค่ำ  ระเบิดลงใส่คนงานทุกวัน  รับม้า-ส่งม้าไม่ว่างสักวัน  งานอะไรแม่งก็แย่งเขามาทำหมด  แล้วไอ้ที่ร้าวๆมันจะหายไหม?  แตกเพิ่มนี่ก็สมควร  สมน้ำหน้ามัน!”

“เอม!”

“เออ!  แตะไม่ได้!  ถ้าไม่อยากให้แตะมึงก็กลับมาดูแลมันซิ   ไอ้นี่ก็ยังกับช้างตกมัน!”

“ก็นายนั่นแหละที่บอกให้ฉันห่างออกมา  แถมหมอนั่นยังไล่ฉันอีก!”

“แล้วจะมาไม่มา?”

“อะไรเล่า?”

“ก็แม่งรำคาญมันแล้ว! เอะอะก็วิ่งพล่านไปทั่วไร่  แม่ง! กูหนีไปอยู่กับชาญดีกว่า!”

“นี่!  เดี๋ยว!  เอม?  เฮ้!”   

 อิ่มเอมกดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งอย่างไม่ไยดีก่อนจะหันมากดคนตัวเล็กที่พยศไม่เลิกลงกับโซฟา  มือใหญ่ไล่ปลดกระดุมเสื้อของชายชาญออกอย่างรวดเร็ว  เพียงพริบตาเดียวร่างขาวโพลนก็ไม่เหลือเสื้อผ้าบนตัวสักชิ้น

“ฉันจะฟ้องคุณศักดิ์ว่านายแกล้งเพลง! อื้อ!”  ฟันคมขบเม้มลงบนจุดสีแดงบนอกขาวแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว

“ฟ้องเลย  ฉันจะทำให้หมดแรงแม้แต่จะพูดทั้งสองคน!”

“เอม!  อื้อ~”













จบ.









สวัสดีค่ะ^^
ในที่สุดก็มาถึงตอนจบแล้ว  (โอย   พิมพ์ไปก็มือสั่น แถมเหงื่อออกด้วย!)
อะไรนะ  ยังหวานไม่พองั้นเหรอ?  อ่ะ  อ้ะๆ  เดี๋ยวจัดให้!  ฮฮฮฮา
คือเอาจริงๆทรายห่างหายจากอะไรหวานๆละมุนๆไปนานมาก  เลยฝืดๆติดขัดอยู่พอสมควรค่ะ ฮือออ
อยากให้คู่นี้เขาหวานเยอะกว่านี้นะคะ แต่เหมือนจะมาสายฮาซะมากกว่า  (เป็นงั้นไป)
เอาละ  ยังไงก็จะพยายามชดเชยความหวานในตอนพิเศษให้นะคะ ฮึบ!!!


สุดท้าย
ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านและให้กำลังใจกันเสมอมานะคะ
นับจากเรื่องอสงไขยผ่านมาเกือบ 5 ปีถึงได้มาเริ่มแต่งนิยายอีกครั้ง  เลยต้องเคาะสนิมกันหนักเลยค่ะ
หวังว่าเรื่องนี้จะยังพอตราตรึงใจคนอ่านบ้างแม้สักนิดก็ชื่นใจแล้วค่ะ^^
แม้จะเอ่ยชื่อคนที่ให้กำลังใจได้ไม่หมด แต่ทรายซาบซึ้งใจเสมอ  1เม้นท์สำหรับทรายคือกำลังใจยิ่งใหญ่และคำแนะนำอันมีค่าให้ทรายปั้นแต่งเรื่องราว  ปรับปรุงเนื้อเรื่องให้ดียิ่งๆขึ้นไป

หวังว่าเรื่องต่อๆไปของทรายจะยังสามารถทำให้คุณติดตามอ่านกันอีกครั้งนะคะ

เช่นเคย  สามารถแนะนำ ติติง ชมเชย  พูดคุยกันได้เสมอค่ะ^^
ขอให้สนุกทุกเรื่องราวที่ทรายนำเสนอนะคะ^^
ขอบคุณ



ด้วยรัก

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โอ๊ย...ไม่นะ จบแล้ว ยังฟินไม่พอ ขออีกหน่อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแบบไม่ทันตั้งตัวเลย รอตอนพิเศษค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
จบเร็วไปหน่อยมั้ยยยยย :z3: ขอตอนพิเศษหวานๆ น้ำตาลท่วมด้วยน๊า :mew1:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แอร๊ย ขอเปลี่ยนชื่อเป็นพายุพัดหวน สนุกมากค่ะ แต่ขอ รอ วันที่ พี่สิงห์ได้กอดน้องเพลงนะคะ ขอบคุณมากสำหรับนิยายน่ารักๆ หวานๆฮาๆ ชอบมากค่ะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รักพัดหวน น้อยไปนะะะะะะ  :katai1: :ling1:
ดีกันแล้ว รักกันแล้ว ขอรักนานๆ หน่อย  :mew1:
สิงห์ไม่พอใจแค่นี้ คนอ่านก็เหมือนกัน ลุ้นมานานแล้ว
ขอตอนพิเศษให้อิ่มเอมใจทั้งสิงห์ ทั้งคนอ่านนะ :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
จบแล้ววว. อยากได้ตอนหวานๆเพิ่มอ่ะ

สงสารสิงห์เล็กน้อย แต่สมน้ำหน้าที่อด
เพลงก็คือเพลง เอาคืนเจ็บแสบ
แต่ลำบากมือตัวเองมั้ย :z1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ arnis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะรอตอนพิเศษนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด