- รักพัดหวน -
ตอนพิเศษ: ลมครวญ
“นี่ถ้าสายใจไม่ตกอกตกใจวิ่งมาถามป้าคงไม่รู้เรื่องใช่ไหมคะ?” ป้าแช่มเอ่ยตัดพ้ออย่างน้อยใจขณะหยิบของส่งให้ชายหนุ่มใส่หลังรถ
“โธ่ ป้าครับ ที่จริงผมจะบอกป้าอยู่แล้ว เพียงแต่รอให้เขาตอบตกลง ก็พอดีสายใจโวยวายขึ้นมาเสียก่อนเท่านั้น” ป้าแช่มมองค้อน หากริมฝีปากยังยกยิ้ม
“เอาเถอะค่ะ ลงกรุงเทพฯคราวนี้ก็จัดการกับทางผู้ใหญ่เสียให้เรียบร้อยนะคะ”
“ครับป้า” สีหราชยิ้มกว้าง ป้าแช่มเหลือบมองคีตกาลที่กำลังค่อยๆเดินลงบันไดมาแล้วดึงให้ร่างสูงโน้มตัวลงมากระซิบเสียงเบา
“ถ้าคุณเพลงไม่ยอมก็ฉุดกลับมาบ้านเราแล้วกันนะคะ” ชายหนุ่มหัวเราะลั่นเมื่อได้ฟัง คีตกาลเลิกคิ้วมองท่าทางของทั้งสองคน ป้าแช่มแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้
“ขอบคุณป้าแช่มมากนะครับสำหรับพวงมาลัย” สีหราชหยิบช่อมาลัยดอกมะลิขึ้นมาดู ยิ้มขอบคุณผู้สูงวัยซึ่งเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ดวงตาฝ้าฟางเจือแววรักใคร่ก่อนยื่นแขนโอบกอดร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม
“โชคดีนะคะคุณสิงห์ของป้า”
“ครับ”
“ไม่ลืมอะไรนะคะ?” หญิงชราถามซ้ำ เมื่อคืนเธอช่วยดูและจัดเตรียมสิ่งของต่างๆไว้ให้หมดแล้วแต่ยังอดกังวลและย้ำคิดย้ำทำไม่ได้ กลัวคุณสิงห์จะขายหน้าและเสียคน
“ไม่ลืมครับป้า”
สีหราชและคีตกาลขับรถเข้ากรุงเทพฯหลังการหมดเรี่ยวแรงและรอไข้ลงของคีตกาลถึงสี่วัน พอมีแรงสิ่งแรกที่คนเจ็บตัวทำคือชกหน้าระรื่นของสีหราชจนหงาย ก็ไม่ได้แรงมากนักหรอกแค่พอให้เจ็บๆคันๆเท่านั้น เอาคืนที่ทำให้เขานอนติดเตียงลุกไม่ขึ้น เจ็บร้าวตั้งแต่สะโพกยันหลังขาแถมยังจับไข้ ทั้งๆที่เตรียมใจไว้แล้วเนื่องจากไปศึกษามากับชายชาญไม่นึกว่าเอาเข้าจริงเขาถึงกับไม่เป็นผู้เป็นคนเลยทีเดียว เจ็บจนเหมือนจะตาย! ถึงแม้ท้ายๆจะกลายเป็นสุขสมก็เถอะ งานนี้ต้องมีเอาคืน!
คุณยุวดียิ้มกว้างเมื่อเห็นรถคุ้นตาขับเข้ามาจอด เธอลุกขึ้นต้อนรับลูกชายและสีหราช อยู่พูดคุยกันจนถึงเย็นคุณพีรพลจึงกลับเข้ามา อาหารมื้อค่ำเจือเสียงหัวเราะที่ห่างหายไปนาน บรรดาสาวใช้ต่างยกยิ้ม วันนี้ดูเหมือนคนในบ้านจะมีความสุขมากกว่าที่เคย
“อืม วันนี้อาหารรสชาติแปลกไปนะ แม่จิตไม่ได้เป็นคนทำหรือ?” คุณพีรพลทัก แม้จะต้องควบคุมน้ำหนักหากวันนี้รสมือทำให้เขาเติมข้าวจานแล้วจานเล่า ยิ่งน้ำพริกมันปูนี่อย่าให้พูดเลย อร่อยนักเชียว!
“คุณทายซิคะว่าใครทำ” คุณยุวดียิ้มกว้างให้สามี
“เอ คุณหรือ? ไม่น่าใช่ งั้นตาเพลง”
“ผิดหมดค่ะ” คุณยุวดีค้อนสามี เพียงครู่ก็ยกยิ้มหันไปทางสีหราช
“ตาสิงห์?” ประมุขของบ้านเลิกคิ้วแปลกใจ มองชายหนุ่มตัวโตตรงหน้าคล้ายไม่อยากเชื่อ
“ครับ ป้าแช่มเคยสอนนานแล้ว”
“ป้าแช่มเป็นแม่บ้านที่ฟาร์มค่ะ คนเก่าคนแก่ของบ้านตาสิงห์เขา” คุณยุวดีช่วยอธิบาย คุณพีรพลพยักหน้ารับ
“อร่อยมาก” สีหราชยิ้มกว้างกับคำชมนั้น การเปิดตัวเพื่อความประทับใจแรกของวันผ่านไปได้ด้วยดี
หลังอาหารเย็น พวกเขาพูดคุยกันต่ออีกเล็กน้อยแล้วแยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่า คุณยุวดีเองก็เตรียมรอละครทีวี ส่วนคุณพีรพลจองช่วงข่าวภาคค่ำไว้คนเดียว
“เพลงอาบน้ำแล้วหรือ?” เห็นว่าอีกคนเปลี่ยนชุดแล้วเขาจึงเอ่ยปากถาม ส่วนตัวเขาเองยังอยู่ในชุดเดิมเพราะเตรียมของบางอย่างไม่เสร็จ
“อาบแล้ว ว่าแต่สิงห์ไม่เห็นบอกว่าป้าแช่มเป็นคนเก่าแก่จากบ้านเก่า”
“ก็ไม่ได้ถาม” สีหราชยักไหล่ รอยยิ้มเย้าแหย่ยังคงประดับริมฝีปากหากดวงตากลับหม่นแสงลงชั่วครู่จนคีตกาลจับสังเกตได้
“เพลงขอโทษ”
“หืม?”
“เพลงไม่น่าพูดถึงเรื่องบ้านเก่าของสิงห์” เพราะอดีตนั้นเจ็บปวดและเขาไม่อยากให้สีหราชกลับไปเจ็บอีกครั้งจึงนึกเคืองตัวเองที่เผลอดึงอีกฝ่ายให้กลับไปนึกถึงอดีต
“ขอโทษทำไม เพลงไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรเลยสำหรับเรื่องนี้ กลับกันถ้าเรื่องไม่เป็นอย่างที่ผ่านมาสิงห์คงไม่ได้เจอกับเพลง ไม่ได้มารักเพลงแบบนี้ ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่มันก็ผ่านมาแล้ว อีกอย่างต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ส่งเพลงมา ส่งความรักมาให้สิงห์” ร่างสูงทรุดกายลงนั่ง ดึงแขนให้ร่างโปร่งนั่งลงเคียงกันแล้วแนบหน้าผากกับอีกฝ่าย จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคีตกาลอย่างรักใคร่
“ตอนนี้มีความสุขแล้วใช่ไหม?” มือขาวยกแนบแก้มกร้านคล้ายปลอบโยน
“มาก แต่จะมากกว่านี้ถ้าทุกอย่างถูกต้องตามพิธีการ”
“หืม?”
“ป่านนี้คุณน้าสองคนคงดูทีวีเสร็จแล้ว?”
“ใช่ พ่อคงเข้าอ่านหนังสือในห้องทำงานน่ะ มีอะไรเหรอ?” คีตกาลลุกตามเมื่อร่างสูงลุกขึ้นแล้วหยิบอะไรบางอย่างมาถือไว้
“จริงซิ เพลงให้คนตามคุณน้ายุขึ้นไปห้องทำงานด้วยนะ”
“อืม ได้ซิ” แม้ไม่เข้าใจว่าสีหราชจะทำอะไรหากคีตกาลก็จัดการทุกอย่างให้ จนเมื่อพร้อมทั้งคู่ก็เข้าไปพบกับผู้ใหญ่ของบ้านทั้งสองคน และดูเหมือนพวกท่านรู้อยู่แล้วว่าพวกเขามาหาด้วยเรื่องอะไร จึงได้ยิ้มแย้มเอ็นดูแล้วรอให้เข้าไปหา
ร่างสูงใหญ่ของสีหราชนั่งพับเพียบบนพื้นตรงหน้าคุณพีรพลและคุณยุวดี ก่อนหยิบพวงมาลัยดอกมะลิที่ป้าแช่มร้อยเองกับมือมอบให้แล้วก้มลงกราบแทบเท้า ประมุขของบ้านแตะไหล่ให้ชายหนุ่มนั่งตัวตรง
“ว่ายังไง?” คุณพีรพลยกยิ้ม สายตาเอื้ออารีย์ฉายชัด สีหราชหันมามองคีตกาลซึ่งนั่งเยื้องไปทางด้านหลัง พอฝ่ายนั้นเห็นเขามองจึงขยับขึ้นมานั่งเคียงกัน สีหราชคว้ามือขาวมากุมไว้แน่น แล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสทั้งสอง
“ผมจะมาขอเพลงกับคุณน้าทั้งสองคนครับ”
“หือ?” ทั้งเจ้าของมือทั้งเจ้าของบ้านร้องในคอขึ้นพร้อมกัน “ขอในที่นี้คืออะไร แต่งงานหรือ?”
“ขอให้เพลงไปเป็นคู่ชีวิตของผมครับ ไปเป็นครอบครัว” คุณพีรพลกับคุณยุวดีมองหน้ากันก่อนจะหันมาทางบุตรชาย
“ว่าอย่างไรตาเพลง?”
“ครับ?” คนถูกเรียกละสายตาจากใบหน้าเข้มคร้ามของคนด้านข้างขึ้นมองบิดามารดาแล้วแก้มพลันร้อนผ่าว มือยังคงถูกกอบกุมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ในอกซ้ายหัวใจก็เต้นรัวเร็วจนเจ็บไปหมด ในหูอื้ออึงจนแทบไม่ได้ยินเสียง
“ว่าอย่างไร ตาสิงห์เขามาขอเราไปเป็นคนในครอบครัว เราอยากจะเป็นครอบครัวเดียวกับเขาหรือไม่?”
“เพลง เพลง...”
“เพลง ตรงนี้ของลูกตอบว่ายังไง? มันยังดังไม่พออีกหรือ?” คุณยุวดีก้มลงจิ้มบนอกซ้ายของบุตรชายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งงันไปนาน แววตารักใคร่ยังคงส่งให้คนเป็นลูกไม่เปลี่ยนแปลง
“ครับ”
“ครับอะไร?” คุณพีรพลถามซ้ำ เหลือบสายตามองท่าทางของสีหราชแล้วอยากหัวเราะขำ อะไรจะลุ้นปานนั้น
“เพลงอยากเป็นครอบครัวเดียวกับสิงห์ครับ” จบประโยคร่างโปร่งก็ถูกแขนแกร่งคว้าเข้าไปกอดเอาไว้แน่น ใบหน้าเข้มคร้ามซุกลงซอกคอของเขา ครู่หนึ่งความรู้สึกอุ่นร้อนแตะซับผิวให้ตระหนกในอก
สีหราชร้องไห้อย่างนั้นหรือ?
แขนขาวยกขึ้นกอดแผ่นหลังกว้างอย่างปลอบประโลม หากโพรงจมูกกลับรู้สึกแสบร้อนขึ้นมา ความรู้สึกตื้นตันใจ ดีใจ มีความสุข ทุกอย่างคละเคล้าจนแทบหลั่งน้ำตา
ไม่รู้ว่าคุณยุวดีให้คนเตรียมสายสิญจน์ไว้ตั้งแต่ตอนไหน ค่อยๆจับสายสิญจน์แล้วฟั่นส่งให้สามี คีตกาลผละแล้วเช็ดน้ำตาให้คนตัวโตพร้อมรอยยิ้มเสร็จ คุณพีรพลก็เรียกให้ทั้งสองคนขยับเข้าไปหา
“มา ผูกข้อมือรับขวัญกันเถอะ” ผู้เป็นบิดากล่าวตบเบาๆลงบนเข่าตัวเอง สีหราชและคีตกาลมองตากันแล้ววางมือชิดกันลงบนเข่านั้น คุณพีรพลจับด้ายกวาดลงปลายมือคีตกาลสามครั้งกวาดขึ้นสามครั้งวางพัก แล้วทำแบบเดียวกันกับสีหราช จากนั้นหยิบด้ายบนข้อมือคีตกาลมาผูก สลับกันกับของสีหราช “อายุ วรรโณ สุขัง พลัง จากนี้ไปทั้งสองคนคือลูกของพ่อแล้วนะ อยู่ดูแลซึ่งกันและกันอย่าได้ห่าง”
“รักกันนะลูก จากนี้ลูกทั้งสองเปรียบดังคนคนเดียวกัน เคียงข้างกันตลอดไปนะลูกนะ” คุณยุวดีทำเช่นเดียวกันกับสามีพลางเอ่ย ดวงตาคู่สวยของคุณยุวดีเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำ คีตกาลมองก่อนจะเข้าไปกอดขามารดาแน่น สีหราชยกยิ้มกุมมือคนข้างกายปลอบประโลม
คุณยุวดีลุกไปหยิบของบางอย่างจากชั้นหนังสือบนสุดส่งให้สามี คุณพีรพลเปิดออก หยิบสร้อยคอพร้อมพระเครื่องออกมา ใบหน้ามีความสุขพยักให้สีหราชขยับเข้าไปหาแล้วสวมสร้อยเส้นนั้นให้ จากนั้นจึงเรียกคีตกาลให้ขยับตามไปแล้วสวมสร้อยอีกเส้นให้
“พ่อกับแม่ไม่มีอะไรให้ลูกสองคน ให้สร้อยให้พระจะได้ไม่ดูสะดุดตา ถือเสียว่าเป็นของรับขวัญเข้าบ้านนะตาสิงห์”
“ขอบคุณครับ” สีหราชก้มลงกราบบนเข่าอีกครั้ง
“เอาละ นอนกันได้แล้ว พรุ่งไปใส่บาตรถวายเพลกัน รับขวัญลูกเขยกันเสียหน่อย” คุณพีรพลว่าแล้วลุกบิดกายไล่ความเมื่อยขบ
“พ่อ!”
“ฮ่าๆๆๆ เออ แล้วคืนนี้พ่ออนุญาตให้นอนห้องเดียวกันได้แต่อย่าเสียงดังล่ะ อ้อ ทางที่ดีงดเรื่องนั้นไปก่อนนะพรุ่งนี้ต้องทำบุญ”
“!” คีตกาลอ้าปากเหวอ ไม่คิดว่าบิดาจะเล่นมุขนี้ คนเป็นลูกถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว ส่วน
สีหราชน่ะหรือ ยิ้มกว้างไม่สะทกสะท้านอะไรหนำซ้ำยังดึงมือเขาเข้าห้องเสียอีก
“นี่ โกรธหรือเปล่า?”
“หืม?”
“ที่สิงห์มาขอเพลงแบบนี้โดยไม่ปรึกษากันก่อน”
“ไม่หรอก แต่ว่านะ แบบนี้เขาเรียกชิงสุกก่อนห่ามหรือเปล่า?”
“หืม?”
“ก็กดลูกชายเขาก่อนจะมาขอน่ะซิ!” คีตกาลถลึงตามองคนตีหน้ามึน สีหราชหัวเราะร่วน
“อ้าว เผื่อไว้ ถ้าเกิดคุณน้าไม่ยอมยกให้จะได้พาวิวาห์เหาะ” ดวงตาคมดุพราวระยับอาบไปด้วยความสุข ร่างสูงเกี่ยวคีตกาลเข้าไปไว้ในอ้อมกอด กดจูบขมับแล้วเกยคางไว้บนกลุ่มผมนุ่ม
“ใครเขาอยากเหาะด้วย!” คีตกาลเบ้ปากใส่แล้วหัวเราะตามอีกคน
“เคยดูลิเกไหม?”
“หืม?”
“ที่ตัวร้ายฉุดนางเอกน่ะ จะร้องว่า ถ้าไม่ยอมพี่จะปล้ำ เอ๊ย จะปล้ำให้หนำใจ!”
“สมกับที่ชื่อเหมือนพระเอกลิเกจริงๆ!”
เสียงหัวเราะดังไปทั่วทั้งห้อง โอบกอด พูดคุย หยอกล้อและ..จูบ ไม่มากเกินกว่านั้น ส่วนหนึ่งเพราะประมุขของบ้านขอไว้หากพวกเขารู้ดีว่าแค่นี้
แค่มีอีกคนอยู่ในอ้อมแขนก็มากพอแล้ว
...มีความสุขมากพอ
Fin.
สวัสดีค่ะ
หายไปนานเหมือนกันเนอะ วันนี้เอาตอนพิเศษสุดท้ายที่จะลงบอร์ดมาส่งค่ะ^^ พร้อมกับแจ้งข่าวนะคะ
รักพัดหวนส่งต้นฉบับให้ทาง สนพ.แล้วค่ะ หลังจากนี้ติดตามข่าวคราวหนังสือทางหน้าเพจของ Hermit นะคะ รายละเอียดในหนังสือจะประมาณนี้ค่ะ
เนื้อหาหลัก 19 ตอนตอนที่ 1-6
พาร์ทอดีต 1 ต้นลมที่เราพบกัน
ตอนที่ 7-8
พาร์ทอดีต 2 เมื่อสายลมแผ่วพัดมา
ตอนที่ 9-10
พาร์ทอดีต 3 ลมพัดยอดไม้ไหวเอน
ตอนที่ 11-12
พาร์ทอดีต 4 เมื่อลมอ่อนแรงและไฟไม่อาจลุกไหม้
ตอนที่ 13
พาร์ทอดีต 5 ขอให้รักพัดหวน
ตอนที่ 14 จบ
ตอนพิเศษ 10 ตอนตอนที่ 1 ลมแห่งรัก (แทรกลงแล้ว)
ตอนที่ 2 ลมเพชรหึง (ลงแล้ว 4/6/59)
ตอนที่ 3 ลมครวญ (ลงแล้ว วันนี้)
ตอนที่ 4 ลมพายุ (ในเล่ม)
ตอนที่ 5 วันลอยอังคาร เอ้ย วันลอยกระทง เปลี่ยนชื่อเป็น ลมหนาว (แทรกลงแล้ว)
ตอนที่ 6 ลมรำเพย (ในเล่ม)
ตอนที่ 7 ลมโอบกอด (ในเล่ม)
ตอนที่ 8 ลมรัญจวน (ในเล่ม)
ตอนที่ 9 ลมห่มรัก (ในเล่ม)
ตอนที่ 10 ลมพิษ (คู่ ชายชาญ-อิ่มเอม-เกียรติศักดิ์ : ในเล่ม)
เช่นเคยค่ะ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคะ^^
จนกว่าจะพบกันใหม่...^^
ด้วยรัก