【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite แจ้งข่าว P.67 [02/09/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite แจ้งข่าว P.67 [02/09/59]  (อ่าน 620087 ครั้ง)

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
แค่สองตอนก็สนุกแล้ว.

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
555555สุดท้ายก็ยังไม่พ้นห้องน้ำ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เหนื่อยแทนนายอนุรักษ์เสียจริง แต่อีกหน่อยคงได้ติดต่อกับคุณชายอีกเรื่อย ๆ ท่าทางจะให้ข้อมูลการตลาดที่สำคัญ และเดาว่าน่าจะเป็นพระเอกเพราะเป้าล้วน ๆ อิอิ

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ท่าทางนายอนุรักษ์จะรับศึกหนักนะเนี่ย
มีแต่เรื่องชวนปวดหัว แต่คนดีแบบนายรักษ์คงไม่ปล่อยทิ้งไว้ ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยแน่ๆ
สงสารคุณชายอยู่นะ ตอนรักษ์ตอบว่าได้ (ข้อมูล) อะไรไปบ้าง
ก็โดนคนไม่รู้จัก เพิ่งเคยเห็นหน้ากันครั้งแรก จัดชุดใหญ่มาซะขนาดนี้ จะไม่สะเทือนใจบ้างเหรอ
บางเรื่องเราก็ไม่ได้อยากให้ใครรู้ซะหน่อย

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมากๆ รอติดตามตอนต่อไป  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สนุกมากเลย

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
คุณชายขี้ระแวงจริงๆ

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เซ็ง ตรงที่เป็นซิบกางเกงลดราคานี่แหละ
 :z3:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
รักษ์เป็นคนตล๊กกกกกกก
ชอบน่าา คุณชายดูท่าจะเครียดน่าดู
มีรักษ์มาเป็นสีสันในชีวิตถ้าจะดี

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
ชูป้ายเป็นแฟนคลับอนุรักษ์  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 【*...สุดที่รักษ์...*】บทที่ 2 : P.2 [28/04/15]
« ตอบ #69 เมื่อ: 29-04-2015 14:53:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :katai2-1:

ทั้งขำทั้งสงสารอนุรักษ์จริงๆ 55555555
อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ ฉากในห้องน้ำนี่ไม่รู้จะตบบ่าปลอบใจยังไงดี
ถถถถถถถถถถถถถถถ คุณชายนี่ก็นะ ดูเป็นคุณชายมากๆ จริงๆ นั่นแหละ

แต่สารภาพว่าตอนแรกเรานึกว่าคุณชายจะโหดกว่านี้
แต่พอเจอคำขอโทษแล้วก็เลน อ่ะ น่ารักกว่าที่คิดนี่หว่าาาา
อย่างน้อยถึงจะเป็นคนขี้ระแวงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถือฐิติเกินไปล่ะเนอะ

นี่เดาว่าคุณชายเองก็คงจะมีปมอะไรอยู่ในใจด้วยรึเปล่าน้า?

รอติดตามตอนหน้าไม่ไหวแล้วค่ะ >_<

ตอนนี้แลกโทรศัพท์กันแล้วด้วยกัน แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย
(นั่นเค้าแลกไปซ่อม ! 555555555555)

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ขำ เปิ่นดีจริงๆ555

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สงสารอนุรักษ์อ่ะ ทำไมทำความดีแต่ละอย่างถูกมองแง่ร้ายไปซะหมด โธ่  :heaven
แล้วยังใจดีเอาโทรศัพท์ไปซ่อมให้เขาอีก ความผิดเราก็ไม่ใช่ต้องมาเสียเงินอีก ชิ
เป็นเรา เอาสมาร์ทโฟนปาหัวคุณชายไปละ หมั่นไส้เหลือเกิน  :m16:
แต่อย่างว่า รักษ์เป็นคนดี อีกไม่นาน คนอื่น ๆ ก็จะมองเห็นเอง
โดยเฉพาะคุณชาย ขอให้หลงรักษ์ จนโงหัวไม่ขึ้นไปเลย เชอะ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
หลวมตัวมาอ่านแล้วก็ต้องทำใจ...ดันชอบไปแล้วนิ่
หวังเพียงว่าคนเขียนจะเมตตามาอัพบ่อยๆ
แอบเห็นนะว่าดองเรื่องเก่าไว้อยู่5555

ออฟไลน์ Once

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมาก มาต่อไวๆนะ

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เฮ้ยยยยยยย ดริฟต์หักศอกเข้ามากันเลยทีเดียวเมื่อเห็นชื่อคนแต่ง แอร้ยยยย ดีใจจจจ คิดถึงคนแต่งม้ากมาก  :กอด1:

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
รอตอนต่อไปค่ะ
สนุกมากๆ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ขี้ระแวงมาก ๆ คู่สนทนาไม่ใจเย็นนี่มีเม้งแตกแน่ๆ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น่ารักจริงๆ เลย
ชื่อคนแต่งนี้ไม่มีผิดหวัง

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 【*...สุดที่รักษ์...*】บทที่ 2 : P.2 [28/04/15]
« ตอบ #79 เมื่อ: 01-05-2015 10:43:01 »





ออฟไลน์ kanhomtianq

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบคาแรคอนุรักษ์มาก แม๊นแมน โธ่ พ่อไบรอันคำเหลาของเรา :เฮ้อ:
เมื่อไหร่บทที่ 3 จะมาคะ ต้องไปตามจี้พี่พลอยหรือเปล่า 5555  :z13:

ออฟไลน์ ShimP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คุณชายขี้ระแวง 555555555555555

ออฟไลน์ Orange151987

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :katai2-1:รอตอนต่อไป อิอิ

ออฟไลน์ dark-soleil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
มารอค่าาาาาาาา  อนุรักษ์น่่ารักกกกก  :กอด1:  :กอด1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
รอค่า สนุกก

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
ขำรักษ์ง่ะ
คุณชายขี้เก๊กจัง  :laugh:

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
【*...สุดที่รักษ์...*】



บทที่ 03 : คุ้มค่าทุกนาที




“เจคิงส์ซูเปอร์ สวัสดีครับ  ไม่ทราบว่าลูกค้ามีบัตรสมาชิกมั้ยครับ”


อนุรักษ์ในตำแหน่งพนักงานแคชเชียร์เอ่ยตามหน้าที่ แต่ของซึ่งยื่นมาตรงหน้าแทนที่จะเป็นบัตรแข็งสีฟ้า กลับกลายเป็นกระดาษเอสี่มีรูปวัดพร้อมรายละเอียดตัวอักษรเต็มพรืดหนึ่งแผ่น


“อะไร”  ขมวดคิ้วถามหนุ่มใส่แว่น ผมสั้นไถข้าง เจ้าของร่างสูงโย่ง ซึ่งไหวไหล่ตอบด้วยน้ำเสียงติดทะเล้น


“ทัวร์ทำบุญเก้าวัดไง เห็นช่วงนี้มึงดวงตก น่าไปบริจาคโลงศพสักโลงสองโลก เผื่อจะได้ช่วยสะเดาะเคราะห์ได้”


ถ้าไม่ติดว่าคนพูดเป็นลูกค้าผู้มีอุปการคุณ และเป็นคนเดียวกับ 'ไอ้ทัต' เพื่อนสนิท เขาคงจะได้บริจาคโลงให้มันเป็นรายแรก แต่นึกอีกที ที่ไอ้ทัตว่ามาคงไม่ผิดเท่าไร 


...สามวันมาแล้วนับจากเหตุการณ์ ซิปกางเกงแตก ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคจิต โดนป้ายข้อหาหัวขโมย  ทำโทรศัพท์ราคาหลายหมื่นตกส้วม  ปิดท้ายด้วยการเจอคนกวนประสาทอย่างคุณชาย หลังจากเขาเล่าวีรกรรมที่ได้ประสบพบเจอมา ไอ้ทัตดันหัวเราะกร๊ากขำจนปวดท้อง แต่มันก็ยังอุตส่าห์หวังดีเอาใบโบว์ชัวร์ตารางทัวร์เก้าวัดมาให้  คงเห็นใจความซวยของเพื่อน แถมปีนี้ยังเป็นปีชงอีก หรือเขาควรตระเวนทำบุญสร้างสิริมงคลให้ตัวเองจริง ๆ


อนุรักษ์จึงยินยอมรับแผ่นกระดาษเก็บไว้เป็นตัวเลือก ก่อนหยิบขวดชาเขียวรสน้ำผึ้งผสมมะนาวมาแสกนคิดเงิน พลางถามถึงธุระที่ฝากเอาไว้


“แล้วตกลงซ่อมได้มั้ย”


“มึงพูดกับใคร นี่ ‘ไอ้ทัตมือเทพ’ นะเว้ย  ไม่มีอะไรที่ซ่อมไม่ได้”


ไอ้ทัตคุยฟุ้งโชว์พาว  แต่เขารู้ดีว่ามันโม้สมราคา ถ้าไม่มีฝีมือจริง คงไม่ได้เป็นเจ้าของร้านรับซ่อมโทรศัพท์มือถือที่งานล้นตั้งแต่อายุยี่สิบ เขาเคยไปช่วยเฝ้าร้านรับออเดอร์ลูกค้าบ่อย ๆ  ก่อนจะเห็นใบเปิดรับพนักงานแคชเชียร์ในซูเปอร์ของห้างที่ไอ้ทัตเปิดร้านอยู่ เลยลาออกจากลูกน้องเพื่อนมาสมัครงาน


แรก ๆ ไอ้ทัตบ่นโอดครวญอ้อนวอนขอให้เขากลับมาแถมเงินเดือนให้ก้อนโต แต่เขาเชื่อในหลักการว่าอย่าทำธุรกิจกับเพื่อน เพราะไอ้ทัตมันเป็นเจ้าของร้านอินดี้  วันไหนนึกจะเปิดก็เปิด ไม่มีอารมณ์ก็ปิดหายเงียบเป็นอาทิตย์  ยังดีที่ลูกค้าไว้ใจในเนื้องาน เพราะต่อให้โทรศัพท์พังพินาศขนาดไหนมันก็ซ่อมได้ ยกเว้นเรื่องเดียวที่มือขั้นเทพต้องยอม


"ซ่อมได้ทุกอย่างจริงเร้ออ...แล้วตอนดึก ๆ ใครวะชอบโทรมาร้องห่มร้องไห้กับกูว่าถูกน้องส้มโอทิ้งเป็นอาทิตย์ ๆ"


น่าเสียดายที่คนซ่อมได้ทุกอย่าง ดันซ่อมหัวใจตัวเองไม่ได้ เขาเลยต้องตื่นมารับสายคนเพ้อเป็นประจำ แต่ตอนนี้เขาแลกโทรศัพท์กับคุณชาย เลยสั่งคนอดหักว่าห้ามโทรหาเด็ดขาด ขืนมันไปดีดกีตาร์เล่นเพลงลืมไม่เป็น ตอนตีสองให้คุณชายฟัง มีหวังมือถือแสนสำคัญของเขาแหลกเป็นจุญแน่


หากแทนทีคำแหย่ของเขาจะทำให้เพื่อนสลด ตรงข้ามไอ้หนุ่มแว่นอินดี้กลับยิ้มกริ่มพูดลอย ๆ


"เรื่องนั้นมึงไม่ต้องห่วง ตอนนี้กูมีคนช่วยซ่อมแล้ว"


...เฮ้ยยย ข่าวล่ามาแรง!  แค่ไม่ได้รับสายสามวัน มันดันไปหาคนซ่อมใหม่มาดามใจได้แล้ว


"ใครวะ? มึงไปเจอสาวที่ไหน? กูรู้จักเปล่า?"


อนุรักษ์ยิงคำถามใส่รัว ๆ แต่ไอ้ทัตปิดปากทำเป็นเงียบอมพะนำ ซ้ำยังพยักเพยิดมาทางด้านหลังเขา พร้อมกับเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะ


"อะแฮ่ม!"


เขาสะดุ้งหันหลังไปหาเจ้าของเสียงทันควัน ผู้จัดการหญิงวัยเกือบห้าสิบ หน้าตามีเค้าความใจดีเหมือนคุณครูอนุบาล รวมทั้งวิธีพูดก็เช่นเดียวกับกำลังสอนเด็ก ๆ


"ไปซักเรื่องส่วนตัวของลูกค้าแบบนั้นได้ยังไงจ๊ะน้องรักษ์ เกิดลูกค้าคอมเพลน ขึ้นมาคราวนี้โทษไม่ใช่แค่เปลี่ยนกะธรรมดานะคะลูก"


ผู้จัดการมาตา หรือที่ใคร ๆ ก็เรียกว่า  'พี่ตา' ผู้ดูแลพนักงานทุกคนเหมือนลูก  โดยเฉพาะอนุรักษ์นับเป็นลูกรัก  มักโดนพี่ตาชมว่าตั้งใจเรียนรู้ ขยันเอาการเอางาน แต่อาศัยแค่ความใจดี พี่ตาคงไม่สามารถคุมลูกน้องเกือบแปดสิบคนที่ทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ได้อยู่หมัด  เมื่อทำดีก็จะได้รับคำชม แต่เมื่อไรที่นักเรียนออกนอกรู้นอกทาง ครูไหวใจร้ายก็จะปรากฏตัว


อนุรักษ์เพิ่งโดนฤทธิ์ไม้เรียวไปหมาด ๆ จากคราวที่เขาเข้างานสาย เพราะถูกกักตัวไว้ที่บริษัทคุณชาย แต่โชคดีเขาหาข้ออ้างว่าเป้ากางเกงขาด พร้อมกลบความอายโชว์หลักฐานให้เห็นตะเข็บซิปที่ถูกแม็กเกือบยี่สิบตัวเย็บเป็นแนวประหนึ่งแฟชั่นใหม่


พี่ตาจึงเห็นใจให้อภัย สั่งเกณฑ์ให้เขาไปช่วยยกของจัดสต็อกดึกดื่น แล้วแลกเวรกะเช้าแทนพี่แคชเชียร์ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งขอลาไปเฝ้าลูกที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก สรุปวันนั้นเขาได้นอนแค่สามชั่วโมง ก่อนรีบแหกตาตื่นมาให้ทันทำงาน นับเป็นการลงโทษสถานเบาในฐานะลูกรักแล้ว ไม่งั้นเขาคงถูกจัดไปคุมสต็อกลงสินค้าเป็นพัน ๆ อยู่หลังร้านแน่ ๆ


ฉะนั้นพอโดนตำหนิ อนุรักษ์จึงรีบกลับมาทำตัวเป็นนักเรียนที่ดี  พูดขอโทษลูกค้า พลางเร่งคิดเงินอย่างไว ไอ้ทัตเองก็ได้ยินเกียรติศัพท์ของพี่ตาเลยไม่กล้าหือ  แต่ก็ยังแอบกระซิบบอกขณะเขายื่นเงินทอนไปให้


“เครื่องเสร็จแล้ว ไว้มาเอาที่ร้าน”


"อืม ...ขอบคุณที่ใช้บริการ โอกาสหน้าเชิญที่เจคิงส์ซูเปอร์ใหม่นะครับ"


พยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับพูดประโยคปิดท้ายตามหน้าที่ แล้วหันไปตั้งใจทำงานต่อ


...ช่วงสาย ๆ วันธรรมดาลูกค้ามักไม่เยอะนัก ส่วนใหญ่มักเป็นแม่บ้านมาจับจ่ายซื้อของบ้างประปราย รายล่าสุดที่เข็นรถมายังเคาท์เตอร์เขา เป็นหญิงยังสาวหุ่นบอบบาง มองอายุแล้วน่าจะไม่เกินยี่สิบห้า แต่ใบหน้าอ่อนใส แต่งแต้มเครื่องสำอางโบกมาแน่นแบบจัดเต็ม เหมาะจะเดินบนแคทวอล์กมากกว่ามาเดินช็อปปิ้งในซูเปอร์ กลบความเยาว์วัยเสียมิด


อนุรักษ์ยังนึกเสียดายอยากเห็นน้องนางหน้าใส ๆ เพราะตรงสเป็คตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่พนักงานแคชเชียร์อย่างเขาไม่มีสิทธิแถมขนมจีบลูกค้า เลยต้องยกมือไหว้ต้อนรับ


"เจคิงส์ซูเปอร์ สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าลูกค้ามีบัตรสมาชิกมั้ยครับ"


"ไม่มี!"


เสียงแหลมเล็กกระแทกใส่ห้วน ๆ ไม่รู้ว่าใครเผลอไปเหยียบเท้าคุณเธอเอาตอนไหน แต่ผู้หญิงมักอารมณ์อาร์ตตัวแม่เอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่แล้ว อนุรักษ์จึงรีบก้มหน้าก้มต่อหยิบของมาแสกนคิดเงิน


...น้ำมะเขือเทศกล่องใหญ่ 2 กล่อง,  โยเกิร์ตไขมัน 0%  1 แพ็ค,  เยลลี่ผสมกลูต้าไธโอนพร้อมดื่ม 2 ขวด, ยาชงระบาย 1 ห่อ


...แค่มองสินค้าก็เดาได้ถึงพฤติกรรมคนซื้อ


เหตุผลที่อนุรักษ์ชอบยืนทำหน้าที่พนักงานแคชเชียร์ ก็เพราะเขาชอบเล่นเกมส์แก้เซ็งสนุก ๆ นี้ ผู้คนส่วนมากมักไม่รู้ตัวหรอกว่า พวกเขาได้แสดงลักษณะนิสัย และการใช้ชีวิตประจำวันผ่านทางสินค้าที่ตัวเองจับจ่ายซื้อของ


...อาศัยอยู่คนเดียว หรืออยู่กับครอบครัว 
...รักความสะอาดมาก ๆ หรือเลี้ยงแมวไว้ด้วย
...ชอบทำขนม หรือชอบกินอาหารคลีน
...กลิ่นแชมพูสระผมกับกลิ่นสบู่ประจำตัวเป็นแบบไหน



พวกเขาต่างบอกเล่าชีวิตที่แตกต่างกันไปผ่านทางสายพานเลื่อนบนเคาท์เตอร์แคชเชียร์ และอนุรักษ์ก็ชอบเอามาคิดวิเคราะห์เล่น ๆ เป็นประจำ


อย่างลูกค้าผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องเสียเวลาเดานาน ก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังลดน้ำหนักคุมอาหารอย่างหนักหน่วง ทั้ง ๆ ที่หุ่นผอมบางจนแทบปลิวอยู่แล้ว เขาไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงวัดความสวยกันที่ตรงไหน


แน่นอนความสงสัยพวกนี้ย่อมไม่มีวันหลุดปากถาม อนุรักษ์ยังคงทำหน้าที่แคชเชียร์อย่างดี นำของลำเลียงใส่ถุง  แจ้งยอดรวมสินค้า รับและทอนเงินแบบไม่มีผิดพลาด เอ่ยขอบคุณ ก่อนเตรียมตัวต้อนรับลูกค้ารายใหม่ที่มาต่อคิว


ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ยกมือไหว้ เสียงแหลมเล็กก็ดังทะลวงขึ้นมาอีกรอบ


"เอาของวางใส่รถเข็นให้ด้วยสิ!"


คนสั่งปรายตาเคลือบมาสคาร่ามองไปยังถุงซูเปอร์สามถุงซึ่งวางอยู่ตรงที่วางของ  ปกติลูกค้าจะยกใส่รถเข็นเอง ไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานแคชเชียร์ แต่เพื่อบริการทุกระดับประทับใจ อนุรักษ์จึงส่งยิ้มรับคำอย่างนอบน้อม


"ได้ครับ"


แล้วจัดการนำบรรดาของกินลดน้ำหนักลงรถเข็น ขณะที่เจ้าหล่อนยืดกอดอกมองแบบไม่คิดจะแตะ เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยก็เดินเข็นรถเชิดหน้าจากไปโดยไร้คำขอบคุณ ซึ่งเขาเองก็ไม่คิดหวังจะได้ยินอยู่แล้ว


ความจริงผู้ชายอายุเท่าเขา เรี่ยวแรงดีมักถูกเกณฑ์ไปลงสต็อกสินค้ามากกว่ามาทำหน้าที่แคชเชียร์ เพราะการทำงานตรงนี้ต้องเผชิญหน้ากับลูกค้าโดยตรง และต้องรองรับอารมณ์ลูกค้าทุกสถานการณ์ หากคนใจร้อน ไม่รักงานบริการจริง ๆ คงไม่ชอบใจ
 ที่สำคัญ ยังต้องมีความรับผิดชอบสูง มีความละเอียดรอบคอบ เมื่อหมดกะถึงเวลาปิดเครื่องเช็ค ยอดเงินจะต้องตรงกับบิล ถ้าเงินขาดก็ต้องจ่ายส่วนต่างออกเอง ถ้าเงินเกินจะงุบงิบไปไม่ได้  แต่ที่เขาอดทนทำงาน เพราะรู้ว่ามันเป็นประประสบการณ์ที่สำคัญ ซึ่งไม่สามารถหาเรียนได้จากที่ไหน  ทั้ง ๆ ที่ว่ากันตามตรง เขาไม่จำเป็นต้องลำบากหางานพาร์ทไทม์ทำด้วยซ้ำ


แม้อนุรักษ์จะเสียพ่อและแม่ไปด้วยอุบัติเหตุตอนมัธยมต้น แต่ป้าก็คอยดูแลอย่างดี รักเขาเหมือนลูกชายคนหนึ่ง และเขาเองก็เคารพนับถือป้ามากเช่นกัน  หลังเกิดเรื่องเขาย้ายไปอยู่บ้านป้าที่ต่างจังหวัด และป้าส่งเสียให้เรียนจนจบมัธยมปลาย กระทั่งเขาตัดสินใจมาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ


ทีแรกว่าจะอาศัยอยู่บ้านเดิมของพ่อกับแม่ แต่เนื่องจากบ้านหลังเก่าอยู่ไกลจากที่เรียนค่อนข้างมากเกือบสุดปริมณฑล เขาเลยมาเช่าหออยู่ ว่าง ๆ ก็กลับไปดูแลบ้านตัวเอง  และถือโอกาสหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำ  ด้วยความที่เขาไม่อยากรบกวนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของป้าเพิ่มอีก เพราะป้าเองก็มีลูกชายลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ไม่ต่างจากเขาเช่นกัน


ฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากทำงานหาเงินให้ได้มาก ๆ เพื่อออกมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของพ่อกับแม่ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำ แม้จะไม่มีใครอยู่ที่นั้นแล้วก็ตาม...


"เป็นอะไรรึหนู ทำไมทำหน้าเศร้าเชียว อย่าไปถือสาคำพูดของคนอื่นเลยนะ "


ลูกค้าหญิงวัยกลางคนที่ต่อคิวคิดเงินเอ่ยให้กำลังใจ สงสัยคงเข้าใจผิดว่าเขากำลังเหนื่อยใจกับลูกค้าสาวเจ้าอารมณ์เมื่อกี๊ แต่อนุรักษ์ไม่อยากแก้ไขอธิบาย เลยรับคำง่าย ๆ


"ขอบคุณครับ"


แล้วหันไปหยิบของแสกนคิดเงินต่อ ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นสินค้าบนสายพานเลื่อน


...น้ำยาปรับผ้านุ่มมอร์นิ่ง


ใบหน้าเฉยชาของคนในชุดสูทเนี้ยบกริบลอยขึ้นมา คนในมาดคุณชายสมชื่อที่ตอนนี้กำลังเก็บของสำคัญของเขาไว้ แม้เขาจะอยากเห็นข้อความของแม่อีกครั้ง  แต่ป่านนี้ไม่รู้คุณชายเอาโทรศัพท์เขาไปตกระกำลำบากที่ไหน


ได้แต่หวังว่าคุณชายคงไม่ทำมือถือตกน้ำไปแล้วหรอกนะ เพราะรุ่นนี้ก็พังแล้วพังเลย ต่อให้เทพแบบไอ้ทัตก็คงซ่อมไม่ได้แน่นอน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เขาก็คงต้องทำใจ


...ดวงคนมันถึงคราวซวย ต่อให้ทัวร์ทำบุญเก้าสิบเก้าวัดก็คงจะไม่พอ




-------------------------------------------------------------------------------------------------------



งานกะเช้าของพนักงานแคชเชียร์เลิกในเวลาสี่โมงเย็น  แต่กว่าเขาจะเช็คเงิน ปิดเครื่อง เคลียร์อะไรต่อมีอะไร ก็เลยห้าโมงมาเล็กน้อยถึงได้ฤกษ์เดินไปหาร้านซ่อมโทรศัพท์ของเพื่อน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากซูเปอร์มากนัก


พอเห็นเขาไอ้ทัตก็ละมือเล่นเกมบนเครื่อง PS Vista แล้วส่งสมาร์ทโฟนสีดำทั้งเครื่องและเคสมาให้ พร้อมบรรยายสรรพคุณ


"ข้อมูลครบ เหมือนใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ร้านทัตเทพรับประกันคุณภาพ"


อนุรักษ์รับสมาร์ทโฟนมาเช็คสภาพ ความที่คุณชายรักษาของอย่างดี จึงทำให้ตัวเครื่องดูเหมือนใหม่อยู่แล้ว หน้าจอไม่ได้ล็อกไว้ แอพพลิเคชั่นหลายอย่างปรากฏขึ้นมาอย่างที่เคยเห็น กระนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าข้อมูลเดิมในนี้มีอะไรบ้าง คงต้องให้เจ้าของตัวจริงเป็นคนตรวจอีกที


"เออ ฟังจากที่มึงเล่า กูก็นึกว่าเจ้าของเครื่องเป็นตาแก่จู้จี้  แต่ไม่คิดว่าหน้ายังเด็กขนาดนั้น ดูอายุพอ ๆ กับพวกเราเลยว่ะ"


"มึงชมไปหน่อยมั้ง หน้าคุณชายเด็กกว่าอายุจริง แต่มองผ่าน ๆ ยังไงก็เฉียดสามสิบแล้ว เดี๋ยว...แล้วมึงไปเห็นหน้าเขาได้ยังไง"


ท้ายประโยคถึงเพิ่งเอะใจว่าเพื่อนเขาไม่เคยเจอคุณชายมาก่อน ไอ้ทัตใช้นิ้วกระดกแว่นทำสีหน้าเหนือ ประมาณ 'มึงคิดว่ากูเป็นใคร'  พลางพยักเพยิดไปยังไดอารี่เก็บข้อมูลเคลื่อนที่


"ก็เจ้าของบ้าถ่ายเซลฟี่สุด ๆ มีแต่รูปตัวเองเต็มเครื่อง"


ถึงการแอบเปิดดูข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นจะไม่ดี  แต่ไอ้ทัตทำหน้าที่ซ่อมโทรศัพท์มีสิทธิตรวจเช็คความเสียหายทุกซอกทุกมุมของเครื่องอยู่แล้ว และต่อให้มันยึดจรรยาบรรณไม่เอาความลับของลูกค้ามาแพร่พราย อย่างไรก็มีข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ


...และกรณีพิเศษที่ว่าก็คือ ความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัว หรือภาษาชาวบ้านเรียกกันว่า ส.ใส่เกือก!


ตัวเขาในฐานะเพื่อนสนิทก็มีนิสัยนี้ไม่ต่างกัน โดนกระตุ้นต่อมเผือกขนาดนั้น ก็ต้องขอแอบลองดูหน่อย ...ไม่อยากจะเชื่อว่า บุคลิกหน้าตายอย่างคุณชายเนี่ยนะจะบ้าถ่ายเซลฟี่?


นิ้วกดสไลด์ตรงอัลบั้มรูปภาพโดยพลัน แล้วใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งก็อัดแน่นอยู่เต็มเกือบสามร้อยภาพ ...มองคร่าว ๆ อายุของคนในรูปน่าจะพอ ๆ กับเขาไม่เกินยี่สิบเอ็ดยี่สิบสอง รูปร่างหน้าตาปกติธรรมดาทั่วไป ชนิดว่าเดินสวนกันผ่าน ๆ อาจมีลืม หากสิ่งที่ทำให้ติดใจ คือรอยยิ้มกว้างที่ปรากฏเกือบทุกรูป เป็นรอยยิ้มสดใสที่ชวนให้คนมองยิ้มตาม


...กระนั้นคนคนนี้ก็ไม่ใช่คุณชาย


"เปล่า ไม่ใช่เจ้าของเครื่อง"


อนุรักษ์แก้ไขความเข้าใจผิด  ไอ้ทัตตั้งสมมติฐานขึ้นมาทันควัน


"กิ๊กเหรอ"


"เฮ้ย! เขามีแฟนเป็นผู้หญิง เออ...ถึงจะเลิกไปแล้วก็เถอะ"


นึกถึงคุณน้ำตาลที่เขาดันไปเป็นพยานการถูกสลัดรักของคุณชายโดยบังเอิญ  ป่านนี้คุณชายจะหาทางไปง้อคืนดีรึยัง หรือกำลังช้ำใจอยู่ หรือจะยังเฉย ๆ ทำตัวบ้างานต่อไป


"ถ้าไม่ใช่เกย์ แล้วจะเก็บรูปผู้ชายไว้เต็มเครื่องทำไมวะ"


ไอ้ทัตยังคงสงสัยไม่เลิก แต่ในเมื่อเขาไม่ใช่เทวดาจะไปประจักษ์แจ้งเห็นจริงได้ยังไง ถามไปก็คล้ายคำถามโลกแตก ไม่มีใครตอบได้นอกจากเจ้าตัว


"กูก็ไม่รู้เหมือนกัน"  ส่ายหน้าจนปัญญา  แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ ไอ้ทัตกลับรู้ลึกไปไกลกว่า


"เออเกือบลืมอีกเรื่อง วันนี้วันเกิดเจ้าของเครื่องนะ"


...นี่สกิลความเผือกมันพัฒนาขนาดล้วงข้อมูลไปยันวันเกิดเจ้าของเครื่องเลยเหรอ!


"อะไร มองเหมือนกูผิด ถึงอยากรู้กูก็ยั้ง ๆ ไว้บ้างโว้ย แต่ไอ้นี่มันเข้ามาพอดีตอนกำลังเช็คเครื่องต่างหาก"


คนร้อนตัวรีบหยิบสมาร์ทโฟนจากมือเขาไปพิสูจน์หลักฐาน ด้วยการเปิดข้อความเข้าแล้วโชว์หน้าจอให้เห็น SMS สุขสันต์วันเกิดจากค่ายโทรศัพท์ พร้อมโปรโมชั่นใช้บริการค่าโทรฟรีหนึ่งวัน ก่อนส่งเครื่องกลับมา พลางแนะนำตามประสาช่างซ่อมมีจรรยาบรรณ (อันน้อยนิด)


"คราวหลังก็บอกให้เจ้าของสมัครแอพพวก Find My Phone ด้วยดิ เวลาหายจะได้หาพิกัดเจอ"


"ขอบใจว่ะ"


"ค่าซ่อมขอแจ็กแดเนี่ยลสักขวดก็พอ"


อนุรักษ์เพิ่งตระหนักว่าเพื่อนกินมีจริงก็วันนี้ แค่ให้ซ่อมโทรศัพท์ตกน้ำมันขูดรีดแพงกว่าซื้อเครื่องใหม่อีก แต่ไอ้ทัตรีบดักคอด้วยปรัชญาเดียวกับที่เขายึดถือ


"ธุรกิจไม่มีคำว่าเพื่อน"


คนฟังกำลังจะตอกกลับช่างซ่อมหน้าเลือด พอดีกับลูกค้าใหม่ เป็นน้องผู้หญิงในชุดนักเรียนมัธยมต้นเข้าร้านให้ติดฟิล์มกันรอย เขาจึงแกล้งคืนด้วยการสะกิดบอก


"น้อง ๆ ร้านนี้แพงนะ"  แล้วเผ่นหนี ปล่อยให้ไอ้ทัตรีบแก้ตัวกับลูกค้าพัลวัน


...หลังจากหย่อนระเบิดแล้ว  อนุรักษ์จึงเดินออกมาหาที่เงียบ ๆ  กดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง ภาวนาว่าคงจะไม่ได้ยินเสียงบริการฝากหมายเลขโทรกลับ 


เขาเพิ่งนึกขึ้นได้หลังจากแลกมือถือว่าลืมแถมสายชาร์ตแบตไปให้คุณชายไปด้วย ถึงแม้โทรศัพท์ของเขาจะเป็นรุ่นทนทาน ชาร์ตไฟหนึ่งครั้งใช้ได้นานสามวัน และเขาก็เพิ่งจะให้ไอ้ทัตเปลี่ยนแบตใหม่ไปหมาด ๆ เมื่อต้นปี แต่ใครจะรู้คุณชายอาจจะนึกรำคาญเลยทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ  แม้ค่อนข้างมั่นใจว่า คงไม่มีใครโทรเข้ามากวนคุณชายให้วุ่นวาย  อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้มีอาชีพเป็นครีเอทีฟเอเจนซี่โฆษณา รายนั้นสมาร์ทโฟนพังไปคงทำงานติดต่อธุระกันลำบาก


หากความกังวลใจหมดไป เมื่อสัญญาณโทรติดอย่างง่ายดาย  เขารอให้อีกฝ่ายรับ แต่ปลายสายกลับว่างเปล่ากระทั่งตัดไป พอลองอีกครั้ง ผลก็ยังเป็นเช่นเดิม จวบจนรอบที่ห้า


...แม่งว่าแล้วไอ้คุณชายมันเอาโทรศัพท์เขาไปเป็นลูกเมียน้อยไม่คิดจะดูดำดูดีจริง ๆ ด้วย!


อนุรักษ์กระหน่ำโทรซ้ำอย่างหงุดหงิด เริ่มเข้าใจความรู้สึกที่ผู้หญิงโทรจิกแฟนย้ำ ๆ เป็นร้อยสาย แต่เขาตั้งใจว่าคราวนี้ถ้าไม่รับ จะไปหาคุณชายถึงบริษัท ทว่าก่อนเสี้ยวสัญญาณสุดท้ายจะตัดไป ถ้อยคำที่รอคอยก็ดังขึ้นมา


"สวัสดีครับ"


เป็นเสียงราบเรียบฟังคุ้นหูเหมือนเช่นเคย เขารีบบอกธุระของตนเองรวดเร็ว


"โทรศัพท์คุณซ่อมเสร็จแล้วครับ ผมจะเอาไปให้คืนให้ คุณยังอยู่บริษัทใช่มั้ย ถ้าผมถึงแล้วจะโทรไป คุณลงมารอที่ชั้นหนึ่งเลยนะครับ"


ที่ต้องนัดแนะกับคุณชายก่อน เพราะเขากลัวจะเผชิญหน้ากับพวกพี่รปภ.ที่มีคดีเก่าติค้างกันอยู่ แม้จะเคลียร์เรื่องเข้าใจผิดกับคุณชายไปแล้วก็จริง แต่เขาคงถูกขึ้นบัญชีดำแบล็กลิสต์บุคคลอันตรายเรียบร้อย ดังนั้นจึงต้องพยายามหาทางป้องกันตัวเอาไว้ โดยใช้ตำแหน่งคุณชายเป็นโล่


แต่คุณชายกลับหาทางออกให้เขาง่ายกว่านั้น...


"ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิต คุณอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมไปหา"


แบบนี้ก็เข้าทาง เขาบอกชื่อเจคิงส์ซูเปอร์มาร์เก็ต  คู่สนทนารับคำก่อนตัดสัญญาณ


อนุรักษ์ถอนหายใจ มองสมาร์ทโฟนสีดำตัวปัญหา พอคิดว่าใกล้จะจบเรื่องแล้วก็แอบโล่งใจ แต่เขาคงลืมไป...


...สิ่งของประจำตัวของใครก็มักจะบ่งบอกลักษณะนิสัยของคนนั้น


..
..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2016 05:38:34 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
..
..

รอไม่เกินครึ่งชั่วโมง หมายเลขคุ้นตาก็โชว์ขึ้นมาบนหน้าจอ  อนุรักษ์กดรับ ไม่จำเป็นต้องพูดฮัลโหล อีกฝ่ายก็สวนทันควัน


"ผมถึงซูเปอร์แล้ว ไปรอที่หน้าประตู"


ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าคุณชายเป็นนักโฆษณา เขาคงคิดว่าเจ้าตัวเป็นทหารสังกัดกองพลไหนสักแห่ง ถึงติดนิสัยสั่งได้สั่งจริง ส่วนลูกกระจ๊อกอย่างไอ้รักษ์น่ะเหรอ เทียบรัศมีคงเป็นได้แค่ทหารเกณฑ์ ท่านนายพลสั่งอย่างไรก็ต้องตะเบ๊ะ...รับทราบครับผม!


อนุรักษ์จึงเดินออกไปด้านหน้าประตูกระจกอัตโนมัติ ซึ่งเป็นทางเข้าออกของซูเปอร์ มีรถญี่ปุ่นสีดำคันหนึ่งกำลังหยุดให้คนเข็นรถเข็นบรรจุข้าวของที่เพิ่งช็อปปิ้งเสร็จได้เดินผ่าน ก่อนรถคันนั้นจะเคลื่อนตัวมาชะลอตรงหน้า พร้อมกระจกที่ลดระดับลงให้เห็นหน้าคนขับ


“ขึ้นมา”


นึกแปลกใจว่า บุคลิกอย่างคุณชายน่าจะขับเบนซ์ หรือไม่ก็บีเอ็มดับบลิวเปิดประทุน แต่นี่ดันเป็นรถคันเล็กราคาไม่ถึงล้านที่เห็นได้ตามท้องถนนทั่วไป หากพอเปิดประตูเข้าไปนั่ง ถึงได้รู้ว่า ...คุณชายก็ยังคงเป็นคุณชายวันยังค่ำ... เปล่งออร่าหล่อเนี้ยบในชุดสูทสีดำโก้หรูแบบไม่เกรงใจแดดในประเทศไทย เล่นเอายูนิฟอร์มพนักงานแคชเชียร์ฟ้าสดใสของเขาถึงกับหมอง


อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเปรียบเทียบการแต่งกายระหว่างฐานะ  แต่มาเพื่อเจรจาธุรกิจ


"นี่ครับโทรศัพท์คุณซ่อมเสร็จเรียบร้อย ข้อมูลยังอยู่ครบ แต่เผื่อตกหล่น จะลองเช็คดูก่อนก็ได้ครับ"


เขายื่นสมาร์ทโฟนสีดำให้ แต่คนรับไม่แม้แต่จะเหลือบตามอง ตั้งสมาธิอยู่กับการหมุนพวงมาลัยรถ พลางพึมพำส่ง ๆ


"อืม เอาวางไว้ตรงคอนโซลนั่นแหละ"


...อะไรวะ ขมวดคิ้วกับคำพูดขอไปที ไหนบอกว่ามีข้อมูลสำคัญมากนักหนา ไอ้เขารึสู้อุตส่าห์ทะนุถนอมอย่างดี กลัวจะทำข้อมูลหายไปสักไฟล์แล้วอาจจะโดนคุณชายสั่งฆ่าหมกป่า แต่พอได้คืน นอกจากคุณชายจะไม่สนใจเช็ค ยังทำเหมือนเป็นของไม่มีค่า ดูแล้วไม่คุ้มกับการเอามือถือของเขาไปเป็นตัวประกันแลกเลย


อนุรักษ์จำใจวางสมาร์ทโฟนตรงคอนโซลหน้ารถ เตรียมทวงโทรศัพท์ของตัวเองบ้าง ตอนนี้เองที่เขาเพิ่งสังเกตเห็นทางรอบ ๆ ...ทีแรกคิดว่าที่คุณชายสั่งให้ขึ้นรถเพราะตั้งใจจะวนหาที่จอด แล้วค่อยมาเจรจาแลกโทรศัพท์กัน  แต่คนขับกลับหมุนพวงมาลัยขับออกไปนอกซูเปอร์มุ่งสู่ถนนใหญ่ จนผู้โดยสารต้องร้องถามตกใจ


“เดี๋ยวคุณจะพาผมไปไหน”


“ไปกินข้าว”


คำตอบที่ได้ยิน ทำเอาชะงัก  ...เออเว้ย...วันนี้มาแปลก นึกยังไงถึงใจดีขึ้นมา  สงสัยคุณชายคงติดนิสัยตามประสานักธุรกิจ เวลาทำงานต้องมีสินน้ำใจตอบแทน แต่เขาแค่ต้องการแสดงความรับผิดชอบ ไม่ได้เรียกร้องผลประโยชน์สานต่อใด ๆ


“ซ่อมมือถือให้แค่นี้ ไม่ต้องถึงขนาดเลี้ยงข้าวหรอกครับ”


เขารีบบอกปฏิเสธตามประสาพลเมืองดีมีน้ำใจ  คุณชายละสายตาจากถนนเป็นครั้งแรก มองคนนั่งข้าง ๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบประจำตัว


“ใครจะเลี้ยง ผมแค่หิวเฉย ๆ”


เพล้ง! 


...รู้สึกหน้าตัวเองร้าวเป็นเสี่ยง ว่าแล้วปีศาจนิสัยเสียอย่างคุณชาย อยู่ ๆ จะเปลี่ยนไปมีวงแหวนเทวดาขึ้นบนหัวทันทีคงเป็นไม่ได้


"งั้นคุณเอามือถือผมคืนมาก่อน แล้วจะอยากไปกินข้าวที่ไหนก็ไป"


อนุรักษ์วนกลับมาที่ธุระสำคัญ อยากรีบทำเรื่องให้จบ ๆ  จะได้ไม่ต้องอยู่นานให้โดนกวนประสาทอีก แต่การตัดสินใจของเขาคงช้าไป ...นับตั้งแต่เปิดประตูขึ้นมานั่งบนรถคันนี้ เขาก็ตกเป็นเบี้ยตัวน้อยในอาณาเขตของคุณชายผู้คุมกฏ ซึ่งแจงเหตุผลสั้น ๆ


"ผมขับรถอยู่ ถึงร้านแล้วจะคืนให้"


อ้อ...ได้ครับ เอาเลยครับคุณชาย  ตามแต่ที่คุณชายสะดวกเลยครับ


คร้านจะออกปากเถียงคนบ้าอำนาจ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เต็มใจมา แต่จะให้เขากระโดดลงจากรถซึ่งกำลังเคลื่อนตัวแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วก็ใช่ที่ ในเมื่อหนีไปไหนไม่รอดแล้ว ก็ทำตัวเป็นตุ๊กตาหน้ารถที่ดี ดึงเข็มขัดมาคาด นั่งนิ่งเรียบร้อย ตามองวิวข้างทางไปเรื่อย ขณะหูฟังเสียงเปียโนเพราะ ๆ คลาสสิคตามรสนิยมคุณชาย หากพอเพลงเล่นจบลง เขาถึงได้ยินเสียงดีเจพูด ทำให้เพิ่งรู้ว่าเมื่อครู่คุณชายไม่ได้เปิดแผ่นซีดี แต่เปิดคลื่นวิทยุฟัง


...จะว่าไป เขาเองก็ชอบฟังวิทยุเหมือนกัน มันสนุกตรงที่ไม่รู้ว่าเพลงไหนจะถูกหยิบขึ้นมาเปิด ถ้าเป็นเพลงโปรดก็จะแอบดีใจคล้ายตัวเองถูกหวย แต่ถ้าไม่ใช่ก็ยังมีโอกาสได้ฟังเพลงใหม่ ๆ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ทำนองของเพลงเริ่มต้นเล่น


“จงภูมิใจเถิดที่เกิดเป็นไทย มิเป็นทาสใคร แหละมีน้ำใจล้นปริ่ม ทั่วโลกกล่าวขานขนานนาม ให้ว่าสยามเมืองยิ้ม... "


เสียงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ทำเอาอนุรักษ์เกือบหน้าทิ่ม ไม่คิดว่าต่อจากเพลงเปียโนคลาสสิค ดีเจจะกล้าเปิดเพลงลูกทุ่ง ช่องวิทยุคลื่นไหนจับกลุ่มผู้ฟังได้หลากหลายขนาดนี้ แต่หลังจากเพลงจบท่อน เขาก็ได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด


"ยาสีฟันสปาร์กไวท์ สนับสนุนให้คนไทยกล้าที่จะยิ้มอย่างมั่นใจ”


ชื่อผลิตภัณฑ์ถูกแทรกขึ้นมาตอนท้าย  สรุปแล้วนี่คือโฆษณายาสีฟันที่นำ 'เพลงสยามเมืองยิ้ม' มาเล่นกับการใช้ยาสีฟันอวดรอยยิ้มของไทยให้ตรงตามชื่อฉายาประเทศที่ทั่วโลกรู้จัก  นับเป็นไอเดียน่าสนใจ  แต่ไอ้คอนเซปต์  'ให้คนไทยกล้าที่จะยิ้มอย่างมั่นใจ' เขาคุ้น ๆ ว่าเหมือนเคยได้ยินผลิตภัณฑ์ไหนสักชิ้นใช้มาก่อน


ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้เปลืองสมอง คำเฉลยก็ตามมาด้วยการเอื้อมมือดับวิทยุของคนขับรถ แม้หน้าตาจะยังนิ่งเฉย ทว่ารังสีมาคุกลับแผ่กระจายออกมาเป็นหย่อม ๆ คลุ้งไปทั่วรถจนอนุรักษ์ชักเริ่มทำตัวไม่ถูก ปกติถ้าคุณชายเงียบธรรมดาไม่พ่นอะไรกวนประสาทออกมา เขาพอก็รับมือได้อยู่ แต่จู่ ๆ ตอนนี้ดันองค์ลง เป็นใครจะไม่รู้สึกอึดอัดบ้าง แถมมองออกไปนอกหน้าตาสภาพการจราจรด้านนอกก็อึดอัดไม่ต่างจากบรรยากาศด้านใน


...หกโมงเย็น ได้เวลาเลิกงาน รถจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจมาประชุมกันบนถนนโดยมิได้นัดหมาย ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ทีละนิด  เขาไม่รู้ว่าคุณชายจะไปกินข้าวที่ไหน อยากจะชี้ว่ากินร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางตรงนี้ก็ได้ แก้หิวเหมือน ๆ กัน แต่คนขับก็ยังมุ่งมั่นฝ่าดงรถติดต่อไปโดยไม่สนใจ  ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ มีหวังคงอึดอัดหายใจไม่ออกตาย หรือเขาควรเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ พูดอะไรออกไปสักคำดีมั้ย


“เออ...วันนี้ผมเห็นมีคนซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มของมอร์นิ่งด้วยนะ”


เลือกชมไว้ก่อน เผื่อคุณชายใจอ่อน คราวที่แล้วจำได้ว่าพอเข้าหลุดปากว่าชอบโฆษณาที่คุณชายเป็นคนทำปุ๊บ อีกฝ่ายก็ยอมเชื่อใจว่าเขาไม่ใช่หัวโขมยทันที แต่คราวนี้แผนกลับไม่ได้ผล เพราะนอกจากคุณชายจะไม่ปริปาก ซ้ำยังส่งสายตาย้อนถามด้วยอารมณ์ 


'แล้วยังไง' 


...ถึงจะมีลูกค้าซื้อมอร์นิ่ง คุณชายก็เป็นคนทำโฆษณาไม่ใช่เจ้าของ คงไม่ดีใจอยู่แล้ว อีกอย่างมันคงเป็นแผลในใจด้วยที่ดันไปแพ้โฆษณาจากเอเจนซี่คู่แข่ง  สรุปไอ้ที่เกริ่นไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยสักนิด เขาจึงรีบเปลี่ยนไปเลือกหัวข้อสนทนาใหม่


"แล้วคุณทำโฆษณาให้กับสินค้าตัวไหนอีกเหรอครับ”


ประเด็นนี้เขานึกสงสัยมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่อะไร เผื่อเคยดูมาก่อนจะได้หาเรื่อยคุยง่าย ๆ และมันก็เป็นความชอบส่วนตัวของเขาที่สนใจอยู่ก่อน 


...บางคนอาจชอบดูละคร ชอบดูข่าว แต่นายอนุรักษ์ ...ชอบที่จะเลือกดูโฆษณา


ชั่วเวลาแค่สามสิบวินาที ซึ่งต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์และต้องจบลงเดี๋ยวนั้น เรื่องราวจึงถูกถ่ายทอดไม่ต่างอะไรจากหนังสั้น บ้างสร้างเนื้อหาให้ดราม่า บ้างอาศัยเพลงให้คุ้นหู  บ้างใช้มุกตลกให้คนหัวเราะได้  ขึ้นอยู่กับฝีมือนักครีเอทีฟที่ต้องงัดเอากลยุทธ์เทคนิคต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากสายตาของผู้ชมจากสินค้าหลายร้อยหลายพันแบรนด์


...โฆษณามอร์นิ่งของคุณชายคือหนึ่งในเรื่องที่เกี่ยวสายตาเขา เขาเลยอยากรู้ว่าคุณชายจะทำโฆษณาตัวอื่นได้ดึงดูดความสนใจอีกมั้ย


แต่คำตอบของคุณชายกลับปิดประตูตาย


“...ก็มีหลายอย่าง”


เคยได้ยินคำพูดที่ว่า 'นิสัยดาราที่แสดงออกเบื้องหน้ากับนิสัยเบื้องหลังต่างกัน'

ตอนนี้นายอนุรักษ์เข้าใจแจ่มแจ้ง ถึงจะประทับใจฝีมือ แต่เจอท่าทางกวนประสาทแบบนี้เข้าไป ความประทับใจก็หดหาย   ทุกทีเห็นคุณชายซักเขา แต่พอถูกเขาซักบ้างดันประหยัดคำประหนึ่งกลัวดอกพิกุลจะร่วง หรือคุณชายจะเป็นประเภทพวกชอบตั้งคำถาม ไม่ชอบตอบ ในเมื่อเจ้าตัวไม่พูด เขาก็ขี้เกียจต่อกร อยากเงียบนักก็ตามใจ


คนนึกระอาหันหน้าหนีมองวิวข้างทางแทน หากอยู่ ๆ คนเงียบกลับเป็นฝ่ายพึมพำ


“รถ”


อนุรักษ์หันกลับมามองถนน นึกว่าจะมีอุบัติเหตุรถชนหรืออะไร แต่การจราจรรอบตัวก็ยังเคลื่อนตัวไปได้ปกติ เลยทำให้เขาคิดได้ถึงความหมายความ หรือคุณชายจะตอบคำถามที่ค้างไว้


“โฆษณารถแบรนด์อะไรครับ”


“คันนี้”


รถสัญชาติญี่ปุ่นคันเล็กที่กำลังนั่งอยู่เป็นรุ่นที่ออกมาน่าจะเกือบสองปีแล้ว ทำให้เขาจำโฆษณาไม่ได้ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปดูของเก่าเผื่ออาจมีคนลงไว้ในยูทูป ...คุณชายทำโฆษณาทั้งรถ น้ำยาปรับผ้านุ่ม แล้วล่าสุดยังมีลิปสติกอีก นับว่ารับงานหลากหลายเหมือนกัน ไม่เพียงแค่นั้นร่างสูงยังขยายความเพิ่ม


“งานโฆษณาทีวีผมไม่ค่อยได้ทำ ส่วนใหญ่จะเป็นปรินท์แอด”


“ปรินท์แอด?" 


“พวกโฆษณาลงในนิตยสาร หนังสือพิมพ์”


อ้อ..เขาพยักหน้าเข้าใจ เกือบลืมไปว่าโฆษณาไม่ได้มีแค่ในโทรทัศน์ มีทั้งพิมพ์ในกระดาษ แขวนไว้บนป้าย ออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต ที่ไหนมีมีสื่อ ที่นั้นย่อมมีโฆษณาแฝงติดตามตัวเราไปได้ตลอดทุกเมื่อ


“แล้วโฆษณาลิปสติกเป็นแบบไหนเหรอครับ"


“สปอดวิทยุ”


อนุรักษ์นึกเสียดายความจริงเขาอยากเห็นมันเป็นโฆษณาทีวีมากกว่า แต่ก็อยากรู้ว่าคนอย่างคุณชายจะทำโฆษณาเครื่องสำอางผู้หญิงยังไง


“ไปถึงไหนแล้วครับ”


หลุดปากถามออกไปถึงรู้สึกตัวว่าชักละลาบละล้วง คุณชายคงไม่มีทางยกเรื่องงานมาคุยกับคนนอก แต่ผิดคาด เมื่อคุณชายตอบกลับสั้น ๆ ขณะเปิดไฟเลี้ยว


“เพิ่งโดนขโมยไป”


อนุรักษ์นิ่งอึ้ง ชักจับเค้าลางถึงบางสิ่งได้ ...เหตุผลที่คุณชายปิดวิทยุหลังได้ยินโฆษณายาสีฟันสยามเมืองยิ้ม และแผ่รังสีมาคุออกมา หรือจะเป็นเพราะมีคนจากเอเจนซี่โฆษณา ATM คู่แข่งจ้องขโมยไอเดียเหมือนที่คุณชายนึกระแวงแล้วกล่าวหาเขา


แต่โฆษณาผลิตภัณฑ์คนละอย่างจะกล้าลอกงานกันได้ด้วยเหรอ ทำเป็นเด็กประถมลอกการบ้านส่งครูไปได้ ที่สำคัญคอนเซปต์  'กล้ายิ้มอย่างมั่นใจ'  เขาว่ามันก็เหมาะกับยาสีฟันมากกว่าลิปสติกจริง ๆ


ปริศนาเริ่มพันกันอีรุงตุงนัง แต่พนักงานแคชเชียร์ยังไม่ทันได้สวมบทนักสืบเชอร์ล็อกโฮมไขคดี รถญี่ปุ่นก็จอดตรงหน้าร้านอาหารในซอยเล็ก ๆ  อนุรักษ์ขมวดคิ้วเลี้ยวมองรอบด้านขณะที่คนขับดับเครื่อง


...เมื่อกี๊มัวแต่คุย เลยไม่ทันได้สังเกต คุณชายเอาเขามาปล่อยไว้ตรงนี้ แล้วเขาจะกลับยังไงวะ อย่างน้อยน่าจะมีน้ำใจส่งหน้าป้ายป้ายรถเมล์ก่อน  หรือเขาต้องนั่งแท็กซี่กลับ ยิ่งใกล้สิ้นเดือน เงินยังไม่ออก แล้วต้องมาเสียให้เรื่องไม่เป็นเรื่องอีก 


แต่หลวมตัวมาถึงนี้ขั้นนี้แล้วก็ช่วยไม่ได้  เขาถอนหายใจหน่าย ก่อนทวงถาม  "แล้วมือถือผม..."


"ไปกินข้าวก่อน เดี๋ยวผมเลี้ยง เป็นค่าซ่อมโทรศัพท์" คุณชายเอ่ยขัด แล้วเปิดประตูรถออกไป ทิ้งให้คนฟังกระพริบตาปริบ


อ้าว...สรุปที่เขาเข้าใจผิดตอนแรกเป็นจริงเหรอ หรือคุณชายเห็นเขานึกไปอย่างนั้น เลยเห็นใจพาเลี้ยงข้าว  แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ตราบใดที่มือถือยังไม่ได้คืน เขาจึงต้องเดินตามเข้าไป


ร้านอาหารเล็กแต่จัดแต่งค่อนข้างเรียบหรู เหมาะกับลูกค้าใส่ชุดสูทแบบคุณชาย ส่วนพนักงานแคชเชียร์อย่างเขาเหมือนคนรับใช้ตามถือของ ...ผู้ชายสองคนต่างสไตล์ มากินข้าวด้วยกันคงเป็นภาพที่แปลกตา หากพนักงานต้อนรับไม่ได้มีสีหน้าสงสัย ยังคงยิ้มแย้มต้อนรับพาเขาสองคนไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมยื่นเมนูให้


รายการอาหารส่วนใหญ่ล้วนเป็นเมนูตะวันตก ทั้งฟรัวการ์ สเต็กเซอร์ลอย เป็ดอบซอสส้ม ถึงอนุรักษ์จะมีคุณชายเป็นสปอนเซอร์ แต่เขาไม่คิดจะอยากให้อีกฝ่ายเลี้ยงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนเช็คบิลตั้งใจจะขอแชร์ด้วยซ้ำ เขาจึงไล่สายตาดูเมนูที่คนกระเป๋าตังค์ฟีบตอนสิ้นเดือนพอจ่ายไหว


“รับอะไรดีครับ”


“เอาสปาเกตตี้คาโบนาราครับ”


เลือกเมนูง่าย ๆ ที่ถือซะว่านาน ๆ กินที เพราะปกติเขาถูกปากกับของแซ่บ ๆ ถึงเครื่องถึงรสมากกว่า พวกชีสนมเนยเนื้อสันแพง  ๆ คงเหมาะกับบุคลิกไฮโซแบบคุณชาย แต่ผิดคาด เมื่อคนร่วมโต๊ะกลับสั่งตาม


“เพิ่มเป็นสองที่ แล้วขอ BIN 389 ด้วยครับ”  แต่คุณชายก็ยังเป็นคุณชาย รักษามาดด้วยการสั่งไวน์ บริกรพยักหน้าเอ่ยทวน


"รับไวน์ทั้งสองท่านนะครับ"


"ผมขอน้ำเปล่าดีกว่าครับ" 


อนุรักษ์ปฏิเสธ อันที่จริงก็เคยลองดื่มไวน์อยู่ครั้งสองครั้ง แต่รู้สึกขืนคอแปลก ๆ  สไตล์เขาถนัดกับเหล้าเบียร์มากกว่า



TRRRRRR!!



เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดัง คุณชายล้วงสมาร์ทโฟนหยิบรับ ...ไม่ใช่เครื่องที่เขาเพิ่งคืน เพราะมันยังนอนอยู่ที่คอนโซลหน้ารถอยู่เลย   มิน่าคุณชายถึงไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ  เพราะมีสมาร์ทโฟนอีกเครื่อง แถมใหม่กว่าที่เขาเอาไปซ่อมอีก คนรวยก็แบบนี้ อะไรพังก็หาสำรองง่าย ๆ ได้ทันที


“ครับ...ผมทราบแล้วครับ ...ไม่มีปัญหาครับ ...ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด”


บทสนทนานั้นคล้ายพูดกับเจ้านายหรือคนมีอำนาจมากกว่า แต่คุณชายยังคงรักษาน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีความอ้อนน้อมเหมือนเดิม


อนุรักษ์ไม่อยากเสียมารยาท เลยลุกออกมามาเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางโซนเคาท์เตอร์ด้านใน เขาถึงเพิ่งสังเกตว่าร้านนี้มีตู้โชว์เค้ก และขนมหวานหน้าตาน่าทานวางอยู่รายชิ้น เห็นแล้วทำให้เขาฉุกคิดถึงบางอย่างขึ้นมาได้...


ครั้นกลับมาที่โต๊ะ คุยชายก็คุยโทรศัพท์จบแล้ว โดยมีบริกรกำลังรินไวน์ด้วยท่าทางเชี่ยวชาญ แต่คุณชายทำเหมือนมันเป็นเหล้าช็อต กระดกแก้วรวดเดียวหมด ถึงเขาไม่ถนัดดื่มไวน์ แต่รู้ว่าวิธีดื่มจริง ๆ ต้องค่อย ๆ ละเลียดลิ้มรสชาติ การดื่มแบบคุณชายจึงมีเหตุผลเดียวคือ...ตั้งใจจะเมา


"อย่าดื่มเยอะ เดี๋ยวคุณต้องขับรถกลับ"   มือที่ถือแก้วไวน์ชะงัก หลังได้ยินน้ำเสียงซีเรียสจากปากอนุรักษ์


...พ่อแม่เขาซึ่งเสียด้วยอุบัติเหตุคนเมาแล้วขับ ตอนดื่มน่ะสนุก แต่พอเมาแล้วไม่รู้หรอกว่าผลของมันอาจไปกระทบใครอีกหลายคนมากขนาดไหน


โชคดีที่คำเตือนของเขาไปกระตุ้นต่อมศีลธรรมของคุณชายได้บ้าง ร่างสูงจึงผ่อนการดื่มให้น้อยลง พอดีกับสปาเกตตี้มาเสิร์ฟ เขาสองคนก้มหน้าทานสปาเก็ตตี้เงียบ ๆ ไร้บทสนทนาใด ๆ เหมือนพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์สักอย่าง  ...สปาเกตตี้คาโบนาราอร่อย ไม่เลี่ยนครีมมากอย่างที่คิด แต่เจอบรรยากาศแบบนี้อาหารรสเลิศแค่ไหนก็ดูชืดไปถนัด


บริกรเก็บจานออกไปหลังทานเสร็จ ก่อนเสริ์ฟของหวาน


“ดับเบิ้ลช็อกโกแล็ตเค้กครับ”


ขนมเค้กถูกวางลงตรงหน้าคุณชาย ซึ่งเลิกคิ้วเพราะตนเองไม่ได้สั่ง แต่อนุรักษ์กลับชิ่งพูดก่อน


“คุณเลี้ยงข้าวผม ผมขอเลี้ยงเค้กคุณแทน แล้วก็เออ..."  เขาอ้างเหตุผลแรกที่พอให้คุณชายรับได้ แล้วจึงอ้อมแอ้มบอกจุดประสงค์หลักที่แท้จริง 


"...สุขสันต์วันเกิดครับ...”
 

เป็นคำอวยพรแบบคาดไม่ถึง สีหน้าเฉยชาของคุณชายจึงมีความประหลาดใจเจืออยู่เล็ก ๆ


“รู้ได้ยังไง”


“SMS จากค่ายโทรศัพท์ของคุณ ผมไม่ได้แอบดูนะ มันขึ้นมาพอดี"


ประโยคหลังรีบออกตัวก่อน แม้จะแอบไขว้นิ้วไว้ในใจ ...ก็จริงที่เขาไม่ได้แอบดูข้อความ เพราะไอ้ทัตเป็นคนเปิดโชว์ให้เห็นเอง  ทำให้เขานึกขึ้นได้ตอนเห็นเค้ก


...คนที่ถูกแฟนทิ้ง เพื่อนไม่อยู่ ตัดขาดจากครอบครัว กินข้าวกับพนักงานแคชเชียร์เงียบ ๆ สองคนคงเงียบเหงาพิลึก   วันพิเศษแบบนี้ ไหน ๆ ก็สมควรฉลองอะไรเล็ก ๆ บ้าง ถึงเจ้าตัวจะไม่ใช่เด็ก ๆ  และคงแก่กว่าเขา...กี่ปีนะ?


"คุณอายุเท่าไรครับ"


“สามสิบสอง”   


...แก่กว่าสิบเอ็ดปี  แต่ไม่รู้ทำไมทั้งหน้าตาและนิสัยของถึงไม่ได้เหมาะกับคนอายุสามสิบเลย


คุณชายจิบไวน์จนพร่อง แล้วเป็นฝ่ายย้อนถามกลับบ้าง 


“เธอยังเรียนอยู่รึเปล่า”


สรรพนามที่เรียกเขาเปลี่ยนไป อาจเพราะอีกฝ่ายตระหนักได้เช่นกันถึงความห่างของอายุ หรือเพราะต้องการตอกย้ำว่าเขาควรจะทำตัวให้เคารพอาวุโสกว่าบ้าง แต่ที่ผ่านมาเขาก็มีมารยาทพอจะพูดสุภาพกับคุณชายทุกคำ


“ปีสามครับ แต่ตอนนี้ปิดเทอมอยู่เลยมาทำงานพาร์ทไทม์”


“อืม”


คู่สนทนายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง ไม่คิดจะแตะต้องจานของหวาน


“เออ...ไม่กินเค้กสักหน่อยเหรอครับ หรือไม่ชอบขนม”


อนุรักษ์รู้ว่าตัวเองถือวิสาสะสั่งมาโดยไม่ถามก่อน ผู้ชายอายุเท่านี้อาจไม่ชอบกินขนมกันแล้ว  แต่วันเกิดมันต้องคู่กับเค้กสิ และเขาก็อุตส่าห์เลือกเป็นช็อกโกแล็ตที่ดูแล้วไม่น่าจะหวานมากมาให้ หรือเขาควรจะเปลี่ยนเป็นพวกชีสเค้กดี


หากคำตอบของคุณชายกลับผิดจากที่คิดไปไกล


“ถ้างั้นลองพูดให้ฉันอยากกินทีสิ”


อนุรักษ์เงยหน้าขึ้นถาม  "คุณว่าอะไรนะ?"


“สมมติว่าฉันเป็นเด็กที่ไม่ชอบกินผัก เค้กนี่ก็เหมือนผักขม ๆ ลองพูดให้ฉันอยากกินหน่อย ทำได้มั้ย”


...พูดบ้าอะไรวะ! ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย ไอ้คุณชายนี่เริ่มกวนประสาทอีกแล้ว!


เขากำลังจะประชดว่า ถ้าไม่อยากกินก็บอกกันมาดี ๆ  แต่สายตาเรียวที่มองประเมินเหมือนกำลังท้าทาย กลับเปลี่ยนให้เขาพยักหน้ารับ


“ได้ครับ ผมมีเหตุผลสี่ข้อที่จะทำให้คุณอยากกินเค้ก”


อนุรักษ์ยกนิ้วชี้ขึ้น  “หนึ่ง...วันนี้วันเกิดคุณ”


ตามมาด้วยอีกนิ้ว “สอง...ผมซึ่งไม่รู้จักคุณเลย โคตรไม่ประทับใจอะไรสักอย่างในตัวคุณ สั่งเค้กให้คุณกิน เพราะดันนึกขึ้นได้"


“สาม...แทนที่จะกินเค้กแบบรักษาน้ำใจอย่างคนปกติทั่วไป คุณกลับมาท้าผมให้พยายามหาทางโน้มน้าวให้คุณกินเค้กที่อุตส่าห์สั่งมาให้อีก”


“และสี่..." เขาสูดลมหายใจ ก่อนจบข้อสุดท้าย


“ลองสมมติว่า ถ้าคุณเป็นผม ....ตอนนี้คุณคิดว่า ผมยังจะอยากเห็นคุณกินเค้กอยู่อีกมั้ย”


สิ้นการโน้มน้าวที่เหมือนหลอกด่าไปในตัว คุณชายยังคงไม่ขยับ เพียงแค่เอ่ยถาม


“เธอชื่ออะไร”


“รักษ์”


คุยกันมาตั้งนาน เพิ่งนึกได้ว่าตนเองยังไม่ได้บอกชื่อ คุณชายพยักหน้ารับรู้ ก่อนหันไปเรียกบริกรมาเช็คบิล โดยยังปล่อยจานของหวานไว้เช่นเดิม


“ตกลงจะไม่กินเค้กจริง ๆ ใช่มั้ยครับ งั้นเอามาให้ผม”


ถึงผลสรุปออกมาแล้วว่า 'เขาแพ้' แต่ก็ยังรู้สึกเสียดาย ยังไงเค้กนี้เขาเป็นคนออกเงินก็ขอกินเองดีกว่าทิ้งไว้ ทว่าคุณชายกลับแย้ง


“ฉันจะเก็บเอาไปกินที่บ้าน”


อ้าว...ยังไงวะ ตกลงเขาชนะ หรือแค่อยากรักษาน้ำใจ เห็นแบบนี้ไอ้รักษ์ก็แฟร์พอที่จะเล่นในกติกา แต่คู่แข่งอาจไม่แน่


“เดี๋ยวไปถึงบ้าน คุณอาจเอาไปทิ้งก็ได้”


“งั้นตามฉันมาจะได้เห็นกับตา”


“ทำไมผมต้องไปกับคุณด้วย ไหนคุณลองพูดให้ผมอยากไปกับคุณบ้างได้มั้ยครับ”


อนุรักษ์ใช้เกมเดียวกับที่อีกฝ่ายเคยเล่น  อยากรู้ว่าอย่างคุณชายจะมีเหตุผลอะไรโน้มน้าวให้ไปได้ง่าย ๆ


แต่หลังจากนั้น...เขาก็ตระหนักได้ว่าตนเองพ่ายแพ้ต่อนักโฆษณามากประสบการณ์หมดรูป ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวสั้น ๆ



“...เพราะมือถือเธออยู่กับฉัน...”




---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC


คุณชายเห็นเงียบ ๆ แต่แอบร้าย ไม่ทันไรพาหนุ่มเข้าบ้านซะแล้ว :laugh:
จริง ๆ เราเองก็เหมือนรักษ์ที่ชอบดูโฆษณา และเคยได้ยินว่าประเทศไทยมีการครีเอทโฆษณาได้ดีเป็นอันดันต้น ๆ ของโลก..น่าภูมิใจแทนค่ะ
แต่สำหรับนักโฆษณาแบบคุณชาย ไม่รู้น้องรักษ์จะรับมือได้มั้ย ก็ต้องสู้กันต่อไปนะลูก  :เฮ้อ:
เรื่องนี้ปมปริศนาค่อนข้างเยอะ แต่ทุกการกระทำของทั้งรักษ์และคุณชายล้วนซ่อนเหตุผลไว้ทั้งนั้น ยังไงก็อยากให้ทุกคนติดตามต่อจนแก้ปลายเชือกได้ทั้งหมดค่ะ ถ้าภาษาไม่ลื่นหรือมีอะไรผิดพลาดตรงไหนบอกได้นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ


 :L2:

BitterSweet


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2016 05:39:11 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
รักษ์แพ้ทางให้คุณชายอยู่ร่ำไปสิน่า.. :laugh:

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
คุณชายดูเย็นชาเหมือนเป็นพวกมีปมในอดีตเลย
คนในโทรศัพท์ต้องมีอิทธิพลบางอย่างต่อจิตใจคุณชายแน่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด