ตอนที่ 7 ต้องสู้จึงจะชนะ.........
“อ๊ากกกกกก อยากตายโว้ยยยย!!”
“ใจเย็นๆก่อนสิคะคุณป๊อบ”
“ใจเย็นเหรอครับ พี่ผักหวานจะให้ป๊อบใจเย็นอย่างนั้นเหรอครับ ตอนนี้ ป๊อบอยากจะบ้าตายอยู่แล้วจะให้ป๊อบมาใจเย็นป๊อบ
คงทำไม่ได้ก็ในเมื่อพี่ดูงานที่คุณหญิงแม่ให้ป๊อบทำสิครับ มันงานผู้หญิงชัดๆ คิดเหรอว่าคนอย่างไอ้ป๊อบจะเคยทำ!” ผมว่า
ก่อนจะเอามือมาขยี้หัวตัวเองที่มันยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งมากขึ้นไปอีก
ตอนนี้ผมกำลังนั่งโอดครวญอยู่ในห้องครัวของบ้านสุริยศักดิ์ โดยมีพี่ผักหวานมานั่งให้กำลังใจเป็นเพื่อน ส่วนคนอื่นๆคุณ
หญิงแม่ก็เรียกใช้งานซะหมด ผมเลยได้แต่นั่งเครียดเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี
“แต่คุณป๊อบก็รับปากคุณผู้หญิงไปแล้วว่าจะทำ แถมยังบอกอีกว่าทำได้สบายใจหายห่วงเองไม่ใช่เหรอคะจะมานั่งเครียดตอน
นี้พี่ว่ามันคงไม่ทันแล้วล่ะค่ะ” พี่ผักหวานเอ่ยขึ้น โถ่! พี่ผักหวานครับได้โปรดอย่าซ้ำเติม
“ก็ที่ป๊อบพูดไปตอนนั้นมันเพราะอารมณ์ล้วนๆนี่ครับเป็นพี่ผักหวานจะยอมเหรอครับ ป๊อบพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าป๊อบไม่
ยอมหรอก” ใช่ คนอย่างไอ้ป๊อบไม่มีทางยอมคุณหญิงแม่ของไอ้หื่นภามเด็ดขาด ผมถึงได้อยู่ในสภาพนี้ยังไงล่ะครับ เหอะๆ เป็น
ไงล่ะมึง ซึ้งในรสพระธรรมเลยไหมล่ะ?!
“เฮ้อ! พี่ก็ไม่รู้จะช่วยคุณป๊อบยังไงดีนะคะเพราะถ้าให้ทำอาหารพี่ยังพอช่วยได้ แต่ให้จัดดอกไม้คงต้องยกให้ป้าพิมพ์กับหนู
นิ่มโน่นล่ะค่ะเพราะสองคนนั้นมีหน้าที่จัดดอกไม้ให้คุณผู้หญิงเป็นประจำ” พี่ผักหวานว่า เฮ้อ! แล้วไอ้ป๊อบจะรอดไหมเนี่ย
“คุณผู้หญิงน่ะไม่ใช่ว่าใครจะมาต่อกรได้ง่ายๆหรอกนะคะ ถึงแม้ท่านจะไม่ทำตัววี๊ดว้ายคอยไล่ว่าที่สะใภ้ที่ตัวเองไม่ปลื้ม
เหมือนแม่สามีคนอื่นๆ แต่ท่านก็จะใช้วิธีของท่านแบบที่คุณป๊อบเจอนี่ล่ะค่ะเพราะคุณผู้หญิงรู้ว่าผู้หญิงสมัยนี้มักจะแต่งตัวสวยๆไป
วันๆแล้วก็คอยจับผู้ชายที่หน้าตาดีมีฐานะที่ร่ำรวย แต่ตัวเองก็ทำงานทำการไม่เป็น คุณผู้หญิงเลยอยากจะให้ว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ
เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในทุกๆด้านเลยทดสอบคุณป๊อบแบบนี้ยังไงล่ะคะ” พี่ผักหวานว่า ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณหญิง
แม่ แต่เอ่อ...พอดีว่าผมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องมาทดสอบงานบ้านงานเรือนก็ได้ ทดสอบไอ้ป๊อบโดยให้จัดสวน
ซ่อมประปายังง่ายซะกว่าเลย
“แต่ป๊อบก็ไม่ใช่ผู้หญิงนะครับพี่ผักหวาน” พี่ผักหวานเลยได้แต่ส่งยิ้มบางๆมาให้
“แต่คุณป๊อบก็เป็นว่าที่สะใภ้ของบ้านนี้นะคะ” ว่าจบพี่ผักหวานก็ขอตัวไปทำงานในส่วนของเธอต่อ ส่วนผมก็อยากจะบอก
ความจริงกับพี่ซะเหลือเกินว่าผมถูกจ้างมาให้ทำหน้าที่ว่าที่สะใภ้ต่างหากซึ่งผมก็ไม่ได้พิศวาสไอ้ตำแหน่งนี้สักเท่าไร
“เฮ้อ!” ผมได้แต่นั่งถอนหายใจปลงกับสิ่งที่ตัวเองเจอ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดกูเกิลที่ทุกวันนี้มันกับผมก็เรียกได้ว่าแทบ
จะเป็นเครือญาติเดียวกันอยู่แล้ว
“วิธีจัดดอกไม้ง่ายๆ” ผมลองค้นหาวิธีจัดดอกไม้ง่ายๆสำหรับมือใหม่เผื่อมันจะช่วยชีวิตผมได้บ้าง แต่ก็ไม่มีเว็บไซต์ไหนที่มัน
จะง่ายพอที่จะให้มือใหม่อย่างผมทำได้บ้างเลย
“เอาไงดีวะไอ้ป๊อบ” ผมได้แต่นั่งปลงตกกับตัวเอง ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แน่นอนว่าไอ้เรื่องแกล้งคน คนอย่าง
ไอ้ยอดชายนายป๊อบนี่แหละถนัดที่สุด โฮะๆๆๆๆ
“เสร็จแล้วคร๊าบบบ ไอ้ป๊อบจัดดอกไม้มาให้คุณหญิงแม่เสร็จเรียบร้อยแล้วคร๊าบบบบบบบบบ” ผมตะโกนเรียกคุณหญิงแม่มา
แต่ไกล ท่านที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกเงยหน้าขึ้นมามองผมและจัดแจงวางหนังสือเล่มนั้นลงพร้อมกับถามผม
เสียงเรียบ ซึ่งผมคาดว่าคุณหญิงแม่คงกำลังเก็บอาการไม่พอใจผมแน่ๆ แต่ก็ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ พอดีว่า...คุณหญิง
แม่อยากมีว่าที่ลูกสะใภ้ที่ฉลาดเป็นกรดอย่างไอ้ยอดชายนายป๊อบเอง หึๆ
“ไหนล่ะสิ่งที่ฉันให้เธอทำ ฉันก็อยากจะดูผลงานเธอเหมือนกันว่ามันจะดีสักแค่ไหน” คุณหญิงแม่ว่า ผมเลยฉีกยิ้มหวานปาน
น้ำผึ้งเดือนห้าที่คาดว่าน่าจะหวานพอที่ทำให้หน้าคุณหญิงแม่บึ้งตึงเอาได้พร้อมกับเรียกพี่ผักหวานให้ช่วยถือผลงานการจัด
ดอกไม้ของผมออกมาให้คุณหญิงแม่ได้ยลเสียหน่อยเผื่อจะถูกอกถูกใจคราวหน้าจะได้เรียกใช้บริการไอ้ป๊อบใหม่
“อร๊ายยย! นี่เธอทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย ฉันบอกให้จัดดอกไม้ไม่ใช่ให้เอาดอกไม้มาจัดเรียงใส่ถาดให้ฉันแบบนี้!! แล้วดูเธอ
ทำ!! เธอเอาดอกไม้ในสวนที่ฉันปลูกเองกับมือมาตัดก้าน ใบ ทิ้งๆขว้างๆแบบนี้ได้ยังไง!! โอ๊ยฉันจะเป็นลม เฮ้อออออ!” คุณหญิง
แม่ว่า ก่อนที่จะทำท่าเหมือนคนกำลังจะเป็นลม โชคดีที่ป้าพิมพ์อยู่ด้วยเลยช่วยประคองไว้ได้ทัน ส่วนผมก็ยืนยิ้มพริมใจในผลงาน
ที่ตัวเองทำ
“หนูนิ่มไปเอายาดมมาให้คุณผู้หญิงหน่อยเร็ว” เสียงป้าพิมพ์ตะโกนบอกพี่หนูนิ่มที่ยืนทำอะไรไม่ถูกข้างกัน ก่อนที่เธอจะพยัก
หน้ารับแล้ววิ่งออกไปเอายาดมมาให้คุณผู้หญิงของบ้านตามที่ป้าพิมพ์บอก
“พี่หนูนิ่มครับป๊อบว่าพี่ควรเอามาทั้งยาดม ยาลม ยาอม ยาหม่องเลยนะครับเพราะป๊อบกลัวว่าคุณหญิงแม่จะมีอันเป็นไป
อุ๊ย! เป็นหนักเอาได้ครับ ฮ่าๆ” ผมตะโกนบอกพี่หนูนิ่มที่รีบวิ่งออกไปทันทีที่ป้าพิมพ์บอก ส่วนพี่ผักหวานที่ยืนถือถาดดอกไม้เมด
บายป๊อบก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้คุณผู้หญิงของบ้านที่ตอนนี้กำลังนอนพักที่โซฟาแต่ก็ไม่วายตวัดสายตามามองผมเรียกได้ว่าถ้า
มีไฟออกมาจากตาได้ผมคงไหมไปทั้งตัวแล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
“คุณหญิงแม่เป็นอะไรมากรึเปล่าครับต้องถึงขั้นเข้าโรงพยายาบาลไหมครับเนี่ย” ผมแกล้งทำทีเป็นห่วงคุณหญิงแม่ที่แทบจะ
เป็นลมล้มพับไปอีกรอบเมื่อผมนั่งลงใกล้ๆท่านพร้อมกับถามถึงอาการของท่านด้วยความห่วงใย.......จริงจริ๊งงงง!
“มาแล้วค่ะป้าพิมพ์” พี่หนูนิ่มที่วิ่งไปหายาดมมาให้ป้าพิมพ์เมื่อครุ่ก็วิ่งมาพร้อมยาดมสองอันพร้อมกับยื่นให้ป้าพิมพ์ที่ตอนนี้
กำลังส่งให้คุณผู้หญิง
“เธอจงใจจะแกล้งฉัน เธอรู้ว่าแปลงดอกไม้ที่อยู่ในสวนหลังบ้านเป็นแปลงที่ฉันรักมาก” คุณหญิงแม่ที่รับยาดมจากป้าพิมพ์มา
ดมก็ลุกขึ้นนั่งโดยมีป้าพิมพ์ประคองให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่ผมจะโดนท่านว่าไปตามระเบียบ
“ป๊อบเปล่าแกล้งนะครับก็คุณหญิงแม่สั่งป๊อบเองว่าให้ป๊อบจัดดอกไม้ ป๊อบก็จัดให้ตามที่คุณหญิงแม่ต้องการแล้ว แต่อยู่ดีๆ
คุณหญิงแม่ก็มาเป็นลมล้มพับไปเอง เรื่องนี้ป๊อบไม่ผิดนะครับ” ผมบอกคุณหญิงแม่ด้วยใบหน้าใสซื่อ แต่ในใจผมนี่สิครับลิงโลดจะ
ตายที่ทำให้คุณหญิงแม่ที่ชอบเอาชนะคนอื่นเป็นงานอดิเรกเป็นลมล้มพับด้วยฝีมือไอ้ยอดชายนายป๊อบคนนี้
“ฉันบอกให้เธอตกแต่งดอกไม้พวกนี้แล้วก็เอาไปปักในแจกันดอกไม้ ไม่ใช่ให้เธอมาทำแบบนี้!!” คุณหญิงแม่ตวาดลั่น สงสัย
คงจะโกรธมากอยู่แฮะ อย่างนี้ก็เข้าทางไอ้ป๊อบสิครับ ไอ้งานปั่นหัวคนเนี่ยของชอบไอ้ป๊อบเลย คริๆ
“อ้าว? คุณหญิงแม่ให้ป๊อบทำแบบนี้หรอกเหรอครับ แล้วทำไมคุณหญิงแม่ถึงไม่บอกป๊อบตั้งแต่ตอนแรกล่ะครับ แบบนี้เขา
เรียกว่า ปักดอกไม้ในแจกันนะครับ ป๊อบก็เข้าใจว่าให้ตัดดอกไม้ส่งๆแล้วเอามาเรียงไว้ในถาด” ผมตอบคุณหญิงแม่พร้อมกับทำ
หน้าตาที่คิดว่าแอ๊บได้ใสซื่อสุดๆไปให้คุณหญิงแม่ ตอนนี้ท่านก็เลยชี้หน้าว่าผม
“คนอย่างเธอน่ะเหรอที่ไม่รู้ ฉันว่าเธอแกล้งโง่มากกว่า!” คุณหญิงแม่ว่า พร้อมกับยกหลอดยาดมขึ้นมาดม
“ป๊อบไม่ๆได้แกล้งนะครับ ป๊อบเป็นเด็กบ้านนอกแล้วที่สำคัญป๊อบตกภาษาไทยเลยไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่คุณหญิงแม่
พูด....สักเท่าไร” ผมตอบก่อนฉีกยิ้มกว้างให้คุณหญิงแม่สุดที่รัก
“ฉันไม่สนว่าเธอจะรู้หรือแกล้งไม่รู้ แต่เรื่องนี้คุณพี่ ตาภามและตาภัทรต้องรับรู้ คอยดูฉันจะไม่มีทางยอมแพ้เธอเด็ดขาด
เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ของเธอเย็นนี้ก็แล้วกัน!!! ไปพิมพ์ฉันอยากพักผ่อน ฉันอยากเก็บแรงเอาไว้หัวเราะสมน้ำหน้าใครบาง
คน” ว่าจบคุณหญิงแม่ก็เดินขึ้นชั้นบนไป โดยมีป้าพิมพ์เดินตามหลัง แต่ก็ยังส่งสายตาแสดงความห่วงใยมาให้ผม ผมเลยได้แต่ส่ง
ยิ้มไปให้เป็นนัยๆว่าผมไม่เป็นไร
“พี่ผักหวานว่าเย็นนี้คุณป๊อบคงจะงานเข้าระดับสึนามิแล้วล่ะค่ะ” พี่ผักหวานกระซิบบอกผม ส่วนพี่หนูนิ่มก็ยกนิ้วชี้ทำท่าปาด
คอพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง บ่งบอกได้ว่าเย็นนี้ชะตาของผมคงได้ขาดลงแน่ๆ
แต่สำหรับผมคนที่จะชะตาขาดน่ะไม่ใช่ผมหรอก ผมเชื่อว่าอย่างนั้น แต่จะเป็นใครน่ะเหรอ....เย็นนี้ทุกคนก็คงจะได้รู้กัน หึๆ
วันเวลาในแต่ละวันช่างผ่านพ้นไปเร็วจริงๆ ผมที่เพิ่งจะโดนคุณหญิงแม่หมายหัวว่าเย็นนี้จะต้องชะตาขาดไปเมื่อช่วงบ่าย
จนตอนนี้ดวงอาทิตย์ก็เลื่อนลอยคล้อยต่ำเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงตัดกับสีของท้องฟ้าลาลับลงไปกับเส้นขอบฟ้า
หลังจากที่ผมเจอศึกหนักในช่วงบ่ายซึ่งแน่นอนว่ามันผ่านพ้นไปไม่ได้ด้วยดีสักเท่าไร ผมจึงได้มีเวลามางีบหลับสักเล็กน้อย
เพราะเมื่อเช้าดันกระแดะตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ไม่รู้ตื่นมาทำซากหาสวรรค์วิมานอะไร แต่พอหัวถึงหมอนได้นอนหลับสักหน่อย
ความเมื่อยล้าที่มีก็ค่อยผ่อนคลายลงบ้าง
“อืมมมม” ผมพลิกตัวกำลังจะลุกเพื่อบิดไล่ความขี้เกียจ แต่ก็ต้องมาติดแหงกขยับเขื้อยนลุกไปไหนไม่ได้เพราะมีไอ้มือ
ปลาหมึกของใครบางคนกำลังกอดรัดเอวของผมไว้อยู่
“ไอ้เหี้ยหื่นภามมม”
ตุบ!! โอ๊ย!!
ปฏิกิริยาตอบสนองไว้เท่าความคิดเพราะผมไม่ต้องมานั่งคิดให้มากความว่าใครเป็นคนกอดผมเอาไว้ ผมก็จัดการประเคน
พระบาทาเข้าที่ท้องไอ้คนที่มันมากอดผมโดยไม่ได้รับอนุญาต จนคนที่โดนถีบตกเตียงนั่งกุมท้องพร้อมกับส่งเสียงร้องโอดครวญ
ซึ่งผมว่ามันไม่ได้ดูน่าสงสารเลยสักนิดกลับน่าสมน้ำหน้ามากกว่า
“น้องป๊อบมาถีบพี่ทำไมเนี่ย” โอ้โห ไอ้หื่นยังมีหน้ามาถามอีกนะว่าถีบทำไม
“ก็ใครใช้ให้คุณ เอ้ย! พี่ โว้ย! เรียกไม่ชินเว้ย ก็ใครเขาใช้ให้พี่ภามมากอดป๊อบเล่า!” ผมว่า แม่งไม่ชินปากสักทีเวลาที่ต้อง
เรียกไอ้หื่นว่าพี่
“อ้าว ก็เราเป็นแฟนกันกอดกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดาขนาดทำเรื่องอย่างว่ากันมันยังปกติเลยนะ” ไอ้หื่นว่า ไอ้บ้าหัวสมองคิด
แต่เรื่องลามก
“แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่จ้างป๊อบมาทำงานเป็นแฟนกำมะลอกับว่าที่สะใภ้จำเป็น” ผมเตือนความจำอีกคนเพราะไอ้หื่นบ้า
นั่นจะได้ไม่มาทำอะไรลุ่มล่ามกับผมอีก
เมื่อผมพูดประโยคนั้นจบลง ไอ้หื่นภามที่ตอนแรกมันนั่งกุมท้องอยู่ที่พื้นก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งที่เตียงพร้อมกับ
ดึงผมเข้าไปกอด แต่ครั้งนี้กลับรัดแน่นกว่าครั้งแรกที่ผมนอนอยู่ ผมเลยได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน ไอ้บ้านี่มันไม่
เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหมเนี่ย!
“ปล่อยป๊อบเดี๋ยวนี้นะ นี่พี่ไม่เข้าใจสิ่งที่ป๊อบพูดไปเมื่อกี้ใช่ไหมเนี่ย” ผมทั้งดิ้น ทั้งทุบ แต่อีกคนไม่มีวี่แวว่าจะปล่อยผมออก
จากอ้อมกอด แถมยังเอามือมาลูบหัวผมอีกต่างหาก แต่จะว่าไปมันก็รู้สึกดีนะ.....แต่คนที่ทำต้องไม่ใช่ไอ้หื่นภาม!!
“เมื่อกี้ป๊อบพูดด้วยเหรอ เอ แต่ทำไมพี่ถึงไม่ได้ยินล่ะ หึ” โว้ย ไอ้ดวกเอ้ย! แม่งแกล้งกันชัดๆ
ผมที่รู้ว่าให้ดิ้นแทบตายยังไงไอ้หื่นนี่ก็ไม่ปล่อยผมออกจากอ้อมกอดของมันอยู่ดี สู้ผมเอาแรงเก็บไว้เอาคืนมันครั้งหลังยัง
จะง่ายซะกว่า อย่าให้ไอ้ป๊อบออกไปได้นะ เชื่อได้เลยว่าไอ้หื่นต้องไม่รอดพ้นมือไอ้ป๊อบแน่!
“ได้ข่าวว่าเย็นนี้มีคนชะตาจะขาดเหรอ” หลังจากที่ผมหยุดดิ้นเราทั้งคู่ก็ได้แต่นั่งเงียบ จนอีกคนเอ่ยถามขึ้นเพื่อทำลายความ
เงียบนั่นลง
“ข่าวไวดีนี่” ผมว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องเบะปากเมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นอีกคนทองมาอย่างยิ้มๆ
“หึๆ ไอ้เด็กแสบเอ้ยเล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง” ว่าจบไอ้หื่นก็ยื่นมือมาบีบจมูกผม โอ๊ย! เจ็บนะเฟ้ย จะมันเขี้ยวอะไรกับจมูกของคน
อื่นเข้านักหนา
“โอ๊ย! ไอ้บ้าบีบเข้ามาได้” ผมว่า ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบจมูกตัวเอง สงสัยแม่งต้องแดงแน่ๆเลย มือคนหรือมีออะไรเนี่ยบีบเจ็บ
ชะมัดเลย
“สำออย” อีกคนว่า ผมเลยหยิกเข้าไปที่สีข้างของไอ้คนปากดีที่กล้าดียังไงมาว่าไอ้ป๊อบสำออย
“โอ๊ย!” เสียงอีกคนร้องขึ้นเมื่อผมชักมืออกจากสีข้าง
“สำออย” ผมเลยถือโอกาสว่าอีกคนกลับ ส่วนคนที่โดนว่าก็ก้มหน้าลงลงมามองหน้าผมอย่างไม่พอใจ ส่วนคนอย่างไอ้ป๊อบก็
ลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่ได้ยินซะก็จบ
ว่าอะไรนะ? ไม่ได้ยิน?!
“แล้วข่าวนี่จริงใช่ไหมที่ว่าวันนี้จะมีคนชะตาขาด” ไอ้หื่นนั้นกลับเข้าเรื่องก่อนจะเอ่ยถามผม ผมเลยได้แต่ยักไหล่ อะไร
ทำนองนั้น
“แล้วไปก่อเรื่องอะไรเข้าล่ะถึงขั้นมีข่าวออกมาว่าจะชะตาขาด” ไอ้หื่นถาม ผมเลยกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะทำไมต้อง
เป็นผมที่ก่อเรื่อง คนที่ก่อเรื่องอาจจะเป็นคุณหญิงแม่สุดรักของตัวเองก็ได้
“พี่ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกเพราะยังไงพี่ก็ต้องเข้าข้างหม่อมแม่ของพี่อยู่ดี” ผมว่าอย่างเซ็งๆเพราะบอกไปอีกคนก็ต้องเข้าข้าง
คุณหญิงแม่อยู่ดีจะพูดให้เปลืองน้ำลายทำไม
“ใครบอกว่าพี่จะเข้าข้างคุณแม่” หืม?
“อย่าบอกนะว่าพี่ภามจะเข้าข้างป๊อบ” ผมถามเพราะไม่น่าเชื่อที่คนอย่างไอ้หื่นเนี่ยนะจะเข้าข้างผมหรือเห็นว่าตัวเองเป็น
นายจ้างเลยอยากจะปกป้องลูกจ้างอย่างผม...........................
แล้วทำไมผมถึงต้องรู้สึกจี๊ดๆที่อกซ้ายด้วยวะ
“ก็ใช่สิก็เพราะป๊อบ.....เป็นแฟนพี่ไง” ผมรู้ว่ามันเป็นแค่แฟนกำมะลอ แต่ผมก็อดที่จะรู้สึกดีกับมันไม่น้อย ถึงแม้ว่ามันจะเป็น
เพียงแค่ประโยคติ๊งต๊องที่ออกมาจากปากไอ้หื่น
แต่ก็น่าแปลกที่มันกำลังทำให้ผมยิ้ม.............
ผ่านไปนานเท่าไรไม่มีใครรู้เพราะตั้งแต่ที่ไอ้หื่นพูดประโยคนั้นจบห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง จนเป็นผมเองที่
ทำลายความเงียบนั้นลง
“เอ่อ.....พี่จะปล่อยป๊อบได้ยังเนี่ย มันอึดอัดแล้วก็ร้อนด้วย” ผมบอกเสียงขุ่นๆ ก่อนที่จะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้อีกคนรู้ว่าผม
เริ่มจะอึดอัดและไม่นานไอ้หื่นก็คลายอ้อมกอดออก จนผมได้ยืดเส้นยืดสายได้สบายตัว
“พี่ว่าเราลงไปหาทุกคนที่ด้านล่างดีกว่านะ” ไอ้หื่นว่าก่อนจะดึงผมให้ลุกตามตัวเองลงไปด้านล่าง
“มาแล้วเหรอไอ้ลูกชาย หม่อมแม่เขากำลังต้องการพบแกพอดี” ทันทีที่ผมกับไอ้หื่นเดินลงบันไดมาเสียงของคุณพ่อก็เรียก
ไอ้คนที่อยู่ข้างกันพร้อมกับพยักเพยิดไปที่คุณหญิงแม่ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าพร้อมที่จะลงมือฆ่าคนได้ทุกเมื่อ
“ครับ คุณแม่มีอะไรรึเปล่าครับ” ไอ้หื่นเดินเข้าไปหาคุณหญิงแม่ที่นั่งอยู่ตรงโซฟายาวตัวใหญ่ ส่วนคุณพ่อก็นั่งอยู่ที่โซฟา
เดี่ยวที่วางอยู่ข้างกัน ผมเลยหันไปทักทายไอ้ภัทรที่นั่งอยู่ตรงโซฟาตรงข้ามกับคุณพ่อ
ตอนนี้เราทุกคนในบ้านกำลังมารวมกันที่ห้องรับแขกตามบัญชาของนายหญิงของบ้านซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครขัดบัญชานี้ได้
รวมกระทั่งคุณผู้ชายของบ้านนี้
“นี่แฟนตัวดีของเราไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอว่าไปทำสวนของแม่จนพังพินาศไม่เหลือชิ้นดี” คุณหญิงแม่ว่า ผมเลยเดินไปนั่งข้างๆ
ไอ้หื่นก่อนจะแก้ต่างให้ตัวเอง
“เปล่านะครับก็ป๊อบไม่รู้จริงๆว่ามันเป็นสวนของคุณหญิงแม่” ผมบอกทุกคนทั้งที่จริงๆแล้วผมนี่แหละรู้ดีแล้วก็เป็นคนตัดมัน
เองกับมือ
“ไม่จริง คุณพี่แล้วก็ตาภาม ตาภัทรห้ามไปฟังมันนะ ไอ้เด็กนี่มันร้ายกาจมาก มันรู้ว่านั่นเป็นสวนของแม่ มันจงใจแกล้งแม่”
คุณหญิงแม่บอกก่อนจะหันไปทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้กับไอ้หื่นแล้วก็ไอ้ภัทร ไอ้ภัทรเลยได้แต่ถอนหายใจเพราะมันไม่รู้ว่าจะ
ช่วยผมได้ยังไง ไม่ต้องห่วงเพื่อนเรื่องนี้ไอ้ป๊อบช่วยตัวเองได้
“ก็คุณหญิงแม่สั่งให้ป๊อบจัดดอกไม้เองนะครับ” ผมว่า คุณหญิงแม่เลยตวัดสายตามามองผม ก่อนจะหันฟ้องคุณพ่อต่อ แต่ก็
ถูกคุณพ่อพูดขัดขึ้นก่อน
“สรุปแล้วเรื่องราวมันเป็นยังไงกันป๊อบ ไหนเล่ามาให้พ่อฟังหน่อย” จบคำคุณพ่อ ผมก็เลยเล่าเรื่องราวให้ท่านฟังทั้งหมดว่า
คุณหญิงแม่สั่งให้ผมจัดดอกไม้ ผมเลยจัดมาให้ โดยเอาดอกไม้สวยมาตัดๆแล้วก็จัดวางไว้บนถาด แต่คุณหญิงแม่ก็ไม่พอใจ บอก
ว่าสิ่งที่ท่านสั่งคือให้เอาไปปักไว้ในแจกัน ผมก็เลยบอกไม่รู้ คุณหญิงแม่เลยเป็นลมแล้วก็จะเอาเรื่องผม พอเล่าจบคุณพ่อก็ปล่อย
ขำออกมา รวมทั้งไอ้หื่นภามกับไอ้ภัทรที่นั่งอมยิ้มในสิ่งที่ผมเล่า
“เท่าที่ผมฟังมาทั้งหมดนะคุณหญิง ผมว่าเรื่องมันไร้สาระมาก ป๊อบไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณหญิงสั่งเพราะเขาเป็นคนต่างจังหวัด
คุณก็ไม่น่าไปหาเรื่องเขานะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ผมว่าเราแยกย้ายกันไปนอนได้แล้วนะ ไปเถอะคุณหญิง” ว่า
จบคุณพ่อก็พาคุณหญิงแม่เดินออกไปทั้งๆที่คุณหญิงแม่พยายามจะค้าน แต่ก็ทำไม่ได้ เป็นยังไงล่ะครับ ไอ้ป๊อบบอกแล้วไม่เชื่อ
คุณหญิงแม่นั่นแหละครับที่ชะตาขาด ไม่ใช่ป๊อบ!!
ตอนที่ 7 มาแล้วคร้าาาา เป็นไงล่ะ นายป๊อบซะอย่างสบายใจหายห่วง ทีนี้นายป๊อบเราก็ไม่ชะตาขาดแล้ว แต่ก็ควรหาเวลาไป
ทำบุญบ้างนะป๊อบนะ 5555
วันนี้ดีสจะมาบอกข่าวร้ายและข่าวดีนะคะ
ข่าวร้ายคือพรุ่งนี้ดีสของดอัพ 1 วัน ส่วนข่าวดี ดีสอัพวันนี้ 2 ตอนชดเชยให้ของพรุ่งนี้คร๊าบบบบบ อิอิ ขอให้มีความสุขในการอ่าน
นะคะ ขอให้รับภามหลงป๊อบกันเยอะๆด้วยเถิด สาธุ!! (เล่นของซะด้วย 5555)
ขอบคุณที่ติดตามและขอบคุรทุกคำติชมค่ะ