ตอนที่ 8 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ.........
ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ที่ผมเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านสุริยศักดิ์ภายใต้การทดสอบการเป็นว่าที่ลูก
สะใภ้(จำเป็น)ของคุณผู้หญิงแห่งบ้านสุริยศักดิ์ ที่โดนทดสอบได้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่คนอย่างไอ้ป๊อบก็รอดตายมาได้ทุกครั้ง ไม่ใช่
เพราะโชคช่วยหรือดวงดี แต่เพราะตัวผมเองนี่แหละ ทำไงได้ก็อยากมีว่าที่ลูกสะใภ้ที่ฉลาดเป็นกรดที่เอาคืนคุณหญิงแม่กลับไป
ได้ทุกครั้งที่เราต้องปะทะฝีมือและฝีปากกัน
“วันนี้พี่ภามไม่ไปทำงานเหรอ” ผมที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นอีกคนยังนอนอยู่ที่เตียงและไม่มี
วี่แววว่าจะลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานเหมือนทุกๆวันเอ่ยถามขึ้น แต่อีกคนกลับส่ายหัว ก่อนจะลุกขึ้นนั่งขยี้หัวตัวเอง
สองสามทีแล้วเดินตรงมาหาผม ก่อนจะ
ฟอด! และจากนั้นอีกคนก็เดินเข้าห้องน้ำไป
มันเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันที่ไอ้หื่นนั่นต้องตื่นมาและหอมแก้มผมทุกๆเช้าซึ่งในช่วงแรกๆผมก็ขัดขืนอยู่หรอก แต่คน
อย่างอย่างไอ้หื่นนั่นน่ะเหรอที่จะยอมให้ผมขัดขืนเพราะถ้าผมขัดขืนมันก็จะอ้างว่าจะลดเงินเดือนลง ไอ้เวร! ไอ้หื่นเอ้ย! จนตอนนี้
ผมโดนมันหอมทุกวัน แต่ก็ไม่ได้ชินที่ถูกไอ้หื่นนั่นหอมหรอกนะ แต่ก็รู้ว่าถ้าขัดขืนไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเพราะคน
อย่างไอ้หื่นน่ะเผด็จการตัวพ่อสัดๆ
ผมเดินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะไม่รู้ว่าวันนี้ต้องรับมืออะไรอีกบ้าง ถ้ารู้ว่ามันจะหนักหนาสาหัสขนาดนี้ผมคงกลับ
ไปทำงานที่ร้านพี่โก้เหมือนเดิมน่าจะดีกว่า แต่พอพูดถึงพวกพี่ๆก็นึกถึงไอ้มิ่งเพราะไม่รู้ตอนนี้มันเป็นยังไงบ้างเพราะเห็นมันบอกว่า
ปิดเทอมคราวนี้ก็คงจะหางานพิเศษทำเหมือนกัน
ผมเลยเดินตรงไปที่เตียงนอนก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงที่เตียงและโทรหาเบอร์ไอ้น้องรหัสสุดรักเพราะไม่รู้ว่าป่านนี้มันจะตาย
ไปแล้วหรือยัง
“ฮัลโหลมิ่ง นี่เฮียป๊อบนะ” ผมว่าเมื่อเห็นว่าปลายสายที่โทรไปกดรับแล้ว
“ครับเฮียมีอะไรรึเปล่า” ไอ้มิ่งพูด แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศโดยรอบที่มันอยู่คงจะเสียงดังไม่น้อยเพราะถึงขั้นแทรกเข้ามาใน
สาย
“แหม เฮียโทรหาน้องรหัสบ้างไรบ้างไม่ได้เหรอแล้วตอนนี้มิ่งอยู่ที่ไหนเนี่ยทำไมเสียงมันถึงได้ดังอย่างนี้วะ” ผมถามไอ้มิ่ง
เพราะดูเหมือนว่าเสียงจะดังมากขึ้นด้วย
“อ๋อ มาตลาดให้แม่น่ะเฮีย พอดีแม่ให้มาซื้อของไปทำกับข้าวเช้านี้แล้วเผอิญมิ่งเดินผ่านร้านที่แม่ค้าเขาทะเลาะกัน เออนี่
แปบนะเฮีย” ไอ้มิ่งว่า ก่อนเสียงในสายที่ดังในตอนแรกจะค่อยๆซาลงไป เออ แบบนี้สิค่อยยังชั่วหน่อย
“ดีขึ้นไหมเฮีย” ไอ้มิ่งถาม ผมเลยส่งเสียงตอบรับในลำคอว่าดีขึ้นกว่าในตอนแรก
“ว่าแต่เฮียโทรมามีอะไรเหรอหรือว่าวันนี้พี่ท็อปเขานัดกินเลี้ยงที่ไหนอีก” ไอ้มิ่งถาม
“เปล่าหรอก พอดีช่วงนี้เฮียว่างเลยโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบเฉยๆ” ผมตอบ ก่อนที่จะได้ยินเสียงปลายสายหัวเราะร่วน
อ้าว ไอ้น้องเวร พี่อุตส่าห์เป็นห่วงดันมาขำใส่ซะนี่ เดี๋ยวเหอะมึงกลับไปกูจะสั่งให้มึงแทงปลาไหลโชว์สาว!
“อย่างเฮียเนี่ยนะที่จะโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบ ปกติโทรมาไม่ชวนกินเหล้าก็ชวนไปหลีสาว วันนี้มาแปลกแฮะ” อ้าว สรุปที่
ผ่านมาที่กูชวนมึงนี่มันไม่ดีเลยใช่ไหม กูชวนมึงไปกินเหล้าเพื่อเข้าสังคม ส่วนที่ชวนไปหลีสาวเป็นการสร้างมนุษยสัมพันธ์ต่อเพศ
ตรงข้าม มันไม่ดีตรงไหนเนี่ย
“พอดีเฮียมีเรื่องขอคำปรึกษาหน่อยน่ะ” ผมบอกไอ้มิ่งเสียงเครียด มันเลยหยุดหัวเราะแต่ส่งเสียงแปลกใจมาแทน
“อย่างเฮียป๊อบเนี่ยนะมีเรื่องขอคำปรึกษา สงสัยดวงอาทิตย์จะต้องตกทางทิศตะวันออกแน่ๆเลย” ไอ้มิ่งว่า
“ไมวะ คนอย่างเฮียป๊อบจะมีเรื่องกลุ้มใจไม่ได้เลยเหรอไง แล้วถ้ามึงจะสงสัยมากกกกว่าดวงอาทิตย์จะตกทางทิศตะวันออก
จริงๆไหมนะ กูแนะนำว่าว่างๆมึงก็โทรเลขไปถามมันเองก็แล้วกันจะได้รู้ว่ามันจะตกทางทิศตะวันออกจริงหรือเปล่า” พอผมพูดจบ
ไอ้น้องรหัสตัวดีก็ดันกวนตีนผมโดยการหัวเราะใส่ ไอ้ห่ากูจะขอคำปรึกษาจากมึงได้ไหมเนี่ย
“คร๊าบๆ งั้นเฮียจะมาปรึกษามิ่งวันนี้เลยไหมล่ะ พอดีวันนี้มิ่งว่างทั้งวัน” ไอ้มิ่งว่า ดีเหมือนกัน ผมกำลังต้องการที่ปรึกษาอยู่
พอดี
“อืม งั้นเจอกันที่ร้านพี่โก้ก็แล้วกันนะ” พอตกลงเรื่องเวลาและสถานที่กับไอ้มิ่งจบผมก็วางสาย โดยไม่รู้ว่าคนที่เดินไปอาบน้ำ
ในตอนแรกอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วมายืนกอดอกจ้องหน้าผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่ด้านหน้า
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ” ผมถามไอ้หื่นภามยิ้มๆเพราะดูเหมือนมันจะมีรังสีอะไรบางอย่างพวยพุ่งมาจากตัวของไอ้หื่นที่พร้อม
จะสังหารและทำลายล้างผมได้ทุกเมื่อ(นี่กูดูการ์ตูนแปลงร่างมากเกินไปใช่ไหมเนี่ย)
“โทรหาใคร” ไอ้หื่นไม่ยอมตอบคำถามที่ผมถาม แต่กลับเป็นฝ่ายตั้งคำถามมาถามผมแทน
“ตอบไม่ตรงคำถาม อย่างนี้ถือว่ามีพิรุธ” ผมว่า ไหนๆก็เรียนมันมาทางด้านนี้แล้วเอาวิชาออกมาใช้ซะหน่อยเผื่อจะรอดตายได้
บ้าง
“นายก็ตอบไม่ตรงคำถามอาจจะทำให้รูปคดีถูกบิดเบือนไปจากความจริงก็ได้นะ” โอ้โห มาเป็นชุดเลยครับพี่ท่าน ไอ้เราก็ลืม
ไปว่าเพิ่งอยู่ปีสอง แต่ไม่เป็นไรขอใช้สมองอันน้อยนิดที่เคยได้ร่ำเรียนมาโต้อีตาหื่นนี่กลับไปสักหน่อย
“พี่ก็ตอบไม่ตรงคำถามเหมือนกัน นอกจากจะมีพิรุธแล้วยังอาจจะโดนข้อหาให้ความเท็จแก่เจ้าพนักงานก็ได้นะ บอกป๊อบมา
เถอะว่าเป็นอะไรเนี่ย” ผมถามเข้าเรื่องเพราะขี้เกียจมาเล่นบททนายโหดกับอีกคน
“ก็ถ้าพี่ถามป๊อบก็ตอบพี่มาก่อนสิว่าป๊อบโทรหาใคร” อีกคนไม่ยอมที่จะตอบคำถามผม
“โอเค ป๊อบตอบก็ได้ เมื่อกี้ป๊อบโทรคุยกับน้องรหัส มีเรื่องกลุ้มใจอยากจะปรึกษา แล้วพี่ล่ะเป็นอะไรจ้องป๊อบอย่างจะกิน
เลือดกินเนื้อเนี่ย ไม่ใช่ว่าพี่หึงป๊อบนะ” ผมตอบ ก่อนจะหรี่ตาจับผิดอีกคน แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉยไม่แสดงอาการใดๆออกมา
“พี่แค่ไม่ชอบที่ว่าที่สะใภ้โทรศัพท์ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นก็เท่านั้น” ไอ้หื่นว่า สงสัยว่ามันคงจะเล่นจนอินกับบทมากเกินไป
รึเปล่า เอาเถอะเอาที่คุณพี่คิดว่าสบายใจเถอะ
“ไปตลาดกัน” ผมเอ่ยออกมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราเถียงกันจะเป็นจะตาย เออกูนี่ก็บ้าเนอะถียงเขาอยู่หยกๆก็ชวนเขาไปตลาด
“ไปทำไมแล้วนึกยังไงถึงอยากจะไป” ไอ้หื่นถาม แหม ถามเป็นชุดเลยนะ
“ก็พอดีว่าวันนี้เป็นวันเกิด” ผมตอบ ไอ้หื่นเลยเลิกคิ้วมองผม
“เกิดอยากจะไปเดินตลาดไง” ผมตอบ นี่ไม่ได้กวนนะ แต่เห็นคนอื่นเขาเล่นมุกนี้กันเลยอยากเล่นบ้างก็เท่านั้น
“เหอะ กวนตีนนะไอ้แสบ” ไอ้หื่นภามเดินมาดีดหน้าผาก ก่อนจะว่าผมแล้วก็เดินเลยไปหยิบกุญแจรถที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง
“อ้าว มัวยืนรออะไรอยู่ล่ะหรือว่ารอให้แม่มาตัดริบบิ้นล่ะครับน้องป๊อบ อย่าเอ๋อไปเร็วเดี๋ยวตลาดก็วายหมดหรอก” มึงเหอะที่
กวนตีน ไอ้หื่นภาม
หลังจากที่ผมโดนไอ้หื่นภามนั่นหลอกด่าและลากพามาที่รถเราทั้งคู่ก็มุ่งหน้าสู่ตลาดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของไอ้หื่น
โชคดีที่วันนี้ผมตื่นเร็ว(สงสัยคงชิน)เลยมาทันตลาดไม่วายเสียก่อน
ทันทีที่ลงมาจากรถผมก็ตรงดิ่งไปที่ร้านกาแฟชาชักเพราะเมื่อก่อนตอนผมเรียนมัธยมต้นที่สุพรรณผมก็ไปช่วยคุณลุงแถว
บ้านที่รู้จักกันขายชาชักที่ตลาดใกล้บ้าน ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นงานแรกที่ตัวเองทำและหาเงินมาได้
“เอ่อ...คุณลุงครับคือจะว่าอะไรไหมครับ ถ้าเกิดว่าป๊อบจะขอเป็นคนทำชาชักช่วยคุณลุงขาย” ผมรีบตรงดิ่งเข้ามาหาเป้า
หมายก็เห็นว่าเป็นคุณลุงที่ดูจะอายุมากยืนทำโชว์ลีลาก็คงจะไม่ไหว ผมก็เลยขออาสาเอาวิชาความรู้ที่เคยได้ร่ำเรียนมามาช่วยคุณ
ลุงทำอย่างน้อยผมก็รักในอาชีพนี้
“เอาสิพ่อหนุ่ม ว่าแต่เราเถอะ ทำเป็นด้วยเหรอ” คุณลุงถามผมยิ้มๆเพราะสมัยนี้มีน้อยคนนักที่จะทำของแบบนี้เป็น
“งานถนัดเลยล่ะครับ คุณลุงสบายใจหายห่วงได้เลยนะครับ” ผมตอบคุณลุง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลงมือโชว์ความสามารถให้
คุณลุงได้ดูก็ถูกคนที่มาด้วยกันเรียกทักไว้ซะก่อน ขัดจังหวะคนโชว์หล่อหมด วู้!
“จะทำอะไรป๊อบ ไปรบกวนคุณลุงเขาเอาเปล่าๆ ผมต้องขอโทษคุณลุงด้วยนะครับ” ไอ้หื่นภามหันมาว่าผมก่อนจะหันไป
ขอโทษคุณลุง แต่คุณลุงกลับส่ายหัวยิ้มๆ
“ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่ม ช่วงนี้ลุงแข้งขาก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรได้พ่อหนุ่มน้อยคนนี้มาช่วยถือว่าโชคดีมากเลยล่ะ” คุณลุงว่า
ผมเลยหันไปยิ้มเยาะว่าผมไม่ได้ไปรบกวนคุณลุงเขาสักหน่อยดีเสียอีกที่ลุงจะได้พักผ่อนบ้าง
“แล้วเราทำเป็นด้วยเหรอ” ไอ้หื่นภามหันมาถามผม โอโห ถามอย่างนี้มันดูถูกความสามารถของพี่เกินไปซะแล้วไอ้น้อง อยาก
รู้ว่าพี่ทำเป็นไม่เป็นเดี๋ยวพี่ก็จัดให้น้องได้ดูกันไปเลย
“อยากรู้ว่าป๊อบทำเป็นไม่เป็นพี่ภามก็ต้องช่วยป๊อบก่อนสิแล้วเดี๋ยวพี่ภามก็จะได้รู้ว่าคนอย่างป๊อบระดับเซียนเรียกพี่เลยล่ะ”
ผมว่าก่อนจะยักคิ้วส่งไปให้ อีกคนเลยได้แต่ทำหน้าแปลกใจ
ไม่ต้องแปลกใจหรอกไอ้น้องเดี๋ยวเราก็ได้รู้เอง
“เอาเร่เข้ามาครับพ่อแม่พี่น้อง เร่เข้ามากันเลยครับ วันนี้ทุกๆท่านนอกจากจะได้สั่งกาแฟชาชักสูตรอร่อยระดับเซียนเรียกพี่กัน
แล้ว ทุกๆคนยังจะได้ชมลีลาการทำชาชักที่เรียกได้ว่าคนผู้นี้มีฝีมือดีที่หาตัวจับได้ยากมาก ถ้าหากว่าใครไม่อยากพลาดก็เร่กันเข้า
มาสั่งซื้อกาแฟแล้วทุกท่านก็จะได้เห็นลีลาเด็ดของนักชงชาชักคนนี้ อย่ามัวรอช้าสองมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวเข้ามาสั่งกาแฟ
กันเร็วครับ” ทันทีที่เสียงของไอ้หื่นภามพูดจบผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็ค่อยเดินเดินเข้ามาที่ร้าน
หลังจากที่ผมบอกให้ไอ้หื่นให้ไปเป็นพิธีกรของร้านคอยเรียกลูกค้าให้เข้าร้านเพราะเดี๋ยวผมต้องโชว์ฝีมือการชงชาชักให้ทุก
คนที่มาซื้อกันเจ้าตัวก็ปฏิเสธท่าเดียว แต่คนอย่างไอ้ป๊อบซะอย่าง ถ้าโน้มน้าวใครแล้วไม่มีใครไม่ให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน
แต่จะว่าไปผมก็อดสงสารอีกคนไม่ได้ จากเจ้าของธุรกิจพันล้านต้องมาเป็นคนเรียกลูกค้าเข้าร้านกาแฟชาชักข้างทาง เอา
เถอะ ถือซะว่ามันเป็นความน่ารักไปอีกแบบ
ส่วนผมที่ตอนนี้แต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับโชว์ความสามารถของตัวเอง ก็เดินออกมาหน้าร้านพร้อมกับผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาล
กับผ้าคาดผมสีขาวและอุปกรณ์ในการชงชาชัก ส่วนไอ้หื่นที่ยืนเรียกลูกค้าพอเห็นผมเดินมาก็เรียกให้ทุกคนหันมาให้ความสนใจ
กับผม
“เร่เข้ามาเลยครับ ต่อจากนี้ทุกท่านจะได้ชมกับทำชาชักจากนักชงชาขั้นเทพคนนี้กันเลย” สิ้นเสียงของอีกคน คนที่เดินอยู่ใน
ละแวกใกล้เคียงก็ต่างพากันมาหยุดดูผมที่กำลังจะโชว์การชงชาชัก แต่จะว่าไปผมก็อดที่จะประหม่าไม่ได้เมื่อเห็นคนหมู่มากมา
มุงดู
“มิวสิค!” ผมหันไปบอกอีกคนและไม่นานเสียงเพลงยอดฮิตติดชาร์ตที่ใครได้ยินก็ต้องลุกขึ้นมาดีดดิ้นตามจังหวะความมันส์
ของทำนองเพลง ส่วนผมก็ทำการโชว์ลีลาชาชักกันอย่างมืออาชีพ
ผมเทชาจากกระบอกหนึ่งลงอีกกระบอกพร้อมกับยกสูงและหมุนตัวพร้อมกับสลับมือเปลี่ยนข้างตามความเร็วและความสนุก
ของจังหวะเพลงพร้อมกับออกสเตปแดนซ์ จนเพลงจบการโชว์ลีลาการชงชาชักของผมก็จบลงไปแล้วก็ตามมาด้วยรอยยิ้มและ
เสียงปรบมือที่ดังระงมขึ้นและแน่นอนมันก็จะตามมาด้วยคนจำนวนมากที่กรูกันเข้ามาสั่งกาแฟจนผมกับไอ้หื่นช่วยกันทำแทบ
ไม่ทัน มีผมเป็นคนชง มีไอ้หื่นเป็นผู้ช่วยและไม่นานร้านของคุณลุงก็ขายกาแฟหมดภายในพริบตาเดียว
“ขอบคุณนะครับ ไว้โอกาสหน้าแวะมาอุดหนุนที่ร้านนี้อีกนะครับ” ไอ้หื่นเอ่ยบอกลูกค้าพร้อมกับส่งถุงกาแฟไปให้สาวสวยที่
เป็นลูกค้าคนสุดท้ายของร้าน ส่วนสาวเจ้าที่โดนหนุ่มหล่อส่งของให้หน่อยก็อายบิดม้วนจนตัวจะเป็นเกลียวอยู่แล้ว
“ลุงต้องขอบคุณพ่อหนุ่มทั้งสองคนมากนะที่ยอมเหนื่อยมาช่วยลุงขายกาแฟ” คุณลุงบอกผมกับไอ้หื่นหลังจากที่เราลากเก้าอี้
มานั่งคุยกับคุณลุง
“ไม่เป็นไรครับคุณลุง ผมว่ามันก็สนุกดีออก” ไอ้หื่นตอบคุณลุง พร้อมกับส่งยิ้มให้คุณลุง มันเป็นยิ้มที่ดูมีความสุข ผมก็เพิ่ง
เห็นรอยยิ้มของอีกคนที่เป็นแบบนี้ก็วันนี้แหละ
มันแปลกตาเพราะผมไม่เคยเห็น แต่มันก็น่าแปลกใจที่มันทำให้อีกคนดูเป็นผู้ชายอบอุ่น แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือการที่ผม
นั่งมองรอยยิ้มนั้นของอีกคนอย่างไม่วางตา.............ผมว่า...มันน่ามองดีนะ
เหมือนผมจะมองเพลินจนเกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้เพราะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมเลยได้ก้มหน้าตา
หลับตาปี๋เพราะไม่รู้ว่าอีกคนเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆทำไม
เฮ้ย! ไอ้หื่นอย่ามาทำอะไรบ้าๆที่นอกบ้านแบบนี้นะ ไหน...ไหนจะคุณลุงร้านกาแฟชาชักอีก หยุดยื่นหน้าเข้ามาใกล้เดี๋ยวนี้
นะไอ้หื่น ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้!
ผมได้แต่สบถด่าอีกคนในใจ แต่แล้วความคิดบ้าๆของผมก็ต้องหยุดลงเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆมาปะทะเข้าที่ใบหน้า
ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมองหาที่มาของความเย็น จนมาพบว่าคนที่ผมสบถด่าเสียๆหายๆอยู่ในใจกำลังเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดหน้า
ให้ผม ก่อนจะผละไปแล้วมองหน้าผมยิ้มๆ
“พอดีพี่เห็นว่าป๊อบเหงื่ออกเยอะ พี่คิดว่าคงจะเหนื่อยเลยเอาผ้าเช็ดหน้าไปชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ไอ้หื่นว่า ผมเลยเงยหน้าขึ้น
มาดูก็พบว่ามันจริงอย่างที่อีกคนบอก ก่อนที่ผมจะมองเลยไปเห็นลุงเจ้าของร้านกาแฟที่อมยิ้มแต่ไม่ได้มองมาที่ผมกับไอ้หื่น
ฉ่า!
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองมันร้อนแปลกๆ ผมเลยพยายามไม่มองหน้าของอีกคนที่มองผมอยู่อย่างยิ้มๆเพราะผมรู้ตัว
ดีว่าหน้าผมมันคงขึ้นเป็นริ้วแดงๆแน่ๆ เลยขอกลบอาการของตัวเองทำทีว่าจะไปรออีกคนที่รถน่าจะดีกว่า
“ป๊อบรู้สึกร้อนแล้วล่ะ ป๊อบว่าเรากลับบ้านกันดีไหม เดี๋ยวป๊อบไปรอพี่ภามที่รถนะ” ผมบอกอย่างเร็ว แต่ก็ไม่ลืมยกมือไหว้คุณ
ลุงเจ้าของกาแฟแล้วรีบเดินออกไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงของอีกคนแว่วๆว่าตอนนี้กำลังลาคุณลุงเจ้าของร้านกาแฟอยู่
“ผมไปก่อนนะครับคุณลุงเดี๋ยวแฟนรอนาน” ไอ้หื่นบอกคุณลุง ไอ้บ้าเอ้ย! ใครเขาเป็นแฟนนายกัน ไอ้หื่นภาม ไอ้คนโกหก
ไอ้เสลดเป็ด ไอ้งามไส้
“โชคดีนะพ่อหนุ่ม ว่างๆก็แวะมาช่วยลุงขายอีกนะแล้วก็รีบตามแฟนไปเร็วๆล่ะป่านนี้คงอายหน้าแดงเดินกลับบ้านไปแล้วล่ะ
ม้างงงงง ฮ่าๆๆ” โอ๊ย! คุณลุงนี่ก็อีกคน เอาเข้าไป เอาให้ไอ้ป๊อบอายตายกันไปข้างเลย!
ทันทีที่ผมกลับมาถึงบ้าน ผมก็รีบลงรถแล้วก็รีบเดินเข้าไปในบ้านทันทีเพราะรู้สึกเหมือนหน้าตัวเองยังน่าจะยังแดงอยู่เลยไม่
อยากให้อีกคนได้เห็น แต่ก็ต้องไปเจอคุณหญิงแม่กับสาวสวยที่กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนไอ้ป๊อบก็คงจะรีบ
กระโจนเข้าไปขอเบอร์โทรศัพท์ของสาวเจ้ามาไว้ในครอบครองแล้ว แต่เผอิญว่าตอนนี้ความอยากรู้มันมีมากกว่าความอยากได้
ผมเลยหยุดเดินแล้วยืนดู แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ทั้งคู่หันมามองเห็นผมที่ยืนอยู่พอดี คุณหญิงแม่เลยส่งยิ้มที่เหนือกว่ามาให้ผม
แต่ไอ้ที่ว่าเหนือกว่า เหนือกว่าเรื่อง?
“อ้าว ตาภามมาโน่นพอดีเลยหนูตา” คุณหญิงแม่หันไปบอกผู้หญิงคนที่คุยด้วยเมื่อครู่ ผมจึงหันไปมองก็เห็นว่าอีกคนเดินตาม
หลังเข้ามา ทั้งคุณหญิงแม่และผู้หญิงคนนั้นก็รีบเดินมาหาไอ้หื่นนั้นทันที ส่วนเจ้าตัวก็คงจะงงๆ แหงล่ะเพราะถ้าเป็นผม ผมก็งง
เหมือนกัน
“ตาภามนี่หนูรมิตานะ ตอนนี้น้องกำลังเรียนคณะวิทยาศาสตร์ปีสอง ยังไงซะก็ทำความรู้จักกันไว้เพราะแม่ว่าเราทั้งสองคน
คงจะสนิทกันอีกนาน” คุณหญิงแม่ว่า ก่อนจะปรายตามองมาที่ผม อย่างนี้คุณหญิงแม่คงจะจับคู่ให้ไอ้หื่นภามแน่ๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณรมิตา” เป็นผมที่เอ่ยทักทายคนที่คุณหญิงแม่แนะนำให้ไอ้หื่น จนทำให้คนอื่นๆหันมามอง
โดยเฉพาะคุณหญิงแม่ที่มองผมอย่างรักใครเอ็นดูประหนึ่งปานจะกลืนกินกันเลยทีเดียว
สงสัยไอ้ป๊อบคงจะได้ทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างก็คราวนี้แหละ!!
แหะๆ มาแล้วจร้าา มีตัวละครเพิ่มมาอีกหนึ่ง บางคนอาจจะสงสัย เอ๊ะ! คุณหญิงแม่กำลังคิดจะทำอะไร แล้วรมิตานางมาที่นี่ทำไม
เพื่ออะไร จะมีมาม่ามาให้จี๊ดใจกันไหม และอาจมีมีคำถามอีกมากมาย ถ้าอยากรู้ก็ไม้รอติดตามตอนต่อไปกันนะคะ วันที่ 14 เมษา
ได้รู้แน่ว่านางมาเพื่ออะไร อิอิ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามและให้แง่คิดดีๆผ่านคำคอมเม้นนะคะ ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ
ปล.สวัสดีปีใหม่(ไทย)ล่วงหน้านะคะ ขอให้คนที่รักพี่ภามหลงน้องป๊อบทุกคนมีความสุข ไม่เจ็บไม่จน รวยๆๆๆยิ่งๆๆๆขึ้นไปกันทุก
คนนะคะ วันนี้ขอกล่าวคำว่า ฝันดีราตรีสวัสดิ์คร่าาาาา