คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าหากดีสรวมเล่มนิยายเรื่องคุณสะใภ้ที่รักมีใครสนใจสั่งจองกันบ้างไหมคะ

สนใจค่ะ
28 (80%)
ไม่สนใจค่ะ
7 (20%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 35

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858  (อ่าน 101197 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hades Novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

----------------------------------------------------------------------------------








                                                                                "คุณสะใภ้ที่รัก"


                                                                                 คำโปรยเรื่อง

                                     “คืองานที่เฮียภามเขาให้มึงทำนะไอ้ป๊อบ มันไม่ง่ายแล้วก็ไม่ยาก มันไม่น่ากลัว แต่มันก็ไม่น่าลอง

มันรับมือไม่ง่าย แต่ถ้ามีวิธีที่ดี มันก็รับมือได้ไม่ยากหรอก” ไอ้ภัทรพูด เพื่อนรักมันยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่

                                    “แล้วสรุปว่างานที่กูต้องทำมันคืองานอะไรกันวะไอ้ภัทร” ไอ้เด็กที่นั่งตรงข้ามผมถามขึ้น แต่คนที่ตอบ

ไม่ใช่ไอ้ภัทรกลับเป็นผมแทนที่ตอบคำถามนั้น

                                   “เป็นแฟนของฉันแล้วก็เป็นว่าที่สะใภ้จำเป็นของบ้านสุริยศักดิ์” ไอ้เด็กนั่นมันทำตาโต พร้อมกับอ้าปาก

พะงาบๆมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่หูมันได้ยิน

                                  “ไอ้เหี้ยยย!!!!!! กู-ไม่-เป็น!!” มันกรีดร้องลั่น

                                                เสียใจด้วยนายปฏิเสธสิ่งที่ฉันพูดไม่ได้ไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม............



                                                         ----------------------------------------------------------



                                                                   ตอนที่ 1 ยอดชายนายป๊อบ.........

            รายได้พิเศษ รายได้เสริม เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับนักศึกษาที่ต้องหาเงินเรียนเองหรือเพื่อช่วยเหลือ

ครอบครัวที่ไม่มีปัจจัยมากพอที่จะส่งเสียตัวเอง ฉะนั้นการมีงานพิเศษทำในช่วงหลังเลิกเรียนแล้วถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากและ

ง่ายต่อการหาเงินมาส่งเสียตัวเองเรียนและนั่นก็รวมผมด้วยอีกหนึ่งคน

        ป๊อบ หรือ ยอดชายนายป๊อบ เป็นทั้งชื่อเล่นและฉายาที่เพื่อนๆตั้งให้เพราะความที่ผมชอบหยอดคนอื่นไปทั่วทั้งเพื่อนใน

กลุ่มผมและผมคิดว่าอาจจะทั้งมหาลัยรู้จัก ยอดชายนายป๊อบ มากกว่า ป๊อบเสียด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องที่ผมหางานพิเศษทำหลังเลิก

เรียนไม่ใช่ทางบ้านมีปัญหาด้านการเงินหรือเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียไม่มีใครส่งเสียให้เรียนแต่อย่างใด แต่!ไอ้น้องชายสุดที่รักหัว

แก้วหัวแหวนของผม ไอ้ปิ๊ก มันกำลังจะเข้ามหาลัย ฉะนั้นค่าใช้จ่ายที่มันต้องใช้ก็มีอีกมาก ผมจึงอยากแบ่งเบาครอบครัว แต่ผม

ว่าที่ไอ้ค่าใช้จ่ายสูงๆของไอ้ปิ๊กก็คงจะมีแต่หมดไปกับค่าห้องแอร์เย็นๆในห้างที่มันเรียนไปเพื่อเตรียมสอบเข้า แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะ

ช่วยไอ้ปิ๊กได้มากน้อยแค่ไหนเพราะทุกวันนี้ภาษาอังกฤษที่มันพูดได้ก็มีแต่ เยส โน โอเคและแต้งกิ้ว เฮ้อ! ผมคงต้องปล่อยให้มัน

เป็นไปตามยถากรรมของมัน

      “เฮ้ย ไอ้ป๊อบ วันนี้มึงต้องไปทำงานที่ร้านพี่โก้อีกเปล่าวะ” เสียงไอ้ภัทรเพื่อนสนิทของผมตะโกนเรียกผมเสียงดังมาแต่ไกล

      “ไอ้ห่าภัทร มึงตะโกนเรียกกูเสียงดังขนาดนี้กลัวชาวบ้านเขาไม่รู้ใช่ป่ะว่ากูมาถึงมหาลัยแล้ว” ผมตอบไอ้ภัทร ไอ้นี่มันเป็นลูก

คนรวยมากกกก แต่นิสัยดีต่างจากลูกคนรวยหลายๆคนที่ผมเคยรู้จัก มันไม่หยิ่ง ไม่เคยอวดรวย แต่มันจะคอยช่วยเหลือเวลาผม

เดือดร้อนมากกว่า ผมจึงคบกันมันได้นานกว่าคนอื่นๆ

      “กูขอโทษ พอดีวันนี้พวกพี่รหัสเขาเลี้ยงสายรหัสกันกูเจอพี่ท็อปพี่รหัสมึงอ่ะกำลังตามหามึงอยู่ว่าให้ไปบอกไอ้มิ่งน้องรหัสมึง

ให้ไปงานเลี้ยงสายด้วย แล้วสรุปมึงต้องไปทำงานที่ร้านพี่โก้เปล่าวะ” ไอ้ภัทรถามผมซะยาวเหยียดจนผมก็ไม่รู้ว่ามันเอาช่วง

จังหวะไหนหายใจระหว่างพูด

      “กูคงต้องไปทำงานว่ะแล้วนี่พี่รหัสมึงไปเลี้ยงสายเหมือนกันเหรอ” ผมถามไอ้ภัทรกลับ ก่อนจะหาที่ว่างนั่งคุยกับมันที่

ม้าหินอ่อนใกล้กับคณะ

      “อืม เอางี้ไหมมึง เดี๋ยวกูบอกพี่ๆให้ว่าให้ไปปิดร้านพี่โก้แล้วจัดงานเลี้ยงสายที่ร้านพี่เขามึงจะได้ไม่โดนทั้งพี่โก้ว่าแล้วก็ถูกพี่

รหัสด่าหาว่ามึงเล่นตัวไม่ยอมไป” ไอ้ภัทรลองเสนอความคิดซึ่งผมก็คิดว่ามันเป็นทางออกที่ดี ผมไม่โดนไอ้พี่ท็อปด่า แถมยังไม่

ถูกพี่โก้บ่นที่โดดงาน แถมยังได้กินของฟรีมีเวลาหลีสาวอีกต่างหาก งานนี้ฟินถึงชาติหน้าเลยเว้ย!!!

            เพี๊ยะ!!! 

      “ไอ้เหี้ย” ผมตะโกนร้องเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปมาหันมอง ผมจึงต้องหันไปคาดโทษกับอีกคนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้คนอื่น

ต้องหันมองและที่สำคัญหลักฐานยังคาอยู่ที่หัวผมอีกต่างหาก

      “มึงตบหัวกูไอ้ภัทร” ผมว่า ไอ้ภัทรแสร้งทำหน้าเหรอหรา

      “กูเปล่าตบหัวมึง พอดีกูเห็นยุงกำลังดูดเลือดจากหัวมึงอยู่ กูในฐานะเพื่อนที่ดีเมื่อเห็นไอ้ยุงที่กำลังดูดเลือดที่กูคิดว่าน่าจะ

ไม่มีประโยชน์อะไรกูก็เลยสงสารยุง เอ้ย! สงสารหัวมึงกลัวมึงจะถูกยุงดูดเลือดหมดตัว” ไอ้ภัทรแก่ตัวน้ำขุ่นๆมาก ถ้าผมเชื่อมันผม

คงออกลูกเป็นยุง!?

      “เหรอออออออ” ผมแกล้งลากเสียงยาว

      “เอออออออออ” มันก็ตอบผมกลับเสียงยาวเช่นเดียวกัน

      “กูเห็นมึงทำหน้าเจ้าเล่ห์แปลกๆ กูก็เลยคิดว่ามึงคงต้องคิดจะหลีหญิงแน่ๆ กูเลยตบหัวมึง มึงจะได้เลิกคิดเรื่องอกุศลไง กูนี่

ออกจะเป็นเพื่อนที่ดี” มันยอมพูดความจริงออกมาในเรื่องที่ประทุษร้ายหัวอันแสนบอบบาง น่าทะนุทนอมของผม?

      “ตอนแรกกูก็เกือบจะซึ้งใจที่มึงเตือนสติ แต่กูมาคิดขึ้นได้ว่าไม่ควรซึ้งใจเพราะไอ้คำว่า เพื่อนที่ดี ที่หลุดออกมาจากปากของ

มึง มันเชื่อไม่ค่อยได้เพราวันนั้นใครก็ไม่รู้ยุให้กูจีบดาวคณะเศรษฐศาสตร์” ผมแขวะไอ้ภัทรเพราะวันนั้นเป็นวันที่ผมอยากเปลี่ยน

ร้านอาหารเลยไปกินอาหารที่คณะเศรษฐศาสตร์ ไอ้ภัทรมันหันไปเห็นดาวคณะนี้เลยยุให้ผมจีบซะเลย

      “แต่มึงก็จีบติดนี่หว่า” อันนี้มันก็จริงครับ แต่คุยได้ไม่กี่วันเพราะมารู้ทีหลังว่าเธอมีคนที่คุยด้วยอยู่แล้ว

      “เออ แต่ก็มารู้ทีหลังอยู่ดีว่าเขามีเจ้าของแล้ว” แล้วหลังจากนั้นเราก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อย ทั้งเรื่องงานที่มหาลัยที่นับ

วันอาจารย์ก็ขยันสั่งจริงๆ ทั้งๆที่คณะที่ผมเรียนมันก็ต้องใช้ความจำมากมายมหาศาลซึ่งไอ้สมองของผมก็มีรอยหยักอยู่น้อยนิด

เวลาจะจำข้อกฎหมายแต่ละทีแทบจะน้ำตาร่วง

        คณะที่ผมกับไอ้ภัทรเรียนเป็นคณะที่คนที่อยากเป็นทนาย อัยการหรือแม้แต่ผู้พิพากษาก็ต้องเรียนนั่นคือ นิติศาสตร์ เป็น

คณะที่คนความจำไม่ดีไม่แนะนำให้เข้า แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้คนความจำไม่ดีอย่างผมติดเข้ามาได้ยังไง ทุกวันนี้ผมเรียนอยู่

ปีสองแล้ว ผมก็ยังงงๆตัวเองอยู่เหมือนกัน จากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยจนมาถึงเรื่องพิเศษที่ผมทำ

      “เออไอ้ภัทรบ้านมึงรวยพอจะมีงานอะไรให้กูช่วยเปล่าวะ” ผมถามไอ้ภัทร มันดูทำหน้าเลิกคิ้วแปลกใจที่เห็นผมถามถึงเรื่อง

งานพิเศษกับทางบ้านมัน

      “นี่มึงยังงกไม่พออีกเหรอวะ” ไอ้ภัทรว่า ผมเปล่างกแต่ผมอยากจะมีเงินเก็บมากๆๆๆเท่านั้นเอง เปล่างกจริงๆ

      “กูไม่ได้งกนะ แต่ว่าอาทิตย์หน้ามหาลัยก็จะปิดเทอมแล้วทีนี้กูก็ว่างหลายวันเลยอยากจะหางานทำเพิ่มเดี๋ยวไอ้ปิ๊กมันต้องเข้า

มาอยู่กรุงเทพฯอีก” ผมบอกไอ้ภัทรเพราะช่วงที่ผมปิดเทอมไอ้ปิ๊กก็ต้องมาเตรียมตัวสอบเข้า ผมก็อยากจะหางานทำเอาเงินเก็บไว้

ให้มันใช้ดำเนินการเรื่องสอบ เรื่องเรียนของมันจะได้ไม่ต้องรบกวนทางบ้าน

      “ที่บ้านเหรอ? กูขอคิดก่อนนะ อืม จะว่าไปมันก็อาจจะมีอยู่เหมือนกันนะเพราะเฮียกูเขากำลังสร้างคอนโด แต่กูไม่แน่ใจว่ามึง

จะได้งานรึเปล่านะคือกูขอไปคุยกับเฮียก่อนได้เปล่าวะ ถ้าได้เรื่องยังไงกูจะมาบอกมึงอีกที” ไอ้ภัทรบอกผม สาธุขอให้ผมได้งาน

ทำทีเถอะ หวังว่าเฮียของไอ้ภัทรคงพอจะมีงานให้ผมได้ทำเพื่อเพิ่มยอดเงินในบัญชีได้บ้าง

      “ขอบคุณมาก” ผมตอบมันยิ้มๆ ไอ้ภัทรเป็นเพื่อนที่ดีของผมจริงๆ

      “ไม่เป็นไร เพื่อนย่อมต้องช่วยเพื่อน กูว่าเราไปเตรียมตัวไปงานเลี้ยงสายกันดีกว่า” ไอ้ภัทรว่า ก่อนจะอาสาไปส่งผมที่หอพัก

        หอพักที่ผมเช่าอยู่เป็นหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไรซึ่งมันก็เป็นผลดีสำหรับผมเพราะไม่ต้องเปลืองค่าใช้จ่าย แถม

บางวันไอ้ภัทรก็จะขับ BMW สุดหรูของมันมาส่งผมที่หอพัก

        วันนี้เป็นวันที่ผมมีเรียนช่วงเช้า แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ออกจากห้องไอ้ภัทรก็โทรเข้ามาหาบอกว่าวันนี้แม่อาจารย์ท่านป่วย

เลยยกเลิกคลาส ผมเลยได้มีเวลาไปนั่งคุยกับไอ้ภัทรอย่างชิลๆที่มหาลัยก่อนจะกลับบ้านมาพักผ่อนเพราะช่วงเย็นต้องออกไป

เลี้ยงสายรหัสอีก

        ผมไขกุญแจเปิดห้องก่อนจะก้าวเข้ามาด้านในห้องแล้วจึงปิดลง ก่อนจะเดินไปล้มตัวนอนคว่ำหน้าที่เตียงนอนอย่างคน

เหนื่อยอ่อนและนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรบอกไอ้มิ่งเรื่องเลี้ยงสายรหัสเย็นนี้

      “ครับเฮีย” ไม่ต้องรอนานปลายสายก็ตอบรับกลับมา

      “วันนี้พี่ท็อปนัดเลี้ยงสายรหัสที่ร้านพี่โก้นะ ตอนหกโมงเย็น” ผมบอกรุ่นน้อง ถึงแม้ไอ้ภัทรจะไม่ระบุเวลาแต่เราก็จะไปกันเวลา

นี้เป็นประจำ

      “ครับเฮีย งั้นแค่นี้ก่อนนะ พอดีอาจารย์เข้าแล้ว แล้วเจอกันร้านพี่โก้ครับเฮีย” ไอ้มิ่งบอกผมอย่างเร็วเพราะคงกลัวโดนอาจารย์

ว่า จากนั้นมันก็ตัดสายไปเป็นอันรู้กันว่าเย็นนี้หกโมงร้านพี่โก้

        ไอ้มิ่งเป็นน้องรหัสของผมแถมยังเป็นคนสุพรรณเหมือนกับผมจึงทำให้เราสองคนสนิทกันและที่สำคัญผมกับมันก็มีอะไร

หลายๆอย่างคล้ายกันคือเป็นพี่คนโต ต้องหางานพิเศษทำเพราะไม่อยากรบกวนครอบครัวและที่สำคัญมันเป็นคนดีที่ใช้ได้

        กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ที่ผมเพิ่งโทรออกหาไอ้มิ่งอยู่ดีๆก็แผดเสียงร้อง ผมที่กำลังเคลิ้มๆจะหลับก็ต้องหยิบโทรศัพท์เจ้ากรรม

มากดรับสาย

      “ไอ้ปิ๊ก” ทันทีที่ผมเห็นชื่อคนโทรมาก็ทำให้ผมแทบปาโทรศัพท์ทิ้งลงพื้นทันที ไอ้น้องเวร ชอบขัดความสุขพี่!!

      “มีไรมึง รู้ไหมเฮียกำลังนอนอยู่โทรมาขัดเนี่ย” ผมว่าไอ้ปิ๊กน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะได้ยินเสียงสะอื้นน้อยๆจากปลายสายจึง

ทำให้ผมเลิกคิ้วสงสัย ปกติไอ้ปิ๊กไม่ใช่คนขี้แยหรือว่า........................จะเกิดเรื่องไม่ดี

      “เป็นอะไรวะไอ้ปิ๊ก ทำไมถึงมีเสียงสะอื้น” ผมถาม ก่อนจะกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งคุยกับมัน

      “แม่ อึก แม่” ไอ้น้องเวร มึงอย่าพูดแค่แม่แล้วสะอื้นกูใจไม่ดี

      “มึงตั้งสติไอ้ปิ๊กแล้วบอกเฮียว่าแม่เป็นอะไร” ผมบอกน้องเพราะดูท่าไอ้ปิ๊กจะคุมสติตัวเองไม่อยู่

      “แม่ไม่สบายเฮีย” ไอ้ปิ๊กบอกผม

      “ไม่สบายเป็นอะไร” ผมถามต่อ แต่ทำไมผมถึงมีลางสังหรณ์แปลกๆและหวังว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิด

      “แม่เป็น........แม่เป็นเนื้องอกในสมอง” ทันทีที่ไอ้ปิ๊กพูดจบมือที่ถือโทรศัพท์เอาไว้กลับไร้เรี่ยวแรง จนทำให้โทรศัพท์ที่ผม

คุยกับไอ้ปิ๊กตกไปอยู่ข้างตัว แม่เป็นเนื้องอกในสมอง ที่ไอ้ปิ๊กพูดไม่ใช่ความจริงใช่ไหม ตอนนี้ผมกำลังฝันใช่ไหม ใครก็ได้ตอบ

ผมที.........................









                           
        ตอนนี้ผม ไอ้ภัทรแล้วก็พี่ๆน้องๆที่อยู่สายรหัสเดียวกับเราก็ทยอยกันเดินทางมาที่ร้านพี่โก้ พี่โก้เป็นศิษย์เก่าของมหาลัยที่

พวกผมเรียนอยู่จึงทำให้ทุกคนสนิทสนมกัน โดยเฉพาะพวกพี่ปีสี่ที่ค่อนข้างจะสนิทกับพี่โก้เป็นพิเศษเพราะพี่แกเพิ่งเรียนจบจาก

มหาลัยได้สามปีก็ออกมาเปิดธุรกิจ เรสเตอร์รองกึ่งบาร์ เอาใจรุ่นน้องที่ชอบพาน้องๆมาเลี้ยงสายอย่างพวกผม

      “สวัสดีครับพี่โก้” ทันที่ที่มาถึงร้านพวกผมทั้งหมดก็ทักทายพี่แก แต่วันนี้ดูเหมือนพี่โก้จะยุ่งๆแปลกๆแถมยังมีป้ายที่ติดไว้กับ

โต๊ะวีไอพีว่าจองแล้วอีกด้วย

      “วันนี้มีแขกพิเศษมาเหรอครับ” ผมถาม พี่โก้จึงพยักหน้า

      “อืมเห็นว่าจะมาเลี้ยงรับเพื่อนที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แล้วนี่พวกมึงมาเมากันอีกแล้วเหรอ” พี่โก้ว่า ก่อนจะถามพวกผม

ที่ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆไปให้ พี่โก้ได้แต่ส่ายหัวแต่ก็จัดเมนูและเหล้าเบียร์มาให้พร้อม ถึงจะบ่น แต่แกก็รู้ใจ ฮ่าๆๆ

      “วันนี้ไม่ได้ขี้เหรอวะไอ้ยอดชายนายป๊อบถึงได้ทำหน้าแบบนั้นน่ะ” เสียงพี่ท็อปว่า ก่อนจะโดนพี้เมฆพี่รหัสไอ้ภัทรเอาที่คีบน้ำ

แข็งทุบหัว ก่อนจะทำทีเป็นแกล้งว่าพี่ท็อป

      “ไอ้เหี้ยท็อปพูดเรื่องขี้ทำไมวะ คนกำลังจะแดก เออนี่ไอ้ยอดชายนายป๊อบมึงโดนนารีพิฆาตมารึยังไงถึงได้ทำหน้าเซ็งๆแบบ

นั้นวะ ฮ่าๆ” สิ้นเสียงพี่เมฆคนทั้งโต๊ะก็พากันหัวเราะครืน เออดีเอาเข้าไปคนยิ่งทุกข์ๆอยู่

      “ผมว่าไม่นะพี่ ผมทำนายเลยว่าเฮียแกไม่โดนนารีพิฆาตหรอก แต่โดนหนุ่มหล่อรากดินพิฆาตมากกว่า หมอมิ่งฟันแหลก เอ้ย!

 ฟันธง ฮ่าๆๆๆๆ” เออเอากันเข้าไป ไอ้มิ่งนั่นปากหรือตีน

      “ปากมึงวอนตีนกูมากไอ้มิ่ง สงสัยมึงอยากกินตีนกูผัดฉ่า พวกพี่ก็เหมือนกันไม่มีห้ามน้องนุ่งเลยสักนิดปล่อยให้มันปีนเกลียว”

 ผมว่าไอ้พี่ท็อป แต่พี่แกนั่นแหละตัวดีที่ให้ท้ายไอ้มิ่ง จนทุกวันนี้ผมยังสงสัยใครเป็นพี่เป็นน้องรหัสกันแน่

      “แต่กูว่าอาจจะเป็นจริงก็ได้นะไอ้ป๊อบ ไม่แน่นะมึงมึงชอบไปฟันไปหยอดคนอื่นเอาไว้เยอะระวังเหอะมึง หนุ่มหล่อพิฆาตจะมา

อย่างไม่รู้ตัว” ไอ้ภัทรบอกผมพร้อมกับหันไปจับมือเห็นด้วยกับไอ้หมอมิ่งฟันแหลก เอ้ย! ฟันธง

      “เรื่องนี้พี่โก้สัมผัสได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ” พี่โก้ที่เดินเอากับแกล้มมาให้ล้อผมบ้าง คนที่โต๊ะที่ได้ยินพี่โก้พูดกันพากันหัวเราะชอบใจ

ใหญ่ สงสัยจะสนุกกันมากที่ได้แกล้งผม

      “โอ๊ย! พวกพี่พูดอะไรไม่เข้าหูเลยสักเรื่อง ส่วนวันนี้ที่ผมเซ็งๆเพราะแม่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมา

รักษาแม่ได้ที่ไหน แถมไอ้ปิ๊กยังต้องมาเรียนที่กรุงเทพฯอีก” ผมตอบ ตอนนี้ผมทั้งเครียดทั้งกลัว เครียดเรื่องค่ารักษาพยาบาล

กลัวเรื่องที่แม่จะเป็นอะไรมากรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนไอ้ภัทรจะจับความรู้สึกของผมได้ มันจึงเอื้อมมือมาตบไหล่ให้กำลังใจผม

      “มึงไม่ต้องเครียดเว้ย มึงก็น่าจะพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เอาอย่างนี้เดี๋ยวพอเราสอบเสร็จกูจะรีบคุยกับเฮียให้ช่วยดูๆงานให้มึงทำ

ก็แล้วกัน” ไอ้ภัทรบอกผม ผมจึงหันไปขอบใจมันที่มันคอยช่วยเหลือผมทุกอย่าง จนบางครั้งผมยังอยากให้มันเป็นผู้หญิงเลย

      “มึงน่าจะเป็นผู้หญิงนะไอ้ภัทร กูจะได้จีบมึง” ผมพูด ไอ้ภัทรเลยเอื้อมมือมาตบหัวผมเสียงดัง จนทำให้คนในโต๊ะพากัน

หัวเราะครืน บรรยากาศที่ดูจะตึงเครียดเมื่อครู่ก็ค่อยๆหายไป

      “มึงพูดซะขนตูดกูลุกเลยไอ้เหี้ย ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้ภัทรว่าเสร็จก็ขำเอง จนผมก็ขำตามกับคำที่มันพูด

      “มึงไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นดีกว่าไอ้ป๊อบแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาสนุกสนานกันต่อ สภาพอย่างนี้มึงจีบหญิงไม่ติดแน่” พี่

ท็อปไล่ผมไปห้องน้ำซึ่งผมก็เห็นด้วยกับพี่แกเลยขอตัวไปห้องน้ำ

        ผมเดินมาเข้าห้องน้ำซึ่งผู้คนวันนี้ถึงจะเยอะ แต่ในห้องน้ำกลับไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าที่ควร ผมจึงตรงดิ่งเข้าไปทำธุระส่วน

ตัวของตัวเองและไม่นานผมก็ออกมาล้างมือ ล้างหน้า สำรวจตัวเองในกระจกเซ็ตผมให้ดูหล่อ

      “เรานี่ก็ดูดีเหมือนกันนะ” ผมชมตัวเองในกระจก แต่จะว่าไปแล้วผมของผมมันก็ดูยาวขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไรถือซะว่าเหมือน

หนุ่มเซอร์จะได้กระชากใจสาวๆได้

        หลังจากที่สำรวจตัวเองว่าหล่อพอสำหรับหลีหญิงในค่ำคืนนี้แล้ว ผมจึงเดินออกจากห้องน้ำ แต่ก็ต้องเซถลาเกือบล้มเมื่อ

ใครที่ไหนก็ไม่รู้ทิ้งน้ำหนักตัวมาที่ผม แต่ดีหน่อยที่ผมตั้งตัวได้เราทั้งคู่เลยไม่ล้มลงไปกองที่พื้น

      “เฮ้ย! คุณเป็นไรไหมเนี่ย” ผมถามอีกคน แต่อยู่ดีๆอีกฝ่ายก็โถมน้ำหนักลงมาที่ตัวผมมากขึ้นจนเราทั้งคู่ลมลงไปกองอยู่ที่พื้น

 โดยมีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้กำลังคร่อมทับผมอยู่ มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!!!!

      “เฮ้ย! คุณลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ” ผมพยายามผลักอีกคนออกทั้งๆที่ผมก็มีแรงไม่ใช่น้อย แต่กลับผลักคนที่คร่อมอยู่ไม่ขยับเลย

สักนิด ผมเลยยกขาขึ้นมาเพื่อหวังจะถีบอีกคนให้ลุกออกไป แต่ก็ต้องไปสะดุดกับส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของอีกคนที่แข็งขืนเมื่อ

ถูกกับขาที่ผมยกขึ้น

      “ไอ้เหี้ย!!” ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากเอกราชของตัวเองเพราะผมรู้ดีว่าถ้าขืนอยู่ท่านี้อีกนาน ผมต้องสูญเสีย

เอกราชให้กับไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ผมเลยตัดสินใจถีบคนที่คร่อมอยู่สุดแรงเกิดและรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำได้อย่างรอดปลอดภัย

 ก่อนจะมานั่งสงบสติอารมณ์ที่โต๊ะแถมยังมีสายตาที่สงสัยของคนในโต๊ะมองมา แต่ผมก็ไม่สนใจสายตาของใครทั้งสิ้น

        เกือบไปแล้วไหมล่ะไอ้ป๊อบ เกือบเสียเอกราชให้กับใครก็ไม่รู้ อ๊ากก!หรือว่า......ผมจะมีดวงหนุ่มหล่อพิฆาตอย่างที่ไอ้มิ่งมัน

ฟันธงไว้จริงๆ อึ๋ย! แค่คิดก็ขนลุก!! ขออย่าให้จริงเล้ย!!!!!













สวัสดีค่ะ พอดีเป็นคนเขียนมือใหม่เพิ่งได้เข้ามาลงนิยายในเว็บนี้ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ช่วยตักเตือนด้วยนะคะ

เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องแรกที่นักเขียนเริ่มแต่งยังไงก็ฝากนักอ่านทุกคนช่วยติดตามผลงานด้วยนะคะ ถ้าหากชอบและต้องการติชม

อะไรก็คอมเม้นได้เลยนะคะ นักเขียนคนนี้จะได้นำกลับไปพัฒนาให้ดีขึ้นค่ะ ฝาก "คุณสะใภ้ที่รักไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ"

ปล.ตอนแรกของคุณสะใภ้ที่รักมาแล้ว ถ้ามีคำผิดตรงช่วงไหนช่วยบอกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2015 21:08:04 โดย Hades Novel »

ออฟไลน์ Hades Novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
                                                                          ตอนที่ 2 งานพิเศษ.........

            ก๊อกๆๆๆ

      “คุณภามคะ คุณผู้หญิงให้มาตามไปทานอาหารเช้าค่ะ” เสียงแม่บ้านวัยกลางคนตะโกนเรียกผมอยู่หน้าประตูห้องนอน

      “อืม ครับๆเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงผมลงไป” ผมตะโกนออกไปทั้งๆที่ใจไม่อยากลุกออกจากเตียงเลยแม้แต่น้อย

      “ค่ะ เดี๋ยวป้าพิมพ์ไปเรียนคุณผู้หญิงกับคุณท่านให้นะคะ” ว่าจบหญิงวัยกลางคนก็เดินออกจากหน้าห้องไป ส่วนตัวผมที่

รับปากแล้วก็ต้องลุกขึ้นตื่นจากเตียงนอนเข้าห้องอาบน้ำเพื่อลงไปทานอาหารเช้าตามที่คุณหญิงให้คนมาตาม

        เมื่อวานช่วงเย็นผมออกไปงานเลี้ยงรับเพื่อนที่เพิ่งกลับจากแคนาดาชื่อว่า ยาหยี พวกผมก็ทักทายและพูดคุยกันตามปกติ

แต่เพราะผมเผลอไปหยิบแก้วผิด ทำไห้ผมไปหยิบแก้วที่ไอ้นันมันจะเอาให้ยาหยีกินซึ่งในแก้วนั้น มันก็แอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ แค่

คิดถึงตรงนี้ผมก็อยากจะฆ่ามัน ผมเลยต้องขอตัวมาสงบสติอารมณ์ที่ห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้เข้าห้องน้ำ ขาที่ใช้เดินกลับไร้

เรี่ยวแรง  ผมเลยเซไปซบลงกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังทำให้เราทั้งคู่ล้มลงไปกองที่พื้น โดยมีผมคร่อมอีกฝ่ายอยู่ ผมเลย

พยายามคุมสติตัวเองเพื่อที่จะได้ลุกขึ้นจากอีกฝ่าย จนคนที่ผมคร่อมทับยกขามาโดนน้องชายสุดที่รักของผมเท่านั้นแหละ ไอ้ที่

กำลังจะสงบกลับมาตระหง่านอีกครั้ง อีกคนก็คงจะรู้เลยถีบผมอย่างสุดแรงเกิด ตั้งแต่ผมเกิดมาจนอายุเกือบจะสามสิบยังไม่เคยมี

ใครกล้าถีบผมแรงเท่าไอ้เด็กบ้าที่ไหนก็ไม่รู้

        ผมเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดของตัวเอง แต่จะว่าไปถ้าผมจำ

ไม่ผิดไอ้เด็กเมื่อวานที่ผมเจอในห้องน้ำกลิ่นตัวมันก็หอมดีเหมือนกัน

      “นายนี่น่าสนใจดีเหมือนกันนะ แต่น่าเสียดายที่เราคงไม่ได้เจอกันอีก” ผมว่า ก่อนจะเดินลงไปทานอาหารเช้ากับคุณหญิง

                             
      “ตาภามนี่ลูกก็ใกล้จะสามสิบแล้วเมื่อไหร่จะยอมแต่งงานเหมือนกับคนอื่นสักที” เสียงของคุณหญิงแม่พูดขึ้นระหว่างมื้อ

อาหาร ผมที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากก็ต้องหยุดชะงัก ส่วนคุณพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะกลับอ่านหนังสือพิมพ์เหมือนมันเป็นเรื่องปกติทุก

ครั้งที่คุณหญิงต้องถามระหว่างทานข้าว......และมันก็เป็นเรื่องปกติจริงๆที่คุณหญิงจะถามเรื่องนี้ในระหว่างทานข้าว

      “ผมขอทำงานอีกสักพักนะครับ พอดีช่วงนี้ผมกำลังดำเนินการเรื่องการเปิดตัวคอนโดใหม่เลยไม่ค่อยว่าง ไม่อยากจะทำให้

ใครเสียใจเพราะผมไม่มีเวลาให้” ผมตอบไปตามความจริง ตอนนี้ผมกำลังมีแผนธุรกิจเปิดตัวคอนโดแห่งใหม่อีกไม่กี่เดือนคงไม่มี

เวลามากพอมานั่งเอาอกเอาใจใคร

      “อย่างนี้ลูกต้องรีบแต่งเพราจะได้มีคนมาช่วยลูกดูแลธุรกิจ แม่แนะนำน้องน้ำฟ้าให้เอาไหม เธอเรียนทางด้านนี้มาเพื่อจะช่วย

ลูกได้” และการที่คุณหญิงจะแนะนำผู้หญิงให้ผมก็มักจะพูดขึ้นระหว่างมื้ออาหารเช่นเดียวกัน

      “ผมว่าอย่าดีกว่าครับ ผมไม่ว่างอาจจะทำให้น้องน้ำฟ้าของคุณแม่ไม่พอใจผมก็ได้ที่ไม่มีเวลาให้” ผมพยายามปฏิเสธ ก่อนจะ

หันไปขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อที่ตอนนี้เลิกสนใจหนังสือพิมพ์หันมานั่งทานอาหารเช้าเหมือนเดิม แต่ท่านกลับยักไหล่เป็น

อันว่า เรื่องนี้พ่อขอไม่ยุ่ง

        บรรยากาศในโต๊ะอาหารดูจะอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังโชคดีที่ไอ้เจ้าภัทรน้องชายของผมเดินลงมาจากบันไดพอดี

      “อือหืม อาหารเช้าแต่ละอย่างหน้าทานทั้งนั้นเลยทำไมคุณแม่ไม่ให้คนไปตามภัทรลงมาทานด้วยล่ะครับ” เสียงของไอ้ภัทร

ตะโกนดังมาแต่ไกล ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคุณแม่อย่างออดอ้อนเพราะท่านมักจะใจดีและตามใจไอ้ภัทรเป็นพิเศษ ผมเลยลอบ

ถอนหายใจอย่างโล่งอก

      “ก็แม่เห็นลูกเพิ่งกลับบ้านมาใกล้เช้าก็เลยไม่อยากปลุกไงครับ” คุณหญิงแม่บอก ไอ้ภัทรจึงนั่งลงข้างๆท่าน คุณแม่เลยให้ป้า

พิมพ์ป้าแม่บ้านตักข้าวเสิร์ฟคุณหนูคนเล็กของบ้าน

      “แล้วนี่คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ” ไอ้ภัทรถามขึ้น ผมแทบจะสำลักข้าวเพราะคิดว่าไอ้ภัทรมาคุณแม่คงคุยกับไอ้ภัทรจนลืมเรื่อง

ผม แต่ไอ้นี่กลับไปพูดจุดชนวนขึ้นมาซะนี่

      “ก็เฮียของลูกไงที่ไม่ยอมหาคู่มาแต่งงานสักที แม่แนะนำให้ก็ไม่เอาท่าเดียว” คุณหญิงแม่ว่า ไอ้ภัทรเลยหันมามองหน้าผม

ก่อนจะส่งสายตาเชิงขอโทษมาให้

      “ก็ผมบอกคุณแม่แล้วไงครับว่าผมยังคงยุ่งๆกับเรื่องธุรกิจ” ผมบอก แต่ท่านก็ทำหน้าไม่พอใจเพราะรู้ว่าผมแค่ใช้มันเป็นขอ

อ้างที่ไม่อยากแต่งงาน

      “ภัทรเห็นด้วยกับเฮียนะครับ ถ้าเราทำงานยุ่งๆเราก็จะไม่มีเวลามาคอยดูแลเอาใจใส่ผู้หญิง ร้อยทั้งร้อยผู้หญิงก็ต้องบอกเลิก”

 ไอ้ภัทรบอก คุณแม่เลยอ้าปากกำลังจะค้าน แต่ไอ้ภัทรกลับพูดขัดขึ้นก่อน

      “เอาอย่างนี้สิครับ ถ้าเฮียทำงานตรงนี้เสร็จแล้วคุณแม่ก็ค่อยแนะนำผู้หญิงที่คุณแม่คิดว่าดีพอสักคนมาให้เฮียรู้จัก ถึงตอนนั้น

เฮียจะปฏิเสธก็คงปฏิเสธไม่ได้เพราะเฮียไม่มีข้ออ้างอื่นมาอ้างได้” ไอ้ภัทรพูด นับว่ามันยังฉลาดที่ทำให้คุณแม่ยอมโอนอ่อนตาม

มัน แต่พอถึงเวลานั้นผมก็ค่อยหาเรื่องอื่นมาอ้างก็ยังได้เพราผมก็คงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองไปแต่งงานกับคนที่คุณแม่แนะนำเด็ด

ขาด

        มื้ออาหารหลังจากที่ไอ้ภัทรลงมาร่วมโต๊ะด้วยดูจะสนุกสนานเป็นพิเศษเพราะมันจะชอบมีเรื่องมาเล่าสนุกสนานเวลาทาน

อาหาร ส่วนคุณหญิงแม่ที่คอยสอนมารยาทไม่ให้พูดคุยเสียงดังระหว่างทานอาหารก็ยังเอือมกับพฤติกรรทมที่แก้ไม่หายของ

ลูกชายคนโปรด แต่ท่านก็ไม่เคยดุไอ้ภัทรเลยสักครั้ง

      “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมบอกทุกคนเพราะวันนี้ผมมีงานที่บริษัทต้องเข้าไปเคลียร์ให้เรียบร้อย แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุก

จากเก้าอี้ที่นั่งเสียงไอ้ภัทรก็เรียกขัดผมไว้ก่อน

      “เดี๋ยวเฮีย ภัทรมีเรื่องจะคุยกับเฮีย”
                         
      “มีเรื่องอะไรจะคุยกับเฮียเหรอ” ผมถามไอ้น้องชายตัวแสบที่มันขอติดสอยห้อยมาตามไปที่ทำงานกับผมด้วยเพราะมันบอกว่า

มีเรื่องจะคุยกับผม

      “คือภัทรเห็นเฮียกำลังจะเปิดคอนโดใหม่เลยอยากรู้ว่าเฮียพอมีงานอะไรให้ทำบ้างไหม” ไอ้ภัทรถามผม

      “แล้วนี่นึกยังไงถึงมาถามถึงเรื่องงาน ร้อยวันพันปีเฮียไม่เคยเห็นถาม” ผมถามอย่างสงสัยเพราะคนอย่างไอ้ภัทรแค่ให้ช่วย

ตรวจเอกสารนิดๆหน่อยๆก็บ่นเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหารจนทำให้ผมปวดหัวจะตายอยู่แล้ว แล้วนี่นึกคึกยังไงถึงอยากทำงาน


      “ไม่ใช่ภัทรหรอเฮีย แต่เป็นเพื่อนสนิทภัทรมันจะหาเงินไปเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แม่มัน” ไอ้ภัทรบอกผม ถ้าถามว่างานมี

ไหมมันก็มีอยู่หรอก

      “แล้วแม่เพื่อนภัทรเป็นอะไรล่ะ” ผมถามเพราะตอนนี้ที่ว่างก็มีแค่...เด็กโบกธงหน้าคอนโด

      “เป็นเนื้องอกในสมอง” ไอ้ภัทรบอก โห เนื้องอกในสมองกับงานเด็กโบกธงเงินเดือนมันก็ไม่ได้มากมายอะไร

      “เฮียว่างานที่เหลือมันไม่พอให้เพื่อนภัทรเอาเงินไปรักษาแม่ได้หรอก” ผมว่า ไอ้ภัทรดูหน้าเศร้าๆ สงสัยมันจะสงสารเพื่อน

และผมก็คงติดนิสัยขี้สงสารมาจากมัน เฮ้อ! เอาวะเดี๋ยวลองถามเพื่อนดูก็แล้วกันว่ามันมีงานอะไรพอที่จะได้เงินเยอะๆให้เพื่อนไอ้

ภัทรได้เอาไว้ใช้รักษาแม่

      “แล้วภัทรมีรูปเพื่อนคนนั้นไหมล่ะเพราะเดี๋ยวเฮียจะเอาไปถามเพื่อนเฮียให้ แต่เฮียต้องขอดูหน้าตาก่อนว่าน่าเชื่อถือมากน้อย

แค่ไหน” ไอ้ภัทรรีบกุลีกุจอหยิบโทรศัพท์มาเปิดรูปเพื่อนมันทันทีที่ผมพูดจบ จากนั้นไม่นานมันก็ยื่นรูปมาให้ผมดู

        ผมรับมือถือไอ้ภัทรมาดูรูปเพื่อนของมัน แต่ก็ต้องตกใจที่เป็นรูปของไอ้เด็กแสบเมื่อคืนที่ถีบผมซะจุกยันเช้า ผมมองรูปใน

มือถือ ก่อนจะกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ที่โชคยังพอเข้าข้างผมให้ผมได้เอาคืนไอ้เด็กแสบนั่น  หึๆ ผมรู้แล้วล่ะว่าไอ้เด็กนี่ได้งาน

อะไร

      “เฮียพอมีงานให้เพื่อนภัทรทำแล้วล่ะ” ผมบอกไอ้ภัทร ไอ้น้องชายตัวดียกยิ้มดีใจที่เพื่อนมันได้งานทำ

       “ว่าแต่เฮียจะให้เพื่อนภัทรทำงานอะไรเหรอ” ไอ้ภัทรถามผม

      “เดี๋ยวก็รู้ ถ้าสอบเสร็จเมื่อไหร่นัดเพื่อนเรามาคุยกับเฮียที่บริษัทด้วยนะ เฮียจะได้แนะนำงานให้กับเพื่อนของภัทร” ผมบอก

ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถของบริษัท

                                                                           งานนี้คงได้สนุกกันแน่ หึๆ
                           







        วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของผมอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าผมก็จะได้ปิดเทอมและหยุดยาวได้เป็นอิสระจาการที่ไม่ต้องเจอเจ๊

โหดอีกนานและแน่นอนเมื่อไม่กี่วันไอ้ภัทรก็เพิ่งมาบอกว่าเฮียมันมีงานให้ผมได้ทำ ผมนี่โคตรรักเฮียไอ้ภัทรเลยเพราะอย่างน้อยๆ

ผมจะได้มีเงินเอาไว้เป็นค่ารักษาแม่แล้วก็ให้ไอ้ปิ๊กได้เอาไว้เรียน

      “เสร็จแล้วโว้ยยยยยย” ผมตะโกนลั่นห้องสอบ หลังจากที่เขียนตอบข้อสุดท้ายเสร็จ แต่ก็คงลืมไปว่ายังมีเพื่อนในห้องอีก

หลายคนที่ยังทำข้อสอบไม่เสร็จ ผมเลยโดนอาจารย์คุมสอบส่งสายตาดุๆมาให้

        ผมรีบเดินไปส่งข้อสอบก่อนจะออกมานั่งรอไอ้ภัทรนอกห้องสอบเพราะมันบอกว่าเฮียของมันจะนัดคุยกับผมเรื่องงานหลัง

จากที่ผมสอบเสร็จและไม่นานไอ้ภัทรก็เดินเหมือนศพเดินได้ออกมาจากห้องสอบ

      “แม่งยากสัดๆเลยว่ะ” ทันทีที่มันมาหาผมก่อนจะหย่อนตัวลงที่ม้าหินอ่อนโต๊ะประจำที่พวกเราชอบนั่ง ไอ้ภัทรก็สบถคำด่าถึง

ข้อสอบที่พวกเราเพิ่งสอบกันเสร็จ แต่จะว่าไปวันนี้ผมกลับทำข้อสอบได้ สงสัยจะตื่นเต้นที่จะได้งาน

      “มึงอย่าไปคิดมาก ถ้าวิชานี้ไม่ได้ดีก็ติดเอฟ” ผมบอกไอ้ภัทร มันเลยหันกลับมาตบหัวผมอย่างแรง ไอ้เหี้ย! มึงชอบ

ประทุษร้ายหัวกู

      “กำลังใจมึงช่วยกูได้มากเลยสัด เดี๋ยวเหอะมึง กูจะบอกเฮียว่าไม่ต้องหางานให้มึงทำ” ไอ้ภัทรว่า ผมเลยต้องพินอบพิเทาไอ้

ภัทรมันเดี๋ยวมันบอกให้เฮียมันเปลี่ยนใจแล้วผมจะซวย

      “โอ๋ๆๆอย่างอนกูเลยนะครับไอ้เพื่อนรัก ไปหาเฮียมึงเหอะกูอยากจะทำงานจะแย่อยู่แล้ว” ผมบอก ไอ้ภัทรเลยเดินนำไปที่รถ

คันหรูของมันก่อนขับออกไปหาเฮียที่บริษัท

        ไม่นานรถของไอ้ภัทรก็มาจอดอยู่ที่หน้าบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นของเฮียมันแน่ๆ ผมกับมันเลยลงจากรถเพื่อ

เข้าไปหาเฮียมันข้างใน ส่วนรถของมันมันก็ฝากพี่ยามเอาเข้าไปเก็บให้ ระหว่างทางที่ผมกับไอ้ภัทรเดินเข้าบริษัทพนักงานสาว

สวยทั้งหลายก็หันมองผมสองคน บางคนส่งยิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบกลับเป็นมารยาท

        หน้าตาของผมจัดได้ว่าหล่อเหลาเอาการดีทีเดียว ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองแต่อย่างใดเพราะใครๆก็มักบอกผมแบบนั้น

ส่วนสูงที่สูงเกือบร้อยแปดสิบกับรูปร่างโปร่งๆของผมทำให้ดูดีในสายตาของสาวๆที่ชอบหนุ่มร่างสูงโปร่ง สวรรค์ช่างเข้าใจสรร

สร้างคนหน้าตาดีแบบผมขึ้นมาจริงๆ

      “พี่แพรวครับ ผมมาหาเฮียตอนนี้เฮียอยู่รึเปล่าครับ” ผมเดินตามไอ้ภัทรมาเรื่อยๆก่อนที่มันจะหยุดถามพนักงานสาวที่น่าจะเป็น

เลขาของเฮียมันหน้าห้องทำงาน

      “อ๋อ คุณสิงขรออกไปธุระแล้วก็ติดประชุมต่อ แต่คุณศิงขรบอกพี่ไว้แล้วค่ะว่าเดี๋ยวน้องภัทรต้องมา คุณศิงขรเลยให้น้องภัทร

กับเพื่อนเข้าไปนั่งเล่นรออยู่ในห้องก่อนได้เลยค่ะ” พี่เลขาสาวสวยบอกผม ภัทรจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะสะกิดผมให้เดินตามเข้าไป

ในห้อง โดยมีพี่สาวคนสวยเดินนำหน้าไป

      “มีอะไรก็เรียกพี่ได้ตลอดนะคะ” ว่าจบเธอก็เดินออกไปทำงานด้านนอก ผมเลยถือโอกาสสำรวจห้องเฮียไอ้ภัทรไปในตัว

        ห้องของเฮียมันเป็นห้องสีออกแนวคลาสสิก ดูให้ความเป็นผู้นำ ความน่าเกรงขาม แต่ไม่น่าเชื่อว่าเฮียมันอายุยังน้อย แต่

กลับมีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มากมาย เฮ้อ! คนรวยมันดีอย่างนี้นี่เอง

      “นั่งก่อนดิวะไอ้ป๊อบหรือว่ามึงนั่งไม่ได้ น้องริดซี่มาเยือนเหรอ” ไอ้ภัทรว่าผม ผมเลยเข้าไปตบหัวมันที ก่อนจะนั่งลงโซฟา

ข้างมัน

      “ริดซี่บ้านมึงสิ กูแค่สำรวจห้องเฮียมึงเผื่อมีสมบัติอะไรที่มีค่าพอให้กูขโมยไปเป็นค่ารักษาแม่ได้” ผมว่า ก่อนจะยักไหล่ ไอ้

ภัทรได้แต่ส่ายหัวน้อยๆให้กับความกวนของผม

      “เฮ้ยมึง กูปวดฉี่ห้องน้ำไปทางไหนวะ” ผมถามไอ้ภัทรเพราอยู่ดีๆผมก็อยากไปเข้าห้องน้ำซะงั้น

      “ท่อรั่วเหรอวะ มึงออกจากห้องแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆนะเว้ย จากนั้นมึงก็จะเจอทางเลี้ยวเสร็จแล้วมึงก็เลี้ยวซ้าย แค่นี้มึงก็จะ

เจอห้องน้ำ” ไอ้ภัทรแซวผมก่อนจะบอกทางไปห้องน้ำ

      “แล้วมึงจะพูดให้ยาวทำไม มึงก็แค่บอกให้กูออกจากห้องเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายก็จบ” นั่นน่ะสิครับดูไอ้ภัทรมันบอก แม่ง

เรียนเอกภาษาไทยเหรอถึงได้ชอบสร้างประโยคยาวๆ

      “กูแค่อยากแกล้งมึงให้ฉี่ราด ไปได้แล้วเดี๋ยวมึงก็ได้ฉี่ราดที่ห้องทำงานเฮียกูอีก” ไอ้ภัทรไล่ ผมเลยต้องรีบเดินออกจากห้อง

ไปเข้าห้องน้ำตามที่มันบอก

        ผมเดินมาเรื่อยๆตามที่ไอ้ภัทรมันบอก แต่ก็ไม่เห็นเจอทางเลี้ยวอะไรของมันเลยหรือว่าผมจะหลง?

      “โอ๊ย!!” ผมเดินอยู่ดีๆก็มีใครหน้าไหนเดินมาชนผมก็ไม่รู้ดีนะที่ไม่ได้หกล้มอะไรไม่งั้นพ่อจะเรียกค่าเสียหายให้กระเป๋าฉีกเลย

คอยดู

      “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรรึเปล่า” อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาถามผม ส่วนผมก็กำลังเงยหน้าขึ้นไปบอกว่าไม่เป็นอะไร

เพราะเห็นว่ามารยาทดีมีการถามไถ่ แต่!!!

      “ไอ้หื่นบ้ากาม/ไอ้เด็กแสบ!” เสียงผมกับชายตรงหน้าตะโกนขึ้นพร้อมกัน เฮ้ย! นั่นมันไอ้หื่นที่ผมเจอที่ห้องน้ำร้านพี่โก้นี่หน่า

แล้วมันมาทำอะไรที่นี่

      “ไอ้หื่น นายมาทำอะไรที่นี่” ผมถามเพราะที่นี่มันเป็นบริษัทของเฮียไอ้ภัทรไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าเฮียไอ้ภัทรรับไอ้คนหื่น

กามแบบนี้เข้าทำงานด้วย

      “ผมจะมาทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ หลีกทางด้วยผมต้องรีบเข้าประชุม ส่วนเรื่องที่ชนเมื้อกี้ผมขอโทษด้วยพอดีผมรีบ” ไอ้

หื่นนั่นบอกผมก่อนจะเดินไป แต่ก็ไม่วายหยุดและเดินกลับมาหาผม ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ข้างหูของผม

      “อ้อ ผมชื่อภามไม่ใช่ไอ้หื่น” ไอ้เหี้ย! ผมจับหูตัวเองแทบไม่ทัน เมื่อไอ้หื่นนั่นก้มลงมากระซิบที่ข้างหูแล้วมันก็เดินจากไป ผม

ว่าผมก็ตัวสูงแล้ว แต่พอเทียบกับไอ้หื่นนี่ผมกลับเตี้ยกว่ามันตั้งเยอะ ทำไมผมถึงซวยแบบนี้เนี่ย เจอไอ้หื่นนี่กี่ทีผมก็ต้องซวย

ตลอด ครั้งแรกก็ล้ม ครั้งนี้ก็โดนชน แถมมีหน้ายังมาทำเป็นบอกชื่อ อยากรู้จักตายแหละ หึ!

           แหม ทำมาเป็นบอกชื่อ ดี คราวหน้าคราวหลังจะได้เรียกถูก

                                                                                 ‘ไอ้หื่นภามเอ้ย!!!’






และแล้วตอนที่ 2 ก็ตามมา ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณคร้าาาา

ปล.หากมีคำผิดช่วยบอกด้วยนะคะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ชอบค่ะชอบ สนุกดี เรื่องน่าติดตามจ้ะ
ยอดชายนายป๊อบ ของเรา ท่าทางจะแสบสันเอาการ
ป๊อบนี่รักน้อง รักครอบครัวจริง ๆ น้า น่าชื่นชม
น้องต้องเข้าเรียน แล้วคุณแม่ยังมาป่วยอีก เครียดแทนเลย
เฮียภามนี่ก็เจ้าเล่ห์ แอบถูกใจน้องน่ะสิ ทำเป็นว่าจะเอาคืน
น้องป๊อบ เข้าไปเป็นสะใภ้ แล้วจะเจออะไรบ้างน้อ
เฮียภาพแลดูหื่นเหลือเกิน แต่ก็ยังดีนะ ยังไงก็มีภัทรอยู่ด้วยนี่เนอะ
แต่ปัญหาหนัก คงอยู่ที่คุณหญิงแม่นี่สิ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ชอบป๊อบตอนอวยตัวเองจังค่ะ 555~

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
น่าติดตามดีครับ แอบสงสารยอดชายนายป๊อบเนอะ เฮียภามน่าจะเอาอยู่ ว่าที่ลูกสะใภ้ ภามจะเอามาแก้แค้นคุณหญิงแม่บ่ครับ คึคึ รอต่อไป

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Hades Novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
                                                                               (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น.........

            วันนี้ผมนัดไอ้ภัทรให้พาเพื่อนมาหาผมที่ห้องทำงาน แต่ผมก็ดันติดธุระด่วนแบบกะทันหันเลยฝากเลขาให้ช่วยดูแลแทน

ด้วย แถมเย็นนี้ผมก็ติดประชุมคุยงานช่วงเย็นอีกต่างหาก
 
        ผมที่เพิ่งกลับจากการไปดูเรื่องการสร้างคอนโดในช่วงบ่ายก็ต้องรีบกลับเพื่อไปประชุมต่อ แต่ระหว่างทางดันไปชนเข้ากับ

ใครก็ไม่รู้ดีที่ผมไม่ชนอีกฝ่ายล้มกระเด็นไปซะก่อน แต่พอผมเงยหน้าขึ้นไปมองเท่านั้นแหละก็ต้องมาเจอกับไอ้เด็กแสบนั่น ซึ่งดู

คงจะตกใจไม่น้อย แต่ผมก็ต้องแปลกใจกับสรรพนามที่อีกคนใช้เรียกผม ไอ้หื่น ไอ้หื่นอย่างนั้นเหรอ ผมขมวดคิ้วกับคำที่หลุดออก

มาจากปากของไอ้เด็กแสบคนนั้น เหอะตลกสิ้นดี ผมเลยถือโอกาสแนะนำตัวเองกับอีกคนไปซะเลย แต่ผมก็คงอยู่กวนเด็กนั่นได้

ไม่นานเพราะต้องรีบเข้าประชุมไว้ค่อยจัดหนักทีเดียวหลังประชุมเสร็จน่าจะสนุกกว่า หึ โทษฐานที่มาว่าผมหื่น!

      “คุณศิงขรคะ คุณศิงขรคะ!!”

      “ครับ” ผมหันกลับไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะหลุดออกจาภวังค์ นี่ผมเอาเรื่องของหมอนั่นมาคิดในช่วงเวลางานเหรอเนี่ย?

      “คุณปุณยนุชมีอะไรรึเปล่าครับ” ผมถามคนที่ยืนเรียกผมเมื่อครู่ เธอจึงยื่นเอกสารมาให้ผมอ่าน

      “นี่เป็นรายละเอียดของบริษัทตกแต่งภายในที่จะเข้ามาดำเนินงานในเดือนหน้า ทางโน้นเอารายละเอียดมาให้คุณศิงขรอ่าน

ก่อนเผื่ออยากจะให้ปรับแก้ตรงส่วนไหนค่ะ” ผมรับเอกสารดังกล่าวมาไว้กับตัว ก่อนจะเดินออจากห้องประชุมไปหาไอ้น้องชาย

ตัวดีกับเพื่อนตัวแสบที่คงนั่งรอผมอยู่ในห้องทำงาน ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้หื่นที่ไอ้เด็กแสบนั้นรู้จักเป็นพี่ชายของเพื่อนรักจะ

ทำสีหน้ายังไง หึ

        ผมรีบเดินออกจากห้องประชุมตรงดิ่งเข้าห้องทำงาน แต่พอเปิดประตูเข้ามาด้านในก็ต้องแปลกใจที่ไม่เจอไอ้เด็กแสบนั่น

ไม่ใช่หนีกลับไปแล้วเหรอเนี่ย?

      “ประชุมเสร็จแล้วเหรอเฮีย” ไอ้ภัทรเอ่ยถามเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในห้อง ผมเลยพยักหน้ารับ ก่อนจะกวาดสายตามองภายใน

ห้องเพื่อไอ้เด็กแสบนั่นจะไปนั่งแอบตรงส่วนไหนของห้อง

      “วันนี้เพื่อนภัทรไม่ได้มาด้วยเหรอ” ผมถามขึ้นเมื่อไม่เห็นไอ้เด็กแสบนั่นอยู่ในห้อง ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ทำงานและเริ่มหยิบ

เอกสารออกมาดูรายละเอียด

      “มาเฮียมันบอกจะไปห้องน้ำสงสัยคงหาไม่เจอ” ไอ้ภัทรบอก สงสัยที่ผมเจอไอ้เด็กแสบนั่นก็คงจะหาทางไปห้องน้ำ

      “เออเฮีย เฮียจะให้เพื่อภัทรทำงานอะไรเหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสาร ก่อนจะปิดมันลงและเก็บเข้าที่เมื่อได้ยินคำถาม

ของไอ้น้องชาย

      “ตอนแรกเฮียว่าจะฝากงานให้เพื่อนภัทรไปทำกับเพื่อนเฮีย แต่พอดีเฮียเห็นว่าที่บ้านราน่าจะพอดีงาน” ผมว่า ไอ้ภัทรขมวด

คิ้วอย่างงๆ

      “ที่บ้านเนี่ยนะเฮีย งานอะไรเหรอ” ไอ้น้องชายของผมถามขึ้น ผมกระตุกยิ้มมุมปากเพราะงานที่ผมจะให้ไอ้เด็กแสบนั่นทำ

ถือว่าเป็นงานที่พิเศษสุดๆ ถ้าผมไม่อยากจะเอาคืนมันผมคงไม่ให้มันทำหรอก

      “ก็งานที่กำลังจะเข้าเฮียในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ไง” ผมตอบ ไอ้ภัทรที่พอจะรู้เลยได้แต่อ้าปากค้างทำหน้าเหวอๆ

      “อย่าบอกนะเฮีย ว่าเฮียจะให้มันไปเป็น!!”

      “ไอ้ภัทร ห้องน้ำที่ทำงานเฮียมึงแม่งโคตรเขาวงกตเลย” ยังไม่ทันที่ไอ้ภัทรจะต่อประโยคตัวเองให้จบ ผมกับไอ้น้องชายสุด

รักก็ต้องหันไปตามเสียงที่ดังขึ้นมาจากทางหน้าห้อง ส่วนไอ้ตัวดีก็คงยังไม่รู้ว่าตอนนี้นอกจากเพื่อนของมันยังมีผมอยู่ด้วยอีกคน

      “เหรอ” ไอ้ภัทรตอบรับพร้อมกับยิ้มแหยๆไปให้เพราะมันรู้ว่าต่อไปนี้เพื่อนสุดที่รักของมันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ส่วนไอ้เด็ก

แสบนั่นพอคุยกับไอ้ภัทรเสร็จเท่านั้นแหละ

      “ไอ้เหี้ย! ไอ้หื่นภามมมมม!!!!!” พอไอ้ตัวดีหันมาเห็นผมก็ร้องตะโกนเสียงดังลั่นห้องจนเลขาหน้าห้องของผมต้องเปิดประตู

เข้ามาดู ผมเลยพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไร เธอจึงขอตัวกลับของไปทำงานในส่วนของเธอต่อ ส่วนไอ้คนที่เพิ่งพ่นคำ

ผรุสวาทสุดแสนน่ารัก(?)ออกมาเมื่อครู่ก็ยืนทำหน้าเหวอมองผมอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน

      “ไอ้ป๊อบเมื่อกี้นี้มึงเรียกเฮียกูว่าอะไรนะ” ไอ้ภัทรถามเพื่อนตัวเองเพราะมันก็ดูจะงงอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนรักของมันเรียกผมแบบ

นั้น ส่วนผมก็ทำหน้านิ่งๆมองไอ้สองเพื่อนรักเสวนาพาทีกัน

      “เมื่อกี้นี้มึงว่าอะไรนะไอ้ภัทร มึงเรียกไอ้หื่น...เอ่อ...ผู้ชายคนนี้ว่าเฮียเหรอ” ไอ้เด็กแสบนั่นถาม ก่อนจะหันมามองหน้าผม

อย่างไม่ชอบใจ

      “ก็เออดิวะ นี่เฮียกูชื่อศิงขรหรือเฮียภาม ชัดป่ะมึง” ไอ้ภัทรบอก ไอ้เด็กนั่นทำหน้าไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่เพราะไอ้ภัทรมันย้ำ

ชัดเจนว่าผมกับมันเป็นพี่น้องกันมันเลยได้แต่นั่งทำหน้าปุเลี่ยนบอกบุญไม่รับ

      “เชิญนั่ง” ผมพูดขึ้น หลังจากที่สองคนนั้นจบการสนทนาลง ไอ้เด็กแสบนั่นหันมามองผมก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่อีกด้านของ

โต๊ะทำงานผมไปนั่ง

      “เฮียภามนี่ไอ้ป๊อบเพื่อนภัทรเอง ส่วนไอ้ป๊อบนี่เฮียกูชื่อภามแล้วเขาก็เป็นคนหางานพิเศษให้มึงทำ” ไอ้ภัทรแนะนำทั้งผมและ

ไอ้เด็กแสบนั่นให้รู้จักกัน หึ ชื่อป๊อบสงสัยคงจะป๊อบน่าดู

      แต่จะว่าไปแล้วเท่าที่ผมสังเกตไอ้เด็กแสบตรงหน้านั้น มันก็น่าตาดีอยู่ไม่ใช่น้อย ถึงแม้จะไม่ได้หล่อคมเข้มเหมือนผม หรือ

หล่อน่ารัก แต่ผมว่ามันก็ดูหล่อแบบน่ามอง

      “สวัสดีครับ” มันยกมือไหว้ผมแบบลวกๆ ผมเลยพยักหน้ารับตามมารยาทเมื่อผู้น้อยยกมือไหว้

      “แล้วคุณจะให้ผมทำงานอะไรครับคุณพี่ชาย” ไอ้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมถามขึ้น แต่ก็ไม่ยอมหันหน้ามามองผม

      “ที่บ้านคุณไม่เคยสอนเหรอเวลาจะคุยกับผู้ใหญ่ให้มองหน้า” ผมว่า ไอ้เด็กแสบนั่นเลยรีบหน้าขวับกลับมามอง ก่อนจะยกยิ้ม

กวนๆส่งมาให้

      “ไอ้สอนน่ะสอน แต่ผมเลือกที่จะนำมาทำกับผู้ใหญ่ที่เขาน่าเคารพนับถือมากกว่า” ไอ้เด็กนั่นมันสวนกลับผมทันที แถมยัง

มองหน้าผมอย่างไม่ชอบใจอีกต่างหาก หึๆ ผมว่าผมคงจะเลือกคนไม่ผิดจริงๆที่จะมาทำงานนี้

      “หึ ภัทรเฮียว่าภัทรน่าจะลองเกริ่นๆเพื่อนของภัทรก่อนดีกว่านะว่างานนั้นมันเป็นงานอะไร” ผมหันไปบอกไอ้ภัทร มันได้แต่ทำ

หน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนไอ้เพื่อนตัวดีของมันก็จ้องมันเหมือนรอฟังว่างานที่ตัวเองต้องทำมันคืออะไร

      “คืองานที่เฮียภามเขาให้มึงทำนะไอ้ป๊อบ มันไม่ง่ายแล้วก็ไม่ยาก มันไม่น่ากลัว แต่มันก็ไม่น่าลอง มันรับมือไม่ง่าย แต่ถ้ามีวิธี

ที่ดี มันก็รับมือได้ไม่ยากหรอก” ไอ้ภัทรพูด เพื่อนรักมันยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่

      “แล้วสรุปว่างานที่กูต้องทำมันคืองานอะไรกันวะไอ้ภัทร” ไอ้เด็กที่นั่งตรงข้ามผมถามขึ้น แต่คนที่ตอบไม่ใช่ไอ้ภัทรกลับเป็น

ผมแทนที่ตอบคำถามนั้น

      “เป็นแฟนของฉันแล้วก็เป็นว่าที่สะใภ้จำเป็นของบ้านสุริยศักดิ์” ไอ้เด็กนั่นมันทำตาโต พร้อมกับอ้าปากพะงาบๆมองผมอย่าง

ไม่เชื่อในสิ่งที่หูมันได้ยิน

      “ไอ้เหี้ยยย!!!!!! กู-ไม่-เป็น!!” มันกรีดร้องลั่น เสียใจด้วยนายปฏิเสธสิ่งที่ฉันพูดไม่ได้ไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม............
                           
        หลังจากที่ผมบอกงานที่ไอ้เด็กนั่นต้องทำ มันก็ได้แต่กรีดร้องโหยหวน จนผมต้องสั่งให้ไอ้ภัทรมันทำยังไงก็ได้ให้เพื่อนมัน

สงบสติอารมณ์และตอนนี้มันก็คงจะสงบสติอารมณ์ได้บรรยากาศภายในห้องเลยกลับมามาคุเหมือนเดิม

      “ผมไม่ทำ ไอ้ภัทรกูไม่รับทำงานนี้ กูกลับก่อนนะ” ไอ้เด็กแสบมันว่า ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป ไอ้ภัทรเลยเตรียมลุกเพื่อ

จะไปส่งมัน แต่แล้วขอทั้งสองข้างของไอ้คนที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูก็ต้องหยุดชะงักลง

      “ได้ ถ้านายไม่รับข้อเสนอของฉันก็ไม่เป็นไร แต่ฉันก็พอจะรู้มาบ้างว่านายจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากรักษาแม่ที่นอนป่วย

เป็นเนื้องอกในสมองแถมยังต้องส่งน้องชายเรียนต่อแล้วเห็นว่ากำลังจะเข้ามหาลัยด้วยไม่ใช่เหรอคงจะลำบากแย่” ผมว่าก่อนจะ

ยักยิ้ม เมื่ออีกคนหันกลับมามองหน้าผมอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะตวัดสายตาไปมองไอ้ภัทรอย่างคาดโทษเพราะมันคงรู้ว่าเรื่องที่ผม

รู้นั้นมาจากปากของเพื่อนรักตัวดี

      “กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะไอ้ป๊อบ กูก็เพิ่งรู้ก่อนมึงแค่ไม่กี่นาทีเองว่าเฮียจะให้มึงมาเป็นว่าที่พี่สะใภ้กู” ไอ้ภัทรว่า

      “ไอ้เหี้ย มึงไม่ต้องพูดเลยนะ กูไม่เป็นอะไรทั้งนั้น” ไอ้เด็กนั่นว่าไอ้ภัทร ไอ้ภัทรเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆมาให้มันให้เพื่อนแล้วก็ผม

      “อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไปสิ นายยังไม่ได้ฟังว่าฉันจะจ้างนายเท่าไรเลยนะ” ผมลองเสนอในเรื่องที่เขาอยากจะได้มากที่สุดใน

ตอนนี้เผื่อว่าเขาจะยอมรับงานนี้

      “ถ้านายยอมมาเล่นเป็นแฟนกับฉันแล้วก็ไปทำหน้าที่ว่าที่สะใภ้จำเป็นกับคุณแม่ของฉัน ฉันให้นายเดือนละ 3 แสน พร้อมกับ

ดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลแม่นายทั้งหมด ส่วนเรื่องน้องชายนายฉันก็จะให้คนจัดการเรื่องมหาวิทยาลัยพร้อมกับค่าใช้จ่ายเรื่อง

เรียน” ผมบอกในสิ่งที่ไอ้เด็กแสบนั่นจะได้เมื่อยอมทำงานที่ผมเสนอให้ ไอ้เด็กนั่นดูจะคิดหนักอยู่ไม่น้อยและผมก็หวังว่าไอ้เด็ก

แสบนี่จะรับข้อเสนอของผม.....................








                             
        ผมเริ่มคิดหนักเมื่อไอ้หื่นภามนั่นพูด ผมจะได้เงินของมันเดือนละ 3 แสน แถมมันยังจะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลของแม่กับ

ค่าเรียนของไอ้ปิ๊กให้อีกต่างหาก เดือนละ 3 แสน มันเป็นเงินจำนวนไม่น้อย ไอ้สนใจน่ะสนใจอยู่หรอก แต่ทำไมต้องเป็นไอ้หื่นนี่ที่

ยื่นข้อเสนอนี้ให้ผมด้วยก็ไม่รู้

      “ตั้ง 3 แสนเชียวนะมึง คิดดูให้ดีๆขนาดกูเคยทำงานกับเฮีย กูยังได้ไม่เท่ามึงเลยนะ แถมงานก็หนักกว่ามึงตั้งเยอะ” ไอ้ภัทร

ก้มลงมากระซิบบอกผมที่ข้างหูเพื่อให้รับข้อเสนอของเฮียมัน ผมเลยหรี่ตามองคนตรงหน้าเพื่อจับผิด แต่ไอ้หื่นภามมันนิ่งมากแถม

แววตาก็ไม่ได้มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด

      “แล้วผมต้องทำหน้าที่เป็นแฟนของคุณแล้วก็ว่าที่สะใภ้จำเป็นของบ้านสุริยศักดิ์นานแค่ไหน” ผมถามคนตรงหน้า ไม่อยากจะ

พูดไอ้ประโยคพวกนั้นสักเท่าไหร่ กระดากปากชิบหายเลยกู!

      “หกเดือน” ห๊า! หกเดือน สาบานว่าหูผมไม่ได้ผิดปกติ ผมต้องไปเป็นแฟนหมอนี่ถึงหกเดือนเลยหรอ โถๆ ยอดชายนายป๊อบ

จะมาตายอนาถก็คราวนี้แหละกู...................

      “หกเดือน มันไม่นานไปหน่อยเหรอคุณ” ผมลองต่อรองเผื่ออาจจะลดลงสักเดือนสองเดือน

      “หรือว่านายอยากจะทำสัก 2 ปี” ผมถลึงตามองคนตรงหน้า 2 ปี ผมขอลาตายในอ่างล้างหน้ายังจะดีกว่า

      “หกเดือนก็หกเดือน โอเคผมรับงานนี้” ผมตอบตกลง ไอ้หื่นนั้นกลับกระตุกยิ้ม ก่อนจะไล่ไอ้ภัทรให้ออกไปคอยข้างนอก

เพราะต้องทำความรู้จักกับผมมากขึ้นเลยอยากอยู่ด้วยกันแบบสองต่อสอง อึ๋ย! แค่คิดก็ขนลุกซู่

      “สู้ๆนะมึง” ไอ้ภัทรเดินมาบอกผม ก่อนที่ผมจะนั่งลงตรงข้ามกับพี่ชายมัน

      “เดี๋ยววันนี้นายต้องไปเปิดตัวกับที่บ้านของฉันในฐานะคนรักแล้วก็ว่าที่สะใภ้” ไอ้หื่นนั่นบอกผม ผมเลยพยักหน้าไปส่งๆ ย้ำ

จริงไอ้คำว่าคนรักกับสะใภ้เนี่ย!

      “ก่อนอื่นนายต้องเรียกฉันว่า พี่ภาม ก่อน”

      “เหอะ กระดากปากชะมัด เรียกอย่างอื่นไม่ได้เหรอ คุณกับผมก็ได้นี่” ผมว่า ไอ้หื่นนั่นมองหน้าผมที่ผมไม่ยอมทำตาม

      “กระดากมากนักเรียกบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินหรือว่าอยากจะให้ฉันทำอย่างอื่นมันจะได้หายกระดาก” ไอ้หื่นนั่นว่า ก่อนจะโน้มหน้าลง

มาใกล้กับใบหน้าผม กลายเป็นว่าตอนนี้หน้าของผมกับไอ้หื่นภามนั่นห่างกันแค่เพียงไม่เท่าไร ผมเลยผลักหน้าไอ้หื่นนั่นให้ออก

ห่าง มันก็ยอมถอยกลับแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายหัวเราะในลำคออย่างชอบใจและเหมือนคนที่อยู่เหนือกว่า เหอะ! อย่าให้ถึงทีไอ้ยอด

ชายนายป๊อบบ้างก็แล้วกัน

      “ก็ได้ พี่ภาม ก็พี่ภาม” ผมเน้นเสียงใส่เผื่ออีกคนจะได้พอใจ

      “ส่วนฉันก็จะเรียกนายว่า น้องป๊อบ” ไอ้นั่นเรียกชื่อผมโดยมีคำนำหน้า ถ้าเป็นคนอื่นเรียกผมว่าน้องป๊อบมันคงจะรู้สึกดีไม่ใช่

น้อย แต่พอเป็นไอ้หื่นภามนี่เรียก ผมกลับรู้สีกอยากจะให้หลวงพ่อเปลี่ยนชื่อให้ใหม่จริงๆ

      “ส่วนเรื่องต่อไปก็เป็นเรื่องของคุณแม่ ท่านพยายามจับคู่ให้ฉันกับคนโน้นคนนี้ ฉะนั้นท่านอาจจะไม่พอใจที่นายมาเป็นแฟน

ฉัน ฉันเลยอยากจะให้นายเตรียมวิธีรับมือกับคุณแม่ด้วย” ผมฟังไอ้หื่นพูด แต่ทำไมมันทะแม่งๆก็ไม่รู้ สมัยนี้เขายังมีวิธีการคลุมถุง

ชน การจับคู่ให้ลูกอีกเหรอเนี่ย

      “นี่คุณคุณหญิงแม่คุณเขายังใช้วิธีจับคู่ให้กับลูกอยู่อีกเหรอ” ผมถามออกไปตามความสงสัย

      “ใช่ ก็ทำไงได้ฉันมันหน้าตาดี ฐานะดี คุณแม่เลยอยากจะได้คนที่คู่ควรกับฉันก็เท่านั้นเอง” แหวะ! หลงตัวเอง ช่างกล้าพูดว่า

หน้าตาดี ผมเลยเบะปากใส่ ก่อนจะถามคนตรงหน้าอีกคำถาม

      “ก็ในเมื่อคุณหน้าตาดีแถมยังฐานะดีขนาดนี้ทำไมคุณถึงไม่แต่งงานกับคนที่คุณแม่คุณเลือกล่ะ” ผมถาม เขาจ้องหน้าผมก่อน

จะตอบ

      “ก็เพราะฉันไม่ได้รัก”

      “ไม่ได้รักหรือว่าเป็นเกย์กันแน่” ผมสวนกลับทันควัน อีกฝ่ายมองหน้าผมก่อนจะลุกออกจากที่นั่งเดินอ้อมมาหาผมที่นั่งอยู่ฝั่ง

ตรงข้ามพร้อมกับคร่อมตัวผมเอาไว้

      “คะ..คุณ..จะทำอะไร” ผมเริ่มไม่ไว้ใจไอ้หื่นนี่สักเท่าไร ถึงแม้ผมจะยอมรับว่าตัวเองเป็นชายแท้ แต่ผมก็สู้แรงของหมอนี่ไม่

ได้และที่สำคัญผมยังไม่อยากเสียเอกราชของตัวเอง แต่อีกคนไม่ยอมตอบคำถามของผม แต่เลือกตอบคำถามก่อนหน้านี้แทน

      “ไม่แน่นะ ฉันอาจจะเป็นเกย์เพราะนายก็ได้” อีกคนว่า ก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้ใบหน้าผมเรื่อยๆ คุณพระ! พ่อแก้วแม่แก้ว

ช่วยลูกด้วย ฮือๆๆ ผมไม่กล้ามองภาพตรงหน้าได้แต่หลับตาปี๋และไม่นานผมก็สัมผัสได้ถึงอะไรหยุ่นๆที่ริมฝีปาก มันทั้งนุ่มแล้วก็

เบาบาง มันเป็นสัมผัสที่ไม่ได้เนิ่นนาน เพราะตอนนี้คนที่สร้างสัมผัสนั้นไว้ที่ผมได้ผละออกจากผมไป ก่อนจะเดินไปเก็บของที่โต๊ะ

ทำงานแล้วเรียกให้ผมเดินตามตัวเองออกมา

      “เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ เราจะไปหาคุณแม่กัน” อีกคนว่า ก่อนจะเดินนำหน้าผมไป ผมค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสที่ริมฝีปากตัวเอง

 แต่อยู่ดีๆหัวใจก็ดันเต้นรัวขึ้นมาอย่างดื้อๆ ผมจึงรีบไล่เรื่องบ้าๆออกจากหัวแล้วเดินตามอีกคนไปเพราะถ้าขืนผมไปช้า มันคงไม่ใช่

เรื่องดีแน่ๆ

                                                     บ้าไปแล้ว มึงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆไอ้ป๊อบ!!






                           
        ผมนั่งรถของไอ้หื่นภามมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอวดความงามอยู่ด้านหน้าผม แต่จะว่าไป

ตั้งแต่ขึ้นรถมาไอ้หื่นนั่นก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมเลย ไอ้เราก็นั่งเกร็งแทบตายกลัวจะไปไม่รอด แต่กลับไมได้สนใจเราเลยสักนิด

เหอะ ถ้าไม่ใช่เพราะเงินเดือนแพงนะ จ้างให้พ่อก็ไม่มากับไอ้นี่หรอก!!

      “สวัสดีค่ะคุณภามกลับมาแล้วเหรอคะ คุณผู้หญิงกำลังถามหาอยู่พอดี เอ่อ..” หลังจากที่ผมกับไอ้หื่นลงมามาจากรถอีกคนก็

ให้ผมเดินจับมือมือตัวเองเดินเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็มีหญิงสาววัยกลางคนที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่บ้านของที่นี่ออกมารับพร้อมกับ

หันมามองผมที่ยืนจับคุณภามของเธอ ผมเลยต้องปั้นหน้ายิ้มแล้วยกมือไหว้

      “สวัสดีครับ ผมชื่อป๊อบครับ” ผมยกมือไหว้พร้อมกับแนะนำตัวเองไปในตัว เธอจึงรับไหว้ผมอย่างงงๆ แต่ก็ยังดีที่ยังส่งยิ้มมา

ให้

      “เมื่อกี้ป้าพิมพ์บอกว่าคุณแม่กำลังถามหาผมอยู่เหรอครับ” ไอ้หื่นนั่นถามป้าแม่บ้าน

      “ค่ะ พอดีคุณผู้หญิงท่านกำลังจะให้คุณภามโทรชวนคุณพริ้งไปทานข้าวเย็นพรุ่งนี้น่ะค่ะ” เธอตอบ สงสัยคุณหญิงแม่ขอไอ้หื่น

ภามคงจะให้ลูกชายตัวเองพาคนที่เธอเล็งไว้ไปเดทด้วยล่ะสิ อย่างนี้มันจับคู่กันชัดๆ!

      “งั้นก็ดีเลยครับ ป้าพิมพ์ช่วยไปบอกคุณแม่ด้วยนะครับว่าวันนี้ผมพาว่าที่สะใภ้มาไหว้ท่าน” ไอ้หื่นภามบอกป้าแม่บ้าน ก่อนจะ

หันมามองผมยิ้มๆพร้อมกับมือที่กระชับแน่นขึ้น ผมเลยได้แต่ส่งยิ้มตอบกลับไป

                                                งานนี้ไอ้ป๊อบจะรอดไหมเนี่ย เฮ้อ! เอาวะลองดูสักตั้งกับการเป็น

                                                                ว่าที่สะใภ้(จำเป็น)ของบ้านสุริยศักดิ์!!






มาต่อให้แล้วนะคะ ดีใจจังที่มีคนเข้ามาอ่านแล้วก็มีคอมเม้นให้ด้วย ขอบคุณทุกคำคอมเม้นนะคะ ดีสอ่านคอมเม้นไปยิ้มไป แต่จะ

ว่าไปพี่ภามของเราก็เจ้าเล่ห์จริงๆ 555 มาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่ายอดชายนายป๊อบของเราจะโชคดีเพราะนอกจากได้งานพิเศษเงิน

เดือนดียังได้ว่าที่สามีหิ้วกลับไปด้วย 555 มาเอาใจช่วยยอดชายนายป๊อบในการเป็น ว่าที่สะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์ด้วยนะคะ 

:mew1: :o8:

ปล.ดีสจะพยายามอัพให้ได้ทุกวันนะคะ!! :katai4: :katai4:
             

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
แค่วันแรกที่ตกลงรับงานพี่ภามก็ทำน้องป๊อบหวั่นไหวเสียละ :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
โหหหห  สามแสน ทำถูกแล้วน้องป๊อบ ลองเอาสามแสนคูณหกเดือน โอ้...  :interest:
แถมคุณแฟน(กำมะลอ) ยังหล่อและฐานะดีซะด้วย(พี่ภามแกว่างั้นอ่ะนะ 555)
แหม แต่ไม่ทันไร รู้สึกน้องป๊อบจะเริ่มหวั่นไหวกับพี่ภามนิด ๆ ซะแล้วนะ
แสบแต่ซื่ออย่างน้องป๊อบ จะสู้ความเจ้าเล่ห์ของพี่ภามไหวไหมเนี่ย
เชียร์น้องป๊อบ ปราบพี่ภามให้เป็นลูกไก่ในกำมือ รักป๊อบหลงป๊อบซะเลยนะ
น่าห่วงตรงต้องต่อกรกับคุณหญิงแม่นี่สิ ยังไงก็คุณแม่ของเพื่อนรัก
แล้วป๊อบจะรับมือกับคุณหญิงแม่ยังไง น่าติดตามค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Noostar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
พอจะมีตำแหน่งว่างมั้ยพี่ภามเดือนละ3แสน  :hao6:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เงินเดือนดีมากกกกก
ไปตั้งแต่หนึ่งหมื่นละ555

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
อื้อหือ รวดเร็วทันใจ เป็นว่าที่สะใภ้ล้ะ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
จากที่อ่านมามีพิมพ์ตกเยอะมากครับ แล้วก็บรรทัดที่เว้นวรรคอะครับ ทำให้อ่านสับสนอ่าแต่ก็ถือว่าแต่งได้น่าสนใจ นายป๊อบคงจะรับศึกหนัง ทั้งว่าที่แม่ย่ากับว่าที่สามี ขนาดวันแรกก็หวั่นไหวไปกับจูบแผ่วเบาซะแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2015 07:23:06 โดย ชัดเจนกาบ »

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
โห...น้องป๊อบ เดือนละ 3 แสน ค่ารักษาพยาบาล + ค่าเทอมน้อง จ่ายแยกต่างหาก
ตอบตกลงไปเลย แล้วก็เป็นแฟนจริงๆ เลยก็ได้ ไม่เสียหายเท่าไรหรอก โ ค ต ร คุ้มอ่ะ บอกเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2019 23:55:46 โดย seaz »

ออฟไลน์ a_n

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ค่าจ้างเยอะมากๆ พอครบกำหนด6เดือน เฮียกับป๊อบต้องมีดราม่าแน่เลย

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
สนุกคับ สนุกมาก    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:    น้องป๊อปจะได้เจอว่าที่แม่ผัวแล้ว คงไม่ใช่แนวแม่ผัวกับลูกสะใภ้นะ ๕๕๕๕๕  รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะ    :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:   

ออฟไลน์ Hades Novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
                                                                       ตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้.........

            หลังจากที่ไอ้หื่นภามนั่นบอกป้าแม่บ้านไปแบบนั้น เธอก็ดูจะตกใจไม่น้อย แต่ก็ยังรีบเข้าไปบอกคุณผู้หญิงของบ้าน ส่วน

ไอ้หื่นภามก็พาผมมานั่งรอคุณหญิงแม่ที่ห้องรับแขก

      “คุณแม่คุณนี่ร้ายระดับไหนเหรอ” ผมก้มลงไปกระซิบถาม อีกคนจึงก้มลงกระซิบตอบ

      “ระดับสูงสุด” ไอ้หื่นนั่นตอบผม ผมได้ยินคำตอบแล้วรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นตันใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ

      “ไหน! คนไหน! ที่ตาภามบอกว่าเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์!!” เสียงของคุณหญิงแม่ถามหาผมเสียงดังมาแต่ไกล ไอ้

หื่นนั่นก้มลงมาถามผมว่าผมไหวรึเปล่า แหม พามาขนาดนี้ ถ้าถอยกลับก็ใช่เรื่องอยู่ แต่ว่า...ถอยกลับตอนนี้ทันไหม?

      “ไหนตาภามคนที่ลูกบอกว่าเป็นว่าที่สะใภ้แล้วจะพามาไหว้แม่” ทันทีที่คุณหญิงแม่เดินมาถึงที่ห้องรับแขกก็ตรงดิ่งเดินเข้ามา

ถามหาว่าที่ลูกสะใภ้กับลูกชายทันที

      “เอ่อ...คือคุณแม่ครับ”

      “อ้าวแล้วเด็กคนนี้เป็นใครไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้คนในครอบครัวเขากำลังคุยกัน” โห! เจ๊ครับพูดอย่างนี้ไอ้ป๊อบก็ขึ้นสิครับแถม

ยังมีการมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกต่างหากอย่างนี้มันหยามกันชัดๆ ผมไม่รอให้อีกคนแนะนำผมให้กับคุณหญิงแม่เพราะผมจะ

แนะนำตัวกับท่านด้วยตัวผมเอง!!

      “สวัสดีครับคุณหญิงแม่ ผมชื่อป๊อบครับ ส่วนเรื่องที่คุณหญิงแม่ถามว่าผมเป็นใคร ผมก็เป็นแฟนของลูกชายของคุณแม่แล้วก็

ยังเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณแม่ด้วยแค่นี้พอจะเป็นคนในครอบครัวได้หรือยังครับ” พูดจบผมก็ทำการโปรยยิ้มเสน่ห์ของตัวเองส่งให้

คุณหญิงแม่ แต่ดูท่าเธอคงไม่สนใจรอยยิ้มของผมเพราะตอนนี้หูของท่านเหมือนกำลังมีควันพวยพุ่งขึ้นมาเล็กน้อย หึๆรู้ซะบ้างว่า

เล่นอยู่กับใคร

      “นี่มันอะไรกันตาภาม ทำไมไอ้เด็กไม่รู้หัวนอนเปล่าเท้าคนนี้ถึงได้มาพูดจาหยาบคายแถมยังมาอ้างว่าเป็นว่าแฟนของลูกและ

ว่าที่สะใภ้ของบ้านเรา” คุณหญิงแม่หันไปถามไอ้หื่นภามเป็นชุดและด้วยความที่ผมเป็นคนดี ผมก็เลยจัดการตอบทุกคำถามของ

ท่านแทนลูกชายสุดรักของคุณหญิงเอง

      “ทำไมจะไม่รู้หัวนอนปลายเท้าล่ะครับ เวลาป๊อบอยู่ที่หอหัวนอนของ

ป๊อบก็อยู่ทางด้านทิศตะวันออก ส่วนปลายเท้าก็อยู่ทางทิศตะวันตกและที่สำคัญป๊อบก็ไม่ได้อ้างด้วยว่าเป็นแฟนของพี่ภาม จริง

ไหมครับพี่ภาม?” ผมหันไปถามไอ้หื่นเสียงหวานพร้อมกับช้อนสายตาขึ้นไปมอง แถมยังสังเกตเห็นสีหน้าตกใจของอีกฝ่ายที่คงไม่

คิดว่าผมจะกล้าลงทุนทำขนาดนี้ แต่ก็ตกใจได้ไม่นานอีกฝ่ายก็กลับมาตีสีหน้าเรียบนิ่งตามปกติ จากนั้นผมก็แกล้งซบไหล่อีกฝ่าย

อย่างออดอ้อนและที่สำคัญยิ่งได้เห็นคุณหญิงแม่เหมือนคนกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไอ้ป๊อบก็ยิ่งสะใจ

      “พี่ภามครับไหนพี่ภามบอกว่าคุณหญิงแม่จะไม่ว่าอะไรเราไม่ใช่เหรอครับ” และแล้วขั้นตอนการบีบน้ำตาก็มา ไอ้หื่นทำอะไร

ไม่ถูกเพราะเห็นผมเปลี่ยนโหมดเร็วยิ่งกว่าจิ้งจกเปลี่ยนสี?

      “เอ่อ...พี่ภามขอโทษนะครับ น้องป๊อบอย่าร้องนะครับ” ไอ้หื่นว่า ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดปลอบ เอ่อ..มึงนอกบทไปละ ใน

ทีแรกผมขัดขืนที่จะไม่เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย แต่ก็โดนสายตาดุๆกับคำพูดที่ไม่ออกเสียงที่พอจะรู้ว่าอีกคนพูดอะไร

 อยากให้ความแตกหรือไง ผมเลยต้องจำใจไปอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน

      “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ หยุดทั้งคู่เลย แล้วตาภามก็ปล่อยไอ้เด็กนี่ได้แล้ว” คุณหญิงแม่เข้ามาแยกผมกับไอ้หื่นให้ออกจากกัน

      “ผมชื่อป๊อบครับไม่ใช่ไอ้เด็กนี่” ผมบอกคุณหญิงแม่เพราะเท่าที่จำได้ผมก็บอกชื่อตัวเองกับท่านไปตั้งแต่ต้นแล้ว

      “เธอจะชื่ออะไรก็ช่างฉันไม่สนเพราะตอนนี้ฉันสนแต่ลูกชายของฉันคนเดียว” คุณหญิงแม่ตวาดลั่นบ้าน จนป้าพิมพ์ที่ยืนอยู่ใน

เหตุการณ์ยังสะดุ้งเล็กน้อย

      “มันเป็นยังไงกันภาม ไหนลูกอธิบายมาให้แม่ฟังหน่อยซิ เอาให้ละเอียดนะ” เธอหันกลับไปคาดโทษลูกชายคนโปรด

      “ผมกับน้องป๊อบเราเป็นแฟนกันครับแล้วน้องป๊อบก็จะมาเป็นว่าที่สะใภ้ของบ้านนี้ด้วยครับ” ไอ้หื่นบอกคุณหญิงแม่ จากนั้นก็

รวบเอวผมเข้าไปกอด ผมเลยต้องเอื้อมมือไปตีเบาๆเพื่อกันไม่ให้ผิดสังเกต

      “เนียนตลอดเลยนะไอ้หื่น” ผมเงยหน้าขึ้นไปกระซิบที่ข้างหูไอ้หื่น แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าสะทกสะท้านแถมยังกระชับอ้อม

กอดพร้อมกับกระตุกรอยยิ้มส่งให้ผมอีกต่างหาก เห็นแล้วขนลุกชะมัด

      “แล้วทำไมลูกถึงไม่เคยเล่าเรื่องเด็กคนนี้ให้แม่ฟังเลยล่ะ” คุณหญิงแม่ว่าก่อนจะปรายตามามองผม ผมเลยส่งยิ้มไปให้ท่าน

 แต่ท่านกลับสะบัดหน้าหนี้หันกลับไปฟังคำตอบจากลูกชาย ส่วนผมนี่ก็หุบยิ้มลงแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ณ จุดๆนี้

      “เราแอบคบกันแบเงียบๆครับ ผมยังไม่กล้าพาน้องมาเปิดตัวเพราะกลัวว่าถ้าผมบอกคุณแม่เรื่องราวมันก็ต้องเป็นแบบนี้” โห

 น้ำเน่าสุดๆอ่ะ คบหากันแบบเงียบๆ ถามจริงไอ้หื่นดูละครหลังข่าวมากไปปะเนี่ย?

      “คือป๊อบผิดเองครับที่ขอร้องให้ช่วยพามาไหว้คุณหญิงแม่เรื่องราวมันก็เลยเป็นแบบนี้” ผมพูดเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้าลง

เล็กน้อยเพื่อให้ดูเป็นการสำนึกผิด

      “ใครเขาคุยกับเธอไม่ทราบ” เพล้ง!แตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดีเลย

ไอ้ป๊อบเอ้ย! สงสัยว่างๆมึงควรไปฉีดน้องโบบ้างนะหน้ามึงจะได้ตึงๆ เวลาโดนว่าแบบนี้เข้าจะได้คงรูปได้อยู่ดีไม่ต้องแตกเป็น

เสี่ยงๆแบบนี้

      “คุณแม่ น้องแค่อธิบายให้คุณแม่ฟังนะครับคุณแม่ก็ไม่น่าไปว่าน้องแบบนั้นเลย” ไอ้หื่นออกปากเข้าข้างผม ผมเลยถือโอกาส

เหลือบตาขึ้นไปมองก็เห็นสีหน้าไม่พอใจของคุณหญิงแม่ที่กำลังมองไอ้หื่นภามอยู่อย่างไม่พอใจที่เข้าข้างผม โฮะๆๆๆ ก็ไม่รู้สินะ

      “ตาภามนี่ลูกกล้าเข้าข้างไอ้เด็กไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้จักมารยาทแบบนี้เหรอ” คำก็ว่า สองคำก็ว่า ตั้งแต่ผมเจอคุณหญิงแม่มา

มีบ้างไหมที่ยังไม่โดนว่า

      “งั้นคุณแม่ก็ให้น้องป๊อบเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณแม่สิครับแล้วคุณแม่ก็เอาน้องไปปรับแก้นิสัยไม่ดีๆพวกนั้น

เพื่อที่จะได้ดีพอในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์สิครับ น้องป๊อบครับเดี๋ยววันนี้น้อง

ป๊อบค้างที่นี่นะครับ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปย้ายจากหอพักมาไว้ที่นี่นะครับ”

      “เฮ้ย!//ไม่ได้นะตาภาม!” เสียงผมกับเสียงของคุณหญิงแม่ร้องออกมาพร้อมกัน แต่ไอ้หื่นภามนั่นก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร

 เฮ้ย! นี่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงไม่ใช่เหรอ ไหนบอกว่าแค่แกล้งเป็นแฟนแล้วก็แกล้งเป็นว่าที่สะใภ้แค่นี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมไอ้หื่นไม่

เห็นบอกเรื่องที่ต้องมาอยู่ที่นี่เลย ไอ้เหี้ยเอ้ย!

      “แต่แม่ไม่อนุญาตให้เด็กนี่มาอยู่ที่นี่นะตาภาม ห้องที่เหลือมีไว้สำหรับแขกที่ได้รับเชิญ ส่วนแขกที่ไม่ได้เชิญแม่ไม่อนุญาต”

 คุณหญิงพูดพร้อมกับปรายหางตามามองผม แต่คราวนี้ผมเห็นด้วยกับคุณหญิงไม่ได้นะผมจะไม่ยอมอยู่ที่นี่เด็ดขาด!”
     
      “ใครบอกว่าน้องป๊อบจะไปอยู่ที่ห้องรับแขกหละครับ” ไอ้หืนพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเอื้อมมือมาดึงผมให้ลุกตาม ผมพยายาม

ขืนตัวเองเอาไว้สุดแรงเกิดแต่ก็ต้านแรงของอีกคนไม่ได้เลยต้องลุกตามมือที่ดึง

      “น้องป๊อบจะไปอยู่ที่ห้องของผมตั้งแต่วันนี้ครับ” นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันทำไมผมถึงโดนไอ้หื่นนี่มัดมือชกตลอดด้วยนะ ทำไม

เทวดาฟ้าดินไม่เห็นใจไอ้ป๊อบตัวน้อยๆคนนี้เลยกล้าปล่อยให้ไปอยู่กับไอ้หื่นบ้ากามนี่ได้ยังไง   

                                                                             ฮือๆๆๆ ป๊อบจะฟ้องศาล!!!
                         














        ตอนนี้ผมกำลังพยายามกึ่งลากกึ่งดึงอีกคนให้เดินตามผมมาที่ห้องนอนเพราะหลังจากที่ผมบอกคุณแม่ว่าจะให้ไอ้เด็กแสบนี่

มาอยู่ที่ห้องของผมท่านก็เกิดอาการหน้ามืดจนเป็นลม ผมเลยให้ป้าพิมพ์คอยดูแลคุณแม่เอาไว้ ก่อนจะหันมาจัดการกับอีกคนที่มี

ลูกดื้อไม่แพ้คุณแม่เลยแม้แต่น้อย ผมรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในสิ่งที่บอกไอ้เด็กแสบตั้งแต่ต้น แต่พอเรื่องที่เกิดขึ้นที่

บริษัทมันทำให้ผมอยากที่จะรั้งอีกคนเอาไว้

      “นี่คุณ” อีกคนเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกผม ผมเลยต้องหันไปมองดุๆ เจ้าตัวจึงกลับมาเรียกแบบเดิมที่ตกลงไว้แต่ก็ไม่วาย

เบะปากใส่ ร้ายจริงๆไอ้เด็กแสบ

      “นี่พี่ภามไอ้ที่พี่ทำอยู่มันไม่ได้อยู่ในรายละเอียดงานเลยนะ ตอนแรกพี่ไม่ได้บอกว่าจะให้ป๊อบมาอยู่ที่นี่นะ” อีกคนบอกผม

เรื่องรายละเอียดของงานซึ่งไอ้สิ่งที่ผมทำอยู่นั้นมันไม่ได้อยู่ในรายละเอียดของงาน ใช่สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในรายละเอียดงานในตอนนั้น

 แต่มันอยู่ในรายละเอียดงานในตอนนี้

      “แต่นั่นมันตอนนั้น ส่วนตอนนี้มันอยู่ในรายละเอียดงานแล้ว โอเคไหมครับน้องป๊อบแล้วก็เดินตามพี่มาได้แล้วไม่ต้องพูดมาก”

 ผมบอกอีกคนเพราะอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องของผมแล้ว

      “ไม่โอเคโว้ยยยยยยยยยย” อีกคนตะโกนเสียงดังพร้อมกับออกแรงขัดขืน แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวคงมาทำสำเร็จช้าไปเพราะ

ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังนั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่บนพื้นในห้องของผมเรียบร้อยแล้ว

      “นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย ” อีกคนว่า ก่อนจะปรายตามามองผม ผมเลยเดินไปนั่งที่โซฟามองคนที่นั่งจุมปุกอยู่ที่พื้น

      “แต่ฉันก็ไม่ได้จ้างนายมาแค่พันสองพันนะตั้ง 3 แสนช่วยทำงานให้คุ้มค่าด้วย” ผมเอาเรื่องจำนวนเงินมาเป็นข้ออ้าง แต่จะว่า

ไปมองดูไอ้เด็กแสบนี่ทำหน้าไม่พอใจมันก็เป็นเรื่องสนุกไปอีกแบบ

      “ยิ้มอะไรของนายไม่ทราบ ไอ้หื่นภาม” อีกคนหันมาว่าผมอย่างเอาเรื่อง แต่ผมเริ่มจะไม่พอใจกับไอ้สรรพนามที่เขาใช้เรียก

ผมสักเท่าไร

      “คำก็หื่น สองคำก็หื่น นายอยากจะให้ฉันหื่นให้ได้เลยใช่ไหม” ผมว่า ก่อนจะค่อยๆลุกเดินออกจากโซฟาไปหาคนที่นั่งอยู่ที่

พื้น ก่อนจะผลักอีกฝ่ายให้นอนราบแล้วตัวผมก็คร่อมทับอีกคนเอาไว้

      “นะ..นายจะทำอะไร ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้บ้า ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิต” อีกคนสรรหาคำมาว่าผม ผมไม่

ได้โกรธหรอกนะที่โดนว่าเพียงแค่อยากจะแกล้งอีกคนเล่นเท่านั้น

      “พี่ว่าน้องป๊อบก็น่าจะเดาออกนะว่าพี่กำลังจะทำอะไรเพราะพี่รู้ว่าเราก็ไม่ได้เป็นคนใสซื่ออะไรมากขนาดนั้นออก

จะ....โชกโชนอยู่ไม่ใช่น้อยไม่ใช่เหรอ หืม?” ผมแกล้งพูดยั่วอีกคน ยิ่งเห็นสีหน้าซีดๆกับแววตาที่ดูตื่นๆนั่นยิ่งทำให้ผมอยากแกล้ง

เขาไปอีก ผมเลยเอื้อมมือลงไปลูบต้นขาเรียวยาวของอีกฝ่ายไล้มาเรื่อยๆจนถึงขาอ่อน การขัดขืนของอีกฝ่ายในตอนแรกดูเหมือน

จะหยุดลงเพราะอีกคนได้แต่นอนตัวแข็งทื่อหลังจากที่โดนผมสัมผัสตัวเองแบบนั้น หึๆ นายนี่มันน่าแกล้งจริงๆนะป๊อบ จากนั้นผมก็

ใช้จังหวะที่อีกคนไม่ได้ตั้งตัวค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ชิมความหวานจากริมฝีปากได้รูปของไอ้เด็กแสบ

ประตูห้องของผมก็ถูกเปิดออก

      “อุ้ยแม่!ตาเถรหก เจ็ด แปด เอ่อ...ขอโทษค่ะคุณภามป้าไม่คิดว่าคุณภามกับแฟนกำลังเอ่อ...” ป้าพิมพ์พูดจบก็มองหน้าผม

กับไอ้เจ้าเด็กแสบสลับกันไปมา ส่วนไอ้เด็กแสบป๊อบที่เห็นสภาพของเราสองคนก็รีบผลักผมออกแล้วรีบอธิบายให้ป้าพิมพ์เข้าใจ

      “ไม่ใช่อย่างที่คุณป้าคิดนะครับคือผมกับพี่ภามเราไม่ได้กำลังจะทำอะไรกันทั้งนั้นนะครับ” อีกคนรีบอธิบายพร้อมกับส่ายหน้า

เป็นพัลวัน ส่วนป้าพิมพ์ก็ได้แต่ส่งยิ้มน้อยๆมาให้เพราะแกคงจะไม่เชื่อในคำแก้ตัวของไอ้เด็กแสบนั่น ใครเขาจะไปเชื่อเพราะ

สถานะที่ผมกับได้แสบนั่นคือ แฟน หรือ คู่รักกันแล้วยิ่งถ้าแก้ตัวอย่างนั้นก็มีแต่จะยิ่งทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองอายเลยต้อง

รีบแก้ต่าง เฮ้อ! ไอ้แสบเอ้ยฆ่าตัวเองตายชัดๆ

      “ป้าพิมพ์มีอะไรเหรอครับ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง ป้าพิมพ์เลยหันมามองหน้าผมก่อนจะตอบ

      “คุณหญิงให้มาบอกว่าวันนี้ตอนเย็นให้คุณภามชวนคุณป๊อบลงไปทานข้าวเย็นด้วยกันนะคะ” ป้าพิมพ์บอก คุณแม่เนี่ยนะที่ให้

ผมชวนป๊อบไปทานข้าวเย็นด้วยทั้งๆที่เมื่อกี้ก็เข้าหน้ากันแทบจะไม่ติด ผมเลยหันไปมองหน้าไอ้เจ้าเด็กแสบซึ่งมันก็หันมามอง

หน้าผมอย่างงงๆเช่นเดียวกัน

      “คุณผู้หญิงคงอยากจะให้คุณภามแนะนำคุณป๊อบให้กับคุณท่านแล้วก็คุณภัทรรู้จักมั้งคะ” ป้าพิมพ์ว่า แต่ผมว่านิสัยของคุณแม่

คงไม่มีทางที่อยากจะให้ผมแนะนำป๊อบให้กับคนอื่นๆรู้จักหรอก ผมว่าเรื่องนี้มันแปลกๆซะแล้วล่ะ

      “งั้นเดี๋ยวผมขอคุยกับน้องป๊อบก่อนนะครับแล้วเดี๋ยวใกล้มื้อเย็นผมกับน้องจะลงไปนะครับ” ผมตอบป้าแม่บ้านก่อนที่เธอจะ

พยักหน้าแล้วเดินจากไป

                       
      “นี่เอาไงดีคุ..เอ่อ..พี่ภาม” ไอ้เด็กแสบถามผม ตอนนี้เราทั้งคู่กำลังนั่งหน้าเครียดกันอยู่ที่โซฟาภายในห้อง ผมเองก็ไม่รู้

เหมือนกันว่าคุณแม่จะทำอะไร มันเป็นเรื่องที่เกินจะคาดเดาได้

      “ก็ไม่ต้องเอาไงทั้งนั้นถึงเวลาเราก็ลงไปทานข้าวแค่นั้นก็จบ” ผมบอกเพรามันคงเป็นทางเดียวที่ทำให้ดูไม่ผิดสังเกตมาก

เท่าไร

      “มันจะไม่จบง่ายๆน่ะสิ” ไอ้เจ้าเด็กแสบว่า

      “ช่างเหอะ ว่าแต่ว่าพี่จะให้ผมนอนที่ห้องพี่จริงๆเหรอ” ไอ้เด็กแสบถามขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มลุกเดินสำรวจห้องผม

      “ใช่ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าคืนนี้ป๊อบก็ใส่เสื้อผ้าของพี่ไปก่อนก็แล้วกัน” ผมว่า ไอ้เด็กแสบนั่นเบ้ปากน้อยๆแต่ก็ยังยอมพยักหน้า

ตกลง

      “แล้วเรื่องแม่กับน้องของป๊อบล่ะ” คนที่เดินสำรวจห้องผมถามขึ้นพร้อมกับสายตาที่เจ้าตัวหันมามองหน้าผม

      “เรื่องแม่พี่จัดการให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องน้องชายป๊อบ ถ้าเขาเข้ามากรุงเทพฯเมื่อไหร่พี่ก็จะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้” ผม

บอกดูไอ้เจ้าเด็กแสบจะถอนหายใจน้อยๆอย่างคนโล่งใจ ผมเห็นแล้ก็อดสงสารไม่ได้เพราะเห็นไอ้ภัทรเคยเล่าให้ฟังว่ามันเป็นเด็ก

ที่ขยันหางานทำจนส่งตัวเองเรียนและที่สำคัญยังหาเงินส่งไปให้น้องและทางบ้านได้

      “พี่ว่าป๊อบควรไปเตรียมตัวรับศึกช่วงเย็นดีกว่านะ” ผมบอก อีกฝ่ายเลยจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปล้างหน้าล้างตาให้

สดชื่นพร้อมลุยกับช่วงเย็นอีกหนึ่งศึก

      “เสร็จรึยังป๊อบ” ผมถามเพราะหลังจากที่อีกคนหายเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองเวลาซึ่งมันก็ได้เวลา

มื้อเย็นสำหรับที่บ้านผมแล้ว

      “เสร็จแล้วครับ” ไอ้เจ้าเด็กแสบมันขานรับ ก่อนที่ผมจะบังคับให้เจ้าตัวจับมือผมลงไปหาคนอื่นๆที่รออยู่ด้านล่าง

           วันนี้ทุกคนลงมานั่งรอที่โต๊ะอาหารกันอย่างพร้อมหน้า คุณพ่อนั่งรอทานข้าวอยู่ที่หัวโต๊ะ ถัดออกมาก็เป็นคุณแม่แล้วก็ไอ้

ภัทร ส่วนที่นั่งอีกฝั่งตรงข้ามกับคุณแม่ก็เป็นที่ของผมและแน่นอนว่าข้างผมก็คือว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านอย่างนายป๊อบ

        ผมหันไปมองหน้าอีกคน แต่ก็ไม่พบกับความประหม่าทั้งๆที่ตอนนี้ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหันมามองตัวเองกันเป็นตาเดียว ไอ้

เด็กแสบมันดึงมือตัวเองออกจากมือผมก่อนจะก้มลงไหว้คุณพ่อ

      “สวัสดีครับคุณพ่อ ผมชื่อป๊อบเป็นแฟนกับพี่ภามครับ” อีกคนว่า ผมเลยดูปฏิกิริยาของคุณพ่อเพราะถึงแม้ท่านจะเป็นคนหัว

สมัยใหม่แต่ท่านก็เป็นทหารซึ่งผมก็กลัวว่าท่านจะไม่ยอมรับเรื่องนี้ แต่น่าแปลกเพราะหลังจากที่ป๊อบแนะนำตัวเองกับท่าน ท่าน

กลับส่งยิ้มอย่างเอ็นดูมาให้ ก่อนจะยกมือขึ้นรับไหว้

      “ตามสบายเลยนะลูกคิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านของลูกก็แล้วกันนะ” คุณพ่อผมบอก ผมสังเกตเห็นความผ่อนคลายลงจากคนข้าง

กาย

      “นี่คุณ!” คุณแม่จ้องคุณพ่ออย่างเอาเรื่อง แต่ท่านกลับยักไหล่แล้วเรียกให้ผมกับป๊อบเข้ามาร่วมโต๊ะเพื่อทานมื้อเย็น

      “อย่าคิดนะว่าที่ฉันให้ร่วมโต๊ะด้วยแล้วฉันจะรับเธอเป็นว่าที่ลูกสะใภ้” คุณแม่พูดขึ้นหลังจากที่ผมกับป๊อบนั่งลงที่เก้าอี้

      “ครับ ป๊อบเข้าใจ” ป๊อบว่า จากนั้นเราทุกคนก็เริ่มลงมือทานอาหาร ไอ้ภัทรได้แต่ส่งสายตาสงสารมาให้เพื่อนรักตัวเอง ส่วน

ไอ้คนที่นั่งข้างๆผมก็จ้องไอ้ภัทรอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

      “นี่ครับพี่ภาม” คนที่นั่งข้างผมตักผัดผักมาวางไว้ให้ในจาน ก่อนจะส่งยิ้มให้ ผมเลยยิ้มตอบก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ

      “ขอบคุณนะ” แล้วผมก็เลยตักกับข้าวที่อยู่ไกลให้คนที่นั่งข้างกายผมที่ตักไม่ถึงมาให้ เจ้าตัวจึงเอ่ยขอบคุณ

      “ขอบคุณนะครับ พี่ภามทานเยอะๆนะครับ” อีกคนว่า จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงคุณหญิงแม่กระแอมไอขึ้น

      “ไร้มารยาท ใครเขาสอนให้พูดคุยกันในระหว่างทานอาหาร” คุณแม่พูดขึ้นมาลอยๆก็จริง แต่แน่นอนว่าท่านมีจุดประสงค์ที่จะ

ให้ไอ้คำพูดลอยๆนั่นกระทบกับคนที่นั่งข้างผมอย่างเต็มๆ

      “ไม่มีใครสอนหรอกครับคุณหญิงแม่ เอ แต่จะว่าไปตอนนี้คุณหญิงแม่ก็กำลังพูดในระหว่างทานอาหารเหมือนกันนะครับ” ไอ้

คนที่นั่งข้างกายผมสวนกลับคุณแม่อย่างทันควัน แถมยังมีหน้ามานั่งยิ้มระหื่นส่งไปให้ท่านอีกต่างหาก ส่วนคุณแม่ก็สะบัดหน้า

กลับมามองอีกคนอย่างเอาเรื่อง ส่วนคนที่โดนจ้องก็นั่งทานข้าวต่ออย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ผมเห็นก็อดที่จะอมยิ้มขำไม่ได้เพราะทุก

คนในบ้านไม่มีใครสักคนที่จะกล้าเถียงคุณแม่จะมีก็แต่คนที่นั่งข้างๆผมคนนี้แหละที่กล้าแล้วก็ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่อมยิ้มขำทั้ง

คุณพ่อแล้วก็ไอ้ภัทรทุกคนก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน สงสัยคุณแม่คงจะเจอมวยถูกคู่ซะแล้วล่ะ

      “หนอยแก!ไอ้เด็กไร้มารยาทกล้าเถียงผู้ใหญ่ คุณพี่คะน้องไม่ยอมยังไงน้องก็ไม่รับไอ้เด็กนี่เป็นสะใภ้หรอกนะคะ!” คุณแม่ผม

ลุกขึ้นชี้หน้าว่าคนข้างๆผมแล้วจึงหันกลับไปพูดกับคุณพ่อ

      “แต่ผมว่ามันก็ไม่เสียหายนะคุณหญิงอย่างน้อยๆเข้าก็เป็นคู่ปรับชั้นดีของคุณนะ” คุณพ่อของผมบอกกับคุณแม่ยิ้มๆท่านเลย

ตวัดสายตากลับมามองป๊อบอย่างเอาเรื่อง

      “ดี!’งั้นเราก็จะได้เห็นดีกันนายป๊อบ!!!” งานเข้าซะแล้วป๊อบ!!










มาต่อให้แล้วนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ เป้นกำลังใจให้ดีสได้มากเลยทีเดียวค่ะ ตอนนี้ยอดชายนายป๊อบของเราได้เจแกับ

ว่าที่แม่สามีแล้วไว้ลุ้นกันตอนหน้าว่าคุณหญิงแม่จะจัดหนักอะไรเพื่อต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างยอดชายนายป๊อบ 555

ปล.1 พรุ่งนี้ดีสอาจจะไม่ได้อัพนะคะ ไว้เราไปเจอกันวันที่ 10 เมษา 58 เลยนะคะ ต้องขอโทษจริงๆพอดีติดธุระอ่ะค่ะ :mew2:

ปล.2 ดีสแอบเห็นคอมเม้นนึงที่บอกว่าคงไม่ใช่แม่สามีกับลูกสะใภ้ เอ่อ...ดีสขอสารภาพจากใจ....มันเป้นแบบนั้นไปแล้วล่ะค่ะ 55

แต่ก็อยากให้ติดตามนะคะเพระาเวอร์ชั่นของนายป๊อบไม่เหมือนเวอร์ชั่นอื่นน้าาาาาา (อวยตัวเองเข้าไป 555) :impress2:

ปล.3 ขอบคุณอีกหนึ่งคอมเม้นนะคะที่บอกตรงส่วนที่พิมพ์ผิดเดี๋ยวดีสจะลองไปเช็กๆดูนะคะ พอดีดีสก็เพิ่งลองแต่งลักษณะนี้

เพราะปกติดีสจะแต่งเป็นแค่ตัวละครเพียงตัวเดียวที่บรรยายเนื้อเรื่องเดี๋ยวจะลองไปดูๆให้นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2015 21:29:55 โดย Hades Novel »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ a_n

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คู่ปรับสูสี แบบนี้สนุกแน่ๆ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ป๊อบเป็นนายเอกสมัยใหม่มากเลยค่ะ … แซ่บ

* มีความรู้สึกว่าอยากอ่านต่ออี๊กกก :laugh:
 

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อร๊ายยยยย. สนุกมากเลยย. ชอบๆๆ. แม่สามีกะลูกสะไภ้ ดุเด็ดเผ็ดมันมาก. ต่างคนต่างไม่นอมกัน อิอิ

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
แจ่มไปเลย ดุ เด็ด เผ็ด มัน

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เป็นการปะทะอารมณ์ที่สนุกดีนะครับ แต่ช่วงที่ขึ้นบรรทัดใหม่คำมันขาด น่าจะให้มันเต็มประโยคไปเลยค่อยขึ้นบรรทัดใหม่ครับ คนอ่านจะได้อ่านแบบไม่สะดุดครับ รีบๆมาต่อนะครับ อยากรู้ว่าป๊อบจะเจอศึกแบบไหนต่อแล้ว

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ก็มันดีนะ ชอบตรงที่อัพบ่อยๆอ่ะ

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มาต่อไวๆนะคะ ชอบมากเลยคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด