"All of Me"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "All of Me"  (อ่าน 278485 ครั้ง)

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #990 เมื่อ13-11-2015 13:16:08 »

จริง ๆ โทษพี่เชหื่นไม่ได้นะต้องโทษที่เตียงมันเล็กเกินไปสำหรับผู้ชาย 2 คน เนอะพี่เชเนอะ :z1:

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #991 เมื่อ13-11-2015 16:02:37 »

ท่านฟารัคกับเก้า เป็นความเหมือนที่แตกต่างกันยังไงก็ไม่รู้

ท่านฟารัคคู่ที่มีไม่รู้ว่าจะรักตัวเองจริงหรือต้องการในอำนาจที่ตัวเองมี

ส่วนเก้าเพราะหน้าตาบวกกับจิตใจและนิสัยที่ไม่ชอบมีเรื่องจึงทำให้โดนเอาเปรียบอยู่เรื่อยๆ


ไม่มีอะไรค่ะ...............แค่รู้สึกว่าเคมีคู่นี้เข้ากั๊น เข้ากัน   :impress:  :impress:


ออฟไลน์ ปีศาจน้อยสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #992 เมื่อ13-11-2015 20:51:07 »

มาอ่านอีกรอบ  :impress2:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #993 เมื่อ14-11-2015 13:49:52 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #994 เมื่อ15-11-2015 21:12:30 »

โอย ... พูดไม่ออก   :-[
ขอบคุณค่า <3 <3


ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #995 เมื่อ16-11-2015 21:36:39 »

 :3123:

ออฟไลน์ Nathi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #996 เมื่อ16-11-2015 22:23:50 »

แวะมาดัน เม่ยจ๋า

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
«ตอบ #997 เมื่อ17-11-2015 22:44:12 »

ป่านนี้อาเม่ยคงหลับฝันดี  :กอด1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
"All of Me" ตอนที่34 หน้า34(18พฤศจิกา58)
«ตอบ #998 เมื่อ18-11-2015 06:49:22 »

ตอนที่ 34

แสงแดดอ่อนลอดผ่านรอยไม้เข้ามาถึงที่นอน ได้ยินเสียงนกร้องอยู่ข้างหน้าต่าง คนตัวใหญ่ลืมตาแล้วขยับตัวช้าๆ เพื่อไม่ให้คนที่เพิ่งได้นอนเมื่อสัก 1 ชั่วยามก่อนต้องตื่นขึ้น แง้มหน้าต่างอีกเพียงเล็กน้อยให้อากาศสดชื่นยามเช้าผ่านเข้ามาได้มากขึ้นแล้วค่อยไปล้างหน้า ล้างตัว เสร็จแล้วจึงเดินมาที่บ้านข้างๆ มองผ่านช่องหน้าต่างที่ยังทำไม่เสร็จ เห็นต้าซันที่กำลังต้มข้าวต้มมื้อเช้า หันมายิ้มกว้างทักทาย
"เม่ยล่ะ"
"ยังไม่ตื่น"
"ห๊ะ ไม่สบายหรือเปล่า" พี่ชายทำหน้าตาตกใจ
"เม่ยเพิ่งได้นอนเมื่อใกล้สว่างนี้เอง"
ต้าซันกะพริบตามองแล้วกลายเป็นหัวเราะ "คิดแล้วเชียว ว่าท่านจะยอมนอนหน้าห้องได้สักกี่วัน"
แม่ทัพเชมัลยิ้มรับ ทั้ง 2 คนต่างมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขไม่ต่างกัน
"เช่นนั้นก็ปล่อยให้นอนพักนานๆ เถิดนะ"

แม่ทัพเชมัลเดินมามองข้าวต้มในหม้อ ต้าซันก็รีบบอก
"ท่านกินก่อนแล้วค่อยตักแบ่งใส่หม้อดินยกไปบ้านโน้นก็ได้ เม่ยตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยอุ่น"
แม่ทัพรินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วส่งให้
"พี่ใหญ่"
คนที่กำลังยิ้มอารมณ์ดี กลายเป็นยิ้มค้างอย่างเก้อเขิน
"เอ่อ...ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของท่านกับเม่ยนะ น้องรักใคร ข้าก็รักด้วยอยู่แล้ว แต่เพราะพระเชษฐาของท่านคือพระราชาฟารัค หากท่านเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ จะอย่างไรก็กลายเป็นตีตนเสมอ หากท่านไม่รังเกียจ เรียกข้าต้าซันเหมือนเดิม แล้วดีกับเม่ยให้มากๆ ก็พอ"

หลังกล่าวคำอีก 2 ประโยค ลำดับต่อมาคือความกังวลอีกเรื่องของต้าซัน "เรื่องผู้เฒ่าบนยอดเขาน่ะ"
ในช่วง 2 วันแรกที่แม่ทัพเชมัลเข้ามาพักที่บ้านนี้ อาเม่ยก็พาแม่ทัพเชมัลขึ้นไปหาผู้เฒ่าดินที่พักอยู่ตามลำพังบนเขา แต่ไม่พบ จากนั้นก็ขึ้นไปอีก 2 ครั้งแต่ก็ยังไม่พบเช่นกัน จนกระทั่งฝนเริ่มตกการเดินทางอันตรายมากขึ้น จึงไม่ได้ขึ้นไปอีก

"มาคิดดูก็น่าแปลกอยู่เหมือนกัน แม้ผู้เฒ่าจะปฏิเสธการรักษาเม่ย แต่ตอนที่ราชองครักษ์ลาทีฟมาที่นี่ เขาก็ได้พบกับผู้เฒ่านะ เห็นว่าสนทนากันหลายเรื่องด้วย หรือเป็นเพราะท่านไปกับเม่ย แต่ผู้เฒ่าไม่อยากพบเม่ยถึงทำให้ไม่ได้พบสักที" ต้าซันคาดเดาไปเรื่อย
..เหตุใดผู้เฒ่าจึงไม่อยากพบอาเม่ย..
เมื่อแม่ทัพเชมัลยิ้มขำ ต้าซันก็อธิบายความคิดของตน
"ข้าคิดเรื่องนี้เช่นนี้นะ ท่านผู้เฒ่าอาจไม่สะดวกใจหากต้องพบเม่ย เพราะนอกจากเรื่องที่ท่านรักษาไม่ได้แล้ว ยังมีเรื่องความขัดแย้งระหว่างพวกผู้เฒ่าแล้วก็เรื่องร้ายที่หมู่บ้านนี้ด้วย คือสำหรับเม่ยกับข้าแล้ว จะอย่างไรท่านผู้เฒ่าก็เป็นผู้มีพระคุณ"  ต้าซันกล่าวขอร้อง "หากท่านพบผู้เฒ่า ฝากบอกท่านด้วยว่า ไม่ต้องลำบากใจเรื่องเม่ย ตอนนี้เขาแข็งแรงขึ้นมาแล้ว พูดคุยมากขึ้น ยิ้มมากขึ้น....บางทีอาจเพราะมีท่านอยู่ที่นี่ ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างท่านกับพวกเมืองเหนือเหล่านั้น เม่ยเล่าให้ข้าฟังแล้ว พวกเรารู้ว่าท่านเองก็พยายามอย่างเต็มที่"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้า "เมื่อฝนหยุดตก ข้าจะขึ้นเขาไปคนเดียว อาจได้พบท่านผู้เฒ่า"
"รบกวนท่านด้วย ผู้เฒ่าดินเป็นผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของพวกเราแล้ว"

"แล้วเรื่องของผู้เฒ่าไฟ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านผู้เฒ่า" แม่ทัพถามขึ้นบ้าง
"บ้างว่าหลังจากที่ท่านทำลายหมู่บ้านนี้แล้ว ท่านก็ไปเมืองเหนือ บ้างก็ว่า ท่านเดินทางไปทั่วเมืองวัน"
"แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหน ก็ล้วนเป็นอันตรายต่อที่นี่ทั้งสิ้น"
ต้าซันยอมรับ ข้าวต้มมื้อเช้าที่เริ่มต้นด้วยดี กลับเริ่มไม่รู้สึกอยากกินต่อ "ผู้เฒ่าไฟสอนวิชาให้เม่ย ให้ความรู้แก่ทุกคนในหมู่บ้าน แต่สุดท้ายกลับทำลายหมู่บ้านของเรา ข้าไม่เข้าใจคนที่มีความคิดเช่นนี้เลยจริงๆ" น้ำเสียงที่กล่าวต่อมาจมอยู่ในลำคอ "มีเรื่องมากมายที่พวกเราไม่รู้ แถมเรื่องที่รู้มา ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง"


แม่ทัพเชมัลกินมื้อเช้าเสร็จก็ถือหม้อดินบรรจุข้าวต้มมื้อเช้ากลับมาที่บ้านพักของตนเอง เสียงเปิดประตูห้องนอนทำให้คนผอมบางรู้สึกตัวหันมามองแล้วนิ่วหน้า มือผอมๆ กดที่เอวบาง
"สายแล้ว"
"ใช่ ต้าซันทำข้าวต้มไว้ให้ ตอนนี้ออกไปที่หมู่บ้านใกล้ๆ บอกว่าจะไปขอซื้อลูกเจี๊ยบมาเลี้ยงสักหลายตัว" คนตัวใหญ่เดินมานั่งบนเตียงนอน "เจ้านอนพักก่อนก็ได้"
อาเม่ยขยับตัวลุกนั่งอย่างยากลำบาก 
"เจ็บหรือ"
คนตาสีแปลกมองค้อน แทนคำตำหนิที่เป็นต้นเหตุ แต่คนถูกค้อนกลับหัวเราะ
"ถามแล้วไม่ตอบ กลับมองค้อนกันแบบนี้ พี่จะแปลเข้าข้างตัวเองดีหรือไม่" กล่าวพลางจมูกโด่งก้มลงมาหาแก้มใส
"ครั้งแรก...ก็เป็นเช่นนี้หรือเปล่า"
"คงเป็นอย่างนั้น แล้วจำอะไรได้"
"จำได้ว่า..." ดวงตาสีเขียวนั่นยังฉายชัดว่ายังงอนอยู่ "ท่านเอาแต่ใจมาก"

แม่ทัพเชมัลหัวเราะเสียงก้อง แล้วกอดฟัดอีกคนโดยไม่ยอมฟังเสียงอุทธรณ์ว่ายังเจ็บ ยังปวดเมื่อย จนกระทั่งร่างกายเปล่าเปลือยนอนกอดก่ายกัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังเจือจางอยู่ในห้องนอน
มือเล็กๆหยิกที่เอวหนา จนคนถูกหยิกแสร้งร้องโอดโอยเจ็บปวดเกินจริง
"ลุกไปล้างตัวแล้วกินข้าวต้มกันเถิดสายมากแล้ว"

อาเม่ยคร้านจะเถียงว่าผู้ใดที่ทำให้ตื่นสายเช่นนี้ แขนผอมโอบรอบคอกว้างให้อีกคนอุ้มไปอาบน้ำแต่งตัวให้โดยดี
ความเอาใจใส่ที่มอบให้อย่างสม่ำเสมอ และพิเศษกว่าผู้อื่นเช่นนี้ เหตุใดที่ผ่านมาจึงเชื่อว่า ตนเป็นเพียงตัวสำรองให้กับองครักษ์เก้า ในวันที่แม่ทัพเชมัลไม่อาจโอบกอดองครักษ์เก้าได้อีก

"เมื่อฝนหยุดตกท้องฟ้าปลอดโปร่ง พวกเราออกไปจับปลาเอามาให้เจ้าทำน้ำซุป ไปให้ผู้เฒ่าดินดีไหม"
แม่ทัพถามขึ้นขณะที่กำลังอุ่นข้าวต้มในหม้อดิน ส่วนอาเม่ยกลับเป็นฝ่ายนั่งรอ
"จะอย่างไรท่านก็เป็นผู้ใหญ่ของเจ้า พี่สมควรเพิ่มความพยายามในการพบท่านอีกสักนิด"
อาเม่ยยิ้มขำ เพราะขึ้นเขาไปหาผู้เฒ่าหลายครั้งแล้ว แต่ไม่พบ ซึ่งจากที่รับใช้มาตั้งแต่ยังเด็กทำให้รู้ว่า ผู้เฒ่าดินกลับเป็นผู้ที่รักเสรียิ่งกว่าผู้เฒ่าลม ผู้ที่แม่ทัพเชมัลเคยพบ
ดังนั้นผู้เฒ่าจึงอาจแค่เพียงออกไปเก็บสมุนไพร หรือท่องเที่ยวไปเรื่อย มิใช่การหลีกเลี่ยงการพบหน้า
"ท่านผู้เฒ่าอาจเดินทางไปที่อื่น"
"ต้าซันเดาว่า ท่านผู้เฒ่ารู้ล่วงหน้าว่าพี่กับเจ้าจะขึ้นไปหา แต่ท่านผู้เฒ่าไม่อยากพบก็เลยหลบหน้า"
ผู้ที่เป็นศิษย์กะพริบตาไม่เข้าใจ "ผู้ใดจะทำเช่นนั้นได้"
แม่ทัพเชมัลยิ้มกว้าง "เจ้าทานข้าวต้ม ดื่มยาแล้วเมื่อท้องฟ้าโปร่งเมื่อไหร่ พวกเราออกไปหาปลากัน"
อาเม่ยหันออกไปมองนอกหน้าต่าง
"เวลานี้ก็ไปได้แล้ว"
"นั่นก็ใช่นะ" คิ้วเข้มขมวดแน่นแล้วเพิ่มเงื่อนไขอีกหลายข้อ "เช่นนั้น เจ้ากินข้าวต้ม ดื่มยา นอนพัก แล้วหากไม่มีฝนตกลงมาอีก พวกเราก็ไปหาปลากัน"
เป็นอีกครั้งที่อาเม่ยได้แต่ส่ายหน้า คร้านที่จะต่อปากต่อคำด้วย

อาเม่ยนอนพักได้ครู่เดียว ก็ลุกขึ้นมาทำข้าวห่อสำหรับ 3 คนไปกินในป่า แต่พอจะมาตามที่โรงเก็บม้า กลับพบว่า ต้าซันยังไม่กลับมา
"พี่ใหญ่ยังไม่กลับมา" แม่ทัพบอก
"นอกจากเรื่องไปซื้อลูกเจี๊ยบ อาจไปพูดคุยสอบถามเรื่องต้มเหล้าด้วย"
แม่ทัพพยักหน้าพลางมองห่อข้าวในมือของอาเม่ย "เอาไปวางไว้ในครัวที่บ้านใหญ่แล้วกัน เดี๋ยวกลับมาก็กินเอง"
ต้าซันช่างเป็นคนที่มีความสนใจที่หลากหลาย บ้านที่พักอยู่ยังซ่อมไม่เสร็จ ก็ไปสนใจเรื่องอื่นต่อไปอีกแล้ว
"ท่านน่าจะบอกให้พี่ใหญ่ไปทำเหล้านอกโรงเก็บม้าของท่าน"
"กลัวต้าซันจะเอาเหล้ามาให้ม้าของพี่ชิมหรือ"
"มันมีส่าเหล้า" อาเม่ยตอบอย่างจริงจัง "มันเป็นพิษ"
แม่ทัพเชมัลดึงอีกคนเข้ามาจูบหน้าผาก "เจ้าไม่บอกเองเล่า"
"ไม่ละ ท่านบอกสิ" อาเม่ยบอกปัดง่ายๆ

ตลอดสายน้ำที่ทอดตัวลงมาจากเขา จะไปหาปลาที่จุดใดก็ไม่ต่างกัน แต่แม่ทัพเชมัลกลับพิถีพิถันเป็นพิเศษ พาเดินย้อนสายน้ำไปจนเกือบจะถึงเชิงเขา มีร่มไม้ใหญ่ และดอกไม้ป่าส่งกลิ่นหอมถึงได้หันมาบอก ว่าจะหาปลาที่ตรงนี้
คนที่เป็นผู้ติดตามเพียงยิ้มอ่อนๆ จนคนที่นำทางหันมาหยิกแก้ม

...ในใจแม้จะยอมรับว่านี่คือเสี่ยวเม่ยคนเดิม แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบว่า เสี่ยวเม่ยตัวน้อย กับเสี่ยวเม่ยคนที่อยู่ข้างกันในเวลานี้ ช่างมีนิสัยแตกต่างจากเสี่ยวเม่ยคนช่างซักช่างถาม และอารมณ์เปลี่ยนแปลงโดยง่ายดั่งสายลมที่พบเจอกันที่ค่ายทหาร...
...เสี่ยวเม่ยใช้เวทย์ไฟและเพลงดาบไฟเป็นหลัก แสดงนิสัยที่ดุจดั่งสายลมในช่วงเวลาหนึ่ง เคยเป็นไฟในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ตอนนี้สงบนิ่งไม่ต่างจากดิน และเรียบเรื่อยเหมือนสายน้ำ....
...คนที่ครองเวทย์แห่งธาตุทั้ง 4 ที่เติบโตในหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา...

"เสี่ยวเม่ย"
เจ้าของชื่อหันมามอง ดวงตาสีเขียวใสดูจริงจัง
"พี่รักเสี่ยวเม่ย"
แก้มใสแดงเรื่อขึ้น ขณะที่พยักหน้า
"พยักหน้าแปลว่าอันใด"
"แปลว่ารู้แล้ว"
"รู้แล้วจริงหรือ"
พอถามย้ำ อาเม่ยก็ชี้บอกให้เปลี่ยนใส่เสื้อตัวเก่า เพราะเวลาที่หาปลาเสื้อผ้าจะไม่เลอะเทอะ
"ที่ผ่านมาเวลาเจ้าหาปลาต้องหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนหรือไม่"
อาเม่ยส่ายหน้า
"แล้วทำอย่างไร"
อาเม่ยหันไปมองสายน้ำ ยิ้มจางๆ เมื่อนึกถึงอดีต "พ่อเพียงถอดเสื้อแล้วทอดแห"
"แล้วเจ้าเล่า"
ครานี้รอยยิ้มของคนเล่ากว้างขึ้นกว่าเดิม "ข้าใช้เวทย์"
"เจ้าขี้โกงนี่" คนตัวใหญ่ทำเสียงโวยวาย "คนอื่นหาปลาเหน็ดเหนื่อย เจ้ากลับใช้เวทย์ แบบนี้อึดใจเดียวก็ได้หลายตัวแล้ว"
"เรียกมาแต่ตัวใหญ่ๆ สัก 3 ตัวก็พอที่จะทำอาหารให้พ่อและเหล่าผู้เฒ่าแล้ว ไม่จำเป็นต้องจับมามากมายไปใส่โอ่งไว้หรอก"
คนชี้แจงดูเก้อเขิน ไม่กล้าสบตาอีกคนที่มองมาด้วยสายตาหวาน

"กินข้าวเถิด เดี๋ยวค่อยหาปลา"
กำลังกินข้าวกับอาหารที่เตรียมมาแม่ทัพก็มองไปรอบตัว
"ตั้งแต่มาถึงยังไม่เจอพุ่มแบร์รี่"
อาเม่ยเพียงเหลือบตามองอีกคน "มีพุ่มแบร์รี่อยู่อีกด้านของหมู่บ้าน"
"อ้าว พี่พามาผิดที่หรือนี่" แม่ทัพทำหน้าตาประหลาดใจ
"ท่านสำรวจรอบหมู่บ้านอยู่ทุกวันไม่รู้ได้อย่างไร"
"แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพี่สำรวจรอบหมู่บ้านอยู่ทุกวัน"
อาเม่ยก้มหน้าแล้วจะหันไปมองทางอื่น แต่ปลายนิ้วที่แตะปลายคาง ให้หันกลับมามองสบตาสีเข้ม
"เห็นว่าแกะไม้ หรือไม่ก็ทำครัวอยู่ทั้งวัน กลับมีเวลาแอบดูผู้อื่น"
"ก็....พวกเรา...มีกันอยู่แค่นี้"
จบคำตอบคือจูบหวาน
มือเล็กตีที่ไหล่หนาเบาๆ "กินข้าวแล้วก็หาปลาเถิด จะได้รีบกลับไปทำซุปปลา ท่านจะได้ขึ้นเขาไปหาผู้เฒ่าทันเย็นนี้"
"พี่กำลังคิดว่าจะไปหาตอนพรุ่งนี้เช้า"

อาเม่ยไม่รู้เท่าทันความคิดก็พยักหน้าตามใจ
กินมื้อเที่ยงด้วยกันแบบนี้ ข้าวที่เตรียมมามากกว่าปกติแม้กินจนหมดกลับยังไม่รู้สึกอิ่ม ได้ปลาตัวใหญ่ 5 ตัวใส่ข้องที่เตรียมมาก็ชวนกันกลับ
อาเม่ยทำปลาอยู่หลังครัว ใกล้กันคือแม่ทัพเชมัลที่ขุดหัวมัน และผักสดมาล้างอยู่ข้างกัน เตรียมให้อาเม่ยนำไปทำซุป
ถึงยามนี้ต้าซันก็กลับมา โดยส่งเสียงทักทายมาแต่ไกล
"ทำอะไรกันอยู่"
"ทำซุปปลา" แม่ทัพตอบ
แต่อาเม่ยถาม "พี่ใหญ่ไปที่ใดมาทั้งวัน"
"ไปหมู่บ้านใกล้ๆไงแม่ทัพมิได้บอกเจ้าหรือ"
"บอกหลังจากที่เสี่ยวเม่ยเตรียมอาหารให้พี่ใหญ่ เพราะคิดว่าจะกลับมาเร็ว จะได้ออกไปจับปลาด้วยกัน ตอนนี้ข้าวห่อยังอยู่ในบ้านแน่ะ" แม่ทัพบอกยืดยาว พลางส่งสัญญาณให้อีกคนรีบหนีไปบ้านตนเอง แต่อาเม่ยเรียกไว้
"แล้วตอนไปหมู่บ้านข้างๆ เอาของไปขายหรือเปล่า"
"อ่า......." ต้าซันเกาหัวเก้อๆ พอเห็นว่าฝนเบาลงก็รีบไป ไม่ได้เตรียมสิ่งใดติดตัวไปทั้งสิ้น เพราะคิดว่าไปครู่เดียวก็จะกลับ แต่สุดท้ายกลับพูดคุยติดลม จนบ่ายจัดถึงได้กลับบ้าน
"พี่ใหญ่ พวกเรายังต้องใช้เงินในการซื้อของใช้ และซ่อมบ้านนะ"
"เอาน่า" ต้าซันรีบโบกมือ "ข้าหิวแล้ว ไปกินข้าวก่อนนะ"
"พี่ใหญ่แล้วลูกเจี๊ยบอยู่ไหนล่ะ"
แต่ต้าซันรีบวิ่งเข้าบ้านไปแล้ว

อาเม่ยส่ายหน้า แล้วทำปลาต่อไป
"พี่ใหญ่เป็นนักดนตรี มักอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก แต่เขากลับต้องมาซ่อมบ้าน ทำสวน เขาคงคิดถึงเวลาเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน"
แม่ทัพเชมัลมองคนที่ก้มหน้าทำปลา รู้สึกว่าคนผู้นี้ช่างน่ารักและแสนดี จนทั้งหัวใจที่มอบให้ไปก็ยังไม่เพียงพอ
ดวงตาสีแปลกเงยขึ้นมามอง
"จ้องหน้าเช่นนั้นมีอันใด"
"กำลังคิดว่าเจ้าน่ารักมาก เป็นคนดีมาก และคิดว่า หากพี่จะบอกความรู้สึกของตนเอง ที่มากกว่าพี่รักเจ้า พี่ควรพูดว่าอย่างไรดี"
อาเม่ยยิ้มเขินรับคำหวาน จนถึงเวลาที่ช่วยกันทำซุปปลาจนเสร็จ แล้วตักใส่ถ้วยเล็กๆ ให้แม่ทัพชิม
"คาวไหม"
"ไม่หรอก"
อาเม่ยชิมบ้าง "เคี่ยวอีกนิดก็ได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยอุ่นอีกครั้งแล้วกรองก้างปลาออก หากข้าหลับเพลินท่านต้องปลุกข้าแต่เช้านะ"
"เอ่อ...เสี่ยวเม่ย" ผู้ช่วยทำครัวอึกอักไม่ยอมพูดจนอีกคนต้องเร่งให้กล่าวคำออกมา
"พี่คิดว่าพรุ่งนี้เช้า พี่จะขึ้นเขาไปคนเดียว"
อาเม่ยหันมามองหน้าตรงๆ สีหน้าท่าทางบ่งบอกชัดเจนว่าไม่พอใจ และเมื่อเจ้าตัวส่งทัพพีตักแกงให้ จากนั้นก็เข้าไปในห้องนอนปิดประตูทันที

..ชัดเลย...ข้ากำลังถูกงอน..

"เสี่ยวเม่ย.."
แม่ทัพเชมัลเคาะประตูห้องเรียก ลำพังประตูแค่นี้พังเข้าไปได้โดยง่าย แต่หากทำเช่นนั้นจะถูกโกรธ ถูกคนงอนใส่หนักกว่าเดิมอย่างแน่นอน
"พี่เห็นว่าพวกเราขึ้นไปพร้อมกันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้พบสักที ก็เลยคิดว่าจะลองไปเพียงคนเดียว"
"ข้าบอกท่านแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้" เสียงตอบมาจากในห้องนอน "ท่านเองก็เห็นด้วย"
แต่แม่ทัพพยายามชี้แจง "อีกอย่างคือสภาพอากาศช่วงนี้
"ข้าอยู่ที่นี่มาตลอดนะ" น้ำเสียงห้วนๆ แบบนี้ท่าทางจะโกรธมาก
"พี่เพียงเป็นห่วงเจ้า หากต้องขึ้นเขา"
"ข้าเดินทางระหว่างวิหารผู้เฒ่าทั้ง 4 กับหมู่บ้านนี้ในสภาพอากาศเช่นนี้มากี่ครั้งท่านรู้ไหม"
คนที่ยืนอยู่หน้าห้อง ได้แต่เกาท้ายทอยตนเอง
"ก็ได้ๆ พวกเราไปพร้อมกัน"
อาเม่ยเปิดประตูห้องทันที ดวงตาสีแปลกจ้องมอง ริมฝีปากยื่น
หากเป็นยามอื่นคงแกล้งหยิกแก้มใส แต่ยามนี้ได้แต่ทำหน้าจืดกล่าวขออภัย
"ไม่โกรธนะ พี่ยอมแล้ว พรุ่งนี้เช้าพวกเราไปด้วยกัน"
แต่อีกคนยังทำหน้างออยู่
"พวกเราไปเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า"
"ก็..."
"หากรอพรุ่งนี้เช้า ท่านอาจหนีขึ้นเขาไปก่อน" อาเม่ยรู้ทัน "หรือไม่ก็อาจมีฝนตกลงมาอีก ท่านหยิบผ้าขาวบางออกมา"

มือใหญ่วางผ้าขาวบางลงบนปากหม้อดินแล้วใช้เชือกผูกขึงผ้าไว้ จากนั้นอาเม่ยก็ค่อยตักน้ำแกง กรองก้างปลาไว้เหลือเพียงน้ำแกงสีสวย หันไปตักชิ้นผักใส่ในหม้อใบเล็ก ห่อผ้าอย่างเรียบร้อยแล้วจึงเตรียมน้ำดื่มสะอาดสำหรับทั้ง 2 คน
ก่อนที่จะออกเดินทางไม่ลืมแวะบอกต้าซัน
"หากพบท่านผู้เฒ่า พวกเราอาจต้องอยู่ค้างบนเขา"
ต้าซันจะกล่าวคำว่าเดินทางเวลานี้อาจเป็นอันตราย แต่นึกได้ว่า ทั้ง 2 คนต่างก็เป็นผู้ใช้เวทย์ ตนเองเสียอีกที่อาจเป็นอันตรายหากมีโจรเข้ามา

จากเขตนาร้างจึงเข้าสู่พื้นที่เชิงเขาและป่ารก มาจนถึงช่วงทางแคบเลียบหน้าผา จุดนี้เองที่เป็นจุดอันตรายที่ไม่ควรเดินทางหากมีฝนตก
"หากเดินทางมาจากอีกด้านหนึ่งของเขาก็ไม่ต้องผ่านหน้าผานี้ แต่ต้องเสียเวลาเดินอ้อม"
อาเม่ยกล่าวพลางชี้ไปยังเทือกเขาที่ทอดตัวต่อเนื่องกัน
"ป่าที่เจ้ามาพบข้า อยู่อีกทาง"
อาเม่ยพยักหน้ายอมรับว่าถูกต้อง

นั่นเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้แม่ทัพเชมัลเสียโอกาสที่จะได้แสดงเจตนาที่ดี เพราะมัวแต่ลังเลไม่มีความมั่นใจว่า อาเม่ยมีความเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านที่ถูกทำลายหรือไม่
...ซึ่งแม้ในแง่ความรักจะคิดว่า มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ
...แต่ในแง่มุมของความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งต่ออาเม่ย หมู่บ้านนี้ ไปจนถึงเมืองวัน ต้องยอมรับว่านี่เป็นจุดที่ ใครบางคนเจตนาทำให้มันเกิดขึ้น....
 
จากระยะทางจะพบว่าหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ใกล้กับวิหารของเหล่าผู้เฒ่ามากกว่าหมู่บ้านอื่นๆ ที่อยู่บริเวณเดียวกัน แต่จุดที่แม่ทัพพบกับเม่ยครั้งที่ยังเป็นเด็ก อยู่อีกด้านของภูเขา ทั้งเพิงพักที่เคยให้พัก ก็ยังเดินไปอีกทาง
จนมาถึงจุดที่มองเห็นยอดวิหารที่ถูกสลักลงในภูเขาผ่านพ้นจากยอดไม้ แต่อาเม่ยพาไปอีกที่หนึ่ง เป็นที่พักปลูกสร้างด้วยดินผสมที่มีความแข็งแรง ดั่งสร้างด้วยก้อนหินผนึกแน่นทั้งหลัง
อาเม่ยหันมายิ้มให้ "เหตุใดท่านเห็นบ้านของผู้เฒ่าทีไรต้องทำหน้าตาเช่นนี้ทุกครั้ง"
"เปลี่ยนดินให้กลายเป็นหินเช่นนี้ ช่างลึกล้ำยิ่งนัก"

ก่อนที่จะสนทนากันต่อทั้งคู่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันสายหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพบกับผู้มีเวทย์ระดับสูง แต่ทันทีที่รู้สึกถึง ผู้เฒ่าคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
ผู้เฒ่าดินผู้นี้มีหนวดเคราขาวโพลน สวมเสื้อผ้าสีขาวขุ่น และแบกตะกร้าสมุนไพร หากแต่น้ำเสียงยามเมื่อกล่าวคำกลับทุ้มกว้าง ให้ความรู้สึกถึงผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่

"ในที่สุดก็กลับมาถึงบ้านสักที"
ถึงถ้อยคำจะบอกเหน็ดเหนื่อย แต่น้ำเสียงและฝีเท้าของผู้เฒ่าดินกลับไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด
แม่ทัพเชมัลยืนตะลึงมองจนอีกคนก้าวเข้ามาหา ห่างออกไปเพียง 5 ก้าว จึงคุกเข่าลง
"พระปัยกา (ปู่ทวด) หลานเชมัลถวายคำนับ"
อาเม่ยที่กำลังเข้าไปช่วยผู้เฒ่าเก็บตะกร้าสมุนไพรถึงกับหยุดชะงัก
"พระ...ปัยกา"
"อะไร ตกใจอันใด" ผู้เฒ่าดินหันไปเสียงดังกับศิษย์ แล้วหันมาตบไหล่คนที่คุกเข่าให้ลุกตามมา
"ไม่อยู่บ้านนานหลายวัน ฝนก็ตก เข้ามาก่อน" หันมาเห็นศิษย์รักยังยืนงงก็กลับกล่าวเร่ง "มาเร็วๆ มีเรื่องต้องคุยกันมากมายมิใช่รึ"
อาเม่ยหันไปมองหน้าแม่ทัพเชมัลเชิงถาม แต่อีกคนรีบบอกทันที
"พี่ไม่รู้อันใดเลยจริงๆนะ"
นี่คือความจริงยิ่งกว่าความจริงทั้้งหมดที่เคยกล่าวมาในชีวิตแล้ว

เมื่อเข้ามาในบ้าน อาเม่ยรีบคว้าผ้ามาเช็ดเก้าอี้ ในบ้านแล้วเชิญผู้เฒ่านั่งลง จากนั้นก็จะรีบไปทำความสะอาดบ้านให้ แต่ผู้เฒ่าเรียกให้มาคุกเข่านั่งลงตรงหน้า แล้วก้มลงมาประคองใบหน้าให้เงยขึ้น
ดวงตาของผู้สูงวัยจ้องมองดวงตาสีแปลกอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะในลำคอ จากนั้นก็บอกให้อีกคนไปทำความสะอาดบ้านตามที่เจ้าตัวอยากจะทำ แต่ตนเองนั่งลงสนทนากับแม่ทัพเชมัล
"อยากรู้เรื่องไหนก่อนล่ะ"

ที่ผ่านมาสิ่งที่อยากรู้ก็คือเหตุใดจึงไม่รักษาอาเม่ย ทั้งต้องการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มาถึงยามนี้กลับพบว่ามีเรื่องที่อยากรู้มากมายจนไม่แน่ใจว่าควรถามเรื่องใดก่อน
ผู้เฒ่าดินหันไปมองอาเม่ยที่กำลังติดไฟในครัว เพื่อเตรียมอุ่นน้ำแกงและอาหารมื้อเย็น แล้วหันมาหาแม่ทัพเชมัล
"เรื่องในอดีตหลายอย่างปล่อยให้มันผ่านไป เพราะหากพูดขึ้นมาแล้วมันไม่ได้แก้ไขปัญหา มีแต่จะทำให้ท้อแท้ใจ"
บ้านนี้เป็นบ้านที่หลังเล็กยิ่ง ต่อให้อยู่ในห้องนอนก็ยังได้ยินเสียงสนทนา  ยิ่งเป็นผู้เฒ่าดินที่มีเอกลักษณ์เสียงดังฟังชัด ต่อให้ไปยืนอยู่นอกบ้านก็ยังได้ยินอย่างชัดเจนไม่ต่างกัน

"มีคนเล่าเรื่องของ 4 ผู้เฒ่ามากมาย แต่ไม่เคยมีผู้ใดพูดว่าพระองค์คือผู้เฒ่าดิน"

ผู้เฒ่าดินโบกมือ "สิ่งแรกเลยคือ อย่าเรียกข้าว่าพระปัยกานั่น ข้าอยู่ห่างไกลจากตำแหน่งทั้งหลายเหล่านั้น เรียกข้าว่าปู่ทวดเล็กก็แล้วกัน ส่วนคำถามของเจ้า ไม่มีใครรู้เพราะข้าไม่ได้คิดจะบอกใคร แล้วมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานมากแล้ว"

(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2015 20:54:34 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
"All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #999 เมื่อ18-11-2015 06:56:04 »

(ต่อ)

เรื่องราวของผู้เฒ่าดินต้องเล่าย้อนกลับไปในสมัยของพระราชาเอลมัส ที่ทรงปกครองพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมไปถึงบางส่วนของเมืองเหนือ และเมืองบาสก์ในปัจจุบัน ทรงมีพระราชโอรสและธิดาหลายพระองค์ จากพระชายา 3 พระองค์
แต่ในกลุ่มพระราชโอรส มีอยู่ 5 พระองค์ที่มีพลังเวทย์ ทั้งเป็นพลังเวทย์ที่กล้าแข็ง แต่เป็น 4 พระองค์ที่ต่างก็พยายามแย่งชิงตำแหน่งจากองค์รัชทายาทฟามี
ส่วนผู้เฒ่าดินหรือเจ้าชายมูซัดที่เป็นพระโอรสองค์เล็กที่เกิดจากพระชายาในลำดับที่ 3 แม้จะมีความกระหายในความยิ่งใหญ่เช่นกัน แต่การที่พระองค์มีพลังเวทย์ดินที่กล้าแข็ง ทำให้ทรงมองเห็นปลายทางของการต่อสู้ของพี่น้อง จึงฉวยโอกาสที่พระราชาเอลมัสรับสั่งให้ไปตรวจราชการในพื้นที่ห่างไกลทางเหนือ ซึ่งก็คือเมืองเหนือในปัจจุบัน แสร้งทำเป็นป่วยหนักในระหว่างการเดินทางแล้วสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
พระราชาเอลมัสส่งคนออกค้นหาพระโอรสองค์เล็กอยู่นานนับปี เนื่องเพราะยังไม่มีผู้ใดพบพระศพ ประกอบกับเวทย์ของพระองค์เองที่ทำให้รู้ว่าพระราชโอรสยังมีชีวิตอยู่
เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ พระราชโอรสอีก 4 พระองค์ต่อสู้กันกระทั่งเจ้าชายชามาพระโอรสลำดับที่ 4 เพลี่ยงพล้ำเสียชีวิต จากนั้นองค์รัชทายาทฟามี ทรงมีชัยเหนือเจ้าชายฮามิดเจ้าชายลำดับที่ 2 ขณะที่เจ้าชายฮามัลที่อยู่ในลำดับที่ 3 ยอมวางอาวุธ
ระหว่างที่ถูกจองจำ เจ้าชายฮามิดหลบหนีไปทางเหนือได้สำเร็จ
พระราชาฟามีในเวลานั้นจึงเลือกที่จะเจรจากับพระอนุชาฮามัล และแบ่งดินแดนเมืองบาสก์ให้ปกครอง เพื่อหวังให้เจ้าชายฮามิดกลับมามอบตัวและเจรจากัน แต่นอกจากพระองค์จะไม่กลับมาแล้ว พระองค์ยังเริ่มสะสมกำลังเพื่อตั้งตนเป็นอิสระ

"แต่นั่นอาจเพราะพระราชาฟามีไม่อยากถอนรากถอนโคนน้องชายคนรองก็เป็นได้ เพราะเมื่อมองจากเมืองวัน จะเมืองบาสก์หรือเมืองเหนือต่างก็เป็นน้องชายทั้งนั้น"

แต่ความสัมพันธ์กับเมืองบาสก์จะเป็นไปในลักษณะรอมชอมมากกว่าความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ
ส่วนช่วงที่เมืองเหนือเริ่มแบ่งแยกตนเองชัดเจน เกิดขึ้นในสมัยของพระราชาฟาดิลผู้ปกครองเมืองวันองค์ถัดมา
และการกำหนดเขตกันชนระหว่าง 3 เมืองเกิดขึ้นในสมัยของพระราชาจาวาด ผู้เป็นพระราชบิดาของพระราชาฟารัค และ เจ้าชายเชมัล
ยุคของพระราชาจาวาด จึงเป็นยุคของการเรียกระดมเหล่านักเวทย์มากมายของเมืองวัน เพื่อลงเวทย์ป้องกันตลอดแนวชายแดน
ซึ่งในครั้งนั้น เหล่าผู้เฒ่าทั้ง 4 ก็มารวมตัวกันอยู่ที่หมู่บ้านนี้แล้ว แต่มีเพียงผู้เฒ่าลมเพียงคนเดียว ที่ไปเข้าร่วมกับผู้ใช้เวทย์คนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการลงเวทย์กำกับกำแพงเมือง 

"ไม่ใช่แค่ไม่ไว้ใจเพื่อนบ้าน แต่จาวาดยังไม่ไว้ใจน้องชาย ถึงได้ส่งน้องชายไปอยู่เมืองหน้าด่าน นาซิมจึงเติบโตที่นั่น ยังทำให้พ่อของเจ้าอาจต้องกลายเป็นคนไม่มีพี่ไม่มีน้องไปด้วย แต่ฟารัคไว้ใจทั้งเจ้าและนาซิม แถมผูกมิตรกับเมืองบาสก์ เขาจึงเป็นคนที่มีพี่น้องอยู่เสมอ แต่ก็นั่นแหละ ข้าโทษว่า มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่จาวาดต้องพบเจอมาในรุ่นพ่อของเขา เขาก็เลยไม่ไว้ใจใคร" 

อย่างไรก็ตามแม้เจ้าชายมูซัดที่กลายเป็นผู้เฒ่าดินจะมีเจตนาหันหลังให้กับความวุ่นวายทางการเมือง แต่เมื่อพระราชาเอลมัสสิ้นพระชนม์และองค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์ต่อ ผู้เฒ่าดินก็จะเดินทางไปในนามของเจ้าชายมูซัด เพื่อแสดงความยินดี เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่พระราชาฟาดิล พระราชาจาวาด และพระราชาฟารัคขึ้นครองราชย์
นั่นทำให้แม่ทัพเชมัลเคยพบกับพระปัยกา แต่ไม่เคยรู้ว่านี่คือผู้เฒ่าดินที่ทุกคนเอ่ยถึง

เมื่อคำนวนดูแล้วผู้เฒ่าดินที่มีชีวิตมาตั้งแต่ยุคพระราชาเอลมัส ต่อเนื่องมาถึงพระราชาฟารัคในปัจจุบัน อาจมีอายุร่วมร้อยปี แต่ยังมีความจำดีเยี่ยมและไม่ได้แตกต่างไปจากตอนที่แม่ทัพเชมัลพบเจอครั้งสุดท้าย ในวันพระราชพิธีพระราชาจาวาด สละราชบัลลังก์ให้แก่พระราชาฟารัคแม้แต่น้อย

"ตั้งแต่ออกจากวัง ท่านปู่ทวดเล็กก็อยู่ที่นี่มาตลอดหรือ"
"ไม่หรอก ข้าไปนั่นไปนี่ กำแพงเมืองกั้นข้าไม่ได้หรอก แผ่นดินนี้มีเรื่องให้สมควรเรียนรู้มากมาย"
ผู้เฒ่าดินลูบเครายาวสีเทา
"ต้าซันพี่ชายของอาเม่ยไม่มีพลังจึงไม่จำเป็นต้องฝึกเวทย์ อาเม่ยมีพลังทั้ง 4 ก็ต้องฝึกเวทย์ทั้ง 4 เพื่อควบคุมพลังนั้น ส่วนเจ้ามีมากกว่า 4 นั้นก็ย่อมต้องฝึกมากกว่า นั่นเป็นเรื่องพื้นฐาน หากไปฝึกเวทย์เพื่อควบคุมพลังที่ตนไม่มีมันจึงเป็นดั่งเวทย์ดำ ที่เลวร้ายลงไปอีกในระดับที่ชาวบ้านใช้ เรียกคุณไสย ยาสั่ง"
ผู้เฒ่าดินมีสีหน้าดูหมิ่นเมื่อกล่าวคำในตอนท้าย
"เป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าอย่างยิ่ง"

"เรารู้ว่าเวทย์จะผันแปรไปตามพลังของผู้นั้น แล้วเจ้ารู้ไหมว่า พระราชาแต่ละพระองค์ต่างกันอย่างไร แน่นอนละ ว่าทุกพระองค์มีพลังมีเวทย์ที่กล้าแข็ง แต่ที่มากกว่านั้นคืออำนาจแห่งผู้ปกครอง ซึ่งพระราชาเอลมัสพ่อของข้ามีอำนาจแห่งผู้ปกครองนั้น แต่ฟามีพี่ชายคนโตของข้าไม่มี เขาถึงต้องแย่งชิงกับน้องๆ ฟาดิลปู่ของเจ้าไม่มีอำนาจแห่งผู้ปกครอง พอเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่งก็เจ็บป่วยจนต้องสละบัลลังก์ มาถึงจาวาดพ่อของเจ้าก็ไม่มีเช่นกัน แต่เขามีฟารัคพี่ชายของเจ้าที่ช่วยสนับสนุนให้พ่อของเจ้าอยู่ในบัลลังก์ได้นาน"
ผู้เฒ่ากล่าวอย่างหนักแน่น "พระราชาเอลมัส กับพระราชาฟารัคถึงได้มั่นใจว่าจะอยู่ในตำแหน่งได้โดยไม่มีผู้ใดต่อกร"
"อำนาจนี้มันหายไป 3 ชั่วคน แล้วมันกลับมาที่ฟารัค แน่นอนว่าพระราชาเมืองบาสก์รู้ว่า ฟารัคมีอำนาจนี้ เพราะทั้ง 2 พระองค์เป็นมิตรที่ดีต่อกัน ได้พูดคุยกัน แต่พระราชาเมืองเหนือแม้จะรู้มาจากข่าวที่มีผู้นำไปเล่าให้ฟังแต่ก็ไม่เชื่อ เพราะเขาเชื่อมั่นในเวทย์ดำมากกว่า"
"อำนาจของฟารัคกล้าแข็ง ไม่ต่างจากพ่อของข้า แต่พ่อของข้าไม่รู้จักผูกมิตรอย่างที่ฟารัคทำ เจ้าพวกองครักษ์ฝีมือธรรมดา พอสมรสได้เลื่อนตำแหน่งเข้าไปรับใช้ใกล้ชิด ยิ่งนานยิ่งมีพลังและเวทย์กล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ นั่นเพราะอำนาจของฟารัค เขาถึงต้องมีเจ้าราชองครักษ์บาดานั้นอยู่ข้างๆ เพื่อสร้างสมดุล เมื่อวันก่อนเขาส่งเจ้าหมอยาลาทีฟมาหาข้า เจ้านั่นก็มาทางพลังอ่อนโยนเหมือนกัน เดาว่าที่ผ่านมา ฟารัคต้องไม่ให้เจ้านี่อยู่ห่างตนเองเช่นกัน"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้ายอมรับความคิดของผู้เฒ่าดิน เพราะราชองครักษ์บาดาอยู่ใกล้ชิดพระราชาโดยตลอด ส่วนราชองครักษ์ลาทีฟ ก็อยู่แต่ในเขตพระราชวังเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่คนอื่นจะถูกแบ่งงานแตกต่างกันออกไป
ดังนั้น เวลาที่ทั้งหมดมาอยู่พร้อมหน้ากัน ทุกคนจึงรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก

"ว่าที่จริง ถ้าฟารัคได้สายอ่อนโยนมาอยู่ใกล้ชิดอีกสักคนก็น่าจะดี"
แม่ทัพเชมัลนึกถึงใครคนหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้ากับอาเม่ย ทำให้ผู้เฒ่าดินถามขึ้น
"มีแล้วหรือ"
"เรื่องนี้ เหลนไม่ทราบ เพราะตอนที่มา เหลน..."
"ไม่ได้สนใจอะไรเลย นอกจากคนที่นี่ละสิ" ผู้เฒ่าโคลงศีรษะช้าๆ 

อาเม่ยหันไปลอบอมยิ้มกับอาหารเย็นที่กำลังทำอยู่ เมื่อเห็นว่าแม่ทัพเชมัลพยักหน้ายอมรับกับพระปัยกาอย่างเก้อเขิน

"แต่ถึงฟารัคจะไม่มีพลังด้านนี้เข้ามาเสริมก็ไม่เป็นไร ใช้วิธีโยกย้ายสลับสับเปลี่ยนอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ดี"
"ท่านปู่ทวดเล็กรู้เรื่องในวังหลวงมากมาย" ทั้งแม่ทัพเชมัล และอาเม่ยต่างก็รู้สึกประหลาดใจ
ผู้เฒ่าดินหัวเราะอารมณ์ดี "มันอดไม่ได้น่ะ"


ผู้เฒ่าดินกับแม่ทัพเชมัลมีเรื่องพูดคุยกันมากมาย ได้เปลี่ยนเรื่องคุยก็ต่อเมื่ออาเม่ยยกซุปปลามาให้ผู้เฒ่า
"ฝีมือดีจริงๆ" ผู้เฒ่าเอ่ยชม แล้วบอกแม่ทัพ "เจ้าคนนี้ชอบผลไม้มาก"
เรื่องที่อาเม่ยชอบผลไม้นั้น เป็นสิ่งที่แม่ทัพเชมัลรู้มานานแล้ว
"คราก่อนๆ ที่เจ้ามาแล้วเจอกับผู้เฒ่าลมตอนนั้น ข้าไม่อยู่ มิเช่นนั้นก็จะบอกเคล็ดลับเอาชนะตาเฒ่านั่น ไม่ต้องโดนซัดจนต้องคลานกลับไปหรอก"
เมื่อเล่าถึงตอนนี้ ผู้เฒ่าดินก็ถอนหายใจ "สายลม พัดพาความร่มเย็น สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องเหมาะสม แต่กลับเป็นสิ่งแรกที่ถูกทำลาย"

ผู้เฒ่าดินยังมองเห็นอาเม่ยเป็นเด็กน้อยอยู่เสมอ ค่ำลงก็บอกให้อาเม่ยนอนหนุนตักแม่ทัพเชมัล ฟังเรื่องราวในอดีต จนกระทั่งเห็นว่า อาเม่ยหลับไปแล้วผู้เฒ่าดินจึงลดเสียงลงเมื่อกล่าวคำ
"เรื่องที่เจ้าคนนี้มันโดนเวทย์ดำน่ะ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับเจ้าโดยตรง"

แม่ทัพเชมัลก้มหน้ายอมรับคำตำหนินี้โดยดี

"เจ้ารู้ดีว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เจ้ารู้ตัวดีว่ามีแต่เจ้าเพียงคนเดียวที่รักษาเจ้าคนนี้ได้ ไม่ใช่ข้า ไม่ใช่พระราชาฟารัค เมื่อเวทย์ดำเข้าครอบคลุม เจ้าคนนี้จะกลายเป็นอะไรได้บ้าง เจ้าก็รู้เห็นกับตาตัวเองแล้วนี่นะ ก็ขอให้ดูแลกันไป"
"เฮยอั้นพบกับผู้เฒ่าไฟที่เมืองเหนือหรือขอรับ"
"เป็นเช่นนั้น"

นั่นอาจไม่ใช่เรื่องที่มีการเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้า แต่เพราะเวทย์ดำคือการทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ โดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายใครบ้าง เด็กน้อยอย่างอาเม่ยจึงกลายเป็นเครื่องมือทำลายที่ผู้เฒ่าไฟเพาะเลี้ยงขึ้นมากับมือ
"ข้าเองก็ผิดมาก รู้ทั้งรู้ว่าผู้เฒ่าไฟกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็กลับสนใจแต่เรื่องของตนเอง หันหน้าเข้าหาตำรา อ้างหลักวิชาการว่าทุกอย่างเกิดจากดิน ย่อมกลับสู่ดิน จนกระทั่งวันหนึ่งขัดแย้งกันหนัก พวกเราหันมาสู้กันเอง และสายลมจากไปก่อน จากนั้นจึงเป็นสายน้ำ แต่ข้ากับไฟเอาชนะกันไม่ได้"

เรื่องราวหลังจากนี้ อาเม่ยเล่าให้แม่ทัพเชมัลฟังแล้ว ผู้เฒ่าดินจึงกล่าวข้ามไป

"หลังจากที่ไฟทำลายหมู่บ้านแล้ว อาเม่ยก็เดินทางเข้าเมืองหลวง" ท่ามกลางแสงไฟจากน้ำมันตะเกียง ผู้เฒ่าดินกล่าวขอร้องแม่ทัพเชมัล "อย่าได้ถือโทษโกรธเจ้าตัวเล็ก ทุกอย่างที่มันทำไป เป็นเพราะผู้เฒ่าไฟ และในฐานะที่ข้าเป็นผู้ละเลยการทำหน้าที่ ข้าจะขอแก้ไขเรื่องนี้เอง"
"ท่านปู่ทวดเล็ก เหลนไม่เคยโกรธเสี่ยวเม่ยด้วยเรื่องนี้ แม้จะไม่ได้รู้เรื่องราวอย่างละเอียด แต่ก็เชื่อว่าเสี่ยวเม่ยไม่ใช่คนที่จะทำลายหมู่บ้านนี้ หรือฆ่าพ่อของเขาเอง"
"ไม่ๆ" ผู้เฒ่ารีบปฏิเสธ "ตอนนั้นเม่ยมารับใช้ข้า เขานอนอยู่ในห้อง แล้วข้ารู้สึกถึงแรงสะเทือนของผืนดิน และไอร้อนจากต้นไม้ใบหญ้า เมื่อพิจารณาจากพลังจึงรู้ว่ามาจากหมู่บ้านในหุบเขา ถึงได้ไปปลุกเม่ย แต่เมื่อลงไปหมู่บ้านก็ถูกไฟเวทย์ล้อมรอบแล้ว" ผู้เฒ่าใช้นิ้วมือเคาะที่หน้าผากตนเอง "เม่ยเห็นพ่อที่ตรงท้ายหมู่บ้าน ร้องบอกให้ลูกชายหนีไป เจ้าตัวเล็กนั่นขวัญเสียมาก กลายเป็นเปิดช่องว่างในจิตใจให้ผู้เฒ่าไฟ ฝังความเชื่อใหม่"
"บอกว่า พ่อสั่งให้ไปที่ค่ายทหาร หากอยู่ที่นั่นจะปลอดภัย" ผู้เป็นเหลนนึกเรื่องราวส่วนนี้ได้ในทันที
"ตอนที่กล่าวคำเหล่านี้ จับเท็จไม่ได้ใช่ไหม"
"ไม่ได้ขอรับ ตลอดเวลาที่อยู่ที่ค่ายทหาร แม้จะมีช่องว่างเกี่ยวกับอดีต แต่เสี่ยวเม่ยไม่เคยกล่าวคำเท็จ และไม่มีวี่แววของเวทย์ดำแม้แต่น้อย"
ผู้เฒ่าดินถอนหายใจยาว
"ตอนเล็กๆ ที่พ่อเขาพามาหา เราต่างก็จับได้ว่า แม้จะมีพลังทั้ง 4 อย่างที่หาได้ยาก และต้องฝึกให้ครองเวทย์ทั้ง 4 แต่เด็กคนนี้โดดเด่นที่สายลม" มือใหญ่โบกไปมา "ก็สายลมน่ะ หวั่นไหว แปรปรวน เอาแน่เอานอนไม่ได้ ผู้เฒ่าลมก็แบบนั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย มีเจตนาดีแต่ข้อเสียคือตัวเองรู้อยู่คนเดียว แต่คนอื่นใครจะไปรู้ด้วย วันนี้บอกว่าดีแล้ว วันถัดมาบอกว่าไม่ดีเสียนี่ อย่าว่าแต่เด็กเลย พวกเราอีก 3 คนยังไม่รู้ใจ"
"ที่อ่อนที่สุดคือดิน เด็กคนนี้อ่านจิตใครไม่ได้เลย เพราะลมที่มันอยู่เหนือกว่าไง เขาจึงไม่มีสมาธิมากพอที่จะอ่านจิตใคร แต่บังคับควบคุมดินได้ แต่ก็....ไม่มากนัก คล้ายจะเป็นเรื่องเล่นสนุกของเขามากกว่าจะเอาจริง อาจเพราะเจ้าตัวไม่ชอบด้วย ข้าก็ไม่บังคับ ได้แต่สอนหนังสือไปตามเรื่อง"
"น้ำนี่ก็พอไหว แต่เจ้าคนนี้ไม่ใช่น้ำเพื่อการต่อสู้ ไม่ชอบเลย หลักๆ แล้วจึงตกเป็นหน้าที่ของผู้เฒ่าไฟ เพราะเห็นพ้องกันว่า ไฟใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ได้ทั้งเวทย์ทั้งเพลงดาบจากไฟ"
แม่ทัพเชมัลก้มลงมองใบหน้าคนที่นอนหลับอยู่ "เสี่ยวเม่ยเคยบอกว่า เขาใช้เวทย์ทั้ง 4 ได้เพียงเล็กน้อย"
ผู้เฒ่าดินช่วยแก้ไข "มันไม่สนใจต่างหาก ผู้เฒ่าอย่างข้าก็ไม่ชอบบังคับ เพราะไม่อยากมีเรื่องกับผู้เฒ่าไฟ...ผลสุดท้ายเลยเป็นเช่นนี้"


..จบตอนที่ 34..

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2017 07:49:27 โดย MyTeaMeJive »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

"All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
« ตอบ #999 เมื่อ: 18-11-2015 06:56:04 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1000 เมื่อ18-11-2015 07:12:29 »

แปะไว้ก่อนเดี๋ยวมา ศึกสายเลือดสินะ พี่น้องฆ่าแกงกันเองมีถมไป..ถ้าจบแล้วเฉลยว่าเป็นฝีมือของ พระราชานี่ เอาหัวโม่งกำแพงเลยนะ 555// ท่านเชบทจะหวานก็ ไม่เกรงใจ. คนอ่านเขิลแทน  มีความรู้สึกว่า.  เก้าจะไร้คู่  อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2015 11:18:35 โดย fangkao »

ออฟไลน์ NoknoiIndy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1001 เมื่อ18-11-2015 07:24:05 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ @PurPle SuN@

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1002 เมื่อ18-11-2015 07:46:05 »

จองที่ไว้ แล้วขอย้อนอ่านอีกนิด จะมาคอมเม้นท์นะ

ออฟไลน์ maimai2015

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1003 เมื่อ18-11-2015 07:52:01 »

เย็นนี้เจอกัน แปะไว้ก่อน
 :L1:

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1004 เมื่อ18-11-2015 08:05:32 »

สรุปว่าที่พระราชาฟารัคชอบเจ้ากี้เจ้าการกับคนโน้น คนนี้ สาเหตุคือเพื่อจัดสมดุลย์ให้ "อำนาจของผู้ปกครอง" ที่ตัวเองมีอยู่สินะ..  เก้าไปอยู่ใกล้ชิดพระราชาแล้ว อีกหน่อยเก้าจะเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่าน๊าาา ชักเป็นห่วง  :hao4:

ขอบคุณที่มาต่อให้ค่ะ...ข้อสงสัยต่างๆเริ่มคลี่คลายทีละเล็กทีละน้อยแล้ว ^^






ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1005 เมื่อ18-11-2015 09:41:22 »

มีความรู้สึกว่าเรื่องต่างๆค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดี
ที่สำคัญตอนนี้หวานมากกกกก อาเม่ยน่ารักมากๆๆๆๆๆๆ งุ้งๆงิ้งๆ น่ารักๆๆๆๆๆ
พี่เชก็ปากหวาน ชอบที่พี่เชบอกรักบ่อยๆ เพราะบางครั้งถึงแม้จะรู้ว่ารัก แต่การได้ยินจากปากมันรู้สึกดีกว่าเป็นไหนๆ

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1006 เมื่อ18-11-2015 09:50:28 »

 :pig4: :pig4:
ความกระจ่างกำลังคืบคลานเข้ามาซินะ..เม่ยยังน่ารักเหมือนเดิม :mew1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1007 เมื่อ18-11-2015 10:25:16 »

ไปๆมาๆ ก็พี่ๆน้องๆกันไปหมด

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1008 เมื่อ18-11-2015 10:48:56 »

เรื่องราวค่อยๆเปิดเผยออกมาแล้ว

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1009 เมื่อ18-11-2015 11:10:49 »

ถ้าจะบอกว่าท่านฮามิดคือผู้เฒ่าไฟคนนั้น โหววว งั้นท่านผู้เฒ่ามูซัดต้องรู้ดีที่สุดว่าจุดอ่อนและจุดแข็งคืออะไร ถูกต้องล่ะ แต่ว่าแล้วจะทำยังไงล่ะก็ในเมื่อผู้เฒ่าดินบอกว่าดินกับไฟเอาชนะกันไม่ได้ คงไม่ใช่สละตัวเองไปพร้อมกันนะ
แสดงว่าช่วงที่เหล่าผู้เฒ่าทั้ง 4 มารวมตัวกันอยู่ในตอนที่ระดมกำลังของเหล่าผู้มีเวทย์ มันน่าจะเป็นจุดที่โชคชะตาพลิกเปลี่ยนที่ดูเหมือนโชคจะมาเข้าทางด้านมืด และเพราะเป็นช่วงอาเม่ยเข้ามาพอดีด้วย  :katai1:


นี่เอาจริงๆถ้าเราเป็นพระราชาเอลมัสก็ต้องเศร้าใจนะที่ต้องมาเห็นลูกๆตัวเองมาแย่งชิงตำแหน่งกันตั้งแต่ยังไม่ตาย แต่ว่านะเมื่อก่อนการหลงลืมว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ จึงทำให้มองข้ามอนาคตไป


ตอนนี้ท่านเชกำลังย้อนรอยอดีตในความทรงจำไปกับอาเม่ยซินะ  :mew1:

ส่วนท่านฟารัค......ด้วยหลายๆอย่างของพระราชาผู้นี้ เราว่าน่าจะเป็นผู้ที่จบปัญหาทุกอย่างได้แน่นอนเพราะมีครบทุกอย่างทั้งเวทย์ทั้งอำนาจผู้ปกครอง

>>>> สุดท้ายอาเก้าคงไม่ใช่อยู่อย่างมีความสุขแบบโดดเดี่ยว แต่ก็เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจและมองคนอื่นที่อยู่แบบสงบสุขในบั้นปลาย (แอบเอาคาคาชิมาเปรียบ)  :mew2:

เรื่องกำลังเข้มข้น ตอนต่อไปคือฉากการต่อสู้จะมาถึงแล้วซินะ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
« ตอบ #1009 เมื่อ: 18-11-2015 11:10:49 »





ออฟไลน์ kanatthanit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1010 เมื่อ18-11-2015 12:32:52 »

มาบวกไว้ก่อน เดี๋ยว บ่ายแก่ ๆ มาอ่านจ๊า  :bye2:

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1011 เมื่อ18-11-2015 15:29:40 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ท่านผู้เฒ่าออกมาตอนนี้ เรื่องราวกระจ่างไปหลายเรื่อง
แอบเคยไม่พอใจพระราชาฟารัค ที่คอยจัดการทุกเรื่อง
อาเม่ยเริ่มยิ้มหวานมีความสุขแล้ว  รอคอยให้อาเก้ามีความสุขเหมือนกันนะ  :L2:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1012 เมื่อ18-11-2015 16:02:00 »

ชัดเจนขึ้นเลื่อย ๆ คงเหลือเพียงว่าใครกันผู้ครองเมืองเหนือและมีเวทย์ดำที่จะต่อกรกับพี่เชเรา
แต่ "ส่วนเจ้ามีมากกว่า 4" หมายความว่าอะไรอ่ะมีมากกว่า 4 เราข้ามตรงไหนไป   :katai1:

 :pig4: ค่ะ

ออฟไลน์ ปีศาจน้อยสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1013 เมื่อ18-11-2015 19:24:41 »

มาแล้วววว 
ขอไปอ่านก่อนค่อยมาเมนท์   :กอด1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1014 เมื่อ18-11-2015 19:38:59 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1015 เมื่อ18-11-2015 19:48:46 »

เริ่มรู้ที่มาที่ไปมากขึ้น
เนื้อหาล้ำมากกกก
มีอะไรค่อยๆหลุดมาให้เราต้องนึกย้อนภาพรันตามตลอด
แต่ฟินกับความหวานของคู่นี้นำทุกความรู้สึกค่ะ  :-[

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1016 เมื่อ18-11-2015 20:32:42 »

แล้วถ้าอาเหม่ยจะฝึกเวททั้ง4

ให้แข็งแกร่งได้หรือไม่

ถ้าสนใจจริงๆคงได้ละนะ

ท่านแม่ทัพตอนนี้เอาใจคนอ่านไปเลย

แบบว่าหนักแน่นและรักอาเหม่ยมากๆ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1017 เมื่อ18-11-2015 21:53:11 »

รายละเอียดเบื้องหลังความขัดแย้งได้เผยออกมาแล้ว ที่แท้ก็เป็นศึกสายเลือด แม้จะเป็นหลายรุ่นต่อมา แต่ก็ยังนับว่าทั้งสามเมืองนั้นเกี่ยวดองกัน พระราชาฟารัคที่ดึงเอาเก้าซึ่งมีพลังสายอ่อนโยนเข้าไปอยู่ด้วยได้อย่างแยบยลก็สัมฤทธิ์ผลในแง่ของการสร้างสมดุลให้แก่พลังเวทย์ในราชสำนัก และยิ่งทำให้รัชกาลของพระองค์กล้าแข็งขึ้นอีกด้วย นับว่าเป็นพระราชาที่เต็มไปด้วยเพทุบายคนหนึ่ง คราวนี้ก็ต้องมาดูว่า เชมัลที่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้แล้ว จะทำอย่างไรกับศึกเมืองเหนือที่คาราคาซัง

อย่างไรก็ตาม, ในท่ามกลางเหตุการวุ่นวายและตรึงเครียดนี้ ก็นับว่าเป็นสิ่งดีที่เชมัลและอาเม่ยได้ตุนาหงันกันเป็นที่เรียบร้อย หวังว่ากลิ่นน้ำมันกุหลาบจะทำให้อาเม่ยได้คลายจากเวทย์ดำอย่างหมดจดเสียที จะได้รักกันมากๆ กว่าเดิม และหวานกันมากๆ กว่าเดิม

ส่วนอาเก้านั้น ดิฉันเห็นว่า การไม่มีคู่อาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าอย่างอื่น เพราะดูท่าเก้าจะเป็นคนอาภัพเรื่องรัก จะคู่หญิงก็มีเรื่องมาขวาง จะคู่ชายก็ต้องคลาดแคล้ว ซ้ำยังถูกทำร้ายด้วยผลจากเวทย์ดำอีก ถ้าสุดท้ายแล้วได้ตกล่องปล่องชิ้นกับพระราชาฟารัคก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่

แอบชอบตรงข้อมูลที่ว่า หากมีเวทย์อันใดก็ควรฝึกเวทย์อันนั้นเพื่อควบคุมพลัง หากฝึกเวทย์อื่นก็จะกลายเป็นเวทย์ดำหรือคุณไสย ชอบใจตรงนี้ค่ะ มันดูมีเหตุมีผลดี นี่คงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกนักเวทย์ทะเยอทะยานจึงใช้เวทย์ดำ เพราะบางทีไปฝึกเวทย์ที่ตนเองไม่มีในตัว เมืองเหนือเลยกลายเป็นรังของเวทย์ดำไปซะงั้น

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ สำหรับนิยายน่ารักๆ และสนุกสุดๆ สองตอน รอคอยตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1018 เมื่อ18-11-2015 22:56:30 »

รู้สึกถึงการปูเรื่องก่อนจะเจ้มจ้นอีกรอบ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
«ตอบ #1019 เมื่อ19-11-2015 09:17:48 »

มันเป็นศึกสายเลือดนี่เอง  :เฮ้อ: มีความรู้สึกว่าอาเก้าจะไม่ได้กับแม่ทัพนาซิมแน่ๆเลย  :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด