ตอนที่ 58
"ท่านคาร์บิลัส!!!"
คอร์สที่กำลังกวาดถูห้องคาร์บิลัสสะดุ้งจนตัวลอย หูตั้งชันตื่นตระหนก "ทำไมครั้งนี้ท่านกลับมาไวจัง ปกติท่านไปสองสามวันไม่ใช่เหรอ?!"
"กลับมาไวๆ ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ" คาร์บิลัสหัวเราะหึๆ อารมณ์ดี สาวเท้าตรงดิ่งไปที่เตียงซึ่งคอร์สก็รีบกระโดดหลบเพราะตนเองนั้นยืนขวางทางอยู่
ร่างของปีศาจอีกาถูกวางลงบนเตียงอย่างบรรจง แม้แต่ว่าเจ้าตัวจะเข้าสู่สถานะหลับตายแล้วก็ตาม ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำจากเหล้าฤทธิ์แรงต่างจากคาร์บิลัสที่ยังคงปกติ
"ท่านคาร์บิลัส ท่านมอมเหล้าท่านฟาร์คัสเหรอ" ปีศาจกระต่ายย้ายร่างย้วยๆ ของตัวเองมาใกล้เตียง ชะเง้อฟาร์คัสอย่างสนอกสนใจ
"ข้าแวะไปบาร์รัสน่ะ คิดถึงที่นั้นนิดหน่อย" คาร์บิลัสพูดยิ้มๆ ขณะที่มองฟาร์คัส ร้านเหล้านั่นชอบไปตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่แล้วก็ไปแวะเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนมาไล่จีบฟาร์คัสเนี่ยแหละถึงไม่ค่อยได้ไปเหมือนเดิม
คอร์สพยักหน้าหงึกๆ "ข้าขอกวาดต่ออีกแปปนึงนะขอรับ ใกล้จะเสร็จแล้ว" พยายามใช้แขนสั้นๆ ควงไม้กวาดยิกๆ ให้ไวขึ้น
ราชาปีศาจขมวดคิ้วมุ่น "ข้าว่าเจ้าก็เรียนเวทย์มนตร์มานะ จะมากวาดให้เสียเวลาทำไม" ดีดนิ้วดังเป๊าะฉับพลันฝุ่นห้องทั้งห้องของถูกลมห่าใหญ่พัดออกไปทางหน้าต่างทันที
"ท่านก็รู้ว่าข้าใช้เวทย์ได้ห่วยแตกมาก" คอร์สหัวเราะแห้งๆ ไอ้ใช้ก็ใช้ได้อยู่หรอก แต่มันจะได้ผลตามที่คิดรึเปล่านั่นก็อีกเรื่อง
แก๊กๆ
คาร์บิลัสมองคอร์สเบื่อๆ ก่อนจะหันไปมองกระจกที่มีเสียงเหมือนโดนอะไรขูด
ฮื่อออ
"โทษที ข้าลืมไปเลย" รีบเดินไปเปิดกระจกให้หัวมังกรที่มีเพียงกระดูกเข้ามาคลอเคลียตัวเอง มือหนาลูบมันเบาๆ อย่างเอ็นดู "ขอบใจเจ้ามาก"
มังกรกระดูกคำรามฮื่อๆ เหมือนจะอ้อน มันถูหัวอีกสองสามครั้งกับอกแกร่งของนายมัน ก่อนที่จะหันไปมองปีศาจที่แอบลอบมองมันและคำรามดังลั่นจนอากาศสะเทือน
เหล่าปีศาจที่ลอบมองด้วยใจหวั่นๆ รีบพากันหลบเข้าบ้านทันที ไอ้มังกรกระดูกนี่มาแต่ละครั้งก็ไม่ชวนให้อภิรมย์ใจสักรอบ!
"ข้า.. ขออวยพรให้ท่านมีความสุขเช่นกัน" เสียงแหบห้าวดังลั่นในอากาศ เป็นเสียงของมังกรกระดูกที่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันสามารถพูดได้
ซึ่งก็ยกเว้นคาร์บิลัสอีกเช่นกัน
"ขอบคุณ" คาร์บิลัสยิ้มนุ่ม ทำให้ใบหน้าคมนั่นดูหล่อเหลามากขึ้นอยากเห็นได้ชัด
ถึงแม้มังกรกระดูกจะไม่มีริมฝีปากแต่คาร์บิลัสก็คล้ายกับเห็นรอยยิ้มจางๆ ที่มันส่งมาให้ก่อนที่มันจะพยักหน้าเบาๆ และหายไปในอากาศ
"ท่านคาร์บิลัส ท่านจะให้ข้าบอกชาคอสไหม ว่าท่านกลับมาแล้ว" คอร์สตอนนี้ยืนอยู่หน้าประตูเตรียมจะโกยออกจากห้องเพราะตอนนี้หมดหน้าที่ของตัวเองแล้ว (ตั้งใจจะมาทำความสะอาดห้องให้)
"ไม่ต้อง เจ้ารู้ ชาคอสก็รู้" คาร์บิลัสไหวไหล่เดินกลับไปล้มตัวนอนบนเตียงและดึงฟาร์คัสเข้ามากอดแน่นโดยไม่สนว่ามีใครอยู่ในห้องอีกคนนึง "วันนี้ข้ากลับมาแล้วก็จริง แต่ก็ยังถือว่าเป็นวันหยุดของข้าอยู่ดี"
ไม่แน่ใจเพราะบรรยากาศอุ่นๆ หรืออะไรที่ทำให้คอร์สรู้สึกว่าราชาปีศาจวันนี้ดูน่าเอ็นดูแปลกๆ เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ หวงไม่ยอมให้ใครเล่น
ร่างที่ควรทรงอำนาจพออยู่กับชายาก็ไม่ต่างกับปีศาจทั่วไป ไม่สิ ท่านคาร์บิลัสก็เป็นปีศาจอยู่แล้วนี่?
คอร์สส่ายหน้าเบาๆ กับความคิดแปลกๆ ของตัวเอง "งั้นข้าขอตัวนะขอรับท่านคาร์บิลัส"
ซึ่งก็ได้คำตอบเป็นคำห้วนๆ ว่าเออ ไปสักที
ปีศาจกระต่ายตัวอ้วนหูตกหงอยๆ ออกจากห้องแต่พอออกจากห้องก็ต้องยืดหลังตรงทำตัวเคร่งขรึม เมื่อมีปีศาจที่มาฝึกงานในปราสาทเดินไวๆ เข้ามาตัวเอง
"ท่านคอร์สขอรับ! มีจดหมายถึงท่านคาร์บิลัสด้วยขอรับ" ปีศาจตนนั้นพูดหน้าตื่นๆ ยื่นลังที่ภายในเต็มไปด้วยกระดาษที่ถูกเขียนจำนวนมหาศาล
คอร์สก้มลงดมฟุดฟิดก็พ่นลมหายใจเบื่อๆ "ชมรมท่านคาร์บิลัสจงเจริญ?"
"ไม่ทราบขอรับ เมื่อกี้ข้ากำลังจะกลับบ้าน อยู่ๆ ก็โดนเด็กที่ไหนไม่รู้มายัดลังนี่ใส่มือ"
มือขาวๆ ที่เต็มไปด้วยขนนุ่มแปะที่ขมับเซ็งๆ "เมื่อไหร่ชมรมนี่มันจะยุบๆ ไปสักที ท่านคาร์บิลัสไม่ได้ว่างมาอ่านจดหมายไร้สาระของพวกเจ้าหรอกนะ" คอร์สบ่นเสียงดังไม่คิดจะปิดบัง
"แล้วท่านจะเอายังไงกับนี่ล่ะขอรับ ให้ข้าเอาไปทิ้งไหม?"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวเจ้าเอาไปวางไว้ในห้องทำงานท่านคาร์บิลัสนะ เดี๋ยวท่านเบื่อๆ ว่างๆ ก็คงมานั่งอ่านเอง"
"ขอรับ เฮ้อ ข้าว่าจะหลับให้เต็มอิ่มซะหน่อย ทำไมต้องมาเจอเด็กพวกนี้เนี่ย" ปีศาจตนนั้นรับคำบ่นกระปอดกระแปดระหว่างที่เดินไปยังห้องทำงานของคาร์บิลัส
หูกระต่ายที่ตั้งชันทำให้คอร์สได้ยินประโยคที่ว่านั้นพอดีแม้ว่าจะเดินไปไกลแล้วก็ตาม
"แค่นี้ยังน้อย" คอร์สพูดด้วยสีหน้าแหยงๆ ขณะที่กำลังเคี้ยวแครอทที่พกติดตัวมาด้วย "ตอนที่เด็กพวกนั้นรู้ว่าข้าเป็นคนสนิท ข้าเกือบจะโดนลักพาตัวไปด้วยซ้ำ"
วันนี้เป็นวันหยุด
ทำให้นักเรียนปีศาจห้องพิเศษสามารถนั่งๆ นอนๆ ในหอพักได้ แต่ภายในห้องตอนนี้กลับเหลือสมาชิกอยู่แค่สี่คน ส่วนที่เหลือแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง โนแลนพาลาสไปซื้อโบว์สีขาวที่เพิ่งถูกดัฟฟ์เผาไป เอิร์ลไปเข้าชมรมผีผีผีทั้งวัน ฟอร์ดกับโมลอคโบถส์
สาเหตุที่ทั้งห้ายังคงนอนรออยู่ในห้องเพราะมีนัดว่าจะพาดัฟฟ์กับนาซัสไปกินร้านขาหมูน้ำแดงร้านดังที่อยู่ข้างโรงเรียนปีศาจ
"เจ้าว่าดัฟฟ์หายไปถึงไหน? ข้าว่าหนักสุดคงจะเป็นปราสาทท่านคาร์บิลัส" คาอิสที่นอนบนเตียงพูดเซ็งๆ ไม่ต่างจากคนอื่นที่สีหน้าเซ็งจัดเหมือนกัน
"ไม่รู้สิ ข้าว่าดีไม่ดีไปถึงเมืองมนุษย์แล้วมั้ง หายไปนานขนาดนี้" ออสการ์ปีศาจพรายน้ำหาวหวอดรู้สึกเบื่อจนอดรู้สึกไม่ได้ว่าตัวเองพลาดที่ไปรับปากว่าจะไปกับดัฟฟ์ด้วย
กริสเซลหน้างอ "เจ้าอย่ามาว่าดัฟฟ์นะ! ดัฟฟ์เพิ่งเคยใช้เวทย์จริงๆ จังๆ เอง ไม่เหมือนพวกเจ้าที่พ่อแม่สอนตั้งแต่เดินได้"
"เอ๋ เอ๋ แต่พ่อแม่ข้าไม่เคยสอนนะ! ท่านบอกว่ามีโรงเรียนให้เรียนก็มาเรียนสิ จะสอนเองทำไม" กาลันพูดด้วยสีหน้าซื่อๆ ทำให้กริสเซลด่าอะไรไม่ออก
"ข้าไม่ได้ว่าเจ้าสักหน่อย กาลัน เจ้าจะร้อนตัวทำไมเล่า"
"อ้าวเหรอ ฮะๆ" กาลันส่งสีหน้าเหรอหราแล้วหัวเราะแหะๆ
ทำให้อารมณ์ของปีศาจสิงโตบูดมากขึ้นไปอีก จนเจ้าตัวกลับไปทิ้งตัวนอนบนเตียงไม่คุยกับใครต่อ
เฮย์ที่เห็นสถานการณ์ภายในห้องเริ่มย่ำแย่จึงตัดสินใจเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมา "นี่ๆ เจ้ารู้เปล่า พ่อข้าน่ะนะเคยไปปิดร้านขาหมูน้ำแดงนั่นเพื่อจัดงานวันเกิดข้าด้วย!" พูดไม่พอยืดอกอย่างภูมิใจ
"อืม อืม น่าตื่นเต้นจัง" ออสการ์เหลือบมอง "กับอีแค่ขาหมูน้ำแดงเจ้าจะดีใจอะไรนักหนา"
ท่าทีตอบรับของออสการ์ทำเอาเฮย์ใจฝ่อลงเล็กๆ ความขี้อวดกับความมั่นใจภายในตัวราวกับหายไปในชั่วระยะเวลาสั้นๆ "ก็ .. ก็ อ้อ! สงสัยเจ้าไม่เคยกินร้านนี้สินะ ถึงพูดแบบนี้ได้ ถ้าเจ้าเคยกินรับรองเลยว่าเจ้าจะอิจฉาข้ามากๆ"
คนอื่นๆ ที่เหลือภายในห้องพากันลอบถอนหายใจเซ็งๆ เนียนๆ เพราะดูยังไงไอ้นิสัยขี้อวดของเฮย์ก็ดูจะแก้ไม่หายสักที
"คาอิส ไอ้ร้านนี่มันอร่อยจริงเหรอ ข้าเคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยกินสักที" ออสการ์ถามพลางหาวไปด้วย
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นจากหมอนที่ซุกอยู่แล้วจึงพูด "ก็อร่อยดี ไม่รู้สิ แต่สำหรับข้ามันก็รสชาติพอๆ กับโรงอาหารโรงเรียนเรา"
"สรุป อร่อยไม่อร่อย ถ้าไม่อร่อยข้าจะไม่ไปแล้ว" พรายน้ำหน้างอ "รู้งี้ข้าไปเข้าชมรมว่ายน้ำยังดีกว่าเลย"
"เฮ้ๆ เจ้าสัญญากับข้าแล้วนี่ ว่าจะไปกินเป็นเพื่อนข้า" มังกรไฟสะดุ้งตื่นทันที หันมองออสการ์ดุๆ "เจ้าก็รู้นี่ว่าข้าเกลียดชมรมว่ายน้ำของเจ้า ขืนเจ้าให้ข้าไปเป็นเพื่อนบ้าง ข้าไม่ไปหรอกนะ"
ออสการ์ขมุบขมิบปากด่าคำหยาบคายไม่ออกเสียง "กับอีแค่น้ำ เจ้าจะเกลียดอะไรนักหนา"
"มันก็เหตุผลเดียวกับที่เจ้าเกลียดไฟนั่นแหละ"
ทิฐิที่มีมากล้นในตัวออสการ์ ทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดจนตัวสั่นเทิ้ม ปีศาจพรายน้ำคนนี้ไม่ชอบการโดนตอกกลับจนเขาสะดุดกลายเป็นไอ้โง่ตัวนึง
"… เวรเอ้ย เจ้าจะทำไม เอาไหมละ ถ้าข้าชนะไปชมรมว่ายน้ำ ข้าแพ้ก็แล้วแต่เจ้า!" ออสการ์ถลกแขนเสื้อประจำตระกูลขึ้นถลาเข้าไปหาคาอิสเตรียมจะต่อย
มังกรกระตุกยิ้มผลุดลุกขึ้นจากเตียงลงมายืนบนพื้นยืนเต็มความสูง ทำให้เห็นความแตกต่างของขนาดตัวอย่างเห็นได้ชัดซึ่งคนที่เตี้ยกว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากออสการ์ "ถ้าข้าชนะ อย่ามาร้องไห้โวยวายแล้วกัน"
ออสการ์หน้าหงิก "ข้าจะปลดเจ้าออกจากตำแหน่งเพื่อนสนิทข้า!"
"ข้าก็จะปลดเจ้าออกจากตำแหน่งเพื่อนกินข้าวตอนเที่ยงด้วย!" คาอิสตอกกลับหน้าบึ้ง
"พรุ่งนี้เจ้าไปนั่งเรียนคนเดียวเลยนะ ข้าจะย้ายที่!"
"พรุ่งนี้เจ้าไปกินข้าวคนเดียวเลย ข้าไม่ไปด้วย!"
ออสการ์กับคาอิสชี้หน้ากันตะโกนใส่กันไม่หยุดไม่หย่อน
นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทั้งคาอิสและออสการ์ยังคงจมปลักอยู่ที่ห้องพิเศษนี่ไม่ได้ไปไหนสักที
ความเลือดร้อนนั้นหากมีไว้ก็เป็นเรื่องดี แต่บางครั้งก็เป็นภัยต่อชีวิตเช่นกัน หากควบคุมมันไม่ได้เวลาที่อยู่ในอันตรายก็ไม่อาจรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้
โฮกกกกกก
เสียงคำรามของเจ้าป่าดังลั่นจนแก้วหูสะเทือน ทำให้สงครามน้ำลายต้องชะงักไปชั่วคราว
"เจ้าจะเถียงกันไปทำไม สัญญาก็ต้องเป็นสัญญาสิ" กริสเซลแทบจะขู่ฮื่อๆ ขณะที่พูด "เจ้าจำไม่ได้เหรอ ดัฟฟ์ดีใจจะตายที่พวกเจ้ายอมไปด้วย"
ออสการ์เม้มปากพูดอะไรไม่ออกเมื่อนึกถึงสีหน้าของดัฟฟ์ที่ดีใจจนเกินเหตุ "เออ ไปก็ไป" ยอมกลับไปนั่งเงียบๆ บนเตียงอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวเหมือนเดิมซึ่งก็ไม่ต่างจากคาอิสที่กลับไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงเบื่อๆ
"ก็จริง ถ้าดัฟฟ์ไม่ชวนข้าด้วยสีหน้าคาดหวังขนาดนั้น ข้าคงไม่ไปหรอก" เฮย์หัวเราะเบาๆ ขณะที่พูด เอาเข้าจริงเขาก็ตั้งใจจะไปซื้อของที่ตลาดข้างโรงเรียนเหมือนกับพวกลาสแต่ก็ไม่ได้ไป
กาลันพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วย "ไม่รู้พวกนั้นทนสีหน้าน่าสงสารของดัฟฟ์ได้ไง"
สีหน้าน่าสงสารเมื่อรวมกับแก้มบวมๆ น่าหยิกแล้ว สามารถทำให้น้ำแข็งแทบจะละลายกลายเป็นน้ำด้วยความใจอ่อน
“มาแล้ววววววว ข้ามาแล้ว แก๊ซ!”
ผลั่ก
“อั่ก!”
ร่างของดัฟฟ์กับนาซัสร่วงลงมาจากในอากาศซึ่งก็หล่นตรงหลังของคาอิสพอดี
“บัดซบ! หลังข้า” มังกรร้องเสียงหลงตัวชาดิกถลึงตามองดัฟฟ์กับนาซัส “ออกไปจากหลังข้าสักทีโว้ย ตัวพวกเจ้าก็ไม่ได้เบาสักหน่อย!!!”
โชคดีที่กระดูกมังกรแข็งพอสมควรทำให้คาอิสรอดจากการไปหาหมอเพราะกระดูกหัก
“แง้ คาอิสน่ากลัว” ดัฟฟ์มองกลัวๆ รีบพาร่างกลมๆ ลงมาเหยียบพื้น "ไปกันเถอะๆ ข้าอยากกินแล้ว!" นัยน์ตาทอประกายระยิบระยับ
ออสการ์ถลึงตามองดัฟฟ์รู้สึกคันปากอยากด่าที่มาช้าแต่ก็โดนสายตาเพื่อนคนอื่นๆ ปรามไว้
"อืมมม งั้นก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวแถวจะยาว" กริสเซลยิ้มแห้งๆ แต่พอมองนาฬิกาข้อมือก็แทบกรีดร้อง "นี่มันเที่ยงแล้วนี่นา!!!"
นั่นหมายความเหล่าปีศาจหิวโหยจะมากองกันที่ร้านนี้ทำให้แถวร้านยาวมากๆๆ
"ไปวันอื่นไหม ข้าว่าไปตอนนี้เจ้าคงต้องยืนรอคิวสักชั่วโมงสองชั่วโมง"
ดัฟฟ์หน้างอต่างจากนาซัสที่เฉยๆ
"แง้ ข้าอยากกินนี่นา"
"ครั้งหน้าเถอะ เพราะเจ้ามาช้าเนี่ยแหละ พวกเราถึงไม่ได้ไปตั้งแต่สิบโมง ถ้าไปตั้งแต่ตอนนั้นนะตอนนี้เจ้าได้กินแล้ว"เป็นกริสเซลที่ดุดัฟฟ์แทนด้วยหน้าขึงขังนิดๆ ทั้งๆ ที่ในใจนั้นอ่อนยวบยาบตั้งแต่เห็นดัฟฟ์น้ำตาคลอ
"ไปไม่ได้จริงๆ เหรอ"
".. เอ่อ มันก็ได้อยู่หรอก ถ้าเจ้าอยากไปยืนรอ" กริสเซลหันมองคนอื่นพยายามหาตัวช่วยพบว่าหลบตากันหมด
"ถ้าไปอาจจะโชคดีเจอคนรู้จักก็ได้" นาซัสพูดขึ้นมาบ้างเมื่อถูกดัฟฟ์สะกิดยิกๆ
"ไปไม่ไป สรุป" คาอิสถามเมื่อสามารถพาร่างอันบอบช้ำของตัวเองมายืนข้างๆ ได้
"ไปสิ แก๊ซ ไปเถอะน้า ข้าอยากกินขาหมูน้ำแดงของที่โรงเรียนไม่อร่อยเลย"
"ไปมันก็ไปได้แหละ แต่แถวมันยาวมากจริงๆ นะ" กริสเซลพูดหน้าแหยงๆ
ออสการ์ที่หน้าหงิกมาตั้งแต่แรกแล้วตอนนี้บิดเบี้ยว "โอ้ยยยย ไปกันสักที ไปยืนรอก็ได้ ไปกันเยอะๆ ไม่เบื่อหรอก"" เดินชนไหล่คาอิสจนเซแล้วเดินออกนอกห้องไปเลย
คาอิสกรอกตาเซ็งๆ สาวเท้าตามออกไป "ข้าก็ว่างั้น ไปสักที แถวมันไม่ยาวถึงปราสาทท่านคาร์บิลัสหรอก"
ส่วนเฮย์กับกาลันที่ยังไงก็ได้อยู่แล้วก็ไหวไหล่ใส่กริสเซลยิ้มๆ แล้วเดินห้องออกจากห้อง
สรุปมติเป็นเอกฉันท์คือ ไป
ดัฟฟ์ถึงได้ยิ้มร่า แค่คิดว่าจะได้กินขาหมูน้ำแดงอร่อยๆ ก็รู้สึกดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง แต่พอคิดไปคิดมาก็นึกเรื่องที่ท่านแม่พูดว่า ควรลดอาหาร
"แง้! ไม่น้าาา"
คณะเด็กห้องพิเศษที่กำลังเดินอยู่ถึงกับสะดุ้งเฮือกหันขวับมองดัฟฟ์ทันที
"เป็นอะไร ดัฟฟ์" นาซัสถามอย่างเป็นห่วง มือเล็กๆ แตะแขนป้อมๆ ของดัฟฟ์
“ท่านแม่บอกว่าจะไม่ให้ข้าควรลดอาหารเพราะว่าข้าอ้วน” ดัฟฟ์พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดราวกับว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก “ข้าว่าข้าก็ไม่ได้อ้วนขนาดนั้นซะหน่อย”
"เดี๋ยวโตไปเจ้าก็ผอมเอง กินๆ ไปเถอะ ดัฟฟ์" กริสเซลสนับสนุนเพราะชอบหุ่นกลมๆ กอดแล้วนุ่มแบบนี้
"เจ้าเป็นมังกรนี่กินเยอะก็เรื่องปกติ" คาอิสออกความเห็นอย่างเชี่ยวชาญเพราะตัวเองก็เป็นมังกรเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้กินจุจนตัวกลมเหมือนดัฟฟ์
"คาอิสเจ้าก็เป็นมังกรนี่นา ทำไมเจ้าไม่อ้วนล่ะ" ดัฟฟ์จับแก้มตัวเองที่เริ่มย้วย ตั้งแต่มาอยู่โรงเรียนปีศาจนี่รู้สึกกินเยอะขึ้นมาก
"ก็ข้าไม่ได้กินทั้งวันเหมือนเจ้าไงเล่า!" มังกรไฟขู่แง่ง "อีกอย่างรีบๆ เดินสักที ข้าไม่อยากได้กินพรุ่งนี้นะ"
"งั้นข้าก็จะกินต่อไป! กินจนข้าจะกลิ้งกลับบ้านได้!" ดัฟฟ์หัวเราะคิกคักเมื่อนึกถึงสีหน้าตลกๆ ของท่านแม่
นาซัสที่ได้ยินความคิดนี่พอดีรีบขัด "ดัฟฟ์ ถ้าเจ้ากลายเป็นแบบนั้น ข้าขอนอนคนละเตียงกับเจ้านะ" ตอนนี้นาซัสกับดัฟฟ์ยังคงนอนเตียงเดียวกันอยู่ เพราะดัฟฟ์ถือว่าตัวเองเป็นพี่ต้องดูแลน้อง ทำให้นาซัสต้องจำยอมนอนด้วยแม้ว่าจะอยากนอนเตียงตัวเองมากก็ตาม
"บู่ว ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย แก๊ซ!" ดัฟฟ์ไม่ได้สนใจอะไรนัก ตั้งหน้าตั้งตาเดินอย่างมุ่งมั่น
เดินไปไม่นานนักก็ถึงประตูทางเข้าโรงเรียนที่เป็นประตูขนาดยักษ์ที่ทำจากแร่หายากที่ว่ากันว่าสามารถป้องกันได้ทุกอย่างแต่หายากมาก มันถูกแกะสลักเป็นลวดลายคล้านเถาหนามดูสวยงามและอันตรายไปพร้อมๆ กัน
ซึ่งถ้าพูดถึงประตูหน้าโรงเรียนก็ต้องนึกถึงผู้เฝ้าประตู
ฮื่อออออ กรรรซ
สุนัขสามหัวขนาดยักษ์ที่นอนขดอยู่ข้างประตูทั้งสองข้างส่งเสียงเห่าทุกคนที่ผ่านหน้าไปอย่างดุร้าย ข้างๆ มีกระต็อบเล็กๆ ภายในมีปีศาจร่างหนาส่งสีหน้าขึงขังบนหัวมีเขาสีดำม้วนเป็นเกลียวสามเขา ในมือถือสมุดที่ใช้จดบันทึกผู้ที่เข้าออกประตูโรงเรียน
ทันทีที่พวกดัฟฟ์เดินผ่านกระต็อบไปก็โดนถามทันที
"พวกเจ้าจะไปไหน?"
ขาชะงักกึก ทุกคนมองหน้ากันพลางกลืนน้ำลายเอือกเมื่อสุนัขที่ตอนแรกนอนขดตอนนี้ลุกขึ้นยืนแล้ว
กริสเซลที่ตั้งสติได้คนแรกตอบไปอย่างกระอึกกระอัก "คือ คือพวกข้าจะออกไปกินร้านขาหมูน้ำแดงข้างโรงเรียนขอรับ"
ปีศาจเฝ้าประตูพยักหน้าหงึกๆ ด้วยสีหน้าผ่อนคลายลง ลืมไปว่าวันนี้เป็นวันหยุดของพวกเด็กๆ ทีแรกนึกว่าเด็กพวกนี้คิดจะโดดเรียน
"งั้นพวกเจ้ารีบไปเถอะ เดี๋ยวแถวจะยาว"
"ขะ ขอรับ"
รีบเดินกันต่อทันที
"จริงสิ หรือพวกเจ้าจะให้ข้าเรียกพวกเซนทอร์ให้? พวกนั้นชอบเด็ก คิดราคาไม่แพงหรอก พวกเจ้าสนใจไหม"
"ขอรับ" กริสเซลตอบเสียงสั่นขณะที่ยืนนิ่งให้พวกสุนัขสามหัวที่ดูจะไม่ค่อยไว้ใจพวกเขาสักเท่าไหร่มาดมฟุดฟิดเกือบๆ ทั้งตัว
ทำให้คณะของดัฟฟ์มาถึงร้านขาหมูน้ำแดงอย่างรวดเร็วด้วยบริการจากรถเทียมเซนทอร์ด้วยราคาพิเศษเพราะเซนทอร์ดูจะชอบแก้มย้วยๆ ของดัฟฟ์เป็นพิเศษ แต่พอมาถึงหน้าร้านก็ไม่ได้ทำให้ดัฟฟ์ดีใจเท่าใดนัก
เพราะคิวยาวมากตั้งแต่หน้าร้านคดเคี้ยวไปมาจนตาลายหาไม่เจอว่าท้ายแถวอยู่ที่ไหนและอยู่ๆ ก็มีปีศาจกระต่ายตัวอ้วนสวมชุดสีชมพูลายขาหมูกับบนหัวมีหมวกหูหมูกระโดดดึ๋งๆ มาดัฟฟ์
"พวกเจ้ามากินร้านบีลอสใช่ไหม"
บีลอสคือชื่อเจ้าของร้านขาหมูน้ำแดงชื่อดัง เป็นปีศาจมังกรที่หลงใหลในศาสตร์การทำอาหารมากแต่สิ่งที่ดูจะทำอร่อยที่สุดคงเป็นขาหมูน้ำแดงที่ชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วแดนปีศาจ ซึ่งสมัยที่ท่านคาร์บิลัสยังเรียนอยู่ก็ชอบมากินร้านนี้บ่อยจนได้รับตำแหน่งลูกค้ากิตติมศักดิ์
"ขอรับ มากัน 6 คน" กริสเซลเป็นคนตอบอีกเพราะเป็นคนที่น่าจะดูพูดรู้เรื่องที่สุดในบรรดาเด็กๆ ที่โตแต่ตัว
ปีศาจกระต่ายพยักหน้าหงึกๆ มือที่เป็นขนอุยล้วงหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนยิกๆ และยื่นให้ดัฟฟ์ "นี่ขอรับบัตรคิว คิวท่านอยู่ 1112 ขอรับ"
แค่ได้ยินลำดับคิวกริสเซลก็แทบกรีดร้อง
"แล้วตอนนี้คิวที่? "
ปีศาจกระต่ายขมวดคิ้วมุ่นหันหลังไปมองลำดับเลขที่ลอยเด่นอยู่หน้าร้าน "คิวที่ 876 ขอรับ ไม่ต้องห่วงขอรับ ไม่นานหรอก ท่านหลับแค่สองสามตื่นก็ถึงคิวท่านแล้ว อ้ะ มีลูกค้ามาอีก ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ" ไม่รอคำตอบกระโดดดึ๋งๆ ไปหาลูกค้ากลุ่มใหม่
กริสเซลมองเลขบัตรคิวในมือด้วยความรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ "เห็นไหมดัฟฟ์ ข้าบอกแล้วว่าคิวมันยาวมาก แล้วกฎของร้านนี้คือต้องต่อคิวรออีก ถ้าเจ้าไม่อยู่ก็จะโดนสละสิทธิ์ไปทันทีอีก"
"แง้ แต่ข้าหิวแล้วน้า" ดัฟฟ์พูดเศร้าๆ ขณะที่มองร้านบีลอสที่เป็นร้านขนาดใหญ่มีสองชั้นบนหน้าร้านชั้นสองมีรูปขาหมูน้ำแดงขนาดยักษ์แปะไว้และถูกเขียนตรงกลางไว้ว่าบีลอส
"โอ๊ยยยยย ข้าไม่อยากกินแล้วโว้ย" ออสการ์โวยวายสติแตกเมื่อเห็นแถวยาวเหยียดของร้านบีลอส พวกนั้นคือพวกที่ใกล้จะถึงคิว ส่วนพวกที่ยังยืนกระ
จัดกระจายอย่างพวกเขาคือพวกที่อีกชาติจะได้กิน
"ข้าขอกลับไปนอนได้ไหม เจอแถวขนาดนี้ไม่ไหว" คาอิสมีสภาพไม่ต่างกัน
เฮย์ถอนหายใจเซ็งๆ "อืมม ข้าน่าจะให้ท่านพ่อจองไว้ก่อน"
ในขณะที่ทุกคนเริ่มมืดแปดด้าน ดัฟฟ์ก็เหลือบไปเห็นร่างคุ้นหน้าคุ้นตากำลังนั่งเซ็งๆ อยู่บนโต๊ะอาหารคนเดียว
"ฟรังก์!!!!"
ดัฟฟ์ร้องลั่นวิ่งแจ้นเข้าไปหาทันที
ทำไมเหมือนได้ยินคนเรียกชื่อข้า? แต่ข้าอาจจะคิดไปเองก็ได้
ฟรังก์นั่งคิดเองเออเองเงียบๆ ขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนาที่ว่าด้วยการอ่านสีหน้าผู้อื่นและความคิดภายในใจ
"ฟรังก์!!!!"
อืม... ข้าไม่ได้หูฝาด
มังกรแสงกลอกตาเซ็งๆ เงยหน้าขึ้นจากหนังสือมองดัฟฟ์ที่ยิ้มกว้างมองมาอย่างตื่นเต้น "มีอะไร"
"พวกข้านั่งด้วยนะ คิวของพวกข้ายาวมากๆ เลย ถ้าต้องรอข้าต้องหิวตายแน่ๆ !" ดัฟฟ์มองฟรังก์อย่างคาดหวัง
บัดซบ ไอ้มังกรปัญญาอ่อนจะมานั่งร่วมโต๊ะกับข้า
ฟรังก์คิดอย่างหงุดหงิด มังกรแสงที่โปรดปรานความสงบอย่างเขา ค่อนข้างเกลียดอะไรที่วุ่นวายๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือดัฟฟ์ มังกรดำเจ้าปัญหาที่ดูจะสนใจเขาซะเหลือเกิน
ใครบอกว่าข้าเป็นเพื่อนเจ้ากัน? เจ้าคิดไปเองทั้งนั้น
"เอาสิ"
นั่นเป็นคำตอบที่ควรจะตอบ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้อยากอนุญาตแม้แต่นิดเดียว แต่สีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงทำให้ดัฟฟ์ดูไม่ออกว่าฟรังก์หงุดหงิดขนาดไหน
"เย้! ขอบคุณเจ้ามากนะ ฟรังก์" ดัฟฟ์ยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ฟรังก์ ปล่อยให้คนที่ตามมาทีหลังจับจองที่ที่เหลือไปยกเว้นนาซัสที่ดัฟฟ์ให้มานั่งติดกับตัวเองอีกคน
ฟรังก์มองใบหน้าของดัฟฟ์นิ่งๆ
มุมปากยกแบบนี้ อืม... ยิ้ม? เจ้ามังกรสติปัญญาต่ำต้อยนี่กำลังดีใจ แต่ดีใจเพราะข้าให้นั่งด้วย? ดีใจเรื่องไร้สาระชะมัด แต่ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ามันดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก..
ฟรังก์พ่นลมหายใจแรงๆ ราวกับตำหนิตัวเองที่คิดอะไรแบบนั้น
ทำเอาคนอื่นๆ ที่ร่วมโต๊ะสะดุ้งกันเป็นแถว เพราะฟรังก์ขึ้นชื่อว่าเป็นมังกรแสงที่หยิ่งมากและหัวดีมาก เป็นปีศาจที่เข้าถึงยากและไม่มีใครอยากยุ่งด้วยสักเท่าไหร่ เพราะคำพูดแรงๆ แต่ละคำที่ดูเหมือนจะตั้งใจมากกว่าเผลอหลุดออกจากปาก ใบหน้าบอกบุญไม่รับตลอดเวลา เวลาคุยด้วยกว่าจะตอบก็แทบลืมไปแล้วว่าพูดอะไรไป โดยรวมแล้วสรุปทำให้ฟรังก์ติดหนึ่งในปีศาจที่ไม่มีใครอยากยุ่งด้วยมากที่สุด
ที่ได้มานั่งร่วมโต๊ะกันนี่ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกสะพรึ่งในตัวดัฟฟ์มากแล้วที่ไปผูกมิตรกับคนประเภทนี้เข้า
"ให้ตายสิ ทำไมข้าต้องมานั่งกับไอ้หยิ่งนี้ด้วยเนี่ย" ออสการ์กระซิบกับคาอิสที่กำลังนั่งดูเมนูของหวาน
"พูดเหมือนข้าอยากนั่ง หรือเจ้าจะไปยืนรอแถวอีกเป็นร้อยคิวล่ะ" คาอิสกระซิบตอบ
ฟรังก์ที่ได้ยินทุกคำที่พูดเหลือบมองแต่ไม่ได้พูดอะไร
เพราะพวกเจ้าเป็นแบบนี้ไง ข้าถึงไม่อยากยุ่ง
"แล้วฟรังก์สั่งอะไรรึยัง ถ้ายังไม่สั่งข้าจะสั่งให้นะ!" ดัฟฟ์พูดยิ้มๆ ภายในร้านต่างกับนอกร้านลิบลับ ข้างในร้านนั้นถึกคนจะเยอะแต่ก็ไม่วุ่นวายมาก มีปีศาจพนักงานเดินไปเดินมาเป็นว่าเล่นรอรับรายการอาหาร
"เดี๋ยวก็มา"
ฟรังก์ตอบสั้นๆ ก่อนจะหลุบตาอ่านหนังสือต่อไม่ใส่ใจที่จะขยายความอะไรอีกเพราะขี้เกียจ
ดัฟฟ์ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามต่อก็อ้าปากค้างเมื่อเจอกองทัพอาหารที่ถูกพนักงานนำมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นเมนูดังของร้าน แต่จานที่ใหญ่ที่สุดคือขาหมูน้ำแดงขนาดยักษ์ที่สามารถแบ่งกินได้ทั้งโต๊ะ แต่ดัฟฟ์กลับรู้สึกว่าตัวเองสามารถกินหมดได้ด้วยตัวคนเดียว
"ฟะ ฟรังก์ ทำไม ทำไมเจ้าถึงสั่งเยอะขนาดนี้" ดัฟฟ์พยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองน้ำลายไหลขณะที่พูด
ฟรังก์กลอกตาเซ็งๆ แล้วหยิบชาขึ้นมาจิบ
"ข้าไม่ได้สั่ง"
"ไม่ได้สั่งทำไมถึงเอามาให้เจ้าเยอะขนาดนี้ล่ะ" ดัฟฟ์ตาวาวมือที่จับช้อนสั่นเทา
"ข้าเป็นญาติเจ้าของร้าน ถ้าเจ้าจะกินก็กินไป ไม่ต้องมาถามข้าอีก ข้ารำคาญ" ฟรังก์พูดตรงๆ ก้มอ่านหนังสือในมือต่อ
ซึ่งคำพูดของฟรังก์ก็จุดประกายบางอย่างให้แก่ดัฟฟ์
ข้าจะเป็นเพื่อนสนิทของฟรังก์ให้ได้! ข้าจะได้มากินๆๆๆ ที่ร้านนี้บ่อยๆ กับฟรังก์!
-------
ตอนนี้มาช้ามาก
ขอโทษค่ะ แต่ร้านนี้ไม่ใช่ร้านของท่านโฟเทียสค่ะ 5555
แอบปั่นอะไรบางอย่าง
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ