เมียงู #5.2 ลูกพี่ลูกน้องของเพื่อน (ฝันแปลกของเมีย)
ผมพยายามยันตัวเองขึ้นมาจากเตียง ความรู้สึกวูบๆ ตาพล่าๆ มองอะไรไม่เห็นแล่นเข้ามาชั่ววูบ
มันเกิดอะไรขึ้นกับผม
“เป็นอย่างไรบ้างภัทร”เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างหู
“กูรู้สึกเพลียๆ ลุกไม่ขึ้นเลย”
“หิวข้าวไหม”มันเข้าพยุงให้ผมนั่ง กลิ่นข้าวต้มลอยเข้ามาใกล้ มันหอมมากจนน้ำลายจะไหล แต่ไม่มีแรงจะตักขึ้นมากินต้องให้มันป้อนข้าวที่ละคำๆ จนหมด
“วันนี้ต้องไปไหนไหม”มันเอาชามข้ามต้มไปเก็บตรงระเบียงแล้วเดินออกมาเปิดม่านออกเล็กน้อย หันมาถามผม
“ต้องไปเรียนช่วงบ่าย”
มันพยักหน้ารับรู้ ไอ้งูเดินมาที่เตียงนอนแล้วจับผมนอน
“นอนเยอะๆ เดี๋ยวก็หายเพลียแล้วไปทันเรียนแน่นอน”
แล้วผมก็หลับตาลง ทิ้งงูใหญ่นั่งมองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“กูไปแล้วนะ อยู่ห้องดีๆล่ะ”
ไอ้งูพยักหน้าหงึกหงัก ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า...
ผมว่าหน้ามันดูสดชื่นกว่าเมื่อวาน แต่ผมกลับดูโทรมลง...
ผมขับรถเข้ามหาลัย วิชาที่เรียนวันนี้ค่อนข้างจะสำคัญแต่ผมก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะ
“ไอ้ภัทร มึงจะหลับเลยเหรอ”เสียงไอ้บอมลอยเข้าหู มันคงมานั่งใกล้ๆ
“เออ กูเพลีย”
“เพลียห่าอะไร เมื่อวานก็ไม่ได้ไป”เสียงเพื่อนอีกดังข้างบนหัว คิดว่าคงเป็นไอ้แม็กซ์
ผมมีเพื่อนที่สนิทที่มหาลัยอยู่สองคนคือไอ้แม็กซ์กับไอ้บอม มันค่อนข้างช่วยอะไรหลายๆ อย่างได้ดี ไอ้บอมมันเป็นพวกหัวดีแต่มนุษย์สัมพันธ์ไม่ดี ต่างจากไอ้แม็กซ์ที่เพื่อนเยอะแยะไปหมด ส่วนผมไม่มีอะไรดี มีหน้าที่แค่เชื่อมพวกมันเอาไว้ด้วยกันเฉยๆ
“แล้วเย็นนี้มึงจะไปกับกูไหมภัทร”
เสียงไอ้แม็กซ์ยังดังเรื่อยๆ ผมก็หลับตาไม่สนใจมันจนมันหยุดพูดไปเอง
“ภัทร ตื่นได้แล้ว เลิกเรียนแล้วเว้ย”
ผมกระพริบตาตื่นเมื่อเสียงของไอ้บอมดังขึ้น มันเก็บของเสร็จแล้วแล้วยังเผื่อแผ่มาถึงผมด้วย
“เออ ขอบใจว่ะ”
ไอ้บอมมันยื่นเล็กเชอร์ของมันให้ผม แล้วเดินออกนอกห้องไป ผมนั่งสะบัดหัว ลุกขึ้นบอกลาไอ้แม็กซ์ที่ยังล่ำลาเพื่อนฝูงตัวเองอยู่
ในมหาลัยตอนนี้ผู้คนกำลังพลุกพล่าน ผมเดินเอือยๆ จนเกือบถึงรถก็ชะงักเมื่อเห็นใครบางคน
ไอ้นนครับ
มันมาทำอะไรที่มหาลัยผม ว่าจะมาหาผมก็ไม่ใช่ มันไม่ได้บอกผมไว้ แต่ท่าทางมันลุกลี้ลุกลนผิดปกติ
อย่างนี้ต้องเข้าไปทัก
ผมเดินอ้อมไปข้างหลังแล้วสะกิด มันหันหน้าขวับมาเลยครับ
พอเห็นหน้าผม มันทำหน้าอย่างกับเห็นผี เห็นเตรียมท่าจะวิ่งด้วย แต่ก็ช้ากว่าผม
“มึงจะไปไหนนน”ผมคว้าไหล่มันไว้แน่น
“กู...กูจะไปเข้าห้องน้ำ”น้ำเสียงตะกุกตะกักของมันทำให้ผมแสยะยิ้มออกมา
นานๆ มึงจะทำตัวดูน่าสงสัยแบบโง่ๆ ออกมา กูขอจับผิดมึงหน่อยนะเพื่อนรัก
“เดี๋ยวกูพาไป แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่”
มันเหงื่อออกทั้งๆ ที่รอบตัวมีลมพัดกำลังสบาย
ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่
“กูมาหามึงไง ไหนมึงบอกว่ามาเรียนวันนี้กูก็กะมาเซอร์ไพรท์ไง”
ไอ้นนมันฉลาดนะครับ เรื่องเอาตัวรอดนี้ยกให้มันเลย สมองไวมาก
“งั้นไปแดกข้าวกับกูไหมมาหากูนิ”
แต่ถึงอย่างไงก็เป็นเพื่อนผมมาเป็นสิบปี ทำไมผมจะดูไม่ออก
ถ้ามันจะมาเซอร์ไพรท์ผมจริงๆ มันต้องแอบมองผม ไม่ให้ผมเห็นตัวง่ายแบบนี้ แถมท่าทางลุกลี้ลุกลนก็เหมือนคนที่ปิดบังอะไรไว้สักอย่าง
มันเลยสรุปง่ายๆ ไอ้ห่านี้กำลงมีความลับ ส่วนความลับเรื่องอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้กัน
“กูยังไม่หิวเลย”
“ก็ไปเป็นเพื่อนกูไง มาหากูไม่ใช่เหรอ”
“มาช้านะนน”
ผมหันตัวไปทางเสียงทุ้มๆ ของผู้ชายพอเห็นเขาแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย
น่าจะเป็นอาจารย์คณะข้างๆ รูปร่างหน้าตาใช่ได้ สายตาที่มองมาทางไอ้นนแปลกๆ
เอ๊ะ หรือว่า...
ผมคว้ามือไอ้นนมาจับไว้ แล้วหันไปพูดกับมันเสียงหวาน
“นน พาภัทรไปกินข้าวนะ ภัทรหิวแล้ว”
ผู้ชายคนนั้นจ้องเขม็ง ไอ้นนก็หันมองผมทีหันมองเขาที และสะบัดมือออกจากมือของผม
“ไอ้ภัทร”มันพูดเสียงแผ่วปนหวาดๆ
“ครับ นนมาหาภัทรไม่ใช่เหรอ ไปกินข้าวกับภัทรได้มั้ยหลังจากนั้นเราค่อยไปล่ำลึกความหลังกัน”ผมได้ทีกระเซ้ามันใหญ่
“ต้องขอโทษด้วย นนเขาคงไม่ได้มาหาคุณ เขาจะมาหาผม”
ผมมองหน้าไอ้นนแล้วยิ้มเย็นๆ ออกมา
“ผู้ชายคนนี้ใครนะนน ภัทรคบกับนนมานานไม่เคยเห็น”
เอาซี้ มึงจะบอกกูไหมล่ะ ว่าเขาเป็นผัวมึงอ่ะ อาการออกกันชัดขนาดนั้น
มันลุกลี้ลุกล้นกว่าเดิม มันสูดลมหายใจแล้วพูดออกมาเสียงแผ่ว
“ภัทร นี่ลูกพี่ลูกน้องกูเองชื่อครามเป็นอาจารย์พิเศษ”ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้วจนหน้าน่ากลัวขึ้นตาเห็น
ผมยิ้มให้ผู้ชายคนนั้นแบบสุภาพชนควรทำแต่ในใจก็คิด
แหม ลูกพี่ลูกน้องมึงเยอะเนอะ คราวก่อนก็พี่กิตคราวนี้ก็คุณคราม
ผมเดินเข้าไปจับมือไอ้นนอีกครั้ง “งั้นภัทรไปก่อนนะ ภัทรไม่อยากเข้ายุ่งเรื่องส่วนตัวของนน”
ผมเดินหลีกทางออกมา เห็นคุณครามขมวดคิ้วพูดอะไรไม่รู้กับไอ้นน มันหน้าเสียจนหน้าเกือบจะร้องไห้ น่าสงสารแหะ
ผมทำเกินไปหรือเปล่าหว่า...
ผมขับรถกลับถึงบ้านประมาณห้าโมงเย็น เปิดห้องมาก็เกือบล้มเพราะไอ้ปัทมันกระโจนเข้ามาหา
“เจ้ามาช้า”มันพูดเสียงอนๆ
“ช้าดีกว่าไม่มาน่า ไปใส่เสื้อ แล้วไปเดินเล่นกัน”ผมเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาออกแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อยือธรรมดา พอหันไปมองไอ้งู
“ปัท สีตามึงเด่นไปหรือเปล่า”
ผมหันมามองผมตาแป๋วด้วยแววตาสีแดงทับทิมแล้วลูบหน้าตัวเองเบาๆ พลันตาสีน้ำตาลรอมแดงก็ปรากฏ
ผมเอี้ยวตัวไปหยิบหนังยางสีดำมารวบผมมันไว้กลางหลังไม่ให้ลุ่มล่าม ผมมันยาวเกือบสะโพกแถมยังเยอะมาก ปลายผมของมันเรียงตัวเป็นระเบียบ ผมลูบผมมันเล่น
“ไปเที่ยวกันภัทร”มันลากผมออกจากห้อง
พอถึงข้างล่าง ผมก็ลากมันขึ้นรถพาตรงดิ่งไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ
สวนแถวที่นี้มีบ่อน้ำที่กว้างมาก ไอ้งูลากผมไปใต้ต้นไม้ที่ใกล้น้ำแล้วนอนหนุนตักผมหลับตาพริ้ม
งูชอบที่ชื้นๆ ผมอ่านเจอมาเมื่อวานตอนที่มันไม่ได้อยู่กับผม ผมกลัวว่าเวลาผมไม่อยู่บ้านแล้วมันจะหงอยเลยพามารับอากาศที่สวนสักหน่อย
พอมันหลับไปได้สักพัก คนที่สวนก็เริ่มเยอะ ผมปลุกมันให้ตื่นแล้วขับรถพามาที่ห้าง
ตอนแรกว่าจะพามาซื้อของกิน แต่คิดไปคิดมา ไอ้งูมันไม่กินนี่หว่า ผมเลยยืนเอ๋ออยู่หน้าห้างแต่ก็ล้างไอ้ปัทเข้ามาข้างในอยู่ดี
ถือว่ามารับแอร์ฟรีล่ะกัน...
ผมเหลือบไปเห็นป้ายของเทศกาลอะไรสักอย่างก่อนจะฉุกคิด...
ไอ้เทศกาลนี่มันอยู่ในเดือนก่อนเดือนเกิดผมนี่
‘เมื่อเจ้าอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์เวลานั้น เจ้าจะเป็นของเรา’ ผมผวาตื่น กวาดตามองในความมืดก็เห็นงูกอดผมอยู่ จ้องมองใบหน้าสมบูรณ์แบบ เสียงที่ได้ยินในฝันเหมือนกับเสียงไอ้งูใหญ่จนน่ากลัว แต่เสียงนั้นมันแฝงไปด้วยความเศร้าเล็กๆ
ผมกอดไอ้งูกลับเบาๆ มันลืมตาขึ้นจนตาสีแดงสะท้อนกับแสงจันทร์วาววับ มันลูบหัวผมแล้วกอดผมแน่นกว่าเดิมพร้อมกับสัมผัสอุ่นชื้นที่หน้าผากและเสียงทุ้มแผ่วที่แตกต่างจากในฝันเพราะมันมีความสุขมากกว่า
“ฝันดีนะ เด็กน้อยของข้า”
Tbc.
เอาล่ะ ก่อนที่ทุกท่านจะไปเม้นต์ ขอดักไว้ก่อนว่าอย่าบอกว่าสั้น
เห็นแล้วมันก๊าววววใจ ต้องขอโทษจริงนะที่มันสั้น

ตอนแรกว่าจะเข้าเรื่องอดีตเลย ก็กลัวว่าจะมาม่าไป
เลยตัดสินใจเอาน้องนนมาฝาก

ส่วนพาทอดีตที่จะเล่าตัดสินใจเป็นตัดไปตัดมาระหว่างอดีตกับปัจจุบันให้ปมหลุดทีละเปาะเนอะ
ไปล่ะคร้าบบบ
รักคนอ่าน จุ๊บคนเม้น
