43000

ไม่อยากให้รอกันนาน
ตอนที่ 21 ไม่ยุติธรรม
“เอะ นี่คุณจะอุ้มใครก็อุ้มสักคนสิ”กุ้ยช่ายหันมาบ่นหนุ่มลูกครึ่งร่างสูงผิวเข้ม ที่ขอแลกลูกกันมาได้พักใหญ่แล้ว
“อ่าว ก็ผมเห็นคุณอุ้มตั้งโอ๋แล้วดูเหมือนหนัก มานี่ผมอุ้มตั้งโอ๋ให้”มาตินเอาอันเดรสยื่นให้กุ้ยช่ายจะแลกกับตั้งโอ๋
“ไหนคุณบอกจะอุ้มอันเดรสเองไง อะไรของคุณ ไม่เอาหรอกผมไม่แลก”กุ้ยช่ายอุ้มตั้งโอ๋เดินหนี มาตินเดินตามมาขอแลกติดๆ ตั้งโอ๋ที่เห็นว่าทั้งคู่เหมือนจะเล่นไล่จับก็หัวเราะชอบใจส่งเสียงบอกให้คนเป็นพ่อเดินเร็วๆ
“จ๋าเดินเย็วๆฮับ คุณยังมาแย้ว ฮิฮิ”ตั้งโอ๋กอดคอกุ้ยช่ายแน่น
“คุณ จะเดินหนีไปไหน รอผมหน่อย เดี๋ยวก็ล้มกลิ้งเปียกหมดหรอก”มาตินตะโกนเร่งฝีเท้าไล่ตาม
“ก็แล้วจะตามมาทำไมเล่า ลูกคุณคุณก็อุ้มเองสิ”กุ้ยช่ายสวนกลับ จะให้วิ่งเร็วก็ไม่ได้ ตั้งโอ๋เองก็โตไวจนเริ่มจะอุ้มไม่ค่อยไหวแล้วเหมือนกัน ยิ่งโตก็ยิ่งกลม
“ก็รอก่อนสิ ผมอุ้มตั้งโอ๋เองมาแลกลูกกัน”มาตินยังตามไม่เลิก วิ่งตามกุ้ยช่ายไปบนชายหาดทราวขาวที่ทอดยาว
“ของแบบนี้มันแลกกันได้ที่ไหนเล่า อย่ามาตาม ไปแต่งตัวไป คนอื่นเค้ารอถ่ายอยู่”กุ้ยช่ายหยุดยืนหอบหันหน้ามามองมาติน
“กว่าจะถ่ายอีกตั้งสามชั่วโมง มานี่ เอามาแลกกันก่อน”มาตินยังดื้อดึงเดินเข้าหากุ้ยช่ายที่อุ้มตั้งโอ๋หัวเราะร่วนอยู่คนเดียว
“ก็ไปแต่งตัวสิ เห็นมั้ยอันเดรสเหนื่อยแล้ว”กุ้ยช่ายอ้างเดินถอยหนีมาตินทำหน้าเจ้าเล่ห์
“จะมาเหนื่อยอะไรเล่าคุณ คนวิ่งนะผม ไม่ใช่อันเดรส”มาตินทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่กุ้ยช่ายพลางเดินเข้าหาอย่างเหมือนเสือกำลังตะปบเหยื่อ
“ก็นั่นแหละ ไปแต่งตัวไป มาวิ่งแก้ผ้ามีแต่คนมอง”กุ้ยช่ายไล่ ใครจะอยากมอง คนตรงหน้าใส่กางเกงขาสั้นผ้าร่มตัวเดียว ท่อนบนเปลือยจนเห็นกล้ามเนื้อเป็นลอนสวย ไม่ว่าจะกล้ามอกกล้ามแขน กล้ามท้อง แล้วก็ไรขนอ่อนที่โผล่พ้นกางเกงขึ้นมาเป็นแนวจนเกือบถึงสะดืออีก กุ้ยช่ายเห็นแล้วกลืนน้ำลายหนืดลงคอ หุ่นอะไรจะดีจนน่าอิจฉาขนาดนี้
“มองก็มองไปสิ คนมันหล่อ ใช่มั้ยอันเดรส ไหนลูกพ่อ ดูสิ เหนื่อยจนเหงือกบานเลย”มาตินก้มลงไปหาอันเดรสที่อุ้มอยู่เห็นอันเดรสยิ้มชอบใชที่พาวิ่งจนเหงือกสีน้ำผึ้งโผล่ออกมาโชว์
“เฮ้ย อย่าเอานิ้วไปแหย่ปากลูกสิคุณ นี่เอามานี่ มือก็สกปรกยังจะเอาไปแหย่ปากลูกอีก”กุ้ยช่ายยอมจำนนเห็นมาตินเอานิ้วแหย่เหงือกบานบานของอันเดรส
“ฮ่า ฮ่า ก็แค่นั้น ทำเป็นเล่นตัว”มาตินแซวไม่วายมองกุ้ยช่ายด้วยสายตาระยับแพรวพราวอย่างชอบใจ
“ว่าใครเล่นตัว”กุ้ยช่ายหันไปมองค้อนวางตั้งโอ๋ลงยืนบนผืนทรายขาวแล้วรับอันเดรสมาอุ้มแทน
“ก็จะว่าใครได้ อยู่กันแค่ไม่กี่คน ฮ่าฮ่า ผมไปละนะ”มาตินไม่วายพูดทิ้งท้ายกวนประสาท พออุ้มตั้งโอ๋ได้ก็วิ่งหนีอุ้มตั้งโอ๋ไปที่กองถ่ายทันที ทิ้งให้กุ้ยช่ายสงสัย ทำไมต้องเอามาแลกด้วย พอแลกเสร็จก็หนีไปเลย คนอย่างนี้เวลาทำอะไรทีไม่เคยมีอะไรที่ปกติ แบบนี้มันน่าสงสัย
“อะไรของเขา ประสาทละมั้ง”กุ้ยช่ายบ่นเบาๆมือข้างที่ว่างปัดผมที่ปลิวลมปรกใบหน้าขาวมาทัดหู ก้มลงมองอันเดรสที่อยู่ในชุดหมีโคอาล่าสีน้ำตาลยิ้มเหงือกบาน
แต่เดี๋ยว ทำไมมันร้อนร้อน สงสัยก็เลยเอามือทาบก้นกลมกลมผ่านชุดหมี เหมือน เหมือนมาก ร้อนร้อนแบบนี้ไม่ต้องสงสัย หันไปมองเจ้าตัว ตอนนี้กำลังทำคิ้วขมวด อย่าบอกนะว่า
ปู๊ด!!!
ชัดเลย อื้อหือ พอเสร็จสมอารมณ์หมายก็ยิ้มหัวเราะจนเหงือกบาน อะไรมันจะปานนั้น ดูชอบอกชอบใจดีแท้ มาอึทั้งทั้งที่ชาวบ้านเขาอุ้มอยู่แบบนี้ ไอ้นิสัยไม่เกรงใจแบบนี้มันได้พ่อมาชัดๆ
แล้วนี่อะไร ที่ตามตื้อขอเปลี่ยนลูกกันอยู่ตั้งนาน ที่ไหนได้ ขี้เกียจเปลี่ยนผ้าอ้อมว่างั้น แบบนี้มันใช่ได้ที่ไหน
เป็นพ่อคนก็ต้องทำบ้างสิ หรือจะกลัวเสียภาพพจน์ของเจ้าของบริษัท แต่มันไม่ใช่ แค่ให้เปลี่ยนผ้าอ้อมก็บอกกันตรงๆ ใช่มาอ้อมค้อมให้วิ่งหนีอยู่ได้ตั้งนาน
เรื่องแบบนี้มีใครเขาทำกัน หาเรื่องกวนประสาทกันชัดๆ ได้แต่คิดโมโหอยู่ในใจ จะไปบ่นมากก็ไม่ได้ พนักงานบริษัทมากันเยอะอยู่ เดี๋ยวจะพาลเสียภาพพจน์ แต่อย่างมาตินเหรอจะมีภาพพจน์กับเขา มันน่านัก เอาเด็กอึใส่ผ้าอ้อมมาหลอกทิ้งให้กันดื้อๆ
คิดแล้วก็แค้นใจ เดินกระทืบเท้าไปตามพื้นทราย อันเดรสก็อันเดรสเถอะน่ารักแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้หรอก ไม่ต้องเอามืออวบอวบมาจับหน้ามาชวนเล่นเลย ต้นเรื่องแท้แท้ยังหัวเราะเหงือกบานอยู่ได้ มาจับผมจับหน้าดึงชวนเล่นอยู่นั่นแหละ แค้นพ่อก็เลยมาลงกับลูกซะเลย
“อ่าว กุ้ยช่าย เมื่อกี้แม่เห็นเจ้ามาตี้มันอุ้มอันเดรสไปนิ”คุณนายของบ้านนอนอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบเมื่อเห็นกุ้ยเดินอุ้มหลานมาก็เอ่ยทักอย่างแปลกใจหันไปมองลูกชายทางกองถ่ายที่อยู่ข้างๆไม่ไกลกำลังอุ้มเด็กชายตัวกลมโยนไปมาอย่างอารมณ์ดี
“พอดีอันเดรสอึนะครับ เลยเอามาให้เปลี่ยนแพมเพิสให้”กุ้ยช่ายบอกวางเด็กตัวกลมเจ้าปัญหาบนเปลผ้าใบข้างแม่ของมาติน
“ให้มันนายอย่างนี้สิลูกชายแม่ สร้างเรื่องให้ตลอด แพมเพิสยังไม่มีปัญญาเปลี่ยน มันน่านัก ดูสิมัวแต่เล่น”หญิงสูงวัยได้แต่พูดบ่นลูกชายของตัวเอง
วันนี้คุณแม่ของมาตินดูค่อนข้างแปลกตาเพราะสวมชุดว่ายน้ำแบบวันพีช ท่อนล่างมีผ้าคาดเอวผูกอยู่ กุ้ยช่ายมองแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะอายุห้าสิบเข้าไปแล้ว ทั้งหุ่นและใบหน้ายังดูเหมือนแค่สี่สิบต้นต้น สมกับเป็นคุณนายของบ้านจริงๆ ดูมีรัศมีจับแม้จะอายุมากแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ นี่มันก็หน้าที่ของผมด้วย ว่าแต่คุณแม่ไม่ลองไปดูเขาถ่ายกันเหรอครับ”กุ้ยช่ายถามพลางถอดชุดหมีออก
“โอ้ย แม่นอนรับลมอยู่นี่ดีกว่า ปล่อยให้พ่อของตามาตี้ไปดูเองดีกว่า นั่นเขาขาทำงานแม่เลยไม่ต้องลำบากไปดูอะไรมากนัก”
“คุณแม่โชคดีนะครับที่เจอคนเก่งแบบคุณพ่อของคุณมาติน”กุ้ยช่ายเอ่ยชมพลางเปลี่ยนผ้าอ้อมให้อันเดรสที่ไม่ค่อยอยู่สุข คอยจะหยิบจับนู่นนี่ เมื่อกี้ก็จะคว้าเอาแพมเพิสที่มีแต่อึเล่น ดีที่กุ้ยช่ายคว้าไว้ทัน
“จะว่าโชคดี แม่ก็ยอมรับอยู่หรอก แต่กว่าจะลงตัวก็นานหลายปี เพราะว่าทางบ้านของแม่เข้าไม่ค่อยยอมรับพ่อของมาตี้สักเท่าไร เอาแต่บอกว่าปกป้องแม่ไม่ได้ ได้พิสูจน์กันมากมายถึงได้อยู่กันมาได้ทุกวันนี้”
“นั่นสินะครับ คุณแม่โชคดีมากเลย”กุ้บช่ายฟังที่แม่ของมาตินเล่าจนเปลี่ยนแพมเพิสให้อันเดรสเสร็จก็นั่งขัดสมาธิอุ้มอันเดรสให้นั่งพึงตัวเป็นการฝึกนั่งไปในตัว ไม่ลิมหยิบเป็ดน้ำมาให้อันเดรสกัดเล่น
พลางฟังแม่ของมาตินเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง
ตอนแรกคุณแม่ของมาตินเป็นคนเชื้อสายสเปนโดยกำเนิด คุณตาของมาตินเป็นผู้มีอิทธิพลทางเศรฐกิจของสเปน มีลูกสองคนคนแรกคือคุณลุงของมาตินและแม่ของมาติน ต่อมาท่านเสียชีวิตผู้สืบทอดของตระกูลก็เป็นพี่ชายของแม่มาติน ส่วนแม่ของแม่มาตินก็แต่งงานกับผู้ชายไทยทำให้แม่ของมาตินพูดไทยได้
ตอนอายุสิบแปดแม่ของมาตินกำลังเรียนมหาลัยในมาคริด และคุณพ่อของมาตินเองเรียนจบแล้ว กำลังศึกษาเรียนรู้งานทัวร์ของบริษัท ระหว่างนั้นท่านทั้งสองอยู่ที่จุดศูนย์กลางของเมืองมาดริด คือจัตุรัสที่เรียกว่า Puerta del Sol หรือ "ประตูแห่งดวงอาทิตย์" คุณพ่อของมาตินไปศึกษาดูเส้นทางทัวร์ใหม่ ส่วนคุณของมาตินกำลังถ่ายรูปเพื่อทำโครงงาน
คราวนี้คุณแม่ของมาตินเล็งหามุมถ่ายรูปเพลินไปหน่อย เดินถอยหลังไปชนกับคุณพ่อของมาตินจนโทรศัพท์ของท่านตกบนพื้นแตกกระจาย จนเกิดมีปากเสียง
หลังจากนั้นก็เกิดทะเลาะกันแล้วลงเอยด้วยการรับผิดชอบ โดยคุณแม่ของมาตินบอกจะชดใช้ ต่างแยกย้ายแล้วนัดมาเคลียกันอีกที หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ติดต่อกันโดยตลอด
คุณแม่ของมาตินกลายเป็นไกด์ทัวร์ให้คุณพ่อของมาตินไปโดยไม่รู้ตัว พากันเที่ยวจนเกือบทัวสเปน จนเกิดอุบัติเหตุทำให้เผลอใจจนแม่ของมาตินตั้งท้อง ทางบ้านของคุณแม่ที่มีคู่หมั้นหมายให้คุณแม่อยู่แล้วตามประสาครอบครัวของคนมีอิทธิพล ลุงของมาตินไม่พอใจพ่อของมาตินมากที่หยามเกียรติของน้องสาวตนจนทำให้
คุณพ่อของมาตินเคยโดนสั่งเก็บหลายครั้งแต่ก็รอดมาได้ จนมีครั้งที่แม่ของมาตินถูกลักพาตัวโดยคู่แข่งทางการค้า คุณพ่อของมาตินบุกเดี่ยวไปลักเอาคืนมานั่นล่ะถึงจะได้แต่งงานกันจนย้ายมาอยู่ที่ไทยโดยถาวร
กุ้ยช่ายได้ฟังก็ทิ่งในความรักของพ่อของมาตินที่มีให้คู่ชีวิต ถ้าเป็นใครหลายคนคงหนีไปแล้ว
“เฮ้ย ไอ้ราขึ้น แกมาได้ยังไง ไหนบอกกลับอิตาลีไปแล้ว ไอ้เผือกเอ้ย”เสียงมาตินโวยวายมาทางเต้นกองถ่ายข้างเต้นที่กุ้ยช่ายกับแม่ของมาตินนั่งอยู่
กุ้ยช่ายมองไปก็ยิ้มชอบใจ เห็นรามิเรสในชุดสบายๆ เสื้อแขนสั้นส่วมทับเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น มาตินเองที่กำลังถูกช่างจับแต่งตัวก็โวยวายใหญ่
“ก็ฉันได้ข่าวว่าแกจะเป็นนายแบบถ่ายโฆษณา เลยอุตห์ส่าบินข้ามโลกมาดู ใจคอแกจะไม่บอกฉันเลยรึไง”รามิเรสะบักไหล่ไม่ใส่ใจพลางเอามือล้วงกระเป๋าเดินมาทางเต้นที่กุ้ยช่ายนั่ง
“สวัสดีครับคุณแม่”รามิเรสเดินมาทักทายแม่ของมาตินแล้วยกมือสีน้ำผึ้งนิ้วนางประดับด้วยแหวนเพชรวงโตขึ้นจูบหลังมือ
“แหม ไม่เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นเป็นกองนะรามี่ของแม่”คุณแม่ของมาตินเองก็ยกมือให้รามิเรสจูบหลังมืออย่างสมยอม ดูเหมือนจะเป็นการทักทาบตามประสาชาวต่างชาติ แต่สำหรับกุ้ยช่ายค่อนข้างจะแปลกตา
“สวัสดีครับกุ้ยช่าย ไม่เจอตั้งนาน น่ารักขึ้นเป็นกอง”รามิเรสไม่พูดทักปล่าวปล่าว
ถือโอกาสที่กุ้ยช่ายอุ้มประคองอันเดรสอยู่ สองมือหนาจับไหล่สองข้างของกุ้ยช่ายดึงเข้าไปแล้วเอาแก้มแนบแก้มสองข้างของกุ้ยช่าย
“อะ เอ่อ สวัสดีครับคุณรามิเรส”กุ้ยช่ายตกใจ จู่ๆรามิเรสก็เล่นมาทักทายแบบนี้ ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นธรรมเนียมของชาวต่างชาติที่เอาไว้ทักกับผู้หญิง ได้แต่เออออกับเขาไป
จนคุณนายที่นั่งอยู่ข้างข้างยิ้มออกมา หันไปมองลูกชายผิวเข้มของตัวเอง เดินผละออกมาจากช่างทำผม ใบหน้าเหมือนจะไม่พอใจซะด้วย เห็นแล้วคนเป็นแม่ก็ยิ้มพลางหยิบแว่นกันแดดมาสวมเอนตัวลงนอน ปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กๆ
“ไหนบอกว่าจะมาดูฉันถ่ายแบบ แกจะมาอยู่อะไรที่นี่วะ”มาตินโวยวายขึ้นมาแต่ไกล เดินลุยผืนทรายสีขาวตรงมาที่เต้นข้างๆ
“ใครมันจะมาดูกอลิล่าถ่ายแบบวะ”รามิเรสพูดหัวเราะแล้วนั่งลงชิดข้างกุ้ยช่าย
“ใครกอลิล่า ถ้าจะนั่งก็ไปนั่งนู่น จะมาแย่งลูกฉันนั่งทำไมวะ เต้นนี้มันเต้นครอบครัวเว้ย”มาตินโวยวาย มันน้าหงุดหงิดไม่น้อย ว่ากอลิล่าก็ไม่สนใจหรอก เพราะโดนเรียกแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
แต่ไอ้ที่ต้องเดินมาเนี่ย เพราะคนหน้าขาวตรงหน้าที่ปล่อยตัวหล่อยใจให้คนอื่นเขาหอมแก้มซ้ายขวาตามใจชอบโดยไม่ขัดขืนต่างหาก
ทีกับเขาละขัดขืนตลอด ถึงจะไม่ปฏิเสธ แต่ก็ต้องใช้กำลัง กว่าจะได้มาก็ยาก แต่นี่อะไร ทีกับไอ้ราขึ้นนี่ยอมง่ายๆ มันน่ามั้ย
“ลุก ลุกไปเลยแก ไปช่วยช่างถ่ายรูปดูวิวหน่อย ไหนไหนก็มาแล้ว เห็นถ่ายรูปสวยไม่ใช่รึไง”มาตินหาเรื่องไล่รามิเรสที่นั่งหยอกกับอันเดรส แต่จริงๆแล้วดูก็รู้ว่าหาเรื่องใกล้กุ้ยช่ายมากกว่า
“ใคร ใครบอกว่าฉันถ่ายรูปสวยวะ ไม่มี แกอย่ามามั่ว”รามิเรสเงยหน้ามาถาม ค่อนข้างงงเพราะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรกับเขาสักเท่าไร
“เออน่า ไปช่วยเขาดูหน่อย”คราวนี้ไม่พูดปล่าว ถึงขั้นลงไม้ลงมือฉุดดึงกันเลยทีเดียว
“อ่าวเฮ้ย ไม่ไป แกจะมาอะไรเนี่ย คนเพิ่งมาถึงนะเว้ย”รามิเรสโวยวาย ยื้อแขนที่มาตินดึงไว้
“เออไปเหอะน่า ไปสิวะ”มาตินไม่ยอมพยายามดึงจนจะหลุดอยู่แล้วเชียว นั่นอะไรวะ ทำไมต้องไปเกาะอย่างนั้น จนจะกอดกันอยู่แล้ว
เห็นว่าสู้แรงกันไม่ได้ก็ไปเกาะกุ้ยช่าย มันน่ามั้ย จะกวนโมโหกันไปถึงเมื่อไร ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะที่หอแก้ม แล้วก็ปล่อยให้เขาหอมเฉยๆ แล้วนี่อะไร เขากอดอยู่นะ ปล่อยให้เขากอดต่อหน้าต่อตา ไม่ผลักไม่ขัดขืนเลย กลับหัวเราะชอบใจ นี่เห็นเป็นเรื่องเล่นหรือไง ไม่ได้เล่นนะ จะโมโหแล้วเนี่ย
แล้วทำไมต้องโมโห ใครจะทำอะไรก็ต้องเรื่องของเขา แล้วนี่มาดึงทำไม ไม่เห็นจะต้องมาเดือดร้อนอะไร แต่ทำไมมันปล่อยไม่ได้ ทำไมต้องโมโห
ก็แล้วมันน่าโมโหมั้ยล่ะ ทีกับคนอื่นล่ะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ก็ไม่อยากจะสนหรอก แค่เห็นว่ามันไม่ยุติธรรมก็เท่านั้นเอง
ไม่ยุติธรรม!!!
********************************
ตอนหน้าเอาตบจูบเลยมั้ย

55+ คิถึงคนอ่านฝุดๆ ไม่ได้มาลงนาน
ยังไงก็อย่าพึ่งทิ้งกันนะคร้า
รัก รัก รัก รัก คนอ่าน
