มาเร้วคร่าา
ตอนที่ 17.2 คุณลุงของตั้งโอ๋
กุ้ยช่ายกับตั้งโอ๋นั่งรถแท็กซี่มาลงที่ร้านกาแฟแถบชานเมือง กุ้ยช่ายสั่งชานมเย็นมาสองแก้วกับขนมเค้ก ดูท่าตั้งโอ๋จะชอบตบมือดีใจใหญ่ ยิ้มกว้างแก้มกลมเป่งจนเหมือนจะแตก
มือเล็กยกนาฬิกาขึ้นดู ใกล้เวลาที่ใครอีกคนจะมาแล้วกุ้ยช่ายตื่นเต้นจนแทบอดใจรอไม่ไหว จะว่าตื่นเต้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว อาจจะเป็นคิดถึง อยากเจอ
ในหนึ่งปี มีแค่ไม่กี่ครั้งที่จะมีโอกาสเจออีกฝ่าย ยิ่งช่วงพักหลังอีกฝ่ายไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกาจึงทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอ แค่คิดความอบอุ่นมันก็วาบเข้ามาในใจอย่างบอกไม่ถูก
“รอนานรึปล่าว”เสียงทุ้มเรียบเอ่ยเบาๆเรียกให้กุ้ยช่ายหันไปมอง
ใบหน้าที่ไม่เจอกันเกือบปีเปลี่ยนไปเยอะเลย สุงขึ้นรึป่าวกุ้ยช่ายไม่แน่ใจ ได้แต่ยิ้มรับกับคนตรงหน้า
“ไม่นานครับ พึ่งมา”กุ้ยช่ายยิ้ม
“คุณยุง ตั้งโอ๋คิถึง”ตั้งโอ๋กระโดดขึ้นไปกอดคอผู้มาใหม่ที่ถูกเรียกว่าลุง
“เอ้อ หนักขึ้นเป็นกองเลยนะตั้งโอ๋ไหนดูสิ หล่อเหมือนลุงรึป่าว”ร่างสูงอุ้มตั้งโอ๋ขึ้นนั่งบนตัก ใบหน้าเรียบตึงดูน่าเกรงขามยิ้มบางๆให้กุ้ยช่าย
กุ้ยช่ายมองคนที่มีสถานะเป็นลุงของตั้งโอ๋ คนที่เป็นพี่ชายของฟ้า ฟ้าที่ตอนนี้ไม่อยู่กับเขาแล้ว ปกติแล้วพัฒน์เป็นคนที่มีใบหน้าเรียบไร้การแสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ แต่กลับยิ้มบางๆให้กับกุ้ยช่ายเสมอ
รอยยิ้มที่ปลอบประโลมใจมานานหลายปี ที่พึ่งเพียงคนเดียวที่เต็มใจจะพึ่งพา คนเดียวที่พึ่งพามาโดยตลอด รอยยิ้มบางๆที่ส่งมาเสมอทำให้กุ้ยช่ายอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
กุ้ยช่ายมองพัฒน์คุยกับตั้งโอ๋อยู่นาน คนเป็นลุงถามไถ่เรื่องราวมากมายจากหลานอย่างอยากรู้อยากเห็น
ที่ผ่านมาหลังจากฟ้า แม่ของตั้งโอ๋เสีย กุ้ยช่ายก็ไม่รู้จะพึ่งพาใคร มีก็เพียงพ่อ แต่กุ้ยช่ายก็เลือกที่จะไม่ทำ เลือกที่จะแบกรับในสิ่งที่ตัวเองก่ออยู่คนเดียว
งานศพถูกจัดอย่างเรียบง่ายแต่สุดความสามารถของกุ้ยช่าย มีบ้างที่พัฒน์ยื่นมือเข้ามาแสดงเจตจำนงที่จะช่วยเหลือ แต่กุ้ยช่ายก็ปฏิเสธมัน
ครอบครัวของฟ้าเป็นครอบครัวที่มีทั้งฐานะหน้าตา พ่อของฟ้าเป็นทหารยศสูงมีหน้ามีตาทางไม่น้อย แต่ก็ใจแคบ เลือกที่จะทิ้งลูกสาวเพียงเพราะทำเรื่องให้ครอบครัวเสียหน้าโดยการท้องก่อนแต่ง
ครั้งที่เขาเข้าไปกราบขอขมาเพื่อขอฟ้ากับพ่อแม่ของฟ้า ทั้งสองก็ไล่กุ้ยช่ายออกมา ถ้าไล่กุ้ยช่ายคนเดียวกุ้ยช่ายเข้าใจ แต่ครอบครัวของฟ้า ไล่ทั้งลูกและหลานในไส้ออกมาด้วย
ฟ้าเสียใจมาก แต่กุ้ยช่ายก็พยายามปลอบประโลมเพื่อให้ฟ้าได้ลืมเรื่องราวเลวร้ายแล้วสนใจกับลูกที่กำลังจะเกิดมา
อันที่จริงมันเป็นความผิดพลาดของกุ้ย แต่ไม่ใช่ของฟ้า ฟ้าบอกว่าฟ้าตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้น ตั้งใจที่จะทำให้เรื่องในคืนนั้นมันเกอดขึ้น แต่ไม่ตั้งใจให้เกิดตั้งโอ๋
ฟ้าเคยบอกว่าชอบกุ้ยช่าย ชอบตั้งแต่ตอนรับน้อง มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ฟ้าชอบกุ้ยช่าย แล้วหาเวลาเข้าหากุ้ยช่าย แต่กุ้ยช่ายไม่ค่อยสนใจนัก จนบังเอิญเป็นสายรหัสกัน
แล้ววันเลี้ยงสายรหัสฟ้าก็ตัดสินในทำเรื่องนั้นลงไปเพราะฟ้าประชดครอบครัว ครอบครัวของฟ้าเคร่งครัด กดดันให้ฟ้าต้องทำให้ได้ตามที่พวกเขาหวัง แต่มีหลายครั้งที่ฟ้าทนไม่ไหว จึงตัดสินใจประชดครอบครัว แล้วทำสิ่งที่ตนเองคิดต้องการมาดดยตลอด
ร่างของฟ้าถูกเผาส่วนเถ้ากระดูกถูกนำไปไว้ที่วัดแถบชานเมือง ครบรอบวันตายของทุกปีกุ้ยช่ายจะพาตั้งโอ๋มาหาฟ้า แล้วทุกครั้งจะมีพัฒน์มาด้วย
แรกๆกุ้ยช่ายไม่ยอมรับพี่ชายของฟ้า แต่ต่อมาพัฒน์ได้แสดงออกว่าต้องการช่วยเหลือจริงๆ กุ้ยช่ายรับความช่วยเหลือของพัฒน์ แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะไม่อยากเป็นภาระ
แต่แค่นั้นก็มากพอสำหรับกุ้ยช่าย พัฒน์เฝ้าวนเวีนมาช่วนดูแลตั้งโอ๋ทำความคุ้นเคยกับตั้งโอ๋บ่อยครั้ง แต่ช่วงหลังๆเป็นนานครั้งไปเพราะระยะทางไม่เป็นใจสักเท่าไร
จากแรกๆกุ้ยช่ายผลักไสพัฒน์เพราะไม่ต้องการความช่วยเหลือ แต่พอพักหลังๆ สองปีที่ผ่านมาที่พัฒน์ไปเรียนต่อ ใจกุ้ยช่ายกลับโหยหาอย่างบอกไม่ถูก
ต้องการ ต้องการที่พึ่งพาทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยต้องการ
“อร่อยเหมือนเดิมนะว่ามั้ย”พัฒน์ถามส่งย้มบางๆให้กุ้ยช่าย
“ครับ”กุ้ยช่ายยิ้มรับ
“ได้ข่าวว่าเรียนจบแล้ว กุ้ยช่ายได้งานทำรึยัง”พัฒน์ถามยกกาแฟขึ้นดื่ม ส่วนตั้งโอ๋นั่งกินเค้กอยู่ข้างๆ
“ได้แล้วครับ พอดีช่ายได้งานเป้นผู้ช่วยประสานงานให้กับบริษัททัวร์น่ะครับ”กุ้ยช่ายบอก
“เป็นงานแบบไหนกัน”
“ก็คอยออกงานกับเจ้านาย แล้วก็ดูแลเรื่องนัดติดต่อกับลูกค้า แต่หลักๆก็ เลี้ยงลูกให้เจ้านายมากกว่า”กุ้ยช่ายหัวเราะเบาๆ
“เลี้ยงเด็กเหรอ”พัฒน์เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย งานอะไรกัน
“พอดีเจ้านายช่ายเขามีลูกแล้วแม่ของเด็กเอามาฝากไว้ เจ้านายช่ายเขาเลี้ยงเด็กไม่เป็นช่ายเลยรับงานควบสองตำแหน่งเป็นพี่เลี้ยงเด็กด้วย”กุ้ยช่ายเล่า มันก็น่าขำอยุ่หรอก งานอะไรก็ไม่รู้มั่วไปหมด
“งั้นเหรอ แปลกดีแฮะ ครั้งแรกพี่นึกว่ากุ้ยช่ายยังไม่มีงานทำพี่จะได้ช่วยฝากให้ ที่ไหนได้ เก่งไม่เบา ได้งานทีสองตำแหน่ง”คนเอ่ยชมไม่ชมปล่าวกลับเอื้อมมือมาลูบหัวของกุ้ยช่ายเบาๆ
แค่ลูบหัวแบบชมเชย ลูบเพราะเอ็นดูกุ้ยช่ายข่มใจ แต่ทำไมกัน สัมผัสแค่เบาๆแต่ทำเอาอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ
ไม่ตื่นเต้น ใจไม่เต้นแรง ไม่หน้าแดง แต่รู้สึกดี รู้สึกดีจนน้ำตามันเหมือนจะไหลอยู่ข้างใน
ไม่สิ ไม่แค่ไหลข้างในเท่านั้น ใบหน้าขาวอุ่นวาบจากสายน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตา ถึงยังไงมันก็กลั้นไว้ไม่อยู่
ฝ่ามือที่ทางบนหัวเป็นตัวปลดล็อกความอ่อนแอทั้งหมด ปลดล็อกสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ในใจ
ความเหงา ความเดียวดาว ความโดดเดี่ยว ความอ้างว้าง มันถูกดึงออกมาด้วยฝ่ามืออุ่นๆ น้ำตาใสๆไหลรินอาบแก้มนวล
“ขี้แยอีกแล้ว เป็นแบบนี้ทุกปีเลยสิ”พัฒน์หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมพร้อมขึ้นมาซับน้ำตากุ้ยช่าย
“ไม่ได้ขี้แยสักหน่อย แค่น้ำตาไหล ไม่ได้หมายความว่าร้องไห้นะ”กุ้ยช่ายเถียงทั้งน้ำตา
“ครับ ไม่ได้ร้องก็ไม่ได้ร้อง”พัฒน์หัวเราะเบาๆ
“ช่ายแค่ดีใจต่างหากที่มาเจอพี่พัฒน์”
“ก็บอกพี่แบบนี้ทุกปีล่ะ เห็นมั้ยตั้งโอ๋มองแล้ว”พัฒน์ลูบหัวกุ้ยช่าย
“จ่าเป็นยัย ยุงฮับจ๋าไม่ฉบายอีกแย้วเหยอ”ตั้งโอ๋มองกุ้ยช่าตากลมเบิกกว้างอย่างเป็นห่วง
“ป๋าไม่เป็นไรครับ แค่คุณลุงของตั้งโอ๋แกล้งป๋า”กุ้ยช่ายหันไปยิ้ม
“คุณยังคนไหนฮับ คุณยังมาตินเหยอ หยือคุณยุงพัด ยุงพัดห้มแกล้งจ๋านะฮับ เดี๋ยวจ๋าไม่ฉบายอีก”ตั้งโอ๋หันไปเกาะแขนลุง
“ครับ ลุงไม่แกล้งป่าของตั้งโอ๋หรอก ว่าแต่ป๋าไม่สบายบ่อยเหรอครับตั้งโอ๋ ไหนบอกลุงสิ”พัฒน์หันไปลูบหัวตั้งโอ๋อีกคน
“ฮับ เห็นหน้าแดงตัวย้อนบ่อยๆ ครั้งที่แย้วเห็นปวดหัว”ตั้งโอ๋ฟ้อง
“จริงเหรอ”พัฒน์หันมาถาม
“ก็นานนานทีแหละ รีบกินรีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวฟ้ารอนาน”กุ้ยช่ายพูดตัดบท ไอ้ที่ปวดหัวอ่ะเข้าใจ แต่ไอ้หน้าแดงตัวแดงนี่ไม่ใช่แล้ว
พัฒน์อุ้มกุ้ยช่ายมาที่เจดีย์ที่ใส่อัถฐิของฟ้าตามมาด้วยกุ้ยช่ายที่ถือปิ่นโตของกินที่ตื่นขึ้นมาเตรียมแต่เช้า กับช่อดอกไม้ที่ฟ้าชอบ
“แม่ฟ้าฮับตั้งโอ๋มาแย้วฮับ”ตั้งโอ๋ลงเดินไปหน้าเจดีมีภาพของฟ้า ตั้งโอ๋เอามือเล็กๆลูบไปบนภาพเพื่อปัดคราบฝุ่นออก
“ไหนบอกแม่ฟ้าสิครับตั้งโอ๋จะทำอะไรให้แม่ฟ้าบ้าง ปีนี้”กุ้ยช่ายถามตั้งโอ๋ให้บอกกับฟ้า พลางจัดเรียงปิ่นโตแล้วเอาดอกไม้วาง
“ฮับ ตั้งโอ๋จะตั้งในเยียน เดี๋ยวตั้งโอ๋จะได้เยียนอนุบาลแย้วฉับ จะฉอบที่หนึ่งมาอวดแม่ฟ้า”
กุ้ยช่ายปล่อยให้ตั้งโอ๋พูดได้ไม่นาน ก็จุดธูปหลังจากนั้นก็เข้าสู่ความเงียบอยู่นาน
ไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงความเงียบเหงาเข้าปกคลุม พอธูปหมดกุ้ยช่ายก็เก็บปิ่นโต
“ไปแย้วฮับตั้งโอ๋จะมาหาใหม่”ตั้งโอ๋หันไปบอกลา
กุ้ยช่ายถือปิ่นโตหันหลังจากมาโดยที่ไม่พูดอะไร ไม่พูดไม่ได้แสดงว่าไม่คิดถึง ไม่พูดไม่ได้แสดงว่าไม่เสียใจ เก็บไว้ในความทรงจำ เก็บเอาไว้ในถานะที่เข้าใจ
พัฒน์ขับรถพากุ้ยช่ายและตั้งโอ๋มาที่ร้านอาหารในเมืองเจ้าประจำที่กินด้วยกันทุกครั้งที่เจอ สั่งเมนูประจำ เครื่องดื่มประจำ
ไม่นานอาหารก็ถูกยกมา ตั้งโอ๋เป็นคนแรกที่ตื่นเต้นดีใจ แล้วจัดการกุ้งทอดตัวโต
“กินเยอะๆ จะได้โตไวไวครับ”เหมือนพัฒน์จะบอกคนลูกแต่ตักให้คนพ่อ ตามองคนเป็นพ่อ ส่งยิ้มบางๆให้คนเป็นพ่อ
“จะเอาอะไรมาโตอีกล่ะครับ ช่ายยี่สิบสี่แล้ว พี่พัฒณ์เถอะกินบำรุงนะครับ ร่างกายแก่ตัวขึ้นทุกวัน”กุ้ยช่ายตักให้บ้างปากก็ไม่วายหยอกกลับ
“ใครแก่ พี่แก่เหรอ ไม่ใช่แล้ว”พัฒน์บอกยิ้มๆ จะแก่ได้ไง ก็เพิ่งยี่สิบแปดเอง
“ว่าแต่สาวๆที่เมกาสวยมั้ยครับ”กุ้ยช่ายแซว
“สวยสู้คนไทยไม่ได้หรอกน่า”
“แล้วเมื่อไรจะมีป้าให้ตั้งโอ๋ล่ะ”กุ้ยช่ายถาม จะว่าหรอกถามก็คงจะใช่ ใจอยากรู้ว่าอีกฝ่ายตอนนี้มีใครมั้ย ลึกๆแล้วก็ไม่อยากให้มี กลัวโดนทิ้ง กลัวจะไม่มีใครให้พึ่งพึง
“จะให้มีได้ไงล่ะ ลำพังแค่หาเวลามาหากุ้ยช่ายกับหลานพี่ก็แย่แล้ว”
“ฮ่าฮ่า ให้มันจริงเหอะ”กุ้ยช่ายยิ้ม
“นี่นี่ ดูสิ โต๊ะนั้นน่ะ หล่ออย่างกับดาราเลย”เสียงเด็กเสริฟคุยกันเดินผ่านโต๊ะครั้งแรกกุ้ยช่ายไม่สนใจ
“ไหนๆ อยุ่โต๊ะไหน”เด็กเสริฟอีกคนถามกลับ
“ก็โต๊ะหน้าร้านไง หล่อเวอร์ แต่เสียดายมากับลูก ลูกยังเป็นทารกอยู่เลย”กุ้ยช่ายสะดุดกับคำว่าทารก
“อุ้ยตายพ่อลูกอ่อน มาคนเดียวซะด้วย”
อันที่จริงกุ้ยช่ายไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่เพราะเด็กเสริฟคุยกันเนื้อความว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อลูกอ่อนแถมมาคนเดียว นี่มันหัวอกเดียวกันชัดๆไหนๆก็นั่งโต๊ะนี้แล้ว มองเห็นหน้าร้านชัดเจน ยังไงก็ขอยุ่งเรื่องชาวบ้านหน่อยเถอะ
กุ้ยช่ายหันไปมอง เห็นชายหนุ่มนั่งอยู่โต๊ะหน้าร้าน รูปร่างสูงใหญ่ผิวเข้มสวมแว่นตา ใส่หมวกอย่างกับพวกดาราหลบปาปารัชซี่ยังไงยังงั้น
มองจากระยะไกลเห็นหน้าไม่ชัดเพราะอีกฝ่ายใส่เครื่องป้องกันใบหน้า แล้วเด็กล่ะ เด็กใส่ชุดโดเรม่อนตัวกลม
แต่เดี๋ยว ชุดเหมือนอันเดรสเลย จะว่าไปคนเป็นพ่อก็ใส่ชุดคุ้นๆ จะว่าไปก็ชุดเหมือนชุดที่มาตินใส่แฮะ แล้วนี่อะไร
แล้วนี่มันอะไรกันวะเนี่ย แล้วจะตามมากันทำไม กุ้ยช่ายกรีดร้องในใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายหันมาเห็นเขาจ้องมอง เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกจับได้ มือหน้ายกขึ้นถอดแล้วตาแล้วโบกมือเบาๆทักทาย
ยังมีหน้าจะมาทักทายอีกเหรอ กุ้ยช่ายคิดในใจอย่างเหลืออด นี่มานะสะกดรอยกันมาอย่างนี้เลยเหรอ
จะว่าบังเอิญก็คัดค้านหัวชนฝา ร้านนี้อยู่ไกลจากบ้านอยู่มากโข จะมาบังเอิญมันเป็นไปไม่ได้
ไอ้โรคจิตเอ้ยย!!
**************************
ขอคำแนะนำด้วยค่า
เพราะรักจึงมาบ่อยนะเนี่ย
แต่จะมีใครรักคนเขียนมั้ยน้อ
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงให้อีกตอน
ต้องไปอ่านหนังสือสอบ
รักทุกคนคร่าา