มาแล้วคร่า
ตอนที่ 12.2 แขกไม่ได้รับเชิญ
กุ้ยช่ายเข้ามาทำอาหารในครัวทิ้งให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่กับอันเดรสตามลำพัง ถามว่าห่วงอันเดรสมั้ย ก็ห่วงแต่ดูจากภายนอกรามิเรสน่าจะดูแลอันเดรสได้ดีกว่ามาตินเยอะ
มือขาวหยิบจับวัตถุดิบลงใส่หม้ออย่างคล่องแคล่ว ปรุงบ้างเล็กน้อย ไม่นาน กลิ่นหอมฟุ้งก็ลอยไปถึงห้องรับแขก
รามิเรสหยอกล้อเจ้าอ้วน จมูกโด่งตามแบบฉบับคนต่างชาติสูดดมกลิ่นหอมของอาหารเข้าปอดเต็มๆ นอกจากจะตัวหอมแล้ว ยังทำกับข้าวได้หอมอีก รามิเรสยิ้มหันไปมองประตูครัวอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไรเจ้าของอาหารกลิ่นหอมนี่จะออกมา
“ไงเจ้าหมา ได้กลิ่นเหรอ”รามิเรสหันไปถามเจ้ากีกี้ที่เดินเชิดจมูกดมมาจากด้านนอกมานั่งเฝ้าอยู่ข้างๆโซฟา พอมาถึงเจ้ากีกี้ก็ยื่นจมูกมาดมอันเดรสต่อ แสดงทีท่าว่ามาเฝ้านะ ทำให้รามิเรสอดหมั่นไส้เอาเท้าเขี่ยพุงเจ้ามาตัวใหญ่ไม่ได้ เจ้าหมาตัวใหญ่ชอบใจกลิ้งไปมาราวกับสนิทกันมานาน ก็แหงล่ะ ฝรั่งตาสีฟ้านี่มาบ่อยเสียยิ่งกว่าบ่อย
“คุณ ผมกลับมาแล้ว”เสี้ยงทุ้มคุณหูทำให้เจ้ากีกี้ลุกผลุดวิ่งไปหาเจ้านายมัน
“จ๋าฮับ ตั้งโอ๋มาแว้ว”ตั้งโอ๋พูดตามอย่างชอบใจ แล้วทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ก็มองหัวเราะ
“กลับมาแล้วเหรอ”รามิเรสทัก
ซึ่งแน่นอนตั้งโอ๋ที่จะวิ่งไปหากุ้ยช่ายในครัวเห็นชายต่างชาติตัวใหญ่ไม่คุ้นตา วิ่งกลับมาเกาะขาคุณลุงทันที
“อ้าว เฮ้ย รารี่ แกลับมาไทยตั้งแต่เมื่อไรไม่เห็นบอกฉันล่วงหน้า ทำตัวเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญตลอดนะแก”มาตินบอกทำให้ตั้งโอ๋ปล่อยขามาตินเมื่อรู้ได้ว่าคนตรงหน้ารู้จักกับคุณลุง ตินเอาของวางไว้ที่โต๊ะ
“ก็เพิ่งกลับมาวันนี้ล่ะ แล้วเด็กนี่”รามิเรสถามอย่างอดสงสัยไม่ได้ จะว่าลูกของมาตินก็ไม่ใช่ เพราะไม่มีเค้าเหมือน
“หวัดดีฮับ”ตั้งโอ๋ยกมือไหว้ตากลมจ้องมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างสงสัยใคร่รู้
“นี่ลูกของพี่เลี้ยงเด็กฉันเอง แกน่าจะเจอแล้วใช่มั้ย ตั้งโอ๋ครับ นี่เพื่อนคุณลุงชื่อรามิเรสครับ”มาตินหันไปลูบหัวตั้งโอ๋ที่ยืนจ้องรามิเรสอย่างสงสัย ให้คลายความข้องใจ
“ฮับ”ตั้งโอ๋พอคลายความข้องใจก็ยิ้มกว้างให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญก่อนวิ่งเข้าครัวไปหาคุณพ่อ
“ตั้งใจจะมากี่วันล่ะรอบนี้”มาตินถามเห็นแก้วชามะลิวางอยู่เห็นไม่มีรอยพร่องจึงยกขึ้นดื่มอย่างถือวิสาสะของเจ้าข้องบ้าน
“เฮ้ย นั่นของฉัน”รามิเรสโวยวายห้ามไม่ทันแก้วที่เต็มไปด้วยชามะลิหอมชื่นใจก็กลายเป็นแก้วปล่าวเหลือเพียงดอกมะลิสีขาวทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
“ฮ่าฮ่า ไม่ทันแล้วว่ะ เห็นไม่กินก็นึกว่าไม่สนใจ ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้กุ้ยช่ายเอามาให้ใหม่”มาตินยิ้มกริ่ม ทำเอารามิเรสส่ายหัวกับนิสัยที่แก้ไม่เปลี่ยน
“แกนี่นะ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เอานี่เอาลูกแกคืนไป”รามิเรสเอาอันเดรสคืนให้มาตินกะจะไปขอชาแก้วใหม่ อุตส่าห์มองมานานแต่ไม่ได้แตะเพราะอุ้มเจ้าอ้วนอยู่ ว่าจะเก็บไว้กินทีหลัง ที่ไหนได้พอไอ้เจ้าของบ้านไร้มารยาทมันมากลับยกกินหน้าตาเฉย
“แล้วแกรู้ได้ไงว่าลูกฉัน กุ้ยช่ายบอกแกเหรอ”มาตินทำหน้าเหรอหราตกใจ เพราะไม่คิดว่ากุ้ยช่ายจะบอกคนอื่นว่าลูกเขา เพราะเขายังไม่พร้อมเปิดตัว
“ไม่ต้องมีใครบอกหรอก ดำเหมือนแกขนาดนี้”รามิเรสบอกพลางมองด้วยหางตาอย่างเคือง
“ขอโทษครับคุณเผือก นี่เขาไม่ได้เรียกดำครับ เขาเรียกผิวสีแทน”มาตินแก้ไม่วายจิกกัดคืน
“ช่างเถอะ ฉันว่าจะมาสักอาทิตย์นึง มาดูว่าฝั่งไทยว่าพัฒนาไปแค่ไหน จะได้ปรับปรุงให้เทียบกับที่อื่น”รามิเรสบอกจ้องมองมาตินที่อุ้มอันเดรสโยกไปมา
ผ่านไปได้พักใหญ่รามิเรสก็ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆของอันเดรสผ่านจากปากมาตินอย่างไม่น่าเชื่อ ว่ามันจะเหมือนในละครน้ำเน่าหลังข่าวขนาดนั้น ในใจนึกชื่อชมกุ้ยช่ายที่มีน้ำใจยอมช่วยเหลือมาตินตั้งแต่แรกพบ ไม่งั้นป่านนี้สภาพของมาตินกับเจ้าอ้วนที่อยุ่ในชุดแครอทไม่รู้จะเป็นอย่างไร รามิเรสจ้องมองมาตินที่ปลดกระดุมชุดอันเดรสแล้วเอานิ้วเกี่ยวขอบผ้าอ้อมสำเร็จรูปแล้วก้มมอง
“ไหนพ่อขอดูหน่อยว่าอึป่าว ทำไมตูดร้อนจัง”มาตินพึมพำไม่ค่อยสนใจแขกประจำสักเท่าไร
“นั่นแกทำอะไรน่ะ”รามิเรสถามสงสัย เห็นมาตินแหวกผ้าอ้อมสำเร็จรูปดูก้นลูก
“ฉันก็ดูไงว่าอันเดรสอึรึป่าวจะได้เปลี่ยนแพมเพิสให้ ไม่งั้นเดี๋ยวตูดเป็นผื่นกุ้ยช่ายจะมาดุเอาอีก ขานั้นโคตรขี้บ่น”มาตินบ่นอุบ แต่คำตอบของมาตินทำให้รามิเรสอึ้งจ้องมองมาตินตาไม่กระพริบ ตกใจที่เพื่อนเปลี่ยนไปมาก
เปลี่ยนไปมากจากคนที่ไม่ค่อยสนใจอะไรนอกจากเรื่องผู้หญิงกับเรื่องเที่ยวเล่น และเรื่องงานบ้างเล็กน้อย มองดูสภาพห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยของใช่และข้องเล่นเด็กไม่เท่ากับนิสัยที่เอาใจใส่คนอื่น ดูเหมือนว่าพ่อเพลบอยตัวแสบกำลังจะทิ้งลายเสียแล้ว
“ฉันว่าฉันไปขอชามะลิกุ้ยช่ายดีกว่า ส่วนแกก็นั่งดูตูดลูกแกไปเถอะ”รามิเรสหยิบแก้วลุกเตรียมเดินเข้าครัว
“อ่าวเฮ้ย ไม่ต้องไปเดี๋ยวกุ้ยช่ายก็เอามาให้เองแหละ”มาตินท้วง
“ไม่เอาอ่ะ จะไปดูว่ากุ้ยช่ายทำอะไรให้กินด้วย”รามิเรสหันมาบอกพลางยักคิ้วให้เป็นนัยว่าสนใจพี่เลี้ยงเด็กของมาติน
“หมายความว่าไง นี่ฉันเจ้าของบ้านนะเว้ย ยังไม่ได้ชวนแกเลยสักคำ”มาตินโวยวายอุ้มอันเดรสลุกตาม
“เจ้าของบ้านไม่ชวนแต่คนทำเขาชวนนิ ฉันจะไปขัดอะไรเขาได้ น้ำใจคนไทยนี่ดีเนอะ”รามิเรสพูดจบก็เดินเข้าครัวไป
“ไม่ได้นะเว้ย ฉันไม่ได้เชิญแกเลยไอ้ราขึ้น เฮ้ยกลับมาก่อน”มาตินโวยวาย ไม่รู้ว่าทำไปทำไม จะห้ามทำไม แต่ก็อยากห้ามตาก็จ้องมองแผ่นหลังเพื่อนกำลังจะเดินเข้าไปในครัว
“เสียงโวยวายอะไรกันคุณ เดี๋ยวอันเดรสก็ตกใจหรอก”กุ้ยช่ายเดินสวนออกมาจากครัวพอดิบพอดีหันมาดุ แล้วก็หันไปยิ้มให้กับรามิเรสที่หยุดอยู่หน้าประตูครัว
“กับข้าวเสร็จแล้วคุณ คุณรามิเรสก็เชิญด้วยนะครับ”กับอีกคนก็พูดอย่าง มาตินหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมวางอันเดรสลงรถเข็นแล้วเข็นเข้าครัว พอไปถึงไอ้เพื่อนตัวดีก็นั่งทับที่เขาเสียแล้ว อีกทั้งยังเอาแต่จ้องมองกุ้ยช่างที่กำลังจัดโต๊ะอาหาร ทำเอามาตินเดินลงไปกระแทกก้นบนเก้าอี้ประจำของกุ้ยช่ายด้วยความหมั่นไส้
“นี่คุณ นี่มันที่ผม ขยิบไป”กุ้ยช่ายยกกับข้าวจานสุดท้ายวางลงบนโต๊ะหันไปบ่นมาติน มาตินขยับออกอย่างช่วยไม่ได้ หันไปเห็นรามิเรสหัวเราะเยาะอยู่เงียบๆ
“คุณรามิเรสทานอาหารไทยได้มั้ยครับ วันนี้ผมทำไม่เผ็ดมากน่าจะทานได้”กุ้ยช่ายหันไปถามรามิเรส ทำให้มาตินเอาแต่เข่นเขี้ยวเขี้ยวฟันใส่เพื่อน
“ไม่เป็นไรครับขอบคุณมาก ผมเคยอยู่ประเทศไทยมาก่อนสบายมาก ด้อนวอรี่”รามิเรสหันไปยิ้มหวานให้กุ้ยช่าย
“กินเลยๆ”มาตินพูดขัดก่อนที่กุ้ยช่ายกับรามิเรสจะสนทนากันไปมากกว่านี้
แต่มีหรือที่จะมีใครสนใจมาติน แม้แต่ตั้งโอ๋ก็เอาแต่สนใจสิ่งที่คุณลุงคนใหม่กำลังคุยกับคุณพ่อของตัวเอง
รามิเรสเล่าว่าเป็นเพื่อนกับมาตินตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ไฮสคูล ที่โรงเรียนนานาชาติในไทยนี่ล่ะ จนกระทั่งไปเรียนต่อด้วยกันที่ลอสแองเจอลิส แต่คนละสาขา พอจบมารามิเลสก็รับช่วงต่อบริษัทสายการบิน เลยมาจับมือกับมาตินที่ทำทัวร์ แต่จะมาเรื่อยๆไม่บ่อยมากนักส่วนมากจะประจำอยู่สาขาใหญ่ สนิทกับมาตินมาจนซ์อบ้านอยู่อีกสองหลังถัดไป
พอกินข้าวเสร็จก็พากันมาคุยต่อที่ห้องนั่งเล่น ตั้งโอ๋เองก็ตื่นเต้นกับเรื่องเครื่องบินที่รามิเรสเล่า กุ้ยช่ายก็พลอยเพลินไปด้วย
“คุณ ตั้งโอ๋อึ”มาตินขัด
“คุณก็เปลี่ยนเอาสิ ก็เห็นเปลี่ยนเองก็บ่อย”กุ้ยช่ายบ่นแล้วหันไปสนใจรามิเรสต่อ
“ก็ผมอยากให้คุณเปลี่ยน”มาตินไมยอม
กุ้ยช่ายยิ้มให้รามิเรสแล้วลุกไปรับอันเดรสมาจากมาตินแล้วเอามือจับก้นอันเดรส
“ไม่เห็นก้นร้อนเลย คุณมั่วรึป่าวเนี่ย”กุ้ยช่ายมุ่ยหน้ามองหน้ามาติน
“ก็เห็นอันเดรสตด ผมก็นึกว่าอึ”มาตินบอกแต่จริงๆแล้วอันเดรสไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
กุ้ยช่ายส่ายหัวแล้วเอาอันเดรสวางลงในเปล
“กินเสร็จก็กลับไปบ้านไป”มาตินยกเท้าเขี่ยรามิเรสให้ลุกออกจากโซฟาที่นั่งประจำ
“ไม่เอาอ่ะ บ้านนู้นเหงา ไม่มีใครคุยด้วย”รามิเรสยิ้มให้เพื่อนแล้วยักคิ้วตาก็มองผ่านไปที่กุ้ยช่ายกำลังจัดแจงให้อันเดรสนอนเล่นในเปล
“กลับไปได้แล้ว เหงาก็โทรหาเรียกผู้ช่วยแกที่ไทยมาคุยด้วยสิ”มาตินยังเอาเท้าเขี่ยเพื่อนไม่เลิก
“นี่คุณ เห็นมั้ยตั้งโอ๋มองอยู่ อย่ามาใช้เท้าเขี่ยกันสิ”กุ้ยช่ายดึงมาตินออกห่างรามิเรส
“นั่นสิมาตี้ นายกำลังเป็นตัวอย่างไม่ดีกับเด็กอยู่นะ”รามิเรสหัวเราะ
แล้วก็ไม่มีใครสนใจมาตินอีกเลย อันเดรสนอนเล่นโมบายอยู่ในเปลอ้อแอ้อยู่คนเดียว ตั้งโอ๋ก็ฟังรามิเรสเล่าเรื่องเครื่องบิน กุ้ยช่ายเองก็ฟังด้วยอย่างชอบใจ
ตั้งแต่มีลูกรู้สึกเลยว่าไม่ค่อยมีใครสนใจเขาสักคน
********************
รักคนเขียนกันเยอะเยอะนะคร้าาาาาาา
รักคนอ่านทุกคน พรุ่งนี้ลาหนึ่งวัน สามีนางจะพาไปช็อปปิ้งฮี่ฮี่
เดี๋ยวต้องไปเก็บหวาดบ้านเรือนเอาใจนางหน่อย
ยังไงก็ติชมกันได้คร่าาา
ขอคำแนะนำด้วยคร่า