(ต่อ)
“ต่อไปไอ้โชจับ”
ไดนาไมต์ยื่นกระปุกใส่ชื่อคนที่เหลือให้ เด็กประมงหยิบฉลากมาหนึ่งใบ ก่อนจะเปิดมันให้ทุกคนดู
Round2: หมอยาหล่อร้าย vs. เจ้าชายแห่งท้องทะเลโชรับนวมสีน้ำเงินมาจากเท็น เด็กประมงปีนขึ้นบันไดไปพร้อมกับหมอยา คู่กัดวักน้ำใส่คานกันคนละข้างอย่างเป็นงาน แล้วไดนาไมต์ก็ส่งเสียง
“กลับมาที่ศึกรอบสอง! มุมแดงแรงฤทธิ์! หมอยารูปหล่อมาดเกาหลี...เกาหลีเหนือนะครับ ส่งตรงจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์...ไฟจองอึน!!”
ไฟกระชับนวมพลางหมุนคอดังกึกกัก ดวงตาคมกริบสะท้อนภาพคู่แข่งที่ปีนขึ้นมาหยุดตรงหน้า เด็กหนุ่มผมสีชมพูร้องว่า
“และร้อนแรงไม่แพ้กัน! มุมน้ำเงิน! พยัคฆ์หนุ่มมาดแมวส่งตรงจากสวนสัตว์ดุสิต! น้องชายเดอะร็อคนักมวยปล้ำชื่อดัง เดอะโช...มัสโกออนนะครับ!!”
โชหวดลมอย่างคึกคัก ดวงตาแมวคู่นั้นกระหายการต่อสู้จนถึงขีดสุด
“ยกที่สอง...เริ่มได้!”
ชลันธรปราดเข้าหาร่างใหญ่ทันที เขาปล่อยหมัดใส่อีกฝ่ายเต็มแรง อัคคีเกี่ยวขาไว้แน่นก่อนจะเอนตัวหลบไปด้านหลัง เด็กประมงหวดอีกหมัด ไฟปัดทิ้งแล้วต่อยสวน
หวืด!
เด็กประมงเกร็งขาโยกตัวหลบทันแบบเฉียดฉิว ดวงตาแมวจับจ้องสีข้างคนตัวใหญ่ เขาเหวี่ยงแขนใส่ทว่าอัคคีก็ไวพอที่จะป้องกันเอาไว้ได้ หมอยาล็อคแขนคนตัวเล็กไว้แล้วสะบัดออก
ฟุบ!
ร่างของโชไถลลงไปทางซ้ายมือทันที อัคคีแสยะยิ้ม ชัยชนะเป็นของเขาแล้ว...
ผัวะ!
“โอ๊ย!” ไฟชักขาหลบเมื่อโดนประทุษร้ายตรงหน้าแข้ง
“ฮี่...”
โชที่น่าจะร่วงลงน้ำไปแล้วกลับอยู่ในสภาพห้อยหัวสู้แรงโน้มถ่วงเอาขาเกี่ยวคานไว้แน่น ด้วยร่างกายของนักกีฬาเรื่องแบบนี้สบายมากสำหรับเด็กประมง
ผัวะ!
“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยนี่สู้เว้ย” อัคคีพูดลอดไรฟัน ร่างสูงขยับเข้าไป พยายามแกะขาเด็กประมงออกจากคานด้วยใบหน้าโหดเหี้ยม
โชในสภาพห้อยหัวอย่างทุลักทะเลร้องลั่น “ไอ้เหี้ยไฟหยุด!”
“ร่วงไปซะๆๆ” ไฟท่องเหมือนสวดมนต์ นิ่วหน้าเมื่อหน้าแข้งโดนประทุษร้ายแรงขึ้น ชลันธรกัดฟันกรอด ปล่อยหมัดสู้ขาดใจในสภาพห้อยหัว ด่าว่า “ไอ้เหี้ยไฟ!! นิสัยไม่ดี!! ไอ้ชั่ว!!”
“...” สามทหารเสือมองภาพนั้น เปมทัตพึมพำว่า “โห ชนะแล้วได้ทองมั้ยเนี่ย”
“กับเรื่องเรียนหนูทุ่มเทขนาดนี้ไหมลูก” ไดนาไมต์ทำหน้าเหนื่อย ส่วนสามสีลอบนวดขมับเงียบๆ
ถึงตรงนี้โชก็รู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังจะร่วง แต่เขาจะแพ้ไม่ได้! เด็กประมงตัดสินใจรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย เหวี่ยงร่างกายขึ้นมาตั้งตัวบนคานเหล็กอีกครั้งด้วยอาการเซ
ไฟแสยะยิ้มก่อนจะวาดแขนเข้าหา...
ทว่าโชกลับคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายเข้ามา เกร็งขาแล้วชะโงกหน้าเข้าไปหอมแก้มหมอยาดังฟอด!
“...”
กริบกันทั้งวง ไฟนิ่งไปคล้ายตุ๊กตาถ่านหมด โชแสยะยิ้ม อาศัยจังหวะนั้นหวดหมัดเข้าข้างแก้มอีกฝ่ายเต็มแรง ส่งให้ร่างใหญ่ร่วงจากคานหล่นใส่น้ำในสระ
ตู้มมม!
ไดนาไมต์ได้สติตอนนั้น ร้องว่า “ผู้ชนะคือมุมน้ำเงิน! เดอะโชมัสโกออนคร้าบ!!”
“เหลือร้ายแท้โว้ย!” สามสีเปิดปากแซว โชเหยียดยิ้ม ชูแขนขึ้นคล้ายประกาศความยิ่งใหญ่
“ใครเจ๋งไอ้น้อง!!”
“พี่โช!” สามทหารเสือตะโกนตอบพร้อมกัน
ในสระน้ำใต้คานเหล็ก ไฟพรวดขึ้นมาด้วยสภาพเปียกโชก เขามองคู่กัดที่นั่งชูแขนยิ้มกริ่มอยู่บนคาน สบถว่า
“ไอ้ขี้โกงเอ๊ย!”
ทว่าพอนึกถึงสัมผัสเมื่อครู่แล้วหมอยาก็หลุดยิ้มออกมา
“แต่แบบนี้ก็ไม่เลวนะ...”
รอบสุดท้ายเป็นของเมธา ครูคณิตหยิบกระดาษออกมาแล้วคลี่ออก
Round3: ไอ้หัวชมพู vs. ครูสอนคณิต ไดนาไมต์รับนวมจากไฟมาสวม ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไม่ส่อเค้าอารมณ์อย่างผิดวิสัย เด็กหนุ่มผมสีชมพูวักน้ำใส่คานเหล็กตามสเต็ป ก่อนจะปีนขึ้นบันไดมา
ไฟมองท่าทางนั้น ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เงียบไป บ่นว่า
“...ไอ้ห่า มึงก็เครียดซะกูไม่กล้าแซวเลย”
ไดนาไมต์ขยับมานั่งกลางคาน เขากระชับนวมในมือ ดวงตาสีนิลจับจ้องคู่แข่งตัวเล็กที่กำลังปีนบันไดอีกฝั่งขึ้นมา หมอยาสูดลมหายใจ ร้องว่า
“แซวไอ้เมดีกว่า...ท้าชนโดยมุมน้ำเงิน! ครูคณิตคิดเร็วเพราะส่ายเอวเวลาทำโจทย์...นายเมธา สันติสุข!! ส่งเข้าประกวดโดยวงการอาหารและยานอวกาศครับ!”
เมธาตั้งการ์ดกล้าๆ กลัวๆ ดวงตาคู่เล็กนั้นสั่นระริก บรรยากาศตึงเครียดไปชั่วอึดใจ ก่อนเปมทัตจะตะโกนว่า
“ยกที่สาม...เริ่มได้!”
“...”
บนคานเหล็กนิ่งสงบ พวกเปรมมองลุ้นๆ ทว่าก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ผ่านไปครู่ใหญ่...ตอนนั้นเองที่ไดนาไมต์ขยับตัวเข้ามาหาคนตัวเล็ก
“เฮือก!” เมสะดุ้งจนเผลอหวดหมัดใส่ต้นแขนอีกฝ่ายเต็มแรง ดัง...
ปุก!
“...” ไดนาไมต์นั่งนิ่ง แรงปะทะเมื่อกี้คล้ายโดนสะกิดเท่านั้น เขามองเมธาก้มหน้าหลับตาปี๋ตัวสั่น สุดท้ายก็คลายขาที่เกี่ยวคานออกแล้วไหลตัวลงน้ำไปเองดื้อๆ
ตู้มมมม!
“...”
ทั้งวงเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนไฟจะพูดเสียงโมโนโทนว่า “...และผู้ชนะคือฝ่ายน้ำเงิน นายเมธา สันติสุขครับ”
เมธามองไปด้านล่างอย่างกังวล “ได! เป็นอะไรรึเปล่า!”
ไดนาไมต์พรวดขึ้นมาจากน้ำ
“ไงมึง” สามสีเดินมายืนขอบสระแล้วยื่นมือให้ ไดนาไมต์จับมือนั้น สั่นหัวยิ้มๆ “กูสู้เมไม่ได้ว่ะ แม่งน่ารักเกิน ต่อยไม่ลง”
“กูเข้าใจ” เด็กหนุ่มตัวสูงหัวเราะ
“ได!” เมธาวิ่งมายืนข้างสามสี ใบหน้าน่ารักนั้นฉายแววกังวล “ขอโทษนะ! เจ็บมากรึเปล่า เราผิดเองที่ต่อยไดไปเต็มแรงเลย ขอโทษที่ทำให้ตกลงมานะ...”
สองคู่หูมองคนตัวเล็กก้มหัวขอโทษขอโพยด้วยแววตาว่างเปล่า สามสีเป็นคนบอกว่า “อา หมอนี่ไม่เป็นไรหรอก”
“ยกที่สามแม่งเกิดขึ้นเร็วมาก” โชพึมพำ
ไฟมองไดนาไมต์ที่ได้สามสีช่วยดึงขึ้นจากน้ำ เหยียดยิ้มอย่างนึกสนุก ตะโกนว่า “มึงสองคนไม่สู้กันบ้างวะ! ไอ้สามยังไม่ได้เล่นเลยนี่!”
“เห...กูกับไอ้สามเหรอ?” ไดนาไมต์เลิกคิ้ว เปรมเห็นด้วย “เออ ยกพิเศษไง คนแพ้เจอกับตัวพาสงี้”
“กติกูสัด...” สามสีพูดกึ่งหัวเราะ ก่อนจะสบตาเด็กหนุ่มผมสีชมพู “แต่เอางั้นก็ได้ อย่าหาว่าไม่เตือนล่ะ”
ไดนาไมต์เหยียดยิ้ม เขาชกไหล่คู่หูเบาๆ บอกว่า
“พี่จะใส่ให้ยับเลยน้อง”
“กลัวที่ไหนกัน” สามสียักคิ้วท้าทาย
Special Round: แมวเหมียว vs. ระเบิด สามสีกับไดนาไมต์ปีนบันไดขึ้นคานเหล็กไปคนละข้าง เด็กหนุ่มผมสีชมพูกระชับนวมสีแดงแน่น เมื่อทั้งคู่ประจำที่ไฟก็ตะโกนว่า “เฮ้ยเอางี้ดีกว่า!”
ทุกสายตาหันไปมองคนพูดเป็นตาเดียว
“คนแพ้ต้องสารภาพความจริงในใจกับคนชนะ”
หมอยายักคิ้ว ไดนาไมต์สะดุ้ง หันขวับ “ไอ้เหี้ยไฟ! อย่าใส่กติกาเองเด้!”
“เอ้า นัดพิเศษไง คืนกำไรคนดูหน่อยดี้ ทางบ้านเขาอยากเห็น” ไฟไม่สะทกสะท้าน เปรมเหยียดยิ้มอย่างนึกสนุก “เออเอาดิ ใครแพ้สารภาพนะเว้ย!”
เด็กหนุ่มผมสีชมพูทำหน้าปั้นยาก เขาลอบมองอีกฝ่าย...ให้สารภาพความจริงในใจกับไอ้สามเนี่ยนะ?
จะไปพูดได้ยังไง...
“ไอ้สามว่าไง” โชหันไปถามมุมน้ำเงิน สามสีไหวไหล่
“กูไม่มีปัญหา”
ไดนาไมต์สบตาคู่หู เพราะงั้นศึกครั้งนี้เขาจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!
“ยกพิเศษ...เริ่มได้!”
ไดนาไมต์ปราดเข้าหาคู่หูทันทีก่อนจะหวดหมัดใส่ สามสีหลบได้แล้วเหวี่ยงแขนสวน เด็กหนุ่มผมสีชมพูปัดทิ้งพร้อมพุ่งแขนออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเด็กหนุ่มตัวสูงก็ไวพอที่จะตั้งรับได้ทัน
ทั้งคู่ฟาดกำปั้นใส่กัน จังหวะนั้นไดนาไมต์ใจลอยไม่ทันเห็นหมัดที่สามสีปล่อยออกมา กำปั้นอีกฝ่ายกระแทกอกเด็กหนุ่มผมสีชมพูดังปั้ก! พร้อมกับร่างของเขาที่เซไปด้านหลัง
สามสีเบิกตากว้าง
หมับ!
ไวเท่าความคิด เด็กหนุ่มตัวสูงรีบคว้าแขนคู่หูกลับเข้ามา ทว่าเขากลับเป็นคนเสียจังหวะเสียเอง ไดนาไมต์คว้าคานเหล็กไว้ด้วยอารามตกใจ ส่วนอีกคนร่วงตกน้ำไป
ตู้มมมม!
“อีเหี้ยอย่างกับหนังกำลังภายใน” โชอ้าปากค้าง ไดนาไมต์ได้สติตอนนั้น ร้องเรียก
“ไอ้สาม!!!”
พรวด!
สามสีพุ่งตัวขึ้นมา เด็กหนุ่มเสยผมที่ลู่ลงปรกหน้า ดวงตาคมกริบจับจ้องคนที่ยังนั่งกอดคานอยู่ข้างบน
“เออ ได้ยินแล้ว”
คนตกน้ำยืนเช็ดหน้าเช็ดตา ตอนนั้นเองที่ไฟร้องว่า “สรุปไอ้สามตกน้ำ ดังนั้นผู้ชนะได้แก่...!”
“หยุดก่อน!”
ไดนาไมต์ตะโกนขัด ทั้งวงเงียบไปชั่วอึดใจ เด็กหนุ่มผมสีชมพูพูดว่า “จริงๆ เมื่อกี้กูต้องเป็นคนแพ้ กูจะสารภาพเอง!”
สามสีมองภาพนั้น “ไม่เห็นเป็นไร เดี๋ยวกู...”
“กูจะสารภาพ! มึงน่ะฟังไปเงียบๆ เถอะ!”
เด็กหนุ่มตัวสูงปิดปากฉับ เขาสบตาเด็กหนุ่มผมสีชมพู ดวงตาคู่นั้นฉายแววสับสนและเขินอาย ไฟเห็นแล้วผิวปากหวืออย่างรอชมของสนุก
“อะ ผู้แพ้พูดได้” พ่อครัวให้สัญญาณ ไดนาไมต์สูดลมหายใจลึก เปิดปากว่า
“มึงจำคืนล่าสุดที่กูไปนอนค้างบ้านมึงได้ไหม”
“...อืม” สามสีขานรับ ดวงตาคมกริบจ้องคนพูดไม่วางตา
“คืนนั้น กูเห็นมึงหลับอยู่ข้างๆ คือบรรยากาศมันเป็นใจ...ทำให้กูเผลอไป” ไดนาไมต์สารภาพด้วยใบหน้าร้อนผ่าว ไฟกับโชตาเป็นประกาย เกิดความสนใจขึ้นมาแบบฉับพลัน
“ได...” สามสีทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าอีกคนแทรกขึ้น
“กูขอโทษนะสาม! แต่กูเห็นมึงหลับแล้วกูห้ามใจไม่ไหวจริงๆ...”
“...”
“กูห้ามใจให้ตัวเองลุกไปขโมยโดนัทของมึงในตู้เย็นไม่ได้! กูขอโทษจริงๆ! ความจริงอันนั้นแม่มึงไม่ได้ให้หมากินไปหรอก กูเองสาม กูเป็นคนกินโดนัทของมึงเอง กูขอโทษ!” ไดนาไมต์ก้มหัวขอโทษจนหัวโขกเสา
“...” ไฟกับโชยิ้มค้าง มุมปากกระตุกหงึก
“...อันนั้นกูรู้แล้ว” สามสีพูดมึนๆ เหมือนไม่ใส่ใจนัก “มึงหิวตอนดึกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่”
“มึงไม่โกรธกูเหรอ?”
“เปล่า” สามสีปีนขึ้นจากน้ำ เปรมขมวดคิ้วคล้ายตามไม่ทัน “เดี๋ยวๆ! สรุป ‘ความจริงในใจ’ ของมึงคือเรื่องนี้เหรอ?”
“กูรู้สึกผิดมาตลอดเลยนะเว้ย!” ไดนาไมต์ตะโกนหน้าดำหน้าแดง ก่อนจะลดเสียงลง “แต่โดนัทอันนั้นมันก็อร่อยมากจริงๆ...”
“...” ไฟกับโชกลอกตาพร้อมกัน หมอยาตบมือร้องว่า “เอ้าๆ แยกย้ายกันเถอะหนุ่มๆ ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วเตรียมตัวลุยตลาดกลางคืนกัน”
สิ้นคำทุกคนก็ทยอยกันเดินเข้าบ้านพักไป สามสีถอดเสื้อเปียกน้ำของตัวเองออกแล้วก้มหน้า ดวงตาคมกริบคู่นั้นหม่นแสงลงไปวูบหนึ่ง
เอาเถอะ...หวังอะไรกับหมอนั่นได้ที่ไหนกัน
หลังอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จไฟก็ขับรถพาเพื่อนๆ ไปถนนคนเดินตอนหนึ่งทุ่ม ที่นั่นมีอาหารและเครื่องดื่มขายมากมาย ราตรีนี้ของพวกเขายังอีกยาวไกลนัก
ตอนแรกก็จับกลุ่มเดินกันอยู่ดีๆ พอรู้สึกตัวอีกทีก็เหลือแค่สามทหารเสือเสียแล้ว
“อ้าว ที่เหลือไปไหนหมดวะ” ไดนาไมต์มองหาเพื่อน สามสีถือกุ้งแม่น้ำกับปลาหมึกอยู่ข้างๆ บ่นว่า “คนมันเยอะ คงโดนเบียดจนคลาดกันระหว่างทาง”
“เดี๋ยวค่อยไปเจอพวกนั้นที่รถก็ได้ เราก็ซื้อของที่จะกินกันให้เสร็จเถอะ” เปมทัตบอก แม้ใจจะนึกห่วงเด็กโข่งอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม หวังว่าหมอนั่นคงจะไม่ได้หลงไปคนเดียวหรอกนะ
ตอนนั้นเองที่พ่อครัวชนเข้ากับใครบางคน
“ขอโทษครับ!” เปรมร้องแล้วเงยหน้า
พลันร่างสูงเส้นผมสีน้ำตาลก็ปรากฏแก่สายตา ใบหน้าหล่อร้ายนั้นเฉยชา ทว่าดวงตาปิศาจคู่นั้นกลับทอประกายพราวระยับอย่างเจ้าเล่ห์
“ไอ้เอื้อ!”
เจ้าของชื่อเบิกตากว้าง ร้องเสียงแผ่ว “...หน่องเปรม?”
ดวงตาปิศาจเหลือบมองไปรอบๆ โดยอัตโนมัติ เผลอถอนหายใจเมื่อไม่พบใครบางคนที่กังวลถึงอยู่
“มึงมาทำอะไรเนี่ย?”
ไดนาไมต์ร่วงวงทักด้วย เอื้ออังกูรปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ตอบว่า “มาทำธุระให้จูเลียร์” เขามองสามสีที่เดินเข้ามาอีกคน “แหม มากันครบเลยนะ ฉลองสอบเสร็จเหรอ”
“เออ พวกกูจะไปปิ้งของทะเลกินกันที่รีสอร์ทใกล้ๆ นี่อะ มึงมาด้วยกันไหม?” เปมทัตเอ่ยชวน เอื้ออังกูรครุ่นคิด พูดว่า “ถ้าเคลียร์งานเสร็จจะไปก็แล้วกัน”
“แล้วนี่มาเดินกับใครวะ?” สามสีถามพลางชะเง้อคอมองไปรอบๆ เอื้ออังกูรยักไหล่
“กูมาคนเดียว”
ตอนนั้นเองที่ร่างหนึ่งพรวดเข้ามากลางวง สามทหารเสือสะดุ้ง ผู้มาใหม่เป็นหญิงสาวผมยาวหน้าตาสะสวย ถ้ายังจำกันได้ เธอคือเจ้าหน้าที่สาวในสถาบันกวดวิชาของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล
แต่ใกล้ชิดกว่านั้นหน่อยก็... ‘แฟนเก่า’ นั่นเอง
“เอื้อ!”
หญิงสาวร้องเรียก เอื้ออังกูรเลิกคิ้ว “เธอ...?”
“ทำไมโทรไปไม่รับ! แล้วตัดสายกิ๊ฟทำไม?” ใบหน้าหวานนั่นโกรธขึ้ง สามทหารเสือมองหน้ากันเลิกลัก เปรมกับไดนาไมต์ยืนด้านซ้ายมือของเอื้ออังกูร ส่วนสามสีอยู่ทางขวา
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบเรียบๆ
“ฉันเบื่อแล้ว”
พวกเปรมตาเหลือก ฉิบหาย แล้วไปตอบเขาแบบนั้น...
กิ๊ฟเบิกตากว้าง เธอแทบกรี๊ดออกมา “ทำไมเอื้อทำแบบนี้! ไหนว่าเอื้อมีกิ๊ฟคนเดียวไง? เอื้อมีใครใช่ไหม!!”
“ฉันไม่ได้มีใครทั้งนั้น! มันไม่ใช่อะกิ๊ฟ! ก็มันไม่ใช่!!” เอื้ออังกูรเหวี่ยง
หญิงสาวกระทืบเท้าอย่างโกรธจัด “กรี๊ดดดด! กิ๊ฟไม่ย้อมมม!”
“เราเลิกกันเถอะ”
เอื้ออังกูรตัดบท หญิงสาวนิ่งไปคล้ายช็อค “ทำไมแบบนี้...” เสียงหวานนั้นสั่นเครือ กิ๊ฟร้องออกมาอย่างเศร้าสร้อย
“ถามจริงๆ เธอมองฉันที่อะไร...”
“...”
“มองที่ใจ...หรือว่ามองที่หน้าตา”
เอื้ออังกูรเบือนหน้าหนี
“ฉันอยากรู้...”
“วันไหนฉันสวยขึ้นมา” ไดนาไมต์หลุดร้องอย่างลืมตัว ตามด้วยเปมทัต “เธอนั้นหนา...”
“จะเรียกฉันว่าอะไร” สามสีต่อให้จนจบ
เอื้ออังกูรสูดลมหายใจลึก พูดว่า
“น้องกิ๊ฟ...”
เพียะ!
ใบหน้าหล่อร้ายหันไปตามแรงตบ หญิงสาวจ้องเขาทั้งน้ำตา ร้องว่า “อย่ามาเรียกชื่อฉันแบบนั้นอีก! ไม่ต้องมาวอนขอโอกาส! เราเลิกกัน!” พูดจบเธอก็วิ่งออกไป
เอื้ออังกูรหันกลับมาช้าๆ เปรมอดถามไม่ได้ว่า “เมื่อกี้มึงเรียกเขาทำไมวะ?”
“เรียกเหี้ยไรล่ะ กูร้องเพลง” ปิศาจร้ายซี้ดปาก แรงตบเมื่อกี้ไม่ใช่น้อยๆ เลย บ่นว่า “ไอ้ห่า พวกมึงส่งมาขนาดนั้นแล้วกูจะพลาดได้ยังไง นี่กูกำลังจะแรปเลย น้องกิ๊ฟ เชอร์รี่น้องวาย...งี้”
“คือไม่ได้สำนึกเลยสินะ”
สามสีมองเพื่อนเหนื่อยๆ เอื้ออังกูรไหวไหล่ “นี่ใคร? ระดับนี้แล้ว” ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา ร้องว่า “เอองั้นกูไปก่อนนะ ถ้าว่างจะตามไปละกัน”
“โอเค” สามทหารเสือรับคำ แล้วพวกเขาก็แยกย้ายกัน
กลับมาถึงรีสอร์ท เด็กหนุ่มเจ็ดคนขนของลงจากรถ ก่อนไฟกับไดนาไมต์จะช่วยกันตั้งตะแกรงปิ้งย่างตรงริมสระว่ายน้ำ ในขณะที่เปรมกับสามสีช่วยกันเตรียมอาหาร ส่วนเท็นกับเมและโชจัดเรียงจานกับเครื่องดื่ม
พวกเขาจับจองพื้นที่ริมสระ ปิ้งอาหารทะเลมานั่งล้อมวงกินกันเคล้าเสียงเพลงอย่างคึกครื้น เหล่าเด็กหนุ่มสัพยอกกัน ก่อนอัคคีจะสรรหาเกมมาเล่นเพื่อสร้างความบันเทิง
“มึง เล่นเกมพระราชากัน”
“เอาดิ” พวกที่เหลือขานรับอย่างเริ่มสนุก ไฟชูสำรับไพ่ในมือ เลือกมาเจ็ดใบแล้วอธิบายว่า
“เราจะใช้ไพ่แค่เจ็ดใบ คิงหนึ่งใบ ส่วนที่เหลือเป็นเลขหนึ่งถึงหก โดยจะสุ่มแจกไพ่ ใครได้ไพ่คิงก็เป็นพระราชาสั่งไพ่ตัวเลขให้ทำตามคำสั่ง เรียกกี่คนก็ได้ จะให้เล่นกันเองหรือเล่นกับตัวเองก็ได้ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน”
“โอเค” ทั้งวงเข้าใจแล้ว ไฟจึงเริ่มแจกไพ่
เมื่อแจกครบ อัคคีก็ชูไพ่ในมือยิ้มๆ “กูเป็นคิง”
“...” ทุกคนเงียบรอฟังคำสั่ง
“ให้เลข 5 ลุกไปนั่งตักเลข 2 มองตาแล้วพูดว่า ‘รักนะเด็กโง่’ เริ่ม!” สิ้นคำทั้งวงก็สูดปาก ไดนาไมต์ร้องลั่น ”ไอ้เหี้ยกูสอง! ใครห้าวะ?” เขาหันไปมองเมโดยอัตโนมัติ
ทว่าอีกคนกลับยกมือขึ้น “เราเอง”
ไอ้เท็นเรอะ!!
เปรมกับสามสีหัวเราะลั่น ไดนาไมต์หน้าซีดเมื่อเท็นลุกขึ้นมา ไฟกำชับ “ทำตามคำสั่งได้!”
เด็กหนุ่มผมสีชมพูนั่งขัดสมาธิ ตามด้วยเท็นที่หย่อนตัวลงนั่งตัก แต่ไม่ได้เต็มแรงนักเพราะกลัวเพื่อนจะแบนเป็นกล้วยปิ้งไปเสียก่อน
เด็กโข่งกอดคอไดนาไมต์ สบตาแล้วพูดด้วยทุ้มโมโนโทนว่า
“รักนะเด็กโง่”
“กลัวแล้ว...” ไดนาไมต์พนมมือร้องเสียงสั่นด้วยใบหน้าจะร้องไห้ เมธากับโชหันไปขำจนไหล่สั่น ไฟผงกหัว “เออบันเทิงว่ะ เล่นอีกๆ”
ไฟสับไพ่แล้วแจกใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้โชเป็นคิง เด็กประมงเหยียดยิ้ม สั่งว่า
“ให้เลข 1 อุ้มเลข 6 ท่าเจ้าหญิงแล้ววิ่งรอบสระ! ปฏิบัติ!”
“กูหก” ไฟชูไพ่ในมือ ชลันธรตาเหลือก “อ้าวฉิบหาย ใครหนึ่งวะน่ะ?”
ทุกคนหันไปทางเท็นโดยอัตโนมัติ เนื่องด้วยเด็กโข่งเป็นคนเดียวที่น่าจะอุ้มไฟได้
“เราเอง” ทว่าเมยกมือยิ้มๆ
สามทหารเสือยกมือตะโกนพร้อมกัน “ขออนุญาตช่วยเพื่อนครับ!!”
“ไอ้เหี้ย ไม่ใช่รับน้อง!” โชตะโกนกลั้วหัวเราะ เขามองสองคนที่โดนคำสั่ง พูดว่า “กูว่าเอาแค่ยกให้ขึ้นก็ฮาแล้วอะ ไม่ต้องวิ่งหรอก เอาแค่ยกให้ขึ้นก็พอ”
เมธาขยับแขนอย่างคึกคัก “ไม่ต้องห่วง สบายมาก เรายกไฟได้”
“เปลี่ยนให้กูอุ้มมึงดีกว่ามั้ง” หมอยาไม่สบายใจเลย
“ทำไมล่ะ มดยังขนของได้มากกว่าตัวเองทั้งห้าเท่าเลยนะ!” ครูคณิตไม่ยอม ไฟทำหน้าจะร้องไห้ “มึงเป็นคนไง...”
“มาเร็ว” เมธาลุกเข้ามาหา ไฟมองรอบวงที่ส่งสายตาคาดหวัง เขาจึงยอมยืนเต็มความสูง เมธามองร่างใหญ่อย่างจดๆ จ้องๆ ก่อนจะกอดเอวเพื่อนสมัยเด็กไว้แล้วยกขึ้นสุดแรง
“ฮึบ!”
“...” ไฟไม่ขยับแม้แต่น้อย สามทหารเสือมองภาพนั้นปานจะขาดใจ “ไม่นะเม! โธ่...ทำไมต้องฝืนตัวเองขนาดนี้!”
“อึ๊บบบบบบบ!” ครูคณิตสั่นไปทั้งร่าง เหงื่อแตกพลั่ก โชมองอย่างนึกสงสาร กำลังจะอ้าปากเปลี่ยนคำสั่ง ทว่าไฟไวกว่า เขาดึงไพ่ในมือเมธามาแล้วใส่ของตัวเองกลับไป
“กูเอง”
ก่อนจะยกร่างคนตัวเล็กอุ้มพาดบ่าแล้วออกไปวิ่งรอบสระ สามทหารเสือหรืออีกชื่อคือ ‘กองกำลังพิทักษ์เมธา’ ร้องเสียงโหยหวนปิ้มจะขาดใจ “อย่าทำเมแบบนั้นนนนน”
อัคคีวิ่งกลับมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ เขาวางครูคณิตลงบนพื้นอย่างปลอดภัย ฝ่ายหลังยิ้มกว้าง “สนุกจัง!”
เท็นมองเพื่อนสมัยเด็กทั้งสองคนเล่นกัน พูดว่า “ไฟ...อุ้มเราบ้าง”
“โอ๊ย กูตายห่ากันพอดี” ไฟสั่นหน้าหวาดๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งแจกไพ่อีกครั้ง คราวนี้ไดนาไมต์ได้เป็นคิง เขาออกคำสั่งว่า
“ให้เลข 1 ลุกไปหอมแก้มใครก็ได้ในวงหนึ่งที! เอาฟอดใหญ่ๆ!”
“หูยยยยย” ทั้งวงสูดปาก ก่อนจะเริ่มมองหน้ากันเองเลิกลัก คนเป็นคิงขมวดคิ้ว ถามว่า “ใครได้เลขหนึ่ง!”
“กูเอง”
ทุกสายตาหันไปรวมเป็นจุดเดียว สามสีชูไพ่เลขหนึ่งในมือ ใบหน้าของเขาไม่ยินดียินร้ายอะไร
“เอาล่าวววว” เปมทัตเปิดปากแซว ไฟตะโกนกลั้วหัวเราะ “แก้มพี่ว่างนะน้อง!”
เด็กหนุ่มตัวสูงมองไปรอบวงอย่างคิดหนัก ขืนเลือกเปรมหรือโชมีหวังเขาโดนไอ้เท็นกับไอ้ไฟฆ่าทิ้งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่จะให้หอมแก้มไอ้ตัวใหญ่สองคนนั่นมันก็ออกจะทำใจยากอยู่สักหน่อย
เขาหันไปทางเมธา
“...”
ไดนาไมต์มองท่าทางนั้น หัวใจกระตุกวูบยามร่างสูงเดินตรงไปทางครูคณิต จังหวะที่สามสีย่อตัวลงตรงหน้าคนตัวเล็กนั่นเอง เด็กหนุ่มผมสีชมพูก็ร้องขึ้นมา
“หยุด!!”
ทั้งวงหันมามองเขาคล้ายไม่เข้าใจ ไดนาไมต์ขยับตัวอย่างอึดอัด ความรู้สึกบางอย่างมันตีวนอยู่ในอกเต็มไปหมด พูดว่า “ขอเพิ่มคำสั่ง! เลข 1 หอมแก้มใครก็ได้ที่ไม่ใช่เม!”
“เอ้า อะไรของมึงวะ” ไฟขมวดคิ้ว ไดนาไมต์หันไปชูไพ่ใส่หมอยา “หนวกหูน่า! รอบนี้กูเป็นคิงนะ!”
“...”
สามสียืนขึ้นช้าๆ ใบหน้านั้นยังคงเรียบเฉย เขาเดินตรงมาหาคู่หู ไดนาไมต์สะดุ้ง ก่อนจะรีบตั้งสติเมื่ออีกฝ่ายเปิดปากถามว่า
“กูหอมใครก็ได้ใช่ไหม?”
“ชะ..ใช่”
“ที่ไม่ใช่เม?”
“ใช่!!”
“โอเค...”
สิ้นคำสามสีก็ย่อตัวลงมา กระซิบเสียงทุ้มว่า
“งั้นหอมมึงละกัน” “ฮะ?”
ไดนาไมต์เบิกตากว้าง รู้ตัวทีก็โดนอีกฝ่ายยื่นหน้ามากดจมูกเข้าข้างแก้มตัวเองเสียแล้ว
ฟอด...
เด็กหนุ่มผมสีชมพูอ้าปากค้าง มองอีกฝ่ายถอยออกไป ยังมีหน้ามายิ้มให้แล้วถามเขาอีกว่า
“ฟอดใหญ่พอไหม?”
ไดนาไมต์สบตาอีกฝ่าย ถึงจะตกใจ...แต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมา
“มึงนี่นะ!”
เด็กหนุ่มเจ็ดคนเล่นเกมพระราชากันต่ออีกพักใหญ่ จนสี่ทุ่มนั่นเองที่เมขอตัวไปพักผ่อนเพราะรู้สึกเหนื่อย เท็นพยายามฝืนอยู่ต่อ แต่สุดท้ายก็ง่วงจนโดนพ่อครัวไล่ให้ไปนอนอีกคน
ห้าคนที่เหลือจึงเปลี่ยนมาเล่นสลาฟกัน ตอนนั้นเองที่ปอร์เช่สีขาวแล่นเข้ามาจอดข้างโตโยต้าเซียนนา
ทุกสายตาหันไปมองอย่างพร้อมเพรียง ผู้มาใหม่เป็นเด็กหนุ่มตัวสูงเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลรับกับใบหน้าหล่อร้าย ในมือถือถุงใส่ขวดเหล้ากับกับแกล้มเดินเข้ามาหา
“เฮ้ย...” พวกเปรมตาเป็นประกาย
“รูมเซอร์วิสครับ”
เอื้ออังกูรยิ้มร้ายแล้วพูดออกมา
****************************************************** *
สวัสดีค่าาาา า

หายไปสามอาทิตย์แน่ะ เขินจัง 55555555 5
ใครที่ลืมเนื้อเรื่องตอนเก่า ๆ ไปแล้วว่าง ๆ ไปนั่งอ่านย้อนกันได้นะคะ
อ่านจบอีกรอบตอนที่ 26 ก็คงมาพอดี .. ล้อเล่นค่ะ 5555555 5
ช่วงนี้เปิดเทอมแล้วงานที่คณะเยอะมากเลยค่ะ
ยุ่งติดกันหลายวันเลย วันเสาร์มีเวลาพอดีเลยขอมานั่งแต่งก่อน
จะพยายามหายไปไม่เกินสามสัปดาห์ค่ะ ไม่อยากทำสถิติใหม่ 5555555 5
ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกความคิดเห็นที่มีให้กันนะคะ
ขอบคุณที่ให้ความสำคัญและสนใจนิยายบ้า ๆ บอ ๆ เรื่องนี้ค่ะ
ขอบคุณที่เสียเวลาพิมพ์ตัวอักษรให้กันนะคะ
ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ
ใครว่าง ๆ ก็ไปเล่นแท็ก
#เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ ในทวิตเตอร์ได้นะค้าา า

แล้วเจอกันตอนที่ยี่สิบหกค่าาา า