Special Part.Love Course ! โบรกเกอร์ร้อยล้านกับอาจารย์ห้าร้อยย้อนกลับไปในวันเสาร์ของการสอนพิเศษครั้งแรก หลังแยกจากเปรมแล้วเมธาก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาติดต่อเจ้าหน้าที่ของสถาบันเพื่อเตรียมตัวสอนคอร์สส่วนตัวตามที่ได้ตกลงกันไว้
“มาเร็วจังเลยนะคะ” เจ้าหน้าที่สาวยิ้มให้เขาขณะตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวผู้สอน ครูคณิตพูดกลั้วหัวเราะ “สายกว่านักเรียนคงไม่ดีมั้งครับ”
“โอเค...คุณเมธา สันติสุข ตัวจริงเนอะ” เธอชวนคุยด้วยท่าทีอัชฌาสัย “ทานอะไรมาหรือยังคะเนี่ย?”
“เรียบร้อยแล้วครับ” เมธายิ้มรับ หญิงสาวยกกล่องใบใหญ่ขึ้นมาพร้อมพูดว่า “คุณเมตามกิ๊ฟมาเลยค่ะ เดี๋ยวจะนำทางไปห้องเรียนให้นะคะ”
“เอ่อ ผมช่วยถือไหมครับ?” เด็กหนุ่มมองของในมืออีกฝ่าย คนฟังยิ้มกว้าง “สบายมากค่า ตามมาเลย”
ครูคณิตกระชับกระเป๋าเดินตามเงียบๆ ไม่นานนักหญิงสาวก็หยุดลงหน้าห้องด้านในสุด “ห้องนี้แหละค่ะ วิชาคณิตศาสตร์ม.ปลาย คอร์สส่วนตัวเนอะ”
เมธาพยักหน้า เมื่อเจ้าหน้าที่สาวเปิดประตูออกเขาก็ก้าวเข้าไป
“กล่องนี้เป็นไอเท็มสำหรับคุณครูนะคะ” กิ๊ฟเปิดกล่องใบใหญ่ ด้านในมีกล่องขนาดต่างกันอีกสามกล่อง เธอหยิบกล่องรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ออกมา พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า “อันนี้เป็นปากกาเขียนไวท์บอร์ดค่ะ มีหลายสีเลย”
ต่อด้วยกล่องแบนใหญ่ใบที่สอง “อันนี้เป็นหนังสือที่ต้องแจกนักเรียนนะคะ” ปิดท้ยด้วยกล่องที่ฝาเป็นรูปวงกลมขนาดเท่าฝ่ามือ เธอเปิดมันแล้วหยิบของด้านในออกมา “ส่วนนี่ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินค่ะ”
เมธากระพริบตาปริบๆ มันคือปุ่มกดเรียกแบบไร้สาย กิ๊ฟเสริมว่า “จริงๆ มันมีเอาไว้เรียกเจ้าหน้าที่เวลาอุปกรณ์หรือสื่อในห้องมีปัญหา แต่นักเรียนคนนี้เห็นว่ามีความเสี่ยงสูง เลยอยากให้คุณเมพกไว้กับตัวค่ะ”
“เขาร้ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ครูคณิตลอบกลืนน้ำลาย กิ๊ฟเหลือบตาขึ้น ยิ้มกว้าง พูดเสียงสูง “อู๊ยไม่หรอกค่า คนเค้าก็ลือกันไป๊...”
“...ครับ” เมธารับของในกล่องมาด้วยสีหน้าปลงโลก
“อีกเดี๋ยวก็ใกล้เวลาสอนแล้ว เชิญคุณเมเตรียมตัวตามสบายนะคะ” เธอยิ้มกว้าง เสริมว่า “มีอะไรก็...กึ๊กๆ เลยน้า แล้วจะส่งทีมงานมาช่วยเหลือทันทีค่ะ”
เมธาค้อมหัวให้อย่างสุภาพ “ขอบคุณมากครับ”
พอกิ๊ฟออกไปทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ครูคณิตหยิบแผนการสอนออกมา พลันหางตาก็เหลือบเห็นเด็กมัธยมปลายหลายคนเดินผ่านหน้าห้องไป นั่นทำให้เมธานึกถึงตัวเองเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เขาไปเรียนที่สถาบันกวดวิชาคอร์สตะลุยโจทย์คณิตศาสตร์ในแถบนี้ แล้วพบเข้ากับใครบางคน...
ใครบางคนที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
หลังเลิกเรียนในวันธรรมดา เมธาในวัยมัธยมศึกษาปีที่หกเดินสะพายประเป๋าเข้าสถาบันกวดวิชามาพร้อมชีทโจทย์คณิตศาสตร์หนาปึ้ก ขณะที่กำลังจะขึ้นบันไดไปเรียนก็ได้ยินเสียงวี้ดว้ายของกลุ่มนักเรียนหญิง
“เอื้อจ๋า แนนนี่อยากไปดูหนังจังเลย”
“เอาสิ ช่วงนี้เรื่องอะไรเข้าล่ะ”
เมธาหันไปมอง ใจกลางนั้นคือเด็กหนุ่มตัวสูงผมสีน้ำตาลที่กำลังพูดคุยกับเด็กสาวด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติ ใบหน้าหล่อร้ายเผยยิ้มกรุ้มกริ่มเจ้าเสน่ห์ ในมือถือหนังสือคณิตศาสตร์พื้นฐานเล่มหนาเอาไว้ นั่นเป็นคอร์สที่เมธาเพิ่งเรียนจบไปเมื่ออาทิตย์ก่อน
ตอนนั้นเองที่อีกฝ่ายหันมาสบตา เมธาสะดุ้งราวกับโดนไฟช็อต ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเรียนคอร์สของตัวเอง
เด็กหนุ่มมาทันตอนอาจารย์ในวิดีโอเริ่มสอนพอดี เขานั่งจดเทคนิคกับเนื้อหาเพิ่มเติมที่อาจารย์แนะนำให้อย่างตั้งใจ เมธาอยากเป็นครู และถ้าจะสอนนักเรียนก็ต้องเป็นวิชาที่เขาชอบที่สุด...คณิตศาสตร์
เข็มนาฬิกาวนไปตามเวลา รู้ตัวอีกทีท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีเข้มเสียแล้ว พร้อมกับความยาวเทปสอนที่สิ้นสุดลง เมธาเก็บของใส่กระเป๋า เขาโทรหาพ่อซึ่งปลายสายก็บอกให้เขารออีกสักพัก
เด็กหนุ่มออกจากห้องเรียนมาคนสุดท้าย นอกจากเด็กหนุ่มม.ปลายกลุ่มใหญ่ตรงหน้า บนชั้นนี้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว เมธาเดินสะพายกระเป๋าผ่านกลุ่มคน ตอนนั้นเองที่เขาโดนคว้าแขนไว้
“อ๊ะ!” คนตัวเล็กสะดุ้ง เจ้าของมือเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงหน้าเหี้ยมที่จ้องเขาด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย มันถามว่า “เธอชื่ออะไรเหรอ”
“มะ...เมธา” เขาตอบ พยายามแกะมืออีกฝ่ายออกจากต้นแขน “มีอะไรเหรอ ปล่อยเราก่อนได้ไหม”
“ว้าว ชื่อน่ารักเชียว” มันหันไปหัวเราะกับเพื่อนที่เหลือ ก่อนจะหันมาพูดใส่หน้าด้วยท่าทีหยาบโลนว่า “เรามองนายมาละ เราอยากเอานายว่ะ ยอมป้ะ”
เมธาหน้าซีด เขาสั่นหัว พยายามแกะมือหนาออกด้วยท่าทางรีบร้อน “ไม่...ขอร้อง ปล่อยเรา...โอ๊ย!” เด็กหนุ่มนิ่วหน้ายามถูกอีกฝ่ายบีบแขนจนกระดูกแทบแตก คนหน้าเหี้ยมตะคอกใส่เขาว่า “มึงอย่ามาดีดดิ้น! ยอมกูดีๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว มาทางนี้!”
คนตัวเล็กพยายามขืนตัวไว้เมื่อถูกลากไปทางห้องน้ำชาย เมื่อสู้แรงไม่ได้จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย!ใครก็ได้ช่วยด้วยครับ!” เมธาดิ้น ตอนนั้นเองที่หนึ่งในเพื่อนของไอ้หน้าเหี้ยมต่อยเข้าที่ท้องของเขา
เมธาจุกจนร้องไม่ออก ก่อนจะถูกไอ้หน้าเหี้ยมอุ้มขึ้นพาดบ่า ดวงตาสีนิลคู่เล็กสั่นวูบอย่างหวาดกลัว ร้องเสียงแผ่ว “อย่า...ฮึก อย่าทำอะไรเราเลย”
พวกนั้นได้ยินแล้วก็หัวเราะชอบใจ พวกมันอุ้มเมธาเข้ามาในห้องน้ำชาย ไอ้หน้าเหี้ยมทุ่มเขาลงบนพื้นแล้วเริ่มถอดเข็มขัด พูดเสียงพร่า “นี่เหยื่อกู กูเปิดก่อน”
พวกที่เหลือพร้อมใจกันบ่นเสียงขรม แต่หนึ่งในนั้นก็ยอมพูดว่า “เออๆ มึงเปิดรูล่างไป เดี๋ยวพวกกูเล่นอย่างอื่น” ก่อนแต่ละคนจะทยอยกันถอดกางเกง เมธาร้องไห้ ยกมือไหว้ตัวสั่นระริก “ได้โปรด...ฮึก อย่าทำอะไรเราเลย...”
“น่ารำคาญ!” ไอ้หน้าเหี้ยมปราดเข้ากระชากท้ายทอยเด็กหนุ่ม เมธาเม้มริมฝีปากกลั้นสะอื้น “เรากลัวแล้ว...ฮึก” ดวงตาที่เต็มไปด้วยราคะมองภาพนั้นแล้วยิ้มกริ่ม แสร้งพูดเสียงปลอบประโลมว่า “เอาน่า...เดี๋ยวก็สนุกแล้ว”
“ได้โปรด...” เมธาส่ายหน้า ก่อนจะถูกไอ้หน้าเหี้ยมฉีกเสื้อนักเรียนจนขาดวิ่น
“อย่า!” สิ้นคำราวกับสัญญาณ ร่างสูงจู่โจมที่ซอกคอขาว มันสูดดมอย่างหื่นกระหาย ส่วนมือก็ปัดป่ายไปตามร่างกายเล็กๆ ที่สั่นเทาอย่างหวาดกลัว ราวกับนรก เมธาพยายามดิ้นออกจากดงอสูรกายในคราบมนุษย์
“มะ ไม่เอา...ฮือ” เมธาพยายามปัดมือที่เข้ามาสัมผัสตัวเองออก ตามด้วยมือหนาที่พยายามจะปลดกางเกงนักเรียนของเขา
“เสร็จกูล่ะ!”
“ไม่!”
ผัวะ!
ตอนนั้นเองที่ร่างไอ้หน้าเหี้ยมลอยหวือกระเด็นไปกระแทกผนังอีกฝั่ง เกิดเสียงฮือฮาปนก่นด่าจากรอบทิศ เมธาก้มหน้าปิดหูสะอื้นตัวสั่นระริก
“ไอ้เหี้ยมึงเป็นใครวะ!” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่พวกมันได้พูดจนจบ ตามด้วยเสียงหมัดกระแทกกล้ามเนื้อเคล้าเสียงร้องโหยหวนดังสะท้อนไปทั่วห้องน้ำชาย แต่ไม่นานนักทุกอย่างก็เงียบลง
วีรบุรุษกลับมายืนด้วยท่าปกติ เบื้องหน้าคือกลุ่มวัยรุ่นชายในสภาพสะบักสะบอมจากฝีมือและฝีเท้าของเขา เอื้ออังกูรปัดมือเบาๆ พลางพรูลมหายใจ หันไปมองร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าตัวสั่นอยู่บนพื้น
นิ้วยาวแตะไหล่ขาวมนที่โผล่พ้นเสื้อ
“เฮือก!” เมธาผงะถอย เอื้ออังกูรเองก็สะดุ้งไปเหมือนกัน เขาสบดวงตาสีนิลคู่งามที่สั่นวูบนั่น ก่อนจะคุกเข่าลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะ”
เมธาพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา ตอบเสียงสั่น “มะ...ไม่เป็นไร”
เอื้ออังกูรมองยิ้มๆ ถามว่า “ลุกไหวไหม?” เขามองคนตัวเล็กพยักหน้างกๆ พลางพยายามฝืนลุกทั้งที่ขาสั่นระริกอย่างนึกเอ็นดู
อดยื่นมือเข้าไปช่วยไม่ได้ “ให้ฉันช่วยนะ”
เมธาค่อยๆ ยืนได้ด้วยการประคองจากร่างสูง แขนเล็กที่มีรอยฟกช้ำขยับกอดตัวเองเอาไว้พลางก้มหน้าพูดเสียงสั่น
“ขะ...ขอบคุณครับ”
เอื้ออังกูรมองเสื้อนักเรียนที่ขาดวิ่นของอีกฝ่ายจนเผยให้เห็นผิวขาววับๆ แวมๆ แล้วตัดสินใจถอดแจ็คเก็ตของตัวเองคลุมให้แล้วพูดว่า “บ้านอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง”
เมธาเงยหน้าอย่างนึกอึ้ง “ดะ เดี๋ยวพ่อเรามารับ...”
“เข้าใจแล้ว” เอื้ออังกูรพยักหน้ารับรู้ เขาวางมือลงบนกลุ่มผมสีนิลนุ่ม ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “งั้นเดี๋ยวฉันไปรอเป็นเพื่อนก็แล้วกัน”
วินาทีนั้นเองที่เมธาตกหลุมรักคนตรงหน้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นตามลำดับ หลังเลิกจากที่โรงเรียนทั้งคู่จะมานั่งกินข้าวก่อนเข้าเรียนกวดวิชาด้วยกันทุกครั้ง ทุกครั้งที่เอื้ออังกูรมักจะยิ้มและเล่นหัวคนตัวเล็กอย่างอบอุ่น
ในวันสุดท้ายของคอร์สเรียนกวดวิชาที่ความรู้สึกมันท่วมท้นเกินกว่าจะกักเก็บเอาไว้นั่นเอง เมธาก็คิดจะสารภาพรักกับอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มรอเจอกับร่างสูงเช่นเคย และตอนที่ทุกอย่างพร้อมแล้วนั่นเอง
“เราชอบนายนะ!”
เสียงของเขาเอง...
“ขอบคุณที่ดีกับเรามาตลอด เรารักเอื้อนะ!”
เมธารวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเพื่อบอกออกไป...
“...”
อีกฝ่ายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนร่างสูงจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง คนตัวเล็กเงยหน้าอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมาด้วยรอยยิ้มหยัน
“โง่น่า ผู้ชายสองคนจะรักกันได้ยังไง ประสาท”
เพล้ง!
เสียงหัวใจดวงเล็กแตกสลายไม่มีชิ้นดี เมธายืนหน้าชา เกิดอาการหาเสียงตัวเองไม่เจออีกต่อไป
“เฮ้อ มุกตลกอะไรเนี่ย เล่นซะฉันขำจนหายใจไม่ทันเลย” เอื้ออังกูรเช็ดหยดน้ำตรงหางตา พูดเสียงดูแคลนว่า “นี่ตกลงนายเป็นเกย์เหรอเนี่ย รู้แบบนี้ตอนนั้นไม่ช่วยเอาไว้ซะก็ดี น่าขยะแขยงเป็นบ้า”
เมธาจ้องอีกฝ่ายผ่านม่านน้ำตา ดวงตาสีนิลทอประกายเจ็บปวด
“เอาล่ะ ในเมื่อชอบฉันแล้วแบบนี้นายก็ไม่มีความน่าสนใจอีกต่อไป” เด็กหนุ่มตัวสูงเดินเข้ามาตบไหล่ ก่อนจะเดินจากไปด้วยประโยคเด็ดว่า
“ไว้คราวหน้าจะมาเล่นด้วยใหม่นะ...ไอ้ของเล่น”
กลับมาที่ปัจจุบัน เมธานั่งหน้าเศร้า ถ้าเขาไม่สารภาพรักกับอีกฝ่ายไปตอนนั้นเรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้ พวกเขาคงยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่ถึงจะมารู้สึกผิดตอนนี้ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ก่อนประตูห้องจะถูกเปิดออก ครูคณิตตบหน้าเรียกสติตัวเอง ลูกศิษย์คนแรกของเขาเข้ามาแล้ว
“สวัสดีครับอาจารย์” เสียงทุ้มร้องทักอย่างสดใส เมธาอึ้งไป จ้องผู้มาใหม่ตาไม่กระพริบ
เอื้ออังกูร“เม...”
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเองก็ดูจะตกใจไปแวบหนึ่ง ทว่าสุดท้ายก็แสยะยิ้มออกมา “ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเจอกันที่นี่ แหม บังเอิญจริงๆ” มือหนาวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ไม่วายพูดจาค่อนขอด
“ว่าแต่นายนี่ไม่เปลี่ยนมุกเลยนะ หากินกับที่เรียนพิเศษอยู่ได้ไม่เบื่อบ้างรึไง” เอื้ออังกูรหัวเราะในลำคอ “แต่อย่างว่าแหละนะ เด็กม.ปลายผู้ชายสมัยนี้ก็งานดีเยอะอยู่ คงจะถูกใจนายน่าดู”
ดวงตาสีนิลคู่เล็กสั่นระริกให้กับคำดูถูก ตอนนั้นเองที่ร่างสูงย่างสามขุมเข้ามาหา เมธาผงะถอย
“อ้าว ทำไมกลัวผมแบบนั้นล่ะครับ...อาจารย์?” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแค่นยิ้ม ครูคณิตถอยจนหลังติดผนัง พูดเสียงสั่น “ยะ...อย่าเข้ามา...”
เมธาสะดุ้งยามคนตัวใหญ่ปราดเข้ามาประชิดตัว มือหนาล็อคคางเล็กให้เชิดขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาประกบปากอย่างจาบจ้วง
“ฮื้อ...”
ดวงตาสีนิลคู่งามสั่นวูบ ลิ้นร้อนไล่เกี่ยวกระหวัดพันลิ้นเล็กที่พยายามหลบหนีอย่างขลาดกลัว ลีลารัญจวนเสียจนขาของคนตัวเล็กสั่นแทบยืนไม่อยู่
“อย่า...” แก้มครูคณิตเปลี่ยนเป็นสีจัดยามมือหนาเลื่อนลงต่ำ แขนเล็กๆ พยายามดันอีกฝ่ายออกทั้งที่สั่นระริก
“ปากแข็งน่า” เอื้ออังกูรกระซิบชิดริมฝีปาก มองร่างเล็กที่เหมือนพร้อมจะทรุดลงไปกองกับพื้นได้ทุกเวลาแล้วหัวเราะหึ “อ่อนไหวจริงนะ ทำเป็นไม่เคยไปได้”
คนตัวเล็กร้องไห้เมื่อโดนรังแก ตอนนั้นเองที่เมธารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้วดึงของข้างในออกมา เอื้ออังกูรเห็นแล้วเบิกตากว้าง เขาผละออกไปเหมือนโดนของร้อน
เมธาทรุดตัวนั่งหอบ กำอาวุธสุดท้ายของตัวเองไว้แน่น พูดว่าเสียงแผ่ว “ฉันจะกดมัน...”
“เข้าใจแล้ว! ฉันไม่ทำอะไรแล้วน่า! โธ่เอ๊ย หยอกเล่นหน่อยเดียวเอง” เอื้ออังกูรพูดหวาดๆ เจ้าหน้าที่สาวอธิบายกฎการใช้งานของห้องมาแล้ว ปุ่มกดไร้สายนั่นเป็นคำสั่งจากแม่ของเขา
จำนวนครั้งที่ปุ่มถูกกดเท่ากับจำนวนโทษทัณฑ์จากแม่ที่เอื้ออังกูรจะได้รับ
เมธาจ้องอย่างระแวง ทว่าพอเห็นสีหน้าซีดเผือดของอีกฝ่ายก็นึกทึ่งอาวุธในมืออยู่เหมือนกัน ครูคณิตค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พอยื่นมือไปข้างหน้า เอื้ออังกูรก็โยกตัวหลบเหมือนเห็นผี ตะโกนเสียงทุ้ม
“ฉันยอมแล้ว! ไม่แกล้งแล้วน่า! เอามือออกจากปุ่มนั่นสักที!”
เมธามองอีกฝ่ายบ่นเป็นหมีกินผึ้งพลางเริ่มเปิดหนังสือเรียนในกล่องอย่างจริงจัง เขาลดมือลงช้าๆ
แล้วคาบเรียนแห่งความวุ่นวายก็เริ่มขึ้น
****************************************************** *
สวัสดีค่าาา า

โอ๊ย คิดถึงคนอ่านจัง หายไปเกือบสามอาทิตย์แน่ะ 555555555 5
ติดสอบค่าาา า แงงง ง จูนขอโทษจริง ๆ

รอบนี้จัดเต็มสามรีเลย อ่านกันให้หายคิดถึงไปเลยเนอะ
ช่วงนี้ปิดเทอมแล้วคิดว่าคงจะมาลงได้บ่อยขึ้นนะคะ
พอมีคนมารอแล้วรู้สึกผิดมากเลย นี่ก็รีบแจ้นมาลงให้เลยค่ะ 555555555 5
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามและกำลังใจนะคะ
มันสำคัญกับจูนมากจริง ๆ ค่ะ
สุดท้าย .. อย่าเกลียดเอื้อเลยนะคะ 55555555555 5

เจอกันตอนที่สิบเก้าค่าาาา า