(ต่อ)
หลังเลิกเรียนแลปอาหารภาคบรรยายในบ่ายวันศุกร์ เหล่านิสิตภาควิชาคหกรรมศาสตร์ก็ทยอยเดินออกจากห้อง เปรมมองไดนาไมต์ที่ง่วนอยู่กับการเก็บกระเป๋าอย่างรีบร้อน ถามว่า “เป็นไรวะ”
“ไอ้บอมบ์มีเรื่องที่โรงเรียนอะ” คนพูดหมายถึงน้องชายร่วมสายเลือด ข้างๆ เป็นสามสีที่กำลังกดมือถือโทรออกด้วยใบหน้ายับย่น พ่อครัวถามอีกที “แล้วไอ้นี่ล่ะเป็นไร”
“วันนี้เจ้าใหญ่มาลงร้านอะดิ แม่กูโทรตามยิกๆ นี่” เป็นจังหวะที่ปลายสายกดรับ สามสีหันไปอีกทาง พูดว่า “กำลังออกเนี่ยแม่ รอแป๊บนึง เดี๋ยวสามแว้นไป”
ฝั่งไดนาไมต์กำลังยกมือถือแนบหู แต่ยังมีแก่ใจหันมาบอกพ่อครัวว่า “ไอ้เหี้ยเปรมมึงไปเก็บกล้องด้วย” ก่อนจะกลับไปพูดกับปลายสาย “ฮัลโหลครับ ผมกำลังรีบไปครับครู...”
เปรมมองเพื่อนผมสีชมพูวิ่งออกไป ตะโกนถามไล่หลัง “มึงติดไว้ตรงไหน!”
“บนตู้เสื้อผ้าห้องไอ้เท็น” สามสีที่กระโจนมาตบไหล่พ่อครัวจากด้านหลังเป็นคนตอบ เปรมมองทั้งคู่วิ่งออกไป ก่อนจะเดินลงบันไดไปหาเท็นที่แลปวิทยาศาสตร์ชั้นล่าง
เสียงครกกระทบสากดังลอดออกมาจากประตูบานสุดท้ายบนทางเดินชั้นล่างของคฤหาสน์ ในห้องครัวเล็กสำหรับเรียนทำอาหารของนายน้อย เปมทัตกำลังตำพริกแกงพร้อมหยาดเหงื่อที่ไหลลงข้างขมับ
บนเคาน์เตอร์บาร์ทำอาหารใกล้ๆ มีถ้วยสแตนเลสใส่เนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำกับชามใส่หัวกะทิ รวมทั้งมะเขือเปราะผ่าครึ่ง มะเขือพวง และใบโหระพาวางอยู่ เพราะเด็กโข่งร้องจะกินแกงเขียวหวานไก่แล้วหาซื้อพริกแกงไม่ได้นั่นแหละ เปรมถึงต้องมายืนตำเองงกๆ อยู่แบบนี้
เมื่อพริกแกงละเอียดได้ที่พ่อครัวก็ตั้งกระทะ เขาผัดพริกแกงกับหัวกะทิเข้าด้วยกันจนเกิดกลิ่นหอม รอจนแตกมันแล้วจึงใส่เนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำตามลงไป
เปมทัตใส่เกลือเล็กน้อย เขาเติมหัวกะทิที่เหลือลงไป ก่อนจะเปิดไฟแรงให้พริกแกงเดือด
“กุ๊ก...”
คนตัวโตเดินมากอดเขาจากด้านหลัง กดจมูกดมตัวพ่อครัวฟุดฟิด เปรมใส่มะเขือเปราะกับมะเขือพวงลงไป ถามว่า “คุยกับพ่อเสร็จแล้วเหรอ”
“อื้อ” เสียงทุ้มโมโนโทนดังอยู่ข้างหู “พ่อบอกว่าต้มข่าไก่อร่อย”
เปมทัตเลิกคิ้ว “ของใคร?”
“ของกุ๊ก” เด็กโข่งตอบเสียงเอื่อย เปรมยกมือแตะแก้มคนตัวใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือไหล่ตัวเองเบาๆ “เป็นอะไร ไปนอนไหม นายดูเหนื่อยๆ นะ”
“ขอกินก่อน” เท็นซุกหน้าเข้าหามือพ่อครัวอย่างออดอ้อน เปมทัตดึงแก้มเด็กโข่งเบาๆ “รอสักครู่ครับ”
ไม่ถึงสิบนาทีแกงเขียวหวานไก่ก็ถูกเสิร์ฟใส่ชามวางบนโต๊ะ พ่อครัวคดข้าวสองจานมานั่งกินกับเด็กโข่ง ฝ่ายหลังพอชิมคำแรกเข้าไปก็พูดว่า
“อร่อย”
“อร่อยหรือหิว” เปรมหัวเราะ มองอีกฝ่ายเคี้ยวข้าวหยับๆ อย่างนึกเอ็นดู
“ค้างที่นี่นะ” เสียงทุ้มนั้นกึ่งบังคับกึ่งเว้าวอนอยู่ในที เปมทัตเห็นแล้วนึกอย่างแกล้งขึ้นมา “ดูก่อน”
“ทำไมล่ะ” เท็นจ้องหน้าเขา “วันนี้วันศุกร์นะ”
“ล้อเล่น” เปรมหัวเราะ เด็กโข่งกระพริบตาเหมือนตามไม่ทัน แต่ยังมีแก่ใจย้ำว่า “ค้างนะ”
พ่อครัวลูบต้นคอตัวเองคล้ายกระดากใจ ตอบแบบขอไปที “...คร้าบๆ” ลอบมองดวงตายาวรีที่กลับมาเป็นประกายอย่างนึกหมันไส้ ดูออกง่ายชะมัดเลยหมอนี่
“ออกัสล่ะ?” เปมทัตถามหาหนุ่มลูกครึ่ง เท็นตักข้าวเข้าปากตอบเสียงอู้อี้ “ทำงานอยู่ในห้อง”
พ่อครัวมองแกงเขียวหวานส่วนที่อยู่ในกระทะ พูดกับเด็กโข่งว่า “เราเอาข้าวขึ้นไปให้เขากันไหม” เท็นผงกหัว ดูท่าแล้วคงเป็นห่วงเลขาคนเก่งอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
เปรมรอจนเท็นกินอิ่มแล้วจึงเก็บล้างจาน ตามด้วยตักแกงเขียวหวานกับคดข้าวสวยจัดเรียงใส่ถาดพร้อมแก้วน้ำดื่มอย่างเพิ่มมูลค่า เด็กโข่งมองน้ำลายสอจนพ่อครัวต้องโยกสำรับอาหารหนี
“เราถือเอง” ทศทิศอาสา เปมทัตกำชับว่า “ห้ามกินนะ”
“...ก็ได้”
“อย่าลังเลสิ!” พ่อครัวตะโกน มองเด็กโข่งที่รับถาดไปถือด้วยดวงตาเป็นประกาย อดถามไม่ได้ว่า “จะหกไหมเนี่ย”
“ไม่หรอก” นายน้อยของคฤหาสน์รับคำเป็นมั่นเหมาะ
เปรมเดินตามเท็นขึ้นบันไดกลางมา ร่างสูงเลี้ยวขวา หยุดลงหน้าบานประตูไม้สลักลายเสือ “ห้องนี้” พ่อครัวพยักหน้า เขาเคาะประตูแล้วส่งเสียงเรียก “ออกัส”
“...” ไร้เสียงคนข้างในตอบกลับ เปรมขยับที่จับประตูก่อนจะพบว่ามันไม่ได้ล็อค
“ออกัส? ฉันเข้าไปนะ?” พ่อครัวเปิดประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องทำงานขนาดเล็กโทนสีอ่อนสบายตา ข้าวของถูกจัดเป็นระเบียบบ่งบอกถึงความใส่ใจของเจ้าของ เปรมหยุดมองบนพื้นห้อง
พ่อครัวเบิกตาโพล่ง “ออกัส!”
เท็นชะงัก มองกุ๊กกระโจนเข้าไปประคองร่างเลขาคนเก่งที่นอนฟุบอยู่บนพื้นอย่างตกใจ ตอนนั้นเองที่ประตูห้องข้างๆ ถูกเปิดออก เด็กโข่งหันไปมอง
“มีอะไร” เจ้าของเสียงทุ้มคือเจ้าบ้านแห่งคฤหาสน์ ‘เกียรติยวานนท์’ เขาได้ยินเสียงร้องจึงออกมาดู ประจวบเหมาะกับที่เปรมหันมาพูดว่า “ทำไงดีเท็น ออกัสตัวร้อนมากเลย!”
เสียงนั้นดังพอจะให้หมอแปดได้ยิน เสี้ยววินาทีนั้นเองที่เท็นขยับตัวหลบร่างใหญ่ที่พรวดเข้ามาได้ทันท่วงที เปรมสะดุ้ง ตะโกนอย่างตกใจ
“คุณเป็นใครเนี่ย!”
“เป็นหมอ” ใบหน้าหล่อเหลาส่อเค้าหงุดหงิด เขาย่อตัวลงตรงหน้าพ่อครัว สั่งว่า “ส่งหมอนั่นมาให้ฉัน”
“แฮ่ก...” ร่างกายออกัสอ่อนปวกเปียก เลขาคนเก่งหายใจหอบอย่างทรมาน ก่อนจะถูกเจ้าบ้านอุ้มเอาตัวออกไป เท็นมองพ่อที่พรวดออกมาอีกครั้ง เขาหมุนตัวหลบทันอย่างหวุดหวิด
เปรมหันไปจ้องเด็กโข่งคล้ายยังตามไม่ทัน ทว่าฝ่ายหลังกลับชูถาดขึ้นพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
“ไม่หกครับ”
หลังส่งสำรับอาหารของออกัสให้หมอแปดไปเปรมก็มานั่งสำนึกผิดในห้องนอนของเท็น แม้เด็กโข่งจะพยายามปลอบใจเขาและคู่กรณีไม่เอาเรื่องก็ตาม แต่ความจริงที่พ่อครัวตะโกนว่า ‘คุณเป็นใครเนี่ย!’ ใส่หน้าเจ้าบ้านก็ยังไม่จางหายไป
ก็คิดไว้แหละว่าตัวเองคงเข้ากับเจ้าบ้านไม่ได้ แต่ไม่นึกว่าจะเลวร้ายขนาดนี้ พ่อครัวยกมือกุมหัว นั่งคุกเข่าคร่ำครวญอยู่ปลายเตียงเป็นพระเอกหนังจีน เท็นมองท่าทางนั้น พูดว่า “กุ๊ก เราอาบน้ำก่อนนะ”
“ฮือ...เอาเลย” เปมทัตพูดด้วยสีหน้าจะร้องไห้ จนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบนั่นแหละพ่อครัวถึงกลับมาตั้งสติ
เปรมอาศัยจังหวะที่เด็กโข่งเข้าไปอาบน้ำแอบเก็บกล้องบนตู้เสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้ โดยไม่ลืมที่จะไลน์บอกกลุ่มสามทหารเสือว่าทุกอย่างเรียบร้อย
ร่างเล็กแผ่ตัวลงบนเตียงเงยหน้ามองเพดาน หวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วก็นึกสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าบ้านกับเลขาขึ้นมา สายตาของหมอแปดที่จ้องออกัสตอนนั้นเหมือนกับสายตาของเท็นตอนจ้องเขาไม่มีผิด
เปรมคิดจนปวดหัว สุดท้ายก็ถอดใจแล้วหลับตาลง หูได้ยินเสียงสายน้ำจากฝักบัวกระทบพื้น เครื่องปรับอากาศทำให้อุณหภูมิเย็นจนน่านอน เตียงก็นุ่มราวกับมีแรงดึงดูดให้พ่อครัวจมลงไป
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ ไฟในห้องดับลงแล้ว เปมทัตลืมตาด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น
“กุ๊ก...”
เสียงทุ้มดังขึ้นเหนือหัว พ่อครัวส่งเสียงทั้งๆ ที่ตายังไม่เปิดดี “หือ?”
“ช่วยด้วย...”
เปรมนิ่งไปคล้ายสมองประมวลผล สติของเขากลับมาช้าๆ เริ่มรู้สึกแล้วว่าอ้อมแขนใหญ่ที่โอบล้อมตัวเองอยู่นั้น...มันกำลังสั่น
“เท็น?”
“เรากลัว...”
เท็นขมวดคิ้วพูดทั้งที่ยังหลับตา ใบหน้าหล่อเหลาเจือความทรมานปนอึดอัด เปรมขยับแขนลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆ กระซิบบอกเด็กตัวโต
“เท็น ฉันอยู่ตรงนี้”
“ฮึก...”
“เด็กดี...ฮืม...” พ่อครัวฮัมเพลงกล่อมเด็กออกมา เขาสางมือเข้าไปในกลุ่มเส้นผมสีดำสนิทของอีกฝ่าย ขยับนิ้วนวดขมับว่าที่คุณหมอเบาๆ คล้ายปลอบประโลม
ไม่นานนักเท็นก็สงบลง เปมทัตมองร่างสูงด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมหน้าผากเด็กโข่งเบาๆ พลางกระซิบ
“ฉันจะปกป้องนายเอง...ฉันสัญญา”
****************************************************** *
สวัสดีค่าาา า
แหม่ สามทหารเสือนี่มันทำได้ทุกอย่างจริง ๆ 55555555 5
มาลงฉลองวันเกิดให้ตัวเองค่ะ ยี่สิบแล้ววว ว ปีนี้
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามและกำลังใจนะคะ
ถ้านับถึงเมื่อวาน นิยายเรื่องนี้ก็มีอายุสามเดือนพอดีเลยค่ะ
อยู่ด้วยกันไปจนจบเลยน้า
เจอกันตอนที่ยี่สิบค่าาาา า