(ต่อ)
เวลาแปดโมงของเช้าวันจันทร์ เหล่านิสิตภาควิชาคหกรรมศาสตร์ชั้นปีที่หนึ่งกำลังนั่งเรียนวิชาสุขภิบาลอาหารอยู่ด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น เปรมนั่งจรดปากกายิกๆ ไม่ใช่เรื่องที่อาจารย์พูด แต่เป็นตารางสอนเจ้าเด็กโข่งนั่นต่างหาก
แผนการสอนของเปรมอ้างอิงจากหลักสูตรที่เขาเรียนแลปอาหาร อาจารย์เริ่มต้นคลาสแรกด้วยการใช้มีด หากแต่สอนการใช้มีดธรรมดาคงจะน่าเบื่อ อาจารย์จึงให้พวกเขาใช้มีดตกแต่งผัก มันคล้ายการแกะสลักแต่ง่ายกว่านั้นมาก ทำให้การเรียนใช้มีดน่าตื่นเต้นและสนุก เขาจึงนำมันมาประยุกต์ใช้กับเท็น
ทว่าดูเหมือนจะเป็นการเร่งรัดมากเกินไป เพราะตัวเขายังพอเคยหยิบจับเครื่องครัวมาจากเทอมที่แล้วบ้าง แต่เท็นไม่ใช่ หมอนั่นไม่มีพื้นฐาน บางทีอาจต้องเริ่มสอนจากให้รู้จักอุปกรณ์ง่ายๆ และกฎการใช้โดยสังเขปก่อน
เปรมปรับแก้ตารางสอนไปจนหมดคาบ ไม่ไหว ยังไงเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มถ่ายทอดสิ่งที่รู้จากตรงไหนอยู่ดี ถ้าเรียนคณะศึกษาศาสตร์เขาคงมีวิธีถ่ายทอดให้หมอนั่นไปแล้ว
จริงสิ...พูดถึงคณะศึกษา เปรมหยิบบัตรประจำตัวนิสิตที่เก็บได้ขึ้นมา จะว่าไปตั้งแต่วันนั้นก็ยังหาตัวอีกฝ่ายไม่เจอเลย หรือเขาควรจะไปคืนที่คณะเจ้าตัวเลยดี?
“หิวโว้ย” ไดนาไมต์ส่งเสียง หมดชั่วโมงเรียนแล้ว เปรมได้สติถึงเริ่มเก็บข้าวของ
“ไปหาไรกินที่โรงอาหารกัน” สามสีชวน
พวกเปรมและคนอื่นๆ เดินลงบันไดมา ก่อนจะพบนิสิตชั้นปีที่หนึ่งในชุดกาวน์สีขาวห้าคนยืนรออยู่ตรงชั้นล่าง เปรมเห็นพวกเขาปรึกษากันเล็กน้อย ผู้ชายที่ตัวเล็กที่สุดในนั้นเดินเข้ามาถาม
“ขอโทษนะ พวกเธอใช่คณะเกษตร ภาคคหกรรมป้ะ”
เหล่านิสิตว่าที่พ่อครัวหัวป่ามองหน้ากัน พยักหน้าหงึกหงัก ฝ่ายนั้นถามอีกว่า “ใครเป็นเฮดเหรอ ขอเราคุยด้วยหน่อยดิ”
“เปรม!” ไอริณหันมาเรียก เปมทัตเงยหน้าจากตารางสอนเด็กโข่ง ร้อง “ฮะ?”
“นายเป็นเฮดเหรอ” นิสิตแพทย์ถาม เปรมมองเพื่อนตาปริบๆ เขาน่ะเหรอ? แต่เอาจริงๆ ตำแหน่งนี้ก็ไม่ได้กำหนดตายตัวมาตั้งนานแล้วนี่นะ เปมทัตไม่ตอบแต่ถามว่า “มีอะไรเหรอ”
นิสิตแพทย์ทำหน้ากึ่งลำบากใจกึ่งมีความหวัง พวกเขากรูเข้ามา คนแรกที่เข้ามาทักพูดว่า “นาย เราอยากให้พวกนายช่วยออแกไนซ์งานเลี้ยงส่งอาจารย์หน่อยอะ แบบช่วยจัดการอาหารกับสถานที่อะไรแบบนี้ พวกเรามีงบกับค่าจ้างให้ด้วย ช่วยพวกเราหน่อยนะ”
เปรมกระพริบตาปริบๆ จริงอยู่ที่สายงานภาควิชาของเขาตรงกับข้อเสนอของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มหันไปมองเพื่อนๆ พูดว่า “เรายังไงก็ได้ คนอื่นอะ”
“จัดงานที่ไหน” สามสีถาม นิสิตแพทย์หันไปตอบอย่างกระตือรือร้น “ลานกว้างหน้าคณะเราเลย มันจะมีเวทีกับโต๊ะกินเลี้ยงอะ พวกนายพอจะนึกภาพออกไหม” คนพูดส่งกระดาษร่างแบบมาให้ดู สามสีรับมาเพ่งอยู่ครู่หนึ่ง เงยหน้าตอบว่า “ยังไงก็ได้เหมือนกัน คนอื่นอะ”
ไดนาไมต์เลิกคิ้ว “พวกมึงว่าไงกูก็ว่างั้นอะ”
“ไอว่าตามเปรมจ้า” เด็กสาวตะโกนเสียงใส ตามด้วยคนอื่นๆ ที่พากันพูดว่า ‘ถ้าเปรมตกลงล่ะก็พวกเราก็ยังไงก็ได้ทั้งนั้น ก็เปรมเป็นเฮดนี่นา’ เพราะยังไงพวกเขาก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น
“งานมีวันไหน” สามสีถาม ได้รับคำตอบว่า “เสาร์นี้แล้วอะ”
“ก็ยังพอมีเวลา” สามสีประเมิน
“ตกลงใช่ไหม โอ๊ย ขอบคุณมาก” นิสิตแพทย์คว้ามือเด็กคหกรรมไปเขย่า ยิ้มให้แล้วพูดว่า “เราชื่อเต้ เป็นเฮดงานครั้งนี้ มีอะไรติดต่อเราได้เลย มาแลกไลน์กัน เดี๋ยวเราส่งรายละเอียดไปให้” ภาพนิสิตเสื้อกาวน์แลกไลน์ไอดีกับนิสิตเสื้อกุ๊กดูแปลกตา ก่อนพวกเปรมจะแยกตัวออกมาที่ลานจอดรถข้างตึก
“เราควรบอกเจ๊นฤมลก่อนปะวะ” สามสีหมายถึงอาจารย์ที่ปรึกษา ไดนาไมต์ตาโต “เออว่ะ” เปรมพูดว่า “เดี๋ยวกูโทรถามเอง” ว่าแล้วก็ต่อสาย สักพักมีคนรับ
(สวัสดีค่ะ)
เปรมพูดว่า “อาจารย์นฤมล ผมเปมทัตนะครับ อาจารย์สะดวกคุยไหมครับ”
(อ้าวเปมทัต ว่าไง อาจารย์ว่างอยู่ คุยได้) เธอตอบกลับมา เปรมพูดว่า “คือคณะแพทย์เขามาขอให้ภาคเราจัดงานออแกไนซ์ให้อะครับอาจารย์”
(งานใหญ่ไหม)
“มีเวทีด้วยอะครับ น่าจะยิ่งใหญ่อยู่”
“เอาปีสองไปช่วยด้วยสิ พี่เขาเคยทำอยู่” อาจารย์นฤมลพูดเสียงสดใส เปรมพยักหน้าหงึกหงัก “อ๋อครับ คืออาจารย์ไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ ถ้าพวกผมจะรับงาน...”
“โอ๊ยไม่ว่าหรอก ดีแล้ว ประสบการณ์ ทำตั้งแต่ปีหนึ่งเนี่ยแหละดี เพราะปีสองก็เคยทำแล้ว ไม่เข้าใจอะไรไปถามพี่เขาได้” ที่ปรึกษาสาวแนะนำ เปรมยิ้มออกมา เขาบอกวันเวลาคร่าวๆ ไป ก่อนจะวางสาย
“ว่าไงเพื่อน” ไดนาไมต์หันมา เปรมตอบว่า “อาจารย์บอกว่าได้ ให้ปีสองมาช่วย”
“โอ๊ย อาจารย์แกไฟเขียวอยู่แล้วเรื่องแบบนี้” หนุ่มผมทองยิ้ม “แกชอบให้เราหาประสบการณ์”
“แบบนี้พวกเราก็ต้องประสานงานกับพี่ปีสองสิ” สามสีพูด เปรมพยักหน้า ไดนาไมต์บอก “เออ งั้นกูโทรหาเจ๊โมก่อน แกเป็นเฮด น่าจะกระจายข่าวได้เร็ว” พูดจบก็กดมือถือโทรหาพี่รหัส เปรมกับสามสีสตาร์ทรถ
ไดนาไมต์ซ้อนสามสี อีกฝ่ายรับสายพอดี เขากรอกเสียงลงไปว่า “เจ๊โม ว่างคุยเปล่า คือว่า...”
แล้วมอเตอร์ไซค์สองทั้งคันก็ทะยานออกไป
เปรมกับสามสีเดินเข้าโรงอาหารมา คนไม่เยอะมากเนื่องจากยังเช้าอยู่ เปรมเลือกเมนูง่ายๆ อย่างผัดกะเพราหมูไข่ดาวกับฝรั่งหนึ่งถุง ในขณะที่สามสีสั่งข้าวผัดต้มยำ พวกเขาเดินมาหาไดนาไมต์ที่นั่งจองโต๊ะไว้ก่อนแล้ว
เด็กหนุ่มโกรกผมสีทองกำลังนั่งเล่นสมาร์ทโฟน เปรมถามว่า “ติดต่อพวกปีสองเป็นไงบ้าง”
“เรียบร้อย บอกวันเวลาพวกเขาไปแล้ว เดี๋ยวให้สายรหัสแต่ละคนกระจายรายละเอียดกันอีกที” นิ้วเรียวเลื่อนหน้าฟีดรีเฟรชไทม์ไลน์ สามสีกับเปรมกินข้าวกันไปเงียบๆ ก่อนไดนาไมต์จะเบิกตาโพล่ง
“มึ้งงง! เด็กเภสัชต่อยกับประมงเว้ย!”
สามสีเลิกคิ้วถาม “เมื่อไหร่วะ”
“ห่า เมื่อกี้ที่โรงอาหารนี่เลย แม่งเอ๊ย เสียดายอะ มาช้า” ไดนาไมต์เลื่อนดูอย่างสนใจ เปรมเคี้ยวข้าว “ใครกับใครอะ”
“ไม่รู้ว่ะ มีคลิปด้วยนะมึง คนในเฟซแชร์มา แต่แม่งไกลสัดอะ” ไดนาไมต์กดเล่น เขาจ้องแล้วขมวดคิ้ว สบถว่า “ห่าเอ๊ย มือสั่นอีก ดูไม่รู้เรื่องเลย” ไดนาไมต์พยายามเพ่งดู สามสีมอง พูดว่า
“เดี๋ยวค่อยถามไอ้ไฟก็ได้ม้าง คงเพื่อนมันแหละ”
“เออ แต่คอมเม้นท์ดุเดือดสัดอะ”
“ต่อยกันเรื่องไรวะ” เปรมถามอีกที ไดนาไมต์เลื่อนดู “ไม่รู้ว่ะ แม่งมีแต่กองเชียร์ ไม่มีใครบอกอะไรกูเลย นี่ไม่ต้องรู้เรื่องกันพอดี” เด็กหนุ่มผมทองบ่น สุดท้ายก็พูด “แม่งเอ๊ย ขี้เกียจละ กูรอถามไอ้ไฟดีกว่า”
“มึงคิดว่าอยู่ดีๆ ไอ้ไฟมันจะโผล่มาเล่าให้มึงฟังรึไง” สามสีพูด ไดนาไมต์เงยหน้า ร้องตาโต “เอ้าไฟ!” สามสีหันขวับ “เอาจริงดิ?”
เด็กหนุ่มผมสีเพลิงยาวระต้นคอเดินเข้ามาหา กลุ่มคนพร้อมใจกันแหวกทางให้พร้อมเสียงกรี๊ดเบาๆ จากสาวๆ และสายตาโดยรอบที่จับจ้อง ร่างสูงหยุดลงตรงหน้าสามหนุ่ม อัคคีนั่งลงข้างไดนาไมต์ด้วยใบหน้าทะมึงถึง
เปรมที่กำลังจะอ้าปากถามเรื่องประเด็นร้อนก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นหน้าของไฟมีรอยเล็บครูด “เฮ้ย หน้ามึงไปโดนอะไรมาวะ”
“แมวข่วน” ไฟตอบด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ ไดนาไมต์ขมวดคิ้ว “แมวที่ไหนวะน่ะ โหดสัด”
“ก็ไอ้เหี้ยนั่นอะดิ แม่ง ตัวเท่าลูกแมวแต่แรงเยอะฉิบหาย ฟาดมือมาทีหน้ากูไปหมด เสียหล่อขึ้นมาจะทำยังไง หน้าแบบนี้ไม่ใช่จะเกิดมามีกันได้ง่ายๆ นะเว้ย!” ไฟขึ้นเสียง สามสีกระพริบตา ถามว่า “เอ๊า ตกลงแมวหรือตัวเหี้ย”
“แมวเหี้ยอะดิสัด แม่งเอ๊ย หน้ากู ฝรั่งใครวะเอามากินดิ๊” ไฟพาล นิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อขยับหน้า เปรมยื่นให้ตาปริบๆ หมอยากัดฝรั่งดังกร้วม “ไอ้สัดกูไปเรียนละ แม่ง” พูดจบก็ลุกออกไป พวกเปรมมองหน้ากัน
ไดนาไมต์พูดว่า “ท่าจะเจ็บนะนั่น”
สามสีทำหน้านึกขึ้นได้ “เออ เลยแม่งลืมถามเรื่องที่ต่อยกันเลย ตกลงใครต่อยกับใครวะน่ะ” เปรมหันมา นึกถึงเพื่อนสนิทตอนม.ปลาย “เอาไว้ค่อยถามไอ้โชก็ได้ มันเรียนอยู่ประมง”
“เออว่ะ กูรอถามไอ้โชดีกว่า” ไดนาไมต์คึกคัก สามสีหันมาหรี่ตา “มึงคิดว่าอยู่ดีๆ ไอ้โชมันจะโผล่มาเล่าให้มึงฟังรึไง”
“เอ้าโช!”
“ล้อเล่นปะเหนี่ยยยย” สามสีเหมือนจะบ้า ตอนนั้นเองที่ชลันธรเดินก้าวฉับๆ เข้ามาหา ร่างเล็กกระแทกตัวนั่งข้างไดนาไมต์ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
เปรมที่จะอ้าปากถามก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง “เอ้า แล้วนี่หน้ามึงไปโดนอะไรมาวะน่ะ”
“เดินชนควาย” โชตอบหน้านิ่ง ไดนาไมต์เลิกคิ้ว “ประมงมีควายด้วยเหรอวะ กูเรียนเกษตรกูยังไม่เคยขี่เลย”
“ก็ไอ้เหี้ยนั่นอะดิ แม่งตัวหยั่งกะควาย แรงเยอะฉิบหาย ต่อยกูมาได้ หน้าทำมาหากินนะว้อย หมดหล่อขึ้นมาจะทำยังไงวะ!” โชขึ้นเสียง สามหนุ่มลอบมองหน้ากัน รู้สึกคุ้นๆ กับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่สามสีไม่ยอมพลาดอีกแล้ว
“เออแล้วมึงรู้เรื่องที่...”
“เหี้ยเอ๊ย หงุดหงิดสัด ฝรั่งใครวะ เอามากินดิ๊” โชโมโห เปรมยื่นให้อีกครั้งตาปริบๆ ชลันธรกัดฝรั่งดังกร้วม “เออ อร่อยว่ะ ไอ้เหี้ยกูไปเรียนต่อละ บายพวกมึง” พูดจบก็เดินจากไป เด็กหนุ่มสามคนมองหน้ากัน
เปรมเปิดปาก “เหมือนเดจาวูเลยว่ะ”
ไดนาไมต์พูดว่า “ท่าจะเจ็บนะนั่น”
“นี่ก็ด้วย” สามสีพูด พวกเขามองหน้ากันอย่างขบคิด สุดท้ายไดนาไมต์ก็เงยหน้าขึ้นมา ถามคำถามที่คาใจแทนทุกคนว่า
“แล้วตกลงใครต่อยกับใครวะ?”
****************************************************** *
สวัสดีค่าาา า

อ่านความเห็นของคนอ่านแล้วสนุกมาก ๆ เลยค่ะ 555555555 5
ใครสงสัยอะไรถามได้เลยนะคะ ทุกเรื่องมีคำอธิบายแน่นอนค่าา า
เรียกได้ว่าตอนนี้แต่งมาเพื่อตอบความเห็นตอนก่อนหน้าเลยก็ว่าได้
ในที่นี้ขอเล่าหน่อยในส่วนของคหกรรม เราเรียนทางนี้อยู่ค่ะ
ชั่วโมงแรกมาอาจารย์ก็จัดเลย วิธีใช้มีด แกะสลักผักอย่างง่าย
นี่ก็ไม่ได้มีพื้นฐานอะไรเลย งมโข่งยิ่งกว่าเท็นอีกค่ะ 555555555555 5
สงสัยอะไรถามได้เลยนะคะ จะพยายามอธิบายในเนื้อเรื่องให้ค่ะ
ส่วนที่ว่าทำไมน้องเท็นถึงดูไม่ค่อยเต็ม พี่ไฟเราก็อธิบายไปแล้วเนอะ

ทิ้งท้ายด้วยภาพประกอบดอกกุหลาบมะเขือเทศ แตงร้านฟรุ้งฟริ้ง
ดอกบัวหอมใหญ่ และใบไม้แครอทจากตอนที่แล้วค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เราอ่านความเห็นทุกคนหลายรอบมากเลย
เจอกันตอนที่สี่ค่าาาาา า
[attachment deleted by admin]