เพดานกับผนังห้องเป็นสีขาวตัดกับพื้นปาเก้สีน้ำตาลเข้ม เคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่สีขาวตั้งอยู่กลางห้องพร้อมเก้าอี้สูงสีเดียวกันสี่ตัว อุปกรณ์ทั้งหลายถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ กั้นเป็นสัดส่วน ทุกอย่างดูใหม่และครบครัน บ่งบอกว่าได้รับการทำความสะอาดและความใส่ใจเป็นอย่างดี
“ว้าว...” เปรมร้องออกมาอย่างนึกทึ่ง แม่บ้านหันมามองพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู “คุณครูต้องการอะไรเรียกใช้มาเรียได้เลยนะคะ กดปุ่มสีแดงตรงนี้ค่ะ” เธอชี้ให้ดู มันคล้ายปุ่มฉุกเฉินที่ใช้เรียกพยาบาลในห้องพักคนไข้
“ขอบคุณครับ เรียกผมว่าเปรมเฉยๆ ก็ได้” เด็กหนุ่มหันไปยิ้มให้
“ค่ะ คุณเปรมเป็นเพื่อนกับคุณหนูเหรอคะ” เธอถามด้วยแววตาเป็นประกาย เปรมนึกอย่างชั่งใจ ตอบว่า “จะเรียกแบบนั้นก็คงได้มั้งครับ”
“นานแล้วนะคะที่คุณหนูไม่ได้พาเพื่อนมาที่บ้านแบบนี้ นอกจากคุณอัคคีกับคุณเมธา” หญิงวัยกลางคนยิ้มอบอุ่น “มาเรียฝากคุณหนูด้วยนะคะ”
ฝากเฝิกอะไรกัน เขาก็แค่ตกกระไดพลอยโจนต้องไปเป็นครูสอนพิเศษให้เด็กโข่งนั่นเท่านั้นเอง...แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีกะใจตอบไปว่า “จะพยายามครับ”
“ค่ะ งั้นมาเรียไม่กวนแล้วดีกว่า เดี๋ยวคุณหนูก็คงจะลงมาแล้ว เชิญคุณเปรมเตรียมการสอนเถอะค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ” เปรมค้อมหัวให้อย่างสุภาพ ก่อนมาเรียจะเดินออกจากห้องไป เปมทัตมองสภาพโดยรอบอีกครั้ง ตัดสินใจหยิบผ้ากันเปื้อนแบบเต็มตัวสีขาวที่แขวนอยู่บนผนังมาสวม ผูกปมด้านหลัง กางตารางออกมา วันนี้เขาจะสอนเท็นเรื่องการใช้มีด
เด็กหนุ่มเปิดตู้เย็นหยิบผักต่างๆ ออกมา เขาต้องใช้มะเขือเทศ แตงล้าน หัวหอม และแครอท ซึ่งด้านในมีทุกสิ่งที่เขาต้องการทั้งหมด
เปมทัตมองหาข้าวสารกับเนื้อไก่ คิดจะทำของกินง่ายๆ อย่างข้างผัดสำหรับอาหารมื้อเย็น
หมับ!
“เหวอ!” ตอนนั้นเองที่เขาโดนสวมกอดจากทางด้านหลัง เปรมตัวแข็งทื่อ กลิ่นกายอีกฝ่ายบ่งบอกตัวตนของคนข้างหลัง ใบหน้าหล่อเหลาซุกลงบนไหล่ขวา ก่อนเจ้าเด็กโข่งหน้าตายจะกดจมูกลงบนลำคอของเขา
“แม่...”
“ว่าไงนะ?” เปรมหันไปถามเพราะได้ยินไม่ถนัด เท็นยืดตัวขึ้น ถอยออกไป ตอบเสียงโมโนโทนเหมือนเดิม “เปล่า” ใบหน้านั้นเรียบเฉย คนตัวสูงเปิดปาก “กุ๊กทำไรอะ”
“เตรียมการสอนนายไง วันนี้เราจะสอนการใช้มีด” ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘การสอน’ ดวงตาของเท็นก็เป็นประกาย คนตัวสูงขยับไปยืนข้างๆ อีกฝ่าย ก่อนผ้ากันเปื้อนสีดำตัวใหญ่จะถูกยื่นให้
“ใส่ซะ เพื่ออรรถรถ” เปรมยักคิ้ว เท็นรับมาสวมเงียบๆ
“ขั้นแรกฉันจะสอนนายแกะสลักผักอย่างง่ายก่อนนะ เอาไว้ตกแต่งจานเพื่อความสวยงาม เริ่มจากมะเขือเทศก่อนก็แล้วกัน” เปรมหยิบมะเขือเทศลลูกเล็กขึ้นมา ถามว่า “ปอกเป็นไหม”
“ไม่”
“...โอเค ดูวิธีนะ” เปรมสอนอย่างใจเย็น “เริ่มจากขั้วด้านบน นายต้องค่อยๆ ปอกเปลือกมะเขือเทศเป็นเส้นแบบนี้ พยายามอย่าให้เปลือกขาดออกจากกันนะ” นิ้วเรียวขยับอย่างคล่องแคล่ว ไม่นานนักเปลือกมะเขือเทศก็หลุดออกจากผลในเส้นเดียว เปรมพูดว่า “เสร็จแล้วก็เอามาขดเป็นวงกลมแบบนี้ นี่...เราจะได้ดอกกุหลาบหนึ่งดอก”
เปมทัตชูให้ดูอย่างร่าเริง เท็นตาวาวอย่างสนใจ เริ่มคันมืออยากจะทำบ้างแล้ว
“ส่วนผลที่เหลือ ให้เรานำมาผ่าครึ่งแบบนี้” เปรมผ่ามะเขือเทศในแนวตั้ง ก่อนจะไล่หั่นจากซ้ายไปขวาด้วยความหนาเท่าๆ กัน เขาวางมีด นำชิ้นที่เล็กสุดมาบีบเอาปลายเข้าหากัน ตามด้วยเอาชิ้นลำดับต่อมาหุ้มด้านเปิดของอันแรกไว้ ซ้อนกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนได้ดอกกุหลาบดอกใหญ่อีกดอก
“อันนี้ดอกกุหลาบอย่างง่ายจากมะเขือเทศ” เปมทัตพูด เขาหยิบแตงร้านออกมา ทำหน้าสดใส “ต่อไปเป็นแตงร้านฟรุ้งฟริ้ง”
“ฟรุ้งฟริ้ง?”
เปรมหน้าหด หรี่ตา “เออ ทำแบบนี้” เขาผ่าแตงร้านเป็นสองซีกตามยาว ก็จะได้แตงร้านแบบครึ่งวงกลมยาวๆ สองอัน เปรมคว่ำด้านที่เป็นหน้าตัดสี่เหลี่ยมลง แบ่งแตงร้านเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน
“เสร็จแล้วใช้ปลายมีดเฉือนแตงร้านเป็นซี่ๆ แต่อย่าให้ขาดออกจากกัน ให้จำนวนซี่เป็นเลขคี่นะ” พอทำเสร็จเปรมก็ม้วนปลายซี่ที่เป็นเลขคู่ทั้งหมดเข้าไปเหน็บในซอก ออกมาดูน่ารักเหมาะที่จะนำไปตกแต่ง
“ตามด้วยหอมใหญ่” เปรมชูหอมขึ้นมา “ก่อนอื่นต้องปอกเปลือกก่อน แบบนี้...” เด็กหนุ่มปอกเปลือกจนเห็นแต่เนื้อสีขาว “อันนี้ต้องใช้มีดแกะสลัก ทำแบบนี้นะ”
เขาหยิบมีดแกะสลักออกมา เจาะเข้าไปตรงกลางผลจากด้านหน้า กรีดเป็นเส้นหยักไปรอบๆ ผล จนวนมาถึงคมแรกที่เฉือนลงไป หอมส่วนบนกับล่างขาดออกจากกันเป็นวงสวยงาม เปรมขยับให้กลีบนอกกับกลีบในเรียงเป็นสับหว่างกัน ออกมาเป็นดอกสวยงาม
“ดอกบัว...” เท็นจ้องหอมใหญ่ในมือเปรมอย่างนึกทึ่ง ฝ่ายหลังยักคิ้วยิ้มๆ “ต่อด้วยแครอทเลยละกัน อันนี้ไม่ยาก”
เปรมขูดเปลือกแครอทด้วยมือแมว ก่อนจะหั่นแครอทเป็นแว่น “อันนี้ก็ควรใช้มีดแกะสลักนะ เพราะเป็นงานละเอียด” เขาจรดปลายมีดกรีดแครอทแว่นหนึ่งเป็นรูปใบไม้ กรีดหยักรอบนอก ตามด้วยเจาะเป็นวงรีตรงกลางด้านใน และรูปหยดน้ำเล็กๆ ด้านข้างเป็นลาย ออกมาเป็นใบไม้หนึ่งใบ พ่อครัวยื่นมันให้คนตัวสูง
“น่ากินจัง” เท็นรับมาถือไว้ ก่อนจะเอาเข้าปากทั้งอย่างนั้นดังกร้วม!
“...” เปรมถือมีดค้าง ทำหน้าปลง “เอาเถอะ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน”
เปมทัตยื่นมะเขือเทศให้ เท็นรับมา พยายามปอกอย่างทุลักทุเล พ่อครัวจ้องมืออีกฝ่ายพลางพูด “ระวังมือด้วย อย่าให้เกิดบาดแผลล่ะ”
“เข้าใจแล้ว” เท็นขานรับ ก่อนจะหันไปสนใจมะเขือเทศในมือ เปรมจัดข้าวของให้เข้าที่เพื่อสะดวกต่อการหยิบใช้ เขาเริ่มหันไปตั้งหม้อหุงข้าว
“กุ๊ก” เสียงทุ้มร้องเรียก เปรมหันไปมอง “ว่าไง”
“มันขาด...” เท็นมองมาตาละห้อย ในมือเขาคือมะเขือเทศที่ปอกเปลือกออกไปแล้วค่อนลูก เปรมกระพริบตาปริบๆ “เอ่อ ไม่เป็นไร เอาเท่าที่ทำได้”
“แต่มันขาด...” เขาจ้องเปลือกมะเขือเทศในมือ “อีกนิดเดียวเอง...เราทำขาด” ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเศร้าสร้อยจนเปรมคิดว่าถ้าเขาเป็นสาวน้อยจะต้องรีบวิ่งเข้าไปกอดปลอบหมอนี่แน่ๆ
เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหา พูดว่า “ไหนดูซิ...เอาล่ะ นายปอกเปลือกออกมาให้หมดก่อนนะ” เท็นทำตามหน้าเศร้าๆ ในที่สุดเปลือกมะเขือเทศครึ่งล่างก็ขาดออกจากผลได้สำเร็จ เปรมขดเปลือกช่วงแรกเป็นดอกกุหลาบ พูดว่า “เสร็จแล้วก็เอาอีกครึ่งมาต่อกัน เห็นมั้ย แค่นี้ก็ได้ดอกกุหลาบแล้ว นี่....”
เปรมยิ้มให้อย่างใจดี เท็นจ้องไม่วางตา แล้วเขาก็กลับมากระตือรือร้นเหมือนเดิม “เราจะทำอีก”
“เอาเลย พลังเป็นของนายแล้ว...มะเขือเทศก็ด้วย” เด็กหนุ่มหันมากรอกข้าวสารใส่หม้อ เขาเทน้ำให้เลยข้าวสารขึ้นมาหนึ่งข้อนิ้วแล้วตั้งหม้อหุง ก่อนจะหันมาทางเนื้อไก่
“กุ๊ก”
“ว่าไง” เปรมกำลังจะนำเนื้อไก่ไปล้างน้ำ
“แตงร้านผ่ายังไงนะ” เท็นยืนถือมีดถามทื่อๆ ร้อนถึงเปรมต้องรีบวิ่งสี่คูณร้อยมาลดมีดลง “ไอ้บ้า! อย่าถือสูงขนาดนั้นสิ! อันตราย!” พ่อครัวอธิบาย “ผ่าลงไปในแนวยาวแบบนี้...อะ เสร็จแล้วก็แบ่งเป็นส่วนเท่าๆ กัน”
“เข้าใจแล้ว” เท็นใช้มีดแกะสลักอย่างตั้งใจ เปรมมองผู้ชายตัวใหญ่กับแตงร้านชิ้นเล็กๆ แล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้
“กุ๊ก”
“หืม” เปรมเงยหน้า เห็นดวงตาอีกฝ่ายคล้ายจะร้องไห้
“เรางอซี่เลขคู่ไมได้อะ หักหมดเลย” เท็นชูแตงกวาหน้าเศร้า เปรมมองตาม “นายหั่นหนาเกินไป บางๆ หน่อยสิ”
“ช่วยเราด้วยกุ๊ก”
“แกไม่ตายหรอกน่า หั่นใหม่สิ” เปรมว่าพลางทำให้ดู “ก็แบ่งให้บางลงแบบนี้...”
“กุ๊กอย่าหมดดิ ให้เราทำมั่ง”
“โว้” เปมทัตปวดหัว แต่ก็ยอมถอยฉากให้โดยง่าย “ระวังมือล่ะ”
“เข้าใจแล้ว” เท็นกลับไปหั่นแตงร้านอย่างตั้งใจ เปรมจึงไปหั่นเนื้อไก่ให้เป็นชิ้นพอดีคำบ้างระหว่างรอ
“กุ๊ก”
“ว่าไป” เปมทัตขานทั้งๆ ที่ไม่ได้หันกลับมา
“เจาะหอมลงไปตรงกลางเลยเหรอ”
“อือ เอาให้ขาดอะ”
“ตกลง” พูดจบก็ได้ยินเสียงมีดกรีดหอมใหญ่ดังฉึกฉัก เปรมรวบเนื้อไก่ไว้ในชามแสตนเลสใบเล็ก เขาเดินไปหยิบไข่ไก่ ต้นหอมและผักชีในตู้เย็นออกมา
“กุ๊ก”
“ครับ”
“ยากอะ” เท็นว่า เปรมเงยหน้า กระพริบตาปริบๆ มองหอมใหญ่รูปร่างพิลึกกึกกือในมือของเท็นอย่างนึกภาวนาให้มันไปสู่สุขคติ เด็กโข่งมองหอมใหญ่ในมือตัวเองหน้าเศร้า “ทำไงดี เราทำสเตฟานเบี้ยวหมดเลย”
“ใครนะ?”
“สเตฟาน”
“ไหน?”
“นี่ไง” เท็นชูหอมใหญ่ให้ดู ชัดเลย...แม่งบ้า เปรมนวดขมับ แต่เขาก็มองข้ามสายตาเศร้าสร้อยนั่นไปไม่ได้ “อย่าห่วงเลย สเตฟานไม่โกรธนายหรอก”
“จริงนะ”
ก็น่าจะจริงอะ ไปเกิดใหม่ขนาดนั้นแล้ว...เปรมมองเหนื่อยๆ พูดว่า “ทำอันใหม่ไป”
“ตกลง สวัสดีไบรโอนี่” เท็นทักทายหอมใหญ่อีกครึ่ง
“...เอาเถอะ” เปรมหมดคำจะพูด เขาลอบนวดขมับอีกครั้ง ก่อนจะตั้งกระทะเตรียมผัดข้าว
“กุ๊ก”
“ว่าไป”
“ทำไมถึงมาเรียนคหกรรมเหรอ” เปรมนิ่งไปกับคำถาม เขาหันมามองเท็น เห็นฝ่ายหลังกำลังแกะสลักแครอทเป็นใบไม้อย่างตั้งใจ ตอบว่า “จริงๆ ติดโดยไม่ได้ตั้งใจอะ แต่เรียนๆ ไปก็ไม่ได้เลวร้าย เพื่อนก็เฮฮาดี เลยโอเค”
“ดีจัง”
“แล้วนายล่ะ” เปรมเดินไปหยิบมะนาว “ดีใจมั้ยตอนติดหมอ”
“ไม่อะ”
เปรมเลิกคิ้วผิวปากหวือ “พูดแบบนี้ออกไปมีหวังนายได้เป็นศัตรูกับเด็กค่อนประเทศแน่”
“เราไม่ได้อยากเป็นหมอ” เท็นพูดพลางแกะสลักแครอท “แต่เราไม่อยากให้พ่อเราผิดหวัง” คนตัวสูงพูดแค่นั้น ก่อนจะเงียบไป เปรมหันมาอย่างรอฟัง สบตากับอีกฝ่ายที่หันมาพอดี
“กุ๊ก”
“อะไร”
“เลือดออกอะ”
“ฮะ!” เปรมเบิกตาโพล่ง พรวดเข้ามาหาอีกฝ่ายแทบจะทันที ใบหน้าติดหวานฉายแววโกรธขึ้งเมื่อเห็นบาดแผล เผลอขึ้นเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ “ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้นายระวัง!”
“ขอโทษ...” เท็นหน้าเศร้า เปรมสูดลมหายใจคล้ายระงับอารมณ์ พูดว่า “ไม่หรอก ฉันผิดเองที่ชวนนายคุย ไปล้างน้ำก่อนไป เดี๋ยวค่อยมาทำแผลกัน”
คนตัวโตเดินเตาะแตะไปล้างแผลเงียบๆ เปรมกดกริ่งเรียกแม่บ้าน มีเสียงตอบกลับมา เปรมกรอกเสียงลงไปว่า “ขอกล่องปฐมพยาบาลด้วยครับ”
ไม่ถึงห้านาทีแม่บ้านก็พรวดเข้ามาพร้อมกับของที่สั่ง เธอดูตกใจที่เห็นคุณหนูเลือดออก จนเปรมต้องพร่ำบอกว่าไม่เป็นไรเขาเอาอยู่เป็นร้อยรอบนั่นแหละกว่าเธอจะยอมออกไปอย่างสันติ
เก้าอี้สูงสองตัวถูกนำมาใช้ชั่วคราว เปรมนั่งทำแผลให้เด็กโข่ง เขาใช้สำลีเช็ดแผลให้แห้ง ทาเบตาดีนลงไป พูดว่า “เจ็บหน่อยนะ” เปมทัตพยายามทำอย่างเบามือ หยิบพลาสเตอร์สีเนื้อออกมาออกมาจากกล่อง
“เอาลายเสือดาว”
“อะไรนะ?”
“มันมีในกล่อง”
“แต่สีเนื้อมันเหนียวกว่า...”
“เสือดาวทำให้หายเร็วกว่า”
“เกี่ยวกันตรงไหนวะ”
“เชื่อเราสิ”
“...” เปรมมึน เขาหยิบพลาสเตอร์ลายเสือดาวในกล่องมาพันให้อีกฝ่ายหน้าอึนๆ ให้ตาย ไม่เคยเถียงไอ้บ้านี่ชนะได้สักที
“เอ้า เสร็จแล้ว” เปรมถอยออกมา พูดว่า “เดี๋ยวนายไปเก็บของเลยละกัน ฉันจะผัดข้าวแล้ว จะได้กินกัน”
“แต่เรายังทำไม่เสร็จ”
“แค่นี้ก็พอแล้ว มือนายเจ็บแถมไม่ชำนาญเดี๋ยวจะพาลยุ่งไปกันใหญ่”
“เราทำได้แค่นิดเดียวเองนะ” เท็นสบสายตา เปรมหรี่ตา มองบนเคาน์เตอร์พูดว่า “ฉันให้โควตานายแค่แครอทอีกแว่นเดียวเท่านั้น”
“แต่มันเหลือสองอัน...” เท็นหยิบแว่นแครอทสองอันขึ้นมาชูตาละห้อย เปรมขมวดคิ้ว “ฉันให้อันเดียว” คำนั้นคือประกาศิต เท็นมองซ้ายมองขวาอย่างชั่งใจ พูดว่า “ไมเคิล...เราเลือกนายแล้วนะ”
“...ตกลงนายเลือกแครอทแว่นขวามือสินะ”
“เขาชื่อไมเคิล”
“โอเคคุณชาย งั้นก็รีบไปแกะสลักไมเคิลได้แล้ว ข้าวสุกแล้ว ฉันจะได้ผัดสักที” พูดจบก็หันหลัง ไม่วายได้ยินเสียงอาลัยอาวรณ์
“ขอโทษนะแจ็คสัน เราต้องเลือกจริงๆ”
ไมเคิลกับแจ็คสัน...ครับท่าน
เปรมปวดหัวตุ้บ เขาใส่น้ำมันลงไปในกระทะ รอจนร้อนถึงตอกไข่กับใส่เนื้อไก่ลงไป ผัดให้เข้ากัน ต่อด้วยข้าวสุกและต้นหอมสับละเอียด พ่อครัวขยับข้อมือให้ข้าวผัดเด้งตัวเป็นเกลียวคลื่นอย่างชำนาญ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมันหอย เคล้าให้เข้ากัน
ควันส่งกลิ่นหอมฉุย เท็นเดินเตาะแตะมาหยุดอยู่ด้านหลัง พ่อครัวสะดุ้งยามโดนอ้อมแขนใหญ่โอบเข้าหาอกกว้าง แต่ตัวเองก็อดยอมรับไม่ได้ว่า...รู้สึกดี
ไม่สิ หมอนี่มันเป็นแค่เด็กโข่งเองนะ ตั้งสติไว้
“กุ๊กตัวหอมจัง”
จมูกโด่งสันกดลงบนเส้นผมสีดำนุ่ม พ่อครัวหรี่ตาพลางผัดข้าว “หอมอะไร กลิ่นอาหารทั้งนั้น”
“เราชอบ”
เปรมยืนผัดข้าวอยู่อย่างนั้น จนเสร็จเขาก็ปิดเตา เท็นถอยไปเตรียมจานกับช้อนส้อมแล้ว เปรมอัดข้าวผัดไก่ใส่ถ้วยกลมเล็กเป็นพิมพ์แล้วคว่ำลงไปบนจานแบน ตามด้วยนำดอกกุหลาบมะเขือเทศรูปร่างประหลาด กับแตงร้าน (ที่ไม่ค่อยจะ) ฟรุ้งฟริ้งของเท็นมาจัดเรียง หอมใหญ่เราจะไม่พูดถึง และไม่ลืมที่จะนำไมเคิลกับ...เอ่อ จะชื่ออะไรก็ช่างเถอะที่เป็นแครอทมาตกแต่งด้วย
“น่ากินจัง”
เท็นมองจานข้าวผัดที่ถูกตกแต่งตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกาย ส่วนของเปมทัตตักข้าวผัดใส่จานเรียบๆ นั่งลงตรงข้ามกัน
“อร่อย” เท็นร้องเหมือนเด็กๆ เขากินไม่ช้านักแต่ก็ไม่ได้มูมมามเหมือนตอนเจอกันครั้งแรก สีหน้าดูมีความสุข เท็นกินของตกแต่งจานจนหมด ก่อนเปรมจะนำจานมาล้าง ส่วนเท็นช่วยเก็บซากอารยธรรมบนเคาน์เตอร์ไปเงียบๆ
“ตายห่า สามทุ่มกว่าแล้ว” เปรมสะดุ้งเมื่อมองนาฬิกาข้างฝา เขาถอดผ้ากันเปื้อนอย่างร้อนรน จนเท็นต้องเงยหน้าขึ้นมาถาม
“เกิดอะไรขึ้น”
“รถตู้! รถตู้ออกจากท่าตอนสามทุ่ม! ฉันต้องรีบกลับแล้ว!” เท็นไม่เข้าใจความรีบร้อนนั่น ตอนนั้นเองที่มาเรียเปิดประตูเข้ามา “เตรียมน้ำอาบไว้ให้แล้วค่ะ เสื้อผ้าของคุณหนูกับคุณเปรมป้าวางไว้ตรงทางเข้าแล้วนะคะ”
เปรมหันมาตาค้าง “แต่ผมจะกลับบ้าน...”
“วันนี้ดึกมากแล้ว ขับรถราอาจเกิดอันตราย อยู่ค้างที่นี่สักคืนสิคะ” แล้วเสียงของมาเรียก็เลยผ่านหูเปรมไป พ่อครัวหนุ่มช็อคไปเสียแล้ว ก่อนคนตัวใหญ่จะเดินมายกเปมทัตออกไปเหมือนแบกหุ่น
****************************************************** *
สวัสดีค่าาาาา า
ตอนที่สองมาแล้วววว ว
ลงวันเว้นวันเลย ฟิตมาก 55555555555 5

ขอบคุณทุกความเห็นมาก ๆ เลยนะคะ
ไม่คิดจริง ๆ ว่าจะมีคนชอบขนาดนี้้
อ่านความเห็นไปก็เขินไป คนอ่านที่นี่น่ารักมาก ๆ เลย
เรื่องนี้นายเอกเป็นพ่อครัวคงต้องทนหิวกันหน่อยเนอะ 55555555 5
พระเอกเป็นเด็กโข่งด้วย ไม่เคยแต่งเมะแนวนี้เลย
รับฟังทุกข้อติชมค่า

ขอให้ทุกท่านอ่านอย่างมีความสุขนะคะ
แล้วเจอกันตอนที่สามค่าาาา า