ลอยกระทง ครึ่งหลัง
“แล้วทำไมไม่เดินมา จงใจทิ้งกูหรือไง เหี้ยเอ้ย!!” ร่างโปร่งสบถด่าพัฒน์อย่างหัวเสีย
นี่งอนโว้ย ไม่มาง้อวะ!!
“แล้วต้องไปฝั่งไหนเนี่ย”
ร่างสูงโปร่งที่ยืนเคว้งอยู่คนเดียวหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลังก็ไม่เจอคนที่พามาเลยสักนิดก็ได้แต่ยืนกอดอกรอ โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอามาทั้งคู่ หลงกันแล้วแหงๆ แต่ในจังหวะที่ธีร์ตัดสินใจจะเดินกลับคอนโด ก็มีผู้ชายคนหนึ่งตัวสุงกว่าเขาหน่อยเดินเข้ามาดักหน้า แล้วเอ่ยทักอย่างต้องการช่วยเหลือร่างผอมโปร่งที่กำลังหลงทาง
เป็นใครก็มองออกมาร่างโปร่งกำลังหลงทาง สังเกตจากท่าทางที่ไม่ค่อยจะพอใจหันรีหันขวาง เขาที่สังเกตและมองมานานก็อยากจะเข้ามาช่วยแล้วทำความรู้จักไปในตัวเลย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว
“สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” ธีร์ยังคงระษาระยะห่างของคำพูดเอาไว้
“อยู่แถวนี้หรือครับ”
“ครับ”
“แล้วมาลอยกระทงเหมือนกันหรือครับ ผมริวนะครับ คุณ?”
“ธีร์ครับ” มารยาทของคนที่ถามชื่อมา เราก็ต้องตอบกลับ แม้จะรู้ว่าเข้ามาเพื่อประสงค์อะไร แต่ถ้ายังไม่ทำอะไรที่น่าเกลียดหรือรุกมากจนเกินไป เขาก็จะยังไม่เอ่ยปากไล่หรือด่า
“มาคนเดียวหรือครับ”
“เปล่าครับ มาสองคน” แต่อีกคนมันหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ฮึ่ย!! ยิ่งคิดยิ่งโมโหจริงๆ
“แล้วอีกคนไปไหนล่ะครับ” ถามด้วยรอยยิ้มกว้าง จนธีร์นึกไม่ชอบใจ
“ไม่รู้สิครับ อาจจะหลงกันแล้วก็ได้”
“อ๋อครับ แล้วคุณอยู่แถวนี้นานหรือยังครับ ทำไมผมไม่เคยเห็น พักอยู่แถวไหนหรือครับ ขอโทษที่ละลาบละล้วงนะครับ” ธีร์เริ่มอยากจะหนีจากคนๆ นี้ ถ้าไม่ติดว่าคนเยอะ เขาเหวี่ยงไปแล้ว
“อยู่คอนโด ZZZ น่ะครับ” มีอยู่ที่เดียวแถวนี้ คอนโดสุดหรูของ PLEUNG
“โห! คอนโดราคาแพงนั่นน่ะหรือครับ ผมอยู่อพาร์ทเม้นท์ใกล้ๆ คอนโดคุณเลย ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“ครับ”
“แล้วนี่คุณธีร์ลอยกระทงยังครับ”
“ยังครับ” รอผัวอยู่เนี่ย!!
แต่ก็ตอบออกไปไม่ได้อย่างใจคิด...
“รอเพื่อนสินะครับ แต่ผมว่าเพื่อนคุณธีร์อาจจะไปรอที่คอนโดแล้วก็ได้ ถ้าไม่รังเกียจให้ผมเป็นคู่ลอยกระทงก็ได้นะครับ” ชัดเลย แบบนี้มันจีบชัดๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ธีร์ที่ไม่ชอบให้ผู้ชายมาทำเจ้าชู้ใส่เลยอ้าปากเตรียมโต้
“รังเกียจ!!!”
ไม่ใช่ธีร์ที่เป็นคนพูด แต่เป็นคนที่ธีร์กำลังมองหาอยู่นั่นเอง เสียงเย็นชาจนธีร์แอบขนลุก
“อ่ะ เอ่อ”
พัฒน์ที่เข้ามาได้ยินผู้ชายหน้าจืดคนนี้อาสาเป็นคู่ให้กับเมียเขาลอยกระทงก็อดไม่ได้ที่จะตรงมาด้วยความรวดเร็ว ร่างแกร่งมายืนข้างกายร่างบางของคนรักที่กอดอกหันหน้าหนีเขาแบบไม่พอใจ มองหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างไม่พอใจ จนริวหลบสายตาด้วยความกลัว
แต่คุณธีร์ถูกใจเขาเหลือเกิน...
“เพื่อนหรือครับ” ยังคงคิดในแง่ดีอยู่อีกนะ แสดงตัวขนาดนี้แล้ว
“เอาไป...อยากได้ไม่ใช่หรือไง” พัฒน์ไม่สนใจ ยื่นถุงแหวนให้กับธีร์ ร่างผอมเทสิ่งที่อยู่ในถุงลงบนฝ่ามือก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจมองแหวนสลับกับหน้าคนซื้อมาให้ทันที ความดีใจ ความตื้นตันดันขึ้นมาจนเต็มอก อยากจะกระโดกอดอีกคนแต่ก็สำนึกได้ว่านี่เป็นที่สาธารณะ
“ซื้อให้กูหรือ”
“อือ” ตอบเสียงเนือย ทั้งคู่ลืมไปเลยว่ายังมีใครอีกคนยืนมองพวกเขาอยู่ยังไม่ได้ไปไหน
“วงเดียว?”
“เออ ใส่ไป จะได้ไปลอยกระทง พรุ่งนี้ทำงานเช้า” พัฒน์หยิบมันมาแล้วดึงมือซ้ายของธีร์มาแล้วสวมแหวนเข้าไปที่นิ้วนาง ขนาดแหวนพอดีกับนิ้วพอดี ธีร์ยิ้มระรื่นอย่างชอบใจ
“เอ่อ...ผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มที่ชื่อริวขอตัวออกจากบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีชมพูแบบนี้ทันทีเมื่อรู้ว่าทั้งคู่เป็นอะไรกัน
“แล้วมันเป็นใคร มาคุยอะไรกับมึง”
“ไม่รู้ จู่ๆ ก็เข้ามา”
“แล้วทำไมไปคุยกับมัน ไหนว่าไม่ชอบผู้ชายมาจีบ” เริ่มหาเรื่องธีร์แล้ว
“ก็กำลังจะด่าไงแต่มึงเข้ามาก่อน”
“แล้วไป!” พัฒน์เองก็ไม่ได้โกรธมากนักหรอกแค่ไม่พอใจที่เห็นผู้ชายเข้ามายุ่งกับคนของเขาก็เท่านั้น
“ไปลอยกระทงเถอะ”
“เออ! แล้วไม่โกรธแล้วไง” พัฒน์เลิกคิ้วถามที่เห็นคนรักอารมณ์ดีเอามากๆ หลังจากที่เขาสวมแหวนให้ ร่างสูงเพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของการใส่แหวนคู่ มันให้ความรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง และที่สำคัญมันแสดงความเป็นเจ้าของของอีกคนได้ด้วย รู้แบบนี้ หาให้ใส่ตั้งนานแล้ว...
“ไม่มี๊! ใครโกรธอะไร มึงน่ะมั่ว” ธีร์ปฏิเสธ ก็ตนได้ของที่อยากได้แล้วนี่นา แถมคนรักยังสวมให้อีกแม้จะสวมแบบห่ามๆ แต่ก็ดีใจที่มันเป็นคนใส่ให้
“หึหึ” ก็ยังทำให้เขาอารมณ์ดีได้ตลอดเวลาอยู่ดี
ธีร์ที่เดินอยู่ฝั่งซ้ายมือของพัฒน์ก้มลงมองมือใหญ่ที่เขาอยากจะเดินจับอย่างคู่รักทั่วไป แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมันสาธารณะเกินไป คนก็เยอะ ผู้คนอาจจะแตกตื่นได้ หากก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ธีร์ยืนนิ่งปิดปาก หน้าเห่อแดงด้วยความเขิน หัวใจเต้นแรงด้วยความดีใจและปลาบปลื้มใจเพราะคนที่ไม่ชอบใส่แหวนอย่างพัฒน์...
มีแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเหมือนกับเขา...
แหวนรูปแบบเดียวกัน ลายเดียวกัน ต่างกันที่ขนาด...จากที่คิดว่าพัฒน์ไม่ใส่ มองแบบไม่น่าเชื่อว่าพัฒน์จะยอมตนถึงขนาดนี้
“ก็แหวนคู่ ถ้ากูไม่ใส่ ใครจะใส่” พัฒน์เอ่ยขึ้นลอยๆ ก่อนจะเดินนำไปข้างหน้าเพราะรู้ว่าธีร์กำลังตกใจและคิดอะไรอยู่
รักมึงจริงๆ เลยว่ะพัฒน์...
พัฒน์หยุดยืนหน้าแผงขายกระทงของยายคนหนึ่ง ก่อนจะหันมาถามคนข้างๆ ว่าอยากได้อันไหน ซึ่งธีร์ก็กวาดสายตามองดูว่าจะเอาอันไหนดี สุดท้ายก็เลือกเอากระทงขนมปังมาเพราะปลาจะได้กินได้ด้วย
“ของมึงล่ะ” ถามออกไปเมื่อเห็นว่าพัฒน์จ่ายเงินแล้ว
“ทำไมต้องซื้อสอง มาด้วยกัน ก็ลอยด้วยกัน” เป็นคำตอบเรียกเลือดบนใบหน้าได้เป้นอย่างดี เขายืนถือกระทงก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย และยิ่งอายเข้าไปอีกเมื่อยายขายกระทงอวยพร
“เงินทอนพ่อหนุ่ม ขอให้รักกันนานๆ นะ”
“เอ่อ...คือว่า” ธีร์ทำท่าจะแก้ต่างให้กับตัวเองและคนรัก
“ยายเข้าใจลูก ความรักมันห้ามกันไม่ได้ รักษาความรักนี้เอาไว้ดีๆ นะลูก”
“ขอบคุณครับ” พัฒน์เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ ใบหน้าจะนิ่งเฉยแค่ไหน แต่สายตาที่มองกันตอนนี้มันอ่อนโยนจนธีร์ยิ้มแก้มปริ
อย่างน้อยก็มีหนึ่งคนที่เข้าใจในที่แบบนี้
เขาเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วตรงสู่จุดลอยกระทองที่เป็นเหมือนแพให้คนลงไปยืนได้ และเป็นจุดที่ไม่ค่อยมีคน เพราะส่วนใหญ่เข้าไปที่บันไดปูนอันใหญ่กันหมด พัฒน์กับธีร์เลยเลือกที่จะลอยตรงนี้ด้วยกัน
“มึงอธิษฐานก่อน เดี๋ยวกูจะขอทีหลัง” ธีร์ยื่นกระทงให้พัฒน์
“แล้วทำไมมึงไม่ขอก่อน”
“อย่างสงสัยได้ไหม”
“อือ”
พัฒน์ถือกระทงน้อยไว้ระหว่างอกแล้วหลับตาขออะไรบางอย่างที่ธีร์ไม่อาจจะล่วงรู้ คิดในใจว่าคนรักจะขอเกี่ยวกับพวกเขาทั้งคู่เหมือนที่ธีร์จะทำหรือเปล่า เมื่อเสร็จพัฒน์ก็ยื่นคืนมาให้ธีร์ ร่างโปร่งหลับตาขอพรที่นึกเก็บไว้ทันที
ขอบคุณพระแม่คงคาที่ทำให้พวกเราได้มีน้ำกินน้ำใช้จนถึงทุกวันนี้ กระทงใบนี้เป็นเพียงเครื่องแทนสิ่งสักการบูชาต่อท่าน ขอให้เรามีน้ำกินน้ำใช้ตลอดไปไม่มีขาด และขอให้รักของเราเป็นดั่งกระทงใบนี้ ให้ลอยไปได้นานที่สุด เคียงข้างกันไป ประคับประคองกันไป เมื่อถึงเวลา...ก็ขอให้หายไปด้วยกัน...
ขอให้มันรักผม...อย่างนี้ตลอดไป
เมื่ออธิษฐานเสร็จแล้ว ธีร์ก็พยักหน้าส่งสัญญาณให้พัฒน์มาช่วยกันลอยกระทงของเราลงสู่น้ำแห่งนี้ พัฒน์จับกระทงผ่านมือเรียนของธีร์ทั้งคู่นั่งลงแล้วส่งกระทงลงน้ำอย่างเบามือ ธีร์มองไปยังกระทงส่วนอีกคนก็มองใบหน้าที่มีความสุขของคนรัก อดไม่ได้ที่หอมแก้มใสนั้นเบาๆ
ฟอด
“มึง...ทำบ้าอะไร เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“...” ร่างสูงไม่ชอบแต่ยักไหล่อย่างไม่สนใจ เดินออกจากตรงนั้นมาจนธีร์ต้องเดินตามเพราะพัฒน์คงจะพากลับคอนโดแล้วแน่ๆ
“พัฒน์”
“อืม”
“ขอบคุณนะ” ธีร์พูดบอก จ้องแผ่นหลังกว้างที่ยืนล้วงกางเกงอยู่ข้างหน้าไม่หันมามองเขา แต่ก็พอเดาออกว่าร่างสูงทำหน้าเช่นไร ก็หน้าเดิมๆ ไง ทำหน้าเบื่อโลก
“เรื่อง?”
“ทั้งแหวน แล้วก็พามาลอยกระทง”
“ก็ไม่เห็นจะต้องขอบคุณ”
“มึง...อยู่กับกูแล้วมีความสุขไหม” ธีร์ถามเบาๆ น้ำเสียงไม่มั่นใจ พัฒน์หันมามองคนด้านหลังก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
เหนื่อยใจกับความคิดมากของธีร์จริงๆ
“กูไม่ทนอยู่กับคนที่ไม่ทำให้กูมีความสุขหรอกนะ” พัฒน์ตอบ ซึ่งธีร์ก็เบะปากอย่างหมั่นไส้ที่มันจะตอบออกมาตรงๆ ก็ไม่ได้ ชอบอ้อมค้อมตลอด
“หมั่นไส้!!”
“เป็นบ้าอะไรอีก”
“หมั่นไส้มึงไง”
“ไร้สาระ กลับห้องนอนเถอะ กูเหนื่อยมากแล้ว” เจอแบบนี้เขาก็อยากแกล้งสิ
“ไม่เอา เดินดูของก่อน”
“งั้นก็เดินไปคนเดียว กูจะกลับแล้ว” พัฒน์เดินหนีคิดว่าตัวเองเหนือกว่า เพราะตนมีทั้งคีย์การ์ด มีเงิน ส่วนร่างโปร่งไม่มีอะไรเลย ยิ้มอย่างสะใจที่เป็นผู้ชนะ แต่แล้วก็ต้องหันมามองธีร์หน้าดุเมื่ออีกคนพูดจาไม่เข้าหู
“ก็ได้ เสน่ห์กูคงพอที่จะให้ใครมาเดินด้วยได้สักคนสองคน มึงไปพักผ่อนก่อนก็ได้ เดี๋ยวตามกลับไปหรือถ้ามึงไม่ตื่นมาเปิดประตู กูก็อาจจะนอนกับคนที่พาเที่ยว โอ๊ย!!” พูดไม่ทันจบก็โดนกระชากไหล่เข้าหาตัวพัฒน์อย่างรุนแรง ใบหน้าของพัฒน์ฉายแววโกรธขึ้ง โมโห พูดเสียงรอดไรฟัน
“ก็เอาสิ แต่หนีจากกูให้ได้ก็แล้วกัน”
“โอ๊ย! เจ็บนะ!”
จะไม่ให้เจ็บได้ยังไงมันกระชากแขนเขาแล้วบังคับให้เดินตามแรงลาก นี่มันคิดว่าเมียมันเป็นรถลากหรือไงถึงได้ทำแบบนี้
แค่แกล้งเล่นเองวุ้ย โหดเหี้ยๆ อ่ะ
“เจ็บหรือไง ดี!!” มันออกแรงบีบที่แขนอีก จนธีร์ต่อยเข้าที่หน้าท้องแกร่ง แต่พัฒน์ก็เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี ลากเขาเอาลากเขาเอา ธีร์ไม่อยากจะโวยวายมากเดี๋ยวจะกลายเป็นจุดสนใจ
“พัฒน์เบาๆ เมื่อกี้กูแกล้งเล่น” นิ่วหน้าเพราะมันเจ็บเกินไป สงสัยว่าจะโมโหจริงจัง
“แกล้ง? ดี!! ตอนนี้กูก็แกล้งมึงอยู่” ออกแรงบีบอีกกระชากให้คนตัวเล็กกว่ามาเดินข้างๆ ซึ่งธีร์ก็ต้องก้าวตามเพื่อไม่ให้ห่างมาก ยิ่งห่างยิ่งเจ็บ
“พัฒน์ขอโทษ ปล่อยนะ” ธีร์อ้อนน้ำตาเล็ดออกมาเล็กน้อยด้วยความเจ็บ
“ไม่!!”
แล้วธีร์ก็โดนลากไปจนถึงห้อง พอเป็นอิสระ แขนเขาก็ขึ้นรอยมืออย่างชัดเจน ลืมไปว่าไม่ควรยั่วโมโห เพราะจะโยนอะไรเจ็บๆ แบบนี้แหละ
“เจ็บ”
“ไม่ต้องมาโอดครวญ ทำเองทั้งนั้น” ร่างสูงหนีเขาไปในห้องแต่งตัวเปลี่ยนเป็นชุดนอน เขาก็ทำบ้าง ออกมาก็เจอพัฒน์นอนหันหลังให้ ธีร์พ่นลมหายใจออกมากับคนตัวโตที่น้อยใจถึงขนาดไม่ยอมทำหน้าที่ลูบหลังให้ ธีร์ปิดไฟแล้วนอนลงบนเตียง คนตัวใหญ่กว่าก็นอนนิ่งๆ อยู่ข้างๆ
ธีร์พลิกไปมาเพื่อเรียกร้องความสนใจเพราะตนนอนไม่หลับ หันไปมองแผ่นหลังกว้างก็อดหงุดหงิดไม่ได้เพราะไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเขาเลย
“ชิ!” ธีร์ส่งเสียงเบาๆ ก่อนจะนอนหันหลังให้พัฒน์ เอาโทรศัพท์ออกมาเล่นแก้เซ็ง ยังไงก็นอนไม่หลับ ตอนนี้ก็เกือบจะห้าทุ่มกว่าๆ แล้ว กะจะเล่นจนหลับไปเองนั่นแหละ แต่แล้วก็ยอมแพ้เพราะไม่มีใครคุยด้วยเลย ตัดสินใจหันหน้าเข้าหาแผ่นหลังกว้างของพัฒน์ ขยับเข้าไปหาแล้วกอดพัฒน์จากด้านหลังใบหน้าแนบแผ่นหลังอย่างออดอ้อน พัฒน์ที่แค่หลับตาไม่ได้หลับอย่างที่ธีร์คิดก็พลิกตัวหันหน้าเข้าธีร์ทั้งๆ ที่ตาก็ปิดอยู่
“อ่ะ” สอดแขนไปล่างศีรษะให้คนรักนอนทับแขน อีกข้างก็โอบกอดแล้วลูบหลัง ใบหน้าของธีร์ก็ถูอกอย่างเอาใจ ก็ถ้าพัฒน์ยังโกรธอยู่ ก็นอนไม่หลับน่ะสิ
“นอน” สั่งเสียงเข้มจนธีร์หยุดถูหน้ามือก็กอดพัฒน์ตอบกลายเป็นว่าทั้งคู่นอนกอดกันแน่นมาก คิดถึงภาพผู้ชายตัวสูงไล่เลี่ยกันนอนกอดกัน สำหรับคนอื่นอาจจะพิลึก แต่สำหรับพวกเขามันเป็นปกติธรรมดา
อยู่กันข้างนอกพวกเขาสองคนจะเงียบๆ ไม่ค่อยคุยกันสักเท่าไหร่ แต่เมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว ทั้งเถียง ทั้งทะเลาะ ที่ว่ามาแค่ธีร์คนเดียวเพราะชอบหาเรื่องทะเลาะกับพัฒน์ และที่สำคัญ แสดงความรักต่อกันตลอด
“พัฒน์”
“ฮือ” ครางรับอย่างรำคาญ
“กูรักมึงนะ”
“อืม...กัน” เสียงที่ตอบออกมาเบาหวิวจนธีร์ฟังไม่ออก จนต้องถามอีกครั้ง
“อะไรนะ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียก มือที่หยุดลูบหลัง ลมหายใจเข้าออกปกติ บ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว ธีร์ถึงกับเครียดเพราะคนที่นอนหลับหลังเขาเสมอหลับไปแล้ว
แล้วนี่กู...จะหลับไหมเนี่ย...
แต่ก็เอาเถอะ ได้ลอยกระทงกับพัฒน์ก็มีความสุขแล้ว
“รักมึงมากๆ เลยว่ะ”
แล้วพวกคุณล่ะ มีคู่ลอยกระทงที่จะอยู่กับคุณไปชั่วชีวิตหรือยัง...
100%

มดกัด โดยส่วนตัวคู่นี้ ยูกิชอบตอนนี้นะ ดูยังไงดีล่ะ มันเป็นการที่แบบว่าคนที่ไม่เคยยอมอะไรใครเลยในชีวิต ต้องมายอมคนดื้ออย่างพี่ธีร์อ่ะ ใครหายคิดถึงแล้วก็เม้นท์นะคะ
พูดคุยกันได้ที่แฟนเพจเช่นเดิม ไปด่า ไปว่า ไปชม ไปทวงนิยาย ได้หมดค่ะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/