Chapter 23 : ในรถคืนที่ฝนตกรถโตโยต้าบุโรทั่งค่อยๆ เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถทีละน้อย แล้ววิ่งไปบนถนนโล่งเลียบแม่น้ำยามค่ำคืนอย่างเชื่องช้า ฝ่าสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก โดยที่เจ้าของรถคอยชำเลืองมองคนที่นั่งข้างกันเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่ขับรถผ่านบริเวณที่มีแสงเล็กน้อยจากเสาไฟ เพราะจู่ๆ เจ้านายก็มีท่าทีเปลี่ยนไปเป็นเงียบสนิทแบบนี้... ถึงปกติแล้วเจ้านายจะนิ่งๆ อยู่แล้วก็เถอะ แต่คราวนี้เขาคิดว่าเจ้านายผิดปกติไปจริงๆ นะ... อาจเป็นเพราะเขาถามคำถามถึงเรื่องส่วนตัว เลยทำให้อีกฝ่ายนึกย้อนไปถึงความทรงจำที่ไม่ดีเข้า
“คุณนภ... มีอะไรรึเปล่าครับ”
“เปล่า” นภเกตน์ตอบกลับไปสั้นๆ ก่อนจะสะดุ้งโหยง เมื่อมือหยาบเอื้อมมาวางลงบนหน้าตัก “คุณตฤณ! ทำอะไร!” เขาทุบปั้กลงบนหลังมือซุกซนที่เริ่มเลื้อยไปเลื้อยมาเป็นงู
“ฮะๆ” ร่างสูงชักมือออก พลางหันไปยิ้มให้เจ้านาย “กลับมาดุเหมือนเดิมแล้ว”
วินาทีนั้น... ผู้เป็นนายเหมือนถูกทุบศีรษะเข้าอย่างจัง ดวงตากลมใสจับจ้องรอยยิ้มที่ทำให้เขาถึงกับหายใจติดขัด พร้อมกับกัดริมฝีปากเบาๆ
“อย่าทำหน้าแบบนี้สิครับ” ตฤณชะงักไปเล็กน้อย แล้วรีบหันกลับไปมองทาง
“...แบบนี้น่ะแบบไหน” นภเกตน์เอ่ยออกไปอย่างเลื่อนลอย
“ก็แบบที่ เชิญชวนให้ผมอยากเบี่ยงรถเข้าข้างทาง แล้วจูบคุณนภน่ะสิ”
“คุณตฤณ...” ร่างโปร่งช้อนสายตาขึ้นสบประสานกับอีกฝ่าย
เพียงแค่สายตาของทั้งคู่เคลื่อนมาพบกัน ตฤณรู้สึกเหมือนเขาได้ยินเสียงอะไรสักอย่างของตนขาดผึง เขาผ่อนลมหายใจออกยาว ก่อนจะหันกลับไปขับรถต่ออย่างเงียบเชียบ สายตามองหาสถานที่ที่พอจะหยุดรถได้ มือหยาบหมุนพวงมาลัยเล็กน้อย แล้วเบี่ยงรถเข้าจอดตรงที่จอดรถของสวนสาธารณะมืดๆ เขารีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วโน้มตัวเข้าไปหาอีกฝ่าย
นภเกตน์ยังไม่ทันได้ตั้งตัวหรือถามคำถามอะไรออกไป ริมฝีปากสีแดงก็ถูกประกบปิด หัวไหล่เล็กทั้งสองข้างถูกมือหยาบจับยึดเอาไว้แน่น “อื้อ!” เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ เรียวปากหยักที่บดเบียดเข้ามา และไรหนวดสากๆ เมื่อยามที่ผิวหน้าของพวกเขาแนบชิดกัน
ร่างสูงสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกอด ซึ่งผู้เป็นนายก็ไม่ได้ขัดขืน ทำให้เขายิ่งได้ใจ รุกล้ำกวาดต้อนความหวานจากทุกซอกทุกมุมในโพรงปากนุ่ม
“อืม...” นัยน์ตาสีน้ำตาลปิดลงทีละน้อย พลางยกแขนขึ้นโอบรอบลำคออีกฝ่าย หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง ก้องสะท้อนอยู่ในอก นภเกตน์สับสนกับความรู้สึกของตนเองจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
...ทำไมเขาจึงไม่ปฏิเสธสัมผัสของตฤณกันนะ!
ฝ่ามือหยาบประกบแก้มนิ่มพร้อมกับจับให้เงยขึ้นรับการรุกรานของตน เขาจุมพิตหวานลึกซึ้งจนผู้เป็นนายอ่อนระทวย ยอมเอนหลังแนบชิดไปกับพนักพิงโดยไม่ขัดขืนใดๆ จากนั้นก็เคลื่อนฝ่ามือนั้นลงไปอย่างเชื่องช้า ผ่านลำคอระหง จนไปหยุดกึกอยู่บนแผ่นอก เมื่อชายหนุ่มรู้สึกถึงก้อนเนื้อที่เต้นระส่ำภายใต้ฝ่ามือตน
เสียงหัวใจของทั้งสองคนเต้นดังพอๆ กับเม็ดฝนที่ร่วงหล่นลงมากระทบตัวรถ นภเกตน์วางมือประกบบนหลังมือสีน้ำผึ้งเพื่อรั้งไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำอะไรต่อมิอะไรต่อ ขณะที่ลืมตาขึ้นสบสายตากับดวงตาคมกริบของเจ้าของฝ่ามืออุ่นนั้น “......” ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความต้องการ แต่... เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่อาจเอ่ยปากหยุดการกระทำของอีกฝ่ายได้
ใบหน้าคมเข้มผละออกเล็กน้อย แล้วพ่นลมหายใจร้อนๆ กระทบแก้มสีระเรื่อ “อย่าห้ามผมเลย... ผมหยุดไม่ได้แล้วนะครับ”
น้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นส่งผลให้ผู้เป็นนายใจอ่อนยวบ เขาเองก็นึกสงสัย ว่าทำไมถึงแพ้ลูกอ้อนของผู้ช่วยหน้าแมวได้ขนาดนี้กันนะ “แต่... คุณกับผมอยู่ในรถนะ” นภเกตน์เอ่ยเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“ผมรอให้ไปถึงคอนโดฯ ของคุณนภไม่ไหวหรอกนะครับ” ตฤณกระซิบชิดใบหูนิ่ม แล้วเคลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของร่างโปร่งออกทีละเม็ด “ฝนตกหนักแบบนี้ไม่มีใครผ่านมาหรอกครับ” จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปกดจูบตามลำคอ ใช้ปลายลิ้นซอกซอนภายในแอ่งชีพจร แล้วไล้ผ่านผิวเนียนบนแผ่นอกมาหยุดบนติ่งไตเล็กๆ สีชมพูระเรื่อ
ปลายนิ้วเรียวจิกลงบนหัวไหล่กว้างแน่น ร่างกายสั่นสะท้านไปกับความรู้สึกหวามไหวที่ก่อตัวขึ้น “อะ... อือ...”
มือหยาบเลื่อนไปรูดซิปกางเกงของอีกฝ่ายลง โดยที่ริมฝีปากยังขบดึง วนเวียนอยู่บนยอดอกที่รัดตัวแข็ง ชายหนุ่มวางมือลงบนส่วนไวสัมผัสกลางร่างขาว เขากดคลึงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็รู้สึกว่ามันแข็งขึงตอบรับ “อืม... คุณนภก็ไม่อยากจะรอใช่มั้ยครับ”
“...ก็... เพราะใคร... กันเล่า อ๊ะ... อา...” เจ้านายตอบเสียงกึ่งดุ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อฝ่ามือร้อนๆ สอดเข้าไปรูดรั้งแก่นกายภายใต้กางเกงชั้นใน เพียงแค่ขยับช้าๆ เท่านั้น เขาก็รู้สึกดีจนภายในศีรษะเบลอไปหมด
ใบหน้าหวานที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ กับเสียงครางเบาๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากนุ่มราวกับเชิญชวนให้ตฤณยิ่งรุกเร้า เขากระชับฝ่ามือแน่นพลางขยับขึ้นลงถี่รัว จนฝ่ามือชื้นแฉะ นัยน์ตาคมกริบจ้องมองสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการ เสียงครางผะแผ่ว ทั้งหมดทำให้สติสตังของชายหนุ่มหลุดลอย เขาโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบด้วยน้ำเสียงกระเส่า “ทำให้ผมด้วยสิครับ”
นภเกตน์ปรือตาขึ้น “หือ...”
“ก็ทำเหมือนที่ผมทำให้คุณนภยังไงล่ะ” ร่างสูงขบใบหูขาวอย่างไม่เบานัก พร้อมกับดึงมือที่เกาะกุมแก่นกายของอีกฝ่ายออก
ความอึดอัดและทรมานที่ร่างกายยังคงรุ่มร้อนส่งผลให้ร่างโปร่งหนีบต้นขาทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น เขาขมวดคิ้ว พลางหันหน้าไปสำรวจรอบๆ ตัวรถ ถึงจะมืดและไม่มีคนผ่านไปมาก็เถอะ แต่... ในที่แบบนี้ จะดีเหรอ... “ผมว่า... เราหยุดก่อนดีกว่า” หากพอจะเอื้อมมือไปรูดซิปกางเกงขึ้น ข้อมือทั้งสองข้างก็ถูกอีกฝ่ายชิงรวบแล้วตรึงไว้บนเบาะเหนือศีรษะ ใบหน้าสวยร้อนผ่าว เขาเอ่ยออกไปเสียงเบา “ปล่อย... คุณตฤณ... ทำไมชอบแกล้งกันนัก”
ตฤณยิ้มมุมปาก “คุณนภขึ้นมานั่งบนตักผมสิครับ”
“ไม่มีทาง” คนดื้อพยายามกระตุกมือให้หลุดจากการกอบกุม
ตฤณโน้มใบหน้าเข้าไปซุกไซ้ซอกคอขาว เขาพ่นลมหายใจถี่ๆ กระทบผิวอ่อน สลับขบจูบเบาๆ เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างอ่อนระทวยและหยุดการขัดขืน เขาก็ปล่อยสองมือขาวให้เป็นอิสระ จากนั้นจึงค่อยเคลื่อนปลายนิ้วหยาบไปบดขยี้เม็ดทับทิมสีแดงจัดบนแผ่นอกขาวอย่างไม่เบามือนัก เพื่อกระตุ้นให้ความต้องการของอีกฝ่ายเพิ่มมากขึ้น
นภเกตน์พยายามจะใช้มือของตนช่วยเหลือตนเองให้หลุดพ้นจากความอึดอัด หากยังไม่ทันได้สัมผัส ร่างสูงก็รั้งมือของตนไว้อีก “อ๊ะๆ ไม่ได้นะครับ”
“ปล่อย!” นัยน์ตากลมใสรื้นชื้นไปด้วยน้ำตา เขาอึดอัดจนจะทนไม่ไหวแล้ว
“ผมจะทำให้คุณรู้สึกดี... มาเถอะ ขึ้นมานั่งบนตักผม” เขาดึงร่างโปร่งให้โน้มมาทางตน ก่อนจะเอื้อมมือไปกดเลื่อนให้พนักพิงของเบาะที่นั่งเอนลงไปจนสุด
ผู้เป็นนายนึกเกลียดสีหน้าคนเจ้าเล่ห์ขึ้นมาตงิดๆ แต่เวลาที่สมองเบลอๆ แล้วความต้องการอยู่เหนือเหตุผลแบบนี้ ก็ช่างยากที่จะปฏิเสธ เขาขยับขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักผู้ช่วยตัวแสบ “แต่ผมไม่ทำให้คุณหรอกนะ”
“ใจร้ายจริง!” ร่างสูงหัวเราะ
นภเกตน์ได้ที คราวนี้เขาจะต้องเอาคืนจากตฤณบ้าง มือขาวสอดเข้าไปในกางเกงชั้นในของตนแล้วสัมผัสส่วนร้อนที่แข็งขึง เขายิ้มมุมปากก่อนจะกัดริมฝีปากเบาๆ “อือ...”
ดวงตาสีเข้มเบิกโพลง... มายพระ เขาโดนเจ้านายเอาคืนแบบแรงๆ แล้วนั่นอะไร สีหน้ากับท่าทางแบบนั้น! “คุณนภ!”
“อืม... อะ... ฮา...” ร่างโปร่งส่งเสียงครางหวาน พลางใช้ปลายลิ้นไล้เลียรอบๆ ริมฝีปาก
ภาพยั่วเย้าตรงหน้าส่งผลให้สมองของตฤณเบลอไปหมด ดวงตาเหมือนจะพร่ามัวขึ้นมาดื้อๆ เลือดในกายของเขาฉีดพล่าน จนต้องรีบรูดซิปกางเกงปลดปล่อยความเป็นชายที่ตื่นตัวเต็มที่ให้ออกมาสู่โลกภายนอก “คุณนภใจร้ายที่สุด” เขาโน้มลำคอขาวลงมาเพื่อบดจูบริมฝีปาก ขบดึงกลีบปากฉ่ำชื้นอย่างแรง สลับดูดรั้งปลายลิ้นเล็ก
เสียงจูบชื้นแฉะดังก้องอยู่ภายในหู ปลุกเร้าไฟอารมณ์ให้ลุกโชนจนแทบแผดเผาสองร่างให้หลอมละลายไปด้วยกัน ฝ่ามืออุ่นร้อนรวบแก่นกายของทั้งตนและคนบนร่างไว้ในมือขาว ก่อนจะวางฝ่ามือของตนประกบ แล้วจับให้อีกฝ่ายรูดรั้งไปพร้อมๆ กัน “อืมม...”
“อา...” นภเกตน์เริ่มขยับมือเร็วขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง เขาซบใบหน้าลงตรงซอกคอสีน้ำผึ้ง แล้วขบเม้มแรงๆ เพื่อระบายความอึดอัดออกไปบ้าง
“ดี... ดีครับ... อา... ผมจะไม่ไหวแล้วนะ” ตฤณพูดเสียงกระเส่า ลมหายใจถี่กระชั้นเข้าไปทุกที เขาจูบหนักๆ บนลำคอระหง สองมือยิ่งกระชับมือขาวเอาไว้แน่น
“อ๊า!”
“อื้มมม!”
ทั้งสองขยับมืออีกเพียงสองสามครั้ง ต่างก็ปลดปล่อยน้ำสีขุ่นข้นออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน
นภเกตน์ยันตัวลุกขึ้น แล้วยกมือขึ้นมองของเหลวในมือ เขาเผยอริมฝีปากหอบหนักๆ พลางเหลือบมองเจ้าของตักที่ตนนั่งทับอยู่... อีกครั้งแล้ว! ที่เขาเผลอตัวเผลอใจไปกับคนคนนี้ ทำไมถึงไม่เคยห้ามตัวเองได้เลยนะ!
“ผมหยิบทิชชูให้นะครับ” ร่างสูงเอื้อมมือไปรื้อหากล่องทิชชูจากเบาะหลัง แล้วเอามาเช็ดมือให้กับเจ้านาย จากนั้นจึงค่อยเช็ดมือตน ระหว่างที่เช็ดไป นัยน์ตาคมกริบก็พิจารณาคนตรงหน้าไปพลาง สาบเสื้อเชิ้ตที่อยู่ภายใต้เสื้อสูทถูกแหวกออกเล็กน้อย เนกไทก็ยังคล้องคออยู่ โดยที่ส่วนหางเนกไทวางอยู่บนแผ่นอกสีขาวราวกับงาช้างที่นูนขึ้นน้อยๆ มียอดอกสีแดงเรื่อประดับ เขาต้องยอมรับว่าเจ้านายเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก ชายหนุ่มจ้องมองจนแทบลืมหายใจ แวบหนึ่งเขารู้สึกโลภ... อยากจะขยับระดับความสัมพันธ์ของตนกับเจ้านายให้มากขึ้นไปอีก
หากพอร่างโปร่งเหลือบไปเห็นสายตาของตฤณเข้า เขาก็รีบขยับกลับไปนั่งที่เบาะตน มือขาวควานหาซิปกางเกงเพื่อรูดปิด แล้วรีบติดกระดุมเสื้อจนหมด “มองทำไมนัก”
“มองแฟนผม... แปลกเหรอครับ” ตฤณหัวเราะเบาๆ ยิ่งเมื่อสังเกตเห็นพวงแก้มสีแดงราวกับลูกสตรอว์เบอร์รี เขาก็ยิ่งหัวเราะดังขึ้นอย่างพอใจ
“ใส่กางเกงของคุณให้เรียบร้อย แล้วขับรถไปได้แล้ว” ใบหน้าหวานเบือนหนีออกไปทางหน้าต่าง... เขาเกลียดตัวเองที่รู้สึกดีกับคำพูดทีเล่นทีจริงของอีกฝ่าย เกลียดตัวเองมากๆ ที่ทำเรื่องแบบนี้ในรถ ถึงจะมืดมากแล้วก็ตามที และเกลียดตัวเองที่สุด ที่ปล่อยให้มีครั้งที่สองเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ครบแบบนี้
“โอเคคร้าบ” ร่างสูงยิ้มกริ่ม แล้วขับรถผ่านสายฝนพรำออกไปช้าๆ วันนี้เขาได้เห็นสีหน้าของเจ้านายแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอีกครั้ง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่านภเกตน์ช่างเป็นคนที่น่าสนใจ เป็นคนที่ดึงดูดสายตาและทำให้ในความคิดของตนเต็มไปด้วยใบหน้าน่ารักๆ ของนภเกตน์เท่านั้น
รถยนต์สุดโทรมแล่นไปบนถนนอีกสักพักก็เลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถของคอนโดมิเนียมสุดหรู เมื่อจอดสนิท ร่างโปร่งก็เปิดประตูแล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
ตฤณกุลีกุจอก้าวตามออกมา คว้าร่มแล้ววิ่งไปดักหน้าเจ้านายไว้ “คุณนภ ผม...”
“กลับไปได้แล้ว... พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้า” เจ้านายพูดแทรกขึ้นมาอย่างรู้ทัน พลางส่งสายตาดุๆ ให้
“ผมขอขึ้นไปด้วยไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้”
“เดินไปส่งก็ได้ครับ”
“ไม่ต้อง ผมไม่หลงทางหรอกน่ะ”
“แต่...”
“บอกให้กลับไปไงล่ะ” นภเกตน์พูดเสียงเข้ม
“แต่ผมยังอยากอยู่กับคุณนี่!” ตฤณก็ยังตื๊อไม่ยอมแพ้เช่นกัน
ผู้เป็นนายขมวดคิ้ว แล้วจ้องมองผู้ช่วยตัวดีเขม็ง... เขาจะทำยังไงดีนะ ให้ไอ้หมอนี่หยุดตื๊อเขาสักที... ถึงแม้เขาจะไม่ได้รำคาญหรือออกจะชอบด้วยซ้ำ แต่... ถ้าปล่อยให้ตฤณตามเขาเข้าไปในห้องพักละก็... ไม่ได้!!! อย่าใจอ่อนนะนภเกตน์! ...ร่างโปร่งบอกกับตนเอง
“หวา!” ตฤณหลับตาปี๋เมื่อถูกมือขาวๆ กระชากคอเสื้อเข้าไปหา คิดในใจไปพลางว่าสงสัยเขาจะตื๊อหนักไปสักหน่อยแล้ว~ โดนหมัดสอยคางเหลืองแน่กู!
ทว่าผิดคาด...
ริมฝีปากอวบอิ่มแนบจูบตรงมุมปากหยักเบาๆ เพียงแค่การกระทำเล็กน้อยเท่านั้นแต่ก็ทำให้เจ้าตัวหน้าร้อนผ่าว เขาหลุบตาลงต่ำแล้วกระซิบ “ไปนอนเถอะ ราตรีสวัสดิ์” ก่อนจะปล่อยมือออกแล้วสาวเท้ายาวๆ เดินจากไป
ตฤณเบิกตาโพลง สมองเบลอเหมือนถูกหินตกใส่รัวๆ เรียวปากหยักอ้าค้างแบบนั้นอยู่นานจนยุงบินเข้าไปตั้งรกรากอยู่ในปากได้เป็นฝูง เขายกมือขึ้นสัมผัสตรงมุมปากตนเบาๆ หัวใจเต้นหนักๆ ด้วยความตื่นเต้นยินดีถึงขีดสุด “คุณนภ...”
...นี่กูฝันไปรึเปล่าวะเนี่ย
ชายหนุ่มผิวสีแทนเดินกลับไปยังรถโตโยต้าที่จอดไว้อย่างเลื่อนลอย เขาเปิดประตูขึ้นไปนั่ง แล้วซบใบหน้าลงบนพวงมาลัยรถอย่างไร้เรี่ยวแรง
ฝ่ายนภเกตน์ก็เดินเร็วๆ จนเกือบจะวิ่งเข้าไปในตึกคอนโดมิเนียม เขาตรงไปยังห้องนอนในห้องพักของตน แล้วกระโดดขึ้นไปบนเตียงนอน
...จะทำยังไงดีนะ ยิ่งอยู่ใกล้ตฤณมากเท่าไหร่ ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ ในอกก็ยิ่งเพิ่มพูน ทำให้เขาแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่อยากปฏิเสธความอบอุ่นจากอีกฝ่าย แถมยังยิ่งบอกปัดได้ยากขึ้นไปทุกที... โชคดีที่คืนนี้เขาทำให้ตฤณเปลี่ยนใจได้ เพราะถ้าหากอีกฝ่ายตามเข้ามาถึงในห้องกับตนได้ละก็... เขาก็กลัวว่าจะเผลอใจ ยอมให้อีกฝ่ายทำอะไรต่อมิอะไรจนไม่ได้นอนทั้งคืนแน่ๆ มีหวังตื่นไปทำงานไม่ทันกันพอดี
...นภเกตน์ซุกหน้าลงกับหมอน พอปิดตาลงก็นึกถึงแต่ใบหน้ากวนๆ ของผู้ช่วยตัวดี จนต้องหลุดขำออกมาเป็นระยะๆ เจ้าตัวย้อนคิดถึงอีกฝ่ายไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า.... เขากำลังถลำลึกลงไปทีละน้อย และกำลังจะถอนตัวได้ยากเข้าไปทุกที
TBC~*ตอนนี้หวานพอมั้ยค้าาาาาาาาาา ขอเสียงโหน่ยยยย กร๊ากกก
/กางร่มแอบดู จุ๊ๆ ทุกคนอย่าเอ็ดไป แอบส่องสองหนุ่มเงียบๆ นะคะ 5555555
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาอ่านมากค่า 