Chapter 18ทางด้านนภเกตน์ เขาวิ่งกลับเข้าไปยังห้องนอนแล้วขึ้นไปนั่งนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่บนเตียง... เมื่อครั้งยังทำงานอยู่ที่อเมริกา เคยมีผู้ชายหลายคนที่พยายามเข้าหาเขา ทำตัวสนิทสนมเพื่อหวังอะไรบางอย่างจากตัวเขาอยู่บ่อยๆ เพราะใบหน้าที่คล้ายกับผู้หญิงและรูปร่างโปร่งบางแบบนี้ ทำให้หลายๆ คนคิดว่าจะรุกรังแกเขาได้ง่ายๆ แต่เขาก็ไม่เคยยอมให้ใครเข้ามาใกล้ได้เลย มีเพียงครั้งเดียวที่เขาไม่ระวังตัวพอ เลยถูกลูกค้าขยำก้อนเนื้อสะโพก... ซึ่งในตอนนั้นเขาโมโหมาก เลยกระทืบไอ้บ้ากามนั่นจนคางเหลือง ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ระมัดระวังตัวเวลาอยู่ใกล้ๆ กับผู้ชายแปลกหน้าที่เข้ามาใกล้ชิดจนเกินความจำเป็นตลอด
...หากกับตฤณแล้ว ทำไมเขาถึงปล่อยตัวปล่อยใจไปได้มากขนาดนั้น หรือว่าที่จริงแล้วเขาเพียงแค่ยังไม่ค้นพบตัวเองกัน!
“ม่ายยยย!” มือขาวเอื้อมไปหยิบแท็บเล็ตที่วางอยู่บนหัวเตียง แล้วจัดการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเทอร์เน็ต จนไปเจอกับหัวข้อ... ปกติแล้วผู้ชายทั่วไปนิยมใช้มือแบ่งปันความหฤหรรษ์ให้แก่กันหรือไม่... เขาคลิกเข้าไปในหัวข้อที่ว่านั้นทันที
เรื่องธรรมดาค่ะ ทำอยู่บ่อยๆ กับเพื่อนในโรงเรียน(ชายล้วน) เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นค่ะ บางทีน้องก็เบื่อมือตัวเองนะคะ
ใครๆ ก็เคย โดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อนสนิทชายล้วน ได้อารมณ์ดีค่ะ“อันนี้ล่ะ ใช่เลย! ...อืมๆ คนทั่วไปเขาก็ทำแบบนี้ร่วมกันอยู่บ่อยไป งั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” ร่างโปร่งถอนหายใจ ถึงตฤณจะชอบผู้ชาย แต่เขาคงไม่ใช่หรอก ก็เพราะนี่มันเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ผู้ชายทั่วๆ ไปเขาก็ทำกันนี่นา
...หากถ้านภเกตน์จะนึกเอะใจบ้าง ว่าทำไมผู้คนที่มาร่วมตอบกระทู้จึงลงท้ายด้วยคะขา แล้วเหลือบไปมองชื่อเว็บไซต์นั้นสักนิด... เขาก็จะได้รู้แจ้งเห็นจริงว่าเว็บที่ตนเปิดอยู่นั้นคือเว็บไซต์ยอดนิยมของชาวสีม่วง
..
....
..
เสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์มือถือร้องเตือนเบาๆ บ่งบอกเวลายามเช้าของวัน ตฤณลุกพรวดขึ้นมากดปิดเสียง เขาตั้งปลุกไว้เพราะไม่อยากให้นภเกตน์ต้องมาปลุกเขาด้วยตัวเอง เนื่องจากในยามเช้าแบบนี้ ดีไม่ดีเจ้านายอาจจะเจอตฤณน้อยโก่งคอขันให้เขาเสียหน้าได้อีก
ระหว่างที่ร่างสูงลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารเช้าลอยกรุ่น ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปดูในครัวก่อน
นภเกตน์ยืนอยู่ที่หน้าเตาอาหาร เขากำลังผัดข้าวผัดไว้เป็นอาหารเช้า
ตฤณยิ้มกว้าง พร้อมกับส่งเสียงทักทายออกไป “อรุณสวัสดิ์ครับ”
ร่างโปร่งหันมาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไปอาบน้ำล้างหน้าซะสิ จะได้มากินอาหารเช้าแล้วไปทำงานกันสักที”
“อ่า... ครับ” ...ชายหนุ่มผิวสีแทนเดินกลับออกไปอย่างจ๋อยๆ เขานึกว่าเจ้านายจะแสดงอาการเคอะเขินแล้วทักทายเขาตอบด้วยเสียงหวานๆ พอเจอแบบนี้เข้าไป... ก็อดรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยไม่ได้
หลังมื้ออาหารเช้า ทั้งสองหนุ่มก็พากันเดินไปยังที่ทำงาน นภเกตน์เปิดโหมดเงียบ เขานิ่งสนิทตั้งแต่ตอนรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน ยาวไปจนถึงห้องแล็บในที่ทำงานเลยทีเดียว เมื่อไปถึงห้องแล็บแล้ว พวกเขาต่างก็เริ่มทำงานกันทันที
ตฤณลุกขึ้นเช็กภาพไดอะแกรมที่วาดไว้บนกระดานไวต์บอร์ด พร้อมกับเช็กการทำงานของอุปกรณ์แต่ละตัว ส่วนนภเกตน์กำลังตรวจตราอุปกรณ์ที่อัปเกรดซอฟต์แวร์ทิ้งไว้เมื่อคืน
“เหลืออีกสามเครื่องที่ต้องจัดการ พรุ่งนี้ก็เริ่มเทรนทุกคนได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้พอดีนะครับ” ร่างสูงเอ่ย ขณะเดินเข้าไปหาเจ้านายแล้วโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เพื่อดูหน้าจอแล็ปท็อปไปพร้อมๆ กัน “แล้วเครื่องเมื่อคืน เป็นไงมั่งครับ”
“ผมก๊อบคำสั่งที่ใช้ในการตั้งค่าเดิมใส่ลงไปแล้ว เดี๋ยวจะทดสอบการใช้งานดูอีกที”
นัยน์ตาคมเหลือบมองใบหน้าหวานเป็นระยะๆ เพื่อสังเกตการณ์ เพียงแค่อยู่ใกล้ๆ กันแบบนี้ หัวใจของเขาก็เต้นไม่เป็นส่ำ ใจนึกอยากจะสวมกอดอีกฝ่ายจากข้างหลัง แล้วแกล้งจูบพวงแก้มที่ใสจนเห็นเส้นเลือดจางๆ ภายในนั่นหลายๆ ครั้ง แต่เวลาทำงานแบบนี้ ถ้าหากเขาทำลงไป จะโดนนภเกตน์ยกเราเตอร์ทุ่มใส่กบาลเอามั้ยนะ
“กลับไปทำงานของคุณได้แล้ว” นภเกตน์พูดเสียงเข้ม เขารู้หรอกว่าตฤณลอบมองอยู่ แต่ต่อไปนี้เขาจะไม่ใจอ่อนปล่อยเจ้าผู้ช่วยตัวดีให้เข้ามาใกล้ชิดแบบเมื่อคืนได้อีกเด็ดขาด
“ครับ” ร่างสูงรับคำ แล้วจำใจเดินคอตกกลับไปที่นั่งของตน... เอาเถอะ รอให้งานเสร็จก่อนค่อยหาวิธีรุกใหม่ก็ได้วะ
เวลาภายในห้องผ่านพ้นไปไวราวกับโกหก จนเลยเวลาเที่ยงวันไปแล้ว สองหนุ่มก็ยังคงนั่งอยู่กับที่ พวกเขาเห็นว่างานที่ต้องทำเหลือน้อยมากแล้ว กะว่าจะทำให้เสร็จเลยทีเดียว หลังจากนั้นจะได้ใช้เวลาในช่วงบ่ายของวันพักผ่อนบ้าง
ตฤณทำงานส่วนของตนเสร็จก่อน เขาจึงลุกขึ้นจัดเก็บข้าวของภายในห้องให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมไว้สำหรับการอบรมในวันรุ่งขึ้น ขณะที่กำลังใช้คัตเตอร์กรีดกล่องเพื่อพับให้แบนและกองรวมกันไว้ ก็ชำเลืองมองเจ้านายไปด้วย... วันนี้ตอนบ่ายว่างตั้งหลายชั่วโมง เขาจะใช้มุกไหนชวนเจ้านายไปเดตดีนะ ก็เขายังไม่อยากแยกจากเจ้านายเลยน่ะ
เพราะว่า... การที่ได้อยู่ใกล้ๆ กับคนที่ถูกใจ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่เขาจะอยากใช้เวลาร่วมกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ใช่เหรอ
นิ้วเรียวกดพิมพ์รัวๆ ไปบนคีย์บอร์ดเพื่อตรวจดูการตั้งค่าของทุกอุปกรณ์อีกครั้ง แล้วลิสต์รายการไว้ถึงเรื่องที่จะต้องพูดถึงกับเหล่าวิศวกรในวันรุ่งขึ้น
“อืม... หัวข้อเรื่องที่จะเทรนพรุ่งนี้ เดี๋ยวผมส่งอีเมลให้คุณตฤณไว้ด้วย คุณลองดูแล้วกันเผื่อจะมีอะไรเสริม”
“อ๊ะ ผมอ่านตอนนี้เลยก็ได้นะครับ” ...ได้โอกาสแล้วเว้ยยย~ ร่างสูงทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในมือลง แล้วปราดเข้าไปยืนด้านหลังผู้เป็นนาย พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปจนชิดกับอีกฝ่าย
“คุณตฤณ!” เจ้านายหันกลับไปดุคนช่างฉวยโอกาส ทว่าใบหน้าคมเข้มนั้นอยู่ใกล้กันเกินไป จนทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่เฉียดกันไปเพียงปลายนิ้วกั้น “ฮื้ย! ออกไป!”
ก่อนที่จะถูกผลักออก ตฤณใช้โอกาสนั้นรวบกอดร่างโปร่งบางไว้ก่อน “ไม่ออก~ วันนี้ยังไม่ได้กอดแฟนผมเลย”
นภเกตน์ลุกขึ้นพรวด “ไหนว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ที่ที่ทำงานไง!” เขาหมุนตัวไปทั้งตีเข่าและฟันศอก แต่ผู้ช่วยที่เกาะตนไว้แน่นราวกับตุ๊กแกก็ยังไม่ยอมปล่อยตนให้หลุดออก ผู้เป็นนายถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “คุณเป็นคนหรือเป็นปลิงกันแน่!”
“ถ้าเป็นปลิงก็ต้องดูด... ด้วยนะครับ” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงฉกจูบลำคอขาวทันควัน
ร่างโปร่งขนลุกซู่ เรียวปากหยักอุ่นๆ ที่แนบลงมาบนผิวขาวราวกับมีกระแสไฟส่งผ่าน จนเขาต้องย่นคอไว้เพื่อหลบซ่อน... แล้วเตือนตัวเองรัวๆ ว่าวันนี้เขาจะไม่ให้อารมณ์มาอยู่เหนือสติแบบเมื่อวานอีกแล้ว “คุณตฤณ! งานยังไม่เรียบร้อยเลยนะ ปล่อยก่อน เราตกลงกันว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ที่ทำงานไม่ใช่รึไง”
“งั้นถ้าหลังจากนี้ ผมกอดได้ใช่มั้ย” ร่างสูงกระซิบชิดใบหูนิ่ม
“...กอดผู้ชายตัวโตๆ อย่างผมนี่ รู้สึกดีรึไงกัน” ผู้เป็นนายบ่นพึมพำ
ตฤณยิ้มกริ่ม เขาจับมือขาวให้โอบรอบเอวตน “ลองดูสิครับ รู้สึกดีมั้ยล่ะ”
“ไม่” ร่างโปร่งตอบทันควัน
“จะไม่หยุดคิดสักนิดเหรอครับ” ผู้ช่วยตัวดีทำเสียงอ้อน
นภเกตน์ชักแขนกลับ แล้วผลักร่างสูงออกจากตัว “ผมทำงานก่อนนะ ใกล้จะเสร็จแล้ว”
ชายหนุ่มผิวสีแทนยอมคลายอ้อมกอดง่ายๆ แต่พอเจ้านายเดินไปนั่งลงจัดการกับงานต่อ เขาก็ตามไปนั่งลงข้างๆ กัน “เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินด้วยกันนะครับ”
“......” ผู้เป็นนายใช้ความนิ่งสยบแมวตัวร้าย ปลายนิ้วเรียวกระแทกไปบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วอยู่อีกครู่ใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็ปิดแล็ปท็อปลง แล้วหันไปจัดเอกสารกองรวมกัน ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป
ตฤณรีบกลับไปกดปิดแล็ปท็อปของตนบ้าง มือหยาบรวบเก็บเอกสารแล้ววิ่งตามเจ้านายกลับไปยังห้องทำงานของพวกเขาทั้งสองคน “ผมหิวแล้วอะ ไปกินข้าวกันนะครับ”
นภเกตน์นั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานของเขา “ผมเหนื่อย อยากพักผ่อน”
อีกฝ่ายก็ไม่รีรอ นั่งยองๆ ลงข้างๆ แล้วใช้มือเกาะกับโต๊ะไว้ “ผมก็อยากพัก งั้นหาอะไรกินแล้วเราไปพักด้วยกันนะครับ”
“เดี๋ยวผมจะทำอาหารกินเอง”
“งั้นทำเผื่อผมด้วยนะ”
ร่างโปร่งชำเลืองมองคนหน้าทนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ ด้วยหางตา จากนั้นก็พรูลมหายใจออกมายาว... ทำไมถึงได้ตื๊อเก่งแบบนี้นะไอ้หน้าแมวนี่! “ผมเปลี่ยนใจแล้ว เดี๋ยวจะซื้ออาหารสำเร็จรูปแถวๆ นี้กิน”
ตฤณยังไม่ยอมถอย “กินเสร็จแล้วไปดูหนังกันมั้ยครับ”
“ไม่ล่ะ ผมไม่ชอบที่มืดๆ”
“งั้นไปเดินเล่นริมแม่น้ำ”
นภเกตน์ส่ายหน้า “ร้อนจะตาย”
“งั้นไปสวนสัตว์กันมั้ยครับ มีลูกเสือโคร่งให้จับให้อุ้มด้วยนะครับ”
“ฮื้ยยยย! คุณตฤณ! ไม่คิดจะกลับไปพักที่บ้านบ้างรึไง”
“โธ่! ข้าวใหม่ปลามัน คู่รักที่ไหนเขาอยากจะแยกจากกันบ้างล่ะครับ!” ตฤณเถียงทันควัน พร้อมกับยิ้มโชว์ฟันสามสิบสองซี่ให้แสงตกกระทบ แล้วสะท้อนเข้าดวงตาของอีกฝ่าย
“ฮึก!” ร่างโปร่งโดนลำแสงนั้นเข้าไปเต็มๆ ตา จนถึงกับเบลอไปชั่วครู่... นี่ตกลงพวกเขาเป็นคนรักกันแน่แล้วใช่มั้ยเนี่ย!
“ไปกันเถอะคร้าบบบ” ผู้ช่วยตัวแสบใช้โอกาสนั้นจับมือเจ้านายดึงขึ้น แล้วจูงออกจากห้องไปแบบเนียนๆ
“ปล่อยมือได้แล้ว” กว่านภเกตน์จะรู้ตัว ก็โดนจูงไปจนถึงลิฟต์โดยสารแล้ว... ดีนะเนี่ย ที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ไม่มีใครเขามาทำงานกัน นี่ถ้าพวกลูกน้องเห็นเข้าละก็... ฮื้ยยยย!
เมื่อทั้งคู่มาถึงด้านหน้าบริษัท พอหันมองไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ ร้านเหล่านั้นกลับปิดหมด แม้แต่ร้านเบเกอรี่ เพราะเป็นวันอาทิตย์ในย่านที่มีแต่บริษัท เหลือแต่ร้านสะดวกซื้อเพียงร้านเดียวเท่านั้น “ผู้จัดการอยากกินอะไรครับ สงสัยเราคงต้องขับรถไปที่อื่น”
“...ช่างเถอะ... ผมทำกินเองก็ได้” ผู้เป็นนายเดินนำออกไป
“งั้นผมจะช่วยล้างให้นะ” ตฤณเอ่ยเชิญตัวเองเสร็จสรรพ
นภเกตน์ผ่อนลมหายใจออกยาวแล้วหัวเราะเบาๆ คนหน้าแมวที่กำลังเดินตามตนต้อยๆ นี่ใช่คนเดียวกับผู้ชายหน้ายับเยินที่จ้องมองเขาอย่างอยากจะกินเลือดกินเนื้อในวันที่เจอกันวันแรกรึเปล่านะ เขาชะลอฝีเท้าลง เพื่อรอให้อีกฝ่ายเดินขึ้นมาเคียงข้างกัน “คุณตฤณเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่พบกันเยอะเลยนะ”
ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ เจ้านายชวนเขาคุยอะ ไม่น่าเชื่อเลย “...ก็จริงนะครับ วันแรกที่พบกัน ผมไม่ดีเองที่ตัดสินคุณจากภายนอก”
ใบหน้าหวานหันไปหาคนข้างๆ ด้วยความแปลกใจ “หืม?”
“ฮะๆ ตอนแรกผมนึกว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการแผนก แล้วจู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้ ที่เป็นหลานของเจ้าของบริษัทมาแทน ผมก็เลยมองคุณในแง่ร้ายไปสักหน่อย”
ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้มบาง “แล้วตอนนี้เห็นผมเป็นยังไงล่ะ”
“ในเรื่องของความสามารถ ผมยอมให้คุณเก่งกว่าก็ได้... ส่วนเรื่องมนุษยสัมพันธ์ติดลบนะครับ”
...นั่นคงเป็นสิ่งที่เขาขาดไปอย่างที่อาพีรพัฒน์ว่า... “...ถึงกับติดลบเลยเหรอ”
“ถ้าผู้จัดการเพียงแค่พูด ขอบคุณ หรือ ขอโทษ ให้บ่อยขึ้น ยิ้มให้มากขึ้นอีกสักหน่อย ผมว่าพวกลูกน้องนี่คงจะยอมทำงานให้แบบถวายหัวแล้วล่ะครับ”
“อือ ผมจะพยายามนะ”
...แอร๊... เชื่อฟังเกินคาดแฮะ... ดวงตาสีเข้มเบิกกว้าง “....”
“ถ้าผมเพอร์เฟกต์แล้วจะได้ไม่ต้องมีผู้ช่วยอีก” ร่างโปร่งพูดกลั้วหัวเราะ
ตฤณขมวดคิ้ว “อ้าว! ไหงงั้นล่ะคร้าบ! โหย... ขาดผมแล้วคุณจะรู้สึก”
“รู้สึกอะไร ห้องโล่งไปงั้นเหรอ”
ร่างสูงยิ้มกรุ้มกริ่ม “แหม ขาดหัวใจไปแล้วผู้จัดการจะทำงานไงอะครับ”
นภเกตน์เบ้ปาก “...ก็ใช้มือไง”
สองหนุ่มเดินเถียงกันไปเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าตึกคอนโดมิเนียมแล้ว ผู้เป็นนายเปิดประตูเดินนำเข้าไปก่อน โดยมีลูกน้องตัวดีตามเข้าไปติดๆ
TBC~* ฮิ้ววววววว~ ฮัสกี้กลับมาแว้ววว คิดถึงกันบ้างรึเป่าาาา
ตอนนี้พี่ตฤณก็ดับเครื่องชน หน้ามืดตามัวตามตื๊อผู้จัดการซะงั้น ก็ผู้จัดการอยากน่ารักเองอะเนอะ
เถียงกันมันส์จนผู้จัดการลืมซึนไปเยย 555555 ขอบคุณทุกคนที่ยังรอพี่ตฤณกับน้องนภนะค้า