[เรื่องสั้น จบในตอน] รักเกิดในตลาดสด : พิเศษ ++ 7 ++ 24/07/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น จบในตอน] รักเกิดในตลาดสด : พิเศษ ++ 7 ++ 24/07/58  (อ่าน 49867 ครั้ง)

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************




สารบัญ

รักเกิดในตลาดสด :: 1  เจ้าชายเขียงหมู {ตั้น ❤ ฟ่ง}

รักเกิดในตลาดสด :: 2  คุณหนูมะเขือเทศ {ต๋อง ❤ หนุ่ม}

รักเกิดในตลาดสด :: 3  Forget-Me-Not   สื่อรักภาษาดอกไม้ {โต้ง ❤ เนสต์}

รักเกิดในตลาดสด :: 4  คุณชายขนมหวาน  {ติณณ์ ❤ เอก}

รักเกิดในตลาดสด :: 5  พันธนาการหัวใจ ด้วยสายใยรัก จากแผงทุเรียน  {ต้อม ❤ โก๋}

รักเกิดในตลาดสด :: 6  หลุมรักแกงเขียวหวาน  {ติ๊ก ❤ น๊อต}

ตอนพิเศษตามเทศกาล : วาเลนไทน์  {ตั้น ❤ ฟ่ง}

รักเกิดในตลาดสด :: 7  สื่อรักผ่านเพลง  {ต่อ ❤ กานต์}

รักเกิดในตลาดสด ::  8 น้ำแข็งใสกับชาไข่มุก  {ตั้ม ❤  พล}

รักเกิดในตลาดสด ::  9 โรมิโอร้านขายยากับจูเลียตร้านทอง {ตี๋ ❤  ภัทร}
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-07-2015 14:45:11 โดย jira »

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3

เจ้าชายเขียงหมู


แดดแรงสาดส่องผ่านม่านหนาทิ่มลูกตาจนต้องพลิกตัวหนี  หูได้ยินเสียงดังแว่วมาจากชั้นล่าง  ผมนิ่วหน้าก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมโปงกั้นเสียง..แต่มันกลับดังขึ้นเรื่อย ๆ   

“ตั้นนนนน  ขับรถพาแม่ไปตลาดหน่อยลูก”  เสียงสาปสวรรค์...จากชั้นล่างดังขัดการนอนกลางวันของผม  ถอนหายใจยาวใส่หมอนหนุนแล้วยันตัวลุกจากเตียง  เดินตุปัดตุเป๋  มือขวาล้วงเสื้อเกาหัวไหล่ซ้าย  ถอนหายใจทิ้งยาว ๆ เข้าห้องน้ำไปล้างหน้า  เสยผมลวก ๆ แล้วเดินลงไปหาต้นเสียงสาปสวรรค์   

“ตั้นนนน  ได้ยินแม่ไหม?!”  เดินลงบันไดขั้นแรกเสียงแม่ก็ลอยเข้ามากระแทกแก้วหู  ใจร้อนอะไรมากมาย  ตลาดมันไม่วายหนีแม่หรอก!

“มาแล้วครับ!  ตลาดนี้มันมีเวลาปิดด้วยเหรอแม่?  จำได้ว่าแม่ไปซื้อหมูตอน  2  ทุ่มยังได้มาเลยนี่  โอ้ยยยย”  เอี้ยวตัวหนีปลายนิ้วที่ดิ่งเข้ามาบิดหน้าท้อง  หลบไม่ทันสักครั้งครับ!

“เถียงคำไม่ตกฟาก  ไปเอารถออกเดี๋ยวนี้”  ดึงชายเสื้อขึ้นมาดูผลงานศิลปะที่หน้าท้องลอนงามของตัวเอง  โหววว  แดงแปร๊ด  ลูบเบา ๆ แล้วสูดปากไล่ความแสบ  สตาร์ทรถแล้วพาแม่ไปซื้อของที่ตลาด  ไอ้ต้นน้องชายผมมันฉลาดครับ  มันเรียนพิเศษเตรียมเอนท์  เลยรอดพ้นจากการช่วยแม่ถือของที่ตลาด  พี่เติ้ลก็มีโปรเจ็ค  ปิดเทอมเลยต้องอยู่ทำไม่ได้กลับบ้าน  ผมเลยรับหน้าที่เบ๊อยู่คนเดียว

ตลาดแถวบ้านผมดีตรงที่เจ้าของตลาดเขาทำถูกสุขลักษณะ  มีท่อระบายน้ำข้างหลังแผงทุกแผง  มีหลังคา  ทางเดินกว้าง  เดินไฟยาวตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย  มีถังขยะใบใหญ่ตรงมุมทุกซอยเพื่อสร้างนิสัยให้คนไม่มักง่าย  ใช้ตาชั่งกลาง  ที่สำคัญคือที่จอดรถสะดวก  แล้วก็ขายตลอดทั้งวัน เดินเข้าตลาดได้แม่ผมก็เริ่มซื้อทันที  ต่อนั่น  เหมานี่จนถุงพลาสติกที่อยู่ในมือผมเริ่มเพิ่มจำนวนและน้ำหนักมากขึ้น  แต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้แม่ผมเลิกซื้อได้ 

“เดินเข้าซอยนี้ซื้อห่อหมกคุณยายให้แม่ที”  พยักหน้าและเดินเข้าซอยที่เดินมาซื้อบ่อย ๆ   แม่เล่าให้ฟังว่ายายคนนี้เขารวยครับ  ลูกหลานก็ได้ดิบได้ดีทุกคน  ไม่ใช่ว่าลูกหลานแกไม่เลี้ยงหรอกนะครับถึงได้มานั่งขายห่อหมก  แกเบื่ออยู่บ้านเลยทำห่อหมกมานั่งขายแก้เหงาเท่านั้นเอง  แกทำขายไม่กี่ชิ้นครับ  เครื่องเยอะแล้วก็อร่อยด้วย

“2  ห่อครับยาย”  นั่งยอง ๆ  ลงข้างหน้ายาย  มองมือเหี่ยวที่หยิบห่อหมกยื่นให้  2  ห่อ  รับมาใส่รวมกับถุงขนมใส่ไส้   ผมจะได้ไม่ต้องหิ้วถุงเพิ่ม  จ่ายตังค์แล้วช่วยยายเก็บร้าน  ยายเล่าให้ฟังว่าวันนี้ทำมาแค่  13  ห่อ   ส่วนที่ผมซื้อเป็นส่วนที่เก็บแยกไว้รอผม  เก็บไว้ให้ลูกค้าเจ้าประจำนั่นเอง

“แล้วถ้าผมไม่มาล่ะครับ?”  ยายยิ้มโชว์เหงือกแข็งแรง  ตอบแบบอารมณ์ดี  ‘ก็ไว้ให้หลานยายกินไงไอ้หนู’  ยิ้มตอบแล้วอุ้มกระจาดของยายเดินออกมาท้ายซอย  เสียงแม่ค้าแถวนั้นตะโกนทักทายยายกันเต็มไปหมด  สมกับเป็นตลาดจริง ๆ

“วางตรงนี้ล่ะไอ้หนู  เดี๋ยวหลานยายก็มา..ขอบใจมาก”  ยกมือไหว้ยายแล้วรวบถุงหิ้วติดมือออกมาหาแม่  ก้มหน้าก้มตาเดินมาตามทางก็ได้ยินเสียงเล็กเอ่ยถาม  ‘ขนมจีนไหมคะ?’  เงยหน้ามองหาต้นเสียง  สบตากับแม่ค้าขายขนมจีนแล้วส่ายหน้า  ยิ้มบางให้  หันกลับไปมองทางเดินและสังเกตรอบตัว  ช่วงนี้เด็กปิดเทอมเลยมีแม่ค้าหน้าใส ๆ มานั่งขายของกันเยอะ  เดินไปอีกนิดก็ทำแบบเดิมกับแม่ค้าหน้าสวยที่ขายปลาย่าง  อยากบอกสาว ๆ เหลือเกินว่า..

ผมเป็นเกย์ครับ  ข้างหน้ามีเอาไว้เสียบถ้ำ  ข้างหลังเก็บไว้ถ่ายของเสีย  ไม่เหลือไว้ให้สาว ๆ ได้ใช้บริการครับ  ยิ้ม ๆ ไปตามทาง  เข้าตามซอยโน้น  ออกซอยนี้จนเจอแม่  แม่ผมยืนอยู่วงล้อมด้านนอกรอคิวซื้อหมูอยู่  อดขมวดคิ้วสงสัยไม่ได้  ร้านขายหมูมีเป็น  10  ทำไมจะต้องมารอคิวร้านนี้ร้านเดียวด้วย

“แม่ซื้อร้านนี้ก็ได้..หมูเหมือนกัน”  ก้มกระซิบบอกแม่  แม่หันมาบอกผมว่า ‘ร้านนี้หมูเขาสด  ของมาลงใหม่ทุกชั่วโมง  รอพักเดียวตาตั้น’  หันมาบอกผมแล้วก็กลับไปสนใจคิวข้างหน้าตัวเองต่อ  ผมเดินผละออกมาจ้องคนขายผ่านหมู  3  ชั้นที่แขวนบังอยู่  เห็นแต่ผ้าที่โพกหัว  กับผมทรงแม่บ้านของคนที่รอซื้อ  ถอนหายใจกับคิวที่ดูจะไม่ลดลงเลยแล้วเดินเข้าไปหาแม่อีกรอบ

“ไปซื้อข้าวเหนียวมูนสังขยารอนะแม่”  แม่ผมพยักหน้ารับส่ง ๆ แล้วขยับเดินไปข้างหน้าตามคิว  เดินย้อนกลับมาซอยแรกแล้วกว้านซื้อขนมที่ชอบจนพอใจ  มืออีกข้างของผมตอนนี้มีถุงข้าวเหนียวหน้าสังขยา  5  ห่อ  ขนมเบื้องคละหน้า  สังขยาฟักทอง  1  ลูก  ลอดช่องสิงคโปร์ใส่มะพร้าวอ่อน  5  ถุง  ปิดท้ายที่มะม่วงน้ำปลาหวานของแม่  เงยหน้ามองนาฬิกากลางของตลาดและเดินกลับไปหาแม่...  ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

“แม่เอาถุงในมือมาให้ตั้น  เดี๋ยวไปรอที่รถ”  รับถุงมาถือไว้แล้วดิ่งกลับไปที่รถ  เปิดท้ายรถแล้วผูกปากถุงกันของหกเวลารถวิ่ง  เดินกลับมานั่งในรถ  กินขนมเบื้องรอแม่  กินได้ไม่ถึงครึ่งถุงก็เดินมาตามแม่  ถึงคิวแม่พอดี..

“สามชั้นโลนึงนะหนู  เอาชิ้นนี้..เนื้อตรงสะโพกนี่คิดเท่าไหร่จ๊ะ?”  เดินเข้าไปใกล้ทันได้ยินแม่ถามราคาพอดี 

“สามชั้นโลละ  100   ครับ  เนื้อสะโพก  130   ตับ 150   ไส้อ่อน  60  หัวหมู  200  ครับ..เนื้อสะโพกกี่โลดีครับ?”  เสียงทุ้มของคนขายตอบแม่  แถมด้วยราคาของที่แม่ไม่ได้ถาม  สมเป็นพ่อค้าจริง ๆ  มองกองเนื้อหมูที่วางเรียงรายจนเต็มแผง  เนื้อไม่แดงมาก  แล้วก็ดูสดเหมือนที่แม่บอก  แม่สั่งสามชั้นกับสะโพกหมูเสร็จก็หันมาสั่งให้ผมรอหมู  แม่จะเดินไปซื้อผักต่อ  พยักหน้าแล้วมองตามหลังแม่  พูดถึงผักก็อยากกินอยากกินแกงจืดตำลึงใส่หมูสับ   หันไปสั่งหมูสับกับคนขาย  หน้าคมที่โผล่เข้ามาแวบ ๆ เมื่อครู่ทำให้ต้องหันกลับไปมองหน้าคนขายซ้ำอีกครั้ง 

ดวงตาสีดำ  คิ้วเข้ม  จมูกโด่ง  ปากอิ่ม  จิวหูเม็ดกลมสีดำโดดเด่นอยู่บนติ่งหูซ้าย  ผ้าโพกผมครึ่งหัวซ่อนผมสไลด์สีดำสวยไว้ไม่มิด  ผิวขาวสุขภาพดี  ไม่ผอมแต่ก็ไม่ถึงกับล่ำ  ดูเหมือนจะเตี้ยกว่าผมนิด ๆ   มัดกล้ามแขนแข็งแรง  ทักษะการใช้มีดจัดอยู่ในขั้นดี  ไล่สายตากลับมามองใบหน้าหล่อติดจะน่ารัก  เจ้าของเขียงหมูก็กำลังจ้องหน้าผมอยู่เหมือนกัน  เผลอสบตาคู่นั้นด้วยความชื่นชม..ลูกใครเหล่าเต้า  ตั๋วแปะช่างปั้น 

‘แคร้ง!’  เสียงมีดปังตอที่ตบลงบนเขียงเรียกสติให้กลับมา  กระพริบตามองปลายปังตอที่กำลังชี้หน้าอยู่  ไล่สายตาไปตามสันปังตอ  สบตาดุเอาเรื่อง  กลืนน้ำลายเหนียวลงคอ

“โลนึงพอไหม?!”  เสียงทุ้มตะคอกถาม  ยิ้มเจื่อนแล้วพยักหน้า  มองตามมือเรียวจับเนื้อหมูมาเฉือน  วางชั่งน้ำหนักบนตาชั่ง  โยนลงบนเขียงลงมือสับละเอียด  เสียงปังตอสับเนื้อหมูดังลั่นซอย  ใบหน้าเครียดขมึง  ข้อมือสับรัว  ไม่นานหมูชิ้นก้อนโตก็กลายสภาพเป็นหมูสับเนื้อละเอียดอยู่บนเขียง  คนขายหน้าหล่อปาดหมูสับที่ผมสั่งใส่ถุงแล้วยื่นส่งให้พร้อมหมูที่แม่สั่งไว้ก่อนหน้า   รับถุงมาถือแล้วยื่นธนบัตรสีเทาส่งให้   คนขายรับไปแล้วล้วงมือลงในกระเป๋าหน้าของผ้ากันเปื้อนควานเงินมาทอนผม  มองทุกการเคลื่อนไหวของเจ้าของร้านอย่างมีความสุข  จะทำอะไรก็ดูดีครับ  ดวงตาสีดำเงยขึ้นมาสบตาเคลิ้มของผม  หรี่ตามองเหมือนไม่พอใจ  ยื่นเงินทอนส่งให้..เหรียญแทบจะปลิวฟาดดั้ง

“..ขายทั้งวันรึเปล่าครับ?”  รับเงินทอนแล้วชวนคุย  เจ้าของเขียงหยิบปังตอมาชี้หน้าผมอีกครั้ง

“ไปได้แล้ว!”  สะดุ้งแล้วรีบขยับหนี  หันหลังเดินก็ได้ยินเสียงบ่นแว่วเข้าหู  ‘จ้องอยู่ได้..หน้ามันรึเปล่าก็ไม่รู้’  หยุดเดินแล้วขมวดคิ้วมุ่น  ที่ไล่เพราะไม่อยากให้เห็นตอนหน้ามันหรือเปล่า?  หันไปมองเจ้าของร้านช้า ๆ..เจ้าของเขียงหมูกำลังดึงเอาผ้ากันเปื้อนมาถูแถวแก้ม  ใช้ท้องแขนเช็ดแถวคาง  เสียงทุ้มเอ่ยถามลูกค้าที่ยืนรอต่อจากผม ‘รับไรครับคุณน้า’  อมยิ้มแล้วเดินกลับไปยืนที่เดิม  เจ้าของเขียงหมูทำตาโตมองผม  กระพริบตาปริบกับแบงค์ร้อยที่ผมยื่นให้

“ขอเบอร์หน่อย”  คนขายหมูแก้มชมพูพองลมเข้าปากแก้เขิน  เบือนหน้าไปมองกองไส้หมูแทนหน้าผม  มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าผ้ากันเปื้อน  ที่เหลืออีกข้างคว้าแบงค์ร้อยไปเขียนหมายเลข  10  หลัก  บ่นอุบอิบว่า.. ‘จะเอาไปแทงหวยรึไง?..ไม่ออกโทษกันไม่ได้นะเว้ย!?’  เขี่ยแบงค์ร้อยคืนให้ผมแล้วเบือนหน้าไปมองหัวหมู  ยืนมองหน้าด้านข้างยิ่งน่ารัก  ริมฝีปากล่างเม้มแน่น  คิ้วขมวดมุ่น  ยืนมองพักใหญ่คนขายหมูแก้มชมพูก็หันมาแหวใส่

“จะขายหมู  ไปซะที!”  ยิ้มกว้างให้คนขายหมูที่แก้มกลายเป็นสีแดงอ่อน ๆ  ริมฝีปากเชิดเหมือนคนงอน  มือที่จับมีดยกมาปิดปากแล้วหันหลังให้ผมดื้อ ๆ 

“ผมจะโทรหานะ”  บอกกับแผ่นหลังแล้วหมุนตัวเดินออกจากซอย  ยกถุงหมูขึ้นมาจ้องแล้วส่งยิ้มหวานเผื่อแผ่ให้มัน

ผมเจอรักแท้ที่เขียงหมูในตลาดสดครับ  รักแท้ที่ผมเรียกเค้าว่า  ‘เจ้าชายเขียงหมู’  แล้วคุณล่ะ..เจอรักแท้ที่ไหน  ดูแลรักแท้ของคุณให้ดีเหมือนผมกับเจ้าชายเขียงหมูนะครับ
 
ใครจะคิดว่าในตลาดสดจะมีคนที่จะเข้ามาเติมเต็มชีวิต.. 

ใครจะคิดว่าเขียงหมูจะส่งคนมาวิ่งเล่นในหัวใจได้จนหมดอายุขัย..






มันคือ..รักแท้ในตลาดสดครับ

End.

...................................

สวัสดีค่ะ  ยินดีต้อนรับสู่ตลาด(วาย)ค่ะ
จิเคยนำเรื่องนี้ลงในเล้าแล้วครั้งหนึ่งค่ะ  แต่ถูกลบเพราะไม่มาต่อให้จบตามระยะเวลาที่เล้ากำหนดถึง  2  ครั้ง  พี่โมบอกแล้วค่ะว่าถ้าโดนลบไป  2  ครั้งจะกู้ไม่ได้อีกแล้ว  ตอนโดนครั้งแรกพี่กู้มาให้แล้วบอกให้จิมาแก้หัวเรื่องซะจะได้ไม่โดนลบ  จิก็เอ้อระเหย  ทำงานโน่นนี่  พอจะเข้ามาทำก็ลบไปแล้ว..สมควรมากค่ะ 
มีนักอ่านถามถึง  จิเลยค้นต้นฉบับเก่า ๆ มาลงให้อ่าน  เพิ่มเติมและตัดทอนเนื้อหาบางส่วนนิดหน่อยค่ะ  แต่มีไม่ครบเท่าของเดิมนะคะ  เคยแต่งลง  29  คู่  ที่มีในมือมีแค่  20 คู่  หายไปหลายคู่เลยค่ะ  แหะแหะ   
ถ้านักอ่านท่านไหนเซฟเก็บไว้อ่านเล่น  โปรดเมตตา..ส่งให้จิบ้างนะคะ  ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ขอบคุณที่ติดตาม  และเข้ามาอ่านนะคะ
 :กอด1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2015 09:07:56 โดย jira »

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
อ๊าาาาาาาา
ฟ่งๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฟ่งของเค้าาาาาาา
 :hao7:
บวกเป็ดรัวๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อยากอ่านเรื่องอื่นด้วยจัง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
คุณหนูมะเขือเทศ

ลมหนาวหลงฤดูหอบเอาความหนาวมาฝาก  ลมเย็นจนต้องกระชับเสื้อหนาวตัวนอกให้แน่นขึ้น  ถอนหายใจกับสภาพอากาศแปรปรวน  มองหยาดฝนโปรยปรายด้านนอกตลาดแล้วก็เบื่อ  ไม่ชอบอากาศร้อนก็จริง  แต่เย็นแบบนี้ก็ไม่ได้ต้องการแม้แต่น้อยว่ะ!
 
“มาเอาต้มจับฉ่าย”  เงยหน้ามองเจ้าของเสียง  ยิ้มแซวแล้วหยิบถุงต้มจับฉ่ายที่แม่ฝากไว้ให้ลุงไช้เจ้าของเขียงหมูเพื่อนสนิทพ่อ  เจ้าของแก้มชมพูอย่างไอ้ฟ่งยื่นมือมารับถุงแล้วทำท่าจะหันหลังกลับทันที

“..แล้วไม่มีเบอร์ให้บ้างเหรอ?..5555”  มองแก้มแดง  ปากเชิดของมันแล้วมีความสุขดีครับ  ไอ้ฟ่งมันมีคนมาขอเบอร์อีกแล้ว  มันหน้าตาน่ารัก  คนชอบมันเยอะ  แต่มันก็ไม่เคยสนใจหรือแจกเบอร์ใคร  มีเมื่อวานนี้นั่นล่ะ  มันมาป้วนเปี้ยนวนเวียนแล้วก็อ้อมแอ้มเล่าให้ฟังว่ามีคนมาขอเบอร์ที่แผง  ผมก็ฟังมันเล่ายิ้ม ๆ ฟังดูแล้วมันชอบพี่ตั้นก่อนด้วยซ้ำ  มันเห็นพี่ตั้นตั้งแต่เดินมาตามแม่พี่เค้าตอนรอคิว  แต่ก็ทำเฉย ๆ แอบมองอย่างเดียว  พอเค้าสนใจขึ้นมาก็ไม่รู้จะทำยังไง  เขินโหดใส่ซะงั้น  ไอ้ฟ่ง..ฟอร์มจัด!

“กวนตีน!  ดีที่พี่ตั้นเจอกูก่อนมึง  ถ้าเค้าเห็นมึงก่อนเค้าคงขอเบอร์มึงแทนที่จะมาขอกูแน่ ๆ  ไอ้ต๋อง”  อมยิ้มแซวมันจนมันเขิน  จับต้นหอมมาฟาดแขนผมไม่ยั้ง  ปากก็บ่นหงุงหงิง  ‘หยุดยิ้มแบบนี้นะ!’  โอ้ยยยย  เขินโหด555 

“ไอ้ฟ่งมึงเอาต้นหอมกำนี้ไปด้วย!  ไอ้สัตว์ฟาดซะขายไม่ได้เลย555”  ตะโกนตามหลังมันไปแล้วก็หยุดขำกับท่าทางน่ารัก ๆ ของมันไม่ได้  มันก็ฮา  ยังอุตส่าห์เดินกลับมาจับต้นหอมกำนั้นยัดรวมกับถุงต้มจับฉ่าย  ทำหน้างอใส่แล้วสะบัดหนีจนผมปลิว  น่าแกล้งจริง ๆ

 ส่ายหน้ายิ้ม ๆ แล้วนั่งลงหน้าแลปทอปที่ออนเฟสทิ้งไว้ต่อ  หยิบแว่นสายตามาสวมแล้วมองความเคลื่อนไหวในเฟสตัวเอง  ผมไม่ชอบเล่นเกมส์  มันเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์  ครอบครัวผมเป็นครอบครัวนักวิชาการ  ป๊าเป็นนักวิชาการเกษตร  แม่เป็นนักพัฒนาชุมชน  ผมเรียนบัญชี  ชอบ..ก็เลยเรียน  ผักที่วางขายอยู่นี่เป็นผลผลิตที่ป๊ากับผมทดลองปลูกหลังบ้าน  ปลูกมันทุกอย่าง  ลองปุ๋ยหมัก  ทำอีเอ็ม  ผักงามมากจนกินไม่ทัน  แม่ก็เลยวานลุงไช้เช่าแผงให้ผมมานั่งขายผักปลอดสารพิษ  ปิดเทอมไม่มีอะไรทำ  มาลองนั่งขายผักมันก็สนุกดี 

“..กูจะรู้จักได้ยังไง  หน้าตาเป็นไงวะ?  มึงถามแม่กูทีว่าจะเอาผักอะไรเพิ่มอีก  ..จะกวนส้นตีนอะไรกูตอนนี้ไอ้ต้าร์!  เออมาช่วยแม่กูทำครัวก่อนไอ้เหี้ยยยย  แค่นี้!”  เงยหน้ามองผู้ชายตัวสูง  ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางซอยหลังจากคุยโทรศัพท์เสียงดังล้งเล้ง  อมยิ้มกับการก้มหัวขอโทษที่เสียงดังรบกวนแม่ค้าในซอย  ไม่อยากจะบอก..คนในตลาดเค้าคุยกันเสียงดังกว่าพี่เยอะ555

เท้าคางมองคนตัวสูงที่เดินยิ้มเข้าไปถามหาผักกาดหอมที่ร้านป้า  มองมือหนาที่มีโพยซื้อของอยู่ในมือ  เสียงนุ่มไล่รายการตามโพย  ได้ของบ้างไม่ได้บ้าง  ใจเต้นตึกตักเมื่อคนตัวสูงเดินถามหาผักที่ขาดมาจนเกือบจะถึงร้านตัวเอง  เสียงทุ้มดังขึ้นถามร้านข้าง ๆ ว่า  ‘มีกะหล่ำปลีสีม่วงหรือเปล่าครับ?  ผมขาดแค่กะหล่ำปลีอย่างเดียวก็ครบแล้ว’  น้าเบญเจ้าของของแผงก้มหยิบกะหล่ำสีม่วงส่งให้  มองตามมือหนาที่รับของ  หยิบเงินส่งให้แล้วก็แอบถอนหายใจ  อีกนิดเดียวก็จะถึงร้านเราแล้วแท้ ๆ  เหลือบมองใบหน้าคมเข้มที่ยิ้มน้อย ๆ กับของในมือ  ขยำโพยกระดาษใส่กระเป๋ากางเกงแล้วหันหลังเดินไปทางปากซอย

“เฮ้ออออ”  นั่งคอตกแล้วพ่นลมไล่ความเซ็ง  น่าจะมีอีกสัก  4-5  รายการต่อท้ายในโพย  อย่างน้อยจะได้มาถามที่แผงนี้บ้าง  จับแว่นสายตาออกแล้วถอนหายใจทิ้ง   ชัทดาวน์แลปทอปด้วยความเซ็ง  ก้มเก็บไว้ใต้แผง  ยืดตัวขึ้นแล้วเงยหน้ามองลูกค้าสวมเสื้อสีขาวหน้าแผงยืนรอซื้อผัก..

“..มีหอมหัวใหญ่ไหมครับ?”  มองลูกค้าตัวสูงที่คิดว่าเดินออกไปด้วยอาการตาค้าง  แล้วรีบเก็บริมฝีปากล่างที่อ้าออกอย่างรวดเร็ว  ขืนมัวอึ้งเดี๋ยวลูกค้าตัวสูงจะเดินเลยแผงไปเสียจริง ๆ  ก้มมองแผงผักของตัวเอง ในหัวก็คิดไปด้วย  ‘ไหนว่าได้ของครบแล้วไง..หอมหัวใหญ่เหรอ?  โอ้ยยยย มันไม่มีอ่ะพี่ ~’  รู้แล้วว่าหอมหัวใหญ่น่ะ..มันไม่มี  รู้ทั้งรู้ก็ยังทำท่ามองหา  จะไปมีได้ยังไง  ที่บ้านผมไม่ได้ปลูกอ่ะ  เท่าที่เอามาวางมันเป็นผักที่ทดลองปลูกเองทั้งหมด  ไอ้ที่ปลูกยากหรือเกินความจำเป็นในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ปลูก  ไอ้ถึงกับจะต้องลงทุนซื้อผักอย่างอื่นมาวางขายด้วยก็เกินไป  อยากจะเสกหอมหัวใหญ่ขึ้นมามันก็ทำไม่ได้อ่ะ

“..ไม่มีครับ”  พี่ตัวสูงมองแผงผักของผมแล้วทำคิ้วขมวด  รู้หรอกว่าร้านผักมันก็น่าจะมีผักหลายอย่าง  พี่ตัวสูงมันอ่านใจผมออกหรือเปล่าไม่แน่ใจ  แต่ไอ้การถามหาผักที่ร้านผมแล้วไม่เลยแม้แต่อย่างเดียวมันก็น่า..อายอยู่ไม่น้อยสำหรับเจ้าของแผงผักอย่างผม 

“แล้ว..มีหน่อไม้ฝรั่งไหมครับ?..เห็ดหอมสดล่ะ?..แครอท?”  ไล่สายตาจ้องผักบนแผงที่ไม่มีตามรายการของพี่ตัวสูง  ส่ายหน้าตอบมันทุกรายการเลยเหมือนกัน  เงยสบตาคมแล้วก็นึกอาย  พี่เขาคงนึกด่าเหมือนกัน
‘ร้านขายผักอะไรวะ?..ไม่มีผักอะไรเลยสักอย่าง!’  นึกในใจตอบเองเสร็จสรรพ  ‘ก็สั่งผักที่มันมีในร้านสิ!..หน้าตาก็ดี  ไม่น่ากวนตีน!’  พี่ตัวสูงยืนมองผักในร้านผมแล้วเงียบ  แอบเงยหน้ามองก็เห็นว่าพี่เขาจ้องผมอยู่  ตาคมคู่นั้นยิ้มใส่ตาผมพอดี  ริมฝีปากบางเฉียบคลี่ยิ้มแซว  จมูกโด่งรับกับใบหน้าคมเข้ม  มองหน้าพี่ตัวสูงตอนนี้แล้ว  ให้ตายเหอะ..อายว่ะ

แก้มร้อนขึ้นมาไม่มีสาเหตุ  ความร้อนนั้นลามไปถึงใบหู  คอ  พุ่งลงไปที่แขนอย่างห้ามไม่ได้  ก้มหลบตาแล้วเสหยิบแว่นสายตามาสวมแก้เขิน  ยื่นมือไปหยิบขวดน้ำมาสเปรย์น้ำเปล่าที่ผักของตัวเอง  พี่ตัวสูงมันไม่ขยับไปไหน  ผมก็ไม่อยากถามว่า  ‘ร้านผมพอจะมีผักที่คุณใช้บ้างหรือเปล่า?’  ให้ได้อายไปมากกว่านี้ 

เชื่อไหมว่า..ผมฉีดน้ำใส่ผักจนน้ำมันท่วมผักชี  พี่ตัวสูงมันก็ไม่ไปไหนสักที  จะไล่..ก็นึกถึงหน้าไอ้ฟ่ง  เข้าใจเลยว่าทำไมมันไล่พี่ตั้นให้ไปให้พ้นจากร้านมัน..อายอย่างนี้นี่เอง

“..เหมามะเขือเทศหมดกองครับ”  ไม่รู้ว่าพี่ตัวสูงอยากได้มะเขือเทศไปทำอะไร  แต่คิดเข้าข้างตัวเองแล้ว..มันอาจจะแซวที่ตอนนี้ผมตัวแดงเพราะเขินมันจน..เหมือนมะเขือเทศกองโตนี่ก็ได้  หยิบถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาเก็บมะเขือเทศลูกโตลงถุงทีละลูก  กลัวมันช้ำน่ะครับ

มือหนาของพี่ตัวสูงยื่นออกมาช่วยผมหยิบมะเขือเทศลงถุง  ตาเผลอมองสำรวจมือหนา  ปลายนิ้วเรียวสวย  เล็บตัดสั้นเตียน  เสียงทุ้มบอกสรรพคุณของเจ้ามะเขือเทศสีแดงสวย  ผม..ไม่กล้าเงยหน้ามองหน้าคมของพี่เขา  ยังไงซะผมก็ยังไม่ลืมว่าความร้อนที่หน้าผมยังไม่จางลง  ผม..ยังอายอยู่

“..มะเขือเทศช่วยต้านความดันโลหิตสูง  บำรุงสายตา   เหงือก  ฟัน  ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว  แล้วที่สำคัญ..”  มือหนาจับมะเขือเทศลูกสุดท้ายที่ผมกำลังจะหยิบ  ชะงักมือแล้วปล่อยให้พี่ตัวสูงส่งมะเขือเทศลงในถุง  ประโยคที่เอ่ยค้างไว้ทำให้ผมตัดใจมองสบตาคม..ทั้งที่หน้าก็ยังร้อนไม่หาย

“มีประโยชน์กับ..หัวใจ”  คำว่า  ‘หัวใจ’  ดังสะท้อนก้องในหูไปมา  ดวงตาคมกับหน้าหล่อเข้มมองผมนิ่ง  หน้าที่ร้อนอยู่แล้วทวีความร้อนจนต้องรีบยื่นถุงมะเขือเทศให้พี่ตัวสูง  กลัวเหมือนกันว่าความร้อนจากตัวเองจะทำให้พี่เขาร้อนไปด้วย  ขยับแว่นแล้วรีบบอกคนที่กำลังล้วงตังค์ตรงหน้า

“ไม่ต้องหรอก..ที่บ้านมีเยอะ  เอาไปเหอะ”  ไม่กล้าสบตา  ไม่กล้ามองหน้า  พูดแล้วก็หยิบถุงพลาสติกมาวางที่เดิม  จับผักชี  ต้นหอม  โหระพา  สะระแหน่มาเรียงใหม่  วางทับกันไปมาจนดูไม่น่าซื้อ  ไม่สนว่าพี่ตัวสูงจะมองด้วยสายตาแบบไหน  ช่างมัน..ไม่ยืนบิดเหมือนสาว ๆ ก็ดีถมไปละ!

พี่ตัวสูงหิ้วถุงมะเขือเทศสีแดงสดเดินกลับไปทางปากซอย  เงยหน้ามองส่งแผ่นหลังกว้าง  ใจหายที่พี่ตัวสูงไม่มีทีท่าจะคลิ๊กกันจนขอเบอร์เหมือนที่ไอ้ฟ่งถูกพี่ตั้นจีบ  ถอนหายใจยาวแล้วก้มหน้าก้มตาเก็บร้าน  ไม่มีกะใจจะขายต่อแล้วครับ  กลับถึงบ้านก็นอนเลย  ตื่นป๊าก็ไล่ให้ไปตัดกะหล่ำปลีกับผักบุ้งจีนหลังบ้าน  แม่ขับไปส่งที่ตลาดแล้วไอ้ฟ่งก็มาช่วยจัดผัก  ถอนหายใจบ่อยจนมันถาม  พอจะเล่ามันก็ระริกระรี้รับโทรศัพท์  หันมาบอกหน้าตาสดใสว่าพี่ตั้นจะมาช่วยขายหมู  ต้องกลับร้านแล้ว  ยิ้มเซ็งส่งให้แล้วก้มหน้าก้มตาจัดผักต่อไป 

ขมวดคิ้วมองสีแดงเข้มของกุหลาบที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ตัดกับสีขาวของผักกาดขาวที่กำลังเรียงอยู่  มองไล่ไปถึงมือหนาที่คุ้นตา..ไม่สามารถมองเลยไปจนถึงหน้าคมของพี่ตัวสูงได้  เสียงทุ้มบอกผมเบา..

“ผมชื่อ ‘หนุ่ม’  ชอบกินผัก  ชอบดอกไม้  แล้วก็..ชอบคนแก้มแดง ๆ ครับ”  เบือนหน้าไปมองกองคะน้า  กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น  หน้าร้อนผ่าวลามไปถึงแขน  ‘พูดอะไรวะ?..แล้วคนแก้มแดงนี่มัน..อะไรวะ?’  ทำหน้ามึนแล้วยื่นมือไปรับดอกไม้มากอด  ก้มมองดอกไม้ในอ้อมกอดแล้วก็อดเขินไม่ได้  กัดเนื้อในริมฝีปากล่างแน่น  เงยหน้าขอบคุณพี่หนุ่มตัวสูงแล้วก็ได้แต่ยืนเขิน..

ใครจะไปรู้ว่าที่ไม่ขอเบอร์เพราะจีบไม่เก่ง  แล้วใครจะไปรู้ว่าคนตัวสูงจะมาช่วยขายผักทุกวันจนเปิดเทอม  แล้วก็ต้องมาพร้อมขนม  ดอกไม้ที่เป็นสีแดงทุกครั้งด้วย  ก็พอจะรู้ว่าที่ชอบสีแดงน่ะไม่ใช่เพราะเป็น นปช.  แต่เพราะชอบที่เห็นผมเขินจนสีผิวเหมือนของที่ตัวเองเอามาฝากต่างหาก  ทั้งที่รู้ก็ทำหน้าเฉย ๆ  ทำเหมือนไม่รู้  ทั้งที่รู้ก็ยังทำตัวแดงหน้าแดงได้ทุกครั้งที่คนคนนี้มองมา  เขินน่ะ..คุณไม่เข้าใจหรอก555   

แล้วใครจะไปรู้..ว่าผมจะเป็นคนขี้อายที่มีผู้ชายตัวสูงอยู่ข้าง ๆ ไปจนแก่ตาย 

ผมเป็นคุณหนูมะเขือเทศของพี่หนุ่มครับ  แล้วคุณล่ะ?..เป็นคุณหนูมะเขือเทศของใครหรือยัง?







ขอให้เจอรักแท้ในเร็ววันนะครับ..


END.

..................................

พยายามจะมาวันเว้นวันให้ได้ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
 :pig4: :กอด1: :กอด1:

ปูลู. ยังรอนักอ่านใจดี ส่งนิยายตัวเต็มมาให้นะคะ  มั๊วะๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2015 12:56:53 โดย jira »

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
เสียดายจังไม่ได้เซฟเก็บไว้ชอบทุกคู่เลยชอบตอนพิเศษด้วย

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เสียดายจังไม่ได้เซฟเก็บไว้ชอบทุกคู่เลยชอบตอนพิเศษด้วย

จิก็เสียดายค่ะ  มาอ่านเท่าที่มีแล้วเก็บเป็นความทรงจำกันเนอะ
กอดหมับหนุบหนับหนุงหนิงมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งจุ้งจิ้งงุ้งงิ้ง˷

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
หายไปนานเลยจิคิดถึง
เรื่องนี้ไม่ได้เซฟเก็บไว้อ่ะจิ
เสียดายเนอะ แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวจิ คงแต่งใหม่มาให้อ่านใช่มะ (กดดัน555+)

ออฟไลน์ makampom_yun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
 :-[ :-[ :-[

งื้ออออออ ชอบทุกคู่เลยค่ะ
น่ารักมากกกกกกก   ฟินทุกคู่เลยยยยย  ^^

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ไม่ได้ติดตามตั้งแต่แรก เห็นว่าน่าจะน่ารักดี ก็เลยเข้ามาอ่าน
น่ารักมากๆ บอกเลย อ่านไปก็บิดม้วนไปประหนึ่งว่าเป็นตัวเอง :-[
อ่านแล้วอยากไปตลาดสดทันใด จะรอติดตามคู่อื่นๆอีกนะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
Forget-Me-Not   สื่อรักภาษาดอกไม้


“ขอดอกสีแดงนั่นกำนึงครับ”  พยักหน้าแล้วเดินไปแหวกกอดอกมัมสีแดง  เพ่งมองกลีบดอกสมบูรณ์ที่สุดออกมาห่อกระดาษหนังสือพิมพ์  ส่งให้ลูกค้าตัวสูงที่ช่วงนี้มาอุดหนุนดอกไม้ที่ร้านบ่อย ๆ  ไม่ลืมที่จะบอกความหมายของดอกไม้ให้ลูกค้ารู้..เป็นเทคนิคการขายน่ะ

“ดอกมัมสีแดง  ใช้แทนคำบอกรักได้ดี..  100  ครับ”  ผู้ชายตัวสูงยิ้มกว้างจนผมเผลอยิ้มตาม  ผมมีความสุขที่เห็นลูกค้ามีความสุขเสมอ  รับเงินแล้วเดินกลับมาเปิดลิ้นชักเก็บเงินและส่งมันลงไปรวมกับธนบัตรกองเบ้อเริ่มในนั้น  ผมก็เหมือนพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ของตลาดนี้  ปิดเทอมก็ต้องมาช่วยที่ร้าน  เดี๋ยวนี้ผู้ชายขายดอกไม้มันไม่แปลกแล้ว  กลับดูมีเสน่ห์ด้วยซ้ำ  นับรวมผมไปอยู่ในนั้นได้เลย

“ดอกดาวเรือง  2  กำ..พวงมาลัยข้อมือด้วยไอ้หนู”  หันไปมองลูกค้าที่ยืนเลือกดอกดาวเรืองหน้าร้าน  เดินมาที่ตู้แช่แล้วเปิดออก  หยิบพวงมาลัยข้อมือที่ใช้ดอกพุดร้อยแทนมะลิออกมา

“ตอนนี้มะลิแพงครับยาย  ร้านผมเลยใช้ดอกพุดมาร้อยแทน..”  พูดไม่ทันจบยายก็พยักหน้า  ‘เหมือนกันนั่นล่ะ..เอามาพวงหนึ่งลูก’  เดินไปพร้อมพวงมาลัยดอกพุด  รับดอกดาวเรืองที่ยายเลือกแล้วมาใส่ถุงรวมกัน 

“..ผมอนุโมทนาบุญกับยายด้วยครับ”  ไม่รับเงินเพราะอยากทำบุญกับยายด้วย  ยายยิ้มอ่อนโยนแล้วจับมือผมแน่น  มือข้างนั้นเลื่อนมาลูบหัวผมเบา ๆ

“..เด็กสมัยนี้ไว้ผมยังกับผู้หญิง”  ยิ้มส่งยายแล้วยกมือขึ้นลูบผมที่มัดรวบไว้ด้านหลัง  ผมเรียนวิจิตรศิลป์  ไม่แปลกหรอกยาย  ยิ้มให้ยายที่หิ้วถุงดอกไม้กับพวงมาลัยรวมกับถุงพวกขนม  กับข้าวถุงด้วยความสุข  ผมก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ไม่ค่อยถูกโฉลกกับวัด  ก็คอยร่วมบุญแปะเค้าไปตลอดเวลาล่ะผม  ยายเดินไปจนแผ่นหลังงุ้มพ้นจากซอยถึงมานึกขึ้นได้  ‘ดอกดาวเรือง  รุ่งเรืองก้าวหน้า  และอีกความหมายหนึ่งครับยาย..ฉันตกเป็นทาสของคุณแล้ว’  อืมมม  ออกจะติดเรทเกินไปนิดสำหรับคุณยาย
 
“ซื้อดอกกล้วยไม้..”  เหลือบมองปลายเท้าลูกค้าที่โผล่มาจากหน้าร้าน  เดินออกไปตาก็มองลอดโครงแขวนพวงมาลัยที่หมุนเพราะฝีมือลูกค้าที่อยากได้ดอกกล้วยไม้  ดอกจำปีที่ติดปลายพวงมาลัยปลิวบังหน้าลูกค้า  เห็นแต่ผมหนาสีน้ำตาลเข้มเท่านั้น

“พี่โต้งปุ๋ยมารับกุหลาบ  ขอด่วนพี่..พ่อรอ!”  หันไปตามเสียงแสบแก้วหูของลูกพี่ลูกน้อง  กำลังจะบอกให้มันรอก่อน  ลูกค้ากล้วยไม้ก็ชิงบอกให้ผมจัดของให้ลูกพี่ลูกน้องก่อนเลย  ‘เชิญก่อนเลยครับ..ผมดูดอกไม้รอได้’  ไอ้ปุ๋ยยิ้มแฉ่งยกมือไหว้ลูกค้ากล้วยไม้ปลก ๆ สาบานได้ว่ามันคือผู้หญิง

“อย่างละ  100  ดอกหรือเอาแค่ครึ่ง?”  ถามมันไปจัดดอกไม้ไป  มันไม่ตอบผมก็จัดให้อย่างละ  50  ดอกเหมือนเดิม  กางบัญชีแล้วจดรายละเอียดดอกไม้ของไอ้ปุ๋ย  เหลือบตาดูไอ้ปุ๋ยที่มาสะกิดแขนอยู่ข้าง ๆ เงยหน้ามองไอ้ปุ๋ยที่มองไปหน้าร้าน

“พี่โต้ง..ลูกค้าพี่หน้าหล่อเกาหลีสุด ๆ อ่ะ  จีบได้ป่าววะพี่?  อุ้ย!  เค้ามองปุ๋ยด้วยพี่..”มองหน้าไอ้ปุ๋ยสลับกับโครงแขวนพวงมาลัย  ยิ้ม ๆ ให้กับความแรงของผู้หญิงแล้วพยักหน้าส่ง ๆ ไอ้ปุ๋ยยิ้มแก้มปริแล้ววิ่งออกไปหน้าร้าน  ก้มหน้าลงบัญชีเสร็จก็เก็บไว้ที่เดิม  หอบกุหลาบที่มันสั่งออกไปส่งหน้าซอย  ไม่ได้มองว่ามันยังจีบลูกค้ากล้วยไม้อยู่หรือเปล่า?

“อ้าวโต้ง..ไอ้ปุ๋ยล่ะ?”  ยกมือไหว้ลุงแล้วพยักพเยิดไปทางแผงตัวเอง  ช่วยคนงานยกดอกไม้ขึ้นรถเสร็จไอ้ปุ๋ยก็เดินหน้ามุ่ยออกมา  เลิกคิ้วมองหน้างอแล้วเดินเข้าไปลูบหัวเบา ๆ ‘ปุ๋ยจะปลูกไร่แห้วแล้วว่ะพี่โต้ง..’  ยิ้มแล้วโยกหัวมันไปมา  ‘อยากมีไปทำไม?..อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว’  มันถอนหายใจแล้วเดินหนีมือผมไปขึ้นรถ  โบกมือส่งแล้วรีบเดินกลับร้าน  นึกขึ้นมาได้ว่าไม่มีใครอยู่เฝ้าร้านเลยสักคน  ถ้าเงินหายขึ้นมาจะทำยังไง?!

สาวเท้ากลับร้านให้เร็วที่สุด  ตาก็เพ่งมองที่แผงของตัวเอง  นึกโมโหร้านอื่นที่ชอบตั้งถังดอกไม้ยื่นออกมานอกร้าน  เกะกะไม่พอ  ยังบังหน้าร้านคนอื่นด้วย!  พ่นลมหายใจไล่ความหงุดหงิดแล้วเดินผ่านลูกค้าที่ยังยืนดูดอกไม้ที่เดิม  ล้วงกุญแจออกมาไขดูเงินที่อยู่ข้างในลิ้นชัก  ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อจำนวนเงินยังคงกองเบ้อเริ่มเหมือนเดิม  เย็นนี้ต้องแวะเอาไปฝากแบงค์ซะบ้าง  แบ่งไว้ทอนแค่  1,000  เดียวก็พอ  เดินออกมาหาลูกค้ากล้วยไม้  หยุดอยู่ด้านหลังลูกค้าที่เอาแต่มองดอกไม้ในถังแล้วเอ่ยปากถาม

“อยากได้กล้วยไม้แบบไหนครับ?”  ลูกค้าที่ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่สะดุ้งกับเสียงผม  หันหน้ามาบอกเสียงตื่น  ‘คัทลียาครับ’  หน้าเกาหลีที่ไอ้ปุ๋ยบอกกระแทกตาผมอย่างจัง  ตาชั้นเดียวแต่กลับกลมเหมือนดอกบานไม่รู้โรย  แก้มมีเลือดฝาด  สีเหมือน..ดอกโบตั๋น  ผิวหน้าเนียนละเอียดเหมือนกลีบกุหลาบสีชมพูอ่อนที่อยู่หลังร้าน  ผมสีน้ำตาลเข้มเหมือนดอกไม้แห้งที่วางบนโต๊ะ  เผลอยิ้มให้ความงามจากธรรมชาติตรงหน้าจนลูกค้ากล้วยไม้เดินหนีไปจ้องดอกไม้ในตู้แช่เย็น

“ขอ..ทิวลิปสีแดงด้วยครับ”  ยิ้มน้อย ๆ กับการจ้องดอกไม้อย่างเอาเป็นเอาตายของลูกค้า  เบือนหน้าไปยิ้มกว้างกับกระถางยิปโซ  ไอ้ปุ๋ย..เขาไม่สน  งั้นอย่างพี่ก็มีลุ้นว่ะ   ยกคัทลียาที่โชว์หน้าร้านมาใส่ถุง  เดินเข้าไปยืนข้าง ๆ หนุ่มเกาหลีแล้วขอเปิดตู้แช่เอาทิวลิปออกมา  ส่งยิ้มให้ลูกค้าเกาหลีที่ยืนเกาคอแก้เขินกับสายตาจีบซึ่ง ๆ หน้าของผม  เดินเข้าไปในร้านแล้วเอากระถางดอกไม้สีน้ำเงินช่อสวยติดมือออกมาด้วย..ซ่อนไว้ข้างหลัง  ยื่นถุงดอกไม้ที่ลูกค้าซื้อ  ไม่ลืมบอกความหมายของมัน..

“คัทลียา เสน่ห์อย่างผู้ใหญ่..  ทิวลิปสีแดง  ใช้แทนคำสารภาพรัก ..ทั้งหมด  250  ครับ”  ลูกค้ากล้วยไม้มองตาผมเคลิ้ม  ฟังความหมายของดอกไม้ที่อยู่ในถุงเหมือนคนละเมอ  สบตาสีดำกลมเหมือนบานไม่รู้โรย  ไล่สายตาลงมามองโบตั๋นที่ดูสีเข้มขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย   อยากยื่นมือออกไปลองสัมผัสผิวเนียนดูสักครั้ง  อยากรู้ว่ากลีบกุหลาบสีชมพูจะเนียนลื่นมือสู้ผิวคนตรงหน้าได้หรือเปล่า? 

ไล่สายตามองไปตามลำคอระหง  ถ้าซุกจมูกลงไปจะหอมแค่ไหนนะ?  ลูกค้าหน้าหล่อกระพริบตาเรียกสติแล้วก้มหน้าหลบตาผม  ล้วงกระเป๋าออกมาจ่ายเงินค่าดอกไม้  รับเงินจำนวน  300  แล้วทวนจำนวนเงินเต็มที่รับมาเมื่อครู่

“รับมา  300  ..  ทอน  50  บาทครับ”  มือนุ่มยื่นรับเงินทอน  ผมดึงเงินทอนหลบ   เจ้าของคัทลียาเงยหน้ามามองผมงง ๆ ยิ้มบางส่งให้แล้วเอากระถางดอกไม้ที่ซ่อนไว้ออกมายื่นตรงหน้า   เสียบแบงค์  50  ไว้ที่ช่อดอกนั้น

“Forget Me Not  ฟอเก็ตมีน๊อต   ศรัทธาในรัก ด้วยความหวัง ความทรงจำ..”  เอ่ยความหมายให้ฟังแล้วมองบานไม่รู้โรยไม่กระพริบ  เจ้าของคัทลียาเสตาหลบมามองดอกไม้สีน้ำเงิน  เงยหน้ามองแล้วถามผม

“ให้เหรอ?..”  พยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง  เจ้าของคัทลียายิ้มบางตอบแล้วยื่นมืออกมาอุ้มกระถางฟอเก็ทมีน๊อต   ช่อดอกไม้สีน้ำเงินตัดกับความขาวอมชมพูของหนุ่มเกาหลี  เป็นคนที่เหมาะกับดอกไม้ทุกประเภทจริง ๆ   ยื่นหน้าไปกระซิบความหมายสุดท้ายของช่อดอกสีน้ำเงินใกล้หูนิ่ม

“มันแปลได้อีกอย่างว่า.. รักแท้”  หนุ่มเกาหลีย่นคอหลบแล้วเบี่ยงตัวหนีออกมายืนเกือบจะนอกร้าน  ยืนหันรีหันขวางแล้วก้มหัวขอบคุณ  เจ้าของคัทลียาส่งยิ้มอาย ๆ มาให้ก่อนจะเดินกึ่งวิ่งออกไปจากซอย  ยิ้มให้แล้วกลับเข้ามานั่งมองดอกไม้ในร้าน  กลิ่นหอมของดอกไม้ที่อยู่รอบตัวมันหอมอบอวล  ความงดงามของมันเปล่งประกายจนผมต้องนั่งลงกับทางเท้าหน้าร้าน 

วันนี้..ผมพ่ายแพ้กับความงามของมันอย่างหมดรูป 

ปิดร้านแล้วดิ่งกลับบ้าน  แวะเอาเงินเข้าบัญชี  อารมณ์ดีจนแม่แปลกใจ  หลับก็ฝันดี  ตื่นมาเปิดร้านก็ขายดี  อารมณ์ดีถึงจุดพีคเมื่อถึงบ่าย  ลูกค้าหน้าเกาหลีมายืนหล่อน่ารักที่ร้านพร้อมกระถางฟอเก็ตมีน๊อต    ถามว่าดอกไม้ที่ผมให้ไปจะเลี้ยงมันยังไง?  ใส่ปุ๋ยอะไร?

ยิ้มบางกลบอาการใจเต้นตึกตักแล้วบอกให้หมั่นรดน้ำ  ปุ๋ยไม่ต้องใส่บ่อย  เก็บไว้ที่ร้านดีกว่าเพราะอากาศเหมาะกับการเจริญเติบโตของมัน  ไม่ลืมบอกเจ้าของฟอเก็ตมีน๊อต 

“คุณต้องมารดน้ำให้มันทุกวันนะ..เจ้านี่น่ะ  มันขาดความอบอุ่น”  มองเจ้าของกระถางที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา   ผมกอดอกมองโบตั๋นด้วยความสุข

ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของฟอเก็ตมีน๊อต  จะมีแก้มที่หอมยิ่งกว่ากระดังงา  ผมหลงใหลความงามและความหอมนั้นจนโงหัวไม่ขึ้น

หนุ่มเกาหลีเหมาะกับดอกไม้ทุกอย่างที่อยู่บนโลกนี้  มีดวงตาที่ดึงดูดจนไม่สามารถมองใครได้อีก..ชั่วชีวิต

ดอกไม้นำความสุขมาให้มนุษย์  มีความหมายดี ๆ ที่ทำให้ต้องทึ่ง  สร้างความรักให้คนทั้งโลก  ดอกไม้ที่เชื่อมผมกับเขาไว้  ดอกฟอเก็ตมีน๊อต  มีความหมายหลายอย่าง  แต่สำหรับผมกับผู้ชายคนนี้  มีความหมายเดียวครับ.. 









..รักแท้..


END.

....................

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่สู่ตลาดสดแห่งรักค่ะ 
และที่สำคัญมาก  คุณจะไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ได้แบบวันนี้ถ้าไม่มีนักอ่านน่ารัก ๆ ที่คอยช่วยเหลือจิค่ะ
ขอบคุณอ้อม (rellachulla) ปอร์เช่(ZuuZuu)  น้องนุ่น(N.T.❁)  ฝน(Oo๐FosfoggY๐oO)  คุณนุ่น(anajulia)  จิกิจัง(jiki) ที่วิ่งถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆตามนิยายเรื่องนี้ให้
ขอบคุณพี่ฝน(love2y)ที่ส่งเรื่องนี้มาให้  14  ตอน  พร้อมตอนพิเศษ (กอดแน่น ๆ หอมเน้น ๆ 1 ที)
ขอบคุณคุณ @rnon ที่ส่งเรื่องนี้มาให้  10  ตอน พร้อมตอนพิเศษ (กระพุ่มมือไหว้สวยงาม..ดีใจที่ชอบนิยายเรื่องนี้ค่ะ)
และคนสุดท้ายที่จิอยากจะกระชากเข้ามาจูบแรง ๆ  คุณโอม (ΩPRESTOΩ ) ส่งนิยาย  24  ตอนพร้อมตอนพิเศษ  แถมแฟนฟิค..สุดยอดดดดดดด  โดดล็อคคอมาระดมจูบ  ขอบคุณค้าบบบบบบบบ
แต่จิเป็นคนโลภค่ะ  นักอ่านท่านไหนมี 5 ตอนท้าย ๆ บ้างคะ  ส่งให้จิด้วยนะคะ  เราจะได้อ่านไปด้วยกันค่ะ
ด้วยรักและขอบคุณในความเมตตาค่ะ
  :กอด1: :กอด1: :pig4:
ป๋อหล๋อ. เจอกันวันจันทร์นะคะ  มั๊วะๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2015 15:25:03 โดย jira »

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
หายไปนานเลยจิคิดถึง
เรื่องนี้ไม่ได้เซฟเก็บไว้อ่ะจิ
เสียดายเนอะ แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวจิ คงแต่งใหม่มาให้อ่านใช่มะ (กดดัน555+)

กอดดดดดดดดเมย์  คิดถึงงงงงง
เขายุ่งมากค่ะเลยไม่ค่อยได้เข้ามาวิ่งเล่นในเล้า  ตอนนี้งานเบาลงก็เลยมาได้บ่อยหน่อย  ไม่ได้เก็บก็ไม่เป็นไรค่ะ  อ่านเท่าที่มีคนใจดีเก็บไว้ให้เราเนอะ  กอดๆๆๆๆๆ
(นั่นหมายถึงเขาไม่นั่งจิ้นแล้วค่ะ  จำพล็อตไม่ได้  มืดมนมากกก)

ออฟไลน์ makampom_yun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
 :-[ :-[ :-[

ตามมาฟินที่ตลาดค่ะ ของจองพื้นที่ด้านหน้าด้วยอีกคน
ฟินมากกกก เขินมากกกกกก สงสัยต้องไปตลาดบ่อยๆ
เผื่อจะเจอเนื้อคู่กะเขาม้างงงงง อิจฉาตาร้อนสุด

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
งั้นเราก็มาตามอ่านกันใหม่ดีกว่าเนอะ อิอิ
น่ารักมากมาย

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
เรื่องน่ารักมากๆๆ  :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
คุณชายขนมหวาน


ผมนั่งขัดสมาธิอยู่บนแผงขนมของแม่ในตลาด  มือข้างหนึ่งมีหนังสือนิยายระดับโลกภาค  6  วางไว้บนตัก  ตอนแรกก็ยังมีแรงเพ่งอ่านเพื่อความบันเทิงระหว่างการช่วยที่บ้านขายของ  แต่พอเห็นมนุษย์ที่จับจ่ายของในตลาดแล้ว..เวียนศีรษะขึ้นมาทันทีทันใด  มองผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาปวดตามึนหัว  ยิ่งไอร้อนแดดจากด้านนอกลามเข้ามาจนถึงแผงขนมหวานมากเท่าไหร่  ผมก็ยิ่งเบื่อโลกมากขึ้นเท่านั้น  อยากให้อากาศเย็นเหมือนเมื่อ  3  วันก่อน  เพราะอากาศแบบนี้ขนมที่มีส่วนผสมของกะทิมันเสียง่ายมาก 

ถอนหายใจกับความต้องการพื้นฐานของมนุษย์เรื่องอาหาร  มองเด็กสาวตาโตที่ยืนเลือกขนมหน้าร้านแล้วยิ่งอึ้ง  มันต้องกินเพื่ออยู่ไม่ใช่เหรอ?

“..เอานี่ด้วยค่ะ”  มองกองขนมกองพะเนินตรงหน้าน้องเขา  แล้วไหนจะนิ้วเรียวที่ชี้มาที่ตะโก้นี่อีก  มันไม่ใช่การกินละ..ยัดห่าเลยเหอะ!

“เอาไปทำบุญเหรอครับ?”  เงยหน้าสบตาโต  ยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยถามเผื่อว่าผมจะเข้าใจผิด  เดี๋ยวจะกลายเป็นใส่ร้ายหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ 

หน้ารูปไข่ส่ายหน้าตอบ  ยิ้มเอียงอายแล้วบอกเสียงมั่นใจ  ‘ปุ๋ยทานเองค่ะ..คุณชอบทำบุญเหรอคะ?  ใจดีจัง..’  ยิ้มรับคำชมนั้น  ผมใจดีจริงๆครับ  ชอบทำบุญด้วย  แต่คงจะทำทานให้ขนมน้องเขาฟรีไม่ไหวแน่..หมายถึงถ้าน้องเขาจะให้ผมใจดีทำบุญค่าขนมกองพะเนินตรงหน้าน่ะครับ

“ทั้งหมด  190  บาทครับ  อย่างอื่นแพคละ  10  บาท  ยกเว้นข้าวตังหมูหยอง  คิด  20  บาทครับ”  น้องตาโตยิ้มหวานให้แล้วยื่นแบงค์สีแดงให้ผม  2  ใบ  แต่ไม่ทันหยิบก็มีผู้ชายผมยาวดึงเงินในมือน้องตาโตหลบมือผมที่กำลังจะรับ 

“พี่จ่ายให้..เลิกงอนได้แล้วไอ้ปุ๋ย”  น้องตาโตทำหน้างอใส่ผู้ชายคนนั้น  ..แฟนกัน?

“ไม่ต้องทอนครับ”  ผู้ชายผมยาวคนนั้นวางเงินไว้แล้วรวบถุงขนมไปถือเอง  มือใหญ่ลูบผมน้องตาโตเบา ๆ  ‘..เนสต์เขาไม่รู้เรื่องด้วย  อย่าทำให้เขาลำบากใจสิปุ๋ย..ไม่ดีใจรึไงที่พี่ชายมีแฟนหล่อ’  อ้าว..นึกว่าเป็นแฟนกันซะอีก  งอนกันเรื่องพี่ชายมีแฟนหรอกเหรอ?  อิจฉาคนมีพี่น้องจัง  ผมลูกคนเดียวครับ  อยากมีพี่ชายบ้างเหมือนกันแฮะ  เบือนหน้ามาจัดขนมบนแผงให้สวย  ไม่สนใจ  2 พี่น้องหน้าแผงว่าจะง้อกันต่อไปยังไง..

“คุณคะ  โอ้ยยยย  เจ็บนะ..อยากมีซัมติงกับซัมวันแถวนี้บ้างป๊ะ?”  สะดุ้งเพราะน้องตาโตชะโงกหน้ามาซะชิด  ตกใจที่จู่ ๆ ก็โผล่มาน่ะ..เลยผลักหน้าน้องซะหงายหลัง

“ผมขอโทษษษษ  ถามว่าอะไรนะครับ”  ลงจากแผงแล้วรีบไปจับแขนน้องตาโตที่ปิดหน้าปิดตา  ใช้  2  มือปิดจมูกไว้  ค่อย ๆ ช้อนตามองผม 

“..เป็นแฟนกันนะ  ชอบอ่ะ”  ปล่อยมือจากแขนน้องตาโตทันทีที่ฟังประโยคนั้นจบ  หน้าชากับการถูกจีบ  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินกลับเข้าแผง  ขยับตัวนั่งท่าเดิม  หยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้มากางอ่านต่อเหมือนเดิม  ทิ้งให้เสียงตื้อของน้องตาโตมีความสำคัญเท่าเสียงผึ้งที่บินมาตอมของหวาน  พอผมไม่สนใจ  น้องตาโตก็เดินคอตกกลับไปทางปากซอย  เหลือบมองแล้วถอนหายใจยาว  ทำไมมันจีบกันง่ายฉิบหายเลยวะ?!

“เป็นอะไรเอก?”  หันมามองเสียงคุ้นเคยแล้วยิ้มกว้าง  ยกมือไหว้พี่ฟ่งกับพี่ตั้น  พี่ฟ่งเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนผมครับ  เรียนเก่ง  เล่นกีฬาก็เก่ง  ถ้าจะให้มีพี่ชาย..ผมก็อยากได้แบบนี้ล่ะครับ  ส่ายหน้าตอบแล้วยื่นถุงพลาสติกให้พี่ตั้น  พี่ฟ่งชวนผมคุย  มือก็หยิบขนมส่งให้พี่ตั้นเรียงใส่ถุง

“วุ้นบีทรูทสีแดงแจ๋ของพี่หนุ่มที่สั่งทำไว้ล่ะ?  หยิบมาด้วยเลย  เดี๋ยวพี่เอาไปให้เหยื่อพี่หนุ่มเอง”  พี่หนุ่มแฟนพี่ต๋องสั่งไว้เมื่อวานครับ  ดีเหมือนกัน  ผมจะได้ไม่ต้องไปเอง 

หยิบวุ้นที่แยกไว้มาใส่ถุงคนละสีแล้วยื่นให้พี่ฟ่ง  พี่ฟ่งปรายตาไปทางพี่ตั้น  ผมเลยยิ้ม ๆ แล้วส่งถุงให้พี่ตั้นถือ  พี่ตั้นก็ไม่ว่าอะไร  เอาแต่ยิ้มแล้วมองพี่ฟ่งอย่างเดียว  พี่ฟ่งจ่ายตังค์เสร็จก็ยื่นกระเป๋าตังค์ให้พี่ตั้นถือด้วย  พี่ตั้นยิ้มแล้วเอื้อมมือไปสะกิดไหล่พี่ฟ่ง  พอพี่ฟ่งหันหน้าไปทางที่ถูกสะกิดพี่ตั้นก็รีบชี้นิ้วรอ  พี่ฟ่งหันมาก็เจอนิ้วพี่ตั้นจิ้มแก้มพอดี  ผมขำก๊ากเพราะพี่ตั้นร้อง ‘อุ้ย!..นิ้มนิ่ม’  พี่ฟ่งทำแก้มชมพูใส่แล้วเตะหน้าแข้งพี่ตั้นเต็มข้อ  พี่ตั้นหัวเราะแล้ววิ่งหนีไปทางปากซอย  พี่ฟ่งหันมาชี้หน้าคาดโทษผม

“หยุดหัวเราะแบบนี้นะทองเอก!”  พอเห็นว่ายังไงผมก็ไม่หยุดหัวเราะแน่พี่ฟ่งก็ทำปากเชิดเดินตามพี่ตั้นไป  เล่นกันน่ารักจัง555+  นั่งขำส่งพี่ตั้นกับพี่ฟ่งแล้วหันหน้ามาขายขนมต่อ  ยิ้มค้างขายขนมให้คุณป้าแม่บ้านทหารบก  แกใส่เสื้อคลุมลายทหาร  ผมเลยยัดเยียดให้แกเป็นแม่บ้านทหารซะเลย555

“30  ครับ”  รับเงินมาใส่กระป๋องแล้วหยิบหนังสือเจ้ากรรมนายเวรที่ยิ่งอ่านยิ่งระทึกมาอ่านต่อ  นั่งขายสลับอ่านหนังสือจนตลาดใกล้วายเลยเริ่มเก็บของตามร้านอื่นบ้าง

“มีขนมเทียนแก้วไหมครับ?”  เงยหน้าจากกองขนมที่กำลังก้มเก็บ  ขมวดคิ้วกับชื่อขนมไทยที่หากินยาก  มันทำยากตรงที่ต้องอบด้วยควันเทียน  แล้วยังต้องใช้น้ำลอยดอกมะลินวดแป้งแทนน้ำธรรมดา  เวลากินมันถึงจะหอมกลิ่นควันเทียนกับมะลิอยู่ในเนื้อขนม  ผมส่ายหน้าตอบลูกค้าที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด  ทำไมต้องทำหน้าย่นขนาดนั้นนะ?  มันทำให้หน้าตาดูไม่ดีนะพี่ลูกค้า  หันไปมองร้านข้าง ๆ ที่เขากำลังเก็บของใส่รถกลับบ้าน  ถามแทนให้ด้วยความหวังดี

“อาพิมพ์มีขนมเทียนแก้วไหมครับ?”  เจ้าของแผงข้าง ๆ เงยหน้ามายิ้มแล้วส่ายหน้าเป็นคำตอบให้ผมรู้แจ้ง  หันไปมองหน้าลูกค้าที่แสดงความสิ้นหวัง ท้อแท้เหมือนถูกน้ำป่าเข้าท่วม   ถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์แม่

“แม่ทำขนมเทียนแก้วให้หน่อย..”  ยกมือปิดโทรศัพท์แล้วถามลูกค้าว่าจะสั่งเท่าไหร่  พรุ่งนี้เช้ามารับของได้เลย  ลูกค้าหน้านิ่ว  ม่านตาขยาย  ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ  ลักยิ้มบุ๋มที่แก้มขวาส่งให้ลูกค้าหน้านิ่วดูหล่อขึ้นฉับพลัน  น้ำป่าไหลบ่าเข้าทำลายความธรรมดาของลูกค้าคนนี้จนราบเรียบ 

พี่หล่อมากครับ!

“..30  ห่อครับแม่  พรุ่งนี้เช้าลูกค้าจะมาเอาขนมที่ร้านเอง  ครับ..เก็บร้านอยู่ครับ  หวัดดีครับ”  วางหูแล้วหันมามองหน้าลูกค้า  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสดใส  ริมฝีปากยิ้มแย้มเอ่ยขอบคุณผม  หนวดเขียวครึ้มตัดกับหน้าขาว  นึกถึงคางตัวเองแล้วอิจฉาพี่ลูกค้าเหลือเกิน  แมนโคตร!

“ผมมารับขนมได้กี่โมงครับ?”  ยิ้มมารยาทกลบเกลื่อนความคิดขี้อิจฉาแล้วบอกลูกค้าให้มารับได้ตั้งแต่ตี  3  เป็นต้นไป  ปกติแม่จะมานั่งขายตอนเปิดร้านครับ  ผมรับหน้าที่ขายตั้งแต่บ่ายไปแล้ว  พรุ่งนี้ผมจะเปลี่ยนเวลาครับ  เข้ากะเช้าบ้างมั่งดีกว่า555

“พรุ่งนี้ผมมารับขนมนะครับ”  พยักหน้าแล้วยิ้มตอบลูกค้าหน้าคมเข้มแมนโคตร  ตาสวย  จมูกโด่ง  แก้มบุ๋ม  หน้าโคตรคม..ต่างกับผมราวฟ้ากับเหว  ผมตาสีน้ำตาลเหมือนเขาแต่กลับกลมป๊อก  จมูกไม่โด่งเท่าเขาแต่ก็รับกับหน้าที่เล็กกว่าผู้ชายทั่วไป  ไม่มีลักยิ้มเหมือนเขาแต่มีเขี้ยวเล็ก ๆ ข้างขวา  ถ้าเขาหล่อแบบแมนโคตร  ผมก็เป็นประเภทหล่อน่ารักแบบคุณชายโคตรเลยเหมือนกัน!

“มีเบอร์ที่ร้านไหมครับ?  คุณยายผมตอนนี้ท่านไม่ค่อยสบาย  อยากทานขนมไทยสมัยก่อนมาก..เผื่อว่าผมอาจจะโทรถามเรื่องขนมอย่างอื่นน่ะครับ”  พยักหน้าเข้าใจและเห็นใจพี่ลูกค้ามาก  คุณยายผมท่านเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็ก  แต่ก็พอจะจำได้ว่าคุณยายชอบทำขนมอร่อย ๆ ให้กิน  มองหน้าหล่อที่ยิ้มโชว์แก้มบุ๋ม..พี่เขากตัญญูจัง

“02-......  มีคนรับตลอดเวลาครับ”  บอกเบอร์บ้านให้  แต่พี่ลูกค้าอยากได้เบอร์ผมเพราะเป็นคนที่อยู่ร้านตลอดเวลา  เลิกคิ้วแล้วเอียงคอคิดตาม..มันก็จริงนะ

“084-......”  พี่ลูกค้าเมมเบอร์เสร็จก็เงยหน้ามาถาม   ‘โทรได้ตลอดหรือเปล่าครับ?’  อืมมม  โทรได้ตลอดไหมเหรอ.. ถ้าผมคุยไปด้วยกินไปด้วยมันจะสุภาพเหรอ?  แล้วถ้าผมเข้าส้วมอยู่มันจะมีเสียงจ๋อมแจ๋มดังลอดออกไปให้ได้ยินรึเปล่านะ?  คิดในใจแล้วยิ้มบางส่งให้พี่แมนโคตร  จากบุคลิกภายนอกที่เหมือนผู้ดีมีอันจะกิน  ไม่เหมาะแน่ถ้าลูกค้าจะโทรมาตอนไหนก็ได้
 
“ผมไม่สะดวกช่วงเช้าครับ..ถ้าเลยเที่ยงไปแล้วคุยได้ตลอดครับ”  พี่ลูกค้ายิ้มกว้างแล้วเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง  แสดงน้ำใจช่วยผมเก็บขนม  แถมยังอาสาไปส่งผมที่บ้าน  ที่แม่บอกไม่ให้ไว้ใจใคร  คนเดี๋ยวนี้มันอันตราย..มันก็ไม่เสมอไปหรอกเนอะ

 “ขอบคุณครับ”  ยกมือไหว้พี่ลูกค้าที่มาส่งผมถึงบ้าน  แถมยังช่วยขนขนมไปเก็บหลังบ้านให้ด้วย  พ่อกับแม่ผมเห็นก็งง  พอพี่ลูกค้าบอกว่าเป็นคนที่สั่งขนมไว้ก็เข้าใจ  แม่ชวนพี่ลูกค้าเข้าบ้านแล้วถามว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร  ผมเห็นแม่กับพี่ลูกค้าคุยกันถูกคอก็เลยเดินขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า  ลงมาก็เห็นพี่ลูกค้ายืนคุยกับพ่อที่สนามหน้าบ้าน  เดินไปคุยด้วยแป๊บเดียวพี่ลูกค้าก็ขอตัวกลับ  พ่อกับผมเดินไปส่งที่รถแล้วยกมือไหว้ลา 

พอเช้าพี่เขาก็มารับขนมถึงบ้าน  มาตี  3  ครับ..มาทำห่าอะไรแต่เช้า  ผมก็ไม่รู้จะตื่นมาทำห่าอะไรแต่เช้าเหมือนกัน  หึ..ตื่นตี  2  เหอะ  พี่ลูกค้ารับขนมแล้วก็ไปส่งผมจัดร้านก่อนแล้วค่อยเอาขนมไปให้ยาย  พี่ลูกค้าไปแป๊บเดียวก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนผมขายขนมหวาน  รู้ทีหลังว่าพี่ลูกค้ามีชื่อ  ชื่อพี่ ‘ติณณ์’   ..เป็นคนดีจัง

ใครจะไปรู้ว่าความติงต๊องของผมมันไม่สามารถกลบหน้าตากับบุคลิกคุณชายออกไปจากหัวของพี่เขาได้  กลายเป็น  ‘คุณชายขนมหวาน’  ของพี่ติณณ์ไปจนหัวหงอก 

ใครจะไปรู้ว่าที่พี่ติณณ์ขอเบอร์แล้วตามไปส่งถึงบ้าน..นั่นคือการจีบ 

แล้วก็..การเป็น  ‘ขนมหวาน’  ของใครสักคนมันก็ไม่ได้แย่เสมอไป  >///<




ลองดูสิครับ!


END.

…………………………


กอดกอดหอมหอม  ยินดีต้อนรับค่ะ
มานั่งอ่านไปยิ้มไปกันดีกว่าค่ะ  วันนี้คนแต่งเครียด  ยังไม่ทันหมดเดือน เงินในกระเป๋าก็เบาโหวง..เงินนี่ใช้ดีจังเล้ย˷
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ดีจังเอามาลงใหม่ เคยอ่านไปรอบนึงแล้วพอจะมาอ่านรอบสองหาไม่เจอ รอตอนต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
อ่านตอนนี้แล้วอยากไปหาขนมมากินเลย

คนแต่งอย่าเครียดจ่ะเงินไปแล้วเดี๋ยวก็กลับมาจ่ะ :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ว้าวๆๆ ได้กลับมาอ่านอีกรอบ
 :กอด1:

เค้ามีเก็บไว้ถึงตอน  11.2 (~ ̄▽ ̄)~จากวังหลวงอีเรีย  ถึงแผงขายปลาตลาดสด {ภูริช ❤ โกสินทร์} เองอ่ะ
ช่วงนั้นติดภารกิจด้วยประการทั้งปวง เลยไม่ได้เข้าเล้าพักใหญ่ๆ
คราวนี้จะตามอ่านให้ครบเลย

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
น้องเอกโดนจีบยังไม่รู้ตัวอีก น่ารักจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
อ่านแล้วก็เมื่อยแก้ม ยิ้มไม่หุบ น่าร้ากกกกทุกคู่เลย :-[
อยากจะไปตลาดนี้จังเลย ไปแอบส่องบรรดาหนุ่มๆ >////<
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ พลาดไปได้ยังไงนะ :กอด1:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
พันธนาการหัวใจ  ด้วยสายใยรักจาก..แผงทุเรียน


แสงแดดแผดจ้าร้อนแรงแข่งกับกลิ่นฉุนจมูกของผลไม้หน้าร้อนที่วางเกลื่อนหน้าร้านของตัวเอง  หายใจเอากลิ่นที่ต้องเผชิญตลอดปิดเทอมนี้เข้าไปเต็มปอด  อย่าบอกผม..ว่าคุณเดาไม่ออกว่าผลไม้กลิ่นแรงพวกนี้คืออะไร

“..ขายยังไงจ๊ะ?”  ยิ้มให้ลูกค้าคนแรกของวันแล้วอ้าปากเอื้อนเอ่ยจำนรรจา..

“โลละ  20  ครับ  ร้านนี้ซื้อทุเรียนแถมมังคุดครับคุณน้า”  หุบปากฉับแล้วหันไปมองต้นเสียงกวนตีนจากร้านตรงข้าม  หน้าขาว  ปากแดง  วาจา  2  ล้านหาวบวกกับความไม่มีมารยาททางการค้าของแผงนั้นเกือบทำผมสติหลุด

“โลละ  25  ครับน้า  ร้านผมของสดครับ  เพื่อความแปลกใหม่เราเลยเปลี่ยนผลไม้ทุกสัปดาห์  อาทิตย์นี้ขายหมอนทองครับ  รับมาจากจันทบุรีครับเลยแพงกว่าร้านนั้นนิดหน่อย..ตัดสินใจก่อนได้นะครับ”  น้าผู้หญิงทำท่าคิดแล้วยิ้มแย้ม  ‘ไม่เป็นไรจ๊ะหนู..น้าอุดหนุนหนูจ๊ะ’  คุณน้าชี้ลูกทุเรียนที่วางอยู่ด้านล่างแผง  เดินออกมาหยิบแล้วจัดการสวมถุงมือหนา  กรีดมีดลงตามร่องพู  แล้วผ่าหลังพูอีกที  ค่อย ๆ แกะแล้วพันกระดาษส่งทุเรียนลงไปอยู่รวมกันในถุงพลาสติกสีใส  ปากก็คอยตอบคำถามของคุณน้าไปด้วย

“ผมปิดเทอมครับเลยมาช่วยที่บ้านขายผลไม้..”  คุณน้าชมว่าผมเก่ง  สำหรับเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีหรอกครับที่ปิดเทอมจะมาทำอะไรแบบลูกพ่อค้าแม่ขายอย่างพวกผม  เขาก็เดินห้าง  ติวมั่ง  เที่ยวมั่ง  แต่สำหรับเด็กตลาดอย่างพวกผม  จะหนีไปทำอะไรแบบนั้นมันก็..มันก็ทำได้นะ  แต่ผมไม่สบายใจแน่ถ้าบอกพ่อว่าปิดเทอมจะขอไปเที่ยว  ผมไม่ใช่พวกติดเพื่อนซะด้วย  เลยไม่ลำบากใจที่จะมานั่งหลังขดหลังแข็งขายทุเรียนช่วยพ่อหาค่าเทอมให้ตัวเอง

“75  บาทครับ..  70  ก็พอครับ”  คุณน้ายิ้มแล้วบอกขอบใจผม  ลดได้ก็ลดครับ  ทอนเงินเสร็จก็เดินกลับมานั่งตากพัดลมในแผง    นั่งพักได้แป๊บเดียวคนฝั่งตรงข้ามที่ตั้งป้อมกวนตีนผมมาตั้งแต่รู้จักกันก็เห่าใส่ทำลายความสุขทันที

“..ใจดีจังนะ”    น้ำเสียงส่อเสียดกับหน้าตากวนส้นตีนของแผงฝั่งตรงข้ามสร้างความหงุดหงิดให้ผมได้เสมอ  ถ้าเป็นคนอื่นคงวางมวยกันไปแล้ว  แต่ผมไม่ชอบการใช้กำลัง  มันไร้ประโยชน์  เลยใช้ความเงียบสงบสยบความรุนแรงมาตลอด    ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

“..ไม่มีปากเหรอ?”  มันพาหน้าขาวปากแดงของมันมาเหยียบหน้าแผงผม  พอผมใช้วิธีเดิมมันก็เดินเข้ามาในแผง  ยื่นหน้าเข้ามาใกล้  เท้าแขนคร่อม  หลิ่วตา  ยิ้มหยันใส่หน้าผมในระยะประชิด  ผมเฉยใส่มันก็เอื้อมมือไปปิดพัดลมให้กลิ่นทุเรียนลอยคละคลุ้งหนักกว่าเดิม  จ้องตาสีน้ำตาลอ่อนของมันนิ่ง  กัดกรามแน่น  สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุดข่มอารมณ์โมโห

“..ผมมาซื้อทุเรียนครับคุณโก๋”  เสียงเรียกจากหน้าแผงของผมดังขัดความกวนตีนของคนขายทุเรียนฝั่งตรงข้าม   คนขายทุเรียนกวนตีนหันไปมองเสียงนั้นทั้งที่ยังเท้าแขนคร่อมผมอยู่  เบี่ยงไปมองเจ้าของเสียงนั้นด้วยความอยากรู้..

ผู้ชายผิวขาวแดงสวมเสื้อโปโลสีขาว  ยืนหน้าใสคู่กับผู้ชายตัวสูง  หน้าคม  เพื่อนหน้าตาน่ารักของมันแย้มริมฝีปากยิ้มน้อย ๆ ให้ผมเป็นการทักทาย  ผมยิ้มตอบแล้วเผลอมองหน้าเรียวจนเพลิน  ปากนิดจมูกหน่อย..มองยังไงก็ไม่เบื่อ

“..กูไม่ว่าง!”  มันตอบเพื่อนตามสันดาน  คนหน้าตาจิ้มลิ้มยิ้มล้อเลียนประมาณ  ‘เหรออออ?’  มันยิ้มมุมปากแล้วบอกให้คนตัวสูงที่ชื่อ ‘หนุ่ม’  ปอกให้แล้วหันมาจ้องหน้าผมต่อ  แววตากวนส้นของมันเริ่มทำให้ผมชินชา

 ผมรู้จักมันเพราะครอบครัวผมย้ายบ้านและต้องย้ายที่ทำกินมาเช่าแผงในตลาดแห่งนี้  แน่นอนว่าครอบครัวผมกับมันไม่เคยมีเรื่องหมางใจ   และครอบครัวผมกับมันก็มีแต่ความสัมพันธ์อันดีต่อกัน  แต่ผมก็ยากจะเข้าใจว่า..ทำไมมันถึงเกลียดผมนัก!

“งั้นผมซื้อทุเรียนลูกนี้ครับ  มึงไม่ขายแต่คนนี้เขาขาย..ใช่ไหมครับ?”  มันหันไปมองเพื่อนทันที..คอแทบจะหัก  ผมเบี่ยงตัวไปยิ้มมารยาทตอบเพื่อนน่ารักของมันแล้วลุกพรวด  ไหล่ผมกระแทกอกแข็งของมันจนมันผงะไปด้านหลัง    ไม่ได้หันไปมองว่ามันทำหน้ายังไง  คงตกใจที่ผมลุกพรวดไม่ใส่ใจมันล่ะมั้ง

เดินออกจากแผงหยิบทุเรียนลูกที่คนน่ารักเลือกมาลงมีด  ยื่นมือไปตั้งใจจะหยิบถุงพลาสติก  แต่ก็ไม่ทันคนที่ผมเพิ่งชนหงายหลัง  มองมือขาวที่คลี่ถุงพลาสติกรอ  เงยหน้าไปมองหน้าขาว  ตาสีน้ำตาลอ่อนมองผมอยู่ก่อนแล้ว  จ้องตาคู่นั้นแล้วก้มหน้าผ่าทุเรียนต่อ  ไม่อยากเข้าใจคนผีเข้าพระเสาร์แทรกธาตุไฟแตกหมาบ้าอย่างมัน

“พี่หนุ่มพาไอ้ต๋องไปดูหนังไม่ใช่เหรอ?  หรือมันชวนไปทำอย่างอื่นเลยต้องรีบกลับ”  เสียงแหบห้าวชวนเพื่อนคุย  ผมอดเหลือบมองเพื่อนมันไม่ได้  เป็นแฟนกับคนตัวสูงเหรอเนี่ย?  แกะทุเรียนไปหูก็ฟังคนคุยกันไปด้วย

“มึงสำรอกอะไรออกมาไอ้โก๋!  กูไปดูหนังกันเสร็จแล้วก็กลับมานี่แหละ  กล้าสำนึกอกุศลกับกูเหรอ?!”  เบือนหน้าไปมองเพื่อนมันแล้วก็ต้อง..อ้าปากค้างกับความน่ารัก  ผมเคยเห็นเด็กผู้หญิงที่เอาขนมมาให้ผมแล้วอายจนแก้มเป็นสีชมพู  แต่นี่มัน..นี่มันจะน่ารักเกินไปแล้ว

คนชื่อ  ‘ต๋อง’  ด่าเพื่อนตรงข้ามแผงแก้ขวย  มือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วห่อไหล่แก้เขิน  ปากด่าแต่หน้าเบือนไปจ้องกองทุเรียน  หูค่อย ๆ แดงแล้วลามไปทั้งตัวช้า ๆ   แก้มสีแดงเข้มเหมือนชมพู่ที่พี่หนุ่มเหมาแผงตรงข้ามไปหลายกิโลเมื่ออาทิตย์ก่อน  พี่หนุ่มก้มมองหน้าแดงของต๋องด้วยแววตาระยับ  ล้วงหยิบแว่นสายตาสวมให้  ต๋องสะดุ้งแต่ก็หันหน้ามาให้พี่หนุ่มสวมแว่นให้โดยดี 
   
“ช้า..หรือจะให้ช่วย?”  เสียงแหบดังข้างหู  สะดุ้งสุดตัวแล้วใช้ศอกดันอกมันออก   หันไปมองหน้าขาวที่คลี่ยิ้มบางแล้วรู้สึกแปลกในอก  หัวใจมันเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกอึดอัด  คงเป็นเพราะผมไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของมันล่ะมั้ง

“60  บาทครับ”  รีบแกะแล้วรีบขายให้ต๋องกับพี่หนุ่ม  พี่หนุ่มรับทุเรียนไปถือเองแล้วก้มหัวลาผม  ต๋องที่ยังไม่เลิกเขินเงยหน้าจากกองทุเรียนมายิ้มอาย ๆ ให้แล้วขยับแว่น  ก้มหน้าเดินนำพี่หนุ่มที่ผายมือไปด้านหน้า  พี่หนุ่มหันมายิ้มผ่านผมไปให้คนขายทุเรียนแผงตรงข้ามที่ยืนสิงทุเรียนอยู่ด้านหลัง

“เต็มที่นะโก๋..พี่เอาใจช่วย”  ขมวดคิ้วมองพี่หนุ่มแล้วเบือนหน้าไปมองหน้าขาวปากแดงที่กลายเป็นหน้าแดงแข่งปากเพราะสบตาสงสัยของผม  ‘อะไร?’  มันเอ่ยปากถามแต่กลับเดินเข้าไปในแผงผมเหมือนไม่ต้องการคำตอบ  รีบวิ่งไปขวางไม่ให้มันมาก่อกวนความสงบสุขทันที

“กลับไปได้แล้ว..แผงคุณอยู่โน่น”  มองหน้าขาวที่ยกยิ้มมุมปาก  มันเดินเข้ามาหาผมเลยต้องถอยหลัง  ไม่อยากใช้มือผลัก..ผมไม่เคยแตะตัวมัน  ผมไม่คุ้นเคยกับร่างกายคนอื่น

“หืม?..นึกว่าต้องซื้อทุเรียนก่อนถึงจะยอมคุยด้วย”  ขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าขาวยิ้มพราย  ดวงตาพราวระยับชวนใจเต้นขยับเข้ามาเรื่อย ๆ  หลังผมชนกับเก้าอี้พับ  เซล้มลงไปนั่งพร้อมกับคนแผงตรงข้ามนั่งยอง ๆ เท้าแขนคร่อมพนักจับ

“ทำไมถึงไม่เคยคุยกับผมสักครั้ง?”  มองปากแดงที่ห่างไม่ถึงคืบเอ่ยถาม  ในสมองมึนงงเมื่อคนถามขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ  ริมฝีปากเด่นชัด  ลมหายใจแทบจะผสานกัน..ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยย

“มากไปแล้วนะ!  เกลียดอะไรกันนักหนาถึงคอยแกล้งคอยว่ากันตลอดเวลาแบบนี้!  กูไปขโมยหวยถูกรางวัลแม่มึงมาขึ้นเงินรึไง?!”  ผมจะไม่เป็นคนมีสกุลกับมันอีกต่อไปแล้ว  ผลักอกมันเต็มแรงจนมันล้มก้นกระแทก  จับแขนที่มีแต่มัดกล้ามของมันเหวี่ยงออกมานอกร้านเต็มแรง  ผมหมดความอดทนกับการ  ‘แกล้งกันเล่น’  ของมันแล้ว! 

คนขายทุเรียนแผงตรงข้ามขืนตัวไว้แล้วทำท่าจะโผเข้ามาหาผมอีกครั้ง  เบี่ยงตัวหลบแขนแกร่งแล้วคว้าเปลือกทุเรียนที่ปอกแล้วมาขว้างมั่ว ๆ เขวี้ยงไปทางที่คิดว่ามันยืนอยู่ไม่ยั้งมือ   หนามทุเรียนตำมือจนเจ็บ  เสียงโวยวายของมันกับเสียงตกใจจากแผงอื่นดังมั่วไปหมด  จนความเคลื่อนไหวจากเป้าหมายเงียบผมถึงยอมหยุด 

“.........”  หันไปมองคนขายทุเรียนแผงตรงข้ามที่ถูกเปลือกทุเรียนพุ่งเข้าทำลายยิ่งกว่า  M79  หน้าขาวมีรอยเหมือนถูกข่วนจนเลือดซิบที่โหนกแก้ม  แววตาที่ผมสบมันสื่อถึงความ..เจ็บปวด   เบือนหน้าหนีตาคู่นั้นแล้วไล่สายตาลงมาสำรวจร่างกายมัน   แขนข้างขวามีเลือดไหลหยดลงมาจากมือ  หน้าแข้งมีเลือดซึมอยู่ทั้ง  2  ข้าง  ผมก้มมองเปลือกทุเรียนเกลื่อนพื้นด้วยความรู้สึกสับสน..ว่าควรจะขอโทษ  หรือควรจะถือดีว่าตัวไม่ผิดต่อไป

แต่ความเป็นคนดีของผมมันมีมากกว่าความเป็นปีศาจ  ความผิดแล่นเข้าทำร้ายใจจนเจ็บไปหมด  ผมควรจะพูดคำว่าขอโทษ  แต่อีกใจก็ตะโกนแย้ง..มันก็สมควรแล้วนี่!  กัดริมฝีปากล่างจนเจ็บ  กำหมัดแน่น  ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม  เท้าคนขายทุเรียนแผงตรงข้ามเดินเข้ามาใกล้แล้วหยุดตรงหน้า  กัดฟันแน่นแล้วหลับตา..ทำใจรับผลจากการทำร้ายคนเลือดร้อน

“..ขอโทษที่เริ่มต้นได้ไม่ดี  ผมอยากให้คุณสนใจเลยทำตัวเหมือนเด็ก  ชอบเรียกร้องความสนใจด้วยการแซวแรง ๆ  ผมเสียใจที่ทำให้คุณคิดแบบนั้น..คิดว่าผมเกลียดคุณแบบนั้น..”  ลืมตาขึ้นมองมือเปื้อนเลือด  ประโยคจริงใจของคนขายทุเรียนแผงตรงข้ามดังก้องในหัว  เงยหน้ามองรอยยิ้มขื่น  ผมมองคนแผงตรงข้ามที่กำลังหันหลังแล้วเดินออกจากแผงผมไปช้า ๆ  มือที่เร็วกว่าความคิด..คว้าข้อมือมันไว้ทันที   เลือดเหนียวหนืดติดมือ  หน้าขาวที่มีเลือดซึมที่โหนกแก้มหันมองมือกับหน้าผมสลับกัน

“..ขอโทษ”  กลั้นใจพูดในสิ่งที่ควรจะพูดแล้วเงยสบตาสีน้ำตาลอ่อนด้วยความรู้สึกสำนึกผิดที่ทำให้เจ็บตัว  คนหน้าขาวยิ้มกว้างแล้วใช้มืออีกข้างที่อยู่ในสภาพปกติจับมือผม

“เจ็บตรงนี้..ตรงนี้  ตรงนี้ด้วย”  มองตามมือตัวเองที่ถูกมันยึดไว้แตะตรงซอกคอ  หัวไหล่หนา  และที่หัวใจ  เงยหน้ามองแล้วขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม  ผมคงต้องบอกมันให้เข้าใจก่อนจะเริ่มเป็นเพื่อนแผงที่ดีต่อกัน

“ถ้ายังไม่ปล่อยมือ..มึงโดนทุเรียนเจาะหน้าแบบเต็มสูบแน่..เชื่อมือกูได้เลย!”  บอกด้วยน้ำเสียงมั่นคง  สายตาจริงจัง  โก๋ยิ้มกว้างก่อนจะยอมปล่อยมือแล้วทำท่ายอมแพ้ 

ผมล้วงโทรศัพท์กดหาพ่อ  เล่าให้ฟังแล้วให้แม่มาเผ้าแผงแทน  วางหูแล้วบอกให้มันบอกที่บ้านมันให้มาเฝ้าแผงซะ  ผมจะพามันไปหาหมอ  มองเลือดชั่วที่ไหลไม่หยุดแล้วส่ายหน้าหน่าย  ‘เลือดชั่วมันไหลแรงจริง ๆ ’  หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่คอยเช็ดเหงื่อตัวเองมากดปิดปากแผล  เดินตีคู่มันออกจากตลาด  มันใช้สายตาทิ่มแทงว่า  ‘เพราะผม..มันเลยได้เลือด’  บังคับให้ผมต้องคอยประคองผ้าที่ปิดปากแผล  ข่มใจแล้วขับพามันไปส่งให้ถึงมือหมอที่คลินิกและเฝ้ามันจนมันทำแผลเสร็จ  เดินออกจากคลินิกมันก็ยื่นมือมาจับมือผมไว้มั่น  พอหงุดหงิดกับมือกาวมันก็พูดคำนี้ใส่หน้า 

“..เจ็บ”  กัดกรามแน่นแล้วปล่อยให้มันจับมือจนกว่ามันจะพอใจ  ขับไปส่งมันที่บ้านมันก็เอาแต่จ้องหน้า  อึดอัดก็อึดอัด  ใจแม่งก็เต้นแปลก ๆ ส่งมันถึงบ้านมันก็กวนตีน

“พรุ่งนี้หมอให้ไปทำแผล..นี่ใบนัด..ไม่ได้มั่วนะ”  มองกระดาษสีขาวในมือมันแล้วพยายามทำใจ  เอาเถอะ..มันเจ็บตัวก็เพราะผม  แต่ต้นเหตุของการนองเลือดก็เพราะมันกวนตีนผมก่อน!

“หัดรับผิดชอบตัวเองซะบ้าง  ความผิดครึ่งหนึ่งมันก็อยู่กับคุณเหมือนกัน!”   ผลักมือที่จับกระดาษออกแล้วหมุนตัวเดินออกมาจากบ้านมัน  แรงคว้าข้อมือให้กลับมาเผชิญหน้ากับหน้าขาวปากแดงมันมากพอจะทำให้ผมเสียหลัก..ล้มก้นจ้ำเบ้า

“โอ้ย!..มึงจะเอายังไง!”  เหลืออดกับมารยาททรามของมัน  ตะโกนใส่หน้าด้วยความโมโห  ลุกพรวดไปผลักอกจนเจ้าตัวล้มลงไปนั่งบ้าง 

‘..แรงเยอะชะมัด’  มันพูดเสียงเบา แต่ผมกลับได้ยินชัด  มันนั่งขัดสมาธิกับพื้นแล้วยิ้มกว้าง 

นี่มัน..ตั้งใจกวนตีนนี่หว่า!   กัดฟันแน่นขึ้นแล้วหันหลังออกมาจากรั้วบ้านมัน  มันยังตามมากวนไม่เลิกไม่รา

“พรุ่งนี้..”  หันไปจ้องมือที่คว้าแขนสลับกับหน้าขาว  ปากแดงของมันบอกให้ผมมารับมันไปทำแผลจนกว่าจะหาย  พออ้าปากจะบอกมันว่าให้หาทางไปเอง..

“อะ..ไอ้เหี้ยโก๋!”  สุดจะทานทนกับความ..ความกวนตีนของมัน  ปลายจมูกเย็นชื้นของมันกดลงกับมุมปากผมเต็มที่  เสียงลมหายใจที่มันสูดกลิ่นเนื้อริมฝีปากผมเข้าไปเต็มปอดส่งให้แก้มผมร้อนวูบ  เบี่ยงตัวหลบการรุกที่กำลังจะลามไปที่ริมฝีปากแบบเต็ม ๆ แล้วเงื้อมือจะชก  มันยกแขนข้างที่มีผ้าพันแผลพันไว้ขึ้นมาทำบังเกอร์

“..เจ็บ”  ดวงตาระยิบกับยิ้มพรายของมันทำผมไปไม่เป็น  กัดฟันแน่นแล้วเอามือที่เงื้อค้างมาทึ้งผมตัวเองแทน  หมุนตัวเดินกึ่งวิ่งออกจากบ้านมันด้วยความโมโห  มือไม้สั่นไปหมด  ไม่เคยมีใครนอกจากคนในครอบครัวได้ใกล้ผมมากเท่านี้มาก่อน  มุมปากที่ถูกคนอื่นสัมผัสร้อนจนต้องยกมือไปแตะ..

“ไอ้เชี่ย!”  นึกถึงต้นตอความร้อนแล้วก็หงุดหงิด  ขึ้นรถแล้วขับออกมาให้เร็วที่สุด  กลับมาอาบน้ำ  กินข้าวเสร็จก็ล้มตัวนอน  สมองไม่รักดีดันนึกถึงหน้าขาวปากแดงที่คอยกวนใจตลอดทั้งวัน  รู้สึกแปลกกับพฤติกรรมของมัน 

มันกล้า..กล้าหอมผมที่เป็นผู้ชายด้วยกันหน้าตาเฉย  กัดเนื้อริมฝีปากล่างจนห้อเลือดก็ยังมีหน้าขาวของมันลอยมาหลอกหลอน   ข่มตาหลับแล้วเตรียมรับการรุกของมัน  ทำใจยอมรับกับการเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิต  และที่สำคัญ..คงต้องทำความคุ้นเคยกับสัมผัสจากคนขายทุเรียนแผงตรงข้ามที่ยังทิ้งไออุ่นไว้ที่ฝ่ามือและริมฝีปากไม่จางหาย

ใครจะไปคิดว่าการแกล้งกันเล่นของมันจะหมายถึง  ‘เริ่มทำการผูกมัด’  แล้วใครจะไปคิดว่าที่ผมเริ่มทำใจยอมรับการผูกมัดของมัน..ผมจะเสียหัวใจให้มันไปด้วย..

เสียแก้มให้มันไล่เลี่ยกับเสียจูบแรกในระยะเวลาแค่  2  อาทิตย์  และในเวลา  1  เดือนผมก็เสียหัวใจให้มันจนได้ 

โก๋เป็นครั้งแรกสำหรับผมทุกอย่าง  รวมไปถึง.. 




เป็นผู้ชายคนแรกที่ผมคิดจะขายทุเรียนไปทั้งปีครับ!


END.

...............................

กอดรวบ!  บวกๆค่า
มานั่งอ่าน   และอ่านใหม่อีกรอบกันเถอะค่ะ ^^
เมื่อวานช่วงบ่ายจิไปอบรมเรื่องโปรแกรมบริหารจัดการของหน่วยงานหนึ่งมาค่ะ  เขาใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของมหาลัยแห่งหนึ่ง  แล้วจิไปวันธรรมดา..
เด็กผู้ชายหน้าขาว ๆ ท่าทางแบดบอยเยอะมวาก  มองเพลินมาก  อยากอยู่ที่นี่แม่งทั้งวัน(เคลิ้มมากมายค่ะ) 
เห็นแล้วต่อมจิ้นก็ร้อนผ่าว ๆ  เด็ก ๆ มหาลัยนี่มันน่าจิ้นจังเล้ย˷ 
 :กอด1: :pig4: :o8:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
เจ็บแต่ก็คุ้มนะคุณโก๋


 :กอด1: :L2: :pig4:


ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
หลุมรักแกงเขียวหวาน


เสียงอึกทึกของเพลงฮิบฮอปหนวกหูจนต้องหนีออกมานั่งหลังร้าน  จุดบุหรี่ขึ้นสูบแล้วพ่นทิ้ง  มวนต่อมวน  ในหัวคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่มีสาระจนเวลาล่วงเข้าตีสอง  เดินเข้าไปฟังเพลงเบา ๆ เป็นสัญญาณของผับที่ใกล้จะได้เวลาปิดทำการ  ทักทายแขกที่คุ้นเคย  หลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนแล้วปลีกมานั่งจมกับบัญชีรายรับ  ลูกค้าทยอยออกก็เปิดไฟสว่างเพื่อเก็บกวาดร้านเตรียมให้บริการในคืนต่อไป  ชีวิตผมเป็นแบบนี้เรื่อยมาตั้งแต่เรียนจบ  เบื่อ..แต่หนีไม่ได้  มันเป็นกิจการที่พ่อผมลงทุนให้  เพราะลูกชายชอบเที่ยวกลางคืน  เลยเปิดร้านให้ซะเลย

สั่งหัวหน้าเรื่องดื่มให้ลดเบียร์ขวดใหญ่ลงแล้วเพิ่มพวกน้ำไวน์ผลไม้ให้มากกว่าเดิม  เดินเข้ามานอนเอาแรงในห้องทำงานรอเวลาลูกพี่ลูกน้องมาปลุกให้ไปส่งตลาด  ผมเป็นพวกมนุษย์พักผ่อนน้อยน่ะ  แล้วก็กินกาแฟมากกว่าข้าว  ข้าวมื้อแรกของวันก็ไปกินรวมมื้อเที่ยงตลอด  แต่ผมกินข้าวที่บ้านทุกวันครับ  ซื้อกับข้าวถุงร้าน(เพิ่งจะ)ประจำมากินกลางวันกับแม่น่ะ 

“น็อต..ป่ะ”  แรงเขย่าแขนจากลูกพี่ลูกน้องปลุกให้ตื่นล้างหน้าล้างตา  เซ็ตผม  เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วบึ่งไปส่งมันที่ตลาด  ไม่ใช่มันไปเองไม่ได้  แต่แม่มันสั่งให้ผมดูแลมันจนกว่าลุงจะกลับมาจากนอก  ไอ้เนสต์ลูกพี่ลูกน้องผมมันเป็นพวกคุณหนูของจริงเลยล่ะ  หน้าตาดี..หล่อน่ารักแบบเกาหลี   แต่นิสัยก็..เอาแต่ใจบ้างเป็นบางครั้ง  อย่างอื่นน่ารักหมด  ยกเว้นเวลาที่ถูกใจใคร  เนสต์จะแย่งมาเป็นของตัวเองแทบจะทันที  ก่อนหน้านี้มันชอบพี่รหัสผม  แต่พี่รหัสผมมีแฟนหน้าตาน่ารักโคตรอยู่แล้ว  เลยไม่สนมัน  มันก็พยายามเรียกร้องความสนใจ  ตั้งใจจะแย่งน่ะ  แต่มันก็มีมุมน่ารักนะ  แย่งมาไม่ได้มันก็หยุด  ไม่งี่เง่าจนเกินไป  เหลือบไปมองหน้ามันก็อดยิ้มไม่ได้

“มองไรไอ้น็อต”  เลิกคิ้วแล้วขับต่อทำไม่สนใจ  ก็คนอย่างไอ้เนสต์ที่เพิ่งจะออกตัวแย่งพี่รหัสผมอย่างเอาเป็นเอาตายจะกลายเป็นลูกแมวเชื่อง ๆ  ที่ตกหลุมเสน่ห์คนขายดอกไม้เข้าเต็มรัก  จากคนร้ายกาจกลายเป็นลูกแมวตัวน้อยไปทันทีที่ได้ยินความหมายดี ๆ ของดอกไม้  เก็บมาเพ้อจนต้องพากลับไปส่งที่ตลาดแล้วไล่ให้มันเอาต้นห่าเหวของมันให้คนขายดอกไม้รับผิดชอบ  มันทำเหมือนอายแต่ก็กล้าทำหน้าด้านกลับไปหาพี่โต้ง 

แน่นอนว่า..มันมารู้ชื่อทีหลังว่าพี่เค้าชื่อ ‘โต้ง’  ผมก็หลงคิดว่ามันรู้จักเค้าแล้วถึงได้เก็บมาเพ้อขนาดนั้น  ไอ้เนสต์..บ้าไปแล้ว  ยกยิ้มมุมปากแล้วเลี้ยวรถเข้าตลาด  ลงไปหาสิ่งดึงดูดที่ทำให้ผมไม่เบื่อที่จะต้องคอยส่งไอ้เนสต์  ขากลับมันมีคนขายดอกไม้คอยส่งอยู่แล้วครับ 

ยืนกอดอกพิงมุมเสาแผงแรกของร้านข้าวแกง  มองสิ่งมีชีวิตผิวขาวหน้าใสที่ยืนอยู่ในแผงกับข้าวถุง  มือเรียวยาวจับทัพพีขึ้นมาจ้วงตักแกงเขียวหวานลงถุงคล่องแคล่ว  วางทัพพีเสียงดัง  ‘กริ๊ก’  หยิบยางรัดถุงแล้วยื่นให้ป้าส่งให้ลูกค้า  มือเหี่ยวรับเงินจากลูกค้าแล้วยื่นกลับมาให้มือเรียว  รับแล้วหยิบเงินทอนผ่านป้าให้ลูกค้าอีกที..

ดวงตาสีดำสนิทไม่เคยเงยสบตาใคร  ในรัศมีการมองเห็นจำกัดแค่  ‘ในแผง’ เท่านั้น  ลูกค้าที่มาอุดหนุนเป็นหนุ่มหล่อสาวสวย   แต่ไม่มีใครเคยได้รับการเหลียวแลแม้แต่คนเดียว 

ผมสะดุดตากับหน้าขาวใส  แก้มเนียน  ตาสวย  ที่เอาแต่สนใจแค่ของที่วางขายอย่างเดียวตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว  ผมบังเอิญต้องพาไอ้เนสต์มาส่งที่ตลาดก็เลยหาแกงถุงกลับไปกินข้าวกับแม่ด้วยเลย  หลังจากนั้นผมก็มาเป็นลูกค้าที่ซื้อแต่แกงถุงร้านนี้เหมือนคนอื่น ๆ และไม่เคยได้รับการเหลียวแลเหมือนกัน555   

“ไม่เข้าไปวะ?”  เหลือบมองปากดีที่คอยยุแล้วหันกลับไปมองหน้าตาที่ดึงดูดสายตาเหมือนเดิม  ไม่คิดจะตอบ  ไอ้เนสต์ยิ้มเยาะแล้วเดินหนีกลับไปทางซอยดอกไม้  ทิ้งผมให้ยืนมองความหล่อน่าห่อกลับบ้านของคนขายกับข้าวถุงแต่เพียงลำพัง  ผมเพิ่งด่าว่ามันบ้า  ผมก็คงจะบ้าพอ ๆ กับมัน  ที่ไม่รู้จักชื่อ  แต่ก็เก็บมาเพ้อเป็นวรรคเป็นเวร   ถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปที่แผง  ยืนรอคิวจนถึงคนสุดท้ายของตัวเองแล้วสั่งพะโล้  ผัดเปรี้ยวหวานไก่  และที่ต้องสั่งประจำคือ แกงเขียวหวานปลากราย  ผมว่าร้านเขาทำอร่อยดี  สั่งทุกอย่างมาอย่างละถุง  ยื่นเงินให้ป้าแล้วแอบมองหน้าตาน่ารักเก็บไว้ให้เต็มเมม..ฝันดีอีกแล้วผม

“หนูรอแป๊บนะลูก  ตังค์ป้าไม่พอทอนน่ะ”  หันไปมองป้าแล้วพยักหน้ารับกับแผ่นหลังที่เผ่นแน่บไปหาเงินทอนให้ผม  ไปหาตังค์ทอนแถวอังกฤษก็ได้ป้า  ปีหน้าค่อยกลับ..ผมไม่รีบ

ยืนนิ่งแล้วหันไปมองแผงข้าง ๆ  เหลือบมองแกงเขียวหวานในหม้อแล้วแอบมองหน้าคนขายแบบเนียน ๆ  ขนตาหนาเป็นแพ  สันจมูกโด่ง  ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน  ผมที่ยาวกว่าเด็กทั่วไปยาวระตามโครงหน้าบอกได้ถึงสถาบันที่เรียนอยู่  น่าจะเรียนพวกเอกชน  ยิ่งมองยิ่งน่ารัก..เสียดายที่เอาแต่ก้มหน้า  ผมมองเพลินจนเจ้าของใบหน้าขาวเนียนน่าหลงใหลเงยหน้ามามอง  สบตาสีดำเข้าเต็มเปา.. 

สบตาสีดำสนิทนิ่งนาน  เหมือนตกหลุมอากาศ  ในหัวผมคิดอะไรไม่ออก  มองได้แค่นัยน์ตาสีดำคู่นั้น..ถูกสายตาคู่นั้นตรึงให้อยู่กับที่  ไม่รู้ว่าตัวเองหายใจหรือเปล่า  ไม่รับรู้ว่าป้ากลับมาถึงร้านและยื่นเงินทอนให้ผมนานแล้ว

“..คิดตังค์เพิ่มนะ”  ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเอ่ยขึ้นก่อนจะก้มหลบตาผมไปมองหม้อแกงเขียวหวานต่อ  กะพริบตาเรียกสติแล้วมองเงินทอนในมือป้าที่ยื่นมาตรงหน้า  ยิ้มบางแก้เขินให้ป้าแล้วรวบเงินทอนในมือมาใส่กระเป๋ากางเกง  หันไปมองหน้าขาวใสที่ตอนนี้แก้มเป็นสีชมพูจางๆ แล้วถาม

“เท่าไหร่ครับ?”  รอคำตอบจากริมฝีปากสีชมพูอ่อน  ดวงตาสีดำสนิทเสมองแผงข้าง ๆ แล้วเม้มริมฝีปากล่างแน่น  นิ่งไปนานแล้วยื่นมือออกมา..

“..5  แสน  ค่ามอง..”  ผมเลิกคิ้วแล้วทำเสียงไม่เข้าใจกับราคาที่แพงเกินจริง  ผมแค่มองทำไมคิดผมแพงขนาดนี้

“โห~ ผมแค่มองเอง..ทำไมคิดแพงจัง?!”  เจ้าของแผงกับข้าวถุงพองลมเข้าปากจนแก้มป่องกลั้นยิ้ม  ห่อไหล่เล็ก  ย่นคอแล้วเบือนหน้ามามองหน้าผม  ดวงตาสีดำสนิทยิ้มเขินแล้วหลบไปมองหม้อพะโล  แก้มใสยังคงพองลมเพื่อกลั้นยิ้ม  พอกลั้นไม่ไหวก็ใช้ริมฝีปากล่างงับริมฝีปากบนเอาไว้แน่น  ปลายจมูกโด่งพ่นลมหายใจยาว  คลายแรงงับจากริมฝีปากล่างแล้วจ้องไข่ต้มที่ลอยอยู่ในหม้อพะโล้พักใหญ่  เงยหน้าขึ้นมามองตาผมนิ่ง

“คิดรวบยอดตั้งแต่วันแรกที่นายมอง..ไม่เห็นจะแพงตรงไหน?”  พูดเสร็จก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น  ปล่อยให้ผมหน้าแดงหูแดงอยู่คนเดียว  จริง ๆ ก็ไม่ได้ยืนคนเดียวครับ  ป้าเค้ายืนยิ้มเป็นเพื่อนผมด้วย  ป้าส่งยิ้มให้อีกทีก่อนจะขอตัวไปซื้อของสดไว้ทำกับข้าวพรุ่งนี้  ผมก้มหัวส่งป้าแล้วยืนรอคนข้างในแผงที่ยังไม่ยอมลุกมาเก็บค่าเสียหายที่โดนผมมองไปตั้งหลายวัน รู้ด้วยแฮะว่าผมแอบมอง..

“..ไว้ผมค่อยให้ทีหลังได้มั้ย?  จะให้แม่มาช่วยผ่อนด้วย..”   เสียงนุ่มที่บอกราคาค่าสึกหรอเงียบไปนานจนผมต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองในแผง  อมยิ้มมองคนนั่งขัดสมาธิกับพื้น  ยกมือขึ้นมาปิดหูไว้ทั้ง  2  ข้างแถมก้มหน้าก้มตาไม่รับรู้อะไรอีกต่างหาก  เหลียวมองซ้ายขวาแล้วอ้อมไปข้างหลังแผง  นั่งยอง ๆ ลงตรงหน้า  คนแก้มเนียนเลื่อนมือที่ปิดหูมาปิดหน้า 

“เห็นตั้งแต่เมื่อไหร่?”  ถามแล้วนั่งลงกับพื้นเพื่อรอคำตอบ  คนขายกับข้าวถุงไม่ยอมตอบเอาแต่ปิดหน้าปิดตาหนีผม  คลี่ยิ้มแล้วเท้าคางมองความน่ารักจนมีคนมาซื้อกับข้าว 

“ซื้อยำหมูยอหน่อยจ้า..”  คนขายกับข้าวถุงค่อย ๆ ลดมือลง  พอเห็นว่าผมยังเท้าคางมองก็ตกใจ  ตาสีดำสนิทกะพริบปริบเหมือนไม่รู้จะทำยังไง  หันรีหันขวางมองทางหนีทีไล่  หน้าเนียนหันมามองผมช้า ๆ  กัดริมฝีปากล่างนิดนึงแล้วบอกผมเสียงเบา

“..จะขายของ”  ผมยิ้มกว้างแล้วพยักหน้า  ผายมือเชิญตามสบาย  เจ้าของแผงลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วหันหลังให้ผม  ตักยำหมูยอใส่ถุง  หยิบยางรัดแล้ววางไว้ข้างตัว  ผมรีบลุกมาหยิบถุงพลาสติกใสคลี่แล้วจับถุงยำหมูยอใส่ยื่นให้ลูกค้า

“เอาแกงเขียวหวานอีกถุง”  คนขายเหลือบมองป้าลูกค้าก่อนจะเม้มปากเมื่อหางตาเห็นว่าผมมองอยู่  มือเรียวจับทัพพีมาจ้วงแกงเขียวหวาน  มืออีกข้างที่จับถุงแกงกลับลืมคลี่ปากถุง  คนแก้มเนียนตักแกงเขียวหวานราดลงข้าง ๆ ถุงจนถุงเปรอะไปหมด

“เฮ้ย!..ขอโทษครับ  เดี๋ยวผมตักให้ใหม่”  รีบขอโทษป้าแล้ววางถุงที่เปรอะไว้ข้างตัว  หยิบใบใหม่มาคลี่ก่อนแล้วบรรจงตักใหม่  ปากบางสีชมพูเม้มแน่นขึ้นเมื่อผมยื่นหนังยางให้  จับขอบหนังยางแล้วดึงออกจากมือผม  อมยิ้มแล้วออกแรงดึงหนังยางไม่ยอมปล่อย  คนแก้มเนียนกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะหันมาดุผมทางสายตา  น่ารักชะมัด!

ปล่อยให้หนังยางเด้งตัวไปสู่มือเรียวดัง  ‘แป๊ะ’  คนขายกับข้าวถุงสะดุ้งปล่อยหนังยางแล้วหันมาจ้องหน้าผม  ยิ้มกว้างรอแล้วมองหน้าชมพูตาเชื่อม  คนขายกับข้าวถุงสูบลมเข้าปากแล้วเบือนหน้าไปมองหน้าป้าลูกค้า  เหมือนขอความช่วยเหลือ..

“ทั้งหมด..40  บาทครับ”  ก้มหน้าก้มตารัดปากถุงแกง  พึมพำบอกราคาแล้วส่งถุงแกงให้ผม  ยิ้มแล้วรับถุงมาใส่รวมกัน  ส่งให้ป้าลูกค้าแล้วรับเงินมาให้คนขาย

“วางไว้..”  บอกเสียงเบาแล้วเบือนหน้าหนี  จ้องไปทางปากซอยแทนที่จะมองหน้าหล่อ ๆ ของผม  อมยิ้มมองเสี้ยวหน้าชมพูก่อนจะขอตัวกลับ

“กลับนะ..ติดเรื่องค่าเสียหายไว้ก่อน  พรุ่งนี้มาเคลียร์ให้..นะ”   คนขายกับข้าวถุงไม่ตอบอะไร  ยกมือที่เกาะขอบโต๊ะมากอดอกแล้วเพ่งมองทางปากซอยอย่างเอาเป็นเอาตาย  ยิ้มแล้วเดินออกมาจากแผง  เดินไปทางปากซอยที่คนแก้มเนียนจ้องแล้วหันหลังโบกมือลา  เจ้าของร้านขายกับข้าวถุงทำตาโตแล้วพองลมเข้าปากแก้เขิน  เบือนหน้าหนีไปมองท้ายซอยซะอย่างนั้น  อมยิ้มแล้วมองกับข้าวในมือ..

“จะกินไม่ให้เหลือเลย”  เดินออกมาเกือบจะพ้นซอยก็เจอป้าคนช่วยขายแกง  ทักทายแล้วยืนคุยด้วยก็เลยรู้ว่าป้าเป็นคนที่แม่น้องติ๊กจ้างมาช่วยน้องขาย  แม่น้องขายอยู่ร้านใหญ่แต่เช่าแผงไว้เลยให้น้องมานั่งขายไม่ให้แผงว่าง  อาทิตย์หน้าป้าก็ไม่ได้มาแล้วเพราะน้องเริ่มขายคล่อง  ไม่ต้องมีคนช่วยแล้ว  พยักหน้ารับรู้แล้วตีหน้าเฉย

ผมมาช่วยน้องติ๊กทุกวันครับ  ป้าก็ไม่ว่าอะไร  พอเห็นผมมาป้าก็ไปจ่ายตลาดทุกครั้ง  เจ้าตัวเองก็ไม่ได้ว่าอะไร  วันนึงคุยกันไม่ถึง  10  คำครับ  แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อ  ถึงน้องติ๊กจะเอาแต่มองปากซอยแทนหน้าผมก็เถอะ

ใครจะรู้..ว่าผู้ชายแก้มเนียนขายข้าวแกงจะเป็นคนเปลี่ยนชีวิตประจำวันผมให้มีสีสันขึ้น  จากต้องทำงานกลางคืนก็ต้องมาทำงานกลางวันด้วย  จากคนไม่มีแก่นสารในชีวิต  เปลี่ยนเป็นเริ่มทำงานเพื่ออนาคตมากขึ้น..

ใครจะไปคิดว่าแก้มเนียนที่ผมเห็น  จะทั้งเนียนทั้งหอม..หอมยาวนานไปจนถึงวันที่ผมกลายเป็นคุณปู่ 

คุณชอบทำกับข้าวกินเองหรือชอบซื้อกับข้าวถุงครับ?  สำหรับผม.. 






..ผมตกหลุมรักแกงถุงครับ..

END.

…………………………

                     
กอด ๆ หอม ๆ บวก ๆ
คุ้มเนอะคะ ^^
วันนี้งานเข้าค่ะ  ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย  สั่งข้าวไว้ก็ยังไม่มาส่ง  หิวเหงือกสั่นแล้วนะคะร้านข้าวววววว
 :กอด1: :กอด1: :pig4: 

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันแห่งความรัก(จริง ๆเข้ามาเปลี่ยนหัวเรื่องถึงเห็นว่าพรุ่งนี้วันที่  14  นี่หว่า) จิเลยเอาตอนพิเศษของคู่แรกเปิดตลาดมาให้อ่าน(ซ้ำ)ค่ะ ^^


{ตั้น ❤ ฟ่ง}



ผมกับคนใกล้ตัวนั่งบนพื้นหญ้าอยู่ด้านในสุดของสนามเด็กเล่น  มองเครื่องเล่นหลายอย่างที่มีเด็กตัวเล็ก ๆ จับจองไว้จนเต็มทุกอย่าง  เท้าแขนไปข้างหลัง  หลับตารับลมอยู่ตรงสนามเด็กเล่นแถวบ้านฟ่ง  ข้างตัวผมมีฟ่งที่เสียบหูฟังโยกหัวเบา ๆ ตามจังหวะเพลง    ยิ้มบางให้แล้วดึงหูฟังข้างหนึ่งออกมาเสียบหูตัวเอง  เหลือบมองหน้าที่ยิ้มกว้างให้ผม  ฟ่งจับหูฟังที่เสียบอยู่ตรงหูผมขยับให้เข้าที่  นั่งฟังเพลงในมือถือฟ่งจนน้องกาย  หลานตัวเล็กของฟ่งวิ่งมานั่งตัก  หันไปมองฟ่งแล้วอุ้มน้องกายขึ้นมา  เดินกลับบ้านไปคู่กับฟ่ง 

“พี่ฟ่าง  ฟ่งกับตั้นพาน้องกายมาส่งแล้วนะ  พาไปอาบน้ำเลย  น้องกายไปเล่นอะไรมามั่งก็ไม่รู้”  พี่ฟ่างละมือจากผัดผักรวมมิตร  หันมาขมวดคิ้วแล้วดุฟ่งที่พาหลานไปเล่นแต่กลับไม่รู้ว่าหลานเล่นอะไรบ้าง  ฟ่งหัวเราะเสียงดังแล้วลากผมเข้าครัว  ตักข้าวส่งให้แล้วตักกับโน่นนี่ใส่จานให้ผม

“ขอบคุณครับ..กินจานเดียวกันนะ  ผมกินไม่หมดครับ”  ฟ่งมองผมแล้วเหลียวมองรอบตัว  พี่ฟ่างพาน้องกายไปอาบน้ำแล้วก็น่าจะเข้าบ้านใหญ่  ครอบครัวฟ่งต้องมากินข้าวเย็นบ้านพ่อครับ  แล้วจะกลับบ้านหรือนั่งคุยต่อก็ตามสะดวก  กินจานเดียวกันเสร็จฟ่งก็ลากผมเข้ามาคุยกับพ่อก่อนจะแยกย้ายกลับไปส่งฟ่งที่บ้านตามปกติ  คุยกันได้แป๊บเดียวเจ้าตัวก็ลากผมขึ้นมาบนห้องของตัวเอง  หยิบเสื้อที่ต๋องซื้อจากสิงคโปร์มาฝาก  ผมยิ้มแล้วมองเสื้อสีขาวที่มีลายมิคกี้เม้าส์จูงมือมินนี่เม้าส์อยู่ตรงหน้าอกเสื้อ  ฟ่งใส่แล้วน่ารักแน่ ๆ ครับ  แต่ถ้าผมใส่..คงเหมือนกะเทยสงคราม

มองฟ่งแล้วยิ้มให้กับความน่ารัก  ฟ่งก็ยิ้มให้ผมจนตาหยี  โดดขึ้นมานั่งตักผมแล้วเอามือมาเกาคางทีมีหนวดขึ้นเป็นตอของผมเล่น  ฟ่งชอบแกล้งผมเล่นครับ

“เมี้ยวๆๆๆๆๆ  น้องเหมียวตั้น555+”  ยิ้มบางตอบแล้วดึงมือที่เกาคางผมเล่นขึ้นมาหอม  ฟ่งสะดุ้งตัวแข็งแล้วมองผมเขิน ๆ ดึงมือแล้วกอดเอวบางเข้ามาให้ใกล้..ใกล้จนได้กลิ่นแชมพูจากผมนุ่มของฟ่ง  หอมผมนิ่มแล้วลากปลายจมูกมาที่ใบหูเล็ก  หอมเบา ๆ ที่จิวหูสีดำที่ติดหูฟ่งอยู่เสมอแล้วไล้ไปที่แก้มใส  เกลี่ยปลายจมูกกับแก้มนิ่ม  ผละออกมาสบตา  ฟ่งมองสบตาผมด้วยดวงตาเคลิ้มกับปลายจมูกผม  ก้มลงแตะริมฝีปากตัวเองที่ริมฝีปากชมพูเบา ๆ ผะแผ่ว  นิ่งรอปฏิกิริยาของฟ่งก่อนจะจรดริมฝีปากชิมเนื้อนิ่มตรงหน้าอีกครั้ง  จูบไล่จากริมฝีปากล่างไปสัมผัสริมฝีปากบนอย่างช้า ๆ  ลมหายใจของฟ่งกลมกลืนเหมือนเป็นลมหายใจเดียวกันกับตัวเอง 

โอบเอวเล็กเข้าหาตัวจนไม่มีช่องว่างให้แทรกได้   เอนหลังลงติดเตียงแล้วจับท้ายทอยให้ฟ่งจูบผมในองศาที่ฟ่งหายใจได้สะดวก  ปลายลิ้นที่ผมดึงเข้ามาให้อยู่ในปากผมไม่มีการตอบสนอง  ผมดีใจที่ฟ่งทำไม่เป็นครับ  ลมหายใจหอบของฟ่งทำให้ผมต้องพลิกให้เจ้าตัวนอนหงาย  ระจูบลงที่ซอกคอ  สูดความหอมให้เต็มปอด  สอดมือเข้าไปในเสื้อตัวเล็กแล้วโอบไว้ทั้งตัว  จับตะแคงตัวแล้วเลื่อนริมฝีปากขึ้นมาสัมผัสแก้มใส  ไล้ปลายจมูกหอมไปทั้งหน้า  มือไม้ไม่อยู่สุขลูบไปที่หน้าอกฟ่ง  เจ้าตัวบิดตัวหนีมือผม..

“อืออออ…ตั้น”  เลื่อนริมฝีปากมาจูบปิดเสียงที่เหมือนห้ามไม่ให้ผมได้สัมผัส  ไล้ปลายลิ้นดูดชิมริมฝีปากล่างแล้วดึงเสื้อฟ่งขึ้นมาถึงคอ  แทรกปลายลิ้นเข้าไปดูดปลายลิ้นแล้วเกี่ยวพันจนฟ่งหายใจหนักขึ้น  ลูบหน้าอกแล้วบีบยอดอกเบา ๆ ผละจากปลายลิ้นสีแดงมาจูบไซ้ตั้งแต่ซอกคอจนถึงตุ่มแข็งสีชมพูอ่อน  เลียเบา ๆ แล้วตวัดลิ้นจนฟ่งเผลอแอ่นตัวขึ้นมาตามหาปลายลิ้นผม  ลงลิ้นที่ตุ่มแข็งข้างซ้ายแล้วใช้ปลายนิ้วบีบอีกข้างดึงความสนใจ   บดเบียดความต้องการใส่ความร้อนของฟ่งที่เริ่มแข็งตัวดันกางเกงออกมาเบียดสู้ผม

“ไม่เอาแล้ว..ตั้น หยะ..”   ยันตัวขึ้นจูบริมฝีปากอิ่มแล้วทิ้งน้ำหนักตัวทับไว้  เลื่อนมือลงไปสัมผัสความร้อนของฟ่งผ่านกางเกงเนื้อหนา  รูดซิบออกรวดเร็วแล้วล้วงจับท่อนแข็งที่อยู่ในกางเกงใน  ฟ่งสะดุ้งแล้วดิ้นหนี  หัวทุยโขกกรามผมแถมด้วยแรงถีบไม่ยั้ง..ส่งให้ผมตกเตียงทันที

“ไอ้ตั้น!  บอกว่าไม่เอาไง!  กลับบ้านไปเลยนะ  แล้วอย่ามาให้เห็นหน้าอีก!  ฮึก..ไอ้บ้าตั้น..”  นั่งนวดก้นกบแล้วมองฟ่งโกรธจนตัวสั่นปากสั่น  ร้องไห้ไปด่าไปอยู่บนเตียง  ผมรู้ว่าฟ่งอาย  อย่างมากผมก็แค่จูบ  ไม่เคยทำถึงขนาดนี้  แต่..ผมรักฟ่ง  ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งอยากสัมผัส  อยากทำอะไรที่มันมากกว่าจูบ  ผมไม่อยากรอให้ฟ่งพร้อม  ฟ่งไม่มีความกล้ากับเรื่องแบบนี้  ถ้ารอให้เอ่ยปาก..ผมคงใช้มือช่วยจนไม่อยากได้ตัวฟ่งอีกแล้ว

สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วขึ้นไปนั่งบนเตียง  ฟ่งทั้งถีบทั้งต่อย  หลบตีนได้หวุดหวิดแต่หลบหมัดไม่ทัน  เสยเข้าปลายคางจนหน้าหงาย  คว้าตัวไว้แล้วรัดแน่น  กดแก้มตัวเองเข้ากับใบหูเล็ก  กระซิบขอโทษและบอกว่าผมรักฟ่งซ้ำ ๆ จนฟ่งเริ่มสงบลง  ดันไหล่เล็กออกมามองฟ่งก็สะบัดตัวหนี  จับไว้แน่นขึ้นแล้วก้มมองหน้าเล็กที่เปื้อนน้ำตา  เช็ดให้เบา ๆ แล้วกอดไว้หลวม ๆ

“ผมรักฟ่ง..ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน  อยู่ใกล้คนที่รักก็อยากกอด  อยากจูบ  อยากเป็นเจ้าของ..”  ลูบหลังเบา ๆ แล้วดันไหล่ฟ่งออก  ประคองหน้าขึ้นมาสบตา

“ฟ่งกลัวอะไร?  รังเกียจที่ตั้นสัมผัสเหรอ?”  ดวงตาสีดำที่ผมมองอยู่เบือนหลบไปมองคอเสื้อผม..ฟ่งกำลังอายชัด ๆ  ก้มหอมแก้มแล้วผละออกมามองหน้าชมพู  ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นก่อนจะหลับตาปี๋เมื่อผมเลื่อนปลายจมูกหอมปลายคาง   จูบที่ซอกคอแล้วดึงเสื้อขึ้นมาจนถึงคอ  ลากลิ้นเลียลงมาจนถึงหน้าอก  จับเสื้อที่คาอยู่ที่คอฟ่งออกให้พ้นตัว  มือเล็กจับหมอนขึ้นมากอดแล้วพลิกหันข้างให้ผม  อมยิ้มแล้วถอดเสื้อผ้าออกจนเปล่าเปลือย  นอนกอดฟ่งจากด้านหลัง  เจ้าตัวเกร็งตัวเมื่อสัมผัสกับหน้าอกแกร่งและแท่งแข็งของผมที่ดุนดันก้นเล็ก  จูบเบา ๆ  ที่ท้ายทอยแล้วเลื่อนมือไปกอดฟ่งเต็มตัว  ดึงหมอนออกแล้วจับพลิกมามองตา  ฟ่งหลับตาหนีภาพศิลปะของผม  ประคองหน้าแล้วจูบอ่อนโยน 

“ให้เป็นไปตามธรรมชาติ..ฟ่ง”  กระซิบบอกที่ริมฝีปากอิ่มแล้วจูบแผ่วเบา  แทรกปลายลิ้นเข้าไปเกาะเกี่ยว  เลื่อนจูบลงประทับรอยรักทั่วหน้าอก  ระเรื่อยลงมาที่หน้าท้องไร้ไขมัน  เลียตามไรขนที่ผลุบหายเข้าไปในกางเกงเนื้อหนา  สัมผัสความนูนโป่งแถวเป้ากางเกง

“อึ๊ฮ์..”  เหลือบมองก็เห็นมือขาวกำลังปิดปากตัวเองแน่น  ปลดกระดุมแล้วรูดซิบกางเกง  ดึงออกพร้อมกางเกงในจนฟ่งอยู่ในสภาพเดียวกันกับผม  จับความแข็งขืนของฟ่งแล้วรูดรั้งข้อมือเบา ๆ ยันตัวขึ้นมาจูบหลังมือที่ปิดปาก  เลียไปตามนิ้วจนฟ่งยอมดึงมือออก  แตะปลายลิ้นที่ริมฝีปากอิ่มที่อ้าเผยอ  เสียงครางเบา ๆ ของฟ่งยิ่งทำให้ผมห้ามใจไม่อยู่  ก้มลงไปรูดรั้งความแข็งขืนสีชมพูเข้มของฟ่งด้วยริมฝีปากตัวเอง  ดูดเม้มจนฟ่งถึงฝั่งฝัน  คายของเหลวขาวข้นที่กลืนลงไปไม่หมดใส่ฝ่ามือตัวเอง  ป้ายเบา ๆ ที่ช่องทางสีเนื้อแล้วกดปลายนิ้วเข้าไปทักทาย

“อื้อออ  เจ็บ..”   ก้มลงเลียตุ่มไตแล้วจับความแข็งขืนของฟ่งขึ้นมาชักให้เบา ๆ ควานนิ้วหมุนจนฟ่งเริ่มให้ความร่วมมือ  ดันเข้าไปอีกนิ้วแล้วเลื่อนริมฝีปากลงมาครอบครองความแข็งขืนของฟ่งอีกครั้ง  ก้นที่ขยับรับนิ้วเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผม  ถอนนิ้วออกแล้วบดเบียดแท่งร้อนของตัวเองเข้าไปแทน  มือข้างหนึ่งไล้วนยอดอก  ริมฝีปากจูบแลกลิ้น  มือข้างที่เหลือรูดรั้งดึงความสนใจจากการบุกรุกช่องทาง  ฟ่งหายใจหอบถี่แล้วกัดริมฝีปากผมแรงขึ้น  ดันท่อนแข็งของตัวเองเข้าไปจนตัวชิดกัน  แช่ทิ้งไว้แล้วรูดรั้งความแข็งขืนของฟ่งให้กลับมาร้อนอีกครั้ง  ขยับสะโพกเข้าออกช้า ๆ แล้วเพิ่มความเร็วขึ้น  บดจูบร้อนแรงจนฟ่งกอดคอผมแน่น  ก่อนจะผวาเฮือกแล้วปล่อยน้ำรักใส่หน้าท้องผมเป็นทาง  แรงตอดรัดจากช่องทางที่ครอบครองท่อนแข็งของผมตอดรัดแน่นจนผมทนไม่ไหว  จับสะโพกแน่นดึงเข้าหาตัวสุดแรงแล้วปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในตัวฟ่ง..จนหมด

“รัก..รักฟ่ง”  ประคองหน้าเล็กมาจูบ  กระซิบบอกรักที่ริมฝีปากอิ่ม  ฟ่งลืมตาขึ้นมามองแล้วโน้มคอผมเข้ามาจูบตอบ  แลกลิ้นผสานลมหายใจจนน้องชายที่คาอยู่ในตัวฟ่งเริ่มอยากปลดปล่อยอีกครั้ง  ขาเรียวขยับแยกออกให้ผมได้รักฟ่งจนกว่า..จะพอใจ 

 ปล่อยให้ร่างกายกับหัวใจได้ทำงานพร้อมกันอีกครั้งจนขึ้นสวรรค์ด้วยกัน  ผมอุ้มฟ่งไปล้างตัวแล้วพากลับมานอนที่เตียงกว้าง  จูบหน้าผากส่งฟ่งให้ฝันดี

ฟ่งหลับไปแล้วครับ..ตัวรุม ๆ และหน้าแดงที่เหมือนเริ่มมีไข้ของฟ่งทิ้งให้ผมนั่งกุมขมับอยู่ข้าง ๆ

ผมจะบอกลุงไช้พ่อฟ่งว่ายังไงดีครับถ้าลุงไช้ถามหาฟ่งในวันพรุ่งนี้ที่เขียงหมู..






ช่วยผมคิดที!

END.


ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ชอบจังเลย ให้อารมณ์ตลาดสดดีมาก ๆ ชอบชื่อตอนแต่ละตอนด้วยน่ารักจัง
ยังอ่านไม่ครบเลยค่ะ มาเม้นท์ให้กำลังใจคนเขียนก่อน
ต้องหาเวลา ไล่อ่านทีเดียวรวดเลย (ตอนนี้แอบเจ้านายอยู่ค่ะ จุ๊ ๆ )
อยากอ่านครบทั้ง 29 คู่ด้วย ใครมี ขอให้คนเขียนหน่อยนะคะ  :impress:

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
บอกลุงไช้ว่า...
"เตี่ยครับ ฟ่งเป็นของตั้นแล้วครับ"
จากนั้นก็เตรียมตัวเป็นหมูบะช่อคาเขียงซะดีๆ 555
 :hao7:
บวกและเป็ดแบบเลือดสาดกระจายยยยย

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
บอกความจริงจ่ะ เตรียมหลบปังตอลุงใช้ด้วย :hao7:

 :กอด1: :L2: :pig4:


ออฟไลน์ LovelySyruP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งมาอ่านตั้งแต่ตอนแรกค่ะ  อ่านไปบิดไป เขินนนน ><,,,,  :-[
น่ารักมากๆทุกคู่เลยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2015 03:07:20 โดย LovelySyruP »

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
น่ารักทุกคู่เลย อ่านไปยิ้มไป สงสัยต้องไปตลาดบ่อยๆบ้างแล้ว :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด