แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13  (อ่าน 108846 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สนุกมากกกกก ชอบๆๆๆ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สนุกและฮาดีมากครับ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1:  กอดน้องซน.  เค้าอยากเกาคางน้องซนบ้างอ่า
เอาเข้าจริงซนเกรียนกว่าแสนดีอีกนะ

ไม่รับเป็นแฟนไม่เป็นไร ตอนนี้รับทาสแมวที่ชื่อน่านไปใช้พลางๆก่อนนะซน.
จัดคู่รองมาเลยจ้า. ขอบคุณ  :mew1: 

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ซนเกรียนๆๆๆๆๆๆ

อ่านไปฮาไป555

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of you ซน special intro by VENUS



อื้ออออ


ผมปัดอะไรสักอย่างที่กำลังคลอเคลียใบหน้าผมออก แต่ยิ่งปัดออกมันก็ยิ่งหนักขึ้น ผมเลยนอนคว่ำแทน แต่แทนที่ไอ้ตัวกวนมันจะยอมปล่อยผม มันกลับใช้ริมฝีปากเย็นๆจูบบริเวณหลังคอ ไล้ลงมาที่เรื่อยๆ


“พี่บาส...อย่าแกล้ง จะนอน” พอขยับหนีไม่เป็นผล สุดท้ายผมก็เลยเป็นคนที่เอ่ยปากออกด่ามันแทน เมื่อคืนเขาทำให้ผมนอนไม่หลับทั้งคืนไม่รู้ไปตายอดตายอยากที่ไหน ปกติผมกับมันไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้กันบ่อยหรอกครับ เพราะผมจำกัดเวลาให้มันว่าทำได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์ที่ผมไม่ได้อ่านหนังสือเท่านั้น เพราะงั้นแต่ล่ะครั้งที่มีอะไรกันมันถึงเต็มไปด้วยความหื่นกระหายของหมาบ้าตรงหน้า


ผมกับมันรู้จักกันครั้งแรกตอนที่รับน้องมันเป็นพี่รหัสผม มันทั้งดุทั้งด่าแกล้งผมสารพัดที่ เพราะมันคงเห็นว่าผมไม่ค่อยจะเชื่อฟังมันเท่าไหร่ล่ะมั้ง ผมมันเป็นพวกประเภทไม่ชอบไอ้เรื่องSOTUSอยู่แล้ว และคิดมาตลอดแหละว่าคงเรียนที่นี้แค่ปีเดียว กะว่าปีหน้าคงซิ่วไปเรียนมหาลัยที่มันไม่ต้องมามีปัญหาเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องแบบนี้ อีกอย่างผมก็อยากจะเรียนหมอมากกว่าด้วย และสิ่งที่ผมจำได้ดีคือตอนเปิดตาเฉลยพี่รหัส จำได้แม่นเลยว่าผมด่ามันว่าเหี้ยเป็นคำแรก


“เหี้ยยยย”

“อ่าวด่ากูซะงั้น มึงไม่ดีใจเหรอได้คนหล่อแบบกูเป็นพี่เนี่ยไอ้วี”

“กูไม่เห็นจะอยากได้มึงเป็นพี่เลย คนกวนตีนแบบมึง” ผมเบ้ปากแล้วหันไปมองพี่อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆไอ้บาส “อ่าวพี่อั้ม”

“เออกูเอง”

“อย่าบอกนะว่าพี่เป็นลุงผมอ่ะ”

“ดีใจอ่ะดิ”

“มากๆอ่ะพี่” พี่อั้มเป็นคนที่ชอบมาเทคขนมดูแลผมโคตรดีตอนช่วงที่รับน้องใหม่ๆ ผมชอบโดดกิจกรรมรับน้องแล้วพี่อั้มก็เป็นหนึ่งในคนที่บอกว่าไม่ต้องมาก็ได้ แต่ไอ้วีกลับให้ผมเข้ารับน้องตลอด

“มาๆกูขอผูกสายสิญจน์ให้มึงก่อนกูจะรีบไปแดกเหล้ากับไอ้เหี้ยดิว” พี่อั้มเอาสายสิญจน์จิ้มให้โดนน้ำตาเทียนแล้วเอามาผูกที่ข้อมือผม “ยินดีตอนรับเข้าสายเว้ย กูรับมึงเป็นหลานตั้งแต่แรกพบแล้วจะบอก ถ้าไม่ติดว่ามีคนจองมึงอยู่กูเอามึงเป็นแฟนแล้ว”

"ใครจองอ่ะ"

"พวกขี้ป๊อดแถวนี้แหละมึง"

“จริงดิ” ใครวะ ผมไม่เห็นรู้สึกว่ามีคนมาจีบผมสักคน

“พอเลยยย ไหนนัดกับพี่ดิวไว้ไงวะพี่อั้ม จะไปไหนก็ไปเลยไป”

“มึงนี่มันเยอะเหลือกันนะเชี่ยบาส ผูกเสร็จแล้วพามันมาหาเชี่ยดิวด้วย เชี่ยนั่นแม่งลากงอกบอกให้มาผูกสายสิญจน์รับน้องหน่อยก็ไม่ได้”

“พี่ดิวคือ??”

“พี่ปีสี่สายกู” พูดยังงี้หมายความว่าไงวะ สายมันสายผมคนล่ะสายกันเหรอ

“งั้นก็สายผมด้วยดิ”

“เขายังไม่รับมึงเป็นน้องหรือเปล่า กูเองก็ไม่รับมึงเป็นน้องหรอกนะ” ใครเขาอยากได้มึงเป็นพี่กัน “แต่ว่าตามพิธีแล้วก็ต้องมีการคล้องข้อมือกันเป็นเรื่องปกติ เอามือมาดิ” ผมยื่นมือส่งไปให้ไอ้พี่บาสอย่างช่วยไม่ได้ มันหยิบข้อมือสีดำที่ตรงกลางเป็นหินสีดำเหมือนกัน มันสวยมากเลยครับ คล้ายๆกับข้อมือที่ไอ้พี่บาสสวมอยู่

“ท่าทางจะแพง”

“ได้มาฟรี”

“งั้นเหรอ”

“เออ ส่งมือมาดิ” ผมยื่นมือส่งไปให้ไอ้พี่บาสผูกข้อมือให้ เชื่อไหมว่าตาธรรมเนียมแล้วต้องเอาสายสิญจน์ไปจิ้มน้ำตาเทียนให้ร้อนก่อนแล้วค่อยเอามาแปะที่แขนน้องเหมือนที่ไอ้พี่อั้มทำ แต่ไอ้บาสกลับไปทำแบบนั้น

“ทำไมไม่เอาจิ้มน้ำตาเทียนด้วยอ่ะ”

“เดี๋ยวมันร้อน”

“ห้ะ” ผมไม่ได้ยินหรอกครับ เพราะแม่งเล่นพูดพึมพำบ่นกับตัวเองคนเดียว ผมเลยก้มหน้าลงไปหามันแล้วถามมันอีกครั้ง

“มันร้อน” ริมฝีปากมันเฉียดปากผมไปนิดเดียว เราสองคนต่างคนก็ต่างกระตุกวาบไปทั้งคู่ ไอ้บาสมันยิ้มเบาๆแล้วใช้มือลูบริมฝีปากผมที่เฉียดมันเมื่อกี้ทำเหมือนเช็ดอะไรสักอย่าง “เมื่อกี้มันโดนปากกู”

“อ่ออ ที่เช็ดๆนี่แสดงว่ามึงรังเกียจกูงั้นดิ”

“เปล่า...กูกลัวมึงรังเกียจตั้งหาก”

“ประสาท” และตอนนั้นล่ะมั้งเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกผม ทุกวันนี้ไอ้ข้อมือสีดำที่มันให้ผมก็ยังใส่ติดตัวเสมอ และผมเองก็เชื่อว่าข้อมือสีดำที่บาสยังใส่อยู่ตอนนี้ก็คงเป็นของที่มันตั้งใจซื้อมาคู่กับผม





“นี่มันจะเก้าโมงกว่าแล้วนะวี มึงควรจะตื่นได้แล้ว ไม่ได้กินข้าวเดี๋ยวก็ปวดท้อง ลุกครับ”

“ไม่เอา มึงตื่นก่อนมึงก็ไปกินก่อนดิ...ท้องใครท้องมัน” ผมจะเรียกบาสว่าพี่เวลาที่อยากอ้อนมันเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็มึงกูนี่แหละ แต่มันอยากให้ผมเรียกมันว่าพี่มากกว่า เพราะสุดท้ายยังไงมันก็เป็นพี่ผม

“ท้องมึงก็คือท้องมึง แต่คนลำบากคือกูไหม”

“ก็ไม่ต้องมาดูแลดิ ไม่ได้บังคับสักหน่อย”

“เดี๋ยวจะโดน”

“กลัวตาย” ไอ้พี่บาสมันคงหมั่นเขี้ยวผมมากมันถึงกลับงับหูผมแล้วขบเม้มอย่างแรง เท่านั้นไม่พอสำหรับมันหรอกครับพอได้ทำครั้งนึงแล้วครั้งต่อไปคือความจัญไรเข้าครอบงำ บาสขยับจากใบหูไล้เรื่อยลงมาที่คอ มันจับให้ผมหันหน้ามองหน้ามัน แล้วจูบเบาๆที่จมูก ปาก ลิ้นร้อนๆของมันส่งเข้ามาในปากโดยที่ไม่สนใจสักนิดว่าผมยังไม่แปรงฟัน แต่มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับไอ้พี่บาสแหละครับ “อื้อ อย่า...”

“อย่าอะไร...ดูดิมันดันขาพี่ขนาดนี้” ไอ้พี่บาสกวนตีนก็มึงเล่นมาปลุกมันแบบนี้มันก็ลุกเคารพธงชาติดิ

“อย่าช้าไง”

"หื่นเหรอ"

"ก็มึงมาปลุกมันเอง"


ผมขยับตัวนอนหงายด้วยท่าทางที่คิดว่าสะดวกสำหรับทั้งคู่มากที่สุด ไอ้พี่บาสยกยิ้มมุกปากแล้วขยับเอาปากไล่จูบจากคอลงไปถึงหน้าท้อง เวลาที่ลิ้นเปียกๆของมันไล่วนตรงขอบบ๊อกเซอร์เป็นอะไรที่เสียวสุดๆจนผมอดเกร็งท้องตามไม่ได้ มันจูบซับน้องชายผมผ่านบ๊อกเซอร์ ขบเบาๆที่หัวจนต้องหลับตากัดปาก ถ้ามึงจะทำขนาดนี้ถอดกางเกงกูออกก่อนไหมแม่งจะมาท่ามากท่าเยอะทำไมวะ

“อยากแล้วดิ”

“เออ”

“พูดไม่เพราะไม่ทำดีกว่า”

“พี่บาส...ทำให้มันเป็นแบบนี้แล้วก็ต้องทำต่อให้จบดิ อย่ามาทำนิสัยครึ่งๆกลางๆแบบนี้ดิวะ” ณ จุดนี้ผมกับมันไม่มีหรอกครับความเขินอาย มีแต่พูดกันตรงๆ อยากทำก็คืออยากทำ ถ้าไม่อยากทำก็บอกว่าไม่ แต่มันไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราสองคนจะมีแค่เซ๊กส์หรอกนะครับ มันผ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้เต็มไปหมด เอาจริงๆมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบด้วยซ้ำ แต่บางทีผมก็อดนึกไม่ได้ ว่าเรื่องราวที่ผ่านระหว่างผมกับมันอาจจะเป็นแค่บททดสอบเริ่มต้นที่ของจริงมันยังไม่เกิดหรือเปล่า


“อึก...อ๊ะ” ผมแหงนหน้ามองเพดานก่อนจะหลับตาลงนิ่งๆ เสียงปรนเปรอที่พี่บาสทำให้ยังดังจ๊วบจ๊าบไม่มีหยุด มือข้างนึงของมันเอื้อมมาเล่นกับหน้าอกผม พร้อมกับจังหวะขึ้นลงของริมฝีปาก “แฮ่ก แฮ่ก พี่บาส...เร็วกว่านี้”

“เหรอครับ” K ผมเกลียดมัน เวลาที่ขอร้องอะไรจริงๆจังๆไม่เคยทำให้หรอก ไม่ต้องมามองหน้ากูเลย แค่เมื่อกี้มันทำอีกสักไม่ถึงสองสามครั้งผมก็จะไปถึงสวรรค์อยู่แล้ว ไอ้พี่บาสจุ๊บปากผมแล้วขยับมานั่งพิงหัวเตียงแทน มันหันมามองหน้าผมแล้วยักคิ้วหลิ่วตาเอามือชี้ที่เป้าตัวเองทำนองว่าให้ผมทำอะไรสักอย่าง พอผมกำลังจะก้มไปทำแบบเดียวกับมัน ไอ้พี่มันก็ส่ายหน้ายิกประมาณว่าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

“จะเอาแต่เช้าเลยหรือไง”

“กูให้มึงทำเองตั้งหาก”

“มันก็เหมือนกันแหละวะ” ผมบ่นอุบอิบแล้วขยับขึ้นไปนั่งทับน้องชายมันที่ดันก้นผมอยู่ “มึงมันหื่น”

“ช่วยไม่ได้อ่ะ แฟนเราน่ารักนี่หว่า” ผมเบ้ปากแล้วขยับเอื้อมมือไปหยิบถุงยากกับเจลบนหัวเตียงก่อนจะหันหลังให้ไอ้คนที่นอนพิงเตียงอยู่ ริมฝีปากมันไม่ได้อยู่เรื่อยๆเปล่าๆหรอกครับ จูบดูดทั่วหลังจนถ้าคนอื่นมาเห็นอาจคิดว่าผมเป็นโรคห่าอะไรสักอย่าง

ผมใส่ถุงยางให้ไอ้บาสเสร็จก็เอามือลูบเบาๆตรงส่วนนั้นของมัน ลูบไปชักไปอยากให้มันเสร็จคามือผมดีกว่าที่จะเสร็จในตัวผม


“กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่ เลิกทำแบบนั้นครับที่รัก”

“อะไรล่ะ”

“เร็ว” มันพูดดุแล้วจับผมหันหน้ามาหามัน ยกสะโพกผมให้ถอดบ๊อกเซอร์ออกก่อนจะขยับตัวผมให้นั่งลงไปบนตัวมันช้าๆ ความรู้สึกแรกเวลาสอดใส่ยังไงสำหรับผมมันก็ยังเจ็บอยู่ดี แต่ก็อย่างที่สุภาษิตไทยเขาบอกไว้นั่นแหละ ว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เพราะถ้าร่างกายเริ่มชิน ความสนุกต่อจากนี้มันคือสิ่งที่กำลังเริ่มต้นตั้งหาก


“อ๊ะ อ๊า” เสียงกระแทกกระทั้นกับเสียงครางพร้อมกับเหงื่อที่ไหลไม่หยุด ตาหวานเยิ้มกับรสสัมผัสที่ให้กันและกันไม่เคยเบื่อ

“พี่บาส” ผมกอดคอเขาแล้วก้มหน้าลงกับบ่า พยายามประคองขาตัวเองให้ขยับเร็วขึ้นแต่มันเมื่อยจนสุดท้ายไอ้พี่บาสก็เป็นคนทำเองทั้งหมด แม้จะร้อนแรงแค่ไหน แต่มันไม่เคยรุนแรงกับผมเลยสักครั้ง ทุกอย่างที่ทำมันเต็มไปด้วยคำว่าอ่อนโยน ทะนุถนอม จนอดผมคิดไม่ได้ว่าถ้ามันนึงเราจากกันไปคนที่เสียดายคงมีแค่ผม “รักวีมากมั้ย”

“ที่สุดเลยครับ”














“คนอื่นไปไหนหมดอ่ะ” ตอนที่เดินลงมากจากห้องก็ไม่เห็นทั้งรถแล้วก็คนที่อยู่ในบ้านแล้ว ทั้งพวกพี่แอลหรือแม้แต่ไอ้ซนเพื่อนผม

“ตอนที่พี่เดินลงมาก็เห็นพวกไอ้แอลกำลังจะกลับพอดี ไอ้โก้ไปหาเมีย ส่วนไอ้ป๊อบก็ไม่ต่าง” ในกลุ่มพี่บาสคนที่มีแฟนและดูท่าทางจะรักกันมากๆก็มีพี่โก้กับพี่ป๊อบ เห็นไอ้พี่ป๊อบมันบ้าๆบอๆแบบนั้นแฟนมันเป็นดาวนะครับขอบอก คบกันตั้งแต่เรียนมัธยม ก็แปลกใจนิดๆแหละว่าพี่เมี่ยงคบกับไอ้พี่ป๊อบได้ไง พอถามก็เอาแต่ยิ้มเขินๆแล้วบอกว่าป๊อบตลกดี ผมว่าไม่ได้ตลกธรรมดานะ มันบ้าด้วย

“แล้วไอ้ซนกับพี่น่านอ่ะ”

“ไม่รู้ว่ะตื่นมากก็ไม่เจอมันแล้ว” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินไปหยุดดูพ่อครัวที่กำลังหั่นนู่นหั่นนี้ “วันนี้มึงทำอะไรอ่ะ”

“ข้าวผัดไข่ธรรมดาน่ะ วีกินได้เปล่าไม่มีเนื้อนะ”

“ได้ๆ กินได้หมดแหละ ไม่ต้องให้ช่วยใช่เปล่า” พูดไปใจจริงผมก็ไม่ได้อยากไปช่วยอะไรมันหรอกครับ ขี้เกียจจะตาย

“ถ้าพูดให้ตัวเองดูดีเฉยๆแต่ไม่อยากจะช่วยจริงๆก็ไม่ต้องพูดหรอก”

“แหะแหะ”

“ไปเตรียมจานนั่งรอตรงโต๊ะไป”

“กินตรงโซฟานะ อยากดูทีวี”

“ตามใจเลยครับ”

“เยี่ยม” ผมจุ๊บปากพี่บาสไปทีนึงก่อนจะเตรียมจานกับแก้วน้ำไปวางไว้ตรงโซฟา


ระหว่างรอมันทำข้าวผัดผมก็เปิดช่องไปเรื่อย ทีวีเดี๋ยวนี้มีหลายช่องแต่ก็ไม่รู้จะดูอะไร ปกติบ้านหลังนี้ผมไม่ค่อยได้มานอนหรอกครับส่วนใหญ่จะปล่อยทิ้งไว้แล้วให้นานๆทีถึงจะเข้ามาทำความสะอาด ครอบครัวผมเขาย้ายไปอยู่ภูเก็ตตั้งแต่ตอนที่ผมจบม.ต้นใหม่นั่นแหละ ผมเองก็ไปเรียนต่อม.ปลายที่นู่นพอสอบติดวิศวะในกรุงเทพก็เลยได้กลับมาอยู่ที่นี้ แต่พอเป็นแฟนกับไอ้บาสผมก็ไปอยู่กับมันที่คอนโดแทน

“เออวี พวกพี่อั้มโทรมาบอกว่านัดกินเหล้าเย็นนี้ มันบอกให้มึงไปด้วย”

“นี่ยังนับกูเป็นสายอยู่อีกเหรอวะ”

“นับดิ มึงจะได้ไปเจอน้องรหัสตัวเองด้วย”

“ผู้หญิง ผู้ชาย”

“ไม่ต้องมาตาวาว ถึงเป็นผู้ชายแต่มันก็ไม่ใช่สเป็คมึงหรอก” ผมเบ้ปากอย่างแรง สายนี้ตั้งแต่สืบทอดกันมากี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็เป็นผู้ชายแทบทั้งหมด แถมทุกคนต้องรับตำแหน่งพี่ว๊ากด้วย แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากจะซิ่วก็คือผมขี้เกียจไปยืนทำหน้าเก๊กว๊ากพวกเด็กปีหนึ่ง “แต่น้องหน้าตาน่ารักดี ตัวเล็กๆปากแดงๆ”

“พูดแบบนี้คือมึงชอบมันเหรอ สเป็คมึงสินะ”

“สเป็คกูก็มีแค่มึงนี่แหละวี อย่าหึงไปหน่อยเลย” ไอ้พี่บาสบีบปากผมจนปากยู่ก่อนจะดันจานข้าวผัดเลื่อนมาให้ผม

“ก็มึงชอบทำให้กูหึง”

“มึงมากกว่ามั้ง”

"เคยเหรอ"

"แทบทุกครั้ง" ก็ไอ้พี่บาสมันหน้ามืดตามัวหึงไม่รู้เรื่อง บางทีผมคุยกับคนอื่นอยู่มันก็คอยมาแง่งๆใส่คนที่ผมคุยด้วยตลอด

"เอาน่าาาา ยังไงผมก็มีแค่คุณคนเดียวเท่านั้นแหละครับ"



หลังจากนั้นผมกับมันก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยมีพูดเรื่องหนังที่เพิ่งเข้าเร็วๆนี้ด้วย กะว่าจะไปดูกันบ่ายนี้เลยแหละครับ พอดูเสร็จค่อยไปแดกเหล้ากับสายรหัสต่อ




ติ้ง

ผมหยิบมือถือที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาดู พอเห็นสติ๊กเกอร์กับรูปภาพที่ส่งมาให้ก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะรูปส่วนใหญ่คือรูปไอ้แสนดี ลูกสาวผมตั้งแต่ตอนที่มันตัวเล็กๆจนโตขึ้นขนาดนี้ แมวอ้วนเอ๊ย!!น่าฟัดฉิบหาย

“ยิ้มอะไรนักหนาวะ ดูอะไร” ไอ้พี่บาสพูดถามแต่มันก็ไม่ชะเง้อหน้ามามองมือถือผมหรอกนะครับ มันเป็นคนที่ค่อนข้างเคารพสิทธิของผมมากๆ ไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะซอกแซกยุ่งนู่นนี่นั่นกับผม และนั่นเป็นหนึ่งในข้อดีของมัน

“เปล่า ไม่ได้ยิ้มอะไร ดูรูปแมวไปเรื่อย...”

“มึงชอบแมวสินะ เห็นเล่นกับแสนดีจัง”

“ก็ชอบอยู่”

“อยากเลี้ยงหรือเปล่าล่ะ...”

“พี่บาสจะซื้อเหรอ”

“คิดว่าไงอ่ะ”

“ไม่รู้ดิ”

“งั้น......วันนี้ไม่ต้องไปดูหนังล่ะเนอะ...”

“อ่าว....”

“ไปดูแมวที่จตุจักรกัน” ผมพยักหน้ารัวแล้วเริ่มเข้าอินเตอร์เน็ตหาพันธุ์แมวที่อยากได้

“แล้วคอนโดมึงเลี้ยงได้ด้วยเหรอ”

“ได้แหละมั้ง”

“ทำไมต้องมีมั้งด้วยอ่ะ ถ้าไม่ได้ก็ช่างเถอะ ไม่เลี้ยงก็ได้ แค่แสนดีตัวเดียวก็พอแล้ว”

“แล้วมึงจะได้ไปเล่นกับแมวไอ้ซนตอนไหนล่ะ ซื้อเป็นของตัวเองดีกว่าไหม” จริงๆไอ้พี่บาสก็พูดถูกผมคงไม่มีโอกาสไปเล่นกับแสนดีบ่อยนักหรอก



ติ้ง

ถ้าพี่วีว่างก็มาเล่นกับแสนดีดิ

มันคิดถึงพี่มากๆเลยรู้เปล่า



นี่ไงเวลาที่จะไปเล่นกับแสนดีก็มีเยอะแยะ ไอ้ซูเจ้าของตัวจริงเขาอนุญาตขนาดนี้

พี่ไปจริงๆนะเว้ย


ผมตอบไอ้ซูกับไป


ต้องมาจริงๆดิพี่เพราะมันไม่ใช่แค่แสนดีหรอกนะที่คิดถึงพี่อ่ะ









ผมเองก็คิดถึงพี่เหมือนกัน[/size]








ผมอ่านแล้วแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ไม่ใช่ไม่อยากตอบนะครับ แต่ผมแค่รู้สึกว่าไม่อยากตอบก็แค่นั้น ผมไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านน้องมันเป็นยังไง อยู่แบบไหน เพราะพอจบม.สามผมก็ไปเรียนภูเก็ตไม่ได้คิดว่าจะต้องไปรับผิดชอบความรู้สึกของใครทั้งนั้น



มันอาจจะใช่ที่ผมกับมันเป็นของกันและกันคนแรก แต่คนแรกของกันและกันมันไม่จำเป็นต้องมีความรักเข้าไปรวมอยู่ในนั้นสักหน่อย






ตอนนั้นผมก็แค่อยากรู้อยากลอง



แต่ใครเลยจะรู้ว่าอีกคนมันไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับผม  ทั้งๆที่คิดว่าผ่านมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว เรื่องมันน่าจะลืมเลือนกันไปเป็นเพียงแค่ความทรงจำสีจางๆ แต่ไม่รู้ทำไมกับบางคนมันอาจจะเข้มขึ้นทุกวัน





“คิดอะไรวะ”

“เปล่า...คิดไปเรื่อยน่ะ....."ผมมองหน้าแฟนผมที่เลิกคิ้วใส่ทำหน้างงๆแล้วก็หันไปดูทีวีต่อ "พี่บาส...”

“อะไร”

“รักวีเปล่า”

“ถามอะไรวะ”

“ก็ถามไง รักเปล่า” ผมอ้อนมันพร้อมกับขยับขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัก “รักมั้ย”

“อะไรของมึงเนี่ยวี จู่ๆก็มาอ้อน”

“รักเปล่าล่ะ” ผมจับแก้มทั้งสองข้างของไอ้คนตรงหน้าแล้วมองสำรวจหน้าหล่อๆของมันอีกครั้ง ไอ้พี่บาสโกนนวดแทบจะทุกวัน เพราะผมไม่ชอบเวลาที่มีนวดบางๆมาทิ่มตามตัวผม มันเจ็บมากกว่าจั๊กจี้ หลายคนอาจจะชอบแต่ผมไม่ชอบ และพอผมบอกมันไปแบบนั้นมันก็ยอมทำตามแบบว่าง่ายสุดๆ

“เมื่อเช้าก็พูดไปแล้ว”

“เมื่อเช้าพี่บาสพูดว่า ที่สุดเลยตั้งหาก ไม่ได้พูดว่ารักสักหน่อย รักมั้ย”

“รักครับ คนนี้รักมากกกกกกก” ผมยิ้มออกมาเบาๆแล้วจุ๊บลงที่ปากมันอีกครั้ง

“หึ...วีก็รักพี่”

"จู่ๆก็มาอ้อนเป็นไรวะ" ไอ้พี่บาสลูบหัวผมเหมือนเด็กๆ

"พี่บาส...."

"ว่า???"

"จำได้เปล่าที่วีเคยเล่าว่าผู้ชายคนแรกที่วีนอนด้วยเป็นน้องชายเพื่อนน่ะ" ผมเคยเล่าเรื่องนี้ให้มันฟัง จริงๆผมก็เล่าให้มันฟังทุกเรื่องแหละครับ

"คนที่มึงบอกมึงรู้สึกผิดอะไรนั่นจนไม่เคยมีแฟนจริงๆจังๆมาจนกระทั่งเจอกูใช่เปล่า..."

"อื้อ" ผมมุดหน้าลงกับซอกคอไอ้พี่บาสแล้วจูบเบาๆ

"ทำไมวะ...มึงเจอมันหรือไง"

"............."

"............."

"เปล่าเจอ" ขอโทษนะพี่บาส ผมเองก็ไม่อยากโกหกหรอกแต่ถ้าพูดไปคนที่เครียดที่สุดก็เป็นคนตรงหน้า

"แล้วพูดถึงมันอีกทำไมวะ"

"แค่ฝันถึงเฉยๆ"

"ฝันถึงก็ไม่ได้โว้ย ในฝันมึงต้องมีแค่กูเท่านั้น..เข้าใจไหม"

"ขี้หึงเหรอเรา" ผมจับหน้าไอ้พี่บาสแล้วบีบแก้มมันจนปากยู่

"มากๆครับ"












TBC
ว๊ายยยยคู่รองเหมือนจะมีดราม่า....หรือเปล่า
จริงๆกำลังคิดว่าคู่นี้อาจจะเอาลงตอนท้ายๆดีกว่ามั้ย
ขอบคุณคนอ่านคนเม้นมากคร้าบบบบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2015 12:01:34 โดย nuoouka »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
  :o  น้องซูของเรา

พี่วีคะ แบบนี้ถือว่าหลอกเด็กใช่ไหม แล้วตอนนั้นพี่วีเสียซิงให้น้องซูเหรอ อยากเผือกแต่ไม่อยากดราม่าได้ป่าวอะ  :confuse:

บาสวีหวานกันเวอร์ รักกันดีแล้วไม่อยากให้ใครเสียใจเลย.
ขอบคุณที่มาต่อจ้า เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
ดูท่าคู่รองจะมีน้องซูเป็นมือที่สามซะแล้วสิ

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of you ซน ตอนที่ 6

     น่านฟ้าใช้เวลาขับรถพาผมมาถึงที่บ้านมันในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ คิดดูเอาล่ะกันว่ามันจะโคตรตีนผีแค่ไหน ทางลูกรัง ลูกระนาดไม่ได้มีผลกับการเหยียบเบรกที่เท้ามันสักนิด ถึงแม้ว่าผมจะคอยเทียวด่าเทียวว่าเรื่องสะโพกผมที่ยังระบมมากแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่มันก็ทำเป็นหูทวนลมซะมากกว่า

     แล้วระหว่างทางมันก็เป็นช่วงเวลาที่ผมได้สำรวจไอ้คนข้างๆได้มากขึ้น จริงๆแม่งก็ไม่ได้อยากมองหน้ามันหรอกครับ แต่หมั่นไส้ในความหล่อมันไง อยากรู้เฉยๆว่ามันตัดผมทรงอะไร หนังหน้าอย่างผมถ้าตัดแบบมันคงหล่อขึ้นมากเหมือนกัน


น่านฟ้าเป็นผู้ชายผิวขาวแต่แน่นอนว่าไม่เท่าผมที่เป็นลูกคนจีน ทรงผมไอ้น่านเป็นแบบตั้งๆไม่ได้เซท ต่างหูห่วงสีดำที่อยู่ด้านซ้ายเป็นลักษณะเด่นสะดุดตาที่สุดเพราะมันทำให้ไอ้น่านดูแบดบอยขึ้นมาถนัดตา

น่านฟ้าเป็นคนมีตาสองชั้น ส่วนผมเองก็ตาสองชั้นเหมือนกันแต่หลบในสุดๆ หลบจนกูมองไม่เห็น นึกภาพออกใช่ไหมครับไอ้พวกตาสองชั้นที่ลืมตามาแล้วแม่งเหลือชั้นเดียว




เกลียด อยากไปทำตามสามชั้นก็เพราะอย่างนี้แหละแม่ง





     “มองอะไรวะ...” ไอ้น่านส่งเสียงเรียกสติให้ผมกลับมา

     "เปล่ามอง มึงขี้มโนเหรอน่าน ใครเขาจะไปมองคนหน้าตาบ้านๆแบบมึงกัน"

     “หึ" เสียงขึ้นจมูกของมันทำเอาผมรู้สึกขนลุกหน่อยๆ อารมณ์ประมาณว่าจับได้นะแต่ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด "ส่งมันมาดิ”

น่านฟ้ายื่นมือมันมาทำท่าจะรับไอ้ตัวที่นั่งอยู่บนตักผม  เห็นแล้วอยากจะจับไอ้ตัวที่นั่งอยู่บนตักผมฟาดแม่งสักที รักเหลือเกินนะไอ้ตัวเนี่ย แล้วอิแมวที่นั่งอยู่บนตักผมก็รีบเลยครับพอรู้ว่าน่านฟ้าต้องการตัว แทบจะรีบตะกายออกจากอกผมทันที

     “น่าน”

     “อะไร”

     “กูว่ากูเดินไม่ไหวอ่ะ” ผมยู่ปากแล้วพยายามทำหน้าตาที่คิดว่าน่ารักที่สุดในโลกส่งไปให้มัน

     “มึงจะให้กูอุ้มหรือไง ตลกป่ะ” หน้ากูดูเหมือนโน้ต เชิญยิ้มหรือไง

     “ขี่หลังก็ได้....” ไอ้น่านยักไหล่แล้วอุ้มแสนดีออกจากรถ

     “น่านฟ้า”ผมเปิดประตูฝั่งผมแล้วตะโกนเรียกมันอีกครั้ง “มึงได้กูแล้วนะ”

     “ห้ะ” ยังจะมาทำหน้างงอีก

     “ก็อย่างที่พูดไง...มึงได้กูแล้ว” ผมทำเสียงอ่อน หน้างอคอหัก อมลมในแก้มจนป่อง


     ไม่รู้ดิครับผมแค่รู้สึกว่าเวลาผมใช้คำนี้กับไอ้น่าน มันดูเหมือนมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่



     “น่านฟ้า” ผมเรียกชื่อมันอีกรอบ แต่มันก็แค่ไหวไหล่เหมือนไม่ได้แคร์ที่ผมพูดสักนิดสุดท้ายมันก็เดินเข้าบ้านไปเลย ผมนี่ได้แต่นั่งอึ้งบนรถ ในหัวเหมือนมีใครไม่รู้ปาคำว่าโง่ใส่เข้ามาเต็มๆหน้า แม่งได้กูแล้วแท้ๆทำไมไอ้เชี่ยน่านมันทำนิสัยเลวได้แบบนี้ก็ไม่รู้ อย่าหวังว่ามึงจะได้ซั่มกูอีก

    มึงคงยังไม่เคยรับรู้สินะว่ากูเจ็บก้นแค่ไหน ถ้ามึงจะไม่ยอมรับผิดชอบแบบนี้ทำไมตอนที่ทำ มึงถึงไม่ทำเบาๆ ครั้งเดียวก็ได้ แต่นี่เล่นทำหลายรอบแถมเวลาที่มึงกระแทกกระทั้นเข้ามาแม่งก็แรงจนตัวกูโยกเหมือนแผ่นดินไหว มึงทำไมไม่คิด


     ผมบ่นอุบอิบในใจ ปากก็พูดเหมือนสวดมนต์สาปแช่งไอ้น่านฟ้าไปด้วย

     “อะไร” ตอนที่ผมเดินมาถึงประตูบ้าน (ในความคิดคือแม่งเหมือนจากโคราชไปเชียงใหม่)ผมที่ถอดรองเท้าตัวเองออกเสร็จแล้วกำลังจะเดินเข้าบ้าน ไอ้น่านมันมาจากไหนไม่รู้ ทำท่าเหมือนหาของตรงแถวๆหน้าบ้านเพราะมันนั่งยองๆหันหลังให้ผม

     “มึงหาไรเนี่ย กูจะเข้าบ้าน ขวางทางอยู่ได้ แม่ง ไอ้คนโหดร้าย แล้งน้ำใจ นิสัยไม่ดี พ่อแม่ไม่รัก...แล้ว แล้ว...อู้อี้อู้อี้” น่านฟ้าเอามือบีบปากผมอย่างแรง

     “บ่นอยู่ได้น่ารำคาญว่ะ”

     “ก็มึงมาขวางทางไมล่ะ” ผมปัดมือไอ้น่านออกแล้วเบ้ปากใส่มันแรงๆไปที

     “ไม่ได้ขวางก็ไหนบอกว่าจะขี่หลัง”

     “จริงอ่ะ” ผมทำหน้าลังเลไม่เชื่อมันนิดหน่อย คิ้วขมวดนิดๆราวกับจับผิดไอ้คนตรงหน้า แต่ไอ้น่านไม่ได้มีทีท่าเหมือนจะหลอกอะไรผม เอาเป็นว่าในใจลึกๆผมเองก็อยากจะทำใจแข็งไม่รับความปรารถนาดีของมันหรอกครับ แต่ในเมื่อคนมันอยากช่วยอันนี้ก็เลยช่วยไม่ได้ “จะขี่ไหม”

     “ขี่ดิ” ผมขยับเอาตัวไปขึ้นคร่อมบนหลังน่านฟ้า เอนทั้งตัวไปพิงมันแล้วซุกหน้าลงกับบ่ามันแบบไม่กลัวตกสักนิด สบายโคตร แถมตัวไอ้น่านมันเย็นๆจนผมอดไม่ได้ที่จะซุกลงที่คอแล้วรับความเย็นจากร่างกายมัน “ตัวมึงโคตรเย็น”

     “ชมกู???”

     “ชมก็ได้ แต่มาคิดๆดูอีกทีมันจะเป็นคำชมได้ไงในเมื่อสัตว์เลือดเย็นก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนิ อ๊า อ๊าาาาาา” เชี่ยแม่งเล่นจะปล่อยก็ทำท่าจะทิ้งกูลงตรงนี้เนี่ยนะ ตอนที่มันจะปล่อยผมลงจากหลังผมนี่รีบกอดคอไอ้น่านไว้อย่างเร็วอ่ะครับ “อย่าแกล้งดิวะน่าน”

     “กูไม่ได้แกล้ง กูจะทิ้งมึงตรงนี้จริงๆถ้ายังพูดมากอยู่อีก”

     “โอ๋ๆ เขาหยอกเล่นเฉยๆ ขี้งอนเหรอเราอ่ะ” ผมเอาหน้าซุกคอไอ้น่านแล้วกอดคอมันไว้แบบโคตรแน่นที่สุด (กลัวมันปล่อย) ก่อนจะเอานิ้วจิ้มแก้มมันเล่น

    “กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ” ไอ้น่านปัดมือผมออกจากแก้มแล้วหันไปมองทางด้านหน้าต่อ กูก็ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนเล่นมึงสักหน่อย เหอะ


     น่านฟ้าพาผมเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองของบ้าน แสนดีเดินตามคลอเคลียไม่ห่างจากเท้าไอ้น่านมากนัก มันทำตัวราวกับว่ามันกำลังคิดทำร้ายผมโดยการกวนไอ้น่านให้สะดุดตกบันไดแล้วให้ผมตกลงไปตายอะไรแบบนั้น (แมวไอ้ซูนี่มันสุดๆจริงๆนะครับ นี่ขนาดมันพูดไม่ได้มันยังทำให้ผมคิดได้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่)

     “มึงว่าแสนดีมันต้องการจะฆ่ากูทิ้งหรือเปล่า”

     “มึงคิดอะไรของมึงเนี่ย”

     “ก็ดูมันดิมาคลอเคลียรอบตัวมึง ถ้ามึงเผลอสะดุดตัวมันปั๊บ กูกลิ้งตกบันไดตาย คนที่มีความสุขที่สุดคืออิแสนดีชัวร์ แม่งคิดจะฆาตกรรมกูเฉยเลย แมวชั่ว กูจะเอามึงไปปล่อยวัด” ด่าไปขาก็แกว่งๆไล่เตะแสนดีไปด้วย

     “มึงตั้งหากที่คิดเป็นตุเป็นตะคนเดียว มันหิวมากกว่าเถอะ ตั้งแต่เมื่อคืนมันยังไม่ได้กินอะไรเลย” ผมเบ้ปากอย่างไม่เชื่อว่าในสมองน้อยๆของแสนดีจะคิดแค่นั้น (ไม่ต้องมามองหน้าผมว่าผมเป็นพวกอคติคิดแกล้งแมวเลยนะครับ ผมก็แค่ต้องคิดเผื่อแมวปองร้ายไว้ก่อนดิ เราไม่ได้รักใคร่กันขนาดนั้นสักหน่อย)

     “กูก็ยังไม่ได้กินเหมือนกันเหอะ ทำไมมึงห่วงแต่แมววะ กูล่ะ มึงได้กูแล้วนะน่าน”

     “อะไรของมึงอีก”

     “ก็มึงได้กูแล้ว”

     “มึงนี่มัน...กูขอซื้อคำนี้ของมึงได้ไหม”

     “ไม่ขายโว้ยยยยย” ผมพูดพร้อมกับงับไปที่ไหล่ไอ้น่านอย่างแรง ส่วนไอ้น่านก็ตอกกลับผมกลับมาด้วยการหยิกแก้มของผมอย่างแรงไม่แพ้กัน แก้มกูจะย้วยก็เพราะมึงนี่แหละ

     “ชอบกัดไหล่คนอื่นหรือไง เห็นเมื่อคืนก็กัดกูซะจมเขี้ยว กูจะบอกอะไรให้มึงฟังอย่างนึงเว้ยเตี้ย” เตี้ยพ่อง “ไอ้พวกคนที่ชอบระบายอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง หรือว่าเวลามีเซ็กส์แล้วกัดคนอื่นเนี่ยเขาบอกว่าพวกนี้แม่งเซ็กส์จัด”

     “ตลกและ ไม่ใช่กูเถอะ” ผมพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น

     “ไม่ใช่มึงแล้วจะใครล่ะ เมื่อกี้ก็กัด เมื่อคืนก็กัด”

     “เปล่ากัด...” ผมทำเสียงอ่อน

     “ดูเองไหมล่ะตรงไหล่ซ้ายอ่ะ”

     “ไม่ดู...จะนอนแล้ว” ผมตีไหล่ไอ้น่านเบาๆเหมือนไล่ควายให้ออกเดิน น่านฟ้าเอื้อมมือมาตีหัวผมคืนแล้วเดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้องนอน

     “แล้วมึงจะกินอะไรก่อนไหม ไม่หิวเหรอวะ”

     “หิวอยู่แต่ว่าอยากนอนมากกว่าว่ะ” ผมตอบมันทั้งๆที่หน้ายังซุกกับคอเย็นๆของไอ้น่าน ทั้งๆที่มันเดินพาผมมาจนถึงเตียงแล้วนะครับ แต่ผมก็ยังไม่ขยับตัวออกจากหลังมัน ก็ตัวไอ้น่านมันเย็นอ่ะ ผมชอบ

     “กินก่อนเหอะจะได้กินยา”

     “เออๆแล้วแต่มึงล่ะกัน” ผมพูดพึมพำเสร็จก็ขยับตัวเองออกจาหลังมัน ล้มตัวลงนอนบนเตียงที่มีผ้าหูสีดำ “ปิดม่านให้กูหน่อยดิ มันแยงตากูอ่ะ”

     “ใช้??”

     “อย่าเรียกว่าใช้ดิ เรียกว่าสั่งดีกว่า เร็วๆ มึงได้กูแล้ว รับผิดชอบในสิ่งที่มึงทำเดี๋ยวนี้”

     “กูเกลียดคำนี้ของมึงจริงๆ” น่านฟ้าส่ายหัวเหมือนระอาในตัวผมเต็มที่ แต่แล้วไงล่ะ นี่มันสิทธิ์ผมนี่หว่า แถมมันบอกว่าจะเป็นเบ๊ผมด้วย “แต่มันก็ต้องมีขอแลกเปลี่ยนป่ะวะ” ไอ้น่านส่งสายตาหื่นๆมาที่ผม ไม่ต้อง
เดาก็รู้ว่าหน้าตาจังไรแบบมันคิดอะไรอยู่

     “อะไร?? แค่ปิดม่านแค่นี้มึงก็ยังมาคิดเล็กคิดน้อยเหรอน่าน มึงนี่ตุ๊ดกว่าที่กูคิดอีกนะเนี่...อื้ออออ”

     “พูดมาก” น่านฟ้าผละออกจากปากผมแป๊บนึงก็ขยับเอาริมฝีปากเย็นๆประกบลงมาที่ปากผมต่อ ครั้งนี้มันไม่เหมือนเมื่อคืนเพราะตอนนี้ผมไม่ได้เมา ความรู้สึกเวลาที่ลิ้นนุ่มหยุ่นเข้ามาในปากมันถึงรู้สึกและสัมผัสได้ว่ามันจริงแบบสุดๆ หน้าผมจากที่ออกร้อนเพราะพิษไข้อยู่แล้วก็ดันรู้สึกว่าร้อนมากกว่าเดิมอีก

     “แฮ่ก แฮ่ก”มันถอนริมฝีปากให้ผมหายใจแล้วขยับปากเข้ามาอีก คราวนี้พอผมเริ่มตั้งตัวได้ผมก็ไม่ปล่อยให้มันบรรเลงคนเดียวหรอกครับ เดี๋ยวมันจะหาว่าผมอ่อน (แต่จริงๆก็ไม่เชี่ยวชวนเคลิ้มเท่าที่มันทำหรอกแต่ก็พอมีประสบการณ์ไม่ใช่ว่าใสๆทำไม่เป็นเลยซะทีเดียว) จากตอนแรกที่อ่อนโยนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มือหนาของมันข้างนึงสอดเข้ามาในเสื้อแล้วก็เริ่มขยี้หัวนมผม “อ๊ะ...”

     “ซน” ไม่บ่อยหรอกครับที่น่านฟ้าจะเรียกชื่อผมแบบนี้ มันละริมฝีปากแต่หน้ายังไม่ได้ขยับออกไปไหน หน้าผากเราทั้งคู่ยังแตะกัน เสียงหอบหายใจของผมยังดังไม่หยุด เหมือนกับมือไอ้น่านที่ยังทั้งสะกิดทั้งขยี้ที่หัวนมผม “เอากันเถอะ”

     ไม่พูดรอคำตอบผมด้วย หน้ามันแม่งแทบจะซุกซอกคอผมแล้ว ขาเขอนี่สีขาในผมจนขนลุกซู่ไปหมด แต่ติดตรงที่ผมดึงจิกหนังหัวมันขึ้นมาได้ก่อน

     “จังไรเหรอมึงอ่ะ คิดจะแกล้งคนป่วยอย่างกูหรือไง ดูดลิ้นกูแรงขนาดนั้นไม่รับรู้เลยสินะว่าลิ้นกูร้อนแค่ไหน กูไม่สบายนะเว้ย” ผมตัดพ้อจับแก้มไอ้หน้าหื่นที่ตอนนี้คร่อมทั้งตัวผมเรียบร้อย

     “เขาบอกว่าคนไม่สบายถ้ารู้สาเหตุของมันก็ต้องใช้พิษแก้พิษ” ทฤษฎีไหนของมันวะ

     “ถึงกูจะโง่แต่กูก็ไม่ได้กลวงขนาดนั้นเว้ยน่าน ไปทำอาหารมาให้กูกินได้แล้วกูจะได้นอน”

     “ใจร้าย มึงได้กูแล้วนะ....” มึงตั้งหากที่ได้กูโว้ยยยย เกลียดแม่งจริงๆ ก๊อปคำพูดผมไม่พอยังมีหน้ามาทำสายตาน้อยใจใส่ผมอีก

     “ให้กูได้มึงตอนนี้เลยก็ได้นะ โอเคเปล่า”

     “มึงฝันอยู่เหรอ” น่านฟ้าหยิกแก้มผมทีแล้วขยับตัวลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจนิดหน่อยก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผมเบาๆอีกรอบ “นอนไปก่อนล่ะกัน ถ้าข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวกูเอาขึ้นมาให้”
     
     “เอออออ ไปทำได้แล้ว” พอมันปล่อยตัวผมเสร็จ ผมนี่รีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวแล้วม้วนเป็นหนอนดักแด้เลย ไอ้น่านยิ้มมุมปากเบาๆก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องนอนแล้วปิดประตูห้องให้ผมช้าๆ ไปสักที



     “ซน....”

     “เชี่ยอะไรอีก” มึงจะเอาอะไรจากกูอีก

     “ถ้ามึงหายแล้ว....”

     “แล้ว...”

     “เอากันนะ” เอากันพ่องมึงสิ ไม่ต้องมายิ้มเขินใส่กูเลยเชี่ย มึงคิดว่ากูเป็นผู้ชายใจง่าย นอนทอดกายให้มึงเชยชมง่ายดายเลยหรือไงวะ คิดว่าการที่กูมีความสุขเวลาที่มึงทำให้มันจะทำให้กูยอมมึงง่ายๆสินะไอ้น่าน เหอะ

     “เออ...ตามนั้น” ผมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งหัวแล้วรีบหันหลังให้มันทันที


ตึก ตึก

     เสียงหัวใจผมยังคงดังไม่หยุด ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะเป็นผู้ชายแบบนี้ ตาย ตาย ตาย กูมันคนใจง่ายสินะ

     มึงมันใจง่ายไอ้ซนนนนนนนนนนนน












     “ซน....”

     “อื้อ....” ผมงึมงำทำเสียงไม่พอใจในลำคอแล้วขยับมุดหน้าลงเข้าไปในผ้าห่มอีกรอบ ไอร้อนจากลมหายใจรู้เลยว่าตัวเองอาการหนักแค่ไหน ทั้งเมื่อยตัว ทั้งเหนื่อย แย่ชะมัดเวลาที่ไม่สบายแบบนี้

     “ตื่นก่อน...กินข้าวแล้วจะได้กินยา”

     “จะนอนนนน”

     “ไม่ได้...ลุกเลย”

     “จะกวนอะไรนักหนาวะ กูจะนอนนนน” เวลาที่เราเหนื่อย รู้สึกแย่ หรือไม่สบาย เราจะรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเป็นเท่าตัว และผมก็เป็นหนึ่งในคนจำนวนนั้น “มึงเข้าใจไหมกูเหนื่อย เจ็บตัวไปหมด เมื่อยก็เมื่อย ยังจะมาบังคับให้กูทำนู่นทำนี่ ตัวเองเป็นคนผิดแทนที่จะตามใจกูแต่มึงยังมากวนกูแบบนี้ เชี่ยแม่ง...มึงนี่มัน....”




     “กูผิดมากสินะ” เสียงมันดูสำนึกผิดเสียจนผมรู้สึกแย่ สีหน้ามันดูหงอยๆราวกับว่าคำพูดที่ผมพูดไปเมื่อกี้เป็นคมหอกคมดาบทิ่มแทงมันอยู่  “กูคงผิดมากจริงๆแหละที่เอายากับข้าวมาให้มึง”

     “........”

     “คงผิดมากที่อุตส่าห์ลงไปทำข้าวต้มให้มึงกินตั้งนานสองนานแล้วกลับขึ้นมาโดนมึงด่าแบบนี้”

     “มึง.....คือกู” ผมแม่งไม่น่าเลยเพราะหงุดหงิด จากการที่โดนปลุกเลยเอาอารมณ์ทุกอย่างที่ผสมปนเปมาลงที่มัน

     “กูคงแย่มาก...”

     “น่าน....”

     “ที่ ทำให้มึงเหนื่อย เมื่อย ไม่สบาย....”

     “.........”

     “แต่ทั้งหมดมันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ามึงไม่ยอมกูเอง.....ทั้งๆที่มึงยอมอ้าขาให้กูเองทั้งนั้น” =[]=



      เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ที่แม่งมันพูดมาทั้งหมดคือมันกำลังด่ากูว่ากูยอมมึงเองใช่ม้ายยยยยยยย “มึงยอมกูเองมึงจะบ่นอะไรวะเตี้ย หงุดหงิดเชี่ยอะไรนักหนา แดกๆเข้าไปข้าวเนี่ยจะได้กินยา แล้วรีบๆหายสักที เอ้าแดกกกกกกกก”

     “มันร้อนนนนน” ผมทุบหลังมันอย่างแรงเพราะรับรู้ว่าข้าวที่มันเอามาจ่อปากผมเมื่อกี้ยังร้อนอยู่

     “แล้วไง”

     “แล้วไงเชี่ยอะไรล่ะ ก็มันร้อนไงโว้ย อ๊าาา สัส น่าน มันร้อน” มือข้างนึงของไอ้น่านบีบปากผมให้อ้าออกส่วนอีกข้างก็ยัดช้อนเข้ามา สุดท้ายผมเลยต้องอ้าปากรับข้าวต้มร้อนๆของมัน (แดกแล้วรู้ลยครับว่าแม่งเป็นโจ้กสำเร็จรูป ทำมาเป็นพูดดีว่าอุตส่าห์ลงไปทำให้ ถุย)

     “ไม่ต้องมาเบ้ปาก แดกไป” พอป้อนคำแรกเสร็จมันก็ยื่นทั้งถ้วยส่งมาให้ผม ไอ้ผมก็รับมาแบบงงๆก่อนจะมองมันที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว

     “อะไรอ่ะ ไม่ป้อนแล้วเหรอ”

     “เป็นง่อยหรือไง แดกเองดิวะ ทำมาให้แล้วเนี่ย” ยังกะที่ทำมันยากขนาดนั้น แค่เทโจ๊กผงใส่ถ้วยแล้วเทน้ำร้อนใส่ มันยากมากเลยเนอะมึง ยากมากกกกกก

     “อะไรวะมึงได้กูแล้วนะ/ได้กูแล้วนะ”


     =[]= ผมอ้าปากค้างกับคำพูดที่ไอ้น่านพูดเลียนแบบผม มันยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้แล้วเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปเลย ขอให้ลื่นหัวฟาดตายพร้อมกับไอ้รอยยิ้มหล่อๆของมันทีเถอะครับ



แม่งๆๆๆๆๆๆมัน.....มันรู้ได้ไงว่าผมจะพูดคำนี้ มันอ่านเกมส์ผมออกได้ไงวะ ทั้งๆที่ผมเป็นคนที่ค่อนข้างดูยาก(?)แท้ๆ


แต่ไอ้น่านมันกลับจับทางผมออก


มันต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ


 มึงมีจิตสัมผัสพิเศษสินะน่าน มึงมันไม่ใช่คนนนนนนนน



TBC
เหมือนน่านฟ้าจะไม่ทันซนนะแต่จริงๆก็อย่างที่เห็น ฮ่า ฮ่า
ขอบคุณคะ  ไม่รู้จะทอล์คอะไร พูดไม่เก่งแต่รักหมดใจจจจจ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao6: :hao6: :hao6: :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2015 06:31:32 โดย nuoouka »

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
คู่ฮาๆๆๆๆๆๆ


เกรียนพอกัน 555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อร๊ายยย จะหวานกันก็หวานดีๆไม่ได้ ต้องทะเบาะกันก่อน อิอิอิอ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องซนคนใจง่าย.ว้ากกก~  o22 เกรียนกันจริงๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
สิ่งที่ซนคิด ~ มึงได้กูแล้ว เป็นเบ๊กูซะ
สิ่งที่น่านคิด~ เอาอีก เอากันนะ.   :laugh:   

เกรียนพอๆกันสมกันดี คงจะได้ติวกันแบบวิชาการเต็มที่ใช่ป่าว.   :hao6:
คู่รองอย่าดราม่ามากนะเค้าสงสารพี่บาสอะ
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
น่าารักกกกกกกกกกก ได้เราแล้วนะมาต่อเร็วๆนะ  อิอิ

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
น้องซน นู๋กวนทรีนมากลูก o18

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่าจะไปเปิดคณะตลกนะ   รับรองดังกระฉูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of you ซน ตอนที่ 7 ลักหลับ



     “โอ้ยย เชี่ย” เมื่อยฉิบ....ความรู้สึกเมื่อยขบตามเนื้อตามตัวเป็นสิ่งแรกที่ผมรู้สึกตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมา พอมองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่าแสงอาทิตย์ด้านนอกยังคงสว่างไสวและโคตรรบกวนเวลานอนของผม ณ ตอนนี้ที่สุด ความร้อนจากด้านนอกยังไม่เท่าความร้อนที่กำลังแผ่รังสีออกจากตัวผมเลยด้วยซ้ำ เคยเป็นไหมครับเวลาที่ไม่สบายเราจะรู้สึกว่าตัวเองร้อนจากภายใน นั่นแหละความรู้สึกผมตอนนี้เลย

   
     ผมขยับตัวนิดหน่อยเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างมานอนทับแขน ตอนแรกคิดว่าจะเป็นผีอำที่ไหนนี่มันแมวอำชัดๆ


     แสนดีแมวแสนเลวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มทับแขนผมอยู่ตอนนี้ยังไม่ทีท่าว่าขยับตัวไป ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนพาแสนดีขึ้นมานอนบนเตียง ก็ไอ้คนที่นอนหลับหายใจสม่ำเสมออยู่ข้างๆผมนี่แหละตัวการ


     มึงคิดว่าเตียงที่กูนอนอยู่มันใหญ่พอให้มึงกับแมวขึ้นมานอนบนเตียงไหมน่าน

     “สบายเหลือเกินนะมึง” ผมลูบหัวไอ้ตัวการที่นอนหลับอยู่ข้างๆอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะขยับอุ้มแสนดีขึ้นมาวางไว้บนตักแล้วเอนตัวพิงหัวเตียงด้วยท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน

     “อื้อออ” เสียงครางของไอ้คนข้างๆทำให้ผมหันไปมอง ผมมองมันนิดหน่อยก่อนจะเอามือไปลูบหัวมันเบาๆอีกรอบ ไอ้น่านเอียงคอตามสัมผัสเหมือนแมวยักษ์ตัวโตๆที่กำลังอ้อนเจ้าของ
     “น่าน....”
     “อื้ออออ”
     “อื้อเชี่ยไรล่ะ ตื่นเดี๋ยวนี้เลย กูจะกลับบ้านแล้ว” ผมขยี้หัวมันก่อนจะบีบแก้มไอ้น่านอย่างแรง มันปัดมือผมออกแล้วดึงมือผมที่กำลังดึงแก้มมันอยู่ให้กางออกจากนั้นก็วางมือตัวเองทาบทับลงมาบนมือผมอีกที “อะไรของมึง”
     “หึ”
     “ยังจะมาหัวเราะอีก” ผมใช้มืออีกข้างเคาะไปที่หัวไอ้น่าน มันยิ้มเบาๆแล้วใช้มืออีกข้างท้าวหัวตัวเอง
     “ตัวมึงร้อนมากอ่ะ”
     “ก็แหงแหละ กูร้อนแรงขนาดนี้”
     “ขนาดนั้นเชียว”
     “ขนาดนั้นแหละ”
     “ก็ถูกของมึง”ไอ้น่านยักไหล่เหมือนว่าที่ผมพูดมันก็ไม่ได้ผิด “เมื่อคืนกูพิสูจน์แล้วด้วยสิ”
     “พูดอะไรของมึงเนี่ย” รู้สึกตัวเองเลยครับว่าหน้าที่ร้อนอยู่แล้วมันร้อนมากขึ้นกว่าเดิม กูไม่น่าเปิดประเด็นเรื่องร้อนแรงห่าเหวนี่เลยว่ะ
      “ช่างเรื่องร้อนแรงเหอะแม่ง” ผมรีบเปลี่ยนประเด็นทันที “ไปส่งกูหน่อยดิ๊ กูจะกลับบ้าน”
     “ทำไมรีบกลับ” ถ้าบอกเหตุผลแม่งไปมันจะหาว่าผมปัญญาอ่อนป่ะวะ แต่เหตุผลหลักๆของผมเวลาบอกเพื่อนมันก็จะมองว่าไร้สาระอ่ะ แต่สำหรับผมมันไม่ได้ไร้สาระนะครับมันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากๆ



     คือเรื่องมันเป็นแบบนี้แต่ก่อนผมเคยดัดฟันเพราะแต่ก่อนฟันผมทั้งบนและล่างมันจะมีเขี้ยวเหมือนแดร๊กคูร่าแล้วมันเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกอับอายมากๆในตอนที่เป็นเด็กเพราะเพื่อนๆสมัยประถมแม่งชอบล้อว่าผมเป็นลูกผีดิบ ณ ตอนนั้นก็คงไม่มีใครคิดออกหรอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ถูกไหมครับ แต่พอขึ้นม.ต้นผมก็รู้สึกว่าไอ้เขี้ยวทั้งสี่ที่มันยื่นเกินฟันส่วนอื่นดูน่าเกลียดสุดๆแล้วช่วงนั้นก็เห็นคนดัดฟันกันเยอะ ผมนี่ลงไปดิ้นขอม๊าให้ดัดฟันทันทีเพราะไอ้ความน่าเกลียด(ที่ผมคิดเอง)ของไอ้เขี้ยวสี่หน่อนั้น พอดัดไปหลายปีเกือบๆ 5-6 ปีผมก็ได้ฤกษ์ถอนเหล็กออก แต่เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ผมร้องขอให้ไอ้น่านพาผมกลับบ้านก็เพราะ ผมมีความเชื่อที่ถูกไอ้พี่หมอกรอกใส่สมองทุกครั้งที่ไปหามัน คือมันบอกผมว่าคนที่ดัดฟันเวลาถอนเหล็กออกแล้วต้องใส่รีเทรนเนอร์ตลอดโดยเฉพาะช่วงเวลานอนถ้าไม่ใส่ฟันผมจะกลับมาเป็นแบบเดิมอีกรอบ และนั่นทำให้เวลาผมไปนอนค้างบ้านใครต้องพกรีเทรนเนอร์ไปด้วยทุกครั้ง แต่เมื่อคืนไม่ได้ตั้งใจจะนอนค้างบ้านไอ้วีไงเลยไม่ได้เอารีเทรเนอร์มาด้วย ซวยแน่ๆฟันผมแม่งต้องเหยินแล้วแน่เลย

     
     “เดี๋ยวม๊าเป็นห่วง กลับเหอะ” ผมงอแงใส่ไอ้น่าน ส่วนมันก็ทำหน้าทำตาไม่สนใจผมแถมมือของมันที่ทาบทับมือผมอยู่ก็ลูบเบาๆไปมาเอาซะกูสยิวแปลกๆจะดึงออกแม่งก็ไม่ยอมปล่อย ถ้าไม่ปล่อยก็เลิกลูบกูได้ไหมเนี่ย
     “โทรบอกไหมล่ะ ม๊ามึงคงเข้าใจแหละตัวมึงยังร้อนๆอยู่เลย นอนต่ออีกหน่อยดิ”
     “ไม่เอา...กูจะกลับเดี๋ยวนี้”
     “แปลกๆว่ะ”
     “อะไร”
     “ไม่ใช่เรื่องม๊าใช่ไหม” มึงจะมาจับผิดอะไรกูวะน่าน มึงรู้จักกูกี่วันเชียว ได้กูแค่ครั้งเดียวมึงจะมาจับผิดการโกหกของกูได้เร็วขนาดนี้เลยหรือไง
     “เอาเหอะน่า...กูจะกลับบ้านเนี่ย แบตหมดด้วยต้องไปชาร์ต”
     “เรื่องอะไร”
     “น่าน”
     “กูถามว่าเรื่องอะไร” แม่งดูมันดิคิดว่าทำหน้าดุแล้วกูจะกลัวมึงหรือไง คิดว่าทำหน้าตาแบบนี้แล้วกูจะรีบบอกเหตุผลที่กูรีบกลับบ้านกับมึงหรอ
     

     “กูจะกลับไปใส่รีเทนเนอร์”
     “ห้ะ???”
     “ยังจะมาทำไม่ได้ยินอีก ก็อย่างที่บอกไงจะกลับไปใส่รี” ไอ้น่านยู่ปากทำหน้าขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ผมเลยต้องพูดต่อ “มึงดูฟันกูดิ มันเบี้ยวยังวะ กูกลัวเว้ยถ้าคืนไหนไม่ใส่รีพี่หมอบอกว่ามันจะทำให้ฟันกูเหยิน”
     “คิดว่าเป็นเรื่องอื่น”
     “มึงคิดว่าเป็นเรื่องอะไร” ผมหรี่ตาเล็กมองมันอย่างไม่เข้าใจ ไอ้น่านส่ายหัวเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
     “แค่วันเดียว ไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
     “วันเดียวก็ไม่เอาอ่ะ ถ้ามันขยับเหยินมานิดนึงทำไง”
     “หมอที่ไหนบอกมึงวะ มันแกล้งมึงหรือเปล่าเนี่ย” จะแกล้งหรือไม่แกล้งมันก็ทำให้กูเชื่อแบบนั้นแล้วนี่หว่า
     “กลับเหอะ กูรู้สึกว่าฟันกูแม่งเริ่มเบี้ยวแล้วจริงๆ เหมือนมันกำลังจะขยายออกมายังไงไม่รู้” ผมยู่ปากแล้วเขย่าตบหน้าไอ้น่านเบาๆเป็นเชิงบอก มันมองผมแบบยิ้มๆเหมือนขำผม “มึงหัวเราะกูเหรอน่าน”
     “เปล่า...ใครจะหัวเราะเมียตัวเองวะ”
     “เมียเชี่ยไรของมึง เงียบปากไปเลย ไปแต่งตัวกูจะได้กลับบ้านสักที” เพราะไอ้น่านมันใส่แค่บ๊อกเซอร์ลายคิตตี้กับเสื้อกล้ามสีขาวนอน แม่งอยากรู้จริงๆมันใช้สมองส่วนไหนซื้อบ๊อกเซอร์ลายนี้
     “ไหนกูขอสำรวจฟันมึงก่อนดิว่ามันเบี้ยวแล้วยัง”
     “มึงดูเป็นเหรอ”
     “เป็น” ผมล่ะไม่ค่อยอยากจะเชื่อน้ำหน้าคนอย่างไอ้เชี่ยน่านเท่าไหร่เลยครับ หลอกลวงกูแน่ๆ แต่กูเนี่ยใจบอกไม่เชื่อนะแต่ก็ยอมอ้าปากให้เขาดู
     “เบี้ยวเปล่า”
     “นิดนึง”
     “เฮ้ยยยย จริงดิ” ผมรีบเอามือจับฟันตัวเองทันทีว่าไอ้เขี้ยวมรณะมันขยับเสนอมากกว่าฟันตัวอื่นหรือเปล่าแต่พอจับดูมันก็ไม่เห็นว่าจะเบี้ยวขึ้นมาตรงไหน “มันเบี้ยวจริงเหรอ”
     “มึงแม่งตลก” ไอ้น่านขยับตัวนั่งแล้วพูดขึ้นตอนที่หน้ามันอยู่ใกล้ผมไม่กี่คืบ
     “มึงตอแหลกูงั้นเหรอน่าน”
     “ก็มึงตลกอ่ะ”
     “แต่กูไม่ขำนะเว้ย มึงไม่เข้าใจกู...กูไม่ว่าแต่อย่ามาทำแบบนี้ดิวะ คนเรามันเครียดไม่เหมือนกัน เรื่องฟันกูเนี่ยทำกูเป็นแพนิคได้เลยบอกตรงๆ” ผมหน้างอมองหน้ามันอย่างไม่พอใจ แต่แทนที่มันจะรู้สึกผิดไอ้คนตรงหน้ากลับยิ้มกริ่มให้ผมเฉยเลย “มึงรู้ไหมเนี่ยว่ากูด่า”
     ผมจับหน้ามันด้วยมือทั้งสองข้าง “กูด่ามึงอยู่ มึงเข้าใจไหม”
     “เข้าใจ...แต่มึงแม่งน่ารักว่ะ”
     “อะไรของมึง” แม่งไม่เกี่ยวกับน่ารักสักนิด ไอ้น่านขยับหน้ามาจนหน้าผากมันชนหน้าผากผม
     “ตัวมึงร้อน”
     “ร้อนแล้วมึงจะเอาหน้าผากมาแนบกูทำไม เดี๋ยวก็ติดไข้”
     “อยากติด” สายตามันแม่งโคตรเจ้าชู้อ่ะ “จูบแล้วนะ”
     “อะไร...”
     “จูบ...”
     “ไม่” ผมเม้มปากอัตโนมัติทันที
     “กูไม่ได้ขออนุญาตกูแค่บอกเฉยๆครับ” พูดจบไอ้น่านก็แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากผม ลิ้นเย็นๆเวลาประทะกับตัวร้อนๆของผมมันทำให้ผมรู้สึกดีจนอ้าปากออกรับลิ้นที่กำลังสอดเข้ามาในโพรงปาก น่านฟ้ากวาดลิ้นทั่วปากผมเหมือนสำรวจหาสิ่งมหัศจรรย์ ไล้เลาะตามไรฟันก่อนจะดึงดันดูดลิ้นผมออกมาจากปากตัวเองแล้วส่งกลับเข้าไปในปากมันอย่างลืมตัว



     ไอ้น่านจูบเก่ง



     มันสามารถทำให้อารมณ์ผมคล้อยตามได้ไม่อยาก


     “ลิ้นมึงร้อนโคตร”
     “แฮ่ก แฮ่ก ก็กูไม่สบาย”
     “ขออีกรอบ”
     “ไม่เอาแล้ว...มันขมปากอ่ะ” เวลาเราไม่สบายจะกินอะไรมันก็ขมคอไปหมด แม้กระทั่งการจูบแบบนี้
     “ขี้หวงว่ะ” ไอ้น่านยังวนเวียนเกลี่ยทั้งจมูกและริมฝีปากไปทั่วหน้าผม
     “เอ้า ก็ลิ้นกู กูมีสิทธิ๋หวง ไปแต่งตัว กูจะกลับบ้าน”
     “รู้แล้วๆ” น่านฟ้าจูบกลีบปากผมเน้นๆลงมาอีกรอบก่อนจะลุกไปหาเสื้อผ้าใส่ ผมมองตามมันอยู่สักพักก็หันมามองไอ้ตัวดีที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือมันนั่งมองผมด้วยสายตาแบ๊วมากๆ
     “มองอะไรวะแสนดี” ผมตบหัวแสนดีไปที “ลูกพี่มึงมันประสาท”




     ด่าไปกูก็ยิ้มไป กูบ้าหรือเปล่าวะเนี่ย แม่งเอ๊ยยยยยยย!!!!!











      “ขอบใจ”
      “ไม่คิดจะชวนกูเข้าบ้านเลยหรือไง”
      “ทำไมต้องชวนอ่ะ” ผมหันไปถอดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปเรียกแสนดีที่กำลังนั่งทำหน้าหยิ่งอยู่หลังรถ “ แสนดีมา ถึงบ้านแล้ว”
     “กูอยากเจอแม่มึง”
     “เจอทำไม”
     “จะได้บอกเขาไงว่ากูจะมาสอนลูกชายเขาจากคนโง่ให้กลายเป็นคนฉลาด” ผมรู้หรอกว่าไอ้น่านมันคิดอะไรอยู่ กูรู้นะว่ามึงอยากเจอแม่กูทำไม คิดว่ากูแดกหญ้าสินะไอ้น่าน
     “ไหนมึงจะสอนให้กูฟรีๆวะน่าน นี่มึงคิดจะเก็บตังค์ค่าติวหนังสือกูสินะ มึงคิดว่ากูโง่เหรอ คิดว่ากูดูคนอย่างมึงไม่ออกใช่ไหม”
     “มึงแม่งตลกจริงๆด้วย”
     “อะไรรรร ก็มันจริงนี่หว่า” ไอ้น่านส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะหันไปอุ้มแสนดีเอง “ไม่ต้องลงเลย กลับบ้านมึงไปได้แล้วไป” ผมหันไปยื้อไอ้แสนออกจากมือมันแต่ไอ้น่านไม่ยอมผมแล้วขยับตัวลงรถทันที
     “เชี่ยน่านนน” กูบอกให้มึงกลับบ้านไง” ผมเปิดประตูออกมาอีกด้านแล้วดักทางมันไว้
   
   

     “มึงเกลียดกูขนาดนั้นเลยเหรอวะซน เกลียดขนาดที่ไม่อยากให้กูเข้าบ้านเลยงั้นเหรอ” คำพูดมันเล่นเอาผมสะอึกแปลกๆ “อ่ะนี้แมวมึง กูกลับก็ได้”
   


     “เอ่อ...” ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆเลยเลือกหันไปปล่อยแสนดีให้เป็นอิสระแทน เพราะมันดิ้นจนแทบจะตกลงพื้นอยู่มะรอมมะร่อ
     “ช่างเหอะ กูแม่ง...ไม่น่าเลยว่ะ” มันพูดพึมพำอะไรสักอย่างกับตัวเองแล้วหันหลังกลับทำท่าจะขึ้นรถ ผมไม่รู้จะพูดรั้งมันยังไงเหมือนกันเลยปล่อยให้มันเดินไปขึ้นตามที่มันอยากทำ
     “พี่ซน...นั่นใครน่ะ”
     “ม๊า” ไอ้น่านหันมามองม๊าผมแล้วยกมือไหว้ม๊าผมทันที
     “หวัดดีครับคุณน้า ผมเป็นรุ่นพี่เพื่อนน้องซนน่ะครับ” ตอนที่มันเรียกผมว่าน้องซนเชื่อไหมว่าขนผมนี่ลุกเกรียวเลย มันกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ไงวะ ไม่กระดากปากหรือไง
     “รุ่นพี่เพื่อน??”
     “ผมเป็นรุ่นพี่วีน่ะครับคุณน้า”
     “อ๋อออ น้องวี ม๊าไม่ได้เจอน้องวีนานมากแล้วนี่เราชื่ออะไร แหมหล่อเชียว ม๊าชอบคนหล่อหน้าตาแบบนี้จัง” ม๊าผมเริ่มออกอาการอีกแล้ว เห็นคนหน้าตาดีๆหล่อๆแบบไอ้น่านทีไรชอบเรียกสะกิดให้ผมดูแล้วชอบพูดเสมอว่าถ้าผมเป็นลูกสาวนางจะเที่ยวยกผมให้คนนั้นคนนี้

     “ชื่อน่านครับคุณน้า”
     “น้าเน้ออะไรกัน เรียกม๊าดีกว่า เรียกน้าแล้วมันดูไม่ใช่ ม๊าว่าม๊าอายุมากกว่าแม่น่านอีกมั้ง”
     “ครับม๊า” เปลี่ยนเร็วไปไหมมึง ไม่คิดจะเล่นตัวหน่อยหรือไง
     “แล้วนี้พี่น่านจะกลับแล้วเหรอคะลูก”
     “ครับ พอดีผมมาส่งน้องซน เมื่อคืนน้องไปติวหนังสือกับผมที่บ้านวีน่ะครับ แล้วน้องเหมือนจะไม่สบายผมเลยรีบมาส่งก่อน”
     “ห้ะ??ติวหนังสือ” ม๊าหันมามองหน้าผมแบบโคตรไม่เชื่อ ทำไมวะเจ้น้ำหน้าอย่างไอ้ซนเนี่ยจะติวหนังสือหนังหาไม่ได้เลยไง แล้วไอ้น่านแม่งพูดปูพื้นขนาดนี้แสดงว่าแม่งกะจะเอาค่าติวกะม๊าผมแน่ๆ มันนี่ช่างร้ายกาจ “พี่ซนติวหนังสือ จริงเหรอเนี่ย???”
     “ม๊าเสียงสูงไปไหม พี่ซนติวจริงๆดิ ก็อย่างที่พี่ซนบอกไปนั่นแหละพี่ซนจะเข้ามหาลัย ไม่พูดกับม๊าแล้ว มึง...”ผมหันไปมองหน้าไอ้น่านแล้วหันไปมองหน้าม๊าทันทีที่หลุดคำว่ามึงออกไป “พี่น่านกลับไปได้แล้วไป ยืนเกะกะขวางทางอยู่นั่น”
     “อะไรเนี่ยพี่ซนไปไล่พี่น่านเขาทำไม เดี๋ยวพี่น่านอยู่กินข้าวเย็นกับม๊าก่อนนะ”
     “แต่ว่า...”ไอ้น่านทำหน้าไม่ถูกแล้วหันมามองที่ผม แม่งกดดันผมชัด “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ น้องซนเขาคงไม่อยากให้ผมอยู่”
     “พี่ซนทำไมเป็นคนแบบนี้ ม๊าเคยสอนให้พี่ซนเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เชี่ยน่านแม่งนิสัยเสีย มันเล่นงานผมอยู่ชัดๆ เล่นผมตรงๆไม่ได้ก็เลยยืมมือม๊ามาสังหารผมแทน ร้ายกาจยิ่งนัก
     “พี่ซนไม่ได้พูดอะไรเลยนะม๊า”
     “แล้วพี่ซนต้องพูดว่าไง” ผมเบ้ปากแล้วหันไปมองหน้าน่านฟ้า มันเหยียดยิ้มเหมือนผู้ชนะแว่บนึงแต่สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปทันทีที่ม๊าผมหันไปมอง จิ้งจกชัดๆ
     “พี่น่านอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะ พอใจยัง”
     “พอใจค่ะ ไหนมานี่หน่อย เห็นพี่น่านบอกว่าพี่ซนไม่สบายเหรอคะ”
     “มากๆอ่ะม๊า พี่ซนเจ็บคอด้วย” ผมเดินไปกอดเอวม๊าแล้วเอามืออีกข้างจับคอตัวเอง “ปวดหัวด้วยอ่ะม๊า”
     “ปกติก็เห็นแข็งแรงจะตาย”
     “แต่คราวนี้พี่ซนไม่แข็งแรง”
     “หึ” เสียงหัวเราะที่เดินตามหลังผมกับม๊ามาทำให้ผมรีบหันไปมองหน้าไอ้น่าน มันยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหมือนคนยอมแพ้แล้วอมยิ้มจนหน้าหล่อๆของมันดูหล่อขึ้นไปอีก มันต้องรู้สึกตลกผมแน่ๆที่เห็นคนแมนๆอย่างผมอ้อนม๊าแบบนี้ แต่ช่างเถอะผมไม่แคร์
     “งั้นพี่ซนขึ้นไปนอน เดี๋ยวม๊าทำข้าวต้มหมูเด้งที่พี่ซนชอบกับเอายาขึ้นไปให้”
     “เยี่ยม พี่ซนไปรอบนห้องนะม๊า” ผมจุ๊บแก้มม๊าไปทีก่อนจะวิ่งขึ้นมาบนห้องตัวเองภายในไม่กี่นาที ค้นกล่องรีเทนเนอร์ที่อยู่บนลิ้นชักหัวเตียงขึ้นมาใส่เป็นอันดับแรก ก่อนจะส่องกระจกดูฟันตัวเองที่ยังเรียบเนียนไม่มีซีกไหนโผล่ออกมาให้หนักสมอง ผมเปลี่ยนชุดนอนแล้วเปิดแอร์ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงตัวเอง



      แกร๊ก




     ผมที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์ไปชาร์ตแบตตรงหัวเตียงไปรีบวางมือถือแล้วแกล้งหลับทันที ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะแกล้งหลับทำไม - -

     “อ่าวพี่ซนหลับ”
     “ไม่เป็นไรม๊าเดี๋ยวรอให้น้องหลับไปสักพักก็ได้” น้อง??? กูอยากอ้วกกับคำพูดแม่งจริงๆ เสแสร้งชัดๆ
     “แต่ม๊าว่าจะเช็ดตัวให้”
     “เดี๋ยวผมเช็ดให้ก็ได้ครับ”
     “ครับไม่เป็นไร”
     “ยังไงพอพี่ซนตื่นม๊าฝากพี่น่านเช็ดตัวแล้วก็บังคับให้เขากินยาด้วยนะ”
     “ครับม๊า” เสียงคนสองคนที่ยืนคุยกันตรงข้างเตียง ใจนึงก็อยากลืมตาขึ้นมองเหมือนกันแต่กลัวพิรุธเลยต้องหลับตาแกล้งทำนิ่งไว้แบบนี้


     เสียงเหมือนใครสักคนเดินออกไปนอกห้องแล้ว พร้อมกับใครอีกคนที่นั่งลงบนเตียง มือเย็นของมันวางทางทับบนหน้าผากผม ไม่นานผมก็รู้สึกผ้าเย็นๆที่เริ่มเช็ดจากใบหน้าไปที่ซอกคอ ใบหู มันรู้สึกดีสุดๆเลยครับเวลาที่ความเย็นจากผ้าลูบไล้ไปทั่วร่างกาย
น่านฟ้าเลิกเสื้อผมแล้วเริ่มเช็ดตัวจากต้นคอไล้ลงมาที่หน้าอก ผมไม่รู้ว่ามันจงใจหยุดอยู่ตรงแถวนั้นนานไปไหมแต่พอผ้าเย็นๆปัดโดนหัวนมทีไร ความรู้สึกแปลกๆก็ก่อตัวขึ้นในมวนท้องผมทันที


      แม่งเหมือนมีผีเสื้อบินชนกันในท้องผมยังไงยังงั้น


      มึงเลิกเล่นกับหัวนมก็สักทีเถอะน่านไปทางอื่นมั่งเถอะก็ขอร้องล่ะ


     แต่เหมือนว่ากระแสจิตที่ผมส่งไปให้มันจะได้ผลในทางที่แย่กว่าเดิมเพราะไอ้น่านเปลี่ยนจากการเช็ดแถวๆหน้าอกผมไปแถวๆท้องแทน มือมันเอาผ้าเย็นๆล้วงเข้าไปในกางเกงนอนผมเลยให้ตาย


     “ซน...มึงตื่นอยู่ใช่เปล่า”

     กูหลับมึงเห็นไหมกูหลับตาอยู่

     “อย่าแกล้งกูได้ไหม”

     มึงตั้งหากที่แกล้งกู เอามือมึงออกจากกางเกงกูเลยนะสัส


     ไอ้น่านไม่พูดอะไรต่อแต่สิ่งที่ผมรับรู้ตามมาคือลมหายใจร้อนๆที่ประทะเข้ากับผิวผม มาลากบางเบาจากใบหน้าลงมาที่ซอกคอก่อนจะต่ำลงไปที่หน้าอก

     “อ้ะ...” เชี่ยเสียงออก ผมรีบเม้มปากตัวเองทันทีที่หลุดเสียงประหลาดออกไป น่านฟ้าเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับเสียงผมเท่าไหร่ เพราะลิ้นมันยังทำหน้าที่ดูดดึง ขบกัดที่น่าอกผมไม่เลิก



     ไอ้น่านมันกำลังทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ น้องชายที่นิ่งสนิทกำลังจะตื่นขึ้นมาเคารพธงชาติอีกรอบ



     ริมฝีปากไอ้น่านขยับจากหน้าอกผมฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนจะขยับไล่ลงไปเรื่อยๆ เสียงดูดผิวเนื้อดังจ๊วบจ๊าบจนผมเองยังได้ยิน ใจผมอยากจะลุกขึ้นมาบอกมันเหลือเกินว่าหยุดเว้ยมึงลักหลับกูเหรอน่าน



      แต่อีกใจกลับรู้สึกว่า






     ต่ำลงกว่านี้อีกนิดนึงได้ไหมวะ








TBC
หายไปนานเพราะยุ่งสุดๆ แต่ตอนนี้โอเคขึ้นแหละเพราะได้งานแล้ว เย้ๆๆๆ
ขอบคุณคนอ่านคนเม้นนะคะ
อิมเมทน้องซนหน้าตาแนวๆนี้เลย ใส่รีหน้าขาวตาสองชั้นหลบในแล้วเวลายิ้มที่ตาเกือบหาย 55
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-03-2015 21:51:36 โดย nuoouka »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องซนน่าร้ากกกก~ :-[ ชอบคิดไปเองแบบออกทะเลไปไกลตลอด. :m20: พี่น่านก็ขี้หื่น ลวมลามน้องซนไม่หยุดเลยเชียว.ชอบจางง~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-03-2015 15:56:04 โดย Mouse2U »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1:  ขอบคุณที่มาต่อค่ะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เรารออ่านนะ อิมเมจกับนิสัยน้องซนเข้ากันดีจัง นางฮานางรั่วแล้วยังขี้อ้อนด้วยชอบๆ

พี่น่านนับวันจะยิ่งหื่นนะ. อาการทาสแมวก็เริ่มหนักแล้ว.  แถมยังเนียนมาลักหลับถึงบ้าน ต่อไปทางสะดวกแน่ๆก็ม๊าถูกใจขนาดนี้
พออ่านตอนที่ซนมีเขี้ยว เราคิดว่าเหมือนฟันแมวมากกว่าแดร็กคูล่านะ.

เวลาเขี้ยวแมวโผล่จอนขู่ฟ่อๆแบบหนูซนเนี่ยมันน่าฟัดสุดๆไปเลย.  :impress2: 

เป็นกำลังใจให้นะคะ
ปล ตอนที่แล้วมีคำผิด ผ้าหูสีดำ น่าจะเป็นผ้าห่มมากกว่านะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-03-2015 16:15:22 โดย ❣☾月亮☽❣ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of ซน ตอนที่ 9 ปอมเมอเรเนียน

ความรู้สึกผมตอนนี้แม่งวิ่งชนกันวุ่นวายไปหมด ทั้งอยากให้มันทำมากกว่านี้ทั้งอยากจะลุกขึ้นมาด่า แต่สุดท้ายตัวเองก็เสือกนอนนิ่งๆให้ไอ้น่านมันทำแต่ตามความต้องการของมันเฉย


ผมนอนนิ่งรอคอยสัมผัสของมันนานอยู่พอสมควร จากตอนแรกที่ริมฝีปากเย็นกำลังไล่คืบคลานจากบนลงล่าง

แต่


ทำไม


แทนที่มันจะทำต่อจู่ๆมันกลับหยุดไปเสียดื้อๆ


พอผมลองหรี่ตาขึ้นมองภาพที่เห็นคือมันกำลังคร่อมผมอยู่ “มึงตื่นแล้วสินะ”

พอมันพูดจบเท่านั้นแหละ ผมนี่รีบหลับตาปี๋ก่อนจะแกล้งพึมพำทำเสียงเหมือนคนยังไม่ตื่นขยับผลักมันให้ลงจากตัวผมแต่พอยิ่งผลักไอ้ตัวควายๆที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ขยับสักที แถมดันเข่ามาเสียดสีตรงแถวๆน้องชายผมด้วย

“อ๊ะ..”

“ไม่ต้องมาแกล้งหลับเลย” เสียงกระเส่าเว้าวอนตีนกระซิบข้างหูไม่พอเลียหูกูด้วย

ผมขยับตัวอีกครั้ง กะว่าคราวนี้จะนอนหันข้างให้แม่งเลย แต่พอขยับหันข้างขาผมแม่งดันไปเกี่ยวขาไอ้น่านให้ล้มลงไปกลับผมด้วย สุดท้ายกลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนมันกับผมนอนหันข้างเขาหากันพร้อมกับเข่าไอ้น่านที่ยังทำหน้าที่อย่างดีเสียดสีไปมาจนผมขนลุกไปหมด

“จังไรเหรอมึง” สุดท้ายเพราะความอดทนที่ยังเสียดสีหนักขึ้นเรื่อยๆผมเลยลืมตาโพล่งขึ้นมองมัน น่านฟ้ายิ้มมุมปากนิดๆทำอย่างกะว่าตัวมันแม่งเป็นผู้ชนะยังไงยังงั้น “คิดจะลักหลับกูรึไง พออออ..เอาเข่าออก” พอลืมตาตื่นมองหน้าคมๆของมันความหื่นที่มีอยู่เกินร้อยก็ลดระดับลงเหลือศูนย์ทันที

“ลักหลับเนี่ยนะ ยังกล้าพูดเนอะ ยังงี้เขาเรียกสมยอมไม่ใช่หรือไง กูรู้นะว่ามึงตื่นตั้งนานแล้วอ่ะ” มึงผิดแล้วน่านฟ้ากูไม่ได้ตื่นตั้งนานแล้วแต่กูไม่ได้หลับตั้งหาก “ไม่ต้องมาทำปากยู่ กูจะเอายามาให้มึงกินเนี่ย แม่ให้เอามาให้”

“วางๆไว้บนหัวเตียงนั่นแหละ ตอนนี้กูยังไม่อยากกินว่ะ ขมคอ ง่วงด้วย”

“กูว่าจะพูดกับมึงเรื่องนี้หลายครั้งและ” จู่ๆน่านฟ้ามันก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงแล้วก้มหน้ามองผม

“เรื่อง”

“เรื่องที่มึงพูดกูๆมึงๆกับกูเนี่ย”

“อ่าวแล้วทีมึงยังพูดกูๆมึงๆกับกูเลยกูไม่เห็นเอามาเป็นประเด็นสักนิด...โอ้ยยย” แม่งมันตีปากผมอ่ะ นิสัยเสียว่ะ พวกป่าเถื่อน ชอบใช้กำลัง ผมกำลังจะยื่นมือไปตีปากมันคืนแต่น่านมันจับมือผมไว้ได้ก่อน

“แต่กูเป็นพี่มึงนะ”

“เกิดก่อนกูไม่กี่ปีเอง”

“แต่อย่างน้อยมึงก็ควรเคารพกูบ้าง”

“ให้เคารพยังไง กราบไหว้มึงเช้าเย็นสักการบูชาเหมือนเทพพระเจ้าเลยไหมล่ะ”

“จะทำแบบนั้นก็ได้”

“เหอะ...ไม่เรียกอ่ะ เรียกแบบนี้แหละ” ไอ้น่านส่ายหัวนิดๆเหมือนปลงในความดื้อของผม ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเรียกอะไรแบบนั้นหรอกนะครับ แต่ไงดีอ่ะ มันกระดากปากมากกว่าไม่ได้เรียกมาตั้งแต่แรกพอจะมาเรียกมันก็ดูตลกๆยังไงไม่รู้ ถึงก่อนหน้านี้จะมีเรียกบ้างแต่มันก็ไม่บ่อย แล้วเรียกแบบนี้มันติดปากไปแล้วด้วย

“แล้วเรื่องเรียนอ่ะกูคุยกับม๊ามึงแล้วนะ เขาบอกว่าให้มึงมาติวที่บ้านกูตั้งแต่เย็นวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์”

“โหววววว ทำไมบังคับกันอย่างนี้วะ”

“หรือมึงไม่อยากเรียนก็ได้นะ”

“ตลกแหละ ได้กูแล้วคิดจะไม่รับผิดชอบเหรอ” เดี๋ยวกูเอาลำโพงฟาดให้

“ก็มึงหาว่ากูบังคับ ซึ่งถ้าพูดให้ถูกคือม๊ามึงตั้งหาก เอาเป็นว่าศุกร์หน้ากูไปรับมึงที่วิทยาลัยล่ะกัน วันนี้กูว่าจะกลับแล้ว” ผมพยักหน้าหงึกๆให้มันก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหน้าจนเกือบครึ่ง “แต่มีอย่างหนึ่งที่อยากลองก่อนไป” หน้าตาเจ้าเล่ห์แบบนี้ผมไม่อยากจะเดาทางแม่งเลยให้ตาย

“อะไรอีก”

“กูไม่เคย...กับคนที่ใส่เหล็กสักที”

“แล้ว...”ผมเอาผ้าห่มปิดปากตัวเองแน่นกว่าเดิม

“เขาบอกว่ามันเสียว...ก็แค่อยากลองว่ะ” ไอ้ที่บอกว่าเสียวอ่ะหมายถึงเรื่องอะไรวะถ้าจะให้กูใช้ปากกับมึงล่ะก็น่านฟ้า มึงฝันเอาเหอะ

“ตลกและกูไม่ทำให้มึงหรอกนะ”

“มึงคิดอะไรอยู่ครับเตี้ย กูหมายถึงจูบก่อน” มีคำว่าก่อนแสดงว่าหลังจากที่มึงคิดว่าล่อลวงกูได้มึงจะให้กูใช้เหล็กที่อยู่ในปากกูทำอะไรกับมึงงั้นดิ “ไม่เห็นต้องทำหน้าหมางงแบบนั้น แค่จูบเอง”

น่านฟ้าขยับคร่อมตัวผมอีกครั้ง มันใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆที่หน้าผากก่อนจะจูบลงมาที่ปากผมทั้งๆที่มีผ้าห่มกั้นอยู่ แต่คนอย่างมันต่อให้ผ้าห่มกั้นก็สามารถดึงออกได้ในไม่ช้าอยู่ดี

“ตื่นเต้นดีว่ะ”ผมหรี่ตาเล็กมองอาการคนตรงหน้า แม่งจะตื่นเต้นทำไมก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เมื่อคืนผมกับมันทำมากกว่าจูบอีก = =;;

“สักทีเหอะน่าน กูง่วงแล้วเนี่ย เหนื่อยก็เหนื่อย เป็นไข้ดะ..อื้มม” ก่อนที่ผมจะพูดคำสุดท้ายจบน่านฟ้าก็ก้มลงมาประกบปากผมทันที ลิ้นมันเย็นดีจัง ต่างจากลิ้นผมที่รู้สึกว่าร้อนสุดขั้ว ยิ่งเวลาที่มันใช้ลิ้นเลาะไปตามไรฟันที่มีรีเทรนเนอร์เกาะอยู่ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงดีมากแค่ไหนแต่มันก็ยังรู้สึกขัดๆอยู่ดีเพราะกำลังคิดว่าถ้าจูบแบบไม่มีรีเทรนเนอร์มันดีกว่านี้มากๆ

ผมเอื้อมมือไปทุบไหล่มันทีเพราะตอนนี้เหมือนจะหายใจไม่ออก มันปล่อยผมเป็นอิสระแว่บนึงแล้วกดปากตัวเองลงมาต่อ ท่าทางแม่งจะชอบจริงๆนั่นแหละ เพราะเลาะรีเทรนเนอร์กูอยู่นั่น เอาไปใส่เองเลยไหมห้ะ

“แฮ่ก..แฮ่ก...พอยัง” พอมันปล่อยปากผมอีกรอบน่านฟ้าขยับริมฝีปากไปที่คอแทน ความรู้สึกจี๊ดที่ผิวเนื้อแต่ไม่ได้เจ็บมากเท่ากับความเสียวที่ก่อขึ้น ผมเอียงคอให้น่านฟ้าดูดผิวเนื้อผมได้สะดวกมากขึ้น แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลายเป็นว่ามันชะงักไปนิดนึงก่อนจะวางศีรษะลงกับบ่าผมพร้อมทิ้งทั้งตัวทับผมทันที

“มึงแม่ง...” มันบ่นพึมพำอะไรสักอย่างกับซอกคอผม

“อะไรอีก...หนักเว้ย”

“มึงอ่ะ”

“อะไรของมึงเนี่ยน่าน หนัก ลุกเร็ว” ผมใช้มือทุบไหล่เจ้าตัวไม่อีกรอบ น่านฟ้าไม่ตอบอะไรกลับมาอีกแค่จูบซอกคอผมอีกที ผมไม่ได้ท้วงอะไร อยากทำอะไรก็ทำไปดิ มึงได้ประโยชน์ ผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะเสียประโยชน์อะไรด้วย แต่ถ้ามากกว่านี้ น้องชายผมลุกขึ้นมาอีก คนที่รับผิดชอบทำให้มันสงบก็คงมีแค่มัน

“กูว่ากูกลับดีกว่า” มันลุกขึ้นพรวดพราดออกจากตัวผมแล้วสูดหายใจลึกๆเข้าปอด

“อาหะ กลับดีๆล่ะ” ผมยกมือข้างนึงเหมือนบอกลามัน น่านฟ้าพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ แปลกดีว่ะทำตัวงงๆเหมือนคนไม่เข้าใจตัวเองยังไงไม่รู้

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอมองชื่อที่โทรเข้ามาผมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ สายนี้แม่งไม่รับไม่ได้ด้วยสิ











“ยังไงครับยังไง หายหน้าหายตาไปหลายวันสีหน้าดูอิดโรยไปนะเพื่อนฝูง” ผมเหล่ตามองไอ้เล็กนิดหน่อยแล้วขยับนั่งลงข้างๆมัน สองสามวันที่ผ่านผมไข้ขึ้นแต่ก็ไม่เท่าความขี้เกียจที่มีอยู่มากจนสำออยบอกม๊าว่ายังไม่หายไข้เลยได้หยุดเรียนไปฟรีๆอีกสองวันถ้วน

“ก็แค่ไม่สบายแหละมึง”

“แต่หน้าตาอิดโรยไหนเลยจะสู้ผิวที่ดูเปล่งปลั่งขึ้นเหมือนคนได้ปล่อยน้ำ ยังไงวะเจอน้องเอยเหรอ” น้องเอยที่ไอ้เล็กพูดถึงก็แฟนผมนั่นแหละครับ น้องเขาเรียนเตรียมอุดมอยู่ใกล้ๆกับวิทยาลับผมนี่แหละ อยู่ม.หกแล้วช่วงปีที่ผ่านมาผมกับน้องเอย เราไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าไหร่เพราะน้องต้องอ่านหนังสือ เห็นบอกว่าจะสอบเข้าคณะแพทย์อะไรแนวๆนั้น แต่ก็ยังติดต่อพูดคุยกันตลอดแหละครับ ส่วนใหญ่เป็นผมที่ไลน์ไปถามทิ้งไว้ถ้าน้องว่างก็จะไลน์กลับมาหรือไม่ก็โทรมาเลย เป็นไงเห็นหน้าหล่อๆแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะเจ้าชู้นะครับ ก็อย่างที่บอกไปว่าผมรักแฟนมากกกก

“เปล่าไม่ได้เจอ”

“แต่รอยดูดที่คอนี่ไม่ใช่เรื่องที่ปกปิดได้หรอกนะครับเพื่อนครับ” เออ ให้แม่งเข้าใจแบบที่มันเข้าใจไปแหละครับ เพราะถ้าเกิดบอกไปว่ารอยที่คอไม่ใช่น้องที่ทำแต่เป็นไอ้ผู้ชายมันคงหงายเงิบแหงๆ

“แล้วนี่มึงเลือกที่ฝึกงานยัง” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วหยิบชีทวิชาที่กำลังจะเรียนขึ้นมาวางบนโต๊ะ หลังจากนี้อีกเดือนพวกผมต้องเร่งหาที่ฝึกงานแล้ว ทำอะไรก็ได้ขอให้เรียกว่าฝึกงานเป็นพอ ไอ้ผมก็มองๆดูอยู่ว่าจะทำอะไรดี อาจจะฝึกกับพวกรุ่นพี่ตามโรงงานแถวฝั่งธน แต่ไม่รู้วะคงต้องหาๆดูก่อน

“เลือกแล้ว กูว่าจะไปฝึกที่ชลบุรีแล้วก็ทำงานที่นั่นเลยว่ะ”

“มึงไม่เรียนต่อมหาลัยจริงๆเหรอวะ”

“มึงก็รู้...”ไอ้เล็กทำหน้าเศร้าๆ ผมก็พอจะรู้นะว่าบ้านมันไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็อยากให้มันลองคิดทบทวนอีกที

“เออกูรู้แล้ว เอาที่มึงสบายใจนั่นแหละ” ผมไม่ค่อยชอบเรื่องดราม่าเท่าไหร่ เลยเลือกที่จะปล่อยผ่านแล้วมองข้ามเรื่องพวกนี้ให้มากที่สุด





เย็นวันศุกร์หวนกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนไอ้เชี่ยน่านโทรมาย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้ผมเตรียมของใช้ส่วนตัวไปด้วย ของที่ผมจะเตรียมมันก็แค่แปรงสีฟันและบ๊อกเซอร์เพราะที่เหลือผมก็กะว่าจะใช้ของมันนั่นแหละครับ ถ้าเกิดว่ามันไม่ใช้งั้นเหรอ แล้วไงอ่ะด้านได้อายอดเว้ย

น่านฟ้าบอกว่าจะแวะไปซื้อหนังสือที่ห้างก่อนแล้วค่อยขับรถไปเอากระเป๋าเสื้อผ้ากับอิแสนดี(ที่เน้นย้ำเหลือเกินว่าห้ามลืมบอกม๊า แน่นอนว่าม๊าอนุญาตส่วนไอ้ซูเจ้าของที่แท้จริงก็ได้แต่เออออตามอำนาจมืดของม๊า ช่วยไม่ได้ม๊าสั่งนี่หว่า) พอเรียนเสร็จล่ำลาเพื่อนฝูงที่เอาแต่ทำหน้างงว่าผมจะไปไหน ผมนี่ตอบออกไปอย่างมั่นใจเลยครับว่าติวหนังสือ หน้าตาอย่างกูนี่แหละใฝ่เรียนรู้คู่คุณธรรมเว้ยไม่เหมือนพวกมึงหรอกเรียนเสร็จก็นัดดอทเอกันตลอด หัดเอากูเป็นตัวอย่างซะมั้ง พอบอกไปแบบนั้นพวกแม่งแต่ล่ะตัวไม่ลืมที่จะโบกหัวผมคนล่ะที

ผมกับน่านฟ้านัดกันตอน 4 โมงเย็น เพราะมัวแต่คุยกับพวกไอ้เล็กอยู่เลยให้ผมลืมเวลานัด ก้มมองนาฬิกาอีกทีก็เกือบๆจะ 5 โมงแล้วด้วยซ้ำ สุดท้ายเลยได้แต่วิ่งตีนผีมาที่หน้าวิทยาลัยอย่างที่เห็น พอวิ่งมาถึงไม่ทันหายเหนื่อยก็เห็นรถยี่ห้อคุ้นตาจอดอยู่ตรงหน้าพอดี

“มาช้าว่ะ กูนั่งรอมึงมาชาติกว่าแล้วเนี่ย แฮ่ก แฮ่ก เลี้ยงข้าวกูเลยนะ..ร้อน” ผมบ่นพึมพำแล้วหันไปเร่งแอร์บนรถไอ้น่าน

“รถติด”

“ข้ออ้างชัดๆ หัดดูบ้างดิวะ เวลาคนนัดอ่ะมาให้มันตรงเวลาบ้าง มึงไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้นอ่ะน่าน คนผิดก็คือคนผิด เลี้ยงข้าวกูเลยนะวันนี้” ผมสั่งเสร็จสรรพแล้วหันไปวางกระเป๋าไว้หลังรถ “โอ้ยยยย เจ็บนะ”

“มาถึงแม่งก็สั่งเอาสั่งเอา มึงเห็นกูเป็นอะไรเนี่ย”

“คนรับใช้ไง มึงบอกเองนะน่าน คิดจะยกเลิกสัญญารึไง ได้กูแล้วนะ ได้กูแล้ว” ผมหันไปหยิกแก้มแล้วย้ำสิ่งที่มันเคยสัญญาไว้กับผม

“เออกูรู้แล้ว ย้ำกูจังเว้ย เดี๋ยวคืนนี้ย้ำอีกรอบดีไหม”

“เฮ้ยยยยยยยยยย ไม่เอากูยังไม่พร้อม” โคตรของโคตรไม่พร้อมด้วย “ไม่เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาสักอย่าง ถุงยางก็ไม่มีจะมาทำสดโดยไม่มีตัวช่วยกูไม่เล่นด้วยหรอกนะ”

“เรื่องนั้นมึงไม่ต้องห่วง” น่านฟ้ายิ้มมุมปากแล้วหันไปขับรถต่อ อย่าบอกนะว่ามันเตรียมตัวมาอย่างดี นี่มึงคิดจะเอากูมากกว่าจะติวกูใช่ไหมน่าน มึงมันคนจังไร มึงมันนิสัยเสียยยยย



 น่านฟ้าพาผมไปกินราเมงในห้างแถวๆวิทยาลัยผมระหว่างที่นั่งไปกินไปมันก็ชวนผมคุยไปเรื่อยส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเอกที่จะเรียน ผมกะว่าจะเลือกวิศวะคอมพิวเตอร์เพราะผมคิดว่าถ้าผมมาด้านนี้น่าจะเวิร์คกว่า

“แน่ใจเหรอ” มันเงยหน้ามองผมตอนที่ผมบอกว่าจะเลือกเอกนี้

“ทำไมวะ มันยากเหรอ แต่ก็คงไม่เท่าไหร่มั้ง เพราะไงกูก็เรียนเอกนี้มา”

“แต่สมองระดับมึง...กูว่าโยธายังยากเลย”อ้ออออ ที่พูดค้านขึ้นมานี่ต้องการจะหาเรื่องสมองกูงั้นสิ ผมยู่หน้าใส่มันไปทีแล้วหันไปเขี่ยบะหมี่ในชามต่อ ไม่อยากคุยกับแม่งแล้วครับชอบหาว่าผมโง่บ้าง สมองน้อยบ้าง หรือไม่ก็ชอบด่าผมเรื่องความสูง กูผิดมากไหมน่านที่ตอนเด็กกูไม่กินนมอ่ะแม่ง

“งอน??”

“งอนอะไรล่ะ คำนั้นเอาไว้ใช้กับผู้หญิง”

“แล้วที่มึงทำหน้าไม่พอใจ แล้วเขี่ยของกินเล่นแบบนั้นเขาเรียกว่าอะไร”

“อิ่มไงสัส อิ่ม ไม่อยากแดกต่อแล้ว อยากไปหาความรู้ใส่สมองโง่ๆของตัวเอง” ผมเลื่อนชามบะหมี่ผลักไปจนชนกับชามไอ้น่านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หงุดหงิดนะครับเวลาเห็นคนย้ำคำพูดเดิมๆกับตัวเอง ผมเองก็พอรู้ตัวอยู่ว่าตัวเองไม่ได้เก่ง ฉลาดอะไรนักหรอก แต่พอมาคิดดูอีกทีไอ้เรื่องที่อยากเข้าวิศวะคอมมันอาจจะยากเกินความสามารถผมจริงๆก็ได้มั้ง

หรือว่าผมควรจะเลือกสาขาอื่นดีวะ

“โกรธกูงั้นดิ”

“....” ไม่อยากพูดกับแม่งเลยครับ ปวดหัว เหมือนสมองจะระเบิด ผมกับมันเหมือนเส้นสองเส้นที่ไม่สามารถเอามาผสมให้เข้ากันได้

“เลิกงอนเถอะวะเดี๋ยวพาไปเลี้ยงหนม” คิดว่าคนแบบกูเอาของกินมาล้อแล้วจะหายโกรธงั้นดิ เหอะ

“อัฟเตอร์ยูนะ”

“ตามนั้น” เยี่ยม เพิ่งจะเห็นความดีความชอบมันก็ตอนนี้ หลังจากที่สวาปามอัฟเตอร์ยูเสร็จมันพาผมมาเลือกซื้อหนังสือที่ผมต้องใช้สอบก่อนจะพาขับรถกลับไปที่บ้านรับอิแสนดีที่ตอนนี้แทบจะลืมไปแล้วว่าเจ้านายที่แท้จริงขอมันคือผมที่ยืนอยู่ตรงนี้ เห็นแล้วแม่งอดไม่ได้ที่ยื่นมือไปเขกกะโหลกอีกที เห็นแล้วหมั่นไส้จริงๆนะครับ ทำไมคนที่เป็นทาสแมวถึงชอบมันขนาดนี้ทั้งๆที่แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่โคตรหยิ่งอ่ะ

“กูถามจริงมึงอิจฉาแมวตัวเองหรือเปล่า”

“สักนิดก็ไม่เคยเลยเถอะ ส่งมันมาเดี๋ยวกูอุ้มเอง”

“รู้แล้ว” มันส่ายหัวแล้วส่งแสนดีมาให้ผม

“ม๊ามึงน่ารัก”

“จะฝากตัวเป็นลูกเลยไหมล่ะ” รู้จักกันแค่สองครั้งนี่แทบจะเรียกลูกอย่างนั้นอย่างนี้ กับลูกชายแท้ๆของตัวเองนี่ไม่เคยหรอก จิกหัวใช้เยี่ยงทาส (พูดเว่อร์ไปงั้น) เห็นผมออกไปกับผู้ชายนี่ไม่มีการห้ามหรอกครับเห็น ส่งเสริมกันดีจริงๆบ้านนี้ แถมตอนท้ายมีพูดหยอกด้วยว่าถ้าได้ไอ้น่านมาเป็นลูกเขยคงดี ม๊าต้องเมาน้ำยาล้างจานแน่ๆ ลูกบ้านนี้มีแต่ตัวผู้ชัดๆ

“ก็อยากอยู่ แต่กลัวคนแถวนี้จะนอยด์ หาว่ารักลูกใหม่อย่างกูมากกว่า”

“มึงมโนเหรอน่าน เขายังไม่รับมึงเป็นลูกเลย เลิกมโนแล้วมองถนน”



Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์น่านฟ้าดังขึ้น มันหยิบขึ้นมาดูเบอร์แล้วส่งมาให้ผม

“ทำไม??”

“รับให้หน่อย เปิดลำโพงด้วย”

“เรื่องไรล่ะ กูไม่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน รับเองดิวะ”

“กูขับรถอยู่ ไอ้นุ่นเพื่อนที่มหาลัยกูเองบอกมันว่ากูขับรถ เร็ว!!” อะไรของมันวะกูไม่ใช่คนขายอาหารตามสั่งนะโว้ย

“เออรู้แล้วกำลังจะรับให้นี่ไง” ผมเลื่อนหน้าจอไอหกเครื่องสีทองอร่ามของมันเสร็จก็เปิดลำโพงให้มันฟังด้วย(ไม่รู้เครื่องที่ใช้อยู่แม่งของจีนแดงหรือเปล่า สีดูเพี้ยนๆไงไม่รู้ ไม่เคยเห็นของจริงหรอกครับเคยเห็นแต่ในรูป)

“หวัดดีครับ”

“โหววว พูดเพราะเชียวนะคะอิน่าน กูเองค่ะ” คนที่ตอบกลับมาคือผู้หญิงเสียงน่ารักแต่พอพูดแบบนี้ความน่ารักลดลงแทบจะติดลบ ผมไม่รู้นะครับว่าคนอื่นคิดแบบไหน แต่สำหรับผู้หญิงที่พูดจาเพราะๆน่ารักๆใสๆแบบน้องเอยคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์ แต่กับพี่คนนี้ไม่รู้ดิผมยังไม่รู้จักเขา

“พี่น่านติดขับรถอยู่ครับพี่นุ่น”

“เอ๋ แล้วนั่นใครคะ เมียน่านเหรอ”

“บอกมันไปดิว่าใช่ เออนุ่นเมียกูเอง” เชี่ยน่านตะโกนเสียงดัง ใช่ที่ไหนกันได้กูครั้งเดียวอย่ามาโมเมดิวะ ผมเอามือไปขูดหน้าไอ้น่านทีนึงแล้วรีบตอบกลับคนในโทรศัพท์ทันที

“ไม่ใช่ครับพี่นุ่นผมเป็นรุ่นน้องพี่น่านอ่ะ ชื่อซนครับ”

“รุ่นน้องไอ้น่านแล้วไม่ใช่รุ่นน้องฉันเหรอ ฉันเรียนคณะเดียวกับมันไม่เห็นเคยได้ยินชื่อซนสักที”

“เปล่าครับพี่นุ่น ผมเป็นรุ่นน้องที่เรียนที่อื่น ยังไงดีวะน่านกูเป็นรุ่นน้องที่เรียนที่อื่นหมายความว่าไงอ่ะ” พูดเองผมยังงงเองเลย คือผมไม่ได้เป็นรุ่นน้องมันด้วยนี่ดิเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักมันงี้เหรอ ไอ้น่านส่ายหัวอย่างปลงๆใส่ผม

"เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวกูคุยเอง"

"อ่ะเอาไปคุยเองตั้งแต่แรกก็จบ" ผมยื่นโทรศัพท์ให้มันไอ้น่านเอามือข้างนึงปล่อยพวงมาลัยแล้วยื่นมาตบหัวผมเฉยเลย

"อะไรอีกวะ"

"กูหมายถึงกูคุยแต่มึงจับโทรศัพท์ให้กูเหมือนเดิม" แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก มึงเห็นกูเป็นพระอรหันต์โสดาบันตรัสรู้เรื่องที่มึงคิดเหรอน่าน หมั่นไส้มากนักเดี๋ยวเอาโทรศัพท์เขวี้ยงออกนอกรถแม่งเลย ผมเอาโทรศัพท์ไปจ่อใกล้ๆปากไอ้น่าน

“นุ่นมีไรวะ กูขับรถอยู่ไม่สะดวกคุย”

“แหมมม กับเพื่อนกับฝูงก็หัดสะดวกบ้างเถอะค่ะ กูจะโทรมาบอกมึงว่ากูมีลูกหมาพันธุ์ปอมที่บ้านสี่ตัวแล้วบ้านกูเขาให้เลี้ยงได้แค่สองมึงจะเอามันไปเลี้ยงสักสองตัวไหม กูเห็นมึงเคยบอกว่าอยากได้”

“ก็อยากได้อยู่...แต่แม่กูแพ้ขนสัตว์ว่

“แม่มึงกว่าจะกลับบ้านก็ชาติกว่า นี่กูอุตส่าห์ใจดีโทรหามึงคนแรกเลยนะน่านถ้าไม่ตอบตกลงภายใน 5 วินาทีกูจะให้คนอื่นแทน 5 4.....” ไอ้น่านดูลังเลทำสีหน้าเหมือนจะไม่เอาแต่ใจผมนี่ดิอยากได้อ่ะ

“เอาครับพี่ผมเอา...” ก่อนที่มันจะตอบปฏิเสธผมก็ดึงโทรศัพท์ไอ้น่านมาจ่อที่ปากตัวเองแล้วพูดเองทันที ไอ้น่านหันมามองแบบงงๆ มึงจะงงทำไมเขาให้ฟรี พันธุ์ปอมเลยนะเว้ย ปอมอ่ะมึงรู้จักไหมเนี่ย

“เยี่ยมมากค่า ยังไงน้องบอกมันมาดูก่อนก็ได้แล้วจะเอาไปเลี้ยงวันไหนก็แล้วแต่ที่มันสะดวก”

“ครับพี่” พอวางสายไอ้น่านส่งสายตาแบบงงสุดขีดกลับมาให้ผม เอาความจริงไหมครับผมชอบหมามากกว่าแมว เคยพยายามที่จะเลี้ยงหลายครั้งแล้วแต่ม๊าห่วงความปลอดภัยของแสนดีมากกว่าสุดท้ายข้อเสนอที่จะเลี้ยงหมาก็ตกไปตลอดแล้วนี่ดูดิมีของดีๆมาเสนอมตรงหน้าไม่เอาได้ไง ผมหันไปยิ้มให้ไอ้คนข้างๆที่ยังขับรถอยู่ มันเงียบไปตั้งแต่ที่ผมวางสายสักพักมันก็หันมามองผมด้วยสายตาที่ผมเองก็เดาไม่ถูก “อย่ามองงั้นดิ มึงมีปอมสองตัวมึงจะได้ไม่ต้องไปยืมแมวไอ้ซูแล้วไง หรือว่ามึงเกลียดหมา”

“เปล่าเกลียด”

“งั้นเลี้ยงดิ”

“มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะมึง อย่างที่กูเคยบอกว่าแม่กูแพ้ขนสัตว์ แล้วนี่มึงเล่นไม่ปรึกษากูสักคำ กูยังไม่ได้คิดอะไรมึงก็ตัดสินใจแทนกูไปแล้ว หมาสองตัวนะเว้ย แล้วรับปากไอ้นุ่นไปแล้วคืนคำไม่ได้ด้วย แล้วคนที่เลี้ยงก็บ้านกูใช่ไหมเพราะกูเชื่อแน่ๆว่าบ้านมึงเลี้ยงไม่ได้ เพราะถ้าจะเลี้ยงก็คงเลี้ยงตั้งนานแล้ว”

“กูผิดงั้นดิ”

“อ่าวพูดงี้หรือกูผิดวะซน”

“เออกูผิดเองแหละ เดี๋ยวกูเลี้ยงมันเองก็ได้ ม๊าคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้งรับปากเขามาแล้ว” ผมถอนหายใจแล้วกดโทรศัพท์หาม๊า แกล้งสมมติถ้าเลี้ยงหมาสักสองตัวม๊าจะว่าไง แล้วคำตอบมันก็เดิมๆคือไม่ได้ ยังไงก็ห้าม ม๊ามีความเชื่อแปลกๆว่าหมาแมวจะทะเลาะกัน ซึ่งผมว่าปอมมันน่ารักแบบนั้นคนที่จะหาเรื่องก็คงมีแต่อิแสนดีชัวร์ พอไกล่เกลี่ยเท่าไหร่ม๊าก็มีแต่ไม่ยอมลูกเดียวสุดท้ายผมเลยต้องวางแล้วหันมามองหน้าคนข้างๆแทน

“ม๊าว่าไง”

“ม๊าไม่ให้เลี้ยง แล้วทำไงดีอ่ะ”

“ไม่รู้...มึงคนสร้างแก้เองดิ” ผมแม่งหาทางออกไม่ได้จริงๆนะครับ ตันไปหมดถ้าจะไปให้ไอ้เล็กก็ไม่ได้ บ้านมันแค่ลำพังเลี้ยงคนในครอบครัวยังยาก ไอ้วีก็ไม่ค่อยชอบหมาเท่าไหร่เพราะเคยโดนกัดตอนเด็กๆ พวกเพื่อนไอ้น่านก็ไม่ได้รู้จักมักจี่ขนาดนั้นด้วย

“น่าน...มึงเลี้ยงไม่ได้เหรอ”

“......”

“สัญญาว่ากูจะมาดูมันทุกวัน ถ้าวันไหนแม่มึงกลับมาเดี๋ยวกูเอามันมาแอบไว้ที่ห้องกูก็ได้...”

“........”

“ไม่ได้จริงเหรอวะ”

“.......”

“น่าน”

“เฮ้อออ...กูแม่งเชื่อมึงจริงๆเลยว่ะซน” มันพูดเสร็จก็ตบไฟเลี้ยวหักรถเข้าข้างทางก่อนจะหันมาช้อนปลายคางผมแล้วจูบผมแบบไม่ให้สัญญาณอะไรสักนิด จูบที่ดูจะเอาแต่ใจเรียกร้องแล้วก็อ่อนหวานในตอนท้ายก่อนจะจูบซับที่ริมฝีปากอีกรอบแล้วค่อยถอนออก “อยากเลี้ยงก็เลี้ยง”







TBC
น่านนี่ยังไงรู้จักเขาไม่กี่วันทำไมตามใจดีขนาดนี้เนอะ :hao3:
ขอบคุณสำหรับคำผิดนะคะ ช่วงนี้อึนๆยังไงไม่รู้ต้องไปตามหาแรงบันดาลใจก่อนแต่งนิยายบ้างล่ะT^T  :mew1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ได้กันปุปมีภาระปั้ป เหมือนแต่งงานมีลูกเลย

ซนก็เอาแต่ใจจัง

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
หลงจ้า~ พี่น่านหลงน้องซนแบบกู่ไม่กลับเสียละ :laugh: รั่วๆ.แบบน้องซนจะหาได้ที่ไหนอีกเนอะ!  :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2015 19:09:51 โดย Mouse2U »

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
หลงน้องๆๆๆ

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of you ซน ตอนที่ 9
 
“ทำไมมึงโง่แบบนี้วะ”

“กูอยากผ่าสมองมึงมาดูจริงๆว่าในนี้มันมีขี้เลื้อยหรือเนื้อสมองกันแน่”

“ไม่ใช่ ไม่ถูก กูสอนเรื่องนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้น่านเอาแต่ใช้นิ้วจิ้มที่สมองส่วนหน้าผม มันทั้งเคาะทั้งตบ ทำร้ายร่างกายผมทั้งๆที่มันบอกผมเองกับปากว่าตัวเองเป็นปัญญาชน ปัญญาชนบ้านมันใช้กำลังแบบนี้ “พวกเด็กช่างก็เป็นแบบนี้ชอบใช้กำลังมากกว่าสมอง”

ไอ้น่านปรายตามองหน้าผมที่ยังเอาสองมือกุมขมับตัวเอง ก็มันทำไม่ได้นี่หว่าสูตรเชี่ยอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด แถมยังต้องมานั่งจำด้วยว่าไอ้ค่าพวกนี้มันต้องไปแทนที่ค่าอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะ อยากรู้จริงๆว่าในชีวิตจริงพวกที่เรียนจบไปมันได้ใช้สูตรพวกนี้คำนวณจริงๆหรือเปล่า ได้ยินมาว่าสูตรพวกนี้เรียนแค่รู้ไม่ใช่เหรอแล้วที่เหลือก็มีเครื่องคำนวณเสร็จสรรพเรียบร้อยอยู่ดี

“ก็มันจำไม่ได้อ่ะ มึงจะมาบังคับกูอะไรนักหนาวะ พักก่อนได้เปล่า” ผมยู่หน้าแล้วฟุบตัวลงกับโต๊ะญี่ปุ่นไอ้น่านส่ายหัวแบบปลงๆสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะหันไปเล่นกับแสนดีต่อ เวลาผมเห็นผู้ชายตัวใหญ่ๆอย่างน่านฟ้าหรือไอ้ซูเล่นกับสัตว์ตัวเล็กน่ารักๆแบบนี้แล้วก็อดขำไม่ได้จริงๆนะครับ เพราะดูยังไงมันก็ดูไม่เข้ากันยังไงไม่รู้ พูดถึงเรื่องสัตว์ก็ดันคิดไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้สักสองชั่วโมง ไม่เข้าใจเหมือนกันที่มันจูบผมแบบนั้นมันต้องการจะสื่ออะไร


แต่ก็ช่างเถอะ


ถ้าจูบแล้วจะได้ในสิ่งที่ผมต้องการมันก็โอเค


จะยอมให้จูบทั้งวันทั้งคืนก็ได้นะ อีกอย่างรสจูบของมันก็ไม่ได้ถึงแย่นักหรอก

“น่าน”

“หืม”

“มึงจะไปรับลูกกูวันไหนอ่ะ”

“ลูกมึง??” น่านฟ้าทำหน้างงเหมือนไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ “ลูกกูไงปอมสองตัวที่อยู่กับพี่นุ่น”

“คงไม่ใช่เร็วๆนี้”

“ทำไมวะ ไปรับพรุ่งนี้เลยดิ นะ นะ กูตั้งชื่อมันไว้แล้วด้วย”

“ตั้งทั้งๆที่มึงยังไม่เห็นหน้ามันเนี่ยนะ แล้วอีกอย่างมึงก็อย่ามโนว่านั่นเป็นลูกมึงเพราะที่ๆจะเลี้ยงคือบ้านกูครับเพราะงั้นนั่นหมากูไม่ใช่หมามึง” มึงนั่นแหละที่มโนกูเป็นคนรับปากพี่นุ่นคนแรกว่าจะเลี้ยงส่วนมึงตอนแรกอิดออดติดนู่นติดนี่ยังกล้าหน้าด้านๆขโมยหมากูต่อหน้าเนี่ยนะ เหอะ แต่สิ่งที่ผมคิดไม่ได้พูดออกไปหรอกครับ

“หมามึงก็ได้” แต่ถ้ามันมากูจะทำให้มันติดกู ทำให้มันรู้ว่ากูคือเจ้าของที่แท้จริงเอง ซึ่งไม่ยาก “แต่กูเป็นคนตั้งชื่อได้เปล่า กูตั้งไว้แล้ว”

“ตั้งว่า”

“เงินกับทอง”

“นี่มึงตั้งชื่อหมาหรือตั้งชื่อเ หี้ยเนี่ย” เออออว่ะ ลืมไปเลยว่าไอ้ตัวนั้นชื่อที่คนอื่นเรียกก็คือชื่อนี้นี่หว่า

"เอาชื่อนี้แหละกูขี้เกียจคิดแล้ว สรุปพรุ่งนี้มึงไปรับลูกกูใช่ไหม"

"ยังไม่ได้โทรบอกไอ้นุ่นเลยว่าจะไปรับ"

"ก็โทรบอกตอนนี้เลยดิ ว่างอยู่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ทำไม อ่ะนี่กูให้ยืมโทรศัพท์ก็ได้" ผมอุตส่าห์เป็นคนดีมีน้ำใจยอมเสียค่าโทรศัพท์ให้มันโทรนะ "ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยวะ"

"ก็กูรำคาญมึง"

"รำคาญกูก็อย่ามาเอากูล่ะกัน"

"ทำเป็นพูดดี ให้กูทำแค่ครั้งเดียวยังจะมีหน้ามาข่ม" น่านฟ้าเอามือมาวางไว้บนหัวผมอยู่อย่างนั้นไม่ได้ลูบหรือขยี้แค่วางให้ผมหนักหัวเฉยๆ

"หัวกูไม่ใช่ที่วางมือเว้ย!!!!”พอผมพยายามปัดออกไอ้น่านก็โยกมือหลบแล้วเอามาวางไว้ต่อ อยากวางก็วางไปผมขี้เกียจพูดมากแล้ว “แล้วกูก็กะว่าคืนนี้กูจะยอมให้มึงอีกครั้ง แต่ถ้ามึงไม่อยากได้...ก็แล้วแต่..." ผมเป็นพวกปากดีครับเวลาที่หมั่นไส้ใครมากๆอย่างไอ้คนตรงหน้าจะพยายามมากถึงมากที่สุดที่จะทำให้มันรู้ว่าผมไม่เคยกลัวอะไรสักนิด

"ก่อนพูดน่ะคิดแล้วใช่ไหม"

"อ่ะแน่นอน" ผมหยักคิ้วหลิ่วตาให้ไอ้น่านอย่างถือดี

"เดี๋ยวจะโดน" น่านฟ้าปล่อยแสนดีลงจากตักแล้วขยับนอนฟุบลงกับโต๊ะญี่ปุ่นเหมือนที่ผมทำ คางมันวางอยู่ใกล้ๆกับหน้าผม ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกัน
น่านฟ้ามันหล่อจริงๆนั่นแหละ หล่อจนตัวผมเองยังรู้สึกอิจฉา แต่ก่อนที่ผมจะคิดอะไรมากไปกว่านั้น น่านมันก็เอามือข้างนึงสอดเข้าที่ท้ายทอยผมก่อนจะจูบลงที่เหนือริมฝีปาก ผมไม่ได้ขัดขืนอะไรมันหรอกครับ ออกจะเอียงหน้าให้ได้องศาที่น่านฟ้าจูบได้ถนัดด้วยซ้ำ ลิ้นร้อนที่ล่วงลุกล้ำเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเพียงพอต่อความต้องการของตัวเองเลยสักครั้ง รู้ตัวอีกทีผมก็ลุกขึ้นแล้วขยับไปนั่งบนตักมันที่เอนตัวพิงกับเตียงเรียบร้อย

“แมวน้อย”

“แมวน้อยอะไร” ผมถอนริมฝีปากออกแล้วจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้า

“มึงไง...แมวน้อย”

“แมวน้อยบ้าอะไรล่ะ”

“อะไรก็มึงเหมือนแมวจริงๆ”

“ไม่เหมือน ห้ามเรียกเว้ย”

“โอเคครับ...ไม่เรียกก็ไม่เรียก” น่านฟ้ากดศีรษะผมให้ก้มลงมารับริมฝีปากของมันอีกรอบ เอวที่เริ่มขยับช้าๆผ่านเนื้อผ้าที่ยังไม่ได้ถอดสักชิ้น มันยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ความรู้สึกเราทั้งคู่มีมากขึ้น


สำหรับผมเซ็กส์กับน่านฟ้าให้ความรู้สึกว่าเราสองคนไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำว่ารัก ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อกันด้วยความคะนึงหา เราเพียงแค่สัมผัสกายของกันและกันให้มันร้อนขึ้นเท่านั้น แอร์เย็นช่ำแตกต่างจากความร้อนในร่างกายที่ร้อนจัด เสื้อผ้าของทั้งผมกับมันถูกถอดออกอย่างรีบร้อนราวกับว่าถ้าไม่ทำตอนนี้ความอยากมันอาจจะหายไป
น่านฟ้าดึงตัวผมขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนจะพยายามยื้อบ๊อกเซอร์ปราการสุดท้ายที่เหลืออยู่ติดกายให้ถอดออก

“มึงรีบเหรอ” ผมบิดหูไอ้น่านไปทีแล้วขยับนอนลงกับเตียงด้วยตัวเอง ขาทั้งสองขามันอ้าออกรับไอ้น่านให้แทรกเข้ามาตรงกลางโดยที่ตัวผมยังแปลกใจเลยว่าเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“ยั่ว???”

“เปล่ายั่ววว เลิกสีได้ไหมเนี่ย” แม่งจะทำก็ทำเลยจะสีหาหอกข้างแคร่อะไรครับคุณน่าน มือน่านฟ้าขยับบีบนวดไปมาตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงต้นขา "มึงเดี๋ยว"

"อะไร??~”เสียงมันแข็งมากจนผมอดขำไม่ได้ “มึงยอมกูแล้วนะ คิดจะเบี้ยวเหรอวะ?? เป็นลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นโว้ยย"มันทวงสัญญาที่ผมเคยบอกว่าจะยอมให้มันทำเรื่องแบบนี้บ้างในบางครั้ง ผมไม่ได้หมายความว่าจะไม่ยอมแต่ผมหมายความว่าถ้าจะทำก็ช่วยใส่ถุงยางด้วย

"เปล่ากูหมายถึงถุงยางมึงมีไหม"

"อ๋อ มี แต่ไม่ใช่แค่ถุงยางหรอกนะที่มี" ไอ้น่านเอื้อมมือไปดึงลิ้นชักที่อยู่ใกล้ตัวชูหลอดเจลที่ไม่ต้องอ่านก็พอจะรู้ว่ามันคือหลอดเจลที่ไว้ใช้ทำอะไร

"มึงนี่..."

"อย่ามองหน้าแบบนั้นเอาเป็นว่ากูเป็นคนที่รู้จักเตรียมตัวดีกว่า" ไอ้น่านไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรต่อจับขาผมอ้าออกแล้วตัวมันก็ขยับมาชิดผมมากกว่าเดิม นี่ขนาดอยู่ในร่มผ้าแม่งยังใหญ่น่ากลัวขนาดนี้ไม่อยากจะคิดเลยครับถ้ามันออกมาเผชิญโลกกว้างแล้วเข้ามาในตัวผมจะเป็นแบบไหน

"ไม่ทำแล้วได้เปล่า"

"หมดเวลาปฏิเสธนานแล้วครับน้อง" น่านฟ้าเอื้อมมือมาประคองซนน้อยและจับจังหวะขึ้นลงตามที่ใจมันสั่ง ผมไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ได้เสียหายอะไร แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปฏิเสธด้วยในเมื่อเซ็กส์สำหรับผู้ชายมันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
 

“อื้อ...ฮ๊ะ” สองมือสะเปะสะปะไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ตรงไหน น่านฟ้ามันเลยเอาไปวางไว้บนไหลแล้วยกตัวผมให้ขยับขึ้น ก่อนจะดันนิ้วแรกเข้ามาพร้อมเจลเย็น ครั้งที่สองที่โดนเจ็บครับ จุกด้วย แต่เพราะมืออีกข้างของมันที่ยังทำหน้าที่เป็นอย่างดีทำให้มันบรรเทาความเจ็บไปได้บ้าง รู้สึกตัวอีกทีนิ้วไอ้น่านก็ยัดสอดเข้ามาสามนิ้วแล้ว เห็นมันชักเข้าชักออกทั้งหน้าทั้งหลังโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรแบบนี้แล้วรู้สึกสงสารมันยังไงไม่รู้ ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเลื่อนหน้าไปใกล้ๆแล้วจูบที่ริมฝีปากมันเบาๆ

“อ๊ะ...น่าน..”

ผมว่า

...


ผมแอบเห็นหน้าฟ้าทำหน้าตกใจแล้วหน้าแดงขึ้นมานิดหน่อยนะแต่บางที ผมอาจจะคิดไปเองมากกว่า
 

“กูจะใส่เข้าไปแล้วนะ”

“อื้อ..” เครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบไม่ได้ช่วยให้เราทั้งคู่รู้สึกเย็นแม้แต่น้อย เสียงร้องครางจากปากผมมันทำให้รู้สึกว่าบางทีก็น่าอายแต่ไม่รู้ทำไมพอได้ร้องออกไปเต็มเสียงมันรู้สึกดีมากกว่ากั้นเสียงยังไงไม่รู้

“เบา..”มือข้างนึงยกขึ้นยันหน้าท้องไอ้น่านที่กำลังสอดส่วนสำคัญเข้ามาในร่างกาย ผมวางหน้าผากไว้บนไหล่น่านฟ้าสายตาก็ก้มมองจุดเชื่อมต่อระหว่างผมกับมัน

มันดูแปลกๆที่ตัวเองกลายมาเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ

แต่มันก็รู้สึกดีที่ถูกทำอย่างทะนุถนอม ผมไม่แปลกใจเลยเวลาที่เราทำให้ผู้หญิง ผู้หญิงเหล่านั้นเขารู้สึกดีมากแค่ไหน ยิ่งอ่อนโยนมาก ความรู้สึกเสียววูบวาบที่หน้าท้องก็มีมากเข้าไปด้วย “ห้ะ..อ๊ะ”


ไม่ไหว


เสียวไปหมด


เจ็บ


แต่เสียวมากกว่า


“ซน” น่านฟ้าเรียกชื่อผมตอนที่ตัวเองกำลังขยับเข้าออกช้าๆ

“อื้อ..อื้อ..” ผมขานรับมันแต่เสียงที่ออกมาดันร้องตามจังหวะที่ถูกกระแทกเข้าออก

“น่ารักเกินไปแล้วนะมึงอ่ะ”

“อ๊ะ..แน่นอน..อ๊า..อยู่แล้ว” ผมยิ้มแล้วเลื่อนหน้าไปจูบน่านอีกรอบมันรับจูบผมแล้วสอดลิ้นเข้ามาในจังหวะที่ผมอ้าปากพอดี

“น่าน..อ๊ะ..อ๊า เร็วกว่านี้หน่อยสิ...อ๊ะ...น่าน...กูจะไม่ไหวแล้วนะ...”

“พูดเพราะกว่านี้ไม่ได้เหรอวะ”

“พี่น่าน...ซนขอเร็วกว่านี้อีกนิดนะฮะ..อ๊า..อ๊า”

“.......”มันเงียบแล้วมองผมแบบอึ้งๆแต่ช่วงล่างยังคงทำงานต่อแต่ไม่นานหลังจากนานมันก็เร่งเครื่องก่อนจะเป็นผมที่ปลดปล่อยออกมาก่อน จูบซับที่เปลือกตาเบาๆพร้อมกับความรู้สึกโล่งตอนที่โดนถอนแก่นกายออก ผมหลับทั้งๆที่ยังไม่อาบน้ำ แต่มันเหนื่อยมากเลยครับ เหนื่อยจนไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น





Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงเพลงคุ้นหูดังขึ้นปลุกผมให้งัวเงียตื่นขึ้นมา จริงๆแล้วผมเป็นพวกตื่นยาก แต่นี่เหมือนตัวเองยังไม่ได้หลับสนิทด้วยมั้งถึงสะดุ้งตื่นง่ายแบบนี้ เหมือนจะหลับไปไม่ถึง 30 นาทีด้วยซ้ำ

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกที ผมมองหน้าจอมือถือที่โชว์ชื่อว่าใครโทรมาก็รีบเร่งรับทันที เพราะสายสำคัญแบบนี้ถ้าไม่รับสายน้องเอยคงงอนผมข้ามวันข้ามคืนอ่ะ

"ว่าไงครับสุดสวย...เอ๋" ประโยคแรกผมพูดกับแฟน แต่คำอุทานข้างหลังผมหันไปพูดกับไอ้บุคคลที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียง ไอ้น่านมันจับขาผมไปวางไว้บนตักตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่ที่งงเพราะเห็นมันกำลังเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ แถมตอนนี้ตัวผมเองก็ไม่ได้ล่อนจ้อนอะไรมีบ๊อกเซอร์ติดกายคาดว่าคงเป็นคนตรงหน้าแหละที่ใส่ให้

(ไม่ต้องมาปากหวานเลยค่ะ ไม่โทรหาเอยเลย)

“ง่า น้องเอยอย่างอนพี่ซนสิคะ ช่วงนี้พี่ซนยุ่งมากไหนจะต้องอ่านหนังสือ ไหนจะต้องหาที่ฝึกงานอีก” ผมพูดกับคนปลายสายไปด้วยพลางขยับตัวนั่งพิงเตียง ไอ้น่านมองผมแล้วถอนหายใจเล็กๆไม่รู้ว่าเป็นอะไร ผมเลยชี้จุดตรงที่มันยังไม่ได้เช็ด มันเลิกคิ้วถามผมประมาณว่าอะไร นี่มันโง่หรือไม่เข้าใจวะที่บอกเนี่ยคือให้เช็ดไงไอ้ฟายนี่ “เช็ดตัวด้วยดิ แขนยังไม่เช็ดเลย”
ผมเอามือข้างนึงปิดโทรศัพท์แล้วกระซิบบอกคนตรงหน้า มันก็ดี๊ดีนะครับเชื่อฟังง่ายแบบนี้ต้องมีรางวัล ผมกระดิกนิ้วเรียกไอ้คนตรงหน้าให้ก้มลงมาหา แต่มันก็ยังไม่ยอมทำตาม สุดท้ายผมเลยดึงคอมันลงมาเองก่อนจะจุ๊บเบาๆที่ปากมัน

ไอ้น่านพอโดนผมจุ๊บเขาหน่อยทำเขินอายเหมือนผู้หญิงเลยครับแม่งตลกว่ะ หูมันโคตรจะแดงอ่ะ

(ข้ออ้างอ่ะพี่ซน มีคนอื่นหรือเปล่าเนี่ย)

“จะมีใครคะน้องเอย พี่ซนมีเอยคนเดียวก็รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว ไม่อยากแบ่งใจไปรักคนอื่นหรอก รักคนเดียวพอแล้ว”

(ไม่ต้องมาปากหวานใส่เอยเลยค่ะ)

“ชิมบ่อยๆก็รู้อยู่แล้วนี่คะว่าปากพี่ซนหวานแค่ไหน”

“มึงนี่เสี่ยวเหลือเชื่อเลยว่ะ”

(เสียงใครคะพี่ซน)

“รุ่นพี่น่ะ คนนี้ที่จะมาติวให้พี่....พูดมากนะมึงอ่ะ” ผมพูดกับน้องเสร็จก็หันไปดึงปากไอ้น่านที

(อ้ออ เนี่ยพี่ซนวันนี้เอยไปซื้อของมาแหละ ได้มาเยอะมา ##%$#@#) ระหว่างที่น้องเอยพูดไปไอ้น่านแม่งก็ขยับมาใกล้ผมไป มันมองหน้าผมนิดนึงก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อมผมไว้ทั้งตัว

“อะไรของมึงเนี่ยน่าน” ผมกระซิบกระซาบกับไอ้คนตรงหน้า แต่มันก็แค่เลิกคิ้วกวนตีนแล้วขยับหน้ามาใกล้หน้าผมเข้าไปอีก

“หมั่นไส้มึงว่ะ” พูดพร้อมกับเอาริมฝีปากตัวเองชิดที่ริมฝีปากผม มือเย็นจากมันถูกลูบตามเนื้อตามตัวผมแทนผ้าชุบน้ำ

“เชี่ยน่านกูคุยกับแฟนอยู่”

“แล้ว” ยังจะมาทำหน้าไม่เข้าใจกูอีก กูบอกว่ากูคุยกับแฟน แม่งเอ๊ย!!เกลียดมันอ่ะ

(พี่ซนฟังเอยอยู่หรือเปล่า)

“อ๊ะ..ห้ะ..ฟังครับ เล่าต่อสิ แล้วเอยไปกับใครมาคะ...อ” ผมหุบปากตัวเองก่อนจะเอาหน้าฟุ่บไปที่บ่าน่านฟ้า มันไม่ได้ทำอะไรผมมากไปกว่าการเอามือป้วนเปี้ยนไปมาแถวๆกางเกงพร้อมกับริมฝีปากที่ทำไม่ต่างจากมือเท่าไหร่

(ไปกับน้ำค่ะ แต่วันพรุ่งนี้ว่าจะไปอีก พี่ซนมาหาเอยได้ไหมอ่ะ)

“พรุ่งนี้เหรอคะ”

“ใช่ค่ะพี่ซน ห้ามพูดว่าไม่ได้นะ เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้วด้วย”

“จริงๆพรุ่งนี้พี่ว่างนะ อ๊ะ..เชี่ยน่าน..น้องเอยเดี๋ยวแป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่ซนโทรกลับ”พอวางสายน้องเสร้จผมก็หันมาจัดการไอ้คนตรงหน้าทันที

“....อะไรของมึงเนี่ย” มันบ้าไปแล้วจู่ๆก็กัดหัวนมผมเฉยเลย ผมเอามือทุบไหล่มันไปที

“มึงไม่ว่างไม่ใช่เหรอ”

“กูไปไหนอ่ะ” ขนาดตัวผมยังไม่รู้ว่าผมจะไปไหนแล้วมันเป้นใครครับมารู้ดีมากกว่าเจ้าตัวได้ไง

“ไปรับเงินกับทองไง..” เงินกับทอง?? ใครจะให้เงินกับทองผมอ่ะ ผมจำไม่เห็นได้เลย

“มึงนี่เนอะ กูหมายถึงปอมสองตัวกับไอ้นุ่นไง”

“เอออออออว่ะ ใช่ เอาไงดีอ่ะ”

“ก็ไปรับลูกชายไง” มันยิ้มกว้างออกมาแล้วเอามือลูบหัวผมที่ตอนนี้ดูยุ่งๆก่อนจะขยับเปลี่ยนเป็นนอนตักผมแทน

“ไม่ได้ว่ะ...พรุ่งนี้กูว่าจะไปหาแฟน..ฝากมึงไปรับมันแทนกูหน่อยได้ไหม...นะ” ผมเม้มปากทำหน้าอ้อนไอ้คนที่นอนตักอยู่ มือข้างนึงขยำศีรษะไอ้น่านเบาๆ เพราะผมคิดว่าทุกคนน่าจะเหมือนผมที่ชอบให้คนอื่นเล่นหัว

“แต่มึงเป็นคนบอกว่าจะเลี้ยง” เสียงมันดูไม่ร่าเริงเหมือนเดิมแล้วอ่ะครับ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหม

“แต่ไปรับให้กูหน่อยไม่ได้เหรอวะ นะ นะ รับมาให้หน่อยดิ มึงต้องเข้าใจกูบ้างดิวะน่าน แฟนกูทั้งคนนะเว้ย คนสำคัญมึงเข้าใจไหม”

“อืม เข้าใจแล้ว” เสียงมันดูผิดปกตินิดหน่อยแต่สุดท้ายก็กลับมาเหมือนเดิม มันพยักหน้าเข้าใจแล้วลุกขึ้นจากตักผม “กูไปอาบน้ำก่อนล่ะกัน”

“อ่าๆ” ผมพยักหน้าหงึกๆเข้าใจแล้วต่อสายหาน้องเอยอีกรอบ ผมกับน้องเรานัดกันที่สยามเหมือนเดิม ตอน 10 โมง พูดกันตรงๆไม่ได้เจอน้องมาเกือบจะอาทิตย์แล้วมั้ง เพราะตั้งแต่เจอไอ้น่านก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่กับมากกว่าเกินควรด้วยซ้ำ



ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วขยับตัวลงนอนอีกที


“น่าน พรุ่งนี้กูไม่กลับมาที่บ้านมึงแล้วนะ” พอคิดๆดูอีกทีผมว่าผมไม่ได้กลับบ้านแน่ เพราะคงพาเอยไปนู่นนี่นั่น กว่าจะกลับก้คงดึกและเมื่อกี้ก่อนวางเอยพูดเป็นนัยๆว่าคืนพรุ่งนี้คนที่บ้านไม่มีคนอยู่


นั่นก็หมายความว่าที่เอยกำลังจะบอกก็คือ....



ให้ผมไปนอนกับเขา...ก็แค่นั้น




ไม่ใช่ว่าหมาไม่สำคัญนะครับแต่แฟนแม่งสำคัญกว่าว่ะ

 :katai4: :katai4: :mew2: :mew1:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องซนไม่เข้าใจพี่น่านนนน...~ :z3: พี่เขาหวงหนูนะลูกนะ และนาทีที่พี่น่านให้น้องซนพูด
เพราะๆ เราว่าถ้าให้ตีลังกาด้วยพูดด้วยน้องซนก็ยอมเธอ~ :laugh:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องซนจ๋า หนูนี่อาการหนักนะคะ เมื่อไหร่จะรู้เรื่องรู้ราวกับเค้า  :z2: 

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
พี่น่าน น้องซนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด