แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13  (อ่าน 109035 ครั้ง)

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เราว่าน่านถอยออกมาดีกว่า เอาความจริงน่านก็มาทีหลัง
แล้วซนมันก็มีแฟนแล้ว จะคบซ้อนหรอ เรื่องนี้ซนผิดเต็มๆ
น่านก็ผิดที่ไปยุ่งกับคนของคนอื่น เราสงสารเอยนะ
ถ้าซนยังตัดเอยไม่ได้บอกน่านตรงๆก็ดีแล้ว
ไม่รู้ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง แต่ขอจบแบบแฮปปี้นะคะ

คนเขียนสู้ๆค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
โอย สงสารๆๆๆๆ น่านมากกก(ร้องไห้แปป)
ทำไมซนทำแบบนี้อ่ะ ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดไปเลย
จะเลือกเอยก็เลือกสิ ให้น่านตัดใจไปเลย สงสารน่านมาก
จะร้องไห้ ดราม่าเริ่มมาเรื่อยๆ กลัวจะจบแบบแซดเอนดิ้งจังเลยอ่ะ

ออฟไลน์ Lovelyjess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านทันแบบรวดเดียวจบ ตามมาจากนิยายแนะนำ
ซนจะรู้ใจตัวเองเมื่อตอนไม่มีน่านว่ารู้สึกยังไง.

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จะฟินแต่ก็ฟินไม่สุุดอ่ะ ถ้าความรักของสองคนนี้ยังมีอุปสรรคที่ชื่อน้องเอยอยู่!



ออฟไลน์ helpmeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ยังไง น่านจะตัดสินใจยังไง จบหรือจะต่อ

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
ตอนที่ 18 เพิ่งอัพไปวันที่ 5/05/15

Because of you ซน ตอนที่ 19  without you

เสียงพูดคุยกันของน้องเอยกับเพื่อนๆไม่ได้ดึงความสนใจจากผมไปได้เลย สายตาผมมองออกไปตามถนนที่กำลังวิ่งเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพ แปลกใจนิดหน่อยที่น้องเอยนั่งรถทัวร์กันมา แต่ปากก็ไม่ได้เอ่ยถามเพราะความรู้สึกที่ยังคั่งค้างตั้งแต่สองคืนก่อนยังติดเป็นตะกอนไม่หลุดออกไปจากความคิดสักที



สามวันกับอีกสองคืนที่ผมไม่ได้รับการติดต่อจากช่องทางใดๆของไอ้น่านเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไง ผมรู้นะครับว่าผมผิดที่ไปพูดจาตอกย้ำมันแบบนั้น แต่ผมก็แค่อยากให้มันรู้ตัวเองบ้างว่าจริงๆแล้วฐานะมันที่ควรจะอยู่ข้างๆผมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือทำตัวเป็นเจ้าของเหมือนอย่างคืนนั้น

ผมเข้าใจนะครับว่าความสัมพันธ์ของเราอาจจะทำให้ความรู้สึกของมันเกินเลยจากขอบเขตที่กำหนดไว้ แต่ก็นั่นแหละความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ เรื่องนั้นผมเข้าใจ ดังนั้นผมจึงเพียรบอกกับมันตลอดว่าสิ่งที่ผมต้องการจากมันไม่ใช่ความชัดเจน ไม่ต้องการคำพูดที่บอกว่ารู้สึกยังไง ผมต้องการแค่คลุมเคลือ อยู่กันแบบนี้ ข้างๆกันแบบนี้มันทำไม่ได้หรือไงวะ ทั้งๆที่ตอนแรกก็พูดเองว่าทำได้ แต่ไม่รู้คืนนั้นมันเป็นบ้าอะไรถึงดื้อดึงตัดพ้อ ไร้สาระอยู่นั่น สุดท้ายก็ทำร้ายจิตใจมันทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่อยากพูดคำนั้นออกไปสักนิด

“พี่ซน...”

“.......” ไม่รู้แม่งป่านนี้เป็นยังไงบ้าง

“พี่ซนคะ” เสียงเรียกของน้องเอยทำให้ผมหันหน้ามามองน้องเขาแล้วเลิกคิ้วถามว่ามีอะไรหรือเปล่า “พี่ซนทำหน้าแปลกๆมาสองวันแล้วอ่ะ มีอะไรไม่สบายใจไหมคะ”

“อ้อ...”

“ห้ามบอกว่าเปล่านะคะเพราะหน้าพี่ซนไม่ได้หมายความว่าเปล่าสักนิด” น้องเอยคบกับผมมานานมากพอจนทำให้เรารู้นิสัยบางส่วนของกันและกัน ผมยิ้มแล้วโคลงหัวน้องเขาเบาๆเป็นเชิงหยอก

“พี่เครียดเรื่องจะสอบเข้ามหาลัยนี่แหละค่ะ คนติวพี่เขาโกรธพี่เรื่องไร้สาระไม่รู้เป็นบ้าอะไร”

“พี่น่าน???” ผมพยักหน้าบอกว่าใช่คนนั้นแหละ คนที่เอาแต่ใจและก็ชอบเอาใจคนอื่น

“ก็ง้อสิคะ พี่น่านดูสนิทกับพี่ซนดีออก หล่อด้วย” น้องเอยทำหน้าเคลิ้มจนผมอดเบ้ปากไม่ได้

“จะนอกใจพี่??”

“ก็หล่อจนเอยอยากนอกใจนี่คะ” น้องเอยยิ้มแล้วเอามือจับแก้มตัวเองทั้งสองข้าง แต่พอเห็นผมทำหน้าบูดน้องเขาก็หัวเราะออกมา “เอยล้อเล่นค่ะ อย่างอนเลยนะคะ”

ผมพยักหน้าแล้วชวนน้องเอยคุยเรื่องอื่น แต่หลังจากคุยกันได้สักพักน้องเอยก็โดนเพื่อนๆเรียกให้หันไปพูดคุยเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่อื่นต่อ ส่วนผมก็จมอยู่กับตัวเองและมือถือที่เช็คเข้าไปในไลน์รอบแล้วรอบเล่า



เอาวะ ลองง้อมันดูก่อนล่ะกัน



ผมกดเข้าไปในไลน์ที่คุยกับน่าน ไม่บ่อยนักหรอกครับที่ผมจะเป็นคนติดต่อไปหามันก่อน แต่คราวนี้คงต้องติดต่อแล้วแหละไม่อยากให้เรื่องราวมันบานปลายไปมากกว่านี้ กลัวว่ามันจะคิดมากด้วย



ผมเลือกที่จะส่งสติ๊กเกอร์ไปหามันก่อน รอสักพักน่านฟ้าก็อ่านแต่มันก็ยังไม่ตอบอะไรกลับมาผมเลนส่งสติ๊กเกอร์ไปหามันอีกที น่านฟ้าอ่านแล้วถามกลับมาว่ามีอะไรหรือเปล่า เห็นมันเป็นปกติอย่างนี้แสดงว่ามันน่าจะหายดีแล้วมั้ง ผมถึงกล้าไลน์ไปถามมันเรื่องอื่น


‘น่านได้ไปซื้อสมัครสอบเรียนต่อมหาลัยให้กูเปล่า’

‘อืม ไปซื้อมาให้แล้ว’

‘เยี่ยม ยังไงคืนนี้เดี๋ยวกูไปหาที่บ้าน จะเข้าไปเอาใบสมัครนะ เย็นนี้กินไรดีอ่ะ กูคงไม่ได้ไปกินข้าวกับพวกน้องเอย เหนื่อยมากเลยมึง เมื่อยตัวสุดๆอ่ะ’

ผมถามมันเรื่องข้าวเย็น แล้วก็บ่นเป็นปกติที่ชอบบ่นให้น่านฟ้าฟัง ซึ่งถ้าปกติแล้วมันจะต้องตอบกลับมาพร้อมสติ๊กเกอร์รูปจังไรมาสักรูป แต่ผลที่ได้คือความเงียบจนเป็นผมเองที่ต้องไลน์ถามมันอีกรอบ

‘น่าน’

‘???’

‘เป็นไรอ่า ไม่สบายเหรอ’

‘เปล่า สบายดี เอางี้ล่ะกันมึงไม่ต้องมาหากูหรอกซนเดี๋ยวกูเอาใบสมัครไปให้ที่บ้านนะ’

‘อ้อ งั้นก็ดีเลย มึงนี่มันน่ารัก จะมารับกูใช่ป่ะล่ะ คิดถึงเงินกับทองเนอะ มึงยังไม่ได้เอามันกลับไปบ้านใช่เปล่า’

‘ยังไม่ได้เอามา’

‘ดีๆ งั้นมาจะมากินข้าวที่บ้านล่ะกันเนอะจะได้บอกม๊าให้เตรียมให้เผื่อ มึงอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม’

‘เอาไว้เดี๋ยวค่อยคุยกันนะซน พอดีกูยุ่งๆว่ะ’

‘อา โอเค ค่อยคุยกันก็ได้’ ผมส่งสติ๊กเกอร์คำว่าโอเคกลับไปให้มัน แล้วหลุดยิ้มออกมา ถึงมันจะดูเนือยๆไม่อยากคุยแต่มันก็คุยกับผมแสดงว่าตอนนี้น่านฟ้าน่าจะโอเคขึ้น คงรู้สึกเหนื่อยจากการฝึกงานล่ะมั้ง ได้พักแค่ไม่กี่วันเอง



ผมกับน้องเอยมาถึงกรุงเทพกันเกือบบ่าย เพื่อนๆน้องเอยกับผมแยกย้ายกันกลับบ้านโดยที่ผมเป็นคนนั่งรถแท๊กซี่ไปส่งน้องเอยก่อนแล้วค่อยหอบสังขารกลับบ้านตัวเอง

“พี่ซนดำขึ้นหรือเปล่า” คำแรกที่เดินเข้ามาในบ้านแล้วถูกคนที่รักที่สุดทัก ผมชะงักแล้วก้มมองตัวเองนิดนึงก่อนวิ่งปรี่ไปหาคนที่ทักเมื่อกี้

“จริงดิม๊า เท่เปล่า ดูแมนขึ้นเลยดิ นี่ๆกล้ามพี่ซนขึ้นเป็นลูกเลยๆนะ” ผมหยักคิ้วข้างนึงส่งไปให้ม๊า หอมแก้มคนตัวอวบไปที ป๊าเห็นเข้าก็เบ้ปากแรงใส่บอกว่าที่ผ่านมึงไม่แมนสินะ

“ไม่แมนอะไรเล่าป๊า นี่เขาเรียกแมนขึ้น หล่อขึ้น เห็นเปล่า” ผมพูดเสร็จก็นั่งลงกับพื้นก่อนจะนอนแผ่หราอยู่กลางบ้าน พวกไอ้เงินไอ้ทองคงได้กลิ่นวิ่งเห่าหอนมาแต่ไกล พอเขามาดมๆตัวผมเสร็จมันก็จามกันคนล่ะทีสองทีแล้ววิ่งไปเล่นกับอิแสนดีต่อ ขนาดผมเรียกมันตั้งหลายรอบมันยังหยิ่งไม่มา นิสัยชักจะเหมือนอิแสนดีมากไปแล้วนะมึงสองตัวเนี่ย “ม๊าดูดิ อิแสนดีมันทำให้ไอ้เงินไอ้ทองหยิ่งใส่พี่ซนอ่ะ”

“ไปโทษแมว ไม่โทษตัวเองบ้าง ตัวเหม็นอย่างกับอะไรดี”

“ม๊า พี่ซนจะตัวเหม็นได้ไงก็เมื่อกี้มายังหอมพี่ซนอยู่เลย”

“ม๊าก็หอมไปงั้นแหละ” ผมอมลมในแก้มจนป่องแล้วลุกขึ้นเดินไปหาม๊าให้หอมอีกรอบ ม๊าทำหน้าขยะแขยงแต่จนแล้วจนรอดก็ก้มลงมาหอมผมอยู่ดี ผมนั่งคุยเล่นกับป๊าม๊าจนรู้สึกหายเหนื่อย พูดคุยเรื่องที่ฝึกงานว่าตัวเองลำบากแค่ไหน โม้แหลกครับบอกว่าลำบากยิ่งกว่าพวกฝึกรด.นั่นนี่นู่น แต่เพราะโม้มากเลยได้คำชมจากม๊าและความหมั่นไส้จากป๊ามาเป็นของรางวัล ส่วนไอ้เงินไอ้ทองก็เหมือนจะรู้ว่าผมโกรธมันถึงวิ่งมาคลอเคลียทั้งๆที่เมื่อกี้เรียกตั้งนานก็ไม่ยอมมาหา “นิสัยเสียนะพวกมึงเนี่ย ติดนิสัยแสนดีมาสินะ ไม่ต้องมาอ้อนเลย”

ผมตบหัวลูกชายสองตัวไปคนทีก่อนจะอุ้มไอ้สองตัวนั้นขึ้นห้อง ตอนที่ผ่านไอ้ซูเห็นมันกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่หลังบ้าน พอตะโกนถามมันก็บอกอย่ายุ่ง ได้กลิ่นหอมๆเหมือนกำลังอบเค้ก ไม่บ่อยหรอกครับที่ไอ้ซูมันจะบ้าลุกขึ้นมาทำอาหารหรือขนม และก็คิดว่าไอ้เค้กหรือขนมที่มันกำลังทำอยู่ไม่ได้หลุดมาถึงปากผมแหงๆ

“ไงเงินทองคิดถึงกูล่ะสิ” ผมอุ้มมันสองตัวไปวางไว้บนเตียง แล้วเดินมาเปิดแอร์แต่แอร์มันเป็นไรไม่รู้เสียงดังกึกกักเหมือนจะมีปัญหาสงสัยจะแย่ว่ะ “ม๊า แอร์ที่ห้องพี่ซนเป็นอะไรอ่ะ”

“จะรู้ไหม ห้องนั้นพี่ซนใช้คนเดียว”

“อ่าว??” ผมลองเปิดอีกทีมันก็ยังไม่ติด น่าจะเป็นเพราะว่าไม่ได้อยู่ห้องนานแล้วก่อนหน้านี้ก็อยู่กับน่านฟ้าตลอดด้วย “ม๊าเรียกช่างให้พี่ซนด้วยนะ ร้อนแบบนี้พี่ซนอยู่ไม่ได้จริงๆด้วย”

ผมงอแงตะโกนบอกม๊าได้ยินแกตะโกนกลับมาว่าจะเรียกช่างมาดูให้แต่คงจะเป็นวันพรุ่งนี้ไม่ก็มะรืน ผมลากพัดลมมาเปิดแล้วส่งข้อความไปอ้อนไอ้น่านให้มันมารับตอนนี้เลย อยู่ไม่ได้แน่ๆร้อนแบบนี้

‘น่านฟ้ามารับกูตอนนี้เลยได้เปล่า กูร้อนมากเลย ที่ห้องแอร์เสียด้วยT^T’

ผมนอนรอโทรศัพท์น่านฟ้าอยู่นานมาก แต่ผลที่ได้คือความเงียบ มันไม่อ่าน ไม่ตอบ ปกติไอโฟนไอ้น่านก็ตั้งให้มันเด้งหน้าวอลล์นะถ้าไม่ได้เล่น



‘มารับเร็วๆนะ’



ผมคิดว่าน่านฟ้าคงยุ่งเลยไม่ได้หยิบมือถือติดมือไปด้วย ไอ้เงินไอ้ทองมุดตัวลงนอนอยู่ข้างๆผม พัดลมตั้งโต๊ะช่วยทำให้ผมกับหมาอีกสองตัวคลายความร้อนไปได้บ้าง “มึงสองตัวคงอยากเจอไอ้น่านเร็วๆสินะ ก็มันตามใจมึงมากกว่ากูขนาดนั้น เดี๋ยวสักพักมันก็คงมารับเราแล้วแหละ ไม่ต้องทนร้อนแล้วเนอะ”


ผมพูดพึมพำกับหมาสองตัวพร้อมยกมือขึ้นลูบหัวมัน ความรู้สึกนี้มันอึดอัดนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่สังเกตว่าน่านฟ้ามันแปลกไปแค่ไหน ไม่โทรมา ไม่ไลน์ตอบ ไม่แสดงท่าทีว่าห่วงหรืออะไรทั้งนั้น แต่ผมเองก็ไม่อยากจะคิดมากเพราะยังไงเย็นนี้มันบอกว่าจะมาหา มันก็ต้องมาแหละ




ผมตื่นขึ้นมาอีกทีประมาณทุ่มกว่า ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นสองแสบอยู่บนเตียงแล้ว พอมองไปที่มือถือที่วางอยู่ใกล้ๆเห็นไฟกระพริบบอกว่ามีสายไม่ได้รับโทรเข้ามา ตอนที่กำลังจะเปิดดูรู้เลยว่าตัวเองใจเต้นแค่ไหน แล้วยิ่งเห็นชื่อของคนที่รออยู่ว่าใครโทรเข้ามาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้


กว่าจะโทรมา แม่งให้กูรอเป็นชาติ


“ฮัลโหล มึงอยู่ไหนเนี่ย” ผมกดโทรศัพท์หาไอ้น่านแล้ววิ่งลงมาข้างล่าง ไม่มีคนอยู่เห็นแต่โน๊ตที่ม๊าแปะไว้ว่าจะออกไปงานเลี้ยงข้างนอกกว่าจะกลับก็คงค่ำ ส่วนไอ้ซูก็ไม่อยู่บ้านตามเดิม

(อยู่หน้าบ้านมึงอ่ะ จอดรถอยู่ข้างนอก)

“กูยังไม่ได้เตรียมตัวเลยมึงเข้ามาในบ้านก่อนนะ กินไรดีอ่ะ ม๊าไม่ได้ทำอะไรไว้ให้เลย เงินทองอย่าดื้อพ่อมึงมาแล้วไม่ต้องมาแหย่เลย ได้กลิ่นมันอ่ะดิดีใจใหญ่เลยนะมึงอ่ะ” ประโยคแรกผมพูดกับคนในโทรศัพท์ แต่ประโยคถัดมาผมพูดกับหมาสองตัวที่เห่าอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน ผมเดินมาเปิดประตูบ้านไอ้เงินกับไอ้ทองวิ่งหน้าตั้งไปที่รั้วทันที ผมโบกมือแล้วยักคิ้วให้มันนิดหน่อย น่านฟ้าเดินเข้ามาที่สนามหน้าบ้านก่อนจะนั่งลงตรงม้าหินอ่อนหยุดเล่นกับไอ้สองตัวแสบที่ดีใจจนออกนอกหน้า

ผมใส่แตะแล้วเดินออกมานั่งตรงม้าหินอ่อนที่มันกำลังนั่งอยู่

“หน้ามึงเหมือนคนไม่ได้นอน ตาบวมชึ่งเลย คล้ำด้วย กลับมาก็มีงานเลยเหรอวะ” ผมพูดพลางใช้นิ้วแตะลงไปที่ปลายตาน่านฟ้า มันเงยหน้าขึ้นมองมือผมแล้วยิ้มเบาๆ

“เปล่าหรอก มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”

“อ่อ งั้นเหรอ.” ผมไม่พูดอะไรต่อเพราะรู้ว่าสิ่งที่มันบอกว่ามีเรื่องให้คิดนิดหน่อยคงหนีไม่พ้นเรื่องเมื่อสองคืนที่แล้ว ผมไม่อยากพูดถึงแล้วอ่ะ มันทำให้ผมรู้สึกแย่ ผมอยากให้เรื่องมันจบๆไปเลย ทำซะว่าไม่เคยเกิดเรื่องคืนนั้นขึ้นระหว่างผมกับมัน

“.............”

“เออ มึงได้เอาใบสมัครเรียนมาให้กูเปล่า สมัครให้แล้วใช่ป่ะ” น่านฟ้าพยักหน้าแล้วหยิบแฟ้มเอกสารส่งมาให้ผม ในนั้นมีทั้งเอกสารสมัครเรียนแล้วก็เลขที่ใบสมัครที่สมัครเรียบร้อยแล้ว “ลำดับที่ 6789 เฮ้ยเลขสวย สงสัยกูต้องสอบได้แน่ๆ ขอบใจนะ มึงน่ารักที่สุด”

ผมขยับจูบลงที่ปลายคางน่านฟ้า แล้วก้มลงมองใบสมัครอีกที ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นกระเป๋าลากใครไม่รู้วางอยู่หน้าบ้าน

“น่านกระเป๋านั่นมึงเหรอ ใบโคตรใหญ่ จะไปไหนอ่ะ”

“เปล่า....ไม่ใช่ของกู” คำพูดน่านฟ้าเบาลงจนผมแทบจะไม่ได้ยิน เราสองคนต่างคนต่างเงียบ จมอยู่กับความคิดตัวเอง

“กู...”คำพูดที่จะพูดออกมาไม่รู้ทำไมตอนนี้มันช่างยากเย็นนัก ผมไม่อยากรับรู้ว่าในกระเป๋าใบนั้นที่มันเอามาเป็นของๆผม ไม่อยากจะคิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น “เออน่าน มึง...มึงกินข้าวยังอ่ะ ไปกินข้าวกันเหอะ หิวว่ะ”

ผมอ้อนมัน โน้มหน้าลงบนบ่า เกาะชายเสื้อน่านฟ้าไว้แน่น รู้ตัวเองเลยว่าตัวเองบีบเสื้อมันไว้แรงมากแค่ไหน ผมกลัวไปหมด กลัวว่าสิ่งที่คิดอยู่ในใจลึกๆมันกำลังจะเกิดขึ้น


ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนพูดให้มันยอมรับสถานะของมัน พูดให้มันรู้ว่ามันไม่มีสิทธิ์ในตัวผมมากไปกว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดบอกมัน ตะโกนบอกมันว่ามันเป็นคนยื้อผมไว้



แต่.....




ผมไม่ได้ต้องการให้มันปล่อยมือผม ไม่ได้ต้องการให้มันหยุดความสัมพันธ์ของเราสักนิด



“น่าน กูอยากกินปิ้งย่างอ่ะ ไปกินแถวบ้านมึงตรงร้านที่มึงพากูไปดีป่ะ”ตอนนี้ผมไม่อยากฟังอะไรจากปากมันมากไปกว่าการที่มันพูดว่า ไปสิ ไปกินข้าวกัน แล้วค่อยกลับบ้าน



ผมอยากได้ยินแค่นี้ นอกเหนือจากประโยคนั้นผมไม่อยากฟัง




“ถ้าซนสอบเข้าที่มหาลัยพี่ได้ พี่คงยินดีถ้าเห็นซนเป็นน้องนะ” ถึงจะชอบที่มันเรียกแทนตัวเองว่าพี่ แต่ ณ ตอนนี้ผมไม่ได้อยากมีมันเป็นพี่เลยสักนิด

“มึงเป็นอะไรของมึงวะน่าน มาพี่ๆน้องๆ หิวข้าวจนเป็นบ้าแล้วหรือไง ถ้างั้นก็ลุกเถอะ ไปกินข้าวกัน”ผมกระตุกเสื้อน่านฟ้าเบาๆให้มันลุกขึ้นตามผม

“ซน” แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงมือหนาที่ดึงมือผมออกจากเสื้อมัน “แบบนี้แหละดีแล้ว”

“อะไรของมึงน่าน.....กูไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด....” ผมยอมรับว่าตัวเองไม่มีแรงพูด กลัวว่าเปิดปากพูดออกมาน้ำตามันพาลจะไหลออกมาด้วย

“เลิกดีไหม ไอ้ความสัมพันธ์ที่มันบิดๆเบี้ยวๆแบบนี้ กูมานั่งคิดๆดูแล้วนะว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเราจบมัน” ผมเคยคิดนะว่าถ้าวันนึงน่านฟ้าขอยกเลิกความสัมพันธ์ของเรา ผมจะแค่ยิ้มรับแล้วบอกว่ายังไงก็ได้ กูไม่ซีเรียส แต่ความเป็นจริงแล้วผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลยสักนิด

“ไม่เอาอ่ะ” ยิ่งมันขืนตัวผมให้ออกจากตัวมันมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งมุดหน้าลงกับบ่ามันมากเท่านั้น “ไม่..เอาหรอก”

“กูยังไม่เคยบอกมึงใช่เปล่าว่ากูชอบมึง....”

“ไม่ต้องบอกก็ได้ กูรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดออกมาหรอก”

“แต่มึงจำได้ไหมซน มึงเคยบอกว่ามึงชอบความชัดเจนและก็เกลียดมันด้วยในคราวเดียวกัน ตอนนี้กูชัดเจนแล้วนะ และกูก็หวังว่ามึงจะชัดเจนกับกูด้วย” ผมกัดปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บไปหมด

“มึงก็รู้....ว่ากูให้ไม่ได้...กูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอน่านว่าสุดท้ายคนที่กูเลือก....”

“ก็ไม่ใช่กู...หึ...รู้แล้วแหละ เพราะงั้นวันนี้ถึงมาบอกไงว่าเราสองคนควรจะจบความสัมพันธ์ของเราสักที... กูเหนื่อยว่ะ”

“.ไม่เอาแบบนี้ได้หรือเปล่า กูรับรู้ความรู้สึกมึงแล้ว กูรู้แล้วว่ามึงชอบกู ให้มันชัดเจนก็ได้แต่ไม่เอาแบบนี้...นะ เอาแบบเดิมได้ไหมอ่ะ แบบเดิมที่มึงอยู่ข้างๆกูตรงนี้ โดยที่มึงไม่ต้องบังคับให้กูเลือกอย่างนี้ ได้ไหมน่าน...นะ...เอาแบบเดิมนะ” ผมกระตุกเสื้อน่านฟ้าอีกรอบ ย้ำมันอีกครั้งว่าผมรับรู้ความรู้สึกของมัน แต่ไม่อยากยุติความสัมพันธ์ของเรา

“แบบเดิม??? แบบที่กูไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวมึงสักอย่างงั้นเหรอซน มึงไม่สงสารกูบ้างเหรอวะ...”

“.....”

“มึงร้องจะเอาในแบบที่มึงอยากได้ แล้วกูล่ะ กูเลือกอะไรได้ไหม กูเลือกไม่ได้สักอย่าง ทั้งตัวมึงหรือแม้แต่หัวใจมึง....”


“..............”น่านฟ้าดึงมือผมออกจากเอวมัน


“ดิลนะ” ก่อนจะก้มลงมาที่คอผม ข้อตกลงที่เราเคยตกลงกันไว้ว่าถ้ามีการทำสิ่งใดร่วมกัน เราจะทำสัญลักษณ์ของกันและกันไว้ที่ร่างกาย


“ไม่เอาอ่ะ...ฮึก...ไม่เอาแบบนี้”


“ให้กูไปเถอะซน ถือซะว่าสงสารกูเถอะ....กูรับมัน...ไม่ไหวแล้ว” เสียงที่สั่นพร้อมกับริมฝีปากที่ขยับมาเรื่อยๆ ความร้อนจากลมหายใจเป่ารดเบาๆที่ต้นคอ น่านฟ้าก้มลงดูดผิวเนื้อจนผมรู้สึกเจ็บแปล๊บ แต่ความรู้สึกนี้มันไม่ได้ดีอย่างครั้งก่อนๆเพราะครั้งนี้มันเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและความทรมาน


“น่าน...ฮึก....”



“พี่ขอให้ซนสอบได้นะ พี่รอรับน้องอยู่ สู้ๆนะครับ”











ฮึก....น่าน...ไม่เอาได้หรือเปล่า ไม่เอาแบบ....นี้






>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<
ชอบแต่งดราม่านะ แต่รู้สึกว่าตอนนี้มันยังไม่สุด หรือเปล่าT T
คนแต่ง #ทีมซน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2015 17:39:12 โดย nuoouka »

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
ดีแล้วล่ะน่าน ไปเจอคนที่ดีกว่านี้เถอะ

ออฟไลน์ Gapompom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ทำดีแล้วน่าน
ถ้าอยู่แบบนั้นต่อไป ได้เป็นแค่ตัวสำรองก็เท่านั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกสมน้ำหน้าซนจริงๆ หวังว่าน่านจะไม่ใจอ่อนให้คนเห็นแก่ตัวเร็วเกินไปนะ
และขอให้คนที่ซนเลือกมันนอกใจซนด้วยเหมือนกัน อยากเห็นมันเจ็บปวดรวดร้าวบ้าง

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ขอโทษนะคะ  สะใจค่ะ
ซนเลือกได้และพยายามยื้อไว้ทั้งสองทาง
ไม่คิดถึงหัวอกน่านเลยว่าเจ็บขนาดไหน
ต้องการความชัดเจน...ได้...เอาไปเลย
เพี้ยงขอให้เอยเจอรูป+คลิปที่น่านซนถ่ายไว้ด้วยกัน
ขอให้ซนอย่าได้เหลือใคร
คนที่ไม่เห็นคุณค่าความรักก้อย่าได้มีความรักเลย

น้องซนก็ขอให้ตัดใจจากคนที่หลงละเมอเพ้อพกมาตั้งนานด้วยเถอะ 
อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะมีใจให้

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
คนอ่าน #ทีมพี่น่าน

สู้ๆนะพี่น่าน. พูดออกมาเจ็บจี้ด โดนทุกประโยค
ซนทรมานน่านทั้งเป็น ซนไม่สงสารเหรอ. คิดเอาแต่ได้. เป็นพี่น้องก็ดีเท่าไหร่แล้วนะ.เราว่าดราม่าไม่สุดจริง บอกมาก่อนว่านั่นกระเป๋าใครอะ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
แหงะะะ​  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่น่านทำดีแล้วค่ะ แต่เราแอบน้ำตาซึมหน่อยๆ ด้วยล่ะค่าา กระซิกๆ T^T  ..คิดไม่ถึงเลยนะคะ ว่าน้องซนจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ คิดแต่จะเก็บพี่น่านเอาไว้กับตัวเอง และก็สนใจแต่ความรู้สึกของตัวเองคนเดียวแบบนี้ ต่อให้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น่าน เขาก็เลือกที่จะไปจากน้องซนเหมือนกันนั่นล่ะค่ะ :onion_asleep:

ออฟไลน์ pixie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :เฮ้อ: you hurt me  :ling3:

หน่วงที่สุดด แต่น่านถอยออกมาก็ถูกแล้ว !!

ซนไปเคลียร์ตัวเองเร็วๆเน้อ ชอบโมเมนต์ที่สองคนนี้อยุ่ด้วยกันมากๆค่ั

รอนะคะ สู้ๆ  :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Lovelyjess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สมน้ำหน้าซน. ไม่เลือกแล้วก็ไม่ชัดเจน
เสียบเค้ากับโดนเค้าเสียบมากๆ เลยบ้าสินะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ซนอย่ามาเรียกร้องอะไรเลย. สงสารพี่น่านบ้างเหอะ. ไม่เลือกเขาไมารักเขาก็ปล่อยเขาไปดีกว่านะ.  เฮ้ออออ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ซนทำตัวเองล้วนๆๆๆๆ
พี่น่านทำถูกแล้ววว

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
 :เฮ้อ: ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าซนดี แต่ที่แน่ๆสงสารน่านที่สุด

ออฟไลน์ tegomon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สงสารน่านมากเลย ซนเหนแก่ตัวที่สุด.นิสัยไม่ดีเลย
อ่านแล้วมาม่าทันทีเลย ตอนหน้าพี่ซน พี่น่านต้องพาซดมาม่าถ้วยโตๆแน่เลย

ออฟไลน์ helpmeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ซนต้องรู้สึกตัวสักที สงสารน่าน

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ซนยังจัดการตัวเองไม่ได้ ที่น่านทำก็ถูก จะมาเรียกร้องอะไร

ออฟไลน์ tegomon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
มารอแล้วค่ะ เมื่อไหร่จะมาต่อคะ 4 วันแล้วนร้า่

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of you ซน ตอนที่ 20 action=reaction

ถ้านับจากวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็อาทิตย์กว่าแล้วมั้งที่ผมกับน่านฟ้าไม่ได้ติดต่อกันเลย ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคืนนั้นตัวเองเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสภาพแบบไหน รู้แค่ว่าน้ำตาที่ไหลตั้งแต่ที่มันพูดจบแล้วเดินจากไปจนกระทั่งเช้าของอีกวันมันก็ยังไม่หยุด ผมนอนไม่หลับอยู่หลายคืน ในหัวเอาแต่คิดเรื่องไอ้น่านซ้ำไปซ้ำมาว่าทำไมมันถึงทำแบบนั้น ปากบอกว่าชอบผมแล้วทำไมจู่ๆถึงมาทิ้งกันไปแบบนี้ ใครแม่งเคยบอกไว้วะว่าการที่เราชอบใครสักคนนึงขอแค่ให้ได้อยู่ข้างๆมองคนที่เราชอบมีความสุขก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมน่านฟ้ากลับทำให้ทฤษฎีนั้นมันพังไปหมด


หลายวันที่ผ่านมาผมพยายามทุกวิธีเพื่อติดต่อมัน แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ผลที่ได้กลับมาก็มีแต่เท่ากับศูนย์ น่านฟ้าไม่รับโทรศัพท์ ไม่อ่านไลน์ ไม่ตอบข้อความ หรือแม้แต่บ้านมันก็ยังไม่กลับ พอโทรถามไอ้วีมันก็ไม่รู้ว่าน่านฟ้าไปไหน ถ้าอยากเจอจริงๆก็คงต้องไปหามันที่มหาลัย ผมหน้าด้านใช่ไหมครับที่พอรู้ว่ามันน่าจะอยู่ที่ไหน ก็มาหามันที่นั่นทันที ทั้งๆที่โดนเขาไล่ขนาดนั้นแต่ก็ยังกล้ามายืนรอมันอยู่ตรงนี้

“อ่าวซน...” เสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมรีบหันกลับไปมอง

“พี่แอล..”

“เออกูเอง มึง...มาทำไมวะ” พี่แอลว่าพลางวางของที่พะรุงพะรังไว้บนโต๊ะ วันนี้พี่เขาใส่ชุดธรรมดา บ่งบอกว่าเขามาทำธุระที่ไม่ได้เป็นทางการมากนัก อาจจะมาเตรียมของรับน้องเหมือนที่น่านฟ้าเคยบอก

“ผมมาหาน่านครับพี่” ผมบอกพี่แอลแล้วมองข้ามบ่าเขาเพื่อมองหาใครอีกคนที่คิดว่าอาจจะมาด้วย

“มันไม่ได้มาด้วยหรอก”

“แล้วพี่เขาไปไหนอ่ะครับ ผมไปหามันที่บ้านก็ไม่เจอ....โทรไปก็ไม่รับ”

“มันอยู่กับกู....”

“เหรอครับ” มั่นใจเลยว่าเสียงที่เปล่งออกไปมันเต็มไปด้วยความดีใจมากกว่า “งั้นผม...ขอไปเจอมันหน่อยได้ไหมพี่”

“มึงจะไปเจอมันทำไม ไอ้น่านมันไม่อยากเจอมึงหรอกนะซน” คำพูดพี่แอลทำให้ผมเงียบลง ความดีใจที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนถูกกลบทันทีด้วยคำพูดแค่ไม่กี่ของพี่แอล “มึงพอเถอะว่ะซน...มึงไม่สงสารมันบ้างเหรอวะ มึงจะเห็นแก้ตัวไปหรือเปล่าที่จะให้ไอ้น่านกลับไปหามึงทั้งๆที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว มึงจะใจร้ายกับไปไหม...”

“ผมไม่ได้อยากให้มันกลับมา...” เสียงพูดคล้ายจะพึมพำตัดพ้อกับตัวเองมากกว่าที่จะพูดกับคนตรงหน้า
รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเด็กที่ร้องขอกินขนมทั้งๆที่ปากบอกว่าไม่ชอบ

“โกหก”

“เปล่า...ผมก็แค่อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง...ก็แค่..” อยากคุยกับมันก็เท่านั้น

“รู้แล้วไงเหรอ รู้...แล้วมึงก็จะดึงมันกลับไปอยู่ข้างๆในฐานะที่มันไม่ชัดเจนยังงั้นเหรอวะ ปล่อยมันไปไม่ได้หรือไง!!! กูไม่อยากเห็นมันเจ็บเพราะมึงอีกแล้ว!!!...”

“พี่จะรู้อะไรวะพี่แอล!!! พี่ไม่ใช่มันสักหน่อย บางทีมันอาจจะไม่ได้เจ็บขนาดนั้นก็ได้!!!” พอโดนขึ้นเสียงใส่ ผมเองก็ขึ้นเสียงบ้าง “ผมไม่เข้าใจว่าพี่แอลจะมายุ่งเรื่องของผมกับไอ้น่านทำไม ตัวเองเป็นแค่คนนอกแท้ๆ!!!”

“เหอะ...คนนอก...” พี่แอลพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เหมือนไม่ต้องการให้ผมเห็นความอ่อนแอของมัน “ใช่!!ในสายตาไอ้น่านกับมึงกูมันก็เป็นแค่คนนอก แต่คนนอกแบบกูนี่แหละที่ไม่เคยทำให้มันเจ็บเลยสักครั้ง...”

“พี่แอล...”

“ถ้ามึงยังไม่เคยรู้นะซน...ก็รู้ไว้ซะตอนนี้เลยว่ากู...ชอบมัน”  ผมไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าพี่แอลรู้สึกแบบนั้นกับไอ้น่าน ทั้งๆที่ดูภายนอกมันก็ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนคนนึงแท้ๆ

“กูชอบมัน ชอบมาก่อนที่มึงจะเจอกับมันด้วยซ้ำ...มึงเชื่อไหมซน ตั้งแต่กูรู้จักกับมันมา กูไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลย....มันไม่เคยร้องไห้ขนาดนี้...ไม่เคยต้องมาเสียใจหรือวิ่งตามใครแบบนี้....คนอย่างน่านฟ้าไม่เคยต้องอ้อนวอนขอความรักจากใคร...เพราะคนแบบมันมีแต่คนวิ่งเข้าหา มีแต่คนอยากจะได้ความรักจากมันทั้งนั้น....แม้กระทั่งตัวกูเอง”

พี่แอลพูดเสียงสั่นจนคล้ายจะพูดกับตัวเองมากกว่า ผมเงียบอีกครั้ง ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะสิ่งที่พี่แอลพูดออกมามันทำให้ผมไปไม่เป็น ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่เขาทนมันอยู่ได้ยังไง คนที่เราแอบชอบยืนอยู่ข้างๆแท้ๆ ทำไมพี่เขาถึงทนไม่บอกความรู้สึกตัวเองให้ไอ้น่านรู้ หรือบางทีอาจจะบอกแต่น่านฟ้ามันไม่ได้รับรู้ความรู้สึกนั้น

แค่คิดว่าพี่แอลต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่....มันไม่ต่างกับการตกลงไปในทะเลที่อ้างว้างที่จะว่ายไปทางไหนก็ไม่ได้ ไม่เจอแผ่นดิน แถมยังรู้สึกเหมือนมีคนคอยดึงขาให้พาลจะจมลงก้นทะเลตลอด

“แต่พูดไปมึงจะเข้าใจอะไรวะ...ก็ในเมื่อมึงเป็นคนได้ความรักไป ไม่เหมือนกูที่รักมันมากแค่ไหน มันก็ให้ได้แค่เพื่อน...”

“ผม....”

“แต่ทั้งๆที่มึงได้ความรักจากมันมากมายขนาดนั้น แต่มึงกลับไม่เคยตอบแทนความรักที่มันให้มา” จะให้ผมตอบแทนมันยังไงวะ เลิกกับน้องเอยแล้วหันมาหามันทั้งๆที่เอยไม่ผิดอะไรงั้นเหรอ นั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากพูด แต่พูดออกไปมันก็เท่านั้น ไม่มีใครรับฟังเหตุผลของใคร ต่างคนก็ต่างเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันถูก “ถ้าไม่ชอบมันก็ถอยดิวะ จะยื้อให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาซน”


ไม่ชอบงั้นเหรอ เหอะ ผมพูดคำนั้นออกมาได้ไม่เต็มปากด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดหรอกนะว่าตัวเองรู้สึกอย่างไงกับมัน แต่ทันทีที่คิดว่าตัวเองชอบน่านฟ้า แว่บนึงที่เข้ามาในหัวคือน้องเอย ผมคิดแค่ว่าน้องเอยไม่ผิดอะไรสักนิด แค่ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ มันก็ผิดต่อน้องมากแล้ว....แล้วทำไมผมต้องเอาความรู้สึกชอบปันจากน้องเอยไปให้น่านฟ้าด้วย ทั้งๆที่คิดแบบนั้น ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองจะไม่มีทางชอบ แต่ตอนนี้ก็เป็นผมอีกไม่ใช่เหรอที่วิ่งตามหามันอยู่ เป็นผมเองที่ดึงดันให้ไอ้ความผิดที่มีอยู่มันยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ



ทั้งๆที่น่านฟ้ามันกำลังทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม




ทั้งๆที่มัน... กำลังทำทุกอย่างให้มันถูกต้องแท้ๆ





“ซน..กูขอล่ะวะ...ถ้ามึงไม่ได้รักมันจริงๆ...มึงปล่อยมันไปเถอะ...กูสัญญาว่ากูจะดูแลมันให้ดีที่สุด” พี่แอลพูดถูก..ผมควรจะปล่อยมันไปเจอคนที่ดีกว่า คนที่พร้อมจะรักมันได้มากกว่าผม คนที่พร้อมจะยืนข้างๆในฐานะคนรักไม่ใช่ในฐานะแอบรักแบบนี้ ดีแล้วแหละ ให้มันจบแบบนี้ก็ดีแล้วแหละ



ไม่เห็นต้องเสียใจเลย ก็มันเป็นสิ่งที่ผมต้องเลือก เลือกให้มันถูกต้อง จะได้ไม่มีใครต้องเจ็บเพราะการกระทำผมอีก




“ครับ...ผมเข้าใจแล้ว...”





ผมเดินออกจากคณะไอ้น่านด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เดินมาขึ้นรถเมล์ นั่งรถไปเรื่อยๆ ผ่านในที่ๆผมกับมันเคยไปด้วยกัน ทั้งถ่ายรูปกินข้าว สถานที่ทุกที่ผุดขึ้นมาในหัวเหมือนดอกเห็ด ยิ่งพยายามห้ามมันก็ยิ่งนึกถึง


ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่ผมกำลังเสียใจอยู่ตอนนี้มันเจ็บจนหายใจไม่ออก



แต่ความเจ็บที่เกิดขึ้นมันกลับทำให้ผมรู้ว่าจริงๆแล้ว ผมคงจะชอบไอ้น่านเข้าแล้วจริงๆ



แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อความรักของผมต้องทำร้ายคนอีกตั้งหลายคน



ให้มันเป็นอย่างนี้...ก็ดีแล้ว



 





B e c a u s e   o f    y o u . . . ซ น














ตอนนี้ผมกำลังยืนมองตัวเองในกระจก เดือนครึ่งหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมก็ไม่ได้ติดต่อไปหาไอ้น่านอีก ร่องรอยที่น่านฟ้าเคยทำสัญลักษณ์ไว้มันจางหายไปนานแล้ว แม้ว่าผมจะพยายามรักษาให้ร่องรอยสีกุหลาบมันอยู่ให้นานที่สุดแค่ไหนท้ายที่สุดมันก็ต้องจางหายไปตามกาลเวลา คงเหมือนกับความรู้สึกไอ้น่านที่ป่านนี้อาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยชอบผม คงมีก็แต่ผมที่กลับรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ น่าสมเพช ปากบอกเองแท้ๆว่าไม่มีทางรักคนแบบมัน แต่สุดท้ายก็มีแต่ผมที่เอาแต่เพ้อหามันอยู่อย่างนี้


ส่วนน้องเอย น้องยังคงเป็นน้องเอยเหมือนเดิมที่ไม่รู้ว่าหัวใจผมตอนนี้มันถูกปันให้ใครอีกคนไปเกินครึ่ง เขายังคงร่าเริงสดใสแม้จริงๆแล้วตัวเขาเองก็คงสัมผัสได้ว่าผมเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ผมกับน้องไม่ได้ออกไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนแต่ก่อน ถึงจะมีคุยโทรศัพท์กันบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็คุยกันแป๊บๆแล้วก็วาง ผมคิดว่าน้องเองก็คงอึดอัดแต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ผมไม่อยากไปเจอกับน้องทั้งๆที่สภาพจิตใจของตัวเองยังเอาแต่คิดถึงไอ้น่านทางที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นการถอยออกมาก่อน ถอย...ออกมาตั้งหลักเอาให้ความรู้สึกของตัวเองมันมั่นคงกว่านี้ แล้วค่อยกลับไปหาน้องเขา เพราะผมเองก็ไม่อยากดึงน้องเอยมารับรู้ความรู้สึกที่น้องไม่ควรจะรู้...



เพราะความรู้สึกที่โดนคนที่รักนอกใจ มันคงไม่ต่างอะไรกับการเอามีดมาทิ่มหัวใจกัน





ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนจะจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่แล้วเดินลงมาข้างล่าง วันนี้เป็นวันสอบตรงเข้ามหาลัย ซึ่งผมไม่ควรจะมานั่งคิดมากถึงเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว มหาลัยที่ผมจะไปสอบวันนี้เป็นมหาลัยที่ไอ้น่านสู้อุตส่าห์ไปสมัครมาให้ แม่งจริงๆแล้วผมน่ะหวังเล็กๆนะว่าตัวเองจะเข้าที่นี้ได้ เพราะอย่างน้อยก็อาจจะได้เห็นหน้ามันบ้าง

“พร้อมไหม” ไอ้ซูถามผมตอนที่มันเดินจูงมือไอ้แซนมาหน้าบ้าน

“พร้อมดิ กูไม่เคยรู้สึกว่าสมองตัวเองมีความรู้มากมายขนาดนี้มาก่อนด้วยซ้ำ”ผมยักคิ้วส่งไปให้ไอ้ซูทีนึง มันหัวเราะแล้วโยกหัวผมเบาๆก่อนจะดันให้ผมขึ้นรถ ซูขับรถไปส่งไอ้แซนที่โรงเรียนก่อน แล้วค่อยขับมาส่งผมที่มหาลัย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมมาเหยียบที่นี้ ครั้งแรกก็ตอนที่มาเจอพี่แอล แต่ครั้งนี้ผมมาสอบ มือผมเย็นไปหมด สั่นด้วย ในใจก็เต้นแปลกๆ คิดเพียงแต่ว่าที่ตื่นเต้นอยู่ตอนนี้คงเกิดจากการต้องสอบมากกว่าการเจอใครอีกคนในรอบสองเดือน

“ไหวไหมซน”

“ไหวดิ กูอ่านมาตั้งนาน มึงคิดว่ากูโง่เหรอซูกูพี่มึงนะ”

“ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น...” เราสองคนสบตากันถึงแม้ว่าไม่ได้พูดออกมาว่าหมายถึงเรื่องอะไรผมก็พอจะเดาออกว่าสิ่งที่ไอ้ซูถามมันแปลว่าอะไร

“ไหวดิ ไหวอยู่แล้ว” ว่าพลางหยิบกระเป๋าจากเบาะหลังมาสะพาย “ไม่ต้องมารับนะเดี๋ยวกลับเอง”

ผมขยี้หัวน้องชายตัวเองเบาๆแล้วเดินลงจากรถ ตึกคณะวิศวะบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของมัน สถาปัตยกรรมรูปเกียร์ถูกวางอยู่กลางลาน เด็กปวส.จากต่างที่กำลังนั่งอ่านหนังสือในมือกันอย่างตั้งอกตั้งใจ สำหรับผมมองว่าถ้าเราตั้งใจอ่านมาตั้งแต่แรกๆก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมานั่งท่องนั่งอ่านหน้าห้องให้เสียเวลา คิดแค่ว่าทำได้ก็ได้ ทำไม่ได้ก็คือไม่ได้

ผมเดินมานั่งรอหน้าห้องสอบ คนที่นั่งรอไม่เยอะมากเท่าไหร่ มีไอ้หัวเกรียนข้างๆที่ยักคิ้วทำหน้าตากวนตีนมาตรงที่ผมนั่งอยู่ พอผมหันมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นว่าคนที่มันยักคิ้วให้จะเงยหน้ามองมันสักคน สรุปมันยักคิ้วให้ใครวะ

“มึงอ่ะแหละ”

“กูเหรอ” ผมเลิกคิ้ว ยกมือขึ้นชี้ตัวเอง ส่วนไอ้คนที่ถามเมื่อกี้ก็หัวเราะชอบใจราวกับสิ่งที่ผมทำเมื่อกี้มันเป็นเรื่องตลก อะไรของมันวะ

“เออมึงนั่นแหละ กูชื่อจัน”

“จันไรอ่ะนะ”

“จันไรพ่องมึงสิ จันเฉยๆ ไม่มีไรส้นตีนอะไรทั้งนั้น กูคิดว่ามึงจะน่าคบซะอีก เห็นหน้าโง่ๆไม่คิดว่าจะกวนตีน” เอ้าไอ้นี้ด่ากูหน้าโง่ไม่ดูหน้าตัวเองเลย ผมขมวดคิ้วมองหน้าไอ้จัน(ไร) ส่วนมันพอด่าผมเสร็จก็โม้เรื่องวิทยาลัยตัวเองทันที ไอ้จันเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาผิวไม่ขาวมากหุ่นนักกีฬาสูงกว่าผมเกือบสิบเซ็น จันมาจากต่างจังหวัด บ้านมันอยู่โคราชเห็นพูดว่ามาเรียนต่อที่นี้เพราะแม่กลัวว่ามันจะเหลวไหลเลยส่งมันมาอยู่กับลูกพี่ลูกน้องที่เรียนที่ในกรุงเทพ มันเล่าประวัติศาสตร์ความจันไรซะยืดยาวโดยที่ไม่ได้ถามความเห็นผมสักนิด ว่าอยากรู้เรื่องมันหรือเปล่า เห็นมันเป็นแบบนี้แล้วอดนึกถึงพี่ป็อบไม่ได้ ถ้าได้เจอกันคงถูกพาเข้าโรงพยาบาลบ้าทั้งคู่ “แล้วสรุปมึงชื่ออะไรวะ”

“ซน”

“ชื่อมึงนี่กระโหลกกะลาว่ะ พ่อแม่มึงคงปวดหัวมากล่ะมั้งที่มีลูกดื้อๆซนๆเหมือนมึง” คือผมว่าผมก็ไม่เคยไปสร้างความแค้นอะไรให้ไอ้จันนะ ทำไมมันกวนตีนผมงี้วะ แต่ก็ช่างเหอะครับ จะว่าไปคุยกับมันก็ฮาดี เหมือนคลายความเครียดไปได้บ้าง

หลังจากที่ฟังมันโม้สักพัก เสียงอ๊อดเข้าห้องสอบก็ดังขึ้น ทั้งผมและมันหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อปิดเครื่อง แต่ก่อนที่ผมจะปิดมือถือเห็นน้องเอยไลน์มาบอกว่าอยากเจอ ผมเลยตอบตกลงไปเพราะนี้มันก็นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เจอกับน้องเขา ไม่รู้ว่าจะหนีไปทำไม เพราะหนีไปสุดท้ายก็ต้องเจอกันอยู่ดี

“เลขที่สอบมึงอะไรวะ”

“6789” ผมยื่นใบสมัครให้มันดู ไอ้จันเบ้ปากแล้วพูดพำพึมประมาณว่าของมันเลข 6788 แล้วก็มาบ่นเหมือนด่าลูกพี่ลูกน้องมันที่ซื้อใบสมัครให้

“เอาน่ามึงบ่นไปมึงก็ไม่ได้เลขใบสมัครกูหรอก ตอนนิ้อยู่ที่สมองแล้วว่ามึงจะพาตัวเองเข้ามาเรียนที่นี้ได้ไหม”

“อ่ะแน่นอน สมองระดับกูเข้าได้อยู่แล้ว มึงอย่าลอกกูล่ะกัน กูเคยได้ยินจากพี่กูว่าถ้าลอกกัน ทางมหาลัยจะแบนไม่ให้มาสอบอีก”

“เออๆกูไม่ลอกมึงหรอกน่า”




เวลาที่ใช้ในการสอบมีทั้งหมด 3 ชั่วโมง ไม่อยากเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่หรอกนะครับ แต่ผมคิดว่าตัวเองทำได้เกือบทั้งหมด สูตรคำนวณที่ไอ้น่านเคยสอนให้ไม่เสียเปล่า รวมถึงข้อสอบที่มันเกร็งไว้ก็ออกมามากกว่าครึ่ง ถ้าผมสอบได้จริงๆคงต้องยกความดีความชอบให้ตัวเองก่อนเพราะมันเกิดจากความพยายามของผม ส่วนความดีความชอบต่อมาก็คือมันที่เที่ยวสอนเที่ยวเข็ญผมอยู่เรื่อยแถมยังเอาหนังสือกับข้อสอบเก่าๆใส่กระเป๋ามาให้ด้วยในคืนนั้น


“มึงไปไหนต่อวะ”

“สยาม ว่าจะไปหาแฟน”

“แฟน?? มึงมีแฟนด้วยเหรอวะ”

“เอ้าไอ้นี้หน้าหล่อแบบกูมึงคิดว่าจะอยู่เป็นโสดเหรอวะ”

“ฮ่า ฮ่า มึงนี่มันตลก มาๆเดี๋ยวกูไปส่ง กูเอามอไซค์มา” ไอ้จันลากผมมาทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรสักอย่าง

“เฮ้ยมึงกูไปเองได้ไม่เป็นไร”

“เอาน่าๆกูไปส่ง...มาเถอะ” สุดท้ายเพราะแรงลาก ผมก็เลยเออ ออเดินตามไอ้จันมาหลังคณะวิศวะ ที่ๆมันบอกว่ามันจอดรถไว้

“อีกไกลไหมเนี่ยจัน”

“ไม่หรอก นั่นไง รถกู” ไอ้จันชี้นิ้วไปที่ฟีโน่คันสีแดงที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถ ส่วนที่ห่างออกไปและจอดอยู่ไม่ไกลจากรถไอ้จันคือสิ่งที่ผมไม่คาดคิดและไม่คิดว่าจะเจอด้วยซ้ำ



รถไอ้น่าน



ผมสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเป่าออกมาเบาๆเหมือนสิ่งนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่พอจะคลายความรู้สึกอึดอัดไปได้บ้าง แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักหรอก เพราะตอนนี้มือผมสั่นไปหมด ยิ่งเห็นว่ามีใครอยู่ในรถด้วยแล้วผมก็ยิ่งรู้สึกใจหวิวๆ ฟิล์มรถไอ้น่านไม่ได้มืดขนาดมองไม่เห็น แต่มันก็พอจะเดาได้ลางๆว่าคนในรถไม่ได้มีมันแค่คนเดียว และอีกคนนั้นก็เป็นคนที่ผมรู้จักดี สองเดือนที่ฝึกงานด้วยกันทำให้ผมจำลักษณะกายภาพของเขาได้



พี่แอล



นั่งอยู่เบาะหน้าตรงที่ผมเคยนั่ง เขากำลังส่งยิ้ม หัวเราะให้กันอย่างมีความสุข ไอ้น่านไม่เหลือเค้าของคนที่เคยเสียใจเลยสักนิดแถมร่องรอยของความสุขมันเด่นชัดจนผมที่ยืนอยู่ไกลขนาดนี้ยังสัมผัสได้


ทั้งหมดทั้งมวลมันคงจะไม่ทำให้ผมรู้สึกแย่กว่านี้ถ้าผมไม่เห็นว่าเขาสองกำลังจูบกัน



“ซน...”


“........”


“มองอะไรวะ”


“เปล่าๆมึงจะไปส่งกูไม่ใช่เหรอ ไปดิ” แบบนั้นก็ดีแล้วแหละ เห็นมันมีความสุขผมว่ามันก็ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเสียใจในสิ่งที่ผมไม่เคยเลือก ไม่จำเป็น...เลยสักนิด






ผมเดินมาร้านที่ผมกับน้องเอยนัดกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าตาตัวเองแย่แค่ไหน แต่ทำได้มากสุดก็คือการฝืนยิ้มให้สาวน้อยที่ยังอยู่ตรงหน้า

“พี่ซน ทางนี้ค่ะ” ผมพยักหน้าให้น้องแล้วพยายามฝืนยิ้มที่คิดว่ากว้างที่สุด แต่ใครเลยจะไปรู้เท่าใจผมว่าจริงๆแล้วผมยิ้มมันไม่ออกเลยสักนิด ยิ่งพยายามมากแค่ไหนก็ดูเหมือนจะกลายเป็นฝืนเสียมากกว่า

“มานานแล้วเหรอคะ”

“ก็สักพักแล้วค่ะ คือ...เอยมีเรื่องจะคุยกับพี่ซน...” น้องยิ้มให้ผม ยังคงเป็นยิ้มที่สดใส่เหมือนเดิม “พี่ซนทานอะไรมาหรือยังคะ เดี๋ยวเอยสั่งให้”

“ยังค่ะ น้องเอยสั่งเลยนะ พี่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำหน่อย” ผมขยี้หัวน้องเอยแล้วหลบตัวเองเข้ามาในห้องน้ำ มือสองข้างถูกยกขึ้นกวักน้ำจากก๊อกเพื่อล้างหน้า เหตุผลจริงๆก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ต้องการจะล้างหน้า แต่ต้องการปกปิดน้ำตาที่มันกำลังจะไหลตั้งหาก



ถ้าการเอาน้ำล้างหน้าแล้วมันจะช่วยพัดพาเอาความเสียใจนี้ไปได้หมดก็คงจะดี



“ซน...มึงห้ามร้องไห้ออกมาตอนนี้นะเว้ย” ผมตบแก้มตัวเองเบาๆแล้วพูดบอกคนที่อยู่ในกระจก ดวงตาแดงกร่ำบ่งบอกว่าน้ำตามันไหลออกไปแล้ว ผมยืนทำใจสักพัก บอกตัวเองเป็นรอบที่ล้านว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องเอาใจไปผูกกับคนที่เดินจากไปแล้ว น่านฟ้าก็เป็นแค่คนที่เดินผ่านเข้ามา เป็นแค่คนๆนึงที่เคยรู้สึกดีต่อกัน



ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพราะฉะนั้นผมควรจะสนใจคนตรงหน้ามากกว่า น้องเอยยังรอผมอยู่



 
ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง  เช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ








“น้องเอยสั่งอะไรไปบ้างคะ” ว่าพลางนั่งลงแล้วยิ้มส่งไปให้คนตรงหน้า แต่ผลที่ได้กลับมาคือน้องไม่ได้ยิ้มตอบ

“พี่ซน” เสียงไม่หวานหูเหมือนแต่ก่อน ออกจะแข็งกระด้างไม่ต่างจากแววตาที่ส่งมาให้ มันทั้งแข็งกร้าว ไม่เข้าใจและเต็มไปด้วยคำถาม

“น้องเอย เป็นอะไรหรือเปล่า”

“พี่ซน พี่นอกใจเอยจริงๆสินะคะ” น้องไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้น ซึ่งปกติน้องเอยก็เป็นคนแบบนี้ "พี่ซนบอกเอยสิคะว่าไม่ใช่"


ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนเป็นขีด ดวงตาสั่นระริกราวกลับมาวันจะแตก ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจก่อนจะก้มลงมองมือถือที่ถูกเปิดค้างไว้ ไม่ต้องเดาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ภาพทุกภาพ คลิปทุกคลิปของผมกับไอ้น่านถูกเก็บไว้ในนั้น ปกติน้องเอยไม่เคยยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัว ไม่เคยจับผิดเรื่องมือถือ เพราะงั้นผมถึงไม่เคยระแวงว่าน้องจะเปิดมือถือผมดู และผมก็ไม่เคยตั้งรหัสพาสเวิร์สอะไรด้วย


“บอกเอยได้ไหมคะว่ามันไม่จริง...ฮึก...เอยเชื่อพี่ซนคนเดียว...พี่ซนพูดคำเดียวว่าไม่ใช่...เอยจะเชื่อ...ที่ผ่านมาเอยแค่คิดไปเอง..รูปพวกนี้ก็แค่รูปที่ถ่ายเล่นกับพี่คนนั้น....ใช่ไหมคะพี่...บอกเอยนะ...ฮือ..ว่ามันไม่จริง...ฮึก...ฮือ” ผมสงสารน้อง เอยดูน่าสงสาร ผู้หญิงที่เคยแคร์ว่าคนอื่นภาพลักษณ์ที่มีต่อคนรอบข้าง ปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างไม่อายใครทั้งนั้น


“พี่...” เสียงแห่บพร่าไม่ต่างไปจากความรู้สึกที่กำลังเจ็บปวด ผมไม่อยากโกหก และผมก็ไม่เคยโกหกน้องด้วย ที่ผ่านจะมีก็แค่พูดไม่หมด



“ฮึก....บอกเอยสิพี่ซน...มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมอ่ะ...ฮึก...ฮือ...พี่ซน...เอยเชื่อพี่ซนคนเดียวนะคะ...” จะให้ผมบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงได้ยังไง ทั้งๆที่ภาพที่อยู่ในมือถือมันก็เด่นชัดออกขนาดนั้น






“พี่ขอโทษ...”





>>>TBC<<<
Action=reaction ตามกฏของนิวตัน (ที่เคยเรียนไว้เมื่อนานมาแล้ว) บอกว่าแรงกิริยาเท่ากับแรงปฏิกิริยา  เมื่อออกแรงผลักวัตถุ  ก็จะมีแรงโต้ตอบจากวัตถุกลับมาเท่ากัน ถ้านำเอากฎข้อนี้ไปอธิบายเรื่องของสภาพจิตใจ  เมื่อคนหนึ่งเป็นฝ่ายกระทำ ซึ่งถ้าหากคนถูกกระทำไม่โต้ตอบในระยะแรก  นานไปสักระยะหนึ่งเมื่อถูกกระทำจนเกินขีดจำกัดความอดทนได้  การโต้ตอบมักจะรุนแรงมากกว่า (ล่ะมั้ง)
คนแต่ง #ทีมซน (สงสัยว่าน่าจะเป็นทีมทำร้ายซนมากกว่าแหละ)

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
แกสมควรจะเจ็บปวดรวดร้าวสะท้านทรวงมากกว่านี้นะอิซน
ทำคนอื่นเค้าเจ็บปวดไปทั่วเพราะความเห็นแก่ตัวความโลเลของแก
ขอให้สุดท้ายชีวิตแกไม่เหลือใคร หันไปทางไหนก็ไม่มีคนเอา
ไม่ว่าจะเป็นน่านหรือเอยก็ตาม รอสมน้ำหน้าและกระทืบซ้ำแกอยู่นะซน สาแก่ใจจริงๆ 5555+++

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew5:   พี่แอลน้องเอยตอกฝาโลงให้ซนชัดๆ
เอาไงดีล่ะ. ถ้าน่านเค้ารักกะแอลแกก็ทำอะไรไม่ได้. หรือว่าจะแย่งมาล่ะ.
ซนถามตัวเองซิว่ารักน่านมากกว่าแอลไหม.

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
แอลกะน่านจูบกันไมอะ.  เป็นแฟนกันแล้วเหรอออออ. เฮ้อออ.สงสารซนดีไหมนะ  น่านจะมีความสุขจริงๆเหรอถ้าคบกะแอล. เฮ้ออออออออออออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด