พิมพ์หน้านี้ - แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: candyon ที่ 25-01-2015 09:31:18

หัวข้อ: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 25-01-2015 09:31:18
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

ผลงานที่ผ่านมา

[drama] my best friend รักนี้มีแต่นาย[End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38949.0)
[drama]รอจนกว่า...จะรักกัน[End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41262.0)
 B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.0)'
 [drama]ฟางเส้นสุดท้าย [End] (https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49070.0)'



 
นิยายเรื่องอื่นๆสามารถดูได้จากโพสปักหมุดในเพจนะคะ FaceBook By นาฬิกาแก้ว (https://www.facebook.com/candyonforfic)


สารบัญ

Chapter 1 - Chapter 5  หน้าแรก
ตอนพิเศษ by venus (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg2965124#msg2965124)
Chapter 6-9 หน้า 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg2968208#msg2968208)
Chapter 10-12 หน้า 3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg2999229#msg2999229)
Chapter 11-15 หน้า 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.90)
Chapter 16-18 หน้า 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3037306#msg3037306)
Chapter 19-20 หน้า 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3051588#msg3051588)
Chapter 21-22 หน้า 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3064196#msg3064196)
Chapter 23-24 หน้า 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3073410#msg3073410)
Chapter 25-26 หน้า 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3086965#msg3086965)
Chapter 27-29 หน้า 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3094517#msg3094517)
Chapter 30 -The End หน้า 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3107410#msg3107410)
ตอนพิเศษ1.1 หน้า 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3122347#msg3122347)
ตอนพิเศษ1.2 หน้า 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45283.msg3150961#msg3150961)
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + +
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 25-01-2015 09:41:01



Intro Because of you ซน



แฮ่ก แฮ่ก


“เชี่ยเอ๊ยพวกมึงเป็นควายกันหรือไง จะวิ่งทนถึกบึกบึนตามกูไปถึงไหน” ผมบ่นพึมพำในลำคออย่างขัดใจก่อนจะมองซ้ายมองขวาหาที่หลบ ไม่ใช่ว่าไม่กล้าสู้กับพวกแม่งหรอกนะครับ แต่ก็อย่างที่เห็นพวกมันมากันเป็นสิบ ผมตัวคนเดียวถึงร่างกายจะบึกบึนหรือตัวสูงโปร่งกว่ามันมากแค่ไหนก็ไม่มีทางรอดตีนพวกมันแน่ๆ


“ทางไหนดีวะเนี่ย” ผมมองในซอกหลืบด้านซ้ายมืออีกทีก่อนจะตัดสินใจวิ่งไปทางนั้น ขอให้ทางที่กำลังจะเข้าไปเป็นสวรรค์มากกว่านรกทีเถอะ พ่อจะถวายหัวหมูให้สักหัว ผมวิ่งเข้ามาในซอบแบบไม่คิดชีวิต แต่เชื่อไหมสิ่งที่ผมเจอตรงหน้าแม่งโคตร.....

“ทางตัน.....WTF” เกิดเชี่ยอะไรกับผมวะเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เค๊ยไม่เคยจะโดนตามกระทืบเหมือนวันนี้ โว้ยยย มึงเห็นหน้ากูไหม กูหล่อขนาดนี้ไม่ใช่ประเภทชอบใช้กำลัง กูใช้สมอง ปัญญาชนมึงมองกูดิ หน้ากูเนี่ย ปัญญาชนชัดๆ อีกไม่ถึง 6 เดือนผมก็จะเรียนจบไอ้สถาบันบ้าๆนี้แล้วแท้ๆแต่แม่งกูต้องมาตายก่อนเพราะเสื้อช็อบที่ไอ้เล็กลืมไว้กับกูเนี่ยนะ หึ้ยยยยยยยยยย

“มันไปทางไหนวะ” เสียงหนึ่งในพวกที่จะรุมผมเมื่อกี้ดังขึ้นใกล้ๆ

“ผมเห็นมันไปทางนี้พี่” เสียงที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆกับจำนวนเท้าที่ดังถี่ยิบ ทำเอาผมกระพริบตาปริบๆปาดเหงื่อกับเลือดที่อยู่ตรงมุมปาก เอาวะ ตายก็ตาย สู้ก็สู้

“ว่าไงครับสุดสวย”

“สวยพ่องมึงดิ” หน้ากูนี้ไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าสวยสักนิด ติดออกจะหล่อมากกว่าด้วยซ้ำ มึงใช้ตาหรือส้นตีนดูวะไอ้เชี่ย พูดแบบนี้แม่งขึ้นเลย ขึ้นเลยยยย

“เมื่อกี้สุดสวยพูดว่าไงนะ”

“เอ่อ..พูด..พูดว่าเราอยากแดกนมพ่องมันเนย” อย่าหาว่าผมขี้ขลาดไรเลยนะครับ แม่งมาเป็นสิบ ผมนี่แทบจะยกมือไหว้มันอยู่แล้ว ศักดิ์ศรีเหรอ กูไม่มี ชีวิตกูมีแค่สักลายแทตทูกาโม่ตรงแขนซ้ายที่ไอ้แซนมันแปะให้เมื่อเช้าแค่นั้น

“เปล่านะพี่ผมได้ยินมันพูดกับพี่ว่าพ่องมึงตาย” ไอ้เวรนัมเบอร์วันที่อยู่ด้านซ้ายมือมันกระซิบเสียงดังข้างๆหูลูกพี่มัน แม่งเอ๊ย!! ถ้ามึงจะแปลความหมายที่กูพูดเมื่อกี้ก็อย่าแปลผิดดิวะ กูไม่ได้ด่าพ่อมันตายเลยสักคำ ความเป็นความตายกูไม่เอามาล้อเล่นหรอก แม่งงงงง

“หน้าตาก็ออกจะน่ารักทำไมไม่พูดจาเพราะๆกับพี่ล่ะน้อง”

“พี่???”

“ใช่ครับ เรียกพี่ว่าพี่มาร์คก็ได้นะ”

“มาร์ก...”

“ใช่ครับมาร์ค พี่มาร์ค คึคึ อ่ะ” คึคึพ่อง 

“ถ้าน้องยอมเรียกพี่ว่าพี่มาร์คพร้อมกับ....”มันเว้นจังหวะไปนิดนึง “มาเป็นเมียพี่แล้วพี่จะปล่อยไป”

 “โอ้ยยยยย กูขำ” ผมลงไปนั่งยองๆกับพื้นแล้วกุมท้องเพราะแม่งขำจริงๆครับ ขำจนปวดท้องไปหมด “มึงเชื่อไหมตั้งแต่เกิดมากูไม่เคยเจอใครเหมือนมึงเลย แม่งหน้าโคตรเชี่ย แต่ชื่อมาร์ค โอ้ยยยยย นี่ใครตั้งชื่อให้มึงวะ เขาได้ดูหนังหน้ามึงหรือเปล่า หน้าอย่างหมาขี้เรื้อนแถวบ้านกูยังดูดีกว่า ฮ่า ฮ่า...ฮะ...ฮะ...แหะๆ” พลาด...กูพลาดเอง กูไม่น่าพูดอย่างที่ใจคิดเลย พอพูดทีไรเหตุการณ์ซวยๆแม่งเข้าสมสู่กูตลอด

“เอ่อ...พี่มาร์คชื่อพี่แม่งโคตรเพราะเลยว่ะ”

“ไม่ทันแล้วโว้ยยยย เห้ยพวกมึงจัดการไอ้เตี้ยนั่นดิ”


เตี้ย??? พ่อมึงสิเตี้ย!! ชีวิตนี้กูสูงสุดก็ตั้ง 172 นะเว้ย เนี่ยกูสูงที่สุดในชีวิตแล้วมึงยังจะมาว่ากูเตี้ยเนี่ยนะ มึงใช้อะไรคิด



ผมเอื้อมมือไปหยิบไม้หน้าสามไม้ที่หาได้ใกล้ๆ ก่อนสายตาจะหันไปปะทะกับสายตาที่จับจ้องมองมานับสิบ ดูหน้าพวกแม่งแต่ล่ะคนดิ ไม่ต่างจากซอมบี้ที่กำลังวิ่งหาเหยื่อ พวกมึงว่างมากหรือไงวะ ไม่มีเรียนหรือไงครับมาหาเรื่องกูเนี่ย


แต่พอพวกมันโถมเข้ามาจะต่อยผม ไอ้ผมแม่งก็เอาหน้าสามฟาดไม่ยั้งครับ ผมแม่งก็ลูกผู้ชายคนนึงแหละ ถึงที่ผ่านมาจะอยู่ดีอยู่รอดมาได้ตลอด แต่คราวนี้ถึงไม่รอดกูก็จะขอตายเยี่ยงชายชาตินักรบ ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ที่นี้ กูต้องหาที่หนีก่อน


“ตำรวจ ตำรวจมา!!!” ผมปาดเลือดที่มุมปากแล้วตะโกนเสียงดังกังวาน พวกมันหันไปมองคนดูต้นทางที่กำลังยืนแคะเล็บอยู่ ไอ้บ้านนั่นแม่งก็ทำหน้าเอ๋อๆยกมือบ๊ายบายบอกว่าสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อกี้มันโกหกชัดๆ


“ไอ้เตี้ยมึงนี่มัน....”


“เฮ้ย!!!!ทำอะไรกันน่ะ...” พระเจ้ามีคนมา...นี้มันเสียงสวรรค์ชัดๆ ผมและเหล่าฝูงซอมบี้หันไปมองไอ้หน้าหล่อที่เดินออกมาจากประตูข้างๆผับ มันเอียงคอแล้วจุดบุหรี่ขึ้นดูดที่แม่งมองยังไงก็โคตรพ่อโคตรแม่หล่อ ไอ้ฉิบหายมึงเกิดมาบนโลกนี้ได้ยังไงวะ ผมนี่คิดว่ามันเป็นเทพบุตรมาจุติ อวยมันในใจก่อนครับให้มันรับรู้ว่าผมอวยอยู่มันจะได้มาช่วยผม


“มึงเสือกเชี่ยอะไรด้วย...” ผมมองหน้ามัน ทำสายตาอ้อนวอนอย่างสุดซึ้ง แน่นอนมันเห็นครับ สายตาที่พุ่งตรงมาที่ผมดูราวกับว่าจะช่วยผม...


“เออกูไม่เสือก...กูแค่มาดูดบุหรี่เฉยๆ...” ซะที่ไหน.. ไอ้หน้าปลวกนั่น(เปลี่ยนคำเรียกทันที) ยักไหล่อย่างไม่แยแสผมสักนิด มึงมันไอ้คนใจร้าย ไอ้คนชั่ว มึงไม่เห็นเหรอว่ากูกำลังจะโดนรุมตื๊บเนี่ย


“งั้นก็ดี...ส่วนมึง...” ไอ้มาร์คหันมามองหน้าผมแล้วขยับคอซ้ายทีขวาทีก่อนจะนิ้วชี้หน้าผม “เสร็จกู!!!”






กู...ตายยยยยยย








“ไอ้เชี่ยซน!!!!” เสียงคุ้นหูตะโกนเรียกผมจากประตูเดียวกันกับที่ไอ้หน้าปลวกเมื่อกี้นี้เดินออกมา มีคนอีกนับสิบเดินออกมาอย่างพร้อมกับมัน



“เชี่ยวี” ไอ้วีเพื่อนสมัยม.ต้นผมเองครับ มันเป็นเพื่อนสนิทที่ผมไม่ได้เจอมานานมาก เพราะมันเรียนต่อม.ปลายตอนนี้รู้สึกจะเรียนคณะวิศวะที่มหาลัยดังๆสักที่ในกรุงเทพนี่แหละ...ส่วนผมแม่งอยากเท่ไง อยากให้สาวมองเลยไปต่อสายอาชีพ แล้วเป็นไงล่ะ สายอาชีพที่กูกำลังเผชิญอยู่เนี่ยแม่งเจอตีนแทบทุกวัน



“พี่ๆครับนั่นเพื่อนกู”



“เออ ก็ไปช่วยมันดิวะ” เสียงสวรรค์ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับร่างผมที่ถูกปล่อยลงให้ไปนั่งที่พื้น คนเกือบยี่สิบคนปะทะคนแค่สิบยังไงพวกไอ้วีแม่งก็ชนะใสๆอยู่แล้ว ดูเพื่อนๆมันแต่ล่ะคนแม่งก็ไม่ธรรมดาทั้งนั้นอ่ะ ต่อยตีเก่งชัดๆ ไม่มีใครสักคนเลยที่จะไม่ช่วยผม....ไม่มี...






ไม่ใช่






ยกเว้นมันไว้แม่งคนเดียว




ไอ้เปรตนั่นที่ยืนดูดบุหรี่ เป่าควันขึ้นฟ้าโดยมีพวกเพื่อนๆไอ้วีที่กำลังต่อยตีกับเด็กช่างเป็นฉากหลัง





โอยยย มึงคิดว่ามึงกำลังถ่ายมิวสิควีดิโออยู่หรือไงครับ




เห็นแบบนี้ผมล่ะอยากจะเอาเท้ายันหน้าเก๊กๆของมันให้ลงหลุมไปแม่งตอนนี้เลยเชี่ยยยยยย







TBC


สวัสดีค่ัะทุกคน ฝากเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมใจคนอ่านด้วยนะ

เรื่องนี้ โนดราม่า นางจะกลับมาแต่งแบบใสๆ ไร้มาม่าเหมือนเรื่องชุลมุนวุ่นรักนักศึกษาอีกแล้ว กรีสสสสสเขินจุง ไปเรียนและคร้าบ รักคนคลิกเข้ามาอ่าน
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + +
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 25-01-2015 09:52:06
จิ้มๆๆๆ น่าสนุก รอน้องซน จร้า :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + +
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-01-2015 10:17:33
 :katai2-1:   มารอดูชีวิตวุ่นวายของน้องซนจ้ะ
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + +
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 25-01-2015 10:43:48
 :L2:

น่าสนใจ

 :hao3:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + +
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 25-01-2015 10:56:50
ฮาแปบ555
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 25-01-2015 21:28:15
Because of you ซน ตอนที่ 1

“มึงนี่มันโง่” นอกจากคำด่าจะแสนแสบจนถึงทรวงในแล้ว ไอ้วียังใช้นิ้วเรียวๆของมันจิ้มลงมาบนหน้าผม ซึ่งมันลืมไปหรือเปล่า ว่าหน้ากูเนี่ยเต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ (พูดเว่อร์ไปงั้นอยากให้คนเห็นใจไม่ได้เหรอ)

“เชี่ยวี กูเจ็บ” ผมครางซีดในปากแล้วขยับหน้าหนีมือมันก่อนจะหันไปเห็นแอลกอฮอลล์ตรงหน้าก่อนจะยกดื่มแบบซัดโฮก (ซัดโฮกคือยกแบบรวดเดียวหมดแก้วเข้าใจตรงผมนะครับ) ก็เขาบอกว่าแผลสดต้องใช้แอลกอฮอลล์ราดใช่ไหมครับผมนี่กินเลย


โป๊ก


“กูอนุญาตให้มึงแดกเหล้าแล้วเหรอ” กูไม่เห็นต้องรอมึงอนุญาตเลยเชี่ยวี ปากกูกูอนุญาตตัวเองได้ “ไม่ต้องมาทำปากพึมพำเหมือนด่ากูในใจเลย กูช่วยมึงก็ดีเท่าไหร่” โอ้โห ผมเรื่องกะโหลกกะลาแค่นี้มึงมองเป็นบุญคุณจนใช้ไม่หมดเลยเหรอวะวี กะอีแค่พาพรรคพวกมึงที่หน้าเถื่อนไปช่วยรุมไอ้พวกเด็กช่างพวกนั้นมึงเป็นเป็นบุญคุณขนาดนั้นเชียว แน่นอนว่าผมคิดด่ามันได้แค่ในใจเท่านั้นแหละ ถ้าเปิดปากพูดออกไปคงไม่โดนแค่สันมือ อาจจะสันแข้งด้วย

พูดถึงพวกพี่ๆที่ช่วยเมื่อกี้แม่งก็อดอึ้งไม่ได้นะครับ พวกเด็กวิศวะแม่งเจ๋งมากอ่ะ เวลาตีกันนี่ช่วยกันเป็นฝูง ตอนที่จะตีกันไม่ใช่แค่เพื่อนราวยี่สิบคนของไอ้วีเท่านั้นนะครับ เหมือนพวกแม่งไปเรียกเพื่อนในผับออกมาอีกเกือบ 100 อ่ะ ไอ้พวกเด็กช่างเห็นแบบนั้นก็รีบขอโทษขอโพยแล้ววิ่งเผ่นแน่บไปเลย

“แล้วนี่ไปไงมาไงถึงโดนพวกเล่นซะยับแบบนั้น นี่ถ้ากูไม่ได้เลี้ยวซีเนียร์ที่นี้ มึงตายแล้ว ไม่เหลือให้มานั่งทำตากวนส้นตีนกูแบบนี้หรอก”

“ก็ไม่รู้แม่งเหมือนกันว่ะ สงสัยเห็นเสื้อช็อบที่กูใส่อยู่ล่ะมั้ง ต่างสถาบันนิดๆหน่อยๆก็จะเล่นกูตลอด ที่ผ่านมากูรอดมาได้ตลอดนะเว้ย แต่คราวนี้แม่ง กูไม่น่าพลาดเอาช็อบเพื่อนมาพาดคอเล่นเลย” ยังคิดแค้นไอ้เล็กไม่หายเลยนะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะมันนะป่านนี่ผมนอนตีพุงดูวันพีชอยู่บ้านจบเป็นรอบที่ล้านแล้ว ไม่ต้องมาเจ็บตัว แถมไม่ต้องมาโดนไอ้วีด่ายับราวกับผมไปทุบอ่างล้างหน้าบ้านป้ามันแบบนี้ “แล้วนี่มึงยังเรียนอยู่ที่เดิมเปล่าวะ ม.มึงแม่งเถื่อนว่ะ...” ไอ้วีตบหัวผมมาอีกรอบ ผมเลยรีบเอามือปิดปากตัวเองแล้วหันไปมองรอบๆร้านที่ดูเหมือนจะเหมาไว้เพื่อเลี้ยงส่งรุ่นพี่อะไรสักอย่าง

“กูไม่ได้เรียนที่นี้แล้ว”

“อ่าวเชี่ยแล้วนี่มึงทำอะไร ขายลูกชิ้นตามความฝันเหรอวะ”

“สัสซนกูเรียนหมออยู่มหาลัย Z แต่พวกนี้มันเป็นเพื่อนเก่า รุ่นพี่เก่าๆที่กูค่อนข้างสนิท”

“มหาลัยรัฐบาลแม่งสนิทกันดีเนอะขนาดออกไปแล้วยังติดต่อกัน”

“จริงๆกูก็ไม่อยากติดต่อพวกแม่งนี้หรอก แต่แฟนกูมันยังเรียนอยู่นี้ แล้วเพื่อนๆกูส่วนใหญ่มันก็โอเคพอคบได้” ระหว่างมันพูดผมก็มองไปรอบๆร้านที่มีแต่พวกหน้าเถื่อนๆไม่ต่างจากเพื่อนผมสักนิดถ้าบอกเป็นพวกนักเลงตามงานวัดผมยังจะเชื่อมากกว่าอีก แล้วดูไอ้เชี่ยกลางลานเต้นดิ แม่งเต้นท่าบ้าๆไม่พอยังแต่งตัวตลกอีก เชื่อไหมครับมันใส่เสื้อช็อบสีเลือดหมูแล้วข้างในใส่เสื้อนักศึกษาติดกระดุมจนมิดคอ กางเกงสแลกซ์พับขาหน่อยๆเหมือนแม่งคิดว่าเท่มากอ่ะ

ตลกชิบหาย นี่มันแหล่งรวมคนบ้าป่ะวะ แล้วถ้าผมจบปวส.จะสอบเข้าที่นี้ผมคงไม่ได้ต่างจากพวกบ้าที่อยู่ตรงนั้นแน่ๆ คิดใหม่ดีไหมวะเรื่องเรียนต่อเนี่ยยย

“กูรู้นะมึงคิดไรอยู่”

“แหมมม...มึงจะมารู้ดีมากกว่ากูได้ไงวะ ตัวเป็นของกูใจเป็นของกูครับ” ผมยักคิ้วส่งไปให้มันไม่ลืมที่จะส่งเลยผ่านไปให้พี่สาวข้างหลังด้วย แม่งสวยวิ้งน่ารักสุดๆ “โอ้ยยยย...” มันตบหัวผมอีกแล้ว ท่ากูโง่นะเป็นเพราะมึงเลย

“มึงนี่แม่งยังเกรียนเหมือนเดิมเลยนะซน...” แม่งชมหรือด่ากูวะเนี่ย

“มาแล้วๆ” เสียงใครสักคนเดินมาพร้อมกับสำลีและขวดแอลกอฮอลล์ในมือ ไอ้คนมาใหม่คุ้นๆเหมือนผู้ชายแถวหน้าเมื่อกี้ที่มีความสุขกับการเอาเท้ากระทืบไอ้มาร์คเมื่อกี้ป่ะวะ

“ไปโคตรนาน มึงตี๋ที่ไหนมาหรือเปล่าเนี่ย” ตี๋ที่มันพูดถึงทำไมผมจะไม่รู้ ช่วงเรียนม.ต้นช่วงนั้นไอ้วีใช้ด่าเพื่อนอีกคนนึงบ่อยๆ ตี๋หิด ห้ามผวนนะครับ ผมรับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ กร๊ากกกก

“กูจะไปติดใครล่ะวี มีแค่มึงเนี่ย” ผมหรี่ตาเล็กมองมันอย่างจับผิด กูว่าภาพตรงหน้ามันดูชมพูอมม่วงแปลกๆไงไม่รู้

“นี่เพื่อนกู...ไอ้ซน” ผมพยักหัวให้คนมาใหม่

“ส่วนนี้...”ไอ้คนมาใหม่เหมือนลุ้นกับคำตอบที่วีจะพูด พอเห็นมันทำหน้าลุ้นผมเองแม่งก็ลุ้นด้วย “ไอ้บาส รุ่นพี่กู”

“รุ่นพี่??”  ไอ้พี่บาสพูดเสียงสูง ผมเองก็งงนะ ว่าถ้าเป็นรุ่นพี่ทำไมมันไม่เรียกพี่วะ หรือว่าที่นี้เขาสนิทกันจนไม่ต้องเรียกพี่แล้ว แต่ผมก็ขี้เกียจคิดให้มากความเลยทำความรู้จักไอ้คนที่ทำหน้าหงิดตรงหน้าด้วยการยกมือไหว้มันแทน

“เออรุ่นพี่”

“แค่นั้น” ไอ้พี่บาสถาม
 
“เออแค่นี้ก่อนสัส เพื่อนกูมันไม่รู้เรื่อง”

“ก็ทำให้แม่งรู้เรื่องไปดิ”

“อย่าเสือกได้ไหมบาสมึงจะไปไหนก็ไปป่ะ” มันไล่ไอ้พี่บาสที่ทำหน้าไม่พอใจให้ไปไกลๆ แต่ไอ้พี่บาสแม่งก็ไม่ได้ไปไหนไกลจากไอ้วีหรอกครับเดินไปสองก้าวนั่งแดกเหล้ากับไอ้โต๊ะข้างๆผมนี่แหละ

“สวัสดีครับน้องเพื่อนไอ้วี” น้องเพื่อนไอ้วี??? “ไม่ต้องทำหน้างงขนาดนั้นครับ พี่หมายถึง น้องเพื่อนไอ้วี” ถ้ามึงจะพูดเหมือนคำเดิมทุกอย่างแบบนี้มึงไม่ต้องอธิบายก็ได้

“พี่ชื่อป๊อบครับ เป็นรุ่นพี่ไอ้เชี่ยวีปีนึง แล้วไม่ทราบว่าน้องชื่อ....”

“ซนครับ...”

“อ้อ” ผมขมวดคิ้วแล้วมองดูการแต่งตัวมันนิดหน่อย ทุกคนคงจำไอ้คนบ้าๆที่เต้นอยู่กลางลานได้ใช่ไหมครับ มันแหละ ไอ้พี่ป๊อบ มันเลย “พี่มึงแม่งประสาทเปล่าวะ”ผมพูดกระซิบกับหูไอ้วีนะแต่แม่งได้ยินเฉย

“เอิ่มน้องซน กูได้ยินที่มึงพูดนะครับขอบอก แหมมม นอกจากชื่อที่ไม่เหมือนใครแล้ว ความปากหมาของมึงก็ไม่เหมือนใครด้วยนะครับ”

“โธ่พี่ ผมไม่ได้พูดด่าพี่เลย ผมพูดว่าพี่หน้าตาเหมือนมาร์ชฉิบหายตั้งหาก” คำพูดกูก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับอันเก่าเลยสักนิด แต่เอาวะแม่งแถๆไปก่อนล่ะกัน

“แหมมมม น้องซนก็พูดไป พี่ก็ไม่ได้ขนาดนั้น อย่างพี่มากสุดก็แค่ณเดช เอาจริงๆนะถ้าไม่มีมาร์ช ปันปันนี่เสร็จอ่ะ”

“เสร็จพี่” ไอ้วีเสริม

“เสร็จคนอื่นดิไอ้เชี่ย” พี่ป๊อบพูดพร้อมกับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับมุขตัวเองก่อนจะนั่งเทเหล้าผสมกับมิกซ์แล้วแดกรวดเดียวหมด

“แล้วนี่มึงจะกลับบ้านยังไง” ไอ้วีเลิกสนใจพี่ป๊อบแล้วหันมาพูดกับผมแทน “แม่มึงไม่ว่าเหรอวะ หน้าแม่งช้ำขนาดนี้”  จริงๆมันก็ไม่ได้ช้ำอะไรมากหรอกครับ แค่เป็นรอยปากแตก แก้มเขียวม่วงๆ ยังดีที่พวกไอ้วีมาเจอก่อนไม่งั้นคงเป็นมากกว่านี้

“เชี่ยโก้ เชี่ยแอลทางนี้ โว้ย ทางนี้” พี่ป๊อบโบกไม้โบกมือเรียกเพื่อนอีกสองคนที่กำลังเดินมาที่โต๊ะ คนทั้งคู่หน้าตาดีไม่ได้ต่างจากคนอื่นๆอย่างพี่บาสหรือไอ้พี่ป๊อบที่ถึงแม้จะดูประสาทกินไปหน่อยแต่ก็ยังจัดว่าอยู่ในเวลของคนหน้าตาดีซึ่งแน่นอนน้อยกว่าผมอยู่แล้ว

“ว่าไงมึง เนียนเชียวนะสัส เห็นซีเนียร์ให้กูไปเต้นห่าเหวกลางลานหน่อยเดียว รีบทำตัวไม่รู้จักกูทันทีเลยนะแหมมมมม”

“เรื่องเอ็นเตอร์เทรนซีเนียร์กูไม่เชี่ยวชาญเท่ามึงหรอกป๊อบ อย่างมึงใครๆก็รัก ใครๆก็หลง ประธานองค์การมหาลัยคนต่อไปแบบนี้เขาก็อยากให้มึงโชว์พราวบ้างไรบ้าง”

“โชว์น่ะกูโชว์ได้ครับเพื่อน แต่พอเขาให้กูเรียกเพื่อนไปเต้นด้วยพวกมึงสองตัวนี้หายหัวไปไหนครับ ไหนบอกเพื่อนตายไงสัส”

“เพื่อนตายดิวะ ไอ้บาสออกไปเล่นกับพวกช่างขนาดนั้นกูก็ตามไปเล่นด้วยดิ มันส์เท้าชิบ ว่าไหมเตี้ย” ผมเงยหน้ามองหน้ามันแล้วส่งสายตาไม่พอใจเล็กๆ ไม่ชอบเลยว่ะไอ้พวกที่เอามาตรฐานตัวเองมาวัดกับคนอื่นแล้วบอกว่าคนอื่นเตี้ยเนี่ย แล้วแม่งดูมันพอผมไม่ตอบมันก็หัวเราะใหญ่ “หน้าเพื่อนมึงแม่งตลกอ่ะ ชื่อไรล่ะมึง” ผมเอานิ้วชี้ตัวเองราวกับถามมันว่ามึงถามกูเหรอ ผมก็พยักหน้าแล้วหัวเราะออกมาอีกที

“ซนครับ”

“โอเคน้องซน พี่ชื่อแอล ส่วนไอ้นี้ชื่อโก้” ไอ้พี่ที่ชื่อโก้พยักหน้าให้เบาๆ ยังดีที่กลุ่มนี้ยังมีคนที่ยังเป็นคนอยู่บ้าง ที่เหลือแม่งไม่น่าใช่

“แล้วนี่ไอ้น่านไปไหน”

“ไม่รู้ว่ะ...กูเห็นล่าสุดยืนดูดบุหรี่อยู่หลังผับ เพื่อนแม่งกำลังยำตีนเละ มันแม่งไปยืนทำตัวอาร์ตดูดบุหรี่รับแสงจันทร์ไม่ได้รู้สึกเลยว่ารอบข้างไม่ได้เข้าอารมณ์ติสมันสักนิด”

“แต่หลังจากนั้นกูก็เห็นมันเข้ามาในผับแล้วนะเว้ย” พี่บาสพูดพร้อมกับเดินมาตรงโต๊ะที่พวกเรานั่งอยู่ ก่อนจะทำทีเป็นวางมือไว้บนเอวไอ้วีแบบที่โคตรจะไม่เนียน ผมหรี่ตามองแบบไม่เข้าใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่อยากจะถามหรอกครับรอให้ไอ้วีมันเล่าเอง

“คงจะแถวๆห้องน้ำกับผู้หญิงสักคนนึงแหละมึง” ไอ้พี่แอลพูดออกความเห็นเสร็จก็หันไปชงเหล้าในมือต่อ ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเพราะผมไม่ได้รู้จักพวกมันเป็นการส่วนตัว ตอนนี้กำลังสนใจหนังหน้าตัวเองที่ไอ้วีกำลังเอาน้ำแข็งประคบกับอาหารที่อยู่บนโต๊ะมากกว่า เพราะเมื่อเย็นไม่ได้กินข้าว พอกำลังสั่งข้าวไอ้พวกเด็กช่างสถาบันอื่นกรูกันมาหาผมก่อนแล้ว

“นั่นไงพูดถึงก็ไสหัวมาถึงที่เลยครับ” พี่ป๊อบพูดบอกเพื่อนๆแกแล้วพยักพเยิดไปที่ใครอีกสักคนนึงด้านหลังผม

“กี่น้ำครับเพื่อน”

“หึ” เสียงหึในลำคอก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าไอ้นี่มันค่อนข้างไม่แคร์โลกเท่าไหร่

“ทำเป็นเงียบ วันนี้กับใครล่ะครับ” พี่แอลแซวต่อ

“พูดแบบนั้นไม่ได้เว้ย ผู้หญิงเขาเสียหาย” เสียงมันแม่งไม่ได้รู้สึกจริงใจกับคำว่าเสียหายเลยสักนิด “แล้วนี่เพื่อนมึงยังไม่กลับอีกเหรอ นั่งแดกของฟรีอยู่ได้ เงินก็ไม่ได้จ่าย คนอื่นเขาช่วยไล่ไอ้พวกนั้นให้แทนที่จะรู้สึกเกรงใจแต่กลับมานั่งแดกของเขาเฉย” ชะงักเลยครับ ทอดมันที่กำลังจะเข้าปากชะงักแทบจะทันที ไอ้ผมแม่งก็คนมีจิตสำนึกด้วยสิ ใครว่ามาจะให้ทำเฉยหูทวนลมน่ะเหรอ


ใช่...กูทำอยู่แล้วไม่ต้องตัดสินใจให้ยุ่งยากด้วย


“พี่โก้...ผมขอเหล้าสองฝาโซดาน้ำเปล่านะพี่” กูตีสนิทกลุ่มแก๊งค์นี้เรียบร้อยครับ ไอ้พี่โก้ยกนิ้วโป้งให้ผมแล้วรีบชงเหล้าให้ผมทันทีเลย คนอื่นในกลุ่มแม่งก็หัวเราะคิกคักดูเหมือนจะชอบใจที่ผมขัดใจไอ้หน้าหล่อนี่ได้


ครับก็ได้...ยอมรับก็ได้ว่ามันหล่อ ยิ่งไอ้ทรงผมที่ตั้งๆแบบไม่ได้ตั้งใจกับการไถข้างโชว์หนังหัวนิดๆ ยิ่งขับหน้าให้มันดูหล่อขึ้นเป็นเท่าตัว ช่วงปวส.1ผมเคยตัดส่งนี้อยู่พักนึงนะ แต่แม่งไม่หล่อเท่ามันแถวโดนตบเกรียนตลอด เลยเลิกรากันกับไอ้ส่งหัวครึ่งลานบินนี้ทันที

“กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ” มันนั่งลงข้างผมแล้วหันมาถามผมด้วยสายตาไม่พอใจนัก แล้วผมควรทำไงดีล่ะครับ จะหันไปขอความเห็นกับไอ้วีแม่งก็กำลังหยอกกับไอ้พี่บาสอยู่ จะหันไปถามพี่แอลพี่โก้ พวกแม่งก็สนใจแต่พี่สาวโต๊ะข้างๆมากกว่า ยิ่งหันไปมองไอ้พี่ป๊อบยิ่งแล้วใหญ่มันเมาปลิ้นแทบจะฟุบหมอบลงกับโต๊ะร้องเพลงนางงามตู้กระจกอยู่เนี่ย
 
“.........” ผมเงียบไม่ได้พูดต่อปากต่อคำอะไรกับมัน ก็ใครจะไปรู้ว่ามันพูดกับใครล่ะ เพราะประโยคก่อนหน้าผมพูดกับพี่โก้ส่วนมันจู่ๆมาพูด กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ ใครจะไปรู้ว่ามันพูดกับผม ถึงมันจะมองหน้าผมก็เถอะ แต่ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้พูดกับมันสักหน่อย

“นี่มึงกวนตีนกูเหรอเตี้ย”

“.............” ใครเตี้ยวะ ที่แน่ๆไม่ใช่กูอ่ะ ผมใช้ส้อมจิ้มลงไปที่ทอดมันปลากรายอีกชิ้นแล้วหันไปสนใจดนตรีสดที่กำลังจะขึ้นร้อง ก็มันไม่ได้พูดกับผมอ่ะ

“นี่มึงจะเล่นใช่ไหมห๊ะ มึงจะเล่นกับกูใช่ไหม” ไอ้บ้านั่นดึงคอเสื้อผมแล้วทำท่าจะต่อยอยู่ร่อมร่อ ติดแต่ตรงที่ว่าไอ้พี่ยื้อไว้ทัน

“ใจเย็นพี่ เชี่ยซนมึงก็อย่าไปกวนตีนพี่เขาดิวะ”

“กูไม่ได้กวนตีนนะเว้ย ก็พี่มึงแม่งไม่รู้ถามใครนี่หว่า จู่ก็มาพูดๆข้างหูกู กูคิดว่าเขาพูดคนเดียว”

“มึงว่าไงนะ!!!”

“เฮ้ยพี่..อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ ผมไม่ได้หมายความว่าที่พี่มาพูดข้างๆหูผมเนี่ยพี่เป็นโรคประสาทชอบพูดคนเดียวอะไรแบบนั้นหรอกนะพี่ ผมแค่คิดว่าพี่ไม่ได้พูดกับผม...แค่นั้น” จังหวะที่ผมยักไหล่ไอ้บ้านั้นก็กระโจนใส่ผมแล้ว แต่ดีที่ไอ้วีมันดึงตัวผมไว้ได้ก่อน

“ซนมึงหุบปากก่อนดิวะ”

“กูไม่ได้ว่าเขา”

“ไม่ต้องมาทำตาใสเลยมึง นิสัยเสีย” ผมเบ้ปากใส่ไอ้วีแล้วหันไปมองไอ้น่านที่กำลังส่งสายตาไม่พอใจมาที่ผม ไม่พอใจก็เรื่องของมึงดิ กูพอใจอ่ะ

“น่านฟ้ามึงใจเย็นๆเถอะวะ กูว่าไอ้เตี้ยนี่ก็พูดขำๆไปงั้นแหละ” เอ้าไอ้พี่โก้ เมื่อกี้มึงยังยกนิ้วโป้งเป็นสัญลักษณ์ว่ากูเยี่ยมๆอยู่เลย ไหงมาด่าว่ากูเตี้ยซะงั้น

“ใช่พี่ ไอ้ซนมันเป็นแบบนี้แหละ มันเป็นเด็กมีปัญหา พ่อแม่ไม่ค่อยจะรักแม่งหรอก ชอบเรียกร้องความสนใจแบบนี้เรื่อยอ่ะพี่ อย่าไปใส่มันเลย” ผมหันไปมองหน้าไอ้วีที่กำลังพูดจาปกป้องผมจากตีนไอ้น่าน แต่ฟังไปฟังมาเหมือนแม่งหลอกด่าผมมากกว่า

“กูไม่อยากจะยุ่งหรอก แต่เพื่อนมึงหน้าตากวนตีนกูเอง” เอ้า!!ไอ้นี้ก็พาลเนอะ ด่าอะไรไม่ได้ก็มาด่าหน้าตากูซะงั้น

“เอาน่าพี่ผมขอโทษแทนมันล่ะกัน ซนมึงขอโทษพี่น่านดิ” ความผิดกูเหรอวะ ไม่ใช่เลยสักนิด ช่วยกูจากไอ้พวกเด็กช่างเวรนั่นไหม??ก็เปล่า แล้วยังจะมาด่าว่ากูกินของฟรีอีก ถึงแม่งจะฟรีก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจ่ายคนเดียวสักหน่อย กูกินในส่วนที่ไอ้วีจ่ายตั้งหาก แถมล่าสุดด่ากูเรื่องหน้าตาเฉย นี่กูผิดเหรอวะวี กูผิดเหรอ เป็นกูใช่ไหมที่ต้องขอโทษมันเนี่ย

“ขอโทษ” ก็ได้วะ เพราะวันนี้เจอตีนมามากพอแล้ว ถ้าเจอตีนมันอีกผมอาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่จนกลับไปดูใจป๊ากับม๊าก็เป็นได้

“ก็แค่นั้นแหละ” วีขยี้หัวผมแรงๆแล้วดึงผมให้นั่งลงตรงเก้าอี้มันแทน เพราะเก้าอี้ผมถูกไอ้น่านฟ้าแย่งไปแล้ว จะไปนั่งอันเดิมก็กลัวว่าแม่งจะหาว่าผมพาล ส่วนไอ้วีก็นั่งกับไอ้พี่บาส ซึ่งแม่งก็แทบจะนั่งตักแหละครับเพราะพนักแขนที่มันนั่ง ต่ำจนคิดว่าไม่มีเสียด้วยซ้ำ

“แล้วนี่มึงเอาไงกลับบ้านหรือจะไปนอนห้องกู” วีมันรู้ครับว่าถ้าม๊าผมเห็นแผลบนหน้าคงด่ายับ แต่จะไปนอนห้องไอ้วีก็เกรงใจ ผมกับมันไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วด้วย

“วี...” แต่แทนที่ผมจะได้ตอบ ไอ้พี่บาสก็พูดน้ำเสียงขู่ๆใส่ไอ้วีก่อน

“เออกูรู้แล้วไม่ต้องสะกิดได้ป่ะ เออซน..”

“ว่า???”

“โทษทีว่ะ มึงคงไปนอนห้องกูไม่ได้แล้วแหละ เมทกูแม่งดุยังกะหมา”

“ไม่เป็นไรเว้ย กูก็ไม่ได้คิดจะไปนอนห้องมึงอยู่แล้ว เดี๋ยวกูกลับบ้านดีกว่า ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงด้วย เนี่ยโทรศัพท์มือถือก็แบตหมด”

“เอางั้นเหรอ” ผมพยักหน้าหงึกๆส่งไปให้มัน ไอ้วีก็พยักตาม

“งั้นมึงกลับกับพี่น่านไหมล่ะ บ้านเขาอยู่ทางเดียวกับบ้านมึงนั่นแหละ” ไอ้เชี่ยน่านแม่งหูไวยิ่งกว่าหมาอีก พอได้ยินชื่อตัวเองปั๊บ แม่งหันมาโคตรเร็ว

“อะไร”

“เปล่าพี่ผมหมายถึงพี่ไปส่งไอ้ซนมันได้เปล่าอ่ะ ทางเดียวกับบ้านพี่เลย”

“อย่าเลยมึง กูกลับแท็กซี่ได้” ผมโบกไม้โบกมือปฏิเสธความหวังดีทันที เพราะรู้ดีว่าแผนคนชั่วๆแบบมันเป็นยังไง มันคงเริ่มจากการดึงดันจะไปส่งผมให้ได้แล้วแกล้งทิ้งกูลงกลางทางไรงี้ เหอะสเตปอ่อนๆพวกนั้นกูรู้ทางหมดแหละครับไม่ได้แอ้มกูหรอก


“กูก็ไม่ได้จะไปส่งมึงซะหน่อย อย่ามโนเตี้ย” ผมที่กำลังจะพูดอะไรออกมาสักอย่างได้แต่อ้าปากพะงาบๆใส่มันแทน





หึ....ไอ้เชี่ยน่านมึงนี่มันช่าง...เชี่ยเอ๊ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!







TBC
บุคลิกของตัวละครคล้ายๆกับเรื่องที่เคยแต่งแหละ แต่ก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะ
รักคนอ่าน :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-01-2015 21:39:30
 :katai2-1:   กัดกันตลอดๆๆ ฮ่าๆ
 ซนปากดีจริงๆ นี่ขนาดว่ายังไม่เมา แถมมีแผลอยู่บนหน้า  :laugh: 
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-01-2015 01:45:38
 :mc4: เข้ามาเจิมเรื่องใหม่  & :pig4:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 26-01-2015 01:51:18
ชอบจังนายเอกปากดี พระเอกเราก็ปากร้าย เด๋วคงฆ่ากันตาย :laugh:

บวกเป็ด&กดโหวตเป็นกำลังใจกะบเรื่องใหม่นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 26-01-2015 10:31:05
ชอบ ๆ เด็กช่าง กับ เด็กวิศวะ น่าติดตามที่สุด  :o8:
น้องซน ซนสมชื่อจริง ๆ ทั้งแสบ ทั้งซน ทั้งตลกอ่ะ เกรียนดีจริง ๆ ชอบจัง
เพื่อนวีกับพี่บาส ถึงไม่แนะนำว่าแฟน แต่การแสดงออกมันบอกหมดแล้ว
พี่บาสดูท่าจะอยู่สมาคมเกลียมัวสินะ 555
น้องซนเข้ากับคนง่ายจริง แป๊บเดียว สนิทกับกลุ่มรุ่นพี่ละ แต่ละคนดูตลกดีอ่ะ ชอบ ๆ
เว้นแต่พี่น่านขี้เต้ะนี่แหละ ใจดำไม่ช่วยน้องซน แถมยังปากคอเราะร้ายอีกนะ
แต่ก็ดีที่น้องซนของเราก็ใช่ย่อย อย่ายอมนะง่าย ๆ นะซน เอาให้พี่น่านหงายเงิบไปเลย
ส่วนพี่น่าน ขอให้รัก ขอให้หลง น้องซนจนโงหัวไม่ขึ้นเลย เชอะ
ชอบเรื่องใส ๆ โนดราม่า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L2:
 
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 26-01-2015 11:36:26
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2015 12:11:51
รออ่านอีก
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 2 สิ่งที่ชีวิตที่ชื่อซน 25-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-01-2015 15:28:09
อยากอ่านอี๊กกกกก!  :hao3:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 3 บนทางเดินแห่งความฝันนี้.. 31-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 31-01-2015 18:51:50
Because of you ซน ตอนที่ 2 บนทางเดินแห่งความฝันนี้...



“ม๊า พี่ซนเจ็บ” ผมเบ้ปากเบาๆตอนที่ม๊าเอานิ้วมาจิ้มตามแผลบนหน้าผม

“แล้วใครใช้ให้พี่ซนไปมีเรื่องกับคนอื่นแบบนั้น”

“ม๊า พี่ไม่ได้ไปหาเรื่องใครเลยนะ มันมาหาเรื่องพี่เอง” ม๊าผมส่ายหัวแบบไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น “โถ่ม๊าพี่ซนพูดจริงนะ มันมาหาเรื่องพี่ก่อน...แน่ะ...ทำหน้าแบบนั้นม๊าไม่เชื่อพี่ใช่ไหมล่ะ ใช่สิ ซนมันเป็นลูกถูกลืม มีลูกใหม่แล้วนิ ลืมซนแล้วใช่ไหมล่ะ ใครจะไปดีเหมือนไอ้...น้องแซน..กับน้องซูของม๊าล่ะ”

“รู้ตัวก็ดีแล้ว” ไอ้สัตว์(นามสมมติ นามจริงชื่อซู)เดินมาผลักหัวผมจนแทบทิ่ม ส่วนม๊าน่ะเหรอไม่มีหรอกไม่เคยเห็นลูกสุดที่รักของนางทำแบบนี้กับผม นู่นเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“ส้มอ้ำอ้า” พูดก็ยังพูดไม่ชัดนี่มึงยังมีหน้ามาสมน้ำหน้ากูอีกเหรอไอ้แซน ผมผลักหัวไอ้แซนจนหงายหลังมันหันมามองผมตาเขียว “ม๊า พี่ซนแกล้ง” ทียังงี้ล่ะชัดเชียว

“ขี้ฟ้องเหรอมึง” ผมทำท่าจะตบเกรียนไอ้แซนเด็ก 6 ขวบไปอีกที แต่เจอไอ้ซูอุ้มไปนั่งไว้บนตักมันก่อน ใช่ครับผมมีพี่น้อง 3 คน ผมเป็นคนโต ม๊าให้เรียกแทนตัวเองเสมอว่า พี่ซน แล้วไอ้สองคนที่เกิดทีหลังผมชื่อซูอายุน้อยกว่าผมปีนึง ส่วนไอ้แซนเป็นลูกหลงอายุยังไม่ถึง 6 ขวบดีด้วยซ้ำ

“ทำไมซนชอบแกล้งน้องวะ” ไอ้ซูชอบคิดว่าตัวเองเป็นพี่ผม เกิดก่อนผมสัก 5-10 ปีได้ ถึงมันไม่พูดออกมากูก็รู้หรอกว่ามึงคิดแบบนั้น

“แล้วทำไมมึงไม่เคยเรียกกูว่าพี่วะซู กูเกิดก่อนมึงตั้งปีนึงนะเว้ย”

“ตัวเองน่านับถือตายแหละ”

“เหอะ...ตัวเองน่านับถือตายแหละ...อะไรวะ แต่ก่อนยังเรียกพี่ซนอย่างนั้นอย่างนี้แท้ๆ จนกระทั่ง.......”ผมทำหน้านึกในสิ่งที่ทำให้ไอ้น้องชายที่โคตรจะเชื่อฟังผมเปลี่ยนไป ภาพที่เห็นคือไอ้วีที่ยิ้มหัวเราะกับมัน

“หึ...” ผมยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะหันไปหยิบส้มที่อยู่ตรงหน้ามาปลอกเข้าปาก ซี้ดด โดนแผล เจ็บอ่ะ  “น้องซู...พี่ซนไม่อยากจะเล่าเลยว่าเมื่อคืนพี่ซนเจอใคร”

“เจอใครมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับซู” ไอ้ซูยักไหล่แล้วหันไปป้อนข้าวไอ้น้องแซนต่อ

“เหรอครับน้องซู ถ้าพี่ชายคนนี้จะบอกว่าพี่เจอ...พี่วีของน้องซู...น้องซูจะว่ายังไงนะ”ไอ้ซูมันชะงักการป้อนข้าวน้องแซนไปแป๊บนึงแต่สุดท้ายก็ป้อนต่อ “พี่วี..พี่วีของน้องซูไง”

“น่ารำคาญ” มันพูดเสร็จก็เดินหนีไปเลยครับ คงไปพูดโดนจุดอะไรสักอย่างในตัวมันแหละ


เพราะแต่ก่อนไอ้ซูมันติดไอ้วีมาก ช่วงนั้นเหมือนมันเห็นไอ้วีเป็นเทพบุตรที่มาโปรดสัตว์อย่างไอ้ซู บอกกันตรงๆว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมเป็นพี่ที่ดีมากๆคนนึง อยากให้น้องชายได้ดีก็เลยใช้มันทำหน้าที่แทนผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะตากผ้า กวาดพื้น หรือจัดห้องนอนตัวเอง ผมให้ไอ้ซูทำหมด ส่วนผมนั่งดูโทรทัศน์แล้วบอกว่าสิ่งที่น้องซูทำเก่งที่สุด แค่นั้นมันก็ทำทุกอย่างให้ผมแล้ว (อย่าเรียกว่าเลวเลยครับ เรียกว่าคนมีมันสมองดีกว่า)


แต่แล้ววันนึงชีวิตที่สุขสบายของผู้ชายชื่อซนก็ถูกพรากไปเพราะผู้ชายอีกคนนาวว่าไอ้เชี่ยวี ตั้งแต่ที่มันเข้ามาในชีวิตผม มันเหมือนเป็นตัวการที่บอกเล่าความดีของผมให้น้องชายผมฟัง หลังจากนั้นนิสัยไอ้ซูก็เปลี่ยนไป ใช้ให้ไปทำอะไรไม่เคยได้ แถมยังดื้อมากด้วยครับ ตัวเองเป็นเด็กกว่าแต่ไม่ยอมเชื่อฟังผู้ใหญ่(อย่างผม) แต่ดันไปเชื่อฟังไอ้วีแทน

แล้วเชื่อไหม มีวันนึงผมไปรู้ความลับของมันเข้า ไอ้ซูครับ มันแอบชอบเพื่อนผม กร๊ากกกกกกกกกก มีบอกเขาด้วยนะว่าจะดูแลเขาไปตลอดชีวิต ฮ่า ฮ่า แต่ช่วงจังหวะที่ไอ้ซูมันสารภาพรักมันเป็นช่วงที่ไอ้วีต้องไปเรียนต่อม.ปลายที่ต่างจังหวัดพอดี  แล้วสมัยนั้นมันก็ไม่ได้โลกโซเชียลจ๋าเหมือนสมัยนี้ ผมเลยแกล้งบอกไอ้ซูมันไปว่าวีมันรับไม่ได้ที่มึงไปบอกชอบมัน ตอนแรกมันก็ไม่เชื่อหรอกครับ แต่หลังๆมันติดต่อไม่ได้จริงๆมันก็เชื่อแบบนั้นมาตลอด สงสารเหมือนกันนะครับแต่จะให้ผมทำไงอ่ะมันเชื่อแบบนั้นไปแล้วก็ปล่อยให้มันเชื่อแบบนั้นไปล่ะกัน


“เออแล้ววันนี้ซนไม่มีเรียนรึไง” ทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเฮิร์ตก็บอกพี่สิน้องพี่จะปลอบ
 
“เช้ากูโดด แต่บ่ายคงเข้าไปแหละถ้าไม่ขี้เกียจนะ” ผมเองก็ไม่อยากไปจี้จุดเจ็บมันเท่าไหร่ เดี๋ยวเรื่องมันจะยาวเลยไม่พูดถึงไอ้วีอีก

“แล้ว....” ไอ้ซูพูดค้างไว้แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ ผมเงยหน้าถามมันก่อนจะเลิกคิ้วถาม ไอ้ซูส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่มีอะไร ไอ้ผมก็ขี้เกียจถามด้วย รู้หรอกว่ามันอยากถามเรื่องไอ้วีต่อแต่ถ้ามันไม่อยากพูดผมก็ไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง

“เอาเถอะน่ามึง เรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้วมึงยังจะคิดอะไรเยอะแยะวะ”

“ซนจะเข้าใจอะไรซนไม่ใช่ซู” ไม่ต้องทำหน้าเหมือนเจ็บปวดแบบนั้นได้ป่ะวะ มันทำให้กูรู้สึกผิดยังไงไม่รู้

“เถียงอะไรกันเนี่ยพี่น้อง” ป๊าเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ใกล้ๆกับผมแล้วมองหน้าผมทีมองหน้าไอ้ซูที

“เปล่า” เสียงผมอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“เป็นพี่น้องกันก็ต้องรักกัน ช่วยเหลือกัน”

“พี่ซนรักน้องทุกคนแหละป๊า”

“โดยเฉพาะมึงเลยซน ตัวดี...”ผมเบ้ปากใส่ป๊าทันทีที่แกพูดจบ แน่นอนพอเบ๊ปากจบป๊าก็รีบเขกหัวผมทันทีเหมือนกัน “เอาไงชีวิตมึงอ่ะ จะทำงานหรือว่าจะเรียนต่อ”


เห็นป่ะป๊าแม่งโคตรสองมาตรฐานเวลาเรียกไอ้แซนกับไอ้ซูพูดอย่างเพราะ แต่พอพูดกับผมนะมึงกูตลอดแล้วม๊าก็มาว่าทำไมผมพูดไม่เพราะ ก็มันติดมาจากป๊าเนี่ยแหละ



“โหป๊า..เรียนดิ เด็กรักเรียนอย่างพี่ซนมีแต่เรียนอยู่แล้ว จะไปทำงานทำไม” ให้เปลืองแรง

“เพราะมึงขี้เกียจมากกว่าไหมถึงไม่ยอมไปทำงานน่ะ อยากเรียนก็ต้องสอบให้ได้ เพราะกูไม่มีทางฝากและไม่สนับสนุนให้เรียนเอกชนแน่นอนครับ”

“โถป๊าถ้าสมมติพี่สอบไม่ได้ล่ะ”

“เรื่องนั้นมันก็ไม่ได้เกี่ยวผมครัช” มาครัชมาแคชอะไรล่ะ แล้วทีนี้ผมจะทำไงอ่ะ ให้ไปสอบทั้งๆที่ไม่มีความรู้แบบนี้คงตาย ตายอย่างเดียวครับงานนี้ คงต้องหาคนช่วยสักคน




แล้วใครที่ไหนจะมาช่วยคนอย่างผมวะ......WTF










B E C A U S E  O F  Y O U ซ น








“มึงจะไม่เรียนต่อจริงๆดิเล็ก”

“ไม่ว่ะกูว่าจะทำงาน มึงก็รู้ว่าที่บ้านกูไม่ได้มีเงินจะเรียนต่อมหาลัยแบบมึง” แม่งพูดเอาซะผมรู้สึกจุกเลย ชีวิตรันทนยิ่งกว่าอีเอื้อยในเรื่องปลาบู่ทองเสียอีก

“กู้เรียนก็ได้นี่หว่า”

“กูเรียนที่นี้กูก็กู้มาเยอะแล้ว อีกอย่างถ้ากูเรียนต่อน้องกูก็คงไม่ได้เรียนแน่ๆ กูอยากหาเงินแล้วส่งน้องเรียน”

“มึงนี่เป็นคนดีจังวะ”

“ใครจะไปเลวเหมือนมึงล่ะ”

“อ่าวเชี่ยเล็กพูดงี้ได้ไง มึงรู้ไหมเสื้อช็อบที่มึงฝากกูไว้เมื่อวานทำให้กูต้องรับตีนแทนมึงเนี่ย มึงควรจะขอบคุณกูเข้าใจไหม” ผมผลักหัวไอ้เล็กไปทียังมีหน้ามาทำตาใสใส่กูอีก

“เออขอบคุณ แต่มึงมันโง่เองไม่ใช่เหรอวะใครให้มึงใส่ ไม่เก็บเข้ากระเป๋าล่ะ”

“เออว่ะ” ผมแม่งโง่อย่างที่มันพูดจริงๆด้วย แต่ใครจะไปแหกปากยอมรับล่ะวะว่าตัวเองโง่

“แล้วนี่มึงจะเอาไง อีกไม่กี่เดือนมหาลัยที่มึงสามารถสอบได้เขาก็จะเปิดสอบแล้วไม่ใช่เหรอ” ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเพราะมันมีพวกม.เทคโนบางม.ที่เขารับพวกปวส.อย่าผมให้เข้าไปเรียนป.ตรีได้ แต่อย่างว่าผมมันเสียเปรียบก็ตรงเรื่องคำนวณนี่แหละ แล้วทุกมหาลัยที่สอบเข้าดันให้กูคำนวณห่าเหวอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด

“ก็ใช่หรอก แต่มึงก็รู้ว่าพวกเราเรียนคำนวณน้อยมาก จะให้ไปสอบคำนวณอะไรพวกนั้นกูว่ากูคงทำไม่ได้หรอกว่ะ”

“มึงไม่มีเพื่อนที่เก่งๆบ้างเลยเหรอวะ”

“เพื่อนที่ไหนล่ะ จะมีก็แต่พวกมึงเนี่ยที่โง่ไม่ได้ต่างจากกูเลย”

“เพื่อนม.ต้นมึงไง มึงมาจากชายล้วนไม่ใช่เหรอวะ มันต้องมีบ้างดิ บางคนที่ไปเรียนสายวิทย์แล้วต่อมหาลัยพวกวิศวะอะไรพวกนั้น หรือตอนม.ต้นมึงไม่มีใครคบ”

“K...หน้าตาอย่างกูเนี่ยมีแต่คนอยากคบเถอะ”พูดแบบนี้แม่งโบกหัวเกรียนๆของมันสักทีดีไหมครับ ผมคิดถึงเพื่อนม.ต้นที่ผมสนิทด้วยสักพักก็นึกขึ้นได้ว่ามีอยู่คน.... “จะว่าไม่มีมันก็ไม่ใช่หรอก...มันมี...แต่เดี๋ยวเอาไว้กูโทรหามันดีกว่า เพราะตอนนี้มันไม่ได้เรียนวิศวะแล้วด้วย”

“อ่าว”

“เห็นว่าตอนนี้ไปเรียนแพทย์อยู่อ่ะ”

“เขาก็ต้องมีเพื่อนที่เรียนอยู่ดิ มึงโทรหาเขาเลยเผื่อเขาจะได้หาคนช่วยสอน” ผมกับไอ้วีไม่ได้เจอหรือติดต่อมันมาสักพักแล้วนะครับ เมื่อคืนมันก็ช่วยผมเรื่องเด็กช่าง แล้ววันนี้ผมยังต้องโทรไปรบกวนมันอีกเนี่ยนะ “มึงก็รู้ว่านิสัยกูเป็นพวกขี้เกรงใจ”

“เลิกตอแหลแล้วโทรซะ” ด่าไม่พอตบหัวกูด้วย
 
“ให้กูเป็นคนดีสักนาทีก็ไม่ได้เลยนะสัส” ผมคว่ำปากใส่ไอ้เล็กแล้วกดโทรศัพท์โทรหาไอ้วีทันที

(ว่า...)

“มึงยุ่งอยู่เปล่าวะ”

(ถ้ากูยุ่ง กูคงรับสายมึงไม่ได้) กวนตีน ถ้าไม่ติดว่ากูต้องขอร้องมึงนะวี กูจะด่ามึงให้ดู

“วี...” ทำเสียงอ้อนมันก่อน

(ไม่ต้องมาทำเสียงสยองใส่ มีอะไร)

“กูมีเรื่องจะขอให้มึงช่วยอ่ะ”

(เรื่อง...)

“กูจะสอบเข้ามามหาลัย”

(จริงดิ)

“มึงเหลือเชื่อใช่ไหมล่ะ ไม่คิดสินะว่ากูจะเป็นคนดีใฝ่เรียนรู้ขนาดนี้” ผมยิ้มให้โทรศัพท์แล้วยักคิ้วใส่ไอ้เล็ก ส่วนไอ้เพื่อนเวรพอเห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้าให้ผมอย่างปลงๆ มึงปลงทำไมครับกูพูดจริง กูใฝ่เรียนจริงๆ

(กูเหลือเชื่อตรงที่มึงจะเอาสมองไหนไปสอบมากกว่า)

“เชี่ยวี กูไม่ได้โง่นะเว้ย”

(อย่างน้อยก็มีเรื่องนึงที่กูจำได้ว่ามึงโง่)

“สัส เลิกเอาเรื่องสมัยม.ต้นมาล้อกูสักทีเถอะแม่ง โง่แค่เรื่องเดียวไม่ได้หมายความว่ากูจะโง่ตลอดไปหรอกนะเว้ย” ตอนม.ต้นผมโชว์โง่แค่เรื่องเดียวคือเรื่องการช่วยตัวเอง เข้าใจใช่ไหมครับ เด็กผู้ชายช่วงวัยนั้นมันเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะทำเป็นก่อนจบม.ต้น แต่ผมทำไม่เป็น หลายครั้งที่ผมรู้สึกอึดอัดกับมันแต่ไม่สามารถระบายมันออกมาได้ จนสุดท้ายผมเลยไปพวกแม่ง แล้วพวกมันก็หาว่าผมอ่อน โง่ บอกว่าพวกมันทำเป็นตั้งแต่อยู่ประถมนู่น ตอนนั้นผมเหมือนยืนท่ามกลางเวทีแล้วมีแสงไฟสาดมาที่ตัวเองยังไงยังงั้น แต่ก็ยังดีนะครับที่หลังจากนั้นพวกมันก็ทำให้ผมเข้าใจสัจธรรมจากหนังโป๊โดยการรู้จักเมียคนแรกคือน้องนางทั้งห้านั่นเอง

(ฮ่า ฮ่า เออๆกูเชื่อ แล้วที่มึงโทรมาบอกกูว่าจะสอบเข้ามหาลัยเนี่ยหมายความว่าไงอ่ะ จะให้กูช่วยไร)

“ติวให้กูหน่อยดิ กูจะสอบวิศวะม.Xอ่ะ”

(........) มันเงียบไปนานมาก จนใจผมรู้สึกเต้นตุ้มๆต่อมๆกลัวว่ามันจะไม่ติวให้ แล้วผมก็ได้ยินมันปรึกษากับใครสักคนนึงที่อยู่ข้างๆมัน แต่ได้ยินไม่ชัดหรอกครับ ได้ยินแค่ติวๆอะไรสักอย่าง

“ถ้ามึงไม่อยากติวก็ไม่เป็นไรเว้ย กูรู้ว่ากูมันก็แค่เพื่อนมึง ไม่ดิเพื่อนเก่า กูเข้าใจ กูมันเก่าแล้ว...” ดราม่าใส่แม่งเลย

(เชี่ยซนกูขอล่ะ เลิกตอแหลใส่กู เอาเป็นว่ากูไม่มีเวลาติวให้มึงแต่กูจะให้รุ่นพี่กูติวให้)

“จริงดิ กูไม่เอาคนโง่นะเว้ย”

(สาดดด มาขอร้องคนอื่นให้ติวให้มึงยังกล้ามาเรียกร้องข้อเสนอใส่กูอีก คนที่กูจะให้ติวเนี่ย มันเทพมากนะเว้ย)

“แล้วมึงจะพากูไปเจอมันวันไหนอ่ะ แล้วมันจะโอเคเหรอ”

(จริงๆรุ่นพี่กูคนนี้มันไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่กูก็ไม่รู้ว่ะว่ามันจะสอนมึงไหม ยังไงมึงมาลองขอมันดูก่อนล่ะกัน)

“แล้วคนอื่นล่ะวะ” มึงมีรุ่นพี่คนเดียวหรือไง


(คนอื่นมันก็มีแต่กูคงไม่แนะนำว่ะ คนนึงแม่งก็พูดจาวนไปวนมา ส่วนอีกคนไม่สนใจโลก อีกคนนี่หนัก...เหลือรุ่นพี่กูคนนี้คนเดียวแหละที่พอจะโอเคหน่อย อีกอย่างกูการันตีเลยนะเว้ยว่าแม่งเก่งจริง มันเคยสอนแฟนกูที่จากโคตรควายให้กลับมาเป็นคนยังได้เลย)

“จริงดิ”

(แต่ถ้ามันไม่สอนมึงกูก็ช่วยไม่ได้นะ)

“อ่าวสัสวีไหนบอกจะช่วยกู”

(เอาเป็นว่ามึงลองๆอ้อนมันเหมือนที่มึงเคยทำก็ได้ บางทีอาจจะได้ผล...มั้ง)

อ้อนเนี่ยนะ กูเลิกอ้อนคนอื่นมากี่ปีแล้ววะเนี่ย ที่อ้อนๆอยู่ตอนนี้ก็มีแต่คนในครอบครัว ไม่ใช่ว่าผมอวยตัวเองหรอกนะครับ แต่มันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น เพราะเวลาที่ผมขอร้องใครผมจะทำปากยู่นิดๆ เกาะแขนแล้วพูดเสียงลากยาวหน่อยๆ ร้อยทั้งร้อย...เสร็จผม

“จะพยายามล่ะกัน” ถ้าได้นะ

“จะพยายามล่ะกัน” ถ้าได้นะ

 

(เสาร์นี้เจอกันที่บ้านกู...ได้ไม่ได้ยังไงกูมีแผนสำรอง...แล้วอย่าลืม..พาแสนดีมาด้วย)

 

ให้กูพาแสนดีไปทำไม แล้วนี้สรุปมึงอยู่คอนโดหรืออยู่บ้าน บ้านหลังไหน คราวที่แล้วตอนที่มึงไปเรียนต่อม.ปลายไอ้ซูไปหาทำไมไม่เจอวะ”
 
 
(เรื่องนั้น เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังอีกที เอาเป็นว่ากูอยู่บ้านหลังเดิมนั่นแหละ ส่วนคอนโดที่อยู่ตอนนี้มันของแฟนกู เลิกพูดมากเถอะวะ เจอกันเสาร์ อย่าลืมลูกกูเข้าใจไหม) กูไม่เข้าใจโว้ย ทำไมกูต้องรับภาระเอามันไปด้วยวะ



 แสนดีที่ไอ้วีพูดถึงคือแมวสีน้ำตาลขนฟูของบ้านผม ไอ้วีกับไอ้ซูไม่รู้มันไปเก็บมาจากไหน ตอนที่พวกมันเอามาตัวมันยังแดงๆอยู่เลย แต่ตอนนี้ไม่แดงแล้วครับ ขนสีน้ำตาลสลวย ตัวอ้วนกลมจนหน้าถีบ แมวตัวนี้ของไอ้ซูไม่เคยอยู่บนตักผมได้เกิน 5 นาที แม่งข่วนหน้าผมก่อน ยกเว้นเสียแต่มีขนมล่อมันเท่านั้น ผมกับแมวไอ้ซูไม่เคยถูกกันมาแต่ไหนแต่ไร








ทั้งๆที่ไอ้เชี่ยวีก็รู้







แต่มันก็ยังให้กูอุ้มอีแสนดีไปเนี่ยนะ มึงคิดอะไรอยู่ครับ คิดจะฆ่ากูให้ตายทั้งเป็นงั้นเหรออออ








ไม่ต้องไปพูดถึงพ่อมันอย่างไอ้ซูเลย











มันคงจะปล่อยลูกสาวมันมาไว้กับผมหรอกแม่ง









TBC
คาดว่าทุกคนคงเดาออกว่าวีจะให้ใครมาสอนหนังสือน้องซน และChapterนี้คงทำให้ทุกคนรู้จักน้องซนมากขึ้นล่ะมั้งเนอะ
รักคนอ่าน
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 3 บนทางเดินแห่งความฝันนี้.. 31-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 31-01-2015 19:09:20
พี่น่านแน่เลยอ่ะ?  :hao3: ชิมิ
แล้ววีกับซูจะหวนมาเจอกันไหมเนี่ย. :hao5:

ท่าทากว่าซนกว่าจะไปถึงบ้านวี.หน้าคงแหกเพราะแมวข่วนแน่เลย.กร๊ากกกก. :laugh:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 3 บนทางเดินแห่งความฝันนี้.. 31-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-01-2015 20:02:12
 :hao3:  รอลุ้นต่อไป
 :pig4: 
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 3 บนทางเดินแห่งความฝันนี้.. 31-01-15
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 31-01-2015 20:19:54
อ่า เข้ามาอ่านโพสแรกกฎหายเปลี่ยนเป็นตอน 3 แทนคนเขียนอัพผิดหรือเปล่าคะเราคิดว่าอ่านตอนแรกเห็นกฎอยู่นะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . 'ซ น' + + + ตอนที่ 4 [1-02-15]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 01-02-2015 11:41:38
Because of you ซน ตอนที่ 3 แสนดี

     “ให้กูยืมแสนดีได้ไหมล่ะซู วันเดียวเนี่ย ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นจะเรื่องมากเท่านี้มาก่อนเลยนี่วะ”แต่ก่อนเวลาผมจะยืมอะไรไอ้ซูมันก็ให้เลยนะครับ ถึงบ่อยครั้งมันจะกลับมาในสภาพที่ไม่เหมือนเดิมก็เถอะ

     “นะครับน้องซู ให้พี่ซนยืมแสนดีวันนึงนะ เดี๋ยวพี่ซนพาไปเลี้ยงซูชิแถวสุขุมวิท นะ นะ นะ แค่วันเดียวเอง” ตอนนี้ผมแทบจะลงไปกอดขาซ้ายไอ้ซูเพื่อขอยืมตัวแสนดีแมวอ้วนของมันไปบ้านไอ้วีอยู่แล้ว

     “จะเอามันไปไหนวะซน คราวที่แล้วซนเล่นกับมันเอาไรให้มันกินไม่รู้ เกือบตาย ถ้าคราวนี้...”

     “ไม่มีแล้ว กูสัญญาว่าจะดูแลแสนดีอย่างดีที่สุด ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลย เอ้า สัญญา” ผมยกนิ้วก้อยขึ้นมากระดิกนิ้วเบาๆต่อหน้าไอ้ซู น้องชายผมมองนิ้วก้อยผมด้วยสายตารังเกียจ “นะ...ให้กูยืมเถอะ”

     “เออๆแล้วจะเอามันไปไหนล่ะ”

     “บ้านไอ้วี มันคงคิดถึงลูกมันล่ะมั้ง ไม่ได้เจอตั้งหลายปีแน่ะ” ผมพูดพลางเอื้อมมือไปแย่งรีโมทจากไอ้แซนที่กำลังเล่นต่อเลโก้อยู่กับพื้น

     “พี่ซน น้องแซนดูอยู่”

     “ดูอะไรตัวเองนั่งเล่นเลโก้อยู่ไม่ใช่เหรอ”

     “ก็น้องแซนดูอยู่อ่ะ”

     “แซนมึงรู้ไหมว่าละครที่มึงดูอ่ะคนที่เขาโตแล้วเขาไม่ดูหรอก เชื่อไหมน้องมิลค์เขาก็ไม่ชอบคนที่ดูละครแบบนี้ มันเด็ก ไหนแซนบอกว่าแซนโตแล้วไง” ทุกเสาร์อาทิตย์แซนจะตื่นเช้ามาก บางทีแม่งเร็วกว่าตอนไปโรงเรียนอีกเพราะมันจะมารอดูละครจักรๆวงศ์ๆช่องเจ็ดที่เล่นช่วงเวลานี้

     “น้องแซนโตแล้ว”

     “คนที่เขาโตจริงเขาไม่ดูละครไร้สาระแบบนี้หรอก” ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แซนมองหน้าผมแล้วนั่งคิดแบบคนที่กำลังคิดหนัก “ก็ตามใจแซนนะถ้าแซนจะดูช่องเมื่อกี้อ่ะ...” ผมแกล้งยื่นรีโมทให้ไอ้แซนแต่มันดันเอากลับมาวางไว้บนตักผม

     “แซนไม่ดูเพราะแซนโตแล้ว”

     “เยี่ยมมากครับน้องแซน นี่เดี๋ยวพี่ซนจะบอกว่าคนที่เขาโตแล้วเขาดูอะไร นี่ไงครับ ช่องนี้” ผมเปิดไปช่องเก้าการ์ตูนเสร็จสรรพเรียบร้อย ไอ้แซนมันก็พยักหน้าหงึกๆแล้วนั่งดูการ์ตูนไปต่อเลโก้ไป เป็นไงครับวินวินทั้งคู่ ผมนี่โคตรฉลาดเลยให้ตาย

     “แล้วนี่ซนจะไปตอนไหน”

     “ห้ะ??” อะไรวะ จู่ๆไอ้ซูก็ถามขึ้นมาแบบไม่มีปีมีขลุ่ย “ไปไหนอ่ะ”

     “บ้านวีไง”

     “ก็นัดมันบ่ายๆอ่ะ ทำไมวะ”

     “เดี๋ยวไปส่ง” ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปดูการ์ตูนต่อ ยังเหลือเวลาอีกเยอะกว่าจะถึงเวลานัด เพราะงั้นก็เอาช่วงเวลานี้ผมคงต้องทำตามใจตัวเองให้มากที่สุด เพราะอีกสามชั่วโมงต่อจากนั้น ผมต้องไปนั่งหลังขดหลังแข็งเรียนหนังสือกับรุ่นพี่ไอ้วีอีก แถมไม่รู้ด้วยว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นแบบไหน นิสัยดีหรือเลว แต่ฟังจากคำสรรพคุณที่ไอ้วีเกริ่นๆมาคงเป็นคนที่ฉลาดมากคนหนึ่งและก็คงเป็นคนดีมากๆแน่ๆ เพราะเห็นวีบอกว่าก็สอนเพื่อนที่จากเป็นควายมาเป็นคนได้แสดงว่าแม่งเจ๋งจริง....ล่ะมั้ง







     และแม่งงงงงงงงงงงงงงงงงง กูคิดผิด เพราะตั้งแต่เห็นหน้าไอ้รุ่นพี่คนที่จะสอนผมยืนหั่นผักกลางห้องครัว ผมก็รู้เลยว่าผมคิดผิด ผมอวยผิดคน ไอ้พี่ป๊อบที่ดูบ้าๆบอๆยังดูมีมันสมองมากกว่าไอ้เชี่ยนี่อีก

     “พี่น่านนี่ไงเพื่อนผม ที่ผมเคยบอกว่าพี่เคยเจอมันครั้งนึง” ผมเหลือกตาขึ้นฟ้าได้ไม่นานก็โดนไอ้วีสะกิดอย่างแรง (เรียกว่าตบง่ายกว่า) ให้ไหว้รุ่นพี่มัน

     “กูไม่คิดว่าจะเป็นมัน”

     “..........” เป็นกูแล้วไงเหรอ อิจฉากูสินะที่กูหล่อกว่า

     “กูไม่ติว” พูดเสร็จก็ก้มลงไปหั่นผักต่อ ดูแม่งโคตรไม่เข้ากับบุคลิกเลวๆของมันสักนิด

     “พี่น่าน...ติวให้มันหน่อยเถอะ ถือว่าทำบุญ”

     “กูไม่ชอบทำบุญกับพวกคนตัวเตี้ยว่ะวี โทษทีนะเว้ย” ถ้ามึงจะพูดขนาดนั้นเอามีดแทงกูง่ายกว่าไหมม

     “เชี่ยวี...ไม่มีพี่คนอื่นที่ติวกูได้อีกเหรอวะ พวกพี่แอลก็ได้นี่หว่า” ผมรีบดึงไอ้วีเดินออกมาจากห้องครัวแล้วลากพามันมาหลังบ้านทันที พวกพี่ป๊อปพี่บาสพี่แอลกำลังเตรียมตั้งเตาทำอะไรสักอย่าง ขาดก็แต่พี่โก้ที่ไม่รู้ไปไหน

     “มึงแน่ใจเหรอว่าจะให้พวกมันติวให้”

     “ทำไมอ่ะ”

     “ลองคุยกับแม่งดูดิ แล้วมึงจะรู้ว่าพวกมันติวให้มึงได้ไหม แล้วไหนแสนดีกูล่ะ”

     “เออ กูลืม อยู่หน้าบ้านน่ะ ตอนที่เดินเข้ามาไอ้ซูบอกว่าจะอุ้มมาส่งเองแต่คงต้องให้มันหาที่จอดรถได้ก่อน หน้าบ้านมึงนี่ยังหาที่จอดรถยากเหมือนเดิมเลยนะ” หมู่บ้านไอ้วีเป็นหมู่บ้านที่หาที่จอดรถยากมาก ในบ้านจอดได้คันนึง นอกบ้านจอดได้อีกคัน ทีเหลือต้องไปขอส่วนบุญบ้านหลังอื่นจอดเอา ไม่รู้ป่านนี้ไอ้ซูหาที่จอดได้ยัง แค่มาส่งแล้วเอาแสนดีมาให้ผมแม่งก็จบเรื่องแล้ว ทำยึกยักจะอุ้มเข้ามาส่งเองทำไมก็ไม่รู้

     “เออเดี๋ยวกูออกไปอุ้มมันเข้ามาเอง” ไอ้วีออกไปแล้วตอนนี้ผมกำลังอยู่ท่ามกลางกลุ่มบุคคลที่กำลังจะเผาบ้านไอ้วีชัดๆ

     “แล้วต้องทำไงต่อวะ จุดยังไงแม่งก็จุดไม่ติด” ผมอยากรู้ว่าพวกมันสามคนเคยเรียนลูกเสือหรือรด.มาหรือเปล่าแค่จุดเตาปิ้งแค่นี้มันยากตรงไหนวะเนี่ย

     “หวัดดีครับพี่แอล พี่บาส พี่ป๊อบ” ผมยกมือไหว้พวกมันรอบทิศ “มาเดี๋ยวผมจุดให้พี่”

     “อ่าวมึงเองเหรอไอ้ส้น นี่อย่าบอกนะว่าเพื่อนไอ้วีที่จะมาติวหนังสือกับไอ้น่านคือมึงอ่ะ”

     “พี่ป๊อบผมชื่อซนครับพี่” ถ้ามึงจะเพี้ยนได้เหี้ยขนาดนี้ไม่ต้องจำชื่อกูก็ได้ครับ

     “อ่าวเหรอ กูจำผิดเหรอวะเนี่ย” ไม่รู้ว่ามันแกล้งผมหรือจำไม่ได้จริงๆ แต่คงจำไม่ได้จริงๆนั่นแหละเพราะมันทำหน้างงๆแล้วหันไปทวนชื่อผมกับพวกพี่แอลอีกรอบ พวกจังไรนั่นก็ขำใหญ่เติมขำว่าตีนให้กูด้วย

     “ติดแล้วครับพี่”

     “โหสุดยอดว่ะซน กูไม่คิดเลยนะเนี่ยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนแคระสามารถจุดไฟได้ เอลฟ์อย่างกูนี่อึ้งไปเลย” บางทีผมก็อยากเอามีดจามหัวไอ้พี่ป๊อบสักที จะเถียงแม่งก็ขี้เกียจเพราะเถียงไปก็ไม่มีทางชนะแน่ๆ

     “แล้วพี่โก้ไปไหนครับเนี่ย”

     “ซื้อเหล้าอยู่”

     “อ้อ...” ผมพยักหน้าเบาๆแล้วคีบถ่านใส่ในเตาปิ้งต่อ “พี่ๆครับ” ผมพยายามทำเสียงอ่อนให้ดูเศร้าที่สุดเท่าที่จะทำได้

     “เหมือนพี่น่านเขาจะไม่ติวให้ผมเลยอ่ะ”

     “นิสัยมันก็เชี่ยแบบนี้แหละมึง ลูกคนหนู เอาแต่เมีย ไม่ค่อยสนใจคนอื่นหรอก”

     “เอาแต่ใจไหมไอ้แอล” พี่บาสพูดแก้ให้

     “แล้วพวกพี่ติวผมไม่ได้เหรอครับ ผมไม่รู้เรื่องพวกฟิสิกส์อะไรนั่นจริงๆนะพี่” ผมใช้ที่คีบเขี่ยถ่ายในเตาไปมาก่อนจะเงยหน้ามองพวกมันสามคน ไอ้พี่แอลคนแรก

     “อย่าว่ากูเห็นแก่ตัวเลยนะ แต่กูขี้เกียจว่ะ แถมกูติวให้คนอื่นไม่เป็นหรอกเว้ย ขนาดติวให้ตัวเองกูยังเอาไม่รอดเลย” ตัวช่วยกูหมดไปแล้วหนึ่ง

     “ไม่ต้องมองหน้ากูแบบนั้นไอ้ซน กูเป็นหนึ่งในบุคคลที่มึงไม่ควรจะให้ติวให้เด็ดขาด เพราะตอนปีหนึ่งกูได้ด๊อกฟิสิกส์มาเป็นเกรดสวยๆอยู่ในทรานสคริปส์เรียบร้อย” แล้วกูจะพึ่งใครได้วะเนี่ย

     “เดี๋ยวกูติวให้”

     “จริงดิพี่ป๊อบ”

     “เออจริงดิวะ กูไม่เคยโกหกใครอยู่แล้ว” ผมหันไปมองหน้าพวกพี่แอล พวกมันก็ได้พยัดเพยิดทำนองว่าให้ฟังพี่ป๊อบพูดให้จบ “ข้อแรกเลยมึงต้องรู้จักบุคคลที่ทำให้โลกนี้อยู่ยากก่อน อิพวกนักฟิสิกส์ทั้งหลาย”

     “ครับ”

     “คนแรกที่มึงควรรู้จักคือ เซอร์ไอแซค นิวตัน” ผมจำได้ว่าเซอร์ไอแซค นิวตันเป็นคนค้นพบแรงโน้มถ่วงของโลกโดยลูกแอปเปิ้ลอะไรสักอย่าง “มึงรู้ใช่ไหมว่านักวิทยาศาสตร์คนนี้ทำอะไร”

     “ครับรู้”
 
     “ก็อย่างที่มึงรู้ว่าเขาเป็นคนเหยียบดวงจันทร์คนแรกพร้อมกับไอน์สไตน์และลอร์ดโวลเดอมอร์” ผมนี่อึ้งไปเลย ตอนที่หันไปมองไอ้พี่บาสมันนั่งก้มหน้าเอามือกุมท้องแล้วขำฉิบหาย ส่วนไอ้พี่แอลแม่งแทบจะกลิ้งลงไปกับพื้น ไอ้เชี่ยพี่ป๊อบถ้ามึงไม่อยากติวกูขนาดนั้นมึงพูดบอกกับกูดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้

     “ผมว่า..ผมให้พี่โก้ติวให้ก็ได้ครับ”

     “มันไม่สอนให้มึงหรอก เชื่อกู ไอ้เชี่ยโก้ขอร้องยากยิ่งกว่าไอ้น่านอีก” ผมพยักหน้าอย่างปลงๆ ก่อนจะพยายามทำใจแต่เนิ่นๆว่าคงไม่มีใครติวให้ผมจริงๆ “อ่าวบ่าววีเชิญทางนี้เลยครับพี่บ่าว”

     “เชี่ยพี่แอล มึงพูดแบบนี้คือมึงอยากตายคาตีนกูใช่ไหม” ไอ้วีไม่พูดเปล่าเดินไปหยิบมีดที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาทำท่าจะจ้วงพี่แอลจริงๆ

     “โอ้ยยกูพูดเล่นครับน้องวีนัส กูขอโทษ กูผิดไปแล้ว” ไอ้พี่แอลยกมือไหว้ไอ้วีอย่างขอความเห็นใจ ส่วนผมไม่ได้สนใจพวกมันเท่าไหร่หรอกครับ มัวแต่มองหาแสนดีอยู่

     “วีแสนดีกูล่ะ”

     “อยู่ในบ้าน” ผมพยักหน้าเสร็จก็เดินเข้าไปตามแมวไอ้ซูทันที กลัวว่าแม่งไปเล่นซนอะไรแล้วเป็นอะไรขึ้นมาซวยกูอีก

     “แสนดี...อยู่ไหนวะ มึงนี่มันดื้อจริงๆ วันหลังกูจะขังมึงไว้ในกรงกับห้องมืดๆคอยดู” ผมทั้งเรียกทั้งหาตามใต้โต๊ะบนบ้าน หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ มีเหลืออยู่ห้องเดียวที่ผมไม่เข้าไปดูคือห้องที่ไอ้น่านมันอยู่ เอาวะมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่เห็นต้องกลัวแม่งเลย หน้าตาก็ธรรมดาปกติมนุษย์ทั่วไปกูจะกลัวมันทำไม

     “แสนดี เฮ้ย...มึงทำอะไรแมวกู” ตอนที่ผมเข้ามาในห้องครัวผมเห็นไอ้น่านฟ้านั่งอยู่กับพื้นในมือข้างนึงมีมีดส่วนอีกข้างอุ้มแสนดีอยู่

     “อะไรของมึง” ไอ้น่านทำหน้างงแล้วเอามีดที่อยู่ในมือไปวางไว้บนเคาเตอร์แล้วหันมาลูบหัวไอ้แสนดีอย่างเอ็นดู คิดว่าหลอกผมได้สินะ คิดว่าไอ้ท่าทางที่ดูเหมือนรักสัตว์แบบนั้นจะหลอกผมได้ ทั้งๆที่เมื่อกี้มันเกือบจะฆ่าแสนดีแล้วด้วยซ้ำ

     “กูไม่คิดเลยนะว่ามึงจะเลว” ออกเสียงเน้นคำว่าเลวมากหน่อย “ขนาดจะฆาตกรรมแมวในห้องครัวแบบนี้ จิตใจมึงทำด้วยอะไรวะ ทำไมมันช่างใจร้ายใจดำ เลือดเย็นอัมหิต ผิดมนุษย์มนาขนาดนี้ ไม่ชอบกูก็ไม่เห็นว่าจะต้องทำร้ายแมวกูเลยนี่” ดราม่าใส่แม่งเลย ตุ๊กตาทองคำไม่หนีหายจากกูแน่ๆ

     “โหไอ้เตี้ย”

     “อ่าว...” ไอ้เชี่ย

     “ได้ทีด่ากูใหญ่เลยนะสัส มันเข้ามาหากูเองเถอะ แล้วมีดเมื่อกี้มันกระโดดจะเข้ามาเล่นกูเลยดึงเอาไว้ก่อน ไม่รู้เรื่องอะไรอย่าคิดไปเองได้ป่ะวะ โง่ๆแบบมึงคงคิดได้แต่เรื่องแบบนี้สินะ”

     “ก็...ก็ใครจะไปรู้ล่ะวะเห็นในมือมีแมวกับมีดนี่หว่า”

     “ไม่รู้ก็ถามดิไม่ใช่เข้ามาตีโพยตีพายแบบนั้น แล้วนี่แมวมึงรึไง”

     “ใช่ดิ” ไอ้น่านทำสายตาแบบไม่เชื่อผมเกินร้อยเปอร์เซ็นต์

     “ไม่เชื่องั้นเหรอ เดี๋ยวผมเรียกมันให้ดู แสนดี...แสนดีมานี่มะ” ผมนั่งยองๆแล้วตบมือเรียกแสนดีให้เดินมาหาผม แต่เชื่อไหมมันหันมามองผมแว่บนึงแล้วหันหน้าหนีเฉยเลย เชี่ยยยย นี่กูเป็นเจ้าของมึงนะแสนดี ไม่ใช่ไอ้น่าน

     “แสนดีมานี่” เสียงผมเริ่มออกแนวดุมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม แมวบ้าอะไรไม่เชื่อฟังเจ้าของแถมยังทำท่านัวเนียไอ้น่านเสียจนผมรู้สึกหมั่นไส้ กูรู้ว่ามึงเป็นแมวตัวเมียแสนดี แต่มึงไม่ต้องออกอาการมากขนาดนั้นก็ได้ไหม

     “แสนดีเร็วมานี่เดี๋ยวซื้อขนมให้กิน เร็วเข้า”

     “เมี้ยว” กูรู้นะว่ามึงได้ยินน่ะแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินใช่ไหม ผมหมดความอดทนแล้วครับสุดท้ายเลยไปนั่งยองๆหน้าไอ้น่านที่อุ้มแสนดีอยู่แล้วผลักหัวไอ้แสนดีอย่างแรง

     “แรดเชียวนะมึง ได้ยินกูเรียกแท้ๆแต่ทำเป็นไม่ได้ใช่ไหม ห้ะ” ผมเขกไปที่หัวไอ้แสนดีอีกรอบ

     “เมี้ยว”

     “ไม่ต้องมาร้อง แมวอ้วน กูเป็นเจ้าของมึงนะเว้ย บ้านที่มึงอยู่ก็บ้านกู พอกูเรียกนิดเรียกหน่อยทำเป็นหันหน้าหนี คอยดูกูจะเอามึงไปทิ้งวัด” ผมตบหัวมันไปอีกที

     “มึงนี่มันนิสัยเสียว่ะเตี้ย” ไอ้น่านดึงมึงผมออกจากไอ้แสนดีที่อยู่บนตักมันแล้วยื้อไว้ไม่ให้ผมทำร้ายไอ้แสนดีต่อ “มันยังเล็กอยู่มันจะไปรู้อะไรวะ”

     “เล็กอะไร ตัวอ้วนขนาดนี้” ผมยื้อมือตัวเองกลับแล้วทำท่าจะตบหัวไอ้แสนดีอีก

     “หยุด”

     “อะไร มึงอย่าเสือกได้ป่ะ นี่มันแมวกู” ผมคว่ำปากมองหน้าไอ้น่านอย่างเต็มตาครั้งแรก น่านฟ้าเป็นผู้ชายที่ผู้ชายอย่างผมยังมองว่าโคตรหล่อ จมูกของมันโด่งจนแทบจะแทงตาผมอยู่รอมร่อ อดไม่ได้ที่จะคิดถึงจมูกตัวเองที่ถึงมีมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เยอะเท่ามัน

     “แต่มึงก็ไม่ควรแกล้งมันแบบนี้ มันเจ็บ” ผมทำตาปริบๆมองหน้าไอ้น่านที่ใช้มืออีกข้างลูบหัวแสนดีอย่างปลอบๆ อย่าบอกนะว่าแผนสำรองที่ไอ้วีพูดว่าให้ผมพาแสนดีมาด้วยคือ.........






     มันบ้าแมว





     กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก กูขำ หน้าตาแม่งโคตรแมนแต่ทำตัวมุ้งมิ้งรักแมวเนี่ยนะน่านฟ้า ผมขำพรืดออกมาทันทีก่อนจะขยับนั่งลงกับพื้นข้างๆไอ้น่าน

     “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

     “ขำอะไรของมึง”

     “มึงแม่งตลกว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ผมทุบแขนไอ้น่านไปหัวเราะไป ไม่เคยเจอเรื่องไหนตลกเท่าเรื่องนี้มาก่อนในชีวิตเลยครับ ตั้งแต่เกิดมาคิดว่ามีไอ้ซูคนเดียวที่มีความมุ้งมิ้งรักแมว แต่นี่ยังมีไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าผมอีกคนด้วย กร๊ากกกกกกก

     “ขำมากไหม”

     “มากอ่ะมึง ฮ่า ฮ่า”

     “นี่มึงคงอยากลงไปทัวร์นรกจริงๆสินะ” ไอ้น่านยกยิ้มมุมปาก แล้วกวาดตามองผมด้วยสายตาสุดสยอง พอเห็นมันทำหน้าแบบนั้นใส่ผมนี่รีบเงียบกริบทันทีที่ตัวเองจะทำได้เลยครับ

     “เอ่อ...”

     “.........”

     “ยังไงกูขอแมวกูคืนด้วย” ผมเอื้อมมือจะไปอุ้มไอ้แสนดีคืน ไอ้แมวเวรก็ดีสมชื่อมันขยับมือหนีผมราวกับว่ากำลังเล่นเกมส์อะไรสักอย่าง “แสนดี”

     เสียงผมกดต่ำแล้วตบหัวมันไปอีกรอบ “ทำไมมึงมันดื้อแบบนี้วะ ใครสั่งใครสอนมึงให้เป็นคนแบบนี้แสนดี กูดีกับมึงขนาดไหน ช็อคโกแลตที่เหลือกูก็แบ่งให้มึงกินตลอดไม่ใช่หรือไง แต่มึงกลับทำกับกูแบบนี้เนี่ยนะ”

     “นี่มึงเอาช็อคโกแลตให้มันกินเหรอ”

     “ก็...ก็ใช่อ่ะ...ทำไมวะ”  ไอ้น่านหันมามองผมตาเขียวเลยครับ หลังจากนั้นไม่เกินนาทีมันตบหัวผมอย่างแรงเลยอ่ะ เจ็บนะเว้ย

      “ทำไมมึงนิสัยแย่แบบนี้ มึงรู้ไหมว่ามันกินไม่ได้”

      “เอ้า ใครจะไปรู้วะ กูยังกินได้เลย”

      “แต่นั่นแมว มันกินไม่ได้”

      “เออๆ กูจะจำไว้ล่ะกัน ส่งมันมาให้กูได้ยังเนี่ย แสนดีมึงจะให้กูอุ้มดีๆไหมห้ะ” ต้องให้ขู่ตลอด พอผมขู่แสนดีก็ยอมให้ผมอุ้มดีๆ แอบเห็นแว่บนึงนะครับว่าไอ้น่านมองแมวในมือผมด้วยสายตาเสียดาย

     

     โอ้ยยยยยกูอยากจะขำให้ฟันร่วง ผมอุ้มไอ้แสนดีแล้วลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินออกจากห้องครัวไป



     “มึง.....” ใครชื่อมึงวะ ที่แน่ๆไม่ใช่ผมอ่ะ

     “......”

     “มึงได้ยินไหมเนี่ยกูเรียกมึงเนี่ย”

     “ก็กูไม่ได้ชื่อมึง”

     “ชื่อไรล่ะ”

     “ซน” ผมบอกชื่อมันแค่นั้นแล้วหันหลังหนีมันอีกรอบ

     “........”

     “เออ!!!!” เออเชี่ยไร จู่ๆก็ตะโกนเออเสียงดัง อีแสนดีสะดุ้งโหยงเลยมึงเห็นไหม “กูยอมติวให้มึงก็ได้ แต่....”

     “ได้ดิพี่น่าน ผมจะยอมเอาแสนดีมาให้พี่เล่นด้วยทุกวันเลย” ผมหันมายักคิ้วลิ่วตาใส่มันอย่างล้อๆ กูรู้หรอกว่ามึงบ้าแมวน่ะไอ้น่านนน




>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC

สั้นไปเปล่าอ่ะ
ขอบคุณค้า เจอกันเสาร์หน้านะ
แต่งไปแต่งมานี่จะชอบคู่รองมากกว่าอีก

@Applej ขอบคุณนะคะ เบลอๆหน่อยแก้ไปแก้มันขึ้นไปอยู่รีเพลได้ไงไม่รู้ ขอบคุณมากๆค้า  :mew1: :mew1: :mew1:
 
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . 'ซ น' + + + ตอนที่ 4 [1-02-15]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-02-2015 12:04:53
พี่น่านมุ้งมิ้ง. :-[ :-[

ผู้ชายบ้าแมว~ น่าร้ากกกก. :impress2:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . 'ซ น' + + + ตอนที่ 4 [1-02-15]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-02-2015 12:13:22
 :katai2-1:  ชอบพี่น่านเพราะพี่น่านกำลีงจะเป็นทาสแมว

เรื่องช็อกโกแลตนี่ต้องจำให้ขึ้นใจเลยนะ
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . 'ซ น' + + + ตอนที่ 4 [1-02-15]
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 01-02-2015 12:38:42
น้องซน อย่าใจร้ายกับแสนดีมากนักสิ อย่างนี้แหละแสนดีถึงไม่อยากเข้าใกล้  :m16:
เราก็พวกบ้าแมว เข้าใจหัวอกพี่น่าน ตอนนี้ชอบที่น่านมากเลย น่ารักอ่ะ  :o8:
ชอบพี่ป๊อปมากเลยอ่ะ พี่แกไม่เหมือนใครจริง ๆ บุคคลหายากแห่งปีนะเนี่ย  :laugh:
ซูกับวีเจอกันแล้ว เป็นยังไงน้อ รักฝังใจของซูน่าสงสารจัง หาคู่ให้ซูหน่อย
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . 'ซ น' + + + ตอนที่ 4 [1-02-15]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-02-2015 13:25:18
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 4 ชีวิตแค่โดนทำร้าย 9-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 09-02-2015 23:00:03
Because of you ซน ตอนที่ 4 ชีวิตแค่โดนทำร้าย...

 

 

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้จักน่านฟ้าเพิ่มขึ้นไปอีกคือมันเป็นผู้ชายที่โคตรมุ้งมิ้งเวลาอยู่กับแมว แม่งเรียกอีแสนดีว่าลูกอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าไงครับคนดีอยากกินอะไรเอ่ย นู่นนี่นั่น อีแสนดีก็เหลือเกินครับ ออเซาะเขา เอาหางเอาหัวเอาตัวเข้าแลก เห็นเขาทำดีเข้าหน่อยก็ลืมเลยว่ามีผมเป็นเจ้าของ แล้วเชื่อไหมครับพอไม่มีแมวอยู่ใกล้ ไอ้น่านมันทำให้ผมรู้ว่าจักคำว่าเชี่ยเพิ่มมากขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ

 

“มึงนี่มันเกินมนุษย์จริงๆว่ะ” ไอ้น่านพูดเสร็จก็เลื่อนเอาแบบฝึกหัดที่ผมทำเมื่อกี้ส่งไปให้พวกเพื่อนๆมันดู  หลังจากที่ตกลงปลงใจทำสัญญากันเป็นลายลักษณ์อักษรโดยมีพวกเพื่อนๆมันเป็นพยานว่าต่อจากนี้มันจะติวหนังสือให้ผมเสร็จ พวกพี่แอลก็ขนเหล้า ขนม กับเนื้อไหม้ๆเข้ามากินในห้องรับแขกแทน เพราะฝนที่ตกโดยไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดอยู่ด้านนอกแหละครับ
 
“ก็มันยังไม่พร้อม” ผมแถไปก่อนเพราะผมไม่พร้อมจริงๆนี่หว่า จู่ๆไอ้วีไม่รู้นึกครึ้มอะไรขึ้นมาไปขุดซากอารยะธรรมหนังสือเตรียมแอดมิดชั่นในห้องเก็บของมาให้ผมลองนั่งพรีเทสเล่นๆดูก่อน แล้วก็เป็นอย่างที่ได้ยินข้างต้นที่ไอ้น่านมันบอกผมเป็นยอดมนุษย์ (จริงๆคือเกินมนุษย์)

 “ได้ศูนย์เต็มยี่สิบ มึงทำได้ไง กูแม่งเหลือเชื่อกับคนอย่างมึงจริงๆว่ะซน” มึงจะว่ากูเก่งก็พูดมาเถอะวี ไม่ต้องมาอ้อมค้อม

 “ปกติคนทั่วไปเขามีช้อยส์ให้เลือกกามั่วตั้ง 4 ข้อ มันต้องมีเดาถูกอย่างน้อยก็สักข้อสองข้อ แต่มึงได้ศูนย์สุดยอดจริงๆว่ะ มึงแม่งเหนือมนุษย์อย่างที่ไอ้น่านมันพูดจริงนั่นแหละ แม่งมั่วได้ศูนย์ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเท่านี้กูยังทำแบบมึงไม่ได้เลยซน” พี่แอลพูดเสริมพร้อมกับตบบ่าผมแปะๆอย่างชอบใจ

 “กูไม่เคยคิดมาก่อนว่ากูต้องมาสอนคนโง่ๆแบบมัน”  นี่ถ้าลุกขึ้นไปต่อยหน้าแล้วด่าพ่อมันได้ผมคงทำไปแล้ว แต่ไม่อยากทำก็ตรงที่มันเป็นรุ่นพี่เพื่อนผม ไม่ใช่ว่ากลัวตรงที่มันตัวใหญ่กว่าหรอกนะครับ ผมก็แค่เกรงใจเพื่อน

 “หัดแดกปลาบ้างเหอะ สมองอ่ะ แบบฝึกหัดที่มึงทำเมื่อกี้ เด็กม.ต้นเขายังรู้เลย” ม.ต้นมันก็ส่วนม.ต้นดิ กูเรียนสายอาชีพนะเว้ย  เรื่องสูตรอะไรพวกนี้แทบจะไม่ได้แตะเลย เพราะส่วนใหญ่ก็เน้นหน้างานซะมากกว่า แล้วสูตรพวกห่านี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในชีวิตประจำวันจบไปทำงานมันได้เอาไปใช้จริงๆหรือเปล่า

 “เอาน่ามึง อย่าไปว่าน้องมันมาก มันไม่เคยเรียนเหมือนเรา ยังไงก็คงต้องเริ่มตั้งแต่แรก” พี่ป๊อบแม่งเป็นคนดี เข้าใจมนุษย์โลกอย่างผมโคตรๆอ่ะ “แล้วถ้าสอนไปมันยังไม่ได้อีกก็แสดงว่ามันโง่จริงๆ เรื่องนี้มึงก็ต้องยอมรับนะซนว่ามึงแม่งโง่ สมองมึงที่คิดว่าเป็นรอยหยักอยู่ตอนนี้บางทีอาจจะเป็นแค่ขี้เลื้อย” ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนคบกับไอ้พวกเชี่ยได้อีกนานแค่ไหน ด่าผมไม่พอยังมีหน้ามาหัวเราะคิกคักในความโง่ของผมอีก เออใช่สิ อย่าให้กูฉลาดบ้างก็แล้วกัน

 “ก็มันยังไม่พร้อมนี่หว่า” หลังจากที่ไอ้น่านไล่ประจานความโง่ของผมให้เพื่อนมันฟังเสร็จ มันก็หันไปเล่นกับอิแสนดีต่อ เห็นแล้วอยากจะอ้วกครับ นี่ถ้าผมเอาแสนดีไปฆ่าหมกป่ามันคงทรมานน่าดู แต่คนที่จะทรมานมากกว่าและอาจจะฆ่าผมตามแสนดีไปคือไอ้วีกับไอ้ซูแน่นอน คิดๆดูแล้วผมน่าจะลองหาจุดอ่อนของไอ้น่านบ้างดีกว่า เผื่อวันไหนมันด่าผมว่าโง่ผมจะได้เรื่องของมันมาล้อมั้ง ให้มันด่าอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้รู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย จะด่ากลับแม่งก็ไม่ได้หลักฐานศูนย์เต็มยี่สิบขนาดนี้พูดแถไปมีแต่จะเข้าตัวเองเปล่าๆ

 
 

กึก

 

"เอ่อ..."  จู่ๆไอ้น่านมันก็เงยหน้าขึ้นมองผมซะงั้น ที่กูมองมึงไม่ได้หมายความว่ากูจะพิสวาสอะไรหรอกนะไอ้น่านกูแค่กำลังคิดวางแผนการณ์จะเอาคืนมึงเฉยๆ ไม่เห็นต้องจ้องอะไรกันขนาดนั้นเลยนี่หว่า "มะ...มึงชอบแมวงั้นเหรอ"
 


เอาวะรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ช่วงนี้ทำเป็นผูกมิตรกับแม่งไปก่อน ไหนจะต้องให้มันติวหนังสือให้ ไหนจะต้องสืบจุดอ่อนของมันอีก

 

"ก็ไม่ได้เกลียด" กูถามว่าชอบไหมไม่ได้ถามว่าเกลียดหรือเปล่า นี่มึงเบลออะไรหรือเปล่าวะน่านฟ้า
 
"แล้วที่บ้านมึงไม่เลี้ยงเหรอวะ"

"เปล่า"

"อ่าวแล้วทำไมไม่เลี้ยงอ่ะ โง่เหรอหรือว่าอะไร"



ไม่ได้ตั้งใจด่านะแต่แบบ....กูด่ามึงตรงๆเลย ฮาาาา

 

"โอ้ย!!!เจ็บ ตีหัวไมง่ะ ก็แค่ถามเฉยๆเอง ผูกมิตรกันไว้ก่อนไง ไหนๆก็จะต้องมาติวหนังสือให้กูแล้วมึงก็เลิกทำหน้าเหม็นขี้ใส่กูสักทีเถอะวะ นี่กูยอมแพ้มึงแล้วนะเนี่ย" ผมเบะปากแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นราวกับคนที่ยอมแพ้ ก่อนจะเอื้อมมือไปดีดหัวไอ้แสนดีทีนึง เห็นมันทำท่าออเซาะไอ้น่านแล้วหมั่นไส้ครับ พูดก็พูดเถอะจริงๆแล้วแสนดีมันเป็นแมวที่น่ารักมากๆ ใครที่เป็นทาสแมวเหมือนไอ้น่านคงหนีไม่พ้นจะอุ้มจะกอดจะเล่นกับมันทั้งวันอ่ะ ยิ่งเวลาที่แสนดีอยู่กับคนที่มันรู้ว่าเขารักมันนะ โอ้ยอย่าให้พูด คลอเคลียจนเขาอยากจะลักตัวมันกลับบ้านนั่นแหละครับ แต่กลับผมนั่นเหรอ เหอะ อยู่ด้วยกันไม่เกิน 5 นาทีหรอกครับจะฆ่ากันตายก่อน

"จะผูกมิตรกับกูก็พูดจาให้มันดีๆหน่อยเหอะ ให้รู้จักซะมั้งใครพี่ใครน้อง" ไอ้น่านพูดเสร็จก็เอามือมันมาดีดหน้าผากผมเหมือนอย่างที่ผมทำกับไอ้แสนดีเมื่อกี้เป๊ะ!!

"เจ็บนะ"

"จะได้รู้ไงว่าที่มึงทำกับแสนดีมันเจ็บแค่ไหน” กูไม่ได้ดีดแรงเหมือนที่มึงดีดกูแบบเมื่อกี้สักหน่อย ผมลูบหน้าผากตัวเองปอยๆแล้วหยิบแก้วเหล้าของทั้งผมแล้วก็ของมันส่งไปให้พี่โก้มือชงอันดับหนึ่งของวงการ


 “พี่โก้ของผมขอเข้มอีกนิดนะพี่ ที่พี่ชงมาตะกี้ผมคิดว่าชงให้เด็กอนุบาล”

“แหมมม...มึงจะเพียวเลยไหมล่ะซน”

“โหยพี่...ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นเงินพวกพี่นี้ผมจัดแล้ว แต่ติดตรงที่ผมมีสมบัติผู้ดีอยู่เนี่ยดิ อิอิ” ไอ้พี่โก้ส่ายหน้าแบบระอาก่อนจะส่งแก้วเหล้าทั้งสองกลับมาให้ผม ส่วนผมก็ยื่นต่อไปให้คนข้างๆที่มือนึงนั่งเล่นแมว ส่วนอีกมือกำลังตอบไลน์ที่วางอยู่บนตัก เห็นเด้งเอาๆ สงสัยสาวจะเยอะ

 “แหมไอ้ซนถ้ามึงมีสมบัติผู้ดีจริงๆมึงคงไม่มานั่งแดกของฟรีแบบนี้หรอก คงช่วยค่าเหล้ากูแล้ว” เชี่ยพี่ป๊อบมึงจะมาพูดให้กูรู้สึก....เฉยๆ ทำไมวะ โทษทีนะกูหน้าด้าน กร๊ากกกก พูดให้กูรู้สึกผิดเหรอ ไม่มีทางซะหรอก

 “โหวพี่ป๊อบพูดแบบนี้ผมรู้สึกเลยอ่ะ”

“รู้สึกผิด”พี่แอลถาม

“รู้สึกเฉยๆอ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

 




โป๊ก โป๊ก โป๊ก

 

“มึงนี่มันเกรียนจริงๆว่ะ” ด่าเฉยๆก็ได้นี่หว่าทำไมต้องรุมตบหัวกูขนาดนั้นด้วยวะเนี่ย

 








พวกผมกับรุ่นพี่ไอ้วีนั่งกินเหล้ากันนานมากครับ พวกนี้แม่งกินกันอย่างกับน้ำเปล่า ไม่รู้ตายอดตายอยากมาจากไหน ขนาดกินกันไปตั้งหลายกลมแล้วยังไม่มีที่ท่าว่าจะเมาสักคน มีก็แต่ผมนี่แหละที่ที่รู้สึกกึ่มๆอยู่คนเดียว ส่วนไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆผมเมื่อกี้พอแสนดีหลับมันก็ถือแก้วเหล้าเดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก ได้ยินไอ้พี่ป๊อบ(ที่พูดกับทุกคนในวงว่าตัวเองไม่ใช่คนขี้เสือกแต่แค่รู้ว่าคนที่ไอ้น่านคุยเป็นดาวมนุษย์ปีหนึ่งชื่อฝ้ายหุ่นนี่ไม่ต้องพูดถึงใครเห็นก็ต้อง...โอ้ววววว) มันทำเสียงแบบนี้จริงๆ ผมสาบานต่อหน้าเบนสองแปดห้าเลยให้ตาย
 

“นินทาใครอยู่วะ”

“ไอ้เชี่ยบาสมึงก็บอกเขาไปดิว่ามึงนินทาไอ้น่าน เชื่อไหมน่านเมื่อกี้กูห้ามมันแล้วนะเว้ยว่าอย่านินทาเพื่อน พวกนี้แม่งนิสัย รู้ไหมมันกำลังพูดถึงน้องฝ้ายดาวปีหนึ่งกิ๊กคนล่าสัสของมึง”

“สุด”

“ขอบคุณเพื่อนแอลที่ช่วยแก้” พี่ป๊อบหันไปแท๊กมือกับไอ้พี่แอลเสร็จก็หันมาพูดต่อ “แล้วกูก็พยายามพูดบอกไอ้บาสกับไอ้โก้แล้วนะเว้ยว่าเรื่องของเพื่อนอย่าเอามาพูดในที่ลับ”

“ให้พูดต่อหน้าแม่งเลยใช่ป่ะ”

“ถูกครับเพื่อน พูดดีแบบนี้เอาปาปิก้าไปแกะใส่จาน” ไอ้พี่ป๊อบพูดเสร็จก็ยื่นปาปิก้าส่งให้ไอ้น่านจริงๆ ไอ้น่านก็ดูเป็นคนรักเพื่อนนะครับเขายื่นมาแม่งก็เดินเอาไปแกะใส่จานจริงๆ เออดูๆไปมันก็เป็นพวกอาร์ตดีเหมือนกันนะ แต่ตอนนี้ผมแท่งไม่ไหวแล้ววะปวดเยี่ยว แต่จำไม่ได้ว่าห้องน้ำบ้านไอ้วีอยู่ทางไหน


“วี...ปวดฉี่” ผมยู่ปากแล้วหันหน้าไปมองไอ้วีที่แทบจะขึ้นไปนั่งบนตักไอ้บาสอยู่แล้ว พอมันเห็นผมมองมันก็ขยับนั่งแบบปกติ แปลกๆแต่ไม่กล้าถาม

“มึงเมาแล้วใช่ไหมเนี่ย”

“ยัง..แต่กู...กูจำห้องน้ำบ้านมึงไม่ได้”

“เชี่ย...แบบนี้เมาชัวร์...บาสมึงปล่อยกูก่อนได้ป่ะเดี๋ยวกูพาไอ้เตี้ยนี่ขึ้นไปนอนก่อน” กูไม่ได้เมากูแค่ปวดฉี่มึงฟังภาษาคนเข้าใจไหมเนี่ย

“ปวดฉี่..วีกูปวดฉี่”

“เดี๋ยวๆ แป๊บนึง บาสปล่อยก่อนได้ไหมเล่า...” ไอ้วีหันไปตีพี่บาสอย่างแรง แต่ไอ้พี่บาสแม่งก็ยังไม่ปล่อยมือไอ้วี ผมเห็นแล้วมันรู้สึกหงุดหงิดยังไงไม่รู้ว่ะ

“ทำไมมึงกับพี่บาสต้องทำตัวแปลกๆใส่กันแบบนั้นด้วยวะ จริงๆแล้วรุ่นพี่รุ่นน้องกันมันต้องจับมือถือแขนทำตัวมุ้งมิ้งใส่กันแบบนี้ด้วยเหรอ”

“ทำไมวะ หรือว่ามึง...รับไม่ได้” เสียงไอ้วีดูเศร้าแปลกๆ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้จับใจความฟังน้ำเสียงมันมากนัก

“มันก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น แค่มันดู....หยึยๆแปลกๆ มึงสองคนเป็นกะ...อื้อ” ก่อนที่ผมจะพูดอะไรจบไอ้น่านก็ยื่นมือมันอุดปากผมไว้ได้ก่อน หลังจากนั้นมันก็ลากผมขึ้นมาจนถึงห้องนอนสักห้อง แม่งรู้ดีเหลือเกินสงสัยพาสาวมาซั่มที่บ้านไอ้วีบ่อยแหงๆ

“อะไรของมึง” น้ำเสียงผมไม่ได้เมาไปใช่ไหม “พากูมาทำไมเนี่ย”

“มึงนั่นแหละอะไรของมึง จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอกูก็จะพามาเข้านี่ไง” ไอ้น่านใช้มือข้างนึงบีบปากผมให้อ้าก่อนจะหยิกแก้มผมโคตรแรง นี่มึงเอ็นดูกูมากไปไหมวะ (แม่ผมบอกว่าเวลาที่ใครหยิกแก้มแสดงว่าเขาเอ็นดู แต่สำหรับไอ้น่านผมว่าไม่น่าจะใช่) “แล้วเมื่อกี้มึงไปพูดแบบนั้นกับไอ้วีได้ไงวะ”

“ก็สงสัยนี่หว่าว่ามันเป็นเกย์หรือเปล่า ถ้าเป็นก็บอกว่าเป็นดิจะปิดทำไม” ผมเดินโซซัดโซเซเข้ามาในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนอีกที ส่วนไอ้น่านก็เดินตามเข้ามาก่อนจะยืนกันทางออกเหมือนรอจะพูดอะไรสักอย่าง มึงให้กูเยี่ยวก่อนได้ไหมวะแล้วค่อยมายืนจ้องเนี่ย แม่งยืนจ้องแบบนี้ใครมันจะไปปล่อยลงได้วะ

“แล้วที่มึงพูดว่าหยึยๆคืออะไร”

“หยึยๆก็คือหยึยๆไง มึงไม่เข้าใจเหรอว่ามันดูหยึยอ่ะ” ผมยักไหล่แล้วทำท่าขนลุกใส่ไอ้น่าน ก่อนจะกอดอกเอาหลังพิงขอบอ่างล้างหน้ายืนมองมันที่ยังยืนอยู่ตรงหน้าประตู

“มึงนี่มัน...”

“กูทำไม...”

“ก็ไอ้หยึยๆของมึงกับไอ้ท่าทีน่ารังเกียจแบบนั้นไง มึงรู้ไหมว่ามันไม่โอเค ตัวก็เตี้ย สมองก็น้อย นิสัยแม่งยังจะมาเสียอีก ทำเป็นพูดดูถูกคนอื่น ทั้งๆที่เรื่องเซ็กส์มึงเองยังไม่รู้เรื่องเลยไม่ใช่หรือไง” เกี่ยวอะไรกับเรื่องเซ็กส์วะ “แฟนเคยมีหรือยังเถอะ” ผมอ้าปากพะงาบๆจะพูดเถียงกับไอ้คนตรงหน้าแต่สุดท้ายก็งับปาก นับ 1 2 3 ในใจ

 

“มึงนั่นแหละที่ไม่น่าจะรู้เรื่อง ถามจริงชักว่าวเป็นหรือเปล่า” ไม่รู้ว่าผมเอาความกล้าบ้าบิ่นมาจากไหน อาจจะเป็นเหล้าที่อยู่ในกระแสเลือดมั้ง ผมถึงกล้าพูดกับมันแบบนั้น ทั้งๆที่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ควรจะพูดสักนิด


“เมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะ”

 
“กูพูดว่ามึงชักว่าวไม่เป็น...”ไม่พูดท้าท้ายเปล่าด้วยนะคนอย่างผม ยักคิ้วให้แม่งไปด้วย ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าหลังจากนี้จะโดนอะไร

 
“มึงลองพูดใหม่ดูดิ”










"ใหม่"

"มึงนี่แม่ง......." คำพูดสุดท้ายที่ผมได้ยินจากมันคือประโยคเมื่อกี้ เพราะรู้ตัวอีกที หลังผมแม่งก็ชิดกับกระจกพร้อมกับริมฝีปากอมส้มที่ประกบลงบนปากผมทันที ลมหายใจที่คลุ้งเคล้าไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นทั้งผมกับมันได้ดีที่สุด

 

 



เสียงคราง

 




 

กลิ่นเหงื่อ

 




 

กับภาพตัวเองที่สะท้อนผ่านเงากระจก

 

 

 

ทั้งๆที่มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ผมควรจะขัดขืนแต่ผมกลับเดินตามมันออกมาต่อที่เตียงอีกรอบ

 

 

 

 

ความบ้าบิ่นกับคำพูดเพียงคำเดียว ทำให้ผมรู้จักกับสัมผัสแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก

 

 

 

มันทำให้ผมยอมนอนใต้ตัวมันแล้วร้องครางจนสุดเสียง แปลกตรงที่ผมยอมมัน

 

 

 

แต่ที่แปลกมากไปกว่านั้นคือการที่ผมตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึก.......

 

 

 

 

 

เจ็บ

 

 

 

 

 

เจ็บเชี่ยๆเลยโว้ยยยยยยยย

 

 

 

 

 

 

เชื่อไหมตอนที่ผมตื่นขึ้นมามองตัวเองในกระจก ผมคิดว่าตัวเองเป็นโรคห่าอะไรสักอย่างเพราะลายพร้อยจุดสีแดงตามตัวนี่แหละ ช่วงความคิดหนึ่งผมคิดว่าตัวเองเป็นเอดส์ด้วยซ้ำ เพราะตอนทำครั้งแรกไอ้น่านแม่งไม่ใส่ถุงด้วย เกลียดแม่งจริงๆ กูแค่แซวนิดๆหน่อยๆว่าชักว่าวไม่เป็นทำไมต้องมาแกล้งชักให้กูทั้งคืนด้วยก็ไม่รู้

 

ถึงมันจะรู้สึก....ดีมากๆ(ในตอนนั้นก็เถอะ) แต่ตอนนี้ไม่ดีอ่ะ เจ็บ จะลุกจะขยับแต่ล่ะทีเรียกได้ว่าสะโพกครากดีกว่า

 

ผมเดินจากห้องน้ำมาหาไอ้ตัวต้นเหตุซึ่งกูขอปัดความรับผิดชอบไปให้ไอ้คนที่นอนหลับเอาหน้าซุกหมอนอยู่ ใช่ต้นเหตุใหญ่อาจจะเป็นผมที่ไปทำปากดีด่ามันว่าชักว่าวไม่เป็น แต่มันก็ผิดที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เพราะฉะนั้นถึงผมจะเป็นผู้ชาย ไม่เสียหายอะไรก็ตาม แต่การที่มันทำแบบนี้กับผม มันต้องรับผิดชอบ

 

“มึง” ผมเอาเท้าเขี่ยๆมันที่ยังนอนหลับอยู่

 

“อื้อ”

 

 

“อื้อพ่อง ตื่นเลย ตื่นขึ้นมารับรู้การกระทำอันทารุณที่มึงทำต่อกูเดี๋ยวนี้เลย เชี่ยน่าน กูจะเอาค่าเสียหายสิบล้านเอามากองตรงหน้า แล้วกูจะให้อภัยมึง"

 

 

“โอ้ยยย”

 

 

“โอ้ยเชี่ยไรล่ะ คนที่จะโอ้ยมันควรจะเป็นกูไหม กระแทกไม่ยั้งขนาดนั้นกูสิ กูต้องโอ้ยไม่ใช่มึง ตื่นเลยเชี่ยน่าน ตื่นขึ้นมารับผิดชอบความจังไรที่มึงได้ทำกับกูเดี๋ยวนี้”

 

 

>>>TBC<<<

ถือซะว่าเป็นน้ำจิ้มล่ะกันนะคะ

น้องซนเป็นคนที่คิดไม่เหมือนคนอื่น น้องเป็นตัวของตัวเอง
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 4 ชีวิตแค่โดนทำร้าย 9-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-02-2015 23:20:30
เดี๊ยวววววว! นี่มันคืออัลไล.(ชูมือ) คุณคนเขียนกรอกลับได้ไหมคะ.คือแบบ.เขายังไม่ได้ซื้ดดด~ เลยง่ะ. :haun4: :haun4: งืมๆ. :ling1: :freeze: :freeze:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 4 ชีวิตแค่โดนทำร้าย 9-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-02-2015 12:51:36
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 4 ชีวิตแค่โดนทำร้าย 9-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-02-2015 12:57:39
 :o12:  น้องซนถ้าถีบไหวถีบอิพี่น่านให้ตกเตียงเลยค่ะ

แหมจุดติดง่ายเหลือเกิน ท้านิดท้าหน่อยเลยเถิดไปถึงนู่น
ขอปุ่มรีไวด์กับพอสด้วยค่ะ อยากได้แบบช็อตต่อช็อต
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 5 รับผิดชอบ 11-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 11-02-2015 23:16:41
Because of you...ซน  ตอนที่ 5 รับผิดชอบ




"เชี่ยน่าน กูบอกให้ลุกไงวะ" ผมใช้เท้าถีบไปที่ตัวไอ้น่านอีกที

มันงัวเงียลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง มือข้างนึงขยี้ศีรษะตัวเองอย่างหัวเสีย ก่อนจะส่งสายตาไม่พอใจนักมาที่ผม

ไม่พอใจก็เรื่องของมึงเลย กูแค่จะเรียกร้องในสิ่งที่กูควรจะได้

"อะไรของมึง ปลุกอะไรแต่เช้าวะ" 

"ก็...มึง”

“ทำไม”




“เอากู" ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่ต้องมีแล้วมั้งครับไอ้ความกระดากอายอะไรพวกนั้นเพราะสิ่งเหล่านั้นแม่งหมดไปกับถุงยางที่วางเกลื่อนห้องนานแล้ว

"แล้ว?"

"แล้วเชี่ยอะไรล่ะ รับผิดชอบมาดิ" ผมแบมือขอค่าเสียหาย

"จะให้รับผิดชอบอะไรวะ วินวินทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ มึงได้ กูได้ วินวิน...จบ"

"วินพ่อมึงสิ กูไม่เห็นได้มึงสักแอะ ให้กูเอามึงบ้างไหมล่ะจะได้จบแบบวินวินอย่างที่มึงพูด” น่านฟ้ามองผมด้วยสายตารับไม่ได้ก่อนจะยื่นมือมาตีหน้าผากผมอย่างแรง

“มึงนี่มันตลก อย่างมึงไม่หรอกตำแหน่งที่กูรับผิดชอบอยู่เนี่ย ทำเป็นซะทีไหน ตำแหน่งที่รับไปล่าสุดก็ดูออกจะชอบไม่ใช่เหรอ เห็นร้องครางสุดเสียงทำหน้าฟินฉิบหายขนาดนั้น”

“K”

“ก็ได้ไปแล้วไงจะเอาอะไรอีก หรือจะเอาอีกรอบ พี่ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ถ้าน้องขอมาพี่ก็ยินดีจัดให้” ผมเกลียดมันมากขึ้นก็ตรงนี้ ดูแต่ล่ะอย่างที่แม่งพูดดิครับ กวนตีนไม่พอหน้าตานี่เกินคำว่าจังไรไปไกลมากอ่ะ

“เอาเชี่ยอะไรล่ะ มึงข่มขืนกูนะเว้ย”

"ข่มขืนเนี่ยนะ"

"อื้อ" ผมพยักหน้าให้น่านฟ้าแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว แม่งหนาวฉิบหายก่อนหน้านี้ยังเหงื่อออกอยู่เลย

"มันจะเรียกว่าขมขืนได้ไงวะ ในเมื่อทุกท่าที่ทำกัน เราไม่ได้บังคับกันและกันเลยนะครับ ผมแค่บอกให้คุณว่าอ้าขาหน่อย คุณก็ทำ พอผมบอกให้คุณนอนคว่ำหน้าคุณก็...." ก่อนที่มันจะพูดจบน่านฟ้าเงียบไปแป๊บนึงแล้วพูดต่อด้วยเสียงโคตรจังไร “ทำตามอย่างว่าง่าย แถมกอดคอกูแล้วพูดว่าแรงกว่าน..นี้....”




"หยุด...เลย" ผมรีบเอามือปิดปากมันไว้ก่อนที่มันจะพูดเรื่องเมื่อกี้ออกมา "พูดบ้าอะไรวะ" เห็นผมเป็นคนเกรียนๆแบบนี้แต่เอาเข้าจริงผมก็อายเหมือนกันนะครับ ไม่ได้หน้าหนาหน้าทนจะพูดเรื่องแบบนี้ได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรแบบมัน


"ก็แค่พูดความจริง..."ไอ้น่านดึงมือผมออกจากปากมันเสร็จแทนที่จะปล่อยมือผมเลยก็ไม่ได้ปล่อย
มันดึงรั้งไว้แล้วกระตุกมือผมให้ขยับไปนั่งข้างๆมัน แล้วที่แทนที่ผมจะปฏิเสธมันนะครับ กลับคลานเข่าไปนั่งพิงหัวเตียงข้างๆมันเฉย นี่กูเป็นอะไรไปวะเนี่ย จริงๆกูต้องโวยวายมากกว่านี้หรือเปล่า "แล้วที่จะให้รับผิดชอบคือจะให้กูไปเป็นแฟนมึงเหรอ"

"ห้ะ??แฟน ต้องเป็นแฟนด้วยเหรอ นี่มึงคิดว่าตัวเองมีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอวะน่าน รับผิดชอบสำหรับกูก็คือเงินเท่านั้นเว้ย ค่าเสียหายน่ะเข้าใจไหม"

"จะเอาเท่าไหร่ ถ้าให้ประมินราคาจากสายตา 20 บาทแม่งจะถึงไหมเหอะ"

"มึงขำมากไหม กูจะเอาสิบล้าน เอามาเร็วๆ"ผมแบมือกระดิกนิ้วขอเงินจากน่านฟ้า มันหัวเราะหึในลำคอแล้วยกมือขึ้นขยี้หัวผมอย่างแรง

"มึงขำมากไหม คิดว่าตัวเตี้ยๆอย่างมึงมีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอวะ" ด่ากูเตี้ยไม่พอยังเลียนแบบประโยคคำพูดกูอีก "ถามจริง ให้ฟรีๆ เขายังจะเอาหรือเปล่าเหอะ"

"มึงก็เอามาแล้วล่ะกัน"

"เออว่ะ..."



"....."



"....." ความเงียบก่อตัวขึ้นมาระหว่างที่ผมกับมันจ้องหน้ากันอยู่ แล้วผมก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้พอจ้องหน้ามันมากๆ ความร้อนแม่งขึ้นหน้าทันที ก็ผมดันนึกไปถึงตอนที่กำลังมีอะไรกับมันเฉยเลย

ดีนะมันยังไม่สว่างมากไม่งั้นมันคงเห็นว่าตอนนี้หน้าผมโคตรจะแดงอ่ะ

"แล้ว...เจ็บไหม"

"อะไรเล่า"

"นั่นแหละ"

".........." ยังมีหน้ามาถามตอนผมร้องบอกให้พอแล้ว เจ็บแล้ว มันแม่งใส่ไม่ยั้งเลยเหอะ ที่งี้ล่ะมาถามทำบ้าอะไร

".........."



"เจ็บดิ..." ผมพูดเสียงอ่อน ถึงตอนที่ทำกันช่วงแรกจะเจ็บมากๆแต่พอทำไปสักพักความเสียวกลับมีมากกว่าซะงั้น  "เพราะงั้นมึงต้องจ่ายค่าเสียหายมาเลย"

"ตลกและกูไม่มีตังค์ ชีวิตนี้ยังเกาะพ่อแม่แดกอยู่เลยจะเอาเงินจากไหนไปให้มึงตั้ง 10 ล้าน เอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่เรื่องเงินกูยอมให้มึงหมด”

“ถ้าให้กูเอามึงคืน.....”

“และก็เรื่องนี้อีกเรื่อง” แล้วจะมาพูดให้ดูดีทำไมว่ายอมทุกอย่าง “เอางี้ กูรับปากว่าจะติวมึงให้สอบเข้ามหาลัยให้ได้”

“ถ้าไม่ได้ล่ะ”

“ก็แสดงว่ามึงโง่” มันพูดโดยไม่คิดไตร่ตรองส่วนหยักในสมองผมสักนิด

“โหวว น่านฟ้า มึงแม่งเอาเปรียบว่ะ เรื่องที่มึงจะติวให้กูมึงได้ผลประโยชน์อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ก็มึงจะให้กูเอาแสนดีมาติวด้วยทุกครั้งไม่ใช่หรือไง แม่งแค่อันนี้ก็ผลประโยชน์ส่วนตัวมึงล้วนๆ แล้วกูล่ะ..กูไม่ได้อะไรเลย”



“แล้วจะเอาอะไร...พอบอกให้มาเป็นแฟนก็ไม่ยอม” น่านฟ้าแม่งพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงวะ ก็บอกไปแล้วว่าตัวมันไม่ได้มีค่าขนาดนั้น


“.......”


“ที่เงียบนี่คิดด่ากูในใจสินะ มึงรู้ไหมว่ามึงโชคดีแค่ไหน เพราะปกติใครๆก็อยากเป็นแฟนกูทั้งนั้น มีมึงนั่นแหละปฏิเสธทำไมวะ น้อยครั้งนะเว้ยที่กูจะรู้สึกผิดแล้วขอคนที่นอนด้วยเป็นแฟนแบบนี้...รู้เปล่า...มึงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนเลยนะ..ที่ทำให้กูรู้สึกแบบนี้” ประโยคท้ายผมฟังไม่ค่อยถนัด เพราะไอ้น่านเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับผม

ตอนที่มันพูดมันก็เอื้อมมาจับแก้มแล้วลูบเบาๆราวกับทะนุถนอม ไอ้ผมเองพอเจอสัมผัสที่อ่อนโยนเข้าหน่อยก็เอียงคอตามสัมผัสนั้นทันที “มึงเหมือนแมว”





“กูมีแฟนแล้ว...”

“หน้าตาอย่างมึงมีแฟนด้วยเหรอวะ” ถ้าผมได้ยินไม่ผิดเสียงน่านฟ้าดูไม่อยากจะเชื่อนิดๆ กูผิดรึไงที่กูมีแฟนแล้วเนี่ย



คงไม่คิดสินะว่าผู้ชายหล่อๆอย่างผมจะมีแฟน เพราะส่วนใหญ่พวกหน้าตาแบบผมที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยมจะยังคงไว้ตัวรักษาความโสดกันสุดฤทธิ์ แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ผมอ่ะ

“หน้าตาอย่างกูนี่แหละที่มีแฟน แล้วกูก็รักแฟนกูมากด้วย”

"ใครเขาอยากรู้"

"อะไร"

“เปล่ากูแค่ถามว่าถ้าไม่ให้เป็นแฟนจะให้ทำอะไร เงินกูก็ไม่มีให้หรอกนะ ปกติคนอื่นเขาได้กันไม่เห็นต้องรับผิดชอบมากมายขนาดนี้”

“แต่กูไม่เหมือนคนพวกนั้นนี่หว่า ในเมื่อได้ผลประโยชน์แล้วก็ต้องยอมแลกในสิ่งที่คุ้มทุนที่สุดสิวะ” ผมเป็นคนแฟร์ๆไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบถึงกลางทางระหว่างที่ทำอะไรกันต่างคนก็ต่างได้คือมีความสุขทั้งคู่แต่พอทำเสร็จคนที่เจ็บคือผม “น่านฟ้า...มึงได้กูแล้วนะ...”

“รู้...”

“รับผิดชอบกูเลย”

“แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ”

“ตอนนี้ยังคิดไม่ออก”



“ก็เป็นซะแบบนี้ เอาเป็นว่าเรื่องรับผิดชอบรอให้มึงคิดออกก่อนแล้วค่อยบอกดีไหม” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดมัน

“แต่เหมือนกูจะเสียเปรียบเลย”

“ถ้างั้นเอางี้...ระหว่างที่รอมึงคิดให้ออกว่าจะให้กูรับผิดชอบอะไร...กูจะยอมเป็นเบ้มึงก็ได้” เฮ้ยพูดแบบนี้มันก็เข้าทางผมดิ เหมือนได้สองเด้งเลย  “กูจะติวหนังสือให้ ให้ ทำทุกอย่างให้ แต่นี้ไม่ใช่การรับผิดชอบ” ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะเรื่องรับผิดชอบขอคิดทบทวนอีกรอบว่าจะเอาอะไร “กูจะคิดซะว่ามันเป็นค่าจ้าง”




“ค่าจ้างสำหรับอะไรวะ”






“ก็สำหรับที่มึงจะยอมให้กูได้ทำเรื่องแบบเมื่อคืนนี้บ้างยังไงล่ะ...ดีไหม” ผมอ้าปากหวอทันทีที่ได้ยินข้อตกลงของมัน มึงคิดว่ากูเป็นตุ๊กตายางหยอดเหรียญหรือไงวะ คิดว่าพอหยอดเหรียญเสร็จก็เอากูได้งั้นดิ ผมเงียบเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่มันพูดแม่งจริงหรือล้อเล่น แต่สายตามันเหมือนคนไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิด

“ถ้ามึงยังจะเอากูต่อแบบนี้แล้วกูจะเรียกร้องให้มึงรับผิดชอบทำไมวะ”

“เอ้า!!!ก็ส่วนใหญ่คนเขาก็รับผิดชอบกันแค่ครั้งแรกไม่ใช่เหรอ ครั้งอื่นๆก็ถือว่าได้ผลประโยชน์รวมกันแล้ว”

“ผลประโยชน์รวมกันอะไร กูเจ็บคนเดียวทั้งนั้น มึงไม่ได้มาเป็นคนอยู่ข้างล่างเหมือนกูมึงจะรู้อะไร”

“แล้วที่มึงครางล่ะ”

“พอ...เลิกพูด” แม่งเลิกพูดเรื่องที่ผมครางด้วยสีหน้าแบบนี้สักทีเถอะวะ ผมก็อายเป็นนะครับ

“กูพูดจริง”

“น่านฟ้ากูบอกให้เงียบไงวะ”

“...........” มันยอมเงียบ ส่วนผมก็กำลังใช่ความคิด

“..........”

“ซน...”

“อะไร...”

“ยอมๆกูเถอะน่า”

“นี่มึงพูดจริงใช่ไหมเนี่ย”

“จริง”

“ทำไมวะ...หรือว่ามึงติดใจในลีลากู” ผมเอียงคอมองหน้าแล้วยักคิ้วล้อๆส่งไปให้น่านฟ้า มันยังไม่ได้พูดอะไรออกมาแค่ขยับเอาหน้ามาซุกซอกคอผม ริมฝีปากร้อนๆของมันไล้เกลี่ยเบาๆทั่วต้นคอจนผมรู้สึกขนลุกไปหมด







“ติดใจไหมเหรอ....หึ...มากๆเลยว่ะ”













ในเมื่อน่านฟ้ามันกล้าขอผมก็กล้าให้ เสียไปแล้วนี่ครับไม่มีอะไรจะเสียเพิ่มอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้เสียตอนนี้บอกเลยว่ายังก่อนเพราะตอนนี้ก้นผมยังระบมอยู่เลย


หลังจากที่ผมกับมันตกลงกันได้แล้ว ผมเลยบอกให้น่านฟ้าไปส่งผมที่บ้าน เพราะถ้าอยู่ต่อไอ้วีต้องรู้แน่ๆว่าผมกับรุ่นพี่มันได้กันแล้ว คิดดูล่ะกันครับว่ากะอีแค่เดินลงบันไดผมยังเดินด้วยถ้ายากอ่ะ ขัดฉิบหาย


“มึงแม่งเดินตลก”

“ก็เพราะใครล่ะ”

“เอาน่า..เดี๋ยวก็ชิน...” ผมเบ้ปากใส่มันแล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาเดินเกาะบันไดต่อ แม่งคิดดูเดินแต่ล่ะก้าวนี้ระบมไปถึงเครื่องในอ่ะ “ว่าก็ว่าเถอะทำไมมึงไม่นอนต่อที่นี้ล่ะ เย็นๆค่อยกลับก็ได้ ตัวมึงรุ่มๆเหมือนจะเป็นไข้ด้วย เดี๋ยวก็ตายก่อน”

อยู่ให้ไอ้วีกับแก๊งค์เกรียนมึงล้อเรื่องท่าเดินกูหรือไง และถึงกูจะไม่สบายตายกูก็จะไม่ขอนอนตายที่นี้ กูจะกลับไปนอนตายที่บ้านกู

“พูดมาก ตามหาอิแสนดีก่อนดิ๊ แม่งไปหลบอยู่ไหนไม่รู้ แสนดี...แสนดีมึงอยู่ไหนเนี่ย” ตอนที่ผมเดินลงมาถึงข้างล่างก็พยายามสอดส่องมองหาอิแสนดีแล้วนะครับ แต่ไร้ซึ่งวี่แววจริงๆ

“แสนดีมึงอยู่ไหนเนี่ย กูจะกลับบ้านแล้วนะ ไม่รอนะเว้ย” พูดขู่ไปงั้นเพราะถ้าไม่รอมันไอ้ซูเอาผมตายแน่

“แสนดีอยู่ไหนวะ”

“.......” เงียบ

“แสนดี อยู่ไหนครับ”

“เหมี้ยว” เชี่ยยยยยย พอกูเรียกเป็นสิบรอบไม่ขานตอบสักแอะ ไอ้น่านเรียกคำเดียวมึงนี่รีบเลยนะ คอยดูกูนะแสนดี ถ้ากูถึงบ้านเมื่อไหร่กูจะเอามึงไปขังในห้องมืด แสนดีวิ่งออกมาจากหลังโซฟาก่อนจะหยุดยืนใช้หางคลอเคลียอยู่ตรงหน้าไอ้น่าน รอให้น่านฟ้าอุ้ม ผมเบ้ปากใส่มันอย่างแรงก่อนจะตีหัวมันไปที

“แรดนะมึง”

“เหมี้ยว”

“ด่ากูสินะ ด่าไปเลยครับ เพราะยังไงมึงก็ต้องได้มานั่งตักกูอยู่ดี น่านส่งมันมาเดี๋ยวกูอุ้มเอง”

“มึงจะแกล้งอะไรมัน”

“กูจะแกล้งอะไรมันล่ะ มึงต้องขับรถไม่ใช่ไง เอามันมานี่” ให้มันมาเป็นลูกแมวในกำมือกูนี่ น่านฟ้าตอนแรกก็ทำท่าจะไม่ส่งมันมาให้ผมนะครับ แต่สุดท้ายก็ยอมส่งเพราะมันต้องไปขับรถ ส่วนแมวตัวดีก็ขัดขืนสุดอะไรสุด เชื่อไหมครับมันแทบจะทิ้งตัวเองลงพื้นเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในกำมือผม แต่ขอโทษนะครับน้องแสนดี พี่ชำนาญเรื่องนี้...มาอยู่ในมือกูซะ



แต่พอเอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้แกล้งมันอย่างที่อยากแกล้งหรอกครับ ได้แต่นั่งนิ่งๆเป็นตุ๊กตาหน้ารถคอยด่าไอ้น่านเวลาขึ้นลูกระนาด แม่งขึ้นเนินลงเนินแต่ล่ะทีระบมไปหมด ด่าแล้วก็ไม่ฟังนะครับยิ้มอย่างเดียว

“ปากมึงโคตรซีด ไหวป่ะวะ ไปนอนบ้านกูก่อนไหม ไม่มีใครอยู่”

“เขาไปไหนกันอ่ะ”

“ปกติกูก็อยู่คนเดียวอยู่แล้ว ครอบครับกูเขาอยู่ขอนแก่นกัน” ผมพยักหน้าหงึกราวกับเข้าใจในสิ่งที่มันพูดแต่จริงๆไม่ได้เข้าหัวสักนิด ผมไม่ชอบเวลาที่ตัวเองเป็นไข้ มันทำให้ผมรู้สึกเหนื่อย อ่อนแอ และก็ทำอะไรไม่ได้ไปหลายวัน ดังนั้นเวลาที่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวผมจะรีบกินยาดักไว้ก่อน แต่วันนี้ผมดันลืม “เอาไง ไปนอนบ้านกูก่อนเปล่า”

“เอางั้นก็ได้” พอบทจะเป็นเบ้ให้ก็เป็นซะสมจริงสุดๆเลยว่ะ จริงๆแล้วน่านฟ้ามันก็คงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหรอกมั้งครับ แค่เป็น
พวกที่มนุษยสัมพันธ์ไม่ดีกับคนที่ไม่รู้จัก แต่พอได้รู้จักกันก็เป็นคนที่ดี....







กึก กึก กึก






เชี่ย เชี่ยยยยยยยยย คนนึง


“เวลามึงขับถึงลูกระนาดรบกวนมึงขับเบาๆหน่อยได้ไหมวะ มึงคิดว่ารถมึงเป็นเบนซ์หรือไง คิดว่าโชกมึงแน่นขนาดนั้นเหรอ ห้ะ สงสารก้นกูบ้าง!!!” 





แม่งเอ๊ยกลับคำที่บอกว่ามันเป็นคนดีตอนนี้ทันไหมครับ






>>>TBC<<<
อยากอัพบ่อยๆ (ไม่รู้ว่ามันสั้นไปไหมหลังจากตอนนี้คงมาแบบยาวๆกว่านี้) นี่อยากเอาคู่รองมาให้คนอ่าน อ่านแล้ว
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบน้องซน ฝากไว้ในอ้อมใจอ้อมแขนอ้อมกายด้วยเน้อ
[/b]
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 5 รับผิดชอบ 11-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-02-2015 23:31:03
พี่น่านติดใจซนแล้วดิ๊~ :hao3: คู่รองมาก็ดีนะคะ. :mew1:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 5 รับผิดชอบ 11-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: Elleneza ที่ 11-02-2015 23:34:17
น้องซนเกรียนอ่ะ ไม่บ้าจริงคิดอย่างน้องซนไม่ได้น่ะเนี่ยยย!!
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 5 รับผิดชอบ 11-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-02-2015 02:50:44
สนุกมากกกกก ชอบๆๆๆ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 5 รับผิดชอบ 11-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 12-02-2015 06:33:48
สนุกและฮาดีมากครับ
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 5 รับผิดชอบ 11-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-02-2015 07:07:06
 :กอด1:  กอดน้องซน.  เค้าอยากเกาคางน้องซนบ้างอ่า
เอาเข้าจริงซนเกรียนกว่าแสนดีอีกนะ

ไม่รับเป็นแฟนไม่เป็นไร ตอนนี้รับทาสแมวที่ชื่อน่านไปใช้พลางๆก่อนนะซน.
จัดคู่รองมาเลยจ้า. ขอบคุณ  :mew1: 
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + ตอนที่ 5 รับผิดชอบ 11-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 12-02-2015 07:41:35
ซนเกรียนๆๆๆๆๆๆ

อ่านไปฮาไป555
หัวข้อ: Re: + + +B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น ' + + + special intro by วีนัส 15-02-15
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 15-02-2015 11:51:14
Because of you ซน special intro by VENUS



อื้ออออ


ผมปัดอะไรสักอย่างที่กำลังคลอเคลียใบหน้าผมออก แต่ยิ่งปัดออกมันก็ยิ่งหนักขึ้น ผมเลยนอนคว่ำแทน แต่แทนที่ไอ้ตัวกวนมันจะยอมปล่อยผม มันกลับใช้ริมฝีปากเย็นๆจูบบริเวณหลังคอ ไล้ลงมาที่เรื่อยๆ


“พี่บาส...อย่าแกล้ง จะนอน” พอขยับหนีไม่เป็นผล สุดท้ายผมก็เลยเป็นคนที่เอ่ยปากออกด่ามันแทน เมื่อคืนเขาทำให้ผมนอนไม่หลับทั้งคืนไม่รู้ไปตายอดตายอยากที่ไหน ปกติผมกับมันไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้กันบ่อยหรอกครับ เพราะผมจำกัดเวลาให้มันว่าทำได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์ที่ผมไม่ได้อ่านหนังสือเท่านั้น เพราะงั้นแต่ล่ะครั้งที่มีอะไรกันมันถึงเต็มไปด้วยความหื่นกระหายของหมาบ้าตรงหน้า


ผมกับมันรู้จักกันครั้งแรกตอนที่รับน้องมันเป็นพี่รหัสผม มันทั้งดุทั้งด่าแกล้งผมสารพัดที่ เพราะมันคงเห็นว่าผมไม่ค่อยจะเชื่อฟังมันเท่าไหร่ล่ะมั้ง ผมมันเป็นพวกประเภทไม่ชอบไอ้เรื่องSOTUSอยู่แล้ว และคิดมาตลอดแหละว่าคงเรียนที่นี้แค่ปีเดียว กะว่าปีหน้าคงซิ่วไปเรียนมหาลัยที่มันไม่ต้องมามีปัญหาเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องแบบนี้ อีกอย่างผมก็อยากจะเรียนหมอมากกว่าด้วย และสิ่งที่ผมจำได้ดีคือตอนเปิดตาเฉลยพี่รหัส จำได้แม่นเลยว่าผมด่ามันว่าเหี้ยเป็นคำแรก


“เหี้ยยยย”

“อ่าวด่ากูซะงั้น มึงไม่ดีใจเหรอได้คนหล่อแบบกูเป็นพี่เนี่ยไอ้วี”

“กูไม่เห็นจะอยากได้มึงเป็นพี่เลย คนกวนตีนแบบมึง” ผมเบ้ปากแล้วหันไปมองพี่อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆไอ้บาส “อ่าวพี่อั้ม”

“เออกูเอง”

“อย่าบอกนะว่าพี่เป็นลุงผมอ่ะ”

“ดีใจอ่ะดิ”

“มากๆอ่ะพี่” พี่อั้มเป็นคนที่ชอบมาเทคขนมดูแลผมโคตรดีตอนช่วงที่รับน้องใหม่ๆ ผมชอบโดดกิจกรรมรับน้องแล้วพี่อั้มก็เป็นหนึ่งในคนที่บอกว่าไม่ต้องมาก็ได้ แต่ไอ้วีกลับให้ผมเข้ารับน้องตลอด

“มาๆกูขอผูกสายสิญจน์ให้มึงก่อนกูจะรีบไปแดกเหล้ากับไอ้เหี้ยดิว” พี่อั้มเอาสายสิญจน์จิ้มให้โดนน้ำตาเทียนแล้วเอามาผูกที่ข้อมือผม “ยินดีตอนรับเข้าสายเว้ย กูรับมึงเป็นหลานตั้งแต่แรกพบแล้วจะบอก ถ้าไม่ติดว่ามีคนจองมึงอยู่กูเอามึงเป็นแฟนแล้ว”

"ใครจองอ่ะ"

"พวกขี้ป๊อดแถวนี้แหละมึง"

“จริงดิ” ใครวะ ผมไม่เห็นรู้สึกว่ามีคนมาจีบผมสักคน

“พอเลยยย ไหนนัดกับพี่ดิวไว้ไงวะพี่อั้ม จะไปไหนก็ไปเลยไป”

“มึงนี่มันเยอะเหลือกันนะเชี่ยบาส ผูกเสร็จแล้วพามันมาหาเชี่ยดิวด้วย เชี่ยนั่นแม่งลากงอกบอกให้มาผูกสายสิญจน์รับน้องหน่อยก็ไม่ได้”

“พี่ดิวคือ??”

“พี่ปีสี่สายกู” พูดยังงี้หมายความว่าไงวะ สายมันสายผมคนล่ะสายกันเหรอ

“งั้นก็สายผมด้วยดิ”

“เขายังไม่รับมึงเป็นน้องหรือเปล่า กูเองก็ไม่รับมึงเป็นน้องหรอกนะ” ใครเขาอยากได้มึงเป็นพี่กัน “แต่ว่าตามพิธีแล้วก็ต้องมีการคล้องข้อมือกันเป็นเรื่องปกติ เอามือมาดิ” ผมยื่นมือส่งไปให้ไอ้พี่บาสอย่างช่วยไม่ได้ มันหยิบข้อมือสีดำที่ตรงกลางเป็นหินสีดำเหมือนกัน มันสวยมากเลยครับ คล้ายๆกับข้อมือที่ไอ้พี่บาสสวมอยู่

“ท่าทางจะแพง”

“ได้มาฟรี”

“งั้นเหรอ”

“เออ ส่งมือมาดิ” ผมยื่นมือส่งไปให้ไอ้พี่บาสผูกข้อมือให้ เชื่อไหมว่าตาธรรมเนียมแล้วต้องเอาสายสิญจน์ไปจิ้มน้ำตาเทียนให้ร้อนก่อนแล้วค่อยเอามาแปะที่แขนน้องเหมือนที่ไอ้พี่อั้มทำ แต่ไอ้บาสกลับไปทำแบบนั้น

“ทำไมไม่เอาจิ้มน้ำตาเทียนด้วยอ่ะ”

“เดี๋ยวมันร้อน”

“ห้ะ” ผมไม่ได้ยินหรอกครับ เพราะแม่งเล่นพูดพึมพำบ่นกับตัวเองคนเดียว ผมเลยก้มหน้าลงไปหามันแล้วถามมันอีกครั้ง

“มันร้อน” ริมฝีปากมันเฉียดปากผมไปนิดเดียว เราสองคนต่างคนก็ต่างกระตุกวาบไปทั้งคู่ ไอ้บาสมันยิ้มเบาๆแล้วใช้มือลูบริมฝีปากผมที่เฉียดมันเมื่อกี้ทำเหมือนเช็ดอะไรสักอย่าง “เมื่อกี้มันโดนปากกู”

“อ่ออ ที่เช็ดๆนี่แสดงว่ามึงรังเกียจกูงั้นดิ”

“เปล่า...กูกลัวมึงรังเกียจตั้งหาก”

“ประสาท” และตอนนั้นล่ะมั้งเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกผม ทุกวันนี้ไอ้ข้อมือสีดำที่มันให้ผมก็ยังใส่ติดตัวเสมอ และผมเองก็เชื่อว่าข้อมือสีดำที่บาสยังใส่อยู่ตอนนี้ก็คงเป็นของที่มันตั้งใจซื้อมาคู่กับผม





“นี่มันจะเก้าโมงกว่าแล้วนะวี มึงควรจะตื่นได้แล้ว ไม่ได้กินข้าวเดี๋ยวก็ปวดท้อง ลุกครับ”

“ไม่เอา มึงตื่นก่อนมึงก็ไปกินก่อนดิ...ท้องใครท้องมัน” ผมจะเรียกบาสว่าพี่เวลาที่อยากอ้อนมันเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็มึงกูนี่แหละ แต่มันอยากให้ผมเรียกมันว่าพี่มากกว่า เพราะสุดท้ายยังไงมันก็เป็นพี่ผม

“ท้องมึงก็คือท้องมึง แต่คนลำบากคือกูไหม”

“ก็ไม่ต้องมาดูแลดิ ไม่ได้บังคับสักหน่อย”

“เดี๋ยวจะโดน”

“กลัวตาย” ไอ้พี่บาสมันคงหมั่นเขี้ยวผมมากมันถึงกลับงับหูผมแล้วขบเม้มอย่างแรง เท่านั้นไม่พอสำหรับมันหรอกครับพอได้ทำครั้งนึงแล้วครั้งต่อไปคือความจัญไรเข้าครอบงำ บาสขยับจากใบหูไล้เรื่อยลงมาที่คอ มันจับให้ผมหันหน้ามองหน้ามัน แล้วจูบเบาๆที่จมูก ปาก ลิ้นร้อนๆของมันส่งเข้ามาในปากโดยที่ไม่สนใจสักนิดว่าผมยังไม่แปรงฟัน แต่มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับไอ้พี่บาสแหละครับ “อื้อ อย่า...”

“อย่าอะไร...ดูดิมันดันขาพี่ขนาดนี้” ไอ้พี่บาสกวนตีนก็มึงเล่นมาปลุกมันแบบนี้มันก็ลุกเคารพธงชาติดิ

“อย่าช้าไง”

"หื่นเหรอ"

"ก็มึงมาปลุกมันเอง"


ผมขยับตัวนอนหงายด้วยท่าทางที่คิดว่าสะดวกสำหรับทั้งคู่มากที่สุด ไอ้พี่บาสยกยิ้มมุกปากแล้วขยับเอาปากไล่จูบจากคอลงไปถึงหน้าท้อง เวลาที่ลิ้นเปียกๆของมันไล่วนตรงขอบบ๊อกเซอร์เป็นอะไรที่เสียวสุดๆจนผมอดเกร็งท้องตามไม่ได้ มันจูบซับน้องชายผมผ่านบ๊อกเซอร์ ขบเบาๆที่หัวจนต้องหลับตากัดปาก ถ้ามึงจะทำขนาดนี้ถอดกางเกงกูออกก่อนไหมแม่งจะมาท่ามากท่าเยอะทำไมวะ

“อยากแล้วดิ”

“เออ”

“พูดไม่เพราะไม่ทำดีกว่า”

“พี่บาส...ทำให้มันเป็นแบบนี้แล้วก็ต้องทำต่อให้จบดิ อย่ามาทำนิสัยครึ่งๆกลางๆแบบนี้ดิวะ” ณ จุดนี้ผมกับมันไม่มีหรอกครับความเขินอาย มีแต่พูดกันตรงๆ อยากทำก็คืออยากทำ ถ้าไม่อยากทำก็บอกว่าไม่ แต่มันไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราสองคนจะมีแค่เซ๊กส์หรอกนะครับ มันผ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้เต็มไปหมด เอาจริงๆมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบด้วยซ้ำ แต่บางทีผมก็อดนึกไม่ได้ ว่าเรื่องราวที่ผ่านระหว่างผมกับมันอาจจะเป็นแค่บททดสอบเริ่มต้นที่ของจริงมันยังไม่เกิดหรือเปล่า


“อึก...อ๊ะ” ผมแหงนหน้ามองเพดานก่อนจะหลับตาลงนิ่งๆ เสียงปรนเปรอที่พี่บาสทำให้ยังดังจ๊วบจ๊าบไม่มีหยุด มือข้างนึงของมันเอื้อมมาเล่นกับหน้าอกผม พร้อมกับจังหวะขึ้นลงของริมฝีปาก “แฮ่ก แฮ่ก พี่บาส...เร็วกว่านี้”

“เหรอครับ” K ผมเกลียดมัน เวลาที่ขอร้องอะไรจริงๆจังๆไม่เคยทำให้หรอก ไม่ต้องมามองหน้ากูเลย แค่เมื่อกี้มันทำอีกสักไม่ถึงสองสามครั้งผมก็จะไปถึงสวรรค์อยู่แล้ว ไอ้พี่บาสจุ๊บปากผมแล้วขยับมานั่งพิงหัวเตียงแทน มันหันมามองหน้าผมแล้วยักคิ้วหลิ่วตาเอามือชี้ที่เป้าตัวเองทำนองว่าให้ผมทำอะไรสักอย่าง พอผมกำลังจะก้มไปทำแบบเดียวกับมัน ไอ้พี่มันก็ส่ายหน้ายิกประมาณว่าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

“จะเอาแต่เช้าเลยหรือไง”

“กูให้มึงทำเองตั้งหาก”

“มันก็เหมือนกันแหละวะ” ผมบ่นอุบอิบแล้วขยับขึ้นไปนั่งทับน้องชายมันที่ดันก้นผมอยู่ “มึงมันหื่น”

“ช่วยไม่ได้อ่ะ แฟนเราน่ารักนี่หว่า” ผมเบ้ปากแล้วขยับเอื้อมมือไปหยิบถุงยากกับเจลบนหัวเตียงก่อนจะหันหลังให้ไอ้คนที่นอนพิงเตียงอยู่ ริมฝีปากมันไม่ได้อยู่เรื่อยๆเปล่าๆหรอกครับ จูบดูดทั่วหลังจนถ้าคนอื่นมาเห็นอาจคิดว่าผมเป็นโรคห่าอะไรสักอย่าง

ผมใส่ถุงยางให้ไอ้บาสเสร็จก็เอามือลูบเบาๆตรงส่วนนั้นของมัน ลูบไปชักไปอยากให้มันเสร็จคามือผมดีกว่าที่จะเสร็จในตัวผม


“กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่ เลิกทำแบบนั้นครับที่รัก”

“อะไรล่ะ”

“เร็ว” มันพูดดุแล้วจับผมหันหน้ามาหามัน ยกสะโพกผมให้ถอดบ๊อกเซอร์ออกก่อนจะขยับตัวผมให้นั่งลงไปบนตัวมันช้าๆ ความรู้สึกแรกเวลาสอดใส่ยังไงสำหรับผมมันก็ยังเจ็บอยู่ดี แต่ก็อย่างที่สุภาษิตไทยเขาบอกไว้นั่นแหละ ว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เพราะถ้าร่างกายเริ่มชิน ความสนุกต่อจากนี้มันคือสิ่งที่กำลังเริ่มต้นตั้งหาก


“อ๊ะ อ๊า” เสียงกระแทกกระทั้นกับเสียงครางพร้อมกับเหงื่อที่ไหลไม่หยุด ตาหวานเยิ้มกับรสสัมผัสที่ให้กันและกันไม่เคยเบื่อ

“พี่บาส” ผมกอดคอเขาแล้วก้มหน้าลงกับบ่า พยายามประคองขาตัวเองให้ขยับเร็วขึ้นแต่มันเมื่อยจนสุดท้ายไอ้พี่บาสก็เป็นคนทำเองทั้งหมด แม้จะร้อนแรงแค่ไหน แต่มันไม่เคยรุนแรงกับผมเลยสักครั้ง ทุกอย่างที่ทำมันเต็มไปด้วยคำว่าอ่อนโยน ทะนุถนอม จนอดผมคิดไม่ได้ว่าถ้ามันนึงเราจากกันไปคนที่เสียดายคงมีแค่ผม “รักวีมากมั้ย”

“ที่สุดเลยครับ”














“คนอื่นไปไหนหมดอ่ะ” ตอนที่เดินลงมากจากห้องก็ไม่เห็นทั้งรถแล้วก็คนที่อยู่ในบ้านแล้ว ทั้งพวกพี่แอลหรือแม้แต่ไอ้ซนเพื่อนผม

“ตอนที่พี่เดินลงมาก็เห็นพวกไอ้แอลกำลังจะกลับพอดี ไอ้โก้ไปหาเมีย ส่วนไอ้ป๊อบก็ไม่ต่าง” ในกลุ่มพี่บาสคนที่มีแฟนและดูท่าทางจะรักกันมากๆก็มีพี่โก้กับพี่ป๊อบ เห็นไอ้พี่ป๊อบมันบ้าๆบอๆแบบนั้นแฟนมันเป็นดาวนะครับขอบอก คบกันตั้งแต่เรียนมัธยม ก็แปลกใจนิดๆแหละว่าพี่เมี่ยงคบกับไอ้พี่ป๊อบได้ไง พอถามก็เอาแต่ยิ้มเขินๆแล้วบอกว่าป๊อบตลกดี ผมว่าไม่ได้ตลกธรรมดานะ มันบ้าด้วย

“แล้วไอ้ซนกับพี่น่านอ่ะ”

“ไม่รู้ว่ะตื่นมากก็ไม่เจอมันแล้ว” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินไปหยุดดูพ่อครัวที่กำลังหั่นนู่นหั่นนี้ “วันนี้มึงทำอะไรอ่ะ”

“ข้าวผัดไข่ธรรมดาน่ะ วีกินได้เปล่าไม่มีเนื้อนะ”

“ได้ๆ กินได้หมดแหละ ไม่ต้องให้ช่วยใช่เปล่า” พูดไปใจจริงผมก็ไม่ได้อยากไปช่วยอะไรมันหรอกครับ ขี้เกียจจะตาย

“ถ้าพูดให้ตัวเองดูดีเฉยๆแต่ไม่อยากจะช่วยจริงๆก็ไม่ต้องพูดหรอก”

“แหะแหะ”

“ไปเตรียมจานนั่งรอตรงโต๊ะไป”

“กินตรงโซฟานะ อยากดูทีวี”

“ตามใจเลยครับ”

“เยี่ยม” ผมจุ๊บปากพี่บาสไปทีนึงก่อนจะเตรียมจานกับแก้วน้ำไปวางไว้ตรงโซฟา


ระหว่างรอมันทำข้าวผัดผมก็เปิดช่องไปเรื่อย ทีวีเดี๋ยวนี้มีหลายช่องแต่ก็ไม่รู้จะดูอะไร ปกติบ้านหลังนี้ผมไม่ค่อยได้มานอนหรอกครับส่วนใหญ่จะปล่อยทิ้งไว้แล้วให้นานๆทีถึงจะเข้ามาทำความสะอาด ครอบครัวผมเขาย้ายไปอยู่ภูเก็ตตั้งแต่ตอนที่ผมจบม.ต้นใหม่นั่นแหละ ผมเองก็ไปเรียนต่อม.ปลายที่นู่นพอสอบติดวิศวะในกรุงเทพก็เลยได้กลับมาอยู่ที่นี้ แต่พอเป็นแฟนกับไอ้บาสผมก็ไปอยู่กับมันที่คอนโดแทน

“เออวี พวกพี่อั้มโทรมาบอกว่านัดกินเหล้าเย็นนี้ มันบอกให้มึงไปด้วย”

“นี่ยังนับกูเป็นสายอยู่อีกเหรอวะ”

“นับดิ มึงจะได้ไปเจอน้องรหัสตัวเองด้วย”

“ผู้หญิง ผู้ชาย”

“ไม่ต้องมาตาวาว ถึงเป็นผู้ชายแต่มันก็ไม่ใช่สเป็คมึงหรอก” ผมเบ้ปากอย่างแรง สายนี้ตั้งแต่สืบทอดกันมากี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็เป็นผู้ชายแทบทั้งหมด แถมทุกคนต้องรับตำแหน่งพี่ว๊ากด้วย แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากจะซิ่วก็คือผมขี้เกียจไปยืนทำหน้าเก๊กว๊ากพวกเด็กปีหนึ่ง “แต่น้องหน้าตาน่ารักดี ตัวเล็กๆปากแดงๆ”

“พูดแบบนี้คือมึงชอบมันเหรอ สเป็คมึงสินะ”

“สเป็คกูก็มีแค่มึงนี่แหละวี อย่าหึงไปหน่อยเลย” ไอ้พี่บาสบีบปากผมจนปากยู่ก่อนจะดันจานข้าวผัดเลื่อนมาให้ผม

“ก็มึงชอบทำให้กูหึง”

“มึงมากกว่ามั้ง”

"เคยเหรอ"

"แทบทุกครั้ง" ก็ไอ้พี่บาสมันหน้ามืดตามัวหึงไม่รู้เรื่อง บางทีผมคุยกับคนอื่นอยู่มันก็คอยมาแง่งๆใส่คนที่ผมคุยด้วยตลอด

"เอาน่าาาา ยังไงผมก็มีแค่คุณคนเดียวเท่านั้นแหละครับ"



หลังจากนั้นผมกับมันก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยมีพูดเรื่องหนังที่เพิ่งเข้าเร็วๆนี้ด้วย กะว่าจะไปดูกันบ่ายนี้เลยแหละครับ พอดูเสร็จค่อยไปแดกเหล้ากับสายรหัสต่อ




ติ้ง

ผมหยิบมือถือที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาดู พอเห็นสติ๊กเกอร์กับรูปภาพที่ส่งมาให้ก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะรูปส่วนใหญ่คือรูปไอ้แสนดี ลูกสาวผมตั้งแต่ตอนที่มันตัวเล็กๆจนโตขึ้นขนาดนี้ แมวอ้วนเอ๊ย!!น่าฟัดฉิบหาย

“ยิ้มอะไรนักหนาวะ ดูอะไร” ไอ้พี่บาสพูดถามแต่มันก็ไม่ชะเง้อหน้ามามองมือถือผมหรอกนะครับ มันเป็นคนที่ค่อนข้างเคารพสิทธิของผมมากๆ ไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะซอกแซกยุ่งนู่นนี่นั่นกับผม และนั่นเป็นหนึ่งในข้อดีของมัน

“เปล่า ไม่ได้ยิ้มอะไร ดูรูปแมวไปเรื่อย...”

“มึงชอบแมวสินะ เห็นเล่นกับแสนดีจัง”

“ก็ชอบอยู่”

“อยากเลี้ยงหรือเปล่าล่ะ...”

“พี่บาสจะซื้อเหรอ”

“คิดว่าไงอ่ะ”

“ไม่รู้ดิ”

“งั้น......วันนี้ไม่ต้องไปดูหนังล่ะเนอะ...”

“อ่าว....”

“ไปดูแมวที่จตุจักรกัน” ผมพยักหน้ารัวแล้วเริ่มเข้าอินเตอร์เน็ตหาพันธุ์แมวที่อยากได้

“แล้วคอนโดมึงเลี้ยงได้ด้วยเหรอ”

“ได้แหละมั้ง”

“ทำไมต้องมีมั้งด้วยอ่ะ ถ้าไม่ได้ก็ช่างเถอะ ไม่เลี้ยงก็ได้ แค่แสนดีตัวเดียวก็พอแล้ว”

“แล้วมึงจะได้ไปเล่นกับแมวไอ้ซนตอนไหนล่ะ ซื้อเป็นของตัวเองดีกว่าไหม” จริงๆไอ้พี่บาสก็พูดถูกผมคงไม่มีโอกาสไปเล่นกับแสนดีบ่อยนักหรอก



ติ้ง

ถ้าพี่วีว่างก็มาเล่นกับแสนดีดิ

มันคิดถึงพี่มากๆเลยรู้เปล่า



นี่ไงเวลาที่จะไปเล่นกับแสนดีก็มีเยอะแยะ ไอ้ซูเจ้าของตัวจริงเขาอนุญาตขนาดนี้

พี่ไปจริงๆนะเว้ย


ผมตอบไอ้ซูกับไป


ต้องมาจริงๆดิพี่เพราะมันไม่ใช่แค่แสนดีหรอกนะที่คิดถึงพี่อ่ะ









ผมเองก็คิดถึงพี่เหมือนกัน[/size]








ผมอ่านแล้วแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ไม่ใช่ไม่อยากตอบนะครับ แต่ผมแค่รู้สึกว่าไม่อยากตอบก็แค่นั้น ผมไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านน้องมันเป็นยังไง อยู่แบบไหน เพราะพอจบม.สามผมก็ไปเรียนภูเก็ตไม่ได้คิดว่าจะต้องไปรับผิดชอบความรู้สึกของใครทั้งนั้น



มันอาจจะใช่ที่ผมกับมันเป็นของกันและกันคนแรก แต่คนแรกของกันและกันมันไม่จำเป็นต้องมีความรักเข้าไปรวมอยู่ในนั้นสักหน่อย






ตอนนั้นผมก็แค่อยากรู้อยากลอง



แต่ใครเลยจะรู้ว่าอีกคนมันไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับผม  ทั้งๆที่คิดว่าผ่านมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว เรื่องมันน่าจะลืมเลือนกันไปเป็นเพียงแค่ความทรงจำสีจางๆ แต่ไม่รู้ทำไมกับบางคนมันอาจจะเข้มขึ้นทุกวัน





“คิดอะไรวะ”

“เปล่า...คิดไปเรื่อยน่ะ....."ผมมองหน้าแฟนผมที่เลิกคิ้วใส่ทำหน้างงๆแล้วก็หันไปดูทีวีต่อ "พี่บาส...”

“อะไร”

“รักวีเปล่า”

“ถามอะไรวะ”

“ก็ถามไง รักเปล่า” ผมอ้อนมันพร้อมกับขยับขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัก “รักมั้ย”

“อะไรของมึงเนี่ยวี จู่ๆก็มาอ้อน”

“รักเปล่าล่ะ” ผมจับแก้มทั้งสองข้างของไอ้คนตรงหน้าแล้วมองสำรวจหน้าหล่อๆของมันอีกครั้ง ไอ้พี่บาสโกนนวดแทบจะทุกวัน เพราะผมไม่ชอบเวลาที่มีนวดบางๆมาทิ่มตามตัวผม มันเจ็บมากกว่าจั๊กจี้ หลายคนอาจจะชอบแต่ผมไม่ชอบ และพอผมบอกมันไปแบบนั้นมันก็ยอมทำตามแบบว่าง่ายสุดๆ

“เมื่อเช้าก็พูดไปแล้ว”

“เมื่อเช้าพี่บาสพูดว่า ที่สุดเลยตั้งหาก ไม่ได้พูดว่ารักสักหน่อย รักมั้ย”

“รักครับ คนนี้รักมากกกกกกก” ผมยิ้มออกมาเบาๆแล้วจุ๊บลงที่ปากมันอีกครั้ง

“หึ...วีก็รักพี่”

"จู่ๆก็มาอ้อนเป็นไรวะ" ไอ้พี่บาสลูบหัวผมเหมือนเด็กๆ

"พี่บาส...."

"ว่า???"

"จำได้เปล่าที่วีเคยเล่าว่าผู้ชายคนแรกที่วีนอนด้วยเป็นน้องชายเพื่อนน่ะ" ผมเคยเล่าเรื่องนี้ให้มันฟัง จริงๆผมก็เล่าให้มันฟังทุกเรื่องแหละครับ

"คนที่มึงบอกมึงรู้สึกผิดอะไรนั่นจนไม่เคยมีแฟนจริงๆจังๆมาจนกระทั่งเจอกูใช่เปล่า..."

"อื้อ" ผมมุดหน้าลงกับซอกคอไอ้พี่บาสแล้วจูบเบาๆ

"ทำไมวะ...มึงเจอมันหรือไง"

"............."

"............."

"เปล่าเจอ" ขอโทษนะพี่บาส ผมเองก็ไม่อยากโกหกหรอกแต่ถ้าพูดไปคนที่เครียดที่สุดก็เป็นคนตรงหน้า

"แล้วพูดถึงมันอีกทำไมวะ"

"แค่ฝันถึงเฉยๆ"

"ฝันถึงก็ไม่ได้โว้ย ในฝันมึงต้องมีแค่กูเท่านั้น..เข้าใจไหม"

"ขี้หึงเหรอเรา" ผมจับหน้าไอ้พี่บาสแล้วบีบแก้มมันจนปากยู่

"มากๆครับ"












TBC
ว๊ายยยยคู่รองเหมือนจะมีดราม่า....หรือเปล่า
จริงๆกำลังคิดว่าคู่นี้อาจจะเอาลงตอนท้ายๆดีกว่ามั้ย
ขอบคุณคนอ่านคนเม้นมากคร้าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++special intro by วีนัส [15-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-02-2015 12:01:41
  :o  น้องซูของเรา

พี่วีคะ แบบนี้ถือว่าหลอกเด็กใช่ไหม แล้วตอนนั้นพี่วีเสียซิงให้น้องซูเหรอ อยากเผือกแต่ไม่อยากดราม่าได้ป่าวอะ  :confuse:

บาสวีหวานกันเวอร์ รักกันดีแล้วไม่อยากให้ใครเสียใจเลย.
ขอบคุณที่มาต่อจ้า เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++special intro by วีนัส [15-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 15-02-2015 14:35:43
ดูท่าคู่รองจะมีน้องซูเป็นมือที่สามซะแล้วสิ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 18-02-2015 22:17:16
Because of you ซน ตอนที่ 6

     น่านฟ้าใช้เวลาขับรถพาผมมาถึงที่บ้านมันในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ คิดดูเอาล่ะกันว่ามันจะโคตรตีนผีแค่ไหน ทางลูกรัง ลูกระนาดไม่ได้มีผลกับการเหยียบเบรกที่เท้ามันสักนิด ถึงแม้ว่าผมจะคอยเทียวด่าเทียวว่าเรื่องสะโพกผมที่ยังระบมมากแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่มันก็ทำเป็นหูทวนลมซะมากกว่า

     แล้วระหว่างทางมันก็เป็นช่วงเวลาที่ผมได้สำรวจไอ้คนข้างๆได้มากขึ้น จริงๆแม่งก็ไม่ได้อยากมองหน้ามันหรอกครับ แต่หมั่นไส้ในความหล่อมันไง อยากรู้เฉยๆว่ามันตัดผมทรงอะไร หนังหน้าอย่างผมถ้าตัดแบบมันคงหล่อขึ้นมากเหมือนกัน


น่านฟ้าเป็นผู้ชายผิวขาวแต่แน่นอนว่าไม่เท่าผมที่เป็นลูกคนจีน ทรงผมไอ้น่านเป็นแบบตั้งๆไม่ได้เซท ต่างหูห่วงสีดำที่อยู่ด้านซ้ายเป็นลักษณะเด่นสะดุดตาที่สุดเพราะมันทำให้ไอ้น่านดูแบดบอยขึ้นมาถนัดตา

น่านฟ้าเป็นคนมีตาสองชั้น ส่วนผมเองก็ตาสองชั้นเหมือนกันแต่หลบในสุดๆ หลบจนกูมองไม่เห็น นึกภาพออกใช่ไหมครับไอ้พวกตาสองชั้นที่ลืมตามาแล้วแม่งเหลือชั้นเดียว




เกลียด อยากไปทำตามสามชั้นก็เพราะอย่างนี้แหละแม่ง





     “มองอะไรวะ...” ไอ้น่านส่งเสียงเรียกสติให้ผมกลับมา

     "เปล่ามอง มึงขี้มโนเหรอน่าน ใครเขาจะไปมองคนหน้าตาบ้านๆแบบมึงกัน"

     “หึ" เสียงขึ้นจมูกของมันทำเอาผมรู้สึกขนลุกหน่อยๆ อารมณ์ประมาณว่าจับได้นะแต่ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด "ส่งมันมาดิ”

น่านฟ้ายื่นมือมันมาทำท่าจะรับไอ้ตัวที่นั่งอยู่บนตักผม  เห็นแล้วอยากจะจับไอ้ตัวที่นั่งอยู่บนตักผมฟาดแม่งสักที รักเหลือเกินนะไอ้ตัวเนี่ย แล้วอิแมวที่นั่งอยู่บนตักผมก็รีบเลยครับพอรู้ว่าน่านฟ้าต้องการตัว แทบจะรีบตะกายออกจากอกผมทันที

     “น่าน”

     “อะไร”

     “กูว่ากูเดินไม่ไหวอ่ะ” ผมยู่ปากแล้วพยายามทำหน้าตาที่คิดว่าน่ารักที่สุดในโลกส่งไปให้มัน

     “มึงจะให้กูอุ้มหรือไง ตลกป่ะ” หน้ากูดูเหมือนโน้ต เชิญยิ้มหรือไง

     “ขี่หลังก็ได้....” ไอ้น่านยักไหล่แล้วอุ้มแสนดีออกจากรถ

     “น่านฟ้า”ผมเปิดประตูฝั่งผมแล้วตะโกนเรียกมันอีกครั้ง “มึงได้กูแล้วนะ”

     “ห้ะ” ยังจะมาทำหน้างงอีก

     “ก็อย่างที่พูดไง...มึงได้กูแล้ว” ผมทำเสียงอ่อน หน้างอคอหัก อมลมในแก้มจนป่อง


     ไม่รู้ดิครับผมแค่รู้สึกว่าเวลาผมใช้คำนี้กับไอ้น่าน มันดูเหมือนมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่



     “น่านฟ้า” ผมเรียกชื่อมันอีกรอบ แต่มันก็แค่ไหวไหล่เหมือนไม่ได้แคร์ที่ผมพูดสักนิดสุดท้ายมันก็เดินเข้าบ้านไปเลย ผมนี่ได้แต่นั่งอึ้งบนรถ ในหัวเหมือนมีใครไม่รู้ปาคำว่าโง่ใส่เข้ามาเต็มๆหน้า แม่งได้กูแล้วแท้ๆทำไมไอ้เชี่ยน่านมันทำนิสัยเลวได้แบบนี้ก็ไม่รู้ อย่าหวังว่ามึงจะได้ซั่มกูอีก

    มึงคงยังไม่เคยรับรู้สินะว่ากูเจ็บก้นแค่ไหน ถ้ามึงจะไม่ยอมรับผิดชอบแบบนี้ทำไมตอนที่ทำ มึงถึงไม่ทำเบาๆ ครั้งเดียวก็ได้ แต่นี่เล่นทำหลายรอบแถมเวลาที่มึงกระแทกกระทั้นเข้ามาแม่งก็แรงจนตัวกูโยกเหมือนแผ่นดินไหว มึงทำไมไม่คิด


     ผมบ่นอุบอิบในใจ ปากก็พูดเหมือนสวดมนต์สาปแช่งไอ้น่านฟ้าไปด้วย

     “อะไร” ตอนที่ผมเดินมาถึงประตูบ้าน (ในความคิดคือแม่งเหมือนจากโคราชไปเชียงใหม่)ผมที่ถอดรองเท้าตัวเองออกเสร็จแล้วกำลังจะเดินเข้าบ้าน ไอ้น่านมันมาจากไหนไม่รู้ ทำท่าเหมือนหาของตรงแถวๆหน้าบ้านเพราะมันนั่งยองๆหันหลังให้ผม

     “มึงหาไรเนี่ย กูจะเข้าบ้าน ขวางทางอยู่ได้ แม่ง ไอ้คนโหดร้าย แล้งน้ำใจ นิสัยไม่ดี พ่อแม่ไม่รัก...แล้ว แล้ว...อู้อี้อู้อี้” น่านฟ้าเอามือบีบปากผมอย่างแรง

     “บ่นอยู่ได้น่ารำคาญว่ะ”

     “ก็มึงมาขวางทางไมล่ะ” ผมปัดมือไอ้น่านออกแล้วเบ้ปากใส่มันแรงๆไปที

     “ไม่ได้ขวางก็ไหนบอกว่าจะขี่หลัง”

     “จริงอ่ะ” ผมทำหน้าลังเลไม่เชื่อมันนิดหน่อย คิ้วขมวดนิดๆราวกับจับผิดไอ้คนตรงหน้า แต่ไอ้น่านไม่ได้มีทีท่าเหมือนจะหลอกอะไรผม เอาเป็นว่าในใจลึกๆผมเองก็อยากจะทำใจแข็งไม่รับความปรารถนาดีของมันหรอกครับ แต่ในเมื่อคนมันอยากช่วยอันนี้ก็เลยช่วยไม่ได้ “จะขี่ไหม”

     “ขี่ดิ” ผมขยับเอาตัวไปขึ้นคร่อมบนหลังน่านฟ้า เอนทั้งตัวไปพิงมันแล้วซุกหน้าลงกับบ่ามันแบบไม่กลัวตกสักนิด สบายโคตร แถมตัวไอ้น่านมันเย็นๆจนผมอดไม่ได้ที่จะซุกลงที่คอแล้วรับความเย็นจากร่างกายมัน “ตัวมึงโคตรเย็น”

     “ชมกู???”

     “ชมก็ได้ แต่มาคิดๆดูอีกทีมันจะเป็นคำชมได้ไงในเมื่อสัตว์เลือดเย็นก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนิ อ๊า อ๊าาาาาา” เชี่ยแม่งเล่นจะปล่อยก็ทำท่าจะทิ้งกูลงตรงนี้เนี่ยนะ ตอนที่มันจะปล่อยผมลงจากหลังผมนี่รีบกอดคอไอ้น่านไว้อย่างเร็วอ่ะครับ “อย่าแกล้งดิวะน่าน”

     “กูไม่ได้แกล้ง กูจะทิ้งมึงตรงนี้จริงๆถ้ายังพูดมากอยู่อีก”

     “โอ๋ๆ เขาหยอกเล่นเฉยๆ ขี้งอนเหรอเราอ่ะ” ผมเอาหน้าซุกคอไอ้น่านแล้วกอดคอมันไว้แบบโคตรแน่นที่สุด (กลัวมันปล่อย) ก่อนจะเอานิ้วจิ้มแก้มมันเล่น

    “กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ” ไอ้น่านปัดมือผมออกจากแก้มแล้วหันไปมองทางด้านหน้าต่อ กูก็ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนเล่นมึงสักหน่อย เหอะ


     น่านฟ้าพาผมเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองของบ้าน แสนดีเดินตามคลอเคลียไม่ห่างจากเท้าไอ้น่านมากนัก มันทำตัวราวกับว่ามันกำลังคิดทำร้ายผมโดยการกวนไอ้น่านให้สะดุดตกบันไดแล้วให้ผมตกลงไปตายอะไรแบบนั้น (แมวไอ้ซูนี่มันสุดๆจริงๆนะครับ นี่ขนาดมันพูดไม่ได้มันยังทำให้ผมคิดได้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่)

     “มึงว่าแสนดีมันต้องการจะฆ่ากูทิ้งหรือเปล่า”

     “มึงคิดอะไรของมึงเนี่ย”

     “ก็ดูมันดิมาคลอเคลียรอบตัวมึง ถ้ามึงเผลอสะดุดตัวมันปั๊บ กูกลิ้งตกบันไดตาย คนที่มีความสุขที่สุดคืออิแสนดีชัวร์ แม่งคิดจะฆาตกรรมกูเฉยเลย แมวชั่ว กูจะเอามึงไปปล่อยวัด” ด่าไปขาก็แกว่งๆไล่เตะแสนดีไปด้วย

     “มึงตั้งหากที่คิดเป็นตุเป็นตะคนเดียว มันหิวมากกว่าเถอะ ตั้งแต่เมื่อคืนมันยังไม่ได้กินอะไรเลย” ผมเบ้ปากอย่างไม่เชื่อว่าในสมองน้อยๆของแสนดีจะคิดแค่นั้น (ไม่ต้องมามองหน้าผมว่าผมเป็นพวกอคติคิดแกล้งแมวเลยนะครับ ผมก็แค่ต้องคิดเผื่อแมวปองร้ายไว้ก่อนดิ เราไม่ได้รักใคร่กันขนาดนั้นสักหน่อย)

     “กูก็ยังไม่ได้กินเหมือนกันเหอะ ทำไมมึงห่วงแต่แมววะ กูล่ะ มึงได้กูแล้วนะน่าน”

     “อะไรของมึงอีก”

     “ก็มึงได้กูแล้ว”

     “มึงนี่มัน...กูขอซื้อคำนี้ของมึงได้ไหม”

     “ไม่ขายโว้ยยยยย” ผมพูดพร้อมกับงับไปที่ไหล่ไอ้น่านอย่างแรง ส่วนไอ้น่านก็ตอกกลับผมกลับมาด้วยการหยิกแก้มของผมอย่างแรงไม่แพ้กัน แก้มกูจะย้วยก็เพราะมึงนี่แหละ

     “ชอบกัดไหล่คนอื่นหรือไง เห็นเมื่อคืนก็กัดกูซะจมเขี้ยว กูจะบอกอะไรให้มึงฟังอย่างนึงเว้ยเตี้ย” เตี้ยพ่อง “ไอ้พวกคนที่ชอบระบายอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง หรือว่าเวลามีเซ็กส์แล้วกัดคนอื่นเนี่ยเขาบอกว่าพวกนี้แม่งเซ็กส์จัด”

     “ตลกและ ไม่ใช่กูเถอะ” ผมพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น

     “ไม่ใช่มึงแล้วจะใครล่ะ เมื่อกี้ก็กัด เมื่อคืนก็กัด”

     “เปล่ากัด...” ผมทำเสียงอ่อน

     “ดูเองไหมล่ะตรงไหล่ซ้ายอ่ะ”

     “ไม่ดู...จะนอนแล้ว” ผมตีไหล่ไอ้น่านเบาๆเหมือนไล่ควายให้ออกเดิน น่านฟ้าเอื้อมมือมาตีหัวผมคืนแล้วเดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้องนอน

     “แล้วมึงจะกินอะไรก่อนไหม ไม่หิวเหรอวะ”

     “หิวอยู่แต่ว่าอยากนอนมากกว่าว่ะ” ผมตอบมันทั้งๆที่หน้ายังซุกกับคอเย็นๆของไอ้น่าน ทั้งๆที่มันเดินพาผมมาจนถึงเตียงแล้วนะครับ แต่ผมก็ยังไม่ขยับตัวออกจากหลังมัน ก็ตัวไอ้น่านมันเย็นอ่ะ ผมชอบ

     “กินก่อนเหอะจะได้กินยา”

     “เออๆแล้วแต่มึงล่ะกัน” ผมพูดพึมพำเสร็จก็ขยับตัวเองออกจาหลังมัน ล้มตัวลงนอนบนเตียงที่มีผ้าหูสีดำ “ปิดม่านให้กูหน่อยดิ มันแยงตากูอ่ะ”

     “ใช้??”

     “อย่าเรียกว่าใช้ดิ เรียกว่าสั่งดีกว่า เร็วๆ มึงได้กูแล้ว รับผิดชอบในสิ่งที่มึงทำเดี๋ยวนี้”

     “กูเกลียดคำนี้ของมึงจริงๆ” น่านฟ้าส่ายหัวเหมือนระอาในตัวผมเต็มที่ แต่แล้วไงล่ะ นี่มันสิทธิ์ผมนี่หว่า แถมมันบอกว่าจะเป็นเบ๊ผมด้วย “แต่มันก็ต้องมีขอแลกเปลี่ยนป่ะวะ” ไอ้น่านส่งสายตาหื่นๆมาที่ผม ไม่ต้อง
เดาก็รู้ว่าหน้าตาจังไรแบบมันคิดอะไรอยู่

     “อะไร?? แค่ปิดม่านแค่นี้มึงก็ยังมาคิดเล็กคิดน้อยเหรอน่าน มึงนี่ตุ๊ดกว่าที่กูคิดอีกนะเนี่...อื้ออออ”

     “พูดมาก” น่านฟ้าผละออกจากปากผมแป๊บนึงก็ขยับเอาริมฝีปากเย็นๆประกบลงมาที่ปากผมต่อ ครั้งนี้มันไม่เหมือนเมื่อคืนเพราะตอนนี้ผมไม่ได้เมา ความรู้สึกเวลาที่ลิ้นนุ่มหยุ่นเข้ามาในปากมันถึงรู้สึกและสัมผัสได้ว่ามันจริงแบบสุดๆ หน้าผมจากที่ออกร้อนเพราะพิษไข้อยู่แล้วก็ดันรู้สึกว่าร้อนมากกว่าเดิมอีก

     “แฮ่ก แฮ่ก”มันถอนริมฝีปากให้ผมหายใจแล้วขยับปากเข้ามาอีก คราวนี้พอผมเริ่มตั้งตัวได้ผมก็ไม่ปล่อยให้มันบรรเลงคนเดียวหรอกครับ เดี๋ยวมันจะหาว่าผมอ่อน (แต่จริงๆก็ไม่เชี่ยวชวนเคลิ้มเท่าที่มันทำหรอกแต่ก็พอมีประสบการณ์ไม่ใช่ว่าใสๆทำไม่เป็นเลยซะทีเดียว) จากตอนแรกที่อ่อนโยนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มือหนาของมันข้างนึงสอดเข้ามาในเสื้อแล้วก็เริ่มขยี้หัวนมผม “อ๊ะ...”

     “ซน” ไม่บ่อยหรอกครับที่น่านฟ้าจะเรียกชื่อผมแบบนี้ มันละริมฝีปากแต่หน้ายังไม่ได้ขยับออกไปไหน หน้าผากเราทั้งคู่ยังแตะกัน เสียงหอบหายใจของผมยังดังไม่หยุด เหมือนกับมือไอ้น่านที่ยังทั้งสะกิดทั้งขยี้ที่หัวนมผม “เอากันเถอะ”

     ไม่พูดรอคำตอบผมด้วย หน้ามันแม่งแทบจะซุกซอกคอผมแล้ว ขาเขอนี่สีขาในผมจนขนลุกซู่ไปหมด แต่ติดตรงที่ผมดึงจิกหนังหัวมันขึ้นมาได้ก่อน

     “จังไรเหรอมึงอ่ะ คิดจะแกล้งคนป่วยอย่างกูหรือไง ดูดลิ้นกูแรงขนาดนั้นไม่รับรู้เลยสินะว่าลิ้นกูร้อนแค่ไหน กูไม่สบายนะเว้ย” ผมตัดพ้อจับแก้มไอ้หน้าหื่นที่ตอนนี้คร่อมทั้งตัวผมเรียบร้อย

     “เขาบอกว่าคนไม่สบายถ้ารู้สาเหตุของมันก็ต้องใช้พิษแก้พิษ” ทฤษฎีไหนของมันวะ

     “ถึงกูจะโง่แต่กูก็ไม่ได้กลวงขนาดนั้นเว้ยน่าน ไปทำอาหารมาให้กูกินได้แล้วกูจะได้นอน”

     “ใจร้าย มึงได้กูแล้วนะ....” มึงตั้งหากที่ได้กูโว้ยยยย เกลียดแม่งจริงๆ ก๊อปคำพูดผมไม่พอยังมีหน้ามาทำสายตาน้อยใจใส่ผมอีก

     “ให้กูได้มึงตอนนี้เลยก็ได้นะ โอเคเปล่า”

     “มึงฝันอยู่เหรอ” น่านฟ้าหยิกแก้มผมทีแล้วขยับตัวลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจนิดหน่อยก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผมเบาๆอีกรอบ “นอนไปก่อนล่ะกัน ถ้าข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวกูเอาขึ้นมาให้”
     
     “เอออออ ไปทำได้แล้ว” พอมันปล่อยตัวผมเสร็จ ผมนี่รีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวแล้วม้วนเป็นหนอนดักแด้เลย ไอ้น่านยิ้มมุมปากเบาๆก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องนอนแล้วปิดประตูห้องให้ผมช้าๆ ไปสักที



     “ซน....”

     “เชี่ยอะไรอีก” มึงจะเอาอะไรจากกูอีก

     “ถ้ามึงหายแล้ว....”

     “แล้ว...”

     “เอากันนะ” เอากันพ่องมึงสิ ไม่ต้องมายิ้มเขินใส่กูเลยเชี่ย มึงคิดว่ากูเป็นผู้ชายใจง่าย นอนทอดกายให้มึงเชยชมง่ายดายเลยหรือไงวะ คิดว่าการที่กูมีความสุขเวลาที่มึงทำให้มันจะทำให้กูยอมมึงง่ายๆสินะไอ้น่าน เหอะ

     “เออ...ตามนั้น” ผมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งหัวแล้วรีบหันหลังให้มันทันที


ตึก ตึก

     เสียงหัวใจผมยังคงดังไม่หยุด ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะเป็นผู้ชายแบบนี้ ตาย ตาย ตาย กูมันคนใจง่ายสินะ

     มึงมันใจง่ายไอ้ซนนนนนนนนนนนน












     “ซน....”

     “อื้อ....” ผมงึมงำทำเสียงไม่พอใจในลำคอแล้วขยับมุดหน้าลงเข้าไปในผ้าห่มอีกรอบ ไอร้อนจากลมหายใจรู้เลยว่าตัวเองอาการหนักแค่ไหน ทั้งเมื่อยตัว ทั้งเหนื่อย แย่ชะมัดเวลาที่ไม่สบายแบบนี้

     “ตื่นก่อน...กินข้าวแล้วจะได้กินยา”

     “จะนอนนนน”

     “ไม่ได้...ลุกเลย”

     “จะกวนอะไรนักหนาวะ กูจะนอนนนน” เวลาที่เราเหนื่อย รู้สึกแย่ หรือไม่สบาย เราจะรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเป็นเท่าตัว และผมก็เป็นหนึ่งในคนจำนวนนั้น “มึงเข้าใจไหมกูเหนื่อย เจ็บตัวไปหมด เมื่อยก็เมื่อย ยังจะมาบังคับให้กูทำนู่นทำนี่ ตัวเองเป็นคนผิดแทนที่จะตามใจกูแต่มึงยังมากวนกูแบบนี้ เชี่ยแม่ง...มึงนี่มัน....”




     “กูผิดมากสินะ” เสียงมันดูสำนึกผิดเสียจนผมรู้สึกแย่ สีหน้ามันดูหงอยๆราวกับว่าคำพูดที่ผมพูดไปเมื่อกี้เป็นคมหอกคมดาบทิ่มแทงมันอยู่  “กูคงผิดมากจริงๆแหละที่เอายากับข้าวมาให้มึง”

     “........”

     “คงผิดมากที่อุตส่าห์ลงไปทำข้าวต้มให้มึงกินตั้งนานสองนานแล้วกลับขึ้นมาโดนมึงด่าแบบนี้”

     “มึง.....คือกู” ผมแม่งไม่น่าเลยเพราะหงุดหงิด จากการที่โดนปลุกเลยเอาอารมณ์ทุกอย่างที่ผสมปนเปมาลงที่มัน

     “กูคงแย่มาก...”

     “น่าน....”

     “ที่ ทำให้มึงเหนื่อย เมื่อย ไม่สบาย....”

     “.........”

     “แต่ทั้งหมดมันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ามึงไม่ยอมกูเอง.....ทั้งๆที่มึงยอมอ้าขาให้กูเองทั้งนั้น” =[]=



      เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ที่แม่งมันพูดมาทั้งหมดคือมันกำลังด่ากูว่ากูยอมมึงเองใช่ม้ายยยยยยยย “มึงยอมกูเองมึงจะบ่นอะไรวะเตี้ย หงุดหงิดเชี่ยอะไรนักหนา แดกๆเข้าไปข้าวเนี่ยจะได้กินยา แล้วรีบๆหายสักที เอ้าแดกกกกกกกก”

     “มันร้อนนนนน” ผมทุบหลังมันอย่างแรงเพราะรับรู้ว่าข้าวที่มันเอามาจ่อปากผมเมื่อกี้ยังร้อนอยู่

     “แล้วไง”

     “แล้วไงเชี่ยอะไรล่ะ ก็มันร้อนไงโว้ย อ๊าาา สัส น่าน มันร้อน” มือข้างนึงของไอ้น่านบีบปากผมให้อ้าออกส่วนอีกข้างก็ยัดช้อนเข้ามา สุดท้ายผมเลยต้องอ้าปากรับข้าวต้มร้อนๆของมัน (แดกแล้วรู้ลยครับว่าแม่งเป็นโจ้กสำเร็จรูป ทำมาเป็นพูดดีว่าอุตส่าห์ลงไปทำให้ ถุย)

     “ไม่ต้องมาเบ้ปาก แดกไป” พอป้อนคำแรกเสร็จมันก็ยื่นทั้งถ้วยส่งมาให้ผม ไอ้ผมก็รับมาแบบงงๆก่อนจะมองมันที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว

     “อะไรอ่ะ ไม่ป้อนแล้วเหรอ”

     “เป็นง่อยหรือไง แดกเองดิวะ ทำมาให้แล้วเนี่ย” ยังกะที่ทำมันยากขนาดนั้น แค่เทโจ๊กผงใส่ถ้วยแล้วเทน้ำร้อนใส่ มันยากมากเลยเนอะมึง ยากมากกกกกก

     “อะไรวะมึงได้กูแล้วนะ/ได้กูแล้วนะ”


     =[]= ผมอ้าปากค้างกับคำพูดที่ไอ้น่านพูดเลียนแบบผม มันยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้แล้วเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปเลย ขอให้ลื่นหัวฟาดตายพร้อมกับไอ้รอยยิ้มหล่อๆของมันทีเถอะครับ



แม่งๆๆๆๆๆๆมัน.....มันรู้ได้ไงว่าผมจะพูดคำนี้ มันอ่านเกมส์ผมออกได้ไงวะ ทั้งๆที่ผมเป็นคนที่ค่อนข้างดูยาก(?)แท้ๆ


แต่ไอ้น่านมันกลับจับทางผมออก


มันต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ


 มึงมีจิตสัมผัสพิเศษสินะน่าน มึงมันไม่ใช่คนนนนนนนน



TBC
เหมือนน่านฟ้าจะไม่ทันซนนะแต่จริงๆก็อย่างที่เห็น ฮ่า ฮ่า
ขอบคุณคะ  ไม่รู้จะทอล์คอะไร พูดไม่เก่งแต่รักหมดใจจจจจ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao6: :hao6: :hao6: :bye2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 18-02-2015 22:31:11
คู่ฮาๆๆๆๆๆๆ


เกรียนพอกัน 555
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-02-2015 23:21:05
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-02-2015 23:24:04
อร๊ายยย จะหวานกันก็หวานดีๆไม่ได้ ต้องทะเบาะกันก่อน อิอิอิอ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-02-2015 05:08:39
น้องซนคนใจง่าย.ว้ากกก~  o22 เกรียนกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-02-2015 06:31:31
สิ่งที่ซนคิด ~ มึงได้กูแล้ว เป็นเบ๊กูซะ
สิ่งที่น่านคิด~ เอาอีก เอากันนะ.   :laugh:   

เกรียนพอๆกันสมกันดี คงจะได้ติวกันแบบวิชาการเต็มที่ใช่ป่าว.   :hao6:
คู่รองอย่าดราม่ามากนะเค้าสงสารพี่บาสอะ
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 19-02-2015 08:10:48
น่าารักกกกกกกกกกก ได้เราแล้วนะมาต่อเร็วๆนะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 19-02-2015 08:12:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 19-02-2015 09:49:34
น้องซน นู๋กวนทรีนมากลูก o18
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 6 มึงได้กูแล้วนะ [18-02-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 19-02-2015 14:14:09
น่าจะไปเปิดคณะตลกนะ   รับรองดังกระฉูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 7 ลักหลับ [1-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 01-03-2015 15:01:10
Because of you ซน ตอนที่ 7 ลักหลับ



     “โอ้ยย เชี่ย” เมื่อยฉิบ....ความรู้สึกเมื่อยขบตามเนื้อตามตัวเป็นสิ่งแรกที่ผมรู้สึกตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมา พอมองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่าแสงอาทิตย์ด้านนอกยังคงสว่างไสวและโคตรรบกวนเวลานอนของผม ณ ตอนนี้ที่สุด ความร้อนจากด้านนอกยังไม่เท่าความร้อนที่กำลังแผ่รังสีออกจากตัวผมเลยด้วยซ้ำ เคยเป็นไหมครับเวลาที่ไม่สบายเราจะรู้สึกว่าตัวเองร้อนจากภายใน นั่นแหละความรู้สึกผมตอนนี้เลย

   
     ผมขยับตัวนิดหน่อยเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างมานอนทับแขน ตอนแรกคิดว่าจะเป็นผีอำที่ไหนนี่มันแมวอำชัดๆ


     แสนดีแมวแสนเลวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มทับแขนผมอยู่ตอนนี้ยังไม่ทีท่าว่าขยับตัวไป ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนพาแสนดีขึ้นมานอนบนเตียง ก็ไอ้คนที่นอนหลับหายใจสม่ำเสมออยู่ข้างๆผมนี่แหละตัวการ


     มึงคิดว่าเตียงที่กูนอนอยู่มันใหญ่พอให้มึงกับแมวขึ้นมานอนบนเตียงไหมน่าน

     “สบายเหลือเกินนะมึง” ผมลูบหัวไอ้ตัวการที่นอนหลับอยู่ข้างๆอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะขยับอุ้มแสนดีขึ้นมาวางไว้บนตักแล้วเอนตัวพิงหัวเตียงด้วยท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน

     “อื้อออ” เสียงครางของไอ้คนข้างๆทำให้ผมหันไปมอง ผมมองมันนิดหน่อยก่อนจะเอามือไปลูบหัวมันเบาๆอีกรอบ ไอ้น่านเอียงคอตามสัมผัสเหมือนแมวยักษ์ตัวโตๆที่กำลังอ้อนเจ้าของ
     “น่าน....”
     “อื้ออออ”
     “อื้อเชี่ยไรล่ะ ตื่นเดี๋ยวนี้เลย กูจะกลับบ้านแล้ว” ผมขยี้หัวมันก่อนจะบีบแก้มไอ้น่านอย่างแรง มันปัดมือผมออกแล้วดึงมือผมที่กำลังดึงแก้มมันอยู่ให้กางออกจากนั้นก็วางมือตัวเองทาบทับลงมาบนมือผมอีกที “อะไรของมึง”
     “หึ”
     “ยังจะมาหัวเราะอีก” ผมใช้มืออีกข้างเคาะไปที่หัวไอ้น่าน มันยิ้มเบาๆแล้วใช้มืออีกข้างท้าวหัวตัวเอง
     “ตัวมึงร้อนมากอ่ะ”
     “ก็แหงแหละ กูร้อนแรงขนาดนี้”
     “ขนาดนั้นเชียว”
     “ขนาดนั้นแหละ”
     “ก็ถูกของมึง”ไอ้น่านยักไหล่เหมือนว่าที่ผมพูดมันก็ไม่ได้ผิด “เมื่อคืนกูพิสูจน์แล้วด้วยสิ”
     “พูดอะไรของมึงเนี่ย” รู้สึกตัวเองเลยครับว่าหน้าที่ร้อนอยู่แล้วมันร้อนมากขึ้นกว่าเดิม กูไม่น่าเปิดประเด็นเรื่องร้อนแรงห่าเหวนี่เลยว่ะ
      “ช่างเรื่องร้อนแรงเหอะแม่ง” ผมรีบเปลี่ยนประเด็นทันที “ไปส่งกูหน่อยดิ๊ กูจะกลับบ้าน”
     “ทำไมรีบกลับ” ถ้าบอกเหตุผลแม่งไปมันจะหาว่าผมปัญญาอ่อนป่ะวะ แต่เหตุผลหลักๆของผมเวลาบอกเพื่อนมันก็จะมองว่าไร้สาระอ่ะ แต่สำหรับผมมันไม่ได้ไร้สาระนะครับมันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากๆ



     คือเรื่องมันเป็นแบบนี้แต่ก่อนผมเคยดัดฟันเพราะแต่ก่อนฟันผมทั้งบนและล่างมันจะมีเขี้ยวเหมือนแดร๊กคูร่าแล้วมันเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกอับอายมากๆในตอนที่เป็นเด็กเพราะเพื่อนๆสมัยประถมแม่งชอบล้อว่าผมเป็นลูกผีดิบ ณ ตอนนั้นก็คงไม่มีใครคิดออกหรอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ถูกไหมครับ แต่พอขึ้นม.ต้นผมก็รู้สึกว่าไอ้เขี้ยวทั้งสี่ที่มันยื่นเกินฟันส่วนอื่นดูน่าเกลียดสุดๆแล้วช่วงนั้นก็เห็นคนดัดฟันกันเยอะ ผมนี่ลงไปดิ้นขอม๊าให้ดัดฟันทันทีเพราะไอ้ความน่าเกลียด(ที่ผมคิดเอง)ของไอ้เขี้ยวสี่หน่อนั้น พอดัดไปหลายปีเกือบๆ 5-6 ปีผมก็ได้ฤกษ์ถอนเหล็กออก แต่เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ผมร้องขอให้ไอ้น่านพาผมกลับบ้านก็เพราะ ผมมีความเชื่อที่ถูกไอ้พี่หมอกรอกใส่สมองทุกครั้งที่ไปหามัน คือมันบอกผมว่าคนที่ดัดฟันเวลาถอนเหล็กออกแล้วต้องใส่รีเทรนเนอร์ตลอดโดยเฉพาะช่วงเวลานอนถ้าไม่ใส่ฟันผมจะกลับมาเป็นแบบเดิมอีกรอบ และนั่นทำให้เวลาผมไปนอนค้างบ้านใครต้องพกรีเทรนเนอร์ไปด้วยทุกครั้ง แต่เมื่อคืนไม่ได้ตั้งใจจะนอนค้างบ้านไอ้วีไงเลยไม่ได้เอารีเทรเนอร์มาด้วย ซวยแน่ๆฟันผมแม่งต้องเหยินแล้วแน่เลย

     
     “เดี๋ยวม๊าเป็นห่วง กลับเหอะ” ผมงอแงใส่ไอ้น่าน ส่วนมันก็ทำหน้าทำตาไม่สนใจผมแถมมือของมันที่ทาบทับมือผมอยู่ก็ลูบเบาๆไปมาเอาซะกูสยิวแปลกๆจะดึงออกแม่งก็ไม่ยอมปล่อย ถ้าไม่ปล่อยก็เลิกลูบกูได้ไหมเนี่ย
     “โทรบอกไหมล่ะ ม๊ามึงคงเข้าใจแหละตัวมึงยังร้อนๆอยู่เลย นอนต่ออีกหน่อยดิ”
     “ไม่เอา...กูจะกลับเดี๋ยวนี้”
     “แปลกๆว่ะ”
     “อะไร”
     “ไม่ใช่เรื่องม๊าใช่ไหม” มึงจะมาจับผิดอะไรกูวะน่าน มึงรู้จักกูกี่วันเชียว ได้กูแค่ครั้งเดียวมึงจะมาจับผิดการโกหกของกูได้เร็วขนาดนี้เลยหรือไง
     “เอาเหอะน่า...กูจะกลับบ้านเนี่ย แบตหมดด้วยต้องไปชาร์ต”
     “เรื่องอะไร”
     “น่าน”
     “กูถามว่าเรื่องอะไร” แม่งดูมันดิคิดว่าทำหน้าดุแล้วกูจะกลัวมึงหรือไง คิดว่าทำหน้าตาแบบนี้แล้วกูจะรีบบอกเหตุผลที่กูรีบกลับบ้านกับมึงหรอ
     

     “กูจะกลับไปใส่รีเทนเนอร์”
     “ห้ะ???”
     “ยังจะมาทำไม่ได้ยินอีก ก็อย่างที่บอกไงจะกลับไปใส่รี” ไอ้น่านยู่ปากทำหน้าขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ผมเลยต้องพูดต่อ “มึงดูฟันกูดิ มันเบี้ยวยังวะ กูกลัวเว้ยถ้าคืนไหนไม่ใส่รีพี่หมอบอกว่ามันจะทำให้ฟันกูเหยิน”
     “คิดว่าเป็นเรื่องอื่น”
     “มึงคิดว่าเป็นเรื่องอะไร” ผมหรี่ตาเล็กมองมันอย่างไม่เข้าใจ ไอ้น่านส่ายหัวเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
     “แค่วันเดียว ไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
     “วันเดียวก็ไม่เอาอ่ะ ถ้ามันขยับเหยินมานิดนึงทำไง”
     “หมอที่ไหนบอกมึงวะ มันแกล้งมึงหรือเปล่าเนี่ย” จะแกล้งหรือไม่แกล้งมันก็ทำให้กูเชื่อแบบนั้นแล้วนี่หว่า
     “กลับเหอะ กูรู้สึกว่าฟันกูแม่งเริ่มเบี้ยวแล้วจริงๆ เหมือนมันกำลังจะขยายออกมายังไงไม่รู้” ผมยู่ปากแล้วเขย่าตบหน้าไอ้น่านเบาๆเป็นเชิงบอก มันมองผมแบบยิ้มๆเหมือนขำผม “มึงหัวเราะกูเหรอน่าน”
     “เปล่า...ใครจะหัวเราะเมียตัวเองวะ”
     “เมียเชี่ยไรของมึง เงียบปากไปเลย ไปแต่งตัวกูจะได้กลับบ้านสักที” เพราะไอ้น่านมันใส่แค่บ๊อกเซอร์ลายคิตตี้กับเสื้อกล้ามสีขาวนอน แม่งอยากรู้จริงๆมันใช้สมองส่วนไหนซื้อบ๊อกเซอร์ลายนี้
     “ไหนกูขอสำรวจฟันมึงก่อนดิว่ามันเบี้ยวแล้วยัง”
     “มึงดูเป็นเหรอ”
     “เป็น” ผมล่ะไม่ค่อยอยากจะเชื่อน้ำหน้าคนอย่างไอ้เชี่ยน่านเท่าไหร่เลยครับ หลอกลวงกูแน่ๆ แต่กูเนี่ยใจบอกไม่เชื่อนะแต่ก็ยอมอ้าปากให้เขาดู
     “เบี้ยวเปล่า”
     “นิดนึง”
     “เฮ้ยยยย จริงดิ” ผมรีบเอามือจับฟันตัวเองทันทีว่าไอ้เขี้ยวมรณะมันขยับเสนอมากกว่าฟันตัวอื่นหรือเปล่าแต่พอจับดูมันก็ไม่เห็นว่าจะเบี้ยวขึ้นมาตรงไหน “มันเบี้ยวจริงเหรอ”
     “มึงแม่งตลก” ไอ้น่านขยับตัวนั่งแล้วพูดขึ้นตอนที่หน้ามันอยู่ใกล้ผมไม่กี่คืบ
     “มึงตอแหลกูงั้นเหรอน่าน”
     “ก็มึงตลกอ่ะ”
     “แต่กูไม่ขำนะเว้ย มึงไม่เข้าใจกู...กูไม่ว่าแต่อย่ามาทำแบบนี้ดิวะ คนเรามันเครียดไม่เหมือนกัน เรื่องฟันกูเนี่ยทำกูเป็นแพนิคได้เลยบอกตรงๆ” ผมหน้างอมองหน้ามันอย่างไม่พอใจ แต่แทนที่มันจะรู้สึกผิดไอ้คนตรงหน้ากลับยิ้มกริ่มให้ผมเฉยเลย “มึงรู้ไหมเนี่ยว่ากูด่า”
     ผมจับหน้ามันด้วยมือทั้งสองข้าง “กูด่ามึงอยู่ มึงเข้าใจไหม”
     “เข้าใจ...แต่มึงแม่งน่ารักว่ะ”
     “อะไรของมึง” แม่งไม่เกี่ยวกับน่ารักสักนิด ไอ้น่านขยับหน้ามาจนหน้าผากมันชนหน้าผากผม
     “ตัวมึงร้อน”
     “ร้อนแล้วมึงจะเอาหน้าผากมาแนบกูทำไม เดี๋ยวก็ติดไข้”
     “อยากติด” สายตามันแม่งโคตรเจ้าชู้อ่ะ “จูบแล้วนะ”
     “อะไร...”
     “จูบ...”
     “ไม่” ผมเม้มปากอัตโนมัติทันที
     “กูไม่ได้ขออนุญาตกูแค่บอกเฉยๆครับ” พูดจบไอ้น่านก็แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากผม ลิ้นเย็นๆเวลาประทะกับตัวร้อนๆของผมมันทำให้ผมรู้สึกดีจนอ้าปากออกรับลิ้นที่กำลังสอดเข้ามาในโพรงปาก น่านฟ้ากวาดลิ้นทั่วปากผมเหมือนสำรวจหาสิ่งมหัศจรรย์ ไล้เลาะตามไรฟันก่อนจะดึงดันดูดลิ้นผมออกมาจากปากตัวเองแล้วส่งกลับเข้าไปในปากมันอย่างลืมตัว



     ไอ้น่านจูบเก่ง



     มันสามารถทำให้อารมณ์ผมคล้อยตามได้ไม่อยาก


     “ลิ้นมึงร้อนโคตร”
     “แฮ่ก แฮ่ก ก็กูไม่สบาย”
     “ขออีกรอบ”
     “ไม่เอาแล้ว...มันขมปากอ่ะ” เวลาเราไม่สบายจะกินอะไรมันก็ขมคอไปหมด แม้กระทั่งการจูบแบบนี้
     “ขี้หวงว่ะ” ไอ้น่านยังวนเวียนเกลี่ยทั้งจมูกและริมฝีปากไปทั่วหน้าผม
     “เอ้า ก็ลิ้นกู กูมีสิทธิ๋หวง ไปแต่งตัว กูจะกลับบ้าน”
     “รู้แล้วๆ” น่านฟ้าจูบกลีบปากผมเน้นๆลงมาอีกรอบก่อนจะลุกไปหาเสื้อผ้าใส่ ผมมองตามมันอยู่สักพักก็หันมามองไอ้ตัวดีที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือมันนั่งมองผมด้วยสายตาแบ๊วมากๆ
     “มองอะไรวะแสนดี” ผมตบหัวแสนดีไปที “ลูกพี่มึงมันประสาท”




     ด่าไปกูก็ยิ้มไป กูบ้าหรือเปล่าวะเนี่ย แม่งเอ๊ยยยยยยย!!!!!











      “ขอบใจ”
      “ไม่คิดจะชวนกูเข้าบ้านเลยหรือไง”
      “ทำไมต้องชวนอ่ะ” ผมหันไปถอดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปเรียกแสนดีที่กำลังนั่งทำหน้าหยิ่งอยู่หลังรถ “ แสนดีมา ถึงบ้านแล้ว”
     “กูอยากเจอแม่มึง”
     “เจอทำไม”
     “จะได้บอกเขาไงว่ากูจะมาสอนลูกชายเขาจากคนโง่ให้กลายเป็นคนฉลาด” ผมรู้หรอกว่าไอ้น่านมันคิดอะไรอยู่ กูรู้นะว่ามึงอยากเจอแม่กูทำไม คิดว่ากูแดกหญ้าสินะไอ้น่าน
     “ไหนมึงจะสอนให้กูฟรีๆวะน่าน นี่มึงคิดจะเก็บตังค์ค่าติวหนังสือกูสินะ มึงคิดว่ากูโง่เหรอ คิดว่ากูดูคนอย่างมึงไม่ออกใช่ไหม”
     “มึงแม่งตลกจริงๆด้วย”
     “อะไรรรร ก็มันจริงนี่หว่า” ไอ้น่านส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะหันไปอุ้มแสนดีเอง “ไม่ต้องลงเลย กลับบ้านมึงไปได้แล้วไป” ผมหันไปยื้อไอ้แสนออกจากมือมันแต่ไอ้น่านไม่ยอมผมแล้วขยับตัวลงรถทันที
     “เชี่ยน่านนน” กูบอกให้มึงกลับบ้านไง” ผมเปิดประตูออกมาอีกด้านแล้วดักทางมันไว้
   
   

     “มึงเกลียดกูขนาดนั้นเลยเหรอวะซน เกลียดขนาดที่ไม่อยากให้กูเข้าบ้านเลยงั้นเหรอ” คำพูดมันเล่นเอาผมสะอึกแปลกๆ “อ่ะนี้แมวมึง กูกลับก็ได้”
   


     “เอ่อ...” ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆเลยเลือกหันไปปล่อยแสนดีให้เป็นอิสระแทน เพราะมันดิ้นจนแทบจะตกลงพื้นอยู่มะรอมมะร่อ
     “ช่างเหอะ กูแม่ง...ไม่น่าเลยว่ะ” มันพูดพึมพำอะไรสักอย่างกับตัวเองแล้วหันหลังกลับทำท่าจะขึ้นรถ ผมไม่รู้จะพูดรั้งมันยังไงเหมือนกันเลยปล่อยให้มันเดินไปขึ้นตามที่มันอยากทำ
     “พี่ซน...นั่นใครน่ะ”
     “ม๊า” ไอ้น่านหันมามองม๊าผมแล้วยกมือไหว้ม๊าผมทันที
     “หวัดดีครับคุณน้า ผมเป็นรุ่นพี่เพื่อนน้องซนน่ะครับ” ตอนที่มันเรียกผมว่าน้องซนเชื่อไหมว่าขนผมนี่ลุกเกรียวเลย มันกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ไงวะ ไม่กระดากปากหรือไง
     “รุ่นพี่เพื่อน??”
     “ผมเป็นรุ่นพี่วีน่ะครับคุณน้า”
     “อ๋อออ น้องวี ม๊าไม่ได้เจอน้องวีนานมากแล้วนี่เราชื่ออะไร แหมหล่อเชียว ม๊าชอบคนหล่อหน้าตาแบบนี้จัง” ม๊าผมเริ่มออกอาการอีกแล้ว เห็นคนหน้าตาดีๆหล่อๆแบบไอ้น่านทีไรชอบเรียกสะกิดให้ผมดูแล้วชอบพูดเสมอว่าถ้าผมเป็นลูกสาวนางจะเที่ยวยกผมให้คนนั้นคนนี้

     “ชื่อน่านครับคุณน้า”
     “น้าเน้ออะไรกัน เรียกม๊าดีกว่า เรียกน้าแล้วมันดูไม่ใช่ ม๊าว่าม๊าอายุมากกว่าแม่น่านอีกมั้ง”
     “ครับม๊า” เปลี่ยนเร็วไปไหมมึง ไม่คิดจะเล่นตัวหน่อยหรือไง
     “แล้วนี้พี่น่านจะกลับแล้วเหรอคะลูก”
     “ครับ พอดีผมมาส่งน้องซน เมื่อคืนน้องไปติวหนังสือกับผมที่บ้านวีน่ะครับ แล้วน้องเหมือนจะไม่สบายผมเลยรีบมาส่งก่อน”
     “ห้ะ??ติวหนังสือ” ม๊าหันมามองหน้าผมแบบโคตรไม่เชื่อ ทำไมวะเจ้น้ำหน้าอย่างไอ้ซนเนี่ยจะติวหนังสือหนังหาไม่ได้เลยไง แล้วไอ้น่านแม่งพูดปูพื้นขนาดนี้แสดงว่าแม่งกะจะเอาค่าติวกะม๊าผมแน่ๆ มันนี่ช่างร้ายกาจ “พี่ซนติวหนังสือ จริงเหรอเนี่ย???”
     “ม๊าเสียงสูงไปไหม พี่ซนติวจริงๆดิ ก็อย่างที่พี่ซนบอกไปนั่นแหละพี่ซนจะเข้ามหาลัย ไม่พูดกับม๊าแล้ว มึง...”ผมหันไปมองหน้าไอ้น่านแล้วหันไปมองหน้าม๊าทันทีที่หลุดคำว่ามึงออกไป “พี่น่านกลับไปได้แล้วไป ยืนเกะกะขวางทางอยู่นั่น”
     “อะไรเนี่ยพี่ซนไปไล่พี่น่านเขาทำไม เดี๋ยวพี่น่านอยู่กินข้าวเย็นกับม๊าก่อนนะ”
     “แต่ว่า...”ไอ้น่านทำหน้าไม่ถูกแล้วหันมามองที่ผม แม่งกดดันผมชัด “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ น้องซนเขาคงไม่อยากให้ผมอยู่”
     “พี่ซนทำไมเป็นคนแบบนี้ ม๊าเคยสอนให้พี่ซนเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เชี่ยน่านแม่งนิสัยเสีย มันเล่นงานผมอยู่ชัดๆ เล่นผมตรงๆไม่ได้ก็เลยยืมมือม๊ามาสังหารผมแทน ร้ายกาจยิ่งนัก
     “พี่ซนไม่ได้พูดอะไรเลยนะม๊า”
     “แล้วพี่ซนต้องพูดว่าไง” ผมเบ้ปากแล้วหันไปมองหน้าน่านฟ้า มันเหยียดยิ้มเหมือนผู้ชนะแว่บนึงแต่สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปทันทีที่ม๊าผมหันไปมอง จิ้งจกชัดๆ
     “พี่น่านอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะ พอใจยัง”
     “พอใจค่ะ ไหนมานี่หน่อย เห็นพี่น่านบอกว่าพี่ซนไม่สบายเหรอคะ”
     “มากๆอ่ะม๊า พี่ซนเจ็บคอด้วย” ผมเดินไปกอดเอวม๊าแล้วเอามืออีกข้างจับคอตัวเอง “ปวดหัวด้วยอ่ะม๊า”
     “ปกติก็เห็นแข็งแรงจะตาย”
     “แต่คราวนี้พี่ซนไม่แข็งแรง”
     “หึ” เสียงหัวเราะที่เดินตามหลังผมกับม๊ามาทำให้ผมรีบหันไปมองหน้าไอ้น่าน มันยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหมือนคนยอมแพ้แล้วอมยิ้มจนหน้าหล่อๆของมันดูหล่อขึ้นไปอีก มันต้องรู้สึกตลกผมแน่ๆที่เห็นคนแมนๆอย่างผมอ้อนม๊าแบบนี้ แต่ช่างเถอะผมไม่แคร์
     “งั้นพี่ซนขึ้นไปนอน เดี๋ยวม๊าทำข้าวต้มหมูเด้งที่พี่ซนชอบกับเอายาขึ้นไปให้”
     “เยี่ยม พี่ซนไปรอบนห้องนะม๊า” ผมจุ๊บแก้มม๊าไปทีก่อนจะวิ่งขึ้นมาบนห้องตัวเองภายในไม่กี่นาที ค้นกล่องรีเทนเนอร์ที่อยู่บนลิ้นชักหัวเตียงขึ้นมาใส่เป็นอันดับแรก ก่อนจะส่องกระจกดูฟันตัวเองที่ยังเรียบเนียนไม่มีซีกไหนโผล่ออกมาให้หนักสมอง ผมเปลี่ยนชุดนอนแล้วเปิดแอร์ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงตัวเอง



      แกร๊ก




     ผมที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์ไปชาร์ตแบตตรงหัวเตียงไปรีบวางมือถือแล้วแกล้งหลับทันที ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะแกล้งหลับทำไม - -

     “อ่าวพี่ซนหลับ”
     “ไม่เป็นไรม๊าเดี๋ยวรอให้น้องหลับไปสักพักก็ได้” น้อง??? กูอยากอ้วกกับคำพูดแม่งจริงๆ เสแสร้งชัดๆ
     “แต่ม๊าว่าจะเช็ดตัวให้”
     “เดี๋ยวผมเช็ดให้ก็ได้ครับ”
     “ครับไม่เป็นไร”
     “ยังไงพอพี่ซนตื่นม๊าฝากพี่น่านเช็ดตัวแล้วก็บังคับให้เขากินยาด้วยนะ”
     “ครับม๊า” เสียงคนสองคนที่ยืนคุยกันตรงข้างเตียง ใจนึงก็อยากลืมตาขึ้นมองเหมือนกันแต่กลัวพิรุธเลยต้องหลับตาแกล้งทำนิ่งไว้แบบนี้


     เสียงเหมือนใครสักคนเดินออกไปนอกห้องแล้ว พร้อมกับใครอีกคนที่นั่งลงบนเตียง มือเย็นของมันวางทางทับบนหน้าผากผม ไม่นานผมก็รู้สึกผ้าเย็นๆที่เริ่มเช็ดจากใบหน้าไปที่ซอกคอ ใบหู มันรู้สึกดีสุดๆเลยครับเวลาที่ความเย็นจากผ้าลูบไล้ไปทั่วร่างกาย
น่านฟ้าเลิกเสื้อผมแล้วเริ่มเช็ดตัวจากต้นคอไล้ลงมาที่หน้าอก ผมไม่รู้ว่ามันจงใจหยุดอยู่ตรงแถวนั้นนานไปไหมแต่พอผ้าเย็นๆปัดโดนหัวนมทีไร ความรู้สึกแปลกๆก็ก่อตัวขึ้นในมวนท้องผมทันที


      แม่งเหมือนมีผีเสื้อบินชนกันในท้องผมยังไงยังงั้น


      มึงเลิกเล่นกับหัวนมก็สักทีเถอะน่านไปทางอื่นมั่งเถอะก็ขอร้องล่ะ


     แต่เหมือนว่ากระแสจิตที่ผมส่งไปให้มันจะได้ผลในทางที่แย่กว่าเดิมเพราะไอ้น่านเปลี่ยนจากการเช็ดแถวๆหน้าอกผมไปแถวๆท้องแทน มือมันเอาผ้าเย็นๆล้วงเข้าไปในกางเกงนอนผมเลยให้ตาย


     “ซน...มึงตื่นอยู่ใช่เปล่า”

     กูหลับมึงเห็นไหมกูหลับตาอยู่

     “อย่าแกล้งกูได้ไหม”

     มึงตั้งหากที่แกล้งกู เอามือมึงออกจากกางเกงกูเลยนะสัส


     ไอ้น่านไม่พูดอะไรต่อแต่สิ่งที่ผมรับรู้ตามมาคือลมหายใจร้อนๆที่ประทะเข้ากับผิวผม มาลากบางเบาจากใบหน้าลงมาที่ซอกคอก่อนจะต่ำลงไปที่หน้าอก

     “อ้ะ...” เชี่ยเสียงออก ผมรีบเม้มปากตัวเองทันทีที่หลุดเสียงประหลาดออกไป น่านฟ้าเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับเสียงผมเท่าไหร่ เพราะลิ้นมันยังทำหน้าที่ดูดดึง ขบกัดที่น่าอกผมไม่เลิก



     ไอ้น่านมันกำลังทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ น้องชายที่นิ่งสนิทกำลังจะตื่นขึ้นมาเคารพธงชาติอีกรอบ



     ริมฝีปากไอ้น่านขยับจากหน้าอกผมฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนจะขยับไล่ลงไปเรื่อยๆ เสียงดูดผิวเนื้อดังจ๊วบจ๊าบจนผมเองยังได้ยิน ใจผมอยากจะลุกขึ้นมาบอกมันเหลือเกินว่าหยุดเว้ยมึงลักหลับกูเหรอน่าน



      แต่อีกใจกลับรู้สึกว่า






     ต่ำลงกว่านี้อีกนิดนึงได้ไหมวะ








TBC
หายไปนานเพราะยุ่งสุดๆ แต่ตอนนี้โอเคขึ้นแหละเพราะได้งานแล้ว เย้ๆๆๆ
ขอบคุณคนอ่านคนเม้นนะคะ
อิมเมทน้องซนหน้าตาแนวๆนี้เลย ใส่รีหน้าขาวตาสองชั้นหลบในแล้วเวลายิ้มที่ตาเกือบหาย 55
(http://upic.me/i/as/sehun-once-again-posted-a-picture-on-exo-k-website-with-his-second-dongsaeng-01.jpg)
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 7 ลักหลับ [1-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-03-2015 15:19:31
น้องซนน่าร้ากกกก~ :-[ ชอบคิดไปเองแบบออกทะเลไปไกลตลอด. :m20: พี่น่านก็ขี้หื่น ลวมลามน้องซนไม่หยุดเลยเชียว.ชอบจางง~
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 7 ลักหลับ [1-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-03-2015 15:31:14
 :กอด1:  ขอบคุณที่มาต่อค่ะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เรารออ่านนะ อิมเมจกับนิสัยน้องซนเข้ากันดีจัง นางฮานางรั่วแล้วยังขี้อ้อนด้วยชอบๆ

พี่น่านนับวันจะยิ่งหื่นนะ. อาการทาสแมวก็เริ่มหนักแล้ว.  แถมยังเนียนมาลักหลับถึงบ้าน ต่อไปทางสะดวกแน่ๆก็ม๊าถูกใจขนาดนี้
พออ่านตอนที่ซนมีเขี้ยว เราคิดว่าเหมือนฟันแมวมากกว่าแดร็กคูล่านะ.

เวลาเขี้ยวแมวโผล่จอนขู่ฟ่อๆแบบหนูซนเนี่ยมันน่าฟัดสุดๆไปเลย.  :impress2: 

เป็นกำลังใจให้นะคะ
ปล ตอนที่แล้วมีคำผิด ผ้าหูสีดำ น่าจะเป็นผ้าห่มมากกว่านะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 7 ลักหลับ [1-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-03-2015 14:50:17
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 8 ปอมเมอเรเนียน [8-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 08-03-2015 18:09:46
Because of ซน ตอนที่ 9 ปอมเมอเรเนียน

ความรู้สึกผมตอนนี้แม่งวิ่งชนกันวุ่นวายไปหมด ทั้งอยากให้มันทำมากกว่านี้ทั้งอยากจะลุกขึ้นมาด่า แต่สุดท้ายตัวเองก็เสือกนอนนิ่งๆให้ไอ้น่านมันทำแต่ตามความต้องการของมันเฉย


ผมนอนนิ่งรอคอยสัมผัสของมันนานอยู่พอสมควร จากตอนแรกที่ริมฝีปากเย็นกำลังไล่คืบคลานจากบนลงล่าง

แต่


ทำไม


แทนที่มันจะทำต่อจู่ๆมันกลับหยุดไปเสียดื้อๆ


พอผมลองหรี่ตาขึ้นมองภาพที่เห็นคือมันกำลังคร่อมผมอยู่ “มึงตื่นแล้วสินะ”

พอมันพูดจบเท่านั้นแหละ ผมนี่รีบหลับตาปี๋ก่อนจะแกล้งพึมพำทำเสียงเหมือนคนยังไม่ตื่นขยับผลักมันให้ลงจากตัวผมแต่พอยิ่งผลักไอ้ตัวควายๆที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ขยับสักที แถมดันเข่ามาเสียดสีตรงแถวๆน้องชายผมด้วย

“อ๊ะ..”

“ไม่ต้องมาแกล้งหลับเลย” เสียงกระเส่าเว้าวอนตีนกระซิบข้างหูไม่พอเลียหูกูด้วย

ผมขยับตัวอีกครั้ง กะว่าคราวนี้จะนอนหันข้างให้แม่งเลย แต่พอขยับหันข้างขาผมแม่งดันไปเกี่ยวขาไอ้น่านให้ล้มลงไปกลับผมด้วย สุดท้ายกลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนมันกับผมนอนหันข้างเขาหากันพร้อมกับเข่าไอ้น่านที่ยังทำหน้าที่อย่างดีเสียดสีไปมาจนผมขนลุกไปหมด

“จังไรเหรอมึง” สุดท้ายเพราะความอดทนที่ยังเสียดสีหนักขึ้นเรื่อยๆผมเลยลืมตาโพล่งขึ้นมองมัน น่านฟ้ายิ้มมุมปากนิดๆทำอย่างกะว่าตัวมันแม่งเป็นผู้ชนะยังไงยังงั้น “คิดจะลักหลับกูรึไง พออออ..เอาเข่าออก” พอลืมตาตื่นมองหน้าคมๆของมันความหื่นที่มีอยู่เกินร้อยก็ลดระดับลงเหลือศูนย์ทันที

“ลักหลับเนี่ยนะ ยังกล้าพูดเนอะ ยังงี้เขาเรียกสมยอมไม่ใช่หรือไง กูรู้นะว่ามึงตื่นตั้งนานแล้วอ่ะ” มึงผิดแล้วน่านฟ้ากูไม่ได้ตื่นตั้งนานแล้วแต่กูไม่ได้หลับตั้งหาก “ไม่ต้องมาทำปากยู่ กูจะเอายามาให้มึงกินเนี่ย แม่ให้เอามาให้”

“วางๆไว้บนหัวเตียงนั่นแหละ ตอนนี้กูยังไม่อยากกินว่ะ ขมคอ ง่วงด้วย”

“กูว่าจะพูดกับมึงเรื่องนี้หลายครั้งและ” จู่ๆน่านฟ้ามันก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงแล้วก้มหน้ามองผม

“เรื่อง”

“เรื่องที่มึงพูดกูๆมึงๆกับกูเนี่ย”

“อ่าวแล้วทีมึงยังพูดกูๆมึงๆกับกูเลยกูไม่เห็นเอามาเป็นประเด็นสักนิด...โอ้ยยย” แม่งมันตีปากผมอ่ะ นิสัยเสียว่ะ พวกป่าเถื่อน ชอบใช้กำลัง ผมกำลังจะยื่นมือไปตีปากมันคืนแต่น่านมันจับมือผมไว้ได้ก่อน

“แต่กูเป็นพี่มึงนะ”

“เกิดก่อนกูไม่กี่ปีเอง”

“แต่อย่างน้อยมึงก็ควรเคารพกูบ้าง”

“ให้เคารพยังไง กราบไหว้มึงเช้าเย็นสักการบูชาเหมือนเทพพระเจ้าเลยไหมล่ะ”

“จะทำแบบนั้นก็ได้”

“เหอะ...ไม่เรียกอ่ะ เรียกแบบนี้แหละ” ไอ้น่านส่ายหัวนิดๆเหมือนปลงในความดื้อของผม ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเรียกอะไรแบบนั้นหรอกนะครับ แต่ไงดีอ่ะ มันกระดากปากมากกว่าไม่ได้เรียกมาตั้งแต่แรกพอจะมาเรียกมันก็ดูตลกๆยังไงไม่รู้ ถึงก่อนหน้านี้จะมีเรียกบ้างแต่มันก็ไม่บ่อย แล้วเรียกแบบนี้มันติดปากไปแล้วด้วย

“แล้วเรื่องเรียนอ่ะกูคุยกับม๊ามึงแล้วนะ เขาบอกว่าให้มึงมาติวที่บ้านกูตั้งแต่เย็นวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์”

“โหววววว ทำไมบังคับกันอย่างนี้วะ”

“หรือมึงไม่อยากเรียนก็ได้นะ”

“ตลกแหละ ได้กูแล้วคิดจะไม่รับผิดชอบเหรอ” เดี๋ยวกูเอาลำโพงฟาดให้

“ก็มึงหาว่ากูบังคับ ซึ่งถ้าพูดให้ถูกคือม๊ามึงตั้งหาก เอาเป็นว่าศุกร์หน้ากูไปรับมึงที่วิทยาลัยล่ะกัน วันนี้กูว่าจะกลับแล้ว” ผมพยักหน้าหงึกๆให้มันก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหน้าจนเกือบครึ่ง “แต่มีอย่างหนึ่งที่อยากลองก่อนไป” หน้าตาเจ้าเล่ห์แบบนี้ผมไม่อยากจะเดาทางแม่งเลยให้ตาย

“อะไรอีก”

“กูไม่เคย...กับคนที่ใส่เหล็กสักที”

“แล้ว...”ผมเอาผ้าห่มปิดปากตัวเองแน่นกว่าเดิม

“เขาบอกว่ามันเสียว...ก็แค่อยากลองว่ะ” ไอ้ที่บอกว่าเสียวอ่ะหมายถึงเรื่องอะไรวะถ้าจะให้กูใช้ปากกับมึงล่ะก็น่านฟ้า มึงฝันเอาเหอะ

“ตลกและกูไม่ทำให้มึงหรอกนะ”

“มึงคิดอะไรอยู่ครับเตี้ย กูหมายถึงจูบก่อน” มีคำว่าก่อนแสดงว่าหลังจากที่มึงคิดว่าล่อลวงกูได้มึงจะให้กูใช้เหล็กที่อยู่ในปากกูทำอะไรกับมึงงั้นดิ “ไม่เห็นต้องทำหน้าหมางงแบบนั้น แค่จูบเอง”

น่านฟ้าขยับคร่อมตัวผมอีกครั้ง มันใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆที่หน้าผากก่อนจะจูบลงมาที่ปากผมทั้งๆที่มีผ้าห่มกั้นอยู่ แต่คนอย่างมันต่อให้ผ้าห่มกั้นก็สามารถดึงออกได้ในไม่ช้าอยู่ดี

“ตื่นเต้นดีว่ะ”ผมหรี่ตาเล็กมองอาการคนตรงหน้า แม่งจะตื่นเต้นทำไมก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เมื่อคืนผมกับมันทำมากกว่าจูบอีก = =;;

“สักทีเหอะน่าน กูง่วงแล้วเนี่ย เหนื่อยก็เหนื่อย เป็นไข้ดะ..อื้มม” ก่อนที่ผมจะพูดคำสุดท้ายจบน่านฟ้าก็ก้มลงมาประกบปากผมทันที ลิ้นมันเย็นดีจัง ต่างจากลิ้นผมที่รู้สึกว่าร้อนสุดขั้ว ยิ่งเวลาที่มันใช้ลิ้นเลาะไปตามไรฟันที่มีรีเทรนเนอร์เกาะอยู่ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงดีมากแค่ไหนแต่มันก็ยังรู้สึกขัดๆอยู่ดีเพราะกำลังคิดว่าถ้าจูบแบบไม่มีรีเทรนเนอร์มันดีกว่านี้มากๆ

ผมเอื้อมมือไปทุบไหล่มันทีเพราะตอนนี้เหมือนจะหายใจไม่ออก มันปล่อยผมเป็นอิสระแว่บนึงแล้วกดปากตัวเองลงมาต่อ ท่าทางแม่งจะชอบจริงๆนั่นแหละ เพราะเลาะรีเทรนเนอร์กูอยู่นั่น เอาไปใส่เองเลยไหมห้ะ

“แฮ่ก..แฮ่ก...พอยัง” พอมันปล่อยปากผมอีกรอบน่านฟ้าขยับริมฝีปากไปที่คอแทน ความรู้สึกจี๊ดที่ผิวเนื้อแต่ไม่ได้เจ็บมากเท่ากับความเสียวที่ก่อขึ้น ผมเอียงคอให้น่านฟ้าดูดผิวเนื้อผมได้สะดวกมากขึ้น แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลายเป็นว่ามันชะงักไปนิดนึงก่อนจะวางศีรษะลงกับบ่าผมพร้อมทิ้งทั้งตัวทับผมทันที

“มึงแม่ง...” มันบ่นพึมพำอะไรสักอย่างกับซอกคอผม

“อะไรอีก...หนักเว้ย”

“มึงอ่ะ”

“อะไรของมึงเนี่ยน่าน หนัก ลุกเร็ว” ผมใช้มือทุบไหล่เจ้าตัวไม่อีกรอบ น่านฟ้าไม่ตอบอะไรกลับมาอีกแค่จูบซอกคอผมอีกที ผมไม่ได้ท้วงอะไร อยากทำอะไรก็ทำไปดิ มึงได้ประโยชน์ ผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะเสียประโยชน์อะไรด้วย แต่ถ้ามากกว่านี้ น้องชายผมลุกขึ้นมาอีก คนที่รับผิดชอบทำให้มันสงบก็คงมีแค่มัน

“กูว่ากูกลับดีกว่า” มันลุกขึ้นพรวดพราดออกจากตัวผมแล้วสูดหายใจลึกๆเข้าปอด

“อาหะ กลับดีๆล่ะ” ผมยกมือข้างนึงเหมือนบอกลามัน น่านฟ้าพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ แปลกดีว่ะทำตัวงงๆเหมือนคนไม่เข้าใจตัวเองยังไงไม่รู้

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอมองชื่อที่โทรเข้ามาผมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ สายนี้แม่งไม่รับไม่ได้ด้วยสิ











“ยังไงครับยังไง หายหน้าหายตาไปหลายวันสีหน้าดูอิดโรยไปนะเพื่อนฝูง” ผมเหล่ตามองไอ้เล็กนิดหน่อยแล้วขยับนั่งลงข้างๆมัน สองสามวันที่ผ่านผมไข้ขึ้นแต่ก็ไม่เท่าความขี้เกียจที่มีอยู่มากจนสำออยบอกม๊าว่ายังไม่หายไข้เลยได้หยุดเรียนไปฟรีๆอีกสองวันถ้วน

“ก็แค่ไม่สบายแหละมึง”

“แต่หน้าตาอิดโรยไหนเลยจะสู้ผิวที่ดูเปล่งปลั่งขึ้นเหมือนคนได้ปล่อยน้ำ ยังไงวะเจอน้องเอยเหรอ” น้องเอยที่ไอ้เล็กพูดถึงก็แฟนผมนั่นแหละครับ น้องเขาเรียนเตรียมอุดมอยู่ใกล้ๆกับวิทยาลับผมนี่แหละ อยู่ม.หกแล้วช่วงปีที่ผ่านมาผมกับน้องเอย เราไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าไหร่เพราะน้องต้องอ่านหนังสือ เห็นบอกว่าจะสอบเข้าคณะแพทย์อะไรแนวๆนั้น แต่ก็ยังติดต่อพูดคุยกันตลอดแหละครับ ส่วนใหญ่เป็นผมที่ไลน์ไปถามทิ้งไว้ถ้าน้องว่างก็จะไลน์กลับมาหรือไม่ก็โทรมาเลย เป็นไงเห็นหน้าหล่อๆแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะเจ้าชู้นะครับ ก็อย่างที่บอกไปว่าผมรักแฟนมากกกก

“เปล่าไม่ได้เจอ”

“แต่รอยดูดที่คอนี่ไม่ใช่เรื่องที่ปกปิดได้หรอกนะครับเพื่อนครับ” เออ ให้แม่งเข้าใจแบบที่มันเข้าใจไปแหละครับ เพราะถ้าเกิดบอกไปว่ารอยที่คอไม่ใช่น้องที่ทำแต่เป็นไอ้ผู้ชายมันคงหงายเงิบแหงๆ

“แล้วนี่มึงเลือกที่ฝึกงานยัง” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วหยิบชีทวิชาที่กำลังจะเรียนขึ้นมาวางบนโต๊ะ หลังจากนี้อีกเดือนพวกผมต้องเร่งหาที่ฝึกงานแล้ว ทำอะไรก็ได้ขอให้เรียกว่าฝึกงานเป็นพอ ไอ้ผมก็มองๆดูอยู่ว่าจะทำอะไรดี อาจจะฝึกกับพวกรุ่นพี่ตามโรงงานแถวฝั่งธน แต่ไม่รู้วะคงต้องหาๆดูก่อน

“เลือกแล้ว กูว่าจะไปฝึกที่ชลบุรีแล้วก็ทำงานที่นั่นเลยว่ะ”

“มึงไม่เรียนต่อมหาลัยจริงๆเหรอวะ”

“มึงก็รู้...”ไอ้เล็กทำหน้าเศร้าๆ ผมก็พอจะรู้นะว่าบ้านมันไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็อยากให้มันลองคิดทบทวนอีกที

“เออกูรู้แล้ว เอาที่มึงสบายใจนั่นแหละ” ผมไม่ค่อยชอบเรื่องดราม่าเท่าไหร่ เลยเลือกที่จะปล่อยผ่านแล้วมองข้ามเรื่องพวกนี้ให้มากที่สุด





เย็นวันศุกร์หวนกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนไอ้เชี่ยน่านโทรมาย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้ผมเตรียมของใช้ส่วนตัวไปด้วย ของที่ผมจะเตรียมมันก็แค่แปรงสีฟันและบ๊อกเซอร์เพราะที่เหลือผมก็กะว่าจะใช้ของมันนั่นแหละครับ ถ้าเกิดว่ามันไม่ใช้งั้นเหรอ แล้วไงอ่ะด้านได้อายอดเว้ย

น่านฟ้าบอกว่าจะแวะไปซื้อหนังสือที่ห้างก่อนแล้วค่อยขับรถไปเอากระเป๋าเสื้อผ้ากับอิแสนดี(ที่เน้นย้ำเหลือเกินว่าห้ามลืมบอกม๊า แน่นอนว่าม๊าอนุญาตส่วนไอ้ซูเจ้าของที่แท้จริงก็ได้แต่เออออตามอำนาจมืดของม๊า ช่วยไม่ได้ม๊าสั่งนี่หว่า) พอเรียนเสร็จล่ำลาเพื่อนฝูงที่เอาแต่ทำหน้างงว่าผมจะไปไหน ผมนี่ตอบออกไปอย่างมั่นใจเลยครับว่าติวหนังสือ หน้าตาอย่างกูนี่แหละใฝ่เรียนรู้คู่คุณธรรมเว้ยไม่เหมือนพวกมึงหรอกเรียนเสร็จก็นัดดอทเอกันตลอด หัดเอากูเป็นตัวอย่างซะมั้ง พอบอกไปแบบนั้นพวกแม่งแต่ล่ะตัวไม่ลืมที่จะโบกหัวผมคนล่ะที

ผมกับน่านฟ้านัดกันตอน 4 โมงเย็น เพราะมัวแต่คุยกับพวกไอ้เล็กอยู่เลยให้ผมลืมเวลานัด ก้มมองนาฬิกาอีกทีก็เกือบๆจะ 5 โมงแล้วด้วยซ้ำ สุดท้ายเลยได้แต่วิ่งตีนผีมาที่หน้าวิทยาลัยอย่างที่เห็น พอวิ่งมาถึงไม่ทันหายเหนื่อยก็เห็นรถยี่ห้อคุ้นตาจอดอยู่ตรงหน้าพอดี

“มาช้าว่ะ กูนั่งรอมึงมาชาติกว่าแล้วเนี่ย แฮ่ก แฮ่ก เลี้ยงข้าวกูเลยนะ..ร้อน” ผมบ่นพึมพำแล้วหันไปเร่งแอร์บนรถไอ้น่าน

“รถติด”

“ข้ออ้างชัดๆ หัดดูบ้างดิวะ เวลาคนนัดอ่ะมาให้มันตรงเวลาบ้าง มึงไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้นอ่ะน่าน คนผิดก็คือคนผิด เลี้ยงข้าวกูเลยนะวันนี้” ผมสั่งเสร็จสรรพแล้วหันไปวางกระเป๋าไว้หลังรถ “โอ้ยยยย เจ็บนะ”

“มาถึงแม่งก็สั่งเอาสั่งเอา มึงเห็นกูเป็นอะไรเนี่ย”

“คนรับใช้ไง มึงบอกเองนะน่าน คิดจะยกเลิกสัญญารึไง ได้กูแล้วนะ ได้กูแล้ว” ผมหันไปหยิกแก้มแล้วย้ำสิ่งที่มันเคยสัญญาไว้กับผม

“เออกูรู้แล้ว ย้ำกูจังเว้ย เดี๋ยวคืนนี้ย้ำอีกรอบดีไหม”

“เฮ้ยยยยยยยยยย ไม่เอากูยังไม่พร้อม” โคตรของโคตรไม่พร้อมด้วย “ไม่เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาสักอย่าง ถุงยางก็ไม่มีจะมาทำสดโดยไม่มีตัวช่วยกูไม่เล่นด้วยหรอกนะ”

“เรื่องนั้นมึงไม่ต้องห่วง” น่านฟ้ายิ้มมุมปากแล้วหันไปขับรถต่อ อย่าบอกนะว่ามันเตรียมตัวมาอย่างดี นี่มึงคิดจะเอากูมากกว่าจะติวกูใช่ไหมน่าน มึงมันคนจังไร มึงมันนิสัยเสียยยยย



 น่านฟ้าพาผมไปกินราเมงในห้างแถวๆวิทยาลัยผมระหว่างที่นั่งไปกินไปมันก็ชวนผมคุยไปเรื่อยส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเอกที่จะเรียน ผมกะว่าจะเลือกวิศวะคอมพิวเตอร์เพราะผมคิดว่าถ้าผมมาด้านนี้น่าจะเวิร์คกว่า

“แน่ใจเหรอ” มันเงยหน้ามองผมตอนที่ผมบอกว่าจะเลือกเอกนี้

“ทำไมวะ มันยากเหรอ แต่ก็คงไม่เท่าไหร่มั้ง เพราะไงกูก็เรียนเอกนี้มา”

“แต่สมองระดับมึง...กูว่าโยธายังยากเลย”อ้ออออ ที่พูดค้านขึ้นมานี่ต้องการจะหาเรื่องสมองกูงั้นสิ ผมยู่หน้าใส่มันไปทีแล้วหันไปเขี่ยบะหมี่ในชามต่อ ไม่อยากคุยกับแม่งแล้วครับชอบหาว่าผมโง่บ้าง สมองน้อยบ้าง หรือไม่ก็ชอบด่าผมเรื่องความสูง กูผิดมากไหมน่านที่ตอนเด็กกูไม่กินนมอ่ะแม่ง

“งอน??”

“งอนอะไรล่ะ คำนั้นเอาไว้ใช้กับผู้หญิง”

“แล้วที่มึงทำหน้าไม่พอใจ แล้วเขี่ยของกินเล่นแบบนั้นเขาเรียกว่าอะไร”

“อิ่มไงสัส อิ่ม ไม่อยากแดกต่อแล้ว อยากไปหาความรู้ใส่สมองโง่ๆของตัวเอง” ผมเลื่อนชามบะหมี่ผลักไปจนชนกับชามไอ้น่านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หงุดหงิดนะครับเวลาเห็นคนย้ำคำพูดเดิมๆกับตัวเอง ผมเองก็พอรู้ตัวอยู่ว่าตัวเองไม่ได้เก่ง ฉลาดอะไรนักหรอก แต่พอมาคิดดูอีกทีไอ้เรื่องที่อยากเข้าวิศวะคอมมันอาจจะยากเกินความสามารถผมจริงๆก็ได้มั้ง

หรือว่าผมควรจะเลือกสาขาอื่นดีวะ

“โกรธกูงั้นดิ”

“....” ไม่อยากพูดกับแม่งเลยครับ ปวดหัว เหมือนสมองจะระเบิด ผมกับมันเหมือนเส้นสองเส้นที่ไม่สามารถเอามาผสมให้เข้ากันได้

“เลิกงอนเถอะวะเดี๋ยวพาไปเลี้ยงหนม” คิดว่าคนแบบกูเอาของกินมาล้อแล้วจะหายโกรธงั้นดิ เหอะ

“อัฟเตอร์ยูนะ”

“ตามนั้น” เยี่ยม เพิ่งจะเห็นความดีความชอบมันก็ตอนนี้ หลังจากที่สวาปามอัฟเตอร์ยูเสร็จมันพาผมมาเลือกซื้อหนังสือที่ผมต้องใช้สอบก่อนจะพาขับรถกลับไปที่บ้านรับอิแสนดีที่ตอนนี้แทบจะลืมไปแล้วว่าเจ้านายที่แท้จริงขอมันคือผมที่ยืนอยู่ตรงนี้ เห็นแล้วแม่งอดไม่ได้ที่ยื่นมือไปเขกกะโหลกอีกที เห็นแล้วหมั่นไส้จริงๆนะครับ ทำไมคนที่เป็นทาสแมวถึงชอบมันขนาดนี้ทั้งๆที่แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่โคตรหยิ่งอ่ะ

“กูถามจริงมึงอิจฉาแมวตัวเองหรือเปล่า”

“สักนิดก็ไม่เคยเลยเถอะ ส่งมันมาเดี๋ยวกูอุ้มเอง”

“รู้แล้ว” มันส่ายหัวแล้วส่งแสนดีมาให้ผม

“ม๊ามึงน่ารัก”

“จะฝากตัวเป็นลูกเลยไหมล่ะ” รู้จักกันแค่สองครั้งนี่แทบจะเรียกลูกอย่างนั้นอย่างนี้ กับลูกชายแท้ๆของตัวเองนี่ไม่เคยหรอก จิกหัวใช้เยี่ยงทาส (พูดเว่อร์ไปงั้น) เห็นผมออกไปกับผู้ชายนี่ไม่มีการห้ามหรอกครับเห็น ส่งเสริมกันดีจริงๆบ้านนี้ แถมตอนท้ายมีพูดหยอกด้วยว่าถ้าได้ไอ้น่านมาเป็นลูกเขยคงดี ม๊าต้องเมาน้ำยาล้างจานแน่ๆ ลูกบ้านนี้มีแต่ตัวผู้ชัดๆ

“ก็อยากอยู่ แต่กลัวคนแถวนี้จะนอยด์ หาว่ารักลูกใหม่อย่างกูมากกว่า”

“มึงมโนเหรอน่าน เขายังไม่รับมึงเป็นลูกเลย เลิกมโนแล้วมองถนน”



Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์น่านฟ้าดังขึ้น มันหยิบขึ้นมาดูเบอร์แล้วส่งมาให้ผม

“ทำไม??”

“รับให้หน่อย เปิดลำโพงด้วย”

“เรื่องไรล่ะ กูไม่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน รับเองดิวะ”

“กูขับรถอยู่ ไอ้นุ่นเพื่อนที่มหาลัยกูเองบอกมันว่ากูขับรถ เร็ว!!” อะไรของมันวะกูไม่ใช่คนขายอาหารตามสั่งนะโว้ย

“เออรู้แล้วกำลังจะรับให้นี่ไง” ผมเลื่อนหน้าจอไอหกเครื่องสีทองอร่ามของมันเสร็จก็เปิดลำโพงให้มันฟังด้วย(ไม่รู้เครื่องที่ใช้อยู่แม่งของจีนแดงหรือเปล่า สีดูเพี้ยนๆไงไม่รู้ ไม่เคยเห็นของจริงหรอกครับเคยเห็นแต่ในรูป)

“หวัดดีครับ”

“โหววว พูดเพราะเชียวนะคะอิน่าน กูเองค่ะ” คนที่ตอบกลับมาคือผู้หญิงเสียงน่ารักแต่พอพูดแบบนี้ความน่ารักลดลงแทบจะติดลบ ผมไม่รู้นะครับว่าคนอื่นคิดแบบไหน แต่สำหรับผู้หญิงที่พูดจาเพราะๆน่ารักๆใสๆแบบน้องเอยคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์ แต่กับพี่คนนี้ไม่รู้ดิผมยังไม่รู้จักเขา

“พี่น่านติดขับรถอยู่ครับพี่นุ่น”

“เอ๋ แล้วนั่นใครคะ เมียน่านเหรอ”

“บอกมันไปดิว่าใช่ เออนุ่นเมียกูเอง” เชี่ยน่านตะโกนเสียงดัง ใช่ที่ไหนกันได้กูครั้งเดียวอย่ามาโมเมดิวะ ผมเอามือไปขูดหน้าไอ้น่านทีนึงแล้วรีบตอบกลับคนในโทรศัพท์ทันที

“ไม่ใช่ครับพี่นุ่นผมเป็นรุ่นน้องพี่น่านอ่ะ ชื่อซนครับ”

“รุ่นน้องไอ้น่านแล้วไม่ใช่รุ่นน้องฉันเหรอ ฉันเรียนคณะเดียวกับมันไม่เห็นเคยได้ยินชื่อซนสักที”

“เปล่าครับพี่นุ่น ผมเป็นรุ่นน้องที่เรียนที่อื่น ยังไงดีวะน่านกูเป็นรุ่นน้องที่เรียนที่อื่นหมายความว่าไงอ่ะ” พูดเองผมยังงงเองเลย คือผมไม่ได้เป็นรุ่นน้องมันด้วยนี่ดิเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักมันงี้เหรอ ไอ้น่านส่ายหัวอย่างปลงๆใส่ผม

"เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวกูคุยเอง"

"อ่ะเอาไปคุยเองตั้งแต่แรกก็จบ" ผมยื่นโทรศัพท์ให้มันไอ้น่านเอามือข้างนึงปล่อยพวงมาลัยแล้วยื่นมาตบหัวผมเฉยเลย

"อะไรอีกวะ"

"กูหมายถึงกูคุยแต่มึงจับโทรศัพท์ให้กูเหมือนเดิม" แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก มึงเห็นกูเป็นพระอรหันต์โสดาบันตรัสรู้เรื่องที่มึงคิดเหรอน่าน หมั่นไส้มากนักเดี๋ยวเอาโทรศัพท์เขวี้ยงออกนอกรถแม่งเลย ผมเอาโทรศัพท์ไปจ่อใกล้ๆปากไอ้น่าน

“นุ่นมีไรวะ กูขับรถอยู่ไม่สะดวกคุย”

“แหมมม กับเพื่อนกับฝูงก็หัดสะดวกบ้างเถอะค่ะ กูจะโทรมาบอกมึงว่ากูมีลูกหมาพันธุ์ปอมที่บ้านสี่ตัวแล้วบ้านกูเขาให้เลี้ยงได้แค่สองมึงจะเอามันไปเลี้ยงสักสองตัวไหม กูเห็นมึงเคยบอกว่าอยากได้”

“ก็อยากได้อยู่...แต่แม่กูแพ้ขนสัตว์ว่

“แม่มึงกว่าจะกลับบ้านก็ชาติกว่า นี่กูอุตส่าห์ใจดีโทรหามึงคนแรกเลยนะน่านถ้าไม่ตอบตกลงภายใน 5 วินาทีกูจะให้คนอื่นแทน 5 4.....” ไอ้น่านดูลังเลทำสีหน้าเหมือนจะไม่เอาแต่ใจผมนี่ดิอยากได้อ่ะ

“เอาครับพี่ผมเอา...” ก่อนที่มันจะตอบปฏิเสธผมก็ดึงโทรศัพท์ไอ้น่านมาจ่อที่ปากตัวเองแล้วพูดเองทันที ไอ้น่านหันมามองแบบงงๆ มึงจะงงทำไมเขาให้ฟรี พันธุ์ปอมเลยนะเว้ย ปอมอ่ะมึงรู้จักไหมเนี่ย

“เยี่ยมมากค่า ยังไงน้องบอกมันมาดูก่อนก็ได้แล้วจะเอาไปเลี้ยงวันไหนก็แล้วแต่ที่มันสะดวก”

“ครับพี่” พอวางสายไอ้น่านส่งสายตาแบบงงสุดขีดกลับมาให้ผม เอาความจริงไหมครับผมชอบหมามากกว่าแมว เคยพยายามที่จะเลี้ยงหลายครั้งแล้วแต่ม๊าห่วงความปลอดภัยของแสนดีมากกว่าสุดท้ายข้อเสนอที่จะเลี้ยงหมาก็ตกไปตลอดแล้วนี่ดูดิมีของดีๆมาเสนอมตรงหน้าไม่เอาได้ไง ผมหันไปยิ้มให้ไอ้คนข้างๆที่ยังขับรถอยู่ มันเงียบไปตั้งแต่ที่ผมวางสายสักพักมันก็หันมามองผมด้วยสายตาที่ผมเองก็เดาไม่ถูก “อย่ามองงั้นดิ มึงมีปอมสองตัวมึงจะได้ไม่ต้องไปยืมแมวไอ้ซูแล้วไง หรือว่ามึงเกลียดหมา”

“เปล่าเกลียด”

“งั้นเลี้ยงดิ”

“มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะมึง อย่างที่กูเคยบอกว่าแม่กูแพ้ขนสัตว์ แล้วนี่มึงเล่นไม่ปรึกษากูสักคำ กูยังไม่ได้คิดอะไรมึงก็ตัดสินใจแทนกูไปแล้ว หมาสองตัวนะเว้ย แล้วรับปากไอ้นุ่นไปแล้วคืนคำไม่ได้ด้วย แล้วคนที่เลี้ยงก็บ้านกูใช่ไหมเพราะกูเชื่อแน่ๆว่าบ้านมึงเลี้ยงไม่ได้ เพราะถ้าจะเลี้ยงก็คงเลี้ยงตั้งนานแล้ว”

“กูผิดงั้นดิ”

“อ่าวพูดงี้หรือกูผิดวะซน”

“เออกูผิดเองแหละ เดี๋ยวกูเลี้ยงมันเองก็ได้ ม๊าคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้งรับปากเขามาแล้ว” ผมถอนหายใจแล้วกดโทรศัพท์หาม๊า แกล้งสมมติถ้าเลี้ยงหมาสักสองตัวม๊าจะว่าไง แล้วคำตอบมันก็เดิมๆคือไม่ได้ ยังไงก็ห้าม ม๊ามีความเชื่อแปลกๆว่าหมาแมวจะทะเลาะกัน ซึ่งผมว่าปอมมันน่ารักแบบนั้นคนที่จะหาเรื่องก็คงมีแต่อิแสนดีชัวร์ พอไกล่เกลี่ยเท่าไหร่ม๊าก็มีแต่ไม่ยอมลูกเดียวสุดท้ายผมเลยต้องวางแล้วหันมามองหน้าคนข้างๆแทน

“ม๊าว่าไง”

“ม๊าไม่ให้เลี้ยง แล้วทำไงดีอ่ะ”

“ไม่รู้...มึงคนสร้างแก้เองดิ” ผมแม่งหาทางออกไม่ได้จริงๆนะครับ ตันไปหมดถ้าจะไปให้ไอ้เล็กก็ไม่ได้ บ้านมันแค่ลำพังเลี้ยงคนในครอบครัวยังยาก ไอ้วีก็ไม่ค่อยชอบหมาเท่าไหร่เพราะเคยโดนกัดตอนเด็กๆ พวกเพื่อนไอ้น่านก็ไม่ได้รู้จักมักจี่ขนาดนั้นด้วย

“น่าน...มึงเลี้ยงไม่ได้เหรอ”

“......”

“สัญญาว่ากูจะมาดูมันทุกวัน ถ้าวันไหนแม่มึงกลับมาเดี๋ยวกูเอามันมาแอบไว้ที่ห้องกูก็ได้...”

“........”

“ไม่ได้จริงเหรอวะ”

“.......”

“น่าน”

“เฮ้อออ...กูแม่งเชื่อมึงจริงๆเลยว่ะซน” มันพูดเสร็จก็ตบไฟเลี้ยวหักรถเข้าข้างทางก่อนจะหันมาช้อนปลายคางผมแล้วจูบผมแบบไม่ให้สัญญาณอะไรสักนิด จูบที่ดูจะเอาแต่ใจเรียกร้องแล้วก็อ่อนหวานในตอนท้ายก่อนจะจูบซับที่ริมฝีปากอีกรอบแล้วค่อยถอนออก “อยากเลี้ยงก็เลี้ยง”







TBC
น่านนี่ยังไงรู้จักเขาไม่กี่วันทำไมตามใจดีขนาดนี้เนอะ :hao3:
ขอบคุณสำหรับคำผิดนะคะ ช่วงนี้อึนๆยังไงไม่รู้ต้องไปตามหาแรงบันดาลใจก่อนแต่งนิยายบ้างล่ะT^T  :mew1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 8 ปอมเมอเรเนียน [8-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-03-2015 18:21:55
ได้กันปุปมีภาระปั้ป เหมือนแต่งงานมีลูกเลย

ซนก็เอาแต่ใจจัง
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 8 ปอมเมอเรเนียน [8-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-03-2015 18:26:37
หลงจ้า~ พี่น่านหลงน้องซนแบบกู่ไม่กลับเสียละ :laugh: รั่วๆ.แบบน้องซนจะหาได้ที่ไหนอีกเนอะ!  :-[
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 8 ปอมเมอเรเนียน [8-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 08-03-2015 21:22:28
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . . ' ซ น '+++ตอนที่ 8 ปอมเมอเรเนียน [8-03-15// P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 08-03-2015 22:07:48
หลงน้องๆๆๆ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 9 แฟนผมสำคัญที่สุด[19-03-15.P2]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 19-03-2015 12:16:48
Because of you ซน ตอนที่ 9
 
“ทำไมมึงโง่แบบนี้วะ”

“กูอยากผ่าสมองมึงมาดูจริงๆว่าในนี้มันมีขี้เลื้อยหรือเนื้อสมองกันแน่”

“ไม่ใช่ ไม่ถูก กูสอนเรื่องนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้น่านเอาแต่ใช้นิ้วจิ้มที่สมองส่วนหน้าผม มันทั้งเคาะทั้งตบ ทำร้ายร่างกายผมทั้งๆที่มันบอกผมเองกับปากว่าตัวเองเป็นปัญญาชน ปัญญาชนบ้านมันใช้กำลังแบบนี้ “พวกเด็กช่างก็เป็นแบบนี้ชอบใช้กำลังมากกว่าสมอง”

ไอ้น่านปรายตามองหน้าผมที่ยังเอาสองมือกุมขมับตัวเอง ก็มันทำไม่ได้นี่หว่าสูตรเชี่ยอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด แถมยังต้องมานั่งจำด้วยว่าไอ้ค่าพวกนี้มันต้องไปแทนที่ค่าอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะ อยากรู้จริงๆว่าในชีวิตจริงพวกที่เรียนจบไปมันได้ใช้สูตรพวกนี้คำนวณจริงๆหรือเปล่า ได้ยินมาว่าสูตรพวกนี้เรียนแค่รู้ไม่ใช่เหรอแล้วที่เหลือก็มีเครื่องคำนวณเสร็จสรรพเรียบร้อยอยู่ดี

“ก็มันจำไม่ได้อ่ะ มึงจะมาบังคับกูอะไรนักหนาวะ พักก่อนได้เปล่า” ผมยู่หน้าแล้วฟุบตัวลงกับโต๊ะญี่ปุ่นไอ้น่านส่ายหัวแบบปลงๆสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะหันไปเล่นกับแสนดีต่อ เวลาผมเห็นผู้ชายตัวใหญ่ๆอย่างน่านฟ้าหรือไอ้ซูเล่นกับสัตว์ตัวเล็กน่ารักๆแบบนี้แล้วก็อดขำไม่ได้จริงๆนะครับ เพราะดูยังไงมันก็ดูไม่เข้ากันยังไงไม่รู้ พูดถึงเรื่องสัตว์ก็ดันคิดไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้สักสองชั่วโมง ไม่เข้าใจเหมือนกันที่มันจูบผมแบบนั้นมันต้องการจะสื่ออะไร


แต่ก็ช่างเถอะ


ถ้าจูบแล้วจะได้ในสิ่งที่ผมต้องการมันก็โอเค


จะยอมให้จูบทั้งวันทั้งคืนก็ได้นะ อีกอย่างรสจูบของมันก็ไม่ได้ถึงแย่นักหรอก

“น่าน”

“หืม”

“มึงจะไปรับลูกกูวันไหนอ่ะ”

“ลูกมึง??” น่านฟ้าทำหน้างงเหมือนไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ “ลูกกูไงปอมสองตัวที่อยู่กับพี่นุ่น”

“คงไม่ใช่เร็วๆนี้”

“ทำไมวะ ไปรับพรุ่งนี้เลยดิ นะ นะ กูตั้งชื่อมันไว้แล้วด้วย”

“ตั้งทั้งๆที่มึงยังไม่เห็นหน้ามันเนี่ยนะ แล้วอีกอย่างมึงก็อย่ามโนว่านั่นเป็นลูกมึงเพราะที่ๆจะเลี้ยงคือบ้านกูครับเพราะงั้นนั่นหมากูไม่ใช่หมามึง” มึงนั่นแหละที่มโนกูเป็นคนรับปากพี่นุ่นคนแรกว่าจะเลี้ยงส่วนมึงตอนแรกอิดออดติดนู่นติดนี่ยังกล้าหน้าด้านๆขโมยหมากูต่อหน้าเนี่ยนะ เหอะ แต่สิ่งที่ผมคิดไม่ได้พูดออกไปหรอกครับ

“หมามึงก็ได้” แต่ถ้ามันมากูจะทำให้มันติดกู ทำให้มันรู้ว่ากูคือเจ้าของที่แท้จริงเอง ซึ่งไม่ยาก “แต่กูเป็นคนตั้งชื่อได้เปล่า กูตั้งไว้แล้ว”

“ตั้งว่า”

“เงินกับทอง”

“นี่มึงตั้งชื่อหมาหรือตั้งชื่อเ หี้ยเนี่ย” เออออว่ะ ลืมไปเลยว่าไอ้ตัวนั้นชื่อที่คนอื่นเรียกก็คือชื่อนี้นี่หว่า

"เอาชื่อนี้แหละกูขี้เกียจคิดแล้ว สรุปพรุ่งนี้มึงไปรับลูกกูใช่ไหม"

"ยังไม่ได้โทรบอกไอ้นุ่นเลยว่าจะไปรับ"

"ก็โทรบอกตอนนี้เลยดิ ว่างอยู่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ทำไม อ่ะนี่กูให้ยืมโทรศัพท์ก็ได้" ผมอุตส่าห์เป็นคนดีมีน้ำใจยอมเสียค่าโทรศัพท์ให้มันโทรนะ "ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยวะ"

"ก็กูรำคาญมึง"

"รำคาญกูก็อย่ามาเอากูล่ะกัน"

"ทำเป็นพูดดี ให้กูทำแค่ครั้งเดียวยังจะมีหน้ามาข่ม" น่านฟ้าเอามือมาวางไว้บนหัวผมอยู่อย่างนั้นไม่ได้ลูบหรือขยี้แค่วางให้ผมหนักหัวเฉยๆ

"หัวกูไม่ใช่ที่วางมือเว้ย!!!!”พอผมพยายามปัดออกไอ้น่านก็โยกมือหลบแล้วเอามาวางไว้ต่อ อยากวางก็วางไปผมขี้เกียจพูดมากแล้ว “แล้วกูก็กะว่าคืนนี้กูจะยอมให้มึงอีกครั้ง แต่ถ้ามึงไม่อยากได้...ก็แล้วแต่..." ผมเป็นพวกปากดีครับเวลาที่หมั่นไส้ใครมากๆอย่างไอ้คนตรงหน้าจะพยายามมากถึงมากที่สุดที่จะทำให้มันรู้ว่าผมไม่เคยกลัวอะไรสักนิด

"ก่อนพูดน่ะคิดแล้วใช่ไหม"

"อ่ะแน่นอน" ผมหยักคิ้วหลิ่วตาให้ไอ้น่านอย่างถือดี

"เดี๋ยวจะโดน" น่านฟ้าปล่อยแสนดีลงจากตักแล้วขยับนอนฟุบลงกับโต๊ะญี่ปุ่นเหมือนที่ผมทำ คางมันวางอยู่ใกล้ๆกับหน้าผม ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกัน
น่านฟ้ามันหล่อจริงๆนั่นแหละ หล่อจนตัวผมเองยังรู้สึกอิจฉา แต่ก่อนที่ผมจะคิดอะไรมากไปกว่านั้น น่านมันก็เอามือข้างนึงสอดเข้าที่ท้ายทอยผมก่อนจะจูบลงที่เหนือริมฝีปาก ผมไม่ได้ขัดขืนอะไรมันหรอกครับ ออกจะเอียงหน้าให้ได้องศาที่น่านฟ้าจูบได้ถนัดด้วยซ้ำ ลิ้นร้อนที่ล่วงลุกล้ำเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเพียงพอต่อความต้องการของตัวเองเลยสักครั้ง รู้ตัวอีกทีผมก็ลุกขึ้นแล้วขยับไปนั่งบนตักมันที่เอนตัวพิงกับเตียงเรียบร้อย

“แมวน้อย”

“แมวน้อยอะไร” ผมถอนริมฝีปากออกแล้วจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้า

“มึงไง...แมวน้อย”

“แมวน้อยบ้าอะไรล่ะ”

“อะไรก็มึงเหมือนแมวจริงๆ”

“ไม่เหมือน ห้ามเรียกเว้ย”

“โอเคครับ...ไม่เรียกก็ไม่เรียก” น่านฟ้ากดศีรษะผมให้ก้มลงมารับริมฝีปากของมันอีกรอบ เอวที่เริ่มขยับช้าๆผ่านเนื้อผ้าที่ยังไม่ได้ถอดสักชิ้น มันยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ความรู้สึกเราทั้งคู่มีมากขึ้น


สำหรับผมเซ็กส์กับน่านฟ้าให้ความรู้สึกว่าเราสองคนไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำว่ารัก ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อกันด้วยความคะนึงหา เราเพียงแค่สัมผัสกายของกันและกันให้มันร้อนขึ้นเท่านั้น แอร์เย็นช่ำแตกต่างจากความร้อนในร่างกายที่ร้อนจัด เสื้อผ้าของทั้งผมกับมันถูกถอดออกอย่างรีบร้อนราวกับว่าถ้าไม่ทำตอนนี้ความอยากมันอาจจะหายไป
น่านฟ้าดึงตัวผมขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนจะพยายามยื้อบ๊อกเซอร์ปราการสุดท้ายที่เหลืออยู่ติดกายให้ถอดออก

“มึงรีบเหรอ” ผมบิดหูไอ้น่านไปทีแล้วขยับนอนลงกับเตียงด้วยตัวเอง ขาทั้งสองขามันอ้าออกรับไอ้น่านให้แทรกเข้ามาตรงกลางโดยที่ตัวผมยังแปลกใจเลยว่าเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“ยั่ว???”

“เปล่ายั่ววว เลิกสีได้ไหมเนี่ย” แม่งจะทำก็ทำเลยจะสีหาหอกข้างแคร่อะไรครับคุณน่าน มือน่านฟ้าขยับบีบนวดไปมาตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงต้นขา "มึงเดี๋ยว"

"อะไร??~”เสียงมันแข็งมากจนผมอดขำไม่ได้ “มึงยอมกูแล้วนะ คิดจะเบี้ยวเหรอวะ?? เป็นลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นโว้ยย"มันทวงสัญญาที่ผมเคยบอกว่าจะยอมให้มันทำเรื่องแบบนี้บ้างในบางครั้ง ผมไม่ได้หมายความว่าจะไม่ยอมแต่ผมหมายความว่าถ้าจะทำก็ช่วยใส่ถุงยางด้วย

"เปล่ากูหมายถึงถุงยางมึงมีไหม"

"อ๋อ มี แต่ไม่ใช่แค่ถุงยางหรอกนะที่มี" ไอ้น่านเอื้อมมือไปดึงลิ้นชักที่อยู่ใกล้ตัวชูหลอดเจลที่ไม่ต้องอ่านก็พอจะรู้ว่ามันคือหลอดเจลที่ไว้ใช้ทำอะไร

"มึงนี่..."

"อย่ามองหน้าแบบนั้นเอาเป็นว่ากูเป็นคนที่รู้จักเตรียมตัวดีกว่า" ไอ้น่านไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรต่อจับขาผมอ้าออกแล้วตัวมันก็ขยับมาชิดผมมากกว่าเดิม นี่ขนาดอยู่ในร่มผ้าแม่งยังใหญ่น่ากลัวขนาดนี้ไม่อยากจะคิดเลยครับถ้ามันออกมาเผชิญโลกกว้างแล้วเข้ามาในตัวผมจะเป็นแบบไหน

"ไม่ทำแล้วได้เปล่า"

"หมดเวลาปฏิเสธนานแล้วครับน้อง" น่านฟ้าเอื้อมมือมาประคองซนน้อยและจับจังหวะขึ้นลงตามที่ใจมันสั่ง ผมไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ได้เสียหายอะไร แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปฏิเสธด้วยในเมื่อเซ็กส์สำหรับผู้ชายมันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
 

“อื้อ...ฮ๊ะ” สองมือสะเปะสะปะไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ตรงไหน น่านฟ้ามันเลยเอาไปวางไว้บนไหลแล้วยกตัวผมให้ขยับขึ้น ก่อนจะดันนิ้วแรกเข้ามาพร้อมเจลเย็น ครั้งที่สองที่โดนเจ็บครับ จุกด้วย แต่เพราะมืออีกข้างของมันที่ยังทำหน้าที่เป็นอย่างดีทำให้มันบรรเทาความเจ็บไปได้บ้าง รู้สึกตัวอีกทีนิ้วไอ้น่านก็ยัดสอดเข้ามาสามนิ้วแล้ว เห็นมันชักเข้าชักออกทั้งหน้าทั้งหลังโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรแบบนี้แล้วรู้สึกสงสารมันยังไงไม่รู้ ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเลื่อนหน้าไปใกล้ๆแล้วจูบที่ริมฝีปากมันเบาๆ

“อ๊ะ...น่าน..”

ผมว่า

...


ผมแอบเห็นหน้าฟ้าทำหน้าตกใจแล้วหน้าแดงขึ้นมานิดหน่อยนะแต่บางที ผมอาจจะคิดไปเองมากกว่า
 

“กูจะใส่เข้าไปแล้วนะ”

“อื้อ..” เครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบไม่ได้ช่วยให้เราทั้งคู่รู้สึกเย็นแม้แต่น้อย เสียงร้องครางจากปากผมมันทำให้รู้สึกว่าบางทีก็น่าอายแต่ไม่รู้ทำไมพอได้ร้องออกไปเต็มเสียงมันรู้สึกดีมากกว่ากั้นเสียงยังไงไม่รู้

“เบา..”มือข้างนึงยกขึ้นยันหน้าท้องไอ้น่านที่กำลังสอดส่วนสำคัญเข้ามาในร่างกาย ผมวางหน้าผากไว้บนไหล่น่านฟ้าสายตาก็ก้มมองจุดเชื่อมต่อระหว่างผมกับมัน

มันดูแปลกๆที่ตัวเองกลายมาเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ

แต่มันก็รู้สึกดีที่ถูกทำอย่างทะนุถนอม ผมไม่แปลกใจเลยเวลาที่เราทำให้ผู้หญิง ผู้หญิงเหล่านั้นเขารู้สึกดีมากแค่ไหน ยิ่งอ่อนโยนมาก ความรู้สึกเสียววูบวาบที่หน้าท้องก็มีมากเข้าไปด้วย “ห้ะ..อ๊ะ”


ไม่ไหว


เสียวไปหมด


เจ็บ


แต่เสียวมากกว่า


“ซน” น่านฟ้าเรียกชื่อผมตอนที่ตัวเองกำลังขยับเข้าออกช้าๆ

“อื้อ..อื้อ..” ผมขานรับมันแต่เสียงที่ออกมาดันร้องตามจังหวะที่ถูกกระแทกเข้าออก

“น่ารักเกินไปแล้วนะมึงอ่ะ”

“อ๊ะ..แน่นอน..อ๊า..อยู่แล้ว” ผมยิ้มแล้วเลื่อนหน้าไปจูบน่านอีกรอบมันรับจูบผมแล้วสอดลิ้นเข้ามาในจังหวะที่ผมอ้าปากพอดี

“น่าน..อ๊ะ..อ๊า เร็วกว่านี้หน่อยสิ...อ๊ะ...น่าน...กูจะไม่ไหวแล้วนะ...”

“พูดเพราะกว่านี้ไม่ได้เหรอวะ”

“พี่น่าน...ซนขอเร็วกว่านี้อีกนิดนะฮะ..อ๊า..อ๊า”

“.......”มันเงียบแล้วมองผมแบบอึ้งๆแต่ช่วงล่างยังคงทำงานต่อแต่ไม่นานหลังจากนานมันก็เร่งเครื่องก่อนจะเป็นผมที่ปลดปล่อยออกมาก่อน จูบซับที่เปลือกตาเบาๆพร้อมกับความรู้สึกโล่งตอนที่โดนถอนแก่นกายออก ผมหลับทั้งๆที่ยังไม่อาบน้ำ แต่มันเหนื่อยมากเลยครับ เหนื่อยจนไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น





Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงเพลงคุ้นหูดังขึ้นปลุกผมให้งัวเงียตื่นขึ้นมา จริงๆแล้วผมเป็นพวกตื่นยาก แต่นี่เหมือนตัวเองยังไม่ได้หลับสนิทด้วยมั้งถึงสะดุ้งตื่นง่ายแบบนี้ เหมือนจะหลับไปไม่ถึง 30 นาทีด้วยซ้ำ

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกที ผมมองหน้าจอมือถือที่โชว์ชื่อว่าใครโทรมาก็รีบเร่งรับทันที เพราะสายสำคัญแบบนี้ถ้าไม่รับสายน้องเอยคงงอนผมข้ามวันข้ามคืนอ่ะ

"ว่าไงครับสุดสวย...เอ๋" ประโยคแรกผมพูดกับแฟน แต่คำอุทานข้างหลังผมหันไปพูดกับไอ้บุคคลที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียง ไอ้น่านมันจับขาผมไปวางไว้บนตักตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่ที่งงเพราะเห็นมันกำลังเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ แถมตอนนี้ตัวผมเองก็ไม่ได้ล่อนจ้อนอะไรมีบ๊อกเซอร์ติดกายคาดว่าคงเป็นคนตรงหน้าแหละที่ใส่ให้

(ไม่ต้องมาปากหวานเลยค่ะ ไม่โทรหาเอยเลย)

“ง่า น้องเอยอย่างอนพี่ซนสิคะ ช่วงนี้พี่ซนยุ่งมากไหนจะต้องอ่านหนังสือ ไหนจะต้องหาที่ฝึกงานอีก” ผมพูดกับคนปลายสายไปด้วยพลางขยับตัวนั่งพิงเตียง ไอ้น่านมองผมแล้วถอนหายใจเล็กๆไม่รู้ว่าเป็นอะไร ผมเลยชี้จุดตรงที่มันยังไม่ได้เช็ด มันเลิกคิ้วถามผมประมาณว่าอะไร นี่มันโง่หรือไม่เข้าใจวะที่บอกเนี่ยคือให้เช็ดไงไอ้ฟายนี่ “เช็ดตัวด้วยดิ แขนยังไม่เช็ดเลย”
ผมเอามือข้างนึงปิดโทรศัพท์แล้วกระซิบบอกคนตรงหน้า มันก็ดี๊ดีนะครับเชื่อฟังง่ายแบบนี้ต้องมีรางวัล ผมกระดิกนิ้วเรียกไอ้คนตรงหน้าให้ก้มลงมาหา แต่มันก็ยังไม่ยอมทำตาม สุดท้ายผมเลยดึงคอมันลงมาเองก่อนจะจุ๊บเบาๆที่ปากมัน

ไอ้น่านพอโดนผมจุ๊บเขาหน่อยทำเขินอายเหมือนผู้หญิงเลยครับแม่งตลกว่ะ หูมันโคตรจะแดงอ่ะ

(ข้ออ้างอ่ะพี่ซน มีคนอื่นหรือเปล่าเนี่ย)

“จะมีใครคะน้องเอย พี่ซนมีเอยคนเดียวก็รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว ไม่อยากแบ่งใจไปรักคนอื่นหรอก รักคนเดียวพอแล้ว”

(ไม่ต้องมาปากหวานใส่เอยเลยค่ะ)

“ชิมบ่อยๆก็รู้อยู่แล้วนี่คะว่าปากพี่ซนหวานแค่ไหน”

“มึงนี่เสี่ยวเหลือเชื่อเลยว่ะ”

(เสียงใครคะพี่ซน)

“รุ่นพี่น่ะ คนนี้ที่จะมาติวให้พี่....พูดมากนะมึงอ่ะ” ผมพูดกับน้องเสร็จก็หันไปดึงปากไอ้น่านที

(อ้ออ เนี่ยพี่ซนวันนี้เอยไปซื้อของมาแหละ ได้มาเยอะมา ##%$#@#) ระหว่างที่น้องเอยพูดไปไอ้น่านแม่งก็ขยับมาใกล้ผมไป มันมองหน้าผมนิดนึงก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อมผมไว้ทั้งตัว

“อะไรของมึงเนี่ยน่าน” ผมกระซิบกระซาบกับไอ้คนตรงหน้า แต่มันก็แค่เลิกคิ้วกวนตีนแล้วขยับหน้ามาใกล้หน้าผมเข้าไปอีก

“หมั่นไส้มึงว่ะ” พูดพร้อมกับเอาริมฝีปากตัวเองชิดที่ริมฝีปากผม มือเย็นจากมันถูกลูบตามเนื้อตามตัวผมแทนผ้าชุบน้ำ

“เชี่ยน่านกูคุยกับแฟนอยู่”

“แล้ว” ยังจะมาทำหน้าไม่เข้าใจกูอีก กูบอกว่ากูคุยกับแฟน แม่งเอ๊ย!!เกลียดมันอ่ะ

(พี่ซนฟังเอยอยู่หรือเปล่า)

“อ๊ะ..ห้ะ..ฟังครับ เล่าต่อสิ แล้วเอยไปกับใครมาคะ...อ” ผมหุบปากตัวเองก่อนจะเอาหน้าฟุ่บไปที่บ่าน่านฟ้า มันไม่ได้ทำอะไรผมมากไปกว่าการเอามือป้วนเปี้ยนไปมาแถวๆกางเกงพร้อมกับริมฝีปากที่ทำไม่ต่างจากมือเท่าไหร่

(ไปกับน้ำค่ะ แต่วันพรุ่งนี้ว่าจะไปอีก พี่ซนมาหาเอยได้ไหมอ่ะ)

“พรุ่งนี้เหรอคะ”

“ใช่ค่ะพี่ซน ห้ามพูดว่าไม่ได้นะ เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้วด้วย”

“จริงๆพรุ่งนี้พี่ว่างนะ อ๊ะ..เชี่ยน่าน..น้องเอยเดี๋ยวแป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่ซนโทรกลับ”พอวางสายน้องเสร้จผมก็หันมาจัดการไอ้คนตรงหน้าทันที

“....อะไรของมึงเนี่ย” มันบ้าไปแล้วจู่ๆก็กัดหัวนมผมเฉยเลย ผมเอามือทุบไหล่มันไปที

“มึงไม่ว่างไม่ใช่เหรอ”

“กูไปไหนอ่ะ” ขนาดตัวผมยังไม่รู้ว่าผมจะไปไหนแล้วมันเป้นใครครับมารู้ดีมากกว่าเจ้าตัวได้ไง

“ไปรับเงินกับทองไง..” เงินกับทอง?? ใครจะให้เงินกับทองผมอ่ะ ผมจำไม่เห็นได้เลย

“มึงนี่เนอะ กูหมายถึงปอมสองตัวกับไอ้นุ่นไง”

“เอออออออว่ะ ใช่ เอาไงดีอ่ะ”

“ก็ไปรับลูกชายไง” มันยิ้มกว้างออกมาแล้วเอามือลูบหัวผมที่ตอนนี้ดูยุ่งๆก่อนจะขยับเปลี่ยนเป็นนอนตักผมแทน

“ไม่ได้ว่ะ...พรุ่งนี้กูว่าจะไปหาแฟน..ฝากมึงไปรับมันแทนกูหน่อยได้ไหม...นะ” ผมเม้มปากทำหน้าอ้อนไอ้คนที่นอนตักอยู่ มือข้างนึงขยำศีรษะไอ้น่านเบาๆ เพราะผมคิดว่าทุกคนน่าจะเหมือนผมที่ชอบให้คนอื่นเล่นหัว

“แต่มึงเป็นคนบอกว่าจะเลี้ยง” เสียงมันดูไม่ร่าเริงเหมือนเดิมแล้วอ่ะครับ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหม

“แต่ไปรับให้กูหน่อยไม่ได้เหรอวะ นะ นะ รับมาให้หน่อยดิ มึงต้องเข้าใจกูบ้างดิวะน่าน แฟนกูทั้งคนนะเว้ย คนสำคัญมึงเข้าใจไหม”

“อืม เข้าใจแล้ว” เสียงมันดูผิดปกตินิดหน่อยแต่สุดท้ายก็กลับมาเหมือนเดิม มันพยักหน้าเข้าใจแล้วลุกขึ้นจากตักผม “กูไปอาบน้ำก่อนล่ะกัน”

“อ่าๆ” ผมพยักหน้าหงึกๆเข้าใจแล้วต่อสายหาน้องเอยอีกรอบ ผมกับน้องเรานัดกันที่สยามเหมือนเดิม ตอน 10 โมง พูดกันตรงๆไม่ได้เจอน้องมาเกือบจะอาทิตย์แล้วมั้ง เพราะตั้งแต่เจอไอ้น่านก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่กับมากกว่าเกินควรด้วยซ้ำ



ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วขยับตัวลงนอนอีกที


“น่าน พรุ่งนี้กูไม่กลับมาที่บ้านมึงแล้วนะ” พอคิดๆดูอีกทีผมว่าผมไม่ได้กลับบ้านแน่ เพราะคงพาเอยไปนู่นนี่นั่น กว่าจะกลับก้คงดึกและเมื่อกี้ก่อนวางเอยพูดเป็นนัยๆว่าคืนพรุ่งนี้คนที่บ้านไม่มีคนอยู่


นั่นก็หมายความว่าที่เอยกำลังจะบอกก็คือ....



ให้ผมไปนอนกับเขา...ก็แค่นั้น




ไม่ใช่ว่าหมาไม่สำคัญนะครับแต่แฟนแม่งสำคัญกว่าว่ะ

 :katai4: :katai4: :mew2: :mew1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 9 แฟนผมสำคัญที่สุด[19-03-15.P2]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-03-2015 12:31:48
น้องซนไม่เข้าใจพี่น่านนนน...~ :z3: พี่เขาหวงหนูนะลูกนะ และนาทีที่พี่น่านให้น้องซนพูด
เพราะๆ เราว่าถ้าให้ตีลังกาด้วยพูดด้วยน้องซนก็ยอมเธอ~ :laugh:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 9 แฟนผมสำคัญที่สุด[19-03-15.P2]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-03-2015 12:43:33
น้องซนจ๋า หนูนี่อาการหนักนะคะ เมื่อไหร่จะรู้เรื่องรู้ราวกับเค้า  :z2: 
หัวข้อ: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 9 แฟนผมสำคัญที่สุด[19-03-15.P2]
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 19-03-2015 17:52:40
พี่น่าน น้องซนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 9 แฟนผมสำคัญที่สุด[19-03-15.P2]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 19-03-2015 18:22:47
แอบสงสารพี่น่าน  เบาๆ       :sad11: :sad11: :sad11:

น้องซนไม่เข้าใจพี่น่านเลยยยยยยย       :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 10 ยังไม่ชอบก็แค่...[22-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 22-03-2015 16:04:23
Because of you ซน ตอนที่ 10 ยังไม่ได้ชอบก็แค่...

(Special by น่านฟ้า)

“มึงจอดให้กูลงตรงใต้บีทีเอสก็ได้นะ” ซนมันหันมาบอกทางผมแล้วชี้ทางข้างหน้าที่อีกแยกหนึ่งจะถึงตรงที่มันบอก “เป็นไรอีกทำหน้างงๆนะมึงอ่ะ กูไม่ลืมไรใช่เปล่าวะ” มันหันซ้ายหันขวามองรอบตัวเองอีกครั้งก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดูอีกรอบ “แม่งสายจริงๆด้วยมึงเลยน่าน แต่เช้าแต่มืด”

“ทำเป็นบ่น กูก็ไม่ได้บังคับมึงสักหน่อย ไม่อยากทำก็พูดว่าไม่ดิ ไม่ใช้อ้าขาให้แบบนั้น” ผมพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ ไอ้ซนอ้าปากพะงาบๆเหมือนจะพูดอะไรออกมาสุดท้ายก็งับปากพร้อมกับหูแดงๆที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหาย

“ก็มึงอ่ะ...แม่ง..” แล้วมันกูก้มหน้าหงุดบ่นพึมพำกับกระเป๋าที่เช็คของแล้วเช็คของอีก ก่อนจะหันไปขู่แง่งๆกับไอ้แสนดีที่อยู่หลังรถ เอาดีๆแสนดีมันก็อยู่ของมันเฉยๆนะครับ มีแต่ไอ้หมาน้อยตัวที่นั่งอยู่เบาะหน้านี่แหละที่โรคจิตจ้องแต่จะกัดกับแมวตัวเองตลอดเวลา

แต่จะว่าไปไอ้ผมเองก็คงโรคจิตไม่ต่างจากคนข้างๆเท่าไหร่หรอก เพราะผมกลับมองว่าไอ้ท่าทางขู่กับแมวของซนมันดูน่ารักขึ้นมาซะงั้น

เหอะ ผมนี่บ้าดีนะครับไปชมแฟนคนอื่นว่าน่ารักได้เต็มปากเต็มคำ ไม่รู้แม่งไปติดใจอะไรไอ้คนตัวเตี้ยที่อยู่ข้างๆนักหนา หน้าตามันก็ไม่ได้ดูดีไปกว่าคนที่ผมเคยควงมากเท่าไหร่นักหรอก หน้าอกก็ไม่มี ตัวก็เตี้ย หุ่นก็ไม่ได้ดูเร้าใจสักนิด แต่ไม่รู้ว่ะเวลาที่มันก้มโค้งหันหลังมือขยุ้มผ้าปูที่นอนแล้วเป็นผมที่จับมันกระแทกซ้ำแล้วซ้ำอีกให้เสียงครางดังจนผมได้ใจแบบนั้นหรือเปล่าที่ทำให้ผมรู้สึกบ้าๆแบบนี้

“เออน่าน อาทิตย์นี้กับอาทิตย์หน้ามึงไม่ต้องมารับกูไปบ้านมึงนะ กูว่ากูจะขอเวลามึงซักสองอาทิตย์ว่ะเดี๋ยวกูขอไปทบทวนบทเรียนด้วยตัวเองก่อนมึงจะได้ไม่ต้องมาด่าว่ากูโง่เช้าโง่เย็นแบบนี้ ใจ๋” ซนมันหันมาพูดบอกจุดประสงค์ตัวเองแล้วก็พูดอะไรไปเรื่อย เชื่อไหมครับ เวลาอยู่กับมันผมแทบจะไม่ได้พูดเลย เพราะไอ้คนตรงหน้าเนี่ยแม่งแย่งผมพูดหมด ซนมันเป็นประเภทที่พูดโคตรมาก พูดไม่หยุด ที่สำคัญมันสามารถแหกปากพูดเรื่องของกินได้ตลอดเวลา โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

นี่ขนาดผมรู้จักมันยังไม่ถึงสองอาทิตย์นะครับผมยังจับสันดานมันได้เป๊ะขนาดนี้ คิดไม่ออกเลยถ้าได้รู้จักกันมากกว่านี้จะเป็นแบบไหน

แม่งเอ๊ย!!!เป็นแค่ผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆคนนึงแท้ๆ มาทำให้กูรู้สึกอยากรู้จักมากขึ้นเนี่ยนะ เหอะ หมั่นไส้ฉิบ

ผมคิดหมั่นไส้มันในหัวแต่มือก็ดันแสดงออกตามที่ตัวเองคิดออกมาซะงั้น

 “เอ้า!! อะไรของมึงเนี่ยน่าน ผลักหัวกูหาป๊ามึงเหรอ ถ้าหัวกูชนกระจกแตกขึ้นมาทำไง”

“มึงก็ต้องรับผิดชอบซื้อกระจกให้กูใหม่ไง”

“เชี่ยยยยยยยย กูหมายถึงสมองอันล้ำค่าของกูที่แตกไม่ใช้กระจกรถมึง” มันลูบหัวตัวเองปอยๆ ปากก็ยังบ่นด่าผมไม่หยุด สักพักมันก็ดึงที่บังแดดออกมาส่องกระจกจัดทรงผมตัวเองเป็นรอบที่สอง ท่าทางมันที่กำลังส่องกระจกอยู่เดาได้ไม่ยากเลยแม่งคิดไรอยู่นอกจากชมตัวเองว่าหล่อ ทั้งๆที่เป็นแค่หมาน้อยหน้าตาธรรมดาๆตัวนึงแม้ๆ ที่ดูดีได้ก็แค่เพราะผิวขาวๆกับไอ้ตาสองชั้นหลบในที่เวลาหัวเราะทีตาดำแทบมองไม่เห็น ปากสีธรรมชาติสุขภาพดีเพราะไม่ดูดบุหรี่ทำให้ยิ่งขับให้หน้ามันดู....ธรรมดา ก็แค่ธรรมดา ไม่เห็นจะมีอะไรดีสักอย่าง

“แล้วเรื่องลูกชายกู” ซนขยับหันทั้งตัวมาหาผมแล้วกอดอกราวกับตัวมันใหญ่กว่าผมสักสิบเท่า “มึงต้องดูแลมันอย่างดี เข้าใจไหม หาที่อยู่ที่กินให้มันด้วย กูอาจจะไม่ได้ไปหามันในสองอาทิตย์นี้ก็ฝากมึงดูแลหน่อย ใจจริงกูอยากจะไปหามันใจจะขาดแต่กูดูแล้วแหละว่ากูติดปัญหาหลายอย่าง เอาไว้เดี๋ยวกูโทรหาอีกที” ก็ดีเหมือนกันนะครับที่ผมไม่ต้องไปสอนไอ้เตี้ยนี่สักอาทิตย์สองอาทิตย์แบบนี้ ผมจะได้มานั่งทบทวนความรู้สึกตัวเองว่าจริงๆแล้วไอ้ความรู้สึกผมที่มันเป็นอยู่มันคืออะไรกันแน่

บางทีอาจจะแค่ตื่นเต้นกับของใหม่ก็ได้

“กูว่าเดี๋ยวกูรอมึงมารับไปพร้อมกันน่าจะดีกว่า”

“เอออ เอาแบบนั้นก็ได้ ยังไงมึงรอกูก่อนนะเว้ยห้ามไปรับมันก่อนกูเด็ดขาด” แม่งนิสัยไอ้เตี้ยนี่นอกจากจะพูดมากแล้วยังขี้หวงอีก คงกลัวว่าปอมสองตัวของมันจะติดผมมากกว่ามันอ่ะ “แล้วก็กูฝากแสนดีกับกระเป๋าไปเก็บที่บ้านให้ด้วยนะ”

“อืมรู้แล้ว”

“ดีมาก งั้นมึงจอดข้างหน้านี้เลย แอบซ้ายตรงนี้แหละ” มันหันไปตีหัวแสนดีทีนึง หยิบกระเป๋าตัวเอง ก่อนจะทำท่าลงจากรถแต่ก็ชะงักนิดนึงแล้วหันหน้ามามองผม

“อะไร” ผมขมวดคิ้วถามมันแบบงงๆแต่แทนที่มันจะตอบอะไรผมไอ้เตี้ยตรงหน้ากลับยิ้มออกมาแล้วขยับหน้ามาใกล้ผมก่อนจะจุ๊บลงที่ริมฝีปากผมหนึ่งทีจากนั้นค่อยผละออกโดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไร “ไปและ น้องเอยรอ”

ผมพยักหน้าให้มันไปที ส่วนซนพอลงจากรถก็หันมาโบกมือให้ผมแล้วเดินรีบหันหลังวิ่งไปยังจุดหมายทันทีส่วนตัวผมก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะนึกไปถึงคนที่เพิ่งฝากรอยร้อนๆไว้ที่ริมฝีปาก ทั้งๆที่มันก็แค่จูบเบาๆ แต่ก็ยังอดคิดถึงมาตลอดทางไม่ได้

ผมเอาแสนดีกับกระเป๋าเสื้อผ้าคนตัวเตี้ยไปส่งถึงที่บ้านไอ้ซน ก่อนจะแวะกินข้าวกับม๊ามันแป๊บนึงแล้วค่อยกลับมานอนกลิ้งอยู่ที่บ้าน พอนอนไปสักพักมันเริ่มรู้สึกเบื่อๆเลยโทรหาบรรดากิ๊กที่เคยคุยด้วย ก่อนจะชวนฝนผู้หญิงที่ผมคุยด้วยบ่อยที่สุดไปดูหนัง พาไปกินข้าว แล้วก็จบลงบนที่นอนเหมือนเดิม ตอนที่ทำกับฝนความคิดตัวเองก็เอาแต่คิดถึงไอ้คนร่างเล็กที่เมื่อคืนก่อนเพิ่งนอนกับผมไป แต่คืนนี้ คืนเดียวกันผมกับมันต่างคนก็ต่างนอนกับคนอื่น ไม่ดิจริงๆแล้วสำหรับซนคนอื่นมันคือผมต่างหาก

แล้วแม่งผมจะต้องมานั่งคิดเยอะแยะทำไมวะ

ไม่เห็นจะเข้าใจความรู้สึกตัวเองเท่าไหร่เลย แต่ผมก็คิดนะว่าไอ้ความรู้สึกนี้คิดว่ายังไม่ได้ชอบหรอก มันยังไม่แตะแม้แต่คำๆนั้นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ดิ....ไม่รู้เหมือนกัน

ไม่รู้ทำไมต้องรู้สึกหงุดหงิด รู้สึกหวงมันทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้น

ทั้งๆที่ปกติไม่มีครั้งไหนหรอกที่ผมจะรู้สึกกับคู่นอนตัวเองแบบนี้ ไม่เคยแม้แต่จะเสียดายด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม...

“น่าน”

“......”

“น่านคะ”

“ห้ะ?? ว่าไงครับฝน มีอะไรเปล่า”

“เปล่าค่ะ เห็นน่านๆเหม่อๆเลยถามดู แล้วก็...คือฝนไม่ได้ไล่นะคะ แต่ว่าวันนี้เมทฝนมันจะมา...”

“อ้อครับๆ ผมเข้าใจ เอาไว้เดี๋ยวค่อยไปกินข้าวกันเนอะ แล้วก็อันนี้ฝนเอาไว้ใช้นะ ขอบคุณมาก” ผมเอาเงินจำนวนนึงยัดใส่มือฝน แต่ฝนกลับดันเงินนั้นกลับมาแล้วไล่ผมไปอาบน้ำแทน ฝนก็เป็นแบบนี้ เธอไม่เคยเรียกร้องอะไรมากไปกว่าการที่ให้ผมอยู่ข้างๆ ผมรู้นะครับไม่ใช่จะไม่รู้ว่าเธอรู้สึกแบบไหนกับผม

แต่ผมยังไม่รู้สึกกับเธอถึงขั้นนั้น เพราะงั้นผมเลยคิดว่าการให้เงินหรือซื้อของแบรนด์เนมให้มันน่าจะเป็นสิ่งที่แฟร์กับเขามากที่สุด แต่ก็อย่างที่เห็นฝนไม่รับ เขารอ

รอให้ผมเลิกนิสัยเจ้าชู้

เขาบอกว่าเขารอผมได้

แต่ไม่รู้ดิครับ

ตอนนี้มันมีหลายๆอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปกะทันหัน

บางทีถ้าผมเจอใครบางคนช้ากว่านี้หรือไม่เจอกับเขาเลย...อีกไม่นานหลังจากนี้ผมอาจจะรู้สึกชอบฝนขึ้นมาก็ได้

เพราะตอนนี้ในหัวผมกลับเอาแต่นึกถึงหน้าใครอีกคนที่รู้จักกันไม่ถึงสองอาทิตย์คนนั้นตลอดเวลา









สองอาทิตย์ผ่านไป อย่างเชื่องช้าผมเดินเอื่อยๆเข้ามาในคณะ ทักทายเพื่อนร่วมรุ่น รุ่นน้อง แล้วก็เดินมานั่งตรงที่นั่งประจำ ช่วงนี้กลุ่มแก๊งผมเอาแต่ถามผมอยู่นั่นว่าผมเป็นอะไร ทำหน้าเหมือนมีเรื่องให้คิดมากอยู่ตลอดเวลา จะไม่ให้ผมคิดมากได้ไงวะ ก็ในหัวผมเอาแต่คิดถึงใครอีกคนตลอดเวลา ในมือก็เอาแต่จ้องมองโทรศัพท์รอการติดต่อจากคนๆนึงอยู่ ผ่านมาจะสองอาทิตย์กว่าแล้วยังไม่มีแม้แต่ข้อความหรืออะไรทั้งนั้น จะติดต่อไปหาก่อนก็ดูกระไรอยู่เลยได้แต่นั่งๆนอนๆรอโทรศัพท์จากมันเท่านั้น แม่งบอกว่าจะติดต่อมา แล้วก็เงียบแบบนี้เนี่ยนะ ไหนจะให้กูติวให้วะ โง่แบบมันอ่านเองคงจะรู้เรื่องหรอก

“มึงนั่งจ้องแบบนี้เขาก็ไม่รู้หรอกว่ามึงรอโทรศัพท์เขา” ไอ้โก้พูดพร้อมกับปล่อยควันสีขาวขึ้นไปบนท้องฟ้า “กูไม่รู้นะเว้ยว่าอาทิตย์ที่ผ่านมึงเป็นอะไร แต่มันไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ว่ะ ดูแม่งเหมือนรอโทรศัพท์จากใครสักคนหรือแม่งก็มีเรื่องให้คิดมากตลอด ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร แต่แค่อยากให้รู้ว่า....”

“พวกกูอยากเสือก” ไอ้ป๊อบยื่นหน้ามาใกล้จนผมอดโบกมือหนักๆลงบนหัวมันไม่ได้

“เสือกอะไรล่ะ กูไม่มีอะไรจะพูด”

“เล่าๆมาเถอะน่า เวลากูเห็นมึงทำหน้าเครียดเหมือนคนขี้ไม่ออกทีไรกูอึดอัด ไปแดกเหล้ามึงก็เอาแต่นั่งมองมือถือ ทำไมวะคนไหนในมือถือมึงที่มึงอยากคุยงั้นเหรอ ไม่กล้าโทรเดี๋ยวกูให้ไอ้แอลคุยให้ก็ได้” ผมเคยคิดนะครับว่าคนอย่างไอ้บาสน่าจะเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน แต่พอเห็นแบบนี้เท่านั้นแหละ รู้เลยตัวจี๊ดอยู่ตรงนี้

“เปล่าหรอกกูแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”

“ดูจากหนังหน้าแล้วกูว่าไม่นิดนะ” เอาไงดีครับ ผมควรจะเล่าเรื่องตัวเองให้พวกมันฟังดีไหม มันจะหาว่าผมใจง่ายหรือเปล่า

แต่จะว่าใจง่ายมันก็ไม่น่าถูกนะครับ ผมก็แค่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรก็เท่านั้น

ยังไม่ได้รู้สึกอะไร

ถ้าปรึกษาพวกมันอาจจะรู้มากกว่านี้และก็ช่วยตัดสินใจอะไรได้มากกว่านี้ก็ได้

“ทำเงียบๆ พอกูอยากเสือกเนี่ยทำเงียบทำไมครับคุณน่าน”

“เออก็กำลังจะเล่าอยู่นี่ไง” สุดท้ายผมก็ทนอาการขี้เสือกของเดอะแก๊งไม่ได้ เล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟังตั้งแต่แรกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ได้กันมากี่รอบ แต่ไม่ได้ลงลึกละเอียดถึงขนาดบอกว่าท่าไหนบ้างอย่างที่ไอ้ป๊อบอยากรู้หรอกครับ แค่บอกว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง แล้วก็บอกแค่ว่า....

“เนี่ยจู่ๆมันก็หายไป มันบอกกูนะเว้ยว่าอีกสองอาทิตย์มันจะติดต่อกลับมา แต่เนี่ยผ่านมาตั้งสองอาทิตย์กว่าแล้วแม่งยังไม่ติดต่อมาเลย กูไม่รู้ว่ากูเป็นอะไรว่ะ เอาแต่คิดถึงมัน แต่กูก็ยังแน่ใจนะว่ากูยังไม่ได้รู้สึกชอบมันแบบนั้น กูก็แค่...ไม่รู้ว่ะ..อธิบายไม่ถูก”

“แต่กูรู้” ผมหันไปมองหน้าไอ้แอลที่เอามือลูบคางตัวเองราวกับตัวเองเป็นผู้รู้ “กูว่านะที่มึงบอกว่ายังไม่ชอบน้องซนอันนั้นก็อาจจะจริง เพราะคนรู้จักกันยังไม่ถึงเดือนจะรู้สึกถึงขั้นชอบเลยก็เร็วไป”

“ถูกครับเพื่อนแอล มึงคิดแบบที่กูคิดปิ๊”

“เป๊ะ!!!” ถูกคนแก้คำให้ไอ้ป๊อบแล้วโบกเกรียนมันไปคนละที

“แล้วกูก็คิดว่ามึงอาจจะเริ่มรู้สึกดีกับน้องเขาบ้างแล้ว”

“ใช่ครับ ไอ้แอลพูดเหมือนที่กูคิดไว้เลยว่ะ มึงนี่มันขี้ขโมยความคิดกูชัดๆนะครับเพื่อน” ผมกับเพื่อนคนอื่นหันไปหรี่ตามองไอ้ป๊อบแล้วส่ายหน้าอีกรอบ

“แล้วที่มึงรู้สึกมากมายขนาดนี้เป็นเพราะว่ามึง....”

“ใช่!!!มึงคิดอย่างที่กูคิดเลยอ่ะ”

 “มันยังไม่ได้พูด!!!” ต้องขอบคุณไอ้บาสที่โบกหัวไอ้ป๊อบแทนผม เพราะถ้ามันยังกวนตีนอยู่แบบนี้อาจจะไม่ใช่แค่มือที่โบกไปที่หัวมันอาจจะเป็นเท้าผมแทน “แล้วมึงก็เลิกขัดได้แล้วป๊อบ แม่งเป็นฝอยขัดหม้อไงขัดอยู่นั่น ให้ไอ้แอลมันพูดก่อนมึงจะเห็นด้วยหรือเปล่าค่อยแสดงความคิดเห็น”

“เฮ้ยย บาสมึงเข้าใจผิดและกูไม่ได้เห็นด้วยกูจะบอกว่าที่ไอ้แอลมันพูดคือกูคิดเองทั้งหมดเลยเว้ย...”

“อ่ะงั้นมึงพูดต่อดิ” ไอ้โก้พยัดเพยิดให้ไอ้ป๊อบเป็นคนพูด ส่วนไอ้คนที่บอกว่าคิดเองก็ทำหน้าเหลอหลาไปไม่เป็นก่อนจะแกล้งยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยทั้งๆที่ไม่ได้มีเสียงโทรศัพท์สักแอ๊ะ

“ห้ะเมี่ยงว่าไง อ้อได้ ว่างๆ แค่นี้นะ...เออมึงกูว่ากูติดไปหาเมี่ยงพอดีว่ะเดี๋ยวกูมาพูดเรื่องนี้ล่ะกันนะเว้ย  ไปและ” แล้วมันก็วิ่งไปเลย บางทีไอ้ป๊อบแม่งก็บ้าๆบอๆเกินมนุษย์ไปนะผมว่า

“กูล่ะงงกับมันฉิบหาย” ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดไอ้โก้ “เอ้าต่อดิ๊แอล ทฤษฎีมึงอ่ะ”

“เออรู้แล้ว...” แอลเบะปากใส่ไอ้โก้นิดนึงแล้วหันหน้ามาทางผมต่อ “เมื่อกี้พูดถึงไหนนะ..”

“มึงบอกว่าที่กูรู้สึกมากมายขนาดนี้เพราะว่ากูอะไรสักอย่าง”

“อ้อ ที่กูจะบอกคือที่มึงรู้สึกมากมายขนาดนี้อาจจะเพราะว่ามึงรู้สึกว่าน้องเขาได้มายาก”

“ยากอะไร?? กูเอากับมันแล้ว” เพื่อนฝูงขนาดนี้แล้วไม่มีหรอกครับคำว่าอาย

“กูไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น กูหมายถึงว่า ความรู้สึกน้อง ใจน้อง มึงบอกกูเองไม่ใช่เหรอว่าน้องมันมีแฟนแล้ว  และดูท่าจะรักแฟนมาก”

“อื้อใช่ รักมากด้วยมั้ง” ผมบอกเสียงอ่อยๆในมือก็หมุนโทรศัพท์ไปด้วย

“นั่นแหละที่กูจะสื่อความหมายของคำว่าได้มายาก เพราะว่ามึงไม่เคยเจอแบบนี้ มึงเคยเจอแต่คนที่อยากได้มึงมากกว่า” ก็จริงอย่างที่ไอ้แอลพูดแหละครับ

“แล้วกูควรทำไงดีวะ”

“ก็ไม่ต้องทำไง ถ้ามึงรับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็หาแฟนสักคน ฝนไหมมึงก็รู้สึกดีกับเขาไม่ใช่เหรอ หรือว่าครั้งนี้มันต่างกันวะ”

“........” ผมไม่ได้ตอบคำถามไอ้แอล เพราะผมรู้ตัวดีว่ามันต่างกัน

“คิดมากน่ะมึง ถ้าชอบก็แค่ชอบ แต่ถ้าไม่ชอบก็เป็นแค่คนที่รู้สึกดีๆด้วย เดี๋ยวสักพักมึงก็ลืมน้องเขาเองแหละ แต่กูว่าคงชอบยากล่ะมั้ง มึงเป็นประเภทไม่ชอบยุ่งคนมีเจ้าของอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ นี่ก็รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าเขามีแฟนไม่ใช่เหรอ...เดี๋ยวสักพักมึงก็โอเคขึ้นเองแหละ” ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ไอ้แอลมันพูด แต่จริงๆแล้วไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง มันก็จริงอยู่หรอกครับว่าผมเป็นประเภทไม่ชอบยุ่งกับของชาวบ้าน ยิ่งคนมีเจ้าของแล้วผมไม่อยากแม้จะแตะต้องด้วยซ้ำ

แต่ก็นั่นแหละ ทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ ไอ้ซนก็คงเป็นหนึ่งในนั้น

เพราะผมเองก็รู้ทั้งรู้ว่าน้องมันมีแฟนแล้ว

แต่ก็ยังไม่อยากเลิกยุ่งกับมันอยู่ดี

“อ่าววครับ เลิกคิดเยอะ ไปครับไปเรียน” ไอ้บาสตบบ่าผมเบาๆแล้วเดินนำหน้าผมเข้าไปในตัวอาคาเรียนรวม ผมก้มมองโทรศัพท์ตัวเองอีกรอบก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วยัดมันใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง คงไม่โทรมาหรอกมั้ง แม่งเป็นไงก็ไม่รู้ไม่คิดโทรหากูเลยหรือไง

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
แต่พอบ่นได้ไม่ทันขาดคำ เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นทันที ผมนี่รีบหยิบขึ้นมาดูชื่อเลยว่าใช่คนที่ผมรออยู่ไหม แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่

“อะไรของมึงป๊อบ”

“ฝากเช็คชื่อด้วยนะมึง”

“อ่าวมึงไม่เข้าเหรอ”

“เอออไม่ได้เข้า ไม่ว่าง มีนัดกับเมี่ยงพานางไปซื้อของ เช็คชื่อให้กูด้วย”

“เออออออออ”


Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมาอีกรอบ ดูชื่ออีกทีก็ยังไม่ใช่คนที่รออยู่ดี “อะไรอีกวะป๊อบ”

“น่านเรื่องของมึงอ่ะ เดี๋ยวกูไปเสือกคาบบ่าย ห้ามลืมเล่าให้กูฟังด้วย” มันใช่หน้าที่ผมไหมครับที่ต้องเล่าเรื่องตัวเองให้มันฟัง

“เออออ”

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

“อะไรของมึงอีกเนี่ย จะโทรมาอะไรนักหนาวะ”

“ห้ะ” แต่เสียงที่ตอบกลับมาแม้ว่าจะแค่นิดเดียวผมก็รู้ว่าไม่ใช่ไอ้ป๊อบ พอมองชื่อคนที่โทรมาเท่านั้นแหละผมนี่ทรุดลงไปนั่งกับม้าหินอ่อนเหมือนเดิมเลย

“เปล่า....”

“เปล่าเชี่ยอะไรล่ะ กูเพิ่งโทรหามึงครั้งแรก แต่มึงมาด่าว่ากูโทรหามึงอะไรนักหนาเนี่ยนะ” มันบ่นงุ้งงิ้งผ่านผ่านโทรศัพท์ เสียงที่ไม่ได้ยินแค่สองอาทิตย์ก็ทำเอาใจผมสั่นขึ้นมาเฉย

“เออ”

“เอออะไร พูดไปตั้งยาวตอบมาคำเดียวเนี่ยนะ”

“เอาน่ามึงมีอะไร โทรมาไมวะ” ผมวางฟอร์มแกล้งทำเสียงหงุดหงิดใส่มัน

“มีดิ วันนี้มึงมารับกูด้วยนะ แล้วก็พากูไปรับลูกชายกูด้วย มึงว่างใช่เปล่า”

“แป๊บนึงขอคิดก่อน” ถึงไม่ว่างผมก็ไปอยู่แล้วอ่ะ

“ว่างไหมเนี่ย”

“แป๊บนึงดิ”

“คิดนานไปไหมมึง สรุปว่าว่างเปล่า ถ้าไม่ว่างก็ช่างเถอะ เอาไว้วันอื่นก็ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าลูกชายกูจะรอไหวไหม มึงรู้ไหมว่ากูฝันเห็นมันทุกคืนเลย มันเรียกร้องหากูตลอดเวลา มึงคิดดูเอาล่ะกันว่าถ้ากูกับลูกกูเจอกันช้าไปแค่วันเดียวมันอาจจะมีเรื่องเลวร้ายขึ้นก็ได้” ไอ้ซนแม่งพูดโอเว่อร์แอคติ้งจนผมอดส่ายหน้าออกมาไม่ได้ “แล้วมึงเชื่อไหมว่ามันมีบางคนบอกว่าจะรับผิดชอบกูพอกูขออะไรนิดๆหน่อยๆทำเป็นคิดนานมึงคิดดูเอาล่ะกันว่าคนแบบนั้นมันเป็นไหน”

“เอออ กูรู้แล้ว แม่งพูดมากว่ะ” ตัดพ้อซะผมรู้สึกผิดเหมือนไปทำแม่งท้องเลย “เดี๋ยวกูไปรับตอนเย็น”

“ดีมากทำตัวน่ารักแบบนี้สิถึงจะอยู่กันยืด แล้วมึงจะเข้าเรียนตอนไหนวะ”

“อีก 20 นาที”

“โอเค งั้นแค่นี้ กูไม่กวนและ”

“เดี๋ยวดิวะ”

“อะไรอีก....”

“คือกู...” ยังไม่อยากวางเลย

“อะไร?”

“........”

“เงียบใส่กูอีก.. อะไรของมึงเนี่ยน่านกูว่าไอโฟนมึงแม่งของก๊อปจากจีนเปล่าเวลากูพูดทีไรมึงทำอย่างกะว่าไม่ได้ยินที่กูพูดยังไงยังงั้น...ฮัลโหลๆ หรือว่าเป็นที่โทรศัพท์กูวะ”

“กูได้ยิน”

“ได้ยินก็ตอบดิวะ แล้วมึงมีอะไรอีกไหม...”

“ไม่มี..”แต่จริงๆก็มี

“ถ้าไม่มีก็แค่นี้แหละ...ตั้งใจเรียนนะมึง...อย่าไปมองสาวที่ไหนล่ะ..มึงได้กูแล้วนะเว้ย...ตู๊ด ตู๊ด” เสียงสัญญาณที่ถูกตัดสายไปบ่งบอกว่าคนปลายสายวางไปแล้ว แต่ผมที่ยังถือโทรศัพท์ไว้ในมือไม่มีทีท่าว่าจะลดมันลงก่อนจะหันไปฟุบกับโต๊ะแล้วกำโทรศัพท์ในมือแน่น


แม่งเอ๊ยยยย!!! ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้วะซน





แล้วแบบนี้ผมจะตัดความรู้สึกจากมันได้ยังไง





TBC
>>>>~<<<<<
ท่าทางพี่น่านจะคลั่งเด็ก
 :hao7: :hao7: :hao7: :mew3: :mew1:


หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 10 ยังไม่ชอบก็แค่...[22-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-03-2015 16:24:16
นี่เอ็นดูพี่น่านมากอะพูดเลย.  :man1:

ไอ้คำว่า'มึงได้กูแล้วนะเว้ย' เนี่ยอยากจะขอซื้อต่อจริงๆเลยน้องซน. แกลืมไปรึเปล่าว่าแกก็ได้น่านไปตั้งหลายทีเหมือนกัน

สงสัยต้องเข้าทางแม่แล้วมั้งพี่ซนยากขนาดนี้. เลี้ยงแมวให้ไม่พอยังต้องเลี้ยงหมาน้อยอีกสามตัว?พี่น่านจะไหวไหมเนี่ย. ฮ่าๆๆๆ

 :laugh: 

ขอบคุณค่ะ. ถึงคนจะเม้นน้อยแต่อย่าท้อนะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 10 ยังไม่ชอบก็แค่...[22-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-03-2015 16:33:13
ชอบจังค่ะ 'มึงได้กูแล้วนะ' น้องซนตลกโฮกกก :m20: หวงพี่น่านแต่ตัวเองดันมีแฟนเนี่ยนะ แหมๆ :hao3: อยากเห็นเงินกับทองไวๆจังค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ!
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 10 ยังไม่ชอบก็แค่...[22-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: pungpondppp ที่ 22-03-2015 17:35:06
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 24-03-2015 20:13:39
Because of you ซน ตอนที่ 11 แค่ชู้ทางกาย

วันนี้ผมกับน่านฟ้าเรามารับลูกชายผมที่ฝากพี่นุ่นเลี้ยงไว้ครับ(อ่ะแน่นอนลูกชายผมไม่ใช่ลูกชายคนอื่นในเมื่อพี่เขายกมันให้ผมแล้วมันก็ต้องเป็นของผม) ตอนแรกผมเซ้าซี้จะให้ไอ้น่านมารับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่มันก็อิดออดบอกว่าจะไปรับทั้งทียังไม่ได้ซื้อของอะไรเลยทั้งอาหาร เบาะนอน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่สุนัขควรจะมี ผมเลยอือออกับมันว่าจะมารับเงินทองที่บ้านพี่นุ่นวันนี้แทน เสร็จแล้วค่อยพากันไปที่จตุจักรหาซื้อของใช้ที่จำเป็นสำหรับมันสองตัว แล้วก็สุดท้ายก็ไปที่โรงพยาบาลสัตว์ที่ม.เกษตรเพื่อเอาลูกชายไปฉีดยา คิดแล้วก็เหมือนตัวเองมีลูกอ่อนนะครับ แน่นอนว่ามีผมเป็นพ่อส่วนไอ้ที่ขับรถอยู่เป็นอย่างอื่นไม่ได้แน่ๆนอกเสียจากคนรับใช้

“ใกล้ถึงยังเนี่ย”

“แป๊บนึงดิวะ รีบนักทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวาน” คิดว่าใช้มุขนี้แล้วกูจะตามมึงไม่ทันสินะน่านฟ้า จำได้ไหม...ทุกคนยังจำได้ไหมว่าเมื่อวานผมบอกกับมันว่าอะไร

“รีบไง เมื่อวานกูบอกให้มึงพามาแล้ว มึงลืมหรือโง่เนี่ยน่าน”

“เออกูขอโทษ กูผิดเอง”

“รู้ตัวก็ดีแล้ว ผิดเป็นครูครับพี่น้อง”

“แต่ดูเหมือนกูจะเป็นได้แค่ชู้มากกว่าไหม” ไอ้น่านหัวเราะขำผมแบบฝืดๆ แต่มันก็แค่แป๊บเดียวเพราะสักพักมันก็หันไปหยิบไอโฟนหกสีทองอร่ามขึ้นมาล่อตาผมแทน
เหอะ คิดว่ารวยแล้วจะเอานั่นเอานี่มาโชว์ให้ผมอิจฉางั้นดิ จริงๆมันก็นิดหน่อยเท่านั้นแหละเว้ย “เมื่อวานนุ่นมันส่งคลิปสองตัวมาให้ดู ระหว่างทางมึงก็นั่งดูรูปดูคลิปไปก่อนก็ได้”

“เยี่ยมมาก” ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มันทันที “รหัสไรวะ”

“หนึ่งสี่ตัว”

“โหววว รหัสมึงจำง่ายไปไหมวะ ถ้าจะง่ายขนาดนี้ไม่ต้องตั้งก็ได้ป่ะ” ผมบ่นไปเรื่อยแล้วเปิดเข้าไปในแกลลอรี่มันอย่างถือวิสาสะ ในเมื่ออนุญาตแล้วผมก็มีสิทธิ์ที่จะทำนู่นทำนี่ได้สิครับ รูปภาพส่วนใหญ่ที่น่านฟ้ามีในอัลบั้มจะเป็นรูปครอบครัวแล้วก็รูปแมว มีหมาบ้างปะปราย ไม่คิดเลยนะครับว่าหน้าตากร้านโลกอย่างมันจะมีใจกุศลรักแมวรักหมาแบบนี้ ทำตัวดูเป็นคนดีขึ้นมาซะงั้น ทั้งๆที่หน้าตาไม่ได้เข้ากับมันสักนิด

“ไหนอ่ะ”

“อยู่ในโฟลเดอร์ที่ชื่อว่าลูกชายอ่ะ” ผมเบ้ปากทันทีแบบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ ลูกชาย?? ลูกชายกูไปเกี่ยวกับลูกชายมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ ในเมื่อมันเป็นลูกผมไม่ใช่ลูกมัน ผมเลยจัดการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ที่มันตั้งว่าลูกชายไว้เป็น ลูกชายน้องซนคนหล่อ แทน ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร

แล้วรูปส่วนใหญ่ที่พี่นุ่นส่งมาก็เป็นรูปน่ารักๆทั้งนั้น อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ยิ่งพี่นุ่นตัดขนพวกมันทั้งคู่จนเกรียนแล้วยิ่งน่ารักไปใหญ่ผมว่าปอมสองตัวนี้ตัดผมให้เกรียนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ขนจะได้ไม่ร่วงรกบ้านมากนัก

“มึงงงงงน่ารักมากเลยว่ะ เหมือนตุ๊กตา” ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้ไอ้น่านดู มันดึงมือผมลงแล้วส่งสายตาดุๆมาให้

“ขับรถอยู่”

“อ่าๆโทษทีๆ”

“กูว่าตัดขนเกรียนๆแบบที่พี่นุ่นทำก็ดีนะ น่ารักอ่ะ”

“กูว่ามันตลกว่ะ ปกติปล่อยให้ขนมันยาวก็โอเคไม่ใช่เหรอ”

“ไม่เอาอ่ะตัดเกรียนแบบนี้แหละ จะไปปล่อยให้ยาวทำไม อย่างนี้มันดูเท่ออก สมชายชาตรีจะตาย” ผมพูดไปยิ้มไป

“ก็แล้วแต่มึง”

“มันก็ต้องแล้วแต่กูอยู่แล้วก็นี่มันหมากูอ่ะ”

“ครับหมาคุณ แต่หมาที่คุณพูดถึงอ่ะมันอยู่บ้านผมหรือเปล่า ในเมื่อมันมาขอที่อยู่ที่อาศัยแบบนี้มันควรจะเป็นหมาผมด้วยไหม ถามใจตัวเองดู”

“กูถามใจตัวเองแทบทุกวันแหละน่าน ถามตลอดว่าหมาสองตัวนี้เป็นหมากูไหม สุดท้ายกูเฝ้าหาคำตอบของคำถามมึงอีกครั้งและคำตอบที่ได้ก็คือหมากู จบนะ. ” ยอมรับก็ได้ว่าผมพูดเว่อร์ แต่ไมอ่ะถ้าไม่พูดเว่อร์เดี๋ยวมันก็มโนไม่จบว่าเป็นของมัน

“ฮ่า ฮ่า มึงนี่แม่งโคตรเกรียนอ่ะ” มันด่าด้วยเอื้อมมือตัวเองมาจับแก้มผมด้วย อย่าเรียกว่าจับเลยเรียกว่าดึงน่าจะถูกกว่า นี่ถ้าแม่งหลุดติดมือมันได้คงหลุดเป็นชิ้นๆแล้วเหอะ

“เจ็บบบ”

“ก็มึงแม่งตลก” น่านฟ้าปล่อยมือจากแก้มผมแล้วหันไปจับพวงมาลัยเพื่อจะเลี้ยวรถเข้าไปในซอยหมู่บ้านที่คาดว่าน่าจะเป็นบ้านพี่นุ่น

“ถึงแล้วเหรอวะ”

“ใกล้แล้ว ตื่นเต้นหรือไง”

“ไม่” ไม่น้อยเลยตั้งหาก

จะไม่ให้ผมตื่นเต้นได้ไงวะนี่ผมกำลังจะได้เจอเจ้าเงินกับเจ้าทองนะครับ เอาดีๆถ้าบอกว่าไอ้น่านคลั่งแมวผมเองก็ไม่ต่างอะไรจากมันมากมายนักหรอก ในเมื่อผมแม่งก็เป็นโรคคลั่งหมาเหมือนกัน ที่ผมชอบหมามากกว่าเพราะผมมองว่ามันขี้อ้อนเคยไปเล่นกับหมาเพื่อนหลายครั้งแล้วทุกครั้งแม่งก็น่ารักหมดอ่ะครับ ไม่มีตัวไหนไม่น่ารักสักตัวต่างจากแมวลิบลับ เอาง่ายๆเทียบกับอีแสนดีที่อยู่ที่บ้าน มันจะดีกับผมก็ต่อเมื่อในมือผมมีขนมเท่านั้น เวลามีขนมหรือของเล่นในมือมันจะเข้ามาออดอ้อนได้น่าตบมากๆ แน่นอนว่าคนดีๆอย่างผมไม่มีทางให้แสนดีได้สมหวังง่ายๆ ฮ่า ฮ่า ก็แสนดีมันน่าหมั่นไส้อ่ะ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งผมจะใจร้ายกับมันหรอกนะครับ เพราะพอแกล้งมันจนหนำใจแล้วผมก็แบ่งให้มันกินตลอด

“บ้านไอ้นุ่นจะมีทั้งหมาทั้งแมวเต็มไปหมด เวลากูว่างๆหรือไม่มีอะไรทำกูก็มักจะมาเล่นที่นี้แหละ”

“ใคร”

“กูไง”

“ใครถามมึงเหรอ” ไม่รู้เป็นไรผมแม่งนิสัยเสีย แต่แบบขอนิดนึงขอให้ผมได้กวนตีนมันสักนิดสักหน่อยก็ยังดี เพราะในความคิดผมน่านฟ้าก็ไม่ได้ต่างจากอะไรกับแสนดีที่น่าแกล้งและก็น่าหมั่นไส้ในคราวเดียวกัน

“กวนตีนนะมึงอ่ะ เดี๋ยวจะโดน”

“อะไร” ผมหรี่ตาเล็กมองมันอย่างไว้เชิง มันแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากแล้วทำหน้าหื่นกามสุดๆ

“ก็ตามที่พูด”

“กลัวตาย”

“ก็พอจะรู้ว่าไม่กลัว เห็นท่าทางเมื่อคืนก็พอดูออกว่าออกจะชอบมากกว่า” ทั้งๆที่ผมไม่ได้อยากจะพูดเรื่องเมื่อคืนเลยสักนิด ตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงตอนนี้ผมไม่ได้เกริ่นนำเรื่องนั้นให้ใครรู้เลย แต่มันดันพูดขึ้นมาเนี่ยนะ

“ชอบแล้วไงวะ เรื่องแบบนี้มันก็เป็นปกติธรรมดาชีวิตมนุษย์ เซ็กส์กับผู้ชายเป็นของคู่กันอยู่แล้ว” อายก็อายนะครับแต่ความหน้าด้านมีมากกว่า

“งั้นถ้าทำทุกคืนก็ได้งั้นดิ”

“โอ้ยยย กูอ่ะสบายอยู่แล้ว ว่าแต่มึงนั่นแหละไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวให้กูนั่งอยู่ข้างบนแทนก็ได้นะ หรือว่าจะเอาท่าไหนก็พูดออกมาเลย ทำได้หมดแหละ ลองศึกษาพวกหนังโป๊แล้วทำไปประกอบกันไปก็ดะ...อ้ะ” จู่ๆไอ้น่านมันก็เอามือหนาๆของมันมาปิดปากผมไว้ มันสูดหายใจลึกๆแล้วเลื่อนมือจากปากขึ้นมาขยี้หัวผม

“เลิกพูดเหอะ” มันขยี้หัวผมอีกสองสามทีก่อนจะเอามือเมื่อกี้ไปลูบหน้าตัวเองแรงๆ หูมันแดงไปหมด หน้าก็แดง

“ฮ่า ฮ่า”

“เลิกขำเลยมึง”

“เปล่าขำมึง กูขำคนทิ้งขยะข้างถนนนู่นน ฮ่า ฮ่า” ตลกอ่ะครับ ผมรู้นะว่าตอนแรกมันกะจะแกล้งให้ผมอาย เขินหน้าแดงอะไรแนวๆนั้น ไอ้เขินอายมันก็มีอยู่บ้างแหละครับแต่ผมเป็นพวกปากดีไง แล้วสุดท้ายก็อย่างที่เห็นคนที่อายมากกว่าก็เป็นมัน




หลังจากขับรถเข้ามาในหมู่บ้านสักพัก มันก็พาผมมาจอดที่บ้านขนาดกลางตรงท้ายซอย



“โฮ่ง โฮ่ง” หมาตัวแรกที่วิ่งออกมารับผมเป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียฮัสกี้ จริงๆหมาพันธุ่ใหญ่ก็เป็นอีกพันธุ์ที่ผมชอบนะ มันเห่าผมน่าดูตอนที่ลงมาจากรถ แต่พอผมขยับเข้าไปใกล้รั้ว หมาตัวเมื่อกี้รีบเอาลิ้นมาเลียมือผมแทน มันทั้งกระโดดเกาะรั้ว ทั้งเห่า คือแม่งน่ารักมาก ผมเป็นโรคถูกชะตากับหมาจริงๆครับ ไม่ว่าใครจะบอกว่าหมาบ้านนั้น บ้านนี้ดุแต่พอมันเจอผมทุกตัวก็เข้ามาครางหงิงๆแล้วให้เกาท้องให้ตลอด

“สงสัยซูดานมันจะคิดว่ามึงเป็นเพื่อน”

“....” ผมไม่ตอบขำถามมันแต่หันไปพูดกับเจ้าไซบีเรียในรั้วบ้านแทน “ซูดานเหรอ ซูดานเหรอครับ” ไอ้ซูดานพอได้ยินผมเรียกชื่อก็ครางแล้วกระโดดโลดเต้นไปมาราวกับว่าดีใจที่ผมรู้จักชื่อมัน เห็นแบบนี้แล้วโคตรอยากได้เลยครับ หมาพันธุ์ใหญ่ กอดได้ทั้งตัว

“อ่าวมาแล้วเหรอวะ ซูดานถอยออกมาก่อน”

“โฮ่ง”

“บางทีกูก็ปวดหัวกับหมากูนะใครมาแม่งเล่นด้วยหมด ไปรษณีย์ คนข้างบ้าน คนแปลกหน้า นี่ถ้าขโมยขึ้นบ้านคงหนีไม่พ้นนั่งเล่นกับแม่งอ่ะ แล้วนี่น้องซนใช่หรือเปล่าคะ” พี่นุ่นเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกในแบบที่ผมไม่ค่อยเจอเท่าไหร่นักคือจะบอกว่าแมนก็แมนนะแต่จะเป็นทอมหรือเปล่าก็ไม่น่าใช่แค่ดูเป็นตัวของตัวเองเท่านั้น

“ใช่ครับพี่นุ่น สวัสดีครับ”

“หวัดดีจ๊ะ” พี่นุ่นหันมารับไหว้เสร็จก็หันไปเลิกคิ้วถามไอ้น่าน มันพยักหน้ากับพี่นุ่นเหมือนรู้กันสองคน คือถ้ามึงจะเข้าใจกันอยู่สองคนแบบนี้ก็ปล่อยให้กูเข้าไปหาลูกชายกูก่อนก็ได้นะ แล้วพี่นุ่นแกคงจับกระแสความรู้สึกผมได้ถึงเพิ่งชวนผมเข้าบ้าน ตอนที่เดินเข้ามาในบ้านซูดานแทบจะกระโดดทั้งตัวมาที่ผม มันน่ารักมากเลยครับ ตัวใหญ่มาก ดูรู้เลยว่าเป็นหมาพันธุ์แท้แน่นอน

“มึงกูอยากได้แบบนี้อ่ะ” ผมนั่งลงลูบท้องไอ้ซูดานที่ตอนนี้นอนหงายให้ผมเล่นด้วย

“พันธุ์ใหญ่เลี้ยงยาก”

“ไม่หรอก ขนาดมึงกูยังเลี้ยงมาแล้ว”

“เดี๋ยวจะโดน”

“ทำไมชอบพูดคำนี้วะ ก็บอกแล้วไงว่าไม่กลัว โดนบ่อยๆเสียวจะตาย”

“โอ้ยย กูเชื่อมึงเลยว่ะซน”

“ฮ่า ฮ่า” ถ้าจะบอกว่านิยายทุกเรื่องพระเอกเป็นคนเขินอาย ทำนู่นทำนี้แล้วอายม้วน บอกไว้ตรงนี้เลยครับว่าคนๆนั้นไม่ใช่ผมแน่ๆ

“หัวเราะอะไรกันคะ เข้ามาในบ้านก่อนไหม ลูกรออยู่” ผมพยักหน้าหงึกๆอย่างเข้าใจก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน

ภายในตัวบ้านพี่นุ่นมีแมวเต็มไปหมด ทั้งสีขาว สีน้ำตาล สเดินนวยนาดให้ผมรู้สึกหมั่นไส้เต็มไปหมด แม่งหยิ่งๆทั้งนั้น แต่ไอ้หยิ่งๆแบบนั้นก็สามารถเรียกร้องความสนใจให้ไอ้น่านเดินแยกจากผมแล้วไปนั่งแหมะเล่นกับแมวได้ไม่ยาก แต่ความสนใจทั้งหมดก็หยุดลงเพราะคอกเล็กๆทางด้านซ้ายมือพร้อมกับพี่นุ่นที่กวักมือเรียกผมให้เดินเข้าไปหา

ภาพที่ผมเห็นคือหมาพันธุ์ปอมอยู่ในนั้นประมาณ 5-6 ตัว มีหลายตัวที่วิ่งมาเกาะคอกรอให้ผมเดินเข้าไปด้วย

แม่งทำตัวแบบนี้น่ารักเกินไปไหมพวกมึงเนี่ยยยยยย

“น้องซน ของน้องซนตัวที่ใส่ปลอกคอสีน้ำเงินนะ” คือจะบอกว่าทุกตัวมันน่ารักหมด แต่พี่นุ่นแกเลือกตัวที่น่ารักที่สุดให้ผมตั้งสองตัว

“พี่นุ่นขอบคุณมากนะครับ”

“ไม่เป็นไร เพราะถ้าน้องซนไม่เอาไปเลี้ยงพี่เองก็เลี้ยงไหวหรอก ดูบ้านพี่ดิจะเปิดฟาร์มได้อยู่แล้ว”

“ครับพี่นุ่น ขอบคุณมากเลย” ผมเล่นกับไอ้เงินไอ้ทองอยู่สักพักจนลืมเวลาไปเลย ไอ้น่านก็พอกันแทบจะกลิ้งแล้วแปลงร่างเข้าไปสิงแมวอยู่แล้ว

“น่านกลับเหอะ ต้องไปซื้อของอีก”

“เออๆ” เออๆแต่ไม่ลุกเนี่ยนะ ผมหรี่ตามองมันแล้วอุ้มเงินกับทองไปวางไว้บนตักมันแทนพวกแมวพวกนั้น

“ขี้อิจฉา??”

“เปล่าเว้ย แต่แค่จะบอกว่า กลับได้ยังอ่ะ”

“อิจฉาก็บอกดีๆดิวะ กลัวลูกตัวเองไม่ได้รับความรักจากกูว่างั้น”

“ใช่ซะที่ไหนนนนน....” ไอ้น่านยิ้มกริ่มแล้วขยับมาหอมแก้มผมโดยที่ผมไม่รู้ตัวสักนิด “เฮ้ยพี่นุ่นอยู่...มึงบ้าป่ะเนี่ย” แม่งจู่ก็หอมแก้มผมซะงั้น ปกติเคยทำแบบนี้ที่ไหน

“ไม่เห็นหรอกน่า สรุปว่าจะกลับแล้ว”

“เออไงเดี๋ยวต้องไปซื้อของต่อ”









หลังจากนั้นพวกเราก็ขับรถมาที่จตุจักรเวลาเกือบบ่ายสอง แดดนี่เปรี้ยงจนแทบจะเผาทั้งร่างผมให้ละลายไปกับพื้น ตอนแรกผมกะว่าจะทำตามแผนแรกคือพาสองตัวนั้นไปจตุจักรด้วยแล้วค่อยพามันไปฉีดยา แต่น่านฟ้าเสนอว่าเอาไอ้สองตัวนี้ไปฝากไว้ที่โรงพยาบาลน่าจะดีกว่าเพราะถ้าเอามาเดินจตุจักรด้วยคงร้อนตาย อีกอย่างเงินกับทองยังเล็กผมเลยค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องนี้มากๆ สุดท้ายเลยฝากมันไว้กับหมอคืนนึงพรุ่งนี้เช้าค่อยไปรับ

“ร้อนว่ะมึง” ผมเดินไปหลบหลังไอ้น่านในทิศทางที่แดดส่องเข้ามารู้สึกว่าตัวเองเตี้ยแล้วมีประโยชน์ก็ตอนนี้แหละ

“กูไม่ใช่ร่มไม้ออกมาเดินข้างกันเลย”

“ไม่เอา”

“ซน”

“พี่น่าน...ซนร้อน” ผมอ้อนมันแล้วเอาหน้าแปะไว้ที่กลางหลัง เดินเอาหัวติดหลังมันไว้แบบนั้น มันคิดว่าผมเป็นวัชพืชหรือไงที่จะทนแดดแล้วสงเคราะห์ตัวเองเป็นคลอโรฟิลล์อ่ะ

“กูก็ร้อนไหม”

“แต่กูร้อนกว่า”

“มึงนี่”

“นิดๆหน่อยๆมึงก็ยอมกูหน่อยเหอะน่าน แค่บังแดดให้แค่นี้ มันไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญเหมือนแบกครกขึ้นภูเขาสักหน่อย” ผมบ่นงุ้งงิ้งอยู่หลังมันไม่เลิกได้ยินเสียงมันถอนหายใจก็เป็นอันเข้าใจว่าผมชนะอีกแล้ว

“มึงนี่มันโคตรๆเลยว่ะ”

“เป็นเมียต้องอดทนเข้าใจไหมครับ” ผมตบหลังมันแปะแล้วดันมันให้เดินไปด้านหน้า

“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ”

“เออเถอะน่า...เลิกพูดเหอะมึง” เวลาจะพูดถึงตำแหน่งที่ต้องรับทีไรผมขี้เกียจพูดกับมันทุกทีเหมือนรู้สึกด้อยกว่ายังไงไม่รู้

ผมกับไอ้น่านเลือกของใช้สำหรับหมาสองตัวมากพอสมควร มีของใช้ของตัวเองบ้างแต่ก็ไม่เยอะเนื่องจากมีเงินจำกัด แล้วจะหวังให้ไอ้น่านออกให้ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ผมรับไม่ได้อยู่แล้วเพราะเรื่องเงินสำหรับผมเป็นเรื่องสำคัญ ถึงมันจะพูดว่าเดี๋ยวออกให้ และบ่อยครั้งมันก็มักจะจ่ายให้ตลอดแต่ก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่ยัดเงินกลับคืนไปให้มัน

“กูมีปัญญาจ่ายเองน่าน”

“กูจ่ายให้ก็ได้”

“ไม่เว้ย ถ้ามึงยังทำตัวแบบนี้ไม่ต้องมาคุยกับกูแล้วนะ” ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน แม่งทะเลาะกันหน้าร้านนี่แหละ ไม่ค่อยแคร์สายตาคนอื่นเท่าไหร่

“กูก็เพิ่งจะเจอคนแบบมึงนี่แหละ”

“กูรู้ว่ามึงกำลังคิดอะไรอยู่ แต่กูขอบอกมึงไว้ตรงนี้เลยว่ากูไม่ใช่ผู้หญิง กูเป็นผู้ชาย กูแฟร์พอเว้ย แฟร์ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นมึงไม่จำเป็นต้องมาดูแลกูเหมือน...อะไรขนาดนั้นก็ได้” จะพูดว่าเมียก็กระดากปากฉิบ

“เออรู้แล้ว”

“ก็แค่นั้น อันไหนที่กูจะให้มึงออกมึงก็อย่ารีรอที่จะออก อย่างอันต่อไปอาหารของไอ้เงินกับไอ้ทอง ควักเงินออกมาดิ นิ่งอยู่นั่นแหละ”

“เออๆ รู้แล้วๆ” น่านฟ้าหัวเราะแล้วขยี้หัวผมเบาๆก่อนจะยื่นทั้งกระเป๋าตังค์ส่งมาให้ผม แม่งให้กูหมดนี่เดี๋ยวกูก็เอาเงินมึงออกเองทั้งหมดแม่งเลย ศักดิ์ศรีหรือความแฟร์มันหมดลงไปง่ายๆนะเว้ยถ้ามีเงินล่ออยู่ตรงหน้าแบบนี้ ผมหรี่ตาเล็กมองมันนิดนึงแล้วสุดท้ายผมก็.......




เอาเงินมันนั่นแหละออกทั้งหมด






ก็บอกแล้วผมซื้อได้ด้วยเงินล้วนๆ







เราขับรถกลับมาที่บ้านน่านฟ้าเกือบสองทุ่ม ดูของเพลินมากเพราะปกติผมไม่ค่อยมาเดินแถวนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็ไปแต่สยามพาน้องเอยไปซื้อของแล้วก็เลยตามเลยซื้อให้ตัวเองด้วยทุกครั้ง แค่พอครั้งนี้ได้มาจตุจักรทั้งทีก็ไม่ลืมที่จะซื้อของที่อยากได้ อย่างพวกรองเท้าแบรนด์เนมมือสองที่ได้มาแบบถูกสุดๆ ซึ่งจริงๆผมไม่ค่อยซีเรื่องของมือสองหรอกครับถ้าสภาพมันยังดีก็ใส่ได้หมด

“เหนื่อยเว้ย” ผมเดินลากตัวเองขึ้นบรรไดมาได้ก็บุญแล้ว กว่าจะเคลียร์ของออกจากรถไอ้น่านใช้เวลาเกือบๆ 30 นาที ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรมาเยอะแยะรู้ตัวอีกทีก็แทบจะล้นบ้าน

“มึงไปอาบน้ำก่อนไป”

“มึงก่อนเหอะเดี๋ยวกูคุยกับน้องเอยแป๊บ” ผมตอบมันแล้วเดินออกไปที่ระเบียง ยืนคุยโทรศัพท์กับน้องเกือบๆชั่วโมง พอเดินเข้ามาก็เห็นว่าไอ้น่านกำลังเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่

“เปลี่ยนไมวะ สีเดิมก็ดีอยู่แล้ว” ผมชอบผ้าปูที่นอนสีดำนะ ยิ่งผ้าห่มสีดำด้วยแล้วมันดูโคตรขลัง ยังคิดอยู่เลยว่าจะซื้อไปใช้ที่ห้องตัวเองเหมือนกัน

“มันจำเป็น”

“ไมอ่ะ” ไม่เข้าใจผืนเก่าก็ดีๆอยู่แล้ว เมื่อวานตอนมาก็ใช้สีดำ มากี่ทีๆก็เห็นสีดำตลอด

“ก็สีดำอ่ะมันเห็นง่าย”

“เห็น...ไรวะ”

“ก็....”

“ก็??” ไอ้น่านยิ้มมุมปากนิดนึง

“ไอ้คราบขาวๆตอนที่กูกับมึงทำกันไงมันเห็นชัดเกินไป แต่..ถ้ามึงไม่อยากเปลี่ยนจะเปลี่ยนกลับไปเป็นสีเดิมก็ได้”

“พอเลย.....”ผมยกมือทำปรางห้ามญาติใส่ไอ้คนตรงหน้า “มึงอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปไม่ต้องมาถามความเห็นอะไรกูทั้งนั้น”

“ก็ส่วนใหญ่คราบที่เลอะมันของกูที่ไหนขาวๆขุ่นๆมีแต่ของมึงทั้งนั้น”

“มึงรู้ได้ไงว่าเป็นของกูคนเดียว มั่วสัด” ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่เอามาพาดที่บ่ากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าไอ้ประโยคต่อมาที่ทำเอาผมชะงักจนไปไม่เป็น

“ก็นะ กูใส่ถุงยางนี้หว่าส่วนมึงก็...แท่งล้วนๆไม่มีถุงยางผสม”

“เชี่ยยยยยย” ผมตะโกนด่ามันพร้อมส่งนิ้วกลางกลับไปให้ด้วย ตอนที่เดินเข้ามาในห้องน้ำได้ยินเสียงมันหัวเราะโคตรดังอ่ะ ผมก็เพิ่งค้นพบนี่แหละครับ ว่าในโลกนี้ยังมีคนที่กวนตีนมากกว่าผม ไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าใคร




ก็ไอ้น่านไง ไอ้น่านคนเดียวเลยยยยยยยย


TBC
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>
สงสารพี่น่านเนอะ โดนซนกด?ขี่ข่มเหงตลอด
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ ถามฉันว่าท้อไหม ฉันตอบเลยว่าม่ายยยย :o12: 555555 ชีวิตจริงมันก็มีบ้างแหละค่ะที่ท้อ แต่พอมาคิดถึงจุดเริ่มต้นของการแต่งนิยายเลยคิดว่า ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็มีคนอ่าน :-[
ขอบคุณทุกกำลังใจจ้า ขอบคุณมากๆเลย>< :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-03-2015 20:24:52
คือพี่น่านนับวันพี่จะน่าสงสารเข้าไปเรื่อยๆนะ. นี่คือพี่ทำหน้าที่เมียที่ดีของน้องซนและแม่ของเงินทองใช่ไหม.

แฟนที่เป็นผู้หญิงน้องซนจะเก็บเอาไว้ทำไมเนี่ยถามหน่อย.  อย่าให้พี่น่านมีสาวมาติดบ้างนะ

ซนเกรียนโลกแตกจริงๆ ว่าแต่...จะเปิดคลิปแนวไหนดีที่ว่าจะทำตามน่ะ.  :hao6:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 24-03-2015 20:45:54
คือบางทีก็สงสารพี่น่าน
อยากจะชัดเจนแทบตาย
แต่ซนนี่ไม่ชัดเจนนนนนนนน  :ling1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-03-2015 21:29:32
พี่น่านบอกน้องไปเลยค่ะ มัวแต่ทำตัวเป็นเมียเก็บน้องอยู่นั่นแหละ น้องยิ่งเอ๋อๆ (?) เกรียนๆ  อยู่ด้วย ถ้าไม่บอกน้องไม่มีทางสะกิดใจแน่ๆ อ่ะ เราเอาใจช่วยอยู่น้าา อย่าเพิ่งท้อไปก่อนล่ะ สู้ๆ

* อ๊า~ อยากได้เงินกับทองมานอนกอดสักคืนจังเลยค่าา :-[
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 25-03-2015 00:52:56
เราชอบนิยายเรื่องนี้มากเลย สนุกมากๆ หลงรักซน ฮาดี น่ารักน่าหยิก.. เอามาลงเรื่อยๆบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-03-2015 02:33:54
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Eomoge ที่ 25-03-2015 11:27:16
น่าร๊าคคคคคค

มาต่อไวๆนะครับ

 :-[   :impress2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 25-03-2015 14:18:09
ซน ถ้าเค้าไม่รุกหนูหนักๆ หนูก็ไม่รู้เรื่องจริงๆสินะ หืม? :hao4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 25-03-2015 17:07:22
ตามอ่านทันแล้วววววว!!
เรื่องนี้น่ารักอ่าาา อ่านไปยิ้มไป ซนนี่มันซนจริงๆนะ!
น้องซนเป็นเด็กดีว่าง่าย พี่น่านไม่ต้องบอกอะไรน้องซนก็รู้หน้าที่เลยยยย
น่านนี่ยอมซนหมดแล้วทุกทางใช่มั้ย สามีที่ดีควรเอาเป็นแบบอย่าง 5555


ภาวนาให้ซนกับน้องเอยเลิกกันเร็ว และขอให้น่านรัก หลง โงหัวจากซนไปไหนไม่ได้เลยยยย



ปล.สู้ๆนะน่าน 5555555555
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 25-03-2015 21:05:10
รุสึกอยากให้ซนกับเอยเลิกกันเร็วๆ

สงสารพี่น่านนนน :hao5:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-03-2015 23:52:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 11 ชู้ทางกาย....[24-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-03-2015 07:54:08
แหม นานๆจะเห็นพระเอก นายเอกแนวนี้
 ดีๆชอบๆ พี่น่านติดใจรีบคว้าไว้เลยสิย่ะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 28-03-2015 18:46:01
Because of you ซน ตอนที่ 12 bad man


เดือนกว่ากับการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านไอ้น่าน วันๆผมกับมันไม่ค่อยได้ทำอะไรกันหรอกครับ จ้องแต่จะหากิจกรรมทำตลอด ไอ้กิจกรรมที่ว่าไม่ได้หมายถึงเรื่องบนเตียงอย่างเดียวหรอกนะครับ อย่าคิดหื่นใส่พวกผมแบบนั้น ถึงเรื่องนี้จะเป็นอันดับหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างผมกับมันก็เถอะ แต่เรื่องอื่นมันก็มีให้ทำร่วมกันบ้าง  ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียงอย่างเดียว แต่พูดก็พูดเถอะครับเหมือนผมกับมันเราอยู่กันด้วยร่างกายและความหื่นกามล้วนๆ ส่วนเรื่องติวหนังสือตอนนี้เป็นเรื่องรองไปแล้วครับ ตกอันดับยิ่งกว่าเรื่องไอ้เงินไอ้ทองอีก

“มึงไม่สงสารลูกมึงเหรอวะซน มันจะคิดแบบไหนที่ตัวเองขี้เหร่แบบนี้” ผมไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่ดังหึ่งๆอยู่ใกล้ๆหรอกครับ ก็แล้วทำไมวะ การตัดขนให้เกรียนแบบนี้มันเท่ดีออก ปล่อยให้ยาวดูแลยากจะตาย แถมมันเป็นตัวผู้ต้องเลี้ยงแบบแมนๆดิ

 “เรื่องกู มึงจะเสือกอะไรเนี่ย นี่ลูกกูนะ” ผมผลักหัวไอ้น่านออกจากไหล่แล้วขยับไปเล่นกับลูกชายผมต่อ แต่แทนที่มันจะเลิก มันกลับขยับเอาหัวหนักๆของมันมาวางไว้บนบ่าผมเหมือนเดิม

“หนักเนี่ย มึงเห็นบ่ากูเป็นไรที่ตั้งหัวมึงเหรอน่าน ขนาดหัวมึงยังดูแลเองไม่ได้ แล้วชีวิตนี้มึงจะดูแลใครได้วะ ลุกได้แล้วไหม”

“ไม่เอา”

“เอาแต่ใจไปไหมมึงอ่ะ”

“ไม่ได้เอาแต่ใจอย่างเดียวนะกูเอาแต่มึงด้วย”

“K”

“อยากได้”

“จะอยากได้ไปทำไม ของกูก็มี”

“คิดว่าอยากได้ของกูเพิ่ม”

“สาดดดด ใครจะอยากได้ของมึง”

“เหรอ เหรอ ไม่อยากได้จริงเหรอครับ” ทำเสียงกวนตีนไม่พอหน้าตามันนี้แทบอยากจะได้ส้นตีนผมไปแปะที่หน้าด้วยชัดๆ “คิดว่าอยากได้ซะอีก”

“พอเลย เลิกหื่นสักวันได้ไหมวะ” ผมหันทั้งตัวมามองคนตรงหน้าก่อนจะเอื้อมมือมาตบแก้มมันเบาๆเป็นสัญญาณบอกมันว่ามึงควรจะเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว วันๆไม่ทำอะไรหรอกนอกจากคิดเรื่องหื่นๆกับขัดความสุขผม

“ฮ่า ฮ่า” แล้วมันก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง แน่นอนครับว่าไม่ใช่ว่าทุกครั้งหรอกที่เวลาพูดเรื่องใต้สะดือแล้วผมจะชนะ บอกตรงๆว่าน้อยครั้งมากที่ชนะมัน เต็มสิบผมชนะมันสัก3-4ครั้งเท่านั้นแหละ

“เออซนก็มีเรื่องจะถามมึงว่ะ”

“เรื่อง”

“กูได้ข่าวว่ามึงกำลังหาที่ฝึกงานอยู่ป่ะ”

“ก็แนวๆนั้นแหละ” ผมว่าพลางหันไปแยกไอ้เงินกับไอ้ทองให้ถอยห่างออกจากกันแม่งดูมันสองตัวดิครับของเล่นมีสองชิ้นหน้าตาเหมือนกันเดะแล้วมันจะแย่งกันทำไม

“มาฝึกกับกูเปล่า”

“ที่ไหน”

“หนองคาย”

“โหววว ไกลสัส”

“ไปไกลๆก็ดีนะ” มันยิ้มๆแล้วขยับเอาหน้าผากตัวเองมาแนบไว้กับหน้าผากผม จุ๊บเบาๆที่ปากผมสองสามรอบแล้วค่อยผละออก

“ดีไงวะ ร้อนก็ร้อน ห้างก็ไม่มี  ไอ้เงินกับไอ้ทองอีกใครจะดูแล ที่สำคัญกูยังต้องห่างจากน้องเอยอีก” เรื่องร้อนหรือไม่มีห้างจริงๆแล้วไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร ส่วนเรื่องไอ้เงินไอ้ทองมันก็มีคนเลี้ยงอยู่แล้วเพราะม๊าผมรู้เรื่องที่ผมเอาเงินทองมาเลี้ยง ด่าผมใหญ่ว่าทำไรไม่ปรึกษา สุดท้ายเวลาที่บ้านไม่มีคนอยู่หรือแม่บ้านบ้านไอ้น่านไม่มาทำความสะอาดผมจะเอาเงินทองไปฝากไว้ที่บ้านม๊าแทน แต่ประเด็นสำคัญผมอยู่ประโยคสุดท้ายต่างหาก ผมกับน้องปกติไม่เจอหน้ากันสองอาทิตย์ก็แปลกๆแล้วนี่ถ้าไม่เจอกันเป็นเดือนแบบนี้ผมยังคิดภาพนั้นไม่ออก

“แบบนั้นก็ดีแล้ว”

“ว่าไงนะ” ถ้าผมได้ยินไม่ผิดมันบอกว่าดีงั้นเหรอ

“เปล่า กูแค่บอกว่ามันดีสำหรับมึง”

“ยังไง”

“ก็ถ้ามึงไปฝึกที่ไกลๆ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มึงจะได้รู้จักโลกมากขึ้นไง รู้จักช่วยตัวเอง เพราะทุกวันนี้มึงก็แทบช่วยตัวเองไม่เป็นแล้ว...ให้กูช่วยตลอด” สุดท้ายคนแบบมันก็วกเข้ามาเรื่องนี้ทุกที

 “ทะลึ่งให้ได้ตลอดนะ”

“ฮ่า ฮ่า ไปเนอะ สองเดือนเอง”

 “พูดอย่างกับมึงมีอำนาจในการตัดสินใจอย่างนั้นแหละ อาจารย์ไม่ว่าหรือไงให้กูไปเนี่ย”

“ไม่” มันส่ายหัวดิก “เพราะไอ้บาสมันเปลี่ยนที่ฝึกมาฝึกกับบริษัทในกรุงเทพแทน ก็อย่างที่มึงรู้มันติดแฟนจะตายห่า กลุ่มกูคนเลยขาดไปคนนึง”

“เห็นกูเป็นตัวแทนว่างั้น ใช่สิกูมันก็แค่ตัวแทน” พูดไปทำเสียงเศร้าไป

“ก็ทำนองนั้น”

“สัส พูดอย่างนี้กูยิ่งไม่อยากไปใหญ่” ผมด่ามันแบบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ

“กูพูดเล่นนิดหน่อยนี่ไม่ได้เลย???” มันเลิกคิ้วถามแล้วดีหน้าผากผมมาที “จริงๆพี่ที่เขารับกูฝึกเขาอยากได้ห้าคนไง”

“อ่าวแล้วทำไมมึงไม่ชวนเพื่อนคนอื่นล่ะ หรือมึงไม่มีคนคบ โอ้ยยยย” มันแม่งกวนตีน หลังจากคำว่าไม่มีคนคบยังไม่ทันจะจบประโยคมันก็เอาปากมันมากระแทกปากผมแล้วอ่ะ “เจ็บนะเว้ย แตกไหมเนี่ย”

“เว่อร์ กูกระแทกเบาๆ” ไม่ให้ผมเว่อร์ได้ไงมันทำร้ายร่างกายผมอ่ะ

“แล้วสรุปว่าไงอ่ะทำไมมึงไม่ชวนคนอื่น”

“คนอื่นมันก็มีที่ฝึกกันหมกแล้วไง ใครแม่งอยากจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อีกอย่างที่กูจะไปกันมันไกลด้วยมันเลยไม่ไปกัน”

“อ่อ” ผมพยักหน้าเข้าใจ

“เข้าใจแล้ว ตกลงไปใช่ป่ะ”

“เข้าใจ...แต่ไม่ได้หมายความว่ากูจะไปกับมึงสักหน่อยน่านฟ้า กูบอกแล้วไงว่าขอดูก่อน ถ้าที่ไอ้เล็กหามามันไม่ได้จริงๆก็จะไปด้วย”

“แต่เขามีค่าจ้างให้ด้วยนะเว้ยวันละตั้ง 400แน่ะ” มันคิดว่าคนอย่างผมเห็นแก่เงินหรือไงวะ กะอีเงินที่มากกว่าแรงงานขั้นต่ำแค่ร้อยเดียวเนี่ยนะ
 
“เออกูไปก็ได้” ถ้าถามว่าผมเห็นแก่เงิน บอกตรงๆเลยว่ามาก

“โอเคงั้นดิล”

“ดิล” เป็นธรรมเนียมไปแล้วมั้งว่าเวลาที่เราสองคนตกลงขอเสนออะไรกัน ผมกับมันจะแลกรอยดูดของกันและกันไว้หนึ่งจุด ตลกดีแต่ก็ทำทุกครั้งที่จบคำว่าดิล

“ใต้ร่วมผ้าสัสใต้ร่มผ้า” ผมเขกกะโหลกไอ้น่านไปที เพราะเวลาที่มันดูดผิวเนื้อผม มันชอบทำเหนือร่มผ้าทุกครั้งแล้วก็เป็นผมที่ต้องตอบคำถามพวกไอ้เล็กว่ามันไม่ใช่อย่างที่มันคิด เพราะถ้ามันคิดเรื่องหื่นๆขึ้นมาทีไร คนที่ถูกคิดก็คงหนีไม่พ้นน้องเอย ซึ่งแบบนั้นมันไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ดีกับน้องเท่าไหร่





“ว้าวๆๆๆๆๆ เรทเอ๊กซ์กันเหลือเกินนะครับท่านผู้ชม ผีสางเทวดาไม่ได้อายกันเลยนะเนี่ย หน้าด้านหน้าทนสุดๆ ถ้าพวกกูมาช้ากว่านี้คงได้มีเหตุการณ์กินกันกลางบ้านแน่ๆเลยครับ” ไอ้พี่ป๊อบมาจากไหนไม่รู้ เดินเข้ามาในบ้านทำสายตากรุ่มกริ่มใส่ผมกับไอ้น่านไม่พอยังมาหาว่าผมนั่งท่าเรทเอ๊กซ์อีก คือจะบอกว่าท่าที่ผมกับไอ้น่านนั่งกันอยู่มันก็ไม่ได้เรทเอ๊กซ์อย่างที่ไอ้พี่ป๊อบพูดขนาดนั้นสักหน่อย ก็แค่ผมกับน่านฟ้านั่งหันหน้าเข้าหากัน ส่วนขาผมก็แค่วางไว้บนตักมันก็แค่นั้น (ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเอาไปพาดบนตักมันตั้งแต่เมื่อไหร่) มือเมอไม่มีที่วางก็ต้องเอาไปวางไว้บนบ่ามันดิวะ จะให้ผมเอาไปวางไว้ตรงไหน 

“แล้วนี่มาทำไมกันอ่ะ” ผมรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหากลุ่มแก๊งที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านทันที ทั้งพี่ป๊อบ พี่แอล พี่โก้ พี่บาสหรือแม้แต่ไอ้วี

“ทำไมวะ กูมาที่นี้ไม่ได้??? นี่มึงทำตัวเป็นเจ้าของบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ครับคุณเตี้ย นี่บ้านเพื่อนกูครับ ทำไมกูจะมาไม่ได้ หลบ!! กูจะไปหาตัวเงินตัวทอง ยืนขวางโลกอยู่ได้” ไอ้พี่แอลผลักหัวผมให้เดินออกจากทางเดินก่อนจะวิ่งไปกลางบ้านตรงที่ที่ไอ้เงินกับไอ้ทองนั่งอยู่ “ว่าไงครับตัวเงินตัวทอง คิดถึงพี่แอลหรือเปล่าเอ่ยยย”

“แม่งได้ยินทีไรกูอดนึกถึงเหี้ ยไม่ได้ทุกที” ไอ้พี่บาสส่ายหัวแล้วนั่งขำมองไอ้พี่แอลที่กำลังเล่นกับลูกชายผมอยู่

“กูว่านะไอ้คนที่คิดชื่อให้มึงสองตัวเนี่ย สมองแม่งมีน้อยชัดๆ กูล่ะสงสารมึงสองตัวจริงๆนะเนี่ย เวลาที่ใครมาเรียกชื่อมึงสองตัวคงไม่ต่างจากการเรียกสัตว์ที่ชอบลากไก่ไปกินในน้ำแหงๆ น่าสงสารจังเลยนะครับ โอ๋ๆไม่ร้องนะลูกไม่ร้อง” ไอ้พี่แอลเว่อร์ขนาดที่อุ้มสองตัวนั้นมาแล้วทำท่าเช็ดน้ำตาให้ คือ...ที่ไอ้พี่แอลมันบ่นมายืดยาวมันแค่ต้องการจะด่าผมว่าโง่แค่นั้น

“ถ้าจะด่าก็ด่ามาตรงๆเลยพี่  ไม่ต้องทำเป็นมาพูดกระทบกระเทียบขนาดนั้นก็ได้” ผมหันไปพูดกับไอ้พี่แอลที่ทำท่าโอ๋ลูกชายผมอยู่

“กูไม่ได้พูดกระทบกระเทียบ กูว่ากูก็ด่าตรงๆแล้วนะว่าสมองน้อย ถ้ามึงยังไม่เข้าใจว่าสมองน้อยแปลว่าอะไรมึงถามไอ้ป๊อบดูว่าหมายความว่าไง”

“กูรู้ๆ” ไอ้พี่ป๊อบยกมือขึ้น “สมองน้อย แปลว่า สมองเล็กใช่ไหมวะ”

“ใช่ซะทีไหนล่ะ มันแปลว่าโง่ แม่งกูว่านะคนที่โง่กว่ามึงก็มันนั่นแหละ” ไอ้พี่แอลถอนหายใจออกมาอย่างแรงก่อนจะตบหัวพี่ป๊อบไปที

“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอทำให้เลิกสนใจพี่แอลแล้วหันมามองคนข้างกายแทน ไอ้วีมองหน้ามองผมด้วยสายตาที่ด่าราวกับว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ไม่ต่างจากการหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชายมา

“กูแค่มาติวหนังสือ” ร้อนตัวไว้ก่อนครับ ไม่รู้หรอกว่าไอ้สายตาเสียดแทงถึงลำไส้ที่มันส่งวิ้งๆมาให้หมายความตามที่ผมคิดหรือเปล่า

“กูก็ไม่ได้พูดอะไร”

“ก็สายตามึงทำเหมือนกูหนีตามผู้ชายมายังไงยังงั้น”

“แล้วที่มึงทำอยู่เนี่ยมันต่างจากที่มึงพูดตรงไหน” ก็กูไม่ได้หนีอ่ะ ม๊ารับรู้ทุกอย่างจะเรียกว่าหนีได้ไง

“ก็แค่มาติวหนังสือกับเลี้ยงดูบุตร”

“เหอะ” ไอ้วีเบ้ปาก “มึงเชื่อไหม ว่าถ้าพูดถึงคนที่เลวตาใสที่สุดในเรื่องนี้ คนแรกที่จะได้รับตำแหน่งนั้นคือมึง ซน” ไอ้วีพูดเสร็จก็เดินชนไหล่ผมไปนั่งข้างๆพี่บาสทันที หน้ามันยังหงิกไม่หาย จนพี่บาสต้องเกาคางนั่นแหละมันถึงจะกลับมาเป็นปกติ


ทุกครั้งที่เจอกันไอ้วีมันจะมีพฤติกรรมแบบนี้ใส่ผมแทบทุกครั้ง คือไม่รู้หรอกนะครับว่าทำไมมันถึงเกลียด แต่ผมก็รู้ตัวเองดีว่าผมไม่มีสิทธิ์ไปห้ามความรู้สึกคนอื่นไม่ให้รู้สึกรังเกียจผมได้ ก็ในเมื่อสิ่งที่ผมทำอยู่มันไม่ได้ต่างจากการคบชู้อย่างที่ไอ้น่านเคยเปรยๆไว้เท่าไหร่หรอก แต่ผมก็ไม่ได้เลวขนาดที่ไม่รู้สึกผิดทุกครั้งที่เจอน้องเอยหรอกนะครับ รู้สึกแย่ตลอดแหละ ยิ่งพึ่งทำอะไรกับไอ้น่านตอนกลางคืนเสร็จตอนเช้าอีกวันไปหาน้องก็ยังรู้สึกแหม่งๆในใจไม่หาย หรือว่าผมควรจะเลิกดีวะ


“เป็นไร” น่านฟ้ามันมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ครับ มือหนาๆของมันวางไว้บนหัวผม ไม่ได้ลูบหรือขยี้นะแค่วางไว้เฉยๆ

“เปล่า”

“หน้ามึงไม่ได้บอกว่าอย่างนั้นสักนิด”

“มึงว่ากูเลวไหม” ผมถามมันเสียงอ่อน ก่อนจะหันไปเห็นพวกพี่ป๊อบที่กำลังเริ่มตั้งวงกันแล้ว ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมมีคนบอกว่าคณะวิศวะแดกเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า ก่อนสอบที่ผ่านมาพวกมันก็เพิ่งแดกกันไปบอกว่าแดกเอาฤกษ์เอาชัย พอตอนนี้สอบเสร็จแล้วก็คงฉลองสอบเสร็จเหมือนกัน ถ้าจะกินกันทุกวันแบบนี้ผมล่ะสงสารเงินในกระเป๋าพ่อแม่พวกมันจริงๆ ให้เงินมาแต่ล่ะบาทหมดไปกับน้ำเมาทั้งนั้น

“เลวเรื่อง” ผมละสายตาจากพวกพี่ๆหันมามองไอ้น่าน มันขมวดคิ้วทำหน้างงไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูดเท่าไหร่

“เรื่องกูกับมึงเนี่ยแหละ กูกำลังคิดว่ากูจะเลิกว่ะ”

“หยุด”

“ห้ะ”

“หยุดความคิดมึงเดี๋ยวนี้เลยนะซน” ไม่บ่อยนักหรอกครับที่น่านฟ้าจะทำเสียงไม่พอใจในตัวผม มันทำหน้าขัดใจผมสักพักก็กึ่งจูงกึ่งลากผมขึ้นไปบนบ้าน

“เอาแล่ว เอาแล่ว พี่น้องครับ กินกันกลางวันแสกๆจริงๆด้วยนะครับพี่น้อง” ไอ้พี่ป๊อบตัวเริ่มเลย

“จะแปลกอะไรหน้าอย่างไอ้ซนดูกูรู้ว่าอ่อยไอ้น่านชัวร์” ไอ้พี่แอลพูดตาม ส่วนคนอื่นๆก็ทำแค่ส่งสายตายิ้มๆกึ่งล้อเลียนมาให้ ขนาดไอ้พี่โก้ยังไม่เว้นอ่ะ

“กูเกลียดเพื่อนมึงจริงๆว่ะน่าน”

“ฮ่า ฮ่าพวกมันก็นิสัยแบบนี้แหละ”

“ก็แบบนี้แหละกูถึงเกลียด” ไม่แปลกใจเลยว่าไอ้น่านติดสันดานหื่นกามมาจากไหน ก็ดูเพื่อนมันแต่ล่ะตัวดิ พ่อๆทั้งนั้น “แล้วว่าแต่มึงเถอะจะลากกูไปไหนวะ”

“มีเรื่องจะคุย” มันลากผมมาจนถึงห้องมัน ก่อนจะดันตัวผมให้ขยับนั่งลงบนเตียงส่วนตัวมันก็ขยับนั่งลงกับพื้น นี่รู้ตัวเองใช่ไหมว่าฐานะมึงต่ำต้อยกว่ากูเนี่ย

“ทำไมไม่ขึ้นมานั่งข้างบนด้วยกันวะ แล้วเรื่องที่จะคุยกันทำไมไม่คุยข้างล่างมันลึกลับซับซ้อนขนาดนั้นเชียว”

“ไม่ลึกลับอะไรขนาดนั้น แค่อย่างจะคุยเป็นการส่วนตัวเฉยๆ” น่านฟ้าดึงขาทั้งสองข้างของผมไปวางไว้บนตัก

“คุยเรื่อง”

“ก็เรื่องเมื่อกี้”

“ที่กูบอกว่ากูเลวอ่ะนะ”

“ถ้ามึงบอกว่าตัวเองเลวกูก็คงไม่ต่างจากมึงนักหรอกซน” ผมเงียบ ก้มหน้ามองไอ้น่านที่ยังเงยหน้ามองผมอยู่ “กูได้ยินที่มึงคุยกับไอ้วี”

“อืม”

“เดี๋ยวกูจะไปบอกไอ้บาสให้พูดกับไอ้วีเอง มันจะได้ไม่ต้องเสือกอีก”

“ไอ้วีมันไม่ได้ผิดอะไรเว้ยน่าน มึงจะไปห้ามมันไม่ให้รู้สึกแย่กับการกระทำกูไม่ได้ ก็ในเมื่อกูแย่จริงๆ” วีมันเป็นคนที่รู้สึกยังไงก็พูดออกมาอย่างนั้น แต่ที่มันพูดออกมาทั้งหมดไม่ใช่ว่ามันเกลียดผมหรอกนะครับ ข้อนี้ผมรู้ดี “กูรู้ว่าไอ้วีมันแค่เป็นห่วงความรู้สึกของคนรอบข้างกู มันห่วงน้องเอยกลัวว่าถ้าน้องรู้เรื่อง น้องจะรู้สึกยังไง ห่วงความรู้สึกมึงด้วยมั้งว่าถ้าเกิดวันนึงมึงชอบกูขึ้นมากูคงตอบรับความรู้สึกนั้นไม่ได้” ตอนผมพูดผมไม่ได้มองหน้ามันหรอกนะครับว่ามันทำหน้าแบบไหน หันกลับมาอีกทีก็เหมือนจะเห็นแว่บๆว่ามันทำตาเศร้าๆ แต่บางทีมันก็อาจะไม่ใช่ ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้

“แต่ข้อหลังกูรู้เว้ยว่ามึงไม่มีทางรู้สึกแบบนั้น ตอนนี้ในหัวกูเลยมีแต่ความรู้สึกของน้องว่ะ” ผมทำเสียงเศร้าในตอนท้ายแล้วขยับนอนลงกับที่นอน เพดานสีขาวมันหมุนติ้วๆนิดหน่อยเพราะล้มตัวนอนเร็วเกินไปทำให้มึนหัว

“มึงไม่รู้เชี่ยอะไรเลยสักอย่าง...”

“หืม” ผมเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ปลายเท้า

“เปล่า กูแค่จะบอกมึงว่า มึงไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรเข้าใจไหมซน แล้วก็ไม่ต้องคิดมากอะไรทั้งนั้น เรื่องความรู้สึกแฟนมึง เขาไม่มีทางรู้สึกอะไรหรอกก็ในเมื่อเขายังไม่รู้ว่ากูกับมึงมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ รอให้เรื่องมันแดงก่อนไหมแล้วตอนนั้นมึงค่อยรู้สึกผิด แต่มันจะไม่มีวันนั้นแน่นอนเพราะคนที่รู้เรื่องมึงกับกูก็มีแต่คนที่ไว้ใจได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นมึงไม่เห็นต้องกลัวอะไร” ไอ้น่านพูดอธิบายยืดยาวจนความรู้สึกแย่ๆที่เกิดขึ้นเมื่อกี้หายไปเหมือนไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“และอีกอย่างกูก็ไม่มีทางชอบมึง....อย่างที่มึงเข้าใจอ่ะถูกแล้ว” ตอนที่มันพูดเชื่อไหมว่าผมแอบรู้สึกแย่กับคำพูดไอ้น่านนิดหน่อย แต่มันก็แค่นิดเดียวเท่านั้นนะครับ “เพราะเราสองคนก็อยู่ด้วยกันเพราะความสัมพันธ์ทางกาย ติวหนังสือแล้วสุดท้ายก็ลูกชายสองตัวของมึงแค่นั้น นอกเหนือจากนี้ไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว มึงสบายใจได้”



ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่น่านฟ้าพูด



“กูไม่ได้เห็นแก่ตัวไปใช่เปล่าวะ”

“ไม่เลยสักนิด....ก็ในเมื่อสิ่งที่กูทำก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน”เสียงไอ้น่านฟังดูเบลอๆจนแทบจับประโยคไม่ได้เพราะความรู้สึกทุกอย่างมันไปรวมอยู่ที่ริมฝีปากร้อนที่ขยับจูบจากต้นขาด้านในขึ้นมายังกางเกงขาสั้นผมแล้ว

“น่าน...เพื่อนมึงอยู่ข้างล่าง”

“พวกมันรู้อยู่แล้วแหละว่ากูขึ้นมาทำอะไรกับมึง”

“ไม่เอาาา”

“เอาเถอะ”

“ตลกและน่าน”

“ฮ่า ฮ่า แค่มือก็ได้” น่านฟ้าขยับขึ้นมาบนเตียงแล้วจูบเบาๆลงที่ริมฝีปากผม  มือข้างนึงล้วงเข้าไปในกางเกงของกันและกัน หลังจากนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือกลิ่นเหงื่อ กับเสียงลมหายใจที่ผสมผสานกันครั้งแล้วครั้งเล่า เซ็กส์ระหว่างผมกับน่านมันไม่มีอะไรมากไปกว่าเซ็กส์ น่านฟ้าเป็นคนที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดมันจำได้หมดว่าผมชอบตรงไหน รู้สึกดีที่ตรงไหน



นี่ถ้าไม่ย้ำแล้วย้ำอีกว่ามันไม่เคยรู้สึกชอบผม



ผมคงคิดว่ามันชอบผมจริงๆนะครับ ก็มันแม่งแสนดีกับผมขนาดนี้





“เยอะฉิบ” มันมองมือตัวเองแล้วส่ายหัวเบาๆ

“ช่างดิ” ผมนอนหอบหายใจบนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหนทั้งนั้น ได้ยินเสียงน่านฟ้าลุกเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะออกมาพร้อมกับผ้าชุบน้ำในมือ น่านฟ้าเอามันมาเช็ดมือกับเช็ดในส่วนที่เลอะให้ผม “มึงนี่เป็นคนดีไปไหมเนี่ย ใครได้เป็นแฟนคงหลงมึงตายอ่ะน่าน”

“เหรอวะ กูไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดีเท่าไหร่”

“หมายความว่าไง ที่ทำอยู่ก็ดีออก” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วเอนตัวไปพิงซบที่อกมัน ผมชอบกลิ่นน้ำหอมมันครับ กลิ่นมันไม่ได้เลี่ยนมาก ยิ่งเวลาผสมกับกลิ่นเหงื่อยิ่งรู้สึกว่ามันเซ็กซี่ เคยแอบใช้บ่อยอยู่เหมือนกัน จริงๆเรียกว่าแอบไม่ได้สินะเพราะไม่เคยแอบสักครั้งฉีดกันโต้งๆให้มันเห็นทุกที

“ตรงนี้ด้วย” ผมยื่นมือข้างที่น่านยังไม่ได้เช็ดทำความสะอาดส่งไปให้มัน ไอ้น่านก็รับไปแล้วเช็ดมันเบาๆ

“กูก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ" น่านฟ้าคงหมายถึงประโยคก่อนหน้านี้ที่ผมถามมันว่าหมายความว่าไงที่มันว่าตัวเองไม่ใช่คนดี "มึงรู้ไม่ซนจริงๆแล้วกูไม่ใช่คนดี  ไม่มีคำว่าดีเลยแม้แต่น้อย”

“อะไรของมึงคิดมากอะไรอยู่ป่ะเนี่ย” ผมใช้มือข้างที่ว่างอยู่เอื้อมไปแตะที่แก้มมันเบาๆ “ถ้ามึงไม่ได้ไปฆ่าแม่ใครหรือแย่งแฟนใครเขามันก็ไม่ได้เลวขนาดนั้นเว้ย คิดมาก”


“หึ เหรอวะ” เสียงหัวเราะในลำคอพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นนิดๆ “ก็คงเป็นอย่างที่พูดนั้นแหละมั้ง”












>>>>>>>>>>>>>>>>~TBC~<<<<<<<<<<<<<<<<<<
อย่า อย่าเพิ่งคิดว่าจะหน่วง มันยังไม่หน่วงครับนี่พูดเลย :hao3:
บอกตรง ว่าเส้นทางสายนั้นยังอีกยาวไกลมหาศาลทะเลแปดพันโวลต์ :z1:
รักคนอ่าน  :mew1:
เจอกันอีก เร็วๆนี้จ้า
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-03-2015 18:58:25
เกือบๆจะหน่วงละ

ซนมันจะเครียดเป็นไหมต้องรอดู.  แต่เครียดเรื่องน่านแล้วล่ะ. พี่มีอดีตอะไรฝังใจนักหนาเนี่ย
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-03-2015 19:04:25
อยากจะจับน้องซนมาตีก้นจังเลยค่ะ ช่วยสนใจพี่น่านบ้างได้ไหม อย่าคิดเองเออเองตลอดเลยสิ๊ ใจพี่น่านมันช้ำชอกอยู่นะตอนเนี้ย น้องซนเคยรู้บ้างม้ายยย...~ :o12:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 28-03-2015 19:58:17
อ่านแล้วหน่วงๆ ความสัมพันธ์อธิบายยาก  :o12:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-03-2015 20:08:08
นี้ยังไม่หน่วงอีกเหรอออออ. เฮ้อออ. ยังหน่วงกว่านี้อีก.
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 28-03-2015 22:18:12
ความสัมพันธ์สับสน จนคนอ่านเริ่มจะหน่วงๆ

 :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 29-03-2015 00:31:51
งืมมมมมมมม
น่านนี่ก็น่าสงสารนะ โดนซนพูดจี้ใจตลอดดด
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 29-03-2015 05:40:11
สนุกมากค่ะตามอ่านรวดเดียวเลย ซนเมื่อไหร่จะรักพี่น่านซะทีนะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 29-03-2015 06:08:22
หน่วงมาตั้งแต่ตอนที่วีร์บรรยายความรู้สึกตัวเองกับน้องของซนแล้ว
น่าน-ซนเป็นคู่ที่เข้ากันได้ทางกายเป็นอย่างมากแต่ทางใจนี่สิ

ตามอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 29-03-2015 07:13:20
ถึงแม้ถ้าทำแบบนี้พี่น่านจะดูเหมือนคนไม่ดี
แต่เราอยากให้พี่น่านแย่งซนมาได้จังเลย
ทำไปทำมา ซนกลายเป็นเคะนางพญาไปซะงั้น 555
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 29-03-2015 12:15:33
น้องซนรับรู้ใจพีีน่นบาง :o12: :o12: :z3:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 31-03-2015 01:28:02
เฮ้อ นี่ซื่อหรือซื่อละลูก
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 12 Bad Man[28-03-15.P3]
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 31-03-2015 16:08:56
รักน่านจัง
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 03-04-2015 17:02:00
Because of you ซน ตอนที่ 13 แย่ง
 
เสียงบีบแตรดังลั่นบ้าน ผมขยับมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มเป็นรอบที่ร้อย ไม่รู้ว่าใครมาแต่เช้า ไม่รู้ว่าญาติใครเสีย พอเงยหน้าหันไปมองนาฬิกาที่อยู่ข้างฝาบอกเวลายังไม่เจ็ดโมงดีด้วยซ้ำ แม่งเอ๊ย!!!ใครมาแต่เช้าวะเนี่ย

“น่านใครมาก็ไม่รู้” ผมเอื้อมมือไปกระตุกเสื้อน่านฟ้าเบาๆเป็นการบอกให้มันลุกไปเปิดบ้าน
 
“อืออ” อือพ่อง มึงเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่เหรอน่าน มึงลุกไปเปิดประตูดิวะ ผมลุกขึ้นนั่งขยี้หัวตัวเองแบบลวกๆ ก่อนจะมองท่าทางหลับปุ๋ยของไอ้น่านอย่างหมั่นไส้ พอคิดได้ว่ามันน่าหมั่นไส้เกินความจำเป็นเลยจัดการถีบไปที่ท้องมันทีนึง “ลุกดิ๊”
 
“โอ้ย เจ็บ”
 
“ก็กูถีบให้เจ็บ ลุกดิ๊น่าน”
 
“อะไรของมึงวะซน”
 
“มึงไม่ได้ยินหรือไงเสียงใครไม่รู้บีบแตรอยู่หน้าบ้านอ่ะ”
 
“บ้านอื่นหรือเปล่า” มันงัวเงียแล้วทำท่าจะล้มลงต่อ
 
“บ้านอื่นเหรอวะ”
 
“ใช่ดิ ก็กูไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว นอนๆ” น่านฟ้ากวักมือเรียกให้ผมล้มตัวลงไปนอนบนแขนมัน
 
 
ปรี๊ดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดด
 
“คุณน่านฟ้า คุณน่านฟ้า บ้านหลังนี้มีคนอยู่ไหมครับ”
 
“แล้วน่านฟ้าที่ตะโกนเรียกจากด้านล่างนั้นน่ะชื่อมึงหรือชื่อหมาข้างบ้านวะ”
 
“ครับน่านฟ้าเนี่ยชื่อผมเอง” น่านฟ้าส่ายหัวเบาๆแล้วขยี้หัวผมทีนึงก่อนจะลุกเดินออกไป ได้ยินมันบ่นกับตัวเองงึมงัมว่าใครมาแต่เช้าถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญคงได้มีมหากรรมด่าแม่กันแน่นอน
 
ผมมองการกระทำมันอย่างขำๆแต่ก็ขำไม่ได้นานหรอกครับ เพราะความง่วงแม่งมีเยอะกว่า เลยล้มตัวลงนอนอีกรอบ ตื่นมาอีกทีเกือบๆเที่ยง ปกติน่านฟ้าก็ตื่นประมาณนี้ แปลกที่วันนี้มันไม่ขึ้นมานอนต่อ ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วเดินลงมาข้างล่าง มองหามันจนทั่วทั้งในบ้านแต่ก็ไม่มี ได้ยินแต่เสียงไอ้เงินกับไอ้ทองเห่าเสียงดังอยู่หน้าบ้าน จนสุดท้ายเดินออกมาถึงรู้ว่ามันก็อยู่นี้เหมือนกัน
 
“ทำอะไรกันวะ” ผมเดินไปตามเสียงเห่าของไอ้เงินไอ้ทอง เห็นมันกำลังกัดสายยางที่ไอ้น่านฉีดไม่หยุด แม่งน่ารักดี แต่แม่งความน่ารักทุกอย่างในความคิดผมสะดุดลงทันทีที่สายตาไปปะทะกับของใหม่อีกสองอย่างที่อยู่หน้าบ้าน “มึง”
 
ของใหม่ที่ไอ้น่านเอามาทำผมสตั้นไปหลายวิ สีหน้าผมตอนนี้คงไม่ต่างอะไรจากการมองเห็นสาวสวยตรงหน้า
 
“ไง สวยอ่ะดิ คันนี้ลูกรักกูเลยนะเว้ย”
 
ผมมองรถสองคันที่จอดอยู่ด้านหน้าผมอย่างเหม่อลอย  คันแรกเป็นบิ๊กไบค์ซึ่งประมาณจากสายตาแล้วคิดว่าปุถุชนคนธรรมดาอย่างผมคงไม่มีปัญญาซื้อได้แน่ๆ ส่วนอีกคันเป็นซีคันสีฟ้าดูเท่ๆสไตล์อาร์ตๆ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างสองคันนั้นแน่นอนว่าคันแรกที่ผมเลือกก็ต้องเป็นบิ๊กไบค์อยู่แล้วป่ะ
 
“มึงงงงง” ผมขี่มอไซค์ไม่เก่ง ขี่ได้เฉพาะพวกฟีโน่ที่เป็นเกียร์ออโต้ ส่วนบิ๊กไบค์คันตรงหน้ามันมันเป็นความชอบและก็ความใฝ่ฝันที่ชีวิตหนึ่งในลูกผู้ชายควรจะได้ขี่สักครั้ง ถึงผมจะขี่แบบเกียร์มีคลาสไม่เป็นก็เถอะ “ทำไมกูไม่เคยเห็นมาก่อนวะ”
 
“จะเคยเห็นได้ไง คันนี้กูเอาไปซ่อม ส่วนอีกคันก็ไปแต่งอะไหร่เพิ่ม”
 
“เชี่ยยยยย” ผมลูบไปตามแผ่นท้องแข็งแกร่งของบิ๊กไบค์สีดำคันโต “กูขี่ได้เปล่าวะ”
 
“ได้ดิ แต่มึงขี่มอไซค์เป็นใช่ป่ะ” อ่า ผมเม้มปากมองหน้าไอ้น่าน ส่วนมันก็หรี่ตาเล็กมองผมอย่างจับผิด
 
“หยุดเลยซน”
 
“กูขี่ได้ ขนาดฟี่โน่กูยังขี่มาแล้วเลย”
 
“มันเหมือนกันที่ไหนวะ”
 
“ก็คล้ายๆกันแหละ ใช่ไหม” ผมกำลังจะขยับขึ้นนั่งบนบิ๊กไบค์แต่ไอ้น่านแม่งนิสัยเสียล็อคคอผมไว้ได้ก่อน “มึงขี้หวงเหรอน่าน”
 
“กูเปล่าหวง”
 
“ไม่ได้หวงก็ปล่อยกูดิวะกูจะขี่แล้ว”
 
“มึงหัดก่อนไหม รถกูคันล่ะไม่ใช่แค่พันสองพันนะเว้ย”
 
“หัดจาก...”ผมเอียงคอถามน่านฟ้า มันเลยชี้ไปที่คันที่อยู่ใกล้ๆ “มึงบ้าเหรอให้กูหัดจากซีเนี่ย” ไร้สาระที่สุดคนเท่ๆอย่างผมจะมาหัดจากรถคันล่ะแค่ไม่กี่หมื่น มันดูถูกผมเกินไป
 
“ขี่มอไซค์แบบไม่ใช่เกียร์ออโต้มันก็ต้องเริ่มจากคันเล็กๆก่อนดิวะ ซีก็เป็นหนึ่งในคันที่ไม่ใช่เกียร์ออโต้ มึงก็หัดจากมันไปก่อนดิ”
 
“พูดเยอะแยะขนาดนี้ก็บอกมาเลยเหอะว่าหวง”
 
“ก็บอกแล้วว่าเปล่า”
 
“เปล่าก็เงียบไปเลย” ผมเบื่อจะเถียงกับแม่งแล้วครับแล้วก็ไม่สนด้วยว่ามันจะรักรถคันนี้มากแค่ไหน ผมจัดการปีนขึ้นไปนั่งบนรถมอไซค์แล้วพยายามอย่างมากที่จะยกรถให้มันตั้งตรงโดยไม่ต้องใช้ขาตั้ง แต่รถแม่งหนักมากครับ
 
“เฮ้ยๆๆๆ” ส่วนไอ้คนที่ทำเสียงดังอยู่ตรงหน้าก็เว่อร์มาก ตอนที่ผมขึ้นคร่อมมอไซค์มัน ไอ้น่านนี่แทบจะเข้ามาช้อนตัวมอไซค์สุดที่รักของมันอยู่แล้ว
 
“มึงอย่าเว่อร์ได้ป่ะน่าน” ผมขมวดคิ้วด่ามันแล้วพยายามจะประคองมอไซค์ขึ้นมาใหม่อีกรอบ ผมประคองได้แล้ว และก็มั่นหน้าด้วยว่าสามารถยืนด้วยขาตัวเองแบบไม่ต้องยันขาตั้ง เลยตัดสินใจเอาขาตั้งขึ้น...เท่านั้นแหละ
 
 
 
โครมมมมมมมมม
 
 
ต่อหน้าต่อทั้งผมกับมันและสักขีพยานอีกสองตัวที่ยืนมองกันตาปริบๆ
 
“มะ...มึง”
 
“เอ่อ....” ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะในหัวมีแต่เสียงวิ้งๆเต็มไปหมด พอผมหันไปมองไอ้น่านมันก็ทรุดลงไปนั่งยองๆกับพื้นแล้ว
 
 “พี่น่าน” เปลี่ยนสรรพนามทันที “ซนขอโทษนะ” พอผมเปลี่ยนสรรพนามตัวเองเท่านั้นแหละน่านฟ้าขมวดคิ้วทันทีก่อนจะลุกขึ้นหันหลังให้ผมแล้วเดินไปหยุดยืนตรงซากรถที่นอนแอ้งแม้งตายอยู่บนพื้น
 
“เดี๋ยวซนยกเองก็ได้” ผมทำท่าจะเดินเข้าไปยกแต่น่านฟ้าส่ายหัวแล้วเป็นคนยกขึ้นมาเอง  สภาพด้านข้างที่สีไปกับพื้นปูนมีรอยขีดข่วนกับรอยกระจกที่บิ่นเล็กน้อย ถ้าผมเป็นมันผมคงด่าแบบไม่ได้ผุดได้เกิดแล้วอ่ะ มันก็บอกอยู่ว่าลูกรัก แสดงว่ารักมาก แล้วผมแม่งทำลูกรักมันถลอกงี้....
 
 
เกลียดกูแล้วสินะ
 
 
“พี่น่าน”
 
“เงียบเลย” ผมงับปากทันที่ที่จบประโยค น่านฟ้าเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่พูดอะไรกับผมสักคำ ไอ้เงินกับไอ้ทองยังส่งสายตารังกียจมาให้ผมอ่ะ “มึงเป็นแค่หมาจะมารู้ดีอะไร กูไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”
 
ผมอุ้มไอ้เงินไอ้ทองมาไว้บนตัก แล้วนั่งรอน่านฟ้าอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน
 
“ครับพี่...โทษทีนะพี่...ผมรบกวนอีกรอบนะครับ...ขอบคุณมากครับพี่..ครับ...หวัดดีครับ” ตอนที่มันคุยโทรศัพท์สายตามันก็จ้องจิกทำลายร้างผมไปด้วย ผมจะทำไรได้วะนอกจากทำหน้าสำนึกผิดแล้วแสดงความรับผิดชอบเต็มที่
 
“ค่าซ่อมเท่าไหร่อ่ะพี่น่านเดี๋ยวซนออกเองก็ได้นะ” พูดเพราะไว้ก่อนล่ะวะ แม่งต้องอ้อนมันก่อนอ่ะ
 
“กระดากปากไหม ที่พูดอ่ะ”
 
“แหะ แหะ ก็นิดนึง”
 
“กลับมาพูดแบบเดิมก็ได้ กูไม่ว่าอะไรหรอก”
 
“กูขอโทษนะน่าน กูไม่ตั้งใจ ยังไงค่าซ่อมกูยินดีรับผิดชอบเองทุกอย่าง” มันคงไม่กี่พันหรอกมั้ง
 
“มึงคิดว่าทำสีใหม่กับเปลี่ยนกระจกบิ๊กไบค์มันเท่าไหร่กัน” น่านฟ้ามองผมด้วยสายดูถูก มันคิดว่าเงินไม่กี่พันผมไม่มีปัญญาจ่ายหรือไง
 
“คงไม่กี่พันป่ะ”
 
“สมองงงง” ไอ้น่านพูดพร้อมกับเอานิ้วจิ้มลงมาที่หัวผม “กูประเมินจากสายตาแล้วคงไม่ต่ำกว่าหมื่น”
 
“มึงเว่อร์ป่ะน่าน”
 
“กูพูดจริง”
 
“โหวววว มันจะแพงเชี่ยอะไรขนาดนั้นวะ เวลามึงซื้อรถมึงใช้สมองซื้อหรือใช้ขี้เลื่อยในหัวซื้อกันแน่ รถแม่งก็แพงอยู่แล้ว อะไหล่ซ่อมยังแพงอีก คนที่ซื้อรถพวกนี้นี่โง่หรืองโง่วะ” ผมบ่นไปเรื่อย ลืมสนิทเลยว่าตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนทำรถมันพัง แล้วก็ยังไปด่ามันอีกทั้งๆที่ตอนแรกผมก็อยากได้ไม่ต่างจากมัน
 
“ปากดี” น่านฟ้าจับหน้าผมด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะก้มลงมากัดที่ริมฝีปากล่างผมอย่างแรง ผมรู้ว่ามันโกรธ แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายผมมากไปกว่านี้  หลังที่มันดูดปากผมจนหนำใจมันก็ผละหน้าออก ผมมองหน้าไอ้น่านนิ่งๆรอดูท่าทีว่ามันจะพูดอะไรไหม แต่มันก็ไม่พูดอะไร สุดท้ายผมนี่แหละที่ต้องพูดเอง
 
“กูขอโทษ หายโกรธกูเถอะนะ” พูดไปก็จับริมฝีปากตัวเองไป เพราะสิ่งที่ผมรับรู้ได้คือความเจ็บพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดนิดหน่อย มันกัดปากผมจนห้อเลือดเลยแม่ง ซาดิตส์ฉิบ แต่ก็ช่างมันเถอะครับ เพราะครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่มันทำร้ายร่างกายผม (กัดปากก็ทำร้ายร่างกายเหมือนกันนั่นแหละน่า) ปากแตกแค่นี้มันคงไม่เท่ากับเงินที่ไอ้น่านจะต้องเสียไปอย่างไร้สาระเพราะผมหรอก
 
“ไม่ได้โกรธอะไร” ไม่ได้โกรธบ้าอะไรกัดซะปากกูฉีกแบบนี้ “แล้วนี้ มึงไม่เป็นไรใช่ไหม” ผมส่ายหน้าให้มันแทนคำตอบ ตอนที่รถมันจะล้ม ผมรู้ตัวเองดีครับมีสติทุกอย่างเลยดึงขาตัวเองออกมาทัน แต่สภาพรถไอ้น่านนี่แบบ...โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง “จริงๆแล้ววันนี้กูว่าจะพามึงไปขับรถเที่ยวกัน”
 
“ก็ไปดิ ถลอกนิดหน่อยเอง”
 
“กูไม่ชอบให้มันมีตำหนิ มันรู้สึกไม่สบายใจ เลยโทรเรียกช่างให้มารับแล้ว อีกสักพักคงมา”
 
“ขอโทษ” ผมรู้สึกผิดจริงๆนะครับ เพราะเห็นว่ามันคงอยากไปจริงๆ
 
“ช่างมันเถอะ”
 
“งั้นให้กูไถ่โทษโดยการพามึงไปแทนได้ป่ะล่ะ”
 
“ไปไหน”
 
“ก็รอบๆกรุงนี่แหละ ขับรถเล่น ถ่ายรูป แล้วก็หาของกิน แต่มึงต้องเป็นขับมันนะ” ผมชี้ไปที่ซีคันสีฟ้าแล้วยักคิ้วให้มันไปที
 
“เอาดิ กูก็ไม่เคยไปที่แบบนั้นสักที”
 
“ไฮโซเหรอมึงอ่ะ”
 
“ก็ประมาณนั้น” น่านฟ้ายักไหล่แล้วทำหน้ากวนตีนจนผมอดไม่ได้ที่จะเบะปากใส่มัน จริงๆแล้วผมได้มีโอกาสไปเที่ยวรอบกรุงกับเพื่อนที่วิทยาลัยหลายครั้งแล้วครับ ส่วนใหญ่พวกมันก็ไปถ่ายรูปเล่น หรือไม่ก็ไปหาของกิน ดึกๆหน่อยก็จะมีร้านเหล้าตรงถนนพระอาทิตย์ที่บรรยากาศน่านั่งจนไม่อยากกลับ ยังไงซะวันนี้ผมก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้วจะยอมเป็นไกด์พาไฮโซอย่างไอ้น่านเที่ยวหน่อยล่ะกัน
 
 
 
 
หลังจากที่ตกลงกันได้ว่าจะไปไหน เราสองคนก็แวะกลับไปที่บ้านผมก่อนเพื่อไปยืมกล้องไอ้ซู แน่นอนว่าของแพงแบบนั้นผมไม่ซื้อหรอกครับ ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้นะแต่ไม่มีปัญญาซื้อซะมากกว่า ของแพงขนาดนั้นเวลาเก็บตังค์ทีแม่งหมดไปกับอย่างอื่นก่อน
 
“มึงชอบกล้องเหรอ”
 
“ชอบนะ แต่ไม่มีโอกาสได้เล่นหรอก ไม่มีเวลา แล้วก็เกรงใจไอ้ซูด้วย กลัวเอาของมันมาพัง” น่านฟ้าถามผมตอนที่ผมกำลังยกกล้องถ่ายวิวอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ผมกับมันมาถึงท่าพระจันทร์กันเกือบๆเที่ยงก่อนจะเอารถเข้าไปจอดในมหาลัยแถวๆนั้น นั่งเรือพามันมากินข้าวที่ฝั่งวังหลังก่อนแล้วกะว่าจะพามันขับมอไซค์ไปเที่ยววัดแถวๆถนนราชดำเนิน
 
“มึงอยากได้งั้นเหรอ”
 
“ทำไมมึงจะซื้อให้กู??? จริงดิ จริงเปล่า” ผมตาลุกวาวมากครับไม่สนใจด้วยว่าใครจะมองว่าผมหน้าเงิน แต่ก่อนก็มีอยู่หรอกไอ้ทิฐิที่ว่า แต่พอนานๆไปอยู่กับไอ้คนตรงหน้ามากขึ้นความหน้าเงินก็มีมากกว่าทิฐิเสียอีก
 
“กูบอกเหรอว่าจะซื้อให้” แม่งเอ๊ย!! ผมไม่น่าแสดงธาตุแท้ให้มันเห็นเลย สุดท้ายเลยได้แต่เบ้ปากใส่มันแล้วหันไปถ่ายรูปต่อ
 
“รอเรือจอดเทียบท่าสนิทก่อนนะครับแล้วค่อยข้าม ก่อนลุกเช็คของก่อนออกจากที่นั่งด้วยนะครับ” เสียงเจ้าหน้าที่ท่าเรือตะโกนบอกผู้โดยสาร พอขึ้นจากเรือผมก็พาไอ้น่านไปกินข้าวมันไก่เจ้าอร่อยของวังหลัง ต่อด้วยขนมเจ้าดัง ก่อนออกจากวังหลังผมแวะซื้อของกินไปฝากม๊ากับป๊านิดหน่อย หลังจากนั้นก็พากันขึ้นเรือข้ามฝั่งกลับมาที่ท่าพระจันทร์อีกรอบ ไอ้น่านบ่นผมใหญ่ว่ากะอีแค่กินข้าวธรรมดาๆทำไมต้องลำบากนั่งเรือมาด้วย ก็ร้านที่ผมพามันไปกินอร่อยจริงๆนี่หว่า แล้วแม่งทำมาเป็นบ่นผมเห็นมันกินตั้งสองจานด้วยเถอะ
 
เสร็จจากวังหลังผมก็ให้มันขับรถลัดเลาะไปตามถนนราชดำเนินที่แรกที่ผมแวะคือวัดภูเขาทอง เราจอดรถอยู่ด้านล่างแล้วเดินขึ้นไปบนเขา คนค่อนข้างเยอะแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการถ่ายรูปของผมเท่าไหร่ เวลาที่ผมหลุดเข้าไปในโลกของตัวเอง รูปที่ผมอยากได้มุมที่ผมต้องการบางอย่างมันก็ได้มาโดยที่ทำเอาผมเกือบจะบาดเจ็บอย่างคราวนี้ก็เกือบตกบรรไดเพราะมัวแต่ถ่ายรูปตีระฆัง ถ้าไม่ได้ไอ้น่านจับไว้ผมคงตกบรรไดตายไปแล้ว
 
“ยังมีหน้ามายิ้มใส่อีก รู้งี้ปล่อยให้ตกบรรไดตายไปก็ดี”
 
“กูรู้หรอกน่าว่ามึงไม่มีทางทำแบบนั้น” ตอนนี้ผมกับน่านฟ้ากำลังนั่งอยู่ในร้านนมชื่อดังย่านนี้ ระหว่างที่รอเขาเอาของมาเสิร์ฟผมก็เช็ครูปไปพรางๆ แปลกใจตัวเองเหมือนกันครับเพราะมีหลายรูปมากๆที่ผมถ่ายคนที่อยู่ตรงหน้า ผมเป็นประเภทที่ไม่ชอบถ่ายรูปบุคคล รูปส่วนใหญ่ที่ผมถ่ายมักจะเป็นสถานที่ ต้นไม้ หรือพวกสัตว์ สิ่งของ ขนาดกับน้องเอยผมยังไม่ค่อยถ่ายเก็บไว้เลยด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมในมือผมตอนนี้กลับมีรูปไอ้น่านอยู่ในกล้อง ถึงมันจะมีไม่ถึงสิบรูป แต่แค่ไม่ถึงสิบรูปสำหรับผมมันก็มากพอให้รู้สึกแปลกแล้ว
 
“แล้วนี่จะไปไหนต่ออ่ะ”
 
“ก็คงแถวๆนี้” ผมบอกรายละเอียดคร่าวๆกับไอ้น่านว่าหลังจากนี้จะไปไหนต่อ มันพยักหน้าเข้าใจและดูตื่นเต้นกับทุกสถานที่ที่ผมพามันมา และที่สุดท้ายที่ผมพามันมาคือหน้าพระที่นั่งอนันต์ มีช่างกล้องหลายคนมาถ่ายรูปเก็บความประทับใจกันอยู่มากพอสมควร ผมบอกให้มันจอดรถในเขตที่สามารถจอดได้ ความเงียบตอนนี้กลายเป็นเสียงที่ไพเราะที่สุด เพราะช่างกล้องทุกคนดูมีสมาธิกับการถ่ายรูปเสียจนผมเองก็ไม่กล้าเอ่ยปาก น่านฟ้ายืนมองคนเหล่านั้นแป๊บนึงก็หันมามองผม
 
“กูอยากลองถ่ายบ้าง”
 
“เอาดิ” ผมยื่นส่งให้มัน ไอ้น่านรับไปถ่ายรอบๆพื้นที่ ท่าทางของมันดูมีความสุขและดูตื่นเต้นจนผมอดอมยิ้มออกมาได้
 
แชะ
 
“มาถ่ายอะไรกูเนี่ย”
 
“ก็เปล่า ถ่ายๆไปงั้น”
 
“ลบเลย” ผมพยายามจะยื้อกล้องจากมือไอ้น่านแต่มันก็ดึงขึ้นสูงแล้วขยับลงมานั่งบนมอไซค์ที่ผมนั่งอยู่ “ไอ้น่าน เอามาลบ”
 
“ลบไมวะแค่รูปเดียว”
 
“กูไม่ชอบให้ใครถ่ายรูปอ่ะ มันน่าเกียจ”
 
“รู้ตัวเองด้วย”
 
“สัส เอามาลบดิ๊” น่านฟ้ายื่นกล้องส่งกลับมาให้ผมก่อนจะขยับขึ้นมานั่งคร่อมบนซี ผมนั่งหันข้างไงมันถึงสามารถเอาคางหนักๆมาวางไว้บนไหล่ผมได้ พอจะขยับหนีมันก็ดึงเอวผมไว้ เชี่ยแม่งนิสัยเสีย ชอบเอาหัวมาวางท้าวคนอื่น
 
“มึงนี่เป็นโรคอะไรวะน่าน กระดูกสันคอพังหรือไง ห้ะ” ด่าแม่งก็ยังยิ้ม เกลียดแม่งจริงๆ
 
“เฮ้ย ห้ามลบรูปที่กูถ่ายนะ”
 
“ทำไม”
 
“ก็รูปที่กูถ่ายกูมีสิทธิ์ที่จะไม่ลบ”
 
“แต่มันเป็นรูปกู”
 
“รูปมึงแล้วกูถ่ายป่ะล่ะ”
 
“ก็..ใช่” ผมขมวดคิ้วทำหน้างง
 
“ก็ใช่ไง เพราะงั้นห้ามลบ”
 
“อะไรวะ รูปกูไม่ใช่เหรอ”
 
“อ่าวแล้วกูถ่ายหรือเปล่าล่ะ” มันถามย้ำผมอีกรอบ ซึ่งผมก็พยักหน้าว่าใช่
 
“นั่นไง รูปกูถ่ายเพราะงั้นไม่ต้องลบ เดี๋ยวกลับบ้านไปกูขอรูปที่กูถ่ายทั้งหมดด้วย เข้าใจ๋” นี่มันบังคับกันชัดๆ “แล้วก็พรุ่งนี้พากูไปห้างด้วย...”
 
“ไปไม”
 
“ซื้อกล้องไง”
 
“อ่าวไหนบอกว่าจะไม่ซื้อให้กู”
 
“กูบอกเหรอว่าซื้อให้มึง”
 
“เออออ กูเข้าใจผิดเอง มึงพูดแค่ว่าจะไปซื้อกล้องไม่ได้บอกว่าจะซื้อให้กู แม่ง”
 
“ฮ่า ฮ่า” ไอ้น่านหัวเราะเบาๆแล้วก้มลงมองรูปในมือผมต่อ มาคิดๆดูแล้วผมว่าชีวิตไอ้น่านมันไม่เคยขาดอะไรเลย  แม่งมีทุกอย่างอยากได้อะไรก็แค่กระดิกนิ้ว สิ่งที่มันอยากได้ก็แทบจะมากองรวมกันตรงหน้า มีเงินไม่ขาดมือ และผู้หญิงก็คงไม่ขาดเหมือนกันล่ะมั้ง ถึงมันไม่เคยเล่าให้ผมฟังเรื่องผู้หญิง แต่ผมคิดว่าคนแบบมันมีอยู่แล้วไม่ต้องสืบ ใครได้มันไปเป็นแฟนคงสบายไปทั้งชาติ ขนาดผมเป็นแค่คนที่มีความสัมพันธ์ทางกายมันยังดีกับผมขนาดนี้ ถ้าใครได้เป็นแฟนมันคงจะดูแลดีแบบสุดชีวิต
 
 
แปลกนะครับพอมาคิดถึงตรงนี้ ไม่รู้ทำไมในหัวผมแว่บนึงมันกลับคิดขึ้นมาว่าถ้าน่านฟ้ามันมีแฟนขึ้นมาจริงๆล่ะ วันนั้นผมจะเสียดายหรือเปล่า แค่คิดเล่นๆผมยังรู้สึกแปลกๆกับตัวเองขึ้นมาเฉยเลย...แปลกชะมัด
 
“คิดไรวะ”
 
“กูแค่อิจฉามึง”
 
“อิจฉาเรื่อง”
 
“ก็มึงแม่งมีทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้ เงินมีไม่ขาดมือ ที่บ้านกูนะจะซื้ออะไรทีแม่งต้องเก็บเงินเอง ม๊านี่แทบจะไม่ยอมเจียดเงินที่ไม่จำเป็นให้กูเลยด้วยซ้ำ” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วคิดถึงเวลาตัวเองอยากได้นู่นอยากได้นี่แล้วขอม๊ากับป๊าไม่เคยหรอกที่จะได้ดีๆต้องหาอะไรมาแลก ไอ้ซูน่ะมันมีเกรดเฉลี่ยมาแลก ร้อยทั้งร้อยคือได้แน่ๆ ส่วนคนโง่ๆอย่างผมในเมื่อเอาเกรดแลกไม่ได้ก็ต้องเอาแรงกายมาแลกแทน
 
“ไม่หรอก สิ่งที่กูอยากได้บางอย่างกูก็ยังไม่ได้เลย”
 
“มีด้วยเหรอวะ”
 
“มีดิ”
 
“อะไรอ่ะ” ไม่อยากเสือกหรอกแต่อยากรู้
 
“ไม่เสือกดิ”
 
“เอ้า ก็แค่อยากรู้ เปล่าเสือกสักหน่อย”
 
“มึงรู้ไปก็ช่วยอะไรกูไม่ได้หรอก เพราะสิ่งที่กูอยากได้ตอนนี้มันเป็นของๆคนอื่น” เสียงมันดูเศร้าจนผมอดรู้สึกหดหู่ไม่ได้ “แต่มึงไม่ต้องห่วงนะ” มึงถามกูหรือยังว่ากูห่วงมึงไหม แต่ผมไม่พูดนะ คิดเฉยๆ เดี๋ยวมันหาว่าผมขัดมัน “กูว่ากูสามารถพอว่ะ”
 
“สามารถ??”
 
“ก็ถ้าในเมื่อกูอยากได้ กูก็สามารถพอที่จะแย่งมันมาก็เท่านั้น”
 
“เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แย่งอะไรของมึงวะเนี่ย สำคัญระดับชาติเลยหรือไง”
 
 “หึก็คงงั้นมั้ง” น่านฟ้ายิ้มมุมปากแล้วจับหัวผมให้หันมามองหน้ามัน ผมรู้ว่ามันจะทำอะไรเลยพยายามหันซ้ายมองขวาว่ามีคนสนใจผมอยู่หรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมถึงยอมให้มันจูบเบาๆที่ริมฝีปากโดยไม่คิดที่จะห้ามอะไรมัน
 
 
 
 
 
 
จริงๆแล้วผมว่าผมเองก็พอจะเดาอะไรบางอย่างจากคำพูดและการกระทำของมันได้นะ ถึงมันจะเคยบอกกับผมว่าไม่มีวันก็เถอะ
 
 
 
แต่ก็นะ ถึงพอจะเดาได้ ผมก็ไม่อยากเดา และไม่อยากรับรู้อยู่ดี
 
 
 
บางที...อาจจะเพราะว่าผมกลัวล่ะมั้ง กลัวว่าวันนึงสิ่งที่มันกำลังจะแย่งไปดันเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตผม เพราะถึงตอนนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมคง.....








ไม่รู้ดิ ไม่รู้เหมือนกัน










 
>>>>TBC<<<<
ตอนนี้ไม่มีอะไร ก็แค่ ค่อยๆรักกันเบาๆ (หราาาาาาาาาาา)
ประเด็นอยู่ที่ว่าซนรู้อะไร รู้จริงหรือเปล่าเหอะ อิอิ
รักคนอ่าน...

 
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-04-2015 18:40:04
น้องซนอย่ามา...~ ไอ้เรื่องที่หนูรู้น่ะเรื่องเดียวกับที่พี่น่านพูดเปล่าเหอะ ไม่ใช่คิดว่าพี่เขาจะแย่งลูกเงินกับลูกทองของหนูนะ :laugh: รักคนเขียนเหมือนกันจ้า~
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-04-2015 19:03:37
สงสารพี่น่านจัง ซนก็ซึนเกิ๊นนนนน
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-04-2015 19:35:56
 :katai2-1:   แ่งเลยพี่
แล้วบอกไอ้ตัวหน้ามึนซึนเดเระด้วยนะว่าจะแย่ง. 555
ขอบคุณค่ะ. เป็นเดทที่น่ารักดี
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 03-04-2015 19:45:13
ซน...ถ้าวันนึงน่านมีแฟนซนจะเสียใจนะ  o16
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: PK13 ที่ 03-04-2015 23:03:27
โอยยยยยยยตกบ่วงน้องซนอ่ะทำไงดี 55555555
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 06-04-2015 13:04:02
ซน เปิดใจสิเปิดใจ ของรักของหวง ไม่มีใครไม่โกรธนะ แต่น่านก็ไม่โกรธซน ลองดูสิ  :hao7:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 13 แย่ง [03-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 06-04-2015 20:48:21
เหมือนจะหน่วงนิดๆ แต่ยังไงก็เชื่อว่าน่านฟ้าคงแย่งมาได้แน่ๆ ถึงตอนนี้ซนเพิ่งจะเริ่มรู้ตัวนิดๆ
แต่กลัวใจกลัวความคิดของซนจริงๆ ยิ่งคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้านอยู่ด้วย

เอาเป็นว่าซนรีบรู้ใจตัวเองแล้วรีบเคลียร์กับเอยซะะะะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 12-04-2015 13:38:37
Because of you ซน ตอนที่ 14  คนนิสัยเสีย

ตอนแรกผมคิดว่าการมาฝึกงานคราวนี้ แก๊งไอ้น่านจะไม่ยอมให้ตัวเองลำบากแน่นอน เพราะแต่ละคนก็ลูกคุณหนูทั้งนั้น เชื่อมั่นเอามากๆว่ามันต้องมาเครื่องบินไม่ก็ขับรถกันไปหรืออย่างแย่ที่สุดก็คงนั่งรถทัวร์ แต่นี่มันอะไรของพวกมัน ผมแม่งก็เริ่มเอะใจตั้งแต่ที่มันพาผมขึ้นไฟใต้ดินมาแล้วนะครับ แต่ไม่คิดว่าพวกแม่งจะพาผมขึ้นรถไฟจริงๆ

แถมพอมาถึงสถานีไอ้พี่ป๊อบชูตั๋วชั้นสามโบกไปโบกมาราวกับว่าเป็นความภาคภูมิใจของมันเหลือเกิน แต่ก็อย่างว่ามันไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่รู้สึกเพราะ...

“มึงเป็นอะไรป๊อบ มึงบ้าเหรอ” ไม่ต้องรอให้ผมโวยวายก็มีคนโวยวานแทนผมอยู่แล้ว “มึงคิดได้ไง นั่งรถไฟไปหนองคายโดยใช้ตั๋วชั้นสามเนี่ยนะ มึงใช้สมองหรือตาตุ่มคิดห้ะ???”

ผมยืนมองพี่แอลด่าไอ้พี่ป๊อบอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ หวังในใจเล็กๆว่าจะมีการรุมกระทืบไอ้พี่ป๊อบกลางลานหัวลำโพงเพื่อย้ำเตือนความโง่ของมันให้บุคคลภายนอกเห็น แต่สิ่งที่พี่แอลทำกลับทำให้ผมผิดหวังนิดๆ เพราะกะอีแค่ตบหัวสองสามทีมันไม่ได้บรรเทาความหมั่นไส้ที่สุมอยู่ในอกผมลงเลยสักนิด

“ก็แค่ตั๋วรถไฟชั้นสาม มึงคุณหนูขนาดนั้นเลยหรือไงถึงนั่งไม่ได้น่ะแอล”

“นั่งไม่ได้? ใช่!!! กูนั่งไม่ได้!!! มึงคิดไหมว่าคนอย่างกู จะนั่งรถไฟชั้นสามเนี่ยนะ มึงบ้าเหรอห้ะ ถ้านั่งกันแค่ 2-3 ชั่วโมงกูไม่มานั่งด่ามึงอย่างนี้หรอกป็อบบบบ ไอ้เชี่ยยย” พี่แอลด่าไม่หยุด แกด่าด้วยทำร้ายร่างกายด้วย แน่นอนว่าคนดีๆแบบผมถึงในใจจะคุกกรุ่งเพียงใด ก็เลือกที่จะยืนยิ้มเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ สู้ๆนะพี่ แค่ไอ้พี่แอลคนเดียวก็แทบจะทำให้หัวลำโพงแห่งนี้เป็นสงครามกลางเมืองอยู่แล้ว

“ใจเย็นน่าแอลเดี๋ยวกูลองไปเปลี่ยนดูให้” พี่โก้เป็นบุรุษน้ำใจงามที่เลือกจะดึงตั๋วในมือพี่ป๊อบไปถือก่อนจะวางกระเป๋าเป้มันลงบนพื้น มันเดินไปต่อแถวที่ช่องจำหน่ายตั๋วเพื่อเปลี่ยนเป็นตั๋วนอนแทน

“ก็ใครจะไปรู้วะว่าพวกมึงจะไปตั๋วนอน กูรู้แค่ว่ากูบอกพวกมึงแล้วนะว่ากูจะไปรถไฟ แล้วมึงก็บอกเองว่าโอเค จองตั๋วเผื่อพวกมึงด้วย มึงจำได้ไหมแอลมึงพูดกับกูแบบนั้น” ไอ้พี่ป็อบพูดสวนกลับพี่แอลบ้าง แต่มีเหรอคนอย่างพี่แอลจะยอม

“แล้วมึงทำไม่คิดบ้างว่ารถไฟไปหนองคายมันใช้เวลาเกือบๆ 10 ชั่วโมง 10 ชั่วโมงนะมึงกับการต้องนั่งหลังคดหลังแข็งแบบนั้น มึงบ้าเหรอ” ไอ้พี่ป๊อบยักไหล่สบายอารมณ์ก่อนจะขยับนั่งลงกับพื้น

“แล้วมึงจะขอบใจกู” ใครจะไปขอบใจแม่งวะ ขนาดผมเองยังร่ำๆจะแช่งพ่อไอ้พี่ป็อบในใจอยู่เลย “นั่งๆอย่าคิดมาก กูว่าไอ้โก้ทำได้ทุกอย่างที่ใจมึงหวังแน่นอนเชื่อกู ผัวมึงนี่นา”

“ผัวพ่อง!!!” ไอ้พี่ป็อบยักคิ้วหลิ่วตาล้อไอ้พี่แอล ผมนี่รีบหันไปมองหน้าไอ้น่านทันทีด้วยความเสือก

“จริงดิ” ปากก็ไวพอจะกระซิบกระซาบกับไอ้น่าน

“ไม่ใช่หรอก ถึงไอ้แอลมันจะยังไม่มีใคร แต่ไอ้โก้มันมีแฟนแล้ว ส่วนเรื่องที่ไอ้ป็อบพูดมันก็แกล้งแซวไอ้แอลมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วแหละ” ผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจในเรื่องชาวบ้าน

“ขี้เสือกเหรอมึง” ไอ้พี่แอลหรี่ตาเล็กมองมาทางผม ผมเลยยิ้มแหะๆส่งไปให้มัน แต่เชี่ยพี่แอลแม่งนิสัยเสียทำร้ายผมโดยการผลักหัวผมโคตรแรง ถ้าไม่ติดว่าไอ้น่านยืนอยู่หัวผมคงกระเด็นไปติดที่กำแพงฝั่งนู้นอ่ะ

“เอ้า!!”ผมทำหน้ายู่ “ก็เรื่องของพี่แอลน่าเสือกดีออก ใช่ไหมพี่ป็อบ”

“ช่ายยยย” ไอ้พี่ป็อบพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นแท๊กมือผมก่อนจะหันไปหัวเราะคิกคักใส่พี่แอล เออตลกดีว่ะ หลังจากแซวกันไปสักพักพี่แอลก็ขยับนั่งลงกับพื้นข้างๆพี่ป็อบก่อนจะเป็นผมกับไอ้น่านที่ขยับนั่งลงตามพวกมัน ที่พวกเราเลือกนั่งลงกับพื้นเพราะที่นั่งทั่วทั้งหัวลำโพงเต็มหมด เหลือก็แต่พื้นนี่แหละครับที่ยังพอมีว่างให้จับจองอยู่

“พิงกูอีกและ” ทำไมไอ้น่านมันเป็นคนแบบนี้วะ พอนั่งปั๊บไม่นัวเนียผมก็เอาคางมาท้าวที่ไหล่ หรือไม่เอนตัวพิงผมแบบนี้

“พูดมาก พิงนิดพิงหน่อยทำเป็นบ่น”

“ลองให้กูพิงมึงดูบ้างไหมล่ะน่าน”

“เอาดิ” มันขยับนั่งตัวตรงแล้วดึงผมให้เอนตัวพิงไหล่มันแทน เออแม่งสบายจริงๆว่ะ ถึงว่าทำไมไอ้น่านมันชอบพิงผมจัง “ชอบอ่ะดิ”

“เฉยๆเหอะ”

“เหรอครับ” น่านฟ้ากวนตีนแต่ก็ไม่ได้ผลักผมออกจากตัวมัน ส่วนผมก็ขี้เกียจไฝว้กับมันเพราะกำลังดูกล้องในมืออยู่ ไม่ใช่กล้องผมหรอกครับ กล้องไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆผมนี่แหละ หลังจากวันที่ไปเที่ยวแถวถนนราชดำเนินเสร็จเช้าวันต่อมามันก็บังคับผมไปดูกล้องตัวใหม่ ผมพามันเข้าร้านกล้องหลายร้านมาก เลือกอยู่หลายรุ่น ดีตรงที่ไอ้น่านไม่บ่นสักคำ แถมดูท่าทางมันจะสนใจเอามากๆ เวลามันเห็นผมจับตัวไหนมันก็จับขึ้นมาดูด้วย มีบ้างที่หันไปถามเจ้าของร้านว่าสเป็คแต่ล่ะตัวแตกต่างกันยังไงโดยไม่ต้องรอให้ผมอธิบาย

“มึงชอบรุ่นนี้เหรอ” ผมพยักหน้าให้มัน เพราะรุ่นนี้เข้าร้านไหนผมก็เรียกมาดูทุกครั้ง ราคาก็ลดลั่นกันไปตามส่วนลดที่แต่ล่ะร้านให้ ถึงมันจะไม่ได้ลดเยอะมากแต่ดูมาทั้งหมดก็มีร้านนี้ที่ลดเยอะสุด “แล้วมันดีเหรอ หรือว่าไง”

“ดีดิ พวกมือใหม่อย่างมึงถ้าเอารุ่นนี้ถ่ายนะจะบอกเลยว่ารูปที่ออกมาขั้นเทพเหมือนพวกมืออาชีพเลย”

“งั้นเอา”

“เฮ้ยย แพง” ผมรู้นะครับว่ามันแม่งงบเยอะ แต่มือใหม่อย่างมัน ผมไม่ค่อยอยากเอารุ่นที่แพงเว่อร์เท่าไหร่ กลัวว่าจะพัง บางคนดูแลไม่ดีเดือนเดียวก็ไปแล้ว ผมเลยกะว่าซื้อสักตัวรวมบอดี้กับเลนส์เอาไม่เกิน 4 หมื่น ก็คิดว่าหรูแล้ว

“ก็กูจะเอา”

“เล่นไม่เป็นเสียของเปล่าๆ”

“ตังค์กู กล้องกู มึงเกี่ยวอะไร” เออออ พ่อคนรวย ตังค์มึง ถึงในใจจะหมั่นไส้ไอ้คนตรงหน้าระดับร้อยแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมากบอกพนักงานว่าเอาตัวนี้ แถมกระซิบบอกพนักงานว่าไม่ต้องลดให้มันด้วย พี่เขาก็พยักหน้าเข้าใจแต่สุดท้ายก็ต้องลดตามระเบียบโปรโมชั่นอยู่ดี และกล้องที่ได้มาอยู่ในมือผมตอนนี้คือกล้อง DSLR ของ Nikon รุ่น D750 ราคาเกือบ 9 หมื่น สมใจคนรวยเขาล่ะ

“น่านมึงดูไอ้เงินกับไอ้ทอง” เมื่อเช้าก่อนมา ผมเอาเงินกับทองไปฝากม๊า หมาสองตัวของผมมันเชื่องมากครับรีบวิ่งไปหาอิแสนดีแล้วเล่นกับอิแสนดีจนอิแสนดีทำหน้ารำคาญใส่ ตอนแรกที่เจอกันไอ้เงินกับไอ้ทองกลัวแสนดีมาก หน้าหยิ่งๆอย่างมันคิดดูล่ะกันว่าทำให้หมากลัว บางทีก็อยากถามหมาตัวเองว่ามันลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นหมา แต่พออยู่กันไปสักพัก ไอ้เงินกับไอ้ทองก็เลิกกลัวแสนดีแล้วเข้ามาเล่นหรือพูดง่ายๆว่าก่อกวนอิแสนดีแทน นัวเนียกันหลายครั้งเจอแสนดีตะปบไปก็หลายที แต่เงินทองไม่แคร์ได้แผลก็ไม่สน สุดท้ายก็ยังเข้าไปเล่นด้วยจนอิแสนดีเลิกตะปบแล้วนอนนิ่งๆให้เงินไอ้ทองมาเล่นกับมัน ภาพแมวหยิ่งที่ถูกหมาก่อกวนเป็นความภาคภูมิใจของผมสุดๆ ฮ่า ฮ่า

“สงสารแสนดี” ผมเงยหน้าเอาหัววางพาดตามไหล่มันแล้วมองไอ้น่านด้วยความไม่พอใจ มึงสงสารแมวคนอื่นมากกว่าหมากูได้ไง “ดูไอ้เงินไอ้ทองดิแม่งดื้อ ทำไมต้องไปก่อกวนแสนดีด้วยวะ” ไอ้น่านพูดพลางดูรูปในมือผมที่ถ่ายไอ้เงินไอ้ทองไว้เมื่อเช้า

“ทีอิแสนดีมันตะปบหน้าลูกกู กูไม่เห็นเคยด่า”

“ก็มึงตบหัวมันกลับไปแทนแล้วไง”

“ก็แค่ตบหัวเบาๆ ไม่ได้ตบแรงเลยเถอะ” ไอ้น่านก็เว่อร์

“แต่มันก็เจ็บไหมล่ะ”

“มึงเข้าข้างมันมากกว่ากูเหรอ”

“ก็....”

“เป็นไงมั่งมึง” ก่อนที่ผมจะเถียงกับน่านฟ้าต่อพี่แอลก็เงยหน้าขึ้นถามพี่โก้เรื่องตั๋ว พี่โก้ขยับนั่งลงข้างๆพี่แอลแล้วทำหน้าเศร้ามากจนบางทีผมก็คิดว่ามันคงไม่ได้ “เพราะมึงเลยไอ้ป็อบ” พี่แอลพูดเสร็จก็หันไปโบกหัวพี่ป็อบทีนึง “กูไม่ไปด้วยหรอกนะถ้าจะนั่งเมื่อยหลังไปแบบนั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้กูนั่งเครื่องตามไปล่ะกัน”

ไอ้พี่แอลพูดบ่นงึมงำแล้วทำท่าจะลุกขึ้น

“ยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่ได้” พี่โก้เอื้อมมือไปจับมือไอ้พี่แอลแล้วยิ้มออกมาเบาๆ ผมหรี่ตามองก่อนจะหันหน้าไปสบตากับไอ้น่านที่เลิกคิ้วถามผมว่ามีอะไร พอผมพยัดเพยิดไปที่เพื่อนมัน ไอ้น่านก็ขมวดคิ้วทำหน้าโง่ส่งกลับมา สงสัยผมคงจะคิดมากไปเอง

“สัส”ไอ้พี่แอลพอได้ยินแบบนั้นเข้าก็หันขวับมองตาเขียวเลยครับก่อนจะสะบัดไอ้พี่โก้ออกอย่างรังเกียจ “กูเพื่อนเล่นมึงเหรอโก้”

ผมก็เห็นด้วยกับพี่แอลนะ คนอย่างไอ้พี่แอลไม่สมควรไปเล่นด้วยสักนิด แม่งดุอย่ากะหมา ไอ้เงินไอ้ทองยังน่ารักกว่า

“ฮ่า ฮ่า ได้ที่นั่ง 5 ที่พอดี แต่คงต้องรอหน่อย”

“กี่ทุ่มอ่ะ”

“สี่ทุ่มครึ่งอ่ะ”

“นี่หน่อยของมึงเหรอโก้ เชี่ยอีกตั้งสามชั่วโมงครึ่ง” ผมมองดูนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดอยู่ด้านบนหัวลำโพงบอกเวลา ทุ่มเศษๆ เราต้องนั่งรอกันอีกสามชั่วโมงครึ่งอยากที่พี่แอลบ่น ผมไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ไม่เมื่อยเพราะตอนนี้มีที่พิงพนักส่วนตัว ถึงแม้หลังจากที่เถียงกันเมื่อกี้ไอ้น่านมันขยับเปลี่ยนท่าจากให้ผมพิงไหล่มาพิงอกมันแทนก็ตาม ถึงท่านี้จะสุ่มเสียงต่อการโดนมองแต่ความสบายมีมากกว่าเลยเลือกที่จะมองข้ามสายตาพวกนั้นไป

“ถ้างั้นก็แจ่มจะแดมแจ่มว้าวเลยครับพี่น้อง เดี๋ยวเพื่อเป็นการไถ่โทษในความผิด เดี๋ยวกูไปซื้อเบียร์มาให้” โอ้โหวววว ไอ้พี่ป็อบแม่งใจปล้ำ เพิ่งจะเห็นมันเป็นคนดีก็คราวนี้ ผมกำลังจะยกมือขึ้นขอบคุณอยู่แล้วครับ ถ้าไม่ติดว่าประโยคถัดมาจากปากมันทำตีนผมกระตุกแทน “เงินมา กูไปซื้อให้ไม่ได้หมายความว่าจะออกให้นะโว้ย เอามาเลยครับ คนละ 200 เบียร์บวกกับแก้ม เร็วครับเร็ว สองร้อยครับสองร้อย”

ทุกคนทำหน้าเอือมใส่มันแต่ก็ยังหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาแล้วส่งเงินไปให้


Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นไอ้น่านคว้าเอากระเป๋าเป้ส่งมาให้ผมก่อนจะเป็นผมที่หยิบมือถือขึ้นมารับ

“ว่าไงคะ”

(พี่ซน อยู่ไหนอ่ะ)

“พี่อยู่หัวลำโพงค่ะ น้องเอยอยู่ไหนคะ” ผมพูดพร้อมกับแนบโทรศัพท์ไว้ที่คอก่อนจะดึงเอาเงินสดสองร้อยส่งไปให้พี่ป็อบ ตอนที่ส่งเงินไปให้มันทุกคนหันมามองหน้าผมพร้อมกันจนผมอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ มีอะไรเปล่าวะ

“ป็อบกูฝากซื้อบุหรี่ด้วย” เป็นไอ้น่านที่ดึงความสนใจจากทุกคนไปที่มันแทน

“เออๆมาๆ ใครฝากซื้ออะไรก็เอามา”

(เอยอยู่ใต้ดิน ตอนนี้ถึงสามย่านแล้ว) ผมขมวดคิ้วอัตโนมัติ งงอยู่ว่าทำไมเอยถึงบอกว่าตัวเองอยู่สามย่าน

“นี่เรากำลังจะทำอะไรคะเนี่ย”

(ไม่เจอพี่ซนตั้ง 2 เดือนแน่ะ)

“อย่าบอกนะว่า...” เอยจะมาหาผม

(ใช่ค่ะ เอยกำลังจะไปหัวลำโพง พี่ซนอยู่ไหนคะ เดี๋ยวเอยเดินไปหา)

“จะมาพี่จริงดิ”

(จริงๆสิคะ)

“ถ้างั้นเอางี้น้องเอยไม่ต้องออกมาจากสถานีหรอก เดี๋ยวพี่เดินลงไปหาที่สถานี”

(ทำไมอ่ะ เงินแค่นี้เอยออกได้)

“เอาน่า จะได้ไม่ต้องเสียเงินหลายรอบ เดี๋ยวพี่ลงไปหา รออยู่ที่สถานีนั่นแหละค่ะ” ผมคุยกับน้องอีกสองสามคำก็วาง ก่อนจะผุดลุกขึ้นไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าตังค์ตัวเองไปด้วย “เดี๋ยวกูมา”

“ไปไหน” ไอ้น่านถาม

“ไปหาน้องเอยแป๊บ”

“ไปด้วย” เอ้า ไอ้นี่ ไปไมวะ ผมไปหาแฟนแล้วมันทำไมขี้เสือกงี้อ่ะ “กูยังไม่เคยเห็นแฟนมึงเลย ขอไปดูหน้าหน่อยดิ สวยหรือเปล่า”

“น่ารักมากกว่า”

“แค่ไหนกันเชียว” ไอ้น่านแม่งปากดี

“เออๆจะมาก็ลุก” ผมบอกมันเสร็จก็เดินนำหน้ามันไปก่อน ไอ้น่านเดินตามผมมาเงียบๆ ไม่ได้ปริปากพูดอะไร น้องเอยเคยได้ยินชื่อไอ้น่านบ้างเวลาที่น้องถามว่าผมอยู่กับใคร น้องมักจะเข้าใจมาตลอดว่าผมกับมันเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องที่ติวหนังสือให้กัน

แต่จริงๆแล้วก็อย่างที่รู้ เรื่องติวหนังสือตอนนี้ไม่ใช่ส่วนสำคัญแล้ว

ผมหยุดเดินแป๊บนึงแล้วหันหน้าไปมองไอ้น่านที่เดินตามหลังมา “ทำไมไม่มาเดินข้างกันวะ”

“ข้าน้อยมิกล้า” เป็นบ้าอะไรของมัน

“น่าน เป็นไรของมึงเนี่ย มานี่” ผมเดินย้อนกลับไปดึงแขนไอ้น่านให้มาเดินข้างๆผม มันยักไหล่เบาๆเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรแต่หน้านี่หงิกงออย่างกะจวัก ผมว่าไอ้น่านมันชักจะทำตัวไม่ต่างจากพวกเมียน้อยขี้หึงยังไงก็ไม่รู้ ผมดึงมือไอ้น่านมาจนถึงสถานีรถไฟใต้ดินหัวลำโพง พอมาถึงก็เห็นน้องเอยยืนรออยู่ก่อนแล้ว ผมปล่อยมือไอ้น่านทันทีแล้วรีบวิ่งไปหาน้อง

“ยังไงเรา” ผมวางมือไว้บนหัวน้องเอยแล้วยิ้มบางๆให้ตอนที่น้องหันกลับมา น่านฟ้าไม่ได้เดินเข้ามาใกล้ผม มันหยุดยืนพิงกำแพงจากตรงที่ไม่ใกล้นัก

“มากับใครคะ” น้องเอยที่เมียงมองไปทางไอ้น่านที่หน้าหงิกกับโทรศัพท์ในมือ มันยืนก้มหน้าเล่นอยู่ไม่หันมามองหน้าผมกับน้องสักนิด

“อ้อ พี่น่านน่ะค่ะ”

“คนที่พี่ซนบอกว่าช่วยติวหนังสือ??” น้องเอยเลิกคิ้วแล้วมองตรงไปยังไอ้น่าน ผมพยักหน้าเบาๆกลับไปให้

“น่า...” ผมที่กำลังจะเรียกแค่ชื่อมันก็หุบปากแล้วเปลี่ยนคำเรียกแทน “พี่น่าน” พอเรียกชื่อมันจบไอ้น่านก็เงยหน้าบูดๆขึ้นจากโทรศัพท์คิ้วตึงของมันขมวดแน่นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “นี่น้องเอย แฟนซน”

น้องเอยยกมือไหว้ไอ้น่านแล้วส่งยิ้มน่ารักไปให้มัน ส่วนไอ้น่านก็แค่พยักหน้าตอบแล้วก้มดูโทรศัพท์ต่อ

“พี่เขาโลกส่วนตัวสูงเหมือนกันนะคะ”

“มันก็เป็นคนแบบนี้แหละ” ผมยืนคุยกับน้องเอยสักพักก็คิดว่ามันเลยเวลากลับบ้านน้องนานแล้ว เลยบอกน้องรีบกลับกลัวว่าที่บ้านน้องจะเป็นห่วง

“พี่ซนไล่อ่ะ”

“ไม่ได้ไล่ค่ะ แต่มันดึกแล้ว ตัวเล็กกลับบ้านได้แล้วไป เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วง” ผมเอามือโยกหัวเอยเบาๆเป็นเชิงหยอก

“ค่ะๆ กลับแล้ว” น้องเอยทำท่าจะหันไปลาไอ้น่านแต่ผลที่ได้คือไอ้น่านหันหลังพิงกำแพงมาทางผมกับน้อง สุดท้ายผมเลยบอกให้น้องกลับไปเลยไม่ต้องล่ำลาไอ้คนนิสัยไม่ดี หลังจากที่ยืนมองน้องเดินลงบันไดจนลับตาผมก็เดินมาหยุดตรงหน้ามัน

“เป็นไรอีกวะ”

“เสร็จแล้วเหรอ”

“อื้ม”

“งั้นกลับเหอะ” น่านฟ้าพูดพร้อมกับดึงเอาหูฟังยัดใส่หูตัวเอง เดินไปแบบไม่พูดไม่จาอะไรต่อสักคำ ไม่รู้ว่าเพราะผมขาสั้นหรือเพราะมันขายาวและเดินเร็วทำให้ผมตามมันไม่ทัน

“จะรีบไปไหนของมึง”

“ขามึงสั้นเอง” แม่งด่าอย่างอื่นยังพอเถียงได้นะแต่พอด่าว่าขาสั้นทีไรไม่กล้าเถียงทุกที ก็ความจริงมันอยู่ตรงหน้านี่ครับ

“เป็นไงแฟนกูน่ารักเปล่า” ผมวิ่งมาเดินข้างมันก่อนจะเงยหน้าถามไอ้น่าน มันคว่ำปากแล้วมองตรงไปข้างหน้า

“ก็ดี”

“แค่นั้น??” ทำไมแค่ก็ดีวะ ผมว่าแฟนผมน่ารักมาเลยนะ ผิวขาวตัวเล็ก ยิ้มทีมีลักยิ้มตรงแก้มด้วย

“.....” น่านฟ้าไม่ตอบแต่หน้ามันหงิกยิ่งกว่าเก่า ผมรู้ว่ามันเป็นอะไร ผมรู้หมดแหละ ก็บอกแล้วว่าผมไม่ได้โง่




“มึง...” น่านฟ้าหันมามองหน้าผมอย่างตกใจ มันขมวดเลิกคิ้วใส่ผมนิดๆก่อนจะมองเลยมาที่มือผมกับมัน ใช่ครับ ผมกำลังจับมือมัน ถึงไม่ได้สอดประสานแต่ก็ถือว่าจับ ปกติผมไม่เคยทำแบบนี้ แต่เพราะใบหน้าไอ้น่านมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆจนไม่อยากทำให้ทุกอย่างมันผ่านเลยแบบนี้



“เหลือเวลาอีกตั้ง  2  ชั่วโมง ไปไหว้พระที่วัดไตรมิตรกัน” ผมยิ้มแล้วดึงหูฟังของไอ้น่านที่อยู่อีกฟากมายัดเข้าหูตัวเอง แต่จู่ๆน่านฟ้าก็หยุดเดินก่อนจะดึงหูฟังมันกลับ แล้วยัดมาลงกระเป๋ากางเกง ผมเอียงคอมองหน้ามัน “เป็นไรวะ”


“มึงมันนิสัยเสีย...ซน มึง...รู้อยู่แล้วใช่ไหม มึงรู้...” น่านฟ้ามองตรงมาที่ตาผม มันมองเหมือนคาดคั้นเอาคำตอบ ส่วนผมไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการยิ้มบางๆ

“กูไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ แล้วมึงก็ไม่ต้องพูดอะไรออกมาทั้งนั้น...”เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มันหลุดปากพูดอะไรบางอย่างที่แม้แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ ผมกลัวใจตัวเองว่าจะทำบางอย่าง


บางอย่างที่อาจจะทำให้.....ผมกับมันไม่เหมือนเดิม


แต่ช่างมันเถอะครับ


“รู้แค่ว่าตรงนี้มีกูกับมึงก็พอ”



ก็อย่างที่น่านฟ้าบอก ผมแม่ง...นิสัยเสีย




>>>>>>>>>>>~TBC~<<<<<<<<<<<
เปล่าม่า บอกแล้วนิยายเรื่องนี้ไม่ม่าค่ะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-04-2015 14:04:50
น้องซนนิสัยไม่ดีจริงๆ ด้วย :ruready อยากให้พี่น่านถอยกลับมาอยู่คนเดียวบ้างจังค่ะ อย่าพยายามทำเลยถ้าน้องซนยังมองเห็น แต่ไม่คิดที่จะใส่ใจน่ะ ..ความสัมพันธ์แบบเราสองสามคนเนี่ยไม่ดีเลยจริงๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 12-04-2015 14:12:15
เมื่อไรน้อจะถึงจุดเปลี่ยนสักที  :ling1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: pungpondppp ที่ 12-04-2015 14:15:09
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 12-04-2015 14:20:28
จุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหนของเรื่องจะไปอ่านในอนาคต
สงสารเอยเล็กๆ อ่ะ ไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ก็ต้องเลิกกัน :hao5:
แต่ไม่เป็นอะไร สาววายนั้นเชียร์ให้ผู้ชายรักกันอยู่แล้ว :hao7:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 12-04-2015 14:22:12
 :L2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-04-2015 14:43:15
อยากตีก้นเด็กซนนิสัยไม่ดี

สงสารน้องเอยเหมือนกันนะ.
ขอบคุณที่มาต่อจ้ะ. สวัสดีปีใหม่ไทยขอให้น่ารักแบบนี้ไปตลอด
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 12-04-2015 15:33:26
ซนนิสัย จะคบใครก็เลือกไปเลยดิ ทำงี้น้องเอยก็เสียใจ พี่น่านก็เสียใจนะเฮ้ย
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-04-2015 16:14:34
อ่านมาถึงตรงนี้



บอกเลย สงสารน่าน  สงสารน้องเอย



เกลียดซน



ถ้าน้องเอย หันมาสนใจน่าน แทนอิซน มีฮาแน่ จะสมน้ำหน้าให้เข็ด



พี่น่าน ซนมันก็ไม่ได้แคร์เท่าไรที่เสียจิ้นให้พี่  ถ้าพี่จะเปลี่ยนใจก็ได้นะ ป้าไม่ว่า
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-04-2015 17:56:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 12-04-2015 19:19:45
ซนนิสัยเสีย จะคบซ้อนหรอ นิสัยเสีย  :o211:
หัวข้อ: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 12-04-2015 21:33:12
 :ling1: :ling1: :ling1:ซนๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 13-04-2015 11:33:30
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 14-04-2015 13:19:48
น้องซน นิสัยไม่ดี
ให้พี่น่านลงโทษเลยนะ เอาหนักๆ
จะได้ทบทวนตัดสินใจใหม่ซะที
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 14 คนนิสัยเสีย [12-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 14-04-2015 21:05:25
ซนทำแบบนี้ไม่โอเคเลย

เลือกเถอะ เอาซักคน
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 17-04-2015 20:02:25
Because of you ซน ตอนที่ 15 แค่เรา



พวกผมมาถึงหนองคายกันเกือบเที่ยง ขนาดนั่งรถไฟแบบนอนมายังเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด

“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าให้นั่งเครื่องบินตั้งแต่แรกก็จบ อยากอินดี้นักเป็นไงห๊า” ไอ้พี่แอลก็บ่นพี่ป็อบไม่หยุด บ่นจนไอ้พี่ป็อบลงไปนั่งกับฟุตบาตเอามือสองข้างอุดหูไว้แล้วร้องเพลงบางระจันเสียงดัง จนคนรอบๆตัวเราหันมามองกันเป็นแถบ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนห่างจากพวกมันออกมาหน่อย คนอื่นๆจะได้คิดว่าผมไม่รู้จักพวกมัน

“น่าน กูเมื่อย” ผมปัดแขนไอ้น่านออกจากบ่าแล้วหันไปมองมันอย่างไม่พอใจ มันหัวเราะเบาๆแต่ก็ยังไม่เลิกเอาแขนมาวางท้าวบ่าผม แถมยังกอดจากด้านหลังทั้งตัวเอาคางมาไชๆหัวผมอีก ที่มันทำได้เพราะผมยืนอยู่ข้างล่างฟุตบาตแล้วไอ้น่านอยู่ด้านบน คิดดูล่ะกันว่ามันยิ่งกดไหล่ผมลงท่านี้ผมจะเตี้ยลงกว่าเดิมแค่ไหน นี่ถ้าความสูงผมลด ผมจะด่ามันคนแรกเลย

“พี่เขาจะมารับเราตอนไหนวะ” พี่แอลเลิกสนใจพี่ป็อบแล้วหันไปถามพี่โก้ที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จ

“พี่เขาบอกว่าอีกชั่วโมงอ่ะ หาข้าวกินก่อนก็ได้นะ แล้วก็ให้เบอร์โทรกูมา บอกว่ามีนักศึกษาอีกกลุ่มมาฝึกงานกับเราเหมือนกัน”

“อ่าวเหรอ กี่คนวะ จากม.ไหนอ่ะ” พี่โก้บอกชื่อมหาลัยกับพี่แอลก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองมาสะพายส่วนผมก็ลากไอ้น่านไปหาร้านข้าวโดยที่คนอื่นๆก็เดินตามมา

“ไปไหนวะ”

“หาร้านข้าวไง มึงไม่หิวรึไง เมื่อเช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ”

“หิว” เมื่อเช้าตอนตื่นมาผมเห็นคนขายข้าวบนรถไฟ ผมกับคนอื่นๆก็ซื้อมานั่งกินกันหมด ขาดก็แต่ไอ้คุณชายข้างๆนี่แหละที่เบ้ปากทำหน้าบู้รับไม่ได้ ไม่กิน ขนาดไอ้พี่แอลที่เห็นเรื่องมากแบบนั้นยังไม่เรื่องมากเรื่องกินเหมือนไอ้น่านเลย

“ก็กูบอกแล้วว่าให้กินรองท้องไปก่อนก็ไม่เชื่อ ทำอิดออดเป็นคุณชายแดกของบนรถไฟไม่ได้อยู่นั่น” มันคว่ำปากยักไหล่แล้ววางแขนบนบ่าผมอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก เห็นแบบนี้แล้วมันน่ากระทืบจริงๆครับ

“เอาร้านนี้ไหม” ผมชี้นิ้วถามไอ้น่าน เจ้าตัวก็มองร้านข้าวแล้วพยักหน้าหงึก ร้านที่ผมเลือกเป็นร้านขนาดกลางบรรยากาศโดยรอบไม่อึดอัดและไม่อับทึบ ที่สำคัญมีที่นั่งเป็นม้าหินอ่อนด้านนอกไม่เหมือนร้านอื่นๆที่ต้องเข้าไปนั่งข้างใน พวกผมสั่งอาหารตามสั่งกันไปคนล่ะจานระหว่างรอข้าวไอ้พี่โก้ก็คุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้คิดว่าน่าจะเป็นเด็กฝึกงานอีกกลุ่ม ส่วนไอ้พี่แอลก็นั่งเล่นโทรศัพท์ ไอ้พี่ป็อบนั่งคุยกับหมา ส่วนไอ้น่าน....ก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปคนนั้นที คนโน้นที โคตรขี้เห่อ

“มองอะไร” พอไอ้น่านลดกล้องในมือลงก็เห็นว่าผมมองมันอยู่

“เปล่า”

“ก็กล้องกูอ่ะ”

“ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ” ผมเอื้อมมือไปขยี้หัวไอ้น่านเบาๆก่อนจะเอนหลังพิงอกมัน ไอ้น่านก็รู้งานยกแขนข้างนึงขึ้นให้ผมขยับเข้าไปนั่งพิงมันดีๆก่อนจะเปิดรูปที่มันถ่ายให้ผมดู ส่วนใหญ่ที่มันถ่ายก็เป็นรูปคน แปลกนะครับ น่านฟ้ามันชอบถ่ายคน ขนาดแม่ค้าที่ไม่รู้จักมันยังซูมจนเห็นแค่หน้า แต่ภาพที่ออกมาบรรยายความรู้สึกของคนได้ดีจนไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นมือใหม่ “กูถ่ายสวยอ่ะดิ”

“ก็งั้นๆ” มันเลื่อนรูปให้ผมดูเรื่อยๆ มีรูปผมบ้างปะปราย ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงโวยวายให้มันลบแล้วล่ะครับ แต่ตอนนี้เรียกว่าชินแล้วดีกว่า




“พวกมึง” เสียงพี่โก้ดึงความสนใจจากพวกผมให้หันไปมอง พี่โก้พาคนมาใหม่อีก 3 คนดูท่าทางทะมัดทะแมง แถมหิ้วกีต้าร์มาด้วย “พวกนี้จะมาฝึกงานกับเราด้วย ไอ้นี้ชื่อ ฉัตร สิงห์ แล้วก็ลม ปีสามเหมือนกันมาจากเทคโนXX” พวกพี่แอลพี่ป็อบก็พยักหน้ารับรู้คนมาใหม่ พี่โก้เลยแนะนำต่อ

“อันนี้เพื่อนผม ป็อบ แอล น่าน รุ่นเดียวกัน ส่วนนั่นน้องซนเป็นรุ่นน้องอยู่เทคนิค”

“อ่าวเหรอแล้วมาฝึกงานได้ไงวะ” คนชื่อฉัตรเอากระเป๋าวางลงกับพื้นแล้วนั่งลงข้างๆพี่แอล

“คนมันขาดแล้วน้องมันก็อยากเข้าป.ตรีวิศวะพอดีด้วยเลยให้มันมาฝึกพร้อมกัน”

“เฮ้ยงี้ก็ถามไอ้ลมได้เลยดิ มันก็จบปวส.แล้วมาเข้าป.ตรีเหมือนกัน” พี่ที่ชื่อสิงห์บอกผมพลางบุ่ยปากไปที่คนชื่อลม ผมส่งยิ้มไปให้มันแล้วพยักหัวให้นิดหน่อย มันก็พยักหัวแล้วยิ้มกว้างตอบกลับมา หน้าตาพี่ที่ชื่อลมบ่งบอกความเป็นเทคนิคเต็มที่มาก มันเป็นคนผิวขาวแต่ไม่มากเท่าผม ตัวสูงมีหนวดเครารำไรคล้ายๆโบทเดอะเยอร์ส ส่วนผมก็ยาวประบ่า โคตรของโคตรเท่ชิบหาย คือผมเคยอยากไว้เครานะครับ อยากมาก แต่พอลองไว้แล้วม๊าด่าบอกว่าเหมือนโจร ป๊านี่ถามเลยว่าจะไปปล้นใคร ตั้งแต่นั้นเลยเลิก

“อะไรของมึงเนี่ยน่าน” ไอ้น่านไม่รู้เป็นบ้าอะไรนึกจะนัวเนียผมก็นัวเนียไม่ถามความสมัครใจผมเลยว่าอยากให้มันทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นไหม

“หิวข้าว”

“หิวข้าวแล้วมานัวกูมันจะหายไหม รอแป๊บดิเดี๋ยวสักพักข้าวคงมามั้ง คนเยอะ” ผมขยี้หัวไอ้น่านอีกรอบก่อนจะหันมามองมันที่กำลังวางคางไว้บนไหล่ น่านฟ้าขยับปากเข้ามาใกล้จนชิดริมหู

“ไอ้เชี่ยลมแม่งมองมึงตาเป็นมันเลย” น่านฟ้าทำเสียงหงุดหงิด

“มึงนี่อะไรเนี่ย กูบอกแล้วไงว่าคนอย่างกูไม่ได้มีฟีโรโมนเพศเมียขนาดนั้น มีแต่มึงนั่นแหละที่ได้กลิ่นอ่ะ”

“มึงตั้งหากที่ไม่รู้อะไร” น่านฟ้าอมลมในแก้มจนป่องแล้วทำหน้าไม่พอใจใส่ผม เห็นแล้วก็ขำนะครับ คือในบางมุมน่านฟ้าก็ดูเด็กจนผมอดคิดไม่ได้ว่ามันอายุมากกว่าผมจริงไหม แต่ความเอาแต่ใจของมันก็มีแค่บางมุมที่อยู่กับผมเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่เวลาอยู่กับเพื่อนหรือคนอื่นๆมันก็ทำตัวปกติ

“คิดมาก” ผมยักไหล่เดาะคางน่านฟ้าเล่นแล้วหันมาสนใจกล้องต่อ

“แล้วนี่พวกนายมาถึงกันนานหรือยัง” พี่ฉัตรเริ่มต้นถามพวกผม

“เฮ้ย!!นายเนยอะไร กูมึงทั้งนั้น เรียกนายมึงไม่กระดากปากเหรอถามจริง”ไอ้พี่ป็อบถามพี่คนที่ชื่อฉัตร

“เออโคตรอ่ะ งั้นพวกกูไม่เกรงใจแล้วนะเว้ย”

“เออตามนั้นอยู่ด้วยกันอีกสองเดือนเว้ย พวกกูเพิ่งมาถึงเมื่อกี้ กำลังรอข้าว พวกมึงกินข้าวกันยังอ่ะสั่งดิ” พี่ป็อบหันไปถามพวกพี่ที่มาใหม่พอเห็นว่าพวกเขาส่ายหน้าพี่แกก็ตะโกนเรียกเด็กเสิร์ฟมารับเมนู

“แล้วนี่พวกมึงพอจะรู้รายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับเนื้องานที่พวกเรารับผิดชอบบ้างไหมวะ”

“คือบริษัทที่พวกเราจะไปทำมันเป็นพวกบริษัทที่ทำเกี่ยวกับพลังงานทดแทน หน้าที่พวกเราก็คงไม่ได้ไปยืนหน้าสลอนทำตัวเหมือนวิศวกรชี้นิ้วสั่งหรอก สิ่งที่พวกเราต้องทำคือไปติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ตามบริษัทหรือตามที่ๆเขาจ้างไป” หลายคนพยักหน้าเข้าใจมีก็แต่พี่แอลที่ส่ายหน้าอยู่คนเดียว

“กูว่านะไปทำกับพวกกรมทางหลวงยังดีกว่า เพราะมึงเลยเชี่ยป็อบบังคับกูมาเนี่ย แม่งดูดิ๊เห็นแต่ความหายนะชัดๆ” ผมก็ว่างั้น ถ้าขึ้นชื่อว่าจ้างแม่งใช้สุดแรงแน่ๆ

“เอาน่าพวกมึงฝึกงานนะเว้ยจะมาสบายมีความสุขมันก็ไม่ใช่หรือเปล่า อย่างน้อยก็ได้เงินไว้แดกเหล้าตอนเย็นล่ะวะ” พี่สิงห์พูดเสร็จไอ้พี่ป็อบแม่งลุกขึ้นมาจับไม้จับมือกับพี่เขาทันที

“กูเห็นด้วย ตีมือครับเพื่อน” เป็นผู้ชายก็งี้เข้ากันได้ง่ายๆไม่ต้องทำความรู้จักกันเยอะแยะ ส่วนใหญ่ที่คุยกัยก็หนีไม่พ้นเรื่อง ผู้หญิง เหล้าและก็บอล





หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จไม่นาน พี่ที่เขารับผิดชอบในส่วนของการดูแลเด็กฝึกงานก็มารับพวกเรา พี่แกชื่อชัยเป็นวิศวกรประจำอยู่ที่ศูนย์อีสาน บ้านแกอยู่ที่หนองคายแกเลยไม่ลำบากเท่าไหร่นัก ซึ่งศูนย์นี้มีวิศวกรคือพี่ชัยแค่คนเดียวส่วนคนงานที่ช่วยยกนั่นนี่นู่นก็มีแค่ไม่กี่คน พี่ชัยแกบอกว่าจะมีวิศวกรใหม่ๆเวียนมาประจำที่นี้บ้างแต่ไม่เยอะ ส่วนใหญ่จะส่งพวกเด็กฝึกงานมาล็อตละ 5-10 คน อย่างล็อตที่เพิ่งกลับไปก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ส่วนล็อตที่ต่อจากผมก็มีมาอีกเรื่อยๆ ทำงานเป็นสเต็ป ไอ้น่านเลยมองว่าบริษัทนี้ฉลาด ไม่จ้างวิศวกรมาประจำเพิ่มแต่ใช้พวกเด็กฝึกงานแล้วให้ค่าหัวแทนอย่างน้อยพวกปีสามปีสี่มันก็พอเป็นงานบ้าง

“งงว่ะ ถ้ากะอีแค่ติดตั้งโชซาเซลล์ก็จ้างพวกรายวัน วันสามร้อยไม่ง่ายกว่าเหรอ”

“กูคิดว่าเขาคงสอนเรางานสองสามครั้งแล้วให้แบ่งงานกระจายกันไปทำเองล่ะมั้ง คนงานบางคนเขาก็ไม่ได้เข้าใจในเรื่องบางเรื่องที่อาจจะต้องใช้ความรู้ด้านวิศวะไง อย่างน้อยเอาเด็กฝึกงานปี3-4 มาเวลาพูดภาษาพวกนั้นมันเลยเข้าใจง่ายกว่า งานเสียหายน้อยกว่า เพิ่มเงินอีกแค่ 200 แต่งานมันโฟร์กว่าเป็นมึงมึงจะเลือกอะไรล่ะ” ผมพยักหน้าเข้าใจที่ไอ้น่านพูด มันก็จริงอย่างที่มันบอก

“เลือกห้องกันได้ตามสบายเลยนะ ใครอยากนอนห้องไหนก็นอนได้เลย ห้องล่ะสองคน เย็นๆเดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงข้าวในเมือง” พี่ชัยขับรถมาที่ศูนย์ ซึ่งที่นี้ตั้งอยู่นอกตัวเมืองหนองคายค่อนข้างมาก ในศูนย์มีอุปกรณ์พวกแผงต่างๆเยอะมาก แล้วก็มีตึกสองชั้นที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับนักศึกษาฝึกงานยังไงก็ไม่รู้ มีห้องนอนอยู่ชั้นสองประมาณ5-6ห้อง ชั้นล่างเป็นห้องครัว ที่ประชุม ดูโทรทัศน์ ยังดีที่ห้องน้ำแยกเป็นห้องส่วนตัวใครส่วนตัวมัน

“กูนอนกับซนนะ”ไอ้น่านชี้นิ้วมาที่ผม

ไม่ต้องบอกกูรู้หรอกเว้ย ส่วนมึงก็คงนอนกับไอ้โก้” พี่ป็อบถามพี่แอล

“ใช่ดิใครจะไปนอนกับมึงกรนเสียงดังเหมือนปลุกป่าได้ทั้งป่า”

“แล้วมึงจะเสียใจ” ไอ้พี่ป็อบยักไหล่แล้วหันไปมองเพื่อนกลุ่มใหม่อีกสามคน “เอ้า มึงสามคนไม่ต้องแย่งกันนะใครอยากนอนกับกูบ้าง อย่าครับ อย่าแย่งกันแบบนั้นพี่ป็อบเป็นของทุกคนครับ” ผมยังไม่เห็นว่าจะมีใครมันแย่งกันนอนกับพี่ป็อบสักคน สุดท้ายพี่สิงห์เลยเดินออกมาแล้วพูดว่าจะนอนกับพี่ป็อบเอง ไอ้พี่ป็อบนี่ยิ้มหน้าบานเดินเข้าไปตบไหล่พี่สิงห์โคตรแรงปากบอกว่า มึงมันตาถึงไปตลอดทาง




“น่าน”

“ห้ะ??”

“โทรศัพท์กูไม่มีสัญญาณ” ตอนที่ยกมือถือขึ้นมาดูรู้เลยว่าทำไมก่อนมาไอ้น่านมันพูดว่าไม่ต้องเอาไปหรอก ก็ที่นี้เล่นไม่มีสัญญาณเลยนี่ครับ ในเมืองยังพอมีให้เห็นบ้างแต่พอนอกเมืองปั๊บ ดับมืดไม่เหลือสักขีด

“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเอามา”

“แล้วงี้กูจะติดต่อม๊ายังไง”

“ม๊าหรือใคร”

“ม๊าไง”

“แน่ใจเหรอว่าแค่ม๊า”

“ก็.....”

“มึงบอกกับกูเองนะซนว่าที่นี้จะมีแค่กูกับมึง คนอื่นไม่เกี่ยวไม่ใช่เหรอ” คนอื่นที่มันพูดถึงน่ะแฟนผมหรือเปล่าวะ คงจำกันได้ใช่ไหมครับว่าเมื่อวานผมพูดกับมันว่าอะไร ตอนที่พูดคำนั้นจบไอ้น่านมันก็รู้ทันทีเลยว่าจริงๆแล้วผมน่ะรู้ว่ามันคิดยังไงกับผม



ก่อนหน้านี้ผมเองก็ไม่ได้มั่นใจกับความรู้สึกมันเท่าไหร่หรอกนะครับ ก็มันเป็นคนพูดเอง ตะโกนใส่หน้าผมเองว่าไม่มีทางรู้สึกแบบนั้นกับผมแน่ๆ แต่พฤติกรรมของมันที่แสดงให้ผมเห็นใช่แบบที่มันพูดกับผมซะที่ไหน แล้วที่มามั่นใจเอาสุดๆก็เมื่อวานแหละครับเห็นอาการมันก็รู้ชัดเลยว่าใช่ชัวร์ๆ แต่ถึงจะรู้มากแค่ไหนผมก็เลือกที่จะไม่รับรู้มากกว่า มันก็ไม่ได้ถึงกับมองข้ามความรู้สึกไอ้น่านหรอกนะครับ แค่ทำเป็นไม่รู้เท่านั้น และผมก็ห้ามมันตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าไม่ต้องพูดอะไรออกมา เพราะผมไม่อยากฟัง ผมสบายใจกับความคลุมเคลือในระดับที่กำลังเป็นอยู่ เพราะผมมีขีดจำกัดบางอย่างที่มีแค่ตัวผมเองที่เข้าใจ



ถ้าใครรู้จักผมดีพอ เขาจะรู้ว่าผมชอบความชัดเจน ชอบความแฟร์ ยิ่งสิ่งไหนที่มันชัดเจนมากๆผมก็จะยิ่งยอมรับมันมากขึ้น และบางครั้งในความชัดเจนมันก็ทำร้ายผม เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่มันชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะกับคำพูดที่พูดออกมาตรงๆ ผมพร้อมที่จะเดินหันหลังให้กับมันโดยไม่หันกลับไปมองอะไรทั้งนั้น เพราะการทำให้รู้สึกกับมันตรงๆมันทำให้ความรู้สึกผิดที่มีต่อใครอีกคนมันถาโถมเข้ามาทันที เพราะงั้นผมถึงบอกน่านว่าไม่ต้องพูดอะไรออกมาแค่ให้มันเข้าใจว่ามีผมกับมันก็พอแล้ว



และดูจากตัวไอ้น่านเองมันก็ไม่ได้มีทีท่าว่ารับไม่ได้สักหน่อย เพราะฉะนั้นเรื่องที่มันยังไม่เกิด ผมเลยยังไม่คิด แค่ป้องกันไม่ให้มันเกิดก็พอ



“แต่กูก็ต้องคุยกับเขาบ้างป่ะวะ” ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงมองหน้าไอ้น่านที่กำลังเก็บของเข้าตู้

“แต่มึงบอกเองว่าที่นี้จะมีแค่กูกับมึง”

“โอเคๆงั้นกูส่งข้อความไปบอกเขาก็ได้ว่าที่นี้ไม่มีสัญญาณ นานๆทีถึงจะได้ติดต่อไปหา โอเคไหม”

“ก็ได้ อ่ะโทรศัพท์ มีสัญญาณ ส่งไปบอกเขาดิ” ผมขมวดคิ้วหรี่ตามองมัน

“ทำไมของมึงมีสัญญาณ”

“ก็กูใช้คนล่ะเครือข่ายกับมึง” ผมมองไอ้น่านอีกรอบ อดคิดไม่ได้ครับว่ามันรู้อยู่แล้วหรือเปล่าว่าที่นี้สัญญาณมือถือค่ายที่ผมใช้อยู่มันจะใช้ไม่ได้ แต่มาคิดๆดูอีกทีมันคงไม่มีความพยายามมากมายขนาดนั้นหรอกมั้ง หลังจากที่ส่งข้อความไปหาน้องเอย น้องก็ส่งกลับมาว่าไม่เป็นไร ผมถึงค่อยโล่งอกแล้วล้มตัวลงนอน

สองเดือนกับการใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยใช้ รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย แปลกตรงที่ตัวผมเองไม่ได้รู้สึกเหงา หรือคิดถึงใครมากเป็นพิเศษ อาจเพราะมีน่านฟ้าอยู่ตรงนี้ด้วยล่ะมั้ง



“จะนอนเหรอ”

“อื้อ” ผมครางรับสัมผัสอุ่นๆที่กระทบลงบนริมฝีปาก น่านฟ้าเปิดพัดลมในห้องแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ มันท้าวศีรษะมองผมแล้วลูบหัวเบาๆแบบที่มันชอบทำ

“ไม่อาบน้ำก่อน จะได้สบาย นั่งรถไฟมาเหนียวตัวจะตาย”

“ขี้เกียจ” ผมบ่นพึมพำกับปากมันที่วนเวียนไล่จูบสะเปะสะปะอยู่แถวๆปากผม

“เหม็น”

“ก็ไม่ต้องมาหอมดิ ใครสั่งมึงวะ ง่วง จะนอนแล้ว เลิกคุย”

“อยากคุยอ่ะ”

“น่านฟ้า”

“ครับผม”

“กวนตีน กูจะนอน” ผมใช้มือปิดสายตาจังไรไอ้น่านไว้ไม่ให้มองมาที่ผม เวลามันใช้สายตาแบบนี้มองทีไรรู้สึกเหมือนตัวเองจะเสร็จมันทุกที

“ปิดตาทำไมวะ”

“กูเกลียดสายตามึงอ่ะ”

“เกลียดไมออกจะน่ารัก” มันดึงมือผมออกจากหน้าตัวเองแล้วยิ้มกริ่ม “ไหม??”

“อะไรของมึงมามงมาไหม คนนะเว้ยไม่ใช่พระอรหันต์ ตรัสรู้ไม่ได้หรอกว่ามึงไหมอะไร จะนอนแล้ว” จริงๆผมก็รู้หรอกนะครับว่าไอ้การทำสายตาแบบนั้นแล้วถามแบบนั้นมันคืออะไร ถ้าจะเอาความหมายเต็มมันก็ไม่ต่างจากการพูดว่า

“เอากันไหม” นั่นแหละคำนั้นเลย


“ส้นตีนและ จะนอน” ผมหลับใส่แล้วมุดหน้าลงกับอกไอ้น่านทันที เป็นการปัดความคาดหวังของมันทิ้งลงไปในทะเล ผมมาฝึกงานนะครับจะมานอนๆเล่นๆ เอากันแบบตอนอยู่บ้านก็ไม่ใช่ แต่คนอย่างไอ้น่านพูดไปก็เท่านั้น ถ้ายืนยันว่าจะทำอะไรแม่งก็จะเอาให้ได้ “น่านฟ้า กูจะนอน”


“นิดเดียว”


“คนอย่างมึงแม่งไม่เคยนิดสักครั้งเลยเหอะ”


“แล้วได้ไหมล่ะ”







มันคิดว่าผมง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง







“เออ” ผมลืมตาแล้วรับจูบจากปากมัน ลิ้นร้อนๆชอนไชเข้ามาจนทั่วโพรงปาก น่านฟ้าขำหึในลำคอก่อนร่างกายจะเริ่มทำตามอารมณ์และความรู้สึกที่พัดโหมกระหน่ำเข้ามาทั้งตัวผมและก็ตัวมัน





>>>TBC<<<<
ตอนนี้สั้นไปเหรอ ตัดจบเร็วไปไหม
เราไม่ถนัดแนวนั้นจริงๆ 55555
คิดว่าตอนนี้คนอ่านหลายคนก็พอจะเข้าใจความคิดซนมากขึ้น น้องเป็นคนอ่านไม่ยากแค่อินดี้เท่านั้น
บอกได้คำเดียวว่า อย่า(เพิ่ง)เกลียดน้อง อิอิ

ปล.สุขสันต์วันสงกรานต์ย้อนหลังนะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-04-2015 20:11:30
 :katai3:   สุขสันต์ปีใหม่ไทยเช่นกันค่ะ.

น้องซนไม่เคยปฏิเสธได้จริงๆ แรงดีจริงหนอพ่อคุณ
จากนี้จะมีแค่เรา. จริงอะ. จะยาวและดีกว่านี้ถ้ามีnc  :hao6: 
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 17-04-2015 20:26:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-04-2015 20:27:44
พี่น่านน่าร๊ากกกกก.. ขี้อ้อนเป็นเด็กน้อยเลย ^^ น่าเอ็นดูขนาดนี้น้องซนยังใจร้ายกับพี่น่านได้ลงคออี๊กก.. T^T ถ้าเสียพี่น่านไปน้องซนจะรู้สึกน้าา ว่าแต่.. วานเก็บพี่ลมไปทีค่าา ดูท่าแล้วพี่ลมน่าจะมาทำให้พายุหึงหวงของพี่น่านพุ่งสูงขึ้นนะคะเนี่ย..
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 17-04-2015 22:51:32
พี่น่านน่าสงสารอ่ะ ซนชัดเจนไปเลยไม่ต้องกล้ว เดี๋ยวพี่น่านไปมีแฟน(ตัวจริง)แล้วจะเสียใจนะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-04-2015 00:44:25
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 18-04-2015 09:48:41
น่านเป็นคนน่าสงสาร ชอบแฟนคนอื่นก็เงี้ย  :undecided:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-04-2015 10:08:16
ซนบอกตัวเองต้องการความชัดเจน


แล้วน้องเอย


แล้วน่านละ พวกเขาไม่ต้องการความชัดเจนเหรอ


น่านเป็นห่วง เป็นกังวลกับเรื่องของซน


แต่ซน ดูจะ ชิลๆ สบายๆไปกับทุกสิ่งรอบตัว หาความสำคัญของน่านไม่เจอเลยในความคิดซน
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 18-04-2015 15:12:19
แหม ถ้าคนแต่งไม่เบรกบอกว่าอย่าเกลียดน้องเนี่ย อีกนิดก็จะถึงแล้วนะเนี่ย  :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: armize ที่ 18-04-2015 21:07:38
ซนเอ้ย....วันนึงที่น่านไม่อยู่กับหนูจะเกิดความรู้สึกอย่างไร.  หนูกำลังจับปลาทั้งมือ
ระวังตัวเองจะเจ็บสุดนะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 15 แค่เรา [17-04-15.P4]
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-04-2015 14:54:35
เข้ามาตามอ่านเรื่องนี้อีกคนครับ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 26-04-2015 19:13:21
Because of you ซน ตอนที่ 16 คนสำคัญ

เสียงดังเหมือนตอกหรือทุบอะไรสักอย่างทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา ฟ้าสีส้มด้านนอกบ่งบอกว่าเวลาตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงหัวค่ำ น่านฟ้าส่งเสียงครางงึมงำในลำคอเหมือนไม่พอใจที่ผมขยับตัว มันดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเองแล้วหลับต่อแบบไม่คิดจะลุกขึ้นไปไหน

ผมกับพวกไอ้น่านเรามาอยู่ที่นี้เกือบจะสองอาทิตย์แล้วครับ พี่ชัยไม่ปล่อยให้เงินบริษัทที่จ่ายพวกผมวันล่ะ 500 บาทสูญเปล่า เรียกว่าเงิน ที่ได้มาในแต่ล่ะวันคุ้มเกินคุ้มเสียยิ่งกว่าอะไร ผมยอมรับนะว่าตัวเองก็เป็นลูกคุณหนูคนนึงถึงจะไม่ได้มากมายเท่าแก๊งไอ้น่านแต่เวลาเจอแดดแรงๆ หรือต้องปีนไปติดแผงโซลาเซลล์ก็ทำเอาผิวแสบคันไปหมด (ผมเป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเอง เวลาเหงื่อออกมากๆจะแพ้ คันเต็มตัวไปหมด)

ส่วนพวกไอ้น่านกับแก๊งสเตอร์ ผมไม่ยักกะเห็นมันบ่นอะไรสักคำ ขนาดพี่แอลที่ผมแอบปรามาสมันไว้ในใจลึกๆมันยังแค่บ่นนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้บ่นเยอะ บ่นมากถึงกับทำให้คนอื่นเดือดร้อนเหมือนผม ส่วนไอ้คนที่เดือดร้อนเพราะผมก็มีอยู่แค่คนเดียวแหละครับ เพราะต้องวิ่งไปหาน้ำ หายามาให้ผมตลอด ไหนจะต้องช่วยเอากระดาษมาพัดให้เหงื่อมันแห้ง เพราะเวลาที่ตัวผมชุ่มไปด้วยเหงื่อมากๆรอยผื่นแดงจะเต็มตัวไปหมด

ผมถามมันนะว่ามันเหนื่อยหรือร้อนบ้างหรือเปล่า มันก็ตอบว่าเหนื่อย ร้อน แต่ชิน แล้วก็เล่าให้ฟังว่าภาควิชาที่มันอยู่ต้องไปเข้าค่ายสร้างนู่นนี่นั่นเยอะแยะ มันถึงชิน

“น่าน”

“อื้ม”

“ตื่นไหม เดี๋ยวปวดหัว วันนี้พี่ชัยแกจะพาไปบ้านแกที่อยู่ในตัวเมืองไม่ใช่เหรอวะ” มันหรี่ตามองผมแล้วหลับลงไปอีกรอบ “น่านฟ้า ตื่น”

“อืม ตื่นแล้ว” มันพูดว่าตื่นแล้วแต่ตามันยังหลับสนิท แถมยังขยับเอาหัวหนักมานอนทับบนตักผมก่อนจะกอดเอวผมไว้หลวมๆ หน้ามันซุกอยู่ตรงท้องผม ลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดผิวเนื้อเพราะไม่ได้ใส่เสื้อมันทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ

“น่าน” ผมเลิกคิ้วมองไอ้แมวตัวโตบนตักอย่างงงๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากเรียกชื่อมันเท่านั้น ส่วนมือตัวเองก็ยกขึ้นลูบศีรษะมันอย่างเคยชิน

“พี่ชัยนัดกี่โมง”

“ทุ่มสองทุ่มมั้ง” น่านฟ้าขยับพลิกตัวนอนหงายเพื่อสบตาผมที่กำลังก้มมองหน้ามันอยู่ หนวดไอ้น่านเริ่มขึ้นเป็นตอๆ ในสายตาคนอื่นมันอาจจะดูเท่แต่สำหรับผมกับไม่ใช่เพราะไอ้หนวดบ้าของมันแทงผิวผมจนแดงไปหมด

“เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่ามึงไปอาบน้ำแล้วโกนหนวดออกด้วยนะ หนวดมึงเริ่มขึ้นแล้ว” ผมใช้มือลูบไปตามคางไอ้น่านเบาๆ แต่เพราะความรู้สึกเหมือนคนกำลังจ้องผมถึงเลื่อนสายตาไปสบตากับมัน เห็นไอ้น่านกำลังยิ้มแบบกรุ่มกริ่มเหมือนคนบ้า “.ยิ้มทำไมวะ”

“เปล่าครับผม”

“เปล่าเชี่ยอะไรก็เห็นยิ้มอยู่ชัดๆ ด่ากูในใจใช่ไหม”

“ทำไมมึงชอบคิดว่ากูด่าวะ” จะไม่ให้คิดได้ไง สายตามันเหมือนคนมีปัญหากับผมอยู่ตลอดเวลาแบบนั้น ใครไม่คิดก็บ้าแล้ว

“ก็หน้าตามึงกวนตีน สรุปมาเลยว่าที่มึงยิ้มอ่ะ มึงล้ออะไรกูอยู่ในใจใช่ไหม”

“เปล่าครับผมก็แค่ ...มีความสุข” น่านฟ้าพูดพร้อมกับใช้มือเกลี่ยหลังผมไปด้วย ไม่ใช่แค่มันหรอกครับที่รู้สึกแบบนั้น ผมเองก็สุขไม่ต่างจากมันนักหรอก ถึงแม้งานจะหนักมากแค่ไหน แต่ความสุขมันก็มีมากกว่า

“มากมายขนาดนั้นเชียว”

“ก็มากนะ มากในระดับที่เอนโดฟินหลั่งโดยที่ไม่เอากับมึงอ่ะ อยู่แบบนี้โดยไม่เอามึงไปตลอดกูว่าก็มีความสุขดี ความฟินอยู่ในระดับใกล้ๆกัน”

“หึ” ผมขำหึในลำคอก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “คนอย่างมึงไม่มีเซ็กส์เนี่ยนะ พูดให้ตัวเองดูดีทำไมวะ ทั้งๆที่มันไม่จริงสักนิด”

“ผมพูดจริงครับคุณ อยู่กับคุณผมมีความสุขจริงๆ” ผมชอบนะเวลาที่มันคิดอะไรอยู่แล้วพูดออกมาทันที ซึ่งนั่นเป็นส่วนดีของน่านฟ้า และก็เป็นส่วนที่ผมกลัวมากที่สุด เพราะน่านฟ้าเป็นคนชัดเจนไม่ต่างอะไรจากผม แต่ที่มันยังไม่ลงลึกในรายละเอียดบางอย่างให้มันชัดเจนมากกว่านี้เป็นเพราะผมเองที่ขอมันไว้

เฉพาะแค่ผมกับมันเท่านั้นที่ผมกลัวความชัดเจน กลัวจน....ไม่อยากให้มันพูดอะไรออกมาทั้งนั้น

ก็อย่างที่บอก ผมมีความสุขกับสถานะที่เรากำลังเป็นอยู่ตอนนี้ และผมก็คิดว่าน่านฟ้าเองก็คง...มีความสุขไม่ต่างกันหรอกมั้ง

แต่ถ้าถามว่ารู้สึกแบบเดียวกับที่มันรู้สึกไหม


ผมตอบไม่ได้หรอกครับ


เพราะผมก็มีใครอีกคนที่ต้องรักมากกว่ามัน
 
“ลุกได้แล้วมั้ง”

“ขี้เกียจ”

“จะลุกไหม กูเมื่อยเนี่ย”

“ครับๆลุกแล้วคร้าบ..แล้วนี่มึงกินยาแล้วใช่ไหม”

“กินแล้ว” ยาที่ไอ้น่านพูดถึงคือยาแก้แพ้ โดยปกติผมไม่ได้กินมันทุกวันหรอกครับ แต่วันนี้แดดแรงมากจนผื่นขึ้นเต็มตัวไปหมด

“กินแล้ว???แล้วทำไมตรงนี้ยังแดงอยู่ล่ะ” น่านฟ้าลุกขึ้นนั่งดีๆแล้วเอานิ้วจิ้มตามจุดแดงๆที่มันบอกว่าเป็นผื่นที่เกิดจากอาการแพ้เหงื่อ “แล้วจุดแดงๆพวกนี้มันอะไรกันนะ”

“มึงจะเล่นใช่ไหมน่าน”

“ก็ถามว่าไอ้จุดพวกเนี่ยแพ้อะไร” มันยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนจุดสีแดงที่อยู่ใกล้ปากตัวเองที่สุดก่อนจะดูดเม้มอีกครั้งให้รอยแดงมันชัดขึ้นมากกว่าเดิม

“พอออออ กูบอกหลายรอบแล้วไหมน่านเวลาจะดูดกูเนี่ย กูให้เฉพาะในร่มผ้ามึงเล่นซะตรงซอกคอ ใครเห็นใครทักตลอด ยิ่งไอ้พี่แอลกับพี่ป็อบนี่ล้อกูยันลูกบวชเรื่องที่มึงทำเนี่ย”

“ล้อก็ล้อไปดิ คนอื่นจะได้รู้”

“เลิกมโนเหอะว่ะน่านมันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดหรอก” ช่วงที่ผ่านไอ้น่านมันชอบมโนว่าพี่ลมสนใจผมในเชิงนั้น ซึ่งจากที่ผมสังเกตดูมันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าคนรู้จักกันที่บังเอิญมาฝึกงานด้วยกันเท่านั้น

“เหอะ มึงอ่ะไม่รู้อะไร เตี้ยๆอย่างมึงมองสายตามันไม่ออกหรอกว่ามันคิดอะไรอยู่” ผมขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับมันแล้วครับ เถียงไปก็เหมือนพูดให้คนหูหนวกฟังเพราะมันไม่รับฟังอะไรสักอย่าง เชื่อมั่นในความคิดตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว พวกซ้ายจัด บ้าอำนาจ ขี้เอา นิสัยเสีย

“มึงอ่ะคิดเยอะลุกได้แล้วสัส จะอาบไหมน้ำ ถ้าไม่อาบกูจะอาบก่อน” ผมผลักหัวไอ้น่านออกจากบ่าแล้วลุกเดินเข้าห้องน้ำทันที ได้ยินเสียงมันหัวเราะตามมาเบาๆ เห็นแล้วหมั่นไส้โคตร ช่วงนี้น่านฟ้าอารมณ์ดีจนเหมือนคนบ้า แล้วพอมันอารมณ์ดีคนที่ลำบากก็มีแต่ผมเนี่ยแหละ โดนแซะ โดนแกล้ง โดนทำนั่นนี่นู่นตลอด บางทียังแอบคิดอยู่ในใจลึกๆเลยว่าจริงๆแล้วผมแอบมีความสัมพันธ์ทางกายกับคนประสาทไม่ดีหรือเปล่า






หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ลงมานั่งรอพี่ชัยที่โถงด้านล่าง คนที่นั่งรออยู่ก็มีพวกกลุ่มพี่ลมที่กำลังนั่งเล่นกีต้าร์กันอยู่ ส่วนพี่ป็อบกับพี่แอลก็ดูเหมือนกำลังซ่อมโต๊ะที่เมื่อวานตอนนั่งกินเหล้าพี่ป็อบถีบโต๊ะนั้นจนขาหัก ถึงว่าตอนที่ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงดังเหมือนตอกอะไรกัน

“ผมว่ามันจะยิ่งแย่กว่าเดิมไหมพี่โก้” ผมถามพี่โก้ที่ยืนมองพี่ป็อบกับพี่แอลซ่อมโต๊ะอยู่ใกล้ๆ ไม่รู้คิดดีแล้วหรือเปล่าที่ให้สองคนนี้ซ่อมกลัวว่าจากที่ซ่อมๆอยู่มันจะกลายเป็นพังซะมากกว่า
 
“แค่นี้มึงก็ทำไม่เป็นหรือไงป็อบกะอีแค่เอาขามาต่อกับตัวโต๊ะแล้วตอกตะปูเข้าไปแบบนี้”

“พูดมันก็ง่ายดิก็มึงเป็นคนสั่งนี่หว่า”

“งั้นส่งค้อนมาดิ ให้กูทำ”

“อย่างมึงจะทำเป็นอะไรแอล โง่ๆอย่างมึงอ่ะ”

“เชี่ยป็อบมึงด่ากูเหรอ!!!!”

“เฮ้อออ พี่ก็ว่างั้นแหละ” ไอ้พี่โก้เพิ่งตอบคำถามผมก่อนจะส่ายหัวแล้วเดินไปดึงค้อนออกจากมือพี่ป็อบ

“โก้ ดูเชี่ยป็อบดิ”

“เลิกบ่นได้แล้วแอล” พี่โก้ดึงมือพี่แอลที่ยืนอยู่ให้ขยับนั่งลงข้างๆกัน

“ก็ไอ้เชี่ยป็อบมันกวนตีนกูอ่ะโก้ มึงเข้าข้างมันมากกว่ากูเหรอ”

“กูเปล่ากวนสักหน่อย ตีนมึงไม่เห็นจะมีอะไรน่ากวน แดกก็ไม่ได้”

“เออออ เดี๋ยวมึงจะได้แดกตอนนี้และเชี่ยป็อบ” ผมมองพี่ป็อบกับพี่แอลที่กำลังจะตีกันโดยมีพี่โก้คอยห้าม ตลกดีนะครับ เวลานี้ก็ตีกันตลอด แต่เวลาไม่เห็นก็ถามถึงกันทุกที

“ซนมานี่มา” ผมหันมามองพวกพี่ลมที่กวักมือเรียกผมอยู่ตรงโซฟากลางบ้าน

“ไอ้น่านล่ะซน” พี่สิงห์เป็นคนเอ่ยปากถามผมพร้อมกับลุกจากที่นั่งตัวเองไปนั่งตรงโซฟาอีกฝั่งก่อนจะพยักหน้าให้ผมนั่งลงแทนที่เขาคือที่นั่งข้างๆพี่ลมแทน

“อาบน้ำอยู่ครับ แล้วนี้พวกพี่เล่นเพลงอะไรกันอ่ะ”

“ก็เล่นไปเรื่อยอ่ะ น้องซนอยากลองเล่นดูบ้างไหมล่ะ”

“อย่าเลยครับ ผมเล่นไม่เป็นหรอก  เคยอยากลองเล่นอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังไม่มีโอกาส” ผมก้มมองกีต้าร์บนตักพี่ลมอย่างสนใจ

“ตอนนี้ก็เป็นโอกาสแล้วนี่ ซนลองเล่นดูเลยล่ะกัน” พี่ลมขยับกีต้าร์ที่วางอยู่บนตักตัวเองมาวางไว้บนตักผม

“จะดีเหรอพี่ลม ผมเล่นไม่เป็นนะ ถ้ามันพังขึ้นมาทำไง”

“ไม่พังหรอก เดี๋ยวพี่สอน” ไอ้พี่ลมไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรสักอย่างขยับเข้ามาใกล้ผมก่อนจะใช้มือข้างนึงโอบอ้อมหลังผมมาจับที่มือ...

“พี่ลม...” ผมเอนตัวหนีไอ้พี่ลมที่ขยับเข้ามาใกล้มากเกินไป “ทำอะไรวะพี่” รู้สึกว่าหน้ามันใกล้ผมเกินไปหรือเปล่า

“ก็พี่กำลังจะสอนกีต้าร์ซนไง” แน่ใจเหรอวะ??



“ทำอะไรกันน่ะ!!” ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเสียงที่ดังขึ้นทั่วบ้านเสียงใคร ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินเสียงไอ้น่าน

“ทำไมต้องเสียงดังขนาดนั้นด้วยวะ” ไอ้พี่ลมส่งสายตาไม่พอใจไปให้ไอ้น่านที่ยืนอยู่ตรงประตู

“มึงนั่นแหละที่ควรเงียบลม” พี่ฉัตรบอกเพื่อนตัวเองส่วนไอ้พี่ลมมันก็แค่ยักไหล่เหมือนไม่ได้แคร์ในสิ่งที่เพื่อนตัวเองพูดเท่าไหร่ ผมว่าไอ้พี่ลมกวนตีน

“อ่าวเด็กๆ...เตรียมตัวเสร็จกันแล้วใช่ไหม งั้นเราไปกันเลย...มะ...ไหม” พี่ชัยเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะหันซ้ายทีขวาที เหมือนพี่แกกำลัง งงๆ กับบรรยากาศอึมครึมที่เกิดขึ้น “มีอะไรกันหรือเปล่า”

“เปล่าพี่ ไปกันเลยไหม ป่ะๆ” ไอ้พี่ป็อบทิ้งงานแล้วเข้าไปกอดคอพี่ชัยอย่างเป็นกันเอง

“อะไรของมึงเนี่ยป็อบ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ฝึกงานด้วยกันต้องรักกันนะพวกมึง ห้ามทะเลาะกันเข้าใจไหมวะ ถ้าพวกมึงทะเลาะกันรุ่นน้องมึงหมดสิทธิ์ได้มาฝึกต่อที่นี้แน่”

“โหพี่ชัยไม่มีอะไรหรอกพี่ ไปพี่ไปกินเหล้ากันดีกว่า” ไอ้พี่ป็อบกอดคอพี่ชัยแล้วพากันเดินออกจากบ้านไป ส่วนคนอื่นๆก็เดินตามออกไปเงียบๆ ตอนเดินออกไปพี่ลมหันมามองผมด้วยเหมือนจะชวนให้เดินออกไปพร้อมกันแต่มันโดนไอ้พี่ฉัตรลากตัวออกไปก่อน ได้ยินเสียงพี่ฉัตรกับพี่สิงห์ด่าพี่ลมแว่วๆแต่ไม่รู้ว่าด่าว่าอะไร เพราะในหัวผมตอนนี้กำลังคิดถึงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมมากกว่า

“น่าน...”ผมเรียกชื่อมันเสียงเบามาก  ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกผิดแบบแปลกๆทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรสักนิด

“...........”น่านฟ้าไม่ตอบแต่หันหน้ามามองผมแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

“มึงงอนกูเหรอ”

“ห้ะ??? อย่างกูเนี่ยนะงอน เหอะ”

“เอออย่างมึงนั่นแหละ” ผมเบะปากใส่แล้วเอื้อมมือไปจับนิ้วมัน น่านฟ้าก้มหน้ามองมือผมที่จับนิ้วมันแล้วเลิกคิ้วถาม

“ง้อกู”

“รู้ได้ไงว่าง้อ”

“อ่าวก็ที่มึงทำอยู่แถวบ้านกูเรียกว่าง้อ”

“งั้น.....แสดงว่ามึงงอนจริงๆอ่ะดิ” ผมยิ้มหน้าบานที่จับไต๋คนอย่างไอ้น่านได้แต่สุดท้ายก็ต้องรีบหุบยิ้มทันทีเพราะมันไม่ได้ยิ้มด้วย

“มึงโกรธกูเรื่องแค่นี้อ่ะนะน่าน เขาก็แค่สอนกีต้าร์กูป่ะวะ”

“มันไม่ใช่แค่ที่มึงเข้าใจหรอกนะซน”

“แล้วที่มึงเข้าใจมันถูกแล้วเหรอวะ ที่มึงคิดว่าเขาชอบกู มึงบ้าป่ะวะ เขาจะมาชอบกูทำไม กูผู้ชายนะเว้ย”

“มึงลืมคิดไปหรือเปล่าว่ากูก็ผู้ชาย!!!” มันตะโกนเสียงดังลั่นบ้านจนผมสะดุ้ง “กูผิดเหรอวะที่โกรธมึง ไม่โอเคที่เห็นมันโอบมึงแบบนั้นอ่ะ ถ้ากูมาไม่ทันอีกนิดเดียวปากมันจะโดนแก้มมึงอยู่แล้ว” น่านฟ้ามันชอบพูดเว่อร์ เมื่อกี้ผมก็เอนหน้าหนีแล้วเหอะ ห่างกันเป็นวาไม่ได้ใกล้ขนาดนั้นสักหน่อย

“น่านมึงเริ่มไม่มีเหตุผลแล้วนะ” ผมกระตุกแขนไอ้น่านเบาๆอย่างน้อยให้มันมีสติมากกว่านี้ “แล้วถึงแม้ว่าไอ้พี่ลมจะทำอะไรกูมึงก็ไม่มีสิทธิ์หวงป่ะวะ ก็ในเมื่อมึงไม่ได้เป็นอะไรกับกู”

ผมยอมรับก็ได้ครับว่าผมโมโห ผมไม่ชอบคนไม่มีเหตุผล ยิ่งไอ้การหวงไร้สาระที่มันกำลังทำอยู่มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่

“เรื่องนั้นกูรู้อยู่แล้วแหละซน มึงไม่ต้องย้ำกูมากนักหรอก กูรู้อยู่แล้ว...ว่ากูไม่สิทธิ์หวงอะไรมึง...ขนาดจะพูดว่ารู้สึกยังไงกับมึง กูยังไม่มีสิทธิ์เลย...”

“น่าน...คือกู...”

“ช่างเถอะ...” มันพูดเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า “พี่ชัยรออยู่ รีบไปกันเถอะว่ะ”

น่านฟ้าพูดเสร็จก็เดินนำหน้าผมไปที่รถพี่ชัยที่จอดรออยู่ทันที คนอื่นๆนั่งหน้ากันหมดเหลือแค่กระบะหลังไว้ให้ผมนั่งกับไอ้น่านนั่ง



ลมเย็นที่พัดโกรกตอนที่รถวิ่งมันเป็นบรรยากาศที่ผมไม่สามารถสัมผัสได้ถ้าอยู่ที่กรุงเทพ เพราะบรรยากาศรถติด มลพิษมาเป็นโขยงแบบนั้นมันทำให้ทุกคนที่นั่นแทบจะไม่ซื้อปิ๊กอัพเพื่อใช้ในครัวเรือนเลย มีแต่ใช้ไว้ส่งของเท่านั้น

สองทุ่มกว่าๆของที่นี้ช่างแตกต่างจากกรุงเทพอย่างสิ้นเชิง ความมืดโรยตัวเข้ามาเร็ว บ้านเรือนหลายบ้านที่รถขับผ่านปิดไฟนอนกันตั้งแต่ยังหัวค่ำ ท้องฟ้าของที่นี้เป็นท้องฟ้าเดียวกันกับกรุงเทพ แต่ฟ้าที่นี้กับเต็มไปด้วยดาวที่เต็มท้องฟ้ามากกว่า

“น่าน...”

“........”

“มึงรู้ไหมว่าทำไมท้องฟ้าที่นี้มันถึงมีดาวมากกว่าที่กรุงเทพ” ผมถามมัน แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็ยังเป็นความเงียบ ผมรู้นะว่าผมผิด ผมพูดในสิ่งที่ทำให้คนข้างๆรู้สึกแย่ แต่จะให้ทำไงวะก็ตอนนั้นมันโกรธจริงๆนี่หว่า น่านฟ้ามันไม่มีเหตุผลอ่ะ “น่าน.....”

“.....” มันก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม

“น่านฟ้า...”

“........”

“กูขอโทษ” ผมขยับตัวเอาหัววางไว้บนบ่าไอ้น่าน  ยังดีที่มันไม่ได้ทำท่ารังเกียจขยับตัวหนี

“มึงไม่ผิดอะไรนี่หว่า”

“กูผิด กูขอโทษ”

“ไม่ผิดหรอก ก็ที่มึงพูดออกมามันจริงนี่หว่า กู...ไม่มีสิทธิ์หวงอะไรมึง...” ยิ่งได้ยินมันพูด ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่ ผมไม่ชอบที่มันเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ “กูเองก็ไม่รู้ว่ะซน กูไม่รู้ว่าตัวเองจะทนกับมันได้อีกนานแค่ไหน ยิ่งได้ยินมึงพูดย้ำตลอด กูก็ยิ่งรู้ตัว ว่ากูไม่ได้สำคัญอะไรกับมึงขนาดนั้น”

“ไม่ใช่!!”

“พอเถอะ ขี้เกียจฟังแล้วว่ะ เมื่อกี้มึงกำลังจะพูดว่าทำไมดาวที่กรุงเทพถึงมีน้อยกว่าที่นี้ใช่ป่ะ แล้วไงต่อนะ” มันพูดถามผมทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้าผม

“มึง”

“กูบอกแล้วไงว่าช่างมันเถอะ”

“น่าน...มึงฟังกูก่อนได้ป่ะล่ะ กูขอโทษ มึงอย่าเข้าใจไปเองได้ป่ะวะ ว่ามึงไม่สำคัญ” ผมขยับนั่งหันไปมองหน้าไอ้น่านแบบเต็มตัว

“.....”

“มึงสำคัญกับกูนะน่าน” ผมจับหน้าไอ้น่านด้วยมือทั้งสองข้าง ส่วนตัวเองก็แทบจะปีนขึ้นไปนั่งบนตักมันแล้ว “สำคัญ มึงสำคัญกับกู”


รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกลัวอะไรมากที่สุด ความรู้สึกบางอย่างที่ตื้อขึ้นมาจนจุกอยู่ที่คอ



มันทำให้ผมรู้เลยว่า ถ้าไม่มีไอ้น่าน ผมไม่มีทางยืนต่อไปได้ไหว



ผมรับมันไม่ไหวแน่ๆ





“มึงสำคัญ”

“ก็แค่นั้นแหละ...” มันหลุดยิ้มออกมาจนดูน่าหมั่นไส้

“หมายความว่าไงอ่ะ”

“ก็หมายความว่า สำหรับกู ณ ตอนนี้ เท่านี้ก็โอเคแล้ว”

“จริงนะ” ผมถามมันเพราะยังไม่ค่อยเชื่อมันเท่าไหร่

“เออออจริง” ผมถอนหายใจออกมาแล้วขยับลงจากตักไอ้น่านมานั่งพิงกระบะแทน

“หายโกรธกูจริงๆนะเว้ย ห้ามมางอแงไร้สาระอีกเด็ดขาดนะมึง”

“เออหายแล้ว” ผมยิ้มแล้วเอาหัววางบนบ่ามันอีกรอบ แค่มันหายโกรธ ผมก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก แค่นี้จริงๆ สำหรับผมบางที มันอาจจะมีแค่นี้จริงๆ แค่มันไม่โกรธ ไม่เกลียดผม แค่นั้นก็พอแล้ว “แล้วคนที่งอแงมันก็มึงไม่ใช่หรือไง”

“ตลกและ ไม่ใช่กูเถอะ”

“เหรอวะ”

“เออดิ เลิกพูดเถอะว่ะ กูกำลังจะเล่าเรื่องที่ดาวที่นี้มีมากกว่า” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วเงยหน้ามองดาวบนฟ้า “ที่ดาวที่นี้มีมากกว่าจริงๆแล้วดาวมันเท่าเดิม แต่แค่กรุงเทพแสงสว่างจากไฟฟ้ามันมีมากกว่า ทำให้เรามองเห็นดาวไม่ชัดเท่าที่นี้ไง”

“อืมมม ดูมีความรู้นะเรา”

“ก็แหงล่ะ นี่ใครครับ” ผมพูดพร้อมกับเอาคางวางไว้บนบ่าน่านฟ้า มันหันมามองหน้าผมแล้วจุ๊บลงที่ปาก หลายรอบ

“กูสำคัญกับมึงหรือเปล่าซน” ริมฝีปากมันยังคลอเคลียอยู่ตรงปากผม

“มึงคิดว่าไงล่ะ”

“อย่าเล่นลิ้นได้ไหม กูอยากฟังอีกรอบ”

“สำคัญสิ” สำคัญมากจนตัวผมเองยังไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำ




ปัง ปัง ปัง

เสียงทุบกระจกทำให้ผมกับไอ้น่านหันไปมองคนที่อยู่หน้ารถ พวกพี่แอล พี่ป็อบทำท่าจะอ้วกใส่ผม ส่วนไอ้พี่ลมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่จากที่เห็นก็ดูเหมือนจะแค่แกล้งทำนะครับ เพราะมันจับหัวใจตัวเองแล้วเบะปากเหมือนเด็กๆ

“มึงทำอะไรของมึงวะ จูบกูต่อหน้าพวกมันทำไม” ผมโวยวายเสียงดัง

“จะไม่ให้กูจูบได้ไงก็ในเมื่อมึงอ่อยกูอ่ะ”

“อ่อย?? อ่อยตรงไหนวะ กูยังไม่ได้อ่อยมึงอย่างที่มึงพูดสักนิด”

“ก็อ่อยตรงที่จู่ๆก็เอาคางมาวางไว้บนบ่ากู ยื่นปาก ยื่นจมูกมาให้กูจูบเอง...ไม่ใช่เหรอ”

“เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย มันไม่ใช่แบบนั้นโว้ยยยยยย”



>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<
ยังฟินอยู่นะ ยังไม่ม่าเลย ><
บางทีก็เพลียตรรกะอิน้องซนนะ แบบว่าบางทีก็คิดเยอะ แต่บางทีก็คิดน้อยไป
เฮ้ออออ :เฮ้อ: สงสารก็แต่อิคนที่นั่งอยู่ข้างๆนั่นแหละจะรับไหวไหม (เปล่าสปอยนะ 5555555555 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:)
เจอกันอาทิตย์หน้านะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 26-04-2015 19:35:48
รู้สึกแบบ อร๊างงงงงงงงงงงงง
น่ารักอ่ะความสัมพันแบบนี่อ่ะ
ถึงจะเจ็บปวดแต่บางทีก็หวามหอม
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-04-2015 19:44:03
… :เฮ้อ:

เมื่อไรพี่น่านจะหันมาเยียวยาหัวใจตัวเองสักทีล่ะค้าา?? ถอยออกมาเถิดด~ เราอยากเห็นน้องซนวิ่งตามพี่น่านบ้างแล้วล่ะค่ะ *ชูป้ายไฟประท้วงน้องซน (ชั่วคราว)* o18
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-04-2015 19:55:33
ขอบคุณค่ะ.  ตอนนี้แอบสั้นนะ ไม่หายคิดถึงพี่น่านเลย
คราวหน้าขอพี่น่านเล่าบ้างนะคะ. อ่านที่ซนเล่าบอกตรงๆว่ายังเข้าไม่ถึงนางเลย. ติสเกิ๊น

เป็นคนที่สำคัญ แต่ความสัมพันธ์ไร้คำนิยามสินะ.  :katai1:  ฟินแบบหน่วงๆค่ะเคยเป็นไหม
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 26-04-2015 20:06:51
ความสัมพันธ์ที่มีกัน 3 คนนี่มันคับแคบและอึดอัดนะ
ซนวินที่สุดในตอนนี้ได้ความรักจากทั้งสองด้าน
เห็นแก่ตัวไหม? ก็ใช่อยู่
ซนลืมไปกระมังว่าอีก2 คนก็รู้สึกเป็นและคิดเป็น
ทางฝ่ายน่านถ้าหากว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนก็อาจจะตัดสินใจทำอะไรเอง
ฝ่ายผู้หญิงซนคงลืมไปว่าผู้หญิงเซ๊นส์แรง
ต่อให้ซนจะแสดงความรักมากยังไงก็ตาม
ซนเปลี่ยนไปแล้ว ความสนใจที่มีเคยให้เขาคนเดียวมันแบ่งไปแล้ว
คิดหรือว่าสาวเจ้าจะไม่รู้สึกอะไร
ดูถูกผู้หญิงมากไปนิดนะซน
อีกอย่างทั้งน่านและแฟนสาวก็ไม่ใช่ของตายสำหรับซนตลอดไปหรอกนะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-04-2015 21:00:12
สงสารน่านอะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-04-2015 21:24:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 26-04-2015 22:01:04
จะได้สมหวังกันไหมคู่นี้
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 26-04-2015 22:18:57
ถอยเหอะน่าน เชื่อป้า
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 27-04-2015 04:35:06
ทีมน่านฟ้านะคะ :monkeysad:

ถึงจะฟินก็ยังไม่ปลื้มซนอยู่ดี

ถ้ารู้ตัวว่าต้องรักใครมากกว่าก็ปล่อยอีกคนเถอะ

สงสารคนอื่นบ้าง ไม่ใช่มองเห็นแค่ตัวเอง

น่านลูก น่านมูนวอร์คถอยหลังได้แล้วลูก

อกอีแม่จะแตกแล้วววว :ling1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 29-04-2015 20:19:50
 น่านอยีาเพิ่มท้อนะเพราะซนมันไม่ยอมรับความจริงทั้งๆที่คงขาดน่านไม่ได้หรอกกเชื่อเถอะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 16 คนสำคัญ [26-04-15:P5]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 30-04-2015 09:13:42
ซนมันผู้ชายขี้อ่อย น่านหลงหัวปรักหัวปรำ สงสารน่าาาาาาา  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 30-04-2015 16:09:18
Because of you ซน ตอนที่ 17

“เหนื่อยอ่ะ” ผมบ่นไม่หยุด เพราะความเหนื่อยสะสมตลอดสองเดือนที่ผ่านมามันทำให้ผมเหนื่อยจนแทบจะขาดใจ ที่พี่ชัยเคยบอกไว้ว่าให้ทำห้าวันหยุดสองวันแม่งโกหกทั้งเพ เพราะเอาเข้าจริงๆพวกผมกลับทำงานเจ็ดวันเลยด้วยซ้ำ อาจจะมีหยุดบ้างแต่อาทิตย์นึงมันก็แค่หนึ่งวันเท่านั้นหรือเลวร้ายสุดๆก็คือไม่หยุดเลย ยังดีที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พวกผมจะฝึกงานที่นี้ สองเดือนที่ผ่านมาอาจจะเร็วมากสำหรับใครบางคน แต่กับผมมันไม่ต่างจากนรกที่แต่ล่ะวันผ่านไปช้าเหลือเกิน แรกๆงานมันก็ทรงตัวไม่หนักเท่าไหร่ แต่พอเริ่มเข้าอาทิตย์ที่สามเท่านั้นแหละ งานเข้ามาไม่ขาดสายเลย ทั้งงานซ่อม งานติดตั้ง ซึ่งปกติแล้วพี่ชัยจะแบ่งทีมออกไปซ่อมหรือติดตั้งทีมล่ะสี่คน แต่ช่วงเดือนสุดท้ายที่เหลือพี่แกต้องแบ่งเหลือแค่ทีมล่ะ 2 เท่านั้น

“บ่นอะไรวะ กูเองก็เหนื่อยไม่ต่างไปจากมึงหรอก เอาน่าหลังจากนี้ก็ไม่มีแล้ว” น่านฟ้าพูดพร้อมกับขยับนั่งลงบนเตียง มันเอามือมาขยี้หัวผมจนหัวผมยุ่งไปหมด

“น่านอย่าขยี้หัวดิวะ เสียทรงหมด” คนยิ่งห่วงหล่ออยู่ยังจะมาหัวเราะคิกคักอีก ก็วันนี้จะเป็นอีกวันที่พี่ชัยจะพาไปเลี้ยงส่ง ได้ข่าวว่าที่ๆแกจะพาไปได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเด็ด เขาบอกว่าเด็กสาวราชภัฏจากดินแดนริมแม่น้ำโขงมักจะมานั่งร้านนี้กันเพราะร้านจะไม่ได้ออกแนวตะวันแดงสาดแสงเดือนเหมือนคราวที่แล้วที่แกพาพวกผมไป ถ้าเป็นแบบคราวที่แล้วที่มีแต่คนทำงานกับอายุรุ่นแม่มองไปทางไหนก็หาอาหารตาไม่เจอแบบนั้นผมก็คงขอบายอ่ะ อย่างน้อยก็อยากเห็นอะไรที่มันชุ่มชื่นหัวใจอย่างสาวหนองคายก่อนกลับกรุงเทพก็ยังดี เพราะกลับไปกรุงเทพต้องไปเจอวิบากกรรมต่ออีก

แม่งเอ๊ย!!!ไม่อยากอ่านหนังสือโว้ยยยย คิดผิดคิดถูกวะเนี่ยที่เลือกเรียนต่อวิศวะเนี่ย


“แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นวะ” น่านฟ้าเอานิ้วมาจิ้มตรงหว่างคิ้วผมให้คลายออก รู้เลยว่าตอนนี้คิ้วผมแทบจะชนกันอยู่แล้ว

“กูกำลังคิดว่ากูคิดผิดหรือเปล่าที่เลือกจะเรียนต่อวิศวะ” ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าชีวิตผมจะสามารถอยู่กับมันได้ตลอดชีวิตหรือเปล่า แค่มาฝึกงานแค่สองเดือนก็ทำเอาผมจะเป็นบ้าตายอยู่มะรอมมะร่อ “กูว่ากูไปเรียนถ่ายรูปพวกนิเทศศิลป์ดีไหมวะ แต่พวกจบปวส.อย่างกูเขายังจะรับไหมอ่ะ”

 ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเปลี่ยนสายตอนนี้ยังจะทันหรือเปล่า เพราะหนังสือหนังหาที่ติวกับไอ้น่านมาก็เยอะจนสมองตอนนี้จำแต่พวกสูตรคำนวณหมดแล้วด้วยดิ เอาไว้กลับไปกรุงเทพค่อยเลือกอีกทีล่ะกันเพราะยังมีเวลาเหลืออีกตั้งอาทิตย์นึงกว่ามหาลัยเขาจะเริ่มเปิดรับนักศึกษาปวส.อย่างพวกผม ถึงตอนนั้นก็คงดูอีกทีว่าสายผมจะสามารถลงเรียนคณะอะไรได้บ้าง

“ก็น่าจะรับนะ ที่มหาลัยกูก็มีเด็กปวส.ไปสมัครนิเทศเพียบ” ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ไอ้น่านพูด ขอให้มันมีจริงๆเถอะไอ้ที่มันบอก อย่างน้อยก็จะได้โล่งใจขึ้นมาอีกนิด

“เราลงไปนั่งรอคนอื่นๆข้างล่างไหม” ถึงเวลาตอนนี้มันจะเพิ่งสี่โมงเย็น และคิดว่าพวกพี่ๆหลายคนยังไม่กลับมาก็เถอะ แต่จะมานั่งง่วงนอนอยู่ในห้องตลอดมันก็น่าเบื่อ ยังดีที่งานวันนี้ของผมกับไอ้น่านเสร็จตอนเที่ยงมีเวลานอนตลอดทั้งบ่ายจนถึงตอนนี้ก็คงนอนต่อไปไม่ไหวแล้วด้วย

“เพิ่งจะสี่โมงเอง กูว่าพวกมันยังไม่กลับหรอก”

“แต่กูเบื่อแล้ว หาอะไรทำแก้เบื่อเหอะ” ผมกระเง้ากระงอดไม่เลิก ตั้งแต่อยู่กับมันมารู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นคนเอาแต่ใจขึ้นมากกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังดีที่คนตรงหน้าก็เป็นพวกชอบตามใจอยู่แล้วด้วย

“หืมมมม หาอะไรทำแก้เบื่อ....เอาจริงดิ” รอยยิ้มมุมปากกับสายตาเจ้าเล่ห์ของน่านฟ้า รู้เลยว่าหัวสมองระดับหื่นกามของมันกำลังคิดอะไรอยู่ พูดเสร็จมันก็ใช้มือสองข้างกันผมเป็นกรงมนุษย์ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้

“จะทำอะไร”

“คิดว่าอะไรล่ะ”

“น่านฟ้า”

“ครับผม” มันยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมแบบคนจังไรคนนึงที่พึงมีต่อคนเรียบร้อยแบบผม เอาแบบไม่เข้าข้างตัวเองเลยนะครับ ถ้าเทียบระดับหื่นกามกันระหว่างผมกับมัน บอกเลยว่าผมนี่ติดลบเรียกว่าละทางนี้โดยสิ้นเชิง ส่วนไอ้คนตรงหน้าบอกเลยว่าต่อให้พระอรหันต์มาเทศสันดานดิบอย่างมันก็ไม่มีทางลด ละ เลิกได้

“ตามใจมึงล่ะกัน บอกไว้ก่อนนะว่ากูไม่ได้อยาก...” ผมพูดพร้อมกับทำเสียงเนือยๆ เหมือนไม่ได้ตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดหลังจากนี้เท่าไหร่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วหัวใจตัวเองแทบจะหลุดออกมาจากอก เพราะนับตั้งแต่ที่มาหนองคายจนถึงวันนี้(ไม่นับรวมวันแรก)ผมกับมันไม่ได้มีเวลามาทำเรื่องแบบนี้หรอกครับ ทำงานเสร็จ อาบน้ำ หัวถึงหมอนต่างคนก็ต่างหลับไปนอนเฝ้าพระอินทร์กันแล้ว

“หึ ครับ พี่น่านรู้ว่าน้องซนไม่อยาก มีแค่พี่น่านเองคนเดียวที่อยากทำกับน้องซน” ผมชอบนะเวลาที่น่านฟ้าเรียกผมแบบนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันใส่ใจในความรู้สึกผม ถึงชอบมากจนเลือดทั้งตัวไหลไปรวมกองกันที่หน้ามากแค่ไหนผมก็ไม่เคยบอกมันว่าผมชอบที่มันเรียกผมแบบนี้ เพราะผมอายและเขินเอามากๆถ้ามันเรียก และถ้ามันรู้นะว่าผมชอบ มันต้องเรียกแบบนี้ไม่หยุดแน่ๆ

“เหอะ...มันก็แน่อยู่แล้วแหละ” ผมกลั้นยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นคล้องคอน่านฟ้า เอาหน้าซุกบ่ามันที่กำลังขยับเคลื่อนตัวลงมาคล่อมผมไว้ มือเย็นๆที่ถูกสอดเข้ามาในเสื้อยืดทำเอาผมสะดุ้งโหยงขึ้นมาทันที น่านฟ้าไม่ปล่อยให้ร่างกายผมชินกับความเย็นของฝ่ามือ มันใช้ปลายนิ้วไล้เรื่อยไปทั่วหน้าอก แผ่นท้อง และกำลังจะขยับต่ำลงไปเรื่อยๆ

“อื้ออ” แต่แทนที่น่านฟ้าจะสอดมือเข้าไปต่อมันกลับหยุดอยู่แค่นั้น วนอยู่รอบๆเอวไม่คิดจะทำอะไรมากกว่านี้ จนผมอดยกมือทุบไปที่หลังมันแรงๆไม่ได้ “อย่าแกล้ง...”

“เปล่า” เสียงกระเส่าดังชิดริมหู แต่มือเย็นยังวนรอบเอวไม่มีทีท่าว่าจะต่ำลงมากกว่านี้จนเป็นผมเองที่ทนไม่ไหว ขยับเอวขึ้นลงให้มือมันเสียดสีกับส่วนกลางลำตัวผมแทน ได้ยินเสียงมันหัวเราะเบาๆเหมือนชอบใจกับการกระทำของผมไม่มากก็น้อย น่านฟ้ามันนิสัยเสีย เวลาที่จะทำอะไรกันแต่ล่ะทีชอบมีลูกเล่นมาแกล้งให้ผมหมั่นไส้ทุกครั้ง

“อ๊า” ผมซบลงกับบ่ามันแล้วครางออกมาอย่างไม่จำเป็นต้องอายคนตรงหน้า เหงื่อผุดออกตามไรผม ขาข้างนึงยกขึ้นเกี่ยวเอวมันไว้ ส่วนอีกข้างอ้าออกให้มือหนาของคนตรงหน้าทำหน้าที่ชักนำได้สะดวกมากขึ้น “อ..อึก..อ๊ะ”

ความเร็วในจังหวะคงที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ น่านฟ้าอมยิ้มที่เห็นคนอย่างผมหลุดมาดแล้วร้องครางอยู่ใต้ร่างมัน

“หะ..น่าน” ตาหวานฉ่ำกับริมฝีปากตัวเองที่งับลงบนลาดไหล่คนตัวโตกว่า ผมชอบความรู้สึกนี้ ชอบความหวานละมุนที่น่านฟ้ากำลังมอบให้ ชอบความอ่อนโยนในทุกสัมผัสถึงแม้ไม่ได้อ่อนหวานแต่การกระทำของมันแต่ล่ะอย่างมันแสดงให้ผมเห็นว่าคนอย่างมันใส่ใจในทุกรายละเอียด

“ซน” เสียงกระซิบเรียกชื่อผมผะแผ่วพร้อมกับรอยจูบที่ฝั่งลงบนกลีบปาก ผมยิ้มรับความสุขที่เพิ่งเกิดขึ้น ก่อนจะหลับลงไปพร้อมกับความเหนื่อย











“พี่รักซนนะครับ”








เสียงทุ้มต่ำคุ้นเคยดังขึ้นเหมือนมาจากที่ไกลๆ ไกลมากจนผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินมันเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน แต่ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้มันเป็นเพียงแค่ความฝันที่ยังไม่หลุดลอยออกมา เพราะเมื่อไหร่ที่มันหลุดออกมาผมก็กลัวว่าความจริงจะทำร้ายใครอีกหลายๆคน
























ผมตื่นขึ้นมาอีกทีเกือบๆหนึ่งทุ่ม น่านฟ้าไม่ได้อยู่ในห้องแล้วคิดว่าน่าจะลงไปข้างล่าง ความเมื่อยขบตามเนื้อตามตัวที่สะสมมาตลอดหลายเดือนดูเหมือนจะบรรเทาขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ แต่ที่ใครหลายคนเคยพูดไว้ว่าเซ็กส์ช่วยทำให้คลายเครียดผมคิดว่ามันก็คงมีส่วนจริงแหละ เพราะหลังจากที่มีเซ็กส์กับมันไปความเครียดหรืออาการปวดหัวตุบๆที่เป็นมาหลายวันดูจะหายเป็นปลิดทิ้งด้วยซ้ำ

หลังจากที่นั่งทำหน้าอึนอยู่บนเตียงสักพักผมก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะอย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกวันนี้พี่ชัยจะพาไปเลี้ยงส่ง

“ตื่นแล้วเหรอ” น่านฟ้าเดินเข้ามาในห้องตอนที่ผมกำลังแต่งตัวเสริมหล่ออยู่หน้ากระจก ผมเลิกคิ้วถามมันทำนองว่ามึงเห็นกูหลับอยู่หรือเปล่าล่ะ มันหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเดินมายืนซ้อนหลังผม เงาเราสองคนสะท้อนผ่านกระจกโดยที่มีมันสูงกว่าผมอยู่ไม่เยอะ(ก็แค่ไม่กี่สิบเซ็น ไม่อยากพูดเรื่องนี้มากหรอกครับเพราะเรื่องความสูงพูดทีไรเจ็บใจทุกที) น่านฟ้ายกกล้องที่มันภูมิใจนักหนาขึ้นวางไว้บนบ่าผม กดชัตเตอร์สองสามรูปพอเป็นพิธีก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาถ่ายอีกรูป

“ถ่ายอะไรเยอะแยะวะ”

“ก็ถ่ายไว้งั้นแหละ มึงจะได้รู้ว่าชีวิตนึงมึงเคยตัวดำขนาดนี้” ก็จริงอย่างที่มันบอก ขนาดผมลูกคนจีนผิวขาวจัดขนาดนี้ เจอแดดที่นี้เข้าไปสองเดือนคล้ำลงเหมือนกัน

“แล้วพวกพี่ๆคนอื่นๆเขากลับมากันหรือยังอ่ะ”

“มาแล้ว กำลังนั่งรอพี่ชัยมารับ” น่านฟ้าวางคางไว้บนศรีษะผมได้พอเหมาะพอเจาะ เรามองหน้ากันผ่านกระจก สีหน้ามันเหมือนคนที่ดูมีความสุขมากๆ มากเสียจนผมอดยิ้มตามไม่ได้

“ช่วงนี้มึงลืมกินยาเขย่าขวดหรือเปล่าวะน่าน ยิ้มอยู่ได้” ผมด่าไอ้น่านที่ยังคงยิ้มยักไหล่ไม่ได้แคร์เลยสักนิดว่าผมจะด่าอะไรมัน “เออมึงพรุ่งนี้เรากลับกรุงเทพกันแล้วใช่ป่ะ”

“อืม ทำไมวะ”

“ไปเที่ยวเชียงคานกันไหม ใกล้ดี ไปสักสองคืนแล้วค่อยกลับกรุงเทพ” ผมได้ความคิดนี้มาจากพี่ตุ่นคนทำความสะอาดที่พักพวกเรา แกเราว่าจากหนองคายไปเลยเดินทางไม่ไกลเท่าไหร่เพราะเป็นพื้นที่ติดกัน แล้วผมเองก็ไม่เคยไปเที่ยวเชียงคานมาก่อนด้วย อยากไปถ่ายรูป บรรยากาศที่นั่นคงจะดีสุดๆ

“กูอยากไปเที่ยวฝั่งลาวมากกว่า” น่านฟ้าหันมาเสนอความคิดเห็นในสิ่งที่ตัวเองอยากไป ฝั่งลาวผมเองก็อยากไปนะครับแต่ว่าพวกเราไม่มีพาสปอร์ตกันเลยสักคน

“แต่กูอยากไปเชียงคานอ่ะ” ผมหันหน้าไปบอกน่านฟ้าแล้วดันตัวมันให้เดินออกจากห้องพร้อมกัน

“ทำไมต้องเชียงคานวะ ไปลาวดิได้บรรยากาศเขาบอกที่นั่นอุมดมสมบูรณ์จะตาย ถ้ามึงอยากถ่ายรูปก็ไปถ่ายที่นี้ก็ได้ เห็นเขาบอกว่าใช้ใบผ่านแดนอยู่ได้ตั้งห้าวันแน่ะ” นั่นแหละที่ผมกลัว ถึงการใช้ใบผ่านแดนมันจะไม่ยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายไม่เท่าไหร่ แต่พี่ตุ่น(คนเดิม)ก็เล่าให้ฟังว่าบางคนต้องเสียเงินเป็นหมื่นๆเพื่อกลับประเทศเพราะใบผ่านแดนหมดอายุ เหตุเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ทำใบผ่านแดนให้ผิดจาก 5 วันเป็น 3 วัน อะไรประมาณนี้ ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ในเมื่อคนพื้นที่เขาบอกมาอย่างนั้นผมก็ต้องเชื่อเขาไว้ก่อนแหละ

“ไม่เอา...ไปเชียงคานนั่นแหละ...นะ”

“เอางั้นเหรอ”

“เอาแบบนี้แหละ จะได้ชวนคนอื่นๆไปด้วย ไปหลายๆคนจะได้สนุก”

“เฮ้ย ไม่เอา ไปกันแค่สองคนก็พอแล้ว จะชวนคนอื่นไปทำไมเยอะแยะ” น่านฟ้าทำหน้าไม่พอใจทันทีที่ผมเอ่ยปากบอกว่าจะชวนคนอื่นๆไปด้วย ผมไม่ค่อยเข้าใจตรรกะมันเท่าไหร่ว่าทำไมถึงไม่อยากชวนคนอื่น ไปกันสองคนโอเคมันอาจจะสนุกในแบบของมัน แต่ถ้าไปกันเยอะๆเวลากินเหล้ามันต้องสนุกกว่านี้แน่ๆ

“ทำไมวะ ก็ชวนพวกพี่แอลพี่ป็อบไปด้วยมันก็น่าจะโอเคกว่าไม่ใช่เหรอ”

“อะไรชวนๆวะ พวกมึงจะไปไหนกันเหรอ” เสียงพี่ป็อบดังขึ้นตอนที่ผมเดินมาถึงโถงกลางด้านล่างแล้ว ไอ้น่านทำหน้ามุ่ยแทบทันทีที่รู้ว่าไอ้พี่ป็อบได้ยินสิ่งที่ผมกับไอ้น่านพูด

“เปล่าไม่มีอะไร”แล้วมันก็ปฏิเสธทันทีด้วย

“ไม่มีอะไรได้ไงกูได้ยินว่าชวนไปเที่ยวไหนอะไรสักที่ นี่มึงจะไปเที่ยวกันโดยทิ้งภาระอย่างไอ้แอลไว้ที่นี้เนี่ยนะ เฮ้ย!!มึงใจร้ายไปไหมวะน่าน กูเข้าใจนะเว้ยว่ามึงเกลียดมันแต่ก็ไม่ต้องถึงกับรังเกียจขนาดไม่ชวนไปเที่ยวแบบนี้ก็ได้..”พี่ป็อบพูดเป็นตุเป็นตะ คิดเองเออเองแล้วหันไปตบบ่าพี่แอลเบาๆ “กูเข้าใจนะเว้ยแอล ในเมื่อเพื่อนมันรักกูมากกว่ามึง มันเลยเลือกที่จะชวนกูแบบเงียบๆโดยไม่ชวนมึง แล้วที่มันเถียงกันลงมาก็คงหนีไม่พ้นไม่อยากชวนมึงไปแน่ๆ เชื่อกูดิ กูรู้ กูสัมผัสได้หมดแหละ ไม่ต้องไปนอนร้องไห้น้ำตาเปื้อนหมอนในห้องล่ะ”

หน้าตาไอ้พี่ป็อบดูจะเห็นอกเห็นใจพี่แอลเป็นอย่างมาก ส่วนไอ้พี่แอลพอได้ยินพี่ป็อบพูดแบบนั้นก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นคว้าหมอนมาตีหนังหน้าพี่ป็อบเรียกว่าไม่ยั้ง

“กูบอกแล้วไงอย่าเสียใจแอล โอ้ยย เหี้ย แอล กูเจ็บนะเว้ย”

“ก็มึงมันพูดมากปากหมานี่หว่า กูว่าคนที่เขาไม่อยากจะชวนมันมึงมากกว่าไหม” พี่แอลพ่นลมหายใจออกมาอีกทีไม่ลืมที่ยันเท้าไปที่พี่ป็อบอีกรอบ

“เฮ้ยแอล กูเข้าใจนะเว้ยว่ามึงเสียใจอ่ะ แต่ไม่เห็นจะต้องพูดปลอบใจตัวเองขนาดนั้นเลยนี่หว่า เอาล่ะๆเดี๋ยวกูคุยกับไอ้น่านให้เพื่อจะได้ไม่ให้มึงเสียใจไปมากกว่านี้ น่านมึงก็ยอมๆให้ไอ้แอลไปด้วยเถอะ เดี๋ยวมันก็ร้องไห้เสียใจน้ำมูกไหลอีก” น่านฟ้ายกมือขึ้นกุมหัวแล้วหันมามองผมที่ยังหัวเราะไม่หยุด ผมขำจริงๆนะครับ ขนาดรู้ทั้งรู้นะว่าพี่ป็อบแกล้งพี่แอลแต่มันก็ยังอดขำไม่ได้อยู่ดี

“โอคครับไม่ต้องทะเลาะกันนะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เราทุกคนไปเที่ยวเชียงคานกันก่อนกลับกรุงเทพ พวกพี่ลมก็ไปด้วยกันนะครับ” ประโยคแรกผมหันไปพูดกับพวกพี่แอล ส่วนประโยคต่อมาผมหันไปพูดกับพวกพี่ลมที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“น้องซนชวนพี่แบบนี้มีเหรอที่คนอย่างพี่จะไม่ไปอ่ะ”

“ดีครับไปหลายๆคนจะได้สนุก” ผมพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้พี่ลม ไอ้พี่ลมทำท่าตื่นๆแล้วยิ้มกลับมาที่ผมอีกรอบ

“พอเลย จะยิ้มอะไรนักหนา น่ารำคาญตา” น่านฟ้ายกมือขึ้นปิดหน้าผมก่อนจะยกนิ้วกลางส่งไปให้พี่ลมอีกรอบ หลังจากที่พี่ลมระแคะระคายหรือพอจะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้น่านมากขึ้นแล้ว มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาจีบผมหรือทำรุ่มร่ามกับผมเหมือนแต่ก่อน จะมีหยอดแกล้งๆบ้างเวลาที่ผมอยู่ไอ้น่าน พี่แกบอกว่าหมั่นไส้เวลาไอ้น่านหวง มันน่ารำคาญจนบางทีรู้สึกอยากจะแกล้งมากกว่า


“แล้วสรุปพวกพี่ไปกันหรือเปล่า”

“ไปดิ ไปกันหลายๆคนสนุกดี ได้เงินค่าฝึกงานมากันแล้วก็ใช้ให้มันคุ้มเว้ย” พี่ฉัตรเป็นคนพูดขึ้นมาในตอนท้าย ก่อนหลายๆคนจะพากันพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่พี่ฉัตรพูด

ผมเองก็เห็นด้วยนะ เงินที่ได้มานับรวมๆกันแล้วสองหมื่นกว่าๆด้วยซ้ำ แต่เมื่อทำงานมาหนักก็อยากจะใช้มันให้สมกับความเหนื่อยหน่อย

ใช่ ผมไม่เคยทำงานหาเงินมาก่อนในชีวิต จบจากการฝึกงานครั้งนี้ไปก็รู้และเข้าใจเลยว่าการหาเงินแต่ล่ะบาทมันยากมาก กว่าจะได้มาต้องแลกไปกับความอดทน แรงงาน แรงเหงื่อ ถ้าอยากได้เงินมากกว่านี้ก็ต้องเหนื่อยกว่านี้ มีความรู้กว่านี้ พวกที่กินตำแหน่งสูงๆในบรษัทเอกชนหลายที่ผมก็มองนะว่ากว่าเขาจะสบายหรือมีเงินเยอะใช้ได้ขนาดนั้นมันก็ต้องผ่านความลำบากสุดๆไปเหมือนกัน

สมัยนี้เงินมันสำคัญที่สุดแหละครับ ใครที่เคยบอกไว้ว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผมคนนึงแหละที่ยืนยันนอนยันตรงนี้เลยว่ามันสำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยความลำบากทั้งนั้น


พวกเราพูดคุยกันเรื่องเชียงคานกันได้ไม่นานพี่ชัยก็มาถึงที่บ้านก่อนจะพาเราไปนั่งที่ร้านบรรยากาศดีแถวริมโขงร้านหนึ่ง ภายในร้านเต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นนักศึกษาราชภัฏเต็มไปหมด ยอมรับนะครับเด็กหนองคายผิวขาว หุ่นอวบ เนื้อนมไข่กันเยอะมาก ผมว่าผมชอบแนวนี้มากกว่าพวกหุ่นผอมเซ็กซี่นะเวลาจับทีดูเต็มไม้เต็มมือมากกว่า

“มองอยู่นั่น” ผมเอียงคอมองน่านฟ้าที่วางแขนหนักๆไว้บนไหล่ ส่วนผมก็ยักคิ้วส่งกลับไปให้มัน “มองไปก็ไม่ได้หรอก เตี้ยๆอย่างมึงใครเขาอยากได้กัน”

“เรื่องแบบนี้มันไม่ผลในแนวราบไม่ใช่เหรอวะ”

“เหอะ” น่านฟ้าทำเสียงไม่พอใจขึ้นจมูกก่อนจะทำท่าจะดึงแขนตัวเองออกไหล่ผม แต่เป็นผมเองที่ดึงมือมันไว้ก่อน

“ขี้งอน” ผมใช้มืออีกข้างจิ้มแก้มคนที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วเอียงตัวเอนไปพิงที่อกมัน ผมไม่ได้อายคนอื่นหรอกครับถ้าเราจะนั่งกันท่าไหน เพราะที่ตรงนี้มีแต่คนที่ผมรู้จัก ส่วนคนที่ไม่รู้จักผมก็ไม่ได้แคร์อยู่แล้ว






เสียงหัวเราะกับบรรยากาศริมแม่น้ำโขงมันทำเอาความเหนื่อยที่พวกเราหลายคนสะสมไว้ให้พลอยหายไปได้บ้าง ดนตรีสดที่เล่นเพลงชิวๆในแบบที่พวกผมชอบทำให้บรรยากาศมันดีขึ้นเรื่อยๆจะมีบ่นบ้างก็พี่ป็อบที่อยากไปเพื่อชีวิตตะวันแดงสาดแสงเดือนที่เดิม ไม่ใช่ที่นั่นไม่ดีนะครับ แต่ผมชอบที่นี้มากกว่า






“มีความสุขว่ะ” น่านฟ้าเอ่ยขึ้นเสียงเบาที่พอจะได้ยินกันเพียงแค่ผมกับมัน “กูไม่อยากให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปเลย... กูอยากให้ทุกๆวันมันมีแค่นี้....แค่กูกับมึง”






มันพูดเสียงเบาแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น ผมยิ้มกับคำพูดไอ้น่านแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไปทั้งๆที่ตัวผมเองก็รู้สึกไม่ต่างจากมัน




>>>>>TBC<<<<<
ถามคนอ่านว่า “พร้อมหรือยัง”
อิอิ พร้อมสำหรับอะไรเอ่ย ฮ่า ฮ่า ต้มมาม่ารอแรงๆ ขอบคุณคนอ่านคนเม้นนะคร้า
สุขสันต์วันแรงงานจ้า เจอกันเร็วๆนี้
[/color]
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-04-2015 16:24:22
 :hao3:    จัดมาโลด  อยากให้ชัดเจนมันต้องกินมาม่าสินะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-04-2015 22:47:03
เตรียมตัวกินมาม่าชามโต
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 30-04-2015 22:47:43
ยังไม่อยากกินอาหารญี่ปุ่นตอนนี้ พลัดๆปก่อนดิ หวานนิดเดัยวเอง
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 30-04-2015 23:19:18
ตั้งน้ำร้อนรอแล้วค่ะ ขอแบบชามใหญ่ๆ เลยนะคะ จะได้รู้กันไปเลยว่าการจับปลา
สองมือน่ะ ทำได้ไม่นักนานหรอก.. :katai3:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 30-04-2015 23:22:36
อ่อยยยยยยยยย ทั้งคู่เลย ฮ่าๆๆๆ
ไม่อยากใหักลับไปสู่โลกแห่งความจริงเช่นกัน แต่คงเลี่ยงไม่ได้ซินะ
ค่อยๆแก้ไขกันไปทีละเรื่อง
เอาเรื่องแฟนน้องซนก่อนเลยดีมั้ย หุหุ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-04-2015 23:36:16
ล้างท้องรอ
โคตรอ่อยเลยค่ะ บอกตรงๆ
สงสารน่านฟ้ารอค่ะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 17 ความสุข [30-04-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 30-04-2015 23:49:55
ไม่กินมาม่านา แก๊สหมด เครื่องต้มน้ำร้อนระเบิด มาม่าขึ้นราคา :ling1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 05-05-2015 19:03:21
Because  of  you  ซน  ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน


ตอนนี้ผมกับแก๊งฝึกงานนับรวมชีวิตกัน 8 คนถ้วนกำลังนั่งรถทัวร์เพื่อไปเที่ยวเชียงคานกัน หลังจากที่เมื่อวานเมากลิ้งกันทั้งคืน กว่าจะได้ออกเดินทางก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง พี่ชัยยังทำหน้าที่สุดท้ายของการเป็นพี่เลี้ยงโดยการมาส่งพวกผมที่บขส.ก่อนจะจากลากันโดยที่ชาตินี้ผมตั้งปฏิญาณกับตัวเองไว้แน่วแน่แล้วว่าจะไม่เลือกสายพลังงานทดแทนเป็นอันขาด ถึงแม้งานสายนี้จะเต็มไปด้วยเงินเป็นกอบเป็นกำก็เถอะ


“หิวว่ะ” ผมบ่นกับไอ้น่านที่เอาแต่นั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ แปลกใจอยู่เหมือนขนาดนั่งรถทัวร์แบบนี้มันยังเล่นได้โดยที่ไม่รู้สึกเมารถสักนิด แต่ผมนี่ดิขนาดนั่งอยู่เฉยๆยังอยากจะอ้วก น่านฟ้าบอกว่าเพราะผมมองสองข้างทางมากเกินไปทำให้มึนหัว สุดท้ายก็เลยเอาหัวพิงบ่ามันแล้วเปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกหิว

“.....” มันไม่ตอบ อาจจะเพราะไม่ได้ยิน ผมเลยดึงหูฟังไอ้น่านออก มันเอียงคอหันมาเลิกคิ้วถามผมประมาณว่าอะไร

“หิว...”

“กูไม่ได้ซื้ออะไรติดกระเป๋าไว้เลยว่ะ มีแต่น้ำเปล่า”

“หิวอ่ะ” ตั้งแต่เที่ยงจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลย  ผมขยับเอาปากไปกัดที่บ่าไอ้น่านแรงๆหลายที มันยิ้มแล้วยกมือขึ้นขยี้หัวผม

“พวกมึงอีกนานไหมวะจะถึงอ่ะ” น่านฟ้าหันไปถามพวกพี่ๆคนอื่นที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“อีก 20 โลมั้ง ไมวะ” เป็นพี่ฉัตรที่ตอบกลับมา

“ซนมันหิวข้าว พวกมึงมีขนมปังหรืออะไรรองท้องหน่อยไหมอ่ะ” น่านฟ้ายังไม่ลืมที่จะถามคนอื่นว่าพอจะมีขนมปังหรืออะไรที่จะให้ผมกินรองท้องก่อนหรือเปล่า
 
“ขี้อ่อยเหรอเตี้ย เอาแต่ใจเหลือเกินนะมึงอ่ะ” ไอ้พี่แอลไม่พูดเปล่า มันตบหัวผมมาทีก่อนจะโยนขนมปังวางไว้บนตักผม ไม่ค่อยเข้าใจพี่แอลเท่าไหร่ ว่าทำไมมันชอบกวนตีนผมอยู่เรื่อย ไม่รู้น่านฟ้าทนคบกับไอ้คนนิสัยเสียอย่างไอ้พี่แอลได้ไง

“กินได้เปล่า ไม่มีไส้นะ” ไอ้น่านรับขนมปังจากมือพี่แอลมาแกะถุงพลาสติกออก ก่อนจะยื่นขนมปังมาจ่อที่ปากผม ส่วนผมก็ทำได้แค่มองขนมปังตรงหน้าแล้วเงยหน้ามองไอ้น่านอีกรอบ จริงๆผมไม่ใช่คนกินยากหรอกนะครับ แต่ผมไม่ชอบขนมปังที่ไม่มีไส้ มันไม่อร่อย ไม่มีรสชาติ

“ทำเป็นเบะปาก แดกไม่ได้ใช่ไหม ถ้าแดกไม่ได้ก็ไม่ต้องแดก” ไอ้พี่แอลทำท่าจะดึงขนมปังกลับไป แต่เป็นผมที่ยื้อขนมปังเอาไว้ได้ก่อน

“กินได้”

“แล้วก็มาทำหน้าทำตา” มันพูดด่าผมแล้วไม่ลืมที่จะตบหัวผมลงมาอีกที เกลียดมันจริงๆเลยครับ ถ้าคนแรกที่ผมอยากฆ่านะตอนนี้ผมยกตำแหน่งนี้ให้....

“มึงก็ไปแกล้งมันแอล คนเขาอยากอ่อยผัว มึงไม่รู้จักเหรอ คนอ่อยผัวอ่ะ ฮ่า ฮ่า” แน่นอนว่าคนแรกที่อยากฆ่าตอนนี้ยกตำแหน่งให้ไอ้พี่ป็อบแทนเลยล่ะกัน

“กูเกลียดเพื่อนมึงว่ะน่าน” ผมบ่นอุบอิบในลำคอ ดึงขนมปังในมือไอ้น่านมาถือไว้ แต่ก็ยังไม่อยากกิน กลัวกินแล้วไม่อร่อย อ้วกอีก

“มันก็แกล้งมึงไปงั้นแหละ จริงๆไอ้แอลมันออกจะชอบมึงด้วยซ้ำ” นี่คือคนที่ชอบเหรอวะ ผมว่ามันเกลียดผมมากกว่า  “แล้วนี่กินได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ก็ทนอีกหน่อย ใกล้ถึงแล้ว”

“ถ้าบอกว่าไม่ได้ล่ะ มึงจะทำไง”

“ก็ต้องทนไง” แล้วแม่งจะถามทำไม ผมส่ายหน้าให้คนนั่งข้างๆ ก่อนจะกลั้นใจกินขนมปังในมือจนหมด กินๆไปโดยไม่ต้องคิดถึงความอร่อยมันก็เพลินอยู่หรอกครับ






เวลาเกือบสามชั่วโมงจากหนองคายมาถึงที่บขส.เลย พี่ๆหลายคนหันมามองหน้าผมก่อนจะพูดจาหว่านล้อมบอกให้ผมไปกินข้าวที่เชียงคานเลยจะได้ไม่เสียเวลา ไอ้ผมจะพูดอะไรได้ก็ในเมื่อเป็นแค่คนส่วนน้อยนี่ครับ สุดท้ายก็ต้องเลยตามเลย


ออกจากบขส.เราก็มาต่อสองแถวเพื่อนั่งรถต่อไปเชียงคานอีก 40 กว่าโล พอถึงก็เดินหาที่พัก กว่าจะได้ก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็น ยังดีที่ได้ที่พักริมโขง มีแคร่ยื่นออกไปในน้ำเหมาะกับการกินเหล้าเมายาสุดๆ ห้องที่ผมนอนเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่กว้างมาก ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นผสมไทย ผมชอบที่นี้นะ ยิ่งพอเห็นเตียงแทบอยากจะกระโดดแล้วจมตัวเองลงกับที่นอนและหมอนหนุน แต่เพราะความหิวมันทำให้ตาลายมากจนไม่อยากจะล้มตัวลงไปนอนสุดท้ายก็เลยชวนน่านฟ้าออกมาหาก๋วยเตี๋ยวแถวนั้นกิน


"ป้าครับ เอาเล็กน้ำตกหมู สองครับ" ผมเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยวพร้อมกับเดินไปตักน้ำแข็งให้คุณชายที่เอาแต่บ่นว่าร้อน ทั้งๆที่ตอนนี้เลยเวลาเย็นมาก็เกือบจะชั่วโมงแล้ว "กินเสร็จแล้วค่อยกลับไปอาบน้ำ"

"คืนนี้มึงจะออกมากินเหล้ากับพวกไอ้แอลไหม" ผมส่ายหน้าให้มันเป็นคำตอบ ไม่ไหวครับ เหนื่อยนั่งรถ อยากนอนมากกว่า เดี๋ยวพรุ่งกะว่าจะขับจักรยานเล่นรอบริมโขงด้วย ได้ข่าวว่ามีจักรยานให้เช่า "แล้วมึงอ่ะจะออกมากินไหม"

"ไม่อ่ะอยากนอนกอดเมียมากกว่า"

"เชี่ยยย...กูไม่ชอบให้มึงพูดว่ากูเป็นเมียมึงเลยน่าน" ผมยกแก้วน้ำสีสแตนเลสขึ้นมาดูดกลบเกลื่อนความร้อนที่ใบหน้า ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด

"เอ้าไม่ให้พูดคำนี้แล้วจะให้พูดคำไหน สถานะมันก็ออกจะชี้ชัด"

"เลิกพูดเถอะกูขี้เกียจฟัง" ผมเปลี่ยนเรื่องทันทีที่มันทำสายตาเจ้าเล่ห์  ตัวผมไม่อยากเล่นทางนี้เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าผมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันขึ้นชก

“บรรยากาศที่นี้ดีว่ะ น่ามาเปิดร้านเหล้า”ผมพูดพลางมองออกไปนอกร้าน วันธรรมดาของที่นี้ไม่ได้คึกคักมากเท่าไหร่นัก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเดินกันประปราย พวกพี่แอลกับพี่ฉัตรแยกกันเดินเที่ยวคนล่ะทาง ส่วนพวกผมไม่ได้รีบร้อนอยากเดินตลาดคนเดินนักก็แวะมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวอย่างเห็น

“เราจะอยู่ที่นี้กันกี่วันอ่ะน่าน”

“น่าจะแค่สองคืน เพราะต้องไปเตรียมรับน้อง กับช่วยอาจารย์เตรียมห้องสอบให้เด็กโควต้ากับเด็กปวส.อ่ะ” ผมพยักหน้าเข้าใจ ก็ดีเหมือนกันนะครับ อยู่ที่นี้แค่สองคืน เพราะว่าผมเองก็เพิ่งรู้ก่อนจะมาถึงที่เชียงคาน ไอ้วีมันโทรมาหาผมบอกว่ามหาลัยไอ้น่านจะเปิดให้เด็กปวส.ซื้อใบสมัครได้ถึงวันศุกร์นี้เท่านั้น วันนี้วันจันทร์กลับวันพุธเที่ยงไปถึงกรุงเทพก็ตีซะว่าวันพฤหัส พักซักวันนึงแล้ววันศุกร์ค่อยไปซื้อใบสมัคร ถ้าไม่ทันจริงๆก็ให้ไอ้ซูไปสมัครแทนก็ได้ แต่คุ้นๆว่าเอกสารสมัครเรียนผมอยู่ที่บ้านไอ้น่านหรือเปล่าวะ

“ดีเหมือนกันเพราะเมื่อกี้ วีมันโทรมาบอกว่าที่มหาลัยมึงเขาเปิดรับเด็กปวส.ถึงแค่วันศุกร์นี้ ยังไงมึงพากูไปนะน่าน เอกสารสมัครเรียนกูอยู่บ้านมึงใช่ป่ะวะ” น่านฟ้าพยักหน้าก่อนจะพูดว่าใช่ ตอนแรกคิดว่าอีกอาทิตย์กว่ามหาลัยไอ้น่านจะเปิดรับสมัคร ที่ไหนได้รู้ตัวอีกทีแม่งก็จะปิดรับอยู่แล้ว ดีนะที่ไอ้วีโทรมาบอกไม่งั้นผมคงไม่ได้สมัครเรียนที่เดียวกับไอ้คนตรงหน้าแหงๆ

“มึงว่ากูจะทำข้อสอบได้ไหมวะ มาฝึกงานที่นี้เหมือนสิ่งที่มึงเคยติวให้กูมันหายไปกับความเหนื่อยหมดแล้วอ่ะ สมองกูตอนนี้มันเหมือนว่างเปล่าไม่มีสูตรเชี่ยอะไรอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ” ผมไม่แน่ใจว่าที่เคยติวกับน่านฟ้าไปจะยังจำได้หรือเปล่า กลัวเหมือนกันครับว่าตัวเองจะทำไม่ได้ถึงหลังจากยื่นใบสมัครยังเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนให้ทบทวน แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี

“ไม่รู้ว่ะ”

“หมายความว่าไงอ่ะ”

“ก็หมายความตามที่บอก คือไม่รู้ เพราะตั้งแต่กูติวหนังสือให้มึงมา กูดูไม่ออกว่าจริงๆแล้วมึงมันโง่หรือควายกันแน่” โอ้ยยย เชี่ยน่าน มึงด่ากูขนาดนี้เอาปืนมาจ่อยิงที่หัวกูดีกว่าไหม ผมเอื้อมมือสองข้างขยี้หัวน่านฟ้าอย่างหมั่นไส้ เกลียดความกวนตีนมันทั้งๆที่ปากยังยิ้มหล่ออยู่


เรานั่งกินนั่งคุยกันสักพัก ก็เดินกลับมายังโรงแรม ไอ้น่านโดนพี่แอลลากไปกินเหล้าส่วนผมก็ปฏิเสธเพราะง่วงมาก หนังท้องตึงหนังตาก็ทำงานเต็มที่ ตอนที่ผมหลับอยู่ได้ยินเสียงหัวเราะจากพวกไอ้น่านดังเข้ามาในห้องเป็นระยะๆ เสียงของพวกมันทำให้ผมตื่นขึ้นมาเป็นพักๆ แต่ไม่นานความอบอุ่นที่ถูกกอดด้านหลังก็ทำให้ผมหลับลึกจนไม่ได้ยินอะไรอีก


ชอบความรู้สึกนี้จังเลยครับ ไม่อยากให้มันหายไปไหน


อยากให้มันอยู่กับเราไปตลอด

 




เช้าวันต่อมาพวกผมและเหล่าคณะฝึกงานนั่งรถสองแถวขึ้นไปบนภูทอก (ค่ารถ 25 บาท) อากาศเย็นๆกับทะเลหมอกที่ไม่สามารถสัมผัสได้ถ้าอยู่กรุงเทพ ผมสูดความบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดก่อนจะหันไปมองน่านฟ้าที่ยังคงมีเห่อกล้องใหม่มือไม่ต่างจากวันแรกที่ซื้อ

“น่าน” ผมเรียกชื่อมันที่กำลังก้มดูรูปในกล้องให้เงยหน้าขึ้นมองกล้องหน้าผมแทน มันเอียงคอเอาหัววางบนไหล่ผมแล้วยิ้มจนตาหยี หลังจากที่ถ่ายไป 1 รูปถ้วน น่านฟ้าก็ก้มลงไปดูรูปต่อ  ส่วนผมก็ไม่ต่างจากมันเท่าไหร่ เพราะจะเข้าไปจัดไฟล์เอารูปที่ถ่ายเมื่อกี้ลงในอัลบั้มภาพที่ชื่อว่า N&Z

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมชอบถ่ายรูปมัน กลายเป็นว่าตอนนี้ในมือถือผมมีทั้งภาพนิ่งแล้วก็คลิปวีดีโอเกี่ยวกับมันเยอะแยะไปหมด ยิ่งหลังจากที่กลับมาจากหนองคาย รูปและคลิปของเราสองคนเยอะมาก จนผมต้องลบรูปอื่นออกไปหลายรูปเหมือนกัน

และที่สำคัญมันไม่ใช่แค่รูปปกติทั่วไปด้วย ยังมีรูปที่ผมถ่ายตอนที่มีอะไรกับมันเสร็จแล้วอีกเยอะเหมือนกัน ไม่ได้ถ่ายออกแนวคลิปหรือรูปโป๊อย่างที่หลายคนเข้าใจหรอกนะครับ เพราะรูปที่ผมถ่ายส่วนใหญ่มันจะเป็นรูปออกแนวอาร์ทๆโทนขาวดำ หรือไม่ก็สีซีเปียเสียมากกว่า หนึ่งในรูปที่ผมชอบก็มีรูปตอนที่มันคาบถุงยางไว้ในปาก รูปตอนที่มันหลับ หรือสูบบุหรี่ตรงปลายเตียง แต่ทั้งหมดทั้งมวลผมกลับชอบรูปๆนึงมากที่สุด รูปนั้นก็คือรูปที่มันกำลังจูบลงบนขาอ่อนด้านในของผม ในรูปเป็นสีขาวดำ มีผ้าห่มปิดส่วนสำคัญหมิ่นเหม่จะหลุดแต่ก็ไม่หลุด ไม่รู้ดิครับผมว่ามันอาร์ทดี เคยเอารูปนี้ตั้งเป็นพื้นหลังด้วย ไอ้น่านพอเห็นก็เอาไปตั้งบ้าง แต่ผมไม่ชอบตั้งเหมือนคนอื่นไง เลยเปลี่ยนรูปเป็นรูปไอ้เงินกับไอ้ทองแทน

แปลกดีเหมือนกันนะครับรู้ตัวอีกที อัลบั้มไอ้น่านก็มีมากกว่าอัลบั้มคนอื่นในมือถือ ขนาดน้องเอยผมยังมีไม่เยอะเท่ามันด้วยซ้ำ

“เสร็จจากนี้แล้วไปไหนต่ออ่ะ” เพราะเราขึ้นมาดูทะเลหมอกกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง จนตอนนี้พระอาทิตย์ดวงกลมกำลังลอยเด่นทำท่าจะขึ้นสู่ท้องฟ้า

“ไปปั่นจักรยานเล่น แถวริมแม่น้ำโขงมีของกินเยอะแยะอ่ะ เห็นไอ้ฉัตรบอกว่ามีร้านแนะนำอยู่หลายร้าน” ผมพยักหน้าหงึกแล้วส่งมือไปให้น่านฟ้าดึงฉุดให้ลุกขึ้นจากก้อนหิน เราลงมาอาบน้ำที่โรงแรมแล้วก็ปั่นจักรยานกินเที่ยวรอบๆเชียงคานกันจนเย็น กลับมาอาบน้ำแล้วหาร้านนั่งกินเหล้าในถนนคนเดิน เสียงหัวเราะ ดนตรีสด กับความรู้สึกมีความสุขจากไออุ่นของมือใครอีกคนที่จับกันอยู่ใต้โต๊ะ ความสุขตรงนี้ผมเองก็บรรยายมันไม่ถูก และไม่อยากให้มันหายไปเลยด้วย ยังอยากให้เวลาแบบนี้อยู่กับเราไปนานๆ


แต่ก็นั่นแหละครับ


สุดท้ายเราก็ตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริงตรงหน้าอยู่ดี









“พี่ซน”

“น้องเอย” ผมเม้มปากตัวเองจนเป็นขีด ความรู้สึกผิดมันถาโถมเข้ามาจนทำให้ตัวเองรู้สึกแย่จนผมรีบดึงมือที่อยู่ใต้โต๊ะให้คลายออก น่านฟ้ามองหน้าผมนิดนึง แต่มันก็ยังไม่ยอมปล่อย จนเป็นผมที่หันไปขมวดคิ้วใส่มันไอ้น่านก็เลิกคิ้วถามประมาณว่าทำไมมันต้องปล่อยมือผม

“น่าน กูจะลุกไปหาน้อง”

“แล้วกูล่ะซน...”

“มึงก็...นั่งกินเหล้ากับพวกพี่เขาไปดิวะ ปล่อย” ผมดึงมือตัวเองออกจากมือไอ้น่านก่อนจะลุกขึ้นเดินไปผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าร้านเหล้า

“คิดถึงพี่ซนอ่ะ ติดต่อก็ไม่ได้ ไม่อยากเชื่อว่าจะบังเอิญมาเจอกันที่นี้” น้องเอยยิ้มจนผมอดยิ้มตามไม่ได้ มือข้างนึงเอื้อมไปโคลงหัวน้องอย่างที่ทำเป็นประจำ

“แล้วนี่มากับใครคะ ทำไมมาเดินคนเดียวเนี่ย”

“เอยมากับเพื่อนค่ะ เพิ่งมาถึง แล้วนี่พี่ซนกลับวันไหนอ่ะ”

“พรุ่งนี้ค่ะ”

“เหรอคะ พี่ซน...กลับพร้อมเอยไหมคะ เอยกลับวันมะรืน” น้องเอยเอื้อมมือสองข้างมาจับที่แขนผมแล้วอ้อน

“แต่ว่า....”

“นะคะ กลับพร้อมเอยนะ แล้วคืนนี้พี่ซนย้ายมานอนกับเอยนะ นะคะ” เสียงอ้อนพร้อมกับริมฝีปากที่อมจนแก้มป่อง ผมเอามือข้างนึงจิ้มไปที่แก้มน้องแล้วตอบตกลง ไม่นานพวกเพื่อนๆน้องเอยก็เดินมาถึง น้องเอยบอกว่าจะไปจัดการเรื่องห้องแล้วบอกให้ผมโทรหาถ้าเก็บกระเป๋าเสร็จ ทุกอย่างดูเร็วมาก แต่ผมก็ตัดสินใจไปแล้ว

“ใครวะซน น่ารักโคตร” พี่ฉัตรเอ่ยแซวผมตอนที่ผมเดินกลับมานั่งที่

“แฟนผมพี่”

“ห้ะแฟน???~ อะไรวะ แล้วไอ้น่านอ่ะ” พี่ลมถาม แต่ผมไม่ตอบ เพราะตอนนี้กำลังมองไอ้คนที่กำลัง ยกแก้วเหล้าซดแล้วซดอีกอยู่ตรงหน้า

“น่าน...คือว่า....คืนนี้กูจะไปนอนกับน้องเอยนะ” ผมไม่อยากพูดอ้อมค้อม ไหนๆก็ต้องไปอยู่แล้วพูดตรงๆไปเลยน่าจะง่ายกว่า “แล้วก็ขากลับกูว่าจะกลับพร้อมน้องเลย พรุ่งนี้มึงก็กลับไปก่อน ยังไงถ้าสมมติว่ากูไปไม่ทันสมัครเรียน มึงสมัครให้กูแทนเลยนะน่าน นะ” ผมสอดมือเข้าไปใต้โต๊ะ ก่อนจะวางมันบนขาไอ้น่าน ลูบไปมาเป็นเชิงอ้อน

“นะ..”

“หึกูจะห้ามอะไรได้ว่ะ...” น่านฟ้าลุกขึ้นหยิบกระเป๋าตังค์แล้วจ่ายในส่วนที่เป็นของผมกับของมัน “กูกลับห้องก่อน เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้เช้า”

“เฮ้ย!!มึงจะไปไหน นั่งกินกันก่อนดิ๊วะ เหล้ายังเหลืออีกบานเลย”

“ไม่เป็นไรถ้าเหลือก็เก็บเอาไว้กิน เพราะกูไม่ว่างว่ะต้องไปเปิดห้องให้บางคนกลับไปเก็บของ...ใช่ไหม” ผมพยักหน้าให้ไอ้น่านแล้วเดินตามมันออกมาไม่ลืมที่จะหันไปยกมือไหว้พี่ๆที่เหลือที่นั่งอยู่บนโต๊ะ

“พี่ๆครับ ถ้ายังไงเราไปเจอกันที่กรุงเทพนะ พี่ลมพี่ฉัตรพี่สิงห์เอาไว้เดี๋ยวเจอกันนะพี่ หวัดดีครับ” ผมบอกพี่คนอื่นรอบโต๊ะแล้วเดินกลับที่พักพร้อมกับน่านฟ้า ไม่มีเสียงอะไรหลุดออกจากปากมัน มีแค่ควันสีขาวที่ถูกพ่นออกจากปากพร้อมกับแผ่นหลังที่เดินนำหน้าผมเท่านั้น โดยปกติถ้ามันรู้ว่าผมเดินมาด้วย น่านฟ้ามันจะลดฝีเท้าให้ผมสามารถเดินเคียงคู่กับมันได้ แต่คราวนี้...มันกลับไม่ยอมรอผมสักนิด สุดท้ายผมเลยวิ่งไปเดินข้างๆมันก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่ปลายนิ้วคนข้างๆ บีบเบาๆให้มันรู้ว่าผมเดินมาด้วย

“น่าน...มึงเข้าใจกูใช่เปล่า” จนเดินมาถึงห้องผมถึงเอ่ยปากพูดกับมัน เพราะผมไม่อยากพูดกับมันตอนที่อารมณ์มันกำลังขึ้น

“กูเข้าใจ...”

“ถ้าเข้าใจก็อย่าทำหน้าแบบนี้ดิวะ มันทำให้กูรู้สึกไม่สบายใจรู้เปล่า” ผมชอบรอยยิ้มของมันมากกว่าแววตาเศร้าๆของมันแบบนี้


“กูเข้าใจ...เข้าใจแล้วว่าที่มึงรบเร้าจะมาเชียงคานให้ได้เพราะอะไร หึ...มึงว่ากูโง่ป่ะ” น่านฟ้าหันมาถามผมพร้อมกับรอยยิ้มที่ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นยิ้มสักนิด

“น่าน...มันไม่ใช่อย่างที่มึงเข้าใจ กูไม่ได้นัดกับน้องเขา มันเป็นเรื่องบังเอิญ”

“บังเอิญ!! มึงพูดคำนี้ออกมาได้ไงวะซน มันไม่มีหรอกเว้ยเรื่องบังเอิญในโลกนี้อ่ะ มันมีแต่ในละครเท่านั้นแหละ กูไม่เข้าใจว่าทำไมมึงต้องโกหกกูเพื่อเขาขนาดนี้ด้วย....” เสียงเป่าปากดังขึ้นเบาๆพร้อมกับมือน่านฟ้าที่ดึงมือผมออก มันเดินไปหยุดตรงโต๊ะหน้าห้องที่มีวิวบรรยากาศของริมโขง ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกมวน ลมเย็นประทะหน้าเราไม่ได้ช่วยให้ความร้อนภายในใจเราลดลงสักนิด

“มึงกำลังเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว...”

“พอเถอะว่ะ กูไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เพราะมันฟังไม่ขึ้นว่ะซน สุดท้ายยังไงสิ่งหนึ่งที่กูรู้ตอนนี้ คือยังไงมึงก็เลือกเขามากกว่ากู เพราะกูมันก็แค่คนอื่น...ในสายตามึงอยู่ดี ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ” ผมไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกโกรธอะไรตอนนี้ ในใจตอนนี้มันคุกกรุ่นจนจะระเบิดออกมาเสียตอนนี้ ผมไม่เข้าใจคนตรงหน้าเท่าไหร่ทั้งๆที่ผมพยายามอธิบายให้มันฟัง ให้มันเข้าใจว่าเรื่องราวมันเป็นแบบไหน แต่สุดท้ายน่านฟ้ามันก็ไม่เคยเข้าใจ และก็วกเข้าเรื่องเดิมๆ




เรื่องที่มันเองก็น่าจะรู้ว่าตัวมันควรจะอยู่ที่ตรงไหน















 
“ถ้ารู้ตัวก็ดีแล้ว.... มึงก็รู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายคนที่กูเลือกยังไงก็จะเป็นน้องเขา...ไม่ใช่มึง...” ผมพูดออกไปทั้งๆที่ในใจลึกๆผมยังไม่แน่ใจกับคำนั้นด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังโมโห อยากเอาชนะคนตรงหน้า อยากให้น่านฟ้ารู้ว่ามันไม่มีสิทธิ์ตัดพ้อให้ผมเลือก เพราะสุดท้ายคนที่ผมเลือกก็จะเป็นน้องเอย






 
“ไอ้ความสัมพันธ์ของเราที่มันเดินต่อมาแบบนี้ ไม่ใช่ก็เพราะมึงเป็นคนรั้งไว้เหรอวะ...คนที่ตะโกนใส่หน้ากูว่าไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบมันเป็นมึงไม่ใช่เหรอ แล้วมึงจะมาเรียกร้องในสิทธิ์ที่มึงไม่ควรจะได้ทำไมวะน่าน....”




“..........”





“มึงเลือกที่จะอยู่ข้างกูเงียบๆเองไม่ใช่เหรอน่าน ไม่ใช่มึงเหรอที่เป็นคนเลือก....”






“...........”






“ช่างเถอะ...เปิดประตูให้กูหน่อย กูจะเข้าไปเก็บเสื้อผ้า” น่านฟ้าไม่ได้เดินมาเปิดประตูให้ผม แต่มันโยนกุญแจไว้บนโต๊ะหน้าห้อง ให้ผมเดินเข้าไปหยิบแล้วไขกุญแจเข้าห้องเอง ผมใช้เวลาไม่นานในการเก็บของใช้ส่วนตัวเข้ากระเป๋า ตอนที่เดินออกมาจากห้องพักผมเห็นไอ้น่านนั่งยองๆพิงอยู่ข้างประตูห้อง ผมมองมันแว่บนึงก่อนจะปิดประตูแล้วยื่นกุญแจห้องกลับคืนไปให้มัน
 



 
ทั้งผมและมันต่างคนก็ต่างไม่มีใครเริ่มต้นเปิดปากพูดออกมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นว่าความเงียบดันเป็นเสียงที่น่าอึดอัดที่สุด





"น่าน" ผมเรียกชื่อมันเพื่อดึงสติบอกให้คนที่นั่งอยู่กับพื้นรับกุญแจไป แต่แทนที่น่านฟ้าจะดึงกุญแจมันกลับคว้ามือผมแล้วกระตุกให้นั่งลงตรงหน้ามัน
 
 
 
 
 
 
“ซน...” เสียงเรียกชื่อผมมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตัวผมเองก็อดรู้สึกหดหู่ น่านฟ้าไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหน้าผม แต่แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่ามันคงรู้สึกเจ็บไม่น้อยกับคำพูดที่ผมเพิ่งพูดกับมันก่อนหน้านี้ “กู.เคยมีค่ากับมึงบ้างหรือเปล่าวะ.....ที่มึงเคยบอกว่ากูสำคัญกับมึงมันจริงแค่ไหนกัน.....”
 
 
 








 
“น่าน...” ผมเอื้อมมือไปจับแก้มน่านฟ้า ใช้นิ้วโป้งลูบเบาๆที่ริมฝีปาก ก่อนจะกดจูบลงไปอีกครั้ง “กลับไปกรุงเทพแล้วค่อยคุยกันนะ”









ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันถูกไหม กับการเดินออกมาโดยไม่พูดอะไรมากไปกว่าเมื่อกี้ เพราะผมคิดว่าการปล่อยให้น่านฟ้าสงบสติอารมณ์แล้วคิดทบทวนกับตัวเองก่อนมันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด










แต่สิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนคือการที่ผมปล่อยมันไปคิดทบทวนเรื่องของผมกับมันแบบนั้น




จะกลายเป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตผม



>>>>>>>~TBC~<<<<<<<
เพลง ฉันมีค่าแค่ไหน เพราะนะ เปิดเลย  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
น้องซนนี่ก็เหลือเกิน ไม่รู้จะพูดยังไง เอาเป็นว่า
เราทุกคนจะเป็นกำลังใจพี่น่าน.....(เติมคำในช่องว่าง).......ใช่ไหมคะ  :hao7:
ขอบคุณคนเม้นคนอ่านนะคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหน บอกด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-05-2015 19:21:11
ซนพลาดตั้งแต่ไม่ปฏิเสธน้องเอยแล้ว. มากับใครก็ต้องกลับกับคนนั้นสิ นี่เป็นเรื่องที่เด็กน้อยอย่างซนไม่เข้าใจ
 :katai1:

คนเขียนจะดราม่าคู่หลักจริงๆเหรอ. สงสารพี่น่านนะ แลดูเป็นของเล่น เป็นเบ๊. เป็นอะไรก็ไม่รู้. ฮืออ

ซนน่าถีบมาก แกจะเก็บน้องเอยไว้เพื่ออะไรเป็นเกย์ก็ยอมรับดิ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 05-05-2015 19:21:33
เศร้าอ่ะ​  :hao5:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-05-2015 19:33:08
อ้างถึง
เรื่องที่มันเองก็น่าจะรู้ว่าตัวมันควรจะอยู่ที่ตรงไหน

ขอโทษนะ   เลวค่ะ  ไม่ว่าจะกับฝ่ายไหน

คนเราไงก็ต้องเลือก  ซนเลือกเอยก็โอเคค่ะ แต่คุณก็ต้องอยู่กับผลของการตัดสินใจของคุณด้วย

เราไม่ชอบมาม่านะ  ไม่ชอบแบด-แซดเอนดิ้ง  แต่กรณีนี้อยากให้น่านตัดใจไปจากซน เจ็บขนาดนี้แล้วจะทนเจ็บไปทำไมอีกกับคนที่ไม่เห็นค่าของตัวเอง  น่านเป็นคนที่ไม่ใช่ว่าด้อยกว่าคนอื่นเชื่อว่าคนที่เห็นคุณค่าของน่านยังมีอีกเยอะ  ตัดให้ขาดไปเลย

ตราบใดที่ซนไม่เห็นค่าของน่านและไม่ทำตัวให้ทีค่าพอที่น่านจะหันกลับมาหาก็ไม่เชียร์ค่ะ 

ป.ล ถ้าเราเป็นเอยนะ ถ้ารู้เรื่องน่าน-ซนก็ไม่เอาซนหรอกค่ะ  นางนอกใจแถมผู้ชายด้วย ผัวเราเป็นเมียคนอื่นเขาหรือ?
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 05-05-2015 20:20:46
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-05-2015 20:30:33
เฮ้อ~ หลังจากวันนี้ไปไม่ว่าผลจะเป็นยังไงซนก็ต้องรับให้ได้นั่นล่ะค่ะ เพราะซนเลือกที่จะไปกับน้องเอยเอง ให้ได้รู้เสียบ้างว่าพี่น่านก็ไม่ใช่ของตายที่จะต้องคอยให้ซนมาหาในเวลาที่ไม่มีน้องเอยหรอกนา.. ปากบอกไม่อยากให้พี่น่านหวังลมๆ แล้งๆ แต่การกระทำบางอย่างของซนมันก็เชิญชวนให้คิดเหลือเกินไงคะ ..คนที่มีใจปฏิพัทธ์อย่างพี่น่านก็ต้องวาดฝันไปไกลอยู่แล้วล่ะค่ะ ไม่แปลกเลย~

เจ็บจากวันนี้ให้พอไปเลยนะคะพี่น่าน แล้วพรุ่งนี้ค่อยลุกขึ้นยืนใหม่ คนนี้เขาไม่มีใจก็ปล่อยเขาไปค่ะ หันกลับมารักตัวเองบ้างดีกว่าเนอะ เพราะเรารู้สึกว่าพี่น่านละเลยตัวเองมานานเกินไปแล้วล่ะ สู้ๆ เข้านะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 05-05-2015 20:32:33
เราว่าน่านถอยออกมาดีกว่า เอาความจริงน่านก็มาทีหลัง
แล้วซนมันก็มีแฟนแล้ว จะคบซ้อนหรอ เรื่องนี้ซนผิดเต็มๆ
น่านก็ผิดที่ไปยุ่งกับคนของคนอื่น เราสงสารเอยนะ
ถ้าซนยังตัดเอยไม่ได้บอกน่านตรงๆก็ดีแล้ว
ไม่รู้ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง แต่ขอจบแบบแฮปปี้นะคะ

คนเขียนสู้ๆค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 05-05-2015 21:23:53
โอย สงสารๆๆๆๆ น่านมากกก(ร้องไห้แปป)
ทำไมซนทำแบบนี้อ่ะ ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดไปเลย
จะเลือกเอยก็เลือกสิ ให้น่านตัดใจไปเลย สงสารน่านมาก
จะร้องไห้ ดราม่าเริ่มมาเรื่อยๆ กลัวจะจบแบบแซดเอนดิ้งจังเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Lovelyjess ที่ 05-05-2015 23:31:42
อ่านทันแบบรวดเดียวจบ ตามมาจากนิยายแนะนำ
ซนจะรู้ใจตัวเองเมื่อตอนไม่มีน่านว่ารู้สึกยังไง.
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 06-05-2015 07:13:26
 :monkeysad: น่าน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 06-05-2015 22:51:05
 :katai1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Misakiiz ที่ 07-05-2015 12:28:08
จะฟินแต่ก็ฟินไม่สุุดอ่ะ ถ้าความรักของสองคนนี้ยังมีอุปสรรคที่ชื่อน้องเอยอยู่!


หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 18 มีค่าแค่ไหน [05-05-15:::P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 08-05-2015 07:21:56
ยังไง น่านจะตัดสินใจยังไง จบหรือจะต่อ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 08-05-2015 17:31:07
ตอนที่ 18 เพิ่งอัพไปวันที่ 5/05/15

Because of you ซน ตอนที่ 19  without you

เสียงพูดคุยกันของน้องเอยกับเพื่อนๆไม่ได้ดึงความสนใจจากผมไปได้เลย สายตาผมมองออกไปตามถนนที่กำลังวิ่งเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพ แปลกใจนิดหน่อยที่น้องเอยนั่งรถทัวร์กันมา แต่ปากก็ไม่ได้เอ่ยถามเพราะความรู้สึกที่ยังคั่งค้างตั้งแต่สองคืนก่อนยังติดเป็นตะกอนไม่หลุดออกไปจากความคิดสักที



สามวันกับอีกสองคืนที่ผมไม่ได้รับการติดต่อจากช่องทางใดๆของไอ้น่านเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไง ผมรู้นะครับว่าผมผิดที่ไปพูดจาตอกย้ำมันแบบนั้น แต่ผมก็แค่อยากให้มันรู้ตัวเองบ้างว่าจริงๆแล้วฐานะมันที่ควรจะอยู่ข้างๆผมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือทำตัวเป็นเจ้าของเหมือนอย่างคืนนั้น

ผมเข้าใจนะครับว่าความสัมพันธ์ของเราอาจจะทำให้ความรู้สึกของมันเกินเลยจากขอบเขตที่กำหนดไว้ แต่ก็นั่นแหละความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ เรื่องนั้นผมเข้าใจ ดังนั้นผมจึงเพียรบอกกับมันตลอดว่าสิ่งที่ผมต้องการจากมันไม่ใช่ความชัดเจน ไม่ต้องการคำพูดที่บอกว่ารู้สึกยังไง ผมต้องการแค่คลุมเคลือ อยู่กันแบบนี้ ข้างๆกันแบบนี้มันทำไม่ได้หรือไงวะ ทั้งๆที่ตอนแรกก็พูดเองว่าทำได้ แต่ไม่รู้คืนนั้นมันเป็นบ้าอะไรถึงดื้อดึงตัดพ้อ ไร้สาระอยู่นั่น สุดท้ายก็ทำร้ายจิตใจมันทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่อยากพูดคำนั้นออกไปสักนิด

“พี่ซน...”

“.......” ไม่รู้แม่งป่านนี้เป็นยังไงบ้าง

“พี่ซนคะ” เสียงเรียกของน้องเอยทำให้ผมหันหน้ามามองน้องเขาแล้วเลิกคิ้วถามว่ามีอะไรหรือเปล่า “พี่ซนทำหน้าแปลกๆมาสองวันแล้วอ่ะ มีอะไรไม่สบายใจไหมคะ”

“อ้อ...”

“ห้ามบอกว่าเปล่านะคะเพราะหน้าพี่ซนไม่ได้หมายความว่าเปล่าสักนิด” น้องเอยคบกับผมมานานมากพอจนทำให้เรารู้นิสัยบางส่วนของกันและกัน ผมยิ้มแล้วโคลงหัวน้องเขาเบาๆเป็นเชิงหยอก

“พี่เครียดเรื่องจะสอบเข้ามหาลัยนี่แหละค่ะ คนติวพี่เขาโกรธพี่เรื่องไร้สาระไม่รู้เป็นบ้าอะไร”

“พี่น่าน???” ผมพยักหน้าบอกว่าใช่คนนั้นแหละ คนที่เอาแต่ใจและก็ชอบเอาใจคนอื่น

“ก็ง้อสิคะ พี่น่านดูสนิทกับพี่ซนดีออก หล่อด้วย” น้องเอยทำหน้าเคลิ้มจนผมอดเบ้ปากไม่ได้

“จะนอกใจพี่??”

“ก็หล่อจนเอยอยากนอกใจนี่คะ” น้องเอยยิ้มแล้วเอามือจับแก้มตัวเองทั้งสองข้าง แต่พอเห็นผมทำหน้าบูดน้องเขาก็หัวเราะออกมา “เอยล้อเล่นค่ะ อย่างอนเลยนะคะ”

ผมพยักหน้าแล้วชวนน้องเอยคุยเรื่องอื่น แต่หลังจากคุยกันได้สักพักน้องเอยก็โดนเพื่อนๆเรียกให้หันไปพูดคุยเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่อื่นต่อ ส่วนผมก็จมอยู่กับตัวเองและมือถือที่เช็คเข้าไปในไลน์รอบแล้วรอบเล่า



เอาวะ ลองง้อมันดูก่อนล่ะกัน



ผมกดเข้าไปในไลน์ที่คุยกับน่าน ไม่บ่อยนักหรอกครับที่ผมจะเป็นคนติดต่อไปหามันก่อน แต่คราวนี้คงต้องติดต่อแล้วแหละไม่อยากให้เรื่องราวมันบานปลายไปมากกว่านี้ กลัวว่ามันจะคิดมากด้วย



ผมเลือกที่จะส่งสติ๊กเกอร์ไปหามันก่อน รอสักพักน่านฟ้าก็อ่านแต่มันก็ยังไม่ตอบอะไรกลับมาผมเลนส่งสติ๊กเกอร์ไปหามันอีกที น่านฟ้าอ่านแล้วถามกลับมาว่ามีอะไรหรือเปล่า เห็นมันเป็นปกติอย่างนี้แสดงว่ามันน่าจะหายดีแล้วมั้ง ผมถึงกล้าไลน์ไปถามมันเรื่องอื่น


‘น่านได้ไปซื้อสมัครสอบเรียนต่อมหาลัยให้กูเปล่า’

‘อืม ไปซื้อมาให้แล้ว’

‘เยี่ยม ยังไงคืนนี้เดี๋ยวกูไปหาที่บ้าน จะเข้าไปเอาใบสมัครนะ เย็นนี้กินไรดีอ่ะ กูคงไม่ได้ไปกินข้าวกับพวกน้องเอย เหนื่อยมากเลยมึง เมื่อยตัวสุดๆอ่ะ’

ผมถามมันเรื่องข้าวเย็น แล้วก็บ่นเป็นปกติที่ชอบบ่นให้น่านฟ้าฟัง ซึ่งถ้าปกติแล้วมันจะต้องตอบกลับมาพร้อมสติ๊กเกอร์รูปจังไรมาสักรูป แต่ผลที่ได้คือความเงียบจนเป็นผมเองที่ต้องไลน์ถามมันอีกรอบ

‘น่าน’

‘???’

‘เป็นไรอ่า ไม่สบายเหรอ’

‘เปล่า สบายดี เอางี้ล่ะกันมึงไม่ต้องมาหากูหรอกซนเดี๋ยวกูเอาใบสมัครไปให้ที่บ้านนะ’

‘อ้อ งั้นก็ดีเลย มึงนี่มันน่ารัก จะมารับกูใช่ป่ะล่ะ คิดถึงเงินกับทองเนอะ มึงยังไม่ได้เอามันกลับไปบ้านใช่เปล่า’

‘ยังไม่ได้เอามา’

‘ดีๆ งั้นมาจะมากินข้าวที่บ้านล่ะกันเนอะจะได้บอกม๊าให้เตรียมให้เผื่อ มึงอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม’

‘เอาไว้เดี๋ยวค่อยคุยกันนะซน พอดีกูยุ่งๆว่ะ’

‘อา โอเค ค่อยคุยกันก็ได้’ ผมส่งสติ๊กเกอร์คำว่าโอเคกลับไปให้มัน แล้วหลุดยิ้มออกมา ถึงมันจะดูเนือยๆไม่อยากคุยแต่มันก็คุยกับผมแสดงว่าตอนนี้น่านฟ้าน่าจะโอเคขึ้น คงรู้สึกเหนื่อยจากการฝึกงานล่ะมั้ง ได้พักแค่ไม่กี่วันเอง



ผมกับน้องเอยมาถึงกรุงเทพกันเกือบบ่าย เพื่อนๆน้องเอยกับผมแยกย้ายกันกลับบ้านโดยที่ผมเป็นคนนั่งรถแท๊กซี่ไปส่งน้องเอยก่อนแล้วค่อยหอบสังขารกลับบ้านตัวเอง

“พี่ซนดำขึ้นหรือเปล่า” คำแรกที่เดินเข้ามาในบ้านแล้วถูกคนที่รักที่สุดทัก ผมชะงักแล้วก้มมองตัวเองนิดนึงก่อนวิ่งปรี่ไปหาคนที่ทักเมื่อกี้

“จริงดิม๊า เท่เปล่า ดูแมนขึ้นเลยดิ นี่ๆกล้ามพี่ซนขึ้นเป็นลูกเลยๆนะ” ผมหยักคิ้วข้างนึงส่งไปให้ม๊า หอมแก้มคนตัวอวบไปที ป๊าเห็นเข้าก็เบ้ปากแรงใส่บอกว่าที่ผ่านมึงไม่แมนสินะ

“ไม่แมนอะไรเล่าป๊า นี่เขาเรียกแมนขึ้น หล่อขึ้น เห็นเปล่า” ผมพูดเสร็จก็นั่งลงกับพื้นก่อนจะนอนแผ่หราอยู่กลางบ้าน พวกไอ้เงินไอ้ทองคงได้กลิ่นวิ่งเห่าหอนมาแต่ไกล พอเขามาดมๆตัวผมเสร็จมันก็จามกันคนล่ะทีสองทีแล้ววิ่งไปเล่นกับอิแสนดีต่อ ขนาดผมเรียกมันตั้งหลายรอบมันยังหยิ่งไม่มา นิสัยชักจะเหมือนอิแสนดีมากไปแล้วนะมึงสองตัวเนี่ย “ม๊าดูดิ อิแสนดีมันทำให้ไอ้เงินไอ้ทองหยิ่งใส่พี่ซนอ่ะ”

“ไปโทษแมว ไม่โทษตัวเองบ้าง ตัวเหม็นอย่างกับอะไรดี”

“ม๊า พี่ซนจะตัวเหม็นได้ไงก็เมื่อกี้มายังหอมพี่ซนอยู่เลย”

“ม๊าก็หอมไปงั้นแหละ” ผมอมลมในแก้มจนป่องแล้วลุกขึ้นเดินไปหาม๊าให้หอมอีกรอบ ม๊าทำหน้าขยะแขยงแต่จนแล้วจนรอดก็ก้มลงมาหอมผมอยู่ดี ผมนั่งคุยเล่นกับป๊าม๊าจนรู้สึกหายเหนื่อย พูดคุยเรื่องที่ฝึกงานว่าตัวเองลำบากแค่ไหน โม้แหลกครับบอกว่าลำบากยิ่งกว่าพวกฝึกรด.นั่นนี่นู่น แต่เพราะโม้มากเลยได้คำชมจากม๊าและความหมั่นไส้จากป๊ามาเป็นของรางวัล ส่วนไอ้เงินไอ้ทองก็เหมือนจะรู้ว่าผมโกรธมันถึงวิ่งมาคลอเคลียทั้งๆที่เมื่อกี้เรียกตั้งนานก็ไม่ยอมมาหา “นิสัยเสียนะพวกมึงเนี่ย ติดนิสัยแสนดีมาสินะ ไม่ต้องมาอ้อนเลย”

ผมตบหัวลูกชายสองตัวไปคนทีก่อนจะอุ้มไอ้สองตัวนั้นขึ้นห้อง ตอนที่ผ่านไอ้ซูเห็นมันกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่หลังบ้าน พอตะโกนถามมันก็บอกอย่ายุ่ง ได้กลิ่นหอมๆเหมือนกำลังอบเค้ก ไม่บ่อยหรอกครับที่ไอ้ซูมันจะบ้าลุกขึ้นมาทำอาหารหรือขนม และก็คิดว่าไอ้เค้กหรือขนมที่มันกำลังทำอยู่ไม่ได้หลุดมาถึงปากผมแหงๆ

“ไงเงินทองคิดถึงกูล่ะสิ” ผมอุ้มมันสองตัวไปวางไว้บนเตียง แล้วเดินมาเปิดแอร์แต่แอร์มันเป็นไรไม่รู้เสียงดังกึกกักเหมือนจะมีปัญหาสงสัยจะแย่ว่ะ “ม๊า แอร์ที่ห้องพี่ซนเป็นอะไรอ่ะ”

“จะรู้ไหม ห้องนั้นพี่ซนใช้คนเดียว”

“อ่าว??” ผมลองเปิดอีกทีมันก็ยังไม่ติด น่าจะเป็นเพราะว่าไม่ได้อยู่ห้องนานแล้วก่อนหน้านี้ก็อยู่กับน่านฟ้าตลอดด้วย “ม๊าเรียกช่างให้พี่ซนด้วยนะ ร้อนแบบนี้พี่ซนอยู่ไม่ได้จริงๆด้วย”

ผมงอแงตะโกนบอกม๊าได้ยินแกตะโกนกลับมาว่าจะเรียกช่างมาดูให้แต่คงจะเป็นวันพรุ่งนี้ไม่ก็มะรืน ผมลากพัดลมมาเปิดแล้วส่งข้อความไปอ้อนไอ้น่านให้มันมารับตอนนี้เลย อยู่ไม่ได้แน่ๆร้อนแบบนี้

‘น่านฟ้ามารับกูตอนนี้เลยได้เปล่า กูร้อนมากเลย ที่ห้องแอร์เสียด้วยT^T’

ผมนอนรอโทรศัพท์น่านฟ้าอยู่นานมาก แต่ผลที่ได้คือความเงียบ มันไม่อ่าน ไม่ตอบ ปกติไอโฟนไอ้น่านก็ตั้งให้มันเด้งหน้าวอลล์นะถ้าไม่ได้เล่น



‘มารับเร็วๆนะ’



ผมคิดว่าน่านฟ้าคงยุ่งเลยไม่ได้หยิบมือถือติดมือไปด้วย ไอ้เงินไอ้ทองมุดตัวลงนอนอยู่ข้างๆผม พัดลมตั้งโต๊ะช่วยทำให้ผมกับหมาอีกสองตัวคลายความร้อนไปได้บ้าง “มึงสองตัวคงอยากเจอไอ้น่านเร็วๆสินะ ก็มันตามใจมึงมากกว่ากูขนาดนั้น เดี๋ยวสักพักมันก็คงมารับเราแล้วแหละ ไม่ต้องทนร้อนแล้วเนอะ”


ผมพูดพึมพำกับหมาสองตัวพร้อมยกมือขึ้นลูบหัวมัน ความรู้สึกนี้มันอึดอัดนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่สังเกตว่าน่านฟ้ามันแปลกไปแค่ไหน ไม่โทรมา ไม่ไลน์ตอบ ไม่แสดงท่าทีว่าห่วงหรืออะไรทั้งนั้น แต่ผมเองก็ไม่อยากจะคิดมากเพราะยังไงเย็นนี้มันบอกว่าจะมาหา มันก็ต้องมาแหละ




ผมตื่นขึ้นมาอีกทีประมาณทุ่มกว่า ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นสองแสบอยู่บนเตียงแล้ว พอมองไปที่มือถือที่วางอยู่ใกล้ๆเห็นไฟกระพริบบอกว่ามีสายไม่ได้รับโทรเข้ามา ตอนที่กำลังจะเปิดดูรู้เลยว่าตัวเองใจเต้นแค่ไหน แล้วยิ่งเห็นชื่อของคนที่รออยู่ว่าใครโทรเข้ามาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้


กว่าจะโทรมา แม่งให้กูรอเป็นชาติ


“ฮัลโหล มึงอยู่ไหนเนี่ย” ผมกดโทรศัพท์หาไอ้น่านแล้ววิ่งลงมาข้างล่าง ไม่มีคนอยู่เห็นแต่โน๊ตที่ม๊าแปะไว้ว่าจะออกไปงานเลี้ยงข้างนอกกว่าจะกลับก็คงค่ำ ส่วนไอ้ซูก็ไม่อยู่บ้านตามเดิม

(อยู่หน้าบ้านมึงอ่ะ จอดรถอยู่ข้างนอก)

“กูยังไม่ได้เตรียมตัวเลยมึงเข้ามาในบ้านก่อนนะ กินไรดีอ่ะ ม๊าไม่ได้ทำอะไรไว้ให้เลย เงินทองอย่าดื้อพ่อมึงมาแล้วไม่ต้องมาแหย่เลย ได้กลิ่นมันอ่ะดิดีใจใหญ่เลยนะมึงอ่ะ” ประโยคแรกผมพูดกับคนในโทรศัพท์ แต่ประโยคถัดมาผมพูดกับหมาสองตัวที่เห่าอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน ผมเดินมาเปิดประตูบ้านไอ้เงินกับไอ้ทองวิ่งหน้าตั้งไปที่รั้วทันที ผมโบกมือแล้วยักคิ้วให้มันนิดหน่อย น่านฟ้าเดินเข้ามาที่สนามหน้าบ้านก่อนจะนั่งลงตรงม้าหินอ่อนหยุดเล่นกับไอ้สองตัวแสบที่ดีใจจนออกนอกหน้า

ผมใส่แตะแล้วเดินออกมานั่งตรงม้าหินอ่อนที่มันกำลังนั่งอยู่

“หน้ามึงเหมือนคนไม่ได้นอน ตาบวมชึ่งเลย คล้ำด้วย กลับมาก็มีงานเลยเหรอวะ” ผมพูดพลางใช้นิ้วแตะลงไปที่ปลายตาน่านฟ้า มันเงยหน้าขึ้นมองมือผมแล้วยิ้มเบาๆ

“เปล่าหรอก มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”

“อ่อ งั้นเหรอ.” ผมไม่พูดอะไรต่อเพราะรู้ว่าสิ่งที่มันบอกว่ามีเรื่องให้คิดนิดหน่อยคงหนีไม่พ้นเรื่องเมื่อสองคืนที่แล้ว ผมไม่อยากพูดถึงแล้วอ่ะ มันทำให้ผมรู้สึกแย่ ผมอยากให้เรื่องมันจบๆไปเลย ทำซะว่าไม่เคยเกิดเรื่องคืนนั้นขึ้นระหว่างผมกับมัน

“.............”

“เออ มึงได้เอาใบสมัครเรียนมาให้กูเปล่า สมัครให้แล้วใช่ป่ะ” น่านฟ้าพยักหน้าแล้วหยิบแฟ้มเอกสารส่งมาให้ผม ในนั้นมีทั้งเอกสารสมัครเรียนแล้วก็เลขที่ใบสมัครที่สมัครเรียบร้อยแล้ว “ลำดับที่ 6789 เฮ้ยเลขสวย สงสัยกูต้องสอบได้แน่ๆ ขอบใจนะ มึงน่ารักที่สุด”

ผมขยับจูบลงที่ปลายคางน่านฟ้า แล้วก้มลงมองใบสมัครอีกที ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นกระเป๋าลากใครไม่รู้วางอยู่หน้าบ้าน

“น่านกระเป๋านั่นมึงเหรอ ใบโคตรใหญ่ จะไปไหนอ่ะ”

“เปล่า....ไม่ใช่ของกู” คำพูดน่านฟ้าเบาลงจนผมแทบจะไม่ได้ยิน เราสองคนต่างคนต่างเงียบ จมอยู่กับความคิดตัวเอง

“กู...”คำพูดที่จะพูดออกมาไม่รู้ทำไมตอนนี้มันช่างยากเย็นนัก ผมไม่อยากรับรู้ว่าในกระเป๋าใบนั้นที่มันเอามาเป็นของๆผม ไม่อยากจะคิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น “เออน่าน มึง...มึงกินข้าวยังอ่ะ ไปกินข้าวกันเหอะ หิวว่ะ”

ผมอ้อนมัน โน้มหน้าลงบนบ่า เกาะชายเสื้อน่านฟ้าไว้แน่น รู้ตัวเองเลยว่าตัวเองบีบเสื้อมันไว้แรงมากแค่ไหน ผมกลัวไปหมด กลัวว่าสิ่งที่คิดอยู่ในใจลึกๆมันกำลังจะเกิดขึ้น


ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนพูดให้มันยอมรับสถานะของมัน พูดให้มันรู้ว่ามันไม่มีสิทธิ์ในตัวผมมากไปกว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดบอกมัน ตะโกนบอกมันว่ามันเป็นคนยื้อผมไว้



แต่.....




ผมไม่ได้ต้องการให้มันปล่อยมือผม ไม่ได้ต้องการให้มันหยุดความสัมพันธ์ของเราสักนิด



“น่าน กูอยากกินปิ้งย่างอ่ะ ไปกินแถวบ้านมึงตรงร้านที่มึงพากูไปดีป่ะ”ตอนนี้ผมไม่อยากฟังอะไรจากปากมันมากไปกว่าการที่มันพูดว่า ไปสิ ไปกินข้าวกัน แล้วค่อยกลับบ้าน



ผมอยากได้ยินแค่นี้ นอกเหนือจากประโยคนั้นผมไม่อยากฟัง




“ถ้าซนสอบเข้าที่มหาลัยพี่ได้ พี่คงยินดีถ้าเห็นซนเป็นน้องนะ” ถึงจะชอบที่มันเรียกแทนตัวเองว่าพี่ แต่ ณ ตอนนี้ผมไม่ได้อยากมีมันเป็นพี่เลยสักนิด

“มึงเป็นอะไรของมึงวะน่าน มาพี่ๆน้องๆ หิวข้าวจนเป็นบ้าแล้วหรือไง ถ้างั้นก็ลุกเถอะ ไปกินข้าวกัน”ผมกระตุกเสื้อน่านฟ้าเบาๆให้มันลุกขึ้นตามผม

“ซน” แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงมือหนาที่ดึงมือผมออกจากเสื้อมัน “แบบนี้แหละดีแล้ว”

“อะไรของมึงน่าน.....กูไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด....” ผมยอมรับว่าตัวเองไม่มีแรงพูด กลัวว่าเปิดปากพูดออกมาน้ำตามันพาลจะไหลออกมาด้วย

“เลิกดีไหม ไอ้ความสัมพันธ์ที่มันบิดๆเบี้ยวๆแบบนี้ กูมานั่งคิดๆดูแล้วนะว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเราจบมัน” ผมเคยคิดนะว่าถ้าวันนึงน่านฟ้าขอยกเลิกความสัมพันธ์ของเรา ผมจะแค่ยิ้มรับแล้วบอกว่ายังไงก็ได้ กูไม่ซีเรียส แต่ความเป็นจริงแล้วผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลยสักนิด

“ไม่เอาอ่ะ” ยิ่งมันขืนตัวผมให้ออกจากตัวมันมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งมุดหน้าลงกับบ่ามันมากเท่านั้น “ไม่..เอาหรอก”

“กูยังไม่เคยบอกมึงใช่เปล่าว่ากูชอบมึง....”

“ไม่ต้องบอกก็ได้ กูรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดออกมาหรอก”

“แต่มึงจำได้ไหมซน มึงเคยบอกว่ามึงชอบความชัดเจนและก็เกลียดมันด้วยในคราวเดียวกัน ตอนนี้กูชัดเจนแล้วนะ และกูก็หวังว่ามึงจะชัดเจนกับกูด้วย” ผมกัดปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บไปหมด

“มึงก็รู้....ว่ากูให้ไม่ได้...กูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอน่านว่าสุดท้ายคนที่กูเลือก....”

“ก็ไม่ใช่กู...หึ...รู้แล้วแหละ เพราะงั้นวันนี้ถึงมาบอกไงว่าเราสองคนควรจะจบความสัมพันธ์ของเราสักที... กูเหนื่อยว่ะ”

“.ไม่เอาแบบนี้ได้หรือเปล่า กูรับรู้ความรู้สึกมึงแล้ว กูรู้แล้วว่ามึงชอบกู ให้มันชัดเจนก็ได้แต่ไม่เอาแบบนี้...นะ เอาแบบเดิมได้ไหมอ่ะ แบบเดิมที่มึงอยู่ข้างๆกูตรงนี้ โดยที่มึงไม่ต้องบังคับให้กูเลือกอย่างนี้ ได้ไหมน่าน...นะ...เอาแบบเดิมนะ” ผมกระตุกเสื้อน่านฟ้าอีกรอบ ย้ำมันอีกครั้งว่าผมรับรู้ความรู้สึกของมัน แต่ไม่อยากยุติความสัมพันธ์ของเรา

“แบบเดิม??? แบบที่กูไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวมึงสักอย่างงั้นเหรอซน มึงไม่สงสารกูบ้างเหรอวะ...”

“.....”

“มึงร้องจะเอาในแบบที่มึงอยากได้ แล้วกูล่ะ กูเลือกอะไรได้ไหม กูเลือกไม่ได้สักอย่าง ทั้งตัวมึงหรือแม้แต่หัวใจมึง....”


“..............”น่านฟ้าดึงมือผมออกจากเอวมัน


“ดิลนะ” ก่อนจะก้มลงมาที่คอผม ข้อตกลงที่เราเคยตกลงกันไว้ว่าถ้ามีการทำสิ่งใดร่วมกัน เราจะทำสัญลักษณ์ของกันและกันไว้ที่ร่างกาย


“ไม่เอาอ่ะ...ฮึก...ไม่เอาแบบนี้”


“ให้กูไปเถอะซน ถือซะว่าสงสารกูเถอะ....กูรับมัน...ไม่ไหวแล้ว” เสียงที่สั่นพร้อมกับริมฝีปากที่ขยับมาเรื่อยๆ ความร้อนจากลมหายใจเป่ารดเบาๆที่ต้นคอ น่านฟ้าก้มลงดูดผิวเนื้อจนผมรู้สึกเจ็บแปล๊บ แต่ความรู้สึกนี้มันไม่ได้ดีอย่างครั้งก่อนๆเพราะครั้งนี้มันเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและความทรมาน


“น่าน...ฮึก....”



“พี่ขอให้ซนสอบได้นะ พี่รอรับน้องอยู่ สู้ๆนะครับ”











ฮึก....น่าน...ไม่เอาได้หรือเปล่า ไม่เอาแบบ....นี้






>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<
ชอบแต่งดราม่านะ แต่รู้สึกว่าตอนนี้มันยังไม่สุด หรือเปล่าT T
คนแต่ง #ทีมซน
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 08-05-2015 18:06:13
ดีแล้วล่ะน่าน ไปเจอคนที่ดีกว่านี้เถอะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Gapompom ที่ 08-05-2015 18:25:02
ทำดีแล้วน่าน
ถ้าอยู่แบบนั้นต่อไป ได้เป็นแค่ตัวสำรองก็เท่านั้น
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 08-05-2015 18:28:47
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกสมน้ำหน้าซนจริงๆ หวังว่าน่านจะไม่ใจอ่อนให้คนเห็นแก่ตัวเร็วเกินไปนะ
และขอให้คนที่ซนเลือกมันนอกใจซนด้วยเหมือนกัน อยากเห็นมันเจ็บปวดรวดร้าวบ้าง
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 08-05-2015 18:34:54
ขอโทษนะคะ  สะใจค่ะ
ซนเลือกได้และพยายามยื้อไว้ทั้งสองทาง
ไม่คิดถึงหัวอกน่านเลยว่าเจ็บขนาดไหน
ต้องการความชัดเจน...ได้...เอาไปเลย
เพี้ยงขอให้เอยเจอรูป+คลิปที่น่านซนถ่ายไว้ด้วยกัน
ขอให้ซนอย่าได้เหลือใคร
คนที่ไม่เห็นคุณค่าความรักก้อย่าได้มีความรักเลย

น้องซนก็ขอให้ตัดใจจากคนที่หลงละเมอเพ้อพกมาตั้งนานด้วยเถอะ 
อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะมีใจให้
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-05-2015 18:35:36
คนอ่าน #ทีมพี่น่าน

สู้ๆนะพี่น่าน. พูดออกมาเจ็บจี้ด โดนทุกประโยค
ซนทรมานน่านทั้งเป็น ซนไม่สงสารเหรอ. คิดเอาแต่ได้. เป็นพี่น้องก็ดีเท่าไหร่แล้วนะ.เราว่าดราม่าไม่สุดจริง บอกมาก่อนว่านั่นกระเป๋าใครอะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 08-05-2015 19:08:02
แหงะะะ​  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-05-2015 22:42:55
พี่น่านทำดีแล้วค่ะ แต่เราแอบน้ำตาซึมหน่อยๆ ด้วยล่ะค่าา กระซิกๆ T^T  ..คิดไม่ถึงเลยนะคะ ว่าน้องซนจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ คิดแต่จะเก็บพี่น่านเอาไว้กับตัวเอง และก็สนใจแต่ความรู้สึกของตัวเองคนเดียวแบบนี้ ต่อให้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น่าน เขาก็เลือกที่จะไปจากน้องซนเหมือนกันนั่นล่ะค่ะ :onion_asleep:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: pixie ที่ 09-05-2015 01:33:33
 :เฮ้อ: you hurt me  :ling3:

หน่วงที่สุดด แต่น่านถอยออกมาก็ถูกแล้ว !!

ซนไปเคลียร์ตัวเองเร็วๆเน้อ ชอบโมเมนต์ที่สองคนนี้อยุ่ด้วยกันมากๆค่ั

รอนะคะ สู้ๆ  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Lovelyjess ที่ 09-05-2015 01:39:18
สมน้ำหน้าซน. ไม่เลือกแล้วก็ไม่ชัดเจน
เสียบเค้ากับโดนเค้าเสียบมากๆ เลยบ้าสินะ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-05-2015 02:59:08
ซนอย่ามาเรียกร้องอะไรเลย. สงสารพี่น่านบ้างเหอะ. ไม่เลือกเขาไมารักเขาก็ปล่อยเขาไปดีกว่านะ.  เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 09-05-2015 11:22:37
ซนทำตัวเองล้วนๆๆๆๆ
พี่น่านทำถูกแล้ววว
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-05-2015 20:47:41
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-05-2015 21:52:14
 :mew1:
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 10-05-2015 05:46:37
 :เฮ้อ: ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าซนดี แต่ที่แน่ๆสงสารน่านที่สุด
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: tegomon ที่ 10-05-2015 19:02:40
สงสารน่านมากเลย ซนเหนแก่ตัวที่สุด.นิสัยไม่ดีเลย
อ่านแล้วมาม่าทันทีเลย ตอนหน้าพี่ซน พี่น่านต้องพาซดมาม่าถ้วยโตๆแน่เลย
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 10-05-2015 19:16:13
ซนต้องรู้สึกตัวสักที สงสารน่าน
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 12-05-2015 21:27:30
ซนยังจัดการตัวเองไม่ได้ ที่น่านทำก็ถูก จะมาเรียกร้องอะไร
หัวข้อ: Re: +++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '+++ตอนที่ 19 without you [08-05-15:::P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: tegomon ที่ 13-05-2015 07:43:01
มารอแล้วค่ะ เมื่อไหร่จะมาต่อคะ 4 วันแล้วนร้า่
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 14-05-2015 16:15:33
Because of you ซน ตอนที่ 20 action=reaction

ถ้านับจากวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็อาทิตย์กว่าแล้วมั้งที่ผมกับน่านฟ้าไม่ได้ติดต่อกันเลย ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคืนนั้นตัวเองเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสภาพแบบไหน รู้แค่ว่าน้ำตาที่ไหลตั้งแต่ที่มันพูดจบแล้วเดินจากไปจนกระทั่งเช้าของอีกวันมันก็ยังไม่หยุด ผมนอนไม่หลับอยู่หลายคืน ในหัวเอาแต่คิดเรื่องไอ้น่านซ้ำไปซ้ำมาว่าทำไมมันถึงทำแบบนั้น ปากบอกว่าชอบผมแล้วทำไมจู่ๆถึงมาทิ้งกันไปแบบนี้ ใครแม่งเคยบอกไว้วะว่าการที่เราชอบใครสักคนนึงขอแค่ให้ได้อยู่ข้างๆมองคนที่เราชอบมีความสุขก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมน่านฟ้ากลับทำให้ทฤษฎีนั้นมันพังไปหมด


หลายวันที่ผ่านมาผมพยายามทุกวิธีเพื่อติดต่อมัน แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ผลที่ได้กลับมาก็มีแต่เท่ากับศูนย์ น่านฟ้าไม่รับโทรศัพท์ ไม่อ่านไลน์ ไม่ตอบข้อความ หรือแม้แต่บ้านมันก็ยังไม่กลับ พอโทรถามไอ้วีมันก็ไม่รู้ว่าน่านฟ้าไปไหน ถ้าอยากเจอจริงๆก็คงต้องไปหามันที่มหาลัย ผมหน้าด้านใช่ไหมครับที่พอรู้ว่ามันน่าจะอยู่ที่ไหน ก็มาหามันที่นั่นทันที ทั้งๆที่โดนเขาไล่ขนาดนั้นแต่ก็ยังกล้ามายืนรอมันอยู่ตรงนี้

“อ่าวซน...” เสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมรีบหันกลับไปมอง

“พี่แอล..”

“เออกูเอง มึง...มาทำไมวะ” พี่แอลว่าพลางวางของที่พะรุงพะรังไว้บนโต๊ะ วันนี้พี่เขาใส่ชุดธรรมดา บ่งบอกว่าเขามาทำธุระที่ไม่ได้เป็นทางการมากนัก อาจจะมาเตรียมของรับน้องเหมือนที่น่านฟ้าเคยบอก

“ผมมาหาน่านครับพี่” ผมบอกพี่แอลแล้วมองข้ามบ่าเขาเพื่อมองหาใครอีกคนที่คิดว่าอาจจะมาด้วย

“มันไม่ได้มาด้วยหรอก”

“แล้วพี่เขาไปไหนอ่ะครับ ผมไปหามันที่บ้านก็ไม่เจอ....โทรไปก็ไม่รับ”

“มันอยู่กับกู....”

“เหรอครับ” มั่นใจเลยว่าเสียงที่เปล่งออกไปมันเต็มไปด้วยความดีใจมากกว่า “งั้นผม...ขอไปเจอมันหน่อยได้ไหมพี่”

“มึงจะไปเจอมันทำไม ไอ้น่านมันไม่อยากเจอมึงหรอกนะซน” คำพูดพี่แอลทำให้ผมเงียบลง ความดีใจที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนถูกกลบทันทีด้วยคำพูดแค่ไม่กี่ของพี่แอล “มึงพอเถอะว่ะซน...มึงไม่สงสารมันบ้างเหรอวะ มึงจะเห็นแก้ตัวไปหรือเปล่าที่จะให้ไอ้น่านกลับไปหามึงทั้งๆที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว มึงจะใจร้ายกับไปไหม...”

“ผมไม่ได้อยากให้มันกลับมา...” เสียงพูดคล้ายจะพึมพำตัดพ้อกับตัวเองมากกว่าที่จะพูดกับคนตรงหน้า
รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเด็กที่ร้องขอกินขนมทั้งๆที่ปากบอกว่าไม่ชอบ

“โกหก”

“เปล่า...ผมก็แค่อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง...ก็แค่..” อยากคุยกับมันก็เท่านั้น

“รู้แล้วไงเหรอ รู้...แล้วมึงก็จะดึงมันกลับไปอยู่ข้างๆในฐานะที่มันไม่ชัดเจนยังงั้นเหรอวะ ปล่อยมันไปไม่ได้หรือไง!!! กูไม่อยากเห็นมันเจ็บเพราะมึงอีกแล้ว!!!...”

“พี่จะรู้อะไรวะพี่แอล!!! พี่ไม่ใช่มันสักหน่อย บางทีมันอาจจะไม่ได้เจ็บขนาดนั้นก็ได้!!!” พอโดนขึ้นเสียงใส่ ผมเองก็ขึ้นเสียงบ้าง “ผมไม่เข้าใจว่าพี่แอลจะมายุ่งเรื่องของผมกับไอ้น่านทำไม ตัวเองเป็นแค่คนนอกแท้ๆ!!!”

“เหอะ...คนนอก...” พี่แอลพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เหมือนไม่ต้องการให้ผมเห็นความอ่อนแอของมัน “ใช่!!ในสายตาไอ้น่านกับมึงกูมันก็เป็นแค่คนนอก แต่คนนอกแบบกูนี่แหละที่ไม่เคยทำให้มันเจ็บเลยสักครั้ง...”

“พี่แอล...”

“ถ้ามึงยังไม่เคยรู้นะซน...ก็รู้ไว้ซะตอนนี้เลยว่ากู...ชอบมัน”  ผมไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าพี่แอลรู้สึกแบบนั้นกับไอ้น่าน ทั้งๆที่ดูภายนอกมันก็ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนคนนึงแท้ๆ

“กูชอบมัน ชอบมาก่อนที่มึงจะเจอกับมันด้วยซ้ำ...มึงเชื่อไหมซน ตั้งแต่กูรู้จักกับมันมา กูไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลย....มันไม่เคยร้องไห้ขนาดนี้...ไม่เคยต้องมาเสียใจหรือวิ่งตามใครแบบนี้....คนอย่างน่านฟ้าไม่เคยต้องอ้อนวอนขอความรักจากใคร...เพราะคนแบบมันมีแต่คนวิ่งเข้าหา มีแต่คนอยากจะได้ความรักจากมันทั้งนั้น....แม้กระทั่งตัวกูเอง”

พี่แอลพูดเสียงสั่นจนคล้ายจะพูดกับตัวเองมากกว่า ผมเงียบอีกครั้ง ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะสิ่งที่พี่แอลพูดออกมามันทำให้ผมไปไม่เป็น ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่เขาทนมันอยู่ได้ยังไง คนที่เราแอบชอบยืนอยู่ข้างๆแท้ๆ ทำไมพี่เขาถึงทนไม่บอกความรู้สึกตัวเองให้ไอ้น่านรู้ หรือบางทีอาจจะบอกแต่น่านฟ้ามันไม่ได้รับรู้ความรู้สึกนั้น

แค่คิดว่าพี่แอลต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่....มันไม่ต่างกับการตกลงไปในทะเลที่อ้างว้างที่จะว่ายไปทางไหนก็ไม่ได้ ไม่เจอแผ่นดิน แถมยังรู้สึกเหมือนมีคนคอยดึงขาให้พาลจะจมลงก้นทะเลตลอด

“แต่พูดไปมึงจะเข้าใจอะไรวะ...ก็ในเมื่อมึงเป็นคนได้ความรักไป ไม่เหมือนกูที่รักมันมากแค่ไหน มันก็ให้ได้แค่เพื่อน...”

“ผม....”

“แต่ทั้งๆที่มึงได้ความรักจากมันมากมายขนาดนั้น แต่มึงกลับไม่เคยตอบแทนความรักที่มันให้มา” จะให้ผมตอบแทนมันยังไงวะ เลิกกับน้องเอยแล้วหันมาหามันทั้งๆที่เอยไม่ผิดอะไรงั้นเหรอ นั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากพูด แต่พูดออกไปมันก็เท่านั้น ไม่มีใครรับฟังเหตุผลของใคร ต่างคนก็ต่างเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันถูก “ถ้าไม่ชอบมันก็ถอยดิวะ จะยื้อให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาซน”


ไม่ชอบงั้นเหรอ เหอะ ผมพูดคำนั้นออกมาได้ไม่เต็มปากด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดหรอกนะว่าตัวเองรู้สึกอย่างไงกับมัน แต่ทันทีที่คิดว่าตัวเองชอบน่านฟ้า แว่บนึงที่เข้ามาในหัวคือน้องเอย ผมคิดแค่ว่าน้องเอยไม่ผิดอะไรสักนิด แค่ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ มันก็ผิดต่อน้องมากแล้ว....แล้วทำไมผมต้องเอาความรู้สึกชอบปันจากน้องเอยไปให้น่านฟ้าด้วย ทั้งๆที่คิดแบบนั้น ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองจะไม่มีทางชอบ แต่ตอนนี้ก็เป็นผมอีกไม่ใช่เหรอที่วิ่งตามหามันอยู่ เป็นผมเองที่ดึงดันให้ไอ้ความผิดที่มีอยู่มันยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ



ทั้งๆที่น่านฟ้ามันกำลังทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม




ทั้งๆที่มัน... กำลังทำทุกอย่างให้มันถูกต้องแท้ๆ





“ซน..กูขอล่ะวะ...ถ้ามึงไม่ได้รักมันจริงๆ...มึงปล่อยมันไปเถอะ...กูสัญญาว่ากูจะดูแลมันให้ดีที่สุด” พี่แอลพูดถูก..ผมควรจะปล่อยมันไปเจอคนที่ดีกว่า คนที่พร้อมจะรักมันได้มากกว่าผม คนที่พร้อมจะยืนข้างๆในฐานะคนรักไม่ใช่ในฐานะแอบรักแบบนี้ ดีแล้วแหละ ให้มันจบแบบนี้ก็ดีแล้วแหละ



ไม่เห็นต้องเสียใจเลย ก็มันเป็นสิ่งที่ผมต้องเลือก เลือกให้มันถูกต้อง จะได้ไม่มีใครต้องเจ็บเพราะการกระทำผมอีก




“ครับ...ผมเข้าใจแล้ว...”





ผมเดินออกจากคณะไอ้น่านด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เดินมาขึ้นรถเมล์ นั่งรถไปเรื่อยๆ ผ่านในที่ๆผมกับมันเคยไปด้วยกัน ทั้งถ่ายรูปกินข้าว สถานที่ทุกที่ผุดขึ้นมาในหัวเหมือนดอกเห็ด ยิ่งพยายามห้ามมันก็ยิ่งนึกถึง


ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่ผมกำลังเสียใจอยู่ตอนนี้มันเจ็บจนหายใจไม่ออก



แต่ความเจ็บที่เกิดขึ้นมันกลับทำให้ผมรู้ว่าจริงๆแล้ว ผมคงจะชอบไอ้น่านเข้าแล้วจริงๆ



แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อความรักของผมต้องทำร้ายคนอีกตั้งหลายคน



ให้มันเป็นอย่างนี้...ก็ดีแล้ว



 





B e c a u s e   o f    y o u . . . ซ น














ตอนนี้ผมกำลังยืนมองตัวเองในกระจก เดือนครึ่งหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมก็ไม่ได้ติดต่อไปหาไอ้น่านอีก ร่องรอยที่น่านฟ้าเคยทำสัญลักษณ์ไว้มันจางหายไปนานแล้ว แม้ว่าผมจะพยายามรักษาให้ร่องรอยสีกุหลาบมันอยู่ให้นานที่สุดแค่ไหนท้ายที่สุดมันก็ต้องจางหายไปตามกาลเวลา คงเหมือนกับความรู้สึกไอ้น่านที่ป่านนี้อาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยชอบผม คงมีก็แต่ผมที่กลับรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ น่าสมเพช ปากบอกเองแท้ๆว่าไม่มีทางรักคนแบบมัน แต่สุดท้ายก็มีแต่ผมที่เอาแต่เพ้อหามันอยู่อย่างนี้


ส่วนน้องเอย น้องยังคงเป็นน้องเอยเหมือนเดิมที่ไม่รู้ว่าหัวใจผมตอนนี้มันถูกปันให้ใครอีกคนไปเกินครึ่ง เขายังคงร่าเริงสดใสแม้จริงๆแล้วตัวเขาเองก็คงสัมผัสได้ว่าผมเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ผมกับน้องไม่ได้ออกไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนแต่ก่อน ถึงจะมีคุยโทรศัพท์กันบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็คุยกันแป๊บๆแล้วก็วาง ผมคิดว่าน้องเองก็คงอึดอัดแต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ผมไม่อยากไปเจอกับน้องทั้งๆที่สภาพจิตใจของตัวเองยังเอาแต่คิดถึงไอ้น่านทางที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นการถอยออกมาก่อน ถอย...ออกมาตั้งหลักเอาให้ความรู้สึกของตัวเองมันมั่นคงกว่านี้ แล้วค่อยกลับไปหาน้องเขา เพราะผมเองก็ไม่อยากดึงน้องเอยมารับรู้ความรู้สึกที่น้องไม่ควรจะรู้...



เพราะความรู้สึกที่โดนคนที่รักนอกใจ มันคงไม่ต่างอะไรกับการเอามีดมาทิ่มหัวใจกัน





ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนจะจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่แล้วเดินลงมาข้างล่าง วันนี้เป็นวันสอบตรงเข้ามหาลัย ซึ่งผมไม่ควรจะมานั่งคิดมากถึงเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว มหาลัยที่ผมจะไปสอบวันนี้เป็นมหาลัยที่ไอ้น่านสู้อุตส่าห์ไปสมัครมาให้ แม่งจริงๆแล้วผมน่ะหวังเล็กๆนะว่าตัวเองจะเข้าที่นี้ได้ เพราะอย่างน้อยก็อาจจะได้เห็นหน้ามันบ้าง

“พร้อมไหม” ไอ้ซูถามผมตอนที่มันเดินจูงมือไอ้แซนมาหน้าบ้าน

“พร้อมดิ กูไม่เคยรู้สึกว่าสมองตัวเองมีความรู้มากมายขนาดนี้มาก่อนด้วยซ้ำ”ผมยักคิ้วส่งไปให้ไอ้ซูทีนึง มันหัวเราะแล้วโยกหัวผมเบาๆก่อนจะดันให้ผมขึ้นรถ ซูขับรถไปส่งไอ้แซนที่โรงเรียนก่อน แล้วค่อยขับมาส่งผมที่มหาลัย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมมาเหยียบที่นี้ ครั้งแรกก็ตอนที่มาเจอพี่แอล แต่ครั้งนี้ผมมาสอบ มือผมเย็นไปหมด สั่นด้วย ในใจก็เต้นแปลกๆ คิดเพียงแต่ว่าที่ตื่นเต้นอยู่ตอนนี้คงเกิดจากการต้องสอบมากกว่าการเจอใครอีกคนในรอบสองเดือน

“ไหวไหมซน”

“ไหวดิ กูอ่านมาตั้งนาน มึงคิดว่ากูโง่เหรอซูกูพี่มึงนะ”

“ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น...” เราสองคนสบตากันถึงแม้ว่าไม่ได้พูดออกมาว่าหมายถึงเรื่องอะไรผมก็พอจะเดาออกว่าสิ่งที่ไอ้ซูถามมันแปลว่าอะไร

“ไหวดิ ไหวอยู่แล้ว” ว่าพลางหยิบกระเป๋าจากเบาะหลังมาสะพาย “ไม่ต้องมารับนะเดี๋ยวกลับเอง”

ผมขยี้หัวน้องชายตัวเองเบาๆแล้วเดินลงจากรถ ตึกคณะวิศวะบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของมัน สถาปัตยกรรมรูปเกียร์ถูกวางอยู่กลางลาน เด็กปวส.จากต่างที่กำลังนั่งอ่านหนังสือในมือกันอย่างตั้งอกตั้งใจ สำหรับผมมองว่าถ้าเราตั้งใจอ่านมาตั้งแต่แรกๆก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมานั่งท่องนั่งอ่านหน้าห้องให้เสียเวลา คิดแค่ว่าทำได้ก็ได้ ทำไม่ได้ก็คือไม่ได้

ผมเดินมานั่งรอหน้าห้องสอบ คนที่นั่งรอไม่เยอะมากเท่าไหร่ มีไอ้หัวเกรียนข้างๆที่ยักคิ้วทำหน้าตากวนตีนมาตรงที่ผมนั่งอยู่ พอผมหันมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นว่าคนที่มันยักคิ้วให้จะเงยหน้ามองมันสักคน สรุปมันยักคิ้วให้ใครวะ

“มึงอ่ะแหละ”

“กูเหรอ” ผมเลิกคิ้ว ยกมือขึ้นชี้ตัวเอง ส่วนไอ้คนที่ถามเมื่อกี้ก็หัวเราะชอบใจราวกับสิ่งที่ผมทำเมื่อกี้มันเป็นเรื่องตลก อะไรของมันวะ

“เออมึงนั่นแหละ กูชื่อจัน”

“จันไรอ่ะนะ”

“จันไรพ่องมึงสิ จันเฉยๆ ไม่มีไรส้นตีนอะไรทั้งนั้น กูคิดว่ามึงจะน่าคบซะอีก เห็นหน้าโง่ๆไม่คิดว่าจะกวนตีน” เอ้าไอ้นี้ด่ากูหน้าโง่ไม่ดูหน้าตัวเองเลย ผมขมวดคิ้วมองหน้าไอ้จัน(ไร) ส่วนมันพอด่าผมเสร็จก็โม้เรื่องวิทยาลัยตัวเองทันที ไอ้จันเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาผิวไม่ขาวมากหุ่นนักกีฬาสูงกว่าผมเกือบสิบเซ็น จันมาจากต่างจังหวัด บ้านมันอยู่โคราชเห็นพูดว่ามาเรียนต่อที่นี้เพราะแม่กลัวว่ามันจะเหลวไหลเลยส่งมันมาอยู่กับลูกพี่ลูกน้องที่เรียนที่ในกรุงเทพ มันเล่าประวัติศาสตร์ความจันไรซะยืดยาวโดยที่ไม่ได้ถามความเห็นผมสักนิด ว่าอยากรู้เรื่องมันหรือเปล่า เห็นมันเป็นแบบนี้แล้วอดนึกถึงพี่ป็อบไม่ได้ ถ้าได้เจอกันคงถูกพาเข้าโรงพยาบาลบ้าทั้งคู่ “แล้วสรุปมึงชื่ออะไรวะ”

“ซน”

“ชื่อมึงนี่กระโหลกกะลาว่ะ พ่อแม่มึงคงปวดหัวมากล่ะมั้งที่มีลูกดื้อๆซนๆเหมือนมึง” คือผมว่าผมก็ไม่เคยไปสร้างความแค้นอะไรให้ไอ้จันนะ ทำไมมันกวนตีนผมงี้วะ แต่ก็ช่างเหอะครับ จะว่าไปคุยกับมันก็ฮาดี เหมือนคลายความเครียดไปได้บ้าง

หลังจากที่ฟังมันโม้สักพัก เสียงอ๊อดเข้าห้องสอบก็ดังขึ้น ทั้งผมและมันหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อปิดเครื่อง แต่ก่อนที่ผมจะปิดมือถือเห็นน้องเอยไลน์มาบอกว่าอยากเจอ ผมเลยตอบตกลงไปเพราะนี้มันก็นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เจอกับน้องเขา ไม่รู้ว่าจะหนีไปทำไม เพราะหนีไปสุดท้ายก็ต้องเจอกันอยู่ดี

“เลขที่สอบมึงอะไรวะ”

“6789” ผมยื่นใบสมัครให้มันดู ไอ้จันเบ้ปากแล้วพูดพำพึมประมาณว่าของมันเลข 6788 แล้วก็มาบ่นเหมือนด่าลูกพี่ลูกน้องมันที่ซื้อใบสมัครให้

“เอาน่ามึงบ่นไปมึงก็ไม่ได้เลขใบสมัครกูหรอก ตอนนิ้อยู่ที่สมองแล้วว่ามึงจะพาตัวเองเข้ามาเรียนที่นี้ได้ไหม”

“อ่ะแน่นอน สมองระดับกูเข้าได้อยู่แล้ว มึงอย่าลอกกูล่ะกัน กูเคยได้ยินจากพี่กูว่าถ้าลอกกัน ทางมหาลัยจะแบนไม่ให้มาสอบอีก”

“เออๆกูไม่ลอกมึงหรอกน่า”




เวลาที่ใช้ในการสอบมีทั้งหมด 3 ชั่วโมง ไม่อยากเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่หรอกนะครับ แต่ผมคิดว่าตัวเองทำได้เกือบทั้งหมด สูตรคำนวณที่ไอ้น่านเคยสอนให้ไม่เสียเปล่า รวมถึงข้อสอบที่มันเกร็งไว้ก็ออกมามากกว่าครึ่ง ถ้าผมสอบได้จริงๆคงต้องยกความดีความชอบให้ตัวเองก่อนเพราะมันเกิดจากความพยายามของผม ส่วนความดีความชอบต่อมาก็คือมันที่เที่ยวสอนเที่ยวเข็ญผมอยู่เรื่อยแถมยังเอาหนังสือกับข้อสอบเก่าๆใส่กระเป๋ามาให้ด้วยในคืนนั้น


“มึงไปไหนต่อวะ”

“สยาม ว่าจะไปหาแฟน”

“แฟน?? มึงมีแฟนด้วยเหรอวะ”

“เอ้าไอ้นี้หน้าหล่อแบบกูมึงคิดว่าจะอยู่เป็นโสดเหรอวะ”

“ฮ่า ฮ่า มึงนี่มันตลก มาๆเดี๋ยวกูไปส่ง กูเอามอไซค์มา” ไอ้จันลากผมมาทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรสักอย่าง

“เฮ้ยมึงกูไปเองได้ไม่เป็นไร”

“เอาน่าๆกูไปส่ง...มาเถอะ” สุดท้ายเพราะแรงลาก ผมก็เลยเออ ออเดินตามไอ้จันมาหลังคณะวิศวะ ที่ๆมันบอกว่ามันจอดรถไว้

“อีกไกลไหมเนี่ยจัน”

“ไม่หรอก นั่นไง รถกู” ไอ้จันชี้นิ้วไปที่ฟีโน่คันสีแดงที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถ ส่วนที่ห่างออกไปและจอดอยู่ไม่ไกลจากรถไอ้จันคือสิ่งที่ผมไม่คาดคิดและไม่คิดว่าจะเจอด้วยซ้ำ



รถไอ้น่าน



ผมสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเป่าออกมาเบาๆเหมือนสิ่งนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่พอจะคลายความรู้สึกอึดอัดไปได้บ้าง แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักหรอก เพราะตอนนี้มือผมสั่นไปหมด ยิ่งเห็นว่ามีใครอยู่ในรถด้วยแล้วผมก็ยิ่งรู้สึกใจหวิวๆ ฟิล์มรถไอ้น่านไม่ได้มืดขนาดมองไม่เห็น แต่มันก็พอจะเดาได้ลางๆว่าคนในรถไม่ได้มีมันแค่คนเดียว และอีกคนนั้นก็เป็นคนที่ผมรู้จักดี สองเดือนที่ฝึกงานด้วยกันทำให้ผมจำลักษณะกายภาพของเขาได้



พี่แอล



นั่งอยู่เบาะหน้าตรงที่ผมเคยนั่ง เขากำลังส่งยิ้ม หัวเราะให้กันอย่างมีความสุข ไอ้น่านไม่เหลือเค้าของคนที่เคยเสียใจเลยสักนิดแถมร่องรอยของความสุขมันเด่นชัดจนผมที่ยืนอยู่ไกลขนาดนี้ยังสัมผัสได้


ทั้งหมดทั้งมวลมันคงจะไม่ทำให้ผมรู้สึกแย่กว่านี้ถ้าผมไม่เห็นว่าเขาสองกำลังจูบกัน



“ซน...”


“........”


“มองอะไรวะ”


“เปล่าๆมึงจะไปส่งกูไม่ใช่เหรอ ไปดิ” แบบนั้นก็ดีแล้วแหละ เห็นมันมีความสุขผมว่ามันก็ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเสียใจในสิ่งที่ผมไม่เคยเลือก ไม่จำเป็น...เลยสักนิด






ผมเดินมาร้านที่ผมกับน้องเอยนัดกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าตาตัวเองแย่แค่ไหน แต่ทำได้มากสุดก็คือการฝืนยิ้มให้สาวน้อยที่ยังอยู่ตรงหน้า

“พี่ซน ทางนี้ค่ะ” ผมพยักหน้าให้น้องแล้วพยายามฝืนยิ้มที่คิดว่ากว้างที่สุด แต่ใครเลยจะไปรู้เท่าใจผมว่าจริงๆแล้วผมยิ้มมันไม่ออกเลยสักนิด ยิ่งพยายามมากแค่ไหนก็ดูเหมือนจะกลายเป็นฝืนเสียมากกว่า

“มานานแล้วเหรอคะ”

“ก็สักพักแล้วค่ะ คือ...เอยมีเรื่องจะคุยกับพี่ซน...” น้องยิ้มให้ผม ยังคงเป็นยิ้มที่สดใส่เหมือนเดิม “พี่ซนทานอะไรมาหรือยังคะ เดี๋ยวเอยสั่งให้”

“ยังค่ะ น้องเอยสั่งเลยนะ พี่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำหน่อย” ผมขยี้หัวน้องเอยแล้วหลบตัวเองเข้ามาในห้องน้ำ มือสองข้างถูกยกขึ้นกวักน้ำจากก๊อกเพื่อล้างหน้า เหตุผลจริงๆก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ต้องการจะล้างหน้า แต่ต้องการปกปิดน้ำตาที่มันกำลังจะไหลตั้งหาก



ถ้าการเอาน้ำล้างหน้าแล้วมันจะช่วยพัดพาเอาความเสียใจนี้ไปได้หมดก็คงจะดี



“ซน...มึงห้ามร้องไห้ออกมาตอนนี้นะเว้ย” ผมตบแก้มตัวเองเบาๆแล้วพูดบอกคนที่อยู่ในกระจก ดวงตาแดงกร่ำบ่งบอกว่าน้ำตามันไหลออกไปแล้ว ผมยืนทำใจสักพัก บอกตัวเองเป็นรอบที่ล้านว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องเอาใจไปผูกกับคนที่เดินจากไปแล้ว น่านฟ้าก็เป็นแค่คนที่เดินผ่านเข้ามา เป็นแค่คนๆนึงที่เคยรู้สึกดีต่อกัน



ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพราะฉะนั้นผมควรจะสนใจคนตรงหน้ามากกว่า น้องเอยยังรอผมอยู่



 
ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง  เช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ








“น้องเอยสั่งอะไรไปบ้างคะ” ว่าพลางนั่งลงแล้วยิ้มส่งไปให้คนตรงหน้า แต่ผลที่ได้กลับมาคือน้องไม่ได้ยิ้มตอบ

“พี่ซน” เสียงไม่หวานหูเหมือนแต่ก่อน ออกจะแข็งกระด้างไม่ต่างจากแววตาที่ส่งมาให้ มันทั้งแข็งกร้าว ไม่เข้าใจและเต็มไปด้วยคำถาม

“น้องเอย เป็นอะไรหรือเปล่า”

“พี่ซน พี่นอกใจเอยจริงๆสินะคะ” น้องไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้น ซึ่งปกติน้องเอยก็เป็นคนแบบนี้ "พี่ซนบอกเอยสิคะว่าไม่ใช่"


ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนเป็นขีด ดวงตาสั่นระริกราวกลับมาวันจะแตก ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจก่อนจะก้มลงมองมือถือที่ถูกเปิดค้างไว้ ไม่ต้องเดาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ภาพทุกภาพ คลิปทุกคลิปของผมกับไอ้น่านถูกเก็บไว้ในนั้น ปกติน้องเอยไม่เคยยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัว ไม่เคยจับผิดเรื่องมือถือ เพราะงั้นผมถึงไม่เคยระแวงว่าน้องจะเปิดมือถือผมดู และผมก็ไม่เคยตั้งรหัสพาสเวิร์สอะไรด้วย


“บอกเอยได้ไหมคะว่ามันไม่จริง...ฮึก...เอยเชื่อพี่ซนคนเดียว...พี่ซนพูดคำเดียวว่าไม่ใช่...เอยจะเชื่อ...ที่ผ่านมาเอยแค่คิดไปเอง..รูปพวกนี้ก็แค่รูปที่ถ่ายเล่นกับพี่คนนั้น....ใช่ไหมคะพี่...บอกเอยนะ...ฮือ..ว่ามันไม่จริง...ฮึก...ฮือ” ผมสงสารน้อง เอยดูน่าสงสาร ผู้หญิงที่เคยแคร์ว่าคนอื่นภาพลักษณ์ที่มีต่อคนรอบข้าง ปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างไม่อายใครทั้งนั้น


“พี่...” เสียงแห่บพร่าไม่ต่างไปจากความรู้สึกที่กำลังเจ็บปวด ผมไม่อยากโกหก และผมก็ไม่เคยโกหกน้องด้วย ที่ผ่านจะมีก็แค่พูดไม่หมด



“ฮึก....บอกเอยสิพี่ซน...มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมอ่ะ...ฮึก...ฮือ...พี่ซน...เอยเชื่อพี่ซนคนเดียวนะคะ...” จะให้ผมบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงได้ยังไง ทั้งๆที่ภาพที่อยู่ในมือถือมันก็เด่นชัดออกขนาดนั้น






“พี่ขอโทษ...”





>>>TBC<<<
Action=reaction ตามกฏของนิวตัน (ที่เคยเรียนไว้เมื่อนานมาแล้ว) บอกว่าแรงกิริยาเท่ากับแรงปฏิกิริยา  เมื่อออกแรงผลักวัตถุ  ก็จะมีแรงโต้ตอบจากวัตถุกลับมาเท่ากัน ถ้านำเอากฎข้อนี้ไปอธิบายเรื่องของสภาพจิตใจ  เมื่อคนหนึ่งเป็นฝ่ายกระทำ ซึ่งถ้าหากคนถูกกระทำไม่โต้ตอบในระยะแรก  นานไปสักระยะหนึ่งเมื่อถูกกระทำจนเกินขีดจำกัดความอดทนได้  การโต้ตอบมักจะรุนแรงมากกว่า (ล่ะมั้ง)
คนแต่ง #ทีมซน (สงสัยว่าน่าจะเป็นทีมทำร้ายซนมากกว่าแหละ)
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 14-05-2015 16:23:10
แกสมควรจะเจ็บปวดรวดร้าวสะท้านทรวงมากกว่านี้นะอิซน
ทำคนอื่นเค้าเจ็บปวดไปทั่วเพราะความเห็นแก่ตัวความโลเลของแก
ขอให้สุดท้ายชีวิตแกไม่เหลือใคร หันไปทางไหนก็ไม่มีคนเอา
ไม่ว่าจะเป็นน่านหรือเอยก็ตาม รอสมน้ำหน้าและกระทืบซ้ำแกอยู่นะซน สาแก่ใจจริงๆ 5555+++
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-05-2015 16:30:56
 :mew5:   พี่แอลน้องเอยตอกฝาโลงให้ซนชัดๆ
เอาไงดีล่ะ. ถ้าน่านเค้ารักกะแอลแกก็ทำอะไรไม่ได้. หรือว่าจะแย่งมาล่ะ.
ซนถามตัวเองซิว่ารักน่านมากกว่าแอลไหม.
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-05-2015 17:04:44
แอลกะน่านจูบกันไมอะ.  เป็นแฟนกันแล้วเหรอออออ. เฮ้อออ.สงสารซนดีไหมนะ  น่านจะมีความสุขจริงๆเหรอถ้าคบกะแอล. เฮ้ออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 14-05-2015 17:41:42
เรื่องที่บอกว่าพี่น่านกับพี่แอลจูบกันน่ะ เราไม่เชื่อหรอกค่ะ เราว่าซนตาฝาดมากกว่าอีกนะ อีกอย่างเขานั่งกันอยู่ในรถ แถมยังมองไม่ค่อยชัดแบบนั้นด้วย อาจจะบังเอิญผงเข้าตาแล้วเขาเอี้ยวตัวเข้ามาดูให้กันในจังหวะที่ซนมองเห็นพอดีเลยก็ได้ เอาน่า..อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนี้เลยค่ะซน เพราะถ้าพี่น่านจะคบกับพี่แอลจริงๆ ก็คงไม่ปล่อยเวลาไว้ให้นานขนาดนี้หรอกค่ะ สู้คบกันไปตั้งนานแล้วไม่ดีกว่าเหรอ? แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นความตั้งใจของพี่แอล (คนเดียว) ที่อยากให้ซนเห็นเป็นภาพแบบนั้นก็ได้ใครจะรู้ใช่ไหมคะ?

เอาล่ะค่ะ กลับมาที่เรื่องของซนต่อดีกว่า ถ้าซนรักน้องเอยจริงก็ปล่อยน้องไปเถอะค่ะ อย่ายื้อต่อไปอีกเลย ทั้งๆ ที่ความสัมพันธ์ของซนกับน้องเอยมันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ซนปล่อยให้พี่น่านเข้ามาเป็นคนที่สามระหว่างซนกับน้องเอยแล้วล่ะ อย่าหลอกตัวเองอีกเลยนะคะ ว่าภาพในใจยังเป็นน้องเอยเหมือนเดิม.. 
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 14-05-2015 18:06:06
ปกติจะเข้าข้างฝ่ายรับตลอดนะแต่เรื่องนี้นี่ไม่เลย เราไม่ชอบคนจับปลาสองมือ  น่านมันเจ็บแล้วก็น่าจะจำนะ  มีแอลก็ดี  เราว่าแล้วน้องเอยต้องเจอแต่เราว่าซนคงไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วน่าจะรู้สึกผิดมากกว่า  จากนี้ก็มองน่านแล้วกันนะเพราะเขาก็มีคนของเขาที่รักเขาแล้ว   เรื่องซูด้วยขอไงก็อย่าไปแทรกเป็นมือที่สามของคู่อื่นเลย

ถ้าเลิกกับเอยแล้วก็ไม่อยากให้ซนไปวิ่งตามน่านนะ  อย่ายื้อหรือแย่งเลยเพราะว่าอีกฝ่ายตัดสินใจแล้ว  การกลับมาหากันอยากให้กลับมาแบบเพราะรักกันและอยู่โดยขาดอีกฝ่ายไม่ได้มากกว่า
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: T_t⊙€i☜♥♡ ที่ 14-05-2015 18:16:28
ทีมซน บอกเลย
 :sad4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-05-2015 18:45:54
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 14-05-2015 22:12:59
ไม่รักกันก็ไม่ต้องยื้อค่ะซน
น่านจูบกับแอลจริงหรอ?
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 20 action=reaction [14-05-15:P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-05-2015 12:26:14
 :katai1: ม่ายนะ น่านอะอย่าเพิ่งมีคนใหม่ดิ ซนมันแค่สับสนกับชีวิต ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง(เลยทำร้ายน่านแบบไม่รู้ตัว)
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 19-05-2015 17:30:18
Because of you ซน ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บปวด


“ถ้างั้นผมเอาห้องเมื่อกี้ก็ได้ครับ” ผมบอกพี่เจ้าของหอพักก่อนจะเคลียร์ค่าจ่ายทั้งหมดกับเขา ทั้งค่าเช่าล่วงหน้า รวมถึงค่ามัดจำอีกสามเดือน หมดไปหลายหมื่น หลังจากที่รู้ว่าตัวเองสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาลัยที่เพิ่งไปสอบเมื่ออาทิตย์ก่อนผมก็ตัดสินใจว่าจะมาอยู่หอพัก เนื่องจากความสะดวกและขี้เกียจเดินทาง แต่ก็คิดว่าคุ้มกว่าการต้องนั่งรถเมล์ไปกลับเพราะดูท่าทางแล้วไอ้ซูคงไม่มารับมาส่งผมแหงๆ ด้วยที่มันเรียนอีกที่ซึ่งออกนอกเมืองไปยิ่งกว่าผมดังนั้นการจะหวังพึ่งน้องชายคนกลางก็ดูจะเป็นไปได้ยาก แล้วยิ่งจะร้องขอรถเหมือนที่ไอ้ซูได้ก็ดูเหมือนว่าจะยากมากกว่าเพราะต้องแลกมาด้วยเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าสามในเทอมแรก ซึ่งบอกตามตรงแค่สอบเข้าได้ก็บุญหัวจะตายอยู่แล้วครับ ยังจะมาเอาสามนี่มันเป็นไปได้ยากสุดๆ แต่ก็ยังดีที่ม๊ากับป๊ายังมีความรักลูกคนนี้อยู่บ้างเลยเลือกที่จะให้มาอยู่หอพักแทน

ห้องที่ผมอยู่ขนาดไม่ใหญ่มากในราคา 5000 บาท เดินเข้าไปเจอเตียงคู่วางอยู่กลางห้อง เฟอร์นิเจอร์ครบทั้งแอร์ ทีวี โต๊ะอ่านหนังสือและตู้เย็น ระเบียงเล็กๆทางขวามือกับห้องน้ำขนาดใหญ่ผมคิดว่าสำหรับผมเท่านี้ก็ถือว่าโอเคและ ที่เหลือก็ไปขนพวกผ้าห่มผ้าขนหนูผ้าปูที่นอนมาจากที่บ้าน ก็สามารถวางรากฐานชีวิตได้เลย

“สรุปว่าเอาที่นี้” ไอ้ซูโผล่หน้าเข้ามาถามพร้อมกับขยับนั่งลงเล่นกับแมวเจ้าของหอพัก ผมพยักหน้าบอกมันแทนคำตอบ

“พี่ชื่อพี่นางนะคะ ถ้าน้องมีปัญหาอะไรก็เรียกพี่ได้ตลอด หอพักเราห้ามนำยาเสพติดเข้ามาในหอพัก ห้ามทะเลาะและห้ามส่งเสียงดังรบกวนห้องอื่น ปกติห้องพักจะเป็นแบบเก็บเสียงอยู่แล้วถ้ามันดังเกินลิมิตจนห้องโทรมาแจ้งเราจะทัณฑ์บนไว้หนึ่งครั้งถ้ามีครั้งที่สองพี่ไล่ออกทันทีนะคะ ยังไงรบกวนเคารพกฏกติกากันด้วยเนอะ ส่วนเรื่องๆพี่ไม่ซีเรียสค่ะ” พี่นางร่ายยาวถึงกฏของหอพัก ผมพยักหน้าเข้าใจเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกที่ต้องมีข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตาม

“ผมสามารถเข้ามาพักได้เลยใช่ไหมครับ”

“ได้เลยค่ะ ห้องมันว่างอยู่แล้ว ยังไงก็ยินดีต้อนรับนะคะ”

“ขอบคุณมากครับพี่นาง” ผมยิ้มแล้วยกมือไหว้เจ้าของหอที่ดูท่าทางเป็นกันเอง ก่อนจะเอ่ยลาแมวขนสีน้ำตาลที่หน้าตาน่ารักกว่าอิแสนดีที่บ้านด้วยการลูบหัวมันไปทีนึง เวลาเห็นแมวที่ไรอดนึกถึงคนอีกคนที่บ้าแมวไม่ได้ทุกที ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

“ทำหน้าเหมือนปวดขี้อีกแล้ว กลับบ้านไปเอาของกัน” ไอ้ซูคว้าคอผมไปกอดแล้วดันไหล่ออกจากหอพัก ช่วงนี้ก็มีแต่มันนี่แหละที่คอยดูและตลอด

หลังจากที่พูดคุยรายละเอียดกันเสร็จไอ้ซูก็พาผมไปขนของจากที่บ้าน ก่อนจะแวะที่โลตัสเพื่อซื้อพวกผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ไมโครเวฟที่เด็กหออย่างผมจำเป็นจะต้องมี รวมถึงพวกของกินและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ หนึ่งวันหมดไปกับการซื้อของและจัดของเข้าห้อง เวลาที่งานยุ่งมากๆมันดีก็ตรงที่ผมไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องอื่น

“เฮ้อออออ เสร็จสักที” ผมล้มตัวลงบนกลุ่มหมอนที่วางระเกะระกะอยู่บนที่นอน ซูมันเข้าใจผมที่ผมซื้อหมอนหลายใบ เพราะที่นอนมันกว้างไปเลยต้องหาหมอนมานอนเป็นเพื่อน ตรงขวามือทางออกไประเบียงผมเอาพรมมาปูกับโต๊ะญี่ปุ่นเพื่อไว้นั่งกินข้าว ใกล้ๆกันมีโต๊ะอ่านหนังสือที่ทางหอพักเตรียมให้ จัดไม่ยากเท่าไหร่ และมันก็ดูลงตัวมากๆถ้าอยู่กันสักสองคน แต่คนเดียวก็ได้ สบายดี

“พรุ่งนี้รายงานตัวใช่เปล่า” ซูล้มตัวลงนอนข้างผม มันเอื้อมมือข้างนึงแนบลงกับแก้มลูบเบาๆเหมือนอย่างที่มันชอบทำเวลาต้องการปลอบ

“อื้อ” ผมหลับตารับสัมผัสจากไอ้ซู ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ผ่านมามีก็แต่มันที่อยู่เป็นเพื่อน ซูมันอยู่กับผมแทบจะตลอดเวลาด้วยซ้ำ ขนาดตอนนอนมันยังย้ายมานอนห้องผม

“ให้นอนเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่ต้อง”

“แล้วอยู่คนเดียวได้???” ผมลืมตามองไอ้คนที่ขึ้นชื่อว่าน้องชายก่อนจะพยักหน้าบอกมันแกนๆ

“ได้ดิ...ได้อยู่แล้ว” ช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาผมพึ่งไอ้ซูมันมามากแล้ว ทั้งปลอบ ดูแล พาไปนั่นไปนี่ ผมเองก็ไม่อยากให้น้องต้องมาห่วงผมเพราะเรื่องของผมเท่าไหร่ อาจจะใช่ว่าสองวันแรกที่เลิกกับน้องเอยผมนอนไม่หลับ ไม่กินข้าว ไม่ทำอะไรทั้งนั้น คิดตลอดเวลาว่าที่ผมบอกเลิกน้องมันถูกต้องแล้วหรือเปล่า ภาพที่เห็นน้องเอยร้องไห้บอกว่าไม่เป็นไรเอยรับได้ยังติดอยู่ในหัว แต่มาคิดแล้วคิดอีกที่ผมทำไปคงถูกที่สุดแล้วแหละเพราะคนรักกันมันไม่ควรตั้งอยู่บนความระแวง

อีกอย่างความรู้สึกผมตอนนี้มันก็ไม่ได้มีน้องเอยเหมือนแต่ก่อนแล้วด้วย ถ้าฝืนคบกันต่อไปก็รั้งแต่จะทำให้น้องเขาเจ็บเปล่าๆ เพราะงั้นการที่ผมปล่อยน้องเขาไป ก็คิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด คงได้ภาวนาให้น้องเขาเจอคนที่ดีกว่าผม ไม่หลอกลวง หรือนอกใจเหมือนผมก็พอ

“เลิกเสียใจได้แล้วซน...” ถึงแม้ว่าผมไม่ได้รักน้องเอยแล้วแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่เสียใจนะครับ

ผมกับเอยเราคบกันมานาน อยู่ด้วยกันตลอด มันก็เป็นธรรมดาที่อาจจะเสียใจบ้าง ยิ่งมาผสมโรงกับภาพที่เห็นไอ้น่านจูบกับพี่แอลอีก ความรู้สึกมันเลยบวกมากเกินกว่าปกติ

“กลับมาเป็นพี่ชายที่ร่าเริงเหมือนเดิมได้แล้ว” ไอ้ซูยังพูดปลอบพร้อมกับลูบหัวผมไม่ปล่อย ผมรู้นะครับว่าน้องห่วง ก็พยายามกลับมาเป็นปกติที่สุดแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าปกติของตัวเองมันเป็นแบบไหน เพราะหลังจากที่บอกเลิกน้องผมก็ไปไม่เป็นอยู่หลายวัน เพิ่งจะมาเป็นผู้เป็นคน พูดคุยกับที่บ้านได้บ้างก็ตอนที่ผลสอบออกในอีก 1 อาทิตย์ต่อมานี่แหละ

“อืม อีกนิดนะ ขอเวลากูอีกนิด” มันคงไม่มีอะไรทำให้เจ็บไปมากกว่านี้แล้วแหละ ทั้งเลิกกับแฟน หรือรู้ตัวเองว่ารักเขาช้าไปในวันที่เขามีคนอื่นแล้ว

ยังงี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ

เพราะคนแบบผมสมควรที่จะอยู่คนเดียวที่สุด





วันรายงานตัว
ผมมาถึงมหาลัยประมาณแปดโมงกว่า เวลารายงานตัวจริงๆคือแปดโมงครึ่ง ในคณะคราคร่ำไปด้วยเด็กปวส.ที่สอบผ่านนับรวมๆกัยแล้วก็มีไม่ถึง 50 หรอกครับ เพราะพวกปวส.ที่จะเรียนต่อเนื่องอย่างผมมีไม่มาก แถมยังต้องไปเรียนรวมกับพวกเด็กปีสามอีก แอบกลัวว่าตัวเองจะโดนไทด์เหมือนกัน เพราะพวกผมไม่ได้เรียนเหมือนพวกเด็กสายสามัญ คำนวญนี่ถือว่าน้อยมากจนเหมือนไม่ได้เรียนด้วยซ้ำ

“อ่าวมึง จันป่ะ” ผมเดินไปทักไอ้คนที่เคยสอบเลขที่ใกล้ๆผม เห็นมันกำลังทำหน้างงๆมองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไรสัก

“เปล่ากูอังคาร” หมายความว่าไงวะ

“มึงมีฝาแฝดเหรอ”

“ฮ่า ฮ่า มึงนี่มันตลก” ไอ้จัน(ไร)หัวเราะเสียงดัง “กูพูดเล่น นี่มึงสอบติดกับเขาด้วยเหรอวะ ไม่อยากจะเชื่อ น้ำหน้าอย่างมึง คงไม่พ้นว่าลอกกูสินะ”

ผมเอือมระอากับมันจริงๆ คิดผิดหรือคิดถูกวะที่เดินมาทักมันเนี่ย “มึงว่าวันนี้จะเสร็จกี่โมงวะ”

“ไม่รู้ว่ะคงเย็นๆมั้ง”

“อย่าเย็นมากเลยแม่ง วันนี้กูมีนัดกับสาวด้วย” ไอ้จันบ่นไม่หยุดก่อนแต่ผมก็ไม่ได้ตั้งใจฟังมันเท่าไหร่ เพราะมัวแต่สำรวจโดยรอบก่อนสายตาจะสะดุดเข้ากับร่างคุ้นตาที่เดินมาพร้อมกับเพื่อนๆมัน

“กูว่ามึ งพร้อมลงกว่าอาทิตย์ก่อนอีกนะ แดกข้าวบ้างไหมเนี่ย”

“เหรอวะ ช่วงนี้กูเบื่อๆอาหารว่ะ”

“เป็นไรวะ อย่าไปคิดมากเลย เชื่อกู”

“อืม” ผมครางตอบไอ้จันในลำคอเบาๆ สายตาก็ยังมองไปยังคนที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นานแล้วมั้งที่ไม่ได้เห็นหน้ามันชัดๆแบบนี้ วันนั้นที่อยู่ในรถก็เห็นแต่ด้านข้างไม่ได้เห็นเต็มตาเท่าวันนี้

ดูมัน...มีความสุขไม่เหลือเคล้าคนที่ทำหน้าเศร้าในคืนสุดท้ายที่เราคุยกันด้วยซ้ำ หน้าตาสดใสไม่ต่างจากรอยยิ้มที่ส่งไปให้คนที่เดินอยู่เคียงข้าง ดีแล้วที่มีความสุข....ดีแล้ว

ผมละสายตาจากพวกเขาแล้วหันมองไปที่อื่น เกลียดความรู้สึกตัวเองชะมัด เกลียดความร้อนที่กำลังไหลรวมอยู่ตรงกระบอกตา เกลียดความอึดอัดที่จุกแน่นอยู่ที่คอ เกลียดน้ำตาที่กำลังจะไหล ผมไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งๆที่ผ่านมาก็คิดว่าตัวเองลืมได้ไม่ยากแต่ทั้งหมดที่ทำมากลับพังทลายลงเพียงเพราะเห็นหน้ามันแค่แว่บเดียว

“ซน..เขาเรียกแล้ว ขึ้นไปบนอาคารกัน” ไอ้จันพูดชวนผมแล้วผลักตัวผมให้เดินไปข้างหน้า ตอนนี้ผมไม่ต่างจากหุ่นยนต์เดินได้สักเท่าไหร่ มีแต่ร่างกาย แต่สมองและจิตใจมันไปอยู่ที่อื่น ไอ้จันพาผมมานั่งตรงที่นั่งหลังสุด แต่ถึงจะเป็นหลังสุดก็ยังเห็นอยู่ดีว่าใครยืนอยู่หน้าห้อง ความอึดอัดยิ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะสายตาจากคนกลุ่มนึงที่มองมาที่ผม

“พวกเชี่ยที่อยู่หน้าห้องมันจ้องอะไรนักหนาวะ น่ารำคาญ” ไอ้จันบ่นเพราะมันเองก็คงรู้สึกถึงการโดนจ้องมาไม่ต่างจากผม “มึงรู้จักพวกมันงั้นเหรอ”

“อืม”

“สงสัยมันรอให้มึงหันไปไหว้มั้ง” ผมหันไปไหว้พวกมันตามที่ไอ้จันบอก... พี่โก้เป็นคนแรกที่ยิ้มกลับมาไม่ต่างจากพี่ป็อบที่แทบจะโบกมือให้ พี่แอลเองก็พยักหน้าให้เบาๆก่อนจะหันไปคุยกับไอ้น่านที่สะกิดให้ดูอะไรสักอย่างในมือถือต่อ


ส่วนไอ้น่านมันไม่ได้มองผมเหมือนกับคนอื่น มัวแต่สนใจมือถือกับติดพูดคุยสนุกกับพี่แอล คิดดูล่ะกันครับแม้แต่หางตามันก็ไม่คิดจะเหลียวมองมาด้วยซ้ำ


แค่คิดว่ามันเลิกใส่ใจ เลิกสนใจในตัวผม ความเจ็บปวดก็ระเบิดออกมาทันที รู้แค่ว่าผมไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว อยากเดินออกไปให้พ้นๆหน้าไอ้น่าน ผมกลัวว่ามันจะทำหน้าเอือมระอาใส่ตอนที่เห็นหน้าผม กลัวมันคิดว่าที่ผมเข้ามหาลัยนี้มาเพราะผมตามตื้อมัน


ผม...กลัวไปหมด


กลัวมากที่สุดก็คง กลัวว่ามันจะเกลียดผมแล้ว...ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมคงรับมันไม่ไหว...



มึงเป็นไรวะซน...ทำไมหน้าซีด”

“เปล่า”

“มึงเปล่าได้ไง หน้ามึงไม่ได้บอกว่าเปล่าสักนิด เป็นไร...”

“จัน...กูปวดท้อง...ฮึก..” ช่วงหลังมานี้ผมมักจะมีอาการปวดท้องมาเป็นระยะๆ ไม่รู้ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร อาจจะเพราะเครียดหรือไม่ก็ไม่ยอมทานข้าว แต่ที่ร้องไห้ออกมาผมไม่แน่ใจว่าเพราะปวดท้องหรือปวดอย่างอื่นกันแน่

“มึงปวดมากเลยเหรอวะ” ผมงอตัวราบกับโต๊ะแลคเชอร์

“กูทนได้”

“ทนเหี้ยอะไรล่ะ อาจารย์ครับ อาจารย์ เพื่อนผมไม่สบาย!!!!” เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือไอ้จันตะโกนบอกอาจารย์หน้าห้องว่าผมไม่สบาย ก่อนทุกอย่างจะดับลงไปพร้อมกับความมืด






ในความฝันผมเห็นไอ้น่านกอดผมไว้ มันเป็นคนอุ้มผมลงบนที่นอน มือเย็นๆของมันลูบหัวผมช้าๆแล้วกระซิบบอกกับผมว่ามันกลับมาแล้ว แต่ความฝันมันก็ยังคงเป็นความฝันเพราะความจริงที่ตื่นมากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

“ตื่นสักทีสินะมึง” ไอ้จันนั่งอยู่ข้างๆเตียงยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้ “กว่าจะตื่นได้ กูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอว่ากูนัดสาวไว้”

“โทษทีว่ะ” ผมลุกขึ้นนั่งดีๆ มองสำรวจรอบกาย ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานพยาบาลสักที่คิดว่าน่าจะห้องพยาบาลของมหาลัยหรือไม่ก็คณะ

 “แล้วมึงโอเคแล้วใช่ไหม” ผมพยักหน้าบอกไอ้จันเป็นคำตอบ  “จะกลับเลยเปล่า เดี๋ยวกูไปส่ง แต่ต้องเป็นเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ยเพราะกูรีบ” ไอ้จันส่งกระเป๋ามาให้ผมทันที มันทำท่าจะลากผมลงจากเตียงเอาซะเดียวนี้ แต่ผมยังไม่ไหวอ่ะ อยากพักสักครู่แล้วค่อยกลับ

“มึงกลับไปก่อนเลยไม่ต้องรอ กูกลับเองได้”

“เอางั้นเหรอ??” มันพูดเหมือนไม่แน่ใจแต่กระเป๋าดันสะพายขึ้นบ่าเรียบร้อย

“เออ เอาแบบนี้แหละ”

“ถ้างั้นก็ตามใจมึง งั้นกูไปนะเจอกันเว้ย” ผมพยักหน้าให้ไอ้จันก่อนจะเอนตัวพิงกับเตียง

“เดี๋ยว” ผมรั้งไอ้จันไว้เพราะความหวังที่เกิดจากความฝันก่อนที่จะตื่นพุ่งเข้ามาในใจอดคิดไม่ได้ว่าขอให้มันเป็นความจริง “ใครพากูมาส่งที่ห้องพยาบาลวะ”

ผมยอมรับว่าตัวผมแอบหวังลึกๆว่าคนที่อุ้มผมมาพร้อมกับอ้อมกอดที่อบอุ่นจะเป็นไอ้น่าน

“จะใครวะ...ถ้าไม่ใช่กู” ไอ้จันพูดเสียงเบาหวิวก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องพยาบาลไป เสียงมันที่เปล่งออกมาดูคล้ายๆกับสงสารหรือไม่ก็สมเพชในตัวผม


ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ ทั้งๆที่มันก็อยู่ตรงหน้า แต่บางครั้งผมก็อยากติดอยู่ในความฝันมากกว่าจะตื่นมาพบกับความจริงที่กำลังตะโกนใส่หน้าว่า ต่อจากนี้ผมจะไม่มีน่านฟ้าที่คอยอยู่ข้างๆอีกแล้ว...ไม่มี










ผมออกมาจากห้องพยาบาลตอนที่ท้องฟ้ากำลังกลายเป็นสีส้ม ลมร้อนปะทะเข้าที่หน้ามันหอบเอาความชื้นของกลิ่นฝนมาด้วย ใกล้ฤดูฝนเต็มที ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอให้มันช่วยชะล้างเอาความเจ็บปวดให้ออกจากใจไปด้วย ผมเดินเตร็ดเตร่อยู่ใต้คณะสักพัก เด็กนักศึกษาส่วนใหญ่กลับบ้านหมดแล้ว ลานคณะเงียบเหงาไม่ต่างจากใจผมเท่าไหร่นัก






“ซน” เสียงคุ้นหูทำเอาลมหายใจสะดุด ผมตัวชาหนึบทันทีที่รู้ว่าเสียงที่อยู่ด้านหลังเป็นใคร ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นมันทำให้เหงื่อผมซึมออกจากมือจนเหนียวไปหมด “มึง...เป็นไงบ้างวะ กูเห็นมึงล้มในห้องประชุม มึงไม่สบายเหรอ”

ผมนับ 1 ถึง 3 ในใจแล้วค่อยๆหันมามองคนข้างหลัง น่านฟ้าคนเดิมที่ปกติมักจะส่งยิ้มล้อๆมาให้ กำลังยืนเลิกคิ้วถามผม สีหน้าไม่ได้แสดงออกว่าห่วงมากเท่าไหร่นัก แววตาที่แสดงออกมาก็ไม่ได้รักและรู้สึกโหยหาเหมือนเก่า

“เปล่า...กูแค่ลืมกินข้าวน่ะ” เสียงที่พูดออกมาดูคล้ายจะฝืนเต็มที มือก็พยายามอย่างมากที่จะกอดตัวเองไว้ไม่ให้เอื้อมไปจับคนตรงหน้า

“กูก็นึกว่ามึงจะเป็นอะไรมากไหม แล้วนี่เป็นไงบ้าง สบายดีนะ”

“ก็...” ไม่สบายนักหรอกตั้งแต่ไม่มีมึง กูกินข้าวไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ อยากกอดมึง อยากจูบมึง อยากเอามึงมาอยู่ข้างๆเหมือนเดิม

ผมกลืนคำพูดพวกนั้นลงคอ สูดหายใจลึกๆแล้วหันมายิ้มให้ไอ้น่าน “สบายดีแหละ มึงล่ะสบายดีนะ”

“ก็ดี ช่วงนี้ยุ่งมาก ทั้งเรื่องรับน้อง เรื่องยื่นขอจบ แต่อะไรๆก็ลงตัวขึ้น ยังดีที่มีแอลช่วยไม่งั้นก็คงโง่อีกนานอ่ะ” ที่น่านฟ้าพูดไม่รู้ว่าผมเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่าว่ามันกำลังหมายถึงผม ที่มันบอกว่าถ้าไม่มีพี่แอลช่วยมันก็คงยังโง่ไปอีกนาน หมายความว่าถ้ามันยังอยู่กับผมก็จะกลายเป็นคนโงงั้นเหรอ

ผมเม้มปากแน่น ก้มหน้าลงกับพื้น กลัวน้ำตาตัวเองจะไหลให้ไอ้น่านเห็น

 “น่าน” ผมว่าตัวเองคงทนไม่ไหวถ้าไม่รู้ความจริงจากปากไอ้น่าน “กูถามอะไรมึงอย่างดิ”

“ว่า”

“มึงกับพี่แอลคบกันแล้วเหรอวะ” ถามไปใจก็ผมก็ลุ้นไป ไม่รู้คิดถูกแล้วหรือเปล่าที่ถามมันออกไปแบบนั้น ทั้งๆที่กลัวคำตอบมันมากที่สุด แต่ก็อยากรู้ว่าความจริงมันคืออะไร ผมจะได้เลิกหวังสักที

“มึงคิดว่าไงล่ะ”

“คบ...มั้ง”

“ก็คงเป็นอย่างที่มึงคิดนั่นแหละ” น่านฟ้าเอื้อมมือมาวางไว้บนหัวผม เสี้ยวหนึ่งของความคิดผมอยากดึงมันมากอด “กูไปแล้วนะ นัดไอ้แอลไว้ ยังไงเจอกันอีกทีเปิดเทอมละกัน”

แต่ความคิดที่อยากจะกอดก็หยุดชะงักลงเพราะน่านฟ้าไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว ความอบอุ่นสุดท้ายที่มันส่งมาให้คือการขยี้เบาๆที่หัวแบบที่มันชอบทำ ผมเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเข้มแข็งกว่านี้ เรื่องเล็กน้อยอย่างการรักใครสักคนแล้วเขาไม่รักตอบมันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ความจริงทำให้ผมรู้ว่าจริงๆแล้ว ผมอ่อนแอ




อ่อนแอมากเสียจนปล่อยให้ความเจ็บปวดเข้าครอบงำความรู้สึก




ผมทรุดนั่งลงลงกับพื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่คิดที่จะเช็ดมันออก ในใจเอาแต่พูดกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่า ไม่ไหว....พอได้แล้วหยุดสักที





ฮึก...ผมไม่ไหวจริงๆนะครับ ฮึก....ผมอยากเลิกรักน่านฟ้าแล้ว....ไม่อยากรักมันแล้ว...



>>>>>>TBC<<<<<
ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกว่า รอตอนต่อไป หึหึ ลองเดาดู
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-05-2015 17:34:54
อยากถามจากใจว่าน่านไหวจริงๆปะ แน่ใจใช่ไหมว่าสบายดี.   :hao7: 
ซนแกก็สำนึกได้แล้วเนอะว่าควรอยู่คนเดียว. แต่ตัวคนเดียวต้องดูแลตัวเองได้ด้วยดิ.
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-05-2015 17:50:09
คนเราก็ต้องผ่านช่วงนี้กันทั้งนั้นแหละ  ต้องรับกรรมในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้  ซนก็ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วย  จากนี้ไปก็ต้องทำใจแล้วก็เรียนรู้สร้างชีวิตใหม่ที่ไม่มีน่านกับเอย  ก็เหมือนสร้างความดีใหม่นั่นแหละ  เราหวังว่าแอลจะไม่มาสร้างความร้าวฉานอะไรมากไปกว่านี้หรือทำเรื่องแกล้งซน หวังว่าซนจะไม่ไปตื้อน่าน  กลัวว่าซนจะเรียนไม่ได้เพราะว่าปกติก็ไม่ค่อยเก่งเรื่องเรียนอยู่แล้ว 

น่านอาจจะเป็นฝ่ายกลับมาหาซนอีกเพราะยังรักซนอยู่  น่านน่าจะเป็นคนอุ้มซนไปห้องพยาบาล  ต่อไปรับน้องกับพี่รหัสใช่ไหม เสียวๆชอบกล  ชอบซูค่ะ น่ารักจริงๆดูแลพี่ชายดีมากๆ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-05-2015 17:52:42
เรายังไม่ปักใจเชื่อเรื่องพี่น่านคบกับพี่แอลแบบ 'แฟน' เลยค่ะ มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นสิคะ แล้วคนที่พาซนมาห้องพยาบาลก็ไม่น่าจะใช่จันอีกเหมือนกันนั่นล่ะ (หรือเปล่า?)

อ่านตอนนี้แล้วสงสารซนเหมือนกันนะคะเนี่ย นอกจากจะสับสนในตัวเองแล้ว ยังตัดสินใจผิดอีกต่างหาก เห็นใจทุกฝ่ายเลยค่ะ สู้ๆ เข้าน้าา~ :a2: ..
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 19-05-2015 17:53:31
ไม่อยากซ้ำเติมซนหรอกนะ แต่ตัวเองก็ทำเค้าเจ็บเจียนตายมาตั้งหลายต่อหลายครัง
ที่ซนได้รับตอนนี้มันยังไม่ได้ถึงเสี้ยวนึงที่น่านเคยเจ็บเลยนะ นี่แหละทำอะไรกับเค้าไว้
สุดท้ายมันก็จะย้อนกลับมาสนองตัวเองเสมอ อดทนให้ได้แล้วกันเพราะน่านยังผ่านมันมาได้เลย
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-05-2015 18:26:33
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-05-2015 19:04:45
สวสารซนอะ.   :sad11:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 19-05-2015 19:54:43
ตอนนี้กระบอกตาร้อนผ่าวเหมือนซนเลย น้ำตาจะไหล
เพราะว่าซนเป็นคนเล่าเรื่องละมั้ง เราเลยรู้สึกว่าซนเจ็บมากๆ ในช่วงนี้
ส่วนน่าฟ้า เราไม่พูดถึงดีกว่า รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-05-2015 21:59:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-05-2015 23:13:04
สงสารซนน่ะ ที่แล้วมาใช่ว่าซนจะผิดฝ่ายเดียว น่านก็มีส่วนผิด รู้ทั้งรู้ว่าเขามีคนรักแล้ว ยังนำตัวเองไปผูกมัดกับซน

น่านจะคบกับแอลก็เชิญเลย ส่วนซน เลิกทำร้ายตัวเองได้แล้ว เขาไม่รักก็ปล่อยเขาไป

เต็มที่กับเพื่อนๆ กับเรื่องเรียนดีกว่า รอความรักครั้งใหม่ ที่ใช่ และไม่ทำร้ายใครทั้งสิ้น
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 19-05-2015 23:52:14
สุดท้ายซนก็ไม่เหลือใคร แต่ว่าน่านนี่ทำใจได้จริงๆ หรอ เร็วไปรึป่าว หรือว่ามีแผนอะไรที่มากกว่านั้นกันแน่
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: PK13 ที่ 20-05-2015 09:47:17
สู้ๆนะซน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 22-05-2015 12:04:40
เราอ่านตอนนี้นึกถึงเรื่องของวินเลย
สักวันซนจะผ่านไปได้ เวลาตัดสินแล้วกัน

เศร้า  :o12:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 22-05-2015 17:09:17
สู้ๆนะซน กว่าจะรู้ตัวก็....TT
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 22-05-2015 18:41:31
มารอตอนใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 23-05-2015 00:02:56
หน่วงฝุดๆ รอตอนต่อไปนะ..
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 23-05-2015 11:41:18
ต้องดูแลตัวเองให้ได้...
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บ [19-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: p^tarn ที่ 23-05-2015 16:07:59
ท้ายตอนแรกบอกว่าไม่ดราม่า.  จริงจ๊ะ ไม่ดราม่าเลยอะจ๊ะ. ไม่ดราม่าจ๊ะ. น้ำตาที่ไหลตอนนี้คือไหลเพราะหัวเราะคะ อือออออออ ใจร้ายมาก
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 24-05-2015 19:55:51
Because of you ซน ตอนที่ 22 ตัวจริง

มหาลัยผมเปิดเทอมมาได้สองอาทิตย์กว่าๆแล้วครับ ชีวิตที่นี้ก็ดูปกติดีเพื่อนใหม่ที่เข้ามาทั้งพวกเด็กปีสามเดิมหรือแม้แต่พวกเด็กเทคนิคก็ดูจะเข้ากันได้โดยง่าย พวกผู้หญิงที่นี้ก็ลุยๆหรือบางทีอาจจะดูเถื่อนกว่าผมด้วยซ้ำ ชีวิตผมดำเนินมาเรื่อยๆไม่มีอะไรหวือหวา ดีหน่อยตรงอาทิตย์ที่ผ่านผมไม่เจอหน้าไอ้น่านเลย นับว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งสำหรับผม
 
“ซน พรุ่งนี้มึงจะไปงานเวลไหม” งานเวลที่จันพูดถึงชื่อเต็มๆคือเวลคัมที่พวกปีสี่จัดให้พวกผม ซึ่งจุดประสงค์หลักของงานนี้คือให้เด็กเทคนิคอย่างพวกผมกับเด็กปีสามเดิมรู้จักกันมากขึ้น แต่จริงๆแล้วมันคืองานแดกเหล้ามากกว่าเพราะพวกผมส่วนใหญ่ตอนนี้ก็รู้จักกันและสนิทกันโดยที่ไม่มีการแบ่งแยกเทคนิคหรือปีสามเดิมอยู่แล้ว แต่ที่มันตั้งชื่อให้มันดูดีเพราะต้องการเอางบประมาณของคณะมาใช้และสามารถออกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้โดยไม่ต้องกลัวเรื่องทัณฑ์บนที่พาน้องออกไปรับนอกสถานที่ทีหลัง
 
“ไปมั้ง” ผมตอบแล้วนอนหมอบลงกับโต๊ะแลคเชอร์ มือข้างนึงกุมท้อง ส่วนตาก็มองดูอาจารย์หน้าห้องที่กำลังสอนอยู่ ช่วงที่ผ่านมาผมปวดท้องเป็นระยะๆ อาการมันมักจะถี่ขึ้นเรื่อยๆเวลาที่ผมไม่ยอมทานข้าว ไม่ได้อยากให้ร่างกายตัวเองเป็นแบบนี้หรอกนะครับแต่มันบังคับไม่ได้ ผมก็พยายามยัดข้าวเข้าปากแล้วแต่มันกินไม่ได้เหมือนแต่ก่อน ผมรู้สึกเบื่อไปหมด ขนาดอะไรที่เคยชอบกินผมยังไม่อยากจะกินมันเลยด้วยซ้ำ

“มึงไปไหมอ่ะ”
 
“ไปดิ พี่กูมันสั่งให้กูไปด้วย แม่งจะบังคับอะไรนักหนาก็ไม่รู้” จันพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด ท่าทางกระฟัดกระเฟี้ยวของมันทำให้ผมอดขำออกมาไม่ได้ จำได้ว่ามันเคยบอกว่ามันมีลูกพี่ลูกน้องที่เรียนคณะนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่เคยเจอหน้าหรอกเคยแต่ได้ยินมันบ่นว่าพี่มันชอบใช้ให้ไปทำนู่นทำนี่แต่ถึงมันจะบ่นมันก็ทำให้ทุกครั้ง

“แล้วนี่มึงเป็นไร หน้าซีดฉิบหาย ดูเส้นขนที่เรียงตัวบนแขนมึงดิ พร้อมใจกันลุกพรึ่บพรั่บขนาดนี้ มึงปวดขี้เหรอวะ”
 
“ปวดขี้พ่อมึงดิ” ไอ้จันมันชอบทำให้ผมขำ คนยิ่งปวดๆท้องอยู่แม่ง
 
“แล้วทำไมหน้าซีดจังวะ อย่าบอกนะว่าปวดท้อง”

“อืม”

“นั่นไง ทำไมกูไม่ซื้อหวยแม่นแบบนี้ว้า แล้วปวดขนาดนั้นทำไมมึงไม่หายาแดก มึงโง่เหรอ สมองมึงมีคั่นหูอย่างเดียวหรือไง แม่งเอ๊ยกูคิดผิดคิดถูกวะมาคบกับหน้าตาธรรมดาแถมโง่แบบมึงเนี่ย” ไอ้จันพูดบ่นไปเรื่อยจากเรื่องปวดท้องมันสามารถขยายความไปถึงเรื่องสมอง อินซูลิน และเอนโดรฟินห่าเหวอะไรของมันไม่รู้ ผมส่ายหัวให้ไอ้จันแล้วก้มมอบลงกับโต๊ะ การงอตัวทำให้บรรเทาอาการปวดไปได้บ้าง
 
“เรียนจบsecนี้มึงก็รีบหายาแดกละกัน กูเห็นแล้วรำคาญตา”
 
“เออ รู้แล้วเว้ย บ่นจังวะ”
 
“ไม่ให้บ่นได้ไงวะ ก็มึงทำตัวแบบนี้ ทางที่ดีกูว่ามึงไปหาหมอคงจะดีกว่า” ผมไม่ได้พูดตอบอะไรไอ้จัน เอาแต่ก้มหน้านอนหมอบราบกับพื้น ผมไม่อยากไปโรงพยาบาลไม่ใช่ว่ากลัวหมอหรืออะไรหรอกนะครับ แต่เอาเป็นว่าผมขี้เกียจยุ่งยากมากกว่า คนปกติส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอยากไปกันอยู่แล้ว ถ้ามันปวดมากจริงๆก็จะแวะร้านยาแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว

หลังจากเรียนเสร็จผมแวะไปสถานพยาบาลเพื่อขอยาตามที่ไอ้จันแนะนำเพราะดูจากอาการที่เริ่มปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ท่าทางจะไม่หายง่ายๆ ตอนแรกก็คิดว่าไอ้จันจะไปเป็นเพื่อนแต่มันบอกว่ามีธุระจะไปหาลูกพี่ลูกน้องมันที่นัดไว้ สุดท้ายผมเลยมาที่สถานพยาบาลคนเดียว พี่พยาบาลที่นี้ก็ใจดีให้ยาผมมาถุงใหญ่ ทั้งยาเคลือบกระเพาะแบบน้ำและแบบเม็ด รวมไปถึงยาอื่นๆที่ต้องกินอีก

“ยาพวกนี้กินหลังอาหารนะคะ แล้วก็กินจนหมดด้วย”

“ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่พยาบาลแล้วเอาถุงยายัดใส่กระเป๋า “อ่าวฉิบหาย ลืมหนังสืออีก”

ตอนที่เปิดกระเป๋าออกมาผมถึงรู้ว่าตัวเองลืมหนังสือเรียนวิชาล่าสุดเอาไว้บนห้องเรียน ผมจำไม่ซีเรียสเลยถ้าหนังสือเล่มนั้นไม่ใช่หนังสือที่ส่งตรงมาจากพี่รหัส ทั้งสูตรจดและพวกวิธีลัดที่ถูกเขียนลงอย่างตั้งใจทำให้ผมต้องรีบวิ่งกลับมาที่คณะอีกรอบ เพราะถ้าไม่รีบฝนอาจจะตกลงมาก่อนที่ผมจะกลับหอ ยิ่งช่วงนี้ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาแล้วรู้เวลาสุดๆ คือตกหลังห้าโมงเย็นและจะตกหนักเรื่อยๆจนถึงดึก ผมยังไม่ได้ซื้อร่มและก็ไม่อยากเปียกด้วย

“ผมก็ปวดหัวกับแม่งเหมือนกัน” เสียงคุ้นหูตรงหน้าร้านน้ำปั่นใต้คณะทำให้ผมเอี้ยวตัวไปดูว่าใช่คนที่ผมรู้จักไหม ตอนมองไปผมเห็นไอ้จันกำลังยืนคุยกับพี่ป็อบแล้วก็พี่บาสอยู่

“ไอ้จัน พี่ป็อบ พี่บาส” ผมตะโกนเรียกชื่อคนเหล่าทีละคน พวกมันหันหน้ามามองก่อนจะเป็นพี่บาสที่พยักหน้าให้เป็นคนแรก

“ไงซน ไม่เจอเลย ไอ้วีบ่นถึงตลอด บอกให้กูพามึงไปหามันบ้าง”

“แล้วทำไมมันไม่มาหาผมอ่ะ”

“มึงก็รู้ว่าหมอมันเรียนหนัก แล้วนี่จะไปไหนวะ”

“อ้อ ผมลืมหนังสือไว้ที่ห้องอ่ะพี่กำลังจะขึ้นไปเอา แล้วนี่พวกพี่...ทำไรกันครับ รู้จักกับไอ้จันด้วยเหรอพี่” พี่บาสไม่ตอบคำถามผม มันเอาแต่ยิ้ม แต่สักพักพอโทรศัพท์เข้ามันก็ชูมือถือให้ผมดูประมาณว่าขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อน ผมพยักหน้าให้พี่บาสแล้วหันมามองไอ้พี่ป็อบกับไอ้จัน

“อ่าววว น้องซนมายืนทำอะไรตรงนี้ว่ะครับ พี่มองไม่เห็นเลยให้ตาย” พี่ป็อบวิ่งมากอดผมเต็มแรงตบไหล่ผมเบาๆ พูดนู่นพูดนี่ไม่รู้เรื่อง ผมขมวดคิ้วมองไปทางพี่ไอ้จัน

“มึงรู้จักพวกพี่เขาเหรอ”

“เอ่อ เออดิ รู้จักก็ไอ้เชี่ยป็อบมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกู ว่าแต่มึงรู้จักพวกมันด้วยเหรอวะ” ผมพยักหน้า “แล้วรู้จักพวกมันได้ไง ปกติพวกห่านี่ไม่ค่อยมีคนคบหรอก”

“อ่าวน้องชาย มึงพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก” พี่ป็อบปล่อยผมเป็นอิสระแล้วหันไปพูดกับน้องมัน  “มึงรู้ไหมจริงๆแล้วมีแต่คนอยากคบกูทั้งนั้น แต่ที่กูไม่มีคนคบอยู่ตอนนี้เพราะเหตุผลเดียวเลย...”

“เขาไม่คบมึง”

“ใช่ถูกต้อง พ่องงงไม่ใช่โว้ย กูเลือกคบคนตั้งหาก แล้วมึงรู้ไหม&%^$$@#$” มันสองพี่น้องกอดคอกันแล้วเดินคุยกันหนุงหนิงออกจากตรงที่ผมยืนอยู่โดยที่ไม่พูดอธิบายอะไรให้ผมฟังต่อ

อะไรของพวกมันวะ ผมส่ายหัวไม่เข้าใจก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณนั้น ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าความบังเอิญที่มันสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ถึงว่าทำไมไอ้จันมันถึงได้เลขที่ใบสมัครสอบใกล้ผม อาจจะเป็นเพราะพี่ป็อบไปซื้อมันพร้อมกับไอ้น่าน

เสียงฟ้าร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมต้องรีบวิ่งขึ้นไปบนอาคาร เข้าไปในห้องที่เรียนเมื่อกี้ก่อนจะเดินหาหนังสือตัวเองตรงบริเวณโต๊ะที่ผมเคยนั่ง

“ยังดีที่ไม่หาย” ผมดีใจได้ไม่นานเพราะความดีใจหายไปกลับฝนที่กำลังเทกระหน่ำอยู่ด้านนอก กลิ่นฝนและละอองของมันทำให้ความร้อนจากตอนกลางวันคลายลงไปบ้าง แต่ตกหนักแบบนี้ผมจะกลับบ้านยัง ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ยาก็อยู่เต็มมือแบบนี้ หลังอาหารทั้งนั้น

ผมเดินเอื่อยๆลงมาจากห้องเรียน ไม่รู้ว่าจะรีบไปทำไมเสียงฝนที่ตกกระหน่ำแบบนั้นคงอีกนานกว่าจะหยุด ใต้อาคารยังมีคนอยู่บ้างประปรายทั้งลีดที่กำลังซ้อมอยู่อีกมุมนึงของตัวอาคาร ผมเลือกทิ้งตัวเองลงนั่งอยู่บนโต๊ะไม้หลีกหนีจากผู้คนโดยรอบ จมดิ่งกับเสียงฝนที่ยังเทลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสียงฝนอาจจะทำให้ใครหลายคนสงบขึ้นรวมทั้งผมด้วย

ผมชอบหน้าฝนแต่จะชอบมากกว่านี้ถ้าผมได้ซุกตัวลงในกลุ่มหมอนและผ้าห่มพร้อมกับอ้อมกอดของไอ้น่าน

เฮ้อออ เอาอีกแล้ว คิดถึงมันอีกแล้ว





“ไง” เสียงทักคุ้นหูดังขึ้นใกล้ๆ ผมไม่ได้หันไปมองเพราะจำได้ว่าเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นใคร สองอาทิตย์ที่ผ่านมาการไม่เจอมันเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องที่ดีกลับตกอันดับไปเพียงเพราะการได้เจอกับมันกลายมาเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ผมแย่ใช่ไหมครับที่รู้สึกแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้างตอนนี้มีคนอื่นแล้ว ก็ยังอดรู้สึกคิดถึงหรือดีใจที่เจอมันไม่ได้

ผมพยายามแล้วนะครับ พยายามห้ามแล้วไม่ให้ตัวเองเอาใจไปผูกกับมัน แต่มันทำไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คงได้แต่ปล่อยความรู้สึกเข้าครอบงำแต่เพียงไม่แสดงออกมาให้มันรู้ก็เท่านั้น

“อืม” ผมทักกลับ “แล้วนี่มึงอยู่ทำอะไรอยู่วะทำไมยังไม่กลับ”

“อาจารย์เรียกไปคุยงาน พอลงมาฝนก็ตกแล้ว กำลังจะกลับเหมือนกัน แต่เห็นมึงนั่งอยู่เลยเข้ามาทัก”

“อ่อ” ผมพยักหน้าเบาๆ “งั้นทักแล้วมึงก็กลับไปได้แล้วดิ โชคดีมึง” ผมหันไปยกมือแล้วยิ้มให้ไอ้น่าน มันมองกลับมาที่ผมแล้วยิ้มบางๆกลับมา

“วันนี้กูเอาซีมา ถ้ากลับตอนนี้ก็คงเปียก ไอ้แอลบ่นอีกกูขี้เกียจฟัง” มันพูดแค่นั้นแล้วมองเลยไปที่กลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ที่อยู่อีกมุม เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันมีแต่ความอึดอัดที่เป็นตัวกลางพูดแทนเราทั้งคู่ ผมก้มหน้าลงพื้นมองเท้าตัวเองที่แกว่งไปมาอยู่ที่พื้น

“ตอนนี้มึงย้ายมาอยู่กับพี่แอลเหรอ”

“อืม ก็อยู่มาได้สักพักแล้ว ตั้งแต่คราวนั้น” ผมพยักหน้ากับคำตอบ


“จริงๆมึงจะกลับไปอยู่ที่บ้านมึงก็ได้นะน่าน...กู..” ผมหยุดพูดก่อนจะเม้มปากแน่น  กลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหล สูดลมหายใจเข้าปอดทีนึงก่อนจะเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยิ้มให้มันเท่าที่ความรู้สึกผมสามารถยิ้มได้ “กูคงไม่ได้ตามไปวุ่นวายที่บ้านมึงแล้วแหละ”

ผมคิดว่าเหตุผลหนึ่งที่มันไม่ยอมกลับบ้านเพราะก่อนหน้านี้ผมเคยวิ่งไล่ตามมัน ไปหามันที่บ้าน หลายต่อหลายครั้ง จนมาเจอพี่แอลที่มหาลัยผมก็ไม่ได้ไปหามันอีกตั้งแต่นั้น

“มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดซน...เรื่องของมึงเรื่องนั้นมันไม่ได้เกี่ยวแล้ว”

“แล้ว...” ผมเงยหน้ามองตามัน ไอ้น่านไม่มีคำตอบให้ผมแต่ผมรู้ด้วยตัวเองว่าคำตอบมันคืออะไร “เข้าใจแล้ว”


ผมนี่สำคัญตัวเองผิดไปอีกแล้วสินะ รู้อยู่แล้วว่าคนเป็นแฟนกันเขาก็อยากอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องปกติ บ้าชะมัดน้ำตาจะไหลอีกแล้ว

“กูว่ากูจะกลับแล้วว่ะ” ผมลุกขึ้นแล้วยื่นมือออกไปรองน้ำฝนที่ตกลงมา

“ฝนยังไม่หยุดเลย”

“อืม แต่ไม่อยากอยู่แล้ว” ผมบอกไอ้น่านแค่นั้นแล้วหันหลังเดินออกจากอาคาร น้ำตากำลังจะไหล อย่างน้อยเดินออกไปโดนฝนตอนนี้มันก็อาจจะไม่รู้ว่าผมกำลังร้องไห้



“มึงทำอะไรวะซน เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก เอางี้ถ้ามึงอยากกลับเร็วๆเดี๋ยวกูไม่ส่งจะได้โดนฝนน้อยหน่อย” เสียงไอ้น่านพูดฝ่าเม็ดฝนพร้อมกับมือที่ดึงรั้งผมไว้

“ไม่เอา”

“อะไรของมึง”

“ไม่เอากูกลับเองได้” ผมยื้อมือตัวเองแล้วเดินหันกลับไปอีกทาง ผมไม่อยากได้ความห่วงใยจากมัน ไม่อยากได้แววตาที่แสดงให้ผมเห็นว่ามันเป็นห่วง ผมเกลียด เกลียดทั้งมันและก็ความรู้สึกตัวเอง

“อย่าดื้อได้ไหมวะ เดี๋ยวกูไปส่ง”

“ไม่!!!!”

“ไม่เชี่ยอะไรล่ะ!!! ตามมา!!” ไอ้น่านคว้ามือผมไปจับแล้วออกแรงดึงผมให้เดินตามแรงมัน พอมาถึงรถมันก็บังให้ผมใส่หมวกกันน็อค ทั้งๆที่มันเป็นคนขับแล้วจะมาให้คนซ้อนอย่างผมใส่ แม่งบ้าหรือเปล่า

“ไม่เอาอ่ะไม่ใส่”

“ซนอย่าดื้อได้ไหม กูบอกให้ใส่ก็ใส่ไปเหอะน่า” ผมมองไอ้น่านตาขวางก้มหน้าก้มตาให้มันเอาหมวกกันน็อคมาใส่ให้ผมแทน “แล้วนี่เสื้อกันหนาว ถึงมันเปียกแล้วแต่ก็น่าจะช่วยกันหนาวได้”

“กูไม่ได้หนาว”

“ไม่หนาวเชี่ยอะไรปากสั่นขนาดนั้น หัวนมก็ตั้งจนจะทะลุเสื้ออยู่แล้ว ใส่!!!”

“มันก็เรื่องของหัวนมกูมึงจะมายุ่งเชี่ยอะไรวะ”  ผมยัดเสื้อคลุมไอ้น่านคืนกลับไปให้มันแล้วขยับขึ้นนั่งคร่อมบนรถมอไซค์ ฝนเริ่มซาบ้างแล้ว แต่ยังไม่หยุด ฝนแบบนี้ม๊าบอกว่าจะทำให้ไม่สบายได้ง่ายกว่าฝนที่ตกแบบหนักๆเมื่อกี้ “ไหนบอกว่าจะไปส่งกู รีบๆมาขับรถดิ ยืนถ่ายมิวสิคอยู่นั่น คิดว่าหล่อมากหรือไง”

“เออๆรู้แล้ว ปากมึงนี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ” ผมงับปากกอดอกนั่งรอไอ้น่านให้มาขับรถ ในใจก็คิดไปว่ามันก็เปลี่ยนเหมือนกัน นิสัยเสียๆที่ชอบบังคับคนอื่นของมันก็ไม่ได้หายไปเลยสักนิด

“กูว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอไอ้แอลก่อนแล้วเดี๋ยวกูเอารถใหญ่ไปส่งมึงที่บ้านดีไหม” คำก็แอล สองคำก็แอล มึงไม่ต้องย้ำให้กูรู้สถานะตัวเองก็ได้น่าน กูรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้กูไม่ใช่คนที่มึงรักแล้ว

“ไม่ต้อง ตอนนี้กูอยู่หอ ตรงซอยสอง มึงรีบๆไปสักทีเถอะ กูอยากกลับห้องแล้ว” เสียงผมอ่อนแรงลงไม่ต่างจากกำลังที่อ่อนแรงลงไปด้วย มือที่เอื้อมไปจับเสื้อน่านฟ้าอย่างคุ้นชินก่อนจะสะดุ้งโหยงรีบปล่อยมือตัวเองออกจากเอวมันแทบจะทันทีที่นึกได้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น

“จับไปเถอะ กูไม่ว่าอะไรหรอก” ผมนิ่งเงียบไปนิดนึงส่วนไอ้น่านก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไปโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก

ขอโทษนะพี่แอล ขอแค่ครั้งนี้เท่านั้น

ผมเอื้อมมือไปจับเสื้อน่านฟ้าอีกรอบก่อนจะวางหน้าผากซบลงบนหลังที่ถึงแม้จะเปียกแต่ก็รับรู้ถึงความอบอุ่น



ผมคิดถึงมัน



คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงจูบ คิดถึงทุกอย่างที่เป็นมัน แต่ยิ่งคิดถึงมากเท่าไหร่ ความจริงที่ย้ำว่ามันไม่ใช่ของผมก็ยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น


 “ขอบใจที่มาส่ง”

“ไม่เป็นไร รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวไม่สบาย”

“อืม” ผมพยักหน้าบอกมันก่อนจะช้อนตามองไอ้คนที่ยังนั่งอยู่บนรถ “มึง...จะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องกูก่อนไหม”

“.........” น่านฟ้าเงียบ มองหน้าผมพร้อมกับคิ้วที่ยังขมวดเป็นปม

“อย่าเลย แอลรอกูอยู่”

“อ้อ....กู...เข้าใจแล้ว งั้น...มึงขับรถดีๆล่ะกัน” ผมหันหลังเดินกลับเข้าหอพักหลังจากที่พูดตอบมันเสร็จ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะปฏิเสธ แต่ผมก็ยังหวัง


หวังโง่ๆกับสิ่งที่มันไม่มีทางเป็นไปได้



ผมนี่มัน......บ้าชะมัด






























Special by น่านฟ้า


ผมไปส่งซนที่หอเสร็จก็ตรงมาหอไอ้แอลทันที ในหัวเอาแต่คิดภาพคนตัวเล็กที่ส่งสายตาผิดหวังมาให้ตอนที่ผมเอ่ยปากบอกเขาไปว่าผมไม่อยากขึ้นไปบนห้อง ผมไม่เข้าใจว่าสายตาแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง ถ้าให้คิดเข้าข้างตัวเองก็คงหนีไม่พ้นว่ามันชอบผม แต่ก็นั่นแหละผมเคยเข้าข้างตัวเองมาแล้ว และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือการที่เขาไม่เลือกผม


ผมไม่อยากให้ทุกอย่างมันจบลงที่จุดเดิมตรงที่เราเริ่มต้น คือผมเป็นแค่คนข้างๆ มองดูซนกับผู้หญิงคนนั้นรักกัน


ผมบอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่าผมเลว



เลวจนบางครั้งยังรู้สึกเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันถูกหรือเปล่า แต่จะให้ทำยังไงล่ะครับ ผมก็เป็นมนุษย์คนนึง มนุษย์ที่ยังมีทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง คนเราเมื่ออยู่ในภาวะที่รักมากเราก็ยอมทำทุกอย่างนั่นแหละเพื่อให้คนที่เราต้องการมาอยู่ข้างๆเรา โดยไม่เลือกว่าวิธีที่เรากำลังทำอาจจะทำร้ายใครบางคนอยู่


>>>>>>TBC<<<<<<
รู้ยังว่าตัวจริงที่ตั้งชื่อตอนหมายถึงอะไร


หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-05-2015 20:22:10
จัดไปเลยน่าน. ได้เวลาอันสมควรแล้ว

ใครจะเป็นตัวจริงของใครต้องมาลุ้นกันนะซน.   :katai5: 
 :L1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-05-2015 20:34:49
เราขำลั่นห้องก็ตรงประโยคนี้นี่ล่ะค่ะ “ไม่หนาวเชี่ยอะไรปากสั่นขนาดนั้น หัวนมก็ตั้งจนจะทะลุเสื้ออยู่แล้ว ใส่!!!” ฮ่าๆ แสดงว่าสายตาของพี่น่านโฟกัสไปที่ 'ตรงนี้' จุดเดียวเลยล่ะสิค้าา..ใช่ม้ายย :hao7:

ส่วนตัวจริงที่ว่า เราคิดว่าเป็นน้องซนนะคะ และเรื่องทั้งหมดนี้น่าจะเป็นแผนการล่ะสิ
เพราะใครๆ ก็ต่างพากันมีพิรุธ ทั้งจัน ทั้งพี่ป๊อบ น้องซนถามก็ไม่ยอมตอบ แถมยังเลือกที่จะบ่ายเบี่ยงอีกต่างหาก หึหึ

อีกอย่าง พี่น่านไม่ใช่คนเลวหรอกนะคะ เพราะถ้าเลวจริง..พี่น่านจะไม่ใช่คนที่ยอมถอยออกมาแบบนี้หรอกค่ะ มันต้องแย่งเขามาเป็นของเรา โดยที่ไม่สนว่าใครจะมาก่อนหรือมาทีหลังเลยต่างหากล่ะ สำคัญเลยคือ คนที่เลวจริง เขาไม่ยอมรับกันง่ายๆ หรอกค่ะว่าตัวของเขาเลว

ปล. พี่น่านยังไม่รู้เหรอคะว่าน้องซนเลิกกับเอยแล้วน่ะค่ะ ยังไง?
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-05-2015 20:58:06
อะฮะ   แผนเมิงใช่ไหมน่าน?   นึกว่าได้กับแอลไปแล้วก็ไปเถอะ 

สงสัยงวดนี้ซนโดนจัดเต็มสินะ  แต่ก็อย่ามากเกินไปนะ  เดี๋ยวน้องมันไปเจอคนใหม่ก็เป็นหมาดูเครื่องบินไปเถอะ

จันโดนส่งมาให้จับตาดูซนล่ะสิ  แผนสูงป้าชอบ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-05-2015 21:04:53
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: PK13 ที่ 24-05-2015 21:14:25
อดรู้สึกสงสารซนไม่ได้
แต่ก็นะ...ซนเคยทำพี่น่านเสียใจมาก่อนเหมือนกันนนน
ถึงอิพี่น่านจะมีส่วนผิดด้วยก็ตาม 555555
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 24-05-2015 21:23:28
ทั้งหมดคือแผนของพี่น่าน? โหย ร้ายได้ใจมาก o13 จะรอดูว่าใครเป็นตัวจริงนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 24-05-2015 21:35:26
โธ่น่านใจหายวาบเลยนึกว่าคบกับแอลจริงเสียอีกแต่จะให้ดีควรรู้ด้วยนะว่าซนเป็นโรคกระเพาะไม่ใช่ว่าพอจะคืนดีกันซนเจ็บหนักดราม่าเข้าไปอีก
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 24-05-2015 21:47:23
ระวังละกัน หากแผนที่กำลังทำจะดีหรือไม่แต่ตัวแปลก็ยังอยที่น้องซน ถ้าเกิดปลงได้ล่ะก็ถูกตัดใจจริงๆ นะ หรือไม่ก็มีคนเข้ามาดามใจแทน ก็จะกลายเป็นออกห่างไปง่ายๆ เพราะขึ้นชื่อคนมีแฟนแล้วน่ะ มันขึ้นอยู่กับเวลาเลย   :hao4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 25-05-2015 09:13:56
ทนอีกนิดนะซน
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 25-05-2015 17:52:46
โอย หัวใจจะวายย
สงสารทุกคนเลยย
น่านขอร้องล่ะ เลวอีกสักครั้งนะ
ซนเลิกกับน้องเขาแล้วนะ
กลับมาหาซนเถอะ มันดีทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 25-05-2015 20:31:04
ทั้งหมดเป็นแผนพี่น่านใช่ม้ายยยยย สงสารซนจังเลยยยย ฮืออออ..
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 25-05-2015 21:00:29
ซนจะตายก่อนได้รักกับน่านป่ะเนี่ย. อยากให้แบบว่า ซนป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล
แล้วซูน้องชายก็มาจัดหนักน่าน แล้วกีดกันน่านไปเลย 555+
สะจาย เจ้าแผนกานดีนัก

บวกเป็ด 1 นะคะ ชอบอ้ะ หน่วงดี
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 25-05-2015 22:38:52
 o18
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 25-05-2015 23:34:21
สงสารน่านกับสิ่งที่ซนเคยทำ
แต่มันอดสงสารซนไม่ได้
ร้องไห้เป็นกำลังใจค่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-05-2015 13:44:15
ดักหลังซนให้พอค่ะพี่น่าน แต่ไม่ขอให้เป็นไปตามแผนทุกอย่างหรอกนะ55555

แต่ซนเป็นพวกใจไม่แข็งอะ พูดยากเหมือนกัน

หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 22 ตัวจริง [24-05-15:P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 26-05-2015 19:47:43
เกาะหน้าจอรอน้องซน ~>_<~
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 all of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 27-05-2015 10:39:40
Because of you ซน ตอนที่ 23 All of me


Special by น่านฟ้า


“มึงอยู่ไหนแอล” ผมต่อโทรศัพท์หาไอ้แอลทันทีที่ขับรถมาถึงหอมัน “กูอยู่หน้าหอมึงเนี่ย มาเปิดประตูให้หน่อย”

(กูอยู่ข้างนอก มาดูหนังกับโก้)

“เอาใหญ่เลยนะเดี๋ยวนี้” ผมหงุดหงิดเพราะวันนี้กะว่าจะมาปรึกษามันเรื่องไอ้ซน

(เอาใหญ่เชี่ยไรล่ะ อ่อยจะตายห่ามันยังไม่เอากูเลย...วันนี้กูอาจจะไม่ได้กลับหอหรอก...ไอ้โก้มันทะเลาะกับแฟนอีกแล้ว) เสียงปลายสายที่ผมรับรู้ได้คือมันค่อนข้างเศร้า บ่อยครั้งที่โก้ทะเลาะกับแฟนสาวคนที่มันเลือกจะโทรหาและให้ไปอยู่เป็นเพื่อนตลอดคือแอล

ผมไม่รู้นะว่าโก้มันรู้หรือเปล่าว่าแอลชอบมัน แต่ถ้าไม่โง่จนเกินไปผมคิดว่ามันน่าจะพอเดาออก แต่แค่เลือกที่จะมองข้ามมากกว่า

 “งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้”

(อืม เอาไว้คุยกัน...โก้ทางนี้!!! แค่นี้นะกูจะเข้าโรงแล้ว) ไอ้แอลกดวางสายทันทีที่พูดจบ ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะสตาร์ทรถมอไซค์แล้วขับรถกลับบ้านตัวเอง พรุ่งนี้มีงานเวลนอกจากจะได้เจอกับพวกไอ้แอลแล้ว อีกคนที่ผมต้องเจอคือซน ไม่รู้จะทำหน้ายังไงตอนเจอมัน กลัวใจตัวเองชะมัด








เช้าวันนี้ผมมาถึงที่คณะเกือบแปดโมง รถบัสคันใหญ่สองคนรถถูกจอดอยู่หน้าคณะเรียบร้อย น้องปีสามหลายคนพอมาถึงก็ตรงไปเช็คชื่อเพื่อรับป้ายชื่อตัวเอง งานเวลเป็นงานที่จัดโดยปีสี่ทำให้ปีสามดังนั้นคนที่ได้ไปร่วมงานก็จะมีแค่สองชั้นปีเท่านั้น

“พี่น่านหวัดดี” ไอ้จันเดินเข้ามายกมือไหว้ผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ ส่วนพี่ชายมันไอ้ป็อบเดินทักทายประชาชนชาววิศวะมาตั้งแต่หน้าคณะจนตอนนี้ยังมาไม่ถึงโต๊ะ “พี่ป็อบแม่งลีลา ท่าเยอะ กว่าจะเดินแต่ล่ะก้าวต้องขอให้ได้ทักคนนั้นคนนี้ คิดว่าแม่งดังมากหรือไง”

“มันก็ดังของมัน”

“เหอะ”ไอ้จันพ่นลมออกจากจมูกแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่น

“ซนมาเปล่า” ผมถามไอ้จันที่ยังเอาแต่ก้มหน้าอยู่

“มันบอกว่ามานะพี่ ยังไม่เจอเหรอ” ผมส่ายหน้าให้ไอ้จันเป็นคำตอบ “ผมไม่แน่ใจว่ามันจะมาไหวไหมนะ เมื่อวานก็เห็นบ่นๆว่ายังไม่หายปวดท้องเลย”

“หมายความว่าไงวะ...”

“อ่าว” ไอ้จันมองหน้าผม ขมวดคิ้วทำหน้างง “มันเป็นโรคกระเพาะพี่ไม่รู้เหรอ ไหนบอกว่าเคยกิ๊กกันไง” ก็ตอนนั้นกับตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้วนี่หว่า ตอนนั้นไอ้ซนปกติดีทุกอย่าง ร่างกายแข็งแรงจะมีนิดหน่อยก็แค่แพ้เหงื่อ ไอ้เรื่องปวดท้องผมไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่ามันเป็น “พี่มโนว่าเคยกิ๊กกับมันหรือเปล่าพี่น่าน เห็นมันไม่เคยพูดถึงพี่ให้ผมฟังสักนิด วันนั้นที่ใช้ให้ผมพามันไปดูละครระดับโลกตอนที่พี่แกล้งจูบพี่แอลก็ไม่เห็นว่ามันจะร้องไห้เลย อย่างมากก็แค่ทำสีหน้าไม่เข้าใจแค่นั้น...”

นึกถึงวันแรกที่ผมใช้มันไปตีสนิทกับไอ้ซน ก่อนจะลงเอยด้วยการให้มันพาซนมาเจอผมกับแอลที่คณะ แต่ผลที่ได้รับกลับมาคือศูนย์ ยังคิดอยู่เลยว่าไอ้แผนที่แกล้งเป็นแฟนกับไอ้แอลเนี่ยมันจะได้ผลทำให้ซนรู้ใจตัวเองว่ารักผมขึ้นมาจริงๆหรือเปล่า กลัวแต่ว่ามันจะยิ่งทำให้ซนรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้ชอบผมมากกว่า ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็คงแย่

“ไงครับเพื่อน” ไอ้ป็อบเดินมาพร้อมไอ้บาสก่อนจะยกมือขึ้นตีหัวไอ้จันไปที “ลุกครับน้อง ตรงนี้ที่กู ที่มึงคือนู้นนนน พื้น ไปไกลๆอย่ามานั่งบังรัศมีความหล่อที่กำลังแผ่ออร่าออกจากเบ้าหน้าราวกับณเดชของกู”

“เบ้าหน้าณเดช โอ่ยยยกูขำว่ะพี่ป็อบ ถ้าหนังหน้ามึงณเดชของกูนี่ไม่ใช่ พอล วอคเกอร์เหรอครับ”

“พูดมาก กูบอกให้ขยับ หูไม่ได้ยินหรือไง” สองพี่น้องหันไปเถียงกันโดยที่ไม่มีใครยอมใคร ผมหันไปพยักหน้าให้ไอ้บาสทีนึงก่อนจะเบนสายตาไปที่ไอ้โก้กับไอ้แอลที่เดินมาด้วยกัน

“หน้าตาสดใสเชียวนะสาดดดแอลลลลล” ไอ้ป็อบพอเห็นไอ้แอลก็รีบหันมาแซวมันทันที

“สัส หุบปากมึงไว้บ้างเถอะป็อบ” มันตบหัวไอ้ป็อบไปทีนึงก่อนจะขยับนั่งลงข้างๆผม “ยังไม่มาเหรอ”

“ยัง” ผมพึมพำบอกไอ้แอล ยังไม่เห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ จะแปดโมงครึ่งแล้วด้วย ปกติไอ้ซนไม่ใช่คนที่จะมาสาย

“มึงโทรหาไอ้ซนดิ๊จัน ถามมันว่าอยู่ไหน” ไอ้แอลหันไปสั่งน้องไอ้ป็อบ ก่อนจะหันหน้ามาหาผม “ว่าไง มีเรื่องอะไรจะปรึกษากู”

“เมื่อวานกูเจอมัน”

“แล้ว???”

“ก็แค่บอกว่าเจอ...ตอนที่เจอกันหน้ามันดูเศร้าๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะมองเลยไปที่ลานคณะ ลานเกียร์ที่ตอนนี้คราคร่ำไปด้วยนักศึกษาปีสามและปีสี่นับรวมกันน่าจะเกือบสองร้อยชีวิต

“เศร้า?? ทะเลาะกับน้องเอยหรือเปล่า”

“ไม่รู้ว่ะ” ผมไม่แน่ใจว่าที่ซนทำหน้าเศร้าสาเหตุมาจากอะไร แต่ในใจแม่งค่อนและเอียงมาทางตัวเองสุดๆ แต่ก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองด้วย กลัวเจ็บ

“เหอะ อ่อน....แล้วสรุปเรื่องไอ้ซนกับน้องเอยอะไรนั่น ไม่เลิกกันจริงๆใช่ไหม” ผมส่ายหัวให้ไอ้แอลเป็นคำตอบ

“ก็น้องเอยอะไรนั่นเขาบอกเองว่ายังรักกันดี มีความสุข ไม่มีแววจะเลิกกันในตอนนี้แน่ๆ แม่ง...แล้วที่กูทำมาทั้งหมดคืออะไร”ผมยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างแรง ราวกับจะปัดเอาความเครียดที่อยู่ในหัวให้ออกไปให้หมด

“ผู้หญิงคนนี้แม่งสุดยอดอ่ะ ขนาดมึงวางระเบิดไว้แบบนั้นยังไม่แคร์ ไม่สน แล้วรักต่อโดยไม่รับรู้ว่าแฟนตัวเองเป็นเกย์เนี่ยนะ กูนับถือจริงๆ” ผมเองก็นับถือน้องเขานะ บางทีความรักของผมอาจจะแทรกกลางเขาสองคนไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ผมทำให้น้องเขาหูตาสว่างขึ้น ทำให้น้องเขารู้ว่าโลกสีชมพูของเขาจริงๆแล้วมันมีสีอื่นที่เป็นตัวผมปนอยู่ขนาดนั้น น้องเขาก็ยังบอกว่าไม่แคร์
 

“เพราะงี้กูถึงตันจนหาทางออกไม่ได้แบบนี้ไง กลัวว่ายิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ สิ่งที่กูหวังไว้มันจะสลายหายไปในกลีบเมฆแทน” ผมบ่นให้ไอ้แอลฟังอย่างคนที่ตั้งใจจะเล่าให้ฟังตั้งแต่เมื่อคืน แผนที่ผมสู้อุตส่าห์ตั้งใจทำมาตั้งแต่ต้นกำลังจะพังลงไม่เป็นท่า ทั้งๆที่แผนนี้ผมคิดว่ามันน่าจะเวิร์ค เพราะมันเริ่มมาตั้งแต่ก่อนไปหนองคายแล้วด้วยซ้ำ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกมันเริ่มตั้งแต่ที่ผมรู้ตัวว่ารักไอ้ซนนนั่นแหละ


ผมทำดีกับซน ตามใจมันหรือแม้แต่การซื้อกล้องราคารเกือบแสนเพื่อเอาใจมัน ทั้งหมดที่ทำไปไม่ใช่ว่าไม่อยากได้สิ่งตอบแทนกลับมา


ผมไม่ใช่คนดี ไม่ได้เป็นพระเอกที่มีประโยคคลาสสิคบอกกับคนที่รักว่า ผมรักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรทั้งนั้น



นั่นไม่ใช่ผม



เพราะสิ่งที่ผมทำทั้งหมดผมต้องการสิ่งตอบแทน ในเมื่อผมให้ใจไปสิ่งที่ผมต้องได้กลับมาคือใจเท่านั้น



แต่ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ระเบิดเวลามันเข้ามาใกล้มากขึ้นคือน้องเอย วันนั้นที่เจอน้องเอยที่เชียงคานเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของผมมาก ผมเอาแต่คิดว่าจริงๆแล้วซนมันนัดน้องเขามาเจอหรือเปล่า สุดท้ายเลยพูดเหมือนบีบบังคับให้ซนเลือกว่าจะเอาใครระหว่างผมกับผู้หญิงคนนั้น


และใช่ ผมแพ้ ซนมันไม่เลือกผม สิ่งเหล่านั้นมันทำให้ผมเป๋ไปหมด ผมไม่แน่ใจอะไรสักอย่างว่าที่ทำดีมาทั้งหมดซนมันเคยมีใจให้ผมบ้างไหม เพราะงั้นผมถึงต้องเริ่มแผนสอง


แผนสองคือแผนที่ถอยออกมาเพื่อดูท่าทีว่าเขาจะวิ่งตามเราไหม ทฤษฎีหมาสั่นกระดิ่งในวิชาจิตวิทยายังคงได้ผล มันคล้ายๆกับการที่เราโทรหาใคร 21 วันแล้ววันที่ 22 เราไม่โทรไปคนที่กระวนวายคือคนๆนั้น ตอนที่ผมเห็นซนไปหาผมที่บ้าน ผมเกือบจะทำแผนพังเพราะความดีใจที่เห็นว่ามันมาหาอยู่แล้ว แต่ไอ้แอลเป็นคนพูดเตือนสติว่าถ้าผมกลับไป สิ่งที่ผมได้รับกลับมาก็คงหนีไม่พ้นฐานะเดิมๆ ฐานะที่แม้แต่บอกรักยังไม่มีสิทธิ์

อีกอย่างผมไม่แน่ใจด้วยว่าซนมันรักผมบ้างไหม ก็มันไม่เคยพูด ถึงแม้การกระทำหรือร่างกายจะย้ำเตือนให้คิดไปเองแค่ไหนแต่มันก็ไม่ชัดเจนเท่าคำพูด ดังนั้นผมเลยยืมมือคนสองคน

คนแรกคือไอ้แอล ผมใช้มันเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้ซนรู้ใจตัวเองเร็วขึ้น

ส่วนคนที่สองคือน้องเอย ผมทำให้น้องเอยรู้ความลับของผมกับซนด้วยตัวของเขาเองแต่ผมไม่ได้บอกน้องเอยตรงๆว่าผมเป็นอะไรกับไอ้ซน ผมแค่บอกว่าถ้าอยากรู้อะไรก็เปิดดูรูปในโทรศัพท์ซนแค่นั้น ตอนนั้นก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่หรอกว่าไอ้ซนมันยังเก็บรูปพวกนั้นไว้หรือเปล่า แต่ถ้าไม่ได้เก็บผมก็มีแผนสำรองโดยการส่งรูปในมือถือผมไปให้แทน  แต่มันดันผิดแผนก็ตรงที่นอกจากเอยจะเห็นรูปจากมือถือไอ้ซนเองแล้ว เธอยังบอกอีกว่าเธอกับพี่ซนจะไม่มีวันเลิกกัน ด่าผมอีกว่าผมมันก็แค่อุปสรรคที่ทำให้เขาสองคนรู้ว่ารักแท้เป็นยังไง ผมเองก็ไม่ได้หน้าตัวเมียขนาดด่าผู้หญิงหรอกครับ นอกจากทำใจแล้ววางสายไปเงียบๆ เพราะงั้นทั้งแผนที่แกล้งเป็นแฟนกับไอ้แอลเพื่อทำให้ซนรู้ใจตัวเอง หรือแผนที่พยายามให้น้องเอยเลิกกับซน ตอนนี้มันเลยบิดเบี้ยวไปหมด

“แล้วมึงจะเอาไงต่อ”

“คิดไม่ออกว่ะ แต่กูไม่ไหว...คนที่ตัวเองรักยืนอยู่ตรงหน้าแต่กอดไม่ได้มึงก็รู้นี่ว่ามันทรมานแค่ไหน” ไอ้แอลพยักหน้าแล้วเบนสายตามองไปที่ไอ้โก้ “คือ...แอลกูขอโทษ”

“ไม่เป็นไร เรื่องของกูน่ะ แค่ได้เป็นเพื่อนมันก็พอแล้ว แต่เรื่องของมึง ยังไงมันก็ยังมีหวัง”

“ให้มันจริงอย่างที่มึงพูดเถอะ กูกลัวว่ากูจะตายเพราะความหวังนี่แหละ”

“แล้วจะเอายังไง” ผมส่ายหน้าบอกไอ้แอลเป็นคำตอบ ทั้งๆที่ในใจร่ำร้องบอกว่าบางทีผมอาจจะต้องยอมกลับไปยืนในฐานะเดิม เพราะอย่างน้อยการได้ใกล้มันก็ทำให้ผมคลายความคิดถึงไปได้บ้าง

“มันมาไหม” ผมตะโกนถามไอ้จันที่เดินเข้ามาในกลุ่มหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ

“มาพี่ แต่เห็นบอกว่าปวดท้อง ถามเมื่อกี้ข้าวเช้าก็ไม่ยอมกิน บอกไม่ต้องมาแล้วก็ดื้อจะมา พี่ไปชอบคนแบบมันได้ไง โคตรดื้อเลย” ไอ้จันส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะนั่งลงข้างๆพี่มัน

“ก็มันโง่ มึงไม่เห็นเขามันเหรอจัน ดูหน้ามันดิ โดนเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอกขนาดนี้” พี่ชายมันพูดแซวผมอย่างสนุกปาก พวกไอ้บาสไอ้โก้ก็ขำไปกับมันด้วย ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะเดินไปซื้อนมกับขนมปังที่ร้านป้าหลังคณะ จำได้ว่าซนมันกินได้ทุกอย่าง ผมเลยเลือกนมกล้วยกับขนมปังเนยสดมา

“มึงไหวไหมเนี่ยซน”

“ไหว” ผมหันไปมองคนที่บอกว่าตัวเองไหวอย่างไม่ค่อยเชื่อคำพูดเท่าไหร่นัก

“งั้นก็ขึ้นรถเหอะ คนอื่นเขาทยอยกันขึ้นไปกันหมดแล้ว” ซนพยักหน้าแล้วเดินตามจันไปขึ้นรถก่อนจะหันมาทำปากกระซิบแบบไม่มีเสียงบอกผมว่าให้ไปเจอกันบนรถ ผมพยักหน้าบอกมันแล้วเดินตามขึ้นไปนั่งเบาะหลัง

“แล้วเอายามาป่ะ” ซนนั่งติดหน้าต่างโดยที่มีไอ้จันนั่งอยู่ข้างๆ

“เอามา”

“ข้าวล่ะ”

“ยังไม่ได้กิน”

“มึงนี่มันโง่ ไม่รักตัวเองแบบนี้แล้วจะหวังให้ใครมารัก” ผมโบกหัวไอ้จันไปทีตอนที่ซนก้มลงไปหยิบของในกระเป๋า

“เอาให้มัน..”ไอ้จันเบ้ปากแล้วหันมารับนมกับขนมปังในมือผมไปอย่างรู้งาน

 “อ่ะแดกนี้ก่อน แล้วค่อยกินยานอน”

“ของมึงเหรอ”

“อ่ะแน่นอน ถ้าไม่ใช่ของกูแล้วจะเป็นของใครวะ แดกซะ”

“ขอบใจ” ผมไม่ได้ยินเสียงซนพูดอะไรออกมาอีกนอกจากเสียงไอ้จันกำลังพูดถึ งเรื่องหนังใหม่ที่มันเพิ่งไปดูมา

ผมอยากเป็นคนที่นั่งข้างๆมันตอนนี้จังเลยครับ

มันคงจะดีถ้าเรายังคุยกันได้เหมือนเดิมโดยไม่มีความรู้สึกอึดอัดที่แล่นเป็นริ้วๆอยู่ในอกตอนนี้












“หลับไปแล้ว” ไอ้จันเอี้ยวตัวมาบอกผมแล้วชี้นิ้วบอกคนข้างๆ “พี่จะมานั่งนี้ไหม”

ผมเงียบเพราะไม่รู้ว่าตัดสินใจยังไง

“ถามใจตัวเองดูพี่” ไอ้จันยักไหล่แล้วลุกขึ้นไปนั่งรวมกับพวกไอ้ป็อบ รถเคลื่อนตัวมาได้เกือบๆครึ่งชั่วโมงแล้ว คิดว่าอีกไปเกินสามชั่วโมงคงถึงหัวหิน ผมขยับมานั่งตรงพนักแขนเบาะใกล้ๆกับคนที่นอนหลับอยู่

คิ้วขมวดน้อยๆกับมือที่ยังกุมท้องอยู่

เหงื่อซึมออกมาตามไรผมเป็นตัวบอกให้คนรอบข้างรับรู้ว่าเขาคงจะทรมานกับอาการปวดท้องไม่น้อย


ไปทำอะไรมาวะซน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้



>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<
เอาไปก่อนสั้นๆ 5555 ถามว่าเรื่องนี้ใครร้ายสุด (คำตอบก็เห็นๆอยู่แล้วว่าครายยยย)
อ่านตอนนี้แล้วหลายคนอ่านจะโล่ง แต่บางคนก็อาจจะขัดใจ แต่บอกเลยน้องซนไม่ง่ายนะ(แต่พี่น่านก็ได้มาแล้ว 5555)
ปล.คนเขียนรู้สึกโล่งแรงมาก เฉลยสักที จริงๆที่วางพล็อตไว้จะเฉลยในในอีกสองตอนข้างหน้า กะว่าเอาซนเจ็บกว่านี้ แต่คนเขียนไม่ไหว คนเขียน #ทีมซน ทำร้ายจิตใจไม่ไหว เลยย่นระยะเวลาลงมา ต่อจากนี้คงไม่มีม่าหนักๆแล้วแหละ ชอบจังเวลาแต่งดราม่ามันรู้สึกอินดี
รักคนอ่าน คราวนี้(อาจจะ)หายยาวนะ
อัพอีกที สัปดาห์หน้าวันพุธไม่ก็ พฤหัส (ถ้าเร็วกว่านั้นก็อาจจะเป็นเสาร์นี้ ขอบคุณนะคะ)
มีความสุขทุกครั้งที่มีคนอ่านและเม้น


หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 27-05-2015 12:19:43
 :เฮ้อ: เริ่มจะสงสารซนเบาๆ พี่น่านยอมไปเถอะสงสารน้องอะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-05-2015 13:31:05
 :mew1: :mew2: :mew4: :mew5:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-05-2015 13:48:16
แอร๊~ ช่วงนี้คือเวลาแก้แค้นของน้องเอยใช่ม้ายย :serius2: ค่ะ! เอาที่สบายใจเลยนะคะน้องเอย เพราะ ถ้าพี่น่านกับน้องซนไม่คุยกันให้เข้าใจเสียที ก็คงจะต้องสวนทางกันอยู่อย่างนี้นั่นล่ะเน้ออ~
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 27-05-2015 16:33:08
เป็นหนักเลยซน
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-05-2015 16:40:42
มุ่งหน้าสู้โรงพยาบาลด่วน ซนไม่ไหวแล้วววว
อีน้องเอย นังงูพิษ  :hao7: 
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 27-05-2015 16:46:32
น่านร้ายว่ะ นึกว่าจะเจ็บเหมือนกัน ที่แท้....
รอตอนต่อปายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-05-2015 17:06:30
โอเคค่ะ   เราด่าซนมาตั้งแต่ต้นที่จับปลาสองมือ แต่เรื่องหนึ่งต้องยอมรับว่าซนไม่ผิดก็คือซนชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าซนมีน้องเอยอยู่  แต่น่านเองต่างหากที่ไม่ยอมรับ  เรายังไม่ชอบในสิ่งที่ซนทำ น้องเอยไม่ผิดตรงกันข้ามน้องเอยถูกกระทำจากซนและน่าน   มาตอนนี้ยิ่งรู้ว่าน่านวางแผนทุกอย่างเพื่อแย่งซนก็ไม่รู้สิ  ตอนแรกคิดว่าน่านรักซนมากๆจนตรอมใจ แต่มาตอนนี้ทุกอย่างมันเป็นแผนบอกตรงๆว่าชักไม่แน่ใจในความรักของน่านว่ารักจริงๆหรือว่าแค่อยากให้ได้ซนมาเท่านั้น    คือเจตนาของน่านกำลังทำให้ซนเจ็บและทรมาณ   แย่งซนมาแล้วจะรักตลอดไปหรือเปล่า?   มาตอนนี้นะเราอยากให้ซนตัดใจจากน่านแล้วค่ะ อยากให้แผนการของน่านมันย้อนกลับมาตีแสกหน้าน่าน  อยากให้ซนเจอคนอื่นที่ดีบ้าง   เพราะว่าตอนนี้ชีวิตซนถูกตีกรอบโดยแผนการของน่านกับพวก  เราว่ามันเกินไป ควบคุมแม้กระทั่งเพื่อนที่มาคบกับซน  โรคจิตมากๆ   คุณบอกว่ารักแต่คุณยอมให้น้องเจ็บขนาดนี้ ใจคุณทำด้วยอะไร  คุณบอกว่าอยากให้น้องรู้สึกตัวจริงๆว่ารักใคร คุณบ้าหรือเปล่า?

พวกคุณคิดว่าพวกคุณเป็นใคร?  - ถามพวกน่าน

น่านควรจะกลัวนะเพราะว่าน่านจะจบออกไปในไม่ช้า  ซนอาจจะตัดใจแล้วเจอคนใหม่  น้องเอยก็ไม่ผิดที่ปกปิดความจริง พวกนายทำอะไรกับน้องเอยไว้ล่ะ?

คนเขียนเยี่ยมมากค่ะ  หักมุมดี  เราด่าการกระทำตัวละครตามพื้นฐานที่พวกเขาทำ  ตอนนี้เชียร์ให้ซนตัดใจจากน่านแล้วให้น่านมองตาปริบๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 27-05-2015 18:28:51
น้องซนใจแข็งใช่ย่อยไม่ใช่น้องซนโง่ แต่ร่างกายทรมาน ส่วนใจเหนื่อยหล้ามันทำให้ความสังเกตุได้น้อยลง มองภาพได้แคบลง ไม่ใช่ว่าโง่นะพูดว่าซนโง่นี่ ดูถูกน้องไม่พอยังรังแกได้ลง คาดว่าน้องจะถูกหามเข้า ร.พ.ในเร็วๆ นี้แน่นอน ตอนนั้นน่านอยากไปอยู่ใกล้ๆ ก็ทำไม่ได้เพราะติดที่แผนการตัวเองนั่นแหละ ถ้ามือที่ 3 เข้ามาตอนนี้นะ น่านนั่นแหละจะถูกกีดกันออกไปโดยทำไรไม่ได้ จะหัวเราะให้ฟันหักไปเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 27-05-2015 18:41:45
อร๊ากกกกก อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าเร็วๆ รอนะค๊าาา
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-05-2015 19:45:13
เย้ๆๆๆ.  พี่น่านฟ้ายังรักซนอยู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 27-05-2015 21:54:03
 o13
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 23 All of me [27-05-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 27-05-2015 22:36:44
รักกันก็ยอมๆกันเถอะ สงสาร  :o12:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 03-06-2015 15:28:56
Because of you ซน ตอนที่ 24 Let’s me go

Special by น่านฟ้า

แสงแดดตอนสายถึงแม้ว่าจะดูไม่ร้อนแรงมากเท่าไหร่แต่มันก็ทำให้คนที่นอนหลับอยู่รู้สึกรำคาญได้ง่ายๆ ผมขยับเดินไปดึงผ้าม่านมาปิดกันแดดให้เขา ก่อนจะลอบมองเรียวหน้าขาวผ่องกับริมฝีปากเล็กแดงที่เด่นอยู่ตรงหน้า เหงื่อยังผุดอยู่ตามไรผม

ซน

รู้ตัวอีกทีมือก็เอื้อมไปเช็ดเหงื่อให้มันแล้ว แถมยังถือวิสาสะนั่งลงข้างๆมันด้วย กลิ่นน้ำหอมจางๆที่เจ้าตัวชอบใช้โชยมาติดที่จมูก นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่ได้มีโอกาสมานั่งอยู่ข้างๆจนได้กลิ่นน้ำหอมของมันแบบนี้ ความห่างไกลของเรามันทำให้ผมรู้สึกแย่

ผมเหนื่อย อยากเลิก

ผมอยากเลิกแผนการที่ตัวเองกำลังทำอยู่แล้ววิ่งกลับมายืนอยู่ข้างๆเขา แม้ว่าฐานะที่ได้อาจจะเป็นแค่คนที่เขาพร้อมเดินจากไปตลอดเวลาก็ตาม ผมไม่เคยรู้ว่าซนรู้สึกยังไง ในความคิดเขาเคยมีผมอยู่บ้างหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่เคยรู้

สิ่งที่ผมรู้มีเพียง การกระทำ ร่างกาย ทุกอย่างบอกไปในทางเดียวกันว่าซนเองก็รักผม

แต่ทุกอย่างมันไม่มีความหมายเลย ในเมื่อเขาไม่เคยพูด และทุกครั้งที่บีบให้เลือกคนที่เขาเลือกแน่นอนว่าไม่ใช่ผม

ไม่เคยเป็นผม

“อืม” เสียงพำพำในลำคอกับตาที่ปรือขึ้น ซนขมวดคิ้วมองหน้าผมแบบงงๆ “น่านเหรอ...”

“เอ่อ...อืม”

“กูต้องฝันไปแน่ๆ” ซนส่ายหัวเบาๆแล้วขยับนอนต่อ ไม่รู้ว่ามันตั้งใจหรือเปล่าแต่การที่มันขยับเอาหน้าซบลงที่ไหล่ผมมันทำให้ความวาบหวามในใจเพิ่มขึ้นทันที

ผม....คิดถึงมัน

“กูคิดถึงมึง” ลมหายใจสะดุดแทบจะทันทีที่คำพูดแผ่วเบาพ่นออกจากปากมัน  ซนเอื้อมมือมาเกาะที่ชายเสื้อผม จับแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไป ไม่อยากเข้าข้างตัวเอง แต่ที่ซนพูดออกมาก็มีแต่ผมเท่านั้นที่อยู่ตรงนี้

“กูเองก็คิดถึงมึง...ซน”

“โกหก” จู่ๆซนก็เงยหน้าขึ้นมองผม ดวงตาแดงกร่ำไม่รู้เป็นเพราะว่าเจ้าตัวโกรธหรือไม่พอใจกันแน่ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากตอนทีมันขยับเอาหัวพิงลงบนบ่าผม มือที่เกาะเสิ้อผมอยู่แล้วบีบแน่นมากกว่าเดิม

“กูเปล่า”

“พอเถอะวะน่าน...”มันกระตุกเสื้อผมหลายที เสียงสะอื้นฮักในลำคอดังขึ้นเบาๆ ถึงมันไม่ได้ดังมากแต่ผมก็พอรู้ว่ามันพยายามอย่างหนักที่จะเก็บเสียงไม่ให้ผมได้ยิน “เลิกทำตัวแบบนี้สักที....กู....”

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ของซนดังขึ้นก่อนที่มันจะพูดอะไรจบ มันขยับตัวหนีออกจากอ้อมกอดผมเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ ชื่อ น้องเอย เด่นหราอยู่หน้าจอทำเอาผมอดเบือนหน้าหนีไม่ได้

“ว่าไงครับ....พี่กำลังจะไปต่างจังหวัด...ทะเล...ครับแต่ไม่รู้ว่าจังหวัดไหน...ไปกับเพื่อนๆนี่แหละแล้วก็มีพวกปีสี่....ห้ะ....ทำไมอ่ะ...” ประโยคสุดท้ายมันพูดพร้อมกับหันหน้ามามองผม

“พี่ไม่เข้าใจครับน้องเอย...น้องเอยรู้จักมันได้ไง...อ่อ...ก็มาด้วยนั่งอยู่ข้างๆพี่นี่แหละ..มีอะไรหรือเปล่า....อ่า...ทำไมอ่ะ...ก็ได้ครับ...น่านน้องเอยจะคุยกับมึง” ซนยื่นโทรศัพท์ส่งมาให้ผม “เร็วดิ๊ น้องรอ”

ซนแทบจะยัดมือถือเข้ามาในมือผมทันทีที่มันพูดจบ ผมไม่เข้าใจว่ายัยน้องเอยเขาจะอยากคุยกับผมทำไม เพราะคราวที่แล้วที่กะว่าจะโทรถามเรื่องสถานะอีกรอบ เธอก็กดบล็อคเบอร์ผมแล้ว

“ฮัลโหล”

(เลิกวุ่นวายกับพี่ซนซักทีเถอะค่ะ ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าเรารักกันดี ไม่มีที่ว่างให้คนอย่างคุณมาแทรกกลางค่ะ)

“คง...ทำตามที่น้องบอกไม่ได้หรอกครับ” ถึงจะรู้ว่ารักกันดีหรือไม่มีที่ว่างสำหรับแทรกกลางเขาสองคน แต่ผมมั่นใจว่าที่ว่างข้างๆซนอาจจะพอมีที่ให้ผมอยู่บ้าง

(ถ้าคุณยังทำแบบนี้ ฉันจะบอกพี่ซนว่าคุณเป็นคนเอาเรื่องทั้งหมดมาเล่าให้ฉันฟัง มันคงจะรู้สึกแย่ไม่น้อยเพราะคนที่เราไว้ใจที่สุดกลับกลายเป็นคนที่...หักหลังเรา) ผมไม่รู้ว่าน้องเอยพูดกับตัวเองหรือพูดกับผม แต่สิ่งที่น้องเขาพูดถ้าซนรู้ ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าแม้แต่หน้าเขายังอยากให้ผมเห็นหรือเปล่า

“ผม...”

(ขอคุยกับพี่ซนต่อค่ะ)

“คือ...”

(ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอคะว่าฉันขอคุยกับแฟนฉันต่อ) ผมถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วส่งโทรศัพท์กับไปให้คนข้างๆ ซนขมวดคิ้วทำหน้าไม่เข้าใจแต่ก็รับโทรศัพท์ไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ครับ...ก็ดี...ฮ่า ฮ่า...ไม่ใช่แบบนั้นครับ...พี่ก็คิดถึงน้องเอยเหมือนเดิมแหละ” ผมเบนหน้าหนีรอยยิ้มที่คนข้างๆไม่เคยมีให้ผม “แล้วน้องเอยเป็นไงบ้างคะ...จริง....ดีแล้วแหละค่ะ..ดีแล้ว..”

ผมขี้เกียจฟัง เบื่อจะได้ยินคนสองคนพูดรักกันตอนที่ยังมีผมอยู่ตรงนี้ สุดท้ายเลยหยิบมือถือขึ้นมาเสียบหูฟังเปิดเพลงในระดับที่ไมให้ได้ยินเสียงรอบข้าง ตอนที่ซนคุยโทรศัพท์มีบ้างที่เขาหันมามองหน้าผม พอเลิกคิ้วถามมันก็ส่ายหัวแล้วหันไปคุยโทรศัพท์ต่อ

ผมกลัวว่าน้องเอยจะพูดเรื่องที่ผมทำอะไรไว้

ถึงแม้ว่าแผนการที่ทำมามันจะไม่ได้ผล แต่อย่างที่น้องเอยบอก มันคงเจ็บไม่น้อยที่คนที่เราไว้ใจกลับกลายเป็นคนที่หักหลังเรา




Special by  ซน

สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจคือทำไมน้องเอยถึงเอาแต่กำชับกับผมว่าไม่ต้องบอกคนอื่นว่าเราเลิกกัน พอถามว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น น้องก็เอาแต่หัวเราะแล้วพูดว่า มันสนุกดี หลังจากนั้นก็เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น และผมเองก็ไม่ได้รับปากน้องด้วยว่าจะไม่พูดถ้ามีคนถาม ดังนั้นผมคิดว่าถ้าไม่มีใครถามผมก็ไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว

“อีกชั่วโมงนึงน่าจะถึงที่พัก” เสียงพูดคนข้างกายลอยเข้าหู ผมเหลือบตาไปมองมันก่อนจะหันหลังไปมองกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่เบาะหลัง เผลอสบตากับพี่แอลแว่บนึงก่อนจะเป็นผมที่หลบตาก่อน ไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้น่านมันมานั่งทำบ้าอะไรตรงนี้ ไม่ไปนั่งกับแฟนตัวเองวะ

“แม่ง” พอคิดมากๆเข้าอาการปวดท้องก็ประทุเข้ามาทันที ผมงอตัวเอาหัวพิงที่เบาะหน้า สูดหายใจเข้าปอดแล้วหลับตาลงช้าๆ ถึงมันจะไม่ได้ปวดมากเหมือนก่อนหน้านี้ แต่การปวดเป็นระยะๆแบบนี้ก็น่ารำคาญไม่ใช่เล่น

“มึงไหวไหม” กูจะไม่ไหวก็ตรงที่มึงถามแล้วเอามือตัวเองมาลูบหัวกูนี่แหละน่าน ทำไมมึงทำแบบนี้วะ มาทำท่าเหมือนห่วงกูทำไมทั้งๆที่มึงก็มีคนอื่นอยู่แล้ว

ผมอยากพูดประโยคข้างบน แต่ที่ทำได้ตอนนี้คือการพูดออกไปแค่คำว่า “กูไหว”

อยากปัดมือมันออกแต่ใจผมรับรู้ดีว่าผมทำไม่ได้ ผมโหยหามันมาตลอด อยากสัมผัส อยากทำทุกอย่างที่เคยทำ แต่ความจริงก็มักตอกย้ำให้ผมรับรู้เสมอว่าตอนนี้มันไม่ใช่ของผมอีกต่อไป

“พอเถอวะ” สุดท้ายความถูกต้องแม่งก็ชนะ ผมดึงมือมันออก ขยับนั่งตัวตรงแล้วหันไปมองหน้าต่างข้างทางที่เริ่มจะเห็นทะเลบ้างแล้ว แนวต้นสนกับชายหาดที่ถูกจัดระเบียบ การไม่มีเก้าอี้ผ้าใบวางอยู่ทั่วชายหาดทำให้ชายหาดน่านั่งมากขึ้น ณ เวลานี้ยังไม่มีใครมาเล่นน้ำเพราะแดดที่อาจจะทำให้ผิวไหม้ได้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง หลายคนอาจจะคลุกตัวอยู่ในห้องพัก นอนกอดกับคนรักของตัวเองอย่างมีความสุข

“กูไม่เข้าใจมึงเลยน่าน มึงทำแบบนี้ทำไม” ทั้งๆที่ผมปัดมือมันทิ้งไปแล้ว บอกให้มันหยุด แต่มันก็ยังเอื้อมมือมาจับมือผม “มึงต้องการอะไรจากกูวะ...น่าน...”

“.....”

“....”

“ซน...” มันบีบมือผมแน่นกว่าเดิม

“อะไร”

“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมวะ”











“น้องปีสามแยกย้ายกันเข้าห้องเลยนะคะ” ผมหยิบกระเป๋าแล้วเดินตามไอ้จันไป ยังดีที่ผมได้นอนห้องเดียวกับมันเพราะผมยังไม่ได้สนิทกับเพื่อนคนอื่นมากนัก รีสอร์ทที่นี้ติดทะเล บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยต้นสน กลิ่นน้ำทะเลทำให้ใจผมสงบลงไปได้บ้าง

“กูนอนติดหน้าต่างนะ”

“อืม” ผมพูดบอกไอ้จันในลำคอก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างหมดแรง คำพูดไอ้น่านที่บอกว่าให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมยังดังก้องอยู่ในหัว ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่มันพูด ไม่เคยเข้าใจ พยายามนึกหาเหตุผลร้อยแปดวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ตอนนั้นผมไม่ได้ตอบคำถามมัน จังหวะมันพอดีกับพี่ที่อยู่หน้ารถตะโกนบอกเราว่าจะถึงแล้ว น่านฟ้าเลยพูดกับผมแค่ว่ามันจะรอคำตอบจากผม

ไม่รู้ดิ...จริงๆผมควรจะปฏิเสธมันตั้งแต่ตอนที่มันเอ่ยปากพูดออกมาแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างที่บอก

ผม...คิดถึงมัน คิดถึงมันทั้งๆที่รู้ว่ามันเองก็มีพี่แอล

“ซน”

“ห้ะ???”

“เป็นไรวะกูเรียกมึงตั้งนานแล้ว ไมไม่ตอบ”

“กู..เพลียๆน่ะ”

“งั้นมึงนอนหลับไปก่อนไหมเดี๋ยวถ้าเขาเริ่มกิจกรรมแล้วเดี๋ยวกูขึ้นมาตาม” ผมพยักหน้ากับหมอน แล้วหลับตาลงช้าๆ ไอ้จันเดินมาขยี้หัวผมทีนึงก่อนจะเดินออกจากห้องไป เสียงปิดประตูห้องดังขึ้นไม่นานหลังจากนั้น ผมหลับตานิ่งสนิท ความเย็นของแอร์ทำให้ผมจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความมืดได้ไม่ยาก

ผมตื่นอีกทีเกือบบ่าย เสียงไลน์จากไอ้จันบอกว่ารีสอร์ทจะปิดบุฟเฟ่ต์ตอนบ่ายสอง ผมเลยรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมากินข้าวที่ห้องอาหารด้านล่าง หลังจากที่กินเสร็จ พี่ปีสี่ก็เรียกรวมไปแบ่งทีมเพื่อเล่นเกมส์ ทีมนึงมีประมาณ 30 คน มีทั้งหมด 6 ทีม ในหนึ่งทีมจะมีผู้หญิงอยู่แค่6-7คนเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงบอกว่าผู้หญิงในวิศวะหายากกยิ่งกว่าขวดเหล้า ก็เล่นมีน้อยขนาดนี้ แถมจะหาแบบเรียบร้อยอ่อนหวาน น่ารักก็ยากเหมือนหาเข็มในมหาสมุทร เพราะที่ผมเจอมามีแต่แมนกว่าผู้ชายผมแทบจะทั้งนั้น

“มึงเล่นฟุตซอลเป็นไหม” คนที่ถามผมคือยัยหมวย สาวหน้าหวาน แต่อย่าพูดถึงนิสัยนะครับ หลอกลวงสุดๆ

“เป็นดิ”

“แน่ใจนะอีซน มันไม่เหมือนโดดยางแถวบ้านมึงหรอกนะ”

“K กูบอกเล่นเป็นก็เล่นเป็นดิ” ผมไม่เคยพูดหยาบกับผู้หญิงเลยสักครั้ง แต่คณะนี้ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนคติใหม่เกือบหมด

“โอเคงั้นให้อีซนลงฟุตซอล” ผมพยักหน้าตอบหมวยก่อนจะหันไปฟังมันวางแผนว่าใครจะทำหน้าที่อะไรต่อ หมวยบอกว่าเกมส์แต่ล่ะอย่างมันแข่งพร้อมๆกัน ซึ่งมีทั้งหมด 3 เกมส์คือฟุตซอล ชิงธง และโยนลูกบอลลงตระกร้า ทุกเกมส์จะต้องแข่งเวียนครบทุกสี พี่ปีสี่ให้เหตุผลว่าจะได้รวดเร็วไม่ต้องมานั่งรอทีมไหนแข่งก่อนแข่งหลัง แข่งพร้อมกันแล้วรวมคะแนนทีเดียว ทีเหลือก็อยู่ที่แต่ล่ะทีมจะจัดสรรแบ่งคนยังไง

“งั้นพวกมึง 10 คนรับหน้าที่ในส่วนฟุตซอลไปเลย แข่ง 5 คน ที่เหลือสำรองเวียนๆกันแข่ง ถ้าใครอยากแข่งอันอื่นก็มาแจ้งกูเดี๋ยวกูจะได้ให้คนไปเปลี่ยน ส่วนผู้หญิงพี่เขาบอกว่าจะมีรอบแข่งโยนลูกบอลลงตะกร้าตั้งหาก หลังจากที่แข่งทุกอย่างเสร็จแล้ว ยังไงก่อนหน้านั้นก็คอยช่วยหาน้ำให้พวกตัวผู้ไปล่ะกัน” ไอ้หมวยพูดแจกแจงหน้าที่ของแต่ล่ะคนก่อนจะเริ่มแยกย้ายกันไปตามสถานที่แข่ง ส่วนของผมอยู่ริมหาดด้านนอกเลยรีสอร์ทไปไม่ไกล มีโกลสองเสาที่ทางปีสี่เตรียมพร้อมไว้ให้อยู่แล้ว  แข่งแบบแบ่งสาย ใครชนะก็มาเจอกันในรอบต่อไป

“เอาล่ะคู่แรกพี่ขอทีมสีส้มกับสีเขียวก่อน แล้วตามด้วยชมพูกับเหลือง แล้วคู่สุดท้ายเป็นแดงกับน้ำเงินนะคะ” ผมอยู่ทีมสีแดงได้แข่งคู่สุดท้ายมันดีตรงที่มีเวลานั่งพักและดูวิธีเล่นของทีมอื่นแต่ที่แย่คือไอ้จันเป่ายิงฉุบแพ้ทำให้ทีมผมแม่งต้องถอดเสื้อเล่น ไม่รู้ว่ามันโผล่มาจากไหนตอนแรกคิดว่าอยู่ทีมอื่นแล้วซะอีก

“ดีใจล่ะสิมีกูอยู่ทีมด้วย”

“เหอะ” ผมถอนหายใจใส่แล้วหันไปมองที่สนามบอลขนาดย่อมตรงชายหาดแทน ปกติเวลาแข่งฟุตซอลใช้เวลาครึ่งล่ะประมาณ 20 นาที แต่คราวนี้พี่เขาลดเวลาให้เหลือครึ่งล่ะ 10 นาทีเท่านั้น ถ้ายังไม่มีการยิงเข้าหรือเสมอจะแข่งต่อเวลาอีก 10 นาที แต่ถ้ายังไม่มีประตูอีกหลังจากนั้นค่อยยิ่งลูกโทษแทน

“มึงจะลงจริงๆ”

“ก็คงต้องเป็นแบบนั้น” ผมตอบโดยไม่ได้หันไปมองคนข้างกาย ผมเห็นมันเดินมาที่สนามฟุตซอลตั้งแต่ก่อนที่คู่แรกจะลงเล่นแล้ว มันมากับกลุ่มเพื่อน หัวเราะยิ้มมีความสุขเสมอกับคนที่อยู่ข้างๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่มันกำลังยื่นทางเลือกให้เรากลับไปเหมือนเดิมสักนิด

ไม่เห็นเข้าใจ

“มึงแพ้เหงื่อ”

“ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น”

“อันนั้นก็ไม่ได้ร้ายแรง” ความเงียบเข้าครอบงำเราสองคนอีกครั้ง บรรยากาศอึดอัดทำให้ผมรู้สึกหายใจไม่ออก

“ที่ผ่านมามึงเคยรักกูบ้างไหมวะซน...เคยบ้างไหม”

“กูว่า...คนที่รู้ดีที่สุดน่าจะเป็นมึงนะน่าน”

“ซนทีมเราแข่งแล้ว” เพื่อนทีมฝั่งผมตะโกนเรียกให้ผมไปที่สนาม “กูจะแข่งแล้ว” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ

“อื้ม สู้ๆ”

“ขอบใจ” รู้ตัวอีกทีก็เผลอเอื้อมมือไปขยี้หัวไอ้น่านแบบที่ชอบเล่นกับมัน

“เอ่อ...กู” ผมหันไปมองดวงตาคมกริบจากพี่แอลที่มองมาทางเราตั้งแต่ต้น “ขอโทษ” ผมลดมือตัวเองลงแล้วรีบวิ่งมาตรงที่นั่งฝั่งทีมตัวเอง

“หน้าแดงนะ”

“เสือกน่าจัน”

“เค้าเปล่า” มันยกมือสองข้างขึ้นเหมือนยอมแพ้ ก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

“อีซนเปลี่ยนตัวดิ” หมวยเดินมายืนตรงหน้าผมก่อนจะบอกให้ผมถอดเสื้อ อย่างที่บอกว่าฝั่งผมต้องถอดเสื้อ การถอดเสื้อท่ามกลางแดดเมืองไทยไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสำหรับผมนัก

ร้อน อากาศร้อนๆกำลังจะทำให้ผมตาย เหงื่อที่ไหลออกมาโทรมกายไม่ต่างจากน้ำแบบนี้ทำให้ผิวผมรู้สึกคันยุบยับไปหมด

“ซนทำไมตัวมึงแดงเถือกแบบนี้วะ” หลังจากแข่งเสร็จครึ่งแรกจบ พวกเรานำไปสองศูนย์ ตอนนี้กำลังนั่งพักกินน้ำอยู่ข้างสนาม

“กูแพ้เหงื่อน่ะ แต่ไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง”

“กูว่าปัญหาน่าจะเยอะอยู่ ดูผิวมึงดิ” หมวยยกแขนผมดูเห็นตุ่มเล็กๆแดงเถือกตามตัวไปหมด “ไปอาบน้ำเหอะมึง เดี๋ยวกูบอกพี่เขาให้ว่ามึงไม่สบาย”

“เอางั้นเหรอ”

“เอาแบบนี้แหละ ไป อาบน้ำ เดี๋ยวกูบอกพี่เขาให้” ผมพยักหน้าขอบคุณหมวยก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำ แต่ระหว่างทางสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเห็นคือไอ้น่านกำลังยืนกอดกับพี่แอลอยู่

ผมควรจะรับกับสิ่งนี้ได้ตั้งนานแล้ว

แต่ว่า...ผมไม่เคยรับมันได้เลยสักนิด

ห้องพักที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไม่ได้ช่วยลดความร้อนในใจของผมออกไปได้เลยสักนิด หลังจากที่เข้ามาอาบน้ำผมก็ไม่มีกระจิตกระใจจะออกไปดูกีฬาด้านนอกอีก ผมก้มมองดูผื่นแดงที่เริ่มขึ้นหนักเรื่อยๆ ยิ่งเวลาที่ใช้มือสัมผัสไปตามเนื้อผิวก็ยิ่งรับรู้ถึงสิ่งที่มันไม่เรียบเนียนอย่างที่เคย

แกร๊ก

“ซน” ผมเงยหน้ามองคนมาใหม่ก่อนจะก้มลงมองมือตัวเองอีกรอบ ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากผม ทั้งๆที่อยากตะโกนใส่หน้ามันเหลือเกินว่า ออกไป ในเมื่อมันเป็นคนเดินจากผมไปแท้ๆแล้วจะเรียกร้องให้เรากลับมาเหมือนเดิมทำไม

นอกเสียจากมันอยากจะให้ผมเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดของมัน

“กูเอายามาให้”

“วางไว้ตรงนั้นก็ได้เดี๋ยวกูกินเอง”

“มันมียาทา”

“กูทาเองได้” ผมดึงขวดยาน้ำจากมือไอ้น่านมาถือไว้แล้วเริ่มลงบนแขนและขา การก้มหน้ามันทำให้น่านฟ้าไม่เห็นน้ำตาผม

“อย่าดื้อน่าซน” นิสัยขี้บังคับยังไม่หายไปไหน น่านฟ้าดึงมือผมไปทายาให้ด้วยตัวเอง

“กูเห็นมึงกอดกับพี่แอลตรงทางเดิน...”

“อืม”

“เขาดีกับมึงใช่ไหม”

“ก็ดีนะ”

“ดีแล้ว...” ผมดึงมือตัวเองกลับ แต่น่านฟ้ากลับส่ายหัว เปลี่ยนมาทายาให้ตรงลำคอและแผ่นอกแทน
 
“น่าน” การถอนหายใจออกมาแรงๆช่วยทำให้ความร้อนที่กระบอกตาบรรเทาอาการลงไปได้บ้าง “กูอยากรู้ว่ามึงอยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมทำไม”

“ก็...ตามความหมายมันนั่นแหละ”

“แต่กูไม่อยาก...กู...ทนมันไม่ไหวหรอกนะ” ผมทนเห็นมันรักกับคนอื่นโดยที่ผมยืนมองมันอยู่ข้างๆเหมือนที่มันทำกับผมไม่ได้

“......”

“ฮึก...น่าน...” การเอื้อมมือไปจับชายเสื้อน่านฟ้าตอนนี้เป็นอะไรที่ยากลำบากพอๆกับการกลั้นน้ำตาตัวเอง “ถ้ามึง..ถ้ามึงต้องการให้กูรับรู้ว่ามึงรู้สึกยังไงตอนที่มึงอยู่กับกู...ฮือ..กูจะบอกว่ากู..กูเจ็บแล้วน่าน กูเข้าใจความรู้สึกมึงแล้ว”

“.........”

“ปล่อยกูไปเถอะนะ ปล่อยกูเถอะ...ฮึก”

“มึงไม่เข้าใจซน...มึงไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง...กูรักแค่มึง มีแค่มึงคนเดียวมาตลอด”

“แล้วที่กูเห็นที่ทางทางเดินคืออะไรวะ มึงจะบอกว่ากูตาฟาดหรือไง” ผมเกลียดคนโกหก แล้วมันกำลังโกหกหน้าตายกับผม

“มึงน่ารัก”

“เชี่ยมันใช่ประเด็นไหมน่าน แล้วหัวนมกูก็ไม่ใช่ที่ที่มึงจะมาทายาซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้” ผมกระชากมือไอ้น่านออกจากแผ่นอก แม่งความจังไรของมึนไม่ได้หายไปจากสันดานเลยสักนิด

“เวลามึงหึง...มันก็...น่ารักดีเหมือนกันนะ”



>>>TBC<<<
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-06-2015 15:59:53
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-06-2015 16:06:35
 :mew6:  สงสารซนง่า 

จะลงแดง  :ling1:   
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-06-2015 16:34:33
ก็เข้าใจนะว่าพี่น่านกับซนทำผิดต่อน้องเอยเอาไว้น่ะค่ะ แต่เราชักจะรำคาญยัยเด็กคนนี้เสียแล้วสิคะ ไม่ชอบที่ทั้งสองคนนั้นมาสะตอภาคใต้หน้าตายใส่เธอไม่ใช่เหรอคะ แล้วเธอเลือกที่จะประพฤติแบบพวกเขาทำไมกัน เอาเวลาไปเรียนหนังสือไหมล่ะ จรรโลงใจกว่ากันเยอะเลย!!!

พี่น่านก็อีกคนถ้าไม่อยากให้เด็กนั่นแฉความลับให้ซนได้รู้ ก็สารภาพออกมาเองก็สิ้นเรื่องแล้วไหมคะ ให้ซนได้ฟังจากปากของพี่เองโทษของความผิดก็ยังมีโอกาสได้ลดลงมาตั้งกึ่งหนึ่งเลยนะ 'ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย' น่ะเคยได้ยินไหมคะ คราวนี้ยัยเด็กนั่นก็ไม่สามารถที่จะเชิดหน้าแล้วบอกว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าพี่ได้แล้วล่ะค่ะ

เฮ้อ~ แต่ดูท่าแล้วคงจะอีกนาน เพราะต่างคนต่างก็โยกโย้กันอยู่นั่นล่ะ แค่พูดคำว่า 'รัก' ออกมานี่มันยากขนาดเลยเหรอ แล้วอะไรคือการที่กลับมาขอซนคบเหมือนเดิมแล้วไม่อธิบายเหตุผลคะ? บางทีเราก็รู้สึกว่าสองคนนี้เหมือนคุยกันคนละเรื่องเดียวกันอยู่เลยค่ะ คือเดาไม่ถูกเลยว่าพี่น่านจะมาไม้ไหนอีก จะยกเลิกแผนการหรือจะสานต่อให้ยิ่งๆ ขึ้นไปกว่านี้อีกกันแน่ค้าา

:serius2: ..
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 03-06-2015 16:40:43
หัวนม 555
กำลังเศร้าๆ มาที่ทายาหัวนมซ้ำไปมา อารมณ์กระเจิกกระเจิงหมดดดดด :hao7:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 03-06-2015 16:49:59
ปล่อยให้เขาสมหวังเถอะน้องเอย เลิกแกล้งได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 03-06-2015 18:50:34
น้องเอยอยากดัดหลังพี่น่านก็ไม่ผิดแต่มันกำลังทำให้หนูซนขาดใจตายได้น๊าาาาา   :ling1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 03-06-2015 20:56:00
น้องเอยนี่แกล้งพี่น่านใช่มั้ยยยยย รอตอนต่อไปค่าาา
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 03-06-2015 21:33:15
ตอนนี้ประเด็นอยู่ที่ว่า อย่างน้อยซนก็ไม่เคยโกหกน่าน

เราเป็นคนนึงที่ว่าซน ไม่ชอบการกระทำขอของซน แต่อย่างน้อยซนก้อไม่เคยโกหกหรอก ซนมันชัดเจนตั้งแต่ต้น แค่ความชัดเจนของมันทำร้ายน่าน แต่น่านต้องเข้าใจด้วยว่ามาทีหลัง ซนมันไม่กล้ากับน้องเอยทั้งที่ไม่มีความผิดหรอก ซนมันไม่กล้าขนาดนั้น

แต่น่าน อยากแค่คำเดียว ว่านี่หรือคือการกระทำของคนรักกัน ถ้าอยากให้มันรุ้ใจตัวเองมันก้อรุ้แล้วตั้งแต่น่านจากไปแค่นี้ก้อถือพอแล้ว แต่นี่ถึงกับขนาดหลอกกันเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ อย่างที่ซนมันบอก ตอนนี้มันรู้แล้ว มันรับรู้แล้ว มันเจ็บเหมือนที่น่านเคยเจ็บแล้ว แต่บอกไว้อย่าง อย่างน้อยตอนที่ซนมันคบน้องเอยมันก้อแคร์ความรู้สึกน่านตลอด ไม่เคยให้น่านเห็นเหมือนที่น่านให้ซนเห็น

ส่วนแอล คุณคิดว่านี่คือการกระทำที่ดีแล้วงั้นสิ งั้นเราก้อหวังว่าคุณจะได้รับผลจากการกระทำของคุณแล้วกัน

รอดูเอาเถอะตอนซนมันรู้ว่าคนที่มันรักหักหลังมันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-06-2015 01:33:44
ใครก็ได้เอาอีชะนีเอย กะนังชะนีแอบไปเก็บซะที. รำคาญ. ดีออก
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 04-06-2015 04:24:04
ไม่ใช่กลับลำนะ เราว่าตามบริบท  เราไม่ชอบซนที่จับปลาสองมือ แต่วนชัดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าน่านจะอยู่ในสถานะไหน  มาตอนนี้ซนเจ็บแต่ซนปล่อยน้องเอยไปแล้วนะ  ซนยังต้องมาทนกับการเล่นละครของน่าน เราไม่ชอบตรงนี้ เพราะเหมือนกับว่าน่าน
ขอกลับไปเป็นเหมือนเดิม  ในสถานะไหน?  ให้ซนเป็นกิ๊กในขณะที่น่านยังคบกับแอลงั้นหรือ?   นี่ยังกับว่าน่านกำลังแก้แค้นเอาคืนซนเลยนะ

เรื่องน้องเอย เราเข้าใจนะว่าทำไม  อ่านนิยายวายแต่ก็ต้องว่ากันไปตามบริบทการกระทำของแต่ละตัวละคร  น้องเอยไม่ผิดอะไรเลยนะ  นางถูกซนกับน่านหักหลัง คบซ้อน อีกฝ่ายเป็นผู้ชายด้วย  ผัวตัวเองเป็นเมียคนอื่น ไม่ได้เป็นสาววายก็ไม่มีทางฟินหรอกค่ะ  เอยกำลังแก้แค้นและเบนเข็มตรงไปที่น่านมากกว่าซน  คิดสิว่าสำหรับเอยน่านก็คือเลวดีๆนี่เอง น่านมาแย่งผัวนางนะ

เราไม่แน่ใจว่าน่านต้องการให้ซนมาเป็นเหมือนที่ตัวเองเป็นหรือเปล่าที่กลับมาเป็นเหมือนเดิม  ประมาณซนมีน้องเอยแล้วน่านก็มีแอล     เราไม่แน่ใจในตัวแอลว่าแอลคิดกับน่านแค่เพื่อนจริงหรือเปล่า?    แผนน่านน่าจะกลับมาแบ็คไฟร์นะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-06-2015 10:32:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 04-06-2015 10:58:59
น้องเอยนี่แค่แกล้งพี่น่าน หรือว่าแอบร้ายล่ะเนี่ย รีบๆ คืนดีกันแล้วสารภาพความจริงได้แล้วนะพี่น่าน
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-06-2015 12:35:16
จะเข้าใจกันแล้วใช่ไหมๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 24 let's me go[03-06-15:P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 05-06-2015 07:38:06
โอ้ยค้างมากค่ะ กำลังลุ้นเลยค่ะ  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 09-06-2015 15:34:59
Because of you ซน ตอนที่ 25 คืนมา

“กูไม่ชอบเวลามึงร้องไห้เลย” น่านฟ้าเอื้อมมือตัวเองมาเกลี่ยน้ำตาผมอย่างเบามือที่สุด “ยิ่งคนที่ทำให้มึงร้องไห้เป็นกูแบบนี้ กูก็ยิ่งรู้สึกแย่”

สัมผัสเย็นจากฝ่ามือน่านฟ้ายังคงจับค้างอยู่ที่ใบหน้า นิ้วโป้งของมันถูกใช้เพื่อเกลี่ยน้ำตาที่ยังไหลบ่าไม่หยุด ผมก็ไม่ชอบที่ตัวเองร้องไห้ มันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายควรจะทำ แต่พอเป็นเรื่องไอ้น่านที่ไร แค่สะกิดนิดเดียวทุกอย่างก็พร้อมจะปริแตกออกมาทุกครั้ง

“ซน...กูกับแอลไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“โกหก” มันน่าโมโห ก็ในเมื่อมันบอกผมเองว่ามันเป็นแฟนกับพี่แอล ยังจะมาโกหกผมหน้าด้านๆ “กูไม่ได้โง่นะน่าน”

“มึงโง่”

“กูบอกว่ากูไม่ได้โง่ไงสัส!!” ผมต่อยไปที่ไหล่ไอ้น่านทีนึง มันทำหน้าเหยเกแต่ก็ยังยิ้มออกมาตรงมุมปาก “กูสอบเข้าคณะมึงได้กูไม่ได้โง่”

“เรื่องนั้นเป็นเพราะแลคเชอร์กูหรือเปล่า”

“ไม่ใช่...กูเก่งของกูเอง แลคเชอร์มึงไม่ได้ช่วยเชี่ยอะไรสักอย่าง” น่านฟ้าพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่แววตามันไม่เคยเชื่อในสิ่งที่ผมพูดสักนิด ออกจะกึงๆไปในทางล้อผมมากกว่าด้วย “กูบอกว่ากูเก่งไงเล่า!!!”

ไอ้น่านชอบทำตัวกวนประสาท ขอให้ได้แกล้งผมนิดๆหน่อยๆก็ดูมันจะอารมณ์ดีขึ้นจนน่าหมั่นไส้

“โอ้ยยย” ผมต่อยมันไปอีกที “เจ็บครับ ยอมแล้วครับ ยอมแล้ว” มันยกมือสองข้างขึ้นเหมือนคนยอมแพ้ ก่อนจะดึงขาผมให้ขยับขึ้นไปนั่งเกยบนตักตัวเอง หน้าผากวางลงบนลาดไหล่ ลมหายใจร้อนเป่ารดผิวเนื้อที่ไม่มีเสื้อผ้ากั้นทำเอาผมลมหายใจสะดุด “ยอมแล้วครับ ผมยอมแล้ว”

“กูไม่ได้โง่น่าน กูเก่ง” ใครมันจะไปชอบให้คนอื่นมาด่าตัวเองว่าโง่ ผมคนนึงอ่ะไม่ชอบที่สุด ยิ่งเรื่องที่สอบเข้ามหาลัยนั้น ผมทำด้วยตัวผมเองแท้ๆ แลคเชอร์มันก็แค่ส่วนเล็กๆที่ไม่สำคัญที่เหลือมันเป็นเพราะความพยายามของผมตั้งหาก

“ครับ ซนเก่งที่สุด”

“กวนตีนกูอีกแล้ว” ผมผลักหัวไอ้น่านออกจากไหล่ แต่สงสัยชาติก่อนแม่งเกิดเป็นตุ๊กแก แกะเท่าไหร่แม่งก็ไม่ออก สุดท้ายเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้ไอ้น่านกอดผมอยู่ในท่าสุ่มเสียงแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างเราไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดตัวเอง มีเพียงสัมผัสจากไอ้น่านเท่านั้นที่ยังคงใช้นิ้วโป้งลูบไปมาที่มือผมเบาๆราวกับปลอบโยนและกล่อมเราทั้งคู่ให้หวนนึกถึงเรื่องในอดีต

“ซน”

“.......” ผมได้ยินมันเรียกนะ แต่ไม่อยากตอบอ่ะ

“ซนครับ”

“......” ผมเอียงคอมองหน้ามัน ไอ้น่านยิ้มตรงมุมปากแล้วใช้ศรีษะโขกลงบนไหล่แล้วเรียกชื่อผมไปพร้อมๆกัน

“ซน ซน ซน”

“เรียกอะไรนักหนาวะ มึงมันน่ารำคาญ”

“ก็พี่เรียกน้องแล้วน้องไม่ตอบพี่” ผมหันขวับไปมองหน้าไอ้น่านแล้วยู่ปากใส่มัน

“K ใครน้องมึง ตั้งแต่เกิดมากูจำไม่เห็นได้เลยว่าเคยมีพี่หน้าตาทุเรศเหมือนมึง” ไอ้น่านหัวเราะขำเบาๆก่อนจะเอื้อมมือมาบีบปากผม

“เรียกไม่ตอบ พูดไม่เพราะ มันน่าจับกดลงกับเตียงนัก” ไม่พูดเปล่าไอ้น่านเปลี่ยนทิศทางมือตัวเองจากมือผมมาที่หน้าท้องผมทันที

“หยุดเลย”

“คนมีมารยาทเวลาใครเรียกมันก็ต้องขานตอบไม่ใช่โวยวายแบบนี้”

“เอออออ ใช่กูมันไม่มีมารยาท” ผมปัดมือไอ้น่านออกจากท้องตัวเอง มันหัวเราะอีกแล้ว แม่งน่าหมั่นไส้ กูไม่ใช่ตัวตลกนะเว้ย “แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่มึงจะมาหัวเราะกูด้วย”

“โอเคๆ ยอมแล้วๆ” มันพูดว่ายอมมาสองรอบก็ไม่เห็นว่ามันจะยอมผมจริงๆสักที

“เรื่องที่กูบอกว่ากูไม่ได้ดป็นอะไรกับแอล กูพูดจริงนะซน” น่านฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มันลุกขึ้นนั่งดีๆก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นจับหน้าผม

“ไม่เคยเป็นอะไรกัน” ผมเม้มปากแน่น จริงๆไม่อยากฟังด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่ามันเป็นคำโกหกที่น่านฟ้าสร้างขึ้นมาเพื่อแก้แค้นผมหรือเปล่า ผมรู้ตัวเองดีว่าผมไม่ใช่คนใจแข็ง ยิ่งเห็นมันนั่งอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ใจผมมันอ่อนไปมากกว่าครึ่งแล้วด้วยซ้ำ

“แต่เมื่อกี้มึงกอดกับพี่เขา”

“แอลมีปัญหาเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”

“แต่พี่แอล...เขาชอบมึง” ความจริงจากปากพี่เขาที่ผมได้ยินมา ไม่มีทางเป็นเรื่องโกหกได้ ในเมื่อสีหน้าและท่าทางตอนนั้นมันเต็มไปด้วยความรักที่ค่อนข้างจะชัดเจน

“มันไม่ได้ชอบกู...ถ้ามึงพอจะจับสังเกตตอนที่อยู่หนองคายได้...มึงจะรู้ว่าจริงๆแล้วแอลมันชอบใคร” ผมเงียบ นึกถึงตอนที่อยู่หนองคาย ตอนนั้นผมค่อนข้างมั่นใจว่าพี่แอลกับพี่โก้มีบางอย่างต่อกัน แต่คำพูดที่ได้ยินจากปากเขาเองมันชัดเจนมากกว่า

“คำพูดมันชัดเจนกว่าการกระทำนะน่าน”

“ถ้ามึงหมายถึงเรื่องที่มันบอกชอบกูต่อหน้ามึงวันนั้น...จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่กูสร้างมันขึ้นมาเอง” สิ่งที่น่านฟ้าพูดไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจเท่าไหร่ เหมือนพอจะเดาๆออกตั้งแต่คราวแรกที่มันพูดว่าไม่ได้เป็นอะไรกับพี่แอลแล้ว แต่สิ่งที่ยังย้ำชัดก็คือสิ่งที่ผมเห็นกับตาตัวเอง

“แต่มึงกับพี่เขาจูบกัน”

“อันนั้นกูก็สร้างสถานการณ์ขึ้นมาเหมือนกัน ไม่ได้จูบจริงๆหรอก” ปากที่เม้มแน่นอยู่แล้วกลับแน่นสนิทยิ่งกว่าเก่า มือผมกำจนรู้สึกถึงเล็บที่จิกลงไปในเนื้อ ผมโกรธ ส่วนหนึ่งก็โกรธคนตรงหน้า แต่โกรธตัวเองมากกว่าที่รู้สึกดีใจกับสิ่งที่มันพูด

“มึงทำแบบนี้ทำไมวะน่าน มึงเกลียดกูเหรอ...อยากให้กูรู้สึกแบบไหน...เจ็บ? หรืออยากให้กูทรมาน...กู..เจ็บแล้วน่าน....อึก...กูเจ็บแล้ว” ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่กำแน่นสนิท ไม่อยากมองหน้ามัน โกรธตัวเอง โกรธมันด้วย โกรธทุกอย่างที่เป็นแบบนี้ “มึงแก้แค้นกูสำเร็จแล้วน่าน...ฮึก...จริงๆนะ...กูเจ็บแล้วจริงๆ”

“ซน...เรื่องแก้แค้นไม่เคยอยู่ในหัวกูเลยสักนิด เรื่องที่อยู่ในหัวกู มีแต่มึง กูคิดแค่ว่า กูจะทำยังไงให้มึงมาอยู่กับกู ทำยังไงให้มึงอยู่ตรงนี้...แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วแหละ......” น่านฟ้าพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่น ดวงตาแดงกร่ำบ่งบอกอาการของมันได้ดีว่าตอนนี้มันรู้สึกยังไง

“........”

“เพราะถึงกูจะทำยังไง คนที่มึงให้ความสำคัญที่สุดก็คงไม่ใช่กูอยู่ดี...เพราะงั้น...กูเลยคิดว่ากูจะทนทำแบบนั้นไปทำไม ในเมื่อสุดท้ายมึงก็ไม่ได้รักกู ...” น่านฟ้าถอนหายใจออกมาอีกรอบ มันเงยหน้าขึ้นฟ้า เงียบเสียงอยู่นาน “ทั้งที่รู้ว่ามึงไม่รัก แต่หัวใจกูก็ไม่เคยห้ามร่างกายไม่ให้มาหามึงได้เลยสักครั้ง”

“ที่กูกลับมาเพราะกูทนไม่ไหว...กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมึงซน ...กูคิดถึง...”เสียงน่านฟ้าดูเศร้าไม่ต่างจากใบหน้ามันเลยสักนิด “ถ้ามึงยังพอมีความผูกพันต่อกูบ้าง กูขอกลับมาในฐานะเดิมได้ไหมวะ...ไม่ต้องเป็นคนรักอย่างที่กูอยากได้ก็ได้...แค่ได้เป็นคนที่อยู่กับมึง แค่นั้นก็พอ”

น่านฟ้าดูโรยราเต็มที น้ำเสียงเหมือนคนที่กำลังจะขาดอากาศหายใจ

“ได้ไหมวะ” ไอ้น่านเหมือนหมาตัวใหญ่ที่รอคอยอะไรสักอย่างจากผม มันจะไม่ยอมลุกไปไหนถ้าไม่ได้ในสิ่งที่มันต้องการ

“อื้อ ดิลก็ได้” ผมพยักหน้าครางรับปากน่านฟ้าในลำคอ ก่อนจะเป็นมันที่ดึงผมมากอดแน่น คำขอบคุณยังกระซิบอยู่ข้างหู ผมหลับตาลงแล้วยกมือขึ้นกอดตอบมัน

“ดิล” จูบอ่อนหวานที่ไม่ได้รับจากมันมานาน เป็นเหมือนกับไฟที่กำลังจุดให้เราทั้งคู่โชติช่วง

ผมยอมรับว่าผมนิสัยเสีย ผมรู้ว่าน่านฟ้ามันยังไม่รู้ว่าผมเลิกกับน้องเอยแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ยอมบอกมัน ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจจนขลาดเขลาไปหมด ผมกลัวจะเสียไพ่ใบสุดท้ายไป ผมกลัวจะเสียหน้า ถ้าผมบอกมันหมดเปลือกว่าผมเลิกกับน้องเอยแล้วมันจะตะโกนใส่หน้าผมว่า ซน ที่กูทำไปทั้งหมด ก็แค่ต้องการแก้แค้นมึง

ผมกลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้น


“พอก่อน” ผมยกมือข้างนึงขึ้นแนบอกไอ้น่าน มืออีกข้างปิดปากตัวเองไว้ไม่ให้มันล่วงล้ำเข้ามาอีก น่านฟ้ายิ้มแล้วจูบลงบนมือผมแล้วใช้ลิ้นชอนไชเข้ามาตามซอกนิ้ว “หยุดไง จังไรเหรอ”

“แนวๆนั้น”

“น่านฟ้า อยากให้กูตัดลิ้นมึงขาดไหม”

“ไม่ครับอยากครับน้องซน”

“กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ใช่น้องมึง” ผมตาขวางเงยหน้ามองไอ้น่าน ส่วนเจ้าตัวก็เอียงคอทำหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด “กูไม่ได้อยากเป็นน้องมึง”

“อืมมมมมม” มันพยักหน้าแล้วอมยิ้มตอนที่ผมพูดจบ “กูก็รู้สึกว่าไม่ได้อยากเป็นพี่มึงเหมือนกัน”

“เลิกทำหน้าเหนือชั้นใส่กูสักทีเถอะ ไปเอาน้ำมาหน่อยจะกินยา” ผมบอกไอ้น่านแล้วหันไปใส่เสื้อยืดที่ถอดวางอยู่มาใส่

“มึงใช้กู” มันเลิกคิ้วถาม

“ใช้ไม่ได้เหรอ” ผมเองก็เลิกคิ้วถามมันต่อ

“ได้ครับ” สุดท้ายมันก็ต้องเดินไปเอาน้ำมาให้ผมกินยาอยู่ดี เวลาชนะความรู้สึกมันเป็นแบบนี้เองสินะ หึหึ ผมกินยาแก้แพ้เสร็จก็ยื่นแก้วส่งกลับไปให้ไอ้น่าน ล้มตัวลงนอนบนที่นอนอีกครั้ง เพราะหลังจากกินยาไม่เกิน 15 นาที ความง่วงจะเข้าครอบงำทันที

“มึงออกไปทำกิจกรรมกับคนอื่นก็ได้”

“ไม่เป็นไร กูอยากทำกิจกรรมกับมึงมากกว่า”

“ตลกและ”

“เดี๋ยวก็รู้ว่าตลกไหม” น่านฟ้าถือวิสาสะสอดตัวเองเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกับผม อาการใจเต้นที่ปกติไม่เคยเป็นกลับรู้สึกมากมายในวันนี้ มันไม่ต่างจากการที่ผมกับมันเพิ่งเริ่มจีบกันใหม่ๆเลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นที่ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นอาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่เคยถามใจตัวเองว่ารู้สึกยังไงกับมันด้วยมั้ง ตอนนี้พอรู้ความรู้สึกตัวเองขึ้นมามันถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้

“หวัดดีครับ”

“อะไรของมึง...ประสาท” ผมหุบยิ้มตัวเองไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้าหล่อๆของมันขยับเข้ามาเรื่อยๆผมก็ยิ่งหลุดยิ้ม จนผมต้องดึงเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดปากไม่ให้ไอ้น่านเห็นนั่นแหละถึงรู้สึกหายเกร็ง

“เปล่าแค่คิดว่ากูจะจีบมึง...แค่นั้น”

“ไหนบอกว่าอยากกลับมาในฐานะเดิม”

“ก็ฐานะเดิม ที่เพิ่มเติมก็คือจีบมึงด้วย เผื่ออะไรๆมันอาจจะเปลี่ยน” น่านฟ้ายกมือขึ้นลูบหัวผม มันยังคงยิ้มมีความสุข รอยยิ้มที่ผมไม่ได้มองใกล้ๆแบบนี้มานานเกือบสองเดือน ผมคิดถึงมันไม่ต่างจากที่น่านฟ้าบอกผมสักนิด

“น่าน...”

“หืม??”

“มึงคงไม่มีเรื่องปิดบังกูอีกแล้วใช่ไหมวะ” ผมเงยหน้าถามมัน แต่ไอ้น่านไม่ได้ตอบอะไร “มึงคงไม่มีเรื่องโกหกกูแล้วใช่ไหม”

“จริงๆก็มี แต่เดี๋ยวค่อยบอกได้ไหม”

“ทำไมล่ะ” ผมอ้อนมัน ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่มันยังปิดบังผมอยู่คืออะไร ผมไม่อยากเจ็บในตอนท้าย ตอนที่ทุกอย่างกำลังมีความสุข

“เอาไว้ให้อารมณ์มันสงบกว่านี้ก่อนแล้วกูจะเล่าทุกอย่าง” ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน

“อารมณ์อะไร”

“อารมณ์ใต้ร่มผ้า โอ้ยยยย ซน เจ็บนะ” ไม่ให้เจ็บได้ไง ผมตบไปที่บ้องหูไอ้น่านโคตรแรง

“มึงมันเจ้าเล่ห์น่าน อย่าให้กูรู้เองนะว่าสิ่งที่มึงปิดบังมันคืออะไร แล้วเรื่องอารมณ์ใต้ร่มผ้ามึงอ่ะ กูไม่ให้” ผมผลักอกมันออกจากตัวแล้วนอนหันไปอีกทาง ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองเหมือนหนอนดักแด้ ไม่ให้ไอ้น่านล่วงล้ำเข้ามาได้

“ซนมึงใจร้ายมากอ่ะ แต่ก่อนง่ายกว่านี้นี่” มันด่าผมว่าผมง่าย ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ก็อาจจะใช้ว่าครั้งแรกของเราเริ่มต้นด้วยการที่ผมสมยอม และถึงครั้งต่อๆมาถึงมันจะสมยอมขึ้นเรื่อยๆก็เถอะ แต่ต่อจากนี้ผมตั้งปนิธานไว้เลยว่าผมจะไม่ยอมแล้ว ไม่ยอมคนแบบนั้นอีก “ไม่อยากเหรอ”

“ไม่!!!!!”

“นะๆ”

“ไม่ต้องมานะๆเลย มึงมันน่ารำคาญ” ผมยกมือขึ้นปิดหูตัวเองแล้วหดคอหนีไอ้น่านที่กำลังใช้ริมฝีปากสัมผัสทั่วใบหู “หยุดเลย”

“โหดร้าย”

“เรื่องของกู”

“เรื่องของเราทั้งนั้น” น่านฟ้าขยับมากอดผมทั้งๆที่มีผ้าห่มผืนหนากั้นระหว่างเรา “คืนนี้กูจะมานอนนี้”

“ใครอนุญาต”

“ไม่ต้องรอมึงอนุญาต กูก็อนุญาตตัวเองได้น่าซน...ขอบคุณนะ” คำพูดสุดท้ายที่น่านพูดเหมือนมันไม่ได้เข้ากับประโยคแรกเท่าไหร่ จนสุดท้ายผมทนไหวเลยหันหน้ามามองไอ้คนที่กอดผมอยู่ “ขอบคุณ”

“.........”

“ที่ให้กูกลับมา” ผมอาจจะเป็นผู้ชายที่โง่ที่สุด และก็เป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเองที่สุด ผมไม่รู้ว่าอนาคตผมจะถูกมันหลอกอีกไหม ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ผมไม่กล้าทิ้งไพ่ใบสุดท้าย

ผมกลัว กลัวว่าคนที่แพ้สุดท้ายจะกลายเป็นผม แต่ว่าผมไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังแบบนี้เลย ไม่อยากให้เส้นทางเดินระหว่างผมกับมันเต็มไปด้วยความระแวง

“น่าน” ผมรักมัน รักไอ้คนที่นอนยิ้มให้ผมอยู่ตรงหน้า รักมากจนมองข้ามหลายอย่างที่ผ่านมาได้โดยไม่สนใจความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองด้วยซ้ำ

“กู...กับน้องเอย”


“.........”

“เลิกกันแล้วนะ” ผมคิดแค่ว่ามันคือการแลกความเจ็บซึ่งกันและกัน น่านมันเจ็บเพราะรัก ผมเองก็เจ็บเพราะรักไม่ต่างกัน


และผมก็อยากจะเชื่อมันอีกสักครั้ง



แค่อีกสักครั้งก็พอ




>>>TBC<<<
สั้นไปหน่อย แต่เนื้อหาตอนนี้มันมีแค่นี้จริงๆ :mew2: ก็หวังว่าทุกคนจะโอเค มาอัพอีกทีน่าจะวันศุกร์นี้นะคะ  :mew1: :mew1:
ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลา ขอบคุณที่ยังตามอ่านตามเม้นอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-06-2015 15:41:10
 :mew5:  ยังโล่งใจได้ไม่สุดอะ

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  :L1: 
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-06-2015 16:16:44
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-06-2015 17:07:30
พี่น่านรีบๆ บอกความลับเรื่องรูปภาพไวๆ เข้านะคะ ก่อนที่จะถูกน้องเอยชิงตัดหน้าพูดมันออกมาเสียก่อน และถึงแม้ว่าซนจะได้รู้จากปากน้องเอยก่อน เราว่าซนก็คงจะไม่โกรธพี่น่านมากสักเท่าไรหรอก(มั้งนะ ><) เพราะยังไงๆ สักวันนึงน้องเอยก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นล่ะว่าพี่น่านกับซนแอบกิ๊กกันอยู่ ที่สำคัญเลยคือ ไม่ว่าน้องเอยจะรู้ได้ด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่ 'ความเจ็บปวด' ที่ได้รับก็ไม่ได้จางหายไปอยู่ดีนั่นล่ะนะคะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 09-06-2015 17:18:06
คืนดีกันแล้ว แต่ก็ยังค้างคาเรื่องน้องเอยอยู่ดีที่พี่น่านยังไม่ได้เล่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเล่าไปเลยเถอะพี่น่าน
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 09-06-2015 20:20:23
เปิดใจให้กัน ดีกันให้แม่ยกชื่นจาย
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 09-06-2015 20:54:13
บอกแล้วๆๆๆ เต็มที่เลยพี่น่านน ซนซนโสดสนิท
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-06-2015 20:56:15
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ คืนมา [09-06-15:P.9] อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-06-2015 20:57:40
อร๊ายยย จะเข้าใจกันซะที
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 25 คืนมา [09-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 10-06-2015 21:44:21
ในที่สุดก็เข้าใจกันซักที รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 11-06-2015 17:09:58
Because of you ซน ตอนที่ 26 can I trust you???

ผมกับน่านฟ้านอนคุยกันตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้เกือบบ่ายสามแล้วก็ยังหาเรื่องมาคุยกันได้ตลอด ยาแก้แพ้ที่ทำให้เกิดอาการง่วงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกง่วงเลย บางทีความสุขที่เกิดจากการได้คุยกับคนตรงหน้าอาจจะทำให้ผมไม่อยากหลับ ผมกลัวว่าตอนที่ผมตื่นขึ้นมาความสุขตรงหน้าจะหายไป

“เงินกับทองสบายดี ตอนนี้มันตัวอ้วนมากอ่ะ” ผมขยับตัวนอนพิงอกไอ้น่าน หยิบมือถือมันมาเล่น ในนั้นยังมีรูปผมที่เราถ่ายด้วยกันไว้หลายใบ มีรูปมันกับพี่แอลบ้าง กับเพื่อนๆคนอื่นบ้าง แต่รูปผมยังเป็นคนที่เยอะที่สุดมากกว่ารูปเจ้าของมือถือด้วยซ้ำ ผมกับน่านฟ้าเรามีเรื่องมากมายพูดคุยกันไม่รู้หมด ช่วงเวลาสองเดือนเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานทั้งตัวผมและมัน

“จริง แต่มึงผอมลงเยอะมาก ทำไมไม่กินข้าว”

“ก็มันไม่หิว” ผมยู่ปากแล้วมองหน้าไอ้คนที่นอนกอดผมอยู่

“ไม่หิวก็ต้องกิน มึงผอมไปกอดแล้วไม่เต็มไม่เต็มมือ” ผมยักไหล่ไม่แคร์ก่อนจะเปิดเกมส์ในมือถือไอ้น่านเล่น ด่านยังเป็นด่านเดิมที่ผมเล่นค้างไว้ นั่นก็หมายความว่ามันไม่ได้เข้ามาเล่นเกมส์ที่พี่โหลดไว้ ไม่ได้ลบเกมส์ที่ผมชอบ พอหันไปมองหน้ามันไอ้น่านก็แค่ทำหน้าตาน่าหมั่นไส้ขยี้หัวผมเบาๆก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งดีๆ

“อื้ออ” ผมเล่นเกมส์อยู่พอแม่งขยับมันเลยทำให้เกมส์ที่ผมเล่นอยู่สะดุด

 “กูจะไปเก็บเสื้อผ้ามาไว้ห้องนี้” ผมพยักแล้วลุกขึ้นนั่งปล่อยให้ไอ้น่านออกจากห้องไป ผมไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเกมส์ในมือ




Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

“ว่าไงคะน้องเอย”

(เสียงสดใสกว่าเมื่อเช้านะคะ มีอะไรน่าสนุกหรือเปล่า)

“ไม่นะคะ ปกติ” ผมใช้คอแนบกับโทรศัพทแล้วล้มตัวลงนอนหยิบมือถือไอ้น่านมาเล่นเกมส์ต่อ

(พี่ซนกลับมาวันไหนอ่ะ เอยว่าจะชวนไปกินข้าว)

“น่าจะวันอาทิตย์ ยังไงเดี๋ยวพี่โทรหาอีกทีนะ” เสียงงอแงของน้องเอยที่ดังมาอีกฟากของโทรศัพท์ทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้

“ซน” ไอ้น่านเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเรียกชื่อผม “กระเป๋าไอ้จันอยู่ไหนกูจะเอาไปไว้ในห้องพี่มัน”

ผมบุ้ยปากไปทางกระเป๋าที่ยังอยู่ในสภาพที่ยังไม่โดนรื้อค้น ไอ้น่านพยัดเพยิดทำนองว่าใครโทรมา ผมก็ได้แต่ส่ายหัวว่าไม่มีอะไร แล้วพูดแบบไม่มีเสียงว่าเพื่อน มันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป เสียงง้องแง้งในโทรศัพท์ก็เงียบลงเหมือนกันแต่น้องเอยก็ไม่ได้วางสาย

“น้องเอยคะ ยังอยู่หรือเปล่า”

(ค่ะ ยังอยู่...พี่ซนคืนดีกับพี่น่านแล้วเหรอคะ) ผมเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร น้องเอยรู้เรื่องของผมกับไอ้น่านเพราะมือถือของผมเอง เสียงถอนหายใจดังยาวก่อนจะเงียบไปอีกรอบ (พี่คงรักเขามากสินะคะ...ผู้ชายคนนั้น่ะ)

“......”

(พี่ซน...เขาไม่ใช่คนดีอย่างที่พี่ซนเข้าใจหรอกนะคะ...)น้องเอยเงียบอีกครั้ง เสียงดังรอบข้างน้องก็เหมือนเงียบลงด้วย บางทีน้องเขาอาจจะเดินออกมาหาที่เงียบๆในการคุยกับผม (เขา...เป็นคนทำให้เราเลิกกัน)

“ไม่ใช่หรอก เป็นพี่เองที่ทำให้เราเลิกกัน”

(ไม่ใช่พี่ซนค่ะ คนที่ทำให้เราเลิกกันคือเขา เขาเป็นคนบอกเอยเองว่ารูปในมือถือพี่ซนมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการนอกใจ เขาเป็นคนบอกเอย) ที่ผมเงียบไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อเพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมรู้แล้วว่าคนอย่างน่านฟ้ามันทำได้ทุกอย่าง

“..........”

(..ที่พี่เงียบเพราะพี่ไม่นึกโกรธคนๆนั้นใช่ไหมคะ พี่ซน...ถามจริงๆเถอะ..พี่เคยรักเอยบ้างไหมคะ” เสียงน้องเอยเงียบไป ผมได้ยินน้องเขาเป่าปากราวกับระบายอารมณ์ความรู้สึกที่คั่งค้างอยู่ในใจให้ออกไปให้หมด “ที่ผ่านมาที่พี่ยอมคบกับเอยเพราะต้องการรับผิดชอบแค่นั้นหรือเปล่าคะ....ฮึก...)

“น้องเอย...”

(เอยรักพี่ซน รักจนคิดว่ายอมได้ถึงแม้ว่าพี่จะเคยเป็นอะไรมาก่อน เอยยอมเลิกกับพี่เพราะคิดว่าเราอาจจะเริ่มต้นใหม่ได้...ฮึก...แต่พี่...พี่ดันกลับไปหาเขา กลับไปหาคนที่ทำร้ายพี่...)

“พี่ขอโทษ...”

(พี่ทนได้ยังไงพี่ซน...ผู้ชายคนนั้นเขาใจร้ายกับพี่ขนาดนี้...) ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมทนได้ยัง ไม่รู้ว่าทำไมถึงให้อภัยมันง่ายดายขนาดนั้น  อาจจะเป็นเพราะผมรู้ว่าที่ผ่านมามันเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าที่ผมเจ็บ ผมอยากให้เรื่องนี้มันจบลงสักที ถึงแม้ว่าผมกับไอ้น่านจะเป็นคนที่เห็นแกตัวก็ตาม

“พี่ขอโทษ” ผมรู้ว่าต่อให้ผมขอโทษน้องอีกกี่พันครั้งมันก็ยังไม่สาสมแกสิ่งที่ผมทำกับน้องเลยสักนิด เอยดีกับผมมาก มีก็แต่ผมที่เอาแต่ทำร้ายน้อง

(ฮู่ววว...) เสียงเป่าปากดังขึ้นอีกรอบ ผมทำให้น้องร้องไห้ ผมไม่อยากเป็นคนเลวที่ทำให้ผู้หญิงร้องไห้เพราะเราหลายครั้งหรอกนะครับ

(ช่างมันเถอะค่ะ เอยไม่อยากฟังคำขอโทษของพี่ซนแล้วแหละ... แต่เอยอยากจะเตือนพี่ เอยไม่รู้ว่าคนอย่างผู้ชายคนนั้นที่พี่ซนรู้จักเป็นแบบไหน แต่จากที่เอยมอง...เขาคือคนเห็นแก่ตัวที่สามารถทำทุกอย่างเพื่อตัวเขาเอง...พี่ซนคะ..คนแบบนี้ไม่ใช่คนดีหรอกนะ  ใครจะไปรู้ว่าที่เขาทำมากมายขนาดนี้บางทีเขาอาจจะทำเพื่อแก้แค้นพี่ก็ได้) ผมไม่อยากจะเชื่อว่ายังมีคนที่คิดเหมือนผม เรื่องที่ไอ้น่านกลับมาเพราะอยากแก้แค้น อยากทำให้ผมเจ็บ แต่ไม่รู้สิครับ ผมมองตามัน ผม...ไม่เห็นความแค้นจากดวงตามันสักนิด

“ไม่หรอก...น่านมันไม่ใช่คนแบบนั้น” ถ้ามันจะหลอก ก็ถือว่าการหลอกครั้งนี้ มันทำได้แนบเนียนมากจนผมเชื่อ

“...พี่เชื่อใจมัน...” ผมกับน้องเอยคุยกันอีกสักพักก็วางสายไป เสียงเฮจากด้านนอกบ่งบอกว่าอาจจะมีสักทีมที่ตอนนี้ชนะเกมส์อะไรสักอย่าง ความร้อนของแสงแดดไม่ได้ทำให้เสียงหัวเราะสนุกสนานด้านนอกลดทอนลงไปได้เลย อากาศเย็นจากแอร์บวกกับอากาศเมื่อยตัวทำให้ผมงีบหลับลงไม่ยาก แต่ก่อนจะหลับผมสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่เกลี่ยแก้มผมอยู่

“น่าน.. กูง่วง...จะนอน” ผมปัดมือมันออกจากแก้มแล้วซุกหน้าลงกับที่นอน ดึงผ้าห่มปิดเกินครึ่งหน้าแล้วหลับตาลงอีกครั้ง

“ทั้งๆที่คนอื่นทำกิจกรรมกัน...แต่มึงกลับมานอนเนี่ยนะไอ้เตี้ย” ผมขมวดคิ้วหันหน้าขวับมามองคนที่พูด มั่นใจว่าคนที่พูดเมื่อกี้ไม่ใช่ไอ้น่านแน่ๆ

“พี่แอล??”

“เออกูเอง” พี่แอลนั่งอยู่บนเตียง เอียงคอพยักหน้า แล้วส่งยิ้มมาให้ผม

“พี่มาได้ไงอ่ะ”

“ก็เปิดประตูเข้ามา” กวนตีน มันยังกวนตีนผมเหมือนเดิม “ดีกับไอ้น่านแล้วงั้นสิ”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ มองดูพฤติกรรมของคนตรงหน้า อยากรู้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอะไรบ้างไหมถ้ารู้ว่าผมคืนดีกับไอ้น่าน ผมเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องที่ไอ้น่านบอกว่าจริงๆแล้วพี่แอลชอบพี่โก้ ถึงแม้การกระทำเขาตอนที่อยู่หนองคายจะบอกชัดเจนแต่คำพูดพี่แอลที่บอกว่าชอบไอ้น่านในวันนั้น มันชัดเจนอยู่ในหัวผมมากกว่า

“ดีแล้วแหละกูเองก็เหนื่อยที่จะเล่นละครแล้ว” พี่แอลถอนหายใจออกมาก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างผม “มึงนี่น่ารักจริงๆนั่นแหละน้า”

เขาเอามือข้างนึงจับหน้าผมแล้วลูบเบาๆ

“ถ้าคนที่กูรัก...เขารักกูบ้าง...ก็คงจะดี” พี่แอลเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อคนนึง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นเท่าไอ้น่านกับพี่บาสหรือพี่โก้แต่พออยู่รวมกลุ่มกัน คนที่โดนคนอื่นเข้าหามากที่สุดกลับเป็นคนตรงหน้าผม เพราะด้วยบุคลิกที่เป็นกันเอง ดูท่าทางเข้าหาง่ายถึงจะปากหมาไปหน่อยแต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอรับได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่คนอย่างพี่แอลจะมีคนมาให้เลือกมากกว่าคนอื่น

“ผมถามอะไรพี่แอลอย่างหนึ่งดิ” พี่แอลเลิกคิ้วเป็นสัญญาณราวกับให้ผมถามได้ “พี่ชอบพี่โก้มานานแล้วเหรอ”

“ไอ้น่านเล่าให้มึงฟัง??” ผมพยักหน้า “หึ...ก็คงตั้งแต่ปีหนึ่งล่ะมั้ง...”

“แล้ว...พี่ชอบมานานขนาดนี้ พี่ไม่คิดจะบอกให้เขารู้ตัวเลยเหรอพี่แอล...” สิ่งที่ผมได้รับรู้จากแววตาพี่แอลผมตีความได้ว่ามันคือเรื่องจริง ความเจ็บปวดที่ฉายออกมาจากแววตามันไม่ใช่เรื่องโกหก

“มันไม่มีประโยชน์น่ะสิ...”

“พี่แอล...พี่ไม่เจ็บเหรอ”

“มากเลยล่ะ” เขาเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนเงย สายตาเหม่อลอยมองที่เพดาน “การที่เรารักใครสักคนแล้วเขาไม่รักตอบ มันเจ็บ...เจ็บจนเหมือนจะตายเลยแหละ”

“พี่แอล...”

“พอๆ เราสองคนนี่ทำตัวเหมือนผู้หญิงนอนคุยกันเรื่องไร้สาระเลยว่ะ ไหนดูแขนดิ๊ หายแพ้ยัง ทำสำออยอ่อยเพื่อนกูตลอด” ไอ้พี่แอลดึงแขนผมไปดูว่ายังมีผื่นขึ้นอยู่หรือเปล่า แต่มันก็ไม่ได้มีผื่นขึ้นแล้วจะมีก็แค่สะเก็ดแผลจากที่ผมเกาเท่านั้น “ตอนนี้เขากำลังปล่อยเพื่อนๆมึงไปอาบน้ำ นัดอีกทีคงประมาณ 5 โมงเย็น เดี๋ยวไอ้น่านคงมาตามมึงมั้งตอนก่อนกูเข้ามามันโดนเรียกประชุมด่วน”

“อ้อ”

“กระเป๋ามันวางอยู่ตรงนู้น ลำบากกูต้องยกมาให้ตลอด” ผมพยักหน้า “จะนอนด้วยกันทั้งทีลำบากเพื่อนอย่างกูตลอดอ่ะ คงไม่ใช่ว่าให้กูหาถุงยางให้ด้วยหรอกนะ”

“ตลกและพี่แอล มันไม่ใช่แบบนั้น”

“อ๋อ... ไม่ใส่ถุงสินะ” เชี่ยยยยย พี่แอลแม่งกวนตีนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ขอให้พูดจาขัดหูผม คนแบบมันน่าโมโหสุดๆ “งั้นมึงก็พักไปก่อน เหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมงกว่าจะนัดอีกที”

พี่แอลลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจนิดหน่อย ก่อนจะหันมามองหน้าผมอีกครั้ง “หวังว่าคราวนี้คงไม่มีอะไรทำให้มึงผิดใจกันอีกแล้วนะ”

“ไม่แล้วมั้งพี่” เพราะตอนนี้ผมกับมันก็เข้าใจกันมากกว่าครึ่งแล้ว รอแต่ว่ามันจะเล่าเรื่องที่มันปล่อยรูปผมกับน้องเอยตอนไหนก็เท่านั้น

“ดีแล้ว...กูก็หวังให้เป็นแบบนั้น” พี่แอลขยี้หัวผมแล้วเดินออกจากห้องไป ความเงียบกลายมาเป็นเสียงที่ดังที่สุดอีกครั้ง ผมมองกระเป๋าใบใหม่ที่วางอยู่บนโต๊ะคู่กับกระเป๋ากล้องที่ผมจำได้ว่าผมเป็นคนเลือกซื้อให้มัน ครั้งสุดท้ายที่ได้จับคือตอนที่อยู่เชียงคาน ผมตัดสินใจเดินไปที่กระเป๋ากล้องหยิบมันขึ้นมาถ่ายเล่นทั้งในห้อง ตรงระเบียง ก่อนจะขยับนั่งลงตรงม้านั่ง ดูรูปที่ตัวเองถ่ายเมื่อกี้

รูปในกล้องมันไม่ได้ต่างจากในมือถือเท่าไหร่ รูปที่เราไปฝึกงานตอนอยู่ที่หนองคายหรือตอนไปเที่ยวเชียงคานยังไม่ถูกลบ จะมีเพิ่มมาบ้าง ไม่ได้ถึงกับเยอะมากก็คือรูปของพี่แอล มันเป็นรูปที่ถูกถ่ายขึ้นตอนอยู่ในห้อง

ห้องใครสักคนอาจจะเป็นห้องพี่แอลที่ช่วงสองเดือนที่ผมกับไอ้น่านห่างกันแล้วมันไปหมกตัวอยู่ที่นั่น


ไม่รู้ดิ ผมแค่...รู้สึกหึงนิดหน่อยล่ะมั้ง  แต่ผมพยายามคิดแค่ว่ามันไม่มีอะไร ก็ในเมื่อพี่แอลก็เขาเป็นคนบอกผมเองว่าคนที่พี่เขาชอบคือพี่โก้ดังนั้นผมควรจะเบาใจและเลิกคิดมากในเรื่องนี้สักที



เสียงเปิดบานประตูเลื่อนจากอีกห้องหนึ่งพร้อมกับกลิ่นบุหรี่ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินออกมา

“พี่โก้??”

“ว่าไงซน” พี่แกยิ้มแล้วเดินมามาหยุดยืนตรงมุมระเบียงใกล้ๆกับระเบียงห้องผม “ถ่ายรูป??”

“ครับพี่ ที่นี้รีสอร์ทสวย แถมแดดดีด้วย ถ่ายออกมาเลยเป็นที่พอใจพวกบ้ากล้องแบบผม” พี่โก้พยักหน้า พ่นควันสีขาวให้ลอยคลุ้งไปในอากาศ ก่อนจะมองเลยไปที่ใครสักคนที่อยู่อีกฝั่งของสายตา ผมมองตามพี่เขาก็พบว่าคนๆนั้นคือพี่แอล

ผมไม่เห็นเข้าใจเลย สายตาแบบนี้มันแปลได้ความหมายเดียวเท่านั้น

“แล้วนี้มึงเป็นไงมั่ง ปรับตัวได้ยัง” พี่โก้ละสายตาจากพี่แอลแล้วหันมาคุยกับผม

“ก็ดีพี่ ปรับตัวได้นิดหน่อย วิชาเรียนก็ยากบรรลัย ไม่รู้จะเอาตัวรอดได้หรือเปล่า” คิดแล้วแม่งก็ขนลุก ขนาดนี่เพิ่งเปิดเทอมไม่กี่อาทิตย์ชีวิตผมก็จะมอดม้วยจริงๆนะครับ ผมไม่ใช่คนฉลาด แถมไม่ได้ขยันด้วย ดังนั้นมันเป็นเรื่องยากมากที่ผมจะเข้าใจในวิชาที่ยากแบบนี้ ยิ่งไม่เคยเรียนมาผมยิ่งไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่

“ไอ้น่านเก่ง ให้มันสอนให้ก็ได้” ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่หรอกครับ ดูน้ำหน้าอย่างไอ้น่านดิแม่งดูเหมือนโง่กว่าคนอย่างผมอีก แต่ก็นั้นแหละ ผมพูดอะไรไม่ได้แล็คเชอร์มันที่เอามาให้ผมตอนสอบเข้าก็เป็นส่วนหนึ่ง(ส่วนเล็กๆ เล็กมาก)ที่ทำให้ผมสอบผ่าน

“ก็กะว่าอย่างนั้นแหละครับ”

“แล้วนี่ไอ้น่านมันย้ายไปนอนห้องมึงเหรอ”

“ครับ พี่แอลบอกพี่เหรอ”

“อื้ม ไอ้แอลมันเองก็ขนเสื้อผ้ามาไว้ห้องพี่เหมือนกัน ตอนแรกมันนอนกับไอ้น่าน แล้วพอไอ้น่านย้ายไปมันก็เอาเสื้อผ้าไอ้ป็อบขนไปนอนกับไอ้จันลูกพี่ลูกน้องมันแล้วตัวมันก็มานอนห้องพี่แทน” ผมพยักหน้า ก่อนจะหันไปมองหน้าพี่โก้อีกรอบ เพราะพี่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อมองใครสักคนจนผมหันไปมองตาม

“พี่โก้”

“หืม??”

“พี่รู้หรือเปล่าว่าพี่แอลชอบพี่” ผมถามเพราะอยากรู้ ผมไม่คิดว่าคนอย่างพี่โก้จะไม่รู้เรื่องแบบนี้

“หึ” เขาหัวเราะในลำคอแล้วพ่นควันบุหรี่ออกมาอีกครั้ง “มึงคิดว่าแอลชอบกูจริงๆเหมือนที่มันตั้งใจทำให้คนอื่นเห็นแบบนั้นจริงๆน่ะเหรอซน”

พี่โก้ส่ายหน้าก่อนจะบี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ย

"กูจะบอกอะไรมึงอย่างนึงนะซน" พี่โก้ถอนสายตาจากพี่แอลย้ายมาอยู่ที่ผม "มีแต่กูเท่านั้นแหละที่ชอบมันอยู่ฝ่ายเดียว"


ผมไม่เห็นเข้าใจเลย สรุปเรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบไหนกันแน่ ผมไม่ได้ถามพี่โก้ต่อ เพราะเหมือนพี่เขาเองก็ไม่อยากจะพูดถึงมันสักเท่าไหร่ การเดินหนีจากไปแล้วทิ้งคำพูดชวนปริศนาแบบนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึก....ไม่เข้าใจ

ตอนนี้ผม งง ไปหมด ผมเหมือนคนที่กำลังเดินตามเกมส์ของใครสักคน ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นหรือจุดจบมันอยู่ตรงไหน ผมไม่รู้ว่าเกมส์นี้ใครชนะ ผมไม่รู้ว่าความรักที่วิ่งตามอยู่ตอนนี้มันคุ้มกับสิ่งที่จะเสียไปไหม

ไม่รู้ว่าไพ่ใบสุดท้ายที่ทิ้งจยหมดหน้าตักไปนั้น มันจะกลายเป็นมีดดาบแทงผมในอนาคตหรือเปล่า สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือ ผมเชื่อใจไอ้น่านไอ้มากน้อยแค่ไหนกัน

ผม...ไม่รู้เลย

“อ่าว ไม่นอน” ไอ้น่านเปิดประตูเขามาพร้อมกับคำถาม ผมส่ายหัวแล้วยกกล้องขึ้นให้มันดู

“เล่นกล้องอยู่ คิดถึงมัน”

“คิดถึงแต่กล้องเหรอ??? กูล่ะ” ไอ้น่านยู่ปากทำหน้าตาที่คิดว่าน่ารักที่สุด ผมส่ายหัวปิดประตูระเบียงเสร็จก็ขยับมาลงบนเตียง น่านฟ้าเดินตามมานั่งซ้อนหลังผม วางคางไว้บนไหล่แบบที่มันชอบทำ ผมคิดถึงทุกการกระทำที่น่านฟ้าทำ มันไม่ได้ต่างไปจากตอนที่เราอยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้เลยสักนิด

“มึงมีอะไรให้น่าคิดถึงน่าน”

“เยอะแยะล่ะกันน่า” ผมเบ้ปากแล้วเปิดไล่ดูรูปในกล้องต่อ คำถามเยอะแยะไหลวนมาในหัว สุดท้ายก็เอ่ยปากพูดออกมาจนได้“ช่วงที่ผ่านมามึงไปยู่กับพี่แอลตลอดเลยเหรอ”

“อื้ม” น่านฟ้าพยักหน้าเอาหัวซุกคอ มือเลื้อยไปมาอยู่แถวของกางเกงผม “ถามทำไมวะ...หึง??”

“ได้ไหมล่ะ” ผมคิดว่าการพูดความจริงมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

“จริงดิ ไม่อยากเชื่อ ทำไมแฟนน่ารักอ่ะ”

“เราเป็นแฟนกันแล้วเหรอน่าน” ผมใช้มือข้างนึงเขกไปที่หัวมัน น่านฟ้าเองก็พยักหน้ากับไหล่

“คนเป็นแฟนกัน...มันต้องเชื่อใจกันใช่เปล่า” เขาพยักหน้าอีกรอบ “มึงยังมีเรื่องที่ปิดบังกูอีกไหมวะ”

ผมถามแต่มันเงียบ ไม่ตอบเรื่องที่มันเป็นคนบอกน้องเอยเรื่องรูปของเราในมือถือผม

“แล้ว..กู...เชื่อใจมึงได้ไหมน่าน”

“ทำไมถึงถามแบบนั้น...”

“ไม่รู้ดิ...กูแค่อยากรู้ว่ากูเชื่อใจมึงได้ไหม”



>>>>TBC<<<<
เนื้อเรื่องเหมือนแต่งนิยายแนวสืบสวนสอบสวน เราบอกแล้วว่าอย่าเชื่อใจเรา   :hao3:
อันนี้จะเป็นปมสุดท้ายแล้วนะ เพราะนิยายใกล้จบแล้ว อีกฮึดใจเดียวเท่านั้นค่ะ 
แรงจูงใจของเรื่องนี้มาจากซีรีย์ game of thorn
แล้วชอบประโยคหนึ่งของ littlefinger ที่บอกว่า don’t trust me...
คนที่มีบุคลิกที่น่าเชื่อใจมากที่สุดบางทีอาจจะไม่ใช่คนที่เราควรจะเชื่อใจก็ได้ คำถามคือ...”ใคร”??
ซน
น่านฟ้า
แอล
โก้
น้องเอย หรือ ....???

 
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-06-2015 17:53:51
น้องเอย→ซน→←น่าน←แอล←โก้
เราคิดว่าพี่แอลแอบรักพี่น่านนะคะ และพี่โก้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกซนนี่นา..

อีกอย่าง เราเข้าใจซนนะคะที่คิดระแวงพี่น่าน เพราะก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า 'ผู้ชายอย่างพี่น่านนั้นทำได้ทุกอย่างจริงๆ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ'

ตอนนี้นี่สุดที่จะอึมครึมมากเลยค่ะ ดูอะไรๆ ก็เป็นปริศนาไปเสียหมด ใครพูดจริง ใครพูดโกหกกันแน่นี่ช่างน่าสับสนเสียเหลือเกิน~ :serius2:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 11-06-2015 18:05:11
โหย ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก หวังว่าคงไม่Bad enddingนะ เค้ายิ่งปลื้มๆ พี่น่านอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-06-2015 18:12:35
ขอยาแก้มึนแผงนึงค่ะ. จ่ายตังช่องไหนคะ. 

คนเขียนอย่าแกล้งน้องซนอีกนะ. สงสารมัน.  :hao7: 

ใกล้จบแล้วเหรองั้นรอเฉลยนะคะ. ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 11-06-2015 19:40:01
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 11-06-2015 21:54:56
คนเขียนนี่แหละค่ะที่ไม่น่าเชื่อใจที่สุด โอ๊ะ หยอกค่ะหยอกกก

รอปมคลี่คลายนะคะ ถ้าให้เราเดา เราเดาว่า แอล ค่ะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 11-06-2015 21:56:04
สับสนมึนงงไปหมดละ 555555
รอตอนต่อไปค่า -3-"
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-06-2015 22:44:19
โอ้ยยงงจุง 555 สรุปใครน่ากลัวสุดล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-06-2015 08:02:35
แผนผังคุณMouse2U นี่ทำเอาเราแบบมึนไปเลยค่ะ

มารายตัวแล้วกัน
ถ้าหากว่าน่านวางแผนแก้แค้นซนก็พูดไม่ออกเหมือนกัน ถ้าหากว่าทำจริงก็เหี้ยมมากเกินไปแล้ว เราเป็นห่วงซนเพราะรูปแอลในกล้องน่าน ถ้าจริงก็ไม่น่าเหลือที่ให้เป็นพระเอกเหลืออยู่แล้ว

แอลนี่ยังมีสิทธิ์ว่ารักน่านนะ เพราะว่าที่ซนเห็นนั้นก็คือสายตาเจ็บปวดของแอลตอนที่พูดถึงความรัก อาจจะพูดถึงโก้แต่ใจแอลอาจจะไม่ได้นึกถึงโก้

โก้ก็อาจจะมีอะไรในใจกับแอลอาจจะไม่ใช่รัก หรือตัวขัดไม่ให้รักแอล

น้องเอยหวังว่าคงไม่ใช่เพราะนานๆทีจะเจอผู้หญิงที่ไม่ร้ายมากในนิยายวาย แต่ก็อาจจะยาก

หักมุมที่สุดก็คงจะเป็นตัวซนเองที่อาจจะกลับมาแก้แค้นน่านที่ทำตัวเองเจ็บก็ได้

ตอนนี้มีแต่ความกังขาให้ทุกตัวละครแล้วก็คนเขียนด้วย   อย่าดริฟท์มากเลยนะคะกลัวแหกโค้งแล้วตายหมู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 12-06-2015 08:31:26
ปม ปม ปม มาอีกแล้วว
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 12-06-2015 17:58:54
รักน่าน รักซน   :กอด1:   เฮ้อเมื่อคืนอ่านตอนตีสอง น้ำตาท่วม วันนี้ตาบวมปิด พึ่งลืมตาได้เนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่26 can I trust you [11-06-15:P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 15-06-2015 00:19:04
สรุปใครชอบใคร แต่ซนน่านคือเรื่องจริง
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 16-06-2015 11:52:26
Because of you ซน ตอนที่ 27 แอล

(ตอนนี้ยังอยู่โหมดดราม่า ใครยังไม่กล้าอ่าน รอจบก่อนก็ได้นะคะ>< รักคนอ่าน)

Special by แอล

พวกเราแต่ล่ะคนกลับมาจากงานเวลด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน บางคนกลับมาได้เพื่อน มิตรภาพ หรือแม้แต่ความสนุก แต่บางคนก็กลับมาพร้อมกับความรัก

ความรักที่คนทั้งคู่เองก็คงรอมันมานานให้ได้เกิดขึ้น

"หลังจากนี้มึงก็คงไม่ต้องมาเบียดเบียนที่ห้องกูอีกแล้วสินะ" ผมเอ่ยปากแซวไอ้น่านที่กำลังขนของกลับเข้าห้องสโมคณะ ลังใบใหญ่ที่ช่วยกันยกสองคนระหว่างผมกับมัน

"อ่ะแน่นอน" เจ้าของเรื่องยักคิ้ว ทำหน้ามีความสุข ก่อนจะบุ้ยปากไปตรงมุมห้องเป็นตำแหน่งบอกว่าให้เอาลังใบใหญ่วางไว้ตรงนั้น เวลาน่านมีความสุขคนรอบข้างมักจะรับรู้ได้ถึงออร่าพวกนั้นได้ดี "หมดล็อตนี้ก็เสร็จหมดแล้วใช่ป่ะ"

"น่าจะมั้ง...ทำไมวะ รีบหรือไง" ผมถามไอ้น่านพร้อมกับยื่นมือไปขยี้หัวมัน

"ก็แหม แฟนกูรออยู่"

"เต็มปากเต็มคำเหลือเกินนะครับเพื่อนน่าน" ไอ้ป็อบเดินเข้ามาในห้องแล้วได้ยินตอนที่ไอ้น่านพูดพอดี มันหัวเราะคิกคักเล่นหูเล่นตาแซวไอ้น่านไม่หยุด

"เอ้า ก็มันเรื่องจริงนี่หว่าจะให้กูพูดปฏิเสธทำไม" เจ้าตัวเองยอมรับกันซึ่งๆหน้าแถมยังยักไหล่ไม่แคร์คำพูดแซวหรือสายตาล้อเลียนจากไอ้ป็อบสักนิด น่านโชคดีที่เวลาที่มันรู้สึกสนใจใคร คนๆนั้นจะปรี่เข้ามาหามันทันทีโดยที่มันไม่ต้องร้องขอ จะมีก็แต่คราวนี้ที่เจอกับไอ้ซนนี่แหละ เที่มันเป็นฝ่ายวิ่งตามเขาแทน ตั้งแต่ผมรู้จักกับมันมา น่านมันไม่เคยทุ่มเทให้ใครขนาดนี้ ไม่เคยคิดที่จะวางแผนเอาคนๆนั้นกลับมาอยู่ใกล้ๆ มันเคยบอกว่า ก็ในเมื่อเขาไม่อยากอยู่กับเรา เราจะรั้งเขาไว้ทำไม ปล่อยๆเขาไปเจอในสิ่งที่ดีกว่าไม่ดีกว่าเหรอ ทั้งๆที่มันเคยพูด เคยบอกกับเพื่อนทุกคนแบบนั้น แต่ก็นั่นแหละทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ สำหรับไอ้น่าน ทุกกฏของมันข้อยกเว้นคือซน แค่ซนคนเดียว


หลังจากที่พวกเราช่วยกันเก็บของเข้าสโมจนเสร็จ หลายคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พวกผมเองก็แยกออกมาที่ลานคณะ ไอ้ป็อบออกมาดูดบุหรี่ ไอ้น่านออกมาให้ซน เพราะมันบอกว่าซนรอมันอยู่แถวๆนี้


“น่ารักเนอะ” น่านมองเลยไปที่คนๆนึงที่กำลังนั่งเล่นกับไอ้ไมโลหมาคณะอยู่ มันอมยิ้มมองภาพนั้นแบบไม่คิดจะละสายตาไปมองที่ไหน รอยยิ้มมีความสุขที่มักให้กับคนๆเดียวก็ยังเป็นคนๆนั้นเสมอ

มันก็ไม่แปลกอะไร ก็ในเมื่อเวลาเรารักใครสักคนเราก็ไม่อยากจะละสายตาจากเขาเท่าไหร่

“อวยแฟนไปไหมสาดดด”

“ฮ่าฮ่า ก็แฟนกูน่ารักจริงๆ”

"ครับๆ น่ารักกก...แล้วนี่..วันนี้มึงนอนไหนวะ" ไอ้ป็อบถาม

"ห้องไอ้ซน..."

"แหมม รีบตอบเลยนะสัสน่าน สีหน้าแบบนี้แสดงว่าคืนที่อยู่ทะเลมึงไม่ได้เผด็จศึกน้องเขาล่ะสิ  หึหึ มึงนี่มันอ่อนนนนน"  ไอ้ป็อบพูดแซวไม่หยุดส่วนผมมีหน้าที่แค่ยิ้มแล้วก็หัวเราะตาม

"มึงจะพูดจะแซวอะไรกูตอนนี้ กูไม่แคร์หรอกว่ะป็อบ เพราะกูเป็นคนให้เกียรติแฟนเว้ย ในเมื่อแฟนไม่อยาก กูก็ไม่รีบ”

"ให้เกียรติคืนเดียวจะให้เกียรติทำห่าไร กูไปและแม่งคุยกับพวกมึงแล้วปวดหัว ไอ้เชี่ยโก้อ่ะ กลับไปแล้วใช่ป่ะ" ผมพยักหน้าตอบไอ้ป็อบ "อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องแบบนั้นดิแอล มึงก็รู้ว่าไอ้โก้เป็นคนแบบนี้"

"อืมกูรู้" ผมพูดเสียงเบาแล้วยิ้มตอบไอ้ป็อบไป มันตบบ่าผมมาอีกหลายทีก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง ส่วนผมเดินตามไอ้น่านมาหาไอ้ซนที่นั่งเล่นกับหมาอยู่

"เดี๋ยวก็โดนกัด หน้ามึงมันยังไม่คุ้นเลยมั้ง"

"ไม่กัดหรอกน่ากูเก่ง" ไอ้ซนยู่ปากแล้วลูบหัวไอ้ตัวที่นั่งอยู่ข้างๆ ในมือมีหมูปิ้งที่กำลังฉีกแบ่งให้อยู่ ปกติไอ้ตัวตรงหน้ามันไม่ค่อยจะญาติดีกับใครสักเท่าไหร่ เวลามีใครไปแหย่มันหรือเล่นกับมันไอ้ไมโลชอบแว้งกัดตลอด แต่กับไอ้ซนแม่งนอนเฉยแถมให้เกาพุงให้ด้วย หมาเวร

“เก่งไม่เก่งนี่ไม่เกี่ยวเลยเหอะ" ไอ้น่านนั่งลงข้างๆไอ้ซน เอื้อมมือไปลูบหัวไอ้ซนอีกถอด

"กูไม่ใช่หมานะน่าน"

"แต่ก็คล้าย"

"มึงแม่ง...กลับยัง หิวข้าวแล้วเนี่ย" ซนฉีกหมูปิ้งให้ไมโลไม้สุดท้ายก่อนจะยื่นไม้เปล่าส่งให้ไอ้น่าน ไม่ต้องเดาก็ว่าคนที่รับหน้าที่เอาไม้ไปทิ้งคือใคร แต่จะแปลกใจก็ตรงที่น่านฟ้ารับมาแบบไม่เถียงอะไรสักคำ แถมมือไอ้ซนที่เปื้อนหมูปิ้งตะกี้ก็ถือวิสาสะเช็ดที่กางเกงไอ้น่านแบบไม่คิดจะขออนุญาตด้วยซ้ำ ถ้าเป็นคนอื่นทำแบบนี้ไอ้น่านคงด่าไปแล้ว "มองไม กล้าหือเหรอ ก็มันเปื้อนอ่ะ"

"เปล่าครับเปล่า อยากเช็ดก็เช็ดเลยครับ" ซนเบ้ปากแล้วเอามือเช็ดกับกางเกงไอ้น่านจนพอใจก่อนจะหันหน้ามามองผม สายตาเด็กคนนี้เวลามองผมหลังจากกลับมาจากค่ายเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยากถามแต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร

"พี่แอลไปกินข้าวด้วยกันไหมครับ"

"เออนั่นดิ ไปด้วยกันไหม อยากกินอาหารญี่ปุ่นใช่ป่ะ" ประโยคแรกไอ้น่านหันมาชวนผม ส่วนประโยคต่อมามันหันไปถามไอ้ซน “มึงอยากกินแบบไหน ฟูจิ?? เซน??”

“ไม่เอา กูอยากกินปิ้งย่างแถวฝั่งธน ร้านที่เราเคยไปกินกันคราวนั้น”

“ไม่เหนื่อยเหรอครับ ขับรถไปไกลนะ” คำพูดเพราะๆกับสายตาที่เอ็นดูแบบนั้น ในฐานะเพื่อนอย่างผมไม่บ่อยหรอกครับที่น่านจะทำแบบนั้น อาจจะมีบ้างเวลาที่มันอ้อนขอให้ทำอะไร แต่ก็ไม่ได้มากมายเหมือนอย่างที่แฟนมันได้รับ

“มึงขับไม่ใช่กู”

“แต่มันไกล”

“ก็กูจะกิน”

“โอเคๆ กินก็กิน” แล้วเรื่องตามใจแบบนี้ก็มีแค่ไม่กี่คนที่น่านจะทำให้ หนึ่งในนั้นก็เคยมีผม และก็มีเพิ่มขึ้นมาอีกคนคือคนที่ไอ้น่านกำลังลูบหัวอยู่ “สรุปมึงไปป่ะแอล”

"ไม่ดีกว่าว่ะ เมื่อกี้ไอ้โก้ส่งข้อความมาเหมือนจะมีปัญหากับแฟนอีกแล้ว” ผมยกมือถือบอกไอ้น่านเป็นนัยๆ “แล้วเสื้อผ้ามึงที่ห้องกู จะเอาไง??”

ตอนที่ผมถามไอ้น่าน คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆก็มองมาที่ผมด้วย แต่พอผมหันไปสบตามันก็เสหันไปมองทางอื่น ผมไม่รู้ว่ามันไปได้ยินหรือติดใจอะไร แต่ผมก็เลือกที่จะมองข้ามแล้วหันไปมองหน้าไอ้น่านแทน

"เดี๋ยวก่อนก็ได้กูไม่รีบว่ะ”

“แต่กูรีบ เสื้อผ้ามึงมันรกหูรกตาห้องกู ถ้าไม่รีบมาเก็บกูจะเอาทิ้งถังขยะจริงๆด้วย” ช่วงที่ไอ้น่านห่างๆกับซน มันมาอยู่กับผมแทบจะกินนอนด้วยกัน 24 ชั่วโมง

“ถ้ามึงจะใจร้ายแบบนั้นก็เอาทิ้งไปเถอะ เดี๋ยวกูให้ซนพาไปซื้อใหม่..เนอะ” ทุกประโยคที่เหมือนจะพูดคุยกับผม น่านมันมักดึงคนข้างๆมามีส่วนร่วมด้วยทุกครั้ง

“เนอะห่าอะไร กูหิวข้าวแล้วเนี่ย”

“เวลามึงทำหน้าบูดแล้วตลก เหมือนไอ้เงินกับทอง”

“หมายความว่าไง??”

“เปล่ากูแค่บอกว่ามึงเหมือนลูกชายเรา”

“ลูกชายเราเชี่ยอะไร เงินกับทองเป็นลูกชายกูคนเดียวเหอะ”

“พอๆ ไม่ทะเลาะด้วยแล้ว” น่านฟ้ายกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้ “แอล ถ้างั้นเดี๋ยวเอาไว้ค่อยคุยกันนะมึง เด็กแม่งงอแง ส่วนเรื่องเสื้อผ้า เอาไว้ค่อยว่ากันอีกที"

“เชี่ย กูไม่ใช่เด็ก” มือเล็กฟาดเต็มหลังไอ้น่าน ส่วนคนที่โดนตีแทนที่จะโกรธก็กลับหัวเราะมีความสุขแทน

"เออแอล!!!"

"ห้ะ"

"ที่ผ่านมาขอบใจมึงมากนะเว้ย...”

"เออไม่เป็นไร เพื่อนกัน" การฝืนยิ้มต่อหน้าไอ้น่านเป็นเรื่องที่ผมทำมันได้ดีที่สุด






ผมใช้เวลาขับรถมาถึงหอพักเพียง 10 นาที ห้องผมไม่ได้ล็อค นั่นก็หมายความว่ามีคนอยู่ในห้อง


“มานานแล้วเหรอ” ผมเอ่ยถามคนที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงโซฟา เขาพยักหน้าให้ผมก่อนจะพยัดเพยิดไปที่หลังตู้เย็น ผมเดินไปดูปรากฏว่าเป็นบัวลอยไข่หวานเจ้าที่ผมชอบ “ขอบใจ กูไม่ได้กินตั้งนานแล้ว”

“อืม” มันยิ้มแล้วหันไปดูทีวีต่อ ส่วนผมเองพอวางกระเป๋าเสร็จก็แกะบัวลอยใส่ถ้วยก่อนจะเดินไปนั่งข้างคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา เขายกแขนขึ้นเพื่อให้ผมขยับไปนั่งพิงอกเขาได้ถนัด

“เจ้านี้อร่อยจริงๆนั่นแหละ มึงไปต่อแถวนานเปล่า”

“เกือบชั่วโมง”

“ขอบใจนะ...โก้” ผมพูดจบก็เงยหน้าขึ้นจุ๊บปากคนข้างๆ มันยิ้มรับแล้วจูบเบาๆที่ปากผม ก่อนจะเอื้อมมือมาเช็ดคราบกระทิให้ผมโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

โก้มันก็เป็นแบบนี้ มันไม่ใช่คนพูดมากเหมือนไอ้ป็อบ ไม่ใช่คนที่พูดแล้วดูมีเสน่ห์เหมือนไอ้น่าน หรือไอ้บาส แต่มันมีเสน่ห์ในแบบของมัน นิสัยที่ชอบฟังและทำมากกว่าพูด เป็นนิสัยที่ผู้หญิงหลายคนชอบ โก้มีความเป็นสุภาพบุรุษมันช่วยทำนู่นทำนี่ให้โดยไม่บ่นหรือถามสักคำ เพราะงั้นเสน่ห์ของไอ้โก้นอกจากหน้าตาที่ดูหล่อแล้วก็มีความมีน้ำใจและเป็นลูกผู้ชายแบบนี้แหละที่ทำให้ใครหลายคนอยากเข้าใกล้



แต่โก้มันไม่ได้ชอบคนพวกนั้น


มันชอบผม




ข้อนี้ผมรู้ดีและก็รู้มานานมากพอที่จะเอาข้อจำกัดอันนี้มาใช้เป็นเครื่องมือให้ตัวเองดูน่าสงสาร


“ซนกับน่านกลับไปคบกันแล้ว” ผมพูดขึ้นมาตอนที่กินบัวลอยหมด วางจานลงบนโต๊ะ ก่อนจะขยับขึ้นนั่งบนตักไอ้โก้ หันหน้าเข้าหามัน มือสองข้างคล้องที่คอแล้วเอาหน้าผากซบที่หน้าผากมัน

“แล้ว??”

“มึงต้องช่วยกูนะโก้” ผมอมลมในแก้มจนป่องกอดคอคนตรงหน้าแน่นกว่าเดิม

“ให้กูช่วยอะไรอีกวะ ที่ผ่านมาก็ช่วยมากแล้วนะ” โก้มันช่วยหลอกเพื่อนๆ หลอกทุกคน ทำให้ผมดูน่าสงสาร ทุกคนคิดว่าไอ้โก้มันใจร้ายกับผม คิดว่าโก้มันรักผู้หญิงคนนึงมากๆจนไม่สนใจความรู้สึกของคนที่อยู่ใกล้ๆ ผมบอกเพื่อนๆว่าไม่ต้องบอกความรู้สึกผมให้โก้รับรู้เพราะผมกลัวว่าจะเสียเพื่อน


ผมรู้อยู่แล้วว่า จริงๆไอ้โก้มันไม่เคยมีใคร ผู้หญิงคนนั้นที่ผมสร้างเธอขึ้นมา ไม่ได้มีตัวตนสักนิดโก้มันมีแค่ผม แค่ผมคนเดียว



ก่อนหน้านี้ที่ดึงโก้เข้ามาเพราะผมคิดว่าไอ้น่านมันอาจจะเริ่มรู้เรื่องที่ผมชอบมัน เพราะมีอยู่ช่วงนึงที่น่านตีตัวออกห่างน่าจะเป็นตอนก่อนขึ้นปีสอง ตอนนั้นผมคิดมากจนไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่อยากเสียเพื่อน น่านฟ้าเองก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่ตีตัวออกห่างด้วย ผมกลัว ระแวงไปหมด แล้วพอดีกับการมารู้ว่าไอ้โก้ชอบ สิ่งที่ผมทำได้อย่างเดียวคือการดึงมันเข้ามาในเกมส์นี้  นิสัยผมเป็นคนที่กลัวการเสียหน้าต่อหน้าคนที่ผมรัก ผมจะไม่ยอมเสียหน้าและรู้สึกผิดหวังต่อหน้าไอ้น่านแน่ๆ โก้ยอมเล่นด้วย มันยอมแกล้งมีแฟนเป็นคนที่มันรักมาก แกล้งทำเป็นมองข้ามความรู้สึกผม และผมก็แสดงมันได้ดีเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ทั้งแววตาเศร้าๆ คำพูดที่ดูน่าสงสาร ผมทำมันได้ดีโดยไม่ต้องซ้อมด้วยซ้ำ


“แต่มันยังไม่มากพออ่ะโก้....กูอยากให้มากกว่านี้” หลังจากที่แกล้งทำเป็นชอบโก้ ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทาง น่านฟ้าไม่ได้ตีตัวออกห่างจากผมเพราะรู้ว่าผมชอบ อันนั้นผมคิดไปเอง ช่วงนั้นไอ้น่านเหมือนหนีสาวเพราะรถไฟชนกันมันเลยตีตัวออกห่างจากเพื่อนทุกคน ซึ่งมันก็กลายเป็นว่า ถึงตอนนี้น่านเองก็ยังไม่รู้ว่าผมชอบมัน

ใช่ครับคนที่ผมชอบจริงๆคือไอ้น่าน เพราะงั้นเวลาเห็นไอ้ซนอยู่ใกล้ๆน่าน ความรู้สึกไม่พอใจมักเกิดขึ้นเสมอ มันไม่แปลกอะไรที่ผมจะแกล้งไอ้ซนหรือพูดจากวนตีนมันบ่อยๆ เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากความรู้สึกที่คิดว่าทำไมคนๆนั้นไม่ใช่ผม

“มึงไม่อยากให้กูมีความสุขเหรอโก้...”

“มึงสุขแต่กูทุกข์อ่ะเหรอแอล” ผมสงสารโก้ แต่ผมสงสารตัวเองมากกว่า ช่วงที่ไอ้ซนเข้ามา มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมคิดว่าบางทีไอ้น่านอาจจะหันมาชอบผมก็ได้ แต่ผมไม่มีจังหวะเข้าไปถึงตัวไอ้น่านได้เลยสักครั้ง ผมทำได้เพียงแค่รอ รอว่าเมื่อไหร่สองคนนั้นจะถึงจุดแตกหัก เพราะผมรู้ดีว่าซนไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียวเหมือนไอ้น่าน ซนมันมีแฟน และคนแบบไอ้ซนไม่มีทางทำร้ายความรู้สึกผู้หญิงยิ่งเป็นแฟนมันแล้ว ซนมันยิ่งไม่ทำ


 หลังจากที่เกิดจุดแตกหักระหว่างสองคนนั้น น่านกับซนห่างกัน ถึงมันจะเป็นแผนของไอ้น่าน แต่มันก็เป็นความโชคดีของผมด้วย เพราะมันทำให้ผมกับน่านเรามีโอกาสได้รู้จักกันมากขึ้น ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าน่านเองก็สนใจผมไม่น้อย เพราะเวลาที่ผมบอกให้มันทำอะไรมันก็ทำให้หมดทุกอย่าง มันตามใจผม เอาใจผม พาผมไปดูหนัง พาไปกินข้าว ถึงแม้ทุกครั้งเวลาที่คุยกันจะมีเรื่องซนเข้ามาในบทสนทนาผมก็ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร เพราะผมคิดว่า ถ้าผมมีเวลามากพอ น่านจะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของตัวเองจากที่เคยชอบซนกลายมาชอบผมได้ไม่ยาก


แต่นั่นแหละทุกอย่างก็พังทลายลง


เพียงแค่เพราะซนกลับมา


“โก้ กูสัญญาว่ากูจะไม่ทิ้งมึง...จริงๆนะ...มึงอยากให้คนที่มึงรักเสียใจเหรอโก้...มึงอยากให้กูเสียใจใช่ไหม...ฮึก.. มึงต้องช่วยคนที่มึงรักสิโก้...ช่วยแอลนะ” ผมซบหน้าลงกับบ่ากว้าง อ้อนคนตรงหน้าอีกครั้ง เสียงถอนหายใจยาวของมันทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง

“ไม่รู้ว่ะแอล...” มือหนาเอื้อมมาจับแก้มผม เกลี่ยเบาๆอย่างทะนุถนอม “กูเริ่มเหนื่อยแล้วว่ะ กูทำเพื่อมึง แต่กูไม่เห็นได้อะไรจากมึงเลย”

“มึงได้กูไง...ตัวกู..กูยอมให้มึงคนแรก...”


“กูไม่เห็นดีใจเลยวะที่ได้มึงคนแรก......”


“.......”


“ให้กู...เป็นคนสุดท้ายไม่ได้เหรอ” ผมเงียบกอดไอ้โก้แน่นกว่าเดิม


“โก้..” ผมซบหน้ากับบ่ากว้าง เม้มปากแน่น เก็บความรู้สึกเสียใจไว้ในส่วนลึก ผมเสียใจนะครับที่ผมไม่สามารถรักโก้ตอบได้ ความรู้สึกมันบอกกันได้ที่ไหน “ขอโทษนะ...แต่ว่า..แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวได้ไหม ทำเพื่อกูแค่ครั้งนี้ก็พอ มึงไม่ได้ทำอะไรเยอะแยะเลย มึงแค่ทำเป็นรู้ว่ากูชอบมึง... มึงโกรธ แล้วก็เกลียดกู รับไม่ได้ ทำให้ไอ้น่านรู้ว่ามึงขยะแขยง ทำให้กูดูน่าสงสารที่สุด แค่นั้น แค่นั้นก็พอ”

“มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยเกลียดมึงแอล...ไม่เคยเกลียด แล้วจะทำท่าขยะแขยงมึงได้ยังไง”

“แต่โก้...ก็แค่ทำเป็นเกลียด เพราะถ้าสมมติว่ากูดูน่าสงสารในสายตาไอ้น่านขึ้นมา บางที....”

“บางทีอะไรวะ!!!" โก้พูดสวนขึ้นมาจนผมสะดุ้ง "บางทีไอ้น่านมันอาจจะหันมาสนใจมึงยังงั้นเหรอ .มึงคิดว่าคนที่มีคนอื่นอยู่เต็มหัวใจแบบนั้นจะเอามึงเหรอแอล...มึงหวังมากไปหรือเปล่า....”


ผมเงียบอีกครั้ง ปิดปากตัวเองไม่ให้พูดอะไรไป โก้มันไม่รู้ ผมไม่เคยเล่าว่าจริงๆแล้วที่ทำให้ผมหวังมากมายขนาดนี้เพียงเพราะ ผมกับน่านฟ้าเราเคยจูบกันมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่จูบที่เกิดจากการแสดงละครให้ซนดูตอนนั้น



แต่มันเป็นจูบที่เกิดจากน่านสงสารผมเรื่องโก้...ถึงทุกครั้งที่จูบน่านมันจะเมามาก และทุกครั้งที่จูบมันจะเป็นจูบที่เกิดจากการปลอบผมและปลอบตัวมันเองก็เถอะ แต่ผมก็รับมันได้ ผมหวังกับมัน แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ยังมีหวัง ถ้าเพียงหลังจากนั้นไอ้ซนมาช้ากว่านี้ ถ้าเพียงแต่ไอ้ซนมันสอบเข้าวิศวะไม่ได้




คนที่มีความสุขจริงๆอาจจะเป็นผมก็ได้  ใครจะไปรู้
 



>>>>TBC<<<<
จบแบบแฮบปี้เอนดิ้งหรือเปล่าต้องติดตาม ฮ่า ฮ่า คนแต่งโรคจิตมาก ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ม่าขนาดนี้นะ แต่นะมันไม่สุดเรารู้ว่าคนอ่านไม่สุด มันต้องแตกหักมากกว่านี้
เราบอกเลยว่าในเรื่องนี้ความรักและความเห็นแกตัวผิดที่สุด



หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 16-06-2015 12:26:59
แอลเอ๊ย...  หยั่งกะว่าถ้าน้องไม่ติดแล้วน่านจะมาสนใจคิดผิดไปป่าว ถ้าน้องไปอยู่มหาลัยอื่นเชื่อได้ว่า น่านไปสอดแนมตามติดเฝ้าน้องมันอยู่ดีนั่นแหละ ตัดใจได้เร็วๆ นะ จะได้มีความสุขซะที ความจริงก็น่าสงสารโก้นะ รอแอลมาตั้งนานละ    :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 16-06-2015 13:42:29
เดาไม่ผิดจริงๆ เลยค่ะว่าแอลต้องแอบรักน่านอยู่แน่นอน แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะว่าแอลจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ เพียงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วถึงกับขนาดที่ว่าหลอกใช้ 'ความรักของโก้' มาเป็นฐานเหยียบเพื่อขึ้นไปสู่เป้าหมายเลยนี่สิคะ อยากรู้ว่าแอลทำได้ยังไงกัน? มีหัวใจอยู่แน่ใช่ไหม? เห็นแก่ตัวค่ะ เห็นแก่ตัวมากๆ

แล้วที่เที่ยวมากล่าวหาว่าถ้าไม่เป็นเพราะซนเข้ามา คนที่ควรจะมีความสุขจริงๆ ก็ควรจะแอลเองนั้นน่ะ คืออะไรคะ? ให้โอกาสลองคิดใหม่อีกทีค่ะแอลว่าอะไรคือความจริงกันแน่ เพราะถ้าน่านเป็นของแอลมาตั้งแต่เริ่มต้นจริงๆ แล้วนั้น ต่อให้ตอนนี้มีสักกี่สิบซนเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ตัวน่าน น่านก็จะยังคงเป็นของแอลอยู่ร่ำไป (ตามที่แอลมโนเอาไว้นั่นล่ะค่ะ)

แต่ในความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นไงคะ ขนาดแอลยังบอกเลยว่า ตัวเองรักโก้ไม่ได้เพราะหัวใจมันเป็นของใครอีกคน แล้วทำไมถึงไม่คิดกลับกันบ้างคะว่า 'น่านก็รักแอลตอบไม่ได้เช่นกันเพราะใจของน่านนั้นก็ยกให้ซนไปหมดแล้ว' ตื่นจากฝันได้แล้วไหมล่ะ เพราะถ้าแอลยังจะเป็นอย่างนี้ต่อไป แม้แต่กับ 'โก้' เองเราก็ไม่มั่นใจเหมือนกันนะคะ ว่าแอลยังมีเขายืนอยู่ข้างกายอีก..

ส่วนโก้..มีความรักที่หน้ามืดตามัวและไม่ลืมหูลืมตามากเลยค่ะ งมงายสุดๆ ไม่เข้าใจว่าโก้จะทนหลง(รัก)ทั้งๆ ที่ใจเจ็บปวดอยู่แบบนี้ทำไมกัน เพราะถ้าโก้(หลง)รักแอลจริงๆ แล้วนั้น ย่อมต้องอยากดึงอีกคนขึ้นมาพบกับความสุขจริงๆ ที่ไม่ใช่การช่วยกันมโนว่ามันคือความสุขแบบนี้สิคะ แต่เท่าที่ดูโก้ก็พอจะรู้ตัวอยู่นี่นาว่าอะไรดีหรือไม่ดี หรือถ้าโก้สงสารแอลจริงๆ ก็ช่วยหยุดเสียเถอะค่ะ อย่าได้ทำทุกอย่างตามที่แอลร้องขออีกเลย ใจแข็งเข้าไว้นะคะ หรือถ้าจะให้ดีโก้ช่วยตัดใจจากแอลไปเสียเลยก็ได้ค่ะ ถ้าความรักที่โก้มีให้กับแอลมันยังจะมาคู่กันกับความเจ็บปวดอยู่แบบนี้..

และอีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ 'น่าน' มีส่วนผิดอยู่เหมือนกันค่ะที่ไปทำท่าทางเหมือนกับให้ความหวังแอลเขา มีเพื่อนผู้ชายที่ไหนบ้างคะที่เขาจูบปลอบใจกัน ทำครั้งเดียวไม่เท่าไรยังสามารถอ้างได้ว่าเมาหรือไม่รู้ตัว แต่ครั้งต่อๆ มาคืออะไร? น่านเปลี่ยวเหรอคะ? หรือยังไง? และถึงแม้ว่าตอนที่จูบกันจะเป็นความเต็มใจของแอลด้วยครึ่งหนึ่ง แต่ในฐานะของ 'เพื่อน' น่านก็ควรที่จะยับยั้งชั่งใจตัวเองไหมล่ะไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ตามแต่

หนักหน่วงดีแท้~ รอตอนต่อไปค่ะ ..^^
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-06-2015 13:50:35
 :mew5:  เอาแอลไปบำบัดที
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-06-2015 13:56:28
แอลเหมือนเป็นโรคจิตนิดๆ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 16-06-2015 14:10:14
ทำไมพี่แอลทำแบบนี้ สงสารพี่โก้เลย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 16-06-2015 15:06:28
เราว่าคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดของเรื่องนี้คือน่านอะเพราะถึงน่านจะไม่รู้ว่าแอลแอบรักอยู่แต่การไปจูบปลอบแบบนี้มันไม่โอเคมากๆถ้าบอกว่าซนจับปลาสองมือแต่ก็เพราะว่าน่านก็ยินยอมเองนะแต่ในกรณีที่น่านจูบกับแอลถึงแม้จะเมาหรืออยากปลอบใจเพื่อนมันก็เหมือนเป็นการนอกใจซนอยู่เหมือนกันถึงแม้จะเลิกกันไปแล้วแต่ปากก็บอกว่ารักซนๆแต่เที่ยวไปจูบกับเพื่อนสนิทนี่นะแล้วที่แอลบอกน่านก็เหมือนสนใจแอลอยู่นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลยถึงเราจะเชียร์น่านมาตลอดแต่ตอนนี้เราไม่โอเคกับน่านสุดๆ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Gapompom ที่ 16-06-2015 17:36:18
แอล นางร้ายกาจมากกก ยิ่งกว่าผู้หญิงอีกอ่ะ
สร้างภาพให้ตัวเองดูน่าสงสาร(น่าสมเพชมาก)
อย่าใช้วิธีเพื่อนสนิทเพื่อที่จะสมหวัง แน่จริงบอกน่านไปตรงๆดิ

ส่วนน่านก็ทำไม่ถูก ดันไปปลอบด้วยจูบทำให้แอลคิดอ่ะดิ
บอกตรงๆว่าน่านนี่ยิ่งกว่าซน เพราะซนบอกว่ามีแฟนแล้ว
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 16-06-2015 17:59:10
เกลียดแอล ไปนอนเน่าให้หนอนชัยตายไปซะ
คิดได้ไงให้คนที่รักตัวเอง มาช่วยให้ตัวเองสมหวังกับคนอื่น
รับไม่ได้อ่ะ. น่านซน สู้ๆ อย่าไปหลงเชื่อนะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 16-06-2015 18:20:42
แอลลลลลล
ทำไมร้ายกาจงี้อ่ะ
ตอนแรกว่าจะสงสาร ตอนนี้ไม่ล่ะ เชอะ
รู้อย่างหนึ่งด้วย
นิยายเรื่องนี้หนักหน่วงมากกก
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-06-2015 18:43:45
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-06-2015 21:07:14
เฮ้อออออ.  แอลนี้ยังจะหวังอีกเนาะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 16-06-2015 21:27:02
หน่วงงงงงงง ฮืออออออ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่27 แอล [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 16-06-2015 21:31:09
เห็นแก่ตัวจริงๆแอล แต่ก็เพราะรัก
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [16-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 19-06-2015 11:54:24
Because of you ซน ตอนที่ 28    ความลับ

"น่าน แบตเตอร์เลี่ยนทีกูซื้อมาคราวก่อนอยู่ไหนวะ" ผมจำได้ว่าผมวางไว้แถวๆหลังตู้เย็น กะว่าถ้ามาบ้านไอ้น่านอีกจะเอาเงินกับทองมาตัดขนด้วย ช่วงนี้ผมกับน่านฟ้าไม่ค่อยมีโอกาสได้กลับมาบ้านมันเท่าไหร่ เหตุผลเพราะผมอยากนอนอยู่หอมากกว่าเวลาตื่นจะไม่ได้ต้องเช้ามากแถมไม่เจอปัญหารถติดด้วย ส่วนเจ้าเงินกับทอง ม๊าเองก็เป็นคนเลี้ยงและดูแลเหมือนเดิม แต่ที่ผมขัดใจและต้องไปซื้อแบตเตอร์เลี่ยนมาก็คือเวลาผมกลับบ้านแต่ล่ะทีไอ้เงินกับไอ้ทองลูกชายผมมักจะขนยาวสลวยสวยเก๋แถมมีติดกิ๊ฟน่ารักไปอีก อยากตะโกนบอกม๊าดังๆว่ามันเป็นตัวผู้ แต่ถึงพูดไปก็เหมือนจะไม่ได้ประโยชน์อะไร ในเมื่อคนที่ทำเขาไม่ฟังผมสักนิด สุดท้ายผมเลยลักลอบเอาเงินกับทองมาบ้านไอ้น่านเพื่อทำให้ลูกชายผมกลับมาแมนที่สุดโดยการตัดขนให้เกรียนซะ

“มึงแน่ใจนะซนที่จะตัดให้มันเองอ่ะ ไปให้ร้านตัดให้ไม่ดีกว่าเหรอวะ”

“มันเปลือง มึงนี่ไม่รู้จักคุณค่าของเงินหรือไง กูรออยู่ลานหลังบ้านนะ หยิบแบตเตอร์เลี่ยนมาให้ด้วย” ผมบอกไอ้น่านแค่นั้นก่อนจะเดินไปอุ้มเงินกับทองมาที่หลังบ้าน น่านฟ้าเดินตามมาพร้อมกับแบตเตอร์เลี่ยนในมือ ตอนที่มันเปิดแบตเตอร์เลี่ยนแล้วทำหน้ากวนตีน  หมาผมสองตัวแม่งรีบวิ่งมาซุกขาผมเลย ก็ดูหน้ามันดิครับอย่างกะฆาตรกรฆ่าหมา

“เงินกับทองแม่งตลก”

“ก็มึงทำให้มันกลัว ทำท่าเหมือนจะแดกมัน”

“ตลกและ”

“ก็ขำดิ เอาแบตเตอร์เลี่ยนมาได้แล้ว ยื่นหล่ออยู่นั่น” ผมเอื้อมมือไปดึงแบตแตอร์เลี่ยนจากมือไอ้น่าน ก่อนจะนั่งลงกับพื้น ส่งไอ้ทองไปให้ไอ้น่านก่อน เพราะผมกะจะสังหารไอ้เงินเป็นรายแรก เสียงแบตเตอร์เลี่ยนทำให้มันดูลุกลี้ลุกลนไม่ต่างจากตอนที่บังคับอาบน้ำสักเท่าไหร่ “อย่าดิ้นน่าเงินกูโกนให้มึงแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ”

โฮ่ง โฮ่ง

“เห่าไปก็เท่านั้นแหละมึง เป็นลูกผู้ชายมาติดกิ๊ฟได้ยังไง อยู่เฉยๆ” พูดจบผมก็จัดการไถแบตเตอร์เลี่ยนไปตามขนสลวยสวยเก๋ของมันทันที ม๊าเห็นคงช็อคอ่ะ แต่จะมาให้ลูกชายผม ไว้ขนยาวติดกิ๊ฟมันก็ไม่ใช่สไตล์ที่หมาผมควรจะเป็นด้วย

“จริงๆปล่อยยาวก็น่ารักดีไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้น่านพูดพร้อมกับวางคางไว้บนไหล่ มันยังติดนิสัยชอบนัวเนียผมจากด้านหลังและก็ชอบเอาหัวหนักๆมาวางไว้บนบ่าผมเหมือนเดิม

“ไม่เอาอ่ะกูว่ามันรก ทำความสะอาดยาก” ผมว่าพลางโกนขนไอ้เงินไปตามตัว ท่าทางมันคงจะชอบเพราะเห็นนอนนิ่งทำหน้าเคลิ้มเชียว

“เออกูว่าจะถามมึงเรื่องตารางสอบมิดเทอมของมึง...ออกยังวะ” ผมพยักหน้าบอกมัน เพิ่งออกเมื่อสองวันที่แล้วเอง เริ่มสอบก็เดือนหน้านู่นเลย ปกติวิชาที่เรียนรวมกันหลายคณะตารางสอบจะออกก่อนเป็นเดือน แล้วค่อยมาแพลนกับอาจารย์ในวิชาเมเจอร์ตัวเองไม่ให้ตรงวิชาอื่น ผมชอบมหาลัยก็ตรงที่เขาวางตารางสอบกันทียาวเป็นเดือนนู่นแน่ะ มันดีตรงที่เราจะได้มีเวลาอ่านหนังสือ

“งั้น...เสร็จแล้วมึงเอาตารางสอบมาให้กูดูหน่อยล่ะกัน กูจะได้รู้ว่าควรจะติวอะไรก่อน”

“โอ้โห คนดี”

“เปล่าครับ” ไอ้น่านส่ายหัวปฏิเสธกับบ่าผมพร้อมกับจูบเบาๆที่ต้นคอ ผมขยับหนีมันก็ขยับตาม “ผมเป็นคนเลวที่รักคุณ”

“ไปเน่าไกลๆตีน” ผมว่ามันไปที ไอ้น่านเองก็ไม่ตอบอะไรกลับมาเพราะมัวแต่หัวเราะชอบใจ จะว่าไปผมกับน่านก็อยู่ด้วยกันแบบนี้มาจะเข้าเดือนที่สามแล้วนี่เนอะ เหตุการณ์ในชีวิตผมกับมันก็ปกติดีถ้าไม่ติดว่ามันชอบบังคับกับแกล้งผม...ทุกอย่างก็เป็นไปได้สวย

ส่วนเรื่องที่ผมเคยค้างคาใจเกี่ยวกับตัวพี่แอลเก็ดูเหมือนจะเป็นผมเองที่คิดมากไปคนเดียว เพราะเวลาผมอยู่กับกลุ่มแก๊งไอ้น่าน พี่แอลแกก็ไม่ได้มีท่าทีแสดงออกให้ผมรู้สึกว่ามันชอบไอ้น่านสักนิด แถมเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนทำให้ผมรู้สึกว่าจริงๆแล้วเขารักพี่โก้มาก แต่ก็ยังติดใจเรื่องที่พี่โก้พูดกับผมเมื่อตอนอยู่ค่ายเวลอยู่ดี ที่พี่แกบอกว่ามีแต่แกเท่านั้นที่ชอบพี่แอลคนเดียว

ผมคิดมากเรื่องนี้อยู่หลายวัน แต่พอเอามานั่งคิด นอนคิดมันก็ยังหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้ ผมเลยคิดว่าเลิกคิดดีกว่า อีกอย่างตอนที่อยู่ค่ายเวลผมถามไอ้น่านไปแล้วว่าผมเชื่อใจมันได้ไหม ไอ้น่านก็ตอบกลับมาอย่างหนักแน่นว่าได้ ผมเลยไม่ได้คิดจะถามอะไรต่อ ส่วนเรื่องรูปที่มันเป็นคนบอกให้น้องเอยรู้ ผมเองก็ไม่คิดจะถามต่อเหมือนกัน เพราะผมรอให้น่านฟ้าเป็นคนพูดบอกผมเอง

แต่นี่ก็ผ่านมาจะสามเดือนแล้ว มันก็ยังไม่เอ่ยปากบอกอะไร คงคิดว่าผมไม่รู้มั้ง และพอผมไม่รู้มันก็คงกะกลบเรื่องนี้ฝังไว้ในความลับที่มันคิดว่ายังลับต่อไป

ผมไม่ได้ติดใจอะไรหรอกนะครับ ถ้าน่านมันจะทำแบบนั้น เรื่องที่ปล่อยผ่านแกล้งมองไม่เห็นผมทำมันได้ดีอยู่แล้ว ผมยอมรับว่าผมใจกว้างมากพอกับเรื่องไอ้น่าน ผมไม่อยากให้เรื่องเล็กๆน้อยมาทำให้ผมกับมันต้องแยกกันอีก

แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวผมเองจะไม่มีขีดจำกัดของความรู้สึก ถ้าสมมติมันมีบางอย่างเข้ามากระตุ้นอีกรอบ เรื่องที่ถูกปล่อยผ่านไปอาจจะถูกเหมารวมมาคิดพร้อมกันทีเดียว ผมก็ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้คงไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายๆที่ทำให้ผมต้องมาคิดมากอีก


เพราะคราวนี้ผมเองก็ไม่ได้ไว้ใจตัวเองมากนักหรอกครับ ว่าจะทนอยู่ต่อไปได้แค่ไหน






“กูว่าเราควรคิดเรื่องที่จะย้ายกลับมาอยู่บ้านกูได้แล้วนะ จะได้เอาลูกเรา...”

“ลูกกู” ผมพูดสวนมันขึ้นมาระหว่างที่กำลังก้มหน้าโกนขนให้ไอ้ทองอยู่

“โอเคลูกมึงครับลูกมึง” น่านฟ้าขยี้หัวผมแล้วหัวเราะเบาๆ “เราจะได้เอาลูกมึงกลับมาอยู่บ้านกูด้วย แถมมึงจะได้ไม่ต้องไปเปลืองค่าหอนั่นอีก เอามาช่วยกูจ่ายค่าน้ำค่าไฟได้สบายเลย”

“ไม่เอาอ่ะ กูขี้เกียจตื่นเช้า”

“แต่หอมึงไม่มีที่จอดรถคันใหญ่อ่ะดิ”

“มอไซค์มึงไง”

“แต่มันร้อน มึงเห็นแดดประเทศไทยไหมซน ร้อนตาย” ผมเบ้ปากใส่มัน ขี้เกียจพูดอะไรต่อ เบื่อมันครับ ตัวแม่งก็ใหญ่กว่าผม ผิวมันไม่ได้ขาวเท่าผมด้วยซ้ำ แต่สำอางกลัวแดด น่าหมั่นไส้ “นะครับซน...ย้ายมาอยู่บ้านเราเถอะนะ จะได้เอารถใหญ่ไป มึงจะได้นั่งสบายๆไม่ต้องทนนั่งมอไซค์ตากแดดตัวดำด้วย”

“งั้นมึงก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านดิ”

“เย้”

“มึงคนเดียวนะ กูไม่มา”

“ซนอ่ะ” มันทำเสียงง้องแง้งใส่ผมอีกแล้ว “ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะนะ อยู่ที่นี้สบายจะตาย พื้นที่กว้างด้วยไม่ต้องไปอุดอู้อยู่แต่ในห้อง”

“เอาความจริงไหมน่าน คือกูยังย้ายไม่ได้ สัญญาหอกูมัน 6 เดือน ถ้าจะย้ายก็คงต้องเทอมสอง”

“ถ้างั้นก็จ่ายค่าห้องเฉยๆแต่มาอยู่ที่บ้านกูไม่ได้เหรอวะ” ผมขมวดคิ้วถอนหายใจแรงใส่มัน “นะครับ ย้ายมาอยู่ที่บ้านเราเถอะนะ”

“มึงมันนิสัยเสีย”

“เปล่า”

“เปล่าห่าไรล่ะ กูรู้นะว่าที่มึงงอแงแบบนี้เพราะอะไร สันดาน” ผมว่าจริงๆเหตุผลหลักๆที่มันไม่อยากอยู่หอผมไม่ใช่เรื่องรถหรอกครับ อันนั้นเป็นเหตุผลรองลงมาอีกทอดนึง ซึ่งเหตุผลหลักๆของน่านฟ้าคือ เวลาอยู่ที่หอ ผมจะไม่ยอมมีอะไรกับมัน เหตุการณ์มันเกิดขึ้นครั้งนึงตอนที่ผมกับมันกำลังนอนดูทีวีอยู่ ผมกับมันได้ยินเสียงเตียงโยกจากห้องข้างๆดังทะลุกำแพงมาเลย แถมเสียงครางนี่มาเต็มมา ครางจนทั้งผมกับไอ้น่านขยลุกไปหมด

ผมไม่มั่นใจว่ากำแพงห้องมันบางหรือว่าไอ้ห้องข้างๆมันทำเสียงดังกันแน่ หลังจากที่ได้ยินผมรีบหันมาบอกไอ้น่านทันทีเลยว่าถ้าอยู่หอผม กฏข้อ 1 คือห้ามมีอะไรกัน

“ได้ไงวะซน”

“กฏกูมึงต้องเคารพน่าน ห้ามก็คือห้าม”

“ทำเบาๆก็ได้นี่นา”

“เวลามึงทำแต่ล่ะทีมึงเบาไหมล่ะสัส”

“ก็เบานะ แต่มึงร้องดังเอง มึงห้ามเสียงตัวเองไม่ได้แล้วมาโทษคนอื่นได้ไง” ผมเกลียดสายตาเวลาที่มันมองมาเหมือนตัวเองแม่งเหนือชั้นกว่า แต่ถึงมันจะคิดว่าตัวเองเหนือกว่าผมยังไง สุดท้ายผมก็ชนะอยู่ดี มันยอมไม่มีอะไรกับผมเวลาที่เราอยู่หอ แต่ผมก็อ่อนข้อกับมันเวลาที่กลับมาอยู่บ้านช่วงเสาร์อาทิตย์ แต่แปลกตรงที่หลังจากคืนนั้นผมกับมันก็ไม่ได้ยินเสียงแปลกๆอีก อาจจะเป็นเพราะข้างห้องอีกฝั่งฟ้องเจ้าของหอแล้วไล่ออกไปแล้วล่ะมั้ง ส่วนผมก็ระแวงมาตั้งแต่นั้นจนไม่กล้าอยู่ดีที่จะมีอะไรกับมัน


หลังจากที่ตัดขนไอ้สองตัวดื้อจนเป็นที่น่าพอใจเสร็จผมก็พามันไปอาบน้ำ ช่วงระหว่างที่อาบน้ำผมได้ยินไอ้น่านมันคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้เสียงมันดูเครียดๆ แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมันเท่าไหร่ ถ้ามันอยากเล่าเดี๋ยวมังคงเล่าให้ผมฟังเอง

“เป็นไรวะ หน้าเครียด” ผมว่าจะไม่ถามมันแล้วนะครับ แต่ตอนที่กำลังเช็ดขนให้ไอ้สองตัวดื้อ ไอ้คนตัวโตก็มานั่งทำหน้าเครียดใส่ผม ออร่าความเครียดมันแผ่มาจับที่ตัวผมจนรู้สึกดำมืดไปกับมันด้วย

“แอลแม่งกำลังมีปัญหา” น่านฟ้ามันก็ตอบกลับมาหาผมโดยไม่อึกอักสักนิด คงรอให้ผมถามอยู่

“เรื่องอะไรอ่ะ”

“เฮ้อออ” ไอ้น่านถอนหายใจดังยาวแล้วเอนตัวมาพิงผม เห็นมันอ้อนแบบนี้ก็อดปลอบใจมันด้วยการยกมือจากที่เช็ดสองดื้ออยู่มาขยี้หัวมันไม่ได้ “โก้มันรู้แล้วว่าแอลชอบมัน”

“แล้ว??” ผมคิดว่าพี่โก้น่าจะรู้นานแล้วด้วย

“แอลโทรมาเล่าให้กูฟังใหญ่เลยว่าโก้โวยวาย ตะโกนใส่หน้ามันว่ารับไม่ได้ ขยะแขยง รังเกียจมัน แอลแม่งร้องไห้ไม่หยุดเลย”

“ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่โก้จะเป็นคนแบบนั้น” ผมคิดแบบนี้จริงๆนะครับ ถึงพี่โก้จะเป็นคนเงียบๆไม่สามารถดูออกว่านิสัยภายในจริงๆแล้วเขาเป็นยังไง แต่ผมก็มั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนที่รับเรื่องรักใครแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งคำพูดตอนที่ผมได้ยินเมื่อคราวก่อนมันก็ยิ่งตอกย้ำว่าพี่โก้ไม่ใช่คนแบบนั้น

“กูก็ไม่เชื่อ...แต่ไอ้แอลมันก็คงไม่ได้โกหกกูหรอก ปกติมันไม่ค่อยร้องไห้เท่าไหร่ จะเสียใจมากหน่อยก็เรื่องไอ้โก้นี่แหละ” เสียงมันดูเศร้าๆจนผมเอียงคอมองหน้ามัน

“มึงสงสารพี่แอล”

“ก็แหงแหละเพื่อนกูนี่หว่า”

“แปลกๆนะ...สงสารเกินเพื่อนหรือเปล่า” ผมโยนหินถามทาง จริงๆไม่อยากทำแบบนี้ แต่ผมแค่อยากจะดูสีหน้าไอ้น่านและปฏิกิริยาจากมัน น่านฟ้าเป็นคนเดาไง จะพูดให้ถูกก็คือมันเป็นคนตรงๆ ลักษณะท่าทางของมันเหมือนหมาตัวใหญ่ที่รู้สึกยังไงก็จะแสดงออกมาแบบนั้น

“ตลกและ กูไม่เคยคิดกับมันเกินเพื่อนเลยเหอะ คนที่กูรักมีแค่มึงคนเดียวซน”

“ให้มันจริง”

“กูเคยโกหกมึงเหรอซน”

“ทุกครั้งอ่ะ”

“แต่ต่อไปจะไม่มีแล้ว” ผมเอียงคอหนีปากไอ้น่านที่กำลังไล่จูบที่กกหู

“แน่ใจแล้วเหรอที่พูดมาน่ะ”

“ไม่แน่”

“Kแล้วจะมาพูดห่าหอกอะไร” ผมผลักหัวไอ้น่านให้ออกไปไกลๆจากบ่า น่านฟ้าก็โยกเป็นตุ๊กตาล้มลุกก่อนจะเปลี่ยนจากพิงบ่ามานอนตักผมแทน “เกะกะจังวะมึงเนี่ย กูเช็ดตัวให้เงินกับทองอยู่ไหม”

“ตัวมันแห้งแล้วมั้ง ปล่อยๆมันไปเล่นได้แล้ว” ไอ้น่านไม่พูดเปล่ามันดึงผ้าเช็ดตัวสองดื้อออกจากมือผมแล้ววางไว้ข้างๆ ก่อนจะดึงมือผมมาจับไว้ข้างนึง ส่วนไอ้สองดื้อพอโดนปล่อยมันก็วิ่งหนีไปเลย

“ทำตัวเหมือนจะอ้อนเอาไรสักอย่าง”

“ฮ่า ฮ่า แสนรู้นะเรา”

“ตลกมากไหม??” ผมเอียงคอถาม ส่วนไอ้คนโดนถามก็หัวเราะไม่ตอบอะไรผม มันดึงมือไปจูบไปหอมหลายทีจนผมส่ายหัว อดไม่ได้ที่จะใช้มืออีกข้างดีดหน้าผากมัน

“วันนี้แอลมันชวนกูไปกินเหล้า คงอยากระบายเรื่องไอ้โก้น่ะ”

“ก็ไปดิ ไปดูพี่แกหน่อย ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นไงมั่ง” ผมพูดพลางสอดมือเข้าไปในเส้นผมน่านฟ้า ผมมันนุ่มดีเหมือนขนหมา ลูบไปนานๆจะรู้สึกเพลิน สบายมือ น่านฟ้าเองแม่งก็เหมือนจะรู้ตัวว่าผมคิดยังไง เพราะตัวมันก็เอียงหัวตามมือผมอย่างรู้งานเหมือนกัน

“ก็นั่นแหละครับพี่ซน ที่ผมบอกพี่เพราะผมจะเอาพี่ไปด้วย” ผมเบ้ปาก เดี๋ยวนี้ผมเบื่อการสังสรรค์ตอนกลางคืนเอามากๆ เพราะช่วง 3 เดือนที่ไอ้น่านกลับมาเป็นเหมือนช่วงเวลาที่ผมได้นอนเต็มอิ่ม ก่อนหน้านั้นทุกคนคงจะรู้ว่าผมไม่ค่อยได้นอน อาหารก็กินไม่ตรงเวลา ร่างกายแย่สุดๆทั้งกระเพาะ ไม่สบาย พึ่งจะมาดีขึ้นก็ช่วงหลังที่น่านฟ้ามาอยู่ด้วย ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่หรอกครับว่าที่ผมดีขึ้นเป็นเพราะมัน

“ขี้เกียจไปอ่ะ”

“ไปเหอะ ขากลับจะได้ขับรถให้กูด้วย อีกอย่าง...” น่านฟ้ากลืนคำพูดสุดท้ายลงคอ มันนิ่งไปจนผมเอะใจ พอเลิกคิ้วถามหมาตัวโตที่นอนอยู่ที่ตักมันก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบแทน “จูบหน่อยดิ”

อะไรของมันวะ จู่ๆนึกอยากจะจูบก็จูบ เมื่อกี้ก็พูดไม่จบเรื่องด้วยซ้ำ 

มือข้างหนี่งของไอ้น่านถูกสอดเข้ามาหลังคอแล้วโน้มกดหน้าผมลงมาจนชิดหน้ามัน ริมฝีปากคลอเคลียกันอยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะทำอย่างอื่นเพิ่มเติม“ซนครับ”

“อะไร”

“กูรักมึงนะ” หลังจากคำพูดนั้นจบ น่านฟ้าก็แนบริมฝีปากลงที่ปากผม ลิ้นร้อนที่ถูกส่งเข้ามมาสัมผัสกันและกันครั้งแล้วครั้งเล่า ความอ่อนหวาน อ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความไม่มั่นใจ จูบที่ดูไม่มั่นคงแต่ก็เรียกร้องอย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้ น่านฟ้าย้ำจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากผมอีกหลายครั้งกว่าจะปล่อยให้เป็นอิสระ มันยื่นมือมาเช็ดคราบน้ำลายที่ติดอยู่ที่ปากแล้วก็เกลี่ยมันอยู่แบบนั้นไม่ยอมปล่อย

“ทำท่าเหมือนจะอ้อนเอาไรสักอย่าง” ผมอดคิดไม่ได้ว่าน่านฟ้ามันต้องไปทำผิดอะไรไว้แล้วมาอ้อนไม่ให้ผมด่า

“ก็แนวๆนั้นแหละ....ซนกูยังมีอีกเรื่องนึงที่ยังไม่เคยบอกมึงเลย”

“เรื่อง”

“จริงๆมีสองเรื่องว่ะ”

“สรุปกี่เรื่องกันแน่”

“สองเรื่อง...แต่ว่าถ้ากูพูดออกไปมึงห้ามโกรธกูนะ” ผมขมวดคิ้ว ไม่อยากรับปากมันเท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องที่มันจะเล่าคือเรื่องอะไร “สัญญาสิ”

“ไม่รับปากว่ะ...ต้องดูเนื้อหาก่อน”

“โธ่ซนอ่ะ เค้าแค่อยากให้ตัวเองรับปากเค้าว่าจะไม่โกรธ นะนะ รับปากเค้าหน่อยสิ” เกลียดครับเวลาที่ไอ้น่านทำเสียงเล็กเสียงน้อยแบบนี้ มันคิดว่าตัวเองน่ารักนักรึไงวะ

“อย่ามาทำเสียงตอแหล ถ้าอยากเล่าก็พูดมา แต่ถ้าไม่อยากก็ไม่ต้องพูดเชี่ยอะไรทั้งนั้น”




>>>>>TBC<<<<<
มั่นใจว่าทุกคนคงเดาออก 55555555555555 แต่ทุกอย่างอยู่ที่ซนแล้วแหละ เนอะ
[/b]
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-06-2015 12:05:48
 :hao4:  สารภาพมาซะก่อนที่เราจะเอามีดจ่อคอหอยแอล

คนอ่านเริ่มหมั่นไส้แล้ว 555

 :pig4: 
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-06-2015 12:16:38
คนที่น่ารังเกียจที่สุดก็คือแอล   ไม่ผิดถ้าหากว่าจะเห็นแก่ตัวหรือสู้เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการแต่การกระทำทุกอย่างต้องมีขอบเขต
แอลไม่เลือกวิธี เพื่อน่านแอลทำทุกอย่างแม้แต่ใช้ความรักของคนอื่นเพื่อให้ได้มา  ใช้ความรู้สึกดีๆของโก้โดยใช้เซ็กส์เป็นตัวล่อ   ไม่นานหรอกแม้แต่ความรู้สึกดีๆจากโก้ก็ไม่น่าจะเหลือ   แอลไม่แคร์เลยด้วยซ้ำว่าโก้จะเจ็บยังไง เพื่อนคนอื่นจะมองโก้ยังไง

แอลหลอกทุกคน หลอกน่าน  แอลวางแผนเพื่อที่จะผูกมัดน่านไว้กับตัวเองด้วยความสงสาร   เราคิดว่าน่านไปดื่มกับแอลคืนนี้แอลก็จะจัดการทำให้น่านจูบหรือมีอะไรกับตัวเองเพื่อกันซนออกไป  ซนเองก็คงจะไม่ทนอีกแล้ว  เพื่อน่านแอลไม่ได้แคร์เลยว่าน่านจะเสียอะไรไป ว่าน่านจะไม่มีความสุข ว่าโก้จะต้องทนอะไรบ้างเพื่อแอล   แอลไม่สมควรจะเหลืออะไรในชีวิตเลยแม้แต่เพื่อนเพราะว่าแอลไม่ได้แคร์อะไรเลยจอกจากตัวเอง   เลวที่สุด  The Means do not justify the Ends. ค่ะ

ความลับ 2 อย่างของน่านคือการบอกน้องเอยกับการที่ตัวน่านไปมีอะไรกับแอลหรือเปล่า? ถึงได้ปล่อยแอลไม่ได้  โก้น่าจะพูดออกมาเลย  เพื่อที่แอลจะได้ไม่ต้องเลวไปมากกว่านี้   เพื่อความสุขของแอลคนเดียว คน 3 คนต้องทรมาณงั้นหรือ?  ถ้าหากว่าน่านหลวมตัวไปมีอะไรกับแอลแล้วเสียซนไปนะ   เจริญค่ะ ดีงามมาก  เปลี่ยนพระเอกเถอะ  คราวก่อนซนคิดว่าตัวเองผิด ใจโหยหาน่านมาตลอด แต่งวดนี้ไม่น่าจะเหมือนกันนะ  น่านได้โอกาสไปแล้วแต่ไม่รู้จักรักษาเอง
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 19-06-2015 12:38:05
อย่าบอกนะที่แอลชวนไปกินเหล้าเพื่อจะมอมน่าน?   :ling1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-06-2015 12:44:39
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-06-2015 12:57:51
เริ่มรู้สึกมวนท้องตั้งแต่ที่แอลโทรมาหาน่านแล้วล่ะค่ะ คือรู้สึกไม่ดีกับแอลสักนิดเลยจริงๆ น่ากลัวว่าครั้งนี้ที่โทรมาชวนน่านไปกินเหล้ามันจะไม่ได้หยุดอยู่แค่จูบเสียล่ะมั้ง ดีไม่ดีอาจจะถึงขั้นวางยาน่านขึ้นมาก็ได้ใครจะรู้ใช่ไหมคะ? ยิ่งแอลเองก็อยากจะครอบครองตัวน่านจนใจจะขาดรอนๆ อยู่แบบนั้นด้วยอีก เฮ้อ~ มันเป็นอะไรที่น่าระแวงสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ

แต่กับซนนี่สิคะ เราอยากให้น้องเลิกๆ กับน่านให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเสียแล้วล่ะค่ะ เพราะว่าน่านแย่กว่าที่คิดเอาไว้มากเกินไป ดูมั่วไปหมด ไม่แยกแยะเลยว่าอันไหนเพื่อน อันไหนคู่นอน (ซึ่งจะล้วงจะจับจะจูบตรงไหนก็ไม่ผิด) แต่กับเพื่อนน่านก็ควรที่จะมีขอบเขตของการกระทำต่อกันหน่อยไหมล่ะ? และสิ่งที่น่านทำแต่ละอย่างนี่เราว่าแย่กว่าที่ซนเคยทำลงไปเยอะเลย..

อีกอย่างค่ะ บางทีน่านก็ดูเหมือนคนไม่มีสมองเลยนะคะ ที่ว่าแอลพูดบอกอะไรมาก็เชื่อไปเสียหมดทุกอย่าง ทำเหมือนตัวเองไม่รู้จักโก้ ทำเหมือนกับว่าโก้เป็นคนอื่นเสียอย่างนั้นล่ะ บ้าหรือเปล่าคะเนี่ยถามหน่อยเถอะ? ฟังแต่แอลพูดบอกมาคนเดียวทุกครั้ง แล้วเคยมีบ้างสักครั้งไหมคะที่น่านจะใช้ใจช่วยสังเกตโก้บ้างสักนิดหน่อย เพราะต่อให้โก้หน้านิ่งเป็นกำแพงเมืองจีนแค่ไหนก็ตาม นัยน์ตาของโก้เวลาที่มองแอล ก็ต้องบอกความรู้สึกที่ต่างออกไปจากที่แอลพูดให้น่านฟังอยู่ดีนั่นล่ะค่ะ

อยู่ๆ ก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่ากลุ่มเพื่อนของน่านนี่คบกันแบบไหนกันแน่นะคะ เพราะดูเหมือนไม่มีสายสัมพันธ์อะไรเลย อย่างแอลที่มีปัญหา (ที่มโนเอาเอง) ก็จะวิ่งมาหาแต่น่าน (ไม่นับโก้ที่เป็นได้แค่ 'เครื่องมือ' นะคะ) และกับน่านที่ก็วิ่งไปหาก็แต่แอล คือสรุปคบกันอยู่สองคน? หรือยังไง?

ปล. ถึงซน..ถ้าซนฟังน่านพูดจนจบแล้วก็ถอยออกมาอยู่คนเดียวดีกว่านะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-06-2015 16:05:10
แอลจะทำไรอีกอะ. เฮ้อออ. ซนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-06-2015 18:21:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 20-06-2015 21:43:03
หยุดเถอะแอล หยุด
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ ตอนที่ 28 ความลับ [19-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 20-06-2015 23:15:56
แอลไมทำงี้ ไม่เอาไม่ทำ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 28 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 23-06-2015 17:25:58
Because of you ซน ตอนที่ 29 back to the start

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์น่านฟ้าดังขัดจังหวะเราทั้งคู่ มันเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดูชื่อก่อนจะกดรับ

“ว่าไงแอล” น่านฟ้ากรอกเสียงลงในโทรศัพท์พร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือผม มันยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้ก่อนจะพรมจูบลงที่ปลายนิ้วผม

“สกปรก” ผมด่ามัน “น้ำลายมึงอ่ะ” แล้วตีไปที่ปากไอ้น่านทีนึงก่อนจะยื่นมือไปเช็ดที่เสื้อไอ้คนที่กำลังนอนหัวเราะอยู่

“มึงใจเย็นๆ...” น่านฟ้าไม่ได้คุยกับผม แต่สีหน้าดูเครียดลงจากเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด “เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูคุยกับไอ้โก้ให้....ทำไมวะ...กูไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นคนแบบนั้น....โอเค....ให้กูไปหาเดี๋ยวนี้เลยเหรอ....เปล่าไม่มีอะไร....” น่านฟ้าหันมามองหน้าผมก่อนจะลุกขยับลุกขึ้นนั่งดีๆ

ผมเลิกคิ้วถามไอ้น่านประมาณว่ามีอะไร มันก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วจูบลงมาที่ปากผมเป็นคำตอบแทน

“อยู่กับซน...ไม่เป็นไร..ไอ้ซนมันเข้าใจ งั้นเดี๋ยวกูไปหามึงที่ห้องนะ...เลิกร้องได้แล้วเดี๋ยวกูรีบไป” น่านฟ้าวางโทรศัพท์พร้อมกับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่

“พี่แอลเป็นหนักเหรอวะ”

“อื้อ ร้องไม่หยุดเลย...มึงไปแต่งตัวใหม่ไปจะได้ออกไปกันเลย” น่านฟ้าลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งมือมาฉุดผมให้ลุกขึ้นตาม

“ไม่อยากไปเลยอ่ะ”

“ทำไมล่ะ...ไปด้วยกันเถอะนะ...” ผมยังเงียบอยู่ไม่อยากรับปากมันเลย “นะครับ”

แล้วดูมันดิบทจะอ้อนขออะไรสักอย่างก็ดูน่าสงสารจริงๆนั่นแหละ “เออ ก็ได้”

ผมรับปากมัน ทั้งๆที่ในใจรู้ดีว่าไม่อยากไปเลยสักนิด มันรู้สึกหวิวแปลกๆ ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนผมไหม แต่เวลาที่ผมรู้สึกไม่ดีแบบนี้ทีไรมักจะเกิดเรื่องไม่ดีทุกครั้ง

“ถ้างั้นก็ไปแต่งตัว” น่านฟ้าดันตัวผมให้เดินขึ้นไปบนห้อง ตอนที่กำลังเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมดันนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่มันบอกว่าจะเล่าอะไรสักอย่างให้ผมฟัง

“น่าน แล้วเรื่องที่มึงบอกว่าจะเล่าให้กูฟังล่ะ...”

“เอาไว้...”มันขมวดคิ้วทำหน้าเครียด ก่อนจะยื่นมือมาเกลี่ยแก้มผมอย่างเบามือ “กลับมาแล้วเดี๋ยวกูเล่าให้ฟังทีเดียวล่ะกัน”

“ทำไมวะ เล่าตอนนี้เลยดิ เรื่องมันยาวเหรอ”

“ก็ไม่ได้ยาวขนาดนั้น.. แต่รายละเอียดมันเยอะว่ะ เรื่องแบบนี้ถ้ารีบร้อนเล่ากูกลัวว่ามึงจะเข้าใจแบบผิดๆ ยิ่งเป็นพวกชอบคิดเองเออเองอยู่ด้วย”

“ตลกและไม่ใช่กูเหอะ” ผมผลักมือไอ้น่านออกจากหัวแล้วเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องนอน เสื้อผ้าผมจริงๆไม่จำต้องเปลี่ยนอะไรมากมายหรอกครับ แต่น่านฟ้ามันไม่ชอบให้ผมใส่เสื้อกล้ามออกไปข้างนอก ผมเองก็ไม่ชอบหรอกครับ แดดร้อนขนาดนี้

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ มันก็พาผมขับรถมาที่หอพี่แอล ก่อนมาที่หอ เราสองคนแวะส่งไอ้เงินกับไอ้ทองที่บ้านก่อน ตอนที่ม๊าเห็นลูกชายผมโดนตัดเกรียนแทบจะกรี๊ดด่าผมว่าทำไมทำกับเงินทองแบบนั้น แต่จะให้ทำไงอ่ะก็ขนยาวแบบที่ม๊าชอบมันดูไม่เข้ากับลูกชายผมเลยสักนิด

พวกเราแวะซื้อเครื่องดื่มของมึนเมากับของกินที่โลตัสก่อนจะไปหาพี่แอล ซื้อกันไปหลายอย่างมาก เลือกเพลินจนคิดว่าจะย้ายสัมมะโนครัวมาที่นี้ด้วยซ้ำ

“อีซน” เรียกแบบนี้มีคนเดียว

“ว่าไงหมวยมึงมาทำไรแถวนี้วะ แล้วใส่ชุดนักศึกษา??? ทำเพื่อใคร”

“มึงนี่มันกวนตีนนะคะอีดอกซน กูมาถ่ายรูปค่ะ ทำเรื่องขอย้ายวิทยาเขต” ผมทำหน้างงจนไอ้หมวยเบ้ปาก “มัวแต่อยู่กับผัวจนไม่รู้เรื่องรู้ราวของโลกเลยสินะคะอีดอก”

ผมเคยบอกไปแล้วใช่ไหมครับว่าหมวยเป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักมาก แต่คำพูดมันทำให้คำว่าน่ารักหายไปเกินครึ่ง แต่เห็นแบบนี้ดังมีผู้ชายเข้ามาจีบมันเยอะกว่าผู้หญิงเรียบร้อยปกติทั่วๆไปอีก

“อะไรของมึง” ผมเฉไฉเรื่องที่มันพูดออกมาเมื่อกี้

“คิดว่ากูโง่และไร้สมองเหมือนมึงเหรอซน เรื่องพี่น่านผัวมึงที่เป็นที่ต้องการของเหล่าชะนีดันกินกับมึงเนี่ย มึงคิดว่ากูดูไม่ออกคะ”

“มึงพูดเรื่องอะไร กูไม่เข้าใจ” ผมยังพยายามจะปิดความลับที่มันไม่ลับต่อไป แม้ว่าสายตาหมวยมันจะรับไม่ได้กับอาการปฏิเสธผมก็เถอะ

“โอ้ยยยย มึงยังจะไม่เข้าใจอะไรอีกคะอีซน เขาอิจฉามึงกันทั้งบางล่ะค่า ไม่เห็นต้องทำหน้าเขินอายปฏิเสธอะไรแบบนั้นก็ได้...แล้วนี่พี่น่านไปไหนวะ ปล่อยมึงมาเดินคนเดียวไม่มีปลอกคอแบบนี้ได้ไง”

“ไม่รู้มัน”

“นั่นไง ยอมรับแล้วล่ะสิว่าเป็นแฟนกับพี่น่าน” ผมว่าตอนแรกไอ้หมวยมันแค่ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของผมกับไอ้น่านแน่ๆ แต่ตอนนี้มันคงรู้แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ว่าผมกับไอ้น่านเป็นแฟนกันจริงๆ

“มึงเยอะและหมวย สรุปว่าเรื่องย้ายวิทยาเขตคืออะไรวะ” ผมเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ เบื่อจะพูดเรื่องที่ทำให้หน้าสูบฉีดถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติแต่ผมก็ยังรู้สึกอายอยู่ดีที่มีคนพูดว่าผมกับน่านฟ้าเป็นแฟนกัน
 
“จริงๆกูก็เพิ่งรู้เมื่อวานก่อน เขาบอกว่าวิทยาเขตชุมพรจะเปิดสาขาวิศวะ แล้วก็จะให้พวกเด็กปวส.ย้ายไปเรียนวิทยาเขตชุมพรตั้งแต่เทอมหน้า” ผมทำหน้าอึ้งๆเพราะผมเป็นเด็กที่มาจากปวส. “อย่าพึ่งทำหน้าตอแหลขนาดนั้นค่ะ เขาอนุโลมให้ว่าปีนี้เขาไม่บังคับให้ไปทุกคน แล้วแต่สมัครใจว่าใครจะไปบ้าง”

“แต่มึงไม่ได้เรียนปวส.เหมือนกูไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่ แต่จารย์เขาก็ไม่ได้จำกัดนี่ว่าเด็กสายปกติแบบกูไปเรียนไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กจากจังหวัดภาคใต้ไปนั่นแหละ” ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ไอ้หมวยพูด ผมไม่เคยรู้ว่ามันเป็นคนใต้

“มึงเป็นคนใต้”

“ใช่ค่ะ”

“จังหวัดไรวะ”

“เชียงใหม่ไง”

“ เชียงใหม่?? แม่งใต้ยังไงวะ”

“ใต้เชียงรายไงคะอีดอก อ่าวนั่น..พี่น่านนี่นา พี่น่านๆ ทางนี้ค่ะ ทางนี้” หมวยโบกไม่โบกมือตะโกนเรียกน่านฟ้าโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ที่ดูน่ารักของตัวเองสักนิด”สวัสดีค่ะพี่น่าน”

“อ่าครับ”

“มากับใครคะเนี่ย” มันจะแกล้งถามทำไมวะทั้งๆที่แม่งรู้อยู่เต็มอกว่าไอ้น่านมากับผม

“มากับแฟนครับ” ผมเหล่ตามองไอ้น่านทันทีที่มันพูดจบ มันยิ้มกวนตีนก่อนยักคิ้วส่งมาให้

“อุ้ยตายแล้ว แฟนพี่น่านคนไหนคะเนี่ย”

“ก็แถวๆนี้แหละครับ แต่ไม่อยากพูดมากเพราะแฟนพี่มันเป็นคนขี้อาย” พอได้ยินคำว่าอายเท่านั้นและ ไอ้หมวยมันทำหน้ารับไม่ได้ทันที

“ขี้อาย?? พี่น่านแน่ใจนะว่ามันขี้อายจริงๆ มันหลอกพี่หรือเปล่า น้ำหน้าอย่างอีซนอายเป็นด้วยเหรอพี่”

“หมวย” นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นผู้หญิง ผมคงด่าไปแล้ว

“โอเค พอหอมปากหอมคอก็ได้ค่ะอีซน แกล้งนิดแกล้งหน่อยทำขึ้นเสียงใส่ เชอ ไปดีกว่าเบื่อคนมีความสุข” หมวยยกมือไหว้ไอ้น่านอีกทีก่อนจะหันมายกมือบ๊ายบายผม

“มึงกวนตีน”

“เปล่ากวน หมวยมันรู้อยู่แล้วว่ามึงกับกูเป็นไรกัน” ก็เพราะไอ้ท่าทางแสดงออกแบบนอกหน้าที่มึงกำลังทำอยู่นี่ไง เขาถึงรู้กันทั่วไปหมด

“เออช่างแม่งเหอะ ซื้อของหมดแล้วก็รีบไปกันได้แล้ว ป่านนี้พี่แอลคงรอแย่” ผมเดินไปเข็นรถนำหน้ามันไปที่เคาเตอร์จ่ายตังค์ ก่อนจะพากันขับรถมาหาพี่แอลที่หอ ไอ้น่านบ่นใหญ่โตเรื่องหอผมที่ไม่มีที่จอดรถและห้องแคบ จะให้ไปห้องใหญ่และมีที่จอดรถเหมือนหอพี่แอลได้ไง ก็หอที่พี่แกเช่าอยู่มันเป็นคอนโดราคาเป็นหมื่น ส่วนหอผมมันเป็นหอพักนักศึกษาที่คนปกติทั่วไปเขาอยู่กัน



เสียงเคาะประตูของน่านฟ้าทำให้คนที่อยู่ภายในห้องตะโกนกลับมาว่าให้รอแป๊บนึง ผมยืนพิงพนังข้างๆประตูรอพี่แอลมาเปิด ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงประตูก็ไม่วายยื่นมือมาเล่นหัวผม

“ทำไมชอบเล่นหัวกูจังวะ”

“มึงเองก็ชอบเล่นหัวกูเหมือนกันเถอะ กูรู้นะว่ามึงคิดว่าหัวกูเหมือนขนหมา” แม่งแสนรู้จริงๆ


แกร๊ก

“น่าน....ฮึก...” พี่แอลเปิดประตูออกมาพร้อมกับเสียงร้องไห้ ผมจะไม่แปลกใจเลยสักนิดหากพี่แอลไม่โผเข้ากอดไอ้น่านเต็มแรงแบบนั้น ผมหันไปมองเขาสองคนแบบงงๆ แต่ไอ้น่านก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าการบอกว่าไม่เป็นไร

ผมเข้าใจอยู่ว่าเขาสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันและการกอดเพื่อปลอบแบบนี้ไม่ใช่ลักษณะที่ผู้ชายเขาทำกันก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น

“ซน....มาด้วยเหรอ” แล้วทำไมพี่แกต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยวะ กะอีแค่ผมมาด้วย

“ครับพี่...” ผมพูดตอบกลับไปพร้อมยกมือไหว้พี่เขา ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหม แต่สายตาที่แอลส่งมาให้มันมีแว่บนึงที่เขาไม่ค่อยพอใจในตัวผมเท่าไหร่ แต่มันก็แค่แว่บเดียว

พอเดินเข้ามาในห้อง น่านฟ้าก็เข้าไปตรงโซนครัวหยิบกระติกน้ำแข็งมาใส่น้ำแข็งก่อนจะเดินไปหยิบแก้ว พี่แอลเดินเข้าไปช่วยทั้งๆที่หน้าตาไม่ได้ดูโอเคนัก ส่วนผมได้แต่ยืนเงอๆงะๆเหมือนเป็นส่วนเกินของห้อง

“พี่แอลมีอะไรให้ผมช่วยไหมพี่”

“ไม่ต้องๆ...ซนนั่งดูโทรทัศน์ไปก่อนก็ได้เดี๋ยวพี่กับน่านเตรียมของกินไปให้” ในเมื่อเขาไม่อยากได้ความช่วยเหลือ ผมเองก็ไม่ใช่พวกขัดศรัทธาคนอื่นด้วยสิ เลยขยับนั่งลงบนโซฟาก่อนจะเปิดโทรทัศน์ดูไปเรื่อยเปื่อย รู้ตัวอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังมาจากทางห้องครัว พี่แอลกำลังยิ้มทั้งๆที่ตาบวมเพราะน้ำตา คนอย่างไอ้น่านใครได้อยู่ใกล้ก็คงมีความสุขกันหมด

“แล้วพวกไอ้ป็อบไอ้บาสล่ะ” น่านฟ้าถามขึ้นตอนที่มันเอาของกินมาวางไว้ตรงโต๊ะกลางห้อง

“พวกมันไม่มา แม่งไม่ห่วงกูเลยสักคน...ทั้งๆที่กูอกหักแท้ๆ” สีหน้าพี่แอลดูเศร้าจนปิดไม่มิด ยิ่งผสมกับการถูกซ้ำเติมจากเพื่อนที่ไม่สนใจอีกสองคนพี่แอลคงจะรู้สึกแย่ไม่มากก็น้อย

“ที่นั่งมีตั้งกว้างมึงจะมาเบียดกูทำไมวะ” ผมละสายตาจากพี่แอลมาด่าไอ้คนตัวใหญ่ที่กำลังนั่งเบียดผมอยู่“น่านฟ้า”

“ขอพิงหน่อย”

“อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าพิงแล้ว เขาเรียกว่าเบียด...ฮึ้ยยยย” น่าหมั่นไส้ ผมส่ายหัวแล้วเอื้อมมือไปขยี้หัวมันเต็มแรง น่านหัวเราะเบาๆพร้อมกับวางคางไว้บนบ่า ลมหายใจร้อนผ่าวประทะที่แก้มจนผมอดไม่ได้ที่จะเอียงแก้มหนี “หนีไมครับ”

“พี่แอลอยู่”

“อายไร เพื่อนกัน”

“มึงมันโรคจิต...เอามือถือมึงมาหน่อยจะเล่นเกมส์” ไอ้น่านเพิ่งซื้อไอโฟนหกสีทองมาใหม่ เวลาเล่นเกมส์แล้วมันส์มือมากครับ ผมโหลดคุกกี้รันมาเล่นโดยใช้ชื่อน่านฟ้าเป็นคนล็อคอินซึ่งตัวคุกกี้ในมือถือมันดีกว่าของผม

“น่าน!!!! มาช่วยกูยกเหล้าหน่อยดิ” พี่แอลดึงความสนใจจากน่านฟ้าไปที่ตัวเอง ได้ยินเสียงไอ้น่านถอนหายใจนิดๆแต่ก็ยอมเดินไปช่วยยกของมาวางไว้ที่โต๊ะกลางห้อง

หลังจากที่ช่วยกันเตรียมกับแก้มมาพักใหญ่ ผม น่านฟ้า แล้วก็พี่แอล ก็ได้เวลากินเหล้าเคล้ากับแก้มกันสักที ส่วนใหญ่ไอ้น่านจะเป็นคนชงเหล้า มันไม่ได้กินเยอะเพราะว่าต้องขับรถ พี่แอลกวนประสาทผมใหญ่ว่าทำไมผมไม่ขับเอง ทั้งๆที่ผมก็บอกไปแล้วว่าเดี๋ยวขับให้ แต่น่านฟ้ามันปฏิเสธ สุดท้าย คนที่กินจริงๆจังๆก็คงมีแต่ผมกับพี่แอล ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนบอกไอ้น่านเองว่าไม่อยากกินเหล้า

“กูเสียใจว่ะ..กู...ฮึก...ไม่น่าสารภาพกับมันเลยว่ากูชอบมัน”

“มึงก็ใจเย็นก่อนเถอะแอล โก้มันไม่น่าเป็นคนแบบนั้น เอาไว้เดี๋ยวกูคุยกับมันให้” ผมพยักหน้าเห็นด้วย เพราะผมไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าคนอย่างพี่โก้จะนิสัยแย่ถึงขนาดนี้

“มึงไม่ต้องคุยกับมันเรื่องกูหรอกน่าน พูดไปมันก็ยิ่งจะเกลียดกูมากขึ้น...ฮึก...มึงเชื่อไหมไอ้โก้..มันตบกูด้วย มันด่ากู ว่ากูมันน่ารังเกียจ...น่าขยะแขยง...ฮึก” ถ้าผมเป็นพี่แอล ผมคิดไม่ออกเลยว่าผมจะรู้สึกยังไง

ในชีวิตผมผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่างเพื่อนๆผมที่มันแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเอง เขาไม่เคยพูดจาด่าว่าเพื่อนอีกคน เขาอาจจะแค่พูดออกมาว่าไม่ได้ชอบแบบนั้นแต่ก็ไม่เคยมีใครสักคนที่แสดงท่าทีขยะแขยงและรับไม่ได้แบบนี้ ผมมองว่าถ้าเราเป็นเพื่อนกันแล้ว เราไม่น่าจะเกลียดกันด้วยเรื่องแค่นี้ ยิ่งเป็นเพื่อนกันมาหลายปีด้วย มันยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่

“แอล..ไม่ต้องเสียใจหรอกวะ คนอย่างมึงหาได้ดีๆกว่าไอ้โก้เยอะ”

“กูรู้...เออว่าแต่มึงมีบุหรี่สักตัวไหมวะ ของกูหมดพอดี”

“กูไม่ได้เอามาว่ะ เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าช่วงนี้กูจะลดๆ ไอ้ซนมันไม่ชอบกลิ่น” ผมเอียงคอหันไปมองหน้าน่านฟ้า เพราะผมเองก็เพิ่งจะรู้เนี่ยแหละว่ามันลดบุหรี่ ถึงว่าไม่ค่อยได้กลิ่นบุหรี่จากตัวมันเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ผมเคยบ่นมันเรื่อยๆว่าไม่ชอบกลิ่น ยิ่งมันสูบเสร็จแล้วมาจูบผม ผมยิ่งไม่ชอบ แต่ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะลดให้ผมได้จริงๆ “กูน่ารักใช่ไหมล่ะ”

ยังไม่ได้พูดอะไรน่านฟ้าก็หันมายิ้มตาหยีใส่ผมและ

“เหอะน่ารักตาย” ผมยิ้มตามมันพร้อมกับยกมือขึ้นเกาคางไอ้น่านเบาๆ มันเองก็เองคอตามราวกับอ้อนผม

“น่าน!!! กูบอกว่ากูอยากดูดบุหรี่ไง” ผมกับน่านฟ้าเลิกสนใจกันและกันแล้วหันไปมองพี่แอลที่กำลังมองเราอยู่ “มึงไปซื้อให้กูได้หรือเปล่าน่าน”

“อะไรวะ...” น่านฟ้าขมวดคิ้วไม่พอใจหน่อยๆแต่ก็เป็นผมที่ดึงเสื้อมันไว้ก่อน

“ไปเถอะ กูฝากซื้อไอติมด้วย”

“เอารสอะไรอ่ะ” น่านฟ้าเลิกสนใจพี่แอลแล้วหันมามองหน้าผมแทน

“อยากกินคอนเนตโต้ รสช็อคโกแลต ถ้าไม่มีเอาช็อคชิบ หรือ สตรอเบอรี่ก็ได้”

“โอเคได้” มันพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบโทรศัพท์ผม เวลาที่ผมกำลังเล่นโทรศัพท์มันอยู่น่านฟ้ามันจะรู้อัตโนมัติว่าโทรศัพท์ผมที่ว่างอยู่มันสามารถเอาไปใช้ได้ “มึงเอาบุหรี่ยี่ห้อเดิมใช่ไหมแอล”

“อื้ม”

“โอเคงั้นเดี๋ยวกูมา” ไอ้น่านพูดพร้อมกับขยี้หัวผมก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมกับพี่แอลต่างคนก็ต่างมองมันจนปิดประตู รู้ตัวอีกทีสายตาเราทั้งคู่ก็หันมาสบกันแล้ว พี่แอลถอนหายใจออกมาก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า ผมไม่ได้พูดอะไรนอกจากก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ในมือ โดยปกติผมกับพี่แอลก็ไม่ได้สนิทกันขนาดหรอกครับ ยิ่งช่วงหลังจากที่ผมกลับมาเป็นแฟนน่านฟ้าคราวนี้ดูเหมือนอะไรๆก็แปลกๆไปหมด ตอนที่ไปหนองคายพี่เขายังไม่ทำสีหน้าไม่พอใจใส่ผมมากเท่านี้มาก่อนด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร และผมเองก็ไม่อยากกวนใจเขามากไปกว่านี้ด้วย

“ซน...” จนเป็นเขาเองที่เรียกผม

“ครับ???” ผมขานรับพร้อมกับเงยหน้ามองพี่แอล
 
“อยู่กับไอ้น่านแล้วเป็นไงมั่งวะ”

“ก็ดีนะครับ มันเอาใจเก่ง แต่ก็ขี้บังคับปกตินิสัยมันนั่นแหละ”

“หึ มันก็เป็นคนแบบนี้” พี่แอลเงียบอีกครั้ง เขารินเหล้าลงแก้วแล้วตามด้วยโซดาก่อนจะใช้ที่คีบน้ำแข็งแกว่งเบาๆให้เหล้าผสมกัน

“ว่าแต่...น่านมันเคยเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับกูให้มึงฟังไหมซน” ผมเงียบเพราะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่พี่แอลพูดหมายถึงอะไร “มันเคยบอกมึงไหมว่ามันปิดบังอะไรมึงไว้บ้าง”

“พี่กำลังจะพูดถึงอะไรพี่แอล”

“เปล๊า กูก็แค่ถามดูว่าน่านฟ้ามันเคยบอกมึงไหมว่ามันเป็นคนปล่อยรูปมึงให้น้องเอยดู” น่านฟ้าไม่เคยบอกแต่เรื่องนี้ผมรู้เอง น้องเอยเป็นคนพูดออกมาเอง

“เรื่องนี้ผมรู้...”

“งั้นเหรอ...”พี่แอลเงียบไปนิดนึงก่อนจะช้อนตาขึ้นมองหน้าผม “แต่มันคงไม่เคยพูดสินะ...”

“.......”

“ว่ากูกับมันเคยมีอะไรกัน” สิ่งที่ผมได้ยินตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่พี่แอลพูดออกมามันไม่ได้มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ผมไม่อยากแสดงให้เขารู้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกแย่แค่ไหน ไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในอกผม

“..........”

“กูไม่ได้อยากจะเล่าเรื่องนี้ให้มึงฟังหรอกนะซน....” พี่แอลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง ดวงตาแดงกร่ำจ้องมองไปที่อื่น...แล้วหันกลับมามองหน้าผมอีกรอบ “แต่กูทนไม่ไหวแล้วจริงๆ”

“.........”

“มึงรู้ไหมซนจริงแล้วกูไม่ได้ชอบโก้...คนที่กูชอบมาตลอดคือไอ้น่าน...ไม่สิ...ต้องพูดว่าจริงๆแล้วกูกับน่านเรารักกันมาก่อนที่มึงจะเข้ามาด้วยซ้ำ...แต่พอมึงเข้ามามันก็ทิ้งกู...มันโผเข้าไปหามึงโดยไม่ลังเลด้วยซ้ำ...และมันเป็นคนวางแผนให้กูดึงไอ้โก้เข้ามาเพื่อหลอกมึง ให้มึงคิดว่ากูชอบโก้”

“ผมไม่เข้าใจ...” ผมแค่รู้สึกว่ามันขัดแย้งกันเพราะทั้งพี่ป็อบ พี่บาสเขาเองก็เข้าใจไปในทางเดียวกับผม น่านฟ้าเองก็ไม่น่าจะใช่คนร้ายกาจขนาดที่ยอมทิ้งคนที่รักมาหาผมคนที่เข้ามาใหม่แบบนี้แน่ๆ

“มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอซน น่านมันเป็นคนเจ้าแผนการ ในเมื่อมันอยากได้อะไร มันก็ต้องได้ แล้วสิ่งที่มันทำคือเขี่ยกูออกให้พ้นทาง มันให้กูหลอกใช้โก้...กู..ไม่ได้อยากทำแบบนี้ซน..โก้มันเป็นเพื่อน แต่มันผิดตรงที่มันมารักกู ส่วนมึงก็เป็นคนที่น่านต้องการ...มันไม่อยากให้มึงรู้เรื่องของกูกับมัน...สุดท้ายมันก็เลยให้กูทำแบบนี้” ผมเงียบเพราะสิ่งที่รับรู้มามันกำลังตีกันไปหมด ผมรู้ว่าน่านมันเป็นคนแบบไหน ผมรู้ว่าคนแบบมันยอมทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง แล้วผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะทำแบบนี้

“แล้วทำไมพี่ถึงมาบอกผมตอนนี้”  ทำไมพี่เขาไม่บอกผมตั้งแต่ทีแรก เขาน่าจะบอกผมตั้งแต่ก่อนที่ผมกับมันจะมีความสัมพันธ์ที่ลงลึกขนาดนี้

“กูเคยบอกมึงไปแล้ว ก่อนหน้านี้ไง บอกไปแล้วว่ากูชอบน่าน...มึงคงคิดว่าสิ่งที่กูพูดตอนนั้นมันเป็นละคร แต่สิ่งที่กูพูดตอนนั้นกูพูดความจริงซน แต่มึงก็ยังกลับมา...มึงกลับมาทำไมวะ...กลับมาเพื่อมาแยกกูกับไอ้น่านอีกครั้งงั้นเหรอ....ฮึก...ซน...ฮึก...ปล่อยน่านกลับมาหากูเถอะนะ...ให้มันกลับมาหากู...ถือว่าสงสารกูเถอนะซน...ฮึก...ฮือ...กู...ไม่ไหวแล้วจริงๆ”



จู่ๆคำพูดไอ้น่านก็ดังขึ้นมาในหัว คำพูดที่มันเคยบอกว่ายังมีเรื่องบางเรื่องที่มันไม่ได้เล่าให้ผมฟัง ผมคิดว่าบางทีเรื่องที่น่านฟ้าจะเล่าอาจจะเป็นเรื่องนี้ก็ได้





แกร๊ก

“ซนคอนเนตโต้รสช็อคโกแลตไม่มีว่ะ กูเลยซื้อช็อค...ชิบ...มา...มีอะไรกันหรือเปล่า มึงร้องไห้อีกแล้วเหรอแอล” จู่ๆไอ้น่านก็โผล่พรวดเข้ามาในห้อง ผมกับพี่แอลเรายังคุยกันไม่จบ แต่ผมเองก็ไม่ไหว ไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว


“กู..กลับแล้วนะ”


“อ่าว...อะไรวะ” ผมเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องมาโดยไม่หันไปลาพี่แอลสักคำ ได้ยินเสียงไอ้น่านวิ่งตามมาจนถึงหน้าลิฟท์ “ซน”


“อื้ม”


“มึงเป็นอะไร....จู่ๆก็วิ่งออกมา”


“เปล่า แค่อยากกลับหอน่ะ...” ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้น่าน พยายามอย่างมากที่จะยิ้มออกมาให้กว้างที่สุด


“อ่าว ไม่กลับไปนอนบ้านเหรอ พรุ่งนี้วันอาทิตย์” ผมส่ายหน้าให้มันเป็นคำตอบ


“ไม่สบายหรือเปล่า...”


“เปล่า...”


“หรือว่าไม่ได้กินเหล้านาน มึงปวดหัวใช่ไหม”


“น่าน..”


“ห้ะ”


“เรา...เลิกกันดีไหม”



>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<
น้องซนโดนพี่แอลทำพิษอีกแล้ว ประเด็นคือน้องจะฟังความจริงจากพี่น่านไหม (ดราม่าเอยจงซับซ้อน)
ติดตามชม(ดราม่า)กันต่อไป (ควรจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเอาคำว่า drama ไว้ข้างหน้าดีไหม)
ปล.ขอบคุณสำหรับคำผิดนะคะ




หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 28 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 23-06-2015 17:32:26
ซน ทำไมไม่พูดคุยกันก่อนละเป็นนางเอกเกินไปป่าว! และแอล ทำงี้ไม่สงสารคนที่รอข้างหลังเหรอและอยากให้คนที่รักตายทั้งเป็นเหรอทำงี้อ่ะ เเต่เราว่าน่านจะเกลียดแอลมากกว่าที่จะอยู่กับแอลแบบคนรักมากกว่านะ   :ling2:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 28 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-06-2015 17:37:20
อีแอลเลวมากกกก. อีตอแหลลลลลล
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 28 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 23-06-2015 17:45:26
ทำไมแอลนิสัยแย่ขนาดนี้อ่ะ เพื่อตัวเองจะได้น่าน ทั้งหลอกคนอื่น
ทั้งหลอกใช้โก้ นิสัยแย่อ่ะ แต่ซนดูท่าจะไม่โง่เหมือนน่านนะ เพราะรู้สึกว่า
ยังรู้จักคิดถึงความเป็นจริง.   อยากให้ทุกคนรู้ความจริงอ่ะ. คนแบบแอลไม่สมควรได้ใครเลยนะ
ขอบอก ต่อไวๆนะคะ รอเสมอ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 29 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Lovelyjess ที่ 23-06-2015 18:12:39
เป็นเคะต้องหูเบา ไม่งั้นเรื่องจะไปต่อไม่ได้ถ้าไม่มีอุปสรรค
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 29 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 23-06-2015 20:44:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 29 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-06-2015 20:47:45
 :katai1:   
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ [drama] ตอนที่ 29 [23-06-15:P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-06-2015 19:12:56
เรื่องที่แอลบอกว่ามีอะไรกับน่านไปแล้วนี่เป็นความจริงหรือแค่ตอ..กันแน่คะ? ที่เราจำได้คือแค่ 'จูบ' กันเองไม่ใช่เหรอคะ หรือว่าเราเข้าใจผิดไปเองกันแน่เนี่ย :ling1: ไม่ไหวจะเคลียร์กับแอลแล้วค่ะ ด้านเหลือเกิน~ คนแบบนี้ไม่สมควรเหลือใครสักคนเลยจริงๆ น่าโมโหสุดๆ เลยค่ะ

ส่วนซน..เลิกๆ ไปเลยก็ดีนะคะ กับคนที่กับเพื่อนก็ไม่เว้นแบบนี้คบกันต่อไปก็จะมีแต่ระแวงกันเปล่าๆ นั่นล่ะค่ะ เพราะถึงยังไง 'ยุ่ง' กันเสร็จปุ๊บ สถานะก็ยังเป็น 'เพื่อน' ที่เฮไหนเฮนั่นเหมือนเดิม ต่างกันกับ 'คู่นอน' ที่เสร็จสมอารมณ์หมายก็ทางใครทางมัน และต่อให้น่านฟ้าจะดึงชนักที่หลังของตัวเองออกแล้วยังไงก็ตามแต่ ตัวของซนก็ยังจะรู้สึกจี๊ดๆ ที่ใจ เหมือนกับมีหนามแหลมๆ คอยทิ่มแทงตลอดเวลาอยู่ดี เพราะฉะนั้น 'เลิกเถอะค่ะ' เพื่อตัวของซนเอง..
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 28-06-2015 10:37:20
Because of you ซน ตอนที่ 30 until we meet again
 
Special by น่านฟ้า
 
ผมไม่เลิก ต่อให้ใครว่ายังไงผมก็ไม่เลิก ผมไม่รู้ว่าซนไปฟังอะไรมา ไม่รู้ว่าในห้องนั้นซนกับแอลมันพูดอะไรกัน แต่ต่อให้มันร้ายแรงแค่ไหนผมก็ไม่มีทางเลิกกับคนตรงหน้า
 
ไม่มีวัน
 
“ขอบใจนะที่มาส่ง” มันเป็นประโยคแรกที่ซนพูดกับผมหลังจากที่เขาพูดกับผมว่า เราเลิกกันดีไหม แน่นอนหลังจากที่ได้ยินซนพูดผมปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดทบทวนมันด้วยซ้ำ พอผมปฏิเสธเขาไปซนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกจนถึงเมื่อกี้ ผมจับมือเขามาตลอดทาง ส่วนเจ้าตัวมันก็หลับตาใส่หูฟังปิดกั้นบทสนทนาจากผมแล้วจมอยู่กับความคิดตัวเองตลอดทางเหมือนกัน
 
“เดี๋ยวกูเอารถไปเก็บที่บ้านแล้วยังไงจะขับมอไซค์มา คงไม่เกินชั่วโมงมั้ง มึงอยากกินอะไรไหมซน” ผมยกมืออีกข้างขึ้นลูบหัวเขา ไม่สนใจประโยคที่ออกปากไล่แบบนั้น ซนเงยหน้ามองผมเม้มปากแน่นจนเป็นขีด
 
“...น่าน..กูบอกแล้วไงว่า...”
 
“ไม่เลิกหรอกนะ...ยังไงก็ไม่เลิก”
 
“แต่กู...ไม่ไหวแล้วว่ะ...กูไม่อยากอยู่กับคำโกหกที่มึงสร้างขึ้นมาทับถมเรื่องจริง กูไม่เอาแล้วได้ไหม” ผมเบนสายตาหนีดวงตาแดงกร่ำของคนตรงหน้า ก่อนจะหันกลับมามองเขาอีกครั้ง
 
“กูขอเหตุผลสักข้อที่มึงขอเลิกหน่อยสิ...”
 
“น่าน....” ซนหันมามองผมด้วยสายตาสับสน เขาขบฟันขาวลงบนริมฝีปากแน่น

“ถ้าซนไม่มีเหตุผล น่านก็ไม่เลิกหรอกนะ” ซนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมพูดเพราะกับเขาคือผมกำลังเข้าโหมดจริงจัง 

สุดท้ายความเงียบเลยกลายเป็นเสียงที่น่าอึดอัดที่ ซนไม่พูด ผมเองก็ไม่คิดจะเปิดปากพูดออกมาก่อน ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาได้ยินมามันคืออะไร แต่ความเครียดที่แผ่ออร่าออกมาจากตัวซนมันทำให้ผมรับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก
 
“พี่แอล...เขา...เล่าให้กูฟังว่ามึงเป็นคนบอกน้องเอยเรื่องรูปของกูกับมึง” ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมยอมรับว่าผมผิด ผมใช้ความสัมพันธ์ของตัวเองทำร้ายความรักของคนคู่หนึ่ง แต่เรื่องนี้ผมเคยบอกไอ้แอลไปแล้วว่าผมจะเป็นคนเล่าให้ซนฟังเอง แล้วทำไมจู่ๆมันถึงปากมากมาเล่าให้ซนฟังก่อน
 
“ขอโทษ...” นอกจากคำนี้ผมก็ไม่รู้จะพูดคำไหนอีก
 
“เชื่อไหมน่าน เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่กูรู้มานานแล้ว...กูน่ะแค่รอ...รอให้มึงเป็นคนเล่าให้กูฟัง” น้ำเสียงซนดูผิดหวังเต็มที ผมรู้ว่าซนคงจะเสียใจที่มันไม่ได้รู้จากปากผม “แต่สิ่งหนึ่งที่กูอยากรู้ที่สุดตอนนี้ คือเรื่องของมึงกับพี่แอล กูอยากรู้น่าน อยากรู้ว่ามึงโกหกกูทำไม ทำไม..ฮึก...ไม่บอกความจริงกับกู...แล้วทำไมมึงถึงทำร้ายพี่เขาขนาดนั้นด้วย...มึงมันใจร้ายน่าน...ฮึก...ทำไมถึงใจร้ายแบบนี้...”
 
“ทำร้าย??? เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนซน...” ผมช้อนคางให้ซนเงยหน้าขึ้นมองผม น้ำตาเขาที่ตอนแรกพยายามกั้นเอาไว้ ตอนนี้กลับไหลบ่าออกมาไม่เป็นท่า “เรื่องกูทำร้ายแอล...กูทำอะไรวะ กูไม่เคยทำร้ายมันนะซน มันเป็นเพื่อนกู ทำไมกูต้องทำร้ายมันด้วย”
 
“มึงยังมีหน้ามาโกหกกูอีกเหรอน่าน” ซนเหวี่ยงมือใส่จนเล็บเขาขูดที่หน้าผม
 
“ซน...ซนครับ” ผมรวบมือเขาไว้ทั้งสองข้าง กอดซนแน่นไม่ยอมให้เขาดิ้นหลุดจะอ้อมกอด จนสุดท้ายเป็นซนที่ยอมอยู่เฉยๆ แต่เสียงร้องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “มันเรื่องอะไรกันแน่ครับซน...แอลพูดอะไรให้ซนฟัง”
 
“ฮึก...มึงกับพี่เขาเคยรักกันมาก่อน...”
 
“ไม่ใช่..”
 
“มึงรักกันมาก่อนที่จะเจอกู..”
 
“ไม่ใช่ซน..กูกับแอลไม่เคยรักกัน...แม้แต่มีอะไรกันก็ยังไม่เคยด้วยซ้ำ มากสุดที่ทำกันก็แค่จูบ...แล้วเป็นจูบที่เกิดขึ้นในช่วงที่เราสองคนห่างกันช่วงนั้นด้วย... เป็นจูบที่เกิดขึ้นจากความเมาผสมความคิดถึงมึง รู้ตัวอีกทีก็จูบมันแล้ว เรื่องนี้กูยอมรับว่ากูผิด แต่กูกับแอลจูบกันนับรวมกันไม่เกิน 3 ครั้งแน่ๆ...ไม่เคยรักกันหรือแม้แต่เคยมีอะไรกันอย่างที่มึงเข้าใจเลยสักนิด.” ซนเงยหน้าขึ้นมองผม สายตาเขากึ่งๆจะไม่มั่นใจเสียด้วยซ้ำ
 
“โกหก”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่สุดซน...มันเป็นเรื่องจริง”

“มึงแน่ใจเหรอน่าน...ที่มึงพูดออกมามันมีแค่นั้นจริงๆ”
 
“แค่นี้ดิว่ะ มันจะมีมากกว่านี้ได้ยังไง” ซนขมวดคิ้วมองหน้าผมปากพึมพำพูดกับตัวเองว่าอะไรสักอย่าง เขาเหมือนคนที่กำลังใช้ความคิด “มีอะไรหรือเปล่าซน”
 
“กู...เชื่อใจมึงได้ไหมน่าน”
 
“ได้ดิวะ...นี่เป็น 2 เรื่องสุดท้ายที่กูปิดบังมึง..” ซนเงียบอีกครั้ง เขาก้มมองโทรศัพท์ผมในมือตัวเอง แล้วเงียบเสียงอยู่นาน ไม่พูดอะไรออกมามากไปกว่าการแสดงสีหน้าครุ่นคิด ท้ายที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นมองผม
 
“ตอนแรกกูโกรธมึงมากรู้ไหมน่าน โกรธที่มึงโกหกกู โกรธที่มึงปิดบังเรื่องสำคัญขนาดนั้นกับกู..แต่เมื่อกี้พอมานั่งคิดๆดู มันมีบางอย่างที่มันขัดแย้งกันอยู่...ทั้งพฤติกรรมมึง พี่บาส หรือพี่ป็อบ รวมทั้งคำพูดของพี่โก้ด้วย..เพราะงั้นเรื่องที่มึงกับพี่แอลเคยรักกันมันถึงตกไปเพราะมีพยานแวดล้อม..”
 
“หมายความว่าไง”
 
“กูไม่ได้คิดจะทำร้ายพี่แอลแบบนี้หรอกนะ ไม่อยากให้มึงโกรธพี่เขาด้วย...และกูก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะพลิกแบบนี้ แต่ตอนนั้นกูคิดแค่ว่าถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆกูควรจะมีหลักฐานไว้แก้ต่างตัวเอง” ผมมองหน้าเขา ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ซนต้องการจะสื่อคืออะไร “ถ้าเราต้องเลิกกันจริงๆ กูจะได้มีหลักฐานที่มึงดิ้นไม่หลุดไง”
 


ซนพูดจบก็เปิดเล่นคลิปเสียงที่มันอัดไว้


 
‘แต่มันคงไม่เคยพูดสินะ...ว่ากูกับมันเคยมีอะไรกัน’ พอฟังเสียงจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนพูดประโยคบางประโยคออกมามันทำให้ผมจับมือซนแน่นมากกว่าเดิม ผมส่ายหน้าบอกคนตรงหน้าว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
 
“กูบอกแล้วไง...ว่ากูเชื่อมึง” แล้วหลังจากประโยคนั้นก็เป็นแอลที่เริ่มพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แอลมันพูดถึงความสัมพันธ์ของผมกับเขา พูดว่าผมกับมันเคยรักกันก่อนที่ซนจะเข้ามา ผมรับฟังสิ่งที่ได้ยินจากปากเพื่อนสนิท ผมไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะพูดแบบนั้น “พี่เขาชอบมึง...”
 
“แต่กูไม่ได้ชอบมันและกูกับมันก็ไม่เคยเป็นอย่างที่มันพูด” ถ้าผมไม่ได้ยินกับหู ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดจะเป็นคนที่ทำร้ายผมเอง 
 
“กูรู้แล้ว” ผมว่าแล้วซนมันต้องเดาออก ซนไม่ใช่คนโง่ ก่อนหน้านี้ที่โมโหอาจจะเพราะยังไม่ได้คิดเรื่องที่แอลโกหก แต่ตอนนี้ซนรู้แล้ว...
 
“ถ้างั้น...สรุปว่าเราจะไม่เลิกกันแล้วใช่ไหมซน...” น้ำเสียงที่พูดออกมาไม่ได้ปิดบังความตื่นเต้นเลยสักนิด แต่ความเงียบที่เกิดจากคนตรงหน้ามันทำให้ความดีใจของผมกำลังดิ่งลงเหว “ซน..มึงพูดกับกูดิ..สรุปว่าเราจะไม่เลิกกันใช่ไหม”
 



“น่าน...” เสียงเรียกชื่อผมจากปากเขาคราวนี้มันทำให้ความรู้สึกผมกำลังแย่ “กู...เหนื่อย...ฮึก...กูเหนื่อยแล้ว”



 
 ผมรู้ว่าที่ซนบอกว่าเหนื่อยเขาเหนื่อยอย่างที่พูดจริงๆ ช่วงหลังๆมาเหมือนซนก็มีเรื่องให้คิดเยอะแยะไปหมด ก่อนหน้านี้คงรอว่าผมจะเล่าเรื่องน้องเอยให้ฟังตอนไหนด้วย และพอผมไม่เล่า มันไม่พูด กลายเป็นว่ามันสะสมความรู้สึกเหนื่อยมาเรื่อยๆ พอมาเจอเหตุการณ์เรื่องของแอลคราวนี้มันเลยทำให้ไปสะกิดกับแผลที่ช้ำอยู่แล้วให้ยิ่งเจ็บมากขึ้น แต่ถึงยังไงผมก็ไม่เลิกหรอกนะครับ

 
“ซน” ผมขยับหันหน้ามามองซนตรงๆ ดวงตาแดงช้ำจากการร้องไห้ ริมฝีปากแดงจัดเพราะถูกฟันขบไว้แน่น ผมเอื้อมมือข้างที่ไม่ได้จับมือซนอยู่ยื่นมาจับแก้มเขาแล้วเกลี่ยเบาๆ
 

“น่านไม่เลิกหรอกนะครับ น่านรู้..ซนเหนื่อย...แต่ว่าซน...น่านยังไม่อยากเลิก...ถ้าซนอยากอยู่กับตัวเอง น่านให้เราห่างกันก่อนก็ได้..ให้ซนได้มีเวลาเป็นของตัวเอง อยู่กับเพื่อน สิ่งแวดล้อมที่ไม่ต้องมีน่าน...เพราะต่อจากนี้น่านจะถอยออกมาเอง... แต่ขออย่างเดียวเราอย่าเพิ่งเลิกกันเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ได้ไหม ถ้าจะเลิกให้เราเลิกกันเพราะเราไม่ได้รักกันแล้วดีกว่าและถ้าถึงตอนนั้นซนตัดสินใจดีแล้วว่าน่านไม่ใช่...” ผมเงียบอีกที ความร้อนที่กระบอกเบ้าตากำลังจะไหลจนต้องเงยหน้าขึ้น “เราจะเลิกกันอย่างที่ซนต้องการก็ได้”
 

“ฮึก...”
 

“น่านจะรออยู่ตรงนี้แหละ จะรอซนอยู่ที่เดิม รอซนกลับมาพูดว่าเราสองคนจะเอายังไงต่อไปในทางข้างหน้า...” ผมเกลี่ยแก้มนวลใสของเขาอย่างเบามือ ซนสะอื้นไห้เอียงคอตามมือผม
 

“ถ้า...ฮึก...มันนานเป็นปีล่ะน่าน”
 

“ต่อให้ต้องรอเป็นปี กูก็จะรอ รอมึงมาบอกกูด้วยตัวเองว่าอนาคตของเราจะเป็นแบบไหน”
 

“น่าน...ถ้าระหว่างที่รอกู มึงมีคนเข้ามา แล้วเขาดีกว่า มึงจะเลือกเขาก็ได้นะ” ผมรู้ตัวเองดีว่าผมไม่มีทางเลือกคนอื่นนอกจากซน ผมรู้ตัวดีว่าต่อให้มีคนเข้ามาดีกว่าซนมากแค่ไหน ผมก็ยังจะเลือกแค่ซนเหมือนเดิม แต่ตัวซนนี่สิ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขารู้สึกเหมือนกับที่ผมรู้สึกไหม
 

“ซน...กูขอถามอะไรมึงอย่างสิ”เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมเลิกคิ้วถามประมาณว่าอะไร “มึงเคยรักกูไหม...” ถามไปใจก็สั่นไป ผมไม่เคยรู้ว่าคนตรงหน้ารู้สึกยังไงกับผม ไม่รู้ว่ามันรักผมเหมือนอย่างที่ผมเข้าใจไปเองไหม


 
“น่าน...” ซนโผเข้ากอดผมเต็มแรง ซุกหน้าลงกับบ่า “ไม่เคยไม่รัก...”



 
“อื้ม..แค่นี้มันก็มากพอให้กูรอมึงแค่คนเดียวได้แล้วซน แค่นี้ก็มากพอแล้ว” ผมปล่อยให้ซนเดินกลับเข้าหอโดยไม่คิดจะรั้งเจ้าตัวอีก ก่อนที่เขาจะเดินลงจากรถ ผมจูบกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย แต่มันจะไม่ใช่ท้ายที่สุดของความสัมพันธ์ของเรา จูบคราวนี้เป็นการจูบลาเพื่อที่เราจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ผมเข้าใจความรู้สึกเขา ซนเองก็คงต้องการเวลามากกว่านี้ มันคงเหนื่อยมากกับการที่ต้องมาเจอเรื่องราวเยอะแยะเต็มไปหมด ไหนจะเรื่องที่ผมเล่นละครโกหกมันก่อนหน้านี้ เรื่องที่ผมบอกน้องเอยเกี่ยวกับรูปของเรา และก็มาเจอเรื่องของแอลอีก ถ้าผมเป็นมัน ผมเองก็คงตัดสินใจไม่ต่างกันเท่าไหร่
 




 
หลังจากที่ผมแยกกับซน ผมขับรถตรงดิ่งไปหาไอ้แอลทันที ก่อนจะถึงหอมันผมโทรหาไอ้โก้ก่อน ตอนแรกมันก็ไม่คิดจะเล่าให้ผมฟังหรอกว่าเรื่องราวมันเป็นแบบไหน แต่พอผมบอกมันไปว่าผมรู้ความจริงหมดแล้ว รวมทั้งบอกมันเรื่องที่แอลเกือบทำให้ผมกับซนเลิกกัน ถึงตอนนี้ก็กึ่งๆเหมือนจะเลิกกันแล้วก็เถอะ โก้มันเลยยอมเล่าให้ผมฟังทุกอย่าง มันบอกว่าจริงๆแล้วคนที่แอลชอบมาตั้งแต่แรกคือผม ส่วนตัวโก้เองเป็นเพียงหมากตัวนึงที่ดันมาชอบแอลและยอมทำทุกอย่างเพื่อแอลได้หมด แต่โก้บอกผมว่ามันเองก็ถอยจากแอลมาได้สักพักแล้ว ไม่ได้มีความสัมพันธ์เหมือนแต่ก่อน
 

ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าความสัมพันธ์ของโก้กับแอลมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ผมเสียใจนะครับ ที่ผ่านมาผมไว้ใจและสนิทกับแอลมากที่สุด เวลามีปัญหาอะไรคนแรกที่ผมจะพึ่งก็เป็นเขามาตลอด บางทีอาจจะผิดที่ผมด้วย ผมทำเหมือนให้ความหวัง ทั้งเรื่องจูบและก็พึ่งพาเขาแทบทุกครั้ง
 
ผมมาถึงหน้าห้องแอล ยืนรอเขามาเปิดประตู ตอนที่เขาประตูออกมาแอลไม่มีสีหน้าผิดปกติสักนิด ผมว่าเขาเองก็คงจะคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าผมต้องกลับมาหาเขาแน่ๆ
 
“มีอะไรหรือเปล่าวะ จู่ๆก็มาหาซะดึก” ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าผมมาทำอะไร แต่เขาก็ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่อยากจะเชื่อเลยนะครับที่ผ่านมาทำไมผมไม่เคยสังเกตเห็นถึงพฤติกรรมของเขานะ
 
“ซนเล่าให้กูฟังแล้วนะ”
 
“เรื่อง??”
 
“เรื่องที่มึงบอกซนว่ากูเป็นคนบอกน้องเอยเรื่องรูป...”

“แต่เรื่องนี้ซนก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ???”

“แล้วอีกเรื่องล่ะแอล เรื่องที่มึงกุขึ้นมาบอกว่ากูกับมึงมีอะไรกันมาก่อนที่กูจะคบกับซน” แอลเงียบ เขาดุนลิ้นที่กระพุงแก้มอย่างที่ชอบทำเวลาที่ที่เกิดความรู้สึกเครียด
 
“แล้วมึงก็เชื่อซนงั้นเหรอ....เหอะ...น่านกูกับมึงคบกันมากี่ปีแล้ววะ แต่มึงกลับไปเชื่อไอ้ซนคนที่มึงยังรู้จักไม่ถึงปีด้วยซ้ำ”
 

“แอล...”

 
“กูไม่ได้พูด กูจะพูดทำไม กูจะทำร้าย....มึง...”

 
‘แต่มันคงไม่เคยพูดสินะ...ว่ากูกับมันเคยมีอะไรกัน’ น้ำเสียงแอลหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงตัวเองออกมาจากโทรศัพท์ ดวงตาเบิกโพลงอย่างตกใจ ไม่นานน้ำตาที่คลอหน่วยเต็มสองเบ้าก็ร่วงหล่นลงมาในตอนท้าย

 
“กู...”

 
“มึงทำแบบนี้ทำไมวะแอล...มึงทำร้ายกู...ทำร้ายคนที่กูรัก มึงเคยคิดบ้างไหมว่าตอนที่ซนนั่งฟังเรื่องที่มึงวาดฝันขึ้นมาก่อนหน้านี้ซนมันจะรู้สึกแบบไหน การที่ถูกคนที่รักแม่งหลอกแล้วหลอกอีก มึงเคยคิดบ้างไหมแอล...เคยคิดไหมว่าซนมันจะเจ็บ...” ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าตอนที่ซนฟังคำบอกเล่าจากปากแอล ณ เวลานั้นเขารู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน มันคงไม่ต่างจากการที่คนสนิทเอามีดมาทิ่มที่แผลเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก

 
“แต่ที่กูทำไปทั้งหมด นั่นก็เพราะกูรักมึงไงน่าน...รักมาตลอด” แอลเงยหน้าแล้วพูดบอกผมด้วยน้ำเสียงหดหู่ “กูผิดมากเหรอที่กูรักมึง...กูผิดมากเหรอน่าน”

 
“แอล...มึงไม่ผิดที่รักกู แต่มึงผิดที่เอาความรักของตัวเองมาทำลายความรักของคนอื่น...”แอลไม่ได้ต่างจากผมเลยสักนิด ภาพของเขามันสะท้อนให้ผมเห็นตัวเองที่เห็นแก่ตัวพยายามเอาความรักตัวเองไปทำร้ายความรักของซนกับน้องเอย มันก็คงเป็นเวรกรรมที่วนเวียนเป็นลูบไม่จบไม่สิ้น

 
“ฮึก...กูก็แค่หวัง...แค่รู้สึกว่าถ้าไม่มีซนทั้งคน บางทีคนที่มึงรักตอนนี้อาจจะ...”

 
“ไม่มีทางเป็นมึงหรอกแอล!!! ถึงไม่มีซนกูก็ไม่มีทางรักมึง” ผมยอมรับว่าผมโมโห โกรธมันที่คิดเรื่องบ้าๆแบบนี้ออกมาได้

 
“แล้วมึงจูบกูทำไมวะ...ตอนนั้นมึงจูบกูทำไมน่าน...ถ้ามึงไม่จูบไม่มาทำดีกับกู...กูจะมีหวังลมๆแล้งๆแบบนี้เหรอ...ฮึก....กูผิด..มากเหรอที่คิดแบบนั้น...กูผิดเหรอที่คิดว่าความสงสารของมึงอาจจะกลายเป็นความรักได้ในอนาคต ฮึก...มึงเป็นคนให้ความหวังกูเองแท้ๆ...ทั้งๆที่เป็นมึง...” แอลปล่อยโฮออกมา เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองเพื่อแอบซ่อนน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด
 

“หึ ใช่สินะ...นี่มันความผิดกูแท้ๆ กูผิดที่ไปทำให้มึงคิดไปเองว่ากูอาจจะชอบมึง กูผิดที่ไปจูบมึงคราวนั้น กูผิดที่สงสารมึงเรื่องโก้...ถ้ามันเป็นความผิดกูนะแอล...กูขอโทษที่ทำให้มึงเข้าใจไปแบบนั้น และต่อจากนี้กูอยากบอกมึงไว้ให้เข้าใจตรงกันเลยนะว่า ไม่ว่าในอนาคตกูจะมีซนหรือไม่มีก็ตาม...ตัวมึงก็ไม่มีทางมายืนข้างกูได้เหมือนอย่างที่ซนยืน และกูก็ได้แต่หวังว่ามึงจะคิดได้...และไม่พยายามทำร้ายกูกับซนอีก ส่วนไอ้โก้...”
 

“มันเลือกแล้วว่าจะไม่อยู่ข้างกู...แล้วมันก็คงเกลียดกูไปแล้วด้วยเหมือนกัน...”แอลยิ้มพร้อมกับมือที่ปาดน้ำตาตัวเองออกอย่างลวกๆ ก็ในเมื่อโก้มันเจ็บปวดขนาดนั้น เป็นผมก็คงถอยออกไปให้ไกลที่สุด จะผิดก็แค่โก้ไม่ใช่ผม มันถอยแต่ก็ยังอยู่ใกล้ๆ เพราะตอนที่อยู่มหาลัย โก้ก็ยังเป็นโก้ แม้ว่าผมจะไม่ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงช่วงหลังมานี้ แต่มันก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีเหมือนเดิม แต่ผมคงทำเหมือนไอ้โก้ไม่ได้ หลังจากนี้ผมกับแอลคงจะต้องเดินกันคนล่ะทาง ตรงไหนที่มีมันตรงนั้นก็จะไม่มีผม
 


ผมรู้ว่าส่วนหนึ่งที่มันเป็นแบบนี้มาจากผม แต่จะให้ผมทนอยู่กับคนที่ใช้ความใจดีของคนอื่นมาทำร้ายคนรอบข้างได้ยังไงล่ะครับ ผมทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ
 


“น่าน...กูจะไม่ขอโทษมึงหรอกนะ...เพราะสำหรับมึงกูไม่เคยคิดว่าตัวเองคิดผิด..แต่สำหรับซน...กูฝากขอโทษเขาด้วย..กูไม่หวังให้น้องมาให้อภัยกูหรอก แต่ก็แค่อยากฝากคำขอโทษผ่านมึงไปให้...เท่านั้น..” ผมแค่นยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกมาจากห้องนั้น คำขอโทษที่ไอ้แอลฝากมา ผมยังไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสไปพูดกับซนตอนไหน
 
 


ก็ในเมื่อตอนนี้ผมกับเขาเราจำเป็นต้องห่างกันแบบนี้
 
 


ไม่รู้จะต้องรอนานเป็นปีไหม ที่ซนจะพร้อมให้ผมกลับไป แต่ถ้าซนพร้อม...สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดก็คงกลัวว่าเขาพร้อมแต่เขาไม่เลือกผม
 



 
ผมกลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้นอีกครั้ง แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นอีก ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร
 
 



 
ไม่รู้จริงๆ
 
 












>>>>>>>TBC<<<<<<<
นิยายเรื่องนี้ใกล้จบแล้วนะคะ ขอบคุณคนอ่านมากๆค่ะที่อ่านและติดตามมาจนถึงตอนนี้
ส่วนเรื่องของแอล นางทำกรรมอะไรไว้ก็ได้รับผลกรรมนั้นกลับแล้ว การที่คนเอาแต่ใจแบบแอลถูกคนรอบข้างไม่สนใจ โดยเฉพาะคนที่ตามใจนางมาตลอดอย่างโก้ ตอนนี้ก็ไม่สนใจนางแล้วด้วย หลังจากนี้ก็ดูเอาอีกที(ในโปรเจคซีรีย์รักฉบับมหาลัย ว่าแอลจะเป็นในทิศทางไหน ถึงตอนนั้นจะสงสารหรือจะด่านางก็ต้องดูกันอีกที มันเป็นภาคต่อจากเรื่องนี้เหมือนกับทุกๆเรื่องที่แต่งแล้วไปรวมไว้ในนั้น)
สำหรับนิยายเรื่องนี้อาจจะไม่ถูกใจหรือขัดใจใครไปบ้าง แต่ก็คิดว่าแต่งดีที่สุดแล้ว
ตอนแรกจะให้จบแบบEnd sad ด้วย คิดแล้วคิดอีกว่าเอาไงดี สุดท้ายก็...
อย่างที่บอกตามชื่อเรื่อง
จนกว่าจะพบกันใหม่
นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-06-2015 13:44:24
 :hao5:   ไม่นึกว่าจะมาไกลขนาดนี้เมื่อเทียบกับช่วงแรกๆเนอะ. มาถึงจุดนี้ก็เหนื่อยไปกับซนด้วยจริงๆ
อยากปลอบน้องว่าทำถูกแล้ว. ตอนนี้แยกกันสักพักแล้วก็คิดทบทวนพักผ่อน. รอน่านมาง้อ เชิดๆไว้ลูก
การที่อัดคลิปเสียงไว้คือดีงามและดูพร้อมจะฉะกับทุกคนที่จะมาแหลใส่  ให้น่านมันรอนานๆเลยหมั่นไส้.
แอลแกไม่เหลือใครเลยไม่มีแม้แต่ความเป็นเพื่อน. ทำลายทุกคนเลยรวมถึงตัวเองด้วย
คิดถึงหมาน้อยเงินกับทองและแสนดีจังเลย. เอาความมุ้งมิ้งกลับคืนมาเถอะค่ะ

ขอบคุณคนเขียนค่ะ รอตอนจบ.  :L1: 
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 28-06-2015 14:03:58
เกลี๊ยดเกลียดอีพวกทำความผิดแล้วไม่ไปขอโทษเค้าด้วยตัวเอง
ทีเวลาทำนี่กล้าเสนอหน้าเอาหนงหน้าด้านๆไปตอแหลกับเค้าดีนัก
แล้วพอโป๊ะแตกทำมาเป็นมียางอาย กล้าทำก็กล้ารับหน่อยสิว่ะแอล  :z6: :beat:

ปล.ไม่อยากให้ซนยกโทษให้แอลมันง่ายๆเลยจริงๆให้ตายเถอะ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-06-2015 14:46:18
'ห่างกันสักพัก' คำๆ นี้นี่ใช้ได้ตลอดศกเลยนะคะสำหรับคู่รักที่ต้องการพักใจ เอิ๊ววว~~~ (ต้องทำเป็นร่าเริงปลอบใจตัวเองไว้ก่อนค่าา :hao5: )

เราก็เห็นด้วยกับสิ่งที่น้องซนเลือกเช่นกันค่ะ เพราะในระหว่างทางก่อนที่ทั้งสองคนจะมาคบกันจริงๆ นั้นมีเรื่องที่ประเดประดังเข้ามามากมายเหลือเกิน และทุกๆ เรื่องที่เจอก็เคล้าไปด้วยน้ำตาเสียเป็นส่วนมากด้วย

การที่น้องซนจะรู้สึกเหนื่อยจนอยากที่จะหยุดทุกอย่างจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ค่ะ น้องจะได้ให้เวลาตัวเองได้ขจัดความสับสน ความไม่แน่ใจ หรือไม่แน่นอนออกจากหัวใจไปได้บ้าง รวมไปถึงทบทวนคำว่า 'รัก' ที่มีให้กันใหม่เสียด้วย และเวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเองนะคะ ^^

แต่หลังจากนี้พี่น่านก็คงจะเหงาลงไปอีกเยอะเลยล่ะสิเนี่ย เพราะนอกจากจะห่างกันแล้ว แม้แต่เดินสวนกันไปมาในมหา'ลัยยังดูเป็นเรื่องที่ยากเกินไปด้วยซ้ำ เพราะเราคิดว่าน้องซนอาจจะย้ายไปเรียนที่อีกวิทยาเขตนึงแน่ๆ เลยนะคะน่ะ ต้องอยู่อย่างมีความหวังเข้าไว้นะคะพี่น่าน..

และถึงแม้ว่าตอนแรกๆ เราจะยุให้น้องซนเลิกๆ กับพี่น่านไปเลยมากแค่ไหน แต่ไม่รู้ทำไมพอถึงเวลาจริงๆ แล้วกลับรู้สึกใจหายมากขนาดนี้ก็ไม่รู้นะค้าา :mew2:

ปล. เราจะรอวันนั้น..วันที่ได้เห็นพ่อและแม่ของเงินกับทองกลับมาคืนดีกันนะคะ :monkeysad:

ปล. 2 แอลคะ? ..สมควรแล้วค่ะที่แอลจะไม่เหลือใครเลย.. เพราะที่ผ่านมาแอลใจร้ายมากเกินไปจริงๆ
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-06-2015 15:37:28
สงสารซน
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 28-06-2015 15:55:05
ซนนนนนนนนนนนนนหนูน่าสงสารมาก น่านรีบไปง้อด่วน
ส่วนแอลหลงสงสารเรื่องโก้ที่แท้ก็ตัวร้ายตัวจริงเหอะๆๆ
ปล.อ่านรวดเดียวจบ รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 28-06-2015 16:22:24
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 28-06-2015 21:20:51
ที่คาดไม่ถึงคือซนแอบเอามือถือมาอัดเสียงนี่แหละ
โอเคเลย ดีสุดๆ ชัดเจนดี
แต่แบบปัญหาเคลียร์ แต่ความรู้สึกไม่เคลียร์นี่สิ
เฮ้อออออ รอวันที่ซนกับน่านพร้อมจะอยู่ข้างกันอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-06-2015 22:15:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 29-06-2015 05:58:35
ให้เวลา.....
หัวข้อ: Re: ++B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น '++ตอนที่ 30 until we meet again [28-06-15:P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 29-06-2015 08:23:14
โอเคเราโลกสวยนะ  แอลรู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้วใช้เวลาที่สูญเสียหลายอย่างในชีวิตคิดใคร่ครวญแล้วกลับตัวกลับใจให้มาเป็นคนที่ดีกว่าเดิมแล้วกัน   คนดีเป็นคนที่น่านับถือ คนที่ดีกว่าคนดีก็คือคนที่ผิดแล้วกลับตัวกลับใจได้

ซนแก้ปัญหาได้ดีมากๆ  เราคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ซนขอเลิกก็น่าจะเป็นเพราะว่ารู้เรื่องที่ต้องย้ายไปเรียนที่อื่นด้วย  ความรักกับระยะทางบางทีก็ทำให้ห่างกันไปเลยนะ   น้อยคู่มากที่จะกลับมาหากันอีกได้ยกเว้นคู่ที่รักกันมั่นคงจริงๆ ก็หวังว่าน่าน-ซนจะได้กลับมาหากันอีก

หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 07-07-2015 17:02:20
Because of you ซน ตอนจบ

ปีกว่าแล้วที่ผมกับน่านฟ้าไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากติดต่อไปหาเขาหรอกนะครับ แต่ก็อย่างที่บอกช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมเหนื่อย เหนื่อยมากจนรู้สึกว่าพอแล้วดีไหม อยากพัก อยากอยู่กับตัวเองโดยไม่มีเรื่องอะไรมาคิดให้ปวดหัว และหลังจากที่ได้อยู่กับตัวเองมาสักพักผมยอมรับว่ามันสงบขึ้น

มีบ้างเวลาที่อยู่คนเดียวแล้วคิดถึงน่านฟ้า มันเป็นเรื่องปกติที่เวลาเหงาๆจะคิดถึงมันเป็นคนแรก คิดถึงมุขห่วยๆของมัน คิดถึงมันเวลาที่อ้อนเหมือนหมาตัวใหญ่ แล้วก็คิดถึงเวลาที่ผมเอาแต่ใจและมันก็ชอบตามใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรักมันมากกว่าที่ตัวเองคิด

หลังจากที่เรียนจบภาคเรียนที่หนึ่งผมตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่วิทยาเขตชุมพร นักศึกษาที่อาสามาอยู่ที่นี้มีไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำแน่นอนว่าคนในเมืองอย่างไอ้จันโบกมือลาก่อนใครเพื่อน  มันให้เหตุผลว่าชีวิตติดหรูของมันไม่สามารถอยู่ห่างไกลจากรถไฟฟ้าได้ ซึ่งมหาลัยพวกเราแม่งก็ไม่ได้ติดรถไฟฟ้าเลยเถอะ สุดท้ายมันเลยตัดสินใจไม่มาอยู่ที่ชุมพรกับผม แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกนะครับ เพราะอยู่ที่นี้ผมก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่เยอะแยะรวมทั้งไอ้หมวยที่ตอนนี้ก็แทบจะกลายเป็นเพื่อนสนิทผมไปอีกคน ตอนนี้ผมอยู่ปี 4 แล้วรู้สึกตัวเองโตขึ้น ความคิดถึงต่อคนๆนึงก็มีมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

ทั้งๆที่ความคิดถึงผมมีมากมายขนาดนี้ แต่ผมก็ยังแปลกใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่กล้าติดต่อไปหาไอ้น่าน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าข่าวต่างๆที่ได้ยินมาด้วยล่ะมั้งถึงไม่กล้าติดต่อกลับไป ผมได้ยินข่าวของน่านฟ้ากับกลุ่มเพื่อนๆมันผ่านไอ้จัน มันเล่าว่าพี่ๆคนอื่นสบายดี แต่ที่จะดูแปลกในสายตามันหน่อยก็คงจะมีแต่พี่แอลที่หลังจากเรียนจบก็บินไปเรียนต่อโทที่ต่างประเทศทันที มันบอกว่าพี่เขาเหมือนพี่เขาไม่คิดจะอยู่รอรับปริญญาด้วยซ้ำ ซึ่งเพื่อนคนอื่นรวมทั้งไอ้จันไม่มีใครทราบเหตุผลว่าทำไม มีแค่ผมกับไอ้น่านเท่านั้นล่ะมั้งที่รู้ว่าพี่แอลตัดสินใจแบบนั้นเพราะอะไร


ส่วนน่านฟ้าเขาเองก็กำลังไปได้ดีกับบริษัทใหญ่ระดับประเทศ เห็นบอกว่าหลังจากฝึกเสร็จด้วยโปรไฟล์และบุคลิกทำให้มันได้งานที่นั่นเลยโดยไม่ต้องสัมภาษณ์อีก ก็ดีนะครับบริษัทระดับประเทศได้เจอคนหลากหลาย เห็นจันมันบอกว่าอยู่ที่บริษัทนั้นไอ้น่านฮอตยิ่งกว่าอะไร จนไอ้จันมันก็หลุดปากออกมาแหละครับว่าน่านมันอาจจะได้ผู้หญิงดีๆที่บริษัทนั้นสักคน

เวลา...มันทำให้หลายๆคนลืมไปแล้วว่าผมกับน่านฟ้าเรายังคบกัน รวมทั้งเจ้าตัวที่เคยพูดว่าจะรอ บางทีมันเองก็อาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ว่ามันเคยสัญญาอะไรไว้ แต่จะโทษมันก็ไม่ได้หรอกนะครับ โทษที่ตัวผมเองนี่แหละที่คิดทบทวนช้า รู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็คงจะสายไปแล้ว ปีกว่าแล้วนะครับคนทุกคนก็คงเดินไปข้างหน้า ผมเองก็เหมือนกันถึงแม้หัวใจมันจะยังอยู่ที่เดิมก็เถอะ


“ซน..วันนี้เข้าชมรมไหม” คนที่เดินเข้ามาทักผมคือไอ้บอย มันเรียนศิลปศาสตร์สาขาพวกออกแบบไรสักอย่าง ผมรู้จักกับบอยเพราะเขาเป็นเพื่อนสมัยมัธยมกับหมวย และบอยก็เป็นคนพาผมเข้าชมรมถ่ายรูป ซึ่งวิทยาเขตชุมพรเป็นวิทยาเขตที่อยู่นอกตัวเมืองมีพื้นที่ติดกับทะเล เวลาถ่ายรูปจากบนอาคารมันเลยได้ภาพและมุมที่ดีมากๆ กล้องที่ใช้อยู่ตอนนี้เป็นสิ่งของเพียงสิ่งเดียวที่เป็นของน่านฟ้าแล้วติดมือผมมาด้วย ผมเคยฝากไอ้จันไปคืนเขาแล้วนะครับตั้งแต่ก่อนมาชุมพร แต่น่านมันไม่เอา มันบอกว่ากล้องอันนี้มันซื้อผม และด้วยสันดานแบบผมพอได้ของฟรีมามันก็เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นผิดเป็นชอบ เห็นความไม่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว ก็ในเมื่อมันบอกเองว่าซื้อให้ผม เพราะงั้นกล้องที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ก็เป็นสมบัติของผมอยู่แล้ว

“คงไม่ได้เข้าอ่ะ วันนี้ว่าจะเข้าเมือง” เวลาจะไปซื้อของแต่ล่ะทีผมจะขับมอไซค์เข้าเมือง ใช้เวลาขับจากมหาลัยเข้าไปในเมืองก็เกือบๆ 10 กิโล แรกๆก็มีบ่นบ้างแต่ช่วงหลังมาก็เริ่มชิน ยังดีที่ม๊าอนุญาตให้เอาฟีโน่มาไว้ที่นี้ เพราะถ้าไม่มีรถผมก็คงทำอะไรไม่ได้ วิทยาเขตที่นี้ถ้าไม่มีมอไซค์หรือรถยนต์คือตายอย่างเดียว

“อ่าว มึงจะเข้าเมืองเหรอ” หมวยเดินมานั่งที่โต๊ะพร้อมกับของกิน “กูไปด้วยดิวะ ว่าจะไปซื้อของ”

“แต่กูขับมอไซค์ไปนะหมวย”

“โอ้ยย ร้อนอ่ะ”

“แล้วจะให้ทำไง”

“เอางี้มึงอย่าคิดมาก บอยก็จะเข้าเมืองอยู่แล้วใช่ป่ะ ใช่ป่ะบอย ไปนะๆ ไปส่งซนซื้อของในเมืองหน่อยสิ” ผมว่าพฤติกรรมช่วงนี้ของหมวยมันแปลกๆ หลังจากที่มันรู้ว่าผมกับน่านฟ้าไม่ได้คุยกันมันก็ชอบจับคู่ผมกับเพื่อนมันตลอด
 
“ได้สิ เราก็ว่างอยู่แล้ว”

“โหยยย บอยน่ารักอ่ะ งั้นเลี้ยงเซเว่นเซ่นด้วยนะซนมันอยากกิน เห็นบ่นตั้งหลายวันแล้ว”

“แน่ใจว่าคนที่อยากเป็นกู??” ผมเลิกคิ้วถามมันส่วนไอ้คนอยากกินตัวจริงก็ได้แต่หัวเราะชอบใจ หมวยมันเป็นคนน่ารักถึงจะปากหมาไปหน่อยแต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค ใครๆก็ชอบมัน ถ้าไม่ติดว่าที่ผ่านมาผมชอบคนอื่นอยู่ก่อน ผมก็คงชอบมันไปแล้วมั้ง



“งั้นไปกันเลยนะซน เราจะได้ไปเอารถ” ผมพยักหน้าให้เจ้าของรถก่อนจะกระตือรือร้นดันหลังไอ้หมวยที่หัวเราะคิกคักให้เดินไปรอไอ้บอยที่หน้าคณะ

“มันชอบมึงแน่ๆเลยซน”

“แต่กูไม่ใช่...”

“ไม่ใช่ได้ไงตามใจมึงขนาดนี้”

“ถึงมันชอบกูจริงๆแต่กูคงไม่ได้ชอบมันกลับหรอกหมวย...มึงก็รู้แก่ใจว่าทำไม”

“รู้..แต่นี้มันเป็นปีแล้วนะซน ถ้าเขารอมึงจริงๆเขาก็คงส่งสัญญาญมาบอกมึงแล้วว่ารอ แค่มึงไม่ติดต่อกลับไปเขาก็ต้องบอกดิว่ายังไงแล้ว แต่นี่เล่นหายเงียบทั้งคู่ แถมมาได้ยินข่าวจากไอ้จันอีกว่าเขาโซฮอทขนาดนั้น ป่านนี้มีเมียมีลูกไปแล้วมั้ง” ผมเข้าใจความหมายของหมวยนะครับ แต่ผมไม่ได้อยากมีคนใหม่ ผมไม่รู้หรอกว่าน่านฟ้ามันยังรออยู่ไหม แต่ผมก็ตัดสินใจมาสักพักแล้วว่ารับปริญญาของไอ้น่านคราวนี้ผมจะติดต่อกลับไปหามัน ถ้ามันยังรออยู่ก็เป็นสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง แต่ถ้าไม่ได้รอก็เป็นสิ่งที่ผมสมควรจะยอมรับ...เท่านั้น

พวกเราขับรถมาถึงในเมืองเกือบๆบ่าย แต่ล่ะคนก็ยังไม่ได้กินอะไรกันมา หมวยเลยออกความคิดเห็นกึ่งๆบังคับให้เราสามคนกินฟูจิกันก่อนจะไปทำธุระที่อื่น

“บอยนั่งข้างซนเลย” และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่มันทำตามใจตัวเอง

“อะไรของมึงเนี่ยหมวยผู้ชายสองคนนั่งเบียดกัน อึดอัดจะตาย แทนที่จะให้กูหรือไม่ก็บอยไปนั่งข้างมึงคนนึง” พูดแล้วยังมาทำหน้ามึนใส่อีก

“นั่งๆไปเถอะน่า เนอะบอยเนอะ” บอยเองก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างที่มันชอบทำ ผมรู้สึกว่าบอยมันไม่เคยปฏิเสธหมวยได้เลยสักครั้ง แถมยังตามใจคนตรงหน้าผมอย่างกะอะไรดี จนผมอดคิดไม่ได้ว่าจริงๆแล้วคนที่บอยชอบอาจจะเป็นหมวยก็ได้

“ซน..”

“ห้ะ”

“เมื่อกี้กูว่ากู...” หมวยทำเสียงอึกอักก่อนจะโน้มหน้ามากระซิบที่ข้างหูผม “เห็นพี่น่านเดินผ่านหน้าเราไปว่ะ”

พอมันพูดจบเท่านั้นแหละผมรีบลุกขึ้นแล้วมองออกไปนอกร้านทันที พยายามมองอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่เห็นคนที่ท่าทางเหมือนไอ้น่านสักนิด เพราะถ้าเป็นมันน่าจะมีออร่าอะไรบางอย่างให้จับต้องได้อยู่แล้ว

“มึงอย่าเพิ่งเว่อร์อะไรขนาดนั้นซน เพราะกูไม่แน่ใจว่าใช่พี่น่านหรือเปล่า แม่งปกติพี่น่านหล่อใสสะอาดจะตายแต่เมื่อกี้ที่กูเห็นยังกะโจรใต้ ไว้หนวดไว้เครา ถึงจะดูหล่อแบบเถื่อนๆแต่มันไม่ใช่พี่น่านที่กูรู้จักแน่ๆ บางทีกูอาจจะดูผิดมั้ง” ก็คงจะเป็นแบบนั้น ผมพยักหน้าบอกหมวยแล้วก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ต่อ ผมจำได้ว่าผมเคยด่าน่านฟ้าไปหลายครั้งเรื่องหนวดเพราะเวลาที่มันมานัวเนียผมหนวดมันจะทิ่มจนผิวผมแดงไปหมด พอด่ามันไปน่านฟ้าก็ไม่เคยไม่โกนหนวดเลยสักครั้ง และครั้งนี้ก็คงไม่ใช่หรอก

“กูว่ามึงคงจะ....ดูผิด” ผมงับปากตัวเองทันทีที่มองไปยังทางเข้าร้าน หัวใจที่เต้นรัวราวกับกลองกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ถึงแม้หน้าตาคนที่เห็นมันจะไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่เพราะหนวดเคราที่แม่งไว้อย่างโจรนั่นแหละ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของมันจางหายไปเลยสักนิด ออกจะดูดีในลุคเถื่อนๆที่หลายคนอาจจะชอบ

“ซนเป็นอะไรวะ มองอะไร” หมวยหันหน้าไปมองตามผม “คนนั้นไงๆเหมือนพี่น่านไหมมึงว่า เฮ้ยยย ไม่ใช่ดิ นั่นพี่น่านเลยใช่ป่ะวะ พี่น่าน!!!!! พี่น่าน!!!!” ผมยั้งปากเรียกไม่ทันไอ้หมวย มันตะโกนเรียกไอ้น่านก่อน ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอมันใกล้ๆหรือพูดคุยกับมันหรอกนะครับแต่ว่า...ผมตื่นเต้นและก็กลัวมากตั้งหาก

“เป็นไรวะซนหน้าดูซีดๆ” บอยเป็นคนทักผมเพราะไอ้หมวยมัวแต่โบกไม้โบกมือเรียกไอ้น่าน

“เปล่า...” ผมตอบมันเสียงเบา แต่มือที่ชุ่มเหงื่ออยู่ใต้โต๊ะไม่ได้บ่งบอกว่าผมสบายดีเลยสักนิด

“เปล่าก็เปล่า” บอยพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาขยี้ที่หัวผม มันเป็นจังหวะเดียวกับที่น่านฟ้าเดินมาถึงโต๊ะ ผมรู้เพราะผมเงยหน้ายิ้มรับกำลังใจจากไอ้บอย แต่สายก็ดันไปประทะกับน่านฟ้าเสียก่อน ผมว่ามันก็คงตกใจเหมือนกันที่เห็นผมอยู่ตรงนี้

“พี่น่านนั่งทานด้วยกันสิ” ไอ้หมวยพูดพลางดันหลังน่านฟ้าให้เข้าไปนั่งด้านในฝั่งตรงข้ามกับผม แต่ไอ้น่านก็ปฏิเสธก่อน

“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องหมวย เดี๋ยวพี่รอคิวดีกว่า”

“ทำไมล่ะคะพี่น่านมาคนเดียวนี่นา ก็นั่งทานด้วยกันนี่แหละค่ะ คนเยอะจะตายกว่าจะได้กินรากงอกก่อน” น่านหันมามองผมเหมือนขออนุญาต มันคงกำลังนึกถึงคำบอกลาล่าสุดที่มันบอกผมว่าจะไม่เข้ามายุ่งกับผมจนกว่าผมจะเป็นคนเดินไปหามันเอง

“ไปรอต่อคิว กว่าจะได้ก็นาน” มันเป็นประโยคแรกในรอบปีที่ผมรู้สึกว่ามันทั้งสั่นแล้วก็ตื่นเต้น “นั่งกินด้วยกันนี่แหละ”

น่านฟ้าพยักหน้ารับรู้ก่อนจะขยับเข้าไปนั่งด้านในฝั่งตรงข้ามกับผม ไอ้หมวยเรียกหาพนักงานเพื่อขอเมนู ความอึดอันแทรกกลางพวกเราทั้งสี่จนเป็นบอยที่เอ่ยปากขึ้นมาก่อน

“สวัสดีครับพี่น่าน ผมชื่อบอยครับ” หลังจากที่ไอ้บอยยกมือไหว้ไอ้น่าน “ผมเป็นเพื่อนหมวยแล้วก็ซน เรียนศิลปศาสตร์สาขาออกแบบ”

บอยกับไอ้หมวยชวนน่านฟ้าคุยเรื่องสัพเพเหระ บ่อยครั้งที่ผมกับมันเผลอสบตากันและก็เป็นผมที่หลบตามันก่อนทุกครั้ง สุดท้ายตลอดทั้งมื้อนั้นผมกับน่านฟ้าก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลย มีแค่มันที่แสดงออกทางกายให้ผมเห็นว่ายังใส่ใจผมอยู่ก็คือการเลื่อนจานอาหารที่ผมชอบมาไว้ใกล้ๆมือ

“แล้วนี่พี่น่านมาทำอะไรที่ชุมพรคะเนี่ย แล้วดูไว้หนวดไว้เคราอย่างกะโจรใต้ หมวยเกือบจำไม่ได้”

“พี่มาเทรนงานที่สาขาชุมพรน่ะ มาอยู่แค่อาทิตย์เดียวก็กลับไปอยู่สาขาใหญ่เหมือนเดิม ส่วนไอ้หนวดเคราก็ไม่มีเวลาโกนเลยออกมาแบบนี้”

“แต่ลุคนี้ดูดีเหมือนกันนะพี่น่าน หล่อแบบเถื่อนๆ อินดี้ๆ เนอะซนเนอะ” หมวยหันมาขอความเห็นผม ซึ่งผมไม่ชอบหนวดมันอยู่แล้ว

“กูไม่ชอบ”

“อ่าวทำไมวะ เท่ดีออก”

“ก็มันทิ่ม...” ผมกำลังจะหลุดปากเผลอพูดอะไรบางอย่างออกไปแต่ยังดีที่นึกได้ก่อน

“ทิ่ม???”

“เปล่า...ไม่ชอบก็ไม่ชอบดิวะ จะถามอะไรนักหนาวะหมวย แล้วมึงจะหัวเราะทำไมน่าน ตลกมากหรือไงเล่า” ถึงมันจะเป็นการหัวเราะในเรื่องน่าอายที่รู้แค่ผมกับไอ้น่านแต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกยินดีอยู่ในใจลึกๆ ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าเพราะอะไร ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องน่าอายแต่ผมก็ยังยินดีกับมัน

“เปล่าครับเปล่า” และก็คำพูดปฏิเสธเพราะๆที่น่านฟ้าชอบพูดทุกครั้งเวลาที่มันล้อผม


ทำไงดีครับ...ผม...คิดถึงมันจริงๆนะ




 “ขอบคุณมากๆเลยนะคะพี่น่าน อุตส่าห์เลี้ยงน้อง” ไอ้หมวยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่มื้อนี้กินฟรีเพราะมันจัดหนักมาก แต่คนอย่างไอ้น่านราคาไม่กี่พันแบบนี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงอยู่แล้ว

“ไม่เป็นไรเอาไว้วันหลังหมวยจะได้เลี้ยงน้อง”

“โห เกลียดวิถีโซตัสก็แบบนี้แหละ แล้วนี่พี่น่านกลับเลยเหรอคะ”

“อื้อ” มันพยักหน้าแล้วหันมามองผมก่อนจะหันไปตอบหมวยอีกรอบ “ก็คงกลับเลยแหละ”

“อ่าฮะ” ไอ้หมวยก็พยักหน้าแล้วหันมามองผม มันหรี่ตาบุ้ยปากบอกทำนองว่าให้ผมรั้งไอ้น่านไว้ ทีอย่างงี้ล่ะเชียร์ผมกับไอ้น่านก่อนหน้ายังพูดอยู่เลยว่าให้ผมตัดใจ

“งั้น...พี่กลับเลยล่ะกัน ไม่อยู่กวนพวกเราแล้ว”

“เอางั้นเหรอพี่น่าน....”

“อื้ม...” เสียงครางรับในลำคอดังขึ้นพร้อมกับความอบอุ่นที่คุ้นเคยบนศรีษะผม น่านฟ้ากำลังขยี้หัวผมอยู่ “กู...กลับแล้วนะ”

พอน่านฟ้าพูดจบมันก็เดินหันหลังออกไปเลย ผมยังมัวแต่ยืนอึ้งอยู่จนหมวยนั่นแหละที่สะกิดเรียก “หมวย...”

“ว่า....”

“กู...คิดถึงมันว่ะ...” ผมสั่นไปหมด น้ำตาแม่งก็จะไหล เมื่อกี้ตอนที่น่านมันลูบหัวรับรู้ถึงความอ่อนโยนที่ได้รับจากมันชัดเจนมาก “กูคิดถึงมัน...”

“กูไม่กล้าว่ะหมวย กูไม่รู้ว่ากูจะพูดอะไรกับมันดี มันตั้งปีนึงแล้วนะมึง กูรับไม่ได้แน่ๆถ้าคำตอบที่มันตอบมาคือการบอกว่ามันไม่ได้รักกูแล้วล่ะ”

“ถ้ามันเป็นแบบนั้นมึงก็ต้องทำใจยอมรับ” หมวยวางมือลงบนบ่าผม “กูจะอยู่ข้างๆมึงเอง ไปหาพี่เขาซะ....คำตอบเป็นยังไงส่งข่าวมาบอกกูด้วย”

ผมพยักหน้าก่อนจะบอกบอกลาเพื่อนสองคนแล้วเดินตามหาไอ้น่าน ไม่รู้แม่งเดินเร็วไปไหน พอวิ่งตามมันออกมาก็ไม่เห็นหัวมันแล้ว ผมไม่อยากพลาดโอกาสปล่อยมันไปอีกแล้ว เพราะผมไม่รู้ว่าคราวนี้ผมจะได้มันกลับมาไหม

ผมเดินวนดูแถวๆที่มันจะไปก่อนจะเดินย้อนกลับมาอยู่ที่เดิม เดินวนไปวนมาอยู่เกือบ 3-4 รอบก็ยังไม่เห็น จนสุดท้ายผมตัดสินใจลองเดินมาที่ลานจอดรถ เห็นรถไอ้น่านกำลังทำท่าจะออกจากห้าง ผมเลยตัดสินใจวิ่งตามพร้อมกับตะโกนเรียกมันทันที

“น่าน!!!!! น่านฟ้า!!!” ผมทั้งตะโกนเรียกทั้งวิ่งตาม แต่ไม่รู้ว่าจะทันไหม แล้วนี้มันก็ชีวิตจริงไม่ใช่ละครนะครับที่จะมีใครมาบังเอิญมองกระจกหลังเห็นพระเอกอย่างผมวิ่งตามมาแล้วหยุดรถให้อ่ะ ยิ่งคนแบบไอ้น่านด้วยแล้วไม่มีทางสนใจอะไรมากไปกว่าถนนตรงหน้าแน่ๆ

ตุบ!!!!!

แล้วคิดดูสิครับผมล่ะไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างผมจะสะดุดเท้าตัวเองล้มจนแทบลุกไม่ไหว แม่งก็รู้นะว่ามันน้ำเน่าแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับผม และชีวิตน้ำเน่าแบบผมไอ้น่านก็ไม่มีทางเห็นแน่ๆถ้าผมไม่บอกให้มันรู้ สุดท้ายผมเลยตัดสินใจคว้าหมวกกันน็อคของใครไม่รู้ปาใส่รถมันเต็มแรง เสียงเสียดสีของล้อรถบอกเป็นนัยว่าน่านฟ้ามันโกรธมากที่ลูกรักมันโดนหมวกกันน็อคที่ไหนไม่รู้ขว้างใส่

“ใครวะ!!!!” ว่าแล้วมันต้องโกรธ ก็แม่งรถมันทั้งคัน แถมผมปาหมวกกันน็อคใส่หลังรถมันเต็มๆดีนะไม่โดนกระจกแตก แค่กระโปรงหลังยุบไปนิดนึง

“กูเอง”

“ซน?? มึงปาทำไม แล้วไปนั่งทำอะไรตรงนั้น”

“ก็...ล้มอ่ะ เมื่อกี้ตะโกนเรียกมึงแล้วแต่มึงไม่ได้ยิน พอวิ่งตามมา มันไม่ทันเลยล้มเมื่อกี้”

“มึงคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกละครหรือไง โทรศัพท์ก็มีทำไมไม่โทร” ก็ใครมันจะไปนึกได้วะ จังหวะนั้นคิดได้อย่างเดียวคือวิ่งตามไหมล่ะ

ผมยู่ปากมองหน้าไอ้น่านที่ตอนนี้นั่งยองๆมองหน้าผม

“ว่าไงครับ??กระโปรงรถกูบุบแบบนั้นใครจะรับผิดชอบเหรอ” ผมมองเลยตามนิ้วไอ้น่านไปที่กระโปรงรถมัน ก่อนจะเม้มปากแน่นมองดูมือที่มีรอยแผลถลอก

“เจ็บ...”ขอสำออยปิดบังความผิดได้ไหม “น่าน...เจ็บอ่ะ...”

“เหรออออ”

“น่าน...”

“โอเคๆเจ็บก็เจ็บแล้วจะให้ทำไง...”

“ไปส่งที่หอหน่อย...”

“...........”

“นะ” ผมอ้อนมัน อ้อนแบบที่ไม่เคยอ้อนมันมาก่อนในชีวิต ท้ายที่สุดคนเจ็บแบบผมก็เป็นฝ่ายชนะ น่านฟ้ายอมขับรถไปส่งผมที่หอพัก ตลอดทางที่ขับรถกลับผมนั่งหันหน้าไปหาไอ้น่านจนมันหันมาเลิกคิ้วถามผมหลายรอบ ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าบอกมัน แต่ครั้งนี้ผมแม่งทนไม่ไหวจริงๆครับ มองอยู่นานมาก เกลียดมากที่สุดก็หนวดมันนี่แหละ “ทำไมมึงไม่โกนหนวด”

ถามจนได้

“ไม่มีเวลา”

“ข้ออ้าง...แค่โกนออกมันไม่ได้เสียเวลาขนาดนั้นสักหน่อย....เห็นแล้วจั๊กจี้” ผมยกมือเกาคอตัวเองอย่างลืมตัวในหัวก็เอาแต่คิดถึงเวลาที่น่านฟ้าไม่ยอมโกนหนวดแล้วนัวเนียผม

“มึงจะมาจั๊กจี้แทนกูทำไมซน กูไม่ได้เอาหนวดไปจิ้มมึงสักหน่อย” ก็ใช่...ผมลืมตัวได้ยังไงว่าตอนนี้ผมกับมันอยู่ในช่วงห่างกันสักพัก หลังจากประโยคนั้นของไอ้น่านผมก็ไม่ได้พูดได้ถามอะไรมันอีก “ตึกนั่นใช่หอมึงไหม”

ผมหันไปมองแล้วก็พยักหน้าบอกมัน น่านฟ้าขับรถมาจอดหน้าตึก มันไม่ได้ไล่ผมลงจากรถแต่ตัวมันเองก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าจะขึ้นไปบนห้อง สิ่งที่น่านฟ้ากำลังทำอยู่มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด ผมควรจะเดินออกไปเลยตอนนี้ดีไหมครับให้มันจบลงตรงนี้ น่านเองก็ไม่เห็นจะมีท่าทีแสดงออกให้ผมเห็นสักนิดว่ามันกำลังรอผม

“น่าน” แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจจะพูดออกมันมาแม้ว่าคำตอบของมันอาจจะทำให้ผมเสียใจก็ตาม “ถ้ากูกลับไปหามึงตอนนี้...มันยังมีที่ว่าง...ให้กูอยู่ไหมวะ”

“..........”

“ไม่ได้งั้นสินะ....” ผมเข้าใจแล้วว่าบางทีผมอาจจะปล่อยเวลาให้นานเกินไป มันตั้งปีนึงเลยนี่เนอะ อะไรๆมันก็คงเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยแหละ คนเรามีขีดจำกัดของตัว น่านฟ้าเองก็คงเหมือนกันผม

“ถ้างั้น...ขอกอดมึงเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมน่าน...”

“ทำไมต้องกอดเป็นครั้งสุดท้ายด้วย...”

“ฮึก....กู...ถ้างั้น...ไม่เป็นไรก็ได้...ขอบใจนะเว้ยที่มาส่ง...”

“ทำไมต้องกอดเป็นครั้งสุดท้ายด้วยวะในเมื่อกอดของกูมีให้มึงได้ตลอดซน...” ความอบอุ่นจากแรงกอดของมันทำให้ผมรู้ว่ามันยังรอผมอยู่ “ที่ข้างๆสำหรับกูมีไว้ให้มึงตลอดแหละซน”

“ฮึก...น่าน...ขอบคุณนะ...ขอบคุณจริงๆ” ผมกับน่านเราสองคนไม่ได้เอ่ยคำว่ารักต่อกันเพราะเราทั้งคู่รับรู้มันได้ดีที่สุดแม้ไม่ต้องพูด เรื่องราวที่ผ่านมาหลายๆอย่างสอนให้ผมเรียนรู้ ผมไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าของผมกับมันยังจะรักกันอยู่ไหม ผมไม่รู้ว่ามันจะมีอุปสรรคเข้ามาอีกหรือเปล่า

แต่สิ่งที่เราสองคนได้เรียนรู้จากอดีตคือเพียงเราจับมือกันให้แน่นพอ ไม่ว่าอุปสรรคอะไรที่เข้ามามันก็จะแค่ผ่านไป



>>>>>>>TBC<<<<<<<<<
จบแล้ววววว ติดตามข่าวอื่นๆได้ในเพจนะคะ
ส่วนตอนพิเศษ อีก 2 อาทิตย์จะมาอัพนะ ดูเหมือนยังไม่จบดีใช่ป่ะนั่นแหละรอตอนพิเศษนะคะ

ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามมาตลอดนะคะ ขอบคุณคอมเม้น (อ่านทุกเม้น อินทุกเม้นเหมือนกัน)
อาจจะไม่ตรงใจใครไปบ้างหรือบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันไม่สุด แต่นี่แต่งได้แค่นี้จริงๆ ต่อจากนี้จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมค่ะ

ขอบคุณมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 07-07-2015 18:33:27
น้องซนไม่ทิ้งลายเกรียนจริงๆ เลยนะค้าา :m20: แถมอาการอ้อนกลบเกลื่อนแบบนี้นี่น่าจับมาตีก้นเสียจริงค่ะ เนียนไม่เนียนไม่รู้ รู้แต่ว่าพี่น่านไม่เคยคิดโกรธน้องซนเลยสักครั้ง ^^

และเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าคุ้มค่ามากเลยนะคะ เพราะอย่างน้อยๆ มันก็ช่วยยืนยันคำตอบแล้วว่า 'หัวใจของซน' นั้นมีไว้เพื่อใคร~ :heaven
งื้ออออ คืนดีกันแบบนี้ดีแล้วเน้ออ คนที่รอลุ้นอย่างเราก็พลอยสุขใจไปด้วยเลยค่าา ^__________^

แต่ว่าๆ พี่น่านเนี่ยได้รับคำสั่งโดยตรงจากเจ้านายให้มาดูงานที่ชุมพรเอง หรือว่าพี่น่าน 'อาสา' มาแทนคนอื่นกันแน่ค้าา..หืม? แต่เราคิดว่าเรารู้น้าา :hao3: หุหุ ไม่แซวแล้วก็ได้ค่ะ ^^

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ จ้าา.. o1

ปล. รอตอนพิเศษนะค้าา ><
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-07-2015 19:41:39
 :mew1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 07-07-2015 19:47:53
น้ำจะไหล ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
น่ารักมากซึ้งมากด้วย
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
รอตอนพิเศษนะค่ะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 07-07-2015 19:54:37
ซน ปีนึงนี่ นานไปป่าว  ดูใจนานขนาดนี้แทบขาดใจตายได้เลยนะ   :really2:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-07-2015 20:03:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-07-2015 21:05:17
เราดีใจนะคะที่ทั้งสองคนเดินตามความฝันและทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีจนถึงตอนนี้
หนึ่งปีสำหรับบางคนที่ได้แต่รอมันนานแต่ถ้าทำตัวให้ยุ่งๆมันก็แปปเดียวนะ. ดีแล้วที่แค่ปีเดียว
ซนก็ยังน่ารักและเกรียนเหมือนเดิม จับน่านโกนหนวดด่วนเลยแล้วก็รักกันดีๆล่ะ
รอตอนพิเศษพิสูจน์ความหวานนะคะ. ขอบคุณมากค่ะ.  :katai2-1:    :L1:   :pig4: 

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ. สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 07-07-2015 23:17:15
ชอบมากค่ะอ่านรวดเดียวจบเลย
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 08-07-2015 08:14:13
ลงเอยสักทีซนซน
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 08-07-2015 10:06:13
 :pig4: :pig4: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 08-07-2015 15:07:35
แล้วก็จลจนได้ ยินดีด้วยกับทั้งคู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 09-07-2015 23:42:36
น่านก็เหนื่อย ซนก็เหนื่อย เวลารักษาใจจริงๆ
ดีใจกับซนและน่านด้วยนะ ต่อไปก็ดูแลกันให้ดี
เราชอบนิยายเนื่องนี้มากเลยค่ะ จบแล้ว
จะรอติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 10-07-2015 19:52:36
รอๆ ตอนพิเศษของน้องซน พี่น่านฟ้านะค๊า..... ขอหวานๆเลยได้ป่าวคะ อิอิ :mew2:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 10-07-2015 20:17:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 10-07-2015 23:39:13
เราอ่านรวดเดียวเลยยย
อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า "หน่วง" มากกกก 555+
มันหน่วงหัวใจเรา เป้นสถาณการ์ณที่ถ้าเกิดขึ้นจิงเราจะทำยังไง  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 11-07-2015 04:18:29
ซนแม่งนิสัยไม่ดีอ่ะ ไม่ชอบถึงจะน่ารักก้เถอะ ทำแบบนี้กับพี่น่านได้ไง ใจร้ายเกินไปแล้ว!!! :angry2:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 11-07-2015 12:59:31
 :mew6:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 11-07-2015 17:53:25
อ่านจบแล้ว สนุกกกกก น้องซนใจอ่อนสักที แต่แอลทำแบบนี้ไม่ไหวเลย สงสารโก้ด้วย เฮ้อออออออ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดีแหละนะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 11-07-2015 18:04:12
สงสารน่าน ส่วนซน สมควรโดนแบบนี้ล่ะ!!!! ต่อไปก็ตามง้อน่านซะ ดราม่ามากกก หมดมาม่าไปเป็นลังแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 11-07-2015 22:42:32
 o13
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: propg ที่ 12-07-2015 00:20:52
หูยยยย ชอบเรื่องนี้มากเลย อ่านแล้วก็รักซนตั้งแต่แรกเลย ไม่รู้ทำไมตกหลุกรักตัวละครนี้มากๆ
ถึงน้องจะมีบางอย่างที่แรกๆไม่ค่อยโอแต่ก็รักน้องอยู่ดี55555555

ชอบตอนช่วงนั้นมากๆเลยที่เป็นฉากสอบสัมภาษณ์
แล้วซนทำแบบร้องไห้ตัวงอปวดท้องอ่ะ นี่ร้องไห้ตามเลย รู้สึกว่ามันบีบคั้นอารมณ์มากๆ มันเจ็บไปหมด  :o12:

แต่ชอบบทพี่น่านนะเวลากวนใส่น้อง คือดูน่ารักมากเลย ชอบแกล้งน้องตลกดี อ่านแล้วต้องอมยิ้มตลอดเวลาเลย .///.

รอตอนพิเศษน้า  :hao7:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 12-07-2015 00:23:31
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 12-07-2015 12:25:23
น่ารักมากกกกกกกก อ่านรวดเดียวจบเลย จุใจมาก o13
ขอตอนพิเศษหลายๆตอนได้ม้ายยยยยยยยย :call:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [จบแล้วค่ะย้ายได้เลย] 07-7-15 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 12-07-2015 14:19:22
เพราะความรัก เป็นเรื่องเข้าใจยาก
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 13-07-2015 10:36:17
Because of you ซน ตอนพิเศษ

“กูเห็นหนวดมึงแล้วขนลุก” ผมพูดขึ้นตอนเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดเสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์

ในมือมีที่กวนหนวดเตรียมไว้เพื่อสังหารคนตรงหน้า น่านฟ้าหัวเราะขำเบาๆก่อนจะมองรูปที่ถูกแขวนไว้ตามฝาพนัง รูปส่วนใหญ่เป็นรูปธรรมชาติที่ผมเคยถ่ายไว้ หลายๆใบเป็นรูปที่ผมกับมันเคยไปด้วยกัน


“รูปนี้ตลก มึงอัดมาทำไม” มันไม่ตอบคำถามผมเรื่องหนวด แต่ชี้นิ้วไปที่รูปรูปนึง มันเป็นรูปที่ไม่ได้มีความชัดเจนเลยสักนิด หน้าผมกับหน้าไอ้น่านเบลอทั้งคู่แต่ช่วงเวลาก่อนถ่ายผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงหนึ่งเท่านั้น  ภาพถ่ายเป็นสิ่งที่คอยย้ำให้เรานึกถึงช่วงเวลาที่เราอยากจดจำ และช่วงเวลาของผมกับน่านฟ้ามันก็มีหลายช่วงเหลือเกินที่มันเป็นความทรงจำที่ดี หนึ่งในนั้นก็เป็นภาพเบลอๆตรงหน้านี่แหละ


“พูดเฉไฉทำไม มึงจะไม่โกนหนวดเหรอ” ผมเกลียดการเปลี่ยนประเด็นของมัน

“เปล่า...แต่กูแค่รู้สึกว่าการที่กูไว้หนวดมันดูเท่มากๆ”

“มึงเข้าใจไปเองคนเดียวอ่ะดิ มา..กูจะโกนให้”

“แล้วมือมึงอ่ะไม่เจ็บแล้วเหรอ...”

“ก็....เจ็บ แต่กูทนได้มากกว่าการเห็นหนวดมึงทิ่มตากู..” ผมลากคนตัวโตให้เดินเข้ามาในห้องน้ำ ก่อนจะขยับตัวเองขึ้นนั่งบนเคาเตอร์ล้างหน้า แล้วลากไอ้หน้าหนวดมาไว้ตรงหว่างขา หนีบมันไว้ไม่ให้ดื้อหรือขยับตัวไปไหน น่านฟ้ายิ้มละมุนแล้วเอามือสองข้างจับเอวอย่างว่าง่าย

“ทำไมถึงอยากโกนอะไรขนาดนั้นวะ” ก็เคยบอกไปหลายรอบแล้วว่าไม่ชอบที่มันทิ่มผิว ผมไม่ตอบ แต่เอาครีมโกนหนวดมาป้ายที่คางมันแทน “ว่าไงครับ ทำไมถึงอยากให้ผมโกนหนวดขนาดนั้น”

“อะไรของมึง” ผมถามไอ้น่านพร้อมเตะมันไปที สายตาคนตรงหน้าออกจะเจ้าเล่ห์ค่อนไปทางหื่นกาม ผมเกลียดสายตารู้ทันของมันฉิบหาย “เงียบๆไปก็ไม่มีใครเขาบอกว่ามึงเป็นใบ้หรอกน่าน”

“เอ้า ผมผิดเหรอครับที่ผมอยากรู้ว่าคุณให้ผมโกนหนวดทำไม ก็แค่บอกความจริงว่าลึกๆ...”น่านฟ้าเงียบเสียงลงเล็กน้อยก่อนจะเอาหน้าที่เต็มไปด้วยครีมโกนหนวดขยับลงมาใกล้หูผม “คุณ...ต้องการอะไรกันแน่”

ผมเอียงคอหนี ทุบไอ้น่านไปทีแล้วผลักอกมันออก

“อยู่นิ่งๆเป็นไหม”

“ได้ครับผม” เกลียดเวลามันพูดเพราะ นั่นหมายความว่ามันกำลังกวนตีนหรือไม่ก็จริงจัง แต่คราวนี้คือกวนตีน

“มึงมันกวนตีน”

“ผมเปล่ากวน ผมแค่อยากรู้ความจริง”

“อ๊ะ..” ผมเผลอหลุดปากครางออกมาเบาๆตอนที่น่านขยับตัวชิดผมมากขึ้น มันรู้ว่าผมต้องการอะไร แต่ว่าความกระดากอายยังคงมีอยู่เลยงับปากเลือกที่จะไม่พูดแทน

“โกนหนวดก่อนได้ไหมน่าน”

“โกนหนวดเสร็จแล้วทำอะไรต่อเหรอ” ผมคิดผิดหรือเปล่าวะที่ปล่อยให้มันเข้ามาในห้องแล้วพูดจากวนตีนผมแบบนี้ ผมเคาะที่โกนไปที่หัวน่านฟ้าทีนึงก่อนหนีบเอวไอ้น่านไว้ให้อยู่นิ่ง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ไอ้คนตรงหน้าก็ขยับไม่เลิก

“อย่ากวนตีนได้ป่ะล่ะ”

“เปล่ากวน ก็ถามดีๆนะ” น่านฟ้าเอียงคอตามที่กวนหนวดเพื่อให้ผมโกนให้เขาได้ง่ายขึ้น สายตามันสื่อออกมาได้ดีที่สุดว่าหลังจากนี้เราทั้งคู่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตัวผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เราทั้งคู่ต่างต้องการหรอกนะครับ เพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผมโหยหามันมาตลอด

“อย่ายุกยิกได้ไหมเนี่ย”

“เปล่ายุกยิกสักหน่อย”

“แต่มือมึงไม่ได้บอกว่าเปล่าเลยน่าน” ผมปัดมือไอ้น่านออกจากเอวที่กำลังพยายามสอดเข้าในเสื้อ

“ไม่ได้เหรอ...” แล้วมันก็เข้าโหมดดราม่า “กูก็แค่คิดถึงมึง...แค่ทำกันในแบบที่คนรักกันเขาทำกันไม่ได้เหรอวะ” ถ้าบ้านเรามีรางวัลออสก้าผมว่าคนที่ควรจะได้รางวัลคือมันเลย แม่งแสดงเก่งเหลือเกินทั้งสีหน้า ท่าทาง คำพูด แต่มือไม่ได้หยุดการกระทำของตัวเองสักนิด

“ตอแหลจริงๆ” ผมโกนหนวดให้น่านฟ้าจนเสร็จ จับหน้ามันหันซ้ายที ขวาที ก่อนจะเอามือลูบทั่วคาง คลำๆดูว่ายังมีตออะไรเหลืออยู่ไหม มันมองการกระทำผมพร้อมกับเลิกคิ้วถาม

“ได้ไหม”

“ถ้าบอกว่าไม่ได้ล่ะ”

“ก็ทำอยู่ดี”

“เหอะ...แล้วจะถามทำไม” ผมพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะกอดน่านฟ้าทั้งตัว เอาขากอดเอวมันแน่น “ที่เตียงนะกูไม่ชอบท่าพิศดาร”

ถึงมองไม่เห็นหน้ามันแต่ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าไอ้น่านกำลังยิ้ม เสียงหัวเราะเบาๆพร้อมกับความรู้สึกที่ทุกยกตัวขึ้น ผมกอดเอวมันแน่นเพียงไม่กี่วินาทีก็รับรู้ถึงเบาะนิ่มกับกลุ่มหมอน เราสองคนมองหน้ากันในแบบที่ไม่ได้มองมานาน น่านฟ้าดูโตขึ้น แต่แววตาที่ส่งมาให้ยังคงเป็นน่านฟ้าคนเดิม คนที่บอกว่ารักผม

“คิดถึง” ตอนที่อยู่ในรถผมกับมันยังไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ากอดเลยครับ ขนาดจะจูบกันก็ยังไม่ได้จูบเพราะเจอรปภ.ไล่ให้เอารถไปเก็บก่อน

“มากไหม” ไม่บ่อยนักหรอกที่ผมจะเล่นกับมันแบบนี้ น่านฟ้ายิ้มอีกแล้ว ผมชอบรอยยิ้มมัน จะพูดให้ถูกคือชอบทุกอย่างที่เป็นมันนั่นแหละ น่านฟ้าโน้มหน้าลงมา ปลายจมูกโด่งของมันเกลี่ยลงตามผิวแก้มให้ผมรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมานิดหน่อย เสียงกระซิบว่าคิดถึงยังมีมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ “ถามว่ามากไหม...”

“มากครับ...มากที่สุด”

“แล้วเมื่อไหร่จะจูบ ลีลาท่าเยอะอยู่นั่น”

“เอ้าคุณอยากจูบผมทำไมคุณไม่จูบเอง”

“เปล่าซะหน่อย แค่ถามดูเฉยๆ” หมั่นไสมันว่ะคิดว่าตัวเองอยู่เหนือผมหรือไง

“เหรอครับ” มันกวนตีนอีกแล้ว แต่ก็ไม่ได้ท้วงอะไรเพราะริมฝีปากได้รูปกำลังก้มลงบรรจงจูบแผ่วเบา ความร้อนจากปลายลิ้นพร้อมกับเสียงลมหายที่กำลังผสานเข้าออกใกล้เคียงกัน เสียงหัวใจเต้นระรัวราวกับว่ามันเป็นครั้งแรกของเราสองคน น่านฟ้ายกขาทั้งสองข้างของผมให้ดันขึ้นตั้งฉาก มือสอดเข้าไปในบ็อกเซอร์อย่างไม่ได้ทักถามอะไรผมก่อน ยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองทั้งตื่นเต้นทั้งรู้สึกเขิน มือทั้งสองข้างก็ไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ที่ไหนมันดูเกะกะไปหมด ทั้งๆที่เคยมีอะไรกันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่แค่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี มันก็เลยรู้สึก.... “เขิน???”

“เชี่ยไม่ใช่เหอะ”

“หึ”

“มันไม่ใช่...อ๊า...” ผมอ้าขารับสัมผัสจากน่านฟ้ามากขึ้น มันอมยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วจูบแก้มผมเน้นๆหลายที

“มึงน่ารัก”

“กูรู้ตัวน่า เลิกจ้องสักที” ผมอายสายตามันจนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดตาไอ้น่านไว้ ได้ยินมันหัวเราะน้อยๆพร้อมกับมือผมที่ถูกดึงลงแล้วแทนที่ที่ด้วยนิ้วมือประสานกันและกันแทน สัมผัสที่รู้สึกเต็มตื่นที่สุดคือความเสียวที่ตีวนอยู่ที่ช่องท้องน้อยพร้อมความสุขจากการที่น่านฟ้าขยับมือเร็วขึ้นทำให้ผมโผเข้ากอดมันอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ แต่ทุกอย่างก็ดับวูบเพราะคนขี้แกล้งอย่างมัน

“กูไม่ปล่อยให้มึงไปก่อนหรอกนะซน”

“เชี่ย” ผมกัดไอ้น่านอย่างไม่คิดว่าจะกลัวมันเจ็บ มันร้องเสียงดังก่อนจะเขกหัวผมมาที เขาเอื้อมมือไปควานหาถุงยางกับเจลในกระเป๋าเป้ ผมมองตามมันอย่างสงสัยว่าทำไมมันถึงพกของแบบนี้มาด้วย มันรู้รึไงว่าจะบังเอิญเจอผมที่นี้

“สงสัย??”

“ก็แหงดิ...แต่กูไม่อยากรู้หรอกว่าก่อนหน้านี้มึงใช้กับใคร” ผมไม่ว่าอะไรมันหรอกนะครับ 1 ปีที่ห่างกันมันก็มีบ้างแหละคนเราที่จะมีอะไรคนอื่น ขนาดคิดว่าจะไม่เสียใจนะแต่สุดท้ายก็รู้สึกแย่อยู่ดี

“ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้”

“เปล่าสักหน่อย ไม่ได้ร้อง ไม่ได้ว่า...”

“กูมีมึงคนเดียวนะซน ที่ผ่านมามึงจะหาว่ากูโกหกก็ได้แต่กูไม่เคยมีใครนอกจากมือตัวเองกับจินตนาการถึงมึง” ผมไม่อยากจะเชื่อคนแบบมันหรอกครับ แต่ถ้าการที่มันโกหกแล้วทำให้ผมรู้สึกดีผมก็คิดว่าได้ผล

“คนอย่างมึงเนี่ยนะ”

“ก็คนอย่างกูนี่แหละซนที่แม่งพอจะทำทีไร ก็คิดถึงแต่มึง ส่วนไอ้เจลกับถุงยางกูซื้อไว้ตั้งแต่ที่รู้ว่าจะมาชุมพรแล้ว กะว่าพรุ่งนี้จะไปอ่อยคนแถวๆคณะวิศวะดู แต่ไม่คิดว่าจะมีคนมาตามง้อก่อน”

“กูเปล่าง้อ กูแค่...บังเอิญผ่านมา”

“แล้วหมวกกันน็อคที่ขว้างมาล่ะ”

“ก็....”ผมอึกอักไม่รู้จะพูดแก้ตัวว่าอะไร “อะไรนักหนาเล่า” เลยแกล้งหัวเสียใส่พร้อมกับทุบมันไปที

“ก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ แค่จะบอกว่า คืนนี้จัดหนักแน่นอน ไม่ต้องห่วงพี่นะ” ใครห่วงมึงงงงกัน

ผมมองมันที่กำลังใช้ปากฉีกถุงยาง สายตาที่ส่งมาให้เต็มไปด้วยความรู้สึกเร่าร้อน กลิ่นอายของความคิดถึงคลุ้งเคล้าไปทั่วห้อง ความรู้สึกเย็นวาบทำให้ผมหลับตาหนีความอายอีกครั้ง มือสองข้างเอื้อมไปหยิบหมอนมาปิดหน้า มันอายนะครับ ไม่คิดว่าจะอายแบบนี้

“เอาหมอนออกได้ไหม” ผมส่ายหัวบอกมันเป็นคำตอบแทน

“...น่าน..”

“เอาหมอนออกครับ” คราวนี้มันไม่พูดเปล่ามันดึงหมอนผมออกด้วยตัวเอง ก่อนอะไรบางอย่างที่ถูกแทนที่ด้วยนิ้วกับความรู้สึกจุกเข้ามาแทนที่

“เจ็บ..” ในความหมายมันคือความรู้สึกนั้นจริงๆ น่านฟ้าหยุดและปล่อยให้ผมปรับตัวให้ได้ก่อนแต่สีหน้าบิดเบี้ยวของมัน ผมรู้ดีว่ามันก็คงอดทนอดกลั้นอยู่ไม่น้อย แต่มือหนาก็ยังยกขึ้นลูบปาดเหงื่อให้อย่างทะนุถนอม ชอบที่มันอ่อนโยน ชอบที่มันเอาใจใส่แบบนี้ “พร้อมแล้ว”

“แน่ใจ” มันเลิกคิ้วถาม  ผมเองก็พยักหน้า สัมผัสเดิมๆที่รู้จักกำลังเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไป 1 ปีให้เอ่อล้น ภาษากายของน่านฟ้าเป็นตัวบอกได้ดีที่สุดว่ามันคิดถึงผม เราสองคนเรียกร้องกันและกันไม่หยุด ต่างคนก็ต่างดำดิ่งสู่ห้วงความสุขสม



ครั้งแล้ว ครั้งเล่า


“รัก” คำกระซิบสั้นๆแต่มีความหมายมากที่สุด

“มากไหม”

“ที่สุดครับ” ผมยิ้มรับกับคำตอบของคนขี้เอาใจ ก่อนจะผลอยหลับไปพร้อมกับความอบอุ่นที่โหยหามาตลอด








“อื้อ อย่ากวนน่าน่าน จะนอน” ถึงไม่ต้องลืมตาขึ้นดูก็รู้ว่าคนที่กวนผมอยู่คือใคร สัมผัสเบาๆจากปลายนิ้วหรือไม่ก็ปลายจมูกที่คลอเคลียไม่หยุดทำให้ผมหงุดหงิด “น่านฟ้า....”

พูดแล้วก็ไม่ฟังชอบให้ขึ้นเสียง แต่ขนาดขึ้นเสียงแล้วคนบ้าก็ยังเป็นคนบ้าอยู่วันยันค่ำ ผมเลยดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า แต่แทนที่มันจะล้มเลิกความคิดที่จะกวนผม ไอ้น่านกลับหมุดเข้ามาในผ้าห่ม ไม่รู้คิดว่าที่กำลังทำอยู่เนี่ยโรแมนติกหรือไงวะ แต่สำหรับผมแล้วคือ

“กูร้อนนนนนนนนนน”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ยังมีน่ามาหัวเราะ

“อะไรของมึงน่าน กูจะนอนเนี่ย เหนื่อย”

“ไม่เรียนเหรอ สายแล้ว”

“ไม่เว้ย กูขี้เกียจ พรุ่งนี้วันเสาร์”

“แต่วันนี้วันศุกร์” คือกูก็รู้ไหมว่าวันนี้วันศุกร์ไม่งั้นกูจะบอกมึงได้ไงว่าพรุ่งนี้วันเสาร์

“ศุกร์แล้วไงก็กูไม่อยากไปอ่ะ” ผมเบ้ปากมองหน้าไอ้คนที่บอกว่ามาสัมนา “แล้วมึงอ่ะ ไม่ไปสัมนาห่าเหวไรนั่นหรือไง”

“ขี้เกียจ”

“แล้วก็มาด่ากู สันดาน จะนอนแล้วอย่ากวนได้ป่ะวะ” ผมบอกมันแค่นั้นก่อนจะหลับตาลงอีกรอบ ไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่ากับการได้เถียงไอ้น่านตอนตื่น หรือกวนประสาทมันตอนนอนเลยครับ มันเป็นสิ่งที่ผมรับรู้ว่ามันอยู่ตรงนี้ อยู่ใกล้ๆผม “อ๊ะ...”

“ขอสองนาที” ความเย็นของโลหะถูกทาบลงบนปาก สิ่งที่สัมผัสทำเอาผมลืมตาขึ้นมาดูว่ามันคืออะไร “นะครับ”

แหวนเงินถูกยกให้เห็นอยู่ในระดับสายตา ผมพยายามกลั้นยิ้มโดยการดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดปากตัวเอง

“อะไรอ่ะ”

“ปลอกคอ”

“สัส กูถามดีๆนะน่าน”

“มึงก็เห็นอยู่แล้วว่ามันคือแหวน จะถามทำไม ทำตัวเหมือนคนโง่ตลอด”

“ด่ากูเหรอ”

“แล้วมึงคิดว่ากูด่าใครล่ะ” ทำไมน่านฟ้านับวันก็ยิ่งกวนตีนวะ แม่งติดสันดานเสียๆแบบนี้มาจากไหน

“น่านมึงอย่ากวนตีนได้ไหม”

“มีเมียกวนตีนมันก็ต้องรู้ทัน”

“ใครเมียมึง สัส กูเกลียดคำนี้ แค่แฟนก็พอไหม” ไม่ใช่ไม่ยอมรับสถานะตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายไหนนะครับ แต่บางทีผมก็อยากให้มันถนอมความรู้สึกผมบ้าง

“ครับๆ ไม่กวนแล้วก็ได้” มันยกมือยอมแพ้ แล้วขยับลุกขึ้นนั่งดีๆ “แหวนอันนี้กูซื้อให้มึงตั้งนานแล้ว ไม่มีโอกาสให้สักที”

มันพูดเสร็จก็ดึงมือผมไม่จับ ก่อนจะใช้นิ้วโป้งลูบเบาๆที่ข้อนิ้วผม

“.......”ตื่นเต้น ไมนักบ่อยหรอกที่คนแบบมันจะทำซึ้งอะไรแบบนี้ แต่ถ้าพูดกันตามความจริง ผมกับมันไม่เคยมีโมเม้นแบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาสถานะของผมกับมันไม่เคยชัดเจน ไม่เคยมีสิ่งของที่แสดงออกให้เห็นว่าเราเป็นเจ้าของกันและกัน “ซน”

“อะไร”

“เขินเหรอ”

“เหอะ..คนอย่างกูเนี่ยนะ” โคตรเขินเลยเหอะแม่งงงงงงงงงงงงงงงงง แต่เรื่องอะไรจะบอกมันวะ บอกมันผมก็แพ้ดิ

“หึ ไม่เขินก็ไม่เขินดิ” แล้วจะยิ้มกวนตีนหาพระแสงอะไร ผมถีบมันไปที มันเลยเลิกทำหน้าล้อเล่นใส่ผม

“ผมน่านฟ้า” อยู่ๆมันก็พูดชื่อตัวเอง “ผมสัญญาว่า...”

“หยุดๆ พอเลยครับ กูไม่ใช้ภัทรธิดาที่ต้องการคำสัญญาเป็นหลักประกัน กูไม่อยากได้คำสัญญาของมึงมาผูกมัดตัวมึงไว้กับกูหรอกน่าน กูแค่ต้องการปัจจุบันก็พอ อนาคตกูไม่รู้ แต่เอาแค่ปัจจุบัน ปัจจุบันว่าตอนนี้ใจมึงคิดยังไง” ผมยกมือจิ้มไปที่แผงอกมันทีนึง น่านยิ้มแล้วจูบเบาๆที่หลังมือ

“กูรักมึงครับซน”

“ก็แค่นั้นแหละ เอ้า ใส่แหวนซักที กูจะได้นอน” ความรักของผมกับน่านฟ้ามันไม่เคยหวานหรอกครับ เลี่ยนสุดก็คงได้แค่เท่านี้...ล่ะมั้ง

“อ่าวว แล้วมึงไม่บอกรักกูมั้ง”

“มึงสำคัญขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ เลิกนัวกูได้แล้ว กูจะนอนน่านนนนน”







THE END…..
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-07-2015 11:08:20
 :mew1:  กรี้ด แค่นี้ก็ฟินแทบตายแล้วค่ะ

น้องซนมันกวนจริงๆ กวนกว่าพี่น่านอีก ฮ่า ขอบคุณค่ะ เป็นตอนพิเศษที่ฟินมาก
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-07-2015 11:39:34
:heaven ..

เราชอบคำพูดติดปากของพี่น่านที่ว่า 'มึงน่ารัก' จังเลยค่ะ อ่านไปก็รู้สึกเลยว่าพี่น่านเนี่ยเอ็นดูน้องซนมากๆ กับอาการเขินนะ..แต่กลบเกลื่อนทำเป็นโวยวายใส่กันตลอด ^^ เราว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักสุดๆ ไปเลยค่าาา :m3: แถมเวลาหยอกกันนี่แบบทำเราเขินแล้วเขินอีกตามไปด้วยเลยนะคะ >\\< งื้อออ ได้เห็นทั้งสองคนกลับมารักกันแบบนี้ดีจังเลยเน้ออ..

ขอบคุณค่าา o1
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 13-07-2015 11:50:04
ซนนนน มึงเขินกลบเกลื่อนตลอดดด  :laugh:
ขอตอนพิเศษอีกได้ปะล่ะ 55555  :katai4:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: knkmp ที่ 13-07-2015 13:37:28
กูไม่ใช่ภัทรธิดา 555555 :hao6:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-07-2015 23:37:36
 :mew1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 16-07-2015 02:23:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 16-07-2015 06:09:50
555555  ฮาตอนท้าย   

หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 16-07-2015 08:54:25
โอ้ยยยยยยย
น้องซนนนนนนนนน
ลีลานางช่างเยอะเหลือเกิน ปากก็แข็งดังหินผา ลุ้นแทบแย่เลย :เฮ้อ:
ชอบเรื่องนี้มากๆ อยากอ่านอีกสัก50ตอน :hao7:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-07-2015 14:43:03
ขออีกสักนิดน่ะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 16-07-2015 15:35:57
น่ารักมากเลย :o8:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 16-07-2015 18:01:56
บอกคำเดียวว่าเขินมากๆๆๆๆๆ
มันช่างน่ารักจริงๆเบย
อ่านไปยิ้มไป
ขออีก เอาอีกสิ ขอตอนพิเศษอีกสักตอนนะ นะ น้าาาา
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 16-07-2015 18:59:25
 :pig4: ซนนี่เกรียนตลอดจะทำหวานซึ้งหน่อยก็ไม่ได้
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: gloyjai ที่ 17-07-2015 00:03:13
ซนกับแอลทำไมนิสัยไม่ดี พี่น่านกับพี่โก้น่าสงสารที่สุด!! T^T
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 17-07-2015 15:05:18
สนุกมากกกกกกก ลงเยอะ จัดหนักมากกก
อ่านเพลินเลยทีเดียว ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: timeturbo ที่ 18-07-2015 13:04:17
น่ารักกก ...ขอบคุณที่แต่งให้อ่านน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-07-2015 15:24:54
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: AiiiKoiii ที่ 18-07-2015 22:00:49
อ่านไปอยากโยนมือถือทิ้งไป
ยิ่งช่วงดาร์คนี่ปรี๊ดดดดด

คู่หลักเราก็รักนะะ


แต่เราแอบรักโก้~~~~~~ โก้สู้เค้านะะะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 20-07-2015 23:41:03
ฟินนนนนนน
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 21-07-2015 23:03:38
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยคะ สนุก น่ารัก เกรียนทั้งคู่อ่ะ  บอกไม่ม่าแต่ก็เสียน้ำตาไปพอควร  แต่โดยรวมทุกอย่างลงตัวมาก น้องเกรียน  พี่น่านน่ารัก กวนเบาๆด้วย ขอบคุณนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 22-07-2015 22:28:59
 :pig4:
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 23-07-2015 23:05:05
สนุกมากครับ...
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 24-07-2015 11:22:12
สวัสดีครับ

พอดีผมเพิ่งอ่านจบน่ะ ตอนแรกอ่านช่วง15ตอนแรก คิดอย่างเดียวทำไมซนเห็นแก่ตัวแบบนี้ ต่อมาทำไมน่านเห็นแก่ตัวแบบนี้ จนสุดท้าย
หวยดันมาออกที่แอล ไม่คิดเลยว่าตัวละครตัวนี้จะร้ายได้ขนาดนี้ ตอนแรกก็คิดว่าคงได้กลับมารักกลับโก้แล้วเสียอีก แต่ไปๆมาๆดันไม่ได้
ความรักจากใครเลย ผมชอบตัวละครที่ชื่อแอลดีนะครับ ถึงจะไม่ค่อยมีบทแต่บทที่เขาได้ก็ถึงว่าเด่นใช่ได้

ยังไงก็ขอบคุณนะครับ จะติดตามเรื่อยๆนะครับผม

กลับมาต่ออีกสักนิดเถอะนะ ได้โปรดยังอยากจะอ่านตอน .... อีกสักหน่อย
 
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-07-2015 02:16:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Dajong ที่ 26-07-2015 02:25:16
 อ่านตอนแรกจนตอนสุดท้าย คือ..มันดีอ่ะ.. มีครบทุกอารมณ์ หน่วง น่ารักกุ๊กกิ๊ก ดราม่า โห...จะบอกว่าร้องไห้หนักมาก ตานี่บวมเชียวแถมสะอื้นให้อีก นิยายเขาดีจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 10:06:02
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' THE END [ตอนพิเศษ] 13-7-15 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 28-07-2015 02:09:38
กว่าจะลงเอยกันได้ ผ่านมาหนักเลย
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 11-08-2015 09:59:12
Because of you ซน

ตอนพิเศษ I will love you until of time

 

ผมเรียนจบแล้วครับ หลังจากที่เรียนจบก็หอบผ้าหอบผ่อนพร้อมกับใบเกรดที่ไม่ได้สวยนักกลับบ้าน ป๊ากับม๊าเลี้ยงฉลองให้ผมครั้งแรกที่ทำอะไรสำเร็จกับเขา ถึงปากจะบอกว่าเลี้ยงไปงั้นๆแต่ก็รู้อยู่หรอกครับว่าเขายินดีและดีใจกับผม

ชีวิตใหม่ผมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่น่านฟ้ามาหาป๊ากับม๊า เขามาพูดตรงๆว่าจะพาผมไปอยู่ด้วย ตอนแรกผมตกใจมากเพราะไอ้น่านไม่ได้บอกได้กล่าวอะไรผมสักคำมาถึงก็เข้าไปคุยกับป๊าม๊าเสร็จสรรพเรียบร้อยได้พรกับเงินตั้งตัวมา 1 ก้อนใหญ่ เห็นแล้วแม่งโคตรหมั่นไส้ นี่ลูกแท้ๆนะ เงินสักแดงยังไม่ให้ ดันเอาไปให้ไอ้น่านแทน แต่พอคุยกับไอ้น่านมันก็บอกว่าเงินก้อนนี้จะเอามาทำร้านกาแฟในแบบที่ผมอยากทำ แต่เงินแค่นี้มันยังไม่พอหรอกครับ ผมยังต้องเก็บอีกเยอะ ทั้งเงินและความรู้ คิดว่าถ้าเร็วสุดก็น่าจะ 1-2 ปี คงได้เปิด แต่ถ้าช้าสุด อันนี้ไม่รู้ว่ะ กลัวเหมือนกันว่าพอนานไปความฝันที่ตั้งใจทำในวันนี้จะกลายเป็นควันที่ล่องลอยในอากาศเพราะหลังจากที่ได้ทำงานในตำแหน่งบาริสต้ากับไปเรียนเค้กทุกๆเย็น ความเหนื่อยมันมีเยอะมาก เยอะจนบางทีรู้สึกว่าพอแล้วดีไหม

แต่พอมานั่งคิดว่าในอนาคตผมจะมีอะไร ความเหนื่อยมันก็บรรเทาลงไปได้บ้าง ผมนึกถึงวันที่ผมจะได้มีร้านเล็กๆ มีคนชื่นชอบในสิ่งที่ผมทำ มีลูกค้าประจำที่ติดใจในรสชาติกาแฟของผม และที่สำคัญก็มีไอ้น่านที่เป็นกำลังใจหลักให้ผม

ทุกวันนี้ผมกับมันไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยกันแบบราบรื่นมีความสุขแฮบปี้ตลอดหรอกนะครับ ทะเลาะกันน่ะมันเป็นเรื่องปกติ เคยทะเลาะกันรุนแรงจนคิดว่าอาจจะเลิกกันก็มี ตอนนั้นจำได้ว่าผมร้องไห้หนัก ตาบวมไปหลายวัน ข้าวก็ไม่ยอมกิน ทั้งๆที่จริงแล้วความผิดมันเกิดจากผมที่เอาแต่ใจแล้วน่านฟ้าไม่ยอมง้อ พอรู้ว่ามันไม่ง้อ ผมเลยเก็บข้าวของใส่กระเป๋ากลับบ้านตัวเอง แล้วมันก็นิสัยเสียพอผมบอกว่าจะกลับบ้านมันก็ขับรถมาส่งที่บ้าน ไม่พูดไม่จาอะไรสักอย่าง ทั้งๆที่ตอนนั้นผมร้องไห้หนักสุดๆ แค่มันกอดปลอบผมแล้วบอกว่าขอโทษ ผมก็ยอมมันแล้วนะครับ แต่มันกลับไม่ทำเลยคิดว่าคราวนี้ต้องเลิกกันจริงๆ คิดไปเรื่อยว่าน่านมันมีคนใหม่หรือเปล่า ทำไมถึงไม่ง้อ หรือว่ามันเบื่อผมแล้ว ช่วงเวลานั้นผมโคตรแย่ ไม่อยากทำอะไร ขาดงาน ไม่ไปเรียนทำเค้ก รู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับมันแย่มากๆ แต่ว่าพอมาลองคิดทบทวนดูแล้วผมก็รู้ว่าผมเป็นคนผิด ส่วนใหญ่ที่ทะเลาะกันก็จะเป็นผมที่หาเรื่องก่อน ผมอยากไลน์หรือโทรไปง้อ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง สุดท้ายเลยได้แต่รออยู่กับความเชื่อตัวเองว่าเรายังไม่เลิกรักกัน ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าความเชื่อนี้มันจะเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ผมก็เชื่อ เชื่อว่าน่านยังรักผม

หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ผมกลับมาอยู่บ้าน ไอ้น่านมาหาผมที่ห้อง ถามผมว่าโอเคขึ้นไหม ผมไม่ได้ตอบอะไรมัน แค่พยักหน้าแล้วเดินไปกอดมันที่หน้าประตู

ปากพึมพำพูดว่าอย่าทิ้งซนนะไม่หยุด ผมรักมันมากเลยครับนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าวันที่ผมไม่มีน่านฟ้าผมจะเป็นยังไง

หลังจากที่ทะเลาะกันครั้งใหญ่คราวนั้น ผมกับน่านฟ้าเราหันมาพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา บอกในสิ่งที่ตัวเองต้องปรับ บอกในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ พอได้ลองบอกลองปรับทุกอย่างมันก็ดีขึ้น ผมกับน่านไม่ทะเลาะกันรุนแรงอีก ถึงจะมีทะเลาะบ้างแต่มันก็มีเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านออกไป

 

“อร่อยไหม” ผมจดจ้องมองไปที่ไอ้น่าน วันนี้ผมเรียนทำเค้กชาเขียว อาจารย์บอกว่าฝีมือผมใช้ได้แล้วเรียกว่าเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ต่อจากนี้จะเป็นการเรียนในระดับที่ยากขึ้น คิดว่าอีกไม่เกิน 1 ปี ผมน่าจะเปิดร้านได้อย่างที่ใจต้องการ อาจจะเป็นร้านใต้ตึกที่ทำงานไอ้น่าน ไม่ใช่ว่าห่างจากมันไม่ได้หรอกนะครับ แต่จังหวะมันพอดีกับที่เขาจะเลิกขายเนื่องจากจะไปอยู่ต่างประเทศ ผมเลยได้โอกาสเซ้งร้านนั้นต่อ ดูจากลักษณะภายนอกก็ไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมมากนัก อาจจะมีจ้าสถาปัตย์ที่เป็นพวกตกแต่งภายในเข้ามาแต่งในส่วนที่อยากให้ดูอบอุ่นขึ้นเท่านั้น ร้านกาแฟของผมวางคอนเซปไว้ว่านั่งได้เท่าไหร่กี่ชั่วโมงก็ได้ WiFi Free 2 ชั่วโมง อยากได้มากกว่านั้นก็ซื้อของเพิ่ม

“เป็นไงอร่อยหรือเปล่า” ผมถามไอ้น่านอีกรอบ เพราะมันชิมแล้วชิมอีกไม่ยอมตอบผมสักทีว่ารสชาติอร่อยไหม

“โอเคนะ ไม่หวานหรือขมไป กำลังดี จริงๆแล้วอร่อยมากเลยล่ะ”

“จริงอ่ะ”

“จะโกหกทำไม”

“ดีจัง คราวนี้กูก็พอจะเปิดร้านได้แล้วสิ ต้องจ้างลูกน้องด้วย มึงว่ากี่คนดี” ร้านผมไม่ได้ใหญ่มาก แต่ถ้าทำคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ

“จ้างกูไหมล่ะ”

“ตลกและ อย่างมึงกูต้องจ้างเท่าไหร่ถึงจะพอล่ะ” ผมทุบมันไปทีนึงก่อนจะขยับนั่งพิงอกมัน “กูว่าอาจจะจ้างสักสองคน มึงคิดว่าไง”

“ก็ดีนะ”

“มึงช่วยใช้สมองที่มีรอยหยักมากกว่ากูคิดหน่อยได้ไหมน่าน พอกูบอกว่าอะไรดีมึงก็เห็นชอบหมด มันใช่ไหม” ผมพูดเสร็จก็หันไปกัดไหล่มันด้วยความหมั่นเขี้ยว แม่งให้ช่วยคิดช่วยทำไม่ใช่ให้อวย

“ก็ที่มึงพูดมันก็ดีหมดอ่ะ สรุปว่าจะจ้างสองคนใช่ป่ะ” ผมพยักหน้า

“ก็คิดว่าน่าจะนะ เนี่ยกำลังคิดอยู่ว่าจะดึงน้องที่ทำงานร้านกาแฟด้วยกันอยู่มาทำที่ร้านกูแทนนี่แหละ มึงว่าจะโอเคไหม” เพราะน้องสองคนนั้นที่รู้จักทำงานดี และก็เวลาทำงานด้วยกันมันราบรื่นไม่ค่อยมีปัญหา แต่ก็เกรงใจร้านกาแฟที่ทำอยู่เพราะจะออกพร้อมกันทีเดียว 3 คนเลยมันก็ทะแม่งๆ

“มันก็ยังเหลือเวลาอยู่นะ ยังไงมึงก็ต้องออกมาเตรียมร้านก่อนอยู่แล้ว ส่วนคนอื่นๆถ้าเขาอยากออกมาทำกับมึงก็บอกผู้จัดการร้านล่วงหน้าไปดิ ร้านเขาดังขนาดนั้นหาคนไม่ยากหรอก” ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่น่านบอก ก็คงจะต้องเอาตามนี้แหละครับ เหลือเวลาอีกไม่มาก ผมยังต้องเตรียมอะไรอีกหลายอย่าง อันดับแรกคือลาออกจากงาน แล้วก็ติดต่อหาช่างตกแต่งภายในว่าสามารถเพิ่มเติมอะไรได้อีกไหม หลังจากนั้นก็ต้องซื้อของ ซึ่งของที่ผมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบเกรดดีๆที่มีขายในประเทศ อาจารย์ที่สอนทำเค้กบอกว่าไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากนอกหรอก ถ้าเรามีฝีมือจริงๆทำจากอะไรมันก็อร่อยหมด แน่นอนว่าผมมั่นใจในฝีมือตัวเองมาก ฮ่า ฮ่า

“แล้วนี้จะออกจากงานตอนไหน”

“เดือนหน้า นี่ก็ให้เพื่อนช่วยแนะนำอินทีเรียให้อยู่ มีคนนึงเคยตกแต่งร้านกาแฟให้เพื่อนอีกคน สวยดีแล้วเขาคิดราคากันเอง เลยกะว่าจะลองๆคุยดู มึงว่าไงอ่ะถ้ากูจะจ้างเขาให้มาดูร้านให้”

“ก็ลองดูดิ จะทำทั้งทีก็ทำให้มันดีๆไปเลย” ผมก็คิดว่าแบบนั้น สุดท้ายเลยให้เพื่อนช่วยติดต่ออินทีเรียคนนั้นมาเจอ

แต่เชื่อไหมว่าโลกมันโคตรกลม พี่ที่มารับจ็อบให้ผมดันเป็นพี่เก้า รุ่นพี่สมัยที่ผมยังเป็นเด็กวัยรุ่นเกรียนๆอยู่ แกเป็นรุ่นพี่สมัยปวช.ปวส. ก็ว่าอยู่ตอนนั้นเห็นแกเปรยๆว่าจะต่อด้านสถาปัตย์ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะต่อจริงๆเพราะพี่แกวาดรูปได้โคตรห่วยแตก แต่เรียนด้านนี้ความจริงเรื่องวาดรูปมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเพราะในวิชาที่เรียนเขาก็คงมีสอนให้อยู่แล้ว

“ว่าไงไอ้เกรียน”

“พี่เก้าอย่ามากวนตีน ซนไม่เกรียนแล้วเหอะ นี่กำลังจะเป็นเจ้าของร้านนะ เป็นเจ้านายส่วนพี่เป็นลูกน้อง”

“ห๋า กูเป็นคนรับงานมึง ลดให้มึงแล้วนี่กูยังเป็นลูกน้องมึงอีกเหรอ งั้นไม่รับแล้วงานนี้” พี่เก้าเป็นผู้ชายที่มีมาดกวนๆ ผมปะบ่า เวลาผมร่วงลงมาปัดหน้าแกชอบทัดหูไว้ข้างนึง เคยถามว่าไม่รำคาญผมที่มันรุงรังเหรอ แกบอกว่าลุคนี้ผู้หญิงเข้าหามันง่าย แต่พูดไปใครจะเชื่อล่ะครับว่าไอ้ลุคลุคเซอร์แต่ไม่สกปรกของเขากลับเป็นที่ต้องตาต้องใจสาวๆมาหลายคนอย่างที่แกบอกจริงๆ เห็นแบบนี้ฟาดผู้หญิงเรียบนะขอบอก

“โหพี่เก้า ช่วยซนหน่อยเถอะ นี่ก็ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วเนี่ย ถ้าไม่ใช่พี่ผมก็คงไม่ได้เปิดร้านกาแฟที่เป็นดั่งความฝันสูงสุดของผมแน่ๆ พี่เก้าจะไม่ช่วยน้องจริงๆเหรอ” ผมกระพริบตาปริบๆอ้อนไอ้พี่เก้า มันส่ายหัวให้ผมเบาๆก่อนจะยื่นมามาขยี้หัวผมอย่างหมั่นไส้

“เว่อร์ตลอดอ่ะมึงอ่ะ แล้วนี่ไปไงมาไงมาเปิดร้านกาแฟ น้ำหน้าอย่างมึงกูว่าขายแค่น้ำเต้าหูก็พอมั้ง”

“ดูถูกไปไหมเฮียยยยย”

“ถ้ามึงจะเรียกเฮียเรียกสั้นๆก็พอไม่ต้องลากยาวขนาดนั้นก็ได้ครับ ลากยาวทีกูล่ะคิดว่ามึงด่ากูตลอด” พี่เก้าเป็นคนตลก เพราะแบบนี้พี่เขาถึงมีแฟนนับไม่ถ้วน

“จริงๆที่มาเปิดก็เพราะความรู้ที่เรียนวิศวะมามันน้อยนิดยิ่งกว่าหางอึ่งอ่ะดิ  ตอนแรกกะว่าจะเกาะพ่อแม่กินไปก่อน แต่พอเรียนจบก็รู้ว่าเราจะทำตัวเหี้ยขนาดนั้นมันก็ไม่ใช่ถูกไหมพี่ ผมเลยคิดแล้วคิดอีกว่าจะลองเปิดร้านเค้กดูแล้วบังเอิญจังหวะพอดิบพอดีกับมีคนรู้จักเปิดร้านสอน มันก็ลงตัวเหมือนฟ้าประทานให้ซนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้” ผมร่ายยาวเป็นหางว่าว ไอ้พี่เก้าหัวเราะในความประสาทของผมเหมือนเดิม เราคุยกันยาวมากเลยครับส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเก่าๆ ทั้งเพื่อนที่เรียนปวส.ด้วยกันว่าแต่ล่ะคนตอนนี้ไปอยู่ไหน ไอ้ผมก็พยายามจะเลี่ยงเรื่องแฟนตัวเองนะแต่พี่เก้าแม่งก็ไม่พลาดอยู่ดี

“แล้วนี่มึงเป็นไง กับน้องอะไรนั่นยังโอเคกันอยู่ป่ะ”

“น้องไหนล่ะ”

“น้องแอ๋วหรือน้องอีฟไรสักอย่างป่ะ”

“กวนตีนว่าพี่เก้า น้องเขาชื่อเอยไหม”

“ก็กูจำไม่ได้นี่หว่า แล้วเป็นไง สบายดี จะแต่งเมื่อไหร่วะ” ผมทำหน้าแหยๆ ฝืนยิ้มจนพี่เก้าเลิกคิ้วถาม “เลิกกันแล้วเหรอวะ”

“นานแล้วพี่”

“ทำไมเลิกวะ เขามีคนใหม่??” พี่เก้ารู้ว่าคนแบบผมไม่มีทางเลิกกับน้องเอยก่อน แต่อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปแล้ว

“เปล่าพี่”

“อย่าบอกว่าเป็นมึง??”

“อืม” ผมพยักหน้าน้อยๆ อมลมในแก้มจนป่อง ไอ้พี่เก้าส่ายหัวเหมือนไม่เข้าใจเท่าไหร่

“ใครวะ ผู้หญิงคนใหม่ที่มึงคบด้วยอ่ะ ว่างๆเอาหน้ามาให้กูดูหน่อยดิ๊น่ารักขนาดที่มึงยอมเลิกกับน้องเอยเลย” ผมกลืนน้ำลายลงคอ ไม่กล้าเล่าให้พี่เก้าฟังว่าคนที่ผมคบด้วยเป็นผู้ชาย

“เขาไม่ค่อยว่างน่ะพี่”

“เหรอวะ ถ้าไม่ค่อยว่างก็ไม่เป็นไรหรอก กูไม่ได้ซีเรียส” หลังจากนั้นพี่เก้าก็ชวนคุยเรื่องร้านเพราะเสียเวลากับเรื่องอื่นมาพอสมควร พี่แกถามผมว่าอยากได้รูปแบบร้านแนวไหน เดี๋ยวเขาจะไปวาดแบบมาให้ ผมเลยบอกรายละเอียดไปว่าอยากให้เพิ่มหรือลงตรงไหนบ้าง เราสองคนเดินเข้าออกร้านกาแฟอยู่หลายรอบ จริงๆร้านเดิมมันก็ดีอยู่ไม่จำเป็นต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเติมก็ได้ แต่ผมมองว่ามันยังเปิดโล่งไป ดูไม่สะดวกสบายหรือเป็นส่วนตัวอย่างที่ผมต้องการ

“รบกวนหน่อยนะพี่เก้า เรื่องเงินไม่ต้องห่วง”

“เรียกได้เต็มที่เหรอ??”

“เรียกได้เต็มที่บ้าอะไร ลดได้เต็มที่ดิพี่เก้า ไหนบอกว่าคนกันเองไง”

“เหอะ...กูถึงไม่อยากรับงานกับคนกันเองนี่แหละ เหมือนทำฟรีเลยสัส” ก็พี่เก้าเป็นคนแบบนี้ไงคนเขาถึงเรียกใช้ตลอด เป็นกันเอง รักเพื่อนรักน้อง ยิ่งกับคนสนิทนี่แจกได้แจก แถมได้ก็แถม นิสัยลุยๆไปไหนไปกัน มีช่วงนึงที่ผมสนิทกับพี่เขามากเรียกว่าไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด พอพี่เขาเรียนจบ ตอนนั้นก็เศร้าไปพักใหญ่เลยแหละครับ

“เสร็จยังวะซน” ไอ้น่านเดินเข้ามาหาผมในร้านกาแฟที่ปิดปรับปรุง มันขมวดคิ้วมองพี่เก้าด้วยสายตาไม่พอใจนักแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ก็คุยเรื่องแบบกับธีมเรียบร้อยแล้วแหละ มึงเลิกงานเร็วจัง”

“ก็วันนี้นัดกันจะไปรับไอ้เงินกับไอ้ทองไม่ใช่เหรอวะ” เออว่ะวันนี้วันศุกร์ ผมต้องไปเอาลูกๆผมมาตัดขน

“กูลืมเลย เนี่ยคุยงานเสร็จพอดีเดี๋ยวกลับเลยก็ได้ เออมึงกูลืมแนะนำ คนนี้พี่ที่เขาจะมาดูเรื่องตกแต่งภายในให้ร้านเรา ชื่อพี่เก้าเป็นรุ่นพี่กูสมัยเรียน ปวช. ปวส.น่าจะรุ่นเดียวกับมึงนั่นแหละ” น่านฟ้าหันไปพยักหน้าให้ตามมารยาท ก่อนจะหันมาคุยกับผมอีกที

“ไปเลยไหม” ส่วนผมก็กำลังจะหันไปบอกพี่เก้าว่าจะกลับแล้วแกก็ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมาแทน

“อะไรอ่ะพี่เก้า ทำไมพี่ทำหน้าส้นตีนแบบนั้น หน้าผมเหมือนหน้าเมียพี่เหรอ”

“พูดอีกทีกูจับมึงทำเมียจริงๆนะซน”

“ฮ่า ฮ่า อย่าเลยพี่ผมเกรงใจ ยังไงถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับเลยล่ะกันนะ”

“เดี๋ยวดิ” ไอ้พี่เก้ายังไม่ยอมผมไปแต่โดยดี “กูถามจริงๆซนที่มึงบอกว่ามึงมีแฟนใหม่ แฟนมึงคนเนี่ยผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“อ่า....” ผมอึกอักหันรีหันขวาง ทำหน้าลำบากใจอยู่พักใหญ่ จนเป็นไอ้น่านที่เข้ามาพูดแทน

“จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาถามเรื่องส่วนตัวของนายจ้างนะครับ”

“แต่ถ้าไม่ได้ถามในฐานะนายจ้างล่ะ”

“....”

“กูถามในฐานะรุ่นพี่...มึงจะตอบกูว่ายังไงซน” ผมไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพี่เก้าเขารังเกียจเกย์ไหม แต่จากคำพูดที่ได้ยินเมื่อกี้ถ้าผมเดาไม่ผิดพี่เขาอาจจะไม่ชอบที่ผมเป็นแบบนี้ก็ได้

“จะหญิงหรือชายคุณก็ไม่เกี่ยวอยู่ดี...ซนไปเถอะ...” น่านดึงแขนผมให้เดินตามมันไป แต่เป็นพี่เก้าที่ดึงมือผมไว้ได้ก่อน

“ไม่เกี่ยวได้ไง ก็เพราะถ้าซนชอบผู้ชายจริงๆ...พี่ก็พอจะมีโอกาสใช่ไหมซน” ผมอ้าปากค้าง หันไปมองหน้าพี่เก้าเลิกคิ้วถามมันว่าสิ่งที่มันพูดออกมามันไตร่ตรองดีแล้วแน่เหรอ โดยปกติแล้วพี่เก้าแกเป็นพวกชอบอำอยู่แล้วผมเลยไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่พี่เขาบอกว่าชอบผม

“พี่เก้าอย่ามาแกล้งซนนะ ซนไม่ขำนะเว้ย”

“พี่ไม่ได้แกล้ง สรุปซนชอบผู้ชายใช่ไหม ไอ้เนี่ยแฟนซนงั้นเหรอ”

“ใช่หรือไม่ใช่มันก็ไม่เกี่ยวกับมึง ปล่อยมือซนได้แล้ว” น่านฟ้าดึงมือผมไปจับแล้วดันตัวผมให้เดินไปข้างหน้า ยิ้มมุมปากจากพี่เก้าทำให้ผมรู้ว่าเขาแกล้งผม แม่ง กวนตีน

“กูจะจีบมึงซน คอยดูนะเว้ย มึงเตรียมใจไว้ได้เลย” เชี่ยพี่เก้ามันตะโกนลั่นร้าน ไม่อายพี่สางเทวดาไม่พอ มึงไม่อายหรือคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นเหรอวะ ผมดึงหนังสือพิมพ์ที่เขาแจกฟรีขึ้นมาบังหน้าตัวเองมิด ส่วนไอ้น่านก็ทั้งกึ่งลากกึ่งจูงผมแบบไม่คิดจะถามว่ากูเจ็บมือไหมที่มึงลากกูแบบนี้

“มึงไม่ต้องจ้างเชี่ยนั่นมาทำตกแต่งภายในให้ร้านเราแล้วนะ กูว่าจ้างคนอื่นเถอะ” หลังจากที่ขับรถมาได้สักพักไอ้น่านก็เริ่มรวน มันบ่นเรื่องพี่เก้าไม่หยุดบอกให้ผมจ้างคนอื่น ถ้าหาไม่ได้เดี๋ยวมันเอาเพื่อนมันมาทำให้

“กูว่าพี่เก้าเขาแกล้งเล่นเฉยๆหรอกมั้งมึง” สันดานพี่เก้าดูก็รู้ว่าแม่งอยากแกล้งผมให้ตาย เพราะมันเคยแกล้งผมให้เกือบจะร้องไห้มาหลายทีแล้ว

“น้ำหน้าอย่างมันกูไม่มีทางเชื่อหรอกแม่ง หน้าตากวนตีนแบบนั้น มันต้องชอบมึงมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วแน่ๆ พอรู้ว่ามึงมีแฟนเป็นผู้ชายมันก็รีบเลย มึงไม่เห็นเหรอ” ผมว่าพี่เก้าหมั่นไส้ไอ้น่านแน่ๆ พอลองแกล้งถามว่าผมมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายปั๊บรู้ว่าใช่มันก็รีบยั่วทันที ไอ้พี่เก้ามันกวนตีนจะตาย นิสัยแบบมันไม่รอดหรอกเรื่องแกล้ง

“มึงนั่นแหละอย่าไปตามเกมส์พี่เขาเลย ปล่อยๆแม่งไปสักพักถ้ามันคิดว่าไม่สนุกเดี๋ยวมันก็เลิกเล่นเอง”

“ไม่อ่ะ” ไอ้น่านทำหน้าเครียดก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์โทรให้ใครสักคน “ฮัลโหล ดิวมึงอยู่ไหน...เออช่วงนี้มึงว่างไหม...รับงานได้หรือเปล่า...ใช่...ของแฟนกู...ร้านกาแฟ...งั้นนัดคุยกันวันอาทิตย์นี้เลยนะ...ได้...เจอกันที่ใต้ตึกบริษัทกูนะ...โอเค..เออหวัดดี”

“เชี่ยน่าน... แล้วงี้กูจะบอกพี่เก้ายังไงวะ” ผมรับมือถือจากน่านฟ้ามาแล้วขยับนั่งขัดสมาธิหันหน้าไปมองคนขับรถ “มันฆ่ากูแน่”

“ก็ให้ค่าเสียเวลาไปดิ”

“มึงรู้นิสัยมันน้อยไปน่านฟ้า” คนแบบพี่เก้าแม่งแค่คิดก็ขนลุกไปทั้งตัว

“มึงโทรนัดให้มันมาที่ร้านเราวันอาทิตย์นี้ก็พอเดี๋ยวทีเหลือกูจัดการเอง” ผมยังทำหน้าลำบากใจนิดๆ แต่ก็เป็นไอ้น่านที่พูดปลอบว่าไม่เป็นไร ซึ่งผมไม่รู้สึกแบบนั้นสักนิด กลัวแต่ไอ้พี่เก้ามันจะไม่พอใจแล้วหันไปหยิบขวดแก้วแถวนั้นมาตีหัวผมแล้วกระทืบซ้ำอีกจนตายคาร้านก็ได้ มันยิ่งเป็นพวกสายโหดอยู่ด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดดดด

 
ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: candyon ที่ 11-08-2015 10:00:49
ต่อค่ะ>>>

วันเสาร์

ช่วงเวลาที่ผ่านมาแม่งเร็วจนน่าใจหาย ผมนับรอวันตายของตัวเองช้าๆ ไอ้น่านยังคงไม่เข้าใจว่าผมจะกลัวไอ้พี่เก้าทำไม ก็มึงแม่งยังไม่รู้ฤทธิ์มันน่ะสิ ไอ้พี่เก้าสายโหดเคยวิ่งไล่กระทืบเด็กอาชีวะที่มาหาเรื่องมันเป็นสิบแต่มันตัวคนเดียวให้เข้าโรงพยาบาลเป็นเดือน คิดดูครับ คิดดู แค่คิดผมก็เหมือนได้ยินสวดศพไกลๆแล้ว

“มึงทำหน้าตลก”

“มึงจะเข้าใจอะไรน่าน พี่เก้านะมึง เชี่ย ทำไมมึงไม่ให้พี่เขาทำให้กูวะ ทำไมต้องไปยุ่งยากลำบากพี่ดิวอีก” พี่ดิวเป็นเพื่อนต่างคณะที่มันรู้จักผ่านวงเหล้า ไม่สนิทมากแต่ก็แดกเหล้าด้วยกันบ่อยช่วงสมัยเรียน

“ไอ้ดิวมันไม่ลำบากหรอก ช่วงนี้มันว่าง”

“ก็มึงบังคับให้มันว่างนี่นา” ผมนั่งหน้ามุ้ยค้อนไอ้น่านไม่หยุด ในหัวเอาแต่นึกถึงคำพูดที่จะบอกไอ้พี่เก้าวันนี้

“เอาน่า เชื่อกูดิ” กูควรเชื่อมึงไหมน่าน เรื่องนี้กูควรเชื่อตัวเองก่อนไหม ควรเชื่อว่ากูกำลังจะตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า กูกำลังจะโดนไอ้พี่เก้ากระทืบ มึงแม่ง

ผมไม่ได้พูดอะไรกับมันอีก พอขับรถเข้ามาจอดใต้ตึกไอ้น่านก็ขอตัวแวะขึ้นไปเอกสารบนที่ทำงานส่วนผมก็เดินเลยมาที่ร้าน มองเห็นไอ้พี่เก้านั่งยองๆสูบบุหรี่แต่ไกล หล่อชิบหาย หล่อลืม แว่นกันแดดสีชากับผมปะบ่าดูเข้ากับมันจนน่าหมั่นไส้

“หวัดดีครับพี่”

“ไง ผัวมึงไม่มาด้วยเหรอ”

“มา...”

“แหมมม เต็มปากเต็มคำ แรดสัส” ไอ้พี่เก้าผลักหัวจนหน้าเกือบทิ่ม “วันนี้เรียกกูมาเพราะผัวมึงจะยกเลิกงานกูใช่ไหม”

“อืม พี่เก้าขอโทษนะ อย่าฆ่าน้องเลยนะ”

“กูไม่ยกเลิกอ่ะ วางแบบมาแล้ว” มันพ่นควันสีขาวให้ลอยฟุ้งจนทั่วฟ้า

“น่านบอกว่าจะจ่ายค่าเสียเวลาให้”

“กูไม่เอา” มันไม่ใช้หัวสมองมันคิดสักหน่อยเหรอวะ

“พี่เป็นอะไรเนี่ยพี่เก้า กวนตีนน่านมันทำไมวะ มันเคยไปทำอะไรพี่ ทุบอ่างล้างจานบ้านพี่เหรอเรื่องที่แกล้งว่าจีบผมอีก มันจะฆ่าผมตายแล้วรู้ไหม” ผมเบ้ปากมองหน้าไอ้พี่เก้าที่ยังแสดงสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“กูเกลียดเพื่อนมัน” แม่งพูดห่าอะไรไม่ได้ยินเลยโว้ยยย

“พี่พูดว่าไงนะ” ผมเอียงหูไปใกล้ไอ้พี่เก้าอีกรอบ

“เสือกว่ะเกรียน แล้วนี่เมื่อไหร่ผัวมึงจะมาเนี่ย นัดกี่โมงให้มันดูเวลามั้งดิ๊”

“พี่เก้าอ่ะ”

“กูทำไม”

“เปล่า” ซะที่ไหน มึงมันนิสัยเสียพี่เก้า ชอบหาเรื่องคนอื่นเข้าไปทั่ว คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนกันวะแม่ง

“ด่ากูในใจเหรอ”

“เปล่านะ” ผมรีบปฏิเสธทันที ไม่รู้มันรู้ได้ไงว่าผมด่า “ผมแค่จะถามว่าพี่เก้าสูบบุหรี่เสร็จยังเข้าไปนั่งรอข้างในไหมพี่”

“อืม”หลังจากที่พี่เก้าดูดบุหรี่เสร็จผมก็เดินมาเปิดร้านเพื่อพาคนบ้าเข้าไปนั่งรอก่อน ไม่งั้นน้ำลายฟูมปากตาย พี่แกเป็นพวกขี้หงุดหงิดง่าย แต่เวลาดีก็ดีใจหายนะครับ แต่เวลาร้ายแม่งก็อย่างที่เห็นโคตรของโคตรเอาแต่ใจ

“นัดกี่โมง” สักพักไอ้พี่เก้าก็ถามขึ้นมาอีก

“มันกำลังลงมา นั่นไงมาพอดี น่านทางนี้ อ่าวพี่วินมาพอดีเลย หวัดดีครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่ดิวที่เดินเข้ามาพร้อมไอ้น่าน ตอนที่เดินเข้ามาพี่ดิวมีชะงักไปนิดนึงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา พี่ดิวกับพี่น่านนั่งลงฝั่งตรงข้ามผมกับพี่เก้า

“สวัสดีครับคุณเก้า”

“ครับ”

“พอดีผมว่าจะคุยกัคุณเรื่องขอยกเลิกจ้างคุณในการออกแบบร้านผม แล้วก็ให้คุณคิดค่าเสียเวลามาเลยว่าเท่าไหร่”  ผมหันหน้าไปมองพี่เก้าที่ตอนนี้กัดริมฝีปากล่างเหมือนกับคนที่กำลังคิดอะไรบางอย่าง “ว่าไงครับ พอดีผมว่าจะให้เพื่อนผมเป็นคนออกแบให้”

“ก็ได้ เอาตามที่คุณพูดนั่นแหละ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะ ซนพี่กลับก่อนนะ”

“อ่าววว” ผมหน้าไอ้พี่เก้างงๆ “พี่แน่ใจเหรอ ไหนเมื่อกี้บอกว่ายังไงก็ไม่ยอมยกเลิกไง”

“กูเปลี่ยนใจไงสัส ยกเลิกก็ได้ ส่วนแบบทำเสร็จแล้วส่งไปให้ในอีเมลล์มึงแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ถ้าเขาจะเอาแบบที่กูออกก็ใช้ไปเถอะ กูไม่เอาเงินค่าแบบหรอก”

“เฮ้...ผมงงว่ะพี่” ผมขมวดคิ้วมองหน้าพี่เก้า มันไม่ได้พูดอะไรแค่มองหน้าพี่ดิวแปลกๆก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วเดินหายออกไปโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรต่อ “อะไรอ่ะน่าน เมื่อกี้ตอนที่อยู่กับกูยังดื้อไม่ยอมอยู่เลย”

“นั่นดิ..” ไอ้น่านทำหน้างงๆแล้วก็หันไปมองตามพี่เก้าที่เดินออกไป

“มึงจำไม่ได้จริงเหรอน่าน...” พี่ดิวเป็นคนพูดขึ้นมา

“จำ?? จำอะไรวะ”

“ไอ้เก้าไง คนที่กูเคยเล่าว่ารู้จักกันที่ร้านเหล้าคืนเดียวแล้วเอากันอ่ะ แล้วกูก็พามันมาเจอมึงแค่ครั้งเดียวมั้ง แต่ไม่รู้ไปไงมาไงหลังจากนั้นมันก็หายไป กูติดต่อมันไม่ได้ อีกอย่างไม่ได้เรียนที่เดียวกันด้วยตามหาตัวยาก ก็งงๆว่าทำไมถึงหายไป” พี่ดิวพูดเหม่อๆเหมือนคนที่กำลังใช้ความคิด

“อย่าบอกว่าคนนี้คือคนเดียวกับที่มึงเคยเป็นบ้าอยู่ช่วงนึง”

“เออ” พี่ดิวพยักหน้า แม่งเอ๊ย!!!กูก็ว่าแล้วทำไมพี่เก้าเกลียดขี้หน้าไอ้น่านที่แท้แม่งเจอตอนี้เอง

“พี่ต้องไปทำอะไรไว้กับแกแน่ๆ เพราะพี่แกเป็นคนแค้นแล้วจำฝังจิตบอกเลย”

“กูจำไม่ได้ว่าเคยทำอะไรว่ะ  จู่ๆแม่งก็หายไปแบบไม่บอกกล่าวไรสักอย่าง” พี่ดิวยกมือลูบหัวเกรียนตัวเองไปมา ก่อนจะหันหน้ามาสบตาผม

“ห้ะ??? มองผมแบบนี้มีอะไรวะพี่”

“กูขอเบอร์มันหน่อยดิ”

“เบอร์ใครพี่??”

“เบอร์ไอ้เก้าไง” ผมพยักหน้ากำลังกดหาเบอร์พี่เก้าให้พี่ดิว แต่ว่า

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

“อ่าวพี่เก้าโทรมาพอดี”

“มาเดี๋ยวกูคุยเอง ส่วนเรื่องงานมึงให้เก้ามันทำเหอะ มันเก่งกว่ากูเยอะเลย” พี่ดิวแม่งไร้มารยาทเพื่อนไอ้น่านมีแต่คนนิสัยเสีย ดึงมือถือผมไปแล้วออกไปคุยด้านนอกเฉยเลย

“อะไรของเพื่อนมึงวะน่าน สรุปยังไงกันแน่”

“กูก็ไม่รู้ ถ้ามันไม่ได้จีบมึงแล้วกูก็ไม่เกี่ยวล่ะ ที่เหลือเดี๋ยวแม่งไปคุยกันเองว่าใครจะเป็นคนรับงาน” ไอ้น่านยักไหล่ทำหน้าสบายใจ มึงนี่มันสุดๆเลยว่ะน่านพอไม่ใช่เรื่องที่มึงมีส่วนได้ส่วนเสียก็ไม่คิดจะแคร์ว่าร้านกูจะเป็นยังไงต่อไปเลยใช่ไหม เลว ผมด่าทอไอ้น่านในใจพร้อมกับยื่นมือไปขยี้หัวไอ้น่านอย่างแรง

“ผมยุ่งหมด”

“ก็มึงแม่งไม่ห่วงร้านกูเลยอ่ะ กูจะเปิดร้านอยู่ไม่กี่เดือนนี้แล้วจะใช้อินทีเรียคนไหนก็เอาให้มันแน่ดิวะ พี่เก้าไม่ทำให้แล้ว พอเมื่อกี้ไอ้เหี้ยพี่ดิวปัดงานให้พี่เก้าเฉยเลย สรุปกูต้องทำไง”

“เดี๋ยวก็รู้แหละว่าสรุปต้องทำไง” ผมพยักหน้าลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจนิดหน่อยก่อนจะเดินไปปิดแอร์ ปิดหน้าต่าง คุยกันไม่ถึง 10 นาที ส่วนอีกครึ่งชั่วโมงที่เหลือมาเดินปิดนั่นปิดนี่

สักพักพี่ดิวก็เดินเข้ามาพร้อมยื่นมือถือส่งกลับคืนมาให้ผม “สรุปว่าให้เก้าเป็นคนดูแลร้านมึงเหมือนเดิมนะซน”

“อ่าว พี่ดิวคุยกับพี่เก้าแล้วเหรอ”

“อืมคุยแล้ว ด่ากูใหญ่ว่ากูมาแย่งงานมัน ทั้งๆที่จริงแล้วเกิดจากแรงหึงหวงจากไอ้เชี่ยนี่ทั้งนั้น” พี่ดิวโบ้ยไปที่เพื่อนตัวเองที่ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “แต่ก็ขอบใจว่ะน่าน ถ้าไม่ใช่เพราะมึงหึง กูก็คงไม่ได้เจอเก้า”

“เห็นไหม เพราะกูหึงมึงนะซน คนสองคนถึงได้เจอกัน” ผมเบ้ปาก ส่วนพี่ดิวก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แกยิ้มพร้อมกับบอกลาว่ามีธุระไปทำต่อ

“มึงมันกวนตีน เพื่อนมึงด้วย” พอพี่ดิวเดินออกไปไม่นานผมก็หันมาพูดกับไอ้น่าน

“พี่มึงก็เหมือนกันเรื่องมาก”

“คนเรื่องมากก่อนคือมึงไหมน่าน” ผมด่าด้วยทับหลังมันด้วย “ทำเป็นหาอินทีเรียใหม่ ตอแหลสิ้นดี จะหึงห่าอะไรให้มันเข้าท่าหน่อยเหอะ”

“ก็มันพูดว่ามันจะจีบมึงอ่ะ” น่านฟ้าทำเสียงง้องแง้งใส่ผม ปากยู่พร้อมลมที่อมอยู่ในแก้มจนป่อง น่าหมั่นไส้ มึงคิดว่าตัวเองน่ารักหรือไงครับ

“มึงคิดว่าคนแบบกูง่ายเหรอน่าน”

“เหอะ” มันหัวเราะแล้วหันมามองผมด้วยสายตาเหยียดๆ

“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง”

“ก็หมายความมึงไม่ง่ายหรอก แต่กูก็ได้มึงในคืนแรกๆที่เจอกัน” คืนแรกๆเชี่ยอะไรล่ะครับ เจอกันครั้งที่ 2 หรือครั้งที่ 3 แล้วค่อยได้ไม่ใช่เหรอวะ แต่ผมเบื่อจะเถียงกับแม่งแล้วครับรำคาญ ส่วนมันพอเห็นผมเถียงไม่ได้ก็หัวเราะใหญ่น้อย มันน่าขำตรงไหนวะแม่ง “แล้วพอมีอะไรกันยังมีน้ำหน้ามาเรียกร้องให้กูรับผิดชอบอีก มึงนี่สุดๆ”

“ก็มึงได้กูแล้วนี่หว่า” ผมพูดเสียงอ่อน ได้แล้วก็ต้องรับผิดชอบดิ

“แต่มึงก็ยอมเองไม่ใช่เหรอครับ”

“เออออก็ใช่ แล้วไง แต่กูเสียหายอ่ะ ตอนนั้นกูปวดสะโพกเดินไม่ได้ ไม่สบายตัวร้อน มึงได้กูมึงต้องรับผิดชอบดิ”

“ฮ่า ฮ่า ทำเป็นโวยวายนะไอ้เตี้ย” มันขยี้หัวผม ก่อนจะดันผมให้เดินไปข้างหน้า “แต่กูก็ขอบคุณมึงนะ”

น่านฟ้าพูดพร้อมกับวางมือลงบนบ่าผม มันใช้นิ้วชี้ข้างที่วางบนบ่าดันแก้มให้ผมหันหน้ามามัน “เพราะถ้าตอนนั้นมึงไม่เรียกร้องให้กูรับผิดชอบ มันคงไม่มีวันนี้”

“........”

“วันที่ผ่านทุกอย่างมาจนถึงวันนี้ วันที่มึงเป็นของกูโดยที่กูมีสิทธิ์ในตัวมึงทุกอย่าง”

“.......”

“ขอบคุณนะครับซน ขอบคุณที่มึงเลือกกู ขอบคุณนิสัยมึงที่เป็นคนแบบนั้น ขอบคุณจริงๆว่ะ” เขินดิครับ ปกติไอ้บ้าตรงหน้ามันเคยโรแมนติกแบบนี้ที่ไหน ถึงจะมีบ้างแต่ก็ไม่ท่ามกลางตึกระฟ้าและเสียงบีบแตรรถแบบนี้ น่านฟ้าขยับหน้าเข้ามาใกล้จนหน้ามันชิดกับผม ลมหายใจร้อนเป่าลดผิวแก้วเบาๆ ผมเอียงคอหนี มองดูว่าแถวนี้มีคนอยู่ไหม แต่อาจจะเพราะมันเป็นวันหยุดเลยไม่ค่อยมีคนมากนัก น่านฟ้าดึงเอาเอกสารที่ถือลงมาจากอ๊อฟฟิตขึ้นบังหน้าผมกับมัน

“รักนะ” มันพูดเสร็จก็จุ๊บลงที่แก้มผมแรงๆทีนึง

“สัส คนเยอะ” ด่ามันด้วยความอาย หน้าแดงๆที่เห่อร้อนตามอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้นทำให้ผมยิ่งทำตัวไม่ถูก

“I will love you until the end of time”

“อื้อ”

“อื้อ นี่เข้าใจเหรอว่ามันหมายความว่าไง”

“เข้าใจ” ผมยักคิ้วบอกไอ้น่าน

“ไหนแปลดิ”

“โอ้ยยยยยยยยยยย ทำไมต้องแปลวะ เรื่องแค่นี้ กูรู้หรอก” ผมแปลไม่ออก ไอ้น่านพูดเร็วจับใจความได้แค่เลิฟอะไรสักอย่าง

“กูสัญญาซน สัญญา”

“เออห้ามผิดสัญญาล่ะ” ผมไม่รู้หรอกไอ้คำภาษาอังกฤษที่น่านฟ้าพูดรัวๆออกมาคืออะไร แต่คำสัญญาที่มันบอกออกมาในตอนท้าย ผมเชื่อว่ามันเกี่ยวกับรักที่มันให้ผม ไม่รู้หรอกนะครับว่าความรักระหว่างผมกับมันจะยังอยู่ต่อไปนานแค่ไหน แต่ตอนนี้แค่มันรักและก็ดูแลผมแบบที่มันทำ สำหรับผมเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

 -----------------------------------------------------------------------------------------

 ซื้อ because of you ซน ผ่าน E-book
 (https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzY5MjU3IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMzE5MzQiO30)
ซื้อ my best friend รักนี้มีแต่นาย ผ่าน E-book  (https://www.mebmarket.com/ebook-23922-my-best-friend-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-yaoi)

ฝากน้องซนด้วยนะ>////////////< ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆนะคะ ติดตามเรื่องใหม่ได้เร็วๆนี้ จะเปลี่ยนแนวการแต่งเป็นแบบผู้ใหญ่ด้วย ฝากติดตามด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-08-2015 10:38:54
พี่น่านเขาแค่อยากดัดนิสัยเอาแต่ใจของน้องซนล่ะสิคะ พี่เขาถึงได้ไม่ห้ามตอนที่น้องซนบอกว่าจะกลับบ้าน ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะการอยู่คนเดียวก็ทำให้น้องซนคิดได้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อไป ^^

แต่มาตอนนี้นี่ตลกอาการวิตกจริตของน้องซนมากเลยนะคะ กลัวพี่เก้าจนหูหลอนได้ยินเสียงเพลงสวดศพกันเลยทีเดียวเชียว :m20: ส่วนพี่น่าน..หวงน้องขนาดหนักเลยเนอะ >< แต่ก็อย่างที่พี่น่านบอกนั่นล่ะ ว่าก็ดีแล้วที่หึงเพราะมันทำให้พี่ดิวกับพี่เก้าได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง ได้เครดิตเลยนะคะเนี่ยพี่น่าน~ :o9:

เรื่องใหม่จะใช่คู่ เก้า-ดิว ไหมน้ออ..

ขอบคุณค่าา :pig4:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-08-2015 10:53:38
 :L2:   :mew1:  เย้ ตอนพิเศษมาแล้ว
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 31-08-2015 03:16:33
สนุก! ดราม่าเยอะดีชอบมาก ตอนแรกดูแค่ชื่อเรื่องกับอ่านอินโทร ไม่รู้เลยนะเนี่ย เกือบพลาด
คนเขียนขยี้อารมณ์เก่ง ใครรู้สึกอะไรยังไง ก็จับมาขยี้ๆๆๆอย่างละเอียด ยิ่งอ่านยิ่งอิน มันส์ดี

จริงๆ อยากจะอยู่ "ทีมน่าน" ใจจะขาด อยากดันเป็นพระเอกแห่งปีด้วยซ้ำ แต่...
นึกถึงตอนมันจูบกับอีแอลทีไร ของขึ้นแทนซนตลอด
เข้าใจว่าน่านเป็นพวกแรงขับทางเพศสูง แถมแอลกอฮอล์ลงไข่
แต่แหม...ดันจูบกันไปตั้งหลายครั้ง ไม่กินกันไปเลยล่ะ จบๆไป ช้ำใจมากค่ะ นี่ขนาดไม่ได้เป็นซนนะ

ส่วนซน ก็ตามนั้น ความรักแบบคนยุคใหม่...คือความรักแบบแบ่งเซลล์ได้ มีมันทั้งกิ๊กทั้งแฟน วินตลอดเวย์
มองว่าระหว่างซนกับเอย เป็นเพียงแค่ puppy love ดูไม่ได้ลึกซึ้งจริงจังกันขนาดนั้น
แต่การที่ซนจับปลาสองมือคือพัง คือเลวร้ายอยู่ดี พอปล่อยก็ดันปล่อยผิดมืออีก เอาเข้าไป นางหัวช้าสินะ

เคยอ่าน "My Best Friend รักนี้มีแต่นาย" และ "รอจนกว่า...จะรักกัน" แต่ชอบเรื่องนี้สุดเลยค่ะ
ซนนายเอกแนวไม่ค่อยซ้ำใคร โชว์แบดก่อนพระเอกอีก สายนี้หายากพอควร อิอิ
ส่วนน่านก็น่าตบน้อยที่สุดแล้ว ในบรรดาพระเอกอื่นๆของคุณคนเขียน 5555
จะติดตามอ่านเรื่องอื่นๆของคนเขียนต่อไปนะคะ เป็นคนชอบดราม่าอ่ะ รัวกดเป็ด และ (+1)
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 31-08-2015 21:11:42
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 01-09-2015 19:15:05
หวานหยดอ่ะ ชอบๆๆๆๆ ซนคือซึนมากๆๆๆ  :katai1: ผชแบบพี่น่านคือดีงามอ่ะ
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 02-09-2015 20:03:10
 :3123:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Youi_chin ที่ 22-11-2015 01:55:00
 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 28-11-2015 23:57:52
ซนนนนน  :mew1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 30-12-2015 20:43:25
กว่าจะรักกันได้ รักกันนานๆเน้อ ^^
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 31-12-2015 10:58:31
ึจบแล้วลุ่นมาก ใส่สั้นตลอดตกลงจะเอายังๆไงกันแน่สงสารน่านใจจะขาด กว่าจะได้มาแผลเยอะไปหมดความรู้สึกก็เยอะตามไปด้วย สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 01-01-2016 00:37:36
แรกๆ หมั่นไส้ทุกคน ฮ่าๆๆๆ แต่อยากรู้ว่า โก้ แอล เป็นไงต่อน้าาา :ling3:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 13-06-2016 17:17:02
เฮ้อ !!!! กว่าจะลงเอยกันได้แรกโคตรฮาเลย แต่หลัง ๆ ไหงดราม่าขนาดนี้

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: aun.kimjae ที่ 15-06-2016 00:00:36
สนุกมากค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลยหยุดอ่านไม่ได้จริงๆ ชอบเคะนิสัยแบบน้องซนมากกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 29-08-2016 00:33:26
สนุกค่ะ ชอบน่าน แต่แหมกินเด็กนิน่าอิจฉาค่ะ ซน ซนสมชื่อจริงๆ
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-05-2017 00:29:07
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 01-06-2017 16:20:34
น่ารักซน กับ น่านฟ้า แต่มีคู่ ดิวกับเก้าไหมคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 16-07-2017 20:53:33
สนุกมากครับ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 19-07-2017 20:26:04
 :pig4: