แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แจ้งข่าว++ B e c a u s e_O f_Y o u . . .' ซ น ' [ตอนพิเศษ 1.2] 11-8-15 P.13  (อ่าน 109042 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เรื่องที่บอกว่าพี่น่านกับพี่แอลจูบกันน่ะ เราไม่เชื่อหรอกค่ะ เราว่าซนตาฝาดมากกว่าอีกนะ อีกอย่างเขานั่งกันอยู่ในรถ แถมยังมองไม่ค่อยชัดแบบนั้นด้วย อาจจะบังเอิญผงเข้าตาแล้วเขาเอี้ยวตัวเข้ามาดูให้กันในจังหวะที่ซนมองเห็นพอดีเลยก็ได้ เอาน่า..อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนี้เลยค่ะซน เพราะถ้าพี่น่านจะคบกับพี่แอลจริงๆ ก็คงไม่ปล่อยเวลาไว้ให้นานขนาดนี้หรอกค่ะ สู้คบกันไปตั้งนานแล้วไม่ดีกว่าเหรอ? แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นความตั้งใจของพี่แอล (คนเดียว) ที่อยากให้ซนเห็นเป็นภาพแบบนั้นก็ได้ใครจะรู้ใช่ไหมคะ?

เอาล่ะค่ะ กลับมาที่เรื่องของซนต่อดีกว่า ถ้าซนรักน้องเอยจริงก็ปล่อยน้องไปเถอะค่ะ อย่ายื้อต่อไปอีกเลย ทั้งๆ ที่ความสัมพันธ์ของซนกับน้องเอยมันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ซนปล่อยให้พี่น่านเข้ามาเป็นคนที่สามระหว่างซนกับน้องเอยแล้วล่ะ อย่าหลอกตัวเองอีกเลยนะคะ ว่าภาพในใจยังเป็นน้องเอยเหมือนเดิม.. 

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ปกติจะเข้าข้างฝ่ายรับตลอดนะแต่เรื่องนี้นี่ไม่เลย เราไม่ชอบคนจับปลาสองมือ  น่านมันเจ็บแล้วก็น่าจะจำนะ  มีแอลก็ดี  เราว่าแล้วน้องเอยต้องเจอแต่เราว่าซนคงไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วน่าจะรู้สึกผิดมากกว่า  จากนี้ก็มองน่านแล้วกันนะเพราะเขาก็มีคนของเขาที่รักเขาแล้ว   เรื่องซูด้วยขอไงก็อย่าไปแทรกเป็นมือที่สามของคู่อื่นเลย

ถ้าเลิกกับเอยแล้วก็ไม่อยากให้ซนไปวิ่งตามน่านนะ  อย่ายื้อหรือแย่งเลยเพราะว่าอีกฝ่ายตัดสินใจแล้ว  การกลับมาหากันอยากให้กลับมาแบบเพราะรักกันและอยู่โดยขาดอีกฝ่ายไม่ได้มากกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2015 01:06:15 โดย Freja »

ออฟไลน์ T_t⊙€i☜♥♡

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทีมซน บอกเลย
 :sad4:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ไม่รักกันก็ไม่ต้องยื้อค่ะซน
น่านจูบกับแอลจริงหรอ?

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
 :katai1: ม่ายนะ น่านอะอย่าเพิ่งมีคนใหม่ดิ ซนมันแค่สับสนกับชีวิต ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง(เลยทำร้ายน่านแบบไม่รู้ตัว)

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of you ซน ตอนที่ 21 ความจริงที่เจ็บปวด


“ถ้างั้นผมเอาห้องเมื่อกี้ก็ได้ครับ” ผมบอกพี่เจ้าของหอพักก่อนจะเคลียร์ค่าจ่ายทั้งหมดกับเขา ทั้งค่าเช่าล่วงหน้า รวมถึงค่ามัดจำอีกสามเดือน หมดไปหลายหมื่น หลังจากที่รู้ว่าตัวเองสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาลัยที่เพิ่งไปสอบเมื่ออาทิตย์ก่อนผมก็ตัดสินใจว่าจะมาอยู่หอพัก เนื่องจากความสะดวกและขี้เกียจเดินทาง แต่ก็คิดว่าคุ้มกว่าการต้องนั่งรถเมล์ไปกลับเพราะดูท่าทางแล้วไอ้ซูคงไม่มารับมาส่งผมแหงๆ ด้วยที่มันเรียนอีกที่ซึ่งออกนอกเมืองไปยิ่งกว่าผมดังนั้นการจะหวังพึ่งน้องชายคนกลางก็ดูจะเป็นไปได้ยาก แล้วยิ่งจะร้องขอรถเหมือนที่ไอ้ซูได้ก็ดูเหมือนว่าจะยากมากกว่าเพราะต้องแลกมาด้วยเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าสามในเทอมแรก ซึ่งบอกตามตรงแค่สอบเข้าได้ก็บุญหัวจะตายอยู่แล้วครับ ยังจะมาเอาสามนี่มันเป็นไปได้ยากสุดๆ แต่ก็ยังดีที่ม๊ากับป๊ายังมีความรักลูกคนนี้อยู่บ้างเลยเลือกที่จะให้มาอยู่หอพักแทน

ห้องที่ผมอยู่ขนาดไม่ใหญ่มากในราคา 5000 บาท เดินเข้าไปเจอเตียงคู่วางอยู่กลางห้อง เฟอร์นิเจอร์ครบทั้งแอร์ ทีวี โต๊ะอ่านหนังสือและตู้เย็น ระเบียงเล็กๆทางขวามือกับห้องน้ำขนาดใหญ่ผมคิดว่าสำหรับผมเท่านี้ก็ถือว่าโอเคและ ที่เหลือก็ไปขนพวกผ้าห่มผ้าขนหนูผ้าปูที่นอนมาจากที่บ้าน ก็สามารถวางรากฐานชีวิตได้เลย

“สรุปว่าเอาที่นี้” ไอ้ซูโผล่หน้าเข้ามาถามพร้อมกับขยับนั่งลงเล่นกับแมวเจ้าของหอพัก ผมพยักหน้าบอกมันแทนคำตอบ

“พี่ชื่อพี่นางนะคะ ถ้าน้องมีปัญหาอะไรก็เรียกพี่ได้ตลอด หอพักเราห้ามนำยาเสพติดเข้ามาในหอพัก ห้ามทะเลาะและห้ามส่งเสียงดังรบกวนห้องอื่น ปกติห้องพักจะเป็นแบบเก็บเสียงอยู่แล้วถ้ามันดังเกินลิมิตจนห้องโทรมาแจ้งเราจะทัณฑ์บนไว้หนึ่งครั้งถ้ามีครั้งที่สองพี่ไล่ออกทันทีนะคะ ยังไงรบกวนเคารพกฏกติกากันด้วยเนอะ ส่วนเรื่องๆพี่ไม่ซีเรียสค่ะ” พี่นางร่ายยาวถึงกฏของหอพัก ผมพยักหน้าเข้าใจเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกที่ต้องมีข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตาม

“ผมสามารถเข้ามาพักได้เลยใช่ไหมครับ”

“ได้เลยค่ะ ห้องมันว่างอยู่แล้ว ยังไงก็ยินดีต้อนรับนะคะ”

“ขอบคุณมากครับพี่นาง” ผมยิ้มแล้วยกมือไหว้เจ้าของหอที่ดูท่าทางเป็นกันเอง ก่อนจะเอ่ยลาแมวขนสีน้ำตาลที่หน้าตาน่ารักกว่าอิแสนดีที่บ้านด้วยการลูบหัวมันไปทีนึง เวลาเห็นแมวที่ไรอดนึกถึงคนอีกคนที่บ้าแมวไม่ได้ทุกที ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

“ทำหน้าเหมือนปวดขี้อีกแล้ว กลับบ้านไปเอาของกัน” ไอ้ซูคว้าคอผมไปกอดแล้วดันไหล่ออกจากหอพัก ช่วงนี้ก็มีแต่มันนี่แหละที่คอยดูและตลอด

หลังจากที่พูดคุยรายละเอียดกันเสร็จไอ้ซูก็พาผมไปขนของจากที่บ้าน ก่อนจะแวะที่โลตัสเพื่อซื้อพวกผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ไมโครเวฟที่เด็กหออย่างผมจำเป็นจะต้องมี รวมถึงพวกของกินและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ หนึ่งวันหมดไปกับการซื้อของและจัดของเข้าห้อง เวลาที่งานยุ่งมากๆมันดีก็ตรงที่ผมไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องอื่น

“เฮ้อออออ เสร็จสักที” ผมล้มตัวลงบนกลุ่มหมอนที่วางระเกะระกะอยู่บนที่นอน ซูมันเข้าใจผมที่ผมซื้อหมอนหลายใบ เพราะที่นอนมันกว้างไปเลยต้องหาหมอนมานอนเป็นเพื่อน ตรงขวามือทางออกไประเบียงผมเอาพรมมาปูกับโต๊ะญี่ปุ่นเพื่อไว้นั่งกินข้าว ใกล้ๆกันมีโต๊ะอ่านหนังสือที่ทางหอพักเตรียมให้ จัดไม่ยากเท่าไหร่ และมันก็ดูลงตัวมากๆถ้าอยู่กันสักสองคน แต่คนเดียวก็ได้ สบายดี

“พรุ่งนี้รายงานตัวใช่เปล่า” ซูล้มตัวลงนอนข้างผม มันเอื้อมมือข้างนึงแนบลงกับแก้มลูบเบาๆเหมือนอย่างที่มันชอบทำเวลาต้องการปลอบ

“อื้อ” ผมหลับตารับสัมผัสจากไอ้ซู ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ผ่านมามีก็แต่มันที่อยู่เป็นเพื่อน ซูมันอยู่กับผมแทบจะตลอดเวลาด้วยซ้ำ ขนาดตอนนอนมันยังย้ายมานอนห้องผม

“ให้นอนเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่ต้อง”

“แล้วอยู่คนเดียวได้???” ผมลืมตามองไอ้คนที่ขึ้นชื่อว่าน้องชายก่อนจะพยักหน้าบอกมันแกนๆ

“ได้ดิ...ได้อยู่แล้ว” ช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาผมพึ่งไอ้ซูมันมามากแล้ว ทั้งปลอบ ดูแล พาไปนั่นไปนี่ ผมเองก็ไม่อยากให้น้องต้องมาห่วงผมเพราะเรื่องของผมเท่าไหร่ อาจจะใช่ว่าสองวันแรกที่เลิกกับน้องเอยผมนอนไม่หลับ ไม่กินข้าว ไม่ทำอะไรทั้งนั้น คิดตลอดเวลาว่าที่ผมบอกเลิกน้องมันถูกต้องแล้วหรือเปล่า ภาพที่เห็นน้องเอยร้องไห้บอกว่าไม่เป็นไรเอยรับได้ยังติดอยู่ในหัว แต่มาคิดแล้วคิดอีกที่ผมทำไปคงถูกที่สุดแล้วแหละเพราะคนรักกันมันไม่ควรตั้งอยู่บนความระแวง

อีกอย่างความรู้สึกผมตอนนี้มันก็ไม่ได้มีน้องเอยเหมือนแต่ก่อนแล้วด้วย ถ้าฝืนคบกันต่อไปก็รั้งแต่จะทำให้น้องเขาเจ็บเปล่าๆ เพราะงั้นการที่ผมปล่อยน้องเขาไป ก็คิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด คงได้ภาวนาให้น้องเขาเจอคนที่ดีกว่าผม ไม่หลอกลวง หรือนอกใจเหมือนผมก็พอ

“เลิกเสียใจได้แล้วซน...” ถึงแม้ว่าผมไม่ได้รักน้องเอยแล้วแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่เสียใจนะครับ

ผมกับเอยเราคบกันมานาน อยู่ด้วยกันตลอด มันก็เป็นธรรมดาที่อาจจะเสียใจบ้าง ยิ่งมาผสมโรงกับภาพที่เห็นไอ้น่านจูบกับพี่แอลอีก ความรู้สึกมันเลยบวกมากเกินกว่าปกติ

“กลับมาเป็นพี่ชายที่ร่าเริงเหมือนเดิมได้แล้ว” ไอ้ซูยังพูดปลอบพร้อมกับลูบหัวผมไม่ปล่อย ผมรู้นะครับว่าน้องห่วง ก็พยายามกลับมาเป็นปกติที่สุดแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าปกติของตัวเองมันเป็นแบบไหน เพราะหลังจากที่บอกเลิกน้องผมก็ไปไม่เป็นอยู่หลายวัน เพิ่งจะมาเป็นผู้เป็นคน พูดคุยกับที่บ้านได้บ้างก็ตอนที่ผลสอบออกในอีก 1 อาทิตย์ต่อมานี่แหละ

“อืม อีกนิดนะ ขอเวลากูอีกนิด” มันคงไม่มีอะไรทำให้เจ็บไปมากกว่านี้แล้วแหละ ทั้งเลิกกับแฟน หรือรู้ตัวเองว่ารักเขาช้าไปในวันที่เขามีคนอื่นแล้ว

ยังงี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ

เพราะคนแบบผมสมควรที่จะอยู่คนเดียวที่สุด





วันรายงานตัว
ผมมาถึงมหาลัยประมาณแปดโมงกว่า เวลารายงานตัวจริงๆคือแปดโมงครึ่ง ในคณะคราคร่ำไปด้วยเด็กปวส.ที่สอบผ่านนับรวมๆกัยแล้วก็มีไม่ถึง 50 หรอกครับ เพราะพวกปวส.ที่จะเรียนต่อเนื่องอย่างผมมีไม่มาก แถมยังต้องไปเรียนรวมกับพวกเด็กปีสามอีก แอบกลัวว่าตัวเองจะโดนไทด์เหมือนกัน เพราะพวกผมไม่ได้เรียนเหมือนพวกเด็กสายสามัญ คำนวญนี่ถือว่าน้อยมากจนเหมือนไม่ได้เรียนด้วยซ้ำ

“อ่าวมึง จันป่ะ” ผมเดินไปทักไอ้คนที่เคยสอบเลขที่ใกล้ๆผม เห็นมันกำลังทำหน้างงๆมองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไรสัก

“เปล่ากูอังคาร” หมายความว่าไงวะ

“มึงมีฝาแฝดเหรอ”

“ฮ่า ฮ่า มึงนี่มันตลก” ไอ้จัน(ไร)หัวเราะเสียงดัง “กูพูดเล่น นี่มึงสอบติดกับเขาด้วยเหรอวะ ไม่อยากจะเชื่อ น้ำหน้าอย่างมึง คงไม่พ้นว่าลอกกูสินะ”

ผมเอือมระอากับมันจริงๆ คิดผิดหรือคิดถูกวะที่เดินมาทักมันเนี่ย “มึงว่าวันนี้จะเสร็จกี่โมงวะ”

“ไม่รู้ว่ะคงเย็นๆมั้ง”

“อย่าเย็นมากเลยแม่ง วันนี้กูมีนัดกับสาวด้วย” ไอ้จันบ่นไม่หยุดก่อนแต่ผมก็ไม่ได้ตั้งใจฟังมันเท่าไหร่ เพราะมัวแต่สำรวจโดยรอบก่อนสายตาจะสะดุดเข้ากับร่างคุ้นตาที่เดินมาพร้อมกับเพื่อนๆมัน

“กูว่ามึ งพร้อมลงกว่าอาทิตย์ก่อนอีกนะ แดกข้าวบ้างไหมเนี่ย”

“เหรอวะ ช่วงนี้กูเบื่อๆอาหารว่ะ”

“เป็นไรวะ อย่าไปคิดมากเลย เชื่อกู”

“อืม” ผมครางตอบไอ้จันในลำคอเบาๆ สายตาก็ยังมองไปยังคนที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นานแล้วมั้งที่ไม่ได้เห็นหน้ามันชัดๆแบบนี้ วันนั้นที่อยู่ในรถก็เห็นแต่ด้านข้างไม่ได้เห็นเต็มตาเท่าวันนี้

ดูมัน...มีความสุขไม่เหลือเคล้าคนที่ทำหน้าเศร้าในคืนสุดท้ายที่เราคุยกันด้วยซ้ำ หน้าตาสดใสไม่ต่างจากรอยยิ้มที่ส่งไปให้คนที่เดินอยู่เคียงข้าง ดีแล้วที่มีความสุข....ดีแล้ว

ผมละสายตาจากพวกเขาแล้วหันมองไปที่อื่น เกลียดความรู้สึกตัวเองชะมัด เกลียดความร้อนที่กำลังไหลรวมอยู่ตรงกระบอกตา เกลียดความอึดอัดที่จุกแน่นอยู่ที่คอ เกลียดน้ำตาที่กำลังจะไหล ผมไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งๆที่ผ่านมาก็คิดว่าตัวเองลืมได้ไม่ยากแต่ทั้งหมดที่ทำมากลับพังทลายลงเพียงเพราะเห็นหน้ามันแค่แว่บเดียว

“ซน..เขาเรียกแล้ว ขึ้นไปบนอาคารกัน” ไอ้จันพูดชวนผมแล้วผลักตัวผมให้เดินไปข้างหน้า ตอนนี้ผมไม่ต่างจากหุ่นยนต์เดินได้สักเท่าไหร่ มีแต่ร่างกาย แต่สมองและจิตใจมันไปอยู่ที่อื่น ไอ้จันพาผมมานั่งตรงที่นั่งหลังสุด แต่ถึงจะเป็นหลังสุดก็ยังเห็นอยู่ดีว่าใครยืนอยู่หน้าห้อง ความอึดอัดยิ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะสายตาจากคนกลุ่มนึงที่มองมาที่ผม

“พวกเชี่ยที่อยู่หน้าห้องมันจ้องอะไรนักหนาวะ น่ารำคาญ” ไอ้จันบ่นเพราะมันเองก็คงรู้สึกถึงการโดนจ้องมาไม่ต่างจากผม “มึงรู้จักพวกมันงั้นเหรอ”

“อืม”

“สงสัยมันรอให้มึงหันไปไหว้มั้ง” ผมหันไปไหว้พวกมันตามที่ไอ้จันบอก... พี่โก้เป็นคนแรกที่ยิ้มกลับมาไม่ต่างจากพี่ป็อบที่แทบจะโบกมือให้ พี่แอลเองก็พยักหน้าให้เบาๆก่อนจะหันไปคุยกับไอ้น่านที่สะกิดให้ดูอะไรสักอย่างในมือถือต่อ


ส่วนไอ้น่านมันไม่ได้มองผมเหมือนกับคนอื่น มัวแต่สนใจมือถือกับติดพูดคุยสนุกกับพี่แอล คิดดูล่ะกันครับแม้แต่หางตามันก็ไม่คิดจะเหลียวมองมาด้วยซ้ำ


แค่คิดว่ามันเลิกใส่ใจ เลิกสนใจในตัวผม ความเจ็บปวดก็ระเบิดออกมาทันที รู้แค่ว่าผมไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว อยากเดินออกไปให้พ้นๆหน้าไอ้น่าน ผมกลัวว่ามันจะทำหน้าเอือมระอาใส่ตอนที่เห็นหน้าผม กลัวมันคิดว่าที่ผมเข้ามหาลัยนี้มาเพราะผมตามตื้อมัน


ผม...กลัวไปหมด


กลัวมากที่สุดก็คง กลัวว่ามันจะเกลียดผมแล้ว...ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมคงรับมันไม่ไหว...



มึงเป็นไรวะซน...ทำไมหน้าซีด”

“เปล่า”

“มึงเปล่าได้ไง หน้ามึงไม่ได้บอกว่าเปล่าสักนิด เป็นไร...”

“จัน...กูปวดท้อง...ฮึก..” ช่วงหลังมานี้ผมมักจะมีอาการปวดท้องมาเป็นระยะๆ ไม่รู้ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร อาจจะเพราะเครียดหรือไม่ก็ไม่ยอมทานข้าว แต่ที่ร้องไห้ออกมาผมไม่แน่ใจว่าเพราะปวดท้องหรือปวดอย่างอื่นกันแน่

“มึงปวดมากเลยเหรอวะ” ผมงอตัวราบกับโต๊ะแลคเชอร์

“กูทนได้”

“ทนเหี้ยอะไรล่ะ อาจารย์ครับ อาจารย์ เพื่อนผมไม่สบาย!!!!” เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือไอ้จันตะโกนบอกอาจารย์หน้าห้องว่าผมไม่สบาย ก่อนทุกอย่างจะดับลงไปพร้อมกับความมืด






ในความฝันผมเห็นไอ้น่านกอดผมไว้ มันเป็นคนอุ้มผมลงบนที่นอน มือเย็นๆของมันลูบหัวผมช้าๆแล้วกระซิบบอกกับผมว่ามันกลับมาแล้ว แต่ความฝันมันก็ยังคงเป็นความฝันเพราะความจริงที่ตื่นมากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

“ตื่นสักทีสินะมึง” ไอ้จันนั่งอยู่ข้างๆเตียงยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้ “กว่าจะตื่นได้ กูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอว่ากูนัดสาวไว้”

“โทษทีว่ะ” ผมลุกขึ้นนั่งดีๆ มองสำรวจรอบกาย ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานพยาบาลสักที่คิดว่าน่าจะห้องพยาบาลของมหาลัยหรือไม่ก็คณะ

 “แล้วมึงโอเคแล้วใช่ไหม” ผมพยักหน้าบอกไอ้จันเป็นคำตอบ  “จะกลับเลยเปล่า เดี๋ยวกูไปส่ง แต่ต้องเป็นเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ยเพราะกูรีบ” ไอ้จันส่งกระเป๋ามาให้ผมทันที มันทำท่าจะลากผมลงจากเตียงเอาซะเดียวนี้ แต่ผมยังไม่ไหวอ่ะ อยากพักสักครู่แล้วค่อยกลับ

“มึงกลับไปก่อนเลยไม่ต้องรอ กูกลับเองได้”

“เอางั้นเหรอ??” มันพูดเหมือนไม่แน่ใจแต่กระเป๋าดันสะพายขึ้นบ่าเรียบร้อย

“เออ เอาแบบนี้แหละ”

“ถ้างั้นก็ตามใจมึง งั้นกูไปนะเจอกันเว้ย” ผมพยักหน้าให้ไอ้จันก่อนจะเอนตัวพิงกับเตียง

“เดี๋ยว” ผมรั้งไอ้จันไว้เพราะความหวังที่เกิดจากความฝันก่อนที่จะตื่นพุ่งเข้ามาในใจอดคิดไม่ได้ว่าขอให้มันเป็นความจริง “ใครพากูมาส่งที่ห้องพยาบาลวะ”

ผมยอมรับว่าตัวผมแอบหวังลึกๆว่าคนที่อุ้มผมมาพร้อมกับอ้อมกอดที่อบอุ่นจะเป็นไอ้น่าน

“จะใครวะ...ถ้าไม่ใช่กู” ไอ้จันพูดเสียงเบาหวิวก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องพยาบาลไป เสียงมันที่เปล่งออกมาดูคล้ายๆกับสงสารหรือไม่ก็สมเพชในตัวผม


ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ ทั้งๆที่มันก็อยู่ตรงหน้า แต่บางครั้งผมก็อยากติดอยู่ในความฝันมากกว่าจะตื่นมาพบกับความจริงที่กำลังตะโกนใส่หน้าว่า ต่อจากนี้ผมจะไม่มีน่านฟ้าที่คอยอยู่ข้างๆอีกแล้ว...ไม่มี










ผมออกมาจากห้องพยาบาลตอนที่ท้องฟ้ากำลังกลายเป็นสีส้ม ลมร้อนปะทะเข้าที่หน้ามันหอบเอาความชื้นของกลิ่นฝนมาด้วย ใกล้ฤดูฝนเต็มที ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอให้มันช่วยชะล้างเอาความเจ็บปวดให้ออกจากใจไปด้วย ผมเดินเตร็ดเตร่อยู่ใต้คณะสักพัก เด็กนักศึกษาส่วนใหญ่กลับบ้านหมดแล้ว ลานคณะเงียบเหงาไม่ต่างจากใจผมเท่าไหร่นัก






“ซน” เสียงคุ้นหูทำเอาลมหายใจสะดุด ผมตัวชาหนึบทันทีที่รู้ว่าเสียงที่อยู่ด้านหลังเป็นใคร ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นมันทำให้เหงื่อผมซึมออกจากมือจนเหนียวไปหมด “มึง...เป็นไงบ้างวะ กูเห็นมึงล้มในห้องประชุม มึงไม่สบายเหรอ”

ผมนับ 1 ถึง 3 ในใจแล้วค่อยๆหันมามองคนข้างหลัง น่านฟ้าคนเดิมที่ปกติมักจะส่งยิ้มล้อๆมาให้ กำลังยืนเลิกคิ้วถามผม สีหน้าไม่ได้แสดงออกว่าห่วงมากเท่าไหร่นัก แววตาที่แสดงออกมาก็ไม่ได้รักและรู้สึกโหยหาเหมือนเก่า

“เปล่า...กูแค่ลืมกินข้าวน่ะ” เสียงที่พูดออกมาดูคล้ายจะฝืนเต็มที มือก็พยายามอย่างมากที่จะกอดตัวเองไว้ไม่ให้เอื้อมไปจับคนตรงหน้า

“กูก็นึกว่ามึงจะเป็นอะไรมากไหม แล้วนี่เป็นไงบ้าง สบายดีนะ”

“ก็...” ไม่สบายนักหรอกตั้งแต่ไม่มีมึง กูกินข้าวไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ อยากกอดมึง อยากจูบมึง อยากเอามึงมาอยู่ข้างๆเหมือนเดิม

ผมกลืนคำพูดพวกนั้นลงคอ สูดหายใจลึกๆแล้วหันมายิ้มให้ไอ้น่าน “สบายดีแหละ มึงล่ะสบายดีนะ”

“ก็ดี ช่วงนี้ยุ่งมาก ทั้งเรื่องรับน้อง เรื่องยื่นขอจบ แต่อะไรๆก็ลงตัวขึ้น ยังดีที่มีแอลช่วยไม่งั้นก็คงโง่อีกนานอ่ะ” ที่น่านฟ้าพูดไม่รู้ว่าผมเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่าว่ามันกำลังหมายถึงผม ที่มันบอกว่าถ้าไม่มีพี่แอลช่วยมันก็คงยังโง่ไปอีกนาน หมายความว่าถ้ามันยังอยู่กับผมก็จะกลายเป็นคนโงงั้นเหรอ

ผมเม้มปากแน่น ก้มหน้าลงกับพื้น กลัวน้ำตาตัวเองจะไหลให้ไอ้น่านเห็น

 “น่าน” ผมว่าตัวเองคงทนไม่ไหวถ้าไม่รู้ความจริงจากปากไอ้น่าน “กูถามอะไรมึงอย่างดิ”

“ว่า”

“มึงกับพี่แอลคบกันแล้วเหรอวะ” ถามไปใจก็ผมก็ลุ้นไป ไม่รู้คิดถูกแล้วหรือเปล่าที่ถามมันออกไปแบบนั้น ทั้งๆที่กลัวคำตอบมันมากที่สุด แต่ก็อยากรู้ว่าความจริงมันคืออะไร ผมจะได้เลิกหวังสักที

“มึงคิดว่าไงล่ะ”

“คบ...มั้ง”

“ก็คงเป็นอย่างที่มึงคิดนั่นแหละ” น่านฟ้าเอื้อมมือมาวางไว้บนหัวผม เสี้ยวหนึ่งของความคิดผมอยากดึงมันมากอด “กูไปแล้วนะ นัดไอ้แอลไว้ ยังไงเจอกันอีกทีเปิดเทอมละกัน”

แต่ความคิดที่อยากจะกอดก็หยุดชะงักลงเพราะน่านฟ้าไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว ความอบอุ่นสุดท้ายที่มันส่งมาให้คือการขยี้เบาๆที่หัวแบบที่มันชอบทำ ผมเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเข้มแข็งกว่านี้ เรื่องเล็กน้อยอย่างการรักใครสักคนแล้วเขาไม่รักตอบมันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ความจริงทำให้ผมรู้ว่าจริงๆแล้ว ผมอ่อนแอ




อ่อนแอมากเสียจนปล่อยให้ความเจ็บปวดเข้าครอบงำความรู้สึก




ผมทรุดนั่งลงลงกับพื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่คิดที่จะเช็ดมันออก ในใจเอาแต่พูดกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่า ไม่ไหว....พอได้แล้วหยุดสักที





ฮึก...ผมไม่ไหวจริงๆนะครับ ฮึก....ผมอยากเลิกรักน่านฟ้าแล้ว....ไม่อยากรักมันแล้ว...



>>>>>>TBC<<<<<
ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกว่า รอตอนต่อไป หึหึ ลองเดาดู

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อยากถามจากใจว่าน่านไหวจริงๆปะ แน่ใจใช่ไหมว่าสบายดี.   :hao7: 
ซนแกก็สำนึกได้แล้วเนอะว่าควรอยู่คนเดียว. แต่ตัวคนเดียวต้องดูแลตัวเองได้ด้วยดิ.

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คนเราก็ต้องผ่านช่วงนี้กันทั้งนั้นแหละ  ต้องรับกรรมในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้  ซนก็ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วย  จากนี้ไปก็ต้องทำใจแล้วก็เรียนรู้สร้างชีวิตใหม่ที่ไม่มีน่านกับเอย  ก็เหมือนสร้างความดีใหม่นั่นแหละ  เราหวังว่าแอลจะไม่มาสร้างความร้าวฉานอะไรมากไปกว่านี้หรือทำเรื่องแกล้งซน หวังว่าซนจะไม่ไปตื้อน่าน  กลัวว่าซนจะเรียนไม่ได้เพราะว่าปกติก็ไม่ค่อยเก่งเรื่องเรียนอยู่แล้ว 

น่านอาจจะเป็นฝ่ายกลับมาหาซนอีกเพราะยังรักซนอยู่  น่านน่าจะเป็นคนอุ้มซนไปห้องพยาบาล  ต่อไปรับน้องกับพี่รหัสใช่ไหม เสียวๆชอบกล  ชอบซูค่ะ น่ารักจริงๆดูแลพี่ชายดีมากๆ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เรายังไม่ปักใจเชื่อเรื่องพี่น่านคบกับพี่แอลแบบ 'แฟน' เลยค่ะ มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นสิคะ แล้วคนที่พาซนมาห้องพยาบาลก็ไม่น่าจะใช่จันอีกเหมือนกันนั่นล่ะ (หรือเปล่า?)

อ่านตอนนี้แล้วสงสารซนเหมือนกันนะคะเนี่ย นอกจากจะสับสนในตัวเองแล้ว ยังตัดสินใจผิดอีกต่างหาก เห็นใจทุกฝ่ายเลยค่ะ สู้ๆ เข้าน้าา~ :a2: ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
ไม่อยากซ้ำเติมซนหรอกนะ แต่ตัวเองก็ทำเค้าเจ็บเจียนตายมาตั้งหลายต่อหลายครัง
ที่ซนได้รับตอนนี้มันยังไม่ได้ถึงเสี้ยวนึงที่น่านเคยเจ็บเลยนะ นี่แหละทำอะไรกับเค้าไว้
สุดท้ายมันก็จะย้อนกลับมาสนองตัวเองเสมอ อดทนให้ได้แล้วกันเพราะน่านยังผ่านมันมาได้เลย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สวสารซนอะ.   :sad11:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ตอนนี้กระบอกตาร้อนผ่าวเหมือนซนเลย น้ำตาจะไหล
เพราะว่าซนเป็นคนเล่าเรื่องละมั้ง เราเลยรู้สึกว่าซนเจ็บมากๆ ในช่วงนี้
ส่วนน่าฟ้า เราไม่พูดถึงดีกว่า รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
สงสารซนน่ะ ที่แล้วมาใช่ว่าซนจะผิดฝ่ายเดียว น่านก็มีส่วนผิด รู้ทั้งรู้ว่าเขามีคนรักแล้ว ยังนำตัวเองไปผูกมัดกับซน

น่านจะคบกับแอลก็เชิญเลย ส่วนซน เลิกทำร้ายตัวเองได้แล้ว เขาไม่รักก็ปล่อยเขาไป

เต็มที่กับเพื่อนๆ กับเรื่องเรียนดีกว่า รอความรักครั้งใหม่ ที่ใช่ และไม่ทำร้ายใครทั้งสิ้น

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
สุดท้ายซนก็ไม่เหลือใคร แต่ว่าน่านนี่ทำใจได้จริงๆ หรอ เร็วไปรึป่าว หรือว่ามีแผนอะไรที่มากกว่านั้นกันแน่

ออฟไลน์ PK13

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สู้ๆนะซน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เราอ่านตอนนี้นึกถึงเรื่องของวินเลย
สักวันซนจะผ่านไปได้ เวลาตัดสินแล้วกัน

เศร้า  :o12:

ออฟไลน์ helpmeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สู้ๆนะซน กว่าจะรู้ตัวก็....TT

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
มารอตอนใหม่ครับ

ออฟไลน์ icecreamii8_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หน่วงฝุดๆ รอตอนต่อไปนะ..

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ต้องดูแลตัวเองให้ได้...

ออฟไลน์ p^tarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
ท้ายตอนแรกบอกว่าไม่ดราม่า.  จริงจ๊ะ ไม่ดราม่าเลยอะจ๊ะ. ไม่ดราม่าจ๊ะ. น้ำตาที่ไหลตอนนี้คือไหลเพราะหัวเราะคะ อือออออออ ใจร้ายมาก

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Because of you ซน ตอนที่ 22 ตัวจริง

มหาลัยผมเปิดเทอมมาได้สองอาทิตย์กว่าๆแล้วครับ ชีวิตที่นี้ก็ดูปกติดีเพื่อนใหม่ที่เข้ามาทั้งพวกเด็กปีสามเดิมหรือแม้แต่พวกเด็กเทคนิคก็ดูจะเข้ากันได้โดยง่าย พวกผู้หญิงที่นี้ก็ลุยๆหรือบางทีอาจจะดูเถื่อนกว่าผมด้วยซ้ำ ชีวิตผมดำเนินมาเรื่อยๆไม่มีอะไรหวือหวา ดีหน่อยตรงอาทิตย์ที่ผ่านผมไม่เจอหน้าไอ้น่านเลย นับว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งสำหรับผม
 
“ซน พรุ่งนี้มึงจะไปงานเวลไหม” งานเวลที่จันพูดถึงชื่อเต็มๆคือเวลคัมที่พวกปีสี่จัดให้พวกผม ซึ่งจุดประสงค์หลักของงานนี้คือให้เด็กเทคนิคอย่างพวกผมกับเด็กปีสามเดิมรู้จักกันมากขึ้น แต่จริงๆแล้วมันคืองานแดกเหล้ามากกว่าเพราะพวกผมส่วนใหญ่ตอนนี้ก็รู้จักกันและสนิทกันโดยที่ไม่มีการแบ่งแยกเทคนิคหรือปีสามเดิมอยู่แล้ว แต่ที่มันตั้งชื่อให้มันดูดีเพราะต้องการเอางบประมาณของคณะมาใช้และสามารถออกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้โดยไม่ต้องกลัวเรื่องทัณฑ์บนที่พาน้องออกไปรับนอกสถานที่ทีหลัง
 
“ไปมั้ง” ผมตอบแล้วนอนหมอบลงกับโต๊ะแลคเชอร์ มือข้างนึงกุมท้อง ส่วนตาก็มองดูอาจารย์หน้าห้องที่กำลังสอนอยู่ ช่วงที่ผ่านมาผมปวดท้องเป็นระยะๆ อาการมันมักจะถี่ขึ้นเรื่อยๆเวลาที่ผมไม่ยอมทานข้าว ไม่ได้อยากให้ร่างกายตัวเองเป็นแบบนี้หรอกนะครับแต่มันบังคับไม่ได้ ผมก็พยายามยัดข้าวเข้าปากแล้วแต่มันกินไม่ได้เหมือนแต่ก่อน ผมรู้สึกเบื่อไปหมด ขนาดอะไรที่เคยชอบกินผมยังไม่อยากจะกินมันเลยด้วยซ้ำ

“มึงไปไหมอ่ะ”
 
“ไปดิ พี่กูมันสั่งให้กูไปด้วย แม่งจะบังคับอะไรนักหนาก็ไม่รู้” จันพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด ท่าทางกระฟัดกระเฟี้ยวของมันทำให้ผมอดขำออกมาไม่ได้ จำได้ว่ามันเคยบอกว่ามันมีลูกพี่ลูกน้องที่เรียนคณะนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่เคยเจอหน้าหรอกเคยแต่ได้ยินมันบ่นว่าพี่มันชอบใช้ให้ไปทำนู่นทำนี่แต่ถึงมันจะบ่นมันก็ทำให้ทุกครั้ง

“แล้วนี่มึงเป็นไร หน้าซีดฉิบหาย ดูเส้นขนที่เรียงตัวบนแขนมึงดิ พร้อมใจกันลุกพรึ่บพรั่บขนาดนี้ มึงปวดขี้เหรอวะ”
 
“ปวดขี้พ่อมึงดิ” ไอ้จันมันชอบทำให้ผมขำ คนยิ่งปวดๆท้องอยู่แม่ง
 
“แล้วทำไมหน้าซีดจังวะ อย่าบอกนะว่าปวดท้อง”

“อืม”

“นั่นไง ทำไมกูไม่ซื้อหวยแม่นแบบนี้ว้า แล้วปวดขนาดนั้นทำไมมึงไม่หายาแดก มึงโง่เหรอ สมองมึงมีคั่นหูอย่างเดียวหรือไง แม่งเอ๊ยกูคิดผิดคิดถูกวะมาคบกับหน้าตาธรรมดาแถมโง่แบบมึงเนี่ย” ไอ้จันพูดบ่นไปเรื่อยจากเรื่องปวดท้องมันสามารถขยายความไปถึงเรื่องสมอง อินซูลิน และเอนโดรฟินห่าเหวอะไรของมันไม่รู้ ผมส่ายหัวให้ไอ้จันแล้วก้มมอบลงกับโต๊ะ การงอตัวทำให้บรรเทาอาการปวดไปได้บ้าง
 
“เรียนจบsecนี้มึงก็รีบหายาแดกละกัน กูเห็นแล้วรำคาญตา”
 
“เออ รู้แล้วเว้ย บ่นจังวะ”
 
“ไม่ให้บ่นได้ไงวะ ก็มึงทำตัวแบบนี้ ทางที่ดีกูว่ามึงไปหาหมอคงจะดีกว่า” ผมไม่ได้พูดตอบอะไรไอ้จัน เอาแต่ก้มหน้านอนหมอบราบกับพื้น ผมไม่อยากไปโรงพยาบาลไม่ใช่ว่ากลัวหมอหรืออะไรหรอกนะครับ แต่เอาเป็นว่าผมขี้เกียจยุ่งยากมากกว่า คนปกติส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอยากไปกันอยู่แล้ว ถ้ามันปวดมากจริงๆก็จะแวะร้านยาแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว

หลังจากเรียนเสร็จผมแวะไปสถานพยาบาลเพื่อขอยาตามที่ไอ้จันแนะนำเพราะดูจากอาการที่เริ่มปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ท่าทางจะไม่หายง่ายๆ ตอนแรกก็คิดว่าไอ้จันจะไปเป็นเพื่อนแต่มันบอกว่ามีธุระจะไปหาลูกพี่ลูกน้องมันที่นัดไว้ สุดท้ายผมเลยมาที่สถานพยาบาลคนเดียว พี่พยาบาลที่นี้ก็ใจดีให้ยาผมมาถุงใหญ่ ทั้งยาเคลือบกระเพาะแบบน้ำและแบบเม็ด รวมไปถึงยาอื่นๆที่ต้องกินอีก

“ยาพวกนี้กินหลังอาหารนะคะ แล้วก็กินจนหมดด้วย”

“ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่พยาบาลแล้วเอาถุงยายัดใส่กระเป๋า “อ่าวฉิบหาย ลืมหนังสืออีก”

ตอนที่เปิดกระเป๋าออกมาผมถึงรู้ว่าตัวเองลืมหนังสือเรียนวิชาล่าสุดเอาไว้บนห้องเรียน ผมจำไม่ซีเรียสเลยถ้าหนังสือเล่มนั้นไม่ใช่หนังสือที่ส่งตรงมาจากพี่รหัส ทั้งสูตรจดและพวกวิธีลัดที่ถูกเขียนลงอย่างตั้งใจทำให้ผมต้องรีบวิ่งกลับมาที่คณะอีกรอบ เพราะถ้าไม่รีบฝนอาจจะตกลงมาก่อนที่ผมจะกลับหอ ยิ่งช่วงนี้ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาแล้วรู้เวลาสุดๆ คือตกหลังห้าโมงเย็นและจะตกหนักเรื่อยๆจนถึงดึก ผมยังไม่ได้ซื้อร่มและก็ไม่อยากเปียกด้วย

“ผมก็ปวดหัวกับแม่งเหมือนกัน” เสียงคุ้นหูตรงหน้าร้านน้ำปั่นใต้คณะทำให้ผมเอี้ยวตัวไปดูว่าใช่คนที่ผมรู้จักไหม ตอนมองไปผมเห็นไอ้จันกำลังยืนคุยกับพี่ป็อบแล้วก็พี่บาสอยู่

“ไอ้จัน พี่ป็อบ พี่บาส” ผมตะโกนเรียกชื่อคนเหล่าทีละคน พวกมันหันหน้ามามองก่อนจะเป็นพี่บาสที่พยักหน้าให้เป็นคนแรก

“ไงซน ไม่เจอเลย ไอ้วีบ่นถึงตลอด บอกให้กูพามึงไปหามันบ้าง”

“แล้วทำไมมันไม่มาหาผมอ่ะ”

“มึงก็รู้ว่าหมอมันเรียนหนัก แล้วนี่จะไปไหนวะ”

“อ้อ ผมลืมหนังสือไว้ที่ห้องอ่ะพี่กำลังจะขึ้นไปเอา แล้วนี่พวกพี่...ทำไรกันครับ รู้จักกับไอ้จันด้วยเหรอพี่” พี่บาสไม่ตอบคำถามผม มันเอาแต่ยิ้ม แต่สักพักพอโทรศัพท์เข้ามันก็ชูมือถือให้ผมดูประมาณว่าขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อน ผมพยักหน้าให้พี่บาสแล้วหันมามองไอ้พี่ป็อบกับไอ้จัน

“อ่าววว น้องซนมายืนทำอะไรตรงนี้ว่ะครับ พี่มองไม่เห็นเลยให้ตาย” พี่ป็อบวิ่งมากอดผมเต็มแรงตบไหล่ผมเบาๆ พูดนู่นพูดนี่ไม่รู้เรื่อง ผมขมวดคิ้วมองไปทางพี่ไอ้จัน

“มึงรู้จักพวกพี่เขาเหรอ”

“เอ่อ เออดิ รู้จักก็ไอ้เชี่ยป็อบมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกู ว่าแต่มึงรู้จักพวกมันด้วยเหรอวะ” ผมพยักหน้า “แล้วรู้จักพวกมันได้ไง ปกติพวกห่านี่ไม่ค่อยมีคนคบหรอก”

“อ่าวน้องชาย มึงพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก” พี่ป็อบปล่อยผมเป็นอิสระแล้วหันไปพูดกับน้องมัน  “มึงรู้ไหมจริงๆแล้วมีแต่คนอยากคบกูทั้งนั้น แต่ที่กูไม่มีคนคบอยู่ตอนนี้เพราะเหตุผลเดียวเลย...”

“เขาไม่คบมึง”

“ใช่ถูกต้อง พ่องงงไม่ใช่โว้ย กูเลือกคบคนตั้งหาก แล้วมึงรู้ไหม&%^$$@#$” มันสองพี่น้องกอดคอกันแล้วเดินคุยกันหนุงหนิงออกจากตรงที่ผมยืนอยู่โดยที่ไม่พูดอธิบายอะไรให้ผมฟังต่อ

อะไรของพวกมันวะ ผมส่ายหัวไม่เข้าใจก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณนั้น ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าความบังเอิญที่มันสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ถึงว่าทำไมไอ้จันมันถึงได้เลขที่ใบสมัครสอบใกล้ผม อาจจะเป็นเพราะพี่ป็อบไปซื้อมันพร้อมกับไอ้น่าน

เสียงฟ้าร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมต้องรีบวิ่งขึ้นไปบนอาคาร เข้าไปในห้องที่เรียนเมื่อกี้ก่อนจะเดินหาหนังสือตัวเองตรงบริเวณโต๊ะที่ผมเคยนั่ง

“ยังดีที่ไม่หาย” ผมดีใจได้ไม่นานเพราะความดีใจหายไปกลับฝนที่กำลังเทกระหน่ำอยู่ด้านนอก กลิ่นฝนและละอองของมันทำให้ความร้อนจากตอนกลางวันคลายลงไปบ้าง แต่ตกหนักแบบนี้ผมจะกลับบ้านยัง ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ยาก็อยู่เต็มมือแบบนี้ หลังอาหารทั้งนั้น

ผมเดินเอื่อยๆลงมาจากห้องเรียน ไม่รู้ว่าจะรีบไปทำไมเสียงฝนที่ตกกระหน่ำแบบนั้นคงอีกนานกว่าจะหยุด ใต้อาคารยังมีคนอยู่บ้างประปรายทั้งลีดที่กำลังซ้อมอยู่อีกมุมนึงของตัวอาคาร ผมเลือกทิ้งตัวเองลงนั่งอยู่บนโต๊ะไม้หลีกหนีจากผู้คนโดยรอบ จมดิ่งกับเสียงฝนที่ยังเทลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสียงฝนอาจจะทำให้ใครหลายคนสงบขึ้นรวมทั้งผมด้วย

ผมชอบหน้าฝนแต่จะชอบมากกว่านี้ถ้าผมได้ซุกตัวลงในกลุ่มหมอนและผ้าห่มพร้อมกับอ้อมกอดของไอ้น่าน

เฮ้อออ เอาอีกแล้ว คิดถึงมันอีกแล้ว





“ไง” เสียงทักคุ้นหูดังขึ้นใกล้ๆ ผมไม่ได้หันไปมองเพราะจำได้ว่าเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นใคร สองอาทิตย์ที่ผ่านมาการไม่เจอมันเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องที่ดีกลับตกอันดับไปเพียงเพราะการได้เจอกับมันกลายมาเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ผมแย่ใช่ไหมครับที่รู้สึกแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้างตอนนี้มีคนอื่นแล้ว ก็ยังอดรู้สึกคิดถึงหรือดีใจที่เจอมันไม่ได้

ผมพยายามแล้วนะครับ พยายามห้ามแล้วไม่ให้ตัวเองเอาใจไปผูกกับมัน แต่มันทำไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คงได้แต่ปล่อยความรู้สึกเข้าครอบงำแต่เพียงไม่แสดงออกมาให้มันรู้ก็เท่านั้น

“อืม” ผมทักกลับ “แล้วนี่มึงอยู่ทำอะไรอยู่วะทำไมยังไม่กลับ”

“อาจารย์เรียกไปคุยงาน พอลงมาฝนก็ตกแล้ว กำลังจะกลับเหมือนกัน แต่เห็นมึงนั่งอยู่เลยเข้ามาทัก”

“อ่อ” ผมพยักหน้าเบาๆ “งั้นทักแล้วมึงก็กลับไปได้แล้วดิ โชคดีมึง” ผมหันไปยกมือแล้วยิ้มให้ไอ้น่าน มันมองกลับมาที่ผมแล้วยิ้มบางๆกลับมา

“วันนี้กูเอาซีมา ถ้ากลับตอนนี้ก็คงเปียก ไอ้แอลบ่นอีกกูขี้เกียจฟัง” มันพูดแค่นั้นแล้วมองเลยไปที่กลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ที่อยู่อีกมุม เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันมีแต่ความอึดอัดที่เป็นตัวกลางพูดแทนเราทั้งคู่ ผมก้มหน้าลงพื้นมองเท้าตัวเองที่แกว่งไปมาอยู่ที่พื้น

“ตอนนี้มึงย้ายมาอยู่กับพี่แอลเหรอ”

“อืม ก็อยู่มาได้สักพักแล้ว ตั้งแต่คราวนั้น” ผมพยักหน้ากับคำตอบ


“จริงๆมึงจะกลับไปอยู่ที่บ้านมึงก็ได้นะน่าน...กู..” ผมหยุดพูดก่อนจะเม้มปากแน่น  กลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหล สูดลมหายใจเข้าปอดทีนึงก่อนจะเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยิ้มให้มันเท่าที่ความรู้สึกผมสามารถยิ้มได้ “กูคงไม่ได้ตามไปวุ่นวายที่บ้านมึงแล้วแหละ”

ผมคิดว่าเหตุผลหนึ่งที่มันไม่ยอมกลับบ้านเพราะก่อนหน้านี้ผมเคยวิ่งไล่ตามมัน ไปหามันที่บ้าน หลายต่อหลายครั้ง จนมาเจอพี่แอลที่มหาลัยผมก็ไม่ได้ไปหามันอีกตั้งแต่นั้น

“มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดซน...เรื่องของมึงเรื่องนั้นมันไม่ได้เกี่ยวแล้ว”

“แล้ว...” ผมเงยหน้ามองตามัน ไอ้น่านไม่มีคำตอบให้ผมแต่ผมรู้ด้วยตัวเองว่าคำตอบมันคืออะไร “เข้าใจแล้ว”


ผมนี่สำคัญตัวเองผิดไปอีกแล้วสินะ รู้อยู่แล้วว่าคนเป็นแฟนกันเขาก็อยากอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องปกติ บ้าชะมัดน้ำตาจะไหลอีกแล้ว

“กูว่ากูจะกลับแล้วว่ะ” ผมลุกขึ้นแล้วยื่นมือออกไปรองน้ำฝนที่ตกลงมา

“ฝนยังไม่หยุดเลย”

“อืม แต่ไม่อยากอยู่แล้ว” ผมบอกไอ้น่านแค่นั้นแล้วหันหลังเดินออกจากอาคาร น้ำตากำลังจะไหล อย่างน้อยเดินออกไปโดนฝนตอนนี้มันก็อาจจะไม่รู้ว่าผมกำลังร้องไห้



“มึงทำอะไรวะซน เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก เอางี้ถ้ามึงอยากกลับเร็วๆเดี๋ยวกูไม่ส่งจะได้โดนฝนน้อยหน่อย” เสียงไอ้น่านพูดฝ่าเม็ดฝนพร้อมกับมือที่ดึงรั้งผมไว้

“ไม่เอา”

“อะไรของมึง”

“ไม่เอากูกลับเองได้” ผมยื้อมือตัวเองแล้วเดินหันกลับไปอีกทาง ผมไม่อยากได้ความห่วงใยจากมัน ไม่อยากได้แววตาที่แสดงให้ผมเห็นว่ามันเป็นห่วง ผมเกลียด เกลียดทั้งมันและก็ความรู้สึกตัวเอง

“อย่าดื้อได้ไหมวะ เดี๋ยวกูไปส่ง”

“ไม่!!!!”

“ไม่เชี่ยอะไรล่ะ!!! ตามมา!!” ไอ้น่านคว้ามือผมไปจับแล้วออกแรงดึงผมให้เดินตามแรงมัน พอมาถึงรถมันก็บังให้ผมใส่หมวกกันน็อค ทั้งๆที่มันเป็นคนขับแล้วจะมาให้คนซ้อนอย่างผมใส่ แม่งบ้าหรือเปล่า

“ไม่เอาอ่ะไม่ใส่”

“ซนอย่าดื้อได้ไหม กูบอกให้ใส่ก็ใส่ไปเหอะน่า” ผมมองไอ้น่านตาขวางก้มหน้าก้มตาให้มันเอาหมวกกันน็อคมาใส่ให้ผมแทน “แล้วนี่เสื้อกันหนาว ถึงมันเปียกแล้วแต่ก็น่าจะช่วยกันหนาวได้”

“กูไม่ได้หนาว”

“ไม่หนาวเชี่ยอะไรปากสั่นขนาดนั้น หัวนมก็ตั้งจนจะทะลุเสื้ออยู่แล้ว ใส่!!!”

“มันก็เรื่องของหัวนมกูมึงจะมายุ่งเชี่ยอะไรวะ”  ผมยัดเสื้อคลุมไอ้น่านคืนกลับไปให้มันแล้วขยับขึ้นนั่งคร่อมบนรถมอไซค์ ฝนเริ่มซาบ้างแล้ว แต่ยังไม่หยุด ฝนแบบนี้ม๊าบอกว่าจะทำให้ไม่สบายได้ง่ายกว่าฝนที่ตกแบบหนักๆเมื่อกี้ “ไหนบอกว่าจะไปส่งกู รีบๆมาขับรถดิ ยืนถ่ายมิวสิคอยู่นั่น คิดว่าหล่อมากหรือไง”

“เออๆรู้แล้ว ปากมึงนี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ” ผมงับปากกอดอกนั่งรอไอ้น่านให้มาขับรถ ในใจก็คิดไปว่ามันก็เปลี่ยนเหมือนกัน นิสัยเสียๆที่ชอบบังคับคนอื่นของมันก็ไม่ได้หายไปเลยสักนิด

“กูว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอไอ้แอลก่อนแล้วเดี๋ยวกูเอารถใหญ่ไปส่งมึงที่บ้านดีไหม” คำก็แอล สองคำก็แอล มึงไม่ต้องย้ำให้กูรู้สถานะตัวเองก็ได้น่าน กูรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้กูไม่ใช่คนที่มึงรักแล้ว

“ไม่ต้อง ตอนนี้กูอยู่หอ ตรงซอยสอง มึงรีบๆไปสักทีเถอะ กูอยากกลับห้องแล้ว” เสียงผมอ่อนแรงลงไม่ต่างจากกำลังที่อ่อนแรงลงไปด้วย มือที่เอื้อมไปจับเสื้อน่านฟ้าอย่างคุ้นชินก่อนจะสะดุ้งโหยงรีบปล่อยมือตัวเองออกจากเอวมันแทบจะทันทีที่นึกได้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น

“จับไปเถอะ กูไม่ว่าอะไรหรอก” ผมนิ่งเงียบไปนิดนึงส่วนไอ้น่านก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไปโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก

ขอโทษนะพี่แอล ขอแค่ครั้งนี้เท่านั้น

ผมเอื้อมมือไปจับเสื้อน่านฟ้าอีกรอบก่อนจะวางหน้าผากซบลงบนหลังที่ถึงแม้จะเปียกแต่ก็รับรู้ถึงความอบอุ่น



ผมคิดถึงมัน



คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงจูบ คิดถึงทุกอย่างที่เป็นมัน แต่ยิ่งคิดถึงมากเท่าไหร่ ความจริงที่ย้ำว่ามันไม่ใช่ของผมก็ยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น


 “ขอบใจที่มาส่ง”

“ไม่เป็นไร รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวไม่สบาย”

“อืม” ผมพยักหน้าบอกมันก่อนจะช้อนตามองไอ้คนที่ยังนั่งอยู่บนรถ “มึง...จะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องกูก่อนไหม”

“.........” น่านฟ้าเงียบ มองหน้าผมพร้อมกับคิ้วที่ยังขมวดเป็นปม

“อย่าเลย แอลรอกูอยู่”

“อ้อ....กู...เข้าใจแล้ว งั้น...มึงขับรถดีๆล่ะกัน” ผมหันหลังเดินกลับเข้าหอพักหลังจากที่พูดตอบมันเสร็จ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะปฏิเสธ แต่ผมก็ยังหวัง


หวังโง่ๆกับสิ่งที่มันไม่มีทางเป็นไปได้



ผมนี่มัน......บ้าชะมัด






























Special by น่านฟ้า


ผมไปส่งซนที่หอเสร็จก็ตรงมาหอไอ้แอลทันที ในหัวเอาแต่คิดภาพคนตัวเล็กที่ส่งสายตาผิดหวังมาให้ตอนที่ผมเอ่ยปากบอกเขาไปว่าผมไม่อยากขึ้นไปบนห้อง ผมไม่เข้าใจว่าสายตาแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง ถ้าให้คิดเข้าข้างตัวเองก็คงหนีไม่พ้นว่ามันชอบผม แต่ก็นั่นแหละผมเคยเข้าข้างตัวเองมาแล้ว และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือการที่เขาไม่เลือกผม


ผมไม่อยากให้ทุกอย่างมันจบลงที่จุดเดิมตรงที่เราเริ่มต้น คือผมเป็นแค่คนข้างๆ มองดูซนกับผู้หญิงคนนั้นรักกัน


ผมบอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่าผมเลว



เลวจนบางครั้งยังรู้สึกเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันถูกหรือเปล่า แต่จะให้ทำยังไงล่ะครับ ผมก็เป็นมนุษย์คนนึง มนุษย์ที่ยังมีทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง คนเราเมื่ออยู่ในภาวะที่รักมากเราก็ยอมทำทุกอย่างนั่นแหละเพื่อให้คนที่เราต้องการมาอยู่ข้างๆเรา โดยไม่เลือกว่าวิธีที่เรากำลังทำอาจจะทำร้ายใครบางคนอยู่


>>>>>>TBC<<<<<<
รู้ยังว่าตัวจริงที่ตั้งชื่อตอนหมายถึงอะไร


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2015 08:19:07 โดย nuoouka »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จัดไปเลยน่าน. ได้เวลาอันสมควรแล้ว

ใครจะเป็นตัวจริงของใครต้องมาลุ้นกันนะซน.   :katai5: 
 :L1:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เราขำลั่นห้องก็ตรงประโยคนี้นี่ล่ะค่ะ “ไม่หนาวเชี่ยอะไรปากสั่นขนาดนั้น หัวนมก็ตั้งจนจะทะลุเสื้ออยู่แล้ว ใส่!!!” ฮ่าๆ แสดงว่าสายตาของพี่น่านโฟกัสไปที่ 'ตรงนี้' จุดเดียวเลยล่ะสิค้าา..ใช่ม้ายย :hao7:

ส่วนตัวจริงที่ว่า เราคิดว่าเป็นน้องซนนะคะ และเรื่องทั้งหมดนี้น่าจะเป็นแผนการล่ะสิ
เพราะใครๆ ก็ต่างพากันมีพิรุธ ทั้งจัน ทั้งพี่ป๊อบ น้องซนถามก็ไม่ยอมตอบ แถมยังเลือกที่จะบ่ายเบี่ยงอีกต่างหาก หึหึ

อีกอย่าง พี่น่านไม่ใช่คนเลวหรอกนะคะ เพราะถ้าเลวจริง..พี่น่านจะไม่ใช่คนที่ยอมถอยออกมาแบบนี้หรอกค่ะ มันต้องแย่งเขามาเป็นของเรา โดยที่ไม่สนว่าใครจะมาก่อนหรือมาทีหลังเลยต่างหากล่ะ สำคัญเลยคือ คนที่เลวจริง เขาไม่ยอมรับกันง่ายๆ หรอกค่ะว่าตัวของเขาเลว

ปล. พี่น่านยังไม่รู้เหรอคะว่าน้องซนเลิกกับเอยแล้วน่ะค่ะ ยังไง?

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อะฮะ   แผนเมิงใช่ไหมน่าน?   นึกว่าได้กับแอลไปแล้วก็ไปเถอะ 

สงสัยงวดนี้ซนโดนจัดเต็มสินะ  แต่ก็อย่ามากเกินไปนะ  เดี๋ยวน้องมันไปเจอคนใหม่ก็เป็นหมาดูเครื่องบินไปเถอะ

จันโดนส่งมาให้จับตาดูซนล่ะสิ  แผนสูงป้าชอบ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ PK13

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อดรู้สึกสงสารซนไม่ได้
แต่ก็นะ...ซนเคยทำพี่น่านเสียใจมาก่อนเหมือนกันนนน
ถึงอิพี่น่านจะมีส่วนผิดด้วยก็ตาม 555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด