★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59  (อ่าน 72690 ครั้ง)

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
«ตอบ #90 เมื่อ31-03-2015 18:10:11 »

พี่ก็ขี้แกล้งเกิ๊นนนนน

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
«ตอบ #91 เมื่อ10-04-2015 00:16:48 »

ชอบก็บอกชอบสิ

นั่นสินะคะ บอกไปสิ จะเก็บไว้ทำไมมมมม :mew3:

หลุดปากออกมาแล้วเอก   :hao3: รับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วย ด้วยการเดินหน้าจีบลีโอสักที
เอกบอก กำลังพยายามครับ


รุ้สึกตอนนี้อยากจิ้นพี่ภพกับเติ้ลจัง :hao6:
เราไม่ได้คิดถึงคู่นี้เลยค่ะ แต่ก็น่าสนใจดีนะคะ  :hao7:

พี่ชายแสบจริงๆ  :laugh:
พี่ภพร้ายมากๆเลยค่ะ  :hao7:
 
โถๆ โดนพี่ชายแกล้งจนได้ (อันที่จริงเอกซื่อบื่อพอตัว หรือจะว่าไม่ทันพี่ชายตัวเองดีนะ??)

 :hao7:
ใช่ค่ะ พอเป็นเรื่องของตัวเอง เอกค่อนข้างจะซื่อบื้อค่ะ ส่วนพี่ภพนี่ก็ตัวแหย่น้องเลย แหย่ได้ตลอดเวลา :hao7:

ฟินส์ฮะ ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ชอบสไตล์นี้เลยครับ ได้ดูตัวละครค่อยๆหวานทีละนิด ทีละนิด
นอนรอตอนต่อไปฮะ  :katai3:
ขอบคุณที่ชอบนะคะ ดีใจมากๆเลยค่ะ
แล้วก็ขอโทษที่ให้คอยนานนะคะ

กรี๊ดดดด พึ่งมาเจอเรื่องนี้ อ่าน10ตอนรวด พูดเลย ชอบมากกกกกก!!! แมว เอ้ยยย ลีโอน่ารักง้ะ ส่วนเอกนี่เราฮานะ หายากว่ะคนแบบเอกเนี่ยยย สุดท้าย เสียรู้พี่ภพเข้าให้แล้ว 55555
ขอบคุณที่ชอบนะคะ >w<
แล้วก็ขอโทษที่ทำให้คอยนานด้วยค่ะ >_<''
เอกบอก ก็ไม่ได้อยากเสียรู้พี่ชายหรอกค่ะ แต่ตามไม่ทันจริงๆ 555

หลุดปากตลอด :)
เนอะะะะ หลุดตลอดเลย  :ling1:

หลุดปากออกมาซะที! คนอ่านลุ้นไปตามๆกัน
น่ายินดีๆ จะจีบยังไงล่ะเนี่ย
รอตอนต่อไปเนอะ
ใช่ค่ะ จะจีบยังไงกันนะ ขอบคุณที่รอนะคะ ขอโทษด้วยที่ทำให้รอนาน

5555555หลุดแล้วค่ะเอก พ่อคนแหย่ขึ้นเอ๊ย

ไม่เบื่อค่ะไม่เบื่อ เรื่องเดินด้วยจังหวะประมาณนี้โอเคแล้ว พอกรุบกริบไม่หวือหวา แต่มีมาแล้วชุ่มชื่นหัวใจ
ขอบคุณมากค่ะ ; w ; เวลาเขียนเรื่องนี้แอบคิดตลอดเลยว่าน่าเบื่อไปหรือเปล่านะ? แต่ได้อ่านฟีดแบคที่กลับมา ก็ดีใจมากๆเลยค่ะ ถ้าเกิดว่าเรื่องค่อนข้างยืดหรือเยิ่นเย้อยังไงบอกได้นะคะ น้อมรับคำติชมค่า

พี่ก็ขี้แกล้งเกิ๊นนนนน
นั่นสิ ขี้แกล้งมากๆเลย


ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
«ตอบ #92 เมื่อ10-04-2015 00:23:32 »

'หลักการพาราแลกซ์' (Parallax)


คือปรากฏการณ์ที่มองเห็นตำแหน่งของวัตถุต่างออกไปจากตำแหน่งเดิม


เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองให้ต่างไป


เราก็จะได้เห็นมุมใหม่ๆของสิ่งเหล่านั้น


การที่ได้เห็นในหลายแง่มุม


นั่นแหละคือเสน่ห์ของทุกสิ่ง


ในจักรวาลแห่งนี้




ตอนที่ 11



“อย่ามากวนตีน ไอเชี่ยภพ…”


“พูดกันดีๆสิเอก”


“กูยังต้องพูดดีกับมึงอีกหรอวะ? เมื่อกี้มึงเกือบจูบเขาแล้วนะเว้ย จูบน่ะ! จูบ!”


“ทำไม? มึงชอบเขาหรือไงถึงเดือดร้อนจัง?”


“เออ กูชอบเขา! พอใจยั...”



ชิบหาย...



ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย !





ไม่เคยรู้สึกอยากต่อยตัวเองเท่านี้มาก่อน อยากแกล้งตายในรถให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!


จักรภพหัวเราะลั่นรถ มือข้างหนึ่งก็ทุบพวงมาลัยไปด้วย ไอนี่หนิ ขับรถอยู่นะเว้ย!! ถ้ารถคว่ำขึ้นมาจะทำยังไง!?


"ในที่สุดก็ยอมพูดสักทีไอ้คนปากแข็ง ต้องให้หลุดออกมาเองตลอด" จักรภพพูดไปก็ยิ้มขำไปทั้งยังส่งสายตาล้อๆผ่านทางกระจกมองหลังอีก


สิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตก็คือการเปิดช่องว่างให้ไอพี่ชายตัวดีล้อนี่แหละ ว่าแต่นี่กี่ขวบแล้ววะถึงได้ยังกลัวเรื่องโดนล้ออยู่เนี่ย


"รู้แล้วก็เงียบไป"


"โห... โหดว่ะมีสั่งด้วย" จักรภพตบไฟเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้าน "แต่เฮียไม่บอกใครหรอกนะไว้ใจได้"


"ก็ดี..." ตอบตัดบทไป สายตาก็เอาแต่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างรถเพราะไม่อยากเห็นรอยยิ้มกริ่มนั่นอีก ถึงแม้ข้างนอกจะมืดแล้วเพราะเป็นช่วงเวลาหัวค่ำ แต่บ้านหลายๆหลังในหมู่บ้านนี้ก็ยังคงเปิดไฟสว่างไสวกันอยู่ มองดูไฟที่เคลื่อนผ่านสายตาไปเพราะการเคลื่อนที่ของรถแล้วก็เพลินตาไม่น้อย


"แล้วเฮียไม่รังเกียจหรอที่มีน้องเป็นเกย์?" จะว่าไปเมื่อกี้ไอพี่ชายนี่มันก็เกือบจะจูบผู้ชายด้วยกันนี่?


"...หรือว่ามึงก็เป็นเกย์วะ?"


พอได้ยินแบบนั้นจักรภพถึงกับโวยวายใหญ่


"เฮ้ย! เดี๋ยวดิ! กูแค่แกล้งมึงเฉยๆ" หัวเราะหึในลำคอที่เอาคืนอีกคนได้นิดหน่อย เมื่อกี้รถที่กำลังแล่นอยู่ถึงกับกระตุกเพราะไอพี่ชายตัวดีนั่นตกใจและรีบแก้ตัว


"แต่เอาจริงๆมึงจะเป็นอะไร จะชอบใคร..."



.




.




.




"มึงก็ยังคงเป็นน้องกูอยู่เหมือนเดิม"



.



.




.



"ก็แค่นั้น..."












หลังจากบอกไอพี่ชายนั่นไปก็รู้สึกโล่งขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังระแวงอยู่ดีว่าจะมาไม้ไหนอีก คนอย่างจักรภพเชื่อใจไม่เคยได้ เรื่องนี้คนที่เป็นน้องรู้ดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนแกล้งอยู่ดี...


บางทีคนอื่นก็ดูท่าทางออก ก่อนที่เราจะรู้สึกเสียอีก



พอมานึกๆดูแล้ว



เราชอบหมอนี่ตอนไหนกันนะ?




"อ..."



แล้วเพราะอะไรถึงคิดว่านี่คือความรู้สึก 'ชอบ' จริงๆ



"เอก..."




แล้วทำไมถึง 'ชอบ' ?




"เอก..."




เอก...มึงนี่มัน...ทำไมแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจวะ!?



"ไอ้เอก! เลื่อนจนชิดกับเลนส์แล้วเว้ย!"


ไอโปรเอื้อมมือมาสะกิด จนเผลอทำแท่นวางหลอดไฟหล่นจากที่วาง ดีนะที่หล่นลงมาแค่บนโต๊ะที่ไม่สูงมากนัก ไม่งั้นคงได้เสียเงินชดใช้ค่าอุปกรณ์ในแลป แล้วไอหลอดไฟกับแท่นวางนี่ก็ใช่ว่าจะถูกเสียด้วย


"โทษทีๆ..." หยิบแท่งหลอดไฟสีน้ำเงินเขียวกลับมาวางไว้ในตำแหน่งเดิม


"นอนไม่พอหรือไงวะ ดูเหม่อๆว่ะ"


"ก็นิดหน่อย... ช่างมันเถอะว่ะ ทำต่อๆ" ว่าแล้วก็ปรับตำแหน่งเลื่อนไปเรื่อยๆ ไอโปรที่ยืนอยู่ด้านหน้าแท่งหลอดไฟกับเลนส์นูนที่วางเรียงตรงกันกำลังเอียงตัวไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อหาจุดที่เรียกว่า 'จุดไม่พาราแลกซ์'


"หยุดๆ" มือหยุดเลื่อนแท่งหลอดไฟอัตโนมัติเมื่อไอโปรขานเรียกเพราะได้ระยะที่พอเหมาะแล้ว


การหาจุดไม่พาราแลกซ์คือการที่เราเห็นภาพในเลนส์ที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาราบที่วางอยู่หลังเลนส์นูนเป็นภาพเสมือนหัวกลับที่อยู่ตรงกับวัตถุพอดีไม่แยกออกจากกัน ไม่ว่าเราจะขยับตัวไปทางไหนก็ตาม วิธีนี้ไว้ใช้หาความยาวโฟกัสของเลนส์นูน


"แมว มึงว่าไงมันไม่พาราแลกซ์หรือยังวะ?" ไอโปรหันไปถามอีกคนที่ยืนช่วยดูอยู่ข้างๆ ไอโปรเดินหลีกออกมาเพื่อให้ลีโอเดินเข้ามาแทนตำแหน่งของตัวเอง อีกคนขยับตัวมองซ้ายทีขวาทีก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยว่าภาพที่เห็นนั้นไม่พาราแลกซ์แล้ว


เห็นอย่างนั้นเลยเอื้อมมือไปหยิบตลับเมตรในตะกร้าที่วางอยู่บนโต๊ะมากางออกก่อนจะทาบระหว่างฐานวางเลนส์กับฐานของหลอดไฟ


ลีโอเดินอ้อมมาใกล้ๆก่อนจะก้มมองตัวเลขที่ปรากฎบนตลับเมตร ในห้องตอนนี้ปิดไฟมืดทั้งหมด มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ถูกตั้งให้ขนานกับพื้นโต๊ะของแต่ละกลุ่มเท่านั้นเพื่อไม่ให้แสงจากโคมไฟรบกวนแสงจากหลอดไฟในการทดลอง เวลาจะอ่านค่าบนตลับเมตรจึงต้องก้มมองเข้าไปใกล้ๆถึงจะเห็นตัวเลขได้ชัดเจน


"10.70 เซ็นฯ" ไอโปรพยักหน้าเมื่อลีโอขานตัวเลขออกมา ก่อนที่จะจดเลขลงในใบบันทึกผลการทดลอง


เริ่มการวัดใหม่อีกครั้ง ต้องทำทั้งหมดสามครั้งแล้วหาค่าเฉลี่ยเพื่อลดความคลาดเคลื่อนของการทดลอง


"กูนี่แม่งจะกลายเป็นคนเอวอ่อนละ โยกมาทั้งคาบแล้วเนี่ย" ไอโปรบ่นในขณะที่กำลังโยกตัวไปมา กลุ่มอื่นๆก็ดูจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่


"อย่าบ่น ทำไป" ลีโอเอ็ดคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า ตอนนี้สองคนนี้กำลังยืนซ้อนกันอยู่ ทั้งยังโยกตัวไปมาดูตลกจนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ


"มึงดูนู่นแมว ผู้หญิงกลุ่มนั้นแม่งเล่นงูกินหางกันแล้วว่ะ" ไอโปรชี้ไปยังโต๊ะกลุ่มข้างๆ กลุ่มนั้นเป็นกลุ่มหญิงล้วนกำลังยืนเกาะเอวกันโยกไปมาเหมือนเล่นงูกินหางแบบที่ไอโปรบอกจริงๆ นี่อายุเท่าไหร่กันแล้ว...?


"กูไปเกาะด้วยได้ป่ะวะ"


"กลุ่มตัวเองยังไม่เสร็จยังจะเล่น" ไอโปรหน้าบูดทันทีเมื่อลีโอห้ามมันไว้


แลปนี้ก็ดูจะไม่มีอะไรยากสักเท่าไหร่ แต่มานานตรงหาจุดที่ไม่พาราแลกซ์เท่านั้นที่ต้องเลื่อนวัตถุเข้าออกไปมาพร้อมกับโยกตัวซ้ายขวาเพื่อหาระยะที่เหมาะสม



เพราะจะมีเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น



ที่จะเกิดจุดไม่พาราแลกซ์ขึ้น



เหมือนกับความรัก



ที่ต้องการตำแหน่งที่เหมาะสม



ที่ๆเราจะสามารถ



.




.




.



รักกันได้พอดี...ทั้งสองฝ่าย









ลงมาจนถึงชั้นล่างของอาคารเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ขยี้ตาตัวเองไปมาสองสามที แลปวันนี้ทำเอาปวดตาไปหมดเพราะแสงน้อย ทั้งห้องปิดไฟจนหมด หันไปมองอีกคนที่ดูจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่กำลังยืนนวดขมับอยู่


"แลปวันนี้ปวดตาชะมัด" คนข้างๆบ่นพึมพำ


"เพราะปิดไฟนั่นแหละ"


ลีโอพยักหน้าเห็นด้วย  "แต่ถ้าไม่ปิดก็ไม่ได้นี่นะ"


ก็จริง ถ้าไม่ปิดไฟก็จะมองไม่เห็นแสงที่มากระทบกับเลนส์ ทำให้ทำการทดลองไม่ได้ พอปิดไฟก็ต้องเพ่งมองตัวเลขบนตลับเมตรอีก


ยืนให้สายตาปรับรับแสงปกติได้ไม่นานความปวดบริเวณรอบตาก็ค่อยเบาลง


"เอ้อ แล้ววันนี้ยังต้องซ้อมอยู่ไหม?" ถามไถ่เรื่องการซ้อมของอีกฝ่าย เพราะช่วงนี้ทุกๆเย็นจะต้องไปซ้อมตลอด และแน่นอนว่าถ้าซ้อม ยังไงก็ต้องตามไปดูอยู่แล้ว


จะว่าไปหลังจากวันนั้นมา ลีโอก็ไม่พูดถึงเรื่องวันนั้นอีกเลย แต่กลายเป็นว่าเจ้าตัวดูเหมือนจะระแวงจักรภพอยู่ตลอดเวลาแทน


แถมคืนนั้นยังได้ข้อความที่ส่งมาทางไลน์



'ขอบคุณนะ'



อีกด้วย




ดีใจแฮะ...




"ซ้อมวันนี้วันสุดท้าย หลังจากนั้นพี่ปล่อยให้อ่านสอบมิดเทอมน่ะ" พยักหน้าเข้าใจ เพราะก็ใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วด้วย กีฬาภายในของมหาลัยจะจัดหลังจากสอบมิดเทอมเสร็จเพียงไม่กี่วัน เลยจำเป็นจะต้องซ้อมก่อน แต่ก็ยังดีที่รุ่นพี่ให้หยุดซ้อมเพื่ออ่านหนังสือสอบ


"ซ้อมตอนเย็นเหมือนเดิมสินะ"


"ใช่"


"งั้นระหว่างนี้ก็ว่างนี่...?"


อีกคนไม่พูดอะไร แต่พยักหน้าเป็นคำตอบกลับมาแทน




"ไปคาเฟ่ต์แมวกัน"




มัดมือชกไปหรือเปล่าวะ?








เปิดประตูร้านคาเฟ่ต์แมวที่ตั้งอยู่ในห้างด้านหลังมหาลัย ช่วงเวลาบ่ายกว่ามีคนบ้างพอสมควรแต่ก็ยังพอมีที่นั่งอยู่ หยิบรองเท้าที่ทางร้านเตรียมไว้ให้เปลี่ยนมาใส่ ก่อนจะเดินไปกดเจลล้างมือที่วางอยู่ใกล้ทางเข้า


พนักงานต้อนรับผายมือไปยังที่นั่งที่ยังว่างอยู่ภายในร้าน พอนั่งที่เรียบร้อยก็หยิบใบเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะมาสั่งอาหาร คิดกันอยู่นานว่าจะกินอะไรดี สุดท้ายก็เลยสั่งแค่พวกกาแฟไป


"เดินผ่านร้านนี้อยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยเข้าเลยแฮะ" ลีโอพูดพร้อมกับมองไปรอบๆร้าน


"ไม่เคยเข้าหรอ?"


"ไอโปรมันแพ้ขนแมวน่ะ เพื่อนในกลุ่มทุกคนก็เลยไม่เข้า" จะว่าไปก็ยังไม่เคยเห็นเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มของหมอนี่เลย อาจจะเป็นเพราะแลปฟิสิกส์เวลาเรียนจะจับกลุ่มตามรายชื่อที่อาจารย์เรียงไว้ให้ เลยไม่สามารถตั้งกลุ่มเองได้ เหมือนกับที่ไอเติ้ลและแซนต้องไปเรียนคนละห้องกันนั่นแหละ


"เพิ่งรู้ว่าไอนี่มันแพ้ขนแมว" ดูซ่าๆ ไม่น่าแพ้อะไร


"ตอนแรกก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยไปทำรายงานบ้านเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่เลี้ยงแมวถึงได้รู้"


"แล้วนี่ไม่ได้แพ้ขนแมวเหมือนไอโปรมันใช่ป่ะ?" ถามเผื่อไปก่อน ถ้าเกิดอีกฝ่ายเกรงใจ ต้องมานั่งทนเป็นผื่นคันกับจามไม่หยุดคงจะแย่


"แน่นอน ถ้าแพ้คงไม่มานั่งตรงนี้"


ไม่นานนักกาแฟสองแก้วก็ถูกนำมาเสิร์ฟไว้ตรงหน้า พร้อมกับแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ตัวหนึ่งที่กระโดดมาอยู่บนโต๊ะด้วย เลยเอื้อมมือไปเกาคางจนเจ้าแมวเคลิ้มตัวอ่อนยวบลงมานอนราบกับโต๊ะ


"ไม่เล่นหรอ?" ละสายตาจากเจ้าแมวเหมียวไปมองอีกคนที่เอาแต่นั่งจ้องแมวไม่วางตา


"เล่นได้หรอ?" ลีโอถามอย่างไม่แน่ใจ


"เล่นได้สิ ล้างมือมาแล้วนี่" อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปลูบหลังเจ้าเหมียวเบาๆ แต่เจ้าเหมียวดันลุกขึ้นเดินหนีออกมา ก่อนจะกระโดดมานอนบนตักเราแทน


ลีโอยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเรียบอยู่เหมือนเดิม แต่มือที่ยังยกค้างไว้กับสายตาที่ดูเจ็บปวดเพราะถูกแมวเมิน ดูน่าสงสารไม่น้อย เห็นภาพนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มขำเบาๆ


อีกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม ลุกขึ้นจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างๆด้วย ก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้แล้วลูบหัวเจ้าเหมียวที่นอนอยู่บนตักเบาๆ


"เหมียว..." เจ้าแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ร้องครางเบาๆอย่างรำคาญใจ ก่อนจะพลิกตัวหันไปอีกทางแล้วซุกหน้าลงกับตัก พอเห็นอย่างนั้นลีโอเลยเปลี่ยนไปเล่นกับแมวตัวอื่นในร้านแทน


ลีโอเดินไปหยิบไม้ล่อแมวที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะนั่งยองๆแล้วยื่นไม้ไปตรงหน้าแมวพันธุ์เมนคูนตัวหนึ่งที่นั่งหลบอยู่มุมห้อง แน่นอนว่ามันมีปฏิกิริยาคล้ายๆกับอเมริกันชอร์ตแฮร์ตัวที่อยู่บนตัก คือไม่สนใจและเดินหนี


นั่งมองคนที่พยายามอย่างไม่ลดละไปพลางลูบหัวเจ้าแมวที่หลับปุ๋ยอยู่บนตักไปพลาง ลีโอเดินไปทั่วร้านเพื่อเล่นกับแมวที่ยังคงตื่นอยู่ แต่ไม่ว่าจะกี่ตัวก็ถูกเมินหมด



สิงโตถูกแมวเมิน...



สุดท้ายลีโอก็ถอดใจกลับมานั่งที่เดิม ยกกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด เพราะตอนนี้อุณหภูมิของกาแฟในแก้วคงลดลงมาเหลือเท่ากับอุณหภูมิในห้องเสียแล้ว


"สิงโตโดนแมวเมิน" แกล้งแหย่จนอีกคนเงยหน้ามามองด้วยสายตาเคืองๆ ก่อนจะลุกไปหาพนักงานที่เคาท์เตอร์ พูดคุยกันไม่นานก็กลับมานั่งที่เดิม


เลิกคิ้วสงสัยว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร แต่ไม่นานก็ได้คำตอบ เมื่อพนักงานมาพร้อมกับนมสองถ้วย


ลีโอยกยิ้ม


'แมวทุกตัวจะต้องยอมศิโรราบแก่ข้า!' สายตาของลีโอในตอนนั้น


เมื่อขยับฝาถ้วยจนเกิดเสียง เจ้าแมวหลายตัวจากทั่วร้านก็ต่างพากันกรูเข้ามาหาถ้วยนมตรงหน้าลีโอ หลายๆตัวแย่งกันกินนม สายตาเจ้าตัวในตอนนั้นดูมีความสุขมากที่แมวมารุมล้อม แต่เมื่อนมในถ้วยทั้งสองใบหมด เจ้าแมวก็พากันเดินจากไป


นั่งมองดูเหตุการณ์นั้นอย่างขำขัน จริงๆอยากจะหัวเราะให้ลั่นร้านแต่ก็เกรงใจลูกค้าคนอื่น ลีโอคอตกกลับมานั่งที่เดิม


"น่าสงสาร เพื่อนไม่สนใจ"


"ก็พูดได้สิ ไอพวกแมวรักแมวหลง" อีกฝ่ายแขวะกลับมา


"แน่นอน ไม่ใช่แค่แมวครับ หมาก็เหมือนกัน" แน่นอนว่าไม่ใช่การโม้ธรรมดา เพราะระดับนี้แล้ว คุณเอกภพผู้ซึ่งเป็นที่รักของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขนาดหมาที่คณะยังเดินตาม


"ขี้โม้ว่ะ"


"ระดับนี้ไม่โม้แล้วครับ ดูสิๆ" ชี้นิ้วไปที่เจ้าเหมียวอเมริกันช็อตแฮร์ตัวเดิมที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักพร้อมส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยไปให้อีกฝ่าย



ไว้คงต้องไปเขียนหนังสือ


'ทำอย่างไรให้แมวรักแมวหลง' บ้างดีกว่า




จู่ๆอีกฝ่ายก็ลุกมานั่งข้างๆ พร้อมกับใส่หูฟังเอนหลังพิงกับโซฟาที่นั่งอยู่ เพราะอีกฝั่งมีเพียงแค่เบาะรองนั่งไม่มีที่ให้เอนหลัง ในมือถือชีทเรียนวิชาเคมีไว้ ก่อนจะเข้าสู่โลกของตัวเองไปเรียบร้อย เห็นแบบนั้นเลยหยิบชีทเรียนของตัวเองมานั่งอ่านบ้างไม่ให้น้อยหน้ากัน


เวลาผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ การมานั่งอ่านหนังสือในร้านคาเฟ่ต์แมวนี่ก็ดีเหมือนกัน


นั่งอ่านจนจบไปหัวข้อหนึ่ง ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาซ้อมของคนข้างๆแล้ว จึงหันไปเรียกอีกฝ่าย


"ลีโ..."


หัวเราะขำกับภาพที่เห็นตรงหน้า ลีโอที่ใส่หูฟังนั่งหลับกอดชีทตัวเองราวกับเป็นหมอนข้าง กับแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์สีส้มที่กำลังนอนหลับอยู่บนตักของอีกฝ่าย และอีกตัวที่เป็นพันธุ์เดียวกันก็กำลังนอนซุกอยู่ข้างๆ



พยายามแทบตายเพื่อให้เจ้าเหมียวพวกนี้มาสนใจ



แต่พอเลิกสนใจ เจ้าพวกนี้กลับมาหาเอง



นั่งมองริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างไม่นึกเบื่อ ลูกค้าในร้านตอนนี้ก็เริ่มบางตาลงจากเดิมมาก นาฬิการูปแมวบนผนังร้านบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกา


ไร้ซึ่งเสียงรบกวนใดๆ เหล่าแมวเหมียวในร้านต่างพากันหลับใหลอยู่ตามมุมต่างๆในร้าน ระยะห่างระหว่างใบหน้าของคนสองคนที่ลดลงเรื่อยๆจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย



หลักการพาราแลกซ์นั้น


นอกจากจะไว้ใช้หาความยาวโฟกัสของเลนส์นูนแล้ว


ในทางดาราศาสตร์


ยังไว้ใช้หาระยะห่างของดาวฤกษ์กับโลกอีกด้วย




และมุมพาราแลกซ์ที่เพิ่มขึ้น



ก็เป็นตัวบ่งบอก




ถึงระยะห่างระหว่างโลกกับดาวฤกษ์




ที่กำลังลดลง...




・。・゜★・。・。☆・゜・。・゜。・。・゜★・。・。☆




TBC


สวัสดีค่ะ หายไปนานมาก เกือบเลยสองอาทิตย์แน่ะ แงงงงง ขอโทษด้วยจริงนะคะ :mew2:

ตอนแรกเราไปค่ายมาค่ะ ก็คิดอยู่ว่าคงลงช้า ปรากฏว่าดันเป็นหวัดฤดูร้อน  /ฤดูหนาวไม่เป็นดันมาเป็นฤดูร้อน orz

ตอนนี้รู้สึกว่าเขียนยากสุดเลยค่ะ /เพราะแก้หลายรอบมากๆ รู้สึกไม่ค่อยโอเคค่ะ ; w ;

เรื่องพาราแลกซ์นี่เราค่อนข้างสับสนนิดหน่อย แต่ไปค้นๆมาแล้ว คิดว่าน่าจะโอเคนะคะ ;;3;;

อย่างเรื่องเอามาหาความยาวโฟกัสของเลนส์นูนนี่ถูกแน่นอนค่ะ เพราะเพิ่งใช้ไป  :hao7: จริงๆนอกจากหาความยาวโฟกัสแล้วยังเอาไปหาอย่างอื่นได้อีกนะคะ มีประโยชน์มากเลย เช่น เอาไปหารัศมีความโค้งของกระจกเว้าอีก

รู้สึกตอนนี้เรื่องไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ แต่เอกภพนี่ชักจะเริ่มถึงเนื้อถึงตัวซะแล้วนะคะ 55555

น้องแมวหลับได้หลับดี จริงๆเป็นเด็กขี้เซาเพราะชอบนอนดึกค่ะ ส่วนนอนดึกเพราะอะไรก็คงเพราะเรื่องเรียนนั่นแหละ ไว้ว่างๆจะลองเขียนชีวิตประจำวันของสองคนนี้แยกออกมาน่าจะดี (หรือเปล่า?)

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ(ยังมีใครติดตามอยู่ไหมอ่า 5555)

รักคนอ่านทุกท่านค่าาาาาาา  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-04-2015 07:53:18 โดย Sirius »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โถ แมวยังเมิน

ว่าแต่ทำไมแมวถึงไม่สนใจลีโอเลยซักกะตัว แปลกมาก  :ruready

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
อ่านกี่ทีก้น่ารัก แมวบ้านหนุนี่ถ้ามีอาหารในมือ ยังไงมันก้ไม่เมินอ่ะ 55+

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น่ารักอะ ลีโอโดนแมวเมิน 5555

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ถถถถถถถถแม่แมวถูกเมิน

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
น่ารักดีชอบจังเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้องลีโอแมวเมิน5555 น่าร้ากกก

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ความน่ารักของลีโอพุ่งกระจายมากมายตอนนี้ น่าร๊ากกก~ >o<

หลงล่ะสิๆ เอก
#ติดตามๆ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ชาบูๆๆๆๆ เข้าใกล้กันบ้างแล้วเนาะ
สารภาพซะทีสิเอกภพ!!!!!
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
แอร๊ยยย ลีโอน่ารักอ่ะ แอบฮาตอนให้แมวกินนม พอกินเสร็จก็กระจาย นึกภาพลีโอตอนนั้นแล้วแบบ เฮ้ย!! น่าสงสารก็น่าสงสารแต่ดันน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า5555 ส่วนเอกเนี่ย อะไรยังไงแอบมองลีโอตอนหลับเนี่ย อย่าเผลอจุ๊บไปนะ เดี่ยวเจ้าของร้านจะฟินอุ๊ยจะเห็นล่ะ ไม่ดีๆ อิอิ (รอติดตามความคืบหน้าตอนต่อ(ๆ)ไปค่า) จุ๊บๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
โอ๋ๆ โดนแมวเมิน น่าสงสารแท้หนู

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
โถ แมวยังเมิน

ว่าแต่ทำไมแมวถึงไม่สนใจลีโอเลยซักกะตัว แปลกมาก  :ruready

ที่โดนแมวเมินนี่เป็นความสามารถเฉพาะตัวของลีโอค่ะ /ผิด

อาจจะเพราะไม่ค่อยรู้จักวิธีเข้าหาล่ะมั้ง?  :mew3:

:z10:
:z13:

อ่านกี่ทีก้น่ารัก แมวบ้านหนุนี่ถ้ามีอาหารในมือ ยังไงมันก้ไม่เมินอ่ะ 55+

แบบนั้นดีจังเลยค่ะ ลีโอคงอยากให้เป็นแบบนั้นบ้าง


จูบเลย! :hao6:

เจ้าของร้านคาเฟ่ต์แมวอาจเห็นได้นะคะ :hao6:

น่ารักอะ ลีโอโดนแมวเมิน 5555

ทั้งๆที่ก็เป็นแมว(ใหญ่)เหมือนกัน แต่ดันโดนเมินซะได้  :hao7:

ถถถถถถถถแม่แมวถูกเมิน

บางทีอาจจะต้องหาหนังสือทำอย่างไรให้แมวรักเขียนโดยเอกภพให้ลีโอซะแล้วล่ะค่ะ

น่ารักดีชอบจังเลย

ขอบคุณมากนะคะ  :กอด1:

น้องลีโอแมวเมิน5555 น่าร้ากกก

ท่าทางลีโอจะโดนล้อเรื่องนี้ไปอีกนานแน่ๆเลยค่ะ  :hao7:

ความน่ารักของลีโอพุ่งกระจายมากมายตอนนี้ น่าร๊ากกก~ >o<

หลงล่ะสิๆ เอก
#ติดตามๆ

แค่ลีโออยู่เฉยๆเอกก็ดูจะหลงมากแล้วล่ะค่ะ ยิ่งพอเจอแบบนี้ ท่าทางจะออกมาจากหลุมดำไม่ได้แล้ว :mew3:

ชาบูๆๆๆๆ เข้าใกล้กันบ้างแล้วเนาะ
สารภาพซะทีสิเอกภพ!!!!!
รอตอนต่อไปน้าาาา

เอกอาจจะยังต้องดูท่าทีต่อไปก่อนนะคะ เพราะดูๆแล้วยังไม่รู้เลยว่าฝั่งลีโอคิดยังไง :hao3:

แอร๊ยยย ลีโอน่ารักอ่ะ แอบฮาตอนให้แมวกินนม พอกินเสร็จก็กระจาย นึกภาพลีโอตอนนั้นแล้วแบบ เฮ้ย!! น่าสงสารก็น่าสงสารแต่ดันน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า5555 ส่วนเอกเนี่ย อะไรยังไงแอบมองลีโอตอนหลับเนี่ย อย่าเผลอจุ๊บไปนะ เดี่ยวเจ้าของร้านจะฟินอุ๊ยจะเห็นล่ะ ไม่ดีๆ อิอิ (รอติดตามความคืบหน้าตอนต่อ(ๆ)ไปค่า) จุ๊บๆๆๆๆ

มันเป็นโมเม้นต์ที่ทำเอาลีโอเสียความมั่นใจไปเยอะมากๆเลยล่ะค่ะ (แต่สำหรับเอกคงมองว่าน่ารักนะคะ 555) ใครๆก็อยากให้แมวเข้าหาเนอะ

/วิ่งไปปิดตาเจ้าของร้าน

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ จุ๊บๆๆๆ  :กอด1:


โอ๋ๆ โดนแมวเมิน น่าสงสารแท้หนู

ลีโอคงเสียความมั่นใจไปมากเลยล่ะค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0



ยิ่งลืมเท่าไหร่ สุดท้ายก็ยิ่งจำได้



เหมือนกับดวงดาวที่สูญสลายหายไปเพราะหมดอายุขัย



เศษฝุ่นและซากดาวดวงเก่าหลอมรวมกัน



สุดท้ายแล้วดาวดวงใหม่ก็กำเนิดขึ้นมาอยู่ดี...




ตอนที่ 12




เข้าสู่ช่วงสอบมิดเทอมอย่างเป็นทางการ หนังสือหนังหาอะไรก็รู้สึกว่าอ่านไม่ทันสักอย่าง แต่ก็อ่านไปเท่าที่จะทำได้


เดินออกจากห้องสอบด้วยสีหน้าเหมือนหมาโดนวางยาเบื่อ อาจารย์จะออกให้ยากกันไปไหน กลัวนิสิตทำได้หรือยังไง?


จริงๆเพราะทำไม่ได้เองมากกว่า  แต่ก็ไม่เคยคิดจะโทษตัวเองหรอก


"แม่งยากชิบหายเลยค่ะคุณเพื่อน" แซนดี้ออกมาบ่นกระปอดกระแปดหน้าห้องสอบ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็มีสีหน้าเหมือนถูกวางยากันมาทั้งนั้น


"ว่าไงมึง ไอเอก" ไอเติ้ลที่ยืนรออยู่หน้าห้องเดินเข้ามาถาม มันเป็นพวกออกจากห้องคนแรกตลอด


"ยากชิบ กูคงไม่หวังภาคเคมีละ" เวลาเลือกภาควิชาที่จะเรียน ก็จะมีการจัดอันดับคะแนนกันในหมู่คนที่ลงเลือกภาคนั้นๆ หากคะแนนเราสูงถึงในจำนวนคนที่ภาควิชานั้นต้องการ ก็จะได้รับคัดเลือก ซึ่งดูจากการทำข้อสอบเมื่อกี้แล้ว มีหวังสอบไฟนอลคงจะต้องเหนื่อยกว่านี้มากแน่ๆ เพราะข้อสอบก็ทำไม่ค่อยได้ ถึงจะตอบไปเกือบครบทุกข้อ แต่ก็เขียนแถไปแถมา เผื่ออาจารย์จะเห็นใจให้คะแนนค่าหมึกปากกาสัก0.5คะแนนก็ยังดี


"โห มึงพูดงี้ กูจะเหลือหรอวะ"


"เอาน่า มึงผ่านอยู่แล้ว" ตบบ่าปลอบใจไป เติ้ลมันอยากเรียนโยธา แต่ระดับมันน่ะติดอยู่แล้ว เห็นออกจากห้องเร็วแบบนี้มันคงทำได้เยอะอยู่


"เออๆ ช่างแม่ง ไปหาไรแดกดีกว่า สอบเสร็จแล้วว้อยยยย แซนดี้ไปแดกกันนนนนน!" ไอเติ้ลโวยวายลั่นตึกเรียกไอแซนที่กำลังยืนบ่นเรื่องข้อสอบอยู่ในกลุ่มพวกผู้หญิงให้หันไปมอง


"วันนี้นัดกับเพื่อนไว้แล้ว" ไอแซนตะโกนตอบ ทำไมไม่ไปยืนคุยกันดีๆ


"อ้าว ไอนี่หนิ แล้วก็ไม่บอก นิสัย" เติ้ลบ่นพึมพำหลังจากที่รู้ว่าเพื่อนตัวเองดันมีนัดแล้ว ตอนแรกนึกว่าเติ้ลมันจะไปกับพลอยแฟนมันซะอีก แต่นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้ามันบอกว่าแฟนมันยังสอบไม่เสร็จ


"บอกไปแล้วเพื่อนเติ้ลไม่ตั้งใจฟังเอง แต่จะไปด้วยก็ได้นะ เพื่อนมันก็อยากให้ไปกันเยอะๆ"


"เออ ก็ดีว่ะ ไปด้วยๆ ไอเอกไปไหมวะ?" ไอเติ้ลหันมาตะโกนถาม ตอนนี้ด้านหน้าห้องสอบเสียงดังจนอาจารย์ต้องออกมาไล่ บอกว่าถ้าจะคุยให้ลงไปข้างล่าง ตอนนี้พี่ปีสามยังสอบอยู่ในห้องด้วย หลายคนรวมถึงพวกเราที่ยืนออกันอยู่หน้าห้องสอบเลยเดินลงมาจนถึงชั้นล่าง ถึงได้คุยกันต่อเรื่องจะไปหาอะไรกินหลังสอบ


"เพื่อนเอกไปด้วยกันไหม?" ไอแซนพุ่งตรงเข้ามาถาม


"ไปกินอะไร ที่ไหน ยังไง กับใคร?" ถามไอแซนออกไปรวดเดียว กำลังคิดอยู่ว่าควรจะไปดีไหม หรือจะกลับไปนอนดี เพราะเพิ่งได้นอนไปไม่ถึงสี่ชั่วโมง

"ไปกินหมูกระทะ หลังมอ กับพวกไอปราย" ไอแซนตอบคำถามทั้งหมดอย่างชัดถ้อยชัดคำเน้นทีละพยางค์ คุ้นๆชื่อ 'ปราย' อยู่เหมือนกัน เหมือนแซนเคยพูดถึงอยู่บ้าง


"พวกไอปรายนี่ใครวะ?" สุดท้ายเลยตัดสินใจถามออกไป ดีกว่ามานั่งนึกให้ปวดหัว


"ก็คนที่เคยจะพาไปเจอตอนแข่งว่ายน้ำกีฬาเฟรชชี่แต่สุดท้ายไม่ได้ไปไง ก็เพื่อนเราตอนมอปลายนั่นแหละ แต่พวกมันเรียนวิทยาฯ" หืม? วิทยาอีกแล้วหรอ เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะรู้จักคนจากคณะข้างๆเพิ่มขึ้นแฮะ


"อีกอย่างนะ ไอปรายบอกว่าจะพาคุณชายลีโอมาด้วยล่ะ!" ไอแซนทำหน้าดี๊ด๊า สรุปไอกลุ่มเพื่อนที่ชื่อปรายนี่คือเพื่อนของลีโอสินะ?




ก็รู้ว่าโลกน่ะกลมอย่างที่โคเปอร์นิคัสบอก



แต่บางทีก็รู้สึกว่ากลมเกินไป







"แน่ะๆ เพื่อนเอกนิ่งไปเลย จะไปไหม? เอ... หรือว่าไม่ไป?" แซนทำหน้าล้อ เมื่อไหร่จะเลิกล้อกันสักที...


"มึงจะไม่ไปสินะ น่าเสียดายจัง" นั่นไง ไอเติ้ลอีกคน




พูดมาขนาดนี้ คงไม่ไปมั้ง?










ร้านหมูกระทะหลังมหาลัยที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนิสิตนักศึกษาเพราะทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ไกล และเพราะวันนี้หลายคณะสอบเป็นวันสุดท้าย ร้านจึงแออัดไปด้วยเหล่านิสิตนักศึกษาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ


เดินมาจนถึงหน้าร้าน สายตาก็พลันมองเห็นกลุ่มเพื่อนของแซนได้ในทันที เพราะมีใครคนหนึ่งในกลุ่มลุกขึ้นยืนและโบกมือไปมาให้กับพวกเราทันทีที่เห็น ในกลุ่มนั้นที่รู้จักกันดีมีอยู่สองคน คือ โปร กับ...ลีโอ ส่วนที่เหลือเป็นผู้หญิงสี่คนและผู้ชายอีกสามคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน รวมกับทางฝั่งวิศวะที่เป็นชายฉกรรจ์อีกสี่คนและหญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มวิศวะอย่างแซนดี้ จำนวนคนรวมกันแล้วต้องต่อโต๊ะเพิ่มอีกสองโต๊ะ


เดินตามหลังแซนกับเติ้ลไปที่โต๊ะ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับคนที่เจอกันทุกวันบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ทักทายทุกคนนิดหน่อย ก่อนที่แซนจะเริ่มแนะนำเพื่อนหลายคนให้รู้จักกัน พอทักทายกันจนเสร็จแล้วก็ทยอยกันไปตักเนื้อมาไว้ย่างที่เตา








นั่งกินกันมาได้สักพักตอนนี้ก็เริ่มมีแอลกอฮอล์มาอยู่บนโต๊ะพวกผู้ชายแล้วโดยฝีมือของไอโปรและคนอื่นๆ เหลือบมองคนตรงหน้าที่ยังคงคีบหมูจากเตามาเป่ากินโดยไม่ได้สนใจคนอื่นสักเท่าไหร่


"กินไหม?" เนื้อหมูถูกยื่นมาอยู่ตรงหน้าด้วยตะเกียบของคนฝั่งตรงข้าม คงเพราะสังเกตเห็นว่าถูกมองอยู่ล่ะมั้ง


"ไม่เป็นไร กินเถอะ" ในชามของตัวเองตอนนี้ก็มีเยอะแล้ว


แทนที่หมูชิ้นนั้นจะถูกดึงกลับไปยังฝั่งตรงข้าม แต่มันกลับถูกวางลงในชามตรงหน้า เลิกคิ้วมองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจแต่สายตาของอีกฝ่ายที่มองมา ทำให้ปฏิเสธไม่ได้


"อร่อยนะ ลองกินดู"


"อา...ขอบใจ" ทำได้เพียงแค่ขอบคุณกลับไปเท่านั้นก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเข้าปาก เหมือนจะเป็นหมูหมักซอสอะไรสักอย่างที่ยังไม่ได้ลองกิน ก็อร่อยดี...


"เฮ้ย เอก! เอาหน่อยไหม?" ไอเติ้ลยื่นขวดเบียร์มาตรงหน้า


"นิดหน่อยนะเว้ย วันนี้กลับเองเดี๋ยวไม่ถึงบ้าน" พูดกลั้วขำไป ไอเติ้ลกับคนอื่นๆพยักหน้าเข้าใจแล้วส่งแก้วมาให้ ก่อนจะยื่นขวดมาให้ลีโอที่นั่งอยู่ตรงข้ามเช่นกัน แต่กำลังจะถามก็ถูกห้ามขึ้นมาก่อน


"เดี๋ยวๆ ห้ามให้แมวกิน มันกินแป๊ปเดียวก็เมาแล้ว แถมไม่มีใครไปส่งบ้าน ห้าม ห้าม" ไอโปรดึงขวดจากมือไอเติ้ลไปถือไว้เอง


ลีโอมองเพื่อนตัวเองเงียบๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะหันไปนั่งคีบเนื้อบนเตากินต่อ



ยิ่งดึกผู้คนในร้านก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขวดเหล้าและเบียร์ค่อยๆเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่วนพวกผู้หญิงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะขอตัวกลับกันไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว


นั่งมองไอโปรกับไอเติ้ลที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ตอนนี้สนิทกันประดุจเป็นเพื่อนสมัยเรียนอนุบาลมาด้วยกัน ตอนนี้กำลังนั่งหัวเราะร่าจับกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะข้างๆ เล่าวีรกรรมของตัวเองในช่วงอนุบาล ประถม ยันมัธยมกันอย่างออกรส นั่งฟังไปก็สนุกดี จริงๆมีเรื่องของไอเติ้ลที่อยากเผาหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นเรื่องที่กินโอริโอ้แล้วโดนเพื่อนทั้งห้องล้อว่าฟันดำจนมันเลิกกินโอริโอ้ไปเป็นเดือน ไม่ก็เรื่องที่มันอึแตกในคาบคอมพิวเตอร์แล้วพออาจารย์ถาม มันกลับบอกว่า 'กลิ่นขี้นกมั้งครับครู' เสียอย่างนั้น


หันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อคล้ายได้รับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กำลังนั่งสัปหงกเหมือนคนที่กำลังง่วงนอน ก่อนจะสังเกตเห็นว่าในมือของอีกฝ่ายกำลังถือแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอยู่ค่อนแก้วแล้ว เห็นอย่างนั้นเลยดึงแก้วออกมาจากมืออีกฝ่าย


"ใครเอาให้กินน่ะ?"


ลีโอเงยหน้ามองเมื่อแก้วของตัวเองถูกฉกไป มือพยายามเอื้อมมาคว้าแก้วคืนแต่ก็ดูไร้ทิศทางสะเปะสะปะ ดูท่าคงจะแอบหยิบมากินเองตอนที่ทุกคนกำลังจับกลุ่มคุยกัน ไม่รู้ว่ากินไปกี่แก้วแล้วด้วย


"พอแล้วน่ะ เมาแล้วนะ" ส่งเสียงดุอีกคนที่มือยังคงพยายามคว้าแก้ว


"ไม่เมา" ถึงเสียงจะยังไม่ค่อยสั่นสักเท่าไหร่ แต่จากท่าทางกับใบหน้าแดงระเรื่อนั่นก็สรุปได้แล้วว่าเมาแน่นอน


"เดี๋ยวกลับบ้านไม่ไหวหรอก มีใครไปส่งหรือเปล่า?"


"เอก... ขอแก้วคืน..." ขมวดคิ้วมองคนสูญเสียสติสัมปชัญญะที่ยังเรียกร้องหาแก้วในมือ ก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมด


"ขอคืน...นะ... ยังไม่หมดเลย..." อีกฝ่ายส่งเสียงอ้อนวอนเลยยื่นแก้วเปล่าที่เมื่อกี้เพิ่งจะกระดกจนหมดให้


"หมดแล้ว"


ลีโอทำหน้าเสียดายก่อนจะยอมกลับไปนั่งพิงพนักเก้าอี้ตามเดิมพร้อมกับส่งเสียงบ่นพึมพำบางอย่างที่ฟังไม่ได้ศัพท์


"ไอโปร เพื่อนมึงเมาแล้ว" หันไปเรียกเจ้าของเบียร์ที่กำลังคุยกันสนุกสนาน


"อ้าว? เห้ย!? แมวเมาหรอ? เป็นไปได้ไงวะ!?" ไอโปรหน้าตาตื่น ดูท่าทางมันเองก็ไม่คิดว่าลีโอจะกินจริงๆ


"มึงนี่ไม่ดูแลเพื่อนเลย"


"เชี่ย แม่งแอบกินแน่ๆ" มือข้างหนึ่งของไอโปรเสยผมด้านหน้าขึ้นอย่างหัวเสีย


"วันนี้ดูมันเครียดเรื่องสอบ อยากไปส่งมันอยู่แต่บ้านมันอยู่ไหนก็ไม่มีใครรู้ มันเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเล่าไง..." ไอโปรเหลือบมองคนเมาที่นั่งสัปหงกก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่


"หรือจะไปนอนหอกูดีวะ"


"ไม่ต้อง กูไปส่งเอง กูรู้ว่าบ้านลีโออยู่ไหน" พอได้ยินว่าไปนอนที่หอ ปากเจ้ากรรมก็ดันเอ่ยรับอาสาว่าจะไปส่งแทบในทันที ความรู้สึกในใจตอนนี้คือเป็นห่วง ไปกับคนอื่นที่ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันก็ยังน่าเป็นห่วง...


"มึงรู้จักบ้านมันหรอ?"


"พี่กูเคยไปส่งลีโอหลังซ้อมว่ายน้ำ กูก็ไปด้วยเลยรู้"


"งั้นหรอมึง..." สีหน้าไอโปรดูจะคลายกังวลลงไปบ้าง


"เออดิ"


"ฝากด้วยแล้วกัน" ไอโปรเอื้อมมือมาตบไหล่เบาๆสองสามที


"ถ้าส่งมันเสร็จแล้วโทรบอกกูด้วยนะ" พยักหน้าเข้าใจและบอกมันเป็นเชิงว่า 'รับทราบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเอง'


"ไอเติ้ลมึงจะกลับพร้อมกูไหม?" พอตกลงกันเสร็จก็เดินไปเรียกไอเติ้ลที่ตอนนี้ไปยืนอยู่หน้าจอทีวีเครื่องใหญ่ของทางร้านเพื่อดูถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดสำคัญ


"วันนี้กูไปนอนบ้านย่า"


"โอเค อย่าเมาเยอะล่ะ ระวังโดนตัดออกจากกองมรดก" พูดหยอกไอเติ้ลไปที บ้านไอเติ้ลเป็นครอบครัวใหญ่ เลยไปมาระหว่างสองบ้าน คือบ้านของย่าซึ่งเป็นบ้านใหญ่ กับ บ้านของพ่อที่ซื้อแยกออกมาเพราะใกล้ที่ทำงาน ซึ่งก็คือบ้านที่อยู่ข้างๆกัน บางทีเลยมักจะกลับด้วยกัน แต่พักหลังพอไอเติ้ลมีแฟนก็เลยกลับบ้านเองคนเดียวซะเป็นส่วนใหญ่


พอโดนหยอกไปแบบนั้นไอเติ้ลก็หันมาชี้หน้าแบบคาดโทษ เลยยักคิ้วกลับไปให้หนึ่งที แล้วเดินกลับมายังโต๊ะที่มีใครบางคนนั่งอยู่ จัดการดึงแก้วที่คงจะหยิบจากบนโต๊ะชาวบ้านที่เขาวางไว้ออก ส่ายหน้านิดหน่อยก่อนจะดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น


"ลีโอ กลับบ้าน" พยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น คนเมาทำเสียงอู้อี้อย่างขัดใจ ก่อนจะดันตัวให้เดินออกมาหน้าร้าน โชคดีที่มีรถแท็กซี่ผ่านมาพอดีเลยไม่ต้องยืนรอนาน


ดันอีกฝ่ายเข้าไปในรถแล้วตามเข้าไปนั่งข้างๆ บอกจุดหมายปลายทางให้กับพี่แท็กซี่เรียบร้อยรถก็เคลื่อนตัวออกจากร้าน


รถเคลื่อนตัวออกมาได้ไม่นาน พร้อมกับคนนั่งข้างๆที่เริ่มสัปหงกอีกรอบ เอื้อมมือไปดันศีรษะของอีกฝ่ายให้โน้มลงมาพิงไหล่เบาๆจะได้ไม่ปวดคอ


สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ดวงไฟสีส้มบนทางด่วนเคลื่อนผ่านไปลูกแล้วลูกเล่า แม่น้ำเจ้าพระยาสีดำสนิทในยามค่ำคืนถูกแต่งแต้มด้วยดวงไฟของเรือขนส่งสินค้าที่ยังคงลอยอยู่ในแม่น้ำสายหลักของประเทศไทย แสงไฟบนผืนแผ่นดินใหญ่ส่องสว่างจนบดบังดวงดาวบนท้องฟ้า


หลายครั้งที่มักจะคิดเสมอว่า กรุงเทพฯคือสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การดูดาวบนท้องฟ้าเลยสักนิด จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอย่างนั้น แต่ถ้าหากเป็นดาวบนพื้นดินแล้วล่ะก็ คงมีให้ดูมากมายเต็มไปหมด เหมือนที่เห็นอยู่นอกหน้าต่างรถ และ ที่กำลังพิงอยู่ข้างๆนี้ก็เช่นกัน


ละสายตาจากด้านนอกกลับมามองคนที่นอนหลับนิ่งอยู่ข้างๆ ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าคนตรงหน้านั้นหลับลึกไปแล้ว จ้องมองริมฝีปากที่เผยอออกเล็กน้อยในหัวก็พลันนึกไปถึงวันที่ไปคาเฟ่ต์แมวด้วยกัน...





ระยะห่างระหว่างใบหน้าของคนสองคนหยุดอยู่แค่นั้น ไม่มีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงแต่อย่างใด ลมหายใจของอีกฝ่ายยังคงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

นิ้วชี้และนิ้วกลางแตะลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายที่หลับอยู่อย่างแผ่วเบาจนแทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนักที่ปลายนิ้ว ไม่กี่วินาทีต่อมา นิ้วทั้งสองก็เคลื่อนกลับไปแตะลงบนริมฝีปากของเจ้าของมันแทน


สัมผัสอันบางเบานั้นยังคงติดอยู่บนปลายนิ้ว และ ริมฝีปาก...




ถึงจะเป็นแค่การแตะริมฝีปากของอีกฝ่ายแล้วมาแตะที่ริมฝีปากของเราก็ตาม



แต่ในจังหวะนั้นความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว






เหมือนพวกฉวยโอกาสชะมัด...





.



.



.




รถแท็กซี่จอดใกล้กับบ้านหลังเล็กที่รถของพี่ชายเคยมาจอดเมื่อคราวก่อน จ่ายเงินให้กับคนขับเรียบร้อยก่อนจะพยุงตัวคนหลับตลอดทางลงจากรถ เพิ่งสังเกตเห็นว่าหน้าบ้านนั้นมีรถยาริสสีขาวจอดไว้ และไฟภายในบ้านเองก็ยังเปิดสว่างอยู่




กิ๊งก่อง




ไม่นานนักหลังจากที่กดกริ่งหน้าบ้านไป ประตูบ้านก็ถูกเปิดออกพร้อมกับหญิงสาววัยทำงานคนหนึ่งในชุดสูธเหมือนเพิ่งเลิกงาน


"ตายจริง ไปทำอะไรมาถึงเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย? แล้วหนู..."


"ผมเอกครับ"


"เอกหรอ? ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ น้าเป็นแม่ของลีโอนะ" เธอแนะนำตัวก่อนจะเดินมาช่วยพยุงลูกชายของตัวเอง "แล้วทำไมคอพับกลิ่นเหล้าหึ่งมาแบบนี้ล่ะเนี่ย?"


"ฉลองหลังสอบเสร็จน่ะครับ"


"อย่างงี้นี่เอง ขอบคุณมากนะจ๊ะที่พามาส่ง จะว่าอะไรไหมถ้าน้าจะรบกวนให้ช่วยแบกเข้าไปข้างในหน่อย น้าคนเดียวคงไม่ไหว  อีกอย่างเอกจะได้เข้ามากินน้ำกินท่าด้วย แบกสิงโตมาตลอดทางคงจะเหนื่อย" แม่ของลีโอหันมาฉีกยิ้มให้


"ได้ครับ"


สองแรงช่วยกันพยุงคนเมาขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน


ประตูห้องนอนมุมข้างในสุดของชั้นสองถูกเปิดออก ข้างในเป็นห้องเล็กๆขนาดพอเหมาะ ค่อยๆวางคนที่หลับลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด แม่ของลีโอค่อยๆดึงผ้าห่มลายกาแล็กซี่ขึ้นมาคลุม ก่อนจะปิดไฟ


ในห้องเล็กๆและมืดสนิทนั้น ดวงดาวเรืองแสงเต็มผนังและเพดานทุกด้านของห้อง ก้มมองคนที่หลับอยู่บนเตียง แม้กระทั่งผ้าห่มก็ยังเรืองแสงออกมา


หันไปมองหญิงสาวในชุดสูธที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เธอเดินนำไปเปิดประตูพร้อมทั้งกวักมือเรียกให้เดินออกมาจากห้องนั้นก่อนจะปิดมันลงอย่างเบามือ


"น้าอยากอวดห้องลูกชายนิดหน่อยน่ะ สวยไหม?" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น


"สวยมากเลยครับ คุณน้าทำเองหรอ?" บรรยากาศในห้องตอนนั้นราวกับอยู่ในอวกาศเลยก็ว่าได้


เธอส่ายหน้าน้อยๆ "เจ้าของห้องกับพ่อเขาเป็นคนทำน่ะจ้ะ น้าชอบมากเลยนะ เคยคิดอยู่ว่าถ้ามีเพื่อนลีโอมาบ้านก็อยากจะอวดบ้าง..." เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดต่อ


"คิดว่าจะไม่มีเพื่อนมาบ้านแล้วซะอีกนะนี่" เธอหันมายิ้มให้ ใบหน้าที่คล้ายกันนี้ทำเอาเผลอนึกถึงเวลาที่หมอนั่นยิ้มออกมา คงสวยแบบนี้แน่ๆ


"ลีโอไม่เคยมีเพื่อนมาบ้านหรอครับ?"


"จ้ะ เขาไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ..." เดินตามหลังหญิงสาวในชุดสูธลงไปยังชั้นล่าง ชุดสูธถูกพาดไว้กับไม้แขวน เธอหันมาผายมือไปที่โซฟาเป็นเชิงให้นั่งตรงนี้


"เดี๋ยวน้าเอาน้ำมาให้นะ"


"ครับ"


นั่งมองไปรอบๆห้องรับแขก มีภาพถ่ายของครอบครัวใส่กรอบติดอยู่บนผนังสองสามรูป มีรูปหนึ่งเป็นรูปเด็กผู้ชายหน้าตานิ่งเฉยยืนคู่กับกล้องดูดาวแบบผสม ข้างกันเป็นชายวัยทำงานฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีท่าทางดูใจดี


"สองคนนั้นนั่นแหละจ้ะที่ช่วยกันทำห้อง" หันขวับไปทางต้นเสียง แม่ของลีโอเดินออกมาจากครัวพร้อมกับถาดใส่ขนมและน้ำเปล่าหนึ่งแก้วก่อนจะวางลงบนโต๊ะรับแขก แล้วเดินเลี้ยวมานั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม


"ขอบคุณครับ"


"เวลาลีโออยู่ที่มหาลัยเป็นยังไงบ้างจ๊ะ?"


"คือ...ผมอยู่คนละคณะกับเขาน่ะครับ"


"อ้าวหรอจ๊ะ แต่ดีจังเลยนะ มีเพื่อนต่างคณะด้วย แค่เพื่อนในคณะน้าก็กังวลอยู่ว่าจะมีไหม แต่ถึงขั้นมีเพื่อนต่างคณะด้วยก็โล่งใจขึ้นเยอะแล้วล่ะ" แม่ของลีโอยิ้มอย่างโล่งใจ ทำเอารู้สึกสงสัยขึ้นมา แม่ลูกคู่นี้เขาไม่ค่อยได้คุยกันสินะ


"แล้วรู้จักกันได้ยังไงจ๊ะ?"


"เรียนแลปกลุ่มเดียวกันน่ะครับ"


"แล้วลีโอดู...ร่าเริงหรือเปล่า...น้าหมายถึง...พูดเยอะไหม มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นบ้างหรือเปล่าน่ะ?"


"พูดไม่ค่อยเยอะนะครับ แต่ก็เห็นคุยกับเพื่อนในแลปบ้าง ก็ดูๆมีเพื่อนสนิทที่คุยกันบ่อยอยู่ด้วยนะครับ"




"ดีใจจัง..."




"ครับ?" มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แววตาของเธอฉายแววดีใจเหมือนกับคำพูดนั้น แต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้าเช่นกัน





แววตาที่เหมือนมีกลุ่มหมอกเนบิวลาอยู่ข้างในเหมือนกับลูกชายของเธอ





"ปกติก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว พอสามีของน้าเสียไปก็เลยยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่… เราคุยกันน้อยมากกว่าแต่ก่อนอีก ทั้งๆที่แต่ก่อนมันก็น้อยมากอยู่แล้ว... " แม่ของลีโอก้มหน้าพูดออกมาเบาๆ ณ ตอนนั้นห้องรับแขกเงียบสนิท เงียบเสียจนได้ยินเสียงจิ้งหรีดข้างนอกบ้านส่งเสียงร้องกันดังระงมไปหมด


"ลีโอคงเศร้ามาก เพราะวันที่สามีน้าเสียเป็นวันเกิดของเขาด้วย... พอหลังจากนั้นก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง..."


"น้าเองยังรู้สึกผิด ที่ขายกล้องดูดาวเครื่องนั้นไป..." แม้เสียงของจิ้งหรีดข้างนอกจะดังระงมไปทั่วทั้งห้องรับแขก แต่กลับได้ยินเสียงสะอื้นของผู้หญิงตรงหน้าดังชัดที่สุด


"น้ารู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเลิกดูดาว หนังสือเกี่ยวกับดาราศาสตร์ทุกเล่มในตู้หนังสือหายไปหมด..."


"คุณน้าอย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิครับ ผมว่าลีโอคงมีเหตุผลของเขา และหนังสือพวกนั้นผมก็เชื่อว่าเขายังคงเก็บมันไว้อยู่ครับ" ถึงจะเป็นคนนอก แต่ในฐานะที่คอยเฝ้ามองหมอนั่นมาตลอด ไม่มีทางหรอก…





ไม่มีทางที่ลีโอจะละทิ้งดวงดาวบนท้องฟ้า



ที่แม้แต่ตัวเองก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในนั้น



ถ้าละทิ้งมันไปแล้วจริงๆ จะสนใจมันอีกทำไม?



ทั้งเว็บไซต์ที่เข้าในโทรศัพท์มือถือเวลาอยู่บนรถไฟฟ้า



ทั้งวันที่เดินกลับมาหาหนังสือเล่มนั้น…





“บางทีสิ่งของพวกนั้น อาจจะทำให้เขานึกถึงเรื่องเก่าๆ”





“ก็เลยเลือกที่จะไม่อยากเห็นมัน เพราะมันทำให้หวนกลับไปนึกถึง”








“ล่ะมั้งครับ?”




.




.




.




“อ้าว ตื่นแล้วหรอจ๊ะ แม่ทำโจ๊กไว้ให้จะกินเลยไหม?” เดินงัวเงียลงมายังชั้นล่าง เพราะเมื่อคืนดันแอบกินเบียร์เข้าไปหลายแก้วตอนนี้เลยรู้สึกปวดหัวตื้อไปหมด ตื่นขึ้นมาอีกทีก็มาอยู่ที่บ้านเสียแล้ว พยักหน้าตอบรับแม่ไปแล้วเดินกุมหัวมานั่งที่โต๊ะกินข้าว ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้…


“ให้ผมทำดีกว่านะ” ปกติแล้วแม่ทำงานตลอด เรื่องทำกับข้าวหรืองานบ้านเลยมักจะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเสมอ อย่างน้อยได้ช่วยบ้างก็ยังดี


“ไม่เป็นไรๆ เราน่ะยังเมาค้างอยู่ใช่ไหมล่ะ เมื่อคืนกินซะเยอะเลยนี่ เพื่อนเลยต้องหามมาส่งถึงบ้านเลย” แม่เดินมากดไหล่ไว้เมื่อเห็นว่าจะลุกขึ้นไปช่วยก่อนที่โจ๊กร้อนๆจะถูกวางไว้ตรงหน้าพร้อมน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว นั่งกุมหัวตัวเองอยู่สักพัก เมื่อคืนไม่น่ากินเข้าไปซะเยอะเลย ทั้งๆที่ก็ไม่เคยคิดจะกินมานานแล้ว เพราะอารมณ์ชั่ววูบถึงได้ตัดสินใจกินเข้าไป พอเครียดเรื่องที่ทำข้อสอบไม่ได้ในหัวมันก็พลันนึกไปถึงเรื่องอื่นจนอยากลืมไปให้หมด




แม้สุดท้ายแล้วเมื่อตื่นขึ้นมา ก็ยังคงจำได้อยู่เหมือนเดิมก็ตาม




ตักโจ๊กร้อนๆขึ้นมาเป่าสองสามทีก่อนจะตักเข้าปาก พยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน




‘พอแล้วน่ะ เมาแล้วนะ’


‘ไม่เมา’


‘เดี๋ยวกลับบ้านไม่ไหวหรอก มีใครไปส่งหรือเปล่า?’


เอก... ขอแก้วคืน...’


‘ขอคืน...นะ... ยังไม่หมดเลย...’


‘หมดแล้ว’


‘ไอโปร เพื่อนมึงเมาแล้ว’





“เอ้อ ลีโอ” หลุดออกจากความคิดของตัวเองเพราะเสียงของแม่ที่จู่ๆก็เรียกขึ้นมา


“ครับ?”


“เพื่อนเราคนนั้นน่ะ...เขาใจดีจังเลยนะ…”



.




.




.





“รักษาเขาไว้ดีๆล่ะ”



:・°☆`*:







TBC



สวัสดีค่ะ ขออภัยที่มาช้าค่ะ ช้าตลอด

ตอนนี้อธิบายไขข้อข้องใจในช่วงแรกๆของเรื่องไปบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าลืมกันหรือเปล่า แฮ่~ (อยู่ในช่วงตอนที่3กับ6ค่ะ)

วันนี้เขียนน้อยหน่อย นึกไม่ค่อยออกค่ะว่าจะพิมพ์อะไร 555

อ้อ ขออนุญาตลาไปสอบนะคะ ;;__;; เจอกันอีกทีกลางเดือนพ.ค.เลยค่ะ ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ  :sad4: /ไฟนอลนี้ฉันตาย

ในช่วงที่อ่านหนังสือสอบก็จะพยายามปั่นบางส่วนล่วงหน้าไปก่อนด้วย จะได้อ่านกันต่อเนื่อง ; v ;

สุดท้ายนี้ ขอบคุณมากนะคะ รักคนอ่านมากๆๆๆๆ /แจกกอดให้ทุกท่าน :กอด1:

ปล. สามารถตามไปตบตีในทวิตเตอร์ได้เสมอเลยนะคะ  :hao7:
ปลล. ลองตั้งชื่อไทยให้เรื่องนี้ดูค่ะ ไม่รู้เวิร์คไหม ;; ____ ;;

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
คุณแม่คะ นั่นว่าที่ลูกเขยค่ะ :p





รอหลังสอบนะคะ จุฟๆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เรื่องชื่อเรื่องมันก็ตรงตัวเลยอ่ะนะ
ในความคิดเราว่ามันทะแม่งๆดูขัดๆ
ยังไงไม่รู้นะค่ะความคิดส่วนตัวนะค่ะ
ถ้ายังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ
สู้ๆนะค่ะเรื่องสอบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เดี๋ยวจะช่วยรักษา"เพื่อน"คนนี้ไว้ให้ค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
สงสัยต้องมอมบ่อยๆ  :z1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ปล่อยเพื่อนไป แล้วเลื่อนเป็นแฟนแทนเถอะะะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เรื่องชื่อเรื่องมันก็ตรงตัวเลยอ่ะนะ
ในความคิดเราว่ามันทะแม่งๆดูขัดๆ
ยังไงไม่รู้นะค่ะความคิดส่วนตัวนะค่ะ
ถ้ายังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ
สู้ๆนะค่ะเรื่องสอบ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เราเองก็แอบคิดว่ามันแปลกๆอยู่เหมือนกัน

งั้นขออนุญาตพับชื่อภาษาไทยเก็บไปก่อนนะคะ

เดี๋ยวลองค่อยๆไปคิดมาใหม่ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^w^

ออฟไลน์ johroh

  • เด็กซิ่วในตำนาน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฟินส์ประโยคสุดท้ายของคุณแม่  :man1: :man1: :man1:

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
:o8:น่าย้ากกกกก

/กอดดดด/ ขอบคุณนะคะ  :กอด1:


คุณแม่คะ นั่นว่าที่ลูกเขยค่ะ :p





รอหลังสอบนะคะ จุฟๆ

มาต่อให้ก่อนสอบเสร็จแล้วค่ะ  :hao7:

ไปทีละนิดๆ

ช้าๆแต่ชัวร์ เนอะ  :katai5:

เดี๋ยวจะช่วยรักษา"เพื่อน"คนนี้ไว้ให้ค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ

มาต่อแล้วนะคะ  :mew1:

สงสัยต้องมอมบ่อยๆ  :z1:

มอมบ่อยๆเดี๋ยวจนนะคะ ค่าเหล้าหลายบาทอยู่  :o8:

ปล่อยเพื่อนไป แล้วเลื่อนเป็นแฟนแทนเถอะะะ

ต้องให้เอกเก็บเลเวลก่อนนะคะ 555

ตอนนี้ยาวสะใจมาก

ตอนที่13นี้ก็ยาวเหมือนกันค่ะ (ยาวกว่าตอนที่12ด้วย เย้~)


ฟินส์ประโยคสุดท้ายของคุณแม่  :man1: :man1: :man1:

คุณแม่น่ารักเนอะ :-[

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
‘ความไม่แน่นอนมันน่ากลัว’






ตอนที่ 13



4.45 น.


นาฬิกาปลุกบนหัวเตียงส่งเสียงร้องเมื่อถึงเวลาทำหน้าที่ของมัน และไม่นานเสียงร้องก็เงียบลงเมื่อเอื้อมมือไปกดปิด เป็นสัญญาณบอกว่าเจ้าของร่างที่นอนอยู่บนเตียงไม่ถึงสี่ชั่วโมงได้ตื่นขึ้นแล้ว

ตู้เย็นถูกเปิดออก ถ้วยชามด้านในถูกยกออกมาวางไว้ข้างเตา ไฟบนเตาแก๊สถูกจุดขึ้นพร้อมกับกระทะที่วางทับตามลงมา น้ำมันถูกราดลงบนกระทะ พอร้อนได้ที่แล้วก็ตามด้วยผักหลากหลายชนิดและเนื้อหมูถูกใส่ตามลงไป เกิดเสียงดัง 'ฉ่าาา' ขึ้น กลิ่นหอมฉุยตลบอบอวลไปทั่วครัว ไม่นานก็ถูกตักราดลงใส่ถ้วย พร้อมทั้งข้าวสวยหนึ่งจานวางอยู่เคียงข้างกัน

เตาแก๊สถูกปิดและเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อย กระทะที่ยังคงร้อนระอุอยู่ถูกราดด้วยน้ำที่อุณหภูมิห้องแล้ววางทิ้งไว้บนซิงค์ล้างจาน

กับข้าวและจานข้าวถูกยกมาวางบนโต๊ะกินข้าวขนาดสำหรับสามถึงสี่คน แต่ ณ เวลานี้มีเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ ผัดผักเมื่อสักครู่ถูกตักราดลงบนจานข้าว ก่อนเจ้าตัวคนทำจะเริ่มตักเข้าปากพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆที่หุงทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นหยิบจานชามไปที่ซิงค์ล้างจานที่วางทิ้งไว้ มือเอื้อมไปหยิบสก็อตไบร์ทแล้วกดขวดปั๊มน้ำยาล้างจานให้ไหลออกมาบนฟองน้ำนุ่มนิ่มก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาดแล้วเก็บทุกอย่างเข้าที่ให้เรียบร้อย

พลาสติกแรปถูกดึงออก พร้อมกับคลุมลงบนถ้วยผัดผักอีกใบที่ทำแยกไว้ ดึงกระดาษโพสต์อิทสำหรับจดบนตู้เย็นออกมาเขียนข้อความไว้อย่างที่ทำประจำเมื่อเวลามีเรื่องสำคัญที่ต้องบอก ก่อนจะแปะมันไว้ที่หน้าตู้เย็น



'วันนี้มีซ้อมแข่ง กลับดึกนะครับ'








6.20 น.


ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่หน้าชานชาลา ผู้คนดูบางตาเมื่อเทียบกับสถานีอื่น ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่ามาก่อนเวลาตั้งสิบนาทีเลยเดินหลบออกมาด้านข้างเพื่อรอเวลา



6.30น.


ได้เวลานัดหมายอย่างเช่นทุกวันแล้ว ย้ายตำแหน่งเดินมายืนรอที่ชานชาลา เป็นจุดที่ยืนอยู่ประจำ

ไม่นานนักรถไฟฟ้าก็มาจอดเทียบอยู่ตรงหน้า ประตูอัตโนมัติเปิดออก เมื่อมองตรงเข้าไปด้านในก็พบกับคนที่ยืนรออยู่ริมประตูอีกฝั่งที่ปิดสนิทในตำแหน่งเดิม


"หวัดดี" คำทักทายนี้ก็เหมือนเดิมเช่นกัน อีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มให้เล็กน้อย ถึงจะยิ้มแค่ที่มุมปากก็ตาม แต่ถ้าหากมีสาวๆมาเห็นรอยยิ้มของคนตรงหน้านี้แล้วล่ะก็ เชื่อได้ว่าต้องเขินกันไปเป็นแถบแน่ๆ


เดินเข้าไปยืนข้างๆ ก่อนจะหยิบหูฟังมาใส่เหมือนอย่างทุกวัน เสียงสัญญาณของรถไฟฟ้าดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ปิดลง


"ลีโอ" หันไปตามเสียงเรียกจากคนด้านข้าง กระดาษตรงหน้าถูกยื่นมาให้ มองเจ้ากระดาษนี้ด้วยความสงสัยก่อนจะรับมาแล้วเปิดดู


"ทำข้อนี้ได้ไหม?" คนตรงหน้าทำหน้าซีเรียส ดูจากรอยขอบตาที่คล้ำขึ้นกว่าปกติแล้วนั้น ท่าทางจะพยายามคิดทั้งคืน


ก้มมองโจทย์วิชาแคลคูลัสตรงหน้าสักพัก ก่อนจะจำได้ว่าข้อนี้เคยเรียนกับอาจารย์ในห้องไปแล้ว


"ข้อนี้เราเรียนแล้ว"


"เฮ้ย จริงดิ! สรุปมันทำยังไงวะ?" อีกฝ่ายเลิกคิ้ว ขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นทั้งยังเอื้อมมือมาชี้กระดาษที่มีร่องรอยการทำโจทย์เต็มไปหมด


"เลือกuกับdvเป็นชุดนี้แทน" ชี้นิ้วสลับไปมาบนตัวอักษรเป็นการประกอบคำอธิบาย เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นภาพได้ชัดเจน


"ตอนแรกก็เลือกแล้วแต่มันไม่ออก" คิ้วคมขมวดกันเป็นปม ดูท่าทางคงจะเลือกตัวแปรชุดนี้มาลองทำแล้ว แต่ติดปัญหาจนต้องเปลี่ยนไปเลือกตัวแปรชุดอื่น


"ก็พอเลือกเสร็จมันต้องบายพาร์ทสองรอบแล้วย้ายข้างสมการถึงจะออก"


เมื่อพูดจบเจ้าของกระดาษเลิกคิ้วทำหน้าเหมือนกับบรรลุอะไรบางอย่าง


"เชี่ย นั่งคิดทั้งคืน เชี่ยมาก" เอกบ่นอุบอิบ ดูท่าทางจะหัวเสียกับโจทย์ข้อนี้พอสมควร


"ถ้าคิดไม่ออกก็พักก่อนจะดีกว่า ดันทุรังต่อไปก็ใช้แต่อารมณ์ทำโจทย์ มองไม่เห็นคำตอบหรอก" เพราะเอกดูเป็นคนใจร้อน หงุดหงิดง่าย บางครั้งอารมณ์ก็เลยบดบังสิ่งที่ควรจะมองเห็นไป



อยากให้เอกยิ้มเยอะๆมากกว่า



"อือ...ขอบใจแล้วกัน" ส่งกระดาษคืนคนข้างๆ เอกหันมายิ้มให้พร้อมกับขอบคุณ



ยิ้มเหมือนกับตอนนี้...



7.10 น.


รีบวิ่งหน้าตาตื่นจากบันไดทางลง ไกลจากสายตาไปหลายร้อยเมตรมีรถบัสของมหาลัยกำลังจอดเทียบป้ายรถเมล์อยู่ และแน่นอนว่ารถกำลังจะเคลื่อนตัวออกไปแล้ว

"ไม่ทันหรอก เลิกวิ่งเถอะ" เสียงตะโกนไล่หลังมาไม่ได้ทำให้ความเร็วในการวิ่งลดลงแม้แต่น้อย



ถ้าไม่ลองวิ่งดู แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าไม่ทัน



ได้แต่เถียงเอกในใจกลับไป เพราะวิ่งอยู่การหันไปตอบอาจจะทำให้ความเร็วในการวิ่งลดลง






สุดท้ายก็ไม่ทัน...



คนที่วิ่งหอบแฮ่กตามมาด้านหลังหยุดลงข้างป้ายรถเมล์ ก่อนจะพูดปนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ


"บอกแล้วว่าไม่ทัน"


"แต่ถ้าไม่ลองวิ่งก็ไม่รู้นี่" เถียงตอบกลับอีกฝ่ายทันควัน เพราะอะไรในโลกนี้มันก็ไม่ได้แน่นอนเสมอไป บางทีอาจจะทันก็ได้


"แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว" อีกคนเถียงกลับ


"เมื่อวานไม่ได้วิ่งก็ไม่ทันเหมือนกัน"


"นั่นมันส่วนเมื่อวาน"


"แต่เมื่อวานถ้าวิ่งอาจจะทันก็ได้ เพราะงั้นวันนี้ถึงได้วิ่ง" คนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังพวกเราสองคนเริ่มมอง คงกำลังคิดว่าไอสองคนนี้มันเถียงเรื่องอะไรของมันกัน


เอกขมวดคิ้ว คนๆนี้ขมวดคิ้วบ่อยจนบางครั้งก็เคยนึกอยากเอานิ้วจิ้มหว่างคิ้วแล้วยืดออกให้คลายจากปมสักที




เป็นคนที่ขมวดคิ้วได้สิ้นเปลืองมาก



หน้าต้องแก่ก่อนวัยแน่ๆ




"ถามจริง?" รอยยิ้มที่มุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าของอีกคน จนเผลอเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ


"ว่า?"


"เจ้าของชื่อชโรดิงเจอร์หรอ?" คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาชะงัก จะว่าไปที่คุยกันเมื่อกี้นี้มันก็คือทฤษฎีแมวของชโรดิงเจอร์นั่นแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอามาเล่นมุก


"ไม่ใช่แมวสักหน่อย" เถียงอีกฝ่ายกลับหลังจากสมองผ่านการประมวลผลได้สักพัก จะว่าไม่เข้าใจมุกก็คงจะไม่ใช่ เพียงแต่สมองค่อนข้างจะประมวลผลช้ากับอะไรประเภทนี้เสียมากกว่า นั่นเลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถูกลุงรหัสและคนอื่นๆทั้งในคณะและชมรมแกล้งเป็นประจำ แม้ว่าจะเข้าใจ แต่ก็ดูจะช้าไป เพราะเผลอเต้นไปตามเกมของทุกคนหมดแล้ว


"บอกว่าไม่ใช่แมวแต่ยอมให้ใครๆเรียกว่าแมวเนี่ยนะ?" อีกฝ่ายทำหน้าบูด คงไม่ค่อยพอใจกับคำตอบที่ได้รับ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทุกคนลดสกุลPhanteraของสิงโตเจ้าป่าน่าเกรงขามให้ลงมาเหลือเพียงแค่สกุลFelisของแมว ถึงจะขอร้องว่าให้เลิกเรียกว่าแมวสักที แต่ก็คงไม่มีใครฟัง เลยทำได้เพียงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแล้วทำใจให้ชินว่านั่นคือชื่อเล่นใหม่ของตัวเอง


"ก็ได้" ถอนหายใจกับคนตรงหน้า ขืนเถียงต่อไปคงไม่จบสิ้นแน่ๆ ยอมจำนนต่ออีกฝ่ายเลยตอบแบบส่งๆกลับไป


"ถึงจะเป็นแมว แต่ก็ไม่มีเจ้าของหรอก"



แต่ก็ไม่คิดว่าประโยคถัดมาจากอีกฝ่ายจะทำเอาไปต่ออะไรไม่เป็นเลย










"แล้วอยากได้เจ้าของบ้างไหมล่ะ?"













"อ้าว ลีโอไม่สบายหรอ ทำไมหน้าแดงแบบนั้น" ปรายฟ้ากับเพื่อนคนอื่นๆถามขึ้นหลังจากที่หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว


"เปล่า" ตอบกลับไปสั้นๆเพียงแค่นั้น หยิบสมุดกับปากกามาวางไว้บนโต๊ะเลคเชอร์เตรียมพร้อมที่จะเริ่มเรียนในคาบแรกของวันนี้ ในหัวก็พลันนึกถึงเรื่องที่คุยกับเอกตรงป้ายรถเมล์



แมวของชโรดิงเจอร์



ไม่รู้ว่าควรจะโกรธใครดีระหว่างชโรดิงเจอร์ที่ดันคิดทฤษฎีนี้ขึ้นมา หรือ คนข้างๆที่เกาะราวเหล็กของรถบัสยืนยิ้มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

รู้สึกคิดผิดมากที่ดันมีความคิดในตอนแรกว่าอยากให้เอกยิ้มบ่อยๆ ถ้ารู้ว่ายิ้มแล้วจะน่าหมั่นไส้ขนาดนี้อยากให้กลับไปทำหน้าเครียดขมวดคิ้วแบบเดิมยังดีกว่า


"เลิกยิ้มแบบนั้นเถอะ" สุดท้ายก็ทนความน่าหมั่นไส้ไม่ไหวเลยต้องพูดออกไป อีกฝ่ายยักคิ้วให้หนึ่งทีแต่ก็ยังไม่ยอมเลิกยิ้ม


"ถ้าเมื่อกี้ไม่พูดแบบนั้นออกมา ก็คงไม่ได้เห็นแมวหน้าบูดแบบนี้"


"เงียบน่า" ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย


"ชโรดิงเจอร์จริงๆด้วย"


"..."


"ชโรดิงเจอร์~" น้ำเสียงล้อๆนี่มันอะไร


"..."


"ชโรดิงเจอร์~"


"..."


"ชโรดิงเจอร์~"


"..."





ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกเกลียดเออร์วิน ชโรดิงเจอร์ขึ้นมากันนะ...





---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


อีกทางด้านหนึ่ง

หลังจากแยกกับลีโอมาได้สักพัก นึกถึงเรื่องที่คุยกันแล้วอยากจะหัวเราะออกมา พอจะเข้าใจว่าทำไมคนอื่นในชมรมว่ายน้ำถึงชอบแกล้งลีโอกันขนาดนี้ ก็มันสนุกจริงๆนี่นะ แล้วก็ได้เข้าใจด้วยว่าทำไมไอภพถึงได้ชอบแกล้งชาวบ้านเขาไปทั่ว ก็คงเป็นเหตุผลเดียวกัน


แต่ไอประโยคน่าอายที่เผลอพูดไปเนี่ยสิ



'แล้วอยากได้เจ้าของบ้างไหมล่ะ?'



พูดไปได้ไงวะ!?


พอนึกถึงประโยคนั้น หน้าก็ดันเห่อร้อนขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ


"อ้าว เพื่อนเอกไม่สบายหรอ ทำไมหน้าแดงแบบนั้น" แซนดี้ถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องเลคเชอร์ เลื่อนเก้าอี้วางกระเป๋าแล้วนั่งลงข้างเพื่อนสาวที่จองที่นั่งไว้ให้ก่อนแล้ว ก่อนหันไปตอบคำถามเมื่อสักครู่




"เปล่า"



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------










"ทายสิ ใครกล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี"


"กล้ามพ่อแกสิไอโปร หยุดเลย!"


นั่งดูคนไม่รู้จักโตสองคนทะเลาะกันท่ามกลางเพื่อนคนอื่นที่กำลังจับกลุ่มทำรายงาน ปรายฟ้าและคนอื่นๆกำลังแบ่งหัวข้อเพื่อให้คนที่เหลือไปทำต่อ คนที่ว่างงานสองคนเลยหาเรื่องทะเลาะกันเสียอย่างนั้น แล้วตอนนี้ก็กำลังลงไม้ลงมือกันแล้วด้วย


"โอ้ย! ตีทำไมวะ ไอนักกล้าม" คนถูกตีโวยวาย ทำท่าปัดแขนราวกับว่ารังเกียจเหลือเกิน


"นักกล้ามพ่อแกดิ เล่นแขนกูอยู่ได้"


"ก็ไขมันตรงแขนมึงมันน่าบีบนี่วะ" ว่าแล้วก็ไม่พูดเปล่า โปรเอื้อมมือไปบีบต้นแขนน้ำตาลทันที


น้ำตาลเป็นเพื่อนในกลุ่มอีกคนหนึ่งที่รู้จักกันตอนรับน้องของคณะ เพราะโปรดันไปก่อวีรกรรมทำน้ำในถังไว้สำหรับให้ทุกคนกินหกใส่ และแน่นอนว่าโปรได้รับของตอบแทนเป็นแก้มแดงช้ำเพราะโดนเธอต่อย


"ถ้ายังไม่หยุดเล่นกูจะเอาชื่อมึงออกจากกลุ่ม"  น้ำตาลพูดขู่


"ขอโทษครับคุณนักกล้ามผู้ยิ่งใหญ่"


“ลีโอ ลบชื่อนายพิรัชต์ออกจากกลุ่มหน่อย" พยักหน้าตอบกลับไปพร้อมกับทำท่าจะหยิบลิควิดบนโต๊ะแต่ก็ถูกแย่งไปซะก่อน


"แมว! มึงหยุดเลย ถ้ามึงลบชื่อ กูไม่เลี้ยงไอติมมึง!"


กระพริบตาปริบๆมองหน้าเพื่อนโปร อยากจะบอกเหลือเกินว่าสัญญาที่ว่าจะเลี้ยงไอติมนี้ มันตั้งแต่เทอมหนึ่งจนตอนนี้เทอมสองแล้วก็ยังคงไม่เห็นเป็นรูปธรรมเลย


"เอานี่! แบ่งหัวข้อเสร็จแล้ว ลีโอเอาเรื่องนี้ไปทำนะ" เหมือนเสียงระฆังในโบสถ์มาโปรด เมื่อปรายฟ้ายื่นกระดาษรายละเอียดหัวข้อรายงานมาให้แต่ละคน


"คราวนี้ขอข้อมูลแน่นๆนะ เราไม่อยากโดนจวกแล้ว" ปรายฟ้าโอดครวญ รายงานเรื่องที่แล้วของกลุ่มไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เลยโดนหักคะแนนไปเยอะพอสมควร


"เออจริง แต่คราวที่แล้วก็จับได้หัวข้อยากด้วยนั่นแหละ เลยโดนอาจารย์จวกซะน่วมเลย"


ก้มอ่านหัวข้อสักพักก่อนจะเอาเก็บใส่ไว้กับแฟ้มเอกสาร ลุกออกจากโต๊ะเตรียมสะพายกระเป๋าไปซ้อม


"จะไปแล้วหรอลีโอ?" ปรายฟ้าถาม คนอื่นๆเองก็หันมาจ้องมองเป็นตาเดียว


"อือ"


"แข่งเมื่อไหร่หรอ เดี๋ยวไว้พวกเราไปเชียร์วันแข่ง"


"วันพุธนี้น่ะ"


"อ๋อ สู้ๆนะ ไปเถอะๆ เดี๋ยวมีงานอะไรเพิ่มเติมเราไลน์ไปบอก" ปรายฟ้าโบกไม้โบกมือให้ ส่วนน้ำตาลก็เดินเข้ามาเขย่าแขน


"สู้ๆนะลีโอ ไว้แข่งเสร็จติวเคมีให้เราหน่อยน้า"


"ได้สิ ขอบคุณนะ"



“สู้ๆเว้ยมึง!”


“ขอบใจ”




'เดี๋ยวไว้พวกเราไปเชียร์วันแข่ง'




เป็นประโยคที่ดีจังนะ...
















เดินลอดอุโมงค์ข้ามถนนใต้ดินจากหน้าคณะวิทยาศาสตร์มาโผล่ยังอีกฝั่งหนึ่งของถนน ช่วงเวลายามเย็นที่ท้องฟ้ากำลังกลายเป็นสีส้มแบบนี้ก็ดูสวยไปอีกแบบ


ท้องฟ้าในเวลานี้ไร้เมฆมาบดบัง บ่งบอกได้ว่าวันนี้อากาศดี


แล้วก็เหมาะกับการดูดาว



ก้มหน้าก้มตาเดินกดมือถือไปตามทางเดิน ผ่านหน้าคณะครุศาสตร์และคณะนิเทศศาสตร์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน มีคนเดินสวนกันไปมาบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

แต่แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะซุบซิบและประโยคพูดคุยของนิสิตสาวสองคนที่เดินสวนไปเมื่อสักครู่


"โอ้ย น่ารักมากเลยอะแก"




อะไรน่ารัก?



ภาพที่เห็นตรงหน้า ฉุดให้ฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ต้องหยุดลง

คนตรงหน้าที่คุ้นเคยกำลังยืนเล่นกับหมาสีน้ำตาลตัวหนึ่งอยู่โดยไม่ได้สนใจสายตาหลายคู่ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นเลย


รองเท้าหนังสีดำมันเรียบตอนนี้ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเจ้าหมาสี่ขา เจ้าของรองเท้าแกว่งเท้าหลบไปมาเป็นเชิงแหย่มัน จนต้องเอาขาหน้าคอยตะปบไว้ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มชอบใจที่ได้เห็น ตัดกับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า



ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่



ที่ตัวเราเผลอยิ้มออกมา



พร้อมกับชัตเตอร์ของกล้องในโทรศัพท์มือถือ



ที่ลั่นออกไป





“อ้าว! ลีโอ” โทรศัพท์มือถือที่เผลอยกขึ้นมาเมื่อสักครู่ถูกยัดเก็บลงในส่วนที่ลึกที่สุดของกระเป๋ากางเกงทันที













วันนี้ซ้อมไม่หนักสักเท่าไหร่ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแข่งแล้ว ถอดหมวกซีลิโคนว่ายน้ำวางไว้ริมสระ เพราะใส่ติดต่อกันเป็นชั่วโมงเลยทำให้รู้สึกเจ็บตรงหน้าผากอยู่พอสมควร ตอนนี้มันคงจะแดงและขึ้นเป็นรอยรูปหมวกบ้างแล้ว


ดันตัวขึ้นนั่งพักเหนื่อยอยู่ริมขอบสระ หยิบขวดน้ำที่พกมาด้วยขึ้นจิบ ลมเย็นเหนือสระว่ายน้ำพัดผ่านกระทบผิวเป็นระยะ น่าแปลกที่รู้สึกหนาว แต่กลับไม่อยากลงไปแช่น้ำอีก


สระว่ายน้ำกลางแจ้งไร้หลังคามีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีดำเกือบสนิท...ใช่ มันไม่มืดสนิท เพราะแสงจากผืนแผ่นดินใหญ่สะท้อนขึ้นไปยังท้องฟ้าเสมอ แสงเหล่านี้มักจะแย่งความสว่างของดวงดาว



‘ไม่ชอบแสงพวกนี้เลย’
 
‘อ้าว ทำไมล่ะ?’
 
‘มันแย่งแสงของดาวไปหมด’
 
‘ก็จริงนะ… แต่ลีโอรู้อะไรไหม? การที่แสงจากแผ่นดินสะท้อนขึ้นไปบนท้องฟ้ามันก็มีข้อดีนะ’
 
‘ข้อดี?’
 
‘ใช่แล้ว เพราะถ้าหากเราไปเริ่มต้นดูดาวในที่ที่มืดสนิทดำปิ๊ดปี๋ไปหมด จนเห็นดาวได้เต็มท้องฟ้า เราจะแยกแทบไม่ออกเลย ว่ากลุ่มดาวนี้คือกลุ่มดาวอะไร กลุ่มดาวนั้นคือกลุ่มดาวอะไร’
 
‘เพราะฉะนั้น  ที่นี่มันดีนะ เหมาะกับการหัดดูดาวมากๆ’
 
‘ต้องขอบคุณทุกคนที่เปิดไฟนะ’

 
 

นึกแล้วก็ตลกกับคำอธิบายของพ่อ  พ่อมักจะมองเห็นข้อดีของทุกอย่างเสมอ
 
 

!!!

 
ตู้ม!!

 
จู่ๆก็ถูกใครบางคนดึงขาให้หล่นกลับลงมาในสระ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว น้ำจึงพากันไหลทะลักเข้าจมูกและตาจนแสบไปหมด หลังจากที่ตั้งตัวได้แล้วก็พยายามว่ายกลับฝั่งทั้งที่ตายังปิดสนิทอยู่อย่างนั้น  หลับตาอยู่พักใหญ่  ได้ยินเสียงคนหัวเราะอยู่ข้างๆ จนเมื่อลืมตาขึ้นก็เจอกับใบหน้าของตะวันในระยะประชิด
 

“เฮ้ย เราขอโทษ แกล้งแรงไปหน่อย ไม่คิดว่าจะสำลัก”
 

“ไม่เป็นไร”  ใจจริงอยากจะพูดต่อ ว่าทีหลังอย่าทำอีก  แต่ก็โดนขัดขึ้นก่อน
 

“ไม่เป็นไรแน่นะ ตาแดงหมดแล้วเนี่ย จมูกก็แดง  ขอโทษจริงๆว่ะ”  คนตรงหน้าไม่พูดเปล่าซ้ำยังยกมือขึ้นมาจับแก้มให้หันไปมา อยากจะปัดออกอยู่เหมือนกัน
 

“ไม่เป็นไรจริงๆ”
 

“เอ้า! ขึ้นกันได้แล้ว เขาจะปิดสระแล้-  เฮ้ย! มึง!  ไอตะวัน มึงทำอะไรน้องกู ห๊ะ!”
 


สุดท้ายตะวันก็โดนบ่นไปตามระเบียบ...



สม...





19.10 น.


เวลาปกติที่คนตรงหน้าจะมานั่งรออยู่ที่ม้านั่งหน้าสระว่ายน้ำ


“กลับกันเถอะ” เอกในชุดเสื้อยืดสกรีนลายคณะกับกางเกงวอร์มสีดำยืนขึ้นแล้วเดินนำออกไปเหมือนกับทุกครั้ง…


ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ทุกอย่างเป็นตามแบบแผนนี้ไปเสียหมด



ความแน่นอนนี่มันดีจังนะ


คาดการณ์ได้ตลอด เมื่อถึงเวลานี้ อาจารย์จะเดินเข้ามา เมื่อหมดเวลาจะต้องไปเรียนในวิชาถัดไป เมื่อถึงตอนเย็นจะต้องไปซ้อม



เอื้อมมือไปดึงชายเสื้อของเอกเบาๆ คนตรงหน้าหยุดเดินแล้วหันมามองด้วยความสงสัย


“หืม?”


“วันนี้…”


“วันนี้ทำไมหรอ?” และแน่นอนว่าเมื่อเอกสงสัยอะไร เอกจะขมวดคิ้ว


“มีอิริเดียม84”


หนึ่งในปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่ชอบที่สุด


หนึ่งในความแน่นอนที่สามารถคำนวณได้…



“อิริเดียม…?” คิ้วของเอกยิ่งขมวดกันเป็นปมหนักขึ้น ถ้าเอานิ้วจิ้มจะโดนด่าหรือเปล่า?


“ทำอะไรเนี่ย?” เอกทำหน้าเหรอหรา ยืนตัวแข็งทื่อเมื่อเอานิ้วกดไปที่หว่างคิ้วของเจ้าตัว คิ้วที่เคยขมวดกันคลายออกเพราะความตกใจ


ปกติแล้วจะไม่ชอบสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่กลับชอบท่าทางของเอกในตอนนี้ มันนอกเหนือจากที่คิดไว้


นึกว่าจะโกรธแล้วปัดมือออกเสียอีก


“ไม่รู้จักอิริเดียมหรอเนี่ย?” ยังคงเอานิ้วจิ้มหว่างคิ้วของอีกคนเล่นอยู่อย่างนั้น


“ก็ไม่รู้น่ะสิ”


“อิริเดียมแฟร์ คือแสงสว่างวาบจากดาวเทียมสื่อสารของสหรัฐชื่ออิริเดียม เอียงทำมุมสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ มีอยู่66ดวงโคจรรอบโลก”


“แล้ว?”


“วันนี้มีอิริเดียมเบอร์84ไง”


“มี66ดวงแล้วทำไม84”


“มันเป็นหมายเลข ไม่ใช่ลำดับที่”


“ทำไมไม่มี77ดวงให้ตรงตามเลขอะตอมของธาตุอิริเดียมในตารางธาตุล่ะ” ได้ยินประโยคกวนโอ้ยจากคนตรงหน้าเลยดีดหน้าผากไปหนึ่งที


“โอ้ย! ดีดทำไมวะเนี่ย !?”


“เงินไม่พอไง มันจะมีกี่ดวงก็ช่างมันดิ”


“ก็ไม่เห็นต้องดีดกันเลยนี่วะ” เอกทำหน้างอ เหนือความคาดหมายนิดหน่อยที่เจ้าตัวเดินหนี จนต้องรีบก้าวตามไปให้ทัน


“เดี๋ยวสิ อยู่ดูก่อนไม่ได้หรอ?”


“แล้วเมื่อกี้ทำอะไรไว้ล่ะ?” คนที่ก้าวหนีฉับๆพูดโดยที่ไม่หันมามอง ท่าทางจะงอนจริง


“เฮ้ย! แค่นี้ก็งอนเนี่ยนะ” 


“ไม่ได้งอนเว้ย!”


“งั้นหยุดดูก่อน”


“ไม่เว้ย!”  ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับคนที่เดินหนีไปไกล ยกมือขึ้นดูนาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลาหนึ่งทุ่มกว่า แล้วนั่งลงกลางถนนตรงนั้นทันที เอกที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเดินตาม หันกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูตกใจก่อนจะรีบเดินเข้ามาหา


“นั่งตรงนี้เดี๋ยวรถก็ทับหรอก”


“ทับอะไรตรงนี้มีป้ายห้ามเข้า” พร้อมกับชี้นิ้วไปยังป้ายห้ามเข้าขนาดใหญ่ที่ถูกต้องอยู่กลางถนน คนยืนอยู่ชักสีหน้า ก่อนจะนั่งจุ่มปุ๊กลงข้างๆ


“แล้วเมื่อไหร่จะมา” เอกถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ซ้ำยังไม่หันมามองหน้า ทำเอานึกถึงครั้งแรกที่เจอกันในวันนั้นขึ้นมา


“อีก1นาที” มองนาฬิกาข้อมือก่อนจะบอกออกไป อีกฝ่ายพยักหน้ารับรู้


ต่างฝ่ายต่างเงียบ มีเพียงเสียงลมพัดและเสียงใบไม้แห้งกลิ้งไปตามพื้นเท่านั้นที่คอยคั่นกลางอยู่ระหว่างความเงียบของเราสองคน






“10”




“9”





“8”



เอกหันมาเลิกคิ้วมองแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร  ความเงียบที่ถูกทำลายลงท่ามกลางเสียงลมและใบไม้แห้งเกลือกกลิ้งไปตามพื้นถนน มีเพียงเสียงที่คอยนับเวลาถอยหลังดังขึ้นตามจังหวะเข็มวินาที


“7”




“6”




ชี้นิ้วไปยังท้องฟ้าตรงหน้าที่พวกเรานั่งกันอยู่ คนข้างๆเองก็มองไปยังจุดเดียวกันตรงนั้น



“5”





ไฮเซนเบิร์กได้กล่าวไว้


‘เราไม่สามารถระบุตำแหน่งและโมเมนตัมของอนุภาคได้แม่นยำพร้อมกัน’


‘หากเราวัดตำแหน่งอนุภาคได้อย่างแม่นยำแล้วนั้น เราย่อมจะไม่มีทางบอกโมเมนตัมของอนุภาคนั้นได้ว่าเป็นเท่าใด และในทางกลับกันก็เป็นเช่นนั้น’


ทุกอย่างย่อมมีทั้งสิ่งที่แน่นอนและไม่แน่นอน



และ ‘ความไม่แน่นอน’ นั่นแหละที่น่ากลัว…



เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ณ เวลานั้นหรือต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น






“4”




การที่แมวของชโรดิงเจอร์ถูกจับใส่ไว้ในกล่อง รอจนแก๊สพิษที่ใส่ไว้ถูกปล่อยออกมาเมื่อถึงเวลาครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสี



ถ้าหากตอนนั้นเราเปิดกล่องออก



แมวที่กำลังจะตาย อาจจะไม่ตายก็ได้






“3”






แล้วถ้าหาก ณ เวลานั้นเราไม่เปิดกล่อง



มันอาจจะตาย หรือ ณ ตอนนั้น มันอาจจะไม่ตายก็ได้เหมือนกัน






“2”





ไม่มีอะไรแน่นอน…





“1”







ยกเว้น…



แสงสว่างวาบตัดกับท้องฟ้าสีเทาอมดำตรงหน้า ที่เรียกว่า



‘อิริเดียมแฟร์’








TBC


/สไลด์เข้ามา/ สวัสดีค่ะ พอดีสอบเสร็จไป3วิชา

แล้วพอมีเวลาช่วงระยะห่างก่อนถึงสอบ2วิชาสุดท้าย เลยแว๊บมาแปะค่า

ตอนนี้ยาวมากที่สุดเทาที่เราเคยเขียนมาเลยค่ะ ที่ยาวเพราะไม่อยากตัดแยกกันด้วย เรารู้สึกว่ามันต่อเนื่องกันน่ะค่ะ

แล้วก็ตอนนี้อาจจะงงๆนะคะ เราพยายามจะอธิบายกับเล่นมุก(แป้กๆ)ของเราให้ดีที่สุดแล้ว แต่ดูเหมือนจะได้แค่นี้  :katai1:

ที่สองคนนี้คุยกันตอนแรกเป็นเรื่องทฤษฎีแมวของชโรดิงเจอร์ เป็นการทดลองในจินตนาการ(ไม่ได้ทำจริงๆนะคะ ถ้าทำจริงๆสงสารแมว แงงงงง) โดยการจับแมวใส่กล่องที่มีแก๊สพิษอยู่ข้างใน ตั้งเวลาโดยใช้ธาตุกัมตรังสีค่ะ พอถึงธาตุกัมตรังสีลดลงเหลือครึ่งนึงก็มีกลไกอะไรสักอย่าง ทำให้แก๊สพิษออกมาในกล่อง รมแก๊สพิษใส่แมวพูดถึงเรื่องที่ว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน ทุกอย่างมีโอกาส50 50 เราไม่มีทางรู้ว่า ณ ตอนนั้นแมวตายแล้วหรือยังจนกว่าเราจะไปเปิดกล่องออก แต่การที่เราไปเปิดกล่องก็ไปรบกวนสมดุลในตอนนั้นด้วย ทำให้บางทีตอนนั้นแมวมันควรจะตาย มันก็ไม่ตายแทน (ประมาณว่า ถ้าตอนนั้นลีโอวิ่งอาจจะทันหรือไม่ทันก็ได้ ประมาณนั้นน่ะค่ะ 5555 แงงง เราอธิบายได้ห่วยสินะคะ orz)

ส่วนเรื่องอิริเดียมแฟร์ เป็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้าค่ะ เราแนะนำว่าเป็นอะไรที่น่าดูมากพอๆกับการดูดาวเลยล่ะค่ะ ข้อดีคือ มีบอกเวลาแน่นอนว่าจะมีแสงอิริเดียมตอนไหน คือคาดการณ์ได้ตลอด (แต่บางทีก็คาดการณ์พวกความสว่างผิดพลาดไปบ้าง) แต่เป็นแสงสว่างที่วาบขึ้นมาไม่นานค่ะ ไม่ถึงนาที แนะนำว่าน่าดูมากๆเลย ในเพจสมาคมดาราศาสตร์ไทยจะคอยบอกอยู่ตลอดค่ะว่าวันไหนมีแสงอิริเดียมให้ดู เผื่อใครสนใจอยากลองไปดูนะคะ เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ  :-[

วันนี้เขียนซะยาวเลย ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

รักคนอ่านทุกท่านมากๆๆๆๆๆ  :กอด1:

ปล. สนุกหรือไม่สนุกยังไงบอกได้นะคะ น้อมรับคำติชมและแก้ไขค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2015 21:01:23 โดย Sirius »

ออฟไลน์ cakecoco-boom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด