พิมพ์หน้านี้ - ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Sirius ที่ 25-01-2015 00:39:47

หัวข้อ: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 25-01-2015 00:39:47
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 25-01-2015 00:49:17
แปลกหรือเปล่า?
 
ทั้งๆที่มันก็นานมาแล้ว
 
แต่ก็ยังจำเรื่องราวตอนเด็กๆได้เป็นอย่างดี

 

Intro

 


น่าเบื่อ


 
เป็นคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนนี้  เพราะโดนบังคับให้ออกมาเที่ยวกับครอบครัว

 

น่าเบื่อมาก


 
ถ้าเป็นการเที่ยวส่วนตัวที่มีเฉพาะคนในครอบครัว คงจะไม่น่าเบื่อขนาดนี้ แต่ที่ถูกพามาดูเหมือนจะเป็นทริปดูดาวกับสมาคมคนชอบดูดาวล่ะมั้ง?
 

“ไม่ทำหน้าบูดแบบนั้นนะเอก มันสนุกนะ เราเอาแต่เล่นเกมอยู่บ้าน มาเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างก็ดี” พ่อพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

 
หึ...เพราะตัวเองชอบดูดาวต่างหาก ถึงได้ลากคนอื่นมา

 
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ดูเหมือนพี่ชายกับแม่จะไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกลากให้มาสักเท่าไหร่  ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม ดูสนุกสนานตื่นเต้น
 

ยืนรออยู่หน้าตึกสมาคมได้ไม่นาน  เสียงโทรโข่งของเจ้าหน้าที่ดังขึ้น ประกาศว่าให้ขึ้นรถบัสได้

 
เดินหน้าบูดตามหลังพ่อแม่แล้วก็พี่ชายไป  เดินเลยถัดจากเบาะของพ่อกับแม่ไปอีกเบาะหนึ่งเป็นที่ว่าง แต่สายตาดันเผลอมองไปที่เบาะถัดไปที่มีเด็กผู้ชายอีกคนนั่งมองออกไปนอกกระจกอยู่

 
ไม่รู้ว่าถูกดึงดูดให้ยืนมองอยู่แบบนั้นนานเท่าไหร่  ในหัวตอนนั้นมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา



 
ทำไมหมอนี่ถึงได้ขาวจังวะ



 
สุดท้ายก็ต้องหยุดความคิดลง เมื่ออีกคนละสายตาจากหน้าต่างหันมามอง  พี่ชายเองก็หันมาเรียก ว่าทำไมไม่นั่งลงสักที ก่อนจะชะเง้อไปมองคนด้านหลังบ้าง  จัดที่นั่งตัวเองจนเรียบร้อยเสร็จก็เอนหลังพิงเบาะหลับ
 
 





 
นั่งหลับยาวรวดเดียวจนมาถึงที่พัก เพราะขี้เกียจเล่นเกมกับวิทยากรที่ในรถ ยังรู้สึกหงุดหงิดไม่หายที่ถูกบังคับให้มาเที่ยวอะไรที่ดูมีสาระแบบนี้  ทั้งๆที่วันนี้exp x2แท้ๆ  ไม่รู้ป่านนี้พวกเพื่อนที่โรงเรียนคงเลเวลอัพกันไปหลายขุม ตามไม่ทันแน่ๆ

 
โดนพาให้มาดูวิธีใช้กล้องดูดาวโน่นนี่นั่น  ไม่ได้สนใจจะฟังเลยสักนิด จนวิทยากรปล่อยอิสระนั่นแหละ ถึงได้เดินหลบออกมา  สายตาเหลือบไปเห็นเด็กผู้ชายที่เจอกันบนรถนั่น  เพราะผิวที่ขาวมาก แต่ก็ไม่ถึงกับซีดบวกกับเวลากลางคืนที่มีสปอร์ตไลท์ส่องลงมาแบบนี้เลยทำให้เห็นเจ้าตัวได้ชัด

 
อีกฝ่ายหันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอนที่มานั่งข้างๆ  จากตรงนี้เห็นได้ชัดว่าผิวขาวจริงๆ  ถ้าเอามือไปตบๆที่หน้าคงขึ้นสีแดงได้ไม่ยาก
 

“มันใช้ยังไง” เห็นแผ่นกระดาษสีน้ำเงินในมือของอีกฝ่ายเลยถามออกไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆที่ใช้พูดกับคนในครอบครัวจนเป็นปกติ อย่างน้อยก็อยากจะหาเรื่องคุยด้วยสักหน่อย พวกที่มาก็มีแต่คนที่โตกว่า แหงล่ะ นี่มันเป็นกิจกรรมของผู้ใหญ่ จะมีที่ยังเป็นเด็กอยู่ก็แค่หมอนี่กับตัวเรา แล้วก็ไอพี่ชายที่อายุห่างกันแค่2ปีนั่น
 

“ถามเราหรอ?” น้ำเสียงนิ่งๆตอบกลับมา จะให้ถามใครล่ะ ในเมื่อนั่งคุยกันอยู่สองคน  อยากจะเถียงกลับไปแบบนี้แต่ตอนนี้คิดว่าไม่เอาดีกว่า

 
“อยู่กันแค่นี้จะให้ถามใครล่ะ” เอ้า... ปากเจ้ากรรมก็ดันหลุดไปก่อนความคิด อีกคนเบะปากร้องไห้แหงๆ ท่าทางดูจะลูกคุณหนู คงไม่เคยฟังคำพูดทำร้ายจิตใจมาก่อนแน่

 

ผิดคาดไปหน่อยที่อีกฝ่ายเงียบเป็นคำตอบ  คงจะกำลังแค้นเคืองคำพูดนั้นอยู่ในใจสินะ

 

แผ่นสีน้ำเงินนั่นถูกยื่นมาให้แทนคำตอบ  ถามว่าใช้ยังไง ไม่ได้จะเอาไอแผ่นนี่  ท่าทางหูจะมีปัญหานะ
 

“สอนด้วยสิ” เผลอใส่น้ำเสียงหงุดหงิดไปอีกแล้ว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่

 
“มีวิธีใช้อยู่”  นิ้วเล็กๆนั่นชี้ลงบนแผ่นสีน้ำเงิน
 


'คำแนะนำในการใช้แผนที่ฟ้า'
 


ตัวอักษรขนาดใหญ่เด่นหราอยู่ให้เห็นได้ไม่ยาก

 
ขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วอ่านข้อความวิธีใช้บนแผ่นสีน้ำเงินนั่นในใจ

 
หยิบแผนที่นั่นมาลองทำตามดู จุดสีขาวตัดกับฉากหลังสีน้ำเงินกับเส้นเวกเตอร์สีขาวในโดมรูปโค้งบนแผ่นสีน้ำเงินนั่นถูกหมุนให้เลื่อนไปตามวันที่ที่ต้องการ  จนปรับวันที่และเวลาได้ตรงกับ ณ ตอนนี้  จุดและเส้นพวกนั้นหยุดลง ปรากฏเป็นหมู่ดาวบนแผ่นกระดาษสีน้ำเงิน

 
“ข้างหน้านาย คือ แอนโดรเมดา”  เสียงนุ่มๆถูกเอ่ยออกมาจากปากอีกฝ่าย มือเล็กๆชี้ไปที่จุดและเส้นเวกเตอร์กระจุกหนึ่งในแผนที่


“ถ้าดูดีๆจะเหมือนรูปผู้หญิง…”

 
“ไม่เห็นเหมือนเลยสักนิด” เผลอหลุดปากแทรกไปทันทีตามนิสัยพวกชอบเถียง เงยหน้ามองอีกคนที่สีหน้าก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม
 

“ต้องมีจินตนาการ” ถูกตอบกลับมาแบบนั้น ไปต่อไม่ถูกเลย ไอจินตนาการน่ะมีอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่กับอะไรแบบนี้ สุดท้ายก็เผลอบ่นออกไปเบาๆ “ดูยากชะมัด”
 

“ถัดลงมาหน่อยเป็นเพกาซัส ลองเทียบกับดาวบนท้องฟ้าดูสิ” มองจุดสีขาวกับเส้นเวกเตอร์ที่ต่อกัน ...ถ้ามองดีๆก็คล้ายๆม้าจริงๆ จากนั้นก็ลองมองเทียบกับของจริงบนท้องฟ้า เหมือนกับในแผนที่ดาวสีน้ำเงินนี่ไม่มีผิด
 

“อืม...อันนี้ค่อยดูเหมือนม้าหน่อย...แต่เป็นม้ากลับหัว...” พยักหน้าเห็นด้วยไปหนึ่งที ความรู้สึกสนุกค่อยๆก่อตัวขึ้น
 


ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว  แต่คุยไปเรื่อยๆก็สนุกดีเหมือนกัน

 
หน้าหมอนี่นิ่งตลอดเวลาจริงๆ  แม้กระทั่งตอนที่พวกผู้ใหญ่เรียกให้ไปส่องกล้องโทรทัศน์นั่น แต่ดูก็รู้เลยว่ากำลังสนุกอยู่ จากสายตาที่ทอประกายความสนอกสนใจออกมา

 

คงจะชอบมากสินะ...


 
พอได้ลองส่องกล้องดูบ้าง คิ้วที่เคยขมวดกันอยู่ตลอดเวลาก็คลายออก

 
แม้จะเป็นแค่จุดขาวๆอมส้มจางๆ แต่กลับรู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นมา

 


นี่คือดวงดาวที่อยู่นอกโลกสินะ


 
พอละจากกล้องโทรทัศน์ตัวใหญ่ออกมา มองซ้ายมองขวา หาอีกฝ่ายที่ตอนแรกก็ยังอยู่ด้วยกันดีอยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับหายไปไหนไม่รู้  มองไปรอบๆลานหน้าที่พักก็เจอแต่เหล่าผู้ใหญ่ส่องกล้องดูดาวกัน ไม่มีวี่แววของคนที่เพิ่งจะได้คุยกันเลยสักนิด


 
ตัดสินใจนั่งลงที่พื้นหญ้าแถวนั้น รอ...


 
รอให้อีกฝ่ายกลับมา


 
ยังไม่ได้คืนแผนที่ดาวนี่เลย


 
เดี๋ยวก็คงกลับมาเอาแหละ...


 
ถึงจะเชื่อไปแบบนั้น


 
แต่สุดท้าย...


 
เจ้าของของมันก็ไม่กลับมา...


 
 







อีกเลย...


หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 25-01-2015 01:13:08
สิ่งที่เหลือไว้...
 
คือ
 
แผนที่ดาวสีน้ำเงิน กับ คำว่า “จักรวาล”

 
 
ตอนที่ 1



“วันนี้กินข้าวที่ไหนวะ?”

 
“วิทยาสิคะเพื่อน จะให้ไปกินที่ไหนล่ะ ตอนบ่ายเรียนแลปเนี่ย”
 

เดินตามหลังเพื่อนสองคนเถียงกันไปมาตั้งแต่ลงมาจากตึกยันเดินมาถึงหน้าคณะ  ยืนถอนหายใจให้กับเรื่องเล็กๆที่ตัดสินใจกันไม่ได้สักที

 
“กับข้าวแม่งห่วยเกิน ไม่อยากแดก”  ไอเติ้ลเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถมเพราะบ้านอยู่ข้างๆกันเถียง

 
“แดกๆไปเหอะค่ะคุณเพื่อน  อีกอย่าง...คุณเพื่อนเคยกินหรือไงคะถึงบอกว่าห่วย” ที่กำลังเถียงกับเติ้ลอยู่คือแซน เพิ่งรู้จักกันตอนรับน้อง เป็นสาวห้าว อารมณ์ดี งานอดิเรกคือส่องคนที่เดินผ่านไปผ่านมาในมหาลัย

 
“งั้นให้ไอเอกตัดสิน...ว่าไงมึง จะกินข้าวที่ไหน?” เติ้ลหันมาถามผมที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่ ใจจริงก็อยากกินคณะอื่นเหมือนกัน เพราะข้าวราดแกงที่คณะนี้รสชาติไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่...ไม่ถึงกับไม่อร่อยหรอก ก็พอกินได้ แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่ค่อยอยากกินสักเท่าไหร่

 
“กินที่วิทยานั่นแหละง่ายดี กินเสร็จก็เข้าแลป ไม่เสียเวลา” ไอเติ้ลทำหน้ายู่ ส่วนแซนยิ้มร่าอย่างผู้ชนะ
 
 



เดินกันจนมาถึงโรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ เป็นโรงอาหารที่อยู่ตรงข้ามตึกที่สูงที่สุดในมหาลัย เดินหาที่นั่งได้ไม่นาน เพราะโรงอาหารค่อนข้างโล่ง


ต่างจากคณะของพวกเราที่จำนวนคนมากินแทบจะล้นออกไปนอกโรงอาหาร ลำพังแค่จำนวนคนในคณะก็เยอะอยู่แล้ว ซ้ำยังมีคนจากคณะอื่นมากินอีก จะคนเยอะก็ไม่แปลก

 
“รู้อะไรเปล่าเพื่อน” พอซื้อข้าวมานั่งกินกันเสร็จ แซนก็เปิดประเด็นขึ้นมา มันเป็นอย่างงี้แหละ เรียกทุกคนที่รุ่นเดียวกันว่าเพื่อน ก็น่ารักดี

 
“อะไรวะ จะพูดก็พูดมา” ไอเติ้ลตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ดูก็รู้ว่ากับข้าวตรงหน้าไม่ถูกปากมันเท่าไหร่  แต่ถ้าให้เดาเรื่องที่แซนกำลังจะพูด ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหนุ่มๆในรั้วมหาลัยนี่ล่ะ เชื่อสิ

 
“วันก่อนเจอเด็กวิทยาเนี่ยแหละเว้ย น่ารักมาก เขาบอกว่าเด็ด!” ไม่ค่อยต่างจากที่คาดคะเนไว้สักเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่เรื่องของกินก็คงเป็นเรื่องหนุ่มๆในมหาลัยนี่แหละ ไอเติ้ลเงยหน้าขึ้นมาเบะปากใส่แซนก่อนจะก้มกินข้าวต่อ เลยโดนมันจับกดหัวลงกับจานข้าว แต่ไอเติ้ลมันรู้ทันเลยขืนตัวไว้ได้

 
“ว่าแล้วทำไมมึงถึงให้มากินข้าวที่นี่  ...ทำไม? มึงจะจีบเขาหรอ?” เลิกคิ้วถามอีกฝ่าย เห็นมันอมยิ้มทำหน้าเขิน


“ก็อยากอยู่นะ แต่แบบว่า...เค้าเขินอะ...”  แถมยังทำท่าบิดๆใส่ไอเติ้ลที่นั่งอยู่ข้างๆ จนมันทำหน้าเหยเกใส่


“เขาไม่เอามึงหรอกแซนดี้” ไอเติ้ลผลักหัวแซนไปที



 
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็มายืนมองดูไอเติ้ลกับแซนทะเลาะกันหน้าลิฟต์ต่อ พวกมันสองคนทะเลาะกันตั้งแต่ที่โรงอาหารจนมาถึงลิฟต์ของตึกคณะวิทยาศาสตร์ที่ใช้เรียนแลปกัน
 

ตึกนี้มีลิฟต์หลายตัว เพราะหลายๆคณะทางสายวิทยาศาสตร์ต้องมาเรียนที่นี่ แถมตึกก็มีหลายสิบชั้น พวกที่มีเรียนชั้นสูงๆเลยต้องใช้ลิฟต์  ซึ่งเรามีเรียนกันที่ชั้น7 จะให้เดินก็ได้อยู่ แต่พอแซนมันบอกว่า ‘ขี้เกียจเดิน อุ้มหน่อย’ เท่านั้นล่ะ ไอเติ้ลรีบเดินมาหน้าลิฟต์ทันที

 
“ไอแซนดี้มึงเดินสิวะ คนอื่นเขาเข้าไปกันหมดแล้วเนี่ย มัวแต่ด่ากู” ไอเติ้ลผลักหัวแซนจนเซไปข้างหน้า พวกเราเดินตามกลุ่มคนที่รอหน้าลิฟต์เข้าไป

 
“รอด้วยครับ!”  เสียงร้องห้ามดังขึ้น รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาเพิ่มอีกคน ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด  แซนตาโตสะกิดผมกับไอเติ้ลเป็นการใหญ่ ผมที่ยืนหันหลังให้ประตูลิฟต์อยู่ เลยบอกมันเบาๆว่า ‘หันไปดูไม่ได้คนแน่น’  ส่วนไอเติ้ลก็ทำหน้าเหมือนโดนยาเบื่อหนูใส่แซน


“คนที่ฉันบอกไงเพื่อนนนนน” มันลากเสียงยานคาง เขย่าแขนเสื้อผมด้วยความตื่นเต้น

 
พอลิฟต์เปิดที่ชั้น4 มีคนทยอยออกไปบ้าง ถึงได้หมุนตัวกลับไปทางประตูลิฟต์ เลยได้เห็นคนข้างหน้าที่น่าจะเป็นคนที่ไอแซนมันสะกิดให้ดู...
 




คนอะไรขาวชิบหายเลยเว้ย...



 


นั่นเป็นความคิดแรกที่แล่นเข้าในสมอง...
 


 
แอบมองสำรวจอีกฝ่ายนิดหน่อย ในมือถือเสื้อกาวน์ที่ต้องใช้เข้าแลปกับหนังสือแลปเล่มสีเหลืองๆ คงเป็นพวกคณะวิทยาศาสตร์ล่ะมั้ง? เพราะคณะผมไม่ได้ใส่เสื้อกาวน์ตอนเข้าแลป

 
พอลิฟต์จอดที่ชั้น7ก็จริงอย่างที่คิด  มนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอนั่นเดินเลี้ยวไปทางซ้ายที่มีป้ายเขียนว่า ‘สำหรับนิสิตคณะวิทยาศาสตร์’ ส่วนพวกผมต้องเลี้ยวขวาที่มีป้ายเขียนว่า ‘สำหรับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์’   
ชั้น7 ซึ่งเป็นแลปเคมีนี่จะมีสองคณะที่เรียนด้วยกัน เพียงแต่แยกฝั่งกันเรียน


 
พอออกมาพ้นจากลิฟต์ได้ไอแซนก็รีบมากรี๊ดกับผมและไอเติ้ลใหญ่ 


 
“เพื่อนนนน คนนี้แหละที่บอกค่ะ น่ารักมากเลยเห็นมั้ย กรี๊ดดดดดด”

 
เมื่อกี้มัวแต่ตกใจเรื่องผิวขาวเหมือนกระดาษดับเบิ้ลเอจนไม่ทันได้มองหน้าสักเท่าไหร่ แต่เท่าที่สังเกตดูหุ่น...

 
“แซน มึงชอบคนผอมๆเป็นกุ้งแห้งแบบนี้หรอเนี่ย...” ว่าแล้วก็ขมวดคิ้วทำหน้าเครียดใส่แซนที่ยังไม่เลิกเพ้อถึงไอมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอเมื่อกี้

 
“เพื่อนดูดิ  เขาใส่เสื้อกาวน์อะแก อร๊ายยยย ฉันหนาวอะ อยากไปซบเสื้อกาวน์...” ไอเติ้ลมันเลิกสนใจแซนแล้วหันไปหยิบหนังสือแลปของตัวเองมาอ่านทวน เพราะก่อนจะเริ่มเรียนจะต้องมีการควิซทุกครั้ง

 
ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วหยิบหนังสือแลปขึ้นมาอ่านบ้าง  แอบเหลือบมองไปทางฝั่งวิทยาที่มีคนจับกลุ่มรอเข้าเรียนแลปอยู่เหมือนกัน  เห็นไอมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอได้ไม่ยาก ขาวเห็นเด่นชัด กำลังยืนหันหลังเหมือนอธิบายอะไรสักอย่างให้กับเพื่อนที่ยืนตั้งใจฟังอยู่สองสามคนได้

 
พอเสียงออดดังทุกคนก็ทยอยกันเข้าห้อง 


ต้องรีบหาที่นั่งเพราะถือว่าเป็นเวลาเริ่มทำควิซด้วย  พอหาที่นั่งได้เรียบร้อยก็เริ่มลงมือทำ ถ้าอ่านมาข้อสอบก็ไม่ยากเท่าไหร่ เพราะเป็นคำถามก่อนเริ่มเรียนนี่นะ...
 
 
 
 
พอหมดเวลา10นาที อาจารย์ก็มาเก็บข้อสอบไป  แล้วก็เริ่มเข้าสู่การเรียนที่แสนน่าเบื่อ อากาศก็ร้อนเพราะเป็นห้องเรียนที่ไม่เปิดแอร์  ไอเติ้ลที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามก็ดันเอาพัดลมในห้องแลปไปเปิดจ่อโต๊ะตัวเอง  ไอเพื่อนเวร
 




จะว่าไป...




 
รู้สึกหนังตาหนักๆยังไงไม่รู้แฮะ...

 
 
 
 


 
 
 

 
ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปได้ยังไง อาจจะเป็นเพราะอากาศร้อน แถมทั้งยังใส่เสื้อแขนยาวอีกก็เป็นได้ ตื่นมาอีกทีทุกคนก็พร้อมใจกันจะกลับบ้านหมดแล้ว 




เวรแล้วไง



แล้วไอคู่แลปก็ดันไม่มาเรียนอีก ให้ตายสิ…






“อ้าว นี่มึงยังไม่เสร็จอีกหรอวะ?” ไอเติ้ลเดินมาถามที่โต๊ะ  เลยส่ายหน้าให้มันแทนคำตอบไป


“ถ้าเสร็จแล้วจะนั่งอยู่แบบนี้หรอวะ?”


ไอเติ้ลถอนหายใจ “กูอยากเอาผลให้มึงลอกนะเว้ย แต่อาจารย์เขาสั่งว่าไม่ให้ลอกกัน มึงต้องทำเอง”


“เออ กูรู้แล้วน่า” ตอบไปอย่างหัวเสีย ยังไม่ทันที่ไอเติ้ลจะได้พูดอะไรต่อ อาจารย์ก็เดินเข้ามาหา

 
“อ้าว คุณเอกภพ ตื่นแล้วหรอ?  รีบๆทำเข้าล่ะ เดี๋ยวผมฝากกุญแจไว้กับพี่ทีเอให้เขารอคุณนะ แค่บันทึกผลอย่างเดียวก่อนก็ได้ ส่วนพวกสรุปการทดลองน่ะ ไปเขียนที่บ้านแล้วเอามาส่งพรุ่งนี้นะ” มาถึงอาจารย์ก็รัวใส่เป็นชุด  เลยทำได้แค่ยิ้มแหยๆตอบกลับไป


“อ้อ เกือบลืมถามเลย ...หลับสบายดีไหม?” อาจารย์ตบบ่าให้กำลังใจสองสามที จากนั้นก็เดินจากไปด้วยสีหน้าอมยิ้มเหมือนกำลังกลั้นขำอยู่
 

ไอเติ้ลหัวเราะกร๊าก ส่วนแซนก็เดินตามมาสมทบทีหลัง พอไอเติ้ลเล่าเรื่องเมื่อกี้ไป ก็พร้อมใจกันหัวเราะใส่ 
 




เออดี  ดีมาก





 
“สู้ๆนะเว้ยเพื่อนเอก แซนดี้คนนี้มีธุระจริงๆคงอยู่ช่วยไม่ได้ ขอโทษน้า...” แซนลากเสียงยานคางพร้อมยกมือไหว้ปรกๆใส่ผม

 
“ขอโทษนะเว้ยไอเอก แต่กูนัดน้องพลอยไว้ว่ะ” ไอเติ้ลรีบพูดขึ้นมาบ้าง
 

“เออๆ ไปเถอะเว้ย กูทำเองได้”  บอกปัดๆไล่ให้พวกมันไป
 





ไม่ได้น้อยใจอะไรนักหรอกนะ ก็ผิดเองล่ะที่หลับ...
 
 


 







นั่งขมวดคิ้วทำหน้าเครียดในห้องแลปคนเดียว จริงๆแลปนี้มันควรจะมีคนมาทำด้วยอีกคนสิ ไหนจะต้องจับเวลาแล้วยังต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสารอีก

 
“วางตรงนี้แหละจ้ะ ขอบคุณมากเลยนะที่ช่วย” เสียงพี่ทีเอที่ดูแลห้องแลปนี้พูดขึ้นมา เหมือนจะมีใครสักคนยกของมาให้ล่ะมั้ง?


“ไม่เป็นไรครับ”


“จริงสิ นี่เรามีไปไหนต่อหรือเปล่า?” น้ำเสียงเบาลงเหมือนกับกำลังรู้สึกลำบากใจ แต่เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เลยทำให้เสียงนั้นดังก้องไปทั่วห้อง


“ก็...” คู่สนทนาอีกคนนิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิด “ไม่มีนะครับ มีอะไรหรือเปล่า?”


“ดีเลย! พอดีพี่นัดทานข้าวกับแฟนไว้ แล้วอาจารย์ให้รอเด็กที่ยังทำแลปไม่เสร็จน่ะ วานปิดห้องแทนพี่หน่อยสิ”


“ได้ครับ เดี๋ยวผมเอากุญแจไปคืนป้าเดือนให้”


“จ้ะ ขอบใจมากนะ”
 

เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นค่อยๆดังห่างออกไปเรื่อยๆ พี่ทีเอคนนั้นคงออกจากห้องไปแล้วเรียบร้อย แทนที่ด้วยเสียงหนักๆของรองเท้าหนังดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
 



คงจะมาเดินตรวจดูล่ะมั้ง?


 

คิดได้แบบนั้นก็ก้มหน้าก้มตาวัดผลต่อไป แต่ดูจะลำบากไปสักหน่อย เพราะต้องทั้งวัดทั้งสังเกตทั้งจดบันทึก ทำในคนเดียว ทั้งๆที่มันควรจะทำเป็นคู่


“ให้ช่วยไหม?”



“เฮ้ย!”






 นี่มัน…



มนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอเมื่อตอนกลางวันนี่…






แทบจะหงายหลังตกเก้าอี้ เมื่อจู่ๆใบหน้าขาวๆก็โผล่มาจากด้านข้าง  ถึงอย่างนั้นก็รีบตีสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ แล้วตอบไปด้วยน้ำเสียงติดขัดนิดหน่อย


“ก...ก็ดี”


“นายคอยบอกอุณหภูมิแล้วกัน เดี๋ยวจะจดให้” ปากกาที่อยู่ในมือถูกดึงออกไปโดยไม่บอกกล่าว ผู้มาใหม่ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ก่อนจะหยิบสมุดแลปมาวางไว้ตรงหน้าตัวเอง



ไม่มีการพูดคุยอะไรกันเกิดขึ้น มีเพียงตัวเลขอุณหภูมิที่ถูกบอกออกมาเป็นระยะๆ

และเสียงปากกาจดบันทึกผลลงในสมุด…
















บีกเกอร์ถูกเทเอาน้ำแข็งและน้ำที่อยู่ข้างในออก ก่อนจะตามด้วยน้ำจากก๊อกน้ำชะล้างคราบที่เปื้อนอยู่ในแก้ว ผ้าขนหนูผืนหนาซับหยดน้ำที่เปียกอยู่ออกจนหมด อุปกรณ์ทุกอย่างถูกเก็บใส่ตู้แล้วล็อคไว้เป็นอย่างดี
 

หลังจากเก็บอุปกรณ์เสร็จก็ออกมายืนหน้าห้องรออีกคนที่กำลังใช้กุญแจล็อคประตูอยู่


“ไม่กลับล่ะ?” ถูกถามด้วยเสียงที่เรียบนิ่งพอๆกับใบหน้า หลังจากที่อีกฝ่ายล็อคประตูห้องเรียบร้อยแล้ว


รู้สึกไม่ค่อยชินกับคนที่นิ่งเงียบแบบนี้สักเท่าไหร่ ตลอดการทดลอง ก็มีเพียงแค่เสียงตัวเราที่คอยบอกอุณหภูมิในแต่ละช่วงเวลา และเสียงปากกาที่เสียดสีกับเนื้อกระดาษ





เป็นบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกอึดอัด แต่ก็น่าแปลกที่ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น



เพียงแค่รู้สึกเกร็งซะมากกว่า…






“ก็รอกลับพร้อมกันไง”


“รอทำไมน่ะ?” อีกฝ่ายเอียงคอถาม  เป็นพฤติกรรมที่ตลกดี ไม่ค่อยได้เห็นคนที่พอสงสัยแล้วจะเอียงคอถามสักเท่าไหร่


“จะเลี้ยงข้าว...”


“ตอบแทนที่ช่วยทำแลป...”


 


น่าอายจริงวุ้ย เพิ่งจะเคยเลี้ยงข้าวใครอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทเนี่ย...
 



แต่ก็เอาเถอะ อุส่ามาช่วยนี่นะ





แล้วนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย...

 
 


คู่สนทนาส่ายหน้า ยกมือขึ้นโบกเป็นเชิงปฏิเสธ “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้ไม่ต้องถึงกับเลี้ยงข้าวก็ได้”
 
 



น่าอายอีกรอบ ที่ถูกปฏิเสธ...


 

 
“ให้เลี้ยงเถอะน่า อย่าเรื่องมาก!” เผลอตะคอกไปตามนิสัยคนเอาแต่ใจ หวังว่าอีกคนจะไม่ตกใจแล้วน้ำตาร่วงหรอกนะ


“ก็ได้…” ผิดคาดไปหน่อยที่อีกฝ่ายตอบตกลงอย่างง่ายดาย ซ้ำสีหน้าก็ยังคง...



นิ่งเหมือนเดิม







ร้านราเมนหมายเลข8แห่งหนึ่งในห้างชื่อดังติดรถไฟฟ้าใต้ดิน คนมากมายพลุกพล่านเดินเข้าออกร้านกันให้ขวักไขว่ แต่ก็ยังดีที่มีที่นั่งสำหรับสองที่ว่างอยู่


สั่งเมนูง่ายๆราคาเบาๆไป ก่อนจะแอบเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามว่าจะสั่งอะไร


"เอาชาชูเมนครับ" อ๋อ...ชามนี้ที่มีหมูอบซีอิ๊วนี่เองสินะ...


คิดในใจเล่นๆระหว่างรอราเมน อีกฝ่ายก็นั่งเล่นมือถือเงียบซะจนไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี จะว่าไปตอนแซนมันกรี๊ดไอหมอนี่ก็ไม่ยักกะบอกว่าชื่ออะไรแฮะ


"เราชื่อเอกภพ นายชื่ออะไรล่ะ?" เปิดบทสนทนาแนะนำตัวด้วยภาษาที่สุภาพไป เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นนิสัยใจคอเป็นยังไง หน้าตาดูลูกคุณหนูแบบนี้ก็กลัวจะรับไม่ได้กับภาษาสมัยพ่อขุนราม 


"หือ?" คนถูกถามเงยหน้าจากมือถือขึ้นมามองนิ่งๆ






โว๊ะ! ไอนี่หนิ ถามนี่หัดฟังกันบ้างดิวะ





"ชื่ออะไร? เราชื่อเอกภพ!" แอบกระแทกเสียงไปด้วยความลืมตัวอีกเช่นเคย นิสัยแบบนี้แก้ไม่ได้แล้วจริงๆล่ะมั้ง


"...." อีกฝ่ายนิ่งไปสักพักเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าถูกถามอยู่ รอเพียงชั่วอึดใจก็ได้คำตอบที่ทำให้รู้สึกคันๆที่เท้าขึ้นมาซะอย่างงั้น



"เอาชื่อจริงหรือชื่อเล่นล่ะ?"



ฮ่วย...



"อยากบอกชื่อไหนก็บอก"  ไปๆมาๆเริ่มรู้สึกหงุดหงิด จริงๆประโยคแนะนำตัวสุดเบสิคนี่มันควรจะจบตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว เพียงแค่บอกชื่อตัวเองกลับมา แต่นี่อะไร อยากได้ชื่อจริงหรือชื่อเล่น เออ...แปลกดี



"ชื่อเล่นชื่อ...ลีโอ" ฝ่ายถูกถามตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ "แต่ถ้าชื่อจริงชื่อ..."




“ชื่อ?”














“จักรวาล…”


⋆☆



TBC


สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ //กราบงามๆ

เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ สดๆร้อนๆได้ไม่นาน (หลังจากที่เป็นแค่สมาชิกทั่วไปภายนอกมานาน ฮ่า)

คือช่วงนี้งานมันเยอะหนักหน่วงมากค่ะ เราเลยหนีความจริงด้วยการแต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา

โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบเรื่องดวงดาว ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า วิชาดาราศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

ก็เลยเกิดไอเดียในช่วงที่อู้งานขึ้นมาว่า อยากลองแต่งนิยายในแนวๆนี้ดู


ฝากนิยายเรื่องนี้และสมาชิกใหม่ตัวน้อยๆคนนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกท่านด้วยนะคะ


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 25-01-2015 05:03:31
น่าสนใจ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 25-01-2015 09:34:45
สนุกมาก!  ขอสมัครเป็นผู้ติดตามด้วยคนนะคะ   
เลโอเค้าฉลาดและก็นิ่งได้ใจจริงๆ  :o8:
# มนุษย์กระดาษดัมเบิลเอ  :laugh:  :laugh:  :laugh:
 :กอด1: เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 25-01-2015 22:26:40
‘ความน่าจะเป็น’ คือ การคาดการณ์เหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้



สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า ‘ความบังเอิญ’



แต่เป็น ‘ความน่าจะเป็น’ รูปแบบหนึ่ง



ที่มีชื่อเรียกว่า




‘พรหมลิขิต’

 
 
ตอนที่ 2


หลังจากที่เลี้ยงข้าวมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอไป ก็มานอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียงนุ่มๆที่บ้าน
 

หน้าก็ขาว ตัวก็ขาว แถมยังนิ่งๆเงียบๆ
 
 
ทำให้นึกถึงใครบางคน...
 

คนที่จู่ๆก็หายไป ไม่บอกกล่าว
 

ไม่ใช่อะไรหรอก ก็แค่อยากจะคืนแผนที่ดาวสีน้ำเงินนั่นเท่านั้นเอง...
 

จริงๆนะเว้ย!...

 


ตบตีกับความคิดตัวเองเป็นบ้าเป็นหลังได้ไม่นาน ก็เลยลุกขึ้นมานั่งที่ปลายเตียง สะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆพิลึกเมื่อกี้นี้ออกไป ก่อนจะลุกเดินไปที่ตู้หนังสือ หยิบแผ่นพลาสติกสีน้ำเงินออกมานั่งดู
 

'แผนที่ดาว' ของใครบางคนที่ลืมไว้กับเราตอนเด็กๆ



รู้สึกหวิวแปลกๆเวลาที่มองไอแผ่นสีน้ำเงินนี่
 

ยังไม่ได้รู้จักชื่อ ยังคุยกันได้ไม่มากเลยแท้ๆ
 

จู่ๆก็หายไปแบบนี้

 
 
รู้สึกไม่ชอบเลยจริงๆ…









เดินง่วงเหงาหาวนอนจนมาถึงชานชาลารถไฟฟ้า หน้าตาบอกบุญไม่รับสักเท่าไหร่ เพราะเรื่องเมื่อคืนกวนใจจนนอนไม่หลับ ใจก็นึกโทษมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอเมื่อวานที่เป็นต้นเหตุให้ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ทั้งที่จริงๆแล้ว เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
 
 
“ร่าเริงหน่อยสิเอก ทำหน้าซังกะตายแบบนั้นคนรอบๆเขาจะกลัวเอานะ” จักรภพ พี่ชายที่อายุห่างกันอยู่2ปี หันมาพูด

“ง่วงว่ะ…” ว่าแล้วก็ปิดปากหาวไปหวอดใหญ่  จักรภพส่ายหน้ายิ้มๆ “เดี๋ยวถึงมหาลัยแล้วก็แวะกินกาแฟสักหน่อยแล้วกัน ยังไงก็ไปถึงก่อนเวลาเยอะอยู่แล้วล่ะ” 

“ก็ว่างั้นว่ะ แม่ง...นอนไม่หลับ” ทำหน้าหงุดหงิดเหวี่ยงใส่พี่ชายที่ดูจะอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน แต่อีกฝ่ายดูท่าจะชินแล้วเลยไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังถามยิ้มๆ

“เมื่อคืนทำอะไรถึงนอนดึกล่ะ? หรือว่า…?”

“ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น! แค่นอนไม่หลับเฉยๆเว้ย!” ขู่ฟ่อๆใส่พี่ชายไปที อีกฝ่ายหัวเราะร่าจนน่าหมั่นไส้ จังหวะเดียวกับที่รถไฟฟ้าจอดเทียบชานชาลาพอดี

ยามเช้าก่อนเวลาเจ็ดนาฬิกา ผู้คนบนรถไฟฟ้าไม่มากสักเท่าไหร่ แต่เพราะสถานีที่ขึ้นมาไม่ใช่สถานีต้นทางจึงไม่เหลือที่นั่งว่าง

เดินไปหามุมสงบๆยืนพิงสบายๆกันสองคน พี่ชายตัวดีที่ยืนอยู่ข้างๆเริ่มหยิบหูฟังในกระเป๋าออกมายืนแกะปมที่ขมวดกันเป็นก้อนออก ก่อนจะเริ่มเข้าสู่โลกส่วนตัวตลอดการเดินทาง

เห็นอย่างนั้น มือก็ล้วงหยิบหูฟังที่ม้วนไว้เป็นอย่างดีออกมาบ้าง แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เป็นคู่กรณี(คิดเอาเองฝ่ายเดียว)ยืนจับเสาอยู่ไม่ไกลนัก

ใจก็นึกไปว่า บางทีอาจจะนอนน้อยจนเห็นภาพหลอน

ขยี้ตาทั้งสองข้างจนมั่นใจว่าคงไม่ได้เมาขี้ตาแน่นอน ก่อนจะมองไปยังจุดเดิม



ตัวจริงเสียงจริง...




พอลองสังเกตดีๆก็เห็นว่า อีกฝ่ายหลับตาใส่หูฟัง คงจะฟังเพลงสินะ...


ไม่รู้ว่าเกิดเหตุขัดข้องหรืออย่างไร รถไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ดีๆก็เกิดชะงักไปชั่วครู่ ทำให้เซถลาไปด้านหน้าเล็กน้อย แต่ยังดีที่ใช้เท้ายันไว้ได้ ขืนหน้าขมำขึ้นมา คงเรียกเสียงหัวเราะให้คนในรถได้เป็นอย่างดีแน่ๆ


เหลือบตาแอบมองคนที่อยู่ในระยะสายตานั่น...




ยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม...


แอบชื่นชมเงียบๆในใจ ไม่น่าเชื่อว่าผอมๆแบบนั้นจะทรงตัวได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้









'สถานีต่อไป...'

เสียงประกาศในรถไฟฟ้าดังขึ้นเมื่อใกล้ถึงสถานีถัดไป ซึ่งเป็นสถานีที่หมาย

ขยับตัวไปยืนรอหน้าประตูเพื่อเตรียมลงจากรถ สายตาก็ยังคงเหลือบไปมองอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก



ยังคงยืนอยู่ที่เดิม...


ท่าเดิมด้วย...


เดี๋ยวนะ...

ต้องลงสถานีนี้แล้วไม่ใช่เรอะ?



จนประตูเปิดก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะขยับตัวแต่อย่างใด

"เดินสิวะเอก" จักรภพสะกิดเรียก จนต้องจำใจเดินออกมา

หันหลังกลับไปมองก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะเดินออกมาสักที


หลับหรือเปล่าวะ?


ขาเจ้ากรรมดันไวกว่าความคิด ก้าวเท้าพุ่งกลับเข้าไปในรถไฟฟ้า เสียงจักรภพเรียกไล่หลังตามมา แต่ก็ถูกกลืนหายไปพร้อมกับประตูรถไฟฟ้าที่ปิดลง

เอื้อมมือไปคว้าแขนอีกคนให้หันมา อีกฝ่ายสะดุ้งก่อนจะลืมตามอง สภาพเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

"ถึงสถานีแล้วทำไมไม่ลง!" เผลอตะคอกเสียงดังจนตะครุบปากไว้แทบไม่ทัน คนในรถไฟฟ้าหันมามองตามเสียงกันให้ขวัก

"...?" อีกฝ่ายทำหน้าสงสัยเป็นคำตอบกลับมาแทน

ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ มือก็คว้าแขนอีกฝ่ายออกมาจากนอกรถทันทีที่ประตูเปิดในสถานีถัดไป

เดินลงบันไดมาที่ชั้นล่างเพื่อย้อนกลับไปขึ้นอีกฝั่ง ฝ่ายที่ถูกดึงมาด้วยความงงๆยังคงเงียบไม่พูดอะไรจนกระทั่งเข้าไปในรถไฟฟ้าเรียบร้อย

"นี่หลับหรอ?" ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด แต่ก็น้อยลงกว่าเมื่อครู่

อีกฝ่ายพยักหน้าเป็นคำตอบ

"จะหลับก็น่าจะรู้ตัวไว้สักหน่อย เลยสถานีแล้วเห็นไหม?"

"เอกภพ?"

"ห๊ะ?" เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ถามอีกฝ่ายไปแต่กลับได้รับคำถามกลับมา

"เอกภพ...สินะ?"

"ใช่แล้วทำไม? รู้ไหมว่ากำลังทำให้คนอื่นเขาไปเรียนสาย?" จริงๆก็ไม่ได้สายหรอก เช้าไปด้วยซ้ำ

"..." อีกฝ่ายนิ่งเงียบไป จนกระทั่งประตูรถไฟฟ้าเปิด เลยรีบเดินนำหน้าออกมาก่อน ไม่ได้รออีกคนที่รีบเดินตามหลังมาเลยสักนิด




หันหลังกลับไปมองอีกคนที่คว้าแขนไว้ ด้วยสีหน้าหงุดหงิด เตรียมจะอ้าปากเหวี่ยงใส่กลับไปแต่ก็ถูกขัดขึ้นซะก่อน

"ขอโทษ..."

"อืม..." พอเจอแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาตอบกลับไปแบบไหนดี เลยทำได้แค่พยักหน้าส่งกลับไป

"ทำให้สายสินะ?"

"เออดิ!"

"ให้ชดใช้ยังไงดี?"

"ชดใช้ด้วยการเลิกถามแล้วเดินต่อได้แล้ว ก่อนที่มันจะสายกว่านี้" พูดจบก็เดินนำออกมาอีกรอบ แอบสงสัยกับตัวเองว่าทำไมต้องหงุดหงิดกับเรื่องแบบนี้ด้วย


แล้วทำไมต้องกลับไปรับเมื่อตอนนั้นด้วยวะ?


ไม่เข้าใจ?






“ไปล่ะนะ” คนที่เงียบมาตลอดทางที่นั่งรถบัสของมหาลัยเข้ามาที่คณะเอ่ยขึ้นเมื่อลงจากรถเรียบร้อยแล้ว

“อือ” พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจให้ไปหนึ่งทีเป็นคำตอบ หมุนตัวเตรียมจะเดินไปที่คณะของตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อถูกดึงแขนเสื้อไว้

ขมวดคิ้วมองด้วยความหงุดหงิด กำลังจะตะคอกกลับไปว่า ยังมีอะไรอีกหรือไง? แต่ก็ต้องชะงัก...





“ขอบคุณนะ” 






น่าแปลกที่ก็แค่คำขอบคุณ



แต่ทำไมรู้สึกว่า...








คำขอบคุณนี่มันดีจังนะ...


⋆☆★

TBC


สวัสดีค่ะ เพิ่งแปะไปเมื่อคืนตอนดึกดื่น วันนี้ว่างพอดีเลยรีบเอามาลงก่อน

ตอนนี้ยังไม่ค่อยยาวสักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยจริงๆนะคะ ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สองคนนี้มาเจอกันอยู่ก็เลยคิดว่าตัดจบตอนตรงนี้มันจะดูโอเคกว่า แฮะๆ (ตอนถัดไปคิดว่าสั้นกว่านี้อีกค่ะ /กราบ) แล้วก็

ขอบคุณสำหรับการติดตามมากเลยนะคะ ยังเป็นนักเขียนหน้าใหม่อยู่ อาจจะเขียนติดขัดไปบ้าง ติชมได้เสมอเลยนะคะ

แล้วก็อยากจะขอบคุณเพื่อนMมากค่ะ ที่เราเป็นคนส่งแต่ละตอนให้เขาอ่านแล้วช่วยคอมเม้นต์ก่อนจะนำมาลงที่นี่ ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้คงไม่มีความมั่นใจที่จะมาลงในนี้ค่ะ

เจอกันในตอนหน้าค่า (คิดว่าสปีดของเราน่าจะอยู่ประมาณอาทิตย์ละตอนนะคะ เพราะจะวันจันทร์แล้วอู้ไม่ได้แล้ว แง)
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่2] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 26-01-2015 05:03:09
พระเอก นายเอกจำกันไม่ได้ว่าเจอกันมาก่อนคงจะนานและรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนแปลง พระเอกเราขี้หงุดหงิดน่าดู นายเอกเราดูซึนๆ น่ารักดี ชอบชื่อนายเอก จักรวาล

บวกเป็ด&กดโหวตเป็นกำลังใจให้กับนิยายเรื่องแรก รอติดตามนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่2] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 27-01-2015 19:57:47
รออ่านค่ะ  o13  เอกภพอารมณ์ร้อนจัง แอบสนใจเค้าอยู่ยังไม่รู้ตัวอีก  :oni1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่2] 25/01/15
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 03-02-2015 22:46:55
'เนบิวลา'


คือ กลุ่มก๊าซ และ ฝุ่นผงต่างๆที่รวมตัวกันอยู่ในอวกาศ


ดูเผินๆก็แค่หมอกบางๆที่แต่งแต้มท้องฟ้ายามค่ำคืนให้สวยงาม


แต่ภายในกลับมีอะไรมากกว่าที่ตามองเห็น


อย่างเช่น เป็นต้นกำเนิดของดวงดาวมากมาย


เหมือนกับใครบางคนที่เก็บเรื่องราวของตนเองไว้ในใจ


เงียบๆคนเดียว



ตอนที่ 3


เดินบิดขี้เกียจออกมาจากห้องเลคเชอร์ หลังจากนั่งเรียนหลังขดหลังแข็งมาตลอดในช่วงเช้า

วันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวัน เลยตกลงกับไอเติ้ลและแซนว่าจะไปกินอาหารญี่ปุ่นในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัย แล้วต่อด้วยไปนั่งกินเค้ก ที่จริงๆคงมีแค่แซนคนเดียวมากกว่าที่กิน
เพราะว่าผู้ชายอย่างผมกับไอเติ้ลไม่ค่อยถูกกับของหวานสักเท่าไหร่

"นี่เพื่อน รู้ไรป่ะ?" แซนเริ่มเปิดบทสนทนาทั้งๆที่ในปากยังคงเคี้ยวเค้กตุ้ยๆอยู่

"อะไร? มึงกำลังจะติดคอตาย?" ไอเติ้ลคู่กัดของแซนเริ่มเปิดศึก เลยโดนมือเล็กๆฟาดหัวไปหนึ่งที

"โห แช่งกันได้ อย่าเพิ่งขัดดิ"

"เออๆ จะพูดอะไรก็รีบพูดมา" ไอเติ้ลลูบหัวตัวเองที่โดนฟาดไปปอยๆ จะว่าไปก็น่าสงสาร ตั้งแต่สองคนนี้รู้จักกันมา ไม่มีวันไหนเลยที่ไอเติ้ลไม่โดนแซนตบหัว คาดว่าความรู้มันคงกระเด็นออกไปเยอะเหมือนกัน

"ในที่สุดฉันก็รู้ชื่อพ่อหนุ่มน้อยวิทยาคนนั้นแล้วค่าาา" แซนมันชูมือข้างที่กำช้อนไว้ขึ้นด้วยความดีใจ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนในร้านเขาจะมองมันด้วยสายตาแบบไหน

"แล้ว...?" ขมวดคิ้วมองหน้าแซนไปทีจนมันหงอ แต่ก็แค่แกล้งหงอน่ะนะ มันเอื้อมมือมาตบบ่าผมที่นั่งข้างๆ

"คุณเพื่อนช่วยแสดงความอยากรู้อยากเห็นในแบบมนุษย์ปกติพึงทำหน่อยสิ!"

"มึงหาว่ากูไม่ปกติสินะ งั้นไม่อยากรู้แล้วล่ะ ไปละ" ทำท่าเตรียมจะลุกขึ้นจนแซนมันต้องคว้าแขนไว้ ส่วนไอเติ้ลก็นั่งหัวเราะเยาะดูภาพเหตุการณ์ที่แซนไม่ได้รับความสนใจจากผม

"โถ่...บอกแล้ว บอกแล้ว เขาชื่อลีโอล่ะ!"

"อืม" พยักหน้าตอบรับไปทั้งๆที่รู้อยู่ก่อนแล้ว ไอเติ้ลเองตอนนี้ก็นั่งแคะขี้ฟันทำเป็นไม่สนใจ แต่ดูก็รู้ว่าหูมันกางจนจะเป็นจานดาวเทียมเรียบร้อยแล้ว

"อยู่ปี1"

"อืม"

"คณะวิทยาศาสตร์"

"ช่วยบอกอะไรที่คนอื่นเขาไม่รู้ได้ไหม?" คราวนี้เลยจัดการดึงจานเค้กที่แซนยังกินไม่หมดออกมา ชอบทำเป็นลีลานัก น่ารำคาญจริงๆ

"บอกแล้วว้อยยย ฮึ่ย...ก็แค่อยากให้ลุ้น..." แซนก้มหน้าบิดไปมาทำท่าเหนียมอาย เลยโดนไอเติ้ลตบหัวคืนกลับไป ไม่แน่ว่าในเร็วๆนี้จะต้องมีใครสักคนในสองคนนี้แน่ๆที่สมองเสื่อม

"อยู่ภาคเคมี ตอนกีฬาเฟรชชี่ก็ลงแข่งว่ายน้ำด้วยนะ น่าเสียดายจริงๆที่ตอนนั้นฉันต้องไปดูแกอะ" แซนหันไปทำหน้าบูดใส่ไอเติ้ล

"อ้าว มาโทษกันได้ไงวะ" ตอนกีฬาเฟรชชี่ไอเติ้ลลงแข่งบาส ซึ่งไอแซนกับผมก็โดนบังคับให้ไปนั่งเชียร์มันแข่ง



"ก็ตอนนั้นที่พวกไอปรายมาชวนไปดูเขาแข่งว่ายน้ำกันไงความผิดแกคนเดียวเลยที่ทำให้ฉันอดไปดูซิกแพคขาวๆของคุณชายลีโอออออ" ไอแซนโวยวาย หน้าตามันตอนนี้ทำอย่างกับโลกกำลังจะแตก มนุษยชาติกำลังจะสูญสิ้น


"เดี๋ยวนี้มึงเห็นผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อนแล้วสินะ"ไอเติ้ลตัดพ้อใส่แซน

"อย่ามาแหล กูรู้ว่าวันนั้นน้องพลอยของมึงไม่ว่าง มึงเลยมาบังคับพวกกู" ช่วยแซนเถียงไอเติ้ลกลับบ้างไม่ใช่อะไรหรอก แค่หมั่นไส้คนมีแฟน

"แม่งรุม..." ไอเติ้ลเบ้ปาก ก่อนจะยกแก้วน้ำที่เหลือแต่น้ำแข็งมาเคี้ยวน้ำแข็งเล่นกรุบกรับ ส่วนไอแซนก็นั่งกดโทรศัพท์ยุกยิก เหมือนกับกำลังหาข้อมูลอะไรสักอย่างอยู่

"เอ้อเพื่อน ฉันได้ไอจีของคุณชายลีโอมาด้วยนะเว้ยยยย" พูดจบก็ชูมือถือขึ้นมาให้ดู

“โอ้โห แซนดี้ เรื่องผู้ชายนี่มึงทำได้ทุกอย่างจริงๆ” ไอเติ้ลทำตาโตล้อไปที จนแซนทำตาเขียวใส่ แซนยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู เลื่อนๆดูก็มีภาพของกิน กับท้องฟ้าเป็นส่วนใหญ่ มีรูปหมาแมวบ้างประปราย ขาดก็เพียงแต่รูปเจ้าของอินสตราแกรม ที่ไม่มีให้เห็นเลยแม้แต่รูปเดียว ดูท่าทางจะเป็นคนขี้อายจริงๆ

เลื่อนกลับมาเหลือบมองชื่ออินสตราแกรมที่ตั้งไว้ก็ทำให้รู้สึกแปลกใจ




‘Leonids’





ชื่อเท่ดีเหมือนกันแฮะ…



“แหม...คุณเพื่อนเอกดูซะนานเลยนะคะ จะจำชื่อกลับไปฟอลล่ะซี่ ไม่ต้องห่วงนะ แซนดี้คนนี้กดฟอลเรียบร้อยแล้ว คุณเพื่อนเอกไปค้นในไอจิแซนดี้ก็ได้ค่...โอ้ย...เจ็บนะ…” แซนลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ หลังจากที่โดนผมดีดสั่งสอนไป ใครใช้ให้พูดอะไรแปลกๆกันล่ะ หึ...สม




แค่รู้สึกว่าชื่อนี้มันดูดี ก็แค่นั้น...




“สมน้ำหน้า คราวหน้ากูจะตีปากมึง” หัวเราะหึไปที แซนทำปากยู่ใส่ จะว่าไปก็ดูน่ารักดี น่าแปลกที่มันไม่มีแฟนสักที หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แท้ๆ

“จะรอนะคะคุณเอกภพ~”

“เออ… เดี๋ยวนี้มึงเป็นเอามากนะแซน แม่ไม่ว่าหรอทำตัวแบบนี้” ไอเติ้ลวางแก้วที่ไม่เหลือน้ำแข็งแล้วลงพร้อมยักคิ้วใส่ ไอแซนยกมือขึ้นปิดแก้มทั้งสองข้าง ทำท่าเขินอายที่ทำให้รู้สึกว่า มันช่างน่าถีบเสียเหลือเกินมากกว่าจะน่ารัก

“ไม่ว่าหรอกค่ะ เดี๋ยวนี้น่ะ ผู้ชายเขาไม่ค่อยกล้าจีบผู้หญิงกัน บางทีแซนดี้ที่เป็นผู้หญิงแสนสวยเรียบร้อยน่ารักก็คงต้องฝืนค่านิยมของคนในสังคมออกมาจีบผู้ชายเองบ้างแล้วล่ะค่ะ”

“โห ท่าทางจะเอาจริงนะ แล้วยังไงได้เริ่มคุยหรือยังล่ะ?” ไอเติ้ลทำตาโตรีบเลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้เพื่อรอฟังคำตอบ

“ยังเลยค่ะ ตอนแรกก็ว่าจะจีบเขานะคะ แต่ดูเหมือนคุณเพื่อนเอกจะสนใจคุณสิงโตอยู่ บางทีแซนคงต้องหลบทางให้ อา...ชะนีอย่างเราคงทำได้แค่ขึ้นคานสินะ…” ไอแซนพูดยิ้มๆ หน้าล้อๆของมันกับไอเติ้ลนี่ชวนให้คันเท้าเหลือเกิน

“อะไรทำให้พวกมึงสองคนคิดว่ากูสนใจเขา?”

“โถ… ก็ดูอย่างเมื่อกี้ จ้องไอจีเขาตั้งนาน ถ้าสิงได้ก็คงสิงไปแล้วสินะ แถมยังเลื่อนดูซะทุกซอกทุกมุมแบบนี้อีก แล้วอย่างตอนที่เจอกันตอนเรียนแลปนั่นอีก จ้องเขาตั้งนาน รู้ตัวบ้างป่ะ?”

“บ้าแล้ว กูผู้ชายทั้งแท่งนะ”


"ผู้ชายแล้วยังไงมึง ความรักไม่มีขอบเขต" ไอเติ้ลเถียงขึ้นมา

"อ่านปากกูนะเติ้ล" ชี้ปากตัวเองเลียนแบบท่าทางของเด็กคนหนึ่งในรายการข่าวช่วงเย็น

"กู-ไม่-ได้-ชอบ-ไอ-สิงโต-นั่น!"


ใครจะไปชอบหมอนั่น...


ก็แค่รู้สึกว่ามันคล้ายกับเด็กคนนั้น...


คนที่จู่ๆก็หายไป...ก็แค่นั้น










"เดี๋ยวกูแวะดูหนังสือที่ไอภพกับพ่อฝากซื้อหน่อย พวกมึงกลับไปก่อนก็ได้" บอกลาไอเพื่อนตัวดีสองคนที่หน้าร้านเค้ก เพราะพี่ชายตัวดีกับพ่อดันส่งข้อความมาทางโปรแกรมสนทนาที่เรียกว่า 'ไลน์'

"เออ โชคๆเว้ย" โบกมือลาเพื่อนสนิทสองคนก่อนจะเดินตรงไปที่ร้านหนังสือ


เป็นเวลาบ่ายกว่าๆที่ผู้คนยังไม่เลิกงาน ในร้านหนังสือนี้คนจึงบางตา

เดินเปิดมือถืออ่านชื่อหนังสือที่พ่อและพี่ชายส่งมาให้ มือก็คว้าเอาหนังสือความรู้ทางวิศวกรรมเล่มหนาๆหนึ่งเล่มของพี่ชายมาได้ ต่อไปก็ของพ่อเป็นอันครบ มองซ้ายมองขวาหาประเภทหนังสือที่พ่อฝากซื้อก่อนจะเดินตรงไปทางป้ายบอกหมวดหมู่



โลกมันคงกลมมากเกินไปแล้วล่ะมั้ง?



ถึงได้เจอไอคนที่เป็นประเด็นไปเมื่อตอนอยู่ในร้านเค้ก...





หมอนั่นกำลังยืนพลิกหน้าหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ พอสังเกตดูก็พบว่าเป็นหนังสือที่พ่อฝากให้มาซื้อ

ยืนมองอีกคนพลิกหน้ากระดาษนั้นไปมาเงียบๆ เพิ่งสังเกตว่าแม้แต่หลังคอของหมอนี่ก็ขาว ขนตางอนใช้ได้เลย จมูกก็โด่ง แล้วยังริมฝีปา...



เดี๋ยวนะ...


นี่กำลังคิดอะไรอยู่...?


บ้าไปแล้ว...!





สติกลับมาอีกครั้งเมื่อฝ่ายที่ยืนดูหนังสืออยู่วางหนังสือในมือไว้ที่เดิมแล้วเดินจากไป เลยรีบเดินตรงไปหยิบมันขึ้นมา เป็นหนังสือแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการใช้กล้องดูดาวและแนะนำกล้องดูดาวรุ่นใหม่ๆ

ตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้วล่ะที่พ่อชอบดูดาวจนตอนนี้ก็ยังไม่เลิก และยังเป็นคนที่พาให้ไปเจอกับเด็กที่เป็นเจ้าของแผนที่ดาวนั่นอีก หลังจากนั้นก็ร้องขอตามไปด้วยตลอด แต่ก็ไม่เจอเด็กคนนั้นอีกเลยจนถอดใจ ระยะหลังตั้งแต่เตรียมสอบเข้ามหาลัยจนเข้ามาเรียนปี1ได้ก็เลิกตามหาไปแล้วล่ะ




เพราะมันคงไม่มีหวังอีกแล้วที่จะได้เจอกันอีก...





"อะ..." หันไปตามเสียงตกใจเบาๆที่ได้ยินเมื่อครู่

คนที่เพิ่งเดินจากไปไม่นานกลับกลับมาที่เดิมอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสีหน้าตกใจของอีกคน แม้มันจะเป็นแค่การเลิกคิ้วขึ้นมานิดหน่อยก็ตาม

"เอ่อ...นาย...จะซื้อ?" พอมาเจอกันตรงๆแบบนี้อีกครั้ง รู้สึกทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

อีกฝ่ายนิ่งเงียบไป สายตามองมาที่หนังสือที่อยู่ในมือจนต้องมองตามอีกฝ่ายถึงได้เข้าใจว่ามันเหลืออยู่เล่มเดียวนี่เอง

"ไม่ล่ะ นายเอาไปเถอะ" อีกคนส่ายหน้า

"แค่หยิบมาดูเพราะสงสัยเฉยๆ ไม่ได้อยากได้หรอก..." ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ อีกคนก็หันหลังเดินจากไปเสียแล้ว น่าแปลกที่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในแววตาคู่นั้น



ถึงจะมีบางอย่างที่คล้ายกันมากกับเด็กเจ้าของแผนที่ดาวนั่น



แต่ก็มีบางสิ่งที่ไม่เหมือน



'ดวงตา'



เด็กคนนั้นถึงจะดูเงียบๆ แต่แววตาก็ยังคงฉายแววสดใสออกมา



ต่างกับหมอนี่...




ที่แววตาคู่นั้น




มีกลุ่มหมอกบางๆบดบังไว้...



'กลุ่มหมอก ที่เรียกว่า'




'เนบิวลา'











?


ถ้าแค่ดูเฉยๆ...



ทำไมถึงย้อนกลับมาล่ะ?






บางทีในเนบิวลานั่น




อาจจะมีดาวบางดวงถือกำเนิดขึ้นก็ได้...





★*・゚


TBC


/สไลด์มากราบ/

ช้าไป2วัน ขออภัยด้วยจริงๆค่ะ

มีเหตุขัดข้องทางเทคนิคนิดหน่อยทำให้ไม่ได้มาลง Y_Y
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 04-02-2015 05:32:39
ลีโอแลดูซึนๆนะ :katai5:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 05-02-2015 03:06:54
เขาเรียกว่าพรหมลิขิตของดวงดาวที่ทำให้มาพบกัน ฮิ๊ววว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 05-02-2015 19:54:20
ดวงดาวที่ถือกำเนิดใหม่ เป็นดวงดาวที่มีชื่อว่า ฟามรัก รึเปล่า    :laugh: เลโออาจจะแอบหวั่นไหวกับเอกภพอยู่..   :o8:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 17-02-2015 18:51:59

“วัตถุทั้งหลายในเอกภพจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่งๆ จะแปรผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลวัตถุทั้งสองและจะแปรผกผันกับกำลังสองระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสองนั้น”

กฎแรงดึงดูดระหว่างมวล





ตอนที่ 4


"กลับมาแล้วหรอ" แม่ทักขึ้นเมื่อเห็นว่าผมเปิดประตูเข้ามาในบ้าน เลยยกมือที่ถือถุงหนังสือขึ้นไหว้จนได้ยินเสียงกรอบแกรบของถุงหนังสือ


"หอบอะไรมาเยอะแยะน่ะเรา"


"หนังสือที่ป๊ากับเฮียฝากซื้อไง" เมื่อเห็นสายตาสงสัยของแม่ เลยชูถุงหนังสือขึ้นให้เห็นได้สะดวก


"อ๋อ..." แม่พยักหน้าเข้าใจ "เฮียภพนั่งดูทีวีอยู่ ส่วนป๊าอยู่บนห้องน่ะ"


"แล้วเราล่ะหิวหรือยัง?"


"ก็เริ่มหิวแล้วล่ะ"


"งั้นเดี๋ยวอีกสักพักนะ"


"อืม... ให้ตามป๊ากับเฮียด้วยไหม?"


"ตามมาด้วยเลย นี่ก็คงรอกินข้าวอยู่"


"งั้นเดี๋ยวบอกให้" พยักหน้าตอบรับเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากมา






"แม่ให้มาตามไปกินข้าว"


เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็เห็นพี่ชายตัวดีกำลังนอนดูทีวีสบายใจเฉิบจนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปปิดทีวีแกล้ง


"เปิดเดี๋ยวนี้เลยเอก กำลังถึงตอนสำคัญด้วย" ฝ่ายที่ถูกแกล้งท้วง แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูหงุดหงิดอย่างที่คนแกล้งคาดหวังไว้


"เปิดเองดิ" กวนประสาทอีกฝ่ายพอเป็นพิธีก่อนจะเดินมานั่งโซฟาตัวข้างๆแล้วหยิบมือถือออกมา เปิดอินสตราแกรมของคนที่เพิ่งเจอกันในร้านหนังสือ ชั่งใจอยู่นานว่าจะกดFollowดีไหม


"หืม?"


"เห้ย!"

สะดุ้งสุดตัวจนมือถือแทบจะกระเด็นกระดอนลงไปกลิ้งกับพื้น ยังดีที่คว้าไว้ได้ทัน ก่อนจะหันไปมองพี่ชายตัวดีที่จู่ๆก็มายืนอยู่ด้านหลังโซฟาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง


จักรภพหัวเราะลั่น "ตกใจขนาดนั้นเลยหรอ"


"ก็เออดิวะ" จู่ๆเล่นมาโผล่ข้างหลังแบบนี้ เป็นใครก็ต้องตกใจ


"ก็เห็นทำหน้าเครียดกับมือถือก็เลยมาดูไง"


"เสือก..."


"โห ดุจัง" จักรภพยิ้มขำ "จะบอกอะไรให้พี่รู้จักลีโอเจ้าของไอจีนี้นะ"


"รู้จักได้ยังไง? คนละคณะกันนี่?" ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยปนหงุดหงิด ไปรู้จักกันตอนไหนวะ?


"เด็กไอปูนมัน ตอนซ้อมเฟรชชี่ก็ว่ายลู่เดียวกับเด็กคณะเรานี่แหละ" เกือบลืมไปแล้วว่าไอพี่ชายตัวดีนี่มันอยู่ชมรมว่ายน้ำของคณะ ก็ไม่แปลกที่จะรู้จัก แล้วคนที่ชื่อปูนนี่ก็เพื่อนมันที่อยู่คณะวิทยาฯ


"น้องมันน่ารักน่าแกล้งดี พวกไอปูนนี่ตัวแกล้งเลย"


"ไปแกล้งเขาทำไมวะ?"


"ไม่แกล้งได้ยังไง เป็นคนเงียบๆใครเล่นมุกตลกอะไรไปก็ไม่ขำ ตามมุกไม่ทันอีก แถมยังหลอกง่ายมากด้วย" จักรภพยิ้มร่า ก่อนจะเล่าต่อ


"มีครั้งนึง ไอปูนเคยใช้ให้ไปหาสาวที่ศูนย์กีฬาแล้วให้มันพูดว่า 'เธอคอปเปอร์เทลูเรียมจัง ขอเบอร์ได้ไหมครับ?'  มันก็เดินไปทำตามที่ไอปูนบอกแบบงงๆด้วยนะ แต่ที่น่าตลกกว่าคือ มันได้เบอร์สาวมาด้วย"


"แกล้งเขาไว้มากๆระวังเถอะจะโดนเอาคืน"


"ฮะฮะ ก็โดนอยู่นี่ไง" ถูกอีกฝ่ายมองด้วยสายตาขำขัน คงจะหมายถึงเรื่องที่ไปแกล้งปิดทีวีสินะ


"แล้วนี่รู้จักกันหรอ?"


"เรียนแลปแล้วเจอกัน ไอแซนมันแอบชอบอยู่"


"อย่างงี้นี่เอง เสน่ห์แรงเหมือนกันนะเนี่ย" จักรภพพยักหน้าเข้าใจ


"รู้จักกันงั้นก็ฟอลไปเลยสิ จะรออะไร" ว่าแล้วไอพี่ชายตัวดีก็กดติดตามในอินสตราแกรมให้เสร็จเรียบร้อย


"เห้ย! มึงนี่แม่ง...!" มองอีกฝ่ายตาเขียวปั๊ด จู่ๆก็กดให้ทั้งๆที่ยังไม่ได้เตรียมใจอะไรไว้ก่อนเลยแท้ๆ


"เอ้า จะเป็นอะไรไป ก็รู้จักกันนี่"


"แม่ง...กูกดเองก็ได้แท้ๆ..."


"โถ... คุณเอกภพครับ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้" โดนอีกฝ่ายเอามือยีหัวจนผมยุ่งไม่เป็นทรง เลยลุกขึ้นกะจะเดินหนี แต่ก็ถูกขัดขึ้นมาก่อน


"เอก แล้วทำไมเมื่อเช้า จู่ๆถึงวิ่งเข้ารถไฟฟ้าไปล่ะ?"


"หืม...? ไม่มีอะไรหรอก...ก็แค่..."




"เจอเพื่อนน่ะ..."












เช้าวันใหม่ที่การจราจรในกรุงเทพยังไม่หนาแน่น วันนี้ก็ติดรถพ่อมามหาลัยพร้อมกับพี่ชายตัวดีเหมือนเดิม เพราะที่ทำงานของพ่อที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัย แถมยังประหยัดค่ารถและไม่ต้องเบียดเสียดกับฝูงชนมากมายให้วุ่นวายและปวดหัว ปกติแล้วจะติดรถพ่อมาเกือบทุกวัน แต่วันที่เจอมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอนั่นดันเป็นวันที่พ่อไม่ได้เข้าบริษัทก็เลยต้องมาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส


นั่งฟังเพลงมองวิวข้างทางไปอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ ส่วนพี่ชายตัวดีก็นั่งหลับอยู่ข้างๆ คงเพราะเมื่อคืนปั่นโปรเจคจนไม่ได้หลับได้นอน



ครืด...


โทรศัพท์สั่นเป็นการแจ้งเตือนว่ามีคนส่งข้อความมาทางไลน์กลุ่ม แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย


SanCuteGirl : เพื่อนนนนนนนจ๋าาาา กลุ่มแลปฟิสิกส์ออกแล้วนะ


SanCuteGirl sent you a photo.


กดเปิดรูปดูก็พบว่าเป็นรายชื่อกลุ่มแลปฟิสิกส์ที่ถูกถ่ายมาจากประกาศหน้าห้องแลป


ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกันเป็นปม



ทั้งๆที่ก็อยู่กันคนละคณะแท้ๆ


ทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย


แค่เพราะเรื่องบังเอิญในวันนั้นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาเจอกัน


บางที...


การที่กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้


อาจจะเป็นเพราะแรงดึงดูดระหว่างมวล


ล่ะมั้ง...?








เซ็นชื่อเข้าห้องแลปพร้อมถือใบผลการทดลองเดินเข้ามาภายในห้องที่มีโต๊ะสำหรับสี่คนเรียงกันเป็นแถวอยู่ภายในห้อง


กวาดตามองไปรอบๆก็เห็นบางคนจับจองที่นั่งกันอยู่บ้างแล้ว แต่เพราะยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง หลายๆคนในห้องจึงนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ บ้างก็นั่งจับกลุ่มคุยกัน


เดินตรงไปยังโต๊ะที่ไม่ไกลจากกระดานหน้าห้อง คนที่นั่งอยู่โต๊ะนี้กำลังนั่งกดโทรศัพท์มือถือพร้อมกับคุยกับเพื่อนข้างๆที่ใส่แว่นท่าทางดูเป็นเด็กเรียนอยู่ จนเมื่อเสียงเรียกขัดจังหวะขึ้นการสนทนาจึงหยุดลง


"หวัดดี..." ทักทายสมาชิกในกลุ่มไปด้วยท่าทางที่ดูขัดเขิน มือไม้ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน ปกติไม่ค่อยได้คุยกับคนต่างคณะสักเท่าไหร่ พอได้คุยแล้วอาการประหม่าก็เริ่มผุดขึ้นมา


"อืม... เจอกันอีกแล้วนะ" คนที่เพิ่งได้เจอกันไปไม่นานเอ่ยเรียบๆ


"นั่นสินะ เจอกันอีกแล้ว" พึมพำตอบกลับอีกฝ่ายไปเบาๆ


"เอกภพใช่ป่ะ?" อีกคนที่อยู่ข้างๆพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น ท่าทางจะไม่เคยมีสมาชิกในกลุ่มเป็นคณะอื่นที่ไม่ใช่คณะตัวเองสินะ


"อืม... เรียกแค่เอกเฉยๆก็ได้ ฝากตัวด้วยแล้วกัน" วางกระเป๋าไว้ใต้โต๊ะก่อนจะนั่งลงโดยมีลีโอที่กำลังเขียนชื่อลงในใบผลการทดลองเงียบๆนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างสมาชิกในกลุ่มคนใหม่กับเอกภพ


"เช่นกันเว้ย กูชื่อโปร อยู่ภาคเคมี ยินดีที่ได้รู้จัก" อีกฝ่ายที่อยู่ข้างลีโออีกฝั่งชะโงกหน้ามาแนะนำตัว เริ่มรู้สึกถึงบุคลิกของอีกคนที่ดูจะขัดกับหน้าตาไปสักหน่อย


"ได้อยู่กลุ่มเดียวกับเด็กวิศวะด้วย ยังไงก็ช่วยๆกันไปแล้วกัน ใช่ไหมแมว?" ว่าจบก็หันไปถามคนที่ยังคงก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อ


"แมว...?" จู่ๆชื่อสัตว์ขนปุยเท้านุ่มนิ่มก็โผล่เข้ามาในบทสนทนา ชวนให้ขมวดคิ้ว


"ลีโอ" กระดาษที่ถูกเขียนชื่อของเจ้าตัวเรียบร้อยแล้วถูกยื่นมาตรงหน้า รับมาอย่างงงๆก่อนจะก้มดูก็เห็นช่องที่ต้องกรอกชื่อของตัวเองถูกเว้นว่างไว้


หยิบปากกามาเขียนชื่อและรหัสนิสิตเงียบๆ หูก็เงี่ยฟังสองคนข้างๆเถียงกัน


"ชื่อดีๆมีก็ไม่เรียก"


"เห็นพี่ปูนเรียกนี่วะ ทำไม? เรียกบ้างไม่ได้หรอ? ทำไมวะทีกับเพื่อนนะ แม่ง..."


"เออ เอาที่สบายใจ" อีกคนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ท่าทางจะเอือมระอาอีกคนเสียเต็มที


"ดีมากน้องแมวของพี่โปร มามะ เดี๋ยวให้ขนม"


"เขียนชื่อไป" ไอโปรทำหน้าบูดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เล่นด้วย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อบ้าง แต่เขียนไปได้ไม่นานก็ชะโงกหน้ามาหาพร้อมกับคำถาม


"เอ้อ สองคนนี้รู้จักกันมาก่อนหรอ เห็นทักว่าเจอกันอีกแล้ว"


ยังไม่ทันได้ตอบอะไร ก็ถูกแย่งตอบไปซะก่อน


"ก็ทำนองนั้น"


"ดีๆๆ แบบนี้ก็สนิทกันๆ ช่วยๆกันทำ เขียนกราฟแทนกูด้วยนะ เรื่องกราฟกูกากมาก" ว่าจบมนุษย์แว่นก็หันกลับไปเขียนชื่อต่อจนเสร็จเรียบร้อย


ไม่นานอาจารย์ก็เข้ามา พร้อมกับบอกให้เหล่านิสิตมารวมกันตรงหน้ากระดาน


มองไปรอบๆที่นั่งที่ตอนนี้มีเหล่านิสิตมารวมกันอยู่หน้ากระดาน แอบสังเกตเห็นว่ามีเพื่อนในคณะเดียวกันมาเรียนอยู่ห้องนี้ด้วย เพราะเป็นชื่อที่อยู่ท้ายๆเลยทำให้ถูกร่นมาจับกลุ่มกับคณะวิทยาศาสตร์แทน


"เอาล่ะนะคะนิสิต คงจะทราบกันดีแล้วนะ ว่าวันนี้เราจะมาเรียนเรื่องการใช้เครื่องมือวัดทางไฟฟ้ากัน ยังไงก็ตั้งใจฟังให้ดีๆกันด้วยล่ะ เพราะท้ายคาบจะมีควิซนะ..." อาจารย์เริ่มอธิบายเนื้อหาที่จะเรียนพร้อมทั้งเขียนสูตรต่างๆบนกระดานไวท์บอร์ดสีขาว


แอบเหลือบไปมองคนที่นั่งข้างๆ เห็นกำลังนั่งตั้งใจฟังพร้อมจดตามที่อาจารย์สอนเป็นระยะๆ ท่าทางดูตั้งใจเรียนมาก


พอลองสังเกตดีๆแล้ว ไม่รู้ว่ามีใครบอกแล้วหรือยังว่าขนตางอนมากจริงๆ แถมยังนิ้วมือเรียวนั่นอีก พอลองมองมาที่มือของตัวเองก็รู้สึกว่า มือขาวๆนั่นดูเล็กกว่านิดหน่อย


เหลือบดูเนื้อหาที่จดในสมุด มีทั้งข้อควรระวังและคำแนะนำต่างๆที่อาจารย์สอนเต็มไปหมดจนแอบนึกชื่นชมอยู่ในใจ...



ปึก...




จู่ๆหนังสือแลปเล่มสีเหลืองก็ฟาดลงมาที่หัวเบาๆ


"สุดหล่อตั้งใจฟังหน่อยค่ะ ถ้าทำไม่ได้ขึ้นมาอาจารย์ไม่ช่วยนะคะ"


ลูบหัวตัวเองป้อยๆก่อนจะกล่าวขอโทษอาจารย์ไป แอบเหลือบมองคนข้างๆก็เห็นอีกฝ่ายอมยิ้มขำด้วย แม้จะเพียงเล็กน้อยก็เถอะ



เป็นภาพที่แปลกตาดีเหมือนกัน




หลังจากนั้นอาจารย์ก็ปล่อยให้ทุกคนทำการทดลองด้วยตัวเอง หลายๆคนทยอยลุกกลับไปประจำที่แล้วเริ่มทำการทดลอง


"แล้วมันต้องทำอะไรก่อนวะ" โปรเกาหัว


"ตั้งค่าความต่างศักย์ก่อน" ลีโอบอกเสียงเรียบ "จากนั้นต่อวงจรแบบอนุกรม แล้วหากระแสไฟฟ้าตามจุดที่เขาให้หา แล้วก็ต่อแบบขนานแล้วทำเหมือนเดิม"


"เออ งั้นเอาสายไฟมาเลยไหม เดี๋ยวไปหยิบให้"


"ก็ดี"


"งั้นรอแปป" พูดจบไอโปรก็ลุกเดินออกไป


"ช่วยดูมัลติมิเตอร์ให้หน่อยนะ เดี๋ยวเราปรับเอง" อีกฝ่ายหันมาหา ก่อนจะเลื่อนเครื่องมัลติมิเตอร์รูปทรงสี่เหลี่ยมสีดำๆมาไว้ตรงหน้า


"อืม" พยักหน้าตอบกลับไป สายตาจดจ้องอยู่ที่เข็มและสเกลของเครื่องมัลติมิเตอร์ คอยบอกค่าความต่างศักย์จนได้ค่าที่ต้องการ


"ดูคล่องดีนะ"


"เพราะอ่านจากในหนังสือมาก่อนน่ะ" อีกฝ่ายพูดโดยที่มือยังง่วนอยู่กับการดึงสายไฟออกเพื่อรอสายไฟใหม่ที่ไอโปรกำลังไปหยิบมาให้


ขมวดคิ้วอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ แอบแปลกใจว่าหมอนี่อ่านหนังสือเล่มนั้นเข้าใจได้ยังไงในเมื่อข้างในหนังสือก็มีแต่สูตรสมการต่างๆมากกว่าเนื้อหาบรรยาย


"อ่านเข้าใจด้วยหรอ?"


"อ่านพวกวิธีทำมานิดหน่อย แล้วฟังจากอาจารย์ก็พอเข้าใจบ้าง" อีกคนตอบนิ่งๆ ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ ไอโปรก็เดินกลับมาพร้อมสายไป3-4เส้น


ระหว่างการทดลองก็มีคุยบ้างเล่นบ้าง คนที่ทำให้บรรยากาศคึกคักดูจะเป็นไอโปร


แล้วก็คงจริงอย่างที่พี่ชายตัวดีบอก ว่าลีโอดูจะตามมุกอะไรไม่ค่อยทันจริงๆ จากที่สังเกตตอนถูกเพื่อนมันแหย่ก็ดูไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ แต่ทุกคนก็ดูรักใคร่มันดี ดูจากที่มีคนแวะมาถามผลแลปไปจนถึงมาคุยเล่นเฉยๆ







การทดลองเสร็จอย่างรวดเร็ว ก่อนกำหนดเวลาสองชั่วโมง ตอนนี้ก็เลยนั่งเล่นมือถือรอเวลาควิซท้ายคาบอยู่ข้างๆ


ครืด...


โทรศัพท์มือถือสั่นครืด พอเปิดขึ้นมาก็พบว่าเป็นข้อความของพ่อที่ส่งมาในไลน์ครอบครัว


Dad : วันนี้จะกลับกับป๊ากันใช่ไหม?

Aek-Uni : อือ

Pob-Uni : กลับๆ ป๊ามีไรหรือเปล่า?

Dad : คิดว่าคงไปรับช้าหน่อยมีธุระ

Aek-Uni : ได้ ไม่มีปัญหา

Pob-Uni : รับทราบ ถึงเมื่อไหร่ป๊าไลน์มาแล้วกัน

Dad  Send you a sticker.




พอตอบไลน์ได้ไม่นาน อาจารย์ก็เรียกให้เก็บของแล้วไปนั่งรวมกันหลังห้อง


มีพี่ทีเอหลายคนเดินเข้ามาพร้อมกับตะกร้าที่ข้างในใส่ตัวต้านทานที่เอาไว้ใช้สอบเก็บคะแนน


"เอาล่ะค่ะนิสิต เดี๋ยวเราจะเริ่มทำควิซกันแล้วนะคะ เราจะแบ่งสอบเป็นรอบรอบละสิบคน ใครสอบเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย การสอบเรียงตามเลขที่นะคะ เชิญเลขที่1-10ออกมาเลยค่ะ"


นั่งมองเพื่อนๆที่มีเลขที่ลำดับต้นๆเดินออกไปจนครบสิบคน เพิ่งสังเกตว่าหนึ่งในนั้นมีลีโออยู่ในกลุ่มนั้นด้วย


สีหน้าดูนิ่งเรียบผิดกับเพื่อนผู้หญิงข้างๆที่ดูท่าทางจะกังวล ดูจากสีหน้าและคิ้วที่ขมวดกันเป็นปม


หมอนั่นตบบ่าเพื่อนผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้สีหน้าดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนอาจารย์จะเริ่มอธิบายวิธีสอบให้ทุกคนเข้าใจ


"อย่าลืมเขียนรหัสตัวต้านทานที่ได้รับด้วยนะคะ ไม่งั้นจะไม่ได้คะแนนนะ" อาจารย์เตือน เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มต้นการสอบ


มีเวลาสิบนาทีในการวัดกระแสไฟฟ้าแล้วหาค่าความต้านทาน


ใบหน้าขาวๆนั่นดูนิ่งสงบ ไม่มีอาการตื่นเต้นหรือลนลานเลยแม้แต่นิดเดียว การจับสายไฟต่อกับตัวต้านทานและมัลติมิเตอร์เองก็ดูคล่องแคล่ว แววตาที่ปกติมักจะดูไม่ค่อยออกว่ากำลังคิดอะไรกลับฉายแววตั้งใจออกมา




ดูแล้วก็คล้ายๆกับเด็กคนนั้น...





กริ๊ง...


เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาของการสอบแล้ว


ทุกคนทยอยเดินกลับมาหยิบกระเป๋าของตัวเองเตรียมกลับบ้าน


"อ้าว น้องแมวไม่กลับหรอ?" ไอโปรเดินมาหาอีกคนที่มานั่งที่โต๊ะเหมือนไม่ได้เตรียมตัวจะกลับบ้าน


"รอกลับพร้อมกัน" ลีโอตอบเรียบๆแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น


ลุกจากโต๊ะเดินไปต่อแถวเตรียมตัวสอบในรอบที่สองเป็นรอบเลขที่ของตัวเองพอดี แล้วดูเหมือนว่าไอโปรเองก็สอบรอบนี้ด้วยเหมือนกัน กับโปรตอนนี้เริ่มจะสนิทกันมากขึ้นแล้ว น่าแปลกที่ในระยะเวลายังไม่ถึงสามชั่วโมงก็คุยกันถูกคออย่างกับคนที่รู้จักกันมาหลายปี


นั่งประจำโต๊ะสอบเรียบร้อย อาจารย์ให้สัญญาณเริ่มสอบได้


การสอบดูจะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะทำเหมือนกับตอนที่ทำกันเป็นกลุ่ม ต่อสายไฟไปยังขั้วบวกขั้วลบ ต่อกับตัวจ่ายความต่างศักย์ ตั้งค่าเรียบร้อยแล้วจึงมาต่อกับตัวต้านทาน อ่านค่าแล้วกดเครื่องคิดเลขก็เป็นอันเสร็จ










"น้องแมวกูลืมไปเลยว่านัดส้มโอไว้คงไปกินไอติมด้วยไม่ได้แล้ว ขอโทษนะเว้ย..." ไอโปรยกมือไหว้ปรกๆอีกคนที่นั่งรออยู่หลังจากทำควิซเสร็จ


"..." อีกฝ่ายมองนิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา


"โกรธหรือเปล่าวะ ขอโทษจริงๆนะเว้ย" ไอโปรหน้าเสีย มันพยายามง้อเพื่อนตัวเอง "เดี๋ยวคราวหน้ากูเลี้ยงเลย อย่าโกรธน้า..."


ลีโอพยักหน้า ไอโปรถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมบอกแบบรีบๆ "ขอบคุณมากนะเว้ย ไว้เจอกันพรุ่งนี้ กูไปล่ะ"


พอเห็นว่าเพื่อนตัวเองรีบวิ่งออกไปแล้ว อีกฝ่ายก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะลุกขึ้นสะพายกระเป๋าแล้วหันมาหา


"ไปล่ะ..."


"ไปด้วย" พอได้ยินอย่างนั้น อีกฝ่ายก็หยุดรอ เลยรีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินตามไป


เดินตามอีกฝ่ายมาเรื่อยๆระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรสักประโยค มีเพียงเสียงฝีเท้าและเสียงกรอบแกรบตอนที่เหยียบใบไม้แห้งตามทางเดินเท่านั้น แต่ก็น่าแปลกที่ไม่ได้รู้สึกว่าความเงียบแบบนี้จะทำให้อึดอัด เหมือนครั้งที่อยู่ในแลปนั่นก็ด้วย


คนข้างหน้าหยุดเดิน พอมองผ่านอีกฝ่ายไปก็พบว่าตอนนี้มาหยุดยืนอยู่ที่ป้ายรถประจำทางของมหาลัย


"กลับบีทีเอสทุกวันหรอ?" ถามออกไปในระหว่างที่รอรถ เพราะแลปที่เลิกไวกว่าเวลาจริงถึงสองชั่วโมง ตอนนี้เลยมีแค่ตัวเราและอีกฝ่ายเท่านั้นที่ยืนอยู่


"อือ" อีกฝ่ายพยักหน้าตอบ


"ขอดูตารางเรียนหน่อย"


" ? " อีกคนหันมาจ้องมองด้วยความสงสัย


"ตารางเรียน" บอกย้ำอีกครั้งไป


"อยู่ในมือถือ"


"หยิบมาดูสิ" พูดเชิงสั่งไป อีกคนทำท่างงแต่ก็หยิบออกมากดหารูปตารางเรียนที่เซฟไว้แล้วยื่นให้


"ตอนเช้าเราเรียน9โมง มีวันจันทร์ที่เรียน8โมง ตอนเย็นเราเลิกพร้อมกัน4วัน ยกเว้นวันอังคารที่เราเลิก4โมงแต่นายเลิกเที่ยง" ดูตารางสอนของอีกคน แล้วบอกตารางเรียนของตัวเองกลับไปบ้าง


"แล้ว?"


"ปกติกลับคนเดียวประจำสินะ?"


"อื้อ"


"กลับบ้านพร้อมกันไหมล่ะ?"


"หะ?'







ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่ชานชาลา เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าบอกพ่อเอาไว้ว่าจะกลับด้วย โชคดีที่ยังไม่ถึงเวลาที่พ่อจะมารับ


หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก พูดด้วยเสียงที่เบากว่าปกติเพราะกลัวคนที่ยืนอยู่ข้างๆจะได้ยิน



"ป๊า จากนี้ไปเอกกลับบ้านเองนะ..."






☆彡


TBC



/กราบเบญจางคประดิษฐ์

หายไปสองอาทิตย์ได้ ขอโทษจริงๆค่ะ จู่ๆที่มหาลัยก็สั่งงานรัวๆจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ (แถมเน็ตก็มาใช้ไม่ได้อีก /ร้องไห้หนักมาก)

ช่วงนี้คงจะหายๆไปนะคะ จะสอบมิดเทอมแล้ว /ร้องไห้

ใครที่กำลังจะสอบก็สู้ๆนะคะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน... โฮลลลลล T_T
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-02-2015 21:14:18
เรื่อยๆเรียบๆแต่สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 18-02-2015 23:53:11
เรื่องนี้น่าสนุกอะ รอ :hao7:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 19-02-2015 02:15:30
ม่ะอาว   มาต่อไวๆ เราคิดถึงเด็กซึน  :z3:


หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 19-02-2015 02:22:24
 :L1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 19-02-2015 08:56:35
เด็กน้อยที่เอกเจอตอนเด็กๆต้องเป็นคนเดียวกับลีโอแน่ๆ  ฟันธง!!!!!
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 19-02-2015 15:48:37
สวัสดีตอนเย็นค่ะ

พอดีแอบมีเวลานิดหน่อย เลยย่องมาแปะตอนเสริม 3 ตอนสั้นๆค่ะ (สั้นมากจริงๆ 555)

3ตอนนี้ ตอนที่1ของเอกจะเป็นเหตุการณ์หลังจากตอนที่4ค่ะ

ส่วนของลีโอจะเป็นเหตุการณ์ก่อนเจอเอกภพในตอนที่4

ส่วนตอนสุดท้ายเป็นบทเสริมเล็กๆค่ะ

พอดีเห็นว่าคงไม่มีโอกาสได้เอาไปใส่ในเนื้อเรื่องหลัก เลยแยกออกมาไว้ต่างหากค่ะ

แต่คิดว่าคงทำให้ได้เห็นทั้งคู่ในอีกรูปแบบหนึ่งไม่มากก็น้อยนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ รักคนอ่านทุกท่านมากๆ :กอด1:






ตอนเสริม 1 เอกกับที่บ้าน


"ทำไมจู่ๆเอกจะกลับบ้านเองล่ะ ปกติป๊าเห็นเอกชอบกลับกับป๊านี่?" คำถามที่จู่ๆก็ถูกตั้งขึ้นกลางโต๊ะกินข้าว ก็จริงอยู่ที่ปกติชอบกลับกับพ่อ นอกจากจะไม่เปลืองค่ารถแล้วยังสบายอีกด้วย

แกล้งทำเป็นหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อคิดหาคำตอบดีๆมาตอบคำถามที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำแบบนั้นลงไป

"ก็...บางทีก็อยากไปไหนมาไหนคนเดียวบ้าง อีกอย่าง เอกไม่อยากให้ป๊ารอ"

"จริงเร้อ?" จักรภพพี่ชายตัวดีพูดขึ้นลอยๆ แล้วทำเป็นตักข้าวเคี้ยวตุ้ยๆ

"เดี๋ยวนี้มีแฟนหรือไงพ่อหนุ่ม" แม่แซว

"ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละน่า บางทีก็อยากแวะที่อื่นก่อนกลับบ้านบ้าง!" เผลอเสียงดังกลางโต๊ะอาหารไป ทุกคนหัวเราะลั่นทั้งยังอมยิ้มขำใส่ ขืนยังนั่งอยู่ต่อแบบนี้คงโดนซักไซร้ต่อแน่ๆ

"อ้าว เอกอิ่มแล้วหรอ เอาข้าวอีกไหมกับข้าวยังเหลืออีกเยอะเลยนะ" แม่ร้องทักเมื่อเห็นว่าผมลุกออกไปพร้อมกับจานข้าวที่กินหมดแล้ว

"ไม่ล่ะ เอกจะนอนแล้ว" พูดจบก็รีบเดินดุ่มๆออกมา

"สงสัยจะมีความรักแน่ๆเลยนะ ป๊าว่าไหม?" แม่กระซิบกับพ่อที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ป๊าก็ว่างั้น" พ่อหันไปเห็นด้วยกับแม่ ก่อนจะหันมาหาจักรภพที่นั่งกลั้นขำอยู่ "ว่าไงภพ เราน่ะรู้อะไรมา"

จักรภพหัวเราะ จริงๆก็ระแคะระคายนิดหน่อยอย่างตอนที่จู่ๆน้องชายตัวดีก็วิ่งกลับเข้าไปในรถไฟฟ้าขบวนนั้น แต่ไม่เห็นตัวคู่กรณีอีกคนเลยยังบอกอะไรไม่ได้


"เปล่าครับ ยังไม่รู้อะไรเลย ก็แค่ลองแหย่เอกดูเผื่อมันจะหลุดอะไรออกมา"






ตอนเสริม 2 เอกภพ

หน้าจอเว็บไซต์ชื่อดังแบล็คกราวน์สีน้ำเงินเข้มถูกสไลด์ไปมาเพื่ออ่านเนื้อหาภายในเว็บนั้น เพราะมาถึงมหาลัยแต่เช้าเลยยังมีเวลานั่งอ่านอะไรเรื่อยเปื่อยรอเวลาห้องแลปเปิด

เลื่อนอ่านอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเจอหัวข้อหนึ่ง



'เครื่องฉายดาวของท้องฟ้าจำลองกลับมาใช้งานได้แล้ว'



อยากไป...


นึกถึงสมัยเด็กๆที่พ่อกับแม่มักจะพาไปที่ท้องฟ้าจำลองแทบจะทุกอาทิตย์ ไปจนแม่เริ่มบ่นว่าหน้าแม่จะกลายเป็นอุกกาบาตแล้ว แต่พ่อก็ยังคงพาไปตลอด

แม้ว่าจะไปจนจำทุกซอกทุกมุมของที่นี่ได้แล้วก็ตาม ก็ยังคงรู้สึกว่าอยากไปอีก


ตอนนี้ไม่ได้มาที่นี่เกือบจะห้าปีได้แล้ว ซ้ำพอนึกอยากจะมาอีกครั้งก็ดันปิดปรับปรุงห้องฉายดาวเพื่อซ่อมแซมเครื่องฉายดาว ซึ่งเป็นดาวเด่นของท้องฟ้าจำลองเสียอีก

ถอนหายใจอย่างนึกเสียดาย เพราะวันนี้นัดกับโปรไว้ว่าจะไปกินไอติมกันที่ห้างใกล้ๆมหาลัยแล้ว คงต้องไว้วันอื่นที่มีเรียนแค่ถึงเที่ยงวันแล้วจะลองแวะเข้าไปนั่งดูดาวสักหน่อย

"น้องแมววววว!" เสียงตะโกนดังลั่นใต้ตึกคณะ หันไปทางต้นเสียงก็เห็นผู้ชายตัวโตๆกำลังวิ่งเข้ามาหา ขยับตัวเตรียมจะลุกหนี แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว

"น้องแมวหนีพี่ปูนทำไมครับ? พี่ปูนเสียใจนะ" คนตัวโตทำหน้างอใส่ ถึงจะทำหน้าแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกผิดสักเท่าไหร่หรอกนะ

'พี่เปียกปูน' เป็นลุงรหัสที่ควบตำแหน่งประธานชมรมว่ายน้ำของคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งจริงๆแล้วชมรมนี้ไม่มีประธาน พี่แกเลยสถาปนาตัวเองเป็นประธานเองซะเลย

"ไปไกลๆครับ พี่ดูเป็นภัยคุกคาม" ตอบตามความคิดที่อยู่ข้างใน โดยไม่ได้มีการกลั่นกรองออกมาก่อนพูด

"โถ เด็กน้อย นี่รุ่นพี่นะครับ นี่ลุงรหัสนะครับ" พี่ปูนชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ไอเรื่องเป็นรุ่นพี่หรือลุงรหัสนี่ก็รู้อยู่แล้วล่ะ แต่เรื่องเป็นภัยคุกคามชอบตั้งชื่อแปลกๆ ชอบยีหัวจนยุ่งไปหมด ชอบกอดรัดซะจนกระดูกแทบหักนั่นอีก ทำให้บางทีก็นึกอยากจะเปลี่ยนลุงรหัสเหลือเกิน

"ครับๆ ทราบแล้วครับ"

"เราเรียนเก้าโมงใช่ไหม?"

"อื้อ" พยักหน้าตอบไป ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงสี่สิบห้า กว่าแลปจะเปิดก็ตอนแปดโมง

"งั้นพี่ไม่กวนแล้ว พี่เรียนแปดโมง ไปเรียนก่อนล่ะ ตั้งใจเรียนด้วยนะเว้ย" พูดจบก็โดนอีกฝ่ายยีผมจนฟูแล้วเดินจากไป

"ครับๆ" ตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ มือก็ง่วนกับการลูบผมที่ชี้โด่เด่ให้กลับสู่สภาพเดิม

สายตาเหลือบไปเห็นมันฝรั่งทอดถุงสีเหลืองห่อใหญ่วางไว้ที่เก้าอี้ข้างๆตัว มือเอื้อมไปหยิบกระดาษโน้ตที่ถูกแปะติดอยู่กับถุงมันฝรั่งทอดนั่น



'เทคเว้ยยยยย'



ข้อความสั้นๆที่ถูกเขียนไว้ ทำเอาหลุดขำออกมาเบาๆ ตั้งแต่เทอมหนึ่งที่จับสายรหัส พี่แกก็มักจะแอบๆเอาขนมมาให้ตลอด ทั้งพี่ปูนลุงรหัสแล้วก็พี่รหัสที่ชื่อฟ้าใส ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แต่ก็ดูน่ารักดี

บางทีก็มีโจทย์แคลมาให้คิดเล่นเสียเฉยๆ ข้อความมักจะเขียนแปะไว้หนัาล๊อคเกอร์ใต้ตึกคณะประมาณว่า 'ถ้าแก้โจทย์ไม่ได้ก็ไม่ได้คำใบ้สถานที่ซ่อนขุมทรัพย์(ถุงขนม)' แต่โจทย์ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเด็กปีหนึ่งสักเท่าไหร่หรอก


"ไอแมวมาเช้าจังวะ" โปร เพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่วันรับน้องเดินเข้ามาหา พอก้มมองนาฬิกาถึงได้รู้ว่าตอนนี้แปดโมงตรงแล้ว

"มากินข้าวที่โรงอาหาร" ก่อนหน้าที่จะมานั่งใต้ตึกคณะก็เพิ่งไปหาอะไรใส่ท้องที่โรงอาหารข้างๆตึกเรียนมาเรียบร้อย เวลาทำแลปจะได้ไม่หิวจนแสบท้องเพราะโรคกระเพาะ

"อ๋อ" โปรพยักหน้า "งั้นขึ้นไปตากแอร์ข้างบนกันเถอะว่ะ" ลุกขึ้นเดินตามโปรไปยังลิฟต์ วันนี้เป็นวันแรกของเทอมสองสำหรับแลปฟิสิกส์ เพื่อนที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกันอีกคนหนึ่งดันลาออกไปเสียได้ ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าทางคณะจะจัดใครให้มาอยู่กลุ่มด้วย


อยากรู้ว่าสมาชิกใหม่จะเป็นใคร?




ยืนมองประกาศรายชื่อกลุ่มที่ปิดประกาศหน้าห้องแลปตาปริบๆ โปรยืนอ่านรายชื่อก่อนจะถามขึ้นมา


"เอกภพนี่ใครวะมึง?"




☆★




ตอนเสริม 3 ตั้งชื่อ

เสียงคุยจอแจนั่งจับกลุ่มกินข้าวกันในโรงอาหารข้างคณะเหมือนอย่างทุกวัน


"ทุกคน ที่บ้านเราหมาออกลูกมาสี่ตัวช่วยคิดชื่อหน่อยสิ" ปรายฟ้าพูดขึ้นพร้อมกับส่งรูปลูกหมาในโทรศัพท์มือถือให้ทุกคนดู


"ให้แมวตั้งให้สิวะปราย จะได้ได้ชื่อนอกโลก" โปรหัวเราะแล้วพยักเพยิดมาหา


"หือ?" เงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมามองทุกคนที่ส่งสายตาขำขันมาให้


"ตั้งชื่อลูกหมาให้เราหน่อยสิลีโอ เนี่ย" ปรายฟ้าพูดจบก็ส่งโทรศัพท์มือถือมาให้ รับมาดูรูปลูกหมาสีน้ำตาลสี่ตัวนอนหลับตาพริ้มดูน่ารัก


มีสี่ตัวพอดี



"ไอโอ ยูโรปา แกนีมีด คัสลิสโต"



โปรกับเพื่อนในกลุ่มที่เหลือขำลั่นโรงอาหาร ปรายฟ้าทำหน้างงจนโปรต้องอธิบาย


"ดาวพฤหัสไหมล่ะมึง" ปรายฟ้าอ้าปากร้องอ๋อก่อนจะร่วมวงหัวเราะด้วย


"ไม่ดีหรอ?" ถามไปด้วยความสงสัย ชื่อดาวบริวารของดาวพฤหัสไม่ดียังไงถึงได้หัวเราะกัน


"ไม่ใช่ไม่ดีนะแมว แต่มึงกำลังหมิ่นกาลิเลโออยู่..."


"ก็จริงนะ..."


.。o○★○o 。.

หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนเสริมเล็กๆน้อยๆ] 19/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-02-2015 17:39:36
คลั่งใคล้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนเสริมเล็กๆน้อยๆ] 19/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 19-02-2015 18:50:11
เอกภพคนซึนกะน้องแมวคนน่ารักกก
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนเสริมเล็กๆน้อยๆ] 19/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 19-02-2015 22:11:42
น้องแมวมึนดีจัง555
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนเสริมเล็กๆน้อยๆ] 19/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 20-02-2015 03:24:32
ชอบนายเอกสไตล์นี้ น่ารักซึนแต่ไม่มึน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนเสริมเล็กๆน้อยๆ] 19/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 20-02-2015 12:58:33
น่ารักดีค่ะ อ่านละได้รู้เรื่องเด็กสายวิทย์ด้วย
 :o8:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนเสริมเล็กๆน้อยๆ] 19/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 21-02-2015 12:36:05
เค้าจะกลับบ้านด้วยกันแล้ว เค้าจะมีเวลาได้อยู่ด้วยก้นเยอะๆ  :mew1:  เอกเห็นเฉยๆ แหมรุกเลยเหรอจ๊ะ  :hao6:  จิตวิญญาณของเลโอลอยอยู่ในกาแล็คซี่ใหนจ๊ะ เพื่อนบอก วอหนึ่งเรียกวอสอง เลโอกลับโลกมนุษย์ด่วน  :call:  :m20:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนเสริมเล็กๆน้อยๆ] 19/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 22-02-2015 00:27:07
'ดาวหาง'

วัตถุในอวกาศที่เปรียบเสมือนกล่องเก็บความลับของเรื่องราวต่างๆในระบบสุริยะไว้

ส่วนประกอบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นฝุ่น แก๊ส น้ำแข็งและเศษหินล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มนุษย์อยากรู้อยากเห็นและนำมาเป็นข้อมูลในการศึกษาระบบสุริยะต่อไป

มนุษย์ที่สุดแสนจะขี้สงสัยเลยพยายามอยากจะเปิดกล่องเก็บความลับนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น


ว่าข้างในมันคืออะไร...


'โครงการดีพอิมแพค'

เป็นหนึ่งในความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์

นาซ่าได้ส่งยานดีพอิมแพคเข้าชนนิวเคลียสของดาวหางเทมเปิล-วัน เพื่อศึกษาองค์ประกอบของดาวหาง และรวบรวมข้อมูล

เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของระบบสุริยะต่อไป...




ตอนที่ 5




ณ โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์สถานที่ที่เมื่อถึงเวลาเที่ยงวันแล้วจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่มากินข้าวกันที่นี่

วันนี้ก็เหมือนกับทุกวัน นั่งโต๊ะประจำที่เดิม แต่ที่ไม่ค่อยเหมือนเดิมก็ดูจะเป็นการเดินทางในตอนเช้าและตอนเย็น

เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ได้แล้วที่กลับบ้านพร้อมกับมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอที่ชื่อว่าลีโอ แต่ถึงจะได้กลับพร้อมกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้คุยกันหรือสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมเสียหน่อย แถมยิ่งได้กลับพร้อมกัน ความสงสัยมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว


"พวกมึงจำเรื่องเด็กคนนั้นที่กูเคยเล่าให้ฟังได้ไหม?" เปิดประเด็นสนทนาแรกของมื้อเที่ยงด้วยเรื่องที่ยังติดค้างในใจมาหลายปี แซนกับเติ้ลละสายตาจากจานข้าวเปลี่ยนมามองด้วยความสงสัย ก่อนจะพยักหน้ากันทั้งคู่


"จำได้ดิ ทำไมวะ? หรือมึงเจอเขาแล้ว?" เติ้ลถามขึ้น เพราะปกติเรื่องของเด็กคนนี้ไม่ค่อยเป็นหัวข้อในบทสนทนาสักเท่าไหร่ อีกทั้งตัวเราเองก็ไม่ค่อยได้เล่าอะไรด้วย


"ก็ไม่เชิง กูแค่คิดว่าลีโอคือเด็กคนนั้น"


"หะ!?" แซนร้องขึ้น ตอนแรกก็นั่งรอฟังเงียบๆ แต่พอได้ยินชื่อบุคคลที่สามขึ้นมา มันถึงกับต้องวางช้อนส้อมมาตั้งใจฟังดีๆ


"ทำไมถึงคิดว่าเป็นลีโอล่ะวะ?" เติ้ลขมวดคิ้ว


"กูลองกลับบ้านกับเขามาอาทิตย์นึงแล้ว..."


"เดี๋ยวนะ? กลับบ้าน!!! กรี๊ดดด เพื่อนเอกรุกแล้ว!!" ยังไม่ทันได้อธิบายต่อก็ถูกไอแซนขัดขึ้นเสียก่อน ไอเติ้ลเลยตบหัวมันไปทีเพื่อให้เงียบแล้วกลับมาสนใจเรื่องที่กำลังจะพูดต่อ


"แล้วไงต่อวะ?"


"กูว่าใช่ เขาชอบเล่นมือถือบนรถไฟฟ้า กูก็เลยแอบดูว่าเขาทำอะไรนักหนาเอาแต่กดมือถือ" นั่งนึกไปถึงช่วงเช้ากับช่วงเย็นของหลายวันที่ผ่านมา ถ้าหมอนั่นไม่หลับก็นั่งเล่นมือถือ เป็นภาพที่เจอแทบทุกวัน ถึงจะรู้ว่าการแอบดูมันเสียมารยาทก็เถอะ แต่เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยากรู้อยากเห็นเสมอ มันก็เลยอดไม่ได้ที่จะแอบดู


"แล้วเขาดูอะไรวะ"


"หึ..." แค่นหัวเราะอย่างนึกขำ "เว็บดาราศาสตร์ที่พ่อกูชอบเข้า"


"ใครๆก็เข้าได้หรือเปล่าวะมึง เขาอาจจะบังเอิญไปเจอเรื่องน่าสนใจเลยกดดูหรือเปล่า?"


"ตอนแรกกูก็คิดแบบมึงนะ แต่เขาเข้าทุกวันเลยว่ะ มันจะมีสักกี่คนที่เข้าทุกวันวะ"


"ชิบ... งั้นก็ใช่แล้วมั้ง ลางสังหรณ์มึงไม่เคยพลาดนี่ ขนาดมึงเดาข้อสอบ5ข้อยังถูก3ข้อเลย..." ก็จริงอย่างที่ไอเติ้ลพูด นึกแล้วก็ขำตัวเอง สมัยอยู่มอปลายก็โดนเรียกว่าพวกดวงดีอยู่บ่อยๆ แต่ก็ใช่ว่าจะเดาถูกทุกครั้งไปนี่นะ...


"งั้นมึงก็ลองถามเขาไปตรงๆเลยดิ" ไอเติ้ลยุ แซนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆก็พยักหน้าเห็นด้วย


"กูกลัวหน้าแตก" ความทรงจำในวัยเด็กที่เผลอไปตบหัวทักทายใครสักคนที่นึกว่าเป็นไอเติ้ลแต่พอเขาหันมากลับเป็นรุ่นพี่ลอยขึ้นมาในหัว ทุกวันนี้ยังรู้สึกผิดไม่หาย


"กลัวอะไรนักหนา แค่ถามเองมึง"


"ใช่" แซนพยักหน้าเห็นด้วย "มันคาใจเพื่อนเอกอยู่ไม่ใช่หรือไง ถามไปเลยสิจะได้ไม่มีอะไรค้างคา"


"เป็นครั้งแรกที่กูเห็นด้วยกับแซนว่ะ" ไอเติ้ลพยักหน้าเห็นด้วย


"แต่ว่านะเพื่อนเอก แซนดี้คนนี้แนะนำว่าให้เพื่อนเอกเอาแผนที่ดาวอะไรนั่นไปด้วยก็ดีนะ มีแค่คำพูดบางทีคนเขาก็นึกไม่ออกเท่าเห็นภาพหรอกนะ"


"ขอบใจนะพวกมึง"


"แล้วถ้าเกิดคุณชายลีโอคือเด็กน้อยน่ารักของเพื่อนเอกเมื่อตอนนั้นขึ้นมา เพื่อนเอกอย่าลืมขอเขาเป็นแฟนเลยนะ"




"กูขอถอนคำขอบคุณก่อนหน้านี้"











ถึงจะบอกให้ไปถามตรงๆเลยก็เถอะ แต่ไอความกล้านี่มันไม่ค่อยจะมีเลยเนี่ยสิ



ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่ชานชาลา แอบลอบมองดูอีกฝ่ายที่ยังคงกดมือถือเล่นเหมือนเช่นทุกวัน


"สังคมก้มหน้า..." จู่ๆก็ดันเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมาลอยๆ



ว่าไปนั่น จริงๆก็ทำเหมือนกันนั่นแหละ



เพราะไม่รู้ว่าจะคุยอะไรสุดท้ายก็ก้มหน้าเล่นมือถือไม่ก็อ่านหนังสือ แต่อย่างสุดท้ายมักจะเป็นตอนช่วงใกล้สอบมากกว่า



แต่จะว่าไป พูดแบบนี้อย่างกับว่าเราเองกำลังเรียกร้องความสนใจอยู่เลยแฮะ...




คนข้างๆดูเหมือนจะนิ่งไปสักพักหนึ่งก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง พอดีกับที่รถไฟฟ้าจอดเทียบชานชาลาพอดี

รถไฟฟ้าก็ยังคงแน่นเป็นปลากระป๋องเหมือนเช่นทุกวัน ซ้ำร้ายกว่านั้นคือมีคนที่จะเปลี่ยนขบวนรถวิ่งเข้ามาเพิ่มอีก ตอนนี้ทุกพื้นที่ในตัวรถจึงอัดแน่นไปด้วยเหล่าผู้คน



ใกล้เกินไปหน่อยแล้วมั้ง



ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อมือจับราวรถไฟฟ้าแน่น ภาวนาให้รถไฟฟ้าที่เริ่มออกตัวตอนนี้เร็วเท่ารถไฟชินคันเซ็น หรือถ้าไม่เร็วก็ขอให้คนลงจากรถไปเยอะๆ

อีกคนที่ยืนเบียดอยู่ใกล้ๆกันยืนนิ่ง สีหน้าไม่ได้ทุกร้อนอะไร คงมีแต่เราที่รู้สึกว่ามันไม่โอเคสินะ

ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ต้องเบียดกันแบบนี้ แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกไม่ดีเลย



หัวใจที่เต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแบบนี้




ไม่ดีเลยจริงๆ











ในที่สุดรถไฟฟ้าก็มีพื้นที่เพิ่มขึ้น และเหลือพอที่จะนั่ง สะกิดอีกฝ่ายไปที่ที่นั่งว่างสองที่นั้นก่อนจะเดินนำไปนั่งลง

ถอนหายใจอย่างโล่งอก ระยะอันตรายก่อนหน้านี้นี่มันน่ากลัวจริงๆ

หยิบมือถือออกมาเช็คโน่นเช็คนี่ในโลกโซเชี่ยลนิดหน่อย เฟสบุ๊คช่วงนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรน่าสนใจสักเท่าไหร่ เลยกดปิดไปแล้วเปิดอินสตราแกรมที่ไม่ได้เข้ามาอาทิตย์กว่าแทน



Leonids started following you.
10d



หืม?


หะ?


หะ?



หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่ตอนนี้นั่งหลับในท่ากอดอกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายจะfollowกลับมา คงเป็นเพราะรู้จักกันล่ะมั้ง?



แต่ที่กดfollowมามันก็ตั้งแต่สิบวันที่แล้ว...



ตั้งแต่วันที่กดfollowไปเลยนี่หว่า...



!

จู่ๆก็รู้สึกถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาตรงช่วงไหล่และต้นแขน ดูเหมือนรถไฟฟ้าขบวนนี้จะแกว่งไปมาเสียเหลือเกินคนข้างๆถึงได้เอนตัวลงมาพิงแขนเสียได้

อยากจะให้นั่งหลับดีๆอยู่หรอก แต่มือที่กำลังยกขึ้นกะว่าจะดันอีกคนออกก็เป็นอันต้องกลับไปวางอยู่ที่ตักเหมือนเดิม



มีใครเคยบอกไหม?



ว่าหน้าตอนหลับของหมอนี่



เหมือนแมวเลย










หลังจากผ่านวันระยะอันตรายมาได้ในวันนั้น ทุกอย่างก็ดูจะเป็นปกติดี แต่ที่ไม่ปกติเท่าไหร่คือในหัวตอนนี้มีหลายความคิดตีกันวุ่นวายไปหมด

นั่งปวดหัวคิดเรื่องเด็กผู้ชายคนนั้นกับลีโอมาได้สองสามวันแล้ว ถึงจะรับปากแซนกับเติ้ลไปเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะลองถามดู แถมแผนที่ดาวนั่นก็พกติดกระเป๋ามามหาลัยด้วยทุกวัน แต่พอเห็นหน้าอีกฝ่ายแล้วคำพูดทุกอย่างก็ดูจะถูกดูดกลืนหายไปในลำคอหมด



ว้ยยย... ทำอย่างกับสาวน้อยวัยแรกแย้มกำลังจะสารภาพรักกับเพื่อนร่วมห้อง!



แค่จะคืนของ! ท่องไว้ไอเอก!



แค่คืนของ!!




นั่งรออีกฝ่ายเลิกเรียนอยู่ใต้ตึกคณะวิทยาศาสตร์  วันนี้โดดเรียนฟิสองอย่างจงใจเพราะปวดหัวกับเรื่องนี้ รู้สึกไม่มีสมาธิกับการเรียนเลย


ก็แค่ข้ออ้าง...


จริงๆแล้วเพราะขี้เกียจเข้าต่างหาก


ก็แค่พาล เลยโยนความผิดให้คนในความคิดตอนนี้เสียให้หมด


นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ




นั่งรอเวลาร่วมหนึ่งชั่วโมง โทรศัพท์มือถือก็สั่นครืด เป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่เป็นต้นเหตุให้มานั่งหัวเสียอยู่ตอนนี้


Leonids : เลิกเรียนแล้ว ให้รอที่เดิมหรือเปล่า?

Aek-Uni : ไม่ต้องๆ อยู่ใต้คณะตรงตารางธาตุ

Leonids : เดี๋ยวลงไปหา


เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันเช้าเย็นไปแล้ว ในไลน์ก็คุยกันไม่กี่ประโยค แถมยังเป็นประโยครูปแบบเดิมๆ เช่น 'เลิกเรียนแล้ว' 'อยู่ไหน?' 'รอที่เดิมใช่ไหม?'

ก็เคยมีความคิดว่าอยากจะลองส่งข้อความคุยเล่นไปเหมือนกัน แต่พอมานั่งนึกอีกทีก็กดลบข้อความที่พิมพ์ไว้ออกหมดไม่คุยดีกว่า


ไม่เคยรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้เลยจริงๆ



"รอนานไหม?" เสียงเรียกของคู่กรณีทำให้ตื่นจากภวังค์ความฟุ้งซ่าน หันไปก็เจออีกฝ่ายยืนอยู่ข้างๆ


ลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเตรียมจะเดินไปขึ้นรถประจำทางของมหาลัยอย่างที่ทำเป็นประจำตลอดหนึ่งอาทิตย์นี้


"คือว่า..." เสียงเรียกของอีกคนทำให้ต้องหันไปมองเลิกคิ้วด้วยความสงสัย "วันนี้เราลงเอกมัยนะ..."


"มีธุระหรอ?"


"เปล่าหรอก" ลีโอส่ายหน้า "แค่อยากแวะดูดาว"


"ท้องฟ้าจำลอง?" อีกฝ่ายพยักหน้า ได้ยินแบบนี้ความรู้สึกที่ว่า 'ใช่แน่ๆ' ก็ยิ่งผุดขึ้นมา


"งั้นไปด้วย"


"รบกวนหรือเปล่า? เราไปดูคนเดียวได้นะ" คิ้วอีกคนขมวดกันนิดหน่อย ไอสีหน้าแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?


"ถ้าไปด้วยคงอึดอัดสินะ?" ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกชาที่ปลายนิ้วทั้งสิบนิ้วขึ้นมาแปลกๆ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ขาดวิตามินบีเสียหน่อย


ลีโอส่ายหน้าเป็นการใหญ่ "ไม่ได้อึดอัดสักหน่อย แค่กลัวว่าถ้าเอกไปด้วยจะรู้สึกเบื่อน่ะ" แต่ก่อนก็เคยคิดแบบนั้นอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่ไดิคิดแบบนั้นแล้วสักหน่อย...


"ไม่เบื่อหรอกน่า ไปได้แล้ว ดาวมันฉายรอบบ่ายสองไม่ใช่หรอ?"


"รู้ได้ไงน่ะ?"


"เคยไปดูมาแล้ว"









ใช้เวลาไม่นานก็มายืนอยู่หน้าห้องขายตั๋ว มองสำรวจไปรอบๆตลอดทางที่เดินเข้ามาบรรยากาศโดยรอบดูเหมือนจะเปลี่ยนไปจากสมัยเด็กนิดหน่อย

หลังจากที่ได้เจอเด็กคนนั้น ตัวเราเองก็เอาแต่ขอให้พ่อพาไปทริปดูดาวที่จัดขึ้นตามปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่สำคัญต่างๆ แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้งที่ไป เพราะเด็กคนนั้นไม่เคยมาอีกเลย จนขึ้นม.5ถึงได้ถอดใจกับเรื่องนี้แล้วหันมาตั้งใจเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยแทน เรียกได้ว่าช่วงนั้นไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากโรงเรียนกับกวดวิชา


ตั๋วถูกอีกฝ่ายยื่นมาให้ รับมาก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกระเป๋าเงินออกมา แต่ก็ถูกห้ามไว้พร้อมกับคำพูดที่ว่า "เราเลี้ยงเอง"

พยักหน้าเข้าใจแล้วเก็บกระเป๋าเงินเข้ากระเป๋ากางเกงไปตามเดิม ยกมือข้างที่สวมนาฬิกาขึ้นดูเวลาก็พบว่ายังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง



จะถามเรื่องนั้นดีไหมนะ?




"ลีโอ..." เรียกอีกฝ่ายที่ตอนนี้มานั่งเก้าอี้หน้าห้องจัดแสดงภาพฉายดาว


ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาที่ทุกคนง่วนกับการทำงาน ส่วนเด็กๆก็ต้องเรียนหนังสือ


"หืม?" อีกฝ่ายหันมาตามเสียงเรียก สูดหายใจลึกๆเรียกความกล้าให้กับตัวเอง


เปิดกระเป๋าแล้วหยิบเอาแผนที่ดาวสีน้ำเงินที่สภาพดูจะเก่าลงเล็กน้อยเพราะอายุของมันดูจะราวๆ4-5ปีได้แล้ว


อีกฝ่ายก้มมองสิ่งที่อยู่ในมือ นัยน์ตาที่ปกติมักจะมองไม่ออกว่ากำลังรู้สึกนึกคิดอะไรอยู่ตอนนี้กลับกำลังสั่นระริก




"ของนายหรือเปล่า?"






ความรู้สึกตอนนี้


อย่างกับตัวเองกำลังเป็นยานดีพอิมแพค


ที่กำลังเข้าพุ่งชนดาวหางเทมเปิล-วัน


เลยแฮะ...





☆・゚



TBC




กราบสวัสดีทุกท่านค่ะ ทำไมยิ่งใกล้สอบยิ่งอยากอัพก็ไม่รู้5555

แอบตกใจที่คอมเม้นต์เยอะขึ้น ขอบคุณมากเลยนะคะ /กอด

เราเองเขียนแล้วก็ชอบลีโอมากกว่าเอกภพอีกค่ะ /โดนเอกภพกระโดดถีบ/  :z6:

ตอนนี้ที่เอาเรื่องโครงการดีพอิมแพคมาเขียนนิดนึง เพราะเรารู้สึกว่าการที่เอกภพพุ่งเข้าไปถามเพราะความสงสัยนี่มันอย่างกับตอนที่ยานดีพอิมแพคพุ่งชนดาวหางเทมเปิล-วันมากเลยค่ะ แบบว่าภาพมันลอยมาขึ้นมาด้วย

แล้วลีโอก็จะมีฝุ่นผงกระจายรอบตัวเพราะถูกชน /ไม่ใช่/

หลังจากนี้เนื้อเรื่องก็ดูจะมีแก่นสารมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ 555 /ดีใจมากรู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้อยู่นอกกาแล็กซี่ทางช้างเผือกมานาน

ยังไงก็ ขอบคุณทุกท่านจริงๆนะคะ รักคนอ่านมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 22-02-2015 01:22:22
รีบมาต่อด่วนน้ารอคำตอบของลีโอว่าใช่หรือเปล่า :ling1:

คนเขียนชอบเรื่องดวงดาวใช่มั้ยคะถึงเขียนเรื่องดาว  :L2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-02-2015 01:53:11
คนเขียนคะ เราค้างงงง

มาต่อเร็วๆนะคะ รักค่ะ จุ๊บๆ :L2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 22-02-2015 03:37:49
เรื่อง Indie มากๆ น่ารักด้วย
ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ เรื่องไม่แนว Mainstream อาจมีคนมาเม้นท์น้อยหน่อย แต่มีคนรออ่านอย่างใจจดใจจ่อแน่นอนครับ เรื่องคุณภาพอย่างนี้
แต่ก่อน ชอบเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่เน้นดูดาว ไปแนวอ่านพวก stephen hawking เทือกนั้น ฟุ้งซ่านดีครับ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 22-02-2015 09:06:17
 :z13:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-02-2015 09:38:48
ลุ้นครับๆๆ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 22-02-2015 13:58:56
รอตอนต่อไปค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ลุ้นๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 23-02-2015 19:28:13
ลีโอจะจำได้ใหมนะ โอยยลุ้น .. 
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-02-2015 19:52:37
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 23-02-2015 21:10:28
มาตามด้วยครับ รู้สึกชอบลีโอขึ้นมาเบาๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 23-02-2015 22:29:16
ถ้าลีโอบอกไม่ใช่จะเป็นไงหนอ??
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 24-02-2015 20:55:05
ขออภัยด้วยที่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้ตอบคอมเม้นต์เลย จากนี้ไปจะตอบทุกคอมเม้นต์นะคะ >_<

รีบมาต่อด่วนน้ารอคำตอบของลีโอว่าใช่หรือเปล่า :ling1:

คนเขียนชอบเรื่องดวงดาวใช่มั้ยคะถึงเขียนเรื่องดาว  :L2:


มาต่อแล้วนะคะ >_<

ใช่แล้วค่ะ คนเขียนชอบเรื่องดวงดาวเป็นพิเศษค่ะ  :mew3:


คนเขียนคะ เราค้างงงง

มาต่อเร็วๆนะคะ รักค่ะ จุ๊บๆ :L2:

มาแล้วนะคะะะะ >_< จุ๊บๆค่ะ


เรื่อง Indie มากๆ น่ารักด้วย
ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ เรื่องไม่แนว Mainstream อาจมีคนมาเม้นท์น้อยหน่อย แต่มีคนรออ่านอย่างใจจดใจจ่อแน่นอนครับ เรื่องคุณภาพอย่างนี้
แต่ก่อน ชอบเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่เน้นดูดาว ไปแนวอ่านพวก stephen hawking เทือกนั้น ฟุ้งซ่านดีครับ

ขอบคุณมากจริงๆค่ะ เราเองก็คิดว่าคงไม่ค่อยมีอ่านแนวนี้เท่าไหร่ แต่ดีใจมากเลยค่ะที่มีคนอ่าน >_<

เราเองก็ชอบอ่านงานของคุณสตีเฟน ฮอว์คิงเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะเรื่องหลุมดำ >w<


:z13:

/โดนจิ้มจึ๊กๆ

ลุ้นครับๆๆ

 :impress2:


มาต่อให้ลุ้นแล้วนะคะ  :mew3:

รอตอนต่อไปค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ลุ้นๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณที่รอนะคะ มาต่อแล้วค่าาาา >_<

ลีโอจะจำได้ใหมนะ โอยยลุ้น ..

นั่นสินะ จะจำได้ไหมน้า  :mew3:

ตื่นเต้นๆ

มาต่อให้หายตื่นเต้นแล้วนะคะ 555


มาตามด้วยครับ รู้สึกชอบลีโอขึ้นมาเบาๆ

เราเองก็ชอบลีโอเหมือนกันค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามมากๆเลยนะคะ :กอด1:

ถ้าลีโอบอกไม่ใช่จะเป็นไงหนอ??

เอกภพก็จะหน้าแตกค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 24-02-2015 20:57:13
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ กลุ่มดาวสิงโต

ในรุ่งเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 13 พฤศจิกายน ปีค.ศ.1833  ทางตะวันออกของอเมริกาเหนือ

ผู้คนที่กำลังหลับใหลถูกปลุกให้ตื่นขึ้นท่ามกลางความแตกตื่น ฝนดาวตกนับหมื่นดวงพาดผ่านท้องฟ้าในเวลานั้นจนเกือบเป็นสีขาวโพลนไปทั่วทั้งท้องฟ้า

เหล่าผู้คนในเวลานั้นต่างพากันคิดว่าวันสิ้นโลกได้มาถึงแล้ว

แต่ในความเป็นจริงแล้ว วันที่ 13 พฤศจิกายนนั้น


กลับเป็นจุดเริ่มต้น



ของวิทยาการทางดาราศาสตร์สมัยใหม่...



ตอนที่ 6



'ลีโอนีดส์' เป็นชื่อที่พ่อตั้งให้เป็นชื่อเล่น แต่ไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อเล่นเต็มๆนี้สักเท่าไหร่

เป็นชื่อพายุฝนดาวตกที่ปรากฏในกลุ่มดาวสิงโต เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เพราะเกิดวันนี้เลยได้ชื่อนี้มาเป็นชื่อเล่น

พ่อบอกว่าจากที่อ่านในหนังสือ ท้องฟ้าในวันนั้นมีฝนดาวตกนับหมื่นดวงจนท้องฟ้าขาวโพลนเต็มไปหมด


"อยากจะเห็นของจริงจังเลยนะ" พ่อหัวเราะเบาๆ


"ต้องขาวแบบลีโอแน่ๆ"


"แต่เราน่ะ พ่อก็กังวลนะว่าขาวเกินไปหรือเปล่า พาออกไปข้างนอกก็แล้วไปว่ายน้ำก็แล้ว ไม่ดำขึ้นเลย ได้แต่ผิวแดงๆมาแทนทุกที" พ่อยิ้ม ใบหน้าของพ่อมักจะแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มเสมอ พ่อเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง ต่างจากตัวเรา ที่แค่ยิ้มก็ยังทำได้ยากเรื่องพูดคุยกับคนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง


"ส่วนที่ชื่อจักรวาล ก็เพราะว่าพ่อรักลีโอเท่าจักรวาลเลยไง! รู้ไหม?" พูดจบก็ถูกสวมกอด มือใหญ่ๆของพ่อมักอุ่นเสมอ...


อุ่นจนไม่อยากปล่อยไปเลย...







"ดูสิ! พ่อซื้ออะไรมา?" หันไปมองผ้าคลุมสีขาวที่คลุมทับวัตถุบางอย่าง

ดวงตาเบิกกว้างเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ใต้ผ้าคลุมนั้น

"แคสสิเกน..."

"ใช่แล้ว พ่อรู้นะว่าลีโออยากได้เลยไปถอยมาจากสมาคมเลยนะ ฮะฮะ"

เอื้อมมือไปลูบกล้องดูดาวแบบผสมรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งออกวางขายได้ไม่กี่เดือน ไม่คิดไม่ฝันว่าสิ่งที่อยากได้จะมาอยู่ตรงหน้า

"แต่ก่อนจะใช้เครื่องนั้น เราต้องมาเริ่มตั้งแต่พื้นฐานกันก่อนนะ" แผ่นพลาสติกสีน้ำเงินถูกยื่นมาตรงหน้า


มันคือ 'แผนที่ดาว'










ขอเชิญร่วมงาน 「นอนนับดาว เฝ้าชมฝนดาวตกลีโอนีดส์」ที่จังหวัดสระบุรี


นั่งดูใบโปสเตอร์เชิญชวนเฝ้าดูฝนดาวตกลีโอนีดส์ที่จะมาเป็นประจำในช่วงเดือนพฤศจิกายนเงียบๆ มือก็เลื่อนเม้าส์คลิกอ่านรายละเอียดต่างๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีโอกาสได้ไปงานแบบนี้ แต่นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นฝนดาวตกที่เป็นที่มาของชื่อเล่นของตัวเอง


"ลีโออยากไปหรอ?" สะดุ้งนิดหน่อยที่จู่ๆพ่อก็มายืนยิ้มอยู่ด้านหลัง

นิ่งไปพักใหญ่ๆว่า ควรจะบอกไหมว่าอยากไป แต่ก็กลัวว่าถ้าบอกว่าอยากไปพ่อคงจะไม่ว่าง


"ไม่ตอบแปลว่าไม่อยากไปสินะ..." พ่อพูดแหย่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ จนจำต้องรีบพยักหน้าหลายครั้งเพื่อบอกว่าอยากไป

"แต่พ่อต้องทำงาน..." พูดความกังวลในใจออกไป ไม่อยากให้ต้องเสียงานเพราะเด็กอย่างตัวเราสักเท่าไหร่ ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำกันทั้งนั้น

"หืม...? วันนั้นน่าจะแลกกะได้นะไม่ต้องห่วงหรอก" พ่อพูดยิ้มๆ เพราะงานที่ทำอยู่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน การที่จู่ๆจะมาลางานนั้นเป็นไปไม่ได้เลย นอกเสียจากว่าจะแลกกะกับเพื่อนที่ทำงาน

"จริงๆนะ" ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความดีใจ พอเห็นพ่อพยักหน้าแทนคำตอบทั้งหมด รอยยิ้มน้อยๆที่หาได้ยากยิ่งก็เผยออกมาบนใบหน้าขาว


"พ่อต้องไปด้วยนะ"


"ครับๆ ไปครับ"


"ห้ามผิดสัญญานะ สัญญาแล้วนะ"


"ครับผม สัญญาแล้วเนี่ยเกี่ยวก้อยๆ"




พ่อไม่เคยผิดสัญญาเลยสักครั้ง


แต่นี่คงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว


ที่ไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้


กับเราได้...










นั่งกอดกระเป๋าเป้รออยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ในบ้าน ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่แม่นัดกับพ่อไว้ว่าจะไปดูดาวพร้อมกันสามคนแล้ว แต่จนถึงตอนนี้พ่อก็ยังไม่มา

"ค่ะ... ไม่ทราบว่ามาถึงฝั่งหรือยังคะ?" เสียงแม่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานของพ่อ ท่าทางดูร้อนใจ

"จะมาช้ากว่ากำหนดเพราะเครื่องมีปัญหาสินะคะ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ถ้ายังไงช่วยแจ้งให้ทราบด้วยนะคะ" โทรศัพท์ถูกวางสายไปก่อนที่แม่จะเดินตรงมาหา ย่อตัวลงตรงหน้าแล้วลูบผมเบาๆ

"ลีโอจ๊ะ เดี๋ยวเราจะไปกันก่อน แล้วคุณพ่อจะตามมาทีหลังนะ" พยักหน้าตอบรับไปก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กของตัวเอง เอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายแล้วเดินตรงไปขึ้นรถยนต์สีขาวของแม่







มาจนถึงที่นัดหมายกันกับทางสมาคม แม่ดูร้อนใจและคอยโทรศัพท์เป็นระยะ ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อกำลังติดงานอะไร ถึงได้ยังไม่มาสักที

สุดท้ายแม่ก็พาขึ้นมานั่งบนรถบัสปรับอากาศคันใหญ่ ตลอดทางก็ได้แต่นั่งเงียบ เหลือบมองแม่ที่กำมือถือไว้ในมือแน่นท่าทางดูเป็นกังวล


มาจนถึงจังหวัดสระบุรี ร่วมทำกิจกรรมต่างๆจนเขาปล่อยให้แยกตัวออกมาถึงได้หยิบแผนที่ดาวมานั่งดูคนเดียว จู่ๆก็มีเด็กผู้ชายที่เจอเมื่อตอนอยู่บนรถบัสมานั่งด้วย

เพิ่งสังเกตว่าหน้าตาดูจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ถึงจะพูดจาดูห้วนๆ แต่ก็ดูไม่ได้นิสัยไม่ดีอะไร ท่าทางจะเพิ่งมาครั้งแรกเลยยังไม่รู้จักแผนที่ดาว

ยื่นให้อีกฝ่ายลองใช้ดู พูดคุยกันได้ไม่นานพี่วิทยากรก็เรียกให้ไปดูดาวพฤหัสเพราะตอนนี้กลุ่มดาวสิงโตยังไม่โผล่พ้นเส้นขอบฟ้า เลยยังดูฝนดาวตกไม่ได้


กำลังรออีกคนที่จ้องมองภาพของดาวพฤหัสผ่านทางกล้องโทรทัศน์ได้ไม่นานก็ถูกแม่ดึงตัวออกมา สีหน้าดูร้อนรนและตื่นตกใจมาก


มีพี่วิทยากรคนหนึ่งอาสาขับรถให้ นั่งในรถมองหน้าแม่ด้วยความไม่เข้าใจ อยากจะถามแต่ไม่กล้า ได้แต่กุมมือและคอยบีบกลับเบาๆปลอบใจไปตลอดทาง















"ของนายหรือเปล่า?"


คำถามที่จู่ๆก็ถูกถามขึ้นจากคนตรงหน้าพร้อมกับแผ่นพลาสติกสีน้ำเงินที่หายไปร่วม5ปี

ภาวนาให้ไม่ใช่อย่างที่คิด รับแผ่นพลาสติกสีน้ำเงินนั่นมาก่อนจะเปิดอ้าตรงส่วนที่ถูกปิดไว้เพื่อใส่แผ่นพลาสติกเวกเตอร์ดาวไว้ข้างในสำหรับให้หมุนได้ออก


'ด.ช.จักรวาล' ตัวอักษรที่ถูกบรรจงเขียนออกมาราวกับประกวดคัดลายมือภาษาไทยเด่นหลาอยู่ข้างใน

เจ้าสิ่งที่หายไปเพราะลืมไว้กับเด็กคนนั้นที่ลานดูดาวในวันที่ต้องรีบกลับทันทีที่แม่ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ที่ทำงานของพ่อ


พอนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ภาพเบื้องหน้าของเพื่อนที่ชื่อเอกภพก็พลันพร่ามัวขึ้นมาเสียดื้อๆ


ก้มหน้าลงปล่อยให้น้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจนบดบังทัศนวิสัยในดวงตาหยดลงบนแผ่นพลาสติกสีน้ำเงินนั่นหยดแล้วหยดเล่า



ภาพประตูห้องICUและเสียงแม่ที่ร้องไห้ยังคงดังระงมอยู่ในหัว


ไม่เคยต้องเห็นใครในบ้านร้องไห้มาก่อน


ไม่คิดเลย ว่าทุกคนที่มีแต่รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอนั้น

เวลาร้องไห้แล้ว จะดูเจ็บปวดทรมานได้มากขนาดนี้




ความรู้สึกผิดมากมายที่เก็บไว้ในใจระเบิดออกมาราวกับซุปเปอร์โนวา


รู้ว่าไม่ใช่ความผิดของคนตรงหน้าสักนิดที่ทำให้นึกถึงเรื่องในวันนั้น แต่ตอนนี้กลับรู้สึกกลั้นมันไว้ในใจไม่ไหวอีกแล้ว


เอกภพมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าตกใจ และไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะทำอย่างไร ท่าทางของอีกฝ่ายตอนนี้ราวกับคนที่กำลังรำคาญมือไม้ของตัวเองที่ไม่รู้ว่าควรจะวางไว้ที่ส่วนไหนของร่างกาย



จู่ๆก็ถูกคนตรงหน้าดึงเข้าไปในอ้อมกอดอุ่นๆที่คล้ายกับอ้อมกอดที่ไม่ได้สัมผัสมานาน มือที่กำลังลูบหลังปลอบนั้นยิ่งทำให้น้ำตาพรั่งพรูออกมามากกว่าเก่า แต่น่าแปลกที่มันกลับทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าเดิม


สวมกอดอีกฝ่ายแน่นอย่างคนที่โหยหาอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น เพราะขาดแคลนมันมานาน ตอนนี้เลยอยากจะจดจำสิ่งที่คล้ายกันกับเมื่อก่อนนี้ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้



ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา มีแค่เพียงอ้อมกอดอุ่นๆ และ หยาดฝนของหยดน้ำตา



ราวกับท้องฟ้า



ในวันที่13พฤศจิกายน ปี1833





゚・☆


TBC

สวัสดีค่ะ ตอนแรกเราว่าจะเอามาต่อตอนหลังสอบเสร็จ

แต่พอมาคิดอีกทีไม่อยากให้ทุกคนค้างคาค่ะ ก็เลยเอามาแปะเลยดีกว่า

ตอนหน้ามาหลังจากเราสอบเสร็จนะคะ (ประมาณอาทิตย์ที่สองของเดือนมีนาค่ะ)

ปล. นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่แนวดราม่านะคะ :hao5:


เจอกันเดือนหน้าค่ะ :katai5:

รักคนอ่านทุกท่าน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่6 | P.2] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-02-2015 21:06:17
ง่ะ ป๊ะป๋าเข้า icu แล้วเป็นยังไงบ้างคะ??

ส่วนลีโอปล่อยไป มีคนโอ๋แล้ว
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่6 | P.2] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 24-02-2015 21:16:50
คุณพ่อเป็นนักบินเหรอ!?
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่6 | P.2] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 24-02-2015 22:48:03
นุ้งลีโอน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่6 | P.2] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-02-2015 22:51:54
อย่างงี้นี่เอง เอกถึงไม่ได้เจอลีโอนาร์ดอีก
น่าสงสารลีโอนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่6 | P.2] 24/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 27-02-2015 16:34:09
 :impress:  ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่6 | P.2] 22/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 09-03-2015 00:24:46

ง่ะ ป๊ะป๋าเข้า icu แล้วเป็นยังไงบ้างคะ??

ส่วนลีโอปล่อยไป มีคนโอ๋แล้ว

เรื่องของป๊ะป๋าจะมีเฉลยในตอนถัดๆไปนะคะ  :mew1:

ลีโอปล่อยให้เอกโอ๋ไปเนอะๆ มาโอ๋คนเขียนกันดีกว่าค่ะ 5555  :z2:


คุณพ่อเป็นนักบินเหรอ!?

ไม่รู้สินะคะ ต้องรอดูต่อไปนะคะ :hao7:


นุ้งลีโอน่าสงสาร

เนอะะะ เอกเลยต้องโอ๋ค่ะ 5555  :mew6:


อย่างงี้นี่เอง เอกถึงไม่ได้เจอลีโอนาร์ดอีก
น่าสงสารลีโอนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ


ขอบคุณมากเลยนะคะ  :กอด1:


:impress:  ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:

ขอบคุณมากเลยค่ะ เห็นคุณlollitaตามตั้งแต่โพสต์ตอนแรกจนถึงตอนปัจจุบัน ขอบคุณมากจริงๆค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่6 | P.2] 24/02/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 09-03-2015 00:25:31
‘ขอบฟ้าเหตุการณ์’


คือ ขอบเขตแนวบริเวณของหลุมดำ


ที่หากแตะเข้าไป ณ ขอบฟ้าเหตุการณ์นั้นแล้ว


เวลาจะหยุดนิ่ง ทุกอย่างจะมืดสนิท


และไม่มีสิ่งใด


สามารถกลับออกมาได้อีกเลย




แม้กระทั่งแสง


ตอนที่ 7



ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ตอนนี้กำลังกอดปลอบคนที่จู่ๆก็ร้องไห้น้ำตาทะลักออกมา น่าแปลกที่หมอนี่ไม่ส่งเสียงสะอื้นออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงน้ำตาที่ไหลจนรู้สึกเปียกชื้นที่บ่ากับไหล่ที่สั่นเทาเพียงเท่านั้น...


สักพักคนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมา ใช้หลังมือปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มลวกๆ เห็นอย่างนั้นเลยใช้นิ้วช่วยเกลี่ยน้ำตาให้ ผละออกจากกันแล้วเขยิบมานั่งข้างๆ




บรรยากาศเปลี่ยนไปเลยแฮะ



ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลย



ถ้าถามต่อหมอนี่จะน้ำตาร่วงอีกไหมวะ?





ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกัน ทำได้เพียงแค่จ้องหน้าอีกฝ่ายที่ขอบตาแดงๆเพราะผ่านการร้องไห้มาเท่านั้น


"ขอโทษนะ..." กลายเป็นคนตรงหน้าที่ชิงพูดทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน


"ขอโทษเรื่อง?"


"เรื่องที่จู่ๆก็ร้องไห้ออกมา..." เจ้าตัวหัวเราะกับตัวเองเบาๆ


"แล้วใครสั่งห้ามไม่ให้ร้องไห้ล่ะ หืม?" ยีหัวอีกฝ่ายไปหนึ่งที เพิ่งได้ลองสัมผัสครั้งแรก นุ่มดีเหมือนกันแฮะ


"ก็ไม่มีหรอก..." ลีโอยกมือขึ้นปัดทรงผมที่ไม่เป็นทรงให้เข้าที่ "แต่เพราะไม่ได้ร้องไห้มานาน มันก็เลย...ไม่ชิน..."


"หะ? ไม่ชิน?" ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกันเป็นปม


"อื้อ"


"ไม่เคยร้องไห้หรอ?"


"ก็เคย แต่นี่ครั้งที่สอง..." เดี๋ยวนะ หมอนี่ร้องไห้สองครั้งในชีวิต? นี่เก็บอารมณ์เก่งสินะ หรือยังไง เพิ่งเคยเจอคนแบบนี้


"แปลกดี"


"ขอโทษที่แปลก..."


"ขอโทษอีกแล้ว พอๆ ไม่ได้ผิดอะไรก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษ อย่าใช้คำนี้พร่ำเพรื่อนักสิ" ดุไปจนอีกคนหงอ เพิ่งเคยเห็นสีหน้าแบบนี้เหมือนกันแฮะ




ได้เห็นสีหน้าเยอะขึ้นกว่าเดิม



ควรจะดีใจไหมวะ?




"เข้าเรื่องเลยนะ สรุปนายคือเจ้าของไอนี่ใช่ไหม" ชี้แผ่นพลาสติกสีน้ำเงินในมืออีกฝ่าย แต่ถึงขั้นมาร้องไห้ฟูมฟายเพราะได้ของคืน ถ้าไม่ใช่เจ้าของก็บ้าแล้ว


"อือ" ลีโอพยักหน้า "แล้วนายก็คือเด็กเมื่อตอนนั้นด้วยสินะ?"


พยักหน้าเป็นคำตอบกลับไปว่าใช่ อีกฝ่ายเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะปรับสีหน้ามาเป็นปกติ


"วันนั้นขอโทษนะที่จู่ๆก็หายไป"


"ไม่เป็นไร แต่ทำเอาตามหาตั้งหลายปี"


"ขอโท...โอ้ย...!"


"แหนะ สองครั้งแล้วนะ บอกว่าอย่าใช้คำนี้พร่ำเพรื่อไง" ยีหัวอีกฝ่ายไปอีกรอบ ชักจะติดใจซะแล้วสิ นิ่มๆเหมือนหมาที่บ้าน


"วันนั้นมีเรื่องเกิดขึ้นเยอะเกินไปหน่อย เลยลืมเจ้านี่ไปเลย แต่ก็ขอบคุณนะที่เอามาคืน" ลีโอยิ้มบางๆ




เพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มของหมอนี่เป็นครั้งแรก



แต่ทำไมกันนะ



ทำไมถึงรู้สึก...



ว่ามันเศร้าเหลือเกิน...




"มีอะไรก็บอกได้แล้วกัน อาจจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่เป็นกระโถนให้ได้"


"อื้อ ขอบคุณนะ" อีกฝ่ายพยักหน้า ดูเหมือนสีหน้าจะกลับมาเป็นปกติแล้ว นี่ปรับอารมณ์ได้ไวขนาดนั้นเลยหรอ!?


ก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ดูเหมือนจะได้เวลาจัดแสดงห้องฉายดาวแล้ว เลยลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปในห้องฉายดาว


นั่งลงตรงกลางแถวที่ยังไม่มีใคร ข้างในห้องมีคนนั่งอยู่บ้างประปราย เอนพิงเก้าอี้ที่ปรับระดับจนนอนเอนหลังได้ เงยหน้ามองเพดานรูปโดมที่ถูกจำลองเป็นท้องฟ้าในโลกของเรา


ไม่นานไฟในห้องฉายดาวก็ดับลงพร้อมกับการแนะนำตัวของเจ้าหน้าที่ผู้รับหน้าที่บรรยาย


แอบลอบมองซีกหน้าของคนข้างๆที่มองเห็นเพียงลางๆจากแสงของเครื่องฉายดาว ใบหน้าขาวที่แม้จะมองเห็นไม่ชัด แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกอยากมองต่อไปเรื่อยๆ





ราวกับถูกดูดให้ถลำลึกเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ของหลุมดำที่มองไม่เห็น



ที่เมื่อถูกดูดเข้าไปแล้ว...จะออกมาไม่ได้อีกเลย



ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันนะ?





นั่งฟังบรรยายเรื่องดวงดาวในห้องฉายดาวไปเรื่อยๆ เครื่องฉายดาวของที่นี่สามารถฉายดาวฤกษ์ได้มากถึงเก้าพันดวง ทั้งที่จริงๆแล้วเราสามารถมองเห็นได้เพียงห้าพันดวงเท่านั้น นอกจากนี้แล้วยังสามารถฉายดาวเคราะห์ต่างๆ รวมถึงดาวหาง ดาวตก กระจุกดาว กาแล็กซี่ รวมไปถึงปรากฏการณ์บนท้องฟ้าแบบต่างๆ



!

รู้สึกถึงแรงกดทับบริเวณไหล่เหมือนกับคราวที่แล้ว แต่ต่างจากครั้งก่อนตรงที่สิ่งที่พิงมาไม่ใช่แขน แต่เป็นเรือนผมนุ่มๆนั่นแทน


หันไปมองอีกฝ่ายที่หลับสบายเหมือนแมวที่ได้หลับบนตักเจ้าของ เผลอหลุดขำออกมาเบาๆกับคนที่บอกว่าอยากมาดูดาว แต่ดันให้ดาวมาดูตัวเองหลับเสียอย่างงั้น


อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยกับการเรียนในตอนเช้า หรือ อาจจะเหนื่อยเพราะร้องไห้ไปก่อนหน้านี้


หรืออาจจะทั้งสองอย่าง...



ไม่รู้ว่าความรู้สึกของตัวเองแบบนี้มันคืออะไร


แต่ที่รู้แน่ชัดในตอนนี้ คือ...


'อยากเห็นรอยยิ้มที่ยิ้มอย่างมีความสุขของหมอนี่'


'สักครั้ง...'










บนโดมท้องฟ้าจำลองปรากฏเป็นภาพดวงอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าพร้อมกับเสียงไก่ขันจากเครื่องเล่นเสียง เป็นสัญญาณบอกว่าการบรรยายได้จบลงแล้ว เจ้าหน้าที่ที่รับหน้าที่บรรยายกล่าวขอบคุณ ผู้ชมคนอื่นลุกจากที่นั่งเดินไปยังประตูทางออก


เหลือแค่คนสองคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม



เอายังไงดีวะ อยากจะปลุกแต่พอเห็นหน้าก็ไม่กล้า


คราวที่แล้วบนรถไฟฟ้าก็นั่งจนตัวเกร็ง แต่อีกฝ่ายเอนตัวกลับไปนั่งหลับดีๆเหมือนเดิมเลยพอปลุกได้


หรือจะแกล้งหลับด้วยดี...ก็เข้าท่าแฮะ



ในขณะที่กำลังคิดหาวิธีอยู่ จู่ๆพี่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงก็เดินเข้ามาเรียกจนคนที่หลับอยู่รู้สึกตัวขึ้นมา


"ขอโทษ..." คนที่หลับซบไหล่อยู่เมื่อกี้หันมาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ พี่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงยิ้มขำกับเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนจะเดินจากไปเมื่อเห็นว่าเราทั้งคู่ลุกจากเก้าอี้แล้ว


"หลับไปตอนไหนกัน...?" เจ้าคนที่เดินอยู่ข้างๆบ่นพึมพำ


"ตั้งแต่เริ่มๆบรรยายเลย"


"เฮ้ย! จริงดิ" อีกฝ่ายทำหน้าเหรอหรา จนเผลอหัวเราะออกมา


"ร้องไห้จนเหนื่อยไง จะหลับก็ไม่แปลก"


"ไม่ใช่สักหน่อย..." อีกคนเถียง


"ร้องไห้ร่วมครึ่งชั่วโมงแต่ไม่เหนื่อยนี่สุดยอดไปเลยนะ" หยอกไปอีกหนึ่งทีกะให้อีกคนหัวเสีย


"..." แต่ดูเหมือนเจ้าตัวไม่รู้จะเถียงกลับยังไง เลยเลือกที่จะเงียบแทน หมดสนุกเลยแฮะ


"ไหนๆแล้วก็ไปกินข้าวกันดีกว่า" พูดขึ้นมาเพราะเพิ่งนึกได้ว่าตั้งแต่เที่ยงมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย เพราะรีบออกมากะให้ทันรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นรอบที่เปิดตอนบ่ายเพียงรอบเดียว


อีกฝ่ายพยักหน้าเห็นด้วย คงจะหิวเหมือนกัน


"แล้วกินที่ไหน?"


"ห้างใกล้ๆนี่ก็ได้"


"อือ..." เป็นอันว่าตกลงสินะ











ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากท้องฟ้าจำลอง เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงานคนในร้านจึงดูบางตา ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆน่ารักที่มีเพียงไม่กี่ที่นั่ง ราคาอาหารเองก็ไม่แพง เลยเลือกสั่งอาหารจานเดียวไปกันคนละจาน


“ว่าจะถามนานแล้ว ทำไมถึงเรียนเคมีล่ะ?” ระหว่างรออาหารเลยหาเรื่องชวนคุย เริ่มต้นด้วยเรื่องที่ตัวเราเองสงสัยมานาน


“หืม?” อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาจากจอมือถือ ก่อนจะกดปิดหน้าจอแล้วเก็บใส่กระเป๋า “เพราะชอบน่ะ”


“เห็นชอบดูดาว นึกว่าจะเรียนภาคฟิซะอีก”


“ชอบเป็นงานอดิเรกมากกว่าน่ะ เพราะบางอย่างมันก็เหมาะจะทำเป็นงานอดิเรกมากกว่า” พยักหน้าเข้าใจ ก็เหมือนกับพ่อของเราที่ว่างทีไรก็ชอบที่จะต้องไปดูดาวตลอด


“แล้วที่ชอบเคมีนี่เพราะอะไรล่ะ?”


“ชอบปิโตรเคมี อยากทำงานออฟชอร์” อ๋อ ชอบปิโตรเคมี เดี๋ยวนะ ออฟชอร์!?


“เห้ย!? จริงดิ!!?”


“อื้อ ทำไมหรอ?” ลีโอเลิกคิ้วถาม


“เราก็อยากออฟชอร์เหมือนกัน” ตอบไปตามความจริง ที่สอบเข้าวิศวะที่นี่ก็เพราะอยากจะเรียนวิศวะเคมี เพราะงั้นเลยต้องพยายามทำเกรดปีหนึ่งให้ดีๆเข้าไว้ เพื่อที่ตอนเลือกภาคจะได้เรียนภาคนี้



แม้ว่าวันนี้จะโดดวิชาฟิสิกส์สองไปแล้วก็ตาม...



ออฟชอร์ก็คือการทำงานที่อยู่นอกชายฝั่งทะเล จริงๆแล้วมีงานหลายสาขาที่ทำนอกชายฝั่ง แต่ที่ตัวเราใฝ่ฝันคือการที่จะได้ทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล


“จริงหรอ?” ลีโอเบิกตากว้าง หน้าตาดูดีใจสุดๆ ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น


“ไม่คิดว่าจะมีคนอยากทำงานแบบนี้ด้วยเหมือนกัน”


“ก็จริง นานๆจะเจอสักที...”


"แล้วอยากทำงานแบบไหนล่ะ?" ถามอีกคนไป เพราะที่ลีโอเรียนดูเหมือนจะเป็นเคมีบริสุทธิ์ คงจะไม่ได้ทำงานในแบบเดียวกับวิศวกร


"อยากทำพวกแลปตรวจคุณภาพน้ำมัน ไม่ก็อยู่บริษัทผสมโคลน หรือพวกสารลดการอลวนในท่อสูบน้ำมัน... แต่เอาจริงๆตอนนั้นไม่รู้จะได้ทำงานแบบนี้หรือเปล่า"


"เอาน่า นี่เพิ่งจะปีหนึ่งยังมีเวลาอยู่อีกเยอะ"


"อื้อ"


ไม่นานพนักงานก็นำอาหารมาวางตรงหน้า บทสนทนาเลยเป็นอันต้องจบลงเสียดื้อๆ แต่ก็ทำให้ได้รู้ว่ายังมีเรื่องที่หมอนี่เองก็สนใจคล้ายๆกันกับเราอยู่เหมือนกัน








หาอะไรใส่ท้องจนอิ่มเรียบร้อยก็พาอีกคนมุ่งหน้าเตรียมกลับไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสเหมือนเดิม หลังจากเถลไถลกันมาตลอดช่วงบ่าย


“ลีโอ…”


“หืม?”


“จากนี้...เอ่อ...ว่าไงดีวะ?...เราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ป่ะ?” ถามไปลูบหลังคอไปแก้เขิน  ว่าแต่ทำไมต้องเขินวะ? ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ ทำไมอยู่กับไอมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอนี่ทีไรต้องไม่เป็นตัวของตัวเองทุกที


“ก็เป็นอยู่แล้วนี่ ถามอะไรแปลกๆ?” อีกฝ่ายขมวดคิ้ว ตอนนี้รู้สึกอยากจะตีปากตัวเองแรงๆหลายๆที ถามบ้าอะไรออกไปวะเนี่ย ใครเขาถามแบบนี้กันวะ ไอเอกนะไอเอก!


“เออว่ะ นั่นสินะ ถามอะไรแปลกๆวะ ฮะฮะ…” หัวเราะแห้งๆตอบกลับไป แต่ในใจก็รู้สึกดีใจอยู่เหมือนกันแฮะ



เหมือนได้ยินเสียงเลเวลอัพดังขึ้นพร้อมกับปีกสีขาวโผล่ขึ้นมาบนหัวเลย…



เดินกันมาเรื่อยๆจนมาถึงทางออกหน้าห้าง ไม่รู้เป็นเพราะเวรกรรมอะไร หรือเพราะผลบุญที่เคยสั่งสมมาลอดชีวิตจะหมดไปกับการสอบเข้ามหาลัย บุคคลที่คุ้นเคยที่สุดเพราะออกมาจากท้องแม่เดียวกันกำลังเดินสวนมาตรงหน้า จักรภพเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจที่จู่ๆก็เจอน้องชายของตัวเองในสถานที่ที่ไม่คิดว่าจะเจอ สายตามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆสลับกับตัวเราซึ่งเป็นคู่กรณีไปมาหลายครั้งพร้อมยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยทักทาย






“บังเอิญจังเลยนะ”







・゜゚・*☆



TBC




กราบสวัสดีค่ะ ในที่สุดก็สอบเสร็จแล้วค่ะดีใจมากๆเลย  :katai2-1:

ตรงช่วงที่บอกว่าเลเวลอัพนี่อยากให้นึกภาพเกมRagnarokนะคะ อิมเมจมาจากตรงนั้นแหละค่ะ 555

สอบเสร็จแล้วคงมาอัพตามปกติแล้วนะคะ

ยังไงก็อ่านแล้วมีอะไรอยากจะติชมตรงไหน ติชมมาได้ตามสบายเลยนะคะ  :mew1:

รักคนอ่านทุกท่านค่ะ เจอกันตอนหน้านะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-03-2015 01:45:39
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่ามันน่ารัก
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 09-03-2015 01:59:12
น่ารักจังเลย หลุมดำกับความรัก
อยากทำ offshore ทั้งคู่ ถ้าอยู่คนละกะ จะได้เจอกันมั้ยนี่
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-03-2015 03:43:52
ชอบบรรยากาศแบบเรื่องนี้จังเลยค่ะ

น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-03-2015 08:35:32
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-03-2015 08:44:21
จ๊ะเอ๋กับน้องชายของเอกภพ..ที่เหมือนจะรู้จักลีโอด้วย

หืม???
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 09-03-2015 10:00:26
จ๊ะเอ๋กับน้องชายของเอกภพ..ที่เหมือนจะรู้จักลีโอด้วย

หืม???

ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ที่ท่อนนี้เราเขียนแล้วดูงงๆ คือทั้งเอกภพกับลีโอเจอพี่ชายของเอกภพที่ชื่อจักรภพน่ะค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ทำการแก้ไขแล้วค่ะ คนเขียนเมา :o8:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 09-03-2015 12:45:18
 :z13: จิ้มๆ เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้ะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 09-03-2015 15:07:46
คุณพี่ชายต้องเดาได้แน่ๆ ว่าน้องชายตัวเองกำลังจีบใครอยู่   :z2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 09-03-2015 17:25:17
น่ารักดีค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-03-2015 20:33:59
คงมีหลายคนที่เคยหลับในห้องแสดงท้องฟ้าจำลองสินะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 10-03-2015 13:13:57
อัพเลเวลเป็นแฟนไปเลยหลังจากรอมานานนะจ๊ะเอก :hao7:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 10-03-2015 14:16:06
เซอร์ไพรส์ไหมลูก :hao7:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 10-03-2015 15:02:47
ดูเหมือนทั้งเอกภพกับน้องแมวจะแสดงความรู้สึกต่อกันมากขึ้นนะคะ  เอกภพโดนพี่ชายล้ออีกแล้วงานนี้ 5555
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 10-03-2015 19:31:03
ว่าไปแล้ว เอกภพนี่ก็ซึนเดเระนะเนี่ย เขินทีก็โวยวายที แต่เวลาประหม่านี่น่ารักน่าหยิกแท้

ส่วนลีโอ ไม่เป็นไรนะๆ
อยู่กับเอกบ่อยๆก็ดีนะ ดูมีหลากอารมณ์มากขึ้น
ปล.  ตกลงว่าพ่อของลีโอยังอยู่มั๊ย
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 11-03-2015 19:21:42
พี่ชายเห็นหน้าว่าที่น้ิงสะใภ้แล้ว จะแกล้งอะไรไหมนิ คึคึ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 12-03-2015 12:22:13
อยากทำออฟชอร์มาเรียนธรณีกับเรามา 55555555555
จะดูแลอย่างดีเลยค่ะน้องแมววว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 12-03-2015 18:43:41
คลิกเข้ามาเล่นๆแต่อ่านจนจบเลยค่ะ สนุกและน่าสนใจมากๆ ธีมเรื่องกับวิธีเขียนก็ประทับใจ 
พี่ชายเจอจังๆแล้ว งานนี้โดนแซวทีหลังแหงมม 555
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่7 | P.2] 09/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 14-03-2015 02:51:58
‘ซุปเปอร์โนวา’

เป็นการระเบิดอย่างรุนแรงรูปแบบหนึ่งของดวงดาว

แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ ซุปเปอร์โนวารูปแบบที่1 และ ซุปเปอร์โนวารูปแบบที่2

ดาวฤกษ์ที่เป็นระบบคู่ถ่ายเทมวลให้กับดาวเคราะห์แคระขาวคู่ของมัน จนมวลของดาวแคระขาวนั้น เกินมวลวิกฤต

เกิดการระเบิดรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า

‘ซุปเปอร์โนวารูปแบบที่หนึ่ง’




ตอนที่ 8



"บังเอิญจังเลยนะ"




คำทักทายที่เหมือนจะแอบแฝงอะไรบางอย่าง เช่นเดียวกับสีหน้าที่ยิ้มกรุ้มกริ่มมองพวกเราสองคน จนเผลอชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจออกไป


"สวัสดีครับพี่ภพ" ลีโอยกมือไหว้รุ่นพี่ตรงหน้า อย่างที่จักรภพเคยเล่า ลีโอรู้จักเขาดีอยู่แล้ว


"หวัดดีเว้ยน้องแมว" ไม่ว่าใครที่ไหนก็เรียกหมอนี่ว่า 'แมว' ตลอด ตั้งแต่ไอโปรและจากที่ฟังมันพูดมา ลุงรหัสที่ชื่อปูนเป็นคนเริ่มเรียกชื่อนี้



ต้องหาชื่ออื่นมาเรียกให้ไม่ซ้ำ



จริงๆก็มีชื่อ 'มนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอ' อยู่แล้วนี่นะ






"ทั้งสองคนมาทำอะไรที่นี่น่ะ?" จักรภพถามยิ้มๆแต่สายตากลับมองมาทางเรา รู้ได้ทันทีว่ากลับบ้านไปต้องโดนสอบปากคำแน่ๆ


"มากินข้าว" ตอบไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆ อีกฝ่ายคงรู้แหละว่ากำลังไม่พอใจ เลือกที่จะบอกแค่มากินข้าวก็พอ ขืนบอกว่าก่อนหน้านี้ไปไหนมาคงโดนซักไซร้อีกยาว


ลีโอเองก็พยักหน้าเหมือนเป็นการยืนยันคำตอบด้วยเช่นกัน


"แล้วนี่เอกไม่ได้แกล้งอะไรน้องเพื่อนพี่ใช่ป่ะ? ยิ่งผอมๆอยู่ด้วย"


"พี่ภพรู้จักเอก?" ลีโอเลิกคิ้ว จริงสิ หมอนี่ยังไม่รู้นี่ว่าจักรภพคือพี่ชายของเรา


"รู้จักสิ ออกมาจากท้องแม่เดียวกัน" พี่ชายตัวดีหัวเราะ ลีโอพยักหน้าเข้าใจแล้วหันมาบ่นว่าทำไมถึงไม่บอกกันบ้าง


ยักไหล่ตอบกลับไปเป็นเชิงว่า 'ก็ไม่ได้ถามเองนี่' อีกฝ่ายขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปหาเจ้าพี่ชายตัวดีนั่นต่อ


"แล้วเฮียล่ะ นัดสาวไว้หรอ?" แหย่พี่ชายตัวดีคืนบ้าง ปกติเจ้าพี่ตัวดีนี่มักจะมาเที่ยวกับสาวๆที่ควงมาไม่เคยซ้ำหน้ากัน หรือไม่ก็ไปโผล่อยู่แถวร้านเหล้าเสียมากกว่าจะมาเดินห้างคนเดียวแบบนี้ แต่ก็ได้ข่าวมาว่ามันเพิ่งจะทะเลาะกับสาวคณะบัญชีปีเดียวกันมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ด้วย


ได้ผล ไอพี่ชายตัวดีทำหน้าบูด ขยับปากเป็นคำพยางค์เดียวที่อ่านได้ว่า 'สัด' ก่อนจะรีบปรับสีหน้ามาเป็นหมาหงอยดูน่าสงสาร


"มากินน้ำแข็งใสที่อยู่ชั้นล่างน่ะ ตอนแรกก็จะมีคนมาด้วยอยู่หรอก แต่เขาคงไม่ต้องการแล้ว" จักรภพชูใบปลิวโฆษณาร้านน้ำแข็งใสแห่งหนึ่งขึ้นให้ดู


เห็นแบบนั้นเลยขยับปากตอบกลับไปสั้นๆสองพยางค์ว่า 'ตอแหล'


"ร้านนี้เคยเห็นเพื่อนพูดถึงอยู่นะครับ" ลีโอผู้สนใจแต่ใบปลิวโฆษณา ดูเหมือนว่าหมอนี่จะสายตาสั้นอยู่นิดหน่อย เพราะใบหน้านั้นเลื่อนเข้ามาใกล้ใบโฆษณาเพื่อดูราคาและตัวอักษรเล็กๆที่เขียนวันหมดเขตเอาไว้ โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าสองพี่น้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆกำลังทำสงครามฝีปากกันอยู่เงียบๆ


"ไปกินด้วยกันไหมล่ะ?" จักรภพเอ่ยชวน ตอนนี้แทบอยากจะเดินเข้าไปถีบไอพี่ชายข้างหน้าให้รู้แล้วรู้รอดไป รำคาญรอยยิ้มกรุ้มกริ่มกับสีหน้าล้อๆนั่นอีก




ทำไมต้องมาเจอกันด้วยวะ!



"ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่าจะได้ไม่รบกวนพี่ภพกับเอกด้วย" ดีมากลีโอที่รู้จักปฏิเสธคนเป็น ถึงจะรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ไม่ได้ไปส่งอีกฝ่ายให้ถึงสถานีที่หมาย แต่ก็ยังดีกว่าการอยู่กับจักรภพในตอนนี้เยอะ


"จะไม่ไปจริงๆหรอ? พี่เลี้ยงก็ได้นะ" จักรภพทำเสียงหงุงหงิงคล้ายหมาที่ถูกเจ้านายดุ ฟังดูน่าสงสาร แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกคันเท้าเอามากๆ


ถลึงตาใส่ไอพี่ชายตัวดี ภาวนาให้ไอคนข้างๆตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะไม่ไป




หมอนี่ไม่ใช่คนเห็นแก่ของฟรีอยู่แล้ว ดูอย่างตอนที่เจอกันครั้งแรกนั่นสิ



"งั้นไปด้วยแล้วกันนะครับ"




...










กลับเข้ามาในตัวห้างสรรพสินค้านี้อีกเป็นครั้งที่สอง ร้านน้ำแข็งใสนี้เป็นร้านไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนัก มีลูกค้านั่งอยู่ในแต่ละมุมของร้านค่อนข้างห่างกันเพราะต้องการความสงบและความเป็นส่วนตัว


นิสิตชายสามคนนั่งลงที่โต๊ะมุมหนึ่งที่ยังว่างอยู่ของร้าน อ่านใบเมนูอยู่พักใหญ่ ก่อนจะสั่งพนักงานไป


"แล้วนี่ไปทำอะไรมายังไง ถึงได้มากินข้าวด้วยกันได้" จักรภพยิงคำถามใส่ทันทีที่สั่งน้ำแข็งใสเสร็จ ไอพี่นี่มันร้ายจะตาย เห็นทำหน้าซื่อๆแบบนี้ในใจคงเต็มไปด้วยคำถามที่เอาไว้สอบปากคำ


"เปล่าหรอกครับ พอดีกลับบ้านด้วยกั..." รีบเอามือตะครุบปากอีกฝ่ายไว้ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะแล้ว ถึงจะยังพูดไม่จบประโยคแต่ก็พอจับใจความได้ ตอนนี้รู้สึกร้อนรนเหมือนกับเด็กที่ทำแจกันใบสวยของแม่แตกแล้วเอาไปแอบไว้ และคนตรงหน้าก็คือแม่ ที่กำลังพยายามสอบสวนให้คนร้ายอย่างเราหลุดคำสารภาพออกมาเอง


คนที่ถูกปิดปากสะดุ้ง ส่งสายตางุนงงกลับไปให้ พอรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็เลยรีบเอามือออก


จักรภพยิ้มร่า ส่งสายตามาเป็นเชิงว่า 'เดี๋ยวโดนแน่'


"มีอะไรหรือเปล่าเอก ปิดปากเพื่อนทำไมน่ะ?"


"เปล๊า ไม่มีอะไร ขอโทษแล้วกัน" ประโยคแรกตอบพี่ชายตัวดีไป ก่อนจะหันมาขอโทษอีกคนที่ยังทำหน้างงอยู่


"งั้นหรอ..."


"เออน่า ไม่มีก็คือไม่มีดิวะ" ส่งสายตาเหวี่ยงๆใส่จักรภพไปที ให้รู้ว่า 'กูไม่เล่นนะ'


ลีโอมองภาพตรงหน้าอย่างงงๆ สองคนนี้พูดถึงเรื่องอะไร นัยน์ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา


"ช่างเถอะ เอ้า น้ำแข็งใสมาแล้ว" พนักงานร้านยกน้ำแข็งใสถ้วยใหญ่สามถ้วยมาเสิร์ฟบนโต๊ะ หน้าตาดูน่ากินดี ทั้งยังท๊อปปิ้งที่อยู่ในถ้วยนั้นอีก ให้เยอะคุ้มค่ากับราคามาก


ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดอะไร ขืนขยับปากมากกว่านี้คงโดนถามจนพรุน จริงๆก็ไม่ได้มีความลับอะไรนักหรอกนะ แต่ไอพี่ชายตัวดีนี่มันชอบล้อ ล้อได้ล้อดี เดินกับใครก็ชงไปซะหมด ตอนมันเห็นเดินกับแซนครั้งแรกก็ล้อ อธิบายจนเมื่อยปากนั่นแหละถึงจะยอมเข้าใจ


"แล้วนี่เราลงแข่งกีฬาภายในหรือเปล่า?" จักรภพถามขึ้น ลีโอเลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ


"ลงอะไรไปบ้างล่ะนั่น"


"ฟรีร้อย ผีเสื้อยี่สิบห้า เดี่ยวผสมร้อย"


“ไอตะวันก็ลงแบบนั้นเหมือนกัน คงได้เหนื่อยหน่อยล่ะ”


“ผมก็ไม่ได้หวังเอาเหรียญสักหน่อย…” ลีโอพูดก่อนจะตักน้ำแข็งใสเข้าปาก




ว่าแต่ไอตะวันนั่นมันใคร?



คงจะเป็นเด็กในชมรมของไอภพมันล่ะมั้ง?





“แล้วเรารู้ยังว่าไอปูนนัดซ้อมอาทิตย์หน้า?” ลีโอพยักหน้าอีกครั้ง


“พี่ปูนบอกแล้วครับ”


“งั้นอาทิตย์หน้าก็อย่าลืมล่ะ ซ้อมหน่อยก็ดีนะ หลังเฟรชชี่มาก็เรียนอย่างเดียวเลยนี่”


“ใกล้จะขึ้นอืดแล้วล่ะ”


“ไม่อืดหรอก นี่ยังดูผอมอยู่เลยนะ” จักรภพเอื้อมมือไปลูบผมอีกฝ่าย คนที่ถูกลูบก็ไม่ได้ว่าอะไรซ้ำยังอยู่เฉยๆให้ลูบอีก แอบมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ค่อยถูก




แบบนี้มันเรียกว่าอะไร?



หวง?





สรุปให้ตัวเองเรียบร้อย ว่าคงเป็นอาการหวงเพื่อน อย่างตอนแรกๆที่รู้ว่าไอเติ้ลเป็นแฟนกับพลอยคณะเศรษฐศาสตร์ ทั้งเราทั้งแซนดี้ยังแอบรู้สึกน้อยใจเลย



เพราะงั้น



ก็คงเป็นความรู้สึกแบบเดียวกัน












“เรากลับกับพี่ไหม วันนี้พี่เอารถมาเดี๋ยวไปส่ง” เดินตามหลังสองคนข้างหน้าที่เดินคุยกระหนุงกระหนิงหลังจากกินน้ำแข็งใสเสร็จมาได้สักพักแล้ว ไม่รู้ทำไม แอร์ในห้างก็เย็นแท้ๆ แต่กลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก อะไรๆที่อยู่ข้างหน้าก็ดูขวางหูขวางตาไม่ซะหมด


จักรภพแอบลอบมองมาทางด้านหลังก่อนจะส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้เป็นระยะๆ




เดี๋ยวเถอะ…




“ไม่เป็นไรครับ กลับบีทีเอสมันสะดวกกว่า”  ทำไมตอนกินน้ำแข็งใสถึงไม่ปฏิเสธให้ได้อย่างงี้นะ คอยดูเถอะ จะไม่คุยด้วยสักหนึ่งอาทิตย์


นึกคาดโทษอีกฝ่ายอยู่ในใจ ตอนนี้อะไรที่ขัดใจก็คงพาลได้หมดทั้งนั้น


“อย่างงั้นก็ได้ งั้นพี่ส่งเราหน้าห้างนะ กลับบ้านดีๆล่ะถึงแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย” แม่งมีไลน์กันด้วย น่าหงุดหงิดจริงๆ


เดินมาจนถึงหน้าห้าง โบกมืออำลากันนิดหน่อย ไอพี่ชายตัวดีนี่ก็ลามปามจริงๆ ลูบหัวอยู่ได้ ส่วนไอคนถูกลูบก็ไม่คิดจะปฏิเสธ



หงุดหงิดโว้ย…




“ไปล่ะนะ” ลีโอโบกมือลาให้ แต่เพราะหงุดหงิดเลยแค่พยักหน้าส่งๆตอบกลับไป


หลังจากแยกจากกันเรียบร้อยแล้วก็เดินตามพี่ชายมาที่ลานจอดรถ จักรภพไขกุญแจ เลยขึ้นไปนั่งฝั่งข้างคนขับ


“มีอะไรจะเล่าหรือเปล่า?” คนถามยิ้มร่า รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่จอดรถใต้ดินในห้างสรรพสินค้าสู่ถนน


“ไม่มี” หยิบหูฟังในกระเป๋าขึ้นมาใส่เพราะขี้เกียจจะคุยด้วยไม่ได้ฟังเพลงอะไรหรอก


“จีบเขาอยู่ก็บอกมาเถอะ” จักรภพหันมาพูดยิ้มๆ


“จีบพ่อมึงดิ”


“เดี๋ยวม๊าไล่ออกนอกบ้านนะแบบนั้น”


“กูไม่คุยกับมึงแล้ว” ปรับเบาะให้เอนพิงหลังลงไป ก่อนจะยกแขนขึ้นรองท้ายทอยหลับตานอนไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น


“เอก ถามจริงนะ” น้ำเสียงของจักรภพฟังดูจริงจังกว่าเมื่อกี้


“...”


“หลับแล้วหรอวะ?”


“...”


“ก็ดี มึงบอกเองนะว่าไม่ได้จีบลีโอ”


“...”






“เพราะกูก็กำลังจีบน้องเขาอยู่เหมือนกัน”









ร่างกายรู้สึกชาไปหมด ใจข้างในเหมือนกับกำลังจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำได้แค่นอนหลับตานิ่งๆอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร




หึง?



เป็นคำแรกที่ผุดขึ้นมาแทนคำว่าหวงก่อนหน้านี้



ไม่อยากยอมรับกับตัวเองสักเท่าไหร่ว่ากำลังชอบหมอนั่นเข้าให้แล้ว…



แต่ความรู้สึกในตอนนี้ ราวกับดาวแคระขาวที่ได้รับมวลจากดาวฤกษ์ที่เป็นคู่ของมันจนเริ่มจะเกินมวลวิกฤต


ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปต้องระเบิดแน่ๆ



ระเบิด ที่เรียกว่า



‘ซุปเปอร์โนวา’






.:*・°ミ ★  彡°・*:.




TBC


สวัสดียามค่ำค่ะ /ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน

แอบมาปล่อยนิยายตอนดึก ตอนนี้สั้นมากๆเลย ขออภัยด้วยนะคะ ; w ;

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์มากเลยนะคะ คอมเม้นต์เพิ่มขึ้นอีกแล้ว คนเขียนดีใจมากๆเลยค่ะ

ขอโทษด้วยจริงๆนะคะที่ไม่ได้ตอบคอมเม้นต์ ตอนนี้คือเรากำลังไม่แน่ใจว่า ที่เราตอบคอมเม้นต์ในส่วนโพสต์ที่แยกกันแบบก่อนหน้านี้จะผิดกฎไหมน่ะค่ะ แต่อยากตอบทุกท่านมากๆเลย

ตอนนี้ทุกคนอย่าเพิ่งหงุดหงิดเอกนะคะ เอกแค่ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองแต่เดี๋ยวก็คงเข้าใจตัวเองแหละค่ะ เพราะเอกเองก็กำลังเรียนรู้ไปเรื่อยๆ  :-[

ส่วนลีโอนี่...ไม่รู้เนอะ /โดนทุกคนถีบ :z6:

เจอกันตอนหน้านะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :กอด1:


ปล. เราว่าจะเอารูปมาลงตั้งนานแล้ว แต่ตอนแรกเราทำไม่เป็น

มันคือแผนที่ดาวค่ะ จริงๆแล้วมีสองด้านคือซีกฟ้าเหนือกับซีกฟ้าใต้ (แต่พอดีถ่ายมาแค่ด้านเดียว)

ในแผ่นจะใช้คำว่าแผนที่ฟ้าแทน แต่ในเรื่องเราใช้เป็นแผนที่ดาวไป (ยกเว้นตรงคำที่อยู่ในเครื่องหมาย ' ' ที่เราใช้เหมือนกับในแผนที่ไปเลย)

จริงๆในเนื้อเรื่องที่เราคิดไว้จะเป็นแผนที่ฟ้าแบบเก่าค่ะ คือไม่ได้แบ่งเป็นสองด้านแบบนี้ (แบบเก่าจะรวมซีกฟ้าเหนือกับใต้ไว้ในหน้าเดียวเลยแล้วด้านหลังจะเป็นตารางชื่อดาวฤกษ์ค่ะ) แต่เราทำแผ่นนั้นหายไปแล้วเลยไม่มีรูป เสียดายมากๆเลย

(http://upic.me/i/p0/istar.jpg) (http://upic.me/show/54930644)


ปลล. เราเป็นคนหนึ่งค่ะที่หลับในห้องฉายดาวเกือบทุกครั้งที่ไปท้องฟ้าจำลอง 55555
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่8 | P.3] 14/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-03-2015 03:00:44
คิดว่าถ้าตอบทีละเมนท์แต่รวมในโพสต์เดียว ไม่น่าเป็นไรนะคะ เราชอบซะอีก เพราะเหมือนกับจขกท.ใส่ใจน่ะค่ะ

ปอลิง พี่จักรภพบอกว่าจีบอยู่เรอะ พี่แกอำเล่นเพราะอยากแกล้งน้องหรือเอาจริงกันนะ?
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่8 | P.3] 14/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-03-2015 07:22:32
แกล้งน้องป่าวเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่8 | P.3] 14/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 14-03-2015 11:43:18
หนุกค่าา รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่8 | P.3] 14/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-03-2015 12:13:41
โดนคุณพี่ชายแกล้งให้แล้ว
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่8 | P.3] 14/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 16-03-2015 18:21:27
จักรภพจะจีบน้องแมวจริงๆเหรอ อย่าเลย เอกภพเค้าชอบอยู่นะ แต่เค้ายังไม่รู้ตัวรึไม่ก็ไม่ค่อยอยากจะยอมรับความจริงเท่านั้นล่ะ  :hao3: แต่อารมณ์หึงรุนแรงระดับซุเปอร์โนว่า มันไม่ธรรมดาแล้วนะเอก  ^^
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่8 | P.3] 14/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 23-03-2015 19:13:00
สวัสดีค่ะทุกท่าน ขออนุญาตตอบคอมเม้นต์รวบยอดในนี้เลยนะคะ


ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่ามันน่ารัก

ตอนแรกที่เขียนเราแอบกังวลว่าจะน่าเบื่อไปหรือเปล่า ; w ;
ขอบคุณที่ชอบนะคะ ดีใจมากๆเลยค่ะ

น่ารักจังเลย หลุมดำกับความรัก
อยากทำ offshore ทั้งคู่ ถ้าอยู่คนละกะ จะได้เจอกันมั้ยนี่
เราชอบเรื่องหลุมดำมากๆเลยล่ะค่ะ ดูเป็นอะไรที่ลึกลับดี เหมือนกับความรักเลยค่ะ ดูน่าค้นหา ดูอธิบายยาก
เรื่องoffshoreของสองคนนี้คงทำได้แค่ภาวนาให้อยู่กะเดียวกันแหละค่ะ ไม่อย่างงั้นคงคิดถึงกันแย่เลย

ชอบบรรยากาศแบบเรื่องนี้จังเลยค่ะ

น่ารักมาก

ขอบคุณที่ชอบนะคะ ไม่น่าเบื่อเกินไปใช่ไหมคะ? แฮ่ เราแอบคิดว่าเรื่องมันเอื่อยๆไปหน่อยน่ะค่ะ

:impress2:
:-[

:z13: จิ้มๆ เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ  :กอด1:

คุณพี่ชายต้องเดาได้แน่ๆ ว่าน้องชายตัวเองกำลังจีบใครอยู่   :z2:
นั่นสิคะ พี่ภพยิ่งร้ายๆอยู่ :hao7:

น่ารักดีค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ  :กอด1:

คงมีหลายคนที่เคยหลับในห้องแสดงท้องฟ้าจำลองสินะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
เราเป็นหนึ่งในนั้นแหละค่ะ 5555 ไปทีไรเป็นต้องหลับทุกที
แอร์ในห้องนั้นเย็นสบายมากๆค่ะ เก้าอี้ก็นิ่มแถมแหงนนอนอีก เหมาะแก่การหลับมากๆเลยล่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ  :กอด1:

อัพเลเวลเป็นแฟนไปเลยหลังจากรอมานานนะจ๊ะเอก :hao7:
เอกบอกว่าต้องขอเวลาเก็บEXPอีกสักพักก่อนนะคะ  :hao7:

เซอร์ไพรส์ไหมลูก :hao7:
เอก : เซอร์ไพร์สมากๆครับ  o22

ดูเหมือนทั้งเอกภพกับน้องแมวจะแสดงความรู้สึกต่อกันมากขึ้นนะคะ  เอกภพโดนพี่ชายล้ออีกแล้วงานนี้ 5555
เอก :  :z3:

ว่าไปแล้ว เอกภพนี่ก็ซึนเดเระนะเนี่ย เขินทีก็โวยวายที แต่เวลาประหม่านี่น่ารักน่าหยิกแท้

ส่วนลีโอ ไม่เป็นไรนะๆ
อยู่กับเอกบ่อยๆก็ดีนะ ดูมีหลากอารมณ์มากขึ้น
ปล.  ตกลงว่าพ่อของลีโอยังอยู่มั๊ย
เอกเป็นคนที่เขินแล้วชอบโวยวายกลบเกลื่อนค่ะ ทุกคนที่บ้านรู้ดีเลยชอบแกล้ง  :hao6:
เรื่องคุณพ่อจะมีมาในตอนถัดๆไปนะคะ

พี่ชายเห็นหน้าว่าที่น้ิงสะใภ้แล้ว จะแกล้งอะไรไหมนิ คึคึ
จักรภพ : แกล้งแน่นอนครับ

อยากทำออฟชอร์มาเรียนธรณีกับเรามา 55555555555
จะดูแลอย่างดีเลยค่ะน้องแมววว :katai2-1:
ลีโอ : /ไปห้องทะเบียนทำเรื่องย้ายภาคสักครู่นะครับ #ผิด

คลิกเข้ามาเล่นๆแต่อ่านจนจบเลยค่ะ สนุกและน่าสนใจมากๆ ธีมเรื่องกับวิธีเขียนก็ประทับใจ 
พี่ชายเจอจังๆแล้ว งานนี้โดนแซวทีหลังแหงมม 555
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ฮือออ ดีใจที่ชอบนะคะ จะพยายามเขียนให้ดีกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ  :katai4:
จักรภพบอกว่า ไม่พลาดที่จะแซวแน่นอนครับ

คิดว่าถ้าตอบทีละเมนท์แต่รวมในโพสต์เดียว ไม่น่าเป็นไรนะคะ เราชอบซะอีก เพราะเหมือนกับจขกท.ใส่ใจน่ะค่ะ

ปอลิง พี่จักรภพบอกว่าจีบอยู่เรอะ พี่แกอำเล่นเพราะอยากแกล้งน้องหรือเอาจริงกันนะ?
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ตอนแรกเรากังวลเรื่องกลัวผิดกฎมากๆ ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆเลย
จักรภพ : /ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

แกล้งน้องป่าวเนี่ยยย
จักรภพ : /ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อะเกน

หนุกค่าา รอๆๆๆ
ขอบคุณที่รอนะคะ ขอโทษที่ให้รอนานเลย แฮ่ มาต่อแล้วนะคะ

โดนคุณพี่ชายแกล้งให้แล้ว
เอกภพผู้น่าแกล้งค่ะ :hao7:

จักรภพจะจีบน้องแมวจริงๆเหรอ อย่าเลย เอกภพเค้าชอบอยู่นะ แต่เค้ายังไม่รู้ตัวรึไม่ก็ไม่ค่อยอยากจะยอมรับความจริงเท่านั้นล่ะ  :hao3: แต่อารมณ์หึงรุนแรงระดับซุเปอร์โนว่า มันไม่ธรรมดาแล้วนะเอก  ^^
คงต้องให้เอกภพรู้ความรู้สึกตัวเองไวๆแล้วล่ะค่ะ ไม่อย่างงั้นจักรภพทำคะแนนนำแน่ๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่8 | P.3] 14/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 23-03-2015 19:14:40
กาลครั้งหนึ่ง ในปี2010

กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิ้ลได้สำรวจพบบางอย่าง สิ่งที่เห็นนั้นคือ


ดาวฤกษ์ WASP-12 กำลังกลืนกินดาวเคราะห์ WASP-12b บริวารของมัน


ได้มีการทำนายไว้ว่า หากเป็นอย่างนี้ต่อไป


ในอีกสิบล้านปีข้างหน้า WASP-12b จะต้องถูกกลืนกินจนหมด


เพราะอยู่ห่างไกลเกินไป กล้องฮับเบิ้ลจึงทำได้เพียงแค่มอง...


มองอยู่อย่างนั้น...


มองต่อไปเรื่อยๆ...


มองต่อไป...




ตอนที่ 9


หลังจากวันนั้น วันที่ไปท้องฟ้าจำลองกับเอก ก็ผ่านมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมาเอกจะยุ่งมากเลยทำให้ไม่ได้กลับบ้านพร้อมกันอีก

ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่ชานชาลาคนเดียว เพราะเป็นช่วงเที่ยงผู้คนไม่ได้เยอะเท่าเวลาเร่งด่วนอย่างตอนเช้ากับตอนเย็น ลมเย็นๆปะทะเข้ากับใบหน้าจนเผลอหลับตาเงยหน้ารับ ถอนหายใจอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ มีโอกาสได้คุยกับเอกก็แค่ในคาบแลปฟิสิกส์ที่อยู่กลุ่มเดียวกันเท่านั้น แถมเอกเองก็ไม่ค่อยพูดจาเหมือนกับก่อนหน้านี้ ทำให้รู้สึกอึดอัดแปลกๆ



โกรธอะไรหรือเปล่านะ?



เราทำอะไรผิดหรือเปล่า?




รถไฟฟ้าจอดเทียบชานชาลาเรียกสติให้ต้องเดินเข้าขบวนรถไป หามุมเงียบๆยืนฟังเพลงคนเดียว ความรู้สึกอึดอัดแปลกๆที่ก่อตัวขึ้นมาหลังจากวันนั้นยังคงคุกรุ่นอยู่ในใจ



ไม่รู้ว่าทำไม



ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็กลับบ้านคนเดียวมาตลอด




ก็แค่กลับมากลับบ้านคนเดียวอีกครั้ง




แต่ทำไมถึงไม่ชอบเลย



ไม่ชอบการกลับบ้านคนเดียวแบบนี้เลย...








“น้องแมวมาแล้วหรอ เอากระเป๋ามาวางเลย” เดินเข้ามาถึงสระว่ายน้ำของศูนย์กีฬามหาลัย ยกมือไหว้พี่ปูนลุงรหัสที่มาถึงก่อนหน้า แล้ววางกระเป๋าลงเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องนักกีฬา


“เป็นไงมั่งไม่ได้ว่ายตั้งหลายเดือนอืดลงพุงหมดหรือยัง?” พี่ปูนแซวหลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมา “แต่คงไม่ลงพุงหรอกมั้งเนี่ย ยังแห้งอยู่เหมือนเดิมเลย หัดกินเยอะๆบ้าง สงสัยต้องพาไปเลี้ยงสายจะได้มีเนื้อมากกว่านี้หน่อย”


“น้ำหนักผมมันนิ่งอยู่แค่นี้ตั้งแต่มอปลายแล้วล่ะ” ตั้งแต่ขึ้นมอปลายมาน้ำหนักก็ไม่เคยเพิ่มขึ้นอีกเลย ส่วนสูงมีเพิ่มขึ้นมาจากเดิมบ้างแต่กับน้ำหนักนี่ไม่ขยับสักนิด แม้ว่าจะกินเยอะแค่ไหนก็ตาม


“ไอพวกเมแทบอลิซึมสูงเอ้ย” พี่ปูนขยี้ผมจนฟูฟ่องไปหมด




‘แหนะ สองครั้งแล้วนะ บอกว่าอย่าใช้คำนี้พร่ำเพรื่อไง’



จู่ๆภาพในวันนั้นก็ลอยเข้ามาในหัว ภาพที่ใครบางคนกำลังยีหัวเราอยู่ แอบคิดไม่ได้ว่าสัมผัสแบบนั้นมันอบอุ่นชวนให้รู้สึกสบายและเคลิบเคลิ้มแปลกๆ …



แต่มันคงไม่มีวันนั้นแล้วล่ะมั้ง?...



“ไปยืดตัวกับเพื่อนตรงนั้นไป เดี๋ยวจะซ้อมแล้วนะ” พี่ปูนตบไหล่เบาๆจนนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้กำลังจะเริ่มซ้อมแล้ว ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเดินไปยืดตัวกับเพื่อนที่รู้จักกันดีเพราะเคยซ้อมแข่งด้วยกันช่วงแข่งกีฬาเฟรชชี่


“หวัดดีลีโอ” ผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีคนหนึ่งยิ้มให้ในขณะที่ยังคงยกแขนขึ้นบิดไปด้านหลังศีรษะ


“หวัดดีตะวัน” ทักทาย ‘ตะวัน’ เพื่อนคณะวิศวะที่รู้จักกันตอนเฟรชชี่ไป ก่อนจะมายืนข้างๆแล้วเริ่มยืดตัวในท่าเดียวกันกับคนข้างๆ


“พี่ปูนนี่มาไวดีนะ ดูพี่ภพดิ เลยเวลานัดมาครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่โผล่มาเลย” ตะวันหันมาคุยด้วยในระหว่างยืดตัวเตรียมซ้อม


“พี่เขาอาจจะติดธุระ” ยังไงคนเราก็ต้องมีธุระกันบ้าง มาช้าหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก


"ก็จริงนะ" ตะวันหัวเราะ "แล้วนี่ลงอะไรบ้างล่ะ เห็นเขาบอกว่าจำกัดให้ลงได้แค่สามรายการนี่"


"เราลงฟรีร้อย เดี่ยวผสมร้อย ผีเสื้อยี่สิบห้า"


"เหมือนกันเลย" ตะวันยิ้มร่า อย่างที่พี่ภพเคยบอก ตะวันลงแข่งรายการเดียวกันกับเรา ท่าทางงานนี้คงเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เพราะตะวันเองก็เป็นนักกีฬาเก่ามาก่อน ตอนแข่งเฟรชชี่ก็สูสีกัน แต่เราเองก็ยังแพ้ตะวันอยู่


"ขอเหรียญให้วิศวะเถอะนะ"


"อยากได้ก็มาแย่งเอง"


ตะวันหัวเราะหึกับคำตอบ แล้วเดินไปหยิบหมวกซีลิโคนมาใส่ พร้อมกับแว่นตาว่ายน้ำสีดำที่เลนส์ด้านหน้าฉาบด้วยปรอทสะท้อนแสง


จัดการใส่หมวกซีลิโคนของตัวเองเช่นเดียวกับอีกคนก่อนจะกระโดดลงน้ำไปยืนเกาะขอบสระรอฟังคำสั่งจากพี่ปูนที่ตอนนี้ทำหน้าขรึมเข้าสู่โหมดจริงจังไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับพี่ภพที่เพิ่งมาถึงได้ไม่นานกำลังยืนเขียนรายละเอียดคอร์ดที่จะต้องว่ายวันนี้ลงบนกระดานไวท์บอร์ดสีขาว



กระดานไวท์บอร์ดสีขาวอันใหญ่ ถูกเลื่อนมาใกล้ริมขอบสระมากขึ้น บนกระดานมีรายละเอียดคอร์ดที่ต้องว่ายทั้งหมดในวันนี้ กวาดสายตาอ่านคร่าวๆ ตะวันที่ยืนเกาะขอบสระอยู่ข้างๆทำหน้ายู่ แม้จะเป็นวันแรกที่ซ้อม แต่ดูเหมือนจะว่ายเยอะอยู่พอสมควร ไม่แปลกที่ตะวันจะทำหน้าตาไม่ค่อยอยากว่ายสักเท่าไหร่


“ไม่ต้องทำหน้าอย่างงั้นเลยมึงไอตะวัน ไม่อยากซ้อมจะกลับก็ได้นะ แล้วเอาเหรียญให้น้องกู” พี่ปูนยืนยักคิ้วท้าทายอยู่ริมขอบสระ ตะวันหันมามองหน้าเราก่อนจะยิ้มให้แล้วหันกลับไปมองพี่ปูนอีกรอบ


“หึ… เหรียญน่ะไม่ให้หรอกครับพี่” กระพริบตาปริบๆมองทั้งสองคนจ้องหน้ากันอยู่นานหลายวินาที รู้สึกอึดอัดแปลกๆเหมือนว่าสองคนนี้อยากจะมีเรื่องกันยังไงไม่รู้เลยขอออกตัวว่ายนำไปก่อน


“แต่ถ้าอย่างอื่นผมให้ได้นะ…”









ขึ้นจากสระมาด้วยสภาพเหนื่อยหอบ เป็นเพราะไม่ได้ว่ายมานานบวกกับคอร์ดที่โหดด้วยเล่นเอาขาทั้งสองข้างแทบไม่มีแรงเดิน หยิบขวดน้ำมาเปิดดื่ม นั่งลงตรงขอบสระพักให้หายเหนื่อย ตะวันเองก็มานั่งอยู่ข้างๆด้วยเช่นกัน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันไปล้างตัวเตรียมอาบน้ำกลับบ้าน


พี่ปูนเดินตามมาตบไหล่เบาๆสองสามที “วันนี้ดีมากน้องแมว ถ้าซ้อมอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เหรียญไม่ไปไหนแน่”


“แต่เหรียญทองของผมนะครับ” ตะวันยิ้มแฉ่งพูดแทรกขึ้นมา พี่ปูนขมวดคิ้วสีหน้าดูไม่พอใจ ก่อนจะหันไปตะโกนเรียกพี่ภพที่กำลังเก็บกระดานไวท์บอร์ดให้เข้าที่อยู่


“กูหมั่นไส้น้องมึงว่ะ เอามันไปไกลๆทีดิ๊!”


“อ้าว พาลไรน้องกูวะมึง?” จักรภพทำหน้างง


“แม่งชอบทำหน้ากวนตีน เกาะติดน้องกูอยู่ได้ ฝั่งคณะตัวเองมีก็ไม่ไปว่ายต้องมาว่ายกับน้องกูเนี่ย” ดูเหมือนวิญญาณหวงน้องของพี่ปูนจะเข้าสิงซะแล้ว


“ก็อีกลู่มันเต็มนี่ครับพี่ เบียดกันจะตาย มีแต่คนตัวใหญ่ๆด้วย” ตะวันตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“เอาน่ามึง ปกติก็แชร์ๆลู่กันอยู่แล้วนี่วะ” พี่ภพพยายามพูดให้พี่ปูนใจเย็น พี่ปูนเป็นคนหงุดหงิดง่าย ใจร้อน ตรงนี้พี่ฟ้าใสเคยบอกตอนไปเลี้ยงสายรหัส



ถึงจะหงุดหงิดง่าย ใจร้อน



แต่ก็ใจดี



ทำเอานึกถึงใครบางคนขึ้นมาเลย




"เออๆ ก็ได้วะ วันนี้กูจะปล่อยมึงไปก่อน" คนโดนคาดโทษนั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆไม่ทุกข์ร้อนอะไร พี่ปูนทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะหันมาหา


"น้องแมวกลับบ้านดีๆนะ พี่มีแลปต่อต้องรีบกลับไปที่คณะ" พยักหน้าตอบกลับไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง พี่ปูนสะพายกระเป๋าเป้แล้วรีบออกไปจากสระว่ายน้ำทันที ท่าทางจะรีบมาก


"น้องแมวกลับยังไง?" จักรภพเดินเข้ามาถาม


"กลับบีทีเอสครับ"


"เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านดีไหม พี่เอารถมาด้วย"


"ผมกลับเองดีกว่า ลำบากพี่เปล่าๆ" ปกติก็กลับเองเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่อยากรบกวนใครสักเท่าไหร่


"ไม่ลำบากหรอกน่า" พี่ภพยังคงคะยั้นคะยอ "บ้านเราอยู่แถวไหนนะ?"


"บางนาครับ..." ไม่รู้ทำไม ถึงรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ไม่ได้รังเกียจอะไรพี่เขาหรอกนะ ออกจะชอบซะด้วยซ้ำ รู้จักกันมาก็มากกว่าหนึ่งเทอม พี่เขาเองก็นิสัยดีมาก



ถ้าเป็นอีกคนคงจะพูดออกมาเลยว่าจะไปส่ง



ไม่ถามความสมัครใจสักคำ



แต่ก็ตกลงไปด้วยตลอด...




ไม่รู้ทำไมถึงได้นึกถึงขึ้นมาอีก ในหัวตอนนี้มีข้อเปรียบเทียบระหว่างใครคนหนึ่งนั่น กับคนอื่นๆตลอด จนบางทีก็หงุดหงิดตัวเอง ที่เผลอให้เรื่องแบบนี้มารบกวนใจอยู่ตลอดหนึ่งอาทิตย์


"ใกล้ๆกันแหละน่า บ้านพี่อยู่แบริ่ง ป่ะ ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่นั่งรอ" สุดท้ายก็พยักหน้าตอบตกลงไปอย่างช่วยไม่ได้


หันกลับไปอีกที ตะวันที่นั่งอยู่ข้างๆก็ยกกระเป๋าเป้มาให้เสียแล้ว ไม่รู้ว่าลุกไปตั้งแต่เมื่อไหร่


"ขอบใจ" กล่าวขอบคุณไปตามมารยาท ก่อนจะถามอีกคน "แล้วตะวันล่ะกลับยังไง?"


"เรากลับMRTน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก" รอยยิ้มถูกส่งมาให้ ก่อนมันจะกลายเป็นสีหน้าล้อๆแทน "ฮั่นแน่... หรืออยากกลับกับเรามากกว่าพี่ภพ"


"ก็..."



ก็ไม่ได้อยากกลับกับใครทั้งนั้นแหละ



ถึงในใจจะคิดแบบนั้น แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดออกไปดีกว่า


"ไปอาบเถอะ ยืนตากลมนานๆเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก" พี่ภพดันหลังตัดบทให้เดินเข้าห้องอาบน้ำ สุดท้ายก็ต้องเดินเข้าไป โดยมีตะวันเดินตามหลังเข้ามาด้วย









ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อยืดสีเหลืองสกรีนลายของคณะและกางเกงวอร์มขาสั้นสีดำ ผ้าขนหนูสีขาวโปะอยู่บนหัว

พี่ภพยืนรออยู่ก่อนแล้ว แต่ที่ทำให้รู้สึกแปลกใจที่สุดดูเหมือนจะเป็นคนที่ยืนข้างๆเสียมากกว่า เอกภพยืนหน้าบูดอยู่ใกล้ๆพี่ชายของตัวเอง ดูท่าทางเหมือนจะเพิ่งเลิกเล่นกีฬาอะไรสักอย่างมา เพราะเสื้อสีแดงสกรีนลายคณะวิศวกรรมศาสตร์นั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ


"หวัดดี" ทักทายไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบอย่างที่ชอบทำเป็นประจำจนติดเป็นนิสัย แต่ในใจตอนนี้ตื่นเต้นแปลกๆ เหมือนเริ่มกลับไปรู้จักกันใหม่อีกครั้ง


"..."เอกภพเหลือบตามองแต่ไม่ตอบกลับอะไร ยิ่งทำเอารู้สึกใจแป้ว


"งั้นเรากลับกันดีกว่า" จู่ๆคนที่ชวนกลับก็คว้าข้อมือแล้วออกแรงดึงเบาๆจนต้องจำใจเดินไปด้วย แอบหันกลับไปมองอีกคนที่เดินตามมาทีหลัง สีหน้าดูจะหงุดหงิดมากกว่าเมื่อครู่เสียอีก




เดินมาจนถึงรถฮอนด้าสีดำสนิทที่จอดอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กีฬาของมหาลัย พี่ภพปลดล็อครถก่อนจะเปิดประตูข้างคนขับให้


"ให้ผมนั่งฝั่งนี้จะดี...หรอครับ?" ถามไปด้วยความไม่แน่ใจ เพราะคนที่มาอาศัยรถคนอื่นกลับบ้านด้วยแบบนี้น่าจะเป็นฝ่ายได้นั่งด้านหลังเสียมากกว่า


"หืม? ทำไมหรอ?"


"ผมว่าผมนั่งข้างหลังจะดีกว่า..."


"ข้างหลังเอกมันจะนอนน่ะ เห็นว่าเล่นฟิตเนสมาเหนื่อย" พี่ภพหันไปหาอีกคนที่เดินตามมาทีหลัง


"อยากจะนั่งไหนก็นั่ง" เอกภพพูดโดยที่ไม่หันมามองก่อนจะเปิดประตูด้านหลังแล้วเข้าไปนั่ง โดยไม่สนใจใครอีก


"ขึ้นรถดีกว่านะ ยืนอยู่ตรงนี้นานๆเดี๋ยวยุงก็หามไปหรอก" เมื่อเป็นแบบนี้ก็เลยเข้าไปนั่งในรถ จักรภพยิ้มให้ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินอ้อมมาขึ้นฝั่งคนขับ


รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากมหาลัยก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่


"พี่ไม่แน่ใจเรื่องซอยแถวนั้น ยังไงก็บอกทางด้วยล่ะถ้าใกล้จะถึงแล้ว"


พยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ก่อนที่ในรถจะไม่มีใครพูดอะไรอีก มีเพียงเสียงเพลงที่เปิดจากเครื่องเสียงภายในรถดังเป็นจังหวะที่แผ่วเบาเท่านั้น





"หลังนี้แหละครับ..." รถหยุดลงตรงหน้าบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง


"ขอบคุณนะครับ" หันไปไหว้ขอบคุณคนที่มาส่ง อีกฝ่ายยิ้มจนตาหยี


"ไม่เป็นไรหรอก บ้านก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก วันหลังจะกลับด้วยกันอีกก็ได้นะ"


"ไม่เป็นไรครับ รบกวนพี่เปล่าๆ"


"เอาน่า ยังไงพี่ก็เลิกพร้อมน้องแมวอยู่แล้ว"


"ยังไงก็ขอบคุณนะครับ แต่ว่..." สะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็โน้มลงมาใกล้ จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย



วินาทีนั้น



รู้สึกเหมือนตัวเราคือ ดาวเคราะห์ WASP-12b



ที่กำลังจะถูกดาวฤกษ์ WASP-12 กลืนกิน



ทำได้เพียงแค่นั่งตัวแข็งทื่อให้อีกฝ่ายจับไหล่ทั้งสองข้างไว้



หากคุณกล้องฮับเบิ้ลกำลังมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้



ได้โปรดช่วยที...



⋆★


TBC



สวัสดีทุกท่านค่ะ ขออภัยที่มาช้า(อีกแล้ว)นะคะ แต่ยังไงถึงมาช้าก็จะพยายามไม่ให้เกิน2อาทิตย์ค่ะ

สำหรับตอนนี้มีเรื่องดาว WASP-12b ที่ถูกดาวแม่ดูดเข้าไปค่ะ ให้อารมณ์เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้มากๆ

ส่วนเอกก็เป็นกล้องฮับเบิ้ลที่มองอยู่ไกลๆไปทำอะไรไม่ได้ (น่าสงสารเป็นที่สุด...) (ได้ข่าวว่าเอกหลับอยู่...)

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่า รักคนอ่านนนน ❤︎

เจอกันตอนหน้านะคะ /กลิ้งหลบทุกคนออกไปจากกระทู้ ฟิ้วววว

ปล. ตอนนี้เรามีทวิตเตอร์แล้วนะคะ สามารถเข้าไปติชม ตบตี เตะต่อยได้ตามสบายเลยค่ะ หรือจะคุยกันก็ได้นะคะ 555
ตามลิ้งค์นี้ค่ะ https://twitter.com/sirius_cmajor
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 23-03-2015 19:31:40
ม่ายยยยยยยยย

เจ้าเอก แกนอนทำไมห๊ะ ตื่นขึ้นมาประกาศสงครามเด๋ยวนี้ๆๆๆๆ  :m31:

ไม่เข้าใจว่าทำไมเอกถึงห่างเหินไป
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 23-03-2015 19:35:31
สงสารเอก ไม่มีโอกาสทำคะแนนเลย งื้อออ :m17:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-03-2015 20:44:19
เอกเอ๊ย มัวแต่ปากหนักเดี๋ยวลีโอก็ร้องไห้หรอก พี่ภพก็เร่งรุกซะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 23-03-2015 23:52:59
ปากหนักเข้าไป
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-03-2015 06:34:49
เอก! ตื่นๆ
มาช่วยดาวบริวารเร็ว
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 24-03-2015 08:07:08
กรี๊ดดดดดดดดดดด เรื่องนี้น่ารักจังเลยยยยยย
ถ้าคุณกล้องไม่ยิงยานอวกาศไปนะ เราจเร่งปฏิกริยาให้ดาวกลืนกันไวขึ้นนะนาย!!!
รอตอนต่อไปนะคะ เรื่องนี้น่ารักจริงๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 24-03-2015 08:35:27
น่ารักกก ลีโอน่ารักมาก ชอบบ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 24-03-2015 09:26:26
เอกกกกก อย่าม้วแต่นอนนน น้องแมวจะโดนกินแล้วววว

เราชอบตอนนี้นะ เพราะทำให้เห็นว่าเอกก็มีอิทธิพลกับน้องแมวอยู่นะเนี่ยย

เอกก็อย่าเพิ่งหายไปนะเฟ้ยย รีบมาทำคะแนนต่อเร็วว
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 30-03-2015 00:00:38
ม่ายยยยยยยยย

เจ้าเอก แกนอนทำไมห๊ะ ตื่นขึ้นมาประกาศสงครามเด๋ยวนี้ๆๆๆๆ  :m31:

ไม่เข้าใจว่าทำไมเอกถึงห่างเหินไป

นั่นสิคะ เอกตื่นเร็วๆๆๆๆๆ :ling1:

สงสารเอก ไม่มีโอกาสทำคะแนนเลย งื้อออ :m17:

ยังมีโอกาสทำคะแนนได้ในครั้งต่อๆไปอยู่อีกค่ะ มาเอาใจช่วยเอกกันต่อดีกว่าเนอะ


เอกเอ๊ย มัวแต่ปากหนักเดี๋ยวลีโอก็ร้องไห้หรอก พี่ภพก็เร่งรุกซะ

นั่นสิคะ แต่เดี๋ยวเอกก็จะดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ มาเอาใจช่วยกันดีกว่าเนอะะะะ

ปากหนักเข้าไป

อนุญาตให้ตบตีเอกได้ตามสบายค่ะ /โดนเอกตบ  :beat:

เอก! ตื่นๆ
มาช่วยดาวบริวารเร็ว

นั่นสิคะ ดาวบริวารจะโดนเขมือบแล้วววว  :katai1:

กรี๊ดดดดดดดดดดด เรื่องนี้น่ารักจังเลยยยยยย
ถ้าคุณกล้องไม่ยิงยานอวกาศไปนะ เราจเร่งปฏิกริยาให้ดาวกลืนกันไวขึ้นนะนาย!!!
รอตอนต่อไปนะคะ เรื่องนี้น่ารักจริงๆๆๆๆๆๆ

เรามาช่วยกันเร่งปฏิกิริยากันดีกว่าเนอะๆ  :hao6:
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ดีใจที่ชอบมากๆเลยค่า

น่ารักกก ลีโอน่ารักมาก ชอบบ

เราเองก็ชอบลีโอเหมือนกันค่ะ ดีใจที่ชอบนะคะ  :-[

เอกกกกก อย่าม้วแต่นอนนน น้องแมวจะโดนกินแล้วววว

เราชอบตอนนี้นะ เพราะทำให้เห็นว่าเอกก็มีอิทธิพลกับน้องแมวอยู่นะเนี่ยย

เอกก็อย่าเพิ่งหายไปนะเฟ้ยย รีบมาทำคะแนนต่อเร็วว

เราชอบตอนนี้เช่นเดียวกันค่ะ เพราะส่วนใหญ่เราจะเขียนแต่มุมมองของเอก เวลาได้เขียนอีกมุมมองหนึ่งของลีโอด้วยแล้วเป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆเลยค่ะ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดด้วย ถ้าได้รับรู้เรื่องที่ลีโอคิดในใจแล้วเรารู้สึกว่ามันดีน่ะค่ะ  :katai2-1:

หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่9 | P.3] 23/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 30-03-2015 00:02:55
ปฏิกิริยาเคมีบางปฏิกิริยาที่เกิดได้ช้าจนเกินไป




ก็ควรมี 'แคตตาลิส' เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา





ตอนที่ 10



"ว่าไงคะคุณเพื่อน อัพเดตหน่อยสิคะ" แซนกระซิบถาม ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือของคณะ ที่นี่ไวไฟแรงมาก แถมยังมีปลั๊กอีก นี่มันสวรรค์ชัดๆ


"อัพเดตอะไร?" ถามไปทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว ใครมันจะไปบอกง่ายๆ


"แหม คุณเพื่อนเอกคะ อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย เรื่องอะไรเรารู้ๆกันอยู่ค่ะ" ไอแซนรู้ทัน


"เออ มึง ตกลงว่ายังไง?" ไอเติ้ลสมทบ สองคนนี้ระดับความอยากรู้อยากเห็นสูงจริงๆ


"ก็อย่างที่กูสงสัยนั่นแหละ" ว่าลีโอก็คือเด็กคนนั้น


"จริงหรอวะมึง เหยดดดด!" ไอเติ้ลทำตาโต "แล้วมึงจะเอายังไงต่อไปวะ?"


"เอาอะไร?" ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจกับคำถามของเติ้ล แล้วจะให้อะไรต่อล่ะวะ


"ก็มึงจะทำยังไงต่อไปไง"


"จะให้ทำอะไร ก็เป็นเพื่อนกันดิ"


"หน้ามึงดูอยากเป็นมากกว่านั้น"


"มึงมั่วแล้ว"


"ไม่ได้มั่ว ไม่เชื่อถามไอแซน" ไอเติ้ลพยักเพยิดไปทางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอแซนพยักหน้าเห็นด้วย


"กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น"


"งั้นหรอ?" ไอเติ้ลทำหน้าเบื่อหน่าย "กูรู้มึงคิด ไม่งั้นมึงไม่ลงทุนกลับบ้านกับเขาทุกวันหรอก เลิกโกหกตัวเองได้แล้วมึง การกระทำมึงมันสวนทางกับคำพูด"


"ระวังจะมีคนปาดหน้าเค้กนะเพื่อนเอก เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน"


"ถูกของไอแซนดี้มัน" ไอเติ้ลสมทบ


พอได้ยินคำว่าปาดหน้าเค้ก ก็นึกถึงเรื่องในรถวันนั้นขึ้นมาได้...




'เพราะกูก็กำลังจีบน้องเขาอยู่เหมือนกัน'



คำพูดที่ออกมาจากปากไอพี่ชาย ไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรจากสังคม



"เออ มึง พี่กูมันบอกว่าจะจีบไอสิงโตนั่นว่ะ" พอกลับถึงบ้านในวันนั้น ก็เก็บเอาไปนั่งคิดนอนคิดด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว อะไรทำให้ไอภพมันทำแบบนั้น ปกติแล้วก็เห็นมันควงผู้หญิงตลอด ไม่มีวี่แววว่าจะชอบผู้ชายเลย



หรือว่าจะ...



"มันแกล้งมึงไง" ไอเติ้ลพูดสิ่งที่ตัวเราเองก็คิดเหมือนกันออกมา


"แต่เสียงแม่งจริงจังมากนะ"ตรงจุดนี้นี่แหละที่ทำให้ไม่มั่นใจ


"มึงอยู่กับพี่มึงมาตั้งแต่เกิด ทำไมยังไม่รู้อีกวะว่าแบบไหนคือมันแกล้งมึง" ไอเติ้ลทำหน้าหงุดหงิด ทุกคนในโต๊ะตอนนี้เลิกสนใจหนังสือไปนานแล้ว เพราะประเด็นนี้สำคัญกว่า


"ก็กูไม่เคยได้ยินมันทำเสียงนิ่งๆจริงจังแบบนี้นี่วะ" ปกติไอภพมันยิ้มตลอด ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ถ้าหน้ามันไม่หล่อนี่จะคิดว่ามันบ้าแล้ว แถมยังทำตัวแบบทีเล่นทีจริง ไม่เคยเห็นมันจริงจังกับอะไร แม้กระทั่งสอบด้วย


"กูโดนพี่มึงแกล้งตอนป.2ครั้งเดียว กูจำฝังใจจนตาย พี่มึงมันขี้แกล้ง มึงโดนบ่อยสุดยังไม่รู้อีก" ไอเติ้ลเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักกับจักรภพมานานเพราะบ้านอยู่ติดกัน


"กูไม่แน่ใจนี่วะ มันอาจจะจริงจังก็ได้" ไอเติ้ลถอนหายใจกับประโยคที่ได้ยิน เอ้า ก็คนมันไม่แน่ใจนี่วะ


"เอางี้นะมึง มึงลองไม่กลับบ้านกับลีโอสักพักดูดิ ถ้ามันจะจีบจริง มันต้องไม่ใช่แค่ต่อหน้ามึง ลับหลังมันก็ต้องมีด้วย" วิธีที่ไอเติ้ลแนะนำมาก็ดีนะ ถ้าจะจีบจริงมันก็ต้องมีแวะมาหาบ้าง แล้วเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไลน์ถามไอโปรเอา เพราะตอนนี้ไอโปรก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เราสนิทมากพอๆกับไอสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย


"ก็ดีนะมึง" พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของไอเติ้ล แซนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆกระพริบตาปริบๆมอง


"เพื่อนเอกกังวลขนาดนี้แปลว่าชอบเขาแล้วล่ะสิ"


"..."


"ถึงขั้นนี้มันหวังแต่งด้วยแล้ว" ไอ้เติ้ลยกยิ้มมุมปาก


"..."



ไอสัส... พวกมึงหลอกถามกูสินะ...



"เงียบไปเลย!" ขู่ฟ่อไอเพื่อนสองคนไปที แต่ไม่ได้เสียงดังอะไร ถ้าขืนเสียงดังคงมีรุ่นพี่เดินมาตบบ้องหัวเรียงตัวแน่ๆ


"แหนะๆ มึงโวยวายแบบนี้แปลว่าจริง กูรู้จักมึงดีมึงชอบโวยวายกลบเกลื่อน" ไอเติ้ลล้อโดยมีแซนยกยิ้มเป็นแบล็คกราวน์ประกอบฉาก


"ไม่ใช่... ไอเชี่ยเติ้ล... แม่ง..." พวกมึงมันร้าย


"งั้นถามจริงๆนะมึง" รอยยิ้มมุมปากของไอเติ้ลหุบลง


"ถามอะไรวะ"


"ตอนที่พี่มึงพูดว่าจะจีบลีโอมึงรู้สึกยังไง?" เจอไอเติ้ลยิงคำถามนี้ใส่ ทำเอาเงียบไปอยู่พักใหญ่


"ก็..."



ตอนนั้นรู้สึกยังไงวะ?



"กู...ไม่ชอบ"



ไม่ชอบให้มันมาลูบหัว ไม่ชอบให้อยู่ด้วยกัน มันดูน่ารำคาญ ขวางหูขวางตา




"รู้สึกว่าไอภพมันไม่เหมาะกับลีโอ"



ไม่เหมาะอย่างยิ่ง ไอพวกไม่จริงใจแล้วยังไม่จริงจังอีก เราเองยังเหมาะกว่า



"ดูเป็นคนที่ไม่ทันใครเลย ไอภพมันปลาไหล ถ้าอยู่กับมันมีแต่จะเสียใจ"



ไอนี่ชอบคบซ้อน สับรางเก่งพอตัว ขืนรู้ขึ้นมาคงจะเสียใจแย่



"แล้วกูก็ห่วงเขา..."



ไม่อยากเห็นสีหน้าเหมือนตอนอยู่ที่ท้องฟ้าจำลองนั่นอีกแล้ว...



"แค่ห่วง?"


"ไม่รู้... กูไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ มันคืออะไรกูก็ยังไม่รู้ เชี่ย..." ยกมือขึ้นกุมหัว นี่เป็นครั้งแรกที่เพิ่งเคยกังวลกับเรื่องของคนอื่นมากกว่าตัวเองมากขนาดนี้ ความรู้สึกชอบใครก็ไม่เคยมีมาก่อน แฟนสักคนในชีวิตก็ไม่เคยมี เรียกได้ว่า ไก่อ่อนมากๆ...


"จริงสิ... เรียกว่า หวง ล่ะมั้ง...?" เวลาเห็นมันสนิทกับไอโปรยังแอบอิจฉาเลย...


"...เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณสำหรับการสัมภาษณ์" ไอแซนที่นั่งเงียบอยู่นานชูโทรศัพท์มือถือขึ้น หน้าจอแสดงผลเป็นโปรแกรมอัดเสียงที่ถูกเซฟแล้วเรียบร้อย


"ยินดีด้วยไอเอก ในที่สุดมึงก็ยอมรับความจริงได้สักที" ทำไมทีแบบนี้พวกมึงสามัคคีกันจังวะ


"กูเกลียดพวกมึงรองจากพี่กู!"


ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำหน้ายังไง รู้สึกแค่ว่าร้อนไปหมดทั้งหน้า ก้มหน้าลงมองชีทกับหนังสือที่กองอยู่บนโต๊ะ อ่านไม่รู้เรื่องหรอก ไม่เข้าหัวเลย แค่อยากจะหลบสายตาจากไอตัวล้อสองตัวข้างหน้าเท่านั้น


"แหนะๆ หน้าแม่งแดงแล้วว่ะ น่ารักจังน้องเอก"


"ล้อกูอยู่ได้ ไอเชี่ย..." ยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตา ได้ยินแต่เสียงล้อของไอเพื่อนสองคนดังเซ็งแซ่เข้ามา แต่จับใจความอะไรไม่ได้เลยเพราะตอนนี้หูมันอื้อไปหมดแล้ว









ตอนนี้ก็ผ่านมาได้เกือบอาทิตย์หนึ่งแล้ว จากที่สืบมาจากไอโปรและเพื่อนคนอื่นที่อยู่ภาคเดียวกันกับลีโอ เป็นไปอย่างที่คาดไว้จริงๆ


ไอภพไม่เคยเดินเฉียดมาคณะข้างๆอย่างคณะวิทยาศาสตร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว และมีเพื่อนผู้หญิงหลายคน เห็นไอพี่ชายตัวแสบนี่เดินวนเวียนอยู่แถวคณะบัญชีเสียมากกว่าคณะตัวเองอีก คงจะไปง้อสาวที่เพิ่งบอกเลิกมันไปแล้วแน่ๆ



รู้สึกโล่งใจชะมัด...



แล้ววันนี้ก็จะครบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้กลับบ้านพร้อมกันกับลีโอ ได้เจอกันก็แค่ตอนเรียนแลปฟิสิกส์เท่านั้น แถมไอโปรก็โม้อยู่คนเดียวในแลปจนไม่ได้คุยกับอีกคน แอบหัวเสียนิดหน่อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า


จริงๆก็ว่าจะลองสังเกตไอภพแค่ไม่กี่วัน แต่เพราะวันอื่นๆหลังจากนั้นดันมีนัดทำงานกลุ่มด้วย กลายเป็นว่าเวลาที่จะได้กลับพร้อมกันก็เลยเลื่อนไปอีก และได้ข่าวมาจากไอโปรเมื่อสองวันก่อนว่าวันนี้ลีโอมีนัดเริ่มซ้อมว่ายน้ำไว้เตรียมแข่งกีฬาภายในมหาลัย


“กูมาชวนมึงไปฟิตเนสด้วยพรุ่งนี้” เอ่ยปากชวนไอเติ้ลในช่วงเวลาพักทำรายงานกลุ่มในห้องสมุด ที่ตอนนี้ทุกคนต่างลงไปหาอะไรกินกันหมด เหลือเพียงแค่สองคนที่นั่งเฝ้ากระเป๋าข้าวของต่างๆไว้ให้ ไอเติ้ลเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือที่เปิดโปรแกรมแชทชื่อว่าไลน์ขึ้นมามอง ท่าทางจะกำลังคุยกระหนุงกระหนิงกับแฟนมันอยู่ล่ะมั้ง


“ทำไมจู่ๆถึงอยากออกกำลังกายวะมึง”


“พรุ่งนี้ลีโอซ้อม” บอกเหตุผลอ้อมๆกับมันไป คนได้ยินยกยิ้มอย่างเข้าใจความหมาย


“แหนะ...มึงนี่มันจริงๆว่ะ จะไปดูเขาก็บอก ไม่ใช่บอกว่าจะไปฟิตเนส แหม่…” ตบหัวไอเติ้ลแก้เขินไปหนึ่งที ที่หาข้ออ้างไปฟิตเนสนั่นก็เพราะว่าจริงๆแล้วฟิตเนสมันอยู่ที่ชั้น2ของศูนย์กีฬา ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ชั้นลอยใต้ฟิตเนส ซึ่งมีอัฒจันทร์อยู่ตรงหน้าทางเข้าฟิตเนสไว้สำหรับดูเหล่านักกีฬาซ้อมว่ายน้ำ


“โอ้ย...ไอนี่แม่ง...ได้ทีตบหัวกูใหญ่เลย”


“ตบจนกว่ามึงจะเลิกล้อกู”


“ไม่ล้อแล้วก็ได้วะ แต่พรุ่งนี้กูไม่ว่างว่ะ” ได้ยินคำตอบแบบนี้ถึงกับอยากจะถีบไอคนตรงหน้าให้ตกจากเก้าอี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย


“มึงนัดกับพลอยหรอ?”


“ดีนี่ที่รู้” ถอนหายใจหนักๆไปหนึ่งที พรุ่งนี้ไปคนเดียวก็ได้ เรื่องของตัวเองก็ต้องจัดการด้วยตัวเองนี่นะ


“เออ ไม่เป็นไรเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปเองนั่นแหละ”


“ขอโทษด้วยนะเว้ยมึง ที่ไม่ว่างไปด้วย ถ้าได้เรื่องยังไงก็บอกด้วยแล้วกัน กูรอเผือกอยู่เสมอ”


“...”









หน้าฟิตเนสของศูนย์กีฬา ที่แต่ก่อนไม่เคยมีความคิดว่าจะมาใช้บริการให้คุ้มกับค่าเทอมที่เสียไปเลยสักนิด ยืนมองจดๆจ้องๆประตูบานใสที่มองทะลุเห็นภายในห้องใหญ่ที่มีเครื่องเล่นออกกำลังกายมากมายหลากหลายชนิด ยังเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาซ้อมของลีโอเลยกะว่าจะออกกำลังกายฆ่าเวลาเสียหน่อย ตามแผนที่วางไว้



มาเล่นฟิตเนส > โทรหาไอภพ อ้างว่าจะกลับบ้านด้วย > ลงไปหามันที่สระว่ายน้ำ > เจอลีโอ



แผนนี้น่าจะเวิร์คที่สุดแล้ว



ให้ตายสิ เกิดมาไม่เคยต้องมานั่งวางแผนอะไรแบบนี้




หลังจากยืนจดจ้องอยู่นานเลยตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ก็ยังไม่เคยมาใช้บริการศูนย์กีฬาเลยสักครั้ง วันนี้เลยถือโอกาสมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในนี้บ้าง เดินเข้าไปยื่นบัตรนิสิตให้แล้วเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหน้านัก กลับออกมาพร้อมชุดวอร์มเตรียมออกกำลังกาย



เริ่มจากเครื่องวิ่งออกกำลังกายนี่ก่อนแล้วกัน…





ก้มมองนาฬิกาข้อมือ คงเริ่มมากันแล้วสินะ กดปุ่มเลือกเป็นโหมดวอร์มร่างกายสักพักก่อนจะลงจากเครื่องวิ่งออกกำลังกาย ยกผ้าขนหนูที่แขวนไว้ด้านข้างมาพาดคอ เช็ดหน้าเช็ดตาไม่ให้เหงื่อโชกจนเกินไปแล้วเดินออกมาด้านนอกฟิตเนส นั่งลงตรงอัฒจันทร์ด้านบนสระว่ายน้ำ


มองลงไปยังสระว่ายน้ำข้างล่าง จากตรงอัฒจันทร์นี้สามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งสระ เห็นไอหน้าหล่อคนหนึ่งใส่กางเกงว่ายน้ำสีดำยาวถึงต้นขากำลังยืนยืดตัวอยู่ ไม่นานนักคนที่กำลังมองหาอยู่ก็เดินมายืนยืดตัวข้างๆ เหมือนจะมีการพูดคุยกันนิดหน่อยก่อนที่จะเริ่มลงน้ำเตรียมตัวซ้อม พร้อมกับเห็นไอพี่ชายตัวดีคู่กรณีคนล่าสุดลากกระดานไวท์บอร์ดสีขาวมาใกล้ขอบสระ


นักกีฬาแต่ละคนเริ่มทยอยกันออกตัวว่ายกลับไปกลับมาในสระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แอบสังเกตมองจักรภพที่ยืนจับเวลาอยู่ริมขอบสระเป็นระยะ หยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก


‘ว่าไงเอก’ จักรภพใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือนาฬิกาจับเวลากดรับโทรศัพท์มือถือ


“วันนี้ป๊าบอกว่ามึงเอารถมา” พูดตรงประเด็นในทันทีที่อีกฝ่ายขานรับโทรศัพท์ สืบจากป๊ามาเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้ไอพี่ชายมันจะกลับเย็นเพราะต้องช่วยซ้อมว่ายน้ำให้เหล่าน้องๆในคณะ เลยขอยืมรถของพ่ออีกคันหนึ่งมาใช้


‘จะกลับด้วยว่างั้น?’


“ใช่ พอดีมาฟิตเนสกับเพื่อน” จริงๆแล้วมาคนเดียว


‘ลงมาเจอกันที่สระข้างล่างแล้วกัน หรือจะมานั่งรอเลยก็ได้ ทุ่มนึงก็เลิกซ้อมแล้วล่ะ’


“อือ…เดี๋ยวลงไป” กรอกเสียงไปตามสายก่อนจะกดวาง



นั่งเหม่อมองไปยังสระว่ายน้ำสีฟ้าใสด้านล่าง สังเกตเห็นใครอีกคนได้ไม่ยากนักด้วยเพราะผิวที่ขาวกว่าใครทั้งหมดในนี้ คนข้างล่างเองก็ยังคงว่ายอยู่ในนั้นไม่หยุด ไม่เหนื่อยบ้างเลยหรือไงกันนะ


นั่งอยู่ตรงนั้นสักพักจนคนในสระเริ่มทยอยกันขึ้นจากน้ำถึงได้รู้ว่าถึงเวลาเลิกซ้อมแล้ว ลุกขึ้นแล้วรีบกลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบกระเป๋าออกมาจากล็อคเกอร์แล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่าง






ลงมาก็เจอกับจักรภพที่ยืนรออยู่คนเดียว ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างนึกเสียดายที่ไม่ได้เจออีกฝ่ายตรงๆ


“อ้าว มาแล้วหรอ?” จักรภพหันมาทักทาย ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกับไอคุณพี่ชาย คนที่เมื่อกี้มองหาอยู่ก็เดินเข้ามา


ใบหน้าขาวรับกับผมที่เปียกน้ำจนลู่ลงมา ทำให้รู้สึกว่า…



ไม่กล้าที่จะมองตรงๆ



ผิดไหม ถ้าจะคิดว่า น่ารัก…



เวลาปกติก็ไม่เคยจะคิดอะไรทำนองนี้กับหมอนี่ แต่ทำไมตอนนี้กลับมองว่า น่ารัก



สงสัยเพราะฟิตเนสแน่ๆ



ใช่…



เพราะฟิตเนส... เพราะเหนื่อย...




“หวัดดี” อีกฝ่ายทักทายด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเหมือนเดิม เหมือนที่ชอบทำประจำ แอบเหลือบตามอง แต่ไม่ได้ตอบกลับอะไร



หัวใจก็เต้นซะ...



ออกมาเต้นข้างนอกเลยไหม?




“งั้นเรากลับกันดีกว่า” อยากจะวิ่งเข้าไปกระโดดถีบไอพี่ชายจอมปาดหน้าเค้ก ไม่รู้ว่าที่บ้านเปิดร้านเบเกอรี่หรืออย่างไรถึงได้ชอบปาดหน้านัก


ทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่ส่งสายตาหงุดหงิดกลับไปให้จักรภพที่คว้าข้อมือของอีกคนเดินตรงไปที่รถฮอนด้าสีดำ


“ผมว่าผมนั่งข้างหลังจะดีกว่า…”


“ข้างหลังเอกมันจะนอนน่ะ เห็นว่าเล่นฟิตเนสมาหนื่อย”


เดินมาจนทันทั้งสองคนที่กำลังเถียงกันเรื่องที่นั่ง เลยพูดตัดรำคาญแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านหลังเองเสร็จสรรพ ไม่นานนักทั้งสองคนก็เปิดประตูเข้ามานั่งในรถ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากศูนย์กีฬาไป








ถึงจะบอกว่าหลับก็เถอะ แต่ไม่ได้หลับจริงๆหรอก แอบลืมตามองสองคนข้างหน้าอยู่เป็นระยะ ก็ไม่ได้มีอะไร แค่บอกทางไปบ้าน


“หลังนี่แหละครับ” จักรภพหยุดรถลงที่หน้าบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง


“ขอบคุณนะครับ” อีกฝ่ายหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ


“ไม่เป็นไรหรอก บ้านก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก วันหลังจะกลับด้วยกันอีกก็ได้นะ” นี่ยังจะมีอีกครั้งหรอวะไอภพ?


“ไม่เป็นไรครับ รบกวนพี่เปล่าๆ” ดีมากที่รู้จักปฏิเสธ อย่าไปกับไอภพมัน ไอคนไม่น่าไว้วางใจ ไอบ้านเปิดร้านเบเกอรี่


“เอาน่า ยังไงพี่ก็เลิกพร้อมน้องแมวอยู่แล้ว”


“ยังไงก็ขอบคุณนะครับ แต่ว่า…” เบิกตากว้างจนแทบจะถลนออกมาเมื่อจู่ๆจักรภพก็เอื้อมมือไปจับไหล่แล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเรื่อยๆ สมองเริ่มลนลาน ทั้งตัวรู้สึกชาไปหมด



คิดว่ามันแค่จะแกล้งเราเล่นๆ



นี่มันเอาจริงหรือยังไง?




เหมือนปฏิกิริยาที่ถูกรบกวนสมดุล สมองพยายามคิดหาทางทุกอย่างเพื่อให้เหตุการณ์ตรงหน้านี่หยุดลง
ไวกว่าความคิด ร่างกายทำงานอัตโนมัติด้วยการเอื้อมมือไปดันไหล่ไอพี่ชายตัวดีให้ออกห่างจากอีกฝ่าย


“ป...ไปก่อนนะครับ...” คนที่ถูกคุกคามเปิดประตูรถลงไปด้วยสีหน้าตื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่อีกฝ่ายจะลงจากรถไปก็ยังส่งสายตาขอบคุณมาให้



ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า



แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ




“นี่วิธีจีบของมึงหรอวะ?” เปิดฉากถามไอพี่ชายที่นั่งนิ่งส่งยิ้มหวานมาให้ผ่านทางกระจกมองหลังรถ


“แล้วทำไมหรอ?” น้ำเสียงกวนๆถูกส่งกลับมาเป็นคำตอบ


“ต่อหน้ากูเนี่ยนะ มึงก็เห็นว่ากูไม่ได้หลับ”


“อ้าว...ไม่ได้หลับหรอ? นึกว่าเอกหลับซะอีก” อีกฝ่ายพูดทั้งๆที่รอยยิ้มยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้า


“อย่ามากวนตีน ไอเชี่ยภพ…”


“พูดกันดีๆสิเอก”


“กูยังต้องพูดดีกับมึงอีกหรอวะ? เมื่อกี้มึงเกือบจูบเขาแล้วนะเว้ย จูบน่ะ! จูบ!”


“ทำไม? มึงชอบเขาหรือไงถึงเดือดร้อนจัง?”


“เออ กูชอบเขา! พอใจยั...”




ชิบหายแล้วไง...




・ 。  ★彡
☆彡。∴。。 ☆彡 ・
 ・゚*。★彡・ 。*・゚ ★彡
  ・ 。・*・゚。   ・
 ・ 。・*・゚。



TBC


สวัสดียามดึกค่ะ

ตอนนี้คำโปรยก่อนเริ่มตอนดูจะไม่เกี่ยวกับฟิสิกส์หรือดาราศาสตร์สักเท่าไหร่ แต่เอาเถอะ ยังไงลีโอก็เรียนเคมีแล้วด้วย (แฮะๆ)

ชี้แจงเล็กน้อยค่ะ เผื่อแอบงง

คือจักรภพเป็นพวกชอบแกล้งน้องชายตัวเอง ทางเติ้ลก็เลยมีความคิดว่า ถ้าไม่มีเอกอยู่ในเหตุการณ์ ทุกอย่างคงจะปกติแน่ๆ(ในกรณีที่จักรภพไม่ได้คิดจะจีบลีโอจริงๆ และเพียงแค่ต้องการแกล้งเอกเท่านั้น) ก็เลยเสนอว่าให้ลองไม่ไปเจอลีโอดู แล้วก็แอบให้คนอื่นไปสังเกตการณ์แทนตัวเอง จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วจักรภพกำลังแกล้งตัวเองอยู่หรือเปล่า?

ตอนนี้เอกก็ยอมรับตัวเองแล้วนะคะ ดีใจแทนลีโอด้วย เร็วๆนี้จะมีคนมาจีบหนูแล้วนะ :katai2-1:

พ่อนักวางแผนฝึกหัดกับพี่ชายเจ้าของร้านเบเกอรี่(ปาดหน้าเค้ก) (...) :hao7:

ปล. ภาพข้างบนก่อนคำว่า TBC นั่นคือฝนดาวตกนะคะ แฮ่ เขิน... (ไปเจอมาจากในเว็บญี่ปุ่นเว็บนึง น่ารักดีก็เลยเอามาใส่ค่ะ)

ปลล. ติชมได้ตามสบายเลยนะคะ น้อมรับทุกความคิดเห็นค่า

รักคนอ่านทุกท่านมากๆๆๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 30-03-2015 02:14:49
ชอบก็บอกชอบสิ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-03-2015 02:39:28
หลุดปากออกมาแล้วเอก   :hao3: รับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วย ด้วยการเดินหน้าจีบลีโอสักที
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 30-03-2015 06:54:10
รุ้สึกตอนนี้อยากจิ้นพี่ภพกับเติ้ลจัง :hao6:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-03-2015 07:56:42
พี่ชายแสบจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-03-2015 08:03:23
โถๆ โดนพี่ชายแกล้งจนได้ (อันที่จริงเอกซื่อบื่อพอตัว หรือจะว่าไม่ทันพี่ชายตัวเองดีนะ??)

 :hao7:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: johroh ที่ 30-03-2015 23:34:43
ฟินส์ฮะ ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ชอบสไตล์นี้เลยครับ ได้ดูตัวละครค่อยๆหวานทีละนิด ทีละนิด
นอนรอตอนต่อไปฮะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 30-03-2015 23:44:08
กรี๊ดดดด พึ่งมาเจอเรื่องนี้ อ่าน10ตอนรวด พูดเลย ชอบมากกกกกก!!! แมว เอ้ยยย ลีโอน่ารักง้ะ ส่วนเอกนี่เราฮานะ หายากว่ะคนแบบเอกเนี่ยยย สุดท้าย เสียรู้พี่ภพเข้าให้แล้ว 55555 
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-03-2015 23:46:12
หลุดปากตลอด :)
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 31-03-2015 00:50:05
หลุดปากออกมาซะที! คนอ่านลุ้นไปตามๆกัน
น่ายินดีๆ จะจีบยังไงล่ะเนี่ย
รอตอนต่อไปเนอะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 31-03-2015 12:16:19
5555555หลุดแล้วค่ะเอก พ่อคนแหย่ขึ้นเอ๊ย

ไม่เบื่อค่ะไม่เบื่อ เรื่องเดินด้วยจังหวะประมาณนี้โอเคแล้ว พอกรุบกริบไม่หวือหวา แต่มีมาแล้วชุ่มชื่นหัวใจ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 31-03-2015 18:10:11
พี่ก็ขี้แกล้งเกิ๊นนนนน
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 10-04-2015 00:16:48
ชอบก็บอกชอบสิ

นั่นสินะคะ บอกไปสิ จะเก็บไว้ทำไมมมมม :mew3:

หลุดปากออกมาแล้วเอก   :hao3: รับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วย ด้วยการเดินหน้าจีบลีโอสักที
เอกบอก กำลังพยายามครับ


รุ้สึกตอนนี้อยากจิ้นพี่ภพกับเติ้ลจัง :hao6:
เราไม่ได้คิดถึงคู่นี้เลยค่ะ แต่ก็น่าสนใจดีนะคะ  :hao7:

พี่ชายแสบจริงๆ  :laugh:
พี่ภพร้ายมากๆเลยค่ะ  :hao7:
 
โถๆ โดนพี่ชายแกล้งจนได้ (อันที่จริงเอกซื่อบื่อพอตัว หรือจะว่าไม่ทันพี่ชายตัวเองดีนะ??)

 :hao7:
ใช่ค่ะ พอเป็นเรื่องของตัวเอง เอกค่อนข้างจะซื่อบื้อค่ะ ส่วนพี่ภพนี่ก็ตัวแหย่น้องเลย แหย่ได้ตลอดเวลา :hao7:

ฟินส์ฮะ ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ชอบสไตล์นี้เลยครับ ได้ดูตัวละครค่อยๆหวานทีละนิด ทีละนิด
นอนรอตอนต่อไปฮะ  :katai3:
ขอบคุณที่ชอบนะคะ ดีใจมากๆเลยค่ะ
แล้วก็ขอโทษที่ให้คอยนานนะคะ

กรี๊ดดดด พึ่งมาเจอเรื่องนี้ อ่าน10ตอนรวด พูดเลย ชอบมากกกกกก!!! แมว เอ้ยยย ลีโอน่ารักง้ะ ส่วนเอกนี่เราฮานะ หายากว่ะคนแบบเอกเนี่ยยย สุดท้าย เสียรู้พี่ภพเข้าให้แล้ว 55555
ขอบคุณที่ชอบนะคะ >w<
แล้วก็ขอโทษที่ทำให้คอยนานด้วยค่ะ >_<''
เอกบอก ก็ไม่ได้อยากเสียรู้พี่ชายหรอกค่ะ แต่ตามไม่ทันจริงๆ 555

หลุดปากตลอด :)
เนอะะะะ หลุดตลอดเลย  :ling1:

หลุดปากออกมาซะที! คนอ่านลุ้นไปตามๆกัน
น่ายินดีๆ จะจีบยังไงล่ะเนี่ย
รอตอนต่อไปเนอะ
ใช่ค่ะ จะจีบยังไงกันนะ ขอบคุณที่รอนะคะ ขอโทษด้วยที่ทำให้รอนาน

5555555หลุดแล้วค่ะเอก พ่อคนแหย่ขึ้นเอ๊ย

ไม่เบื่อค่ะไม่เบื่อ เรื่องเดินด้วยจังหวะประมาณนี้โอเคแล้ว พอกรุบกริบไม่หวือหวา แต่มีมาแล้วชุ่มชื่นหัวใจ
ขอบคุณมากค่ะ ; w ; เวลาเขียนเรื่องนี้แอบคิดตลอดเลยว่าน่าเบื่อไปหรือเปล่านะ? แต่ได้อ่านฟีดแบคที่กลับมา ก็ดีใจมากๆเลยค่ะ ถ้าเกิดว่าเรื่องค่อนข้างยืดหรือเยิ่นเย้อยังไงบอกได้นะคะ น้อมรับคำติชมค่า

พี่ก็ขี้แกล้งเกิ๊นนนนน
นั่นสิ ขี้แกล้งมากๆเลย

หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่10 | P.3] 30/03/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 10-04-2015 00:23:32
'หลักการพาราแลกซ์' (Parallax)


คือปรากฏการณ์ที่มองเห็นตำแหน่งของวัตถุต่างออกไปจากตำแหน่งเดิม


เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองให้ต่างไป


เราก็จะได้เห็นมุมใหม่ๆของสิ่งเหล่านั้น


การที่ได้เห็นในหลายแง่มุม


นั่นแหละคือเสน่ห์ของทุกสิ่ง


ในจักรวาลแห่งนี้




ตอนที่ 11



“อย่ามากวนตีน ไอเชี่ยภพ…”


“พูดกันดีๆสิเอก”


“กูยังต้องพูดดีกับมึงอีกหรอวะ? เมื่อกี้มึงเกือบจูบเขาแล้วนะเว้ย จูบน่ะ! จูบ!”


“ทำไม? มึงชอบเขาหรือไงถึงเดือดร้อนจัง?”


“เออ กูชอบเขา! พอใจยั...”



ชิบหาย...



ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย ซวย !





ไม่เคยรู้สึกอยากต่อยตัวเองเท่านี้มาก่อน อยากแกล้งตายในรถให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!


จักรภพหัวเราะลั่นรถ มือข้างหนึ่งก็ทุบพวงมาลัยไปด้วย ไอนี่หนิ ขับรถอยู่นะเว้ย!! ถ้ารถคว่ำขึ้นมาจะทำยังไง!?


"ในที่สุดก็ยอมพูดสักทีไอ้คนปากแข็ง ต้องให้หลุดออกมาเองตลอด" จักรภพพูดไปก็ยิ้มขำไปทั้งยังส่งสายตาล้อๆผ่านทางกระจกมองหลังอีก


สิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตก็คือการเปิดช่องว่างให้ไอพี่ชายตัวดีล้อนี่แหละ ว่าแต่นี่กี่ขวบแล้ววะถึงได้ยังกลัวเรื่องโดนล้ออยู่เนี่ย


"รู้แล้วก็เงียบไป"


"โห... โหดว่ะมีสั่งด้วย" จักรภพตบไฟเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้าน "แต่เฮียไม่บอกใครหรอกนะไว้ใจได้"


"ก็ดี..." ตอบตัดบทไป สายตาก็เอาแต่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างรถเพราะไม่อยากเห็นรอยยิ้มกริ่มนั่นอีก ถึงแม้ข้างนอกจะมืดแล้วเพราะเป็นช่วงเวลาหัวค่ำ แต่บ้านหลายๆหลังในหมู่บ้านนี้ก็ยังคงเปิดไฟสว่างไสวกันอยู่ มองดูไฟที่เคลื่อนผ่านสายตาไปเพราะการเคลื่อนที่ของรถแล้วก็เพลินตาไม่น้อย


"แล้วเฮียไม่รังเกียจหรอที่มีน้องเป็นเกย์?" จะว่าไปเมื่อกี้ไอพี่ชายนี่มันก็เกือบจะจูบผู้ชายด้วยกันนี่?


"...หรือว่ามึงก็เป็นเกย์วะ?"


พอได้ยินแบบนั้นจักรภพถึงกับโวยวายใหญ่


"เฮ้ย! เดี๋ยวดิ! กูแค่แกล้งมึงเฉยๆ" หัวเราะหึในลำคอที่เอาคืนอีกคนได้นิดหน่อย เมื่อกี้รถที่กำลังแล่นอยู่ถึงกับกระตุกเพราะไอพี่ชายตัวดีนั่นตกใจและรีบแก้ตัว


"แต่เอาจริงๆมึงจะเป็นอะไร จะชอบใคร..."



.




.




.




"มึงก็ยังคงเป็นน้องกูอยู่เหมือนเดิม"



.



.




.



"ก็แค่นั้น..."












หลังจากบอกไอพี่ชายนั่นไปก็รู้สึกโล่งขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังระแวงอยู่ดีว่าจะมาไม้ไหนอีก คนอย่างจักรภพเชื่อใจไม่เคยได้ เรื่องนี้คนที่เป็นน้องรู้ดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนแกล้งอยู่ดี...


บางทีคนอื่นก็ดูท่าทางออก ก่อนที่เราจะรู้สึกเสียอีก



พอมานึกๆดูแล้ว



เราชอบหมอนี่ตอนไหนกันนะ?




"อ..."



แล้วเพราะอะไรถึงคิดว่านี่คือความรู้สึก 'ชอบ' จริงๆ



"เอก..."




แล้วทำไมถึง 'ชอบ' ?




"เอก..."




เอก...มึงนี่มัน...ทำไมแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจวะ!?



"ไอ้เอก! เลื่อนจนชิดกับเลนส์แล้วเว้ย!"


ไอโปรเอื้อมมือมาสะกิด จนเผลอทำแท่นวางหลอดไฟหล่นจากที่วาง ดีนะที่หล่นลงมาแค่บนโต๊ะที่ไม่สูงมากนัก ไม่งั้นคงได้เสียเงินชดใช้ค่าอุปกรณ์ในแลป แล้วไอหลอดไฟกับแท่นวางนี่ก็ใช่ว่าจะถูกเสียด้วย


"โทษทีๆ..." หยิบแท่งหลอดไฟสีน้ำเงินเขียวกลับมาวางไว้ในตำแหน่งเดิม


"นอนไม่พอหรือไงวะ ดูเหม่อๆว่ะ"


"ก็นิดหน่อย... ช่างมันเถอะว่ะ ทำต่อๆ" ว่าแล้วก็ปรับตำแหน่งเลื่อนไปเรื่อยๆ ไอโปรที่ยืนอยู่ด้านหน้าแท่งหลอดไฟกับเลนส์นูนที่วางเรียงตรงกันกำลังเอียงตัวไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อหาจุดที่เรียกว่า 'จุดไม่พาราแลกซ์'


"หยุดๆ" มือหยุดเลื่อนแท่งหลอดไฟอัตโนมัติเมื่อไอโปรขานเรียกเพราะได้ระยะที่พอเหมาะแล้ว


การหาจุดไม่พาราแลกซ์คือการที่เราเห็นภาพในเลนส์ที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาราบที่วางอยู่หลังเลนส์นูนเป็นภาพเสมือนหัวกลับที่อยู่ตรงกับวัตถุพอดีไม่แยกออกจากกัน ไม่ว่าเราจะขยับตัวไปทางไหนก็ตาม วิธีนี้ไว้ใช้หาความยาวโฟกัสของเลนส์นูน


"แมว มึงว่าไงมันไม่พาราแลกซ์หรือยังวะ?" ไอโปรหันไปถามอีกคนที่ยืนช่วยดูอยู่ข้างๆ ไอโปรเดินหลีกออกมาเพื่อให้ลีโอเดินเข้ามาแทนตำแหน่งของตัวเอง อีกคนขยับตัวมองซ้ายทีขวาทีก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยว่าภาพที่เห็นนั้นไม่พาราแลกซ์แล้ว


เห็นอย่างนั้นเลยเอื้อมมือไปหยิบตลับเมตรในตะกร้าที่วางอยู่บนโต๊ะมากางออกก่อนจะทาบระหว่างฐานวางเลนส์กับฐานของหลอดไฟ


ลีโอเดินอ้อมมาใกล้ๆก่อนจะก้มมองตัวเลขที่ปรากฎบนตลับเมตร ในห้องตอนนี้ปิดไฟมืดทั้งหมด มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ถูกตั้งให้ขนานกับพื้นโต๊ะของแต่ละกลุ่มเท่านั้นเพื่อไม่ให้แสงจากโคมไฟรบกวนแสงจากหลอดไฟในการทดลอง เวลาจะอ่านค่าบนตลับเมตรจึงต้องก้มมองเข้าไปใกล้ๆถึงจะเห็นตัวเลขได้ชัดเจน


"10.70 เซ็นฯ" ไอโปรพยักหน้าเมื่อลีโอขานตัวเลขออกมา ก่อนที่จะจดเลขลงในใบบันทึกผลการทดลอง


เริ่มการวัดใหม่อีกครั้ง ต้องทำทั้งหมดสามครั้งแล้วหาค่าเฉลี่ยเพื่อลดความคลาดเคลื่อนของการทดลอง


"กูนี่แม่งจะกลายเป็นคนเอวอ่อนละ โยกมาทั้งคาบแล้วเนี่ย" ไอโปรบ่นในขณะที่กำลังโยกตัวไปมา กลุ่มอื่นๆก็ดูจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่


"อย่าบ่น ทำไป" ลีโอเอ็ดคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า ตอนนี้สองคนนี้กำลังยืนซ้อนกันอยู่ ทั้งยังโยกตัวไปมาดูตลกจนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ


"มึงดูนู่นแมว ผู้หญิงกลุ่มนั้นแม่งเล่นงูกินหางกันแล้วว่ะ" ไอโปรชี้ไปยังโต๊ะกลุ่มข้างๆ กลุ่มนั้นเป็นกลุ่มหญิงล้วนกำลังยืนเกาะเอวกันโยกไปมาเหมือนเล่นงูกินหางแบบที่ไอโปรบอกจริงๆ นี่อายุเท่าไหร่กันแล้ว...?


"กูไปเกาะด้วยได้ป่ะวะ"


"กลุ่มตัวเองยังไม่เสร็จยังจะเล่น" ไอโปรหน้าบูดทันทีเมื่อลีโอห้ามมันไว้


แลปนี้ก็ดูจะไม่มีอะไรยากสักเท่าไหร่ แต่มานานตรงหาจุดที่ไม่พาราแลกซ์เท่านั้นที่ต้องเลื่อนวัตถุเข้าออกไปมาพร้อมกับโยกตัวซ้ายขวาเพื่อหาระยะที่เหมาะสม



เพราะจะมีเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น



ที่จะเกิดจุดไม่พาราแลกซ์ขึ้น



เหมือนกับความรัก



ที่ต้องการตำแหน่งที่เหมาะสม



ที่ๆเราจะสามารถ



.




.




.



รักกันได้พอดี...ทั้งสองฝ่าย









ลงมาจนถึงชั้นล่างของอาคารเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ขยี้ตาตัวเองไปมาสองสามที แลปวันนี้ทำเอาปวดตาไปหมดเพราะแสงน้อย ทั้งห้องปิดไฟจนหมด หันไปมองอีกคนที่ดูจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่กำลังยืนนวดขมับอยู่


"แลปวันนี้ปวดตาชะมัด" คนข้างๆบ่นพึมพำ


"เพราะปิดไฟนั่นแหละ"


ลีโอพยักหน้าเห็นด้วย  "แต่ถ้าไม่ปิดก็ไม่ได้นี่นะ"


ก็จริง ถ้าไม่ปิดไฟก็จะมองไม่เห็นแสงที่มากระทบกับเลนส์ ทำให้ทำการทดลองไม่ได้ พอปิดไฟก็ต้องเพ่งมองตัวเลขบนตลับเมตรอีก


ยืนให้สายตาปรับรับแสงปกติได้ไม่นานความปวดบริเวณรอบตาก็ค่อยเบาลง


"เอ้อ แล้ววันนี้ยังต้องซ้อมอยู่ไหม?" ถามไถ่เรื่องการซ้อมของอีกฝ่าย เพราะช่วงนี้ทุกๆเย็นจะต้องไปซ้อมตลอด และแน่นอนว่าถ้าซ้อม ยังไงก็ต้องตามไปดูอยู่แล้ว


จะว่าไปหลังจากวันนั้นมา ลีโอก็ไม่พูดถึงเรื่องวันนั้นอีกเลย แต่กลายเป็นว่าเจ้าตัวดูเหมือนจะระแวงจักรภพอยู่ตลอดเวลาแทน


แถมคืนนั้นยังได้ข้อความที่ส่งมาทางไลน์



'ขอบคุณนะ'



อีกด้วย




ดีใจแฮะ...




"ซ้อมวันนี้วันสุดท้าย หลังจากนั้นพี่ปล่อยให้อ่านสอบมิดเทอมน่ะ" พยักหน้าเข้าใจ เพราะก็ใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วด้วย กีฬาภายในของมหาลัยจะจัดหลังจากสอบมิดเทอมเสร็จเพียงไม่กี่วัน เลยจำเป็นจะต้องซ้อมก่อน แต่ก็ยังดีที่รุ่นพี่ให้หยุดซ้อมเพื่ออ่านหนังสือสอบ


"ซ้อมตอนเย็นเหมือนเดิมสินะ"


"ใช่"


"งั้นระหว่างนี้ก็ว่างนี่...?"


อีกคนไม่พูดอะไร แต่พยักหน้าเป็นคำตอบกลับมาแทน




"ไปคาเฟ่ต์แมวกัน"




มัดมือชกไปหรือเปล่าวะ?








เปิดประตูร้านคาเฟ่ต์แมวที่ตั้งอยู่ในห้างด้านหลังมหาลัย ช่วงเวลาบ่ายกว่ามีคนบ้างพอสมควรแต่ก็ยังพอมีที่นั่งอยู่ หยิบรองเท้าที่ทางร้านเตรียมไว้ให้เปลี่ยนมาใส่ ก่อนจะเดินไปกดเจลล้างมือที่วางอยู่ใกล้ทางเข้า


พนักงานต้อนรับผายมือไปยังที่นั่งที่ยังว่างอยู่ภายในร้าน พอนั่งที่เรียบร้อยก็หยิบใบเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะมาสั่งอาหาร คิดกันอยู่นานว่าจะกินอะไรดี สุดท้ายก็เลยสั่งแค่พวกกาแฟไป


"เดินผ่านร้านนี้อยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยเข้าเลยแฮะ" ลีโอพูดพร้อมกับมองไปรอบๆร้าน


"ไม่เคยเข้าหรอ?"


"ไอโปรมันแพ้ขนแมวน่ะ เพื่อนในกลุ่มทุกคนก็เลยไม่เข้า" จะว่าไปก็ยังไม่เคยเห็นเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มของหมอนี่เลย อาจจะเป็นเพราะแลปฟิสิกส์เวลาเรียนจะจับกลุ่มตามรายชื่อที่อาจารย์เรียงไว้ให้ เลยไม่สามารถตั้งกลุ่มเองได้ เหมือนกับที่ไอเติ้ลและแซนต้องไปเรียนคนละห้องกันนั่นแหละ


"เพิ่งรู้ว่าไอนี่มันแพ้ขนแมว" ดูซ่าๆ ไม่น่าแพ้อะไร


"ตอนแรกก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยไปทำรายงานบ้านเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่เลี้ยงแมวถึงได้รู้"


"แล้วนี่ไม่ได้แพ้ขนแมวเหมือนไอโปรมันใช่ป่ะ?" ถามเผื่อไปก่อน ถ้าเกิดอีกฝ่ายเกรงใจ ต้องมานั่งทนเป็นผื่นคันกับจามไม่หยุดคงจะแย่


"แน่นอน ถ้าแพ้คงไม่มานั่งตรงนี้"


ไม่นานนักกาแฟสองแก้วก็ถูกนำมาเสิร์ฟไว้ตรงหน้า พร้อมกับแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ตัวหนึ่งที่กระโดดมาอยู่บนโต๊ะด้วย เลยเอื้อมมือไปเกาคางจนเจ้าแมวเคลิ้มตัวอ่อนยวบลงมานอนราบกับโต๊ะ


"ไม่เล่นหรอ?" ละสายตาจากเจ้าแมวเหมียวไปมองอีกคนที่เอาแต่นั่งจ้องแมวไม่วางตา


"เล่นได้หรอ?" ลีโอถามอย่างไม่แน่ใจ


"เล่นได้สิ ล้างมือมาแล้วนี่" อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปลูบหลังเจ้าเหมียวเบาๆ แต่เจ้าเหมียวดันลุกขึ้นเดินหนีออกมา ก่อนจะกระโดดมานอนบนตักเราแทน


ลีโอยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเรียบอยู่เหมือนเดิม แต่มือที่ยังยกค้างไว้กับสายตาที่ดูเจ็บปวดเพราะถูกแมวเมิน ดูน่าสงสารไม่น้อย เห็นภาพนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มขำเบาๆ


อีกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม ลุกขึ้นจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างๆด้วย ก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้แล้วลูบหัวเจ้าเหมียวที่นอนอยู่บนตักเบาๆ


"เหมียว..." เจ้าแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ร้องครางเบาๆอย่างรำคาญใจ ก่อนจะพลิกตัวหันไปอีกทางแล้วซุกหน้าลงกับตัก พอเห็นอย่างนั้นลีโอเลยเปลี่ยนไปเล่นกับแมวตัวอื่นในร้านแทน


ลีโอเดินไปหยิบไม้ล่อแมวที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะนั่งยองๆแล้วยื่นไม้ไปตรงหน้าแมวพันธุ์เมนคูนตัวหนึ่งที่นั่งหลบอยู่มุมห้อง แน่นอนว่ามันมีปฏิกิริยาคล้ายๆกับอเมริกันชอร์ตแฮร์ตัวที่อยู่บนตัก คือไม่สนใจและเดินหนี


นั่งมองคนที่พยายามอย่างไม่ลดละไปพลางลูบหัวเจ้าแมวที่หลับปุ๋ยอยู่บนตักไปพลาง ลีโอเดินไปทั่วร้านเพื่อเล่นกับแมวที่ยังคงตื่นอยู่ แต่ไม่ว่าจะกี่ตัวก็ถูกเมินหมด



สิงโตถูกแมวเมิน...



สุดท้ายลีโอก็ถอดใจกลับมานั่งที่เดิม ยกกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด เพราะตอนนี้อุณหภูมิของกาแฟในแก้วคงลดลงมาเหลือเท่ากับอุณหภูมิในห้องเสียแล้ว


"สิงโตโดนแมวเมิน" แกล้งแหย่จนอีกคนเงยหน้ามามองด้วยสายตาเคืองๆ ก่อนจะลุกไปหาพนักงานที่เคาท์เตอร์ พูดคุยกันไม่นานก็กลับมานั่งที่เดิม


เลิกคิ้วสงสัยว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร แต่ไม่นานก็ได้คำตอบ เมื่อพนักงานมาพร้อมกับนมสองถ้วย


ลีโอยกยิ้ม


'แมวทุกตัวจะต้องยอมศิโรราบแก่ข้า!' สายตาของลีโอในตอนนั้น


เมื่อขยับฝาถ้วยจนเกิดเสียง เจ้าแมวหลายตัวจากทั่วร้านก็ต่างพากันกรูเข้ามาหาถ้วยนมตรงหน้าลีโอ หลายๆตัวแย่งกันกินนม สายตาเจ้าตัวในตอนนั้นดูมีความสุขมากที่แมวมารุมล้อม แต่เมื่อนมในถ้วยทั้งสองใบหมด เจ้าแมวก็พากันเดินจากไป


นั่งมองดูเหตุการณ์นั้นอย่างขำขัน จริงๆอยากจะหัวเราะให้ลั่นร้านแต่ก็เกรงใจลูกค้าคนอื่น ลีโอคอตกกลับมานั่งที่เดิม


"น่าสงสาร เพื่อนไม่สนใจ"


"ก็พูดได้สิ ไอพวกแมวรักแมวหลง" อีกฝ่ายแขวะกลับมา


"แน่นอน ไม่ใช่แค่แมวครับ หมาก็เหมือนกัน" แน่นอนว่าไม่ใช่การโม้ธรรมดา เพราะระดับนี้แล้ว คุณเอกภพผู้ซึ่งเป็นที่รักของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขนาดหมาที่คณะยังเดินตาม


"ขี้โม้ว่ะ"


"ระดับนี้ไม่โม้แล้วครับ ดูสิๆ" ชี้นิ้วไปที่เจ้าเหมียวอเมริกันช็อตแฮร์ตัวเดิมที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักพร้อมส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยไปให้อีกฝ่าย



ไว้คงต้องไปเขียนหนังสือ


'ทำอย่างไรให้แมวรักแมวหลง' บ้างดีกว่า




จู่ๆอีกฝ่ายก็ลุกมานั่งข้างๆ พร้อมกับใส่หูฟังเอนหลังพิงกับโซฟาที่นั่งอยู่ เพราะอีกฝั่งมีเพียงแค่เบาะรองนั่งไม่มีที่ให้เอนหลัง ในมือถือชีทเรียนวิชาเคมีไว้ ก่อนจะเข้าสู่โลกของตัวเองไปเรียบร้อย เห็นแบบนั้นเลยหยิบชีทเรียนของตัวเองมานั่งอ่านบ้างไม่ให้น้อยหน้ากัน


เวลาผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ การมานั่งอ่านหนังสือในร้านคาเฟ่ต์แมวนี่ก็ดีเหมือนกัน


นั่งอ่านจนจบไปหัวข้อหนึ่ง ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาซ้อมของคนข้างๆแล้ว จึงหันไปเรียกอีกฝ่าย


"ลีโ..."


หัวเราะขำกับภาพที่เห็นตรงหน้า ลีโอที่ใส่หูฟังนั่งหลับกอดชีทตัวเองราวกับเป็นหมอนข้าง กับแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์สีส้มที่กำลังนอนหลับอยู่บนตักของอีกฝ่าย และอีกตัวที่เป็นพันธุ์เดียวกันก็กำลังนอนซุกอยู่ข้างๆ



พยายามแทบตายเพื่อให้เจ้าเหมียวพวกนี้มาสนใจ



แต่พอเลิกสนใจ เจ้าพวกนี้กลับมาหาเอง



นั่งมองริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างไม่นึกเบื่อ ลูกค้าในร้านตอนนี้ก็เริ่มบางตาลงจากเดิมมาก นาฬิการูปแมวบนผนังร้านบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกา


ไร้ซึ่งเสียงรบกวนใดๆ เหล่าแมวเหมียวในร้านต่างพากันหลับใหลอยู่ตามมุมต่างๆในร้าน ระยะห่างระหว่างใบหน้าของคนสองคนที่ลดลงเรื่อยๆจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย



หลักการพาราแลกซ์นั้น


นอกจากจะไว้ใช้หาความยาวโฟกัสของเลนส์นูนแล้ว


ในทางดาราศาสตร์


ยังไว้ใช้หาระยะห่างของดาวฤกษ์กับโลกอีกด้วย




และมุมพาราแลกซ์ที่เพิ่มขึ้น



ก็เป็นตัวบ่งบอก




ถึงระยะห่างระหว่างโลกกับดาวฤกษ์




ที่กำลังลดลง...




・。・゜★・。・。☆・゜・。・゜。・。・゜★・。・。☆




TBC


สวัสดีค่ะ หายไปนานมาก เกือบเลยสองอาทิตย์แน่ะ แงงงงง ขอโทษด้วยจริงนะคะ :mew2:

ตอนแรกเราไปค่ายมาค่ะ ก็คิดอยู่ว่าคงลงช้า ปรากฏว่าดันเป็นหวัดฤดูร้อน  /ฤดูหนาวไม่เป็นดันมาเป็นฤดูร้อน orz

ตอนนี้รู้สึกว่าเขียนยากสุดเลยค่ะ /เพราะแก้หลายรอบมากๆ รู้สึกไม่ค่อยโอเคค่ะ ; w ;

เรื่องพาราแลกซ์นี่เราค่อนข้างสับสนนิดหน่อย แต่ไปค้นๆมาแล้ว คิดว่าน่าจะโอเคนะคะ ;;3;;

อย่างเรื่องเอามาหาความยาวโฟกัสของเลนส์นูนนี่ถูกแน่นอนค่ะ เพราะเพิ่งใช้ไป  :hao7: จริงๆนอกจากหาความยาวโฟกัสแล้วยังเอาไปหาอย่างอื่นได้อีกนะคะ มีประโยชน์มากเลย เช่น เอาไปหารัศมีความโค้งของกระจกเว้าอีก

รู้สึกตอนนี้เรื่องไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ แต่เอกภพนี่ชักจะเริ่มถึงเนื้อถึงตัวซะแล้วนะคะ 55555

น้องแมวหลับได้หลับดี จริงๆเป็นเด็กขี้เซาเพราะชอบนอนดึกค่ะ ส่วนนอนดึกเพราะอะไรก็คงเพราะเรื่องเรียนนั่นแหละ ไว้ว่างๆจะลองเขียนชีวิตประจำวันของสองคนนี้แยกออกมาน่าจะดี (หรือเปล่า?)

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ(ยังมีใครติดตามอยู่ไหมอ่า 5555)

รักคนอ่านทุกท่านค่าาาาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-04-2015 00:33:06
โถ แมวยังเมิน

ว่าแต่ทำไมแมวถึงไม่สนใจลีโอเลยซักกะตัว แปลกมาก  :ruready
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 10-04-2015 06:50:47
 :z10:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 10-04-2015 08:03:01
อ่านกี่ทีก้น่ารัก แมวบ้านหนุนี่ถ้ามีอาหารในมือ ยังไงมันก้ไม่เมินอ่ะ 55+
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-04-2015 09:19:50
จูบเลย! :hao6:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-04-2015 09:45:13
น่ารักอะ ลีโอโดนแมวเมิน 5555
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-04-2015 11:46:54
ถถถถถถถถแม่แมวถูกเมิน
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-04-2015 14:47:21
น่ารักดีชอบจังเลย
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 10-04-2015 15:09:36
น้องลีโอแมวเมิน5555 น่าร้ากกก
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 10-04-2015 16:54:20
ความน่ารักของลีโอพุ่งกระจายมากมายตอนนี้ น่าร๊ากกก~ >o<

หลงล่ะสิๆ เอก
#ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 10-04-2015 17:45:58
ชาบูๆๆๆๆ เข้าใกล้กันบ้างแล้วเนาะ
สารภาพซะทีสิเอกภพ!!!!!
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 11-04-2015 00:41:06
แอร๊ยยย ลีโอน่ารักอ่ะ แอบฮาตอนให้แมวกินนม พอกินเสร็จก็กระจาย นึกภาพลีโอตอนนั้นแล้วแบบ เฮ้ย!! น่าสงสารก็น่าสงสารแต่ดันน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า5555 ส่วนเอกเนี่ย อะไรยังไงแอบมองลีโอตอนหลับเนี่ย อย่าเผลอจุ๊บไปนะ เดี่ยวเจ้าของร้านจะฟินอุ๊ยจะเห็นล่ะ ไม่ดีๆ อิอิ (รอติดตามความคืบหน้าตอนต่อ(ๆ)ไปค่า) จุ๊บๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 11-04-2015 07:18:33
โอ๋ๆ โดนแมวเมิน น่าสงสารแท้หนู
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 20-04-2015 22:48:48
โถ แมวยังเมิน

ว่าแต่ทำไมแมวถึงไม่สนใจลีโอเลยซักกะตัว แปลกมาก  :ruready

ที่โดนแมวเมินนี่เป็นความสามารถเฉพาะตัวของลีโอค่ะ /ผิด

อาจจะเพราะไม่ค่อยรู้จักวิธีเข้าหาล่ะมั้ง?  :mew3:

:z10:
:z13:

อ่านกี่ทีก้น่ารัก แมวบ้านหนุนี่ถ้ามีอาหารในมือ ยังไงมันก้ไม่เมินอ่ะ 55+

แบบนั้นดีจังเลยค่ะ ลีโอคงอยากให้เป็นแบบนั้นบ้าง


จูบเลย! :hao6:

เจ้าของร้านคาเฟ่ต์แมวอาจเห็นได้นะคะ :hao6:

น่ารักอะ ลีโอโดนแมวเมิน 5555

ทั้งๆที่ก็เป็นแมว(ใหญ่)เหมือนกัน แต่ดันโดนเมินซะได้  :hao7:

ถถถถถถถถแม่แมวถูกเมิน

บางทีอาจจะต้องหาหนังสือทำอย่างไรให้แมวรักเขียนโดยเอกภพให้ลีโอซะแล้วล่ะค่ะ

น่ารักดีชอบจังเลย

ขอบคุณมากนะคะ  :กอด1:

น้องลีโอแมวเมิน5555 น่าร้ากกก

ท่าทางลีโอจะโดนล้อเรื่องนี้ไปอีกนานแน่ๆเลยค่ะ  :hao7:

ความน่ารักของลีโอพุ่งกระจายมากมายตอนนี้ น่าร๊ากกก~ >o<

หลงล่ะสิๆ เอก
#ติดตามๆ

แค่ลีโออยู่เฉยๆเอกก็ดูจะหลงมากแล้วล่ะค่ะ ยิ่งพอเจอแบบนี้ ท่าทางจะออกมาจากหลุมดำไม่ได้แล้ว :mew3:

ชาบูๆๆๆๆ เข้าใกล้กันบ้างแล้วเนาะ
สารภาพซะทีสิเอกภพ!!!!!
รอตอนต่อไปน้าาาา

เอกอาจจะยังต้องดูท่าทีต่อไปก่อนนะคะ เพราะดูๆแล้วยังไม่รู้เลยว่าฝั่งลีโอคิดยังไง :hao3:

แอร๊ยยย ลีโอน่ารักอ่ะ แอบฮาตอนให้แมวกินนม พอกินเสร็จก็กระจาย นึกภาพลีโอตอนนั้นแล้วแบบ เฮ้ย!! น่าสงสารก็น่าสงสารแต่ดันน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า5555 ส่วนเอกเนี่ย อะไรยังไงแอบมองลีโอตอนหลับเนี่ย อย่าเผลอจุ๊บไปนะ เดี่ยวเจ้าของร้านจะฟินอุ๊ยจะเห็นล่ะ ไม่ดีๆ อิอิ (รอติดตามความคืบหน้าตอนต่อ(ๆ)ไปค่า) จุ๊บๆๆๆๆ

มันเป็นโมเม้นต์ที่ทำเอาลีโอเสียความมั่นใจไปเยอะมากๆเลยล่ะค่ะ (แต่สำหรับเอกคงมองว่าน่ารักนะคะ 555) ใครๆก็อยากให้แมวเข้าหาเนอะ

/วิ่งไปปิดตาเจ้าของร้าน

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ จุ๊บๆๆๆ  :กอด1:


โอ๋ๆ โดนแมวเมิน น่าสงสารแท้หนู

ลีโอคงเสียความมั่นใจไปมากเลยล่ะค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่11 : หลักการพาราแลกซ์ | P.4] 10/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 20-04-2015 22:50:09



ยิ่งลืมเท่าไหร่ สุดท้ายก็ยิ่งจำได้



เหมือนกับดวงดาวที่สูญสลายหายไปเพราะหมดอายุขัย



เศษฝุ่นและซากดาวดวงเก่าหลอมรวมกัน



สุดท้ายแล้วดาวดวงใหม่ก็กำเนิดขึ้นมาอยู่ดี...




ตอนที่ 12




เข้าสู่ช่วงสอบมิดเทอมอย่างเป็นทางการ หนังสือหนังหาอะไรก็รู้สึกว่าอ่านไม่ทันสักอย่าง แต่ก็อ่านไปเท่าที่จะทำได้


เดินออกจากห้องสอบด้วยสีหน้าเหมือนหมาโดนวางยาเบื่อ อาจารย์จะออกให้ยากกันไปไหน กลัวนิสิตทำได้หรือยังไง?


จริงๆเพราะทำไม่ได้เองมากกว่า  แต่ก็ไม่เคยคิดจะโทษตัวเองหรอก


"แม่งยากชิบหายเลยค่ะคุณเพื่อน" แซนดี้ออกมาบ่นกระปอดกระแปดหน้าห้องสอบ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็มีสีหน้าเหมือนถูกวางยากันมาทั้งนั้น


"ว่าไงมึง ไอเอก" ไอเติ้ลที่ยืนรออยู่หน้าห้องเดินเข้ามาถาม มันเป็นพวกออกจากห้องคนแรกตลอด


"ยากชิบ กูคงไม่หวังภาคเคมีละ" เวลาเลือกภาควิชาที่จะเรียน ก็จะมีการจัดอันดับคะแนนกันในหมู่คนที่ลงเลือกภาคนั้นๆ หากคะแนนเราสูงถึงในจำนวนคนที่ภาควิชานั้นต้องการ ก็จะได้รับคัดเลือก ซึ่งดูจากการทำข้อสอบเมื่อกี้แล้ว มีหวังสอบไฟนอลคงจะต้องเหนื่อยกว่านี้มากแน่ๆ เพราะข้อสอบก็ทำไม่ค่อยได้ ถึงจะตอบไปเกือบครบทุกข้อ แต่ก็เขียนแถไปแถมา เผื่ออาจารย์จะเห็นใจให้คะแนนค่าหมึกปากกาสัก0.5คะแนนก็ยังดี


"โห มึงพูดงี้ กูจะเหลือหรอวะ"


"เอาน่า มึงผ่านอยู่แล้ว" ตบบ่าปลอบใจไป เติ้ลมันอยากเรียนโยธา แต่ระดับมันน่ะติดอยู่แล้ว เห็นออกจากห้องเร็วแบบนี้มันคงทำได้เยอะอยู่


"เออๆ ช่างแม่ง ไปหาไรแดกดีกว่า สอบเสร็จแล้วว้อยยยย แซนดี้ไปแดกกันนนนนน!" ไอเติ้ลโวยวายลั่นตึกเรียกไอแซนที่กำลังยืนบ่นเรื่องข้อสอบอยู่ในกลุ่มพวกผู้หญิงให้หันไปมอง


"วันนี้นัดกับเพื่อนไว้แล้ว" ไอแซนตะโกนตอบ ทำไมไม่ไปยืนคุยกันดีๆ


"อ้าว ไอนี่หนิ แล้วก็ไม่บอก นิสัย" เติ้ลบ่นพึมพำหลังจากที่รู้ว่าเพื่อนตัวเองดันมีนัดแล้ว ตอนแรกนึกว่าเติ้ลมันจะไปกับพลอยแฟนมันซะอีก แต่นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้ามันบอกว่าแฟนมันยังสอบไม่เสร็จ


"บอกไปแล้วเพื่อนเติ้ลไม่ตั้งใจฟังเอง แต่จะไปด้วยก็ได้นะ เพื่อนมันก็อยากให้ไปกันเยอะๆ"


"เออ ก็ดีว่ะ ไปด้วยๆ ไอเอกไปไหมวะ?" ไอเติ้ลหันมาตะโกนถาม ตอนนี้ด้านหน้าห้องสอบเสียงดังจนอาจารย์ต้องออกมาไล่ บอกว่าถ้าจะคุยให้ลงไปข้างล่าง ตอนนี้พี่ปีสามยังสอบอยู่ในห้องด้วย หลายคนรวมถึงพวกเราที่ยืนออกันอยู่หน้าห้องสอบเลยเดินลงมาจนถึงชั้นล่าง ถึงได้คุยกันต่อเรื่องจะไปหาอะไรกินหลังสอบ


"เพื่อนเอกไปด้วยกันไหม?" ไอแซนพุ่งตรงเข้ามาถาม


"ไปกินอะไร ที่ไหน ยังไง กับใคร?" ถามไอแซนออกไปรวดเดียว กำลังคิดอยู่ว่าควรจะไปดีไหม หรือจะกลับไปนอนดี เพราะเพิ่งได้นอนไปไม่ถึงสี่ชั่วโมง

"ไปกินหมูกระทะ หลังมอ กับพวกไอปราย" ไอแซนตอบคำถามทั้งหมดอย่างชัดถ้อยชัดคำเน้นทีละพยางค์ คุ้นๆชื่อ 'ปราย' อยู่เหมือนกัน เหมือนแซนเคยพูดถึงอยู่บ้าง


"พวกไอปรายนี่ใครวะ?" สุดท้ายเลยตัดสินใจถามออกไป ดีกว่ามานั่งนึกให้ปวดหัว


"ก็คนที่เคยจะพาไปเจอตอนแข่งว่ายน้ำกีฬาเฟรชชี่แต่สุดท้ายไม่ได้ไปไง ก็เพื่อนเราตอนมอปลายนั่นแหละ แต่พวกมันเรียนวิทยาฯ" หืม? วิทยาอีกแล้วหรอ เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะรู้จักคนจากคณะข้างๆเพิ่มขึ้นแฮะ


"อีกอย่างนะ ไอปรายบอกว่าจะพาคุณชายลีโอมาด้วยล่ะ!" ไอแซนทำหน้าดี๊ด๊า สรุปไอกลุ่มเพื่อนที่ชื่อปรายนี่คือเพื่อนของลีโอสินะ?




ก็รู้ว่าโลกน่ะกลมอย่างที่โคเปอร์นิคัสบอก



แต่บางทีก็รู้สึกว่ากลมเกินไป







"แน่ะๆ เพื่อนเอกนิ่งไปเลย จะไปไหม? เอ... หรือว่าไม่ไป?" แซนทำหน้าล้อ เมื่อไหร่จะเลิกล้อกันสักที...


"มึงจะไม่ไปสินะ น่าเสียดายจัง" นั่นไง ไอเติ้ลอีกคน




พูดมาขนาดนี้ คงไม่ไปมั้ง?










ร้านหมูกระทะหลังมหาลัยที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนิสิตนักศึกษาเพราะทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ไกล และเพราะวันนี้หลายคณะสอบเป็นวันสุดท้าย ร้านจึงแออัดไปด้วยเหล่านิสิตนักศึกษาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ


เดินมาจนถึงหน้าร้าน สายตาก็พลันมองเห็นกลุ่มเพื่อนของแซนได้ในทันที เพราะมีใครคนหนึ่งในกลุ่มลุกขึ้นยืนและโบกมือไปมาให้กับพวกเราทันทีที่เห็น ในกลุ่มนั้นที่รู้จักกันดีมีอยู่สองคน คือ โปร กับ...ลีโอ ส่วนที่เหลือเป็นผู้หญิงสี่คนและผู้ชายอีกสามคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน รวมกับทางฝั่งวิศวะที่เป็นชายฉกรรจ์อีกสี่คนและหญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มวิศวะอย่างแซนดี้ จำนวนคนรวมกันแล้วต้องต่อโต๊ะเพิ่มอีกสองโต๊ะ


เดินตามหลังแซนกับเติ้ลไปที่โต๊ะ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับคนที่เจอกันทุกวันบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ทักทายทุกคนนิดหน่อย ก่อนที่แซนจะเริ่มแนะนำเพื่อนหลายคนให้รู้จักกัน พอทักทายกันจนเสร็จแล้วก็ทยอยกันไปตักเนื้อมาไว้ย่างที่เตา








นั่งกินกันมาได้สักพักตอนนี้ก็เริ่มมีแอลกอฮอล์มาอยู่บนโต๊ะพวกผู้ชายแล้วโดยฝีมือของไอโปรและคนอื่นๆ เหลือบมองคนตรงหน้าที่ยังคงคีบหมูจากเตามาเป่ากินโดยไม่ได้สนใจคนอื่นสักเท่าไหร่


"กินไหม?" เนื้อหมูถูกยื่นมาอยู่ตรงหน้าด้วยตะเกียบของคนฝั่งตรงข้าม คงเพราะสังเกตเห็นว่าถูกมองอยู่ล่ะมั้ง


"ไม่เป็นไร กินเถอะ" ในชามของตัวเองตอนนี้ก็มีเยอะแล้ว


แทนที่หมูชิ้นนั้นจะถูกดึงกลับไปยังฝั่งตรงข้าม แต่มันกลับถูกวางลงในชามตรงหน้า เลิกคิ้วมองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจแต่สายตาของอีกฝ่ายที่มองมา ทำให้ปฏิเสธไม่ได้


"อร่อยนะ ลองกินดู"


"อา...ขอบใจ" ทำได้เพียงแค่ขอบคุณกลับไปเท่านั้นก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเข้าปาก เหมือนจะเป็นหมูหมักซอสอะไรสักอย่างที่ยังไม่ได้ลองกิน ก็อร่อยดี...


"เฮ้ย เอก! เอาหน่อยไหม?" ไอเติ้ลยื่นขวดเบียร์มาตรงหน้า


"นิดหน่อยนะเว้ย วันนี้กลับเองเดี๋ยวไม่ถึงบ้าน" พูดกลั้วขำไป ไอเติ้ลกับคนอื่นๆพยักหน้าเข้าใจแล้วส่งแก้วมาให้ ก่อนจะยื่นขวดมาให้ลีโอที่นั่งอยู่ตรงข้ามเช่นกัน แต่กำลังจะถามก็ถูกห้ามขึ้นมาก่อน


"เดี๋ยวๆ ห้ามให้แมวกิน มันกินแป๊ปเดียวก็เมาแล้ว แถมไม่มีใครไปส่งบ้าน ห้าม ห้าม" ไอโปรดึงขวดจากมือไอเติ้ลไปถือไว้เอง


ลีโอมองเพื่อนตัวเองเงียบๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะหันไปนั่งคีบเนื้อบนเตากินต่อ



ยิ่งดึกผู้คนในร้านก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขวดเหล้าและเบียร์ค่อยๆเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่วนพวกผู้หญิงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะขอตัวกลับกันไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว


นั่งมองไอโปรกับไอเติ้ลที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ตอนนี้สนิทกันประดุจเป็นเพื่อนสมัยเรียนอนุบาลมาด้วยกัน ตอนนี้กำลังนั่งหัวเราะร่าจับกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะข้างๆ เล่าวีรกรรมของตัวเองในช่วงอนุบาล ประถม ยันมัธยมกันอย่างออกรส นั่งฟังไปก็สนุกดี จริงๆมีเรื่องของไอเติ้ลที่อยากเผาหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นเรื่องที่กินโอริโอ้แล้วโดนเพื่อนทั้งห้องล้อว่าฟันดำจนมันเลิกกินโอริโอ้ไปเป็นเดือน ไม่ก็เรื่องที่มันอึแตกในคาบคอมพิวเตอร์แล้วพออาจารย์ถาม มันกลับบอกว่า 'กลิ่นขี้นกมั้งครับครู' เสียอย่างนั้น


หันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อคล้ายได้รับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กำลังนั่งสัปหงกเหมือนคนที่กำลังง่วงนอน ก่อนจะสังเกตเห็นว่าในมือของอีกฝ่ายกำลังถือแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอยู่ค่อนแก้วแล้ว เห็นอย่างนั้นเลยดึงแก้วออกมาจากมืออีกฝ่าย


"ใครเอาให้กินน่ะ?"


ลีโอเงยหน้ามองเมื่อแก้วของตัวเองถูกฉกไป มือพยายามเอื้อมมาคว้าแก้วคืนแต่ก็ดูไร้ทิศทางสะเปะสะปะ ดูท่าคงจะแอบหยิบมากินเองตอนที่ทุกคนกำลังจับกลุ่มคุยกัน ไม่รู้ว่ากินไปกี่แก้วแล้วด้วย


"พอแล้วน่ะ เมาแล้วนะ" ส่งเสียงดุอีกคนที่มือยังคงพยายามคว้าแก้ว


"ไม่เมา" ถึงเสียงจะยังไม่ค่อยสั่นสักเท่าไหร่ แต่จากท่าทางกับใบหน้าแดงระเรื่อนั่นก็สรุปได้แล้วว่าเมาแน่นอน


"เดี๋ยวกลับบ้านไม่ไหวหรอก มีใครไปส่งหรือเปล่า?"


"เอก... ขอแก้วคืน..." ขมวดคิ้วมองคนสูญเสียสติสัมปชัญญะที่ยังเรียกร้องหาแก้วในมือ ก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมด


"ขอคืน...นะ... ยังไม่หมดเลย..." อีกฝ่ายส่งเสียงอ้อนวอนเลยยื่นแก้วเปล่าที่เมื่อกี้เพิ่งจะกระดกจนหมดให้


"หมดแล้ว"


ลีโอทำหน้าเสียดายก่อนจะยอมกลับไปนั่งพิงพนักเก้าอี้ตามเดิมพร้อมกับส่งเสียงบ่นพึมพำบางอย่างที่ฟังไม่ได้ศัพท์


"ไอโปร เพื่อนมึงเมาแล้ว" หันไปเรียกเจ้าของเบียร์ที่กำลังคุยกันสนุกสนาน


"อ้าว? เห้ย!? แมวเมาหรอ? เป็นไปได้ไงวะ!?" ไอโปรหน้าตาตื่น ดูท่าทางมันเองก็ไม่คิดว่าลีโอจะกินจริงๆ


"มึงนี่ไม่ดูแลเพื่อนเลย"


"เชี่ย แม่งแอบกินแน่ๆ" มือข้างหนึ่งของไอโปรเสยผมด้านหน้าขึ้นอย่างหัวเสีย


"วันนี้ดูมันเครียดเรื่องสอบ อยากไปส่งมันอยู่แต่บ้านมันอยู่ไหนก็ไม่มีใครรู้ มันเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเล่าไง..." ไอโปรเหลือบมองคนเมาที่นั่งสัปหงกก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่


"หรือจะไปนอนหอกูดีวะ"


"ไม่ต้อง กูไปส่งเอง กูรู้ว่าบ้านลีโออยู่ไหน" พอได้ยินว่าไปนอนที่หอ ปากเจ้ากรรมก็ดันเอ่ยรับอาสาว่าจะไปส่งแทบในทันที ความรู้สึกในใจตอนนี้คือเป็นห่วง ไปกับคนอื่นที่ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันก็ยังน่าเป็นห่วง...


"มึงรู้จักบ้านมันหรอ?"


"พี่กูเคยไปส่งลีโอหลังซ้อมว่ายน้ำ กูก็ไปด้วยเลยรู้"


"งั้นหรอมึง..." สีหน้าไอโปรดูจะคลายกังวลลงไปบ้าง


"เออดิ"


"ฝากด้วยแล้วกัน" ไอโปรเอื้อมมือมาตบไหล่เบาๆสองสามที


"ถ้าส่งมันเสร็จแล้วโทรบอกกูด้วยนะ" พยักหน้าเข้าใจและบอกมันเป็นเชิงว่า 'รับทราบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเอง'


"ไอเติ้ลมึงจะกลับพร้อมกูไหม?" พอตกลงกันเสร็จก็เดินไปเรียกไอเติ้ลที่ตอนนี้ไปยืนอยู่หน้าจอทีวีเครื่องใหญ่ของทางร้านเพื่อดูถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดสำคัญ


"วันนี้กูไปนอนบ้านย่า"


"โอเค อย่าเมาเยอะล่ะ ระวังโดนตัดออกจากกองมรดก" พูดหยอกไอเติ้ลไปที บ้านไอเติ้ลเป็นครอบครัวใหญ่ เลยไปมาระหว่างสองบ้าน คือบ้านของย่าซึ่งเป็นบ้านใหญ่ กับ บ้านของพ่อที่ซื้อแยกออกมาเพราะใกล้ที่ทำงาน ซึ่งก็คือบ้านที่อยู่ข้างๆกัน บางทีเลยมักจะกลับด้วยกัน แต่พักหลังพอไอเติ้ลมีแฟนก็เลยกลับบ้านเองคนเดียวซะเป็นส่วนใหญ่


พอโดนหยอกไปแบบนั้นไอเติ้ลก็หันมาชี้หน้าแบบคาดโทษ เลยยักคิ้วกลับไปให้หนึ่งที แล้วเดินกลับมายังโต๊ะที่มีใครบางคนนั่งอยู่ จัดการดึงแก้วที่คงจะหยิบจากบนโต๊ะชาวบ้านที่เขาวางไว้ออก ส่ายหน้านิดหน่อยก่อนจะดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น


"ลีโอ กลับบ้าน" พยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น คนเมาทำเสียงอู้อี้อย่างขัดใจ ก่อนจะดันตัวให้เดินออกมาหน้าร้าน โชคดีที่มีรถแท็กซี่ผ่านมาพอดีเลยไม่ต้องยืนรอนาน


ดันอีกฝ่ายเข้าไปในรถแล้วตามเข้าไปนั่งข้างๆ บอกจุดหมายปลายทางให้กับพี่แท็กซี่เรียบร้อยรถก็เคลื่อนตัวออกจากร้าน


รถเคลื่อนตัวออกมาได้ไม่นาน พร้อมกับคนนั่งข้างๆที่เริ่มสัปหงกอีกรอบ เอื้อมมือไปดันศีรษะของอีกฝ่ายให้โน้มลงมาพิงไหล่เบาๆจะได้ไม่ปวดคอ


สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ดวงไฟสีส้มบนทางด่วนเคลื่อนผ่านไปลูกแล้วลูกเล่า แม่น้ำเจ้าพระยาสีดำสนิทในยามค่ำคืนถูกแต่งแต้มด้วยดวงไฟของเรือขนส่งสินค้าที่ยังคงลอยอยู่ในแม่น้ำสายหลักของประเทศไทย แสงไฟบนผืนแผ่นดินใหญ่ส่องสว่างจนบดบังดวงดาวบนท้องฟ้า


หลายครั้งที่มักจะคิดเสมอว่า กรุงเทพฯคือสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การดูดาวบนท้องฟ้าเลยสักนิด จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอย่างนั้น แต่ถ้าหากเป็นดาวบนพื้นดินแล้วล่ะก็ คงมีให้ดูมากมายเต็มไปหมด เหมือนที่เห็นอยู่นอกหน้าต่างรถ และ ที่กำลังพิงอยู่ข้างๆนี้ก็เช่นกัน


ละสายตาจากด้านนอกกลับมามองคนที่นอนหลับนิ่งอยู่ข้างๆ ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าคนตรงหน้านั้นหลับลึกไปแล้ว จ้องมองริมฝีปากที่เผยอออกเล็กน้อยในหัวก็พลันนึกไปถึงวันที่ไปคาเฟ่ต์แมวด้วยกัน...





ระยะห่างระหว่างใบหน้าของคนสองคนหยุดอยู่แค่นั้น ไม่มีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงแต่อย่างใด ลมหายใจของอีกฝ่ายยังคงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

นิ้วชี้และนิ้วกลางแตะลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายที่หลับอยู่อย่างแผ่วเบาจนแทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนักที่ปลายนิ้ว ไม่กี่วินาทีต่อมา นิ้วทั้งสองก็เคลื่อนกลับไปแตะลงบนริมฝีปากของเจ้าของมันแทน


สัมผัสอันบางเบานั้นยังคงติดอยู่บนปลายนิ้ว และ ริมฝีปาก...




ถึงจะเป็นแค่การแตะริมฝีปากของอีกฝ่ายแล้วมาแตะที่ริมฝีปากของเราก็ตาม



แต่ในจังหวะนั้นความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว






เหมือนพวกฉวยโอกาสชะมัด...




.



.



.




รถแท็กซี่จอดใกล้กับบ้านหลังเล็กที่รถของพี่ชายเคยมาจอดเมื่อคราวก่อน จ่ายเงินให้กับคนขับเรียบร้อยก่อนจะพยุงตัวคนหลับตลอดทางลงจากรถ เพิ่งสังเกตเห็นว่าหน้าบ้านนั้นมีรถยาริสสีขาวจอดไว้ และไฟภายในบ้านเองก็ยังเปิดสว่างอยู่




กิ๊งก่อง




ไม่นานนักหลังจากที่กดกริ่งหน้าบ้านไป ประตูบ้านก็ถูกเปิดออกพร้อมกับหญิงสาววัยทำงานคนหนึ่งในชุดสูธเหมือนเพิ่งเลิกงาน


"ตายจริง ไปทำอะไรมาถึงเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย? แล้วหนู..."


"ผมเอกครับ"


"เอกหรอ? ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ น้าเป็นแม่ของลีโอนะ" เธอแนะนำตัวก่อนจะเดินมาช่วยพยุงลูกชายของตัวเอง "แล้วทำไมคอพับกลิ่นเหล้าหึ่งมาแบบนี้ล่ะเนี่ย?"


"ฉลองหลังสอบเสร็จน่ะครับ"


"อย่างงี้นี่เอง ขอบคุณมากนะจ๊ะที่พามาส่ง จะว่าอะไรไหมถ้าน้าจะรบกวนให้ช่วยแบกเข้าไปข้างในหน่อย น้าคนเดียวคงไม่ไหว  อีกอย่างเอกจะได้เข้ามากินน้ำกินท่าด้วย แบกสิงโตมาตลอดทางคงจะเหนื่อย" แม่ของลีโอหันมาฉีกยิ้มให้


"ได้ครับ"


สองแรงช่วยกันพยุงคนเมาขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน


ประตูห้องนอนมุมข้างในสุดของชั้นสองถูกเปิดออก ข้างในเป็นห้องเล็กๆขนาดพอเหมาะ ค่อยๆวางคนที่หลับลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด แม่ของลีโอค่อยๆดึงผ้าห่มลายกาแล็กซี่ขึ้นมาคลุม ก่อนจะปิดไฟ


ในห้องเล็กๆและมืดสนิทนั้น ดวงดาวเรืองแสงเต็มผนังและเพดานทุกด้านของห้อง ก้มมองคนที่หลับอยู่บนเตียง แม้กระทั่งผ้าห่มก็ยังเรืองแสงออกมา


หันไปมองหญิงสาวในชุดสูธที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เธอเดินนำไปเปิดประตูพร้อมทั้งกวักมือเรียกให้เดินออกมาจากห้องนั้นก่อนจะปิดมันลงอย่างเบามือ


"น้าอยากอวดห้องลูกชายนิดหน่อยน่ะ สวยไหม?" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น


"สวยมากเลยครับ คุณน้าทำเองหรอ?" บรรยากาศในห้องตอนนั้นราวกับอยู่ในอวกาศเลยก็ว่าได้


เธอส่ายหน้าน้อยๆ "เจ้าของห้องกับพ่อเขาเป็นคนทำน่ะจ้ะ น้าชอบมากเลยนะ เคยคิดอยู่ว่าถ้ามีเพื่อนลีโอมาบ้านก็อยากจะอวดบ้าง..." เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดต่อ


"คิดว่าจะไม่มีเพื่อนมาบ้านแล้วซะอีกนะนี่" เธอหันมายิ้มให้ ใบหน้าที่คล้ายกันนี้ทำเอาเผลอนึกถึงเวลาที่หมอนั่นยิ้มออกมา คงสวยแบบนี้แน่ๆ


"ลีโอไม่เคยมีเพื่อนมาบ้านหรอครับ?"


"จ้ะ เขาไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ..." เดินตามหลังหญิงสาวในชุดสูธลงไปยังชั้นล่าง ชุดสูธถูกพาดไว้กับไม้แขวน เธอหันมาผายมือไปที่โซฟาเป็นเชิงให้นั่งตรงนี้


"เดี๋ยวน้าเอาน้ำมาให้นะ"


"ครับ"


นั่งมองไปรอบๆห้องรับแขก มีภาพถ่ายของครอบครัวใส่กรอบติดอยู่บนผนังสองสามรูป มีรูปหนึ่งเป็นรูปเด็กผู้ชายหน้าตานิ่งเฉยยืนคู่กับกล้องดูดาวแบบผสม ข้างกันเป็นชายวัยทำงานฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีท่าทางดูใจดี


"สองคนนั้นนั่นแหละจ้ะที่ช่วยกันทำห้อง" หันขวับไปทางต้นเสียง แม่ของลีโอเดินออกมาจากครัวพร้อมกับถาดใส่ขนมและน้ำเปล่าหนึ่งแก้วก่อนจะวางลงบนโต๊ะรับแขก แล้วเดินเลี้ยวมานั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม


"ขอบคุณครับ"


"เวลาลีโออยู่ที่มหาลัยเป็นยังไงบ้างจ๊ะ?"


"คือ...ผมอยู่คนละคณะกับเขาน่ะครับ"


"อ้าวหรอจ๊ะ แต่ดีจังเลยนะ มีเพื่อนต่างคณะด้วย แค่เพื่อนในคณะน้าก็กังวลอยู่ว่าจะมีไหม แต่ถึงขั้นมีเพื่อนต่างคณะด้วยก็โล่งใจขึ้นเยอะแล้วล่ะ" แม่ของลีโอยิ้มอย่างโล่งใจ ทำเอารู้สึกสงสัยขึ้นมา แม่ลูกคู่นี้เขาไม่ค่อยได้คุยกันสินะ


"แล้วรู้จักกันได้ยังไงจ๊ะ?"


"เรียนแลปกลุ่มเดียวกันน่ะครับ"


"แล้วลีโอดู...ร่าเริงหรือเปล่า...น้าหมายถึง...พูดเยอะไหม มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นบ้างหรือเปล่าน่ะ?"


"พูดไม่ค่อยเยอะนะครับ แต่ก็เห็นคุยกับเพื่อนในแลปบ้าง ก็ดูๆมีเพื่อนสนิทที่คุยกันบ่อยอยู่ด้วยนะครับ"




"ดีใจจัง..."




"ครับ?" มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แววตาของเธอฉายแววดีใจเหมือนกับคำพูดนั้น แต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้าเช่นกัน





แววตาที่เหมือนมีกลุ่มหมอกเนบิวลาอยู่ข้างในเหมือนกับลูกชายของเธอ





"ปกติก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว พอสามีของน้าเสียไปก็เลยยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่… เราคุยกันน้อยมากกว่าแต่ก่อนอีก ทั้งๆที่แต่ก่อนมันก็น้อยมากอยู่แล้ว... " แม่ของลีโอก้มหน้าพูดออกมาเบาๆ ณ ตอนนั้นห้องรับแขกเงียบสนิท เงียบเสียจนได้ยินเสียงจิ้งหรีดข้างนอกบ้านส่งเสียงร้องกันดังระงมไปหมด


"ลีโอคงเศร้ามาก เพราะวันที่สามีน้าเสียเป็นวันเกิดของเขาด้วย... พอหลังจากนั้นก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง..."


"น้าเองยังรู้สึกผิด ที่ขายกล้องดูดาวเครื่องนั้นไป..." แม้เสียงของจิ้งหรีดข้างนอกจะดังระงมไปทั่วทั้งห้องรับแขก แต่กลับได้ยินเสียงสะอื้นของผู้หญิงตรงหน้าดังชัดที่สุด


"น้ารู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเลิกดูดาว หนังสือเกี่ยวกับดาราศาสตร์ทุกเล่มในตู้หนังสือหายไปหมด..."


"คุณน้าอย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิครับ ผมว่าลีโอคงมีเหตุผลของเขา และหนังสือพวกนั้นผมก็เชื่อว่าเขายังคงเก็บมันไว้อยู่ครับ" ถึงจะเป็นคนนอก แต่ในฐานะที่คอยเฝ้ามองหมอนั่นมาตลอด ไม่มีทางหรอก…





ไม่มีทางที่ลีโอจะละทิ้งดวงดาวบนท้องฟ้า



ที่แม้แต่ตัวเองก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในนั้น



ถ้าละทิ้งมันไปแล้วจริงๆ จะสนใจมันอีกทำไม?



ทั้งเว็บไซต์ที่เข้าในโทรศัพท์มือถือเวลาอยู่บนรถไฟฟ้า



ทั้งวันที่เดินกลับมาหาหนังสือเล่มนั้น…





“บางทีสิ่งของพวกนั้น อาจจะทำให้เขานึกถึงเรื่องเก่าๆ”





“ก็เลยเลือกที่จะไม่อยากเห็นมัน เพราะมันทำให้หวนกลับไปนึกถึง”








“ล่ะมั้งครับ?”




.




.




.




“อ้าว ตื่นแล้วหรอจ๊ะ แม่ทำโจ๊กไว้ให้จะกินเลยไหม?” เดินงัวเงียลงมายังชั้นล่าง เพราะเมื่อคืนดันแอบกินเบียร์เข้าไปหลายแก้วตอนนี้เลยรู้สึกปวดหัวตื้อไปหมด ตื่นขึ้นมาอีกทีก็มาอยู่ที่บ้านเสียแล้ว พยักหน้าตอบรับแม่ไปแล้วเดินกุมหัวมานั่งที่โต๊ะกินข้าว ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้…


“ให้ผมทำดีกว่านะ” ปกติแล้วแม่ทำงานตลอด เรื่องทำกับข้าวหรืองานบ้านเลยมักจะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเสมอ อย่างน้อยได้ช่วยบ้างก็ยังดี


“ไม่เป็นไรๆ เราน่ะยังเมาค้างอยู่ใช่ไหมล่ะ เมื่อคืนกินซะเยอะเลยนี่ เพื่อนเลยต้องหามมาส่งถึงบ้านเลย” แม่เดินมากดไหล่ไว้เมื่อเห็นว่าจะลุกขึ้นไปช่วยก่อนที่โจ๊กร้อนๆจะถูกวางไว้ตรงหน้าพร้อมน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว นั่งกุมหัวตัวเองอยู่สักพัก เมื่อคืนไม่น่ากินเข้าไปซะเยอะเลย ทั้งๆที่ก็ไม่เคยคิดจะกินมานานแล้ว เพราะอารมณ์ชั่ววูบถึงได้ตัดสินใจกินเข้าไป พอเครียดเรื่องที่ทำข้อสอบไม่ได้ในหัวมันก็พลันนึกไปถึงเรื่องอื่นจนอยากลืมไปให้หมด




แม้สุดท้ายแล้วเมื่อตื่นขึ้นมา ก็ยังคงจำได้อยู่เหมือนเดิมก็ตาม




ตักโจ๊กร้อนๆขึ้นมาเป่าสองสามทีก่อนจะตักเข้าปาก พยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน




‘พอแล้วน่ะ เมาแล้วนะ’


‘ไม่เมา’


‘เดี๋ยวกลับบ้านไม่ไหวหรอก มีใครไปส่งหรือเปล่า?’


เอก... ขอแก้วคืน...’


‘ขอคืน...นะ... ยังไม่หมดเลย...’


‘หมดแล้ว’


‘ไอโปร เพื่อนมึงเมาแล้ว’





“เอ้อ ลีโอ” หลุดออกจากความคิดของตัวเองเพราะเสียงของแม่ที่จู่ๆก็เรียกขึ้นมา


“ครับ?”


“เพื่อนเราคนนั้นน่ะ...เขาใจดีจังเลยนะ…”



.




.




.





“รักษาเขาไว้ดีๆล่ะ”



:・°☆`*:







TBC



สวัสดีค่ะ ขออภัยที่มาช้าค่ะ ช้าตลอด

ตอนนี้อธิบายไขข้อข้องใจในช่วงแรกๆของเรื่องไปบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าลืมกันหรือเปล่า แฮ่~ (อยู่ในช่วงตอนที่3กับ6ค่ะ)

วันนี้เขียนน้อยหน่อย นึกไม่ค่อยออกค่ะว่าจะพิมพ์อะไร 555

อ้อ ขออนุญาตลาไปสอบนะคะ ;;__;; เจอกันอีกทีกลางเดือนพ.ค.เลยค่ะ ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ  :sad4: /ไฟนอลนี้ฉันตาย

ในช่วงที่อ่านหนังสือสอบก็จะพยายามปั่นบางส่วนล่วงหน้าไปก่อนด้วย จะได้อ่านกันต่อเนื่อง ; v ;

สุดท้ายนี้ ขอบคุณมากนะคะ รักคนอ่านมากๆๆๆๆ /แจกกอดให้ทุกท่าน :กอด1:

ปล. สามารถตามไปตบตีในทวิตเตอร์ได้เสมอเลยนะคะ  :hao7:
ปลล. ลองตั้งชื่อไทยให้เรื่องนี้ดูค่ะ ไม่รู้เวิร์คไหม ;; ____ ;;
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 20-04-2015 23:14:46
 :o8:น่าย้ากกกกก
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-04-2015 23:48:00
คุณแม่คะ นั่นว่าที่ลูกเขยค่ะ :p





รอหลังสอบนะคะ จุฟๆ
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 20-04-2015 23:51:53
เรื่องชื่อเรื่องมันก็ตรงตัวเลยอ่ะนะ
ในความคิดเราว่ามันทะแม่งๆดูขัดๆ
ยังไงไม่รู้นะค่ะความคิดส่วนตัวนะค่ะ
ถ้ายังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ
สู้ๆนะค่ะเรื่องสอบ
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-04-2015 00:22:25
ไปทีละนิดๆ
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 21-04-2015 06:03:37
เดี๋ยวจะช่วยรักษา"เพื่อน"คนนี้ไว้ให้ค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-04-2015 06:33:44
สงสัยต้องมอมบ่อยๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 21-04-2015 07:13:06
ปล่อยเพื่อนไป แล้วเลื่อนเป็นแฟนแทนเถอะะะ
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 21-04-2015 09:09:09
ตอนนี้ยาวสะใจมาก
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 22-04-2015 21:59:53
เรื่องชื่อเรื่องมันก็ตรงตัวเลยอ่ะนะ
ในความคิดเราว่ามันทะแม่งๆดูขัดๆ
ยังไงไม่รู้นะค่ะความคิดส่วนตัวนะค่ะ
ถ้ายังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ
สู้ๆนะค่ะเรื่องสอบ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เราเองก็แอบคิดว่ามันแปลกๆอยู่เหมือนกัน

งั้นขออนุญาตพับชื่อภาษาไทยเก็บไปก่อนนะคะ

เดี๋ยวลองค่อยๆไปคิดมาใหม่ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^w^
หัวข้อ: Re: ★Star Chart ★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: johroh ที่ 29-04-2015 19:13:15
ฟินส์ประโยคสุดท้ายของคุณแม่  :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ★Star Chart : เราพบกันเพราะดวงดาว★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 11-05-2015 20:29:59
:o8:น่าย้ากกกกก

/กอดดดด/ ขอบคุณนะคะ  :กอด1:


คุณแม่คะ นั่นว่าที่ลูกเขยค่ะ :p





รอหลังสอบนะคะ จุฟๆ

มาต่อให้ก่อนสอบเสร็จแล้วค่ะ  :hao7:

ไปทีละนิดๆ

ช้าๆแต่ชัวร์ เนอะ  :katai5:

เดี๋ยวจะช่วยรักษา"เพื่อน"คนนี้ไว้ให้ค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ

มาต่อแล้วนะคะ  :mew1:

สงสัยต้องมอมบ่อยๆ  :z1:

มอมบ่อยๆเดี๋ยวจนนะคะ ค่าเหล้าหลายบาทอยู่  :o8:

ปล่อยเพื่อนไป แล้วเลื่อนเป็นแฟนแทนเถอะะะ

ต้องให้เอกเก็บเลเวลก่อนนะคะ 555

ตอนนี้ยาวสะใจมาก

ตอนที่13นี้ก็ยาวเหมือนกันค่ะ (ยาวกว่าตอนที่12ด้วย เย้~)


ฟินส์ประโยคสุดท้ายของคุณแม่  :man1: :man1: :man1:

คุณแม่น่ารักเนอะ :-[
หัวข้อ: Re: ★Star Chart ★ [ตอนที่12 : ยิ่งลืม ยิ่งจำ | P.4] 20/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 11-05-2015 20:42:17
‘ความไม่แน่นอนมันน่ากลัว’






ตอนที่ 13



4.45 น.


นาฬิกาปลุกบนหัวเตียงส่งเสียงร้องเมื่อถึงเวลาทำหน้าที่ของมัน และไม่นานเสียงร้องก็เงียบลงเมื่อเอื้อมมือไปกดปิด เป็นสัญญาณบอกว่าเจ้าของร่างที่นอนอยู่บนเตียงไม่ถึงสี่ชั่วโมงได้ตื่นขึ้นแล้ว

ตู้เย็นถูกเปิดออก ถ้วยชามด้านในถูกยกออกมาวางไว้ข้างเตา ไฟบนเตาแก๊สถูกจุดขึ้นพร้อมกับกระทะที่วางทับตามลงมา น้ำมันถูกราดลงบนกระทะ พอร้อนได้ที่แล้วก็ตามด้วยผักหลากหลายชนิดและเนื้อหมูถูกใส่ตามลงไป เกิดเสียงดัง 'ฉ่าาา' ขึ้น กลิ่นหอมฉุยตลบอบอวลไปทั่วครัว ไม่นานก็ถูกตักราดลงใส่ถ้วย พร้อมทั้งข้าวสวยหนึ่งจานวางอยู่เคียงข้างกัน

เตาแก๊สถูกปิดและเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อย กระทะที่ยังคงร้อนระอุอยู่ถูกราดด้วยน้ำที่อุณหภูมิห้องแล้ววางทิ้งไว้บนซิงค์ล้างจาน

กับข้าวและจานข้าวถูกยกมาวางบนโต๊ะกินข้าวขนาดสำหรับสามถึงสี่คน แต่ ณ เวลานี้มีเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ ผัดผักเมื่อสักครู่ถูกตักราดลงบนจานข้าว ก่อนเจ้าตัวคนทำจะเริ่มตักเข้าปากพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆที่หุงทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นหยิบจานชามไปที่ซิงค์ล้างจานที่วางทิ้งไว้ มือเอื้อมไปหยิบสก็อตไบร์ทแล้วกดขวดปั๊มน้ำยาล้างจานให้ไหลออกมาบนฟองน้ำนุ่มนิ่มก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาดแล้วเก็บทุกอย่างเข้าที่ให้เรียบร้อย

พลาสติกแรปถูกดึงออก พร้อมกับคลุมลงบนถ้วยผัดผักอีกใบที่ทำแยกไว้ ดึงกระดาษโพสต์อิทสำหรับจดบนตู้เย็นออกมาเขียนข้อความไว้อย่างที่ทำประจำเมื่อเวลามีเรื่องสำคัญที่ต้องบอก ก่อนจะแปะมันไว้ที่หน้าตู้เย็น



'วันนี้มีซ้อมแข่ง กลับดึกนะครับ'








6.20 น.


ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่หน้าชานชาลา ผู้คนดูบางตาเมื่อเทียบกับสถานีอื่น ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่ามาก่อนเวลาตั้งสิบนาทีเลยเดินหลบออกมาด้านข้างเพื่อรอเวลา



6.30น.


ได้เวลานัดหมายอย่างเช่นทุกวันแล้ว ย้ายตำแหน่งเดินมายืนรอที่ชานชาลา เป็นจุดที่ยืนอยู่ประจำ

ไม่นานนักรถไฟฟ้าก็มาจอดเทียบอยู่ตรงหน้า ประตูอัตโนมัติเปิดออก เมื่อมองตรงเข้าไปด้านในก็พบกับคนที่ยืนรออยู่ริมประตูอีกฝั่งที่ปิดสนิทในตำแหน่งเดิม


"หวัดดี" คำทักทายนี้ก็เหมือนเดิมเช่นกัน อีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มให้เล็กน้อย ถึงจะยิ้มแค่ที่มุมปากก็ตาม แต่ถ้าหากมีสาวๆมาเห็นรอยยิ้มของคนตรงหน้านี้แล้วล่ะก็ เชื่อได้ว่าต้องเขินกันไปเป็นแถบแน่ๆ


เดินเข้าไปยืนข้างๆ ก่อนจะหยิบหูฟังมาใส่เหมือนอย่างทุกวัน เสียงสัญญาณของรถไฟฟ้าดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ปิดลง


"ลีโอ" หันไปตามเสียงเรียกจากคนด้านข้าง กระดาษตรงหน้าถูกยื่นมาให้ มองเจ้ากระดาษนี้ด้วยความสงสัยก่อนจะรับมาแล้วเปิดดู


"ทำข้อนี้ได้ไหม?" คนตรงหน้าทำหน้าซีเรียส ดูจากรอยขอบตาที่คล้ำขึ้นกว่าปกติแล้วนั้น ท่าทางจะพยายามคิดทั้งคืน


ก้มมองโจทย์วิชาแคลคูลัสตรงหน้าสักพัก ก่อนจะจำได้ว่าข้อนี้เคยเรียนกับอาจารย์ในห้องไปแล้ว


"ข้อนี้เราเรียนแล้ว"


"เฮ้ย จริงดิ! สรุปมันทำยังไงวะ?" อีกฝ่ายเลิกคิ้ว ขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นทั้งยังเอื้อมมือมาชี้กระดาษที่มีร่องรอยการทำโจทย์เต็มไปหมด


"เลือกuกับdvเป็นชุดนี้แทน" ชี้นิ้วสลับไปมาบนตัวอักษรเป็นการประกอบคำอธิบาย เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นภาพได้ชัดเจน


"ตอนแรกก็เลือกแล้วแต่มันไม่ออก" คิ้วคมขมวดกันเป็นปม ดูท่าทางคงจะเลือกตัวแปรชุดนี้มาลองทำแล้ว แต่ติดปัญหาจนต้องเปลี่ยนไปเลือกตัวแปรชุดอื่น


"ก็พอเลือกเสร็จมันต้องบายพาร์ทสองรอบแล้วย้ายข้างสมการถึงจะออก"


เมื่อพูดจบเจ้าของกระดาษเลิกคิ้วทำหน้าเหมือนกับบรรลุอะไรบางอย่าง


"เชี่ย นั่งคิดทั้งคืน เชี่ยมาก" เอกบ่นอุบอิบ ดูท่าทางจะหัวเสียกับโจทย์ข้อนี้พอสมควร


"ถ้าคิดไม่ออกก็พักก่อนจะดีกว่า ดันทุรังต่อไปก็ใช้แต่อารมณ์ทำโจทย์ มองไม่เห็นคำตอบหรอก" เพราะเอกดูเป็นคนใจร้อน หงุดหงิดง่าย บางครั้งอารมณ์ก็เลยบดบังสิ่งที่ควรจะมองเห็นไป



อยากให้เอกยิ้มเยอะๆมากกว่า



"อือ...ขอบใจแล้วกัน" ส่งกระดาษคืนคนข้างๆ เอกหันมายิ้มให้พร้อมกับขอบคุณ



ยิ้มเหมือนกับตอนนี้...



7.10 น.


รีบวิ่งหน้าตาตื่นจากบันไดทางลง ไกลจากสายตาไปหลายร้อยเมตรมีรถบัสของมหาลัยกำลังจอดเทียบป้ายรถเมล์อยู่ และแน่นอนว่ารถกำลังจะเคลื่อนตัวออกไปแล้ว

"ไม่ทันหรอก เลิกวิ่งเถอะ" เสียงตะโกนไล่หลังมาไม่ได้ทำให้ความเร็วในการวิ่งลดลงแม้แต่น้อย



ถ้าไม่ลองวิ่งดู แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าไม่ทัน



ได้แต่เถียงเอกในใจกลับไป เพราะวิ่งอยู่การหันไปตอบอาจจะทำให้ความเร็วในการวิ่งลดลง






สุดท้ายก็ไม่ทัน...



คนที่วิ่งหอบแฮ่กตามมาด้านหลังหยุดลงข้างป้ายรถเมล์ ก่อนจะพูดปนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ


"บอกแล้วว่าไม่ทัน"


"แต่ถ้าไม่ลองวิ่งก็ไม่รู้นี่" เถียงตอบกลับอีกฝ่ายทันควัน เพราะอะไรในโลกนี้มันก็ไม่ได้แน่นอนเสมอไป บางทีอาจจะทันก็ได้


"แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว" อีกคนเถียงกลับ


"เมื่อวานไม่ได้วิ่งก็ไม่ทันเหมือนกัน"


"นั่นมันส่วนเมื่อวาน"


"แต่เมื่อวานถ้าวิ่งอาจจะทันก็ได้ เพราะงั้นวันนี้ถึงได้วิ่ง" คนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังพวกเราสองคนเริ่มมอง คงกำลังคิดว่าไอสองคนนี้มันเถียงเรื่องอะไรของมันกัน


เอกขมวดคิ้ว คนๆนี้ขมวดคิ้วบ่อยจนบางครั้งก็เคยนึกอยากเอานิ้วจิ้มหว่างคิ้วแล้วยืดออกให้คลายจากปมสักที




เป็นคนที่ขมวดคิ้วได้สิ้นเปลืองมาก



หน้าต้องแก่ก่อนวัยแน่ๆ




"ถามจริง?" รอยยิ้มที่มุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าของอีกคน จนเผลอเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ


"ว่า?"


"เจ้าของชื่อชโรดิงเจอร์หรอ?" คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาชะงัก จะว่าไปที่คุยกันเมื่อกี้นี้มันก็คือทฤษฎีแมวของชโรดิงเจอร์นั่นแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอามาเล่นมุก


"ไม่ใช่แมวสักหน่อย" เถียงอีกฝ่ายกลับหลังจากสมองผ่านการประมวลผลได้สักพัก จะว่าไม่เข้าใจมุกก็คงจะไม่ใช่ เพียงแต่สมองค่อนข้างจะประมวลผลช้ากับอะไรประเภทนี้เสียมากกว่า นั่นเลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถูกลุงรหัสและคนอื่นๆทั้งในคณะและชมรมแกล้งเป็นประจำ แม้ว่าจะเข้าใจ แต่ก็ดูจะช้าไป เพราะเผลอเต้นไปตามเกมของทุกคนหมดแล้ว


"บอกว่าไม่ใช่แมวแต่ยอมให้ใครๆเรียกว่าแมวเนี่ยนะ?" อีกฝ่ายทำหน้าบูด คงไม่ค่อยพอใจกับคำตอบที่ได้รับ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทุกคนลดสกุลPhanteraของสิงโตเจ้าป่าน่าเกรงขามให้ลงมาเหลือเพียงแค่สกุลFelisของแมว ถึงจะขอร้องว่าให้เลิกเรียกว่าแมวสักที แต่ก็คงไม่มีใครฟัง เลยทำได้เพียงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแล้วทำใจให้ชินว่านั่นคือชื่อเล่นใหม่ของตัวเอง


"ก็ได้" ถอนหายใจกับคนตรงหน้า ขืนเถียงต่อไปคงไม่จบสิ้นแน่ๆ ยอมจำนนต่ออีกฝ่ายเลยตอบแบบส่งๆกลับไป


"ถึงจะเป็นแมว แต่ก็ไม่มีเจ้าของหรอก"



แต่ก็ไม่คิดว่าประโยคถัดมาจากอีกฝ่ายจะทำเอาไปต่ออะไรไม่เป็นเลย










"แล้วอยากได้เจ้าของบ้างไหมล่ะ?"













"อ้าว ลีโอไม่สบายหรอ ทำไมหน้าแดงแบบนั้น" ปรายฟ้ากับเพื่อนคนอื่นๆถามขึ้นหลังจากที่หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว


"เปล่า" ตอบกลับไปสั้นๆเพียงแค่นั้น หยิบสมุดกับปากกามาวางไว้บนโต๊ะเลคเชอร์เตรียมพร้อมที่จะเริ่มเรียนในคาบแรกของวันนี้ ในหัวก็พลันนึกถึงเรื่องที่คุยกับเอกตรงป้ายรถเมล์



แมวของชโรดิงเจอร์



ไม่รู้ว่าควรจะโกรธใครดีระหว่างชโรดิงเจอร์ที่ดันคิดทฤษฎีนี้ขึ้นมา หรือ คนข้างๆที่เกาะราวเหล็กของรถบัสยืนยิ้มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

รู้สึกคิดผิดมากที่ดันมีความคิดในตอนแรกว่าอยากให้เอกยิ้มบ่อยๆ ถ้ารู้ว่ายิ้มแล้วจะน่าหมั่นไส้ขนาดนี้อยากให้กลับไปทำหน้าเครียดขมวดคิ้วแบบเดิมยังดีกว่า


"เลิกยิ้มแบบนั้นเถอะ" สุดท้ายก็ทนความน่าหมั่นไส้ไม่ไหวเลยต้องพูดออกไป อีกฝ่ายยักคิ้วให้หนึ่งทีแต่ก็ยังไม่ยอมเลิกยิ้ม


"ถ้าเมื่อกี้ไม่พูดแบบนั้นออกมา ก็คงไม่ได้เห็นแมวหน้าบูดแบบนี้"


"เงียบน่า" ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย


"ชโรดิงเจอร์จริงๆด้วย"


"..."


"ชโรดิงเจอร์~" น้ำเสียงล้อๆนี่มันอะไร


"..."


"ชโรดิงเจอร์~"


"..."


"ชโรดิงเจอร์~"


"..."





ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกเกลียดเออร์วิน ชโรดิงเจอร์ขึ้นมากันนะ...





---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


อีกทางด้านหนึ่ง

หลังจากแยกกับลีโอมาได้สักพัก นึกถึงเรื่องที่คุยกันแล้วอยากจะหัวเราะออกมา พอจะเข้าใจว่าทำไมคนอื่นในชมรมว่ายน้ำถึงชอบแกล้งลีโอกันขนาดนี้ ก็มันสนุกจริงๆนี่นะ แล้วก็ได้เข้าใจด้วยว่าทำไมไอภพถึงได้ชอบแกล้งชาวบ้านเขาไปทั่ว ก็คงเป็นเหตุผลเดียวกัน


แต่ไอประโยคน่าอายที่เผลอพูดไปเนี่ยสิ



'แล้วอยากได้เจ้าของบ้างไหมล่ะ?'



พูดไปได้ไงวะ!?


พอนึกถึงประโยคนั้น หน้าก็ดันเห่อร้อนขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ


"อ้าว เพื่อนเอกไม่สบายหรอ ทำไมหน้าแดงแบบนั้น" แซนดี้ถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องเลคเชอร์ เลื่อนเก้าอี้วางกระเป๋าแล้วนั่งลงข้างเพื่อนสาวที่จองที่นั่งไว้ให้ก่อนแล้ว ก่อนหันไปตอบคำถามเมื่อสักครู่




"เปล่า"



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------










"ทายสิ ใครกล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี"


"กล้ามพ่อแกสิไอโปร หยุดเลย!"


นั่งดูคนไม่รู้จักโตสองคนทะเลาะกันท่ามกลางเพื่อนคนอื่นที่กำลังจับกลุ่มทำรายงาน ปรายฟ้าและคนอื่นๆกำลังแบ่งหัวข้อเพื่อให้คนที่เหลือไปทำต่อ คนที่ว่างงานสองคนเลยหาเรื่องทะเลาะกันเสียอย่างนั้น แล้วตอนนี้ก็กำลังลงไม้ลงมือกันแล้วด้วย


"โอ้ย! ตีทำไมวะ ไอนักกล้าม" คนถูกตีโวยวาย ทำท่าปัดแขนราวกับว่ารังเกียจเหลือเกิน


"นักกล้ามพ่อแกดิ เล่นแขนกูอยู่ได้"


"ก็ไขมันตรงแขนมึงมันน่าบีบนี่วะ" ว่าแล้วก็ไม่พูดเปล่า โปรเอื้อมมือไปบีบต้นแขนน้ำตาลทันที


น้ำตาลเป็นเพื่อนในกลุ่มอีกคนหนึ่งที่รู้จักกันตอนรับน้องของคณะ เพราะโปรดันไปก่อวีรกรรมทำน้ำในถังไว้สำหรับให้ทุกคนกินหกใส่ และแน่นอนว่าโปรได้รับของตอบแทนเป็นแก้มแดงช้ำเพราะโดนเธอต่อย


"ถ้ายังไม่หยุดเล่นกูจะเอาชื่อมึงออกจากกลุ่ม"  น้ำตาลพูดขู่


"ขอโทษครับคุณนักกล้ามผู้ยิ่งใหญ่"


“ลีโอ ลบชื่อนายพิรัชต์ออกจากกลุ่มหน่อย" พยักหน้าตอบกลับไปพร้อมกับทำท่าจะหยิบลิควิดบนโต๊ะแต่ก็ถูกแย่งไปซะก่อน


"แมว! มึงหยุดเลย ถ้ามึงลบชื่อ กูไม่เลี้ยงไอติมมึง!"


กระพริบตาปริบๆมองหน้าเพื่อนโปร อยากจะบอกเหลือเกินว่าสัญญาที่ว่าจะเลี้ยงไอติมนี้ มันตั้งแต่เทอมหนึ่งจนตอนนี้เทอมสองแล้วก็ยังคงไม่เห็นเป็นรูปธรรมเลย


"เอานี่! แบ่งหัวข้อเสร็จแล้ว ลีโอเอาเรื่องนี้ไปทำนะ" เหมือนเสียงระฆังในโบสถ์มาโปรด เมื่อปรายฟ้ายื่นกระดาษรายละเอียดหัวข้อรายงานมาให้แต่ละคน


"คราวนี้ขอข้อมูลแน่นๆนะ เราไม่อยากโดนจวกแล้ว" ปรายฟ้าโอดครวญ รายงานเรื่องที่แล้วของกลุ่มไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เลยโดนหักคะแนนไปเยอะพอสมควร


"เออจริง แต่คราวที่แล้วก็จับได้หัวข้อยากด้วยนั่นแหละ เลยโดนอาจารย์จวกซะน่วมเลย"


ก้มอ่านหัวข้อสักพักก่อนจะเอาเก็บใส่ไว้กับแฟ้มเอกสาร ลุกออกจากโต๊ะเตรียมสะพายกระเป๋าไปซ้อม


"จะไปแล้วหรอลีโอ?" ปรายฟ้าถาม คนอื่นๆเองก็หันมาจ้องมองเป็นตาเดียว


"อือ"


"แข่งเมื่อไหร่หรอ เดี๋ยวไว้พวกเราไปเชียร์วันแข่ง"


"วันพุธนี้น่ะ"


"อ๋อ สู้ๆนะ ไปเถอะๆ เดี๋ยวมีงานอะไรเพิ่มเติมเราไลน์ไปบอก" ปรายฟ้าโบกไม้โบกมือให้ ส่วนน้ำตาลก็เดินเข้ามาเขย่าแขน


"สู้ๆนะลีโอ ไว้แข่งเสร็จติวเคมีให้เราหน่อยน้า"


"ได้สิ ขอบคุณนะ"



“สู้ๆเว้ยมึง!”


“ขอบใจ”




'เดี๋ยวไว้พวกเราไปเชียร์วันแข่ง'




เป็นประโยคที่ดีจังนะ...
















เดินลอดอุโมงค์ข้ามถนนใต้ดินจากหน้าคณะวิทยาศาสตร์มาโผล่ยังอีกฝั่งหนึ่งของถนน ช่วงเวลายามเย็นที่ท้องฟ้ากำลังกลายเป็นสีส้มแบบนี้ก็ดูสวยไปอีกแบบ


ท้องฟ้าในเวลานี้ไร้เมฆมาบดบัง บ่งบอกได้ว่าวันนี้อากาศดี


แล้วก็เหมาะกับการดูดาว



ก้มหน้าก้มตาเดินกดมือถือไปตามทางเดิน ผ่านหน้าคณะครุศาสตร์และคณะนิเทศศาสตร์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน มีคนเดินสวนกันไปมาบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

แต่แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะซุบซิบและประโยคพูดคุยของนิสิตสาวสองคนที่เดินสวนไปเมื่อสักครู่


"โอ้ย น่ารักมากเลยอะแก"




อะไรน่ารัก?



ภาพที่เห็นตรงหน้า ฉุดให้ฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ต้องหยุดลง

คนตรงหน้าที่คุ้นเคยกำลังยืนเล่นกับหมาสีน้ำตาลตัวหนึ่งอยู่โดยไม่ได้สนใจสายตาหลายคู่ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นเลย


รองเท้าหนังสีดำมันเรียบตอนนี้ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเจ้าหมาสี่ขา เจ้าของรองเท้าแกว่งเท้าหลบไปมาเป็นเชิงแหย่มัน จนต้องเอาขาหน้าคอยตะปบไว้ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มชอบใจที่ได้เห็น ตัดกับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า



ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่



ที่ตัวเราเผลอยิ้มออกมา



พร้อมกับชัตเตอร์ของกล้องในโทรศัพท์มือถือ



ที่ลั่นออกไป





“อ้าว! ลีโอ” โทรศัพท์มือถือที่เผลอยกขึ้นมาเมื่อสักครู่ถูกยัดเก็บลงในส่วนที่ลึกที่สุดของกระเป๋ากางเกงทันที













วันนี้ซ้อมไม่หนักสักเท่าไหร่ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแข่งแล้ว ถอดหมวกซีลิโคนว่ายน้ำวางไว้ริมสระ เพราะใส่ติดต่อกันเป็นชั่วโมงเลยทำให้รู้สึกเจ็บตรงหน้าผากอยู่พอสมควร ตอนนี้มันคงจะแดงและขึ้นเป็นรอยรูปหมวกบ้างแล้ว


ดันตัวขึ้นนั่งพักเหนื่อยอยู่ริมขอบสระ หยิบขวดน้ำที่พกมาด้วยขึ้นจิบ ลมเย็นเหนือสระว่ายน้ำพัดผ่านกระทบผิวเป็นระยะ น่าแปลกที่รู้สึกหนาว แต่กลับไม่อยากลงไปแช่น้ำอีก


สระว่ายน้ำกลางแจ้งไร้หลังคามีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีดำเกือบสนิท...ใช่ มันไม่มืดสนิท เพราะแสงจากผืนแผ่นดินใหญ่สะท้อนขึ้นไปยังท้องฟ้าเสมอ แสงเหล่านี้มักจะแย่งความสว่างของดวงดาว



‘ไม่ชอบแสงพวกนี้เลย’
 
‘อ้าว ทำไมล่ะ?’
 
‘มันแย่งแสงของดาวไปหมด’
 
‘ก็จริงนะ… แต่ลีโอรู้อะไรไหม? การที่แสงจากแผ่นดินสะท้อนขึ้นไปบนท้องฟ้ามันก็มีข้อดีนะ’
 
‘ข้อดี?’
 
‘ใช่แล้ว เพราะถ้าหากเราไปเริ่มต้นดูดาวในที่ที่มืดสนิทดำปิ๊ดปี๋ไปหมด จนเห็นดาวได้เต็มท้องฟ้า เราจะแยกแทบไม่ออกเลย ว่ากลุ่มดาวนี้คือกลุ่มดาวอะไร กลุ่มดาวนั้นคือกลุ่มดาวอะไร’
 
‘เพราะฉะนั้น  ที่นี่มันดีนะ เหมาะกับการหัดดูดาวมากๆ’
 
‘ต้องขอบคุณทุกคนที่เปิดไฟนะ’

 
 

นึกแล้วก็ตลกกับคำอธิบายของพ่อ  พ่อมักจะมองเห็นข้อดีของทุกอย่างเสมอ
 
 

!!!

 
ตู้ม!!

 
จู่ๆก็ถูกใครบางคนดึงขาให้หล่นกลับลงมาในสระ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว น้ำจึงพากันไหลทะลักเข้าจมูกและตาจนแสบไปหมด หลังจากที่ตั้งตัวได้แล้วก็พยายามว่ายกลับฝั่งทั้งที่ตายังปิดสนิทอยู่อย่างนั้น  หลับตาอยู่พักใหญ่  ได้ยินเสียงคนหัวเราะอยู่ข้างๆ จนเมื่อลืมตาขึ้นก็เจอกับใบหน้าของตะวันในระยะประชิด
 

“เฮ้ย เราขอโทษ แกล้งแรงไปหน่อย ไม่คิดว่าจะสำลัก”
 

“ไม่เป็นไร”  ใจจริงอยากจะพูดต่อ ว่าทีหลังอย่าทำอีก  แต่ก็โดนขัดขึ้นก่อน
 

“ไม่เป็นไรแน่นะ ตาแดงหมดแล้วเนี่ย จมูกก็แดง  ขอโทษจริงๆว่ะ”  คนตรงหน้าไม่พูดเปล่าซ้ำยังยกมือขึ้นมาจับแก้มให้หันไปมา อยากจะปัดออกอยู่เหมือนกัน
 

“ไม่เป็นไรจริงๆ”
 

“เอ้า! ขึ้นกันได้แล้ว เขาจะปิดสระแล้-  เฮ้ย! มึง!  ไอตะวัน มึงทำอะไรน้องกู ห๊ะ!”
 


สุดท้ายตะวันก็โดนบ่นไปตามระเบียบ...



สม...





19.10 น.


เวลาปกติที่คนตรงหน้าจะมานั่งรออยู่ที่ม้านั่งหน้าสระว่ายน้ำ


“กลับกันเถอะ” เอกในชุดเสื้อยืดสกรีนลายคณะกับกางเกงวอร์มสีดำยืนขึ้นแล้วเดินนำออกไปเหมือนกับทุกครั้ง…


ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ทุกอย่างเป็นตามแบบแผนนี้ไปเสียหมด



ความแน่นอนนี่มันดีจังนะ


คาดการณ์ได้ตลอด เมื่อถึงเวลานี้ อาจารย์จะเดินเข้ามา เมื่อหมดเวลาจะต้องไปเรียนในวิชาถัดไป เมื่อถึงตอนเย็นจะต้องไปซ้อม



เอื้อมมือไปดึงชายเสื้อของเอกเบาๆ คนตรงหน้าหยุดเดินแล้วหันมามองด้วยความสงสัย


“หืม?”


“วันนี้…”


“วันนี้ทำไมหรอ?” และแน่นอนว่าเมื่อเอกสงสัยอะไร เอกจะขมวดคิ้ว


“มีอิริเดียม84”


หนึ่งในปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่ชอบที่สุด


หนึ่งในความแน่นอนที่สามารถคำนวณได้…



“อิริเดียม…?” คิ้วของเอกยิ่งขมวดกันเป็นปมหนักขึ้น ถ้าเอานิ้วจิ้มจะโดนด่าหรือเปล่า?


“ทำอะไรเนี่ย?” เอกทำหน้าเหรอหรา ยืนตัวแข็งทื่อเมื่อเอานิ้วกดไปที่หว่างคิ้วของเจ้าตัว คิ้วที่เคยขมวดกันคลายออกเพราะความตกใจ


ปกติแล้วจะไม่ชอบสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่กลับชอบท่าทางของเอกในตอนนี้ มันนอกเหนือจากที่คิดไว้


นึกว่าจะโกรธแล้วปัดมือออกเสียอีก


“ไม่รู้จักอิริเดียมหรอเนี่ย?” ยังคงเอานิ้วจิ้มหว่างคิ้วของอีกคนเล่นอยู่อย่างนั้น


“ก็ไม่รู้น่ะสิ”


“อิริเดียมแฟร์ คือแสงสว่างวาบจากดาวเทียมสื่อสารของสหรัฐชื่ออิริเดียม เอียงทำมุมสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ มีอยู่66ดวงโคจรรอบโลก”


“แล้ว?”


“วันนี้มีอิริเดียมเบอร์84ไง”


“มี66ดวงแล้วทำไม84”


“มันเป็นหมายเลข ไม่ใช่ลำดับที่”


“ทำไมไม่มี77ดวงให้ตรงตามเลขอะตอมของธาตุอิริเดียมในตารางธาตุล่ะ” ได้ยินประโยคกวนโอ้ยจากคนตรงหน้าเลยดีดหน้าผากไปหนึ่งที


“โอ้ย! ดีดทำไมวะเนี่ย !?”


“เงินไม่พอไง มันจะมีกี่ดวงก็ช่างมันดิ”


“ก็ไม่เห็นต้องดีดกันเลยนี่วะ” เอกทำหน้างอ เหนือความคาดหมายนิดหน่อยที่เจ้าตัวเดินหนี จนต้องรีบก้าวตามไปให้ทัน


“เดี๋ยวสิ อยู่ดูก่อนไม่ได้หรอ?”


“แล้วเมื่อกี้ทำอะไรไว้ล่ะ?” คนที่ก้าวหนีฉับๆพูดโดยที่ไม่หันมามอง ท่าทางจะงอนจริง


“เฮ้ย! แค่นี้ก็งอนเนี่ยนะ” 


“ไม่ได้งอนเว้ย!”


“งั้นหยุดดูก่อน”


“ไม่เว้ย!”  ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับคนที่เดินหนีไปไกล ยกมือขึ้นดูนาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลาหนึ่งทุ่มกว่า แล้วนั่งลงกลางถนนตรงนั้นทันที เอกที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเดินตาม หันกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูตกใจก่อนจะรีบเดินเข้ามาหา


“นั่งตรงนี้เดี๋ยวรถก็ทับหรอก”


“ทับอะไรตรงนี้มีป้ายห้ามเข้า” พร้อมกับชี้นิ้วไปยังป้ายห้ามเข้าขนาดใหญ่ที่ถูกต้องอยู่กลางถนน คนยืนอยู่ชักสีหน้า ก่อนจะนั่งจุ่มปุ๊กลงข้างๆ


“แล้วเมื่อไหร่จะมา” เอกถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ซ้ำยังไม่หันมามองหน้า ทำเอานึกถึงครั้งแรกที่เจอกันในวันนั้นขึ้นมา


“อีก1นาที” มองนาฬิกาข้อมือก่อนจะบอกออกไป อีกฝ่ายพยักหน้ารับรู้


ต่างฝ่ายต่างเงียบ มีเพียงเสียงลมพัดและเสียงใบไม้แห้งกลิ้งไปตามพื้นเท่านั้นที่คอยคั่นกลางอยู่ระหว่างความเงียบของเราสองคน






“10”




“9”





“8”



เอกหันมาเลิกคิ้วมองแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร  ความเงียบที่ถูกทำลายลงท่ามกลางเสียงลมและใบไม้แห้งเกลือกกลิ้งไปตามพื้นถนน มีเพียงเสียงที่คอยนับเวลาถอยหลังดังขึ้นตามจังหวะเข็มวินาที


“7”




“6”




ชี้นิ้วไปยังท้องฟ้าตรงหน้าที่พวกเรานั่งกันอยู่ คนข้างๆเองก็มองไปยังจุดเดียวกันตรงนั้น



“5”





ไฮเซนเบิร์กได้กล่าวไว้


‘เราไม่สามารถระบุตำแหน่งและโมเมนตัมของอนุภาคได้แม่นยำพร้อมกัน’


‘หากเราวัดตำแหน่งอนุภาคได้อย่างแม่นยำแล้วนั้น เราย่อมจะไม่มีทางบอกโมเมนตัมของอนุภาคนั้นได้ว่าเป็นเท่าใด และในทางกลับกันก็เป็นเช่นนั้น’


ทุกอย่างย่อมมีทั้งสิ่งที่แน่นอนและไม่แน่นอน



และ ‘ความไม่แน่นอน’ นั่นแหละที่น่ากลัว…



เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ณ เวลานั้นหรือต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น






“4”




การที่แมวของชโรดิงเจอร์ถูกจับใส่ไว้ในกล่อง รอจนแก๊สพิษที่ใส่ไว้ถูกปล่อยออกมาเมื่อถึงเวลาครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสี



ถ้าหากตอนนั้นเราเปิดกล่องออก



แมวที่กำลังจะตาย อาจจะไม่ตายก็ได้






“3”






แล้วถ้าหาก ณ เวลานั้นเราไม่เปิดกล่อง



มันอาจจะตาย หรือ ณ ตอนนั้น มันอาจจะไม่ตายก็ได้เหมือนกัน






“2”





ไม่มีอะไรแน่นอน…





“1”







ยกเว้น…



แสงสว่างวาบตัดกับท้องฟ้าสีเทาอมดำตรงหน้า ที่เรียกว่า



‘อิริเดียมแฟร์’








TBC


/สไลด์เข้ามา/ สวัสดีค่ะ พอดีสอบเสร็จไป3วิชา

แล้วพอมีเวลาช่วงระยะห่างก่อนถึงสอบ2วิชาสุดท้าย เลยแว๊บมาแปะค่า

ตอนนี้ยาวมากที่สุดเทาที่เราเคยเขียนมาเลยค่ะ ที่ยาวเพราะไม่อยากตัดแยกกันด้วย เรารู้สึกว่ามันต่อเนื่องกันน่ะค่ะ

แล้วก็ตอนนี้อาจจะงงๆนะคะ เราพยายามจะอธิบายกับเล่นมุก(แป้กๆ)ของเราให้ดีที่สุดแล้ว แต่ดูเหมือนจะได้แค่นี้  :katai1:

ที่สองคนนี้คุยกันตอนแรกเป็นเรื่องทฤษฎีแมวของชโรดิงเจอร์ เป็นการทดลองในจินตนาการ(ไม่ได้ทำจริงๆนะคะ ถ้าทำจริงๆสงสารแมว แงงงงง) โดยการจับแมวใส่กล่องที่มีแก๊สพิษอยู่ข้างใน ตั้งเวลาโดยใช้ธาตุกัมตรังสีค่ะ พอถึงธาตุกัมตรังสีลดลงเหลือครึ่งนึงก็มีกลไกอะไรสักอย่าง ทำให้แก๊สพิษออกมาในกล่อง รมแก๊สพิษใส่แมวพูดถึงเรื่องที่ว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน ทุกอย่างมีโอกาส50 50 เราไม่มีทางรู้ว่า ณ ตอนนั้นแมวตายแล้วหรือยังจนกว่าเราจะไปเปิดกล่องออก แต่การที่เราไปเปิดกล่องก็ไปรบกวนสมดุลในตอนนั้นด้วย ทำให้บางทีตอนนั้นแมวมันควรจะตาย มันก็ไม่ตายแทน (ประมาณว่า ถ้าตอนนั้นลีโอวิ่งอาจจะทันหรือไม่ทันก็ได้ ประมาณนั้นน่ะค่ะ 5555 แงงง เราอธิบายได้ห่วยสินะคะ orz)

ส่วนเรื่องอิริเดียมแฟร์ เป็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้าค่ะ เราแนะนำว่าเป็นอะไรที่น่าดูมากพอๆกับการดูดาวเลยล่ะค่ะ ข้อดีคือ มีบอกเวลาแน่นอนว่าจะมีแสงอิริเดียมตอนไหน คือคาดการณ์ได้ตลอด (แต่บางทีก็คาดการณ์พวกความสว่างผิดพลาดไปบ้าง) แต่เป็นแสงสว่างที่วาบขึ้นมาไม่นานค่ะ ไม่ถึงนาที แนะนำว่าน่าดูมากๆเลย ในเพจสมาคมดาราศาสตร์ไทยจะคอยบอกอยู่ตลอดค่ะว่าวันไหนมีแสงอิริเดียมให้ดู เผื่อใครสนใจอยากลองไปดูนะคะ เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ  :-[

วันนี้เขียนซะยาวเลย ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

รักคนอ่านทุกท่านมากๆๆๆๆๆ  :กอด1:

ปล. สนุกหรือไม่สนุกยังไงบอกได้นะคะ น้อมรับคำติชมและแก้ไขค่า
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 11-05-2015 21:46:04
เอก ขี้งอนจัง  :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 11-05-2015 22:32:58
"อยากมีเจ้าของมั๊ย ?"
เขินแทนน้องแมว ฮวือออออออ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 11-05-2015 22:45:49
มุ้งมิ้งมากอ้ะสองคนนี้ :-[
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 06-08-2015 19:03:44
คนแต่งหายไปไหนน้อออ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-10-2015 12:47:40
 :call:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 07-10-2015 17:51:36
อ่านยังไม่ถึงตอนล่าสุดแต่แอบมาคอมเม้นท์ก่อน
เรื่องน่ารักมากๆ เลยค่ะ
ขอบอกว่าชื่อตอนที่ 13 สะดุดตาเรายิ่งกว่าชื่อเรื่องอีก 5555
มันคุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้ เลยลองเข้ามาอ่านดู
เราชอบเรื่องแนวนี้จัง ที่โยงบางสิ่งเข้ามาในความสัมพันธ์ของตัวละคร
เราว่ามันดูมีอะไรๆ นะ
ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านและจะรอติดตามนะคะ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 13-10-2015 21:57:54
สวัสดีค่ะ หมาเองนะคะ ขอโทษที่หายไปนานมากๆๆๆๆๆๆ(xอินฟินิตี้) โดยที่ไม่ได้แจ้งก่อน

คือเรามีปัญหานิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้คิดว่าโอเคพอจะกลับมาเขียนต่อได้แล้ว แต่อาจจะยังต้องใช้เวลาอีกสักพัก

ระหว่างนี้เลยมีเรื่องสั้น(ที่เราเขียนจบไว้แล้ว)มาให้อ่านรอกันค่ะ ; v ;

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49384.msg3202991;topicseen#msg3202991

ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอยู่(หรือเปล่า? 5555)นะคะ

รักและคิดถึงนักอ่านทุกท่านมากๆเลยค่ะ

เราจะพยายามเข้มแข็งขึ้นให้มากกว่านี้ แล้วเจอกันค่ะ m( _ _ )m
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-10-2015 22:11:18
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

กอดดดดดดดดดด


คิดถึงนะคะ จุฟๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 13-10-2015 22:21:31
ยังไงก้รอจ้า
คิดถึงคนแต่งคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเว
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 13-10-2015 22:23:31
คิดถึงนะคะ ^^  :mew1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 14-10-2015 18:44:38
ตามมาจากเรื่องสั้นคะ
อ่านรวดเดียวจบเลย  :katai5:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 17-10-2015 23:44:39
เราเพิ่งตามมาจาก #น้องหัสพี่ศุกร์ ค่ะ 55
อ่านเพลินมากเลย รู้ตัวอีกทีก็มองหาตอนใหม่แล้ว

จิ้มคนเขียนนะคะ มาต่อเรเร้วววว

หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 18-10-2015 11:04:16
พึ่งได้มาอ่านค่ะ ท้องฟ้ามีอะไรที่น่าค้นหาเยอะเลยเนอะ ทั้งคู่ก็ดูน่ารักดี เอกอาจจะใจร้อน แต่น้องแมวเราก็รู้วิธีกำหลาบคนขี่โวยวายกลบเกลื่อนซะอยู่หมัดเลย ^^
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 20-10-2015 23:03:18
ชอบมาก ได้อะไรหลายๆอย่างจากเรื่องนี้
ชอบเกี่ยวกับเรื่องดาวด้วย
ลีโอน่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 23-10-2015 01:27:37
มาจาก#น้องหัสพี่ศุกร์ ค่ะ มุ้งมิ้งมากกก ชอบค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 23-10-2015 13:01:48
เราจะรอน้าาาา ชอบเรื่องนี้มากมาก สู้สู้ น้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่13 : ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก | P.4] 11/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 02-11-2015 23:17:25
เอก ขี้งอนจัง  :z10: :z10: :z10:

นั่นสิคะ เอกนี่ขี้งอนจริงๆเลย /ตี


"อยากมีเจ้าของมั๊ย ?"
เขินแทนน้องแมว ฮวือออออออ

เนอะะะะ แต่เอกก็เขินไม่แพ้กันนะคะ หลังจากที่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป 5555


มุ้งมิ้งมากอ้ะสองคนนี้ :-[

นั่นสิคะ :-[


คนแต่งหายไปไหนน้อออ

ขอโทษมากๆเลยนะคะที่หายไปนานมากๆๆๆๆ ตอนนี้กลับมาแล้วนะคะ  :mew2:


:call:

อันนี้จุดธูปเรียกใช่ไหมคะ กลับมาแล้วนะคะ  :hao7:


อ่านยังไม่ถึงตอนล่าสุดแต่แอบมาคอมเม้นท์ก่อน
เรื่องน่ารักมากๆ เลยค่ะ
ขอบอกว่าชื่อตอนที่ 13 สะดุดตาเรายิ่งกว่าชื่อเรื่องอีก 5555
มันคุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้ เลยลองเข้ามาอ่านดู
เราชอบเรื่องแนวนี้จัง ที่โยงบางสิ่งเข้ามาในความสัมพันธ์ของตัวละคร
เราว่ามันดูมีอะไรๆ นะ
ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านและจะรอติดตามนะคะ
 :mew1: :mew1:

ขอบคุณมากเลยจริงๆค่ะ เราเองทิ้งไปนาน แต่ไม่คิดว่าจะมีนักอ่านมาอ่านอยู่ด้วย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามด้วยนะคะ ชื่อตอนที่13เป็นชื่อตอนที่เราชอบมากที่สุดเลยค่ะ 5555 เป็นหัวข้อที่ชอบมากๆเลยค่ะ


:กอด1: :กอด1: :กอด1:

กอดดดดดดดดดด


คิดถึงนะคะ จุฟๆ

/กอดดดดด ขอบคุณมากเลยนะคะ :mew1:


ยังไงก้รอจ้า
คิดถึงคนแต่งคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเว

ขอบคุณที่ยังคิดถึงกันอยู่นะคะ มาต่อแล้วนะคะ

ขอโทษที่ให้รอนานมากๆๆๆ


คิดถึงนะคะ ^^  :mew1:

คิดถึงนักอ่านเช่นกันค่ะ ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ


ตามมาจากเรื่องสั้นคะ
อ่านรวดเดียวจบเลย  :katai5:

น้องหัสพี่ศุกร์สินะคะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่ติดตามเรื่องทางนู้นแล้วมาติดตามทางนี้ต่อ

มาต่อให้แล้วนะคะ


เราเพิ่งตามมาจาก #น้องหัสพี่ศุกร์ ค่ะ 55
อ่านเพลินมากเลย รู้ตัวอีกทีก็มองหาตอนใหม่แล้ว

จิ้มคนเขียนนะคะ มาต่อเรเร้วววว

ขอบคุณมากเลยนะคะ มาต่อแล้วเรียบร้อยค่า

ส่วนน้องหัสพี่ศุกร์ก็จบไปแล้ว ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ


 
พึ่งได้มาอ่านค่ะ ท้องฟ้ามีอะไรที่น่าค้นหาเยอะเลยเนอะ ทั้งคู่ก็ดูน่ารักดี เอกอาจจะใจร้อน แต่น้องแมวเราก็รู้วิธีกำหลาบคนขี่โวยวายกลบเกลื่อนซะอยู่หมัดเลย ^^

ใช่แล้วค่ะ ท้องฟ้ามีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมายไม่รู้จบเลย เหมือนกับความรู้สึกนึกคิดของคนเราเลยเนอะ มีอะไรให้คนหาตลอด >_<

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ


ชอบมาก ได้อะไรหลายๆอย่างจากเรื่องนี้
ชอบเกี่ยวกับเรื่องดาวด้วย
ลีโอน่ารักมากๆ

ขอบคุณที่ชอบนะคะ ดีใจมากๆเลย ลีโอน่ารักแบบนี้มาอยู่ #ทีมลีโอ กันดีกว่าค่ะ 5555

ยินดีต้อนรับสู่ Star Chart นะคะ


มาจาก#น้องหัสพี่ศุกร์ ค่ะ มุ้งมิ้งมากกก ชอบค่ะ ^_^

ดีใจมากๆเลยค่ะ น้องหัสพี่ศุกร์นำทางมานี่เอง ยินดีต้อนรับสู่ Star Chart นะคะ >_<

เราจะรอน้าาาา ชอบเรื่องนี้มากมาก สู้สู้ น้า  :กอด1:

ขอบคุณที่ชอบนะคะ ดีใจมากๆเลยค่ะ มาต่อให้แล้วนะคะ ขอโทษที่ต้องให้รอนาน ; v ;
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.5] 13/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 02-11-2015 23:18:32

เวลาเราเงยหน้าแหงนมองขึ้นไปยังท้องฟ้าในยามค่ำคืน


สิ่งแรกที่เราเห็น คือ



ดวงดาว



ที่กำลังส่องสว่างแข่งกันอยู่บนท้องฟ้า



มนุษย์เราเป็นกรรมการจัดการแข่งขันความสว่างที่เรียกว่า



'โชติมาตรปรากฏ'



ผู้ที่ส่องสว่างให้มนุษย์เห็นได้มากที่สุดจะได้รับคะแนน



ยิ่งคะแนนของใครน้อยมากเท่าไหร่



ก็คือ ผู้ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้าผืนนี้



ตอนที่ 14



ทันทีที่การนับถอยหลังจบลง แสงสว่างวาบสีขาวก็พลันปรากฏขึ้นบนฟ้า เป็นเวลาเพียงชั่วอึดใจก่อนจะค่อยๆจางหายไปจากท้องฟ้าสีเทามืด


เมื่อได้สติแล้วก็เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองได้พลาดฉากสำคัญของปรากฏการณ์บนท้องฟ้าไปเสียแล้ว นึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่ไม่ได้ถ่ายรูปหรือแม้กระทั่งถ่ายวิดีโอเก็บไว้


ราวกับคนด้านข้างรู้สึกถึงความเสียดายตรงจุดนี้ จึงได้พูดปลอบใจขึ้น


"มันมีให้ดูอีกเรื่อยๆแหละ"


"ถ้าคราวหน้ามีอีกชวนมาดูด้วยแล้วกัน" เมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็ต้องแทบสำลักคำพูดของตัวเอง จู่ๆก็เอ่ยชวนอีกฝ่ายเสียอย่างนี้จะดูผิดสังเกตหรือเปล่า?


"ได้ ถ้ามีอีกจะบอกแล้วกัน" ลอบมองสีหน้านิ่งเฉยของอีกฝ่ายก่อนจะแอบถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอก พยายามตีสีหน้าขรึมเพื่อไม่ให้หลุดรอยยิ้มดีใจออกมา


นั่งอยู่บนถนนกันอยู่อย่างนั้นได้ไม่นาน ลีโอลุกขึ้น มือของอีกฝ่ายยื่นมาตรงหน้า เอื้อมมือไปจับแล้วยืนขึ้น


"กลับกันเถอะ"









สระว่ายน้ำในสนามกีฬามหาลัยตอนนี้เริ่มคราคร่ำไปด้วยกองเชียร์จากหลายคณะที่มารอชมการแข่งขันในวันนี้


นั่งรออยู่บนแสตนด์เชียร์พร้อมกับเติ้ลและแซน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเริ่มแข่งแต่คนก็เริ่มทยอยมากันแล้ว มีนักกีฬาบางคนลงว่ายวอร์มอยู่ในสระบ้าง แต่คนที่เป็นเป้าหมายให้มาเชียร์ในวันนี้ยังไม่โผล่มา


ระหว่างรอเวลาอันแสนน่าเบื่อก็เลยหยิบกล้องมิลเลอร์เลสตัวเล็กมาถ่ายบรรยากาศโดยรอบ เมื่อแซนเห็นกล้องก็ขอร้องให้มันได้เป็นนางแบบสักหน่อย เมื่อถ่ายได้สองสามรูปก็เอารูปให้มันดู


"โห เพื่อนเอกถ่ายรูปสวยว่ะ ไว้ส่งรูปพวกนี้ให้หน่อยดิ" พยักหน้าตอบรับคำขอมันไป ก่อนที่แซนจะหันไปเรียกไอเติ้ลให้มาถ่ายด้วยกัน และแน่นอนว่าสองคนนี้มันคงไม่ถ่ายรูปดีๆกันหรอก


ไม่นานหลังจากนั้น แซนลุกขึ้นโบกมือเมื่อเห็นว่าพวกไอโปรและคนอื่นๆเดินเข้ามา ชะเง้อคอมองตามไปยังจุดที่แซนมอง เห็นทุกคนเดินตรงขึ้นมาหาบนแสตนด์ ด้านหลังมีพวกนักกีฬาของคณะวิทยาศาสตร์เดินตามมาอีกห้าคน หนึ่งในนั้นมีลีโออยู่ด้วย


"มานานหรือยังวะ โทษที พวกกูเพิ่งทำแลปเสร็จ" ไอโปรทักทาย ดูจากเหงื่อที่ผุดบนใบหน้ามัน คิดว่าคงรีบมา


"ก็สักพักแล้วว่ะ" ไอเติ้ลตอบ ตอนนี้พวกนักกีฬาในชุดเสื้อยืดสีเหลืองก็เริ่มยืดกล้ามเนื้อกันและคุยกันไปด้วยเพราะยังเหลือเวลาก่อนแข่งอีกพอสมควร


มองไปรอบๆสระอย่างนึกขึ้นได้ว่ายังไม่เห็นนักกีฬาของคณะตัวเองสักคน แถมไอพี่ชายตัวดีนั่นก็ยังไม่โผล่มา หรือว่าจะไปซุ่มกันอยู่


ยังไม่ทันขาดคำก็เห็นคนที่เพิ่งนึกนินทาอยู่ในใจเดินเข้ามากับเพื่อนอีกคนพร้อมทั้งขบวนนักกีฬาอีกเจ็ดแปดคนเดินตามหลังเข้ามา เมื่อจักรภพเห็นกลุ่มพวกเราก็เดินตรงมาหา ทุกคนพร้อมใจกันยกมือไหว้


"ว่าไงทุกคนพร้อมยัง?" จักรภพทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


"พี่ต้องไปถามนักกีฬาสิวะครับ มาถามอะไรพวกกระผม" ไอเติ้ลพยักหน้าไปทางฝั่งกลุ่มเพื่อนที่ใส่เสื้อยืดสีเหลืองยืนกันอยู่ จักรภพเพียงแค่ยิ้มให้


"วันนี้เชียร์คณะตัวเองดิวะ ฝั่งนู้นให้ไอ้ปูนมันเชียร์ไป"


"แต่ฝั่งนู้นเค้ามีตัวท็อปหน้าตาน่ารักอยู่ เพราะงั้นหนูขอย้ายฝั่งก่อนนะคะ" แซนหัวเราะพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มไปให้ลีโอ เดี๋ยวเถอะมึง


"เดี๋ยวเจอฝั่งเราแล้วแซนจะย้ายกลับไม่ทันนะ" จักรภพหัวเราะ ส่วนเพื่อนมันที่ชื่อปูนได้แต่เบ้ปากใส่


"นี่แข่งว่ายน้ำครับมึง ใช้หน้าตาก็ไม่ได้ว่ายเร็วขึ้นหรอกว่ะ"


"กูบอกแล้ว แข่งไอนี่ไม่ซีเรียส เขาจัดมาให้กระชับความสัมพันธ์กันในมหาลัยต่างหากเว้ย"


อย่างที่จักรภพบอก งานกีฬาภายในที่จัดขึ้นนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะและต่างคณะ สังเกตได้จากบรรยากาศที่ดูเป็นกันเองและสนุกสนาน แถมทางองค์การนิสิตก็ยังเปิดเพลงบางระจันอีกต่างหาก ไม่เหมือนเป็นการแข่งขันที่ต้องการผลแพ้ชนะเลยสักนิด


แต่ดูเหมือนพี่ปูนจะซีเรียสเรื่องผลแพ้ชนะพอสมควร คงไม่ได้ไปหมั่นไส้นักกีฬาคนไหนในคณะวิศวะหรอกนะ


"ไม่งั้นคณะกูจะมีคนแก่มาลงหรอวะ" คนแก่ที่จักรภพพูดถึงคือรุ่นพี่ป.โทคนหนึ่ง


"อย่าให้พี่คณิตได้ยินนะมึง คอขาดแน่นอน" พี่ปูนหัวเราะ


"พี่คณิตนี่ใครวะ" ไอเติ้ลหันมาถาม แต่คนที่ตอบกลับเป็นพี่ปูนแทน


"พี่คณิตปีหนึ่งไง..."


"ปีหนึ่งไหนวะ?" เติ้ลขมวดคิ้วด้วยความงง มันคงไม่เข้าใจว่าเป็นพี่ แต่ทำไมอยู่ปีหนึ่ง


"มาสเตอร์ดีกรีปีหนึ่ง" จักรภพช่วยเสริมให้ ทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะ ก่อนจะพูดต่อ


"แต่ปีนี้พี่แกลงให้คณะกูว่ะ อย่าเสียใจนะเว้ยมึง" พี่คณิตคนนี้ค่อนข้างสนิทกับจักรภพพอสมควร เคยเจอกันบ้างนิดหน่อยในคณะ เพราะพี่แกต่อป.โทที่คณะวิศวะ แต่ก่อนหน้านี้ตอนป.ตรีจบมาจากคณะวิทยาศาสตร์ และดูเหมือนจะเป็นสายรหัสของพี่ปูนด้วย


"โอ้ย จะเสียใจทำไมวะมึง"


มองพี่ชายตัวเองคุยกับเพื่อนสนุกสนานอยู่สักพัก ก่อนจะหันไปมองฝั่งนักกีฬาที่ยืนอยู่ใกล้ๆจุดที่พวกเรานั่งกันอยู่ก็เห็นว่าลีโอกำลังยกกระเป๋ามาทางนี้


"ฝากหน่อย" ลีโอยื่นกระเป๋ามาตรงหน้า ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ปกติเขาไม่ได้วางกระเป๋าไว้ด้วยกันกับเพื่อนๆหรือไงถึงต้องเอามาฝาก แต่ก็พยักหน้ารับไปอย่างงงๆก่อนจะหันไปเห็นรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของกลุ่มคนตรงนั้น แน่นอนว่าไอแซนกับไอเติ้ลไปนั่งอยู่ท่ามกลางกองกระเป๋าที่ควรจะมีที่เหลือมากกว่านี้ให้อีกคนวางได้



พวกมึงนี่มัน...



ยังไม่ทันได้หันไปขยับปากด่าอะไรไอ้พวกนั้นมากมาย ก็ต้องอ้าปากค้างกับเหตุการณ์ตรงหน้า


หน้าท้องขาวตัดกับเสื้อสีเหลืองที่ถูกเลิกขึ้น รู้ตัวอีกทีก็เผลอเอื้อมมือไปรับเสื้อมาเสียแล้ว และยังตามมาด้วยกางเกงวอร์มขาสั้นอีก คนตรงหน้าหยิบหมวกซิลิโคนขึ้นมาสวมด้วยท่าทางสบายๆ พร้อมถือแว่นตาว่ายน้ำไว้ในมือ



ลีโอในชุดว่ายน้ำพร้อมแล้ว



ในขณะที่สติกำลังเตลิดหายไปอยู่นั้น เสียงฮือฮาก็ดังขึ้น สายตาทุกคนจับจ้องไปยังผู้มาใหม่


คนที่เดินเข้ามา ถ้าจำไม่ผิดคือคนที่อยู่กับลีโอในวันซ้อมด้วย พอได้เห็นคนคนนี้ในชุดธรรมดาที่ไม่ใช่ชุดว่ายน้ำแล้วก็ยิ่งเห็นหน้าตาได้ชัดเจนว่าเป็นคนที่ค่อนข้างหล่อ



ให้ไว้แค่ค่อนข้างนะ



ไอหน้าหล่อตรงเข้ามาหาจักรภพ เขายกมือไหว้รุ่นพี่ของตัวเองก่อนจะหันไปไหว้พี่ปูนที่เบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้


"ว่าไงไอ้น้อง มาซะสายเลย ม่อสาวอยู่หรือไง" จักรภพเดินเข้ามากอดคอ


"ไม่ใช่สักหน่อยพี่ ผมไปหาอาจารย์ที่ปรึกษามา" อีกฝ่ายหัวเราะ ไม่ได้โกรธเคืองอะไรที่ถูกจักรภพแซวแบบนั้น


"เดี๋ยวสิ...นี่ตะวันใช่หรือเปล่า?" แซนที่นั่งอยู่ตรงนั้นร้องขึ้น ตามันตอนนี้ฉายแววเป็นประกายเมื่อมันพบผู้ชายหล่อถูกใจ และไม่ใช่มันเพียงคนเดียวที่มีสีหน้าเคลิ้มอย่างนั้น แต่ยังรวมไปถึงพวกสาวๆคนอื่นในบริเวณนั้นด้วย


"ใช่แล้ว เธอชื่อ…” ตะวันทำหน้านึกอยู่สักพักแล้วขยับปากพูดอย่างไม่แน่ใจ  “แซนป่ะ?" เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อ แซนดี้ก็แสดงท่าทีดี๊ด๊าขึ้นมา ราวกับว่ามีตะวันคนเดียวที่จำชื่อมันได้


"ใช่ๆ จำชื่อเราได้ด้วยหรอ?"


"เพื่อนคณะเดียวกันก็ต้องจำได้ดิ"


'หูดำฉิบหายเลย' เติ้ลที่นั่งไม่มีปากเสียงอยู่นานหันมากระซิบด้วยความหมั่นไส้ พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนั้น เมินประโยคสนทนาเมื่อครู่ก้มหน้าก้มตาพับเสื้อผ้าของลีโอให้เรียบร้อยแล้ววางทับไว้บนกระเป๋าของเจ้าตัว


"แล้วนี่ไม่ลงไปวอร์มหน่อยหรอ?" เงยหน้าถามคนที่ยืนดัดแขนไปมาอยู่ตรงหน้า พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะไม่เผลอมองหน้าท้องขาวๆของอีกฝ่าย


"เดี๋ยวลงแล้วล่ะ" คนตรงหน้าหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมไว้บนหัวเป็นการเตรียมพร้อม แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดินลงจากแสตนด์เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน


"ลีโอ พร้อมยัง?" ตะวันเดินเข้ามาทักทาย ก่อนจะเลื่อนสายตามามองพวกเราสองคนที่นั่งอยู่


"หวัดดี ถ้าจำไม่ผิดอยู่คณะเดียวกันใช่ป่ะ?"  ไม่แปลกที่ตะวันจะจำคนในคณะไม่ค่อยได้ เพราะจำนวนนิสิตในคณะนี้เยอะเหลือเกิน แค่เฉพาะปีหนึ่งก็ปาเข้าไปเกือบแปดร้อยคนแล้ว พยักหน้าแทนคำตอบให้กับตะวัน แต่สายตาตอนนี้จับจ้องอยู่กับแขนขวาของอีกฝ่ายที่กำลังกอดคอลีโออยู่


"นี่ชื่อเติ้ล ส่วนกูชื่อเอก" แนะนำตัวกับอีกฝ่ายไป ตะวันพยักหน้ายิ้มให้แล้วเริ่มแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง


"กูชื่อตะวัน ยินดีที่ได้รู้จัก มีไรทักได้ ชวนแดกเหล้าได้" พยักหน้าให้ตะวันสองสามทีก่อนที่เจ้าตัวจะขอตัวลงไปวอร์มในสระพร้อมกับลีโอ










"ต่อไปจะเป็นการแข่งขันฟรีสไตล์หนึ่งร้อยเมตรชายชุดที่หนึ่ง ขอให้นักกีฬารายงานตัวด้วยค่ะ"


เสียงประกาศเรียกรายงานตัวแข่งรอบต่อไปดังเป็นสัญญาณให้นักกีฬาเตรียมตัว ลีโอที่ลงแข่งในรายการนี้ยืนขึ้นเต็มความสูง ก้าวเท้าเดินลงจากแสตนด์ที่ขึ้นมานั่งพักรอเวลาแข่งขัน เพื่อนๆจากทั้งคณะวิทยาศาสตร์และแซนดี้กับเติ้ลต่างส่งเสียงเชียร์เป็นกำลังใจให้กับแข่งรายการแรกของลีโอ


ยกกล้องขึ้นกดชัตเตอร์ถ่ายภาพแผ่นหลังขาวตัดกับสีฟ้าของน้ำในสระว่ายน้ำ ก้มมองภาพในจออย่างพึงพอใจ เป็นผลงานชิ้นเอกเลยก็ว่าได้




เหมือนกับยานเฮอไรซอนส์ที่ถ่ายภาพดาวพลูโตและบริวารที่ชื่อคารอนได้




ไม่นานการแข่งขันในรอบก่อนหน้าก็จบลง นักกีฬาขึ้นจากสระกันจนหมดเหลือเพียงลู่ว่างเปล่าทั้งเจ็ดลู่


เสียงกรี๊ดจากคนดูข้างสระดังขึ้นเมื่อนักกีฬาเข้าประจำลู่ของตน เสียงประกาศแนะนำผู้เข้าแข่งขันของพิธีกรหญิงไล่เรียงไปทีละคนจนกระทั่งถึงลู่ที่สาม ซึ่งเป็นลู่ตัวเต็งอันดับสองของรายการนี้


"ลู่ที่สาม นายจักรวาล คณะวิทยาศาสตร์" เสียงเชียร์และเสียงกรี๊ดดังกว่าครั้งไหนๆที่ประกาศรายชื่อมา


ยิ่งคนถูกประกาศชื่อโบกมือไปทางกองเชียร์ยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดให้กับบรรดาสาวๆที่มานั่งชมการแข่งขันได้เป็นอย่างดี


"เชรด น้องมึงตัวเต็งหรอวะเนี่ยไอปูน" ผู้ชายตัวสูงใหญ่ไว้หนวดเคราเล็กน้อยเดินเข้ามาพูดคุยทางด้านหลัง เมื่อเห็นว่าใครมาเยือนทุกคนต่างก็พร้อมใจกันยกมือไหว้ผู้อาวุโสที่สุดในทีมทันที


"โห พี่คณิต นึกว่าจะไม่มาแล้ว" พี่ปูนบ่นใส่คนที่มาช้า แต่ถึงจะมาช้ายังไงก็ยังถือว่ามาทัน เพราะรายการกบที่พี่คณิตจะลงแข่งนั้นอยู่ในรายการท้ายๆของการแข่งขัน


"เอาน่ะ อย่างน้อยกูก็มาทัน ไปเปลี่ยนชุดก่อนล่ะ" พูดจบพี่คณิตก็เดินจากไป ทุกคนหันกลับไปสนใจบริเวณสระว่ายน้ำต่อ


"ลู่ที่สี่ นายรพี คณะวิศวกรรมศาสตร์" เสียงเชียร์เมื่อสักครู่ว่าดังแล้ว ตอนนี้กลับดังขึ้นมากกว่าเดิม คนอะไรจะฮอตได้ขนาดนี้วะ


เมื่อขานชื่อจนจบ เสียงนกหวีดเป่ายาวเป็นจังหวะดังขึ้น เป็นสัญญาณให้นักกีฬาทุกคนเตรียมพร้อมบนแท่นปล่อยตัว



รอบสระไร้ซึ่งเสียงใดๆ นักกีฬาทุกคนต่างก้มตัวลงไปเกาะแท่นปล่อยตัว



ในตอนนี้ไม่อาจละสายตาจากนักกีฬาในลู่ที่สามได้เลย ศีรษะที่ก้มลง แว่นตาว่ายน้ำฉาบด้วยปรอทสีเงิน แม้จะไม่เห็นแววตา แต่กับสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ท่าก้มที่พร้อมจะพุ่งตัวออกไปทันที ราวกับถูกมนต์สะกดดึงดูดให้ต้องลั่นชัตเตอร์เก็บไว้



เพียงชั่วอึดใจเดียวเสียงสัญญาณของกรรมการก็ดังขึ้น



"Take your marks"



นักกีฬาทุกคนจับแท่นปล่อยตัวแน่น ดึงตัวไปด้านหลังเล็กน้อยเพื่อเตรียมพุ่งตัวออกไป



"ปี๊ด!"


เสียงเชียร์ข้างสระกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อนักกีฬาทุกคนกระโจนลงสระ และเป็นไปตามคาด ลู่ที่สามและสี่ว่ายตีคู่กันมาอย่างสูสี จนถึงจุดกลับตัวที่ระยะ25เมตร ดูเหมือนตะวันจะกลับตัวได้เร็วกว่า ลีโอม้วนตัวตีลังกาถีบขอบสระตามมาติดๆ ไม่นานก็ตีตื้นแซงอีกฝ่ายได้


จังหวะการเต้นของหัวใจรัวเร็วบีบรัดหน้าอกด้วยความตื่นเต้น


ทั้งคู่กลับตัวพร้อมกันในรอบสุดท้าย เหลือระยะอีก25เมตรเท่านั้นก่อนจะถึงเส้นชัย ทั้งคู่ต่างเร่งจังหวะแขนและขารวดเร็วขึ้นมาก คงออมแรงกันไว้เพื่อรอบสุดท้ายนี้


เพียงเสี้ยววินาทีที่แตะเข้าขอบสระ กรรมการจับเวลาที่ยืนดูอยู่ก่อนแล้วกดหยุดเวลาอย่างแม่นยำ และเมื่อประกาศผลคร่าวๆออกมาก็พบว่า ตะวันเข้าเส้นชัยก่อนเพียงเสี้ยววินาที


ลีโอถอดแว่นตาว่ายน้ำพร้อมหมวกออก ก่อนจะเดินขึ้นมาหาเพื่อนๆบนแสตนด์ ทุกคนตบบ่าให้กำลังใจ ที่แน่ๆอย่างน้อยคณะวิทยาศาสตร์ก็ได้เหรียญเงินมาแล้วหนึ่งเหรียญ


ยื่นขวดน้ำเปล่าในกระเป๋าให้อีกฝ่ายที่เดินเข้ามาขอผ้าเช็ดตัว ลีโอรับมาแล้วนั่งลงข้างๆจิบน้ำด้วยสีหน้านิ่งสงบเหมือนเดิม ไม่มีอาการผิดหวังหรือเสียใจสักนิด แต่เมื่อมองไปที่มือกลับกำลังสั่นอยู่น้อยๆ


เอื้อมมือไปกุมมือของอีกฝ่ายไว้ข้างๆ สอดนิ้วมือของตัวเองประสานเข้ากับมือของอีกฝ่าย ลีโอก้มมองการกระทำเหนือความคาดหมายอย่างไม่เข้าใจ แรงบีบเบาๆที่มือทำเอาอีกฝ่ายตัวแข็งทื่อ


"เอ-"


"แม่เราบอกว่าทำแบบนี้แล้วจะหายตื่นเต้น" ชิงพูดขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ทันพูดอะไรต่อ


"..." ลีโอได้แต่มองหน้าและมือที่กุมกันอยู่สลับไปมา


"เมื่อกี้โคตรเทพเลย" พูดชื่นชมอีกฝ่าย การแข่งขันเมื่อกี้เกิดเพียงแค่หนึ่งนาทีกว่าเท่านั้น แต่กลับรู้สึกยาวนานจนลุ้นตัวโก่ง ซ้ำยังท่าทางตอนว่ายท่าฟรีสไตล์ที่ดูสวยงามนั่น ทำให้ละสายตาไปจากการแข่งขันไม่ได้เลย


"ไม่หรอก ตะวันเร็วกว่าอีก" อีกฝ่ายส่ายหน้าน้อยๆ มือที่สั่นบีบตอบกลับเบาๆ


"แต่ก็ไล่จนเกือบชนะแล้วนะ อีกนิดเดียวก็ได้เหรียญทองแล้ว" คนธรรมดาว่ายสูสีกับอดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติได้คงไม่ใช่ธรรมดาแล้วล่ะ


"อยากให้ได้เหรียญทองหรอ?" พยักหน้าแทนคำตอบให้กับอีกฝ่าย ใจจริงก็อยากให้ได้เหรียญทองอยู่หรอก แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะหมั่นไส้ไอตะวันหน้าหล่อนั่นด้วย


"ตะวันไม่ถนัดผีเสื้อ...กับเดี่ยวผสม..." อีกฝ่ายเงียบไปชั่วอึดใจ ดวงตาเสมองไปทางตะวันที่กำลังยืนคุยกับคนอื่นอยู่






"จะลองดูแล้วกัน"








ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ดวงอาทิตย์คล้อยลับขอบฟ้าไป ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่า การแข่งขันกำลังดำเนินมาถึงรายการสุดท้าย ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่น่ายินดี เพราะลีโอว่ายผีเสื้อ25เมตรชนะตะวัน พี่ปูนหัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่


"ต่อไปจะเป็นรายการสุดท้าย เดี่ยวผสมหนึ่งร้อยเมตรชาย ขอให้นักกีฬาที่จะลงแข่งในรายการนี้รายงานตัวด้วยค่ะ" พิธีกรหญิงทำงานอย่างขยันขันแข็งตั้งแต่รายการแข่งขันแรกจนรายการแข่งสุดท้าย


รายการนี้เป็นที่น่าจับตามองพอสมควร เพราะแต่ละคณะมักจะส่งตัวท็อปลงมาแข่ง แม้ว่ากีฬาภายในนี้จะเป็นแค่การแข่งขันเพื่อกระชับมิตรระหว่างคณะกัน แต่สำหรับรายการนี้แล้วคงไม่มีใครยอมใคร เรียกได้ว่าเป็นศักดิ์ศรีกันเลยทีเดียว


ลีโอที่ยืนคุยกับเพื่อนในกลุ่มอยู่ลุกขึ้น ส่วนพี่ปูนเรียกทุกคนไปบูมด้วยกันเป็นขวัญและกำลังใจให้น้อง


ยืนถ่ายภาพบรรยากาศการบูมของคณะวิทยาศาสตร์ที่บูมกันด้วยท่าทางเข้มแข็งฮึกเหิม รอบๆกันนั้นคณะอื่นเองก็มีบูมด้วยเหมือนกัน รวมไปถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่บูมอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันด้วย




เมื่อถึงเวลาแข่งขัน นักกีฬาก็พร้อมใจกันรายงานตัว และเหมือนเดิม ลีโอยังคงได้ยืนอยู่ในลู่ที่สามและลู่ที่สี่นั้นก็ยังคงเป็นตะวันด้วยเช่นกัน


เสียงเชียร์ที่เคยดังสนั่นเงียบลงอีกครั้ง บรรยากาศรอบๆให้ความรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา


เสียงนกหวีดเป่ายาวเป็นสัญญาณ นักกีฬาทยอยกันกระโดดลงไปในสระ หันหน้าพร้อมจับราวที่ติดกับแท่นกระโดด



“Take your mark”










“ปี๊ด!”
















“กลับมากันแล้วหรอ” เสียงของแม่ถามขึ้นทันทีหลังจากเดินตามหลังจักรภพเข้ามาในบ้าน วันนี้ไม่มีตั้งโต๊ะกินข้าวเย็นกันเพราะบอกที่บ้านไว้แล้วว่าจะกลับดึก


“เป็นไงบ้าง” แม่พูดไม่เงยหน้ามองพวกเราสองคนเพราะกำลังง่วนอยู่กับการแปรงขนให้เจ้าหมาสีขาวขนฟูฟ่องอยู่


“ก็ดีครับ สนุกดี...อ้าว ไอ้เปากลับมาแล้วหรอ?” จักรภพเลิกคิ้วยืนมองเจ้าหมาสีขาวที่กำลังกระดิกหางไปมาแลบลิ้นด้วยความดีใจ ดูจากท่าทางของมันคงอยากจะกระโจนเข้ามาหาแต่เพราะแม่กำลังหวีขนอยู่ มันจึงทำได้แค่มองด้วยสายตาเป็นประกาย


“อือ… ป๊าเพิ่งไปรับกลับมาน่ะ” เดินตรงเข้าไปหาเจ้าหมาเงียบๆโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะนั่งลงข้างๆแม่แล้วลูบหัวนุ่มนิ่มเล่น


“แหนะ เอก เพื่อนกลับมาล่ะดีใจ” หันไปมองค้อนพี่ชายตัวดีไปที จักรภพทำเพียงแค่เดินมาขยี้หัวเจ้าเปาเล่น แล้วเดินหัวเราะชอบใจขึ้นห้องไป








หลังจากเล่นและช่วยแม่หวีขนเจ้า ‘ซาลาเปา’ เสร็จแล้วก็ขอตัวกลับขึ้นห้องนอน


เปิดโน้ตบุ๊คแล้วหยิบเอาเมมโมรี่การ์ดในกล้องออกมาต่อกับเครื่องเพื่อดูรูปที่ถ่ายไว้ในวันนี้


เลื่อนดูรูปไปเรื่อย มุมปากกระตุกยิ้มขำกับรูปถ่ายของแซนกับเติ้ลที่ไม่เคยจะมีรูปดีๆเลยสักครั้ง อย่างคราวนี้ก็เป็นรูปที่แซนปล่อยหมัดใส่แก้มของไอ้เติ้ล เป็นช็อตที่ถ่ายได้พอเหมาะพอเจาะจนต้องอัพโหลดรูปนี้ขึ้นไปบนหน้าเฟสบุ๊ค


ไม่นานคอมเม้นต์และยอดไลค์ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีทั้งคำด่าของเติ้ลกับแซน ทั้งประโยคแซวหยอกล้อของเหล่าเพื่อนในคณะ


ปิดเฟสบุ๊คแล้วกลับมาสนใจรูปที่เหลือต่อ กดเลื่อนดูภาพไปเรื่อยๆ มีทั้งภาพบรรยากาศในงาน ภาพเหล่ากองเชียร์หลายๆคนที่ตามมาให้กำลังใจนักกีฬา ภาพพี่คณิตได้เหรียญทองแดงในรายการกบ25เมตรกับ50เมตร รวมถึงภาพนักกีฬาแต่ละคน



และภาพแผ่นหลังขาวๆของใครบางคน



นิ่งมองภาพนั้นอยู่นานหลายวินาที ไม่คิดว่าเมื่อมองจากหน้าจอคอมกลับรู้สึกน่าหลงใหลได้มากขนาดนี้




ราวกับดวงดาวส่องแสงสว่างสดใสบนท้องฟ้า




ที่มีโชติมาตรปรากฏ



-12




ความสว่างที่ยิ่งกว่าวัตถุใดๆบนท้องฟ้า





กดเลื่อนภาพถัดไปเรื่อยๆ คิ้วก็ต้องขมวดกันเป็นปม มีสิ่งที่ขัดหูขัดตาจนต้องกดเข้าโหมดCropภาพ ลากกรอบสี่เหลี่ยมครอบเฉพาะบริเวณที่ต้องการตัดให้เหลืออยู่


ใบหน้าหล่อเหลาของตะวันที่ยืนอยู่ด้านข้างลีโอถูกตัดออกไปรูปแล้วรูปเล่า เหลือเพียงรูปของคนที่ได้ฉายามนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอไว้เพียงคนเดียว กดเซฟภาพแล้วยิ้มอย่างพอใจ


ภาพรับเหรียญรางวัลในรายการเดี่ยวผสมหนึ่งร้อยเมตรชายเหลือเพียงผู้ที่ได้รับเหรียญทองยืนอยู่กลางภาพ



กึก กึก กึก ครืด กึก กึก ครืด ครืด


เสียงบางอย่างเสียดสีกับประตูห้องนอนดังไม่หยุดหย่อนจนต้องละความสนใจจากภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์


"อ้าว ไอ้เปา" เปิดประตูต้อนรับเจ้าหมาสีขาวหน้าห้อง มันเห่าขานรับชื่อของตัวเองก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งกระโดดไปมาอย่างร่าเริง


"คิดถึงบ้านขนาดนี้เลยหรอวะ แค่ไปโรงเรียนมาเนี่ย" ก่อนหน้านี้ซาลาเปาถูกแม่พาไปฝึกที่ศูนย์ฝึกสุนัขเพื่อเป็นการลงโทษที่ทำสวนของแม่เละกระจาย ต้นไม้หลายต้นที่แม่อุส่าประคบประหงมมาอย่างดีถูกทำลายจนไม่เหลือเค้าเดิม


ซาลาเปากระโดดโผเข้าใส่อย่างไม่ทันตั้งตัว ก้มลงไปกอดก้อนขนสีขาวนุ่มนิ่มนั่นก่อนจะกลับมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม


ภาพบนหน้าจอยังคงเป็นรูปของคนคนนั้น


รอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากของเจ้าตัวทำให้เผลอยิ้มออกมาได้ไม่ยาก ก็นะ นานๆทีจะได้เห็นเจ้าตัวยิ้มออกมา ถึงจะแค่นิดเดียว แต่ก็ดูออกว่ากำลังยิ้มดีใจอยู่ เป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง



"คนนี้น่ารักไหม?" หันไปถามเจ้าหมาที่ไม่รู้ว่าเข้าใจภาษามนุษย์ได้ดีแค่ไหน







แต่จะถือว่าเสียงเห่าขานรับเมื่อกี้นี้




คือเห็นด้วยแล้วกัน






ในสายตาของผู้ตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก






คนคนนั้นของเขาย่อมสว่างที่สุด








☆・゚




TBC



เย้ๆๆๆๆๆๆ สวัสดีค่าาาา หมาเองนะคะะะะะ ในที่สุดก็ได้กลับมาแต่งStar Chartต่อ หลังจากที่หายไปนานมากๆๆๆๆๆๆ

ทุกคนคิดถึงเอกกับลีโอกันไหมคะ เราเองคิดถึงสองคนนี้มากๆเลยค่ะ แต่เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของชีวิตเราเลย เลยไม่อยากเขียนเรื่องนี้ตอนในตอนที่รู้สึกแย่ๆเท่าไหร่ค่ะ

ตอนนี้จะว่ายังไงดี เหมือนเพราะไม่ได้เขียนมานาน อาจจะดูแปลกๆไม่ค่อยลื่นไหลสักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยจริงๆนะคะ เราจะพยายามเขียนให้ดีขึ้นกว่านี้ค่ะ

เมื่อกี้นี้ก่อนกลับมาถึงห้องก็เห็นFire Ballมาด้วยค่ะ ท้องฟ้าสว่างเป็นสีฟ้าเลย บางทีเอกอาจจะเห็นลีโอสว่างแบบนี้ก็ได้นะคะ จริงไหม? :-[

สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะ ที่ยังติดตามกันอยู่ รักทุกคนมากๆๆๆๆเลยค่ะ  :กอด1:

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ

ด้วยรัก


หมาบนท้องฟ้า
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 03-11-2015 00:01:40
รอนานมากกกกกกกกกกกกก ดีใจสุดดดดดดด อ่านวนอยู่เป็นสิบๆรอบ 5555555

เขินมากกก จับมือด้วยอ่ะ ฮรืออออออออ สิงโตน่าร๊ากกกกกกก :hao7:

เป็นกำลังใจให้นะครับ แล้วเรื่องร้ายๆมันจะผ่านไป สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 03-11-2015 00:25:53
เอกดูอ่อนโยนขึ้น เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นเยอะกว่าตอนแรกมากเลย ส่วนลีโอก็แสดงออกอะไรต่างๆมากขึ้น เราคลั่งลีโออ่ะ คนอัไรนิ่งๆก็น่าร๊ากกกกได้ อิอิ

ทั้งคู่ค่อยๆเรียนรู้กันและกัน ชอบมากค่ะ เรื่องราวค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบไม่เอื่อย กำลังดี

รักนักเขียนเหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 03-11-2015 03:26:24
น่ารักกกกก ยิ่งตอนที่บอกว่าตะวันไม่ถนัดอะไรก็ยิ่งน่าร้ากกกก หลงเลยค่ะ ให้คะแนนโชติมาตร(?) ที่ -12 เช่นกันค่ะ!
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 03-11-2015 03:45:42
ความรักของทั้งคู่ก็เหมือนคลื่นใต้น้ำนี่ล่ะ   เหมือนนั่งรถไปบนทางเรียบๆมัวแต่ดูดาว จู่ๆก็รถก็เจอลูกระนาด ทำให้เราที่กำลังเหม่อๆเคลิ้มๆสะดุดคว่ำ ใจหล่นไปในกะเพาะ คือมันแบบวาบหวามดีอ่ะ เราเป็นบ่อยกับเรื่องนี้อ่ะ มันฟินที่จู่ๆมันก็ฟินก็บอกไม่ถูก ดีใจมากเลยที่กลับมาอัพ นึกว่าเอกกับลีโอจะถูกคนเขียนลอยแพเเล้ว งือๆๆๆ (ขอบคุณจริงๆที่กลับมาเขียนต่อ) คนเขียนต้องสู้ๆเข้าไว้ คนอ่านจะได้อ่าน อิอิ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-11-2015 17:11:16
คิดถึงมากเลย
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 03-11-2015 17:56:17
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก สนุกจนอยากไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองเลย 555555
มาอัพบ่อยๆนะ รออ่าน
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 03-11-2015 18:15:06
โอ๊ยตาเอกกก หลงขนาดนี้รวบหัวรวบหางเลยไหมคะ

รูปคนอื่นติดมานิดเดียวยังอุตส่าห์ตัดออก :laugh:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 04-11-2015 21:28:57
ลีโอเอาเหรียญทองมาให้เอกด้วย
เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ เลย
ชอบชื่อตอนอีกแล้วค่ะ
สารภาพว่าไม่เคยได้ยินคำนี้เลย
ตอนเรียนใช้คำว่าอะไรวัดความสว่างดวงดาวก็จำไม่ได้แล้ว
รอลุ้นชื่อตอนต่อไป และรออ่านอย่างใจจดใจจ่อ อิอิ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 14-11-2015 18:46:17
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ เอกับลีโอน่ารักมากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 17-11-2015 23:16:15

รอนานมากกกกกกกกกกกกก ดีใจสุดดดดดดด อ่านวนอยู่เป็นสิบๆรอบ 5555555

เขินมากกก จับมือด้วยอ่ะ ฮรืออออออออ สิงโตน่าร๊ากกกกกกก :hao7:

เป็นกำลังใจให้นะครับ แล้วเรื่องร้ายๆมันจะผ่านไป สู้ๆ
เราเองอยากจะจับมือเอกบ้างจังเลยค่ะ /โดนลีโอถีบ :z6:
ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดเลยนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ หวังว่าเรื่องร้ายๆมันจะผ่านไปเร็วๆ TwT ฮือออๆๆๆๆ /เข้าโหมดดราม่าทำไม

เอกดูอ่อนโยนขึ้น เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นเยอะกว่าตอนแรกมากเลย ส่วนลีโอก็แสดงออกอะไรต่างๆมากขึ้น เราคลั่งลีโออ่ะ คนอัไรนิ่งๆก็น่าร๊ากกกกได้ อิอิ

ทั้งคู่ค่อยๆเรียนรู้กันและกัน ชอบมากค่ะ เรื่องราวค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบไม่เอื่อย กำลังดี

รักนักเขียนเหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ :mew1:
เพราะทั้งคู่มาอยู่ด้วยกันแหละเนอะ เอกถึงได้พยายามโอนอ่อนให้ ส่วนลีโอเองก็คงสบายใจที่ได้อยู่กับเอก แฮ่ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีนะคะ >_<
ขอบคุณที่ชอบStar Chartนะคะ รักคนอ่านเหมือนกันค่ะะะะะะะะ  :mew1:

น่ารักกกกก ยิ่งตอนที่บอกว่าตะวันไม่ถนัดอะไรก็ยิ่งน่าร้ากกกก หลงเลยค่ะ ให้คะแนนโชติมาตร(?) ที่ -12 เช่นกันค่ะ!
-12 ความสว่างระดับดวงจันทร์เลยค่ะ!!

ความรักของทั้งคู่ก็เหมือนคลื่นใต้น้ำนี่ล่ะ   เหมือนนั่งรถไปบนทางเรียบๆมัวแต่ดูดาว จู่ๆก็รถก็เจอลูกระนาด ทำให้เราที่กำลังเหม่อๆเคลิ้มๆสะดุดคว่ำ ใจหล่นไปในกะเพาะ คือมันแบบวาบหวามดีอ่ะ เราเป็นบ่อยกับเรื่องนี้อ่ะ มันฟินที่จู่ๆมันก็ฟินก็บอกไม่ถูก ดีใจมากเลยที่กลับมาอัพ นึกว่าเอกกับลีโอจะถูกคนเขียนลอยแพเเล้ว งือๆๆๆ (ขอบคุณจริงๆที่กลับมาเขียนต่อ) คนเขียนต้องสู้ๆเข้าไว้ คนอ่านจะได้อ่าน อิอิ
ฮือออ ไม่ลอยแพนะคะ ขอโทษด้วยจริงๆที่หายไปนานมากๆ จะพยายามกลับมาอัพเรื่อยๆค่ะ แต่อาจจะไม่เร็วเท่าเมื่อก่อน แต่ยังไงเราสัญญาค่ะว่าจะไม่ลอยแพเรื่องนี้แน่นอน เพราะเราชอบเรื่องนี้มาก เรื่องที่เขียนขึ้นมาเองเรื่องนี้รักมากๆเลยค่ะ มีความทรงจำมีอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นพร้อมกับนิยายเรื่องนี้
ด้วยเกียรติของเนตรนารีชุดสีเขียวเลยค่ะ ไม่ลอยแพแน่นอน ; v ; )>

คิดถึงมากเลย
คิดถึงคุณB52เช่นกันนะคะ ขอบคุณที่ยังคงติดตามอยู่ ดีใจมากๆเลยค่ะ

อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก สนุกจนอยากไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองเลย 555555
มาอัพบ่อยๆนะ รออ่าน
ยินดีต้อนรับสู่Star Chartค่า ขอบคุณที่ชอบนิยายเรื่องนี้และรออ่านนะคะ ถ้ามีโอกาสลองแวะไปเยี่ยมชมบรรยากาศท้องฟ้าจำลองได้นะคะ เป็นสถานที่ที่ดีมากๆเลยล่ะค่ะ

โอ๊ยตาเอกกก หลงขนาดนี้รวบหัวรวบหางเลยไหมคะ

รูปคนอื่นติดมานิดเดียวยังอุตส่าห์ตัดออก :laugh:
นั่นสินะคะ เมื่อไหร่เอกจะจัดการสักที /คนเขียนโดนลีโอตบ :beat:

ลีโอเอาเหรียญทองมาให้เอกด้วย
เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ เลย
ชอบชื่อตอนอีกแล้วค่ะ
สารภาพว่าไม่เคยได้ยินคำนี้เลย
ตอนเรียนใช้คำว่าอะไรวัดความสว่างดวงดาวก็จำไม่ได้แล้ว
รอลุ้นชื่อตอนต่อไป และรออ่านอย่างใจจดใจจ่อ อิอิ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ
 :mew1: :mew1:
แฮ่ อาจจะเพราะเป็นแค่คำเฉพาะน่ะค่ะ บางครั้งเลยคงไม่ค่อยถูกพูดถึงสักเท่าไหร่ จริงๆแค่คำว่าความสว่างของดวงดาวเราเองก็คิดว่าเพียงพอแล้วเหมือนกันนะคะ แต่มีคำเฉพาะขึ้นมาก็ดูเฉพาะขึ้นไปอีก น่ารักไปอีกแบบดีเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ และขอบคุณคนอ่านด้วยเช่นกันค่าาา เลิฟฟฟฟ  :mew1:

เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ เอกับลีโอน่ารักมากกกกกกกกกกกกก
ยินดีต้อนรับค่าาา ขอบคุณที่ชอบเอกกับลีโอนะคะะะะะะ  :-[
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่14 : โชติมาตรปรากฏ | P.5] 02/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 17-11-2015 23:20:00

13 พฤศจิกายน


"เอ้า เร็วเข้า! เป่าเลยลูก! อย่างงั้นแหละ!" เสียงเชียร์พร้อมกับผู้ชายวัยสามสิบตอนปลายหน้าตาใจดีนั่งลุ้นเอาใจช่วยอยู่ข้างๆกับหญิงสาวอีกคนซึ่งเป็นภรรยาของเขา


ไม่นานก็เป่าเทียนที่ปักอยู่บนเค้กตามอายุจนหมด เผลอปรบมือตามเสียงปรบมือดีใจของทั้งคู่ไปด้วย ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมถึงต้องดีใจกันขนาดนั้น


"สุขสันต์วันเกิดนะลูก"



จุมพิตบนศีรษะมนที่ทั้งคู่มอบให้ ยังคงตราตรึงอยู่ไม่รู้ลืม





13 พฤศจิกายน



'ฮัลโหล สุขสันต์วันเกิดนะลูก ทันด้วยล่ะเห็นไหม พ่อต่อแถวทันด้วย ฮะฮะ เก่งใช่ไหมล่ะ?" เสียงหัวเราะดังมาจากปลายสาย ถึงน้ำเสียงจะฟังดูเหนื่อยล้าไปบ้างก็ตาม


ปีนี้เป็นอีกปีแล้วที่วันเกิดตรงกับวันที่พ่อเข้ากะ แต่พ่อก็ยังโทรมาหา แม้ว่าจะต้องยืนต่อคิวโทรศัพท์นานแค่ไหนก็ตาม


บนแท่นขุดเจาะน้ำมันนั้นไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไป ดังนั้นพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ที่ต้องการจะใช้โทรศัพท์มือถือโทรหาญาติหรือใครก็ตามที่อยู่บนฝั่ง จึงต้องมาต่อแถวเพื่อรอคิวใช้โทรศัพท์ แล้วก็จำกัดการคุยแค่เพียงประมาณ15นาทีเท่านั้น



'ขอให้ลีโอเรียนหนังสือเก่งๆ โตขึ้นจะได้ดูแลคุณแม่กับคุณพ่อได้ เป็นเด็กที่ร่าเริง แข็งแรง ไว้ครั้งหน้าเราไปดูดาวกันนะ'



ตอนนั้นจำไม่ค่อยได้หรอกว่าตอบอะไรกลับไปบ้าง แต่เสียงของปลายสายกลับยังจำได้ดีไม่ลืมเลือน




13 พฤศจิกายน



เหมือนงานในปีนี้ของพ่อจะยุ่งยิ่งกว่าเดิม ปีนี้ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังมาอีกแล้ว แต่แม่ก็ยังคงปลอบใจแถมยังพาไปซื้อเค้กอร่อยๆมานั่งกินด้วยกันสองคนที่บ้าน


มือกำส้อมจิ้มเค้กไปมาอยู่อย่างนั้น เงยหน้ามองคุณแม่ที่กำลังยกเค้กบางส่วนเก็บเข้าตู้เย็นไว้กินในวันถัดไป



แม่เหงาบ้างหรือเปล่าที่พ่อไม่อยู่บ้าน?


ความรู้สึกที่ต้องนั่งรอใครสักคนเป็นเวลานับเดือน วนเวียนเป็นวัฏจักรแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า


เหงาหรือเปล่านะ?


เหมือนแม่จะรู้ตัวซะแล้วว่าถูกมองอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้าสวยยิ้มให้ แม่เดินตรงมานั่งฝั่งตรงข้าม



"นี่แน่ะ!"



ครีมในจานเค้กถูกป้ายลงมาบนปลายจมูก ได้แต่มองอย่างงงๆกับสิ่งที่แม่ทำ



มันเลอะนะ...



...แต่ก็ป้ายกลับคืนไป



ถึงมือจะไม่ถึงก็เถอะ...


รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่แขนสั้น สภาพทางกายภาพนี่เป็นปัญหาได้เหมือนกัน และเหมือนแม่จะรู้ว่าหงุดหงิด ถึงสีหน้าจะยังเหมือนเดิมก็ตาม เธอยื่นหน้าเข้ามาให้ เลยได้โอกาสป้ายคืน


เสียงหัวเราะดังขึ้นท่ามกลางบ้านหลังเล็กที่ปกติมักจะเงียบเหงา...




13 พฤศจิกายน



...



เป็นวันที่มีแต่เสียงร้องไห้ของแม่ดังระงมไปทั่ว



หมอและพยาบาลวิ่งเข้าออกห้องไอซียูกันจนรู้สึกเวียนหัว



ไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่...



รู้แค่ว่า...


ได้สูญเสียโลกใบใหญ่ที่มีกันสามคนไปเสียแล้ว






13 พฤศจิกายน



'สอบติดแล้วนะครับ'


ยืนจ้องมองภาพของคนคุ้นเคยประดับติดอยู่บนหินแกะสลักสวยงามที่เรียงรายกันเต็มไปหมดในลานกว้าง ข้างๆกันนั้น แม่ก้มลงไปวางช่อดอกไม้สีขาวหลังจากที่ช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว



ที่ตรงนั้นเงียบสงบ ลานกว้างขวางไกลจากตัวเมืองและไร้แสงไฟรบกวนของเมืองหลวง


'ตรงนี้คงเป็นสถานที่ที่ดี ที่จะดูดาว...ดูฝนดาวตก'


'พ่อได้ดูทุกปีเลย มันสวยหรือเปล่า?'




...



หัวเราะขำความคิดของตัวเองอยู่ในใจ



จะเป็นไปได้ยังไงที่พ่อจะตอบกลับมา





13 พฤศจิกายน เวลา 24.01น.



นี่น่าจะเป็นปีแรกในชีวิตเลยด้วยซ้ำที่มีคนมาสุขสันต์วันเกิดให้นอกเหนือจากคนในครอบครัว



แซนดี้เพื่อนของเอกเป็นคนแรกเลยด้วยซ้ำ

'สุขสันต์วันเกิดดดดดนะลีโอ มีความสุขมากๆนะ'


โปร เพื่อนแลป เพื่อนภาค เพื่อนคณะ

'แฮปเว้ยมึงน้องแมว เจ้าภาพวันเกิดต้องเลี้ยงข้าวกูด้วย ไก่ทอดอักษรก็ดีนะมึง หรือจะก๋วยเตี๋ยวอดทนดี'


น้ำตาล

'สุขสันต์วันเกิดนะ'


ปรายฟ้า

'สุขสันต์วันเกิดนะเพื่อนยากกกก ขอลอกการบ้านออเคมด้วยล่ะะะะะ'


พี่ปูน

'สุขสันต์วันเกิดเว้ยไอ้น้อง ไม่มีของขวัญให้หรอกนะ แต่รอดูที่ล็อคเกอร์ตอนเช้า'


พี่ฟ้าใส

'สุขสันต์วันเกิดนะน้องลีโอ อย่าไปสนใจไอ้พี่ปูนมันเลยนะ ไว้พรุ่งนี้พี่เอาของขวัญไปให้เนอะๆ'


พี่คณิต

'สรุปมึงเป็นหลาน เหลน โหลน หรืออะไรวะ กูลำดับญาติไม่ถูก แต่เอาเป็นว่าสุขสันต์วันเกิดนะ ไว้ถ้าไม่ติดงานจะพาไปเลี้ยง'


พี่ภพ

'HBD เว้ยไอ้น้อง'


และคนอื่นๆอีกมากมาย นั่งไล่อ่านและตอบขอบคุณกลับไปจนครบ


ช่วงดึกๆแบบนี้ยังมีคนออนเฟสบุ๊คกันอยู่เยอะพอสมควร ไม่สิ เยอะกว่าเวลากลางวันเสียอีก นั่งกดเลื่อนดูแถบสีเขียวด้านข้างไล่ดูไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกสนใจมันขึ้นมาเสียอย่างนั้น เลื่อนจนเจอชื่อบุคคลหนึ่ง แต่ไม่ปรากฏจุดสีเขียวเหมือนกับหลายคนที่ผ่านมา


ถอนหายใจหลังพิงไปกับพนักเก้าอี้นุ่ม มือก่ายหน้าผากเหมือนคนหมดแรง ไม่รู้ว่าในใจจะร้อนรนไปทำไม หรือจะกังวลไปเพื่ออะไร แค่คำอวยพรในเฟสบุ๊ค ปกติแล้วไม่เคยคิดมากกับเรื่องพวกนี้เลยสักนิดแท้ๆ


กดชัตดาวน์เจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมตรงหน้าเรียบร้อย หน้าจอตอนนี้กลับมาเป็นสีดำสนิทก่อนจะพับมันลง เตรียมตัวเข้านอนเพราะตอนเช้ายังต้องไปใส่บาตรเหมือนเช่นที่ทำทุกปี



เสียงโทรศัพท์ร้องขึ้นกลางดึกตอนกำลังจะนอน ในใจแอบนึกตำหนิคนที่โทรมาว่านี่มันไม่ใช่เวลาจะมาโทรหากันเสียหน่อย


แต่เมื่อเห็นชื่อและเบอร์ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างโล่อยู่ ณ ตอนนี้ คำตำหนิทุกอย่างก็พลันหายไปจนหมด มือเผลอกดรับปลายสายอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น คนที่ปกติมักจะไม่โทรมาหาถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น


'สุขสันต์วันเกิด' เป็นคำพูดสั้นๆง่ายๆได้ใจความ ไม่ต้องรีรอ เข้าจุดประสงค์ที่โทรมาในทันที


'ตอนแรกก็ว่าจะพิมพ์ในเฟสบุ๊คเหมือนคนอื่นๆอยู่ แต่คิดว่าอะไรก็คงไม่ดีเท่าพูดเป็นคำพูดออกมา'


"..."


นั่งฟังอีกฝ่ายพูดเงียบๆ ปลายสายเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้ตอบรับอะไร ยังคงพูดต่อไปเหมือนรับรู้ได้ว่ากำลังตั้งใจฟังอยู่


'เรารู้นะว่าวันนี้มันมีทั้งความทรงจำดีๆและความทรงจำที่เหมือนกับเป็นฝันร้ายปนกันอยู่'


"..."


'ใครๆก็อยากให้วันแบบนี้มีแต่เรื่องดีๆจริงไหม?'


"..."


'แต่เรื่องแบบนี้มันเลือกกันไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นอยากให้เข้มแข็งขึ้น คิดถึงคนที่เขาอยู่ข้างๆเราตลอดมา'


'เขาเองก็คงเหงาไม่แพ้กันหรอก'


'ต้องอดทนเข้มแข็งขนาดไหนกันล่ะ ถึงได้ยังส่งยิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น'


'เหงา แต่แสดงออกมาไม่ได้'


'เหนื่อย แต่ก็ไม่อยากแสดงออกมาให้เห็น'


'มีกันอยู่แค่สองคนเองนะ'




"..."



แม่



ภาพทุกอย่างเหมือนถูกตีรวนขึ้นมา บ้านที่เงียบเหงาว่างเปล่ามีกันเพียงสองคน ผู้หญิงในชุดสูธทำงานที่มักจะแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำบ่อยๆ ได้แต่ยืนมองดูมาตลอด แต่ทำไมถึงไม่ทำอะไรเลยนะเรา...


ทำไมถึงได้ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนข้างๆเลยว่าเขาเองก็เศร้าไม่แพ้กัน


แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเข้มแข็งมาตลอดแท้ๆ




"ขอบคุณนะเอก"



"เป็นคำอวยพรวันเกิดที่ดีที่สุดจริงๆ"



"ขอบคุณจากใจจริงเลย"



'ไม่เป็นไร...'


ปลายสายเงียบไปแล้ว หน้าจอปรากฏคำว่าสิ้นสุดการโทร วางโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียงเฉกเช่นเดิม ก่อนจะเดินออกไปยังห้องข้างๆ เคาะเรียกเบาๆสามทีประตูนั้นก็เปิดออก


"มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?" หญิงสาวในชุดนอนพร้อมแว่นไร้กรอบท่าทางเหมือนจะยังไม่นอนทักทายด้วยรอยยิ้ม


โผเข้ากอดใส่คนตรงหน้าโดยไม่พูดจาอะไร แม่ตกใจเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นลูบหัวอย่างอ่อนโยน


"มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าเนี่ยเรา ถึงมาอ้อนแบบนี้?"


"ขอโทษนะครับ..."


"...?"


"ขอโทษสำหรับทุกอย่าง"



“เป็นผมเองที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย”



“รักแม่นะ”



คืนนั้น เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยหนักอึ้งอยู่ในอกของทั้งสองคนถูกยกออกไป ทั้งคำขอโทษ คำขอบคุณ ทั้งน้ำตา ทั้งรอยยิ้ม ผสมปนเปกันไปหมด


แต่กลับรู้สึกอบอุ่นใจมากขึ้น



เหมือนได้กลับไปเป็นอย่างเมื่อก่อน


บ้านเล็กๆที่เคยอบอุ่นตอนนั้น


จริงๆแล้ว ไม่มีใครจากไปไหนเลย…







อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์



เหี้ย...พูดไปแล้ว


ทันทีที่กดวางสายไปก็ต้องลงไปนอนกุมท้องร้องโอดโอยอยู่คนเดียวบนเตียง ซาลาเปาที่นั่งอยู่บนเตียงข้างๆด้วยทำได้เพียงแค่แลบลิ้นหายใจและเอียงคออย่างสงสัยว่าเจ้านายมันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา


จะดูเหมือนไปสั่งสอนเขาหรือเปล่าวะ


เครียดโว้ยยยย…



“ไอ้เปา… เขาจะโกรธกูไหมวะ?” ลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิถามหมาสีขาวขนฟูตรงหน้าที่ทำได้เพียงแค่เห่าขานรับ


“โฮ่ง” หมายความว่ายังไงวะ?


“แต่เมื่อกี้เขาขอบคุณนี่หว่า คงไม่เป็นไรใช่ไหม?”


“โฮ่ง” หมายความว่ายังไงวะ?


“โอ้ยยยย ปวดท้องโว้ยยยย” ว่าแล้วก็ล้มตัวลงนอนกุมท้องด้วยความรู้สึกกังวล ราวกับมีผีเสื้อบินว่อนอยู่เต็มท้องไปหมด



ในคืนนั้น ฝนดาวตกมากมายพาดผ่านท้องฟ้าทรงกลมสีดำสนิทท่ามกลางหมู่ดาวส่องสว่างนับร้อยนับพันดวง



เมื่อก่อนลีโอนิดส์เคยถูกกล่าวหาว่าคือลางร้ายและหายนะวันสิ้นโลก



แต่ตอนนี้ทุกคนกลับตื่นตาตื่นใจไปกับช่วงเวลาที่มันมาถึง



เพราะมันคือของขวัญจากนอกโลก ที่ดาราจักรนี้ให้มา




Happy Birthday Leonids



・ 。  ★彡
☆彡。∴。。 ☆彡 ・
 ・゚*。★彡・ 。*・゚ ★彡
  ・ 。・*・゚。   ・
 ・ 。・*・゚。



แถมคืนนั้นยังมีคนนอนไม่หลับจนถึงเช้าเลยด้วย...








สวัสดีค่าาาา หมาเองค่ะะะะะ กลับมาแล้วค่ะ หายไปหลายวันมากๆๆๆๆๆ พอดีมีทั้งควิซทั้งงานประดังเข้ามาพร้อมกันเลยค่ะ แทบตายแน่ะ

อ้ะๆๆๆๆ เรามาแฮปลีโอทันนะคะ (แม้ว่าวันเกิดจริงๆจะเป็นวันที่ 13พ.ย.ก็ตาม ความจริงแล้วคือยังปั่นงานไม่เสร็จ /ทุกคนรุมตบ  :beat: )

วันเกิดเรายึดตามประวัติครั้งแรกที่ลีโอนิดส์ปรากฏบนท้องฟ้าของโลกครั้งแรกนะ แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะเกิดเยอะในวันที่17พ.ย.แหละค่ะ

คืนนี้ทุกคนอย่าลืมดูลีโอนิดส์กันนะคะ เชื่อว่าต้องสวยมากแน่ๆค่ะ ส่วนหมาเองก็ต้องปั่นงานต่อไปอย่างทรหดอดทน :katai4:

แต่พลาดคืนนี้ไม่เป็นไรนะคะ คืนอื่นๆยังมีอีก เพียงแค่ว่าคืนนี้เยอะกว่าคืนอื่นแค่นั้นเอง


ขอให้สนุกและมีความสุขกับปรากฏการณ์บนท้องฟ้านะคะ


รักคนอ่านมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเจอกันในตอนที่15หลังสอบเสร็จเดือนหน้าค่ะ
 

ปล. มีเรื่องแจ้งให้ทราบค่ะ เราอาจจะลงตอนถัดๆไปช้าหน่อยนะคะ คือถึงเราจะบอกว่าพอกลับมาเขียนต่อได้แล้ว แต่บางครั้งเรายังไม่โอเคเท่าไหร่ค่ะ
ปลล. มีใครพอรู้วิธีกำจัดความเครียดความเศร้าไหมคะ หรือเราควรไปนั่งสมาธิ T____T
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 18-11-2015 00:02:37
แหนะ  เอกเขินอะดิ  555
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-11-2015 01:36:18
จะรอดจนถึงตีสามไหมหนอ อยากเห็นลีโอตัวเป็นๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 18-11-2015 06:20:34
น่ารักอ่าาาา
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-11-2015 08:09:20
 o13
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-11-2015 08:16:54
สุขสันต์วันเกิดนะลีโอ เมื่อคืนเราไม่ไหวจริงๆ อดเห็นลีโอนิดส์ตัวเป็นๆเลยยย ;-;
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: หลิว ที่ 23-11-2015 19:38:11
ความเศร้าเป็นนามธรรม เคยมีคนกล่าวเอาไว้  อย่าจมปลักกับมันนานๆ โลกนี้ยังมีอะไรที่ทำแล้วกระชุ่มกระชวยอีกเยอะ ลองค้นหามันดู อาจจะสนุกไปกับมันก็ได้  อย่ายึดติดกับความรู้สึกของใครมากนัก สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 23-11-2015 20:10:05
ลีโอต้องรู้สึกขอบคุณเอกมากแน่ๆ เลย



หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 13-12-2015 22:39:25
แหนะ  เอกเขินอะดิ  555

เอกนั่งปิดหน้าไปแล้วค่ะ 555

จะรอดจนถึงตีสามไหมหนอ อยากเห็นลีโอตัวเป็นๆ

เมื่อวันนั้นหมาอยู่เกือบถึงค่ะ แต่สุดท้ายก็สลบคากองงานไปซะแล้ว

น่ารักอ่าาาา
รอตอนต่อไปค่ะ

ขอบคุณเลยค่ะ ตอนต่อไปแล้วน้า

o13

 :กอด1:

สุขสันต์วันเกิดนะลีโอ เมื่อคืนเราไม่ไหวจริงๆ อดเห็นลีโอนิดส์ตัวเป็นๆเลยยย ;-;

ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าเนอะ ลีโอไม่หายไปไหนหรอก
ถ้ายังไงดูฝนดาวตกเจมินิดส์แทนไปก่อนดีไหมคะ

ความเศร้าเป็นนามธรรม เคยมีคนกล่าวเอาไว้  อย่าจมปลักกับมันนานๆ โลกนี้ยังมีอะไรที่ทำแล้วกระชุ่มกระชวยอีกเยอะ ลองค้นหามันดู อาจจะสนุกไปกับมันก็ได้  อย่ายึดติดกับความรู้สึกของใครมากนัก สู้ๆนะคะ

ขอบคุณมากนะคะ T____T รู้สึกเหมือนได้สติเลยค่ะ เราอ่านข้อความนี้ได้สักพักแล้ว แต่ยังไม่ได้มาขอบคุณเลย ขอบคุณมากจริงๆนะคะช่วยได้เยอะเลยล่ะค่ะ ไม่รู้จะกล่าวว่าอะไรได้แต่บอกว่าขอบคุณมากเลยค่ะ
ถึงตอนนี้เราจะยังเลิกยิดติดกับเรื่องเก่าๆไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าต่อไปเราจะต้องทำใจได้ค่ะ ในระหว่างนี้ก็เจออะไรที่ทำแล้วรู้สึกดีหลายอย่างขึ้น(เช่นการกลับมาเขียนนิยายเรื่องนี้) กับงานอดิเรกใหม่ ขอบคุณจริงๆค่ะ

ลีโอต้องรู้สึกขอบคุณเอกมากแน่ๆ เลย

แบบนี้เอกต้องได้คะแนนเพิ่มขึ้นเยอะแน่ๆเลยค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [Happy Birthday Leonids | P.5] 17/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 13-12-2015 22:39:59
‘วงแหวน’


เอกลักษณ์ของดาวเคราะห์วงนอกบางดวง



ประกอบไปด้วยอนุภาคในอวกาศบริเวณนั้นจำนวนนับไม่ถ้วน



ราวกับฝูงแกะถูกต้อนให้วิ่งไปตามทางที่เจ้าของฟาร์มต้องการ



แล้วใครกันล่ะที่เป็นคนต้อนฝูงแกะให้วิ่งไปอย่างเป็นระเบียบ



คนต้อนแกะนั้นมีชื่อว่า





'ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ' (Shepherding Moon)






ตอนที่ 15


เข้าสู่ช่วงเทศกาลสอบไฟนอลอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ไม่ว่าใครต่างก็ง่วนอยู่กับการอ่านหนังสือสอบ ติวสอบ ปั่นงาน ปั่นโปรเจคส่ง

หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ยอดฮิตที่ใครต่างก็พากันไปสิงสถิตที่นั่น ราวกับเป็นบ้านหลังที่สองก็ไม่ปาน ถ้าหากสามารถกางเต้นท์หลับนอนในหอสมุดได้ก็คงมีคนทำไปแล้ว (ถึงแม้อย่างมากจะมีแค่เอาหมอนและผ้าห่มมาก็ตาม) แม้กระทั่งกาแฟที่ขายอยู่ชั้นล่างก็ขายดีกว่าช่วงปกติขึ้นเป็นสามถึงสี่เท่าตัว ยังไม่นับรวมถึงเครื่องดื่มชูกำลังและขนมขบเคี้ยวสารพัดในสหกรณ์ใต้หอสมุดและบริเวณโดยรอบ


“ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย!!” ไอ้เติ้ลร้องลั่น โชคดีที่ชั้นนี้สามารถใช้เสียงได้ คนรอบข้างแถวนั้นจึงทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อยแล้วก้มลงอ่านหนังสือบนโต๊ะของตัวเองต่อ


“เบาๆหน่อยได้ไหมคุณเพื่อน โต๊ะอื่นเขามองจะแดกหัวโต๊ะเราแล้ว” แซนดี้หัวเสีย ตอนนี้หลายสิบชีวิตในกลุ่มยังคงนั่งอ่านหนังสือกันอย่างทรหดอดทนตั้งแต่สี่โมงเย็นที่ผ่านมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพักกันเลยสักนิด


“พวกมึงเอาอะไรไหมกูกับไอ้โปรจะลงไปซื้อ” เติ้ลลุกขึ้น ข้างๆกันมีโปรยืนถอดแว่นนวดขมับอยู่ข้างๆ สองคนนี้ท่าทางจะสติหลุดไปแล้วเรียบร้อย พูดด้วยสีหน้ายุ่งๆ “ตอนนี้กูจะไม่ทนอ่านแล้ว!! ปล่อยกูไปปปป อย่างที่เป็นนนน”


ไอ้โปรทำท่าประกอบเพลงLet it goเวอร์ชั่นมันเองอย่างไม่อายสายตาใคร


“แค่ถอนไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่”


“นี่มันไฟนอลแล้วไหมมึง” ใครสักคนในกลุ่มพูดขึ้น


“...”





“แต่เอาจริงๆก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกันว่ะ ไปพักยืดเส้นยืดสายสักหน่อยก็ดี” คนที่เหลือในกลุ่มลุกขึ้นบ้าง กำลังจะลุกตามไป แต่ก็ถูกเติ้ลขัดขึ้นมาก่อน


“หยุดเลยมึงไอ้เอก เฝ้าของไป อยู่เป็นเพื่อนลีโอ อยากกินอะไรบอกกูมาเดี๋ยวกูซื้อให้” มันหันมาชี้นิ้วสั่ง แอบจิ๊ปากด้วยความรู้สึกหมั่นไส้นิดหน่อย แต่เมื่อหันไปเห็นอีกคนที่นั่งข้างๆกันยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่ก็เลยสงบปากสงบคำพยักหน้าเออออตกลงตามนั้น โดยไม่ลืมที่จะขอกาแฟเย็นมาสองแก้ว




เมื่อทุกคนไปหมดเหลือเพียงโต๊ะตัวใหญ่กับองครักษ์พิทักษ์ทรัพย์สิน หรือที่เรียกง่ายๆว่า ‘คนเฝ้าของ’ นั่งมองอีกคนอ่านหนังสืออย่างตั้งใจจนอีกฝ่ายรู้สึกตัวว่าถูกจ้องมองอยู่จึงละสายตาขึ้นมา


“เอกไม่ไปหาอะไรกินหรอ?”


“ไม่ล่ะ อยู่นี่ดีกว่า” ถอดแว่นกรอบสีดำออกวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเอนหลังพิงกับเก้าอี้โซฟาตัวใหญ่ ยังโชคดีที่เก้าอี้ของหอสมุดนุ่มสบาย แต่ก็เสี่ยงที่จะหลับเหลือเกิน


“เพิ่งรู้ว่าเอกก็สายตาสั้นเหมือนกัน” ลีโอหยิบแว่นขึ้นมาลองสวมก่อนจะทำตาหยีเพราะพยายามปรับสายตาให้พอดีกับแว่นที่ใส่ “เห็นปกติไม่ใส่แว่น”


“ไม่ชอบใส่น่ะก็เลยใส่เฉพาะตอนเรียน อีกอย่างก็สั้นไม่ค่อยเท่าไหร่ด้วย”


“เหมือนกันเลย” อีกฝ่ายถอดแว่นวางคืนไว้ที่เดิม


“แต่เอกใส่แว่นแล้วดูดีนะ” ลีโอพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ดังพอที่จะได้ยิน


“พูดจริง?” เบิกตากว้างเท่าไข่ห่านอย่างไม่เชื่อว่าจะถูกชม รู้สึกเหมือนได้รับพลังบางอย่างที่ทำให้มีแรงนั่งอ่านแลปฟิสิกส์ที่จะสอบในเร็วๆนี้ขึ้นมาทันที ทฤษฎีและสูตรที่เรียนไปในห้องเรียนต่างหลั่งไหลกันเข้ามาในสมอง


อีกฝ่ายพยักหน้า



ขอบคุณนิวตัน ขอบคุณเกย์ลูสแซค ขอบคุณเดอบอยล์ ขอบคุณชาร์ล ขอบคุณมักซ์พลังค์ ขอบคุณปาสคาล ขอบคุณไอน์สไตน์



“ถ้าเลิกทำหน้าบูดน่าจะหาแฟนได้ไม่ยาก” ลีโอวิเคราะห์ “คือที่ไม่มีสาวเข้ามาเนี่ย เดาเอาว่าคงเพราะหน้าดุ” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองมาตรงหน้า ในใจอยากจะถามออกไปเสียเหลือเกินว่า ‘หน้าดุแบบนี้แล้วชอบหรือเปล่า’ แต่คิดดูอีกทีไม่พูดออกไปคงจะดีกว่า


“ก็มันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว” เรื่องหน้าดุไม่ว่าใครที่รู้จักต่างก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเป็นคนใจร้อนหงุดหงิดง่าย หน้าบูดๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่พอมาคิดอีกทีก็ไม่ได้น่ากลัวจนคนหนีหายเสียหมด อย่างน้อยก็พอควบคุมอารมณ์ได้อยู่ แต่จะให้มาเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นยิ้มแย้มอารมณ์ดีตลอดเพื่อให้ใครมาชอบนี่ไม่ใช่ทางของตัวเองสักเท่าไหร่


สิ่งที่สำคัญคือการยอมรับและเข้าใจซึ่งกันและกันต่างหากถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นแค่การฝืน



ทำอย่างกับผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก…




ทั้งๆที่เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอดเลย




“อื้ม...เอกเป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว”





“ฟังอยู่ไหมเนี่ย?”


















ในที่สุดการสอบปลายภาคก็จบลง เข้าสู่ช่วงปิดเทอมใหญ่อย่างเป็นทางการ เหล่านิสิตที่เพิ่งสอบเสร็จต่างรวมกลุ่มกันเพื่อไปเลี้ยงฉลอง บ้างก็โยนชีทเรียนปลิวว่อนใต้ตึกพร้อมทั้งตะโกนโห่ร้องดีใจ

“เชี่ยเอ้ย! คะแนนกูไปแล้วววว! ไปแน่แล้วววว! กูตอบคำตอบสลับกันหมดเลย!” ไอ้เติ้ลเดินร้องโอดโอยออกมาจากห้องสอบ ข้อสอบคราวนี้ยากมาก เรียกได้ว่าโคตรพ่อโคตรแม่ยาก อาจารย์กะจะฆ่ากันให้ตายไม่ได้ผุดได้เกิดเลยสินะ


“ได้คะแนนเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆสอบเสร็จแล้วค่าาาาา จบปีหนึ่งแล้ววววว” ร่างกายเอียงไปเล็กน้อยตามแรงกดทับจากการเอาแขนพาดไหล่ของแซนดี้ที่โผเข้ามากระโดดกอดคอด้วยความดีใจ ถึงจะตัวเล็ก แต่น้ำหนักนี่ก็ใช่ย่อย ทำได้แค่คิดอยู่ในใจ ถ้าขืนพูดไปคงไม่พ้นโดนตบกระโหลกแบบไอ้เติ้ลแน่ๆ


“ว่าแต่...ทำไมช่วงนี้ เพื่อนเอกใส่แว่นตลอดเลย จะโชว์ว่าเนิร์ดหรอพ่อคุณ?” ไม่รู้ทำไมจู่ๆแซนดี้ก็ทักขึ้นมา


“แล้วกูใส่ไม่ได้หรอ?” ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ การที่หันมาใส่แว่นนี่มันแปลกตรงไหน


“ก็ไม่ใช่ว่าใส่ไม่ได้ ปกติเห็นเพื่อนเอกใส่เฉพาะตอนเรียน แต่หลายวันมานี้ใส่ตลอดก็เลยถาม...” แซนดี้พูดจบก็เงียบไปสักพักหนึ่ง เหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ “หรือว่า…” รอยยิ้มร้ายของเพื่อนสาวปรากฏขึ้น


“คุณชายลีโอจะชอบคนใส่แว่น”



พรืดดดดดดด



“กูจะใส่อะไรมันก็เรื่องของกู!” เผลอขึ้นเสียงใส่เพื่อนสาวตัวเล็กตรงหน้า แซนดี้หัวเราะ เป็นไปตามที่คาดจริงๆ


“แสดงว่าจริงสินะ ทำไมเพื่อนเอกดูออกง่ายจัง”


“โห ท่าทางจะหลงมาก ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนนะ ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ กลัวน้องเอกจะเสียคนจริงจริ๊งงงง” ไอ้เติ้ลยืนฟังอยู่ข้างๆพูดขึ้นบ้าง สองคนนี้ได้ทีแล้วพร้อมใจกันรุม



ฝากไว้ก่อนเถอะพวกมึงสองคน



“แล้วนี่จะไปไหนกันต่อหรือเปล่าวะ? ถ้าไม่มีไปดูหนังกันเหอะว่ะ” เปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเพื่อนทั้งสอง ก่อนมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้


“ขอโทษนะคุณเพื่อน จองตั๋วรถทัวร์กลับบ้านไว้แล้วน่ะ” แซนดี้หน้าจ๋อย เพราะเป็นปิดเทอมใหญ่ ใครๆก็อยากกลับบ้านกันทั้งนั้น ยิ่งบ้านอยู่ไกลแล้วไม่ใช่จะกลับได้บ่อยๆ



ส่วนไอ้เติ้ลคงไม่ต้องพูดถึง



“กูจะไปกับน้องพลอย”










สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าวงแตก ไม่ครบวง ได้แต่ยืนเคว้งคว้างไม่มีที่ไปอยู่คนเดียวหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์เหมือนดาวเทียมที่หมดอายุไขหลุดออกจากวงโคจร


กำลังอยู่คิดว่าควรจะไปไหนดี จะกลับบ้านเลยดีหรือเปล่า แต่แล้วก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงจนต้องหยิบขึ้นมาดู




Leonids : เอกว่างไหม?






ขอบคุณพวกมึงทุกคนที่พร้อมใจกันกลับบ้าน









กลายเป็นว่าตอนนี้กำลังนั่งอยู่งานเสวนาทางดาราศาสตร์ในห้องเลคเชอร์ของคณะวิทยาศาสตร์ตามคำชวนของมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอเสียอย่างนั้น ในงานมีทั้งอาจารย์ของภาควิชาฟิสิกส์ นักวิชาการที่เคยเห็นอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ และนิสิตกับคนภายนอกที่มีความสนใจ


ลอบมองคนข้างๆนั่งจดนู่นจดนี่ที่ตัวเองสนใจลงในสมุดเล่มเล็กๆ สายตาที่จ้องมองไปยังจอโปรเจคเตอร์และวิทยากรด้านหน้าดูสนอกสนใจเป็นพิเศษ


พอมานั่งนึกดูในหลายเดือนที่ผ่านมานี้ แววตาที่เหมือนกับกลุ่มหมอกเนบิวลาของคนข้างๆเริ่มหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แต่ก็ดีแล้วที่ไม่มีแววตาแบบนั้นอีก แสดงว่าช่วงนี้กำลังอารมณ์ดีอยู่สินะ ทั้งๆที่เพิ่งสอบเสร็จมา




“เอาล่ะครับ หลังจากที่เราคุยเรื่องดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนกันไปแล้ว ผมเห็นว่าวันนี้มีน้องๆนิสิตมารับฟังงานเสวนากันอย่างเนืองแน่น” นักวิชาการหน้าห้องประชุมพูดขึ้น เขาลุกแล้วเดินหายไปทางด้านหลังเวทีก่อนจะกลับมาพร้อมกับซองพลาสติกใส ด้านในมีหนังสือครบรอบ35ปีสมาคมดาราศาสตร์ไทยและเข็มกลัดที่ระลึก


“ผมเลยอยากจะแจกของรางวัลในมือนี้ให้น้องๆนิสิตที่ตอบคำถามได้”


เสียงฮือฮาภายในห้องดังขึ้นอย่างตื่นเต้น


“อ้ะ คุณดอกเตอร์ ไม่ได้ครับ อันนี้ผมให้เด็กๆเขา…” วิทยากรพูดอย่างอารมณ์ดีกับนักวิชาการดีกรีดอกเตอร์ท่านหนึ่งด้านหน้าเวที




“คำถามรอบนี้คือ วงแหวนของดาวเคราะห์เกิดขึ้นได้อย่างไร?”



เสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีเมื่อทุกคนได้ยินคำถาม จริงๆแล้วคำตอบนั้นถูกพูดถึงอยู่ในการบรรยายนี้มาโดยตลอด หากฟังครบและสรุปจับประเด็นใจความสำคัญได้





“อ้าว น้องคนนั้นยกมือแล้ว ส่งไมค์ไปให้เขาทีครับ”




ไม่นานสตาฟหน้าเวทีก็ส่งไมโครโฟนมาให้ รับมาแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด ก่อนจะผ่อนลมออกมาเพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายจากความรู้สึกตื่นเต้น


“ที่ผมจับใจความได้ มีสามข้อสันนิษฐานครับ” บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ ทุกคนต่างตั้งใจฟัง สายตามองตรงมาด้านหลังห้องเป็นจุดเดียวเล่นเอารู้สึกเกร็งอยู่ไม่น้อยจนต้องกระชับไมโครโฟนในมือให้แน่นขึ้น


“หนึ่ง เกิดจากการชนกันของดาวบริวาร โดยเศษซากหลังจากการชนโคจรรอบดาวเคราะห์ดวงนั้นจนกลายเป็นวงแหวน”


“สอง ถ้าไม่ใช่กรณีชนกัน ก็เกิดจากดาวบริวารโคจรเข้าใกล้ดาวเสาร์จนเกินขีดจำกัดของรอช ดาวเลยถูกฉีกออกกลายเป็นเศษซากวงแหวนเหมือนกับข้อแรก”


“และสาม เศษซากเดิมในระบบสุริยะที่ไม่สามารถรวมตัวกันเป็นดาวได้เพราะขีดจำกัดของรอช โคจรรอบดาวเคราะห์นั้นจนกลายเป็นวงแหวนครับ”


เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีหลังจากที่ตอบคำถามเสร็จ พิธีกรกล่าวชมและแซวไปพร้อมกัน “แปลว่าน้องคนนี้ตั้งใจฟังนะครับเนี่ย” ก่อนจะถามคำถามต่อมา


“งั้นพี่ขอถามอีกนิด แล้วทำไมเศษซากดาวพวกนี้ถึงโคจรกันเป็นวงแหวนอย่างเป็นระเบียบได้ล่ะครับ?”


“ในวงแหวนของดาวเคราะห์จะมีดาวพี่เลี้ยงคอยต้อนเศษดาวพวกนี้ให้เรียงกันเป็นวง เรียกว่าอะไรนะ…?” พอเป็นจุดสำคัญดันจำไม่ได้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น เลยหันไปถามลีโอที่นั่งอยู่ข้างๆ


“Shepherding Moon”


“นั่นแหละครับ เลยเป็นรูปทรงวงแหวนแบบที่เราเห็นกัน”


“สุดยอดไปเลยครับ ถึงจะถามเพื่อนข้างๆด้วยก็เถอะ แต่กล้าตอบแบบนี้ก็รับรางวัลไปเลย!”












เมื่องานเสวนาจบลง ทุกคนในห้องต่างทยอยกันลุกออกจากที่นั่งตรงไปยังทางออก ลีโอที่เก็บของเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเช่นกัน


“เอกเบื่อหรือเปล่า?” เจ้าตัวถามเสียงแผ่ว คงจะรู้สึกเกรงใจที่ชวนให้มาเป็นเพื่อนแบบนี้


“ก็ไม่นี่” ยักไหล่สบายๆให้อีกฝ่ายเห็นว่าไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร ซึ่งมันก็จริงตามนั้น การเสวนานี้ไม่ได้ตึงเครียดจนเกินไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกง่วงนอนเลยสักนิด แถมเรื่องที่ถกเถียงกันก็เป็นเรื่องที่คนภายนอกที่ไม่ได้เรียนดาราศาสตร์มาโดยตรงสามารถเข้าใจได้ง่าย


“ยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมอาจารย์นฤดีกับอาจารย์สุรินทร์ไม่ตีกันเหมือนทุกทีที่มาสอน” มีเรื่องตลกนิดหน่อย ช่วงที่เรียนวิชาฟิสิกส์หนึ่งเมื่อภาคเรียนที่ผ่านมา อาจารย์สองท่านนี้รับหน้าที่สอนร่วมกันในเซค และทุกครั้งที่สอนไปได้สักพักทั้งคู่จะเริ่มเถียงกันถึงหลักการที่กำลังสอนนิสิต สร้างความมึนงงให้กับนิสิตในห้องเป็นอย่างยิ่งว่าข้อสรุปไหนกันแน่ที่ถูกต้อง


“นั่นสิ ตอนที่เรียนด้วยก็เถียงกันแทบเป็นแทบตายจนเกือบหมดคาบ แต่วันนี้ดูคุยกันดี” ลีโอพยักหน้าเห็นด้วย วันนี้ในหัวข้อที่อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ทั้งสองท่านนี้ได้รับหน้าที่ให้บรรยายร่วมกัน ทั้งคู่กลับมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันเสียเป็นส่วนใหญ่


“ได้เรียนกับทั้งคู่ด้วยหรอ?” ลีโอเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ คงไม่คิดว่าจะได้เรียนกับอาจารย์ผู้สอนคนเดียวกัน


“ใช่ เรียนคาบแปดโมงน่ะ ง่วงนอนมาก”


“ใครเป็นคนจัดตารางเรียนตอนแปดโมงวะ แม่งแย่มาก” บ่นออกไปตามความรู้สึก คิดดูสิ เริ่มเรียนแปดโมง บ้านก็อยู่ซะห่างไกลถึงจะบอกว่ามีรถไฟฟ้าก็เถอะ แต่ก่อนจะมาถึงรถไฟฟ้าได้ก็ต้องนั่งรถสองแถวในซอยออกมาก่อน พอคำนวณเวลาแล้วยังไงก็ต้องตื่นแต่เช้าอยู่ดี



มุมปากของลีโอกระตุกขึ้นเล็กน้อย เสียงหัวเราะหึเมื่อสักครู่ทำให้มั่นใจว่าหูไม่ได้ฝาดไปอย่างแน่นอน





กำลังขำอยู่?





เกิดเป็นบรรยากาศเงียบเชียบขึ้นระหว่างคนสองคน บรรยากาศที่แค่เดินไปตามฟุตบาธของมหาวิทยาลัย มองรถบัสผ่านไปคันแล้วคันเล่า มองรถจักรยานหลายคันจากการรณรงค์ให้ปั่นจักรยานภายในรั้วมหาลัยขี่ผ่านไป มองตึกอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ จนมาถึงสระว่ายน้ำที่เคยมาคราวที่แล้ว เรื่องเมื่อคราวนั้นทำเอาเผลอก้มลงมอง…




ข้อมือของคนข้างๆ





“จริงสิ” ลีโอหันมามองตามเสียงที่เผลอร้องออกมาคนเดียว


“แบมือ” ประโยคคล้ายออกคำสั่งกับเจ้าตัวสีขาวที่บ้าน ไม่ได้ตั้งใจจะพูดห้วนแบบนั้น แต่เพราะความเคยชิน ในใจนึกอยากตีปากตัวเองแรงๆสักสองสามทีที่เผลอพูดออกไปอย่างนั้น เผลอคิดไปว่าอีกฝ่ายเขาจะโกรธหรือเปล่า


“แล้ว…?” ผลที่ได้กลับตรงข้าม นอกจากจะไม่โกรธแล้วยังยกมือทั้งสองขึ้นมาแบแต่โดยดีเสียอีก ถอดสายสะพายกระเป๋าออกข้างหนึ่งเพื่อให้กระเป๋าเลื่อนมาด้านหน้า มือรูดซิบกระเป๋าแล้วหยิบเอาถุงพลาสติกใสออกมา



วางบนมือของคนตรงหน้า



ลีโอเงยหน้ามองของในมือนั้นสลับกับเงยหน้ามองคนให้ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยแบบที่ชอบแสดงออกมาบ่อยๆเมื่ออยู่ด้วยกัน “เอามาวางทำไม?”


“ให้ไง”


“ให้ทำไม?” นั่นสิให้ทำไม เกิดคำถามขึ้นในหัว คำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้เหมือนกับการถามว่า ‘ในจักรวาลแห่งนี้ มีดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตนอกจากโลกอีกหรือไม่?’



ณ ตอนนั้นมีเพียงความรู้สึกเดียว




อยากให้





“ก็เห็นชอบเรื่องพวกนี้นี่ เอาไว้เหอะ ถึงยังไงก็คงไม่ได้อ่านอยู่ดี” ทำเป็นตอบแบบขอไปที แต่สายตาก็ยังคงแอบเหลือบมองปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ลีโอพยักหน้า รับซองพลาสติกนั้นมาถือไว้แนบตัว




มุมปากทั้งสองข้างของอีกฝ่ายยกขึ้นเพียงเล็กน้อย




ในชั่วขณะนั้น กลับรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุด




ในจักรวาล





“ไม่รับคืนด้วยนะ ห้ามเอามาคืนล่ะ!”

















กว่าจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว ปกติไม่ใช่คนที่จะกลับบ้านเวลานี้ แต่เพราะวันนี้ไปนั่งฟังเสวนาดาราศาสตร์ที่จัดขึ้นที่คณะของตัวเองกว่าจะเลิกก็เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นเสียแล้ว และไม่รู้ว่าวันนี้นึกยังไง ทั้งเอกทั้งตัวเองถึงได้เดินอ้อมไปขึ้นรถไฟฟ้าอีกทางแทนที่จะขึ้นรถบัสของมหาลัยเช่นทุกที



แต่ก็ดีไปอีกแบบ ได้เดินมองบรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัย



ต้นไม้สีเขียว ลมเย็นพัดผ่าน รูปทรงของอาคารที่ดูแปลกตา



หนังสือหนึ่งเล่ม



และหน้าขึ้นสีแดงๆของเอก






นึกถึงแล้วก็เผลอหัวเราะกับคำพูดของอีกคน ‘ไม่รับคืนด้วยนะ ห้ามเอามาคืนล่ะ!’ ถ้าเอาไปคืนจะทำหน้ายังไง? คงหนีไม่พ้นทำหน้าหงิกหน้างอแน่ๆ


และตอนที่เผลอชมออกไปก็ตลกไม่แพ้กัน


'เอกโคตรเจ๋งเลย ตอนที่ตอบคำถามนั่นน่ะ'


ขมวดคิ้วเหมือนกับจะโมโห แต่ใบหน้ากลับแดงเสียอย่างนั้น ซ้ำยังรีบเดินนำหน้าไปอีกต่างหาก





“วันนี้กลับเย็นจัง ไปไหนกับเพื่อนมาล่ะพ่อหนุ่ม” แม่เอ่ยทักทายทันทีที่เปิดประตูบ้านเข้ามา


“อยู่ที่คณะฟังอาจารย์บรรยายน่ะ”


“สอบเสร็จแล้วพักบ้างก็ได้” แม่เดินเข้ามายีผมจนยุ่งไม่เป็นทรง สายตาที่มองตรงมาแสดงความเป็นห่วง “ไหนๆก็ปิดเทอมแล้วนี่”


“เป็นบรรยายสนุกๆน่ะ มีเพื่อนไปด้วย”


“อย่างงี้นี่เอง ใช่เพื่อนที่เคยมาส่งที่บ้านหรือเปล่า?”


“อื้ม...คนนั้นแหละ”






ขอตัวขึ้นมาเก็บของบนห้องรอเวลาอาหารเย็น(ที่กินตอนกลางคืนเสียอย่างนั้น) วันนี้แม่อาสาจะทำกับข้าวเองโดยให้เหตุผลว่ากลับถึงบ้านก่อนเป็นคนแรก วางกระเป๋าสะพายไว้บนโต๊ะ อีกมือหนึ่งก็แกะซองพลาสติกใสออก ด้านในมีหนังสือที่ได้รับมาพร้อมกับเข็มกลัดที่ระลึก นึกอีกรอบก็ยังคงขำสีหน้าท่าทางของคนให้ ดูขัดกันจนแปลกตา ปากบอกให้เพราะยังไงก็ไม่อ่านไม่สนใจ แต่กลับตอบคำถามอย่างฉะฉานแถมยังละเอียดเสียขนาดนั้น


“เป็นคนตลกแฮะ…”



ลุกขึ้นเดินตรงไปยังชั้นวางหนังสือโล่งๆ มีเพียงหนังสือเรียนกับText Bookที่ใช้เรียนในปีหนึ่งเท่านั้นที่วางอยู่ พื้นที่ของมันถูกใช้ไปไม่ถึงหนึ่งในสามเสียด้วยซ้ำ น่าแปลกที่ตอนเอาสิ่งที่เคยวางอยู่ด้วยกันบนนี้ออกกลับไม่รู้สึกว่ามันโล่งจนขัดตา




แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกเสียแล้ว




ดึงกล่องลังใบหนึ่งออกมาจากใต้เตียง ภายในมีหนังสือที่เดิมมันเคยอยู่บนนั้น และตอนนี้มันได้กลับมาอยู่ที่เดิมของมันอีกครั้งหนึ่งแล้ว


พร้อมกับกรอบรูปและรูปถ่ายเก่าๆ รูปที่ถ่ายด้วยกันสามคน





คิดถึงเมื่อก่อน…





ถึงจะย้อนกลับไปไม่ได้ แต่ก็นึกถึงมันได้




นึกถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุข





แล้วก็ก้าวเดินต่อไป…






“ลีโอ ข้าวเสร็จแล้วนะ”



“เดี๋ยวลงไปครับ”







ดวงดาวที่แตกสลาย




หากเศษซากของมันไม่อาจรวมกลับมาเป็นดาวดวงใหม่ได้อีก




แต่อย่างน้อย ‘ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ’ จะช่วยให้มัน




กลายเป็นวงแหวนที่สวยงามเอง






☆ξ*・ェ・*ξ







TBC



สวัสดีค่ะ หมาเอง

หายไปหลายวันมาก ฮือออ ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ สอบเสร็จมาได้สักพักแล้วด้วย Y___Y

ขยายความเพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ ขีดจำกัดของรอช (Roche limit) คือ ระยะห่างที่ใกล้ที่สุดที่วัตถุอะไรก็ตามจะเคลื่อนเข้าใกล้ดาวดวงนั้นแล้วไม่ถูกแรงน้ำขึ้นน้ำลงฉีกออกเป็นชิ้นๆ (เพราะงั้นเวลามีดาวหลุดเข้าไปก็เลยแตกสลายเป็นผุยผง กลายเป็นวัตถุดิบของวงแหวนซะงั้น) ทีนี้พอมีพวกซากดาวหรือวัตถุต่างๆลอยอยู่รอบๆดาวเคราะห์ดวงนั้น ถ้ามันรวมตัวกันเป็นดาวได้ ก็อาจจะกลายเป็นคุณดวงจันทร์เลี้ยงแกะ แต่ถ้ารวมไม่ได้ก็ยังคงเป็นเศษแบบนั้นต่อไป แรกๆมันก็ไม่เป็นระเบียบหรอกค่ะ แต่เพราะแรงดึงดูดของดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะช่วยต้อนก็เลยทำให้พวกเศษซากนี้เรียงตัวกันเป็นระเบียบขึ้น เลยกลายเป็นวงแหวนที่เห็นกันในปัจจุบันนั่นเอง  :katai2-1:

อันนี้คือที่เราเข้าใจ ถ้าเกิดมีตรงไหนผิดพลาดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


จริงสิ ใครพลาดโอกาสดูน้องลีโอ(ฝนดาวตกลีโอนิดส์) พรุ่งนี้อย่าลืมมาดูฝนดาวตกเจมินิดส์(ฝนดาวตกคนคู่)กันแทนนะคะ  เยอะกว่าลีโอนิดส์อีก :beat: ยังไงก็อย่าลืมหาที่มืดๆไร้แสงจากเมือง ท้องฟ้าโปร่งๆไร้เมฆ นอนดูกันด้วยนะ

ส่วนหมาน่าจะไม่ได้ดูนะคะ 5555 เค้าอยู่ในเมืองอะ ตอนแรกจะได้ออกไปนอกเมืองแล้ว แต่ทริปล่มไปซะก่อน อดเลย

สำหรับวันนี้ ขอบคุณมากนะคะ


รักคนอ่านทุกท่าน จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆ /ส่งจูบแบบนางงามพร้อมอ้อมกอดอันแสนอ่อนโยน/ :กอด1:

ปล. มีอะไรคุยกันได้ในแท๊ค #Starchart (อันนี้มันดันไปตรงกับแอปดูดาวชื่อนี้น่ะค่ะ ซึ่งเราก็ใช้ โฮลลลล 5555) หรือ #StarchartBL ได้นะคะ
ปลล. รูปดาวก่อน TBC เป็นรูปแกะนะคะ 5555
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ | P.6] 13/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-12-2015 22:46:45
 :a5:

มาแล้วววววววววววววว


ปลาบปลื้ม ขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ คริๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ | P.6] 13/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-12-2015 08:04:17
ตอนนี้ได้ความรู้ดีครับ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ | P.6] 13/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: dark-soleil ที่ 14-12-2015 14:38:00
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

เราชอบการดำเนินเรื่องแบบนี้อ่ะค่ะ เรื่อยๆ เฉื่อยๆ แต่ฟิน ลีโอน่ารักเอกก็น่ารัก ให้ตายสิ เขาจีบกันแบบงงๆเนอะ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ | P.6] 13/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: sembia ที่ 14-12-2015 15:05:39
เพิ่งมาอ่านค่ะ  สนุกมาก  รักเรื่องนี้ เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ  :impress2: :-[ :o8: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ | P.6] 13/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Pimjoom ที่ 14-12-2015 20:11:39
ชอบมากๆเลยค่ะ มีเกร็ดฟิสิกเชื่อมกันเนื้อเรื่อง เราชอบมากกกเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ มาต่อเร็วๆน้าา ปอลอ เด็กสองคนนี้อยู่ม.เดียวกับเราแน่ๆเลยย งุ้ยยฟินน   :impress2:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ | P.6] 13/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 01-01-2016 01:17:49
สวัสดีค่ะ หมาเอง

วันนี้ยังไม่ได้มาลงนิยายนะคะ /โดนรุมสะกำ  :z6: :beat:

สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคนนนนนน  :กอด1:

เดือนม.ค.นี้ นิยายเรื่องนี้ก็จะครบ1ขวบแล้วค่ะ ดีใจมาก ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด1ปีนี้นะคะ (แม้ว่าหมาจะทั้งดองทั้งหายก็ตาม)

วันนี้หมาก็เลยมีของขวัญอยากจะขอบคุณทุกคนค่ะ แล้วก็ทักทายกันในช่วงปีใหม่เนอะ

เป็นสคส.น่ะค่ะ อาจจะไม่สวยมาก แต่ทำจากใจ TvT


ถ้าใครสนใจกรอกฟอร์มข้างล่างนี้ได้เลยนะคะ (น่าจะส่งได้ในช่วงต้นเดือนนี้แหละค่ะ ถ้ายังไงจะแจ้งให้ทราบอีกที)

https://docs.google.com/forms/d/1-8CGpohXvmoTuycdZrp2OTB_wSLaj8ihNtqa_sY5kCs


สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ ขอให้ปี2016นี้เป็นปีที่ดียิ่งขึ้นไปของทุกคนนะคะ

หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.6] 01/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 01-01-2016 09:17:52
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.6] 01/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-01-2016 11:12:21
สวัสดีปีใหม่นะครับ

หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.6] 01/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 01-01-2016 13:31:53
อยากให้เป็นแฟนกันเร็วๆ ชอบลีโอ กะ เอก สุดๆ
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ดวงจันทร์คนเลี้ยงแกะ | P.6] 13/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 03-03-2016 18:13:23
:a5:

มาแล้วววววววววววววว


ปลาบปลื้ม ขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ คริๆ

ตอนใหม่ก็มาแล้วเช่นกันค่ะ  :hao7: /โดนถีบข้อหาหายไปนาน

ตอนนี้ได้ความรู้ดีครับ

ไม่ได้น่าเบื่อจนเกินไปใช่ไหมคะ? กลัวว่าถ้าใส่เรื่องเนื้อหาวิชาการมากเกินไปจะทำให้ไม่สนุกน่ะค่ะ ;___;

ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

เราชอบการดำเนินเรื่องแบบนี้อ่ะค่ะ เรื่อยๆ เฉื่อยๆ แต่ฟิน ลีโอน่ารักเอกก็น่ารัก ให้ตายสิ เขาจีบกันแบบงงๆเนอะ น่ารักดี

ดีใจที่ชอบนะคะ >__<
เรื่องนี้ค่อนข้างจะเรื่อยๆน่ะค่ะ อาจจะทำให้เบื่อได้ แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไปกันเนอะ ;;__;; ดีใจที่ชอบแล้วก็ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

เพิ่งมาอ่านค่ะ  สนุกมาก  รักเรื่องนี้ เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ  :impress2: :-[ :o8: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:

/กอดแรงๆเต็มรัก/ ขอบคุณมากเลยนะคะ ฮืออออ ดีใจจจจ  :กอด1:

ชอบมากๆเลยค่ะ มีเกร็ดฟิสิกเชื่อมกันเนื้อเรื่อง เราชอบมากกกเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ มาต่อเร็วๆน้าา ปอลอ เด็กสองคนนี้อยู่ม.เดียวกับเราแน่ๆเลยย งุ้ยยฟินน   :impress2:
แปลว่าอาจจะเคยเดินสวนกับเด็กสองคนนี้แน่ๆเลยค่ะ :-[
ขอบคุณมากเลยนะคะ /กอดดด

:กอด1:
:กอด1:

สวัสดีปีใหม่นะครับ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวต่ออีกปีนะคะ :mew1:

อยากให้เป็นแฟนกันเร็วๆ ชอบลีโอ กะ เอก สุดๆ

เอาในมโนของเอกไปก่อนนะคะ   :hao7:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ประกาศค่ะ | P.6] 01/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Sirius ที่ 03-03-2016 18:14:16
เคยสงสัยกันหรือเปล่า?


ในจักรวาลอันกว้างใหญ่และโดดเดี่ยวแห่งนี้


มีใครอีกไหมนอกจากพวกเรา


ด้วยความสงสัยในครั้งนั้น มนุษย์โลกอย่างเราจึงส่งข้อความออกไปยังอวกาศ



‘มีใครอยู่บ้างไหม?’



‘มีใครอยู่บ้างหรือเปล่า?’



ส่งออกไปด้วยเสียงที่ถูกเรียกว่า “คลื่นวิทยุ”



ภายใต้โครงการที่มีชื่อว่า



“Active SETI”






ตอนที่16



บนยอดดอยอากาศหนาวเย็นจนเกือบถึงจุดเยือกแข็ง ตอนนี้เป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ดาวนับพันดวงแข่งขันกันส่องแสงระยิบระยับ ทางช้างเผือกส่องสว่างพาดผ่านเกิดเป็นแสงขาวฟุ้งกระจายอยู่กลางท้องฟ้าเป็นทางยาว


รอบข้างเงียบสงบ บรรยากาศเป็นใจให้กับคนสองคน


ค่อยๆเลื่อนมือจากไหล่ลงไปจนถึงเอว กอดกระชับให้อีกฝ่ายที่เอาหัวพิงอยู่เบียดกายเข้าหากันให้มากขึ้น ความอบอุ่นจากคนทั้งคู่หลอมรวมเข้าด้วยกัน


ลีโอขยับตัวหันหน้าเข้าหา ซุกใบหน้าลงกับอก เรือนผมสีน้ำตาลแดงนุ่มสัมผัสกับต้นคอจนรู้สึกจั๊กจี้ไปหมด ส่งเสียงงึมงำในลำคอ ท่าทางออดอ้อนราวกับลูกแมวน้อย


"ง่วงแล้วหรอ?"


รวบเอวของอีกฝ่ายดึงให้เข้ามาใกล้กันมากขึ้น พ่นลมหายใจระต้นคอคนตรงหน้าจนเจ้าตัวเอ่ยปากร้องท้วง


"เลิกแกล้งเถอะเอก..." คนตัวเกร็งพยายามหดคอหนี แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดีเพราะถูกรวบกอดไว้อยู่ หัวเราะขำในลำคอกับท่าทางน่ารักของลูกแมวในอ้อมแขน ท่าทางแบบนี้ยิ่งน่าแกล้งเสียจริง


"เดี๋ยวมีคนมา...เห็น" เจ้าตัวพยายามเอ่ยปากอธิบาย แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยให้น่าแกล้งน้อยลงเลยก็ตาม


"ไม่มีใครสักหน่อย เต้นท์อยู่ห่างจากคนอื่นตั้งเยอะ" ว่าแล้วก็กอดรัดคนน่ารักแน่นขึ้นอีก ท่าทางตอนนี้เหมือนกับงูเหลือมที่กำลังจะเขมือบลูกแมวน้อย อีกฝ่ายพยายามแกะมือออก แต่ยิ่งพยายามอ้อมกอดก็ยิ่งแน่นขึ้นไปอีก


แม้ว่าบรรยากาศรอบๆจะมืดสนิทจนมองเห็นใบหน้าของเจ้าตัวได้ไม่ชัดเจน แต่จากอุณหภูมิแก้มที่สัมผัสกับริมฝีปากนั้น พอจะคาดเดาได้ ว่ามันคงแดงก่ำจนแทบจะระเบิดแล้ว


เจ้าของแก้มอ้อนวอนเสียงอ่อน


"เอก..."


นึกสงสารขึ้นมาจึงหยุดการกระทำเมื่อครู่ลง เปลี่ยนมาเล่นจ้องตาภายใต้แสงจากดวงดาวแทน


ราวกับเวลาและทุกสิ่งหยุดนิ่ง มีเพียงความเงียบงัน และไอน้ำจากลมหายใจของทั้งคู่คั่นกลาง


“รักนะ..."


คำพูดที่ทำเอาหัวใจเต้นแรง ทั้งคนพูดและคนฟัง ใบหน้าเห่อร้อนขึ้น ลมหายใจขาดหายเป็นช่วง ความรู้สึกทั้งหมดถูกเค้นออกมา


"ไม่รู้ว่ามันเริ่มตอนไหน รู้ตัวอีกทีในหัวก็เต็มไปด้วยเรื่องของลีโอหมดแล้ว..."


“...” คนฟังได้แต่ก้มหน้าเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพูด


“รู้แล้วล่ะ เอกพูดเป็นร้อยรอบแล้ว”


เข้าใจว่าอีกฝ่ายเขิน แต่จะให้ทำยังไงได้ ความรู้สึกที่มันเอ่อล้นออกมา ยากที่จะกักเก็บมันเอาไว้ได้ตลอด



การได้คบกันเป็นช่วงเวลาอันแสนสุขจริงๆ



“อยากให้ฟังบ่อยๆไง” ลีโออมยิ้มเมื่อได้ยินก่อนจะตอบกลับ


“มันเลี่ยน ฟังแล้วจั๊กจี้เว้ย”


“แล้วแบบนี้จั๊กจี้หรือเปล่า?” พูดจบก็ลงมือจี้เอว คนในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลัก ส่งเสียงร้องโวยวายประท้วงขอให้หยุด


แต่เพราะดิ้นแรงเกินไปทำให้หน้าผากของอีกคนฟาดเข้าที่ใต้คางจนอ้อมแขนนั้นคลายลง ลีโอเองก็ดูจะรู้สึกเจ็บไม่น้อย


“เอกเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บไหมเนี่ย? บอกแล้วว่าอย่าเล่น” แม้จะบาดเจ็บแต่ก็ไม่วายโดนบ่นใส่ สีหน้าเคร่งเครียดด้วยความเป็นห่วง


ลูบบริเวณใต้คางที่ถูกชนเมื่อสักครู่ พร้อมทั้งแกล้งทำสีหน้าเจ็บปวด ลีโอที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบเป่าเพี้ยงขอให้ความเจ็บหายไปอยู่ยกใหญ่


วินาทีที่ก้มลงมามองอีกฝ่ายนั้น สายตาสอดประสาน ราวกับดวงดาวได้เข้ามาอยู่ในวงโคจรเดียวกัน โลกทั้งใบรอบตัวพลันเงียบงัน แม้กระทั่งเสียงแมลงน้อยใหญ่โดยรอบก็ไม่อาจส่งไปถึง


ใบหน้าค่อยๆเลื่อนเข้าหา อีกคนหลับตาพริ้มเอียงหน้ารับด้วยองศาที่พอเหมาะ ริมฝีปากทั้งสองแนบสนิทกันก่อนจะเริ่มขยับด้วยจังหวะที่นุ่มนวลและเปียกชื้น…



…….เปียกชื้น




เปียก…..




ชื้น…..





"ไอ้เปาาาาาาา!!!!!!!"



กระเด้งตัวสุดขีดเมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือลิ้นสากของหมาตัวใหญ่ขนฟูสีขาว ภาพความฝันอันแสนหอมหวานมลายหายไปราวกับลูกโป่งถูกเข็มเจาะจนแตก เจ้าตัวต้นเหตุแลบลิ้นหายใจดังแฮ่ก สีหน้าดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ซ้ำยังจ้องมองด้วยแววตาวาวน่าเอ็นดูจนโกรธไม่ลง


ลูบใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ นึกถึงความฝันเมื่อสักครู่ที่ยังคงตราตรึงใจ ไม่ใช่ฝันธรรมดาทั่วไปที่พอตื่นมาแล้วมักจะลืม



เขาว่ากันว่า ความฝันบอกจิตใต้สำนึกลึกๆในจิตใจของผู้ฝัน



เอก...มึงนี่มัน…




ไม่สมควรทำเรื่องแบบนี้โดยที่เขาไม่เต็มใจ ถึงในฝันจะดูเต็มใจก็เถอะ ถ้าตัวจริงรู้ขึ้นมา ต้องหาว่าโรคจิตแน่ๆ



และความรู้สึกผิดก็ยิ่งทวีคูณเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำลงไปในฝัน



ทั้งกอดเอย หอมแก้มเอย และ…




จูบ…




จิตใต้สำนึกช่างน่ากลัว…




ขอโทษนะลีโอ…




ขยี้ผมตัวเองจนฟูฟ่องไม่เป็นทรงอย่างหัวเสีย ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ









“ทำไมตื่นเช้าจัง” เมื่อเดินลงบันไดมาก็พบกับแม่ที่เพิ่งกลับมาจากตักบาตร


“ไอ้เปามันกวน” เมื่อรู้ว่าถูกฟ้อง เจ้าหมาขนฟูตัวแสบรีบวิ่งแจ้นไปหลบหลังแม่ทันที


“ไม่ต้องหลบเลยมึง”


“แน่ะ เอก พูดกับซาลาเปาดีๆสิ”


ซาลาเปาเห่าโฮ่งตอบรับคำพูดของแม่ เลยค้อนตาใส่เจ้าหมาตัวแสบไปทีด้วยความหมั่นไส้ ลูกรักของแม่นี่นะ


“ไม่ต้องมาทำสายตาอย่างนั้นเลยเอก ไปรดน้ำแทนม๊าหน่อย เดี๋ยวทำข้าวเช้าให้” ขานรับคำสั่งของแม่ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ช่างเป็นชีวิตปิดเทอมสองมาตรฐานโดยแท้


เปิดประตูเดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน ต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ถูกปลูกเรียงรายไว้มากมายด้วยนิสัยเจ้าของบ้านนั้นรักต้นไม้ เดินอ้อมไปทางด้านข้างรั้วก็พบว่าสายยางที่ควรจะอยู่ตรงนี้กลับอันตรธานหายไปจึงเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหาสายยาง พบมันถูกแขวนรวมกันไว้ด้านหลังบ้านตรงมุมอุปกรณ์ทำสวน


เมื่อกลับออกมาจากหลังบ้านก็ต้องร้องอุทานเสียงดังลั่น


“เชี่ยเปาาาาาา!!!!”


นอกจากเจ้าตัวแสบนี่จะทำฝันเมื่อคืนสลายไปแล้ว ตอนนี้มันก็กำลังทำให้ต้นไม้ในกระถางแหลกสลายตามไปอีก


รีบสาวเท้าเดินเข้าไปดุเจ้าหมาจอมซนเป็นการใหญ่ ได้แต่ถอนหายใจปาดเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้า โชคดีที่ต้นไม้ยังไม่เสียหายมากสักเท่าไหร่ เลยรีบจัดการกวาดดินที่หกเลอะออกมา จัดต้นไม้ให้ตั้งตรงดั่งเดิม ทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ


“ไหนว่าไปฝึกมาแล้ว ทำไมยังเป็นอย่างนี้อยู่ล่ะ”


ลากเจ้าหมาตัวดีกลับเข้าบ้าน ก่อนจะจับมันขังใส่กรงไว้ ซาลาเปาส่งเสียงร้องงี๊ดอย่างสำนึกผิด แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกใจอ่อนลงจนปล่อยให้ออกมาเดินเล่นข้างนอกอีก


ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเจ้าหน้าขนสีขาวในกรงที่กำลังร้องโวยวายเป็นภาษาหมา


กดส่งภาพเมื่อสักครู่เข้าไลน์กลุ่มประจำไว้บ่นเรื่องทั่วไปกันในหมู่สามคน ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นไอ้เติ้ลและแซน


Aek-Uni send you a photo


Aek-Uni : ทำลายข้าวของ


หลังจากส่งข้อความไปได้สักพักก็นึกอะไรขึ้นมาได้



แล้วถ้า…



จะลองส่งข้อความถึงจักรวาล



จะได้รับข้อความตอบกลับหรือเปล่า?













วันนี้สมาชิกบนโต๊ะอาหารเช้าครบองค์ประชุมเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งอาทิตย์ของปิดเทอมใหญ่ จักรภพถูกปลุกให้มาคุยเรื่องสำคัญในเช้าวันนี้


ไม่มีใครพูดอะไรออกมา บรรยากาศบนโต๊ะดูจะขมุกขมัวคล้ายฝนกำลังตั้งเค้า จักรภพเองก็ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าที่ถูกเรียกมาในวันนี้นั้นเป็นเพราะอะไร


“ภพรู้ใช่ไหมว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?” น้ำเสียงซีเรียสของพ่อทำเอาพี่ชายตัวดีเหงื่อตก


“เกิดอะไรขึ้นหรอป๊า?” หันไปถามด้วยความสงสัย ดูเหมือนจะเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่รู้อะไรเลย


“ก็เมื่อวานน่ะสิ จู่ๆก็มีคนโทรมาด่าม๊าทางโทรศัพท์บ้าน” คนอธิบายกลายเป็นแม่แทน พ่อพยักหน้ายืนยันว่าเป็นเรื่องจริงก่อนที่แม่จะเล่าต่อ


“บอกว่าสั่งสอนลูกยังไงทำไมทำตัวอย่างนี้บ้างล่ะ ม๊าเลี้ยงลูกไม่ดีบ้างล่ะ บางคำก็แรงจนม๊ารับไม่ได้”


หันไปมองทางจักรภพ เจ้าตัวยังคงนั่งฟังเงียบๆ


“ม๊ารำคาญเสียงวี๊ดนั่นมากเลยถอดสายโทรศัพท์ออก เขาก็โทรเข้ามือถือป๊าอีก”


“ไม่รู้ไปเอามาจากไหน?”


เลิกคิ้วอึ้งกับพฤติกรรมหญิงสาวก่อกวนปริศนาคนนี้ จะว่าไปเมื่อวานจำได้ว่ามีคนโทรเข้ามากว่าสิบสายเช่นกัน แต่เพราะเล่นเกมโต้รุ่งกับไอ้เติ้ล และปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ จึงไม่ได้ยินอะไรเลย


“แต่ม๊ารู้เลยว่าต้นเหตุมาจากใคร” เมื่อแม่พูดจบ ทุกคนในวงก็พร้อมใจกันหันไปมองบุคคลนั่งเงียบอีกคนทันที


“โถ่! ม๊า! ภพไม่ผิดนะ” จักรภพร้องเสียงหลง การจ้องหมูทอดในจานดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้หาเหตุผลอะไรดีๆมาแก้ตัวแทนได้


“ภพเลิกกับเขาไปนานแล้ว”


“นั่นไง!” ทุกคนพร้อมใจกันร้องออกมา


“ป๊าว่าแล้วไง เพราะทำตัวแบบนี้เขาถึงได้โกรธแค้นเราน่ะภพ”


“โตๆกันแล้วนะ อีกอย่างเขาก็เพศเดียวกับม๊าเรา เลิกทำอะไรแบบนี้สักทีเถอะ”


“โถ่... ภพก็บอกว่ามันจบไปนานแล้ว…” จักรภพตอบเสียงเบา ใบหน้าที่เคยเปื้อยรอยยิ้ม ตอนนี้กลับมีเพียงคิ้วขมวดกันยุ่ง


“ไม่รู้ล่ะ ป๊าจะลงโทษภพ เพราะตอนนี้คนที่ทำงานป๊าเข้าใจว่าป๊ามีเมียน้อยกันหมดแล้ว” พ่อตัดสินชี้ขาด พี่ชายตัวแสบทำได้เพียงส่งเสียงร้องโอดครวญแก้ตัวต่างๆนานา


“เริ่มจากรถของภพ ป๊าจะเอาให้เอกแทน”



พรืดดดดด



นั่งฟังเงียบๆอยู่นานโดยคิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร แต่จู่ๆก็ถูกลากเข้ามาพัวพันกับปัญหานี้ด้วยเสียอย่างนั้น จักรภพจ้องเขม็งมาจนต้องจ้องกลับไป สื่อสารผ่านทางสายตาว่าเรื่องนี้ไม่รู้ด้วย


“ป๊าเอารถมาให้เอกทำไม เอกไม่ได้จำเป็นต้องใช้สักหน่อย”


ไม่รอให้พ่อพูดอะไรอีก จักรภพก็สวนขึ้นทันที


“ใช่ ภพยังต้องขับไปฝึกงานปิดเทอมนี้นะ”


“ถึงป๊ายึดรถไป ม๊าว่าภพก็ต้องหิ้วสาวขึ้นแท็กซี่อยู่แล้ว” แม่เสริม จักรภพได้แต่ทำหน้ายุ่ง ท่าทางจะหัวเสียกับเรื่องนี้มาก


“ป๊าเลยยกเลิกบัตรเครดิตกับอายัติเอทีเอ็มของภพแล้ว”


“ป๊าา!!!’”


เหลือเชื่อ ปกติพ่อไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน อย่างมากก็แค่ว่ากล่าวตักเตือน แต่ดูเหมือนคราวนี้พ่อจะขุ่นเคืองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก จักรภพทำได้เพียงกัดฟันจนสันกรามนูนแข็งขึ้นรูป มือบนหน้าตักกำแน่น


“ป๊าว่าป๊าใจดีกับภพมามากแล้วนะ ต่อจากนี้ป๊าจะให้เงินเราเป็นอาทิตย์เหมือนสมัยมัธยม เราก็บริหารดีๆแล้วกัน” ว่าจบพ่อก็ลุกออกจากโต๊ะไปทำงาน แม่เองก็ลุกขึ้นเก็บจานและเดินหายเข้าไปในครัว


จักรภพรีบพุ่งตัวเข้ามาหาในทันที


“เรื่องนี้กูไม่รู้ด้วยนะ” พูดขัดขึ้นก่อนพี่ชายตัวดีจะอ้าปากร้องขอ


“เออน่า… เอก เฮียขอกุญแจรถเถอะ”


“ขอปฏิเสธ”


“อะไรวะมึง นี่รถกูนะ!” จักรภพโวยวาย แต่ยังไง คราวนี้ก็จะไม่ยอมช่วยพี่ชายตัวแสบนี่แน่นอน ถือเป็นการแก้แค้นเรื่องที่ผ่านๆมา


“รถมึงแต่ป๊าให้กู” ยักไหล่ให้หนึ่งทีแล้วลุกขึ้นหยิบจานเดินไปเก็บในห้องครัว


“กูพี่มึงนะเอก!”


“เรื่องของมึง”













มื้อเช้าผ่านไปแล้วเลยขึ้นมานอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ยังมีเวลาอีกสองอาทิตย์ก่อนภาคเรียนฤดูร้อนจะเปิด ปิดเทอมนี้ไม่พลาดที่จะรีบลงเรียนวิชาเลือกไว้ก่อน เผื่อปีหลังๆไปจะได้มีเวลาว่างทำอย่างอื่น



Leonids sent you a photo





เฮ้ยๆๆๆๆ!


จู่ๆก็มีข้อความจากใครบางคนส่งมา ทำเอาเผลอร้องรำพึงกับตัวเองด้วยความดีใจปนตื่นเต้น กดเปิดโปรแกรมขึ้นมา ในขณะที่หน้าจอเป็นสีเขียวอยู่นั้นกลับปรากฏเป็นหน้าจอสายเข้าแทน


เป็นเบอร์ประหลาดที่ไม่รู้จัก


“ฮัลโหล…”


‘ไปบอกพี่มึงด้วยนะว่าเลิกทำนิสัยแบบนี้ได้แล้ว…’


ปลายสายเป็นผู้หญิงเสียงแหลมพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว ชักสีหน้า ส่งเสียงจิ๊ในลำคออย่างขัดใจแล้วกดตัดสายทิ้ง ตอนนี้สิ่งสำคัญกว่าคือ อีกคนส่งรูปอะไรมาทางไลน์


ยังไม่ทันได้เข้าโปรแกรมหน้าจอก็ปรากฏเป็นเบอร์โทรปริศนานั่นอีกครั้ง กดวางสายทันทีอย่างไม่คิด เป็นอย่างนั้นอยู่กว่าสิบครั้งจนต้องบล็อกเบอร์ แต่ก็ไม่วายมีเบอร์อื่นโทรเข้ามาอีก เดือดร้อนจนต้องเดินมาเคาะห้องจักรภพ


“เฮียอยากได้รถคืนใช่ไหม?”


“เออดิ” จักรภพขมวดคิ้วยุ่ง ยังคงหงุดหงิดกับเรื่องเมื่อตอนเช้าอยู่ และเมื่อก้มมองดูโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นอยู่ตลอดเวลาในมือ “แม่งโทรมาหามึงด้วยหรอ?”


“ถ้ามึงทำให้เขาเลิกโทรมาหากูกับป๊าม๊าได้ มึงเอารถไปเลย”









ผ่านไปพักใหญ่ โทรศัพท์มือถือหยุดสั่นลง เลยกดเข้าโปรแกรมไลน์อีกครั้ง หน้าจอสีเขียวโหลดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะปรากฏหน้าจอสนทนา


ภาพที่ถูกส่งมาเป็นภาพผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาคล้ายเดินอยู่ในตลาดนัด


Aek-Uni : จตุจักร?


พิมพ์ตอบไปได้ไม่นานก็ปรากฏข้อความว่าอ่านแล้วเรียบร้อย


Leonids: ใช่ ไปกับเพื่อนมาน่ะ


Aek-Uni : ไปไม่ชวน


เผลอพิมพ์บ่นด้วยความน้อยใจออกไป แล้วกลับคิดได้ขึ้นมาว่าไม่ควรพิมพ์อย่างนั้นเลยสักนิด อยากจะตีมือตัวเองแรงๆสักสองสามที อีกฝ่ายจะอึดอัดใจหรือเปล่า? เขาก็ไปกับเพื่อนกลุ่มเขานี่นะ


Leonids : ไว้คราวหน้าไปด้วยกันไหมล่ะ?


Aek-Uni : พูดจริงหรือพูดเล่น?


Leonids : นี่จริงจังนะ



นี่จริงจังนะ…


จริงจังนะ…


จริงจัง...


จริง…


จัง…





ดูเหมือนโครงการActive SETI ของเอกภพ จะก้าวหน้าไปอีกขั้น




(ノ-.-)ノ•*¨*•.¸¸☆


TBC


สวัสดีค่ะ หมาเองนะคะ ขอโทษจริงๆที่หายไปนาน ฮือออออ มรสุมงานอันยิ่งใหญ่ แถมโดนเลื่อนสอบให้เร็วขึ้นมาครึ่งเดือน ทุกอย่างเลยประดังเข้ามาพร้อมกันหมดเลยค่ะ แฮ่ ;;____;;

ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก พูดถึงเรื่องโครงการ Active SETI เป็นโครงการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุไปยังกลุ่มดาวหรือบริเวณที่คาดว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ค่ะ (เอกอยากลองส่งหาจักรวาล นี่ๆ แถวนั้นมีความรักอยู่ไหม?  :o8:) คล้ายๆในหนังBattleshipที่ส่งสัญญาณไปแล้วมีมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลก (สนุกมากเลยค่ะ ลองหามาดูกันได้ >_<) ใครสนใจอยากอ่านเพิ่มเติมในกระทู้นี้เลยค่ะ http://pantip.com/topic/32968613 (เราชอบชื่อกระทู้นี้มากๆเลย :-[)

สำหรับวันนี้หมาก็ต้องขอลาไปก่อน ช่วงนี้มีปัญหากล้ามเนื้ออักเสบค่ะ ฮือๆๆๆๆ สภาพอนาถมากก้มหยิบของอะไรไม่ได้เลย  :ling1: แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้านะคะ

รักคนอ่านทุกท่านนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59
เริ่มหัวข้อโดย: kung ที่ 03-03-2016 18:33:52
กลับมาแล้วววว คิดถึงลีโอกับเอกมากๆ หายป่วยไวๆนะคะ สู้ๆน้าาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59
เริ่มหัวข้อโดย: yingsdu ที่ 18-10-2019 01:27:48
เรื่องนี้เขียนจบหรือยังคะ เห็นมีแค่16ตอนก็เงียบไปเลย พอดีพึ่งมาติดตาอ่าน เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ อยากอ่านต่อออ :hao5: :z3:
หัวข้อ: Re: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59
เริ่มหัวข้อโดย: Sunset and Eeyore ที่ 30-04-2023 05:57:55
คือน่ารักมาก สมัยก่อนเราก็เคยไปดูดาวกับสมาคมฯ บ่อยๆค่ะ จนเรียนหนักขึ้น ชีวิตส่วนตัวยุ่งขึ้นมากๆก็เลยหยุดแล้วเลยไม่ได้ไปอีกเลย อ่านแล้วคิดถึงตอนนั้นจัง มีออกทริปบ่อยมาก