Side :: เครื่องปรุงผมมองหน้าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผู้ชายคนที่เกี๊ยวกล้าประกาศชัดเจนว่าเป็นแฟน เด็กคนนี้หน้าตาจัดเป็นคนหน้าตาดี ดูดุและอาจจะโหดพอตัว เขาดูแมน เนื้อตัวสะอาดสะอ้านมีเหงื่อรำไรน่าจะเพิ่งกลับจากการออกกำลังกาย คนชื่ออิฐขี่จักรยานมาส่งน้อง บางทีเขาอาจจะมีรถยนต์แต่ไม่ได้ใช้ก็ได้ แต่เรื่องนี้ผมไม่ได้สนเท่าไหร่ ผมสนเรื่องอื่นมากกว่า พอเหลือบตามองเจ้าตัวเล็กที่ผมและคุณถุงเฝ้าทะนุถนอมจนเติบใหญ่ผมก็อดห่วงไม่ได้ น้องเป็นเด็กผู้ชายร่าเริง น่ารัก ใจดี เข้ากับคนง่าย บางทีเกี๊ยวอาจจะยังไม่รู้จักความรักดีพอ แฟนที่ว่าความหมายคืออะไร ไปกันถึงขั้นไหน ผมอยากรู้ทั้งหมดเดี๋ยวนี้ ผมเองคงต้องขอคุยกับคนชื่ออิฐก่อน ผ่านด่านผมยังดีกว่าเจอคุณถุงจังๆ รายนั้นหวงลูกอย่างกับอะไรดี ถ้าเจอกันประจันหน้าแบบนี้ เกี๊ยวกับแฟนต้องเลิกกันแน่ๆ
ผมเองก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ถ้าน้องจะมีแฟนเป็นผู้ชาย ผมเห็นแววเขามาแต่เด็กแล้ว แม้จะไม่ได้ตุ้งติ้งเหมือนตุ๊ดกระเทย แต่น้องขี้อ้อนมาก ขี้งอแง และดูอ่อนโยนกว่าเด็กผู้ชายวัยเดียวกันหลายเท่า พอโตมาเขาก็เข้าโรงเรียนชายล้วน น้องมักจะกลับมาเล่าว่าเพื่อนผู้ชายชอบแกล้งหรือไม่ก็มีรุ่นพี่มาจีบ แต่ตอนนั้นก็ไม่เห็นน้องมีใคร หรือว่านี่จะเป็นรักครั้งแรกของน้อง เฮ้อ ปวดหัวเลยครับ เพิ่งประชุมเสร็จ ดันต้องมาเจอเรื่องนี้อีก ดีนะที่ตอนนี้คุณถุงอยู่จีน ไม่อย่างนั่นล่ะก็ วันนี้เขาต้องมากับผมด้วย และอาจจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ
"เริ่มเลยนะ รู้จักเกี๊ยวได้ไง" ผมเปิดประเด็น ตอนนี้เรานั่งกันอยู่ในห้องครัว ผมนั่งคนละด้านกับคนชื่ออิฐ ส่วนเกี๊ยวนั่งข้างผม
"เราเรียนคณะเดียวกันครับ เกี๊ยวเป็นรุ่นน้องผมสองปี" เขาพูดจาดูมั่นใจ
"ใครชอบใครก่อนล่ะ" ผมถาม
"น้องเองครับ .. น้องแอบชอบพี่เขาตั้งแต่มอปลายแล้ว" เด็กข้างๆรีบเสนอตัว ทำไมถึงเดาไม่ผิดนะ ว่าเกี๊ยวต้องชอบก่อนแน่ๆ และน่าจะตามอยู่นานกว่าจะได้เป็นแฟนกัน
"น้องเข้าห้องไป" ผมบอกเด็กข้างๆ
"ครับมี้" ลูกผมทำหน้ามุ่ยเดินเข้าไปแล้ว แต่ผมว่าคงจะไปแอบฟังอยู่แถวนี้แน่นอน
"เป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่" ผมถาม
"เมื่อสองวันที่แล้วครับ แต่คุยกันเดือนนึงแล้ว" เด็กสมัยนี้ไวกว่าที่คิดนะ ตอนผมกับคุณถุงนี่กว่าจะสปาร์คกัน เล่นเอาแขนหักเลย
"เราไม่ได้เป็นเกย์นี่"
"ตอนแรกผมก็สับสนนะครับ .. ถึงอย่างไรตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้เป็นเกย์ .. แต่ผมรักเกี๊ยว"
"คิดว่าไวไปหรือเปล่า" ผมลองเชิง
"คนเรารักกันมันขึ้นอยู่ที่ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่หรอครับ .. บางคนเพิ่งรักกันเป็นแฟนกันแต่อยู่กินจนตาย .. บางคนรักกันมาสิบปีเลิกยังมี" หึ พูดจาฉะฉานดี แต่ยังไม่เคลียร์
"พูดมากไปละนายอ่ะ .. ลองเล่าประวัติคร่าวๆมาสิ"
"ผมเป็นลูกคนโต มีน้องชาย 1 คน พ่อผมรับราชการ แม่ผมไม่ค่อยสบายเลยไม่ได้ทำงาน ผมเรียนโยธาปีสาม เกรดก็พอใช้ได้ครับ บ้านผมไม่รวยเท่าพวกคุณ แต่ผมก็มีอาชีพเสริมของผม" เขาตอบ
"แล้วรู้ได้ไงว่าอิฐจะทำให้เกี๊ยวมีความสุข .. ลูกชายอาชอบคอสมอสมาก .. ชอบบินไปเที่ยวจีน .. ใช้เงินก็เยอะ .. อิฐคิดว่าเงินที่อิฐมีจะพอเลี้ยงลูกอาหรอ" ผมลองเชิง
"ผมไม่ได้มีเงินขนาดนั้น .. อะไรที่ฟุ่มเฟือยผมก็ต้องตัดออก .. ผมต้องส่งเงินให้ที่บ้านใช้ .. ผมมีภาระเยอะ .. แต่ผมก็จะพยายามหาเท่าที่จะหาได้ส่วนหนึ่งทำให้เกี๊ยวมีความสุขครับ .. แม้จะให้ได้ไม่ครบ .. แต่ผมก็จะทำสุดความสามารถ" ตอบได้ดีนี่
"เราสองคนถึงขั้นไหนแล้ว" คำถามสุดท้ายที่ผมอยากรู้
"ก็กอด จูบ ไม่มีอย่างอื่นครับ" อกจะแตกจริงครับ ลูกผมโดนผู้ชายกอดจูบลูบคลำไปแล้ว เกี๊ยวนะเกี๊ยว ถ้าป๊ารู้นะลูกเอ๊ย
"ถ้าอาจะขอให้เลิก .. อิฐจะว่าไง" ผมถาม มันอาจจะมีสักวัน แต่ไม่รู้วันไหน ถ้าเขาผ่านด่านคุณถุงได้สบายก็คงดี แต่นี้เกี๊ยว ลูกในไส้ แถมรักปานดวงใจ
"ผมยืนยันว่าผมไม่ปล่อยมือน้องแน่ๆครับ .. นอกจากว่าน้องจะปล่อยมือผมเสียก่อน" อิฐพูด กำมือแน่น ผมรู้นะครับว่ามันกดดัน แต่ผมต้องทำ ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ เพราะผมไม่เคยได้สัมผัส แต่ตอนนี้ผมต้องพูดกันท่าไว้ก่อน เขาจะได้รู้ว่าหลังจากนี้จะต้องเจออะไรอีก
"เอาล่ะ อามีเรื่องจะถามเท่านี้แหละ อิฐกลับไปได้แล้ว" ผมบอก เขาดูเหมือนยังไม่อยากกลับ คงยังไม่เคลียร์ว่าผมจะให้คบหรือเลิก ผมเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันครับ ตอนนี้ผมทำได้แค่แสกนเบื้องต้นเท่านั้น
"ผมลาล่ะครับ สวัสดีครับ" สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจลาผมแล้วเดินออกไป พออิฐออกไป ลูกผมก็วิ่งมากอดผมเลยครับ เฮ้อ พ่อจะช่วยเรายังไงดีเนี่ยเกี๊ยว
"ฮึ่ก .. สงสารพี่อิฐ" น้องร้องไห้ซะแล้ว ลูกผมนี่งอแงตั้งแต่เด็กจนโต บางคนอาจจะรำคาญนะครับ แต่นี่เราเลี้ยงกันมาเอง เลยรู้ว่านิสัยเขาเป็นอย่างไร
"ไม่สงสารพ่อหรือไงที่ต้องมาร่วมรู้เรื่องนี้ด้วยเนี่ย" ผมพูดขำๆ ดึงน้องมากอด ลูบหัวบาง แล้วจูบไปที่ขมับ รักมากที่สุดเท่าที่จะรักได้
"มี้ครับ .. น้องรักเขา .. น้องรักพี่อิฐ" เจ็บหัวใจดังแปล๊บ เกี๊ยวคงรักเขามากจริงๆ ถึงขั้นออกปากขนาดนี้
"อะไรทำให้เกี๊ยวคิดว่าเกี๊ยวรักเขาครับ .. บางทีมันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้นะ .. หืม" ผมถาม ลูกผมอาจจะยังไม่รู้จักความรักดีพอ
"เกี๊ยวรอเขามานาน .. มี้อย่าให้เราเลิกกันเลยนะ .. น้องอยากอยู่กับพี่อิฐ .. น้องมีความสุขที่ได้คบกับเขา .. เขาไม่เคยตามใจในเรื่องไม่เป็นเรื่อง .. เขายอมเจ็บตัวเพื่อน้อง .. มี้ครับ .. ที่น้องโกหกว่าไปเที่ยวกับเพื่อน .. ที่จริงพี่อิฐพาน้องไปหาพ่อแม่เขา .. พี่อิฐเป็นคนดีมากๆนะ" เกี๊ยวพูดน้ำตาไหล เฮ้อ ยิ่งเห็นแบบนี้ ยิ่งใจอ่อน ผมไม่เคยคิดจะขัดขวางความรักใครครับ แต่ครั้งนี้ผมตัดสินไม่ได้ อย่างไรซะก็ต้องให้คุณถุงตัดสิน
"ไม่เอานะ .. ไม่ร้องแล้ว .. ดูสิตาบวมหมดแล้วครับ .. ไปอาบน้ำนะ .. ออกมาจะได้สดชื่น" ผมจูบหน้าผากเนียนก่อนจะพาน้องเข้ามาอาบน้ำ คืนนี้ผมคงต้องนอนคุยกันยาว ผมเครียดมากนะครับไม่ใช่ไม่เครียด เครียดกว่าตอนฮะเก๋าเสียอีก ตอนนี้คงยังบอกอะไรคุณถุงไม่ได้ คงต้องรอให้ผมดูความประพฤติของสองคนนี้ก่อน ผมคงต้องขึ้นมาหาเกี๊ยวบ่อยๆซะแล้วสิ
ผมเดินลงมาจากตึก ปั่นจักรยานกลับหอ พอจอดก็เดินขึ้นห้องมาอย่างตัวหนักๆ สมองหนักๆ พ่อเกี๊ยวไม่ได้ดูธรรมดาเหมือนพ่อผม เขาเป็นนักธุรกิจ และคงมีเงินมากมายมหาศาล แม้เขาจะไม่ได้ดุ แต่เขาก็พูดจาลองเชิงผมจนสมองผมตันไปหมด ผมกดดันและกังวล กลัวว่าพรุ่งนี้ตื่นมาแล้วจะไม่ได้เจอเกี๊ยวอีก กังวลไปหมดว่าเขาจะจับน้องไปเรียนที่อื่นหรือเปล่า ปวดหัวเลยครับ ไม่เคยเครียดอะไรเท่านี้มาก่อน
พยายามอาบน้ำให้สดชื่น ออกมานั่งวาดรูปงานที่ได้รับ แต่ก็วาดไม่ออก เพราะสมองไม่แล่น อารมณ์ก็ไม่ปกติ อยากจะทักแชทไปหรือโทรไปก็กลัวว่าพ่อเกี๊ยวจะว่าได้ ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากข่มตาให้หลับ แม้มันใกล้จะเช้าแล้ว แต่ผมก็ต้องการหลับ จะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านอีก
"เมื่อคืนนอนไม่หลับหรอครับคุณอิฐ .. หน้าตาดูอิดโรยจัง" มาถึงห้องเรียนผมก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ปาไปตีสาม ผมนอนคิดทั้งคืนเลยครับเรื่องเกี๊ยว
"แต่มึงน่าตาสดใสเชียวนะ" ผมขยี้หัวมัน หมั่นไส้คนมีผัว ไม่เคยคิดเลยนะครับ เฉิ่มๆชอบสร้างเรื่องให้นี่จะได้แฟนกับเขาเหมือนกัน
"แหม ก็นิดนึง .. ตกลงมีอะไรหรือเปล่าครับ" มันถาม
"เมื่อวานพ่อเกี๊ยวมาที่คอนโดฯ เขาเจอกูละ" ผมบอกพลางคิดถึงคำพูดของเขาเมื่อวาน ผมจะทำให้เกี๊ยวมีความสุขได้จริงๆหรอ ผมมันไม่มีอะไรสักอย่าง
"โห ดูท่าพ่อคุณเกี๊ยวจะดุใช่ไหมครับ สภาพถึงเป็นแบบนี้" ผมหลับตาลงทันที คิดไปก็เครียดเปล่าๆ อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด
ผมหลับไปตั้งแต่เข้าคาบ จนถึงเวลาเลิกเรียนไอ้แน่ก็ปลุก เราออกมาด้านนอกกัน วันนี้ผมมีเรียนคาบเดียว เดี๋ยวคงต้องกลับไปวาดรูปต่อ งานนี้ได้เงินเยอะเพราะรายละเอียดรูปวาดยากมาก ผมแยกกับแน่มัน ส่วนเกี๊ยว ตั้งแต่เช้ามันยังไม่โทรหาผมเลย ผมเองก็ไม่กล้าโทรไป วันนี้มันมีเรียนบ่าย ไว้มันเลิกเรียนถ้ามันยังไม่โทรมา ผมค่อยโทรไป
( รูปนี่ต้องเสร็จก่อนอาทิตย์ที่จะถึงนะอิฐ )
"ครับพี่"
ผมวางโทรศัพท์ก่อนจะเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อนแล้วออกมานั่งวาดรูป วันนี้สมองพอจะปลอดโปร่งบ้าง เลยวาดไปได้หน่อยนึง กำลังวาดสักพักก็มีคนมากดออด ภาวนาให้เป็นเกี๊ยวแต่ดูนาฬิกามันน่าจะเรียนอยู่ ปรากฎว่าเป็นพี่ยามเขาเอาของขึ้นมาให้ เป็นรูปหลังเกี๊ยวที่ผมเอาไปใส่กรอบครับ ผมไม่ได้บอกน้องหรอกนะ อยากจะเซอร์ไพรส์น่ะ
"คิดถึงมันว่ะ" ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะเริ่มลงมือวาดรูปต่อ วาดไปครึ่งเฟรมก็ปาไปสี่โมงเย็น ผมเก็บของล้างมือก่อนจะเดินมากูโทรศัพท์ ไม่มีสายเข้าจากมันเลย เริ่มเป็นห่วงแล้วสิ
ตื๊ดด
( ครับพี่อิฐ )
"เป็นไงเรา ลืมพี่แล้วมั้งเนี่ย"
( เปล่านะครับ น้องมาหาอาจารย์ เสร็จแล้วน้องจะไปหานะ )
"ซื้อโกโก้ปั่นมาให้ด้วยดิ ร้อนอ่ะ"
"ได้ครับ"
ได้ยินเสียงมันแล้วค่อยชื่นใจหน่อย ผมเข้าไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนจะออกมานั่งเปิดคอมดูงานที่ต้องส่งอาจารย์ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงครับมันก็มาเคาะประตู สิ่งแรกที่เกี๊ยวทำคือส่งแก้วโกโก้ปั่นมาให้ผมถือแล้ววิ่งเข้ามากอดผม
"คิดถึงงงง" ผมยิ้มออกมาด้วยความดีใจ นี่สินะกำลังใจให้ผมกล้าเผชิญหน้าต่อพ่อของมัน
"ครับผม ปล่อยก่อนพี่จะปิดประตู" มันยอมปล่อยแล้วเอาของที่ซื้อมาไปวางบนพื้น
"พ่อน้องกลับไปแล้วหรอ" ผมถาม
"ตั้งแต่เที่ยงครับ" มันตอบแกะกล่องข้าวผัดหอมฉุน ผมหิวเลยเนี่ย
"ท่านว่าไงบ้าง" ผมถาม
"ท่านตัดสินใจไม่ได้หรอกครับ .. ต้องเป็นอีกคนเท่านั้น" มันดูสีหน้าเหนื่อยใจ หน้าตามันดูไม่สดใสเหมือนก่อน
"แม่น้องหรอ" ผมถาม นั่งลงกินข้าวข้างมัน
"ไม่ใช่ครับ .. ป๊าน้องเอง" ผมงง ก็พ่อมันก็คนนั้นนี่ แล้วป๊าที่ไหนอีก
"ป๊าน้องเป็นพ่อแท้ๆของน้อง .. ส่วนพ่อปรุงเป็นแฟนป๊า .. เขารักกันแบบเรานี่แหละครับ" ผมข้าวพุ่งทันที อย่าบอกนะว่า
"หมายความว่าป๊ากับพ่อรักกัน .. แล้วแม่น้องล่ะ" ผมถาม ว่าแล้วเชียวทำไมพ่อมันดูหน้าตาค่อนไปทางหวาน ดูหล่อแต่ดูมีอะไร
"แม่น้องเสียตั้งแต่น้องยังเด็ก .. พ่อปรุงเลี้ยงเกี๊ยวมาตั้งแต่สามสี่ขวบ .. รักมากนะพี่อิฐ .. พ่อปรุงใจดีกว่าป๊าเยอะ .. นี่ถ้าเรื่องนี้เป็นป๊ามาเจอ เกี๊ยวคงบอกป๊าว่าพี่อิฐเป็นพี่ที่มอ .. ขืนบอกเป็นแฟนได้โดนแขวนคอกันหมดแน่" ว่าแล้วเชียว ทำไมพ่อมันถึงบอกว่าตัดสินใจไม่ได้ ที่จริงคือต้องให้พ่อแท้ๆเป็นคนตัดสินใจนี่เอง
"เขาต้องไม่ชอบพี่แน่ๆ .. พี่ทั้งจนแล้วก็ไม่มีอนาคต" ผมกินข้าวไปพูดไป
"ไม่จริง .. ป๊าไม่คิดแบบนั้นแน่ .. แต่เขาหวงน้องมาก .. พี่อิฐอาจเจออะไรหนักๆ .. แต่เกี๊ยวเดาใจป๊าไม่ออกจริง .. มี้บอกว่าจะยังไม่บอกป๊า .. ขอแค่เรา .. เอ่อ .. เราอย่าเพิ่งทำอะไรมากเกินกว่าจูบ" มันปลอบผมเสร็จ พอพูดถึงเรื่องนี้หน้ามันก็แดงขึ้นมา
"แล้วเกี๊ยวคิดว่าพี่จะทำอะไรล่ะ" ผมถาม มันยิ่งหน้าแดง แสร้งเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ น่ารักจริง
"พี่จะไม่ทำอะไรเราจนกว่าเราจะพร้อม .. ไม่ต้องห่วง .. พี่ไม่ได้คิดแค่เรื่องนั้น" ผมบอก มันรีบหันมายิ้มให้ บางทีแต่กอดกัน จูบกันมันก็มากพอแล้วสำหรับผม
"ขอบคุณนะครับ" มันบอก เรากินข้าวเสร็จก็พากันไปนอนดูหนังในห้องผม จนมันหลับไป ตื่นมาอีกทีสองทุ่ม วันนี้เราต่างคนต่างนอนห้องตัวเองครับ เพราะผมมีงานค้าง ส่วนมันก็ต้องทำงานส่งอาจารย์ เราเลยเฟสคุยกัน จนมันง่วงล่ะครับถึงได้นอน
......
"ใครจะไปคุมน้องปีหนึ่งเข้าค่ายมาลงทะเบียนตรงนี้ครับ" เสียงตะโกนของรุ่นผมดังขึ้นหน้าคณะ เดี๋ยวจะมีค่ายโยธาครับ เด็กปีหนึ่งที่สนใจและพี่ๆที่พร้อมใจไปช่วยดูแลน้อง แต่ผมคงไม่ไป และหวังว่าเกี๊ยวจะไม่ไปด้วย
"คุณอิฐไม่ไปหรอครับ" ไอ้แน่ถาม มันนั่งรอไอ้มิลค์อยู่ เดี๋ยวอีกสักพักคงมา ส่วนเกี๊ยวยังไม่เลิกครับ อีกสิบห้านาที
"ปีก่อนไปแล้ว ปีนี้บายว่ะ" ผมบอก ปีก่อนผมไปมาแล้ว แต่ปีนี้ทั้งวาดรูป ทั้งเกี๊ยว ผมคงไปไม่ได้
"แต่ผมอยากไปนะครับ ผมไปลงชื่อดีกว่า" แน่มันกำลังจะเดินไป แต่โดนมือไวจับไว้เสียก่อน
"จะไปไหน" ไอ้ฝรั่งมาแล้วครับ คนนี่มองกันเต็มเพราะมันกำลังเป็นขวัญใจสาวๆในมอ เก้งกวางก็ชอบมันเยอะครับ
"จะไปลงชื่อเข้าค่ายครับ .. คุณมิลค์รอผมแปปนะครับ" มันพยายามแกะมือ แต่ไอ้นี่ก็ไม่มีวี่แววจะปล่อย
"ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น .. นั่งลง" นอกจากไม่ให้ไปยังบังคับให้แน่นั่งลงข้างๆอีก
"ไปอาทิตย์หน้าครับ ไม่ใช่วันนี้" เอาแล้วครับ เริ่มงอแงบ้างแล้ว
"ไม่ได้ แน่ต้องไปเที่ยวกับมิลค์ลืมไปแล้วหรอ" เออเว้ย เรียกชื่อกันด้วย
"คุณมิลค์ครับ .. แต่แน่อยากไปค่ายจริงๆน ะ" ผมหลุดหัวเราะตอนไอ้แน่ทำหน้าอ้อน ตลกว่ะ
"ไว้คราวหน้านะ .. คราวนี้ไปเที่ยวก่อน" มิลค์มันประลอมเอามือลูบมือแน่ไปมา
"เฮ้อ คุณมิลค์นี่เอาแต่ใจตัวเองที่หนึ่งเลยนะครับ" มันตัดพ้อ ไอ้มิลค์นี่หน้าเอ๋อไปแล้วครับ
"เออ กูเอาแต่ใจ และจะเอามึงด้วย" ไอ้มิลค์ล็อคคอเพื่อนผมแล้วฟัดกันกลางคณะ คนมองกันเต็มครับ แต่ไม่มีใครอาย ทำขนาดนี้แล้ว
"รอนานไหมครับ .. เล่นอะไรกันอยู่อ่ะ" มาแล้วครับคนดี มันเดินมาเกาะไหล่ผมแล้วหัวเราะสองคนนั้น
"ก็คุณมิลค์สิครับแกล้งผม .. น่าเบื่อที่สุด" โอ้โห ผมกับเกี๊ยวหัวเราะลั่นเลยครับ ไอ้แน่แม่งโคตรตรงตามประสา ที่ผมชอบมันก็ตรงนี้แหละครับ
"กลับกันยัง .. เดี๋ยวต้องไปสั่งสอนคุณแน่หน่อย หึ" ไอ้มิลค์พูด เราเลยตกลงว่าจะกลับ
"อย่าให้ฟ้าเหลืองนะโว้ย ฮ่าาา" ผมบอกอีกที ก่อนที่ไอ้แน่จะโดนล็อคคอไปขึ้นรถ เท่าที่ดูคือมิลค์มันก็เกรงๆแน่นะครับ แต่เป็นเรื่องที่มันไม่เสียผลประโยชน์เท่านั้น
"คู่นี้เขาโหดกันจังเลยนะครับ" เกี๊ยวบอกตอนเดินมาเอาจักรยาน
"เอาบ้างป่ะ พี่ก็ทำได้นะ" ผมบอก เกี๊ยวมันรีบส่ายหน้าแล้วขึ้นซ้อนท้ายผม เราขี่มาแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวคนละถุงก่อนจะไปคอนโดมัน
"คืนนี้พี่ต้องวาดรูป เรามานอนห้องพี่ไหม" ผมถาม มันรีบพยักหน้า ผมเลยพามันไปเอาของ แล้วพามาหอผม
"พ .. พี่อิฐ .. รูปนี้พี่อิฐไม่ได้ขายหรอครับ" มาถึงห้องมันเดินเข้าห้องนอนมาก็ตกใจเลยครับ เพราะผมแขวนรูปไว้ที่ผนังตรงข้ามเตียง จะได้มองเห็นทุกวัน
"รูปที่ขายพี่วาดใหม่ส่งไปแล้ว" ผมบอก มันเดินมากอดผมแล้วหอมแก้มผม
"ดีใจจัง น้องนึกว่าพี่จะขายน้องกินซะแล้ว" มันพูดเลยโดมผมโอบเอวกอดไว้
"ก็ว่าจะทำอยู่" ผมแกล้งพูดเลยโดนมันบิดแขนให้ ตัวเล็กแต่แรงเยอะชะมัด
"พี่ชอบรูปนี้ .. พี่จะขายให้ใครได้ล่ะครับหืม" ผมหอมแก้มน้องมัน เป็นรูปแรกก่อนจะรู้ใจตัวเอง ผมชอบรูปนี้มากครับ เลยเก็บไว้ แล้ววาดรูปใหม่ส่งไป
"ขอบคุณนะครับ" เกี๊ยวหอมแก้มผมกลับ จากนั้นเราก็กินก๋วยเตี๋ยวกัน เสร็จผมก็นั่งวาดรูปต่อ ส่วนน้องมันก็นั่งเล่นคอมเน่าๆของผมไปเรื่อย ชีวิตผมก็มีอยู่แค่นี้ล่ะครับ ไม่ได้หวือหวาอะไร ก็มีมันนี่แหละที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตผมให้ดูสดใสยิ่งขึ้น บางทีผมก็คิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้เจอมัน ผมคงไม่ปล่อยมันไปง่ายๆแน่ ถึงจะโดนกีดกันผมก็จะสู้เพื่อเรา
TBC. อย่าเพิ่งบ่นว่าน้อยนะคะ เอาไปรวมกับตอนที่แล้วละกันค่ะไหว้ล่ะ
วันนี้นั่งกดบัตรจนมือล็อค จัดข้าวของเตรียมตัวไปเที่ยวอีก
ประกาศนะคะ คนเขียนจะหายไปฮ่องกง 4 วันค่ะ
กลับมาอีกทีวันศุกร์ ถ้าว่างจะรีบแต่งให้เลยน้าา
ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ อาจน่าเบื่อติได้ตามสบายน้า
ไว้เจอกันค่ะ
