Passion 17
ซ่า...
แชะ
ร่างโปร่งลดกล้องลงพลางเดินย่ำไปตามผืนทรายนุ่มชื้น เสียงคลื่นม้วนตัวกระแทกเข้าหาฝั่งเป็นฟองพรายขาวฟอด ปูลมตัวน้อยวิ่งฉิวเร็วสมชื่อ เปลือกหอยสวยงามถูกคลื่นซัดเข้ามากองกันตามชายหาด นั่นคือสวรรค์สำหรับเจ้าอุหมังหรือปูเสฉวนที่จะเลือกเปลือกสวยๆกำบังตัวเมื่อบ้านหลังเก่าของมันเริ่มเล็กเกินไป วาเลนไทน์หยุดดูพร้อมเก็บภาพอุหมังค่อยๆพาตัวเองเข้าไปในบ้านหลังใหม่ ส่วนท้ายลำตัวของมันอ่อนนิ่มเหลือเกินมันจึงต้องหาสิ่งที่แข็งแรงปกป้องตัวเอง เจ้าปูลากบ้านหลังใหม่สีสวยไต่เตาะแตะหาอาหารไปตามแนวหาด โชคดีของมันที่เกาะนี้ไม่มีใครเก็บเปลือกหอยไปเป็นที่ระลึก บ้านของปูจึงหาได้ดาษดื่น มือเรียวยกกล้องขึ้นซูมเก็บภาพเจ้าปูปั้นทราย นี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วที่วาเลนไทน์ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มมีอิสระเดินเล่นได้ก็ตอนคุณภีมพริษฐ์ทำงานหรือประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนส์นั่นล่ะ นอกนั้นน่ะหรือ แก้มขาวร้อนวูบวาบยามนึกถึงเวลาที่อีกฝ่ายมักจะลากเขาไปนัวเนียหนุบหนับด้วยตลอด อกหนาหนั่นที่ให้วาเลนไทน์เอนพิงหลับตาพริ้มรับลมเย็นยามนั่งดูทะเล ทุกอย่างดูฉาบฉวย วาเลนไทน์เดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายมาอารมณ์ไหนกันแน่ ตั้งแต่คุณภีมลดความโหดและความเยือกเย็นในสายตาลง วาเลนไทน์ก็อดที่จะหวั่นไหวลึกๆกับสัมผัสของเขาไม่ได้
เพียงแต่...ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ของเขา
ทุกอย่างเกิดจากความเข้าใจผิดโดยที่วาเลนไทน์ถูกลากเข้ามาเอี่ยวท่ามกลางความยุ่งเหยิงกราดเกรี้ยวของพายุอารมณ์ เมื่อความจริงกระจ่างวาเลนไทน์ก็ต้องกลับไปยังที่ของตัวเอง
“คุณวาเลนไทน์เชิญทางนี้หน่อยครับ”
อันวาดบอกเสียงเรียบก่อนจะกลับหลังหันเดินนำไป วาเลนไทน์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะรีบก้าวตามอันวาดไป
“รอในนี้นะครับ”
“เดี๋ยวก่อนครับพี่อันวาด มีอะไรหรือครับ พอจะบอกผมได้ไหม” วาเลนไทน์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพอย่างให้เกียรติในที อันวาดนิ่งไปนิด ดวงตาคมจ้องใบหน้าใสนิ่งก่อนจะเอ่ย
“เดี๋ยวคุณก็รู้ รอดูอยู่หลังฉากกั้นนี่ ห้ามออกไปจากบริเวณนี้นะครับ”
อันวาดตอบด้วยความสุภาพโดยดุษฎีเพราะอีกฝ่ายสุภาพกับเขาตลอด
วาเลนไทน์ป่วยการที่จะเซ้าซี้อะไรต่อเพราะพอจะรู้ว่าลูกน้องคนนี้ของคุณภีมปากหนักอย่างหิน ถ้าลองจะไม่พูดแล้ว ง้างไปก็เหนื่อยเปล่า ร่างโปร่งทิ้งตัวลงนั่งรออย่างที่อันวาดบอกทั้งที่ไม่เข้าใจว่าเขาต้องรออะไร ดวงตากวางกวาดสายตาสำรวจรอบบริเวณฆ่าเวลา ห้องนี้เหมือนเป็นห้องเล็กๆแบ่งย่อยจากห้องใหญ่อีกทีด้วยฉากกั้นไม้สักแบบพับแกะสลักฉลุลายมังกรงดงาม วาเลนไทน์นั่งรอด้วยความสงสัยว่าข้างหลังฉากกั้นนั้นมีอะไร ก่อนดวงตาคู่สวยจะเบิกกว้างขึ้นพร้อมเปล่งคำอุทานอย่างไม่เชื่อสายตากับการก้าวเข้ามาของใครคนหนึ่ง
...พริมรตา...
เรือเฟอรรี่หรูหราแล่นเข้ามาจอดเทียบที่เชิงสะพานพร้อมการเหยียบย่างเข้ามาของน้องสาวเจ้าของเกาะ สัญญาณเตือนจากชารอฟทำให้พลอยรัมภาต้องตื่นตัวกับธุรกิจสายการบินของบริษัทในเครือในความรับผิดชอบที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า ร่างสวยสง่าเดินนำบอดี้การ์ดและใครบางคนเข้ามาในสถาปัตยกรรมการก่อสร้างหรูหราริมทะเลเงียบสงบ พลอยรัมภาปรายตามองนิดหนึ่งกับปฏิกิริยาของคนที่พามาก่อนจะเดินเข้าไปข้างในบ้าน
“พี่ชาย”
พลอยรัมภาโผเข้ากอดซบอกพี่ชายด้วยความคิดถึง หลังจากเหตุการณ์คราวนั้นพี่ชายของหล่อนปลีกตัวมาพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวเงียบๆและสั่งงานผ่านการสื่อสารทางไกล ภีมพริษฐ์เหลือบมองร่างระหงของหญิงสาวแสนงดงามที่เคยเคียงข้างกันด้วยสายตานิ่ง กระแสความเจ็บร้าวจากการถูกหักหลังแล่นริ้วในความรู้สึก
“ฆ่าพริมเสียเถอะค่ะ ถ้าภีมจะมองพริมด้วยสายตาเชือดเฉือนเกลียดชังกันขนาดนั้น”
น้ำเสียงหวานสั่นเครือด้วยความรวดร้าวราวถูกเศษแก้วกรีดเลือดไหลพลั่ก
“คุณมาทำไม” เขาถามเสียงเรียบ
“พริมแค่อยากอธิบายอะไรบางอย่างให้คุณฟัง”
“เพิ่งคิดได้ตอนนี้ช้าไปไหม แล้วคุณมาหาผม พ่อของลูก...”
ภีมพริษฐ์จงใจเน้นคำพูดให้ใครคนหนึ่งที่อยู่หลังฉากกั้นได้ยิน
“พ่อของลูกคุณไม่ว่าอะไรหรือ” น้ำเสียงเย็นชาห่างเหินชัดเจนจนรู้สึกได้
“อย่าพูดถึงคนสารเลวที่เก่งแต่ใช้วิธีสกปรกย่ำยีผู้หญิงเลยค่ะ คนแบบนั้นตายไปแผ่นดินคงสูงขึ้น”
เสียงหวานแกว่งเครือ ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวคล้ายแบกรับความทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส
“คุณมีอะไร พริม” เขาจับสัญญาณบางอย่างจากประโยคที่หญิงสาวเอ่ยออกมา
“ขอคุยส่วนตัวได้ไหมคะ” หล่อนร้องขอด้วยสายตาวิงวอน ภีมพริษฐ์พยักพเยิดให้ลูกน้องออกไปจนหมด
“พิ้งค์อยู่ด้วยได้ไหม” เขาถามเผื่อพลอยรัมภา
“ค่ะ” พริมรตาพยักหน้า อย่างไรเสียพลอยรัมภาก็คนในครอบครัวเดียวกัน
“เอาล่ะ บอกสิ่งที่ผมควรจะรู้มาเถอะ”
“พริม...อยากให้คุณดูมันเอง”
หล่อนยื่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนส่งให้ดูคลิปวีดีโอบางอย่างพร้อมปล่อยเสียงร้องไห้โฮ ภีมพริษฐ์นิ่งไปกับภาพเคลื่อนไหวข้างในโดยมีอดีตคนรักยืนกอดตัวเองสั่นสะท้านเหมือนนกบาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้าย
“มัน...เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่พริม ทำไมคุณไม่บอกผม”
ภีมพริษฐ์เงยหน้าคาดคั้นด้วยความคาดไม่ถึง เขาไม่สามารถทนดูคลิปนั้นจนจบได้ ร่างหนาขยับเข้าหาหญิงสาวพร้อมกระชับต้นแขนรั้งตัวเข้าหาพร้อมเอ่ยถาม
“มันเป็นแฟนเก่าที่เลิกรากันเพราะไปยุ่งกับน้องสาวคนละแม่กับพริมค่ะ พอพริมขอเลิกมันเลยเจ็บแค้นพริมมาตลอด พอมันรู้ว่าพริมมีคุณ มันก็เลยวางแผนวางยาพริม แล้วก็ขืนใจพร้อมข่มขู่ พริมกลัวค่ะภีม พริมกลัว ฮือ...”
ร่างบางโผเข้าหาชายหนุ่มพร้อมปล่อยโฮอย่างคนขวัญเสีย วาเลนไทน์ที่แอบดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆมองด้วยความสงสารจับใจ
“ยิ่งมันรู้ว่าพริมจะแต่งงานมันก็ยิ่งรังควาน ฮือ มันจะให้พวกเพื่อนมันมารุมโทรมพริมด้วย แล้วจะปล่อยคลิปประจาน ภีมช่วยพริมด้วยนะคะ พริมพยายามจะหนีแต่มันก็รังควานข่มขู่ ฮือ”
พริมรตาพรั่งพรูทุกความในใจออกมาเหมือนเขื่อนแตกน้ำทะลัก
“พริมกลัวจริงๆนะคะภีม”
หล่อนกระชับอ้อมกอดด้วยความโหยหาเหมือนคนเรือแตกเกาะเศษไม้ลอยมาจนเจอเกาะ
“แล้วคุณได้บอกเรื่องนี้กับใครบ้างหรือเปล่า”
ภีมพริษฐ์อดสงสัยไม่ได้ว่านักสืบของไบรอันทำไมไม่รู้เรื่องนี้
“พริมปรึกษาน้องคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จัก ทำงานร้านดอกไม้ที่ส่งดอกไม้เจ้าสาวให้น้องพิ้งค์น่ะค่ะ เราสนิทกันแบบพี่น้อง เคยไปเที่ยวด้วยกันบ้างช่วงภีมไปอเมริกาเพราะน้องเคยช่วยพริมจากแท็กซี่หื่นกาม น้องคนนั้นแนะนำให้พริมบอกความจริงกับคุณ ฮึก เพราะมีแค่คุณที่ช่วยพริมได้ ฮือ พริมไม่ได้นอกใจคุณนะคะภีม ตอนนั้นพริมกลัวมากเลยไม่กล้าบอกคุณ”
พริมรตาซุกอกแกร่งอย่างคนหมดที่พึ่ง ภีมพริษฐ์หน้าชากับความจริงที่กระแทกหน้าจากปากพริมรตา สายตาคมจดจ้องยังฉากกั้นคล้ายจะให้มันทะลุไปยังคนอีกฟากด้วยความตกตะลึง พริมรตาร้องไห้ตัวโยนไม่ต่างจากวาเลนไทน์ในวันที่ถูกเขาฉุดมา เสียงขอร้องอ้อนวอนยังดังก้องในหู
“คุณภีม ฮึก ได้โปรดอย่าทำผม” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นขอร้องจนคอแหบแห้งของคนที่ถูกเขาขืนใจ ภาพรอยยิ้มชั่วร้ายแสดงความสะใจเหนือร่างบอบช้ำตัวสั่นเทาอย่างคนหมดทางสู้ในวันนั้นภิณท์พังลงไม่มีชิ้นดี ทุกอย่างไหลย้อนกลับมากระแทกหน้าตอกย้ำว่าการกระทำของเขาเองก็เลวทรามไม่ต่างกัน
“คุณมันโหดร้าย ทารุณ”เขาไม่เคยรู้สึกผิดตอนที่สั่งจับวาเลนไทน์มัดติดกับเสาเพื่อเป็นเป้านิ่งทดสอบความแม่นยำในการเหนี่ยวไกปืน ทว่าตอนนี้
“ฆ่าผมเสียเถอะ หากจะทารุณกันขนาดนี้ ฮึก..." ภาพคนเพิ่งฟื้นไข้ที่ฟุบสลบเหมือดคาที่ไปตอนถูกยัดใส่กรงหย่อนลงบ่อจระเข้สั่นคลอนหัวใจอย่างรุนแรงนัก
“ฮึก พริมเกลียด เกลียดลูกมัน!”
เสียงสะอื้นพร้อมกำปั้นที่พยายามจะทุบทำร้ายตัวเองดึงสติเขากลับ ภีมพริษฐ์รีบจับข้อมือบางไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง
“พริมอย่าทำอย่างนี้สิครับ”
“ชีวิตพริมต้องพังเพราะพ่อของมัน พริมเกลียด ฮือ”
“พริมใจเย็น หยุดทำร้ายตัวเองก่อน”
ภีมพริษฐ์รั้งร่างบางซบอกลูบหลังปลอบประโลม ทุกอย่างที่คิดไว้บิดเบี้ยวไปหมด
“พริมไม่เป็นไรแล้วนะครับ คุณจะปลอดภัย ผมสัญญา”
“ภีมให้อภัยพริมได้ไหมคะ พริมขอโทษ”
เสียงหล่อนสั่นเครือ ใบหน้าสวยเงยขึ้นทั้งน้ำตาอาบแก้มส่งสายตาอ้อนวอนจนน่าสงสาร คนในเหตุการณ์อดสลดใจกับชะตากรรมที่หล่อนพบเจอไม่ได้ จนพลอยรัมภาต้องขยับเข้ามาปลอบใจหล่อนอีกคน
“ผมไม่โกรธคุณแล้ว อย่าร้องไห้นะครับ”
เขาเช็ดน้ำตาปลอบโยนพลางรั้งใบหน้างามซุกอกขณะสายตามองไปที่ฉากกั้น...แล้ววาเลนไทน์จะให้อภัยเขาได้ไหม
ภาพเหตุการณ์คลี่คลายปรากฏในสายตาของวาเลนไทน์ตลอด ร่างโปร่งมองด้วยรอยยิ้มบาง กับตอนจบแฮปปี้เอนดิ้ง ในที่สุดเขาก็หลุดจากมลทิน ทว่าบางสิ่งยังหนักอึ้งตกตะกอนในใจจนหน่วงแปลกๆ
“พวกคุณเข้าใจกันแล้ว ผมก็ควรจะไปเสียที”
วาเลนไทน์ยิ้มให้ภาพสองคนที่โอบกอดกันและกันด้วยความเข้าใจจากใจจริง ภีมพริษฐ์เป็นคนเดียวที่จะปกป้องพริมรตาได้ดีที่สุด ร่างโปร่งดึงสติมองหาทางออกให้ตัวเอง
“ผมต้องไปจากที่นี่แล้ว”
วาเลนไทน์พึมพำขณะมองสำรวจออกไปข้างนอก ตอนนี้ภีมพริษฐ์กำลังสนใจอยู่กับพริมรตา ลูกน้องคนอื่นๆรออยู่นอกประตูอีกด้าน วาเลนไทน์มองเห็นเรือเฟอร์รี่ของพลอยรัมภาอยู่เชิงสะพาน ร่างโปร่งใช้เวลาคิดไม่นานก่อนจะค่อยๆเลื่อนประตูย่องออกไป อาศัยความคุ้นเคยที่เคยอยู่ที่นี่หลบหลีกจากสายตาอ้อมไปอีกด้านเพื่อว่ายน้ำไปแอบขึ้นเรือ
“ลาก่อน”
วาเลนไทน์หันมองเกาะใหญ่พร้อมเอ่ยคำลา
“พริมกลับไปกับพิ้งค์ก่อนนะครับ ขอผมเคลียร์อะไรบางอย่างแล้วผมจะตามไป”
ภีมพริษฐ์บอกเมื่อร่างบางในอ้อมกอดคลายสะอื้นบ้างแล้ว
“ภีมจะไม่ทิ้งพริมใช่ไหมคะ”
พริมรตาตัวสั่นเทา เอ่ยปากถามเพื่อความแน่ใจ
“ผมจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณได้อีก”
ริมฝีปากได้รูปจรดลงยังหน้าผากมนยืนยันให้หล่อนสบายใจ พริมรตาออกไปนั่งเล่นริมสระน้ำรอพลอยรัมภาคุยธุระกับชายหนุ่มสักพัก ก่อนจะล่ำลาและเดินทางกลับ ภีมพริษฐ์เดินมาส่งสองสาวที่เชิงสะพาน
“พริมรักคุณนะคะ รักมาก อย่างที่ไม่เคยรักใครได้เท่านี้มาก่อน”
เสียงสั่นเครือขณะโน้มลำคอหนาลงรับจูบอ้อยอิ่งก่อนจะผละออก ร่างบางทอดสายตาอาลัยอาวรณ์ก่อนจะก้าวข้นเรือไป
“พี่ฝากพิ้งค์ดูแลพริมด้วยนะครับ”
ภีมพริษฐ์จูบหน้าผากมนน้องสาวฝากฝัง
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ชาย”
สาวสวยทำท่าตะเบ๊ะรับปากมั่นเหมาะก่อนจะก้าวขึ้นเรือไป ภีมพริษฐ์ยืนส่งสองสาวจนเรือแล่นไปไกลสุดสายตาจึงหันกลับ ยังมีปัญหาใหญ่ที่เขาต้องจัดการ ชายหนุ่มถอนใจเฮือกใหญ่ ภาพใบหน้าใสของคนที่ถูกรังแกผุดขึ้นในความคิด ช่วงขายาวกำลังจะก้าวออกจากสะพานหากลูกน้องคนสนิทกลับวิ่งหน้าตื่นมาหา
“คุณภีมครับ คุณวาเลนไทน์หายไปครับ”
ภีมพริษฐ์หันขวับไปยังทิศทางที่เรือเฟอร์รี่แล่นจากไป
...เป็นไปไม่ได้...
“สั่งคนค้นให้ทั่วเกาะ ยังไงก็ต้องหาตัวให้เจอ”
น้ำเสียงเฉียบขาดสั่งเร็วปรื๋อ สายตาคมยังคงมองไปที่โพ้นทะเลด้วยสังหรณ์ใจลึกๆ
...นายคงไม่ได้แอบหนีไปกับเรือของพิ้งค์ใช่ไหม...
“ชารอฟ ฉันมีเรื่องอยากปรึกษานายหน่อย”
ภีมพริษฐ์เอ่ยขณะใช้โปรแกรมสนทนากับญาติผู้พี่หลังจากคิดไม่ตกมานานพอดูเมื่อคนของเขาแจ้งมาว่าหาวาเลนไทน์ไม่เจอ หลังจากค้นหาทั่วเกาะ
“หืม เรื่องอะไรหรือ”
เพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ตื่นตัวขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน หายากที่ญาติผู้น้องจะเอ่ยปากขอความคิดเห็นจากเขา
“นาย...เคยมีปัญหาแบบ รักอยู่กับคนหนึ่ง แต่คิดถึงอีกคนเพราะทำผิดกับเขาไหม”
“รักพี่เสียดายน้องน่ะหรือ”
“ไม่เชิง ฉัน...รู้สึกผิดกับใครคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาหนีฉันไปแล้ว ไม่ยอมอยู่รอฟังคำขอโทษจากฉัน”
“โอ ถ้าให้เดา นายคงทำให้เขาโกรธชนิดที่ตายก็คงไม่ยอมมาเผาผี”
ภีมพริษฐ์นิ่งไป คิ้วเข้มขมวดหากันเมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยทำ
“พริมกลับมาแล้ว ฉันเข้าใจผิดไปและเด็กคนนั้นก็หนีฉันไปแล้ว”
“โอ๊ะ โอ ลูกกวางขวัญเสียสินะ ถึงหนีไปโดยไม่ยอมรับคำขอโทษจากนาย”
“ฉันควรจะทำยังไง”
“ไม่ต้องห่วง นายก็มีความสุขกับพริมไปไง ส่วนลูกกวางเดี๋ยวฉันปลอบใจให้เอง”
“ชารอฟ!”
ภีมพริษฐ์เสียงดังอย่างขัดใจที่ญาติผู้พี่ดูจะเห็นเป็นเรื่องเล่นไปเสียทุกเรื่อง
“เอาน่า แล้วเด็กในท้องพริมนายจะให้ทำยังไง จะให้เอาออกหรือเปล่า”
“ไม่รู้สิ ความจริงจากปากพริมมันกระแทกหน้าฉันจนมึนตึ๊บไปหมด แล้วนี่วาเลนไทน์ก็มาหนีไปอีก”
“ลูกกวางชื่อวาเลนไทน์สินะ ชื่อน่ารักเข้ากับหน้าเชียว เอาเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาลูกกวางมาล่องเรือสำราญพร้อมโปรโมชั่นปลอบใจแบบฝันหวานจนลืมความโหดร้ายของนายเลยทีเดียว อา คิดแล้วอยากลูบสะโพกแน่นขาวเนียนนั่นจัง”
ชารอฟเลียริมฝีปากด้วยท่าทางเซ็กซี่ขยี้ใจแบบที่สาวๆเห็นแล้วยอมพลีกายให้ด้วยเสน่ห์แพรวพราวของคลาสโนว่าตัวพ่อ
“ชารอฟ! นี่นายจะทำสงครามกับฉันใช่ไหม!”
TBC