[ มนต์รักข้าวมันไก่ ] (〇´∀`〇)....จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ มนต์รักข้าวมันไก่ ] (〇´∀`〇)....จบแล้ว  (อ่าน 84823 ครั้ง)

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************











มนต์รักข้าวมันไก่





บทนำ




เช้าวันเสาร์วันสุดท้ายของสัปดาห์ อากาศสดชื่นแจ่มใสเสียงนกร้องจอกแจกคลอไม่ขาด สายลมเย็นๆของฤดูหนาวพัดผ่านผิวกายให้รู้สึกหนาวนิดๆสมกับเป็นกลางเดือนพฤศจิกายน เด็กหนุ่มหน้าตาดีนาม’อิน’ยกมือขึ้นลูบต้นแขนขณะเดินทอดน่องไปตามพื้นขรุขระด้วยความเร็วระดับเต่าแซงได้เนื่องด้วยเมื่อคืนเขาไปตระเวนเที่ยวกลางคืนเพื่อฉลองวันเกิดเพื่อนสนิท ฤทธิ์สุราที่ดื่มเข้าไปยังคงทำหน้าที่อย่างขันแข็ง

ใบหน้าคมได้รูปบูดบึ้งตามอารมณ์  ในใจนึกก่นด่าเหล่าสหายตัวแสบไม่หยุด

สักครู่นี้เขาเพิ่งแยกกับเพื่อนกว่าเจ็ดชีวิตที่ยัดกันมาบนแท็กซี่เพียงคันเดียวเพื่อความประหยัด เนื่องจากหอพักของเขากับเหล่าสหายที่เหลือนั้นเลี้ยวไปคนละทาง แน่นอนว่าเด็กมหาลัยวัยอดออมอย่างพวกมันไม่มีทางบอกให้คนขับอ้อมมาส่งเขา ผลที่ได้คือโดนเฉดหัวส่งให้มาเดินโซซัดโซเซคนเดียวตามรางรถไฟตอนมืดๆ...

คุณไม่ได้อ่านผิดหรอกครับ มืด ใช่มันมืดมากรายทางปราศจากแสงไฟนีออน เวลาตอนนี้น่าจะตีห้าได้แล้วถ้านี่เป็นฤดูร้อนเขาคงได้เห็นแสงตะวันอ่อนๆส่องมา น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว

ทางรถไฟทอดยาวเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ทั้งสองด้านเป็นที่ดินรกร้างเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมช่างเป็นภาพที่หาได้ยากใจกลางกรุง หากได้มาเดินตอนกลางวันคงสวยไม่ใช่น้อย เสียงเหยียบใบไม้ดังขึ้นตามย่างก้าวของเด็กหนุ่มนั่นทำให้เจ้าตัวรู้สึกอุ่นใจเป็นอย่างมาก แน่หละ...ถ้ามันมีเสียงฝีเท้าอื่นนอกจากของเขาดังขึ้นคงน่ากลัวไม่น้อย...

‘แกรบ’

ยังไม่ทันสุดความคิดเสียงรอยย่ำบนใบไม้จากแหล่งกำเนิดเสียงอื่นก็ดังขึ้นทันที เด็กหนุ่มผวาสุดตัวก่อนจะหันไปเห็นเงาร่างตะคุ่มๆเดินมาทางเดียวกับตนท่ามกลางความมืดทำให้เขามองเห็นอีกฝ่ายไม่ชัด

คนหรือผี? คำถามที่ผุดขึ้นในใจที่กำลังเต้นรัวตึกตัก

โดยไม่รอคำตอบเด็กหนุ่มรีบหันขวับกลับทางเดิน อาการเดินเป๋เมื่อครู่หายสนิทราวกลับกินยาแก้เมาเข้าไป ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครมาจากไหนการพบกันท่ามกลางสภาพแวดล้อมอำนวยต่อการจี้ชิงทรัพย์เช่นนี้ย่อมไม่เป็นเรื่องน่ายินดี

ความมืดที่ปกคลุมโดยรอบหรือจะสู้ความกลัวที่เข้าครอบคลุมจิตใจ ร่างโปร่งรีบจ้ำเท้าหนีอย่างไม่กลัวจะสะดุดก้อนหินล้มหัวทิ่ม ระยะทางเหลืออีกไม่กี่สิบเมตรก็จะพ้นเขตที่ดินร้างเป็นถนนใหญ่ย่านชุมชน เมื่อออกไปถึงที่นั่นได้ก็จะมีร้านขายปาท่องโก๋อยู่ซึ่งนับว่าปลอดภัยแล้ว

‘ผลัก!!’

“เฮ้ยยย! อะไรเนี่ย!?” ก่อนที่จะได้พบกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์(?) ร่างโปร่งก็เดินไปชนกับอะไรบางอย่างที่ห้อยลงมาจากกิ่งไม้ใหญ่อย่างจังจนเจ้าตัวเสียหลักเซถอยหลังไปก้าวครึ่ง

อินสะบัดใบหน้าหล่อๆสองสามทีเพื่อไล่ความมึนงง ก่อนสายตาจะปรับโฟกัสพินิจสิ่งที่ห้อยต้นไม้โตงเตงอยู่ตรงหน้าอย่างสงสัย
ขา?น่าจะเป็นขาคนนะถ้ามองไม่ผิด แม้จะยังมืดอยู่แต่ใกล้ขนาดนี้ทำให้เขาแยกแยะภาพที่เห็นได้

ตามสัญชาติญาณความอยากรู้อยากเห็น(เสือก)ของมนุษย์เนตรคมค่อยๆมองไล่ระดับขึ้นไปข้างบนเพื่อหาจุดสูงสุดของเจ้า’สิ่ง’ตรงหน้า

เริ่มจากรองเท้าแตะเก่าๆที่หล่นอยู่กับพื้น คาดว่าน่าจะหลุดออกมาจากเท้าเปลือยหยาบกร้าน ถัดมาคือขาคู่ที่เขาเห็นเมื่อครู่ ถัดขึ้นไปอีกคือช่วงตัวและแขนทั้งสองข้างที่แกว่งไปมาเนื่องจากแรงชน ถัดขึ้นไปอีกนิดก็เจอเข้ากับเชือกป่านพันรอบคอหลายทบ

สุดท้ายถัดขึ้นไปก็พบกับ...กับ...กับ...!!!

ไม่ถัดแล้วโว้ยยยยยย!!

“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!”

มองยังไงนี่มันก็คนแขวนคอฆ่าตัวตายชัดๆ!!

ขาทั้งสองข้างที่ควรจะขยับใสเกียร์หมาเผ่นออกจากที่เกิดเหตุกลับหมดเรี่ยวแรงทรุดลงไปกองแนบชิดกับรองเท้าแตะเก่าๆข้างที่เกิดเหตุเสียแทน

“แม่จ๋า...ฮือออ”ความแมนที่สะสมมาตลอดช่วงชีวิตยี่สิบปีพังทลายลงในพริบตา นักศึกษาหนุ่มเบิกตาค้างนั่งตัวสั่นร้องหาแม่อยู่กับพื้นแทนที่จะหลับหูหลับตาแล้วลุกขึ้นวิ่ง หากแม่มาเห็นคงโดนด่าว่าโง่...

‘แกรบ’ เสียงเหยียบใบไม้ปริศนาตอนแรกดังใกล้ขึ้น โอยยยย นี่มันเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หนีเสือปะจระเข้ หนีคนมาเจอศพแท้ๆเลยไอ้อินเอ๊ยยย!! คอยดูนะถ้าเจอหน้าไอ้เพื่อนตัวดีทั้งหลายเมื่อไหร่พ่อจะเฉ่งให้หน้าแหกเลย มีอย่างที่ไหนปล่อยเพื่อนผู้น่ารัก เรียบร้อย พูดน้อยและขี้อาย(?)มาเดินต๊อกๆในที่เปลี่ยวยามวิกาลคนเดียว

หมับ! มือปริศนาคว้าเข้าที่หัวไหล่ของคนขวัญอ่อน อินผู้ขวัญกระเจิดกระเจิงไปไกลแล้วรีบหันขวับไปมองเจ้าของมืออย่างตกใจ

ก่อนจะพบเข้ากับ!

กับ!!!

กับ!!!!

ผู้ชายหล่อๆคนนึง...?

“คุณเป็นอะไร...เห้ยยยย!?”เสียงทุ้มเอ่ยถามไถ่อย่างเป็นห่วง เขาได้ยินคนตรงหน้าร้องจ๊ากลั่นเลยรีบวิ่งมาดูแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปยังจุดเดียวกับที่คนคนนี้มองเขาก็พบกับคำตอบ...เพราะเขาก็แหกปากร้องเสียงหลงเช่นกัน...

เมื่อเห็นว่าคนมาใหม่ท่าทางไม่มีพิษภัยอะไร แถมได้เพื่อนร่วมชะตากรรมมาเพิ่มอีกหนึ่งขาที่อ่อนยวบของอินก็กลับมาฟิตปั๋งอีกครั้งมิหนำซ้ำยังมีน้ำใจลากแขนของร่างสูงให้ปลิวติดมือตามไปด้วย

ทั้งคู่วิ่งออกมายืนหอบแห่กๆตั้งหลักอยู่ข้างร้านปาท่องโก๋ที่มีแต่รถเข็นไร้วี่แววคนขาย เมื่อสติเข้าที่เข้าทางดีแล้วอินจึงเงยหน้ามองอีกฝ่ายตาปริบๆ เพราะเมื่อกี้มันมืดและไม่ใช่เวลามามองหน้าใครเขาจึงไม่ทันสังเกตเครื่องหน้าของคนคนนี้ แต่ตอนนี้วินาทีที่สบเข้ากับดวงตาสีนิลดำลึกดึงดูดชวนให้มอง เขาก็อดชื่นชมในความหล่อเหลาของคนตรงหน้าอีกครั้งไม่ได้

ในชีวิตของอินพบเจอคนหน้าตาดีมามากแต่ใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของเขาตอนนี้ผิดแปลกออกไป มันมีเสน่ห์มากกว่าใครทั้งหญิงชายที่เคยพบเจอมา

“เอ่ออ...เราปล่อยเขาไว้อย่างนั้นจะดีเหรอ?” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกเขาให้หลุดออกจากภวังค์

อินเหลือบตามอง’เขา’ที่ยังคงห้อยอยู่ที่เดิมอย่างหวาดๆ แต่ก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายพูดถึงจะน่ากลัวแต่ก็ปล่อยไว้แบบนั้นไม่ได้ ยิ่งหันซ้ายหันขวาก็ไม่มีวี่แววของร้านแผงลอยต่างๆที่มาขายเป็นประจำแล้วยิ่งตอกย้ำได้ว่าพวกเขาสองคนต้องแก้ไขสถานการณ์นี้กันเพียงลำพัง...

“เดี๋ยวผมโทรแจ้งตำรวจให้ เราไปนั่งรอตรงนั้นกันก่อนเถอะ”เมื่อเห็นว่าอินทำหน้าเหรอหรามองหาตัวช่วยเลิกลั่กร่างสูงก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะดึงข้อมือขาวให้เดินตามไปนั่งที่พื้นต่างระดับหน้าร้านข้าวมันไก่ที่ยังไม่เปิด เจ้าตัวเองก็ยอมเดินตามไปอย่างว่าง่าย
 
“ซวยชิบหาย”อินยกมือขึ้นยีผมจนกระเซิง คำพูดแรกท่ามกลางบรรยากาศเงียบแปลกๆทำให้อีกคนหนึ่งไม่รู้ว่าคำคำนั้นกล่าวกับตนหรือแค่บ่นกับตัวเองลอยๆ

หลังโทรแจ้งความเสร็จ ตำรวจก็บอกให้พวกเขาอยู่รอให้ปากคำก่อนเพราะเป็นผู้พบศพรายแรก

ถ้าตำรวจมาถึงภายในสามสิบนาทีก็คงดี แต่แน่นอนว่าคนในเครื่องแบบขับรถขาวดำไม่ใช่เด็กส่งพิซซ่า สามสิบนาทีอาจยาวนานถึงสามชั่วโมง...

“ผมชื่อพัด ยินดีที่ได้รู้จักนะ”ชายหนุ่มที่เขาเพิ่งทราบชื่อหยกๆเอ่ยแนะนำตัวด้วยภาษาสุภาพชวนให้คิ้วเรียวกระตุกขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ชื่ออิน เป็นคนหยาบคาย อายุเท่าไหร่ว่ามาจะได้ใช้ภาษาถูก”คนหยาบคายพูดเสียงห้วนทำเอาคู่สนทนาชะงักไปเล็กน้อย เมื่อกี้ยังหน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่เลยทำไมถึงเปลี่ยมอารมณ์เร็วนัก?

เนื่องจากพัดเพิ่งรู้จักกับอินได้ไม่ถึงห้านาทีดีเขาจึงมองความจริงง่ายๆตรงหน้าไม่ออก คนอย่างนายอิน อัครินทร์ ไอศวรรย์ นั้นเกลียดความพ่ายแพ้ ขี้เก๊ก ปากหมา หน้าด้าน และกลัวผี แต่ที่กลัวยิ่งกว่าคือกลัวเสียฟอร์ม...

การเก็บเศษหน้าเป็นสกิลติดตัวที่นายอัครินทร์ฝึกจนเวลตัน แค่ล้มพับขาอ่อนตอนเจอศพไม่ทำให้มาดเถื่อนที่แสนภูมิใจของเจ้าตัวหายไปได้

“ตอนนี้เรียนอยู่ปี2 อายุ19” พัดตอบกลับไปนิ่งๆ หากประเมินด้วยสายตาแล้วคนปากดีตรงหน้าน่าจะอายุไล่เลี่ยกัน

“เท่ากัน คณะอะไร มหาลัยอะไรวะ?” เป็นจริงดังคาดที่พวกเขาทั้งสองคนเรียนอยู่ชั้นปีเดียวกันเป๊ะ อินจึงถามออกไปว่าอีกฝ่ายเรียนที่ไหนเพราะแถมนี้มีมหาลัยอยู่หลายแห่ง ทั้งที่มีชื่อเสียงและไม่มี ไหนๆก็ต้องนั่งตากยุงรอตำรวจแล้วก็หาเรื่องชวนคุยมันซะเลยตามประสาคนอัธยาศัย(ไม่)ดี

“เอาที่อยู่กับเบอร์โทรด้วยเลยไหม?” ถามดีๆแต่ก็โดนย้อนกลับมาซะนี่ งานนี้คงไม่ได้นั่งจิบชาชมวิวคุยกันสบายรอตำรวจกันแล้ว มันต้องมีกัดแขวะกันเสียหน่อย

“ไอ้หะ...”

เอี๊ยดดดดด...

ยังไม่ทนได้ต่อความเสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนก็ดังขึ้นสะท้านหู สองหนุ่มรีบลุกขึ้นทันทีเมื่อพบว่ารถดังกล่าวคือรถตำรวจ อินเหลือบมองนาฬิกาที่เขาจับเวลานั่งรอเอาไว้...หากเป็นพิซซ่าจริงคงได้กินฟรี...

เจ้าหน้าที่สองนายลงมาจากรถคนหนึ่งเข้ามาสอบถามรายละเอียดส่วนอีกคนลงไปเก็บร่างผู้เสียชีวิตลงมา

เรื่องราวต่างๆดำเนินไปได้ด้วยดี ตำรวจทั้งสองอนุญาตให้พวกเขากลับบ้านได้หลังจากเจ้าของร้านรวงบริเวณนั้นมาทยอยเปิดขายก็ได้ข้อมูลจำเป็นเกี่ยวกับคดีจนครบ เป็นอันสรุปได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายจริงๆ

ผู้ตายคือแรงงานต่างชาติที่หางานทำไม่ได้จึงลงเอยด้วยวิธีนี้ น่าเศร้า...เด็กมหาลัยทั้งสองตั้งใจไว้ว่าเช้านี้จะกลับไปตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เสียหน่อย

“งั้นไปนะ”

“อืม บาย” อินโบกมือลาพัดที่ขอตัวกลับที่กลับทางของตัวเองด้วยท่าทีเนือยๆเนื่องมาจากความง่วงที่รุมเร้าก่อนเจ้าตัวจะข้ามถนนเดินตรงไปยังหอพักที่อยู่ลึกเข้าไปในซอย เมื่อถึงที่หมายร่างโปร่งก็พุ่งตัวเข้าไปซุกอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆอย่างโหยหาราวกับพลัดพลากจากมันมาแสนนาน

ปิดตาลืมเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้น ลืมแม้กระทั่งเรื่องที่บอกว่าจะทำบุญตอนเช้าทั้งๆที่ตอนนี้ก็คือตอนเช้าที่ว่านั่นแหละ
.

.

.
ผลัดออกไปพรุ่งนี้แล้วกัน...
.
.
.



จบบทนำแล้วค่าาา ยังไงก็ขอฝากนิยยายน้อยๆเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ #โค้งคำนับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2015 17:24:24 โดย nikkou »

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ลืมไปทำบุญแบบนี้ ผีจะมาหลอกนุ้งอินมั้ย?
 :hao4: :hao4: :hao4:

เนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลยค่ะ
ชื่อเรื่องเกี่ยวกับข้าวมันไก่ แต่เปิดมาก็เจอศพเลย
นี่เดาไม่ออกเลยว่าจะไปทางไหน 5555 แต่ก็น่าสนใจ

รอลุ้นอีกทีตอนหน้านะคะ ^^

ออฟไลน์ jamelovelove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-5
แวะมากดบวกกกไห้นะ
ตั้งหน้าตั้ง ตารอรอรอรอรอ ออออออออ่านะ
เนื้อเรื่องน่าจะสนุกอ่านะ
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หิว อยากกินข้าวมันไก่

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ติดตามจร้า

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
้ข้าวมันไก่ มีความหมายแฝงเป็นพลังงานรูปหนึ่ง รึเปล่า?
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2014 09:55:05 โดย sirin_chadada »

ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
โอ้!!!!! o13

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
รอติดตามจ้าาา

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
ต้องจัดสักจานแหละ
บวกและเป็ดเป็นกำลังใจ
สวัสดีปีใหม่
 :mew1:

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4


บทที่1เพียงครั้งเดียวในชีวิต



          บอกว่าจะลืมแต่ใครที่ไหนเล่าจะลืมกันได้ง่ายๆ หลับตาลงทีไรก็เจอ ภาพของเธอลอยขึ้นมา มันช่างแจ่มชัดในความทรงจำ ทั้งใบหน้านั่น ลำตัว เรียวแขน ปลายขา และรองเท้าแตะที่ตกกองอยู่ข้างๆร่างของเธอ


          ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก


          ขณะนี้เวลาแปดนาฬิกา


          เสียงเพลงชาติดังจากเครื่องกระจายเสียงของชุมชนเล็ดรอดเข้ามาในหอพักเล็กท้ายซอย ดังกล่อมเด็กหนุ่มมหาลัยปีสองเจ้าของห้องผู้นอนคลุมโปงแน่นิ่งไม่ยอมลุกออกจากเตียงแม้ตะวันจะแยงก้น ร่างของเขานิ่งมาก นิ่งจนเหมือนกับไม่ได้หลับแค่ไม่กล้าขยับเท่านั้น...


          โอ๊ยยยย ตาย ไอ้ชิบหาย!! ออกไปจากหัวกูเดี๋ยวนี้นะ บอกแล้วไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ทำบุญให้ ไม่ลืมหรอกน่า!! ไปได้แล้วคนจะหลับจะนอน!!


          อิน นักศึกษาคณะวิศวะปี2 กำลังพยายามต่อสู้อย่างหนักกับภาพที่ติดตาเขาอยู่ มันคงติดแน่นมากเพราะไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไปเสียที รู้ถึงไหนได้อายถึงนั่น นายอัครินทร์หัวโจกคุมภาคเคมีกำลังนอนหัวหดกลัวผีตัวสั่น


          ให้ไปเดี่ยวกับเด็กช่างกลสิบยี่สิบคนนี่ไม่มีลังเล แต่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาขอยกธงขาวยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ สมองอันน้อยนิดพยามคิดหาทางออกจากสถานการณ์น่าสิ่วน่าขวัญ(?)นี้ เพลงชาติแสนคุ้นเคยจบไปแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงประกาศตามสายของประธานชุมชนเรื่องที่วันพรุ่งนี้การไฟฟ้าจะดับไฟทั้งวันเพื่อเดินสายไฟใหม่อะไรสักอย่างฟังไม่ค่อยชัด...


          อ๊ะ เดี๋ยวๆๆๆ ดับไฟทั้งวันเหรอ หืม? วันนี้วันเสาร์พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์ เขาไม่มีเรียนเพื่อนเขาก็ไม่มีเรียน


          รอยยิ้มจุดขึ้นที่มุมปาก เด็กหนุ่มรีบกระโจนไปคว้ามือถือที่เสียบชาร์ตไว้กับพื้นอย่างรวดเร็ว


          “ตื๊ดด ฮัลโหล?” เสียงรอสายดังไม่ถึงวิปลายสายก็กดรับ มันต้องอย่างงี้สิ ดีดี ของเค้าน่ารักเสมอ


          “อินมีอะไรเหรอ โทรมาแต่เช้า ฮ้าวววว”เสียงงัวเงียอื้ออึงจากอีกฝ่ายบอกให้รู้ว่ายังไม่ตื่นดี แน่หละก็ เจ้าดีดีเองก็ไปตระเวนเที่ยวด้วยกันมาเมื่อคืนเช่นกัน


          “พรุ่งนี้ที่หอเค้าจะดับไฟทั้งวันหวะ”เสียงห้าวเอ่ยอย่างไม่เกรงใจคนจะหลับจะนอน
 

          หากจะให้พูดถึงผู้ชายคณะวิศวะก็ต้องมาคู่กับความแมน ความเถื่อน รวมฝูงกันเยอะๆ ตั้งโต๊ะแซวสาวหาเรื่องตัวผู้ ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ซึ่งทั้งหมดนั้นรวมอยู่ในตัวของอิน จนเจ้าตัวแทบจะกลายเป็นซิกเนเจอร์ของคณะเลยก็ว่าได้ แต่คุณสมบัติทั้งหมดที่ว่ามานั้นมันไม่มีอยู่ในตัวของเพื่อนในกลุ่มนามดีดีคนนี้เลยแม้แต่น้อย


           ดีดีนั้นดี๊ดีตามชื่อ ซื่อๆมีน้ำใจ มีคนโทรมาปลุกเป็นอินคงด่าเปิง มีคนบอกว่าไฟจะดับอินคงไล่ให้ไปเดินห้าง ใช่แล้ว!! ถ้าอินจะโต้กลับไปอย่างนี้หละก็ มนุษย์ตรงข้ามขั้วอย่างดีดีจะต้องอ้าแขนรับเขาอย่างอ่อนโยนเป็นแน่

 
          “อืม จะไม่มีไฟใช้ทั้งวันเลยสินะ งั้นพรุ่งนี้อินมาค้างห้องเรามั้ย?” โป๊ะเช๊ะ!! เป็นไปตามแผนของนายอินเป๊ะ


          “ไปวันนี้เลยได้มะ?”อินหน้าด้านถาม เรื่องไฟดับเป็นเพียงฉากบังหน้า ความจริงก็แค่ปอดแหกไม่กล้าอยู่ห้องคนเดียว


          “ห๊ะ เอ่อ...ก็ได้ๆ อย่าลืมเอาเสื้อมาด้วย ไม่มีกางเกงในให้ยืมนะ”


          “ตอนนี้เลยได้มะ?”คนหน้าด้านก็ยังคงหน้าด้านต่อไป


          “มาถึงแล้วก็โทรเรียกแล้วกันเดี๋ยวลงไปรับ”คนดีก็ยังเป็นคนดีต่อไป


          .


          .


          เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระป๋าวววว สองมือสองไม้ระดมค้นตู้เสื้อผ้า คล้าเสื้อได้ตัวก็ยัดๆใส่เป้ใบใหญ่โดยไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าในกระเป๋ามีอะไรแล้วบ้าง


          “เสร็จ!!” อินรูดซิปกระเป๋าเคราะห์ร้ายโดนเจ้าของยัดเสื้อใส่จนแทบปริ ก่อนจะคว้ากุญแจเดินออกจากห้องไปอย่างสบายอารมณ์


          จุดหมายของเขาตอนนี้ก็คือคอนโดหรูยี่ห้อดังพูดชื่อไปใครๆก็ร้องอ๋อของดีดีเพื่อนรักซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากหอพักของเขามากนัก


          นึกแล้วได้แต่ถอนหายใจ ที่เห็นในนิยายว่าเด็กมหาลัยนั้นจะได้อยู่คอนโดใจกลางกรุง ขับรถเก๋ง เที่ยวผับเมาหัวราน้ำยามราตรีนั้นตอแหลสิ้นดี


          ตัวเขาที่อยู่ในคณะดังของมหาลัยดังกลางเมืองหลวงยังเจอเพื่อนที่ได้อยู่คอนโดหรือมีรถขับแบบนับหัวได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเที่ยวเอาสาวตอนกลางคืนเลย แค่เอาแรงไปทำรีพอร์ตแล็ปอ่านหนังสือสอบก็แทบสำลักลมปราณแตกซ่านแล้ว จะมีก็แค่โอกาสพิเศษนอกช่วงสอบอย่างเมื่อคืนที่มีโอกาสปล่อยผีกัน


          แต่กระนั้นไอ้หนูติ๋มดีดีกลับมีทั้งรถทั้งคอนโดพร้อมสรรพด้วยหน้าตาหล่อตี๋น่ารัก ดูเป็นมิตรเข้าถึงได้ง่ายในสายตาผู้หญิง หัวกะไดไม่เคยแห้ง เปลี่ยนแฟนมาเยอะกว่าเขาเสียอีก จะใช้คำว่าเยอะกว่าก็ไม่ถูกนักเพราะนายอินคนนี้โสดสนิทนับรวมเวลาในท้องแม่ด้วยก็ยี่สิบปีพอดิบพอดี


          แม้จะน่าหมั่นไส้แต่ก็เห็นแก่ความดีของมันนายอินผู้ไม่ยอมคนจึงยอมปล่อยให้ข้ามหน้าข้ามตาไป...


         “หอบข้าวหอบของขนาดนั้น จะหนีตามสาวที่ไหนละอิน”เสียงแหบของลุงยามเอ่ยทักเมื่อเห็นร่างโปร่งเปิดประตูหอพักออกมา...ยามที่นี่ทำงานดีมาก(เกินไป) จำชื่อจำห้องของผู้เช่าได้หมด


             “ไปค้างห้องเพื่อนหนะลุง!! ผมไม่อยู่สักพักไม่ต้องคิดถึงนะ บาย!!”ทักทายประหนึ่งเพื่อนเล่น นายอินผู้หยาบคายโบกมือหยอยๆลาคนอาวุโสกว่าอย่างเด็กไม่มีมารยาท...มือแข็งไม่รู้จักว่ายผู้หลักผู้ใหญ่


          ร่างท้วมผิวเข้มโบกมือกลับอย่างไม่ถือสา อาจเพราะเคยชินกับพฤติกรรมเช่นนี้ของเด็กหนุ่มแล้วก็เป็นได้


             ปิ๊นๆ!!


             “บีบแตรหาพ่อมึงเหรอ!? ทางมันแคบแหกตาดูบ้างเซ่!! กลับไปบีบนมเมียที่บ้านไป๊!!!!”


              ท่ามกลางซอยคับแคบรถแล่นได้แบบวันเวย์ เด็กหนุ่มหน้าตาไม่รับแขกตะโกนด่าเจ้าของรถเก๋งสีแดงอย่างหงุดหงิด อินไม่ค่อยได้เดินออกมาหน้าหอในช่วงเวลาเร่งด่วนแบบนี้นัก เพราะต้องคอยซิกแซกหลบทั้งคนเดินสวนกันขวักไขว่ ทั้งรถเข็นขายอาหารตั้งขนาบสองข้างทาง ถนนที่แคบอยู่แล้วยิ่งแคบลงไปอีก ไหนจะหลุมบ่อน้ำเน่าขังบนพื้นอีก


           ... นี่ถ้ามีเหรียญให้เก็บด้วยคงคิดว่าตัวเองอยู่ในเกมส์มือถือ


              “ใจเย็นน่าๆ”ในขณะที่หัวโจกวิศวะกำลังหัวเสียกับอุปสรรคตามรายทางอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงทุ้มนุ่มฟังดูคุ้นหูดังขึ้น อินขมวดคิ้วอย่างสงสัยพลางมองซ้ายมองขวาหาต้นเสียง จำได้ว่าแถวนี้ไม่มีคนรู้จักอยู่


          “เอาแต่ทำหน้าบึ้งตลอดเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก”เจ้าของเสียงที่ว่าคือ พัด คนที่เพิ่งรู้จักกันสดๆร้อนๆนี้เอง



______________________________50 %______________________________

มาต่อแล้วๆๆ

ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์นะคะ

ขอให้ปีใหม่ปีหน้าเป็นปีที่ดีค่าาาา #โค้งคำนับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
______________________________50 %______________________________

          อินเดินไปหาร่างสูงที่นั่งจ้องจานข้าวมันไก่อยู่ในร้าน “อยู่หอแถวนี้เหรอมึง?” ทำไมไม่เคยเห็นหน้า หน้าเด่นขนาดนี้เดินสวนกันก็ต้องพอจำได้บ้างแหละ


          “พอดีเพื่อนยืมคอนโดคืนนึง กูเลยมาค้างห้องมันแทน”พัดตอบแบบไม่ละเอียดแต่อินก็พอเดาสถานการณ์ได้  เพื่อนไอ้พัดคงยืมคอนโดไปคั่วสาวส่วนเจ้าของห้องก็ต้องระเห็จออกมา อินคิดในใจพลางไปลากเก้าอี้มานั่งโดยไม่ถามสักคำว่าอีกฝ่ายอยากร่วมโต๊ะด้วยไหม


          “เหอะ! คนดีนะมึง แล้วจะนั่งจ้องข้าวอีกนานมั้ย ไม่แดกๆเข้าไป” สิ้นคำจานข้าวมันไก่ดังกล่าวก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้าคนปากจัด


          “ให้”เจ้าของจานกล่าว


          “หา!? ให้กูทำไมวะ!? หากินเองได้ อย่าบอกนะว่ามีแมลงสาป!!!?”สีหน้าบูดบึ้งกับท่าทางหวาดระแวงตรงหน้าเรียกเสียงหัวเราะจากพัดได้เป็นอย่างดี


          “ฮะๆ ๆ ๆ “


          “หัวเราะอะไรวะ!?”


          “ไม่มีอะไรหรอกน่า เพิ่งสั่งมายังไม่ได้แตะเลย แค่กิน...ไม่ลง” ท้ายคำเสียงทุ้มดูแผ่วลงเล็กน้อย


          เห...เนตรคมไม่ปล่อยช่องโหว่เพียงเล็กน้อยที่อีกฝ่ายเผยออกนี้หลุดมือไป อินรีบเสริมคำเข้าแทงใจดำคู่สนทนาทันที


          “อ๋อออออ ช็อตเมื่อเช้ายังติดตามึงอยู่สินะ ไม่เป็นไรๆกูเข้าใจ ฮ่าๆๆๆๆ”ไม่ว่าเปล่ายกมือขึ้นตบไหล่แกร่งป้าปๆอย่างสะใจ...ไม่ได้ดูน้ำหน้าตัวเองเล้ยยย


             “แล้วนั่นขนกระเป๋าจะไปไหน?”รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าชะงักค้างแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแหยอย่างคนมีพิรุธ อินพยามปรับสีหน้าให้เป็นปกติพร้อมตอบกลับไปเสียงเรียบ


             “ว่าจะไปค้างคอนโดเพื่อนสักคืนสองคืน”อินจัดแจงยื่นจานข้าวมันกันกลับคืนสู่เจ้าของพลางพยักเพยิดเป็นเชิงว่า หุบปากแล้วก็แดกไปซะ


             “อ่อ ก็ว่าสิ เมื่อเช้าเห็นตกใจขนาดนั้น ไม่น่าทนอยู่คนเดียวได้”


             ไอ้เหี้ยยยยยย กวนตีนหน้านิ่งงงงง!!


             มีคนเคยบอกไว้ว่าคนฉลาดจะไม่แสดงตัวว่าตัวเองฉลาด คงไม่ต่างกับกรณีพวกมนุษย์ที่อันตรายจริงๆจะไม่แสดงความอันตรายออกมา มันจะซุ่มต้อนเหยื่ออย่างสงบปล่อยให้เหยื่อดิ้นจนตายไปเองอารมณ์เดียวกับพวกเสือซ่อนเล็บ นายอินผู้ซ่าไปแหย่เขาก่อนโดนคนจริงสั่งสอนกลับอย่างแนบเนียน


             ถ้าเกลียดความพ่ายแพ้นักก็อย่าท้าสู้ไปเรื่อยโดยที่ไม่รู้กำลังของอีกฝ่าย...


            ผ่านไปสักพักข้าวมันไก่ในจานก็หมดลงพร้อมร่างของเด็กมหาลัยทั้งสองที่เดินออกจากร้านไป พวกเค้าทั้งคู่ตกลงกันว่าจำแวะทำบุญที่วัดซึ่งอยู่ถัดไปจากซอยนี้แค่ไม่กี่ร้อยเมตรก่อนค่อยแยกย้ายกันไป อันที่จริงจะใช้คำว่าพวกเขาคงไม่ถูกต้องนัก ในเมื่อฝ่ายที่ชวนและฝ่ายที่เลือกสถานที่และฝ่ายที่ตกลงเอาเองมันเป็นฝ่ายเดียวนะสิ!!


             ณ วัด 


             ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ วัดเล็กๆในซอยแคบๆไม่ติดถนนใหญ่มีผู้คนบางตา และในบรรดาคนแก่คนเฒ่าที่เข้ามาถือศีลทำจิตใจให้สงบนั้นปรากฏร่างของเด็กหนุ่มมหาลัยสองคนเดินเข้ามาอย่างมาดมั่น


          คนหนึ่งมีเส้นผมสีดำ กับนัยน์ตาเบื่อโลกสีเดียวกันคอยเสริมเสน่ห์ให้ใบหน้าที่ติดจะบูดบึ้งอยู่หน่อยๆนั่น หากสังเกตดูดีๆจะพบกับเมฆดำมาคุอยู่รอบๆตัวทำให้เขามีภาพลักษณ์เป็นเด็กผู้ชายท่าทางเกเรในสายตามนุษย์ป้าและชะนีทั้งหลายที่มาทำบุญถือศีลตบะแตกกันเป็นทิวแถว ผิดกับอีกคนที่มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม รอยยิ้มบนมุมปากของเขาสร้างโลก(วัด)ให้ดูสดใส...เป็นการจับคู่ที่แสนแปลก


              ไม่ว่าใครที่เดินผ่านมาก็ต้องคิดว่าเด็กมหาลัยสองคนนี้เป็นรูมเมทสนิทสนมกันพากันเข้าวัดทำบุญแต่เช้า คนอะไรหน้าตาดีแถมจิตใจยังประเสริฐ


          แน่นอนว่าทั้งหมดมันเป็นเพียงความคิด


           ความจริงภายใต้ภาพฝันของเหล่าหญิงเล็กสาวใหญ่ สมองของเด็กหนุ่มท่าทางเกเรคนนั้นกำลังประมวลผลอย่างหนัก ดูเหมือนตอนอยู่ในร้านอาหารตนจะเผลอตบปากรับคำว่าจะไปแบ่งส่วนบุญส่วนกุศลที่วัดกับคนตรงหน้าแบบไม่รู้ตัว ประเด็นสำคัญคือแม้อินจะมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่กว่าจะใช้เวลาสนิทซี้ปึกกันก็พอสมควรเหตุผลก็คือ...เขาเกลียดคนแปลกหน้า...ยิ่งคนแปลกหน้าที่ชวนเข้าวัดยิ่งเกลียด


           น่าหมั่นไส้ชิบหาย คนอะไรมองแค่ข้างหลังก็น่าโมโหแล้ว


            ใบหน้าหล่อๆประดับด้วยรอยยิ้มมุมปากตอนที่ชวนเขามาที่นี่ยังจำได้ติดตา ไม่รู้เป็นเพราะอะไรชั่วพริบตานั้นตนถึงรับปากตกลงตามมาง่ายๆ


           ที่น่าโมโหกว่าคนข้างหน้าก็คือตัวเอง...


           ปึก! อยู่ๆร่างสูงก็หยุดเดินกะทันหันทำเอาคนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเที่ยวด่าคนอื่นในมโนเดินชนเข้าเต็มรัก “จะหยุดทำไมไม่บอก!”ที่ขาดไม่ได้เลยคือคำสบถที่ตามมาติดๆ


          “เรา...ต้องไปที่ไหนทำอะไรยังไงบ้างเหรอ?”รู้สึกเหมือนโดนฟ้าฝ่ากลางวันแสกๆ นายอินยืนเงิบไม่รู้จะสรรหาคำใดมาด่าไอ้งั่งตรงหน้าตนถูก แต่ก็ต้องเก็บปากเก็บคำเอาไว้กลัวโพล่งด่าไปแล้วโดนสวนกลับให้เป็นฝ่ายนำแล้วจะเงิบหงายหนักกว่าเก่า
เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยเข้าวัด ขนาดพระยังต้องเอาสมาร์ทโฟนมาล่อให้คนเข้าวัด นับประสาอะไรกับคนถ่อยอย่างเขา สวดมนต์ครั้งสุดท้ายก็ตอนเข้าแถวหน้าเสาร์ธงม.6


          หนทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก คนจีนกล่าวมาว่างั้น แต่ปัญหาตอนนี้คือหนทางไม่กี่สิบเมตรแต่ไม่รู้ว่าต้องก้าวไปทางไหนฉะนั้นสุภาษิตนี้ไม่เข้ากับบริบทอย่างแรงจะยกมาทำไม


           หลงทางเสียเวลา หลงรัชดาติดเหม่งจ๋าย คำกล่าวของเกรียนไทยประโยคนี้ยังดูเข้าเค้าเสียยิ่งกว่า(?)


           “ขอโทษนะครับ คือ...”หลังจากยืนโง่กันสักพักนายพัดผู้ไม่ทราบที่มาแน่ชัดก็เดินเข้าไปถามคำถามเดียวกันกับที่หันมาถามเขาเมื่อครู่อย่างไม่มีกลัวเสียฟอร์ม คุณยายท่าทางใจดีที่ถูกเด็กหลงเข้าไปถามทางก็ระเบิดหัวเราะดังลั่นทำลายภาพลักษณ์ใจดีที่เห็นภายนอกไปหมดสิ้น...วัดกระจ่อยร่อยแค่นี้ยังหลงได้


           ความจริงที่พวกเขาไม่ได้หลงทางแต่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างเลยต่างหากถูกกลบไปด้วยความเอ็นดูของผู้เฒ่าผู้แก่
หญิงชราจัดแจงลุกขึ้นจากศาลาใต้ต้นไม่ใหญ่อาสานำทัพทำบุญเอง เดือดร้อนให้คนหนุ่มต้องรีบเข้าไปช่วยพยุงไม่ให้แกเสียหลักล้มเพราะดูท่ายายแกจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ...เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยเข้าวัด นานๆที่จะมีเหยื่อ เอ๊ยยย เด็กที่คิดได้(หลง)เข้ามาสักคนจะปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้(?)


            ความคิดของคุณยายใจดีดังขึ้นเงียบๆในใจ หากเจ้าหนูเลือดร้อนผมดำข้างๆได้ยินเข้าคงได้มีระเบิดลงยกใหญ่ข้อหาโดนคนแก่ล่อลวง


           เช้าที่แสนสดใสหลังผ่านสังเวียนเหล้ามาข้ามคืนก็พบเข้ากับประสบการณ์ขนหัวลุก แถมยังได้เข้าวัดในรอบหลายปีพร้อมกับผู้ชายแปลกหน้า คุณยายขอตัวแยกไปรวมกลุ่มกับเพื่อนตัวเองหลังนำทางพวกเขาเสร็จ นายอินผู้หยาบคายยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างมีมารยาทเมื่อถูกอีกคนตีมือที่เตรียมจะยกขึ้นมาโบกบ๊ายบายยายแก


           จากนั้นทั้งเขาและพัดก็ล่ำลากันเป็นรอบที่สองภายในเช้าวันเดียว อินไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะดวงสมพงศ์เจอคนคนเดิมโดยบังเอิญถึงสองรอบ ร่างโปร่งยืนมองอีกฝ่ายขึ้นรถตุ๊กตุ๊กไปจนสุดตาก่อนจะหันหลังกลับก้าวไปตามครรลองของตน


           ...เท่าที่นึกออก...


           ...นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด...


           ...ในการส่งคนที่อาจจะเจอกันแค่เพียงครั้งเดียวตลอดชั่วชีวิตนี้...


ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
รออ่านน่า
ชอบกินข้าวมันก่อน5555

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
โอ้ย ขำ 555555555555555
เป็นเรื่องที่น่ารักและฮามากเลยค่ะ

แหมๆ หนูอินผู้หยาบคาย เถื่อน ถ่อย และถุดถุย กลับมาตายน้ำตื้นเพราะกลัวผี
ไม่รู้ว่าจะสงสารหรืออะไรดี เอาเป็นว่าพี่เข้าใจนะคะ พี่เข้าใจ 555555
เจอแบบนั้นก็คงหลอนไปนอนหอเพื่อนเหมือนกันนั่นแหละ เอาเป็นว่านุ้งอินสู้เนอะะะ  :hao3:

ส่วนพัดนี่ให้อารมณ์ลึกลับมาเลยค่ะ
ดูเป็นคนน่าค้นหา เป็นหนุ่มยิ้มสวยอารมณ์ดีด้วย เล่นเอาหนูอินติดกับรอยยิ้มจนตามมาถึงวัดเลย 55555

อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าติดตามมากๆ เลยค่ะ >_<
เราจะรอตอนหน้าน้าาาาาา

ปล.หนูดีดีน่ารักมากเลยลูกเอ้ยยยย ถ้าเรามีเพื่อนแบบนังอิน (เรียกด้วยความเอ็นดู 5555) นี่จะตบหัวทิ่ม ก๊ากกก

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เค้าทำบุญร่วมกันแล้ว

ออฟไลน์ pearl9845

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มาถึงทำบุญร่วมกันเลยนะ
คงจะเจอบ่อยๆนะ

ออฟไลน์ AllTheWay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ TrafalgarLAW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
เข้ามาเพราะชอบกินข้าวมันไก่ค่ะ #ไม่เกี่ยว 55555

น่ารักดีค่ะ ติดตามมมมม

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4




บทที่2 ครั้งที่ 3




“ไปไหนมา!!ปล่อยให้รอตั้งนาน”ประดุจเมียนั่งรอสามีที่กลับบ้านดึก ร่างเล็กสูงไม่ถึง 170ซม.ยืนเท้าเอวจังก้าปั้นหน้าโหดผิดกับเวลาปกติไปโขอยู่หน้าคอนโดสูงตระหง่าน



นายอินยกมือสองข้างยอมแพ้สวมบทบาทกลัวเมียอย่างรวดเร็ว ใครเล่าจะไปตรัสรู้ว่าดีดีผู้แสนดีจะโคตรดีตามชื่อลงมายืนรอหน้าคอนโดเพราะเขาบอกว่าจะมาอยู่ด้วยเลยเดี๋ยวนี้ ซึ่งไอ้คำว่าเดี๋ยวนี้ที่ว่ามันถูกสกัดตั้งแต่หน้าร้านข้าวมั่นไก่เลยเถิดไปเป็นชั่วโมง



“ไปทำบุญมา”คนมีความผิดติดตัวรีบตอบความจริงออกไปโดยไม่ทันคิด



รู้จักกันมาได้ปีกว่ามีหรือจะไม่รู้สันดานกัน โอกาสที่พวกนอกรีต(?)อย่างนายอัครินทร์จะเข้าวัดธรรมะธรรมโมเท่ากับศูนย์จุดศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์...ไม่รู้จบ แปลเป็นภาษาพูดได้ความว่าหน้าอย่างไอ้เหี้ยนี่นะเหรอจะเข้าวัด



 “แก้ตัวน้ำขุ่นๆ”ใบหน้าน่ารักขุ่นมัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด



“เห้ย!! ไปมาจริงๆนะสาบานได้”



คนมีความผิดยกมือยกไม้โบกไปมาอย่างร้อนรน ทั้งหมดที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงแต่แค่พูดความจริงออกมาไม่หมดเท่านั้น...เมื่อรู้ตัวว่าออกนอกลู่นอกทางปล่อยให้เพื่อนรอแล้วก็ควรจะซ้อนพี่วินไม่ก็นั่งแท็กซี่มาทันทีแต่เขากลับเลือกการเดินเท้าเป็นวิธีเดินทางแทน...



ด้วยความงกในสายเลือดของเด็กวิศวะ อินจึงเลือกที่จะเดิน บังเอิญระหว่างทางเขาหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาทำให้พบกับสายที่ไม่ได้รับจำนวนมากจากคนคนเดียว รายนามที่โชว์หราบนหน้าจอคือ ‘ดีดี๊น้อยหอยสังข์’



ชื่อสุดแสลงหูของว่าที่เจ้าบ้านที่เดอะแก๊งค์ของเขาตั้งให้ด้วยความรักยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าตัวที่ฉกมือถือของอินไปเพื่อที่จะชี้ให้เห็นมิสคอลเป็นอย่างยิ่ง ดีดีสะบัดหน้าเดินติ๊ดบัตรเข้าไปภายในตัวอาคารโดยไม่มีคำพูดอะไร



...ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้การเอาบัตรหรือคีย์การ์ดไปแตะกับล็อคที่ข้างประตูให้มันดัง ติ๊ดดดด ก่อนจะเปิดเข้าไปได้มันเรียกหรือนิยามเป็นคำว่าอะไรๆ คนไม่เวิ่นเว้ออย่างอินจึงเรียกการกระทำนั้นสั้นๆว่าติ๊ดบัตร....



คอนโดแพงๆมักจะมีหลายชั้น หรือจะพูดให้ถูกก็คือคอนโดหลายชั้นมักจะแพง เพราะกฎหมายการสร้างอาคารสูงในกรุงเทพค้ำคออยู่นั่นเอง ขอกระซิบบอกในที่นี้เลยว่าคอนโดหลายแห่งนิยมใช่ระบบยิ่งสูงยิ่งแพง อยากอยู่ชั้นสูงๆต้องเสียเงินเพิ่มตารางเมตะละห้าร้อยถึงหนึ่งพันโดยประมาณ



อินเหลือบมองนิ้วเรียวขาวของเพื่อนรักกดหมายเลขลิฟท์ไปยังชั้น 24พลางกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ถึงจะรู้ว่าไอ้เจ้านี่บ้านรวยแต่ก็ไม่เคยสัมผัสความรวยของมันสักครั้ง ปกติตอนเช้าดีดีจะเดินทางมามหาลัยด้วยแท็กซี่ทั้งที่มีรถเป็นของตัวเองแต่กลับขี้เกียจขับ รถติดแถมยังหาที่จอดยากอะไรก็ไม่รู้เห็นมันเคยบ่นให้ฟังผ่านๆหูเป็นเหตุให้เดอะแก๊งค์ของเขาไม่เคยได้ยลโฉมเจ้ารถที่ว่าเลยสักครั้ง



ซื้อรถมาตากฝุ่น ไม่โง่คงทำไม่ได้ อินแอบด่าในใจ



นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เหยียบคอนโดระดับนี้จึงดูมีสีหน้าตื่นตาตื่นใจประหนึ่งบ้านนอกเข้ากรุงมองซ้ายขวาหน้าหลังสำรวจทุกซอกมุมของลิฟท์ ท่าทางเหมือนเด็กที่นานๆครั้งนายอัครินท์คนนี้จะแสดงออกมาทำให้ร่างเล็กอดใจอ่อนยอมยกโทษให้อย่างช่วยไม่ได้



ผ่านไปครู่หนึ่งพวกเขาก็มาถึงชั้นที่ยี่สิบสี่ดีดีเปิดประตูเดินนำเข้าไปก่อน ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาผู้มาเยือนคือบิวท์อินอย่างหรูภายในตั้งโชว์ฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนญี่ปุ่นสุดโมเอะจนเต็มชั้น คนนอกวงการอาจจะมองว่ากองทัพฟิกเกอร์พวกนนี้ทำให้เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงดูด้อยค่าลง แต่คนในวงการจะรู้กันว่าของตั้งโชว์รวมราคาแล้วแพงกว่าเยอะ...



ถัดมาอีกคือโปสเตอร์ลายการ์ตูนโมเอะ ปฏิทินลายโมะเอ แก้วน้ำโมเอะ ผ้าขนหนูโมเอะ ถ้วยช้อนตะเกียบโมะเอะ โมเอะ โมเอะๆๆๆๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่โมเอะ แม้แต่เจ้าของห้องยังโมเอะเลย!!!



หมายเห็ด.โมเอะแปลว่าน่ารัก



ให้ตายเถอะโรบิ้น ห้องเหี้ยอะไรแต่งได้ตาลายชิบหาย



แขกผู้มาเยือนมีอาการสตั๊นท์หลังจากโดนคลื่นโมเอะแอดแทคเดือดร้อนเจ้าของห้องต้องมาลากไปนั่งให้เข้าที่เข้าทางบนโซฟาสีขาวตัวใหญ่ติดผนังห้องด้านใน...ลายธรรมดาไม่โมเอะ...



อินถอนหายใจพรืด นึกขอบคุณชาวญี่ปุ่นที่ไม่นึกพิมพ์ลายการ์ตูนลงบนโซฟาไม่งั้นไอ้คุณโอตาคุสติแตกนี่ต้องหาซื้อมาแหงๆ
“อินนอนห้องเดียวกะเราได้ปะ พอดีห้องนอนอีกห้องเราเอาไว้เก็บอนิเม”ร่างเล็กถามพลางจัดแจงลากกระเป๋าใบเบ้อเริ่มของตัวกาฝากที่มาขออาศัยแต่ไม่คิดจะออกแรง



“มีที่พอใช่มั้ยกูนอนโซฟาได้นะ”เสียงห้าวถามกลับก่อนจะลุกขึ้นไปดึงกระเป๋าของตัวเองออกมาถือแทนเพราะทนเห็นภาพไอ้กระหร่องลากกระเป๋าต่อไปไม่ได้ ...น่าสงสัยว่าเจ้าเป้ใบนี้มันหนักแต่คนถึกอย่างอินถือได้หน้าตาเฉย หรือว่ามันไม่หนักแต่ไอ้คุณหนูดีดีผอมแห้งแรงน้อยถือไม่ไหวกันแน่?



บาทาน้อยๆ(?)ของคนหยาบคายเขี่ยประตูห้องนอนที่แง้มอยู่ให้เปิดออกก่อนที่ดวงตาสีดำขลับจะต้องเบิกกว้างอย่างตกตะลึงเมื่อสบเข้ากับ...เตียงคู่ขนานกว้างพอสำหรับสองคนนอนและหมอนข้างลายสาวน้อยโมเอะ...
“เอาของมาวางไว้ตรงนี้ได้เลย”เจ้าของห้องดูจะไม่อายกับของสะสมพิสดารแถมยังจะดูภูมิอกภูมิใจเสียด้วยยิ้มเผล่ขณะชี้ให้เขาเอาของไปวางกองไว้หัวเตียงฝั่งติดหน้าต่าง



“ไปวัดมามีอะไรเหรอ?”ตี๋น้อยดีดีเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ แม้มันจะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อแต่เขาก็คิดว่าถ้าอินจะหาข้ออ้างในการมาสายหละก็คงหาเหตุผลที่ดีกว่านี้ได้แน่ ในเมื่อมันไม่ใช่ข้ออ้างแสดงว่าต้องมีเหตุผลที่ยิ่งใหญ่พอ



“ผีหรอกเหรอ? โดนหมอดูทักว่าถึงฆาตเหรอ? รึว่าโดนเสกหนังควายเข้าท้อง? หรือว่า...”



“พอเลยๆ อย่ามโน”เสียงห้าวเอ่ยตัดคำเพื่อนตัวเล็กที่พูดจาออกทะเล พลางคิดไปด้วยว่าจะเล่าให้คนช่างสงสัยตรงหน้านี้ฟังอย่างไรดี...ให้ตัวเองดูไม่เสียฟอร์มมากนัก



“เพราะพวกมึงอะเลว!!”เริ่มเรื่องมาก็ต้องโบ้ยความผิดออกจากตัวก่อน



“ปล่อยให้กูเดินผ่านทางรถไฟคนเดียวมืดก็มืดหนาวก็หนาวแถวยังเมาอีก กูเดินของกูไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงใครก็ไม่รู้ร้องซะดังสนั่นเลยรีบวิ่งเข้าไปดูเผื่อแม่งโดนโจรดักปล้นแทงตายห่าหน้ากู...”ตาใสแจ๋วชั้นเดียวเบิกกว้างขึ้นอย่างลุ้นระทึกไปกับเรื่องราวน่าตื่นเต้นจากปากของเพื่อนสนิท



โดยหารู้ไม่ว่าเนื้อหากว่า 88%ถูกสร้างขึ้นใหม่...บทบาทแทบทั้งหมดถูกเปลี่ยนตัวแสดง



“พอไปถึงก็เห็นผู้ชายคนนึงอายุพอๆกับเรานี่แหละล้มกลิ้งตาเหลือกหน้าซีด ขางี้สั่นผั่บๆๆอยู่กับพื้น กูเลยเงยหน้าขึ้นมองตามตำแหน่งที่ตามันมองค้างอยู่ รู้มั้ยว่ากูเจออะไร!?”ถามกลับเพื่อให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม



“อะ...อะไรเหรอ!?”



“คนแขวนคอตายเว้ยยยยย กูงี้สะดุ้งเลย ดีที่ตั้งสติทันเลยพาไอ้คนนั้นลุกตามออกมาถนนใหญ่แล้วค่อยโทรแจ้งความ”นักแต่งนิยายยังอาย ความหน้าด้านอัดแน่นเต็มเนื้อเรื่อง ใบหน้าหล่อคมยิ้มยืดอย่างโชว์พาว



“โห น่ากลัวอะ เพราะอย่างงี้เลยไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายก่อนมาที่นี่สินะ”เด็กน้อยโดนนิทานก่อนนอนหลอกเข้าเต็มๆชื่นชมเพื่อนไม่ขาดปาก



“ก็งั้นแหละ หึหึ”ตัวแสบยักไหล่ไม่ยี่หละ และไม่ถึงอึดใจร่างโปร่งที่หลังกระหยิ่มยิ้มในบทประพันธ์ของตนก็สะอึกค้างด้วยคำถามพาซื่อของเจ้าบ้าน



“อ๋ออออ หลังจากนั้นก็กลัวผีจนไม่กล้าอยู่หอคนเดียวเลยมาหาเราที่นี่นี่เอง มิน่าหละตอนโทรมาเมื่อเช้าอินทำเสียงแปลกๆ”สิ้นถ้อยคำนั้นความเงียบสงบได้แปรเปลี่ยนเป็นจิตสังหารของคนที่ถูกกล่าวหาว่า’กลัวผี’สดๆร้อนๆ



“ไม่ได้กลัว!! คนอย่างนายอัครินทร์เนี่ยนะกลัวผี!? ไม่! มี! ทาง!”ประหนึ่งสัญญาณเตือนว่าไม่ควรต่อความให้ยืดยาวดีดีดึงเสียงของคำต่อไปกลับเข้าคอแทบไม่ทัน



คอนโดขนาดกลางประกอบไปด้วยห้องนอนสองห้อง ห้องที่หนึ่งติดประตูทางเข้าถูกเนรมิตกลายเป็นอาณาจักรอนิเมชั่น ส่วนอีกห้องถูกบรรจุด้วยนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาเคมีสองคน ฝ่ายเจ้าบ้านนั่งรูดซิปปากจ้องอีกคนที่เหลือตาแป๋ว



มีเรื่องที่อยากจะถาม แต่ก็กลัวถามไปแล้วคำถามที่ว่าจะไปสะกิดต่อมศักดิ์ศรีที่แสนเปราะบางของอีกคนเข้า



“อินย้ายมาอยู่กับเรามั้ย?”แต่สุดท้ายก็เอ่ยออกไปด้วยความเป็นห่วงเพื่อน มีหรือที่คนช่างเอาใจใส่อย่างดีดีจะไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาคนนี้แพ้สิ่งลี้ลับมากพอๆกับที่เกลียดความพ่ายแพ้



ที่ขึ้นเสียงเมื่อกี้ก็แค่รักษาฟอร์ม...



“หะ หา!???”นัยน์ตาสีดำขลับเบิกกว้างแทบถลน คำถามสุดประหลาดเมื่อครู่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับลุกขึ้นจากเตียงด้วยความงงงวย



“ก็...หออินมันไกลจากมหาลัย แถมรถเมล์ที่ผ่านหน้าซอยก็ไม่มีคันไหนผ่านมหาลัยเลย เดินทางลำบากจะตาย ไหนๆเราก็ไม่มีเมทกันทั้งคู่ก็มาเป็นเมทกันเองซะเลย ค่าคอนโดไม่ต้องช่วยออกหรอก แค่หารค่าน้ำค่าไฟก็พอ”นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาเอ่ยปากชวน...



อยู่คนเดียวในห้องกว้างๆแบบนี้ก็ต้องมีเหงากันบ้าง



“จริงดิ?”อินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความชัวร์ แม้ตัวจะยังยืนเหวออยู่ปลายเตียงแต่ใจกลับบินไปเก็บของที่หอเตรียมย้าย ออกเป็นที่เรียบร้อย



“อื้ม!”เสียงใสตอบกลับอย่างดีใจหลังเห็นท่าทีที่อ่อนลงนั่น



“ถึงขั้นชวนผู้ชายมาอยู่กินด้วย เดี๋ยวนี้ชักแรดใหญ่แล้วนะดีดี๊ เอาเถอะๆ ไม่อยากขัดศรัทธา นายอัครินทร์สุดหล่อคนนี้จะยอมสละร่างกายให้คุณหนูสักระยะก็แล้วกัน”ไม่ว่าเปล่า ค้อมหัวลงอย่างนอบน้อมประหนึ่งโฮสต์



“...”ไร้สุรเสียงจากผู้เอ่ยปากชวน



“ไปกันเลยมั้ย?”คำชวนน่าสงสัยหลุดออกจากปากนายตัวแสบ



“ไปไหนเหรอ?”



“ก็ไปเก็บของจากหอเอามาไว้นี่ไง”



อ๋อออ อย่างงี้นี่เอง...ซะที่ไหนเล่า!! เกรงใจกันบ้างก็ดีนะอิน!!



พระอาทิตย์สีส้มสลัวใกล้ลาลับขอบฟ้าเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกเวลาเย็น นับเวลาหลังทำสัญญาขออาศัยกันเรียบร้อยก็ผ่านมาหกชั่วโมงเศษ นายอินที่หลับผลอยหลับไปด้วยความง่วงลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจบนเตียงคู่ขนาดคิงไซส์ ประหนึ่งบ้านของตัวเอง
เมื่อคิดได้ว่าต้องกลับไปขนของจากหอเก่าอีกร่างโปร่งเลยรีบผุดลุกออกจากผ้าห่มหนาไปหาเจ้าของห้องที่อาสาขับรถบริการรับส่งพัสดุประหนึ่งบุรุษไปรษณีย์



ณ ลานจอดรถที่ชั้นบน รถยนต์หลากสีหลายยี่ห้อจอดเรียงรายเต็มเกือบทุกช่อง ณ มุมนอกสุดริมสุดไกลโพ้นนนนที่สุดมีรถ Peugeot RCZ สีเงินวาววับราคาเฉียดสามล้านไม่รวมค่าตกแต่งตั้งตระหง่าน...ให้ฝุ่นเกาะ...



อินรีบแซงปราดเข้าไปเกาะประตูรถคันดังกล่าวตาเป็นประกายจดจ้องไปยังรถคันเท่ห์อย่างหลงใหล สมกับคำกล่าวที่ว่า Peugeot RCZ เป็นยนตรกรรมแห่งจิตวิญญาณสัญชาติฝรั่งเศส รถสปอร์ตที่ได้รับการออกแบบมาอย่างโดดเด่น เด่นแรงกระแทกตามากครับพี่น้อง!!



“รถมึงเหรอ!! นี่รถมึงเหรอออ!!”หันไปถามเพื่อนรักอย่างไม่เชื่อสายตา รถในฝันมาจอดอยู่ตรงหน้า หัวโจกวิศวะก้มๆเงยๆสำรวจหาใยแมงมุมก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเมื่อหาไม่พบ



“อืม”คนตัวเล็กไม่สมกับรถพยักหน้าหงึกหงักพลางล้วงกุญแจออกมาโชว์เพื่อยืนยัน



“ซื้อรถไม่ดูหนังหน้าคนขับเลยนะมึง ฮ่าๆๆ”ก็จริงอย่างที่อินว่า



รถอย่างเฟี้ยวเคลื่อนตัวสะกดสายตาหนุ่มสาวมหาลัย พอดับเครื่องจอดปุ๊บก็มีไอ้ตี๋ตัวกระเปี๊ยกก้าวลงมาจากที่นั่งคนขับ สร้างเสียงหัวเราะคิกคักอย่างพยามรักษามารยาทจากผู้พบเห็นนั้นไม่อาจซ่อนเร้นจากสายตาของตี๋น้อยคนดังกล่าวไปได้



ภาพฝันร้ายเมื่อวันปฐมนิเทศย้อนกลับมาทำร้ายอีกครั้งและอีกครั้ง...นี่คือเหตุผลที่ดีดีไม่ขับรถไปมหาลัยอีกเลย



นึกแค้นบิดาที่เคารพในใจ ไอ้ซื้อรถให้ก็น่าดีใจอยู่หรอก แต่ช่วยดูคนขับนิดนึงว่าพร้อมขับด้วยไม๊!? ถ้าเป็นมินิคูเปอร์หรืออะไรประมาณนั้นลูกจะไม่บ่นสักคำ



คนเสียเซล์ฟง่ายระบายลมหายใจออกทางจมูกดังเฮือกใหญ่ “เฮ้อออออ”



“เห้ย เป็นไรมึง จู่ๆก็ทำหน้าเป็นตูด อ๊ะ โหยยยย คอนโดมึงนี่มีแต่รถแรร์ๆทั้งนั้นเลยหวะ!!”ปลายนิ้วชี้ของคนคลั่งรถชี้พิกัดไปยังรถ mini roadster เวอร์ชั่นเปิดประทุนสองประตูสีขาวคาดดำแล่นฉิวขึ้นมา ก่อนจะมาจอดเทียบท่าข้างๆรถของดีดีประหนึ่งต้องการจะอวดโฉม



“อ๊ะ พัดนี่ พัดดดด!!”ชื่อแสนคุ้นเหมือนเคยได้ยินดังขึ้นจากดีดีที่ตอนนี้วิ่งอ้อมไปยังรถคันดังกล่าวด้วยท่าทางแบบปลากระดี่ได้น้ำ



“นั่นอินเหรอ?” เสียงที่ก้องอยู่ในหัว....  อย่างน่าประหลาด  คล้ายกับถูกดึงดูด 




.....ช่วงเวลาที่หยุดลงบนรลานจอดรถ.....




อินหันไปมองตามเสียงนั่น  แต่สิ่งแรกที่เห็นคือเสาปูนบอกหมายเลขที่จอดด้านหลัง(กำ)  เมื่อเลื่อนสายตาไปอีกหน่อยก็เห็นเจ้าของคำพูดนั้น   ชายหนุ่มในชุดลำลองดูสบายๆ  หน้าตาหล่อเหลา และมีเส้นผมสีน้ำตาลเข้มซอยไล่ระดับดูกระเซิงเล็กน้อย   หน้าตาออกจะดีมากกำลังจ้องกลับมาด้วยแววตาแบบเดียวกัน ภายในกระจกใสของนัยน์ตาสะท้อนความแปลกใจออกมาแจ่มชัด.... “พัด!?”



ว่ากันว่าความบังเอิญเกิดขึ้นได้เพียงสองครั้ง หากมากกว่านั้นเราจะเรียกมันว่าพรหมลิขิต...



“ทั้งสองคนรู้จักกันหรอ!?”บุคคลที่สามโพล่งขึ้น เนตรคมกระพริบปริบๆหลุดจากภวังค์ก่อนจะตอบกรับไปเสียงแผ่วผิดนิสัย


“นิด...หน่อย...”



“เมื่อเช้าเกิดเรื่องนิดหน่อยเลยเจอกัน”ดูเหมือนมันจะเบาเกินไปจึงถูกเสียงของอีกคนกลบมิด




คีย์เวิร์ด ‘เมื่อเช้า’ สั้นๆเพียงคำเดียวถูกประมวลผลใหม่ด้วยสมองอันปราดเปรื่องของคนที่ตัวเล็กที่สุดในวงสนทนา จากคำให้การเมื่อสายของเพื่อนรัก บวกกับเวลาเกิดเหตุที่เป็นตอนเช้า บุคคลต้องสงสัยปริศนา...ถึงตัวจะเป็นเด็กแต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!



“คนที่เห็นศพแล้วเป็นลมล้มพับเมื่อเช้าที่อินเล่าให้ฟังคือพัดนี่เอง!!” ยอดนักสืบจิ๋วดีดีขอฟันธง!!



ไอ้เพื่อนเวร!! ทีเรื่องตอแหลที่กูเล่าเสือกเชื่อหน้าตาเฉยแต่ทีอย่างงี้เสือกเดาแม่น!! ฉลาดผิดที่ผิดเวลานะมึง!



รู้สึกเหมือนมีสายตาพุ่งตรงมาโดยไม่ต้องสืบก็รู้ตัวการ เนตรคมของคนโดนใส่ความจ้องเขานิ่งอย่างต้องการคำขยายความ มองสบตาและต้องรีบก้มหน้าลงมองพื้น รู้สึกประหม่าขึ้นมาเสียเฉยๆ ทำความผิดมาก็มากโดนลงโทษมาก็เยอะแต่คราวนี้ไม่เหมือนทุกที



สายตาเรียบเฉยดูไม่มีพิษภัย เหมือนน้ำทะเลสีครามสวยไรพายุฝนหากแต่มีไม่กี่คนที่ตระหนักว่าแม้ทะเลจะนิ่งสงบแต่ข้างใต้นั้นเย็นเฉียบยากจะรู้ก้นบึ้ง ...เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ต้องจ้องกันประหนึ่งฆ่าฟันแบบนั้นก็ได้....



สัญชาติญาณสัตว์ป่าเตือนว่าควรหลบ...



“มึงจะยืนเอ๋อข้างรถชาวบ้านเค้าอีกนานมั้ย รีบๆไปได้แล้วเดี๋ยวก็มืดค่ำกันพอดี!!”



ว่าแล้วก็ยัดเจ้าของรถเข้าประจำตำแหน่งคนขับก่อนจะเร่งให้สตาร์ทเครื่องออกไปแบบเอ็ดตะโร ทิ้งให้ร่างสูงของคนที่เหลืออยู่ผุดยิ้มออกมาอย่างขบขัน...



ในยามค่ำคืนของเมืองใหญ่  เหล่าพนักงานบริษัทมากมายยังคงต่อสู้กับการเดินทางบนท้องถนนเพื่อกลับบ้าน  และกลับมาเจอนรกกันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้นวนเวียนไม่สิ้นสุด นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์สองคนนั่งแกร่วติ่งร่างแหตำนานกรุงเทพรถติดมรณะอยู่บนรถหรู 



เพียงแค่การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลกรางกรุงปีละครั้งสองครั้งไม่ช่วยให้รู้สำนึกว่าห้ามออกนอกบ้านเวลาเลิกงาน  บทลงโทษเล็กน้อยจากผู้ใหญ่บนท้องถนนคือการให้เด็กน้อยนั่งอยู่ในรถยนต์แคบๆบนเส้นทางที่รถติดยาวไกล....



ระหว่างไม่ถึงห้ากิโลเมตรแต่กลับใช้เวลาไปกลับร่วมชั่วโมงอัดแน่นไปด้วยบทสนทนาออกรสของสองสหาย



“พัดอยู่ห้องข้างๆเราไง ห้อง2412ที่อยู่ทางขวาอะ”



ร่างสูงโปร่งของเอนพิงเบาะพลางถอนหายใจเหนื่อยอ่อน รถเริ่มเคลื่อนตัวไปในยามเย็น   ท้องฟ้าค่อยๆมืดลงพร้อมกับแสงไฟจากนีออนที่เปิดขึ้นแทนที่   



เมื่อวานนี้ยังเป็นแค่คนแปลกหน้าอยู่กันคนละส่วนมุมของโลก มาวันนี้ระยะห่างกลับลดลงเหลือไม่ถึง 10 เซนติเมตร
จะว่าไปแล้ว...ยังไม่ได้คำตอบเลยว่าอีกฝ่ายเรียนคณะไหน...



คำถามไร้สาระถูกกลืนหายไปกับความเงียบ ในรถคันสวยเหลือเพียงแค่เสียงแอร์กับเพลงจากคลื่นวิทยุดังคลอไปเท่านั้น...อีกเดี๋ยวก็คงได้รู้...









..................................................................................

ตอนนี้พระเองของเราออกมากระจ๋อยเดียว แว๊บไปแว๊บมาตามท้ายตอนประหนึ่งตัวประกอบ ฮาาาา #พัดถีบ


ตอนต่อไปพัดคลุงจะได้ออกโรงเต็มๆสักที(มั้ง)ค่ะ  :katai3: :katai3:


ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์นะคะ


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
 


ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
เจอกันครั้งที่3 :hao3: :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
มันกวนๆ แต่แอบละมุนดีแท้เรื่องนี้

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอ้ยยย นายอินนี่แสบจริงๆ กวนมากๆ

ออฟไลน์ TrafalgarLAW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
บ้านหนูดีดีอยู่ที่ไหนค่ะ


จะไปขโมยฟิกเกอร์ 55555555


#ผิดประเด็นๆ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
วรั้ยยยยยย
เข้ามารอพระเอก
เมื่อไหร่จะจีบกันสักที :hao7:

ออฟไลน์ AllTheWay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โลกกลมจริงๆ อิอิ

 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ขำ 555555555555555555555555555

เป็นนิยายที่อ่านแล้วทำไมอารมณ์ดี
ทั้งที่เจอคนตายตั้งแต่ต้นเรื่อง(?) #เดี๋ยว 5555555555

นี่ขำตั้งแต่หนูดีดีผู้แสนดี๊แสนดีเป็นหนุ่มน้อยโอตาคุขับรถหรู
อู้ยยยยยยย ไม่เข้ากับหน้าเลยยยย แต่รู้แล้วว่าทำไมถึงมาเป็นเพื่อนกับนุ้งอินได้

แต่นุ้งอินนะนุ้งอิน ไปเล่าความเท็จให้ดีดีฟังแบบนั้น
นี่ไม่รู้จะขำหรือสงสารตอนเจอพัดดี แต่ฮาไปแล้ว 55555555

ถถถถถถ กรรมใดใครก่อกรรมนั่นคืนสนอง ทำบุญร่วมชาติก็เท่ากับตักบาตรร่วมขัน
เจอกันสามครั้งแล้ว มันก็ต้องมีครั้งต่อๆ ไปตามมา หึหึหึ หนีไม่พ้นหรอกน่ะ ไปใส่ความเค้าไว้อีกต่างหาก
ตลกกกกก นุ้งอินผู้หยาบคายจะโดนสยบก็คราวนี้ ก๊ากกกกกก  :mew1:

โชคดีนะอินนน โชคดีนะะะ เราเชียร์อยู่ เย้  :hao6:

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4




บทที่ 3 อย่ามโน




คุณเคยเดินสวนกับเนื้อคู่ไหม? หืม? อะไรนะครับ แค่เดินสวนกันแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นเนื้อคู่รึป่าวงั้นเหรอครับ? ฮ่าๆๆๆ นั่นสินะ เพราะงั้นแม้แต่ตัวผมที่เป็นคนตั้งคำถามก็หาคำตอบไม่ได้เช่นกัน



ไม่แน่นะบางทีเพื่อนรวมชั้นที่นั่งหลังคุณ คนที่กำลังเตะบอลอยู่ในสนามข้างทางที่คุณเดินผ่าน หรือแม้แต่บนเตาของร้านเนื้อย่าง(?)นั่นอาจจะเป็นเนื้อคู่ของคุณก็ได้นะ



ก็แหม...วันนึงวันนึงเราพบเจอกับผู้คนสักกี่คนกัน ไม่แปลกเลยถ้าจะเป็นหนึ่งในนั้น...จริงไหม?



.



.



.



[ ทเวน ที ฟอร์ธ ฟลอร์ ] คำพูดภาษาอังกฤษปกติก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่แล้วยิ่งเป็นเสียงจากระบบอัตโนมัตของลิฟท์ยิ่งฟังไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่...นายอัครินทร์ ไอศวรรย์ผู้ย้ายเข้ามาอาศัยในชั้นที่ 24 ได้ไม่ถึงสองวันดีก้าวออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมอย่างอารมณ์ดี



เช้าวันอาทิตย์ที่พระอาทิตย์ยังไม่พ้นขอบฟ้า ร่างโปร่งของนักศึกษาปีสองเดินผิวปากไปตามระเบียงในมือถือถุงข้าวมันไก่สองห่อที่ซื้อจากร้านล่างคอนโดเพื่อเอาไปเซ่นเจ้าของห้อง 



เนื่องจากเมื่อวานเจ้าตัวนอนหลับสนิทตั้งแต่บ่ายถึงเย็น แถมหลังจากย้ายของจากหอมาเรียบร้อยก็หลับได้อีกอย่างน่านับถือวันนี้เขาเลยตื่นเช้าเป็นพิเศษ



บรรดาห้องที่เรียงรายติดกันเริ่มมีแสงไฟสาดส่องออกมาเป็นสัญญาณว่าเจ้าของห้องเริ่มตื่นกันแล้ว



มือขวาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกุญแจห้อง ก่อนสองเท้าจะหยุดอยู่ที่ห้องหมาเลย 2412 อย่างหมายมาด...ห้องของพัด...



เนตรคมเหลือบมองประตูห้องหมายเลข 2413ที่อยู่ถัดไปชั่วครู่ ห้องดังกล่าวยังไร้ซึ่งแสงไฟเล็ดลอดแปลความได้ว่าเจ้าของห้องนามดีดียังไม่ตื่นจากนิทรา



“ออดดดดด” ในหมู่บ้านหนึ่งๆจำเป็นต้องมีเด็กมือบอนสักคนตระเวนกดออดบ้านชาวบ้านไปทั่ว เดือดร้อนถึงบิดามารดาที่รับกรรมโดนด่าแทนลูก
 


แน่นอนว่าอินไม่พลาดที่จะรับบทบาทนี้ตั้งแต่อนุบาล1ยันม.2 ไม่คิดเลยว่าทักษะที่ฝึกปรือมาแต่น้อยจะได้นำออกมาใช้แกล้งคนข้างห้องอีกครั้ง



พอกดเสร็จก็ทำท่าจะเดินจากไป แต่คนเกเรก็รีบหันกลับมาเหมือนนึกอะไรได้...หัวโจกวิศวะไม่รู้จักโตหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป...แอพลิเคชั่น เฟสบุค ถูกเปิดขึ้นเพื่อโพสสเตตัส



[นายอิน ชื่ออินเฉยๆไม่ใช่ร้านขายหนังสือ]



ตื่นเช้าเว่ยยยย 5555555
พร้อมแนบรูปหมายเลขห้อง 2412 ที่เพิ่งถ่ายมาสดๆร้อนๆ...



ไม่รู้ว่าทำไปให้ได้อะไรขึ้นมาเหมือนกัน แต่แค่เห็นประตูห้องก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาเสียแล้ว



หลังกดออดย้ำไปอีกสองสามครั้ง เด็กหนุ่มผู้ก่อเหตุก็เดินกลับเข้าห้องไปด้วยสีหน้าที่อิ่มเอมมากกว่าเดิม



เมื่อเปิดประตูเข้าห้องดีดีซึ่งเต็มไปด้วยโปสเตอร์ตัวการ์ตูนสาวน้อยเวทย์มน เขาก็รีบโยนกระเป๋าตังค์และห่อข้าวที่ซื้อมาขึ้นไปกองบนโต๊ะอาหารที่ปูด้วยผ้าปูลายโมเอะ บนชั้นหนังสือใกล้ๆทีวีเต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนทั้งการ์ตูนต่อสู้และการ์ตูนกีฬา



ร่างโปร่งหย่อนตูดลงบนโซฟานั่งจิ้มมือถือค่าเวลา อีกเดี๋ยวเจ้าของห้องก็คงตื่น



เปิดเข้าไปที่หน้าทวิตเตอร์อย่างคนว่างงาน  @IN_YourArms : 11 พย. ย้ายเข้าห้องไอ้ดีดี ไม่ต้องห่วงกูคนดีเดี๋ยวสิ้นเดือนกูจ่ายค่าเช่าให้สามบาท ถถถถถถถถถถ



พิมพ์ไปงั้น คนที่ฟอลอยู่ก็มีไม่ถึงร้อยแถมส่วนใหญ่ไม่ใช่คนรู้จักในชีวิตจริงด้วยซ้ำ สาเหตุหลักคือเอาไว้เป็นที่ระลึกซะมากกว่าอยากให้โลกรู้



ความจริงดีดีจะให้หารแค่ค่าน้ำค่าไฟแต่ด้วยจิตสำนึกอันน้อยนิดทำให้เขาตัดสินใจปฏิเสธข้อตกลงเอาเปรียบนั่น และออกปากว่าจะจ่ายค่าเช่าเดือนละห้าพันน้ำไฟตะหาก...



ติ๊งหน่อง ไม่ใช่เสียงออดประตูแต่เป็นเสียงแจ้งเตือนของทวิตเตอร์ เมื่อเปิดกลับไปดูอีกครั้งก็พบเข้ากับแอคเค้าท์ของไอ้ม่อนเพื่อนซี้ร่วมกลุ่มอีกคนที่ reply ข้อความกลับมาอย่างรวดเร็ว...



จำได้ว่าโพสต์รูปในเฟสก่อนทวิตข้อความ...มนุษย์ที่ไม่เล่นเฟสวันๆหมกตัวอยู่แต่ในทวิตเตอร์นั้นมีอยู่จริง...



@DIGI_MON : มึงไปอยู่ห้องดีดีไมวะ อยู่ยาวเลยอ่อ?



อินเชื่อว่าไอ้ม่อนมีคำถามที่อยากจะถามมากกว่านี้แต่ด้วยความที่แอพลิเคชั่นนกสีฟ้ามันจำกัดให้พิมพ์ได้แค่ 140ตัวอักษรเลยต้องใช้คำที่มันรวบรัด



ไอ้ควาย ไลน์เลยมีไม่ใช้ ทักแชทบ็อคเฟสบุคกูมาก็ได้



“ตื่นเช้าจัง งืมๆๆ ซื้อข้าวมาเผื่อเหรอ ขอบคุณนะรอแปปนึงขอแปรงฟันก่อน...”น้ำเสียงงัวเงียเหมือนยังไม่ตื่นดี ร่างเล็กขยี้ตาเหมือนเด็กน้อยก่อนจะเดินหายลับเข้าไปในห้องน้ำ



อินเห็นดังนั้นเลยพิมพ์ข้อความตอบม่อนไปส่งๆก่อนจะรีบลุกขึ้นมาจัดแจงหยิบจานเทข้าวเทซุปบริการเจ้าบ้านอย่างดี



อาหารมื้อแรกที่ได้ร่วมโต๊ะกับรูมเมทใหม่ ข้าวแต่ละคำที่ตักเข้าปากของอินนั้นแฝงแน่นไปด้วยความตึงเครียด รังสีกดดันถาโถม
มาจากคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม...หากทำข้าวแม้สักเม็ดตกลงบนผ้าปูโต๊ะลายโมเอะละก็ตนคงไม่รอด...



ถ้าหวงนักจะเอามาใช้ทำซากอะไร!?



“เออ เมื่อวานอะ”กำลังจะลุกไปหยิบน้ำก็ถูกดีดีทักขึ้นมาก่อน เรียวคิ้วเลิกขึ้นเชิงคำถาม?



“ที่บอกว่าพัดกลัวผีอะหรอกเราใช่มะ เมื่อคืนนี้เรานอนคิดไม่ตกเลย ยังไงๆก็เชื่อไม่ลงจริงๆว่าคนเท่ห์อย่างพัดอะนะจะขี้ขลาดตาขาวขนาดนั้น อินเสริมเรื่องเกินความจริงให้เราตื่นเต้นใช่มั้ย?”ใบหน้าน่ารักฉายแววร้อนรนรอความจริงจากปากเพื่อน



คำว่าเท่ห์ที่ใช้ชมคนอื่นกับคำว่าขี้ขลาดตาขาวที่เข้าตัวเต็มๆแทงเข้ากลางใจดำ...



ไม่รู้มาก่อนว่าดีดีจะรู้จักมักคุ้นกับเพื่อนข้างห้องขนาดนี้...นักศึกษาชายสองคนอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงอายุไล่เลี่ยกัน จะสนิทสนมกันคงไม่แปลกนัก...มั้ง...



พอคิดว่าเพื่อนของตัวเองยกย่องคนอื่นแล้วหาว่าตนเป็นพวกลวงโลกมันก็รู้สึกน้อยใจไม่ได้



“หาว่ากูหลอกมึงเหรอ? ไอ้พัดแม่งก็เก๊กไปงั้นแหละตัวจริงแม่งปอดจะตายมึงไม่รู้อะไร”ไวเท่าความคิดคำพูดอวดดีหลุดออกไปจนได้ อยากกัดลิ้นตัวเองเมื่อสาย



“แหงะ จริงอะ อุตส่าห์ชอบ”เด็กน้อยทำหน้าบูดเบี้ยวราวกับรู้ข่าวว่าอุลต้าแมนแพ้ก๊อตซิล่า...



ดีดีนั้นเป็นเด็กติดบ้าน แต่บ้านที่ว่าของเจ้าตัวนั้นอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ นานทีปีหนถึงได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ ตอนเหงาๆก็มีแต่ขบวนทัพของโมเอะที่คอยปลอบใจ...จนกระทั่งได้มารู้จักเพื่อนบ้านคนนั้น



คนที่อายุเท่ากันแท้ๆแต่กลับเป็นผู้ใหญ่จนไม่อยากจะเชื่อ น้ำไม่ไหลไฟดับอะไรขอแค่ไปเคาะห้องปันหาทุกอย่างก็คลี่คลาย สำหรับดีดีแล้วพัดเป็นเหมือนฮีโร่



แต่สำหรับอินแล้ว...คำว่าชอบที่ดีดีเอ่ยออกมานั่นทำให้เขาแปลความไปอีกนัยยะหนึ่ง...ที่ค่อนข้างจะ...เอิ่ม....



ชอบ...



ชอบบบบบบ!!!!



ดีดีชอบไอ้เหี้ยพัด!?



ม่ายยยย!!!!



ที่เขาบอกว่าพวกชอบใช้กำลังมักไม่มีสมองเห็นจะจริง...เนตรคมส่อแววตระหนก ความเงียบไม่ทราบที่มาเข้าปกคลุมรอบโต๊ะอาหาร ดีดีผู้ใส่ซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวก้มหน้ากินข้าวมันไก่หน้าจานต่อไปอย่างผิดหวัง



ออดดดดด



ที่ดังขึ้นขัดคือเสียงเตือนหน้าประตู...เวลา 8.20 น.มีผู้มาเยือน



อินอาสาเดินไปเปิดประตูเอง ก่อนที่ข่าวไม่มีมูลจะเลือนหายไปจากขี้เลื่อยใต้กะโหลกของนายอิน บุคคลต้นเหตุอีกคนก็ปรากฏตัวที่อีกฟากของประตู!! ”ตื่นรึยังมีเรื่องจะรบกวน...อะ...”พัดปรากฏตัว!!!!



“พัด!?มีอะไรเหรอ”ร่างเล็กชะโงกหน้ามาถามในขณะที่ใบหน้าคมหล่อเหลาของคุณเพื่อนซี้เริ่มเย็นชาและขุ่นเคือง..



“ย้ายมาอยู่ถาวรเลยใช่มั้ยเนี่ย?”โดยไม่สนใจคำถามของดีดีสักนิด นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนเส้นผมมองใบหน้าขุ่นก่อนระบายยิ้ม ห้วงคิดของอินกำลังเดือด...


พูดถึงยังไม่ทันจะขาดปากก็มาหยามกันถึงหน้าประตู...คงจะไม่ใช่เพราะว่า.... ปลายตาคมๆ



แอบมองคนข้างหน้าสลับกับอีกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว... คงไม่ใช่...ใช่มั้ย?
 


นายอินจิ้นไปไกลโพ้นอย่างไม่น่าให้อภัย   พัดอาศัยจังหวะที่นายประตูกำลังใช้ความคิดเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าร่างเล็กอีกคน 



“วันนี้ว่างรึป่าว อยากชวนไปซื้อของด้วยกันหน่อย” ยื่นมือเข้ามาหมายจะแตะบ่า



ผัวะ!!!!
   


   มือแกร่งปัดเอามือของผู้มาเยือนซึ่งคิดเอื้อมเข้ามากล้ำกรายจับต้องร่างเล็กออกไปในพริบตานั้น... ดีดีเบิกเนตรกว้างตกใจในการกระทำนั่น... ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนั้นของเพื่อน แต่นี่ยังไม่ทันมีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ!? ผิดกับคนถูกกระทำที่หัวเราะหึอย่างชอบใจในปฏิกิริยาโต้ตอบนั้น
 


“พอดีเมื่อกี้มียุงผ่านมา ต้องขอโทษด้วย” เนตรสีนิลหรี่มองอย่างเย็นชาใส่คนไม่มีความผิดอะไร 
   


   “ไม่เป็นไรหรอก  ก็แค่เจ็บมือนิดหน่อย”   หนุ่มผมน้ำตาลโบกมือไปมาไม่ถือสา  หลังเจอการต่อต้านประกาศสงครามกลับ...ทั้งที่ไม่ได้มีความผิดอะไร...
 


   “กินข้าวต่อไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก” อินจับช้อนยัดเข้ามือเล็กมือเล็กก่อนจะกลับไปนั่งประจำตำแหน่งเดิม เจ้าบ้านยังคงมึนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
   


   “อ่ะ..เอ่อ... จะให้ไปไหนด้วยเหรอ?” ยังจะไปญาติดีกับมันอีก!!  ดูไม่ออกรึไงว่ามันจงใจมาตีท้ายครัว!!  ใจคนหวงเพื่อนเดือดเป็นไฟแล้ว!



ยอมไม่ได้...ยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด...!!!!



ดูจากพฤติกรรม(มโนไปเอง)แล้วฝ่ายพัดก็น่าจะมีใจให้ดีดีอยู่แน่ ไม่งั้นคงไม่มาอิ๊เอ๊าะแต่เช้าแบบนี้...ต้องหาทางกีดกันมันออกไป ดีเลยที่เขาย้ายมาอยู่กับดีดีก่อนที่ความรักผิดๆนี่มันจะเลยเถิด!!!



แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป สาววายกำลังคลองเมือง เกย์กำลังครองโลก แต่เขาจะไม่ยอมให้เพื่อนรักอ่อนต่อโลกคนนี้ต้องเผชิญกับภัยอันตรายจากข้างห้องนี้แน่นอน!!     
 


   ต้องกีดกัน...ใช่แล้ว มีแค่เราเท่านั้นที่จะปกป้องดีดีได้!!



   อย่าคิดว่ากูจำไม่ได้นะไอ้พัด เมื่อเช้าตอนเจอช็อตเด็ดมึงก็ร้องเหวอเหมือนกัน ที่สำคัญคือข้าวเช้ามึงยังแดกไม่ลงด้วยซ้ำ!!(แม้ตอนหลังจะกินจนหมดก็ตาม)



   คอยดูเถอะ!! นายอินคนนี้จะกระชากหน้ากากของแกให้หลุดออกมาเอง ภายในสามวันนี้มึงจะต้องหลุดตุ๊ดทำลายภาพพจน์ที่มึงสร้างมาหลอกเพื่อนกูแบบป่นปี้ขยี้ขยำ!!! วะฮ่ะๆๆๆๆๆ!!!!



ถ้าวันพีชมีจริงอินคงหามันเจอก่อนลูฟี่...เพราะเขาออกทะเลมาไกลแล้ว...



“ไปซื้อแอปเปิ้ลให้เมลิคที่ซุปเปอร์แถวนี้”พัดกล่าว



คำชี้แจงเรื่องสถานนั้นมีช่องโหว่...ไปแค่ซุปเปอร์ระแวกนี้แล้วไหงต้องขนกันไปหลายคน(สองคน) เลือกแอปเปิ้ลไม่เป็นรึไง!?



...มีพิรุธ...



“กูไปด้วย!!?”โดยไม่ทันคิดอินรีบตะโกนราวกับกลัวว่าจะมีใครมาแย่งไปแทน...เป้าหมายคือกีดกันเพื่อนรักจากตัวอันตรายสองต่อสอง...แต่ทว่า...



“พอดีเลย! ตอนสายวันนี้นารูโกะจะฉายทางช่องเคเบิ้ล...งั้นอินก็ไปกับพัดแทนละกันเนอะ”พูดจบก็ยิ้มร่าก้มหน้าก้มตากินข้าวมันไก่ที่เหลือจนหมดจานก่อนจะลุกไปล้างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ทิ้งให้พวกพูดก่อนคิดอ้าปากค้างอยู่กับที่...



ข้าวที่เหลือไม่ถึงครึ่งคำถูกบุคคลที่สามบนโต๊ะอาหารตักใส่ช้อนแล้วนำมายื่นจ่อปากอินอย่างเป็นมิตร “เอ้า อ้ำ! รีบๆไปจะได้รีบๆกลับ”



ดูเหมือนอินจะได้รับบทให้ไปเดินช็อปปิ้งกับพัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เจ้าตัวฝืนอ้าปากรับข้าวคำสุดท้ายอย่างช่วยไม่ได้นั้นประตูทางออกที่ชื่อว่า ‘กูไม่ไปแล้วเว้ยยย!’ก็กลืนหายไปพร้อมกับข้าวคำนั้น



“ว่าแต่เมลิคนี้ใคร กินอะไร? ทำไมถึงต้องถ่อไปซื้อให้?”เมื่อจนหนทางก็ต้องรับความจริง



“ลูกกระต่าย”



“ห๊ะ!?”อินร้องอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง




“ลูกกระต่าย”อีกคนก็ทวนคำให้อย่างหวังดี



ได้ยินดังนั้นร่างโปร่งผมดำก็ถอนหายใจเบาๆอย่างปลงตก ตอนนี้เวลา 08.35 น. เขาควรจะกลับไปที่โซฟาเพื่อนอนอืดเล่นมือถือต่อตลอดทั้งวันให้มันสมกับวันหยุด ไม่ควรผลาญเวลาไปกับเรื่องไร้สาระแบบนี้



ทั้งที่ขี้เกียจตัวเป็นขนแต่ก็กลัวพื่อนโดนหมา(ตัวผู้)คาบไปแดก นายอินผู้รักเพื่อนจะยอมพลีกายเพื่อเจ้าของห้องผู้มีพระคุณคนนี้สักครั้ง



ถ้าไม่ติดว่ามาขอเขาอาศัย ไม่กางปีกปกป้องขนาดนี้หรอกนะ...



คนหนึ่งเป็นไข่ในหินไม่ประสีประสาต่อโลก อีกคนหนึ่งทำตัวเป็นแม่ไก่กางปีกป้องป้องลูกน้อยจากหมาท่าทางหิวโซ...ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ไกลเกินคำว่าไก่อ่อนไปนัก...มิหนำซ้ำยังไม่มีหัวคิด



หมาบ้านไหนกินไข่ไก่ทั้งฟอง...



.



.



ที่เห็นก็มีแต่จ้องจะกินที่ตัวไก่...



กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว...กินไม่เหลือยันกระดูก...




...

แฮ่ๆ เป็นผู้ชายอย่าขี้มโนสิอิน 55555

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นเช่นเคยค่ะ

ตอนอ่านคอมเม้นต์แล้วรู้สึกดีมากๆเลยละ! ><


:katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ nozzle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โถ พ่อคนหวงเพื่อน มโนได้โล่จริง ๆ

สนุกมากค่ะ ฮาอินโคตร ๆ

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ตลกกกกกกกกกกกกกกก 5555555555555555

 :laugh: :laugh: :laugh:

โอ้ยยยยย นังอินนนน 555555 (เปลี่ยนสรรพนามด้วยความเอ็นดูล้วนๆ)
ขี้มโนมากกก มโนมาเป็นเรื่องเป็นราว ถถถถถถถถถถถ
ทำแบบนี้ก็เท่ากับส่งตัวเองไปเข้าปากเสือเลยนะนี่
แหมพ่อคุณ พ่อพระ พ่อมหาจำเริญ พ่อคนที่แสนดี
สู้นะอิน ปกป้องดีดีให้ได้นะ (แล้วอย่าลืมปกป้องตัวเองด้วยล่ะ) ก๊ากกกกก

ว่าแต่พัดเลี้ยงกระต่ายหรอคะ?
ง่อวววววววว ทำไมรู้สึกว่ามันนั่ลลั่คมุ้งมิ้งงงงงง

 :-[

รับนุ้งอินไปช่วยเลี้ยงกระต่ายด้วยอีกคนมั้ยคะ? ฮาาาาาาา


รอตอนหน้าน้าาา ^^

ออฟไลน์ TrafalgarLAW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
อินคะ ตรงกันข้ามแล้ว ตรงกันข้าม

ก่อนจะห่วงเพื่อนห่วงตัวเองก่อนดีมั้ยลูก 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด