ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)  (อ่าน 49710 ครั้ง)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
 :pig3:   สวัสดีปีใหม่คะ ขอให้ทุก ๆ คน มีสุขภาพแข็งแรง    o13 เงินทองไหลมาเทมา เจิรญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ค้าขายก็ขอให้เจริญรุ่งเรือง เดินทางขอให้ปลอดภัย อันตรายใด ๆ อย่าได้กล้ำกลาย เป็นที่รักของเจ้านาย
เป็นทีเคารพของลูกน้อง เป็นคนดีของสังคมนะคะ สุดท้ายก็ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคะ เพี้ยง  :m4:


**************************************************************


ตอนที่ 9 World have change



ถอนหายใจเฮือกใหญ่ กว่าจะหายใจทั่วท้อง นั่งพิงเบาะรถ ยกมือขึ้นลูบหน้า ใจยังเต้นตุ้ม ๆ ต้อม ๆ อยู่เลย ใจก็นึกกลัวว่าเขาจะไปดักรอที่ร้าน และที่มหาลัย ช่วงนี้คงต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นอีก อาทิตย์หน้าผมก็จะจบแล้ว ตามแผนที่วางไว้ซักพักหนึ่งแล้ว ผมคงจะไม่ต้องเจอหน้าใครในกรุงเทพอีกต่อไป

“น้อง ไปยุ่งกับพวกนักเลง ไม่ดีเลยนะ ลุงตกใจหมดเลย ดีว่ามันไม่ตามมานะ ฮ่าๆๆ ซิ่งแบบในหนังไม่เป็นหรอกนะ” เสียงคนขับรถแท็กซี่เรียกสติให้หันมาสนใจกับปัจจุบันต่อ

“...ครับ คือ ผมเองก็ไม่อยากยุ่งกับเขาหรอกครับ” ไม่อยากยุ่งในหลาย ๆ ความหมายนั่นแหล่ะครับ

“แต่ นักเลงสมัยนี้มันหล่อวะ ลุงว่ามันเป็นพระเอกหนังได้สบาย ๆ เลย ฮ่าๆๆๆ”

ลุงแกท่าทางไม่เครียดอารมณ์ดี หัวเราะรัว ผมก็หันไปมองถนนด้านหลัง กลัวว่าจะเห็นรถคุ้นตาตามมา ก็เริ่มคิดถึง เพชร ที่เคยเป็นถึงเดือนมหาลัย ก็ย่อมต้องหน้าตาหล่อดูดีอยู่แล้ว แต่กับคนหยาบคาย เมื่อครู่ ก็หล่อไม่น้อยหน้า เพชรเลย เหมือนพึ่งจะนึกได้ ก่อนหน้านี้เพราะมัวแต่ดราม่ากับชีวิตตัวเอง เลยให้ความสนใจคนรอบข้าง แค่เพียงเผิน ๆ เหมือนไม่เคยมองหน้า นายซันชัด ๆ ซักที (หล่อแล้วไง หยาบคายขนาดนั้นยังไงก็ไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยหรอก)

“ว่าแต่น้องจะลงที่ไหนเหรอ?”
“เอ่อ...ข้างหน้านี่แหล่ะ ที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้านี่แหล่ะครับ”

ลงจากรถแท็กซี่ได้ก็มายืนรอรถเมล์ต่อ แล้วก็เป็นเหตุการณ์เดิม ๆ นั่งรถเมล์มันทั้งคืน เช้าแล้วค่อยกลับไปที่ร้าน เหนื่อยมากวันนี้ เพลียจนอยากจะหลับ แต่ก็หลับไม่ได้ นั่งคิดถึงอะไร ๆ ไปเรื่อย มองคนมองถนน มองไฟที่ตึกสูง อยากให้ผ่านช่วงนี้ไปเร็ว ๆ จริง ๆ ต่อไปชีวิตใหม่ที่ผมหวังไว้ คงจะดีกว่านี้แน่




(มีต่อ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(มาต่อเบา ๆ)



“อ๊า อ่า อ๊า พี่ซัน วันนี้ทำไมรุนแรงจัง อ๊ะ อะ อ่ะ แต่ แต่ผมชอบนะครับ” เสียงคู่ขาที่โทรตามให้มานอนด้วยกันที่คอนโด ครางเสียงกระเส่า ลั่นห้องนอน ผมที่อารมณ์พลุ่งพล่าน ไม่พูดพร่ำทำเพลง รุกเร้าเอาอย่างหื่นกระหาย มองหน้าคู่ขา แต่ใจกลับไปนึกถึงคนที่พึ่งวิ่งหนีขึ้นรถแท็กซี่ไป ทำให้เขาต้องค้างมา 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ตัว

หึ คนอย่างซัน ไม่เคยต้องวิ่งตามใคร มีแต่คนวิ่งข้ามาหาเองทั้งนั้น ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ทำไมเขาจะต้องสนใจด้วย เล่นตัวนัก ก็ไม่ต้องเอามันหรอก ฮึ่ม ยิ่งคิดยิ่ง หงุดหงิด ไอ้ที่คิดว่าจะกระแทกให้เต็มที่ ก็ทำไปแล้ว แต่ทำไมยังไม่รู้สึกว่า เต็มอิ่ม คงต้องจัดกระแทกเข้าไปอีกให้มันสะใจกันไปเลย

“อ๊า อ๊า อ่ะ พี่ซัน ดี อึก แรง  ๆ อื้อ อ๊าๆๆ”




(รอต่อหนัก ๆ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(หนัก ๆ มาต่อแล้ว)



ทันทีที่กลับเข้าไปที่ร้านในตอนเช้า ก็เจอกู๋นั่งรออยู่แล้ว และเป็นไปตามคาด นอกจากจะถูกซักจนละเอียดแล้ว ยังถูกด่าว่าที่ไม่อยู่ช่วยงานจนจบ แถมยังไม่ยอมกลับบ้าน ไปนั่งรถเมล์ทำไมอันตราย บลา ๆๆๆ ผมก็ตั้งใจฟัง ก้มหัวขอโทษ ไม่ได้เถียงซักแอะ ถามคำตอบคำไปตามประสา

“เฮ้อ ด่าลื้อจนไม่รู้จะด่ายังไงแล้ว โตแล้วนะทำไมยังชอบหาเรื่องใส่ตัวอยู่เรื่อย อย่างนี้จบไปลื้อจะไปทำอะไร” กู๋ด่าจนเหนื่อย หันไปกดพัดลมให้หยุดหมุนแล้วพัดมาทางแกและผม

“กู๋ครับ อาทิตย์หน้าผมก็เรียนจบแล้ว” มองหน้าอากู๋ที่ท่าทางเหนื่อยอ่อน จึงตัดสินใจที่จะบอกกล่าวแก่อากู๋ถึงอนาคตที่ผมได้วางไว้

“อื้อ เหรอ ไวเหมือนกันนะ” สายตากู๋ที่มองมา ทำให้ผมสะเทือนใจ ไม่รู้ว่ากู๋จะคิดอย่างไรกับแผนการของผม

“ผม ผมตั้งใจว่าหลังจากเรียนจบ ผมจะไปทำงาน และย้ายออกไปครับกู๋” กู๋ที่ตอนแรกยกน้ำชาขึ้นมาจิบ ก็วางลงช้า ๆ หันมามองหน้าผม สีหน้าประหลาดใจ

“......” แต่ก็ยังไม่พูดอะไร เพราะคงอยากให้ผมได้พูดให้จบก่อน

“ผมขอบคุณกู๋มากนะครับ ที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เด็ก จนบัดนี้ ผมจะไม่มีวันลืมพระคุณของอากู๋และอากิ๋มเลยครับ ผมรู้ว่าถ้าออกไปแล้ว กู๋คงลำบากต้องหาคนมาแทนผม แต่ผมก็คิดว่าชีวิตต่อจากนี้ผมขอทำตามความตั้งใจของผมครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ถึงผมจะออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว ผมก็จะส่งเงินมาให้อากู๋ทุกเดือน ทดแทนพระคุณที่เลี้ยงดูผมมา”

“ไม่ต้องหรอก เงินเดือนลื้อ ๆ ก็เก็บไว้ใช้เถอะ ไม่ต้องส่งมาหรอก”

“ไม่ครับกู๋ ยังไงผมก็จะทำตามที่บอกไว้ เพราะผมไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรถึงจะทดแทนพระคุณกู๋ได้หมด ผมขอบคุณกู๋มากนะครับ ที่ไม่ได้ส่งผมไปที่บ้านเด็กกำพร้า” น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย ผมไม่เคยร้องไห้ต่อหน้ากู๋มาก่อน ท่านอาจจะไม่ได้ให้ความใกล้ชิดมากนัก แต่ก็คอยดูอยู่ห่าง ๆ ครั้นพอคิดว่าอีกไม่นานผมคงไม่ได้อยู่ดูแลท่าน น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไหลออกมาเอง ผมคุกเข่าลงก้มกราบแทบเท้าอากู๋ เป็นการขอบคุณ และขอขมา

ผมไม่เห็นหน้าอากู๋ ไม่รู้ว่าท่านมีสีหน้าอย่างไร แต่ได้ยินท่านถอนหายใจ และลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในตัวบ้าน ผมไม่รู้ว่ากู๋จะคิดว่าผมเนรคุณ หนีไปสบายคนเดียวหรือเปล่า จึงไม่พูดอะไรกับผม

ลุกขึ้นได้จึงปาดน้ำตา ยืนยิ้มให้กับตัวเอง นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้คุยกับกู๋อย่างนี้

ซักพัก ได้ยินเสียงฝีเท้ากู๋เดินออกมาจากตัวบ้าน พร้อมกับซองสีน้ำตาลในมือ แกยื่นซองนั้นให้ผม ผมรับมาด้วยความมึนงง แต่ก็เปิดดูของข้างใน





ข้างในเป็นสมุดบัญชี ธนาคารสีชมพู หยิบมาเปิดดูหน้าแรก ก็ต้องตะลึง มีชื่อเด็กชาย กฤติกมล ซึ่งก็คือผม สมุดธนาคารนี้เป็นของผมงั้นเหรอ?

เปิดไปหน้าถัด ๆ ไป ก็ยิ่งตกใจ เพราะยอดเงินคงเหลือหน้าล่าสุด มีจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะยอดฝากยอดแรก ก็ 300,000 บาทแล้ว และยังมียอดฝากบรรทัดถัดมา ซึ่งวันที่ห่างจากยอดแรก ถึง 15 ปี  อีกทุก ๆ เดือน ๆ ละ 5,000 บาท

ผมเงยหน้ามองอากู๋ คงจะมีสีหน้างงงวยจนอากู๋ถอนหายใจอีกครั้ง พร้อมทั้งอธิบายเรื่องราว

“ก้อนแรกนะ เป็นเงินประกันชีวิตของแม่ลื้อ ที่อีทำไว้ ได้มาอั้วก็เอาไปเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อลื้อ.....ส่วนที่เหลือ ก็เป็นค่าแรงที่ทำงานในร้าน อั้วเห็นลื้อกินนอนอยู่ในร้านอยู่แล้ว เลยไม่อยากให้ถือเงินเยอะ เดี๋ยวมีเงินลื้อก็ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เอาไปเที่ยวเล่นซะหมด”

ผมมองอากู๋อย่างที่ไม่เคยมองมาก่อน น้ำตาไหลพรากยิ่งกว่าเมื่อกี้ เคยคิดว่ากู๋ไม่ได้รัก ไม่ได้สนใจตัวเองเลย แค่ให้ที่อยู่ที่กิน แล้วก็ใช้งานไปวัน ๆ

แต่ไม่ใช่เลย ผมยังมีใครคนหนึ่งซึ่งยังห่วงใยอนาคตของผมอยู่ คอยเก็บเงินให้ คอยมองดูการเจริญเติบโตของผมอยู่ด้วย คงเพราะกู๋ เป็นคนแข็ง ๆ ไม่ค่อยพูด และดุมาก ไม่งั้นคงคุมคนทั้งร้านไม่ได้ ทำให้ผมไม่เคยรู้เลย ว่าที่จริงภายใต้คำดุด่าว่ากล่าวนั้น แฝงไปด้วยความห่วงใย เอื้ออาธร

ถ้าลองมานึกย้อนกลับไป เวลาผมทะเลาะกับเฮียตงทีไร ก็จะถูกทำโทษทั้งคู่ทุกที ไม่เคยเลยที่จะเห็นว่าอากู๋ลำเอียงเข้าข้างเฮียตง จนตอนหลัง ๆ เวลาจะกัดกัน ก็ต้องทำลับหลังอากู๋ เพราะไม่อยากจะถูกทำโทษทั้งคู่





อากู๋ไม่ได้พูดอะไรอีก ยกมือลูบหัวผมทีก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน วันนี้วันหยุดของที่ร้าน ท่านอุตส่าห์มานั่งคอยผมกลับมา ทั้ง ๆ ที่ควรจะพักได้แล้ว

ผมเช็ดน้ำตากับแขนเสื้อลวก ๆ ก่อนจะเดินตามเข้าไปในตัวบ้านด้วย เดินตรงไปที่ห้องใต้บันได เข้าไปในห้องเล็ก ๆ ที่ผมคุ้นเคย นั่งลงบนเตียงขนาดพอดีตัวที่ใช้มายาวนาน

ลำลึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ผมเข้าใจเอาเองมาตลอดว่าไม่เป็นที่รักที่ต้องการของใครเลย แต่พอนึก ๆ ไปนึก ๆ มา ผมไม่เคยได้ยินอากู๋พูดว่า หรือพูดไม่ดีถึงแม่ของผมซักคำ มีก็แต่คนอื่น ๆ ที่พูดจา ติฉินนินทา ว่าแม่ให้ได้ยิน จนทำให้ผมเริ่มปิดกั้นตัวเอง เห็นทุกคนเป็นศัตรู ไม่เคยเปิดใจมองความหวังดีที่บางคนมีให้

เรื่องเงินกู๋ก็คงจะพยายามสอนให้ผมประหยัดในแบบของแก แต่ผมกลับมองว่า กู๋ขี้เหนียว เลยประหยัดประชดกู๋ซะเลย อดจะนึกขำตัวเองไม่ได้ เด็กจริงๆ  เลยผมเนี่ยะ

แล้วไอ้ห้องที่ผมนั่งอยู่นี่ มันเล็กมากก็จริง....แต่มันก็เป็นส่วนตัวดี ไม่ต้องลำบากใจ ถ้าต้องไปวุ่นวายอึดอัดใจ ถ้าต้องไปใช้ห้องร่วมกับเฮียตง






การได้รับรู้เรื่องราวในครั้งนี้ ทำให้โลกของผมเปลี่ยนไป 360 องศาเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ดี ผมก็ยังคงจะทำตามแผนที่ได้วางไว้อยู่ดี




(จบตอนจ้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2015 13:41:46 โดย limpingping »

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
มาตามติดกันต่อจ้า เริ่มเห็นแล้วชิมิ ว่าชีวิตเต้ก็ไม่ได้ รันทดอะไร นางมโนไปเอง  o16
ก็แค่คนรอบ ๆ แสดงออกไม่เก่ง เลยไม่เข้าใจกันนั่นเอง เฮ้อ



****************************************



ตอนที่ 10 This is my way.
 



“ป๊าบอกว่ามึงจะย้ายออกไป หลังจากเรียนจบเหรอ?”
“....อื้อ” ผมที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อย ก็ต้องสะดุ้งนิด ๆ เพราะเสียงเรียกของเฮียตง ที่มายืน เท้าแขนที่กรอบประตูห้องใต้บันไดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“จะออกไปอยู่ที่ใหน?”
“...ก็ ได้งานที่ไหนก็อยู่ที่นั่นแหล่ะ” หันมาจัดเก็บหนังสือที่วาง รก ๆ อยู่ข้างเตียง โดยไม่ได้หันไปมองหน้าไอ้เฮียมันอีก ไม่รู้หรอกว่ามันถามผมด้วยความรู้สึกอย่างไร อาจจะดีใจมั้งที่ผมพ้น ๆ ไปจากบ้านมันซะที


หลังจากตอบคำถามมันไป ก็ไม่ได้ยินอะไรกลับมาอีกเลย ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าไอ้เฮียมันยังยืนอยู่ที่ตรงนั้นรึเปล่า ทำให้ต้องหันกลับไปดู แต่ก็ต้องตกใจ เมื่ออยู่ ๆ ไอ้เฮีย มันโถมมาทับผมทั้งตัว ผมล้มลงบนที่นอน ไอ้เฮีย จับยึดข้อมือทั้งสองข้างของผมกับที่นอน เจ็บนะโว๊ย จะหาเรื่องกันก็บอกล่วงหน้าซิวะ กำลังจะอ้าปากจะด่ามัน แต่น้ำหยดหนึ่งก็ตกลงมากระทบที่แก้ม

“อย่าไปเลย อย่าจากไปไหนเลย”
“........” ตอนนี้ตกใจยิ่งกว่า เพราะไอ้เฮีย มันร้องไห้ หยดน้ำตาอีกหยดก็หล่นลงมาที่แก้มอีกข้าง พร้อม ๆ กับประโยคเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา พูดแต่ว่าอย่าไป อย่าไปเลย

“ถ้ามึงโกรธที่กูชอบแกล้งมึง กูขอโทษ แต่มึงอย่าออกไปจากบ้านเลย”
“......” ผมยังคงเงียบ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปาก มองหน้าเฮียตงนิ่ง ๆ เริ่มเข้าใจแล้วว่า จริง ๆ แล้วเฮียตง คิดอย่างไรกับผม

ผมรู้สึกว่า ความสุขจะมองเห็นผมบ้างแล้ว ลูกพี่ลูกน้องที่เคยแต่พูดจาหมาไม่แดก กลั่นแกล้งผมสารพัด กวนโมโหตลอดเวลา แท้ที่จริงแล้วก็ทำไปเพื่อปกปิดความรู้สึกที่มีต่อผมนั่นเอง

“เฮีย ร้องไห้เป็นเด็ก ๆ ไปได้ หยุดเลย มันไม่เท่ห์หรอกว่ะ” หัวใจของผมอบอุ่นวาบ กับความรู้สึกใหม่ ๆ ที่ได้ประสบอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะมาจากอากู๋ หรือมาจากเฮียตง  ผมยิ้มล้อ ๆ จนเฮียมัน มองผมด้วยแววตาสั่น ๆ คิดว่ามันคงจะสับสนไม่น้อย ก็ผมไม่เคยเรียกมันว่า เฮียดี ๆ เลยนี่นา

เฮียตง ปล่อยข้อมือผม แล้วลุกมานั่งข้าง ๆ ผมลุกขึ้นมานั่งได้ ก็นั่งมองหน้าเฮียตง เฮียมันก็มองหน้าผมกลับ มันหยุดร้องแล้ว เฮ้อ เฮีย ตัวอย่างกับตึก ร้องเป็นเด็ก ๆ หน้าตาตอนนี้ดูไม่ได้เลย

“จะไปจริง ๆ เหรอ?”
“จริงดิ โตแล้ว จะอยู่เกาะอากู๋กินได้ยังไง” ผมรู้สึกดี ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันได้คุยกับเฮียตง โดยไม่ต้องตะคอก ตะโกนใส่กัน

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ป๊ากูรวย จะเลี้ยงหลานอีกกี่คนก็ได้”
“แน่จริง กล้าไปพูดให้กู๋ได้ยินมั๊ยอ่ะ”

“กล้า......ตายล่ะ มีหวังโดนขว้างด้วยตะหลิว หัวแตก ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ” พลอยขำไปกับเฮียมันด้วย

“มึง...รู้มั๊ยว่ากูคิดยังไงกับมึ..”
“เฮีย”

“.......”
“เฮีย ไม่ว่าก่อนหน้านี้เราจะปฏิบัติต่อกันอย่างไร แต่อั๊วก็รักเฮียนะ เราเป็นพี่น้องกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง อั๊วไม่โกรธเฮียหรอก ก็อั๊วมีเฮียเป็นพี่ชายคนเดียวในโลกนี่นา”

ผมที่ยืนยันเจตนา ที่จะแสดงสถานะของเราให้ชัดเจนว่าอย่างไร เฮียก็เป็นเฮียคนเดียวของผม คงจะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ สื่อสายตามองตรง ๆ กับสายตาของเฮียตง และคิดว่าเฮียก็คงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ เฮียเพียงแค่หลับตา หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“เออ น้องก็น้องวะ..ว่าแต่รู้รึยังว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหน?” ผมยิ้มกว้าง เฮียก็ยิ้มตอบกลับมา พร้อมทั้งมือใหญ่ที่ยื่นมาลูบหัวผมแรง ๆ ทำเอาผมเกือบหงายหลัง

“อือ เหมือนจะรู้”
“ที่ไหนอ่ะ ไกลมั๊ย?”

“อือ....ค่อนข้างไกลอ่ะ”
“.....ยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านมึงเหมือนกัน อย่าลืมละ กลับมาเยี่ยมกันบ้าง”

“ขอบคุณครับเฮีย”

ไม่อยากจะร้องไห้หรอกนะแต่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลมาอาบแก้มให้ผมที่อายเฮียตงนิด ๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ส่วนเฮียมันก็ลูบหัวผมไปมาปลอบ ผมไม่แน่ใจว่าเคยรู้สึกอย่างไรกับบ้านหลังนี้ แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกอาลัยอาวรณ์มาก ไม่อยากจากไปเลย แต่ผมก็ตัดสินใจแล้ว ยังไงอนาคตต่อไปผมก็จะสร้างมันด้วยมือของผมเอง




(มีต่อจ้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2015 02:55:05 โดย limpingping »

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(มาต่อแล่ะ)


นอนไม่หลับ

ทำไปตั้งขนาดนั้น เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ก็ยังนอนไม่หลับ

เปลี่ยนคู่นอนไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง แต่ไม่ว่าจะทำไปเต็มที่ขนาดไหน แต่ไอ้ความรู้สึกไม่เต็มอิ่ม
นี่มันคือะไร

ทุกครั้งที่ทำ ไม่ว่าจะกับใคร จะมีเงาร่างของใครบางคน ซ้อนทับ รบกวนจิตใจจนปั่นป่วนไปหมด



TTTTT
หยิบมือถือข้างเตียงที่กำลังแผดเสียงร้องออกมาที่ระเบียง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครโทรหาผมดึก ๆ ดื่น ๆ
ขนาดนี้

“ครับพ่อ..สบายดีครับ พ่อละครับ ทริปอเมริกาเป็นไงบ้างครับ...รู้ครับว่าพ่อไม่ได้ไปเที่ยว....ดูแลสุขภาพดีๆ
นะครับ .......ครับใกล้จบแล้วครับ อีกไม่กี่วันนี้เอง....ผมรู้ครับว่าต้องกลับไปช่วยงานพี่....แต่ผมขอเวลา
อีกซักพักนะครับ พอดีมีเรื่องต้องให้จัดการนิดหน่อย......ว่าแต่พ่อคุยกับแม่ใหญ่แล้วเหรอครับ เรื่องที่จะ
ให้ผมไปช่วยงานกิจการ?.......อ้อ แกคงจะเอือมกับผมแล้วละครับ ......ครับรู้ครับ ผมก็อยากช่วยพี่เขาครับ
พ่อไม่ต้องห่วงครับ ครับ ๆ ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ ไว้เจอกันครับพ่อ หวัดดีครับ ”

ฟังเสียงกดตัดสายจากพ่อก่อนที่จะวางโทรศัพท์ไว้ตรงโต๊ะข้างระเบียง

จุดบุหรี่อัดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันมองเข้าไปในห้อง บนเตียงที่ตอนนี้มีร่างของคู่ขาคืนนี้
นอนหมดสภาพอยู่ ใกล้รุ่งสางแล้ว ผมคงไม่ต้องไปส่งหรอก มาเองได้ก็คงกลับเองได้

ถ้าไม่ติดว่าพ่ออยากให้ผมกลับไปช่วยงานที่บ้าน ผมคงหางานทำในกรุงเทพนี่แหล่ะ ไม่อยากกลับไป
ก็ที่นั่น มีความทรงจำแย่ ๆ อยู่ไม่น้อยเลย




(จ๊บตอน)

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
เต้ต้องไปทำงานบริษัทซันเเน่ๆ เลย (ขอละอย่าดราม่าเลยนะ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เต้ต้องไปทำงานบริษัทซันเเน่ๆ เลย (ขอละอย่าดราม่าเลยนะ)




อะโห รู้จิรง ไรจริง แหะๆๆๆ  :z1: ต่อจากนี้ ไม่มาม่าแล้ว แต่ก็ไม่แน่เห็นในตู้ยังมีอีกหลายซอง อิ๊ๆๆๆ  :o12:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อุเหม่ ดูเหมือนจะมีคนรู้ความลับซะแล้ว  :hao3: เรื่องราวอาจจะเป็น หรือไม่เป็นแบบที่คุณคิดไว้
ยังไงก็ติดตามต่อได้เลยจ้า


********************************************




ตอนที่ 11 I will never let you go.


มหาลัย M

“อาจารย์วิทยาครับ”
“อ้าว นายกฤติกมล ตัดสินใจรึยัง”

“ครับอาจารย์ ผมอยากได้งานนั้นครับ”
“เออดีเลย ๆ รุ่นพี่เราเขาบริหารงานของครอบครัวอยู่ เวลาเขาต้องการคนก็มักติดต่อมาให้ จารย์หาให้
บอกอยากได้คนไว้ใจได้ ไอ้ไว้ใจได้นะเยอะ แต่พอรู้ว่าต้องทำงานที่ไหน ก็ไม่เอา บอกไกลบ้างลำบากบ้าง”

“ครับ ผมไม่มีปัญหาครับ ยิ่งเขามีที่อยู่ให้ด้วยยิ่ง ดีเข้าไปใหญ่เลยครับ”
“แต่ว่านะ เธอไปเร็วหน่อยได้มั๊ย เขาบอกว่าใกล้เปิดซีซั่นแล้ว เขาอยากให้ไปเทรนงานก่อนที่จะเริ่ม
ฤดูท่องเที่ยว กลัวจะยุ่งจนไม่มีเวลามาดูแลเทรนให้เธอ”

“ได้ครับ ผมก็ว่าจะไปหลังจากจบเลยครับ นี่ก็จัดของไว้บ้างแล้ว”
“อ้ออย่าลืม ติดต่อฝ่ายทะเบียนนะ เรื่องรับใบเกรดและงานรับปริญญา”

“ครับ ขอบคุณครับอาจารย์ งั้นผมขอตัวนะครับ”
“อื้อ ๆ รักษาตัวดี ๆ โชคดีนะ”


หลังจากขอบคุณอาจารย์วิทยา เรื่องหางานให้แล้ว ก็เดินออกจากห้องแก แต่ก็ต้องชะงักเท้าไป เพราะ เพชร
สวนเข้ามา เขาเองก็ชะงักเท้าไปเหมือนกัน

“...เต้”
“...เพชร”

ผมหลบสายตา ก่อนจะก้าวขาหลบ เพชรออกไป แต่เขาก็คว้าแขนผมไว้ก่อน

“เต้ครับ ผมขอคุยด้วยหน่อยนะ”
“....ได้.....ผมก็มีเรื่องจะคุยกับเพชรเหมือนกัน มาธุระกับอาจารย์ใช่มั๊ย งั้นผมรอที่ม้านั่งข้างตึกนะ”

“อื้อ คอยผมแป๊บ ผมขอคุยกับอาจารย์ก่อน”

ผมผงกหัวรับคำ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ ลงมานั่งคอยเขาที่ม้านั่งข้างตึก ใต้ร่มจามจุรี ต้นใหญ่ อายุพอ ๆ กับมหาลัย

อีกไม่กี่วันผมก็ต้องอำลามหาลัยแห่งนี้ ที่ผมได้ศึกษามา 4 ปี

อาจจะเพราะต้องช่วยงานที่ร้านเกือบทุกวัน ผมจึงมีความทรงจำกับเพื่อนฝูงไม่มากนัก แต่โดยรวมทุกคนก็
ดีกับผมมาก เวลามีอะไรก็คอย ๆ เข้ามาลากผมเข้าร่วมด้วยเท่าที่ผมจะสามารถเข้าร่วมได้ และที่ผมได้งาน
นี่ก็ไม่ได้บอกใครเลย ไม่ใช่ไม่อยากบอก แต่ผมอยากไปให้ได้ดีก่อนจึงค่อยติดต่อเพื่อนฝูง ไม่อยากให้
พวกมันเป็นห่วงโดยไม่จำเป็น

“อ้าว ว่าไง เต้ ใกล้จบแล้วนี่ จะทำงานหรือว่าเรียนต่อล่ะ”  ป้าที่ร้านอาหารของคณะผม เดินผ่านมาก็ทัก
เสียงใส ผมเคยไปช่วยแกขายข้าวเวลาแกขาดแคลนลูกน้องบ่อย ๆ

“หวัดดีครับ ป้าสาย ผมได้งานแล้วครับ นี่พึ่งไปคุยกับอาจารย์วิทยามา”
“ได้งานแล้วเหรอ เออดี ๆ”

“ต่อไปคงคิดถึงอาหารฝืมือป้าแย่เลย”
“ปากหวานนะเรา ฮิ ๆๆ เอ้า ยังไงก็ขอให้โชคดีนะลูก เป็นเด็กดีอยู่ที่ไหน ก็จะมีแต่คนเมตตา ว่าง ๆ ก็กลับ
มาเยี่ยมป้าบ้างนะลูก”  ผมยกมือไหว้รับพรของป้า ก่อนแกจะเดินจากไป

จิตใจของผมตอนนี้ รู้สึกโล่ง โปร่งมากครับ ไม่เคยคิดเลยว่าจริง ๆ แล้ว คนรอบ ๆ ข้างผม ก็ยังมีความรัก
ความห่วงใยให้ผมอยู่เสมอ


นั่งรออยู่ไม่นาน เพชรก็เดินมานั่ง ม้านั่งตรงข้าม

“ไปหาอะไรกินกันมั๊ยครับเต้”
“...ไม่ละครับ ผมยังมีธุระอื่นต้องทำอีก”

“....เต้ครับ เรากลับมารักกันเหมือนเดิมได้มั๊ย คุณก็รู้ว่าผมชอบแต่ผู้ชาย พ่อแม่อยากให้หมั้นก็หมั้น แต่วันหนึ่งเราก็คงจะไปกันไม่ได้อยู่ดี ....เต้ผมรักคุณมากนะ คุณไม่คิดถึงวันเวลาของเราสองคนเลยเหรอ
คุณจะใจร้ายลืมรักของเราได้ลงคอเชียวเหรอ” เพชรพูดพร้อมกับเอื้อมมือมากุมมือผมที่อยู่บนโต๊ะ ผมไม่ได้
ดึงมือออกเพราะอยากให้เขาพูดสิ่งที่อยากจะพูดให้หมดก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายพูดบ้าง

“เพชรครับ ผมขอบคุณนะครับที่รักผม......”
“เต้ งั้นเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกันนะครับ ผมจะ...”

“คงจะไม่ได้แล้วละครับเพชร”
“...ทำไมละ เต้ ไม่รักผมแล้วเหรอครับ”

“.....เพชร คุณรู้ใช่มั๊ยว่าผมเป็นลูกกำพร้า...”
“..เอ่อ แล้วไงครับ ทำไมพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาละเต้?”

 “แม่ผมท้องกลับมาโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อ หลังคลอดไม่นานท่านก็ตาย ตัวผมเองก็ทำงานช่วยงานที่
ร้านอาหารของลุง มันก็ลำบากพอดู”
“รู้ซิครับ ก็เต้เคยเล่าให้ผมฟังแล้วนี่นา ผมก็เคยบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ผมรับได้ ต่อไปถ้าเราอยู่ด้วยกัน
หลังเรียนจบ ผมจะดูแลเต้ ไม่ให้ต้องลำบากอะไรเลย”

“แล้วครอบครัวคุณรับผมได้เหรอ? เพชรคุณเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ทั้งยังมีหน้ามีตาในสังคม พวกเขาไม่ยอมให้คุณนอกลู่นอกทางแน่ ” ตอนนี้ผมเริ่มชักมือออกจากการจับกุมของเขาช้า ๆ มองตาเขาตรง ๆ ภายในดวงตาเขาสั่นระริก

“ไม่หรอกเต้ คุณนะคิดมาก ผมเป็นตัวของตัวเองนะ ผม...”
“คุณไม่กล้าขัดใจพวกท่านหรอก และที่สำคัญ คู่หมั้นของคุณเป็นผู้หญิง ไม่ว่ายังไงคุณก็หมั้นและ
จะแต่งงานกับเธอแน่ คุณต้องรับผิดชอบชีวิตเธอ คู่หมั้นคุณเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ผมว่าคุณคงรักเธอได้ไม่ยาก”

“เป็นไปไม่ได้หรอกก็ผมชอบผู้ชาย...”
“เพชร หุบปากไปเลยคำนี้ ผมรู้ว่าคุณได้ทั้งหญิงและชาย”

“............”
“ระหว่างคบกันไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าคุณมีคนอื่นอีก แต่ผมไม่เคยพูด เพราะอยากถนอมความรักของเรา
และพวกผู้ชายผู้หญิงเหล่านั้นก็เป็นแค่กิ๊ก แต่คุณปันปัน เขาเป็นคู่หมั้นคุณ เขามีสิทธิ์ในตัวคุณอย่างถูกต้อง และเป็นที่ยอมรับจากทุก ๆ ฝ่าย”

“.......” เพชรหน้าหม่นลง คงคิดไม่ถึงว่าผมจะรู้ว่าลับหลังผมเขาทำอะไรไว้บ้าง ความลับมันไม่มีในโลกหรอก ก็แม่พวกผู้หญิงเขามาคุยโม้โอ้อวดกันให้แซ่ด อย่าคิดว่าผู้หญิงสมัยนี้เขาไปได้ใครมาแล้วจะมานั่งปกปิดไม่มีละ ยิ่งได้คนดังของมหาลัย ยิ่งมาเกทับกันซะมากกว่า

“เพชรครับ ผมกำลังจะไปทำงานในที่ที่ไกลจากกรุงเทพ เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่ผมก็ยังปรารถนาให้
คุณมีความสุข” เพชรมองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่เขารู้จักผมดี ผมไม่ใช่คนที่ชอบล้อเล่น

“เต้ คุณจะไม่คิดดูใหม่เหรอ ผมรักคุณจริงๆ นะ คนอื่น ๆ ก็แค่เล่น ๆ ตามอารมณ์ผู้ชาย คุณไม่ต้องเป็นห่วง
ผมจะปกป้องคุณเอง จะไม่ให้ใครมาทำอะไรคุณ นะครับ อย่าจากไปไหนเลย ที่รัก”

“...เราจบกันด้วยดีเถอะครับเพชร ผมอยากจะให้เราทั้งคู่เก็บความรู้สึกดี ๆ ต่อกันเอาไว้”
“.........”

เขาที่ไร้ซึ่งคำพูดเอาแต่มองหน้าผมนิ่ง ๆ ทำให้ผมคิดว่าคงต้องลุกไปทำธุระต่อเสียที พอลุกขึ้นได้กำลังจะ
ก้าวออกจากม้านั่ง เขาก็เอื้อมมือมาคว้าแขนไว้อย่างรวดเร็ว มือของเพชรเย็นมาก

“เต้ครับ งั้นไปเดทกับผมเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ”
“........”

“ผมอยากให้เราเหลือความทรงจำดี ๆ ร่วมกันอีกครั้ง”
“...อื้อ ก็ได้ครับ..”

“ดีเลย งั้นเราเจอกันวันเรียนจบนะ ที่ผับ ZZ ตอน 3 ทุ่ม”
“โอเค ไว้เจอกัน ผมไปก่อนนะ”

ผมลุกขึ้นบอกลาเขา ก่อนจะเดินจากมา บอกตรง ๆ ผมยังรักเขาอยู่ ไม่ใช่ไม่เจ็บ ไม่ปวดร้าวที่ต้องแยกจากกัน แต่ก็ต้องตัดใจ เพราะอนาคตของเรามันเป็นไปไม่ได้ ถึงไม่มีเรื่องคู่หมั้นของเขาเข้ามา ก็คิดว่าคงต้องจบกับเขาซักวันหนึ่ง

ครอบครัวเขาเป็นนักการเมือง มีอิทธิพลไม่น้อย ครอบครัวเขาไม่ใช่ไม่รู้ว่าเพชร เป็นอย่างไร แค่เห็นว่าเป็น
เรื่องของเด็ก ๆ วัยรุ่น วุ่น ๆ เลยไม่เข้ามายุ่งมาก แต่ก็เคยส่งคนมาเตือนผม ว่าสนุกกันได้ แต่อย่าคิดอะไร
เกินตัว ยังไงผมก็ไม่คู่ควร และถ้าไม่เชื่อฟัง เขาบอกจะไม่รับรองความปลอดภัยของผมและครอบครัว

ถ้าต้องให้เลือก ครอบครัวของอากู๋มีบุญคุณกับผมอย่างมาก ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้ท่าน ถึงจะรักเพชรมากก็เถอะ แต่ครั้งนี้ ผมจะรักเพชรเป็นครั้งสุดท้าย



(มีต่อ ๆ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(มาต่อ - เพชร)


หลังจากเต้เดินจากไป เพชรยืนมองจนอีกฝ่ายลับตาไป  เขาไม่ยอมเลิกคบกับเต้แน่ เขากำลังวางแผน เพื่อจะกักตัวเต้ ให้อยู่กับเขาตลอดไป ในวันนัดเขาจะต้องได้ตัวเต้มา ครอบครัวเขามีคอนโดหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คงต้องมาดูกันว่าที่ไหนจะดี และสะดวกสุด ผมรักเขาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ตอนรับน้อง ถึงจะต่างคณะกัน แต่ก็มีโอกาส พบพานกันบ้าง หน้าตาเลอะแป้ง เลอะสี แต่ก็ไม่อาจบดบังความน่ารักนั้นได้ กว่าจะรวบรวมความกล้าเข้าไปคุยด้วยก็ผ่านไปเป็นปี พอรู้ว่าเขาเองก็สนใจผม ผมเลยรีบ ๆ รวบรัดให้เขาเป็นของผม เต้ที่ไม่ประสีประสา ช่างไร้เดียงสา หลงรักผมหัวปักหัวปำ แต่ไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องบรรดาผู้หญิงที่เข้ามาเสนอตัวให้ผมด้วย เห็นเขาไม่พูดอะไร ผมเลยยิ่งลำพอง ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องให้เราต้องจบกัน ผมว่าแค่เรื่องปัน คงไม่ทำให้เต้ถึงกับจะเลิกกับผมหรอก ถ้าไม่มีเรื่องแม่พวกนั้นเข้าไปด้วย
แต่ก็อย่างที่บอกไว้ ผมไม่ยอมหรอก





(ยังมีอีกติ๊ด)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2015 00:43:52 โดย limpingping »

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(มามีส่วนร่วม - ปานชนก)



แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เพชรคิด และกำลังจะทำให้อนาคต มันจะไม่มีวันเป็นจริง เพราะอีกด้านของโคนต้นจามจุรี ปานชนก ยืนหน้าเครียด กัดริมฝีปากแน่น จนห้อเลือด เธอเลิกเรียนเร็ว เลยจะมารับ เพชรไปหาอะไรทานกัน ก่อนกลับบ้าน โดยไม่ได้โทรบอกล่วงหน้า กะจะทำเซอร์ไพสร์ เขา พวกนักศึกษาบอกเธอว่า เห็นเขาอยู่แถวตึกอำนวยการ เธอเลยเดินมาดู ก็พบเขาจริง ๆ เขากำลังคุยกับเพื่อนอยู่ เธอเลยมายืนแอบรอ จะจ๊ะเอ๋ แต่ไม่นึกเลยว่า เป็นเธอเองที่ได้เซอร์ไพรส์ ไม่เคยคิดเลยว่า เพชรจะเป็นไบ เขากับผู้ชายคนนั้น เธอจำได้ ไอ้เด็กเสริฟไร้มารยาทที่เอาน้ำสาดใส่ซัน เพื่อนของเธอที่งานเลี้ยงต้อนรับท่านทูต ไม่เคยเอะใจ เห็นแต่อี๋อ๋อกับอีนั่นเท่านั้น น่าเจ็บใจจริง ๆ คนอย่าง ปานชนก นะเหรอ จะสู้ผู้ชายไม่ได้ ยังไงเพชรก็ต้องเป็นของฉัน ฮึ่ม คอยดูเถอะ



(จบตอน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2015 00:43:11 โดย limpingping »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
กำลังเข้มข้นเลย  คู่หมั้นน่าจะบอกซันให้มาจัดการนะ

คุณนักเขียนคะ  รบกวนใช้สีเข้มๆนิดหนึ่งได้ไหมคะ? เรามีปัญหาในการอ่านค่ะ โดยเฉพาะสีสดๆมากๆ  เราต้องก็อปไปแปะในเวิร์ดเพิ่ออ่านก่อนลบทิ้งค่ะ  ขอโทษด้วยนะคะ เรามีปัญหาทางสายตาค่ะ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
เฮ้ออ่านตอนแรกๆไม่คิดว่าซันจะนิสัยเลวแบบนี้นะ สงสารเต้จริงๆ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
กำลังเข้มข้นเลย  คู่หมั้นน่าจะบอกซันให้มาจัดการนะ

คุณนักเขียนคะ  รบกวนใช้สีเข้มๆนิดหนึ่งได้ไหมคะ? เรามีปัญหาในการอ่านค่ะ โดยเฉพาะสีสดๆมากๆ  เราต้องก็อปไปแปะในเวิร์ดเพิ่ออ่านก่อนลบทิ้งค่ะ  ขอโทษด้วยนะคะ เรามีปัญหาทางสายตาค่ะ



ขอโทษจริง ๆคะ เพราะอยากใช้สีให้เห็นความแตกต่างของแต่ละคน งั้นของคนอื่น ๆ จะใช้สีดำละกัน :mew2:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เฮ้ออ่านตอนแรกๆไม่คิดว่าซันจะนิสัยเลวแบบนี้นะ สงสารเต้จริงๆ



แค่นี้ยังน้อยไป ขอบอกไว้เลยว่า พระเอกเรื่องนี้ เลว  :a5:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คุณนักเขียนคะ

ขอบคุณมากค่ะ   สอบถามคนอื่นก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าหากว่าคนอื่นๆชอบกันก็ทำตามเดิมก็ได้ เราเป็นส่วนน้อยที่มีปัญหาก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นสีอิ่นตัวเข้มๆ แดง น้ำเงิน ไม่เป็นไรค่ะ  ขะเขียนไว้ก่อนว่าเป็นส่วนของมครก็ได้ เช่น  พาร์ทของเพชร Petch's part (เคยเห็นคนอิ่นเขาทำแบบนี้ค่ะ) ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ไม่เป็นไรค่ะ เปลี่ยนเป็นสีดำได้ค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วก็คิดว่าสีมันอ่านยาก ฮะๆๆๆ  :mew4:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
สงสารเต้ รักเต้ เป็นกำลังใจให้เต้ต่อไปนะจ๊ะ  :L1:
เหอ ๆ มาดูกันว่าจะรอดมือซันได้อีกครั้งหรือไม่

********************************************************



ตอนที่ 12 Finally I got you.



วันนี้เป็นวันสุดท้ายในมหาลัย พวกเพื่อน ๆ จึงชวนกันมาเที่ยวเพื่อส่งท้ายกัน ผมที่งุ่นง่านมาหลายวันแล้วก็อยากจะผ่อนคลายบ้าง ค่ำคืนนี้ ผู้คนทั้งชายและหญิงก็มากหน้าหลายตา ต่างส่งสายตามาเชิญชวน ผมก็ว่าจะมองหาใครซักคนสำหรับค่ำคืนนี้ เพราะไม่ใช่แค่คืนนี้ ก่อนหน้านี้ทุก ๆ คืน ผมก็ต้องมีใครซักคน มาอยู่ด้วยเพื่อให้ค่ำคืนมันผ่านพ้นไปซักที ไม่ว่าจะทำกับใคร มากแค่ไหน ก็ไม่ทำให้รู้สึกพอใจเลย ภาพใครบางคน คอยตามมาหลอกหลอนให้ว้าวุ่นใจตลอด

มองไปมองมาก็ยิ่งเซ็ง หรือคืนนี้ผมจะลองนอนคนเดียวดู บางทีผมอาจจะฟุ้งซ่านไปเองคนเดียวก็ได้ เขาจะมามีอิทธิพลอะไรมากมายกับผมนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ เซ็งตัวเองเข้าไปใหญ่ เลยออกมาสูบบุหรี่หลังร้านแก้เครียด

ก็มีพวกสิงห์อมควัน สองสามคน ยืนดูด ๆ พ่น ๆ กันอยู่ มองหน้ากัน พอเป็นพิธี จุดบุหรี่ สูดอัดควันเข้าปอด เต็มที่ก่อนจะค่อย ๆ พ่นควันออกมาอย่างแผ่วเบา มองควันลอยเอื่อย ๆ ไปทางด้านที่จอดรถ

ก็เห็นมีคนกำลังวิวาทกันอยู่ ด้านหลังลานจอดรถ มองไม่ค่อยถนัดมันค่อนข้างมืด อ้าวไอ้เชี่ย ใกล้รถกูด้วย ด้วยความเป็นห่วงรถ ผมเลยซัดบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดทิ้งในทรายดับบุหรี่ ก่อนจะเดินเข้าไปดูสถานการณ์ใกล้ ๆ เผื่อมันใกล้รถผมเกินไปจะได้ไปถอยรถออก

พอเข้าไปใกล้ ๆ ก็ต้องชะงัก ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หรือผมจะเมาแล้วเห็นใครต่อใครเป็นเขาไปหมด
ชายฉกรรจ์ท่าทางชั่วร้าย 3 คน กำลังพยายามจะทำร้ายผู้ชายรูปร่างโปร่งเพรียวบาง หน้าหวาน คนที่รบกวนใจผมมาตลอดหลายวันมานี้

“พี่ อย่าทำอะไรผมเลย เราไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แล้วพี่จะมาทำร้ายผมทำไม”
“เออ กูกับมึงไม่เคยรู้จักกัน แต่มึงนะอยู่ดีไม่ว่าดี ไปเล่นกับของสูง เขาเลยให้พวกกูมาจัดการมึง”

“พี่ผมไม่เข้าใจ ผมไม่รู้เรื่อง ผิดคนแล้วมั้ง พี่ปล่อยผมไปเถอะ”
“กูก็ไม่อยากทำหรอก แต่เขาสั่งมา อโหสิละกัน เอ้าพวกมึงจะมองอยู่ทำไมจัดการมันซิ”





หมัดของผมไปก่อนที่ผมจะทันได้สั่งอะไรซะอีก ผมซัดไอ้คนที่มันกำลังกำคอเสื้อยืดของเต้ เต็มแรงจนมันหงายไปอีกทาง อีกสองคนพอเห็นผมเข้ามาขวาง ก็มีท่าทีเลิกลั่ก เต้ที่ถูกหนึ่งในนั้นจับแขนอยู่ก็หมุนตัวไปถีบมันจนกระเด็น ไอ้คนที่ผมซัดลงไป มันลุกขึ้นมาได้ ก็บอกให้พวกมันช่วยกันรุมผม ก็แลกหมัดเท้ากันซักพัก ก็ได้ยินเสียงเป่านกหวีดดังปรี๊ดดดด ยามของผับวิ่งถือไฟฉายสาดมาแต่ไกล พวกมันรีบ ๆ วิ่งหนีไป

ผมไม่ได้วิ่งตาม หันมาดูเต้ ที่ฟุบไปกับพื้น ก่อนที่จะยันตัวขึ้นมา เอามือกุมท้องสงสัยจะโดนต่อยเข้าที่ท้อง ก้มลงประคองให้เต้ลุกขึ้นยืน

“ขอบคุณครับ ที่เข้ามาช่วย เฮ้ยยยยยยย” เต้เงยหน้าขึ้นมา กำลังจะกล่าวขอบคุณผม ก็ต้องร้องเสียงหลง อ้อ คงเพิ่งเห็นชัด ๆ ละซิว่าเป็นผม ก็เมื่อกี้มันมืด และกำลังชุลมุนกันอยู่

“ร้องเสียงหลงเลย ตกใจอะไร เจอตัวก็ดีแล้วจะได้เคลียร์กัน” พอรู้ว่าเป็นผม เต้ก็ทำท่าจะวิ่งหนี แต่ไม่ทันหรอกผมจัดการรวบตัวเขาไว้ทั้งแขน ยกจนตัวลอย

“ปล่อยผมนะ คุณซัน ปล่อยผม”
“เฮอะ เจอตัวจนได้นะมึง ทำกูแสบมาหลายทีและ อย่าคิดว่าจะหนีกูได้อีกเลย”

“เอ่อ คุณครับ ไม่บาดเจ็บอะไรใช่มั๊ยครับ” ยามผับเห็นท่าเราสองคนไม่ค่อยดีเลยเข้ามาถาม

“ไม่ครับขอบคุณ นี่เมียผมเอง ไม่มีอะไรแล้ว คุณกลับไปทำงานของคุณเถอะ”
“เฮ้ย อะไร ไม่ใช่นะครับ ผมเป็นผู้ชายนะ จะไปเป็นเมียคุณได้ไง พี่ครับช่วยด้วย”

“ก็ผู้ชายเหมือนกันนี่แหล่ะ มึงถึงต้องเป็นเมียกู” ผมไม่สนใจยาม อาศัยตัวใหญ่กว่าแข็งแรงกว่า ยกตัวเต้ที่ยังดิ้นรน ไปจนถึงรถของผมที่จอดอยู่ไม่ไกล

ตอนแรกตั้งใจจะกลับไปที่คอนโด แต่มาคิดอีกที ผมคงไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่ ถ้าปล่อยให้เขาหลุดรอดมือไปได้อีก

ผมเปิดประตูหลัง แล้วจัดการโยนเต้เข้าไปที่เบาะหลังรถ ก่อนจะแทรกตัวเองตามเข้าไปแล้วปิดประตูล็อกตาม

เต้มีทีท่าตกใจกับท่าทีคุกคามของผมมาก เขาถอยไปจนชนประตูอีกด้าน เขาหันตัวไปจะไปเปิดประตู ผมไม่ปล่อยให้เขารอดไปได้อีกแล้ว เอื้อมมือไปจับข้อมือของเขาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดล๊อกประตู พร้อมทั้งกระชากเขาเข้ามาหาตัวผมอย่างแรง จนเต้ขึ้นมานั่งบนตักผม ผมกอดเอวเต้ไว้แน่น

“มึงหนีกูไม่พ้นหรอก”
“คุณซัน อย่าทำอะไรผมเลย ผมขอโทษที่เคยล่วงเกินคุณ เลิกแล้วต่อกันเถอะนะครับ”

“มึงหยามกูตั้งหลายครั้ง คิดว่ากูจะเลิกแล้วได้เหรอ ห๊ะ”
“ไม่นะครับ ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะครับ”

“ไม่ต้องพูดแล้ว รอครางอย่างเดียวได้เลยมึง”
“ไม่ อย่าครับ อย่า”

รำคาญ ไม่ต่อปากต่อคำแล้ว ลงมือเลยแล้วกัน ไม่พูดพล่าม ผมถกเสื้อมันขึ้นมา ถอดออกจากหัวมันแต่ ไม่หลุดจากมือมัน เพราะผมกำลังจะมัดมือมันไว้ข้างหลังด้วยเสื้อยืดของมันนั่นแหล่ะ

ก่อนจะจับท้ายทอยมันด้วยมือข้างหนึ่งกดหัวมันไว้ที่เบาะ แล้วยกขามันข้างหนึ่งวางเข่าไว้บนเบาะ ขาอีกข้างยืนย่อตัวบนพื้น ผมทาบทับมันทั้งตัวก้มลงกัดคอมันอย่างหมั่นเขี้ยวกับต้นคอขาวเนียนที่หลงมองมานาน

“โอ๊ยๆๆ เจ็บนะ เป็นหมารึไง”
“เออ กูเป็นหมา และกำลังติดสัดอยู่นี่ไง”

“ปล่อยมือได้ไหมคุณซัน ผมเจ็บ ผมยอมคุณแล้ว”
“....”

“นะๆๆ ครับ ผมจะได้ใช้มือให้คุณด้วยไง”
“....น่าสนแฮะ ......แต่ไม่ดีกว่า อย่างนี้ก็เร้าใจกูไปอีกแบบ”

“..อ๊ะ อย่ากัด”

ไม่ฟังมันต่อรองแล้วครับ เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ทั้งกัดทั้งจูบไปทั่วจากต้นคอ ใบหู ไหล่ ไล่มาตามแนวกระดูกสันหลัง มันก็คงจะเสียวจนหลังแอ่น มืออีกข้างผมก็สาละวนปลดกระดุมกางเกงยีนส์มัน จนสามารถดึงมันลงมากองที่เข่ามันได้ ได้ยินเสียงประท้วงเล็กๆ  จากเบาะ แต่ใครสนล่ะ

“อย่า อย่าถอด”
ไม่ทันแล้วเบบี๋ ตอนนี้มันหลุดไปกองทั้งชั้นนอกชั้นในแล้วครับผม ก้นกลม ผิวเนียน น่าสัมผัส อดจะยิ้มไม่ได้ ผมก็ไม่รู้ผมจะยิ้มทำไม แต่มันรู้สึกดีใจแปลก ๆ เหมือนได้ของขวัญชิ้นแรกที่ต้องสะสมเงินเองกว่าจะได้มา








เวลานี้เงียบมาก ไม่มีแม้แต่เสียงแอร์ในรถ ผมขับรถออกจากที่จอดรถของผับ ด้วยอารมณ์ผิดกับตอนขามาลิบลับ

เหลือบมองคนข้าง ๆ ที่นอนสลบใสล ไร้สติจากกิจกรรมท้ายเบาะรถ เมื่อครู่ เรือนร่าง ขาวนวล เย้ายวน ที่บิดเร่า และครางกระเส่า ใต้ร่างผม เติมเต็มให้ผมรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่เคยได้จากใครมาก่อน ข้างในของเขาก็ช่างอบอุ่น โอบรัดผม อย่างเร่าร้อน ไม่น่าเชื่อว่าเขาเคยผ่านใครมาก่อน แต่บอกแล้วว่าไม่ใช่ปัญหา





พอถึงคอนโดผมก็อุ้มเขาลงจากรถ ยามที่คุ้นเคยกันถามว่าผมต้องการความช่วยเหลือรึเปล่า อือ ก็ดีนะ กดปุ่มลิฟต์ให้ผมหน่อยก็คงดี

วางร่างไร้สติบนเตียงนุ่มของผม แล้วนั่งขอบเตียงมองดูใบหน้าหวาน เปลือกตาปิดสนิท เอื้อมมือไปเกลี่ยผมที่ปรกหน้าผากออกจากกรอบหน้า ลูบแก้มใสแผ่วเบา ใบหน้าหวานมีอาการกระตุกเล็กน้อย คงจะรำคาญคนกวน

ตอนนี้บอกได้เลยว่าไอ้อาการหงุดหงิดติดสัดที่เป็นมาทั้งอาทิตย์ หายไปเป็นปลิดทิ้ง ไม่น่าเชื่อ แค่ได้มีอะไรกับเขา ผมก็กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

แต่ที่ต่างไป ยิ่งผมนั่งมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ยังคงแดงซ่าน จากกิจกรรมเบาะหลัง และเสื้อผ้าที่ใส่แบบลวก ๆ ทำให้เต้ยิ่งดูเซ็กซี่ จนอดที่จะตื่นตัวขึ้นมาอีกไม่ได้

ก็ว่าจะอีกแค่รอบเดียว แต่เต้ที่ถึงจะสลบไปแล้ว แต่ร่างกายของเขาก็ตอบสนองผมอย่างดี จนกลายเป็นอีกรอบ และอีกหลายรอบ กว่าจะสุขสมใจก็ไม่ทันได้นับแล้วว่ามันกี่ครั้ง

ลุกไปห้องน้ำเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้า เช็ดตัวทำความสะอาดให้เต้ ที่นอนตัวอ่อนละทวย เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ เพื่อให้เขาได้นอนสบายตัว ก่อนที่จะเข้าไปชำระร่างกายตนเองบ้าง แต่งตัวเสร็จแล้วจึงตรงกลับไปที่เตียง นั่งพิงหัวเตียงมองดูอีกคนที่หลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

ตอนนี้เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้ว ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครง่าย ๆ ยิ่งมองยิ่งมีความสุข ผมคงหลงรักเขาตั้งแต่ครั้งแรกแล้วล่ะผมว่านะ แต่ที่ไม่รู้ตัวเพราะผมไม่คุ้นเคยกับคำว่ารักซักเท่าไหร่ ยิ่งได้เป็นเจ้าของเขาแล้ว มันทำให้ยิ่งหลงเขามากยิ่งขึ้น ผมต้องกลับบ้าน ผมจะพาเขาไปด้วย ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยเขาไปหรอก ก้มลงจูบหน้าผากเต้เบา ๆ ก่อนจะล้มตัวลงข้าง ๆ กัน และดึงเขาเข้ามาไว้ในอ้อมกอด มองหน้าคนหลับไม่วางตา พรางคิดไปด้วยว่า จะทำอย่างไรดีพรุ่งนี้ที่ตื่นขึ้นมา อยากให้เขายอมรับผม และไปอยู่กับผมที่บ้าน แต่ต้องคิดเผื่อเขาดื้อ ไม่ยอมทำตามด้วย ถึงจะต้องใช้กำลังบังคับก็ต้องทำล่ะ


ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ซัน......แม่ยกอ้าปาก.....ง่าาาาา (พูดไม่ออก) :katai1:

ปล้ำเต้เลยเหรอ? โห  แล้วน้องมันจะรักนายได้เมื่อไหร่เนี่ย?

สามคนที่ว่าคงเป็นคนที่ชะนีสั่งมาล่ะสิ  เสียดายนะที่เต้จะไม่รู้ความเลวของคนที่รัก 

ไปๆมาๆเต้ก็โดนปล้ำอยู่แล้วใช่ไหม?


ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ซัน......แม่ยกอ้าปาก.....ง่าาาาา (พูดไม่ออก) :katai1:

ปล้ำเต้เลยเหรอ? โห  แล้วน้องมันจะรักนายได้เมื่อไหร่เนี่ย?

สามคนที่ว่าคงเป็นคนที่ชะนีสั่งมาล่ะสิ  เสียดายนะที่เต้จะไม่รู้ความเลวของคนที่รัก 

ไปๆมาๆเต้ก็โดนปล้ำอยู่แล้วใช่ไหม?


อ้าวนึกว่าพวกแม่ยกจะดีใจนะที่ เต้เสร็จซันซะที?  :m28:
ส่วนเรื่องรัก ไม่ต้องห่วง ได้กันแล้วเดี๋ยวมันก็รักกันไปเองแหล่ะ (รึเปล่า?)
เหอ ๆๆๆๆ  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอบคุณที่ชมว่า "เห้ย สนุกมาก!!!" ดีใจคะ ที่ชอบกัน  :hao5:



*******************************************************



ตอนที่ 13 It’s ok, I’m paid, Good bye



เฮ้อ เพลียชะมัด หนักตัวด้วย กี่โมงแล้วนี่ โอ้ย ไม่อยากจะเชื่อเลย จะเที่ยงแล้วเหรอเนี่ยะ ต้องรีบไปแล้ว ไม่อยากจะเร่งรีบเกินไป

...ก็ไม่ใช่ครั้งแรกนะ แต่ก็ไม่เคยถูกทำอย่างหื่นกระหายอย่างที่ไอ้หมอนี่มันทำ รับแทบไม่ไหว เนี่ยะถึงกับหมดสติไปตั้งแต่อยู่ในรถ ค่อย ๆ ยันตัวขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก ทั้งเจ็บทั้งแสบไปทั่วร่าง มองไอ้คนข้างเคียงที่ยังคงหลับสนิทอยู่

“ไอ้บ้า เล่นซะสลบไปบนรถไม่พอ ยังจะมาต่อที่ห้องอีก ไม่บันยะบันยังเลย ไอ้หื่น ไอ้เลว ไอ้ ๆๆๆ.....เฮ้อ” อยากจะด่ามันให้เจ็บแสบแต่ก็ไม่อยากปลุกให้มันตื่นขึ้นมา ทำอะไรผมอีก ดันเผลอคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน ก็ยิ่งร้อนหน้า ตอนกลับมาที่ห้องก็ไม่ถึงกับไร้สติซะทีเดียว แค่ไม่มีแรงจะลืมตาหรือจะขัดขืน กับคนไร้สติยังไม่เว้น ไอ้เล๊ว เลว

แต่ก็ยอมรับเลยว่า ไอ้หมอนี่มันเก่งเรื่องบนเตียงจริง ๆ ทำให้เมื่อคืนผมมีความสุขจนละลายไปเลย อดจะหมั่นใส้ไอ้หน้าหล่อข้าง ๆ ไม่ได้ อยากต่อยหน้ามันจัง ๆ ซักทีจริง ๆ

“พอใจแล้วซิ ดูทำหน้าเข้า ไม่ต้องมาทำหน้าสุขสมซะขนาดนี้เลย” ยิ่งพูดก็ยิ่งอายตัวเอง ที่เมื่อคืนถึงไม่ถูกมัดก็คงให้ความร่วมมือเต็มที่แหล่ะ ก็มันเร่งจนอารมณ์ขึ้นซะขนาดนั้นแล้วนี่ เห็นมันนอนยิ้ม ๆ ก็เผลอยิ้มตาม

“หมดหนี้กันแล้วนะ ไอ้บ้า” อดจะเสียดายไม่ได้ ถ้าเราได้เจอกันในสถานการณ์ปกติ ผมอาจจะชอบเขามากกว่านี้ก็ได้ เฮ้อ เลิกคิดละ ผมต้องไปแล้ว กว่าจะลุกขึ้นมายืนได้ก็แข้งขาอ่อนไปอ่อนมาอยู่พักใหญ่ เก็บเสื้อผ้า กางเกงที่กระจัดกระจายไปคนละทางมาใส่ แต่งตัวให้เรียบร้อย มองหากระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือ ดูรอบ ๆ ไม่ลืมอะไรแล้ว หันไปมองผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เดินออกจากประตูไป “ลาก่อน”







กลับมาถึงบ้านอย่างลำบากลำบน มากับแท็กซี่ครับ ชั่วโมงนี้ให้โหนรถเมล์คงกลับไม่ถึงบ้านแน่ กระเป๋าผมจัดไว้เรียบร้อยแล้วครับ เดินไปบอกลาอากู๋ อากิ๋ม และคนในร้าน น้ำตาพาลจะไหล ผมคิดเสมอว่าจะต้องออกไปจากที่นี่ แต่พอถึงวันนี้จริง ๆ มันทำใจยากครับ ไม่อยากจากความคุ้นเคยที่นี่ไปเลย

เฮียตง อาสาไปส่งผมที่สถานีขนส่ง แปลกดี ผมไม่เคยคุยกันดี ๆ กับเฮียมันเกิน 2 คำเลย แต่วันนี้เฮียมันพูดจาดีมาก ไม่มีหมาออกจากปากมันซักตัว ผมเคยอิจฉาเพื่อน ๆ ที่มันมีพี่น้องเล่นด้วย เวลามองเฮียมันตอนเด็ก  ๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันจะต้องว่าผมด้วย ทำไมมันไม่รักผม ผมเป็นน้องมันนะ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันก็รักผมเหมือนกัน

“เต้ ยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของเต้ เหมือนกันนะ ไม่ว่าจะมีความสุข ความทุกข์ เหนื่อย หรืออ่อนล้า ก็กลับมาได้ตลอดเวลานะ รู้ไหม” เฮียตงมาส่งจนถึงรถทัวร์ ก่อนจะพูดประโยคซึ้ง ๆ ให้ผมเกือบต่อมน้ำตาแตก

“ขอบคุณครับเฮีย เฮียก็ดูแลตัวเองนะ ฝากดูแลอากู๋ด้วยนะครับ”
“โอ้ย ขานั้นแข็งแรงอย่างกับม้า ไม่เป็นไรง่าย ๆ หรอก”

“พูดบ้า ๆ เฮียนี่ ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ เออ ๆ โชคดีนะเต้”

พูดถึงอากู๋ก็ยิ่งคิดถึง แต่ไม่เป็นไร ฝากเฮียแล้วมันคงดูแลป๊ามันได้อยู่แล้ว ผมหัวเราะ เฮียก็หัวเราะ ไม่รู้ว่าจะได้เจอเฮียมันอีกเมื่อไหร่ ยกมือไหว้ ก่อนจะเข้าไปกอดเฮีย เฮียมันมีท่าทีตกใจไม่น้อย หันซ้ายหันขวา คงอายเพราะเห็นหน้ามันแดง ๆ แต่ซักพักมันก็กอดตอบกลับมา น้ำตาซึมเลยอ่ะ ก่อนขึ้นรถผมไม่ลืมส่งเบอร์โทรศัพท์ใหม่ให้กับเฮีย ผมเปลี่ยนเบอร์แล้วครับ ไม่อยากให้คนที่ไม่อยากเจอ ติดต่อได้อีก

รถออกจากชานชาลา ตามเวลา ผมเลือกที่นั่งข้างหน้าต่าง นั่งมองข้างทาง ที่ทัศนียภาพเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากตึกรามบ้านช่องน้อยใหญ่ และรถราพลุกพล่านของเมืองหลวง ก็ค่อย ๆหายไปเป็นบ้านเรือนตามต่างจังหวัดเรื่อย ๆ

ชีวิตใหม่ของผมไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็คิดไว้ว่าจะอดทน จะฝ่าฟันไปให้ได้ ผมไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวไกล ๆ อย่างนี้มาก่อนเลย อดจะวิตกไม่ได้ น้ำตาไหลอาบแก้ม คิดอะไร ๆ ไปอีกล้านแปด

สุดท้ายก็ดันไปคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก หน้าร้อนวาบ  เพราะไอ้บ้านั่นทีเดียว ทำซะไม่ยั้งเลย ต้องมานั่งรถหลาย ๆ ชั่วโมง มันลำบากนะโว้ย ไม่รู้มันไปตายอดตายอยากมาจากไหน...........ถึงจะอดชื่มชมฝีไม้ลายมือมันไม่ได้ ก็เมื่อคืนผมมีความสุขซะลืมเรื่องทุกข์ใจทั้งหลายทั้งแหล่ไปเลย ลืมกระทั่งลีลารักของเพชร ที่เคยฝังอยู่ในความทรงจำ อดจะเปรียบเทียบผู้ชายสองคนนี้ไม่ได้ ร่วมรักกับเพชร เหมือนเขาจะหาความสุขจากร่างกายของผมมากกว่าที่เราจะมีความสุขร่วมกัน ฮึ แต่ช่างเถอะ พอกันที ผู้ชาย 2 คนนี้ เราคงไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0

ออฟไลน์ sin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
สนุกอ่ะเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลย จุใจมาก
มาเชียร์เต้ต่อ ดีนะเต้ไม่ใช่นางเอกดราม่ามาก มันเลยไม่เศร้าจนเกินไป ชอบเต้อ่ะ 555 สงสารด้วย
อยากให้เต้มีความสุข

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
สนุกอ่ะเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลย จุใจมาก
มาเชียร์เต้ต่อ ดีนะเต้ไม่ใช่นางเอกดราม่ามาก มันเลยไม่เศร้าจนเกินไป ชอบเต้อ่ะ 555 สงสารด้วย
อยากให้เต้มีความสุข


ขอบคุณที่ติดตามเต้นะคะ  :กอด1:  ไม่ถนัดต้มมาม่าคะ แล้วชอบให้ตัวเอกคิดบวกมากกว่าคะ ชีวิตมันตัองต่อสู้   :a2:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตอนที่ 14 Island of love.




 
เมื่อยอ่ะ นั่ง ๆ นอน ๆ ในรถทัวร์ ร่วม 10 กว่าชั่วโมงแล้ว ก็ได้ลงมายืนบนพื้นซะที เปลี่ยนท่านั่ง ตะแคงซ้าย ตะแคงขวา โครตเมื่อยเลยอ่ะ ตามที่อาจารย์บอกมา ว่าให้ผมลงที่อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี

ใช่ครับตอนนี้ผมถึงจังหวัดภูเก็ตแล้วครับ ไข่มุกอันดามัน สวรรค์แดนใต้ ทันทีที่ถึง ผมก็ข้ามไปเกาะกลางถนน วงเวียนที่ตั้งของอนุสาวรีย์ 2 ท้าว พนมมือก้มกราบ ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเป็นหลาน ให้ท่านช่วยดูแล และคุ้มครอง ถึงที่ ๆ ผมจะไปทำงาน จะไม่ใช่เขตของภูเก็ตก็เถอะ

ฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาง ผมเดินงัวเงียกลับไปทางฝั่งตลาด พร้อมกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลาง ของผมไม่ค่อยเยอะครับ รีสอร์ทมีเครื่องแบบให้แล้ว เลยไม่ได้ขนเสื้อผ้ามาซักเท่าไหร่ ของใช้ส่วนตัวก็ไม่มีอะไรมาก ผมต้องหารถไปท่าเรือบางโรง แต่ผมว่ายังเช้าไป ผมหาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า คนเริ่มพลุกพล่าน รถราก็เริ่มเติมเต็มท้องถนน ที่นี่คึกคักมาก มีคนหลายเชื้อชาติเข้ามาเที่ยวและมาทำงาน มาอยู่อาศัย โดยเฉพาะคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ขนาดเด็กที่ยกโอวัลติลร้อนมาให้ผม ยังเป็นพม่าเลย ฮ่ะๆๆๆ


กว่าจะถึงท่าเรือก็นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างจนหัวฟูเลย เดินยกกระเป๋ามองซ้าย มองขวา ก็มีคนเข้ามาถามว่าผมจะไปไหน เป็นภาษาใต้ กว่าเขาจะเข้าใจว่าผมไม่ค่อยเข้าใจก็ซักพักใหญ่ ได้เรือที่ต้องการก็ยกกระเป๋าไว้ในเรือ ส่วนตัวผมก็ออกมาถ่ายรูปรอบ ๆ บริเวณ

“อ่ะ ขอโทษครับ” มัวแต่ยกกล้องถ่ายรูป เผลอไปชนคุณลุงคนหนึ่งเข้า
“ไม่พรื่อลุกเอ๊อ” ลุงแกผิวสีน้ำตาลเข้ม ท่าทางใจดี หันมายิ้มให้ พร้อมส่งภาษาใต้มาให้ผมงงอีกละ เห็นลุงแกมีสัมภาระเยอะมาก ผมเลยเสนอตัวช่วยแกขนของลงเรือ แกก็จะไปเกาะยาวน้อยเหมือนกัน

“ขอบใจมากพ่อหนุ่ม เรามาจากไหนล่ะ?” ลุงแกพูดกลางกับผมแล้วครับ เพราะเห็นผมทำหน้างงมากไปหน่อย

“ผมมาจากกรุงเทพครับ”
“มาเที่ยวเหรอ”
“เปล่าครับผมมาทำงาน ลุงรู้จักรีสอร์ท S ไหมครับ?”

ลุงมองหน้าผมครู่หนึ่ง “อ้อรู้จักซิ อยู่ติดกับบ้านลุงเลย”

“ดีจังครับ ต่อไปผมก็ฝากตัวด้วยนะครับลุง”
“ฮ่ะๆๆๆ เออ ๆ รับฝาก ๆ”

พอลงเรือมานั่งกัน ก็ได้ยินแต่คนทักลุงกันใหญ่ เรียกลุงว่านายหัว ๆ ผมเคยได้ยินคำนี้ เขาใช้เรียกคนขับรถ ผมจำได้ ลุงแกคงขับรถอยู่ในเกาะแน่เลย คุยกันถูกคอ ลุงแกคุยสนุก มีเรื่องเล่า เรื่องบอกเยอะแยะไปหมด หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก อดจะนึกถึงอากู๋ไม่ได้ ขานั้น ถามคำตอบคำ ป่านนี้คงตื่นมาเตรียมของแล้ว

ทะเลอันดามันสวยงามอย่างที่ล่ำลือกันจริง ๆ น้ำเป็นสีเขียว สีฟ้า อย่างกับท้องฟ้าเป็นผืนเดียวกันกับท้องทะเล ภาพความงามที่ผ่านตาทำให้ผมพอจะคลายความเหงาลงได้บ้าง

“แล้วมาไกลขนาดนี้ที่บ้านไม่ห่วงเอาเหรอ”
“อ้อ ผมกำพร้าครับ พ่อแม่เสียหมดแล้ว โตมากับลุงครับ ท่านก็ห่วงครับ แต่ผมโตแล้ว ผมก็อยากจะทำอะไรด้วยตัวผมเองบ้างนะครับ”

“แล้วไม่มีแฟนที่กรุงเทพเหรอ หน้าตาอย่างเรานี่ ไม่น่าจะเหลือนะ รูปหล่อขนาดนี้ อย่าทำให้พวกสาว ๆ บนเกาะอกหักละ ฮ่ะๆๆๆ”
“ฮะๆๆ เคยมีครับ แต่เลิกกันแล้วครับ ผมมันฐานะไม่ดี ทางบ้านเขาไม่ค่อยชอบครับ”

“อะไรกัน ยังมีอีกเหรอสมัยนี้ ไอ้พวกกีดกันฐานะเนี่ยะ น้ำเน่าชะมัด”
“ช่างมันเถอะครับ ผมทำใจได้แล้ว ก็อวยพรให้เขามีความสุขกับคนที่เขาจะแต่งงานด้วยนั่นแหล่ะครับ”

“อือ ๆ ดี ๆ อายุขนาดนี้คิดได้ขนาดนี้ ก็ดีแล้วละพ่อหนุ่ม ผิดกับลูกชายลุง อายุน่าจะพอ ๆ กัน แต่ไม่ไหว เห็นมีแต่เที่ยว ไม่เป็นโล้เป็นพาย ดีว่ายังเรียนจบนะ”

“วัยรุ่นก็อย่างนี้แหล่ะครับ ถ้าเขาจบแล้วต่อไปก็คงคิดได้”
“ลุงก็หวังอย่างนั้น อ่อ ถึงแล้ว ไป ๆ เตรียมตัว ๆ อย่าลืมของละ”

เรือจอดเทียบท่าเรือสะพานปูนสูงมากครับ ดีว่าน้ำขึ้น จึงขึ้นท่าได้ง่าย ผมก็ยังช่วยคุณลุงขนของขึ้นมาที่ท่า

มองไปรอบ ๆ เห็นทั้งคนไทย และต่างชาติเดินกันให้ควัก หน้านี้ใกล้จะเริ่มไฮแล้ว คนเริ่มมาเที่ยวกันแล้ว ผมรับงานนี้มาจากอาจารย์ งานในรีสอร์ทของรุ่นพี่ ที่เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา มีที่พัก มีอาหารให้ทุกมื้อเลยครับ เงินเดือนก็ใช้ได้ ผมมาทำแผนกบัญชีครับ

เห็นว่าเขาจะส่งรถมารับ ผมก็มอง ๆ อยู่ ไม่เห็นรถเลย มีแต่มอเตอร์ไซด์ และรถมอเตอร์ไซด์พ่วง
“น้อง ๆ น้องชื่อเต้ รึเปล่า?”
“ครับ ผมเอง” ซักพักก็เจอคนมารับแล้ว

“เอาของขึ้นรถเลย” ฮะๆๆ รถที่ว่าคือข้างมอเตอร์ไซด์พ่วงนั่นแหล่ะครับ
“ลุง ๆ ไปด้วยกันมั๊ยครับ” วิ่งมาหาลุงที่แกยืนไม่หือไม่อือ ไม่เห็นมีญาติ ๆ มารับแกเลย

“เฮ้ยๆ ไอ้น้อง นี่รถของโรงแรมนะ ไม่ใช่รถสาธารณะ จะได้เที่ยวรับใครมั่วตั๊ว .....เฮ้ย นายหัว” พี่ที่มารับ ท่าทางหงุดหงิด แต่พอเห็นลุงแกชัด ๆ ถึงกับหน้าซีดเลย เรียกลุงแกเสียงสั่น

ผมหันไปมองลุง ลุงก็ยิ้มแล้วเดินไปตบบ่าพี่เขา “ลุงไปด้วยซิ ไอ้หนุ่ม”
“ครับ ๆ เชิญครับ” โห ท่าทางลุงแกจะไม่ธรรมดาแฮะ

ระหว่างทางก็คุยกันต่อไป แกชี้ให้ดูนั่นดูนี่ มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ที่สำคัญไม่ต้องกลัวอดครับ มี เซเว่นด้วย เย้ แต่ลุงบอกว่าที่นี่เป็นมุสลิมซะส่วนใหญ่ ฉะนั้น เซเว่นสาขานี้ ไม่มีหมูครับ







กว่าจะถึงรีสอร์ท ก็กระเด้งกระดอนกันพอสมควร หัวเหอ กระจัดกระจาย

“ลุงบ้านลุงอยู่ไหน เดี๋ยวผมช่วยขนของเข้าบ้านให้”
“ฮ่าๆๆๆ ใจดีจริง ๆ........อยู่ที่นี่แหล่ะ”

เอ่อ.............ถ้าใครดูหน้าผมตอนนี้ก็คงเห็น งองูอยู่บนหน้าผม 2 ตัวแน่ ๆ ก็ที่ลุงแกชี้ และบอกว่าเป็นบ้านแกน่ะ มันไม่เห็นมีบ้านใครเลย นอกจากรีสอร์ทที่ผมกำลังจะเข้ามาเป็นพนักงานเร็ว ๆ นี้

ซักพัก ก็มีพนักงานผู้ชาย ผู้หญิง ในรีสอร์ท 3 คนวิ่งเข้ามาไหว้ลุงแก และช่วยกันขนของทั้งหมดเข้าไปในรีสอร์ท ต่อจากนั้นก็มีผู้หญิงแต่งตัวดี รูปร่างกะทัดรัด สวยสง่า เดินเข้ามาไหว้ลุงอีกคน

“สวัสดีคะพ่อ กลับมาทำไมไม่โทรมาแจ้งล่วงหน้าคะ จะได้ให้คนไปรับตั้งแต่สนามบิน”
“ยัยมีน คิดถึงจังเลยลูก”

“เป็นอย่างนี้ทุกที ไปดูงานทีเป็นเดือน กลับมาก็ไม่เคยแจ้ง ทำให้พวกเด็ก ๆ มันวุ่นวายไปหมด”
“ฮ่าๆๆๆๆ สนุกดี ไม่งั้นจะได้เห็นอะไรดี ๆ เหรอ”

“ค่า.....ว่าแต่นี่ใครค่ะ?”
“อ้อ เพื่อนร่วมทางน่ะ เห็นว่าจะมาทำงานที่นี่”

“อ้อ คุณเต้รึเปล่าคะ?”
“อะ เอ่อ ครับ ๆ ผมเต้ครับ คุณมินตราใช่มั๊ยครับ” ผมที่ยังตะลึงไม่หาย ที่ลุงท่าทางบ้าน ๆ ทีผมคุยมาตลอดทาง แกเป็นถึงเจ้าของรีสอร์ทที่ผมจะมาทำงานด้วย จนคุณมินตราทักขึ้นจึงได้สติ แต่ก็ยังตอบเสียงตะกุกตะกัก กลับไปจนเธอถึงกับขมวดคิ้ว

“เอ่อ...เรียกพี่มีนก็พอจ๊ะ ....เน ๆ พาน้องเข้าไปเก็บของที่ห้องพักหน่อย พักก่อนแล้วตอนเย็น ๆ ค่อยมาพบพี่ที่ห้องบัญชีนะ”

คุณมินตราท่าทางใจดี ให้ความสนิทสนม ให้ผมเรียกเขาพี่ด้วย ก่อนจะหันไปหาเด็กผู้ชายที่อายุอานามน่าจะพอ ๆ กับผม ให้พาผมไปห้องพัก รับคำพี่มีน ยกมือไหว้พี่เขาและลุงก่อนจะหิ้วกระเป๋าตามเขาไป


“อ่ะ เดี๋ยวก่อน ๆ ไอ้หนู ลุงมีบ้านพักหลังรีสอร์ท ไม่มีคนอยู่นานแล้ว ช่วยไปเก็บกวาดให้หน่อยซิ ต่อไปลูกชายลุงจะกลับมาอยู่ที่บ้านนั้น เอ็งก็อยู่กับมันนั่นละกัน มี 2 ห้องพอดี ไอ้ลูกชายลุงมันไม่ค่อยเอาไหน ถ้าได้อยู่กับเอ็ง มันคงจะซึมซับอะไรดี ๆ บ้าง”

“เอ๋ พ่อคะ นั่นให้แม่บ้านไปทำเถอะคะ น้องเขามาทำงานบัญชีนะคะ”
“เอ่อ ผมทำได้ครับ”

“ดี ๆ งั้นก็ยังไม่ต้องเริ่มงานหรอก ไปทำความสะอาดบ้านพักก่อนเถอะ”
“ครับ”



ถึงจะงง ๆ งวย ๆ อยู่บ้าง แต่ผมก็เดินหิ้วอุปกรณ์ทำความสะอาดมาจนถึง บ้านพักหลังรีสอร์ท.........ว้าว อยู่ห่างชายหาดนิดเดียว มองบ้านไม้ยกพื้นไม่สูงมาก ด ขนาดไม่ใหญ่ไม่โต บรรยากาศสบาย ดูน่าอยู่มาก ด้านหน้ามีระเบียง และชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นสีขาว ดูสบายตา

มองจากภายนอก  ก็ดูสะอาดดี มีแค่เศษใบไม้บ้างเท่านั้น พนักงานชายทีเดินมาส่ง มองหน้าผมอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่ไม่พูดอะไร ก็หันหลังเดินกลับไปทางรีสอร์ท

ผมเดินสำรวจรอบ ๆ บ้าน ก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้าน ไขกุญแจเข้าไป ภายในมีผ้าคลุมโซฟาสีขาวคลุมไว้ทุกชิ้น ผมเลยค่อย ๆ เปิดและพับเก็บผ้าคลุมไว้ ก็จริงอย่างที่คาด ภายในบ้านก็ไม่ได้สกปรกอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย คงมีคนมาทำความสะอาดอยู่เสมอ ผมก็แค่กวาด ๆ ถู ๆ นิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ภายในมีห้องซ้าย ขวาด้านละห้อง ภายในห้องจัดแต่งใกล้เคียงกัน แต่ดูออกว่าห้องทางขวาใหญ่กว่าห้องทางซ้าย ส่วนตรงกลางเหมือนห้องรับแขก มีชุดโฮมเธียร์เตอร์ ขนาดพอดีกับห้อง และเบาะที่นั่งวางอยู่ที่พื้นหลายใบ

เดินออกมาที่ระเบียงบ้านมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าต้นไม้ ใบไม้รอบ ๆ ดู ซึมเซา ไม่รู้ว่ามีคนมารดน้ำให้หรือเปล่า คิดไปคิดมาระหว่างทางที่เดินมาด้านหลังรีสอร์ท เห็นมีกล้วยไม้ที่ไม่มีดอกแล้วถูกทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ จึงเดินไปเก็บมาพร้อม กาบมะพร้าว มาติดตามต้นมะพร้าว และต้นไม้ใกล้ ๆ บางส่วนก็ใส่กระถางวางที่พื้นบ้าง บนเรือนบ้าง ทำไปทำมาเพลิน ๆ ก็เย็นย่ำพอดี แสงสุริยาเริ่มจะลาลับเส้นขอบฟ้า ถึงเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย พอคิดถึงท้องก็ร้องประท้วงทันที เอาของเข้าไปเก็บในห้องเล็กทางซ้าย ก่อนจะเดินกลับไปทางรีสอร์ท เพื่อหาอะไรรองท้อง

ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่เลย นี่เป็นการทำงานครั้งแรกของผมเลย ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ผมว่าผมชอบนะ


ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คุณคนเขียน  - แม่ยกไม่พอใจเพราะว่าฉาก nc แบบแพนกล้องไปข้างฝานะสิ  :katai1:

ยังดีที่ซันเก่งพอที่เต้พอใจแล้วลืมอิเพชรไปได้
รีสอร์ทนี้ของพ่อซันหรือเปล่า?

รีบทำคะแนนเลยนะเต้
ไม่หนุกไม่ตามอ่านหรอกนะคนเขียน  :hao3:

ออฟไลน์ maruko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ซันคงเป็นลูกของคุณลุงแน่ๆ แล้วเต้จะหนียังไงเนี่ย คาดว่าจะได้นอนบ้านเดียวกันอีก

ปล.ตามอ่านรวดเดียวเลยยย สนุกมากกกกก เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
คุณคนเขียน  - แม่ยกไม่พอใจเพราะว่าฉาก nc แบบแพนกล้องไปข้างฝานะสิ  :katai1:

ยังดีที่ซันเก่งพอที่เต้พอใจแล้วลืมอิเพชรไปได้
รีสอร์ทนี้ของพ่อซันหรือเปล่า?

รีบทำคะแนนเลยนะเต้
ไม่หนุกไม่ตามอ่านหรอกนะคนเขียน  :hao3:


โฮะๆๆๆ คุณแม่ยก - พอดีหาปลาทองมารับบทนักแสดงนำไม่ได้อ่ะ :m11:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด