ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)  (อ่าน 49675 ครั้ง)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

**************************************************************


สวัสดี ดี ดี ดี สวัสดี เกือบปีใหม่ สวัสดี กับนิยายเรื่องใหม่  :mc4:  อันนี้ ยาวจ้า เพิ่งเริ่มเขียนเสร็จบทแรก
เลยอยากลงมาให้ชิมกันก่อน ไม่รู้จะถูกใจใครบ้าง แต่ก็ขอฝากไว้ในใจอีกเรื่องนะจ๊ะ

ส่วนเรื่องที่อื่น ที่ลงไว้ ก็แวะไปดูกันได้  :mew1:
แผนลวง บ่วงรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40340.0

Love Pill (เรื่องสั้นจบในตอน)http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54901.0

**********************************************************

ตอนที่ 1 First meet

ภายใต้แสงไฟและเสียงเพลงที่ดังลั่นสนั่น สถานบันเทิง ผู้คนหลากหลาย ทั้งหญิงชายต่างมาเพื่อเสพความสุข จากเหล้า การเต้นรำ หรือหาคู่นอนซักคน อาจเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ นักเที่ยวเลยมีมากกว่าปกติ สถานที่แคบไปถนัดตา ผู้คนมากมายเบียดเสียด ถูไถกันไปมา ส่งสายตาเย้ายวน เชิญชวนให้ลุ่มหลง ยิ้มหัวเราะร่าเริง แต่ก็แค่ภายนอก ใครจะรู้ภายในใจแต่ละคนล้วนมีเรื่องราว หลากหลาย ผมเองก็เช่นกัน คร่ำเคร่งเรียนมาทั้งสัปดาห์ ก็อยากจะหาใครซักคน มาช่วยผ่อนคลายความเครียด ในบรรดาผู้คนมากมาย กลับมีเพียงคน ๆ เดียวเท่านั้นที่ผมไม่อาจละสายตาไปได้

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หุ่นเพรียวบาง ในชุดเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตผ้าสีน้ำเงิน กับกางเกงยีนส์สกินนี่สีดำ กำลังออกสเต็ป เต้นอยู่กลางฟลอร์ ใบหน้าหวาน หลับตาพริ้ม เต้นอยู่คนเดียว ไม่ได้สนใจใคร มีหลายคนพยายามเขาไปสีเป็นระยะ ๆ แต่ก็ได้รับเพียงสายตาเมินมอง กับความเฉยชาจนต้องล่าถอยไป

ผมรู้เลยว่าไม่ง่าย แต่อย่างนี้ซิถึงจะน่าลอง ลุกจากเก้าอี้หน้าบาร์เหล้า เดินตรงเข้าไปกลางฟลอร์ หนุ่มหน้าหวานตรงหน้ายังคงเต้นต่อคนเดียว ไม่สนใจอะไร ผมเอื้อมมือไปหมายจะจับแขนให้หันมา

แต่ก็มีชายอีกคนหนึ่งคว้าแขนของเป้าหมายของผม แล้วพากันเดินออกจากฟลอร์ ไปที่ทางเดินหน้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหลังร้าน และค่อนข้างจะลับตาคน อดจะเจ็บใจไม่ได้ที่ถูกตัดหน้า จึงเดินตามไป

“ผมก็บอกแล้วไงว่าปฏิเสธท่านไม่ได้”
“ช่างมันเถอะ”
“เต้ ฟังผมบ้างซิครับ ผมก็ลำบากใจนะ จะให้ทำยังไงนั่นก็พ่อแม่ผมนะ”
“ก็ถึงได้บอกไง ว่าช่างมัน ถ้ามันลำบากใจมากนัก ก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก”
“เต้ อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ผมรักคุณนะ”
“อื้อ อื้อ.”

เสียงที่ได้ยิน และภาพที่เห็นเบื้องหน้าคงบ่งบอกความสัมพันธ์ของ 2 คนนั้นได้เป็นอย่างดี หลังจากการโต้เถียงกัน ทั้งสองก็จูบกัน กอดกันนัวเนีย คงไม่มีพื้นที่ให้ผมได้แทรกเข้าไปแน่ ตัดใจหาคนใหม่ก็ได้วะ เฮ้อ อุตส่าห์เจอคนที่ถูกใจ ดันมีคู่ซะแล้ว น่าเสียดาย

ก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปในร้าน แต่ก็หันมามองทางที่ทั้งคู่อยู่อีกครั้ง ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกสนใจคนคู่นี้ หลังจากนั้น ก็ไม่เห็นคนคู่นั้นกลับเข้ามาในร้านอีกเลย คาดว่าคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

“พี่ ซัน มานั่งตรงนี้นี่เอง ปรายมองหาพี่ตั้งนานแล้ว” หันไปตามเสียงทัก ก็พบว่าเป็น หนึ่งในคู่นอน ที่ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ปรายเป็นน้องจากอีกมหาลัยหนึ่ง เจอกันครั้งแรกก็สปาร์คกันแล้ว ไม่ต้องบอกว่ารสชาติเป็นยังไง ถ้าไม่เด็ดดวงคงไม่ติดต่อกันมานานขนาดนี้

“ว่าไงครับปราย วันนี้มาคนเดียวเหรอ” ปรายเป็นผู้ชายรูปร่างเล็ก หน้าตาน่ารัก สไตล์หนุ่มเกาหลี ขาว ดูยั่วยวนในทุกอิริยาบถ
“ก็คนเดียวซิครับ พี่จะให้ปรายมากับใครครับ” ร่างเล็กประชิดเข้ามานั่งบนตักขาข้างหนึ่งแล้วคล้องวงแขนโอบรอบคอผม กระซิบเสียงแหบพร่า ข้างหู ถ้าเป็นทุกที ก็ทำให้ผมของขึ้นได้ไม่ยากเลยครับ แต่วันนี้ต่างออกไป

“ได้ยินว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ใช่วันนี้แปลกไปจริง ๆ ปรกติ ไม่เคยสนหรอกว่าลูกเค้าเมียใคร ลองมาเยือนถึงที่ ก็มีแต่ต้องสนองเท่านั้นแหล่ะ แต่วันนี้ ส่วนลึกกลับคิดว่าไม่ได้สนใจเลยต่างหาก ภาพของคนที่เคยอยู่กลางฟลอร์ ยังติดใจ ตายังเหมือนจะคอยมองหา ยิ่งเห็นฉากนัวเนียของทั้งสองคน มันรู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก
“แล้วไงล่ะครับ ถ้าปรายอยากได้ใคร ต่อให้แฟนก็ห้ามปรายไม่ได้หรอก” คนตัวเล็กบนตักยังคงบดเบียดสะโพก เข้ามา ปากก็บรรจงจุมพิต ตามใบหูและเรื่อยลงมาตามซอกคอ

“งั้นก็ไปเคลียร์กับพี่ที่ห้องต่อนะครับ” เฮ้อ คิดอะไรให้วุ่นวายนักวะ คนที่ไม่ได้ก็ไม่สนใจหรอก เอาคนตรงหน้าดีกว่า ยังไงก็แค่ปลดปล่อยความต้องการ จะเป็นใครก็ได้ คนตัวเล็กกว่าโอบเอวพร้อมซุกหน้ากับอก เราพากันเดินออกจากร้าน เพื่อไปหาความสุขกันต่อที่คอนโดของผม










วันนี้ ได้แวะไปบ้าน สหจักรตระกูล บ้านของนักการเมืองเลื่องชื่อคนหนึ่งของเมืองไทย เรียกบ้านคงไม่ได้ ต้องเรียกคฤหาสน์กันเลยทีเดียว อาณาบริเวณกว้างขวาง บนเนื้อที่หลายไร่ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ไม่ต้องบอกเลยว่ามูลค่าที่ดินตรงนี้ จะมหาศาลขนาดไหน ด้านหลังมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ ริบบิ้น และลูกโป่งหลากสี เพราะวันนี้เป็นงานหมั้นของ ปานชนก บุตรสาวคนเล็กของท่าน ส.ส. กับ พชรดนัย อัครมเหศักดิ์ ลูกชายคนเดียวของ ท่านเจ้าสัวใหญ่ เศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

หญิงสาวหน้าตาสะสวย รูปร่างกะทัดรัด ในชุดชีฟองสีขาวสลับส้ม เธอเป็นดาว ของ คณะอักษรศาสตร์ มหาลัยเดียวกับผม ส่วนผมเรียนนิเทศศาสตร์ เธอเป็นคนสวย เก่ง และมั่นใจใจตัวเองสูงมาก เรารู้จักกันมานาน เพราะเราเคยเรียนมัธยมมาด้วยกัน เมื่อก่อนก็เคยนึกอยากจะจีบ แต่คิดอีกที อย่าดีกว่า ผมไม่อยากได้แม่มาคุมอีกคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหล่อนร้ายใช่ย่อย ผมว่าใครที่จะมาเป็นสามีเธอในอนาคต คงน่าสงสารน่าดู

“ยินดีด้วยนะ ปันปัน กับงานหมั้น” เหล่าเพื่อนพ้อง เมื่อมาถึงก็ตรงรี่เข้าไปแสดงความยินดีกับเจ้าของงาน
“ขอบใจพวกแก ทุกคนมากจ๊ะ ที่มาในวันนี้” ยัยปัน เป็นชื่อที่ผมเรียกหล่อนติดปาก ถ้าไม่นับความร้ายกาจของเธอ ก็นับว่าเธอเป็นคนน่าคบหาคนหนึ่ง ผู้หญิงก็จริง แต่ใจนักเลงสุด ๆ  หล่อนรับดอกไม้อวยพรจากเพื่อน ๆ ด้วยรอยยิ้ม ที่ดูสดใส

“ตามสบายนะพวกแก โน้นฉันจองโต๊ะให้พวกแกด้านโน้น เต็มที่เลย ใครอยากร้องเพลงก็ขึ้นเวทีได้เลย”
“ฮะ ๆ งานมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ ใครจะกล้าเกรียนวะ ไอ้ปัน”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร คุณพ่อบอกแล้วว่าเต็มที่เลย”
“ไง ซัน ไม่เจอนานเลยนะหมู่นี้ ได้ยินว่าคั่วเด็ก บริหารอยู่เหรอ”
“ว่าไปเรื่อย ช่วงนี้โสดสนิทเว้ย ไหนวะ คู่หมั้นแก อยากเห็นหน้าชายผู้โชคร้ายคนนั้นจริง ๆ หวังว่าจะพอดูได้นะ”
“ปากเหรอนั่นนะ หล่อไม่แพ้แกหรอก เค้าเป็นเดือนมหาลัย M เชียวนะยะ อ๊ะ..นั่นไงเขามาแล้ว เพชร ค่ะมาทางนี้หน่อยค่ะ” หลังจากแอบแขวะเพื่อนพอเป็นกระษัย ก็หันไปตามสายตาของเพื่อนที่มองไปทางคู่หมั้น

ผู้ชาย หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ ในชุดสูท สีขาว เดินตัดสนามเข้ามาใกล้ จนเห็นหน้าชัด ก็ต้องสะดุดใจ

“เพชรค่ะ ปันจะแนะนำให้รู้จักพวกเพื่อน ๆ แสบของปันคะ นั่น........”
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ”

ผู้ชายยิ้มมีเสน่ห์คนนี้ ผมจำเค้าได้ แม้จะเห็นแค่ครั้งเดียว เขาคือคนที่เขามาลากเป้าหมายของผมในคืนวันศุกร์นั่นเอง ผมนึกไปถึงบทสนทนาของพวกเขาในคืนนั้น ก็ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ชายคนนี้ต้องแต่งงานตามที่พ่อแม่ของตัวเองกำหนดให้ แต่จริง ๆ แล้วเขามีคนรักอยู่แล้ว และเป็นผู้ชายอีกต่างหาก ผมจะทำยังไงดี ควรบอก ควรเตือนยัยปัน ดีมั๊ย

“ปัน แกรู้จักว่าที่คู่หมั้นแกดีแล้วเหรอ” หลังจากชายหนุ่มคู่หมั้นเดินไปคุยกับแขกอื่นต่อ ผมก็รีบเข้าไปเรียบ ๆ เคียง ๆ ถามข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ

“ดีดิ ก็ฉันรู้จักเพชรมาตั้งแต่เด็กแล้ว ครอบครัวเราสองคนสนิทกันดี”
“แล้วเค้ารักแกเหรอ”

“ใครสนล่ะ ฉันรู้แต่ว่าฉันรัก เพชรมาก รักมานานแล้วด้วย งานหมั้นนี้เกิดขึ้นได้ ก็เพราะฉันเป็นคนบอกคุณพ่อเองว่าฉันรักเขา อยากแต่งงานกับเขา”
“อ้าว แล้วเขารักแก ยอมหมั้นกับแกเหรอ”

“เพชร ไม่มีสิทธิ์ขัดคุณพ่อคุณแม่ของเขาหรอ”
“หล่อ ๆ อย่างนี้ แกไม่คิดว่าเขาจะมีใครคนอื่นอยู่แล้วเหรอ”

 “ช่างมันซิ ยังไงเขาก็ต้องเป็นของฉันคนเดียว”

หลังจากจบบทสนทนา ยัยปันก็เดินไปพูดคุยกับแขกเหรื่อท่านอื่นต่อไป ทิ้งให้ผม จมอยู่ในความคิดของตัวเองว่าควรจะบอกเธอดีมั๊ย แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบ ว่าคงไม่พูดดีกว่า เพราะถึงยังไง ๆ ยัยปันก็ไม่แคร์อยู่แล้วว่าหมอนี่จะมีใครอยู่หรือเปล่า และที่สำคัญ หล่อนเป็นคนรักแรง เกลียดแรง ผมเกรงว่าถ้าพูดไปแล้ว เขาไม่เชื่อ หรือไม่พอใจ ผมจะพาลซวยเอาได้
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2019 00:52:29 โดย limpingping »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
งั้นนายเอกก็ว่างแล้วอ่ะดิ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอบคุณผู้ที่ติดตามกันอยู่นะคะ เรื่องเพิ่งเริ่ม ยังคงไปเรื่อย ๆ   :man1:
  :-[ ถูกใจใครไม่ถูกใจใครก็ รับหมดนะทั้งคำติและคำชม


*********************************************************

ตอนที่ 2 My story



คืนวันเสาร์อาทิตย์ จะมีลูกค้ามาทานอาหารมากเป็นพิเศษ ภายในภัตตาคารอาหารจีน ที่ดัดแปลงมาจากห้องแถว 3 ห้อง ปรับแต่งภายใน ให้เป็นสไตล์จีน ทั้งภาพเขียนพู่กัน โต๊ะ เก้าอี้ ล้วนส่งให้ดูเป็นร้านอาหารจีนที่มีบรรยากาศน่านั่ง ทั้งภายในยังแบ่งเป็นสัดส่วน ให้ความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี

ผมต้องช่วยงานที่ร้าน ถ้าไม่มีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย เพราะคนงานไม่พอ ในวันที่มีลูกค้าเข้ามาทานอาหารอุ่นหนาฝาคั่ง เช่นคืนนี้

“โกหมู นี่ออเดอร์ของโต๊ะ 7 นะครับ”
“เออ ๆ อาเต้ เอานี่ เสร็จแล้วของโต๊ะ 4 ไอ้วุ้น เอานี่ของโต๊ะ 2 เสร็จแล้ว”

“น้อง ๆ ขอตะเกียบใหม่หน่อย อันเก่าตกพื้นไปแล้ว”
“ครับ ๆ รอซักครู่ครับ”

“พี่ใจ๋ โต๊ะ 9 ขอตะเกียบ”
“เออ ๆ เดี๋ยวพี่เอาไปให้ เต้ช่วยเอาน้ำแข็งมาจากหลังบ้านหน่อย ใกล้หมดแล้ว”

“ไว้ก่อน อาเต้ เอาของโต๊ะ 8 เสร็จแล้ว”
“ครับ”

เห็นแล้วใช่มั๊ยครับ ซุปเปอร์ยุ่งเลย นี่ขนาดเลยเวลาอาหารค่ำมาซักพักใหญ่ แล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าเข้ามาทานอาหาร ไม่ขาดสาย

“นี่ครับ อาหารที่สั่ง ได้รับทุกอย่างครบมั๊ยครับ”
“เอ่อ เหมือนว่าจะขาดอะไรไปบางอย่างนะ”

“เอ่อ ขาดอะไรเหรอครับ เดี๋ยวผมทวนรายการที่สั่งให้ครับ”
“อะ ไม่ต้อง ๆ ที่ขาดนี่ ขาดคนนั่งกินเป็นเพื่อนน่ะ น้องมานั่งเป็นเพื่อนพวกพี่ ๆ ก็ครบตามที่สั่งแล้วครับ” อะ ไอ้นี่ มึงบ้ารึเปล่า ดูไม่ออกเหรอว่ากูเป็นผู้ชาย หน้ามืดป้อไม่เลือกนะมึง ฉุนขาดแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ ท่องแต่ว่า ลูกค้า ๆๆๆ แม่ง

“เอ่อ พี่ครับ ผมเป็นผู้ชายนะครับ” ถึงหน้าผมจะออกไปทางหวาน แต่ดูโดยรวมก็น่าจะรู้ว่า ผมเป็นผู้ชายชัวร์

“อารายนะ อ้อ พี่ก็รู้ แต่น้องน่ารักดี มานั่งคุยกันก่อนซิครับ” ไอ้คนอื่นในกลุ่ม ก็โห่ ฮา กันเป็นเรื่องสนุกสนาน ที่ไอ้ลูกค้าคนนี้ พูดจาแทะโลมผม แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มีลูกค้าจีบ จึงเห็นเป็นเรื่องธรรมดา

“ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ผมขอตัวก่อนครับ งานในร้านยุ่งมากครับ” อ้างนั่นนี่ แล้วถอยตัวออกมาเนียน ๆ เจอมาเยอะ ลูกค้าขี้หลีเนียะ

“เล่นตัวนะเราน่ะ” ไม่พูดเปล่า ไอ้ลูกค้ามันเอื้อมมือมาลูกก้น ผมด้วย อ้าวไอ้นี่ ความอดทนผมไม่ได้สูงนักหรอกนะ ถ้าถูกลวมลามขนาดนี้ ก็ไม่ต้องทนมันล่ะ คว้าแก้วน้ำของมันนั่นแหล่ะ เทราดหัวมันซะเลย

“เฮ้ย มึงทำอะไรวะ ไอ้เด็กเสริฟนี่” มันเด้งตัวลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเอาเรื่อง พวกมันก็ลุกกันพรึบพลับ

เผี้ยะ

“อาเต้ ลื้อทำอะไร ขอโทษลูกค้าเดี๋ยวนี้นะ” หน้าชาไปทันที ที่อากู๋ตบเข้าที่แก้มซ้าย ไม่แรงมากแต่ก็ทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ด ในใจ

“เถ้าแก่ ก็ลูกค้ามัน...” พยายามจะอธิบายแต่กู๋ก็ไม่รับฟัง
“ลื้อไม่ต้องพูดมาก ขอโทษอีเดี๋ยวนี้” กู๋ยังคงยื่นคำขาด พร้อมสายตาดุ ๆ ที่จ้องมองมา ทำให้ปากที่กำลังจะเถียง หุบสนิท

“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ครับ” ไอ้ลูกค้ามันก็คงตกใจเสียง และสายตาดุ ๆ ของกู๋เหมือนกัน หน้าซีดกันเป็นแถว กู๋เป็นคนตัวใหญ่ ท่าทางดุ พวกมันเลยไม่กล้าที่จะก่อเรื่อง

“ไม่ได้ ๆ ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ที่พนักงานของเราเสียมารยาท” สุดท้าย ผมก็ต้องก้มหัวขอโทษ ลูกค้าเลว ๆ พวกนี้ เจ็บใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เหลือบตามองพวกมันหัวเราะเยาะ แล้วยิ่งเจ็บใจ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ กู๋ไล่ให้ผมไปอยู่หลังร้าน

เดินกระพัดกระเพียด ผ่านครัว จะเข้าไปล้างจานหลังร้าน ก็ไม่วายได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์

“เฮอะ เป็นไงล่ะมึง ถูกป๊ากูตบมาละซี่ ได้ยินมาถึงในครัวเลย” ไอ้เฮียตง ลูกชายคนเดียวของกู๋ มันไม่ค่อยชอบผมหรอก เราทะเลาะกันประจำ คอยจะทับถมเวลาผมพลาดอยู่เรื่อย ตอนนี้อารมณ์ไม่ดี ไม่อยากพูดกับมันให้ยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปอีก จึงทำเงียบ ๆ เดินเข้าไปหลังร้าน

“อะไรกัน วันนี้จ๋อยเว้ย ไม่ตอบโต้” เอ๊ะ ไอ้เฮียนี่ คนไม่อยากมีเรื่องยังตามมาหาเรื่องถึงหลังร้าน
“ถอยไป อั๊วจะล้างจาน ” ยกกองจาน แกล้ง ๆ ผ่านหน้ามัน หวังให้น้ำมันกระเด็นไปโดน แต่ไม่มีโชคด้านนี้

“โถ ๆ แก้มเป็นรอยนิ้วเลยวะ ให้กูปลอบเอามั๊ย” ไอ้เฮียบ้ามันทำหน้าเย้ยหยันไม่พอ ยังเอามือมาจับคางผมให้หันด้านที่โดนกู๋ตบไปหามัน

“ไปไกล ๆ เลยเฮีย งานในครัวไม่มีเหรอ”
“เฮอะ ทำอย่างกับกูอยากยุ่งกับมึงตายล่ะ ไอ้ลูกผู้หญิงสำส่อน”

“ไอ้เฮี้ย” ความอดทนขาดสะบั้น วางกาละมังกระแทกโต๊ะอย่างแรง หันไปมองหน้าไอ้เฮีย
“ทำไม จี้ใจดำละซิ แม่มึงท้องกับใครมาก็ไม่รู้ ดีว่า ตายหลังคลอด ไม่งั้นบ้านกูคงงามหน้าไปอีกนาน”

“ไอ้เฮีย เลิกว่าแม่กูได้แล้ว....” กำหมัดแน่น วันนี้คงต้องกระแทกหน้า ไอ้เฮีย มันซักตั้ง มันทำไม่ใส่ใจ แค่ไหวไหล่ แสยะ แล้วเดินกลับเข้าไปในครัว

ผมชื่อ เต้ ครับ เป็นเด็กกำพร้า เพราะแม่ผมที่เป็นน้องสาวของอากู๋ เสียชีวิตหลังคลอดผมได้ไม่นาน ส่วนพ่อเป็นใครผมก็ไม่รู้หรอกครับ เพราะแม่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก แม่ถูกด่า ถูกถากถาง ว่าท้องไม่มีพ่อ มันคงไม่รับผิดชอบ ถึงต้องซมซานกลับมา อาศัยอากู๋

หลังจากแม่ตายไป อากู๋ และอากิ๋ม ก็เลี้ยงดูผมมาตลอด ผมเริ่มช่วยงานที่ร้านตั้งแต่จำความได้ อากู๋สั่งให้ทำงานที่สามารถทำได้ตามวัย ผมก็ทำงานไม่เคยเกี่ยง เพราะสำนึกในบุญคุณที่ท่านเลี้ยงผมมา และส่งเสียให้ผมเรียนจนปัจจุบัน ผมเรียนปีสุดท้ายแล้ว ก็คิดอยู่ว่าถ้าจบแล้ว ก็คงจะย้ายออกไป หางานทำ และส่งเงินให้ท่านทุกเดือน เป็นการตอบแทนที่ท่านเลี้ยงดูมา


ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1


ออกมาแล้ววว   ติดตามๆ :L2: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชีวิตเต้นี่ก็ดูน่าสงสารอยู่นะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อันดับแรกก็ขอบคุณผู้อ่านเช่นเคย  :mew1:
อันดับต่อไปก็อ้อน ขอกำลังใจให้ชีวิต เต้ ที่น่าสงสารด้วยนะ
ส่วนนายซัน ยังดูไม่ออกชิมิ ว่าเป็นคนยังไง แต่ก็ขอกำลังใจให้เขาด้วยนะ  :impress2:

*************************************


ตอนที่ 3 I’m got a plan



หลังผ่านวันศุกร์ที่ผมได้พบกับใครคนหนึ่ง จนวันนี้ก็เป็นวันศุกร์ถัดไป ผมแต่งตัว เตรียมจะออกไปที่ ผับเดิม ที่ไปมาเมื่อวันศุกร์

ไม่ใช่ว่าติดใจอะไร ก็แค่ไปเที่ยวตามปกติ..... แต่ถ้าได้เจอกันอีกก็โอนะ

ผมไม่อยากคุย ผมคนนี้ไม่เคยขาดคู่รัก โดยที่ผมไม่เคยเป็นฝ่ายไปจีบก่อนเลยด้วยซ้ำ แค่นั่ง ๆ อยู่ก็มีเดินเข้ามาไม่ว่าทั้งหญิงและชาย ความสัมพันธ์ทางกาย ง่าย ๆ สนุกกัน เสร็จแล้วก็ต่างคนต่างไป ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีข้อผูกพัน แต่ก็ยังสามารถ ไปมาหาสู่กันได้อีก ชิล ๆ กันทั้งสองฝ่าย

แต่หลังจากคืนวันศุกร์วันนั้น ผมรู้สึกอึดอัด ออกอาการทุรนทุราย อยากจะไปที่ผับนั่นอีก แต่ติดว่า วันปกติ ผมมีเรียน ค่อนข้างยุ่ง เพราะเป็นปีสุดท้ายแล้ว พอเผลอ ก็จะคอยแต่คิดถึง ชายหนุ่มหน้าหวานคนนั้น ไม่รู้เป็นอะไร สงสัยว่าเพราะยังไม่ได้มา ทำให้ผมค้างคาใจ ฉะนั้นวันนี้ ถ้าเจอกันอีก ผมจะต้องสอยเขามานอนด้วยให้ได้ ไม่งั้นผมคงจะใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้แน่ ถ้ามัวแต่คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา




ก๊อกๆๆๆ

หลังสำรวจความหล่อเหลาของตัวเองเรียบร้อย ผมก็พร้อมจะออกจากห้อง แต่เสียงเคาะประตู ทำให้ต้องมาดูที่ประตูผ่านตาแมว ว่าใครกันที่มาในเวลาอย่างนี้ โดยไม่ได้นัดหมาย

“อ้าว ไอ้ปัน ลมอะไรหอบแกมาถึงห้องฉันวะ” พอเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท ลูกสาวท่าน ส.ส. ผมก็เปิดประตูออกไปทักทาย

“...แกกำลังจะไปใหนเหรอ” ยัยปันหน้าตามู่ทู่ สบตาก่อนจะเมินไปทางอื่น ผิดปกติวิสัย ที่จะจ้องตาคนเวลาพูดเสมอ

“ก็ว่าจะไปเที่ยวนะซิ ไปด้วยกันมั๊ย” ยัยปันเดินแทรกตัวเข้ามาในห้องช้า ๆ ผมก็เลยปิดประตูแล้วหันมาสนใจมันต่อ

“...ไม่ล่ะ ฉัน...” มันมีท่าทางอึดอัด แปลก ๆ

“แกมีอะไรรึเปล่า ถึงมาหาฉันถึงนี่” ผิดปกติจริง ๆ ด้วย เลยถามความประสงค์ ที่มันมาหาถึงที่นี่








“...เพชร มีคนอื่น...”
“..........” ผมใจหายวาบ นี่มันรู้เรื่องของสองคนนั้นแล้วเหรอ คิดไว้อยู่แล้วว่าซักวันมันก็ต้องรู้

“ฉันเห็นกับตา”
“เฮ้ย มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เห็นก็ได้นะ” ผมพยายามพูดกล่อมมัน เพราะหน้าตามันตอนพูดเรื่อง ไอ้เดือนมหาลัย ดูน่ากลัวมาก

“จะไม่ใช่ได้ยังไง นั่งดูดปากกันยังกับจะกินกันเข้าไปเลยน่ะนะ” ยัยปัน เงยหน้าขึ้นมาตวาดเสียงสั่น
“แล้วไม่เข้าไปจัดการเลยล่ะ” ผมรู้จักท่าทางอย่างนี้ของยัยนี่ดี นี่คงถึงขีดสุดแล้ว

“ก็อยากจะเข้าไปจิกหัวมันมาตบหรอกนะ แต่..........แกก็รู้ฉันรักเพชรมาก ฉันไม่อยากให้เขาเกลียดฉัน” โอ้ พระเจ้า ความรักทำให้คนเราแปลกไปจากปกติจริง ๆ ด้วย อย่างยัยปัน เมื่อก่อนอย่างกับแม่เสือ ใครไม่ถูกใจ ขัดใจ แม่ตบไม่เลี้ยง เวลามีเรื่องกัน ก็ใช้อิทธิพลของพ่อมันมาเคลียร์ จนไม่มีใครกล้าหือกับหล่อนอีกเลย แต่ตอนนี้กลับหงอ เป็นแมว ไอ้เดือนมหาลัย ดูมันจะมีดีไม่น้อย

“งั้นที่มาหานี่ คือต้องการให้ช่วยละซิ” ต้องกุมขมับ สงสัยงานจะมาซะแล้ว
“ใช่ แกจะช่วยฉันได้ใช่มั๊ย” มันถลาเข้ามาจับแขนผมทั้งสองข้าง พร้อมสายตาอ้อนวอน

“แกจะให้ฉันทำยังไง” ยังไงมันก็เพื่อน ผิดถูก ผมก็ยังต้องช่วยมันอยู่ดี ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
“อย่างแกต้องทำได้อยู่แล้ว กันมันออกจากเพชรซะ”

“......” ผมก็คิดไว้แล้ว ว่ามันต้องการให้ผม เข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั้น เพราะเมื่อก่อนเวลามัน ถูกใจใคร แล้วเขามีคู่อยู่แล้ว แต่มันไม่อยากออกหน้า มันก็ให้ผมเข้าจีบฝ่ายหญิง ซึ่งก็สำเร็จทุกครั้ง พอมันได้ไอ้หนุ่มหน้าโง่พวกนั้นได้ไม่นาน มันก็ทิ้งพวกเขาง่าย ๆ อย่างกับทิ้งทิชชู่

“ฉันไม่ให้แกทำงานฟรีหรอกน่า ฉันรู้ว่าแกไม่เดือนร้อนเรื่องเงิน แต่ฉันจะจ่ายให้ไม่อั้น ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เบิกมาได้เต็มที่”

“OK เดี๋ยวจัดการให้” ผมรับปากยัยปัน แทบจะไม่ต้องคิด เพราะยังไง ๆ เป้าหมายของหล่อน ก็เป็นเป้าหมายของผมเช่นกัน ดีซะอีก ได้คน ได้เงินใช้ วิน ๆ

“ดี งั้นดูนี่ รูปมัน คนที่ 3 จากซ้ายมือ” หล่อนควักมือถือเปิดรูปใบหนึ่งให้ดู เป็นภาพกลุ่มคนทั้งชายและหญิง หก เจ็ดคน ผมมองตามที่ยัยปันบอก คนที่ 3 จากซ้าย

ฮึ ถึงไม่ต้องดูผมก็รู้อยู่แล้ว ว่าเป็นเขาคนนั้น คนหน้าหวานในภาพ ทำหน้าตาเบื่อหน่าย สายตาไม่ได้โฟกัส มาที่กล้อง เห็นแล้วก็รู้สึกว่า คงถูกบังคับให้มาถ่ายรูปหมู่แน่เลย

“แกจำได้แล้วนะ ฉันอยากให้แกจัดการกับมันให้เร็วที่สุด”
“แล้วฉันจะเจอเขาได้ยังไง”

“วันอาทิตย์นี้เป็นวันเกิด เพชร มันต้องมาด้วยแน่ แกคอยจัดการมันได้เลย เอาให้มันไม่มีหน้ามาเจอเพชรได้ยิ่งดี ปู้ยี้ปู้ยำมันให้เละเลย เอาหลักฐานมาให้ได้ด้วยล่ะ” ผู้หญิงเวลาหึงนี่ น่ากลัวชะมัด  แต่ช่างเถอะ เพราะอย่างไรผมก็ประสงค์จะทำในสิ่งที่ยัยปันขออยู่แล้ว





หลังจากผมรับคำ หน้าตาหล่อนก็ดูคลายความกังวลลง แล้วขอตัวกลับไปทันที ผมยืนมองประตูที่ปิดลงอยู่นาน ไม่คิดเลยว่า โอกาสจะวิ่งมาหาผมเอง

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” หัวใจพองฟู จนอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ แค่คิดว่าจะได้จัดการยังไงกับ คู่กรณีของยัยปัน มันก็ทำให้ผมหยุดหัวเราะไม่ได้จริง ๆ ผมเปลี่ยนใจแล้ว วันนี้คงไม่ออกไปไหนล่ะ คงไม่ได้เจอกันง่าย ๆ หรอก ก็เพราะผมไปผับนั้นบ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยเจอเขามาก่อนเลย บางทีเขาอาจจะไม่เคยมาที่นี่เลยก็ได้ ผมว่าวันนี้ผมก็อาจจะไม่ได้เจอเขา ถ้าไปแล้วไม่เจอ จะพาลอารมณ์เสียซะเปล่า ๆ

เอาเวลามานั่งคิดวิธีที่จะจัดการ เขาในอีก 2 วันดีกว่า ฟินกว่ากันเยอะ ฮึ ๆ


ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1


นึกถึงเหยื่อ เหยื่อกะมา  :hao7: :hao7:   :L2: :pig4:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
งานนี้ต้องตามกันต่อไป ว่าใครเป็นผู้ล่า ใครเป็นเหยื่อ กันแน่ะ ฮุๆๆๆๆ  :hao7:
ของอย่างนี้มันก็บ่แน่หรอกนาย


*************************************************



ตอนที่ 4 Leave me alone



ภายในมหาวิทยาลัย M ช่วงเย็น ยังมีนักศึกษา อยู่ภายในมหาวิทยาลัย พอสมควร บางส่วนเพื่อจัดงานเลี้ยงอำลารุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาในไม่ช้านี้

“เฮ้ย พวกมึงหลังสอบเสร็จ เราจัดทริปไปปายกันดีป่ะวะ”
“เออ ดี ๆ ๆ”
“คิดแต่จะเที่ยวนะมึง อ่านหนังสือสอบให้ผ่านก่อนเหอะ”
“อ้าว ก็ต้องคิดไว้ก่อนซิวะ จะได้เตรียมตัวถูก เออ มึงไปด้วยมั๊ยเต้”

“..อือ......... บายว่ะ ยังไงก็ก็คงไปไม่ได้” ไอ้พวกเพื่อน ๆ หลังจากนั่งติวหนังสือกันเสร็จ ไอ้คมก็เสนอไอเดีย จัดทริปไปเที่ยว ถามผมว่าอยากไปด้วยมั๊ย อยากบอกว่า....อยากมากครับ แต่คงไปไม่ได้

“เฮ้ย เออว่ะ กูลืมไป มึงต้องช่วยงานที่ร้านอาหารนี่หว่า”
“เออ ขอกู๋มึงดิ ฉลองเรียนจบนะเว้ย”

“....ช่างกูเหอะ พวกมึงไปเที่ยวกันเถอะ เที่ยวเผื่อกูด้วย เอารูปมาให้ดูด้วยนะเว้ย” ทำเป็นยิ้ม หัวเราะ เพราะไม่อยากให้เพื่อน ๆ ลำบากใจ ทุกคนรู้เรื่องของผมดี ผมไม่อยากทำตัวเอาแต่ใจ หนีเที่ยวสบายอยู่คนเดียว ในขณะที่ทุกคนที่ร้าน โดยเฉพาะอากู๋ ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ซึ่งพวกเพื่อน ๆ มันก็คงเข้าใจ มันเลยหันมาคุยเรื่องอื่นโดยบอกว่าจะคุยเรื่องเที่ยววันหลัง ตลอด 4 ปีที่เรียนด้วยกันมา ผมไม่เคยไปเที่ยวหรือไปไหนกับเพื่อน ๆ เลย ถ้าไม่ใช่กิจกรรมบังคับของทางมหาลัย ไปค้างบ้านเพื่อนยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ เฮ้อ จะเรียกใครซักคนว่าเพื่อนสนิทยังไม่มีเลย แต่ก็ยังดีที่พวกเพื่อน ๆ ก็ไม่ได้ทิ้งผม ยังคงลาก ๆ มารวมกลุ่มกันอยู่เสมอ









“เอ่อ..เต้”
“เพชร...ว่าไง” หลังจากนั่งฟังพวกเพื่อน ๆ พูดคุยสนุกสนานเฮฮา ก็เห็น เพชร เดินเข้ามาเรียก เวลาอยู่มหาลัย เราก็ไม่ได้ทำตัวสนิทสนมกันมาก เพราะผมไม่เคยบอกใคร ว่าผมเป็นเกย์ และเพชรเองก็เป็นคนดังของมหาลัย การเปิดเผยความสัมพันธ์ คงทำให้อยู่ยากแน่นอน

“อาจารย์ วิทยา ให้ผมมาตามคุณ”

“อื้อ ขอบคุณครับ เฮ้ย พวกมึง กูไปก่อนนะ” อาจารย์ให้มาตาม สงสัยเป็นเรื่องงานที่แกเคยบอกผมแน่เลย รีบไปหาแกดีกว่าเย็นมากแล้วไม่อยากให้แกรอนาน ลุกขึ้นเก็บอุปกรณ์การเรียนยัดใส่เป้ แล้วหันไปบอกลาเพื่อน ๆ ก่อนจะเดินตามเพชรไปทางห้องพักอาจารย์

“ว่าแต่ ผมได้ยินว่าจารย์วิทยา แกมีประชุมวิชาการวันนี้ นี่นา แกกลับมาแล้วเหรอ” ระหว่างเดินตามหลัง เพชร ก็อดจะรู้สึกเสียดในใจไม่ได้ ไม่ได้คุยกันมาซักอาทิตย์แล้ว ตั้งแต่คืนวันศุกร์นั้น ที่เพชรตาม ผมไปที่ผับ ซึ่งผมไม่เคยไปเที่ยว เพราะไม่ค่อยมีเวลา และไม่อยากเสียเงินกับเรื่องไร้สาระ แต่เพราะความกลัดกลุ้มปวดร้าว หลังจาก รับรู้ว่า เพชร กำลังจะหมั้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากเพชรตามไปเจอ และดึงผมออกจากร้านไปคุยกันด้านหลังร้าน ผมพยายามทำเฉยชา เพื่อให้เรื่องมันง่ายขึ้น แต่เพชรไม่ยอม เขารุกไล่ กอดจูบ จนผมต้องพ่ายแก่ความปรารถนาในใจ เพราะอย่างไรผมก็ยังรักเพชรอยู่  คืนนั้นก็จบลงที่เตียงเหมือน ๆ ทุกครั้ง แต่หลังจากคืนนั้นผมก็หลีกเลี่ยง ไม่เจอกับเพชรอีก เพราะถึงรักอย่างไร แต่สำนึกก็ยังรั้งผมให้ถอยออกมา

“...เปล่า แกยังไม่กลับมา”
“อ้าว มึงหลอกกูเหรอ” พอรู้ว่าถูกมันหลอก ก็ฉุนขึ้นมาทันที

“ก็ถ้าไม่พูดอย่างนั้น เต้จะยอมมากับผมเหรอ”
“.........” ก็เพราะรู้ว่ายังไง เราสองคนก็คงไม่มีทางได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป ผมเอง ก็ไม่อยากเป็นมือที่ 3 ของใคร โดยเฉพาะกับผู้หญิงแล้ว มันทำให้ผมนึกถึงแม่ ผมไม่รู้ว่าทำไมแม่จึง ท้องโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก แต่ผมรู้เพียงอย่างเดียว การเป็นเด็กที่เกิดมาแล้ว ไม่มีพ่อหรือแม่ มันน่าสงสารเกินไป ผมไม่อยากให้มีเด็กที่เกิดมาแล้วมีปํญหาเหมือนเช่นผมเป็น

“เต้ วันอาทิตย์นี้วันเกิดผม ไปนะ”
“........ไม่ล่ะ เพชร ผมว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วนะ” ผมรักเพชรมาก ตอนเขาเข้ามาจีบ เมื่อตอนปีสอง ผมดีใจมาก เพราะผมก็มองเขามานาน แต่ไม่เคยได้คุยกัน เพราะเราอยู่กันคนละคณะ เขาบอกรักผม ดูแลผม อย่างดี ทำให้ผมที่ขาดความรัก ความอบอุ่นอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งหลงรักเขามากขึ้นไปอีก ผมยกโทษ และอภัยให้ เพชรในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการโกหก หรือนอกใจ เพราะผมถือว่ายังไง ๆ เขาก็ยังกลับมาหาผม แต่เคสนี้ ไม่ใช่

“เต้ครับ ผมเข้าใจครับ แต่ว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั๊ยครับ ผมมาชวนในฐานะเพื่อนนะครับ”
“....ก็ได้ครับ” อึ้งไปนิดหนึ่ง ผมคงหลงตัวเองมากไปหน่อย ที่คิดว่าเพชรจะมาง้อขอคืนดี นั่นซิ ผมเป็นคนตัดความสัมพันธ์เองนี่นา ยังจะหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ

“ขอบคุณครับ เจอกันวันอาทิตย์นะครับ” เพชรยิ้ม ก่อนจะขอตัวลา เดินจากไป ในอกปวดร้าว มองเพชรค่อย ๆ เดินจากไป ขอบตาร้อนผ่าว แต่ไม่มีน้ำตาไหล ถึงจะยังรักอยู่ แต่ก็คงต้องตัดใจ เพราะอย่างไร เขาก็เป็นคนที่เราไม่ควรเอื้อมแล้ว


 







วันอาทิตย์

สมกับเป็นงานวันเกิดลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวใหญ่ งานจัดในโรงแรมหรูใจกลางสุขุมวิท แขกเหรื่อมากหน้าหลายตา ทั้งคนในวงการการเมือง สังคมไฮโซ ดารา ผู้มีชื่อเสียงด้านอื่น ๆ ในประเทศไทย แทบจะมารวมกันในงานเลยก็ว่าได้

ผมเคยคิดว่าโชคดีที่เกิดมาเป็นผู้ชาย เพราะเวลามีงานเลี้ยง ผมก็แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ต ผูกไทด์ กางเกงสแลค และรองเท้าดี ๆ ซักคู่ ผมก็ไปได้ทุกงาน แล้ว แต่แม่พวกเพื่อน ๆ ผู้หญิงของผม นี่ แต่งตัวกันอย่างกับจะมาประกวดนางงามเลยก็ว่าได้ แน่ล่ะ ก็งานนี้ ไม่ใช่แต่ตัว เพชรเองที่เป็นที่ต้องตา ต้องใจของพวกสาว ๆ ยังรวมไปถึงแขกเหรื่อในงาน ที่มีทั้งลูกชาย ลูกสาว ผู้มีชื่อเสียงเดินกันให้ควั่ก พวกหล่อนบอกว่า เผื่อสะดุดถังข้าวสาร ฮ่าๆๆๆ ขำดี

เพชร เดินเข้ามาหาแค่ตอนเข้ามาแรก ๆ หลังจากนั้น เขาก็ต้องตามคุณพ่อเขาไปต้อนรับแขก ท่านอื่น ๆ ต่อไป ผมก็เข้าใจ ไม่ได้น้อยใจอะไร ก็งานนี้นอกจากจะเป็นงานวันเกิดแล้ว ท่านเจ้าสัว ยังถือเป็นการเปิดตัวเพชร ต่อสังคม เพราะหลังเรียนจบ เขาก็คงต้องเข้ามาบริหารงานในบริษัท นั่นยิ่งตอกย้ำความต่างกันของเขาและผม

คำว่าไม่คู่ควร เหมือนจะแปะหราอยู่ทั่วงาน ทำให้ผมยิ่งสะท้อนใจ คงถูกแล้วที่ผมคิดเลิกกับเขา หลังเรียนจบผมก็คงไปตามทางของผม








“สวัสดีครับ”
“....อือ ครับ” ยืนหลบมุม จมอยู่ในความคิดของตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งนิด ๆ เพราะเสียงทุ้มที่ทักมา หันไปมองก็ งงๆ เพราะ ผมไม่รู้จักผู้ชายคนนี้

“ผม ซันครับ เป็นเพื่อนกับปานชนก คู่หมั้นเพชร”
“อ้อ...... ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเต้ เป็นเพื่อนมหาลัยเดียวกับเพชรครับ” เขายื่นมือมาขอจับมือ ผมก็เลยยื่นไปจับด้วย ถึงในใจจะคิดว่า ไอ้หมอนี่มันจะมาทักผมทำไม เราไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันนี่นา โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของคู่หมั้นเพชร ยิ่งทำให้หงุดหงิดไม่อยากจะคุยด้วยซักเท่าไหร่

“ชื่อเต้ หรือครับ เต้คำเดียว หรือว่าฮ่องเต้”
“....เต้ คำเดียวครับ คนอย่างผม คงไม่บังอาจเป็นฮ่องเต้หรอกครับ” ผมพูดจริง คนอย่างผม ไม่มีทางเป็นฮ่องเต้ได้หรอก
 
“ตลกดีนะคุณนี่”
“....” ตลกพ่องมึงดิ ไอ้หน้าหล่อ ๆ มาดผู้ดี จนน่าหมั่นใส้ รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าไอ้หมอนี่ จนอยากจะเดินหนี

“ผมเคยพบคุณ”
“...มุกจีบหรือเปล่าครับ” เหลือบมองนิดหนึ่งเพราะเขาสูงกว่าผมพอสมควร ก็ไม่ใช่ไม่เคยมีคนมาจีบ

“ฮ่า ๆๆ คุณพูดตรงจังเลย จะว่าใช่ก็ใช่ล่ะครับ”
“..คุณเป็นเกย์?” จากที่ไม่ค่อยสนใจ ตอนนี้ผมก็เริ่มมองเขาจริง ๆ จัง ๆ ขึ้น ก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดี ท่าทางภูมิฐาน

“ผมเป็นไบ”
“อ้อ พวกสองขั้ว” ยักยิ้มข้างหนึ่ง ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แต่ไม่ค่อยชอบ พวกนี้ มักก่อปัญหาให้คู่ของตัวเอง เพราะรับได้ทั้งสองเพศ จึงไม่ค่อยซื่อสัตย์ต่อคู่ของตนเองซักเท่าไหร่

“ฟังดูไม่ค่อยจะดี เลยนะครับ”
“จะบอกว่าคุณดีงั้นซิ” เขาทำสีหน้าเหมือนผิดหวังที่ดูยังไงก็เหมือนเสแสร้ง ให้ต้องยกยิ้มเยาะ

“อันนี้ต้องลองครับ ว่าดีจริงมั๊ย”
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ล่ะ ผมไม่ชอบลอง” สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นกรุ่มกริ่มขึ้นมา ดวงตาคมจ้องมองเหมือนจะกรีดเสื้อผ้าให้ขาดกระจุย ยิ่งพูดคุย ยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ อันตราย ผมไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปยุ่งเกี่ยวด้วย ถึงจะเป็นเกย์ แต่ผมก็เลือกนะครับ








“เต้ มาอยู่ตรงนี้นี่เอง ผมหาคุณอยู่”
“มีอะไรเหรอครับ เพชร” กำลังจะกล่าวลากับเพื่อนใหม่เพราะไม่อยากจะคุยแล้ว เพชรก็เดินเข้ามาแทรก อย่างไม่สนใจคุณซัน ที่เลิกคิ้วมองผมกับเพชรสลับกัน

“...เอ่อผมมีเรื่องจะคุยด้วย เราไปคุยกันที่ห้องข้าง ๆ ดีมั๊ยครับ” เพชรซึ่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ใช่อยู่กันสองคนกับผม หันไปเหล่มองคุณซัน แล้วคว้าข้อมือผมจะพาไปคุยกันอีกห้อง

“เอ่อ เพชรครับ ไว้ค่อยคุยกันที่มหาลัยดีกว่า ผมเห็นว่าคุณยุ่งมาก ผมไม่อยากรบกวน ผมขอตัวเลยดีกว่าครับ ขอให้คุณมีความสุข สุขภาพแข็งแรงตลอดไปนะครับ” แต่ผมไม่อยากไป ไม่อยากรื้อฟื้นอะไรทั้งสิ้น จึงบิดข้อมือออกจากการกอบกุมของเพชรเบา ๆ ไม่ให้ดูผิดปรกติ

“เต้...” เพชรเรียกผม เสียงแผ่ว

“เพชรคะ มาทางนี้หน่อยค่ะ คุณพ่อปันจะแนะนำให้รู้จักกับท่าน รัฐมนตรี คะ” เราทั้งคู่หันไปตามเสียงหวานใสของคู่หมั้นเพชร ก็เห็นว่าเธอโบกไม้โบกมือเรียก อยู่ใกล้ ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนที่ยืนคุยกันอยู่ด้านหลัง

“...ครับ ปัน” เพชรหน้าหม่นลง หันมามองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะเดินจากไปตามเสียงเรียก เพชรเดินไปหาคู่หมั้นของเขา แต่ก็ยังเหลียวกลับมามองเป็นระยะ ๆ




“คุณจะกลับแล้วจริง ๆ เหรอ”
“....ครับ...... ขอตัวนะครับ” ต้องสะดุ้งเล็ก ๆ เพราะลืมไปเลยว่าผู้ชายคนนี้ยังยืนอยู่ข้างผม ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยอะไรกับใครแล้ว ผมรู้สึกอยากอ้วก คลื่นไส้ ผมว่าผมรีบออกไปจากงานดีกว่า




“บาดตา?”
“???” หลังจากผงกหัวขอตัว ผมก็หันหลังให้เขา ก้าวเท้าจะเดินจาก ก่อนจะชะงักกับคำถามของเขา

“ก็คุณกับเขาเป็นแฟนกันใช่มั๊ยล่ะ”
“.........” หันควับไปมองเขาอย่างอึ้งๆ ไม่เคยมีใครรู้ความสัมพันธ์ของผมกับเพชร จะว่าเขาเดาเอาก็คงไม่ใช่ เพราะสายตาคมกริบที่มองมาเหมือนจะทะลุเข้าไปถึงหัวใจ และสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้พูดเล่น

“ไม่ต้องตกใจไปครับ ก็บอกแล้วไงว่าผมรู้จักคุณ”
“......” ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ข่มขู่?

“เพชรเขาก็หมั้นกับปันไปแล้ว คุณคงไม่คิดจะแย่งเขากลับมาหรอกนะครับ”
“อ้อ นั่นซินะ คุณเป็นเพื่อนของคุณปานชนกนี่นา” อ้อ เข้าใจละ ยังไงเขาก็ต้องเข้าข้างเพื่อนของเขาอยู่แล้ว

“ก็ใช่ครับ แต่ที่พูดเพราะผมหวังดีกับคุณต่างหาก คนน่ารักอย่างคุณ เขาไม่คู่ควรหรอก”
“ฮ่าๆๆ ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ” เริ่มไม่เข้าใจ ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่

“ใครว่า ผมอยากลูบคุณทั้งตัวเลยต่างหาก”
“เอาจริง?” อ้าวไอ้บ้านี่ ออกแนวลวนลามเหรอ

“ถ้าให้เอาจริง ๆ ก็เอาครับ ยิ่งถ้าให้เลียด้วยจะยิ่งดีใหญ่”
“เข้าขั้น โรคจิตนะคุณนี่” ส่ายหัวอย่างหน่าย ๆ ยิ่งคุยด้วยยิ่งคิดว่าไอ้หมอนี่มันไม่ใช่แค่บ้า แต่โครตของโครตบ้าเลย

“ฮ่าๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆ สนุกดีครับ ดีใจที่ได้คุยกับคุณ แต่เราคงไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว ผมขอตัวครับ” เห็นเขาขำ ผมก็เลยพลอยขำด้วย เขาเป็นคนแปลกดี ผมไม่เคยเจอคนพูดอะไรตรง ๆ บ้า ๆอย่างเขาเลย

“ให้ผมไปส่งนะ”
“อย่าเลยครับ ลำบากเปล่าๆ ที่สำคัญ คุณบอกเพื่อนคุณสบายใจได้ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ เพชรอีก และผมก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย ลาก่อนครับ” จากที่ขำ ๆ กันอยู่ ผมก็ปรับท่าที กะทันหันเป็นเฉยชาแทน ผมมองตาเขานิ่งๆ อยากสื่อความจริงใจให้เขาได้รับรู้ และส่งผ่านไปยังเพื่อนสาวของเขา ให้ไม่ต้องคอยระแวงผมอีก เพราะหลังจากเรียนจบ ผมคงไม่มีความจำเป็นต้องปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอีกต่อไป


ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตอนที่ 5 I got you

ผมอดจะอึ้งกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของ เต้ ไม่ได้ จากที่หัวเราะ ๆ กันอยู่ดี ๆ ก็หยุดกึก มองตรงมาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดตัดสัมพันธ์กับ เพชร ซึ่งผมแทบไม่เชื่อหู เพราะผู้ชายระดับ เพชร ลูกชายเจ้าสัวใหญ่ ไม่มีใครหรอกไม่อยากได้มาครอง ผมคิดว่าถึงจะต้องทำสงคราม ตบตี แย่งชิง เขาก็ไม่มีทางปล่อยมือจากเพชรแน่ ผมกะว่าคงต้องใช้แผนใช้กลยุทธ์หลากหลายในการกำจัดเขาให้พ้นทางยัยปัน

แต่ผิดคาดหลังคำบอกตัดสัมพันธ์ เขาก็หันหลังเดินออกจากงานเลี้ยงไปเลย ไม่มีแม้แต่จะหันไปมองเพชร ทำเอาผมอึ้งไปหลายวินาที พอได้สติก็ วิ่งตามเขาออกไป ก่อนจะเห็นหลังไว ๆ ว่าเขาเดินออกไปทางหน้าโรงแรม ผมจึงวิ่งตามเขาไป แต่ก็ไม่ทัน เขาก้าวขึ้นรถเมล์ และรถก็ออกตัวไปแล้ว ผมเลยรีบโบกเรียกรถแท็กซี่ ให้ตามรถเมล์คันนั้นไป พี่คนขับก็ใจดี ถามว่าทำไมต้องตามรถเมล์ ผมเลยบอกไปส่ง ๆ ว่าผมตามง้อแฟนอยู่ เขาเลยวิ่งจี้ตูดรถเมล์ไปตลอดทาง จนผ่านไปหลายป้าย ผมก็เห็น เต้ ก้าวลงจากรถเมล์พร้อมผู้โดยสารหลายคน ผมบอกพี่คนขับจอด แกก็รีบจอดให้ และอวยพรให้ผมง้อแฟนสำเร็จด้วย ฮ่าๆๆ

ผมเดินตาม เต้ ไปห่าง ๆ เห็นเขาเดินเข้าตรอกเล็ก ๆ ข้าง ๆ ร้านอาหารจีน พอผมเลี้ยวเข้าตรอก ก็ต้องรีบหลบข้างกำแพง เพราะผมเห็น เต้ กำลังมีปากเสียงกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ผมอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยิน แต่ก็เห็นว่า เต้ จะยุติการทะเลาะโดยการเดินหนี แต่ชายคนนั้นรั้งมือของเต้ไว้ และพยายามจะปลุกปล้ำเต้ ผมจึงวิ่งเข้าไปจะช่วย ได้ยินเสียงเหมือนเต้จะร้องห้ามไอ้หมอนั่น แต่ก็ถูกมันต่อยเข้าที่ท้องจนตัวงอ เต้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น ไอ้ชั่วนั้นยังตามไปยึดข้อมือเต้ไว้ทั้งสองข้างก่อนจะพยายามไล่จูบเต้ ที่เอาแต่กัดฟันก้มหน้าหลบ

ไม่ต้องเสียเวลาคิด ผมวิ่งเข้าไปถึงก็เตะลำตัวไอ้ผู้ชายคนนั้น จนกระเด็นหลุดจากเต้ ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า

“ไอ้เหี้ย มึงเป็นใครวะ มาเตะกูทำไม” ไอ้คนที่ถูกผมเตะกลิ้ง พอมันตั้งตัวลุกขึ้นมาได้ก็ด่ากราด ท่าทางมันจะเมามาก ยืนยังไม่ตรงเลย

“ไอ้ชั่ว มึงนั่นแหล่ะคิดจะทำอะไรเต้” ผมเห็นท่าทางมันจะเดินเข้ามาเหมือนมุ่งร้าย เลยว่าจะแจกตีนให้มันอีกซักทีสองที

“อย่า ครับ ๆ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง” เต้รีบลุก ถลาเข้ามาจับแขนห้ามผมเอาไว้ ผมหันไปมองหน้าไอ้ลูกพี่ลูกน้อง ก่อนจะหันมาดูคนที่กุมท้องร้องโอย

“คุณเป็นไงบ้าง?” รีบประคองเขาด้วยความเป็นห่วงอาการ
“...จุก.” เป็นคำเดียวจากคนหน้าหวาน

“หนอย.. ไอ้กะเทย มึงพาผัวมึงมาตีกูเหรอ สำส่อนเหมือนแม่มึงไม่มีผิด”
“ไอ้เฮียตง หุบปากมึงไปเลย”
“หึ พูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้ กูจะฟ้องป๊า ว่ามึงพาผู้ชายมากก กันถึงบ้าน”

“ยังจะมาปากดีอีก เดี๋ยวเถอะ เอาไปอีกหมัดดีมั๊ย” ผมที่ฟังบทสนทนา ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็คิดว่ามันเป็นถ้อยคำที่หยาคาย และดูถูกบุพการี เลยว่าจะจัดให้อีกหมัด เผื่อมันจะหายเมา กลับมาเป็นผู้เป็นคน

“คุณซัน อย่าครับ” แต่ติดที่คนนี้ยังจับแขนผมแน่น แถมดึงผมให้เดินออกมาจากตรอก เห็นไอ้ลูกพี่ลูกน้องของเต้ มันสบถลั่น ก่อนจะหายเข้าไปในประตูด้านข้างของร้านอาหารจีน


พอพ้นตรอกผมก็เข้าประคองคนตัวงอไว้

“ผมว่าคุณไม่ควรกลับเข้าไปตอนนี้เหรอนะ” ผมพาเขามานั่งที่รอรถเมล์

“ผมก็คิดอย่างนั้น” เขาท่าทางดีขึ้นไม่ได้นั่งตัวงอแล้ว

“แล้วจะเอาไง คุณจะไปไหนผมจะไปส่ง” ผมอยากจะพาเขากลับไปที่คอนโดของผม แต่ก็ทำเป็นถามความเห็นเขาก่อน ไม่อยากให้เขาตื่นตกใจ ถ้ารู้ความคิดของผม

“....ไม่รู้....” เขามีท่าทีสับสน

“งั้นไปที่คอนโดผมก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับมา” ยิ่งเข้าทางผมเข้าไปใหญ่ ผมไม่รอรี รีบเสนอให้เขาไปที่ของผมทันที

“...อย่าเลยครับ ผมเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจ ผมอยากช่วยคุณจริง ๆ”
“...”

“ไม่ต้องคิดมาก นั่นแท็กซี่มาพอดี” สบช่องเห็นรถแท็กซี่มาแต่ไกล รีบ ๆ รวบรัด ไม่ให้เขาได้มีเวลาตริตรอง จัดแจงประคองเขาเข้าไปนั่งด้านหลังรถแท็กซี่ แล้วบอกจุดหมายปลายทาง เขามองผมเหมือนจะท้วง แต่ก็ถอนหายใจ และหันกลับไปมองข้างหน้าต่างโดยไม่พูดอะไรอีกตลอดทาง ผมเองก็นั่งเงียบ ๆ ไม่รบกวนเขา มองตรงไป แต่ก็เหลือบมองเสี้ยวหน้าสวยหวาน แต่ดูเศร้าของเขาเป็นระยะ ๆ



(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2014 20:25:43 โดย limpingping »

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อ ๆ)



ผมที่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทั้งเรื่องรัก เรื่องเรียน เรื่องครอบครัว ปนเปกันจนไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับชีวิตดี แถมยังเดินตามผู้ชายที่ผมเพิ่งจะพบเขาครั้งแรก เมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ มาถึงคอนโดของเขา เขามีฐานะดีอย่างที่ผมประเมินเขาไว้ตอนแรกไม่มีผิด เพราะคอนโดขนาดใหญ่ แค่ 4 ห้องต่อหนึ่งชั้น ใจกลางเมืองหลวง สนนราคาคงไม่ต้องบอกว่าแพงขนาดไหน

“ตามสบายนะครับเต้” คุณซันเดินนำเข้าห้องก่อนจะโยนกระเป๋าและพวงกุญแจไว้บนโต๊ะข้างประตู

“ขอบคุณครับ” ผมเดินตามเข้ามา ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้อง ซึ่งจัดเป็นโทนสีน้ำทะเล ดูสวยและลึกล้ำ ห้องแบ่งเป็นโซน ๆ โดยมีฉากกั้น

“จะดื่มอะไร ซักหน่อยมั๊ย” เขาเดินนำเลี้ยวเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็นก่อนจะหันมาถามความต้องการเครื่องดื่มของผม

“...ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ ...ถ้าไม่รังเกียจผมขอใช้ห้องน้ำได้มั๊ยครับ” ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ผลจากการทรุดลงไปกองกับพื้นในตรอก ทำให้ชุดผมเลอะพอสมควร ผมเหนียวตัวด้วย อยากอาบน้ำมาก

“อ้อครับ เชิญครับ เอ่อ เดี๋ยวผมหาผ้าเช็ดตัวกับชุดเปลี่ยนให้นะครับ” เขาผายมือไปทางห้องน้ำ และเดินหายเข้าไปในห้องอีกห้อง ก่อนจะออกมาพร้อมผ้าขนหนูสีขาวเนื้อหนา และชุดเสื้อยืดกางเกงบอล

“ไม่ต้องครับ ผมใส่ชุดเดิมได้” ผมไม่อยากรบกวนเขามากไปกว่านี้อีกแล้ว

“ผมว่าเปลี่ยนเถอะ ชุดคุณสกปรกไปหมดแล้ว” เขายิ้มบาง ๆ ส่งมาให้  พร้อมกับพยักพเยิดให้ผมดูสภาพตัวเอง

“...ครับ...ขอบคุณครับ” พอมองดูตัวเองก็ต้องยอมรับ ว่าเขาพูดถูก ผมมอมแมมมาก คงไม่กล้านั่งตรงไหนแน่ เพราะคงจะทำให้บ้านของเขาสกปรกไปด้วย จึงรับของจากมือของเขาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบ ๆ







สายน้ำเย็นจากฝักบัวไหลรินรดตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า เรื่อยลงมาจนถึงปลายเท้า แต่มันไม่ได้ทำให้ใจที่ห่อเหี่ยวรู้สึกสดชื่นขึ้นเลย

ยิ่งตอกย้ำให้ผมคิดถึงแม่

ผู้หญิง ยิ้มเศร้า ๆ ที่ผมไม่เคยได้พบเจอ จะมีก็แต่เพียงรูปถ่ายใบเดียวที่หลงเหลืออยู่ ที่ผมเก็บรักษาไว้ในกระเป๋าเงิน

ผมเคยสงสัยเสมอว่า…..

...ถ้าวันนั้น แม่ไม่ตายหลังจากที่คลอดผมไม่นาน .....ชีวิตผมจะเป็นยังไง

จะมีคนจูงมือไปส่งที่โรงเรียน จะไม่มีใครล้อว่า ไอ้เด็กกำพร้า จะมีคนรอผมกลับมาบ้านด้วยรอยยิ้ม และกับข้าวฝีมือแม่ ที่ทั้งอบอุ่น และอ่อนโยน

จะมีคนกล่อมผมตอนนอน อ่านนิทานให้ผมฟัง ให้ผมได้ออดอ้อน เล่าเรื่องราวสนุกสนานในการไปโรงเรียนในแต่ละวันให้ฟัง แม่คงจะหัวเราะกับเรื่องสนุก ๆ ของผม พร้อมอ้อมกอด ไออุ่นจากอกแม่

ผมเคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง ผมอยู่คนเดียวได้ ผมดูแลตัวเองได้.....แต่มันไม่ใช่เลย ผมอ่อนแอ ผมไร้ซึ่งพละกำลัง ไม่เคยได้สิ่งที่ต้องการมาครอบครอง.......... โลกใบนี้......ไม่เคยมีอะไรที่เป็นของผม

เสื้อผ้าและชุดนักเรียน ก็เป็นชุดเก่าของเฮียตง ลูกพี่ลูกน้องที่แก่กว่า 5 ปี หนังสือเรียนที่ เฮียเคยใช้ ถ้ายังใช้ได้ก็ต้องใช้ ดีว่าสมุดได้เล่มใหม่ เงินจะไปโรงเรียนก็ได้พอเพียงในแต่ละวัน ค่าอาหารไม่มี เพราะมีอาหารให้นำไปโรงเรียนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นของที่เหลือ ๆ จากร้านอาหารตอนกลางคืน

เพราะเสียดายที่จะใช้เงินน้อยนิดนี้ซื้อขนม ผมจึงไม่ค่อยซื้อ แต่เก็บใส่กระปุกไว้ รวมกับเงินทิป ที่ลูกค้าที่มาที่ร้านให้ โดยเฉพาะลูกค้าขาประจำที่เห็นผมมาตั้งแต่เด็ก จะสงสารและให้ทิปผมเสมอ ผมรับไว้ ถึงมันจะมาจากความสงสาร แต่ผมมีฝัน....ฝันของผมต้องใช้เงิน

ผมฝันไว้ว่าซักวัน ผมจะมีที่ ๆ เป็นของผมจริง ๆ ไม่ว่าจะดีจะร้าย จะเล็กจะใหญ่ แต่ถ้ามันเป็นของผม ผมก็รู้สึกดีใจทีสุดแล้ว

วันหนึ่ง เหมือนว่าฝันของผมจะเป็นจริง

ผมได้พบกับ เพชร อดีตเดือนมหาลัยปีที่แล้ว ที่เข้ามาทักทาย เขาทำให้ผมรู้สึกตัวลอย รู้สึกเหมือนฝันไป  คนระดับนั้น ให้ความสนใจผม เขาบอกว่าเขาชอบผมมานานแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสได้เข้ามาพูดคุย

เพชร ก้าวเข้ามาในชีวิตผมอย่างรวดเร็ว เขาทำให้ผมมีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเขา และรู้สึกเป็นคนสำคัญของใครซักคน เป็นคนที่มีคนต้องการ

แต่ฝันของผมมีอายุแค่ 2 ปีกว่า ๆ เท่านั้น เราคบกันหวานชื่น สุขบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่เขาก็คอยง้อ คอยตามใจตลอด จนวันหนึ่ง เขาบอกผม ระหว่างที่เรากำลังร่วมรักกันอยู่ เขาทำให้ผมเกือบถึงสวรรค์
   
“เต้ ผมต้องหมั้นกับผู้หญิงที่พ่อแม่ผมเลือกให้อาทิตย์หน้า”
   “ห๊ะ...” จากที่กำลังจะถึง ผมก็เหมือนร่วงตกลงมาในทันที รู้สึกโมโหมาก จึงพยายามผลักเขาออก

   “ไม่เอาหน่า เต้ อย่าทำอย่างนี้ ผมรักคุณคนเดียวนะ” เขาปัดป่ายมือที่พยายามจะดันเขาออก ก่อนจะจับข้อมือผมไว้ทั้งสองข้างตรึงไว้กับที่นอน

   “ปล่อยเต้นะ เพชร ปล่อย” เขาตรึงมือผมไว้แน่น ในขณะที่ช่วงล่างเขาก็ยังไม่หยุดกระแทกกระทั้นเข้ามาช้า ๆ เนิบ ๆ ทำให้รู้สึกเสียววาบ

   “นะ ก็แค่หมั้นกันให้ผู้ใหญ่สบายใจ ยังไงเราก็ยังรักกัน สนุกกันต่อไปได้” เขาก้มลงมาคลอเคลีย และพูดอยู่ใกล้ ๆ ริมฝีปาก และเริ่มไซร้ เริ่มเลียให้ผมเผลอคราง
   
“อาร์ ...ไม่..ไม่เอา ผมเคยบอกคุณแล้วใช่มั๊ย ว่าถ้าวันใดคุณมีผู้หญิง หรือคุณจะแต่งงาน ผมจะหลีกทางให้” ผมพยายามสะกดอารมณ์ใคร่ของตัวเอง เพราะทั้งโกรธ และเสียใจ

   “เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว เต้ คุณก็รู้ผมชอบผู้ชาย เรื่องหมั้นกับผู้หญิงก็แค่เป็นหน้าเป็นตาในสังคมเท่านั้น” เขาหัวเราะ มองผมเหมือนกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่สำหรับผมแล้ว นี่เป็นเรื่องที่เราเคยตกลงกับไว้แล้ว

“ไม่ ไม่ ผมรับไม่ได้ อ๊ะ..” ยังไม่ทันจบประโยคดี เพชรก็กระแทกแรงขึ้น ลึกขึ้น จนผมเริ่มควบคุมตัวเองต่อไปไม่ไหว สติเริ่มจะเลือนราง มีแต่ความเสียวซ่านที่แผ่ปกคลุมไปทั่วร่าง เราเป็นของกันและกันมานาน เขารู้จักร่างกายผมดี รู้ว่าทำอย่างไรจะทำให้ผมอ่อนละลาย หรือร้อนแรงให้ผมลุกเป็นไฟ จนในที่สุดเราทั้งสองก็ถึงจุด ผมปลดปล่อยออกมา พร้อม ๆ กับที่เขาปลดปล่อยไว้ข้างในของผม มันไม่อบอุ่น ไม่รัญจวนใจเหมือนที่ผ่านมา   ค่ำคืนนี้หัวใจผมปวดร้าว แต่ เพชร ไม่เคยรับรู้ เขายังคงเสพสุขจากร่างกายผมต่อไป อย่างหื่นกระหาย น้ำตาที่ไหล ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเลย

หลังจากคืนนั้น ผมก็พยายามจะถอยห่างจากเขา


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตามติด เต้ ต่อว่าตามเขาไปที่ห้องง่าย ๆ อย่างนั้น จะลงเอยอย่างไร  :hao3:

******************************************************



ตอนที่ 6 In his room



“อาบน้ำนานจัง” หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพแต่งกายเรียบร้อยแล้ว คุณซัน ซึ่งเดินออกมาจากห้อง ๆ หนึ่งก็ทักขึ้น

“...ขอโทษครับ....” ก็จริงอย่างเขาว่า ผมมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง

“เปล่า ๆ ผมไม่ได้ว่าอะไร แค่คิดว่าคุณอาบน้ำนานจัง หิวมั๊ย?” เขาโบกมือไหว ๆ หัวเราะออกมาเบาๆ

“เอ่อ ไม่ครับ ผมไม่..”
โครกกกกกกกกกกก

“อื้อ เสียงดังดี ...สรุปว่าหิว” ไอ้เสียงท้องร้องเจ้ากรรมทำผมขายหน้าอย่างมาก ด้วยความเกรงใจ ผมรบกวนเขาหลายเรื่องแล้ว ไม่อยากให้ต้องมาลำบากอะไรกับผมอีก แต่เพราะในงานเลี้ยง เมื่อหัวค่ำ ผมแทบไม่ได้แตะอาหารเลย บอกตรง ๆ กินไม่ลง ยิ่งเห็น พวกเขาสองคนเคียงคู่ ยิ่งบาดตาบาดใจ จนอยากจะวิ่งหนีออกมาจากงานตั้งแต่แรกแล้ว

ฮ่ะๆๆ น่าขำจริง ๆ ขนาดอกหัก ช้ำใจอยากจะเป็นจะตาย แต่ร่างกายก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างไม่มีบกพร่อง 

“ห้องผมไม่ค่อยมีของสดหรอก ผมกินข้างนอกซะส่วนใหญ่ แต่มีอาหารแช่แข็ง คุณจะเอาข้าว หรือสปาเก็ตตี้?” ผมล่ะอายเขาจริง ๆ ที่เจ้าท้องผมมันฟ้องซะยกใหญ่ ว่ามันหิว เขาเดินหายเข้าไปทางห้องครัว ก่อนจะโผล่มาแค่หน้า ถามเมนูแช่แข็งที่ผมอยากลิ้มลอง

“เอ่อ.. ขอเป็นข้าวก็ได้ครับ” จริง ๆ ผมกินอะไรก็ได้

“งั้นไปรอในห้องนั่งเล่น โน้นแป๊บ เดี๋ยวผมเวฟให้” เขาชี้ไปทางห้องที่ก่อนหน้านี้ผมเห็นเขาเดินออกมา อ้อ เป็นห้องนั่งเล่น อื้อ ตกลงมันมีกี่ห้องกันเนี๊ยะ


ทันทีที่ผมโผล่เข้าไปในห้องที่เขาบอก ก็ต้องทึ่ง

แม่ง รกโครต ๆ เขาอยู่ได้ยังไงนะ เสื้อผ้าถอดทิ้งพาดตามโซฟา เก้าอี้ ตามพื้นห้องก็ระเกะระกะไปด้วย ขวดเหล้า กระป๋องเบียร์ ยังมีหนังสืออีก กระจัดกระจายบนโต๊ะ จนบางเล่มก็ร่วงลงมากองที่พื้น

เฮ้อ จะปล่อยผ่านก็ได้ แต่ผมก็มารบกวนเขาแล้ว ผมก็ควรจะช่วยเหลือเขาบ้าง จึงถือวิสาสะ รวบเสื้อผ้าไปใส่ในตะกร้ามุมห้อง หยิบถุงพลาสติกบริเวณนั้นเก็บขวดกระป๋องทิ้ง หนังสือก็รวบ ๆ ขึ้นไว้เป็นกองบนโต๊ะ

ก่อนจะเห็นขยะบางอย่างที่ไม่คาดว่าจะพบเจอด้วย....ถุงยางใช้แล้ว.... เอ่อ..คุณมึงเล่นซดกัน ที่ห้องนั่งเล่นเลยเหรอวะ




“อา เสร็จแล้วคร๊าบบบบ  อ้าว โห นึกว่าเข้าห้องผิด ฮะๆๆๆ” เขาที่เดินยกจานข้าวควันฉุยเดินเข้ามาก็ต้อง ชะงักเท้าไปนิด ก่อนจะทำตาโต หัวเราะร่า

“เอ่อ ผมขอโทษที่ถือวิสาสะ..” ก็เก็บลวก ๆ ไม่ได้กวาดเรียบอะไร ก่อนเดินมานั่งตรงข้ามกับคุณซัน ที่ยกข้าวมาวางให้บนโต๊ะ แต่มีแค่จานเดียว

“ไม่เป็นไร ๆ มันรกละซิ แต่ไม่ต้องเก็บหรอก ผมมีแม่บ้านมาคอยเก็บกวาดอาทิตย์ละครั้ง พรุ่งนี้ก็มาแล้ว เลยรกซะเต็มที่เลย เอากินซิ” ชิ ลูกคนรวย จริง ๆ ด้วย มีแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดให้ด้วย อดจะน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ แต่ก็แค่เล็กน้อย เพราะน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้กับผม มันทำให้ผมรู้สึกดี

“แล้วคุณไม่กินเหรอ” ผมค่อย ๆ รั้งจานเข้ามาใกล้ มองเขาก่อนจะตักข้าวเข้าปาก เวลาหิวนี่ อะไรก็อร่อย

“คุณกินเถอะผมอิ่มมาจากในงานแล้ว.... ไม่ว่านะผมขอสูบบุหรี่หน่อย”
“เชิญครับ บ้านคุณนี่นา”

หลังจากมองเขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ผมก็หันมาสนใจข้าวผัดปูตรงหน้าต่อ




(มีต่อ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อที่ 1)


ผมทำเป็นจุดบุหรี่สูบ จนเห็นว่า เต้ หันไปตั้งอกตั้งใจกินข้าวเงียบ ๆ ท่าทางเหม่อ ๆ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่ได้สนใจผมที่นั่งตรงข้ามเลย

ใบหน้าหวานใส เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ สะกดสายตาของผม ได้เช่นครั้งแรกที่ผมพบเขาในผับคืนนั้น ใบหน้ารูปไข่ได้รูปสวย  เครื่องหน้าเหมาะเจาะ งดงาม ดวงตากลมโตเหม่อลอย หลุบต่ำลง จมูกโด่งแต่ปลายงอนเล็กน้อย ดูท่าทางเหมือนเด็กซน ๆ ริมฝีปากบางสีส้มอมชมพูชวนมอง โดยรวมถ้าจะมองว่าหล่อ ก็หล่อนะ แต่ออกแนวหล่อนหวานซะ

ผู้ชายที่สะกดสายตาผมได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แต่ต้องคลาดกันไป ไม่นึกไม่ฝันว่าจะยังมีโอกาสได้มองดวงหน้าที่ถูกใจนี้ใกล้ๆ อีกครั้ง คงต้องขอบคุณยัยปัน ถ้าไม่ได้มันก็คงจะไม่ได้รู้จักกับเต้

ผมไม่สนใจหรอกว่าเขาเคยผ่านผู้ชายมาก่อน เพราะผมเองก็ผ่านมาเยอะ น่าจะเยอะกว่าเขามาก ผมเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรกับเขาต่อไปดี




(มีต่อ 2)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อที่ 2)


“มองซะขนาดนั้น กินกันเลยมั๊ย” ถึงจะเหม่อไปหน่อย แต่มีคนมานั่งจ้องมองขนาดนี้ มันก็ต้องมีรู้สึกตัวกันบ้านล่ะ พอได้สติ ก็มาเจอกับสายตาคนตรงข้ามที่มองมาอย่างร้อนแรง ให้รู้สึกร้อนหน้านิดหน่อย

“...แล้วกินได้มั๊ยล่ะครับ” เขาไหวไหล่ ก่อนจะมองทั่วร่างผมด้วยสายตาโลมเลีย

“รอให้ผมอิ่มก่อนก็แล้วกัน ผมจะให้คุณกิน” ขอบอกว่าถ้าอยู่ในสภาวะปกติ ผมไม่มีทางพูดประโยคล่อแหลมอย่างนี้แน่ แต่ความรู้สึกของผมตอนนี้ มันสุดจะบีบคั้นหัวใจ ผมไม่สนใจแล้วว่าร่างกายนี้จะมีใครต้องการหรือไม่ ผมแค่ต้องการอ้อมกอดจากใครซักคน ที่จะทำให้ผมแหลกสลาย หายไปจากความเป็นจริง ดำดิ่งสู่ห้วงหฤหรรษ์ โดยทิ้งเรื่องราวทั้งหลายไว้เบื้องหลัง  ใครก็ได้จริง ๆ





(มีต่อ 3)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อที่ 3)


“..ก็ดี งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ คุณพร้อมก็เข้าไปรอในห้องนอนได้เลย” ผมอดจะเสียความรู้สึกกับเขาไม่ได้  สีหน้าของผมเปลี่ยนไป เป็นเย็นชา เขากล้า หรือว่า ร่าน หรือว่าจริงๆ แล้วก็มีเซ็กส์กับผู้ชายไปทั่ว ฮึ เห็นหน้าตาหงิม ๆ เงียบ ๆ ไม่แน่อาจฟาดเรียบก็ได้  อดจะคิดดูถูกเขาไม่ได้

ดูสีหน้าเขาก็ตกใจในน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของผมไม่น้อย เขาหลบสายตาผมทันที แต่ผมไม่สนหรอก เอาวะ คิดแค่สนุกกันให้เต็มที่ ทำกันจบแล้วก็แยกย้ายกันไปคนละทาง ที่ผมติดใจเขาคิดว่าเพราะพลาดไม่ได้เขามาตั้งแต่แรก แต่พอได้แล้ว ผมคงไม่สนใจเขาอีก เหมือนกับอีกหลาย ๆ คนที่เข้ามา




(มีต่อ 4)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อที่ 4)




น้ำเสียงดูถูกนั้น เรียกสติของผม ให้กลับมา ยกมือสองข้างขึ้นปิดหน้า น่าอายจริง ๆ เขาคงคิดดูถูกผมที่ยอมนอนกับเขาง่าย ๆ อับอายที่ เสนอตัวให้คนที่เพิ่งพบกันครั้งแรก และเขายังเป็นคนที่ช่วยเหลือผมหลายอย่างด้วย

ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ แว่วๆ ทำให้ผมตัดสินใจว่า ผมไม่ควรจะมารบกวนเขาแล้ว จึงลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าชุดมอมแมมของตัวเองมาเปลี่ยนกลับ หยิบกระดาษโพสอิทสีเหลือง บนโต๊ะ มาเขียนข้อความบอกขอบคุณและขอโทษที่ต้องลากลับ โดยไม่บอกกล่าว ไปแปะไว้ที่ประตูด้านใน ก่อนจะก้าวออกจากห้อง ล็อกห้องให้แล้วปิดประตูลงเบา ๆ





เที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่ท้องถนนยังคลาคล่ำไปด้วย รถยนต์ รถเมล์ยังวิ่งอยู่ ผมมองหา รถเมล์ที่จะวิ่งทั้งคืน และวิ่งสายระยะทางยาว ๆ เพราะผมไม่รู้จะไปไหนดี จะกลับไปที่ร้านอาหารก็ดึกมากเกินไปแล้ว ป่านนี้นอนกันหมดแล้ว ผมไม่มีกุญแจเข้าร้าน ถ้าต้องไปเรียกให้ใครมาเปิดประตูให้คงไม่ดีแน่ เพราะทุกคนต้องตื่นตั้งแต่หัวรุ่งเพื่อมาเตรียมวัตถุดิบสำหรับร้านอาหารที่จะเปิดในตอนเที่ยงจนถึงค่ำ ส่วนเพื่อนฝูงที่สนิทพอจะไปพึ่งพิงได้ก็ไม่มี ผมไม่ค่อยได้เข้ากลุ่มไปเที่ยวกับพวกมัน เพราะต้องช่วยงานที่ร้านตลอด แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็เพราะผมไม่มีเงินเหลือเฟือ ไปใช้จ่ายกินดื่ม สุลุ่ยสุร่ายด้วย ส่วนคอนโดของเพชร... คงไม่ไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะยังรักเขาอยู่หรือไม่ แต่ผมจะไม่มีวันทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องมารับกรรม กับความมักง่าย เห็นแก่ตัวของผมเป็นอันขาด

สุดท้ายก็คิดได้แค่นั่งรถเมล์มันทั้งคืน ฆ่าเวลา ไปจนกว่าจะใกล้เช้า ค่อยกลับไปที่ร้าน ทุกคนคงจะตื่นแล้ว คนบนรถเมล์มีประปราย  ต่างคนต่างไม่สนใจกัน นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง

เมืองหลวงศิวิไลซ์ แต่ไม่มีใครสนใจใคร ต่างคนต่างดิ้นรนปากกัดตีนถีบ เพื่อปากเพื่อท้องไปวัน ๆ เหนื่อยจัง ง่วงด้วย เมื่อไหร่จะเช้านะ





(มี่ต่อ 5)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อที่ 5)



ถึงผมจะคิดดูถูกเขา ที่ง่ายจนเหมือนไร้ค่า แต่แค่คิดถึงเวลาที่จะได้สอดใส่เข้าไปในร่างโปร่งบางระหง ผิวขาวเนียน น่าฝากรอยรักไว้ ก็ทำให้รู้สึกตื่นตัว จนกลางกายปวดหนึบ ๆ สายน้ำเย็น ๆ ที่หลั่งมากระทบร่าง ยังแทบจะกลายเป็นไอ เมื่อกระทบกับร่างกายที่เริ่มจะร้อนขึ้น ยิ่งคิดถึงคนที่นอนรออยู่ในห้องแล้ว ก็ทำให้รู้สึก อยากจนแทบคลั่ง เริ่มทนไม่ไหว เลยรีบอาบน้ำให้เสร็จไว ๆ แล้วคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดหัวเช็ดตัวลวก ๆ เปิดประตูห้องน้ำเดินโทง ๆ ออกมาเลย ไม่ต้องเสียเวลาถอดอีก ตรงไปเปิดประตูห้องนอนก็ต้องชะงัก

ว่างเปล่า ไร้เงาคนที่น่าจะนอนรอ ตอนแรกคิดว่าเขาอาจจะอยากเล่นซ่อนแอบ ให้เร้าใจ แต่จนแล้วจนรอด มองหาทุกที่ ก็ไร้วี่แวว เดินออกมาดูห้องอื่น ๆ ก็ไม่มี พลันเห็นกระดาษสีเหลืองเล็ก ๆ แปะอยู่ที่ประตู ก็เดินเข้าไปคว้ามาดู
   # ขอบคุณมากครับสำหรับความช่วยเหลือและอาหาร ผมคงต้องกลับแล้ว ขอโทษที่ไม่ได้อยู่เจอ ผมละอายใจเกินกว่าจะสู้หน้า และขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี#

“รู้สึกไม่ดีเหี้ยไร รู้สึกดีจนน้ำจะพุ่งอยู่แล้ว โธ่เว้ย อย่าให้กูเจออีกนะมึง กูจะเอามึงจนลงจากเตียงไม่ได้เลย เฮ้ย ไม่สิ พรุ่งนี้กูจะไปดักรอมึงที่มหาลัย ยังไง ๆ ก็กูต้องได้มึง ไม่งั้นก็ไม่ต้องเรียกกูว่า ซันซาโนว่าเลย ฮึ๊ย โอ๊ยยยยยยยยยยย” เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวน เขาทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง ทำได้ยังไง ตอนนี้ผมอยากทำกับเขาจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว แต่เขากลับชิ่งผมไปซะนี่ อึดอัดจนต้องระบายกับสิ่งของในห้อง กวาดทุกสิ่งบนโต๊ะลงไปกองที่พื้น ฮึ่มๆๆ แล้วคุณคิดว่าคืนนี้ผมจะหลับลงได้มั๊ย ห๊ะ?






(ไม่มีต่อแล้วจ้า จบตอน)

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
มาถึงก็ชวนซดมาม่าซะผมร่วง   สงสารอ่ะ ไม่อยากให้น้องโดนทำร้ายใจไปมากกว่านี้อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงน้องทิวา  น้องทิว   สงสารพอกันแต่ทิวารายนี้ดีหน่อยที่ตอนนี้ได้พบคนที่รักอย่างจริงๆแล้ว  ยังไงก็สู้ต่อไปนะลูกน้องเต้

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไม่ได้แอ้มง่ายๆหรอก >> เต้ไม่ได้กล่าว 55
ซันหวังฟันอย่างเดียวเลยสินะ ระวังจะหลงรักเค้าไม่รู้ตัว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ปล.ชีวิตเต้นี่รันทดได้อีก มาม่ามิอาจสู้ :p

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
จริง ๆ ไม่ถนัดทำมาม่า ถ้าปรุงรสอ่อนไปก็ขออภัยด้วยนะเคอะ  :monkeysad:
ส่วนนายซัน ก็คงคอนเซ็บเดิม ชิล ๆ ทั้งสองฝ่าย น้ำแตกแล้วแยกทาง (แอบเลวนะแกร)  o22
ส่วนน้องเต้ ยังมีอีกหลายมุมให้ติดตาม อะไรที่คิดว่าใช่ อาจไม่ใช่ก็ได้นะ (แอบสปอย)  :really2:


****************************************



ตอนที่ 7 My brother


ผมนั่งรถเมล์ ไปกลับ 2 รอบ แสงเหลืองเรืองรองของแสงอาทิตย์ ก็เริ่มฉายทาบบนเส้นขอบฟ้า อ่า เช้าซะที ผมลงรถที่ป้ายก่อนถึงร้านอาหาร

เดินมาถึงประตูข้างร้าน ก็เจออากู๋ ซึ่งแกตื่นเช้าทุกวัน เพื่อมาจัดการเตรียมเปิดร้านช่วงสาย ๆ อากู๋หันมาเพียงชายตามอง ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะพ่นลมหายใจออกจมูก แล้วหันหลังไปทำงานต่อ คงคิดว่าผมไปเที่ยว แล้วกลับมาตอนเช้า คงไม่อยากจะสนใจ ไอ้หลาน เหลวไหล ไม่รักดี ละซิ

ผมค้อม ๆ ตัว เดินผ่านพี่ชายของแม่ กำลังจะก้าวเข้าตัวบ้าน แต่ก็ต้องชะงักเท้าเพราะเสียงเรียกของอากู๋

“เฮ้ย อาเต้ เย็นนี้กลับเร็วหน่อยนะ วันนี้มีงานเลี้ยงนอกสถานที่ ลื้อเรียนเสร็จแล้วก็ตามไปที่งานเลย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่นจะได้ไม่เสียเวลา”

“ครับ กู๋” หลังพูดสั่งงานเสร็จ กู๋ก็หันไปจับงานของแกต่อ ไม่ได้สนใจอะไรผมอีก

ก้าวเดินไปที่ห้องใต้บันใด ซึ่งต่อเติมเป็นห้องนอนของผมมาร่วม ยี่สิบปีแล้ว กำลังจะเปิดประตูก็ต้องหยุดกึก เพราะ ไอ้เฮียตง มันเดินลงบันไดมาจากชั้นสอง และเหล่ตามองมา จะทำเป็นไม่สนใจมัน ก็ไม่วายที่ปากหมา ๆ ของมันจะพูดให้ผมต้องหันขวับไปจ้องเขม็ง

“ว๊ะ เสร็จกันไปกี่ยกละมึง กลับมาซะเช้าเลย”
“.....” ผมแค่มองหน้ามัน ไม่ได้ตอบโต้ให้เสียอารมณ์ เพราะปากมันก็หมาอย่างนี้เป็นประจำ อะไรที่ไม่ได้ทำ ผมไม่สนใจ หันกลับจะเดินเข้าห้อง

“ชิ ทำเมิน กูจะบอกป๊า ว่ามึงเอากับผู้ชาย”
“ไปบอกเล๊ย ไอ้เฮี้ย ..แล้วอย่าลืมบอกกู๋ด้วยว่า ลูกชายคนเดียวของแกก็จะเอากูด้วย” ว่าจะไม่ตอบโต้ก็เหลืออดจริง ๆ หันไปเผชิญหน้าท้าทาย ยกยิ้มแสยะให้ไอ้เฮีย

“เหี้ย อย่างกูนี่นะจะเอามึง สกปรก ต่ำ นอนแบมากูยังไม่เอาเลย”
“เหอะ งั้นคงหมามั้ง ที่เมื่อคืนมันไซร้กูนะ” ดู๊ ดู ปากมันซิครับ เลี้ยงหมาไว้กี่ตัวก็ไม่รู้

“ไอ้...” ไอ้เฮี้ย หน้าขึ้นสี อ้าปากจะตอบโต้





“เฮ้ย อาตี๋ มาช่วยป๊ารับโทรศัพท์หน่อย ไอ้ฝรั่งมันโทรมาจองโต๊ะอีกแล้ว” เสียงระฆังของกู๋ ช่วยไว้ ไอ้เฮียตง หุบปากทันที

“ครับป๊า....ฝากไว้ก่อนนะมึง” ไอ้เฮีย หันไปตอบกู๋ ก่อนจะหันมาชี้หน้าคาดโทษผม
“เก็บกลับไปด้วย กูไม่รับฝาก” จ้องหน้ามันเขม็ง ก่อนจะเข้าห้องปิดประตูใส่หน้าไอ้เฮีย





เข้าห้องได้ก็ล้มตัวลงบนที่นอนขนาดพอดีตัว เหนื่อย อยากนอนต่อ ยังเช้าอยู่เลย ขอพักซักแป๊บก่อนค่อยอาบน้ำไปมหาลัยก็แล้วกัน

หวังว่าคุณซันคงไม่โกรธที่ผม ออกมาโดยไม่บอกกล่าว ยิ่งคิดยิ่งละอาย เขาคงมองว่าผมเป็นผู้ชายง่าย ๆ ที่จะนอนกับใครก็ได้แน่ ๆ......แต่ช่างเถอะ ยังไงเราก็คงไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว

ส่วนไอ้เฮีย เมื่อคืนมันคงเมาถึงได้ ทำอะไรกับผมอย่างนั้น ปกติมันไม่เคยพิศวาสผมเลย เข้าไกล้ยังไม่ได้เลย ทะเลาะกันตลอด เฮ้อ ทนเอาไว้ไอ้เต้ ไม่นานหรอก เรื่องพวกนี้ก็จะจบลง



(มีต่อ มีต่อ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อ ๆ)


(เฮียตง)




รับโทรศัทพ์ไอ้ฝรั่งให้ป๊า ก็ต้องคุยกับมันดี ๆ ไอ้นี่ก็เรื่องมากชิบ มึงจะมากินก็มาซิวะ ทำยังกับร้านกูเต็มตลอดแน่ะ ยังกับกูไม่รู้ ว่ามึงจะมาจีบไอ้เต้ เห็นมันมากินทีไร ก็ชวนไอ้เต้คุยตลอด แถมยังเห็นกำเงินให้ทิป ไอ้เต้ เป็นเงินดอลล่าอีกต่างหาก แม่งกูก็นึกว่ามันคงได้กันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

หงุดหงิดโว๊ย




ก็รู้ตัวละว่าหงุดหงิดเรื่องอะไร


อิจฉา ไอ้ผู้ชายเมื่อคืน


ถึงผมจะด่าว่าไอ้เต้มันตลอด แต่ใจจริง ๆ แล้ว ผมแอบชอบมันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ญาติผู้น้องที่อาโกว มาคลอดไว้แล้วตายจากไป เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ขาว ๆ ตามแบบคนจีน หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู ตากลมโต แก้มใส ๆ เวลาร้องไห้กะจองอแง จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูดูน่าหยิก ผมหลงรัก เจ้าตัวเล็กแทบจะในทันที


แต่ก็เพราะผมยังเด็กละนะ พอถูกคนอื่น ๆ พูดว่า ล้อไอ้เต้มันมาก ๆ เลยทำให้ผมไม่กล้าแสดงตัวที่จะปกป้องมันจากคนอื่น ๆ และดันเผลอตัวร่วมกับคนอื่น ๆ ว่ามันด้วยเข้าไปอีก กว่าจะรู้ตัว ก็ไม่สามารถจะพูดดี ๆ กับเต้มันได้แล้ว ตัวมันก็มองผมเป็นศัตรู ไม่เคยคุยกันดี ๆ เลย บางครั้งอยากลองพูดกับมันดี ๆ ก็มีอันให้ต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อย

ยิ่งมันโต ยิ่งน่ารัก ผมรู้ว่ามันชอบผู้ชาย เพราะเคยเห็นมันกับผู้ชายคนหนึ่ง ท่าทางไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดาแน่ ยิ่งเห็นมันหายเข้าไปในโรงแรมกัน ก็ยิ่งมั่นใจ ยิ่งแค้นตัวเองที่ไม่ได้มัน ก็ยิ่งหาเรื่องทะเลาะกับมันเข้าไปใหญ่ ผมอิจฉาผู้ชายที่ได้ตัวมัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ผมไม่รู้จะแก้ไข เรื่องระหว่างเรายังไงดี




(จบตอน อิ๊ ๆ สั้นติ๊ดเดียว)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โถ เฮียตงชอบน้องเต้แต่ก็ดันเดินเกมส์ผิดมาแต่แรกสินะ... เป็นพวกรักจริงหวังฟันเหมือนซันอีกคนล่ะสิเนี่ย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ปล.ใส่วันที่อัพที่หัวเรื่องด้วยจ๊ะ จะได้รู้ว่าอัพเพิ่มแล้วนะ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อ๊ะ จ้า ขอบคุณที่เม้นให้นะ จุ๊บ ๆ  :mew1:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ว้า ไม่อยากให้มองเฮียตง ในแง่ร้ายเลย ก็อารมณ์ประมาณพี่ชายหลงน้องนั่นแหล่ะ :hao3:
ส่วนซันน่ะต้องมาลุ้นกันต่อ ว่าเมื่อไหร่จะได้ตัวเต้ อิ๊ๆๆๆ  :hao6:

**********************************************************





ตอนที่ 8 Catch me if you can





“เฮ้ยยยยยยยยยย ไอ้ซัน มึงจะรีบไปไหนวะ แล้วมึงจะไปงานไอ้ปันมั๊ย?”

ได้ยินเสียงไอ้กบเรียกตามหลังมาแว่ว ๆ จับใจความไม่ได้ แต่ผมก็ไม่คิดจะสนใจหันไปมอง เพราะวันนี้ ยังไง ๆ ผมต้องได้เจอ เต้ ไม่ใช่แค่เจอหรอก ผมต้องได้ตัวเต้มานอนครางบนเตียงผมให้ได้ ชดเชยกับที่เมื่อวานทำผมค้างซะขนาดนั้น

ควบรถคู่ใจตรงไปที่มหาลัย M แทบมิดไมล์ รู้มาจากไอ้ปัน ว่าเต้เรียนอยู่คณะบัญชี พอเข้ามหาลัยได้ ก็ตรงเข้าไปหาที่จอดแอบใกล้ ๆ กับทางขึ้นตึกของคณะบัญชี สายตาก็จ้องไปตรงทางขึ้นลง ไม่วางตา เห็นนักศึกษาเข้าออกมากหน้าหลายตา แต่ก็ยังไม่เห็นคนที่หมายตา

รู้สึกว่าจะรอมานานเกินไปแล้ว นักศึกษาชักบางตา หรือผมจะมารอผิดที่ จึงลงจากรถ เดินไปถามกลุ่มนักศึกษาสาว กลุ่มหนึ่ง ซึ่งผมเห็นว่านั่งอ่านหนังสือกันอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ผมจะมาถึง

“อ้อ พี่เต้ เหรอค่ะ เห็นวิ่ง ๆ ออกไปจากคณะตั้งแต่ยังไม่ทันหมดคาบสุดท้ายเลยคะ สงสัยจะรีบมาก เห็นวิ่งหน้าตั้งเลย”

ผมยิ้มขอบคุณ สาว ๆ ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าไปนั่งในรถ พอปิดประตูได้ก็สบถเสียงดั่งลั่นรถ

“สัส ถึงว่าแม่งรอตั้งนานแล้วยังไม่เห็น เสือกชิ่งกลับก่อนซะได้ หรือมันจะรู้ว่ากูจะมาดักฉุด” อารมณ์เสีย ทุบพวงมาลัยไปหลายที

“กูบอกแล้ว ว่าวันนี้ถ้ากูไม่ได้เอามึง กูไม่ยอมแน่ ฮึ่ม ไปดูมันที่ร้านอาหารนั่นก่อน ยังไงก็หนีกูไม่พ้นหรอกวันนี้” ฉุนขาด ที่ยังคราดกันอีก แต่ก็คิดได้ว่ารู้จักร้านอาหารมันนี่นา เลยหันพวงมาลัย ออกจากมหาลัยดังเฟี้ยว





ผลั๊ก
แม่งต้องมานั่งทุบพวงมาลัยอีกรอบ วันนี้มันวันอะไรวะ คราดกับมันตลอด ขบฟันด้วยความโกรธ หันไปมองไอ้ป้ายกระดาษ A4 หน้าร้านอาหารที่ปิดประตูสนิท อย่างหัวเสีย 

   ***ขออภัย วันนี้ปิดร้าน มีงานนอกสถานที่***


“เหี้ยๆๆๆๆ มันอะไรกันวะ ตกลงกูจะไม่ได้เอามึงใช่มั๊ยวันนี้” สะบัดมือเอนตัวพิงเบาะอย่างแรง เพื่อคลายอารมณ์เดือด ยกสองมือขึ้นเสยผม วันนี้ ผมก้าวเท้าไหนออกจากคอนโดวะ รู้สึกพลาดตลอด เฮ้ยยยยย


TTTTTTT

กำลังพยายามกำหนดลมหายใจเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือข้างตัว อารมณ์ไม่ดีไม่อยากคุย แต่พอมองเห็นว่าเป็นยัยปัน จึงยกขึ้นมากดรับ

“มีไรวะ” กรอกเสียงไปตามสายอย่างคนอารมณ์บ่จอย
“อ้าวไอ้นี่ เป็นอะไรยะ เสียงแข็งมาเชียว” ยัยปันพอได้ยินเสียงผม ก็ตอบกลับมาเสียงแข็งไม่แพ้กัน

“เออ ไม่มีอะไร แล้วแกโทรมาทำไม” ผมไม่อยากคุยกับใครตอนนี้
“เอ๊ะ ไอ้นี่ ไม่มีจะโทรหาแกทำไม ไหนแกบอกจะช่วยฉัน ทำไมมันยังตามมาเกาะแกะเพชร อยู่ในงานเนี่ยะ”

“งาน ? ...งานอะไร”
“ไอ้บ้า ก็แกวิ่งออกมาตอนจบคาบสุดท้ายก่อน เลยชวนไม่ทัน วันนี้คุณพ่อของเพชร เขาจัดงานเลี้ยง รับรองท่านทูตจากXXXXX ที่บ้านของเพชรนะซิ ฉันเลยชวนพวกแกไปด้วย แต่ที่ไหนได้ เพชรก็ชวนพวกเพื่อนเขามาด้วย รวมถึงมันด้วย หนอย มันบังอาจมาทำหูตาแพรวพราวใส่เพชร อย่าให้ฉันเหลืออดนะ แม่จะลากมาตบกลางงานเลย”

“เฮ้ย ไอ้ปัน ใจเย็น ๆ ปล่อยมันให้กู เดี๋ยวกูจัดให้ จะไม่ให้มันไปยุ่งกับคู่หมั้นมึงอีก”

“เออ มึงมาเร็ว ๆ แล้วกัน ก่อนที่กูจะทนไม่ไหว”

“เออ ๆๆ ไม่เกิน ครึ่งชั่วโมงถึง”



หึ ๆๆ แสยะยิ้มมุมปากก่อนที่จะ หักพวงมาลัย ตีกลับไปที่บ้านของไอ้เดือนมหาลัย

“บอกแล้วเต้ มึงหนีกูไม่พ้นหรอก”





(มีต่อจ้า)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(มาต่อ ๆ)

วันนี้รีบมาก เลยรีบวิ่งไปขึ้นมอไซด์รับจ้างหน้ามหาลัย แทนการขึ้นรถเมล์ ทำให้ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ที่จัดงานเลี้ยง แล้วจ้างให้ที่ร้านมาทำอาหารเสริฟในงาน

อือ ถ้าใหญ่ขนาดนี้ ผมว่าเรียกคฤหาสน์จะเหมาะกว่า บรรยากาศยามเย็นย่ำ ส่งให้ตัวตึกที่เปิดไฟส่องสว่าง แลดูงดงามตระการตา ส่วนที่จัดงานประดับประดาไปด้วย ดอกไม้ และไฟประดับ หลากสี ละลานตา แต่ผมก็ไม่มีเวลา ชื่นชมอะไรมาก เพราะต้องรีบ ๆ เปลี่ยนชุดพนักงานเสริฟ ไปช่วยงานทันทีที่มาถึง

แขกเหรื่อเริ่มทยอยกันเข้ามาในงาน ทางร้านจัดโต๊ะ และเริ่มจัดอาหารคาวหวาน วางไว้เต็มโต๊ะ ซึ่งเป็นปาร์ตี้แบบบุฟเฟ่ต์ แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องทำอาหารจานพิเศษ คอยเสริฟแยกต่างหาก

ผมเองตอนนี้วิ่งวุ่น ระหว่างในครัว (ที่ใช้เต็นท์ เป็นครัวชั่วคราว) กับโต๊ะของแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย โดยไม่ได้หันไปสนใจรอบตัว จึงทำให้ไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมองผมอยู่ไม่วางตา

“อาเต้ เอานี้ไปเสริฟ ด้านในตึกหน่อย พ่อบ้านเค้าสั่งมา” อยู่ ๆ โกหมู พ่อครัวใหญ่ของร้าน ก็ส่งถาดที่มีหม้อซุปหูฉลามน้ำแดงที่อยู่ในหม้อดินสีน้ำตาลดูหรูหรา ใส่มือผม ที่กำลังจะยกปลาเก๋านึ่งบ๊วย ไปเสริฟโต๊ะที่สวน

“โก อะไรอ่ะ ผมยังไม่ว่างเลย” บ่น แต่ก็วางจานปลา หันมาถือถาดสองมือแทน

“เฮ้ย วาง ๆ ไว้ก่อน อาพ่อบ้านอีมาบอกว่าอยากให้ลื้อเข้าไปเสริฟให้หน่อย” โกหมูพูดเสร็จก็หันกลับไปทำอาหารจานต่อไปอย่างเร่งรีบ

“ไรว้า เรื่องมากจริง” บ่นอุบอยู่คนเดียว แต่ก็จำต้องยกถาดเข้าไปในตัวตึก ก้าวเท้าเข้าไปก็เจอคุณพ่อบ้าน สูงวัย ท่าทางเคร่งขรึม รออยู่ คุณพ่อบ้านไม่ได้พูดอะไรแค่มอง และกลับตัวเดินนำขึ้นไปที่ชั้นสองของคฤหาสน์ ให้ผมต้องเร่งฝีเท้าตามแทบไม่ทัน

ผ่านห้องที่มีประตูสลักเสลาอย่างสวยงามไปหลายบาน จนถึงห้องริมสุดซึ่งลวดลายบนบานประตูก็งดงามไม่แพ้บานอื่น ๆ คุณพ่อบ้านหยุดยืน หน้าประตู เคาะเบา ๆ สองที ได้ยินเสียงอนุญาต จากภายในแว่วๆ คุณพ่อบ้านเปิดประตู แล้วผายมือให้ผมเดินเข้าไปในห้อง

ห้องสวยงาม ตกแต่งด้วยผ้าม่าน และภาพเขียนวิจิตรงดงาม ทั้งเฟอร์นิเจอร์ก็หรูหรา จนทำให้ผมรู้สึกประหม่า จะเดินไปวางถาดก็ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน จึงเดินไปที่โต๊ะตัวหรูกลางห้อง วางไว้เสร็จแล้วก็รีบหันหลัง จะออกไป แต่มองไปที่ประตูที่เข้ามา กลับปิดไปแล้ว คุณพ่อบ้านที่เคยยืนอยู่หน้าประตูก็หายไปด้วย ทำให้ผมงง ก่อนจะมีมือปริศนาสวมกอดเอวผมไว้

“อ๊ะ อะไรกัน....เพชร” ตกใจรีบหันไป แต่ก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจอคนที่ไม่คิดว่าจะมาเจอที่นี่

“เต้ ผมคิดถึงคุณจัง” เขาไม่พูดอย่างเดียว ก้มลงมาใช้จมูกหอมแก้มผม ฟอดใหญ่ มือใหญ่ตะคองกอดผมที่กำลังยืนตะลึงนิ่ง งุนงง และตกใจ กว่าจะเรียกสติคืนได้ มือใหญ่ก็ล้วงเข้ามาสัมผัสแผ่นหลังผมให้ต้องสะดุ้ง

“อ่ะ เพชร ปล่อยผมนะ” พอสติมาก็เริ่มจะดิ้น มือไม้ปัดป่ายเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของมือใหญ่

“เต้ครับ อย่าใจร้ายกับผมซิครับ ผมคิดถึงคุณ อยากกอดคุณ จะแย่แล้ว” แต่แรงผมก็สู้เพชรไม่ได้ ทำได้แค่เอียงหน้าหนี จมูกกับปากที่คอยแต่จะเข้ามาดอมดม

“ปล่อยผมก่อน เพชร คุณมาทำอะไรที่นี่?” ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ทำไมเพชรถึงมาอยู่ที่นี่ ก็ถูกร่างหนาหนักของเพชรดันให้ล้มลงบนโซฟาตัวใหญ่

“หือ ทำไมล่ะ ก็ที่นี่บ้านผมนี่นา” คนด้านบนยิ้มหวาน หล่อละลายใจ

“บ้านคุณ? ..” แต่ก็ใช้กับผมไม่ได้ในนาทีนี้ คำตอบยิ่งทำให้ผมตื่นตระหนก

“ใช่ครับผม ก็คุณไม่เคยถาม ผมก็ไม่เคยพาคุณมา คุณจะไม่รู้ก็ไม่แปลก” เพชร ยังคงลุกล้ำต่อเรื่อย ๆ โดยการไซร้ซอกคอ และกระซิบเสียงพร่าที่ข้างใบหู ให้รู้สึกขนลุกซุ่

“.......อย่าบอกนะว่า ที่จ้างให้อากู๋ผมมาก็.....” หดคอหนี ถึงจะเคลิ้มกับสัมผัส แต่ก็ยังมีสติคิดเรียบเรียงเรื่องราว

“ครับผม คุณคิดถูกแล้ว ผมเป็นคนจัดการให้เค้าไปจ้างร้านคุณมาเอง...ก็คุณน่ะ เอาแต่หลบหน้า ผมไปหาคุณที่คณะก็ไม่เจอ ผมอยากพบคุณ ผมคิดถึงคุณ ผมอยากอธิบายให้คุณเข้าใจ”

“ยังจะมีเรื่องอะไรต้องอธิบายอีก..”

“ก็เรื่องที่พ่อแม่ของผมจะให้ผมหมั้นกับ ปันปัน นะซิ คุณก็รู้ ว่าผมรักคุณคนเดียว ที่ต้องหมั้นก็เพราะพ่อแม่บังคับ”

“เพชรครับ ผมว่าเราคุยกันจบไปแล้วนะครับ”

“ผมไม่ยอมรับครับ ผมไม่เลิกกับคุณหรอกนะครับ”

“คุณพูดไม่รู้เรื่องเหรอ ก็เรา อื้อออ...” กำลังจะตอบโต้กลับ ก็เป็นจังหวะให้ เพชร ฉกจูบมาอย่างไว กายหนาบดเบียด ทาบทับทั้งร่าง ที่ผมยิ่งดิ้น  ก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของเราทั้งคู่ ให้กระเจิดกระเจิง เพชรยังคงใช้ปากจู่โจม โลมเลีย กวาดต้อนให้ผมต้องเผยอปากรับลิ้นร้อน ที่ตามเข้ามาไล่เลียทั่วโพรงปาก จนเผลอครางเสียงกระเส่า

ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา เขารู้จักผมดีทุกซอกทุกมุม รู้จุดอ่อน จุดระทวยของผมเป็นอย่างดี เพชรไม่รอช้าเขาจูบ จาบจ้วงตามจุดให้ผมต้องเสียวกระสัน เผลอแอ่นตัวตามรอยลิ้นที่ลากผ่านหน้าอก และขบกัดที่ตุ่มไตให้ทั้งเจ็บทั้งเสียว

“อ๊ะ เจ็บ ..เพชร อย่า อ๊ะ อ๊า”

เพชรล้วงมือเข้าไปในกางเกงกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผม บีบหนัก ๆ เน้น ๆ จนปวดร้อนแทบระเบิด









ก๊อก ๆๆๆ



“เพชรคะ เพชร ทำอะไรอยู่คะ แขกเหรื่อ เริ่มมากันแล้วนะคะ เขาถามหาคู่หมั้นปัน กันอยู่นะคะ”



“ชิสส์” เพชรสบถเบา ๆ ก่อนจะเคลื่อนตัวออกมานั่งข้าง ๆ สายตาปรารถนา จ้องมองผมที่เสื้อผ้าหลุดลุย หายใจเหนื่อยหอบ หน้าแดง เพราะแรงอารมณ์ นอนระทวย หมดแรงต้านทาน

“มารคอหอย” เขากัดฟันกรอด ส่งเสียงรอดไรฟัน ฟังดูน่ากลัว ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากชื้นเหงื่อ ของผม แผ่วเบา แล้วผละออกไป โดยไม่พูดอะไรอีก





ผมที่นอนสั่น ๆ ระงับอารมณ์ป่วน ๆ อยู่ซักพัก จนรู้สึกเริ่มจะคลายอารมณ์ลงบ้าง ลุกขึ้นมาจัดแจงแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อย ตอนนี้ในหัวมีแต่เสียงอื้ออึงไปหมด มันตีกันมั่ว ระหว่างอารมณ์กับเหตุผล ผมไม่เคยรักใครมาก่อน เพชร เป็นคนแรกที่ผมรัก และรักมากด้วย ไอ้ที่คิดจะตัดใจ มันไม่ง่าย อย่างที่คิดเลย ยิ่งพยายามหนี ก็เหมือนยิ่งอยากเจอ.........................


คงต้องทำอะไรซักอย่าง หักดิบกันไปเลย เพื่อจะได้ขาดจากกันซักที




(มีต่อ แต่ค่อยมาต่อ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(มาต่อแล้วจ้า)


ไม่นานผมก็ขับรถเข้ามาจอดในคฤหาสน์หรูของเจ้าสัวใหญ่ ผมสอดส่ายสายตามองหาเขา ทั่วทั้งงานก็ไม่พบ กำลังจะเดินเข้าไปแถวที่เต็นท์ที่ตั้งของครัว ก็เห็นเพื่อนสาวของผม เดินหน้ามุ่ยมาแต่ไกล

“ไอ้ซัน แกจัดการยังไงกัน ทำไมยัยนั่นยังมาตามเกาะแกะเพชร อยู่ได้ เมื่อวานแกไม่ได้จัดการอะไรเลยรึไง” พอถึงตัว ยัยเพื่อนตัวดี ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อว่าผมเป็นการใหญ่ ทำให้ผมที่หัวเสียมาทั้งวันเพราะยังไม่เจอตัวคนที่หมายตัวเอาไว้ ยิ่งหัวเสียหนักเข้าไปใหญ่

“เมื่อวานกูก็เกือบจะจัดการได้อยู่แล้วเชียว แต่มันพลาดไปหน่อย วันนี้กูก็ตามหามันทั้งวัน ยังไม่เจอเลย มึงอย่าเพิ่งใจร้อนไป เมื่อวานกูคุยกับมันแล้ว มันบอกจะไม่มายุ่งกับคนของมึงอีก ให้มึงสบายใจได้” ถึงจะหัวเสีย แต่ก็พยายามบอกให้ยัยนี่เบาใจไว้ก่อน ผมไม่อยากให้หล่อนทำอะไรรุนแรงกับเขา

“สบายใจบ้านมึงดิ มึงแหกตาดูนั่น ๆ เห็นมั๊ย? ว่ามันมานั่งอี๋อ๋อกับเพชรอยู่นะ” ยัยปันทำหน้าตาน่ากลัว จับหน้าผมให้หันไปในทิศทางที่ คู่หมั้นของหล่อนกำลังนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งที่ท่าทางสนิทสนมมากกว่าใครเพื่อนยืนเกาะแขนคู่หมั้นไอ้ปัน หัวเราะร่า

“ไหน ๆ ไม่เห็นมีเขาอยู่ตรงนั้นเลย?” ผมก็มองตามอย่างงง ๆ ทั้งกลุ่มผมไม่เห็นเต้เลย

“.....” ยัยปันนิ่งไป ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือมาลาก ๆ กด ๆ ยิ๊กๆๆ แล้วเอาโชว์แทบจะแป๊ะหน้าผม ซึ่งก็เป็นว่าเป็นรูปที่ยัยปันเคยให้ผมดูตอนชี้ตัวเต้

“อะไร เอามาให้ดูทำไม?” ผมก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

“ที่ฉันบอกแกนะคือผู้หญิงคนนี้โว้ย ซึ่งตอนนี้มันก็กำลังแทบจะสิงร่างเพชรของฉันอยู่แกเห็นไหม แล้วแกบอกว่าแกคุยกับใคร ห๊ะ ไอ้ซัน” ยัยปัน จิ้ม ๆ ไปที่ผู้หญิงคนที่ 4 จากขวามือ

“เฮ้ย อะไร ก็ไหนแกบอกคนที่ 3 ไง”
“ก็คนที่ 3 นะซิยะ”

“มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ไอ้ปัน ก็นี่ไง 1 2 3 คนเนี๊ยะ” ผมที่ข้องใจว่ามันอาจจะเข้าใจอะไรผิด ก็นับให้มันดูถึงคนที่ 3 ในภาพ ว่าเป็นชายหนุ่มหน้าหวานที่ทำให้ผมหัวเสียมาทั้งวัน

“ฮึ๊ย ไอ้บ้า ไอ้ซัน นี่มันผู้ชายไม่ใช่เหรอ นับแต่ผู้หญิงซิวะจะนับผู้ชายทำไม เพชรไม่ใช่พวกวิปริตนะ” ยัยปันแทบกรี๊ดแตก ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ในงานที่ผู้รากมากดี พลุกพล่าน หล่อนคงตบหัวผมคว่ำไปแล้ว

สรุปนะครับ คือคนที่ 1 และ 2 เป็นผู้หญิง 3 เป็นเต้ 4 เป็นเป้าหมายของยัยปัน ซึ่งที่มันบอกคนที่ 3 น่ะ มันหมายถึงผู้หญิงอย่างเดียวคนที่ 3  โธ่เอ๊ย ควายกันจริง ๆ คุยกันคนละเรื่องเลย ไอ้ผมด้วยความที่เคยเห็นทั้งคู่ นัวเนียกันมาก่อน ก็ต้องเข้าใจว่าเป็น ผู้ชายคนนี้นี่นา

แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้จะคนไหนผมก็ไม่สนใจทั้งนั้น ปล่อยยัยผู้หญิงคนนั้นให้ ไอ้ปันมันจัดการเองแล้วกัน เพราะผมสนใจแต่กับคนที่หมายตาไว้เท่านั้น




“ปันครับ คุณพ่อคุณตามหาอยู่นะครับ”

“ค่ะเพชร งั้นเราไปหาคุณพ่อกันนะคะ”

“เอ่อ ขอโทษทีนะปัน ผมรู้สึกเหนื่อย ผมขอตัวไปพักที่ห้องแป๊บนะครับ”
“เดี๋ยวซิคะเพชร อะไรกัน ปันเพิ่งไปตามคุณมาจากห้องเองนะคะ อะไรนี่ จะเข้าห้องอีกแล้วเหรอคะ นี่ชักสังสัยแล้วนะคะ ว่าคุณซุกใครไว้ในห้องรึเปล่า”

“เปล่านะครับ จะมีได้ยังไง ผมเหนื่อยจริง ๆ เพิ่งสอบเสร็จด้วย ใช้สมองไปเยอะ ก็อยากพักบ้าง แล้วงานวันนี้ก็ของคุณพ่อ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย”

“โถ งั้นปันไปเป็นเพื่อนนะคะ”
“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ครับ ปันอยู่รับแขกก่อนดีกว่า หายไปทั้งสองคนจะดูไม่งาม”

“คิก ๆๆ ไม่เป็นไรหรอกคะ ใคร ๆ เขาก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“เอ่อ งั้นเราอยู่รับแขกันก่อนก็ได้ครับ ผมว่าอย่าหายไปทั้งคู่เลย”

“เหรอคะ เอางั้นก็ได้คะ ว่าแต่เพชรคะ สอบเสร็จแล้วนี่นา เราไปเที่ยวทะเลกันดีมั๊ยคะ?”
“เอ่อ เดี๋ยวดูก่อนนะครับ ว่าคุณพ่อยังมีโปรแกรมให้ผมต้องทำอะไรอีกรึเปล่า”



“เอ่อ อย่าหาว่าผมยุ่งเลยนะครับ แต่ครอบครัวผมมีรีสอร์ทที่ทางใต้ ถ้ายังไง ๆ ก็ยินดีต้อนรับคุณทั้งคู่นะครับ”
“ดีจังเลยคะเพชร  แกต้องลดค่าห้องให้ฉันด้วยนะซัน”
“ขอบคุณครับคุณซัน”

“เอ่อ อาหารในงานอร่อยมากเลยครับ”
“อ้อ ร้านของคนรู้จักกันนะครับ”
“แนะนำคนรู้จักให้หน่อยซิครับ อยากจะไปทานที่ร้าน”
“.....ไว้จะแนะนำให้นะครับ”
“.......” หึ มึงจะกั๊กไว้ทำซากอะไรวะ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร กูรู้อยู่แล้วว่ายังไง ๆ เต้ก็หนีกูไม่พ้นหรอก  มองหน้าคนทั้งคู่อีกครั้งก่อนจะขอตัวเดินไปหา เต้ในงานต่อ มองเข้าไปที่เต็นท์ครัวก็ไม่เห็นวี่แวว เห็นพนักงานร้านถือถาดเครื่องดื่มเดินผ่านมาจึงเรียกตัวไว้ถาม

“อ้อ มาครับ น้องเต้ เมื่อกี้ยกอาหารตามคุณพ่อบ้านเข้าไปเสริฟในตัวตึกนะครับ”
“อือ ขอบใจนะ”

หันไปมองที่เพชรทันที เหอะ นี่ซินะ สาเหตุที่อยากจะกลับเข้าไปที่ห้อง นัดกันมากกถึงบ้าน ไหนว่าจะไม่ยุ่งกับเพชรแล้ว ตอแหลสิ้นดี





(ต่อ ๆ)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อ ๆ)


กว่าจะจัดการตัวเองให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ก็ใช้เวลาพอสมควร รีบ ๆ เดินลงมาจากข้างบน เดินออกมาจากตัวตึก ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน เพราะกลัวที่จะเจอกับเพชรอีก  รีบเดินไปที่เต็นท์ครัวทันที ไม่มีใครว่าอะไร เพราะคงยุ่ง ๆ กันอยู่เลยไม่รู้ว่าผมหายไปซักพักใหญ่แล้ว เห็นถาดเครื่องดื่มวางอยู่ จึงยกเดินออกมาอีกครั้ง ตรงไปที่สวน



“ไง”
“คุณ..คุณซัน” ตกใจสะดุ้ง ไม่คิดว่าจะได้เจอคน ๆ นี้ ที่นี่ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้รู้สึกไม่กล้าสู้หน้า

“เห็นพูดซะดิบดี ไม่คิดว่าลับหลังจะไร้ยางอาย”
“.....คุณพูดอะไรของคุณ” แต่จากคำพูดที่เย็นชา ผิดกับคนเมื่อคืนที่ให้ความช่วยเหลือ ทำให้ต้องหันไปมองตรง ๆ อย่างไม่เข้าใจในความหมาย

“ขนาดมาให้เขาเอาถึงที่ได้นี่ ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ”
“คุณ...ขอโทษนะครับ ถ้าไม่มีอะไรสร้างสรรค์กว่านี้จะพูดแล้วละก็ ผมขอตัวไปทำงานต่อ” หน้าชาไปในทันที รู้สึกโกรธจี๊ดขึ้นมา อะไรกันทำไมผมจะต้องถูกดูถูกจากสิ่งที่ผมไม่ได้กระทำด้วย แต่จะโต้ตอบก็คงไม่ดีแน่ เพราะถ้าเกิดการทะเลาะวิวาทกันในงาน คนที่จะลำบากก็คือ อากู๋ จึงชักเท้าหลบ จะเดินเลยไป

“งาน? งานอะไรครับ บำเรอกามไอ้เพชรนะเหรอ?”
“คุณ....” ทนไม่ไหวแล้วโว้ย คนไม่ยุ่งด้วยก็ยังจะตามมาราวี ความอดทนขาดผึง ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาสาดไปที่หน้าของไอ้หมอนั่น โดยไม่ทันยั้งคิด

แต่พอได้สติก็ต้องตกใจ จะเข้าไปเช็ดให้ แต่แขกเหรื่อในงานก็ส่งเสียงโวยวาย ตกอกตกใจกันใหญ่ คนในครัวก็หน้าตาตื่น วิ่งออกมาดู อากู๋ และพ่อบ้านมาถึงก็ก่อนใครเพื่อน

“เกิดอะไรขึ้น อาเต้?” อากู๋ จับแขนให้ยืนห่างออกมาจากคู่กรณี ถามขึ้นด้วยสีหน้าดูตกใจ

“อะไรกันครับเนี๊ยะ” คุณพ่อบ้าน รีบ ๆ กุลีกุจอ หยิบผ้าเช็ดหน้าส่งให้คุณซัน เช็ดเนื้อเช็ดตัว แล้วหันมามองหน้าผม อย่างคาดคั้น

“เอ่อ อากู๋ ผม ผม...” ผมก็อยากอธิบาย แต่มันไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี

“เกิดอะไรขึ้นคะ?  ว้าย ซัน ทำไมเปียกแบบนี้ละ?” คู่หมั้นและเพชรเดินมาถึงพร้อมกัน เธอที่เห็นสภาพเพื่อนเปียกโชก ร้องออกมาอย่างตกอกตกใจ

“เอ่อ ผมขอโทษครับ ผมซุ่มซ่ามไปหน่อย” ผมซึ่งรู้ว่าตัวเองผิด ก็ก้มหัวขอโทษทันที ถึงในใจจะคิดว่าที่ทำไปก็เพราะโดนยั่วยุให้โกรธต่างหาก

“ต๊าย เต็มหน้าซัน แกบอกซุ่มซ่ามไปหน่อย ไม่หน่อยละ อะไรกันพนักงานร้านนี้ทำไมไร้มารยาทอย่างนี้ ซุ่มซ่ามหรือจงใจกันแน่” แต่ดูเธอจะไม่รับการขอโทษครั้งนี้ เดินเข้ามาจะกระชากแขนผม แต่อากู๋ คว้าตัวผมเบี่ยงมาอยู่ด้านหลังท่าน

“ปัน พอเถอะ เขาคงไม่ได้ตั้งใจ” หล่อนยังไม่หยุดที่จะเข้ามาทำร้ายผม เพชรรีบ ๆ เข้าไปจับเธอไว้ ให้ใจเย็น ๆ

“เพชรคะ ช่างไม่ได้หรอกคะ เราจ้างเขามานะคะ จะมาเสียมารยาทกับแขกเราได้ยังไงกันคะ” แต่คุณคู่หมั้นก็ยังไม่ละความพยายามที่จะเอาผิดผมให้ได้


เผี๊ยะ
“อาเต้ ขอโทษคุณ ๆ เขาซะ ลื้อนี่จริง ๆ เลยใจร้อนวุ่นวายกันไปหมด”
“....” อากู๋ตบต่อหน้าแขกมากมาย ถึงจะไม่แรงมาก แต่ก็ทำให้หน้าชาไปเลยทีเดียว คู่หมั้นเพชร ถึงกับอึ้งเงียบไปเลย ก่อนที่จะเห็นรอยยิ้มสะใจผุดขึ้นบนใบหน้าสวย ผมก็รู้ว่าอากู๋ต้องการจะแก้สถานการณ์ แต่มันบีบคั้นหัวใจจริง ๆ ที่ต้องกล่าวคำขอโทษในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำผิด

“...ขอ ...ขอโทษครับ” ผมกล่าวคำขอโทษอีกครั้ง เสียงแผ่ว ทุกคนดูจะรับได้กับการขอโทษหลังจากถูกอากู๋ตบครั้งนี้ แต่



“ขอโทษนะไม่หายหรอกนะ ดูซิ ชุดของผมแพง ๆ เปียกหมดแล้ว” เขาพูดขึ้นมากลางวง จนผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าเขาจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนี้

“เอ่อ เดี๋ยวทางร้านจะรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครับ อาเต้ ลื้อเข้าไปในครัวไป” เป็นอากู๋ ที่ออกโรงรับหน้าแทน ก่อนจะหันมาไล่ให้ผมกลับเข้าไปในครัว ซึ่งผมคิดว่าคงจะไม่ได้ออกมาช่วยเสริฟอะไรอีกแล้ว

“ไม่ครับ ผมต้องการจะเคลียร์กันตอนนี้เลย คุณออกไปเคลียร์กับผม”
คุณซันที่ทำท่าทางไม่พอใจ คว้ามือผมไว้ แล้วจะลากออกไป แต่ก็มีอีกมือหนึ่งของ เพชร มาฉุดมืออีกข้างของผมไว้ คุณซันหันมามองด้วยสายตาวาวโรจน์ ก่อนจะปัดมือเพชรออก แล้วกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่ 3 คน  “มึงอยากฉาวโฉ่ในงานพ่อมึงก็เอาซี่”  “ไอ้...” เพชรกัดฟันกรอด ยอมถอยออกไป แต่จ้องมองพวกเราเขม็ง

“เพชรคะ เกิดอะไรขึ้น?”
“เปล่าครับ เต้เป็นเพื่อนผม ผมก็เลยถามดูเผื่อจะช่วยอะไรได้”

“ขอบคุณครับคุณเพชร แต่เรื่องของเรา เราเคลียร์กันเองได้ ไปกับผมเต้”
“นั่นซิคะ อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย”

เพชรยังเหลียวมามองเป็นระยะ ๆ ในขณะที่คุณซันลากผมออกจากงานท่ามกลางสายตาของทุกคนในงาน






คุณซัน ฉุดข้อมือผมลากออกมาทางที่จอดรถ พอถึงตัวรถก็เปิดประตูข้างคนนั่ง จับผมยัดผมเข้าไปในรถ ปิดประตูตามเสียงดังลั่น ก่อนที่ตัวเขาจะเดินไปขึ้นฝั่งคนขับ แล้วติดเครื่อง ขับออกจากรั้วคฤหาสน์ทันที

“เอ่อ...จะ จะไปไหนเหรอครับ” หลังจากออกสู่ท้องถนนซักพัก ผมที่ทนความเงียบไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน

“เปียก ๆ อย่างนี้ คิดว่ากูจะไปไหนได้” ......ผมงี้ถึงกับผงะ กับสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้ หัวคิ้วขมวดมุ่น ไอ้เหี้ย ที่เราสนิทกันขนาดขึ้นมึงขึ้นกูแล้วเหรอ

“มองไร?” ผมรีบหลบสายตาทันควัน ท่าทางเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดี ผมเองก็ทำผิด อย่าหาเรื่องเพิ่มจะดีกว่า เลยหันหน้าออกไปมองท้องถนน ผ่านกระจกฝั่งตัวเอง มอง ๆ ได้ซักพัก ก็เริ่มจะเหม่อลอยคิดไปเรื่อยจนไม่ได้สนใจคนขับหน้ายักษ์ข้าง ๆ แล้ว

ก็ดีเหมือนกันที่ออกมาจากงานนั้นได้ เมื่อกี้ตอนเพชรฉุดมือไว้ ใจหายวาบ เขากล้าทำต่อหน้าแขกเหรื่อในงานมากมายได้ยังไง ถึงจะตกใจแต่ก็ดีใจ ที่เขาแคร์.......แต่ก็กลัวความจะแตก ดีว่าคุณซันลากออกมาก่อน  เฮ้อ พรุ่งนี้คงต้องตอบคำถามกู๋ยาวแน่ น่าเหนื่อยใจจริง ๆ






เหม่อไปเรื่อย จนเริ่มรู้สึกตัวเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าคอนโดที่คุ้นตา ผมเงยหน้ามองตัวตึก แล้วก็หันมามองหน้าคนขับที่หันมามองผมด้วยสายตาอ่านไม่ออก

“มองหน้าทำไม?”
“เอ่อ..คุณจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าใช่มั๊ย?  งั้นผมขอนั่งรอในรถนะครับ” ผมจำคอนโดของเขาได้ถึงจะมาแค่ครั้งเดียว แต่ก็เพราะความทรงจำไม่ค่อยดีกับห้องนั้น ผมจึงไม่อยากขึ้นไปอีก

“ฮะๆๆๆๆ ไม่เมาแล้วมึงเป็นอย่างนี้เองเหรอวะ เอ๋อวะ”
“........” ผมก็อยากจะบอกเหมือนกันว่า เวลาแค่วันเดียว คุณเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ เมื่อวานยังดูเป็นคุณชายผู้แสนดี อบอุ่นอยู่เลย ไหงวันนี้ อย่างกับไอ้กุ๋ย ไอ้นักเลง พูดจาถ่อย สถุนไปได้

“มึงไม่ต้องมาตีมึน มึงต้องขึ้นไปด้วย มึงยังติดค้างกูอยู่นะ”
“ผมจ่ายค่าซักรีดให้แน่ครับ ไม่เบี้ยวหรอก” ชักฉุน เอ๊ะ ไอ้หมอนี่แค่ค่าซักรีด ไม่เบี้ยวหรอกหน่า

“เรื่องนี้กับเรื่องเมื่อวานมันคนละเรื่องกัน แค่ค่าซักรีดไม่ต้องกูมีปัญญาจ่าย แต่เมื่อวานมึงบอกว่ามึงจะให้กูเอามึง ยังจำได้ใช่มั๊ย?”

ผมงี้หน้าชาขึ้นมาทันที ด้วยความอับอายกับเรื่องงี่เง่าเมื่อคืน ที่ทำไปเพราะขาดสติ ผมไม่ได้เมา แค่คิดจะประชดชีวิต จึงเอ่ยปากจะนอนกับเขาง่าย ๆ ซึ่งพอได้สติ ผมก็อายมาก ทนเจอหน้าเขาไม่ได้จนต้องหลบหน้ากลับโดยไม่บอกกล่าว

“ไม่.. คือ ผมไม่ได้..ไม่ได้หมายความว่าจะ...” ผมพยายามแก้ตัวเสียงสั่น

“มึงจะไม่ หรือไม่ได้อะไรก็เรื่องของมึง แต่กูจะเอามึง ไปลุก” เขาเปิดประตูรถเดินออกมารอผมฝั่งที่ผมนั่งอยู่ พร้อมทั้งกอดอกมองด้วยสายตากดดัน

“.....” ถอนหายใจ ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี จำต้องค่อย ๆ เปิดประตู ก้าวลงจากรถอย่างอ้อยอิ่ง ให้เขาต้องฮึดฮัด ดึงผมพ้นจากรถ แล้วปิดประตูดังปัง

ผมไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชาย หยาบคาย ท่าทางหื่นกระหายคนนี้ จะเป็นคน ๆ เดียวกับผู้ชายที่ช่วยผมเมื่อวาน พอเขาเห็นว่าผมเดินตามเขาแล้ว เขาจึงปล่อยมือและเดินนำเข้าไปภายในตัวตึก

ผมอึดอัดใจ ไม่อยากจะมีอะไรกับเขา แต่ก็ไม่รู้จะหลบหลีกอย่างไร พลันสายตาก็เห็น แท็กซี่คันหนึ่งกำลังวนออกมาจากที่จอดรถของคอนโด ผมจึงรีบ ๆ วิ่งไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งด้านหลังทันที

“พี่ออกรถเร็ว ผมถูกจับตัวมา ไอ้คนร้ายมันมีปืนด้วย” ผมรีบ ๆ บอกคนขับที่ท่าทางมึนงงว่าผมขึ้นมาทำไม ให้รีบ ๆ ออกตัวเพราะหันไปเห็นแล้วว่าเขา รู้ตัวแล้วว่าผมไม่ได้เดินตามเขาเข้าไปในตึก เขาวิ่งตามมาจนถึงตัวรถ แล้วทุบอย่างแรงที่ท้ายรถ

ลุงคนขับท่าทางตกใจ แต่ผมก็เร่งให้แกรีบ ๆ ออกตัว ซึ่งก็ได้ผล รถวิ่งห่างออกมาจากคอนโดออกสู่ถนน มองไปข้างหลังก็เห็นเขายืนจังก้า ท่าทางโมโหโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตะโกนโหวกเหวก




(ยังมีต่ออีกนิด)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อนิดเดียว)

“ฮึ่ม หนีไปได้อีกแล้ว อ๊าคคคคคค” แม่งโดนลบคมอีกครั้ง จากคน ๆ เดียวกัน แค้นใจจริง ๆ แต่จะไปเอารถออกตามก็คงไม่ทันแล้ว แล้วไอ้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ตอนนี้จะทำยังไง มันกรุ่น ๆ ตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว คิดไว้ว่ายังไงวันนี้ ต้องได้มันมานอนครางอยู่ใต้ร่างแน่ ๆ กะจะเอาให้มันครวญคราง ร้องขอให้พอให้ดิ้นตายไปเลย

ฮึดฮัดอยู่หน้าคอนโดจนรถคันดังกล่าวหายลับไป ยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคู่ขาในสต็อก ใครก็ได้ซักคน แต่เอาผู้ชายดีกว่า เพราะตอนนี้ เขาอยากกระแทกเต็มที่ โดยไม่ต้องมัวมาพิรี้พิไลเล้าโลม เหมือนเอากับผู้หญิง



(ไม่มีต่อแล้ว จบตอนจ้า)

ออฟไลน์ Zarch krub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อารมณ์เหมือนดูละครช่อง7 แต่น่าติดตามดีครับ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
ซันร้ายอ่ะ น่ากลัวว สงสารเต้

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
จะดราม่าไปไหนเนี้ยยยยย T.T

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด