พิมพ์หน้านี้ - ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: limpingping ที่ 18-11-2014 18:34:26

หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 18-11-2014 18:34:26
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

**************************************************************


สวัสดี ดี ดี ดี สวัสดี เกือบปีใหม่ สวัสดี กับนิยายเรื่องใหม่  :mc4:  อันนี้ ยาวจ้า เพิ่งเริ่มเขียนเสร็จบทแรก
เลยอยากลงมาให้ชิมกันก่อน ไม่รู้จะถูกใจใครบ้าง แต่ก็ขอฝากไว้ในใจอีกเรื่องนะจ๊ะ

ส่วนเรื่องที่อื่น ที่ลงไว้ ก็แวะไปดูกันได้  :mew1:
แผนลวง บ่วงรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40340.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40340.0)

Love Pill (เรื่องสั้นจบในตอน)http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54901.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54901.0)

**********************************************************

ตอนที่ 1 First meet

ภายใต้แสงไฟและเสียงเพลงที่ดังลั่นสนั่น สถานบันเทิง ผู้คนหลากหลาย ทั้งหญิงชายต่างมาเพื่อเสพความสุข จากเหล้า การเต้นรำ หรือหาคู่นอนซักคน อาจเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ นักเที่ยวเลยมีมากกว่าปกติ สถานที่แคบไปถนัดตา ผู้คนมากมายเบียดเสียด ถูไถกันไปมา ส่งสายตาเย้ายวน เชิญชวนให้ลุ่มหลง ยิ้มหัวเราะร่าเริง แต่ก็แค่ภายนอก ใครจะรู้ภายในใจแต่ละคนล้วนมีเรื่องราว หลากหลาย ผมเองก็เช่นกัน คร่ำเคร่งเรียนมาทั้งสัปดาห์ ก็อยากจะหาใครซักคน มาช่วยผ่อนคลายความเครียด ในบรรดาผู้คนมากมาย กลับมีเพียงคน ๆ เดียวเท่านั้นที่ผมไม่อาจละสายตาไปได้

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หุ่นเพรียวบาง ในชุดเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตผ้าสีน้ำเงิน กับกางเกงยีนส์สกินนี่สีดำ กำลังออกสเต็ป เต้นอยู่กลางฟลอร์ ใบหน้าหวาน หลับตาพริ้ม เต้นอยู่คนเดียว ไม่ได้สนใจใคร มีหลายคนพยายามเขาไปสีเป็นระยะ ๆ แต่ก็ได้รับเพียงสายตาเมินมอง กับความเฉยชาจนต้องล่าถอยไป

ผมรู้เลยว่าไม่ง่าย แต่อย่างนี้ซิถึงจะน่าลอง ลุกจากเก้าอี้หน้าบาร์เหล้า เดินตรงเข้าไปกลางฟลอร์ หนุ่มหน้าหวานตรงหน้ายังคงเต้นต่อคนเดียว ไม่สนใจอะไร ผมเอื้อมมือไปหมายจะจับแขนให้หันมา

แต่ก็มีชายอีกคนหนึ่งคว้าแขนของเป้าหมายของผม แล้วพากันเดินออกจากฟลอร์ ไปที่ทางเดินหน้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหลังร้าน และค่อนข้างจะลับตาคน อดจะเจ็บใจไม่ได้ที่ถูกตัดหน้า จึงเดินตามไป

“ผมก็บอกแล้วไงว่าปฏิเสธท่านไม่ได้”
“ช่างมันเถอะ”
“เต้ ฟังผมบ้างซิครับ ผมก็ลำบากใจนะ จะให้ทำยังไงนั่นก็พ่อแม่ผมนะ”
“ก็ถึงได้บอกไง ว่าช่างมัน ถ้ามันลำบากใจมากนัก ก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก”
“เต้ อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ผมรักคุณนะ”
“อื้อ อื้อ.”

เสียงที่ได้ยิน และภาพที่เห็นเบื้องหน้าคงบ่งบอกความสัมพันธ์ของ 2 คนนั้นได้เป็นอย่างดี หลังจากการโต้เถียงกัน ทั้งสองก็จูบกัน กอดกันนัวเนีย คงไม่มีพื้นที่ให้ผมได้แทรกเข้าไปแน่ ตัดใจหาคนใหม่ก็ได้วะ เฮ้อ อุตส่าห์เจอคนที่ถูกใจ ดันมีคู่ซะแล้ว น่าเสียดาย

ก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปในร้าน แต่ก็หันมามองทางที่ทั้งคู่อยู่อีกครั้ง ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกสนใจคนคู่นี้ หลังจากนั้น ก็ไม่เห็นคนคู่นั้นกลับเข้ามาในร้านอีกเลย คาดว่าคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

“พี่ ซัน มานั่งตรงนี้นี่เอง ปรายมองหาพี่ตั้งนานแล้ว” หันไปตามเสียงทัก ก็พบว่าเป็น หนึ่งในคู่นอน ที่ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ปรายเป็นน้องจากอีกมหาลัยหนึ่ง เจอกันครั้งแรกก็สปาร์คกันแล้ว ไม่ต้องบอกว่ารสชาติเป็นยังไง ถ้าไม่เด็ดดวงคงไม่ติดต่อกันมานานขนาดนี้

“ว่าไงครับปราย วันนี้มาคนเดียวเหรอ” ปรายเป็นผู้ชายรูปร่างเล็ก หน้าตาน่ารัก สไตล์หนุ่มเกาหลี ขาว ดูยั่วยวนในทุกอิริยาบถ
“ก็คนเดียวซิครับ พี่จะให้ปรายมากับใครครับ” ร่างเล็กประชิดเข้ามานั่งบนตักขาข้างหนึ่งแล้วคล้องวงแขนโอบรอบคอผม กระซิบเสียงแหบพร่า ข้างหู ถ้าเป็นทุกที ก็ทำให้ผมของขึ้นได้ไม่ยากเลยครับ แต่วันนี้ต่างออกไป

“ได้ยินว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ใช่วันนี้แปลกไปจริง ๆ ปรกติ ไม่เคยสนหรอกว่าลูกเค้าเมียใคร ลองมาเยือนถึงที่ ก็มีแต่ต้องสนองเท่านั้นแหล่ะ แต่วันนี้ ส่วนลึกกลับคิดว่าไม่ได้สนใจเลยต่างหาก ภาพของคนที่เคยอยู่กลางฟลอร์ ยังติดใจ ตายังเหมือนจะคอยมองหา ยิ่งเห็นฉากนัวเนียของทั้งสองคน มันรู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก
“แล้วไงล่ะครับ ถ้าปรายอยากได้ใคร ต่อให้แฟนก็ห้ามปรายไม่ได้หรอก” คนตัวเล็กบนตักยังคงบดเบียดสะโพก เข้ามา ปากก็บรรจงจุมพิต ตามใบหูและเรื่อยลงมาตามซอกคอ

“งั้นก็ไปเคลียร์กับพี่ที่ห้องต่อนะครับ” เฮ้อ คิดอะไรให้วุ่นวายนักวะ คนที่ไม่ได้ก็ไม่สนใจหรอก เอาคนตรงหน้าดีกว่า ยังไงก็แค่ปลดปล่อยความต้องการ จะเป็นใครก็ได้ คนตัวเล็กกว่าโอบเอวพร้อมซุกหน้ากับอก เราพากันเดินออกจากร้าน เพื่อไปหาความสุขกันต่อที่คอนโดของผม










วันนี้ ได้แวะไปบ้าน สหจักรตระกูล บ้านของนักการเมืองเลื่องชื่อคนหนึ่งของเมืองไทย เรียกบ้านคงไม่ได้ ต้องเรียกคฤหาสน์กันเลยทีเดียว อาณาบริเวณกว้างขวาง บนเนื้อที่หลายไร่ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ไม่ต้องบอกเลยว่ามูลค่าที่ดินตรงนี้ จะมหาศาลขนาดไหน ด้านหลังมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ ริบบิ้น และลูกโป่งหลากสี เพราะวันนี้เป็นงานหมั้นของ ปานชนก บุตรสาวคนเล็กของท่าน ส.ส. กับ พชรดนัย อัครมเหศักดิ์ ลูกชายคนเดียวของ ท่านเจ้าสัวใหญ่ เศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

หญิงสาวหน้าตาสะสวย รูปร่างกะทัดรัด ในชุดชีฟองสีขาวสลับส้ม เธอเป็นดาว ของ คณะอักษรศาสตร์ มหาลัยเดียวกับผม ส่วนผมเรียนนิเทศศาสตร์ เธอเป็นคนสวย เก่ง และมั่นใจใจตัวเองสูงมาก เรารู้จักกันมานาน เพราะเราเคยเรียนมัธยมมาด้วยกัน เมื่อก่อนก็เคยนึกอยากจะจีบ แต่คิดอีกที อย่าดีกว่า ผมไม่อยากได้แม่มาคุมอีกคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหล่อนร้ายใช่ย่อย ผมว่าใครที่จะมาเป็นสามีเธอในอนาคต คงน่าสงสารน่าดู

“ยินดีด้วยนะ ปันปัน กับงานหมั้น” เหล่าเพื่อนพ้อง เมื่อมาถึงก็ตรงรี่เข้าไปแสดงความยินดีกับเจ้าของงาน
“ขอบใจพวกแก ทุกคนมากจ๊ะ ที่มาในวันนี้” ยัยปัน เป็นชื่อที่ผมเรียกหล่อนติดปาก ถ้าไม่นับความร้ายกาจของเธอ ก็นับว่าเธอเป็นคนน่าคบหาคนหนึ่ง ผู้หญิงก็จริง แต่ใจนักเลงสุด ๆ  หล่อนรับดอกไม้อวยพรจากเพื่อน ๆ ด้วยรอยยิ้ม ที่ดูสดใส

“ตามสบายนะพวกแก โน้นฉันจองโต๊ะให้พวกแกด้านโน้น เต็มที่เลย ใครอยากร้องเพลงก็ขึ้นเวทีได้เลย”
“ฮะ ๆ งานมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ ใครจะกล้าเกรียนวะ ไอ้ปัน”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร คุณพ่อบอกแล้วว่าเต็มที่เลย”
“ไง ซัน ไม่เจอนานเลยนะหมู่นี้ ได้ยินว่าคั่วเด็ก บริหารอยู่เหรอ”
“ว่าไปเรื่อย ช่วงนี้โสดสนิทเว้ย ไหนวะ คู่หมั้นแก อยากเห็นหน้าชายผู้โชคร้ายคนนั้นจริง ๆ หวังว่าจะพอดูได้นะ”
“ปากเหรอนั่นนะ หล่อไม่แพ้แกหรอก เค้าเป็นเดือนมหาลัย M เชียวนะยะ อ๊ะ..นั่นไงเขามาแล้ว เพชร ค่ะมาทางนี้หน่อยค่ะ” หลังจากแอบแขวะเพื่อนพอเป็นกระษัย ก็หันไปตามสายตาของเพื่อนที่มองไปทางคู่หมั้น

ผู้ชาย หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ ในชุดสูท สีขาว เดินตัดสนามเข้ามาใกล้ จนเห็นหน้าชัด ก็ต้องสะดุดใจ

“เพชรค่ะ ปันจะแนะนำให้รู้จักพวกเพื่อน ๆ แสบของปันคะ นั่น........”
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ”

ผู้ชายยิ้มมีเสน่ห์คนนี้ ผมจำเค้าได้ แม้จะเห็นแค่ครั้งเดียว เขาคือคนที่เขามาลากเป้าหมายของผมในคืนวันศุกร์นั่นเอง ผมนึกไปถึงบทสนทนาของพวกเขาในคืนนั้น ก็ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ชายคนนี้ต้องแต่งงานตามที่พ่อแม่ของตัวเองกำหนดให้ แต่จริง ๆ แล้วเขามีคนรักอยู่แล้ว และเป็นผู้ชายอีกต่างหาก ผมจะทำยังไงดี ควรบอก ควรเตือนยัยปัน ดีมั๊ย

“ปัน แกรู้จักว่าที่คู่หมั้นแกดีแล้วเหรอ” หลังจากชายหนุ่มคู่หมั้นเดินไปคุยกับแขกอื่นต่อ ผมก็รีบเข้าไปเรียบ ๆ เคียง ๆ ถามข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ

“ดีดิ ก็ฉันรู้จักเพชรมาตั้งแต่เด็กแล้ว ครอบครัวเราสองคนสนิทกันดี”
“แล้วเค้ารักแกเหรอ”

“ใครสนล่ะ ฉันรู้แต่ว่าฉันรัก เพชรมาก รักมานานแล้วด้วย งานหมั้นนี้เกิดขึ้นได้ ก็เพราะฉันเป็นคนบอกคุณพ่อเองว่าฉันรักเขา อยากแต่งงานกับเขา”
“อ้าว แล้วเขารักแก ยอมหมั้นกับแกเหรอ”

“เพชร ไม่มีสิทธิ์ขัดคุณพ่อคุณแม่ของเขาหรอ”
“หล่อ ๆ อย่างนี้ แกไม่คิดว่าเขาจะมีใครคนอื่นอยู่แล้วเหรอ”

 “ช่างมันซิ ยังไงเขาก็ต้องเป็นของฉันคนเดียว”

หลังจากจบบทสนทนา ยัยปันก็เดินไปพูดคุยกับแขกเหรื่อท่านอื่นต่อไป ทิ้งให้ผม จมอยู่ในความคิดของตัวเองว่าควรจะบอกเธอดีมั๊ย แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบ ว่าคงไม่พูดดีกว่า เพราะถึงยังไง ๆ ยัยปันก็ไม่แคร์อยู่แล้วว่าหมอนี่จะมีใครอยู่หรือเปล่า และที่สำคัญ หล่อนเป็นคนรักแรง เกลียดแรง ผมเกรงว่าถ้าพูดไปแล้ว เขาไม่เชื่อ หรือไม่พอใจ ผมจะพาลซวยเอาได้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 1 First meet
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-11-2014 02:39:16
งั้นนายเอกก็ว่างแล้วอ่ะดิ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 2 My story
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-11-2014 21:18:06
ขอบคุณผู้ที่ติดตามกันอยู่นะคะ เรื่องเพิ่งเริ่ม ยังคงไปเรื่อย ๆ   :man1:
  :-[ ถูกใจใครไม่ถูกใจใครก็ รับหมดนะทั้งคำติและคำชม


*********************************************************

ตอนที่ 2 My story



คืนวันเสาร์อาทิตย์ จะมีลูกค้ามาทานอาหารมากเป็นพิเศษ ภายในภัตตาคารอาหารจีน ที่ดัดแปลงมาจากห้องแถว 3 ห้อง ปรับแต่งภายใน ให้เป็นสไตล์จีน ทั้งภาพเขียนพู่กัน โต๊ะ เก้าอี้ ล้วนส่งให้ดูเป็นร้านอาหารจีนที่มีบรรยากาศน่านั่ง ทั้งภายในยังแบ่งเป็นสัดส่วน ให้ความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี

ผมต้องช่วยงานที่ร้าน ถ้าไม่มีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย เพราะคนงานไม่พอ ในวันที่มีลูกค้าเข้ามาทานอาหารอุ่นหนาฝาคั่ง เช่นคืนนี้

“โกหมู นี่ออเดอร์ของโต๊ะ 7 นะครับ”
“เออ ๆ อาเต้ เอานี่ เสร็จแล้วของโต๊ะ 4 ไอ้วุ้น เอานี่ของโต๊ะ 2 เสร็จแล้ว”

“น้อง ๆ ขอตะเกียบใหม่หน่อย อันเก่าตกพื้นไปแล้ว”
“ครับ ๆ รอซักครู่ครับ”

“พี่ใจ๋ โต๊ะ 9 ขอตะเกียบ”
“เออ ๆ เดี๋ยวพี่เอาไปให้ เต้ช่วยเอาน้ำแข็งมาจากหลังบ้านหน่อย ใกล้หมดแล้ว”

“ไว้ก่อน อาเต้ เอาของโต๊ะ 8 เสร็จแล้ว”
“ครับ”

เห็นแล้วใช่มั๊ยครับ ซุปเปอร์ยุ่งเลย นี่ขนาดเลยเวลาอาหารค่ำมาซักพักใหญ่ แล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าเข้ามาทานอาหาร ไม่ขาดสาย

“นี่ครับ อาหารที่สั่ง ได้รับทุกอย่างครบมั๊ยครับ”
“เอ่อ เหมือนว่าจะขาดอะไรไปบางอย่างนะ”

“เอ่อ ขาดอะไรเหรอครับ เดี๋ยวผมทวนรายการที่สั่งให้ครับ”
“อะ ไม่ต้อง ๆ ที่ขาดนี่ ขาดคนนั่งกินเป็นเพื่อนน่ะ น้องมานั่งเป็นเพื่อนพวกพี่ ๆ ก็ครบตามที่สั่งแล้วครับ” อะ ไอ้นี่ มึงบ้ารึเปล่า ดูไม่ออกเหรอว่ากูเป็นผู้ชาย หน้ามืดป้อไม่เลือกนะมึง ฉุนขาดแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ ท่องแต่ว่า ลูกค้า ๆๆๆ แม่ง

“เอ่อ พี่ครับ ผมเป็นผู้ชายนะครับ” ถึงหน้าผมจะออกไปทางหวาน แต่ดูโดยรวมก็น่าจะรู้ว่า ผมเป็นผู้ชายชัวร์

“อารายนะ อ้อ พี่ก็รู้ แต่น้องน่ารักดี มานั่งคุยกันก่อนซิครับ” ไอ้คนอื่นในกลุ่ม ก็โห่ ฮา กันเป็นเรื่องสนุกสนาน ที่ไอ้ลูกค้าคนนี้ พูดจาแทะโลมผม แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มีลูกค้าจีบ จึงเห็นเป็นเรื่องธรรมดา

“ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ผมขอตัวก่อนครับ งานในร้านยุ่งมากครับ” อ้างนั่นนี่ แล้วถอยตัวออกมาเนียน ๆ เจอมาเยอะ ลูกค้าขี้หลีเนียะ

“เล่นตัวนะเราน่ะ” ไม่พูดเปล่า ไอ้ลูกค้ามันเอื้อมมือมาลูกก้น ผมด้วย อ้าวไอ้นี่ ความอดทนผมไม่ได้สูงนักหรอกนะ ถ้าถูกลวมลามขนาดนี้ ก็ไม่ต้องทนมันล่ะ คว้าแก้วน้ำของมันนั่นแหล่ะ เทราดหัวมันซะเลย

“เฮ้ย มึงทำอะไรวะ ไอ้เด็กเสริฟนี่” มันเด้งตัวลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเอาเรื่อง พวกมันก็ลุกกันพรึบพลับ

เผี้ยะ

“อาเต้ ลื้อทำอะไร ขอโทษลูกค้าเดี๋ยวนี้นะ” หน้าชาไปทันที ที่อากู๋ตบเข้าที่แก้มซ้าย ไม่แรงมากแต่ก็ทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ด ในใจ

“เถ้าแก่ ก็ลูกค้ามัน...” พยายามจะอธิบายแต่กู๋ก็ไม่รับฟัง
“ลื้อไม่ต้องพูดมาก ขอโทษอีเดี๋ยวนี้” กู๋ยังคงยื่นคำขาด พร้อมสายตาดุ ๆ ที่จ้องมองมา ทำให้ปากที่กำลังจะเถียง หุบสนิท

“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ครับ” ไอ้ลูกค้ามันก็คงตกใจเสียง และสายตาดุ ๆ ของกู๋เหมือนกัน หน้าซีดกันเป็นแถว กู๋เป็นคนตัวใหญ่ ท่าทางดุ พวกมันเลยไม่กล้าที่จะก่อเรื่อง

“ไม่ได้ ๆ ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ที่พนักงานของเราเสียมารยาท” สุดท้าย ผมก็ต้องก้มหัวขอโทษ ลูกค้าเลว ๆ พวกนี้ เจ็บใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เหลือบตามองพวกมันหัวเราะเยาะ แล้วยิ่งเจ็บใจ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ กู๋ไล่ให้ผมไปอยู่หลังร้าน

เดินกระพัดกระเพียด ผ่านครัว จะเข้าไปล้างจานหลังร้าน ก็ไม่วายได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์

“เฮอะ เป็นไงล่ะมึง ถูกป๊ากูตบมาละซี่ ได้ยินมาถึงในครัวเลย” ไอ้เฮียตง ลูกชายคนเดียวของกู๋ มันไม่ค่อยชอบผมหรอก เราทะเลาะกันประจำ คอยจะทับถมเวลาผมพลาดอยู่เรื่อย ตอนนี้อารมณ์ไม่ดี ไม่อยากพูดกับมันให้ยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปอีก จึงทำเงียบ ๆ เดินเข้าไปหลังร้าน

“อะไรกัน วันนี้จ๋อยเว้ย ไม่ตอบโต้” เอ๊ะ ไอ้เฮียนี่ คนไม่อยากมีเรื่องยังตามมาหาเรื่องถึงหลังร้าน
“ถอยไป อั๊วจะล้างจาน ” ยกกองจาน แกล้ง ๆ ผ่านหน้ามัน หวังให้น้ำมันกระเด็นไปโดน แต่ไม่มีโชคด้านนี้

“โถ ๆ แก้มเป็นรอยนิ้วเลยวะ ให้กูปลอบเอามั๊ย” ไอ้เฮียบ้ามันทำหน้าเย้ยหยันไม่พอ ยังเอามือมาจับคางผมให้หันด้านที่โดนกู๋ตบไปหามัน

“ไปไกล ๆ เลยเฮีย งานในครัวไม่มีเหรอ”
“เฮอะ ทำอย่างกับกูอยากยุ่งกับมึงตายล่ะ ไอ้ลูกผู้หญิงสำส่อน”

“ไอ้เฮี้ย” ความอดทนขาดสะบั้น วางกาละมังกระแทกโต๊ะอย่างแรง หันไปมองหน้าไอ้เฮีย
“ทำไม จี้ใจดำละซิ แม่มึงท้องกับใครมาก็ไม่รู้ ดีว่า ตายหลังคลอด ไม่งั้นบ้านกูคงงามหน้าไปอีกนาน”

“ไอ้เฮีย เลิกว่าแม่กูได้แล้ว....” กำหมัดแน่น วันนี้คงต้องกระแทกหน้า ไอ้เฮีย มันซักตั้ง มันทำไม่ใส่ใจ แค่ไหวไหล่ แสยะ แล้วเดินกลับเข้าไปในครัว

ผมชื่อ เต้ ครับ เป็นเด็กกำพร้า เพราะแม่ผมที่เป็นน้องสาวของอากู๋ เสียชีวิตหลังคลอดผมได้ไม่นาน ส่วนพ่อเป็นใครผมก็ไม่รู้หรอกครับ เพราะแม่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก แม่ถูกด่า ถูกถากถาง ว่าท้องไม่มีพ่อ มันคงไม่รับผิดชอบ ถึงต้องซมซานกลับมา อาศัยอากู๋

หลังจากแม่ตายไป อากู๋ และอากิ๋ม ก็เลี้ยงดูผมมาตลอด ผมเริ่มช่วยงานที่ร้านตั้งแต่จำความได้ อากู๋สั่งให้ทำงานที่สามารถทำได้ตามวัย ผมก็ทำงานไม่เคยเกี่ยง เพราะสำนึกในบุญคุณที่ท่านเลี้ยงผมมา และส่งเสียให้ผมเรียนจนปัจจุบัน ผมเรียนปีสุดท้ายแล้ว ก็คิดอยู่ว่าถ้าจบแล้ว ก็คงจะย้ายออกไป หางานทำ และส่งเงินให้ท่านทุกเดือน เป็นการตอบแทนที่ท่านเลี้ยงดูมา

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 2 My story
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 29-11-2014 20:54:24


ออกมาแล้ววว   ติดตามๆ :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 2 My story
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-11-2014 21:01:28
ชีวิตเต้นี่ก็ดูน่าสงสารอยู่นะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 3 I’m got a plan
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 01-12-2014 08:56:01
อันดับแรกก็ขอบคุณผู้อ่านเช่นเคย  :mew1:
อันดับต่อไปก็อ้อน ขอกำลังใจให้ชีวิต เต้ ที่น่าสงสารด้วยนะ
ส่วนนายซัน ยังดูไม่ออกชิมิ ว่าเป็นคนยังไง แต่ก็ขอกำลังใจให้เขาด้วยนะ  :impress2:

*************************************


ตอนที่ 3 I’m got a plan



หลังผ่านวันศุกร์ที่ผมได้พบกับใครคนหนึ่ง จนวันนี้ก็เป็นวันศุกร์ถัดไป ผมแต่งตัว เตรียมจะออกไปที่ ผับเดิม ที่ไปมาเมื่อวันศุกร์

ไม่ใช่ว่าติดใจอะไร ก็แค่ไปเที่ยวตามปกติ..... แต่ถ้าได้เจอกันอีกก็โอนะ

ผมไม่อยากคุย ผมคนนี้ไม่เคยขาดคู่รัก โดยที่ผมไม่เคยเป็นฝ่ายไปจีบก่อนเลยด้วยซ้ำ แค่นั่ง ๆ อยู่ก็มีเดินเข้ามาไม่ว่าทั้งหญิงและชาย ความสัมพันธ์ทางกาย ง่าย ๆ สนุกกัน เสร็จแล้วก็ต่างคนต่างไป ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีข้อผูกพัน แต่ก็ยังสามารถ ไปมาหาสู่กันได้อีก ชิล ๆ กันทั้งสองฝ่าย

แต่หลังจากคืนวันศุกร์วันนั้น ผมรู้สึกอึดอัด ออกอาการทุรนทุราย อยากจะไปที่ผับนั่นอีก แต่ติดว่า วันปกติ ผมมีเรียน ค่อนข้างยุ่ง เพราะเป็นปีสุดท้ายแล้ว พอเผลอ ก็จะคอยแต่คิดถึง ชายหนุ่มหน้าหวานคนนั้น ไม่รู้เป็นอะไร สงสัยว่าเพราะยังไม่ได้มา ทำให้ผมค้างคาใจ ฉะนั้นวันนี้ ถ้าเจอกันอีก ผมจะต้องสอยเขามานอนด้วยให้ได้ ไม่งั้นผมคงจะใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้แน่ ถ้ามัวแต่คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา




ก๊อกๆๆๆ

หลังสำรวจความหล่อเหลาของตัวเองเรียบร้อย ผมก็พร้อมจะออกจากห้อง แต่เสียงเคาะประตู ทำให้ต้องมาดูที่ประตูผ่านตาแมว ว่าใครกันที่มาในเวลาอย่างนี้ โดยไม่ได้นัดหมาย

“อ้าว ไอ้ปัน ลมอะไรหอบแกมาถึงห้องฉันวะ” พอเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท ลูกสาวท่าน ส.ส. ผมก็เปิดประตูออกไปทักทาย

“...แกกำลังจะไปใหนเหรอ” ยัยปันหน้าตามู่ทู่ สบตาก่อนจะเมินไปทางอื่น ผิดปกติวิสัย ที่จะจ้องตาคนเวลาพูดเสมอ

“ก็ว่าจะไปเที่ยวนะซิ ไปด้วยกันมั๊ย” ยัยปันเดินแทรกตัวเข้ามาในห้องช้า ๆ ผมก็เลยปิดประตูแล้วหันมาสนใจมันต่อ

“...ไม่ล่ะ ฉัน...” มันมีท่าทางอึดอัด แปลก ๆ

“แกมีอะไรรึเปล่า ถึงมาหาฉันถึงนี่” ผิดปกติจริง ๆ ด้วย เลยถามความประสงค์ ที่มันมาหาถึงที่นี่








“...เพชร มีคนอื่น...”
“..........” ผมใจหายวาบ นี่มันรู้เรื่องของสองคนนั้นแล้วเหรอ คิดไว้อยู่แล้วว่าซักวันมันก็ต้องรู้

“ฉันเห็นกับตา”
“เฮ้ย มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เห็นก็ได้นะ” ผมพยายามพูดกล่อมมัน เพราะหน้าตามันตอนพูดเรื่อง ไอ้เดือนมหาลัย ดูน่ากลัวมาก

“จะไม่ใช่ได้ยังไง นั่งดูดปากกันยังกับจะกินกันเข้าไปเลยน่ะนะ” ยัยปัน เงยหน้าขึ้นมาตวาดเสียงสั่น
“แล้วไม่เข้าไปจัดการเลยล่ะ” ผมรู้จักท่าทางอย่างนี้ของยัยนี่ดี นี่คงถึงขีดสุดแล้ว

“ก็อยากจะเข้าไปจิกหัวมันมาตบหรอกนะ แต่..........แกก็รู้ฉันรักเพชรมาก ฉันไม่อยากให้เขาเกลียดฉัน” โอ้ พระเจ้า ความรักทำให้คนเราแปลกไปจากปกติจริง ๆ ด้วย อย่างยัยปัน เมื่อก่อนอย่างกับแม่เสือ ใครไม่ถูกใจ ขัดใจ แม่ตบไม่เลี้ยง เวลามีเรื่องกัน ก็ใช้อิทธิพลของพ่อมันมาเคลียร์ จนไม่มีใครกล้าหือกับหล่อนอีกเลย แต่ตอนนี้กลับหงอ เป็นแมว ไอ้เดือนมหาลัย ดูมันจะมีดีไม่น้อย

“งั้นที่มาหานี่ คือต้องการให้ช่วยละซิ” ต้องกุมขมับ สงสัยงานจะมาซะแล้ว
“ใช่ แกจะช่วยฉันได้ใช่มั๊ย” มันถลาเข้ามาจับแขนผมทั้งสองข้าง พร้อมสายตาอ้อนวอน

“แกจะให้ฉันทำยังไง” ยังไงมันก็เพื่อน ผิดถูก ผมก็ยังต้องช่วยมันอยู่ดี ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
“อย่างแกต้องทำได้อยู่แล้ว กันมันออกจากเพชรซะ”

“......” ผมก็คิดไว้แล้ว ว่ามันต้องการให้ผม เข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั้น เพราะเมื่อก่อนเวลามัน ถูกใจใคร แล้วเขามีคู่อยู่แล้ว แต่มันไม่อยากออกหน้า มันก็ให้ผมเข้าจีบฝ่ายหญิง ซึ่งก็สำเร็จทุกครั้ง พอมันได้ไอ้หนุ่มหน้าโง่พวกนั้นได้ไม่นาน มันก็ทิ้งพวกเขาง่าย ๆ อย่างกับทิ้งทิชชู่

“ฉันไม่ให้แกทำงานฟรีหรอกน่า ฉันรู้ว่าแกไม่เดือนร้อนเรื่องเงิน แต่ฉันจะจ่ายให้ไม่อั้น ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เบิกมาได้เต็มที่”

“OK เดี๋ยวจัดการให้” ผมรับปากยัยปัน แทบจะไม่ต้องคิด เพราะยังไง ๆ เป้าหมายของหล่อน ก็เป็นเป้าหมายของผมเช่นกัน ดีซะอีก ได้คน ได้เงินใช้ วิน ๆ

“ดี งั้นดูนี่ รูปมัน คนที่ 3 จากซ้ายมือ” หล่อนควักมือถือเปิดรูปใบหนึ่งให้ดู เป็นภาพกลุ่มคนทั้งชายและหญิง หก เจ็ดคน ผมมองตามที่ยัยปันบอก คนที่ 3 จากซ้าย

ฮึ ถึงไม่ต้องดูผมก็รู้อยู่แล้ว ว่าเป็นเขาคนนั้น คนหน้าหวานในภาพ ทำหน้าตาเบื่อหน่าย สายตาไม่ได้โฟกัส มาที่กล้อง เห็นแล้วก็รู้สึกว่า คงถูกบังคับให้มาถ่ายรูปหมู่แน่เลย

“แกจำได้แล้วนะ ฉันอยากให้แกจัดการกับมันให้เร็วที่สุด”
“แล้วฉันจะเจอเขาได้ยังไง”

“วันอาทิตย์นี้เป็นวันเกิด เพชร มันต้องมาด้วยแน่ แกคอยจัดการมันได้เลย เอาให้มันไม่มีหน้ามาเจอเพชรได้ยิ่งดี ปู้ยี้ปู้ยำมันให้เละเลย เอาหลักฐานมาให้ได้ด้วยล่ะ” ผู้หญิงเวลาหึงนี่ น่ากลัวชะมัด  แต่ช่างเถอะ เพราะอย่างไรผมก็ประสงค์จะทำในสิ่งที่ยัยปันขออยู่แล้ว





หลังจากผมรับคำ หน้าตาหล่อนก็ดูคลายความกังวลลง แล้วขอตัวกลับไปทันที ผมยืนมองประตูที่ปิดลงอยู่นาน ไม่คิดเลยว่า โอกาสจะวิ่งมาหาผมเอง

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” หัวใจพองฟู จนอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ แค่คิดว่าจะได้จัดการยังไงกับ คู่กรณีของยัยปัน มันก็ทำให้ผมหยุดหัวเราะไม่ได้จริง ๆ ผมเปลี่ยนใจแล้ว วันนี้คงไม่ออกไปไหนล่ะ คงไม่ได้เจอกันง่าย ๆ หรอก ก็เพราะผมไปผับนั้นบ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยเจอเขามาก่อนเลย บางทีเขาอาจจะไม่เคยมาที่นี่เลยก็ได้ ผมว่าวันนี้ผมก็อาจจะไม่ได้เจอเขา ถ้าไปแล้วไม่เจอ จะพาลอารมณ์เสียซะเปล่า ๆ

เอาเวลามานั่งคิดวิธีที่จะจัดการ เขาในอีก 2 วันดีกว่า ฟินกว่ากันเยอะ ฮึ ๆ

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 3 I’m got a plan
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 01-12-2014 10:12:53


นึกถึงเหยื่อ เหยื่อกะมา  :hao7: :hao7:   :L2: :pig4:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 4 Leave me alone
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 06-12-2014 09:18:24
งานนี้ต้องตามกันต่อไป ว่าใครเป็นผู้ล่า ใครเป็นเหยื่อ กันแน่ะ ฮุๆๆๆๆ  :hao7:
ของอย่างนี้มันก็บ่แน่หรอกนาย


*************************************************



ตอนที่ 4 Leave me alone



ภายในมหาวิทยาลัย M ช่วงเย็น ยังมีนักศึกษา อยู่ภายในมหาวิทยาลัย พอสมควร บางส่วนเพื่อจัดงานเลี้ยงอำลารุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาในไม่ช้านี้

“เฮ้ย พวกมึงหลังสอบเสร็จ เราจัดทริปไปปายกันดีป่ะวะ”
“เออ ดี ๆ ๆ”
“คิดแต่จะเที่ยวนะมึง อ่านหนังสือสอบให้ผ่านก่อนเหอะ”
“อ้าว ก็ต้องคิดไว้ก่อนซิวะ จะได้เตรียมตัวถูก เออ มึงไปด้วยมั๊ยเต้”

“..อือ......... บายว่ะ ยังไงก็ก็คงไปไม่ได้” ไอ้พวกเพื่อน ๆ หลังจากนั่งติวหนังสือกันเสร็จ ไอ้คมก็เสนอไอเดีย จัดทริปไปเที่ยว ถามผมว่าอยากไปด้วยมั๊ย อยากบอกว่า....อยากมากครับ แต่คงไปไม่ได้

“เฮ้ย เออว่ะ กูลืมไป มึงต้องช่วยงานที่ร้านอาหารนี่หว่า”
“เออ ขอกู๋มึงดิ ฉลองเรียนจบนะเว้ย”

“....ช่างกูเหอะ พวกมึงไปเที่ยวกันเถอะ เที่ยวเผื่อกูด้วย เอารูปมาให้ดูด้วยนะเว้ย” ทำเป็นยิ้ม หัวเราะ เพราะไม่อยากให้เพื่อน ๆ ลำบากใจ ทุกคนรู้เรื่องของผมดี ผมไม่อยากทำตัวเอาแต่ใจ หนีเที่ยวสบายอยู่คนเดียว ในขณะที่ทุกคนที่ร้าน โดยเฉพาะอากู๋ ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ซึ่งพวกเพื่อน ๆ มันก็คงเข้าใจ มันเลยหันมาคุยเรื่องอื่นโดยบอกว่าจะคุยเรื่องเที่ยววันหลัง ตลอด 4 ปีที่เรียนด้วยกันมา ผมไม่เคยไปเที่ยวหรือไปไหนกับเพื่อน ๆ เลย ถ้าไม่ใช่กิจกรรมบังคับของทางมหาลัย ไปค้างบ้านเพื่อนยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ เฮ้อ จะเรียกใครซักคนว่าเพื่อนสนิทยังไม่มีเลย แต่ก็ยังดีที่พวกเพื่อน ๆ ก็ไม่ได้ทิ้งผม ยังคงลาก ๆ มารวมกลุ่มกันอยู่เสมอ









“เอ่อ..เต้”
“เพชร...ว่าไง” หลังจากนั่งฟังพวกเพื่อน ๆ พูดคุยสนุกสนานเฮฮา ก็เห็น เพชร เดินเข้ามาเรียก เวลาอยู่มหาลัย เราก็ไม่ได้ทำตัวสนิทสนมกันมาก เพราะผมไม่เคยบอกใคร ว่าผมเป็นเกย์ และเพชรเองก็เป็นคนดังของมหาลัย การเปิดเผยความสัมพันธ์ คงทำให้อยู่ยากแน่นอน

“อาจารย์ วิทยา ให้ผมมาตามคุณ”

“อื้อ ขอบคุณครับ เฮ้ย พวกมึง กูไปก่อนนะ” อาจารย์ให้มาตาม สงสัยเป็นเรื่องงานที่แกเคยบอกผมแน่เลย รีบไปหาแกดีกว่าเย็นมากแล้วไม่อยากให้แกรอนาน ลุกขึ้นเก็บอุปกรณ์การเรียนยัดใส่เป้ แล้วหันไปบอกลาเพื่อน ๆ ก่อนจะเดินตามเพชรไปทางห้องพักอาจารย์

“ว่าแต่ ผมได้ยินว่าจารย์วิทยา แกมีประชุมวิชาการวันนี้ นี่นา แกกลับมาแล้วเหรอ” ระหว่างเดินตามหลัง เพชร ก็อดจะรู้สึกเสียดในใจไม่ได้ ไม่ได้คุยกันมาซักอาทิตย์แล้ว ตั้งแต่คืนวันศุกร์นั้น ที่เพชรตาม ผมไปที่ผับ ซึ่งผมไม่เคยไปเที่ยว เพราะไม่ค่อยมีเวลา และไม่อยากเสียเงินกับเรื่องไร้สาระ แต่เพราะความกลัดกลุ้มปวดร้าว หลังจาก รับรู้ว่า เพชร กำลังจะหมั้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากเพชรตามไปเจอ และดึงผมออกจากร้านไปคุยกันด้านหลังร้าน ผมพยายามทำเฉยชา เพื่อให้เรื่องมันง่ายขึ้น แต่เพชรไม่ยอม เขารุกไล่ กอดจูบ จนผมต้องพ่ายแก่ความปรารถนาในใจ เพราะอย่างไรผมก็ยังรักเพชรอยู่  คืนนั้นก็จบลงที่เตียงเหมือน ๆ ทุกครั้ง แต่หลังจากคืนนั้นผมก็หลีกเลี่ยง ไม่เจอกับเพชรอีก เพราะถึงรักอย่างไร แต่สำนึกก็ยังรั้งผมให้ถอยออกมา

“...เปล่า แกยังไม่กลับมา”
“อ้าว มึงหลอกกูเหรอ” พอรู้ว่าถูกมันหลอก ก็ฉุนขึ้นมาทันที

“ก็ถ้าไม่พูดอย่างนั้น เต้จะยอมมากับผมเหรอ”
“.........” ก็เพราะรู้ว่ายังไง เราสองคนก็คงไม่มีทางได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป ผมเอง ก็ไม่อยากเป็นมือที่ 3 ของใคร โดยเฉพาะกับผู้หญิงแล้ว มันทำให้ผมนึกถึงแม่ ผมไม่รู้ว่าทำไมแม่จึง ท้องโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก แต่ผมรู้เพียงอย่างเดียว การเป็นเด็กที่เกิดมาแล้ว ไม่มีพ่อหรือแม่ มันน่าสงสารเกินไป ผมไม่อยากให้มีเด็กที่เกิดมาแล้วมีปํญหาเหมือนเช่นผมเป็น

“เต้ วันอาทิตย์นี้วันเกิดผม ไปนะ”
“........ไม่ล่ะ เพชร ผมว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วนะ” ผมรักเพชรมาก ตอนเขาเข้ามาจีบ เมื่อตอนปีสอง ผมดีใจมาก เพราะผมก็มองเขามานาน แต่ไม่เคยได้คุยกัน เพราะเราอยู่กันคนละคณะ เขาบอกรักผม ดูแลผม อย่างดี ทำให้ผมที่ขาดความรัก ความอบอุ่นอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งหลงรักเขามากขึ้นไปอีก ผมยกโทษ และอภัยให้ เพชรในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการโกหก หรือนอกใจ เพราะผมถือว่ายังไง ๆ เขาก็ยังกลับมาหาผม แต่เคสนี้ ไม่ใช่

“เต้ครับ ผมเข้าใจครับ แต่ว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั๊ยครับ ผมมาชวนในฐานะเพื่อนนะครับ”
“....ก็ได้ครับ” อึ้งไปนิดหนึ่ง ผมคงหลงตัวเองมากไปหน่อย ที่คิดว่าเพชรจะมาง้อขอคืนดี นั่นซิ ผมเป็นคนตัดความสัมพันธ์เองนี่นา ยังจะหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ

“ขอบคุณครับ เจอกันวันอาทิตย์นะครับ” เพชรยิ้ม ก่อนจะขอตัวลา เดินจากไป ในอกปวดร้าว มองเพชรค่อย ๆ เดินจากไป ขอบตาร้อนผ่าว แต่ไม่มีน้ำตาไหล ถึงจะยังรักอยู่ แต่ก็คงต้องตัดใจ เพราะอย่างไร เขาก็เป็นคนที่เราไม่ควรเอื้อมแล้ว


 







วันอาทิตย์

สมกับเป็นงานวันเกิดลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวใหญ่ งานจัดในโรงแรมหรูใจกลางสุขุมวิท แขกเหรื่อมากหน้าหลายตา ทั้งคนในวงการการเมือง สังคมไฮโซ ดารา ผู้มีชื่อเสียงด้านอื่น ๆ ในประเทศไทย แทบจะมารวมกันในงานเลยก็ว่าได้

ผมเคยคิดว่าโชคดีที่เกิดมาเป็นผู้ชาย เพราะเวลามีงานเลี้ยง ผมก็แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ต ผูกไทด์ กางเกงสแลค และรองเท้าดี ๆ ซักคู่ ผมก็ไปได้ทุกงาน แล้ว แต่แม่พวกเพื่อน ๆ ผู้หญิงของผม นี่ แต่งตัวกันอย่างกับจะมาประกวดนางงามเลยก็ว่าได้ แน่ล่ะ ก็งานนี้ ไม่ใช่แต่ตัว เพชรเองที่เป็นที่ต้องตา ต้องใจของพวกสาว ๆ ยังรวมไปถึงแขกเหรื่อในงาน ที่มีทั้งลูกชาย ลูกสาว ผู้มีชื่อเสียงเดินกันให้ควั่ก พวกหล่อนบอกว่า เผื่อสะดุดถังข้าวสาร ฮ่าๆๆๆ ขำดี

เพชร เดินเข้ามาหาแค่ตอนเข้ามาแรก ๆ หลังจากนั้น เขาก็ต้องตามคุณพ่อเขาไปต้อนรับแขก ท่านอื่น ๆ ต่อไป ผมก็เข้าใจ ไม่ได้น้อยใจอะไร ก็งานนี้นอกจากจะเป็นงานวันเกิดแล้ว ท่านเจ้าสัว ยังถือเป็นการเปิดตัวเพชร ต่อสังคม เพราะหลังเรียนจบ เขาก็คงต้องเข้ามาบริหารงานในบริษัท นั่นยิ่งตอกย้ำความต่างกันของเขาและผม

คำว่าไม่คู่ควร เหมือนจะแปะหราอยู่ทั่วงาน ทำให้ผมยิ่งสะท้อนใจ คงถูกแล้วที่ผมคิดเลิกกับเขา หลังเรียนจบผมก็คงไปตามทางของผม








“สวัสดีครับ”
“....อือ ครับ” ยืนหลบมุม จมอยู่ในความคิดของตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งนิด ๆ เพราะเสียงทุ้มที่ทักมา หันไปมองก็ งงๆ เพราะ ผมไม่รู้จักผู้ชายคนนี้

“ผม ซันครับ เป็นเพื่อนกับปานชนก คู่หมั้นเพชร”
“อ้อ...... ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเต้ เป็นเพื่อนมหาลัยเดียวกับเพชรครับ” เขายื่นมือมาขอจับมือ ผมก็เลยยื่นไปจับด้วย ถึงในใจจะคิดว่า ไอ้หมอนี่มันจะมาทักผมทำไม เราไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันนี่นา โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของคู่หมั้นเพชร ยิ่งทำให้หงุดหงิดไม่อยากจะคุยด้วยซักเท่าไหร่

“ชื่อเต้ หรือครับ เต้คำเดียว หรือว่าฮ่องเต้”
“....เต้ คำเดียวครับ คนอย่างผม คงไม่บังอาจเป็นฮ่องเต้หรอกครับ” ผมพูดจริง คนอย่างผม ไม่มีทางเป็นฮ่องเต้ได้หรอก
 
“ตลกดีนะคุณนี่”
“....” ตลกพ่องมึงดิ ไอ้หน้าหล่อ ๆ มาดผู้ดี จนน่าหมั่นใส้ รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าไอ้หมอนี่ จนอยากจะเดินหนี

“ผมเคยพบคุณ”
“...มุกจีบหรือเปล่าครับ” เหลือบมองนิดหนึ่งเพราะเขาสูงกว่าผมพอสมควร ก็ไม่ใช่ไม่เคยมีคนมาจีบ

“ฮ่า ๆๆ คุณพูดตรงจังเลย จะว่าใช่ก็ใช่ล่ะครับ”
“..คุณเป็นเกย์?” จากที่ไม่ค่อยสนใจ ตอนนี้ผมก็เริ่มมองเขาจริง ๆ จัง ๆ ขึ้น ก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดี ท่าทางภูมิฐาน

“ผมเป็นไบ”
“อ้อ พวกสองขั้ว” ยักยิ้มข้างหนึ่ง ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แต่ไม่ค่อยชอบ พวกนี้ มักก่อปัญหาให้คู่ของตัวเอง เพราะรับได้ทั้งสองเพศ จึงไม่ค่อยซื่อสัตย์ต่อคู่ของตนเองซักเท่าไหร่

“ฟังดูไม่ค่อยจะดี เลยนะครับ”
“จะบอกว่าคุณดีงั้นซิ” เขาทำสีหน้าเหมือนผิดหวังที่ดูยังไงก็เหมือนเสแสร้ง ให้ต้องยกยิ้มเยาะ

“อันนี้ต้องลองครับ ว่าดีจริงมั๊ย”
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ล่ะ ผมไม่ชอบลอง” สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นกรุ่มกริ่มขึ้นมา ดวงตาคมจ้องมองเหมือนจะกรีดเสื้อผ้าให้ขาดกระจุย ยิ่งพูดคุย ยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ อันตราย ผมไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปยุ่งเกี่ยวด้วย ถึงจะเป็นเกย์ แต่ผมก็เลือกนะครับ








“เต้ มาอยู่ตรงนี้นี่เอง ผมหาคุณอยู่”
“มีอะไรเหรอครับ เพชร” กำลังจะกล่าวลากับเพื่อนใหม่เพราะไม่อยากจะคุยแล้ว เพชรก็เดินเข้ามาแทรก อย่างไม่สนใจคุณซัน ที่เลิกคิ้วมองผมกับเพชรสลับกัน

“...เอ่อผมมีเรื่องจะคุยด้วย เราไปคุยกันที่ห้องข้าง ๆ ดีมั๊ยครับ” เพชรซึ่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ใช่อยู่กันสองคนกับผม หันไปเหล่มองคุณซัน แล้วคว้าข้อมือผมจะพาไปคุยกันอีกห้อง

“เอ่อ เพชรครับ ไว้ค่อยคุยกันที่มหาลัยดีกว่า ผมเห็นว่าคุณยุ่งมาก ผมไม่อยากรบกวน ผมขอตัวเลยดีกว่าครับ ขอให้คุณมีความสุข สุขภาพแข็งแรงตลอดไปนะครับ” แต่ผมไม่อยากไป ไม่อยากรื้อฟื้นอะไรทั้งสิ้น จึงบิดข้อมือออกจากการกอบกุมของเพชรเบา ๆ ไม่ให้ดูผิดปรกติ

“เต้...” เพชรเรียกผม เสียงแผ่ว

“เพชรคะ มาทางนี้หน่อยค่ะ คุณพ่อปันจะแนะนำให้รู้จักกับท่าน รัฐมนตรี คะ” เราทั้งคู่หันไปตามเสียงหวานใสของคู่หมั้นเพชร ก็เห็นว่าเธอโบกไม้โบกมือเรียก อยู่ใกล้ ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนที่ยืนคุยกันอยู่ด้านหลัง

“...ครับ ปัน” เพชรหน้าหม่นลง หันมามองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะเดินจากไปตามเสียงเรียก เพชรเดินไปหาคู่หมั้นของเขา แต่ก็ยังเหลียวกลับมามองเป็นระยะ ๆ




“คุณจะกลับแล้วจริง ๆ เหรอ”
“....ครับ...... ขอตัวนะครับ” ต้องสะดุ้งเล็ก ๆ เพราะลืมไปเลยว่าผู้ชายคนนี้ยังยืนอยู่ข้างผม ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยอะไรกับใครแล้ว ผมรู้สึกอยากอ้วก คลื่นไส้ ผมว่าผมรีบออกไปจากงานดีกว่า




“บาดตา?”
“???” หลังจากผงกหัวขอตัว ผมก็หันหลังให้เขา ก้าวเท้าจะเดินจาก ก่อนจะชะงักกับคำถามของเขา

“ก็คุณกับเขาเป็นแฟนกันใช่มั๊ยล่ะ”
“.........” หันควับไปมองเขาอย่างอึ้งๆ ไม่เคยมีใครรู้ความสัมพันธ์ของผมกับเพชร จะว่าเขาเดาเอาก็คงไม่ใช่ เพราะสายตาคมกริบที่มองมาเหมือนจะทะลุเข้าไปถึงหัวใจ และสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้พูดเล่น

“ไม่ต้องตกใจไปครับ ก็บอกแล้วไงว่าผมรู้จักคุณ”
“......” ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ข่มขู่?

“เพชรเขาก็หมั้นกับปันไปแล้ว คุณคงไม่คิดจะแย่งเขากลับมาหรอกนะครับ”
“อ้อ นั่นซินะ คุณเป็นเพื่อนของคุณปานชนกนี่นา” อ้อ เข้าใจละ ยังไงเขาก็ต้องเข้าข้างเพื่อนของเขาอยู่แล้ว

“ก็ใช่ครับ แต่ที่พูดเพราะผมหวังดีกับคุณต่างหาก คนน่ารักอย่างคุณ เขาไม่คู่ควรหรอก”
“ฮ่าๆๆ ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ” เริ่มไม่เข้าใจ ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่

“ใครว่า ผมอยากลูบคุณทั้งตัวเลยต่างหาก”
“เอาจริง?” อ้าวไอ้บ้านี่ ออกแนวลวนลามเหรอ

“ถ้าให้เอาจริง ๆ ก็เอาครับ ยิ่งถ้าให้เลียด้วยจะยิ่งดีใหญ่”
“เข้าขั้น โรคจิตนะคุณนี่” ส่ายหัวอย่างหน่าย ๆ ยิ่งคุยด้วยยิ่งคิดว่าไอ้หมอนี่มันไม่ใช่แค่บ้า แต่โครตของโครตบ้าเลย

“ฮ่าๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆ สนุกดีครับ ดีใจที่ได้คุยกับคุณ แต่เราคงไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว ผมขอตัวครับ” เห็นเขาขำ ผมก็เลยพลอยขำด้วย เขาเป็นคนแปลกดี ผมไม่เคยเจอคนพูดอะไรตรง ๆ บ้า ๆอย่างเขาเลย

“ให้ผมไปส่งนะ”
“อย่าเลยครับ ลำบากเปล่าๆ ที่สำคัญ คุณบอกเพื่อนคุณสบายใจได้ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ เพชรอีก และผมก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย ลาก่อนครับ” จากที่ขำ ๆ กันอยู่ ผมก็ปรับท่าที กะทันหันเป็นเฉยชาแทน ผมมองตาเขานิ่งๆ อยากสื่อความจริงใจให้เขาได้รับรู้ และส่งผ่านไปยังเพื่อนสาวของเขา ให้ไม่ต้องคอยระแวงผมอีก เพราะหลังจากเรียนจบ ผมคงไม่มีความจำเป็นต้องปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอีกต่อไป

หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 5 I got you
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 11-12-2014 20:05:21
ตอนที่ 5 I got you

ผมอดจะอึ้งกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของ เต้ ไม่ได้ จากที่หัวเราะ ๆ กันอยู่ดี ๆ ก็หยุดกึก มองตรงมาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดตัดสัมพันธ์กับ เพชร ซึ่งผมแทบไม่เชื่อหู เพราะผู้ชายระดับ เพชร ลูกชายเจ้าสัวใหญ่ ไม่มีใครหรอกไม่อยากได้มาครอง ผมคิดว่าถึงจะต้องทำสงคราม ตบตี แย่งชิง เขาก็ไม่มีทางปล่อยมือจากเพชรแน่ ผมกะว่าคงต้องใช้แผนใช้กลยุทธ์หลากหลายในการกำจัดเขาให้พ้นทางยัยปัน

แต่ผิดคาดหลังคำบอกตัดสัมพันธ์ เขาก็หันหลังเดินออกจากงานเลี้ยงไปเลย ไม่มีแม้แต่จะหันไปมองเพชร ทำเอาผมอึ้งไปหลายวินาที พอได้สติก็ วิ่งตามเขาออกไป ก่อนจะเห็นหลังไว ๆ ว่าเขาเดินออกไปทางหน้าโรงแรม ผมจึงวิ่งตามเขาไป แต่ก็ไม่ทัน เขาก้าวขึ้นรถเมล์ และรถก็ออกตัวไปแล้ว ผมเลยรีบโบกเรียกรถแท็กซี่ ให้ตามรถเมล์คันนั้นไป พี่คนขับก็ใจดี ถามว่าทำไมต้องตามรถเมล์ ผมเลยบอกไปส่ง ๆ ว่าผมตามง้อแฟนอยู่ เขาเลยวิ่งจี้ตูดรถเมล์ไปตลอดทาง จนผ่านไปหลายป้าย ผมก็เห็น เต้ ก้าวลงจากรถเมล์พร้อมผู้โดยสารหลายคน ผมบอกพี่คนขับจอด แกก็รีบจอดให้ และอวยพรให้ผมง้อแฟนสำเร็จด้วย ฮ่าๆๆ

ผมเดินตาม เต้ ไปห่าง ๆ เห็นเขาเดินเข้าตรอกเล็ก ๆ ข้าง ๆ ร้านอาหารจีน พอผมเลี้ยวเข้าตรอก ก็ต้องรีบหลบข้างกำแพง เพราะผมเห็น เต้ กำลังมีปากเสียงกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ผมอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยิน แต่ก็เห็นว่า เต้ จะยุติการทะเลาะโดยการเดินหนี แต่ชายคนนั้นรั้งมือของเต้ไว้ และพยายามจะปลุกปล้ำเต้ ผมจึงวิ่งเข้าไปจะช่วย ได้ยินเสียงเหมือนเต้จะร้องห้ามไอ้หมอนั่น แต่ก็ถูกมันต่อยเข้าที่ท้องจนตัวงอ เต้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น ไอ้ชั่วนั้นยังตามไปยึดข้อมือเต้ไว้ทั้งสองข้างก่อนจะพยายามไล่จูบเต้ ที่เอาแต่กัดฟันก้มหน้าหลบ

ไม่ต้องเสียเวลาคิด ผมวิ่งเข้าไปถึงก็เตะลำตัวไอ้ผู้ชายคนนั้น จนกระเด็นหลุดจากเต้ ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า

“ไอ้เหี้ย มึงเป็นใครวะ มาเตะกูทำไม” ไอ้คนที่ถูกผมเตะกลิ้ง พอมันตั้งตัวลุกขึ้นมาได้ก็ด่ากราด ท่าทางมันจะเมามาก ยืนยังไม่ตรงเลย

“ไอ้ชั่ว มึงนั่นแหล่ะคิดจะทำอะไรเต้” ผมเห็นท่าทางมันจะเดินเข้ามาเหมือนมุ่งร้าย เลยว่าจะแจกตีนให้มันอีกซักทีสองที

“อย่า ครับ ๆ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง” เต้รีบลุก ถลาเข้ามาจับแขนห้ามผมเอาไว้ ผมหันไปมองหน้าไอ้ลูกพี่ลูกน้อง ก่อนจะหันมาดูคนที่กุมท้องร้องโอย

“คุณเป็นไงบ้าง?” รีบประคองเขาด้วยความเป็นห่วงอาการ
“...จุก.” เป็นคำเดียวจากคนหน้าหวาน

“หนอย.. ไอ้กะเทย มึงพาผัวมึงมาตีกูเหรอ สำส่อนเหมือนแม่มึงไม่มีผิด”
“ไอ้เฮียตง หุบปากมึงไปเลย”
“หึ พูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้ กูจะฟ้องป๊า ว่ามึงพาผู้ชายมากก กันถึงบ้าน”

“ยังจะมาปากดีอีก เดี๋ยวเถอะ เอาไปอีกหมัดดีมั๊ย” ผมที่ฟังบทสนทนา ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็คิดว่ามันเป็นถ้อยคำที่หยาคาย และดูถูกบุพการี เลยว่าจะจัดให้อีกหมัด เผื่อมันจะหายเมา กลับมาเป็นผู้เป็นคน

“คุณซัน อย่าครับ” แต่ติดที่คนนี้ยังจับแขนผมแน่น แถมดึงผมให้เดินออกมาจากตรอก เห็นไอ้ลูกพี่ลูกน้องของเต้ มันสบถลั่น ก่อนจะหายเข้าไปในประตูด้านข้างของร้านอาหารจีน


พอพ้นตรอกผมก็เข้าประคองคนตัวงอไว้

“ผมว่าคุณไม่ควรกลับเข้าไปตอนนี้เหรอนะ” ผมพาเขามานั่งที่รอรถเมล์

“ผมก็คิดอย่างนั้น” เขาท่าทางดีขึ้นไม่ได้นั่งตัวงอแล้ว

“แล้วจะเอาไง คุณจะไปไหนผมจะไปส่ง” ผมอยากจะพาเขากลับไปที่คอนโดของผม แต่ก็ทำเป็นถามความเห็นเขาก่อน ไม่อยากให้เขาตื่นตกใจ ถ้ารู้ความคิดของผม

“....ไม่รู้....” เขามีท่าทีสับสน

“งั้นไปที่คอนโดผมก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับมา” ยิ่งเข้าทางผมเข้าไปใหญ่ ผมไม่รอรี รีบเสนอให้เขาไปที่ของผมทันที

“...อย่าเลยครับ ผมเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจ ผมอยากช่วยคุณจริง ๆ”
“...”

“ไม่ต้องคิดมาก นั่นแท็กซี่มาพอดี” สบช่องเห็นรถแท็กซี่มาแต่ไกล รีบ ๆ รวบรัด ไม่ให้เขาได้มีเวลาตริตรอง จัดแจงประคองเขาเข้าไปนั่งด้านหลังรถแท็กซี่ แล้วบอกจุดหมายปลายทาง เขามองผมเหมือนจะท้วง แต่ก็ถอนหายใจ และหันกลับไปมองข้างหน้าต่างโดยไม่พูดอะไรอีกตลอดทาง ผมเองก็นั่งเงียบ ๆ ไม่รบกวนเขา มองตรงไป แต่ก็เหลือบมองเสี้ยวหน้าสวยหวาน แต่ดูเศร้าของเขาเป็นระยะ ๆ



(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 5 I got you
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 11-12-2014 20:28:24
(ต่อ ๆ)



ผมที่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทั้งเรื่องรัก เรื่องเรียน เรื่องครอบครัว ปนเปกันจนไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับชีวิตดี แถมยังเดินตามผู้ชายที่ผมเพิ่งจะพบเขาครั้งแรก เมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ มาถึงคอนโดของเขา เขามีฐานะดีอย่างที่ผมประเมินเขาไว้ตอนแรกไม่มีผิด เพราะคอนโดขนาดใหญ่ แค่ 4 ห้องต่อหนึ่งชั้น ใจกลางเมืองหลวง สนนราคาคงไม่ต้องบอกว่าแพงขนาดไหน

“ตามสบายนะครับเต้” คุณซันเดินนำเข้าห้องก่อนจะโยนกระเป๋าและพวงกุญแจไว้บนโต๊ะข้างประตู

“ขอบคุณครับ” ผมเดินตามเข้ามา ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้อง ซึ่งจัดเป็นโทนสีน้ำทะเล ดูสวยและลึกล้ำ ห้องแบ่งเป็นโซน ๆ โดยมีฉากกั้น

“จะดื่มอะไร ซักหน่อยมั๊ย” เขาเดินนำเลี้ยวเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็นก่อนจะหันมาถามความต้องการเครื่องดื่มของผม

“...ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ ...ถ้าไม่รังเกียจผมขอใช้ห้องน้ำได้มั๊ยครับ” ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ผลจากการทรุดลงไปกองกับพื้นในตรอก ทำให้ชุดผมเลอะพอสมควร ผมเหนียวตัวด้วย อยากอาบน้ำมาก

“อ้อครับ เชิญครับ เอ่อ เดี๋ยวผมหาผ้าเช็ดตัวกับชุดเปลี่ยนให้นะครับ” เขาผายมือไปทางห้องน้ำ และเดินหายเข้าไปในห้องอีกห้อง ก่อนจะออกมาพร้อมผ้าขนหนูสีขาวเนื้อหนา และชุดเสื้อยืดกางเกงบอล

“ไม่ต้องครับ ผมใส่ชุดเดิมได้” ผมไม่อยากรบกวนเขามากไปกว่านี้อีกแล้ว

“ผมว่าเปลี่ยนเถอะ ชุดคุณสกปรกไปหมดแล้ว” เขายิ้มบาง ๆ ส่งมาให้  พร้อมกับพยักพเยิดให้ผมดูสภาพตัวเอง

“...ครับ...ขอบคุณครับ” พอมองดูตัวเองก็ต้องยอมรับ ว่าเขาพูดถูก ผมมอมแมมมาก คงไม่กล้านั่งตรงไหนแน่ เพราะคงจะทำให้บ้านของเขาสกปรกไปด้วย จึงรับของจากมือของเขาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบ ๆ







สายน้ำเย็นจากฝักบัวไหลรินรดตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า เรื่อยลงมาจนถึงปลายเท้า แต่มันไม่ได้ทำให้ใจที่ห่อเหี่ยวรู้สึกสดชื่นขึ้นเลย

ยิ่งตอกย้ำให้ผมคิดถึงแม่

ผู้หญิง ยิ้มเศร้า ๆ ที่ผมไม่เคยได้พบเจอ จะมีก็แต่เพียงรูปถ่ายใบเดียวที่หลงเหลืออยู่ ที่ผมเก็บรักษาไว้ในกระเป๋าเงิน

ผมเคยสงสัยเสมอว่า…..

...ถ้าวันนั้น แม่ไม่ตายหลังจากที่คลอดผมไม่นาน .....ชีวิตผมจะเป็นยังไง

จะมีคนจูงมือไปส่งที่โรงเรียน จะไม่มีใครล้อว่า ไอ้เด็กกำพร้า จะมีคนรอผมกลับมาบ้านด้วยรอยยิ้ม และกับข้าวฝีมือแม่ ที่ทั้งอบอุ่น และอ่อนโยน

จะมีคนกล่อมผมตอนนอน อ่านนิทานให้ผมฟัง ให้ผมได้ออดอ้อน เล่าเรื่องราวสนุกสนานในการไปโรงเรียนในแต่ละวันให้ฟัง แม่คงจะหัวเราะกับเรื่องสนุก ๆ ของผม พร้อมอ้อมกอด ไออุ่นจากอกแม่

ผมเคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง ผมอยู่คนเดียวได้ ผมดูแลตัวเองได้.....แต่มันไม่ใช่เลย ผมอ่อนแอ ผมไร้ซึ่งพละกำลัง ไม่เคยได้สิ่งที่ต้องการมาครอบครอง.......... โลกใบนี้......ไม่เคยมีอะไรที่เป็นของผม

เสื้อผ้าและชุดนักเรียน ก็เป็นชุดเก่าของเฮียตง ลูกพี่ลูกน้องที่แก่กว่า 5 ปี หนังสือเรียนที่ เฮียเคยใช้ ถ้ายังใช้ได้ก็ต้องใช้ ดีว่าสมุดได้เล่มใหม่ เงินจะไปโรงเรียนก็ได้พอเพียงในแต่ละวัน ค่าอาหารไม่มี เพราะมีอาหารให้นำไปโรงเรียนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นของที่เหลือ ๆ จากร้านอาหารตอนกลางคืน

เพราะเสียดายที่จะใช้เงินน้อยนิดนี้ซื้อขนม ผมจึงไม่ค่อยซื้อ แต่เก็บใส่กระปุกไว้ รวมกับเงินทิป ที่ลูกค้าที่มาที่ร้านให้ โดยเฉพาะลูกค้าขาประจำที่เห็นผมมาตั้งแต่เด็ก จะสงสารและให้ทิปผมเสมอ ผมรับไว้ ถึงมันจะมาจากความสงสาร แต่ผมมีฝัน....ฝันของผมต้องใช้เงิน

ผมฝันไว้ว่าซักวัน ผมจะมีที่ ๆ เป็นของผมจริง ๆ ไม่ว่าจะดีจะร้าย จะเล็กจะใหญ่ แต่ถ้ามันเป็นของผม ผมก็รู้สึกดีใจทีสุดแล้ว

วันหนึ่ง เหมือนว่าฝันของผมจะเป็นจริง

ผมได้พบกับ เพชร อดีตเดือนมหาลัยปีที่แล้ว ที่เข้ามาทักทาย เขาทำให้ผมรู้สึกตัวลอย รู้สึกเหมือนฝันไป  คนระดับนั้น ให้ความสนใจผม เขาบอกว่าเขาชอบผมมานานแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสได้เข้ามาพูดคุย

เพชร ก้าวเข้ามาในชีวิตผมอย่างรวดเร็ว เขาทำให้ผมมีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเขา และรู้สึกเป็นคนสำคัญของใครซักคน เป็นคนที่มีคนต้องการ

แต่ฝันของผมมีอายุแค่ 2 ปีกว่า ๆ เท่านั้น เราคบกันหวานชื่น สุขบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่เขาก็คอยง้อ คอยตามใจตลอด จนวันหนึ่ง เขาบอกผม ระหว่างที่เรากำลังร่วมรักกันอยู่ เขาทำให้ผมเกือบถึงสวรรค์
   
“เต้ ผมต้องหมั้นกับผู้หญิงที่พ่อแม่ผมเลือกให้อาทิตย์หน้า”
   “ห๊ะ...” จากที่กำลังจะถึง ผมก็เหมือนร่วงตกลงมาในทันที รู้สึกโมโหมาก จึงพยายามผลักเขาออก

   “ไม่เอาหน่า เต้ อย่าทำอย่างนี้ ผมรักคุณคนเดียวนะ” เขาปัดป่ายมือที่พยายามจะดันเขาออก ก่อนจะจับข้อมือผมไว้ทั้งสองข้างตรึงไว้กับที่นอน

   “ปล่อยเต้นะ เพชร ปล่อย” เขาตรึงมือผมไว้แน่น ในขณะที่ช่วงล่างเขาก็ยังไม่หยุดกระแทกกระทั้นเข้ามาช้า ๆ เนิบ ๆ ทำให้รู้สึกเสียววาบ

   “นะ ก็แค่หมั้นกันให้ผู้ใหญ่สบายใจ ยังไงเราก็ยังรักกัน สนุกกันต่อไปได้” เขาก้มลงมาคลอเคลีย และพูดอยู่ใกล้ ๆ ริมฝีปาก และเริ่มไซร้ เริ่มเลียให้ผมเผลอคราง
   
“อาร์ ...ไม่..ไม่เอา ผมเคยบอกคุณแล้วใช่มั๊ย ว่าถ้าวันใดคุณมีผู้หญิง หรือคุณจะแต่งงาน ผมจะหลีกทางให้” ผมพยายามสะกดอารมณ์ใคร่ของตัวเอง เพราะทั้งโกรธ และเสียใจ

   “เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว เต้ คุณก็รู้ผมชอบผู้ชาย เรื่องหมั้นกับผู้หญิงก็แค่เป็นหน้าเป็นตาในสังคมเท่านั้น” เขาหัวเราะ มองผมเหมือนกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่สำหรับผมแล้ว นี่เป็นเรื่องที่เราเคยตกลงกับไว้แล้ว

“ไม่ ไม่ ผมรับไม่ได้ อ๊ะ..” ยังไม่ทันจบประโยคดี เพชรก็กระแทกแรงขึ้น ลึกขึ้น จนผมเริ่มควบคุมตัวเองต่อไปไม่ไหว สติเริ่มจะเลือนราง มีแต่ความเสียวซ่านที่แผ่ปกคลุมไปทั่วร่าง เราเป็นของกันและกันมานาน เขารู้จักร่างกายผมดี รู้ว่าทำอย่างไรจะทำให้ผมอ่อนละลาย หรือร้อนแรงให้ผมลุกเป็นไฟ จนในที่สุดเราทั้งสองก็ถึงจุด ผมปลดปล่อยออกมา พร้อม ๆ กับที่เขาปลดปล่อยไว้ข้างในของผม มันไม่อบอุ่น ไม่รัญจวนใจเหมือนที่ผ่านมา   ค่ำคืนนี้หัวใจผมปวดร้าว แต่ เพชร ไม่เคยรับรู้ เขายังคงเสพสุขจากร่างกายผมต่อไป อย่างหื่นกระหาย น้ำตาที่ไหล ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเลย

หลังจากคืนนั้น ผมก็พยายามจะถอยห่างจากเขา

หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-12-2014 22:37:12
ตามติด เต้ ต่อว่าตามเขาไปที่ห้องง่าย ๆ อย่างนั้น จะลงเอยอย่างไร  :hao3:

******************************************************



ตอนที่ 6 In his room



“อาบน้ำนานจัง” หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพแต่งกายเรียบร้อยแล้ว คุณซัน ซึ่งเดินออกมาจากห้อง ๆ หนึ่งก็ทักขึ้น

“...ขอโทษครับ....” ก็จริงอย่างเขาว่า ผมมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง

“เปล่า ๆ ผมไม่ได้ว่าอะไร แค่คิดว่าคุณอาบน้ำนานจัง หิวมั๊ย?” เขาโบกมือไหว ๆ หัวเราะออกมาเบาๆ

“เอ่อ ไม่ครับ ผมไม่..”
โครกกกกกกกกกกก

“อื้อ เสียงดังดี ...สรุปว่าหิว” ไอ้เสียงท้องร้องเจ้ากรรมทำผมขายหน้าอย่างมาก ด้วยความเกรงใจ ผมรบกวนเขาหลายเรื่องแล้ว ไม่อยากให้ต้องมาลำบากอะไรกับผมอีก แต่เพราะในงานเลี้ยง เมื่อหัวค่ำ ผมแทบไม่ได้แตะอาหารเลย บอกตรง ๆ กินไม่ลง ยิ่งเห็น พวกเขาสองคนเคียงคู่ ยิ่งบาดตาบาดใจ จนอยากจะวิ่งหนีออกมาจากงานตั้งแต่แรกแล้ว

ฮ่ะๆๆ น่าขำจริง ๆ ขนาดอกหัก ช้ำใจอยากจะเป็นจะตาย แต่ร่างกายก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างไม่มีบกพร่อง 

“ห้องผมไม่ค่อยมีของสดหรอก ผมกินข้างนอกซะส่วนใหญ่ แต่มีอาหารแช่แข็ง คุณจะเอาข้าว หรือสปาเก็ตตี้?” ผมล่ะอายเขาจริง ๆ ที่เจ้าท้องผมมันฟ้องซะยกใหญ่ ว่ามันหิว เขาเดินหายเข้าไปทางห้องครัว ก่อนจะโผล่มาแค่หน้า ถามเมนูแช่แข็งที่ผมอยากลิ้มลอง

“เอ่อ.. ขอเป็นข้าวก็ได้ครับ” จริง ๆ ผมกินอะไรก็ได้

“งั้นไปรอในห้องนั่งเล่น โน้นแป๊บ เดี๋ยวผมเวฟให้” เขาชี้ไปทางห้องที่ก่อนหน้านี้ผมเห็นเขาเดินออกมา อ้อ เป็นห้องนั่งเล่น อื้อ ตกลงมันมีกี่ห้องกันเนี๊ยะ


ทันทีที่ผมโผล่เข้าไปในห้องที่เขาบอก ก็ต้องทึ่ง

แม่ง รกโครต ๆ เขาอยู่ได้ยังไงนะ เสื้อผ้าถอดทิ้งพาดตามโซฟา เก้าอี้ ตามพื้นห้องก็ระเกะระกะไปด้วย ขวดเหล้า กระป๋องเบียร์ ยังมีหนังสืออีก กระจัดกระจายบนโต๊ะ จนบางเล่มก็ร่วงลงมากองที่พื้น

เฮ้อ จะปล่อยผ่านก็ได้ แต่ผมก็มารบกวนเขาแล้ว ผมก็ควรจะช่วยเหลือเขาบ้าง จึงถือวิสาสะ รวบเสื้อผ้าไปใส่ในตะกร้ามุมห้อง หยิบถุงพลาสติกบริเวณนั้นเก็บขวดกระป๋องทิ้ง หนังสือก็รวบ ๆ ขึ้นไว้เป็นกองบนโต๊ะ

ก่อนจะเห็นขยะบางอย่างที่ไม่คาดว่าจะพบเจอด้วย....ถุงยางใช้แล้ว.... เอ่อ..คุณมึงเล่นซดกัน ที่ห้องนั่งเล่นเลยเหรอวะ




“อา เสร็จแล้วคร๊าบบบบ  อ้าว โห นึกว่าเข้าห้องผิด ฮะๆๆๆ” เขาที่เดินยกจานข้าวควันฉุยเดินเข้ามาก็ต้อง ชะงักเท้าไปนิด ก่อนจะทำตาโต หัวเราะร่า

“เอ่อ ผมขอโทษที่ถือวิสาสะ..” ก็เก็บลวก ๆ ไม่ได้กวาดเรียบอะไร ก่อนเดินมานั่งตรงข้ามกับคุณซัน ที่ยกข้าวมาวางให้บนโต๊ะ แต่มีแค่จานเดียว

“ไม่เป็นไร ๆ มันรกละซิ แต่ไม่ต้องเก็บหรอก ผมมีแม่บ้านมาคอยเก็บกวาดอาทิตย์ละครั้ง พรุ่งนี้ก็มาแล้ว เลยรกซะเต็มที่เลย เอากินซิ” ชิ ลูกคนรวย จริง ๆ ด้วย มีแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดให้ด้วย อดจะน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ แต่ก็แค่เล็กน้อย เพราะน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้กับผม มันทำให้ผมรู้สึกดี

“แล้วคุณไม่กินเหรอ” ผมค่อย ๆ รั้งจานเข้ามาใกล้ มองเขาก่อนจะตักข้าวเข้าปาก เวลาหิวนี่ อะไรก็อร่อย

“คุณกินเถอะผมอิ่มมาจากในงานแล้ว.... ไม่ว่านะผมขอสูบบุหรี่หน่อย”
“เชิญครับ บ้านคุณนี่นา”

หลังจากมองเขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ผมก็หันมาสนใจข้าวผัดปูตรงหน้าต่อ




(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-12-2014 22:42:39
(ต่อที่ 1)


ผมทำเป็นจุดบุหรี่สูบ จนเห็นว่า เต้ หันไปตั้งอกตั้งใจกินข้าวเงียบ ๆ ท่าทางเหม่อ ๆ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่ได้สนใจผมที่นั่งตรงข้ามเลย

ใบหน้าหวานใส เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ สะกดสายตาของผม ได้เช่นครั้งแรกที่ผมพบเขาในผับคืนนั้น ใบหน้ารูปไข่ได้รูปสวย  เครื่องหน้าเหมาะเจาะ งดงาม ดวงตากลมโตเหม่อลอย หลุบต่ำลง จมูกโด่งแต่ปลายงอนเล็กน้อย ดูท่าทางเหมือนเด็กซน ๆ ริมฝีปากบางสีส้มอมชมพูชวนมอง โดยรวมถ้าจะมองว่าหล่อ ก็หล่อนะ แต่ออกแนวหล่อนหวานซะ

ผู้ชายที่สะกดสายตาผมได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แต่ต้องคลาดกันไป ไม่นึกไม่ฝันว่าจะยังมีโอกาสได้มองดวงหน้าที่ถูกใจนี้ใกล้ๆ อีกครั้ง คงต้องขอบคุณยัยปัน ถ้าไม่ได้มันก็คงจะไม่ได้รู้จักกับเต้

ผมไม่สนใจหรอกว่าเขาเคยผ่านผู้ชายมาก่อน เพราะผมเองก็ผ่านมาเยอะ น่าจะเยอะกว่าเขามาก ผมเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรกับเขาต่อไปดี




(มีต่อ 2)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-12-2014 22:46:04
(ต่อที่ 2)


“มองซะขนาดนั้น กินกันเลยมั๊ย” ถึงจะเหม่อไปหน่อย แต่มีคนมานั่งจ้องมองขนาดนี้ มันก็ต้องมีรู้สึกตัวกันบ้านล่ะ พอได้สติ ก็มาเจอกับสายตาคนตรงข้ามที่มองมาอย่างร้อนแรง ให้รู้สึกร้อนหน้านิดหน่อย

“...แล้วกินได้มั๊ยล่ะครับ” เขาไหวไหล่ ก่อนจะมองทั่วร่างผมด้วยสายตาโลมเลีย

“รอให้ผมอิ่มก่อนก็แล้วกัน ผมจะให้คุณกิน” ขอบอกว่าถ้าอยู่ในสภาวะปกติ ผมไม่มีทางพูดประโยคล่อแหลมอย่างนี้แน่ แต่ความรู้สึกของผมตอนนี้ มันสุดจะบีบคั้นหัวใจ ผมไม่สนใจแล้วว่าร่างกายนี้จะมีใครต้องการหรือไม่ ผมแค่ต้องการอ้อมกอดจากใครซักคน ที่จะทำให้ผมแหลกสลาย หายไปจากความเป็นจริง ดำดิ่งสู่ห้วงหฤหรรษ์ โดยทิ้งเรื่องราวทั้งหลายไว้เบื้องหลัง  ใครก็ได้จริง ๆ





(มีต่อ 3)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-12-2014 22:47:55
(ต่อที่ 3)


“..ก็ดี งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ คุณพร้อมก็เข้าไปรอในห้องนอนได้เลย” ผมอดจะเสียความรู้สึกกับเขาไม่ได้  สีหน้าของผมเปลี่ยนไป เป็นเย็นชา เขากล้า หรือว่า ร่าน หรือว่าจริงๆ แล้วก็มีเซ็กส์กับผู้ชายไปทั่ว ฮึ เห็นหน้าตาหงิม ๆ เงียบ ๆ ไม่แน่อาจฟาดเรียบก็ได้  อดจะคิดดูถูกเขาไม่ได้

ดูสีหน้าเขาก็ตกใจในน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของผมไม่น้อย เขาหลบสายตาผมทันที แต่ผมไม่สนหรอก เอาวะ คิดแค่สนุกกันให้เต็มที่ ทำกันจบแล้วก็แยกย้ายกันไปคนละทาง ที่ผมติดใจเขาคิดว่าเพราะพลาดไม่ได้เขามาตั้งแต่แรก แต่พอได้แล้ว ผมคงไม่สนใจเขาอีก เหมือนกับอีกหลาย ๆ คนที่เข้ามา




(มีต่อ 4)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-12-2014 22:49:50
(ต่อที่ 4)




น้ำเสียงดูถูกนั้น เรียกสติของผม ให้กลับมา ยกมือสองข้างขึ้นปิดหน้า น่าอายจริง ๆ เขาคงคิดดูถูกผมที่ยอมนอนกับเขาง่าย ๆ อับอายที่ เสนอตัวให้คนที่เพิ่งพบกันครั้งแรก และเขายังเป็นคนที่ช่วยเหลือผมหลายอย่างด้วย

ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ แว่วๆ ทำให้ผมตัดสินใจว่า ผมไม่ควรจะมารบกวนเขาแล้ว จึงลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าชุดมอมแมมของตัวเองมาเปลี่ยนกลับ หยิบกระดาษโพสอิทสีเหลือง บนโต๊ะ มาเขียนข้อความบอกขอบคุณและขอโทษที่ต้องลากลับ โดยไม่บอกกล่าว ไปแปะไว้ที่ประตูด้านใน ก่อนจะก้าวออกจากห้อง ล็อกห้องให้แล้วปิดประตูลงเบา ๆ





เที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่ท้องถนนยังคลาคล่ำไปด้วย รถยนต์ รถเมล์ยังวิ่งอยู่ ผมมองหา รถเมล์ที่จะวิ่งทั้งคืน และวิ่งสายระยะทางยาว ๆ เพราะผมไม่รู้จะไปไหนดี จะกลับไปที่ร้านอาหารก็ดึกมากเกินไปแล้ว ป่านนี้นอนกันหมดแล้ว ผมไม่มีกุญแจเข้าร้าน ถ้าต้องไปเรียกให้ใครมาเปิดประตูให้คงไม่ดีแน่ เพราะทุกคนต้องตื่นตั้งแต่หัวรุ่งเพื่อมาเตรียมวัตถุดิบสำหรับร้านอาหารที่จะเปิดในตอนเที่ยงจนถึงค่ำ ส่วนเพื่อนฝูงที่สนิทพอจะไปพึ่งพิงได้ก็ไม่มี ผมไม่ค่อยได้เข้ากลุ่มไปเที่ยวกับพวกมัน เพราะต้องช่วยงานที่ร้านตลอด แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็เพราะผมไม่มีเงินเหลือเฟือ ไปใช้จ่ายกินดื่ม สุลุ่ยสุร่ายด้วย ส่วนคอนโดของเพชร... คงไม่ไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะยังรักเขาอยู่หรือไม่ แต่ผมจะไม่มีวันทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องมารับกรรม กับความมักง่าย เห็นแก่ตัวของผมเป็นอันขาด

สุดท้ายก็คิดได้แค่นั่งรถเมล์มันทั้งคืน ฆ่าเวลา ไปจนกว่าจะใกล้เช้า ค่อยกลับไปที่ร้าน ทุกคนคงจะตื่นแล้ว คนบนรถเมล์มีประปราย  ต่างคนต่างไม่สนใจกัน นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง

เมืองหลวงศิวิไลซ์ แต่ไม่มีใครสนใจใคร ต่างคนต่างดิ้นรนปากกัดตีนถีบ เพื่อปากเพื่อท้องไปวัน ๆ เหนื่อยจัง ง่วงด้วย เมื่อไหร่จะเช้านะ





(มี่ต่อ 5)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-12-2014 22:51:57
(ต่อที่ 5)



ถึงผมจะคิดดูถูกเขา ที่ง่ายจนเหมือนไร้ค่า แต่แค่คิดถึงเวลาที่จะได้สอดใส่เข้าไปในร่างโปร่งบางระหง ผิวขาวเนียน น่าฝากรอยรักไว้ ก็ทำให้รู้สึกตื่นตัว จนกลางกายปวดหนึบ ๆ สายน้ำเย็น ๆ ที่หลั่งมากระทบร่าง ยังแทบจะกลายเป็นไอ เมื่อกระทบกับร่างกายที่เริ่มจะร้อนขึ้น ยิ่งคิดถึงคนที่นอนรออยู่ในห้องแล้ว ก็ทำให้รู้สึก อยากจนแทบคลั่ง เริ่มทนไม่ไหว เลยรีบอาบน้ำให้เสร็จไว ๆ แล้วคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดหัวเช็ดตัวลวก ๆ เปิดประตูห้องน้ำเดินโทง ๆ ออกมาเลย ไม่ต้องเสียเวลาถอดอีก ตรงไปเปิดประตูห้องนอนก็ต้องชะงัก

ว่างเปล่า ไร้เงาคนที่น่าจะนอนรอ ตอนแรกคิดว่าเขาอาจจะอยากเล่นซ่อนแอบ ให้เร้าใจ แต่จนแล้วจนรอด มองหาทุกที่ ก็ไร้วี่แวว เดินออกมาดูห้องอื่น ๆ ก็ไม่มี พลันเห็นกระดาษสีเหลืองเล็ก ๆ แปะอยู่ที่ประตู ก็เดินเข้าไปคว้ามาดู
   # ขอบคุณมากครับสำหรับความช่วยเหลือและอาหาร ผมคงต้องกลับแล้ว ขอโทษที่ไม่ได้อยู่เจอ ผมละอายใจเกินกว่าจะสู้หน้า และขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี#

“รู้สึกไม่ดีเหี้ยไร รู้สึกดีจนน้ำจะพุ่งอยู่แล้ว โธ่เว้ย อย่าให้กูเจออีกนะมึง กูจะเอามึงจนลงจากเตียงไม่ได้เลย เฮ้ย ไม่สิ พรุ่งนี้กูจะไปดักรอมึงที่มหาลัย ยังไง ๆ ก็กูต้องได้มึง ไม่งั้นก็ไม่ต้องเรียกกูว่า ซันซาโนว่าเลย ฮึ๊ย โอ๊ยยยยยยยยยยย” เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวน เขาทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง ทำได้ยังไง ตอนนี้ผมอยากทำกับเขาจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว แต่เขากลับชิ่งผมไปซะนี่ อึดอัดจนต้องระบายกับสิ่งของในห้อง กวาดทุกสิ่งบนโต๊ะลงไปกองที่พื้น ฮึ่มๆๆ แล้วคุณคิดว่าคืนนี้ผมจะหลับลงได้มั๊ย ห๊ะ?






(ไม่มีต่อแล้วจ้า จบตอน)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 15-12-2014 23:02:33
มาถึงก็ชวนซดมาม่าซะผมร่วง   สงสารอ่ะ ไม่อยากให้น้องโดนทำร้ายใจไปมากกว่านี้อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงน้องทิวา  น้องทิว   สงสารพอกันแต่ทิวารายนี้ดีหน่อยที่ตอนนี้ได้พบคนที่รักอย่างจริงๆแล้ว  ยังไงก็สู้ต่อไปนะลูกน้องเต้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 6 In his room
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-12-2014 23:47:51
ไม่ได้แอ้มง่ายๆหรอก >> เต้ไม่ได้กล่าว 55
ซันหวังฟันอย่างเดียวเลยสินะ ระวังจะหลงรักเค้าไม่รู้ตัว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ปล.ชีวิตเต้นี่รันทดได้อีก มาม่ามิอาจสู้ :p
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 7 My brother
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 19-12-2014 20:39:30
จริง ๆ ไม่ถนัดทำมาม่า ถ้าปรุงรสอ่อนไปก็ขออภัยด้วยนะเคอะ  :monkeysad:
ส่วนนายซัน ก็คงคอนเซ็บเดิม ชิล ๆ ทั้งสองฝ่าย น้ำแตกแล้วแยกทาง (แอบเลวนะแกร)  o22
ส่วนน้องเต้ ยังมีอีกหลายมุมให้ติดตาม อะไรที่คิดว่าใช่ อาจไม่ใช่ก็ได้นะ (แอบสปอย)  :really2:


****************************************



ตอนที่ 7 My brother


ผมนั่งรถเมล์ ไปกลับ 2 รอบ แสงเหลืองเรืองรองของแสงอาทิตย์ ก็เริ่มฉายทาบบนเส้นขอบฟ้า อ่า เช้าซะที ผมลงรถที่ป้ายก่อนถึงร้านอาหาร

เดินมาถึงประตูข้างร้าน ก็เจออากู๋ ซึ่งแกตื่นเช้าทุกวัน เพื่อมาจัดการเตรียมเปิดร้านช่วงสาย ๆ อากู๋หันมาเพียงชายตามอง ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะพ่นลมหายใจออกจมูก แล้วหันหลังไปทำงานต่อ คงคิดว่าผมไปเที่ยว แล้วกลับมาตอนเช้า คงไม่อยากจะสนใจ ไอ้หลาน เหลวไหล ไม่รักดี ละซิ

ผมค้อม ๆ ตัว เดินผ่านพี่ชายของแม่ กำลังจะก้าวเข้าตัวบ้าน แต่ก็ต้องชะงักเท้าเพราะเสียงเรียกของอากู๋

“เฮ้ย อาเต้ เย็นนี้กลับเร็วหน่อยนะ วันนี้มีงานเลี้ยงนอกสถานที่ ลื้อเรียนเสร็จแล้วก็ตามไปที่งานเลย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่นจะได้ไม่เสียเวลา”

“ครับ กู๋” หลังพูดสั่งงานเสร็จ กู๋ก็หันไปจับงานของแกต่อ ไม่ได้สนใจอะไรผมอีก

ก้าวเดินไปที่ห้องใต้บันใด ซึ่งต่อเติมเป็นห้องนอนของผมมาร่วม ยี่สิบปีแล้ว กำลังจะเปิดประตูก็ต้องหยุดกึก เพราะ ไอ้เฮียตง มันเดินลงบันไดมาจากชั้นสอง และเหล่ตามองมา จะทำเป็นไม่สนใจมัน ก็ไม่วายที่ปากหมา ๆ ของมันจะพูดให้ผมต้องหันขวับไปจ้องเขม็ง

“ว๊ะ เสร็จกันไปกี่ยกละมึง กลับมาซะเช้าเลย”
“.....” ผมแค่มองหน้ามัน ไม่ได้ตอบโต้ให้เสียอารมณ์ เพราะปากมันก็หมาอย่างนี้เป็นประจำ อะไรที่ไม่ได้ทำ ผมไม่สนใจ หันกลับจะเดินเข้าห้อง

“ชิ ทำเมิน กูจะบอกป๊า ว่ามึงเอากับผู้ชาย”
“ไปบอกเล๊ย ไอ้เฮี้ย ..แล้วอย่าลืมบอกกู๋ด้วยว่า ลูกชายคนเดียวของแกก็จะเอากูด้วย” ว่าจะไม่ตอบโต้ก็เหลืออดจริง ๆ หันไปเผชิญหน้าท้าทาย ยกยิ้มแสยะให้ไอ้เฮีย

“เหี้ย อย่างกูนี่นะจะเอามึง สกปรก ต่ำ นอนแบมากูยังไม่เอาเลย”
“เหอะ งั้นคงหมามั้ง ที่เมื่อคืนมันไซร้กูนะ” ดู๊ ดู ปากมันซิครับ เลี้ยงหมาไว้กี่ตัวก็ไม่รู้

“ไอ้...” ไอ้เฮี้ย หน้าขึ้นสี อ้าปากจะตอบโต้





“เฮ้ย อาตี๋ มาช่วยป๊ารับโทรศัพท์หน่อย ไอ้ฝรั่งมันโทรมาจองโต๊ะอีกแล้ว” เสียงระฆังของกู๋ ช่วยไว้ ไอ้เฮียตง หุบปากทันที

“ครับป๊า....ฝากไว้ก่อนนะมึง” ไอ้เฮีย หันไปตอบกู๋ ก่อนจะหันมาชี้หน้าคาดโทษผม
“เก็บกลับไปด้วย กูไม่รับฝาก” จ้องหน้ามันเขม็ง ก่อนจะเข้าห้องปิดประตูใส่หน้าไอ้เฮีย





เข้าห้องได้ก็ล้มตัวลงบนที่นอนขนาดพอดีตัว เหนื่อย อยากนอนต่อ ยังเช้าอยู่เลย ขอพักซักแป๊บก่อนค่อยอาบน้ำไปมหาลัยก็แล้วกัน

หวังว่าคุณซันคงไม่โกรธที่ผม ออกมาโดยไม่บอกกล่าว ยิ่งคิดยิ่งละอาย เขาคงมองว่าผมเป็นผู้ชายง่าย ๆ ที่จะนอนกับใครก็ได้แน่ ๆ......แต่ช่างเถอะ ยังไงเราก็คงไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว

ส่วนไอ้เฮีย เมื่อคืนมันคงเมาถึงได้ ทำอะไรกับผมอย่างนั้น ปกติมันไม่เคยพิศวาสผมเลย เข้าไกล้ยังไม่ได้เลย ทะเลาะกันตลอด เฮ้อ ทนเอาไว้ไอ้เต้ ไม่นานหรอก เรื่องพวกนี้ก็จะจบลง



(มีต่อ มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 7 My brother
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 19-12-2014 20:43:41
(ต่อ ๆ)


(เฮียตง)




รับโทรศัทพ์ไอ้ฝรั่งให้ป๊า ก็ต้องคุยกับมันดี ๆ ไอ้นี่ก็เรื่องมากชิบ มึงจะมากินก็มาซิวะ ทำยังกับร้านกูเต็มตลอดแน่ะ ยังกับกูไม่รู้ ว่ามึงจะมาจีบไอ้เต้ เห็นมันมากินทีไร ก็ชวนไอ้เต้คุยตลอด แถมยังเห็นกำเงินให้ทิป ไอ้เต้ เป็นเงินดอลล่าอีกต่างหาก แม่งกูก็นึกว่ามันคงได้กันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

หงุดหงิดโว๊ย




ก็รู้ตัวละว่าหงุดหงิดเรื่องอะไร


อิจฉา ไอ้ผู้ชายเมื่อคืน


ถึงผมจะด่าว่าไอ้เต้มันตลอด แต่ใจจริง ๆ แล้ว ผมแอบชอบมันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ญาติผู้น้องที่อาโกว มาคลอดไว้แล้วตายจากไป เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ขาว ๆ ตามแบบคนจีน หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู ตากลมโต แก้มใส ๆ เวลาร้องไห้กะจองอแง จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูดูน่าหยิก ผมหลงรัก เจ้าตัวเล็กแทบจะในทันที


แต่ก็เพราะผมยังเด็กละนะ พอถูกคนอื่น ๆ พูดว่า ล้อไอ้เต้มันมาก ๆ เลยทำให้ผมไม่กล้าแสดงตัวที่จะปกป้องมันจากคนอื่น ๆ และดันเผลอตัวร่วมกับคนอื่น ๆ ว่ามันด้วยเข้าไปอีก กว่าจะรู้ตัว ก็ไม่สามารถจะพูดดี ๆ กับเต้มันได้แล้ว ตัวมันก็มองผมเป็นศัตรู ไม่เคยคุยกันดี ๆ เลย บางครั้งอยากลองพูดกับมันดี ๆ ก็มีอันให้ต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อย

ยิ่งมันโต ยิ่งน่ารัก ผมรู้ว่ามันชอบผู้ชาย เพราะเคยเห็นมันกับผู้ชายคนหนึ่ง ท่าทางไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดาแน่ ยิ่งเห็นมันหายเข้าไปในโรงแรมกัน ก็ยิ่งมั่นใจ ยิ่งแค้นตัวเองที่ไม่ได้มัน ก็ยิ่งหาเรื่องทะเลาะกับมันเข้าไปใหญ่ ผมอิจฉาผู้ชายที่ได้ตัวมัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ผมไม่รู้จะแก้ไข เรื่องระหว่างเรายังไงดี




(จบตอน อิ๊ ๆ สั้นติ๊ดเดียว)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 7 My brother
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-12-2014 21:11:08
โถ เฮียตงชอบน้องเต้แต่ก็ดันเดินเกมส์ผิดมาแต่แรกสินะ... เป็นพวกรักจริงหวังฟันเหมือนซันอีกคนล่ะสิเนี่ย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ปล.ใส่วันที่อัพที่หัวเรื่องด้วยจ๊ะ จะได้รู้ว่าอัพเพิ่มแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 7 My brother
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 19-12-2014 22:11:20
อ๊ะ จ้า ขอบคุณที่เม้นให้นะ จุ๊บ ๆ  :mew1:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-12-2014 08:58:01
ว้า ไม่อยากให้มองเฮียตง ในแง่ร้ายเลย ก็อารมณ์ประมาณพี่ชายหลงน้องนั่นแหล่ะ :hao3:
ส่วนซันน่ะต้องมาลุ้นกันต่อ ว่าเมื่อไหร่จะได้ตัวเต้ อิ๊ๆๆๆ  :hao6:

**********************************************************





ตอนที่ 8 Catch me if you can





“เฮ้ยยยยยยยยยย ไอ้ซัน มึงจะรีบไปไหนวะ แล้วมึงจะไปงานไอ้ปันมั๊ย?”

ได้ยินเสียงไอ้กบเรียกตามหลังมาแว่ว ๆ จับใจความไม่ได้ แต่ผมก็ไม่คิดจะสนใจหันไปมอง เพราะวันนี้ ยังไง ๆ ผมต้องได้เจอ เต้ ไม่ใช่แค่เจอหรอก ผมต้องได้ตัวเต้มานอนครางบนเตียงผมให้ได้ ชดเชยกับที่เมื่อวานทำผมค้างซะขนาดนั้น

ควบรถคู่ใจตรงไปที่มหาลัย M แทบมิดไมล์ รู้มาจากไอ้ปัน ว่าเต้เรียนอยู่คณะบัญชี พอเข้ามหาลัยได้ ก็ตรงเข้าไปหาที่จอดแอบใกล้ ๆ กับทางขึ้นตึกของคณะบัญชี สายตาก็จ้องไปตรงทางขึ้นลง ไม่วางตา เห็นนักศึกษาเข้าออกมากหน้าหลายตา แต่ก็ยังไม่เห็นคนที่หมายตา

รู้สึกว่าจะรอมานานเกินไปแล้ว นักศึกษาชักบางตา หรือผมจะมารอผิดที่ จึงลงจากรถ เดินไปถามกลุ่มนักศึกษาสาว กลุ่มหนึ่ง ซึ่งผมเห็นว่านั่งอ่านหนังสือกันอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ผมจะมาถึง

“อ้อ พี่เต้ เหรอค่ะ เห็นวิ่ง ๆ ออกไปจากคณะตั้งแต่ยังไม่ทันหมดคาบสุดท้ายเลยคะ สงสัยจะรีบมาก เห็นวิ่งหน้าตั้งเลย”

ผมยิ้มขอบคุณ สาว ๆ ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าไปนั่งในรถ พอปิดประตูได้ก็สบถเสียงดั่งลั่นรถ

“สัส ถึงว่าแม่งรอตั้งนานแล้วยังไม่เห็น เสือกชิ่งกลับก่อนซะได้ หรือมันจะรู้ว่ากูจะมาดักฉุด” อารมณ์เสีย ทุบพวงมาลัยไปหลายที

“กูบอกแล้ว ว่าวันนี้ถ้ากูไม่ได้เอามึง กูไม่ยอมแน่ ฮึ่ม ไปดูมันที่ร้านอาหารนั่นก่อน ยังไงก็หนีกูไม่พ้นหรอกวันนี้” ฉุนขาด ที่ยังคราดกันอีก แต่ก็คิดได้ว่ารู้จักร้านอาหารมันนี่นา เลยหันพวงมาลัย ออกจากมหาลัยดังเฟี้ยว





ผลั๊ก
แม่งต้องมานั่งทุบพวงมาลัยอีกรอบ วันนี้มันวันอะไรวะ คราดกับมันตลอด ขบฟันด้วยความโกรธ หันไปมองไอ้ป้ายกระดาษ A4 หน้าร้านอาหารที่ปิดประตูสนิท อย่างหัวเสีย 

   ***ขออภัย วันนี้ปิดร้าน มีงานนอกสถานที่***


“เหี้ยๆๆๆๆ มันอะไรกันวะ ตกลงกูจะไม่ได้เอามึงใช่มั๊ยวันนี้” สะบัดมือเอนตัวพิงเบาะอย่างแรง เพื่อคลายอารมณ์เดือด ยกสองมือขึ้นเสยผม วันนี้ ผมก้าวเท้าไหนออกจากคอนโดวะ รู้สึกพลาดตลอด เฮ้ยยยยย


TTTTTTT

กำลังพยายามกำหนดลมหายใจเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือข้างตัว อารมณ์ไม่ดีไม่อยากคุย แต่พอมองเห็นว่าเป็นยัยปัน จึงยกขึ้นมากดรับ

“มีไรวะ” กรอกเสียงไปตามสายอย่างคนอารมณ์บ่จอย
“อ้าวไอ้นี่ เป็นอะไรยะ เสียงแข็งมาเชียว” ยัยปันพอได้ยินเสียงผม ก็ตอบกลับมาเสียงแข็งไม่แพ้กัน

“เออ ไม่มีอะไร แล้วแกโทรมาทำไม” ผมไม่อยากคุยกับใครตอนนี้
“เอ๊ะ ไอ้นี่ ไม่มีจะโทรหาแกทำไม ไหนแกบอกจะช่วยฉัน ทำไมมันยังตามมาเกาะแกะเพชร อยู่ในงานเนี่ยะ”

“งาน ? ...งานอะไร”
“ไอ้บ้า ก็แกวิ่งออกมาตอนจบคาบสุดท้ายก่อน เลยชวนไม่ทัน วันนี้คุณพ่อของเพชร เขาจัดงานเลี้ยง รับรองท่านทูตจากXXXXX ที่บ้านของเพชรนะซิ ฉันเลยชวนพวกแกไปด้วย แต่ที่ไหนได้ เพชรก็ชวนพวกเพื่อนเขามาด้วย รวมถึงมันด้วย หนอย มันบังอาจมาทำหูตาแพรวพราวใส่เพชร อย่าให้ฉันเหลืออดนะ แม่จะลากมาตบกลางงานเลย”

“เฮ้ย ไอ้ปัน ใจเย็น ๆ ปล่อยมันให้กู เดี๋ยวกูจัดให้ จะไม่ให้มันไปยุ่งกับคู่หมั้นมึงอีก”

“เออ มึงมาเร็ว ๆ แล้วกัน ก่อนที่กูจะทนไม่ไหว”

“เออ ๆๆ ไม่เกิน ครึ่งชั่วโมงถึง”



หึ ๆๆ แสยะยิ้มมุมปากก่อนที่จะ หักพวงมาลัย ตีกลับไปที่บ้านของไอ้เดือนมหาลัย

“บอกแล้วเต้ มึงหนีกูไม่พ้นหรอก”





(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-12-2014 09:10:17
(มาต่อ ๆ)

วันนี้รีบมาก เลยรีบวิ่งไปขึ้นมอไซด์รับจ้างหน้ามหาลัย แทนการขึ้นรถเมล์ ทำให้ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ที่จัดงานเลี้ยง แล้วจ้างให้ที่ร้านมาทำอาหารเสริฟในงาน

อือ ถ้าใหญ่ขนาดนี้ ผมว่าเรียกคฤหาสน์จะเหมาะกว่า บรรยากาศยามเย็นย่ำ ส่งให้ตัวตึกที่เปิดไฟส่องสว่าง แลดูงดงามตระการตา ส่วนที่จัดงานประดับประดาไปด้วย ดอกไม้ และไฟประดับ หลากสี ละลานตา แต่ผมก็ไม่มีเวลา ชื่นชมอะไรมาก เพราะต้องรีบ ๆ เปลี่ยนชุดพนักงานเสริฟ ไปช่วยงานทันทีที่มาถึง

แขกเหรื่อเริ่มทยอยกันเข้ามาในงาน ทางร้านจัดโต๊ะ และเริ่มจัดอาหารคาวหวาน วางไว้เต็มโต๊ะ ซึ่งเป็นปาร์ตี้แบบบุฟเฟ่ต์ แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องทำอาหารจานพิเศษ คอยเสริฟแยกต่างหาก

ผมเองตอนนี้วิ่งวุ่น ระหว่างในครัว (ที่ใช้เต็นท์ เป็นครัวชั่วคราว) กับโต๊ะของแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย โดยไม่ได้หันไปสนใจรอบตัว จึงทำให้ไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมองผมอยู่ไม่วางตา

“อาเต้ เอานี้ไปเสริฟ ด้านในตึกหน่อย พ่อบ้านเค้าสั่งมา” อยู่ ๆ โกหมู พ่อครัวใหญ่ของร้าน ก็ส่งถาดที่มีหม้อซุปหูฉลามน้ำแดงที่อยู่ในหม้อดินสีน้ำตาลดูหรูหรา ใส่มือผม ที่กำลังจะยกปลาเก๋านึ่งบ๊วย ไปเสริฟโต๊ะที่สวน

“โก อะไรอ่ะ ผมยังไม่ว่างเลย” บ่น แต่ก็วางจานปลา หันมาถือถาดสองมือแทน

“เฮ้ย วาง ๆ ไว้ก่อน อาพ่อบ้านอีมาบอกว่าอยากให้ลื้อเข้าไปเสริฟให้หน่อย” โกหมูพูดเสร็จก็หันกลับไปทำอาหารจานต่อไปอย่างเร่งรีบ

“ไรว้า เรื่องมากจริง” บ่นอุบอยู่คนเดียว แต่ก็จำต้องยกถาดเข้าไปในตัวตึก ก้าวเท้าเข้าไปก็เจอคุณพ่อบ้าน สูงวัย ท่าทางเคร่งขรึม รออยู่ คุณพ่อบ้านไม่ได้พูดอะไรแค่มอง และกลับตัวเดินนำขึ้นไปที่ชั้นสองของคฤหาสน์ ให้ผมต้องเร่งฝีเท้าตามแทบไม่ทัน

ผ่านห้องที่มีประตูสลักเสลาอย่างสวยงามไปหลายบาน จนถึงห้องริมสุดซึ่งลวดลายบนบานประตูก็งดงามไม่แพ้บานอื่น ๆ คุณพ่อบ้านหยุดยืน หน้าประตู เคาะเบา ๆ สองที ได้ยินเสียงอนุญาต จากภายในแว่วๆ คุณพ่อบ้านเปิดประตู แล้วผายมือให้ผมเดินเข้าไปในห้อง

ห้องสวยงาม ตกแต่งด้วยผ้าม่าน และภาพเขียนวิจิตรงดงาม ทั้งเฟอร์นิเจอร์ก็หรูหรา จนทำให้ผมรู้สึกประหม่า จะเดินไปวางถาดก็ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน จึงเดินไปที่โต๊ะตัวหรูกลางห้อง วางไว้เสร็จแล้วก็รีบหันหลัง จะออกไป แต่มองไปที่ประตูที่เข้ามา กลับปิดไปแล้ว คุณพ่อบ้านที่เคยยืนอยู่หน้าประตูก็หายไปด้วย ทำให้ผมงง ก่อนจะมีมือปริศนาสวมกอดเอวผมไว้

“อ๊ะ อะไรกัน....เพชร” ตกใจรีบหันไป แต่ก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจอคนที่ไม่คิดว่าจะมาเจอที่นี่

“เต้ ผมคิดถึงคุณจัง” เขาไม่พูดอย่างเดียว ก้มลงมาใช้จมูกหอมแก้มผม ฟอดใหญ่ มือใหญ่ตะคองกอดผมที่กำลังยืนตะลึงนิ่ง งุนงง และตกใจ กว่าจะเรียกสติคืนได้ มือใหญ่ก็ล้วงเข้ามาสัมผัสแผ่นหลังผมให้ต้องสะดุ้ง

“อ่ะ เพชร ปล่อยผมนะ” พอสติมาก็เริ่มจะดิ้น มือไม้ปัดป่ายเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของมือใหญ่

“เต้ครับ อย่าใจร้ายกับผมซิครับ ผมคิดถึงคุณ อยากกอดคุณ จะแย่แล้ว” แต่แรงผมก็สู้เพชรไม่ได้ ทำได้แค่เอียงหน้าหนี จมูกกับปากที่คอยแต่จะเข้ามาดอมดม

“ปล่อยผมก่อน เพชร คุณมาทำอะไรที่นี่?” ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ทำไมเพชรถึงมาอยู่ที่นี่ ก็ถูกร่างหนาหนักของเพชรดันให้ล้มลงบนโซฟาตัวใหญ่

“หือ ทำไมล่ะ ก็ที่นี่บ้านผมนี่นา” คนด้านบนยิ้มหวาน หล่อละลายใจ

“บ้านคุณ? ..” แต่ก็ใช้กับผมไม่ได้ในนาทีนี้ คำตอบยิ่งทำให้ผมตื่นตระหนก

“ใช่ครับผม ก็คุณไม่เคยถาม ผมก็ไม่เคยพาคุณมา คุณจะไม่รู้ก็ไม่แปลก” เพชร ยังคงลุกล้ำต่อเรื่อย ๆ โดยการไซร้ซอกคอ และกระซิบเสียงพร่าที่ข้างใบหู ให้รู้สึกขนลุกซุ่

“.......อย่าบอกนะว่า ที่จ้างให้อากู๋ผมมาก็.....” หดคอหนี ถึงจะเคลิ้มกับสัมผัส แต่ก็ยังมีสติคิดเรียบเรียงเรื่องราว

“ครับผม คุณคิดถูกแล้ว ผมเป็นคนจัดการให้เค้าไปจ้างร้านคุณมาเอง...ก็คุณน่ะ เอาแต่หลบหน้า ผมไปหาคุณที่คณะก็ไม่เจอ ผมอยากพบคุณ ผมคิดถึงคุณ ผมอยากอธิบายให้คุณเข้าใจ”

“ยังจะมีเรื่องอะไรต้องอธิบายอีก..”

“ก็เรื่องที่พ่อแม่ของผมจะให้ผมหมั้นกับ ปันปัน นะซิ คุณก็รู้ ว่าผมรักคุณคนเดียว ที่ต้องหมั้นก็เพราะพ่อแม่บังคับ”

“เพชรครับ ผมว่าเราคุยกันจบไปแล้วนะครับ”

“ผมไม่ยอมรับครับ ผมไม่เลิกกับคุณหรอกนะครับ”

“คุณพูดไม่รู้เรื่องเหรอ ก็เรา อื้อออ...” กำลังจะตอบโต้กลับ ก็เป็นจังหวะให้ เพชร ฉกจูบมาอย่างไว กายหนาบดเบียด ทาบทับทั้งร่าง ที่ผมยิ่งดิ้น  ก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของเราทั้งคู่ ให้กระเจิดกระเจิง เพชรยังคงใช้ปากจู่โจม โลมเลีย กวาดต้อนให้ผมต้องเผยอปากรับลิ้นร้อน ที่ตามเข้ามาไล่เลียทั่วโพรงปาก จนเผลอครางเสียงกระเส่า

ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา เขารู้จักผมดีทุกซอกทุกมุม รู้จุดอ่อน จุดระทวยของผมเป็นอย่างดี เพชรไม่รอช้าเขาจูบ จาบจ้วงตามจุดให้ผมต้องเสียวกระสัน เผลอแอ่นตัวตามรอยลิ้นที่ลากผ่านหน้าอก และขบกัดที่ตุ่มไตให้ทั้งเจ็บทั้งเสียว

“อ๊ะ เจ็บ ..เพชร อย่า อ๊ะ อ๊า”

เพชรล้วงมือเข้าไปในกางเกงกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผม บีบหนัก ๆ เน้น ๆ จนปวดร้อนแทบระเบิด









ก๊อก ๆๆๆ



“เพชรคะ เพชร ทำอะไรอยู่คะ แขกเหรื่อ เริ่มมากันแล้วนะคะ เขาถามหาคู่หมั้นปัน กันอยู่นะคะ”



“ชิสส์” เพชรสบถเบา ๆ ก่อนจะเคลื่อนตัวออกมานั่งข้าง ๆ สายตาปรารถนา จ้องมองผมที่เสื้อผ้าหลุดลุย หายใจเหนื่อยหอบ หน้าแดง เพราะแรงอารมณ์ นอนระทวย หมดแรงต้านทาน

“มารคอหอย” เขากัดฟันกรอด ส่งเสียงรอดไรฟัน ฟังดูน่ากลัว ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากชื้นเหงื่อ ของผม แผ่วเบา แล้วผละออกไป โดยไม่พูดอะไรอีก





ผมที่นอนสั่น ๆ ระงับอารมณ์ป่วน ๆ อยู่ซักพัก จนรู้สึกเริ่มจะคลายอารมณ์ลงบ้าง ลุกขึ้นมาจัดแจงแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อย ตอนนี้ในหัวมีแต่เสียงอื้ออึงไปหมด มันตีกันมั่ว ระหว่างอารมณ์กับเหตุผล ผมไม่เคยรักใครมาก่อน เพชร เป็นคนแรกที่ผมรัก และรักมากด้วย ไอ้ที่คิดจะตัดใจ มันไม่ง่าย อย่างที่คิดเลย ยิ่งพยายามหนี ก็เหมือนยิ่งอยากเจอ.........................


คงต้องทำอะไรซักอย่าง หักดิบกันไปเลย เพื่อจะได้ขาดจากกันซักที




(มีต่อ แต่ค่อยมาต่อ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-12-2014 22:34:07
(มาต่อแล้วจ้า)


ไม่นานผมก็ขับรถเข้ามาจอดในคฤหาสน์หรูของเจ้าสัวใหญ่ ผมสอดส่ายสายตามองหาเขา ทั่วทั้งงานก็ไม่พบ กำลังจะเดินเข้าไปแถวที่เต็นท์ที่ตั้งของครัว ก็เห็นเพื่อนสาวของผม เดินหน้ามุ่ยมาแต่ไกล

“ไอ้ซัน แกจัดการยังไงกัน ทำไมยัยนั่นยังมาตามเกาะแกะเพชร อยู่ได้ เมื่อวานแกไม่ได้จัดการอะไรเลยรึไง” พอถึงตัว ยัยเพื่อนตัวดี ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อว่าผมเป็นการใหญ่ ทำให้ผมที่หัวเสียมาทั้งวันเพราะยังไม่เจอตัวคนที่หมายตัวเอาไว้ ยิ่งหัวเสียหนักเข้าไปใหญ่

“เมื่อวานกูก็เกือบจะจัดการได้อยู่แล้วเชียว แต่มันพลาดไปหน่อย วันนี้กูก็ตามหามันทั้งวัน ยังไม่เจอเลย มึงอย่าเพิ่งใจร้อนไป เมื่อวานกูคุยกับมันแล้ว มันบอกจะไม่มายุ่งกับคนของมึงอีก ให้มึงสบายใจได้” ถึงจะหัวเสีย แต่ก็พยายามบอกให้ยัยนี่เบาใจไว้ก่อน ผมไม่อยากให้หล่อนทำอะไรรุนแรงกับเขา

“สบายใจบ้านมึงดิ มึงแหกตาดูนั่น ๆ เห็นมั๊ย? ว่ามันมานั่งอี๋อ๋อกับเพชรอยู่นะ” ยัยปันทำหน้าตาน่ากลัว จับหน้าผมให้หันไปในทิศทางที่ คู่หมั้นของหล่อนกำลังนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งที่ท่าทางสนิทสนมมากกว่าใครเพื่อนยืนเกาะแขนคู่หมั้นไอ้ปัน หัวเราะร่า

“ไหน ๆ ไม่เห็นมีเขาอยู่ตรงนั้นเลย?” ผมก็มองตามอย่างงง ๆ ทั้งกลุ่มผมไม่เห็นเต้เลย

“.....” ยัยปันนิ่งไป ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือมาลาก ๆ กด ๆ ยิ๊กๆๆ แล้วเอาโชว์แทบจะแป๊ะหน้าผม ซึ่งก็เป็นว่าเป็นรูปที่ยัยปันเคยให้ผมดูตอนชี้ตัวเต้

“อะไร เอามาให้ดูทำไม?” ผมก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

“ที่ฉันบอกแกนะคือผู้หญิงคนนี้โว้ย ซึ่งตอนนี้มันก็กำลังแทบจะสิงร่างเพชรของฉันอยู่แกเห็นไหม แล้วแกบอกว่าแกคุยกับใคร ห๊ะ ไอ้ซัน” ยัยปัน จิ้ม ๆ ไปที่ผู้หญิงคนที่ 4 จากขวามือ

“เฮ้ย อะไร ก็ไหนแกบอกคนที่ 3 ไง”
“ก็คนที่ 3 นะซิยะ”

“มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ไอ้ปัน ก็นี่ไง 1 2 3 คนเนี๊ยะ” ผมที่ข้องใจว่ามันอาจจะเข้าใจอะไรผิด ก็นับให้มันดูถึงคนที่ 3 ในภาพ ว่าเป็นชายหนุ่มหน้าหวานที่ทำให้ผมหัวเสียมาทั้งวัน

“ฮึ๊ย ไอ้บ้า ไอ้ซัน นี่มันผู้ชายไม่ใช่เหรอ นับแต่ผู้หญิงซิวะจะนับผู้ชายทำไม เพชรไม่ใช่พวกวิปริตนะ” ยัยปันแทบกรี๊ดแตก ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ในงานที่ผู้รากมากดี พลุกพล่าน หล่อนคงตบหัวผมคว่ำไปแล้ว

สรุปนะครับ คือคนที่ 1 และ 2 เป็นผู้หญิง 3 เป็นเต้ 4 เป็นเป้าหมายของยัยปัน ซึ่งที่มันบอกคนที่ 3 น่ะ มันหมายถึงผู้หญิงอย่างเดียวคนที่ 3  โธ่เอ๊ย ควายกันจริง ๆ คุยกันคนละเรื่องเลย ไอ้ผมด้วยความที่เคยเห็นทั้งคู่ นัวเนียกันมาก่อน ก็ต้องเข้าใจว่าเป็น ผู้ชายคนนี้นี่นา

แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้จะคนไหนผมก็ไม่สนใจทั้งนั้น ปล่อยยัยผู้หญิงคนนั้นให้ ไอ้ปันมันจัดการเองแล้วกัน เพราะผมสนใจแต่กับคนที่หมายตาไว้เท่านั้น




“ปันครับ คุณพ่อคุณตามหาอยู่นะครับ”

“ค่ะเพชร งั้นเราไปหาคุณพ่อกันนะคะ”

“เอ่อ ขอโทษทีนะปัน ผมรู้สึกเหนื่อย ผมขอตัวไปพักที่ห้องแป๊บนะครับ”
“เดี๋ยวซิคะเพชร อะไรกัน ปันเพิ่งไปตามคุณมาจากห้องเองนะคะ อะไรนี่ จะเข้าห้องอีกแล้วเหรอคะ นี่ชักสังสัยแล้วนะคะ ว่าคุณซุกใครไว้ในห้องรึเปล่า”

“เปล่านะครับ จะมีได้ยังไง ผมเหนื่อยจริง ๆ เพิ่งสอบเสร็จด้วย ใช้สมองไปเยอะ ก็อยากพักบ้าง แล้วงานวันนี้ก็ของคุณพ่อ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย”

“โถ งั้นปันไปเป็นเพื่อนนะคะ”
“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ครับ ปันอยู่รับแขกก่อนดีกว่า หายไปทั้งสองคนจะดูไม่งาม”

“คิก ๆๆ ไม่เป็นไรหรอกคะ ใคร ๆ เขาก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“เอ่อ งั้นเราอยู่รับแขกันก่อนก็ได้ครับ ผมว่าอย่าหายไปทั้งคู่เลย”

“เหรอคะ เอางั้นก็ได้คะ ว่าแต่เพชรคะ สอบเสร็จแล้วนี่นา เราไปเที่ยวทะเลกันดีมั๊ยคะ?”
“เอ่อ เดี๋ยวดูก่อนนะครับ ว่าคุณพ่อยังมีโปรแกรมให้ผมต้องทำอะไรอีกรึเปล่า”



“เอ่อ อย่าหาว่าผมยุ่งเลยนะครับ แต่ครอบครัวผมมีรีสอร์ทที่ทางใต้ ถ้ายังไง ๆ ก็ยินดีต้อนรับคุณทั้งคู่นะครับ”
“ดีจังเลยคะเพชร  แกต้องลดค่าห้องให้ฉันด้วยนะซัน”
“ขอบคุณครับคุณซัน”

“เอ่อ อาหารในงานอร่อยมากเลยครับ”
“อ้อ ร้านของคนรู้จักกันนะครับ”
“แนะนำคนรู้จักให้หน่อยซิครับ อยากจะไปทานที่ร้าน”
“.....ไว้จะแนะนำให้นะครับ”
“.......” หึ มึงจะกั๊กไว้ทำซากอะไรวะ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร กูรู้อยู่แล้วว่ายังไง ๆ เต้ก็หนีกูไม่พ้นหรอก  มองหน้าคนทั้งคู่อีกครั้งก่อนจะขอตัวเดินไปหา เต้ในงานต่อ มองเข้าไปที่เต็นท์ครัวก็ไม่เห็นวี่แวว เห็นพนักงานร้านถือถาดเครื่องดื่มเดินผ่านมาจึงเรียกตัวไว้ถาม

“อ้อ มาครับ น้องเต้ เมื่อกี้ยกอาหารตามคุณพ่อบ้านเข้าไปเสริฟในตัวตึกนะครับ”
“อือ ขอบใจนะ”

หันไปมองที่เพชรทันที เหอะ นี่ซินะ สาเหตุที่อยากจะกลับเข้าไปที่ห้อง นัดกันมากกถึงบ้าน ไหนว่าจะไม่ยุ่งกับเพชรแล้ว ตอแหลสิ้นดี





(ต่อ ๆ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-12-2014 22:59:04
(ต่อ ๆ)


กว่าจะจัดการตัวเองให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ก็ใช้เวลาพอสมควร รีบ ๆ เดินลงมาจากข้างบน เดินออกมาจากตัวตึก ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน เพราะกลัวที่จะเจอกับเพชรอีก  รีบเดินไปที่เต็นท์ครัวทันที ไม่มีใครว่าอะไร เพราะคงยุ่ง ๆ กันอยู่เลยไม่รู้ว่าผมหายไปซักพักใหญ่แล้ว เห็นถาดเครื่องดื่มวางอยู่ จึงยกเดินออกมาอีกครั้ง ตรงไปที่สวน



“ไง”
“คุณ..คุณซัน” ตกใจสะดุ้ง ไม่คิดว่าจะได้เจอคน ๆ นี้ ที่นี่ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้รู้สึกไม่กล้าสู้หน้า

“เห็นพูดซะดิบดี ไม่คิดว่าลับหลังจะไร้ยางอาย”
“.....คุณพูดอะไรของคุณ” แต่จากคำพูดที่เย็นชา ผิดกับคนเมื่อคืนที่ให้ความช่วยเหลือ ทำให้ต้องหันไปมองตรง ๆ อย่างไม่เข้าใจในความหมาย

“ขนาดมาให้เขาเอาถึงที่ได้นี่ ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ”
“คุณ...ขอโทษนะครับ ถ้าไม่มีอะไรสร้างสรรค์กว่านี้จะพูดแล้วละก็ ผมขอตัวไปทำงานต่อ” หน้าชาไปในทันที รู้สึกโกรธจี๊ดขึ้นมา อะไรกันทำไมผมจะต้องถูกดูถูกจากสิ่งที่ผมไม่ได้กระทำด้วย แต่จะโต้ตอบก็คงไม่ดีแน่ เพราะถ้าเกิดการทะเลาะวิวาทกันในงาน คนที่จะลำบากก็คือ อากู๋ จึงชักเท้าหลบ จะเดินเลยไป

“งาน? งานอะไรครับ บำเรอกามไอ้เพชรนะเหรอ?”
“คุณ....” ทนไม่ไหวแล้วโว้ย คนไม่ยุ่งด้วยก็ยังจะตามมาราวี ความอดทนขาดผึง ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาสาดไปที่หน้าของไอ้หมอนั่น โดยไม่ทันยั้งคิด

แต่พอได้สติก็ต้องตกใจ จะเข้าไปเช็ดให้ แต่แขกเหรื่อในงานก็ส่งเสียงโวยวาย ตกอกตกใจกันใหญ่ คนในครัวก็หน้าตาตื่น วิ่งออกมาดู อากู๋ และพ่อบ้านมาถึงก็ก่อนใครเพื่อน

“เกิดอะไรขึ้น อาเต้?” อากู๋ จับแขนให้ยืนห่างออกมาจากคู่กรณี ถามขึ้นด้วยสีหน้าดูตกใจ

“อะไรกันครับเนี๊ยะ” คุณพ่อบ้าน รีบ ๆ กุลีกุจอ หยิบผ้าเช็ดหน้าส่งให้คุณซัน เช็ดเนื้อเช็ดตัว แล้วหันมามองหน้าผม อย่างคาดคั้น

“เอ่อ อากู๋ ผม ผม...” ผมก็อยากอธิบาย แต่มันไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี

“เกิดอะไรขึ้นคะ?  ว้าย ซัน ทำไมเปียกแบบนี้ละ?” คู่หมั้นและเพชรเดินมาถึงพร้อมกัน เธอที่เห็นสภาพเพื่อนเปียกโชก ร้องออกมาอย่างตกอกตกใจ

“เอ่อ ผมขอโทษครับ ผมซุ่มซ่ามไปหน่อย” ผมซึ่งรู้ว่าตัวเองผิด ก็ก้มหัวขอโทษทันที ถึงในใจจะคิดว่าที่ทำไปก็เพราะโดนยั่วยุให้โกรธต่างหาก

“ต๊าย เต็มหน้าซัน แกบอกซุ่มซ่ามไปหน่อย ไม่หน่อยละ อะไรกันพนักงานร้านนี้ทำไมไร้มารยาทอย่างนี้ ซุ่มซ่ามหรือจงใจกันแน่” แต่ดูเธอจะไม่รับการขอโทษครั้งนี้ เดินเข้ามาจะกระชากแขนผม แต่อากู๋ คว้าตัวผมเบี่ยงมาอยู่ด้านหลังท่าน

“ปัน พอเถอะ เขาคงไม่ได้ตั้งใจ” หล่อนยังไม่หยุดที่จะเข้ามาทำร้ายผม เพชรรีบ ๆ เข้าไปจับเธอไว้ ให้ใจเย็น ๆ

“เพชรคะ ช่างไม่ได้หรอกคะ เราจ้างเขามานะคะ จะมาเสียมารยาทกับแขกเราได้ยังไงกันคะ” แต่คุณคู่หมั้นก็ยังไม่ละความพยายามที่จะเอาผิดผมให้ได้


เผี๊ยะ
“อาเต้ ขอโทษคุณ ๆ เขาซะ ลื้อนี่จริง ๆ เลยใจร้อนวุ่นวายกันไปหมด”
“....” อากู๋ตบต่อหน้าแขกมากมาย ถึงจะไม่แรงมาก แต่ก็ทำให้หน้าชาไปเลยทีเดียว คู่หมั้นเพชร ถึงกับอึ้งเงียบไปเลย ก่อนที่จะเห็นรอยยิ้มสะใจผุดขึ้นบนใบหน้าสวย ผมก็รู้ว่าอากู๋ต้องการจะแก้สถานการณ์ แต่มันบีบคั้นหัวใจจริง ๆ ที่ต้องกล่าวคำขอโทษในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำผิด

“...ขอ ...ขอโทษครับ” ผมกล่าวคำขอโทษอีกครั้ง เสียงแผ่ว ทุกคนดูจะรับได้กับการขอโทษหลังจากถูกอากู๋ตบครั้งนี้ แต่



“ขอโทษนะไม่หายหรอกนะ ดูซิ ชุดของผมแพง ๆ เปียกหมดแล้ว” เขาพูดขึ้นมากลางวง จนผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าเขาจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนี้

“เอ่อ เดี๋ยวทางร้านจะรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครับ อาเต้ ลื้อเข้าไปในครัวไป” เป็นอากู๋ ที่ออกโรงรับหน้าแทน ก่อนจะหันมาไล่ให้ผมกลับเข้าไปในครัว ซึ่งผมคิดว่าคงจะไม่ได้ออกมาช่วยเสริฟอะไรอีกแล้ว

“ไม่ครับ ผมต้องการจะเคลียร์กันตอนนี้เลย คุณออกไปเคลียร์กับผม”
คุณซันที่ทำท่าทางไม่พอใจ คว้ามือผมไว้ แล้วจะลากออกไป แต่ก็มีอีกมือหนึ่งของ เพชร มาฉุดมืออีกข้างของผมไว้ คุณซันหันมามองด้วยสายตาวาวโรจน์ ก่อนจะปัดมือเพชรออก แล้วกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่ 3 คน  “มึงอยากฉาวโฉ่ในงานพ่อมึงก็เอาซี่”  “ไอ้...” เพชรกัดฟันกรอด ยอมถอยออกไป แต่จ้องมองพวกเราเขม็ง

“เพชรคะ เกิดอะไรขึ้น?”
“เปล่าครับ เต้เป็นเพื่อนผม ผมก็เลยถามดูเผื่อจะช่วยอะไรได้”

“ขอบคุณครับคุณเพชร แต่เรื่องของเรา เราเคลียร์กันเองได้ ไปกับผมเต้”
“นั่นซิคะ อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย”

เพชรยังเหลียวมามองเป็นระยะ ๆ ในขณะที่คุณซันลากผมออกจากงานท่ามกลางสายตาของทุกคนในงาน






คุณซัน ฉุดข้อมือผมลากออกมาทางที่จอดรถ พอถึงตัวรถก็เปิดประตูข้างคนนั่ง จับผมยัดผมเข้าไปในรถ ปิดประตูตามเสียงดังลั่น ก่อนที่ตัวเขาจะเดินไปขึ้นฝั่งคนขับ แล้วติดเครื่อง ขับออกจากรั้วคฤหาสน์ทันที

“เอ่อ...จะ จะไปไหนเหรอครับ” หลังจากออกสู่ท้องถนนซักพัก ผมที่ทนความเงียบไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน

“เปียก ๆ อย่างนี้ คิดว่ากูจะไปไหนได้” ......ผมงี้ถึงกับผงะ กับสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้ หัวคิ้วขมวดมุ่น ไอ้เหี้ย ที่เราสนิทกันขนาดขึ้นมึงขึ้นกูแล้วเหรอ

“มองไร?” ผมรีบหลบสายตาทันควัน ท่าทางเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดี ผมเองก็ทำผิด อย่าหาเรื่องเพิ่มจะดีกว่า เลยหันหน้าออกไปมองท้องถนน ผ่านกระจกฝั่งตัวเอง มอง ๆ ได้ซักพัก ก็เริ่มจะเหม่อลอยคิดไปเรื่อยจนไม่ได้สนใจคนขับหน้ายักษ์ข้าง ๆ แล้ว

ก็ดีเหมือนกันที่ออกมาจากงานนั้นได้ เมื่อกี้ตอนเพชรฉุดมือไว้ ใจหายวาบ เขากล้าทำต่อหน้าแขกเหรื่อในงานมากมายได้ยังไง ถึงจะตกใจแต่ก็ดีใจ ที่เขาแคร์.......แต่ก็กลัวความจะแตก ดีว่าคุณซันลากออกมาก่อน  เฮ้อ พรุ่งนี้คงต้องตอบคำถามกู๋ยาวแน่ น่าเหนื่อยใจจริง ๆ






เหม่อไปเรื่อย จนเริ่มรู้สึกตัวเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าคอนโดที่คุ้นตา ผมเงยหน้ามองตัวตึก แล้วก็หันมามองหน้าคนขับที่หันมามองผมด้วยสายตาอ่านไม่ออก

“มองหน้าทำไม?”
“เอ่อ..คุณจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าใช่มั๊ย?  งั้นผมขอนั่งรอในรถนะครับ” ผมจำคอนโดของเขาได้ถึงจะมาแค่ครั้งเดียว แต่ก็เพราะความทรงจำไม่ค่อยดีกับห้องนั้น ผมจึงไม่อยากขึ้นไปอีก

“ฮะๆๆๆๆ ไม่เมาแล้วมึงเป็นอย่างนี้เองเหรอวะ เอ๋อวะ”
“........” ผมก็อยากจะบอกเหมือนกันว่า เวลาแค่วันเดียว คุณเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ เมื่อวานยังดูเป็นคุณชายผู้แสนดี อบอุ่นอยู่เลย ไหงวันนี้ อย่างกับไอ้กุ๋ย ไอ้นักเลง พูดจาถ่อย สถุนไปได้

“มึงไม่ต้องมาตีมึน มึงต้องขึ้นไปด้วย มึงยังติดค้างกูอยู่นะ”
“ผมจ่ายค่าซักรีดให้แน่ครับ ไม่เบี้ยวหรอก” ชักฉุน เอ๊ะ ไอ้หมอนี่แค่ค่าซักรีด ไม่เบี้ยวหรอกหน่า

“เรื่องนี้กับเรื่องเมื่อวานมันคนละเรื่องกัน แค่ค่าซักรีดไม่ต้องกูมีปัญญาจ่าย แต่เมื่อวานมึงบอกว่ามึงจะให้กูเอามึง ยังจำได้ใช่มั๊ย?”

ผมงี้หน้าชาขึ้นมาทันที ด้วยความอับอายกับเรื่องงี่เง่าเมื่อคืน ที่ทำไปเพราะขาดสติ ผมไม่ได้เมา แค่คิดจะประชดชีวิต จึงเอ่ยปากจะนอนกับเขาง่าย ๆ ซึ่งพอได้สติ ผมก็อายมาก ทนเจอหน้าเขาไม่ได้จนต้องหลบหน้ากลับโดยไม่บอกกล่าว

“ไม่.. คือ ผมไม่ได้..ไม่ได้หมายความว่าจะ...” ผมพยายามแก้ตัวเสียงสั่น

“มึงจะไม่ หรือไม่ได้อะไรก็เรื่องของมึง แต่กูจะเอามึง ไปลุก” เขาเปิดประตูรถเดินออกมารอผมฝั่งที่ผมนั่งอยู่ พร้อมทั้งกอดอกมองด้วยสายตากดดัน

“.....” ถอนหายใจ ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี จำต้องค่อย ๆ เปิดประตู ก้าวลงจากรถอย่างอ้อยอิ่ง ให้เขาต้องฮึดฮัด ดึงผมพ้นจากรถ แล้วปิดประตูดังปัง

ผมไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชาย หยาบคาย ท่าทางหื่นกระหายคนนี้ จะเป็นคน ๆ เดียวกับผู้ชายที่ช่วยผมเมื่อวาน พอเขาเห็นว่าผมเดินตามเขาแล้ว เขาจึงปล่อยมือและเดินนำเข้าไปภายในตัวตึก

ผมอึดอัดใจ ไม่อยากจะมีอะไรกับเขา แต่ก็ไม่รู้จะหลบหลีกอย่างไร พลันสายตาก็เห็น แท็กซี่คันหนึ่งกำลังวนออกมาจากที่จอดรถของคอนโด ผมจึงรีบ ๆ วิ่งไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งด้านหลังทันที

“พี่ออกรถเร็ว ผมถูกจับตัวมา ไอ้คนร้ายมันมีปืนด้วย” ผมรีบ ๆ บอกคนขับที่ท่าทางมึนงงว่าผมขึ้นมาทำไม ให้รีบ ๆ ออกตัวเพราะหันไปเห็นแล้วว่าเขา รู้ตัวแล้วว่าผมไม่ได้เดินตามเขาเข้าไปในตึก เขาวิ่งตามมาจนถึงตัวรถ แล้วทุบอย่างแรงที่ท้ายรถ

ลุงคนขับท่าทางตกใจ แต่ผมก็เร่งให้แกรีบ ๆ ออกตัว ซึ่งก็ได้ผล รถวิ่งห่างออกมาจากคอนโดออกสู่ถนน มองไปข้างหลังก็เห็นเขายืนจังก้า ท่าทางโมโหโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตะโกนโหวกเหวก




(ยังมีต่ออีกนิด)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-12-2014 23:01:18
(ต่อนิดเดียว)

“ฮึ่ม หนีไปได้อีกแล้ว อ๊าคคคคคค” แม่งโดนลบคมอีกครั้ง จากคน ๆ เดียวกัน แค้นใจจริง ๆ แต่จะไปเอารถออกตามก็คงไม่ทันแล้ว แล้วไอ้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ตอนนี้จะทำยังไง มันกรุ่น ๆ ตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว คิดไว้ว่ายังไงวันนี้ ต้องได้มันมานอนครางอยู่ใต้ร่างแน่ ๆ กะจะเอาให้มันครวญคราง ร้องขอให้พอให้ดิ้นตายไปเลย

ฮึดฮัดอยู่หน้าคอนโดจนรถคันดังกล่าวหายลับไป ยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคู่ขาในสต็อก ใครก็ได้ซักคน แต่เอาผู้ชายดีกว่า เพราะตอนนี้ เขาอยากกระแทกเต็มที่ โดยไม่ต้องมัวมาพิรี้พิไลเล้าโลม เหมือนเอากับผู้หญิง



(ไม่มีต่อแล้ว จบตอนจ้า)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch krub ที่ 25-12-2014 00:12:35
อารมณ์เหมือนดูละครช่อง7 แต่น่าติดตามดีครับ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 25-12-2014 11:53:14
ซันร้ายอ่ะ น่ากลัวว สงสารเต้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 8 Catch me if you can (24/12/14)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 25-12-2014 13:33:36
จะดราม่าไปไหนเนี้ยยยยย T.T
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 9 World have change (01/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 01-01-2015 10:58:48
 :pig3:   สวัสดีปีใหม่คะ ขอให้ทุก ๆ คน มีสุขภาพแข็งแรง    o13 เงินทองไหลมาเทมา เจิรญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ค้าขายก็ขอให้เจริญรุ่งเรือง เดินทางขอให้ปลอดภัย อันตรายใด ๆ อย่าได้กล้ำกลาย เป็นที่รักของเจ้านาย
เป็นทีเคารพของลูกน้อง เป็นคนดีของสังคมนะคะ สุดท้ายก็ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคะ เพี้ยง  :m4:


**************************************************************


ตอนที่ 9 World have change



ถอนหายใจเฮือกใหญ่ กว่าจะหายใจทั่วท้อง นั่งพิงเบาะรถ ยกมือขึ้นลูบหน้า ใจยังเต้นตุ้ม ๆ ต้อม ๆ อยู่เลย ใจก็นึกกลัวว่าเขาจะไปดักรอที่ร้าน และที่มหาลัย ช่วงนี้คงต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นอีก อาทิตย์หน้าผมก็จะจบแล้ว ตามแผนที่วางไว้ซักพักหนึ่งแล้ว ผมคงจะไม่ต้องเจอหน้าใครในกรุงเทพอีกต่อไป

“น้อง ไปยุ่งกับพวกนักเลง ไม่ดีเลยนะ ลุงตกใจหมดเลย ดีว่ามันไม่ตามมานะ ฮ่าๆๆ ซิ่งแบบในหนังไม่เป็นหรอกนะ” เสียงคนขับรถแท็กซี่เรียกสติให้หันมาสนใจกับปัจจุบันต่อ

“...ครับ คือ ผมเองก็ไม่อยากยุ่งกับเขาหรอกครับ” ไม่อยากยุ่งในหลาย ๆ ความหมายนั่นแหล่ะครับ

“แต่ นักเลงสมัยนี้มันหล่อวะ ลุงว่ามันเป็นพระเอกหนังได้สบาย ๆ เลย ฮ่าๆๆๆ”

ลุงแกท่าทางไม่เครียดอารมณ์ดี หัวเราะรัว ผมก็หันไปมองถนนด้านหลัง กลัวว่าจะเห็นรถคุ้นตาตามมา ก็เริ่มคิดถึง เพชร ที่เคยเป็นถึงเดือนมหาลัย ก็ย่อมต้องหน้าตาหล่อดูดีอยู่แล้ว แต่กับคนหยาบคาย เมื่อครู่ ก็หล่อไม่น้อยหน้า เพชรเลย เหมือนพึ่งจะนึกได้ ก่อนหน้านี้เพราะมัวแต่ดราม่ากับชีวิตตัวเอง เลยให้ความสนใจคนรอบข้าง แค่เพียงเผิน ๆ เหมือนไม่เคยมองหน้า นายซันชัด ๆ ซักที (หล่อแล้วไง หยาบคายขนาดนั้นยังไงก็ไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยหรอก)

“ว่าแต่น้องจะลงที่ไหนเหรอ?”
“เอ่อ...ข้างหน้านี่แหล่ะ ที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้านี่แหล่ะครับ”

ลงจากรถแท็กซี่ได้ก็มายืนรอรถเมล์ต่อ แล้วก็เป็นเหตุการณ์เดิม ๆ นั่งรถเมล์มันทั้งคืน เช้าแล้วค่อยกลับไปที่ร้าน เหนื่อยมากวันนี้ เพลียจนอยากจะหลับ แต่ก็หลับไม่ได้ นั่งคิดถึงอะไร ๆ ไปเรื่อย มองคนมองถนน มองไฟที่ตึกสูง อยากให้ผ่านช่วงนี้ไปเร็ว ๆ จริง ๆ ต่อไปชีวิตใหม่ที่ผมหวังไว้ คงจะดีกว่านี้แน่




(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 9 World have change (01/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 01-01-2015 11:57:25
(มาต่อเบา ๆ)



“อ๊า อ่า อ๊า พี่ซัน วันนี้ทำไมรุนแรงจัง อ๊ะ อะ อ่ะ แต่ แต่ผมชอบนะครับ” เสียงคู่ขาที่โทรตามให้มานอนด้วยกันที่คอนโด ครางเสียงกระเส่า ลั่นห้องนอน ผมที่อารมณ์พลุ่งพล่าน ไม่พูดพร่ำทำเพลง รุกเร้าเอาอย่างหื่นกระหาย มองหน้าคู่ขา แต่ใจกลับไปนึกถึงคนที่พึ่งวิ่งหนีขึ้นรถแท็กซี่ไป ทำให้เขาต้องค้างมา 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ตัว

หึ คนอย่างซัน ไม่เคยต้องวิ่งตามใคร มีแต่คนวิ่งข้ามาหาเองทั้งนั้น ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ทำไมเขาจะต้องสนใจด้วย เล่นตัวนัก ก็ไม่ต้องเอามันหรอก ฮึ่ม ยิ่งคิดยิ่ง หงุดหงิด ไอ้ที่คิดว่าจะกระแทกให้เต็มที่ ก็ทำไปแล้ว แต่ทำไมยังไม่รู้สึกว่า เต็มอิ่ม คงต้องจัดกระแทกเข้าไปอีกให้มันสะใจกันไปเลย

“อ๊า อ๊า อ่ะ พี่ซัน ดี อึก แรง  ๆ อื้อ อ๊าๆๆ”




(รอต่อหนัก ๆ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 9 World have change (01/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 01-01-2015 12:12:04
(หนัก ๆ มาต่อแล้ว)



ทันทีที่กลับเข้าไปที่ร้านในตอนเช้า ก็เจอกู๋นั่งรออยู่แล้ว และเป็นไปตามคาด นอกจากจะถูกซักจนละเอียดแล้ว ยังถูกด่าว่าที่ไม่อยู่ช่วยงานจนจบ แถมยังไม่ยอมกลับบ้าน ไปนั่งรถเมล์ทำไมอันตราย บลา ๆๆๆ ผมก็ตั้งใจฟัง ก้มหัวขอโทษ ไม่ได้เถียงซักแอะ ถามคำตอบคำไปตามประสา

“เฮ้อ ด่าลื้อจนไม่รู้จะด่ายังไงแล้ว โตแล้วนะทำไมยังชอบหาเรื่องใส่ตัวอยู่เรื่อย อย่างนี้จบไปลื้อจะไปทำอะไร” กู๋ด่าจนเหนื่อย หันไปกดพัดลมให้หยุดหมุนแล้วพัดมาทางแกและผม

“กู๋ครับ อาทิตย์หน้าผมก็เรียนจบแล้ว” มองหน้าอากู๋ที่ท่าทางเหนื่อยอ่อน จึงตัดสินใจที่จะบอกกล่าวแก่อากู๋ถึงอนาคตที่ผมได้วางไว้

“อื้อ เหรอ ไวเหมือนกันนะ” สายตากู๋ที่มองมา ทำให้ผมสะเทือนใจ ไม่รู้ว่ากู๋จะคิดอย่างไรกับแผนการของผม

“ผม ผมตั้งใจว่าหลังจากเรียนจบ ผมจะไปทำงาน และย้ายออกไปครับกู๋” กู๋ที่ตอนแรกยกน้ำชาขึ้นมาจิบ ก็วางลงช้า ๆ หันมามองหน้าผม สีหน้าประหลาดใจ

“......” แต่ก็ยังไม่พูดอะไร เพราะคงอยากให้ผมได้พูดให้จบก่อน

“ผมขอบคุณกู๋มากนะครับ ที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เด็ก จนบัดนี้ ผมจะไม่มีวันลืมพระคุณของอากู๋และอากิ๋มเลยครับ ผมรู้ว่าถ้าออกไปแล้ว กู๋คงลำบากต้องหาคนมาแทนผม แต่ผมก็คิดว่าชีวิตต่อจากนี้ผมขอทำตามความตั้งใจของผมครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ถึงผมจะออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว ผมก็จะส่งเงินมาให้อากู๋ทุกเดือน ทดแทนพระคุณที่เลี้ยงดูผมมา”

“ไม่ต้องหรอก เงินเดือนลื้อ ๆ ก็เก็บไว้ใช้เถอะ ไม่ต้องส่งมาหรอก”

“ไม่ครับกู๋ ยังไงผมก็จะทำตามที่บอกไว้ เพราะผมไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรถึงจะทดแทนพระคุณกู๋ได้หมด ผมขอบคุณกู๋มากนะครับ ที่ไม่ได้ส่งผมไปที่บ้านเด็กกำพร้า” น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย ผมไม่เคยร้องไห้ต่อหน้ากู๋มาก่อน ท่านอาจจะไม่ได้ให้ความใกล้ชิดมากนัก แต่ก็คอยดูอยู่ห่าง ๆ ครั้นพอคิดว่าอีกไม่นานผมคงไม่ได้อยู่ดูแลท่าน น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไหลออกมาเอง ผมคุกเข่าลงก้มกราบแทบเท้าอากู๋ เป็นการขอบคุณ และขอขมา

ผมไม่เห็นหน้าอากู๋ ไม่รู้ว่าท่านมีสีหน้าอย่างไร แต่ได้ยินท่านถอนหายใจ และลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในตัวบ้าน ผมไม่รู้ว่ากู๋จะคิดว่าผมเนรคุณ หนีไปสบายคนเดียวหรือเปล่า จึงไม่พูดอะไรกับผม

ลุกขึ้นได้จึงปาดน้ำตา ยืนยิ้มให้กับตัวเอง นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้คุยกับกู๋อย่างนี้

ซักพัก ได้ยินเสียงฝีเท้ากู๋เดินออกมาจากตัวบ้าน พร้อมกับซองสีน้ำตาลในมือ แกยื่นซองนั้นให้ผม ผมรับมาด้วยความมึนงง แต่ก็เปิดดูของข้างใน





ข้างในเป็นสมุดบัญชี ธนาคารสีชมพู หยิบมาเปิดดูหน้าแรก ก็ต้องตะลึง มีชื่อเด็กชาย กฤติกมล ซึ่งก็คือผม สมุดธนาคารนี้เป็นของผมงั้นเหรอ?

เปิดไปหน้าถัด ๆ ไป ก็ยิ่งตกใจ เพราะยอดเงินคงเหลือหน้าล่าสุด มีจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะยอดฝากยอดแรก ก็ 300,000 บาทแล้ว และยังมียอดฝากบรรทัดถัดมา ซึ่งวันที่ห่างจากยอดแรก ถึง 15 ปี  อีกทุก ๆ เดือน ๆ ละ 5,000 บาท

ผมเงยหน้ามองอากู๋ คงจะมีสีหน้างงงวยจนอากู๋ถอนหายใจอีกครั้ง พร้อมทั้งอธิบายเรื่องราว

“ก้อนแรกนะ เป็นเงินประกันชีวิตของแม่ลื้อ ที่อีทำไว้ ได้มาอั้วก็เอาไปเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อลื้อ.....ส่วนที่เหลือ ก็เป็นค่าแรงที่ทำงานในร้าน อั้วเห็นลื้อกินนอนอยู่ในร้านอยู่แล้ว เลยไม่อยากให้ถือเงินเยอะ เดี๋ยวมีเงินลื้อก็ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เอาไปเที่ยวเล่นซะหมด”

ผมมองอากู๋อย่างที่ไม่เคยมองมาก่อน น้ำตาไหลพรากยิ่งกว่าเมื่อกี้ เคยคิดว่ากู๋ไม่ได้รัก ไม่ได้สนใจตัวเองเลย แค่ให้ที่อยู่ที่กิน แล้วก็ใช้งานไปวัน ๆ

แต่ไม่ใช่เลย ผมยังมีใครคนหนึ่งซึ่งยังห่วงใยอนาคตของผมอยู่ คอยเก็บเงินให้ คอยมองดูการเจริญเติบโตของผมอยู่ด้วย คงเพราะกู๋ เป็นคนแข็ง ๆ ไม่ค่อยพูด และดุมาก ไม่งั้นคงคุมคนทั้งร้านไม่ได้ ทำให้ผมไม่เคยรู้เลย ว่าที่จริงภายใต้คำดุด่าว่ากล่าวนั้น แฝงไปด้วยความห่วงใย เอื้ออาธร

ถ้าลองมานึกย้อนกลับไป เวลาผมทะเลาะกับเฮียตงทีไร ก็จะถูกทำโทษทั้งคู่ทุกที ไม่เคยเลยที่จะเห็นว่าอากู๋ลำเอียงเข้าข้างเฮียตง จนตอนหลัง ๆ เวลาจะกัดกัน ก็ต้องทำลับหลังอากู๋ เพราะไม่อยากจะถูกทำโทษทั้งคู่





อากู๋ไม่ได้พูดอะไรอีก ยกมือลูบหัวผมทีก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน วันนี้วันหยุดของที่ร้าน ท่านอุตส่าห์มานั่งคอยผมกลับมา ทั้ง ๆ ที่ควรจะพักได้แล้ว

ผมเช็ดน้ำตากับแขนเสื้อลวก ๆ ก่อนจะเดินตามเข้าไปในตัวบ้านด้วย เดินตรงไปที่ห้องใต้บันได เข้าไปในห้องเล็ก ๆ ที่ผมคุ้นเคย นั่งลงบนเตียงขนาดพอดีตัวที่ใช้มายาวนาน

ลำลึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ผมเข้าใจเอาเองมาตลอดว่าไม่เป็นที่รักที่ต้องการของใครเลย แต่พอนึก ๆ ไปนึก ๆ มา ผมไม่เคยได้ยินอากู๋พูดว่า หรือพูดไม่ดีถึงแม่ของผมซักคำ มีก็แต่คนอื่น ๆ ที่พูดจา ติฉินนินทา ว่าแม่ให้ได้ยิน จนทำให้ผมเริ่มปิดกั้นตัวเอง เห็นทุกคนเป็นศัตรู ไม่เคยเปิดใจมองความหวังดีที่บางคนมีให้

เรื่องเงินกู๋ก็คงจะพยายามสอนให้ผมประหยัดในแบบของแก แต่ผมกลับมองว่า กู๋ขี้เหนียว เลยประหยัดประชดกู๋ซะเลย อดจะนึกขำตัวเองไม่ได้ เด็กจริงๆ  เลยผมเนี่ยะ

แล้วไอ้ห้องที่ผมนั่งอยู่นี่ มันเล็กมากก็จริง....แต่มันก็เป็นส่วนตัวดี ไม่ต้องลำบากใจ ถ้าต้องไปวุ่นวายอึดอัดใจ ถ้าต้องไปใช้ห้องร่วมกับเฮียตง






การได้รับรู้เรื่องราวในครั้งนี้ ทำให้โลกของผมเปลี่ยนไป 360 องศาเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ดี ผมก็ยังคงจะทำตามแผนที่ได้วางไว้อยู่ดี




(จบตอนจ้า)
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 10 This is my way. (05/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 05-01-2015 02:50:00
มาตามติดกันต่อจ้า เริ่มเห็นแล้วชิมิ ว่าชีวิตเต้ก็ไม่ได้ รันทดอะไร นางมโนไปเอง  o16
ก็แค่คนรอบ ๆ แสดงออกไม่เก่ง เลยไม่เข้าใจกันนั่นเอง เฮ้อ



****************************************



ตอนที่ 10 This is my way.
 



“ป๊าบอกว่ามึงจะย้ายออกไป หลังจากเรียนจบเหรอ?”
“....อื้อ” ผมที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อย ก็ต้องสะดุ้งนิด ๆ เพราะเสียงเรียกของเฮียตง ที่มายืน เท้าแขนที่กรอบประตูห้องใต้บันไดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“จะออกไปอยู่ที่ใหน?”
“...ก็ ได้งานที่ไหนก็อยู่ที่นั่นแหล่ะ” หันมาจัดเก็บหนังสือที่วาง รก ๆ อยู่ข้างเตียง โดยไม่ได้หันไปมองหน้าไอ้เฮียมันอีก ไม่รู้หรอกว่ามันถามผมด้วยความรู้สึกอย่างไร อาจจะดีใจมั้งที่ผมพ้น ๆ ไปจากบ้านมันซะที


หลังจากตอบคำถามมันไป ก็ไม่ได้ยินอะไรกลับมาอีกเลย ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าไอ้เฮียมันยังยืนอยู่ที่ตรงนั้นรึเปล่า ทำให้ต้องหันกลับไปดู แต่ก็ต้องตกใจ เมื่ออยู่ ๆ ไอ้เฮีย มันโถมมาทับผมทั้งตัว ผมล้มลงบนที่นอน ไอ้เฮีย จับยึดข้อมือทั้งสองข้างของผมกับที่นอน เจ็บนะโว๊ย จะหาเรื่องกันก็บอกล่วงหน้าซิวะ กำลังจะอ้าปากจะด่ามัน แต่น้ำหยดหนึ่งก็ตกลงมากระทบที่แก้ม

“อย่าไปเลย อย่าจากไปไหนเลย”
“........” ตอนนี้ตกใจยิ่งกว่า เพราะไอ้เฮีย มันร้องไห้ หยดน้ำตาอีกหยดก็หล่นลงมาที่แก้มอีกข้าง พร้อม ๆ กับประโยคเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา พูดแต่ว่าอย่าไป อย่าไปเลย

“ถ้ามึงโกรธที่กูชอบแกล้งมึง กูขอโทษ แต่มึงอย่าออกไปจากบ้านเลย”
“......” ผมยังคงเงียบ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปาก มองหน้าเฮียตงนิ่ง ๆ เริ่มเข้าใจแล้วว่า จริง ๆ แล้วเฮียตง คิดอย่างไรกับผม

ผมรู้สึกว่า ความสุขจะมองเห็นผมบ้างแล้ว ลูกพี่ลูกน้องที่เคยแต่พูดจาหมาไม่แดก กลั่นแกล้งผมสารพัด กวนโมโหตลอดเวลา แท้ที่จริงแล้วก็ทำไปเพื่อปกปิดความรู้สึกที่มีต่อผมนั่นเอง

“เฮีย ร้องไห้เป็นเด็ก ๆ ไปได้ หยุดเลย มันไม่เท่ห์หรอกว่ะ” หัวใจของผมอบอุ่นวาบ กับความรู้สึกใหม่ ๆ ที่ได้ประสบอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะมาจากอากู๋ หรือมาจากเฮียตง  ผมยิ้มล้อ ๆ จนเฮียมัน มองผมด้วยแววตาสั่น ๆ คิดว่ามันคงจะสับสนไม่น้อย ก็ผมไม่เคยเรียกมันว่า เฮียดี ๆ เลยนี่นา

เฮียตง ปล่อยข้อมือผม แล้วลุกมานั่งข้าง ๆ ผมลุกขึ้นมานั่งได้ ก็นั่งมองหน้าเฮียตง เฮียมันก็มองหน้าผมกลับ มันหยุดร้องแล้ว เฮ้อ เฮีย ตัวอย่างกับตึก ร้องเป็นเด็ก ๆ หน้าตาตอนนี้ดูไม่ได้เลย

“จะไปจริง ๆ เหรอ?”
“จริงดิ โตแล้ว จะอยู่เกาะอากู๋กินได้ยังไง” ผมรู้สึกดี ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันได้คุยกับเฮียตง โดยไม่ต้องตะคอก ตะโกนใส่กัน

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ป๊ากูรวย จะเลี้ยงหลานอีกกี่คนก็ได้”
“แน่จริง กล้าไปพูดให้กู๋ได้ยินมั๊ยอ่ะ”

“กล้า......ตายล่ะ มีหวังโดนขว้างด้วยตะหลิว หัวแตก ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ” พลอยขำไปกับเฮียมันด้วย

“มึง...รู้มั๊ยว่ากูคิดยังไงกับมึ..”
“เฮีย”

“.......”
“เฮีย ไม่ว่าก่อนหน้านี้เราจะปฏิบัติต่อกันอย่างไร แต่อั๊วก็รักเฮียนะ เราเป็นพี่น้องกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง อั๊วไม่โกรธเฮียหรอก ก็อั๊วมีเฮียเป็นพี่ชายคนเดียวในโลกนี่นา”

ผมที่ยืนยันเจตนา ที่จะแสดงสถานะของเราให้ชัดเจนว่าอย่างไร เฮียก็เป็นเฮียคนเดียวของผม คงจะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ สื่อสายตามองตรง ๆ กับสายตาของเฮียตง และคิดว่าเฮียก็คงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ เฮียเพียงแค่หลับตา หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“เออ น้องก็น้องวะ..ว่าแต่รู้รึยังว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหน?” ผมยิ้มกว้าง เฮียก็ยิ้มตอบกลับมา พร้อมทั้งมือใหญ่ที่ยื่นมาลูบหัวผมแรง ๆ ทำเอาผมเกือบหงายหลัง

“อือ เหมือนจะรู้”
“ที่ไหนอ่ะ ไกลมั๊ย?”

“อือ....ค่อนข้างไกลอ่ะ”
“.....ยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านมึงเหมือนกัน อย่าลืมละ กลับมาเยี่ยมกันบ้าง”

“ขอบคุณครับเฮีย”

ไม่อยากจะร้องไห้หรอกนะแต่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลมาอาบแก้มให้ผมที่อายเฮียตงนิด ๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ส่วนเฮียมันก็ลูบหัวผมไปมาปลอบ ผมไม่แน่ใจว่าเคยรู้สึกอย่างไรกับบ้านหลังนี้ แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกอาลัยอาวรณ์มาก ไม่อยากจากไปเลย แต่ผมก็ตัดสินใจแล้ว ยังไงอนาคตต่อไปผมก็จะสร้างมันด้วยมือของผมเอง




(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 10 This is my way. (05/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 05-01-2015 02:52:57
(มาต่อแล่ะ)


นอนไม่หลับ

ทำไปตั้งขนาดนั้น เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ก็ยังนอนไม่หลับ

เปลี่ยนคู่นอนไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง แต่ไม่ว่าจะทำไปเต็มที่ขนาดไหน แต่ไอ้ความรู้สึกไม่เต็มอิ่ม
นี่มันคือะไร

ทุกครั้งที่ทำ ไม่ว่าจะกับใคร จะมีเงาร่างของใครบางคน ซ้อนทับ รบกวนจิตใจจนปั่นป่วนไปหมด



TTTTT
หยิบมือถือข้างเตียงที่กำลังแผดเสียงร้องออกมาที่ระเบียง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครโทรหาผมดึก ๆ ดื่น ๆ
ขนาดนี้

“ครับพ่อ..สบายดีครับ พ่อละครับ ทริปอเมริกาเป็นไงบ้างครับ...รู้ครับว่าพ่อไม่ได้ไปเที่ยว....ดูแลสุขภาพดีๆ
นะครับ .......ครับใกล้จบแล้วครับ อีกไม่กี่วันนี้เอง....ผมรู้ครับว่าต้องกลับไปช่วยงานพี่....แต่ผมขอเวลา
อีกซักพักนะครับ พอดีมีเรื่องต้องให้จัดการนิดหน่อย......ว่าแต่พ่อคุยกับแม่ใหญ่แล้วเหรอครับ เรื่องที่จะ
ให้ผมไปช่วยงานกิจการ?.......อ้อ แกคงจะเอือมกับผมแล้วละครับ ......ครับรู้ครับ ผมก็อยากช่วยพี่เขาครับ
พ่อไม่ต้องห่วงครับ ครับ ๆ ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ ไว้เจอกันครับพ่อ หวัดดีครับ ”

ฟังเสียงกดตัดสายจากพ่อก่อนที่จะวางโทรศัพท์ไว้ตรงโต๊ะข้างระเบียง

จุดบุหรี่อัดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันมองเข้าไปในห้อง บนเตียงที่ตอนนี้มีร่างของคู่ขาคืนนี้
นอนหมดสภาพอยู่ ใกล้รุ่งสางแล้ว ผมคงไม่ต้องไปส่งหรอก มาเองได้ก็คงกลับเองได้

ถ้าไม่ติดว่าพ่ออยากให้ผมกลับไปช่วยงานที่บ้าน ผมคงหางานทำในกรุงเทพนี่แหล่ะ ไม่อยากกลับไป
ก็ที่นั่น มีความทรงจำแย่ ๆ อยู่ไม่น้อยเลย




(จ๊บตอน)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 10 This is my way. (05/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 05-01-2015 16:55:37
เต้ต้องไปทำงานบริษัทซันเเน่ๆ เลย (ขอละอย่าดราม่าเลยนะ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 10 This is my way. (05/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 08-01-2015 13:03:22
เต้ต้องไปทำงานบริษัทซันเเน่ๆ เลย (ขอละอย่าดราม่าเลยนะ)




อะโห รู้จิรง ไรจริง แหะๆๆๆ  :z1: ต่อจากนี้ ไม่มาม่าแล้ว แต่ก็ไม่แน่เห็นในตู้ยังมีอีกหลายซอง อิ๊ๆๆๆ  :o12:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let y (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 11-01-2015 22:22:19
อุเหม่ ดูเหมือนจะมีคนรู้ความลับซะแล้ว  :hao3: เรื่องราวอาจจะเป็น หรือไม่เป็นแบบที่คุณคิดไว้
ยังไงก็ติดตามต่อได้เลยจ้า


********************************************




ตอนที่ 11 I will never let you go.


มหาลัย M

“อาจารย์วิทยาครับ”
“อ้าว นายกฤติกมล ตัดสินใจรึยัง”

“ครับอาจารย์ ผมอยากได้งานนั้นครับ”
“เออดีเลย ๆ รุ่นพี่เราเขาบริหารงานของครอบครัวอยู่ เวลาเขาต้องการคนก็มักติดต่อมาให้ จารย์หาให้
บอกอยากได้คนไว้ใจได้ ไอ้ไว้ใจได้นะเยอะ แต่พอรู้ว่าต้องทำงานที่ไหน ก็ไม่เอา บอกไกลบ้างลำบากบ้าง”

“ครับ ผมไม่มีปัญหาครับ ยิ่งเขามีที่อยู่ให้ด้วยยิ่ง ดีเข้าไปใหญ่เลยครับ”
“แต่ว่านะ เธอไปเร็วหน่อยได้มั๊ย เขาบอกว่าใกล้เปิดซีซั่นแล้ว เขาอยากให้ไปเทรนงานก่อนที่จะเริ่ม
ฤดูท่องเที่ยว กลัวจะยุ่งจนไม่มีเวลามาดูแลเทรนให้เธอ”

“ได้ครับ ผมก็ว่าจะไปหลังจากจบเลยครับ นี่ก็จัดของไว้บ้างแล้ว”
“อ้ออย่าลืม ติดต่อฝ่ายทะเบียนนะ เรื่องรับใบเกรดและงานรับปริญญา”

“ครับ ขอบคุณครับอาจารย์ งั้นผมขอตัวนะครับ”
“อื้อ ๆ รักษาตัวดี ๆ โชคดีนะ”


หลังจากขอบคุณอาจารย์วิทยา เรื่องหางานให้แล้ว ก็เดินออกจากห้องแก แต่ก็ต้องชะงักเท้าไป เพราะ เพชร
สวนเข้ามา เขาเองก็ชะงักเท้าไปเหมือนกัน

“...เต้”
“...เพชร”

ผมหลบสายตา ก่อนจะก้าวขาหลบ เพชรออกไป แต่เขาก็คว้าแขนผมไว้ก่อน

“เต้ครับ ผมขอคุยด้วยหน่อยนะ”
“....ได้.....ผมก็มีเรื่องจะคุยกับเพชรเหมือนกัน มาธุระกับอาจารย์ใช่มั๊ย งั้นผมรอที่ม้านั่งข้างตึกนะ”

“อื้อ คอยผมแป๊บ ผมขอคุยกับอาจารย์ก่อน”

ผมผงกหัวรับคำ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ ลงมานั่งคอยเขาที่ม้านั่งข้างตึก ใต้ร่มจามจุรี ต้นใหญ่ อายุพอ ๆ กับมหาลัย

อีกไม่กี่วันผมก็ต้องอำลามหาลัยแห่งนี้ ที่ผมได้ศึกษามา 4 ปี

อาจจะเพราะต้องช่วยงานที่ร้านเกือบทุกวัน ผมจึงมีความทรงจำกับเพื่อนฝูงไม่มากนัก แต่โดยรวมทุกคนก็
ดีกับผมมาก เวลามีอะไรก็คอย ๆ เข้ามาลากผมเข้าร่วมด้วยเท่าที่ผมจะสามารถเข้าร่วมได้ และที่ผมได้งาน
นี่ก็ไม่ได้บอกใครเลย ไม่ใช่ไม่อยากบอก แต่ผมอยากไปให้ได้ดีก่อนจึงค่อยติดต่อเพื่อนฝูง ไม่อยากให้
พวกมันเป็นห่วงโดยไม่จำเป็น

“อ้าว ว่าไง เต้ ใกล้จบแล้วนี่ จะทำงานหรือว่าเรียนต่อล่ะ”  ป้าที่ร้านอาหารของคณะผม เดินผ่านมาก็ทัก
เสียงใส ผมเคยไปช่วยแกขายข้าวเวลาแกขาดแคลนลูกน้องบ่อย ๆ

“หวัดดีครับ ป้าสาย ผมได้งานแล้วครับ นี่พึ่งไปคุยกับอาจารย์วิทยามา”
“ได้งานแล้วเหรอ เออดี ๆ”

“ต่อไปคงคิดถึงอาหารฝืมือป้าแย่เลย”
“ปากหวานนะเรา ฮิ ๆๆ เอ้า ยังไงก็ขอให้โชคดีนะลูก เป็นเด็กดีอยู่ที่ไหน ก็จะมีแต่คนเมตตา ว่าง ๆ ก็กลับ
มาเยี่ยมป้าบ้างนะลูก”  ผมยกมือไหว้รับพรของป้า ก่อนแกจะเดินจากไป

จิตใจของผมตอนนี้ รู้สึกโล่ง โปร่งมากครับ ไม่เคยคิดเลยว่าจริง ๆ แล้ว คนรอบ ๆ ข้างผม ก็ยังมีความรัก
ความห่วงใยให้ผมอยู่เสมอ


นั่งรออยู่ไม่นาน เพชรก็เดินมานั่ง ม้านั่งตรงข้าม

“ไปหาอะไรกินกันมั๊ยครับเต้”
“...ไม่ละครับ ผมยังมีธุระอื่นต้องทำอีก”

“....เต้ครับ เรากลับมารักกันเหมือนเดิมได้มั๊ย คุณก็รู้ว่าผมชอบแต่ผู้ชาย พ่อแม่อยากให้หมั้นก็หมั้น แต่วันหนึ่งเราก็คงจะไปกันไม่ได้อยู่ดี ....เต้ผมรักคุณมากนะ คุณไม่คิดถึงวันเวลาของเราสองคนเลยเหรอ
คุณจะใจร้ายลืมรักของเราได้ลงคอเชียวเหรอ” เพชรพูดพร้อมกับเอื้อมมือมากุมมือผมที่อยู่บนโต๊ะ ผมไม่ได้
ดึงมือออกเพราะอยากให้เขาพูดสิ่งที่อยากจะพูดให้หมดก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายพูดบ้าง

“เพชรครับ ผมขอบคุณนะครับที่รักผม......”
“เต้ งั้นเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกันนะครับ ผมจะ...”

“คงจะไม่ได้แล้วละครับเพชร”
“...ทำไมละ เต้ ไม่รักผมแล้วเหรอครับ”

“.....เพชร คุณรู้ใช่มั๊ยว่าผมเป็นลูกกำพร้า...”
“..เอ่อ แล้วไงครับ ทำไมพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาละเต้?”

 “แม่ผมท้องกลับมาโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อ หลังคลอดไม่นานท่านก็ตาย ตัวผมเองก็ทำงานช่วยงานที่
ร้านอาหารของลุง มันก็ลำบากพอดู”
“รู้ซิครับ ก็เต้เคยเล่าให้ผมฟังแล้วนี่นา ผมก็เคยบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ผมรับได้ ต่อไปถ้าเราอยู่ด้วยกัน
หลังเรียนจบ ผมจะดูแลเต้ ไม่ให้ต้องลำบากอะไรเลย”

“แล้วครอบครัวคุณรับผมได้เหรอ? เพชรคุณเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ทั้งยังมีหน้ามีตาในสังคม พวกเขาไม่ยอมให้คุณนอกลู่นอกทางแน่ ” ตอนนี้ผมเริ่มชักมือออกจากการจับกุมของเขาช้า ๆ มองตาเขาตรง ๆ ภายในดวงตาเขาสั่นระริก

“ไม่หรอกเต้ คุณนะคิดมาก ผมเป็นตัวของตัวเองนะ ผม...”
“คุณไม่กล้าขัดใจพวกท่านหรอก และที่สำคัญ คู่หมั้นของคุณเป็นผู้หญิง ไม่ว่ายังไงคุณก็หมั้นและ
จะแต่งงานกับเธอแน่ คุณต้องรับผิดชอบชีวิตเธอ คู่หมั้นคุณเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ผมว่าคุณคงรักเธอได้ไม่ยาก”

“เป็นไปไม่ได้หรอกก็ผมชอบผู้ชาย...”
“เพชร หุบปากไปเลยคำนี้ ผมรู้ว่าคุณได้ทั้งหญิงและชาย”

“............”
“ระหว่างคบกันไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าคุณมีคนอื่นอีก แต่ผมไม่เคยพูด เพราะอยากถนอมความรักของเรา
และพวกผู้ชายผู้หญิงเหล่านั้นก็เป็นแค่กิ๊ก แต่คุณปันปัน เขาเป็นคู่หมั้นคุณ เขามีสิทธิ์ในตัวคุณอย่างถูกต้อง และเป็นที่ยอมรับจากทุก ๆ ฝ่าย”

“.......” เพชรหน้าหม่นลง คงคิดไม่ถึงว่าผมจะรู้ว่าลับหลังผมเขาทำอะไรไว้บ้าง ความลับมันไม่มีในโลกหรอก ก็แม่พวกผู้หญิงเขามาคุยโม้โอ้อวดกันให้แซ่ด อย่าคิดว่าผู้หญิงสมัยนี้เขาไปได้ใครมาแล้วจะมานั่งปกปิดไม่มีละ ยิ่งได้คนดังของมหาลัย ยิ่งมาเกทับกันซะมากกว่า

“เพชรครับ ผมกำลังจะไปทำงานในที่ที่ไกลจากกรุงเทพ เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่ผมก็ยังปรารถนาให้
คุณมีความสุข” เพชรมองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่เขารู้จักผมดี ผมไม่ใช่คนที่ชอบล้อเล่น

“เต้ คุณจะไม่คิดดูใหม่เหรอ ผมรักคุณจริงๆ นะ คนอื่น ๆ ก็แค่เล่น ๆ ตามอารมณ์ผู้ชาย คุณไม่ต้องเป็นห่วง
ผมจะปกป้องคุณเอง จะไม่ให้ใครมาทำอะไรคุณ นะครับ อย่าจากไปไหนเลย ที่รัก”

“...เราจบกันด้วยดีเถอะครับเพชร ผมอยากจะให้เราทั้งคู่เก็บความรู้สึกดี ๆ ต่อกันเอาไว้”
“.........”

เขาที่ไร้ซึ่งคำพูดเอาแต่มองหน้าผมนิ่ง ๆ ทำให้ผมคิดว่าคงต้องลุกไปทำธุระต่อเสียที พอลุกขึ้นได้กำลังจะ
ก้าวออกจากม้านั่ง เขาก็เอื้อมมือมาคว้าแขนไว้อย่างรวดเร็ว มือของเพชรเย็นมาก

“เต้ครับ งั้นไปเดทกับผมเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ”
“........”

“ผมอยากให้เราเหลือความทรงจำดี ๆ ร่วมกันอีกครั้ง”
“...อื้อ ก็ได้ครับ..”

“ดีเลย งั้นเราเจอกันวันเรียนจบนะ ที่ผับ ZZ ตอน 3 ทุ่ม”
“โอเค ไว้เจอกัน ผมไปก่อนนะ”

ผมลุกขึ้นบอกลาเขา ก่อนจะเดินจากมา บอกตรง ๆ ผมยังรักเขาอยู่ ไม่ใช่ไม่เจ็บ ไม่ปวดร้าวที่ต้องแยกจากกัน แต่ก็ต้องตัดใจ เพราะอนาคตของเรามันเป็นไปไม่ได้ ถึงไม่มีเรื่องคู่หมั้นของเขาเข้ามา ก็คิดว่าคงต้องจบกับเขาซักวันหนึ่ง

ครอบครัวเขาเป็นนักการเมือง มีอิทธิพลไม่น้อย ครอบครัวเขาไม่ใช่ไม่รู้ว่าเพชร เป็นอย่างไร แค่เห็นว่าเป็น
เรื่องของเด็ก ๆ วัยรุ่น วุ่น ๆ เลยไม่เข้ามายุ่งมาก แต่ก็เคยส่งคนมาเตือนผม ว่าสนุกกันได้ แต่อย่าคิดอะไร
เกินตัว ยังไงผมก็ไม่คู่ควร และถ้าไม่เชื่อฟัง เขาบอกจะไม่รับรองความปลอดภัยของผมและครอบครัว

ถ้าต้องให้เลือก ครอบครัวของอากู๋มีบุญคุณกับผมอย่างมาก ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้ท่าน ถึงจะรักเพชรมากก็เถอะ แต่ครั้งนี้ ผมจะรักเพชรเป็นครั้งสุดท้าย



(มีต่อ ๆ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 11-01-2015 22:29:14
(มาต่อ - เพชร)


หลังจากเต้เดินจากไป เพชรยืนมองจนอีกฝ่ายลับตาไป  เขาไม่ยอมเลิกคบกับเต้แน่ เขากำลังวางแผน เพื่อจะกักตัวเต้ ให้อยู่กับเขาตลอดไป ในวันนัดเขาจะต้องได้ตัวเต้มา ครอบครัวเขามีคอนโดหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คงต้องมาดูกันว่าที่ไหนจะดี และสะดวกสุด ผมรักเขาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ตอนรับน้อง ถึงจะต่างคณะกัน แต่ก็มีโอกาส พบพานกันบ้าง หน้าตาเลอะแป้ง เลอะสี แต่ก็ไม่อาจบดบังความน่ารักนั้นได้ กว่าจะรวบรวมความกล้าเข้าไปคุยด้วยก็ผ่านไปเป็นปี พอรู้ว่าเขาเองก็สนใจผม ผมเลยรีบ ๆ รวบรัดให้เขาเป็นของผม เต้ที่ไม่ประสีประสา ช่างไร้เดียงสา หลงรักผมหัวปักหัวปำ แต่ไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องบรรดาผู้หญิงที่เข้ามาเสนอตัวให้ผมด้วย เห็นเขาไม่พูดอะไร ผมเลยยิ่งลำพอง ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องให้เราต้องจบกัน ผมว่าแค่เรื่องปัน คงไม่ทำให้เต้ถึงกับจะเลิกกับผมหรอก ถ้าไม่มีเรื่องแม่พวกนั้นเข้าไปด้วย
แต่ก็อย่างที่บอกไว้ ผมไม่ยอมหรอก





(ยังมีอีกติ๊ด)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 11-01-2015 22:32:47
(มามีส่วนร่วม - ปานชนก)



แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เพชรคิด และกำลังจะทำให้อนาคต มันจะไม่มีวันเป็นจริง เพราะอีกด้านของโคนต้นจามจุรี ปานชนก ยืนหน้าเครียด กัดริมฝีปากแน่น จนห้อเลือด เธอเลิกเรียนเร็ว เลยจะมารับ เพชรไปหาอะไรทานกัน ก่อนกลับบ้าน โดยไม่ได้โทรบอกล่วงหน้า กะจะทำเซอร์ไพสร์ เขา พวกนักศึกษาบอกเธอว่า เห็นเขาอยู่แถวตึกอำนวยการ เธอเลยเดินมาดู ก็พบเขาจริง ๆ เขากำลังคุยกับเพื่อนอยู่ เธอเลยมายืนแอบรอ จะจ๊ะเอ๋ แต่ไม่นึกเลยว่า เป็นเธอเองที่ได้เซอร์ไพรส์ ไม่เคยคิดเลยว่า เพชรจะเป็นไบ เขากับผู้ชายคนนั้น เธอจำได้ ไอ้เด็กเสริฟไร้มารยาทที่เอาน้ำสาดใส่ซัน เพื่อนของเธอที่งานเลี้ยงต้อนรับท่านทูต ไม่เคยเอะใจ เห็นแต่อี๋อ๋อกับอีนั่นเท่านั้น น่าเจ็บใจจริง ๆ คนอย่าง ปานชนก นะเหรอ จะสู้ผู้ชายไม่ได้ ยังไงเพชรก็ต้องเป็นของฉัน ฮึ่ม คอยดูเถอะ



(จบตอน)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 11-01-2015 23:00:26
กำลังเข้มข้นเลย  คู่หมั้นน่าจะบอกซันให้มาจัดการนะ

คุณนักเขียนคะ  รบกวนใช้สีเข้มๆนิดหนึ่งได้ไหมคะ? เรามีปัญหาในการอ่านค่ะ โดยเฉพาะสีสดๆมากๆ  เราต้องก็อปไปแปะในเวิร์ดเพิ่ออ่านก่อนลบทิ้งค่ะ  ขอโทษด้วยนะคะ เรามีปัญหาทางสายตาค่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 11-01-2015 23:44:27
เฮ้ออ่านตอนแรกๆไม่คิดว่าซันจะนิสัยเลวแบบนี้นะ สงสารเต้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 12-01-2015 00:42:12
กำลังเข้มข้นเลย  คู่หมั้นน่าจะบอกซันให้มาจัดการนะ

คุณนักเขียนคะ  รบกวนใช้สีเข้มๆนิดหนึ่งได้ไหมคะ? เรามีปัญหาในการอ่านค่ะ โดยเฉพาะสีสดๆมากๆ  เราต้องก็อปไปแปะในเวิร์ดเพิ่ออ่านก่อนลบทิ้งค่ะ  ขอโทษด้วยนะคะ เรามีปัญหาทางสายตาค่ะ



ขอโทษจริง ๆคะ เพราะอยากใช้สีให้เห็นความแตกต่างของแต่ละคน งั้นของคนอื่น ๆ จะใช้สีดำละกัน :mew2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 12-01-2015 00:46:20
เฮ้ออ่านตอนแรกๆไม่คิดว่าซันจะนิสัยเลวแบบนี้นะ สงสารเต้จริงๆ



แค่นี้ยังน้อยไป ขอบอกไว้เลยว่า พระเอกเรื่องนี้ เลว  :a5:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-01-2015 00:52:59
คุณนักเขียนคะ

ขอบคุณมากค่ะ   สอบถามคนอื่นก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าหากว่าคนอื่นๆชอบกันก็ทำตามเดิมก็ได้ เราเป็นส่วนน้อยที่มีปัญหาก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นสีอิ่นตัวเข้มๆ แดง น้ำเงิน ไม่เป็นไรค่ะ  ขะเขียนไว้ก่อนว่าเป็นส่วนของมครก็ได้ เช่น  พาร์ทของเพชร Petch's part (เคยเห็นคนอิ่นเขาทำแบบนี้ค่ะ) ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 12-01-2015 01:25:38
ไม่เป็นไรค่ะ เปลี่ยนเป็นสีดำได้ค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วก็คิดว่าสีมันอ่านยาก ฮะๆๆๆ  :mew4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 11 I will never let you g (11/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 12-01-2015 10:31:23
สงสารเต้ จัง
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 12 Finally I got you. (19/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 19-01-2015 02:38:39
สงสารเต้ รักเต้ เป็นกำลังใจให้เต้ต่อไปนะจ๊ะ  :L1:
เหอ ๆ มาดูกันว่าจะรอดมือซันได้อีกครั้งหรือไม่

********************************************************



ตอนที่ 12 Finally I got you.



วันนี้เป็นวันสุดท้ายในมหาลัย พวกเพื่อน ๆ จึงชวนกันมาเที่ยวเพื่อส่งท้ายกัน ผมที่งุ่นง่านมาหลายวันแล้วก็อยากจะผ่อนคลายบ้าง ค่ำคืนนี้ ผู้คนทั้งชายและหญิงก็มากหน้าหลายตา ต่างส่งสายตามาเชิญชวน ผมก็ว่าจะมองหาใครซักคนสำหรับค่ำคืนนี้ เพราะไม่ใช่แค่คืนนี้ ก่อนหน้านี้ทุก ๆ คืน ผมก็ต้องมีใครซักคน มาอยู่ด้วยเพื่อให้ค่ำคืนมันผ่านพ้นไปซักที ไม่ว่าจะทำกับใคร มากแค่ไหน ก็ไม่ทำให้รู้สึกพอใจเลย ภาพใครบางคน คอยตามมาหลอกหลอนให้ว้าวุ่นใจตลอด

มองไปมองมาก็ยิ่งเซ็ง หรือคืนนี้ผมจะลองนอนคนเดียวดู บางทีผมอาจจะฟุ้งซ่านไปเองคนเดียวก็ได้ เขาจะมามีอิทธิพลอะไรมากมายกับผมนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ เซ็งตัวเองเข้าไปใหญ่ เลยออกมาสูบบุหรี่หลังร้านแก้เครียด

ก็มีพวกสิงห์อมควัน สองสามคน ยืนดูด ๆ พ่น ๆ กันอยู่ มองหน้ากัน พอเป็นพิธี จุดบุหรี่ สูดอัดควันเข้าปอด เต็มที่ก่อนจะค่อย ๆ พ่นควันออกมาอย่างแผ่วเบา มองควันลอยเอื่อย ๆ ไปทางด้านที่จอดรถ

ก็เห็นมีคนกำลังวิวาทกันอยู่ ด้านหลังลานจอดรถ มองไม่ค่อยถนัดมันค่อนข้างมืด อ้าวไอ้เชี่ย ใกล้รถกูด้วย ด้วยความเป็นห่วงรถ ผมเลยซัดบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดทิ้งในทรายดับบุหรี่ ก่อนจะเดินเข้าไปดูสถานการณ์ใกล้ ๆ เผื่อมันใกล้รถผมเกินไปจะได้ไปถอยรถออก

พอเข้าไปใกล้ ๆ ก็ต้องชะงัก ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หรือผมจะเมาแล้วเห็นใครต่อใครเป็นเขาไปหมด
ชายฉกรรจ์ท่าทางชั่วร้าย 3 คน กำลังพยายามจะทำร้ายผู้ชายรูปร่างโปร่งเพรียวบาง หน้าหวาน คนที่รบกวนใจผมมาตลอดหลายวันมานี้

“พี่ อย่าทำอะไรผมเลย เราไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แล้วพี่จะมาทำร้ายผมทำไม”
“เออ กูกับมึงไม่เคยรู้จักกัน แต่มึงนะอยู่ดีไม่ว่าดี ไปเล่นกับของสูง เขาเลยให้พวกกูมาจัดการมึง”

“พี่ผมไม่เข้าใจ ผมไม่รู้เรื่อง ผิดคนแล้วมั้ง พี่ปล่อยผมไปเถอะ”
“กูก็ไม่อยากทำหรอก แต่เขาสั่งมา อโหสิละกัน เอ้าพวกมึงจะมองอยู่ทำไมจัดการมันซิ”





หมัดของผมไปก่อนที่ผมจะทันได้สั่งอะไรซะอีก ผมซัดไอ้คนที่มันกำลังกำคอเสื้อยืดของเต้ เต็มแรงจนมันหงายไปอีกทาง อีกสองคนพอเห็นผมเข้ามาขวาง ก็มีท่าทีเลิกลั่ก เต้ที่ถูกหนึ่งในนั้นจับแขนอยู่ก็หมุนตัวไปถีบมันจนกระเด็น ไอ้คนที่ผมซัดลงไป มันลุกขึ้นมาได้ ก็บอกให้พวกมันช่วยกันรุมผม ก็แลกหมัดเท้ากันซักพัก ก็ได้ยินเสียงเป่านกหวีดดังปรี๊ดดดด ยามของผับวิ่งถือไฟฉายสาดมาแต่ไกล พวกมันรีบ ๆ วิ่งหนีไป

ผมไม่ได้วิ่งตาม หันมาดูเต้ ที่ฟุบไปกับพื้น ก่อนที่จะยันตัวขึ้นมา เอามือกุมท้องสงสัยจะโดนต่อยเข้าที่ท้อง ก้มลงประคองให้เต้ลุกขึ้นยืน

“ขอบคุณครับ ที่เข้ามาช่วย เฮ้ยยยยยยย” เต้เงยหน้าขึ้นมา กำลังจะกล่าวขอบคุณผม ก็ต้องร้องเสียงหลง อ้อ คงเพิ่งเห็นชัด ๆ ละซิว่าเป็นผม ก็เมื่อกี้มันมืด และกำลังชุลมุนกันอยู่

“ร้องเสียงหลงเลย ตกใจอะไร เจอตัวก็ดีแล้วจะได้เคลียร์กัน” พอรู้ว่าเป็นผม เต้ก็ทำท่าจะวิ่งหนี แต่ไม่ทันหรอกผมจัดการรวบตัวเขาไว้ทั้งแขน ยกจนตัวลอย

“ปล่อยผมนะ คุณซัน ปล่อยผม”
“เฮอะ เจอตัวจนได้นะมึง ทำกูแสบมาหลายทีและ อย่าคิดว่าจะหนีกูได้อีกเลย”

“เอ่อ คุณครับ ไม่บาดเจ็บอะไรใช่มั๊ยครับ” ยามผับเห็นท่าเราสองคนไม่ค่อยดีเลยเข้ามาถาม

“ไม่ครับขอบคุณ นี่เมียผมเอง ไม่มีอะไรแล้ว คุณกลับไปทำงานของคุณเถอะ”
“เฮ้ย อะไร ไม่ใช่นะครับ ผมเป็นผู้ชายนะ จะไปเป็นเมียคุณได้ไง พี่ครับช่วยด้วย”

“ก็ผู้ชายเหมือนกันนี่แหล่ะ มึงถึงต้องเป็นเมียกู” ผมไม่สนใจยาม อาศัยตัวใหญ่กว่าแข็งแรงกว่า ยกตัวเต้ที่ยังดิ้นรน ไปจนถึงรถของผมที่จอดอยู่ไม่ไกล

ตอนแรกตั้งใจจะกลับไปที่คอนโด แต่มาคิดอีกที ผมคงไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่ ถ้าปล่อยให้เขาหลุดรอดมือไปได้อีก

ผมเปิดประตูหลัง แล้วจัดการโยนเต้เข้าไปที่เบาะหลังรถ ก่อนจะแทรกตัวเองตามเข้าไปแล้วปิดประตูล็อกตาม

เต้มีทีท่าตกใจกับท่าทีคุกคามของผมมาก เขาถอยไปจนชนประตูอีกด้าน เขาหันตัวไปจะไปเปิดประตู ผมไม่ปล่อยให้เขารอดไปได้อีกแล้ว เอื้อมมือไปจับข้อมือของเขาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดล๊อกประตู พร้อมทั้งกระชากเขาเข้ามาหาตัวผมอย่างแรง จนเต้ขึ้นมานั่งบนตักผม ผมกอดเอวเต้ไว้แน่น

“มึงหนีกูไม่พ้นหรอก”
“คุณซัน อย่าทำอะไรผมเลย ผมขอโทษที่เคยล่วงเกินคุณ เลิกแล้วต่อกันเถอะนะครับ”

“มึงหยามกูตั้งหลายครั้ง คิดว่ากูจะเลิกแล้วได้เหรอ ห๊ะ”
“ไม่นะครับ ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะครับ”

“ไม่ต้องพูดแล้ว รอครางอย่างเดียวได้เลยมึง”
“ไม่ อย่าครับ อย่า”

รำคาญ ไม่ต่อปากต่อคำแล้ว ลงมือเลยแล้วกัน ไม่พูดพล่าม ผมถกเสื้อมันขึ้นมา ถอดออกจากหัวมันแต่ ไม่หลุดจากมือมัน เพราะผมกำลังจะมัดมือมันไว้ข้างหลังด้วยเสื้อยืดของมันนั่นแหล่ะ

ก่อนจะจับท้ายทอยมันด้วยมือข้างหนึ่งกดหัวมันไว้ที่เบาะ แล้วยกขามันข้างหนึ่งวางเข่าไว้บนเบาะ ขาอีกข้างยืนย่อตัวบนพื้น ผมทาบทับมันทั้งตัวก้มลงกัดคอมันอย่างหมั่นเขี้ยวกับต้นคอขาวเนียนที่หลงมองมานาน

“โอ๊ยๆๆ เจ็บนะ เป็นหมารึไง”
“เออ กูเป็นหมา และกำลังติดสัดอยู่นี่ไง”

“ปล่อยมือได้ไหมคุณซัน ผมเจ็บ ผมยอมคุณแล้ว”
“....”

“นะๆๆ ครับ ผมจะได้ใช้มือให้คุณด้วยไง”
“....น่าสนแฮะ ......แต่ไม่ดีกว่า อย่างนี้ก็เร้าใจกูไปอีกแบบ”

“..อ๊ะ อย่ากัด”

ไม่ฟังมันต่อรองแล้วครับ เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ทั้งกัดทั้งจูบไปทั่วจากต้นคอ ใบหู ไหล่ ไล่มาตามแนวกระดูกสันหลัง มันก็คงจะเสียวจนหลังแอ่น มืออีกข้างผมก็สาละวนปลดกระดุมกางเกงยีนส์มัน จนสามารถดึงมันลงมากองที่เข่ามันได้ ได้ยินเสียงประท้วงเล็กๆ  จากเบาะ แต่ใครสนล่ะ

“อย่า อย่าถอด”
ไม่ทันแล้วเบบี๋ ตอนนี้มันหลุดไปกองทั้งชั้นนอกชั้นในแล้วครับผม ก้นกลม ผิวเนียน น่าสัมผัส อดจะยิ้มไม่ได้ ผมก็ไม่รู้ผมจะยิ้มทำไม แต่มันรู้สึกดีใจแปลก ๆ เหมือนได้ของขวัญชิ้นแรกที่ต้องสะสมเงินเองกว่าจะได้มา








เวลานี้เงียบมาก ไม่มีแม้แต่เสียงแอร์ในรถ ผมขับรถออกจากที่จอดรถของผับ ด้วยอารมณ์ผิดกับตอนขามาลิบลับ

เหลือบมองคนข้าง ๆ ที่นอนสลบใสล ไร้สติจากกิจกรรมท้ายเบาะรถ เมื่อครู่ เรือนร่าง ขาวนวล เย้ายวน ที่บิดเร่า และครางกระเส่า ใต้ร่างผม เติมเต็มให้ผมรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่เคยได้จากใครมาก่อน ข้างในของเขาก็ช่างอบอุ่น โอบรัดผม อย่างเร่าร้อน ไม่น่าเชื่อว่าเขาเคยผ่านใครมาก่อน แต่บอกแล้วว่าไม่ใช่ปัญหา





พอถึงคอนโดผมก็อุ้มเขาลงจากรถ ยามที่คุ้นเคยกันถามว่าผมต้องการความช่วยเหลือรึเปล่า อือ ก็ดีนะ กดปุ่มลิฟต์ให้ผมหน่อยก็คงดี

วางร่างไร้สติบนเตียงนุ่มของผม แล้วนั่งขอบเตียงมองดูใบหน้าหวาน เปลือกตาปิดสนิท เอื้อมมือไปเกลี่ยผมที่ปรกหน้าผากออกจากกรอบหน้า ลูบแก้มใสแผ่วเบา ใบหน้าหวานมีอาการกระตุกเล็กน้อย คงจะรำคาญคนกวน

ตอนนี้บอกได้เลยว่าไอ้อาการหงุดหงิดติดสัดที่เป็นมาทั้งอาทิตย์ หายไปเป็นปลิดทิ้ง ไม่น่าเชื่อ แค่ได้มีอะไรกับเขา ผมก็กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

แต่ที่ต่างไป ยิ่งผมนั่งมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ยังคงแดงซ่าน จากกิจกรรมเบาะหลัง และเสื้อผ้าที่ใส่แบบลวก ๆ ทำให้เต้ยิ่งดูเซ็กซี่ จนอดที่จะตื่นตัวขึ้นมาอีกไม่ได้

ก็ว่าจะอีกแค่รอบเดียว แต่เต้ที่ถึงจะสลบไปแล้ว แต่ร่างกายของเขาก็ตอบสนองผมอย่างดี จนกลายเป็นอีกรอบ และอีกหลายรอบ กว่าจะสุขสมใจก็ไม่ทันได้นับแล้วว่ามันกี่ครั้ง

ลุกไปห้องน้ำเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้า เช็ดตัวทำความสะอาดให้เต้ ที่นอนตัวอ่อนละทวย เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ เพื่อให้เขาได้นอนสบายตัว ก่อนที่จะเข้าไปชำระร่างกายตนเองบ้าง แต่งตัวเสร็จแล้วจึงตรงกลับไปที่เตียง นั่งพิงหัวเตียงมองดูอีกคนที่หลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

ตอนนี้เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้ว ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครง่าย ๆ ยิ่งมองยิ่งมีความสุข ผมคงหลงรักเขาตั้งแต่ครั้งแรกแล้วล่ะผมว่านะ แต่ที่ไม่รู้ตัวเพราะผมไม่คุ้นเคยกับคำว่ารักซักเท่าไหร่ ยิ่งได้เป็นเจ้าของเขาแล้ว มันทำให้ยิ่งหลงเขามากยิ่งขึ้น ผมต้องกลับบ้าน ผมจะพาเขาไปด้วย ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยเขาไปหรอก ก้มลงจูบหน้าผากเต้เบา ๆ ก่อนจะล้มตัวลงข้าง ๆ กัน และดึงเขาเข้ามาไว้ในอ้อมกอด มองหน้าคนหลับไม่วางตา พรางคิดไปด้วยว่า จะทำอย่างไรดีพรุ่งนี้ที่ตื่นขึ้นมา อยากให้เขายอมรับผม และไปอยู่กับผมที่บ้าน แต่ต้องคิดเผื่อเขาดื้อ ไม่ยอมทำตามด้วย ถึงจะต้องใช้กำลังบังคับก็ต้องทำล่ะ

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 12 Finally I got you. (19/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-01-2015 03:54:05
ซัน......แม่ยกอ้าปาก.....ง่าาาาา (พูดไม่ออก) :katai1:

ปล้ำเต้เลยเหรอ? โห  แล้วน้องมันจะรักนายได้เมื่อไหร่เนี่ย?

สามคนที่ว่าคงเป็นคนที่ชะนีสั่งมาล่ะสิ  เสียดายนะที่เต้จะไม่รู้ความเลวของคนที่รัก 

ไปๆมาๆเต้ก็โดนปล้ำอยู่แล้วใช่ไหม?

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 12 Finally I got you. (19/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 19-01-2015 12:42:04
ซัน......แม่ยกอ้าปาก.....ง่าาาาา (พูดไม่ออก) :katai1:

ปล้ำเต้เลยเหรอ? โห  แล้วน้องมันจะรักนายได้เมื่อไหร่เนี่ย?

สามคนที่ว่าคงเป็นคนที่ชะนีสั่งมาล่ะสิ  เสียดายนะที่เต้จะไม่รู้ความเลวของคนที่รัก 

ไปๆมาๆเต้ก็โดนปล้ำอยู่แล้วใช่ไหม?


อ้าวนึกว่าพวกแม่ยกจะดีใจนะที่ เต้เสร็จซันซะที?  :m28:
ส่วนเรื่องรัก ไม่ต้องห่วง ได้กันแล้วเดี๋ยวมันก็รักกันไปเองแหล่ะ (รึเปล่า?)
เหอ ๆๆๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 12 Finally I got you. (19/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 19-01-2015 18:06:52
เห้ย สนุกมาก!!!
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 13 It’s ok, I’m paid, Good(24/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-01-2015 13:55:01
ขอบคุณที่ชมว่า "เห้ย สนุกมาก!!!" ดีใจคะ ที่ชอบกัน  :hao5:



*******************************************************



ตอนที่ 13 It’s ok, I’m paid, Good bye



เฮ้อ เพลียชะมัด หนักตัวด้วย กี่โมงแล้วนี่ โอ้ย ไม่อยากจะเชื่อเลย จะเที่ยงแล้วเหรอเนี่ยะ ต้องรีบไปแล้ว ไม่อยากจะเร่งรีบเกินไป

...ก็ไม่ใช่ครั้งแรกนะ แต่ก็ไม่เคยถูกทำอย่างหื่นกระหายอย่างที่ไอ้หมอนี่มันทำ รับแทบไม่ไหว เนี่ยะถึงกับหมดสติไปตั้งแต่อยู่ในรถ ค่อย ๆ ยันตัวขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก ทั้งเจ็บทั้งแสบไปทั่วร่าง มองไอ้คนข้างเคียงที่ยังคงหลับสนิทอยู่

“ไอ้บ้า เล่นซะสลบไปบนรถไม่พอ ยังจะมาต่อที่ห้องอีก ไม่บันยะบันยังเลย ไอ้หื่น ไอ้เลว ไอ้ ๆๆๆ.....เฮ้อ” อยากจะด่ามันให้เจ็บแสบแต่ก็ไม่อยากปลุกให้มันตื่นขึ้นมา ทำอะไรผมอีก ดันเผลอคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน ก็ยิ่งร้อนหน้า ตอนกลับมาที่ห้องก็ไม่ถึงกับไร้สติซะทีเดียว แค่ไม่มีแรงจะลืมตาหรือจะขัดขืน กับคนไร้สติยังไม่เว้น ไอ้เล๊ว เลว

แต่ก็ยอมรับเลยว่า ไอ้หมอนี่มันเก่งเรื่องบนเตียงจริง ๆ ทำให้เมื่อคืนผมมีความสุขจนละลายไปเลย อดจะหมั่นใส้ไอ้หน้าหล่อข้าง ๆ ไม่ได้ อยากต่อยหน้ามันจัง ๆ ซักทีจริง ๆ

“พอใจแล้วซิ ดูทำหน้าเข้า ไม่ต้องมาทำหน้าสุขสมซะขนาดนี้เลย” ยิ่งพูดก็ยิ่งอายตัวเอง ที่เมื่อคืนถึงไม่ถูกมัดก็คงให้ความร่วมมือเต็มที่แหล่ะ ก็มันเร่งจนอารมณ์ขึ้นซะขนาดนั้นแล้วนี่ เห็นมันนอนยิ้ม ๆ ก็เผลอยิ้มตาม

“หมดหนี้กันแล้วนะ ไอ้บ้า” อดจะเสียดายไม่ได้ ถ้าเราได้เจอกันในสถานการณ์ปกติ ผมอาจจะชอบเขามากกว่านี้ก็ได้ เฮ้อ เลิกคิดละ ผมต้องไปแล้ว กว่าจะลุกขึ้นมายืนได้ก็แข้งขาอ่อนไปอ่อนมาอยู่พักใหญ่ เก็บเสื้อผ้า กางเกงที่กระจัดกระจายไปคนละทางมาใส่ แต่งตัวให้เรียบร้อย มองหากระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือ ดูรอบ ๆ ไม่ลืมอะไรแล้ว หันไปมองผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เดินออกจากประตูไป “ลาก่อน”







กลับมาถึงบ้านอย่างลำบากลำบน มากับแท็กซี่ครับ ชั่วโมงนี้ให้โหนรถเมล์คงกลับไม่ถึงบ้านแน่ กระเป๋าผมจัดไว้เรียบร้อยแล้วครับ เดินไปบอกลาอากู๋ อากิ๋ม และคนในร้าน น้ำตาพาลจะไหล ผมคิดเสมอว่าจะต้องออกไปจากที่นี่ แต่พอถึงวันนี้จริง ๆ มันทำใจยากครับ ไม่อยากจากความคุ้นเคยที่นี่ไปเลย

เฮียตง อาสาไปส่งผมที่สถานีขนส่ง แปลกดี ผมไม่เคยคุยกันดี ๆ กับเฮียมันเกิน 2 คำเลย แต่วันนี้เฮียมันพูดจาดีมาก ไม่มีหมาออกจากปากมันซักตัว ผมเคยอิจฉาเพื่อน ๆ ที่มันมีพี่น้องเล่นด้วย เวลามองเฮียมันตอนเด็ก  ๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันจะต้องว่าผมด้วย ทำไมมันไม่รักผม ผมเป็นน้องมันนะ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันก็รักผมเหมือนกัน

“เต้ ยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของเต้ เหมือนกันนะ ไม่ว่าจะมีความสุข ความทุกข์ เหนื่อย หรืออ่อนล้า ก็กลับมาได้ตลอดเวลานะ รู้ไหม” เฮียตงมาส่งจนถึงรถทัวร์ ก่อนจะพูดประโยคซึ้ง ๆ ให้ผมเกือบต่อมน้ำตาแตก

“ขอบคุณครับเฮีย เฮียก็ดูแลตัวเองนะ ฝากดูแลอากู๋ด้วยนะครับ”
“โอ้ย ขานั้นแข็งแรงอย่างกับม้า ไม่เป็นไรง่าย ๆ หรอก”

“พูดบ้า ๆ เฮียนี่ ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ เออ ๆ โชคดีนะเต้”

พูดถึงอากู๋ก็ยิ่งคิดถึง แต่ไม่เป็นไร ฝากเฮียแล้วมันคงดูแลป๊ามันได้อยู่แล้ว ผมหัวเราะ เฮียก็หัวเราะ ไม่รู้ว่าจะได้เจอเฮียมันอีกเมื่อไหร่ ยกมือไหว้ ก่อนจะเข้าไปกอดเฮีย เฮียมันมีท่าทีตกใจไม่น้อย หันซ้ายหันขวา คงอายเพราะเห็นหน้ามันแดง ๆ แต่ซักพักมันก็กอดตอบกลับมา น้ำตาซึมเลยอ่ะ ก่อนขึ้นรถผมไม่ลืมส่งเบอร์โทรศัพท์ใหม่ให้กับเฮีย ผมเปลี่ยนเบอร์แล้วครับ ไม่อยากให้คนที่ไม่อยากเจอ ติดต่อได้อีก

รถออกจากชานชาลา ตามเวลา ผมเลือกที่นั่งข้างหน้าต่าง นั่งมองข้างทาง ที่ทัศนียภาพเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากตึกรามบ้านช่องน้อยใหญ่ และรถราพลุกพล่านของเมืองหลวง ก็ค่อย ๆหายไปเป็นบ้านเรือนตามต่างจังหวัดเรื่อย ๆ

ชีวิตใหม่ของผมไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็คิดไว้ว่าจะอดทน จะฝ่าฟันไปให้ได้ ผมไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวไกล ๆ อย่างนี้มาก่อนเลย อดจะวิตกไม่ได้ น้ำตาไหลอาบแก้ม คิดอะไร ๆ ไปอีกล้านแปด

สุดท้ายก็ดันไปคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก หน้าร้อนวาบ  เพราะไอ้บ้านั่นทีเดียว ทำซะไม่ยั้งเลย ต้องมานั่งรถหลาย ๆ ชั่วโมง มันลำบากนะโว้ย ไม่รู้มันไปตายอดตายอยากมาจากไหน...........ถึงจะอดชื่มชมฝีไม้ลายมือมันไม่ได้ ก็เมื่อคืนผมมีความสุขซะลืมเรื่องทุกข์ใจทั้งหลายทั้งแหล่ไปเลย ลืมกระทั่งลีลารักของเพชร ที่เคยฝังอยู่ในความทรงจำ อดจะเปรียบเทียบผู้ชายสองคนนี้ไม่ได้ ร่วมรักกับเพชร เหมือนเขาจะหาความสุขจากร่างกายของผมมากกว่าที่เราจะมีความสุขร่วมกัน ฮึ แต่ช่างเถอะ พอกันที ผู้ชาย 2 คนนี้ เราคงไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 13 It’s ok, I’m paid, Good(24/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 25-01-2015 16:37:58
เต้ สู้ๆๆ นะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 13 It’s ok, I’m paid, Good(24/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sin ที่ 25-01-2015 21:02:52
สนุกอ่ะเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลย จุใจมาก
มาเชียร์เต้ต่อ ดีนะเต้ไม่ใช่นางเอกดราม่ามาก มันเลยไม่เศร้าจนเกินไป ชอบเต้อ่ะ 555 สงสารด้วย
อยากให้เต้มีความสุข
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 13 It’s ok, I’m paid, Good(24/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 30-01-2015 16:42:17
สนุกอ่ะเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลย จุใจมาก
มาเชียร์เต้ต่อ ดีนะเต้ไม่ใช่นางเอกดราม่ามาก มันเลยไม่เศร้าจนเกินไป ชอบเต้อ่ะ 555 สงสารด้วย
อยากให้เต้มีความสุข


ขอบคุณที่ติดตามเต้นะคะ  :กอด1:  ไม่ถนัดต้มมาม่าคะ แล้วชอบให้ตัวเอกคิดบวกมากกว่าคะ ชีวิตมันตัองต่อสู้   :a2:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 31-01-2015 01:12:10
ตอนที่ 14 Island of love.




 
เมื่อยอ่ะ นั่ง ๆ นอน ๆ ในรถทัวร์ ร่วม 10 กว่าชั่วโมงแล้ว ก็ได้ลงมายืนบนพื้นซะที เปลี่ยนท่านั่ง ตะแคงซ้าย ตะแคงขวา โครตเมื่อยเลยอ่ะ ตามที่อาจารย์บอกมา ว่าให้ผมลงที่อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี

ใช่ครับตอนนี้ผมถึงจังหวัดภูเก็ตแล้วครับ ไข่มุกอันดามัน สวรรค์แดนใต้ ทันทีที่ถึง ผมก็ข้ามไปเกาะกลางถนน วงเวียนที่ตั้งของอนุสาวรีย์ 2 ท้าว พนมมือก้มกราบ ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเป็นหลาน ให้ท่านช่วยดูแล และคุ้มครอง ถึงที่ ๆ ผมจะไปทำงาน จะไม่ใช่เขตของภูเก็ตก็เถอะ

ฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาง ผมเดินงัวเงียกลับไปทางฝั่งตลาด พร้อมกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลาง ของผมไม่ค่อยเยอะครับ รีสอร์ทมีเครื่องแบบให้แล้ว เลยไม่ได้ขนเสื้อผ้ามาซักเท่าไหร่ ของใช้ส่วนตัวก็ไม่มีอะไรมาก ผมต้องหารถไปท่าเรือบางโรง แต่ผมว่ายังเช้าไป ผมหาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า คนเริ่มพลุกพล่าน รถราก็เริ่มเติมเต็มท้องถนน ที่นี่คึกคักมาก มีคนหลายเชื้อชาติเข้ามาเที่ยวและมาทำงาน มาอยู่อาศัย โดยเฉพาะคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ขนาดเด็กที่ยกโอวัลติลร้อนมาให้ผม ยังเป็นพม่าเลย ฮ่ะๆๆๆ


กว่าจะถึงท่าเรือก็นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างจนหัวฟูเลย เดินยกกระเป๋ามองซ้าย มองขวา ก็มีคนเข้ามาถามว่าผมจะไปไหน เป็นภาษาใต้ กว่าเขาจะเข้าใจว่าผมไม่ค่อยเข้าใจก็ซักพักใหญ่ ได้เรือที่ต้องการก็ยกกระเป๋าไว้ในเรือ ส่วนตัวผมก็ออกมาถ่ายรูปรอบ ๆ บริเวณ

“อ่ะ ขอโทษครับ” มัวแต่ยกกล้องถ่ายรูป เผลอไปชนคุณลุงคนหนึ่งเข้า
“ไม่พรื่อลุกเอ๊อ” ลุงแกผิวสีน้ำตาลเข้ม ท่าทางใจดี หันมายิ้มให้ พร้อมส่งภาษาใต้มาให้ผมงงอีกละ เห็นลุงแกมีสัมภาระเยอะมาก ผมเลยเสนอตัวช่วยแกขนของลงเรือ แกก็จะไปเกาะยาวน้อยเหมือนกัน

“ขอบใจมากพ่อหนุ่ม เรามาจากไหนล่ะ?” ลุงแกพูดกลางกับผมแล้วครับ เพราะเห็นผมทำหน้างงมากไปหน่อย

“ผมมาจากกรุงเทพครับ”
“มาเที่ยวเหรอ”
“เปล่าครับผมมาทำงาน ลุงรู้จักรีสอร์ท S ไหมครับ?”

ลุงมองหน้าผมครู่หนึ่ง “อ้อรู้จักซิ อยู่ติดกับบ้านลุงเลย”

“ดีจังครับ ต่อไปผมก็ฝากตัวด้วยนะครับลุง”
“ฮ่ะๆๆๆ เออ ๆ รับฝาก ๆ”

พอลงเรือมานั่งกัน ก็ได้ยินแต่คนทักลุงกันใหญ่ เรียกลุงว่านายหัว ๆ ผมเคยได้ยินคำนี้ เขาใช้เรียกคนขับรถ ผมจำได้ ลุงแกคงขับรถอยู่ในเกาะแน่เลย คุยกันถูกคอ ลุงแกคุยสนุก มีเรื่องเล่า เรื่องบอกเยอะแยะไปหมด หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก อดจะนึกถึงอากู๋ไม่ได้ ขานั้น ถามคำตอบคำ ป่านนี้คงตื่นมาเตรียมของแล้ว

ทะเลอันดามันสวยงามอย่างที่ล่ำลือกันจริง ๆ น้ำเป็นสีเขียว สีฟ้า อย่างกับท้องฟ้าเป็นผืนเดียวกันกับท้องทะเล ภาพความงามที่ผ่านตาทำให้ผมพอจะคลายความเหงาลงได้บ้าง

“แล้วมาไกลขนาดนี้ที่บ้านไม่ห่วงเอาเหรอ”
“อ้อ ผมกำพร้าครับ พ่อแม่เสียหมดแล้ว โตมากับลุงครับ ท่านก็ห่วงครับ แต่ผมโตแล้ว ผมก็อยากจะทำอะไรด้วยตัวผมเองบ้างนะครับ”

“แล้วไม่มีแฟนที่กรุงเทพเหรอ หน้าตาอย่างเรานี่ ไม่น่าจะเหลือนะ รูปหล่อขนาดนี้ อย่าทำให้พวกสาว ๆ บนเกาะอกหักละ ฮ่ะๆๆๆ”
“ฮะๆๆ เคยมีครับ แต่เลิกกันแล้วครับ ผมมันฐานะไม่ดี ทางบ้านเขาไม่ค่อยชอบครับ”

“อะไรกัน ยังมีอีกเหรอสมัยนี้ ไอ้พวกกีดกันฐานะเนี่ยะ น้ำเน่าชะมัด”
“ช่างมันเถอะครับ ผมทำใจได้แล้ว ก็อวยพรให้เขามีความสุขกับคนที่เขาจะแต่งงานด้วยนั่นแหล่ะครับ”

“อือ ๆ ดี ๆ อายุขนาดนี้คิดได้ขนาดนี้ ก็ดีแล้วละพ่อหนุ่ม ผิดกับลูกชายลุง อายุน่าจะพอ ๆ กัน แต่ไม่ไหว เห็นมีแต่เที่ยว ไม่เป็นโล้เป็นพาย ดีว่ายังเรียนจบนะ”

“วัยรุ่นก็อย่างนี้แหล่ะครับ ถ้าเขาจบแล้วต่อไปก็คงคิดได้”
“ลุงก็หวังอย่างนั้น อ่อ ถึงแล้ว ไป ๆ เตรียมตัว ๆ อย่าลืมของละ”

เรือจอดเทียบท่าเรือสะพานปูนสูงมากครับ ดีว่าน้ำขึ้น จึงขึ้นท่าได้ง่าย ผมก็ยังช่วยคุณลุงขนของขึ้นมาที่ท่า

มองไปรอบ ๆ เห็นทั้งคนไทย และต่างชาติเดินกันให้ควัก หน้านี้ใกล้จะเริ่มไฮแล้ว คนเริ่มมาเที่ยวกันแล้ว ผมรับงานนี้มาจากอาจารย์ งานในรีสอร์ทของรุ่นพี่ ที่เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา มีที่พัก มีอาหารให้ทุกมื้อเลยครับ เงินเดือนก็ใช้ได้ ผมมาทำแผนกบัญชีครับ

เห็นว่าเขาจะส่งรถมารับ ผมก็มอง ๆ อยู่ ไม่เห็นรถเลย มีแต่มอเตอร์ไซด์ และรถมอเตอร์ไซด์พ่วง
“น้อง ๆ น้องชื่อเต้ รึเปล่า?”
“ครับ ผมเอง” ซักพักก็เจอคนมารับแล้ว

“เอาของขึ้นรถเลย” ฮะๆๆ รถที่ว่าคือข้างมอเตอร์ไซด์พ่วงนั่นแหล่ะครับ
“ลุง ๆ ไปด้วยกันมั๊ยครับ” วิ่งมาหาลุงที่แกยืนไม่หือไม่อือ ไม่เห็นมีญาติ ๆ มารับแกเลย

“เฮ้ยๆ ไอ้น้อง นี่รถของโรงแรมนะ ไม่ใช่รถสาธารณะ จะได้เที่ยวรับใครมั่วตั๊ว .....เฮ้ย นายหัว” พี่ที่มารับ ท่าทางหงุดหงิด แต่พอเห็นลุงแกชัด ๆ ถึงกับหน้าซีดเลย เรียกลุงแกเสียงสั่น

ผมหันไปมองลุง ลุงก็ยิ้มแล้วเดินไปตบบ่าพี่เขา “ลุงไปด้วยซิ ไอ้หนุ่ม”
“ครับ ๆ เชิญครับ” โห ท่าทางลุงแกจะไม่ธรรมดาแฮะ

ระหว่างทางก็คุยกันต่อไป แกชี้ให้ดูนั่นดูนี่ มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ที่สำคัญไม่ต้องกลัวอดครับ มี เซเว่นด้วย เย้ แต่ลุงบอกว่าที่นี่เป็นมุสลิมซะส่วนใหญ่ ฉะนั้น เซเว่นสาขานี้ ไม่มีหมูครับ







กว่าจะถึงรีสอร์ท ก็กระเด้งกระดอนกันพอสมควร หัวเหอ กระจัดกระจาย

“ลุงบ้านลุงอยู่ไหน เดี๋ยวผมช่วยขนของเข้าบ้านให้”
“ฮ่าๆๆๆ ใจดีจริง ๆ........อยู่ที่นี่แหล่ะ”

เอ่อ.............ถ้าใครดูหน้าผมตอนนี้ก็คงเห็น งองูอยู่บนหน้าผม 2 ตัวแน่ ๆ ก็ที่ลุงแกชี้ และบอกว่าเป็นบ้านแกน่ะ มันไม่เห็นมีบ้านใครเลย นอกจากรีสอร์ทที่ผมกำลังจะเข้ามาเป็นพนักงานเร็ว ๆ นี้

ซักพัก ก็มีพนักงานผู้ชาย ผู้หญิง ในรีสอร์ท 3 คนวิ่งเข้ามาไหว้ลุงแก และช่วยกันขนของทั้งหมดเข้าไปในรีสอร์ท ต่อจากนั้นก็มีผู้หญิงแต่งตัวดี รูปร่างกะทัดรัด สวยสง่า เดินเข้ามาไหว้ลุงอีกคน

“สวัสดีคะพ่อ กลับมาทำไมไม่โทรมาแจ้งล่วงหน้าคะ จะได้ให้คนไปรับตั้งแต่สนามบิน”
“ยัยมีน คิดถึงจังเลยลูก”

“เป็นอย่างนี้ทุกที ไปดูงานทีเป็นเดือน กลับมาก็ไม่เคยแจ้ง ทำให้พวกเด็ก ๆ มันวุ่นวายไปหมด”
“ฮ่าๆๆๆๆ สนุกดี ไม่งั้นจะได้เห็นอะไรดี ๆ เหรอ”

“ค่า.....ว่าแต่นี่ใครค่ะ?”
“อ้อ เพื่อนร่วมทางน่ะ เห็นว่าจะมาทำงานที่นี่”

“อ้อ คุณเต้รึเปล่าคะ?”
“อะ เอ่อ ครับ ๆ ผมเต้ครับ คุณมินตราใช่มั๊ยครับ” ผมที่ยังตะลึงไม่หาย ที่ลุงท่าทางบ้าน ๆ ทีผมคุยมาตลอดทาง แกเป็นถึงเจ้าของรีสอร์ทที่ผมจะมาทำงานด้วย จนคุณมินตราทักขึ้นจึงได้สติ แต่ก็ยังตอบเสียงตะกุกตะกัก กลับไปจนเธอถึงกับขมวดคิ้ว

“เอ่อ...เรียกพี่มีนก็พอจ๊ะ ....เน ๆ พาน้องเข้าไปเก็บของที่ห้องพักหน่อย พักก่อนแล้วตอนเย็น ๆ ค่อยมาพบพี่ที่ห้องบัญชีนะ”

คุณมินตราท่าทางใจดี ให้ความสนิทสนม ให้ผมเรียกเขาพี่ด้วย ก่อนจะหันไปหาเด็กผู้ชายที่อายุอานามน่าจะพอ ๆ กับผม ให้พาผมไปห้องพัก รับคำพี่มีน ยกมือไหว้พี่เขาและลุงก่อนจะหิ้วกระเป๋าตามเขาไป


“อ่ะ เดี๋ยวก่อน ๆ ไอ้หนู ลุงมีบ้านพักหลังรีสอร์ท ไม่มีคนอยู่นานแล้ว ช่วยไปเก็บกวาดให้หน่อยซิ ต่อไปลูกชายลุงจะกลับมาอยู่ที่บ้านนั้น เอ็งก็อยู่กับมันนั่นละกัน มี 2 ห้องพอดี ไอ้ลูกชายลุงมันไม่ค่อยเอาไหน ถ้าได้อยู่กับเอ็ง มันคงจะซึมซับอะไรดี ๆ บ้าง”

“เอ๋ พ่อคะ นั่นให้แม่บ้านไปทำเถอะคะ น้องเขามาทำงานบัญชีนะคะ”
“เอ่อ ผมทำได้ครับ”

“ดี ๆ งั้นก็ยังไม่ต้องเริ่มงานหรอก ไปทำความสะอาดบ้านพักก่อนเถอะ”
“ครับ”



ถึงจะงง ๆ งวย ๆ อยู่บ้าง แต่ผมก็เดินหิ้วอุปกรณ์ทำความสะอาดมาจนถึง บ้านพักหลังรีสอร์ท.........ว้าว อยู่ห่างชายหาดนิดเดียว มองบ้านไม้ยกพื้นไม่สูงมาก ด ขนาดไม่ใหญ่ไม่โต บรรยากาศสบาย ดูน่าอยู่มาก ด้านหน้ามีระเบียง และชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นสีขาว ดูสบายตา

มองจากภายนอก  ก็ดูสะอาดดี มีแค่เศษใบไม้บ้างเท่านั้น พนักงานชายทีเดินมาส่ง มองหน้าผมอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่ไม่พูดอะไร ก็หันหลังเดินกลับไปทางรีสอร์ท

ผมเดินสำรวจรอบ ๆ บ้าน ก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้าน ไขกุญแจเข้าไป ภายในมีผ้าคลุมโซฟาสีขาวคลุมไว้ทุกชิ้น ผมเลยค่อย ๆ เปิดและพับเก็บผ้าคลุมไว้ ก็จริงอย่างที่คาด ภายในบ้านก็ไม่ได้สกปรกอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย คงมีคนมาทำความสะอาดอยู่เสมอ ผมก็แค่กวาด ๆ ถู ๆ นิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ภายในมีห้องซ้าย ขวาด้านละห้อง ภายในห้องจัดแต่งใกล้เคียงกัน แต่ดูออกว่าห้องทางขวาใหญ่กว่าห้องทางซ้าย ส่วนตรงกลางเหมือนห้องรับแขก มีชุดโฮมเธียร์เตอร์ ขนาดพอดีกับห้อง และเบาะที่นั่งวางอยู่ที่พื้นหลายใบ

เดินออกมาที่ระเบียงบ้านมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าต้นไม้ ใบไม้รอบ ๆ ดู ซึมเซา ไม่รู้ว่ามีคนมารดน้ำให้หรือเปล่า คิดไปคิดมาระหว่างทางที่เดินมาด้านหลังรีสอร์ท เห็นมีกล้วยไม้ที่ไม่มีดอกแล้วถูกทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ จึงเดินไปเก็บมาพร้อม กาบมะพร้าว มาติดตามต้นมะพร้าว และต้นไม้ใกล้ ๆ บางส่วนก็ใส่กระถางวางที่พื้นบ้าง บนเรือนบ้าง ทำไปทำมาเพลิน ๆ ก็เย็นย่ำพอดี แสงสุริยาเริ่มจะลาลับเส้นขอบฟ้า ถึงเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย พอคิดถึงท้องก็ร้องประท้วงทันที เอาของเข้าไปเก็บในห้องเล็กทางซ้าย ก่อนจะเดินกลับไปทางรีสอร์ท เพื่อหาอะไรรองท้อง

ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่เลย นี่เป็นการทำงานครั้งแรกของผมเลย ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ผมว่าผมชอบนะ

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 31-01-2015 03:56:56
คุณคนเขียน  - แม่ยกไม่พอใจเพราะว่าฉาก nc แบบแพนกล้องไปข้างฝานะสิ  :katai1:

ยังดีที่ซันเก่งพอที่เต้พอใจแล้วลืมอิเพชรไปได้
รีสอร์ทนี้ของพ่อซันหรือเปล่า?

รีบทำคะแนนเลยนะเต้
ไม่หนุกไม่ตามอ่านหรอกนะคนเขียน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 31-01-2015 13:52:49
ซันคงเป็นลูกของคุณลุงแน่ๆ แล้วเต้จะหนียังไงเนี่ย คาดว่าจะได้นอนบ้านเดียวกันอีก

ปล.ตามอ่านรวดเดียวเลยยย สนุกมากกกกก เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 01-02-2015 01:08:39
อยากอ่านต่อๆๆ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 01-02-2015 17:24:40
คุณคนเขียน  - แม่ยกไม่พอใจเพราะว่าฉาก nc แบบแพนกล้องไปข้างฝานะสิ  :katai1:

ยังดีที่ซันเก่งพอที่เต้พอใจแล้วลืมอิเพชรไปได้
รีสอร์ทนี้ของพ่อซันหรือเปล่า?

รีบทำคะแนนเลยนะเต้
ไม่หนุกไม่ตามอ่านหรอกนะคนเขียน  :hao3:


โฮะๆๆๆ คุณแม่ยก - พอดีหาปลาทองมารับบทนักแสดงนำไม่ได้อ่ะ :m11:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 01-02-2015 17:50:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 01-02-2015 18:24:25
พ่อของพระเอกเราสินั :mew5:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 14 Island of love. (31/01/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 07-02-2015 04:53:26
เฮ้ออออยากเห็นเต้มีความสุขจัง ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับที่ใหม่ๆ ส่วนซันเป็นพระเอกจริงๆหรอ?  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 15 Lucky & Busy (08/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 08-02-2015 02:19:25
อยากเห็นเต้มีความสุข เหมือนกันจ้า แต่หนทางข้างหน้าจะมีอะไรก็ คอยเอาใจช่วยกันด้วยนะ  :m18:

ส่วนซัน ก็ดูเป็นพระเอกนี่นา ไมอ่ะ หล่อ รวย เลว ยังไม่ครบสูตร พระเอกอีกเหรอ??????  :m28:


*************************************************************




ตอนที่ 15 Lucky & Busy




(มินตรา)




“พ่อคะ”
“หือ?”

“ดูพ่อจะเอ็นดูน้องเขามากเลยนะคะ บ้านนั้นแม่เล็กเคยอาศัยอยู่ พ่อไม่เคยให้ใครเข้าไปยุ่งเลยนอกจากให้ไปทำความสะอาด”
“อื้อ ก็เห็นเป็นเด็กดี รู้จักคิด อยากให้เจ้าตัวแสบมันได้เรียนรู้ ซึมซับไว้บ้าง และที่สำคัญน่ารักมากด้วย.......มองพ่ออย่างนั้นทำไม”

“..........พ่อคะ.....หวังว่าจะไม่ใช่น้องชายหนูอีกคนนะคะ”
“โห้ย!!!!!!!  ไม่ใช่ๆๆๆๆ”

“ดีคะ อย่าเห็นว่าหนูยอมนะคะ แค่คนเดียวไม่เป็นไร แต่ถ้ามีอีกคน...........พ่อจะได้รู้ว่าหนูร้ายกว่าแม่แค่ไหน”
“อูยยยยยย ยัยมีน พ่อไม่กล้าหรอกครับคุณลูกคร๊าบบบบ”



(ยังมีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 15 Lucky & Busy (08/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 08-02-2015 02:23:05
(มาต่อจ้า)




วันรุ่งขึ้น ผมอาบน้ำแต่งตัวไปรอที่ห้องบัญชีตั้งแต่เช้าเลยครับ ห้องพี่มีนเป็นห้องกระจกอยู่ด้านในสุดของห้องบัญชีอีกที มองซ้าย มองขวา สงสัยผมจะมาเช้าไปหน่อย ยังไม่มีใครมาเลย

ตื่นเต้นครับ เมื่อคืน ก็นอนไม่ค่อยหลับ อากู๋ก็โทรมาถามว่าเป็นอยู่สุขสบายดีไหม มีอะไรขัดข้องลำบากกายลำบากใจหรือเปล่า น้ำเสียงแกที่ได้ฟังทางโทรศัพท์ ทำเอาผมน้ำตาร่วงเผาะเลยครับ อากู๋ดูจะพูดมากกว่าทุกครั้งที่เราคุยกัน จนเฮียตงมันมาแย่งสายไปพูดนี่แหล่ะ เลยฮาขึ้นมาได้ เฮียมันบอกว่า โกหมูแกจะให้หลานแกมาฝึกงานที่ร้าน เฮียมันเลยคาดว่าไม่นานมันคงหาวันหยุดมาเยี่ยมผมได้แน่ ดีเลย ที่นี่สวยมากอยากให้อากู๋อากิ๋ม กับเฮียมาเห็นจริง ๆ


พี่มีนเริ่มต้นวันแรกของผมด้วยกองเอกสารเก่าให้ผมศึกษาเป็นไกด์ไลน์ก่อน แล้วจึงให้ช่วยเรื่องงานบัญชี ผมตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง ไม่อยากให้พี่เขาว่าได้ว่าอาจารย์วิทยา ส่งคนไม่เอาไหนมา  ไม่นานก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องให้พี่มีนคอยกำกับ พี่เขายังชมผมเลย

แล้วนอกจากพี่มีน แล้วก็ยังมีพี่วัชร อีกคนในแผนกบัญชี  พี่วัชร เป็นคนจังหวัดกระบี่ แต่มาตั้งรกรากที่เกาะนานแล้ว พี่เขาหน้าตาคมเข้มอย่างคนใต้ ดูดุ ๆ หน่อย อายุมากกว่าพี่มีน 5 ปี ทำงานมาตั้งแต่ รุ่นพ่อของพี่มีน ซึ่งก็คือลุงนั่นเอง ............อ้อตอนนี้ผมรู้แล้วครับ ว่าคำว่า นายหัว ไม่ใช่คำใช้เรียกคนขับรถอย่างเดียว แต่ก็หมายถึง หัวหน้า เจ้าของ หรือนายใหญ่นั่นเอง ดีไม่ปล่อยไก่ถามไปว่าแกขับรถที่ไหน ฮะๆๆๆๆ 

แต่แกใจดีกับผมมากครับ หลังจากไปอยู่ที่บ้านพักหลังรีสอร์ท ซึ่งเป็นส่วนตัว และเงียบสงบมาก บางที แกก็เดินมาคุยด้วย บอกให้ผมเรียกแกว่าลุงต่อไป และแนะนำให้ผมรู้จักภรรยาของแกด้วย คุณวรรณภา ภรรยาของลุง เป็นคนสวยมาก แม้จะสูงวัยแล้ว แต่เค้าความสวยยังมีให้เห็น ตอนสาว ๆ คงสวยเหมือนพี่มีนนั่นแหล่ะ ตอนแรกก็ประหม่านิดหน่อย ท่าทางแกไม่ใช่คนช่างคุย แต่พอคุยไปคุยมาซักพัก ก็ดูจะคุยกันถูกคอดีครับ แกเลยบอกให้ผมเรียกแกว่าป้าด้วยครับ.............เอ่ออันนี้ขอละไว้ได้มั๊ยครับ ผมว่ามิบังควร ฮ่ะๆๆๆ


หมดวันแรกของการทำงาน เลิกงานแล้วผมก็เดินไปหาอะไรกินก่อนจะกลับไปที่บ้านพัก เปลี่ยนเสื้อพนักงานเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เอาโน้ตบุ๊คมาเปิดบนโต๊ะ นั่งรับลมเย็น ๆ ที่ระเบียง เพื่อหาความรู้เรื่องหุ้น และกองทุน ผมใช้เงินที่ได้มาจากอากู๋ บางส่วน ลงทุนไปในหุ้น และกองทุน รวมถึงสลากออมสิน เผื่อโชคดีด้วย แต่ตอนนี้ผมว่าผมโชคดียิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก

“อ่า โชคดีจริง ๆ ด้วย ได้งานดี คนที่นี่ก็ดี ที่อยู่ก็ดีมากเลย ไม่มีอะไรสุขใจไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว” ผมพูดออกมาอย่างที่ใจคิด ก็มันดีจริง ๆ นี่นา พี่วัชร ท่าทางจะดุ แต่ก็ไม่ได้ดุไร้เหตุผล ถ้าทำงานถูกใจแก ๆ ก็ไม่ว่าอะไรแล้ว ส่วนพี่มีน นี่ใจดี แต่ก็ต้องตั้งใจทำงาน พี่เขาเก่งมาก ๆ เลย สิ่งที่เรียนมาได้นำมาประยุกต์ใช้ ยิ่งรู้สึกดีมากขึ้น




“ดีใจที่เธอชอบที่นี่จ๊ะ”
“พี่มีน...เอ่อ มีอะไรจะให้ผมทำรึเปล่าครับ โทรมาตามก็ได้ครับไม่เห็นต้องมาเองเลย” ตกใจหมดเลยครับ อยู่ ๆ พี่มีนก็โผล่เข้ามายืนข้าง ๆ มัวแต่สนใจหน้าจอ ไม่ได้ยินเสียงพี่เขาเดินเข้ามาเลย

“เปล่าจ๊ะ ไม่มีอะไร พี่แค่อยากมาดูบ้านเท่านั้นเอง...อือ สะอาด เรียบร้อยดีนะ”
“ครับ ขอบคุณครับ....พี่นั่งก่อนครับ”

“คิดถึงบ้านหลังนี้น่าดู ตอนเด็ก ๆ พี่กับน้องชายมาเล่นกันที่นี่ประจำ ซนจนข้าวของเสียหาย จนถูกดุถูกตีทุกที ฮะๆๆๆ”
“ฮ่ะๆๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าอย่างพี่มีนจะมีช่วงเวลาซน ๆ ด้วย”

“อะไร ๆ พี่ก็เคยเป็นเด็กมาก่อนนะจ๊ะ”
“ผมก็มีพี่ชายครับ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เฮ้อ เด็กผู้ชายสองคน ทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน แต่ถ้าลุงจับได้ว่าทะเลาะกันนี่ น่ากลัวมากครับ ถูกตีแพ็คคู่เลยนะครับ จนตอนหลังเวลาจะทะเลาะกันนี่ ต้องกระซิบกระซาบทะเลาะกัน กลัวลุงได้ยินครับ”

“จริงเหรอ กระซิบทะเลาะกัน มันดูตลกมากเลยนะพี่ว่า...........ฮึๆ เห็นเธออยู่ได้พี่ก็เบาใจ หลายคนที่อาจารย์ส่งมา อยู่ได้ซักพักก็เผ่นกันหมด  บอกทนความเงียบเหงาไม่ไหว โอ๊ย ทำอย่างกับว่า ไม่รู้มาก่อนแน่ะว่าจะต้องมาทำงานที่ไหน ชิงลาออกกันไปหมด เฮ้อ”
“ฮะๆๆ ผมชินแล้วครับ”

“ชิน....คนหนุ่มอย่างเธอไม่น่าจะชินนะ เอ่อ ไม่มีแฟนเหรอ”
“........เคย..มีครับ”

“เลิกกัน?”
“...ก็ประมาณนั้นครับ เขาต้องแต่งงานกับคนที่พ่อแม่เลือกให้ครับ”

“...........อือๆ เนอะ ช่างมันเถอะ คนที่ไม่ใช่คู่ยังไงก็ไม่ใช่คู่ อย่าไปคิดมาก หน้าตาอย่างเธอไม่นานต้องหาแฟนใหม่ได้แน่”

“...ผมจะพยายามครับ” ได้คุยกับพี่มีนแล้วรู้สึกดีมากเลยครับ เธอเป็นผู้หญิงที่สวย เก่ง ใจเย็น ใจดี ครบสูตรเลยครับ แต่อย่าให้เป็นเรื่องงานนะครับ เฮี้ยบใช้ได้ทีเดียว

ไม่นานเธอก็กล่าวลา ปล่อยให้ผมล่องลอยอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองต่อไปคนเดียว ป่านนี้ ที่กรุงเทพ จะเป็นอย่างไรบ้างนะ เพชรจะรู้หรือยังว่า ที่ผมไม่ได้ไปตามนัดเพราะโดนรุมทำร้าย....แต่ก็ดีแล้ว ไม่พบกันเลยจะดีกว่า ไม่นานผมคงตั้งต้นใหม่ได้ เขาเองก็เช่นกัน ไม่นานคงจะลืมผมไปเอง ....................คิดไปคิดมา ดันมีหน้าอีกคนลอยเข้ามาในห้วงความคิด โอ๊ย ไม่เอาล่ะ ไปอาบน้ำนอนดีกว่า ยังไงๆ  ก็คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว จะเอามาคิดอีกทำไมให้รกสมอง




(จ๊บตอน)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 15 Lucky & Busy (08/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 14-02-2015 22:48:42
เมือไรลูกชายคุณลุงจะกลับมา รออรรอ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 15 Lucky & Busy (08/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 15-02-2015 01:50:55
รออออ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 16 Something lost.(21/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 21-02-2015 22:22:27
อ๊ะ มาตามคำเรียกร้อง   :mew6:  ขอโทษที่นานไปหน่อย มีิเรื่องราวในชีวิตนิดหน่อย
เอ้าใครที่คิดถึง คุณซัน ก็เร่เข้ามา นาทีนี้เขาคนเดียวเลย  o13


**********************************




ตอนที่ 16 Something lost.

“อือออออ”
ป่ายมือไปข้าง ๆ ตัว เพื่อหาใครคนหนึ่งที่ได้กกกอดกันเมื่อคืน...........ไม่มี พบแต่ความว่างเปล่า และความเย็นชืดของที่นอน ทำให้ต้องเด้งตัวลุกขึ้นมาดู

ไม่มี หรือผมจะฝันไป มองสภาพตัวเอง และร่องรอยรักตามตัว ก็ยิ้มพอใจ ไม่ได้ฝันหรอก ก็เมื่อคืนกับบทรักอันเร่าร้อน ยังตราตรึง รสหวานของริมฝีปากคู่สวย ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น พยายามมองหาคนใต้ร่างเมื่อคืน หรือว่าจะลุกไปห้องน้ำ สดับฟังสรรพเสียงในห้อง กลับเงียบฉี่ กวาดตามองเสื้อผ้าและกระเป๋าก็หายไปแล้ว

ใจหาย

ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย ยกมือลูบหน้า เมื่อคืนคงจะหนักไปหน่อย หลับเป็นตายเลย หันไปมองนาฬิกาข้างฝา....อ่อ บ่ายสองแล้วนี่เอง ไม่คิดว่าอีกคนจะตื่นก่อนและกลับไปแล้ว ..................แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ไม่รู้จักบ้านซะเมื่อไหร่ คิดได้ดังนั้นก็รีบ ๆ ลุกจากเตียง วิ่งไปอาบน้ำ แต่งตัวอย่างรวดเร็ว อยากเจอหน้าเมียหมาด ๆ ให้ชื่นใจ คิดไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าเต้คงจะอายถึงรีบร้อนกลับไปก่อน และผมจะทำอย่างไร จะพูดกับเต้อย่างไรดีให้เขายอมรับรักผม และไปอยู่ด้วยกันกับผมที่บ้าน




ได้ที่จอดรถเลยร้านไปเล็กน้อย เดินย้อนมานิดหน่อยไม่เป็นไร อารมณ์ดีครับ อยากหอบดอกไม้มาให้ด้วย แต่ก็ไม่อยากทำให้เต้ยิ่งอายเข้าไปอีก

เดินตรงเข้าไปในร้าน พนักงานเดินมาต้อนรับ มองหน้าเหมือนนึกอะไรได้ ก็คงจะจำได้ว่าเคยเจอผมในงานที่บ้านไอ้เดือนมหาลัยนั่นแหล่ะ

“เอ่อ เต้อยู่ไหมครับ” ผมไม่สนใจท่าทีของเขา ถามหาเมียผมทันที
“เถ้าแก่ เขามาหาน้องเต้ครับ” พนักงานเมินคำถามผม หันไปบอกกับชายสูงวัยที่จ้องมองผมเขม็ง เขาคือคนที่ตบหน้าเต้ ในงาน ผมคิดว่าเขาต้องเป็นญาติผู้ใหญ่ของเต้แน่ ๆ

“ลื้อมีธุระอะไรกับอี” ลุงเขาหน้าบูดเดินเข้ามามองหน้าผมดุ ๆ ชักสีหน้านิดหนึ่งคงจะจำผมได้เช่นกัน
“ผมเป็น...เป็นเพื่อนของเต้ครับ” ผมยกมือไหว้ แต่แกแค่พยักหน้าไม่ได้รับไหว้อะไร

“ฮึ..โกหก เป็นเพื่อนจริงลื้อไม่รู้เหรอว่าอีไปไหน”
“หมายความว่ายังไงครับ?”

“.....อีไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”
“ไม่จริง ลุงอย่ามาโกหกผม เมื่อวานเขายังอยู่นี่อยู่เลย”

“วันนี้ไม่ใช่เมื่อวาน ไป ๆๆ เกะกะคนจะค้าจะขาย”
“ผมไม่ไป ผมไม่เชื่อ ไม่ว่าเขาไปไหนผมก็จะรอที่นี่แหล่ะ งั้นเอาของที่แพงที่สุดในร้านมาเลย ผมจะกินรอ”

“เก๋าเจ๊ง ลื้อใหญ่โตมาจากไหน ไม่ขายเว้ย”
ผมไม่เชื่อหรอก ก็เมื่อคืนเขายังร้องครางอยู่บนเตียงผมทั้งคืน และคงจะกลับออกมาประมาณ เที่ยงนั่นแหล่ะ ลุงเขาคงจะคิดว่าผมจะมาหาเรื่องอะไรเต้แน่ ๆ เลย เขาเลยโกหกผม ยังไง ๆ ผมก็จะรอที่นี่ ที่นี่บ้านเต้นี่ยังไงเขาก็ต้องกลับมา ผมยึดโต๊ะและเก้าอี้ตัวหนึ่งนั่งไม่สนใจลุงแกที่ยืนโวยวายด่าผมอยู่




“เฮ้ย มึงมาได้ไงวะ” เสียงจากทางประตูเรียกให้ผมหันไปมอง ไอ้ลูกพี่ลูกน้องเต้ มันเดินปรี่เข้ามาจับแขนผมไว้

“กูมาหาเต้” ผมชักแขนกลับแต่ไม่หลุดมันจับไว้แน่น แถมล็อกคอลากผมออกมาจากร้านอีก

“อาตง อีบอกอีเป็นเพื่อนอาเต้จริงเหรอ”
“ห๊า..เอ่อ อ่อ ใช่ ๆ ป๊า มันเป็นเพื่อนกัน.... มึง ไอ้เหี้ย มาคุยกับกูข้างนอกเลยมา”

มันลากผมออกมาจากร้านแล้วพาเดินเข้าซอยข้างร้าน ผมที่เหลืออดสะบัดแขนแรง ๆ จนหลุดออกมาได้
“มึงลากกูออกมาทำไม กูมารอเต้”
“ก็มึง จะทำให้ป๊ากูรู้นะซิว่าไอ้เต้มันเป็นเกย์”

“กูไม่สน กูจะมาหามัน”
“....เฮ้อ เต้ ไม่อยู่แล้ว”

“กูไม่เชื่อ”
“เรื่องของมึง กูเพิ่งไปส่งมันขึ้นรถมานี่แหล่ะ”

“เฮ้ย ไปไหนวะ?”
“............”

“บอกกูมานะ มันไปไหน” ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าลุงกับไอ้นี่มันคงไม่ได้พร้อมใจกันโกหกผมหรอก ร้อนรนอยากรู้ว่าเต้ไปที่ไหน จนเผลอคว้าคอเสื้อมันขึ้นมาถาม

“...เรื่องอะไรกูต้องบอกมึง”
“ก็กูเป็นผัวมัน”

ผั๊วะ

จบคำไม่ทันดี หมัดลุ่น ๆ ก็กระแทกเข้าหน้า ไอ้ลูกพี่ลูกน้องมันมีสีหน้าโกรธจัด ต่อยผมซะลงไปกองที่พื้น

“ปากมึงนี่นะ....น้องกูถ้ามันนับมึงเป็นผัว มันคงไม่ทิ้งมึงไปหรอก”
“ฮึ่ม” เลือดขึ้นหน้ากับคำสบประมาทของมัน ลุกขึ้นได้ก็พุ่งเข้าใส่มันทันที เจ็บใจจริง ๆ ก็ไม่อยากจะยอมรับความจริงหรอกว่า ผมขืนใจเต้ เขาไม่ได้รักผมเลย

เวลาผ่านไปพักใหญ่ แลกหมัดแลกเท้ากันคนละทีสองที จนเหนื่อยหอบ หมอบลงไปกองที่พื้นทั้งคู่

“แมะ..แม่ง ไอ้ ไอ้หมาบ้าหมดแรงแล้วซิมึง”
“มึงซิ ไอ้ ควาย..อึดชิบหาย”

หอบแดกกันจนตัวโยน ก็ยังขุดคำด่ามาถากถางแทนการออกหมัด ตอนนี้เหนื่อยจนยกหมัดยังไม่ขึ้นเลย มองตากัน ก็รู้ว่าหายบ้ากันแล้ว

“เฮ้ย บอกกูไม่ได้เหรอวะ เต้อยู่ที่ไหน”
“มึงเลี้ยงเหล้ากูซิ”

“เอ๊อ กูเลี้ยงมึงทั้งเดือนเลย”
ฮ่า ๆๆๆ มึงนี่บ้าดีแท้.....แต่กูชอบวะ”

“งั้นบอกกูได้แล้วซิว่าเต้อยู่ที่ไหน”
“...เหนื่อยเว้ย มึงไม่ต้องพูดมาก มึงเป็นใครกูยังไม่รู้จักเลย ขอกูคุยกับเต้ก่อน ว่ามันจะให้บอกมึงไหม”

“เฮ้ย ไม่เอาดิ ถ้าไปถามมันก็ไม่ให้บอกกูดิ”
“เหอะ ทำอะไรผิดไว้ละซิมึง”

เงียบซิครับ ไอ้ลูกพี่ลูกน้องมันจ้องผมอย่างกับรู้เห็นอะไร จนแทบจะทะลุ ก็เข้าใจละว่ามันก็ต้องห่วงน้องมัน ต้องปกป้องคนของมันก่อน ส่วนผมที่มีชะงักติดหลังก็ไม่มีคำแก้ตัว เห็นมันถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน ปัดฝุ่นตามเสื้อผ้า

“เออ ให้กูถามมันก่อนนั่นแหล่ะ มึงอย่าเรื่องมาก ถ้าได้เรื่องว่าไงกูจะโทรบอกมึง เอาเบอร์โทรมา”

เซ็งครับ ทำอะไรไม่ได้ คงต้องหวังพึ่งมันนี่แหล่ะ มันเอาโทรศัพท์ผมไปกดเข้าเครื่องมัน ก่อนจะหันมาทำหน้าตาและสายตาประมาณว่า กูช่วยเต็มที่แล้วนะ กวนตีนจริง ๆ

วันนี้ผมคงต้องถอยกลับก่อน

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 16 Something lost.(21/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 21-02-2015 23:12:01
เป็นเอามากนะซัน
ตามหาเมียใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 16 Something lost.(21/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 22-02-2015 05:03:29
ถ้าเป็นพระเอก แล้วต้องหล่อรวยเลว ถึงครบสูตรบางทีก็ปวดตับนะ นายเอกคงช้ำใจกระอักเลือดตาย เพราะพระเอกเลว เอาจริง สุดท้ายเต้ก็โดนข่มขืน เกลียดยัยปัน ตบมันให้หายบ้าได้ไหมเพชร ถึงจะเกลียดนายนะ แต่มีแค่นายนี่เอายัยชะนีอยู่ ส่วนซัน รู้ตัวว่ารัก ก็ปกป้องด้วยละ ดูท่าไม่จบแค่นี้หรอก ปล.เขาจะอยู่ด้วยกันใช่มิ๊
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 16 Something lost.(21/02/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 28-02-2015 23:12:50
ถ้าเป็นพระเอก แล้วต้องหล่อรวยเลว ถึงครบสูตรบางทีก็ปวดตับนะ นายเอกคงช้ำใจกระอักเลือดตาย เพราะพระเอกเลว เอาจริง สุดท้ายเต้ก็โดนข่มขืน เกลียดยัยปัน ตบมันให้หายบ้าได้ไหมเพชร ถึงจะเกลียดนายนะ แต่มีแค่นายนี่เอายัยชะนีอยู่ ส่วนซัน รู้ตัวว่ารัก ก็ปกป้องด้วยละ ดูท่าไม่จบแค่นี้หรอก ปล.เขาจะอยู่ด้วยกันใช่มิ๊


กรุณาดูแลรักษาตับให้หายดีนะคะ เพราะอนาคต อาจจะปวดไปถึงกึ๋น และเซี่ยงจี๊ได้เลยละ กับพระเอกครบสูตรคนนี้   :o
ส่วนนายเอกของเราไม่ต้องห่วงเธอมากฮ่ะ เห็นงี้ก็แกร่งพอตัวนะคะ ไม่ตายง่าย ๆ ค่ะ (อาจจะแค่ระบม)  :freeze:
และที่สำคัญ เธอฝากมาบอกว่า "ก็ไม่ได้เรียกว่าข่มขืนจริง ๆ จัง ๆ หรอกครับ ผู้ชายนะครับ ถ้าจะขัดขืนมันก็ไม่ยากหรอกครับ"  o4

หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 17 Something found.(06/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 06-03-2015 09:19:18
ตอนที่ 17 Something found






แต่รอคอยเฉย ๆ ก็ไม่ใช่ซันแล้วละครับ จากวันนั้นผมก็ไปที่ร้านอาหารทุกวัน อากู๋เต้ ท่าทางไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะผมสั่งของกินมาเต็มโต๊ะ แกมองมาด้วยสายตา และคำพูดเย้ยหยัน ว่าผมมันไม่มีปัญญากินหมดหรอก

ดูผิดแล้วอากู๋ ผมนั่งมันตั้งแต่บ่าย จนเย็น ฟาดทุกอย่างเรียบไม่มีเหลือ อากู๋เดินมาดูอีกที แกอ้าปากค้าง ก่อนจะหุบปาก ถอนหายใจ แล้วเดินกลับเข้าไปในครัว ไม่มาวอแวอะไรกับผมอีก

ไปทุกวันจนจากที่ไม่พอใจ อากู๋ก็เริ่มจะยอมแพ้

“ลื้อนี่นะ ขี้ตื้อจริง ๆ ถ้าไม่บอกว่าเป็นเพื่อนอาเต้อี อั๊วต้องนึกว่าลื้อมาจีบอีนะเนี่ย”
“....แล้ว..แล้วถ้าผมมาจีบจริง ๆ ละครับ” คำถามวัดใจครับ อากู๋หรี่ตามองมา อย่างประเมินผม ผมก็มองแกตรง ๆ ไม่มีหลบตา

“เฮอะ ก็แล้วแต่อีเถอะ” แกถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เอ่อ อากู๋พูดจริง รึเปล่า งั้นผมขอเต้เลยนะครับ” อึ้งครับ ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง อากู๋พูดเนิบ ๆ ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจ ดีใจจนเผลอพูดขอเต้ออกมา

“เฮ้ย ใครกู๋มึงวะ ซี้ซั้วต่า” ปากกู๋ก็ด่า แต่ตาแกยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“ฮะ ๆๆ ขอโทษครับ ดีใจจนลืมตัว” ผมหัวเราะเจื่อน ๆ แก้เก้อ


“เอานี่ที่อยู่ของอาเต้”

ผมงี้แทบจะกระชากกระดาษที่อยู่จากมืออากู๋เลย พอเห็นที่อยู่ชัด ๆ หัวใจพองฟู แทบจะบินไปหาทันที ไม่น่าเชื่อ คู่แล้วไม่แคล้วกันจริง ๆ

“ขอบคุณครับกู๋” ร้องเย้ก่อนจะชูสองมือขึ้นสุดแขน อากู๋มีท่าทีตกใจ ถอยผงะ อารามดีใจผมเข้าไปกอดแกยกตัวลอย เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา จนแกร้องเสียงหลง หางตาเห็นเฮียตงมันโผล่แต่หัวออกจากครัวมาดู เห็นมันทำตาเหลือกขึ้นแล้วกุมขมับ ฮ่าๆๆๆๆ








กลับมาเก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋าลวก ๆ อย่างเร่งรีบ หัวใจบินไปก่อนแล้ว ส่วนตัวกำลังจะขึ้นเครื่องบินไปภูเก็ต ก่อนเครื่องจะออก ยกโทรศัพท์มือถือ โทรบอกพี่สาวก่อนว่าจะกลับจะได้ให้คนมารับที่สนามบินเลย และไม่ลืมที่จะถามถึงคนที่อยากเจอ พี่มีนมีท่าทีงงๆ แต่ก็บอกไปว่าเป็นเพื่อนกัน กำชับพี่มีนว่าไม่ให้บอกเต้ว่าผมกำลังจะไป กะทำให้เพื่อนประหลาดใจ แต่เป็นผมที่ประหลาดใจยิ่งกว่า ก็พี่เขาบอกว่าพ่อจัดให้เต้อยู่ด้วยกันกับผมในบ้านเล็กหลังรีสอร์ทด้วยกัน เพราะอยากให้ผมดูเต้เป็นแบบอย่างในการเอาการเอางาน ต้องขอบคุณพ่อจริง ๆ ไม่ต้องห่วงครับพ่อ ผมจะเอาอย่างไม่ให้ตกหล่นเลย อดจะขำไม่ได้ อะไร ๆ มันช่างประจวบเหมาะเป็นใจเหลือเกิน ก็บอกแล้ว ยังไง ๆ ก็หนีกูไม่พ้นหรอก เมียจ๋า




(มีต่อ นิดหน่อย)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 17 Something found.(06/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 06-03-2015 09:22:30
(มินตรา)


วางสายจากเจ้าน้องชายตัวดี ด้วยความคลางแคลงใจเล็ก ๆ ถึงความสัมพันธ์ของเด็กสองคนนี้ ท่าทางซัน กระตือรือร้น ผิดปกติ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาจะให้กลับมาบ้านนี่ ยังกับจะให้กินยาขม

“อ้าว พ่อเต้ อยู่ที่นี่เอง” หันไปตามเสียงเรียก นี่ก็อีกคน พ่อนี่ก็แปลก ลูกจ้างตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่เคยเห็นสนใจใครเลย ไอ้เรื่องจะมาคุยเล่นหัวนี่ไม่ต้องพูดถึง ถึงพ่อจะไม่ใช่คนถือตัว แต่ก็ไม่ใช่แบบนี้

“สวัสดีครับนายหัว มีอะไรจะให้ผมทำเหรอครับ”
“อ้อ เปล่า ๆ พอดีได้ขนมมาจากเพื่อน เลยจะมาชวนไปนั่งกินด้วยกัน”

“เอ่อ..ผม...”
“พ่อคะ น้องเขาต้องทำงานคะพ่อ” น้องเขาหันมาสบตาขอความเห็น เฮ้อ ก็ต้องออกตัวช่วยพูดให้

“อะไรกัน มีน นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ”
“อีก 15 นาทีคะพ่อ”

“โอ้ จริงด้วย ฮะๆๆๆ เออ งั้นลุงไปรอที่เดิมนะ เอาชาตามไปด้วยละ”
“เอ่อ ครับ ๆ” น้องเต้ ยิ้มน้อย ๆ ผงกหัวให้พ่อ ก่อนแกจะเดินหลั่นล้าออกไป มองออกไปนอกกระจกห้อง ก็เห็นพนักงานหลายคนมองมา ด้วยสายตาสอดรู้สอดเห็น

“เต้จ๊ะ รายการเบิกเงินจากฝ่ายสั่งซื้อเดือนนี้ สรุปยอดให้พี่ด้วยนะ”
“ครับ”

“เอ่อเต้”
“ครับ?”

“มาทำงานนี่ เธอรู้จักใครที่นี่มาก่อนไหมจ๊ะ?”
“เอ๋? ไม่นี่ครับ ผมเกิดและโตที่กรุงเทพ”

“เพื่อนล่ะ?”
“เพื่อนคนใต้ก็มีครับ แต่ไม่ค่อยจะสนิทกัน”

“คนภูเก็ต?”
“ไม่ใช่ครับ คนสงขลาครับ”

อดจะประหลาดใจกับคำตอบของน้องเต้ไม่น้อย เต้ ไม่มีท่าทีว่าจะรู้จักซันเลย แต่เจ้าน้องชายของเธอนี่ซิ รู้สึกอยากจะมาเจอเพื่อนคนนี้จนออกนอกหน้า มีกลิ่นทะแม่ง ๆ นะเนี่ยะ

หรือจะไม่ใช่แค่เพื่อน เมื่อความคิดแปลก ๆ เกิดขึ้นในใจ ก็หันไปพินิจคนตรงหน้าอย่างละเอียด เต้ เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาไม่น้อย ออกจะหน้าหวาน ผิวขาวเนียนใส ไร้ไฝฝ้า ตาโต จมูกโด่ง ริมฝีปากบางๆ สีส้มจาง ๆ ดูอิ่มใส แก้มมีเลือดฝาดออกชมพู ดูน่ารัก ..............อะไรกัน นี่ตกลงฉันกำลังชมผู้ชายอยู่ใช่ไหมนี่ ผู้ชายบ้าอะไร เห็นแล้วน่าอิจฉา ผู้หญิงหลายคนยังไม่ได้แค่ครึ่งของคนนี้เลย ท่าจะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายไม่น้อย..............เอ๊ะ หรือว่า...........น้องเราจะเป็นเกย์?

“พี่มีนครับ ได้แล้วครับ”
“ขอบใจจ๊ะ” สลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากสมองก่อน ไว้เจ้าตัวดีกลับมาก็รู้เองล่ะ



(จ๊บ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 17 Something found.(06/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 07-03-2015 03:35:21
อ่านจบเลย น้องเต้น่ารักมาก
ขอให้มีแต่คนรักนะ โดยเฉพาะพี่ซัน
คู่กันแล้ว ย่อมไม่แคล้วกัน  >//////////////<
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 17 Something found.(06/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 07-03-2015 07:07:39
น้องเต้น่ารัก  :L2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 17 Something found.(06/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: waterlily ที่ 07-03-2015 18:41:28
เต้น้อยน่ารักเป็นที่สุด อิอิอิ :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 17 Something found.(06/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 08-03-2015 15:03:43
จะได้เจอกันเเล้ว เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 14-03-2015 23:25:12
กราบขอบคุณบรรดาแม่ยกน้องเต้ ที่เป็นกำลังใจนะคะ  :pig4:
ส่วนแม่ยกซัน หายไปไหนหมดน๊ะ  :hao4:

*****************************





ตอนที่ 18 I’m coming




หลังจากส่งรายงานให้พี่มีนแล้ว ผมก็พบพี่วัชรเดินมาจากทางป่าสนข้างโรงแรม แกผงะนิดหนึ่งเมื่อหันมาเห็นผม ผมมีเรื่องข้องใจเลยเดินเข้าไปถามพี่วัชร

“เอ่อ พี่วัชรครับ...ผมว่าของที่สั่งมากับใบเสร็จมันไม่ตรงกันนะครับ”
“อะไรกัน เขามาส่งของทุกทีไม่เคยมีปัญหานี่นา” พี่วัชรขมวดคิ้ว มองผมอย่างไม่อยากเชื่อ

“แต่ผมลองนับดูมันไม่ครบตามใบเสร็จนี่ครับ” ผมเลยเข้าไปหยิบใบเสร็จกับใบตรวจนับมาให้พี่เขาดู
“นับด้วยเหรอ...มั้นตั้งเยอะขนาดนั้น” พี่เขามีท่าทางอึกอัก

“ก็ต้องนับซิครับ พี่ไม่ได้นับเหรอครับ”
“......ก็นับ...ต้องนับซิ...แต่ก็ไม่ทุกครั้ง เพราะค้าขายกันมานาน “

“เอ่อ ตามหลักผมว่าควรนับทุกครั้งนะครับ แล้วครั้งนี้จะต้องติดต่อใครครับสำหรับของที่ขาดไป”
“เฮ้อ สะเพร่าจริง ๆ เออไว้พี่จะโทรไปจัดการให้เอง คงต้องต่อว่ากันบ้างแล้ว ส่งของไม่ครบได้ไง”

“ครับ ขอบคุณครับพี่ งั้นผมไปทานข้าวก่อนนะครับ” ผมส่งรายละเอียดให้พี่วัชร ก่อนจะขอตัว
“อ้อ เชิญ ๆ”



ผมหันหลังเดินออกจากห้องบัญชี แต่ก็แอบเหลือบตากลับไปมองพี่วัชร ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยอะไรกับพี่เขา แต่พอได้ร่วมงานกันซักระยะ ผมรู้สึกว่าพี่เขามีลับลมคมในแปลก ๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักฐานชัดเจน คงจะพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะพี่วัชรทำงานที่นี่มานานแล้ว เป็นที่ไว้วางใจของทั้งลุง และพี่มีน ให้ดูแลการจัดซื้อเบ็ดเสร็จของทุกอย่างในรีสอร์ท

แต่จากที่ผมได้เรียนรู้มาฝ่ายจัดซื้อนี่ล่ะตัวปัญหาเลย





กำลังจะเดินผ่านห้องอาหารไปทางโรงอาหารพนักงานด้านหลัง เห็นแขกเยอะพอสมควร เด็กเสริฟเดินกันให้วุ่น รวมทั้ง เลาะห์ เด็กหนุ่ม เพื่อนคนแรก ๆ ของผมบนเกาะนี่เลย

เลาะห์ เป็นคนมุสลิม เกิดที่ภูเก็ต อายุแค่ 18 ปี หน้าตาหล่อคมเข้ม ตามแบบหนุ่มชาวใต้ ทำงานอยู่ที่รีสอร์ทนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะพ่อแม่ของเขาก็ทำงานที่นี่ ก่อนที่ทั้งสองจะด่วนจากไปเพราะอุบัติเหตุ ตั้งแต่เลาะห์ยังเด็กมาก เขาเล่าว่าตอนนั้นไม่มีญาติเหลือเลย คิดว่ายังไงก็คงถูกส่งไปบ้านเด็กกำพร้าแน่ ๆ แต่คุณมีน บอกว่าจะให้เขาอยู่ที่รีสอร์ทต่อ จะให้เรียนต่อ และให้ทำงานตามความสามารถที่พอจะทำได้ไปก่อน ส่วนหลังจากเรียนจบแล้วจะทำงานที่รีสอร์ทต่อหรือจะไปทำงานอื่น ก็ไม่ได้บังคับ

เลาะห์ เป็นคนสนุกสนาน คุยด้วยแล้วคลายเครียด คลายความคิดถึงบ้านไปโขเลย


“มา พี่ช่วยเสริฟ เลาะห์ ไปรับออเดอร์โต๊ะโน้นไป”
“อ่ะ พี่เต้ ขอบคุณคร๊าบบ”

เข้าไปยกถาดตัดหน้าเลาะห์ เพื่อช่วยให้เด็กหนุ่มทำงานเร็วขึ้นอีก เลาะห์หัวเราะให้ก่อนจะทำหน้าทะเล้น แล้วเดินไปรับออเดอร์โต๊ะริมสระน้ำ

ผมช่วยเขาบ่อยครับ เวลาแขกเยอะ ๆ ไม่ต้องฝึกครับ งานถนัดผมเลย ทำร้านอาหารมาหลายปี ความคล่องตัวไม่ต้องพูดถึง และที่ร้านอากู๋ก็มีชาวต่างชาติมาทานข้าวบ่อย ทำให้ภาษาอังกฤษของผม ก็พอไปวัดไปวาได้ และพอมาช่วยหลาย ๆ ครั้ง เลยทำให้เป็นที่รู้จักของแขกที่มาพักนาน ๆ

“ไฮเต้ คุณจะไม่ไปเที่ยวกับพวกผมวันเสาร์นี้เหรอ”
“ไฮโจ ขอบคุณครับ แต่ผมว่าไม่ดีกว่า ผมว่าอลันไม่ปลื้มแน่”

“ช่างหัวเขาซิ โน่นแน่ะ มัวแต่เหล่เด็กหนุ่ม ๆ ผิวสีแทนอยู่หน้าหาดโน่น”
“ฮ่าๆๆ ผมคิดว่าเขาก็แค่อยากให้คุณหึงมากกว่า”

“ทำเป็นรู้ดี ตกลงไม่เปลี่ยนใจไปกับผมจริง ๆ เหรอครับ”
“ขอบคุณครับโจ แต่ไม่ดีกว่าครับ ผมยังมีงานต้องสะสางอีกเยอะเลย”

“น่าเสียดายจริง ๆ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนใจบอกผมได้เสมอนะ ผมกับอลันชอบคุณมาก อยากให้คุณไปเที่ยวด้วยกันกับเรานะครับ"”
“โอเคครับ ทานให้อร่อยนะครับ ผมเองก็ต้องไปเติมท้องต้วเองบ้างแล้วละครับ บาย”



ผมเองก็ชอบพวกเขามากครับ แอบจะอิจฉาเล็ก ๆ กับความรักของเขาทั้งคู่ไม่ได้ ทั้งสองคนเปิดเผยตัว ว่าเป็นคู่รักชายชาย แล้วก็สวีทกันจนเห็นแล้วยังอายแทนเลย และด้วยความที่ทั้งคู่เป็นแขกประจำของรีสอร์ท มาหลายปี ทำให้รู้จักมักคุ้นกันดีกับพนักงานทุกคน

“เฮ้ย พี่เต้ คุณโจเขาจีบพี่เหรอ” พอผมจะเดินไปด้านหลัง เลาะห์ก็เข้ามาประกบ
“...แค่แซวกันเล่น ๆ” ผมไม่เคยบอกใครเรื่องรสนิยมทางเพศของผม เพราะกลัวว่าคนอื่น ๆ จะรังเกียจ และที่สำคัญ ผมก็ยังไม่คิดจะหาคู่หรือมีแฟนตอนนี้

“โหยพี่คุณโจ นะไม่เท่าไหร่หร๊อก แต่คุณอลันซิเจ้าชู้จะตาย ฮะๆๆๆ” เลาะห์ก็เป็นพนักงานอีกคนที่รู้จักทั้งสองคนดี ยังเคยเล่าวีรกรรมช่วงแรก ๆ ที่คนทั้งคู่เข้ามาพัก และยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมไทย จนทำเรื่องเปิ่นๆ มาแล้ว แต่ผมสังเกตว่าเวลาเลาะห์พูดถึงทั้งสองคนนี้ เขาจะยิ้ม และดูมีความสุขมาก

“พี่ว่าเขาก็ไม่เห็นจะเจ้าชู้ตรงไหนเลย ไม่เอาล่ะ พี่ไปกินข้าวก่อนล่ะ ใกล้หมดพักเที่ยงแล้ว”
“กินให้อร่อยนะครับพี่ ขอบคุณที่ช่วยนะครับ ไว้ว่าง ๆ ไปตกหมึกกับพวกผมนะพี่เต้”
“โอเค ๆ ฮะๆๆๆ ไปล่ะ”














ทั้งวันก็วิ่งวุ่นทำงานเหมือนทุก ๆ วัน ตกเย็นพอกลับถึงที่พัก ก็ไม่รีรอที่จะลงเล่นน้ำคลายเครียด ชุดว่ายน้ำไม่ต้องครับ ก็ผมอยู่คนเดียวนี่นา หันซ้ายหันขวาไม่มีใครก็แก้ผ้าเหลือแต่กางเกงในก็วิ่งลงน้ำได้แล้ว อากาศเย็นลง แต่อุณหภูมิในทะเลยังอุ่น ๆ รู้สึกสบายตัว และผ่อนคลาย นึกอยากซื้อเรือแคนนูซักลำ เอาไว้พายเล่นออกไปรอบ ๆ เกาะเวลาว่าง ๆ คิดอะไรต่อมิอะไรเรื่อย ๆ เปลื่อย ๆ ไม่รู้ว่าคนที่กรุงเทพ จะเป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ได้ติดตามข่าวเลย อยู่ในเกาะก็ดีไปอย่าง ตัดเรื่องที่เคยค้างคาใจออกไปได้เรื่อย ๆ ตอนนี้ถามว่ายังรักเพชรไหม............อือ พอห่าง ๆ กัน ก็เริ่มรู้สึกตัวว่าที่ผ่านมาก็แค่ อยากจะเป็น someone ของใครซักคนเท่านั้น ถึงคน ๆ นั้นจะไม่ใช่เพชรก็ตาม

เออจริงซิ วันก่อนเฮียตงบอกว่าคุณซันมาหาผมที่ร้านนี่นา เห็นว่าอากู๋โมโหใหญ่เลย แกคิดว่าคุณซันจะมาหาเรื่องผม เฮ้อ คนเจ้าคิดเจ้าแค้น ยังจะต้องการอะไรจากผมอีก เท่าที่ได้ไปนั้นยังไม่พอเหรอ คนผีทะเล ผมไม่ให้เฮียบอกเขาว่าผมอยู่ที่ไหน ผมอยากให้ทุกอย่างที่กรุงเทพมันจบ ๆ ไปซะที ผมอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่

สีเทาเริ่มฉาบบนท้องฟ้า นี่ผมคิดอะไรเพลิน ๆ นานขนาดนั้นเชียว ขึ้นจากน้ำ ก็เข้าไปอาบน้ำในห้อง อาบเสร็จก็ใส่ชุดนอน แล้วหยิบหนังสือหุ้นที่อ่านค้างไว้ มานั่งอ่านต่อที่ระเบียง หุ้นที่ผมลงทุนไว้ตอนแรก ๆ ก็ติดดอย ทำให้ใจเสียน่าดู แต่เพราะเงินที่ลงในส่วนนี้ ผมกันไว้สำหรับลงทุนแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำออกมาใช้จ่ายอะไร จึงปล่อยไว้ ซึ่งตอนนี้มันก็ขึ้นมาเขียวหน่อย ผมก็ใจชื้นขึ้น ส่วนการลงทุนด้านอื่น ๆ ของผม ก็ให้ผลตอบแทนบ้าง ซึ่งดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ผมก็พอใจแล้ว

“ฮ้าววววววว” ผมเพลียมากเลยวันนี้ ลมทะเลพัดเอื่อย ๆ เย็นสบาย จนเริ่มจะง่วง ซักพักก็เผลอหลับไปบนเก้าอี้หน้าระเบียงนั่นเอง



(ยังต่ออีกนิ๊ด)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 14-03-2015 23:27:47
(มาต่อกันเต๊อะ)





ทันทีที่ก้าวพ้นจากทางออกของผู้โดยสารภายในประเทศของท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ก็เห็นคนของรีสอร์ทมายืนชะเง้อมองหาอยู่แล้ว ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว คนมารับกุลีกุจอช่วยผมขนกระเป๋าใส่ไว้ในรถ ก่อนจะวิ่งออกสู่ถนนเพื่อตรงไปยังท่าเรือ แล้วต่อเรือเร็วเพื่อไปที่เกาะอีกทอด

ก้าวเท้าเหยียบเกาะอีกครั้ง ทุก ๆ ครั้งผมจะอยากให้ระยะทางไกล ๆ กว่านี้อีก ไม่อยากให้ถึงเร็ว ๆ แต่ครั้งนี้ต่างกัน ผมงี้แทบจะเหาะไปให้ถึงรีสอร์ทเลย แต่ก็ได้แค่คิด คนขับรถมารับที่ท่าเรือเพื่อไปรีสอร์ท

ถึงรีสอร์ทนี่ผม ไม่รอขนกระเป๋าเลย วิ่งตรงไปหลังรีสอร์ททันที บ้านพักหลังน้อยขนาดกำลังพอดี ที่แอบมาเล่นบ่อย ๆ กับพี่มีนเมื่อตอนเด็ก ปรากฏต่อสายตา มองไปที่ระเบียง ก็เผลอยิ้มขึ้นมา ก็เห็นคนที่คิดถึงนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้

ย่อง ๆ เข้าไปหา แค่เห็นหน้าก็อยากจะกอดจูบให้หายคิดถึงไม่ได้ แต่ก็ต้องชั่งใจไว้ ผิวดูจะคล้ำไปนิด อยู่ใกล้ทะเลก็งี้แหล่ะ ยกมือลูบไล้ผิวแก้มนวล

“ตัวแสบ ไม่เคยมีใครปั่นหัวผม อย่างนี้มาก่อนเลย ฉะนั้นต้องรับผิดชอบด้วย รู้ไหมครับ” ชอบให้ผมไล่ตามอยู่เรื่อย ดีละ คอยดูนะ ผมจะแกล้งคุณบ้าง อยากชอบหนีผมดีนัก

นั่งลงข้าง ๆ มองคนหน้าหวาน หลับสบายก็อดจะหมั่นไส้ไม่ได้ จะรู้ไหม ว่าเขานี่เหนื่อยขนาดไหน เป็นห่วงขนาดไหน กว่าจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วอยู่แค่จมูกผมนี่เอง อยากจัดให้ซักดอกสองดอก ก่อนหน้านี้ก็ทำให้ผมค้างมาตั้ง 2 ครั้งกว่าจะได้ตัวมา พอได้มาก็นะ ฮะๆๆ กินซะเต็มที่เลย ยิ่งกินยิ่งเลอรส ย้ำให้ยิ่งแน่ใจว่าอยากกินต่อไปเรื่อย ๆ อยากตื่นขึ้นมามองหน้าหวาน ๆ นี้ตลอดไป อยากจูบ อยากกอด อยากแทรกกายเข้าไปให้เขาต้องร้องครวญไม่ยั้ง....เอ่อ เริ่มจะฟุ้งซ่านล่ะ

“อือ..”

ตกใจหมดจู่ ๆ เขาก็พลิกตัว ไปอีกด้าน ผมก็รีบ ๆ วิ่งลงเรือนไปซ่อนตัวหลังต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านพัก เห็นเต้ ลุกขึ้นยืนมองซ้ายมองขวา ผมคงจะจ้องเขามากไป เขาเลยรู้สึกตัว ท่าทางเหมือนจะกลัวรีบ ๆ คว้าหนังสือวิ่งเข้าไปในตัวเรือน ผมมองตามจนเห็นเขาวิ่งหายเข้าไปในห้องทางซ้ายมือ แสงไฟในห้องดับลง ผมจึงเดินอารมณ์ดีกลับไปที่รีสอร์ท ยิ่งคิดยิ่งอยากให้เช้าเร็ว ๆ เขาจะทำยังไงนะ ถ้าเห็นผมที่นี่



(จบตอน)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-03-2015 06:41:14
สนุกมากเลยครับบบ ชอบๆ เพิ่งได้มาอ่าน. รอติดตามอยู่นะครับบบบบบ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-03-2015 08:08:39
ซันมาแล้ว....
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ปล.แต่ละตอนดูจะสั้นไปนะ ไม่จุใจคนอ่านเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-03-2015 16:31:24
ฮาอะ แต่กลัวเต้เป็นอันตรายจัง
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 18-03-2015 12:26:09
ฮาอะ แต่กลัวเต้เป็นอันตรายจัง


กลัวอารายอ่ะ???? :m28:

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 20-03-2015 15:49:29
รักกันๆ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 18 I’m coming.(14/03/15)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 24-03-2015 21:55:14
เหยยยย จะทำอะไรอ่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 19 When we meet again.(10/04/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-04-2015 09:10:59
 :call:   ขอประทานอภัย หายไปนาน ตอนนี้งานยุ่งมากกกกกกกก แถมชีพจรลงเท้า เดี๋ยวไปโน่น เดี๋ยวไปนั่น
เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการเดินทางโดยแท้   :z2:

ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งน้องเต้ น้องซันไปซะก่อนนะคะ    :กอด1:





ตอนที่ 19 When we meet again.







เดินหลั่นล้าเข้าไปในตัวบ้านที่อยู่ข้างรีสอร์ท ก็ต้องสะดุ้ง เพราะจู่ ๆ พี่มีนก็เดินออกมาจากห้องพี่เขา
“อ่าว สวัสดีครับพี่มีนยังไม่นอนเหรอครับ”
 “ยังจ๊ะ แล้วซันละ ไม่นอนที่บ้านพักเหรอ?”

“อ้อ..คือ...ผมเห็นว่าเต้หลับไปแล้วครับ เลยไม่อยากจะไปรบกวน” สายตาที่มองมาของพี่มีน ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเด็กที่แอบกินขนมในห้องนอน
“งั้นเหรอจ๊ะ” แล้วไอ้น้ำเสียงสูงปรี๊ดนี่ไม่ธรรมดาเลย

“พี่ครับ พรุ่งนี้ผมเริ่มงานเลยนะครับ” ผมขยับเข้าไปบีบนวดไหล่พี่สาวอย่างเอาใจ ประสาคนมีชนักติดหลัง
“หือ...กินยาไม่เขย่าขวดรึเปล่าน้องชายฉัน ขยันอะไรขนาดนี้ เมื่อก่อนจะขอให้ช่วยงานนี่อย่างกับต้องให้ช้างมาลาก” 

“โหยพี่ก็พูดเกินไป ผมโตแล้วนะครับ เรียนจบแล้วด้วย มีความคิด รู้รับผิดชอบแล้วนะครับ” ฮะๆๆๆ ดูท่าผมจะทำตัวผิดปกติไปจริงๆ จนพี่สาวอดจะแขวะไม่ได้ เข้าไปกอดคอพี่มีน พร้อมกับขโมยหอมแก้มไป 1 ฟอด ให้พี่มีนหันมาตีแขนผมดังเผี๊ยะ กับความเซี้ยวของผม

“ไปไกล ๆ เลย โตแต่ตัวจริง ๆ ไปอาบน้ำเลยไป อ้อ  อย่าลืมไปสวัสดีพ่อกับแม่ใหญ่ด้วยละ”
“คร๊าบบบบบบ พี่”

ตอบแบบเสียมิได้ พี่มีนหันมายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะกลับเข้าห้องของตัวเอง พอพ้นสายตาพี่สาวก็อดจะแบะปาก ยักไหล่ไม่ได้ เอือม แต่ก็ต้องไป เฮ้อ เข้าห้องไปอาบน้ำดีกว่า

และก็เป็นอย่างทุก ๆ ครั้ง ผมแวะไปไหว้พ่อกับแม่ใหญ่ที่ห้องของพวกท่าน พ่อก็ดีใจเหมือนทุก ๆ ครั้งที่เจอผม ส่วนแม่ใหญ่....ก็..พยักหน้า แต่ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองผมด้วยซ้ำ


ผมก็เข้าใจแกนะครับ ก็พ่อพบกับแม่ของผม ตอนที่พ่อไปดูงานเกี่ยวกับการโรงแรม ที่สวิส โดยมีแม่เป็นไกด์ให้พ่อ หลังจากนั้น พ่อก็พาแม่ที่ตั้งท้องผมแล้ว กลับมาเมืองไทย และพาเข้าไปอยู่ด้วยกันที่บ้านที่นี่

แม่ใหญ่โกรธมาก จะขอหย่ากับพ่อให้ได้ แต่เพราะพี่มีน และปู่กับย่า ช่วยไกล่เกลี่ยเลยไม่ได้หย่ากัน แต่หลังจากนั้นแม่ใหญ่ก็ปั้นปึ่ง ทั้งกับพ่อ และแม่ แต่พ่อเองก็พยายามเอาอกเอาใจแม่ใหญ่ทุกอย่าง สถานการณ์กำลังจะดีขึ้น แต่พอผมเกิดมา เป็นเด็กผู้ชาย ทำให้ทั้งปู่ย่า และพ่อเห่อ ผมกันใหญ่ แม่ใหญ่เลยยิ่งไม่พอใจเข้าไปอีก แต่ดีว่าพี่มีน นางฟ้าแม่ทูนหัวของผม ผมรักพี่มีน เพราะพี่เขาก็รัก และเอ็นดูผม ตอนเด็ก ๆ พี่มีนดูแล ปกป้องผมมาตลอด 

แต่ก็ไม่วายโดนดูถูก ถากถางว่าเป็นลูกเมียน้อย แม่ผมหลังจากคลอดผมแล้ว ก็ป่วยกระเซาะกระแซะเรื่อยมา จนผมอายุได้ซัก 10 ขวบ แม่ก็มาด่วนเสียชีวิตไป หลังแม่จากไป ผมก็เสียศูนย์ เสียผู้เสียคน
จนพ่อต้องส่งผมไปเรียนโรงเรียนประจำที่กรุงเทพ ปิดเทมอทีพ่อก็ไปรับกลับมาอยู่ที่บ้าน ท่านอยากให้ผมเรียนรู้งาน ช่วยงานในรีสอร์ทบ้าง เพื่อช่วยผ่อนแรงพี่มีน แต่ผมตอนนั้นยังไร้สติ คิดแต่เที่ยวเล่นไปวัน ๆ แม่ใหญ่ก็ไม่ได้อะไรกับผมมาก แค่ทำเหมือนผมเป็นอากาศ ไม่หือไม่อือ เจอแกผมก็ไหว้ ๆ ไปตามมารยาท ส่วนแกจะสนใจไม่สนใจ ผมไม่แคร์

เรื่องเก่า ๆ ไหลเข้ามาในห้วงความคิดให้ต้องจิ๊ปาก ขัดใจ จะมามัวคิดถึงเรื่องไม่ประเทืองอารมณ์ทำไมกัน กลับเข้าห้องได้ ผมก็ตรงไปที่ระเบียงด้านข้าง ซึ่งจากที่นี่ผมจะมองเห็นหลังคาบ้านพักหลังรีสอร์ทได้

คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคนอย่างผมจะมาตกหลุมรักง่าย ๆ แบบนี้ หลังจากออกจากเกาะไปอยู่กรุงเทพ ก็ใช้ชีวิตสุดโต่งเลย อิสรเสรี เที่ยว กิน ดื่ม ผู้หญิง ผู้ชาย เอาหมด หลาย ๆ คนที่ผ่านเข้ามาบางคนก็น่าสนใจดี แต่พอคบ ๆ กันไปก็รู้ว่าไม่ใช่ แล้วก็เลิกรา แยกย้ายกันไป วนเวียน ๆ อยู่อย่างนั้นมาเรื่อย จนเริ่มเบื่อ...............

จนคืนหนึ่ง คืนนั้นที่ผับ เปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้อีก ผู้ชายร่างโปร่งบางที่เต้นกลางฟลอร์ไม่สนใจใคร กลับหยุดสายตาผมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งพอได้รู้จัก ต้องยอมรับเลยว่าป่วนหัวใจผมสุด ๆ เขาที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ก็จับตัวไม่ได้ซักที ยิ่งไล่ก็ยิ่งไกล เฮอะ แต่พอคิดจะถอดใจ กลับได้มาไว้ในมืออย่างง่ายดาย ได้ใจจนเผลอตัวทำไปซะเต็มที่  สุขสมจนแทบคลั่ง ไม่เคยรู้สึกเต็มอิ่มอย่างนี้กับใครมาก่อนเลย วางแพลนจะพามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ให้ได้

ตอนตื่นขึ้นมาไม่พบคนข้างเคียง ก็ตะเกียกตะกายไปหาถึงร้านอาหาร แต่ไม่พบ ไม่อยู่ซะแล้ว ดีว่าไม่ถอดใจ ตื้อจนอากู๋ของเต้ ยอมใจอ่อน บอกที่อยู่ของเต้ให้ผม แถมอากู๋ยังดูไม่มีท่าทีรังเกียจ ที่เต้เป็นเกย์ ถ้าเต้รู้ คงจะดีใจ

ดึกมากแล้ว ผมนั่งมองหลังคาบ้านพักไม่วางตา บ้าจริง ไม่สมกับเป็นผมเลย เหมือนจะเข้าใจที่เขาพูดว่า ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี ฮ่าๆๆๆ ผมว่าผมไปนอนดีกว่า อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็ว ๆ ฮึๆๆ มาดูกันซิว่าผมจะจัดการกับเมียจอมดื้อของผมยังไงดี
วันนี้ผมตื่นเช้าอย่างที่ไม่ค่อยได้ทำในชีวิตประจำวัน อาบน้ำแต่งตัว หากาแฟดื่มก่อนจะเข้าไปนั่งรออยู่ใน สำนักงานห้องบัญชี ก่อนจะถึงเวลาทำงานถึง ครึ่งชั่วโมง (บอกไว้ก่อนนะว่า ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร)

จน 15 นาทีต่อมาพี่มีนก็เดินหอบแฟ้มเข้ามาในสำนักงาน ก่อนจะชะงักเท้าเมื่อเห็นผมนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่ก่อนแล้ว

“ห๊ะ นี่พี่ฝันไปหรือแกกินอะไรผิดมารึเปล่า” ดู๊ดู พี่มีนทักซะเสีย
“โอ๊ย พี่ครับ ก็ปกตินี่ครับ ไม่เห็นจะแปลกเลย ก็...ทำงานไงครับ ทำงาน” หลุดจากภวังค์ แล้วไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน ดูลุกลี้ลุกลน

“ถ้าเรื่องนี้ปกติละก็ มนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกก็คงปกติยิ่งกว่าซะอีก” พี่มีนเอาแฟ้มมาตั้งให้ที่โต๊ะ ปลายตามองอย่างเอือม ๆ
“อะไรกัน ขี้เกียจก็บ่น ขยันก็ว่า เอาใจยากจริง ๆ ผู้หญิงยังไม่มีแฟนนี่” เหลือกตามองพี่สาว แล้วบ่นเบาๆ

ผ๊วะ

“ได้ยินนะย๊ะ”
“อ๋อยยยย ดูดิพูดจริงก็ทำร้ายร่างกายน้อง” โอ๊ย มือหนักชะมัด

“พูดมาก ขยันก็ดีแล้ว เอาให้มันได้ตลอดนะยะ ไม่ใช่แค่ช่วงโปรโมชั่น งั้นพี่ฝากดูแฟ้มนี้ให้หน่อยนะ พี่จะไปดูที่ห้องอาหารเช้าหน่อย”

พี่มีนคนสวยของผม ทั้งสวยทั้งเก่ง จนผู้ชายทั่วไป ไม่กล้าเข้ามาจีบ พ่อกับแม่ใหญ่ก็ห่วง ๆ อยู่ พยายามหาคู่มาให้ดูตัว ก็โดนฤทธิ์เดชพี่สาวผมซะกระเจิงไปทุกคน ผมอดจะขำไม่ได้ ผมเองก็ไม่อยากได้พี่เขยห่วย ๆ หรอกนะ

เลิกสนใจวีรกรรมของพี่สาวผมเถอะ เพราะผมเห็นเต้เดินเข้ามาในส่วนของสำนักงานแล้ว ผมหมอบลงกับโต๊ะเล็กน้อย กลัวเขาจะเห็นผมก่อน ผมเห็นเต้เข้ามาในห้องบัญชี แล้วก็นั่งประจำที่โต๊ะเรียบร้อย ผมเลยทำเป็นเปิดประตูห้องทำงานของพี่มีนกับผม ออกเล็กน้อย ก่อนที่จะทำเป็นยกมือถือขึ้นมาคุย

“อ้อพี่มีนครับ งานวิวาห์ของ Mr.Venom จะต้องใช้งบเท่าไหร่ครับ พี่คุยกับเขาแล้วใช่ไหมครับ” พยายามพูดเสียงดัง ๆ ให้เต้ได้ยิน แล้วแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา แต่มองผ่านกระจกเงาหลังแจกัน ในห้องทำงาน ก็เห็นว่าเต้หลบวูบลงใต้โต๊ะทันที เห็นแล้วเกือบหลุดขำก๊าก ทำเนียน ๆ เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ก่อนจะหันไปเห็นว่าเต้ โผล่ขึ้นมานั่งอีกครั้ง แต่ไม่หันหน้ามาทางห้องผู้จัดการเลย แล้วรีบ ๆ เดินลุกลี้ลุกลน ออกจากห้องบัญชีไป เล่นเอาผมงง ๆ ไม่รู้ว่าเขาเดินไปไหน

แต่ความสงสัยของผมก็อยู่ไม่นาน เพราะซักพักก็เห็นเขาเดินกลับเข้ามา เล่นเอาผมหน้าเหวอ

ก็เขากลับมาพร้อมกับแว่นตาทรงกลมกรอบดำหนา ๆ และผ้าปิดจมูก แถมยังเอาผมด้านหน้าลงมาปรกหน้าผากอีก ฮะๆๆๆ ช่างคิดแก้สถานการณ์ ได้ตลกจริง ๆ ถ้าไม่รู้มาก่อนนี่ เดินผ่านเลยนะ จำไม่ได้หรอก ลุกซ์นี้

งั้นมาดูกันซิว่าเขาจะทำยังไงอีก ผมเดินออกไปหาเขาที่โต๊ะทำงาน เขาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผมเดินไปถึง ก้มหน้ามองแต่เอกสาร หน้าซีด ท่าทางเกร็ง ๆ

“สวัสดี คุณ........”
“..เอ่อ....ผะ..ผม..กฤติกมลครับ” ฮะๆๆๆ เอาจริง ๆ ผมไม่เคยรู้ชื่อจริงของเต้มาก่อนเลย ชื่อเพราะดีแฮะ

“ชื่อยาวจัง...ชื่อเล่นล่ะ” ผมแกล้งทำเสียงเรียบ ๆ ดุๆ
“..ยาวกว่านี้อีกครับ เรียกชื่อจริงง่ายกว่าครับ” แล้วดูเขาซิครับ ทำเสียงซะเข้มเชียว ตลกชะมัดเลย แทบจะหลุดขำ

“โอเค... คุณ...กฤติกมล เอางบประมาณงานวิวาห์ของ Mr.Venom มาให้ผมดูในห้องหน่อยครับ” สั่งงานเสร็จแล้วหันหลังเดินยิ้มเข้าไปนั่งรอในสำนักงาน

ซักพักเต้ก็เดินตัวลีบ ๆ ก้มหน้าก้มตา เอาแฟ้มเข้ามาวางบนโต๊ะ ตรงหน้าผม ผมก็ดูคร่าว ๆ พอเป็นพิธี

“อือ ผมไม่เข้าใจตรงนี้ค่าอะไร”
“..ครับ ไหนครับ” เต้ชะโงก ตัวเล็กน้อย ท่าทางเลิ่กลั่ก

“มาดูทางนี้ซิ ดูกลับหัวคุณจะเห็นอะไร” ผมทำเสียงดุ และได้ผล เต้กุลีกุจอ เดินมายืนข้าง ๆ แต่เว้นระยะห่าง ผมที่นั่งหันหลบไปยิ้มขำ

“มาใกล้ ๆ ซิ ยืนซะไกลจะเห็นได้ยังไง” ดึงข้อมือเต้ให้ เข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น เขาเกร็ง ๆ ตัว แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับผม ที่ดึงเขาให้เข้ามาจนเข่าของเราชนกัน

“เอ่อ ขอโทษครับ”
“หือ อ้อ ไม่เป็นไร ผมผิดเองที่ดึงคุณแรงเกินไป แล้ว ว่าแต่นี่” ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อยากปล่อยมือ แต่ก็ต้องปล่อยก่อนไม่อยากให้เขาผิดสังเกต

“อ้อ ค่าของจิปาถะครับ”
“อือ ยอดไม่น้อยเลยนะครับ ผมขอรายละเอียดด้วยครับ”
“ครับ”

“ก่อนเที่ยงนะครับ”
“ครับ”

“ขอบคุณ” เต้ก้มหน้ารับงาน ก่อนจะหันหลังรีบเดินออกไป จากห้องสำนักงาน จนเขาพ้นห้องไป ก็เลยหัวเราะออกมาดัง ๆ

“ฮะๆๆๆ แม่งขำวะ กูจะดูซิว่ามึงจะพรางตัวอยู่อย่างนั้นได้นานแค่ไหน”






ไม่ถึง 10 นาที เต้ก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระดาษ A4 สองแผ่น

“นี่ครับ”
“...อะไร....” เขาวางกระดาษบนโต๊ะตรงหน้าผม

“...อ่อ ก็รายละเอียดค่าของจิปาถะครับ”
“...เอามาทำไม” ผมหยิบกระดาษมาดูลวก ๆ แล้ววางลงอย่าไม่ไส่ใจ

“..........อ้าว...ก็คุณ....ขอรายละเอียด....”
“หึ๊ ผมไม่ได้ขอ”

ทำหน้าเรียบ ๆ มองเต้ไปตรง ๆ เห็นเขาหน้าเริ่มจะบึ้ง ๆ ฮะๆๆๆ ผมทำเขาอารมณ์เสียล่ะ

“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ” เขากระแทกเสียงใส่ แล้วหันหลังจะออกไปจากห้อง


“อืม เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ผมไม่รู้ว่าทำเข็มกลัดเน็คไท หล่นแถว ๆ โต๊ะผมรึเปล่านะ แต่หาไม่เจอเลย เอ่อ คุณ ช่วยผมหาหน่อยซิ”

เต้หยุดกึก ค่อย ๆ หันมา หน้าตาเหมือนกินของขมเลย ฮ่าๆๆๆ มุกนี้ผมคิดขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ เลยนะครับ อยากหาเรื่องแกล้งเขานี่ ได้ผลครับ ท่าทางเขาฮึดฮัด แต่ก็ยอมก้ม ๆ เงย ๆ ทั่วพื้นใต้โต๊ะหาให้ผม อย่าหาว่าผมทะลึ่งเลยครับ ก็ก้นกลมๆ แน่น ๆ ของเขาที่ยักย้ายต่อหน้าต่อตาผม มันช่างเย้าอารมณ์ผมดีแท้ เกือบเผลอยื่นมือไปบีบแล้วเชียว

“อ่อผมดูทั่วแล้วนะครับ ไม่เห็นมีเลย คุณหาบนโต๊ะ กับในลิ้นชักรึยังครับ”

ผมทำเป็นเปิดลิ้นชัก และทำตาโต
“โอ้ อยู่นี่นี่เอง เอาละไม่มีอะไรแล้ว คุณออกไปได้”

ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ กับสีหน้าของเต้ ที่เหมือนอยากจะโดดมากัดหัวผมซะให้ได้ เห็นเขากัดฟันกรอด ก่อนจะหันหลังขวับเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้องสำนักงาน




(ยังมีต่อนะ ลงให้ก่อน)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 19 When we meet again (10/04/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 11-04-2015 22:58:40
(มาต่อ แต่น้อย)


“อ้าว น้องเต้ เป็นอะไร ไม่สบายหรือจ๊ะ...แล้วไอ้แว่นตานี่มันอะไรกัน” ออกมาจากห้องไอ้โรคจิตได้ก็มาเจอกับคนพี่สาว พี่มีนมีท่าทางเป็นห่วงจนเห็นได้ชัด

 “ฮึ่ม พี่มีนครับ”
“อ้อ จ๊ะ ว่าไง”

“พี่มีอะไรจะให้ผมทำอีกไหมครับ”
“...เอ่อ...งานที่พี่ให้ทำเมื่อวานล่ะ”

“เสร็จหมดแล้วครับ”
“อือ งั้นก็ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ”

“งั้นผมขอพักทานข้าวเร็วหน่อยนะครับ”
“...อ้อ ได้จ๊ะ เชิญเลย”

พี่มีนคงจะงง ๆๆ กับลุกซ์ของผมตอนนี้ และก็ท่าทางหัวเสียสุด ๆ ของผม

ก็นี่มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายจริง ๆ เหนือความคาดหมายโครต ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใครจะไปคิดล่ะว่าอยู่ไกลจากกรุงเทพตั้งหลายร้อยกิโล แถมต้องนั่งเรือข้ามเกาะอีกขนาดนี้ ผมยังจะเจอโจทย์เก่าตามมาราวีอีก เช้านี้อากาศดี มาทำงานด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส แต่จู่ ๆ เสียงผู้ชายที่ไม่คาดว่าจะได้ยินอีกครั้งก็ดังมากจากห้องสำนักงาน หันไปเห็นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง “คุณซัน”

ดีว่าเขาไม่เห็นผม ผมเลยวิ่งหลบออกไปหาอุปกรณ์มาพรางตัว ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะได้ผล เขาจำผมไม่ได้เลย ....แต่แม่งกวนติงชะมัด หรือจริง ๆ เขาจะจำผมได้ เฮ้ย คงไม่หรอก ผมปิดหน้าปิดตาซะขนาดนี้ เขาไม่มีทางจำผมได้แน่





(และยังมีต่ออีกนิด)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 19 When we meet again (10/04/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 11-04-2015 23:31:06
(เอาพี่มีนมาต่อน้อย ๆ)



(มินตรา)

เห็นสภาพ และอารมณ์น้องเต้ก็ว่าแปลกๆ แล้ว พอเข้ามาในห้องสำนักงาน ก็ยิ่งต้องรู้สึกแปลกใจเข้าไปอีก ก็เจ้าน้องชายตัวดี มันนั่งขำกลิ้งอยู่ที่พื้นนะซิ

“................”
“ฮ่ะๆๆ..อ่ะ..พี่มีน....เอ่อ คือผมหาของที่ตกที่พื้นนะครับ..อะอื้ม....” พอนายซันมันเห็นฉัน มันก็ทำเป็นลุกขึ้นมา รื้อข้าวของบนโต๊ะ และพูดแก้ตัวตะกุกตะกัก

“..........ยังมีอะไรที่พี่ไม่รู้อีกไหม...พี่ว่าพวกแกสองคนไม่ใช่แค่คนรู้จักกัน หรือเพื่อนกันแน่ ๆ”
“..ก็ ไม่มีอะไรครับ เป็นเพื่อนกันจริง ๆ” ไอ้น้องคนนี้ ถ้ามันไม่มีอะไรมันจะไม่มีทางหลบตาแน่ ๆ มีพิรุธ

“แกอย่ามาโกหกพี่ เพื่อนกันยังไง ไม่เห็นเขาจะบอกว่ารู้จักแกเลย”
“........” ถ้าจะเข้าเป้าแฮะ เงียบไปเลย

“แล้วไอ้ที่แก กระตือรือร้นที่จะมาทำงานแต่เช้าอย่างนี้ มันคืออะไร ยังไง”
“......พี่มีน ผม” ซันยังคงมีท่าทางอึดอัด เหมือนไม่รู้จะอธิบายอะไรดี

“แกมี... อะไร....กับเต้ใช่ไหม....” ยิงคำถามตรง ๆ เพราะไม่รู้จะอ้อมค้อมทำไม ไอ้ท่าทีของซันมันบ่งบอกอยู่แล้วว่าเขาให้ความสนใจกับเต้มากแค่ไหน

“เปล่า พี่ก็ พูดอะไรอย่างนั้น ผม.......”
“ถ้าแกคิดจะปิดฉันละก็ ยังเร็วไป 100 ปีย๊ะ บอกความจริงมาซะดี ๆ อย่าให้พี่จับได้เองนะ แกก็รู้ว่าพี่ทำดีได้แค่ไหน พี่ก็ร้ายได้เท่านั้น”

“...ปิดพีไม่ได้จริง ๆ........คือ.... ครับ...... ผม..รักเขา...” เจ้าน้องชายถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันมาสบตาพร้อมคำสารภาพที่ถ้าไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อนคงทำฉันช็อคน่าดู

“นั่นไง ฉันว่าแล้ว คิดเอาไว้ไม่มีผิดตั้งแต่ที่แกโทรมาคราวก่อนแล้ว” ถึงจะเตรียมใจมาบ้างแต่ก็อดจะอึ้งนิดหน่อยไม่ได้

“แต่เขามาทำงานที่นี่ โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นกิจการของครอบครัวเรานะครับพี่” ซันพยายามปกป้องน้องเต้ คงจะกลัวว่าฉันจะคิดว่าน้องเขา จะเข้ามาปอกลอก หรือประสงค์ไม่ดี จึงเข้ามาทำงานที่นี่ ซึ่งข้อนี้ตัดไปได้เลย เพราะน้องเต้ ขยัน และตั้งใจทำงานมาก ขนาดมาทำงานด้วยกันไม่นาน ฉันยังรู้สึกเอ็นดูเขามาก ไม่แปลกใจเลยที่ พ่อกับแม่ใหญ่ ก็ยังดูจะเอ็นดูเขาไม่น้อย

“......พี่ไม่อยากพูดอะไรมาก โต ๆ กันแล้ว แต่แกอย่าลืมนะว่าครอบครัวเรามีแกเป็นลูกชายคนเดียว”
“ฮึ ๆๆ พ่อเค้าไม่คาดหวังกับผมหรอกครับ พี่มีนก็มีหลาน ๆ ให้พ่อหลาย ๆ คนซิครับ”

“พูดไม่รู้จักคิด พ่อรักแกมากนะ”
“พี่ครับผมก็รักพ่อครับ แต่เวลาเรารักใครซักคน มันกำหนดได้เหรอครับ ว่าเป็นใคร พี่มีนครับ ขอแค่พี่เอ่ยปากสนับสนุนผม ใครก็ไม่กล้าค้านแล้วละครับ” ไอ้ตัวดี ทำมาเป็นกอดประจบ เฮ้อ ปวดหัว

“คนนี้นี่จริงจังเหรอ”
“พี่ครับ ผมรักเขามาก จริง ๆ นะครับ”

“เฮ้อ...เด็ก ๆ อ้อนก็น่ารักหรอก โตจะตายแล้ว ปล่อย ๆ อึดอัด...แล้วทำไมเขาต้องทำเหมือนหลบแกด้วยล่ะ”
ข้อสงสัยยังไม่สิ้น ก็ดูจากสภาพน้องเต้นี่ เหมือนกำลังพรางตัวหลบอะไรบางอย่างเลย ส่วนไอ้ตัวดี ก็เฉไฉไปเรื่อย แต่ไม่รู้เหรอ ใครเลี้ยงแกมา ต้อนไปซักพักไอ้ตัวดีก็จนมุม ยอมเล่าความจริง

“อ้อ ฮึๆๆ มิน่าล่ะ ก็สมควรแล้วที่เขาจะอยากหลบหน้าแกหรอก ทำอะไรไม่รู้จักคิด ลูกเขามีผู้ปกครอง ดีนะเขาไม่เอาเรื่อง”

“โหย พี่ครับ ผมไม่ได้ขืนใจเขานะครับ ตอนนั้นเขาก็ให้ความร่วมมือดีอ่ะ พอตื่นขึ้นมาเขาก็หายไปแล้ว ผมไม่มีโอกาสได้พูดคุย ได้อธิบายอะไรเลย”

“เบื่อจะฟังแกแถแล้ว แล้วตอนนี้ล่ะ กำลังทำอะไรอยู่นี่”
“ฮะๆๆ ผมอยากแกล้งเขาเล่น ๆ นะครับ ก็อยากหนีผมมาไม่บอก มันน่าจะจับมาตีด้วยซ้ำ”

“พอ ๆ จะง้อเขาก็ง้อดี ๆ เดี๋ยวเขาจับได้ว่าไปแกล้งเขา จะง้อไม่ได้เอา”
“รับทราบ ครับกระผม” เจ้าน้องชายตัวดี ทำตะเบ๊ะ หน้าทะเล้น

“เอาล่ะ ๆ จะทำอะไรก็ทำ อย่าทำให้พี่เสียลูกน้องดีๆ ไปล่ะ”
“ย.ห. อย่าห่วงคร๊าบพี่ ผมจะทำให้พี่ได้ทั้งลูกน้องดี ๆ และน้องสะใภ้ดี ๆ แถมอีกด้วยครับ”

“อือ ๆ เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปประชุมที่ภูเก็ต อยู่ทางนี้อย่าก่อเรื่องให้พี่ปวดหัวล่ะ”
“ครับพี่ งั้นผมไปตามเต้มากินข้าวด้วยกันดีกว่า ไปละนะครับพี่”


เฮ้อ ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว ไอ้เจ้าตัวดียิ้มแก้มแทบปริ ไม่เคยเห็นมันยิ้มหน้าบานอย่างนี้มานานแล้ว สำหรับฉันไม่รังเกียจหรอกถ้าเขาสองคนรักกัน แต่ปัญหาที่พ่อกับแม่นี่ซิ





(จบตอนล่ะ)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 19 When we meet again (10/04/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 12-04-2015 00:57:24
รีบมาต่อเร็วๆนะ. 
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 20 Love is all around (27/04/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 27-04-2015 21:30:12
ขอบคุณ คุณAnong2013 ที่ยังติดตามและมาเม้นให้นะคะ ส่วนคนอื่น ๆ ที่อ่านอย่างเดียว ถ้าว่าง ๆ ก็แวะมาเม้น
ให้กำลังใจกันนิ๊ดดดดดดนึงนะคะ  :L2:


******************************************************




ตอนที่ 20 Love is all around.






รับคำพี่มีนได้ผมก็รีบตามเต้ออกมานอกห้องทำงาน มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นเต้ ผมว่าเขาคงไปทานอาหารเที่ยงแล้ว
จึงเดินไปทางห้องอาหารสำหรับพนักงาน ก็ต้องชะงักเท้า เห็นเต้นั่งกินข้าว และพูดคุย หัวเราะ อย่างสนุกสนาน อยู่กับไอ้เด็กเสริฟชื่อ เลาะห์  รู้สึกฉุนขึ้นมาทันที

“คุณกฤติกมล” ผมเดินไปยืนข้างหลังของเต้ พร้อมทั้งเรียกชื่อเขา เห็นเขาสะดุ้งเล็กน้อย

“ช่วยมากับผมหน่อย” เต้ไม่ได้หันมามองแต่หยิบหน้ากากที่วางที่โต๊ะ ขึ้นมาสวมปกปิดหน้าตาก่อนจะหันมา

“คุณมีอะไรจะให้ผมทำหรือครับ ตอนนี้เป็นเวลาพัก ขอผมทานอาหารเที่ยงให้เสร็จก่อน แล้วผมจะตามไปครับ” เต้พูด้วยเสียงอ้อม ๆ แอ้ม ๆ พูดจาเบา ๆ คงไม่อยากให้คนอื่นสงสัยว่าทำไมต้องดัดเสียง

“ไม่ งานนี้รอไม่ได้ คุณมากับผมเดี๋ยวนี้เลย” ถ้าคิดว่าผมจะใจเย็นปล่อยให้เมียตัวเอง มานั่งกินข้าวหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชายคนอื่นละก็ ไม่มีทาง คว้าข้อมือคนดื้อได้ก็ลากให้เดินตามกลับไปที่ห้องทำงาน โดยไม่ได้สนใจ สายตาอยากรู้อยากเห็นของพวกพนักงานที่มองมา แล้วหันไปซุบซิบกันใหญ่

พาเข้ามาในห้องทำงานได้ผมก็โทรไปสั่งอาหารสำหรับเราทันที
“ชิ ละสายตาแป๊บเดียว ก็มีผู้ชายมาเกาะแกะซะนี่” อดจะบ่นพึมพำขัดใจไม่ได้

“อะไรนะครับ?”
“เปล่า ไม่มีอะไร ผมพูดกับตัวเอง”

ผมเห็นเขาทำหน้าเหมือนอยากจะด่าผม แต่ผมไม่สนใจหรอก
“ผมเพิ่งมาทำงาน อยากให้คุณช่วยผมดูเอกสารหน่อย ข้าวสั่งมาแล้ว คุณทานกับผมที่ห้องนี่แหล่ะ”

“เอ่อ ผมก็เพิ่งเข้ามาทำงานไม่นาน ถ้ายังไงให้พี่วัชร...”
“คุณ ไม่เห็นเหรอว่าพี่วัชรลาหยุด ทำไมไม่อยากช่วยงานผมเหรอ ต้องให้ผมรอพี่มีนมาสอนผมรึเปล่า”เต้มีท่าทีอิดออด จนต้องทำเป็นหัวเสียใส่

“...เปล่าครับ...งั้นก็มาเริ่มกันเถอะครับ”
“ดี” สุดท้ายเขาก็ต้องยอมผม ก็ผมเป็นเจ้านายนี่นา หึ ๆ



(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 20 Love is all around (27/04/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 27-04-2015 21:35:07
(ต่อกัน ๆ)


ไอ้คนบ้าอำนาจ

อยากจะชกหน้าหล่อ ๆ แต่กวนทีน นั่นซะจริง ถ้าไม่คิดว่าเขาไม่รู้ตัวจริงของผม ผมต้องนึกว่าเขากำลังแกล้งผมอยู่แน่ ๆ เลย คนบ้าอะไร เอาแต่สั่งโน่นสั่งนี่ตลอด

“ไหนแฟ้มรายจ่ายเปรียบเทียบ 5 ปีละครับ”
“นี่ครับ”

“คุณวางเฉยๆ แล้วผมจะรู้เรื่องไหม มาอธิบายด้วยซิครับ”
“....ครับ” ดูเขาซิครับ ผมว่าเขาไม่น่าจะไม่เข้าใจงานนะ เพราะ เลาะห์บอกว่า เขากลับมาทำงานที่รีสอร์ท ทุก ๆ ปีที่ปิดเทอม เฮ้อ ผมอยากออกไปจากห้องนี้ซะที

“คุณอย่ายืนซิ ผมไม่ชอบดูงานไปเงยหน้าไป คุณขนแฟ้มไปที่โซฟาดีกว่า”
“ห่ะ...อ่า..ครับ” เฮ้ย ไอ้บ้า จะเอาไงว่ะ แฟ้มตั้งหลายเล่ม อุตส่าห์ขนไปวางให้ที่โต๊ะ แล้วดันจะให้ย้ายไปที่โต๊ะโซฟาอีก ฮึ่ม

“นั่งลงซิครับ คุณจะยืนค้ำหัวผมอยู่ทำไม”
“.....” เฮ้อ ทำอะไรไม่ได้ผมจึงนั่งลงที่โซฟาตัวเล็กข้างโซฟาตัวยาวที่เขานั่ง พร้อมทั้งตั้งท่าจะอธิบายรายงาน

“นั่งนั่นคุยไม่สะดวก มานั่งนี่ซิครับ”
“เหวอออ” คุณซันเขาคว้าแขนผมลากไปนั่งโซฟาตัวยาวข้าง ๆ เขา ด้วยแรงที่เขาลากผมไป ทำให้ผมเสียหลัก ถลาเข้าไปนั่งซะจนแทบจะเกยตักเขาเลยก็ว่าได้ ผมตกใจรีบ ๆ ถอยตัวออกห่าง แต่ก็ไปไม่ได้ไกล เพราะติดพนักพิงแล้ว ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนจะเห็นเขายิ้มมุมปากอยู่แวบนึง

“เอ๋...เสียงคุณตอนตกใจนี่ คล้าย ๆ คนที่ผมรู้จักเลย”
“อ่ะ เอ่อ คือ มะ มาเข้าเรื่องกันเถอะครับ เริ่มจากตรงนี้เลยนะครับ” บ้าจริง เผลอหลุดตอนตกใจซะได้ ต้องทำเนียน ๆ ไม่สนใจ รีบ ๆ อธิบายเขาให้เสร็จดีกว่า

“ไหน”
“...” เอ่อ ไม่ต้องก้มมาซะใกล้ขนาดนั้นก็ได้ จมูกเขาแทบจะโดนแก้มผมอยู่แล้ว หน้าผมร้อนไปหมด นี่ผมคงจะตื่นเต้นมากไปหน่อย ต้องทำเป็นไม่สนใจ รีบ ๆ อธิบายต่อ

แต่เขาก็ยังไม่หยุดกวนใจผม บางทีก็เอียงตัวมาจนไหล่เราชนกันบ้าง จับมือผมให้เริ่มอธิบายเนื้อหาใหม่บ้าง แล้วยังกลิ่นหอม ๆ จากกายของเขาอีก มันทำให้หัวใจผมเต้นรัว ดีว่าผมใส่หน้ากากอยู่ ไม่งั้นเขาคงเห็นว่าผมหน้าแดงขนาดไหน













ได้เวลาเลิกงานซะที ผมเหลือบมองนาฬิกาเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง วันนี้ผมเดินเข้าเดินออกห้องสำนักงานพี่มีนทั้งวัน ก็จะอะไรอีกล่ะ ก็คุณซันนะซิ เดี๋ยวเรียก ๆ ขนาดหายไปห้องน้ำแป๊บเดียว ยังเรียกไปสอบถามเลย ว่าผมหายไปไหน บ้าสิ้นดี วันนี้เหนื่อยเหมือนทำงาน16 ชั่วโมงเลย

“...” ผมรีบ ๆ เก็บของ ไม่ต้องบอกลาใคร เพราะพี่มีนไปประชุมที่ภูเก็ต พี่วัชร ลา กำลังจะก้าวเดินอออกจากห้องบัญชี

“คุณจะกลับไปที่บ้านพักหลังรีสอร์ทใช่ไหม”
“...ครับ” ฮึ้ย ทำไมผมไม่ก้าวเท้าออกไปให้เร็วนี้ว้า

“ผมไปด้วย”
“ห๊ะ...ว่าไงนะครับ”

“ผมบอกว่าผมไปด้วย...ต่อไปผมจะพักที่นั่นด้วย ฝากเนี้อฝากตัวด้วยนะครับ หึๆๆ” เขาพูดออกมาหน้าตาระรื่น
“..........” แต่ผมว่าหน้าผมคงจะซีดสนิทแล้วล่ะครับ ทำไงดี ผมลืมไปซะสนิทเลยว่า ลุงบอกว่า เมื่อลูกชายแกกลับมา เขาจะมาพักที่นั่นกับผม แล้วไอ้ลูกชายลุงที่ว่านั่นก็คือหมอนี่

ผมหันหลังเดินจ้ำๆ ไม่หันไปมองหน้าเขาอีก ผมจะหลบเขายังไงได้ตลอดในเมื่อเราต้องเจอกันเกือบ 24 ชั่วโมง โอ๊ย ปวดหมอง เอาไงดีวะ

จริงซิ ผมขอให้พี่มีนหาห้องพักพนักงานให้ และรีบ ๆ ย้ายออกจากบ้านพักดีกว่า เออเอาตามนั้นแหล่ะ ส่วนเรื่องที่ต้องทำงานยังไง ๆ ก็คงจะพอถู ๆ ไถ ๆ ปิดหน้าปิดตาไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยหาทางว่าจะทำยังไงต่อดี






พอมาถึงบ้านพัก ก็เห็นกระเป๋า 4-5 ใบตั้งอยู่ที่ชานบ้าน ไอ้ผมที่กะว่าจะรีบ ๆ เผ่นเข้าห้อง ก็จะทำใจดำไม่ช่วยก็ไมได้ อีกอย่างเขาเป็นเจ้านายผมด้วย จึงเป็นความจำเป็นกลาย ๆ ที่ยังไงผมก็ต้องช่วยเขาขนกระเป๋าเข้าไปไว้ในห้องของเขา

เขายักคิ้วให้ผม และผายมือให้ผมเดินหิ้วกระเป๋า 2 ใบนำเข้าห้องไปก่อน แล้วเขาจึงหิ้วที่เหลือเดินตามเข้ามา

คริ๊ก

หือ

เสียงเหมือนประตูล็อกทำให้ผมหันกลับไปดูหลังจากวางกระเป๋าไว้ข้างเตียงแล้ว คุณซันที่วางกระเป๋าไว้หน้าประตูจ้องผมเขม็ง พร้อมทั้งก้าวเข้ามาช้า ๆ

“เอ่อ..ระ..เรียบ..ร้อยนะครับ.....ผมขอตัวครับ มีอะไรก็เรียกได้นะครับผมอยู่ห้องอีกด้าน”

พอผมจะก้าวไปที่ประตู เขาก็มายืนดักไว้ ผมเงยมองหน้าเขาอย่างไม่วางใจ แต่เขาไม่พูดอะไรยังคงก้าวเข้ามา จนผมต้องถอยหลัง ไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าน่องของผม ชนกับขอบเตียง

คุณซันค่อย ๆ โน้มตัวลงมา ทำผมใจเต้นยิ่งกว่าเดิม พร้อมกระซิบคำที่ทำให้ผม ยิ่งกว่าใจเต้น
“หนีไม่พ้นหรอกเมียจ๋า”


!!!!!!!!!!!
ขนลุกซู่ กว่าสติจะประมวลผลคำพูดที่ได้ยินได้ หันไปมองหน้าคุณซันอย่างตกใจ เขายิ้มร้าย ก่อนจะเอื้อมมือมาหมายจะจับตัวผม

แต่ผมไม่รอให้เขาถึงตัว รีบผลักเขาแล้ว วิ่งหนีออกจากห้อง แต่มันไม่เร็วพอ คุณซันจับแขนผมได้ แล้วรวบผมไว้ทั้งตัว จนเราสองคนเซล้มลงบนเตียง โดยที่ผมอยู่ข้างล่างและเขาคร่อมทับผมอยู่

แว่นตาหน้ากากหลุดกระจาย ไปคนละทิศละทาง หน้าของเราอยู่ใกล้กันแค่ปลายจมูกชนกัน เขายังคงยิ้มมุมปาก หน้าระรื่น

“ไอ้บ้า ลุกไปเลยนะ.....รู้มาตลอดซินะว่าเป็นผม”
“ฮ่าๆๆๆๆ คุณตลกอ่ะ ไปเอาไอ้แว่นตาพิลึก ๆ นี่มาจากไหน”

“รีบ ๆ ไม่รู้จะหาจากไหน เลยวิ่งไปหน้ารีสอร์ท ไปเอาจากร้านค้าแถวนั้นมาก่อน ตังก็ยังไม่ได้ไปจ่ายเขาเลย”
“ฮ่ะๆๆๆ” ไอ้คนขี้แกล้ง ยังหัวเราะชอบใจไม่เลิก ผมกัดปากมองเขาแบบเคือง ๆ แต่ก็ไม่เห็นเขาจะสำนึก แถมยังก้มลงมาหอมผมฟอดใหญ่ เรียกให้หน้าผมขึ้นสีด้วยความเขินอาย

“หนีผมมาทำไม หือ”
“...ไม่ได้หนี...ซักหน่อย...มาทำงาน..ต่างหาก...” แต่ตอนนี้กำลังหดคอหนี คนที่ไซร้ซอกคอไปพลาง กระซิบข้างหู ถามเสียงหวานจนใจเต้น ไม่เป็นจังหวะ

“ผมเป็นห่วงคุณมากเลยนะ ตอนตื่นมาไม่เห็นคุณ”
“..ห่วง..อะไร..ห่วงผม...ขโมยของคุณรึไง”

“ก็คุณขโมยไปจริง ๆ นี่นา”
“อย่ามาใส่ร้ายผมนะ คุณไปเช็คดูของคุณเลย ผมไปขโมยอะไรของคุณ ฮ่ะ”

“หัวใจผมไง ดูซิ ทำผมใจหาย ต้องรับผิดชอบดูแลหัวใจผมด้วย”
“เลี่ยน แหวะ” หน้าผมกำลังจะระเบิดแล้ว ถ้าเขายังไม่หยุด

“ไม่เชื่อเหรอว่าผมรักคุณ”
“ไม่เชื่อหรอก...คุณยังไม่รู้จักผมดีด้วยซ้ำ”

“นิสัยคุณผมอาจจะยังไม่รู้จัก แต่ตัวคุณน่ะ....ผมรู้จักทุกซอกทุกมุมแล้วล่ะ”
“บ้า” ยังจะไม่เลิกพูดให้ผมเขินเข้าไปอีก เลยแก้เขินด้วยการชกไปที่ไหล่เขาไม่แรงนัก เพราะชกไม่ถนัด ถ้าไม่งั้นผมอยากเสยคางเขาให้หงายเลย

เขาจับข้อมือผมทั้งสองข้างตรึงไว้กับที่นอน ก่อนที่จะก้มมาจูบผมแผ่ว ๆ ขบเบา ๆ ที่ริมฝีปากบน ผมขัดขืนเขานะ แต่ก็ไม่แข็งแรงพอที่จะปฏิเสธอารมณ์ที่ตอนนี้เริ่มจะกรุ่นขึ้นมา จากการจูบ ไซร้ และการโลมเล้าจากคุณซัน  เขาล้วงเข้ามาในเสื้อผม ที่หลุดลุ่ยออกจากกางเกงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มือหนาลูบไล้จากกลางหลังเรื่อยลงมาถึงร่องใต้กางเกง ทำผมเสียวจนต้องบิดตัวประท้วง ปากเราก็ยังไม่ผละจากกัน ยังคงจูบ แลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“อือ...อือ..อ่า..”ผมครางเสียงสั่น เมื่อเขาปล่อยริมฝีปากผมให้เป็นอิสระ แล้วหันมาจัดการเลิกเสื้อผมขึ้นแล้วเลียหน้าอกสองข้างของผมอย่างหื่นกระหาย ตอนนี้ต้องบอกว่าอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปเรียบร้อยแล้วครับ

คุณซันอาศัยจังหวะเห็นผมระทวย ถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างไว ก่อนจะหันมาถอดกางเกงผมออกแล้วโยนไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ

พอเว้นช่วงสติก็เริ่มมา ยางอายก็เริ่มมาเช่นกัน เขามองผมตาเยิ้ม ทำให้ผมอายจนต้องเขยิบตัวหนี
“ไปไหน มานี่” แต่ก็ถูกคว้าตัวกลับมานอนใต้เขาอีกครั้ง เขาไม่รอช้าจับส่วนอ่อนไหวของผมที่เริ่มจะแข็งขืน จนตอนนี้ เริ่มจะทนไม่ไหว บิดกายร้องครางไม่เป็นภาษา กำลังเคลิ้ม ๆ เขาก็ดึงมือขวาผมให้ไปจับของเขาบ้าง....ครั้งก่อนไม่ได้มีสติเต็มร้อย จึงไม่ทันได้สังเกตว่า ของเขามันใหญ่จัง ชะโงกหน้าขึ้นมามองสิ่งที่อยู่ในมือ ก็ต้องอึ้งไป 5 วิ แล้วเลยชักกังวลว่า มันเคยเข้าไปแล้วจริง ๆ เหรอวะ กลัวอ่ะ

ความกลัวยังไม่ทันจาง เขาก็ยกขาซ้ายผมขึ้นสูง แล้วเริ่มลูบ ๆ ถู ๆ ช่องทางด้านหลังของผม
“อย่า ๆ ไม่เอา ไม่มีเจลเหรอ” แฮะๆๆ ไม่ได้ไม่เอานะครับ แต่อยากได้ตัวช่วย กลับเจ็บ
“มี แต่อยู่ในกระเป๋า.....ไม่รู้ใบไหนดิ”

“งั้นไว้คราวหน้านะ นะครับ” อ้อน ๆ เขาหน่อย ขอความเห็นใจ
“คราวที่แล้วในรถก็ไม่ได้ใช้ ยังเข้าไปได้เลย.....ถึงจะยากนิดนึง แต่ฟิตชิบ”

“.....” แม่งไม่อยากบรรยาย ก็ตอนนั้นมันมืด ตกใจด้วย กลัวด้วย เลยไม่ทันคิดเรื่องขนาด
“ถ้าจะให้รื้อกระเป๋าตอนนี้ผมคงขาดใจตายก่อน ขอนะครับ ผมจะอ่อนโยน จะทำให้คุณมีความสุข นะครับ”

“อื้อ...อื้อ...” ไอ้คนหน้าด้าน แหย่นิ้วเข้าปากให้ผมอม แล้วชักออก ก่อนจะก้มลงมาปิดปากที่กำลังจะประท้วงของผม มือนึงก็รูดรั้งให้ผมเสียวสะท้าน อีกมือก็ป้วนเปี้ยนอยู่ด้านหลัง ก่อนจะค่อย ๆ ส่งเรียวนิ้วนำร่องเข้าไปก่อน

“ที่รัก อย่าเกร็งครับ” พูดง่าย แต่ทำไม่ยาก ฮ่ะๆๆๆๆ ผมไม่ใช่หนุ่มน้อยไร้เดียงสา ผมผ่านเรื่องอย่างนี้มาแล้ว จึงรู้จังหวะ ผ่อนลมหายใจ จนเขาเริ่มส่งนิ้วตามเข้ามาอีกสอง

เขาคงเห็นว่าผมพร้อมแล้วจึงรูดของตัวเองเรียกความแข็งแกร่งก่อนจะถู ๆ ไถๆ เหมือนจะบอกให้ผมเตรียมใจ เสียวจนต้องขมิบ จากนั้นจึงจ่อลงตรงทางเข้า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้าไปโดยไม่มีตัวช่วย กว่าจะดันส่วนแรกผ่านเข้าไปผมก็เจ็บจนขาสั่น
“โอ๊ย...เจ็บอ่ะ..เบา ๆ อย่าเพิ่ง ๆ อ๊าห์” ทำเหมือนจะหยุดให้ผมหายใจหายคอ แต่ไม่เลยเขาอาศัยจังหวะผมผ่อนหายใจกดตัวเข้ามาจนมิด เจ็บชิบหาย ไอ้บ้า

“อ๊า...ซี๊ดดดด...อ่า..สุดยอด อย่ารีบตอดซิวะ กูไม่อยากเสร็จไว” เขาแช่ตัวอยู่จนเห็นว่าผมเกร็งน้อยลง แล้วเริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ เนิบ ๆ

“อ๊าๆๆ เสียว อย่าเพิ่งขยับ อ๊ะ อ๊ะ” เสียวจนต้องหุบขา แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะติดร่างกายคนด้านบน เขาก็ช่างใจร้าย แยกขาผมออกได้ก็เริ่มซอยถี่ ๆ สั้นยาวเป็นจังหวะ ก่อนจะเริ่มเร็วขึ้นอีก แรงและลึกขึ้น จนผมหัวสั่นหัวคอน

เสียวจนขย้ำผ้าปูที่นอนมากัดไว้กลั้นเสียงที่น่าอายที่ยังคงครางจากลำคอเรื่อย ๆ จนถึงจุด ผมปลดปล่อยออกมาจนตัวหอบตัวโยน เขาหยุดมองผมที่นอนระทวย โดยที่ส่วนของเขายังคาอยู่ และไม่มีทีท่าจะอ่อนตัวเลย เขาช้อนตัวผมขึ้นนั่งคร่อมตักเขา จูบผมอย่างเร่าร้อน ผมโอบแขนรอบคอเขา ด้วยความเสียวซ่าน แต่ก็ต้องครางไม่เป็นภาษาอีกครั้งเมื่อเขากระเด้งตัวแทรกลึกเข้ามาให้ผมต้องเด้งตัวสั่นอยู่บนตักเขา

“ซี๊ดดด..อาร์..ซี๊ดด ดีไหมเต้ ชอบไหมครับ”
“..อึก..อ่า..ดีๆ..ครับ ลึกจังเลย...ชอบครับ...อ๊ะๆๆๆ”



เราทำกันจนถึงฝั่งอีกหลายรอบจนหมดแรง นอนกอดก่ายกันทั้ง ๆ สารพัดคราบ บนที่นอน ผมซบอยู่ที่หน้าอกของคุณซัน ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นดังมาก

เรานอนคลอเคลียกันอีกซักพัก จึงลุกขึ้นมาช่วยกันอาบน้ำชำระร่างกายกันและกัน หลังจากนั้นคุณซันโทรให้พนักงานเอาอาหารค่ำมาส่งให้ที่บ้านพัก ส่วนผมก็พยายามเก็บเศษซาก ที่เราสองคนก่อขึ้น ผมกะว่าจะแอบ ๆ เอาไปไว้ที่ห้องซักรีด ไม่อยากให้รู้ว่ามาจากบ้านพัก อายเขาตายเลย

พอเก็บกวาดเสร็จ เดินออกมาก็พบว่าทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม ได้ถูกลำเลียงมาวางที่โต๊ะที่ระเบียงเรียบร้อยแล้ว คุณซันนั่งจิบไวน์แดงหันมองไปทางทะเล แต่พอได้ยินเสียงผมเดินออกมา เขายื่นมือมาให้ผม ถึงผมจะผ่านเรื่องอย่างว่า แต่ก็ยังรู้สึกเขินเขาไม่น้อย จึงไม่ส่งมือให้เขา จะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามเขาแทน แต่เขาก็คว้าข้อมือผมแล้วดึงผมให้เซลงไปนั่งบนตักเขา
“โอ๊ย เจ็บนะ” เจ็บทั้งข้อมือ เจ็บทั้งก้น ไอ้บ้าเบา ๆ มือหน่อยก็ไม่ได้
“อ่ะ ขอโทษ ๆ คุณนะดื้อ ก็ผมบอกให้มานั่งนี่ก็ไม่มา ผมก็ดึงซิ ฮึๆๆ”

ผมงี้รับมือเขาแทบไม่ทัน เจอกันครั้งแรกสุภาพ มีน้ำใจ ยังกับคุณชายจุฑาเทพ เจอกันอีกที ทั้งฉุดกระชากลากถู ยังกับในหนังพิศาล แล้วดูเขาตอนนี้ซิ ยิ้มหวาน พูดคำหวาน จนผมแทบละลาย ตกลงเขาจะเอายังไงกับผมกันแน่

กว่าเขาจะปล่อยให้ผมได้นั่งกินข้าวดี ๆ ก็นัวเนียกันอยู่ซักพัก ร้อนหน้าร้อนร่างไปหมดแล้ว
“ไม่ทำแล้วนะครับ คุณซัน ไอ้ที่เพิ่งทำกันไปก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผมจะไปทำงานไหวหรือเปล่า”
“หือ นั่นนะชดเชยที่หนีผมมา บวกดอกเบี้ยนิดหน่อย แต่ถ้าคุณไม่ไหว พรุ่งนี้ก็หยุดพัก ไม่ต้องไปทำงานหรอก”

“เฮ้ย จะหยุดได้ยังไง บ้าเหรอ” หันขวับมองหน้าคน ที่พูดอะไรเหมือนเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ
“ผมให้คุณหยุด ใครจะกล้าว่าอะไร”

“บ้าอำนาจ”
“ฮ่ะๆๆ ตกลงยอมเป็นแฟนผมแล้วนะ”

“ไม่อ่ะ ไม่เอา” ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย เรื่องนี้ ถึงผมจะรู้สึกดี ๆ กับเขา แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากผูกมัดกับใคร
“อะไรกัน ทำไมละครับ ยังไงผมก็ไม่ยอมหรอกนะ”

“มันเรื่องของคุณ ผมมาทำงาน ไม่อยากมีปัญหา”
“ปัญหาอะไรของคุณ”

“เฮ้อ....ข้อที่ 1 เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ข้อที่ 2 คุณเป็นเจ้านายผม ข้อที่ 3 ทางบ้านเราไม่ปลื้มหรอก” ถอนหายใจในความดื้อด้านของเขา ถ้ามีเวลาจริง ๆ ผมว่าผมหาข้อปัญหาได้มากกว่านี้อีกนะ
“ฮึๆๆ อากู๋คุณเขารู้แล้วนะเรื่องที่คุณเป็นเกย์”

“ห๊า” ผมร้องเสียงหลง ด้วยความตกใจ
“เฮ้ ไม่ต้องตกใจ ท่าน โอเค ที่อยู่คุณผมก็ได้มาจากท่านนั่นแหล่ะ หวังพึ่งเฮียตง แต่ก็คงเพราะคุณละซิ ที่ไม่ให้เขาบอกผม”

อดจะทึ่งเขาไม่ได้ ไม่เคยมีแฟน หรือเพื่อนคนไหนของผมที่กล้าเข้าไปหาอากู๋เลย เพราะกู๋จะตัวใหญ่ และดูดุมาก ทั้งกู๋ยังไม่ชอบให้ผมกลับดึก ๆ บางทีเพื่อน ๆ มาส่งที่ร้าน ก็จะถูกกู๋ซักซะจนเกือบจะร้องไห้กลับไปแทบไม่ทัน

“เอ้าๆ ไม่ต้องอึ้งขนาดนั้น ผมชอบท่านนะ ท่านเป็นคนตรง ๆ ดี แล้วผมจะบอกนะว่าปัญหาของคุณนะ เรื่องที่เราเป็นผู้ชายทั้งคู่น่ะนะ แล้วยังไงล่ะ มันเปลี่ยนแปลงอะไรได้เหรอ หือ ส่วนที่ผมมาเป็นเจ้านายคุณ เราก็ไม่รู้กันมาก่อนใช่ไหม และสุดท้ายครอบครัวคุณ โอเค ครอบครัวผมก็ไม่ต้องห่วง ผมจัดการได้ ไง หมดปัญหารึยัง”

“แต่...”
“ไม่ต้องมีแต่ หรือว่ายังอาลัยอาวรณ์ไอ้เพชรมันอีก ห๊ะ” เขาพูดเสียงแข็งขึ้น อย่างคนเสียอารมณ์

“...ไม่..ไม่ได้คิดอะไรแล้ว”
“ดี ไม่ต้องคิดแล้ว มันเพิ่งจะแต่งงานไม่นานนี่เอง ได้ยินว่าที่ต้องรีบ เพราะไอ้ปันมันท้อง”

“.....” หัวใจเจ็บแปล๊บนิดนึง เมื่อคิดถึงว่าเขาสองคน ร่วมหลอมร่างกันจนมีอีกหนึ่งชีวิต กำเนิดขึ้นมา แต่ก็ดีแล้วที่ผมถอยออกมาก่อน ที่จะต้องมานั่งเสียใจ ว่าเป็นหนึ่งในปัญหาของเด็กคนนั้นในอนาคต

“หึ ทำไม เสียใจมากเหรอ”
“เปล่า...ก็..คิดอะไร..นิดหน่อย ก็ขออวยพรให้เขาทั้งสองคนครองคู่กันอย่างมีความสุข”

“ประชด?”
“ไม่ได้ประชด เลิกกันแล้ว ไม่คิดอะไรแล้วล่ะ” หมั่นใส้ไอ้หน้าตายียวน และน้ำเสียงกวนทีนนั่นจริง ๆ

“งั้นก็ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยอมเป็นแฟนผมแล้วใช่ไหม”
“....” กำลังหาเหตุผลอยู่

“เว้ย จะคิดอะไรมาก ไม่ตกลงก็เตรียมตัวรับศึกหนัก ไม่ต้องนอนกันเลย พรุ่งนี้ก็ไม่ให้ไปทำงาน”
“เฮ้ยๆ อะไรกัน คนบ้า ไอ้คนเผด็จการ”

“ฟอดดดด...เพราะรักหรอกนะเมียจ๋า” คุณซันรวบตัวผมจากด้านหลัง เอาคางมาวางทีไหล่ หอมแก้มผมฟอดใหญ่ และไม่วายพูดให้ผมเขินแก้มแทบแตก ทำอะไรไม่ถูกจนต้องยอมตอบตกลง ก็จะไม่ให้ตอบตกลงได้ไง ยังไม่อยากทำแฮททริกนี่นา

“แต่เวลาอยู่ในรีสอร์ท อย่าทำเป็นรู้จักกันนะ”
“คู๊นนนน เขารู้กันทั้งรีสอร์ทว่าเราพักอยู่บ้านพักเดียวกัน ทำเป็นไม่รู้จักกันมันไม่ตลกเหรอ”

“เออจริงแฮะ.....แต่...แต่ก็อย่าแสดงท่าทีเป็นคนรักกันต่อหน้าคนอื่นนะ”
“เรื่องมาก ไม่รับปากอะไรทั้งนั้น อย่าให้ไอ้หน้าไหมมาเกาะแกะล่ะ ไม่งั้นไม่เอามันไว้แน่”

“ไม่มีหรอก”
“แล้วไอ้เด็กเลาะห์ เมื่อตอนเที่ยงล่ะ เห็นหัวร่อต่อกระซิก กับมันอยู่นี่ อยากกินเด็กเหรอ”

“ไอ้บ้า ไม่เคยคิดเว้ย แค่เพื่อน ๆ กัน”
“เพื่อนก็ไม่ได้ จำเอาไว้”

“....” ตอนนี้มีอยู่คำเดียวผุดขึ้นมาในหัว ไอ้บ้า




(จบตอนล่ะ) เม้นคนละนิด จิตแจ่มใส เม้นวันละหน่อย ค่อยสบายใจ อิ๊ๆๆ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 20 Love is all around (27/04/15)
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 07-05-2015 13:09:47
ยังติดตามอยู่นะคาบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 21 Watch your back (13/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 13-05-2015 18:31:08
ขอบคุณคุณ maew189870 นะค่ะ แค่ทักมานิดก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย  :-[
สำหรับกำลังใจแอบ ๆ ก็ติดตามกันต่อไปนะค่ะ  :mew1:
ส่วนใครเป็นพืช ก็ขอให้สุขสันต์วันพืชมงคลนะค่ะ  :bye2:

*******************************************************


ตอนที่ 21 Watch your back







“เต้ ๆ จ๊ะ ค่ากับข้าวที่ป้า มาขอเบิกได้รึยัง นี่เงินที่ไห้ไว้จะไม่พออาทิตย์หน้าแล้วนะ”
“เอ๋ ป้านวลส่งใบเบิกมาแล้วเหรอครับ”

“ส่งแล้วซิตั้งแต่เมื่อ สองวันก่อนไง”
“แต่ป้า ผมยังไม่เห็นเลย ป้าให้ผมตอนไหนอ่ะครับ”

“เปล่า ป้าไม่ได้ส่งให้เต้โดยตรง ป้าฝากคุณวัชรไว้”
“...อ้อ ครับ งั้นผมจะจัดการให้เร็ว ๆ นะครับ” สะอึกเลยครับ ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมว่าพี่วัชร เขามีปัญหากับผมนะ เพราะช่วงหลัง ๆ ผมทำงานผิดพลาดให้พี่มีน ต้องบ่นอยู่เรื่อย ๆ แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ความผิดของผมเลยนะครับ เพราะเอกสารบางตัวผมก็หายบ้าง ได้รับช้าบ้าง โดยแต่ล่ะครั้งจะมีพี่วัชร และพวกพนักงานบางคนเป็นต้นเหตุของเรื่องเสมอ ผมไม่เคยแก้ตัวกับพี่มีน แต่พยายามระมัดระวังตัวเองแทน

ผมไม่ได้คิดมากไปเองแน่ และผมก็พอจะรู้สาเหตุที่บางคนไม่ชอบผม นั่นไงพูดถึงก็มาพอดี

“สวัสดีค่ะ น้องเต้”
“สวัสดีครับ นายหญิง”

“เรียกป้าก็ได้จ้า แล้ววันนี้งานยุ่งไหม” แหะ ๆ ท่านก็พูดง่ายนะครับ แต่จะให้ผมเรียกนี่ไม่ง่ายนะครับ
“เอ่อก็นิดหน่อยครับ มีอะไรจะให้ผมรับใช้เหรอครับ”

“อ้อ ไม่มีจ๊ะ แค่อยากหาเพื่อนคุยนะ เพราะลุงเขาไปสัมมนาที่ภูเก็ต”
“เอ่อ...” อยากถามท่านจริง ๆ ครับ ว่าทำไมต้องเป็นผมด้วยครับ

“อ่อ ไม่เป็นไรจ๊ะ ใครจะอยากมานั่งคุยกับคนแก่ ๆ “ เฮ้อ มามุกนี้ตลอด จะปฏิเสธก็คงไม่ได้ล่ะ
“เอ่อ มิได้ครับ ขอผมสะสางงานช่วงเช้านะครับ แล้วช่วงบ่ายผมจะไปคุยด้วยครับ”

“ก็ได้จ๊ะ ป้าได้ครีมตัวใหม่มาจากเพื่อนที่ญี่ปุ่น เห็นเขาว่ากำลังดังเลย”
“...ครับ”

“อ่ะ ไม่กวนล่ะ อย่าลืมนัดนะ”
“ครับ” เอ่อ นายหญิงครับ ผมไม่ถนัดเรื่องครีม เครือม อะไรทั้งนั้นครับ ไม่เคยใช้ ห๊า ว่าผมโม้เหรอ จริ๊ง จริง หน้าใส ๆ ที่เห็นกันทุกวันนี้ก็แค่โฟมล้างหน้า กับครีมบำรุงผิวราคาย่อมเยา ตามท้องตลาดนั่นเอง ขอโทษนะครับคนมันผิวดี (หลงตัวเอง)

นี่แหล่ะครับหนึ่งในต้นเรื่องที่ทำให้หลายคนไม่ชอบขี้หน้าผม ก็ตั้งแต่ลุงแล้ว ว่างไม่ได้ชวนผมดื่มชา กินขนมตลอด ส่วนคุณป้า ท่านก็เหมือนจะไม่ค่อยคุยในทีแรก แต่พอได้คุยกันซักพัก ท่านก็ชมว่าผมหน้าใส เรื่องเลยลามไปถึง เครื่องสำอางที่ใช้บ้างล่ะ วิธีดูแลผิวหน้าบ้างล่ะ ผมก็ได้แต่อือ ๆ อาๆ กับท่านไป

แต่ใจจริงแล้วผมชอบมากเลยที่ได้คุยกับคุณป้า ท่านเป็นคนสวย พูดจาหวาน ๆ ใบหน้าอ่อนโยน ทำให้อดจะมโนถึง แม่ของผมไม่ได้ ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ ผมก็อยากจะได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่อย่างนี้บ้าง แค่นั่งมองท่านพูดคุย ได้ดูสีหน้าของท่านมันก็ทำให้ผมเป็นสุขใจมากมาย






“พี่เต้ “
“อ้าว ว่าไงเลาะห์ มีใครจะเบิกอะไรเหรอครับ”

“เปล่า ๆ ผมได้ยินป้านวลบอกเบิกได้เงินช้า จริงเหรอ พวกนั้นอีกแล้วเหรอพี่”
“อือ แต่ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง”

“ไม่ต้องห่วงบ้าซิพี่ เดือนนี้กี่ครั้งแล้ว เดี๋ยวก็เอกสารหาย เดี๋ยวก็ส่งให้ช้าบ้างลืมบ้าง มันจะเกินไปไหมพี่ ทำไมพี่ไม่บอกคุณมีน หรือคุณซันล่ะ”
“เฮ้ย ใจเย็นเลาะห์ พี่โอเค ๆ ไม่อยากกวนพี่มีน และอีกอย่างเราไม่มีหลักฐานด้วย”

“น่าเจ็บใจพวกขี้อิจฉาจริง ๆ ชอบเล่นลอบกัดตลอด”
“เออ ๆ ขอบใจที่เป็นห่วงพี่ ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวแขกรอบค่ำก็จะมากันแล้ว ไว้ถ้าพี่ไม่ติดอะไร เดี๋ยวพี่ไปช่วย”

“ครับพี่เต้ ไปล่ะครับ”

ฮู้ย ดีนะคุณซันไม่อยู่ ไม่งั้นล่ะผมไม่อยากจะคิด หึงอะไรไม่เข้าท่า ขนาดคนสวนมาเบิกเงินผม เขายังจ้องซะจนลุงคนสวนกลัวจนตัวเกร็งเลย  บ้าไปแล้ว






“เต้ เอกสารจัดซื้อ ไม่ต้องดูแล้วนะ พี่จะดูแลเอง”
“เอ่อ ...แต่พี่มีนบอกว่า”

“พูดไม่เข้าใจเหรอ พี่บอกว่าพี่จะดูแลเอง แล้วไม่ต้องอ้างชื่อคุณมีน พี่บอกยังไงก็ทำตามก็พอ”
“......ครับ งั้นผม เอาตั้งไว้ตรงนี้นะครับ”

“อือ”
“...”







เลิกงานผมก็หาอะไรรองท้องก่อนกลับมาที่บ้านพัก อารมณ์ขุ่นมัวจากที่ทำงาน ค่อย ๆ คลายลง เมื่อได้เห็นตัวอาคารบ้านพัก ไม่รู้เป็นไง มองทีไรผมก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด  ไม่ใช่เพราะว่ามีคุณซันอยู่ด้วย แต่มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้ว รู้สึกเหมือนมีอ้อมกอดอบอุ่น อ่อนโยน เป็นบรรยากาศอยู่รอบ ๆ ตัว

เดินมานั่งหน้าระเบียง วันนี้ไม่ได้พกงานอะไรกลับมาทำ เพราะเพิ่งถูกแย่งงานไป ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเหมือนกัน จะโต้ตอบก็ทำได้ยาก เพราะพี่วัชรเขาเป็นคนเก่าคนแก่ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ผมเพิ่งรู้จากเลาะห์ ว่าเมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนแบบนี้ แต่หลัง ๆ นี้ไม่รู้เขาเป็นอะไร หน้าตาเคร่งขรึม ไม่ค่อยพูดจาเล่นหัว เหมือนแต่ก่อน และเริ่มมีพนักงานบางส่วนที่ต้องลาออกไป เพราะเขาไม่พอใจ และคนใหม่ ๆ ที่เข้ามาก็เป็นคนที่เขาหามาเองทั้งสิ้น เลาะห์เล่าอีกว่า คนพวกนั้นขี้เกียจ ทำงานเอาหน้าเวลานายมาเท่านั้น พวกที่ทำก็ทำกันไป ไม่มีใครอยากยุ่งเพราะไม่อยากมีปัญหากับพี่วัชร

เฮ้อ ผมเองก็ไม่อยากมีปัญหากับเขาเช่นกัน แต่ก็คงต้องระวังตัวไว้บ้าง เพราะตั้งแต่ที่ผมทักเขาเรื่องของที่ส่งมาไม่ตรงตามใบเสร็จ ทำให้ผมแทบไม่เคยได้นับสต็อกอีกเลย พี่วัชร จะให้คนงานบางส่วนมาทำแทน และมักจะทำกันโดยไม่มีใครรู้เห็นเป็นพยาน

เคยเปรย ๆ กับพี่มีนเรื่องความน่าไว้วางใจของพี่วัชร ก็ได้รับคำตอบกลับมาเป็นสีหน้าและแววตาที่บอกว่าพี่วัชรเป็นคนที่ทำงานดี ไว้ใจได้ มีอะไรก็ให้ปรึกษาพี่วัชรได้โดยตรง ไม่ต้องรอพี่เขาก็ได้ เลยเหมือนน้ำท่วมปาก พูดอะไรออกไปก็อาจจะเข้าตัว จึงได้แต่เงียบไว้ และเริ่มระวังตัวเอง แต่ก็ไม่วายโดนเล่นงานหลายครั้งแล้ว

ไม่ใช่แต่เรื่องในห้องบัญชี ขนาดในรีสอร์ท บางทีก็ถูกชน ถูกขัดขา แถมยังหาว่าผมเป็นคนผิดอีก ดีว่าได้พวกในครัวและห้องอาหาร รวมถึงพวกแม่บ้านบางคน ช่วยไว้ จึงไม่เคยเป็นเรื่องใหญ่โต จนต้องถึงหูนาย


เวลาเหนื่อย ๆ ล้า ๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่าได้พูดคุยกับคนที่รัก
“หวัดดีครับกู๋ สบายดีไหมครับ”
#สบายดี ๆ แล้วลื้อล่ะ งานยุ่งมากไหม เสียงเนือย ๆ นะ#

“เอ่อ ก็ดีครับ งานยุ่งนิดหน่อยครับ หน้าไฮท์แล้ว แขกเข้ามาพักเยอะเลย แล้วที่ร้านเป็นไงบ้างครับ”
#โอ๊ย ลูกค้าเยอะเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ ดีว่าได้หลานอาหมูอีมาช่วย อาตงอีเลยสบายขึ้น เห็นอีบ่น ๆ ว่าอยากลองไปหาประสบการณ์ร้านอื่นดูบ้าง เผื่อเอามาใช้ในร้านได้ เอ่อของแห้งที่ลื้อส่งมาให้น่ะ ดีมากเลยนะ อร่อยดี ลูกค้าชอบกันทุกคน#

“ไว้ถ้าหมดแล้วกู๋บอกผมล่วงหน้านะ ผมจะสั่งเขาทำให้ใหม่ๆ เลย”
#ดี ๆ...แล้วไอ้หนุ่มนั่นล่ะ...อีดีกับลื้อไหม...#

“....กู๋...คือ คือว่าเรา เอ่อ ผม..”
#เฮ้อ อึก ๆ อัก ๆ อะไรกัน ยังไงชีวิตก็เป็นของลื้อ อยากทำอะไร อยากเป็นอะไรก็ ทำเถอะ ไม่ใช่อั๊วไม่รู้นา ก็หน้าตาอย่างลื้อน่ะ ไม่พ้นมีแต่ผู้ชายมาจีบทั้งนั้น ไอ้พวกลูกค้าที่มาที่ร้านมันถามหาลื้อกันให้จ้าละหวั่นไปหมด ฮ่ะๆๆๆ#

ได้ยินอากู๋หัวเราะได้ก็สบายใจขึ้น รู้สึกดีใจมาก ที่อากู๋ยอมรับความเป็นตัวตนของผมได้ แต่บอกตามตรง ผมว่าผมก็ไม่ได้สาวแตกอะไรนะ ทำไมอากู๋ถึงคิดว่าคนอย่างผมจะต้องมีแฟนเป็นผู้ชายด้วย ไม่เข้าใจ (เหรอ)

หลังจากนั้นก็คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงเรียกของโกหมู แกจึงต้องวาง ทุ่มนึงแล้ว เป็นเวลาที่มีลูกค้าเข้ามาทานอาหารเยอะที่สุด อยากคุยต่อแต่ก็คงต้องปล่อยกู๋ไปดูแลร้านต่อ






“คุยโทรศัพท์กับใครน่ะ”
“คุณซัน” ตกใจหมดอยู่ดี ๆ ก็มายืนข้าง ๆ มัวแต่คุยเลยไม่ทันเห็น

“ถามว่าคุยกับใคร ไหนเอาดูซิ ผู้ชายรึเปล่า”
“...ผู้ชาย ..รักมากด้วย” เห็นเขาจ้องเขม็ง ถามไม่ถามเปล่า จะพยายามแย่งโทรศัพท์ผมให้ได้ แล้วเลยอยากแกล้งเขาด้วยความหมั่นใส้

“พูดอย่างนี้ คืนนี้มึงไม่ต้องนอนแน่”
“เฮ้ย บ้า เค้าพูดเล่น นี่ไง ๆ ดูดิ คุยกับอากู๋” ได้ยินคำขู่นี่ เลี้ยวกลับเกือบไม่ทัน ต้องรีบ ๆ ส่งโทรศัพท์ให้ดู

“อ้อ แล้วไป อย่าให้จับได้นะว่าซุกกิ๊ก มึงตายแน่”
“อ่า ครับ โหดกันเข้าไป คำก็ตาย สองคำก็ไม่รอด”

“กูต่างหากที่จะไม่รอด ฟอด”
“ฮ่ะๆๆ ไม่เอา ๆ เพิ่งกลับมาถึงเหรอ กินอะไรมารึยัง” อดจะใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเขาถึงเนื้อถึงตัว ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อย เริ่มหลงเขาแล้วซิเรา

“ซักพักแล้ว เพิ่งส่งรายงานให้พี่มีนดูเลยมาช้า แล้วก็เลยหาอะไรกินก่อนจะกลับมานี่แหล่ะ”
“ท่าทางเหนื่อยนะ ประชุมเครียดเหรอ”

“อือ ก็หลายเรื่อง พี่มีนเขาอยากจะขยายห้องพักเพิ่ม คงต้องหาพนักงานเพิ่มหลายตำแหน่ง”
“เหรอ งั้นมานั่งนี่มา เดี๋ยวจะนวดให้”

“นวดเป็นเหรอ”
“...ก็...นวด ๆ ไปอย่างนั้นแหล่ะ” เกือบหลุดไปแล้วว่าเคยนวดให้เพชร

“พรุ่งนี้วันหยุดไปลองเรือยอร์ชลำใหม่กันไหม พี่มีนสั่งให้กัปตันไปลองเครื่อง แต่ผมขับได้ เราไปกันสองคนนะครับ”
“ไม่ต้องมาครับ มาเคิบ ทำอย่างกับผมมีทางปฏิเสธได้งั้นแหล่ะ”

“เอ่อ เมียกูพูดเพราะก็บ่น พูดหยาบก็ว่า”
“เฮ้อ เลิกเรียกอย่างนั้นเถอะ รับสถานภาพไม่ได้”

“ฮึ งั้นเดี๋ยวกูย้ำสถานภาพเมียให้ เดี๋ยวมึงก็รับได้เองแหล่ะ”
“ไอ้บ้า ไปเลยไปอาบน้ำเลย”
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 21 Watch your back (13/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 13-05-2015 21:56:51
สนุกมากครับ อ่านรวเดียวถึงตอนล่าสุดเลย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 21 Watch your back (13/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 13-05-2015 23:08:23
หวานขนาดนี้ไม่อยากนึกถึงมาม่าชามใหญ่เล๊ยยยยยย!!!
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 21 Watch your back (13/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-05-2015 02:12:12
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 21 Watch your back (13/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 14-05-2015 03:03:02
มาทีเดียวยาวเลย ขอบคุณมากค่ะ
สารภาพว่าเห็นชื่อตอนแรก เอ๊ะ คุ้นๆนะ 5555
ซันหวานเชียว เห็นแบบนี้แล้วชื่นใจค่ะ
แต่สังหรณ์ว่าเพชรกับนังเมียคงจะมีการโคจรกลับมาก่อกรรมทำเวรอีกแน่ๆ
แต่ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนนะ
คนเก่าคนแก่นี่บ่อยครั้งตัวปัญหาเลยแหละเพราะว่าเป็นเจ้าที่สิงสถิตย์อยู่มานาน
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 22 Sweet sea or bitte (21/06/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 21-06-2015 22:42:43
ขอโทษนะ  :mew6: หายหน้าไปนานเลย ติด Love sick อ่ะ ดูไม่พอ เม้าส์มอยกับเพื่อน ๆ อีกต่างหาก
ได้มีโอกาสไปเจอหน้านักแสดงบางคนมาแล้วด้วย บวกกับปัญหาส่วนตัว ที่เกือบจะต้องระเห็จหาที่อยู่ใหม่อีก
แต่ตอนนี้ ก็ผ่านไปได้ บ้างแล้ว (ก็ยังคงมีเรื่องบางเรื่อง) แต่ก็ถือว่าดีขึ้นแล้ว
ไม่เอาล่ะ มาว่ากันด้วยเรื่องราวของ ซัน กับเต้ ก้นดีกว่า เรื่องราวดำเนินมาครึ่งทางแล่ะ
มาลุ้นกันต่อดีกว่า  :bye2:

**********************************************************


ตอนที่ 22 Sweet sea or bitter

“อรุณสวัสดิ์ครับกัปตัน”
“อ้อหวัดดีครับน้องเต้”

“กำลังเตรียมเรืออยู่เหรอครับ”
“ครับ คุณซันบอกจะลองขับเอง ฮ่ะๆๆๆ แย่งงานผมอย่างงี้ผมก็ว่างนะซิ”

พอตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นคนขี้แกล้งเมื่อคืนแล้ว คงไปหาพี่มีนก่อน ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เลยเดินมารอที่ท่าเรือ มองเห็นกัปตันกำลังเช็คสภาพเรือ เติมน้ำมัน และน้ำ พร้อมทั้งอาหารและเครื่องดื่มขนขึ้นไปไว้ในเรือ เรือยอร์ชสีขาวสะอาดตา จอดอวดความสง่างามอยู่ที่ปลายท่า ทั้งชีวิต ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสขึ้นเรือหรู ราคาหลายสิบล้านอย่างนี้เลย อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบไล้ความเงางามที่เหมือนมายานี้

“อ้าวพี่เต้ วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ มาทำไรแถวนี้อ่ะ”
“อ้อ คือ...พอดีคุณซันเขาจะไปลองเรือ เลยชวนพี่ไปด้วยนะครับ” ตกใจหมดไม่คิดว่าจะมาเจอเลาะห์ ซึ่งเสร็จจากขนของขึ้นเรือออกมาพอดี

“..เหรอครับ” อดจะรู้สึกว่าเลาะห์ อาจจะสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับคุณซัน จนเผลอหลบสายตา
“ก็ คือ จริง ๆ พี่ขอไปเองล่ะ ก็เรือยอร์ชเชียวนะ ชาตินี้ไม่รู้จะมีวาสนาได้ขึ้นซักครั้งไหมก็ไม่รู้ ฮ่ะๆๆ” ทำเป็นตลกกลบเกลื่อน

“พี่ ใกล้ข้างขึ้นแล้ว พวกผมจะไปตกหมึกกัน ไปด้วยกันนะ”
“เอ่อ..ตกหมึกเหรอ ก็ดี..”

“เต้ ไปได้แล้ว..” เหวอเลย ยังไม่ทันจะตอบเลาะห์ดี คุณซันก็ไม่รู้โผล่มาจากไหน ฉุดแขนแล้วลากผมขึ้นเรือไปต่อหน้าต่อตา ทั้งเลาะห์และกัปตัน ที่มองมาอย่างงง ๆ เฮ้อ เอาเลย เอาที่คุณสบายใจเลย คุณซัน

กัปตันตัวปลอม ลงมาก็เช็คสภาพ และตรวจสอบอะไรของเขาซักพัก ก็เริ่มนำเรือออกจากท่า
“เอ่อ คุณซัน แล้วคนอื่นล่ะครับ”
“ใคร?” เอ๊ะ ถามดี ๆ ทำไมต้องเสียงดังด้วย

“ก็กัปตัน หรือเด็กเรือ...”

“ไม่มีหรอก มีแค่เราสองคนนี่แหล่ะ
“อ้าว แล้ว..”

“แล้วอะไร อยากให้ใครมาด้วยรึไงครับ”
“เปล่านี่ แค่สงสัย ว่าทำไมมีแค่เราสองคน”

“มึงนี่ โง่หรือแกล้งโง่กันว้า”
“อ้าว ไหงมาว่ากันอย่างนี้ล่ะ” ไอ้คนบ้าอำนาจนี่ อยู่ ๆ มาด่ากันเฉยเลย เดือดซิครับ

แต่คนที่กำลังถูกด่าในใจชะลอเครื่องยนต์ จนมันสงบลอยลำนิ่ง ๆ แล้วเดินย่างสามขุมเข้ามาหา อดจะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ กำลังจะลุกหนี แต่ก็ไม่ทัน โดนคนตรงหน้าเอามือค้ำพนัก กักไว้ทั้งสองด้าน แล้วก้มหน้าลงมาใกล้จนรู้สึกได้ถึงกลิ่นกาย และลมหายใจอุ่นระริน รู้สึกหน้าร้อนไปหมด

“ก็แค่อยากจะมาเดทด้วยกันก็เท่านั้น”
“ก็ไม่บอกนี่ บอกแค่จะมาลองเรือ ๆ ใครจะไปรู้...” หน้าที่ร้อนอยู่แล้วนี่แทบระเบิดเลย เมื่อใบหน้าคมก้มลงมาใกล้ จนจมูกเราสัมผัสกัน อยากหลบสายตาแต่ก็ไม่สามารถทำได้

“ก็อยากให้ประหลาดใจนี่นา”
“งั้นก็ยินดีด้วย ประหลาดใจมากกกกกเลย”

“มาลองขับเรือดูไหม”
“เฮ้ย ไม่เอา กลัว ไม่กล้า” ใครจะกล้า พลาดไปทำเรือเขาพัง หรือเป็นรอย ได้ทำงานชดใช้หัวโต

“มาเถอะ มา ผมจะช่วยจับให้”
“อื่อ ไม่ๆๆๆ”

ดิ้นไปก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็โดนลากไปประจำที่ มือสองข้างของผมจับที่พังงา (พวงมาลัยเรือ) โดยมีมือของคุณซันจับไว้อีกที เขาที่ยืนซ้อนหลังผม เอาคางมาเกยที่ไหล่ และพร่ำบอกให้ผมดูหน้าปัดที่เต็มไปด้วยเข็ม และตัวเลขต่าง ๆ มากมาย อยากบอกว่ามันไม่เข้าหูซักคำก็เพราะ ร่างกายร้อนผ่าวของเขาแทบจะแนบสนิทกับด้านหลังผมเลยก็ว่าได้ ปากที่พูดไปพลาง จมูกก็ไซร้ตามซอกคอ กกหู ให้รู้สึกวาบหวาม จั๊กกะจี้จนต้องหดคอหนี

“เห็นม่ะ ไม่ยากใช่ไหมครับ”
“...ไม่...คือ มันจะง่ายกว่านี้ ถ้า....”

“ถ้าอะไรครับ หือ”
“ถ้าคุณจะเลิกเอาไอ้นั้นมาจ่อเอวผมซะที ไอ้หื่น”

“ฮ่ะๆๆๆ สงสัยต้องหาที่จอดเรือลงเกาะแล้วล่ะ” คนบ้ายังมีหน้ามาหัวเราะ หน้าระรื่นอีก ผมงี้หน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว

“ไม่ต้องเลย ไอ้บ้ารู้นะคิดอะไรอยู่”

“อ้าว รู้ทันซะนี่ แต่ก็ไม่เคยรู้เลยนะว่าชอบแบบนี้มากกว่า”
“??? อะไรอ่ะ...”

“ก็ ไม่จอดลงเกาะ งั้นก็ทำกันบนเรือนี่แหล่ะ”
“เฮ้ย ไอ้บ้า เมื่อคืนก็ทำไปแล้ว จะมาอยากอะไรอีก”

“เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืนซิ นี่ไงเปลี่ยนบรรยากาศด้วย”
“ไม่เอา อย่านะ อ๊า คุณซัน คุณซัน ไอ้ซัน”

หมดล่ะไม่ต้องสุภาพกันแล้ว ก็คนผีทะเลอุ้มผมตัวลอย พาดบ่า พาเข้าไปในห้องนอนด้านใน ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มต้นอีกครั้ง










บทรักร้อนแรง และดุเดือดจบไปแล้ว เราสองคนนอนเปลือยกาย กอดก่ายกันบนที่นอน ผมนอนซบหน้ากับอกแกร่งของเขา มือของเราสองคนยังคงลูบไล้ผิวกายของกันและกัน ความรู้สึกยังคงร้อนผ่าว ในทุกสัมผัสที่พาดผ่าน

“เต้ครับ คุณมีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“ปัญหาอะไรครับ”

“ก็อย่างปัญหาที่ทำงานอะไรอย่างนี้ไง”
“....”
“ผมไม่ได้ตาบอด หูหนวกนะ ผมได้ยินพวกแม่บ้านเขาคุยกัน”
“โอ ระดับคุณซันก็เข้าสมาคมแม่บ้านด้วยเหรอครับ ฮึๆๆ”

“อย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ตกลงมันจริงใช่ไหม ที่คุณถูกใครบางคนแกล้งอยุ่”
“...ก็...ผมไม่แน่ใจ บางทีผมอาจจะลืม หรือผิดพลาดไปเอง”

“เฮ้อ ไม่ว่ามีเรื่องอะไร หรือจะยังไงผมจะปกป้องคุณเอง มีอะไรคุณต้องบอกผมตรง ๆ นะ”
“..อือ ครับ ขอบคุณครับ”

จบคำเขาจูบผมที่ขมับอย่างแผ่วเบา แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยกับผมมาก  ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกถูกปกป้องอย่างนี้มาก่อนเลย เขาเป็นคนแรก และคนเดียวที่มอบสิ่งที่ผมไม่เคยมี ไม่เคยได้จากที่ไหน หรือใครมาก่อน ผมชักกลัวซะแล้วซิ ว่าวันหนึ่งถ้า...............ถ้า เขาหรือผมต้องแยกจากกัน ผมจะทนรับความรู้สึกที่ต้องสูญเสีย ทุกสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

“เป็นอะไรหน้าเครียดเชียว”
“...เปล่า คิดอะไรไปเรื่อยนะ”

“บอกแล้วมีอะไรให้บอกผม”
“...ไม่มีอะไรจริงๆ “

“คนที่บอกว่าไม่มีอะไรนี่คือต้องมีแน่ บอกผมมาเถอะ ผมอยากเป็นกำลังใจให้คุณนะ”
“....ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ...ก็แค่..คุณดีกับผมมากเลย  ผม..ผมกลัววันหนึ่งเราอาจจะ...”

“หึ ๆ คิดมากไปได้ ผมรักคุณนะ ไม่เปลี่ยนใจด้วย”
“ปากหวาน คำพูดก็เหมือนลม จับต้องก็ไม่ได้ หาความแน่นอนไม่ได้หรอก”

“ฮะๆๆ คำคมนะเดี๋ยวนี้ งั้นผมจะทำให้มันแน่นอนเอง ผมว่าผมจะคุยกับพ่อ เรื่องของเรา”
“ห๊า..เอาจริงอ่ะ ...แล้วถ้าลุงรับไม่ได้ล่ะ” ผมไม่อยากจะคิดว่าถ้าลุงรู้ว่าผมทำให้ลูกชายคนเดียวของแก เป็นแบบนี้ แกยังจะเอ็นดูผมอยู่อีกหรือเปล่า.......ผมว่าไม่

“ก็พาหนี วิวาห์เหาะ ก็น่าสนุกดีนะ”
“ฮ่ะๆๆๆ ทำเป็นเล่นอยู่เรื่อย”

“เรื่องคุณผมจริงจังเสมอนะครับ”
“ขอบคุณครับ” ผมรับจูบแผ่วเบา แต่จริงจังสมกับคำพูดของเขา แต่คำพูดแสนจริงจังของเขา ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสบายใจเลย ผมมีลางว่า ความสุขครั้งนี้ของผม คงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 22 Sweet sea or bitte (21/06/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-08-2015 23:06:03
ตอนที่ 23 The new chef.





“พี่มีนครับ กรุ๊ปชาวจีน ที่จองมาสัปดาห์หน้า เขารีเควสเรื่องเมนูอาหารมานะครับ เขาจะให้ช่วยจัดงาน จัดสถานที่สำหรับเลี้ยงฉลองของครอบครัวพวกเขาด้วย ผมถามพี่เหน่งแล้ว แกบอกว่าทำไม่ทันหรอก แค่แกคนเดียว ถึงจะหาลูกมือมาช่วย แต่สุดท้ายแกก็ต้องเป็นคนทำอยู่ดี เอาไงดีครับ เราหาจ้างพ่อครัวมาจากที่ไหนก่อนชั่วคราวดีไหมครับ”

“อือ....เอาไงดีล่ะ กรุ๊ปจีนก็เยอะซะด้วย แล้วหลังจากนั้นยังมีตามมาอีกหลายกรุ๊ปเลย ซันนายลองไปลงประกาศดูซิว่า มีใครสนใจจะสมัครมาทำงานที่เกาะชั่วคราวไหม เสนอเงินเดือนให้น่าสนใจหน่อยนะ เป็นเกาะก็ลำบากงี้แหล่ะ ไม่ค่อยมีใครยอมลงมาอยู่กันหรอก”

พอดีผมเอาเอกสารเข้าไปให้พี่มีนเซ็นต์ เลยได้ยินสองคนพี่น้องเขาปรึกษากันเรื่องหาพ่อครัวจีน มันทำให้ผมปิ๊งไอเดียบางอย่าง

“เอ่อ...พี่มีนครับ”
“อ้อ ว่าไงเต้ อือ เอามาวางตรงนี้ก่อนเดี๋ยวพี่ดูให้นะ เสร็จแล้วพี่จะเรียกเข้ามาเอาจ้ะ”

“เอ่อ ครับ...แต่ว่าคือ...ผมได้ยินว่าพี่กำลังหาพ่อครัวอาหารจีนอยู่ใช่ไหมครับ”
“อื้อ ใช่แล้วล่ะ ก็แขกจีนจองมาเยอะมาก แถมมาเป็นกรุ๊ปใหญ่ ๆ อีก พ่อครัวเราคนเดียวทำไม่ทันแน่”

“คือผม รู้จักพ่อครัวอาหารจีนครับ ฝีมือดี หายห่วง”
“จริงเหรอ ก็ดีซิ ว่าแต่เขาจะยอมมาอยู่ที่เกาะอย่างนี้เหรอ”

“มาได้แน่นอนครับ”
“เฮ้ยเต้ อย่าบอกนะว่า...”

“อื้อก็นั่นแหล่ะ..”
“อากู๋มึงเหรอ”

“เฮ้ย ไม่ใช่ เฮียตงต่างหาก”
“ฮึ ไม่เอา ไม่รับ ไม่ให้มา”

“อ้าว ๆ ไอ้น้องคนนี้นี่ เงียบไปเลย นี่เป็นโอกาสดีนะ จะให้รอหาใครที่ไหนอีก เอ่อ เต้ ถามเขาให้หน่อยว่าเขามาได้ใช่ไหม และเขาเรียกร้องค่าแรง และอะไรอื่นอีกบ้างไหม แล้วฝีมือเขาดีจริง ๆ แน่นะ”

“หายห่วงครับ ผมรับประกันเลยครับคนนี้” ถึงเมื่อก่อนจะทะเลาะกันบ่อย ๆ ปากเฮียจะหมา ๆ แต่เรื่องฝีมือทำอาหารที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากอากู๋ จัดได้ว่าจัดจ้าน แล้วเฮีย มันยังขยันพลิกแพลง ดัดแปลง ปรุงแต่ง อาหารให้ดูดี น่าทานขึ้นมาอีกโข ขนาดเชฟ โรงแรมใหญ่ ๆ มากินยังติดใจ ยืมตัวเฮียมันไปช่วยงานอยู่เรื่อย ๆ



ผมไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของคุณซัน พอออกมาจากห้องพี่มีนได้ก็หยิบโทรศัพท์โทรหาเฮียตงทันที

#อ้าว ว่าไงไอ้น้อง มีอะไรโทรมาซะเช้าเชียว ฮ้าว ๆๆๆๆ#
“โห เฮีย หาวอะไรจะขนาดนั้น เมื่อคืนเที่ยวดึกหรือไง”


#เอ่อ ก็มันเริ่มมีเวลาว่างก็ต้องตักตวงให้คุ้มซิว่ะ ป๊าเล่นใช้งานกูตั้งแต่วัยรุ่น ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย อยู่แต่หน้าเตา จนจะแต่งงานกับกระทะ และมีตะหลิวเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้ว#

“ฮ่ะๆๆ ช่างเปรียบเทียบซะเห็นภาพเลย แต่ผมไม่เอาหลานหน้าบาน ๆ เป็นกระทะนะ”
#ฮ่าๆๆๆ มึงก็ว่าไปเรื่อย แล้วที่โทรมานี่ โฮมซิกเหรอ#

“เปล่า จะโทรมาถามว่าเฮียสนใจจะมาทำงานที่เกาะช่วงไฮท์ซีซั่นไหม แขกจีนเยอะมากกกกกเลย”
#เฮ้ย พูดจริงเปล่า เออ ๆๆ เอาดิ ตอนนี้ก็ว่างพอดี เพิ่งคุยกับป๊าไปไม่นานว่าอยากจะไปหาที่เรียนรู้เพิ่มเติม ถ้าได้ไปที่โน่นก็ดีเลย#

“เอ่อเฮียจะเอาเงินเดือนเท่าไหร่ล่ะ และสวัสดิการหรือต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม ผมจะได้ไปบอกเจ้านาย แต่เจ้านายผมใจดี ที่สำคัญสวยด้วย คิกๆๆ”
#ฮ่ะๆๆ สวยจริงป่ะ ถ้าสวยจริงนี่คิดราคาไม่แพง ไปบอกเลย เท่าไหร่ก็ได้ อย่าให้น่าเกลียดเป็นพอ#
“โหย ขี้หลีว่ะเฮีย เออๆๆ เดี๋ยวไปบอกเธอให้ ว่าแต่ถ้าตกลงเฮียจะมาได้เร็วขนาดไหนอ่ะ”

#ทันทีเลย#


หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 23 The new chef. (10/08/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-08-2015 23:09:41
(เฮียตง)




ทันทีที่ทางโน้นตอบรับให้ผมไปทำงานที่เกาะ ผมก็รีบ ๆ จัดกระเป๋าอย่างรีบด่วน ก็ไม่ใช่อะไรไง ไม่เห็นหน้าไอ้เต้มันนาน ๆ ก็ชักคิดถึง ป๊าเองก็บ่น อยากไปด้วย แต่ก็คงยังไปไม่ได้เพราะลูกค้ายังแน่นอยู่  แต่ร้านเราจะมีช่วงหยุดใหญ่ ๆ หลังปีใหม่ ตรุษจีน ประมาณนี้ ป๊าเลยบอกว่าค่อยไปก็ได้ แต่ผมดูออก สายตาป๊าบ่งบอกว่าอิจฉาผมมากที่จะได้ไปเห็นหน้าไอ้เต้มัน ว่ะฮ่ะๆๆๆ



ในชีวิตไม่ใช่ไม่เคยเห็นทะเลนะ ชะอำ พัทยา บางแสนก็ไปออกจะบ่อย
แต่มันไม่ใช่อย่างนี้ไง ทะเลทางใต้ โครตจะสวยเลย สีฟ้าเป็นสีฟ้า สีเขียวเป็นสีเขียว สวยมากกกก และก็ใสมากกกกก ด้วย หาดทรายก็สวย ถึงอากาศจะร้อน แต่ก็ไม่ร้อนแผดเผาอย่างกรุงเทพ มีลมพัดมาให้คลายร้อนเป็นระยะ ๆ ผมนั่งมองผู้คนที่โดยสารมากับเรือเที่ยวเช้าลำเดียวกันจนถึงเกาะยาวน้อย มีทั้งคนไทย ฝรั่ง จีน เยอะแยะไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าเกาะเล็ก ๆ อย่างนี้ จะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียนเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

“มัวแต่มองอะไรอยู่ ผมรอนานแล้วนะ ไม่หันมาซะที”
“อ้าว ...เอ่อ มึง ...เอ่อ ชื่อไรว่ะ” หันมาตามเสียงเรียก ก็เจอโจทย์เก่า หน้ามันบูดเป็นตูด เลยอดที่จะกวนตรีนมันไม่ได้

“....เรียกผมว่าซันก็ได้”
“เออๆ ซัน ๆ ใช่ ลืมได้ไงว่ะ แล้วไหนเต้ล่ะ”ที่จริงก็จำมันได้นั่นแหล่ะ มึงเล่นมาที่ร้านทุกวัน จนป๊ากูยันคนล้างจานจำมึงได้หมดแล้ว ไม่อยากจะสนใจมันมาก มองเลยไปข้างหลังมันก็ไม่เห็นคนที่คิดถึง

“ทำงาน ไม่ว่างมารับ”
“หรออออ กูก็นึกว่า หมามันขวางไม่ให้น้องกูมาซะอีก” ต่อให้มึงอมพระประธานมากูก็ไม่เชื่อ เมื่อคืนเต้เพิ่งบอกว่าจะมารับผมด้วยตัวเอง ไม่ต้องเดาเลยว่า ไอ้หมาบ้านี่มันคงไม่ให้เต้มารับผมแน่

“...........”  มันจ้องหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เถียงกูไม่ขึ้นล่ะซี่
“เอ้า งั้นก็ไปกันเลยซิ จะยืนรอเรือเที่ยวต่อไปมาส่งรึไง” ผมยกกระเป๋าเหวี่ยงเกือบโดนหน้ามัน ก่อนจะเดินผิวปากออกมาทางที่จอดรถ


โหย อันนี้ก็อเมซิ่งอีกล่ะ รถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง ไอ้ซันมันขี่มารับผม เจ๋งว่ะ แม่งกูอยากลองขี่บ้างว่ะ ท่าทางจะไม่ยาก มันก็ขี้งก บอกแต่ไม่ได้ ๆ ขับยาก โด่ มึงจะกันซีนกูทุกอย่างเลยว่างั้น สุดท้ายก็ได้แต่นั่ง จนถึงรีสอร์ท เอ่อ หัวเหอกู ฟูไปหมด


“เฮียตง” ทันทีที่เสียงใสทักขึ้น ผมก็หันไปตามเสียง น้องชายที่คิดถึง วิ่งมาแต่ไกล อืม ยังน่ารักเหมือนเดิมนะมึง

“...เว้ย ว่าไงไอ้น้องรัก ดำไปเลยนะมึง” ไม่ถึงกลับดำหรอกครับ ผมแซวขำ ๆ แค่ดูคล้ำลง เจ้าตัวดี เบ้ปากให้ยิ่งดูน่ารัก จนเผลอเอามือขยี้หัวมันไม่ได้
“ก็อยู่ใกล้ทะเลนี่นา เป็นไงบ้างเดินทางมีปัญหาอะไรไหม”
“ถ้าเฮียมึงมีปัญหามันไม่มาถึงตรงนี้หรอก” ........ปากนะไอ้ซัน ไม่พูดก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้หรอก

“ปากเหรอนั่น ว่าเฮียผมได้ไง” ช่าย ๆ น้องกู ก็ต้องเข้าข้างกูอยู่แล้ว

“เอ่อ ๆ พวกมึงไปง่องแง่งกันวันหลังเถอะ เหนื่อยเหมือนกันนะ อยากอาบน้ำนอนพักซักแป๊บ”

“งั้นตามมาเลยเฮีย เดี๋ยวผมถือกระเป๋าให้ ที่พักเราเป็นส่วนตัว มีผมกับคุณซันอยู่กันแค่สองคนเอง”

“เฮ้ย ๆ อะไรๆ ทำไมไม่ไปพักที่ห้องพักพนักงานล่ะ” ผมชะงักเท้าทันที

“ก็..ก็..มันเต็มอยู่ เลย...และอีกอย่าง...บ้านพักห้องผม ก็..ก็ว่างอยู่...” ไอ้ตัวดี ทำหน้าเลิ่กลั่ก เหมือนพูดอะไรผิดออกไป รีบ ๆ แก้ตัวลิ้นพันกัน มีพิรุธ

“อะไร ๆ พวกมึงนอนห้องเดียวกันเหรอ”

“เปล่าเฮีย / ใช่แล้ว “ เชี่ยเอ๊ย ทำไมซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะ พวกมึงไม่นัดกันก่อนตอบฮ่ะ เฮ้อ ได้แต่ทำใจ ก็เรามันอยู่ในฐานะพี่ชายนี่นา

“เฮ้ย ได้ไงว่ะ น้องกูไม่ใช่ไก่กานะ ยังไม่ทันมาขอ มึงเอามันไปกกก่อนได้ยังไง” ผมหันไปแหย่ ไอ้ซันก่อนจะตบบ่ามันเป็นเชิงหยอกล้อ
“ฮ่ะๆๆๆ ช่วงดูใจนะเฮีย ตกลงเรื่องสินยังไม่ลงตัว เลยสอดไปพลาง ๆ ก่อน”

“ฮือ ไอ้บ้า ไอ้คนลามก” จบคำตอบสองแง่สองง่ามของไอ้ซัน ไอ้เต้ก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึง หันมาด่าผัวมันทีก่อนจะสาวเท้าเดินนำไปอย่ารวดเร็ว ปล่อยเราสองคน มองหน้ากัน แล้วหัวเราะออกมายกใหญ่

“ฮ่ะๆๆๆ”



หลังการหยอกล้อจากผม บรรยากาศระหว่างผมกับไอ้ซันก็ดูจะดีขึ้นเป็นลำดับ มันคงรู้สึกได้ว่าผมไม่ได้คิดจะมาเป็นคู่แข่งมัน ก่อนจะเดินผ่านรีสอร์ทเพื่อไปยังบ้านพักด้านหลัง เต้ชี้ให้ผมดูว่าถ้าผมตื่นขึ้นมาตอนไหน แล้วหิวก็ให้ไปทานอาหารที่โรงอาหารพนักงานได้เลย วันนี้คงจะยังไม่ต้องทำอะไร ไว้พรุ่งนี้ผมถึงจะได้คุยกับเจ้านายของเต้มัน

พอถึงบ้านพักหลังน้อย ที่ดูดี เป็นส่วนตัว ทั้งสองคนจึงขอตัวกลับไปทำงานต่อ ผมเปิดประตูห้องทางซ้ายเข้าไปวางกระเป๋าข้างเตียงที่ดูก็รู้ว่าไม่มีคนนอนมานานแล้ว ว่าจะไม่คิดแล้วเชียว แต่มันก็อดจะแปล๊บๆในใจไม่ได้ สุดท้ายก็เป็นได้แค่พี่ชายจริง ๆ นั่นแหล่ะ







 หลับเป็นตายเลย ตื่นมาก็เกือบ บ่าย 2 แล้ว ลุกจากที่นอนมาเปิดหน้าต่าง ลมทะเลพัดโชย เย็นสบาย มองออกที่ทะเล สวยจริง ๆ น่าอิจฉาคนที่ได้เห็นวิวแบบนี้ทุกวันจริง ๆ คนกรุงอย่างผม เห็นแต่ฝุ่นควัน ผู้คนมากหน้าหลายตา ไม่เคยมีเวลาที่รู้สึกผ่อนคลายอย่างนี้เลย

เวิ่นเว้อกับตัวเองซักพักก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อเชิ้ตสบาย ๆ กับกางเกงขาสั้น เดินไปตามทางที่เดินมาเมื่อเช้า ไปจนถึงรีสอร์ท ก็ชักงง ๆ เอ่อ เหมือนเต้มันจะชี้ว่าโรงอาหารไปทางนี้นะผมว่า ระว่างกำลังสบสนกับเส้นทาง ก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินจากตัวรีสอร์ทไปด้านหน้ารีสอร์ท จึงรีบ ๆ วิ่งไปถาม

“น้อง ๆ ๆ หยุดก่อน”
“.....”

“วุ้ยเดินเร็วจัง น้องรู้ไหมโรงอาหารพนักงานไปทางไหน.....” วิ่งตามซะเหนื่อยเลย เห็นตัวเล็ก ๆ เดินเร็วชะมัด แต่พอเข้าใกล้ก็ต้องตะลึงนิดๆ สวยน่ารักเป็นบ้าเลย
“.....”  แต่เธอคนนี้ ไม่ได้ตอบคำถามของผม กลับมองหน้าผมเขม็งแทน

“อ้าว ไม่ตอบ...เป็นใบ้เหรอ ......โถ...ไม่น่าเล๊ย สวย ๆ อย่างนี้ไม่น่าเป็นใบ้เลย”
“......” ผมแซวไปอย่างนั้นแหล่ะ รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นใบ้หรอก แต่คงจะสงสัยว่าผมเป็นใครมากกว่า พอถูกแซวเธอก็ชักสีหน้าเล็กน้อย พร้อมหน้าที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู

“....อยู่...อยู่ทางโน้นค่ะ...”
“อ้อ ขอบคุณครับ แล้วน้องชื่ออะไรครับ ทำงานที่นี่เหรอครับ”

“ใช่ค่ะ ฉันทำงานที่นี่ แล้วคุณล่ะ”
“พี่เพิ่งมาใหม่ พี่จะมาเป็นพ่อครัวที่นี่ เอาไว้พี่จะทำสุดยอดอาหารจีนตอบแทนให้กินล่ะกัน”

“....ค่ะ จะจำไว้ค่ะ ขอตัวนะค่ะ”

คนสวยมองค้อนนิดหน่อยก่อนจะหันหลังเดินจากไป ผมยังคงมองตาม รู้สึกถูกใจน้องคนนี้น่าดู ท่าทางไม่ยอมใคร ติดจะเชิดนิด ๆ ทำให้น่าปราบพยศไม่น้อย เอาเถอะยังไงต่อไปก็ต้องได้เจอกันอีก เพราะทำงานที่เดียวกันนี่ ไว้ทำอาหารไปผูกสัมพันธ์ที่หลังก็ได้

หลังอาหารเที่ยงจบ ผมโทรหาเต้ มันบอกว่าให้กลับไปพักก่อนก็ได้ ไว้เย็น ๆ ได้ยินว่าไอ้ซันมันจะเลี้ยงเหล้าผม เต้บอกมันสั่งอาหารให้ไปส่งที่บ้านพักแล้ว เฮอะ ทำมาเป็นเอาใจกูนะไอ้ตัวแสบ







“เฮีย อยากเล่นน้ำไหม”
“อื่อ เอาไว้ก่อนดีกว่า พวกมึงไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนเถอะ นี่เขาก็เพิ่งยกอาหารมาให้ รีบ ๆ เลยเดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย”

“ฮิๆๆ พูดเหมือนกู๋เลย ลื้อไม่รีบกินเดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย ก็มาโทษอั๊วทำไม่อร่อยซะอีก” ไอ้ตัวดีมันล้อเลียนเสียงป๊าซะเหมือนเลย อดจะขำหน้ามันไม่ได้ จะคว้าคอมันมาขยี้หัว

แต่มือก็วืดไป เพราะ??? เพราะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่ไว้ตัวแสบมันคว้าเอวน้องชายผม ไปหนีบไว้แนบเอว แล้วหันมายิ้มสยองให้ผม ชิ แค่นี้ทำเป็นหวง ไอ้ขี้งก




หลังจากรอพวกมันอาบน้ำแต่งตัวกันออกมานั่งกิน นั่งดื่มกันจนอิ่มหน่ำ และเริ่มมึน ๆ กันไป ก็คุยกันสวนเสเฮฮา ผมหัวเราะกับเรื่องที่เต้มันเล่า ว่าได้เจอพ่อไอ้ซัน ซึ่งก็คือเจ้าของรีสอร์ทที่นี่ แต่มันไม่รู้ ได้ยินเขาเรียกลุงแกว่า นายหัว ๆ มันก็นึกว่าแกคงจะมีอาชีพขับรถแน่ ๆ ดีว่ามันไม่ปล่อยไก่ถามลุงแกให้หน้าแตก ไม่งั้นคงเข้าหน้าลุงแกไม่ติดแน่ ๆ ฮ่ะๆๆๆ

ลมทะเลยามค่ำคืนพัดเข้ามาให้รู้สึกเย็นผิวกาย ผมหันไปมองท้องทะเลยามค่ำคืน ที่ไร้แสงใดๆ นอกจากแสงดาว และแสงจากเรือประมงที่เห็นอยู่ลิบ ๆ

เสียงคนสองคนคุยหลอกล้อกระซิบกระซาบกันเบา ๆ แต่ก็ยังเข้าหูผมอยู่ดี จนต้องหันกลับมามอง ภาพตรงหน้า ภาพที่ทำให้ผมไม่อาจละสายตาได้ น้องชายหน้าหวานที่ผมรักและเอ็นดูมาตั้งแต่เกิด หน้าแดงระเรื่อ เวลาถูกไอ้ตัวแสบมันหยอกเอิน อารมณ์หลายหลาย ที่แสดงออกมาผมไม่เคยเห็นเลย

หวนคิดถึงอดีต ผมมันงี่เง่าเอง ถึงรักษาเขาเอาไว้ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ผมเจอเขาก่อนใคร รักเขาก่อนใคร ...... แต่เพราะไม่ใช่ว่ามาก่อนต้องได้ก่อน แต่ลงมือคว้าก่อนย่อมได้ก่อนต่างหาก เผลอถอนหายใจ มองแก้วเหล้าในมือ ก่อนจะกระดกเข้าปาก เอาให้มันเมาหลับไปเลย จะได้หยุดคิดซะที











(มินตรา)






“..............”
“สวัสดีค่ะ คุณตรีกมล ยินดีต้อนรับสู่รีสอร์ทค่ะ หวังว่าเราคงจะร่วมงานกันได้เป็นอย่างดีนะคะ” หึ อึ้งล่ะซิ เมื่อคืนกว่าจะหลับได้ ก็นึกแต่ว่าถ้าวันนี้เขาได้รู้ว่าฉันเป็นใคร เขาจะทำหน้ายังไง ตอนนี้ได้เห็นเขาที่ยืนหน้าเหวอ อ้าปากค้างนี่ มันสะใจจริง ๆ

“อ่า...เอ่อ ครับ...คุณ...”
“มินตราค่ะ เรียกมีนก็ได้ค่ะ”

“...ครับ ...ฮ่ะ ๆๆ งั้นเรียกผมว่า ตง ดีกว่าครับ จะได้ดูสนิทสนมกันดี”

“...หวังว่าฝีมือคงสมราคาคุยนะค่ะ”
“อ้อ ที่บอกเมื่อวานเหรอครับ อย่าห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดให้คุณได้ชิมแน่นอนครับ คุณมีน”
“.....” อีตาบ้า ไม่ได้มีท่าทีสลดเลย ที่เมื่อวานทำเปิ่นไว้ แถมยังทำสายตากรุ่มกริ่มมองมาให้ ฉันต้องเขินแทนซะเอง

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 23 The new chef. (10/08/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-11-2015 21:18:02
เฮ้อ เงียบเหงาจุงเบย  o22  ยังมีคนอ่านเรื่องนี้อีกไหมน้าาาาาาาาาาา
5555   :katai2-1: ก็อยากจะดราม่าเหมือนชาวบ้านนะ แต่ะไม่ดีกว่า
ยังไงปณิธานตั้งแต่แรก ก็แค่อยากเขียนนิยายให้มีซักคนอ่าน
นี่ไม่ได้หลงตัวนะ แต่คิดว่าต้องมีซักคนอ่านแน่นอน ขอบคุณนะคะ
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด ขอให้รับรู้เอาไว้
ว่าคุณเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ  :กอด1:


*************************************************************




ตอนที่ 24 Overcast sky




หลังจากได้เฮียตงมาช่วย ห้องอาหารก็ดูคึกคักมากขึ้น แขกเหรื่อ ตางชื่นชมฝีมือทำอาหารของโรงแรม เป็นอย่างมาก พี่มีน ก็พลอยหน้าบานรับคำชมไปเน้น ๆ

ตอนแรกผมว่าพี่มีนเขาดูจะไม่ค่อยพอใจเฮียตงซักเท่าไหร่ คอยแต่บอกว่า ขี้โม้ ขี้คุย ไม่รู้จะเก่งสมราคาไหม แต่มาดูตอนนี้ ต้องบอกเลยว่า พี่สาวผมออกอาการปลื้มเฮียตงมาก ไม่ว่าเฮียจะทำเมนูอะไรมาให้ลอง พี่ผมจะชมซะจนโอเว่อร์ (ถึงจะอร่อยจริงก็เถอะ) แล้วทำเป็นเมนูแนะนำ ขึ้นป้ายหน้าโรงแรมหราทันที แต่ก็ต้องยอมรับว่าได้ผล อาหารที่เฮียตงทำ นอกจากอร่อยแล้ว ยังสร้างสรรค์ สวยงาม ดูน่ารับประทานมาก และบวกกับ พี่เหน่ง เชฟอาหารยุโรปของเรา ที่แกก็มีฝีมือไม่ด้อยไปกว่าใคร เราเลยมียอดจองห้องอาหารเต็มยาวเหยียดไปถึงสิ้นเดือนหน้าเลย

“เหนื่อยไหมคะเฮีย”
“อ้อ ไม่ครับ ชิล ๆ น้องมีน มีอะไรจะให้เฮียทำรึเปล่าครับ”

“อ้อ ไม่มีหรอกค่ะ มีนแค่...เห็นว่าวันนี้แขกเยอะ ก็มาถามไถ่ดู”
“ว้า นึกว่าห่วงเราซะอีก”

“หึ ใครเขา จะห่วง ...ก็แค่ถามตามประสาเจ้าของกิจการ”
“ครับๆๆๆ คุณเจ้าของ ว่าแต่คืนนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม เอ่อ ผมได้ยินว่าคุณนายแม่ไม่ค่อยสบาย งั้นเดี๋ยวผมตุ๋น ซุปไก่ดำเห็ดหอม ให้ดีไหม จะได้บำรุงร่างกาย”

“อือ ก็ดีนะ เห็นท่านท่าทางเพลีย ๆ ให้มีนช่วยนะคะ”
“เอ จะดีเหรอครับ ทำเป็นเหรอครับ”

“ดูถูก เห็นงี้ ก็เคยไปเรียนทำอาหารที่ฝรั่งเศสนะ บอกเลย ถึงจะนานแล้วก็เหอะ”
“5555 อ่ะ ลองดู คุณนายแม่จะได้ชื่นใจ อาหารฝีมือลูกสาวสุดที่รักของผม”

“บ้า เนียนเฉยเลยนะ ใครสุดที่รักของเฮีย”
“แล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“บ้า ไม่พูดกับเฮียแล้ว”
“อ้าว น้องมีน ๆ ว้าเขินตัวแดงไปซะแล้ว”






.....................ผมว่าผมพลาดอะไรไปตอนไหนนะ เพิ่งจะ 3 อาทิตย์ เอง พี่สาวผมกับพี่ชายเต้ ไปคลิ๊กกันตอนไหนเนี่ยะ อะไรวะ......................  แต่ดูๆ ไปแล้วเขาสองคนก็เหมาะกันดี และก็ดีซะอีก เฮียตงมันจะได้เลิกมายุ่งกับเต้ของผมซะที ถึงผมจะไม่พูด แต่ก็ยังระแวงเฮียตงมันอยู่ดี



“อ้าว คุณซัน มายืนทำอะไรหน้าครัวครับ”
“อ้อ เต้ ...เปล่า ผมแค่.... เดินดูความเรียบร้อยน่ะ” ตกใจหมด จู่ๆ  คนที่คิดถึงก็โผล่มา

“ผมเห็นพี่มีน วิ่งหน้าแดงออกไป คงไม่ใช่ว่าเฮียเขารังแกอะไรพี่มีนหรอกนะครับ”
“.....หือ รู้กับเขาด้วยเหรอ....ว่าสองคนนั่นเขา....”


“ฮ่ะๆๆๆ ก็ต้องรู้ซิครับ ผมนี่เป็นที่ปรึกษาด้านความรักให้เฮียเลยนะ ที่พิชิตใจพี่มีนได้นี่ต้องยกความดีความชอบให้ผมเลยนา”
“งั้นรับรางวัลจากผมแทนล่ะกัน ฟอดดดดด” เจ้าตัวดี พูดไปยิ้มหน้าบานไป อย่างน่ารัก จนอยากจับมาฟัดซะให้หายหมั่นเขี้ยว แถมยังเป็นพ่อสื่อให้พวกพี่ ๆ อีก ผมเลยอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนุ่มไปฟอดใหญ่

“เอ๊ย คุณซัน ทำอะไรอ่ะ เดี๋ยวมีคนเห็น”
“ไม่มีหรอกหน่าผมมองแล้ว”

“เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง ผมไม่อยู่ให้เปลืองตัวแล้ว ไปทำงานก่อนดีกว่า”
“ฮ่ะๆๆๆ หนีได้ก็ตอนนี้เท่านั้นแหล่ะ คืนนี้เตรียมตัวรับรางวัลชุดใหญ่เลย”

“คนบ้า แบร่ๆๆ” ผมเริ่มจะเข้าใจเต้ขึ้นมาบ้างแล้วล่ะครับ เมื่อก่อนเคยเข้าใจว่าเขาเคยมีอะไรกับใครมาแล้ว คงจะแก่นซ่าก๋ากั่นน่าดู แต่ที่ไหนได้ ไม่ว่าเราจะมีอะไรกันกี่ครั้ง เขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นครั้งแรกของเขาเสมอ ยังคงเอียงอาย ขวยเขิน ในทุกสัมผัส ยิ่งกระเซ้าเย้าแหย่ ยิ่งหน้าแดง ช่างน่ารัก น่าเอ็นดูจนผม ยิ่งหลงเขามากขึ้นทุกที






“อ้าว พี่วัชร มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ” ผมที่กำลังจะเดินตามเต้กลับไปที่ห้องบัญชี ก็เห็นพี่วัชร ยืนมองจากหน้าต่างด้านข้างเข้าไปในห้องครัว ผมรู้สึกว่าพี่วัชร จะจ้องมองเฮียตงอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรเลย

“เอ่อ..อ่อพี่มาดู ๆ ว่าเขาทำอะไรเป็นมื้อเย็นนะครับ เริ่มจะหิว ๆ แล้วเลยมาตามกลิ่น”
“อือ ครับ หอมน่ากินทีเดียว ...เอ่อ พี่วัชรครับ ผมจะบอกพี่อยู่พอดีว่า ต่อไปหน้าที่จัดซื้อสินค้า พี่มีนเขาจะให้ผมเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระพี่นะครับ ยังไงพรุ่งนี้พี่ช่วยสอนผมด้วยนะครับ”


“......ครับ...” ผมมองพี่วัชร ไม่ละสายตา เขาไม่ค่อยสบตาผมเท่าที่ควร จากที่ผมรู้มา พี่วัชรนี่แหล่ะที่เป็นตัวเอ้ ในการกลั่นแกล้ง เต้ แต่ผมก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะพ่อและพี่มีน ค่อนข้างจะวางใจในตัวพี่วัชรมาก เขาเป็นคนเก่าคนแก่ที่นี่ ทำงานมานาน มีความชอบก็ไม่น้อย ถ้าจะทำอะไรเขา ผมต้องมีหลักฐานให้แน่นหนาพอ ผมจึงขอพี่มีน เข้าไปช่วยงานพี่วัชร เผื่อจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์บ้าง

“เอ่อ พี่วัชร อายุเท่าไหร่แล้วครับ ปีนี้?”
“...หือ..ทำไมเหรอครับ”

“คือผมเห็นว่าพี่วัชร ทำงานกับเรามาตั้งนานแล้ว ยังไม่เคยเห็นพี่มีแฟนเลย”
“...อ้อ ผมยังไม่อยากมีครอบครัวครับ ยังไม่พร้อม”

“เอ ยังไม่พร้อม หรือพี่แอบรักใครอยู่รึเปล่าครับ”
“..............”

“อุย อย่ามองผมอย่างนี้ซิครับ ผมหวังดี คิดว่าถ้าพี่มีแฟนซะที จะได้มีคนคอยดูแล”
“ขอบคุณที่หวังดีครับ แต่ผมไม่ต้องการ ขอตัวครับ”

ฮึ มาดหลุดเลยนะพี่วัชร ผมแหย่ เพราะรู้ว่าพี่วัชร คิดอะไรกับพี่สาวของผมอยู่ ผมดูออก เขาชอบพี่มีนมานานแล้ว ตั้งแต่พี่มีนยังเป็นวัยรุ่นก็ว่าได้ ผมพยายามบอกพี่มีนแล้ว แต่พี่เขาไม่เชื่อ บอกว่าพี่วัชรเป็นคนดี
และแก่กว่าหลายปี ไม่มีทางจะคิดอะไรด้วยหรอก ซึ่งผมผู้ชายด้วยกันทำไมจะดูกันไม่ออก สายตาที่พี่วัชรมองพี่มีนนะไม่ธรรมดาเลย ยิ่งตอนหลังที่มีเฮียตงเข้ามาพัวพัน พี่วัชร ก็มองเฮียตงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเลย ผมว่าถ้าผมไม่รีบ ๆ สะสางกับพี่วัชร แกต้องหาทางเล่นงานเต้ หนักข้อกว่าเมื่อก่อนแน่ เพราะหึงหวงพีมีน

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 24 Overcast sky (10/11/15)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-11-2015 21:19:53
(พี่วัชร)






โครม
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มาทำพูดจาใหญ่โต” น่าเจ็บใจจริง ๆ แค่เป็นลูกเจ้าของรีสอร์ท ก็ทำท่าทางวางโต มาเที่ยวสั่งโน่นสั่งนี่ ทำงานยังไม่เป็นเลย เมื่อก่อน วัน ๆ เอาแต่เที่ยวแตร่ สำมะเลเทเมา ตอนนี้จะมาทำเป็นขยัน เอาการเอางาน มันจะได้ซักกี่น้ำกันว้า
TTTTTT
TTTTTTTT
“.....อา..ครับ พี่หมาด...ครับพี่ผมรู้แล้ว ....ไม่นานครับพี่ พี่ก็รู้ผมเป็นคนยังไง ....ครับ ๆ ไม่พลาดแน่ครับ รับรองได้ ขอบคุณครับพี่หมาด”

หึ นี่ก็อีก โทรมาวอแวอยู่ได้ กูเคยผิดนัดมึงเหรอ แม่งแค่ช้าไปครั้งสองครั้ง ทำเป็นไม่ไว้ใจ ไอ้เชี่ยเอ๊ย





“เอ่อ พี่วัชรของตกครับ”
“อ๊ะ เต้.....เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” ตกใจจนสะดุ้ง จู่ ๆ ไอ้เด็กใหม่ก็ยื่นของที่กูเพิ่งปัดลงไปเมื่อกี้ขึ้นมา ไม่รู้มันได้ยินตอนที่คุยโทรศัพท์กับไอ้หมาดรึเปล่า

“อ้อ ผมเพิ่งเดินเข้ามาครับ มาผมช่วยเก็บนะครับ”
“ไม่ต้อง..เอ่อ ไม่ต้องหรอก ไปทำงานเถอะ พี่เผลอไปปัดโดนมันเลยหล่น เดี๋ยวพี่เก็บเอง”

“...ครับ..”
“........” หึ พวกมึงนี่มันเป็นมารกูทุกคนจริง ๆ ยิ่งไอ้หน้าอ่อนนี่ ตอนแรก ๆ ก็เห็นมันเป็นเด็กขยัน คงช่วยงานได้โข แต่พออยู่จนคุ้น ก็เริ่ม ซอกแซกเรื่องของกู ไม่พอยังพาพี่มันมาเป็นมารหัวใจกูอีก

คุณมีน ของกู กูรักเทิดทูนมาตั้งแต่น้อย เธอน่ารัก แสนดี น่าถะนุถนอม กูพยายามทำงานให้นายหัวเห็นค่า เพื่อว่าซักวันถ้ากูเอ่ยปากขอคุณมีน นายคงเมตตายกให้ แต่นี่อะไร ไอ้หน้าตี๋นั่นมันมายังไม่ทันไร ก็มาคว้าคุณมีนของกูไป ฮึ่ม เจ็บใจจริง ๆ
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 25 2 คู่ชูชื่น (6/1/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 06-01-2016 22:46:16
โหย  :o เพิ่งจะเห็นว่าเรื่องนี้ลงตั้งแต่ พย.14 งั้นนี่ก็เกินปีแล้วซิ นานจัง ไม่น่าเชืี่อว่าจะเป็นเรื่องยาวขนาดนี้
เรื่องแรก แค่ ปีเดียวก็จบแล้ว นี่เพิ่งจะถึงครึ่งทางเองมั้ง  o7
ยังไง ๆ ก็ฝากดูแลกันต่อไปนะ อย่าเพิ่งทิ้งกันนะ  :impress:

แล้วก็ขอสวัสดีปีใหม่  o14 ทุก ๆ คน ขอให้ประสบความโชคดี สมหวังในทุกด้าน เจริญในการงาาน เพี้ยง


*********************************************************


ตอนที่ 25 2 คู่ชูชื่น





ลมทะเลกลางคืน พัดพาให้เรือลอยลำสู่ทะเล ชาวประมง และเรือหลายลำ ลอยทอดอยู่ไกล ๆ บนเส้นขอบน้ำยามค่ำคืน เห็นเพียงแสงไฟ จากลำเรือ ในความมืดมิดของราตรีกาล

ตอนนี้เรา 4 คน พี่มีน เฮีย คุณซัน และผม เรากำลังนั่งทานอาหารค่ำ และคุยกัน ซึ่งเป็นประจำทุกคืนมาซักพักหนึ่งแล้ว ที่พี่มีน จะมานั่งทานอาหารค่ำกับพวกเราที่บ้านพักหลังน้อยนี้


“น้องมีน เฮีย กำลังคิดเมนูใหม่สำหรับ ช่วงเทศกาล อยากจะดูเลยไหมเดี๋ยวเฮียไปหยิบมาให้ดู”
“โหย เฮีย นี่เวลาส่วนตัวนะ เอางานมาพูดเสียบรรยากาศหมด”

“นั่นดิเฮีย ไม่ไหวเลย จริงไหมพี่มีน”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ดีซิพี่ชอบ เอาการเอางานดี”

“แหม๋ๆๆๆ พี่มีน พูดอย่างนี้ต้องรับผิดชอบพี่ชายผมด้วยนะครับ”
“ป๊าด ไอ้เต้ ไอ้ตัวดี เฮียแกดิ ต้องรับผิดชอบที่ทำให้น้องมีน มาชอบ ฮะๆๆๆ”

“...อะไร ใครบอกชอบ เฮียขี้ตู่ ที่พูดน่ะหมายถึงชอบคนขยันทำงานต่างหาก”
“อ้าว ก็เฮียขยันไง ก็หมายความว่าชอบเฮียไมใช่เหรอครับ”

“บ้าๆๆๆ ไม่คุยด้วยแล้ว”
“อ้าว น้องมีน ๆ “

“ตามไปซิเฮีย วู้ไม่เป็นเลย”
“เออๆๆ น้องมีนครับ รอเฮียด้วยซิครับ”


“ฮ่าๆๆๆ คุณซันดูเฮียดิ น่าขำชะมัดเลย”
“.....”

“อ้าว เป็นไรครับ ทำไมเงียบไปละครับ หนาวไหม ผมไปหยิบเสื้อหนาวให้นะ”
“ไม่ต้องหรอก ไม่ได้หนาว แค่หึง”
“อาราย หึงอะไร หึงใคร?”

“............”
“อย่าบอกนะว่าหึงเฮียตง บ้าไปแล้ว ไม่เห็นหรือไง คู่นั้นเขาหวานกันจน ทะเลพลอยหวานไปด้วยแล้ว”

“ฮึ ไม่รู้ล่ะ ก็คนมันเคยมีประวัตินี่ เวลาไม่นาน มันจะเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ฮะๆๆ พูดอะไรอย่างนั้นครับ เฮียไม่ได้ชอบผมแบบนั้นหรอก ก็แค่เอ็นดูน้องก็แค่นั้นเอง”

“หึ เอ็นดูได้ อย่ามาดูเอ็นล่ะ ไม่ยอมหรอก”
“อ่ะ ทะลึ่งล่ะ ๆ ไม่คุยด้วยแล้ว ผมเก็บจานก่อนนะ”

“วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ เดี๋ยวตอนเช้าให้พนักงานมาเก็บ”
“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าแค่คุณกับพี่มีน ก็ไม่เป็นไร แต่มีของพวกเราพี่น้องด้วย ไม่อยากทำให้พนักงานคนอื่น ๆ เสียความรู้สึกอ่ะ แล้วอีกอย่างก็จัดการให้เรียบร้อยดีกว่า คุณไม่รู้อะไร กลางคืนมีลิง มาขโมยของด้วยนะ”

“ห๊า จริงๆ เหรอ ทำไมผมไม่เคยเห็นเลยล่ะ”
“ฮ่ะๆๆๆ ก็ไม่มีนะซิ เชื่อคนง่ายนะคุณนี่”

“หนอย กล้าอำผมเหรอ มาให้ทำโทษซะดี ๆ มานี่เลย”

“ฮ่ะๆๆ ผมขอโทษๆๆ ไม่เอา ๆ ไม่เล่นแล้ว ฮ่ะๆๆๆ”
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 25 2 คู่ชูชื่น (6/1/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 06-01-2016 22:56:24
(มินตรา)







อีตาบ้า ไม่เคยเปลี่ยนเลย ชอบทำให้ฉันใจเต้นแรง หน้าแดงได้ตลอด เกลียดจริง ๆ ไอ้สายตากรุ้มกริ่มนั้นนะ............ตอนเจอกันครั้งแรกก็แซวซะไปไม่เป็นเลย ตาบ้า

“น้องมีนครับ”
“..........” ไม่ยกโทษให้ง่าย ๆ หรอก ชอบพูดล้อเล่นอยู่เรื่อย






หือ ทำไมเงียบไป รีบ ๆ ง้อฉันซิ มัวรออะไรอยู่ ถ้าไม่รีบง้อจะไม่ยกโทษให้เลยนะ.......เอ๋ หรือว่ากลับไปแล้ว
คิดได้ดังนั้นจึงหันกลับไปดู............อ้าว ไปไหนแล้วอ่ะ?

“อยู่นี่ครับน้องมีน”
“.......” อีตาบ้า หันไปไม่เจอ ก็ใจแป้ว นึกว่าไม่มาง้อซะแล้ว ที่ไหนได้ เดินไปนั่งที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ซะนี่ บ้าจริง ๆ

“มานั่งนี่เถอะครับ”
“...” ว่าจะเล่นตัว แต่ รอยยิ้มเย็น ๆ กับเสียงทุ้ม ๆ ที่ใสกังวาน ก็ทำให้ใจอ่อนยวบ

“หนาวไหมครับ น้องมีน”
“....ไม่ค่ะ มีนชินแล้ว เป็นสาวชาวเกาะนะคะอย่าลืม”

“ครับ แม่สาวชาวเกาะ แต่เฮียดิ หน๊าววววววหนาว”
“งั้นเดี๋ยวมีน ไปเอาเสื้อหนาวมาให้นะคะ”

“ไม่ต้องหรอกครับ แค่น้องมีนนั่งใกล้ๆ เฮีย ก็อบอุ่นใจแล้วครับ”
“...หือ ปากหวานนัก”

“เคยชิมแล้วเหรอครับ หึๆ”
“ไม่เคยค่ะ ไม่อยากชิมด้วย”

“ว้า เฮียอยากให้ชิมใจจะขาด”
“ตลกล่ะเฮีย ปากหวานอย่างนี้ คงหลอกสาวมาแล้วหลายคนละซิ”

“ฮ่ะๆๆๆ ถ้าบอกว่าไม่เคยจีบสาวที่ไหนจะเชื่อไหมเนี๊ยะ”
“ไม่ค่ะ ไม่เชื่อเด็ดขาด”

“โหย ถูกปรักปรำ รู้ไหมเรียนเสร็จ ก็ต้องรีบกลับมาช่วยงานที่ร้าน ตลอดตั้งแต่เด็กจนโต เห็นแต่เตา กระทะ กับตะหลิวอ่ะ เต้มันยังแซวเลยว่าไม่อยากได้หลานหน้าบาน ๆ เป็นกระทะเลย”

“ฮ่ะๆๆๆ จริงเหรอค่ะ น้องเต้แซวได้น่ารักจริงๆ”
“..........”

“น้องมีนไม่รังเกียจน้องชายเฮียเหรอ...เขาสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่”
“..อือ ก็ไม่รู้ค่ะ ตอนแรกก็ยังไม่เข้าใจ แต่พอได้เห็นเขาอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ดูน่ารักดี ดูสบาย ๆ ดูรักกันมาก และอีกอย่างต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ก็เลย ไม่ได้คิดรังเกียจอะไร แล้วเฮียล่ะคะ รับได้เหรอ”


“.......น้องมีนครับ”
“...หือ ค่ะ เป็นไรค่ะจู่ ๆ ทำหน้าเครียดเชียว”

“เฮีย....เฮีย มีเรื่องจะสารภาพ”
“......อะไรค่ะ อย่าบอกนะว่ามีลูกมีเมียแล้ว อันนี้ไม่เอานะคะ มาหลอกกันนี่ จะเอาถึงตายเลยนะค่ะ”

“เฮ้ย ไม่ช่าย โห พูดซะไม่กล้าบอกเลย”
“ถ้าไม่บอกนี่เลิกคบกันเลยนะค่ะ”

“โหย ยิ่งแล้วใหญ่...........ก็ไม่มีอะไรมาก ก็ที่บอกว่าไม่เคยชอบผู้หญิงที่ไหนนะเรื่องจริง นะ.............แต่เคยชอบผู้ชายอ่ะ”
“ห๊ะ อะไรนะค่ะ เฮียเป็นเกย์เหรอ แล้วมาจีบมีนทำไมเนี๊ยะ”

“อู้ย ใจเย็น ๆ จ้ามีน ไม่เป็นจ๊ะ ไม่เป็นเกย์ ยังชอบผู้หญิงอยู่”
“แล้ว ที่บอกล่ะค่ะ”

“เฮ้อ คือจริง ๆ ก็ไม่แน่ใจว่ามันคือรัก ชอบ หรืออะไร แต่ก็เห็นมันมาตั้งแต่เกิด มันน่ารักมากเลยนะ ตัวขาว ๆ แก้มยุ้ย ๆ เวลาร้องงอแง ก็หน้าเป็นสีชมพู น่ารักมากเลย”

“....อย่าบอกนะค่ะว่า...........”

“ครับ ไอ้นั่นล่ะครับ”
“อ้าว แล้วทำไม ยังไง?”

“ไม่ทำไม ยังไงหรอก แค่แอบ ๆ ชอบมันมาตั้งแต่เกิดนะครับ แต่ผมมันไม่ได้เรื่องเอง แม่เต้มาคลอดโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง เลยเป็นขี้ปากคนแถวบ้านไปทั่ว พอเต้มันเริ่มรู้ความ ก็มีคนไปว่ามัน ไอ้ผมเองก็ไม่กล้าปกป้องมัน เพราะความเป็นเด็ก หลังจากนั้นเลยกลายเป็นคู่กัดกันไม่เคย พูดกันดี ๆ เลย เฮ้อ บ้าจริง ๆ กว่าจะรู้ตัว มันก็เป็นของคนอื่นไปแล้ว”

“แล้วเขารู้ไหม ว่าเฮียชอบ...”
“รู้ครับ น้องชายมีนก็รู้ เรายังเคยต่อยกันเลย ฮ่ะๆๆ ขอโทษที่ทำร้ายน้องน้อง มีนนะครับ”

“ถึงว่า ตอนแรก ๆ ซันค้านน่าดูที่จะให้เฮียมาที่เกาะ”
“ฮ่ะๆๆๆ ผมรู้ครับ วันแรกเขาไปรับผมที่ท่าเรือ หน้าตาเหมือนอยากจับผมถ่วงน้ำ หรือไม่ก็มัดส่งกลับไปกับเรือยังไงอย่างงั้น”

“แล้วตอนนี้.....”
“อ้อ ตอนนี้เป็นพี่ชายครับ และก็ดีใจด้วยที่ได้เป็นพี่ชายมัน เพราะทำให้ได้มาเจอคนที่คิดว่าอยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตที่เกาะนี้ ดีใจครับ”

“หึ ฝีมือทำอาหารนี่ ไม่เท่าฝีปากเลยนะค่ะ ไม่ต้องมาทำให้มีน ใจอ่อน สิ่งที่สารภาพออกมา มีนจะเก็บข้อมูลไว้พิจารณาความประพฤติ ถ้าแอบวอกแวก จะเอาให้ตายเลย”
“ครับ ๆ รับผมไว้พิจารณาเยอะ ๆ นะครับ ฮ่ะๆๆๆ”
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 25 2 คู่ชูชื่น (6/1/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-02-2016 20:44:01
สุขสันต์วันวาเลนไทน์  :L1: (ช้าไป 1 วัน) คนมีแฟนคงสนุกสนาน(ละซี่) ส่วนคนเขียนแฟนไม่มี ก็มองด้วยสายตาเฉยชากันไป 555  :hao7:
ส่วนคู่รักหวานชื่นของเราจะเป็นยังไงต่อไปคงต้องมาติดตามกันต่อนะจ๊ะ  :katai2-1:


*********************************************


ตอนที่ 26 ตะวันกับฟ้าใส



“ตื่นได้แล้ว คุณซัน วันนี้ เห็นพี่มีนว่าจะมีแขกพิเศษ มาพักไม่ใช่เหรอ ไปเร็วลุก อย่างอแง”
“อือ ขออีก 5 นาที หน่า”

“พูดอย่างนี้มา 2 รอบแล้วนะ จนผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วนี่”
“อือ 5 นาทีสุดท้ายแล้ว” คุณชายซันครับ 5 นาทีมาหลายรอบแล้ว

“เฮ้อ ตามใจนะ คุณเจ้านาย จะไปสายก็คงไม่มีใครว่า งั้นผมไปทำงานก่อนนะ..เหว๊ออออออออออ” เห็นท่าจะขุดเขาออกจากที่นอนไม่ได้ เงยหน้ามองนาฬิกาข้างฝา มันก็ใกล้เวลาทำงานแล้ว แถมต้องไปหาอะไรตอนเช้ากินอีก ผมว่าผมไปก่อนดีกว่า แต่ยังไม่ทันจะหันออกไป ก็ถูกกระชากมือไว้ จนเซล้มลงบนที่นอน

“หึ ไม่ให้ไป มาให้จูบก่อนมาม่ะ”
“ไม่เอา ไม่เล่น คุณซัน ชุดผมยับหมด” คนถูกดุไม่ได้มีอาการสลดเลย ผมพยายามจะดิ้นออกแต่ก็จนใจเพราะเขากดมือผมไว้เหนือหัวทั้งสองข้าง แถมยังขึ้นมาคร่อมผมไว้อีก

“งั้นถอดก่อนก็ได้ จะได้ไม่ยับ”
“จะบ้าเหรอ ไม่เอาครับ ฮ่า ๆๆ ไม่เล่นแล้ว จะไปทำงาน ฮ่าๆๆ จั๊กกะจี้ อย่า ๆๆๆ ไม่เอาแล้ว........” คนบ้า พูดไม่พูดเปล่า ก้มหน้ามาไซร้ซอกคอผม หนวดที่ยังไม่ได้โกน ทำให้จั๊กกะจี้ หัวเราะจนเหนื่อยเลย


แต่คุณซันนอกจากจะไม่หยุด ยังจูบปิดปากผม ไม่ให้ได้ประท้วงอะไรอีก อือ..... จูบแบบนี้ คิดว่าผมจะทนได้ซักกี่น้ำ ลิ้นแลกลิ้น จน เสียวสะท้านระทวย คุณซันจูบผมอยู่นาน จนเหมือนจะขาดอากาศหายใจ ก่อนที่จะถอนริมฝีปากออก แต่ก็ยังตามมาไล้เลียริมฝีปากเหมือนคนยังไม่อิ่ม ผมมองตามริมฝีปากหวานล้ำที่ค่อย ๆ ถอนออก

“เต้ครับ”
“...หือ..ครับ?”

“ผมว่าถึงเวลาแล้วล่ะผมจะคุยกับพ่อวันนี้แหล่ะ”
“ไม่เร็วไปเหรอครับ ..ผม..ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเลย” พอได้ยินนี่ผมเด้งตัวขึ้นมานั่งเลยครับ ตกใจนะซิ จู่ ๆ ก็โผล่ง ว่าจะบอกลุงถึงความสัมพันธ์ของเรา ผมใจหายวาบ รู้สึกว่าไม่พร้อมจะเผชิญความจริงเลย กลัวสิ่งที่คิดจะเป็นจริง

“ไม่ต้องเตรียมแล้ว ผมอยากบอกพ่อแล้วอ่ะ อยากให้ท่านได้รับรู้ความรักของเรา อยากอยู่กับคุณอย่างเปิดเผย”
“ไม่อายคนเหรอ มีแฟนเป็นผู้ชาย” ท่าทางคุณซันจะเห็นเป็นเรื่องสนุก เขาดูท่าทางไม่เดือดไม่ร้อน เข้ามากอดผมเหมือนคนโอ๋เด็ก ผมพยายามโน้มน้าวเขาอีกครั้งเพราะยังไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา

“อายอะไร อายทำไม มีแต่คนจะอิจฉาผมซิไม่ว่า มีแฟนน่ารัก น่าฟัดขนาดนี้”
“ฮ่ะๆๆ บ้า” คุณซันยังคงยิ้มอย่างมั่นใจ เขาหัวเราะร่วน พอจบประโยคก็ฟัดผมจริง ๆ อย่างที่พูด มันทำให้ผมใจอ่อน และคิดว่า เอาวะ อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด








คุณซันจับมือผมแน่น พาผมเดินไปจนถึงหน้าห้องทำงานของลุง อายพนักงานบางคนที่มองมาเหมือนกัน แต่ชั่วโมงนี้หัวใจของผมพองโต ผมไม่รู้ว่าลุงจะยินดีกับเรื่องของเราไหม แต่ผมมั่นในว่าคุณซันจะมั่นคง และเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม

“พร้อมนะครับ คนดีของผม”
“...ถ้าบอกว่าไม่พร้อมนี่จะเปลี่ยนใจไหม”

“โหย ไม่ทันแล้วครับ ที่รัก มาเถอะไปหาพ่อกัน”
“อื้อ”

ไม่วายหันมาหยอกผมก่อนที่จะเคาะและเปิดประตูเข้าไป
“พ่อครับผมมีเรื่อง......”






จู่ ๆ มือที่จับผมไว้ก็คลายออก และผละเดินเข้าไปในห้องทำงานของลุง ผมก็งง แต่ก็คิดว่าเขาคงต้องการจะบอกลุงก่อน

แต่พอผมเดินตามเข้าไป ก็พบว่าภายในห้องทำงานของลุง มีคนอื่นนอกจากลุงอีกหลายคน มีพี่มีน และชายหญิงสูงวัย แต่งตัวดี ท่าทางคงจะเป็นเพื่อนของลุงที่บอกว่าเป็นแขกพิเศษ และ.............หญิงสาวสวย ที่ดูสะดุดตา น่าจะวัยไล่เลี่ยกันกับผม ที่ตอนนี้ คุณซันเดินเข้าไปจับมือเธออย่างตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 26 ตะวันกับฟ้าใส (15/2/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-02-2016 20:49:05
“ฟ้าใส ๆๆ จริงๆ ด้วย”
“ซัน ว่าไงค่ะ ไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหม ฮ่ะๆๆๆ”
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกผมก่อน”

“เพิ่งกลับมาเมื่อวานซืนค่ะ นี่คุณลุงเพิ่งบอกว่าใกล้วันเกิดซัน เลยชวนฉันกับคุณพ่อคุณแม่มาร่วมยินดีด้วย”

“จริงเหรอ ดีจังเลย คิดถึงเธอมากรู้ไหม”
“แต่ฟ้าไม่ได้เตรียมอะไรมาให้เลยนะ ของยังไม่ได้เอาออกจากกระเป๋าเลย  ไว้จัดกระเป๋าเสร็จแล้ว ฟ้ามีของมาฝากซันเพียบเลยนะ” หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับ ฟ้าใส ซึ่งเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กมาด้วยกัน ชีวิตในวัยเด็กบนเกาะที่เลวร้าย มีเพียงพี่มีน กับฟ้าใสเท่านั้นที่เป็นดั่งแสง และความสดใส ในชีวิตวัยเด็กของผม ผมชอบฟ้าใสมาก ๆ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ห้าว ๆ แฟร์ ๆ ไม่สนใจใคร เราอยู่ด้วยกันเกือบปี จนเธอต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ และผมต้องเข้าโรงเรียนประจำที่กรุงเทพ ทำให้เราขาดการติดต่อกันหลังจากนั้น แต่ผมก็ได้ข่าวเธอผ่านทางคุณพ่อของผมอยู่บ้าง ไม่คิดเลยว่าการมาพบกันอีกครั้ง เธอจะสวยขึ้นมาก ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ตามแบบคนเมืองหนาว และที่สำคัญมันทำให้ผมรำลึกขึ้นมาได้ว่าผมเคยชอบเธอมากแค่ไหน จริง ๆ ผมเคยบอกรักเธอด้วย แต่เธอไม่ได้ตอบรับ บอกแค่ว่ารอได้ไหม ถ้ารอได้จะมาให้คำตอบ

“เอ๊ะ คนนั้นใครค่ะ?”

“.....” อ่า.....ผมลืมอะไรไป.....หันกลับไปมองคนข้างหลังที่ยังยืนอยู่ที่ประตู ก็ต้องชะงัก เต้มองตรงมาที่ผมและฟ้าใส ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ สายตาที่มองตรงมา ผมอ่านไม่ออก

“อ้าว เต้เข้ามาซิ มีอะไรเหรอ หรือว่ามีเอกสารจะให้เซ็น” ผมที่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก กลายเป็นคุณพ่อที่ทักเต้ เพราะคิดว่าเขามาด้วยเรื่องงาน เต้เบนสายตาไปมองคุณพ่อ ด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยน

“อ้อ ไม่มีครับ เผอิญผมผ่านมาเห็นประตูเปิดอยู่เลยจะมาปิดให้ครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
“เต้...เดี๋ยว” ผมเอ่ยเรียกเต้ ก่อนที่สมองจะประมวลผลซะอีก มีความรู้สึกเหมือนเขากำลังจะหายไป เต้หยุดมือที่จะปิดประตูแต่ไม่ได้หันหลังกลับมา

“อ้าว ซันจะเรียกเขาไว้ทำไม เขาจะกลับไปทำงานแล้ว เธอนี่ยังตั้งใจทำงานอยู่รึเปล่า คุณลุงเล่าวีรกรรมเธอให้ฉันฟังเยอะเลยนะ”
“เฮ้ย ไม่มี วีรกรรมอะไร ผมออกจะตั้งใจทำงาน” ไม่รู้จะพูดอะไรกับเต้ แต่ก็ไม่อยากให้เขาหันหลังให้ผม แต่เพราะฟ้าใส ทักไว้ ผมเลยจำต้องหันมาคุยกับเธอก่อน
“อ้อ ใช่ ๆ ลุงไม่ได้บอกเหรอว่าเพิ่งจะมาช่วงนี้แหล่ะ ที่มันขยันผิดปกติ ฮ่าๆๆๆ” คุณพ่อก็ร่วมผสมโรงด้วย กว่าจะหันไปอีกครั้งเต้ ก็ปิดประตูห้องไปเสียแล้ว

“ท่าทางซันสนิทกับพนักงานคนนั้นจัง”
“...เอ่อ เต้...เป็น…..”
“อ้อ เต้เขา เป็นเพื่อนที่กรุงเทพของซันน่ะ เขามาทำงานที่รีสอร์ท มาช่วยงานบัญชีพี่เอง” ผมที่อึก ๆ อัก ๆ ไม่รู้จะแนะนำเต้ในฐานะอะไรดี ก็ต้องหันมาตามเสียงพี่มีนที่ตอบข้อสงสัยฟ้าใสแทนผม และมองมาที่ผมเหมือนกับไม่ต้องการให้ผมเผยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเต้

“อ้อ เหรอค่ะ พี่มีนคะ ฟ้าเองก็เรียนบัญชี และบริหารมา ถ้ายังไงฟ้ามาช่วยพี่ด้วยดีไหมค่ะ”
“...อือ เหรอจ๊ะ พี่ว่าคุณลุงคุณป้า ไม่ปล่อยลูกสาวคนเดียวมาเป็นลูกน้องพี่หรอก กิจการที่บ้านตั้งเยอะ พี่ว่ามันต้องการฟ้าใสมากกว่าพี่แน่”

“แหม๋ ก็เพิ่งจบมาจะเอาอะไรไปบริหารบริษัทล่ะคะ หนูก็อยากเรียนรู้จากคนเก่ง ๆ อย่างพี่มีนบ้างซิค่ะ นะๆๆๆ”

“จ้า ถ้ามีอะไรที่พี่ช่วยได้ ก็ไม่รังเกียจจ้า”
“เย้ รักพี่มีน ที่สุดเลย”

“เล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้ ยัยฟ้า เกรงใจหนูมีนบ้าง ไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ”
“อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ หนูดีใจที่เจอฟ้าใสคะ น้องยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลย”

“ฮ่ะๆๆ บอกแล้วพี่มีนใจดี”
“เอ่อ ซันพาฟ้าใสไปทานอะไรที่ห้องอาหารก่อนนะ พ่อมีเรื่องจะคุยกับคุณอันดา”
“ครับ”
“งั้นหนูไปทำงานก่อนนะคะ”
“จ้า เจอกันตอนเย็นนะพ่อจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อนรัก และหลานฟ้าใส”
“ค่ะ”

พี่มีน เดินออกไปจากห้องทำงานพ่อ โดยหันมามองผมแค่แว๊บเดียว สายตาพี่มีนดูจะมีแววกังวล ผมเข้าใจว่าพี่เขากังวลเรื่องอะไร ผมเองตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออก ผมยอมรับว่าผมรักฟ้าใส รักมาตั้งแต่แรก และก็ยังคงรักอยู่ ช่วงเวลาที่ไม่ได้พบกัน ก็ไม่ทันได้คิดอะไร จนมีเต้เข้ามาในชีวิต ผมก็ลืมเรื่องของฟ้าใสไปเลย ....ผมไม่เคยคิดเลยว่าการได้พบกับฟ้าใสอีกครั้งจะทำให้หัวใจของผม ตื่นเต้น และหวั่นไหวอีกครั้ง จนเผลอปล่อยมือเต้...ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้วตอนนี้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 26 ตะวันกับฟ้าใส (15/2/16)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-02-2016 04:58:57
เฮ้อออ อีซันจะเป็นแบบอีเพชรอีกละ สงสารเต้อะ เข้าอีหรอบเดิมอีกละ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เต้หนีอีซันไปไกลๆเลย ให้มันอยู่กะอีนังฟ้าใสฟ้าหม่นนั้นสมใจ ชิๆ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 26 ตะวันกับฟ้าใส (15/2/16)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-02-2016 10:13:52
ถ้าซันจะเปลี่ยนใจก็บอกเต้ไปเลยเถอะ ถึงตอนแรกจะเจ็บมากแต่หลังจากนั้นคงจะดีขึ้น จะได้ไม่ต้องจมปลักอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเต้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 26 ตะวันกับฟ้าใส (15/2/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 16-02-2016 19:54:03
เต้จะต้องเจ็บปวดกับความรักไปอีกสักเท่าไรนะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 26 ตะวันกับฟ้าใส (15/2/16)
เริ่มหัวข้อโดย: chaweewong19841 ที่ 16-02-2016 20:46:58
 :fire:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 27 May be….. (8/4/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 08-04-2016 22:16:25
ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้กับ เต้ นะคะ  :mew6:
มันดีมากกกกกเลย เพราะเต้ คงต้องการมันเป็นอย่างมากกกกกก ในไม่ช้า


*********************************************


ตอนที่ 27 May be…..




“อ๊ะ ขอโทษครับ”
“อ๊ะ อ้าว พี่เต้ โหยก้มหน้าก้มตาเดิน ดีนะผมไม่ได้ถือของร้อน”

“ขอโทษนะ เลาะห์ พี่คิดอะไรเพลินไปหน่อย”
“ฮ่าๆๆๆ อย่างพี่มีอะไรให้ต้องคิดด้วยเหรอ ออกจะใจเย็น”

“ฮึ คนอย่างพี่มันก็มีเรื่องให้ต้องคิดด้วยเหมือนกัน”
“เอ่อ พี่เห็นแขกนายหัวรึยัง โหยโครตสวยเลยอ่ะ หน้าตาอย่างกับพวกดารา ผิวพรรณดี๊ดี เห็นว่าเป็นครอบครัวเพื่อนสนิทนายหัว แต่ผมว่ามันต้องมีซัมติงแน่ๆ เลย บ้านนึงมีลูกชาย อีกบ้านมีลูกสาว ผมว่า..”

“เอ่อ ขอโทษนะเลาะห์ พี่มีงานด่วนแต่เช้าเลย พี่ขอตัวก่อนนะ”
“อ่อ  โอเคพี่เต้ งั้นเที่ยงกินข้าวกันนะ ผมได้ปลาสดมาจะทำแกงส้มให้กิน”
“ครับ ขอบคุณครับ พี่ไปนะ”




กว่าจะเดินมาถึงห้องบัญชี แต่ละฝีก้าวเหมือนมีหินถ่วงไว้ จนรู้สึกหนักอึ้ง
ท่าทางเขาสนิทสนมกันมาก คุณซันเอง ก็ดูตื่นเต้นที่ได้พบกับคุณคนสวยคนนั้น .........คุณฟ้าใส

ตอนนี้ผมรู้สึกโหวงๆ ในอก ไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหน หึง หวง กังวล กลัว ไม่รู้ ผมไม่รู้ว่ารู้สึกอะไรตอนนี้ ผมน่าจะชินกับสภาพอย่างนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนที่ผมรักต้องเลิกรากันไป.........ไม่ใช่ เรายังไม่ได้เลิกรากัน ผมควรจะต้องไว้ใจคุณซันใช่ไหม เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย ผมควรจะต้องฟังเขาก่อน มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ แค่เพื่อน ญาติ คนรู้จัก.........................









“เต้ เต้ ฟังพี่อยู่รึเปล่า”
“ห๊ะ หา..เอ่อ ครับ ๆ พี่มีน” สะดุ้งสุดตัว เพราะมัวแต่คิดอะไรไร้สาระ จนไม่ทันฟังว่าพี่มีนสั่งงานอะไรเพิ่มอีก

“อะไร พี่พูดนี่เธอไม่ได้ฟังเลยเหรอ ใส่ใจหน่อย ดูตัวเลขที่มันไม่ลงตัวนี่ มันจะเป็นไปได้ยังไง เธอตรวจทานมาให้พี่ใหม่เลย .....” พี่มีนมีสีหน้าไม่พอใจ กับผลงานของผม ซึ่งผมเองก็รู้สึกเฟลเช่นกัน มันไม่ควรจะผิดพลาดอย่างนี้ นี่ผมทำอะไรลงไป กล้าทำงานชุ่ย ๆ มาส่งพี่มีนได้ยังไง

“..เอ่อ ครับ ผมขอโทษครับ คราวหน้าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีกครับ”
“....เต้”



“..ครับ?” ผมที่โค้งรับความผิด กำลังจะเก็บงานกลับไปแก้ ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่มีนที่เรียกผมไว้
“....อือ พี่...พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

“ครับ พี่มีนมีอะไรจะให้ผมทำเพิ่มหรือครับ” จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าสายตาพี่มีนมีแววหมองลง นี่ผมคงไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดอีกหรอกนะครับพี่มีน

“...เฮ้อ..มัน ไม่ใช่เรื่องงานหรอกเต้ ...พี่จะคุยเรื่องซันกับฟ้าใส”

“.........” ทันทีที่ได้ยินชื่อพวกเขาทั้งสอง หัวใจผมก็กระตุกไหว ขนที่คอและหลังลุกอย่างบังคับไม่อยู่ พี่มีนยังคงมองมาด้วยสายตาแน่วแน่ ทั้งห้องผมรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นช้าลง จนเหมือนจะหยุดเต้น





“...เต้ คือ......ฟ้าใสเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณลุงอันดา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับคุณพ่อ...ตอนเด็ก ๆ ฟ้าใสไม่ค่อยสบาย หมอเลยแนะนำให้มาอยู่ที่เกาะ เพราะอากาศบริสุทธิ์กว่าอยู่ในเมือง คุณพ่อเลยอาสารับฟ้าใสมาดูแล และก็เป็นเพื่อนเล่นกับพี่และซันอยู่เกือบปี ฟ้าใสเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี รักความยุติธรรม ใครที่มารังแกซัน ก็โดนฟ้าใสเล่นงานซะอ่วมเลย ในตอนนั้นซันชอบฟ้าใสมาก พี่ว่าก็คงเพราะเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวด้วยแหล่ะ.............”

“......” พี่มีนเล่าถึงเรื่องราวแต่หนหลังพร้อมกับมองหน้าผมเป็นระยะ ๆ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าจะมาบอกผมทำไม แต่หลังจากที่พี่เขาพูดจบ ผมก็เริ่มรู้แล้วล่ะ ว่าสิ่งที่พี่มีนต้องการจะสื่อคืออะไร

“ตอนนั้นคุณลุงอันดาให้ฟ้าใสไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ผู้ใหญ่เขาก็ดูออกว่าเด็กๆ ชอบพอกัน คุณลุงกับคุณพ่อท่านพอใจมาก แต่ก็คิดว่าทั้งคู่ยังเด็ก ยังไม่ประสา เลยอยากให้แยกๆ กันไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่แค่เรื่องรัก ๆ ของเด็กๆ.......ซึ่งตอนนี้ฟ้าใสเรียนจบแล้ว และกลับมาแล้ว พี่...พี่ก็เพิ่งได้ยินคุณพ่อกับคุณลุงอันดาคุยกัน..........เรื่อง.....เรื่อง หมั้นหมายของซันกับฟ้าใส.........พี่...พี่ลำบากใจที่จะพูด แต่ว่า พี่อยากให้เต้ ทำใจไว้ก่อน ....เอ่อ พี่ว่าต้องดูว่าทั้งสองคนยังมีใจให้กันหรือเปล่า ถ้าไม่ พี่คิดว่าคุณพ่อและคุณลุงคงไม่ฝืนใจหรอก”

“....” ยิ่งผมเข้าใจวัตถุประสงค์ของพี่มีนเท่าไหร่ น้ำเสียงของพี่มีนเหมือนจะค่อยๆ  เบาลงเรื่อย ๆ ผมรู้สึกเหมือนจะจมดิ่งลงไปในทะเลที่หนาวเหน็บ จนเผลอก้มหน้า
“เต้...เต้...เข้าใจที่พี่พูดใช่ไหม” พี่มีนจับแขนของผมให้ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่มีน ทั้งที่ในหัวสมองรู้สึกว่างเปล่า





“............ครับ....พี่มีน ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมเข้าใจครับ....ผมไม่ได้คิดอะไร คุณซันก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ....แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผม จะไม่ทำให้พี่และครอบครัวเดือดร้อนหรอกครับ” กว่าสติผมจะกลับมา กว่าที่ผมจะกลั่นกรองคำพูดออกมาเพื่อปกป้องความรู้สึกตัวเอง และปกป้องครอบครัวของผู้มีพระคุณอย่างลุงและพี่มีน มือผมออกเหงื่อที่ชื้นจนรู้สึกได้ สิ่งที่ผมพูดออกมามันไม่ใช่อย่างที่ผมรู้สึกจริงๆ  จนไม่กล้าสบตาพี่มีน

“เต้ ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ไม่ได้กลัวเดือดร้อน พี่เป็นห่วงเธอจริง ๆ นะ”
“ครับ พี่ผมเข้าใจครับ พี่มีนทำใจให้สบายนะครับ ...ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” พี่มีนจับแขนผมสองข้างให้ผมพยายามสบตบเธอ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ได้แต่ก้มหน้ารับคำเธอ ก่อนจะขอตัวออกไปทำงานต่อ

“เอ่อ..จ๊ะ” เธอถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยให้ผมหันหลังเดินออกมา


ผมเดินลอย ๆ กลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน หยิบเอกสารที่จะต้องบันทึกในเครื่องคอมขึ้นมา กดคีย์งานเข้าไปเหมือนทำงานตามปกติ

มันก็เหมือนระบบอัตโนมัติ ที่กำลังทำงานอย่างไร้ชีวิตจิตใจ  ตอนนี้ หัวผมโล่ง ขาวโพลนไปหมด แต่ที่ทำงานอยู่ได้เพราะมันเป็นงานเดิม ๆ บันทึกข้อมูลไม่ต้องคิดอะไรเลย ถึงให้คิด ก็คิดไม่ออกหรอกครับ............ทำเป็นปากเก่งบอกพี่มีน แต่ข้างในมันเหมือนจะร้องไห้ ......ผมเคยบอกรึยังว่า......



ไม่เคยมีอะไรที่เป็นของผมจริง ๆ










ผมชะเง้อมองตลอดว่าเมื่อไหร่คุณซันจะเข้ามาอธิบายเรื่องต่าง ๆ มาบอกให้ผมสบายใจว่าผมนะคิดมากไปเอง เขากับคุณฟ้าใสแค่เพื่อนวัยเด็กเท่านั้น มาบอกว่าเขารักผมคนเดียว เหมือนที่พร่ำบอกผมอยู่ทุกคืนวัน

แต่ก็ไร้เงาคนที่คิดถึง เห็นน้องวรรณ แม่บ้านบอกว่า คุณซันตามนายหัว และเพื่อนของท่านไปเดินชมส่วนต่าง ๆ และออกไปนอกรีสอร์ทแล้ว ผมได้ฟังก็ถอนหายใจ มิน่าเขาคงจะยุ่ง ผมเก็บของเตรียมกลับที่พัก ไปรอเขาที่บังกะโลดีกว่า ผมควรเชื่อใจเขา..............นะ








แสงอาทิตย์ดับไปนานแล้ว แต่วี่แววคนที่คอยก็ยังไม่กลับมา อาหารที่เตรียมไว้รอ คงต้องเก้อ ผมเองก็กินไม่ลง ได้แต่นั่งจิบน้ำผลไม้ ไปพลาง มองทางที่มาจากรีสอร์ท ไปพลาง

“อ้าวเต้ ยังไม่กินข้าวอีก”
“อ้าวเฮีย ไหนว่าจะนอนแล้วละครับ”

“ก็จะนอนแต่ก็เห็นลื้อยังนั่งอยู่....ไอ้นั่นยังไม่กลับมาเหรอ”
“....ครับ”
“ไม่โทรไปถามมันล่ะ มัวแต่นั่งคอยทำไม”
“เอ่อ...ผมว่าอีกเดี๋ยวเขาก็กลับแล้วละครับ เอ่อ ผมเก็บของพวกนี้ไว้ก่อนดีกว่า”

“เต้”
“ครับ” ผมที่กำลังเก็บจานอาหารก็ต้องชะงักหันมามองเฮียตงที่ยังไม่เดินเข้าห้อง

“...ไม่มีอะไร นอนได้แล้วล่ะ มันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้บ่าย ๆ ยังต้องไปช่วยเฮียอีก”
“อื้อ นี่เก็บเสร็จก็จะเข้านอนแล้วล่ะ เฮียไปนอนเถอะ” เหมือนเฮียมันอยากจะพูดอะไรมากกว่านั้นแต่ก็ไม่ได้พูด มือเฮียที่ยกขึ้นมายีหัวผม ทำให้รับรู้ได้ถึงความห่วงใย ก่อนจะกล่าวลาเข้านอน
“ราตรีสวัสดิ์”
“ครับ ราตรีสวัสดิ์”






หลังจากเก็บของเสร็จก็เข้าห้องแปรงฟัน เรียบร้อย ก่อนจะนั่งลงบนเตียง เตียงที่ผมนอนช่วงหลังทุกวัน แต่วันนี้ สัมผัสของมันช่างเย็นเยือก จนผมต้องยกมือขึ้นกอดอก

เฮียมันคงได้ยินข่าวอะไรมาบ้าง แต่ดีแล้วทีไม่ถามอะไรตอนนี้ เพราะผมเองก็ไม่มีคำตอบใด ๆ ให้เฮียเหมือนกัน มันยังโหวง ๆ ในอก หัวสมองก็โล่ง ๆ แปลก ๆ ผมไม่อยากจะคิดไปเอง มันอาจไม่ใช่อย่างที่คิด


เมื่อครั้งเพชรหมั้น ผมยังไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างนี้เลย ก็เจ็บปวดใจ แต่มันไม่ได้รู้สึกเหมือนตัวจะขาดออกจากกันอย่างนี้ ทรมาน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมยอมรับว่ารักคุณซันมาก ไม่เคยรักใครเหมือนที่รักเขา เขาเข้ามาในใจผมช้า ๆ แต่มั่นคง ฝังรากลึกในใจผมอย่างเหนียวแน่น จนผมยังไม่อยากจะนึกเลยว่า ถ้าวันหนึ่งเขาเองก็ต้องไปมีครอบครัวปกติ มีทายาทสืบสกุล ........ผม...จะเป็นยังไง


ผมพยายามยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า คนแบบผม คงจะหารักแท้ และยั่งยืนยาก แต่ผมก็ไม่ลดความพยายาม ยังคงใฝ่หาความรัก ที่เหมือนกับมวลหมอก รู้สึกได้ แต่จับต้องไม่ได้





ใกล้เที่ยงคืนแล้ว เขายังไม่กลับมา หรือผมควรจะต้องทำใจแล้ว เผื่อจะได้มีเวลามากหน่อยให้ผมอีกซัก วินาที .......ความคิดร้าย ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ ผม ควรจะข่มตานอน เพื่อจะพบว่าพรุ่งนี้ มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผม กังวล
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 27 May be….. (8/4/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 08-04-2016 22:19:07
เที่ยงคืนแล้ว ผมก้าวเข้ามาในห้องนอน ที่ปิดไฟแล้ว คงมีแต่แสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาให้ผมได้เห็นร่างบาง ที่นอนหันหลังบนที่นอน ดึกมากแล้ว เต้คงจะหลับไปแล้ว

เข้าไปจัดการอาบน้ำในห้องน้ำครู่หนึ่ง จึงออกมานั่งที่เตียง เต้ยังคงนอนหันหลังให้ผม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ที่เต้ชอบนอนตะแคงขวา เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเต้คงจะหลับไปแล้ว

เอนกายลงนอนข้าง ๆ กัน เอามือก่ายหน้าผาก เหล่มองคนที่นอนข้าง ๆ กัน ก็ยิ่งหนักใจ ไม่รู้จะเริ่มพูดกับเต้อย่างไรดี วันนี้ พวกพ่อและคุณลุงอันดา ได้พูดคุยกับเขาเรื่องที่จะจัดการให้เขาได้หมั้นหมาย และแต่งงานกับฟ้าใส บอกเลยว่าตอนได้ยิน หัวใจผมพองโตด้วยความยินดี ปรีดา ผมรักฟ้าใสมานานแล้ว ถึงตอนนี้ก็ยังรักอยู่เหมือนเดิม แต่ขณะที่กำลังปลื้มปริ่มกับรอยยิ้มเขินอายของฟ้าใสที่มองมา ภาพใครคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมา ทำให้หัวใจของผม หดลงเหมือนลูกโป่งถูกเจาะเลยก็ว่าได้ ผมรักฟ้าใส แต่ผมก็รักเต้เช่นกัน ช่วงเวลาที่อยู่กับเต้ ผมลืมฟ้าใสไปสนิท ผมอยากคุยกับพ่อ แต่ก็ไม่มีโอกาส เพราะคุณลุงอันดาอยู่ด้วยตลอดเวลา  ผมว่าพ่อน่าจะให้คำปรึกษาผมได้ ผมไม่รู้จะบอกเต้อย่างไรดี ถ้าผมพูดไป ผมกับเขาจะเป็นยังไงกันต่อไป ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม จนเผลอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนนี้จะคิดให้มันได้อะไร พยายามข่มตานอน พรุ่งนี้ค่อยแก้ปัญหาดีกว่า
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 27 May be….. (8/4/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 08-04-2016 22:21:24
“เฮ้อ”

เสียงถอนหายใจหนัก ๆ บ่งบอกว่าคนข้างกาย คงมีเรื่องหนักใจ คิดไม่ตก
ผมเองก็ยังไม่หลับ ได้ยิน และรับรู้ว่าคุณซันกลับมาแล้ว ใจหนึ่งอยากจะหันไปคุยด้วย แต่อีกใจก็ไม่กล้า กลัวคำตอบ เมื่อคิดว่าไม่รู้จะพูดอะไร จึงแกลัง ทำเป็นนอนหลับ ถึงแม้ใจจะเต้นระทึกไม่เป็นจังหวะ ถ้าเขาปลุกเราขึ้นมาคุยจะทำอย่างไร แต่จนแล้วจนรอด คุณซันเข้าห้องน้ำออกมาแล้ว ก็ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ แถมถอนหายใจหนัก ๆ อย่างคนลำบากใจ และที่สำคัญ .....เขาไม่ได้นอนกอดผม..... ปกติเขาจะนอนกอดผมทุกคืน

รู้สึกได้ว่าขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาไหลรินลงมาอย่างไม่มีเสียงสะอื้น นี่มันเป็นสัญญาณใช่ไหม

สัญญาณว่า ความสุขของผม กำลังจะหมดอายุลงแล้ว
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 27 May be….. (8/4/16)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-04-2016 23:08:31
เฮ้ออออ. สงสารเต้อะ อีซันแมร่งใจร้ายมากๆอะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 27 May be….. (8/4/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kamontipsaii ที่ 08-04-2016 23:16:14
สงสารเต้ เต้หนีไปเลย หนีไม่ให้ซันตามเจออ่ะ
หนีไปให้พ้นจากคนโลเล ไม่ปลื้มซันขอบอก  :beat:  :z6:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 27 May be….. (8/4/16)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-04-2016 21:53:36
จะว่าไงดี

ซันมันโลเลหรือเปล่านะ

ไม่งั้นก็ให้เต้เลิกกะซันแม่ม  :fire:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 27 May be….. (8/4/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 07-06-2016 23:57:25
หวัดดีคะ  :impress: มาต่อกันเลยดีกว่า เรื่องราวกำลังเข้มมมมมข้น ขอกำลังใจให้ทั้งคนเขียน และเต้ด้วยนะคะ



**************************************************





ตอนที่ 28 How to keep you two.



ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก ลุกขึ้นมานั่งเอื้อมมือไปปิดเสียงปลุก รู้สึกหนัก ๆ หน่วง ๆ ในหัว กว่าจะเรียกสติ กลับมาได้ก็คิดถึงเรื่องเมื่อวาน รีบหันไปมองไปที่เตียงข้างกาย ก็อดจะใจหาย

ว่างเปล่า ไม่มีแม้เงาของเต้

 ผมหันไปดูเวลา นี่มันเพิ่งจะ 7 โมงเช้าเอง ปกติเต้จะตื่นเช้ามาก เขาชอบออกกำลังกาย ก่อนจะไปอาบน้ำเสร็จแล้วถึงมาปลุกผม แต่วันนี้เขากลับไม่เหมือนเคย เขาไม่ได้มาปลุกผม แต่เปิดนาฬิกาให้ปลุกผมแทน มองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีวี่แววของเต้อยู่เลย เขาน่าจะไปทำงานแล้ว

ผมคิดว่าเขาคงจะรู้สึกอะไรบ้างกับเรื่องเมื่อวาน ไม่งั้นคงไม่ไปโดยไม่ปลุกผมแน่ ส่วนตัวผมเอง ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะคุยกับเต้อย่างไงดี

ผมว่าควรจะต้องค่อย ๆ คุยกับเต้ เขารักผม ผมก็รักเขา เราน่าจะคุยกันได้ไม่ยาก คิดได้ดังนั้นก็เบาใจขึ้นเลยลุกไปอาบน้ำเพื่อไปทำงาน







และก็เป็นอย่างที่คิด ยังไม่ทันเดินถึงห้อง ผมก็มองผ่านกระจกเห็นเต้นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าตาเต้ดูปกติดี ทำให้ผมเริ่มจะมีหวังมากขึ้นว่าเราคงจะคุยกันง่ายขึ้น ผมว่าทุกอย่างมันมีทางออก ขึ้นอยู่กับเราจะร่วมมือกันหาทางออกไหม

“เต้..” ผมที่เพิ่งจะเปิดประตูห้องบัญชีเข้าไปครึ่งตัว เรียกเต้ ซึ่งเขาก็หันมามองผม ตามปกติ
“ซัน อรุณสวัสดิ์ค่ะ”แต่ก็ต้องชะงักทั้งสองคนเพราะ ฟ้าใส เดินมาเรียกผมที่หน้าประตู

“ซัน วันนี้พาฟ้าไปเที่ยวเกาะหน่อยซิ” ฟ้าใสเดินเข้ามาคล้องแขนผมต่อหน้าเต้ ผมหันกลับไปมองเต้ ก็ไม่ทันที่จะเห็นแววตาของเต้ เพราะเขาก้มหน้าทำงานต่อไปซะแล้ว

“เอ่อ ...” ผมอยากจะเรียกให้เต้หันมามอง ผมอยากเห็นหน้าเขาชัด ๆ ที่สำคัญผมอยากเห็นแววตาของเขา
“นะ ๆ ๆ ซัน คุณลุงบอกว่า ซันขับเรือได้ ฟ้าอยากไป คุณลุงเลยบอกจะให้ซันเอาเรือออกให้”
“เอ่อ ฟ้าครับ ผม”
“เอ๋ หรือว่าซันไม่ว่างค่ะ ...ขอโทษคะฟ้าก็ไม่ทันคิด คุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไว้วันหลังก็ได้” ผมที่กำลังระล้าระลัง ไม่รู้จะทำไงดี คงทำให้ฟ้าใสคิดว่าผมไม่ว่างแล้วรู้สึกเกรงใจตามนิสัยของเธอ เสียงตอนท้ายฟังดูสลดจนน่าสงสาร

“เอ่อ เปล่า ๆ ผมว่าง ไปซิ วันนี้อากาศดีด้วย”
“จริงเหรอค่ะ เย้ ดีใจจังเลย จะได้ไปเที่ยวเกาะแล้ว ฮ่ะๆๆๆๆ” เห็นท่าทางดีใจเป็นเด็ก ๆ ของฟ้าใสแล้วก็อดจะยิ้มตามไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ ทำให้ผมยิ้มได้เสมอ

“คุณ.. เอ่อ คุณเต้ใช่ไหมคะ ไปเที่ยวด้วยกันไหมค่ะ”
“....อ้อ ไม่ล่ะครับ ขอบคุณที่ชวน ผมมีงานค้างเยอะ เชิญคุณตามสบายเลยครับ” เต้เงยหน้ามามองฟ้าใส แต่ไม่สบตาผมเลย ไม่ว่าผมจะพยายามมองเขาแค่ไหนก็ตาม จนสุดท้ายเขาก็ก้มหน้าลง และตั้งหน้าทำงานต่อโดยไม่สนใจผมอีกเลย มันทำให้ผมรู้สึกขัดใจมาก อยากจะกระชากคนดื้อให้หันมามองหน้ากัน แต่ก็ทำอะไรตามใจไม่ได้ เพราะฟ้าใส ยังคงเกาะแขนผม และพูดคุยอยู่ไม่ห่าง จนใจเลยต้องปล่อยไปก่อน







เรือยอร์ชลำเดิม มีผมเป็นกัปตัน และมีผู้โดยสารคนเดียวคือฟ้าใส  เล่นผ่าเกลียวคลื่น ไปเรื่อย ๆ โดย จนถึงเกาะห้อง ผมจอดเรือเพื่อให้ฟ้าใส เล่นน้ำ
“ซันค่ะ ทาครีมกันแดดที่หลังให้หน่อยซิค่ะ” ผมถึงกับตะลึงเมื่อฟ้าใสก้าวออกมาจากเคบินมาที่ดาดฟ้าเรือ ด้วยชุดว่ายน้ำ ทูพีช หญิงสาวเกล้าผมลวก ๆ ปอยผมบางส่วนระตามลำคอระหง ทำให้ดูเซ็กซี่ รูปร่างสมส่วนที่อวบอัด แต่ก็ดูเพรียวบาง เยื้องย่างเข้ามาใกล้ กว่าจะรวบรวมสติได้ก็ได้ยินเธอเรียก

“แมงวันจะเข้าปากแล้วซัน ...ตะลึงละซี่”
“..ฮ่ะๆๆๆ ครับ ต้องยอมรับว่าตะลึงไปเลย ไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงเฮี้ยว ๆ เมื่อตอนนั้นจะกลายมาเป็นนางหงส์สง่างามซะขนาดนี้”

“ว้าย ๆ  พูดซะเขินเลย ใช่ซี่ ก็ตอนนั้นยังเด็กอยู่นี่ แต่ก็ขอบคุณที่ชมนะคะ ซันเองก็หล่อขึ้นมากเลย ไม่เหลือคราบเด็กขี้แยเมื่อก่อนเลย”
“ว้า ไม่ดีเลย คนที่เคยรู้เบื้องหลังเรานี่ ทำอะไรก็รู้ไปหมด”

“ทาครีมให้หน่อยซิ ฟ้าอยากเล่นน้ำแล้วอ่ะ”
“ครับเจ้าหญิง”
ผมรับหลอดครีมกันแดดมาแล้วค่อย ๆ บรรจงทาบฝ่ามือบนหลังของฟ้าใส ในขณะ ที่เจ้าตัวทาครีมที่แขน ขาของตัวเองอยู่ ผิวของฟ้าใสเรียบเนียน และนุ่มนิ่มมาก ผมค่อย ๆ ลูบครีมทั่วทั้งแผ่นหลังเนียน ลากมือขึ้นไปที่ลำคอ แล้วลากปลายนิ้วลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง

“อ่ะ” เสียงครางหวาน ๆ แว่วมาฟ้าใสแอ่นหลัง หนีมือผม แล้วหันหน้ามามองผมเขม็ง ด้วยดวงหน้าแดงกล่ำ
“หือ”
“คิดอะไรหรือเปล่านี่ซัน” ผมยิ้มให้กับคำถามตรง ๆ ของคนหน้าแดงตรงหน้า ถามว่าคิดไหม

คิดครับ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา ฟ้าใสงดงามเพียงนี้ บวกกับที่ผมรู้สึกรักใคร่เขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บรรยากาศเป็นใจซะขนาดนี้ จะไม่เผลอคิดได้ไงกัน

“แล้ว ที่หน้าแดงขนาดนี้ ฟ้าคิดอะไรเหรอครับ” ผมเย้าฟ้าใส โดยเอนตัวเข้าไปหา เธอก็ไม่ได้เอนตัวหนี แต่ก็เอนไปด้านหลังเล็กน้อย
“อย่ามาใช้เสน่ห์กับฟ้านะ หลงไปแล้วต้องรับผิดชอบด้วย”
“ฮ่ะๆๆ ก็คิดอยากรับผิดชอบอยู่นะครับคนสวย”

ใบหน้าของเราค่อย ๆ เข้าใกล้กันเรื่อย ๆ ฟ้าใสเริ่มหลบสายตา ท่าทางเขินอายอย่างน่าเอ็นดู ผมเกลี่ยจมูกข้างแก้มเธอ กลิ่นน้ำหอมราคาแพง กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ ผมค่อย ๆ บรรจงจูบริมฝีปากสีชมพูนิ่มอย่างแผ่วเบา เธอมีอาการเกร็งตัวเล็กน้อย ผมเริ่มลิ้มเลียริมฝีปาก แล้วส่งลิ้นเข้าไปกวาดหาความหวานจากโพรงปากของเธอ ลิ้นเล็กพยายามหนี ผมก็กวาดต้อนจน ลิ้นของเราเกี่ยวกระหวัดกันผมดูดดุนลิ้นน้อยจนเจ้าของร่างสั่นสะท้าน อ่อนระทวย เข้ามาซบผมทั้งตัว นวลเนื้อนิ่มสัมผัสกับอกแกร่งของผม ยิ่งกระตุ้นให้ผมรุกเร้า อย่างเร่งรีบ ผมละจูบเธอมาและเล็มที่ซอกคอ และใบหู


“พอแล้วๆ ซัน ไม่เอา ๆ หยุด ๆๆๆๆ” กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม จู่ ๆ ฟ้าใสก็ผลักผมออกแล้วลุกขึ้นมาลูบหน้าลูบตัว ตอนนี้ผิวขาว ๆ ของฟ้าใสแดงเป็นกุ้งทั้งตัว ก่อนจะหันมาส่งสายตาค้อน ๆ

“มือไวจริง ๆ เลย ซันนี่ เกือบเผลอใจไปแล้วเชียว”
“ฮ่ะๆๆ อะไรกัน ก็นึกว่าชอบนี่นา เห็นให้ความร่วมมือดีเชียว”

“ทะลึ่งล่ะ ใครเจอเธอโลมเล้าขนาดนั้นก็มีเคลิ้มทั้งนั้นแหล่ะ ตาบ้า ไม่เอาแล้ว ฟ้าไปเล่นน้ำดีกว่า”
ฟ้าใสตีแขนผม ก่อนจะกระโดดลงน้ำจากชั้นดาดฟ้า เฮ้อ เซี้ยวจริงๆ เห็นแล้วก็อดนึกเอ็นดูไม่ได้ เธอลงน้ำได้ก็ดำผุดดำว่าย ผมก็ได้แต่นั่งจิบเบียร์มองเธอเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน

แต่ก็ได้เพียงครู่ ภายในใจก็เผลอคิดถึงใครบางคน เมื่อกี้ถ้าฟ้าใส ไม่ผลักผมออก ก็คงเป็นผมนี่แหล่ะที่จะผละออกมาเอง ผมที่กำลังมีอารมณ์กับฟ้าใส แต่ก็ดันไปนึกถึงบทรักเร่าร้อนของผมกับใครอีกคนหนึ่งบนเรือลำนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ท้องผมรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาทันที ผมจะจัดการกับความรู้สึก และปัญหาของเรื่องระหว่างพวกเรายังไงดี











ช่วงบ่ายเราสองคนก็กลับเข้ามาที่รีสอร์ทอีกครั้ง ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ และนัดเจอกันอีกทีช่วงบ่ายแก่ ๆ เพราะต้องไปทำธุระกันที่ภูเก็ต ผมจะอาบที่บ้านก็ได้ แต่ก็คิดว่ากลับไปอาบที่บังกะโลจะใกล้กว่า เลยเดินกลับไปที่บังกะโล



ผมเปิดประตูห้องเข้าไป แว๊บแรกก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ผมหยุดยืนมองไปรอบ ๆ ห้อง



ของทุกอย่างของเต้ หายไป ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้า รู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไม่อาจระงับ กัดฟันกรอด ปิดประตูกลับไปอย่างแรง ก่อนจะเดินเร็วอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไปที่รีสอร์ท

“เต้ล่ะ”
“เอ่อ ไม่เห็นครับ”

“เห็นเต้บ้างไหม”
“เอ๋ ไม่เห็นค่ะ คุณซันมีอะไรจะให้ทำรึเปล่าค่ะ เดี๋ยวป้า...”

“ไม่มีอะไร ไปทำงานเถอะ”
หาทั่วทั้งที่ห้องบัญชี ห้องอาหาร ห้องแม่บ้าน กระทั่งห้องคนสวนก็แล้ว แต่ก็ไม่เห็นวี่แวว ไปไหนของเขานะ เหลือก็แต่ห้องครัวนี่แหล่ะ เฮียตงน่าจะรู้ว่าเต้ไปไหน คิดได้ก็เร่งฝีเท้าไปทางห้องครัว

“เฮียตง”
“อ้าวคุณซัน “

“เอ่อ พี่เหน่ง....เฮียตงล่ะครับ” มองไปรอบ ๆ ก็เห็นแต่พี่เหน่ง และผู้ช่วย

“อ้อ เขาขึ้นไปซื้อวัตถุดิบที่ภูเก็ตครับ คุณซันมีอะไร...อ้าวคุณซัน” ฟังไม่ทันจบผมก็รีบวิ่งออกมาทันที เฮียไม่อยู่แล้วเต้ไปไหน คนที่จะตอบผมได้คงเหลือแต่พี่มีนแล้วล่ะ




“พี่มีนครับ...” ผมเปิดประตูห้องพี่มีน เข้าไปอย่างรีบร้อน พี่เขาเงยหน้ามามองผมด้วยสายตาสงสัย
“อะไร กลับมาแล้วเหรอ สนุกไหม”

“พี่มีน เต้ไปไหนครับ”
“.......” พี่มีนหุบยิ้มที่ถามผมทันที ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองผมเขม็ง

“ผมหาทั่วรีสอร์ทแล้วก็ไม่เห็นเลย พี่ครับ เต้ไปไหนครับ”
“....อ้อ เฮียตงต้องไปซื้อของที่ภูเก็ต เต้เลยอาสาไปช่วยนะ” พี่มีนขยับกลับไปสนใจเอกสารต่อ ในขณะที่ยังพูดคุยกับผม

“แค่ไปซื้อของแล้วทำไมของ ๆ เต้หายไปจากห้องผมหมดเลยละครับพี่”
“....อือ...แล้วไง ก็ถูกแล้วนี่”

“พี่หมายความว่ายังไงครับ” ผมที่หัวเสีย รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่น่าพิสมัยของพี่สาวตัวเอง ก็ยิ่งรู้สึกหัวเสียมากขึ้น

“พี่ก็หมายความว่า เต้เขาเข้าใจอะไรง่ายดี นายเองก็ควรให้ความร่วมมือด้วย” พี่มีนเปรยตาขึ้นมามอง ก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารในมือต่อ

“ร่วมมือ.......ร่วมมืออะไรครับ” ผมตบโต๊ะทั้งสองมืออย่างแรง ทำให้พี่มีนถลึงตาขึ้นมามองอย่างเหลืออด
“ซัน ฟังพี่นะ แกกำลังจะหมั้นกับฟ้าใส......แล้วแกจะคบกับเต้ได้ยังไง” เสียงพี่มีนตวาดผม อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน จนผมถึงกับอึ้ง

“แต่ผม.....”
“ซัน...พี่ชอบเต้มากนะ แต่พี่ก็ชอบฟ้าใสมากด้วย ถึงจะรู้สึกผิดกับเต้ แต่พี่สนับสนุนฟ้าใส”

“แต่ผมรักทั้ง 2 คน...”
“เห๊ยย งั้นแกก็แก้ปัญหาของแกเองเถอะ ชั้นไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว” พี่มีนตบโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะตวาดลั่นแล้วเดินออกไปจากห้อง





ผมทรุดตัวนั่งที่โซฟารับแขก กุมขมับ
ใช่ผมมันเห็นแก่ตัว ผมรักฟ้าใส แต่ผมก็ไม่อยากเลิกกับเต้ ผมต้องทำอย่างไงถึงจะหาทางออกให้เรื่องของเราได้ พี่สาวที่เคยเป็นพวกด้วยก็ ไม่เห็นด้วยกับความคิดของผม แล้วอย่างนี้ผมจะสามารถทำอะไรได้อีก

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-06-2016 00:32:09
อีซันเห็นแก่ตัวมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 08-06-2016 01:22:06
 :hao5: :hao5: :hao5: สวสารเต้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 08-06-2016 10:28:26
หูยยยย..... มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันนะ....ดูโหดกับเต้ตลอดเบยยยย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 08-06-2016 13:26:46
ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องสนุกๆ อย่างนี้จะรอดหูรอดตามาได้เป็นปีๆ กว่าจะได้เข้ามาอ่าน
ขอติดตามต่อด้วยคนนะครับ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 08-06-2016 20:34:41
เฮ้อ...มาเจอพระเอกแนวนี้อีกแล้ว

สำหรับเรานี่คือความเลวค่ะ   บอกว่ารักฟ้าใสแต่พออยุ่กับเต้นี่ไม่มีแม้แต่นึกถึงผู้หญิงคนนั้น  มันจะเป็นความรักได้ไง? Out of sight, out of mind?

แล้วลงไปคลุกวงในกับผู้หญิงได้เต็มๆ   จะบอกว่าเดี่ยวก็จะเป็นฝ่ายผละออกมาเอง   เราไม่ให้ราคาค่ะ   ไม่ได้อคตินะคะ    แต่ลองคิดหน่อยค่ะว่าความรักของผู้ชายที่ชื่อว่าซันคืออะไร แบบไหน?  ไร้ราคาไร้ความหนักแน่น

ตรงจุดนี้ทำให้เรานึกถึงเอกพระเอกของKiss Love เลยค่ะ   บอกว่ารักนายเอกมากๆแล้วอยุ่ๆแฟนเก่าโผล่มาปุ๊บก็ทิ้งนายเอกกลับไปเอาแฟนเก่าปั๊บ   ไม่ได้ว่าคนเขียนก็อปหรือไรนะคะ   คือให้ความรู้สึกคล้ายๆกันเท่านั้นเองที่อยุ่ๆโผล่ขึ้นมาเป็นประเด็นให้ทิ้งนายเอก  คุณพี่สาวก็พอเข้าใจอยู่หรอกที่ยังไงน้องชายแต่งงานมีครอบครัวกับผู้หญิงก็ย่อมเป็นอะไรที่โอเคกว่าอยู่แล้ว    อย่าทนอยู่เลยเต้   ไปหางานทำที่อื่นเถอะ   ความรู้ก็มี   ปล่อยให้วัชรมันโกงบริษัทต่อไปเถอะ   ต่อให้ซันไม่ได้ทิ้งเต้ก็เถอะแต่ใจซันเองก็เอนไปทางนั้นขนาดเกือบเอาเขาแล้ว   คนเราถ้ามันรักจริงๆมันก็ไม่มีการว่อกแว่กหรอก    หอบเอาเฮียไปด้วยกันเลย อากู๋คงดีใจที่หลานกลับมาอยู่ใกล้ๆอีก   ทิ้งมีนให้วัชรไปเลยค่ะ   ทั้งฟ้าใสทั้งวัชรเขามาก่อนนี่นา
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: greenk ที่ 08-06-2016 21:44:12
เหนื่อยใจ เต้ต้องคู่กับคนแบบนี้จริงเหรอ ปากบอกว่ารักแต่สุดท้ายก็ไปมีคนอื่น ส่วนคุณมีนปรบมือค่า เลวพอกับน้องเลย ปากบอกว่าชอบทั้งสองแต่เชียร์ฟ้าใส  ไปเคลียทางให้น้องชั่วเรียบร้อย  เราอยากจะรู้จริงๆว่าสุดท้ายใครจะอยู่ข้างเต้บ้าง  เรารอตอนต่อไป อยากจะรู้จริงๆว่าเฮียจะเลือกใครระหว่างเต้กับผู้หญิงที่ทำให้น้องเจ็บช้ำน้ำใจ  ถ้าเลือกมีน  ผู้ชายเรื่องนี้ก็ไม่มีดีสักคน มีแต่ตัวเหี้ย   เรานี้ยิ้มเย็นค่ะ ถ้าเราเจอแบบนี้จริงๆ เรื่องมันไม่จบง่ายๆแค่นี้แน่ ถ้าจะเจ็บ มันต้องเจ็บไปด้วยกันทุกคน!!
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 08-06-2016 21:52:46
เหนื่อยใจ เต้ต้องคู่กับคนแบบนี้จริงเหรอ ปากบอกว่ารักแต่สุดท้ายก็ไปมีคนอื่น ส่วนคุณมีนปรบมือค่า เลวพอกับน้องเลย ปากบอกว่าชอบทั้งสองแต่เชียร์ฟ้าใส  ไปเคลียทางให้น้องชั่วเรียบร้อย  เราอยากจะรู้จริงๆว่าสุดท้ายใครจะอยู่ข้างเต้บ้าง  เรารอตอนต่อไป อยากจะรู้จริงๆว่าเฮียจะเลือกใครระหว่างเต้กับผู้หญิงที่ทำให้น้องเจ็บช้ำน้ำใจ  ถ้าเลือกมีน  ผู้ชายเรื่องนี้ก็ไม่มีดีสักคน มีแต่ตัวเหี้ย   เรานี้ยิ้มเย็นค่ะ ถ้าเราเจอแบบนี้จริงๆ เรื่องมันไม่จบง่ายๆแค่นี้แน่ ถ้าจะเจ็บ มันต้องเจ็บไปด้วยกันทุกคน!!

คิดเหมือนกันค่ะ เรื่องนี้ทั้งหญิงทั้งชายเลวพอกันเลย และถ้าจะต้องเจ็บคงต้องให้เจ็บมันทุกคน :fire:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kamontipsaii ที่ 08-06-2016 22:29:20
เห็นแก่ตัว "ผมรักทั้งสองคน" พูดมาได้ สุดท้ายเต้ก็เสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซันไม่เคยชัดเจน ไม่เคยแน่ใจ สับสนวุ่นวาย คนเก่ามาก็หวั่นไหว  :angry2:
ถ้าเคลียร์หัวใจไม่ได้ก็ไม่ต้องมายุ่งกะเต้ คนรักแบบนี้ใครเขาจะอยากได้
อย่าตามหาเต้เลย สงสาร   :hao5:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-06-2016 20:52:14
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 09-06-2016 21:32:25
พระเอกมันดูไม่สำนึกเนอะ  เค้าหนีหายมารอบนึงละ นี่ก็จะหนีอีกรอบละ ควรจะคิดได้นะ ว่านอมให้หายไปจากชีวิต หรือไม่ยอม
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-06-2016 21:09:10
เฮ้อ...มาเจอพระเอกแนวนี้อีกแล้ว

สำหรับเรานี่คือความเลวค่ะ   บอกว่ารักฟ้าใสแต่พออยุ่กับเต้นี่ไม่มีแม้แต่นึกถึงผู้หญิงคนนั้น  มันจะเป็นความรักได้ไง? Out of sight, out of mind?

แล้วลงไปคลุกวงในกับผู้หญิงได้เต็มๆ   จะบอกว่าเดี่ยวก็จะเป็นฝ่ายผละออกมาเอง   เราไม่ให้ราคาค่ะ   ไม่ได้อคตินะคะ    แต่ลองคิดหน่อยค่ะว่าความรักของผู้ชายที่ชื่อว่าซันคืออะไร แบบไหน?  ไร้ราคาไร้ความหนักแน่น

ตรงจุดนี้ทำให้เรานึกถึงเอกพระเอกของKiss Love เลยค่ะ   บอกว่ารักนายเอกมากๆแล้วอยุ่ๆแฟนเก่าโผล่มาปุ๊บก็ทิ้งนายเอกกลับไปเอาแฟนเก่าปั๊บ   ไม่ได้ว่าคนเขียนก็อปหรือไรนะคะ   คือให้ความรู้สึกคล้ายๆกันเท่านั้นเองที่อยุ่ๆโผล่ขึ้นมาเป็นประเด็นให้ทิ้งนายเอก  คุณพี่สาวก็พอเข้าใจอยู่หรอกที่ยังไงน้องชายแต่งงานมีครอบครัวกับผู้หญิงก็ย่อมเป็นอะไรที่โอเคกว่าอยู่แล้ว    อย่าทนอยู่เลยเต้   ไปหางานทำที่อื่นเถอะ   ความรู้ก็มี   ปล่อยให้วัชรมันโกงบริษัทต่อไปเถอะ   ต่อให้ซันไม่ได้ทิ้งเต้ก็เถอะแต่ใจซันเองก็เอนไปทางนั้นขนาดเกือบเอาเขาแล้ว   คนเราถ้ามันรักจริงๆมันก็ไม่มีการว่อกแว่กหรอก    หอบเอาเฮียไปด้วยกันเลย อากู๋คงดีใจที่หลานกลับมาอยู่ใกล้ๆอีก   ทิ้งมีนให้วัชรไปเลยค่ะ   ทั้งฟ้าใสทั้งวัชรเขามาก่อนนี่นา


ขอบคุณที่คอมเม้นนะคะ   :pig4: บอกเลยไม่ได้ก๊อบค่ะ แต่ก็อ่าน Kiss Love นะคะ และก็ชอบ อารมณ์ความรู้สึก ของนายเอกตอนที่เห็นเขาเข้าห้องไปด้วยกัน จนกลายมาเป็นเรื่องนี้แหล่ะคะ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกเหมือนกันก็ดีใจคะ เพราะอยากได้อารมณ์ประมาณนั้น  :katai4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-06-2016 21:10:14
ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องสนุกๆ อย่างนี้จะรอดหูรอดตามาได้เป็นปีๆ กว่าจะได้เข้ามาอ่าน
ขอติดตามต่อด้วยคนนะครับ


ขอบคุณค่ะ ยินดีต้อนรับคะ   :pig2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 15-06-2016 21:31:28
เหนื่อยใจ เต้ต้องคู่กับคนแบบนี้จริงเหรอ ปากบอกว่ารักแต่สุดท้ายก็ไปมีคนอื่น ส่วนคุณมีนปรบมือค่า เลวพอกับน้องเลย ปากบอกว่าชอบทั้งสองแต่เชียร์ฟ้าใส  ไปเคลียทางให้น้องชั่วเรียบร้อย  เราอยากจะรู้จริงๆว่าสุดท้ายใครจะอยู่ข้างเต้บ้าง  เรารอตอนต่อไป อยากจะรู้จริงๆว่าเฮียจะเลือกใครระหว่างเต้กับผู้หญิงที่ทำให้น้องเจ็บช้ำน้ำใจ  ถ้าเลือกมีน  ผู้ชายเรื่องนี้ก็ไม่มีดีสักคน มีแต่ตัวเหี้ย   เรานี้ยิ้มเย็นค่ะ ถ้าเราเจอแบบนี้จริงๆ เรื่องมันไม่จบง่ายๆแค่นี้แน่ ถ้าจะเจ็บ มันต้องเจ็บไปด้วยกันทุกคน!!

คิดเหมือนกันค่ะ เรื่องนี้ทั้งหญิงทั้งชายเลวพอกันเลย และถ้าจะต้องเจ็บคงต้องให้เจ็บมันทุกคน :fire:


โหย 2 เม้นนี้ สายโหดอ่ะ 55555 คนเรามันมีทั้งดีและเลวกันทั้งนั้น เอ็นดู ๆ กันนิดนึงนะคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 28 How to keep you two. (7/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 21-06-2016 22:02:20
 :hao4: มารอคนเขียนค่ะ    อยากรู้ว่าจะไปกันยังไงต่อ

ป.ลเหมือนที่บอก ไม่ได้ว่าก็อปค่ะ  แค่บรรยากาศความรู้สึกไปแนวนั้นเฉยๆ เพราะองก์ประกอปอย่างอื่นไม่เหมือนเลยแม้แต่น้อย  ได้ยินว่าแรงบันดาลใจมาจากทางนั้นก็โอเคคือเข้าใจเลยค่ะ   ความรู้สึกอยากซัดอิพระเอกมาแบบเต็มๆ   แต่เราชอบนายเอกของคุณมากกว่า  เพราะว่าแกร่งกว่า ดูพยายามแข็งใจทำใจ ตัดใจ มากกว่าทางนั้น   แต่ก็นะเพิ่งเจอมาไม่นานมานี้เองแผลก็ท่าจะยังไม่ตกสะเก็ดเท่าไหร่  มาเจอซันอิหรอบเดียวกันก็เจ็บแต่ก็ไม่น่าจะแปลกใจ 
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 29 Over and over….again(23/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 23-06-2016 23:27:46
เหมือนจะเห็น มาม่า   :z2:  อยู่ในตู้อีกหลายห่อนะ เฮ้ย ถ้าเอาไปยำมันก็แซ่บเน้อ   :hao3:


**********************************




ตอนที่ 29 Over and over….again.





อากาศตอนบ่ายที่ท่าเรือบางโรงร้อนจนเหมือนจะละลาย สองคนพี่น้อง ซื้อน้ำดื่มขวดมานั่งหลบร้อนกันข้าง ๆ ศาลา เฮียตงซื้อของเสร็จแล้ว เรามากันตั้งแต่เช้า ใช้รถที่ท่าเรือของทางรีสอร์ทไปซื้อของที่ตลาด ของเยอะมากถ้าเฮียมาคนเดียวก็ไม่ไหว ดีที่ผมมาด้วย

เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน ข่มตัวข่มใจไม่ให้ร้องไห้ ออกมาดัง ๆ พอเช้า ก็รีบลุกขึ้นมาก่อนที่คุณซันจะตื่น ค่อย ๆ หอบเสื้อผ้า เพื่อไปอาบน้ำที่รีสอร์ท แต่ก็ไม่วายตั้งนาฬิกาปลุกให้เขาด้วย กลัวเขาจะหลับเพลิน ถึงจะยังไงผมก็ยังอดเป็นห่วงเขาไม่ได้

มาถึงที่ทำงาน ตั้งแต่แม่บ้านยังไม่ตื่นเลยมั้ง แต่ถึงจะมานั่งทำงานก็ทำงานไม่รู้เรื่อง เนื้องานไม่ได้อยู่ในหัวเลย ใจมันคอยหวิวไหว ถึงไม่ได้ยินเรื่องราวจากปากเขา แต่ท่าทีที่เขาแสดงเมื่อคืน มันไขข้อข้องใจ ให้รับรู้ว่า ยังไง ๆ เขาก็คงไม่เลือกผม อย่าว่าแต่เขาเลย เป็นผม ผมก็เลือกทางโน้น ออกจะสวยใส น่ารัก นิสัยก็คงจะดี พี่มีนถึงแสดงความชื่นชมขนาดนั้น แถมฐานะ ชาติตระกูลก็เสมอกัน



ไอ้เราล่ะ....ใครเหรอ ถึงตายไปวันนี้ยังไม่มีคนรู้เลย แถมเป็นผู้ชายอีก ใครเขาจะอยากให้ตระกูลเขามาหยุดเพราะน้ำมือเรา








ก้มหน้าเหมือนจะทำงาน แต่ก็แค่เหม่อลอย ไร้จุดหมาย จนได้ยินเสียงประตูห้องทำงานเปิด ถึงเงยหน้าไปดู ก็เห็นคุณซัน หัวใจเจ้ากรรมก็ดันกระตุกไหว แค่เขาเดินเข้ามาเรียก ก็พองโตเหมือนจะระเบิด น้ำเสียงที่เรียกชื่อผมช่างอ่อนโยน จนเกือบจะเผลอยิ้ม


 

แต่แค่ประเดี๋ยว เพราะจากนั้น เสียงหวานใส แต่บาดใจผมก็ร้องทักขึ้นมา หัวใจที่พองโตก็เหมือน ถูกเสียงหวานใสนั้น ทิ่มจนห่อแฟ่บลงทันที คุณซัน หันไปทางต้นเสียงหวาน โดยไม่ได้สนใจผมอีก ต้องรีบก้มหน้าซ่อนความผิดหวัง ไม่อยากให้ใครมาเห็นมาสงสาร ก้มหน้าเหมือนจะทำงานต่อ และรอว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะเดินพ้นไปจากโสตประสาทของผมซักที อึดอัดในอกจนเหมือนจะระเบิด




คุณฟ้าใส วันนี้ก็ยังสวยไม่สร่าง รอยยิ้มกว้างที่บ่งบอกความจริงใจ กดดันผมไม่น้อย แถมคำชวนของเธอ ทำผมเกือบอ้วก ใครจะอยากไปเห็นเขาสวีทกัน ผมพยายาม ไม่สบตาคุณซันตอนที่ตอบเธอ ส่วนคุณซันจ้องผมเขม็ง ถึงไม่มองเขาผมก็รับรู้ได้ พอจะก้มหน้า สายตาเจ้ากรรมก็ดันไปเห็น เธอเกาะแขนเขาเหมือนแสดงความเป็นเจ้าของ เขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเธอแต่อย่างใด นั่นคงเป็นข้อสรุปให้ผมได้แล้วว่า เขาเป็นของกันและกัน เป็นคู่กัน ...และ....ผมเป็นส่วนเกิน





หลังจากพวกเขาออกเรือกันไป ผมยืนมองทั้งน้ำตา เรือลำนั้นที่ผมกับเขาเคยใช้เวลาร่วมกัน ผมคิดไว้ไม่ผิดจริงๆ มันสวยงาม หรูหราเหมือนภาพมายา และมันก็เป็นแค่ภาพฝันที่ผมคงจะต้องตื่นขึ้นมารับรู้ความจริงได้แล้ว ไม่ว่ากับเขาหรือ เพชร ผมก็แค่ธุลี.....


ผมคิดไว้แล้วว่าคงจะต้องย้ายออกมาจากบังกะโลหลังนั้น แต่ตอนนี้พี่มีน บอกยังไม่มีห้องพักพนักงานว่างเลย ผมเลยกลับไปเก็บของ ๆ ผมออกจากห้องนอนคุณซันแล้วไปเก็บไว้ในห้องของเฮียตงก่อน

 

หยิบของชิ้นสุดท้าย แล้วเดินออกจากห้อง ความคะนึงหาทำให้ผมหันกลับไปมองภายในห้องอีกครั้ง


ภาพความทรงจำต่าง ๆ ที่เราเคยอยู่ เคยใช้ร่วมกันในห้องๆ นี้ ค่อย ๆ เด่นชัด ขึ้นตามลำดับ ......แต่แล้วภาพที่เห็นตรงหน้ากลับเลือนราง เพราะน้ำตาที่เอ่อล้นในดวงตา ยกมือปาดน้ำตาลวก ๆ อยากร้อง ก็ร้องให้เต็มที่เลย จากนี้ผมจะไม่ร้องอีกแล้ว ถ้าโชคชะตาจะเล่นงานผมอย่างนี้ตลอด ผมจะต้องร้องไห้อีกกี่ครั้งกัน  ผมจะต้องเข้มแข็ง ความเจ็บปวดนี้มันจะผ่านไปได้เหมือนที่ผมเคยผ่านมา……… ผมรู้ ว่าผมทำได้








“โอเค ไหมเต้....”
“หือ...อะไรโอเคเฮีย”
“....ก็เรื่องไอ้หมอนั่นแหล่ะ.....”
“.......อ่า...ฮ่ะๆๆ จะโอ ไม่โอ แล้วผมจะทำอะไรได้เหรอครับเฮีย” จู่ ๆ เฮียมันก็ถามซะตรงจุด รู้สึกมีก้อนอะไรมาจุกที่อก

“แล้ว จะเอาไงต่อ.....”
“.....ไม่รู้ครับ...คิดไม่ออก.......... คิดไม่ทัน เร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทันเลย ที่คิดได้ก็คงต้อง ถอนตัวออกมา ตอนนี้ก็แค่ย้ายของมาอยู่กับเฮียก่อน รอจนห้องพักพนักงานว่างก็ย้ายไปอยู่....”

“ยังจะทำงานอยู่ที่นี่เหรอ” เฮียขมวดคิ้ว ทำหน้าเหมือนผมพูดภาษาต่างดาวก็ไม่ปาน
“อื้อ....คงงั้น...งานดี เงินดี เจ้านายใจดี....”
“มันก็จริง....แต่..ลื้อทนเห็นเขาสองคนได้เหรอ”
“.......”
“กลับบ้านเราไหม” มือใหญ่เอื้อมมาลูบหัวเบา ๆ

“...ฮ่ะๆๆๆ ถ้าต้องหนีทุกครั้ง ชีวิตผมก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี.....ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อย....รับมือได้อยู่...นะ”
“อือ.ๆ...ถ้าไม่ไหวก็บอกนะเว้ย”

“อื้อ ขอบคุณเฮีย” มือเฮียที่ลูบหัวให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ดีจนทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หลังจากที่ปวดหัวตึ๊บ ๆ มาทั้งวัน ทำเป็นเก่งปากก็พูดว่าไม่เป็นไร แต่หัวใจมันไม่ได้ชิน อย่างที่ปากว่าเลย มันก็ยังเจ็บอย่างไม่รู้จะพูดออกมาเป็นคำพูดคำใดได้ แต่ก็อย่างที่บอก ไม่ใช่ครั้งแรก นี่นา มันก็อกหักเหมือน ๆ กันนั่นแหล่ะ ครั้งที่แล้วยังรอดมาได้เลย วันนี้ก็ต้องรอดได้ซิ ซักวันมันก็จะต้องดีขึ้น
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 29 Over and over….again.(23/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-06-2016 01:36:23
อ่านตอนบรรยายที่ซันไปกับฟ้านี่ลำคอตีบตันค่ะเลย

แต่ชอบที่พยายามตัดใจ พยายามแข็งใจ สงสารจนอยากกอด

เฮียก็ได้โอกาสแล้วนะ ไม่ได้เป็นแฟนก็เป็นพี่ที่พึ่งพาได้เถอะ

แกร่งจริงๆที่พยายามทำงานต่อ

ซันคงเข้าหายากแล้วทีนี้ เฮียขวางอยู่ทั้งคน
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 29 Over and over….again.(23/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 24-06-2016 05:49:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 29 Over and over….again.(23/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 24-06-2016 08:09:24
เลือกสักอย่างนะ อย่าทำนิสัยส้นตีนอย่างนี้ ถ้าไม่เห็นค่าก็จบกันไป อย่ามายุ่งอย่ามาทำอะไรให้เต้ต้องพังอีก บางทีชีวิตนายเอกก็น่าสงสารแล้วก็น่าสมเพชนะ จะเรียกว่าหนีเสือปะจรเข้ก็คงได้ ซันคงติดใจแค่เซ็กซ์ของเต้นั่นแหละ แล้วชะนีนี่ก็เสนอหน้าทุกเรื่อง อยากรู้นะว่าเป็นไงต่อ แต่ไม่ไหวอ่ะ
ที่ไม่ไหวที่สุดคืออ่านตอนซันไปจูบชะนี คือโลกสวยไง รู้สึกขยะแขยงไอ้ซันทันที
เจ็บใจจ๊นนนนนไม่รู้จะทำยังไง อุตส่าห์คิดว่าจะดีแล้วแท้ๆ ยังมาทำให้หมดศรัทธาในตัวมันอีก
ชอบตอนเต้กราบกู๋มาก เราร้องไห้เลย การกตัญญูรู้คุณคนเป็นเรื่องที่ดีมาก สู้ๆนะเต้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 29 Over and over….again.(23/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kamontipsaii ที่ 24-06-2016 08:26:32
เต้ต้องเจ็บอีกนานเเค่ ต้องเสียเต้ไปก่อนไหมซันถึงจะรู้สึก 
นิสัยแบบนี้ไม่ต้องเหลือใครไหม?? ซันจะมาหาเต้ทำไมถ้าไม่รัก
เลือกสักที เต้จะได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้  :hao5:
อิพี่มีนก็เหมือนกัน ถ้าจะชอบฟ้าใสขนาดนั้นไม่เป็นแฟนกันเองละ  :m16:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 29 Over and over….again.(23/6/16)
เริ่มหัวข้อโดย: nabby ที่ 24-06-2016 10:34:06
มาต่ออีกเถอะค่าาาา ได้โปรดดดด
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 23-07-2016 21:10:43
เต้ "ขอบคุณที่รักและสงสารเต้นะครับ  :impress:
คนเขียน "ขอบคุณที่ติดตามนะคะ รับทุกคำติ คำชมคะ   :pig4: 
นี่เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ซันมันยังถูกรุมด่าขนาดนี้ ต่อจากนี้ไป
อะไรที่มันทำ ก็ช่วยออมมือกับมันหน่อยนะคะ  :hao5: "

********************************************************




ตอนที่ 30 I’m a selfish.


หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมก็เข้าไปช่วยพี่มีนทำงาน พี่เขาดูจะยังตึง ๆ กับผมอยู่ เราเลยต่างคนต่างทำงาน แต่เชื่อเถอะ ผมไม่มีสมาธิกับงานหรอก คอยแต่จะมองออกไปด้านนอกห้องทำงานเพื่อรอให้เต้กลับมาจากซื้อของ

ซักพักใหญ่ ๆ ก็ได้ยินเสียงพวกในครัวล้งเล้ง เลยรู้ว่าเฮียกับเต้ คงจะกลับมาแล้ว ผมแทบจะลุกขึ้นวิ่งออกไปดู ติดแต่สายตาพี่มีนที่ตวัดขึ้นมามองเมื่อผมยืนขึ้น จึงทำเป็นเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำมาดื่ม แต่ตาก็ยังมองออกไปนอกห้องทำงานตลอดเวลา

และแค่ไม่นาน เต้ก็เดินกลับเข้ามาในห้องบัญชี เขาไม่ได้มองมาทางห้องทำงานพี่มีนเลย มาถึงก็ลงไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง และก้มหน้าก้มตาทำงาน แล้วพี่วัชรก็ยื่นเอกสารให้คงต้องการให้เอามาให้พี่มีน เต้รับมาก่อนจะลุกและเดินมาทางห้องทำงานของพี่มีน ผมยืนอยู่ใกล้ๆ ประตู ถ้าเขาเปิดเข้ามาก็ต้องเห็นผมแน่นอน แต่จนแล้วจนรอด เต้ก้มหน้าก้มตาเปิดประตู และเดินเลยผ่านผมไปยื่นเอกสารให้พี่มีน

ยิ่งเห็นก็ยิ่งหงุดหงิด จะเล่นอะไรกัน จะทำเหมือนผมไม่มีตัวตนเหรอ

“เอ่อ เรื่องห้องที่ขอไว้ อาทิตย์หน้าก็ย้ายเข้าไปอยู่ได้แล้วนะ”
“ขอบคุณครับ พี่มีน”

“อะไร คุยอะไรกันน่ะ ใครจะย้ายไปไหน” ผมที่ยืนฟังอยู่นานได้ยินเรื่องย้ายห้องก็รู้แล้วว่าหมายถึงอะไร แต่ก็อยากจะได้ยินจากปากพวกเขา

“เสียมารยาท ซัน พี่คุยกันอยู่ ไม่เกี่ยวกับเธอ” พี่มีน ตะหวาดผมทันที แต่เต้ยังคงยืนหันหลังให้ผม
“จะไม่เกี่ยวได้ไงก็ผม...”

“ผมอะไร อย่ามาวุ่นวายนะซัน ออกไปก่อนเลย งานนายวันนี้ไม่มีอะไรแล้วนี่”
“ฮึ่ม” ตลอดเวลาที่ผมเข้าร่วมคุย เต้ไม่ได้หันมามองผมเลย แถมพี่สาวผมยังทำผมเสียหน้า ดุผมเหมือนเด็ก ๆ ให้ยิ่งเจ็บใจ แต่ก็ต่อหน้าพี่มีนผมคงทำอะไรมากไม่ได้ หัวเสียเลยเดินออกจากห้องทำงานพี่มีน ผมเดินออกไปนอกสำนักงาน รู้สึกโกรธจนไม่รู้จะไปทางไหนเลยเดินไปนั่งม้านั่งข้าง ๆ สำนักงาน

อ้อที่ขนของออกนี่จะย้ายไปห้องพักพนักงานเหรอ นี่มันอะไรกันเรายังไม่ได้คุยกันซักคำ เต้ทำไมตัดสินใจแยกกับผมง่าย ๆ อย่างนี้นะเหรอ ตกลงนี่ผมรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวใช่ไหม เต้เคยรักผมบ้างหรือเปล่า หรือไอ้คำรักคำหวาน ๆ มันก็แค่เรื่องหลอกลวงให้ผมหลง ไอ้ท่าทางไร้เดียงสาทั้ง ๆ ที่ก็ผ่านผู้ชายมาแล้วมันก็แค่ การแสดงละซิ แสดงเก่งเกินไปแล้ว ฮึ

กำลังปรี๊ดๆ อยู่ก็มีเงาร่างคนเดินผ่านไป ผมเงยหน้าขึ้นดู เห็นแค่หลังก็จำได้ คนหลอกลวง

เห็นเดินลิ่วไปทางห้องน้ำหลังรีสอร์ท ผมเลยเดินตามไป ยังไงก็ยังอยากจะคุยกับเต้ดูซักที บางทีผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปก็ได้

พอเดินไปถึงเต้ก็หายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ผมเห็นมีแค่ประตูบานเดียวที่ปิดเลยยืนรอหน้าห้องน้ำ เต้ชอบมาเข้าห้องน้ำที่นี่ เขาเคยบอกผมว่าชอบมาเข้าที่นี่ เพราะไม่ค่อยมีคน เงียบ สบายใจดี

ทันทีที่ประตูเปิดออกเต้เงยหน้าขึ้นมาสบตาผมก่อนที่จะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ผมรีบเดินสวนดันให้เต้กลับเข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อกกลอนประตูห้องน้ำ
“...ทะ..ทำอะไรน่ะคุณซัน”
“ทำอะไร..ก็คุยกันไง เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ” เรายืนประจันหน้ากัน เต้มองผมแว่บเดียวแล้วก็ก้มหน้าพูดกับผม

“คุยอะไร...”
“ก็เรื่องของเรา.......” ผมพยายามคุมอารมณ์ และใช้น้ำเสียงเป็นปกติกับเขา

“เรื่อง?”
“อะไร ....ทำไม.....” แต่สิ่งที่ได้รับก็ยังคงเป็นการพูดที่ไม่สบตา แล้วพยายามจะผ่านผมออก ผมต้องจับแขนเขาไว้ทั้งสองข้าง แล้วก้มลงมองสบตาเขา ถึงเห็นว่าเขาหลับตาอยู่

“มันไม่มีเรื่องระหว่างเราแล้ว.......”
“...........”

“ไม่จำเป็นต้องคุยหรอกครับ มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร”
“แล้วอะไร มันคืออะไรล่ะ ห๊ะ” ผมที่กำลังจะหมดความอดทน เขย่าตัวเขาจนหัวโยกหัวคลอน เต้ไม่ได้ขัดขืนอะไรแล้ว แต่กำลังเงยหน้าขึ้นมามองผม นัยน์ตาดวงนั้นแดงกล่ำ จ้องมองผมเหมือนคนไม่รู้จักมันทำให้ผมชะงักไป


“ผมขอถามคุณซักคำ”
“....”

“คุณ...คุณรัก...คุณฟ้าใส ไหม..”
“......”

“รักไหม?” เต้ถามคำถามเดิม ด้วยสายตาที่คาดคั้น
“...ถามอะไร...”

“ตอบผมมาตามความจริงเถอะครับคุณซัน ถ้าคุณอยากจะคุยกับผมจริง ๆ”    
“....ฮื่อออ..มันก็ ก็ใช่นะ ..ฟ้าใส...เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจฉันมาตลอด.......แต่.....”

สิ้นคำผม นัยน์ตาของเต้เหมือนจะว่างเปล่าไปแว่บหนึ่ง แล้วก็กลับมามีผมในสายตาอีกครั้งหนึ่ง

“งั้นก็ตามนั้นล่ะครับ”
“อะไร ......เต้ ผมไม่เข้าใจ...”

“ยังไง เรื่องของเรา ก็คงไม่ได้ไปไกลกว่านี้แล้ว เราจบกันดี ๆ เถอะนะครับคุณซัน อย่าให้ใครต้องเจ็บปวดและมีปัญหาไปมากกว่านี้เลย นะครับ”
“อะไรกัน ไม่นะเต้ เราจะจบกันง่าย ๆ ได้ยังไง ผมไม่ยอมหรอกนะ”


“แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง คุณกำลังจะแต่งงานกับคุณฟ้าใสนะ”
“มันก็ใช่ แต่เรา..เรารักกันนะ มาคุยหาทางออกกันก่อนซิ..”

“ผมว่าต่างคนต่างไปเถอะครับ ผมเองก็คงจะไปตามทางของผม หาคนที่ผมจะรักต่อไป”
“ไม่ได้เต้ นายเป็นของฉันนะ ฉันจะไม่ปล่อยนายไปหาคนอื่นแน่” แค่คิดว่า จะมีชายคนไหนได้แตะต้องเรือนร่างที่แสนหวานนั่นต่อจากผม ก็ทำให้ผมแทบทนไม่ได้


“ผมไม่ใช่ของ ๆ คุณ...คุณฟ้าใสต่างหากที่เป็นของคุณ” เต้ ตะโกนใส่ พร้อมทั้งสะบัดตัวออกจากการจับของผม

“เต้....ได้โปรดเถอะ เราค่อย ๆ คุยกันนะ นะครับ” ผมยังพยายามควบคุมสถานการณ์

“เฮ้อ...คุณซัน...ยังจำเรื่องของเพชรได้ไหม”
“ฮึ่มไอ้นั่นมันมาเกี่ยวอะไรด้วย” เต้ทำท่าเสียไม่ได้ยังพอรับได้ แต่ดันพูดชื่อไอ้เพชร ขึ้นมานี่ชักจะรับไม่ได้แล้วนะ

“ผมก็แค่จะยกตัวอย่าง คุณก็เหมือนกับเขา กำลังจะหมั้นกับผู้หญิง.....ผมไม่ยุ่งกับคนที่มีเจ้าของเด็ดขาด”
“ไม่เอาหน่าเต้ ก็มันไม่เหมือนกันนี่นา เรารักกันไม่ใช่เหรอ”

“...เคย..รัก...”
“เต้!!!” คำสิ้นเยื่อใย ทำผมแทบระเบิด

“เราจบกันดี ๆ เถอะครับ ผมขอตัวไปทำงานเถอะนะครับ อื้อออออ” ผมโกรธ ๆ จนแทบฆ่าใครซักคนได้เลย ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เต้เอาแต่บอกจะเลิกอย่างเดียว ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย จึงปิดปากที่บอกแต่จะเลิกกับผมป่าว ๆ นั่น ด้วยจูบอย่างเผ็ดร้อน

เต้ตกตะลึงชั่วครู่ ก่อนที่มือไม้จะเริ่มทุบตีต่อยผม ผมเลยรวบมือสองข้างเขาไว้ ด้วยมือทั้งสองข้างของผม แล้วดันเขาไปติดกำแพงด้านหนึ่ง ปากก็ยังคงจูบอย่างจาบจ้วงทั้งกัดทั้งดูดดุน จนได้รสเลือดติดริมฝีปาก

“หยุดนะ คุณซัน ไม่ ปล่อยผม นะ”
“อื้อ คุณ..คุณซัน....”
ยิ่งเขาดิ้นรนขัดขืน มันก็ยิ่งเร่งเร้าให้อารมณ์ผมยิ่งพลุ่งพล่าน ผมหมุนตัวเขาหันเข้าฝาผนัง เอาตัวดันเขาไว้ มือข้างหนึ่งก็สาละวนปลดกางเกงเลของเขาออก แค่กระตุกก็หลุดแล้ว กางเกงเลลงไปกองที่พื้น ผมก็ดึงกางเกงบ๊อกเซอร์ของเขาให้ตามลงไปอยู่กับกางเกงเลที่พื้น เขายังดิ้น และพยายามจะขัดขืน

“อ่า....อื่มม....อ่า......”
ผมเบียดตัวดันเขาแน่นขึ้น และลูบคลำกลางกายของเขาอย่างเมามัน จนเขาเองก็คงจะทนไม่ไหว  เสียงครางแผ่ว ๆ ไม่เต็มปากเล็ดลอดออกมาให้ผมยิ่งย่ามใจ ผมรุกเขาหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเขากระตุกปลดปล่อยออกมา พร้อมกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้น

ผมปล่อยเขาจึงเซเข่าอ่อน ลงไปนั่งที่โถชักโครก ทั้งๆ ที่ใบหน้าแดงกล่ำไปด้วยแรงอารมณ์เขาก็ยังจ้องมองผมเขม็ง ด้วยสายตาต่อว่า แต่ผมตอนนี้มันไร้สติเกินกว่าจะคิดอะไรได้แล้ว มีก็แต่ความกำหนัดที่ยังอัดอั้น ผมปลดกางเกงของตัวเองออก เต้เบือนหน้าหนี เพราะหน้าของเขาอยู่ระดับเดียวกับของ ๆ ผม

“เหว๊อออ ไม่ ไม่นะคุณซัน...”
ผมยกตัวเต้ขึ้นให้เขาหันหน้าเข้าหาโถน้ำชักโครก เขาก็เหมือนจะรู้ว่าผมต้องการอะไร เขายังพยายามขัดขืน ด้วยแรงอันน้อยนิด แต่ก็ไม่ทานแรงผม ผมซ้อนด้านหลังเต้ และยึดมือเขาไว้กับโถน้ำ ทั้งสองด้าน พร้อมทั้งกัดเต็มแรงไปที่ลำคอขาว ที่ทำให้ผมหลงใหลตั้งแต่แรก อย่างหมั่นเขี้ยว เต้ร้องออกมา และพยายามขืนตัวหนี ผมไม่รอช้าแทรกกายเข้าไปอย่างไม่มีการเตรียมพร้อมจนเต้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด มันไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่อยาก เพราะแรงฝืนของผม เต้ขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง แต่ซักพักก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรอีก พอเข้าไปได้สุดผมก็เริ่มกระหน่ำไม่ยั้ง ร่างกายของเต้ก็เหมือนจะต่อต้านเพราะมันทั้งบีบทั้งรัดมากกว่าปกติ จนผมแทบคลั่ง ระหว่างนั้นก็เลิกเสื้อของเขาขึ้น และผละมือจากการจับมือเขา มาเป็นบดขยี้ยอดอก และ ลูบคลำด้านหน้าของเขา ร่างกายเขาสั่นสะท้าน ยิ่งทำให้ผม พอใจ และรุกเร้าเขาอย่าง ไม่บันยะบันยัง ผมไม่ได้เห็นว่าเต้มีสีหน้าอย่างไร ระหว่างที่ทำกันผมก็มองเพียงลำคอและแผ่นหลังที่ผมแสนจะรักใคร่ ผมไม่ยอมเลิกกับเขาหรอก ผมรู้ ผมเห็นแก่ตัว แต่จะให้ผมทำยังไง ผมตัดใจจากเขาไม่ได้







หลังจากเสร็จกิจแล้ว สภาพของเต้ที่เปลือยเปล่า นั่งอยู่ที่โถอย่างไร้สิ้นเรี่ยวแรง เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบรักของเราทั้งคู่ ช่างดูเย้ายวนจนเกือบจะอดใจไม่ไหว แต่เพราะมีหน้าที่ต้องไปจัดการจึงจำต้องหยุดความคิดที่จะสานต่อแต่เพียงเท่านี้ ผมเอาเสื้อของเต้นั่นแหล่ะเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขา แต่เขากลับปัดมือผมออก

“ไม่ต้อง..มายุ่งกับผมอีก พอใจคุณแล้ว...ก็เลิกรากันดี ๆ เถอะ...”
“....” เก่งจริง ๆ ช่างเก่งในการยั่วโมโหผมจริง ๆ เมื่อกี้ยังเริงรักกันอยู่เลย พอเสร็จสมก็พูดแต่จะเลิกกัน ๆ เส้นเลือดแทบปรี๊ด

“มึงนี่มันพูดไม่รู้เรื่อง กูบอกแล้วว่ายังไงมึงก็เป็นของกู อย่าหวังเลยว่ากูจะยอมปล่อยมึงไปเริงร่ากับผู้ชายคนอื่น...... หึ ปากเก่งอย่างนี้ มึงก็รออยู่นี่ จนเลิกงานเถอะ ” ผมจิกผมที่ท้ายทอยให้เต้เงยหน้ามาสบตากัน แค่คิดว่า เขาจะไปมีผู้ชายคนอื่น ก็ยิ่งหงุดหงิดใจ เต้สะบัดหน้าหนี หลุดจากมือผมได้ก็หันมาต่อว่า
“คุณมันบ้าไปแล้ว เฮ้ย คุณจะทำอะไรอ่ะ เอาเสื้อผ้าผมคืนมานะ”
“ไม่ กูไม่ให้มึงไปร่านที่ไหนหรอก รอกูอยู่นี่แหล่ะ เลิกงานกูจะกลับมารับ” ผมเบียงตัวออกมาจากห้องน้ำพร้อมทั้งเสื้อผ้าของเต้ ด้วยอารมณ์หน่วงๆ ยังได้ยินเสียงเต้ด่าผมเป็นครั้งแรกแว่วออกมาจากในห้องน้ำด้วย
“ไอ้บ้า ไอ้คุณซัน ไอ้คนผีทะเล ไอ้ๆๆๆๆ ” อื้อ...ฟังระรื่นหูมากที่รัก รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิดนึงเลยล่ะ
 









“ซันค่ะ ไปไหนมา พวกคุณพ่อรอนานแล้วนะ”
“อ้อ พอดีมีงานเข้านิดหน่อย เรารีบไปกันเถอะ”

“ฮ่ะๆๆ มาสายแล้วยังมาเร่งกันอีก ไปๆ”

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kamontipsaii ที่ 23-07-2016 21:33:23
ซันยังไม่รู้สึกใช่ไหม???
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-07-2016 02:37:31
เลวค่ะ    เลวแบบอันลิมิเต็ดค่ะ
กับชะนีก็จะแต่ง   กับเต้ก็จะเอาไว้
ดูที่มันทำสิ?
ไม่มีคนดีๆที่ไหนเขาทำกันหรอก
ไม่น่าเลย  สันดารไม่เปลี่ยนจริงๆ
เอาแต่ได้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 24-07-2016 03:20:19
คำจำกัดความของซัน คือ เลว เลวโดยสมบูรณ์ สนับสนุนให้เต้เจอผู้ๆดีสักคนแล้วรักกันให้นังซันกระอักเลือดตายไปเบยคะ :m31: สงสารเต้ทำไมต้องมาเจอเรื่องซ้ำๆกันในเวลาใกล้กัน  :hao5:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 24-07-2016 06:58:43
สนุกดีค่ะ  รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-07-2016 18:09:01
เลวค่ะ    เลวแบบอันลิมิเต็ดค่ะ
กับชะนีก็จะแต่ง   กับเต้ก็จะเอาไว้
ดูที่มันทำสิ?
ไม่มีคนดีๆที่ไหนเขาทำกันหรอก
ไม่น่าเลย  สันดารไม่เปลี่ยนจริงๆ
เอาแต่ได้

ใช่เลวจริง ๆ เอ๊ย ไม่ใช่ โธ่ๆๆๆ คนเรามันก็ต้องมีมั่งม่ะ เรื่องที่เลือกไม่ได้อ่ะ นะ ๆๆ เห็นใจซันหน่อยโน๊ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 27-07-2016 19:45:53
สงสัยต้องหนีอีกรอบ..... เจอแต่พวกไม่มีน้ำยานะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 27-07-2016 22:59:01
เพิ่งเข้ามาอ่านติดหนึบเลย อยากให้มีการรวมเล่มและตีพิมพ์อะ อยากได้เก็บไว้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-07-2016 20:03:51
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 28-07-2016 21:50:37
เพิ่งเข้ามาอ่านติดหนึบเลย อยากให้มีการรวมเล่มและตีพิมพ์อะ อยากได้เก็บไว้ :katai2-1:


ขอบคุณนะคะ   :mew1:  แค่เข้ามาอ่านมาเม้น ก็เป็นกำลังใจมาก ๆ แล้ว เรื่องรวมเล่ม นี่ต้องดูว่ามีผู้สนใจเพียงพอหรือเปล่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 30 I’m a selfish.(23/7/16)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-08-2016 00:08:36
เรื่องนี้..พระเอกเหี้ย
เห็นแก่ตัวชิ๊บหาย
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 31 เลือก??? (17/9/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 17-09-2016 17:13:11
เสียงตอบรับ พ่อซัน ของฉันนี่ ท่วมท้นจริงๆๆๆๆ  :hao5:  จบตอนนี้ รับรองเลยว่า ด่ากันทั้งเมือง อาเมน
ทิ้งช่วงไปนาน เพราะติดผู้จีน 5555 อย่าว่ากันนะคะ หวังว่ายังจะตามกันต่อไปนะคะ ขอบคุณคะ   :กอด1:


***********************************************************





ตอนที่ 31 เลือก???


“ไอ้บ้า ไอ้คุณซัน ไอ้คนผีทะเล ไอ้ๆๆๆๆ....”
ผมนี่อยากจะตะโกนด่าให้ลั่นเลย แต่ก็ทำไม่ได้ สภาพผมตอนนี้ถ้าใครมาเห็นคงเป็นเรื่องใหญ่ นั่งกุมขมับด้วยมือทั้งสองข้างอย่างหมดแรง

แค่จะออกมาเข้าห้องน้ำ ไม่นึกว่าจะต้องมาเจอกับเขา เหมือนหมาบ้าจริง ๆ คุยไม่รู้เรื่องก็กัดเอา ๆ  ตอนแรกก็ตกใจอยู่หรอก พยายามขัดขืนก็แล้ว แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ เลยปล่อยเลยตามเลย เพราะยิ่งขัดขืนเขาก็ยิ่งรุนแรงจนเจ็บไปหมดทั้งตัว แล้วพอโดนเล้าโลมมากเข้า ผมที่ยังไงก็รักเขาก็ใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธเขาได้หรอกครับ ยิ่งเขาเข้ามาในร่างผม ผมก็ยิ่งโหยหาเขามากขึ้น แต่พอคิดได้ว่าเขากำลังจะมีเจ้าของเป็นผู้หญิงที่ดูสวยน่ารักคนนั้นแล้ว ใจผมมันก็ปวดร้าว น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ดีที่ผมหันหลังให้ ผมไม่อยากให้เขามารับรู้ว่าผมคิดอย่างไร ผมคิดว่าเสร็จกิจกันแล้วผมคงจะต้องตัดใจจากเขาให้ได้ นึกซะว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะร่วมรักในฐานะคนรักกัน หลังจากนี้ผมคงต้องพยายามตัดใจให้ได้


แล้วดูซิไอ้บ้านั่น นอกจากจะไม่สำนึกแล้วว่าทำอะไรไว้กับผมบ้าง ยังเอาเสื้อผ้าผมไปหมดเลย มาบอกให้ผมรอจนเลิกงาน บ้าไปแล้ว อีกตั้ง3 ชั่วโมง ใครจะบ้ารอ ดีนะว่านี่เป็นห้องน้ำหลังรีสอร์ท ไม่ค่อยมีคนมาใช้ ผมว่าถ้าผมวิ่งหลบ ๆ ไปก็คงจะวิ่งกลับไปที่บังกะโลได้ ยังไงผมก็เป็นผู้ชาย พลาดไปก็ไม่เสียไม่หายอะไร

กว่าจะลุกขึ้นมายืนได้ก็หลายนาทีอยู่ ไอ้บ้านั่น เล่นโหมซะ เข่าอ่อนไปหมด ยืนพิงผนังห้องน้ำไป ใจก็ลอยไปอย่างไร้ที่หมาย แต่สิ่งเดียวที่ผมนึกถึงตอนนี้.............









ผมคิดถึงแม่









โชคดีมีผ้าขนหนูแขวนอยู่ผืนหนึ่ง ผมจึงพันช่วงล่างแล้วมองซ้ายมองขวา ปลอดคน ก็พาสภาพร่างที่ไม่ค่อยจะอำนวย วิ่งกระย่องกระแหย่งกลับไปที่บังกะโล

พอถึงแล้วก็โทรบอกพี่มีนว่าผมไม่ค่อยสบายขอลางานช่วงบ่าย พี่เขาก็ไม่ว่าอะไร ผมเดินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายในห้องของเฮียตง เสร็จแล้วก็ออกมานั่งเล่นหน้าระเบียง





เพิ่งจะบ่าย 3 เอง แสงแดดสะท้อนผิวน้ำทะเล ยิ่งมองยิ่งแสบตา น้ำตาที่ไหลลงมา คงแสบตาเพราะแสงแดดแน่ๆ เลย ยิ่งมองทะเล ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ใจของผมก็ยิ่งลอยไปไกล รอบๆ กายเงียบสงัด มีเพียงเสียงคลื่นลมบาง ๆ




เวลาที่ผมทุกข์ใจ ภาพของแม่ก็มักจะปรากฏในห้วงความคะนึง
“แม่ครับ คลอดผมออกมาแล้ว ทำไมไม่อยู่กับผม

ทำไมปล่อยผมให้ต้องเผชิญชะตากรรมคนเดียว...

ทำไมผมไม่ตายไปพร้อมกับแม่ตั้งแต่ตอนนั้น 


ทำไมคนที่ผมรัก.....ถึงไม่เคยเป็นของผม...




ผมทำอะไรผิดเหรอ..ผมผิดเหรอที่ชอบผู้ชายด้วยกัน ผมควรทำอย่างไงดีแม่บอกผมที....”







น้ำตาไหลรินไม่หยุดโดยไม่รู้ตัว ผมได้แต่พึมพำกับตัวเอง ไว้อาลัยให้กับโชคชะตา ภาพแม่ที่ยิ้มเศร้า ๆ ที่รู้จักแค่ภาพถ่าย ชโลมจิตใจผมมาตลอด ผมรู้ว่าตอนคลอดแม่คงทรมานมาก แต่ก็พยายามรักษาชีวิตของผมไว้จนตัวเองต้องเสียชีวิต ผมรู้สึกขอบคุณ แม่มากมาตลอด แต่ถ้าแม่รู้ว่าลูกที่แม่รักษาไว้ด้วยชีวิต จะมามีชีวิตที่น่าสมเพช ขนาดนี้ แม่จะยังอยากรักษาผมไว้ไหม หรือถ้าแม่รู้อนาคต แม่คงจะพาผมไปพร้อม ๆ กับท่าน เพื่อไม่ให้ผมในวันนี้ต้องมานั่งเจ็บช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช่ไหมครับแม่

นั่งมองทะเลโดยไร้จุดหมาย ทั้งน้ำตา ไม่รู้นานแค่ไหน รู้แต่ว่าสุดท้ายก็หมดเรี่ยวแรงและหลับไป กระทั่งยามหลับก็ยังรู้สึกได้ถึงความทรมาน แต่ซักพักก็รู้สึกเหมือนตัวลอยอยู่บนก้อนเมฆ อยากจะลืมตาขึ้นมาแต่หนังตาก็หนักจนไม่สามารถจะลืมตาขึ้นมาได้ จากนั้นหลังก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มสบายของที่นอน ผ้าห่มหนาห่มลงมาที่ร่าง และสัมผัสอบอุ่นที่หน้าผาก.... ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับไป

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 31 เลือก??? (17/9/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 17-09-2016 17:27:35
จากที่คิดว่าจะแป๊บเดียว ไม่กี่ชั่วโมงก็คงจะเสร็จ แต่กลับกลายเป็นว่าธุระที่ต้องขึ้นไปทำที่ภูเก็ต คือการไปดูสถานที่จัดงานแต่ง และดูของชำร่วย พ่อไม่ได้บอกล่วงหน้า ผมที่คิดว่าคงจะไปประชุม หรือมีสัมมนาอะไรซักอย่าง

ตลอดเวลาผมเฝ้าแต่มองนาฬิกา เป็นห่วงเต้มาก เขาจะยังอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่าก็ไม่รู้ กว่าจะเสร็จ แล้วกลับมาที่เกาะ ก็ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว พอส่งคุณลุงอันดา และฟ้าใสที่ห้องพัก ผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำหลังรีสอร์ท รู้สึกผิดอย่างมากที่ทำกับเต้อย่างเมื่อตอนบ่าย แต่ทำไงได้ล่ะ เขายั่วโมโหผมก่อนนี่นา

แสงไฟน้อยนิดในห้องน้ำ แต่ก็พอจะบอกให้ผมรู้ได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่ในนั้นแล้ว ผมคิดว่าเขาคงจะกลับไปที่บังกะโลแล้ว ก็จะวิ่งไปหา แต่ก็เหลือบไปเห็นเฮียตงเดินมาจากทางสำนักงาน คงจะกลับจากไปหาพี่มีน  ผมรีบวิ่งไปหาเขาทันที
“เฮียตง ๆ....โอ้ยยย”
แต่ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรอีก พอเข้าใกล้ เฮียตงก็ชกผมหน้าคว่ำ
“ใครเป็น เฮียมึง ไอ้สัด มึงทำอย่างนี้กับน้องกูได้ยังไง”
“เฮีย....เอ่อ เต้ ๆ อยู่ที่ไหน” ถ้าเป็นปกติ ผมคงโมโหตอบโต้ไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมเป็นห่วงเต้มาก
“มึงมันไอ้คนเห็นแก่ตัว  อย่ามายุ่งกับเต้อีก จะไปแต่งงานห่าเหวอะไรก็ไป แต่อย่ามายุ่งกับน้องกูอีก”

ไอ้เฮียมันชี้หน้า ด่าผมเสร็จมันก็เดินไป แต่ผมไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นได้ก็วิ่งไปขวางหน้ามัน
“เฮียห้ามผมไม่ได้หรอก เพราะเรารักกัน ผมรักเต้..”


“ซัน”
“อ่ะ...ฟ้าใส...” ผมตกใจมากที่จู่ ๆ ก็มีเสียงหวานใสเรียกชื่อ หันไปมองจึงเห็นว่าเป็นฟ้าใส เธอมีสีหน้าตื่นตกใจมาก หรือว่าเธอจะได้ยินที่ผมพูดไปเมื่อกี้

“ฟ้าใส ๆ เดี๋ยวก่อน” เธอไม่พูดอะไรหันหลังแล้วเดินอย่างเร็วกลับไปทางห้องพัก
“ฮึ ไปซิ ว่าที่เจ้าสาวมึงเขาคงช็อคน่าดู จู่ ๆ ว่าที่เจ้าบ่าว ดันมีแฟนเป็นผู้ชาย แก้ปัญหาเองเถอะมึง” ไอ้เฮียแม่งก็กวนตีน พูดจบมันก็เดินไปทางบังกะโล ผมคิดว่าเต้คงจะกลับไปที่บังกะโลแล้วละครับ ตอนนี้ไปจัดการฝั่งฟ้าใสก่อนดีกว่า เดี๋ยวเรื่องถึงลุงอันดาแล้วจะยุ่งไปกันใหญ่




ผมวิ่งตามฟ้าใสมาจนถึงห้องพักของเธอ เธอหันมามองแล้วรีบ ๆ ไขประตูห้องพัก พอเปิดได้ก็จะปิดประตู แต่ไม่ไวพอ ผมถึงแทรกตัวเข้าไปข้างในได้

“ฟ้าครับ ฟังผมก่อน”
“ซัน มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ ฟ้าได้ยินเต็มสองหู” ฟ้าใส ยืนประจันหน้ากับผม ใบหน้าของเธออาบไปด้วยน้ำตา
“มันก็ใช่ แต่ผมรักคุณนะฟ้าใส” ผมพยายามจับมือเธอ แต่เธอก็พยายามจะดึงมือออก

“แต่เมื่อกี้ฟ้าได้ยิน คุณบอกว่ารัก...เต้..” เธอออกแรงสะบัดเต็มที่จนหลุดจากการกอบกุม พร้อมทั้งหันหน้าหนีไปอีกทาง

“ ฟ้าฟังผมนะครับ...คือ..ผมเจอเขาช่วงที่คุณไปเรียนต่างประเทศนะครับ เขาเป็นคนดี และก็น่าสงสารด้วย ผม...ผมชอบเขาก็จริง แต่ผมรักคุณนะ ผมอยากอยู่กับคุณ คุณเข้าใจผมใช่ไหม” สิ่งที่พูดออกมา ก็เพื่อหาทางรอด มันไม่ได้ตรงกับที่ใจผมคิดซะทีเดียว แต่ ณ จุดนี้ คงต้องจัดการให้เธอสงบก่อน

“ซันค่ะ ฟ้ามีเพื่อนผู้ชาย ที่คบกันเอง ก็หลายคู่ ฟ้ารับได้ค่ะ แต่ซันจะรักฟ้าไปพร้อมกับเขาไม่ได้หรอกนะคะ” ตอนนี้เป็นเธอที่หันมา และมาจับมือผมไว้ ดวงตากลมสวย ฉ่ำไปด้วยน้ำตา แต่แววตาก็ยังเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นไม่เคยเปลี่ยน เป็นสายตาที่สยบผมมาได้ตั้งแต่เด็กแล้ว

“ฟ้าครับ ผม...”
“ฟ้าไม่สนใจหรอกนะว่าซันจะเคยมีใครมาก่อน แต่ฟ้าไม่ยอมใช้ของร่วมกับคนอื่นแน่ ซันบอกมาเลยดีกว่า ว่าจะเอายังไง”

ผมตอบฟ้าใสในทันทีไม่ได้ ผมยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง
“ ฟ้ารักซันนะ ฟ้ารอซันมาตลอด ทุกอย่างของฟ้าก็อยากยกให้ซันคนเดียว ตั้งใจว่าเรียนจบแล้วก็จะรีบกลับมาหาซัน ...แต่ฟ้าก็เข้าใจนะคะ ว่าผู้ชาย หน้าตาดี และรวยด้วย ก็คงไม่พ้นมีคนเข้ามาหาเยอะไปหมด แต่ถ้าซัน รักฟ้าใสจริง ๆ ฟ้าก็พร้อมจะยอมรับในตัวซัน และอยากเดินเคียงข้างซันต่อไปในอนาคตนะคะ”

เสียงหวาน ๆ และคำพูดที่กลั่นมาจากใจของเธอ ค่อย ๆ ใกล้เข้ามาพร้อมทั้งเรือนร่างโปร่งที่เข้ามาประชิด เธอเอามือคล้องคอ และมองจ้องตาผม ยิ่งทำให้ผมที่ยังสับสนไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์อย่างนี้ ได้ฟังก็ประทับใจในตัวฟ้าใสไม่น้อย ใช่เธอเองก็รักผมมาก และยังไง ๆ ผมก็จะต้องแต่งงานกับเธอ ฟ้าใส เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจของผมมาตลอด ยิ่งการกลับมาครั้งนี้ เธอดูสวยสดใส มีเสน่ห์น่ารักน่าใคร่ยิ่งกว่าในอดีต ไม่ว่าจะคิดไปทางใด ผมก็ยังรักเธอเช่นเดิม

ฟ้าใสจบคำพูดของเธอด้วยจูบหวาน ๆ ที่ค่อย ๆ และเล็มริมฝีปากของผม กลิ่นกายหอมหวานจากหล่อน ยิ่งส่งให้อารมณ์ที่สับสนของผม ยิ่งเตลิด ผมเปลี่ยนจากฝ่ายรับ เป็นฝ่ายรุกเธอ ฟ้าใสโอบแขนเธอรอบคอผมกระชับขึ้น ผมก็กอดเอวบางหลวม ๆ ร่างกายเราค่อย ๆ บนเบียดกันอย่างช้า ๆ แต่ก็เริ่มจะเร่าร้อนขึ้น เราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ทุกจังหวะจะพาเราเข้าสู่อารมณ์ที่ต้องการกันและกันอย่างไม่อาจห้ามใจ คืนนั้นเราสองคนก็ได้ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ผมยอมรับว่า ผมรู้สึกเป็นสุขมากที่ได้ร่วมรักกับเธอ จนไม่มีสติจะไปคิดถึงใครอีกคนเลย

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 31 เลือก??? (17/9/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 17-09-2016 18:10:24
(เฮียตง)





กลับจากซื้อของมาถึงที่รีสอร์ท เต้ ก็กลับไปทำงาน ผมก็ช่วยกันกับพนักงานในครัว จัดเก็บ และเตรียม ของกัน ตามปกติ จนถึงช่วงบ่าย ที่แขกเริ่มซาลง ผมจึงวางมือให้พี่เหน่ง และลูกมือช่วย ๆ กันต่อ เพราะเห็นว่าวันนี้ได้ สะตอสวย ๆ มา ผมจึงผัดสะตอกุ้งสดจานใหญ่ แบ่งไปทางบ้านใหญ่ ให้เด็กยกไปเสริฟ และอีกส่วนผมยกไปเองทางห้องบัญชี เพราะอยากให้น้องมีน และเต้ได้ลิ้มรส

พอไปถึงก็ไม่เห็นเต้ นั่งอยู่ถามพี่วัชร ก็ไม่รู้ ผมจึงยกอาหารเข้าไปในห้องน้องมีน

“น้องมีนครับ พักทานข้าวกันก่อนครับ”
“อ้อเฮีย...ขอบคุณคะ ทำงานเพลินจนลืมดูเวลาเลย”

“ผัดสะตอนี้เฮียทำมาเป็นพิเศษเลยนะ กะว่าจะมานั่งกินกันกับเต้...ว่าแต่เต้ไปไหนครับน้องมีน?”
“เอ๊ะ อ้าวไม่ได้อยู่ข้างนอกเหรอคะ”

“ไม่มีครับ ถามพี่วัชร ก็บอกว่าไม่รู้ แต่บอกว่าอาจจะไปห้องน้ำครับ”
“อื่อ มีนก็มัวแต่ก้มหน้าทำงาน ไม่ทันได้สังเกตคะ”

“แล้ว...ไอ้..เอ่อ ซันล่ะครับ”
“อ้อ ไม่ต้องห่วงนะคะ มีนพยายามกันไม่ให้เขาเข้าไปยุ่งกับเต้อยู่ค่ะ แล้วนี่คงไปกับพวกคุณพ่อมั้งคะ เห็นว่าจะไปดูสถานที่จัดตอนงานแต่งนะคะ”

“.....ก็ดีครับ เฮียไม่อยากให้เขามายุ่งกับเต้อีก”
“เฮียคะ ขอบคุณที่เข้าใจมีนนะคะ”

“เฮียเข้าใจครับน้องมีน ว่าน้องมีนก็เป็นคนกลาง แล้วทางผู้ใหญ่ เขาก็จัดการกันไปขนาดนั้นแล้ว พวกเราคงแก้ไขหรือช่วยอะไรเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว”
“มีน ไม่ได้สนับสนุนน้องฟ้า เพราะทางผู้ใหญ่ เป็นผู้จัดการให้หรอกนะคะ แต่เพราะท่าทีของนายซันต่างหาก ที่ทำให้มีนต้องออกปากสนับสนุนน้องฟ้า เพราะมีนรู้จักนิสัยน้องของตัวเองดี ยึดติด เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง ถ้าไม่ให้เขาเลิกกับเต้ เขาต้องทำให้เต้ ลำบากใจ และเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าแน่นอน”

“ครับ เฮียก็คิดเหมือนกัน เพราะดูเขาก็รักคุณฟ้าใสไม่น้อย”
“ค่ะ เพราะตอนเด็ก ๆ ซันเป็นเด็กที่เก็บกด และถูกรังแกอยู่เรื่อย มีแค่มีนกับฟ้าใสเท่านั้นที่เขายอมเปิดใจให้ และเขาสองคนก็สนิทสนมกันมาก ตอนฟ้าใสไปเรียนนอกใหม่ ๆ เจ้าซันแทบไม่เป็นผู้เป็นคน จนพ่อต้องส่งไปอยู่โรงเรียนประจำที่กรุงเทพฯ ไม่นึกว่าผ่านมาหลายปี ทั้งคู่จะได้กลับมาเจอกันอีก”

“ก็ดี ก็ขอให้เขาสองคนมีความสุขกันก็พอ ไม่ต้องมายุ่งกับน้องเฮียอีก ก็พอแล้ว”
“เฮีย.....”
“อ่ะ น้องมีนไม่ต้องคิดมาก กินข้าวเถอะ เฮียไปก่อนนะ”

“คะ”


นั่งคุยกับน้องมีนซักพัก ก็ไม่เห็นวี่แววว่าเต้จะกลับมาจากห้องน้ำ แต่ก็ไม่ได้ห่วงอะไรมากเพราะน้องมีนบอกแล้ว ว่าไอ้ซันมันไม่อยู่



 
“ฮ่ะๆๆ มาสายแล้วยังมาเร่งกันอีก ไปๆ”



ผมหันขวับไปทางต้นเสียงในทันที ภาพที่เห็นคือ ไอ้ซันเดินมาจากทางหลังรีสอร์ท พร้อมกับว่าที่เจ้าสาวคนสวยนั่น ทำให้ผมขนลุกซู่

ไหนมีนว่ามันไปกันแล้วไง แล้วทำไมมันยังอยู่ที่นี่อีก ยิ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เต้หายไปจากห้องบัญชี ยิ่งทำให้ผมกังวลใจมากขึ้น ผมรีบเดินไปทางด้านหลังรีสอร์ท ก่อนจะพ้นจากตัวอาคาร ผมก็เห็นเต้ยื่นหน้ามาจากห้องน้ำหลังรีสอร์ท มองซ้ายมองขวา ดูน่าประหลาดกับพฤติกรรม ผมกำลังจะอ้าปากเรียกเขา แต่ก็ต้องชะงัก

เพราะเต้เดินออกมาจากห้องน้ำทั้งผ้าขนหนูพันช่วงล่างแค่ผืนเดียว และสภาพด้านบนที่เปลือยเปล่า ก็มีร่องรอย แดง ๆ เต็มไปหมด เขามองซ้ายขวา ตลอดทาง เดินท่าทางแปลก ๆ เหมือนคนเจ็บขา ไปทางบังกะโล


เลือดในกายของผมแทบพล่าน ไม่ต้องให้มีใครบอกว่าเกิดอะไรขึ้น แค่เห็นสภาพเต้ ผมก็พอจะรู้ เชี่ยซัน มึง จะจองล้างจองผลาญน้องกูไปถึงไหนว่ะ ยิ่งคิดว่ามันทำอะไรกับเต้ ยิ่งเดือดพลุ่ง ไอ้เลว ไอ้ลูกหมา กูเคยคิดว่ามึงเป็นลูกผู้ชายคนนึง สงสัยกูต้องไปล้างตาแล้วที่มองไม่ออก ว่ามึงมันก็ไอ้หน้าตัวเมียดี ๆ นี่เอง



มองจนเต้ลับตา ไปทางบังกะโล อยากวิ่งเข้าไปประคองน้อง แต่ถ้าเต้มันรู้ว่าผมรู้ กลัวมันจะทำตัวไม่ถูก
และตอนนี้ผมก็ยังมีหน้าที่ในงานที่ต้องรับผิดชอบ ไว้ตอนเลิกงานค่อยไปคุยกับน้องมีน อีกที ครั้งนี้ คงไม่ไหวแล้วจริง ๆ ยังไงก็ต้องแตกหัก








“น้องมีน เฮียขอคุยด้วยหน่อยครับ”
“เอ๋...ค่ะ ได้คะ เอ่อ พี่วัชร คะ วันนี้พอก่อนนะคะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเรื่องนี้ต่อ”


“....ครับ คุณมีน...”

พอพี่วัชรออกไปจากห้องบัญชีแล้ว ผมก็เริ่มทันที
“น้องมีนครับ พี่จะพาเต้กลับกรุงเทพฯ”
“เอ๋ อะไรค่ะ ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น”

ผมเล่าเรื่องที่เห็นตอนบ่ายให้น้องมีนฟัง ท่าทางเธอก็ตกใจไม่ใช่น้อย
“เจ้าซัน ไอ้น้องบ้านี่ จะหาเรื่องกันไปถึงไหน”
“มีนครับ เฮีย จะพาเต้กลับหลังจากจบซีซั่นนี้ น้องมีนหาคนมาแทนเขาได้เลย ถึงต้องบังคับก็จะพาเขากลับไป”

“เฮียค่ะ อย่าเพิ่งเลยค่ะ มีนจะพยายามกันนายซันไม่ให้ไปยุ่งกับเต้ อีก”
“ไม่มีประโยชน์ครับน้องมีน เราเฝ้าเขาไม่ได้ตลอดหรอกครับ ทางที่ดี ให้เต้ไปเถอะครับ”

“...ก็...แต่ว่า....เฮ้อ..แล้วแต่เฮียเถอะคะ น้องชายมีนมันไม่ดี มีนก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย”
“น้องมีนครับ เรื่องระหว่างเรา......”

“เฮีย...” น้องมีนหน้าสลดทันทีที่ผมพูดเรื่องของเราขึ้นมา
“เฮียอยากให้น้องมีนเข้าใจนะครับ”

“...ค่ะ...” เสียงน้องแหบขึ้นมาทันที น้องมีนก้มหน้าเล็กน้อย เพื่อซ่อนน้ำตาที่เริ่มจะปริ่ม ๆ ขอบตา
“มีนรู้ค่ะ ว่าน้องชายมีนทำกับน้องเฮียขนาดนั้น เรื่องระหว่างเรามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่มีนอยากให้เฮียรู้ไว้นะคะ ว่ามีนไม่เคยรักใคร ......เฮียเป็นผู้ชายคนแรก และจะเป็นคนเดียวในใจมีนตลอดไป” น้ำเสียงเธอสั่นไหว พร้อมหยดน้ำตาที่หยดลงมาอาบแก้ม

ผมยกนิ้วโป้งขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าหวาน น้องมีนมองผมทั้งน้ำตา ริมฝีปากขบไว้แน่น พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล แต่ดูเถอะ สาวห้าวแกร่งแห่งเกาะยาวน้อยที่ผมหลงรัก ตั้งแต่แรกเห็น ไม่นึกว่าจะมีวันเห็นเธอร้องให้ออกมา รู้สึกผิดนิด ๆ

“เอ่อ ครับ มันคงเป็นไปไม่ได้ ......ในตอนนี้”
“เฮีย ฮือๆๆๆๆ” เอาล่ะซิปล่อยโฮเลยทีนี้

“โอ๋ ๆ  ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ฟังให้จบก่อน เฮียบอกว่าคงไม่ได้ในตอนนี้ รอให้เรื่องพวกน้อง ๆ เรียบร้อยก่อนนะครับ แล้วเฮียจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ รอเฮียนะครับคนดี”

พูดจบจากที่ร้อง ๆ อยู่น้องมีนก็ยิ้มทั้งน้ำตา ดูตลกดี ผมจูบหน้าผากเธอเบา ๆ จูบซับที่เปลือกตา ไล่ลงมาที่แก้มทั้งสองข้าง และจบลงที่ริมฝีปากคู่น้อยที่ยังคงมีเสียงสะอื้นเป็นระยะ ๆ

“เฮีย มีนขอโทษ ฮือๆ ๆ”
“ขอโทษทำไม”

“ก็มีนมีส่วนทำให้น้องเฮีย ต้องเสียใจ”
“ไม่หรอก มันเป็นเรื่องของเขาสองคน เราก็แค่คนที่คอยอยู่ข้าง ๆ คอยประคับประคองเขาก็เท่านั้น”

“เฮียๆๆ ขอบคุณคะ ที่เข้าใจ และรักมีน”
“ครับ ๆ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวเฮียไปส่งที่บ้านนะ”

“คะ”



หลังจากไปส่งมีนที่บ้าน ผมก็จะกลับไปที่บังกะโล พอเดินไปถึงบริเวณห้องน้ำที่เกิดเหตุเมื่อตอนบ่าย ก็เห็นไอ้ตัวต้นเหตุมันเดินออกมาจากในห้องน้ำ มันก็เห็นผมเหมือนกัน มันรีบเดินเข้ามาทันที

“เฮียตง ๆ....โอ้ยยย”

มันจะพูดอะไรผมไม่อยากฟัง โมโหควันแทบออกหู ชกมันจนหน้าคว่ำ
“ใครเป็น เฮียมึง ไอ้สัด มึงทำอย่างนี้กับน้องกูได้ยังไง” ความอัดอั้นมาตลอดทั้งวันได้ระบายใส่ไอ้ตัวต้นเหตุ ท่าทางมันตกใจที่จู่ ๆ ก็ถูกชก ถ้าเป็นปกติ มันคงลุกมาสู้กับผมแล้ว
“เฮีย....เอ่อ เต้ ๆ อยู่ที่ไหน” แต่มันก็เอาแต่ถามหาเต้
“มึงมันไอ้คนเห็นแก่ตัว  อย่ามายุ่งกับเต้อีก จะไปแต่งงานห่าเหวอะไรก็ไป แต่อย่ามายุ่งกับน้องกูอีก” ไอ้เลวเอ๊ย มึงยังมีหน้าถามหาน้องกูอีกเหรอ ทำกับมันซะขนาดนั้น ชี้หน้า ด่ามันเสร็จ ก็ไม่อยากเห็นหน้าหมา ๆ ของมัน จะเดินไป แต่มันก็วิ่งมาขวางหน้าอีก

“เฮียห้ามผมไม่ได้หรอก เพราะเรารักกัน ผมรักเต้..”


“ซัน”
“อ่ะ...ฟ้าใส...” กำหมัดเตรียมจะส่งเข้าหน้ามันอีกดอก ก็ต้องชะงักเพราะเสียงหวานใสที่เรียกชื่อมัน  หันไปมองจึงเห็นว่าเป็นว่าที่เจ้าสาวมันนั่นเอง เธอมีสีหน้าตื่นตกใจมาก คงจะได้ยินที่ไอ้ซันมันบอกรักน้องผม ดี รู้ ๆ กันไปเลย จะได้จบ ๆ

“ฟ้าใส ๆ เดี๋ยวก่อน” เธอไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปทางห้องพัก
“ฮึ ไปซิ ว่าที่เจ้าสาวมึงเขาคงช็อคน่าดู จู่ ๆ ว่าที่เจ้าบ่าว ดันมีแฟนเป็นผู้ชาย แก้ปัญหาเองเถอะมึง” แม่ง สะใจวะ ดี ได้รู้ได้เห็น ความเชี่ยของว่าที่ผัวมึงซะบ้าง  ไอ้ซันหันซ้าย หันขวาเหมือนคนตัดสินใจไม่ถูก เรื่องของมึง ไม่อยากสนใจ หันหลังเดินกลับทันที ได้ยินเสียงฝีเท้า แว่วห่างออกไป มันวิ่งตามทางโน้นไปแล้ว เออ ไอ้เลวเอ๊ย ถ้ารักทางโน้นมากนัก ก็เลิกยุ่งกับน้องกูซักที




กลับมาถึงบังกะโลที่พัก มีเพียงไฟหน้าชานบ้านที่เปิดอยู่ ทำให้มองเห็นร่าง ใครคนหนึ่งนั่งขดอยู่ที่โซฟาตัวยาว เข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นว่าเต้มันหลับไปแล้ว คราบน้ำตาที่เขรอะข้างแก้ม บ่งบอกว่า เจ้าตัวผ่านการร้องไห้มาหนักแค่ไหน ขนาดหลับคิ้วยังขมวดมุ่น ทางทางที่หลับก็ขดตัว ดูไม่น่าสบายตัวเอาซะเลยเลย คงจะทรมานไม่น้อย ช้อนตัวน้องอุ้มขึ้นมา ก็ใจหาย เต้มันรูปร่างบาง สูง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเบาขนาดนี้ ยกแทบไม่ต้องใช้แรง

พาเข้าไปวางไว้บนที่นอน น้องยังหลับไม่รู้สึก เอาผ้าห่มมาห่มให้ ยืนมองหน้าตอนหลับของน้อง

เผลอคิดไปว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างเต้ กับน้องมีน เราจะเลือกใคร


ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงตกอยู่ในสถาวะเดียวกันกับไอ้ซัน .....เลือกไม่ได้



แต่เป็นตอนนี้ ตอนที่เต้มันขีดเส้นไว้ที่คำว่าพี่น้อง ล้ำเส้นไม่ได้ และน้องมีนก็เป็นคนที่รักและอยากอยู่ด้วยไปทั้งชีวิต ถึงจะหวั่นไหวไปบ้าง แต่ ก็เลือกแล้ว

ก้มลงจูบหน้าผากน้องชายเบา ๆ คิ้วที่ขมวดอยู่ก็คลาย หน้าตาก็ดูจะสบายขึ้น นึกถึงวันแรกที่เห็นเขาเกิดมา ตอนนั้นคิดแต่ว่าจะทำอะไรก็ได้ เพื่อให้เขามีความสุข จะเป็นทุกอย่าง จะเป็นโลกให้เขา แต่ก็เป็นไม่ได้ เพราะโลกที่เขาต้องการ ดันไม่ใช่เรา

ล้มต้วลงนอนเคียงข้าง มองใบหน้าด้านข้างที่ยังคงดูน่ารักเหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ  หลับให้สบายนะเด็กน้อยของเฮีย ฝันดีนะครับ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 31 เลือก??? (17/9/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kamontipsaii ที่ 17-09-2016 18:39:47
ไม่รู้จะด่าอะไรซันดี
เราหวังว่า ความทุกข์ของเต้จะหมดเร็วๆ ส่วนซันมันต้องชดใช้ หึ !!  :z6:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 31 เลือก??? (17/9/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 17-09-2016 19:41:10
เลวแบบอันลิมิเต็ดจริงๆ
พาเต้กลับกทมไปเถอะค่ะ
มาตอนนี้แฟนเก่าเต้ดูดีกว่าซันเยอะเลยค่ะ
เอาเลยให้ซันมันไปกันชะนีเถอะ
เอาเกลือสาดล้างซวยไปด้วยนะ
นังชะนีนั่นก็เอาไปเลยค่ะ
เอาตัวเข้าแลก เอาพรมจารีย์มาเป็นบ่วงผูกคอผู้ชาย
อยากรู้เหมือนกันว่าพออยุ่ด้วยกันไปแล้วมันไม่เหมือนกับที่คิดอิซันมันจะไหวเหรอ?
เดี๋ยวมันก็ไปหางจุกตุดไปตามเต้อีก

ขอนะคะ คนเขียน  เราอ่านคิสเลิฟมาคือพระเอกเลวแบบไม่น่าให้อภัย   มาเรื่องนี้มาเจออิซันอีก   อย่างน้อยที่สุดขอให้นายเอกมีกระดูกสันหลังหน่อย  ตัดเป็นตัดเถอะ   เจอผู้เลวขนาดนี้แล้ว

ขอบคุณที่มาอัพค่ะ   อัพยาวแต่รู้สึกเหมือนสั้น  ไม่จุใจ   รอมานาน  อินมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 31 เลือก??? (17/9/16)
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 17-09-2016 22:00:18
ผู้ชายแบบซันเนี่ยตีนเขี่ยก็คงเจอเนอะ :z6:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 31 เลือก??? (17/9/16)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 17-09-2016 23:36:24
โอ้ย ไม่ไหวอ่ะ มองไม่เห็นทางไปต่อ ไปดีเหอะซัน
 เฮียตงรีบพาน้องกลับเลยๆๆๆ  :katai1:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 14-12-2016 00:45:31
สว้สดีอีกครั้งคะ 5555 ไม่ได้โผล่มาอัพ ซะนาน หวังว่าจะยังไม่ลืมกันโน๊ะ ตามเป็นกำลังใจให้กันก่อนนะ ช้า ๆ แต่จบชัวร์


**********************************************************************






ตอนที่ 32 How can I do…..




เช้าวันใหม่แล้ว ผมสะดุ้งตื่นตามเวลาปกติ รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย หันไปมองคนข้างกาย ก็เห็นเฮียมันนอนกรน อ้าปากกว้างอยู่




เมื่อคืนผมหลับไปหน้าระเบียง คงเป็นเฮีย ที่พาผมเข้ามานอนในห้อง ฮึ ๆๆ ...หวังอะไรเหรอ ยังจะมีหวังอีกเหรอ ผมน่าจะเลิกหวังได้แล้ว มันไม่มีทางเป็นจริงแล้ว เมื่อวานที่เขาทำกับผม ราวกับเป็นที่ระบายอารมณ์ สาสมใจก็ปล่อยผมทิ้งไว้อย่างนั้น บอกว่าเลิกงานจะกลับมาดู จนล่วงไปค่ำมืดดึกดื่นก็ยังไม่เห็นกลับมา




“เป็นไง...ดีขึ้นรึยัง”
“อื้อ....ได้ดราม่านิดหน่อย ก็รู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” จู่ ๆ เสียงข้างกายก็เรียกขึ้นมา เฮียมันมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน ทำให้รู้สึกสบายใจ จนรู้สึกดีขึ้น

“ฮ่าๆๆๆ เออ ได้ยินอย่างนี้ค่อยหายห่วงหน่อย”
“ไม่ใช่เด็กแล้วหรอก จะได้ต้องมาห่วง ไปอาบน้ำก่อนนะ วันนี้งานตรึม เมื่อวาน.......ลาครึ่งวันบ่าย” ไม่อยากให้เฮียมันสงสัย เลยต้องพยายามทำตัวให้เหมือนปกติ

“ไม่ไหวก็พักก่อนเหอะ หน้าลื้อยังซีด ๆ อยู่เลย”
“สบายเฮีย ไปอาบน้ำล่ะ”





ปากก็บอกสบาย แต่จริง ๆ ก็ปวดหัวน่าดู ถ้าวันนี้ต้องปะทะกับคุณซันอีก คงจะไม่ไหว แต่โชคดี วันนี้เขาไม่เข้ามาทำงาน ผมยังไม่อยากคิดอะไรมาก เข้าไปจัดการงานที่ค้างให้เสร็จก่อนดีกว่า










กริ๊งงงง
“ครับ ห้องบัญชีครับ ผมเต้รับสายครับ” จู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์สายในดังขึ้นผมเลยรับสาย
#อ้อ น้องเต้ค่ะ คุณซันให้น้องขึ้นไปพบที่ห้องพัก หมายเลข XXX เธอบอกว่ามีงานจะสั่งนะค่ะ#

“เอ๋...เอ่อ คุณซันไปทำอะไรที่ห้องพักแขกเหรอครับ”
#เอ่อ อันนี้พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ยังไงน้องก็ไปรับงานมาเถอะค่ะ แค่นี้ก่อนนะแขกมาเช็คอินแล้ว#

“...ครับ” รู้สึกละเหี่ยใจ วางหูโทรศัพท์อย่างกับมันเป็นของหนักอึ้งก็ไม่ปาน จู่ ๆ มาเรียกให้ไปหาที่ห้อง นี่ไม่รู้มีแผนจะทำอะไรผมอีกหรือเปล่า หันมองพี่มีนก็กำลังคุยงานกับพี่วัชรอยู่ในห้อง

ช่วยไม่ได้คงต้องไปนั่นแหล่ะ คงไม่มีอะไรหรอก ยังเช้าอยู่เลย แล้วแม่บ้าน แขกเหรื่อก็เดินไปเดินมา เขาคงไม่กล้าทำอะไรผมหรอก

พอเดินมาถึงหน้าห้องก็ยังลังเลที่จะเคาะประตู...แต่เอาเถอะ อาจจะเป็นเรื่องงานจริง ๆ ก็ได้




ก๊อกๆๆๆ

เคาะประตูเบา ๆ ซักพักก็มีเสียงปลดโซ่ประตู ผมไม่รู้จะทำสีหน้าอย่างไร แต่พอประตูเปิดออกมา ผมก็ต้องตกใจยิ่งกว่า เพราะคนที่โผล่หน้าออกมาคือ คุณฟ้าใส เธอออกมานอกประตูด้วยชุดคลุมของทางรีสอร์ท และปิดประตูตามหลัง

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเต้”
“...เอ่อ อรุณสวัสดิ์ครับ...คุณซันให้ผมมารับงานที่...”

“อือ เขายังหลับอยู่นะ ฉันต่างหากที่ต้องการจะคุยกับคุณ”
“....”

“ไปคุยห้องตรงข้ามดีกว่า ฉันขอกุญแจจากแม่บ้านมาแล้ว เชิญค่ะ”

ผมมองคุณฟ้าใสอย่างข้องใจ ไม่รู้ว่าเธอมีจุดประสงค์อะไร หรือเธอจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับคุณซัน แต่ถึงไม่เข้าใจ ผมก็ก้าวตามเธอเข้าไปในห้องพักตรงกันข้าม เธอก้าวเข้าไปยืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ที่มองออกไปเห็นเป็นวิวของสวนของรีสอร์ท ผมมองเธอตลอดเวลา เธอเป็นคนสวย น่ารัก ขนาดไม่ได้แต่งหน้า ก็ยังสวย ท่าทางเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ซักพักเธอก็หันมา

“พูดกันตรง ๆ เลยนะ ฉันไม่ใช่คนอ้อมค้อม...ฉันรู้เรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับซันแล้ว “
“.......”

“เขาบอกกับฉันเอง...”
“.......”

“คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ ฉันไม่ใช่นางร้ายในละครนะฉันไม่รังแกคุณหรอก ฉันถึงอยากคุยกับคุณ”
“ผม....เราไม่มีอะไรกันแล้วครับ...ผมรู้ว่าเขารักคุณ ผมก็คงไม่ดันทุรัง”

“อือ พูดง่ายดี เขาก็บอกว่าเขารักฉันอยากอยู่กับฉัน แต่เขาก็ชอบคุณด้วย”
อยากหัวเราะให้หน้าหงาย รักหล่อน แต่แค่ชอบผมนี่นะ....มันก็บอกได้อย่างชัดเจนแล้วว่าใครคือตัวจริง

“...ผม..รับรองว่าจะไม่ยุ่งกับเขาอีกแล้วละครับ คุณอย่าได้ระแวงเขาเลย”
“ฉันไม่ได้ระแวง เพราะฉันแน่ใจว่าเขารักฉัน แต่คุณนี่เป็นคนดีอย่างที่เขาบอกจริง ๆ ขอบคุณนะค่ะที่เข้าใจฉัน.......แต่....คุณไม่ยุ่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ยุ่ง.....”

“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง” ได้ฟังก็ขึ้นมานิดนึง รู้หน่าว่าเขารักเธอ จะพูดย้ำบ่อย ๆ ทำไม แล้วไอ้ประโยคหลังสุดกับสายตาที่มองมา ทำให้ผมเริ่มจะไม่ค่อยชอบหล่อนล่ะ

“อยากให้คุณไปอยู่ที่อื่นค่ะ...ฉันรู้คุณเป็นคนเก่ง ฉันอยากให้คุณมาทำงานที่บริษัทคุณพ่อฉัน โรงแรมของเรามีหลายสาขาทั้งที่ภูเก็ต กระบี่ และพังงา โรงแรมเราใหญ่กว่านี้มาก คุณจะได้ทั้งเงินเดือนที่ดีกว่าและประสบการณ์ที่หาที่นี่ไม่ได้แน่”

“ขอบคุณที่เสนอครับ แต่อย่าลำบากเลยครับ ผมมันคนมักน้อย ผมชอบที่นี่ครับ....และผมจะพยายามอยู่ให้ห่างเขาที่สุด คุณไม่ต้องห่วงไปหรอก แล้วอีกหน่อยผมก็คงหาแฟนใหม่ได้”

“หึ เอางั้นเหรอค่ะ ก็ได้คะ ตามใจคุณนะ แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ฉันไม่ใช่นางร้ายก็จริง แต่ฉันก็ไม่ใช่คนใจดีนักหรอกนะคะ”







ผมโค้งให้เธอก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากห้อง พอเปิดประตูออกไปก็มองเห็นห้องฝั่งตรงข้าม ที่ตอนนี้คุณซันคงยังหลับใหลอยู่ ไม่ต้องบอกก็ดูออกว่าเขาสองคนคงผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนกันน่าดู ส่วนที่พ้นเสื้อคลุมของคุณฟ้าใส มีร่องรอยฝากรัก หลายแห่ง

มือที่กำอยู่แล้ว ก็ยิ่งจิกเล็บเข้าเนื้อตัวเองมากขึ้น เจ็บกายมันไม่เท่าเจ็บใจจริงๆ นี่ผมต้องวนเวียนเสียใจอยู่อย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน หรือมันเป็นเวรเป็นกรรมแต่ชาติปางไหน พอกำลังจะไปได้ดี ก็มักมีอุปสรรคกีดขวางอยู่ร่ำไป แถมไม่ใช่อุปสรรคเล็ก ๆ ที่จะก้าวข้ามไปได้ด้วย จะต้องทำยังไงถึงจะหลุดพ้น หรือผมต้องอยู่โดดเดี่ยว อย่าริรักใครอีกเลย มันจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สองเท้าพาผมเดินออกห่างจากห้องพัก เดินไปเหมือนมีแต่ร่าง หัวใจผมไม่รู้มันหายไปไหน ตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียว กลับไปทำงานเถอะ เต้ มึงนะมีแค่งานเท่านั้น ต่อไปต้องจำเอาไว้

“อ้าวพี่เต้....เป็นอะไรอ่ะพี่ ร้องไห้ทำไม”
“....เอ่อ..เปล่า ไม่ใช่..คือ...พี่ปวดหัวนะ ปวดมากด้วย” เพิ่งรู้ตัวว่าผมกำลังร้องไห้อยู่

“ผมพาไปห้องพยาบาลไหมพี่” เลาะห์ เอามือมาอังที่หน้าผาก และเข้ามาประคองอย่างเป็นกังวล
“ไม่ต้องหรอก พี่กินยาแล้ว ไม่นานก็คงจะดีขึ้น”

“อ้อ งั้นพี่ไปพักก่อนไม่ดีกว่าเหรอ ปวดหัวอยู่ยังไปทำงาน เดี๋ยวก็ยิ่งปวดเข้าไปใหญ่”
“ฮ่ะๆๆ ครับคุณหมอ”

“ฮะๆๆ เป็นหมอก็คงได้แค่หมอนวดล่ะ อ้อ พี่ไอ้บูรมันบอกว่าจะไปไดหมึกคืนนี้ พี่ไปด้วยกันไหม”
“ไม่.....เอ่อ ดูก่อนนะถ้าไม่ปวดหัวแล้ว ก็จะไปด้วย”

“ถ้าดีขึ้นโทรบอกผมนะ ไม่ก็ไปเจอกันที่ท่า ทุ่มกว่า ๆ นะพี่”
“โอเค ไปก่อนนะ” ดีว่าเลาะห์ ไม่เซ้าซี้ ไม่งั้นก็ไม่รู้จะหาคำตอบว่าอะไรดี ผมมองตามหนุ่มน้อยชาวเกาะ เพื่อนสนิทคนแรกของผม เดินกลับไปทางห้องอาหาร เลาะห์ดูตัวโตก็จริง แต่ก็ยังมีนิสัยเหมือนเด็ก ๆ ยังขี้เล่น และขี้แกล้งอีกด้วย ผมเผลอคิดไปว่าบางที เขาอาจจะช่วยผมได้ ใจจริงผมไม่อยากดึงเลาะห์เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงดี แล้ว

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 14-12-2016 00:47:39
เสียงเพลงเบา ๆ ที่คลอขึ้นมาจากเครื่องเสียง ปลุกให้ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา กว่าจะรวบรวมสติก็หลายนาที จนร่างโปร่งบางในชุดคลุมอาบน้ำเดินเข้ามาใกล้
“อรุณสวัสดิ์พ่อคนขี้เซา”
“...อรุณสวัสดิ์...ฟ้าใส....”

“สายแล้วนะ ไม่ต้องทำงานเหรอ หือ”
“ตายแล้ว กี่โมงแล้วนี่ พี่มีนฆ่าผมแน่เลย”

“ฮ่ะๆๆๆ ไม่หรอกค่ะ ฟ้าโทรไปบอกพี่มีนแล้วว่าซันจะไปสายนิดหน่อย”
“คุณบอกพี่มีนเหรอว่าเรา....”

“..ทำไมคะ ถ้าเรามีอะไรกันจะมีปัญหาอะไรเหรอคะ”
“เอ่อ ...เปล่า...คือเรายังไม่ได้แต่งงานกัน ผมไม่อยากให้คนมองคุณไม่ดี”

“หึๆๆ ซันนี่น่ารักจริง ๆ เลย ไปอาบน้ำเถอะคะ แล้วมาทานอาหารเช้ากัน ฟ้าเตรียมไว้ให้แล้ว”
“...อือ ขอบคุณนะครับ”


ผมเดินเข้าห้องน้ำ มายืนมองตัวเองในกระจก สภาพผมดูไม่จืดจริง ๆ เมื่อคืนฟ้าใสหวานปานน้ำผึ้ง จนเผลอชิมไปไม่น้อย ผมมองร่องรอยตามตัว ที่มีทุกที่ทั้งที่มองเห็นแม้จะสวมเสื้อผ้าไว้ ซี่งเต้จะไม่ทำรอยที่จะเห็นได้หลังสวมเสื้อ.....เมื่อคืนมัวเมาในรสหวานของฟ้าใส จนลืมใครบางคนไปสนิท ผมนี่มันเลวจริงๆ



หลังเสร็จจากมื้อเช้ากับฟ้าใส หล่อนก็ขอตัวพักผ่อน ส่วนผมก็รีบ ๆ ลงไปที่สำนักงาน มองเข้าไปก็เห็นว่าเต้กำลังนั่งทำงานอยู่ ผมเปิดประตูเข้าไปเขาแค่เงยหน้าขึ้นมามอง แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อไป ผมก้าวไปยืนหน้าโต๊ะทำงานของเต้


“..เต้..”
“ซัน มานี่หน่อย พี่มีงานจะให้เธอทำ”

“เอ่อ แต่พี่มีน....”
“งานด่วน อย่าลีลา เร็ว” กำลังจะอ้าปากพูดกับเต้ พี่มีนก็เปิดประตูมาเรียกให้ไปรับงาน จะอิดออดก็ไม่ยอม จึงจำต้องเดินเข้าไปในห้องพี่มีน และรับงานมาทำตามคำสั่งทันที ผมจะรีบ ๆ ทำให้เสร็จ ๆ แต่พอเสร็จ พี่มีนก็มีงานใหม่ มาให้อีก ผมว่าผมชักคิดแล้วว่านี่พี่มีน มีเจตนาจะกันผมออกจากเต้แน่ๆ เลย แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ จำใจต้องทำไปพลาง หันไปมองเต้พลาง เขาก็ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่สนใจใคร จนได้เวลาเลิกงาน

เต้ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องบัญชีทันที ผมก็มอง ๆ พี่มีน เห็นเธอกำลังโทรคุยกับลูกค้าคนสำคัญอยู่ ไม่ได้มองมาทางผม เลยถือโอกาสเดินตามเต้ออกไปด้วย

เต้เดินก้าวเร็ว ๆ กลับไปที่ บังกะโล อ้าวผมนึกว่าเขาได้ห้องพักพนักงานแล้วซะอีก งั้นก็หมายความว่า...เขาอยู่ห้องเดียวกับเฮียตงเหรอ

แค่คิดก็โมโห แต่ไม่ต้องคิดนาน เพราะพอผมเดินตามเต้ไปจนถึงบังกะโล ก็เห็นด้วยตาว่าเขาเข้าไปที่ห้องเฮียตงจริง ๆ ผมก้าวมายืนมองหน้าประตูด้วยความขุ่นใจ ซักพักใหญ่เต้ก็เปิดออกมาพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืด กางเกงสามส่วน เขาอึ้งทันทีที่เห็นผมยืนอยู่หน้าห้อง แต่แล้วก็ก้มหน้าและพยายามจะเดินแทรกผมออกไป

หึ กับผู้ชายอื่นไปนอนแบให้เขา ทีกับผัวนี่ทำเป็นเมิน ฉุนจัดจึงคว้าข้อมือเต้ให้ต้องหันกลับมาเผชิญหน้ากัน
“คุณซัน ปล่อยผมนะ”
“หึ ยอมสบตากันแล้วเหรอ”

“ปล่อยเถอะครับ”
“ปล่อยแล้วจะเดินหนีกันอีกไหมล่ะ”

“..ไม่ครับ”
“ทำไมพูดจาห่างเหินจัง”

“...ก็..คุณเป็นผู้บริหาร ผมเป็นแค่พนักงาน ไม่กล้าอาจเอื้อมหรอกครับ”
“ตกลงจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม” คำตอบของคนตรงหน้า ทำเอาแทบควันออกหู นี่จะเล่นสงครามประสาทกันใช่ไหม อ้างโน่นอ้างนี้ ก็แค่จะตีตัวออกห่าง

“ผมไม่ได้เล่นครับ แต่มันเป็นเรื่องจริง”
“เฮ้อ ไม่เอาหน่าเต้ เรามาคุยกันดี ๆ ดีกว่า ทุกเรื่องมันมีทางออกอยู่แล้ว”

“เมื่อเช้า....”
“หือ?”

“เมื่อเช้า ผมขึ้นไปที่ห้องพักของคุณฟ้าใส”
“.....” เต้ทำหน้าอึกอัก ก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกใจ
 
“คุณฟ้าใส เธอบอกผมหมดแล้ว”
“....เต้..เอ่อ ..มันคือ..ไม่..” สายตาตำหนิของเต้ ทำให้ผมเย็นวาบไปทั้งตัว ไม่คิดว่าเขาจะรู้เห็นความ มักง่ายของผม อยากจะพูดอะไรเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง แต่มันก็คิดไม่ออกซักคำ

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้วล่ะครับ ....ผมเข้าใจ..อย่าให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้เลย ..เห็น ๆ กันอยู่แล้วว่าคุณรักคุณฟ้าใส และเธอเองก็รักคุณมาก....ส่วนผมเป็นผู้ชาย...ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว...”

 “แต่...”
“แม่ของผมท้องกลับมาที่บ้านโดยไม่ได้บอกว่าใครเป็นพ่อ แต่แม่เคยบอกกู๋ว่า ผู้ชายคนนั้นเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว และกำลังจะแต่งงานกัน แม่จึงถอนตัวออกมา และมาคลอดผมก่อนที่แม่จะเสียชีวิต...ผมไม่รู้หรอกว่าผมเกิดมาจากความรักหรือแค่ความใคร่ แต่ผมรู้อย่างเดียวว่า ชีวิตนี้จะไม่ทำให้มีเด็กที่ต้องประสบกับชีวิตแบบผมเกิดขึ้นมาอีก ผมไม่ต้องการแย่งของ ๆใคร...”

“...แต่...แต่เราเป็นของกันและกันแล้วนะเต้..”
“นั่นมันเมื่อก่อน...ตอนนี้คุณกับคุณฟ้าใส.....อะไร ๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว เราจบกันดี ๆ แค่นี้เถอะครับ ถือว่าเป็นคำขอครั้งแรกและครั้งเดียวของผม...ไม่งั้นผมก็คงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้...”

“..เต้”
“ผม...ขออวยพรให้คุณมีความสุขครับ” นิ้วเรียวยาวและเย็นชืดของเต้ แกะมือของผมที่กุมมืออีกข้างของเขาออก สบตาผมด้วยแววตาไร้ชีวิตชีวา ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-12-2016 01:14:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 14-12-2016 03:14:28
ขอพระเอกใหม่ค่ะ   ยังไงก็ไม่เหลือที่ให้อิซันเป็นพระเอกแล้วค่ะ

ไหนๆก็ไปกินชะนีแล้วก็ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่เลือก

ไปดีมาดีเถอะ  หาแฟนใหม่ให้สบายใจเฉิบดีกว่าชีวิตเพิ่งเริ่มต้นเองเต้เอ๊ย

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 14-12-2016 13:16:06
ซันโคดเห็นแก่ตัวเลย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 14-12-2016 16:37:10
เพิ่งมาอ่านคับ สนุกมากๆ ติดตามอ่านต่อคับ มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-12-2016 22:49:54
เฮ้ออออ.  สงสารเต้มากๆๆๆท็อป. อีซันแม่งเลววะ. สันดานเสีย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-12-2016 08:13:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 16-12-2016 00:13:09
 :mew2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 17-12-2016 17:01:31
อ่านเรื่องนี้แล้วอินมากๆ
รู้สึกถึงความเกลียดชังในพฤติกรรมนี้ของผู้ชาย
การเอาความรักมาอ้างนี่ทรมานจริงๆ

จบตอนไปแบบนี้  ทรมานคนอ่านจริงๆนะ
แต่ก็เข้าใจว่าคนแต่งรู้สึกยังไง

 :katai5: :katai5: :katai5: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 32 How can I do…..(14/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-02-2017 23:01:30
 :hao5:  เขียนเองยังอยากเปลี่ยนพระเอกเองเลย ก็เคยบอกแล้วว่าพระเอกเรื่องนี้มันเลว ต้องทำใจนะ
น้องซิน เอ๊ย น้องเต้ของเราก็ต้องสู้ต่อไป ขอกำลังใจให้น้องและคนเขียนด้วยนะคะ  :mew2:


*************************************************************************


ตอนที่ 33 I will be fine…..



กลั้นใจหันหลังเดินจากมา จำต้องตัดใจ เพราะไม่อยากเป็นคนทำให้ใครต้องเสียใจและมีปัญหา โดยเฉพาะคนที่เรารักเขามาก รู้สึกโหวง ๆ ในหัวใจ เหมือนมันเต้นช้าลง หัวใจเริ่มสั่นจนรู้สึกหนาวอยากจะเอามือมากอดตัวเองคลายอาการ แต่ก็ต้องแข็งใจ เดินให้พ้น ๆ จากเขาซะที อดจะคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าเขาจะวิ่งมารั้งเราไว้ วิงวอนขอโทษและร้องขอให้เราให้อภัย แล้วกลับไปรักกันใหม่...................... แต่ก็ไร้ซึ่ง วี่แวว









จู่ ๆ ก็มีมือมาจับไหล่จากข้างหลัง หัวใจที่โหวง ๆ ก็กลับมามีกำลังเต้นอย่างเร็ว มือที่จับไหล่บังคับให้ผมหันกลับไปพร้อมกับสวมกอดผมไว้








“เฮีย..” เป็นเฮียนี่เอง...ผิดหวัง?......ไม่รู้สึกอะไรแล้ว?.......น้ำตาที่กลั้นไว้มาตลอดก็ไหลอย่างไม่อาจกลั้น
“เอาเลยร้องให้พอใจ ลื้อจะกลั้นไว้ทำไม เอาให้เต็มที่” แรงกอดรัดของเฮียตง ช่างอบอุ่นและทำให้รู้สึกปลอดภัย

“ฮือๆๆ เฮีย ทำไมชีวิตผมมันถึงเฮงซวยอย่างนี้ตลอดเลย ผมทำอะไรผิดเหรอ...อึกๆ“
“เฮ้อ ลื้อไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกเว้ย นี่มันก็แค่เรื่อง ๆ หนึ่งที่จะเป็นประสบการณ์ชีวิตให้ลื้อแข็งแกร่งขึ้นต่างหาก” เฮียคลายกอดมาเป็นจับไหล่แล้วมองตรงมาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะตบหัวผมทีนึง เฮียแม่งปลอบผมแน่เหรอวะ

“ฮ่ะๆๆ เฮีย แม่งเจ็บขนาดนี้จะเอาแรงที่ไหนไปแข็งแกร่งวะเฮีย” คำปลอบของเฮียได้ผล ผมหัวเราะทั้งน้ำตา
“หึๆ ก็ถ้าผ่านเจ็บครั้งนี้ไปได้ ต่อไปก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก”



“เฮีย..... ผม....ไม่น่าเกิดมาเลย”
“เฮ้ย!!!! ซี้ซั้วต่า เอาอะไรมาพูด ลื้อรู้ไหมตอนลื้อเกิดนะ ป๊าอี ดีใจมาก ๆ เลยนะ รู้ไหมชื่อลื้อ อีก็เป็นคนตั้งเตรียมไว้ให้....และเฮียเอง..... ก็ดีใจมากเช่นกัน ที่มีน้องชายน่ารัก ๆ มาอยู่ด้วย” เฮียร้องเสียงหลง เขย่าหัวไหล่ผมจนหัวโยกหัวคอน ก่อนจะหยุดแล้วก็จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม

“ไม่จริงอ่ะ ตอนเด็กเฮียแกล้งผมไว้เยอะเลย ผมจำได้” อดจะใจเต้นแปลกๆ ไม่ได้ จนต้องเบือนหน้าหนี
“ฮ่ะๆๆ ก็เฮียมันงี่เง่า ไม่รู้จักแยกแยะนี่นา ขอโทษนะ” มือใหญ่ที่คุ้นเคยลูบหัวเบา ๆ ให้ยิ่งอุ่นใจ
“ไม่เป็นไร ผมไม่โกรธแล้ว”

“...เฮีย....รักลื้อมากนะ เต้ เห็นลื้อเสียใจเฮียก็จะไม่ทนกับมันล่ะ...ถ้ายังไงเป็นเฮีย....”
“เฮีย ผมก็รักเฮียนะ เฮียเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในโลก ของผมเลยนะ” ไม่ต้องรอให้เฮียมันจบประโยค ก็รู้ว่าจะพูดอะไร ยังไง ๆ สำหรับผม เฮียก็คือพี่ชายคนเดียวตลอดกาล
 
“...หึ เออๆๆ รักกัน ๆ ไอ้น้องชาย หยุดร้องได้แล้ว เดี๋ยวเฮียทำของอร่อย ๆ ให้กิน”
“ฮ่ะๆๆ จริงเหรอ เย้ เฮียน่ารักที่สุดเลย” จากลูบ ๆ หัวเบา ๆ ก็ขยี้ ซะผมเสียทรงเลย ฮ่ะๆๆ



ครั้งนี้ถือเป็นโชคดีที่มีเฮียตง อยู่ด้วย แม้จะยังรู้สึกปวดร้าว แต่ก็ไม่โดดเดี่ยว ไม่เหมือนที่ผ่าน ๆ มาที่ต้องนั่งเจ็บปวด ซึมเซา หงอยเหงาอยู่คนเดียว ได้แต่โทษฟ้าโทษชะตา หัวใจที่หนักอึ้งก็เบาขึ้นมาได้บ้าง ผมว่าอีกไม่นานผมคงจะผ่านจุด ๆ นี้ไปได้
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 33 I will be fine…..(24/2/17)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-02-2017 23:02:49
ปึก


ภาพที่เห็นตรงหน้า ของ 2 คนพี่น้องที่กอดกันกลมทำให้อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดจนต้องยกมือทุบกำแพง

แม่งเอ๊ย ใช่ซี่ มึงมันมีคนคอยโอ๋อยู่แล้วนี้ ทำมาเป็นพูดจาสวย ๆ ว่าจบกันด้วยดี คงระริกระรี้อยากวิ่งไปให้ไอ้เฮีย มันกอดปลอบเต็มทนแล้วซิ ไอ้เฮียก็ตัวดีเลย แม่งแทบจะสิงกันอยู่แล้ว อยากวิ่งไปกระชากมันออกมาจากไอ้เฮียจริง ๆ

แต่ก็ต้องข่มใจ................ผมเลือกแล้ว......ผมเลือกฟ้าใส








กว่าจะหันหลังให้ภาพที่ชวนหงุดหงิดได้ เดินกลับเข้าไปที่บ้าน อยากหาอะไรแรง ๆ กระแทกปากหน่อย เดินไปเปิดตู้เก็บเหล้าของพ่อ ก็ต้องชะงัก พี่มีนนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง

“...โห หน้าตาสุด ๆ ไปเลย มีเรื่องอะไรรึเปล่า” พี่เงยหน้ามามอง ก่อนจะค้างไว้เหมือนเห็นตัวประหลาด

“...”
“อ้าว ถามก็ไม่พูดด้วย ไอ้น้องคนนี้นี่”

“พี่มีน....ผม..ผมเลิกกับเต้แล้ว” พี่มีนที่ยิ้ม ๆ อยู่เมื่อครู่ หุบยิ้มทันทีที่ได้ยิน
“...อื้อ...ก็ดีแล้วนี่” พี่มีนพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาจนน่าแปลกใจ ก่อนจะก้มลงดูเอกสารต่ออย่างไม่ใคร่ให้ความสนใจกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของผม จนรู้สึกชักจะยิ่งโมโห ก็ไม่ได้อยากเรียกร้องความเห็นใจความสนใจ แต่พี่มีนที่เคยสนับสนุนผมกับเต้มาตลอด ทำท่าทีเรียบเฉย เหมือนไม่ได้ใส่ใจอย่างนี้ ยิ่งจุดชนวนความไม่พอใจของผมให้ลุกโชน

“พี่เองก็ระวังไว้บ้างนะครับ”
“หือ? ระวังอะไร...” พี่สาวผมยังคงก้มหน้าอ่านเอกสารต่อไป เห๊อะ เดี๊ยวเถอะจะนั่งไม่ติด

“หึ ก็ 2 คน พี่น้องนั่นไง “
“....ทำไม” ได้ผล พี่เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม

“อ้าว พี่ไม่รู้เหรอว่าเฮียตงน่ะ เคยรักเต้มาก่อน เมื่อกี้เพิ่งบอกเลิกกับผมหยก ๆ ก็วิ่งไปกอดเฮียมันซะแล้ว กอดกันกลมเลย แทบจะสิงกันได้อยู่แล้ว”
“.........” พี่มีนยังคงนิ่ง และมองผม

“ระวังเหอะ มันจะมาแย่งแฟนพี่”
“เฮ้อ...เรื่องที่จะพูดนี่แค่นี้ใช่ไหม” ผิดจากที่คาดไว้ แทนที่จะได้เห็นพี่มีนลุกขึ้นมาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พี่กลับแค่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วก็ก้มดูเอกสารต่อ เหมือนเรื่องที่ผมบอกกล่าวมันเป็นแค่รายงานดินฟ้าอากาศ

“......อะไร...พี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ที่พูดนี่ ผมหวังดีนะ”
“เหรอ.... ถ้าเรื่องที่เฮียตงเคยรักเต้ เรื่องนี้พี่รู้อยู่แล้วล่ะ เฮียตงบอกพี่หมดแล้ว........... แล้วที่แกมาบอกพี่นี่.......หวังดีจริง ๆ เหรอ” คิ้วแทบกระตุก ไม่คิดว่าไอ้เฮียมันจะกล้าบอกพี่สาวผม แต่มันก็ไม่เท่าคำสุดท้ายที่พี่สาวผมถามกลับมา

“เห๊อะ หลงมันเข้าไป น้องหวังดีไม่เชื่อกัน ไปเชื่อคนอื่น ระวังเถอะจะโดนมันหลอกเอา”
“...หวังดี ประสงค์ร้ายนะซิ” โอ๊ยยยย โมโหที่ อะไร ๆ มันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด แถมพี่สาวเรา ยังไปเข้าข้างคนอื่น

“พี่มีน”
“อย่าห่วงเรื่องของพี่กับเฮียตงเลย แกนั่นแหล่ะ อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากไปกว่านี้เลย พี่ขอล่ะ ถือว่าพี่ขอร้องนะ พี่สงสารเต้...ปล่อยเขาไปเถอะ เพราะยังไงเรื่องแกกับเต้ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว”


ฮึ่ม สิ้นคำพี่มีน ผมก็กระทืบเท้าเดินออกมาทันที เจ็บใจจริง ๆ ขนาดพี่สาวแท้ ๆ ยังไม่เข้าข้างกันเลย ผมหรือหวังดี ไม่อยากให้พี่สาวผมถูก 2 พี่น้องนั่นหลอกเอา ดันมาว่าผมอีก ช่างมันแล้วผมจะไม่สนใจอีกแล้ว

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 33 I will be fine…..(24/2/17)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 24-02-2017 23:03:52
อากาศยามค่ำคืนในทะเลที่ดำทะมึน มองไปทางไหนก็ดูจะมืดมิดไปหมด อาจจะเห็นแสงไฟจากเกาะ หรือเรือประมง บ้างประปราย คงมีแต่แสงไฟจากเรือหางยาวลำขนาดกลาง ที่ผม เลาะห์ และ บูร กำลังนั่งไดหมึกกันอยู่

ลมทะเลพัดมาเป็นระลอก ๆ เสียงพูดคุยกัน เฮฮาเวลาได้หมึกขึ้นมาแต่ละครั้ง ทำให้ผมคลายความเศร้าไปได้บ้าง

“ฮะๆๆๆ ไอ้เลาะห์ ของมึงตัวเท่านิ้วก้อย ปล่อยแม่งไปเหอะ ปล่อยมันโตออกลูกออกหลานก่อนค่อยมาจับมันใหม่”
“แหม๋ๆๆๆ พูดดูเป็นคนดีนะมึง ไอ้บูร ของมึงยังเล็กกว่าของพี่เต้อีก โหพี่ ไม่อยากเชื่อเลย แต่พี่นี่มีพรสวรรค์ด้านไดหมึกจริง ๆ ผมเห็นพี่ได้แต่ตัวใหญ่ ๆ ทุกที”

“ฮะๆๆๆ บังเอิญหรอก เคยไดกะเขาที่ไหน ไม่ดีใจหรอกนะ ชมว่าทำบาปขึ้นนี่”
“โหย พี่ บาปเปิบอะไรกัน เราเอาแค่พอเป็นอาหาร ไม่ได้มาจับทิ้งจับขว้างซักกะหน่อย”

“เฮ้ ๆ ได้อีกแล้วพี่เต้ สาวเลย ๆ “






ใช้เวลาไม่นานพวกเราก็กลับเข้าฝั่ง พร้อมหมึกตัวเป๋งๆ หลายตัว บูรบอกจะเอาไปปิ้งกิน และที่เหลือจะเอาไปตากทำปลาหมึกแห้งเก็บไว้กิน เราแยกกันหลังจากแบ่งปลาหมึกกัน ผมไม่เอาให้เขาสองคนแบ่งกัน บูรไม่ใช่พนักงานเขาจึงเดินแยกออกไป ส่วนผมกับเลาะห์ เดินกลับมาทางรีสอร์ท

“พี่เต้ วันพรุ่งนี้บ่าย ๆ พี่ว่างป่ะ คุณโจกับอลันเขาฝากให้มาชวนพี่อีกแล้ว เขาจะเช่าเรือไปตกปลากัน ผมก็จะไปกับเขาด้วย พี่ไปด้วยกันนะผมจะได้มีเพื่อน ไม่งั้นต้องไปเป็นก้างเวลาเขาสวีทกันนี่โครตอึดอัดเลย”

“....อือ...พี่จะลองขอคุณมีนดูนะ ถ้าได้รับอนุญาตพี่จะไปด้วย”
“เย้ ดีจัง อ่ะ ต้องแยกกันแล้ว ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะพี่ ฝันดีนะครับ”

“หึ ครับ ฝันดีครับ”

เลาะห์วิ่งร่าจากไป ทิ้งให้ผมที่ยืนมองตามหลังอย่างเป็นห่วง ไม่ได้อยากจะไปกับคุณโจและอลันหรอก แต่ที่รับปากจะไปด้วยเพราะเป็นห่วง เลาะห์มากกว่า

ผมไม่รู้ว่าเขาสองคนคิดอะไรกับเลาะห์รึเปล่า ก็เห็นสนิทสนมกันดี แต่การจะปล่อยให้เด็กหนุ่ม ๆ อย่างเลาะห์ขึ้นไปบนเรือกับ 2 คนนั่น ผมก็ยังไม่อาจวางใจได้ ยังไงผมไปด้วยจะดีกว่า

หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 34 คงถึงเวลาปล่อยมือ(29/5/17)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 29-05-2017 23:03:12
มาต่อแล้วนะคะ

*******************************************************




ตอนที่ 34 คงถึงเวลาปล่อยมือ







การมีเรื่องยุ่ง ๆ ของคนอื่นเข้ามามันก็ทำให้ผมคิดเรื่องตัวเองน้อยลง แต่ก็ไม่ซะทีเดียว ไม่งั้นเมื่อคืนผมคงหลับได้สนิทกว่านี้ และก็สะดุ้งตื่นตอนหัวรุ่ง ผมไม่รู้ว่าฝันอะไรหรือเปล่า แต่ในหัวมันหนัก ๆ และก็รู้สึกเหมือนวิ่งมาเป็นระยะทางไกล

หันมองคนนอนข้าง เฮียมันยังหลับครอกฟี้อยู่เลย ในเมื่อตื่นแล้วก็ลุกอาบน้ำอาบท่าไปทำงานดีกว่า








ระหว่างที่กำลังจะผ่านห้องอาหารก็เห็นคุณโจ นั่งทานอาหารเช้าอยู่คนเดียวที่ริมระเบียงด้านนอกของห้องอาหาร ผมจึงเดินเข้าไปทักทาย

“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณโจ”
“ว้าว นางฟ้าของผม ตื่นแต่เช้าเลยนะครับ”

“ฮ่ะๆๆ นางฟ้าอะไรครับ ตลกล่ะ อ้าวคุณอลันล่ะครับ”
“อ้อ ขานั้นเขาอยากนอนเอาแรงไว้ลุยตกปลาตอนบ่ายนี้นะ”

“เอ่อ..ผมขอไปด้วยได้ไหมครับ”
“ห๊า จริงเหรอ วิเศษไปเลย เอาซิ มาเลยที่รัก ผมยินดีมากเลยที่คุณจะไปกับพวกเรา”

“ขอบคุณครับ”
“โอเค บ่ายโมง ไปเจอกันที่ท่าเรือนะ มายสวีทฮาร์ท” โจลุกขึ้นพร้อมทั้งกอดคอผมไปหอมแก้ม อยากบอกว่าเขินมาก เพราะถึงจะเช้ามากแต่ก็มีพนักงานหลายคนอยู่แถวห้องอาหาร แต่ด้วยที่ทุกคนก็รู้ดีว่า คุณโจกับอลัน เป็นคู่เกย์กัน จึงไม่มีใครสนใจกริยาที่เขาปฏิบัติกับผมมากนัก ยกเว้น..........
สายตาผมเพิ่งสบกับใครบางคนที่จ้องเขม็งมาจากมุมหนึ่งของทางเดินไปห้องบัญชี
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 34 คงถึงเวลาปล่อยมือ(29/5/17)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-05-2017 23:23:53
เต้มีใหม่ไปเลย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 34 คงถึงเวลาปล่อยมือ(29/5/17)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 22-08-2017 01:25:29
เอิ่ม.....อยากบอกว่า ที่ลงไปครั้งก่อนจริงๆ  มันแค่ส่วนเดียว จะต้องลงเพิ่มอีก แต่ลืม นึกว่าตัวเองลงไว้แล้ว
พอจะมาลงก็ไม่มีเวลาเลย ช้า แต่มาชัวร์นะจ๊ะ  :impress2:


*******************************************************




เมื่อคืนกว่าจะข่มตาให้หลับได้ก็ต้องซัดอะไรแรง ๆ ไปหลายแก้ว แต่แม่งก็ไม่ได้ช่วยให้หลับได้เลย หนำซ้ำพอตื่นแต่เช้าก็ว่าแย่แล้ว อารมณ์ขุ่นมัวสุด ๆ  ยิ่งตอนออกมาจากบ้านแล้วดันมาเจอฉากที่ชวนให้ยิ่งขุ่นมัวเพิ่มมากขึ้น

อ้อ พ้นจากกูไปได้นี่คือ มึงอยากร่านกับใครก็ได้ใช่ไหม เมื่อคืนก็กับไอ้เฮีย เช้าขึ้นมาก็มาให้ไอ้ฝรั่งมันกอดมันหอมอีก มันน่านัก

“อุ้ย ดูพวกเขาสนิทกันดีนะคะ”
“....” ฟ้าใสเดินเข้ามาจับแขนผมไว้ ก่อนจะหอมแก้มผมทักทาย

“คู่รักชาย ๆ นี่ เขาคงไม่ค่อยถือ เรื่องที่จะมี คนอื่นเข้ามาแจมในชีวิตมั้งคะ.....แต่คู่ชายหญิงนี่ไม่ได้หรอกนะคะซัน” ฟ้าใสพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีท่าทีจิกกัดแต่อย่างใด ดูเหมือนเธออยากย้ำให้ผมเข้าใจสถานะของผมมากกว่า แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าเต้ คุยกับผู้ชายคนอื่น และยิ่งหงุดหงิดเพิ่มอีกหลายเท่าเมื่อ เขาสบตาผมแล้ว เมินไป ซ้ำยังเดินเลี่ยงไปอีกทาง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องบัญชี และนั่งตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่สนใจมองผมที่เดินเข้าไปในห้องกับฟ้าใส ถึงกะนั้นเวลาที่ฟ้าใสเอ่ยทักทาย เขาก็เพียงเอ่ยทักทายตอบ ทั้งที่ยังก้มหัวอยู่อย่างนอบน้อม มันน่าหมั่นใส้จริง ๆ




ผมทำงานไปพลางก็มองไปด้านนอกเป็นระยะๆ เต้ยังคงนั่งทำงานไม่ลุกไปไหน จนได้เวลาพักเที่ยง เขาลุกขึ้น และเดินตรงเข้ามาที่ห้อง ผมเผลอตัวกลั้นหายใจ นี่ผมจะตื่นเต้นทำไมเนี๊ยะ

“พี่มีนครับ ผมขออนุญาต ลางานช่วงบ่ายได้ไหมครับ” และก็เหมือนทุกครั้ง เขาเปิดประตูเข้ามาและเดินผ่านผมไป โดยไม่แม้แต่หางตาแล

“อือ จะไปตกปลากับโจใช่ไหม เขามาขอพี่ให้เธอแล้วล่ะ”
“...ครับ..”

“ไม่ได้ จะไปได้ยังไง งานยังเยอะแยะ” ทันทีที่ได้ยินผมก็ หลุดปากห้ามทันที เรื่องอะไรจะปล่อยให้ไปยุ่งกับไอ้ฝรั่งบ้านั่น

ทั้งพี่มีน และเต้ มองผมเป็นตาเดียว ก่อนที่พี่จะหันกลับไปบอกเต้ว่าพี่เขาอนุญาต และเต้กำลังจะหันหลังเดินออกไป
ผมฉุนมากขึ้นที่พี่มีนทำเหมือนผมไม่มีความหมาย จะลุกไปห้ามเต้

“พี่ครับ อะไรกัน งานเยอะแยะ พี่จะให้เขาหยุดไปได้ยังไงครับ”
“ซัน....เอาล่ะ เต้ออกไปก่อน”
“ครับ” เต้หันหลังเดินออกไปจากห้องทำงาน ผมยิ่งโกรธที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่ไว้หน้าจากพี่สาว กะจะหันมาเล่นงานพี่สาวตัวเอง แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อพี่มีน ลุกขึ้นและพูดกับผมเสียงเครียด

“ซัน พี่เตือนแกแล้วนะ เมื่อวานเราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าแกยังตามวอแวเขาอยู่อย่างนี้ พี่จะให้เขาไปอยู่ที่อื่น”

“..พี่มีน...”
“จะเห็นแก่ตัวก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย แกก็เห็นแล้วว่า เต้ พยายามจะทำให้ทุกอย่างมันไปได้ด้วยดี แต่แกยังตามรังควาญเขาอีก”

“พี่ ผมไม่ได้...”
“หุบปากซัน พี่เป็นพี่แกนะ แกคิดอะไรทำไมพี่จะดูไม่ออก หยุดซักที ความอดทนพี่ก็มีจำกัดนะ”

พี่สาวที่เคยใจดีเสมอของผม ไม่เคยขึ้นเสียงเลย กลับตะหวาดผมเพราะปกป้องคนอื่น ความน้อยใจเล็ก ๆ ก็ผุดขึ้นมาในใจ ผมที่เถียงไม่ออก ก็ทำได้เพียง ปึงปังออกจากห้องของพี่มีน

ผมอารมณ์เสียเดินออกไปที่ท่าเรือ มายืนแอบมอง เต้ที่กำลังเดินไปที่ท่า โดยมีไอ้ฝรั่งคู่เกย์ยืนรออยู่ พอถึงตัว ไอ้ฝรั่งมันก็สวมกอดและหอมแก้มเต้ทั้งซ้ายขวา ผมรู้ว่ามันเป็นแค่การทักทายของพวกฝรั่ง แต่ก็อดที่จะฮึดขึ้นมาไม่ได้ ยิ่งเห็นภาพที่มันยกมือมารอรับเต้ขึ้นเรือ ยิ่งบาดใจจนอยากวิ่งไปชกหน้ามันให้หายโมโห ถ้าไม่ติดว่าเรือได้เร่งเครื่องออกจากท่าไปแล้ว ผมคงได้ทำอย่างที่คิดจริง ๆ ยืนมองเรือยอร์ช ขนาดกลางของรีสอร์ท แล่นห่างไปจนลับตา

เสียงของพี่มีนก็ดังขึ้นในใจ ผมเลือกแล้ว ผมควรปล่อยเขาไป

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 34 คงถึงเวลาปล่อยมือ(22/8/17)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 22-08-2017 01:46:45
โชคดีวันนี้อากาศดีมาก ลมพัดมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ค่อยร้อนมาก เรือวิ่งลากคันเบ็ดไปเรื่อย ๆ คุณโจ คุณอลัน เลาะห์และผม เรานั่งดื่มกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน พวกเขาสองคน เป็นคนสนุกสนาน คุณอลันมีมุขตลกมาให้ได้ฮากันตลอด ระหว่างนั้นก็นั่งหยอดคุณโจ จนผมกับเลาะห์ ยังนั่งเขินแทนเลย

“คุณ 2 คน พบกันได้ยังไงเหรอครับ” ผมที่รู้สึกยินดีกับความสุขของคู่รักคู่นี้ ก็อยากจะรู้ว่า ทำอย่างไรเขาถึงได้อยู่กันมาได้มีความสุขขนาดนี้

“หือ..พบกันได้ยังไงนะเหรอ?...ที่รักคุณจำได้ไหม ว่าเราเจอกันครั้งแรกยังไง” คุณโจ ทำท่าทีคิดซักครู่ ก่อนจะหันไปถามคุณอลันที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง
“จำได้ซิครับ ..ผมนะตะลึงทันทีที่คุณก้าวเข้ามาในร้านเลยล่ะ”

“จริงเหรอครับ” คุณอลัน ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และยิ้มหวานจนคนถามหน้าขึ้นสีระเรื่อ ทำให้ผมเผลอตัวยิ้มเขินตาม

“ตลกล่ะ เต้ อย่าไปฟังเขานะ ตะลึงบ้าอะไรกัน เราเจอกันเพราะคุณเข้ามาแย่งซื้อเสื้อตัวเดียวกับผมต่างหาก”
“อ้าว ซะงั้น ฮ่าๆๆๆ” ผมอดขำสีหน้าปุเลี่ยน ๆ ของคุณโจไม่ได้

“ใช่แล้วเต้ เธอไม่รู้หรอกว่าเขานะปากร้ายมากเลยนะ มาบอกว่าผมอ้วนใส่ไซด์นี้ไม่ได้หรอก”
“ฮ่าๆๆๆ /ฮ่ะๆๆๆ” ผมกับเลาะห์ประสานเสียงกันหัวเราะดังลั่น

“ความจำดีจริง ที่รักของผม จริง ๆ คุณไม่รู้หรอกว่านั่นผมพยายามจะจีบคุณนะ มองคุณตั้งแต่คุณก้าวเข้ามาในร้านแล้วล่ะ”
“จริงเหรอ ไม่เห็นคุณเคยบอกผมเลย”
“ก็ไม่อยากให้คุณรู้นี่นา ว่าผมเขินแทบแย่ ไม่อยากเสียฟอร์มอ่ะ มันดูไม่เท่ห์เอาเลย”
“บ้าเหรอ สำหรับผมคุณนะ เท่ห์ที่สุดแล้วละครับ ที่รัก จุ๊บ” แหม๋ดูเขาสองคนซิ งอน ๆ กันอยู่ดี ๆ หันมาจุ๊บปากกันซะแล้ว เล่นเอาผมกับเลาะห์ไปไม่ถูกเลย


“แล้วตอนคบกัน...ครอบครัวพวกคุณว่ายังไงบ้างละครับ” ที่ถามนี้ คิดถึงเรื่องของตัวเองล้วน ๆ เลยนะ
“ฮ่ะๆๆๆ ไม่มีอะไรง่ายหรอก เต้ คุณต้องนึกภาพ ดเวย์น จอห์นสัน นะ พ่อของโจนะไซด์อย่างนั้นเลยล่ะ”
“แล้วคุณผ่านมันมาได้ยังไงครับ”

“แรก ๆ ก็เกือบถอดใจนะ ว่าจะพาโจหนีไปอยู่ด้วยกันแล้วล่ะ แต่ผมก็อยากให้ความรักของเรา เป็นที่ยอมรับ อยากให้เราได้อยู่ครองคู่กันอย่างเปิดเผย จึงเพียรไปมาหาสู่ และพยายามทำทุกอย่างจนพ่อของ โจ ใจอ่อนยอมยกเขาให้ผมจนได้ ฮ่ะๆๆๆ”
“ขอบคุณนะครับอลัน ที่ไม่ท้อ”

“รักคุณนะครับ โจของผม” เอาล่ะ ได้เวลาช่วงหวานเว่อร์ ของเขาสองคน จนผมกับเลาะห์แทบจะกระโดดลงน้ำดับความเขินให้รู้แล้วรู้รอด







“เอ่อ เลาะห์ แล้วเรื่องนั้นว่ายังไง”
“..เรื่องอะไรกันเหรอครับ” หลังจากได้ปลามาแล้ว เรือยอร์ชของเราก็ล่องเรื่อย ๆ เพื่อกลับเข้าท่า จู่ ๆ คุณโจก็ถามเลาะห์ แต่เป็นผมที่อยากรู้จนต้องถาม

“อ้อ เราสองคนมาที่นี่หลายครั้งหลายปีแล้ว เจอเลาะห์ตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยก เราเอ็นดูเขามาก ติดต่อหาเขาอยู่เสมอ เราเลยคุยกันว่าจะรับเขาไปเป็นบุตรบุญธรรม”
ผมได้ฟังก็รู้สึกทึ่ง หันไปมองหน้าเลาะห์ ที่นั่งยิ้ม ๆ ก่อนจะตอบเป็นภาษาไทยให้ผมหายข้องใจ
“ผมว่าจะไปอยู่กับพวกเขาปีหน้าอ่ะพี่”

“ขอโทษนะครับคุณโจคุณอลัน อย่าหาว่าผมคิดอะไรไม่ดีเลยนะครับ แต่ว่า....”
“อ้อ ฮ่ะๆๆๆ อย่าห่วงเลยเรารักเลาะห์ เหมือนลูกจริง ๆ เห็นมาตั้งแต่จู๋เท่านิ้วก้อย ตอนนี้ถึงจะใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็เถอะ แต่ก็ยังเห็นเป็นลูกชายสุดที่รักอยู่ดี”

“ยิ่งคุณพูดนี่เต้จะยิ่งมองไม่ดีเข้าไปใหญ่ ฮ่ะๆๆ เต้ครับ พวกผมพยายามจะรับเขาไปอยู่ด้วยตั้งนานแล้ว แต่เจ้าหนูนี่ เขาบอกว่าอยากตอบแทนผู้มีพระคุณทางนี้ ที่เลี้ยงดู ส่งเสียหลังพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว”

“จริงเหรอ ก็ดีดิเลาะห์ พี่ว่าเธอโชคดีมากเลยนะ ต่อไปคงเป็นหนุ่มนักเรียนนอก โก้ไปเลย”
“ฮ่ะๆๆๆ ไม่หรอกครับ ผมก็ยังเป็นผมนี่แหล่ะ”

“เฮ้อ เต้ ดูเขาซิ มีเงินทองมากองตรงหน้า ก็ไม่สนใจ”
“เต้ คุณต้องไม่เชื่อแน่เลย เราส่งเงินเข้าบัญชีให้เขาทุกเดือนมาตลอดตั้งแต่รู้จักกัน แต่จนถึงวันนี้ เขาไม่เคยแตะต้องมันแม้แต่บาทเดียวเลย”

“โหย อย่างนี้คงจะเยอะน่าดูนะครับ”
“เป็นเศรษฐีน้อย ๆได้สบายเลยล่ะ”

“โธ่ ก็มันไม่มีอะไรให้ใช้นี่ครับ กินอยู่ก็ที่รีสอร์ท เงินเดือนผมก็มีเหลือกินเหลือใช้”
“จ้า พ่อคนดี ของฉัน สัญญาแล้วนะ ปีหน้าไม่มีเลื่อนแล้วนะ เธอถึงวัยที่ต้องได้รับการศึกษาที่จริงจังแล้ว”

คุณโจและคุณอลัน ผลัดกันหอมหัวเลาะห์คนละที โดยมีเลาะห์ที่ดูจะเขิน ๆ ที่ถูกปฏิบัติเหมือนเด็กน้อย ผมมองภาพตรงหน้าอย่างเปี่ยมสุข ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีความรักที่บริสุทธิ์ไม่ต้องการการตอบแทน ให้ได้พบเจอในชีวิตนี้

อดจะคิดถึงเรื่องของตัวเองไม่ได้ ผมคงทำกรรมมาเยอะ สิ่งที่หวังตั้งใจไว้ จึงไม่เคยได้มาเลย

“เต้ เธอโอเคไหม”
“....เอ่อ อะไรเหรอครับ ...ผมโอเค”

“...ฮือ อย่าปิดบังกันเลย ฉันพักอยู่ที่นี่นานพอที่จะรู้ความเป็นไปในรีสอร์ท ไม่น้อยกว่าพนักงานที่นี่เชียวนะรู้ไหม”
“ฮ่ะๆๆๆ นั่นซินะครับ.....”

“มีอะไรก็คุยกัน ระบายให้กันฟังได้นะ หรือเธอเห็นว่าเราไม่ใช่เพื่อน”
“เอ่อๆ ไม่ครับ ไม่ พวกคุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมเลย”

“งั้นเพื่อนก็ไม่อยากเห็นเพื่อนมีสีหน้าอมทุกข์ขนาดนั้นเลย ฉันคิดว่าถ้าเธอได้ระบายออกมาบ้าง คงจะรู้สึกดีขึ้น”
“.......”


ผมที่อัดอั้นใจมาตลอดหลายวันนี้ จะคุยกับเฮีย ก็ได้ระดับหนึ่ง จะคุยกับใครก็ไม่ได้ น้ำเสียงที่อ่อนโยน และสายตาแห่งมิตรภาพที่ส่งมาจากเพื่อนชาวต่างชาติ ทำให้ผมน้ำตาไหล

การได้ระบายออกไปบ้าง ก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นจริง ๆ มันเหมือนสิ่งที่สุม ๆ ที่ผมแบกอยู่มันเบาบางลง ทั้ง 3 คนตั้งใจฟังเรื่องราวของผมโดยไม่ได้ขัดอะไร เลาะห์เองก็บอกว่ารู้มานานแล้ว ว่าผมกับคุณซันคงไม่ใช่แค่เพื่อนกัน เพราะคุณซัน แสดงอาการหึงหวงผมซะขนาดนั้น

เล่า ๆ ไปเรื่อย น้ำเสียงก็เหมือนจะกลืนหายไปในลำคอ น้ำตาผมก็ยิ่งไหลลงมามากขึ้นเรื่อย ๆ จนคุณโจคงจะสงสาร เขายกมือลูบหัว และค่อย ๆ กอดปลอบผมเบา ๆ

“โอ้ พ่อหนุ่มน้อย ฉันไม่บอกให้เธอต้องทำอะไรหรอกนะ ชีวิตเธอ เธอต้องตัดสินใจเอง อยากร้องก็ร้องให้เต็มที่ แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป ยังมีคนที่รักและปรารถนาดีกับเธออีกหลายคนนะ คิดถึงพวกเขาเข้าไว้ แล้วพรุ่งนี้ เธอจะตื่นขึ้นมาอย่างเข้มแข็งอีกครั้ง”

ผมรู้สึกดีมากๆ กับคำปลอบโยนเขา หลังจากนั้นเราก็คุยกันอีกพักใหญ่ ๆ กว่าเรือจะถึงท่า คุณอลัน เสนองานที่บริษัทของเขาที่อเมริกาให้ผม เขาว่าผมควรจะอยู่ให้ห่างจากปัญหา..... ผมซาบซึ้งใจในความกรุณาของพวกเขามาก ได้แต่ขอคิดดูก่อน

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 34 คงถึงเวลาปล่อยมือ(22/8/17)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 22-11-2017 23:31:54
ตอนที่ 35 ก่อนตะวันจะลับ





“ซันคะ คุณว่าจัดธีม เป็นแบบนี้ดีไหมคะ”
“....”

“ซัน...ซันคะ”
“...ครับ”

“ซันคุณเหม่อไปไหนนี่ ฟ้าถามว่าธีมงานอยากได้แบบไหนคะ”
“เอ่อ เอาที่ฟ้าชอบละกัน”

“....ซัน...นี่มันงานของเราสองคนนะ+คะ คุณจะให้ฟ้าเลือกเองคนเดียวได้ยังไงคะ”
“อ้อ เอ่อ ครับ ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะครับ “

หลังจากได้คำตอบที่พอใจ ฟ้าใสก็หันไปคุยกับ ผู้จัดการงานหมั้นของเรา เพื่อสรุปรูปแบบของงาน ไม่ได้สนใจผมอีก ผมจึงหันกลับไปทางเดิม ...ท่าเรือ  ตั้งแต่ที่เรือยอร์ชลำนั้นเคลื่อนตัวออกไปจากท่า ผมก็เอาแต่คอยมองไปที่ท่าเรือ อยู่ตลอดจนเย็นย่ำ แสงอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า

ฟ้าใส มีทีท่าไม่พอใจ เมื่อผมไม่ให้ความสนใจจะออกความเห็นกับงานหมั้นเท่าที่ควร ซักพักผมก็ต้องหันมามองเธออีก เมื่อเธอถามเรื่องชุดงานเช้า งานกลางวัน งานกลางคืน บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจว่า จะต้องจัดงานอะไร เยอะแยะมากมาย และของชำร่วยก็ด้วย นี่แค่งานหมั้น ไม่อยากนึกถึงงานแต่งเลย ว่าจะต้องเยอะกว่านี้แน่ ระหว่างที่ฟ้าใสกำลังคุยจัดการเรื่องต่าง ๆ หางตาผมก็เห็นแว้บ ๆ ว่า เรือลำนั้นได้กลับเข้าเทียบท่าแล้ว

ทันทีที่เห็นผมแทบอยากจะวิ่งไปด้วยซ้ำ แต่ก็แค่ทำทีเป็นขอตัวเข้าห้องน้ำ พอพ้นจากสายตาเธอ ผมก็อ้อมด้านหลังตัวอาคาร ออกตัววิ่งไปทางท่าเรือ

“ขอบคุณครับ คุณโจ คุณอลัน วันนี้ผมสนุก และมีความสุขมากครับ”
“พูดอะไรอย่างนั้น เราต่างหากที่รู้สึกยินดีมากที่เธอไปร่วมทริปกับเรา ปลานี่ฉันจะให้พ่อครัวทำอะไรอร่อยๆ กินกัน ถ้าเธอว่าง แวะมาร่วมรับประทานกับเราได้นะ”

“ครับ ถ้าไปได้ผมจะไปครับ”

“อ้อ แล้วอย่าลืมเอาข้อเสนอเราไปคิดล่ะ สำหรับคุณ เท่าไหร่ก็จ่ายไหว ฮ่ะๆๆๆ”
“ทะลึ่งล่ะ อลัน  บายเต้ อย่าไปสนใจอีตานี่เลย จุ๊บ”








“หึ หน้าระลื่นมาเชียวนะ” ผมที่มองอยู่ตลอด เดินเข้าไปด้านหลังเต้ หลังจากที่ไอ้พวกฝรั่งแยกตัวไปแล้ว จากที่ยืนดูตั้งแต่ลงจากเรือมาเห็นไอ้ฝรั่งมันมอง และหอมแก้มเต้ ก็ยิ่งอารมณ์เสีย
“.....” เขาหันมามองผมแว่บนึง รอยยิ้มที่คลี่น้อย ๆ ค่อย ๆหุบลง และก้าวเดินไปอีกทาง  ไอ้การเมินกันอย่างนี้มันจุดไฟผมน่าดู ผมวิ่งตามไปจะคว้าข้อมือเต้ไว้ แต่เขาสะบัดออกในทันที

“อะไร มันเสนอให้เท่าไหร่ล่ะ”
“....” สายตาผิดหวังถูกส่งมาให้ แต่ตอนนี้อารมณ์พลุ่งพล่านจนไม่ทันได้ฉุกคิด

“เฮอะ เดี๋ยวนี้นอนกับใครก็ได้ที่ให้เงินเหรอ...งั้นก็มานอนกับกูดิ จะให้มากกว่ามัน 10 เท่าเลย”
“ปากสักแต่มีไว้พูด สมองก็คงมีไว้แค่คั่นหูซินะ ถึงคิดได้แต่เรื่องบัดสี”

“อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลย ผ่านมากี่คนเข้าไปแล้ว”
“แล้วไงล่ะ...คุณมันก็แค่ หนึ่งในคนที่ผมเคยผ่านมา ไม่ใช่เหรอ”

เหมือนถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็น อารมณ์พุ่งปรี๊ด ผมไม่คิดเลยว่าเต้จะคิดกับผมแบบนี้ เจ็บใจ ที่ถูกเรียกว่าเป็นคนที่เคยผ่านมาของเขา อยากตอกย้ำซ้ำ ๆ ให้เขารู้ว่าเขาเป็นของผมคนเดียว ไม่มีทางจะให้ไปเป็นของคนอื่นอีกแล้ว

จะฉุดกระชากเต้เข้าไปที่ซุ้ม เก็บของสำหรับกีฬาทางน้ำข้างชายหาด แต่เต้ก็ขัดขืน จะร้องเรียกคนช่วย ผมจึงเอามืออีกข้างปิดปากเขาไว้ แล้วยกเขาลอยทั้งตัว หมายจะอุ้มพาเข้าไปในซุ้ม





“หยุดนะคุณซัน ปล่อยพี่เต้นะ” จู่ ๆ ไอ้เด็กเลาะห์ มันก็วิ่งเข้ามาขวาง พร้อมกับดึงเต้ออกไปจากผม

“เลาะห์ ทำไม...”
“...อ้อ ผม....เพิ่งนึกได้ว่าจะชวนพี่ไปเที่ยวงานประจำปีที่ภูเก็ต เลยเดินย้อนกลับมา...... แต่มาเห็นพี่กับ.....คุณจะทำอะไรพี่เต้ไม่ได้นะคุณซัน ผมไม่ยอมหรอก” ไอ้เด็กเวรมันกันเต้ไว้ด้านหลัง ยอมรับว่าถึงมันจะเด็กกว่าหลายปี แต่รูปร่างมันกับผมก็พอ ๆ กัน ถ้าต้องปะทะกันก็ยังไม่รู้ว่าใครจะได้เปรียบ

“มึงไม่ต้องมายุ่ง ไปให้พ้น”
“ผมไม่ไป คุณยังรังแกพี่เต้ไม่พออีกเหรอ”

“อ้อ เดี๋ยวนี้ริมีผัวเด็กเหรอ เด็กมันจะมาเร้าใจเท่ากูได้ยังไง เหอะ”



เพี๊ยะ

สติที่บ้าคลั่งดั่งพายุ หยุดลงทันที ที่เต้ฟาดฝ่ามือตบหน้าของผม มันไม่ได้แรงมาก แต่ก็ทำให้ผมต้องชะงัก
“ต่ำทราม เลวที่สุด” ภาพเต้ที่มีสีหน้าเจ็บปวด ทั้งๆ ที่เป็นคนตบผมแท้ ๆ
“ไปกันเถอะฮะ พี่เต้”


แต่ภาพที่ ไอ้เด็กเลาะมันตะคองไหล่ พาเต้เดินไปจากผม จุดอารมณ์ให้คุกรุ่นอีกครั้ง ผมก้าวตามไปผลักไอ้เด็กเลาะห์ จนมันกระเด็นไปนั่งกองที่ทราย

“มึงอ่ะ หลบไปเลย กูไล่มึงออก”
“คุณไล่ผมออกไม่ได้หรอก คนจ้างผมคือคุณมีน”

“มึง จะลองดีใช่ไหม” ผมจะก้มลงคว้าคอเสื้อไอ้เด็กเปรต หมายจะซัดมันให้หนำใจ
“หยุดเลยนะ คุณซัน ไม่งั้นผมจะไปบอกคุณฟ้าใส” เต้เข้ามาขวางผมที่ย่างสามขุมเข้าไปหาไอ้เด็กเวร และใช้ชื่อฟ้าใสมาขู่ผม ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะผมก็ไม่อยากให้ฟ้าใสรับรู้เรื่องนี้อีก

เต้ดึงไอ้เด็กเวร ให้เดินตามเขาไป ทิ้งให้ผมที่ โกรธที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ได้แต่ฟาดงวงฟาดงากับต้นไม้ ต้นมะพร้าวแถวนั้น อย่างบ้าคลั่ง
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 35 ก่อนตะวันจะลับ(22/11/17)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 22-11-2017 23:33:53
“เฮ้อ ผมว่าพี่นี่รสนิยมมีปัญหานะ ชอบหล่ออย่างเดียวเหรอไง นิสัยถ่อย เถื่อนอย่างนั้น ชอบเขาเข้าไปได้ยังไง”
“ฮ่าๆๆๆ อย่าว่าเขาเลย.....จริง ๆ เขาไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก” หันหลังเดินจากมา เจ็บปวดกับคำดูถูก ถากถาง จากคนที่รักมันเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก แต่พอได้ยินเลาะห์พูดเท่านั้นแหล่ะ ใจมันก็เบาขึ้น ก็อดจะขำขึ้นมาไม่ได้ หรือผมจะรสนิยมมีปัญหาจริง ๆ

“เฮอะ ยังจะปกป้องเขาอีก ทั้งที่เขาทำกับพี่ขนาดนั้น”

ผมได้แต่ยิ้มรับ ผมไม่รู้ว่ารสนิยมผมมีปัญหาอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือเปล่า ก็ผมรักเขาจริง ๆ นี่นา




“พี่เต้ ผม...ผมไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องความรักของ...ผู้ชายด้วยกันหรอกนะฮะ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร ยิ่งมาเห็นคู่โจกับอลันแล้วด้วย ผมยิ่งรู้สึกดีมากๆ และกับพี่ก็ด้วย ผมชอบพี่ พี่เป็นคนดี หล่อ น่ารัก มีน้ำใจ” เลาะห์ ทำหน้าลำบากใจก่อนจะพูด แต่ทั้งประโยคนั้นทำให้ผมรู้สึกดีใจที่ได้รู้จักกับเขา

“ฮะๆๆ ขอบใจนะ พี่ก็ชอบเลาะห์มาก เลาะห์เป็นเพื่อนคนแรกของพี่บนเกาะนี้เลยนะ”

“จริงเหรอ ผมดีใจนะนี่ เขินเลยอ่ะพี่” ชมมาชมไป ไม่โกง ฮ่าๆๆๆ ทำเพื่อนอ่อนวัยของผม ยิ้มเขินๆ
“ ไม่ต้องมาเขินพี่เลย เก็บไว้ไปเขิน น้องจูนเถอะ ชอบเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“อ๊า พี่รู้ได้ไงอ่ะ เจ้าตัวเขายังไม่รู้เลย”
“โด่ พี่ระดับไหนแล้ว มองปร๊าดเดียวก็รู้แล้ว” อดจะขำ ป๊อปปี้เลิฟไม่ได้ คอยจ้องมองเขาตลอด มีเวลาก็ชอบไปแกล้งไปแซวเขาอยู่เรื่อย พอถูกจับได้ ก็หน้าแดง (ทั้งที่หน้าดำ ๆ ก็ยังดูออกว่าแดง) พูดจาตะกุกตะกักกันเลยทีเดียว

“ไม่เอา ๆ อย่าไปบอกเขานะ ผมอาย”
“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ”

ผมว่าผมไม่ได้หัวเราะอย่างเต็มที่อย่างนี้มานานมากแล้ว หัวเราะจนปวดท้องเลยล่ะ ผมเริ่มมีกำลังใจว่าผมจะผ่านช่วงเวลานี้ได้เพราะผมมีคนรอบข้างที่ดี มีความจริงใจ และยังเป็นห่วงเป็นไย ในตัวผมอีก







เช้าวันถัดมา ผมก็ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานตามปกติ แม้คุณซันจะยังก่อกวนบ้าง แต่พี่มีน ก็จัดการให้เขาอยู่ในที่ทางของเขา จนถึงเวลาเลิกงาน ผมรีบ ๆ ออกจากที่ทำงาน กะจะกลับไปที่บังกะโลตามทางปกติ แต่ก็กลัวว่าคุณซันจะมาดักรอ ผมจึงเลี่ยงไปทางป่าอีกด้านหนึ่ง ที่ซึ่งชาวบ้าน ใช้เป็นทางเดินมาตั้งแต่เมื่อก่อน


ก่อนจะก้าวพ้นตัวอาคาร ผมได้ยินเสียงคนเดินออกมาจากป่า ผมเลยรีบหลบ กลัวเป็นคุณซัน แต่คนที่เดินออกมาจากป่า กลายเป็นพี่วัชร ซึ่งเดินออกมา ก่อนจะมีชายแปลกหน้า อีก 2 คนเดินตามหลังออกมา และหยุดคุยกัน
“พี่วัชร โอกาสสุดท้ายแล้วนะ”
“เออ รู้แล้ว ๆ ไม่นานหรอก”


จากนั้นพวกเขาก็เดินเลี่ยง ๆ ออกไปที่ถนนใหญ่ ผมมองตามจนลับตา ชาย 2 คนนั้น ทำผมขนลุก ไม่ใช่จากหน้าตา แต่เหมือนมีรังสีอะไรที่ไม่น่าไว้ใจออกมา ดูท่าทางไม่ใช่ชาวบ้านแถบนี้ แล้วยิ่งมากับพี่วัชรด้วย ผมควรจะไปปรึกษาคุณซัน.........ดีไหม.....

อือ คงไม่มีอะไรหรอก ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ เพราะช่วงหลังมานี้ พี่วัชร ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ผมรู้สึกระแวงอีก แถมยังพูดคุยกับผมเหมือนตอนเข้ามาทำงานใหม่ ๆ 2 คนนั้นอาจจะเป็นเพื่อนพี่เขาก็ได้ ผมคงจะคิดมากไปเอง
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 35 ก่อนตะวันจะลับ(22/11/17)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-11-2017 00:39:03
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (8/3/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 09-03-2018 00:13:40
นึกว่าจะถูกลบไปแล้วซะอีก ขอบคุณนะคะ
 :mew6:


*********************************************



ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์




ผมมองตัวเองในกระจก วันนี้ ผมอยู่ในชุดทักซิโด้ สีดำ ดูโก้เก๋ แต่หน้าตาผม ไม่ได้ไปทางเดียวกับเครื่องแต่งกาย เลย ปัญหาระหว่างผมกับเต้ ที่ผมก็ยังคงแก้ไม่ตกจนล่วงเลยมาถึงวันหมั้น ซึ่งตอนเช้าเราไปทำพิธีที่บ้านเจ้าสาวที่ภูเก็ต ก่อนจะกลับมาเตรียมงานตอนค่ำที่รีสอร์ท

ผมบอกตัวเองไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่ายังไงๆ ผมก็รักฟ้าใส ผมอยากแต่งงานกับเธอ............แต่ผมก็ยังตัดใจจากเต้ไม่ได้ ยิ่งเขาเมินผม มันยิ่งทำให้ผมแทบคลั่ง


“ว่าไงลูก เรียบร้อยรึยัง” พ่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง สายตาท่านดูมีความสุข
“...ครับ พ่อ” ตอบพ่อกลับไปแบบไม่สู้จะเต็มเสียงนัก

“อือ หล่อจริง ๆ ลูกใครหว่า ฮ่ะๆๆๆๆ......ถ้าแม่แกได้มาเห็นแกเป็นฝั่งเป็นฝา เขาคงจะดีใจมาก” ท่านจับไหล่ผม และมองตรง ๆ มาอย่างอบอุ่น พ่อเป็นคนที่ผมเคารพมากที่สุด
“......” ผมคิด ว่าควรจะพูดเรื่องเต้กับท่านดีไหม?

“หือ เป็นอะไร ไอ้เสือ วันสำคัญของแกนะ ทำหน้าให้มันดีหน่อย แกมีอะไรรึเปล่า” เหมือนพ่อจะสังเกตเห็นสีหน้าอึกอักของผม
“...ผม... พ่อครับ ผม...”  ท่านเป็นคนมีเหตุผล และเปิดกว้าง ผมว่าท่านน่าจะมีคำแนะนำดี ๆ ให้ผมได้





แต่ยังไม่ทันเอ่ยอะไร พี่มีน ก็เปิดประตูเข้ามาตาม
“พ่อคะ ซัน เสร็จยังคะ แขกมากันเยอะแล้ว เจ้าภาพของงานยังไม่ออกมาซักคนเลยคะ”
“อ่อ ....เสร็จแล้ว ๆ ไปซันไปรับแขกกันก่อน.....แล้วค่อยคุยกันหลังเลิกงาน พ่อรอฟังแกเสมอนะ” พ่อหันไปตอบ และหันกลับมาตบบ่าผมเบา ๆ

“..ครับ..ขอบคุณครับพ่อ” โอกาสของผมอาจจะหมดไปแล้วจริง ๆ ก็ได้ พ่อเดินนำออกไปก่อน พี่มีนมองผม แต่ผมดูไม่ออกว่าพี่เขาคิดอะไรอยู่ พี่เคยเป็นคนที่เข้าข้างผมในทุก ๆ เรื่อง แต่ผมว่าเรื่องเต้ พี่ดูจะจริงจังที่จะขัดขวางผมมาก



“พี่มีน” ผมยังไม่ละความพยายาม ขณะเดินตามหลังก็คว้าแขนพีสาวให้หยุดเดิน
“หือ” พี่หันมามอง เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“....เต้ล่ะ”
“....” ทันทีที่สิ้นคำถาม พี่มีสีหน้าที่เฉยชายิ่งขึ้น

“...ผมก็แค่ถาม ก็ไม่เห็นเขาตั้งแต่บ่ายแล้ว” ผมใจหายวูบกับสีหน้าแบบนี้ของพี่สาวจริง ๆ จึงแก้ตัวออกไป
“ฮือออ อย่าสนใจเขาเลย สนใจคู่หมั้นของแกดีกว่า มาโน่นแล้ว” พี่มีน เอามือผมที่จับแขนเธอลง และหันไปทางหน้าต่าง ซึ่งมองออกไปเห็นสวนที่จัดงาน และ ...........ว่าที่เจ้าสาวผมกำลังเดินมาทางเรา

“พี่มีน.....” ผมยังไม่หมดความพยายามในการตื้อขอคำถาม
“เฮ้อ ยุ่งจริงแกนี่ เต้เขาขอไปช่วยงานในครัวนะ เอ้า พอใจแล้วก็ไปเลย ....อื้อวันนี้ฟ้าใสสวยจริงๆ” พี่มีนมีสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ตอบเสร็จก็ผลักผมไปข้างหน้า ที่ฟ้าใสเดินมาถึงพอดี



ฟ้าใสในชุดเดรสลำลอง สีฟ้าขาว ขับให้เธอดูงดงามราวกับนางฟ้า ผมตะลึงไปชั่วขณะจนเธอเดินเข้ามาทัก
“ซันค่ะ วันนี้คุณดูหล่อมากเลย ฟ้ามีความสุขที่สุดเลยคะ” เธอเดินเข้ามา หอมผมบาง ๆ หนึ่งที พี่มีนเหลือบตามาดูเล็กน้อย ก่อนจะเดินเงียบ ๆ จากไป
“...ครับ...เอ่อ คุณก็ดูสวยน่ารักมากเลยครับ”

“จริงเหรอคะ ชุดนี้คุณพ่อสั่งตัดจากปารีสเลยนะคะ ดีใจจังที่คุณชม”
ผมยิ้มตอบ ยิ้มที่ฟ้าใสส่งมาอย่างหวานเยิ้ม เธอเป็นคนที่สวยน่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย ผมคงจะต้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดอย่างแน่นอน



“คุณซัน คุณฟ้าใส รับเครื่องดื่มไหมคะ”
“คะ”
แขกเหรื่อในงานมากมาย ผมและว่าที่เจ้าสาวเดินแทบจะทั่วทั้งงาน จนพนักงานห้องอาหารนำเครื่องดื่มหลากหลายชนิดมาเสริฟ ในขณะที่ฟ้าใสหยิบ ค็อกเทลสีฟ้า ผมก็กำลังจะหยิบ เบอร์เบริน แต่พลันสายตาก็เห็นใครบางคนที่ผมเพิ่งตามหา กำลังเดินง่วน เข้า ๆ ออก ๆ ห้องครัว กับโต๊ะจัดอาหารแบบบุฟเฟ่ต์

เต้ ที่ผมเห็นอยู่ในชุดพนักงานเสริฟ เหงื่อไหลอาบ ด้านหลังเปียกโชก แต่หน้าตาของเขาบ่งบอกว่า กำลังสนุกกับงาน และหัวเราะ เมื่อมีพนักงานคนอื่น เข้ามาคุยด้วย

ผมหันกลับมามองฟ้าใส........ช่างแตกต่างกันจริงๆ ผู้หญิงตรงหน้าดูสูงส่ง งดงาม กลิ่นกายก็หอมกรุ่นตลอดเวลา ............ผมยังจะมามัวลังเลอะไรอยู่อีก............ผมเลือกไม่ผิดแล้ว.................. 
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (8/3/18)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 11-04-2018 07:35:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (8/3/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 11-04-2018 10:05:24
งมงายซ้ำซากอยู่นี่แหละ เมื่อไรจะมีความรักที่ดีเหรอหรือต้องเป็นแบบนี้จนตายตลก
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (8/3/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 11-04-2018 23:49:19
วันนี้อ่านตั่งแต่บทที่1ถึงปัจจุบันเกลียดความโลเลของซันมากฟ้าใสก็ร้ายแอบคิดนะว่าฟ้าใสไม่ได้ใสสมชื่ออาจเน่ามาจากเมืองนอกแล้วแล้วสวมรอยความรักจากซันง่ะ
ติดตามนะค้าหวังว่าคุณนักเขียนจะอัพจนจนบทส่งท้ายนะคะอย่าเทนิยายเรื่องนี้เห็นอัพตั่งแต่2014กลัวระยะเวลาเทนิยายอยากเห็นชะนีฟ้าใสชักดิ้นชักงอ o13
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (8/3/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 13-04-2018 23:10:48
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ
ไม่ต้องห่วงค่ะ ไม่เทแน่นอน แต่เพราะภาระหน้าที่ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลามาอัพ
โครงเรื่องจบแล้ว แต่ยังแต่งไม่จบ ตอนนี้ก็กำลังต่อจากตอนสุดท้ายที่ลงไว้อยู่(สารภาพ)
คืบหน้าแล้วจะมาอัพต่อให้นะคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (8/3/18)
เริ่มหัวข้อโดย: JaaJaaJaaJaa ที่ 14-04-2018 18:46:50
สนุกอะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (8/3/18)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 14-04-2018 23:05:41
เพิ่งจะมาเห็นเรื่องนีเกดเข้าาอ่านไม้ผิดหวังจริงๆสงสารเต้อ่านไปก็ร้องไห้ไปด่าซันมันไปด้วยอยากให้เต้ไปทำงานกับโจและอลันด้วยจังจะได้หนีซันมันด้วย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (19/5/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 19-05-2018 16:15:55
มาต่อ ๆ ขอบคุณหลาย ๆ คอมเม้นนะคะ เป็นแรงใจให้ปั่นมาจนจะจบอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ งานยุ่งมากเหนื่อยจนไม่มีกะใจจะเขียนต่อแล้ว แต่ก็ได้กำลังใจจากเม้น ถึงไม่กี่เม้น แต่มันเติมกำลังใจได้ดีมากค่ะ ติดตามกันต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว

**********************************************************


“เต้ ไปพักเถอะ ลื้อช่วยมาเยอะแล้ว ที่เหลือไม่มีอะไรมาก แค่คอยดูแลเติมอาหาร เท่านั้น” เฮียตงหันมาบอกให้พัก หลังจากที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง อาหารพร้อมแล้วแค่คอยเติมเมื่อพร่องเท่านั้น
“อ้อ ครับเฮีย” รับคำ แล้วก็ค่อย ๆ นั่งลงที่ในเต็นท์ ประกอบอาหาร ไม่อยากออกไปทีสวน นั่งหันหลังเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตา อุตส่าพยายามช่วยงาน เพื่อจะได้ไม่มีเวลามาคิดมากอะไรอีก เวลามันก็ล่วงเลยมาถึงวันนี้แล้ว วันที่ผมและเขา คงจบสิ้นกันซะที


“โหพี่เต้  เอ้าผ้าเย็น เช็ดหน้าหน่อย หมดหล่อกันพอดี”
“ฮ่ะๆๆๆ ขอบใจ มีด้วยเหรอไอ้ความหล่อนี่” จู่ ๆ ก็มีผ้าเย็นมาแปะหน้า รอยยิ้มจริงใจที่เลาะห์ส่งมาให้ ทำให้ผมใจชื้นขึ้นทุกครั้ง

“ไม่มีหรอกพี่ ฮ่ะๆๆๆๆ มีแต่ความสวย”
“ทะลึ่งแล้ว เลาะห์ เดี๋ยวเหอะ ฮ่ะๆๆๆ” ไอ้เด็กคนนี้ มันกวนจริง ๆ แต่ก็ช่วยให้ผมหัวเราะได้
“พี่โอเคไหม?”
“หือ?....อื้อ...ไม่ต้องห่วง ที่สุดแล้วทุกอย่าง มันต้องผ่านไป” ผมรู้ว่าเลาะห์เข้ามากวน ก็เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของผม คนที่จะเรียกว่าเพื่อนสนิทได้นี่ มีเขาคนเดียวจริง ๆ บนเกาะนี้
“พี่ แล้วที่ คู่นั้นเขาชวนไปทำงานที่ต่างประเทศ พี่สนใจไหม? ถ้าพี่ไปด้วยผมคงเบาใจขึ้น เพราะไม่รู้ว่าหลังจากผมไม่อยู่ เขาจะยังมาก่อกวนพี่อีกไหม”
“...แหม พูดซะอย่างกับพี่ดูแลตัวเองไม่ได้งั้นแหล่ะ....พี่คิดแล้วนะว่า......พี่จะ..”


“เฮ้ย ไวน์หมดล่ะ ใครไปเอามาจากห้องไวน์ที” เสียงพนักงานคนหนึ่งขัดจังหวะขึ้นมา ทำให้ผมและเลาะห์หันไปมอง
“เดี๋ยวผมไปเอาให้ครับ ขอไปส่งเครื่องดื่มด้านในก่อน”


“เอ่อ พี่ว่าง พี่ไปเอาให้เอง เลาะห์ ไปเสริฟเถอะ” เลาะห์กำลังจะอาสา แต่ผมก็รีบออกปากไปก่อนเพราะอยากอยู่ให้ห่าง ๆ งานเข้าไว้

“อ้อ ก็ดีพี่ กุญแจอยู่ด้านหลังเคาเตอร์บาร์นะพี่”

“เคร ๆ “


หลังจากหยิบกุญแจห้องไวน์แล้ว ผมก็เดินออกมาจากงานเลี้ยง เพราะห้องไวน์ที่ใช้เก็บเฉพาะไวน์ ของทางรีสอร์ท ทำขึ้นเป็นพิเศษ และมีแต่ไวน์ ราคาแพงๆ  ห้องเก็บไวน์อยู่ติดกับบ้านของนายหัว ผมเคยช่วยเลาะห์ มาเอาไวน์หลายครั้งแล้ว

ฝั่งบ้านของนายหัว มีแสงไฟจากโคมตามทางดูสลัว ๆ ผมไขกุญแจ เข้าไปในห้องเก็บไวน์ บรรจงหยิบไวน์ที่ต้องการใส่ตระกร้าไวน์ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหน่าย ๆ อยากนั่งอยู่ในนี้จนงานเลิกเลย แต่มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ไง ถอนอีกเฮือก ก่อนจะหันตัวเดินออกจากห้องเก็บไวน์


“เอ๊ะ…พี่วัชร มี... เหว๊อออออออ” ออกจากห้องมาก็เจอเข้ากับพี่วัชรที่เดินออกมาจากบ้านนายหัว ไม่ได้คิดอะไร เพราะพี่วัชรเข้าออกบ้านนายหัวเป็นประจำอยู่แล้ว จะผิดสังเกต ก็ตรงมีผู้ชาย 2 คนเดินตามออกมา พร้อมกับแบกถุงผ้าสีดำใบใหญ่ 2-3 ใบออกมาด้วย ผมที่ยังงง ๆ มองหน้าที่วัชรที่มีท่าทีตกใจ ก่อนเขาจะกระโจนเข้ามาล็อกตัวผมไว้ พร้อมทั้ง เอาปืนจี้หัวผม ตระกร้าไวน์ในมือก็หล่นลงที่พื้น

“เงียบนะมึง ไม่งั้นกูเป่าขมองมึงแน่” ถึงอยากร้องก็คงร้องไม่ออกหรอกครับ สถานการณ์แบบนี้ เคยเห็นแต่ในทีวี ไม่คิดว่าพอเจอจริง ๆ กับตัวเองมันจะน่ากลัวขนาดนี้

“พะ..พี่..ทำอะไรอ่ะ...คนพวกนี้เป็นใครกัน”
“มึงไม่ต้องถามมาก เก็บมันเลยดีกว่า” ผมที่กลัวก็กลัว อยากรู้ก็อยากรู้ ต้องตกใจหนักขึ้นไปอีกเมื่อชายคนที่ 1 ยกปีนอีกกระบอกหันมาที่หน้าผากผม
“เฮ้ย มึงจะบ้าเหรอ เดี๋ยวก็ได้แห่มาทั้งงานหรอก” ชายคนที่ 2 ห้ามไว้ ทำให้ผมหายใจคล่องขึ้นเมื่อปืนถูกลดลง
“เอางี้ เอามันไปด้วย ค่อยไปเก็บมันที่ หน้าหาด ดีเลยจะได้หาเรื่องให้มันเป็นแพะ”


แซก ๆๆ

จู่ ๆ ก็มีเสียงพุ่มไม้ไหว ตรงทางเดิน ชายคนที่2 รีบวิ่งไปดูอย่างไว
“อย่านะ ปล่อยฉัน ปล่อย อุ๊บ...” ผมมองตามเขาที่วิ่งไปดูที่พุ่มไม้ ก่อนจะคว้าใครบางคนออกมาจากพุ่มไม้ ตอนแรกเห็นไม่ชัด แต่รู้ว่าเป็นผู้หญิง จนได้ยินเสียงร้อง ใจผมหายวาบ นายหญิง!!!!

“เฮ้ย พี่วัชร อีแก่นี่มันคงจะได้ยินทุกอย่างแล้ว เอาไงดี” มันอุดปากนายหญิง แล้วพาตัวเดินกลับมาสบทบ
นายหญิงมองผม ที่ถูกปืนจี้หัว อย่างตกใจ ผมไม่รู้ว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้ เธอควรจะอยู่ที่ในงานซิ

“นายหญิง.....ขอโทษนะครับ แต่ผมจำเป็นจริง ๆ ไปเว้ย พาไปทั้ง 2 คนนี่แหล่ะ” พี่วัชรมองนายหญิงด้วยสายตาที่ดูไม่ออก แล้วพวกมันก็พาเราทั้ง 2 คนเดินตัดไปทางชายป่า

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (19/5/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 22-05-2018 19:31:41
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 36 ถึงวันวิวาห์ (19/5/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 24-05-2018 08:28:39
โอ๊ยลุ้นค่ะติดตามนะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน (10/6/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-06-2018 22:11:04
ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน




“พ่อคะ แม่ไปนานจังเลย”
“หือ? คงกำลังเลือกอยู่มั้ง ชุดเครื่องเพชรเขามีหลายชุด”
“ทำไมแม่ไม่เลือกแล้วถือมาเลยล่ะคะ”
“แม่เขาอยากดูให้เข้ากับชุดของเจ้าสาวน่ะ จะได้ใช้ รับขวัญเจ้าสาวตอนนายทะเบียนจดทะเบียนเสร็จ”
“....พ่อค่ะ...”
“...หือ..”
“......คือ...ไม่มีอะไรค่ะ.......”
“อะไรกัน พี่น้องคู่นี้ มีอะไรทำไมไม่พูด อ้ำๆ อึ้งๆ กันอยู่ได้”
“...ซัน พูดอะไรกับพ่อเหรอคะ”
“ยังไม่ได้พูดต่างหาก .....พวกแกมีอะไรกัน ไม่ใช่ฉันไม่รู้นะ ว่าพวกแกดูแปลก ๆ ไป “
“หนู..หนูกำลังคิดค่ะ ว่าจริง ๆ การแต่งงานครั้งนี้ มันดีสำหรับน้องแล้วจริง ๆ เหรอ”
“ทำไมล่ะ มันจะไม่ดียังไง หนูฟ้าใส ก็เหมาะสมกับเจ้าซัน และเขาสองคนก็รักกัน มันจะมีอะไรอีก”
“......”



“แย่แล้วค่ะ ๆๆ “

จู่ ๆ พนักงานหญิงที่ให้ไปตามคุณแม่ ก็วิ่งกระหืดกระหอบ พร้อมทั้งโวยวายลั่น
“เกิดอะไรขึ้น”
“นายหญิง นายหญิงหายไปค่ะ หนูเข้าไปตามในบ้านแล้วไม่พบใครเลย พอเดินกลับออกมาก็เจอนี่ค่ะ”

โทรศัพท์มือถือของคุณแม่

“เกิดอะไรขึ้นครับ” ซันคงได้ยินเสียงโวยวาย จึงรุดเข้ามาดู
“คุณแม่หายไปไหนไม่รู้อ่ะซัน  เหลือแต่โทรศัพท์คุณแม่ตกอยู่ หน้าบ้าน...”

ซันรับมือถือไป ก่อนจะปาดหน้าจอ และมองหาอะไรบางอย่างในนั้น ก่อนจะกดลงไป ภาพและเสียงก็ดังขึ้นมา

#นั่นมันนายวัชรนี่นา มากับใครอีก 3 คน ดูแปลกมากเลย ถ่ายไว้ดีกว่า#
#เฮ้ย มึงจะบ้าเหรอ เดี๋ยวก็ได้แห่มาทั้งงานหรอก#
#เอางี้ เอามันไปด้วย ค่อยไปเก็บมันที่ หน้าหาด ดีเลยจะได้หาเรื่องให้มันเป็นแพะ#
#ว้าย แย่แล้ว นั่นปืน....น้องเต้... #
#ต้องไปตามคนมาช่วยแล้ว...#
#แซก ๆๆ#


#ว้าย ตายแล้ว#
#อย่านะ ปล่อยฉัน ปล่อย อุ๊บ...#

เหมือนโทรศัพท์จะหล่นจากมือคุณแม่ ภาพในจอมีแต่พุ่มไม้ แต่เราก็ยังได้ยินเสียงอยู่

#เฮ้ย พี่วัชร อีแก่นี่มันคงจะได้ยินทุกอย่างแล้ว เอาไงดี#
#นายหญิง.....ขอโทษนะครับ แต่ผมจำเป็นจริง ๆ ไปเว้ย พาไปทั้ง 2 คนนี่แหล่ะ#

มือถือยังคงบันทึกต่อไป แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงคนพูดแล้ว ซันกดปิด ก่อนจะวิ่งไปที่บริเวณครัว
“เต้ล่ะ เต้อยู่ที่ไหน” ซันวิ่งเข้าไปคว้าคอเลาะห์ จนเด็กหนุ่มไม่ทันตั้งตัว ก็หน้าเหวอ
“คุณซัน...คุณจะทำอะไร”
“บอกมาไว ๆ เต้อยู่ที่ไหน ไม่ได้ไปแถวบ้านพักใช่ไหม” ภาพในโทรศัพท์เล็กมาก ชาย 3-4 คนที่เห็นไม่สามารถระบุว่าเป็นใครได้อย่างชัดเจน

“อือ..ครับ พี่เขาไปเอาไวน์...” สิ้นคำเลาะห์ ซันปล่อยมือแล้ว หันกลับมา

“เป็นเต้จริง ๆ ด้วย”
“เกิดอะไรขึ้นคะซัน” ฟ้าใส เดินเข้ามาถาม
“คุณแม่ และเต้ ถูกจับตัวไปครับ เราต้องโทรตามตำรวจด่วนเลย”
“ทำไมวัชรทำอย่างนั้น คนในนั้นคือวัชรจริง ๆ เหรอ” พ่อเองก็ออกอาการไม่อยากเชื่อ เพราะพี่วัชร เป็นคนที่พ่อไว้วางใจเป็นที่สุด


“ไปครับ เราต้องตามไปช่วย ผมคาดว่าเขาคงไปขึ้นเรือที่ท่าเรือเล็กหาดด้านหลังแน่ ๆ “
“ซัน ๆ คะ แล้วงานแต่งเราล่ะ นายทะเบียนมาแล้วนะคะ”
“......ฟ้าครับ...ขอโทษที เราคงต้องพักงานไว้ก่อน นี่เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน ผมคงต้องไปช่วยคุณแม่กับเต้ก่อน” สีหน้าฟ้าใส ง้ำลงเล็กน้อย แต่ก็กลับมายิ้มให้น้อย ๆ และแตะแขนซันให้เขาได้ไปช่วยคนของเขาก่อน

ซันเกณฑ์พนักงานผู้ชายหลายคน พร้อมอาวุธครบมือ พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งส่วนหนึ่งจะเอาเรือไปดักที่ทางทะเล
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน (10/6/18)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-06-2018 22:20:48
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน (10/6/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-06-2018 22:30:37
พวกมันพาเรา 2 คนทุลักทุเล มาจนถึงท่าเรือเล็ก ของหาดด้านหลังเกาะ ที่ซึ่งมีแต่ชาวบ้านใช้ในยามเช้า  ยามค่ำคืนจึงร้างผู้คน

มันมัดมือเราสองคนไพล่หลังไว้ ก่อนจะพลักให้ผมนั่งลงที่หน้าหาด แล้วจึงผลักนายหญิงให้นั่งตาม
“นายวัชร นายจะทำอะไร ข้าวของอยากได้ก็เอาไป ปล่อยฉันสองคนไปเถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่อง”
นายหญิงพยายามต่อรอง
“......ผมต้องขอโทษด้วยครับ นายหญิงไม่น่ามาเห็นเลย”
“ยังไม่สายนะ นายยังกลับตัวได้ คุณพี่เขาไว้ใจนายมาก ช่วยเหลือนายมาตลอด นายไม่สำนึกบ้างเหรอ”
“ผมสำนึกเสมอครับ ....สำนึกว่าผมนั้นมันต่ำต้อย ผมพยายามเพี่อที่จะได้ทัดเทียมกับคุณมีน.....ผมรักเธอ อยากแต่งงานกับเธอ แต่พวกคุณกลับจะยกเธอให้แต่งงานกับไอ้กุ๊กเจ๊กนั่น....”
“แต่...นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่เธอต้องทำอย่างนี้เลยนะ”
“ทำไมจะไม่ใช่ล่ะครับ นี่แหล่ะครับเหตุผลว่าทำไมผมถึงติดหนี้พนัน เพราะผมอยากมีให้ทัดเทียม อยากรวยเร็ว ๆ ไม่อยากเสียเธอให้ใคร...”

“การพนันไม่เคยให้อะไรใครนะ มีแต่ทำให้ชิบหาย วอดวาย กลับตัวซะตอนนี้ ฉันบอกแล้วว่าสัญญาว่าจะไม่เอาความเธอ ...ส่วนเรื่องมีน ฉันคงไม่รับปากเพราะเขาเลือกของเขาเอง ”

“......” พี่วัชรมีท่าทีอ่อนลง

“หนอยอีแก่ มึงไม่ต้องมากล่อมพี่วัชรเลย” ชายคนที่ 1 เดินตรงเข้ามากำหมัดหมายจะชกนายหญิง
“ว้ายยยย”
“เฮ้ย อย่านะ” ผมถลาเข้าไปขวางไว้ จึงโดนหมัดของมันเข้าที่แก้มซ้ายเต็ม ๆ เจ็บชิบหาย ได้รสเลือดในปาก จนไหลย้อยออกมาจากปากเป็นทาง
“โอ๊ยยยยย”
“น้องเต้”

“เฮ้ย ไอ้เชี่ย มึงทำอะไรวะ อย่าริอาจต่อยนายหญิงอีกนะ” พี่วัชรเข้าไปกระชากมันออกมาแล้วผลักออกไปอีกทาง ก่อนจะหันมาดู พอเห็นว่านายหญิงปลอดภัย ก็มีสีหน้าคลายกังวล
“นายหญิง ผมหันหลังกลับไม่ได้แล้วครับ ผมทำไปแล้ว ไม่คิดจะถอยหลังแล้วด้วย นายหญิงไม่น่ามาเห็นเลย ผมกะว่า จะเก็บไอ้เด็กนี่ ที่นี่ พร้อมทั้งโยนความผิดให้มันเป็นคนร้าย แล้วก็ค่อยกำจัดพี่ชายมันทีหลัง เมื่อหมดเสี้ยนหนามหัวใจ ผมก็คงได้สมปรารถนากับคุณมีน .........แต่เมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณต้องทรมาน.....”
“นายวัชร......ไม่นะ อย่าทำอะไรเราเลย ฉันขอล่ะ” นายหญิงขอร้อง แต่ก็คงไร้ผล พี่วัชรมันคงวางแผนมาแล้ว มันปล่อยเราไว้สองคน แล้วเดินไปสมทบกับพวกมันที่อยู่ไม่ไกล ทุกคนมองออกไปที่ทะเล คาดว่าจะมีคนเอาเรือมารับพวกมันแน่นอน

“นายหญิงใจเย็น ๆ ครับ..ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหมครับ”
“อือๆๆๆ ฉันไม่เป็นไร เธอล่ะ เจ็บไหม”
“ก็..ก็นิดหน่อยครับ...ทำไมคุณถึงมาที่บ้านล่ะครับ ”
“ฉันจะมาเอาเครื่องเพชรให้หนูฟ้าใสนะจ่ะ ไม่คิดว่าพวกนายวัชรจะกระทำการอุกอาจเยี่ยงนี้ มันคงกะจังหวะคนไปอยู่ในงานกันหมด”
“..........” ได้ยินชื่นว่าที่เจ้าสาว ก็ทำให้จุกในอกไม่น้อย
“เป็นอะไรทำไมเงียบไป”
“ไม่มีอะไรครับ คิดอะไรนิดหน่อย แต่ผมคิดแล้วว่าผม...ผมคงจะไม่รอดแน่ ๆ ...ยังไงพวกมันก็คงจะเก็บผม ที่นี่หลังจากพวกของมันมารับ .....แต่ผมจะไม่ยอมให้มันทำอะไรนายหญิงแน่นอน”
“....น้องเต้”
“นายหญิงดีกับผมมาก ผมคงไม่อาจตอบแทนบุญคุณได้ในชาตินี้ แต่ผมจะปกป้องคุณให้ถึงที่สุดเองครับ”
“....เด็กดี......ทำไมถึงต่างกันเช่นนี้ นายวัชร เราก็ดีกับเขามานานแล้ว ส่วนเธอ เพิ่งมาอยู่ไม่นานแท้ ๆ กลับคิดดีได้เพียงนี้ ขอบใจมากจริง ๆ จ้ะ” นายหญิงมองมาด้วยสายตาที่อ่อนโยน ทำให้หัวใจที่เต้นเร็วด้วยความหวาดกลัวของผม เต้นช้าลง และอุ่นวาบไปทั่วร่าง ผู้หญิงคนนี้ทำให้ผมนึกถึงแม่ได้ตลอดจริงๆ ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงมองผมด้วยสายตามที่อ่อนโยนเช่นนี้

“ผมยินดีครับ ตอนนี้ผมคลายเชือกที่รัดมือไปได้เยอะแล้ว อีกไม่นานก็น่าจะหลุดได้แล้ว ถ้าสบจังหวะดี ๆ ผมจะถ่วงเวลาให้ ขอให้นายหญิงวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุดนะครับ”
“ไม่นะ ถ้าจะหนี เราต้องหนีไปพร้อมกัน” ท่าทางเธอตกใจไม่น้อยกับความคิดนี้ของผม
“ผมเกรงว่าจะไม่ได้ครับ ถ้าสองคน เราคงไม่รอดทั้งคู่แน่ .......ผมตัวคนเดียว พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว มีแต่อากู๋ กับเฮียตง เป็นอะไรไปก็คงมีแค่ 2 คนนั้นที่เสียใจ....” ปากก็พูดไป แต่ใจผมจริง ๆ ก็กลัวตายไม่น้อย แต่เทียบกันแล้ว ความอยากปกป้องผู้หญิงตรงหน้ามีมากกว่า หวังแค่ว่าถ้าผมเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็อยากให้ 2 คนนั้นไม่ต้องเสียใจกับการจากไปของผมมากเกินไปเท่านั้นเอง

“ไม่จริงหรอ........ ยังมีซันอีกคนนะ ที่จะต้องเสียใจมากแน่”
“...นายหญิง.........รู้” ผมใจหายวาบที่เธอพูดถึงคุณซัน แต่พอมองหน้าเธอ ก็ได้ประจักษ์ว่าที่เธอพูดออกมาเพราะรู้ถึงความสัมพันธุ์ของผมกับคุณซัน

“...ใช่ ฉัน ...ไม่ซิ เราทั้งคู่รู้ รู้มานานแล้วด้วย....เรื่องพวกเธอสองคน.. ก็ซันแสดงออกชัดเจนซะขนาดนั้น....”
“...ผมขอโทษครับ ที่ทำให้ครอบครัวท่านวุ่นวายใจ” ผมรู้สึกละอายใจจนไม่กล้าสู้หน้า ได้แต่ก้มหน้า

“อย่าพูดอย่างนั้นเลยเรา เป็นพวกเราซะอีก ที่ทำให้เธอต้องเสียใจ.....ขอโทษนะ ถึงซันจะไม่ใช่ลูกของฉัน แต่เขาก็เป็นผู้สืบทอดของคุณพี่ ยังไง.........เราก็อยากให้เขาแต่งงานกับผู้หญิง และมีลูกหลานสืบต่อไป”
“.............” เหมือนความปวดร้าวแผ่ไปทั่วร่าง มันคงเป็นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นทุกครั้ง เรามันเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ ไม่มีประโยชน์กับใครจริงๆ นั่นแหล่ะ

“พวกเราไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เธอคิดใช่ไหมล่ะ........เธอคงเกลียดเรามากซินะ”
“..........” ไม่ว่าความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไร แต่ผมไม่มีวันเกลียดนายหญิง และนายหัวแน่ ๆ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของพวกท่าน มันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน

“แต่ท้ายที่สุดแล้วคนที่เลือกก็คือซัน คุณพี่เขาบอกแล้วว่า ถ้าซันเลือกเธอ เขาก็จะไม่ห้าม”
“ฮึๆๆ....จริงของคุณครับ เพราะคุณซันเขาไม่เลือกผมเอง ไม่มีใครผิดหรอกครับ......ผมไม่เคยคิดโกรธหรือเกลียดใคร มันเป็นกรรมของผมเอง เกิดมาก็ทำให้แม่ตาย อยู่ไปก็เป็นชายเต็มตัวไม่ได้ ยังดีตอนตายยังเป็นประโยชน์ต่อคุณ.....”
“น้องเต้ .....ไม่มีแม่คนไหนไม่อยากให้ลูกมีชีวิตอยู่หรอกนะ....มัวแต่โทษตัวเองอย่างนี้ คุณแม่เธอท่านคงตายตาไม่หลับ คงห่วงเธอมากแน่ๆ........ถ้ารอดไปได้ ไม่เกี่ยวกับซันหรือใคร ๆ ทั้งนั้น ฉันอยากรับเธอเป็นบุตรบุญธรรม เธอจะรังเกียจไหม”
“...........อือ..อึก...นายหญิง ขอบคุณครับ” จู่น้ำตาไหลอย่างไม่อาจควบคุมได้ ผมจะมีแม่แล้ว ยังมีคนที่รักผม อยากให้ผมอยู่ด้วย รู้สึกดีมากจริง ๆ ถึงจะตายก็ไม่เสียดายแล้ว
“ไม่เอา ไม่ร้อง ..โอ๋ๆ ...ถ้าไม่รังเกียจ ก็เรียกฉันว่าแม่ซิจ้ะ”
“............” อยากเรียกแม่ใจจะขาด แต่ก็ไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดรอดออกมา เพราะคำพูด ความตื้นตันมันจุกอยู่ในลำคอ ได้แต่ก้มแทบตัก น้ำตาแห่งความปิติ นองเต็มหน้า

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน (10/6/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-06-2018 22:48:00
“เฮ้ย เมื่อไหรมันจะมาวะ นี่ก็เลยเวลานัดมา 10 นาทีแล้วนะ”
“ใจเย็นดิวะ เรือนะเว้ยไม่ใช่รถยนต์ ฝ่าคลื่นฝ่าลม ก็ช้าบ้างซิวะ”
“อยากเอาของให้นายดูเร็ว ๆ เว้ย ได้มาเยอะขนาดนี้ กูว่าพวกเราได้รางวัลงาม ๆ แน่”


เสียงของพวกมันที่คุยกัน ได้ยินแว่วๆ  เพราะพวกเราซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้ไม่ไกล ตอนที่เห็นคุณแม่ และเต้ที่ถูกมัดนั่งรวมกันอยู่ ก็แทบจะถลาเข้าไปช่วย แต่พวกตำรวจห้ามเอาไว้ เพราะต้องสนธิกำลังกับทางเรือ เพื่อจัดการทางเรือให้ได้ก่อน ตัดทางหนีของพวกมัน
“ยังไม่ได้อีกเหรอคุณตำรวจ ผมกลัวพวกมันจะทำอะไรน้องผม”
“ใจเย็น ๆ ครับ จากที่ดู ๆ แล้ว ถ้ามันจะทำอันตรายอะไร คงทำไปแล้ว มันคงรอให้เรือมารับก่อน”
“เฮียตงใจเย็น ๆ ก่อน....”
“ใจเย็นได้ไงน้องกูทั้งคน ไม่ใช่เป็นคนอื่นเหมือนมึง”
“เฮีย..”
“หยุดเลย สองคนนี่ กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน จะมาทะเลาะกันทำไม เราต้องร่วมกันช่วยคุณแม่กับเต้ก่อนซิ”
“ซันคะ ให้ตำรวจจัดการเถอะค่ะ ถอยออกมาอยู่ที่ปลอดภัยดีกว่า”
“ฟ้าใส คุณไม่ต้องตามมาก็ได้ครับ มันอันตราย”
“ไม่ค่ะ ซันอยู่ไหนฟ้าก็จะอยู่ด้วย อยากเป็นกำลังใจให้ซันนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
“ขอให้มีความสุขกันนะพวกคุณ”
“ไม่เอาหน่าเฮีย มาทางนี้เลย”

#ว 1 เรียก ว.2 ๆ #
“ว 2 ว่าไง”
# เราจับเรือของคนร้ายได้แล้ว เรือตำรวจน้ำกำลังจะเข้าไป 3 ลำ เราจะบุกเข้าไปพร้อม ๆ กัน เตรียมตัวไว้ด้วยนะครับ#
“ว 2 ทราบ เราพร้อมแล้ว”

สิ้นคำสั่งจาก วิทยุสื่อสารของตำรวจ แสงไฟจากเรือในท้องทะเล 3 ลำก็สาดเข้ามาที่หน้าหาด ที่ ๆ คนร้ายทั้งสามคน กำลังยืนอยู่ จนสว่างไปทั่ว

“เฮ้ย ๆ อะไรว่ะ”
“เฮ้ย ชิบหายแล่ะ พี่วัชร ตำรวจมา”

ขณะที่คนร้ายกำลังตื่นตระหนก และงงกับเหตุการณ์ พวกตำรวจที่ซุ่มอยู่ก็กรูกันออกมา และยกปืนขึ้นจ่อ ไปที่คนร้ายทั้ง สามคนที่ยังไม่ทันตั้งตัว จนพวกมันไม่มีเวลาแม้เต่จะยกอาวุธขึ้นมาสู้

“เอ้า ยกมือขึ้น ๆ นั่งลงไป ๆ”
ตำรวจหลายนายเข้าไปจับกดพวกมันให้นั่งลง ค้นตัวปลดอาวุธ อย่างว่องไว

ในขณะที่พวกตำรวจกำลังปฏิบัติการ พวกเราก็วิ่งเข้าไปช่วยคุณแม่และเต้ อีกด้านนึงทันที
“คุณแม่ ๆ เป็นอย่างไงบ้างคะ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“เต้ เป็นยังไงบ้าง เฮ้ย เลือด มันทำร้ายลื้อเหรอว่ะ ไอ้คนเลวนี่”
“เฮีย ๆ ฮือๆๆๆๆ”
“อ้าว ร้องทำไม เจ็บเหรอ”

ผมที่วิ่งเข้าไปพร้อมกับทุกคนก็ต้องหยุดยืนนิ่งๆ ก่อนจะถึงตัวพวกเขา ยืนดูพี่สาววิ่งไปแกะเชือก และลูบคลำตามร่างกายของมารดาของเธอ ที่ไม่รู้ว่าบาดเจ็บใด ๆ หรือไม่ .....และ มองดูเฮียตง มันวิ่งเข้าไปช่วยน้องมัน พอแกะเชือกออกได้ เต้ก็สวมกอดเฮียมัน แล้วร้องไห้หนักมาก ใจผมหายวาบเมื่อเห็นว่ามีคราบเลือดเลอะอยู่มุมปากซ้ายของเต้ อยากวิ่งเข้าไปกอดปลอบเต้ แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อมีมือนุ่ม ๆเย็น ๆ มาแตะ

“ซันคะ...คุณโอเคไหม ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตำรวจควบคุมตัวพวกมันไว้หมดแล้วค่ะ”
“...อ่า ครับ ผมโอเค คุณแม่ท่าทางปลอดภัย.... เต้ก็เช่นกัน”

ยิ่งเห็นเขาร้องไห้หนักมากในอ้อมกอดของเฮียตง และรอยเลือดที่มุมปาก ใจผมร้อนรุ่มขึ้น จนอยากหาที่ระบาย
ผมวิ่งกลับไปที่คนร้ายที่ถูกควบคุมอยู่ วิ่งเข้าไปต่อยพวกมันที่ทั้งงง และตกใจมือปัดป้องเป็นพัลวัน ตำรวจก็พยายามเข้ามาห้าม
“พวกมึง ไอ้สารเลว ฮึ่ม...ไอ้พี่วัชร มึงอีกคน พ่อแม่กูไว้ใจมึงที่สุด ไม่คิดเลยว่ามึงจะเนรคุณ กล้าทำกับพวกท่านได้ลงคอ”
“หยุด ๆ ซัน อย่าทำเขา”
“คุณแม่มาห้ามทำไม มันทำร้ายคุณแม่กับเต้ ผมไม่ปล่อยมันไว้แน่ ๆ”
“ซัน ถือว่าแม่ขอเถอะ พ่อวัชร เขาทำไปเพราะมีเหตุผล และเขาก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรแม่”
“นายหญิง.......”
“พี่วัชรคะ...”
“คุณมีน...”
“มีนได้ทราบทุกอย่างจากคุณแม่แล้วนะคะ....มีนไม่เคยคิดว่าพี่วัชรเป็นคนอื่นไกลเลยนะคะ ถึงมีนจะไม่สามารถรับรักพี่ได้ แต่มีนอยากให้พี่รู้ไว้ว่าตลอดมา พี่เป็นพี่ชายที่มีนเคารพ และนับถือมากนะคะ”

“คุณมีน....”
“พอแล้วพี่มีน พี่จะบ้าเหรอ คนอย่างมัน มีอะไรให้น่าเคารพ...มึงอ่ะ ไม่เหมาะกับพี่กูหรอก ไอ้คนเลว..ติดคุกยาวไปเถอะมึง ถุ๊ย”
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน (10/6/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 10-06-2018 22:52:45
จู่ ๆ แสงไฟก็สาดเข้ามาจากทางท้องทะเล แว้บแรกผมคิดว่าเรือของพวกมันคงมารับแล้ว เราคงจะหมดหวังหมดทางหนีแล้วจริง ๆ

จนกระทั่งมีตำรวจหลายนายวิ่งออกมาจากพุ่มไม้ทางชายป่า พร้อมอาวุธครบมือ เข้าจับกุมพวกคนร้าย อย่างรวดเร็วและฉับไว ผมหันมองหน้านายหญิง เธอก็หันมามองอย่างงง ๆ และ เราก็ยิ้มออกมาได้ มีคนมาช่วยแล้วพวกเรารอดแล้ว

ใจของผมเหมือนจะหยุดเต้น เรี่ยวแรงที่เคยมีเหมือนจะหายไปสิ้น คิดได้เพียงว่า เรารอดตายแล้ว จู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลอย่างไม่อาจกลั้น มีคนวิ่งเข้ามาช่วยพวกเรา ผมมองไม่เห็นว่าเป็นใคร เพราะแสงไฟที่สาดส่อง และม่านน้ำตาที่ทำให้เห็นทุกอย่างเลือนราง จนได้ยินเสียง
“เต้ เป็นยังไงบ้าง เฮ้ย เลือด มันทำร้ายลื้อเหรอว่ะ ไอ้คนเลวนี่” เป็นเฮียตงนี่เอง ผมหวังว่าจะเป็นใครเหรอ
“เฮีย ๆ ฮือๆๆๆๆ” ยิ่งหวังก็ยิ่งช้ำ น้ำตาก็ยิ่งไหลท่วม ผมโผกอดเฮียมัน ทั้งดีใจ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ ปะปนกันไปหมด
“อ้าว ร้องทำไม เจ็บเหรอ”


“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะ คนดีของแม่” มือของนายหญิง ที่ให้ความอบอุ่น และอ่อนโยนกำลังลูบหัว ผม เพื่อให้ผมหยุดร้อง ซึ่งมันก็ได้ผล
“..อึก..ครับ ..ไม่ร้องแล้วครับ”

“เอ๊ะ คุณแม่คะ....มีนได้ยินคุณแม่เรียกตัวเองกับเต้ ว่า...”
“เอาไว้แม่จะบอกลูกวันหลังนะ แต่ตอนนี้เข้าไปห้ามซันก่อนเถอะ แม่ไม่อยากให้เขาทำร้ายนายวัชร ....ที่เขาทำไปก็เพราะรักลูกนะมีน ....”

เป็นดังเช่นที่นายหญิงกล่าว คุณซันกำลังเตะต่อย คนร้ายทั้งสามคน โดยมีตำรวจหลายนายเข้าไปห้ามปราม

“พวกมึง ไอ้สารเลว ฮึ่ม...ไอ้พี่วัชร มึงอีกคน พ่อแม่กูไว้ใจมึงที่สุด ไม่คิดเลยว่ามึงจะเนรคุณ กล้าทำกับพวกท่านได้ลงคอ” เขาชี้หน้าพี่วัชร ก่อนจะปรี่เข้าไปทำร้ายอีกรอบ

“หยุด ๆ ซัน อย่าทำเขา” นายหญิงตะโกนห้าม
“คุณแม่มาห้ามทำไม มันทำร้ายคุณแม่กับเต้ ผมไม่ปล่อยมันไว้แน่ ๆ”
“ซัน ถือว่าแม่ขอเถอะ พ่อวัชร เขาทำไปเพราะมีเหตุผล และเขาก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรแม่”
“นายหญิง.......” หน้าตาพี่วัชร ดูอ่อนล้า สายตาที่มองนายหญิง กลับไปเป็นพี่วัชรคนเก่าที่ผมเคยพบครั้งแรก เขาก้มหน้า ไม่กล้าสบตา ผมเห็นน้ำตาของเขา


“พี่วัชรคะ...” พี่มีนเดินเข้ามาสมทบ ข้าง ๆ นายหญิง
“คุณมีน...” พอได้ยินเสียงว่าเป็นใคร พี่วัชรรีบเงยหน้าขึ้นมามอง
“มีนได้ทราบทุกอย่างจากคุณแม่แล้วนะคะ....มีนไม่เคยคิดว่าพี่วัชรเป็นคนอื่นไกลเลยนะคะ ถึงมีนจะไม่สามารถรับรักพี่ได้ แต่มีนอยากให้พี่รู้ไว้ว่าตลอดมา พี่เป็นพี่ชายที่มีนเคารพ และนับถือมากนะคะ”

“คุณมีน....” พี่วัชรน้ำตารื้นขึ้นมาทันที เขาพยายามเอื้อมมือมาหาพี่มีน

 “พอแล้วพี่มีน พี่จะบ้าเหรอ คนอย่างมัน มีอะไรให้น่าเคารพ...มึงอ่ะ ไม่เหมาะกับพี่กูหรอก ไอ้คนเลว..ติดคุกยาวไปเถอะมึง ถุ๊ย” แต่คุณซันก็ปัดมือเขาทิ้ง ชี้หน้าปรามาส ไม่พอ ยังถ่มน้ำลายรดหน้าเขาอีก
ถึงผมไม่ค่อยชอบพี่วัชรซักเท่าไหร่ แต่ที่คุณซันทำกับเขาก็เกินไป
“คุณซัน ทำเกินไปแล้วนะ เขาทำผิดก็ปล่อยให้กฎหมายจัดการซิ”
“เกินไปตรงไหนว๊ะ มันขโมยของ ลักพาตัวคุณแม่ และ...ยังทำร้าย..นาย” น้ำเสียงตะโกนที่เกรี้ยวกราดของเขา แผ่วลงในตอนท้าย ให้ได้ยินกันแค่สองคน และจ้องตรงมา พาให้ผมอุ่นวาบในหัวใจ อยากจะเข้าข้างตัวเองว่าที่เขาโกรธเกรี้ยวถึงเพียงนี้ เพราะว่าผมถูกทำร้าย


“เอาล่ะทุกคน จบ ๆ เรื่องไปเถอะให้ตำรวจเขาจัดการทางนี้ คุณเป็นไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า” นายหัว เข้ามาห้ามและประคองนายหญิง
“ไปกันเถอะค่ะซัน จบ ๆ เรื่องร้าย ๆ ซะที ไปทำพิธีของเราต่อดีกว่า” คุณฟ้าใส มองมาที่ผมก่อนจะจับแขนคุณซัน เขาเองก็หันมามองผมก่อนที่เบือนหน้าไปและเดินตามว่าที่เจ้าสาวไปทางชายป่า 

ผมถอนหายใจเบา ๆ ให้กับตัวเอง ที่ยังคงวนเวียนคาดหวังไม่จบไม่สิ้น จริงๆ ถ้าผมตายไปตอนนี้ ก็คงจะดีเหมือนกัน ทุกอย่างคงจบไป พวกเขามีความสุข ไม่ต้องระแวงผมอีก ผมก็สบายไป ไม่ต้องวนเวียนทุกข์ใจต่อไปไม่จบไม่สิ้น



“เฮ้ย อะไรว๊ะ”
เสียงคุณตำรวจนายหนึ่งดังขึ้น ทุกคนหันมามอง ผมที่อยู่ใกล้เขาที่สุด เพิ่งเห็นว่า พี่วัชรแย่งปืนจากคุณตำรวจนายนั้น และยืนจังก้า หันกระบอกปืนไปทางคุณซัน และว่าที่เจ้าสาว
“มึง ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ดูถูกกูนัก ตายซะเถอะ”

มันเร็วมาก ไม่มีใครตั้งตัว ไม่มีใครคาดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น

เปรี้ยงงงงงงงงง
เปรี้ยงงงงงงงง


.................สิ้นเสียงปืนนัดแรก นัดที่สองจากอีกกระบอกของตำรวจอีกนายหนึ่ง ก็ทะลุหน้าผากพี่วัชร เขาล้มทั้งยืน





“ ...เต้...”

จู่ ๆ ทุกคนก็วิ่งเข้ามาหาผม
นัดแรกที่ลั่นจากปืนที่พี่วัชรแย่งมา ส่องไปทางคุณซันและว่าที่เจ้าสาว ผมที่อยู่ใกล้ที่สุด และเห็นทุกอิริยาบถ ของพี่วัชร กระโดดเข้าไปขวาง จนกระสุนทะลุท้องผมไป อ๊า เจ็บเหมือนโดนเหล็กเผาไฟทะลุเนื้อ



ถามว่าทำไปทำไม .......ไม่รู้ ...รู้อีกทีก็กระโดดเข้าไปขวางแล้ว ไอ้โง่เอ๊ย



เสียงทุกคนตื่นตระหนก และอลม่าน เจ็บปวดไปหมดทั้งตัว หายใจติดขัด สายตาเริ่มพร่ามัว ใครบางคนกำลังกอดผมอยู่ อ้อมกอดที่ผมคุ้นเคย ได้ยินแต่เสียงร้องเรียกปานจะขาดใจของเขา อยากบอกเขาว่าอย่าร้อง แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ก่อนที่สติสุดท้ายจะดับไป
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน (10/6/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 11-06-2018 00:25:49
เต้เอ๊ย  วิบากกรรมอะไรจะเยอะขนาดนี้
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน(ต่อ) (5/9/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 05-09-2018 00:27:01
“.........”  นี่ผมยังไม่ตายเหรอ....สติสัมปชัญญะค่อย ๆ กลับมา หรี่ตาสู้แสงที่สาดมาจากข้าง ๆ เตียง เพดานแบบนี้ เตียงแบบนี้ ห้องแบบนี้ คงเป็นโรงพยาบาลซินะ ลำคอผมแห้งผาก คิดถึงละครในทีวีที่เคยดู ผมเข้าใจเลยว่านี่เป็นประโยคสำคัญ
“....น้ำ..ขอน้ำกินหน่อย”
“เต้...ฟื้นแล้ว ๆ ... เร็วเรียกคุณหมอมาเร็ว”

เขาปรับเตียงและประคองผมให้ดื่มน้ำ พอได้น้ำเข้าไปร่างกายก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ผมหันไปมองคนที่ประคองผม เขาเป็นผู้ชายที่ผมรักมากที่สุด
“....อากู๋.....”

“อื่อ อากู๋เอง ฟื้นซะที ทำให้เป็นห่วงจริง ๆ วันหน้าอย่าทำอะไรเสี่ยง ๆอย่างนี้อีกแล้วนะ คนแก่หัวใจจะวาย” อากู๋กอดหัวผมเบา ๆ แต่มันก็อบอุ่นไปถึงหัวใจ
“ขอโทษครับ.....” เหมือนจะยังไม่ฟื้นดี ผมขอโทษทั้งน้ำตา ก่อนจะหมดสติไปอีก ได้ยินเสียงอีกหลายคนเต็มไปหมด





รู้สึกตัวเบา ๆ ล่องลอยได้ สภาพรอบตัวเต็มไปด้วยหมอก มีใครบางคนกำลังเดินมา
“....แม่...”
“เต้” ถึงจะไม่เคยเจอตัวจริง แต่ทันทีที่เห็นก็มั่นใจว่านั่นคือแม่ที่ผมเฝ้าฝันถึง รีบวิ่งเข้าไปกอดแม่
“แม่จ๋า ทำไมเพิ่งมาหาผม ฮือๆๆๆ” รู้สึกว่าตัวเองกลับไปเป็นเด็กน้อยอายุ 10 ขวบ
“แม่ขอโทษนะ ที่ไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ลูก...แต่แม่รักลูกมากนะ”
“ผมก็รักแม่ครับ”


ผมกอดซบกับอกแม่ เล่าเรื่องโน้น เรื่องนี้ที่ผ่านมาในชีวิตให้แม่ฟัง อย่างที่ตั้งใจไว้ แม่ก็ฟัง และยิ้ม ๆ ลูบหัว แล้วให้นอนหนุนตัก
“ลูกจ๊ะ ถึงแม่ไม่ได้อยู่ด้วย ก็ต้องเข้มแข็งนะลูก ชีวิตมันไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดหรอก เหมือนที่ลูกเล่ามา คนเราต้องประสบพบเจอทุกเหตุการณ์ ทั้งเรื่องดี ร้าย สุข ทุกข์ เราหลีกหนีไม่ได้หรอกนะ มีแต่ต้องเดินหน้าต่อไป”
“ครับแม่ ผมรู้ ต่อไปผมจะเข้มแข็ง แต่ว่าแม่จะไปไหน อย่าไปเลย แต่ถ้าจะไป ผมไปด้วยนะครับ”
“มันยังไม่ถึงเวลาของลูกนะจ้ะ.....ได้ยินไหม ใครบางคนกำลังเรียกลูกอยู่”
“ใครเหรอจ้ะแม่...” ผมลุกขึ้นนั่ง หันไปทางที่มีเสียงเรียกชื่อผม เหมือนจากที่ไกลๆ แผ่วเบา เสียงที่ผมคุ้นเคย และคิดถึงจนน้ำตาไหลออกมา ผมหันไปหาแม่ แต่แม่ได้หายไปเสียแล้ว

หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต่อ (5/9/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-09-2018 02:26:27
 :a5:´ช็อคนิดๆค่ะ  มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต่อ (5/9/18)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 06-09-2018 04:15:05
ขอบคุณครับ กด +1 ให้นะครับ :a9:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต่อ (5/9/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 06-09-2018 20:30:52
5555 ขออำภัยนะคะ สั้นไปหน่อย อีกไม่กี่วันจะมาต่อยาวๆ ให้นะคะ ใกล้จบแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 37 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต่อ (5/9/18)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 12-10-2018 21:18:39
ยังรออ่าน :z13:อยู่นะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 02-12-2018 02:08:22
ตอนที่ 38 ยังไม่สาย



“แม่ ๆๆๆ... แม่.... อย่าไป.. อย่าทิ้งผมไป แม่ๆๆ”
“เต้ เต้ครับ ผมอยู่นี่แล้ว”
“ซัน เต้ฟื้นแล้วเหรอ”
“อ้อ ยังครับ ฟื้นมารอบนึงตอนอากู๋อยู่ แล้วนี่ก็ละเมอเรียกหาแต่แม่”
“โถ พ่อคุณ น่าสงสารจริง ๆ นอนไม่ได้สติมาเป็นอาทิตย์แล้ว นี่คงฝันถึงคุณแม่เขาอยู่แน่ๆ เลย”
คุณแม่และพี่มีนแวะมาดูอาการ พอดีกับที่เต้ละเมอ ท่าทางเธอเอ็นดูเต้มาก เข้าไปลูบหัวลูบตัวอย่างอ่อนโยน ผมไม่ค่อยได้เห็นมุมนี้ของเขาเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบเข้าใกล้เขา คิดว่าเขาเกลียดผม
ซึ่งคงต้องคิดใหม่ซะแล้ว
“อ้อ เธอก็ไปพักซักหน่อยเถอะ กลับไปอาบน้ำอาบท่าก็ยังดี หนวดเครารุงรังไปหมดแล้ว เดี๋ยวแม่กับมีนจะอยู่เฝ้าต่อให้เอง”
“เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ..”

พอถูกทักก็หันไปมองกระจก ซึ่งก็ไม่เคยรู้สึกถึงมันมาก่อน ทั้ง ๆ ที่ก็ดูแลเต้มาเป็นอาทิตย์แล้ว มองแต่เต้ กุมมือเขา พูดกับเขา เช็ดตัว ดูแลเขา จนแทบลืมกินข้าว ถ้าไม่มีใครมาจัดการให้
สภาพตัวเองในกระจก ดูไม่จืดเลย ถุงใต้ตาบวมเป่ง หมองคล้ำ ผมเผ้าไม่ได้จัดทรง หนวดเคราเริ่มจะรุงรัง ไม่เหลือเค้า เสือกรุงเทพฯเลย

“ไม่ได้ ไป ๆ ถ้าเต้ตื่นขึ้นมาเห็นสภาพนี้ ตกใจตายกันพอดี....อ้อ ฟ้าใสเขารออยู่ข้างนอกแน่ะ”
“...อ่า...ครับ...”

เดินออกจากห้องผู้ป่วยมาก็เจอฟ้าใส ยืนคอยอยู่หน้าห้อง เธอมองผมหัวจรดเท้า ด้วยสายตาที่ดูไม่ออก
“ไม่เข้าไปเยี่ยมเต้ หน่อยเหรอ”
“วันนี้ไม่ล่ะค่ะ ได้ยินว่ายังไม่ฟื้น.......ซันคะ ฟ้ามีเรื่องอยากคุยกับคุณค่ะ”









ร้านกาแฟในโรงพยาบาลเป็นที่ ๆ ฟ้าใสเลือกจะนั่งคุยกับผม
“ซันคะ ฟ้าไม่อ้อมค้อมนะคะ...งานแต่งงานของเรายังจะจัดอีกใช่ไหมคะ”
“...ฟ้า..ผม...”
“คุณก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันเป็นคนตรง ๆ และก็อยากให้คุณ ตรงๆ กับฉันด้วยนะคะซัน”
“...ฟ้าครับ ผมรักคุณ อยากแต่งงานกับคุณมาตั้งแต่แรกแล้ว..”
“..ซัน..ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฟ้าจะดีใจมากเลยนะคะ”
“..ครับ..มันเป็นเรื่องจริง.....แต่...วินาทีที่ผมเห็นเต้ถูกยิง ล้มลงไปต่อหน้า ใจผมแทบขาด เห็นเขาเสียเลือดขนาดนั้นจนหมดสติไป ผมเหมือนจะหยุดหายใจ ณ ตรงนั้นเลย”
“.....”
“ผมรักคุณก็จริง แต่ผมก็รักเขามากเช่นกัน เขาเติมเต็มชีวิตที่ขาดวิ่นของผม เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นทุกอย่าง ผมคิดเสมอว่าอยากตื่นขึ้นมาพบหน้าเขาทุกวัน ความสับสนใจของผม ทำร้ายพวกคุณทั้งสองคน ผมขอโทษนะครับฟ้าใส แต่ผม...”
“ไม่ต้องพูดแล้วค่ะซัน สรุปว่า...”
“ผมขอโทษนะ....”
“คุณพร่ำแต่บอกว่ารักฉัน แล้วถ้าต้องตื่นขึ้นมาตอนเช้า คนแรกที่คุณอยากจะเห็นหน้าคือใครคะ...”
“...ผม...”
“พอกันทีกับผู้ชายโลเลอย่างคุณ อยู่กันไปให้ผุตายกันไปข้างนึงเหอะ คนอย่างฟ้าใส ไม่สนใจผู้ชายที่เขาไม่ได้รักเราหรอก คนบอกรักฉันเป็นร้อย ซักวันจะพาคนรักที่ดีกว่านายร้อยเท่ามาเย้ยเลยคอยดู”
“....ฮ่ะ..ฮ่ะๆๆๆ”
“ผู้ชายโง่งี่เง่าอย่างนายน่ะ ฉันเขี่ยทิ้งได้ย่ะ เชอะ”
“ฮ่ะ ๆๆๆ ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ”

“ลาขาดย่ะ...........อ้อ........จะบอกอะไรอย่างนะ ถ้าเป็นฉัน คงไม่กล้าเอาตัวเข้าไปบังกระสุนให้คุณหรอก..”
ผู้หญิงที่ผมเคยรัก เดินจากไป ทิ้งให้ผมยังคงคิดถึงประโยคสุดท้ายของเธอ...ถ้าผมยังลังเลและสับสนอีก ผมคงเสียหัวใจผมไปตลอดกาลแน่นอน





งานแต่งงานในคืนนั้น ต้องจบลงโดยปริยาย คุณพ่อของฟ้าใสโกรธมาก แต่ก็ได้ฟ้าใสช่วยกล่อมจนท่านบรรเทาโทสะ ของหมั้นเราจะยกให้ทางว่าที่เจ้าสาว แต่ฟ้าใส และคุณพ่อของเธอปฏิเสธ และก็ได้คุณพ่อของผมช่วยไปพูดเรื่องการยกเลิกงานแต่งงาน กว่าจะผ่านไปได้ก็ลำบากพอดู ส่วนอากู๋ ก็บินมาที่ภูเก็ตทันที ที่ได้ข่าว ท่านไม่ได้ตำหนิผม ที่เป็นต้นเหตุให้หลานชายของท่านต้องบาดเจ็บ บอกแค่ว่าหลานท่านมันโง่เอง ที่เอาตัวไปบังกระสุนแทนคนอื่น ผมว่ามันเจ็บกว่าท่านต่อยผมอีกนะ แต่ก็พร่ำขอโทษขอขมาจนท่านใจอ่อนยอมคุยด้วยเหมือนเดิม ระหว่างนี้ อากู๋และครอบครัวผม ก็คุยกันเรื่องหมั้นหมายของพี่มีนกับไอ้เฮียตง

ผมเพิ่งมารู้จากคุณพ่อว่า พวกท่านรู้เรื่องของผมกับเต้ มาตั้งนานแล้ว ท่านไม่ได้รังเกียจอะไร แต่เป็นเพราะเมื่อมีฟ้าใสเข้ามา ผมต่างหากที่ทำให้เรื่องมันยุ่งยากยิ่งขึ้น ความโลเล ของผม เกือบทำให้ผม พลาดสิ่งที่ดีทีสุดในชีวิต

ผมกลับมานั่งเฝ้าเต้ต่อที่ห้อง นั่งข้างๆ เตียง มองใบหน้ายามหลับของเขาที่ผมแสนจะรักใคร่ จูบมือเขาเบาๆ
“ตื่นซะทีเถอะครับที่รัก ลืมตามามองผม บอกว่ารักผมอีกซักครั้งนะครับ ผมรอคุณอยู่นะที่รัก”
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-12-2018 11:18:41
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 02-12-2018 12:36:35
ฮึ่ยยยย โมโห ให้เต้ความจำเสื่อมจำซันไม่ได้ไปเลยได้มั้ยคะ เกลียดดด
ไม่อยากให้ได้คู่กับอิซันเลย ผู้ชายโลเลแบบนั้น อยากให้ได้บทเรียนเยอะๆอะ
เอาให้เจ็บจนแทบกระอักเลือดเลย  :z6:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 02-12-2018 22:02:22
ผู้ชายอย่างซันนี่ ไม่น่าได้คนแบบน้องไปเลย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 03-12-2018 10:18:16
 :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Premo1492 ที่ 03-12-2018 22:27:26
 :mew2: ยังไงก็ค้านนความรู้สึกอยู่ดี ซันเลือกฟ้าใสไปแล้ว ความรู้สึกที่เต้เสียไปเหมือนสูญเปล่า

 :mew6: อินจัด....ขอโทดค้าบบบ :mew1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 03-12-2018 23:01:09
ไม่น่าได้คู่กันอ่ะ  ให้เต้เลิกแล้วออกไปจากชีวิตหรือลืมไปเลย   :ling1: :ling1: :ling1: 
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 29-12-2018 12:30:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (2/12/18)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 30-12-2018 10:36:44
ตามจ้าาา
ใจอยากให้เต้ได้พระเอกใหม่ไปเลยนะเนี่ยย
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (26/2/19)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 26-02-2019 23:21:17
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ  :hao5:

****ฮึ่ยยยย โมโห ให้เต้ความจำเสื่อมจำซันไม่ได้ไปเลยได้มั้ยคะ เกลียดดด
       ไม่อยากให้ได้คู่กับอิซันเลย ผู้ชายโลเลแบบนั้น อยากให้ได้บทเรียนเยอะๆอะ
        เอาให้เจ็บจนแทบกระอักเลือดเลย
****ผู้ชายอย่างซันนี่ ไม่น่าได้คนแบบน้องไปเลย
****ยังไงก็ค้านนความรู้สึกอยู่ดี ซันเลือกฟ้าใสไปแล้ว ความรู้สึกที่เต้เสียไปเหมือนสูญเปล่า
       อินจัด....ขอโทดค้าบบบ
****ไม่น่าได้คู่กันอ่ะ  ให้เต้เลิกแล้วออกไปจากชีวิตหรือลืมไปเลย
****ตามจ้าาา ใจอยากให้เต้ได้พระเอกใหม่ไปเลยนะเนี่ยย

แต่ละเม้นนี่ได้ใจมากเลยค่ะ  o13 ก็อยากจะตามใจทุกคนนะคะ แต่ก็แล้วแต่เต้เขาจะตัดสินใจอ่ะค่ะ
อันนี้ต้องตามใจเขาค่ะ มาคอยชมคอยเชียร์ ว่าเต้จะตัดสินใจยังไงกันต่อเลยนะคะ



*************************************************************

 “.......อื่อ.....” รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด แข้งขาก็ไม่ค่อยมีแรง แต่ก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ลืมตาขึ้นมาก็ยังเบลอ ๆ รู้สึกเหมือนนอนนานมาก ฝันถึงเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ฝันถึงแม่ด้วย นับเป็นฝันดีสุด ๆ จริง ๆ
“คราวนี้น่าจะฟื้นจริง ซะที”
“อากู๋”
“เป็นไงบ้าง อ่ะดื่มน้ำซักนิด จะได้รู้สึกดีขึ้น”
“ครับ..ปวดแผลนิดหน่อย แต่คิดว่าสบายดีแล้วครับ ขอโทษที่ให้กู๋ต้องลำบากมาถึงนี่”
“ลำบากอะไรกัน หลานเจ็บทั้งคน”
“..เอ่อ แล้วคุณซันล่ะครับ เขาโดนยิงด้วยหรือเปล่า หรือนอนพักอยู่ที่นี่ด้วย ผม..”
“เฮ้ย ใจเย็น ๆ ก่อน...”




 
เปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไป ก็สุดแสนจะดีใจ คนที่เฝ้าเรียกเขาอยู่ทุกวันฟื้นแล้ว เขามองมาที่ผมอย่างกังวล จนผมเดินยิ้มเข้าไปใกล้ ๆ เขาก็หลบหน้าหันไปอีกทาง อ้าว?
“สวัสดีครับ อากู๋”
“อื่อ หวัดดี” ทักอากู๋พอเป็นพิธี ก็หันไปสนใจคนเจ็บต่อ
“ตื่นแล้วเหรอครับ รู้สึกเป็นไงบ้าง ยังเจ็บแผลอีกไหมครับ หรือจะให้ตามคุณหมอไหม”
นิ่งสนิท ไม่มีสัญญาณตอบรับ เขายังคงนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร
“อั๊วว่าอี โอเค แล้วล่ะ”
“อ่อ...ครับ ...เอ่ออากู๋ครับ คุณพ่อคุณแม่อยากจะเชิญอากู๋ทานมื้อเที่ยง เพื่อจะคุยเรื่องของเราอ่ะครับ ไม่ทราบว่าอากู๋สะดวกไหมครับ”
“อะ..อะไรคือเรื่องของเรา” คนนั่งนิ่งเมื่อกี้ หันขวับมามองค้อนทันที
“อ้าว ก็เราสองคนไง ที่รัก”
“....อ่ะ.อะไร.ไม่มีเรื่องของเราหรอก คุณต้องแต่งงานกับคุณฟ้าใสไม่ใช่เหรอ” เต้จ้องผมเขม็ง ด้วยแววตาสงสัย
“เรายกเลิกงานแต่งงานไปแล้ว”
“ทำไมอ่ะ พวกคุณรักกันไม่ใช่เหรอ”
“ผมมันไม่ดีเองล่ะ ฟ้าใสจับได้ว่าผมรักคนอื่นเขาเลยขอเลิก”
“ผมไม่เชื่อคุณหรอก คุณฟ้าใสรักคุณมาก และคุณก็บอกผมเองว่าคุณก็รักเธอเช่นกัน”
“ผมขอโทษนะ ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมนะที่รัก” ท่าทางเต้โกรธมาก ผมพยายามจะจับมือเขา แต่เขาก็ปัดออก
“....ไม่...อย่ามาทำให้ใจผมต้องเจ็บอีก ผมกำลังจะทำใจได้แล้ว” ฟังแล้วปวดใจ แต่ทำไงได้ ผมทำกับเขาไว้เยอะ มีทางเดียวคือต้องง้อให้ถึงที่สุดนั่นแหล่ะ
“โอ๊ย อันนี้ไม่ดีนะ ผมไม่ยอมให้คุณทำใจได้หรอก ผมรักคุณจริง ๆ นะเชื่อผมเถอะ”
“ไม่ ออกไปเลย ไม่อยากเห็นหน้า”
“เต้อ่ะ...” ใจแป้วเลยล่ะ ท่าทางเขาจะไม่ยอมอภัยให้ผมง่าย ๆ



“โว๊ะ พวกลื้อจะงอนจะง้อกันก็เกรงใจอั้วบ้าง อั๊วนั่งหัวโด่อยุ่นี่นะเว้ย”
“อากู๋ / กู๋อ่ะ” ระฆังช่วยไว้พอดี
“กู๋ไล่เขาออกไปที ผมไม่อยากเห็นหน้าเขา” แต่เต้ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะผลักไสผม
ผมพยายามส่งสายตาออดอ้อนอากู๋ให้ท่านเห็นใจ ช่วยผมง้อเต้หน่อยนะครับอากู๋ครับ
ท่านมองผมอย่างเอือมระอา ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ...อาเต้ ลื้อก็อย่าปากแข็งนักเลย เมื่อกี้ลืมตาตื่นขึ้นมาก็ถามหาอีก่อนเลย พออีมา ลื้อก็งอนอี ซะนี่” โอ้ววว จริงเหรอครับอากู๋
“อ๊า...กู๋ ผมไม่ได้งอนนะ” คนเพิ่งฟื้นไข้ หน้ายังซีด ๆ แต่ก็ยังจะพอเห็นเลือดฝาดฉีดสีที่แก้ม น่าเอ็นดู
“เออๆๆ เรื่องของพวกลื้อล่ะ ไม่งอนก็ไม่งอน...ว่าแต่อาซัน พ่อแม่ลื้ออยู่ไหนล่ะตอนนี้” คราวนี้อากู๋มองเต้ แล้วหันมามองผม แถมถอนหายใจหนักกว่าเดิม
“อ้อ เดี๋ยวผมให้คนขับรถพาไปครับ”
“อื้อๆ ..ไปก่อนนะอาเต้... “
“อื่อ ไม่ไปไม่ได้เหรออากู๋” เต้รีบคว้าแขนเสื้ออากู๋ไว้แน่น พร้อมส่งสายตาอ้อนวอน
“เฮ้อ อาเต้เอ้ย อย่าโง่ไปเลยหน่า ชีวิตคนเรามันไม่ได้ยาวนานมากนักหรอกนะ อะไรๆ มันก็ไม่แน่ไม่นอน อะไรที่ทำแล้วมีความสุข ไม่เดือดร้อนใคร ก็ทำ ๆ ไปเถอะ” อากู๋ลูบหัวหลานชายของท่านพร้อมทั้ง ให้โอวาท ที่ยิ่งทำให้ผม รัก และเคารพท่านมากขึ้นไปอีก ผมก็เป็นอีกคนที่ไม่ได้เห็นคุณค่าของการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เรารัก จนเกือบจะต้องเสียเขาไปตลอดชีวิตแล้ว








เต้มองตามอากู๋พ้นประตูไปตาละห้อย ก่อนจะหันกลับมาทำตาดุใส่ผม ที่เผลอยิ้มมองดูเขา
“ยิ้มอะไร” เขาจะรู้ไหมว่ากริยาที่เขาคิดว่าดุ มันช่างน่ารักน่าเอ็นดูซะเหลือเกิน แล้วจะไม่ให้ผมยิ้มออกมาได้ยังไง
“ดีใจที่คุณตื่นขึ้นมาไงครับ แต่เสียดายนิดนึง ที่ไม่ใช่คนแรกที่คุณลืมตามาเจอ”
“.......” เต้เบือนหน้าหนีไปมองทางอื่น ผมใจเสียขึ้นมาทันที
“เต้ครับ เต้ อย่างอนผมเลยนะครับ ผมรู้สำนึกผิดแล้ว ขอโทษที่ทำให้คุณเสียใจ ผมมันไม่ดีเอง ไม่รู้จักหัวใจตัวเอง ทำไม่ดีกับคุณไว้มาก ยกโทษให้ผมนะครับ”
“.......” เต้ยังคงนิ่ง ผมจะทำยังไงดี

 “และอีกอย่าง ผมอยากขอบคุณ ที่คุณช่วยชีวิตผมไว้ ไม่รู้จะกล่าวคำไหนให้เพียงพอ นอกจากคำว่าขอบคุณมาก ๆ ครับ ชีวิตที่คุณช่วยไว้ มันไม่ใช่ของผมอีกต่อไปแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่นี่ผมขอยกให้คุณทั้งหมดเลยครับ”
“...แหวะ ใครจะอยากได้” แม้เสียงแขวะจะเบาบางแต่ก็ได้ยินเต็มสองหู คุณครับ พูดแบบนี้ผมเสียใจนะครับ แต่ก็ถือเป็นลางดี ที่เขายอมพูดกับผม เขาหันมาสบตาผมก่อนจะหันกลับไปอีกทางเหมือนเดิม

“ว้า ไม่โรแมนติกเอาซะเลย นี่ผมกำลังขอคุณแต่งงานอยู่นะ” ผมนั่งลงข้าง ๆ เตียง มองตาเขา ก่อนจะยกมือข้างซ้ายของเขาขึ้นมาจุมพิตเบา ๆ
“ไม่เอาหรอก ไม่อยากแต่งกับคุณ” ตามคาดเขารีบชักออกอย่างไว พร้อมทั้งผลักผมออกจากเตียง ใจร้ายอ่ะที่รัก

“นะครับ ผมผิดไปแล้ว จะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่แต่งงานกับผมนะ” โบราณว่าไว้ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก และผมกำลังทำตามอยู่
“ไม่ ก็บอกว่าไม่ไง อ๊ะ” จู่ ๆ เต้ก็ตัวงอลงไป ผมคิดว่าที่เขาสะบัดไปมาคงทำให้เขาเจ็บแผล
ผมรวบกอดเขาไว้เบา ๆ
“ขอโทษนะ คุณเพิ่งฟื้นแท้ ๆ ผมไม่น่ามาเร่งรัดคุณเลย ผมจะตามหมอมานะ”
“...ไม่ต้อง ไม่ได้เป็นไรมาก เจ็บนิดเดียว...”

ผมคลายอ้อมกอดออก นั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง มองดูเขาที่ผมเคยเห็นว่ารูปร่างผอมบาง ท่าทางบอบบาง แต่ที่จริง แล้วเขาคนนี้ เป็นคนที่เข้มแข็งกว่าใครที่ผมรู้จัก ผ่านอะไรมาก็มาก แต่ไม่เคยทำให้เขาท้อถอย หรือหมดความอดทนเลย ต่างกันกับผม ที่โทษโน่นโทษนี่สารพัด ไม่เคยคิดจะยืนหยัดสู้ด้วยตัวเองซักครั้ง คอยแต่จะพึ่งบารมีพ่อ บารีพี่ตลอด ผมยอมรับจริง ๆ ว่าคนๆ นี้ มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายของผม อย่างลงตัวที่สุด
“ไม่เจ็บแล้วจริงๆ เหรอ”
“อื้อ... “
“เต้ครับ ผมรู้ว่าตลอดมาผมมันเลว ทำให้คุณเสียใจ ผมไม่มีอะไรมาแก้ตัว แต่อยากให้คุณให้โอกาสผมอีกซักครั้ง”
“ผมให้โอกาสคุณหลายครั้งแล้ว และคุณก็ปัดมันทิ้งไปอย่างไม่มีเยื่อไย...........คุณร้องไห้ทำไม” ผมไม่รู้ รู้แต่ว่าคำตัดพ้อของเต้ มันเสียดแทงในหัวใจเหลือเกิน ผมปัดมันทิ้งไปกี่ครั้งแล้ว ผมยังมีโอกาสเหลืออยู่อีกไหมนะ

“ยังไงผมก็ไม่มีวันปล่อยมือคุณอีกแล้ว ที่ผ่านมาผมโง่เอง ชีวิตที่ขาดคุณ เหมือนผมจะขาดใจ อภัยให้ผมนะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง ผมจะไม่ทำให้คุณต้องเสียใจอีก แต่งงานกันเถอะนะครับที่รัก” น้ำตาลูกผู้ชาย ที่ไม่เคยไหล กลับหยดลงอย่างไม่อาย ผมยอมทุกอย่างแล้ว ที่จะให้เขาให้อภัย และ ให้โอกาสผมอีกซักครั้ง

“...ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ เราจบกันแค่นี้เถอะ ถือซะว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา ต่างคนต่างอยู่”
“.........” นี่ผมทุ่มสุดตัวแล้วนะ ทำไมเขายังใจร้ายจะเลิกกับผมให้ได้อีก สงสัยต้องเปลี่ยนวิธีง้อซะแล้ว

 “เฮ้อไม้นวมไม่ได้ก็ต้องไม้แข็งล่ะวะ ถ้าคุณไม่ตกลงแต่งงานกับผม ผมจะล่ามโซ่คุณ ขังคุณ ไม่ให้เจอะเจอหน้าใครอีกเลย คอยดู”
“เฮ้อ เบื่อ ผมไม่ใช่ของๆ คุณ อย่ามาทำกับผมเป็นสิ่งของนะ นึกจะรักก็เก็บมา ไม่รัก ก็ปาทิ้ง”
“โถ่ ย้ำแผลอยู่ได้ ผมขอโทษ ผมมันเลว ผมมันไม่ดี ไม่ทำหรอกครับพูดไปอย่างนั้นเอง ไม่กล้าลงมือลงไม้กับคุณแล้ว มีแต่จะถนอมคุณให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง”

“....”
“จริง ๆ นะ จะเชื่อฟัง จะเอาใจใส่ จะเป็นของคุณคนเดียว นะๆๆๆ ให้อภัยผมนะๆๆๆ” เขย่าเตียงออดอ้อน แต่ก็ดูจะมีหวัง เพราะเห็นคนดียิ้มออกมานิดนึงก่อนจะเก๊กหน้าขรึมต่อ


“จริงเหรอ ....”
“จริงครับ สาบานด้วยเกียติเลยครับ”

“จะยอมให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย....”
“เฮ้ย จริงอ่ะ เย้ๆๆๆ”
“โอ๊ย  เจ็บ ๆๆๆ” อารามดีใจเผลอกอดเขาเต็มแรง จนเขาร้องโอยถึงได้รีบผละออกมา
“อ่า ขอโทษนะ ดีใจมากไปหน่อย”
“อย่าเพิ่งดีใจไป แต่มีข้อแม้นะ”
“อะไรว่ามาเลย ผมให้คุณได้ทุกอย่าง บอกมาเลย”
“....ไว้จะบอกทีหลัง แต่ตอนนี้ผมเริ่มเพลียแล้วล่ะ อยากจะนอนพักอ่ะ” ท่าทางเขาคงจะเพลียจริง ๆ ผมก็ลืมไปเลยว่าเขาเพิ่งจะฟื้น ยังไปเร่งรัดเขาอีก รีบประคองให้เขาได้เอนตัวลงจัดเตียงและผ้าห่มให้อย่างดี

 “ขอบคุณนะครับที่รัก ที่ให้อภัยผมเสมอ....ไว้คุณหายดีแล้ว ผมอยากจะพาคุณไปที่ที่หนึ่ง” ผมปัดผมที่หน้าผากเขาออก แล้วก้มลงจุมพิตเบา ๆ

“ที่ไหนเหรอ”
“ความลับครับ หายไว ๆ นะครับที่รัก” ไม่รู้ว่าเต้ได้ยินหรือเปล่า เพราะเขาหลับตาลงไปแล้วก่อนที่ผมจะทันจบประโยค
นับว่าผมยังโชคดีที่เขายังเหลือเยื่อใย จนยอมให้โอกาสผมอีกครั้ง ผมจะรักษามันอย่างดีที่สุด
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (26/2/19)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 27-02-2019 09:32:19
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (26/2/19)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-02-2019 11:10:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 38 ยังไม่สาย (26/2/19)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2019 11:42:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 39 ใครคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่ (25/5/19)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 25-05-2019 23:17:32
อ๊าาาาา ใจหาย ใกล้จะจบแล้วนะคะ ชอบใจไม่ชอบใจอย่างไร ติชมกันมาได้นะคะ
อนาคต ไม่แน่อาจจะเขียนเรื่องราวเพิ่มขึ้น หรือมีเรื่องราวใหม่ ๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ  :mew1:



***************************************************************



ตอนที่ 39 ใครคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่อพบกัน


หลังจากผ่านเหตุการณ์ตื่นเต้นในคืนนั้น ผมถูกยิงสลบไป ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเดือน กว่าจะมาพักฟื้นที่บ้านได้

อากู๋หลังจากเห็นว่าผมพ้นขีดอันตรายแล้ว ก็กลับกรุงเทพ ไปดูแลกิจการต่อ และเตรียมจัดการเรื่องงานแต่งของเฮียตง

อิเฮียก็หน้าบาน มานั่งเฝ้าน้อง แทนที่จะสนใจน้อง ก็คุยกระหนุงกระหนิง กับพี่มีน ซะจนน้ำตาลในเลือดผมแทบทะลัก

พี่วัชรเสียชีวิตจากการวิสามัญของตำรวจในคืนนั้น พวกคนร้ายที่เหลือถูกจับกุม และขยายผลไปถึงหัวหน้าใหญ่ ที่เป็นตัวการ จนสามารถจับกุมตัวการใหญ่ได้

คุณฟ้าใส แวะมาเยี่ยมผมก่อนที่เธอจะกลับไปเรียน ป.โท ต่อ เธอบอกกับผมว่า ไม่ต้องรู้สึกผิดกับเธอ เพราะเธอไม่สนใจคุณซันแล้ว ผู้ชายโลเลแบบนั้น เธอยกให้
ซึ่งผมรู้ว่ามันไม่จริงหรอก สายตาของเธอที่มองมาที่เรา ยังคงเจ็บปวดเหมือนสายตาของผมที่เคยมองพวกเขา ถ้าจะไม่ให้ผมรู้สึกผิดต่อเธอ ผมคงทำไม่ได้

นายหัวและนายหญิง แวะมาเยี่ยมผมทุกวัน ท่านทั้งสองยังคงดีกับผมเสมอต้นเสมอปลาย ท่านบอกว่าไม่เคยรังเกียจความรักของผู้ชายกับผู้ชาย เพราะไม่ว่ายังไง สุดท้ายแล้ว การได้อยู่กับคนที่รัก ก็เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดแล้ว
นายหญิง บอกท่านว่าจะรับผมเป็นบุตรบุญธรรม ท่านก็บอกเธอกลับไปว่า ไม่ต้องหรอก ไม่ช้าก็เร็ว ผมก็จะเข้ามาเป็นคนในครอบครัวแล้ว
แต่นายหญิงก็ยังจะรั้นรับผมเป็นบุตรบุญธรรม จนผมต้องบอกเธอว่า ต่อจากนี้ผมจะเรียกเธอว่าแม่ เธอจึงยอมตามที่ท่านบอก
ผมซะอีกที่ตื้นตันใจ จนอยากจะลงไปกราบแทบเท้าเธอที่เอ็นดูผมขนาดนี้ ในที่สุดผมก็มีคนที่ผมจะเรียกว่าแม่จริง ๆ ซะที

และคุณซัน ตัวต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหมด
เขาที่รู้ตัวว่าทำผิด ก็พยายามปรับปรุงตัว และปรับเปลี่ยนตัวเอง จากคนใจร้อน ก็ใจเย็นขึ้น ช่วยงานพี่มีนอย่างขยันขันแข็งขึ้น
กับนายหญิงเขาก็นอบน้อมขึ้น เข้าหาท่านก่อน จนช่องว่างระหว่างพวกเขาแคบลง
ส่วนกับผม เขาก็อ่อนโยนขึ้น ใจดีขึ้น ดูแลผมตั้งแต่ที่โรงพยาบาล จนมาพักฟื้นที่บ้าน จนหายดีแล้ว




วันนี้เราสองคนมาที่กรุงเทพ เขาชวนผมบอกว่าจะพาไปที่ ๆ หนึ่ง ระหว่างทางก็แวะซื้อของและดอกไม้ธูปเทียน บอกผมว่าจะพาไปวัด

ทันทีที่รถจอดหน้าวัด ผมก็ต้องฉงน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม ก็วัดนี้น่ะ.....
“ไปครับ ถึงแล้ว ลงไปไหว้พระกัน”
“..อ่อ มาไหว้พระเหรอ...”
“ใช่ครับ คุณเพิ่งผ่านเรื่องร้าย ๆ มา ผมก็อยากจะพาคุณมาไหว้พระ ให้สบายใจ และปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ เสริมศิริมงคล...ยังจะทำหน้าหมางงอีก มาเถอะ”

เขาพาผมเข้าไปในพระอุโบสถ จัดแจงจุดเทียน จุดธูปหกดอก แล้วส่งสามดอกให้ผม ผมคงจะคิดมากไปเอง โลกนี้มีเรื่องบังเอิญมากมาย นี่ก็คงเป็นหนึ่งในเรื่องบังเอิญ
ผมอธิฐานในใจขอให้ทุกคนที่ผมรักมีความสุข นั่นเป็นความปรารถนาเดียวของผม คำอธิฐานผมสั้นนิดเดียว พอลืมตามามองคนข้างกาย เขายังคงหลับตา พนมมือ ผมเผลอมองใบหน้าด้านข้างของเขา เขาดูซูบไปนิดหน่อย แต่ก็ยังหล่ออยู่ ในใจก็ยังแอบคิดไปว่านี่มันเป็นความฝันหรือความจริง เมื่อไม่นานมานี้ผมยังเจ็บปวดทรมานใจที่รักเขาอยู่เลย แล้วมาดูตอนนี้ซิ เขาที่บอกว่ารักผมคนเดียวและอยากอยู่กับผมตลอดไป มันเหมือนฝันที่ผมไม่อยากลืมตาตื่นเลย
“มองทำไม ผมหล่อละซิ”
“....หล่อตายล่ะ”
“แล้วรักรึเปล่าล่ะ”
“แหวะ เลี่ยน”
“โว๊ะ แค่มองตาก็ท้องซะแล้ว”
“อึ๊ย ตาบ้า เอาที่ไหนมาท้องวะ”
“ฮ่าๆๆๆ...ดีแล้วไม่มีลูกจะได้ไม่หลวม”
“...ทะลึ่งล่ะ นี่ในวัดในวานะ ไปเลย”

ผมที่อายจนหน้าร้อนก็รีบเดินหนีออกมาจากพระอุโบสถ จะเดินไปที่รถ แต่เขาก็รีบตามมาคว้าข้อมือไว้ แล้วพาเดินไปด้านหลังวัด…ผมรู้จักวัดนี้ดี ข้างหลังของวัดนี้มีใครคนนึงที่อยู่ในความคะนึงหาของผมมาตลอด

เขาพาผมมาหยุดยืนหน้าป้ายอัฐิ ที่มีรูปผู้หญิงสวย อายุน้อย นัยน์ตาเศร้าๆ แต่มีรอยยิ้มที่อบอุ่น
“รู้ได้ยังไงว่า....”
“เคยมาไหว้ท่าน..”

คุณซันยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แล้วให้ผมถือช่อดอกไม้ ส่วนเขาก็จุดเทียนและธูป หนึ่งดอก แล้วส่งให้ผม
“ทำไมมีดอกเดียว...”
เขาไม่ตอบ แต่เดินมาอยู่ข้างหลังผม แล้วค่อย ๆ พยุงให้ผมคุกเข่าลงโดยมีเขาซ้อนอยู่ข้างหลัง เอามือมากุมมือผมไว้
“สวัสดีครับคุณแม่ ผมมาเยี่ยมอีกแล้วนะครับ วันนี้มาพร้อมกับลูกชายของคุณแม่...” เสียงของเขานุ่มนวล และอ่อนโยน
 “ผมอยากมาขอบคุณคุณแม่ ที่ให้ชีวิตกับเขา ให้ผมได้พบกับเขา ได้รักเขา เขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของผม ผมสัญญาว่าจะดูแลเขา ไปจนเราทั้งสองแก่เฒ่า แม้ยามทุกข์ ยามสุข ยามสบาย ยามป่วยไข้ ผมจะดูแลเขาให้ดี ผมมาวันนี้ก็จะมาขอเขากับคุณแม่ หวังว่าคุณแม่จะอวยพรให้เราทั้งคู่ ครองรักกันตลอดไปนะครับ”
หัวสมองของผมอื้ออึงไปหมด คำพูดของเขาทำให้หัวใจผมสั่นไหว เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ในลำคอ อยากจะพูดก็พูดไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่เอ่อไหลออกมา
“อ้าว เป่าปี่ซะแล้ว ดูเอาเถอะครับ ลูกชายคุณแม่ ขี้แงซะไม่มี....”
“อึก ฮื่อ ไม่ได้ร้อง น้ำตามันไหลเอง”
“เฮ้อ ขี้แย และยังขี้ปดอีก ไม่อายคุณแม่เหรอครับ”
“บ้าเหรอ แม่ต้องเข้าข้างผมอยู่แล้ว”
“อ่อ ครับ ๆ ยอมแพ้ก็ได้ครับ ต่อไปผมคงยอมคุณไปชั่วชีวิต...ขอบคุณนะครับ ที่ยอมอภัยและให้ผมได้เป็นคนรักของคุณอีกครั้ง”
ผมเฝ้าตามหาใครซักคนที่เกิดมาเพื่อเป็นของผม เฝ้าโทษโชคชะตา ฟ้าดิน แต่วันนี้ คำพูดหนึ่งคำของเขา ปลดพันธนาการจากความคิดนั้นของผมอย่างหมดสิ้น คนเราซักวันก็จะได้พบเจอคนที่จะเป็น ของเราอย่างแท้จริง ซึ่งผมก็พบแล้ว และเขาเองก็คงจะพบแล้วเช่นกัน ซึ่งกว่าเราจะมาบรรจบกัน มันก็ต้องผ่านอะไร ต่ออะไรเพื่อพิสูจน์ว่า เราเกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน...
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 39 ใครคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่ (25/5/19)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-05-2019 22:17:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 39 ใครคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่ (25/5/19)
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 27-05-2019 22:09:25
ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 39 ใครคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่ (25/5/19)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-05-2019 00:31:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว (29/8/19)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 30-08-2019 00:51:40
เย้ๆๆๆ จบแล้วนะจ้ะ โหยยยนานเหมือนกันนะกว่าจะจบ ใครที่ยังติตตามกันอยู่ก็ขอบคุณนะคะ
ส่วนใครที่ผ่านมาก็แวะอ่านกันได้นะคะ บอกแล้วว่าแต่งแล้วจบทุกเรื่อง 55555
ส่วนในอนาคตจะมีตอนพิเศษ หรืออะไรก็ค่อยว่ากันอีกทีโน๊ะ
ยังไงก็ขอบคุณทุก ๆ คนที่อ่านนะคะ ดีไม่ดียังไงแนะนำติชมกันได้นะคะ ฝากอีก 2 เรื่องที่จบไปแล้วด้วยนะ
รักคนอ่านทุกคนเลย  :mew1:

*********************************************************


ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ (จบแล้วจ้า)



สนามบินสุวรรณภูมิ


“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ เราคุยกันเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอครับคุณซัน”
“....คุยเข้าใจอะไรกัน......คุณบอกคุณจะไปเรียนเพิ่มเติม ผมก็ไม่ว่าหรอก แต่นี่อะไร 2 ปีคืออะไร” เนี๊ยะผมถึงไม่บอกก่อนไง ถ้ารู้ก่อนคงไม่ได้ไปแน่ คุณซันดึงกระเป๋าเดินทางใบเล็กของผมไปแอบไว้ด้านหลัง เฮ้อ เล่นเป็นเด็ก ๆ

“อ้าว ไปเรียนนะ ไม่ใช่ไปเที่ยวกับทัวร์จะได้ สามวันกลับ”
“ก็ผมคิดว่าแค่ เดือนสองเดือน ...ใจคอคุณจะทิ้งผมไป 2 ปีเลยเหรอ ผมจะทนได้ยังไงถ้าไม่ได้เห็นหน้าคุณ” ไม่ต้องมาทำหน้าออดอ้อน
“พอเลยครับคุณซัน ต่อให้อ้อน หรือทำหวานขนาดไหนก็ไม่มีผลหรอกครับ...ผมไปเพิ่มพูนความรู้นะครับ จะได้กลับมาช่วย มาพัฒนางานที่โรงแรมไงครับ” อ้อมตัวไปจับกระเป๋าจากด้านหลังของคุณซัน ก่อนจะถูกเขาแย่งกลับ แล้วมาจับไหล่ผม จ้องมองผมด้วยแววตากังวล

“แต่ผมจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีคุณ”
“คุณอย่าโอเวอร์ ซัมเมอร์ หรือหยุดยาวผมก็กลับมาอยู่ดี รวม ๆแล้ว ถ้าผมขยันหน่อย อาจไม่ถึง สองปี ก็ได้” ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ ใจอ่อน เหลวไปแล้ว
“...รู้ว่าคงห้ามคุณไม่ได้....แต่...”
“ยังจะมีแต่อีก...”
“มีซิ แต่ทำไมต้องไปพักกับพวกนี้ด้วย” โวยวายไม่พอหันไปชี้หน้าเลาะห์อีก

“คุณซันครับ ไปพักกับ โจและอลัน ก็ดีแล้วนี่ครับ พี่จะได้ไปเป็นเพื่อนผมด้วย” ใช่ครับ ผมตกลงใจไปตามคำเชิญของโจและอลัน แต่ไม่ได้ไปทำงานนะครับ แค่ไปเรียน และพักที่บ้านของพวกเขา พวกเขาอยากให้ผมไปอยู่ด้วย เพราะเลาะห์เองก็จะไปอยู่กับพวกเขาในฐานะบุตรบุญธรรม เขาอยากให้เลาะห์ มีคนคุ้นเคยอยู่ด้วยในช่วงของการปรับตัว ผมเองก็รู้สึกดีกับพวกเขา จึงตอบตกลง
“เงียบไปเลย ไอ้เลาะห์” คุณซันตวาดใส่ แต่คนถูกตวาดกลับทำหน้าเอือม แบบไม่สะทกสะท้าน
“เฮ้อ ผมก็เงียบมาตั้งนานแล้วนะครับ แต่นี่เครื่องกำลังจะออกแล้ว ผมว่าพี่ปล่อยพี่เต้ดีกว่า” เลาะห์ เดินไปเอากระเป๋าของผมมาเก็บไว้ข้างตัวเขาพร้อมกับกระเป๋าของเขาอีกใบ

“ฮึ๊ย..ไม่ต้องไปไม่ได้เหรอ คุณเรียนที่นี่ก็ได้” คุณซันยังไม่ยอมแพ้ พยายามต่อรอง
“ไปโน่น มันได้เร็วกว่านะครับ ได้ฝึกภาษาด้วย ...ไม่ดื้อนะครับ ผมไปแป๊บเดียวเอง ไม่นานก็กลับมาแล้ว ถ้าคุณรักผม รอผมนะครับ กลับมาแล้วเราค่อยแต่งงานกัน” ผมอดจะเอ็นดูท่าทางกระเหง้ากระงอดของเขาไม่ได้ เกือบยิ้มแล้วล่ะ ถ้าไม่มีไอ้ประโยคถัดไป

“แล้วถ้าผมทนไม่ไหว ไปมีอะไรกันคนอื่นล่ะ...” ดูเขาซิ กล้าเอาเรื่องแบบนี้มาต่อรอง ผมงี้ปรี๊ดเลย แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้

“.................งั้นก็ไม่ต้องเจอกันอีกเลยชาตินี้”
“เฮ้ยๆๆ ผมพูดเล่น ๆ ไม่กล้านอกใจหรอกครับ ที่สำคัญ ทุกคนก็เข้าข้างคุณทั้งนั้น ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ พี่มีน แล้วยังไอ้เฮียอีก” ผมไม่รู้ว่าทำหน้ายังไงออกไป แต่เขาหน้าถอดสีเชียวแหล่ะ รีบ ๆ แก้ตัวท่าทางลนลาน

“รู้ก็ดีแล้วนี่ครับ ...รอผมนะครับ ไปไม่นานหรอก “
“อื่อ..” เมื่อรู้ว่าหยุดผมไม่ได้ เขาก็จำยอมด้วยท่าทางหงอย ๆ น่ารักอ่ะ ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กระซิบให้ได้ยินกันสองคน
“พูดง่าย ๆ อย่างนี้น่ารักมากครับ ....ไว้กลับมาแล้วผมจะ...”



บนเครื่องระหว่างทาง
“พี่ไปพูดอะไรกับคุณซันอ่ะ เขาถึงได้ยอมปล่อยพี่มาง่าย ๆ อ่ะ?” เลาะห์คงทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว จึงถามขึ้นมา

“...พูดอะไร ไม่มี๊” แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่จะบอกใครได้นะน้อง 5555

“เสียงสูงนะเรา”
“ผมไม่คิดว่าพี่จะตัดสินใจทิ้งคุณซันไว้แล้วไปเรียนต่อเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์มากมายก่อนหน้านี้” อย่าว่าแต่เลาะห์เลย ผมก็ไม่คิดเหมือนกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่กล้าปล่อยเขาไว้ข้างหลังอย่างนี้หรอก

“ไม่ได้ทิ้งเว้ย แค่ไปหาความรู้เพิ่มพูนประสบการณ์”
“เอ่อ นั่นแหล่ะ ไอ้ผมก็นึกว่าจะรักกันหวานชื่น สมรสสมรักกันไปแล้วซะอีก” ตอนแรกก็กะจะแต่งก่อนแล้วค่อยไป แต่บางสิ่งก็ทำให้ผมเปลี่ยนใจ

“....ก็อยากแหล่ะ แต่มันยังมีเรื่องคาใจไง”
“เรื่อง?”
“ก็เรื่องคุณฟ้าใสไง...ขนาดเขารักกันมาตั้งนาน ยังนอกใจมารักพี่ได้เลย ...แล้วถ้าวันหนึ่งเขาเจอคนที่ดีกว่าพี่เขาจะไม่ทิ้งพี่ไปอีกเหรอ” ใช่ครับ เรื่องคุณฟ้าใส ยังติดค้างในใจของผมตลอดเวลา ขนาดเขารักเธอขนาดนั้น ยังปันใจมาเป็นผมได้ แล้วถ้าต่อไปมีคนดีกว่าผมล่ะ?
“โว๊ะ..คิดมาก แค่นี้เขาก็รักพี่แทบคลั่งอยู่แล้ว พี่ไม่มาดูสภาพตอนเขาเฝ้าพี่ที่โรงพยาบาล โหยไม่เหลือคราบหนุ่มหล่อกรุงเทพเลย....เขาเป็นห่วงพี่มากนะ” แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ซะทีเดียว ผมยังรู้สึกอยากจะชดเชยให้เธอด้วย ถ้าผมไม่ก้าวเข้ามาในชีวิตคุณซัน หรือถ้าผมถอดใจจากเขาตั้งแต่แรก พวกเขาคงได้เป็นคู่ที่เหมาะสม และมีความสุขยิ่งกว่าคู่ไหน ๆ

“.....ก็..ก็มันยังคาใจนี่นา เอาแบบนี้แหล่ะ จะได้สบายใจกันทุกฝ่าย และที่สำคัญจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกับคุณฟ้าใสด้วย”
“เอ้า คุณฟ้าใสมาเกียวอะไรด้วยอ่ะพี่ เขาบอกเลิกคุณซันไปแล้วนี่นา”
“นายยังเด็ก ไม่รู้หรอกว่าเขายังรักคุณซันอยู่นั่นแหล่ะ แต่เพราะเธอเป็นคนรักศักดิ์ศรี คงไม่อยากมายุ่งกับคนที่เขาไม่ได้รักตัวเองแล้ว.... เฮ้อ ถ้าพี่ได้ซักครึ่งนึงของเธอ พี่คงไม่ต้องมานั่งเจ็บช้ำแล้วเจ็บช้ำอีกอย่างนี้หรอก” ผมนับถือเธอจริง ๆ นะ ถ้าผมเข้มแข็งได้ซักครึ่งของเธอ ชีวิตผมคงจะดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน

“มันก็เป็นทางเลือกของแต่ละคนไหมล่ะพี่ ก็ถ้าพี่ตัดคุณซันได้ตั้งแต่แรก พี่จะมีวันได้สมหวังกับเขาเหมือนวันนี้ไหม” อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คิดว่าเพราะเราสองคน มีบุญมีกรรมต่อกัน เลยตัดกันไม่ขาดมากกว่า

“เออๆ ไม่เถียงด้วยแล้ว พ่อคนเข้าใจชีวิต..อย่าให้ถึงคราวนายล่ะกัน จะดูว่าจะจัดการปัญหาความรักยังไง”
“ฮะๆๆ ผมไม่เอาอย่างพี่แน่...ว่าแต่เมื่อกี้บอกอะไรคุณซันก่อนที่เราจะเข้าเก็ทกันมา” เอ่อ ยังไม่เลิกสงสัยอีก ไอ้เจ้าเด็กนี้นี่ ใครจะกล้าบอกล่ะ เรื่องน่าอายขนาดนั้น สายตาอยากรู้อยากเห็นยังจ้องไม่เลิก จนต้องทำเป็นง่วงเพื่อปิดการสนทนา

“...เฮ้อ ง่วงนอนแล้ว พี่นอนก่อนล่ะอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง”
“เอ้า ง่วงเอาดื้อ ๆ เลยนะ..เครครับ ราตรีสวัสดิ์พี่”


ไอ้เด็กบ้า รู้ทันอีก แถมยังเซ้าซี้ไม่เลิก ข้องใจเรื่องที่ผมพูดที่สนามบินอยู่นั่นแหล่ะ.......... แต่ผมรู้ว่าทุกคนรู้ใช่ไหมว่าผมพูดว่าอะไร...ผมรู้ว่าคุณรู้ ฮะๆๆๆ..... ราตรีสวัสดิ์ครับ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 31-08-2019 13:12:06
 :กอด1: :L2: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 01-09-2019 22:47:30
จะ จ..จบแล้ว?? อ๋อ โอเค แม้จะง่ายไปไม่สมกับเท่าที่เราหัวร้อนตลอดมาทั้งเรื่องก็เถอะ อ่านแบบรวดเดียว เม้นท์ที สนุกดี ชอบนะ ชอบความหน่วงดราม่าแบบนี้ ชอบมาตลอดแต่ตอนจบนี่แบบ... เอิ่มมมมมมม ยอมง่ายไป๊ ไม่ได้บทเรียนได้เห็นค่าของคนที่รักตัวเองมากเลย ไม่ได้ทำอะไรให้กับที่ตัวเองทำ แค่ปล่อยไปเรียน2ปี ให้ความจำเสื่อมหรือไม่ก็หนีจากไปไม่กลับมาทางใครทางมันก็โอเคกับผู้ชายโลเลแบบนี้ เลือกเขาไปแล้วนั่นไม่ใช่ความโลเล ก็โอเคค่ะ สนุกไปอีกแบบ ขอบคุณนะคะที่แต่งมาให้อ่าน :)
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 02-09-2019 00:28:44
จะ จ..จบแล้ว?? อ๋อ โอเค แม้จะง่ายไปไม่สมกับเท่าที่เราหัวร้อนตลอดมาทั้งเรื่องก็เถอะ อ่านแบบรวดเดียว เม้นท์ที สนุกดี ชอบนะ ชอบความหน่วงดราม่าแบบนี้ ชอบมาตลอดแต่ตอนจบนี่แบบ... เอิ่มมมมมมม ยอมง่ายไป๊ ไม่ได้บทเรียนได้เห็นค่าของคนที่รักตัวเองมากเลย ไม่ได้ทำอะไรให้กับที่ตัวเองทำ แค่ปล่อยไปเรียน2ปี ให้ความจำเสื่อมหรือไม่ก็หนีจากไปไม่กลับมาทางใครทางมันก็โอเคกับผู้ชายโลเลแบบนี้ เลือกเขาไปแล้วนั่นไม่ใช่ความโลเล ก็โอเคค่ะ สนุกไปอีกแบบ ขอบคุณนะคะที่แต่งมาให้อ่าน :)


ขอบคุณที่อ่านนะคะ ฝีมือยังอ่อนหัด อาจจจะไม่ถูกใจบ้าง แต่ก็ขอบคุณนะคะที่มีคอมเม้นต์ให้ได้รู้
ก็อยากให้ซันได้รับบทเรียนมากกว่านี้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเต้รักเขามาก ไอ้ครั้นจะให้ความจำเสื่อมหรือหนีไป
มันก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อาจนำมาใช้ในเรื่องอื่นๆ ในอนาคต ขอบคุณอีกครั้งนะคะ  :pig4:
ยังไงก็ฝากอีก 2 เรื่องที่แต่งจบไว้แล้วด้วยนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
เริ่มหัวข้อโดย: limpingping ที่ 02-09-2019 00:30:02
:กอด1: :L2: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:

ขอบคุณที่อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 08:32:37
 :pig4: