เด็กน้อย ผมกับพี่ขุนออกเดินทางกันแต่เช้า เรามากันแค่สองคนครับ ไม่มีคนอื่นมาด้วยเลย ตอนแรกผมก็แปลกใจนะที่เขาเป็นคนถามผมก่อนว่าอยากจะไปไหน เขาคงอยากเอาใจผมสินะ แต่คนอย่างเขาเนี่ยหรอจะดีได้นาน พอมีคนเข้ามาคุยกับผมอันที่จริงเขาก็แค่เข้ามาถามทาง แต่พี่แกนี่สิ ทำเหมือนกับทุกคนที่เข้ามาจะมาจีบผมอย่างนั้นแหละ
"อย่าทำเหมือนว่าทุกคนต้องชอบผมได้ไหมเล่า" ผมดันมือเขาที่เกาะเอวออก ตอนนี้เรานั่งกันอยู่บนเรือข้ามฟากครับ ผมเป็นคนบังคับเขาเอง ไหนๆก็มากันแค่สองคน ลองนั่งเรือร่วมไปกับคนอื่นบ้างก็ดีเหมือนกัน
"ก็ไอ้นั่นมันมองมึงไม่วางตาเลยไม่เห็นหรือไง" เขาหลุดพูดมึงทุกครั้งที่ไม่สบอารมณ์ ผมเลยมองเขาไม่วางตาบ้างเช่นกัน
"พี่ขอโทษ เราเมาคลื่นไหม เขยิบมานี่มาแดดร้อน" เขาทำหน้าอ้อนผมแล้วดึงผมเข้าไปนั่งใกล้ยิ่งขึ้น ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนั่งมองกระแสน้ำที่ตีคลื่นแล้วรู้สึกมีความสุขดี พี่ขุนใช้มือจับผมที่เริ่มยาวทัดที่หู แล้วเอาคางมาเกยที่บ่าผม คนในเรือมีบางคนกำลังนั่งมองพวกผมแล้วหันไปพูดคุยกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน บางคนก็แอบเอามือถือขึ้นมาถ่าย ก็แน่สินะ ผู้ชายหล่อ ไฮโซ อย่างพี่เขา มานั่งกอดเด็กผู้ชายเฉิ่มๆแบบผม เป็นใครใครก็ต้องประหลาดใจ
นั่งกันมาได้สักครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะ ผมบอกพี่เขาให้แล้วว่าจะไปพักที่เดิม พี่ขุนก็จัดการโทรบอกเพื่อนให้เรียบร้อย เดินมาถึงก็มีรถมารับครับจากรีสอร์ตที่พัก พี่ขุนยกสัมภาระทั้งหมดไป ส่วนผมเดินตัวปลิวขึ้นรถตามมา อากาศเริ่มจะร้อนเพราะใกล้จะเที่ยง มาถึงที่พักเราก็เช็คอินเข้าห้องพัก เก็บของเสร็จก็ออกมาทานข้าว เราเปลี่ยนชุดเป็นขาสั้นทั้งคู่แต่ผมใส่เสื้อมีแขนพี่ขุนใส่เสื้อกล้ามอวดกล้ามแขนล่ำโชว์สาว
"ไหนล่ะคนที่เราอยากเจอ" เหมือนเขาจะนึกขึ้นได้เลยถามผม ตอนนี้เรานั่งทานข้าวเที่ยงอยู่ ด้านนอกลมเย็นดี อากาศกำลังสบาย
"ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน" ผมบอกแล้วทานข้าวต่อ พี่เขาก็เลิกคิ้วเหมือนสงสัย ส่วนผมก็ได้แต่สอดส่ายตาหาเด็กน้อยที่ผมตามหา บางทีน้องอาจจะกำลังกินข้าวอยู่ก็ได้ ผมเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ไว้ถ้าไม่เจอจริงๆคงต้องลองถามคนแถวนี้ดู
"อ้าว ไม่รู้ได้ไง อ่ะนี่ ทานเยอะๆ ผอมจนจะเป็นไม้เสียบลูกชิ้นอยู่แล้ว" ตักผัดผัก ปลาทอดใส่จานผมจนแทบล้น ปากก็บ่นๆๆ นี่ขนาดยังไม่แก่เลยนะ บ่นอย่างกับตาลุงอายุหกสิบ
"ด่าอะไรอีกล่ะ รีบทานเข้า จะไปเดินชายหาดไม่ใช่" ผมแอบหัวเราะไม่ให้พี่เขารู้ จริงอย่างที่เขาพูด ผมแอบว่าเขาอยู่ .. เราทานกันจนเสร็จ เข้าห้องทาครีมกันแดดกันก่อนถึงจะเดินออกมาด้านนอก ผ่านไปปีกว่าๆแต่ผมยังจำเรื่องราวได้ทั้งหมดราวกับว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่กี่วัน สิ่งที่ผมเคยโดนกระทำผมจำได้ทุกอย่างเพียงแต่ผมเลือกที่จะทิ้งมันไว้แล้วเผชิญหน้ากับคนที่กำลังเปลี่ยนตัวเอง ผมยังไม่ไว้วางใจเขาเต็มร้อย ตอนนี้ผมยื่นให้เขาแค่ห้าสิบ และอีกห้าสิบเขาต้องเป็นคนทำมันขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง
ผมเดินแยกกับพี่ขุนที่บอกจะไปซื้ออาหารทะเลมาไว้ทำกันตอนเย็น ตอนแรกพี่เขาก็ชวนผมแต่ตอนนี้ผมอยากเจอเจ้าเด็กผมหยักโศกตัวนิ่มของผมมากกว่า ผมเดินจากชายหาดเข้ามาที่เดิมที่คิดว่าผมเจอฟ้าตรงนี้ แต่ตอนนี้มันไม่มีใครสักคน เด็กน้อยที่เคยวิ่งเล่นเมื่อหนึ่งปีก่อนตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว
"ป้าจ๋า ผมรบกวนหน่อยครับ พอดีผมตามหาเด็กคนนึงชื่อน้องฟ้า ผมหยักโศก ตัวขาว น้องเขาอยู่แถวนี้หรือเปล่าจ๊ะ" ผมเดินมาหาคุณป้าแก่ๆคนนึงที่กำลังจะเดินไปทางห้องเช่า ป้าแกก็หยุดฟังผมเอาข้าวของวางบนเก้าอี้ไม้ตัวที่ผมเคยนั่ง
"ลูกอิฝ้ายล่ะสิ มีอะไรกับมันล่ะอิหนู มันคงเล่นอยู่ในห้องกับแม่มันแหละ จะไปหาไหมล่ะ ห้องมันก็ที่มีชั้นวางรองเท้าเก่าๆอยู่น่ะ เห็นไหมล่ะ" ผมมองตามมือไป เห็นห้องแถวเก่าๆ ประตูสีไม้บานเก่าๆ ชั้นวางรองเท้าที่ใกล้จะหักเต็มทน ผมรีบขอบคุณคุณป้าแต่ไม่ลืมช่วยแกยกของไปที่ห้องแกด้วย ห้องป้าอยู่เป็นห้องแรก ส่วนห้องน้องฟ้าอยู่เกือบสุดท้าย
ก๊อกก ก๊อกก
"ไอ้ฟ้าเปิดประตูดิ๊" ผมได้ยินเสียงตะโกนในห้องตามด้วยเสียงเปิดประตูดังแกร๊ก
"ใครมาวะ" เสียงผู้หญิงที่น่าจะยังสาวขานขึ้น ผมลอบมองประตูที่ค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆตามด้วยสีหน้าเหรอหราของเด็กน้อยที่ผมคิดถึง ทำไมผมถึงรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้จังนะ ดูเหมือนน้องเขาจะจำผมไม่ได้ แหงล่ะก็ตอนนั้นผมพรางหน้าด้วยหน้าตาที่น่าเกลียดนี่นา
"มาหาใครคะคุณ" เพราะมัวแต่ยิ้มให้น้องเลยไม่ทันสังเกตว่าคนเป็นแม่เดินมาถึงหน้าประตูแล้ว เธอน่าจะอายุราวๆยี่สิบกว่าๆ น่าเสียดายไม่น่ามีลูกเร็ว
"ผมมาหาน้องฟ้า เอ่อ ขอผมเข้าไปได้ไหม เอ้ย ไม่เอาดีกว่า เราไปหาที่คุยกันไหม ผมพักที่รีสอร์ตด้านหน้านี่เอง ทานข้าวกันไหม ผมเลี้ยง" ผมพูดไปทั้งๆที่คิดว่าใครจะเชื่อใจยอมให้ผมเข้าไปในบ้าน พอนึกอีกทีขอเป็นคุยด้านนอกดีกว่า น่าจะสบายใจกว่า
"มีธุระอะไรกับมันงั้นหรอ ฉันคงเชื่อคุณง่ายๆไม่ได้อ่ะนะ" เธอถามสีหน้าวิตกเล็กน้อย ก็แหงล่ะนะ อยู่ดีๆมาชวนไปกินข้าว ผมนี่ก็บ้าเนอะ
"พอดีผมเคยมาที่นี่ครั้งนึงแล้วผมถูกชะตากับน้อง ผมแค่แวะมาเยี่ยม แต่ถ้าคุณสะดวกผมอยากพาน้องไปทานข้าว" ผมบอก เธอชั่งใจสักพักก็เดินไปเอากุญแจมาล็อคห้อง เราพากันเดินมาที่ร้านอาหารด้านล่างของรีสอร์ตเพราะใกล้ที่สุดแล้ว ดูเหมือนตอนนี้ฟ้าก็ยังจำผมไม่ได้ หึหึ เด็กก็แบบนี้ จำง่าย ลืมง่าย ไม่เหมือนผมที่จำแล้วไม่เคยลืม
"สั่งตามสบายเลยครับ น้องฟ้าทานเยอะๆนะลูก" ผมบอก น้องยิ้มเล็กๆยังติดเขินอายอยู่ สรุปแม่เขาก็เป็นคนสั่งมามีข้าวผัดปูผมก็เปลี่ยนให้เป็นสั่งจานใหญ่ ต้มจืดผมก็เปลี่ยนหม้อใหญ่ให้ มีผัดผักของแม่ แล้วก็ของทานเล่นเล็กน้อยเป็นออเดิร์ฟ ส่วนผมไม่ทานครับ สั่งน้ำส้มมาทานเล่นก่อนจะเริ่มคุยกับน้อง
"น้องฟ้าจำพี่แก้วไม่ได้หรอครับ" ผมถามยื่นมือข้ามไปลูบหัวหยอยแต่นุ่มนิ่มน่าฟัด
"...." ได้รับเสียงเงียบแล้วตามด้วยการส่ายหน้าในเวลาต่อมา
"ฟ้า มาจากท้องที่กว้าง .. ส่วนแก้ว มาจากทรายที่บริสุทธิ์ .. พอจะจำได้หรือยัง ตอนที่เราหกล้ม พี่อุ้มเราขึ้นมาไง" ผมบอก น้องทำท่านึกอยู่นาน ก่อนจะเดินมาหาผมแล้วสะกิดแขนผมให้เอาหน้ายื่นลงไปหาเขา
"ตรงนี้ .. มันหายไป .. ฟันพี่ .. ก็ไม่น่าเกลียดแล้ว" ผมยิ้มพร้อมกับดึงน้องมากอด น้ำตาผมแทบไหลออกมา แสดงว่าน้องจำผมได้ น้องจำผมได้จริงๆ น้องจิ้มๆมาที่ใบหน้าผมเหมือนจำรอยเหล่านั้นได้ดี ผมสูดน้ำมูกก่อนจะหอมแก้มเด็กน้อยสองข้างเพราะดีใจ
"พี่แก้วอยากให้มันหายไปแล้วหรอ" น้องถามเพราะคงจำที่ผมพูดไว้ได้ มันลบออกถ้าผมอยากจะลบมัน
"ครับ พี่ลบมันออกแล้ว ก็พี่อยากจะหล่อเหมือนฟ้าไง ดีไหมเรามาแข่งกัน " ผมฟัดแก้มน้องหัวเราะเสียงคิกคัก จนอาหารเริ่มมาเสิร์ฟผมเลยให้น้องกลับไปนั่งที่ แต่น้องจะนั่งข้างผม ผมเลยขยับให้น้องนั่งตรงข้ามแม่เขา
"แล้วแฟนคุณ เอ่อ" ผมเอ่ยถามแม่ฟ้า ดูเขาไม่น่าโสด แฟนเขาอาจจะออกไปทำงาน
"แฟนหนูมันเลิกกับหนูไปก่อนฟ้าจะลืมตาดูโลกอีก หนูชื่อฝ้าย เรียกฝ้ายก็ได้ไม่ต้องมาคุณเคิน" เธอพูดทำหน้าไม่สนใจโลก เธอคงชินแล้วสินะ เลิกกันมาคงหลายปีแล้ว
"จ่ะฝ้าย แล้วทำมาหากินอะไรล่ะเนี่ย" ผมถาม ดูจากสภาพห้องที่ไม่มีอะไรเลยคงเดาได้ว่าค่อนข้างลำบากน่าดู
"หนูรับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟร้านส้มตำตรงหาดนู่น ก็พอมีพอกิน แต่เสียดายที่ไอ้ฟ้ามันไม่ได้เรียนเหมือนคนอื่น ปีนี้มันก็ห้าขวบแล้ว หนูก็สงสารมันเหมือนกัน" ผมหันมามองเด็กน้อยที่ตักข้าวทานไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเขาแล้วก็ใจหาย ผมรู้สึกสงสารน้องเขาเหลือเกิน
"แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานหรอ" ผมถาม
"วันหยุดจ้า ทำงานเป็นกะ หยุดไม่เหมือนคุณๆหรอก" ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
"พี่แก้วหายไปไหนตั้งนาน" น้องพูดแล้วตักข้าวเข้าปาก ส่งรอยยิ้มน่าเอ็นดูเหลือเกินมาให้จนผมต้องส่งมือไปลูบหัวน้องด้วยความรักใคร่
"พี่ไปเรียนครับ เราล่ะอยากเรียนไหม" ผมถาม เจ้าตัวเริ่มเบะปาก อย่าบอกนะจะร้องไห้
"หนู .. ฮึ่ก .. หนูอยากเรียนเหมือนพี่คนอื่น .. หนูอยากใส่ชุดนักเรียน .. หนูอยากไปโรงเรียน .. ฮึ่ก" สะอื้นจนข้าวร่วง ผมรีบหยิบทิชชู่เช็ดให้น้องตามด้วยสั่งอีกทีจนหมด
"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวก็ได้เรียนแล้ว นะ" ผมลูบหัวปลอบ น้องนิ่งพยักหน้าเข้าใจลงมือทานข้าวต่อ เราคุยกันต่อเรื่องครอบครัวเขาจนทานข้าวเสร็จผมก็สั่งขนมหวานไอศกรีมมาให้สองแม่ลูกทาน ฝ้ายเล่าว่าเขาไม่มีพ่อแม่อยู่กับยายพอยายเสียก็อยู่กับแฟน จนเลิกคบก็เช่าห้องอยู่กับลูกสองคน
"อ้าว หิวหรอวะ แล้วทำไมมานั่งอยู่กับ ..." พี่ขุนที่เพิ่งกลับมาทักผม ซื้ออะไรมาเต็มมือเลย รุงรังชะมัด
"นี่ฝ้าย ส่วนนี่น้องฟ้า นี่คุณขุนนะ เอ่อ พี่ผมเอง" ผมแนะนำไป ฝ้ายกับน้องฟ้าไหว้พี่ขุนกันใหญ่ ส่วนพี่ขุนน่ะหรอก็ทำหน้าบึ้งสิครับ สงสัยเรื่องที่ผมว่าเขาเป็นพี่มั้ง
"อืม ตามพี่มาที่ห้องแปปดิ๊" เขาเดินนำไปแล้ว ส่วนผมได้แต่ส่ายหัวบอกให้ฝ้ายทานขนมกันไปก่อนจะรีบมา
"เอาล่ะ อย่าบอกนะว่าคนที่มาหาคือผู้หญิงคนนั้น นี่มึงกลับใจเป็นผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ ห๊ะ!" เขาวางข้าวของลงหน้าห้อง ก่อนจะไขกุญแจให้ผมตามเข้าไป
"ผมก็เป็นผู้ชายตั้งนานแล้วเถอะ" ผมบอกเสียงเบา แต่เขาดันได้ยิน
"มึงเป็นเมียกูอย่าลืมสิ" เขาเดินมาลูบบั้นท้ายผมพูดน้ำเสียงเซ็กซี่ บ้าชะมัด
"อย่าย้ำนักเลยน่า คือแบบนี้ ผมมาหาน้องฟ้า ปีก่อนที่ผมมาอ่ะ ผมเจอน้องเขาแล้วถูกชะตา น้องเขาน่าสงสารมากเลยนะ ผม .. " ผมบอกแล้วเดินออกห่างพี่เขา ไม่อยากอยู่ใกล้ กลัวจะเสียตัวชะมัด
"ก็เลยอยากพามันกลับไปด้วย?" พี่ขุนเหมือนเดาใจผมออก เขาเลิกคิ้วถาม แต่ดูไม่น่าจะอนุญาต
"อันที่จริงผมก็คิดไว้นะ แต่ .." ยังไม่ทันจะพูดจบเสียงพี่ขุนก็ดังทะลุโสตประสาทขึ้นมาทันที
"กูไม่อนุญาต มาหาก็พอแล้ว จะพาไปทำไมให้รกบ้าน" พี่เขาพูดแล้วเดินหนีผมออกมาด้านนอก จัดของที่จะทำเย็นนี้อยู่คนเดียว อะไรอ่ะ ก็แค่คิดๆ ไม่พาก็ไม่พาดิ
"ผมขอไปหาน้องเขาอีกเดี๋ยวนะ เดี๋ยวมา" ผมบอกแล้วเดินกลับมาปรากฎพวกเขาทานกันเสร็จหมดแล้วแต่รอผมอยู่ ผมรู้สึกผิดจัง ผมจ่ายตังเรียบร้อยแต่เรายังนั่งคุยกันอยู่ ใจความหลักๆคือเรื่องของฟ้า ผมอยากให้เขาเรียน ผมคิดว่าอาจจะส่งเงินมาทุกเดือนดีไหม แต่เรียนบนเกาะแบบนี้มันจะได้ความรู้เท่าที่โรงเรียนในตัวเมืองเหรอ เฮ้อ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม จะพากลับไปก็ดูจะเกรงใจเพราะที่ผมอยู่ตอนนี้เป็นบ้านพี่ขุนไม่ใช่บ้านผม
"เย็นนี้อยู่ทานปิ้งย่างด้วยกันสิฝ้าย นะ" ผมร้องขอ อยากจะใช้เวลาอยู่กับน้องฟ้านานๆ
"ไม่ไหวแล้วจ่ะ เอางี้ละกัน คุณก็เอาตัวฟ้ามันไว้ เดี๋ยวหนูต้องเข้าไปซักผ้าต่อ ขอบคุณมากนะจ๊ะ ฟ้า อยู่กับพี่เขานะเอ็ง" ฝ้ายบอกแล้วขอตัวกลับ ส่วนผมก็เดินจูงน้องฟ้ามาที่ห้อง ดูเหมือนพี่ขุนจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นะ แถมน้องเองก็ยังดูกลัวๆพี่เขา สงสัยต้องให้ทำความรู้จักกันแล้ว
"สวัสดีพี่ขุนสิครับน้องฟ้า" ผมบอกเด็กน้อยที่ยืนแอบอยู่ข้างกายผม
"สวัสดีฮะ" เด็กน้อยเสียงสั่นกล้าๆกลัวๆจนผมต้องลูบหัวให้ผ่อนคลาย
"อืม ดูจะรักมันมากนะ" พี่ขุนพูด ตอนนี้เขากำลังย่างหมึกหอยให้ทาน น่ากินมากทีเดียว กลิ่นนี่โชยมาจนหิวเลย
"ก็น้องเขาน่าเอ็นดู เนอะฟ้าเนอะ" ผมอุ้มน้องขึ้นมาฟัดแล้วเดินไปหาพี่ขุน ฟ้ารีบกอดคอผมอาจเป็นเพราะกลัว ส่วนผมก็ยิ่งแหย่ยื่นฟ้าเข้าไปใกล้พี่ขุนยิ่งขึ้น
"ฟอดดด"
"อื้อ ฉวยโอกาส ต่อหน้าเด็กนะ" ผมตีที่บ่าใหญ่ที่แอบมาฉวยโอกาสผมต่อหน้าเด็ก คนอะไรนิดหน่อยก็ชอบลวนลามอยู่เรื่อย
"คิกคิก"
"หอมเมีย ฉวยโอกาสยังไง เด็กมันยังหัวเราะชอบใจเลยเห็นไหม" ผมส่ายหัว น้องฟ้าเอานิ้วมาจิ้มแก้มที่ผมถูกหอมอย่างเขินๆ เห็นไหม เด็กรู้หมดเลย มันดีไหมเนี่ย
"หนูนั่งตรงนี้นะ พี่แก้วรินน้ำให้" ผมวางน้องลงแล้วเดินเข้าไปหยิบน้ำแข็งในห้องใส่กระติก ถือออกมาพร้อมแก้ว กำลังจะเดินไปหาฟ้า แต่พออีกทีผมก็เห็นน้องอยู่ในอ้อมกอดพี่ขุนเสียแล้ว และดูท่าความกลัวที่เคยมีจะหายไปแล้วด้วยนะ
"ทำไรกันครับ" ผมถามเดินมาใกล้ๆ
"ย่างหมึกฮะพี่แก้ว พี่แก้วจ๋า หมึกนี่ห๊อมหอม" ฟ้าที่ถือไม้คีบกำลังตั้งใจเป็นอย่างมากในการพลิกปลาหมึกกลับไปมา หึหึ ตัวแค่นี้น่ารักจริงเชียว
"เดี๋ยวก็ได้ทานแล้วนะ มาครับ อ่ะ น้ำ" ผมรับฟ้ามากอดแล้วส่งน้ำให้พี่ขุน ตอนนี้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ล้วนมีคราบถ่านที่ใบหน้า ช่างไม่ระวังเลย
"อยู่นิ่งๆเร็วพี่เช็ดคราบให้ .. อ่ะ .. เช็ดให้คนโตด้วย" ผมเช็ดให้น้องเสร็จก็ยื่นผ้าไปเช็ดให้คนที่กำลังง่วนกับเตาต่อ พี่ขุนหลับตาพริ้ม ดูไม่มีพิษมีภัย ดูแล้วก็น่าเอ็นดูไปอีกแบบ
"พี่ขุนจ๋า ฟ้าหิวแล้ว" พูดจาช่างออดอ้อนให้คนตัวโตกว่าหันมาขบกัดเล็กๆ
"เห็นเพิ่งจะกินไปเมื่อกี้ กระเพาะมารหรือเปล่าเนี่ย" พี่ขุนแซวขึ้น แต่ไอ้ตัวเล็กไม่รู้จักงอน ยังมีการยืนโชว์พุงขาวน่าฟัดอีก
"ท้องหนูใหญ่เหมือนฟ้าาาาาา" อวดพุงขาว ส่ายไปมา ทำหน้าแป้นแล้นจนพี่ขุนต้องเดินมาเขกหัวเล็กไปที ฮ่าๆ ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งมีความสุข หวังว่าพี่เขาจะเปลี่ยนใจให้ผมพาน้องไปอยู่ด้วยนะ
นั่งทานกันจนสามทุ่มผมก็พาน้องไปส่งที่ห้อง เรามีจูบราตรีสวัสดิ์ก่อนนอนกันด้วย ตอนนี้ผมกับพี่ขุนเดินกลับมาถึงห้องแล้ว เราไขประตูเข้าห้อง ผมรีบคว้าผ้าขนหนูเพื่ออาบน้ำ อาบเสร็จก็ดันคนตัวโตที่ขี้เกียจเข้าไปอาบบ้าง ตัวก็มีแต่กลิ่นเตายังจะไม่อยากอาบน้ำอีก .. พออาบเสร็จก็ผลัดกันเช็ดหัว ปิดไฟนอน วันนี้แม้จะไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรมากมายแต่ก็เหนื่อยล้าเต็มทน
"คิดอะไรอยู่ หืม" ผมนึกว่าพี่เขาหลับไปแล้วเสียอีก เขาขยับมากอดเอวผมที่เอามือก่ายหน้าผากไว้ ดึงมือผมออกแล้วจับให้ซุกมาที่อกเขา
"เรื่องเด็กคนนั้นหรอ" เขาถามอยู่ข้างหูกดริมฝีปากมาที่ขมับหลายรอบ
"ผมสงสารน้อง อยู่นี่น้องไม่ได้เรียนหนังสือ แถมเงินจะใช้กันยังไม่พออีก" ผมบอกเมื่อนึกถึงที่คุยกันวันนี้ เงินเดือนแค่สี่ห้าพันมันจะไปพอยาไส้อะไร
"มึงนี่เป็นคนดีเกินไปละ" เขาพูดเหมือนหมั่นเขี้ยวรัดผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
"เฮ้อ ถ้ากูยอมให้พาสองแม่ลูกเข้าบ้าน มึงจะเลิกเครียดใช่ไหม" เขาพูดเหมือนเขาจะยอมอย่างนั้นแหละ ผมเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาอ้อนวอน ถ้าพี่ขุนใจดีพี่ขุนต้องให้แก้วสิ
"จุ๊บ .. ไม่ต้องทำหน้าอ้อน จะพาไปก็ไป ไหนๆก็มีลูกไม่ได้แล้ว เลี้ยงเด็กอีกคนคงไม่ตายหรอกมั้ง" ผมตาโตเมื่อพี่เขากดจูบลงมาแล้วพูดคำที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของเขา
"พี่ไม่ได้โดนยาเสน่ห์ใช่ไหม" ผมจับหน้าหล่อๆที่มีหนวดนิดๆพอทิ่มมือส่ายไปมา พี่แกดูจะหัวเสียมากทีเดียว
"มึงก็รู้ว่ากูเปลี่ยนไปแล้ว ต่อไปนี้อยากได้อะไรก็บอก ถ้าหาให้ได้ก็จะหามาให้" เขาลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบาแล้วประทับจูบมาที่หน้าผาก อืม ช่วงนี้เขาแทบไม่สูบบุหรี่ถ้าอยู่กับผม เขาไม่เคยขืนใจผมอีกเลย และเราไม่ได้มีอะไรกันมาปีกว่าแล้ว โดยที่เขาเองไม่ได้คิดมีใคร
"ขอบคุณครับ" พูดแล้วซุกเข้าหาไออุ่น แม้จะยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซนต์แต่ก็จะพยายามทำความรู้จักกับพี่ขุนคนใหม่ให้มากกว่านี้
.....
เช้านี้ผมเดินไปรับฟ้ากับฝ้ายมาทานข้าวต้มตอนเช้าด้วยกัน ผมตัดสินใจแล้วว่าจะให้สองแม่ลูกเข้าไปอยู่ในบ้านกับเรา พี่ขุนก็ตกลงแล้วและจะรับน้องฟ้าเป็นบุตรบุญธรรม ผมให้เวลาฝ้ายไปลาออกและเก็บของจนถึงบ่ายสอง จากนั้นก็ออกเดินทาง เรานั่งเรือข้ามฟากมาจนถึงฝั่ง พี่ขุนขับรถพาเรากลับบ้าน ฟ้าก็ตื่นเต้นตลอดทางที่เข้าเมือง คงเป็นเพราะน้องอยู่แต่บนเกาะ ถนนหนทาง รถราวิ่งกันให้ควั่ก คงจะไม่ค่อยได้เห็นสักเท่าไหร่
"ตื่นเต้นหรอครับ" ผมหันไปถามเจ้าตัวเล็กที่แต่งตัวคิดว่าน่าจะดูดีที่สุดเท่าที่มี ผมกะว่าจะพาฟ้าไปเดินดูเสื้อผ้านักเรียน เสื้อผ้าใส่เล่น แต่ก่อนอื่นต้องหาโรงเรียนให้เขาก่อน
"พี่แก้วจ๋า ฟ้าตื่นเต้น เมื่อกี้เห็นของเล่นเต็มไปหมดเลย ฟ้าอยากเล่น" น้องเกาะกระจกมองออกไปข้างทางแล้วพูดเสียงน่าสงสาร
"เดี๋ยวพี่แก้วพาไปนะ ไม่ต้องห่วงที่กรุงเทพฯของเล่นเยอะแยะเลยล่ะ" ผมบอก น้องส่งเสียงดีใจลั่นรถจนพี่ขุนส่ายหัว
เรามาถึงบ้านกันตอนเกือบหกโมงเย็น เด็กที่วิ่งมารับบอกป๋าไม่อยู่ ไปไดรฟ์กอล์ฟ ผมพาสองแม่ลูกเข้าบ้าน ห้องหับคงต้องให้อยู่ด้านหลังไปก่อน มันมีห้องว่างห้องนึงตรงข้างๆห้องทำงาน ผมว่าจะทำห้องนั้นให้ฝ้ายกับน้องฟ้าอยู่ แต่คงต้องรออีกสักหน่อย
"แก้ว" กำลังเดินไปดูห้องด้านหลังให้สองแม่ลูก แต่โดนพี่ขุนเรียกเสียก่อน ตอนนี้เรายืนอยู่หลังบ้านแค่สองคน
"ครับ"
"พี่ว่าสายตาแม่ฟ้าที่มันมองพี่แปลกๆนะ เราสังเกตไหม" เขาถามผมเหมือนสังเกตอะไรผิดปกติ
"ก็ไม่นี่ครับ ทำไม คิดว่าเขาชอบตัวเองหรือไง คิดมากน่าพี่ขุน ผมขอตัวเดินไปดูห้องก่อนนะครับ" ผมตบบ่าร่างสูงไปทีแล้วเดินแยกออกมาดูห้อง หึ พี่แกยืนเลิกคิ้วสักพักก่อนจะเข้าไปในบ้าน คงไม่มีอะไรหรอก บางทีฝ้ายอาจจะกลัวๆพี่ขุนก็ได้มั้ง ก็ดูหน้าตาสิ โหดยังกับอะไร ยิ้มก็ไม่ค่อยจะยิ้ม คนอะไรหน้าโฉดได้ทั้งวัน ..
- ♛ ขุนแผน ปะทะ แก้วหน้าม้าเดอะซีรีย์ ♞ -
จะรับคำติชมไปแก้ไขนะคะ
ขอบคุณค่ะ